พิมพ์หน้านี้ - รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: runrunna29 ที่ 31-01-2014 01:58:37

หัวข้อ: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 31-01-2014 01:58:37
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*******************************************************************
นิยายเรื่องที่ 4 ขอความกรุณาฝากไว้ในอ้อมอกด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 1 (31/01/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 31-01-2014 02:00:03




รักบอดๆ 1




'รักทำให้คนตาบอด'
ประโยคนี้ ตั้งแต่จำความได้จนถึงอายุสิบเจ็ดปี
ได้ยินได้ฟังมานับครั้งไม่ถ้วนจากคนรอบข้างและตามสื่ออื่นๆ
เคยคิดขำในใจ 'รักกันยังไงวะ ทำให้ตาบอดได้'
มาวันนี้เพิ่งเข้าใจท่องแท้ ว่าคือ 'รักมากไป' รักจนไม่มองสิ่งอื่น รักจนยอมให้อภัยไม่ว่าใครคนนั้นจะทำผิดมากี่ครั้ง รักแล้วปล่อยเพื่อนลอยแพ...อ่านะ

ผมชื่อ เอ ครับ (นามสมุตินะ ไม่อยากบอกเดี๋ยวดังแล้วคุณป๋าเขาจะเคือง)
เป็นคน(เฉียง)เหนือ แต่มาโตที่กรุงเทพ อายุก็ไม่มาก อย่างที่บอกไปด้านบนบวกกับสิบปีนิดๆ
หน้าตาก็ไม่ถึงกับดีมาก แต่ก็มีหลายคนหลงเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ
เอิ่ม...ถ้าให้อธิบายรายระเอียดก็ ขาวๆ ใสๆ ชีวิตหน้าไม่เคยมีสิว
สูงตามมาตรฐานชายไทย คือ ร้อยเจ็ดสิบกว่าๆ ทรงผมก็ประมาณหนุ่มออฟฟิคเอนไปทางเกาหลีเป๊ะปกติทั่วไปอ่ะครับ

ส่วนไอ้บุคคลที่เข้ามาทำให้ผมตาบอด เพราะเอาความรักมากระแทกตา ชื่อ...
ชินครับ ปัจจุบันอายุก็ลุงดีๆ นี่เอง...ง่ะ ในความคิดผม ขึ้นเลขสามก็ถือว่าลุงแล้วอ่ะครับ เลยใช้ป๋านำหน้าซะเลย
หน้าตาอ่ะเหรอ หล่อเข้ม ตาคม หน้านิ่ง ตัวสู๊งสูง ผิวไม่ขาวมาก ทว่ามีซีกแพค (โคตรอิฉาเหอะ)
คนกรุงเทพโดยกำเนิด

จบการอธิบายความรู้ทางด้านสรีระ ก็เข้าโหมดเริ่มเรื่องที่สาระแทบไม่มี
แต่จะเริ่มยังไงดีนี่สิที่ไอ้คนเขียนมันยังงงๆ อยู่...
เอาเป็นว่าตอนที่ผมรู้จักกับป๋าชินตอนแรก
คือตอนกลางดึกของการเข้าค่ายรับน้องที่เขาใหญ่ สมัยนู้นยังเป็นหนุ่มวัยทีนสดใสอยู่เล๊ย
แถมรู้สึกจะจำได้ว่า ผมรู้จักแกตอนไปเห็นแกกำลังยืนฉี่น่ะนะ ฮ่าๆ


ย้อนไปเพื่อให้เห็นภาพ


วันนั้นเป็นวันแรกที่เข้าค่ายรับน้องเหล่าเฟรชชี่คณะศิลป์กรรมครับ
และที่สำครับรับน้องมหาลัยอื่นไปทะเล ไปที่ๆ เจริญหูเจริญตา แต่ทำไมมหาลัยของผมต้องขึ้นเขามาทำกายภาพบำบัด(ชีวิตบ้านๆ)บนเขาด้วยก็ไม่รู้
อย่างกับเข้าค่ายลูกเสือแน่ะ แล้วลองคิดดูนะ วันแรกรับน้องไป เช้ามืดตื่นหุงข้าว สายๆ โชว์ตัวเต้นกลางสนาม บ่ายๆ วิ่งรอบเขาตากแดดไป
บางเวลาทำกิจกรรมอยู่ดีๆ ฝนก็ตกลงมาซะงั้น เปียกกันไปถึงไข่ ถึงหอยทีเดียวเชียว เง้อ

ผ่านไปสองวัน ตกดึกนอนคิดไรเรื่อยเปื่อยอยู่ในเต๊นท์ จู่ๆ ก็รู้สึกอยากฉี่ขึ้นมา
หันมองเพื่อนซ้ายขวาที่นอนด้วยกัน ก็ตัดสินใจ 'ไปคนเดียวก็ได้วะ'
แหม สงสารครับ แบบว่าเห็นพวกมันหลับเป็นตายแล้วไม่อยากปลุก
แต่จริงๆ คือไม่สนิทมากเท่าไร ปลุกไปกลัวมันจะเตะผมมากว่า

เดินออกมานอกเต๊นท์ เงยหน้ามองฟ้าบ้าง หันมองไปที่เต๊นท์อื่นบ้าง
ก็นึกๆ ไปฤดูนี้ยังมีพวกหลงผิดมาขึ้นเขาแบบพวกผมอีกเหรอเนี่ย
เดินเอามือจับกระดุมกางเกงเตรียมส่องกระต่ายในพุ่มไม้ไม่ใกล้ไม่ไกลเพราะขี้เกียจไปห้องน้ำที่ต้องเดินไปอีก
ทว่ายังไม่ได้ทันจะเตรียมใจ นายพรานที่มาส่องกระต่ายอยู่ก่อนก็หันมาทำหน้าตกใจ
ไอ้ผมก็ตกใจด้วยเพราะไม่เห็นว่ามีคนเนื่องจากที่ตรงนั้นค่อนข้างมืด ท้องฟ้าเมฆเยอะบังแสงดาวหมด

"เฮ้ย!!" มัน
"คะ....ครวยๆ!!" ผม (สาบานว่านี่อุทาน)
"ทำไร ตกใจหมด ไม่เห็นไงคนฉี่อยู่" มันรีบจับปืนประจำตัวที่ใช้ยิงกระตายเมื่อครู่ยัดใส่เข้ากางเองแล้วรูดซิบทันที
"โหพี่ ถ้าเห็นผมจะเดินเข้ามาเหรอ ก็นึกว่าไม่มีคนอยู่ จะมาฉี่เหมือนกันเนี่ย"
แหม่ม ฉี่เกือบกระฉอก ยิ่งเป็นคนขวัญอ่อนอยู่ด้วย ชิส์

จากนั้นผมก็เดินหนีห่างมันออกไปอีกหน่อยเพื่อปลดปล่อยน้ำในร่างกายที่คั่งค้างสะสมมาทั้งวัน

เฮ้อ~ โล่งฉบาย
สลัดสองสามทีก่อนจะเก็บเจ้าเอน้อยเตรียมกลับเต๊นท์ แล้วก็มีเหตุต้องทำให้ร้องอีกหน
จะอะไรซะอีกล่ะครับก็ไอ้คนก่อนหน้านี้มันยังไม่ไปไหนเลย

"พี่มีปัญหากับผมเหรอครับ?" ถามออกไปในที่สุดเมื่อมันเดินตามหลังผมกลับมาถึงเต๊นท์
แม่ง การบังเอิญไปเห็นมึงฉี่โทษมันหนักมากเลยรึไงครับ ตามกูจริง

"ชื่ออะไรอ่ะเรา" มันถาม ส่วนหน้านี่เรียกร้องหาอะไรสักอย่างไปทาบมาก เป็นความรู้สึกเดี๋ยวนั้นอ่ะ
"พี่จะเอาไปทำพิธีเสกหนังควายเข้าท้องผมเหรอครับ เอางี้ผมขอโทษที่เข้าไปตอนพี่ฉี่ พอใจแล้วนะ" ยกมือไหว้
แหม ก็นะ แบบว่านิสัยผมเกรียนเป็นอาจินอ่ะครับ ปัจจุบันก็มักถูกป๋าชินว่าบ่อยๆ ด้วย ว่า 'ทำตัวเป็นเด็ก' จริงๆ ผมก็เด็กอยู่นะครับป๋า

"ไม่พอ ฉันถามว่าชื่ออะไร เราก็ตอบสิ" อ้าว ซะงั้น
"ชื่อเอ ครับ เอที่มาจากตัวเอในภาษาอังกฤษอ่ะ" จำใจตอบให้จบเรื่อง เพราะเริ่มง่วงมาก อยากเฝ้าพระอินทร์จะแย่
จริงๆ เรื่องของเรื่องพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าทำกิจกรรมก่อนกลับด้วย ไม่นอนไม่ไหว คิดแล้วเพลีย

"เป็นนักศึกษาที่มารับน้องใช่มั้ย ปีไหน?" จะรู้ไปทำไมครับเฮีย
"ปีหนึ่งครับ" แต่ผมก็ตอบ ไม่ได้คิดไรไง แบบว่าง่วงมากมาย
"คณะล่ะ"
"ศิลป์กรรม"
"มหาลัย...สินะ"
"เออ ตามนั้นครับ" ตอบไป หาวไป
"อืม ฉันชื่อชิน อายุมากกว่าเราเรียกพี่ชินนะ" จำเป็นด้วยเหรอครับพี่ คิดในใจ หน้าก็พยักรับไปตามคำบอก
"งั้นพี่ชิน ผมขอตัวไปนอนนะครับ ง่วงแล้ว" ตัดสินใจปลีกตัวออกมาและไม่หันกลับไปอีกเลย
เข้ามาในเต๊นท์ก็ลองนอนคิดว่า ไอ้พี่ชินมันจะแนะนำตัวทำไม แล้วก็ผลอยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน

แต่ก็นั่นล่ะ...ใครจะคิด
ว่าไอ้การแนะนำตัวครั้งนั้น จะสื่อถึงการตามหารักแท้ของป๋าชินเขา(เหรอออออ)
จบรับน้องมาได้ประมาณสองอาทิตย์กว่าๆ ขณะกำลังจะเดินออกจากมหาลัยไปโบกกระป๋องกลับบ้านก็ได้ยินเสียงบีบแตรรถ
หันไปมองพอเป็นพิธีก็เห็นว่ามีรถเบนซ์สีขาวจอดใกล้ๆ กับตรงป้ายรถประจำทางที่ผมยืนแล้วบีบแตรเรียกใครสักคนติดๆ กัน
ซึ่งแรกๆ ผมก็ไม่สนใจอะไร รอรถกระป๋องต่อไป

"ปรี๊น ปรี๊น ปรี๊น" รถไมนานจังวะ
"ปรี๊น ปรี๊น ปรี๊นนนนนนนนนน!!!" ลากยาวจนทุกคนต้องหันไปมอง จากนั้นก็มีผู้ชายในชุดสูทสีเทาลงมาจากรถ

หน้าคุ้นๆ ...ใครวะ?

"ทำไมบีบแตรเรียกแล้วไม่สนใจ" มันมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผม
หน้าตาหลังกรอบแว่นใสดูคล้ายใครสักคน แต่ก็นั่นแหละ ใครวะ

"ผมเหรอ?" ชี้หน้าตัวเองแบบเด็กเอ๋อ คือไม่รู้จักกัน เรียกกูเหรอครับ
"ใช่สิ จำพี่ไม่ได้ไง แค่สองอาทิตย์กับอีกสามวันเองนะ" ทำหน้าดุแล้วจับแขนผมลากยัดใส่ในรถ ก่อนจะขับออกไปตามถนน

ผมก็เออ... ใคร? เรียกกูทำไม แล้วลากกูมาเพื่ออะไร งง
อยากรู้แต่ยังปรับอารมณ์ไม่เข้าที่อ่ะ เป็นอะไรที่รวดเร็วมาก ตามไม่ทันอ่ะครับ

"เอ้า ยังไม่หายบื้ออีก พี่ชินไงครับ พี่ชินที่เจอกันที่เขาใหญ่ตอนที่เอไปรับน้องไงครับ" หันมามองหน้าผมอย่างตำหนิ
"อ้อ..." ได้แค่นี้ เจอกันครั้งเดียวแถมมืดอย่างนั้นใครจำได้ก็แปลกล่ะเห้ย แต่เอ๊ะ พี่แกก็คงจะแปลกนั่นแหละ เพราะดันจำผมได้แม่นเสียด้วยสิ คริ คริ

"น้องเอหิวมั้ยครับ?"
"อื้อ..." ในใจมึงจะเอาอะไรกะกูว้า
"งั้นเดี๋ยวพี่พาไปทานอาหารนะ ทานอะไรดีล่ะ"
"ซูชิ...เห้ย ไม่ใช่ดิ พี่มาหาผมถึงมหาลัยนี่ต้องการอะไรจากผม
ไหนจะลากมาขึ้นรถแบบนี้อีก จะเอาผมไปขายแก้แค้นที่ไปเห็นปืนส่องกระต่ายของพี่เหรอ" งงจริงอะไรจริงครับ

คือถ้าตอนนั้นไม่เห็นว่าป๋าชินแกมาในมาดคุณชาย
ผมคงมีสติไม่หลวมตัวให้แกลากปู้ยี่ เอ้ย! ขึ้นรถไปได้หรอก แล้วเราสองก็คงไม่มีวันนี้ กึ๊ย~

"เปล่า แต่จะเอาไปเลี้ยงที่บ้านครับ" มันยิ้มกรุ่มกริ่ม หากผมเป็นผู้หญิง บอกได้คำเดียวว่าเสียตัวแน่ๆ
"พี่เป็นเกย์?"
"ไม่ได้เป็นครับ แล้วน้องเอล่ะครับ" อ้าว เข้าตัว แต่ผมไม่แคร์
"เป็นครับ" อันนี้รู้ตัวตอนมอสามครับ ดูหนังเอ๊กชายหญิง ทว่าดันเกิดอารมณ์กับร่างกายปู้ชายแทน เหอๆ
"เคยมีแฟนมั้ยครับ"
"เคยมีครับ"
"กี่คน" น้ำเสียงเริ่มกดดัน
"ก็..." นับนิ้ว "จำไม่ได้อ่ะครับ" จริงๆ สามคน แต่ไม่อยากบอก
"งั้นก็ง่ายหน่อย" มันบ่นยิ้มๆ "น้องเอ คิดว่าพี่เป็นไงครับ"
"อะไรเป็นไงอ่ะ" ผมก็ทำหน้างง
"ก็หน้าตา นิสัยอะไรงี้อ่ะ อยู่ในสเป็กน้องเอหรือเปล่า"

ตั้งใจมองหน้ามันอย่างพิจารณา "หน้าตาก็โอเคนะพี่ แต่ไม่ใช่สเป็กผมอ่ะ ผมชอบแบบขาวๆ ตี๋ๆ มีลักยิ้ม
ส่วนนิสัย ผมกับพี่เพิ่งเจอกันครั้งที่สองเองนะจะไปรู้ได้ไง แล้วครั้งแรกที่คุยกันก็นับประโยคได้ด้วยมั้ง"

"อืม..." ครางตอบในลำคอ มือก็หมุนพวงมาลัยจอดรถเข้าข้างทางก่อนจะหันมาจ้องมองผมอย่างจริงจัง
"ถ้าพี่จะจีบเอ คิดว่าจะติดหรือเปล่า"
"ห๊ะ" ตกใจครับ ไม่คิดว่าจะใช้ลูกตรงแบบมะนาวไม่มีน้ำ
"พี่ชอบน้องเอครับ เห็นครั้งแรกก็คิดว่าใช่คนนี้แหละที่ใจเราตามหามานาน" กะอีแค่ผมไปเห็นพี่ฉี่? นิยายว่ะ
"ตลกและ ดูละครมากไปเปล่าพี่ ถึงผมจะเป็นเกย์แต่ผมก็เลือกนะ ไม่เอาหรอก ไปหาคนอื่นเหอะ" บอกปัดไปอย่างแหยงๆ
"ไม่ได้เหรอ...อืม ก็คงจะเร็วไป..." ทำหน้าหงอยเป็นหมาถูกห้ามกินของชอบซะงั้น

ขอบอกอย่างจริงใจนะครับ ถึงผมจะเล่าแบบตลกๆ แต่จริงๆ เวลานั้นอึดอัดมาก แถมยังคิดว่า ไอ้นี่มันต้องบ้าแน่ๆ ด้วย

"เอางี้ เพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ พี่อยากจีบผมพี่ก็จีบไป แต่ผมไม่รับประกันหรอกนะว่าจะติด" ตัดปัญหาแม่ง เงียบนาน วังเวงว่ะ
ทำให้อิพี่ชิน จากหน้าหงอยๆ ฉีกยิ้มกว้างโชว์เขี้ยวขาวเลยทีเดียว

"ครับ พี่จะพยายามให้น้องเอหันมามองพี่ให้ได้ แต่เพื่อการนั้น..." หยิบโทรศัพท์ยื่นส่งให้ "เมมเบอร์น้องเอให้พี่ด้วย ไว้โทรจีบ หึๆ"
ผมก็ง่ายครับ รับมาเมมเบอร์ตามคำขอแล้วส่งคืนให้ บอกแล้วไง ถ้าไม่หล่อ ไม่เนี๊ยบ น้องไม่ง่ายนะเค๊อะ (เมื่อไหร่)

"ขอบคุณครับ" รับไปกดโทรทันที "อุ้ย เบอร์จริงด้วย น่ารักจัง" ฉีกยิ้มอีกหนึ่งที ผมก็หัวเราะแห้งๆ
"แล้วพี่จะไปส่งผมที่เดิม หรือว่าไง"
"ไปทานข้าวกันครับ" พี่ชินบอกพร้อมกับออกรถ
"ไม่ไปไกลนะ ผมมีรายงานต้องส่งพรุ่งนี้" ผมพูดไปก็ตบกระเป๋าเป้ที่อยู่บนตักไป
ปีหนึ่ง จารย์อยากรับขวัญบ้างไรบ้าง สั่งงานเป็นภูเขาเลากาเลยครับ คาดว่าคงกลัวนักศึกษาอย่างพวกผมว่างจัด

"ไม่ไกลครับ" บอกจบก็ฮัมเพลงรุ่นคุณทวดยังสาวไปตลอดทาง

อ้อ ผมไม่เถียงนะครับว่าผมเป็นพวกใจง่าย แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายไม่ง่ายนะครับ รักตัวสงวนใข่ตลอด กับป๋าชินไม่ใช่คนแรกด้วย ไม่หล่อแต่ฟีโรโมนกระฉูด
อีกเรื่องพอรู้ตัวว่าตัวเองเป็นเกย์ ผมก็เริ่มดูคนที่เข้ามาทำตัวสนิทด้วยออกครับ ว่ามาแนวไหน ถ้าคุยรู้เรื่องก็โอเค แต่ถ้าไม่ ผมหนีเลยครับ ไม่ชอบมันน่ารำคาญ
ป๋าชินขับรถมาจอดใต้ตึกห้างชื่อดังแห่งหนึ่งแล้วพาผมไปนั่งในร้านฟูจิ ดีที่จำได้ว่าผมอยากกิน

"ทานอะไรดีครับ" รับเมนูจากพนักงานหญิงส่งมาให้ผมเลือก
"ได้ทุกอย่างป่ะ"
"ทุกอย่างเลยครับ พี่เลี้ยงเองไม่ต้องห่วง" พี่ชินพูดไปยิ้มไป เอ๊ะ ไหงยิ้มให้เราแต่น้องพนักงานหน้าแดงหว่า
"อืม ดี ผมจะได้ประหยัด เดือนนี้ค่าขนมยิ่งเหลือน้อยอยู่ด้วย" ทำตัวเกรียนเกินเยียวยาแม่กับพ่อเลยหักค่าขนมไปครึ่งหนึ่ง
เรื่องของเรื่องคือ ผมต่อยกับลูกพี่ลูกน้องที่เขามาลวนลามผมตอนงานเลี้ยงวันเกิดตัวเองไปเมื่อเดือนที่แล้ว ซวยมาก ถึงอยู่บ้านจะประหยัดค่าข้าวก็เหอะ

"เอา...บลาๆๆ" สั่งสารพัดปลาไปเกือบสิบอย่าง "แล้วพี่ชินกินไรอ่ะ" เงยหน้าจากเมนูถามคนตรงข้ามบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีมารยาท
"ที่น้องเอสั่งไป ได้เผื่อพี่หรือเปล่าล่ะครับ"
"เปล่าครับ ผมกินคนเดียว เหมอๆ จะไม่อิ่มเอาด้วย" ซื่อตรงมั้ยครับ ป๋าชินทำหน้าอึ้งไปเลยแต่ก็สั่งเพิ่มไปอีกสองอย่าง
พนักงานไปแล้ว พี่ชินก็มองหน้าผม ยิ้มบ้าง หน้านิ่งบ้าง (ส่วนมากจะนิ่ง) เห็นแล้วสงสัย มองอะไรกันนักหนา คนนะไม่ใช่ภาพศิลป์สามมิติ

"ไหนๆ ก็จะมาจีบผมล่ะ ถามหน่อยสิ พี่ชินทำงานอะไร บ้านอยู่ไหน อายุเท่าไร?" รู้เขารู้เรา
"ทำธุกิจส่วนตัวครับ(โรงพิมพ์) บ้านอยู่แถว...(ใกล้สายใต้ หลังใหญ่เวอร์ อยู่คนเดียวด้วยเหอะ)อายุก็น่าจะมากกว่าเราสักสิบปี"
"โหบ้านอยู่ตั้ง...แต่มาหาผมที่มหาลัยได้ พยายามมากกกกก" แดกดันเข้าไปจะได้เลิกยุ่ง
"ก็อยากเจอนี่ครับ พอแน่ใจความรู้สึกตัวเองแล้วก็อยากเจอขึ้นมา ขืนไม่รีบกลัวน้องเอจะจำหน้าพี่ไม่ได้ แต่ขนาดรีบยังเกือบจะลืมกันเลยดูสิ"
"ก็ตอนนั้นมันมืดนี่ อีกอย่างใครจะไปคิดว่าคนที่เจอกันครั้งเดียวจะมาจีบ"
"น้องเอเคยได้ยินประโยคนี้หรือเปล่าครับ"
"ประโยคไหน?"
"รักไม่ต้องการเวลา"
"หูยยยยย เสี่ยว!" ตอบก่อนจะใช้ตะเกียบคีบปลาดิบที่ยกมาเสิร์ฟใส่ปากเคี้ยวหยับๆ
"พูดจริง ไม่โกหก" พี่ชินชูนิ้วขวาขึ้นสองนิ้ว แก่แล้วนะลุง ไว้ให้เด็กเขาทำเถอะ ผมขอร้อง
"ครับๆ ไม่โกหก ผมจะเชื่อเพราะเห็นแก่ที่พี่เลี้ยงข้าวผมแล้วกัน"
เรื่องจริงเป็นเรื่องเล็ก เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ ในชีวิตผม สโลแกนนี้สำคัญมาก ไม่ได้เห็นแก่ของฟรีนะเออ

"กินเก่งนะเรา เอาไปเก็บไว้ตรงไหนเนี่ย" จ่ายเงินค่าอาหารเสร็จก็หันมาพูดกับผมที่นั่งเอนกายเหมือนที่แห่งนี้เป็นบ้านตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
ความอายหามีไม่ เกิดมาเกรียนไม่พอ ยังหน้าด้านที่สุดล่ะ

"กินไปสักพัก ไม่ทันย่อยก็ออกหมด" เรื่องจริงของคนระบบขับถ่ายดีครับ



*****************************************************


จากการพบการครั้งที่สอง กับมื้ออาการอันอิ่มตื้อ
ป๋าชินก็ชอบหาเวลาว่างจากงานลอบมาพบ เอ้ย มาหาผมที่มหาลัยบ้าง ที่บ้านบ้าง จนสนิทกับพ่อกับแม่ของผมรวมไปถึงเพื่อนทุกคนไปโดยปริยาย
ผ่านจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี วันหนึ่งผมก็ตัดสินใจทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องเป็นราว ในวันเกิดครบสิบเก้าของตัวเอง
อ้อ พ่อแม่ผมรับได้ที่ผมเป็นเกย์ครับ เพราะไม่ใช่ลูกคนเดียว และทั้งบ้านมีแต่ลูกผู้ชาย (มีหญิงแต่เสือกเป็นทอม เห่อๆ)

"ป๋าชินมานี่หน่อย" กวักมือเรียกป๋าที่นั่งก๊งเหล้าอยู่กับพวกพ่อ คอเหล้าครับสองคนนี้ เจอหน้าเป็นดวลกันตลอด
"ครับๆ " วางแก้วในมือแล้วลุกมาหาผมในครัว ป๋าเขาว่าง่ายกับผมเสมอแหละ "มีอะไรครับน้องเอ?"
"ผมขอถามป๋าหน่อยดิ ว่าตอนนี้รู้สึกยังไง ตลอดเวลาที่ป๋าตามจีบผม ป๋าคิดยังไง เบื่อมั้ย"
"ไม่เบื่อครับ ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ..." แน่ะ หยอดตลอด อิตาป๋าบ้านี่
"ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ทำอะไรที่มันชัดเจนอ่ะนะ แม้แต่มือผมยังไม่ให้จับน่ะเหรอ ป๋าเป็นมาโซป่ะ" เหน็บหน่อย แก้เขิน
"พี่ดูเราออกนะ แต่พี่ก็รู้ว่าเราคงจะยอมรับได้ยากกับความรู้สึกที่มีต่อพี่ เพราะงั้นถ้าความรู้สึกของน้องเอไม่ใช่เกลียดพี่
พี่ก็ถือว่ามันดีมากแล้วครับ ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไรเหมือนที่คู่รักหรือคู่อื่นที่เขาตามจีบกันพี่ก็มีความสุขครับ ไม่ได้เป็นมาโซ"

"อืม ถ้างั้นตอนนี้ผมก็มีคำตอบให้ป๋าแล้วนะ ป๋าชินพร้อมจะรับฟังมั้ย"
"ดีหรือร้าย..." อิตาป๋าหัดเข้าข้างตัวเองบ้างเหอะ จีบผมมาเกือบจะสองปีแล้วนะเห้ย

บอกตามความสัตว์จริง ตลอดเวลาที่ป๋าชินตามจีบผม ชีวิตวัยเรียนผมมีสีสันขึ้นเยอะ แรกๆ จะรู้สึกรำคาญนิดหน่อย
แล้วที่เรียกป๋า ก็เพราะผมเหมือนเด็กเสี่ยตอนอยู่กับแกอ่ะ เลี้ยงนั่นเลี้ยงนี่ ซื้อนั่นซื้อนี่ตามใจเป็นพ่อบุญทุ่มตลอดเลยครับ
ผมไม่เคยควักสักบาท นอกจากตอนซื้อของขวัญให้ตามเทศกาลเท่านั้น

ป๋าชินเป็นคนพูดน้อย...กับคนอื่น แต่กับผมถ้าอยู่กันสองคนจะ จ้อมาก ขี้อ้อนก็ที่หนึ่ง
เวลาอยู่ที่ทำงาน พวกลูกน้องจะกลัวสุดๆ เพราะป๋าแกนิ่งเวอร์
กับครอบครัวผมหรือกับเพื่อน ป๋าแกจะเทคแคร์ดูขัดกับเวลาปกติอย่างแรงส์(ซึ่งผมชอบตรงนี้มาก)
ส่วนกับครอบครัวแกเป็นแบบระบบอิสระครับ พ่อเสีย แม่แต่งงานใหม่กับคนเยอรมัน พอป๋าชินเรียนจบ
แม่แกก็ให้เงินทำทุนมาก้อนหนึ่งแล้วจะไปทำอะไรก็เชิญหมดแล้วก็หาเองเถือกนั้นไม่มีสำรองให้
ไอ้เรื่องขี้หึงเหรอครับ สุดๆ อ่ะนะ แต่มีเหตุผลให้ผมต้องยอมรับทุกครั้งไม่รู้ทำไม ยกตัวอย่างเช่นจีบปีแรก


"ใครครับน้องเอ" ถามหน้านิ่งๆ ตอนมารับกลับบ้าน
"พี่ที่คณะ" ตอบสั้นๆ ทว่าแอบคิดในใจทำไมไอ้คุณป๋าวันนี้ หน้าเหี้ยมจัง
"แล้วทำไมต้องจับมือถือแขนขนาดนั้นด้วยครับ"
ยักไหล่ "เขาถามผมว่าใช้ครีมอะไรถึงได้ขาวเนียนขนาดนี้" ที่จริงเข้ามาขอเบอร์ ฮ่าๆ

"ครับ แต่ที่หน้าที่หลังอย่าให้ใครจับง่ายๆ สิครับ ขนาดพี่ตามจีบเราตั้งนานยังไม่เคยทำเลยนะครับ"
เอิ่ม จบ สุดท้ายผมก็ต้องก้มหน้ายอมรับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ

เอ้ากลับมาต่อกันครับ อันไหนข้ามได้ผมก็จะข้าม เหตุผลหลักคือจำไม่ได้ แหม ใกล้แก่แล้วครับบางทีวันเกิดตัวเองยังลืมเล้ย


"ผมชอบป๋าชินนะ..." พูดไปก็มองหน้าอีกฝ่ายไป
ป๋าชินทำหน้าเหมือนคนถูกรางวัลใหญ่ คลี่ยิ้มแล้วโผเข้ากอดผมเต็มเหนี่ยว หายใจแทบไม่ออก

"เดี๋ยวป๋า ผมยังพูดไม่จบ ฟังก่อน" ป๋าปล่อยผมแล้วกลับไปทำหน้าเครียดอีกครั้ง "ดูจากที่ผมเห็นความพยายามของป๋า
ผมก็เริ่มชอบป๋าขึ้นเรื่อยๆ ป๋าไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง ป๋ารักษาสัญญาเสมอ ทั้งยังรักษาคำพูดทุกครั้งที่พูดกับผม ป๋าไม่เคยทำเจ้าชู้ให้ผมเห็น
แม้จะมีใครเข้ามาในชีวิตของป๋า(หมายถึงต่อหน้าและลับหลังซึ่งเยอะมาก)ป๋าไม่เคยข่มเหงน้ำใจผม ไม่ทำในสิ่งที่ผมไม่ชอบ(ในบางครั้ง)
ป๋าให้เกียรติทั้งยังเคารพความคิดผม(ส่วนมาก) ทำให้ตอนนี้ผมได้พบคำตอบแล้ว และคิดว่าหากผมจะให้หัวใจของผมกับป๋าไปคงไม่เป็นไร
เพราะงั้นถ้าป๋าได้หัวใจของผมไปแล้ว ป๋าสัญญาได้มั้ยว่าจะดูแลมันอย่างดี ไม่ทำให้หัวใจของผมต้องบอบช้ำ
ไม่อย่างนั้นแล้ว ผมคงมีชีวิตเหมือนหุ่นยนต์ที่มีแบตรี่แต่ไม่มีที่ชาร์ตไฟสำรอง" เปรียบได้ดีมะ

ป๋าชินมองผมน้ำตาคลอเบ้าพร้อมกับเข้ามากอดผมอีกรอบแต่แน่นและอบอุ่นกว่าเดิม "พี่สัญญาครับ"

"ผมรักป๋าชินมากนะ อย่าทำร้ายหัวใจผมนะครับ" ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะยอมเสี่ยงกับความรัก
"ครับ พี่จะดูแลหัวใจของน้องเออย่างดีเลยครับ รักน้องเอมากนะครับ" จุ๊บหน้าผากผมหนึ่งที แล้วผละออกไปส่งยิ้มละมุนให้
"ตอนนี้ผมกับป๋าเป็นแฟนกันแล้วนะ"
"จะให้ดี พี่อยากให้เป็นมากกว่าแฟน" ยิ้มเจ้าเล่ห์เชียว
"เรื่องนั้นรอไปก่อนเหอะ ยังไม่พร้อมจะเสียตัว" พูดจบผมก็เดินออกมาร่วมวงกับพ่อทั้งที่ร้อนทั้วไปทั้งหน้า แต่ไม่ดื่มครับหรอกกลัวเมาแล้วได้ผัว

สรุป ผมเป็นแฟนกับป๋าชินตอนอายุสิบเก้าปี
ปัจจุบันได้ยินป๋าแกบ่นว่า มีเมียคิดผิดจนตัวตาย บ่นไปก็ทำงานบ้านทุกอย่างไปด้วย
ผมไม่ทำครับ ไม่ใช่ของถนัด นั่งกินนอนกินให้สะมีหาเลี้ยงอย่างเดียว ฮ่าๆ (แม่บ้านก็มีนะ แต่มาอาทิตย์ละสามหนอ่ะ)


คบกัน ตามทำเนียมโบราณคืออยู่ด้วยกันครับ(ทำเนียมประเทศไหน)
เพราะเข้าเดือนที่หกที่เป็นแฟนกัน ผมก็ถูกพ่อแม่ส่งตัวให้ไปเป็นลูกสะไภ้เขา
ในแบบที่แทบจะประเคนให้ถึงเตียง หวงสักนิดหามีไม่ เชอะ!


"น้องเอครับ พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง?" โผล่หน้าหล่อๆ จากห้องน้ำมาถาม
"สิบโมง" ตอบสั้นๆ เพราะสนใจเกมในมือมากกว่า
"ให้พี่ไปส่งหรือจะไปเองครับ"
"ไปเองได้ครับ"
"ดีๆ ครับ เลิกเล่นก่อน" การย้ายมาอยู่ร่วมหลังคาเดียวกัน ทำให้การเดินทางไปเรียนของผมสาหัสกว่าที่คาดหากไร้สารถีคอยรับส่ง

ผมเงยหน้ามองป๋าชินที่นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกมายืนเช็ดหัวที่หน้าประตูห้องน้ำ

"ป๋าถามแบบนี้ ผมก็รู้ละว่าป๋าคงไม่ว่างไปส่งผมหรอก แล้วจะให้ผมทำไง ก็ต้องไปเองสิครับ วู้~"
"ก็ถ้าอยากให้ไปส่ง พี่ก็ไปได้ครับ แต่อาจต้องไปเร็วกว่าเวลานิดหน่อย" ป๋าชินบอกพลางเดินเข้ามาหยิกแก้มผมคล้ายกับหมั่นเขี้ยวกัน
"ผมไปเองได้ ป๋าไม่ต้องยุ่งยากหรอก" ตอบปัดๆ ไม่ให้เสียความรู้สึก เอ หรือเสียไปแล้ว?
"ไม่ยุ่งยากครับ"
"อืม แล้วแต่ป๋าเลยละกัน ถ้าจะไปส่งก็ปลุกด้วย" แล้วผมก็สนใจเกมในมือต่อ แต่ได้ไม่นานป๋าชินก็ยึดไปโยนทิ้งบนโต๊ะเครื่องแป้ง
"ไม่เล่นแล้วครับ ดึกแล้ว"
"สองทุ่มนี่ดึก?"
"ถ้าจะเล่นเกม เล่นกับพี่ดีกว่าครับ สนุกด้วยเสียวด้วย" โฮ่ มีพัฒนาการสวดยอด
"ไม่เอาอ่ะ เจ็บก่อนเสียวไม่เวิร์ก" ครั้งแรกของผมคือสามเดือนของการคบกันครับ โดนเอาทัวร์ญี่ปุ่นมาล่อ
เสียตัวต่างแดนเป็นอะไรที่เจ็บมากถึงมากที่สุดเพราะไอ้ป๋ามันศึกษามาไม่ดี คิดแล้วพาลอยากจะทุบให้ตายจริงเชียว

"ไม่ชอบเหรอครับ" หน้าหงอยอีกละ กูล่ะเซ็ง
"ชอบไม่ชอบก็ให้ทุกวันนี่ครับ" ผมตอบกลับหน้าทะเล้น ป๋าชินคลี่ยิ้มแล้วเอามือมาโยกหัวผม
"น้องเอขี้แกล้ง" เพิ่งตรัสรู้รึ

ป๋าไม่รอช้าผลักผมให้นอนราบลงบนเตียงแล้วขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทำการบดขยี้ริมฝีปากหวานๆ ลงมาอย่างคนหื่นกระหาย
สองมือไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้เข้าไปข้างในชุดนอนลายทางของผม นัวเนียอยู่กับปุ่มไต้เล็กๆ ทั้งสองข้าง ปากก็กวาดลิ้นดูดดึงไม่บกพร้อง

"อื้อ อ๊ะ...อืมมมม" ผมร้องครางออกมาอย่างเป็นสุข เอน้อยภายใต้กางเกงนอนเริ่มปวดหน่วงตามอารมร์ที่พุ่งขึ้นสูง
ป๋าชินเลื่อนริมฝีปากไล้เลียไปตามส่วนต่างๆ อย่างเป็นแบบแผน คือสูงไปต่ำ จากนั้นก็หยุดอยู่ตรงเอน้อยที่โผล่หน้าออกมาสู้ศึกอยู่ภายนอกเรียบร้อย

"ครั้งเดียวนะป๋า เดี๋ยวเรียนไม่ไหว" ต้องกำชับไม่งั้นเบิ้ลตลอด แล้วก็เป็นการเตือนตัวเองไปในตัว
"ครับ" เงยหน้าจากเอน้อยมาตอบเอใหญ่ แล้วก็ครอบปากลงไปให้เอใหญ่สะดุ้งเฮือก เฉียวฝุดฝุด

ผมกดหัวป๋าชินที่กลืนกินเอน้อยไม่บันยะบันยังไว้แล้วปล่อยของเหลวสีไม่ค่อยขุ่นเพราะทำกิจกรรมกันทุกวันออกมา
ป๋าชินกลืนลงไปก่อนจะเลียรอบริมฝีปากอย่างยั่วยวน

"หวาน" ป๋าชินยิ้มกริ่มให้ผมที่หน้าแดงไปทั้งตัว
"ทะลึ่ง"
"แค่กับน้องเอคนเดียวเท่านั้นครับ" ป๋าหยอดแล้วจูบปากผม
ช่องทางด้านหลังถูกดุนดันโดยนิ้วของป๋าชิน หนึ่ง สอง ไปสามนิ้วตามลำดับ
ป๋าดึงนิ้วออก พลิกให้ผมนอนคว้ำแล้วยกสะโพกผมให้สูง เอื้อมมือไปคว้าเจลล่อลื่นมาบีบลงไปตรงช่องทางด้านหลัง แล้วใช้นิ้วช่วยเบิกทางให้อีกครั้ง

"อึ๊..."
ไม่นานปืนใหญ่ของป๋าชินที่สวมเกราะเรียบร้อยก็แทรกเข้ามาในช่องทางหลัง
ผมกลั้นหายใจเล็กน้อย แม้เดี๋ยวนี้จะไม่เจ็บเท่าครั้งแรก แต่ก็ไม่ชินอยู่ดีที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย

"อื้อ ฮ่าห์...ป๋า...อ๊ะ อย่าเพิ่งแรงสิ" ผมบอก สองมือก็จิกผ้าปูที่นอนไปด้วยเมื่อป๋าไม่คิดจะยั้งมือให้กันสักนิด
เสียงเนื้อกระทบกันดัง ตับๆๆ สลับกับการเร้าโลมทุกทางทำให้ผมต้องร้องโหยหวน

"ดีจังครับน้องเอ...ฮ่าห์...แน่นสุดๆ เลย" ป๋าขยับสะโพกไปพร้อมกับก้มลงมากระซิบข้างหู
มือด้านหนึ่งของป๋าชินจับเอน้อยเป็นตัวประกัน มืออีกด้านก็จับหน้าเอใหญ่ให้หันไปหาเพื่อแลกจูบกันอย่างดูดดื่น

"มะ...ไม่ไหวแล้วป๋า ผ...ผมจะ...อื้ออ..."
"ไปก่อนก็ได้ครับ ที่รัก" ป๋าเริ่มมือขยับเอน้อยขึ้นลงเร็วๆ และแล้วเอน้อยก็พ่นน้ำลายเลอะเต็มมือป๋าชิน
เอใหญ่นอนหอบแฮ่กๆ หมดเรี่ยวแรง ทว่าป๋าชินที่ยังไม่ถึงสวรรค์ก็ยังคงเร่งขยับเอวต่อไป

"ป๋า...ผม...เมื่อย" เสร็จแล้วเกรียนนี่คือตัวผม
"คะ...ครับ ใกล้แล้วครับ" ป๋าขยับเอวเร็วขึ้น แรงขึ้นจนเตียงสั่นกึกกักฟังดูน่ากลัว
ในที่สุดปืนของป๋าชินก็ดึงเกราะป้องกันออกแล้วปล่อยกระสุนออกมาเต็มแผ่นหลังของผมก่อนจะล้มตัวนอนข้างกัน

ผมหันหน้าไปมองป๋า เงื่อเต็มเลยครับ
"เหนื่อยมั้ยครับ" ถามแล้วเอามือปัดผมให้พ้นหน้าแก

"เหนื่อยแต่ชอบครับ" ป๋าชินยิ้มบอกพลางยื่นหน้ามาจูบผมเบาๆ
"ผมเห็นแก่ตัวมั้ย ที่ให้ป๋าทำเองทุกอย่าง"
"ไม่เลยครับ แค่ที่น้องเอยอมพี่อย่างนี้ก็เป็นโชคดีของพี่จะแย่ล่ะ...คิดมากเหรอครับ หืม"
ผมเอามือลูบแขนป๋าชินเพลินๆ ส่ายหัว "ผมกลัวป๋าเบื่อ"

"หึๆ เด็กน้อย น่ารักแบบนี้จะเบื่อได้ลงเหรอครับ ไปๆ ไปอาบน้ำกัน" ป๋าชินหัวเราะแล้วดึงผมให้ลุกขึ้น
"ป๋า ผมรักป๋านะ" ผมกอดเอวแกทางด้านหลังไว้ แล้วทิ้งน้ำหนักตัวให้แกลากไปเข้าห้องน้ำ ขาสั่นเดินเองไม่ด้าย~


**************************************************
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 1 (31/01/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 31-01-2014 02:00:37
ต่อจากข้างบน






เช้าไปเรียนก่อนเวลาสองชั่วโมง ป๋าชินต้องคุยงานกับลูกค้าด้วยตัวเองเลยช้าไม่ได้
ส่งผมถึงมหาลัยก็บึ้งรถจากไปทันที ไม่มีร่ำลาเหมือนอย่างเคย ชักจะงอนนิดๆ

"อินังเอ!!" เสียงนังชะนีตัวใด?
หันไปหาเจ้าของเสียงก็พบว่าเป็นต่ายเอื้ออาทร (รับจ้างเป็นภริยาของชาวบ้านแบบจำกัดเวลา)
ต่ายคือเพื่อนสนิทผู้หญิงคนแรกของผมในรั้วมหาลัย และเป็นคนแรกที่รับรู้ได้ว่าผมเป็นเกย์โดยไม่ต้องเอ่ยปาก

"เรียกซะฉันหมดความเป็นชาย" ผมบ่นแล้วผลักหัวมันไปเบาๆ
"น่าจะหมดตั้งกะแกตกเป็นเมียป๋าชินล่ะนะ" ครับ มันรู้ครับ แถมสนิทกันจนเป็นสายข่าวให้กันได้อีกตะหาก
"ถึงเป็นเมียก็ใช่ว่าจะ เป็นตุ๊ดนี่หว่า"
"ย่ะ อย่าเผลอแล้วกันจะประจานให้หือไม่ขึ้นเชียว"
"ตามสบาย กลัวจะแย่"
"เฮ้ย เอ ทางนี้~!!"
"ทำไมพวกแกมาเร็ววะ" ผมถามกลุ่มเพื่อนสนิทที่มีกันอยู่สามคน
"ไม่ได้กลับเหอะ นอนห้องไอ้หงำมัน" เบียร์ว่าหน้าตาระโหยมาก
"อ้าว ไปทำไรวะ" ผมหันถามไอ้หงำที่นั่งซดมาม่ากระป๋อง
"จ้ำจี้...โอ้ย!" ไอ้หงำหน้าเกือบทิ่มไปในกระป๋องมาม่าเพราะแรงตบของไอ้เบียร์
"ดวลเดือดผีกะหงค์เว้ย"
"แล้วต่ายก็ไปด้วย" หันไปเลิกคิ้วถามหญิงถึกหนึ่งเดียวในกลุ่ม
"อื้อ ไปเป็นขี้ข้าให้พวกมันน่ะแหละ" น้ำเสียงไม่พอใจแต่หน้าไม่ใช่ ไรวะ
"ขี้ข้า หรือ ขี้ข้าง" ไอ้เบียร์ว่า
"หุบปากไปอิเบียร์ คนสวยไม่ใจดีตลอดนะคะ" ต่ายชี้หน้าให้หยุด ไอ้เบียร์หัวเราะชอบใจ
"หึๆ พวกไม่ยอมรับความจริง สาธุขอให้ผัวทิ้ง"
"ทิ้งแกล่ะ อิเบียร์ อิปากเน่า" สารพัดคำด่าที่ยากจะทำใจพิมพ์
"พอเลยๆ เถียงกันทุกวัน กัดกันทุกเวลา เบื่อมั่งเหอะ ฉันขอ" ผมปราม
"เดี๋ยวก็ได้กันเอง จะคิดไรมากวะเอ" ไอ้หงำแซวหน้ายียวนชวนให้เข้าใจผิด
"อิหงำ อิปลวกหน้าหัก" ขยันหาคำด่าจริงแม่คุณ

แหย่กันไปแหย่กันมาก็ถึงเวลาเข้าเรียน
เรียนๆ เล่นๆ ก็หมดเวลา

"เอ วันนี้ไปเที่ยวกันเปล่า" ไอ้เบียร์เดินเข้ามากอดคอชวน
"คงไปได้หรอก ผัวหวงซะขนาดนั้น" ต่ายขัด
"ถ้าไปกับพวกเราไม่เป็นไรมั้ง ป๋าชินใจกว้างจะตาย" กับพวกมึงน่ะใช่
"เอ้า โทรไปขอดิ หรือจะชวนป๋าชินไปด้วยก็ได้" เบียร์บอก
ผมก็ได้แต่ทำตาม กดโทรศัพท์ไปเบอร์ป๋า

"ครับ ว่าไงครับน้องเอ"
"ป๋าออกมายังครับ" ถามก่อนเดี๋ยวออกมาแล้วจะดุว่าทิ้งแก
"กำลังออกครับ มีอะไรหรือเปล่า"
"วันนี้ผมไปเที่ยวกับเพื่อนได้มั้ยอ่ะ" จะว่าไปแกก็ไม่เคยห้ามนะ แต่ต้องกลับตามเวลาที่บอกไว้ล่วงหน้า ไม่งั้นเหยียบถึงถิ่น
"ที่ไหน แล้วจะกลับเมื่อไหร่ ไปกี่คน ใช่เพื่อนในกลุ่มหรือเปล่า" เป็นชุด หวงเพ่อเวอร์
"ที่ไหนวะ" ถามไอ้เบียร์
"ร้าน...รัชดา"
"ร้าน...น่าจะประมาณตีหนึ่ง กับเพื่อนกลุ่มเดิมทั้งหมดอ่ะแหละ" ก็ตอบไป
"อืม กลับให้ตรงเวลาด้วยนะครับ พี่จะไม่รอถ้าเกินไปแม้แต่นาทีเดียว"
"ครับ ได้ครับ แค่นี้นะ กินข้าวเยอะๆ ไม่ต้องรอ โอเคนะครับ"
"ครับ จะพยายามกินโดยไม่ฝืนใจนะครับ" ตลอด
ผมกดวางสาย ไอ้เพื่อนสามตัวฉีกยิ้มกว้างแบบไม่ได้นัดหมาย

"ผีเข้าไง ยืนยิ้มไม่มีเหตุผล"
"มี" สามตัวตอบพร้อมๆ กัน
"เหตุผลอะไร" ผมนิ่วหน้าถาม
"เลี่ยน" เบียร์
"หมั่นไส้" ต่าย
"ก็ไม่รู้สินะ" หงำ
"คำดวยเถอะ พวกเวร" อ้าวตายละ อิต่ายไม่มีนี่หว่า งั้นก็ต้องเป็น 'หำดอย' สำหรับเธอผู้เดียวสินะ คริคริ


*****************************************************


ยังไม่จบครับ ชีวิตรักบอดๆ ของผมกับป๋าชินเพิ่งจะเริ่ม
แต่ผมจะเล่าไปตามสเต็ป และเฉพาะเรื่องที่จำได้นะครับ ฉะนั้นอาจจะไม่หวือหวาไปซาบซ่านก็ต้องขอกล่าวอภัย

*********************************************

พิเศษแถม เล็กๆ


วันอาทิตย์ เวลาใกล้ปัจจุบัน

"ป๋าครับ ป๋าชิน" นั่งดูการ์ตูนจบไปสามแผ่นไม่เห็นสุดที่รักมาวนเวียนใกล้ๆ ดังเช่นปกติ แปลกใจในความรู้สึกเลยเรียกหาเสียหน่อย
"ป๋าชินคร๊าบ ป๋าเว้ย~!!" รอบสองตะโกนเลยครับ รอนานหงุดหงิด
"ครับๆ มีอะไรครับน้องเอ" เดินถือกรรไกลตัดหญ้าเข้ามาในชุด เสื้อกล้ามสีขาวเก่าๆ ยืดๆ ย๊วยๆ เกงเจๆ ใส่หมวกฟาง ตัวเต็มไปด้วยเหงื่อกายกับขี้ดิน
"ไปไหนมาอ่ะ" ผมไม่ค่อยพูดเพราะๆ กับป๋าครับ นอกจากเวลาจะอ้อนหรือมีอารมณ์อยากหวานเท่านั้น
"ไปตัดหญ้ามาครับ หลังบ้านสูงจะท่วมเข่าแล้ว" ตอบไปปาดเหงื่อไป หน้าดำปึดเพราะเปื้อนดิน
"ทำไมไม่รอให้คนสวนเขามาทำ จ้างตั้งหลายตังค์ไปทำเองทำไม เดี๋ยวเหอะ ตัวดำจะไม่รักให้" ขู่ไปงั้นใครจะไปทำคนแก่ได้ลง
"ว่างๆ อ่ะครับ ไม่มีคนสนใจก็เลยไปหาอะไรทำดีกว่า" น่าน โดนเลย
"งอนผมเหรอ?"
"เปล่า น้อยใจ วันหยุดทั้งทีคนรักสนใจแต่การ์ตูน ขัดไปก็โกรธ เลยหาอะไรทำแก้เงี...เอ้ยเครียด" ส่อไปนะป๋า ได้ข่าวเมื่อคืนก็ฟ้าเหลืองนะครับ

ผมแอบอมยิ้มแล้วลุกขึ้นไปหาป๋า "ไปอาบน้ำปะ ผมหิว ทำไรให้กินหน่อย"

"แน่ะ แทนที่จะง้อนะคนเรา" ป๋าชินหน้ามุ่ย
"โอ๋ๆ ก็ง้อด้วยการไปอาบน้ำให้ไงครับ ไม่งอนนะ แก่แล้ว"
"ใช่สิ พี่มันแก่" พูดตัดพ้อจบก็สะบัดสะบิ้งเดินหายขึ้นไปบนบ้าน เข้าตำรา คนแก่ขี้น้อยใจใช่มั้ยเนี่ย
"ป๋าชินนนนนนน" ลากเสียงยาวตามแกขึ้นไปบนห้อง
"อะไรครับคนหนุ่ม" ประชดได้อีก
"ถึงป๋าจะแก่แต่ผมก็รักนะครับ" เข้าไปหอมแก้มเปื้อนๆ ของป๋าไปสองฟอด "เหม็นขี้ดินแต่รักคนนี้ อิอิ"
"รักเหมือนกันครับ" ป๋ายิ้มแล้วครับ เจอลูกป้อผมเข้าไป งอนไม่ได้นานหรอก "อยากทานอะไรครับ?"
ถามไปถอดเสื้อผ้าไป ไม่มีทางที่ผมจะบอกว่า 'อยากกินป๋าชิน' ยากส์~ ไม่ต้องมาอ่อย

"เอา ไข่เจียวใส่ลูกโดด" ก็ไข่เจียวใส่พริกขี้หนูอ่ะครับ ใส่ทั้งเม็ดอร่อยมาก
"เอาไข่พี่แทนได้มั้ยครับ สองลูกโดดเลยนะ" โห แรงส์!
"ชิชะ เดี๋ยวจะตัดมาจิ้มน้ำพริก"
"ล้อเล่นครับ แต่กินเผ็ดมากเดี๋ยวกระเพาะพังอีกนะครับ" ทำหน้าเป็นห่วงขึ้นมาทันทีเชียว (เรื่องนี้ไว้เล่าทีหลังเนอะ)
"หูยยยยย นานๆ ทีน่ะป๋า" ดันหลังแกให้เดินเข้าห้องน้ำ อายุปูนนี้ยังมีหกแพคอีก อิจฉาวุ้ย
"ครับๆ จะทำให้ครับ" ป๋ารับปาก สุดท้ายวันนั้นไข่เจียวสามฟอง มีพริกอยู่สามเม็ด ลูกโดดจริงๆ ให้ตายเถอะ



*****************************************************


ไว้มาต่อนะครับ หุหุ~
(ปล. เรื่องแต่งนะจ๊ะ แต่อิคนเขียนอยากแต่งแนวนี้ แบบสนองนีสนิดนุง)
(ปล2. ไม่น่าจะมาม่า น่าจะออกแนวเอื่อยๆ เฉื่อยๆ มากกว่า แต่งแก้เซ็งเวลานึกอีกเรื่องไม่ออก)

หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 1 (31/01/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 31-01-2014 02:39:22
โอเคน่าติดตามเลยค่ะ น้องเอนี่ทำบุญมาดีเชียวป๋ารักมากทำให้ทุกอย่างเลย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 1 (31/01/57)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 31-01-2014 07:45:10
เนื้อเรื่องดูมุ้งมิ้งๆนารักๆ

แต่ชื่อเรื่องแลดูดราม่าจัง

หรือเพิ่งเริ่ม?
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 1 (31/01/57)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 31-01-2014 09:04:13
โฮฮฮฮ

เป็นเรื่องแต่งที่เหมือนจริงม้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :ling1:

เอาอีกค่ะๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 1 (31/01/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 01-02-2014 07:17:41
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 2 (01/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 01-02-2014 09:40:50
รักบอดๆ ตอนที่ 2



ขออนุญาตคุณสามีเรียบร้อยก็พากันกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอไอ้หงำ
จากนั้นก็บึ่งรถเก๋งเก่าๆ ของไอ้เบียร์ไปร้านที่รัชดาต่อ

จะว่าไปสมัยเกือบสิบปีก่อน วัฒนธรรมเกาหลียังไม่บูมเท่าสมัยนี้ การแต่งตัวของวัยรุ่นไทยเลยไม่จำเป็นต้องพิธีรีตรองอะไรมากมาย
ผู้ชายสวมเสื้อยืดกางเกงยีน รองเท้าผ้าใบขาดๆ ก็ถือว่าหรูสุดๆ สำหรับเด็กมหาลัยอย่างพวกผมแล้วครับ
ส่วนผู้หญิงสภาพไหนก็สวยเลิศได้ ยกเว้นขาสั้นติดติ่งเพราะมันจะล่อแหลมชวนให้ได้ผัวกลับบ้านเกินไปหน่อย

"คนที่เท่าไรแล้ววะ" ไอ้หงำสะกิดแขนผม ที่ตั้งแต่เริ่มเข้ามานั่งในร้านก็ถูกบรรดาสาวๆ หนุ่มๆ ผลัดกันเข้ามารุมขอเบอร์
"หน้าตาก็งั้นๆ แถมผัวก็มี ทำไมถึงได้ฮอตนักวะ ถามจริงเอ แกใช้ยาเสน่ห์ของอาจารย์ตำหนักไหนแน่ บอกมา" ไอ้เบียร์
"อยากรู้ก็ไปมีผัวก่อนสิจ๊ะ" นังต่ายแสล๋นตอบแทนอย่างรวดเร็ว จะเห็นด้วยก็ไม่ได้ เพราะถึงไม่มีผัวผมก็เนื้อหอม ฮ่าๆ
"อุแหม่ ถ้าได้ผัวดีอย่างป๋าชินกูยอมเป็นเกย์เลยเหอะ อิต่าย หุบปาก ไม่งั้นคืนนี้ฉันจะให้แกกลับเอง"
"ฮ่าๆ เบียร์ เคยได้ยินสำนวนนี้ป่ะ เสน่ห์น่ะอยู่ที่ภายใน คือเราไม่จำเป็นต้องหล่ออะไรมากมายหรอก
แค่ทำดี คิดดี เดี๋ยวก็เรียกคนเข้ามาหาเองแหละ"
"ถูกกกกกก" ต่ายเห็นด้วย
"อ้อ ครับ พ่อคนจิตใจดี คิดดี...ถุย คนดีที่ไหนเขาให้เบอร์ไปทั่ว เข้าข่ายนอกใจผัวนะเนี่ย"
"เบอร์ฉันที่ไหน เบอร์อิต่ายมันหรอก"
"เฮ้ย ตายแล้ว แกจะให้ฉันตีฉิ่งทำจังหวะฟันดาบไปด้วยเหรอย๊ะ ไม่เอาๆ" นังต่ายทำท่าทางร้อนรนยกมือถือขึ้นมาถอดซิมทิ้งทันที
"ถอดทำไม" ผมถามขำๆ คือจริงๆ หลอกต่ายมันเล่นเฉยๆ ครับ ไอ้ที่เข้ามาขอน่ะ ผมไม่ได้ให้เบอร์ใครไปเลยสักคน
แบบว่าใจง่ายแต่ก็รักผัวคนเดียวอ่ะครับ คริคริ

"ถอดทิ้งสิ"
"ไม่ต้องถอด ใส่เข้าไป ฉันหลอกแกเล่น"
"หะ..."
"ฉันหลอกแกเฉยๆ อินี่นิ" ผลักหัวมันไปเบาๆ ไม่อยากทำหน้ามันช้ำครับ กลัวมันหาผัวไม่ได้
"อิ...อิหลอดหน้าพญาปลวก" ด่าเสร็จสะบัดหน้าหนี
"ฮ่าๆ เหมือนจะเจ็บแต่ก็เท่ห์นะ ถึงจะจินตนาการไม่ออกก็เหอะ ว่าหลอดหน้าพญาปลวกมันหน้าตายังไง" หัวเราะอิต่ายไปก็ยกเหล้าขึ้นจิบ
ดื่มเหมือนกรอกอย่างสามตัวนี้ไม่ได้ครับ เดี๋ยวไม่มีใครพาใครกลับความซวยจะตกไปที่ป๋าชินต้องนั่งแท๊กซี่มาขับรถให้

"อุ๋ย หล่อ" ต่ายอุทานเมื่อมีหนุ่มหล่อมาดนายแบบมาเปิดโต๊ะข้างๆ กับเพื่อนอีกสองคน
"หน้าตาเจ้าชู้ชิบหาย" ไอ้เบียร์ปรายตามองแล้วบ่นเป็นเชิงอิจฉา ซึ่งผมก็เห็นด้วยกับมันนะ หน้าตาดีทว่าสายตามันรุกริกไม่หน้าไว้ใจ
"ไม่เสมอไปหรอกย่ะ อย่ามาทำอิจฉา"
"ไหนวะ คนไหน" ไอ้หงำชะเง้อคอข้ามไหล่ผมมองหา "ไอ้เสื้อเชิ้ตดำป่ะ?"
"อื้อ โอ๊ย อยากได้มานอนกกทั้งชีวิต"
"เยอะไปละต่าย ผู้ชายดีๆ เขาไม่ชอบผู้หญิงแรดนะจำไว้" ผมเตือนสติเพื่อนสาว
"ไม่แรด ไม่ร่าน ไม่มีทางได้หรอกค่ะ ว่าแล้วก็เข้าไปชนแก้วสักหน่อยดีกว่า อิอิ" คว้าแก้วสปายบนโต๊ะแล้วเดินไปหาไอ้เชิ้ตดำ
"เอ ไม่ห้ามวะ" เบียร์หันมาฮึดฮัดใส่
"ดูๆ มันไปเถอะ แค่อย่าให้มันไปไหนกับเขาสองต่อสองก็พอ" ผมบอก อยู่ว่างๆ เอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดข้อความส่งกู๊ดไนท์ป๋าชินดีกว่า
"เฮ้ย เพื่อนมันมองมาทางเราด้วยว่ะ" หงำสะกิดให้ผมต้องเงยหน้าจากหน้าจอขาวดำ
"หวาย หน้าอย่างกับโจร" ผมพูด เมื่อเห็นหน้าเพื่อนไอ้เชิ้ตดำชัดๆ ตัวดำ ไว้หนวด ทำผมตั้งๆ
"กูว่า แก๊งค์มิจฉาชีพป่ะวะ แบบให้ไอ้หล่อมาหาเหยื่อแล้วไอ้สองตัวนั้นเป็นคนจัดการไรงี้" ไอ้เบียร์ออกความเห็น
"เออ น่าคิด" ไอ้หงำพยักหน้ารับ
"เออน่ะ ดูๆ กันไปก่อนเหอะ อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย" บอกสองตัวให้เฉยไว้ แล้วก้มหน้ากดข้อความต่อ
ของแบบนี้ดูหน้าตาอย่างเดียวสรุปไม่ได้หรอกครับว่าใช่ไม่ใช่ ไม่งั้นคนหน้าโหดๆ ทั่วโลกคงได้เป็นโจรกันหมด

"ไอ้เอ อิต่ายมันจะไปแล้ว" หงำกระตุกแขนผมที่นั่งเคลิ้มไปกับวงดนตรีบนเวทีในอีกครึ่งชั่วโมงหลัง
"ไหน เฮ้ย รีบไปตามมันกลับมาเลย แม่ง"
"หยุด พวกมึงไม่ต้องกูจัดการเอง" ไอ้เบียร์ยกแขนกันไม่ให้พวกผมลุกจากโต๊ะ
ก่อนจะเดินจ้ำไปตามนังต่ายกลับมา สภาพชีที่ไปหาผู้ชายแปบเดี๋ยวแอ๋กลับมาเลยครับ แถมพูดจาอะไรก็ไม่รู้เรื่องด้วย

"อิต่าย มันโดนมอมยามาป่ะวะ" ไอ้หงำช่วยไอ้เบียร์พยุงแขนต่าย โห หน้าตาเยิ้มเหมือนคนเมายามากกว่าเมาเหล้าจริงๆ

เห็นสภาพเพื่อนแล้วทำใจรับไม่ได้อย่างแรงผมเลยมองไปที่โต๊ะไอ้เสื้อเชิ้ตดำที่ตอนนี้ทั้งมัน
และเพื่อนหันมามองพวกเราพร้อมรอยยิ้มเยาะ ไอ้ที่หนังหน้าดี จิตใจต่ำยังพอทน
แต่ไอ้หนังหน้าเลว จิตใจต่ำแม่งสุดทนจริงๆ ครับ ท่าทางจะวอนท์โดนเกือกกันมากไอ้พวกเชี้ยเอ๊ย

ผมนิ่วหน้ายกนาฬิกาข้อมือดูเห็นว่ายังห้าทุ่ม แต่ในเมื่อ
เรื่องมันเป็นถึงขนาดนี้กลับเลยก็น่าจะดีต่อนังต่ายมากกว่า
"กลับกันเหอะว่ะ หมดอารมณ์เที่ยวละ"

ก่อนขึ้นรถกลับจากผับ ต่ายมันอ้วกใส่ผมครับ
ผมก็เลยต้องเดินกลับมาขอซื้อผ้าเย็นตรงเค้าน์เตอร์บาร์แล้วไปเข้าห้องน้ำโดยที่ไม่รู้ว่ามีคนตามมาด้านหลัง
แล้วเรื่องมันก็เกิด ผมโดนกระชากแขนเข้าไปในห้องในสุดอย่างรุนแรง กว่าจะตั้งตัวได้ว่าตัวเองอยู่กับใครก็นานโข

"มึงจะทำอะไร" คำถามแรกตามสคิปเป๊ะ แต่หน้านี่ซีด มือขวาก็กำผ้าเย็นที่ซื้อมาแน่นเลย
ไอ้เชิ้ตดำผลักหลังผมให้ติดกับผนังห้องน้ำ ส่วนตัวมันเองหันหลังให้ประตู

"เอามึงทำเมีย" บร๊ะเจ้า คำตอบเลิศมาก
สมัยนั้นประเทศไทยการแสดงตัวเป็นเกย์ยังไม่เกลื่อนเท่าสมัยนี้อ่ะครับ
แล้วพอผมมาถูกพูดแบบนี้เข้า ตกใจฝุดๆ ยิ่งในสภาพเลอะอ้วกยิ่งไปกันใหญ่

"......."
"เพื่อนมึงทำให้กูอดเอาอีนั่น เพราะงั้นมึงต้องรับผิดชอบด้วยการมาเป็นเมียกู" ไอ้เชิ้ตดำยิ้มหื่นพลางล้วงอะไรสักอย่างในกระเป๋าเสื้อ
"......."
"เดี๋ยวกูจะทำให้มึงรู้สึกดี จนต้องร้องผัวขาๆ เลย หึๆ" พูดจบมันก็ใช้มือข้างที่ไม่ได้ล้วงกระเป๋าเสื้อบีบกรามผมแรงๆ

ผั่วะ!!

การกระทำเร็วกว่าความคิด เมื่อผมกระแทกเข่าซ้ายใส่ของรักมันสุดแรง
ไอ้เชิ้ตดำเซถอยหลังไปติดประตูห้องน้ำ เม็ดยาหลายเม็ดหล่นหายจากกระเป๋า และผมก็ไม่โง่ที่จะรอให้มันสวนแน่
จึงยันฝ่าเท้าเบอร์สามสิบแปดเต็มยอดอกของมันไปอีกที ก่อนจะดึงประตูเปิดกระแทกซ้ำพอให้มีช่องว่างให้ผมแทรกตัวหนีออกมาข้างนอก
ใส่สปีดวิ่งจ้ำอ้าวกลับมาที่รถก็ทิ้งตัวนั่งหอบพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง สิ่งที่คิดอยู่ในหัวตอนนั้นคืออยากกลับบ้านให้เร็วที่สุด
เพราะถึงจะรอดมาอย่างปลอดภัยแต่สำหรับผมขวัญมันหายไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้

"หายไปไหนมาตั้งชาติวะ" เห็นหน้ากันก็บ่นเลยนะไอ้หมาเบียร์ ช่วยสังเกตสภาพกันหน่อยเหอะว่าแย่ขนาดไหน
"...อย่า...เพิ่ง...ถามกู" สูดออกซิเจนเข้าปอดอีกสองสามทีแล้วพูดต่อ "ออกรถ!"
"อะไรวะ" บ่นหงุงหงิงแต่ก็หันกลับไปใส่เกียร์เหยียบคันเร่งให้นะครับ
"เกิดอะไรขึ้นวะเอ ไหนบอกจะไปล้างตัว ดูดิ เสื้อยังเลอะอยู่เลยเนี่ย"
ไอ้หงำที่ให้ต่ายซบไหล่น้ำลายไหลเปียกเสื้อเอ่ยถามหน้าตาข้องใจกับท่าทีของผมเสียเต็มประดา

ผมสูดลมหายใจอีกหน่อยก่อนไขความกระจ่างให้พวกมันทั้งสอง "กูเกือบจะได้ผัวคนที่สองว่ะ"
คำแทนตัวของพวกผมในกลุ่มจะเปลี่ยนไปตามสภาวะอารมณ์ครับไม่ต้องตกใจ

"ห๋า!!" สองเพื่อนรักพร้อมใจกันร้อง
"ยังไง ตอนไหน บอกมา" ไอ้เบียร์เหลือบมองผมทางกระจกหน้าตาไม่อยากเชื่อ
"ตอนกูกลับไปล้างตัวในห้องน้ำข้างในร้านนั่นแหละ แล้วไอ้เชิ้ตดำมันคงจำกูได้มั้งเลยเดินตามไปฉุดกูในห้องน้ำ"
"แม่งชั่ว" ไอ้หงำสบถ
"หึ คำว่าชั่วยังน้อยไป"
"แล้วมึงไม่เป็นไรนะ" ไอ้เบียร์ถามหน้าตาค่อนข้างชีเรียส สงสัยคงจะกลัวป๋าด่าที่ชวนผมเที่ยวแล้วไม่ดูแล หึๆ
"ไม่เป็นไร กูไหวตัวทันเลยจัดหนักไปสองดอก และก็คงเป็นโชคดีในความโชคร้ายของกูด้วยที่มันไม่คิดว่ากูจะสู้ปกป้องตัวเองได้"
"ก็หุ่นมึงอย่างกับผู้หญิงนี่นะ"
"เอ๊ะ ไอ้นี่นิ" ผมเอื้อมมือไปตบหัวไอ้เบียร์เลยครับ หมั่นไส้มาก
เห็นหุ่นผอมๆ งี้ก็ออกกำลังกายฟิตกล้ามทุกวันนะเว้ย แต่ทำไงได้มันไม่มีเอง งื้อ คิดแล้วเศร้า

"แล้วมึงจะเอาเรื่องนี้ไปบอกป๋าชินเปล่า" ไอ้หงำถาม ทว่าไอ้เบียร์สะดุ้ง
"ไม่ล่ะ ไม่อยากให้แกห่วง" ดีไม่ดีจะถูกงดเที่ยวกลางคืนไปด้วยอีกต่างหาก
"มึงไม่กลัวมันแค้นฝังหุ่นไง"
"กลัว แต่คิดว่าคงไม่มีทางเจอกันอีกหรอก เพราะกูจะเลิกเที่ยวแถวนี้ไปอีกนาน"
"ถ้ากูเจอแม่งที่ไหนนะ จะจับกระทืบให้ที่มาทำเพื่อนกู" ไอ้เบียร์ทุบพวงมาลัยรถอย่างโกรธๆ
"ไม่รู้นะ แต่เท่าที่กูอยากขอตอนนี้ กูอยากขออย่าให้มีใครตกเป็นเหยื่อกามของพวกมันต่อจากกูเลย สาธุ" ผมยกมือไหว้ท้วมหัว

มนุษย์เรานี่ก็แปลกนะครับ ทั้งๆ ที่ถูกสอนให้ยึดหลักตามศิลธรรมอันดีงาม แต่นับวันศิลธรรมเหล่านี้ในตัวมนุษย์กลับชักเริ่มเสื่อม
สอนเข้าหูซ้ายทะลุออกไปหูขวา สอนให้ทำอย่างนี้ ดันไปทำตามอย่างนั้น ไม่รู้จักแยกแยะผิดชอบชั่วดี ไม่รู้จักคำว่าพอดี จนกลายเป็นโศกนาฎกรรม
ผมว่าสักวันทุกศาสนาที่สอนให้คนเป็นคนดีคงค่อยๆ เลือนหายไปจากโลก และเหลือไว้เป็นแค่แผ่นจาลึกหักๆ ให้คนรุ่นหลังได้บังเอิญไปขุดพบเป็นแน่แท้

"ว่าแต่จะเอาไงกับอิต่าย" ดูสภาพมันสองสามวันนี้ไม่น่าไปเรียนไหว
"จะไปหาหมอก็เสี่ยงโดนที่บ้านมันด่า รอดูอาการมันถึงพรุ่งนี้ที่หอไอ้หงำก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยพาไปคลีนิค" ไอ้เบียร์บอก ไอ้หงำพยักหน้าตาม
"เออ จะให้กูไปช่วยป่ะ"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่บ้านเลย ไม่อยากโดนป๋าชินหมายหัวว่าเป็นตัวทำลายเวลาจู๋จี๋กับเมีย" ไอ้บ้าเบียร์
"เอางั้นก็ได้ มีไรติดต่อมาได้ตลอดนะ เพื่อนกัน"
"โอเค"


*************************************************


ไม่ถึงชั่วโมงเบียร์ก็ขับรถมาส่งถึงหน้าบ้านป๋าชินที่แสนจะโคตรไกล ผมบอกลาเพื่อนทั้งสองแล้วเปิดประตูรั้วเข้ามาในบ้าน
พอเห็นผมปิดประตูรั้วเรียบร้อยรถของเบียร์ก็แล่นออกไป เข้าบ้านเปิดไฟ ถอดเสื้อเลอะอ้วกกองไว้บนเก้าอี้
แล้วทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น

"กลับมาเร็วจังครับน้องเอ" ป๋าชินเดินนุ่งกางเกงผ้าแพรสีเขียวเข้มตัวเดียวลงบันใดมาหา หน้านี่ทาแป้งซะขาวจั๊วะ
"น่ะ บอกไม่เคยจำ ว่าไม่ต้องรอ ให้นอนไปก่อน" ผมนิ่วหน้าเดินเข้าไปกอดป๋าชิน นี่สิที่ทำให้รู้สึกปลอดภัยของจริง
"ปากบ่นแต่ตัวอ้อน พี่คงจำไปทำได้หรอก แล้วนี่ทำไมถึงกลับเร็วกว่ากำหนด ปกติบอกกลับตีหนึ่งกว่าจะถึงบ้านก็ตีสองทุกที มีอะไรหรือเปล่า?"
"ไม่มีครับ แค่คิดถึงป๋าเฉยๆ" เอาหน้าซุกอกแล้วถูๆ ไถๆ เป็นลูกแมว
"จริงเหรอ อย่าโกหกพี่นะ น้องเอก็น่าจะรู้ว่าพี่ไม่ชอบ"
"อืออออ..." เอาไงดีวะ
สุดท้ายผมก็บอก แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ป๋าแกตอนที่ได้ยินเรื่องราวจากปากผมนี่ทำหน้าแทบอยากจะฆ่าไอ้เชิ้ตดำนั่นให้ได้เลยอ่ะ

"ห้ามไปเที่ยวกลางคืนตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป" คำประกาษิตฟาดลงกลางกระบาลไอ้เอ อะไรที่คิดที่คาดไว้เป็นไปตามนั้นจริงๆ
"ป๋าชินอ้า~" ทำหน้าละห้อย ทิ้งตัวลงกอดขาป๋าแทนลำตัวไปแล้วครับ
"ไม่ต้องมาอ้อน พี่บอกแล้วนะว่าให้ระวังตัว" เสียงเข้มเชีย
"ผมระวังแล้วนะ ไม่งั้นจะรอดมาถึงบ้านเหรอครับ" ทำตาวิบๆ
"อย่าดื้อน้องเอ ไม่คือไม่"
"ผมวัยรุ่นน้า~"
"ถ้าไม่เชื่อฟัง พี่จะถือว่าเราไม่รักพี่นะครับ" นั่น ใช้ความรักของผมมาอ้างหน้าตาเฉย คิดว่ากลัว ชิส์
"ผมมีสังคม มีเพื่อนนะป๋า จะให้ผมอยู่แต่กับป๋าผมไม่เอาด้วยหรอก" ลุกมาทำหน้าไม่ยอมแพ้
"น้องเอ" เสียงอ่อนลงเล็กน้อย
"เอาเป็นว่า คราวหน้าผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบวันนี้อีก แล้วป๋าก็ไม่ต้องไปพูดไปว่าอะไรกับเพื่อนผมด้วย เข้าใจป่ะ"
"......" เห็นหน้าป๋าชินตอนนี้ เหมือนผมไปฆ่าใครตายงั้นแหละ ก็รู้ว่าห่วง
แต่ไม่อยากให้เพื่อน โดยเฉพาะอินังต่ายมันรู้สึกไม่ดีที่เป็นสาเหตุทำให้ผมไม่ได้เที่ยวกลางคืนอีก

"ป๋า อย่าทำหน้างั้นดิ ผมรู้ป๋าห่วง ป๋ารักผมมาก แต่ผมขอได้มั้ย ผมไม่อยากให้พวกเพื่อนมันรู้สึกผิด"
"ตามใจแล้วกัน พี่ห้ามอะไรน้องเอไม่เคยได้อยู่แล้วนี่" พูดจบป๋าแกก็สะบัดก้นหนีขึ้นบ้าน
และเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ป๋าชินไม่พูดกับผมเกือบตลอดหนึ่งอาทิตย์ เจอหน้าก็บึ้งใส่ ถึงกิจวัติประจำวันที่เคยทำให้จะทำเหมือนปกติ
แต่ไม่มีการพูดคุยเล่นกันเหมือนอย่างเคย บางวันก็ให้ลูกน้องที่โรงพิมพ์โทรศัพท์มาบอกผมว่างานยุ่งไม่กลับบ้าน

เข้าวันที่ห้าของการมึนตึงของป๋าชิน
ผมป่วยเพราะต้องอยู่ทำงานส่งอาจารย์จนดึก ข้าวปลาไม่กินเนื่องจากรู้สึกไม่อยากอาหาร
ไอ้ที่กินก็อ้วกออกมาหมด ป๋าเองก็ไม่สนใจหรืออาจจะเป็นเพราะผมไม่ชอบแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นด้วยมั้งเลยไม่รู้

เช้าวันพฤหัสผมตื่นขึ้นมารู้สึกปวดหัวตึบๆ ร่างกายเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
คอแห้ง และตัวรุมๆ ไม่ร้อนเท่าไหร่ กุมขมับลุกจากเตียงเปิดประตูลงมาห้องครัวข้างล่างด้วยความวิงเวียน
ก็เห็นกับข้าวที่ป๋าชินทำไว้ให้กินอยู่ในครอบฝาชีบนโต๊ะอาหาร เดินไปหยิบแก้วกดน้ำในกระติกน้ำร้อนที่ยังอุ่นๆ อยู่มาดื่มแก้กระหาย
แล้วเดินไปนั่งบนโซฟา เป็นอีกวันที่ไม่นึกอยากอาหารทั้งที่เคยโปรดปานรสชาติอาหารที่ป๋าชินทำ

คิดไปก็จะร้องไห้ เดินขึ้นห้องไปหยิบโน๊ตบุ๊คกับสมุดหนังสือลงมานั่งทำรายงานทั้งที่ยังปวดหัวนี่แหละ ยาเยอไม่กินแม่ง
จะตายก็ให้ตายไปเลย ไหนๆ คนรักมันก็คิดจะสนใจเราแล้วนี่ น้ำตาไหลหยดลงบนสมุดรายงาน (เขาว่าคนป่วยมักต้องการคนเอาใจใส่)

กริ๊ง กริ๊งงงง กริ๊งงงงงงง~!!

ผมเงยหน้าจากสมุดลุกขึ้นไปรับโทรศัพบ้านที่ดังติดต่อกันเป็นสิบนาที

"ไอ้เชี้ยเอ ไม่รับโทรศัพท์วะ" เสียงไอ้เบียร์
"แล้วไอ้ที่ให้แกด่าอยู่นี่ เขาเรียกว่าอะไร" ผมทำเสียงปกติไม่ให้มันสงสัยสภาพจิตใจของผมอย่างทุกครั้ง
ผมไม่แน่ใจหรอกครับว่ามันรู้หรือไม่รู้เวลาที่ผมไปเรียน แต่การที่ผมพยายามทำแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้เพื่อนมันรู้สึกผิดจริงๆ
ในเมื่อชีวิตคนเราอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ต่อให้อยู่กันเป็นกลุ่มหรือไม่เที่ยวที่ไหนเลย คนจะซวยไงก็ซวยอยู่ดีคุณว่าจริงมั้ย

"อย่ามาเยอะ แล้วไมไม่มาเรียน วันนี้มีสอบเก็บคะแนนของอาจารย์...นะเว้ย เล่นขาดไม่มีสาเหตุแบบนี้คะแนนปลายเทอมได้หล่นแน่"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปขอสอบเก็บคะแนนตามหลัง อาจารย์เขาไม่น่าจะเครียดกับฉันหรอก" พูดไปปาดน้ำตาไป
"เอ แกเป็นไรเปล่าวะ เสียงแหบๆ อิต่ายกับไอ้หงำมันก็เป็นห่วง" ครับจากวันที่โดนมอมยา
เย็นวันรุ่นขึ้นอิต่ายก็ลุกขึ้นมาเถียงกับไอ้เบียร์ได้ป๋อเหมือนเดิม ทนทรหดยิ่งกว่าอุปกรณ์พานาโซนิคอีก สวดยอด!

"กูไม่สบายนิดหน่อย ไม่ต้องห่วง ไว้เจอกันพรุ่งนี้"
บอกปัดแล้วจัดการวางสาย และไม่ได้วางหูคืนที่เดิม เพราะผมกลัวมันจะโทรกลับมาซักไซ้ให้รำคาญอีก

เดินไปล้างหน้าในห้องน้ำตรงครัว แล้วออกมาทำรายงานต่อ
นั่งทรมานตัวเองไปได้ชั่วโมงหนึ่งก็ไม่ไหวครับ ปวดหัวจะระเบิด เลยเก็บของทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นไปนอนข้างบน
หลับไม่นานเท่าไรไม่รู้ แต่มารู้สึกตัวตื่นอีกทีตอนที่มีสัมผัสเย็นๆ ลูกไล้ไปตามร่างกาย ผมค่อยๆ เปิดเปลือกตาที่หนักแสนหนักขึ้น
และพอเห็นว่าเป็นใครมาเช็ดตัวให้เท่านั้น น้ำตาก็แตกทันที

"ป๋า หายโกรธผมแล้วเหรอ ฮือออออ"
"ทำไมปล่อยให้ตัวร้อนขนาดนี้ครับน้องเอ"
"ฮืออออออ" ไม่ตอบแต่ยันตัวลุกขึ้นไปกอดป๋าชินที่นั่งอยู่ข้างเตียงโดยที่ตัวผมมีแค่กางเกงในตัวเดียว
"ไม่ร้องครับคนเก่ง โตแล้วนะ" ป๋าลูบหลังปลอบด้วยเสียงอ่อนโยนที่ไม่ได้ยินมาห้าวัน น้ำตาจึงทวีคูณหนักขึ้นอีกเท่าตัว
"ป๋าชิน ผมขอโทษ ผมรักป๋า อย่าทำเมินกับผมอีกเลยนะ ผมเหงา ฮือออออ"
"งั้นน้องเอก็อย่าดื้อกับพี่สิครับ น้องเอรู้มั้ยว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหน ทุกครั้งที่น้องเอออกเที่ยวกลางคืน
ยิ่งพี่มาได้ยินว่าน้องเอเกือบถูกข่มขืนในห้องน้ำโดยที่พี่ได้แต่เป็นห่วงอยู่ที่บ้าน หัวใจของพี่ก็แทบสลาย
พี่ทั้งโกรธทั้งแค้นอยากฆ่าไอ้คนที่เข้ามาทำกับน้องเอแบบนั้น แต่พี่ก็ทำไม่ได้ สิ่งที่พี่พอทำให้คือห้าม
น้องเอไม่ให้ไปในสถานที่ที่อันตรายอย่างนั้น เข้าใจพี่นะครับคนดี"
"ฮือออออ ผมขอโทษ" สะอึกสะอื้นบีบน้ำตากอดป๋าแน่น ราวกับกลัวว่าที่ทำอยู่นี้เป็นความฝัน ที่เมื่อถึงตอนเช้าแล้วมันจะหายไป
"พี่ยกโทษให้ครับ ไม่ต้องร้องแล้วนะคนดี"
"อื้อ ฮืออออ" ยิ่งโอ๋ บ่อน้ำตายิ่งแตก

ป๋าชินดันผมให้เผชิญหน้ากับแก แววตาของป๋าแฝงความรู้สึกไว้มากมาย
ความรัก ความห่วงใย และความโกรธที่มีต่อผมคงจะรวมอยู่ในนั้นด้วย ป๋าชินใช้ผ้าซับน้ำตาให้ผม
ก่อนจะคลี่ยิ้มบาง เป็นรอยยิ้มอุ่นละไมที่เหมือนกับการเอาลูกกวาดรสหวานมาให้หลังกินยารสชาติขมๆ อย่างไรอย่างนั้น


********************************************

ไม่อยากบอกหรอกนะว่า หลังจากเหตุการณ์ไอ้เชิ้ตดำผ่านไปได้สักพัก(ห้าปี) แล้วผมลองเอาเรื่องนี้ไปตั้งคำถามกับคนแก่ใหม่
คำตอบที่ได้รับกลับมามันน่าช้ำกระดองใจยิ่งนัก มีอย่างที่ไหน บอกถ้าใครข่มขืนผมได้
จะแถมข้าวให้สองกระสอบ พร้อมหม้อหุงข้าวอีกสองใบ

ซึ่งผมอยากเถียงกลับนักเชียวว่า...
โธ่ป๋าชินครับ ถ้าอย่างนั้นผมว่าป๋าคงได้ข้าวไปเป็นโกดังแล้วล่ะ คริคริ

*******************************************



หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 1 (31/01/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 01-02-2014 09:44:36
เนื้อเรื่องดูมุ้งมิ้งๆนารักๆ

แต่ชื่อเรื่องแลดูดราม่าจัง

หรือเพิ่งเริ่ม?


เรื่องนี้ไม่มาม่าค่ะ (ถ้าจะมีก็คงมีขลุกขลิกไม่เยอะ...มั้ง)
จะเน้นหวานๆ มากกว่า เพราะตัวละครอายุต่างกันพอควร จะออกแนวเด็กเอาแต่ใจกับ คุณพี่ใจดีอ่ะนะ(เหรอ?)
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 2 (01/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 01-02-2014 13:40:01
เห็นชื่อเรื่องคิดว่าดราม่าอ่ะเป่า
แต่รู้แระ แบบขลุกขลิค อิอิ
น่ารักดี ชอบๆๆ มาเรื่อยๆๆน่ะ
แนวอ้อนๆ เอาใจ แต่เข้าใจ กินเด็ก ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 2 (01/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 01-02-2014 19:43:54
น่ารักมากๆ เลยค่ะ การเล่าเรื่องดูธรรมชาติมาก เหมือนเล่าเรื่องจริงเลย ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องแต่ง อิอิ

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 2 (01/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-02-2014 20:51:40
ฮาาา

แสดงว่า 5 ปีต่อมา ป๋าชินเริ่มเบื่อหรืออย่างไร? ม่ายน้าาา
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 3 (02/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 02-02-2014 15:25:43


รักบอดๆ ตอนที่ 3




ในเมื่อคืนดีกันแล้วก็ต้องรีบอ้อนไว้สะสมครับ
อีกอย่างอ้อนทั้งที่ป่วยจะทำให้สกิลเราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น


"ป๋าชินนนนน ผมอยากกินส้มมมมมม"
คนป่วยตะเกียดตะกายไปบนที่นอนเพื่อไปหาคนแก่ที่นั่งเฝ้าไข้ทำงานอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คบนพื้นข้างเตียง

"ส้มอะไรครับ ส้มโอ ส้มเช้ง หรือส้มเขียวหวาน?" ปากถามแต่หน้าไม่หันมอง ช่างไม่รู้เลยนะ ว่าคนเขาเรียกร้องความสนใจ ชิส์
"ส้มเช้ง หวานๆ เย็นชื่นใจอ่ะ ตลาดนัดหน้าปากซอยน่าจะมีขายอยู่นะ ถ้าไม่มีส้มธรรมดาก็ได้ ผมไม่เรื่องมากหรอก" เหรอ?
"อืม เดี๋ยวพี่ไปซื้อให้ครับ ว่าจะไปซื้อของสดมาเก็บไว้ด้วย แล้วน้องเอมีอะไรที่อยากกินอีกมั้ย พี่จะได้ซื้อมาทีเดียวเลย"
"อืออออ" นอนกลิ้งไปกลิ้งมา
"ว่าไง" ป๋าชินละสายตาจากจอคอมมามอง
"ไม่รู้อ่ะ ยังนึกไม่ออก ขอคิดอีกแปบ"
"งั้นก็คิดไป พี่ขอทำงานต่อก่อนนะ"
"ป๋า..." หยุดกลิ้งเกลือกแล้วนอนเท้าคางสบตากับป๋า
"หืม?"
"ทำไมวันนี้ป๋ารีบกลับอ่ะ เพิ่งบ่ายกว่าๆ เองนะ" ผิดวิสัยสุดๆ เพราะปกติป๋าชินจะเป็นคนเป๊ะกับเวลาทำงานมาก
(ปัจจุบันก็เป๊ะ เป๊ะกับเวลาทำการบ้านอ่ะนะ หิ้ววว)

"ใจไม่ดีครับ"
"ไม่ดีเรื่องไร" ผมก็ทำหน้างง
"ก็ตอนเช้าพี่ปลุกน้องเอแล้ว น้องเอบอกปวดหัว ไม่รู้ละเมอหรือเปล่า
พี่ก็เลยปล่อยให้น้องเอนอนต่อ ส่วนตัวเองก็รีบออกไปเคลียร์งานที่โรงพิมพ์แล้วก็รีบกลับมาดูอาการน้องเอนี่แหละ"

"ไม่เห็นรู้เรื่องเลย" ผมทำหน้าประหลาดใจ คิดว่าสามีจะไม่ดูดำดูดีกันซะแล้ว
"พี่ก็ว่าน้องเอคงเพ้อเพราะป่วยนั่นล่ะ เป็นห่วงมากเลยรู้มั้ยครับ" ป๋าชินทำหน้าเป็นกังวลแล้วเอามือลูบหน้าลูบตาผมเบาๆ
"ขอโทษนะครับ" สำนึกผิด งื๊อ~
"อืม พี่อยากให้น้องเอรู้นะว่าที่พี่ทำไปน่ะ เพราะพี่เป็นห่วงว่าน้องเอจะไปเจอกับอันตรายอย่างคืนนั้นอีก น้องเอเชื่อที่พี่พูดนะครับ"
"แต่ผมก็อยากเที่ยวกับเพื่อนอยู่นะ" ทำเสียงอ้อนเขาไว้ อุคริๆ
"งั้นก็ไปได้ครับ แต่ถ้าไปเที่ยวกลางคืนต้องมีพี่ไปด้วยครับ พี่ไม่กล้าปล่อยให้เราไปกันเองแล้ว กลัวเสียเมีย"
"ป๋าชินน่ารักที่สุดอ่ะ จุ๊บ" ผมก็จุ๊บปากป๋าไปหนึ่งที
"จะน่ารักกว่านี้ ถ้าน้องเอไม่ดื้อกับพี่อีก" ป๋าพูดยิ้มๆ โชว์เขี้ยวขาว
"คร๊าบบบ ขอโทษที่เป็นเด็กดื้อครับ"
"ดีมาก แล้วตกลงนึกออกยังว่าอยากจะกินอะไรอีก" เออ ลืมเลย แหะๆ
"ไม่อ่ะ ขอส้มอย่างเดียวดีกว่า"
"ไม่ได้นึกสินะ" รู้ทันเค้าอีกและที่รัก
"ป๋า..." เรียกรั้งป๋าที่หยิบกุญแจรถ กระเป๋าสตางค์กำลังจะเปิดประตูห้องออกไป
"ครับ"
"ผมรักป๋านะ"
"พี่ก็รักน้องเอครับ" เดินเข้ามาหอมแก้มทีหนึ่งก่อนจะออกไปข้างนอก
ใครจะบอกว่าหวานเลี่ยนผมก็ไม่แคร์หรอกนะครับ เพราะผมคิดว่าการบอกรักกันบ่อยๆ ก็เหมือนเป็นการเตือนให้เรารู้ว่าเรายังคงรักกันดีอยู่
ดีกว่ามานั่งคิดกันไปเองว่าเขายังรักเราอยู่ ทั้งๆ ที่ความรักจะยังมีอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ เป็นแบบนี้ผมว่าน่าเศร้าออกครับ

กลิ้งไปกลิ้งมาก็เผลอหลับไปอีกหน
ตื่นมาอีกทีก็ตอนที่ป๋าชินเข้ามาปลุกให้กินข้าวเย็น ยกมาเสริฟถึงเตียงด้วยนะเออ
ปกติไม่มีทางได้นำอาหารเข้ามากินในห้องหรอก ป๋าแกกลัวมดยังกะอะไรดี โดนกัดทีผื่นขึ้นทั้งตัว บอบบางเหลือเกินนนน

"พี่ต้มข้าวต้มมาให้ ทานได้ใช่มั้ย?"
"ข้าวต้มไรอ่ะ" ชำเลืองมองชามข้าวต้มร้อนๆ กลิ่นหอมชวนน้ำลายไหล
"ข้าวต้มหมูครับ" ป๋าชินตอบพร้อมกับลากเก้าอี้ที่หน้าโต๊ะคอมมานั่งข้างเตียง "มาๆ พี่ป้อน"
"ผมกินเองได้นะ แต่ถ้าป๋าอยากป้อนผมก็จะสนองให้" ยังเกรียนได้อีกกรู~
ป๋าชินก็ไม่อะไร เอาแต่ยิ้มลูกเดียว จากนั้นก็ตักข้าวต้มเป่าๆ แล้วก็ป้อน หยั่มๆๆ รสชาติอร่อยเหาะ สมเป็นฝีมือป๋าจริงๆ

"อร่อยมั้ยครับ หืม"
"อร่อยเวอร์"
"งั้นกินเยอะๆ จะได้ทานยา"
"งั้นป๋าก็รีบป้อนเร็วๆ เลย ให้ไว"
"คืนนี้จะอาบน้ำหรือจะให้พี่เช็ดตัวให้?" ป้อนจนผมอิ่มตื้อ ป๋าก็ถามพร้อมกับยื่นยาให้กิน
"อาบดีกว่า เหงื่อออกเยอะอ่ะ"
"อืม" ป๋าพยักหน้า
"ป๋ากินข้าวยังอ่ะ เห็นเอาแต่ป้อนผม ไมไม่ยกของตัวเองมากินด้วยกัน" เกิดเป็นห่วงสามีขึ้นมากระทันหัน
จะว่าไปผมนี่โคตรเห็นแก่ตัวเลยนะ ไม่ว่าจะก่อนหน้านี้หรือปัจจุบัน ผมไม่เคยคิดถึงแกก่อนตัวเองเลยอ่ะ
แต่จะเป็นแกตลอดที่เป็นห่วงผมถึงขั้นยอมอดข้าวเพื่อให้ผมได้อิ่มท้อง(ไว้จะค่อยๆ เล่าไปเรื่อยๆ ว่าทำไมแกต้องอด อิอิ)
เฮ้อ~! ขอโทษนะป๋าชิน ที่ทำยังไงผมก็ปรับปรุงตัวเรื่องนี้ไม่เคยได้เลย

"ก็ว่าป้อนน้องเอเสร็จแล้วจะลงไปกินครับ" บร๊ะ น้ำตาจะไหล
"ห่วงตัวเองบ้างนะ ผมยิ่งเป็นพวกห่วงใครไม่ค่อยจะเป็น เกิดเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาเดี๋ยวผมไม่มีคนหาเลี้ยงทำไง"
"ครับๆ งั้นพี่ไปกินข้าวก่อนนะ อ้อ น้องเอรอให้ข้าวย่อยสักพักนะครับแล้วค่อยไปอาบน้ำ เดี๋ยวท้องอืด"
"คร๊าบบบบ" รับคำเสร็จก็ล้มตัวลงนอน สบายอุรา
"อย่าเผลอหลับอีกนะน้องเอ" ก่อนลงไปกินข้าวไม่วายหันมากำชับเสียงแข็ง ทำเอาคนกำลังนอนสบายๆ สะดุ้งเอือก
"สั่งเป็นขี้มูกเชีย"
"อะไรนะ"
"บอกว่าทราบแล้วครับผม ไปกินเหอะข้าวน่ะ" ปัดๆ ไปพร้อมกับไล่ทางอ้อม

เหลือบมองป๋าชินออกไปนอกห้องก็กระดื๊บๆ ไปหยิบโน๊ตบุ๊คมาเปิดเล่นเกม (ยังไม่มีเฟส มีแต่เอ็กทีน แต่ก็ไม่รู้จะอัพอะไรอ่ะนะ สมัยนั้น)
เล่นไปเล่นมา ป๋าชินก็ยังไม่ขึ้นมาชักง่วงๆ จะด้วยเพราะยาหรือความขี้เกียจอะไรก็ตาม ทำให้ผมเคลิ้มหลับไปอีกหน มาสะดุ้งตื่นก็ตอน
โดนอุ้มจากเตียงโดยไม่มีเสื้อผ้าติดตัวเลยชักชิ้น ป๋าชินแม่งมือเบาเวอร์ ถอดไปตั้งแต่เมื่อไรวะ ไม่เห็นรู้สึกเลย

"บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่านอน"
"ง่ะ เค้าขอโต๊ด เผลอจริงไรจริงนะจ๊ะ"
"ไม่ให้โทษ แต่จะให้อย่างอื่น" หน้าตาจริงจังไปมั้ยเพ่ ผมแค่เผลอไปหน่อยเดียวเองนะ
"ให้ไรอ่ะ" ยืนทำตัวเจี๊ยมเจี้ยมให้ป๋าเอาน้ำอุ่นราดตัวแต่โดยดี
"อยากรู้?" ป๋าชินเลิกคิ้ว
"อื้อ..."
"เดี๋ยวจะให้บนเตียง" ยิ้มเจ้าเล่ห์ ผมก็เขินเลยดิ
"บ้า!"
"ล้อเล่น พี่ไม่ทำคนป่วยหรอกครับ ยังไม่อยากเป็นพ่อหม้าย เมียตาย ฮ่ะๆ"
"โห แช่งเค้านะ จำไว้ โป้ง" ผมทำแก้มป่อง ยกนิ้วโป้งให้ ถึงจะอายุน้อยกว่าป๋า แต่ดูยังไงผมก็ปัญญาอ่อนว่ะ
"โอ๋ๆ ล้อเล่นนะครับ ไม่โป้งๆ ดีกันนะ"
"จะดีก็ได้ แต่มืออย่าเลื้อยได้ป่ะ ขนลุก" ถ้าไม่เห็นว่าใส่เสื้อผ้าอยู่จะลากมาอาบด้วยซะเลย ชิส์
และก็อย่าคิดว่าพี่แกจะฟังนะครับ เลื้อยหนักกว่าเดิมอีก ผมก็ได้แต่ปล่อยๆ ไป อยากทำอะไรก็ทำเถอะ

"น้องเอ" เสียงเริ่มสั่น ผมว่างานท่าจะเข้าผมแล้วล่ะเนี่ย
"ไหนบอกว่าไม่ทำไง ดูดิ เสื้อเส้อเปียกหมดแล้วเห็นป่ะ"
"ไม่ทำถึงที่สุดครับ นะช่วยพี่หน่อย" ไม่พูดปากเปล่าป๋าแกยังคว้ามือผมไปจับที่ปืนใหญ่ใต้ร่มผ้า
"ตาแก่ลามกเอ๊ย" ก็ได้แต่บ่นครับ ส่วนมือก็ลูบไปด้วยแล้วก็จัดการแก้ซิบ
ควักเจ้าปืนใหญ่ออกมาชมโลกภายนอก หนอย แข็งแรงจริงเชียวไอ้ปืนกระบอกนี้

"อืม..." ป๋าชินคราง เสื้อเชิ้ตขาวเปียกน้ำแนบสนิทกับลำตัวทำให้มองเห็นทะลุสีผิวด้านใน โคตรเซ็กซี่อ่ะ โดยเฉพาะหัวนมดำๆ คริคริ

ชักขึ้นชักลงไม่ทันใจ ผมเลยจัดการก้มตัวเอาปากดูดทันที
ป๋าชินสะดุ้งเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้สองมือกดหัวผมไว้ให้เร่งตามจังหวะที่แกต้องการ
ไม่นานจนเมื่อยน้ำลายจากปากกระบอกปืนใหญ่ก็พุ่งเข้ามาให้ผมชิม
เอ รสชาติเฝื่อนๆ นะวันนี้ แสดงว่าสี่ห้าวันที่โกรธกันไม่ได้บำรุงอะไรเลยล่ะจิ

สุขสมสโมสร(แค่ป๋าชินนะ ผมไม่มีอารมณ์ร่วมอ่ะ ป่วย)
ป๋าชินก็แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน อาบเสร็จก็แต่งตัวเตรียมเข้านอน

"พรุ่งนี้ไปเรียนไหวมั้ยครับ น้องเอ" ป๋าชินละสายตาจากหน้าจอคอมตั้งโต๊ะมาถามผมที่นอนอ่านหนังสือเรียนอยู่บนเตียง
ก็ไอ้วิชาที่จะไปสอบตามเก็บคะแนนย้อนหลังนั่นล่ะครับ

"น่าจะไหวนะป๋า ไม่ค่อยปวดหัวแล้วด้วย สงสัยท่าทางจะได้ยาดี"
"ยาเรอทัก"
"อุ๊ โดน" ผมทำท่าเอามือกุมหัวใจ ป๋าชินก็หัวเราะชอบใจยกใหญ่ที่ผมตบมุขแกก่อนจะหันกลับไปทำงานต่อ
"ป๋า" ผมลุกเดินเข้าไปกอดป๋าชินจากทางข้างหลัง "ผมจะนอนแล้วนะ"
ป๋าชินหันมาหอมแก้มผมทั้งสองข้าง "ฝันดีครับ"

"ฝันดีครับ ผมรักป๋านะ ฟอดดดดด" หอมกลับไปหนึ่งทีแล้วไปนอน และก็ไม่ลืมจะไหว้พระก่อนนอนด้วย


********************************************************

แถมตอนพิเศษ วันปัจจุบัน


"ป๋าชินนนนนนนนนน" ลากเสียงยาวปลุกไอ้ป๋าที่หลับอุตุอยู่บนเตียง
"อืม" ขานตอบแต่ตาไม่ลืมนี่หมายความว่าไงวะ
"ป๋าชินเว้ย ตื่นดิ สายจนตะวันจะทำเมียแล้วนะ" แยงก้น อิอิ
"อืม..." โอเค ยังมีการลืมตา ถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดีขึ้น
"ไปๆ ลุกไปอาบน้ำ ผมจะเอาผ้าปูที่นอนไปซัก" จริงๆ ก็แค่เอาไปลงเครื่องแล้วให้ป๋าแกตากนั่นล่ะ
"นอนก่อนไม่ได้เหรอ เช้าวันอาทิตย์ทั้งที" มีต่อรอง
"ไม่ได้"
"ใจร้าย"
"เออ เพิ่งรู้หรือไง ชิส์" ว่าแล้วก็จัดการสลัดผ้าห่มให้คนแก่ต้องจำใจลุกจากเตียงอย่างช่วยไม่ได้ สะใจนิดๆ ครับ อิอิ
"ลุกแล้วก็ไปล้างหน้าล้างตา หรือจะอาบน้ำเลยก็ได้นะ เสร็จแล้วก็ไปทำกับข้าวด้วย ผมหิว"
"หุงข้าวยังครับ"
"หุงแล้ว แต่ไม่รู้จะแฉะหรือแข็งนะ กะไม่ถูก" ครั้งแรกที่หุงข้าวหนักกว่านี้นะครับ
แทบจะเป็นข้าวต้มเลยอ่ะ เราก็ว่าทำไมมันไม่สวยเหมือนที่ป๋าชินหุงวะ พอถามแกก็บอกใส่น้ำเยอะไป จะไม่เยอะได้ไงผมใส่เต็มหม้ออ่ะ กร๊ากกก

"อืม แล้วน้องเออยากกินอะไรครับเช้านี้" ไม่เช้ามั้ง ทำเสร็จก็น่าจะเที่ยงแล้วเหอะ
"ไข่เจียวใส่ลูกโดด ผัดกระเพาหมึกใส่คะน้า ต้มยำปลากระป๋องหอมแดงเยอะๆ"
"ครับๆ" รับคำก็เดินเกาตูดเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ ยิ่งอายุเยอะยิ่งไม่รักษาภาพลักษณ์เลยนะตาคนนี้

ผมกลับมาจัดการปลอกลอก(ถอด)ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน แล้วก็หอบหิ้วใส่ตระกร้ายกลงไปหลังบ้านที่มีเครื่องซักผ้ารองน้ำไว้เต็มถัง
ยัดๆ ผ้าปูลงไปพร้อมกับผ้าห่ม (อย่าเลียนแบบนะครับต้องแยกซัก แต่ผมขี้เกียจอ่ะ) แล้วก็กดปุ่มให้เครื่องทำงาน ก่อนจะไปนั่งดูซีรี่ย์เกาหลีต่อ
ป๋าชินอาบน้ำแต่งตัวลงมาก็เข้าไปในครัว ได้ยินเสียงทำกับข้าวโป๊กๆ แป๊กๆ แล้วกลิ่นหอมฉุนของผัดกระเพาก็โชยมา

"ฮัดดด เช่ย!!" จามเป็นชุด กว่าจะหยุดก็นั่นแหละ ผัดเสร็จแล้ว
กดหยุดหนังค้างไว้แล้วเดินไปหาพ่อครัวประจำบ้าน รายนี้ก็ยังจามไม่หยุด น่าสงสารจริงๆ

"น้ำลายไม่เต็มผัดกระเพาผมแล้วเหรอน่ะ" เกรียนตัวพ่อจริงๆ กรู
"พี่ปิดปากครับ"
"ให้จริงเหอะ" พูดไปก็ใช้มือหยิบไข่เจียวกิน (โสมาก)
"ล้างมือยังครับ" รายนี้ก็ไม่เคยด่า มีแต่ห่วง พ่อคนดี พ่อสามีดีเด่น หุหุ
"ไม่จำเป็น ว่าแต่วันนี้ป๋าไปเลือกตั้งเปล่าอ่ะ"
"ไม่ไปครับ"
"ทำไม จะนอนหลับทับสิทธิ์เหรอ ไม่เลือกก็โนโหวตไปดิ"
"อืม พี่ว่าจะนอนหลับเหมือนกัน แต่ไม่ได้ทับสิทธิ์นะ"
"แล้วทับไร?" ผมนิ่วหน้าสงสัย มือก็หยิบไข่กินไม่ขาด
"ทับน้องเอครับ" ไข่แทบพุ่ง สาบานซิ ว่านี่มุขคนแก่
"แค่กๆ"
"นะ กินข้าวเสร็จ พี่ขอทับสักสองที แล้วเราค่อยไปโนโหวตกัน" หน้าหื่นขึ้นมาเชีย
จากนั้นก็กินข้าว คุยกันไป แล้วก็ไปนอนทับ เอ้ย ไปเลือกตั้งกัน กลับมาก็มานั่งเขียนเรื่องลงให้อ่านกันนี่ล่ะครับ(ไม่ได้ทับจริงๆ นะ หิ้วววว)


***********************************************

ตัวละครมีมาเรื่อยๆ ครับ แต่จะเน้นผมกับป๋ามากกว่า เพราะงั้นถ้าใครเบื่อก็ต้องขอโทษด้วย
เห็นชื่อเรื่องหลายคนบอกน่าจะดราม่า ขอบอกไว้ตรงนี้ครับ ว่าถ้าจะดราม่าก็เพราะเรื่องของผมล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับป๋าชินเลย
รายนี้เขาดีทุกอย่าง จะไม่ดีก็ตรงตามใจผมเกิน กับรักผมเวอร์ อ่ะครับ ไม่ได้อวยสามีตัวเองนะยะ อิอิ

************************************************



ปล. นิยายนะจ๊ะ นิยาย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 2 (01/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 02-02-2014 15:29:31
ฮาาา

แสดงว่า 5 ปีต่อมา ป๋าชินเริ่มเบื่อหรืออย่างไร? ม่ายน้าาา


ไม่ได้เบื่อครับ เพราะถ้านับปัจจุบันก็เข้าปีที่ 10 แล้วนะ ยังหวานเหมือนเดิม (เหรอ - คนเขียน)
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 3 (02/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 02-02-2014 15:49:35
น้องเอนี่เกรียนเสมอต้นเสมอปลายดีจริงๆ อดีตเกรียนยังไง ปัจจุบันก็เกรียนอย่างนั้น ก้ากกกกกก

อยากให้คนเขียนย้ำบ่อยๆ ว่าเรื่องนี้เป็นนิยายไม่ใช่เรื่องจริง คืออ่านไปแล้วชอบคิดว่าเป็นเรื่องจริงตลอดเลยยยยยย 5555

รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 4 (03/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 03-02-2014 22:49:45

ชักจะอู้มาอัพเรื่องนี้บ่อยไปละ อิอิ


****************************************************




รักบอดๆ ตอนที่ 4





"...ครับ สบายดีครับ ไม่ต้องห่วงครับ...น้องก็ดื้อบ้างตามประสาแหละครับ...ครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ ครับ...สวัสดีครับ"
ได้ยินเสียงป๋าชินแว่วๆ มาจากหลังบ้านเลยเดินออกไปหาซะหน่อย

"คุยกะใครอ่ะ กิ๊กเหรอ แหม...เผลอเป็นไม่ได้เลยนะ"
ก็จีบปากจีบคอแซวแกไปเล่นๆ ไม่ได้จริงจังเพราะผมค่อนข้างมั่นใจในตัวแกเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

"คุยกับคุณแม่ครับ ไม่ใช่กิ๊ก" ป๋ายิ้มแล้วเดินเข้ามากอดคอ
"เหรอ แล้วคุยไรกันบ้างอ่ะ ได้ยินชื่อน้องเอๆ ด้วย"
"ก็ถามไถ่กันตามประสาอ่ะครับ แล้วคุณแม่ก็ถามถึงน้องเอ บอกคิดถึงไรงี้ ไม่มีอะไรมากครับ"
"อ้อ แล้วปีนี้แม่ป๋าจะกลับไทยเปล่า ผมอยากได้ช็อคโกแล๊ตผสมเหล้ารัมอ่ะ ปีที่แล้วได้กินนิดเดียวเอง"
ปีที่แล้วยังไม่ได้ย้ายมาอยู่กับป๋าครับ พวกของฟงของฝากเสร็จญาติพี่น้องหมด ไอ้ที่ซุกไว้ พี่ชายตัวดีดันเสือกหาเจอ เซ็งเลย

"น่าจะกลับปลายๆ ปีเลยมั้งครับ เพราะร้านอาหารที่นั่นกำลังไปได้สวย"
แม่ป๋าชินเปิดร้านอาหารไทยที่เยอรมันครับ แถมทำเป็นสปารีสอร์ทด้วย
สามีใหม่เขาออกทุนให้ ว่างๆ ผมก็ว่าจะลองอ้อนป๋าให้พาไปชิมบ้างไรบ้าง อิอิ

"อืออออ..." เดินละจากแขนหนักๆ ของป๋าเข้าไปเปิดฝาชีในครัวดูซิว่าค่ำนี้ป๋าของเราทำอะไรให้กินมั่งเอ่ย
"หูยย ต้มจืดมะระ ยำปลาป๋อง แล้วนี่ไรเนี่ย" เอานิ้วจิ้มๆ แล้วเอามาดูด "อ้อ คั่วกลิ้ง เค็มดีจริง"
"ไม่ชอบเหรอครับ?"
"ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่มันเค็ม" พูดจบก็เดินไปตักข้าวมาสองจาน เผื่อคุณป๋าด้วย
"อืม วันหน้าจะลดเค็ม"
"ดีมาก เอ้า คนทำก็กินเยอะๆ นะครับ"
"คนเพิ่งหายป่วยก็ทานเยอะๆ นะครับ"
ต่างคนก็ต่างตักกับข้าวใส่จานให้กันแล้วก็ยิ้มๆ โคตรมีความสุขว่ะ

"พรุ่งนี้น้องเอจะไปไหนมั้ยครับ"
"ไปสยาม"
"ไปทำไมครับ" หยุดกินข้าวขึ้นมาทันที หน้างี้ขรึมเชียว
"ไปซื้อสีน้ำมันครับ ของเดิมมันใกล้จะหมดแล้ว"
"ไปกับเพื่อน?"
"เออ...ยังไม่รู้เลย ป๋าต้องเข้าโรงพิมพ์ป่ะล่ะ ถ้าไม่พรุ่งนี้พาผมไปหน่อยสิ"
ลากป๋าชินไปด้วยก็เหมือนผมได้พกตู้ATMเคลื่อนที่อ่ะครับ สะดวกดี

"ต้องเข้าไปส่งงานตอนเช้าครับ งั้นพรุ่งนี้น้องเอไปที่โรงพิมพ์กับพี่ก่อน แล้วจากนั้นค่อยไปซื้อของของน้องเอกัน"
ป๋าชินกลับมาทำหน้าสบายๆ ตามเดิมแล้วตักข้าวกินต่อ แหม อารมณ์ดีล่ะจิ จะได้พาเมียไปเที่ยว คริคริ

"อืมๆ" ก็พยักหน้ารับไป

กินข้าวเสร็จก็ปล่อยให้ป๋าชินล้างจานชามแต่เพียงผู้เดียว ส่วนผมมานั่งดูการ์ตูน ประเสริฐมั้ยล่ะ คริคริ
นั่งไปนั่งมาจะหลับ ไอ้ป๋าชินล้างจานเสร็จแล้วไปไหนวะ? เดินไปเมียงมองหน้าบ้านหลังบ้านก็ไม่เห็นเจอ
กลับมานั่งงงกับการหายตัวไปของคนแก่ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อไอ้คนที่หาเดินนุ่งชุดนอนลงบันไดมาจากบนบ้าน

"ป๋าไปตกกระป๋องแป้งมาไง หน้าขาวหวอกมาเชียว แล้วไปอาบน้ำทำไมไม่บอก ปล่อยให้ผมหาไปเถอะ ชิส์" เป็นชุด งอนจริงไรจริง
"ก็เห็นนั่งดูการ์ตูนอยู่ พี่ไม่อยากไปกวนให้เราอารมณ์เสีย เลยไปอาบก่อนไม่คิดว่าน้องเอจะตามหานี่ครับ" หน้าสลด
"หึ เกือบไปแจ้งความคนหายแล้วมั้ยล่ะ" เวอร์เข้าไว้ จริงๆ ถ้าขึ้นไปหาบนบ้านไม่เจอก็กะจะออกไปตามที่พูดนั่นแหละ
"ขอโทษครับ พี่ไม่ตั้งใจจริงๆ นะ ฟอดดดด" ป๋าชินเข้ามาโอบเอวขโมยหอมแก้มผมไปหนึ่งที ทำผิดแล้วอ้อนตลอด
"ทีหลังจะไปไหน ไปทำไรหัดบอกมั่งนะ เกิดเป็นลมเป็นแล้งจะได้ช่วยทัน"

เคยเป็นกันมั้ยอ่ะครับ ที่รู้ว่าคนที่เรารักทำอะไรอยู่ตรงนั้นตรงนี้ แล้วจู่ๆ ก็หายไปดื้อๆ
โดยที่เราเองก็ไม่รู้ว่าไปไหน ใจมันรนๆ เหมือนโดนไฟต้องรีบตามหาให้เจออะไรเงี๊ย ผมเป็นโคตรบ่อยเลยครับ
ปัจจุบันป๋าแกก็ยังชอบทำให้ผมงอนเรื่องนี้ทุกที ถึงจะอยู่ในบ้านก็เถอะนะ กะอีแค่เปิดปากบอกกันสักนิดมันจะตายให้ได้เลยหรือไง
มานั่งนึกๆ ดูก็ชักฉุน อยากเดินไปตบไอ้คนที่นอนเล่นไอแพดอยู่บนโซฟานักเชียว นอกเรื่องและ อิอิ มามะ มาต่อกันที่เดิม

ผมตัดพ้อป๋าชินไปพร้อมกับดันตัวให้แกออกห่าง ยังงอนอยู่ครับไม่อยากให้เข้ามาใกล้มากเดี๋ยวจะงอนไม่ได้นาน

"น้องเอคร๊าบบบบ พี่ขอโทษษษษษ"
"ไม่ให้ ไปให้ไกลเลย แล้วคืนนี้ก็ไม่ต้องมานอนด้วยเลย ชิส์"
"ไม่ให้พี่นอนด้วย แล้วจะให้พี่ไปนอนไหนล่ะครับ" ป๋าชินทำหน้าหงอย คงกลัวผมจะพูดจริงล่ะสิ
"นั่นมันก็เรื่องของป๋า ปล่อยได้แล้วผมจะไปอาบน้ำ" สั่งเสียงเขียว หน้านิ่ง ทว่าในใจแอบยิ้ม
ให้มันรู้ซะมั้งว่าทำน้องเองอนมันไม่เป็นผลดี เดินสะบัดตูดขึ้นมาบนบ้าน แก้ผ้าอาบน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง(ขัดขี้ไคล)
เสร็จแล้วเช็ดเผ่าเช็ดผมออกมาก็เห็นป๋าชินยืนหน้าจ๋อยอยู่หน้าห้องน้ำ

"อาบนานจังครับ" เสียงนี่อ่อนยิ่งกว่าขนมเปียกปูนอีก
"ใช่เรื่องมั้ย" ผมแยกเขี้ยวใส่แล้วเดินไปเปิดตู้หยิบกางเกงบอลกับเสื้อกล้ามออกมาใส่นอน
"ทำไงน้องเอถึงจะหายโกรธพี่อ่ะครับ" ป๋าชินเดินตามผมที่เดินวนไปหยิบนั่นหยิบนี่ภายในห้อง
"ไปนอนข้างล่างสักคืนก็น่าจะพอ" พูดไปงั้น ใจจริงไม่ได้งอนไรแกแล้ว แต่แกนี่สิจริงจังเกิ๊น
เดินหน้าเศร้าเหมือนเมียหายไปหยิบหมอนหยิบผ้าห่มเตรียมจะลงไปนอนชั้นล่างจริงๆ

"ไปไหนน่ะ" ผมถามเสียงดังเลยครับ ป๋าชินแกก็สะดุ้ง หันมาทำหน้างงๆ เหมือนจะบอกผมว่าก็ไปนอนข้างล่างไงประมาณนี้
"เอาหมอน เอาผ้าห่มกลับไปวางที่เลย"
"อ้าว งั้นพี่จะเอาอะไรห่มอ่ะ"
"ไม่ต้องห่ม ไป จะนอนก็ขึ้นไปนอนบนเตียง วันหน้าวันหลังก็หัดรู้ซะบ้างนะ ว่าต้องบอกทุกครั้งที่จะหายไปทำอะไร เข้าใจป่ะ"
ป๋าชินได้รับคำอนุญาตจากผมก็ดีใจรีบกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงเลยครับ แถมยังมีการตบพื้นที่ข้างๆ ให้ผมไปนอนด้วยอีกแน่ะ

"อะไร ไม่ต้อง จะนอนเดี๋ยวไปเอง" ผมพูดจบก็หันกลับมาตั้งหน้าตั้งตากับการโบ๊ะหน้าด้วยแป้งเด็ก
พอจะเดินไปปิดไฟนอนก็เห็นว่าคนบนเตียงกำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาทางผม "ยิ้มไร ไม่ทราบ?"

"ดีใจเมียให้โกรธแล้ว"
"เออ" ผมปิดไฟแล้วยิ้มกว้างเลยครับ เพราะไม่ต้องกลัวป๋าชินจะเห็น
เดินไปนอนที่เตียง มือไอ้คนร่วมเตียงก็เริ่มอยู่ไม่สุขครับ ลูบหน้าขาขึ้นลงอยู่นั่นแหละ

"ขอนะครับ ไม่ได้ทำมาหลายวันแล้ว" ป๋าชินกระซิบข้างหู มือก็ลูบเข้ามาในเสื้อ เขี่ยๆ อยู่แต่กับหัวนม
ก่อนจะขอไม่ต้องมาบิ๊วอารมณ์กันก่อนได้เปล่าวะ จะไม่ให้ก็เลยไม่ได้เลยเห็นป่ะ

เห็นผมไม่ตอบไม่ว่า ป๋าชินก็จัดการขึ้นคร่อมแล้วไซ้ซอกคอผมทันที ไม่กี่นาทีให้หลังผมกับแกก็ไม่เหลือเสื้อผ้าติดตัวกันสักชิ้น
ป๋าชินลากลิ้นอุ่นจากบนลงต่ำไปถึงเอน้อย ก่อนจะกลืนกินเอน้อยเข้าไปทั้งตัว มือที่บีบเจลไว้พร้อมสรรพก็จัดการกับช่องทางเข้าสำหรับปืนใหญ่

"อื้ออ...ป๋า...ย...อย่าเน้นมาก ผมจะ...เสร็จ" ปากสั่นเสียงสั่น เนื่องจากอยู่ในสภาวะเสียวแทบขาดใจ
แต่ก็นั่นล่ะครับ มีหรือที่ป๋าชินจะยอมเชื่อฟังกับเรื่องบนเตียง ไม่มีทาง

ในที่สุดผมก็ต้องเสร็จไปก่อนแกจริงๆ ป๋าชินขึ้นมาจูบปากผมพร้อมกับสอดลิ้นเข้ามาพัวพัน
แลกสารแลคโตบาซิลลัสกันอยู่นาน ป๋าชินก็ผละออกไปจับขาผมให้แยกออก
แล้วจับปากปืนใหญ่ที่สวมเกราะเรียบร้อยเข้ามายังช่องทางลับของผมช้าๆ

"อ่าห์...แน่นจัง" แหงดิ ก็งดมาเกือบอาทิตย์
ผมกัดฟันแน่น สองมือก็ดันหน้าอกแกไว้ด้วยเพราะมันค่อนข้างเจ็บมากทีเดียว
ขนาดใช้ตัวช่วยหลายอย่างแล้วนะ ทำไมมันยังเจ็บเหมือนครั้งแรกเลยวะ อู๊ยยย

"ป๋า...ผมเจ็บ" พูดไปน้ำตาก็ไหลพราก อารมณ์หมด เจี๋ยวหดเลยกรู
"อื้อ...เดี๋ยวก็หายครับ...ไม่ได้ทำหลายวันก็แบบนี้แหละ" ป๋าชินพูดพร้อมกับขยับสะโพกอย่างเนิบๆ ปากก็จูบผมไปด้วย

และแล้วการเล้าโลมของป๋าก็ทำให้ความเจ็บของผมเริ่มหายไป พอได้ยินเสียงครางอย่างสุขสมของผมป๋าก็จัดการกระแทกไม่ยั้งเลยครับ
ทีนี้จากจังหวะคลาสสิค ช้าๆ เนิบๆ กลายเป็นร็อคแอนด์โรล ตับๆๆ เลยทันที

ผมเสร็จนำป๋าไปเป็นรอบที่สอง ก่อนจะถูกจับพลิกให้นอนคว้ำหน้า
ป๋าชินลากหมอนมาลองใต้ท้องผมแล้วจัดการขย่มต่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา

"อ่าห์...ไม่ไหวแล้วครับ แน่นมากเลย อื้อ..."
เสียงป๋าชินสูดปากร้องครางพร้อมกับเด้งสะโพกด้วยความเร็วจนเสร็จสมไปอีกคน

ป๋าชินล้มตัวลงไปนอนแผ่บนพื้นที่ว่างข้างๆ ผมเองถึงจะไม่ได้ช่วยขยับอะไร แต่ก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกันครับ
ก็เลยนอนหอบอยู่ท่าเดิมนั่นล่ะ พักเหนื่อยเสร็จป๋าก็ลุกขึ้นไปเปิดไฟ แล้วเดินกลับมาสำรวจสภาพช่องทางลับของผม
ว่ามีอะไรเสียหายหรือเปล่า จับๆ ลูบๆ คล้ำๆ เหมือนจะอยากทำมากกว่าการสำรวจนะ

"ครั้งเดียวพอป๋า ผมไม่ไหวแล้ว" พลิกตัวนอนงาย
"ก็ไม่ได้จะทำอะไร แค่ดูเฉยๆ" ป๋าชินพูดยิ้มๆ สายตานี่หื่นมาก
"ไม่ฉีกหรอกน่ะ แค่แสบๆ ไปๆ ไปปิดไฟ ผมจะนอน" คว้าเสื้อที่เคยใส่ก่อนทำกิจกรรมมาเช็ดคราบของเหลวที่ตัวเองปล่อยออกมาลวกๆ
แล้วก็นอนมันทั้งอย่างนั้นเลยครับ กางเกงกางเกิงไม่ใส่แม่ง (ความซกมกของเด็กศิลป์กรรมครับ...หรือจะกับผมแค่คนเดียว? ฮ่าๆ)

ป๋าชินเดินยิ้มกริ่มไปปิดไฟ แล้วมานอนทั้งๆ สภาพที่ไม่ต่างอะไรไปจากผมสักนิด

"น้องเอครับ"
"ว่า?"
"พี่รักน้องเอนะครับ" ได้ยินประโยคนี้ผมแทบยิ้มแก้มปริ ขยับตัวเข้าไปซบไออุ่นในทันใด
"ผมก็รักป๋าชิน ครับ"
คนข้างตัวลูบหลังผมเบาๆ และมันจะรู้สึกโรแมนติกกว่านี้ถ้ามันจะไม่ไหลลงต่ำ

"โอ๊ย" ป๋าร้องเพราะโดนผมกัดหัวนม
"นอน เข้าใจคำนี้ป่ะ"
"แหะๆ ขอโทษครับ เคลิ้มไปหน่อย"
"อย่าเคลิ้มบ่อยแล้วกัน" ผมว่าแล้วนอนหันหลังให้
แต่มาคิดอีกทีมันไม่ค่อยจะปลอดภัย ก็เลยนอนหงายแล้วเอาหมอนข้างมากั้นเขตแทน จากนั้นก็สลีปปิ้งนาว Zzzz


***********************************************


เช้าวันเสาร์

เช้านี้ต้องไปโรงพิมพ์เป็นเพื่อนป๋าชินครับ เพราะแกต้องเอางานไปส่งให้ลูกน้องทำก่อนจะพาผมไปเดินช็อปสยาม
ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ไอ้คนทำงานไหงมันยังนอนต่อไม่เข้าใจ (ข้อเสียป๋าชินคือ ขี้เซา ตื่นยากถึงยากที่สุด)

"ป๋า ป๋าครับ ป๋าขา ป๊ะ...ป๋าาาาาาาาา" เมียเรียกนี่ไม่กระดิก ปั๊ดลักหลับเสียนี่
เดินเข้าไปเขย่าตัวปลุก "ป๋าชิน ตื่นจะเก้าโมงแล้วนะ ผมหิว ไหนจะออกไปส่งงานไง ลุกเซะ"

"....อืม ห้านาที" คว้าหมอนมาปิดหน้าแล้วหลับต่อ ดีมากพ่อคุณทูลหัว ฉันชักจะหงุดหงิดกับเธอล่ะนะ
"มีแต่ห้าทีน่ะเอามั้ย ตื่นเร็ว ไม่ตื่นผมหนีไปหาชู้นะ" ครับ ทันทีที่จบประโยค ป๋าชินแกก็จัดการเด้งตัวลุกขึ้นมาเลยครับ
"ใคร มันเป็นใคร" เมาขี้ตาหรือไม่รู้จริงๆ ว่าน้องพูดเล่น
"ยังไม่รู้ ก็ถ้าจะนอนต่อเดี๋ยวไปหาสักคนแล้วจะถามมาให้ เอาป่ะล่ะ" เกรียนหาตอจริงกรู
"ไม่ แล้วก็อย่ามาพูดเล่นอย่างนี้ พี่ไม่ชอบ" คนที่น่าจะหงุดหงิดน่าจะเป็นเค้ามากกว่านะ
"ไม่ชอบก็ลุกให้มันง่ายๆ หน่อยสิ เหนื่อยนะเนี่ย"
"ทำไม ปลุกพี่แค่นี้มันเหนื่อยมากเลยเหรอ" อ้าว ไหงมาเข้ารูทนี้วะ
"ก็เปล่า"
"เปล่าที่ไหน ก็เมื่อกี้..." ผมเอามือขึ้นปิดปากไม่ให้แกพูดต่อ เดี๋ยวจะยาวแล้วพาลจะไม่ได้ไปไหน
"ไปอาบน้ำเหอะ เดี๋ยวผมไปต้มโจ๊ก(กระป๋อง)รอ" หนีลงมาข้างล่าง
ต้มโจ๊กเสร็จสักพักป๋าชินก็เดินหน้าหง้ำหน้างอเข้ามาในครัว รายนี้ถ้าได้งอนนะยาวแน่ๆ เบื่อว่ะ

"ถ้าอารมณ์ไม่ดีไม่ต้องไปก็ได้นะสยามอ่ะ ผมไม่รีบ" ตัดปัญหา ซึ่งผลที่ได้ผิดกับที่คิด
"ไม่อยากไปกับพี่หรือไง" นั่น งานเข้าจนได้ เสียงนี่เย็นขึ้นมาเชีย
"เปล๊าาาา"
"อย่ามาทำเสียงสูง" อ้าว เป็นงั้นไป
"เปล่าครับ"
"ทำไมต้องสุภาพ" เอ๊ะ อะไรนี่ นั่นก็ว่านี่ก็โวย วัยทองหรือไงลุง!
"พี่ชิน" เวลาผมโมโหจะเรียกป๋าว่าพี่ครับ เพื่อให้รู้ว่าโกรธจริงๆ
"พี่อยากจะทะเลาะกับผมใช่มั้ย ผมถึงได้พูดอะไรไม่ถูกใจสักอย่างเนี่ย"
"เอ่อ..."
"ทำตัวให้เป็นคนโตหน่อย อายุก็เยอะแล้วนะ แค่ผมบอกว่าเหนื่อยเพราะปลุกพี่แค่นี้
จะมาใส่อารมณ์อะไรกับผมนักหนาห๊ะ สยงสยามไม่ต้องไปมันแล้ว เซ็งโว้ย!!" เถโจ๊กในหม้อลงถังขยะเลยครับ จากนั้นก็เดินขึ้นห้อง
(ห้องที่ไม่ใช่ห้องนอน ที่บ้านมีสามห้องครับ ห้องหนึ่งไว้ใช้รับแขก อีกห้องไว้เก็บของ และผมหนีเข้าห้องเก็บของครับ)
ล็อคประตู อย่าได้พูดกันเลยวันนี้ เพลียครับ

ป๋าชินตามขึ้นมาเคาะประตู
จริงๆ จะเปิดเข้ามาก็ได้เพราะป๋าแกมีกุญแจห้องทุกห้อง แต่คนมันรู้สถานะตัวเองไง เลยไม่กล้า

"น้องเอครับ พี่ขอโทษ ออกมาคุยกันหน่อยนะครับ"
"หึ" ผมไม่สน นั่งเล่นเกมงูในโทรศัพท์แก้เซ็งไปพลาง
"ไม่โกรธกันนะครับ พี่แค่แกล้งเล่นเฉยๆ" โห แกล้งได้สมจริงซะกรูเคืองเลยเนี่ยนะ กวนตีนว่ะ
"ไปทำงานเหอะป๋า ไว้ผมพร้อมจะคุยเมื่อไหร่ จะโทรไปบอก"
อีกอย่างอารมณ์ผมยังไม่เย็นด้วย เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าผมจะไปหาเรื่องทะเลาะซะเอง แถมมือไม้ผมยังไวกว่าคำพูดอีก

"ไม่เอาครับ ออกมาคุยกันก่อน" ตื๊อจริง
"......." ผมก็เงียบ แต่เดินไปหน้าประตูละ
"นะครับ พี่ขอร้อง ออกมาคุยกันก่อนนะ ไม่งั้นพี่ไม่สบายใจแน่"
ผมตัดสินใจเปิดประตู เห็นป๋าชินน้ำตาคลอเบ้า ต๊าย ใครทำผัวกรูร้องไห้ (ได้ข่าวว่าตัวเอง กร๊ากๆ)

"ร้องไห้ทำไม" ผมถามเสียงอ่อน เห็นน้ำตาสามีแล้วใจแป้วเลยอ่ะครับ
"เมียโกรธครับ"
"แล้วน่าให้โกรธมั้ยล่ะ เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง" ผมบ่นไปก็ใช้มือปาดน้ำตาให้แกไป สงสารว่ะ
"ขอโทษครับ จะไม่ทำอีกแล้ว เข็ดแล้วครับ" ดึงผมเข้าไปกอดไปหอม เฮ้อ~
"จะไปทำงานได้ยัง?"
"แล้วที่รักหายโกรธยังอ่ะ"
"เออ"
"อยากกินโจ๊กอ่ะครับ"
"ไปคุ้ยหาในถังขยะเอาเหอะ"
"ซะงั้น"
"ไปๆ จะไปทำมั้ยงาน"
"ไปด้วยเปล่าครับ"
"เออ เร็วๆ ล่ะ" ตอบเสร็จผมก็เดินมารอที่รถ
เช้านั้นกว่าจะได้ออกบ้านก็ล่อสิบเอ็ดโมง ไปถึงโรงพิมพ์ลูกน้องบ่นแกยกใหญ่ ว่าทำให้งานช้า สมน้ำหน้า อิอิ


*********************************************

ปล. ก็นิยายอยู่ดี อิอิ~




หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 3 (02/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 03-02-2014 22:53:31
น้องเอนี่เกรียนเสมอต้นเสมอปลายดีจริงๆ อดีตเกรียนยังไง ปัจจุบันก็เกรียนอย่างนั้น ก้ากกกกกก

อยากให้คนเขียนย้ำบ่อยๆ ว่าเรื่องนี้เป็นนิยายไม่ใช่เรื่องจริง คืออ่านไปแล้วชอบคิดว่าเป็นเรื่องจริงตลอดเลยยยยยย 5555

รอตอนต่อไปค่า


อุ๊ย ถูกชมว่าเหมือนเรื่องจริงแล้วดีใจ (จริงๆ แต่งเพราะอยากได้สามีแบบป๋าบ้างไรบ้าง อิอิ)
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 4 (03/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 03-02-2014 23:07:59
ว้าาาา บ่อน้ำตาตื้นจริงป๋า กลัวเมียไม่รักขนาดนั้นเลยเหรอ หุหุ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 4 (03/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 04-02-2014 00:35:20
อร้ายยยยยยยย ติดเรื่องนี้จริงจัง ชอบมากกกกกกกก ป๋าชินน่าร้าก น้องเอก็เกรียนได้ใจ

ป.ล ขอบคุณคนเขียนที่ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นนิยาย 555

รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 5 (04/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 04-02-2014 05:38:03
ขยันจริงไรจริง อัพมันสองตอนรวดไปเลย
แต่งง่ายโคตร ไม่เหมือนอีกเรื่อง หึๆ


******************************************





รักบอดๆ ตอนที่ 5





นั่งก้มๆ เงยๆ จดเลคเชอร์หน้ากระดานไวท์บอร์ด
แถมเสียงอาจารย์ประจำการสอนยังดังวี่ๆ ชวนให้หลับชอบกล
ก็นะ เรื่องจริงของภาคจิตรกรรมครับ โดยเฉพาะหลักการวิจัยทางศิลปะ จดไปงงไปบ่นไรของจารย์แกวะ กรูงง

"อิเอ คืนนี้ฉันไปนอนกับแกได้ป่ะวะ" นังต่ายที่นั่งใกล้กันสะกิดแขนแล้วแอบกระซิบ
"ทำไม มีไรอีก" ปากผมถามมันนะ แต่ตาไม่ได้มองกลัวจดไม่ทัน จารย์จะด่วนลบไปไหนเนี่ย
"เหมือนถูกตามว่ะ"

หันไปมองหน้ามัน "ใครวะ"

"เมียของคนปัจจุบันที่แกแอบคบด้วยป่ะ" ไอ้เบียร์แสล๋นเข้ามาเจ๋อด้วยทันที ใช่เรื่องมึงมั้ย
"ผู้ชายเหอะ เดี๋ยวนี้ฉันคบใครที่ไหน ไม่มี๊~" เสียงสูงเชีย
"เหรอ!" ผมสองคนประสานเสียงกันจนอาจารย์เงยหน้าจากหนังสือขึ้นมามอง
"พวกเธอจะไปคุยกันข้างนอกมั้ย อาจารย์อนุญาตินะ แต่ถ้าไปแล้วไม่ต้องกลับมาเรียนวิชาที่ฉันสอนอีกล่ะ" นั่นไง โดน
"ขอโทษครับจารย์" ผมบอกแล้วจัดการหยุดการสนทนาหันกลับมาจดเลคเชอร์ต่อเงียบๆ

หมดชั่วโมง ไม่มีเรียนไรอีก ว่าง เลยจับกลุ่มมานั่งเม้าท์มอยเรื่องอินังต่ายกันอีกสักรอบที่หน้าคณะ
แต่ก็นะ คนมันฮอต รุ่นพี่ รุ่นน้อง เพื่อนสายเดียวทักไม่เคยขาด จนอิต่ายเกือบงอนหนีแน่ะ คริคริ

"สรุปรู้หรือเปล่าว่าใครตามแก" ผมถาม

เรื่องของเรื่อง สามวันก่อนมันต้องกลับบ้านคนเดียว(ปกติไอ้เบียร์ไปรับไปส่ง เพราะบ้านทางเดียวกัน)มันลงรถเมย์
แล้วอยากประหยัดเนื่องจากยังไม่มืดค่ำเกินไป การเดินเข้าซอยบ้านจึงไม่เปลี่ยวเท่าไร เดินไปก็แทะไอติมที่บังเอิญเข็นมาขายไปด้วย แหม ชิลเกิน
ทีนี้มาถึงครึ่งทาง แล้วไอติมก็หมดด้วย มันถึงได้รู้สึกว่ามีคนเดินตามหลังมันมา มันเลยหยุด ไอ้คนที่ตามก็หยุดด้วย พอหันไปมองไอ้คนนั้นก็ทำเป็น
ยืนมองนั่นมองนี่ มันก็คิดว่าตัวเองคิดไปเอง แต่พอมันเดินต่อไอ้คนนั้นก็เดินตามมันอีก มันก็เลยออกวิ่งล้อฟรีจนถึงบ้าน จบ

"หน้าไม่คุ้นอ่ะ นะๆ ฉันขอไปนอนด้วยนะ วันนี้แม่กับพ่อไม่อยู่ ไปงานศพกว่าจะกลับก็เย็นพรุ่งนี้ ฉันกลัวว่ะแก"
มันพูดไปก็ทำท่าขนลุกไป น่าเห็นใจคนสวยอย่างมันจริงๆ

"ไม่นอนกับไอ้เบียร์อ่ะ"
"กูไม่ว่างเว้ย วันนี้แฟนกูจะมาค้างที่บ้าน" บร๊ะ มันอัพเลเวลแล้วเหรอวะ ถึงได้มีแฟน
"แกไปหาเหยื่อ เอ้ย ไปตกลูกสาวบ้านไหนวะ ตาบอด หรือเป็นออทิสติก?" ผมแซวขำๆ เดือนก่อนยังบอกว่าโสดอยู่แหมบๆ
"รู้แล้วมึงจะอึ้ง กูตามจีบตั้งปีกว่าจะได้มาครอง"
"ใครวะ" หันไปถามไอ้หงำที่กินขนมของหลานระหัสผมเอามาฝาก
"เดือน เอ้ย ดาวคณะมนุษย์ หน้าสวยเว้อ~"
"แต่เป็นกระเทย" ประโยคนี้ต่ายมันพูดครับ คงจะแค้นไอ้เบียร์ด้วยที่เห็นแฟนดีกว่าเพื่อนอย่างมัน
"อึ้งจริงๆ ว่ะ เปลี่ยนรสนิยมเมื่อไรไม่บอกวะ"
"เชี้ย เขาแปลงแล้วเว้ย" ไอ้เบียร์รีบแก้ข่าว แต่สรุปความหมายมันก็คือๆ กันไม่ใช่เหรอวะ แปลงกับไม่แปลงน่ะ
"ไม่รู้ด้วยหรอกย่ะ" ต่ายเชิดใส่ไอ้เบียร์ แล้วหันมาเกาะแขนผมอ้อน ไม่มีผัวอยู่บ้านจะจับเธอทำเมีย อิอิ
"นะเอ ให้ฉันไปนอนบ้านแกนะ ฉันไม่ไปขัดขวางกิจกรรมทำจังหวะของแกกับป๋าชินหรอก นะๆ"
"เออ จะไปก็ไป ที่บ้านมีห้องสำหรับแขกอยู่ ป๋าชินทำความสะอาดแทนแม่บ้านทุกวัน"
"ฟอดดดดด" ต่ายขโมยหอมแก้มผมฟืดใหญ่แล้วยิ้มกว้าง "ขอบใจนะ รักแกว่ะ"
"รักเฉยๆ ไม่ต้องหอมก็ได้ ผัวหวง"
"ฉันไปนอนด้วยได้ป่ะ?" ไอ้หงำที่จัดการกับขนมของฝากเรียบร้อยหันมาถามบ้าง
"หอไม่มีนอนเหรอ" ต่ายครับ มีปากเสียงแทนผมตลอด
"มี แต่โดนยึด พี่ชายมาเยี่ยมพาเพื่อนมาเต็ม เจ้าของห้องนอนหน้าห้องน้ำ  โคตรเซ็ง"
"อยากไปก็ไป นอนกับต่ายไม่ได้แกก็นอนโซฟาข้างล่างเอาแล้วกัน"
"โอ้ว งั้นเดี๋ยวมาแปบ" จู่ๆ มันก็ลุก
"ไปไหน"
"ไปเอาของที่หอ"
"โอเค" ตอบรับคำมันเสร็จไอ้หงำก็เดินออกไป
"เป็นไรเบียร์?" ผมเห็นไอ้เบียร์มองหน้าผมอย่างช่างใจ
"กูว่าพักนี้ หงำมันแปลกๆ ว่ะ"
"แปลกไงวะ?"
"ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยจา เวลานั่งเรียนก็เหม่อๆ เหมือนมีอะไรในใจงั้นอ่ะ"
"อกหักมั้ง" ต่ายพูดลอยๆ
"จากใคร" ผมสงสัย ไอ้เบียร์พยักหน้าตาม
"ไม่รู้สินะ"
ต่ายยักไหล่ ทำหน้าทำตาเหมือนอมความลับไรอยู่อย่างนั้น คืนนี้แกเจอฉันซักไม่จบแน่คอยดู

เสียงรินโทนโทรศัพท์ผมดังอยู่ในกระเป๋าเป้
เหวี่ยงกระเป๋ามาข้างหน้าแล้วล้วงเจ้าขาวดำออกมารับ เบอร์ที่คุณก็รู้ว่าใคร อิอิ

"อยู่ไหนครับน้องเอ" เสียงทุ้มหล่อมาเลยนะ เห็นหน้าจะกระโดดหอมสักฟอด
"อยู่หน้าคณะที่เดิมอ่ะ"
"งั้นอีกสิบนาทีพี่ถึงครับ"
"อื้อ ไม่ต้องรีบนะ ผมยังคุยกับกิ๊กไม่จบ"
เกรียนหางานไปตามอารมณ์ ต่ายมันก็เล่นด้วยทำเสียงแอ๊บๆ กรอกแทรกไปตามสาย

"พี่เอคะ คุยกับใครอ่ะ แล้วมาว่าน้ำนิ่งเป็นกิ๊กหมายความว่าไง" น้ำนิ่งหรือน้ำลึก เอาให้แน่อิต่าย
"........." ปลายสายเงียบ ผมกับต่ายก็ฉีกยิ้มให้กันขำๆ
"แค่นี้นะป๋า" ตัดสายดังฉับแล้วรอดูผลงาน

ไม่ถึงสิบนาทีเบนซ์คันงามมาจอดหน้าคณะพร้อมกับมีชายมาดนายแบบใส่สูทสีน้ำเงินลงมาจากรถ รองเท้าหนังสีน้ำตาลมันแว๊บ
หน้านี่นิ่ง ไม่สิบึ้งสนิท ชนิดที่ว่าน้ำหวานๆ โป๊ะยังไม่หายเลย หยอกเล่นนิดหน่อยทำจริงจังนะลุง

"สวัสดีค่ะ ป๋าชิน" ต่ายยกมือไหว้ แอบกลั้นหัวเราะ
"สวัสดีครับ ป๋าชิน" เบียร์ยกมือไหว้เช่นกัน แล้วทำท่าปาดคอให้ผมดู เชอะ คนอย่างน้องเอมีหรือจะกลัวป๋า
"ป๋าขับรถเร็วๆ ระวังผมเป็นหม้ายผัวตายนะครับ" เกรียนไม่เสร็จไม่ใช่ผมครับ ฮ่าๆ
"ไม่ตลกด้วยครับ" เออ เห็นหน้าป๋าตอนพูดผมก็รู้อยู่เต็มอกครับ ว่าไม่ตลก
"อ้อ ขอโทษ"
"ไหนกิ๊ก" เสียงขรึมเข้ากับหน้าเวอร์ๆ
"กิ๊กไหน บ้าป่ะ อย่ามาละเมอ" เอาไปหนึ่งดอก น้องเอจัดให้
ต่ายหันหลังให้ป๋าชินเอามือปิดปากตัวสั่นเพราะต้องกลั้นหัวเราะ ไอ้เบียร์ได้แต่ส่ายหน้าระอา อยากอำผัวให้ชีวิตคู่มีสีสันอ่ะ มีไรป่ะ คริคริ
(ปัจจุบันอำแบบนี้ไม่ได้ผลครับ ไม่ใช่ไร ป๋าแกคงเป็นตามชื่ออ่ะ ชิน กร๊ากกกก แต่ถ้ามีคนมาจีบผมจริงๆ นี่ก็อีกเรื่องอ่ะ ถึงไหนถึงกัน)

"ก็น้องเอบอกพี่ว่าคุยอยู่กับกิ๊ก"
"คุยกับตายหรอก จำเสียงมันไม่ได้ไง"
"ต่ายที่ไหนชื่อน้ำนิ่ง" หูย ซื่อหรือทึ่มเอาให้แน่จะได้ด่าถูก
"ต่ายจริงๆ ไม่เชื่อถามเบียร์ได้ ใช่มั้ยเบียร์"
"ครับ ต่ายกับเอมันรวมหัวกันแกล้งจะให้ป๋าหึงอ่ะครับ" อ้าว แล้วบอกหมดไมเนี่ย อิเบียร์บูด!
"จริงเหรอต่าย" ทำเสียงเข้มถามซะเจ้าของชื่อสะดุ้ง สะอึกเป็นชุด บาปมั้ยเนี่ยลุง
"อึก...อึก...จะ...อึก จริง...ค่ะ อึก"
"สม กรรมตามทัน" เบียร์หัวเราะเยาะ หน้าตาแบบว่าสะใจมาก
"น้องเอ"
"คะ ครับ" ไม่สนุกแล้วสิกรู นี่หรือที่เขาว่า ปลาหมอตายเพราะปาก โถๆ ปากหนอปากไม่น่าเลย งื๊ออ~
"เดี๋ยวกลับบ้านเรามีเรื่องต้องคุยกันครับ" ไม่คุยได้มั้ย ผมอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว
"แต่หงำกับต่ายจะไปนอนค้างด้วยอ่ะ" ทำหน้าหงอๆ ให้รู้ว่า ผมผิดไปแล้วครับป๋า ดูทำหน้าเข้าสิ ตีนกาจะเพิ่มขึ้นแล้วนะครับ

ป๋าชินหันไปยิ้มให้ต่ายที่ยังนั่งสะอึกไม่หาย
"ตามสบายครับน้องต่าย พี่ยินดีต้อนรับพวกเราเสมอ" โหสองมาตรฐานชัดๆ
"ค่ะ อึก!"
"รอหงำมันก่อนนะ มันกลับไปเอาของที่หอ" ผมบอกพร้อมกับหลบสายตาโหดๆ ของป๋าที่มองมา
"ครับ งั้นพี่ไปนั่งรอในรถนะ อยากผึ่งแอร์ให้อารมณ์มันเย็นหน่อย"
บอกจบก็เดินกลับไปขึ้นรถ ผมมองตาเพื่อนสองคนอย่างขอความช่วยเหลือ

"กรรมใดใครก่อ" เบียร์
"กรรมนั้น อึก...คืนสนอง อึก" ลำบากไม่ต้องพูดก็ได้นะ ฉันไม่ว่าแกหรอก ชิส์
"งั้นฉันไปรอที่รถกับป๋าก่อนนะ" พูดเสียงอ่อย
"เออ เดี๋ยวกูนั่งอยู่เป็นเพื่อนต่ายมันเอง"
"อืม"
"โชค อึก! ดี" เอออออออ เหนื่อยแทนมันจริ๊ง
เดินลากอีหนีบ ไม่ค่อยชอบใส่คัทชูครับ ส่วนผ้าใบอีเน่า ผมซักยังไม่แห้งเลยหนีบแตะมาแทน

เคาะกระจกให้คนข้างไหนปลดล็อก แล้วเข้ามานั่งใบ้
ไม่รู้จะพูดอะไร ขอเงียบไว้ก่อนละกัน

"มีอะไรจะพูดกับพี่มั้ยครับ" น้ำเสียงนิ่งๆ แต่ข้างในคงไม่ได้นิ่งตามแน่ เชื่อสิ
"ขอนึกก่อน" ขนาดนี้ยังไม่เลิกเกรียน
"น้องเอก็รู้นี่ครับ ว่าพี่ไม่ชอบ ทำไมเอาเรื่องแบบนี้มาแกล้งพี่ครับ" เพราะป๋าไม่ชอบมันถึงได้สนุกไง
"ขอโทษครับ" จบป่ะ หยุด! ไอ้เอ อย่าฝันเฟื้อง
"จะให้พี่ทำไงกับเราดีครับ"
"ไม่ทำไรเลยดีที่สุด เหมือนเดิมโอเคป๊ะ"
ส่งรอยยิ้มที่คิดว่าน่ารักที่สุดแล้วไปให้คนข้างๆ แต่แม่ง ไม่เคลิ้มไปกับกรูเลย วัยรุ่นเซ็ง!

"หึ"
แค่นี้แล้วก็เงียบ ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายได้เป็นอย่างดี คืนนี้ไม่ฟ้าเหลืองก็ตูดผมนี่แหละที่เหลือง
นั่งเงียบกันไปไม่ถึงสิบห้านาทีไอ้หงำก็ให้พี่มันขี่แมงกระไซค์มันมาส่งหน้าคณะ

"โห หล่อว่ะ" เผลอจริงไรจริงครับ พี่ไอ้หงำหล่อมากถึงจะน้อยกว่าป๋าชินตอนหนุ่มๆ ก็เถอะ
(ปัจจุบันพี่ไอ้หงำแต่งงานมีลูกสอง น่ารักอยากได้มาเลี้ยงสักคน เห่อๆ)

"น้องเอ!" เสียงดังซ้า~ หน้านี่คงไม่ต้องบอกมั้ง บึ้งไปไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้
"แค่ชมเฉยๆ ไม่ได้บอกว่าจะเอามาทำผัวสักหน่อย แค่คนนี้คนเดียวก็ปวดหัวจะแย่"
"หึ ใช่สิ อยู่กับพี่แล้วมันน่าปวดหัวนี่" ตัดพ้อซะงั้น ไรวะ ผัวแก่เป็นงี้ทุกคนป่ะ ผมชักเพลีย
"อย่ามาเยอะ ป๋าก็น่าจะรู้ว่าผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นจริงๆ สักหน่อย"
"หึ" จะหึอะไรบ่อยๆ

เบียร์เดินมาส่งหงำกับต่ายขึ้นรถแล้วลาไปรับแฟน
ผมกับป๋าไม่พูดอะไรกันอีกในรถ พอถึงบ้านจอดรถได้ปิดประตูรถใส่ผมที่ลีลาอยู่ในรถ สะเทือนไปทันคัน

"ฉันว่าแกไปง้อป๋าชินก่อนดีมั้ย ฉันเห็นแล้วอึดอัดว่ะ" ต่ายกระซิบขณะมองป๋าที่เดินกระแทกส้นเท้าขึ้นบ้านไป
"ป๋าแกโกรธที่เรามาค้างด้วยป่ะ" ไอ้หงำที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถามบ้าง สงสัยจะนั่งงงในรถมานาน
"ให้ต่ายมันเล่า เดี๋ยวฉันไปจัดการพ่อครัวแปบ ไม่งั้นงานงอกได้กินข้าวกล่องเซเว่นกันเป็นแน่แท้"

เดินขึ้นบ้านตามคนแก่มาเคาะประตูห้อง รออยู่พักหนึ่งไม่มีคนตอบรับก็เปิดเข้าไปเห็นป๋าชินนั่งอยู่หน้าคอม นิ้วกดเม้าท์กริ๊กๆ
ทว่าหน้าจอดำปื้อ ไม่ดำได้ไง ก็ป๋าแกไม่ได้เปิดเครื่อง ฮ่วย!

"ฮื่อฮื้อฮืออ เธออย่าโกรธฉันเลย อยากให้รู้ ว่าฉันไม่ตั้งใจ ถ้าเธอจะยอมพูดกัน
ให้เข้าใจ ให้ฉันทำอะไรก็ยอม ถ้าไม่ง้อเธอ จะไปง้อ ใคร มีเธอเท่านั้นนอกจากนั้น ไม่มีใคร"(เพลงง้อของอนัน อันวา)

"นั่นไง ผมเห็นนะป๋าว่าแอบหันไปยิ้มอ่ะ ชอบอะดิ ผมร้องเพราะใช่ป่ะ"
"เพราะ..."
"เห็นมั้ยล่ะ น้องเอซะอย่าง อิอิ" ตบอกภูมิใจ ป๋ากรูหายโกรธแล้วโว้ย~!!
"เพราะอะไรถึงร้อง" เงิบเลยครับ
"ป๋าบ้า ไปเลยผมกับเพื่อนหิวข้าวแล้วนะ" ฉุดแขนแกให้ลุก แต่ดันเสียหลักถูกแกดึงไปนั่งตักเสียเอง
"พี่ยังไม่หายโกรธเลยนะ"
"ยิ้มแล้ว แสดงว่าหายแล้ว"
"ยังครับ ต้องนี่ก่อน" ป๋าชินทำแก้มป่อง "สองข้างเลยนะ แล้วก็ตรงนี้ด้วย ไม่งั้นไม่หาย" ชี้ที่ปากด้วย
"เจ้าเล่ห์ตลอดดด" ลากเสียงยาวแล้วหอมแก้มทั้งสองข้างกับอีกหนึ่งปากตามบัญชา "อะ ทำแล้วนะ ลงไปทำกับข้าวด้วย"
"ครับผม รักนะ ถ้าไม่ชอบแกล้งพี่จะรักมากกว่านี้" ป๋าชินพูดยิ้มๆ
"เอาแค่พอดีเหอะ รักเวอร์ไปตัวเองจะเหนื่อย นี่แค่แกล้งเล่นยังเป็นถึงขนาดนี้ ถ้าเจอคนมาจีบผมจริงๆ ไม่ยิ่งกว่านี้เหรอ"
เอาแขนข้างหนึ่งคล้องคอแกไว้ ส่วนอีกข้างก็หยิกแก้มแกอย่างหมั่นไส้

"ไม่รักไม่ห่วง ไม่หวงไม่แคร์นะครับที่รัก"
"เออ" ไม่รู้จะตอบว่าไง เขินจนควันจะออกหู หยอดทีไร โดนทุกทีสิน่า สามีใครว้า


*************************************************


เดินวนเวียนดูพ่อครัวประจำบ้านกับลูกมือจำเป็นสองคนช่วยกันทำอาหาร
ว่างจัดก็แกล้งคนนั้นที คนนี้ทีไม่ตามประสาคนไม่มีไรทำ
เพราะทำอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่ต้มไข่ยังออกเป็นไข่ลวก

ทุกวันนี้ทำไว้ให้ป๋าชินโด๊ปตลอดกลัวไม่มีแรง อุคริอุคริ แค่กๆ ป๋าหันมามองน้ำลายติดคอ

(ปัจจุบัน)   "ขำไรครับ?"
         "เปล่า แค่พิมพ์นิยายเฉยๆ"
   "ไหน" ลุกขึ้นมาจากเตียงเดินมาดู แล้วหัวเราะหึๆ "ขี้โม้"
   "ขี้โม้ตรงไหน เรื่องของเราทั้งนั้น"
   "หราาาาาา" ยิ่งแก่ยิ่งเด็กนะเรา ปัญญาอ่ะ
   "ไปชิ้วๆ ไปนอนเล่นที่เดิมเลย เสียสมาธิ"
   "ไปก็ได้ แต่ถ้าอีกสิบนาทีไม่มาจะจับปล้ำ เปิดสไกด์โชว์"
   "ทะลึ่ง!" หยิกท้องแกไปทีแล้วดันไปไกลๆ ยุ่งจริงเชียว


(กลับมาที่เนื้อเรื่องเดิมต่อ)

ก็นั่นแหละครับ แกล้งคนนั้นไปก็หัวเราะชอบใจไปเพราะคนถูกแกล้งทำอะไรกลับไม่ได้ มือไม่ว่าง

"เอ๊ะ อิเอนี่ยังไง แกล้งอยู่ได้" ต่ายเริ่มมีปากมีเสียง
"สนุกไง เหตุผลดีเวอร์ๆ" ผมลอยหน้าลอยตาเดินถือจานมะม่วงจิ้มกินกับกะปิไปพลาง หยั่มๆ
"ระวังมะม่วงจะติดคอเหอะ" แช่งชักผมแล้วหันไปหั่นหมูต่อ ส่วนไอ้หงำแกะเปลือกกุ้งครับ
คืนนี้ป๋าชินเราจะทำเมนู สุกี้หม้อไฟ หิ้วว~!

"เออ ต่ายฉันมีเรื่องจะถาม" นึกเรื่องไอ้หงำขึ้นมาได้ลองถามมันซะหน่อย
"จะแกล้งไรฉันอีกยะ นังอ้าย"
"ไม่ได้แกล้งจ้ะพี่เอื้อย แค่มีเรื่องจะถามเฉยๆ"
ทำเสียงกระแดะขึ้นมาหน่อยนึง แต่ว่ามาดหล่อนไม่เหมาะเป็นนางเอกอย่างแรงเลยนะเอื้อย

"ถามไร"
"หงำมันแอบชอบใครถึงได้อกหักวะ?" ประโยคนี้แอบกระซิบกันสองคนครับ เกรงใจหงำมัน
"แกไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งโง่" ต่ายหันมาเลิกคิ้วย้อนถาม
"ก็ไม่รู้จริงๆ ดิวะ"
"วะ กับใคร"
"เอ้ย ครับคุณต่าย"
"เออ ถึงงั้นฉันก็ไม่บอกแกหรอก ปล่อยให้อยากจนตัวสั่นนั่นแหละ อยากแกล้งกันดีนัก เชอะ" สะบัดบ็อบ
"คุณต่ายคร๊าบ ผมขอโทษ" พูดอย่างสำนึกผิด แต่ในใจนะเหรอ ไม่มี๊
"คืนนี้มานอนกับฉันที่ห้องสิ แล้วจะบอก" คิดว่าสามีผมจะอนุญาตเหรอคุณ
"เล่นตัวว่ะ ชิส์" เดินสะบัดบ็อบเช่นกันมาทางป๋าชินที่นั่งยิ้มไป เด็ดผักบุ้งไป อยู่ที่โต๊ะกินข้าว
"ไม่ให้นอนห้องอื่นและกับคนอื่น ไม่ต้องมาขอครับ" ดักทางกรูอีก อิป๋า
"ไม่ไปหรอกนะ ให้ช่วยป่ะ"
"หือ" ป๋าชินทำหน้าแปลกใจ ยากมากหรือไงที่น้องเออยากจะช่วยทำครัวขึ้นมา เดี๊ยะโดนมิใช่น้อย
"ไม่ช่วยก็ได้ ไปดูการ์ตูนดีกว่า ชิส์"
เดินออกมานั่งขลุกอยู่หน้าโทรทัศน์ แต่ไม่ได้เปิดดูหรอกครับ เรื่องของไอ้หงำมันยังคาใจผมอยู่


**************************************************

อยากรู้กันใช่ป่ะว่า หงำมันอกหักจากใคร
ผมว่าบางคนถ้าไม่โง่แบบผมคงเดากันได้ ไม่ใกล้ไม่ไกลและไม่ใช่ใครที่ไหนด้วย
ครับ ตอนหน้าผมจะกลับมาเฉลยนะ เกินมาครึ่งชั่วโมงจนคนคาดโทษหนีหลับไปและ อิอิ
รักนะครับทุกคน จุ๊บุๆ


*******************************************

ปล. นิยายจริงๆ นะเออ
ปล2.แอบรักป๋าชินของน้องเอ คริคริ


หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 5 (04/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 04-02-2014 11:16:44
แอบชอบเบียร์หรือเปล่าเนี่ย  ส่วน เอ ก็ชอบแกล้งป๋าเกินไปนะ ป๋าโกรธจริงๆ แล้วจะรู้สึก 555
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 5 (04/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 04-02-2014 12:43:25
ย้ำตลอดนิยาย แต่ก็อินน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 5 (04/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 05-02-2014 07:27:43
หนุกมากอ่ะ  เค้าชอบ :กอด1: :L1: :L1: :katai4: :katai4:

อยากได้แบบหึง โหดมีมั้ยอ่ะ

ป๋าชินกับน้องเอ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 5 (04/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 05-02-2014 09:04:47
ตลกเอ 555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 5 (04/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KhunMay ที่ 05-02-2014 13:27:32
เชื่อว่าป๋าชินเป็นแบบผู้ชายในฝัน
ของใครหลายๆคน อร๊าย~  :hao7:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 5 (04/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 06-02-2014 14:48:46
ป๋าแกหวงของแก ต้องเข้าใจนะ ------- มาขอเป็นติ่งเรื่องนี้ด้วยอีกคนค่ะ  สนุกมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 6 (06/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 06-02-2014 16:07:40
รักบอดๆ ตอนที่ 6




มื้อค่ำอันห่ำหั่นกันหน้าหม้อสุกกี้จบลงแล้ว
ผมผู้ชนะเลยต้องไปจัดแจงขนที่นอนปิกนิกในห้องเก็บของลงมาปูให้ไอ้หงำนอนเฝ้าหน้าโทรทัศน์
ต่ายอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนของผมลงมานั่งกอดเข่าบนโซฟามองผมที่กำลังทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี

"แกไม่รู้จริงๆ นะเหรอว่าไอ้หงำอกหักจากใคร" จู่ๆ มันก็เริ่มต้นการสนทนาอย่างกระทันหัน
ในขณะที่สองคนที่เหลือไปทำธุระส่วนตัวของแต่ละคนในห้องน้ำ

"ไม่รู้ แล้วก็ไม่ขอเดา" ผมตอบ
"แกไม่เคยสังเกต?"
ผมปูที่นอนเสร็จก็นั่งลงบนที่นอนนั่นล่ะแล้วถามกลับ "จากอะไร?"

"เฮ้อ! ไอ้พวกไม่สนใจสิ่งรอบตัว สวยล่ะหน่าย" มันทำหน้าละเหี่ย อยากตบผู้หญิงจริงๆ ให้ดิ้นตาย
"จะบอกก็บอก ลีลาอยู่นั่นล่ะ" ผมนิ่วหน้าเอื้อมมือไปตีหน้าขามันเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
"ไอ้หงำมันแอบชอบไอ้เบียร์ พอไอ้เบียร์มีแฟนมันก็เลยอกหัก เข้าใจยัง อิคนไม่ทันเหตุการณ์"
"เฮ้ย คิดไปเองเปล่า" ผมทำหน้าตกใจ ใครจะไปคิด เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อกัน
ไอ้หงำไม่ใช่ไม่หล่อนะครับ ผมยอมรับว่ามันก็หน้าตาดีไม่แพ้ผมหรอก ถึงหุ่นมันจะมีกล้ามแล้วผมไม่มีก็เถอะนะ
แต่กระนั้นไอ้เบียร์มันก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างกับมันเลย แม่งเหมือนโลกแตกอ่ะ หากไอ้สองคนนี้โคจรมารักกันได้

"ไม่ย่ะ คนอย่างนังต่ายคนนี้เนี่ย ถ้าไม่มั่นใจจริงๆ ไม่พูดหรอก
ฉันน่ะนะ เฝ้าติดตาม จับตาดูอิหงำมาตั้งแต่สนิทกันแล้วนะยะ ไม่มีทางคิดเป็นอื่นเด็ดขาด"

"มันเป็นเกย์?"
"อันนี้ก็ไม่รู้สินะ" ตายยักไหล่
"เอ่อ...เอิ่ม" ผมก็ว่าช่วงหลังทำไมมันเกาะติดสองคนนี้จริง ที่แท้ตามกลิ่นนี่เอง
"เอ"
"อ..อะไร" หลุดจากภวังค์
"แกคิดว่ามันจะเสียใจมากมั้ยวะ"
"ไม่รู้ดิ ถ้ารักมากก็คงเสียใจไม่น้อยหรอก"
"อือ มันเก็บความรู้สึกเก่งเนอะ ถ้าไม่ใช่ฉันคงดูไม่ออก" ต่ายพูดเศร้าๆ
"อืม" ผมชักเริ่มเศร้าตาม เป็นเพื่อนจะไม่เห็นใจกันเลยมันก็แปลกแล้วอ่ะครับ
"เอ"
"ไรอีก"
"ช่วยคุยกับมันหน่อยดิ ฉันคิดว่าที่มันขอมานอนด้วยวันนี้มันคงอยากคุยกับแกนะ ในฐานะรุ่นพี่ผู้มีประสบการณ์"
"ห๊ะ"
"นะ ฉันอยากให้มันกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม"
"ไม่ไหวมั้ง ฉันไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนว่ะ" ชักมวนท้องตะหงิดๆ
"แกอยากให้กลุ่มเราเพื่อนหายไปคนหรือไง" ต่ายทำตาดุ
"...ขอปรึกษาป๋าก่อนได้ป่ะ"
"ให้เร็ว"
"เออ" ผมขานตอบแล้วลุกเดินหนีมันขึ้นมาบนบ้านเลย
เข้ามาในห้องนอนป๋าอาบน้ำเสร็จพอดี นั่งเป่าผมอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งหันมายิ้มให้

"คุยกันเสร็จแล้วเหรอครับ" เหมือนเป็นคำถามปกติทั่วไป แต่กับป๋าชินผมว่าไม่ใช่ล้านเปอร์เซ็น
"ยัง" เดินเข้าไปแย่งไดร์จากในมือแกแล้วเริ่มต้นเป่าให้
"มีอะไรหรือเปล่าครับ?" ป๋าชินมองหน้าผมทางกระจก
"เครียด"
"เรื่อง?"
"เพื่อน"
"ทำไมครับ ทะเลาะกันเหรอ" ป๋าชินเลิกคิ้ว คว้ามือผมข้างที่ไม่ได้จับไดร์ไปโอบคอ
ผมไม่ว่าอะไร วางไดร์ลงแล้วเอาอีกข้างที่เหลือไปประสานกันไว้พร้อมกับมองหน้าแกในกระจกไปด้วย

"ป๋าว่าไอ้หงำมันเป็นเกย์ป่ะ" ผมตั้งคำถาม ป๋าชินก็ทำหน้านิ่งไปสักพัก
"น่าจะ"
"ทำไมป๋าถึงคิดว่าน่าจะอ่ะ"
"พี่ว่าสายตาเวลาที่หงำมองเบียร์บางครั้งก็เหมือนกับที่พี่มองน้องเอนะ ตอนแรกพี่ก็ว่าคิดไปเอง
แต่พอไปๆมาๆ บ่อยครั้งเข้าพี่ก็มั่นใจว่าไม่ใช่สายตาที่เอาไว้สำหรับมองเพื่อนแน่นอน"

"ป๋ารู้"
"พอจะดูออกครับ ฟอดดด" ป๋าชินตอบแล้วหันมาหอมแก้มผมที่หน้าอยู่ระดับหูแก
"แต่ไอ้เบียร์มันมีแฟนแล้วอ่ะ จะช่วยเรื่องนี้ก็ไม่ได้ แถมต่ายก็จะให้ผมคุยกับมัน ทำไงดีอ่ะ"
ผมตีหน้าเครียด ไอ้ป๋าก็ขโมยหอมแก้มอีกฟอด ตลอดเลยนะ ฮึ๊ย~!

"ปล่อยไปตามธรรมชาติครับ พี่ว่าถ้าหงำเขาอยากคุย อยากปรึกษาเดี๋ยวเขาก็เริ่มเอง"
"งึมๆ"
"เข้าใจแล้วก็เลิกทำคิ้วผูกโบว์สักที" ป๋ายิ้มขำผมในกระจก เออว่ะ หน้ายุ่งเชีย
"งั้นผมไปอาบน้ำนะ ถ้าป๋าง่วง นอนก่อนได้เลย เพราะเดี๋ยวผมจะลงไปให้ไอ้หงำมันปรึกษา" เตรียมจะไปอาบน้ำ
"เดี๋ยวครับ มานี่ก่อน" ป๋าชินฉุดแขนให้ผมมานั่งตัก แล้วจัดการระดมปล้นหอม
ปล้นจูบหลายต่อหลายที ทำเอาผมงี้หายใจหายคอแทบไม่ทัน ชิชะ ไปตายอดตายอยากมาจากไหน

"ตลอดเลยนะป๋า เผลอไม่ได้เลย" ผมบีบจมูกแกส่ายไปมา
"รักนะครับ" ป๋ายิ้มบอก
"รักเหมือนกันครับ จุ๊บ" พูดเขินๆ ที่โดนหยอดก่อนจะจุ๊บกลับไปหนึ่งที
"ไปครับ ไปอาบน้ำ" สั่งแต่ไม่ปล่อยจะให้ผมคิดว่าไงดีครับ
"ก็ปล่อยสักทีสิ"
"อ้อ โทษที พี่ลืม แหะๆ"
"ทำมาหัวเราะกลบเกลื่อนนะ เชอะ" ผมลุกขึ้นเดินสะบัดก้นคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ อาบน้ำล้างไข่เสร็จ
เดินออกมาก็เห็นป๋ามันนอนแชทโน๊คบุ๊คอยู่กับใครไม่รู้บนเตียง (สมัยก่อนยังไม่มีMSN อ่ะ มีแต่ห้องแชท โบราณเนอะ คริคริ)

"ป๋า" เรียกครั้งแรก
".......ฮ่ะๆ" พิมพ์ไปหัวเราะไป ไม่สนเมีย จงใจหรือไม่ได้ยินจริงๆ?
"ป๋าชินครับ"
".......อ๊ะ ผิดๆ" ชักหงุดหงิด แต่งตัวเสร็จเดินไปนั่งคร่อมแม่ง
"ไอ้ป๋า ผมเรียกทำไมไม่ตอบห๊ะ" บิดหูให้หันมา
"อะ โอ๊ยๆๆ ครับๆ"
"แล้วคุยกับใคร ไหนดูซิ" จ้องเข้าไปในจอ ปรากฎเป็นห้องว่างมีป๋าแกออนไลน์คนเดียว
หนอยยย ไอ้ลุงแก่กล้าแกล้งเค้าเหรอ นี่แน่ะๆ ออกแรงบิดไปที่หูสุดแรง

"โอ๊ยๆ ยอมแล้วครับ ยอมแล้ว พี่ขอโทษที่แกล้งน้องเอคร๊าบบบบ อู๊ยยยย"
พลิกนอนหงายให้ผมนั่งทับพุง แล้วตัวเองก็เอามือลูบหูป้อยๆ น้ำตาเล็ด ดีสมน้ำหน้า ชิส์

"ไม่มีไรทำไงมาแกล้งเค้าอ่ะ"
"เอาคืนเรื่องเมื่อตอนเย็นครับ" ป๋าชินพูดแล้วดึงผมลงไปกอด "แต่ก็รู้ละ ว่าคิดผิด เจ็บตัวเลย ฮ่ะๆ" ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก
"ไม่เป็นเรื่อง" หยิกไปที่หัวนมเลยคราวนี้
"โอ๊ย!"
"ปล่อย ผมจะลงไปข้างล่าง อย่าให้รู้นะว่าคุยกับใคร ขึ้นมาเจอจะโดนไม่ใช่น้อย ชิส์"
ดันตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรงแล้วลุกเดินลงบันไดมาชั้นล่าง ไอ้หงำหยุดดูละครหันมามอง

"ไปกินรังแตนที่ไหนมาวะ"
"ไม่ได้กิน ต่ายไปไหน?"
"ไปอาบน้ำมั้ง" ได้ข่าวว่ามันอาบแล้วนะ
"เหรอ เออ" ผมเดินมานั่งข้างมันบนที่นอนปิกนิก
"มีอะไรจะถามกูมั้ย" มันเปิดประเด็น ผมก็หันมอง หน้าคงประมาณว่า นี่มึงอ่านใจกรูเหรอ
"เอ่อ..."
"กูไม่รู้หรอกนะ ว่ามึงไปรู้อะไรมาจากต่าย แต่กูก็อยากให้มึงถาม" มันบอก ทว่าหน้ายังมองโทรทัศน์
"มึงพร้อม?" ผมมองหน้าด้านข้างไอ้หงำ
"กูพร้อมเสมอสำหรับเพื่อน" โอเค ซึ้ง
"มึงชอบเบียร์" ในเมื่อเขาเปิดโอกาศให้ทั้งทีจะอ้อมโลกให้เสียเวลาทำไมเล่า
"เออ กูชอบมัน" ตอบหน้านิ่งๆ
"ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"
"ตั้งแต่แรก"
"มึงเป็นเกย์"
"ไม่ได้เป็น"
"อ้าว แล้วไมมึงถึงชอบมัน" พูดประโยคนี้จบ ไอ้หงำหันมองหน้าผมทันที แววตามันเศร้ามากนะตอนนี้
"งั้นทำไมป๋าชินถึงชอบมึงทั้งที่ไม่ได้เป็นเกย์ล่ะ" เออ ถามได้ดี แล้วจะให้กูตอบไงล่ะไอ้ปลัด

ยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไขเลยครับว่า ตอนที่ผมคุยกับมันเรื่องนี้ แทบอยากจะหนีมันขึ้นบ้านมาก
อึดอัดบอกไม่ถูกจริงๆ ที่เพื่อนแอบรักเพื่อน พอลองมาย้อนคิดดูใหม่ โคตรเข้าใจแก่นแท้เลยว่า ชีวิตคนเราก็ละครนอกจอดีๆ นี่เอง อิอิ

"รักแท้ไม่มีพรมแดน รักแกลงๆ อุ้มแตงอยู่บนยอดดอย" แถเอาฮา อยากผ่อนคลายบรรยากาศบ้างไรบ้าง(เกรียน)
"กูซีเรียส" หงำนิ่วหน้า
"อ้าวเหรอ กูนึกว่ามึงชิลๆ"
"ไอ้เอ"
"เออ กูก็แค่ไม่อยากให้มึงคิดมาก โทษทีละกัน" ตบบ่ามันไปเบาๆ
"แสดงว่า ไอ้เบียร์เป็นรักแรกพบใช่ป่ะ" ถามต่อแบบจริงจัง
"อืม"
"แล้วไมมึงไม่บอกมันวะ"
"กูไม่กล้า"
"กลัวเสียเพื่อนว่างั้น"
"เออ"
"แล้วเป็นไง โดนกระเทยคาบไปพร้อมกับโยนแห้วมาให้ อิ่มเลยป่ะ"
"ไอ้เชี้ยเอ กูบอกว่ากูซีเรียส"
"เอ้าเชี้ย กูก็ซีเรียสเนี่ย" ผมมองหน้ามัน มันก็มองหน้าผมแถมกัดฟันด้วย
"แม่ง ปรึกษามึงเหมือนปรึกษาควาย" ทำหน้าเซ็งแล้วล้มตัวลงนอน
"มึงท้อ?"
"จะท้อก็เพราะมึงนี่แหละ" ไอ้หงำเอามือก่ายหน้าผาก
"กูว่า มึงลองเปรยๆ กับมันดูก่อนมั้ยล่ะ มันคงไม่รังเกียจหรอกมั้ง
ถ้าจะรู้ว่ามีผู้ชายมาชอบมันสักคนสองคน ดูอย่างเรื่องของกูกับป๋าชินดิ มันยังไม่เห็นแอนตี้ไรเลย"

"แต่มันมีแฟนแล้วนะเอ"
"แฟนมันก็อดีตผู้ชายไม่ใช่เหรอวะ"
"ตามจีบมาเป็นปีด้วยนะเอ"
"ตามจีบเป็นปีก็ใช่ว่าจะไม่เลิกกันนี่หว่า"
"งั้นมึงจะเลิกกับป๋าชินเหรอ" เข้าตัวกรูอีก
"ไม่เลิกเว้ย"
"มันก็อาจจะไม่เลิกก็ได้" หงำพูดเสียงเบา มีหยดน้ำไสไหลรินจากดวงตาที่มีแขนของมันบังเอาไว้
"หรือมึงจะเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวมึงไปจนตาย โดยที่ไม่บอกอะไรให้มันรู้เลย
ไม่อึดอัดเหรอวะ ความรักนะเว้ย ไม่ใช่เรื่องตลกที่เก็บเอาไว้ในใจแล้วจะเอาออกมาขำได้ตลอด" สงสารมันจริงๆ ครับ

"กูไม่รู้ กูไม่กล้าแล้วก็ไม่พร้อมที่จะกล้าด้วย" เสียงหงำสั่นมาก คาดว่านะจะกลั้นลูกสะอื้น
"เออ ก็เรื่องของมึงแล้วกัน เพราะกูก็ช่วยได้แค่รับฟัง" จากใจของเด็กศิลป์กรรมครับ
"เออ มึงไปนอนเหอะ กูขอคิดไรเงียบๆ หน่อย"
"คิดได้ แต่อยากคิดเลวนะมึง กูยังไม่อยากขายบ้านทิ้ง" ขู่มันไว้ก่อนครับ กลัวมันจะคิดสั้น
"ถ้ากูจะคิดเลวอย่างนั้น กูไม่เรียนต่อให้เสียเงินมรดกแม่หรอกเหอะ" มันยิ้มขำให้ผมทั้งน้ำตา
ผมก็ตบแขนมันไปเบาๆ แล้วลุกขึ้นมาบนบ้าน ต่ายมันนั่งรอผมที่หน้าห้องนอนรับแขกเห็นผมก็เข้ามากอดผมแน่น
และดูท่าจะร้องไห้อยู่ด้วยเพราะน้ำตาซึมๆ

"ได้ยินหมดแล้วอ่ะดิ" ผมถาม มันก็พยักหน้าหงึกๆ ตรงแผงอก
"เอาน่ะ มันคงมีทางออกของมันแหละ พวกเราแค่ต้องให้เวลามันเท่านั้นเอง"
"อื้อ ฉันอยากให้มันสมหวังอ่ะแก ชีวิตมันแย่นะ" ครับชีวิตหงำมันแย่

เท่าที่ผมรู้ ครอบครัวหงำประกอบด้วยแม่ของมันที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงไม่มีญาติที่ไหนอีกกับพ่อเลี้ยงชั่วๆ แล้วก็พี่ชายต่างสายเลือด
พ่อเลี้ยงหงำเป็นคนเจ้าชู้มาก แถมเมาแล้วชอบอาละวาดทำร้ายร่างกายแม่กับพวกมันประจำ แต่จะให้เลิกแม่มันก็ทำไม่ได้
สุดท้ายแม่มันก็ตรอมใจตายตอนมันสอบติดมหาลัย เหลือเงินประกันชีวิตหลายล้านไว้ให้มันเก็บไว้เรียนต่อ ส่วนพ่อเลี้ยง
ก็หายหน้าหายตาไปเลยตั้งแต่แม่ตาย จะมีก็แต่พี่ชายมันนี่แหละที่แวะเวียนมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันประจำ

"เออ ฉันก็อยากแต่ทำไงได้ ความรักตบมือข้างเดียวมันไม่ดังนี่หว่า" ผมตบหลังปลอบต่ายให้หยุดสะอื้น เสื้อกรูเปียกหมดแล้วครับ
"ฮืออออออ" ยาวไปลูกเพี้ย เฮ้อ~

ปลอบกันอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง จนป๋าชินต้องเปิดประตูห้องออกมาดูนั่นแหละ ต่ายถึงได้เลิกขี้แยแล้วขอตัวไปนอน
ส่วนผมเหรอครับ กว่าจะได้นอนก็โดนป๋าจัดหนักไปสองยกแก้เครียดตามระเบียบ คริคริ


******************************************

ใครตอบเรื่องหงำชอบใครถูก อนุญาตให้เอาป๋าไปนอนกกหนึ่งวัน (ล้อเล่น คริคริ)

และไหนใครอยากเห็นป๋าชินหึงโหด ไม่เอ๊า ไม่เอา ไม่วอนท์กันนะครับ
ผมยังไม่อยากตายเน้อ แค่หึงกระปิดกระปอยทุกวันนี้ก็แย่แล้วอ่ะครับ
เจอหึงโหดไปมีหวังขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แน่

อีกอย่างว่าจะลงตอนพิเศษ พิมพ์ไม่ทัน เอาไว้เจอกันตอนหน้าแล้วกัน รักนะ จุ๊บๆ


************************************


ปล. ยังไงมันก็นิยาย
ปล2. ตอนเริ่มสั้นๆ ขอโต๊ดจริงๆ นะค๊า~
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 6 (06/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pe-ar ที่ 06-02-2014 16:33:31
แน่ใจนะว่าเป็นนิยาย แต่ฟินจริงไม่อิงสแตนอินเลยนะ
ป๋าน่ารักอ่ะ ชอบๆๆๆ นายเอเทอเกรียน แหย่ป๋าบ่อยๆๆนะ ชีวิตมันต้องมีรสชาติ ฮ่าๆๆๆ
อัพบ่อยๆๆถี่ๆๆแบบนี้เค้าชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 6 (06/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nanazaa002 ที่ 06-02-2014 17:46:38
นิยายจริงเหรอ  :ruready :ruready ยั้มจริงๆเลยยยย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 6 (06/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ิbenejeng ที่ 06-02-2014 17:55:55
เป็นนิยายที่เหมือนเรื่องจริงมากกกกกกกกก  ชอบค่ะ น่ารักฝุดๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 6 (06/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-02-2014 18:54:48
เอเกรียนไปหน่อยนะไม่ค่อยดูเวลาแต่ก็เข้าใจว่าอยากไห้เพื่อนอารมณ์ดี แล้วก็ไอ้มุกแกล้งคุยกับกิ๊กถ้าอีกคนเป็นคนคิดมากเรื่องนี้จะกลายเป็นปัญหาภายหน้าได้นะเพราะมันจะตกตะกอนอยู่ในใจ

ปล.ความจริงไม่ต้องย้ำตลอดว่าเป็นนิยายก็ได้ค่ะ เพราะยิ่งย้ำบ่อยบางทีก็รู้สึกว่ามันยิ่งไม่ใช่นิยาย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 6 (06/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 06-02-2014 20:37:55
โดนป๋าเอาคืน 5555555555555

หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 6 (06/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KhunMay ที่ 07-02-2014 00:02:47
บอกตามตรงนะคะ
เริ่มแรกก็คิดว่านิยาย  :really2:
อ่านไปอ่านมาเหมือนเรื่องเล่า  o22
โดนคนเขียนดักไว้ว่าเป็นนิยาย  :really2:
อ่านต่อมาเหมือนเรื่องเล่าอีก  :a5:
แล้วคนเขียนก็ดักว่านิยายอีกแล้ว  :z3:
เง้อ ถ้าเรื่องนี้เป็นนิยายก็ต้องชมจริงๆเลยค่ะว่าแต่งได้เหมือนเรื่องเล่ามาก
ฝีมือคนแต่งสุดยอดทำให้เราสับสนไปตามๆกัน อิอิ :z2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 6 (06/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 07-02-2014 10:49:50
สงสารหงำ แต่ทำไงได้ตบมือข้างเดียวไม่ดังจริงๆ น่ะแหล่ะ เบียร์เค้าก็ตามจีบแฟนมาเป็นปี ซะแสดงว่าต้องมีความรักอยู่มากแหละ นะ เฮ่อออออออ :hao4:

แต่นิยายแต่งได้ดีเป็นธรรมชาติ จนเหมือนเรื่องจริงมากๆค่ะ ชอบบบบบบบบบบบบ o13
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 7 (07/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 07-02-2014 15:30:24
โอเค ตั้งแต่ตอนนี้ไปจะเลิกย้ำว่าเป็นนิยาย กันคนอ่านสับสนละกันเนอะ อิอิ



........................................................................................





รักบอดๆ ตอนที่ 7




ช่วงเย็น(หรือค่ำนี่แหละ)หลังกลับจากไปทำงานและผมไปเรียนตามปกติ
ป๋าชินก็ถอดสูทคว้ากางเกงเจๆ ของผมที่พาดทิ้งไว้บนโซฟาไปใส่คู่กับเชิ้ตขาว
พับแขนสองสามทบแล้วหายเข้าครัว ส่วนผมถอดรองเท้าได้ก็วางก้นแหมะ ครอบครองพื้นที่หน้าโทรทัศน์แต่เพียงผู้เดียว

"น้องเอครับ" เสียงป๋าเรียกดังมาจากในครัว ผมได้ยินก็ไม่ตอบนะ เพราะตอนนั้นตั้งใจดูการ์ตูนมาก
ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเรื่องหน้ากากเสืออ่ะครับ (เก่าป่ะ ตามอายุผมเลย คริคริ)

"น้องเอ พี่เรียกไม่ได้ยินเหรอครับ" คราวนี้โผล่ออกมาทำหน้ายุ่งพร้อมกับใช้ชายผ้ากันเปื้อนเช็ดตูดหมอหุงข้าวเปียกๆ ไปด้วย
"ได้ยิน แต่ไม่ว่างตอบอ่ะ มีไรป่ะ" ก็ไม่ว่างจริงๆ อ่ะ กินแตงโมอยู่เต็มปาก
"พี่จะถามว่า เย็นนี้น้องเออยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย จะได้ทำให้ แล้วผลไม้น่ะ รอกินข้าวก่อนครับค่อยกิน"
"ไม่ทันละป๋า ผมกินจะหมดละ อ้อ ผมอยากกินไอ้เนี่ยอ่ะ..." ทำหน้านึกเมนูอาหารในหัว
"ไอ้เนี่ยของเราน่ะ อะไรครับ เร็วๆ พี่จะไปตั้งหม้อข้าว"
"ไข่ลูกเขย" ผมตอบในที่สุด ไอ้ที่อยากมันไม่ใช่เมนูนี้นะ แต่ก็ช่างมันเหอะ (เคยเป็นกันเปล่าครับ นึกอีกอย่างแต่ดันสั่งอีกอย่าง)
"สองใบนี้เหรอ?" ป๋าชินทำตาเหล่ๆ ลงต่ำไปที่เป้าตัวเอง ก่อนจะส่งยิ้มหื่นมาให้ผมซึ่งนั่งอยู่บนโซฟา
"เออ เอาไปเขยทั้งพวงนั่นล่ะ จะได้ไม่ต้องมีใช้ ชิส์" ผมเบ้หน้าบูดๆ ใส่ ป๋าชินหัวเราะชอบใจแล้วเดินเข้าครัวไปทำภารกิจของแกต่อ
แหม อยากจะเอาถุงแตงโมปาหัวนัก

นั่งหน้ามุ่ยดูการ์ตูนไปได้อีกสักพัก ไอ้ป๋าก็โผล่หน้าออกมาอีกหน

"น้องเอไปอาบน้ำครับ"
"อืมๆ" ปากตอบ ตาผมก็จ้องจอโทรทัศน์
"ได้ยินหรือเปล่าครับ"
"เออน่ะ ดูตอนนี้ก่อน"
"จะยี่สิบแล้วนะน้องเอ พี่บอกอะไรให้เชื่อกันบ้างสิ" พ่อหรือผัว?
"วุ่นวายว่ะ" ผมบ่นหงุดหงิด ป๋าชินได้ยินก็ชักสีหน้าขึ้นมาทันที
"ถ้าน้องเอรู้จักหน้าที่ รู้จักแบ่งเวลาพี่จะไม่เข้าไปวุ่นวายเลยนะ" น้ำเสียงตัดพ้อสุดๆ ฟังแล้วสะเทือนอารมณ์
"......" ไม่รู้จะเถียงอะไร เลยปิดโทรทัศน์ขึ้นมาบนบ้าน
เวลานั้นคำว่าสำนึกไม่มีอยู่ในหัวผมหรอกครับ มีแต่คำว่าขัดใจไปเสียทุกอย่างอ่ะ

งุ่นง่าน หงุดหงิด รำคาญ เบื่อ เซ็ง อารมณ์เหล่านี้กระหน่ำซัดเข้ามาจนขี้เกียจพูดขี้เกียจฟังอะไรทั้งนั้น
อาบน้ำเสร็จ ผมก็ประชดป๋าชินด้วยการหนีหลับแม่ง ใครจะว่าผมเอาแต่ใจ ทำตัวเป็นเด็กผมก็รับได้นะ
เพราะตอนนั้นผมเป็นอย่างนั้นจริงๆ

เฝ้าพระอินทร์ยังไม่ถึงหน้าพระพักตร์ก็โดนกระชากให้กลับสู่ความจริง
ร้าวไปทั้งแขน แต่ใจคนปลุกน่าจะร้าวกว่า หน้านี่เหมือนใครเอากระทะทุบมาก็ไม่ปาน

"ปลุกดีๆ ไม่เป็น?" ผมถามเสียงแข็งพร้อมๆ กับนวดแขนข้างที่ถูกกระชากไปด้วย
"พี่บอกให้มาอาบน้ำ แล้วทำไมหนีมานอน"
"ก็อาบแล้วนี่ไง"
"แล้วทำไมหนีมานอน"
"ง่วง" สั้นกว่านี้ก็มีนะ เอามั้ย จะได้ไม่ตอบเลย
"น้องเอ พี่ให้มาอาบน้ำแค่นี้ มันยากมากเลยเหรอ"
"ยากไม่ยากก็อาบแล้วนี่ไง ป๋าจะมาซักไซ้ทำไม" ผมจ้องหน้าป๋าเขม็ง ป๋าเองก็ไม่น้อยหน้าจ้องผมตอบกลับมาเช่นกัน
"ลงไปกินข้าวครับ"
"ไม่หิว จะนอน" บอกจบผมทิ้งตัวนอนเลย หันหลังให้แกอีกต่างหาก
"น้องเอ ลุกไปกินข้าว!" เสียงมาแล้วครับ ดังด้วย
"เอ๊ะ ผมบอกไม่หิวๆ ป๋าจะบังคับทำไมเนี่ย!" ปาหมอนใส่หน้าแกเต็มๆ
ป๋าชินยืนนิ่ง ปากเม้มเป็นเส้นตรงเหมือนกำลังอดทนจะไม่ลงไม้ลงมือกับผมอยู่อย่างไรอย่างนั้น

"อย่าให้พี่ต้องทำอะไรที่ไม่อยากทำนะครับ" น้ำเสียงเย็นเหยียบชวนหนาวสันหลัง แต่อารมณ์นั้น ผมไม่ได้แคร์
"กล้าก็เอาซี่" ท้าทาย หน้าผมนี่ถ้าเห็นในกระจกก็คงวอนท์ตีนกันสุดๆ ล่ะ

ป๋าชินกัดฟันกรอด กำหมัดแน่น ทว่าไม่ได้ลงกับผมครับ ไปลงกับกำแพงแทน ต่อยไปสองทีเลือดนี่แดงติดเป็นรอย
ก่อนจะปิดประตูกระแทกลงไปข้างล่าง ได้ยินเสียงโครมครามๆ พักหนึ่งก็เงียบ แล้วก็ได้ยินเสียงสตาร์ทรถแล่นออกจากบ้านไป
วินาทีนั้นหัวใจผมตกวูบ จะวิ่งตามลงไปก็ไม่ทันเพราะดันเพิ่งรู้สึกตัวว่าได้ทำเรื่องงามไส้ลงไป ต้องวิ่งห้อกลับขึ้นมาใหม่ หามือถือแล้วกดโทรออก

ตืดดดดดด ตืดดดดดดด ตืดดดดดดดๆๆๆ
กดซ้ำเป็นสิบสายก็ไม่รับ พอจะกดอีกครั้ง ป๋าชินแกก็ปิดเครื่องไปแล้ว ฮือๆ
บ่อน้ำตาแตก ไอ้เอ ไอ้บ้า มึงไปหาเรื่องป๋าเขาทำไม ไอ้คนไม่มีหัวคิดเอ๊ย!
ก่นด่าตัวเองในใจไป มือก็ปาดน้ำตาปาดน้ำมูกไป เดินกำโทรศัพท์มือถือลงมาในครัว
เปิดดูกับข้าวในฝาชีบนโต๊ะ แม่งมีแต่ของชอบของผมทั้งนั้น ทั้งๆ ที่มีคนรักแสนดีอย่างนี้ ทำไมผมต้องไปทำตัวงี่เง่าใส่เขาด้วยวะ!

นั่งสำนึกผิดหน้ากับข้าวไม่ได้นานก็ไปนั่งตากยุงรอป๋าชินที่ม้าหินหน้าบ้าน จำได้ว่าผมหลับอยู่ตรงนั้นยันพระบิณฑบาตอ่ะครับ
ตื่นมาคันทั้งตัวเพราะบริจาคเลือดให้ยุงกินทั้งคืน สะลึมสะลือมองโรงจอดรถก็ไม่เห็นว่าจะมีเค้าร่างรถเบนซ์สุดหวงของป๋า
ไปไหนวะ บ้านช่องไม่กลับ ไม่รู้ไงว่าเมียคิดถึง (เรื่องจริงมันเศร้านะครับ ไม่มีอารมณ์เล่นเหมือนที่เล่าหรอก)

ยกโทรศัพท์ขึ้นมากด ปลายสายก็ยังคงปิดเครื่อง
ผมถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปเรียน ดูท่าวันนี้คงได้โหนเมย์

ลากเท้าจากบ้านมาขึ้นรถที่ปากซอยหมู่บ้าน โหนอีแดงไปลงอนุสาวรีย์ แล้วต่อกระป๋องไปมอ
คือจริงๆ นั่งรถหลายต่อมาก แต่เอาเท่าที่จำเป็นเนอะ เปลืองหน้าเวิร์ด คริคริ

"พี่เอ สวัสดีค่ะ" น้องโบว์ หลานรหัสลงจากรถเก๋งป้ายแดงตรงหน้าคณะได้ก็เข้ามาทักทาย
"สวัสดีครับ" ผมยิ้มแห้งตอบ อิดโรยมากเหมือนจะป่วย
"เป็นอะไรไปคะ ไม่สบายเหรอ หน้าซีดๆ ไม่ร่าเริงเลย" ไม่ถามเปล่า น้องโบว์ยังเอาหลังมือมาแตะๆ ตามตัวด้วย
"คิดว่าน่าจะมีไข้ครับ ไม่เป็นไรเดี๋ยวไปขอยาที่ห้องธุรการได้ครับ"
"ไม่ดูแลตัวเองบ้างเลยนะคะ" น้องโบว์พูดพร้อมกับทำตาดุ แต่ผู้หญิงคนนี้ทำให้ตายก็ไม่น่ากลัวหรอกครับ
เพราะตัวเธอเล็กๆ น่ารักเหมือนชิวาว่า ผมยาวดำขลับแถมทักเปียสองข้าง นี่ถ้าถือกระเป๋าใบโตๆ ผมนึกว่าพจมานมาเองเลยนะ

"งั้นน้องโบว์ช่วยมาดูแลให้ได้มั้ยล่ะครับ" หยอดพอให้บรรยากาศได้ผ่อนคลาย
"บ้า" น้องโบว์หน้าแดงแล้วตีแขนผมแก้เขินมาหนึ่งที
"ถึงบ้า ก็บ้ารักน้องโบว์นะครับ" หิ้ววววว
"ไอ้หูดำ!!" เสียงมารดังแทรกมาแต่ไกล หันไปผมก็เห็นไอ้เบียร์เดินมากับนังต่าย
"ขัดบ้างนะหูน่ะ ดำจนเขาจะรู้สันดานทันมึงหมดแล้ว" เบียร์ป้องปากกระซิบ หน้าระรื่นอ้อนตีนกันใช่ย่อย
"สวัสดีค่ะ พี่ต่าย พี่เบียร์" น้องโบว์ยกมือไหว้ "งั้นโบว์ขอตัวก่อนนะคะพี่เอ ไปนะคะ พี่ต่าย พี่เบียร์"
"จ้ะ คนสวย" เบียร์
"ไว้เจอกันใหม่นะ" ต่าย
"แล้วเจอกันครับ" ผมยิ้มส่งแล้วหันมาคุยกับเพื่อน "มาเช้านะ"
"ไม่เช้าจะทันเห็นมึงหม้อหลานรหัสตัวเองเหรอวะ" ไอ้เบียร์มันว่า ผมก็เลยจัดการเตะข้อพับมันไปอย่างอดไม่ได้
"เก็บปากไปคุยกับขี้เถอะไป"
"ก็คุยอยู่"
"เชี้ยเบียร์" ตบหัวมันไปอีกที ข้อหาว่าผมเป็นขี้
"หน้าไม่สดใสนะ ทะเลาะกับป๋าชินมาเหรอ?" ต่ายที่พิจารณาผมอย่างถี่ถ้วนแล้วถามจี้จุดผมทันที บอกตรงๆ จุก
"นิดหน่อย" ผมยักไหล่
"ไปแกล้งไรป๋าเขาอีกล่ะ" เบียร์ถามบ้าง
"ไม่ได้แกล้ง กูแค่รำคาญที่แกมาจู้จี้กูมากเกินไป กูก็เลยหนีขึ้นไปนอนแล้วไม่ยอมกินข้าวที่แกทำแค่นั้น"
"ทำตัวเป็นเด็กนะอิเอ เขาไม่รัก เขาไม่ห่วง เขาไม่จู้จี้มึงหรอก" ต่ายใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากผมขณะเราพากันเดินขึ้นตึก
"กูก็รู้ แต่ตอนนั้นกูกำลังดูการ์ตูนอยู่อ่ะ มึงก็น่าจะรู้นี่เวลากูจดจ่ออยู่กับอะไรมากๆ แล้วมีใครมาเซ้าซี้กูจะรำคาญ"
"แล้วไง"
"อะไรแล้วไง" ผมหันมองหน้าต่ายงงๆ
"ก็แล้วป๋าเขาว่าไง"
"ก็ต่อยกำแพงจนเลือดตก แล้วหนีออกจากบ้านไปเลย ป่านนี้ยังไม่กลับเลยเนี่ย" ผมพูดหน้าเครียดพลางถอนใจท้อ
"สมน้ำหน้า ทำตัวเองตลอด" ไอ้เบียร์ซ้ำเติม
"ระวังเถอะอิเอ สักวันป๋าเขาจะได้เบื่อ แล้วหนีไปมีเมียใหม่" อิต่าย มึงพูดซะกรูกลัว
"เฮ้อ~!" ถอนใจถอนวิญญาณกันเลยทีเดียว

เข้าห้องเรียน จารย์เข้าสอนก็ไม่เข้าหัว
ขีดนั่นเขียนนี่ลงบนสมุดเลอะไปหมด ที่เยอะสุดคือคำขอโทษ
จะว่าไปผมเนี่ย ติดนิสัยคิดหน้าไม่คิดหลังเนอะ ทำไปแล้วเสือกมาเศร้าเอง ทรมาณโคตรๆ อ่ะครับ

จบภาคเช้า ไอ้หงำก็ยังไม่มาเรียน แล้วก็ไม่ติดต่อ โทรศัพท์ไปก็ไม่รับ ตอนกลางวันพวกผมจึงตกลงกันว่าจะไปหามันที่หอหลังเลิกเรียน
จากนั้นวันทั้งวันผมก็ยุ่งอยู่กับการพยายามที่จะติดต่อป๋าให้ได้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมานะหรือ...คือความว่างเปล่านั่นไง น้ำตาจะไหล

ตกเย็นสามคน สามหัว ยืนเกาะกลุ่มกันที่หน้าประตูห้องไอ้หงำ
เคาะประตูไปสามที ได้ยินเสียงไม่คุ้นเคยตอบกลับมา จากนั้นประตูห้องก็เปิดกว้าง ทว่าคนเปิดกลับไม่ใช่เจ้าของห้องซะอย่างนั้น

"มาหาใครครับ" ชายแปลกหน้าถามงงๆ
"มาหาหงำครับ" เบียร์ให้คำตอบ
"อ้อ หงำไม่อยู่ครับ ไปต่างจังหวัด"
"หะ ไปทำไรที่ต่างจังหวัด"
"ไม่รู้ครับ แต่เขาไปกับพี่ชายนะ ผมแค่รับฝากห้องเฉยๆ" ได้ยิน พวกผมสามคนก็ร้องอ้อไปตามกัน
"แล้วเขาบอกมั้ยครับว่าจะกลับมาเมื่อไหร่" ผมถามอีก
"เอ...ไม่ได้บอกนะครับ พวกคุณไม่ลองโทรไปถามล่ะครับ"
"เพราะโทรไม่รับน่ะสิ พวกกรูถึงได้ถ่อกันมาถึงนี่ แม่งถามโง่ๆ" ไอ้เบียร์บ่นอุบอิบอยู่ข้างหูผมกับต่าย
"ครับ ขอบคุณครับ" ผมผงกศรีษะให้ก่อนจะลากไอ้เบียร์ออกมาโดยเร็ว เพราะกลัวว่าถ้าไอ้คนนั้นได้ยินมันสองคนอาจจะมีวางมวยกันได้
"ทำไมมันทำไรไม่บอกพวกเราวะ" ไอ้เบียร์บ่นหัวเสียเตะก้อนหินตามทางไปเรื่อย
"มันคงอยากอยู่คนเดียวสักพักมั้ง" ต่ายเปรยๆ แล้วมองหน้าผมเศร้าๆ
"กูว่ามันแปลกๆ ว่ะ เออต่าย ตกลงไอ้หงำมันอกหักจากใครวะ กูว่าจะถามก็ไม่ได้ถามสักที"
"มัวแต่เห่อของแปลกล่ะสิ ชิส์"
"ต่าย" ผมปราม
"ไม่รู้ อยากรู้ มันกลับมาแกก็ถามเอาสิ" หน้าหง้ำหน้างอเชิดใส่ผมอีกต่างหาก เกี่ยวไรกับกรูเนี่ย
"มึงก็ไม่รู้เหรอ เอ"
"กูว่ามึงถามหงำมันเองเหอะ" ผมตอบปัดๆ ไม่อยากโกหกมันครับ
"นั่นก็ไม่รู้ นี่ก็ไม่ตอบ โคตรแม่งเอ๊ย!" ออกแรงเตะก้อนหินสุดแรง ไม่นานก็ได้ยินเสียงเอ๋งดังกลับมา บาปนะมึงเตะหินใส่หมา
"งั้น กูขอแยกตรงนี้เลยนะ จะรีบกลับไปดูว่าป๋าชินกลับบ้านยัง" ผมบอกกับทั้งสองคนเมื่อพากันเดินมาถึงรถไอ้เบียร์
"ให้กูไปส่งมั้ย"
"ไม่ต้อง มึงกลับกันไปเหอะ กูอยากคิดอะไรด้วย" ผมปฎิเสธ
"ถึงบ้านแล้วยังไงอะไรก็โทรบอกพวกกูด้วยนะเว้ย" ไอ้เบียร์ขึ้นรถแล้วเปิดกระจกออกมาบอก
"เออ ขับรถดีๆ ไว้เจอกัน"
"เออ โชคดี แล้วเจอกัน"
"อย่าไปดื้อกับป๋าเขานะอิเอ" ต่ายที่นั่งด้านข้างคนขับหันมากำชับเสียงหนัก
"เออ กูผิดกูรู้ตัว อย่ามาย้ำ" ผมแยกเขี้ยวใส่มันไป มันก็ยักไหล่หาแคร์ไม่
โบกมือลาพวกมันสองตัวจนท้ายรถหายลับไปบนถนนเบื้องหน้า ผมก็ออกเดินช้าๆ มาโบกแท๊กซี่
ขี้เกียจรอรถกระป๋องครับ อยากกลับถึงบ้านให้เร็วที่สุด ก็เลยยอมควักแบงค์ร้อยในกระเป๋าสี่ใบเป็นค่าโดยสาร
(ไม่ทะเลาะกับป๋า แท๊กซี่ไม่ได้แอ้มผมหร๊อก)

ถึงบ้านสิ่งแรกที่ผมชะเง้อคอมองคือ โรงรถ
และถึงวันนี้จะเย็นมาก มันยังคงกลับว่างเปล่า...เหมือนกับใจโหวงๆ ของผมตอนนี้ไม่มีผิด

"ไม่รู้เลยหรือไงนะ ว่ามีคนเป็นห่วงอยู่ที่บ้าน" ผมรำพึงกับตัวเองเบาๆ
พลางเดินมาเปิดประตูบ้านที่เมื่อเช้าคล้องล็อคด้านไหน ตอนนี้ก็คล้องล็อคด้านนั้น

โยนกระเป๋าไปบนโซฟา ขึ้นบ้านมาอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จก็ทรุดตัวนั่งลงบนเตียง
มองเห็นรูปถ่ายที่ถ่ายคู่กันตอนป๋าเริ่มตามจีบผมใหม่ๆ ตรงหัวเตียงน้ำตาก็พาลจะไหล
หากถามว่าทำไมผมไม่โทรไปถามที่ทำงานหรือเพื่อนของป๋า ผมตอบเลยครับผมโทรถามทุกคนเท่าที่ผมมีเบอร์
แต่ไม่มีใครรู้ว่าป๋าชินไปไหน และไปด้วยเหตุผลอะไรสักคน

ผมทิ้งตัวนอนเอามือกุมหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้นเกือบชั่วโมงเต็ม ถึงได้ลุกขึ้นล้างหน้าแล้วลงมานั่งทำงานส่งอาจารย์ให้ทันเดทไลน์


******************************************

เออ ไม่ได้อยากดราม่าอะไร พยายามเล่าขำๆ แล้ว แต่ได้เท่านี้ อย่าว่าผมนะครับ
บอกแล้วถ้าเรื่องมันจะดราม่า ก็เพราะผมทำตัวเอง ไม่ใช่ใครที่ไหน อย่างว่าแหละเนอะ ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
อารมณ์ช่วงนั้นมันก็เลยขึ้นๆ ลงๆ เหมือนเด็กเอาแต่ใจบ้าง เป็นสาเหตุทำให้ป๋าต้องเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจไปตามๆ กัน
ยังไม่จบครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าต่อ รักทุกคนนะจ๊ะ~

****************************************


หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 7 (07/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-02-2014 17:58:14
 :katai1: มันค้าง อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 7 (07/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 07-02-2014 19:15:50
มันค้างนะ ฮือออออออออ ทำไมถึงทำกับฉันด้ายยยยยยยยยยยยยย TT
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 7 (07/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-02-2014 19:56:47
คิดเหมือนรีบนู้นนนนนนนน เลย นึกว่าเรื่องจริง อิอิ คนแต่ง แต่งได้น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 7 (07/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KhunMay ที่ 07-02-2014 20:24:18
มีแต่คนค้างๆ เฮ้ย! เราก็ค้างเหมือนกานนนน 555
ป๋าชินเป็นคนดีจังเลย ดีแบบมากๆ
ถ้าในโลกนี้มีแบบป๋าชินเยอะๆนะ สุโค่ยเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 7 (07/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 07-02-2014 20:33:44
ค้าง
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 7 (07/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 08-02-2014 14:44:18
เข้ามารออ่านเน้อ   :katai4: :katai4:

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 08-02-2014 16:23:33
คำผิดเดี๋ยวจะกลับมาแก้นะคะ



.....................................................







รักบอดๆ ตอนที่ 8





นั่งมึนกับตัวบ้านที่เงียบสนิท
เผลอหลับไปตอนไหนไม่เข้าใจครับ ปาดน้ำลายแล้วเงยหน้ามองนาฬิกาแขวนผนัง
ก้มหน้ามองสมุดงาน โห สาบานนะว่างานเดทไลน์ ทำไมแม่งไม่กระเตื้องเลยวะ!
ลุกเดินไปเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม เสียงโทรศัพท์บบ้านก็ดัง (ตอนนั้นน่าจะเกือบสามทุ่มนะถ้าจำไม่ผิด)

"โหลครับ" ผมยกหูโทรศัพท์พร้อมกับกรอกเสียงอย่างไม่เต็มใจไปตามสาย
"มึงมาเอาผัวมึงไปเดี๋ยวนี้" เสียงแหบๆ ของผู้ชายตอบกลับมาในภาษาที่สุภาพมากมาย
"ใครครับ?" ผมนิ่วหน้า มือข้างหนึ่งก็เกี่ยวเล่นกับสายโทรศัพท์ไปด้วย
"ผัวมึงสิ ไอ้ห่า"
"เออ นั่นล่ะ ผัวกู แต่มึงน่ะใคร" สุดทนจริงๆ ผมกระแทกเสียงใส่เลย
"เฮียเอฟ" ตอบมาสั้นๆ แต่ผมสิครับ หน้าเสียไปครึ่งแถบ จำเสียงพี่ชายตัวเองไม่ได้ โอ๊ย กรูอยากตาย
"เอ่อ...ป๋าชินไปบ้านเหรอเฮีย" รีบปรับเปลี่ยนเป็นนอบน้อมในบัดดล
"เออสิ มาชวนพ่อกินเหล้าตั้งแต่เมื่อคืน หน้าตานี่เมามาก่อนด้วยซ้ำ มือก็เหมือนไปฟาดกับอะไรมาด้วย เลือดงี้โชก
พอกูกับแม่ถามถึงมึง แม่งก็บอกว่ามึงโกรธท่าเดียว ตกลงทะเลาะกันเหรอวะ" เฮียเอฟร่ายยาวเป็นชุด

กรรมจริงกรู
นึกว่าหายไปไหน ที่แท้หนีไปอยู่บ้านผมนี่เอง
ไอ้ทางนี้ก็มัวแต่โทรถามคนรู้จักของฝ่ายนั้น ไม่ได้คิดเล๊ยจริงๆ ว่าแกจะอยู่แค่ใต้จมูก
ทางบ้านผมก็น่าโมโห ไม่ยอมติดต่อมาบอกตั้งแต่แรก ปล่อยให้คนเขาห่วงแทบเป็นแทบตาย ชิส์!

"เรื่องไม่เป็นเรื่องอ่ะเฮีย" ผมก็ตอบปัดๆ ไป
"เรื่องไม่เป็นเรื่อง ถุย! ถ้าเป็นอย่างที่มึงพูดจริงนะเอ กูยอมให้เอาตีนทาบหน้าเลย
รีบมาให้ไว มาดูสภาพผัวมึงที่ทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องนี่มา" น้ำเสียงเฮียค่อนข้างหงุดหงิด

"ครับๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ ฝากดูป๋าแกไว้ด้วยนะ"
"เออ!" กระแทกเสียงตอบแล้วตัดสายไปเสียชิบ

จำได้ว่าตอนนั้นพอวางหูโทรศัพท์จากเฮียเอฟ ผมก็หน้าตั้งตรงดิ่งออกจากบ้านไปโบกแท๊กซี่ทันที ไม่ได้เตรียมตัวอะไรสักอย่าง
ขนาดรองเท้ายังใส่คนละข้าง ในใจมันทั้งดีใจ ทั้งโล่งอกปนๆ กันไป ที่ได้รู้ว่าคนของเราไม่ได้หายไปอย่างที่คิด ทว่าพอไปถึงบ้านพ่อแม่
แถวประชาชื่น ณ.เวลานั้น บอกตามตรงว่าอยากร้องไห้ครับ เพราะสภาพคนที่เรารักและรักเราซึ่งอยู่กลางวงเหล้า แม่งเหมือนหมาป่วยดีๆ นี่เอง
นึกภาพตามนะครับ ป๋าชินนอนกอดขวดน้ำอยู่ตรงกลางบ้าน ซึ่งบริเวณนั้นล้อมรอบไปด้วยสิ่งมึนเมากับเศษซากกับแกล้มที่หมดแล้ว มีแมวแก่ๆ
นอนเลียไข่ตัวเองอยู่ใกล้ๆ ทั้งกองอ้วกทั้งอะไรต่อมิอะไรเลอะเต็มตัวเต็มพื้นไปหมด เห็นแล้วน้องเออยากหนีกลับบ้านอ่ะครับ รับไม่ได้อย่างแรง

เฮียเอฟยืนอุ้มลูก(หนูแดง อายุ 3ขวบ)ทำหน้าทมึงทึงต้อนรับผมที่มาถึง
โคตรเป็นพี่ชายที่แสนดีอะไรเยี่ยงนี้

"เป็นไง เห็นสภาพมั้ย"
"เอิ่ม..." ผมพยักหน้ารับ
"แล้วมึงยังจะปากแข็งบอกกูอีกหรือเปล่าว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง"
"เอิ่ม........" เถียงไม่ออก
"เอ มึงโตแล้วนะ ปีสามแล้ว อีกไม่ถึงสองปีมึงก็จะจบ มึงทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อย
ไอ้ชินมันมีความอดทนสูง ถ้าเป็นคนอื่นมึงเจ็บตัวไปนานแล้วนะ หัดมีความคิดบ้างสิวะ"
(เฮียเอฟอายุมากกว่าป๋าชินสามปีถึงได้เรียกชื่อกันเฉยๆ และเป็นลูกคนโต ผมเป็นคนที่สี่ในพี่น้องหกคน เยอะชิมิ คริคริ)

"แม่กับพ่ออ่ะเฮีย" ผมทำเป็นมองๆ ไปทั่วบ้าน แถไปเรื่องอื่น ไม่งั้นโดนยิงยาวแน่
"แม่พาพ่อไปนอนแล้ว ก่อนกลับบ้านมึงก็ช่วยทำความสะอาดให้กูด้วย แม่กับเมียกูจะได้ไม่ต้องลุกมาเหนื่อยทำ"
"ได้ครับเฮีย ไงจ๊ะหนูแดงหลานอา ยังไม่นอนเหรอลูก" หันมาเล่นกับหลานที่อมนิ้วตาแป๋วแหวว
"คงนอนได้หรอกมึง เสียงผัวมึงคร่ำครวญดังอย่างกับอะไรดี" เฮียเอฟทำตายักษ์ใส่ผมแล้วพาลูกหายขึ้นบ้าน
"พี่หรือพ่อกูวะ บ่นจริงบ่นจัง" เดินมาเท้าเอวดูสภาพศพสามี "ไอ้นี่ก็ ผัวหรือพ่อ เฮ้อ~ ชีวิตกู"

ไล่ตามเก็บข้าวเก็บของที่เกลื่อนระเกะระกะใส่ถุงขยะ แล้วเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตัวให้ป๋า จากนั้นก็เอาชุดเก่าๆ ของตัวเองในห้องนอน
มาเปลี่ยนให้ใหม่ ก่อนจะจัดการลากแกไปนอนบนแคร่ไม้ที่เอาไว้นอนเล่นอย่างทุลักทุเล แล้วกลับมาจับไม้กวาดทำความสะอาดบ้านจนเสร็จ
เรียบร้อยทุกอย่างตามสั่งพี่ชาย นั่งเหนื่อยสักพักก็ไปล้างจานต่อ(คนไม่เคยทำงานบ้านแล้วต้องมาทำอะไรพวกนี้ ความเหนื่อยมันจะคูณสองครับ)

"เอ มาเมื่อไหร่" ไอ้น้องคนสุดท้องที่เป็นทอมเดินเกาพุงเข้ามาในครัว
"เมื่อเห็น แล้วไมยังไม่นอน พรุ่งนี้ไม่เรียนไง จะตีสองแล้วเนี่ย" ผมบ่น มันก็ทำหน้าหงิก
"ซี นอนแล้วเหอะ แต่หิวน้ำก็เลยตื่น" ครับยัยน้องผมคนนี้ชื่อซี ตามอักษรภาษาอังกฤษทุกประการ อายุเหรอครับ สิบสามปีไม่มาก
"เออ จะกินก็กิน" ผมก็ล้างจานของผมต่อ
"ป๋าชินแก เฮิร์ทมากนะเอ" มันพูดไปเทน้ำในขวดพลาสติกไป
"ฉันเห็น ไม่ต้องให้แกบอกหรอก สภาพหมาชัดๆ อ่ะ" ผมส่ายหัว
"เอเคยเห็นหมาเมาเหรอ ซีว่าเหมือนคนตรอมใจมากกว่าอ่ะ น่าสงสาร"
"แล้วแต่จะคิด"
"นี่ถ้าซีเป็นผู้ชายจริงๆ จะแย่งป๋าชินมาจากเอให้ได้เลย คนดีๆ แบบนี้ถูกทิ้งขว้างแล้วมันน่าเสียดาย"
"ฉันไปทิ้งป๋าเขาเมื่อไหร่วะ" หันไปทำตาดุใส่น้อง ดีดฟองน้ำยาล้างจานแถมให้ด้วย นี่แน่ะ
"อี๋ สกปรก" ซีเบ้หน้าบูดอย่างรังเกียจ "ไปนอนดีกว่า เบื่อคนหวงผัว แบร่~" ทิ้งท้ายให้เจ็บใจ น่าจับมาตีก้นนักนังน้องคนนี้
"ไปนอนไม่ต้องตื่นเลยนะ ไอ้ตัวดี!" แหวมันตามหลังพร้อมกับกระแทกจากแตกไปหนึ่งใบ
"เอ" มันโผล่หน้ากลับมาหลอกหลอนผมอีกหน
"อะไร"
"ไม่เอาป๋าชินเมื่อไหร่บอกซีนะ ซีพร้อมจะกลับเป็นหญิง อิอิ" ลอยหน้าลอยตาแหย่ผมเสร็จ มันก็ร้องเพลงของพุ่มพวงขึ้นบ้านไป
รู้สึกจะชื่อเพลง ผู้ชายในฝันอ่ะครับ

ล้างจานแบบประชดประชันน้องสาวตัวดีต่อไปอีกสองสามนาที ผมก็เข้ามานั่งมองไอ้คนนอนตายตรงแคร่
อยากทุบให้หายแค้น แต่พอเห็นมือที่ถูกผ้าพันแผลพันไว้หนาเตอะก็นึกสงสารขึ้นมาจับใจ เลยทุบหัวตัวเองเบาๆ เป็นการลงโทษสองที

"ป๋าชินครับ ป๋าชิน" เขย่าตัวแกให้ตื่น อย่างน้อยก็อยากพาแกไปนอนในห้องดีๆ ครับ
"อืออออออ" เจ้าตัวครางออกมา กลิ่นเหล้านี่ฮึ่ม
"ป๋าชินลุกไปนอนในห้องกันครับ"
"ม่ายปายยยยยยยยยย อย่ามายุ่ง!" ปัดมือผมทิ้ง ยอมรับว่าตอนนั้นถึงป๋าจะไม่มีสติแต่ผมโคตรน้อยใจ แถมปัดแรงด้วย
"นี่น้องเอนะครับ ไปนอนในห้องกันนะ" น้ำตาคลอเบ้า ไอ้ป๋าบ้าก็ปัดมือผมทิ้งอีก
"อื้อออ บอกว่าอย่ามายุ่ง ม่ายข้าววจายไง"
"ป๋าชินไม่รักน้องเอแล้วเหรอครับ" น้ำตาหยดหนึ่งร่วงเผาะ
"รักทำมาย รักแล้วเศร้า จารากไปทำมะ" ปากพูดไป ตานี่ไม่ได้ลืมขึ้นมาดูคนข้างกายที่ยืนกลั้นลูกสะอื้นกับคำพูดไม่ได้คิดของแกเลย
"........" ผมยืนเงียบ
"เราทามอะไรก้อม่ายดีสากอย่าง ทำปายเขาก็ม่ายเห็นค่า แม่งช้ำตรงเนี๊ยยยยย" ป๋าชินทุบอกข้างซ้ายตัวเองแรงๆ
"ทามกามข้าว(?) ทามทุกอย่าง อยากห้ายเขามีฟามสุข แต่แม่งเอ๊ย กูผิดตลอดดดดด"
"........." ผมยกมือขึ้นปิดปากสะอึก น้ำตาไหลเต็มสองแก้ม
"ทามมายวะ ทามมายเขาไม่เห็นค่ากูบ้างงงง พูดก็หาว่าบ่น ทามอารายก็ว่า เคยเห็นค่ากันบ้างม้าย!" ตะโกนออกมาแล้วก็พลิกตัวตกจากแคร่
ทว่าไม่ลุกนะครับนอนมันอยู่อย่างนั่นแหละ แถมยังทุบพื้นสุดแรงจนผมต้องเข้าไปจับแขนแกขึงไว้ข้างตัว(ผู้ชายคนนี้ถ้าเมาหลุด จะหลอนมากกกก)

"ปล่อยกู!"
"อย่าตะโกนป๋า เกรงใจเขา" ผมทำเสียงเข้มข่ม
"ปล่อยกู ปล่อยกู ปล่อยกู ไอ้เชี้ยยยยยยย!!" ดิ้นพล่านเหมือนหมาโดนน้ำร้อน
มือข้างหนึ่งของผมหลุดไปเพราะแรงน้อยกว่า ป๋าชินพลิกตัวหงายได้ก็ต่อยผมมาหมัดหนึ่ง เอาซะเต็มกราม เจ็บโคตรๆ

"โอ๊ย!" ผมร้อง ตัวนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ ล้มไปกระแทกกับขอบแคร่ มึนไปเป็นนาที
"น...น้องเอ!!" ป๋าตาลีตาเหลือกคลานเข้ามาหา เมื่อเริ่มเข้าใจอะไรได้ดีขึ้น
"อย่าจับ" ผมร้องห้าม เจ็บก็เจ็บ น้ำตาก็ไหลไม่หยุด
"พะ...พี่ขอโทษ น้องเอ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่..." ป๋าละล่ำละลักหน้าซีด สร่างเมาเป็นการถาวร
เข้าใจมั้ยครับว่าชีวิตทั้งชีวิตของคนที่ไม่เคยทำผมเจ็บนอกจากการแทงข้างหลัง(ตูด)
และมารู้ตัวว่าพลั้งมือกับผมหน้าตาจะขนาดไหน ผมเห็นแล้วอยากพูดอะไรสักอย่างนะ แต่ตอนนั้นมันเจ็บจริงอะไรจริงเลยพูดไม่ออก

เอานิ้วหัวแม่มือปาดมุมปาก น่านกรูว่าละ ปากแตก
เหลือบมองป๋าที่นั่งตัวสั่นปากสั่น มองผมด้วยแววตาขลาดกลัวก็พยายามยิ้มปลอบ
แต่สงสัยยิ้มหวานมากไปหน่อยมั้ง ป๋าชินแกถึงได้สะดุ้งน้ำตาแตกตามผมมาอีกคน

"พี่ไม่คิดว่าจะเป็นน้องเอ...แล้วก็...จะต่อยด้วย" เอิ่ม เข้าใจอารมณ์ครับ
เวลาเมาใครมาขัดใจก็อยากออกกำลังด้วยกันทั้งนั้น

"พี่เมา..." เออ กรูเห็น
"พี่นึกว่าตัวเองฝัน..." ฟันถึงบรูซ ลี ล่ะดิ
"จะ...เจ็บมั้ยครับ" เลือดออกขนาดนี้ไม่เจ็บก็บ้าแล้ว~
"ไม่เป็นไรครับ" ผมคนรักผัว ยอมปากแข็งให้ผัวสบายใจนิดนึง คริคริ
"......" ป๋าชินเงียบ ทำหน้ากล้าๆ กลัวๆ เหมือนอยากจะเข้ามาหาผมแต่ก็ไม่กล้าอะไรทำนองนั้น
"ทำไมป๋าหนีผมมาอยู่นี่อ่ะ ปิดโทรศัพท์ด้วย" ผมเริ่มเปิดประเด็น
"พี่......" ค้างไว้แล้วก้มหน้าจ๋อยๆ เห็นแล้วสงสารจริ๊ง
"ป๋ารู้มั้ยว่าผมเป็นห่วง"
"พี่......."
"ถ้าเฮียเอฟไม่โทรศัพท์ไปบอก ผมก็คงไม่รู้ว่าป๋าอยู่นี่"
"ขอโทษครับ พี่ขอร้องพ่อกับแม่ไว้ว่าอย่าบอกน้องเอ"
"โกรธกันเกลียดกันก็บอกกันตรงๆ สิครับ ทำไมต้องหายมาเงียบๆ" น้ำตาระลอกสองหยดแหมะ ป๋ารีบเข้ามากอดผมทันที
"โกรธครับ แต่ไม่ได้เกลียด พี่ไม่มีทางเกลียดน้องเอหรอกครับ อย่าร้องไห้นะ นิ่งนะครับ โอ๋~"
ปลอบไปก็โยกตัวผมกับตัวเองไปด้วย ทำอย่างกะปลอบเด็ก

"ผมไม่ชอบที่ป๋าเป็นอย่างนี้ อย่างคราวก่อนก็เอาแต่เมินไม่พูดกับผม
มาคราวนี้หนีออกจากบ้านติดต่อไม่ได้ ถ้าป๋าเป็นอะไรมา ผมจะรู้สึกยังไง ฮืออออ"

"ไม่เอานะครับคนดี ไม่ร้องนะ พี่ขอโทษครับ จะไม่มีครั้งต่อไปแล้วครับพี่สัญญา"
"อึก...ผมก็จะไม่ดื้อกับป๋าอีก แต่ไม่สัญญา ฮือออออ"
"ถึงดื้อพี่ก็รักครับ ไหนๆ ดูหน้าคนดื้อหน่อยซิ...เฮ้ย!" ป๋าชินมองหน้าผมแล้วตาโต ผมก็งง
"เป็นไรอ่ะป๋า หน้าผมมีไร"
"บวมอ่ะครับ พี่ต่อยแรงแค่ไหนกันเนี่ย" ป๋าชินเอานิ้วแตะๆ
สาบานเลยว่าป๋าแกแค่แตะจริงๆ แต่หน้าผมนี่ร้าวไปข้าง เพิ่งรู้สึกว่ามันปวดมากครับ

ครั้งนั้นปูดเป็นลูกกอฟไปสามวันกว่าจะยุบ แม่เห็นตอนเช้ากรี๊ดแทบสลบ ป๋ากับผมโดนสวนยับไปสามบ้านแปดบ้าน
ไอ้เพื่อนสองตัวของผมก็ล้อกันไม่หยุด หงำกลับมาจากต่างจังหวัดก็ยุบ ไม่ทันได้เห็นครับ อิอิ


************************************

ยังไม่จบนะครับ เดี๋ยวมาต่อ
รักคนอ่านจะ จุ๊บๆ

***********************************




ปล. สั้นๆ ไปนะตัวเธอ อิคนเขียนรีบไปทำงาน
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 08-02-2014 17:12:15
อย่าดื้อมากนะ สงสารป๋าอ่ะะะ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 08-02-2014 18:18:03
ป๋าเมาหมดสภาพเลย น้องเออย่าดื้อกับป๋ามากสิ คนอ่านเห็นสภาพป๋าตอนเมาแล้วขำ 555555555555555
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 08-02-2014 18:34:01
น้องเอดื้อน้อยๆๆๆน่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-02-2014 18:50:39
กว่าจะหากันเจอ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 08-02-2014 19:12:25
ป๋าชินน้อยใจน้องเอน่าดูเลยเน้อ   :sad11: :sad11:

มาต่อไวไวน้า :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-02-2014 21:06:20
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 08-02-2014 23:29:10
ฉันรักนิยาย (?) เรื่องนี้  :mew1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 09-02-2014 09:37:40
เอ น่าจะปรับปรุงตัวบ้างนะ เหนื่อยใจแทนป๋าจริง
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 8 (08/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-02-2014 11:36:07
ป๋าน่ารักที่สุด :hao7:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 9 (09/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 09-02-2014 15:56:05





รักบอดๆ ตอนที่ 9




ปิดเทอมปลายปีเป็นอะไรที่สุดแสนจะน่าเซ็งของคนมีคู่วัยทำงาน
เหล่าผองเพื่อนผู้น่ารักกลับบ้าน บางคนก็ไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่ป๋าชินทำงานจะได้หยุดเฉพาะเสาร์ครึ่งวันกับวันอาทิตย์
ไอ้ครั้นผมจะอ้อนไปเที่ยวไกลๆ เหมือนคนอื่นบ้างก็เกรงใจ ได้แต่นอนกลิ้งไปกลิ่งมาอยู่กับบ้านไปวันๆ
โอ๊ย อยากไปสวีทวี่วีทางเหนือบ้างไรบ้างอ่ะคร๊าบ

"ป๋าชิน" เดินออกไปวอแวกับคนแก่ที่นั่งทำงานอยู่ตรงม้าหินอ่อนหน้าบ้านในสายวันอาทิตย์
"ครับ" เจ้าตัวตอบกลับแต่ไม่หันมามอง ผมก็เลยจัดการโถมตัวเข้าไปโอบรอบคอแกซะ งื๊อ เค้าอยากเที่ยวอ่ะ อยากเที่ยว
"มีอะไรครับคนดี หืม" ป๋าลูบแขนของคนที่เรียกแล้วไม่ยอมพูดอะไร
"ไปเที่ยวกัน" จำให้ขึ้นใจกันไปเลยครับ การอ้อมค้อมไม่ใช่นิสัยโผมมมม
"อยากไปไหนครับ ไหนลองบอกพี่มาซิ"
ถามทั้งที คุณพี่จะไม่เลิกสนใจกับไอ้เทคโนโลยีขนาดพกพาตรงหน้าบ้างหรือไง หมั่นไส้มากๆ เข้า
ก็เบียดตัวแทรกเข้าไปนั่งตักคล้องคอแล้วจับหน้าป๋าชินให้หันมาสนใจตัวเอง เรียกร้องถึงขนาดนี้ ไหงสามีถึงทำหน้าไม่พอใจ

"รำคาญใช่ป่ะ" ผมเบ้หน้าถามเสียงเคือง ป๋าชินคลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า
"ดีมาก เพราะถ้าตอบว่ารำคาญ ผมจะสั่งป๋าให้งดเรื่องอย่างว่าสามเดือน"
"ไม่กล้าครับ จุ๊บ~" ตอบพร้อมกับก้มจุ๊บปากผมหนึ่งที
"ไปเที่ยวกัน ไม่ต้องไปไกลก็ได้ นะนะ" เอาหัวถูๆ ไถๆ ซอกคอแกอย่างอ้อนๆ
"แล้วน้องเออยากไปไหนล่ะครับ พี่ถามก็ไม่ตอบสักที"
"ไปตลาดน้ำอัมพวาก็ได้ ผมอยากได้ปลาทูคอหักกับไปกินกุ้งแม่น้ำตัวโตๆ"
โทนเสียงแอบแบ๊วมากมายก่ายกอง ขนาดเด็กผู้หญิงน่าตาน่าหยิกมาได้ยินได้ฟังจากปากผมยังต้องอายตัวม้วนทีเดียวเชียว คริคริ

"กินกุ้งยังพอเข้าใจ แต่ปลาทูคอหักนี่จะอยากได้ไปทำไมครับ" ป๋าชินทำหน้างง เหมือนไม่รู้ใจภรรยาเอาเสียเลย
ก็นะ พูดถึงปลาทูคอหักมันก็ต้องอยากกินดิ โดยเฉพาะเอามาทำต้มยำนี่สุดยอดคักๆ สิบอกให้

"เอามาบูชามั้ง ป๋านี่ก็ถามอะไรแปลกๆ เนอะ" หยิกแก้มแก้โง่คนแก่ไปหนึ่งทีเน้นๆ
"อ้อ ดีเหมือนกัน"
"ประชด!" ผมตอกใส่หน้า ป๋าชินหัวเราะขำ
"ไปวันอื่นได้มั้ยครับ"
"ทำไม" ผมนิ่วหน้าบูด
"พี่มีงานเยอะ ยังไม่เสร็จเลย ต้องส่งให้ลูกน้องพิมพ์วันจันทร์นี้แล้วด้วย"
"ไหน งานอะไร" ผมบิดตัวหันหน้าเข้าหาโน๊คบุ๊คแล้วเอามือคลิกเม้าท์สำรวจ
เป็นงานตรวจเกี่ยวกับภาพนิตยาสารรายปักษ์ และเนื้อหาขุดคุ้ยรากเหง้าเหล่าดาราที่จริงไม่จริงไม่รู้เยอะแยะไปหมด

"โหย งานชิลๆ แบบนี้ ชั่วโมงเดียวก็เสร็จ กลับมาทำยังทันเลย" หันกลับมาจ้องหน้าป๋าต่อ
"ไม่ได้มีแค่งานเดียวครับ" ป๋ายิ้มตอบพร้อมกับคลิกเม้าท์โชว์งานที่ต้องทำให้เสร็จทันพรุ่งนี้
มองผ่านๆ ผมว่าไม่ต่ำกว่าสิบราย เยอะมาก

"เฮ้อ~" ถอนหายใจทิ้งอย่างผิดหวังแล้วลุกเดินกลับเข้ามาในบ้าน รู้สึกโลกเบี้ยวไปเลยยังไงชอบกล
นั่งๆ นอนๆ หาไรกินเล่นก็ไม่หายเบื่อ การ์ตูนที่ซื้อมาเก็บไว้ก็ดูหมดแล้ว เกมส์ใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยโดน ใจมันเรียกหาแต่อัมพวาๆ ทุกๆ ลมหายใจ
เค้าอยากไปเที่ยว อยากไปกินปูกินกุ้ง อยากไปนั่งเรือชมหิ่งห้อย อยากไปๆๆๆๆๆ แง~
(อารมณ์นั้นจำได้ขึ้นใจเลยครับ เพราะปัจจุบันมักเป็นตลอด ป๋าก็นะ ตัวเองพาไปไม่ได้ก็ไม่ยอมปล่อยให้ผมไปเอง น่าเบื่อ)

"ไปเดินเล่นดีกว่า" พูดกับตัวเองเสร็จก็เดินขึ้นบ้านไปหยิบตังค์ในกระเป๋ามาสองร้อย
ลงบ้านมาใส่อีแตะ ยังไม่ทันผลักประตูรั้วป๋าก็ตะโกนถามเสียงเข้ม

"ไปไหนครับ" น่ากลัวฝุดๆ
"ไปตลาดหน้าหมู่บ้าน จะไปสร้างจิตนาการว่าได้ไปอัมพวา" ประชดได้อีกกรู
"ไม่ต้องไปครับ แดดร้อน" ผิวกรูทนได้
"ให้แดดมันโดนผิวบ้างเหอะ อยู่ในบ้านมาสองอาทิตย์จนจะจำความรู้สึกว่าแดดมันร้อนยังไงไม่ได้อยู่และเนี่ย" เอาเข้าไป เกรียนมันเข้าน้องเอ
"อย่าดื้อครับ กลับเข้ามานี่" ป๋าเดินมาลากผมเข้าบ้าน แล้วตัวเองก็ออกไปเก็บข้าวเก็บของเก็บงานกลับเข้ามาหาผมที่ยืนหน้าหงิกไม่ยอมขยับ
"นั่นก็ไม่ไป นี่ก็มาห้าม อยากให้ผมเฉาตายนักไงหะ" น้ำเสียงค่อนแคะ ป๋าส่ายหัวก่อนจะเดินหิ้วของขึ้นบ้านไป
มันน่าจับหักคอนักเชียว ตาแก่เอ๊ย!

"ไปครับ" ป๋าลงมาพร้อมกับการแต่งตัวใหม่ เชื้อเชิ้ตสีฟ้าแขนยาว กางเกงสีเทาขายาว ถุงเท้าดำ หน้าหล่อเวอร์(อวยผัวอีก)
"ไปไหน" หน้าผมยังบูดอยู่ น้ำเสียงจึงออกแนวแข็งกระด้างไม่น่าฟัง
ป๋าชินแย้มยิ้มแล้วเข้ามาจับหัวผมโยกสองสามทีอย่างเอ็นดู

"ไปตลาดครับ"
"ตลาดนัดหน้าหมู่บ้าน จำเป็นต้องแต่งตัวเหมือนไปเดินห้าง?"
"ฮะๆ ไม่ได้ไปตลาดนัดครับ แต่พี่จะพาน้องเอไปตลาดอัมพวา" ได้ยินคำว่าอัมพวาจากปากป๋าชิน ผมก็ยิ้มออกในทันใด
หูยยย ฝันที่เป็นจริง

"พาไปจริงอ่ะ" กระโดดกอดคอป๋าอย่างรวดเร็ว
"จริงครับ"
"ไม่ทำงานเหรอ งานเยอะนะ เสร็จไม่ทันไม่รู้นะ" ปากพูดเหมือนห่วงแต่ใจผมนี่ไปคอยอยู่ที่อัมพวาแล้วครับ
"กลับมาค่อยเร่งทำได้ครับ อยากพาเด็กดื้อไปเปิดหูเปิดตาบ้าง กลัวจะเฉาตายคาบ้าน" ป๋าพูดยิ้มๆ
"โอ๊ย รักป๋าที่สุดเลยอ่ะ ฟอดดดดดดด" หอมแก้มด้วยรักที่เติมเต็มไปหนึ่งที
"ไปครับ อย่ามัวแต่คุย เดี๋ยวไม่ถึง" ป๋าแกะแขนผมออกจากคอแล้วจับมือจูงไปขึ้นรถเบนซ์ขาวคันงามทันที

ระหว่างการเดินทาง อยู่ในรถผมก็ร้องเพลงหนึ่งที่ชอบมากให้ป๋าชินฟัง
อยากรู้ล่ะสิว่าผมร้องเพลงอะไร
.
.
.
.
.
วิ่งหารักมาอ่อนใจ
เอื่อยไหลซบทรายกระเซ็น
ชื่นฉ่ำเย็น อยากเป็นน้ำ เซาะทราย
โลกของฉันมีแต่เธอ
เฝ้าฝันละเมอไม่วาย
อยากบอกทราย กับสายน้ำ จำนรรจา
ว่ารัก ฉันสร้างจากทราย
อาจสลาย เพียงในพริบตา
คลื่นรัก ทยอยสาดมา
เซาะอุรา น้ำตา กระเซ็น
แอ่งน้ำนั้นปลาใฝ่ปอง
แต่รักของทรายจะเย็น
ไม่วายเว้น ต้องการน้ำ เซาะทราย
โลกของฉันมีแต่เธอ
เฝ้าฝันละเมอไม่วาย
อยากบอกทราย
กับสายน้ำ ในความจริง
ว่ารัก ฉันสร้างจากทราย
อาจสลาย เพียงในพริบตา
คลื่นรัก ทยอยสาดมา
เซาะอุรา น้ำตากระเซ็น
แอ่งน้ำนั้นปลาใฝ่ปอง
แต่รักของทรายจะเย็น
ไม่วายเว้น ต้องการน้ำ เซาะทราย
โลกของฉันมีแต่เธอ
เฝ้าฝันละเมอไม่วาย
อยากบอกทราย
กับสายน้ำ ในความจริง



น้ำเซาะทราย (จำรัส เศวตาภรณ์)
เพลงนี้เนื้อหาดีมาก ผมชอบแล้วก็เคยร้องได้รางวัลในงานมหาลัยด้วยตอนปีหนึ่ง
ตอนนั้นป๋าก็ออกปากชมตลอดว่า ถ้าความรักของผมกับแกเป็นดังในเพลงนี้คงดีไม่น้อย ซึ่งปัจจุบันก็เหมือนจะยังไม่ใช่นะ คริคริ

"ชอบป่ะ" ฉีกยิ้มกว้างให้แกเมื่อร้องจบ
"มากครับ ร้องไม่มีผิดคีย์ด้วย" ป๋าชินยิ้มหวานชมก่อนจะโน้มมาจูบผมขณะจอดรอไฟเขียว
"บ้า เดี๋ยวชาวบ้านเขาก็เห็นหรอก" จริงๆ ฟิล์มทึบครับ เขินเลยอ้างไปเฉยๆ
"เห็นก็เห็นไปสิ"
"ป๋าไม่อายไงถ้าใครเขารู้ว่าเราเป็นคู่เกย์"
"ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหน" ป๋ายักไหล่ไม่ใส่ใจแล้วเหยียบคันเร่ง
"ทั้งๆ ที่เราผิดปกติน่ะเหรอ"
"ถ้าความรักของเราจะทำให้พี่ผิดปกติ พี่ก็ยอมที่จะเป็นแบบนั้น ดีกว่าเป็นคนปกติที่ไม่มีรักครับ" โอ้ว คมกริบ บาดใจ ฮ่าๆ
"พูดดีนะเราอ่ะ" ผมก็ยิ้มๆ
"งั้นคืนนี้พี่ขอรางวัลนะ" นั่นไง โดนกรูทุกที
"ครั้งเดียวไม่มากไม่เกิน ขี้เกียจส่งศูนย์" ใช้งานทุกวันยังจะมีขอรางวัล เดี๋ยวเถอะ
"ไม่แถมเหรอครับ" ทำหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยเชีย
"ไม่แถม ไม่พอใจก็อดไปเถอะ ดีผมจะได้พักมั่ง"
"ไม่เอาครับ ไม่อด เดี๋ยวแก่ตัวไปไม่ได้เอา"
"ทุกวันนี้ไม่แก่ไง"
"ยังเอาได้ทุกวันครับ"
"ทลึ่ง"
ป๋าชินยิ้มขำแล้วก็ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับผมถึงเรื่องนี้อีกจนไปถึงตลาดน้ำอัมพวา

บ่ายแก่ๆ คนไม่เยอะ(สมัยเกือบสิบปีก่อนยังไม่ค่อยบูม) มีแต่แม่ค้าเสียส่วนมาก
ผมซื้อน้ำมาขวดตัวเองดื่มเสร็จก็ส่งไปให้ป๋าชิน จากนั้นเราสองคนก็เดินดูนั่นดูนี่ไปตามประสา
เห็นเสื้อคู่น่ารักผมก็ซื้อ เห็นของฝากน่ารักผมก็ซื้อ เห็นนั่นเห็นนี่ซื้อแหลกเลยทีนี้ ป๋าเองก็ไม่ได้ว่าอะไร
ทำแค่จ่ายตังค์กับถือของเงียบๆ สงสัยเก็บปากไว้บนรถ

"ป๋าเอาของไปเก็บก่อนเปล่า" เห็นป๋าถือของเต็มสองไม้สองมือเหงื่อโชกเต็มตัวแล้วนึกสงสาร
แต่ได้ข่าวว่าของผมทั้งนั้นนะนั่น ตัวเองไม่ถือไรสักอย่างเดินตัวปลิวเป็นคุณนายเลยครับ

"อื้ม" สั้นๆ ผมก็เอามือปาดๆ เหงื่อที่หน้าให้แก ทว่าของก็ยังไม่ช่วยถือเหมือนเดิม
"งั้นก็ป่ะๆ จะได้ไปหาไรกินก่อนไปนั่งเรือดูห้อย"
"อะไรห้อยนะ" ป๋าถามหน้างงกับคำเรียกแปลกๆ ของผม
"หิ่งห้อยไง ขี้เกียจเติมหิ่งอ่ะ เลยห้อยเฉยๆ"
"อ้อ ครับ" ป๋าพยักหน้าเป็นอันว่าจบ
เอาของมาเก็บท้ายรถเสร็จผมกับป๋าก็ไปหาร้านนั่งชิลกัน หิวมากเวลานั้น ร้อนด้วยอยากได้พัดลมสักตัว

"น้องเอจะกินกุ้งเผาหรือนึ่งครับ" ป๋าถามขณะดูเมนูอาหารที่พนักงานเอามาให้
"เผา" ผมตอบไปจิบแปบซี่ไป ฮ้า~ ชื่นใจแท้
"ปูเผาด้วยมั้ย?"
"นึ่ง"
"หมึกล่ะ"
"ย่าง" เอ๊ะ เผากับย่างเหมือนกันป่ะครับ ผมไม่รู้ไม่เคยทำ
"พวกน้ำๆ ล่ะ"
"ต้มยำปลาทูใส"
"แล้ว..." ป๋าเลิกคิ้ว
"ที่เหลือป๋าสั่งละกัน"
"โอเค งั้นเอา..." ร่ายยาวไปอีกสามสี่อย่าง
พนักงานรับไปทำหน้างงไปเนื่องจากผมมากันสองคน แต่สั่งอาหารเหมือนมาเป็นสิบ

"สนุกมั้ยครับ" ป๋าชินยิ้มถามหลังพนักงานเดินจากไป
"ก็ดีนะ"
"อืม" ป๋าชินรับคำไปก็ทำหน้าเศร้าๆ
"เป็นไรอ่ะ"
"เปล่าครับ ไม่มีอะไร" มามุขนี้เป็นตลอด อย่าหาว่าน้องเอคนนี้จะไม่รู้
"วันนี้ผมมีความสุขมาก ได้เที่ยวกับป๋าสองคนเหมือนก่อนหน้าจะคบกันใหม่ๆ ได้ทำอะไรด้วยกันมากกว่าเดิม ทำให้เรื่องแย่ๆ
ที่ผ่านมาปลิวหายไปเลย ขอบคุณนะครับที่ยอมหยุดทำงานแล้วพาเด็กดื้อๆ อย่างผมมาเที่ยวแบบนี้ ผมรักป๋าครับ" เป็นไง พอใจคุณแล้วหรือยัง?

ป๋าชินยิ้มออกทันทีที่ผมอธิบายความรู้สึกทั้งหมดให้ฟัง "พี่ก็ขอบคุณที่น้องเอยังอยู่กับพี่ครับ"

"รักมากขนาดนี้ จะไปไหนได้" ผมเอาเท้าเปล่าเขี่ยๆ ขาป๋าชินแก้เขิน
"อ้อ น้องเอพี่มีอะไรจะบอก"
"ไรอ่ะ"
"พรุ่งนี้พี่คงไม่กลับบ้านนะครับ ต้องเคลียร์งานที่สุมอยู่ให้เสร็จทันลูกค้า อาจจะไม่กลับสองสามวันเลย น้องเออยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย"
"หูย สบาย" ตอบแบบอยากให้คนฟังสบายใจ แต่ทำม้ายทำไมมันทำหน้าเหมือนคนปวดท้องคลอดเลยวะ
"ไม่อยากไปกับพี่เหรอครับ" เอาใจยากชิบ ผู้ชายคนนี้
"ผมไม่อยากไปเกะกะป๋าง่ะ"
"ไม่กลัวพี่คิดถึง?" ตกลงจะลากผมไปให้ได้ใช่ป่ะเนี่ย
"เออ จะได้ไม่เบื่อไง เห็นหน้ากันทุกวัน"
"ต่อให้เห็นทุกลมหายใจก็ไม่เบื่อครับ"
"เอางี้ ป๋าอยากให้ผมไปใช่มะ"
"อยากมากกกกกก" ก็แค่นั้น
"เออ ไปก็ได้ แต่ไม่สัญญานะว่าจะไม่ป่วน"
"อื้อ"

อาหารวางเต็มโต๊ะต่างคนก็ต่างกิน ไอ้ที่กินยากๆ อย่างเช่นปูป๋าชินจะเป็นคนแกให้
บริการดีมากจนอยากหอมแก้มโชว์คนทั้งร้าน ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าประเทศไทยยังไม่ค่อยเปิดกับเรื่องชายรักชายน่ะนะ

"อร่อยมั้ยครับ"
"อื้อ" ตอบไปก็โซ้ยหัวกุ้งแม่น้ำไป มันเยิ้มๆ เป็นอะไรที่สุดยอดมากครับ
"เอาอีกมั้ย พี่จะได้สั่ง"
"ผมอยากเอากลับบ้านไปฝากแม่กับพ่ออ่ะ"
"งั้นสั่งสักสามโลเนอะ เผื่อพี่ๆ น้องๆ ของน้องเอด้วย"
"อื้อ เอาปูด้วยนะ แม่ชอบ"
"โอเค" ป๋าพยักหน้าตอบก่อนเรียกพนักงานมาสั่งของ
"เอากุ้งแม่น้ำเผาสามกิโลกับปูนึ่งสามกิโลครับ ใส่กล่องนะ แล้วคิดเงินเลย"
พนักงานจดรายการเสร็จก็กลับไป ป๋าหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง

"แวะบ้านพ่อกับแม่ก่อนกลับใช่มั้ยครับ"
"ตามนั้นแหละ" ดูดหัวกุ้งต่อ จ๊วบๆ
"อยากได้อะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า"
"ไม่อ่ะ ไอ้ที่ซื้อไปก็เยอะละ ของฝากพวกไอ้เบียร์ ไอ้หงำกับนังต่ายก็ได้แล้วด้วย"
"เสื้อสกีน กูรักมึงว่ะ นี่ของใคร ใช่ของหงำป่ะ" ป๋าชินถามอย่างรู้ทัน
"อื้อ เอาให้มันใส่ให้ไอ้เบียร์บูดดู"
"ทำใจได้แล้วเหรอรายนั้น"
"ไม่รู้สิ" ยักไหล่ตอบ
ตั้งแต่กลับจากต่างจังหวัดมา หงำมันก็กลับมาพูดมากเหมือนเดิม ทว่าบรรยากาศกลับไม่เหมือนเดิมเลย
พวกเราอยากรู้ว่ามันไปไหน ไปทำอะไรมาบ้างก็ไม่มีใครกล้าถาม นอกจากไอ้เบียร์ซึ่งก็ไม่ได้คำตอบอะไรกลับมาเช่นกัน
แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ ครั้งสุดท้ายที่ผมเจอหงำในงานสละโสดของนังต่าย มันก็ยังไม่ยอมบอกอยู่ดีครับ กระตุ้นต่อมอยากรู้กันสุดๆ อ่ะ

"เป็นอะไร ตอบพี่เสร็จก็เงียบเชียว" ป๋าจ่ายตังค์ค่าอาหารแล้วหันมาถามหน้าตาเป็นห่วง
"อิ่ม เอิ๊ก~" เรอใส่แถมให้ด้วยเลยเป็นไงล่ะ ฮ่าๆ
"อื้อ งั้นเอาของไปเก็บที่รถอีกรอบแล้วไปห้อย เอ้ย ไปดูหิ่งห้อยกันครับ"
"จัดไป"


*********************************************


ดูหิ่งห้อยกันกว่าจะกลับถึงบ้านก็ปาไปเที่ยงคืนกว่า อดให้รางวัลป๋าชินเลย
เพราะต้องแวะเอาของฝากไปให้พ่อกับแม่และเจ้าหนูแดงหลานสุดที่รักด้วย
ฟัดแก้มนิ่มๆ ของหลานไปหลายทีจนเฮียเอฟต้องเอาลูกหนีขึ้นบ้าน แหม ใครใช้ให้มันน่ารักล่ะครับ
เผลอเล่นเพลินจนคนข้างๆ อิจฉาเลย คริคริ~

**************************************************

ตอนพิเศษแถมเล็กๆ เมื่อวานออกไปกินข้าวนอกบ้านกับครอบครัวใหญ่มา
ป๋าไม่อยู่ ไปเยี่ยมแม่ที่เยอรมันหนึ่งอาทิตย์ ส่วนผมต้องเฝ้าโรงพิมพ์คอยตามงานจากแกที่นู้นแล้วส่งให้ลูกน้องอีกที


เสียงริงโทนรอสายจากซัมซุงดังอยู่บนหหัวเตียงในตอนเช้า
ผมควานหาสะเปะสะปะ แล้วกดรับแต่ไม่กรอกเสียง ขี้เกียจอ้าปาก

"น้องเอ ตื่นยังครับ"
"อืม" ครางในลำคอตอบทั้งๆ ตายังหลับ
"ตื่นได้แล้วครับคนเก่ง" จะใช้ให้ทำไร ผมจะกลายเป็นคนเก่งของป๋ามาทันที
"อืม"
"อืมก็ไปอาบน้ำล้างหน้าครับ"
"ต้องเอาโทรศัพท์ไปด้วยมั้ย" ประชดแต่อย่าคิดว่าป๋าชินแกจะรู้สึกรู้สา
"ดีครับ พี่จะได้รู้ว่าเราอาบจริงๆ ไม่ได้แอบหลับต่อ" น่านไง
"เออ" สะบัดเสียงตอบแล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจเดินถือโทรศัพท์เข้ามาในห้องน้ำพร้อมผ้าขนหนูหนึ่งผืน
เปิดโฟนเร่งเสียงจากนั้นก็วางบนขอบอ่างล้างหน้า เป็นแบบนี้ทุกเช้าตั้งแต่แกไปต่างประเทศ

"แปรงฟันแล้วนะ" ผมว่า
"ครับ"
"ล้างหน้าแล้วนะ"
"ครับ"
"อาบน้ำแล้วนะ"
"ครับ"
"ถูสบู่แล้วนะ"
"ครับ"
"เสร็จแล้วนะ"
"....."
"อ้าวไม่ตอบอ่ะ"
"ไม่เล่นครับ โตแล้วน้องเอ อาบน้ำเร็วๆ เข้า" รู้ได้ไงว่ากรูเล่น แต่จริงๆ ก็ถูกแหละ
"รู้ได้ไงอ่ะ"
"คบกันมากี่ปีแล้วครับ"
"จะสิบปีละ"
"ก็นั่นล่ะครับ ถ้าไม่รู้คงเป็นคนรักน้องเอต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ"
"โห ให้จริงเหอะ เออ ไม่เล่นก็ได้ จะอาบน้ำละ กิ๊กรออยู่"
"จับได้ว่ามีจริงจะโดนดี" ขู่ตลอดดดด
"ย่ะ ไม่คุยละ จะแปรงฟัน วางได้ก็วางไปเลยนะ" ผมว่าแล้วบีบยาสีฟันทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ ออกมาเช็ดตัวมองมือถือ...
แม่งยังไม่วางอีก ได้ข่าวว่าท่านเป็นเจ้าของโรงพิมพ์นะครับ ไม่ใช่ผู้ผลิตค่าโทรทางไกล กลับมาคราวนี้ยอดคงมิใช่น้อย เห่อๆ

จบความยาวสาวความสั้น


**************************************************

ปล. อยากไปเที่ยวเพชรบูรณ์
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 9 (09/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-02-2014 16:35:59
เห็นเขาเที่ยวก็อยากไปบ้าง
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 9 (09/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 09-02-2014 18:12:36
ป๋านี่ก็ขี้น้อยใจเหมือนกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 9 (09/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 09-02-2014 18:20:47
เอาใจคนสูงวัยหน่อย วัยนี้ขี้เหงาา  :laugh:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 9 (09/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-02-2014 18:40:28
รักคนแก่
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 9 (09/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 09-02-2014 22:30:22
ไม่เคยไปอัมพวา .. แต่ชีวิตนี้อยากจะลองไปดูสักครั้ง ((โทษสองคนนี้กระตุ้นต่อมกิเลสเรา))

รักคนเขียน อยากจับคนเขียนมาฟัด .. เขียนได้น่ารักอะไรขนาดนี้

จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 9 (09/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 09-02-2014 22:42:08
ป๋าชิน ช่างแสนดีจริงๆ ดีเว่อร์สุดๆ อิจฉาเอจริง ควรทำตัวให้ดีๆด้วยนะ เอ น่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 9 (09/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-02-2014 23:15:21
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 11-02-2014 06:37:22
รักบอดๆ ตอนที่ 10 (โอ๊ะ เลขสองหลัก)




หากพูดถึงหน้าที่ของคนเป็นเมียป๋าชินอย่างผมนั้น
นอกจากหน้าที่หลักบนเตียงแล้ว คงไม่พ้นฉุดแกให้ตื่นจากฝันทุกๆ เช้า
เพราะถ้าผมขืนปล่อยให้นาฬิกาปลุกแกอย่างเดียวนะเหรอ เชื่อเถอะ เป็นได้สายทุกที

เช้าวันจันทร์ ล้างหน้าอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยและไม่ลืมตรวจเช็คความหล่อตัวเองในกระจก
ผมก็เดินมาปลุกคุณป๋าให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำบ้าง

"ป๋าชินตื่นครับ จะแปดโมงแล้ว" ไม่มีกระดิก
เสียงถอนหายใจอย่างทุกทีก็ไม่มี สงสัยเพลียจากไปเที่ยวอัมพวาเมื่อวาน ไม่เป็นไรเอาใหม่

"ป๋าชินครับ ตื่นเถอะ เดี๋ยวไปทำงานสายไม่รู้นะ ตื่นนะครับที่ร๊ากกกกก" ยื่นหน้าลงไปกรอกเสียงหวานๆ ข้างหู
"อือออออ ห้านาที" มามุขนี้ทุกเช้า น้องเอก็ไม่ไหวเหมือนกันนะครับ
"ไม่ห้าแล้ว ตื่นได้แล้วน่ะ ไม่งั้นผมไม่ไปทำงานเป็นเพื่อนแล้วนะ"
"อื้ออออ เตรียมเสื้อผ้ายังครับ" ป๋าชินถามเสียงอู้อี้ ทั้งๆ ที่ยังหลับตา
"ป๋าไม่ได้เตรียมไว้ไงเมื่อคืน"
"อืม..." ตอบเท่านี้ก็ดึงผ้านวมไปกอด โคตรจะมึน
"ผมต้องทำใช่มั้ยเนี่ย" บ่นแต่ก็เดินไปหน้าตู้เสื้อผ้า ในเวลานั้นขอให้ได้บ่นเถอะ ไม่งั้นอึดอัดตายชัก
"เมื่อก่อนไม่มีผมเป็นงี้มั้ยเนี่ย ต้องให้ปลุกทุกเช้า ให้บ่นทุกเช้า เดี๋ยวเถอะน่ะ เดี๋ยวจะหนีไปหาผัวใหม่"
ดึงกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมาจากหลังตู้ได้ ผมก็เลือกเสื้อผ้าของคนสองคนที่จะเอาไปเปลี่ยนออกมาให้พอดีกับวันที่จะไปค้าง
จากนั้นก็เดินไปยืนเอ๋อหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะของใช้ของป๋าเยอะถึงเยอะที่สุดอ่ะ ก็หยิบๆ ครีมทาผิว โลชั่น น้ำหงน้ำหอม เครื่องประทินโฉม
ทั้งหลายแหล่ที่คิดว่าป๋าต้องใช้แน่ๆ ใส่กระเป๋า ซึ่งแม่งเป็นอะไรที่น่าเบื่อสำหรับคนที่ไม่ค่อยใส่ใจหนังหน้าตัวเองเท่าไรอย่างผมมากครับ
เอาไปผิดก็งอนหาว่าไม่ใส่ใจตลอด ลองคิดๆ ตอนนี้แล้วอยากข้ามประเทศไปตบกบาลดีแท้ อุ๊ย! นอกเรื่อง แฮ่ๆ

"ป๋าชินตื่น ผมเก็บกระเป๋าเสร็จแล้ว" เก็บเสร็จผมก็เดินมาปลุกแกอีกรอบ
อารมณ์ไม่โปร่งเหมือนครั้งแรกที่ปลุกด้วย

"อืออออ" อือแต่ไม่ตื่น ดีจริงๆ แต่ถ้าจะเอาแบบนี้ก็สวยสิครับ

ผมเดินเข้าห้องน้ำแล้วกลับออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่เปียกชุ่ม พอถึงตัวป๋าชินได้ก็จัดการสะบัดใส่แกเต็มแรงเลยครับ น้ำกระจาย
ที่นงที่นอนเปียกเชด ป๋านอนเพลินๆ สะดุ้งพรวดขึ้นมาทันที หน้าเน้อเหรอครับ เหมือนคนบาปที่โดนน้ำมนต์สาดอย่างไรอย่างนั้น

"อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำนะ ผมจะถือกระเป๋าลงไปรอข้างล่าง" ผมแอบกลั้นยิ้มสะใจ
"นิสัยไม่ดีนะคนเรา" ป๋าบ่นตามหลังผมที่เดินยิ้มกว้างลงมาข้างล่าง

ป๋าใช้เวลาจัดการตัวเองประมาณครึ่งชั่วโมงก็ลงตามมา หน้านี้บอกบุญไม่รับเชีย

"อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ" ป๋าว่าพลางเดินไปสวมรองเท้าหน้าประตู
"ทำอะไรเหรอ?" ผมก็แกล้งตีหน้าซื่อถาม รู้แหละว่าเป็นเรื่องวิธีปลุกแก แต่อยากกวนประสาท
"ที่ปลุกพี่เมื่อเช้ารู้มั้ยครับ ว่าพี่ต้องมาเสียเวลาเปลี่ยนผ้าปูแล้วก็เก็บข้าวของทั้งหมดที่เปียกเลยนะ"
นั่นมันความผิดของคุณเองมิใช่หรือ?

"ปลุกดีๆ ไม่ตื่นเองนี่" ผมลอยหน้าลอยตาไม่ระคายเคืองหน้าตาโกรธๆ ของแกสักนิด
"ถ้ามันลำบากนักก็ไม่ต้องปลุกครับ" หน้าหงิก เสียงงี้เข๊มเข้ม
"เออ ก็ได้ ไม่ปลุกก็ได้ เชอะ" เดินสะบัดก้นออกมาที่รถ
เบื่อจริ๊ง~! ไอ้คำพูดตัดพ้ออย่างไม่มีเหตุผลของแกเนี่ย

หลังจากต่อล้อต่อเถียงกันพอหอมปากหอมคอ
การเดินทางอันแสนเงียบก็ได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมๆ กับบรรยากาศมึนตึงใส่กันของพวกผมสองคน
เกือบถึงจุดหมายปลายทาง ในที่สุดป๋าชินก็ต้องเป็นคนทำลายความเงียบง้อผมขึ้นมาซะเอง

"น้องเอจะกินข้าวเช้ามั้ยครับ"
ผมหันจากกระจกข้างมามองแกแวบหนึ่งแล้วหันกลับทางเดิมก่อนตอบ "ไม่"

"อย่าประชดครับ เดี๋ยวเป็นโรคกระเพาะ" เคยกลัวที่ไหน
"เปล่าประชด แต่มันไม่หิว" ที่จริงหิวมาก ทว่าทิฐิมันค้ำคอ
"งั้นกินโจ๊กมั้ยครับ เบาๆ" ป๋าชินเสนอ
"กินไม่ลง"
"น้องเอดีๆ ครับ ไม่ทำเป็นเล่น" เออ กรูเล่นตรงไหนครับ?
"......" งั้นไม่ตอบดีกว่า
"น้องเอ!" ป๋าชินขึ้นเสียง
พอหันไปมองก็เห็นว่าแกกำลังทำตาเขียวใส่ผมอยู่

"ขับรถก็มองถนนสิป๋า มองผมทำไม เดี๋ยวก็ได้ไปชนใครเขาเข้าหรอก"
"ถ้าไม่เห็นว่าขับรถอยู่จะตีด้วยครับ ไม่ใช่มองอย่างเดียวแน่" หูยยย น่ากลัวอ่ะ
"โห ผมแค่ปลุกป๋าด้วยวิธีแปลกๆ แบบเปียกๆ แค่นี้ถึงกับจะตีกันเลยเหรอ"
"ไม่ใช่ตีเรื่องปลุก แต่จะตีเรื่องดื้อครับ ตกลงจะกินโจ๊กมั้ย ตอบมาให้ดีนะคราวนี้" ขู่อีก ชิส์
"เออ กินก็ได้ ใส่ใข่ ไม่กระเทียม ขิงเยอะๆ สองเลย" ผมสั่งก่อนเลยครับ เพราะรู้ว่าป๋าจะไปซื้อร้านไหน
เป็นร้านรถเข็นของสองผัวเมียแก่ๆ ที่เปิดขายอยู่แถวโรงพิมพ์ป๋าน่ะครับ เปิดขายตอนตีห้าถึงสิบโมง
ไม่มีโต๊ะนั่งคอยบริการ คนซื้อจึงต้องสั่งใส่ถุงเอากลับไปกินเอง รสชาติอร่อยสมราคาเขาแหละ (น่าจะสิบบาทใส่ไข่สิบห้ามั้ง)

"เอาปาท่องโก๋มั้ย?" ป๋าถามอีก
"เอา"
"อืม" พยักหน้าแล้วก็ไม่พูดอะไรอีกจนถึงตึกสี่ชั้นสามคูหาที่สร้างติดถนนหลักอันเป็นโรงพิมพ์ของป๋าชินนั่นเอง

ถ้าให้อธิบายระเอียดผมว่าคงยาก เอาเป็นว่า
ชั้นล่างเลย พื้นที่ส่วนหนึ่งหรือก็คือหนึ่งตึกใช้เป็นออฟฟิคต้อนรับลูกค้าและห้องทำงานของพวกฝ่ายศิลป์
อีกสองตึกที่เหลือเป็นพื้นที่สำหรับเครื่องจักรในการพิมพ์หนังสือต่างๆ

ชั้นสองใช้เป็นห้องทำงานส่วนตัวกับห้องพักของป๋าชิน
ชั้นสามใช้เก็บหนังสือและสิ่งพิมพ์อื่นๆ แน่นอนว่าเหลือแค่ทางเดินให้ขึ้นบันไดได้เท่านั้น
ส่วนชั้นสุดท้ายเป็นห้องพักสำหรับพนักงาน(ที่มีกันทั้งหมดเก้าชีวิต)จำนวนหกห้องครับ

"น้องเอเข้าไปรอพี่ในห้องทำงานก่อนก็ได้ เดี๋ยวพี่ซื้อโจ๊กเสร็จจะเดินตามเข้าไป" ป๋าชินบอกขณะจอดรถ
"โอเค" ผมตอบแล้วเปิดประตูรถเดินเข้ามาในตึกตามนั้น
"อ้าว น้องเอมาได้ไงครับเนี่ย" พี่โต้ที่อยู่ฝ่ายคุมเครื่องจักรและตรวจเช็คสภาพเงยหน้าจากงานที่ทำ
"นั่งรถมาครับ" เกรียนเป็นนิสัยครับ คนไม่สนิทผมก็สามารถเกรียนได้ถ้าอยาก คริคริ
"ไม่เคยตอบดีๆ สักครั้งเลยนะครับ" พี่โต้พูดยิ้มๆ
"รู้ทั้งรู้ก็ยังจะถาม" ผมก็พูดลอยๆ เดินผ่านพี่แกมาขึ้นบันได
"แล้วคุณชินอ่ะ น้องเอ"
"ซื้อโจ๊กอยู่ฝั่งตรงข้าม" ผมตอบ
"อ้อ"
"งั้นผมไปนะ" ผมไม่ยอมอยู่ให้พี่โต้พูดถามอะไรได้อีกหรอกครับ
เดินขึ้นชั้นสองเข้ามาเปิดแอร์แล้วนั่งเอื่อยอยู่บนชุดโซฟาหนังสีดำในห้องทำงานป๋าชินที่แสนจะธรรมดาสุดๆ
ไม่นานเจ้าของห้องก็ตามเข้ามาพร้อมโจ๊กสองชามในมือกับถุงปาท่องโก๋ กลิ่นงี้หอมยั่วน้ำลายดีชะมัด

"รอนานมั้ยครับ"
"นิดนึง แล้วน้ำอ่ะ?"
"เดี๋ยวลูกเกตยกตามมาให้ครับ"
"หัวหน้าฝ่ายศิลป์" ผมเลิกคิ้ว รายนี้ก็ช่างเลือกใช้ลูกน้องจริงๆ
"เห็นลูกเกตกำลังชงกาแฟ พี่เลยวานให้ช่วยอ่ะ" ป๋าชินวางโจ๊กบนโต๊ะกระจกตรงหน้าผมจากนั้นก็นั่งลงข้างๆ
จัดการฉีกปาท่องโก๋ใส่ชามโจ๊กผมให้เสร็จสรรพ
 
"ก็ไม่ได้ว่าอะไร" ผมหยิบช้อนตักโจ๊กมาเป่าๆ ป๋ามันมองยิ้มๆ แล้วอ้าปากเฉย
"ป้อนหน่อย" เรียกร้องความสนใจชิมิ
"เป็นง่อย" ผมถามแล้วเอาเข้าปากตัวเองเลยครับ ไม่ป้อน ฮ่าๆ
"นิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ได้ เช๊อะ~" ทำเสียงค้อนกันเล็กๆ ป๋าก็หน้าบูดตักโจ๊กกินเอง
"ปัญญาอ่อน"
"แค่อยากอ้อนเมีย เขาเรียกปัญญาอ่อนเหรอครับ" ป๋าหันมาทำสายตาตัดพ้อ
"ไอ้ที่สะบัดบ็อบใส่ผมทั้งที่โตกว่านั่นแหละ ปัญญาอ่อน ดูบ้างนี่ที่ไหน สมควรทำหรือเปล่า วู้!"
"ไม่แก่บ้างให้รู้ไปเถอะ"
"ยังไงก็ตามป๋าไม่ทันอยู่ดี" ผมหยักไหล่ไม่ใส่ใจและไม่สนความรู้สึกของอีกฝ่าย
"ใช่สิ พี่มันแก่~~~" เสียงยาวเหยียด โจ๊กไม่ต้องพูดถึง
ป๋าชินกินไม่กี่คำก็ลุกขึ้นไปนั่งทำงานที่โต๊ะ หน้าไม่ยิ้ม ตาไม่มอง เลิกสนใจผมไปเลยเวลานั้น

ก็อกๆๆๆ

"เข้ามาครับ" ป๋าเอ่ยอนุญาต แล้วพี่ลูกเกตซึ่งเป็นสาวสวยในร่างคนงานก่อสร้าง(แต่งตัวอย่างเถื่อน)
ก็ผลักประตูเข้ามาพร้อมกับโถน้ำเปล่าและแก้วสองใบ มีคุ๊กกี้แถมมาในจานเล็กๆ ด้วย

"สวัสดีค่ะพี่ชิน สวัสดีจ้ะน้องเอ ไม่เจอพักเดียวหล่อขึ้นอีกแล้วนะ" พี่ลูกเกตยิ้มทัก
"ขอบคุณครับ พี่ลูกเกตก็ยัง...เอ่อ สวยแบบอาร์ทๆ เหมือนเดิม" หน้าไม่สวยกรูจะไม่คิดว่าเป็นผู้หญิงเลยเหอะ
"เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด แต่งสวยไปก็ไม่ได้ทำให้งานออกมาดี" พี่ลูกเกตเหมือนจะรู้ว่าผมคิดอะไร เธอจึงพูดยิ้มๆ
"เอ่อครับ" รินน้ำดื่ม
"อ้อ พี่ชินคะ" พี่ลูกเกตหันไปหาป๋า
"ครับ" ป๋าเงยหน้าจากแฟ้มงาน
"หนังสือของ...ทางฝ่ายนั้นเขาบอกให้เร่งให้หน่อยได้มั้ยคะ"
"สัญญาเก่าล่ะ?"
"สัญญาเก่าทางเราตกลงว่าจะได้วันที่หนึ่งพฤศจิกายนนี้ แต่ทางเขาบอกขอเป็นสามสิบเดือนนี้ค่ะ"
"อืม บอกเขาไปว่าเราจะทำตามสัญญาเดิมไม่เปลี่ยน งานของเจ้าอื่นก็เร่งเหมือนกัน
ถ้าเลื่อนให้เขางานอื่นที่วางไว้ก็จะรวนไปด้วย พี่ไม่อยากเสียเวลากับงานเล็กๆ แค่งานเดียว"

"ค่ะ งั้นเกตขอตัวไปทำงานเลยนะคะ"
"เชิญครับ" แล้วพี่ลูกเกตก็ออกไป
"ป๋าผมไปข้างนอกนะ" บอกโดยไม่รอให้อนุญาตผมก็รีบชิ่งออกมาอย่างไว
เดินด่อมๆ มองๆ ผ่านกระจกเข้าไปในออฟฟิศพวกฝ่ายศิลป์อยู่ดีๆ ไอ้พี่โต้มันก็เข้ามาทักเล่นเอาซะผมตกใจพ่นคำหยาบออกไป

"พะ...พ่อมึงตาย!"
"เฮ้ย ถึงตายเลยเหรอ" พี่โต้ตกใจไม่แพ้กัน
"โทษทีพี่ ผมเผลออ่ะ ตกใจด้วย อย่าโกรธนะครับ"
ยกมือไหว้คนโตเป็นการใหญ่ ไม่รู้อายุเท่าไร แต่ไม่น่าจะแก่เท่าป๋าชิน

ในสายตาผม พี่โต้จัดว่าหน้าตาดีพอสมควร หุ่นเหมือนช่างเครื่องช่างยนต์ทั่วไปไม่โดดเด่นมาก
ทว่าการพูดการจาดีกว่าพี่อีกคนที่ทำงานช่างเหมือนกันเยอะ แถมยังไม่เคยแอบทำหน้าดูถูกผมที่โดนป๋า
ลากให้มาเที่ยวเล่นที่โรงพิมพ์นี่บ่อยๆ อย่างคนนั้นด้วยอ่ะ

"อืม ไม่เป็นไร ว่าแต่น้องเอมายืนทำอะไรตรงนี้ครับ?"
"ส่องสาว" ว่าแล้วก็เกรียนต่ออีกสักที อิอิ
"สาวเถื่อน? หรือสาวประเภทสอง?" พี่โต้มองผ่านกระจกใสเข้าไปในออฟฟิค
มีหนึ่งหญิง(พี่ลูกเกต) หนึ่งชาย(พี่ปาน) หนึ่งกระเทยถึก(พี่เขียว) กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตัวเอง

"เย้ย~! ลืมตัว"
นี่ล่ะครับ บทลงโทษของคนเกรียนไม่ดูสถานที่ หน้าผมงี้ถอดสีไปถนัดจิต พี่โต้เห็นผมเหวอๆ ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
เหล่าผู้ชายอีกห้าชีวิตที่อยู่กับเครื่องจักรเงยจากหน้าที่ของแต่ละคนขึ้นมามองกันเป็นตาเดียว โคตรอยากต่อยปากไอ้พี่โต้อ่ะ

"หัวเราะดังไปนะ" ผมค่อนแคะ หน้ามุ้ย
"สะใจดี" พี่โต้หยุดหัวเราะแล้วปรับเป็นยิ้มกริ่ม กวนตีน
"คุยกับพี่แล้วผมปวดขมับว่ะ ไม่คุยด้วยแล้ว"
"เดี๋ยวครับ" ไอ้พี่โต้คว้าแขนรั้งตัวผมไว้
"มีไร"
"น้องเอมีแฟนยังครับ" ใช่เรื่องที่คนไม่สนิทกันควรถามมั้ย
"ทำไม"
"ก็...ถ้ายังไม่มี พี่จะได้จีบไง" หน้าเป็นมาก
สาบานได้ว่าตอนนั้นผมคิดว่าไอ้พี่โต้มันล้อเล่น ที่ไหนได้แม่งคิดจริงครับ
ป๋าชินรู้เข้าเกือบถึงขั้นไล่ออกกันทีเดียว(สปอยอีกและ เบื่อเนอะ)

"ประสาทเหรอ ผมผู้ชาย"
"พี่ก็ผู้ชาย" ก็เออเสะ
"อย่ามาตลกเหอะ ปล่อยผมจะขึ้นข้างบน"
"ถ้าน้องเอไม่มีแฟน พี่จะจีบจริงๆ นะ ถึงเป็นผู้ชายก็จะจีบ" ชิชะ คิดจะเล่นของสูง
"ฝันไปเถอะพี่ชาย ผมมีแฟนแล้ว รักกันมากด้วย"
"มีแล้วก็เลิกได้ พี่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย แค่จะจีบเท่านั้นเอง" โห แถซะสีข้างถลอก
"ผมน้องป๋าชินนะ" สะบัดมือที่ถูกจับมาชี้หน้าตัวเอง
"น้องไม่ใช่แฟน"
"ถ้าบอกแฟนล่ะจะเชื่อมั้ย" เอาวะ ไม่อยากมีปัญหา
"ตลกละ พี่ไม่เชื่อหรอก" ไอ้ปลวกเอ๊ย ขอยืมคำของนังต่ายมาด่าหน่อยเถอะ ตื๊อชิบหาย
"ไม่เชื่อก็ช่างพี่แล้วกัน ถ้าอยากมีปัญหากับหน้าที่การงานมากจะจีบผมก็ชิญ"
บอกปัดๆ แล้วเดินอารมณ์เสียกลับขึ้นมาในห้องทำงานป๋าชิน

"ไปไหนมาครับ" ถามทันทีที่ก้าวเท้าแรกเข้ามาในห้อง
ประตูยังไม่ทันปิด หน้าตาคนถามก็ดูไม่ค่อยพอใจอีกต่างหาก หนีเสือประจรเข้ชัดๆ ไอ้น้องเอ

"ไปเดินเล่นไง ตอนออกไปก็บอกไว้นี่"
"ใครอนุญาตครับ"
"ไม่มีใครอนุญาต แต่อยากไปมีอะไรมะ ยุ่งจริง" ยกขาเหยียดยาวไปบนโซฟาในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน
"ใช่สิ พี่มันยุ่งตลอดนั่นล่ะ"
"รู้ตัวด้วย เก่งแล้วนะเดี๋ยวนี้" แหย่ไปตามประสา
"หึ" ทำเสียงแค่นี้แล้วตามด้วยเสียงคลิกเมาท์รัวๆ
ผมก็ปล่อยไปนะ อยากทำไรทำไปโล้ด เพราะปวดหัวจริงๆ


************************************


ยังมีต่อนะจ๊ะ
ตอนหน้าไอ้พี่โต้มันยังกวนได้อีกครับ
ไว้มาติดตามกันครับว่าเหตุการณ์ไอ้พี่โต้มันจะไปเข้าหูป๋าอย่างไร
วันนี้ขอโกทูสลิปก่อน พรุ่งนี้เย็นค่อยว่ากันอีกทีครับ ฝันดี จุ๊บุๆ


********************************


ปล. ไข้ขึ้น แง่ง~ :sad4:
ปล2. คุณลิงภูเขา ถึงขนาดอยากฟัดกันเลยเหรอคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 11-02-2014 07:14:01
 :interest: :interest: :interest:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 11-02-2014 09:06:53
น้องเอน่าจับกดด้วยความหมั่นไส้
อดทนหน่อยนะป๋า
มีเมียเด็กอ่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 11-02-2014 10:16:00
ต้องขอโทษคนเขียนก่อนเลยนะคะ  o1

คืออยากจะบอก เอ นิสัยไม่น่ารักเลย ยิ่งตามอ่านยิ่งรู้สึกไม่ดีเลย นิสัยเอาแต่ใจตัวเอง เกรียน ปากหมา หรืออะไรก็ตาม เป็นกันได้ ทำได้ แต่ก็ต้องรู้จักขอบเขตบ้าง มีมารยาทบ้าง ไม่เกินเลยเพราะมันจะทำให้หมดความน่ารัก

ให้คะแนนบวกเนื้อเรื่องไม่ลง เพราะไม่ปลื้ม เอ  แต่ยังปลื้มป๋าชินแกอยู่ เลยบวกให้คนเขียนแทนแล้วกันนะคะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 11-02-2014 14:08:20
รู้สึกอยากอ่านต่อ  :hao5:

ชอบอย่างจริงจังเลยนะเรื่องนี้  :hao7:

รักคนเขียน ก็อยากฟัดคนเขียน   :จุ๊บๆ:

รอนะ..มารออยู่ทุกวัน จะอ่านๆ o9
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-02-2014 15:33:50
สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 11-02-2014 20:24:31
อยากอ่านต่ออ่ะ  :katai4: :katai4:
มันดูเรื่อย ๆ  แต่ก็ทำงานให้เราติดเรื่องนี้ได้เหมือนกัน :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 11-02-2014 20:54:55
มารผจญญญญญญญ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 18-02-2014 17:07:55
หายไปไหนอ่า มาต่อหน่อย เค้าอยากอ่านนนน  :o12:  :m15:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 18-02-2014 20:01:39
มารอด้วยคน  :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ไม่มาม่านะจ๊ะ
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 19-02-2014 16:13:42
หายไปไหนอ่า มาต่อหน่อย เค้าอยากอ่านนนน  :o12:  :m15:


อิคนเขียนอยู่ในช่วง งานท่วมหัวเอาตัวไม่รอดค่า
แต่งได้วันละนิด แถมอารมณ์ไม่คงที่ ฉะนั้นขอเวลาอีกวันสองวันจะมาลงให้นะคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ขอเวลาสองวันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 19-02-2014 18:08:40
รับทราบค่ะ รอออออออ ><
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 10 (11/02/57)ขอเวลาสองวันค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zhai ที่ 19-02-2014 21:23:28
อ่านชื่อเรื่องแรกๆ ก็กลัวนะ เพราะไม่ชอบมาม่าอ๊ะ
พอเข้ามาอ่านจริงๆ แซ่บบบบบ เวอร์ เลยน่ะ
แบบว่า  ธรรมชาติ เหมือนเขียนไดอารี่
ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์เลย
แถมมุขฮาๆ  ณ ปัจจุบันแถมข้าวสอกระสอบ+หม้อหุงข้าว
โอ๊ย ช่างน่ารัก+ฮากระจายจริงๆ น่ะ
เวลาเศร้าๆ น้ำตากำลังซึมยังยิ้มออกมาเฉยเลย

นิยายแบบนี้ พลาดไม่ได้
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 11 (24/02/57) แถมพิเศษ~
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 24-02-2014 22:33:59



รักบอดๆ ตอนที่ 11





"น้องเอครับ..." เสียงคล้ายป๋าชิน
"น้องเอตื่นครับ" อื้อ ไม่คล้ายและ ท่าจะใช่เลย
ผมค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นทีละน้อย แล้วยันตัวลุกนั่งอึน ให้สมองประมวลผล
สักพักจึงเงยหน้าขึ้นมองป๋าชินซึ่งนั่งหมิ่นเหม่อยู่บนพื้นที่น้อยนิดตรงขอบโซฟาข้างตัว

"เป็นอะไรหรือเปล่าครับ หืม" ป๋าถามด้วยสายตาเป็นห่วง
"อืมมม ปวดหัวนิดหน่อยอ่ะ" ว่าแล้วก็เอามือลูบหน้าลูบตาตัวเองแล้วเอนตัวซบไปบนบ่าของคนข้างกาย
"ตัวไม่ร้อน" ป๋าชินยกหลังมือแตะๆ ไปทั่วใบหน้า พึมพำเบาๆ
"อื้อออ ปวดหัวเฉยๆ ไม่ได้ป่วยสักหน่อย แล้วนี่ป๋าหายหงุดหงิดผมแล้วเหรอ" ถูๆ ไถๆ หน้าไปกับบ่ากว้างอย่างรู้สึกอ้อน
"หืม รู้ด้วยว่าทำให้พี่หงุดหงิด"
"รู้ตัวสิ แต่ผมก็ทำจนติดเป็นสันดานไปแล้วอ่ะ ให้แก้ไขอะไรก็คงยากกกกก"
ผมตอบก่อนจะยกหัวออกมามองหน้าป๋าชินอีกครั้ง ป๋าชินถอนใจน้อยๆ กับคำพูดของผม

"แก้ไม่ได้ ลองลดๆ ลงบ้างก็ดีครับ"
"อืมมมม จะพยายาม"
ถ้าพูดตามหลักนิสัยผมแบบไม่ต้องอ้อมค้อม ให้ลดเกรียนคงพอได้(ซึ่งไม่ทำ) แต่ให้เลิกดื้อกับป๋าผมว่าไม่มีทาง
เพราะขนาดปัจจุบันผ่านมาจะสิบปี ตอนนั้นเป็นอย่างไรตอนนี้ผมก็เป็นอยู่อย่างนั้น ป๋าชินเองก็ดูจะปลงๆ ไปได้นานแล้วเหมือนกัน

"แล้วนี่น้องเอจะออกไปกินข้าวขข้างนอกหรือจะให้พี่ออกไปซื้อ?"
"ข้าว? นี่กี่โมงอ่ะ" ผมทำหน้าสงสัย
"จะบ่ายโมงแล้วครับ"
"อืมๆ" พยักหน้าเข้าใจ
"ตกลงว่าไงครับ"
"เรื่องอะไรอ่ะ"
"ข้าวกลางวันครับ ตื่นดีหรือยังเนี่ยเรา"
"อ้อ ผมออกไปซื้อให้ก็ได้"
"อารมณ์ไหนกัน" ป๋าขมวดคิ้วเล็กน้อยกับการเสนอตัวของผมที่นานทีปีหนจะเจอสักที
และถึงเรื่องจริงมันจะใช่ แต่กรุณาอย่าทำเหมือนเป็นเรื่องหาได้ยากขนาดนั้นได้ป่ะ ชิส์

"ไม่อารมณ์ไหนล่ะ อยากทำก็จะทำ มีปัญหาไง"
"โอเค อยากทำก็ทำครับ แดดร้อนเอาร่มไปด้วยนะ"
ป๋าชิกยกสองมือขึ้นยอมแพ้พร้อมทั้งพูดยิ้มๆ อีกทั้งไม่ลืมที่จะเป็นห่วงสุขภาพของเมียด้วย

"ดี แล้วป๋าจะกินไร"
"น้องเออยากให้พี่กินอะไร ก็อันนั้นล่ะ"
"ทีงี้ทำเป็นพูดเอาใจ" หยิกแก้มแก้หมั่นเขี้ยวป๋าแกไปหนึ่งทีก่อนจะลุกขึ้นคว้าร่มในกล่องข้างประตูมาใช้
"น้องเอ"
"ครับ"
"รีบไปรีบกลับนะครับ เดี๋ยวพี่คิดถึง"
"หูยยยย เยอะนะเราน่ะ"
"ความรักเหรอครับ"
"เรื่องเยอะ" ผมตอบเสียงเข้ม ทว่าป๋าชินได้ยินกลับหลุดหัวเราะชอบใจ บ้าจริงๆ
เดินควงร่มลงมาหยุดยืนหันซ้ายหันขวาตรงหน้าทางเข้าออกโรงพิมพ์

"โอ๊ะ กำลังจะออกไปไหนเหรอครับ" พี่โต้ที่เดินโชกเหงื่อทั้งตัวเข้ามาทัก
"ซื้อข้าวกลางวันอ่ะ" ผมก็ตอบตามมารยาท
"ให้พี่แว๊นไปส่งเอาป่ะ" คนถามทำท่าบิดมอเตอร์ไซค์ประกอบ
"ไม่ครับ เกรงใจ พี่ทำงานเถอะ แต่ถ้าจะฝากผมซื้อล่ะก็ได้นะ"
"โอ้โห น้ำใจงามซะด้วย"
"เหรอ"
"ครับ" พี่โต้ยิ้มตอบตาเล็กหยี
"พอดีเลย พี่ขอเล็กแห้ง ไม่ผัก พิเศษลูกชินนะคะ" พี่ลูกเกตเดินเข้ามาพร้อมกับยื่นแบงค์สีเขียวให้สองใบ
"ยุ่งตลอด"
"น้องเขามีน้ำใจเราก็ต้องรับไว้ ใช่มั้ยจ๊ะน้องเอ"
"เอ่อ ครับ" ยังอึ้งๆ กับการปรากฎตัวของพี่ลูกเกตไม่หาย แต่ก็รับเงินเขามาเรียบร้อย
"งั้นพี่เอาหมี่น้ำ พิเศษด้วยล่ะกัน" พี่ปานเดินเขามาพร้อมกับแบงค์ร้อย ตามด้วยพี่เขียว
"ของพี่เล็กน้ำนะคะน้องเอ ส่วนเงินก็ของอิปานเลยค่ะ"
"เฮ้ยๆ สั่งกันเยอะแบบนี้น้องเขาจะจำได้หมดเหรอวะ" พี่โต้โวยวาย
"เล็กแห้งไม่ผักพิเศษลูกชิ้นของพี่ลูกเกต หมี่น้ำพิเศษของพี่ปาน เล็กน้ำธรรมดาของพี่เขียวใช่ป่ะครับ แล้วของพี่โต้อ่ะ"
ผมทวนรายการของแต่ละคนให้ฟังเร็วๆ จากนั้นก็เหลือบมองหน้าพี่โต้ที่ทำหน้าหงิก

"เฮ้อ~ งั้นเดี๋ยวพี่ขี่รถไปกับน้องเอดีกว่า เฮ้ยไอ้หยัง ยืมกุญแจหน่อย" ตัดสินใจเองเสร็จพี่โต้ก็เดินไปยืมรถกับพี่ช่างอีกคน
"ไม่ว่ากันนะคะน้องเอ" พี่ลูกเกตเปรย
"ครับ?" ผมเลิกคิ้ว
"เอ่อ ก็ที่พี่สามคนเข้ามาฝากซื้อของแบบนี้" สุ้มเสียงออกแนวเกรงใจ
"อ้อ ไม่ครับ อีกอย่างก็ไม่ไกลด้วย"
"เห็นมั้ย ฉันบอกแกแล้ว น้องเขาใจดีจะตาย" พี่ปานหันไปบอกกับพี่เขียว
"ต๊าย หล่อแล้วยังไม่ถือตัว แบบนี้กระเทยรักตายเลยค่า~" พี่เขียวยกมือหนาตีแขนมาเบาๆ ผมก็ได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร
"ไปครับน้องเอ" พี่โต้เข้ามาคว้าแขนผมก่อนจะจัดการลากออกมานอกโรงพิมพ์อย่างรวดเร็ว
"เดี๋ยวพี่ เดี๋ยว ไม่ต้องลากก็ได้"
"ไม่ได้ครับ"
"ห๊ะ?" ผมหน้าเอ๋อ พี่โต้หยุดเดินแล้วหันมายิ้มหวาน
"พี่บอกจะจีบเราใช่มั้ย"
"......" ไอ้ที่เงียบนี่คือตามไม่ทันครับ
"บอกไว้ตรงนี้เลยนะ พี่ไม่มีทางเปลี่ยนใจง่ายๆ หรอก"
"......"
"ต่อให้ถูกปฎิเสธเป็นร้อยก็ไม่เปลี่ยนใจ"
"พี่โต้นี่น่ากลัวเนอะ" ผมพูดเมื่อเริ่มเข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายจะสื่อ
"ทำไมครับ" พี่โต้ถามพลางขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์
"ก็รู้ทั้งรู้ว่าผมมีแฟนแล้วยังอยากจะเป็นมือที่สามน่ะดิ น่ากลัวสุดๆ" ผมขึ้นตาม
"ฮ่ะๆ ขนาดนั้นเชียว" ไม่ได้ชมเหอะ
นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไอ้พี่โต้ได้สักพักก็ถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรโบราณชื่อดัง ตั้งขาตั้งรถได้พี่โต้ก็เดินนำหน้าผมเข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยว
ให้พวกพี่ๆ ฝ่ายศิลป์ พร้อมกับของตัวเอง แล้งถึงหันมาทางผมซึ่งกำลังยืนมองรายการอาหารบนผนังร้าน เลือกไม่ถูกเพราะน่ากินทุกอย่าง

"น้องเอเอาอะไรครับ"
"คิดแปบ"
"ออกจะมากินบ่อย"
"บ่อยที่ไหน สามครั้งเองอ่ะ" แถมทุกครั้งป๋าชินสั่งให้ตลอด
"เลือกได้ยัง"
"เล็กน้ำพิเศษสองถุงก็ได้ครับ อ้อ! ถุงนึงไม่เอาถั่วงอกนะครับ"
"คนเดียวสองเลยเหรอ?"
"เผื่อป๋าชินถุงนึง"
"ถุงไหน?"
"ถามทำไม"
"อยากรู้"
"ถุงที่ไม่ใส่ถั่วงอก ป๋าแกชอบบอกว่าเหม็นเขียวอ่ะ"
"รักพี่จริงเลยนะ" พูดว่าผัวจะถูกกว่านะ แต่ก็ช่างเหอะ
"เอาขนมถ้วยด้วยมั้ยน้องเอ"
"อืมมม..." เดินเข้ามาดูบรรดาขนมที่วางขายโชว์ในถาด
"เอาหม้อแกงดีกว่า ป้าครับไอ้นี่ขายไงอ่ะ"
"สามถาดร้อยจ้ะ"
"งั้นผมเอาสามถาดครับ" เลือกหยิบขึ้นมาตามจำนวนแล้วส่งไปให้ป้าใส่ถุง
"คิดเงินรวมกันหมดเลยมั้ยลูก"
"รวมหมดเลยครับ"
"เฮ้ย เดี๋ยวของพี่จ่ายเอง" พี่โต้รีบแทรก
"ไม่เป็นไรพี่ ยังไงผมก็กะจะเลี้ยงอยู่แล้ว เงินที่พวกพี่เขาฝากมาก็ว่าจะคืนด้วย"
"ไม่เอาๆ"
"เอาเหอะน่า นานๆ ผมจะใจป้ำสักที" ควักแบงค์ห้าร้อยจ่ายไป
"มันจะดีเหรอ" พี่โต้ทำสีหน้าไม่สบายใจ
"ดีไม่ดีผมก็จ่ายไปแล้ว ถ้าไม่กินนี่สิน่าเคือง"
"เอ่อ งั้นก็ขอบคุณครับ"
"อื้อ"

แจกจ่ายของที่สั่งซื้อให้ครบทุกคนเสร็จก็ถือชามช้อนแยกขึ้นมาบนชั้นสอง เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานเห็นป๋าชินกำลังคุยโทรศัพท์
หน้าตาค่อนข้างซีเรียส ผมก็เลยไม่ได้สนใจเพราะไม่อยากยุ่มย่ามเรื่องงาน พยายามปิดประตูให้เบาที่สุดก่อนจะเดินมาทิ้งตัวนั่งบนโซฟา
หยิบถุงก๋วยเตี๋ยวออกมาแกะใส่ชามทั้งของผมให้ทั้งของป๋า จากนั้นก็เทเครื่องปรุงแบ่งๆ ลงไปอย่างละนิด ใช้ช้อนคนสองสามทีก็ตักชิม แจ่บๆ อร่อย

"ซื้ออะไรมาครับ" ป๋าชินวางโทรศัพท์ ทำจมูกฟุดฟิดๆ ถามด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
"ก๋วยเตี๋ยวสูตรโบราณ ร้านที่ป๋าชอบพาผมไปนั่งกินอ่ะ"
"ไหนๆ" ลุกเดินมานั่งข้างกันบนโซฟา
"อันนี้ของป๋า ไม่ใส่ถั่วงอก" ดันชามไปตรงหน้าเจ้าตัว
"อุ๊ย จำได้ด้วย"
"ไม่ใช่คนความจำสั้นนี่ เอ้า" ใช้ช้อนจิ้มลูกชิ้นหมูของตัวเองไปจ่อตรงปาก
"เป่าให้ด้วย" ป๋าพูดยิ้มๆ ดูทาทางมีความสุขไม่เบา
"เรื่องมากจริง ฟู่ๆ~ เอ้า"
"อ้ำ" เคี้ยวไปก็ยิ้มไป เหมือนเด็กว่ะ
"อีกป่ะ"
"ไม่ต้องละ พี่กินเองดีกว่า"
"อืม กินเสร็จแล้วต้องรีบทำงานต่อป่ะ"
"ครับ"
"งั้นผมขอออกไปหาไรทำข้างนอกนะ" กินๆ อยู่ ไอ้ป๋าหันขวับมาทันที
"ไปไหน" หางเสียงหายไปไหนง่ะ
"พวกพี่ลูกเกตเขาชวนไปศึกษาวิธีการทำงานของฝ่ายศิลป์อ่ะ ตกลงไปแล้วด้วย"
"ลูกเกตชวนหรือใครชวน" แอบสะดุ้งกับประโยคนี้เล็กๆ
"พี่ลูกเกตชวนจริงๆ"
"งั้นแล้วไป" หันไปจัดการก๋วยเตี๋ยวต่อ
"ป๋าคิดว่าใครชวนล่ะ ผมไม่ได้สนิทกับใครสักหน่อย ที่คุยบ่อยๆ ก็มีพี่ลูกเกตเอง"
"ใครจะไปรู้ เวลาพี่ทำงานอยู่ในห้องน้องเอก็ชอบหายตลอด จะคุยกับใครที่ไหนอะไรยังไงบ้าง พี่ก็ไม่เห็น"
"กลัวใครจีบไง ลูกน้องป๋าเจ็ดในเก้าผู้ชายทั้งนั้น"
"ผู้หญิงพี่ไม่กลัว กลัวผู้ชายนี่แหละ น้องเอของพี่น่ารักจะตาย"
"แหม นิสัยดาดๆ อย่างผมนอกจากป๋าจะมีใครเอาครับ"
"เยอะ" ไปไม่เป็นเลยทีเดียวเชียว
"คิดมาก" ผมปลอบ ไม่อยากจะคิดเรื่องที่ไอ้พี่โต้จีบเล้ย ป๋ารู้เข้าอนาคตคงดับวูบ


**************************************


เข้าเย็นวันที่สองของการติดสอยห้อยตามป๋ามาค้างที่โรงพิมพ์
สภาพคนไม่ได้นอนหนึ่งคืนนี่ทำให้หน้าแก่ได้เกินกว่าอายุจริงๆ ให้ตายเถอะ
ผมนั่งเท้าคางมองป๋าชินที่เข้าโหมดโหมงานไม่ยอมหลับยอมนอนตลอดทั้งวันทั้งคืน
ถ้าไม่เห็นว่าเป็นเพราะพาผมไปเที่ยวอัมพวาจนเกือบเคียร์งานไม่ทันจะไม่รู้สึกผิดอะไรเลยเนี่ย

"ป๋ากินข้าว"
"ไว้ก่อนครับ" ปฎิเสธแบบนี้ตั้งแต่มื้อเช้า น่าหงุดหงิดชะมัด
"ไว้ก่อนทุกที ไม่ยอมแตะอะไรเลยแบบนี้ เดี๋ยวร่างกายก็ทรุดหรอก"
เท่าที่ตื่นมาเห็นตอนเช้าจนกระทั้งบัดนี้ ป๋าชินดื่มกาแฟแก้วเล็กๆ ไปแค่แก้วเดียวเองอ่ะครับ

"พี่ชินแล้วครับ ไม่ต้องห่วง"
"ถ้าทำได้คงไม่มานั่งตื๊ออยู่แบบนี้หรอก กะอีแค่เวลากินข้าว สิบยี่สิบนาทีนี่มันยากนักไง"
จ้องเขม็งไปที่ป๋าซึ่งสวมแว่นกรอบใสและไม่คิดจะเงยหน้าเครียดๆ จากจอคอมฯ มามองกันสักนิด เชอะ!

"งานมันเร่งครับ น้องเอหิวก็กินไปก่อนเลย" มือข้างหนึ่งคลิกเม้าส์ อีกข้างก็เคาะแป้นรัวๆ จากนั้นบทสนทนาทั้งหมดก็จบลง
ผมทำหน้ายุ่งก้มมองจานข้าวกระเพาหมึกไข่ดาวที่วางนิ่งอยู่บนโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นยกมันกลับลงมาในครัว
เถใส่กล่องปิดฝาให้สนิทแล้วจัดการเก็บเข้าตู้เย็นเพื่อรอนำออกมาอุ่นหากมีคนบางคนนึกอยากจะกินขึ้นมา

"เป็นอะไรไปน้องเอ" พี่ลูกเกตเดินถือแก้วน้ำส่วนตัวเข้ามาทัก
"ก็ป๋าเขาไม่ยอมกินข้าวอีกแล้วอ่ะพี่ ผมพูดกล่อมยังไงก็บอกแต่ยุ่งๆ ตลอด เกิดเป็นลมเป็นแล้งตายไปจะทำไง" บ่นกับพี่ลูกเกตเป็นชุด
"อ้อ เมื่อก่อนก็เป็นแบบนี้แหละ" คิดว่าน่าจะหมายถึงช่วงก่อนผมย้ายมาอยู่กับป๋าน่ะนะ
"ผมห่วงจนหงุดหงิดแล้วอ่ะ"
"ฮ่ะๆ ดูน้องเอรักพี่ชินจังนะคะ"
"แปลกเหรอครับ" ทำหน้าแหยๆ กลัวพี่ลูกเกตจะจับไต๋ได้
"อืม จะว่าแปลกก็คงแปลก ถ้าไม่รู้ว่าเป็นญาติกันพี่คงคิดว่าต้องเป็นคนรักกันแน่ๆ เพราะดูพี่ชินจะห่วงน้องเอเวอร์ๆ"
"เอ่อ..."
"อ้อ อย่าคิดมากค่ะ พี่แค่เดาเล่นๆ ตามความรู้สึกที่เห็นเฉยๆ ผู้ชายด้วยกันคงจะเป็นแบบนั้นไม่ได้หรอกเนอะ"
พี่ลูกเกตหันมาพูดยิ้มๆ ทว่าผมกลับสะอึก ในแหง่ความเป็นจริงทางสังคม การที่ผู้ชายจะรักกันมันเป็นไปได้ยาก(สมัยนั้น)

"แล้วพี่ลูกเกตคิดไงกับ ชายรักชาย?" ผมตัดใจถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ
บอกตรงๆ นะครับ นับตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ ผมยังไม่เคยถูกประณามว่าเป็นตัวน่ารังเกียจหรือผิดปกติเลยสักครั้ง
และถือเป็นโชคดีของผมที่แม้แต่ครอบครัวก็ยังให้การยอมรับ

"น่ารักมั้ง จะว่าไงดีล่ะ น้องเอเคยอ่านการ์ตูนแนว Boy love มั้ย"
"เป็นแนวไหนอ่ะครับ" ค่อนข้างงงกับศัพท์ จะว่าเข้าใจก็ใช่ จะว่าไม่เข้าใจก็ใช่อีก
"เป็นการ์ตูนเกย์ญี่ปุ่นค่ะ" พี่ลูกเกตตอบยิ้มๆ หน้าตาเพ้อชอบกล
"มีการ์ตูนแบบนี้ด้วยเหรอครับ?"
"มีสิๆ ถึงจะยังไม่บูมแต่ในหมู่ผู้หญิงเราๆ ก็มีคนเป็นแฟนคลับมากนะ ถ้าเกิดน้องเอสนใจไว้วันหน้าพี่จะฝากพี่ชินเอากลับไปให้"
"จะดีเหรอครับ ผมผู้ชาย..."
"หึๆ ดีสิคะ น้องเอน่ารักจะตาย เสียดายถ้าจะยกให้ผู้หญิงไม่รู้หัวนอนปลายเท้า
และถ้าให้พี่จิ้นแนวชายๆ ก็คงออกมาเป็นแบบ รักต้องห้ามแน่ๆ" สาบานว่างงจริงอะไรจริง

"สรุปพี่ไม่รังเกียจคนที่เป็นเกย์?"
"รังเกียจค่ะ" ตอบสีหน้าจริงจัง
"อ้าว"
"แต่พอรับได้ถ้าคนที่เป็นหน้าตาดีอย่างน้องเอหรือไม่ก็โต้" ทำไมต้องอิพี่โต้?!
"เรื่องแบบนี้มันระเอียดอ่อนนะน้องเอ ผู้ชายยังไงก็ถูกสร้างสรรค์ให้เกิดมาคู่กับผู้หญิง
จะแต่งงานก็ได้ จะมีลูกก็ได้ ทั้งยังไม่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ กลัวสายตาคนอื่นจะมองว่ายังไง" เจอประโยคนี้ จุกไปถึงตับ
ตกลงคุณเธอรับได้หรือรับไม่ได้กันแน่ แต่ละคำพูดเหมือนจะรับได้ทว่าก็เสียดแทงคนประเภทผมแรงไม่เบาทีเดียว

"เอาเป็นว่า น้องเอเป็นผู้ชายน่ะดีอยู่แล้ว"
พี่ลูกเกตหันมายิ้มให้กำลังใจ แล้วเดินสวนพี่โต้กับพี่ปานออกไป
ทิ้งให้ผมอยู่กับความรู้สึกหม่นๆ สับสนทางจิตใจเพียงคนเดียว


***************************************************


ตอนพิเศษแถม ครั้งแรก(?)กับทัวร์ญี่ปุ่น



แดนอาทิตย์อุทัย สวดยอด~!!
ทิ้งกระเป๋าในห้องพักโรงแรมใจกลางกรุงโตเกียว
ไกด์เจแปนนิสหน้าหล่อก็ให้เวลาลูกทัวร์เป็นของตัวเองในการทำธุระต่างๆ สองชั่วโมงก่อนอาหารค่ำ

"ห้องสวีททททททท" ตะโกนแหกปากแล้วโดดลงไปเด้งบนเตียงคู่นุ่มๆ ขนนกด้วยอ่ะ วอนท์จริงไรจริงน้า~
"เบาครับน้องเอ เดี๋ยวคนอื่นเขาตกใจหรอก" ป๋าปรามแล้วเดินส่ายหน้ายิ้มๆ มานั่งตรงปลายเตียง
"ก็ตื่นเต้นนี่ ครั้งแรกเลยนะป๋าที่ผมได้ขึ้นเครื่องบิน ได้เหยียบย่ำประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศไทย
แถมเป็นญี่ปุ่นแดนอนิเมะและเกมส์ Dai daisuki!!!" ดัดจริตทิ้งท้ายด้วยภาษาถิ่น อิอิ

"พี่บอกให้เบาไงครับ" โดนป๋าตีก้นไปหนึ่งที ไม่ดิต้องบอกว่าลูบถึงจะถูกกว่าเหอะ
"ป๋าทำไรอ่ะ" หันไปทำหน้ายู่อย่างระแวง เนื่องจากตั้งแต่วันที่ตัดสินใจคบกัน สามเดือนมานี้ไม่เคยมีอะไรมากเกินเลยมากกว่าจูบ
บอกแล้วไงครับ น้องเอรักตัวสงวนไข่ตลอด กิ๊วๆ

"เปล่าครับ" เปล่า แต่ยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ย หมายความว่าไงห๊ะ
"อย่ามาแหล"
"น้องเอรังเกียจ ไม่อยากมีครั้งแรกกับพี่เหรอครับ" หน้าหมองไปถนัดตา รู้และว่าแกเอาทัวร์นี้มาล่อเพื่อหวังอะไรจากฉัน
"อยากมีครั้งแรก แต่..." หยุดให้สงสัยนิดนึง
"แต่ อะไรครับ"
"แต่ไม่อยากมีกับป๋าอ่ะ ได้ป่ะ มาญี่ปุ่นทั้งที ผมอยากลองกับเจ้าของภาษา ฮ่าๆ"
"น้องเอ" เสียงดุเชีย
"อะ ล้อเล่งน่า โอ๋ๆ ไม่โกรธนะครับ น้องเอพูดเล่นเฉยๆ ครั้งแรกก็ต้องกับป๋าชินอยู่แล้วสิเนอะ จุ๊บๆ" โน้มหน้าแกเข้ามาจูบสองที
"งั้น..." ป๋าชินคลี่ยิ้มอย่างมีความหวัง
"ไม่ใช่ตอนนี้เหอะ" การตัดความหวังเป็นงานอดิเรกของน้องเอ กร๊ากกกกก
"งั้นคืนนี้" แน่ะ ยังไม่เลิก
"ไม่รู้ไม่ชี้" ลอยหน้าลอยตาตอบแล้วลุกเดินออกมาข้างนอก ปล่อยให้ป๋าชินอุปโลกน์ว่าได้ครั้งแรกของผมไปเองคนเดียวก่อนแล้วกัน
"เอซังงงงงงงงง" ไกด์ที่หน้าเด็กกว่าผม ทว่าอายุดันพอๆ กับป๋าชินเรียกผมที่หน้าลิฟท์
(ไกค์เป็นคนญี่ปุ่นครับ ตัวขาวจั๊วะ ถามว่าพูดไทยชัดมั้ย ก็ชัดนะ แต่เขาชินปากที่จะใช้ซังตามหลังแทนคำว่าคุณนำหน้าอ่ะ)

"ครับ" หันไปทำหน้างงๆ
"จะไปไหนครับ ยังไม่ถึงเวลาทานมื้อค่ำนะครับ"
"จะไปเดินเล่นใกล้ๆ โรงแรมนี่ล่ะครับ"
"อ้อ แล้วไม่กลัวหลงหรอครับ" ทำหน้าแบ๊ว น่ารักมาก
"ไม่อ่ะครับ ผมไม่ได้เอ๋อขนาดนั้น" ตอบไปเกรียนๆ แต่อิวาชิตะซัง(ไกด์)ดันหัวเราะซะงั้น
"ฮ่าๆ เอซัง เป็นคนตลกดีนะครับ"
"อ่า ขอบคุณ" ไม่รู้จะตอบมันว่าไง "งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"ให้ผมไม่เป็นเพื่อนมั้ยครับ จะได้ไปได้ไกลหน่อย" เพื่อ?
"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวจะกลับมาไม่ทันมื้อค่ำ" ผมบอกปัด
"แน่ใจนะครับ" จีบกรูอยู่ป่ะ
"ผมเปลี่ยนใจละ เดี๋ยวพี่ชายตามหาจะโดนดุเอา"
บอกจบผมก็เดินหนีกลับมาห้องเลยครับ ขืนอยู่มันตื๊อไม่เลิกแน่ แล้วเดี๋ยวจิซวย
ซึ่งก็ได้ซวยจริงๆ เมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นป๋าทำหน้าบูดยืนกอดอกพิงกำแพง ดู๊ดู ดูเธอทำ~

"คุยกันน่าสนุกดีนะครับ" แหม เข้าใจกะจังหวะไปเห็นแล้วไม่ทัก
"ก็ไม่ได้สนุกอะไรตรงไหนนี่ เขาแค่ถามว่าผมจะไปไหนเฉยๆ"
"ถามแล้วต้องอยู่ตอบกันตั้งสิบสี่สิบห้นาทีเลยเหรอครับ" โอ๊ะ มีนับเวลาด้วย เจ๋งว่ะ
"ก็เขาไม่หยุดถาม นี่ก็หนีกลับมาเนี่ย" ผมชักสีหน้าเดินมานั่งบนเตียง
"พี่เห็นเขามองน้องเอตั้งแต่ไปรับที่สนามบินแล้ว พี่ว่าไกด์คนนี้ต้องชอบน้องเอแน่ๆ"
คณะทัวร์ผมมีสิบสองคนครับ เป็นกลุ่มทัวร์เล็กๆ ที่ราคาแพงเวอร์~!! แน่นอนว่าต้องจองกันข้ามปีทีเดียว
ป๋าเขาวางแผนมาดีมาก ยกนิ้วให้กับเรื่องนี้ มั่นใจได้ไงว่ากรูจะตกลง ฮ่าๆ

"คิดมากไปเปล่า" จริงๆ ในใจผมก็เริ่มคิดตั้งแต่ตอนที่มันตื๊อแล้วล่ะ ว่าอิวาชิตะซัง
ต้องมีความนัยอะไรกับผมมากกว่าลูกทัวร์กับไกด์แน่ๆ แต่ไม่อยากบอกให้ป๋าแกกลายเป็นทะเลเดือด เดี๋ยวพาลจะลากกลับไทย

"ไม่ครับ พี่มองออก" ชั่งสังเกตเสียจริงพ่อคุณ
"อืม ช่างเขาเหอะป๋า ผมไม่ได้คิดไรด้วย อีกอย่างผมก็มีป๋ามาด้วยทั้งคน"
คนพูดไม่ได้คิดอะไรเลยนะ แต่ไอ้คนฟังดั๋นเสือกคิดมาก แถมคิดไปอีกทางด้วย

"อ้อ ถ้าไม่มีพี่ น้องเอก็คิดจะเล่นด้วยสินะ" ว่าไปนั่น
"ป๋าอย่าเยอะ ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ไม่เชื่อใจกันเลยเหรอไงห๊ะ" แอบขึ้นเสียงนิดๆ ให้เกรงใจกันบ้าง
"ไม่รู้ล่ะ ห้ามน้องเอคุยกับมันอีกนะ"
"เออ จะพยายาม" ตอบรับไปงั้น สุดท้ายก็ต้องพูดกับเขาอยู่ดี เพราะต้องถามคำถามนั่นนี่เกี่ยวกับสถานที่ตลอด
ป๋าก็จิก ก็เหน็บเป็นช่วงๆ เลยฟังคำอธิบายแทบจะไม่รู้เรื่อง

วันที่สอง ตื่นเช้ามาก็เดินทางด้วยรถตู้ไป พระราชวังอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace)
ซึ่งในประวัติศาสตร์เคยใช้เป็นที่พำนักของท่านโชกุนโทคุคาวะ ซึ่งปกครองประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1603
ถึง 1867ต่อมาเมื่อระบบปกครอบแบบโชกุนได้ถูกล้มล้าง แล้วก็บลาๆๆๆๆ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
อยู่กันตั้งแต่ สิบโมงเช้ายันเที่ยง หมดเวลากับการถ่ายทิ้ง เอ้ย ถ่ายรูปไปร้อยแปดกระบวนท่า

จากนั้นไกค์อิวาชิตะซังก็พานั่งรถมาต่อกันที่ คอิชิกาว่า โคระกุเอ็น (Koishikawa Korakuen)
สวนสไตล์ญี่ป่นที่เก่าแก่ที่สุดและดีที่สุดในญี่ปุ่น อิวาชิตะซังบอกว่าสวนนี้จะสวยกว่านี้ถ้ามาในช่วงพฤศจิกายนซึ่งเป็นช่วงของใบไม้เปลี่ยนสี
หรือในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมีเทศกาลลูกพลัม และในช่วงที่ดอกซากุระบาน (ผมมาซากุระร่วงหมดละ เซ็งสิ)

ตบท้ายด้วย ตลาดปลาสึคิจิ ให้เดินดูของสดกันชิลๆ ก่อนกลับโรงแรมในตอนเย็น
ช่วงค่ำใครอยากเที่ยวต่อก็สามารถนำเสนอได้เพราะคุณไกด์เราใจดี

วันที่สามกับวันที่สี่ก็เรื่อยๆ ทัวร์รอบโตเกียวตามสถานที่เด็ดๆ และที่ผมชอบที่สุด ซึ่งไปมันสองวันติดเลยคือ
อาคิฮาบาระครับ ซื้อของติดไม้ติดมือตรึมโดยเฉพาะ เกมส์ที่เมืองไทยยังไม่มี

สนุกไม่ทันไรก็มาถึงเย็นวันสุดท้าย ก็มีเหตุการณ์ๆ หนึ่งเกิดขึ้น ให้ผวาเล่นๆ คือ...
ไกด์อิวาชิตะซังเข้ามาบอกชอบผมครับ แต่พูดลอยๆ ตอนผมอยู่คนเดียวในสวนลอยฟ้าของโรงแรมนะ
คือตอนนั้นป๋าชินไม่รู้ไปไหน ผมออกจากห้องน้ำตามหาไม่เจอก็เลยออกมานั่งเล่นแม่ง โมโหมาก

"ผมชอบคุณ" ไอ้ผมก็เงยหน้ามองไอ้คนที่มายืนค้ำหัวเอ๋อๆ
"ห๊ะ?"
"คุณจะกลับพรุ่งนี้แล้ว ผมกลัวว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก ผมเลยอยากบอกว่าผมชอบคุณครับ"
"อืม ขอบคุณ" ไปไม่เป็นจริงๆ ครับ อึ้งบวกทึ่ง ที่กล้าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาปนกับงาน
"ผมรู้ว่าคุณคงรู้สึกแย่" ไม่เลย ดีด้วยซ้ำ "แต่ผมอยากบอกให้คุณรู้เท่านั้น ขอโทษนะครับ"
"คุณเป็นคนรักคนง่าย?"
"ไม่ใช่กับทุกคนครับ"
"อ้อ อืม ขอให้คุณเจอคนที่ใช่และดีกว่าผมนะ"
"ขอบคุณครับ" ไกค์อิวาชิตะซังยิ้มละมุน ทว่านัยน์ตาแฝงความเศร้าสร้อยเอาไว้
"ไม่เป็นไร เพราะผมตอบรับความรู้สึกคุณไม่ได้ ที่ให้ได้ก็มีแต่คำอวยพรนี้เท่านั้น คุณเห็นผู้ชายคนนั้นมั้ย?"
ผมชี้ไปที่ป๋าชินซึ่งกำลังเดินหน้าตั้งมาทางพวกผม "นั่นน่ะ คนที่ใช่ และคนที่ดีสำหรับผมทั้งตอนนี้แล้วก็น่าจะตลอดไป"
(ทำไมต้องใช้คำว่า น่าจะ? คำตอบคือ อนาคตของเรานั้นไม่แน่นอน อิอิ)

"ครับ ขอให้รักกันนานๆ*" หมายเหตุภาษาญี่ปุ่นนะตรงนี้ ไม่รู้แช่งหรืออวยกันจริง
"น้องเอ" เสียงมาถึงก่อนตัว
"ผมขอตัวนะครับ" บอกก่อนจะลุกเดินไปหาป๋าชินที่หน้าบึ้งแบบกรู่ไม่กลับ
พอถึงปั๊บ พี่แกไม่รอช้ากระชากแขนผมลากไปที่ลิฟท์ทันที บอกสามคำ แขนแทบหลุด

"ป๋าของขึ้นเหรอ ผมเจ็บนะ" ติติงไปตามสัมผัสที่ได้รับจากคนรัก
"คุยอะไรกัน" หางเสียงหายไปหนายยยยย
"เปล่าสักหน่อย"
"ก็เห็นคุยกันอยู่ ยังจะเถียง" กดลิฟท์รัวๆ ทำอย่างกับมันจะลงมาเร็วขึ้น
"ผมน่าจะถามป๋ามากกว่านะ ว่าหายไปไหนมา"
"ไม่จำเป็นต้องบอก" อ้าว หมายความว่าไง พูดงี้อยากมีเรื่องกับน้องเอใช่ป่ะ
"งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องบอกป๋าเหมือนกัน"
"น้องเอ!" หันมาตวาด ลิฟท์เปิด ไม่มีคน ป๋าเหวี่ยงผมเข้ามาเลยครับ แรงควายมากเอาซะผมนี่ติดกับกระจกที่เป็นใสๆ มองเห็นวิวด้านนอก
"อย่าให้พี่ต้องโมโหนะครับ" โมโหไปนานละเหอะ
"......" ผมเงียบ จ้องป๋าน้ำตาคลอ เจ็บมากไอ้ที่กระแทกเมื่อกี้
"ตอบมา"
"เขามาคุยนั่นคุยนี่เฉยๆ ป๋าจะโมโหใส่ผมทำไม ผมไปทำอะไรให้
หรือป๋าเห็นผมไปนอนกับเขาเหรอ ถึงได้มาทำอะไรรุนแรงกับผมแบบนี้ ผมเป็นลูกมีพ่อมีแม่นะ" น้ำตาไหลพราก ป๋าชินหน้าเสีย

"นะ...น้องเอ พี่ไม่ได้ตั้ง..." รีบเข้ามากอดปลอบผมโดยไว "ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พี่...พี่ใจร้อนไปหน่อย"
"ฮือออ ผมเจ็บ ผมเกลียดป๋าที่เป็นแบบนี้" ทุบหลังแกหลายตุบพอดู
"อย่าร้องนะครับคนดี พี่ไม่คิดจะทำให้เจ็บเลยจริงๆ พี่ขอโทษครับ"
"ฮืออออ ผมเจ็บ ป๋าไม่มีเหตุผล"
"อย่าร้องครับ ไม่เอา จะทุบจะตีพี่ยังไงก็ได้แต่น้องเออย่าร้องนะครับ"
ป๋าชินใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุดด้วยใบหน้าที่ปวดใจ ผมสะอึกสะอื้นได้ไม่นานก็ต้องก้มหน้าให้ป๋าลากออกจากลิฟท์เพราะถึงชั้นที่พักพอดี
เข้าห้องน้ำล้างหน้าออกมาเจอป๋ายืนทำหน้าเศร้ารออยู่ก็เดินผ่านไม่ยอมพูดคุยกับแกมาที่เตียง ป๋าตามมานั่งลงข้างๆ กอดผมไว้แน่น หอมหัว หอมแก้ม
จูบซับน้ำตาอย่างอ่อนโยนพร้อมกับกล่าวคำขอโทษซ้ำไปซ้ำมา(สรุปเป็นพวกหึงแล้วกะแรงตัวเองไม่ถูกสินะ คริคริ)


ตัดจบตรงนี้จะโดนโวยป่ะครับ
แต่เหตุการ์หลังจากนี้มันก็ไม่มีไรแล้วอ่ะ นอกจากง้อกันบนเตียง
ซึ่งผมก็จำไม่ได้ว่าเผลอไผยอมแกไปได้ยังไง รู้แต่ว่าตื่นมาในตอนเช้าขานี่แทบจะหุบเข้าหากันไม่ได้ (ฮา)
ไว้เจอกันใหม่นะจ๊ะ


**********************************************

ปล.หายไปนานต้องขอโทษนะคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 11 (24/02/57) แถมพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 24-02-2014 23:07:47
น้องเอนี่เสน่ห์แรงจริงจริ้งงงงงง ทักตอนหลักทั้งตอนพิเศษ มีแต่คนมาบอกชอบ ป๋าชินสู้ๆ มีเมียน่ารักต้องทำใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 11 (24/02/57) แถมพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-02-2014 23:11:47
ตัดชับได้ยังไง :katai1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 11 (24/02/57) แถมพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 24-02-2014 23:41:12
ตัดฉับ !

โหดร้ายจริงๆ เลยนะคนเขียนเนี้ย  :hao5:

รอตอนต่อไปฮะ ..

ปล.ทำใจนะป๋า  มีเมียน่ารัก  :hao7:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 11 (24/02/57) แถมพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 24-02-2014 23:56:56
 :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 12 (26/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 26-02-2014 06:07:26
รักบอดๆ ตอนที่ 12



"คุยอะไรกันเอ่ย?" พี่ปานถามหน้าตาทีเล่นทีจริงหลังมองตามพี่ลูกเกตหายออกไปจากครัว
"ก็ไม่มีอะไรครับ คุยเล่นกันเฉยๆ" ผมยักไหล่ ไม่อยากพูดไรมากครับ เพราะเดี๋ยวมันจะทำให้เครียดซะเปล่าๆ
อารมณ์ประมาณตอนนี้มีความสุขดีแล้ว จะเก็บเรื่องไม่เป็นเรื่องมาใส่ใจไปทำไม ยังไงซะโลกแม่งก็หมุนเหมือนเดิมอยู่ดี
เอ๊ะ! หรืออันที่จริงผมเป็นพวกคิดมากกับใครเขาไม่ค่อยเป็น?

"ไม่มีไรจริง?" พี่โต้เข้ามากระซิบถามหลับหลังพี่ปานที่เดินไปชงกาแฟ
"อืม ไม่มี"
"แต่ดูน้องเอหน้าแย่ๆ ไปนะ"
"ผมก็หน้าแย่ตลอดล่ะ ยิ่งป๋าชินไม่ยอมวางงานมากินข้าวยิ่งแย่หนัก" ผมทำสุ้มเสียงค่อนแคะป๋าชินที่อยู่ชั้นสองไปเล็กๆ
พี่โต้ส่ายหัวยิ้มๆ แล้วเดินไปช่งกาแฟกับพี่ปานด้วยอีกคน

"ศุกร์นี้ว่างป่ะวะโต้"
"จะชวนไปไหนอีกไง"
"กะจะชวนไปช๊ะดาดั๊บแถวรัชดาสักหน่อย สนป่ะๆ"
"ไปกินเหล้า?"
"ไปดักหญิงเว้ย เจอแต่เถื่อนๆ ถึกๆ ในออฟฟิศ กูเลยอยากไปสร้างสีสันให้กับชีวิตบ้าง"
"คิดดูก่อน"
ไอ้ผมขี้คร้านอยู่ฟังก็พาตัวเองออกมานั่งเล่นบนม้าหินอ่อนหน้าโรงพิมพ์
ขณะนั่งมองการสรรจรของรถแต่ละคันเพลินๆ จู่ๆ มือหนึ่งก็วางแหมะมาบนหัวไหล่...เขาจับ เขาจูบ เอ้ยๆ ไม่ใช่ละ คริคริ

"เฮ้ย!!"
"เหวออออ!!"
"ป๋า เป็นไรเปล่าเนี่ย" ตกใจหนักคูณสองสิครับทีนี้ เพราะเจ้าของมือที่วางมาดันเป็นป๋าชินของโผมมม
รีบเข้าไปพยุงคนแก่ที่ก้นจ้ำเบ้าให้ลุกขึ้นมานั่งบนม้านั่ง ดีนะ ที่ไม่มีใครสั่งเกตเห็น ไม่งั้นได้เสียภาพพจน์เจ้าของโรงพิมพ์ผู้มาดนิ่งแน่

"รุนแรงจังครับน้องเอ"
"ดีไม่ซ้ำ รู้ว่าขี้ตกใจยังจะเข้ามาเงียบๆ ไม่หน้าแหกบุญเท่าไรอ่ะ แล้วนี่เจ็บตรงไหนบ้าง?"
บ่นเสร็จก็ไม่ลืมถามไถ่อย่างเป็นห่วงพร้อมกับก้มๆ เงยๆ ดูสวัสดิภาพร่างกายของคุณสามี

"เจ็บก้นกับหน้าอกนิดหน่อยครับ" หน้าอกนี่คงเป็นศอกผมที่ถองออกไปชัวร์
"ทีหลังเรียกกันหน่อยนะ ถ้าถือมีดอยู่โดนเสียบไปแล้ว" นิ่วหน้าบ่นซ้ำพลางใช้ฝ่ามือคลึงแถวหน้าอกให้ป๋าเบาๆ
"ขอโทษครับ พอดีพี่ไม่คิดว่าน้องเอจะเหม่อ" ทำหน้าสำนึก
"อืม ผมก็ขอโทษที่ทำให้เจ็บ หายยัง"
"เป่าพ่วงก่อน"
"พ่วงเพิ้งไรล่ะ เป็นเด็กน้อยรึไง"
"อยากอ้อน"
"ก็ได้ โอมมมม ความเจ็บจงหายไป พ่วง~!" ปัญญาอ่อนชิบหายเลยกรู
(จริงๆ มีท่าประกอบเสริมด้วยนะ ซึ่งถ้าให้อธิบายมันเขินไงไม่รู้อ่ะครับ อร๊าย)

"ดีขึ้นยัง" ร้อนไปถึงหู
"อื้อ ดีขึ้นเยอะครับ" ป๋ายิ้มรับขำๆ
"งานเสร็จยัง?"
"ใกล้แล้วครับ"
"อ้าว แล้วออกมาไม"
"เห็นที่รักไม่อยู่ คิดถึงก็เลยออกมาตาม" หยอดเข้าไป
"สนใจด้วยไง ถามคำ ตอบคำ ไม่เห็นจะมองผมอยู่ในสายตา" แกล้งค้อนไปงั้น เอาคืนที่ทำให้เป็นห่วง
"โอ๋ๆ สนใจสิครับ แล้วที่เร่งงานให้เสร็จเร็วๆ ก็เพราะอยากจะอยู่ด้วยกันสองคนไงครับ"
"คืนนี้จะนอนป่ะ"
"นอนครับ อยากกอดเมียจะตายอยู่แล้วเนี่ย" ยิ้มกรุ้มกริ่มน่าหยิก
ลองได้อยู่สองต่อสองในห้องที่มิดชิดสิ เชื่อเถ๊อะครับ คงได้เสียกันไปเรียบร้อยโรงเรียนป๋าชิน

"หิวยังอ่ะ"
"หิวครับ"
"กินข้าวกระเพาตอนกลางวันได้ป่ะล่ะ เดี๋ยวอุ่นให้กินรองท้องไปก่อน"
"อื้อ"
"งั้นไปรอที่ห้องทำงานนะ"
"ครับผม"
"อ้อ ป๋ากินหม้อแกงด้วยป่ะ ผมซื้อมาเมื่อวาน" จะถึงครัวอยู่แล้วเกิดนึกขึ้นได้ว่าเวลาเหนื่อยๆ
ถ้าได้กินอะไรหวานๆ จะช่วยให้มีแรงขึ้น เลยรีบวิ่งกลับมาถามป๋าชินที่กำลังจะเดินขึ้นบันได

"ก็ดีครับ"
"โอเคร น้องเอจัดให้" กึ่งวิ่งกึ่งเดินกลับมาที่ครัว
เปิดตู้เย็นหยิบกล่องข้าวผัดกระเพาที่แช่ไว้เถใส่จาน ใส่ไมโครเวฟแล้วกดตั้งเวลาสองนาที
รอเดี๋ยวเดียวก็ได้ข้าวร้อนๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนน้ำลาย หันกลับไปเปิดตู้เย็นหยิบถาดขนมหม้อแกงออกมา
โดยไม่ลืมคว้าน้ำเปล่ากับแก้วมาด้วย ก่อนจะถือทุกอย่างอย่างหวาดเสียวจะหล่นแหล่มิหล่นแหล่ขึ้นมาบนชั้นสอง
ใช้เท้าเคาะประตูตึงๆ(มารยาทงามมาก)รอไม่นานป๋าชินก็เปิดออกมาช่วยรับของไปถือ ทว่าหน้าตอนเห็นสภาพผมนี่เหมือนจะขำสุดๆ

"ขำมากมั้ยเราอ่ะ ชิส์!"
"เมื่อกี้ใช้เท้าเคาะใช่มั้ย" ป๋าวางข้าวกับน้ำที่รับไปจากผมลงบนโต๊ะ
"เออ" สั้นๆ เป็นอันว่าเข้าใจ๋
"ครั้งหน้าเรียกก็ได้ครับ ทำแบบนั้นใครมาเห็นมันจะดูไม่ดี" ปกติฉันเคยดูดี?
"จะจำไว้" วางถาดขนมกับแก้วลงตามไปจากนั้นก็กระแทกตูดนั่งห่างคนข้างๆ เป็นวา
"กินด้วยกันมั้ยครับ" ป๋าชินยกจานพร้อมกับใช้ช้อนตักข้าวแล้วยื่นมาจ่อตรงปาก
"ป๋ากินเหอะ ผมยังอิ่มอยู่เลย" ผมดันทั้งจานทั้งช้อนในมือกลับไปหาเจ้าของ
"นิดนึงครับ อร่อยนะ"
"รู้เหอะ ก็เป็นคนซื้อมาให้นี่ กินๆ เข้าไปไป๊ จะได้ทำงานต่อ"
"ไม่เอาครับ คำเดียวก็ได้ ไม่กินพี่ขอหอมแทนนะ"
"โหย ทั้งขึ้นทั้งร่องเลยนะป๋า กินก็กิน" ผมอ้าปาก
"อ้ามมม"
"หยั่มๆ" เคี้ยวไปมองหน้าคนป้อนไป ประหนึ่งไอ้คนป้อนมาอยู่ในปาก
"วันนี้ตอนพี่ทำงาน น้องเอแอบไปทำอะไรมาบ้างครับ" โห ใช้คำว่าแอบเลยเหรอ
"ก็นั่งเล่นในออฟฟิศพวกพี่ฝ่ายศิลป์บ้าง ช่วยต้อนรับลูกค้าสองสามคนบ้าง คุยกับหมาแถวนี้บ้าง แล้วก็ตื๊อคนบางคนให้กินข้าวอะไรเถือกนี้"
"ช่วยต้อนรับลูกค้า?" ป๋าชินนิ่งคิดทวนคำ ซึ่งดูคล้ายจะเป็นคำถามสำหรับผมเสียมากกว่า
"อื้อ ช่วยเสิร์ฟน้ำไรเงี๊ยะ"
"อ้อ นึกว่าไปนั่งให้เขาจีบ โอ๊ย!" โดนผมตี
"วิตกจริตไง ถึงได้คิดแต่ว่าผมจะมีคนมาจีบ"
"หรือจะให้คิดว่าเมียพี่จะไปจีบเขาล่ะ โอ๊ย!" ซ้ำอีกที สม
"คราวนี้ถ้าพูดอีกไม่ตี แต่จะต่อยเลย" กำหมัดขึ้นขู่ ป๋าชินระเบิดเสียงหัวเราะทันที น่าขำตรงไหนครับเพ่
"อ๊ะๆ ไม่พูดแล้วก็ได้ครับ" ปากยอมยกธงขาว แต่หน้านี่ได้ชัยชนะไปเหลือหลาย เจ็บใจจริงๆ
"งั้นป๋ากินไปนะ ผมจะไปอาบน้ำล่ะ" ตัดบทแม่ง อยู่ต่อพาลอยากจะฆ่าคนทางความคิด ฮึ๊ย~!
"รอก่อนสิ" ป๋าชินคว้าแขนผมไว้ทัน ทำให้ผมนั่งกลับลงไปตามเดิม "รอไปอาบพร้อมกันนะครับ"
"นานป่ะ"
"ไม่นานครับ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง นะรอไปอาบพร้อมกัน"
"อืมๆ งั้นก็รีบๆ กินข้าวสิ เกินกำหนดผมไปก่อนจริงด้วย"
"น่ารักจริง เมียใครวะ" ป๋าชินยิ้มแก้มปริ ก่อนจะยื่นหน้ามาหอมแก้มผมทั้งซ้ายขวา
"นั่นสิ" ผมยักไหล่แล้วลุกขึ้นไปเลือกหาหนังสือในชั้นมาอ่านฆ่าเวลา

คนหนึ่งนั่งอ่าน คนหนึ่งนั่งกิน
พอคนหนึ่งกินเสร็จก็เดินเอาจานออกไปเก็บ(ล้างด้วยหรือเปล่าไม่รู้)
หายไปสักพักก็กลับเข้ามาลากคนนั่งอ่านไปชำระล้างร่างกายตามนัด
.
.
ในห้องน้ำ

"อื้อ ป๋าอย่า" ผมซึ่งกำลังถูกสบู่ให้ตัวเองถูกรวบเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง
"ขอนะครับ" ป๋าชินกระซิบข้างหู
"มาขออะไรตอนนี้เล่า" ผมออกแรงขัดขืนเล็กน้อย
เอ่อ ต้องบอกก่อนเลยนะว่าห้องน้ำของโรงพิมพ์เป็นห้องน้ำรวมครับ
และในแต่ละชั้นจะมีแค่หนึ่งห้องเท่านั้น ยกเว้นชั้นสามที่ไม่เปิดใช้บริการเพราะจะทำให้หนังสือที่เก็บไว้เกิดความชื้น
ฉะนั้นการทำเรื่องอย่างว่าในห้องน้ำโรงพิมพ์จึงเป็นอะไรที่ผมไม่วอท์นเอามากๆ

"พี่ทนไม่ไหวแล้วครับ ไม่ได้ทำหลายวันแล้ว" ป๋าชินคว้ามือผมไปแปะอยู่ที่กระบอกปืนใหญ่ เหวยๆ ไมมันคึกคักจั่งซี่
"ไหวไม่ไหวก็ต้องทนป๋า นี่ไม่ใช่ห้องน้ำบ้านนะ เกิดใครมารอเข้า เขาไม่รู้หมดเหรอ"
"เปิดน้ำ ก็ไม่มีใครได้ยินแล้วครับ นี่ไง" คือห้องน้ำมันเป็นอ่างกระเบื้องแบบตักอาบน่ะครับ
เวลาเราเปิดน้ำแรงๆ เสียงมันจะดังมาก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่มั่นใจอยู่ดีว่าจะไม่มีใครได้ยิน

"แค่อาบให้เสร็จแล้วไปทำในห้องดีๆ มันจะตายเหรอ"
"พี่กลัวหลับอ่ะ"
"จะหลับก็หลับไปดิ ผมไม่ได้ซีเรียสนี่"
"น้องเอไม่อยากทำกับพี่เหรอครับ" พูดจบก็ขบติ่งหูผมทันที
"อึ๊ย ป๋า ไม่เอานะ" ผมดีดดิ้น แต่มือกุมอยู่ที่ปืนใหญ่ของป๋าก่อนหน้านี้ละ แบบว่าๆ ลืมชักกลับอ่ะ คริคริ
"นะครับที่รัก" ปลายลิ้นอุ่นชอนไชสู่รูหู อ๊ายยย เสียวอิบหาย ขนลุก
"อื้อ อย่า ไม่เอา...อุ๊บ" พยายามบ่ายเบี่ยง ป๋าคงทนไม่ไหวครับจับผมหันไปจูบอุดปากเลย
แรกๆ ผมก็ขัดขืน ไม่ยอมให้ลิ้นจาบจ้วงเข้ามา แต่พอโดนสองมือป๋าเขี่ยเล่นแถวปุ่มไตเล็กๆ
คราวนี้จะเฉยก็ไม่ไหวแล้วครับ สมยอมในบัดดล (ใจง่ายป่ะ)

"อื้อ..." ขาเริ่มไร้เรี่ยวแรงในการทรงตัว จึงต้องยกสองแขนอาศัยคล้องรอบคออีกฝ่ายเป็นที่พักพิง
ป๋าชินถอนจูบออกแล้วขุกเข่าลงบนพื้น จับเจ้าเอน้อยไว้เป็นตัวประกันก่อนจะครอบริมฝีปากเข้ามา
สบงสบู่ก็กะจะกินเข้าไปด้วยหรือไง ไอ้ป๋าหื่น ผมดันหัวแกออกอย่างไว

"เดี๋ยวป๋า อย่างเพิ่งดิ"
"ทำไมอีก" ป๋าเหลือบมองค้อนๆ
"ล้างตัวก่อน สบู่ทั้งนั้น" ผมบอกพลางเอื้อมมือไปตักน้ำในอ่างมารดตัว ป๋าคงคิดว่าผมทำอะไรชักช้ามั้ง
แกลุกพรวดหยิบขัน จ้วงตักน้ำราดผมซ่าๆ ไปหลายขัน สะอาดยันหัวเลยเหอะ

"หูยยยย จะรีบอะไรขนาดนั้นครับ"
"รีบเอาเมียครับ" เอิ่ม ชัดเจนดี
"ถุงยางอ่ะ" ตอนเตรียมของเข้ามาอาบ ผมเป็นคนเตรียม เพราะงั้นเรื่องถุงยางลืมไปได้เลยครับ ไม่ได้เอามาด้วยแน่
"ไม่ได้เอามาครับ" ป๋าก็ตอบ ส่วนมือจับผมให้หันเข้าหาอ่างอาบน้ำ
"เฮ้ย อย่าบอกนะว่าจะทำทั้งอย่างนี้อ่ะ" ผมตกใจ เนื่องจากไม่เคยเล่นสดกันมาก่อน
"ทนไม่ไหวแล้วครับ" ไม่พูดเปล่าป๋าจ่อปากกระบอกปืนใหญ่ตรงช่องทางลับผมแล้วดันพรวดเข้ามาทั้งแบบนั้น
แม่ง! โคตรพ่อโคตรแม่ของความเจ็บ

ผมกัดปากข่มเสียงร้องตัวเองไม่ให้เล็ดลอดออกมาจนรู้สึกได้ถึงรสฝาดๆ ของเลือด สองมือยึดจับขอบอ่างแน่นจนปวดปลายนิ้ว
ป๋าโน้มตัวมากระซิบข้างหูผมเบาๆ ว่า "ขอโทษ" หลังจากนั้นก็ไม่รับรู้อะไรแล้วครับ ป๋าขยับเอวเข้าออกตามจังหวะช้าๆ
มือหนึ่งจับจ่ออยู่ที่หัวนม อีกมือกอบกุมอยู่ที่เอน้อย กว่าความเจ็บจะหายไปก็ใช้เวลานานเหมือนกัน

"อ่าห์ อื้อ น้องเอ...รักนะครับ" ป๋าชินขยับสะโพกเร็วขึ้น ผมหลับตาแน่น เปลี่ยนจากกัดปากมาเป็นหลังมือตัวเอง
"อื้อ..."
"สุดยอดครับน้องเอ คับสุดๆ เลย อื้มมม อ่าห์" ป๋าเร่งจังหวะอีก
"อึก..." ทั้งเสียวทั้งเสียความรู้สึกเล็กๆ มันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ครับ เหมือนถูกข่มขืนมั้งอารมณ์นั้น
สุดท้ายป๋าก็ถึงสวรรค์ในตัวผม แต่ผมกลับไม่ ป๋าจึงถอนตัวออกมาช่วย

"พอเถอะป๋า แต่งตัวแล้วไปนอนเหอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง" ผมตัดสินใจบอก เพราะเห็นป๋ามีอาการสะลืมสะลือเหมือนตาจะปิดเสียให้ได้
"ไม่เอาครับ พี่จะมีความสุขคนเดียวได้ไง" ป๋าไม่ยอม จัดการกลืนกินเอน้อยเข้าไปใหม่
แต่แทนที่มันจะตื่นตัว กลับค่อยๆ เฉาตายคาปากป๋าซะอย่างนั้น อนาถแท้

"พอเถอะน่ะ" ผมดันหน้าผากป๋าให้เลิก
"เพราะพี่ใช่มั้ยครับ" ป๋าเงยใบหน้าสำนึกผิดขึ้นมองผม อยากตอบว่า 'เออ' จริงๆ
"ช่างเหอะ ไม่ใช่เพราะป๋าหรอก อารมณ์คนมันอยากจะน่ามึดทำอะไรก็ไม่แปลก" ผมเดินมาคว้าผ้าเช็ดตัวส่งให้
"ลุกขึ้นเช็ดตัวเหอะ จะได้นอน เมื่อคืนไม่ได้นอนไม่ใช่ไง"
"โกรธพี่มั้ยครับ" ถามเสียงแผ่ว น่าสงสาร
"ไม่หรอก" ผมฝืนยิ้มบอกพร้อมกับเช็ดตัวให้แก
"....." ป๋ามองผมเงียบๆ พอเช็ดตัวให้เสร็จป๋าก็เดินห่อเหี่ยวออกไป
 
ผมปิดประตูห้องน้ำแล้วกลับมาจัดการกับสิ่งที่ป๋าปล่อยคั่งค้างไว้ข้างใน น้ำตาที่ไม่รู้กลั่นมาจากไหนรื้นที่ขอบตา
มันไหลร่วงลงบนพื้น ก่อนที่ผมจะทรุดนั่งกอดเข่าปล่อยให้ตัวเองร้องไห้อย่างเงียบกริบ แม้เสียงจากน้ำก็อกจะช่วยอยู่แล้วก็ตามที

กว่าจะทำใจให้สงบ ซับน้ำตาให้แห้ง ออกจากห้องน้ำกลับเข้าห้องนอนได้ ป๋าชินก็ชิ่งหลับไปก่อนแล้ว
ในกรณีนี้ ถ้าไม่เหนื่อยสุดๆ หรือน็อคกลางอากาศ ป๋าชินไม่มีทางทิ้งผมไว้แน่นอน ประเภทความรับผิดชอบสูงอ่ะครับ
ผมเดินขาสั่นๆ เข้าไปยืนข้างเตียงมองดูคนนอนเอามือก่ายหน้าผาก หัวคิ้วชนติดกัน  เห็นป๋านอนท่านี้ทำให้รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย
เพราะอย่างน้อยๆ ป๋าก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำรุนแรงกับผมจริงๆ

เช็ดผม สวมชุดนอน ปิดไฟ แล้วค่อยๆ ขึ้นไปบนเตียงโดยไม่ให้คนที่นอนอยู่ไหวตัวตื่น
ไหว้พระจบบทก็ล้มตัวนอนมองความมืด คิดนั่นคิดนี่เรื่อยเปื่อยจากนั้นก็เผลอหลับไป.......


********************************************************

อุ๊ต๊ะ ตอนนี้มันเข้าขั้นดราม่าป่ะ
ยังไงดีหน่อ อารมณ์เหนื่อย บวกไม่ได้นอน บวกหน้ามืด ก็เลยบังเกิดความรุนแรง
จริงๆ เหตุการณ์มันหนักกว่านี้เยอะ(เหรอ - คนเขียน) แต่ผมเข้เกียจรื้อฟื้นความทรงจำใหม่ เพราะงั้นก็ได้เท่านี้แหละ แฮ่ะๆ
อ้อ เช้ามาปรากฎว่าป๋าความจำเสื่อมครับ จำเหตุการณ์หลังจากที่ผมเอาน้ำราดตัวเองไม่ได้เลย ไม่รู้ตัวเองอยากลืม หรือจงใจโกหก
ทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นปริศนารอคำอธิบาย ไว้เจอกันใหม่เน้อ ที่แน่ๆ ตอนหน้าผมก็จะได้กลับบ้านแล้ว เย้~!!


********************************************************

ตอนพิเศษสั้นๆ เนื่องในโอกาศที่อิป๋ากลับมาจากเยอรมัน
ซึ่งเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวานก่อน (วันอาทิย์อ่ะแหละ)


ถ้าคุณยังจำหนูแดงหลานของผมได้ ตอนนี้ก็อายุสิบสองจะสิบสามแล้วครับ
คือเช้าวันนั้นเฮียเอฟของผมต้องไปเฝ้าเมียที่ครบกำหนดคลอดที่โรงพยาบาล (ลูกคนที่สอง)
ก็เลยเอาหนูแดงมาฝากผมกับป๋าให้ช่วยดูแลหน่อยเพราะทุกคนในบ้านต่างมีธุระ ไม่ว่างเลย
ผมก็นะ เป็นพวกหลงหลานเป็นทุนเดิม ตอบตกลงโดยที่ลืมไปว่านัดจะไปสวีทกับป๋าชินสองต่อสองที่หัวหิน
พอตกปากรับคำไปแล้วจะคืนคำก็กลัวเด็กเสียความรู้สึก ทำให้การสู้ศึกระหว่างคนแก่กับเด็กสาวได้เริ่มขึ้น

"เอเอ้" หนูแดงเรียกผมที่นั่งดูการ์ตูนอยู่ครับ
แถมชื่อนี้เป็นชื่อเฉพาะที่หลานผมมีสิทธิ์เรียกได้เพียงผู้เดียว ถ้าใครบังอาจเรียกตาม เธอจะงอนไปสามวันสิบวัน
(เอาเป็นว่าชื่อจริงๆ ก็ถูกเรียกแนวแอ๊บเงี๊ยะ งงป่ะ ผมเริ่มงงตัวเองเหมือนกัน ฮ่าๆ)

"ว่าไงหนูแดง" ปากตอบตาก็มองจอ ป่าชินเหรอครับ นั่งอยู่ข้างๆ กันนี่แหละ
"ทำไมเอเอ้ไม่แต่งงานอ่ะ" หลานผมรู้นะว่าป๋าชินเป็นแฟน แต่คิดว่ายังคงไม่เข้าใจมั้ง
"อยากแต่งอยู่ แต่ไม่มีใครให้แต่งด้วย" ปากก็พูดไป ใจไม่ได้คิดอะไร
"งั้น เอเอ้มาแต่งกะหนูแดงเอาป่ะ ไม่ต้องเสียค่าสินสอดด้วย"
ไม่พูดเปล่าคุณหลานจับหน้าผมให้หันไปหาแล้วจุ๊บปากเลยครับ เหวอกันทั้งผมทั้งป๋า ใครมันสอนหลานกรูวะ

"หนูแดง!!" ป๋าขึ้นเสียงพร้อมทั้งรวบผมไปนั่งตัก ได้ข่าวว่าหลานกรูนะครับ จะหวงทำไมเนี่ย
"ชินปล่อย เอเอ้นะ" หนูแดงดึงมือผมให้ไปหาเธอสุดแรง แต่เชื่อเถอะไม่ขยับสักนิด แรงป๋ามันเยอะกว่าไง
"หนูแดงนั่นแหละปล่อย นี่ของชิน อยากได้คนแต่งด้วยไปหาเอาใหม่ไป๊" น่านมีไล่เด็ก แน่ใจว่าอายุจะเข้าเลขสี่?
"ชินนั่นแหละไปหาเอาใหม่ ปล่อยสิ ปล่อยยยยยยยยย" ออกแรงหน้าดำหน้าแดง เห็นแล้วสงสารหลานว่ะ
"จ้างก็ไม่ปล่อย งั้นหนูแดงดูนี่นะ" อิป๋าจับหน้าผมหันแล้วจัดการดูดปากจ๊วบจ๊าบต่อหน้าเด็ก
ผมต้องพยายามใช้อีกมือที่เหลือตีป๋าไปหลายที ซึ่งนานมากกว่าปากตัวเองจะเป็นไท

"ทำอะไรต่อหน้าหลานเนี่ย หนูแดงเป็นไรมั้ยครับ..." หันมาเจอหลานน้ำตาคลอเบ้า
"ชินบ้า ทำอะไรเอเอ้ของเขาอ่ะ บ้าๆๆ" เข้ามาทุบป๋าผ่านผมเสร็จก็กอดผมแน่น "เอเอ้ของหนูแดงนะ ไม่ให้ชินหรอก ฮือออออ" เป่าปี่
"เห็นป่ะ ทำหลานร้องไห้เลย หลานมันก็พูดไปงั้น ไม่ได้จริงจังไรหรอก ป๋านั่นแหละจริงจังอะไรกับคำพูดเด็ก"
"ไม่เด็กแล้ว จะสิบสามแล้ว แปบๆ เดี๋ยวก็หาผัว โอ๊ย!!" ผมกระทุ้งศอกใส่ไปที
"พูดจาเพ้อเจ้อ ไปๆ ผมจะเอาหลานขึ้นบ้าน อยู่กลับป๋ามีหวังร้องไม่หยุดแน่"
"เออสิ ไงเด็กก็ดีกว่าอยู่แล้วนี่" ลุกขึ้นยืนค้อนผมวงใหญ่แล้วเดินหนีไปหลังบ้าน
กว่าจะมีเวลาง้อกันเหรอครับ ต้องรอตอนกลางคืนนู้น ให้หนูแดงหลับก่อนถึงจะได้อยู่สองต่อสอง
ไม่งั้นเจอหน้ากันเป็นกัดกันทุกทีไม่รู้เป็นไรสิ ถามหาเหตุผลหนูแดงก็ไม่ตอบ ถามป๋าก็ได้แต่คำตอบปัญญาอ่อนกลับมา โคตรเพลียครับ


**************************************************************


ปล. อยากบอกรักคนอ่าน อยากกินไก่ KFC (เกี่ยวป่ะคะ อิอิ)
ปล2. คุณลิงภูเขาน่ารักที่ซู๊ดดดดด (ขอบคุณสำหรับข้อความกระตุ้นค่ะ อิอิ)
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 12 (26/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 26-02-2014 08:04:32
5555
หื่นสมกับเป็นป๋า
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 12 (26/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 26-02-2014 14:29:36
ก็นิสัยเด็กกันทั้งสองคนนะ จากที่อ่าน อิอิ  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 12 (26/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 26-02-2014 14:52:45
อิป๋าทำน้องเอร้องไห้เลยยยยยยย มันน่านัก ฮึ่มมมม ดีนะมีตอนพิเศษมาให้อ่าน ไม่งั้นอารมณ์โมโหอิป๋าค้าง เวอร์มากกก 5555 ตอนพิเศษน่ารักมาก ขนาดกับเด็กนะนั่น แต่เด็กสมัยนี้โตเร็วมาก สงสัยอิป๋าจะระแวง   555555

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 12 (26/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 26-02-2014 16:36:08
เป็นการเตือนกลายๆ ว่าอย่าให้ผมรู้เฟส ทวิต หรือไลน์ หรือไรทั้งนั้น 

รับรองมันจะตามทวงไปทุกที  :laugh:


.
.
อารมณ์หื่นมันไม่เข้าใครออกใครอ่ะนะน้องเอ  เข้าใจป๋าหน่อย  :z1:

ส่วนหนูแดง  ป๋าคงไม่ได้คิดไรมากหรอก แค่หาเรื่องทะเลาะ แล้วน้องเอจะได้ง้อ

พอง้อแล้วมันก็...  :hao6:

... สุดท้าย  รักน้องเอจริงๆ น้องเอของพี่  :hao7:  โดนป๋าตบ  :beat:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 12 (26/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 26-02-2014 17:15:07
ป๋า ไม่ควบคุมความอยากของตัวเองเลย นี่ถ้าพนักงานใครมาได้ยินเข้านะ เหอๆๆๆๆ  เอ คงรู้สึกแย่กว่าเดิมแน่เลย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 12 (26/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-02-2014 17:33:34
ป๋าหื่น
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 12 (26/02/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 27-02-2014 21:17:20
 :กอด1: :impress2:

 :katai4:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 13 (02/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 02-03-2014 05:13:50


รักบอดๆ ตอนที่ 13 (เลขสยอง?)





วันกลับ
ตอนสายๆ ของวัน มีสายด่วนจากลูกค้าเข้ามาเรื่องงาน
ป๋าชินที่ยังเมาขี้ตาวางหูโทรศัพท์หน้าเครียดก่อนจะกดอินเตอร์โฟนเรียกพี่ลูกเกตให้ขึ้นมาพบที่ห้องทำงาน

"น้องเอ"
"ว่า?"
"พี่ต้องออกไปพบลูกค้านะครับ"
"แล้วไง"
"อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย"
"ให้ผมกลับบ้านเลยไม่ดีกว่าเหรอ" สามวันมานี้นอกจากอาสาออกไปซื้อข้าวให้ป๋า
นอกเหนือจากนั้นผมก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ความเครียดสะสมนะครับ

"ไม่ได้ครับ รอพี่กลับมาก่อนแล้วค่อยกลับพร้อมกัน" ป๋าชินบอกพลางเดินไปคว้าเสื้อนอกมาสวมทับเชิ้ตสีน้ำเงินด้านใน
"เอาแต่ใจ" ผมบ่นอุบแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือรวมรูปศิลป์ จริงๆ ต้องบอกว่าเสพแค่รูปจะถูกกว่า
"อย่าดื้อ อย่าซนนะครับ ฟอดดดด" ป๋าชินเดินเข้ามาหอมแก้ม
"ครับพ่อ"
"โอ้ มีลูกโตขนาดนี้ ต้องมีเมียตั้งแต่อายุเท่าไหร่เนี่ย" ป๋าชินยิ้มขำ
"ประชดครับ"
"เหรอ ฟอดดดด" ขโมยหอมอีกข้าง

ก็อกๆ

"เข้ามาครับ"
"มีอะไรคะพี่ชิน" พี่ลูกเกตถามพร้อมกับส่งยิ้มให้ผมแทนคำทักทาย
"พี่ต้องออกไปเคลียร์งานกับลูกค้าครับ เขาบอกงานที่ส่งให้เขาไปมันไม่ใช่แบบที่เขาต้องการ"
"เจ้าไหนคะ"
"เจ้าของนิตยาสาร...น่ะ"
"เอ๋ ถ้าว่ากันตามจริงก็น่าจะถูกแล้วนะคะ เพราะเกตเป็นคนประสานงานกับทางฝ่ายนั้นโดยตรงเอง
ตอนที่ตกลงกันเขาก็บอกว่าได้นี่คะ" พี่ลูกเกตทำสีหน้าประหลาดใจ

"ไม่รู้สิ ต้องไปดูก่อนว่างานที่เราส่งให้เขาไปเป็นแบบไหน" ป๋าบอกเสียงนิ่ง
"หลักแสนเลยนะคะ"
"ก็ต้องดูก่อนนั่นล่ะ ไปเถอะ"
"ค่ะๆ"
"น้องเอ อย่าออกไปไหนไกลนะ กลับมาพี่ไม่เจอจะโดนทำโทษ" ป๋าหันมากำชับเสียงแข็งแล้วเดินนำพี่ลูกเกตออกไปจากห้อง
"คิดว่ากลัวเหรอ เชอะ" ผมก็บ่นไปดูรูปไป จบเล่มมองนาฬิกาจะสิบเอ็ดโมง ท้องเจ้ากรรมเริ่มเรียกร้องความสนใจ เลยตัดสินใจ
เดินลงมาชั้นล่าง กะว่าจะไปหาอะไรโซ้ยสักหน่อย ไอ้พี่โต้กับพี่ปานก็เข้ามาทักพอดี

"ไปหาข้าวกินเหรอน้องเอ" พี่ปาน
"ใช่ครับ" ไม่มีอารมณ์เกรียน
"ไปกับพวกพี่เปล่า ว่าจะออกไปหาไรกินเหมือนกัน"
"ที่ไหนอ่ะ?"
"ร้านแซบครับ" พี่โต้ตอบ
"แนวอีสานป่ะ"
"ประมาณนั้น ขอการันตีว่า อร่อยเวอร์" พี่ปานยกนิ้วโป้งประกอบคำพูด
"สนมั้ย" พี่โต้ถาม
"อืม ไปก็ได้ อยากกินน้ำตกหมูอยู่พอดี"
"โอเค งั้นก็เลทโก ทู แซบ" พี่ปานเข้ามากอดคอเนียนสนิทกันมาก
"แล้วไปไงอ่ะ" ผมหันไปถามพี่โต้ที่เดินตามหลังมา
"ไปรถไอ้ปานครับ"
"รถยนต์"
"ก็ BM รุ่นเจ้าคุณปู่น่ะนะ" พี่ปานปล่อยแขนออกจากคอผมแล้วเดินไปไขกุญแจรถที่จอดเยื้องหน้าโรงพิมพ์ออกมาเล็กน้อย
ซึ่งมองดูแล้วก็ตามที่เจ้าตัวบอกแหละครับ BM สีเลือดนก แอร์ธรรมชาติ (ฮา~)

"เชิญครับท่าน" พี่โต้เปิดประตูหลังให้พร้อมรอยยิ้มเชิงแซว
"ขอบใจไอ้น้อง ทำดีเดี๋ยวพี่มีทิป" ผมรับมุขด้วยการตบบ่าพี่โต้ไปสองสามทีแล้วเข้ามานั่ง
เจ้าตัวถึงกับหัวเราะขำก่อนจะปิดประตูแล้วเข้ามานั่งเบาะด้านหน้า

"พี่ปานๆ พี่เขียวไม่ไปด้วยเหรอ" ผมยื่นหน้าไปถามอย่างนึกขึ้นได้ว่าฝ่ายศิลป์ที่ไม่ได้ออกมาข้างนอกยังเหลืออีกคน
"อ๋อ รายนั้นเขาไปกินกับแฟนก่อนแล้วน่ะ"
"ห๊ะ พี่เขียวมีแฟนด้วย" อย่าหาว่างู้นงี้เลยครับ แต่นึกภาพตามไม่ออกจริงๆ ว่าหญิงเทียมตัวดำหุ่นล่ำอย่างพี่เขียวจะมีแฟน
"ช่าย เป็นชาวต่างชาติด้วยนา~"
"ประเทศไรอ่ะ"
"แอฟริกา" โอเค เกท
"น้องเอ อยากกินอะไรนึกรายการไว้ในหัวเลยนะ ไปถึงจะได้สั่งเลย ไม่งั้นช้าแน่" พี่โต้หันมาบอก
"อืมมมม ก็มี น้ำตกหมู ตำไท แค่นี้อ่ะ"
"กินน้อยจัง" พี่ปานเปรยยิ้มๆ
"ข้าวเหนียวกระติ๊บหนึ่งด้วยนะ"
"ได้ๆ"
"แหม ท่าจะเลี้ยงง่าย" พี่ปานว่าหน้าตาที่สะท้อนในกระจกมีเลศนัยพิกล
"ของกู" พี่โต้ยื่นมือผ่านหน้าผมไปผลักหัวพี่ปาน
"น้องเขาตกลงแล้วเหรอไง ถึงได้กล้าบอกออกมาได้เต็มปาก"
"ไอ้ปาน อยู่ในทางของมึงเหอะ อย่ายุ่งกับกู"
"ยังไงก็ได้นะ เนอะ" หันมายิ้มให้ผม
"พวกพี่หมายถึงไรง่ะ งง" งงจริงไม่ได้แอ๊บ (มาคิดดูตอนนี้แอบหัวเราะตัวเอง กร๊ากกกก)
"เปล่า" ตอบอย่างพร้อมเพียงกันทั้งสองพระหน่อ ผมก็ได้แต่นิ่วหน้ากลับมานั่งพิงเบาะไม่คุยต่อแม่ง

ร้านแซบอยู่ห่างจากโรงพิมพ์ประมาณห้ากิโลไม่รวมระยะยูเทิร์นที่โคตรไกล ในที่สุดเราสามคนก็ได้มานั่งอยู่ในร้านบรรยากาศบ้านๆ
เป็นสวนกว้างๆ ปลูกเพิ้งไว้เป็นซุ้มๆ ร่มรื่นเหมาะแก่การเฮฮาปาตี้ในวงเหล้ามากมาย น้องผู้หญิงเดินถือเมนูอาการเข้ามาต้อนรับ
พี่โต้กับพี่ปานผลัดสั่งกันคนละสองสามอย่างรวมถึงสั่งให้ผมด้วย

"ปีนี้น้องเออยู่ปีสามใช่มั้ย" พี่โต้เปิดฉากสนทนาควบคู่ไปกับมื้ออาหาร
"อื้อ" ผมพยักหน้าตอบพลางจิบเบียร์เย็นๆ ฮู่ว~ ชื่นใจ
"ถ้าขึ้นปีสี่จะมาฝึกงานที่โรงพิมพ์หรือเปล่า"
"ไม่รู้อ่ะ รอดูก่อน" เป็นพวกคิดน้อยกับเรื่องอนาคตครับ
"งั้นเหรอ อืม" พยักหน้าเข้าใจ
"พี่ถามทำไมอ่ะ"
"อยากรู้น่ะครับ" พี่โต้ยิ้มตอบ
"เรื่องจริงช่างแสนเศร้า หึๆ" พี่ปานพูดลอยๆ หน้าตาเป็นธรรมชาติมาก
"สักเรื่อง"
"จริงสิ ว่าแต่น้องเอมีแฟนยังครับ" พี่ปานยักไหล่ให้เพื่อนอย่างไม่แคร์แล้วหันมาถามผมหน้าซื่อ
"เอ่อ ก็มีครับ"
"เหรอ แล้วเรียนมอเดียวกันเปล่า"
"เปล่า เขาทำงานแล้ว" ก็เจ้านายพวกแกแหละ
"หืมๆ" พี่ปานเหล่มองพี่โต้พลางฉีกยิ้มที่มุมปากก่อนจะถูกพี่โต้ผลักหัว
"เสือกเรื่องน้องเขาจริงนะมึง"
"เอ๊า ก็คนอยากรู้ เน๊อะ ไม่ว่ากันใช่มั้ยครับน้องเอ" รีบหันมายิ้มหวานให้ผม
"ตอบได้ก็ตอบครับ" ผมว่า แต่ก็ชักเริ่มสงสัยพฤติกรรมของสองคนนี้ตงิดๆ
"น่ะ เห็นป่ะ งั้นอีกคำถาม น้องเอคิดว่าไอ้โต้เป็นไง" โคตรเป็นคำถามที่ไม่ได้สัมพันธ์กับหัวข้อที่แล้วๆ มาเลยว่ะครับ
"ไอ้ปาน มึงบ้าป่ะเนี่ย ถามคำถามห่าไรไร้สาระ" พี่โต้ตีหน้าขรึมโวยเสียงเขียว
"ไร้สาระตรงไหนวะ นี่แหละกำลังดี ว่าไงครับน้องเอ" เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณมึงคิดอะไรอยู่กันแน่ครับไอ้พี่ปาน กรูงง
"เอ่อ...ก็ดี แมนดี นิสัย...ก็โอเค(มั้ง)" ผมก็ตอบพอเป็นพิธีให้จบๆ เรื่อง
"แค่นี้?" จะเอาอะไรนัก ไม่ได้สนิทขนาดร่ายรายระเอียดได้หรอกนะโว้ย!
"อืม ก็แค่นี้แหละ ทำไมครับ"
"อ้อ ไม่ทำไมหรอก" พี่ปานพูดยิ้มๆ จากนั้นก็จัดการกับไก่ทอดตรงหน้า
พี่โต้เองคงจะหมั่นเขี้ยวไม่น้อยเลยจัดการประเคนฝ่ามือไปตรงหัวหนึ่งทีเนาะๆ เสียงดังมากครับ

"เชี้ย เจ็บ"
"นั่นล่ะที่กูต้องการ" พี่โต้ยิ้มสะใจ
"ฝากไว้ก่อนเหอะ" พี่ปานคาดโทษหน้าดำหน้าแดง
สุดท้ายการสนทนาก็หยุดชะงักเมื่ออาหารทุกอย่างมาเสิร์ฟจนครบ แล้วเราสามคนก็กินแล้วก็กินๆ พอกินเสร็จ
ก็พากันกลับ พอถึงโรงพิมพ์พี่ปานก็ขอตัวแยกเข้าออฟฟิศไปทำงานต่อ ส่วนพี่โต้ไม่รู้อารมณ์ไหน เดินขึ้นมาส่งผมถึงหน้าห้องทำงานของป๋าเลย

"น้องเอ" พี่โต้เรียกผมที่กำลังจะเปิดประตู
"ครับ?"
"อย่าคิดมากนะ"
"เรื่อง?" ผมเลิกคิ้ว
"ก็เรื่องที่ไอ้ปานมันถามน่ะ"
"เขารู้ว่าพี่ชอบผมเหรอ"
"อืม" พี่โต้พยักหน้า
"พี่บอกเขา?"
"เปล่า แต่มันคงดูรู้ เพราะพี่กับมันสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก"
"อืม ช่างเหอะ ผมไม่ถือ พี่ปานเขาก็คงจะไม่มีเจตนาไม่ดีอะไรกับผมด้วย" แม้จะทำให้กรูรู้สึกสับสนกับพฤติกรรมแปลกๆ ก็เหอะ
"ขอบคุณครับ" พี่โต้ระบายยิ้มออกมาทันที
"เออใช่ ขอบคุณที่พาไปเลี้ยงข้าววันนี้นะพี่ อร่อยมาก" ผมยกมือไหว้
"เฮ้ย ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องไหว้" พี่โต้รีบจับมือผมลง
"อืม พี่ไปทำงานเหอะ ผมจะเข้าห้องละ"
"เดี๋ยวครับ" พี่โต้จับมือผมแน่น
"อะไรอีก" ผมถามเหนื่อยๆ
"พี่ขอเบอร์น้องเอได้มั้ยครับ"
"แต่ผมมีแฟนแล้วนะ"
"งั้นเอาเบอร์พี่ไปแทนก็ได้" รีบล้วงปากกาในเป๋าเสื้อกับเศษซองบุรี่ออกมาจดเบอร์ให้
"ผมไม่รับปากหรอกนะว่าจะโทร" ก็รับมายัดใส่กระเป๋ากางเกง
"ครับ แต่พี่จะรอตลอด" พี่โต้ยิ้มอย่างมีหวังแล้วก็วิ่งลงบันไดไป
ผมยืนถอนหายใจทิ้งตามหลังก่อนจะเปลี่ยนใจเดินจากหน้าห้องทำงานเข้ามาในห้องพักแทน


*****************************************************


ราวๆ หกโมงครึ่ง ป๋าชินกลับมาพร้อมกับใบหน้าที่อิดโรย
เดินเปิดประตูเข้ามากอดผมที่นอนเอกเขนกอยู่ในห้องพักพร้อมถอนหายใจยาวเหยียด

"เป็นไงบ้างป๋า" หน้าผมซุกอยู่กับอกของแก
"เหนื่อยครับ"
"ลูกค้าว่าไงอ่ะ"
"เฮ้อ~ กว่าจะเคลียร์กันลงตัวก็ต้องวิ่งวุ่นไปหลายที่เลยครับ"
"มันผิดพลาดตรงไหนล่ะ" ผมถามพลางลูบหลังแกขึ้นๆ ลงๆ
"ไม่ได้มีอะไรผิดพลาดหรอกครับ แต่มันเป็นปัญหาของทางนั้นเอง เพราะตัวคนที่ออกแบบเป็นพวกกราฟิกดีไซน์อิสระที่บริษัทเขาจ้างมา
ไม่เกี่ยวกับเรา และทางนั้นก็คงไว้ใจกราฟิกดีไซน์คนนี้มากด้วย การส่งงานมาให้ทางเราตีพิมพ์เลยเหมาเอาเองว่าเรียบร้อย ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่สักนิด"

"ป๋าก็เลยต้องไปตามตัวกราฟิกดีไซน์คนนั้นใช่มั้ย" ผมเงยหน้าสบตาป๋า
"ครับ ต้องไปหลายที่เลยล่ะ เพราะเขาไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง"
"ลำบากแย่เลยเนอะ"
"ลำบากมากครับ ยิ่งเจอรถติดติดต่อกันเป็นชั่วโมงยิ่งร้อนใจ"
"อืม แล้วนี่พี่ลูกเกตกลับไปแล้วเหรอ" ผมเลิกคิ้ว
"ให้ไปพักแล้วครับ จริงๆ ถ้าวันนี้ไม่ได้ลูกเกตพี่คงแย่เหมือนกัน" ป๋าพูดแล้วทำสีหน้าผ่อนคลาย
"อืม" ไม่รู้จะตอบอะไร ใจหนึ่งก็รู้สึกขอบคุณพี่ลูกเกตอย่างสุดซึ้งอะนะ แต่อีกใจมันแอบอิจฉาลึกๆ ไงไม่รู้สิครับ
มันเหมือนกับตัวเราเนี่ย แม่งช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี อะไรเถือกนั้น

"เป็นอะไรไปครับ คนดี" ป๋าชินถามแล้วจุ๊บหน้าผากผมเบาๆ แววตาอ่อนโยนของป๋าที่มักจะมีให้ผมเสมอ
ทำให้ความรู้สึกหมองหม่นในจิตใจค่อยๆ ละลายหายไปจนหมด อยากตะโกนบอกทุกคนจริงๆ ให้ดิ้นตาย ว่า...
น้องเอรักป๋าชินที่สุดในสามโลกกกกก~!!!! (อร๊าย เขิน)

"อืออออ ไม่ได้เป็นอะไรครับ แค่คิดถึงป๋าเฉยๆ" บอกพลางเอาหน้าถูๆ ไถๆ ไปกับแผ่นอก
"แน๊~ จู่ๆ ก็มาอ้อนกันน่ารักๆ แบบนี้ อยากจะให้พี่คิดว่าน้องเออยากได้สักดอกเหรอครับ" ไหงไหลไปเรื่องหื่น
"บ้า!" ผมผลักแกออกไปให้พ้นตัว แต่อย่าคิดว่าจะได้ผล เพราะธรรมชาติ(ระหว่างพ่อและแม่)สร้างอิป๋ามาด้วยความเอ็นดู
ทำให้ฮีมีแรงกายมากกว่าภายนอกที่เห็น ซึ่งถ้าได้กอดแล้วจะติดหนึบยิ่งกว่ากาวตาช้างสิบคันรถเสียอีก อึดอัดเว้ย!

"ป๋าชิน ปล่อย!" ผมสั่ง
"ไม่ปล่อย จ้าง-ให้-ก็-ไม่-ปล่อย" ทำเสียงยานๆ เป็นเด็ก ทว่าการกระทำแม่งโจรปล้นสวาทชัดๆ
มือไม้ไม่อยู่สุขทั้งจับ ทั้งบีบ ทั้งลูบ ทั้งคลำ ทำทุกอย่างที่เป็นการกระตุ้นทางด้านอารมณ์

"โอ๊ยป๋า! ไม่เอานะ กลับบ้านเหอะ ผมคิดถึงบ้าน" ผมดีดดิ้น เล่นตัวเป็นสาวพรหมจารี แรดเนอะ คริคริ
"ไม่เอา เมื่อวานพี่จำไม่ได้ วันนี้ขอแก้มือใหม่" โถ คุณมึงครับ ไอ้ที่จำไม่ได้กรูยังเจ็บไม่หายเลยนะครับ
"อย่ามาตอแหล" ผมนิ่วหน้าด่า
"จริงๆ ครับ แล้วน้องเอก็ไม่ยอมบอกด้วยนี่ครับว่าพี่ทำอะไรลงไปบ้าง จะให้พี่มานั่งนึกก็คงไม่มีวันนึกออกหรอก" กรูไม่อยากรื้อฟื้นเข้าใจมั้ย?!
"นึกไม่ออกก็ไม่ต้องนึก ปล่อยสักทีสิไอ้ป๋าบ้า ไอ้ป๋าหื่น ไอ้ป๋าลามกโคตรซาดิส ฮึ่ม!" แม่งเอ๊ย ดิ้นไม่หลุดสักทีวะ
"อย่าหงุดหงิดสิครับ" ปล่อยกรูก่อนสิ
"ผมอยากกลับบ้านจริงๆ นะป๋า" อยากขอเวลารักษาป้อมปราการที่โดนกระทุ้งเมื่อคืน
"ได้กลับแน่ครับ แต่ขอพี่พักหน่อยนะ"
"พักก็นอนเฉยๆ ดิ จะมาบีบก้นกันทำไมเล่า"
"เพลินดี"
"......" ผมนอนเฉยแม่งเลย อยากทำไรทำไป หมดปัญญาจะเถียง แถมเหนื่อยที่จะดิ้นแล้วด้วย
"อ้าว ไม่ดิ้นแล้วเหรอครับ หืมม" อิป๋า มึงโรคจิตจริงๆ ป่ะเนี่ย
"พอแล้ว ไม่ดิ้นแล้ว เหนื่อย" ผมบอกหน้าบูด
"ฮ่าๆ โอ๋ๆ ไม่แกล้งแล้วครับ ป่ะกลับบ้านกัน" ป๋าลุกขึ้นนั่งขำก่อนจะดึงให้ผมลุกตามอย่างอารมณ์ดี
"เก็บของยังครับ" ถามพลางเดินลงจากเตียงไปเปิดดูตู้เสื้อผ้า ข้าวของ
"เก็บเสร็จตั้งแต่บ่าย กะจะหนีกลับก่อนแต่สงสารคนแก่ กลัวไม่เห็นผมแล้วจะร้องไห้หาขี้มูกโป่ง"
"แหม มีเมียใจดีแบบนี้มันน่าปลื้มจนน่าปล้ำสักทีสองที" ป๋าพูดพร้อมกับสายตาหื่นๆ
ทว่าผมไม่รอช้ารีบกระโดดลงจากเตียงวิ่งมาที่หน้าประตูอย่างรวดเร็ว เผลอเป็นเสร็จครับคนๆ นี้

"ป๋า กลับถึงบ้านนอนคนละห้องนะ" ว่าจบผมก็เปิดประตูโกยอ้าวออกมาทันที
"เฮ้ย ไม่เอา เดี๋ยวครับน้องเอรอพี่ด้วย!!" ป๋าตะโกนเรียกตามหลัง แต่มีรึผมจะอยู่รอให้แกลากกลับเข้าห้อง ไม่มีทาง


*************************************************

ปล. จบตอนสักที ยิ่งเขียนยิ่งไหลออกทะเล(อันที่จริงก็ไหลไปแล้วล่ะนะ)
อยากให้คนอ่านชอบ แต่ก็ได้เท่านี้ ยังไงก็ขอความกรุณาติดตามกันต่อไปเรื่อยๆ นะคะ :mew1:

ปล2. ไม่เคยคิดว่าอิพี่ปานมันจะมีบทเยอะ แห่ะๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 13 (02/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: KhunMay ที่ 02-03-2014 10:50:49
ป๋าชินทำไมหื่นเยี่ยงนี้้้้้้!555  :z1:
รู้สึกว่าเอน่ารักขึ้นมากกกก
เรื่องเบอร์มือถือคงไม่เป็นปัญหาในอนาคตนะ อิอิิิ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 13 (02/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 02-03-2014 13:17:18
อิป๋าหื่นได้อีกกกกกกกกกกก 555555555

โต้จะมาดีหรือมาร้ายเนี่ย ถ้าป๋ารู้ว่าโต้จะจีบเมียตัวเอง .... ไม่อยากจะคิดดดดด ป๋าจะงอน ป๋าจะอารวาสสส

รอตอนต่อไปค่ะ ><
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 13 (02/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-03-2014 15:00:35
คุณพี่หื่นๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 13 (02/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-03-2014 08:11:40
อยากให้ป๋าเห็นเบอร์
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 14 (07/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 07-03-2014 07:11:33





รักบอดๆ ตอนที่ 14



กลับบ้าน
วังวนเดิมๆ ก็วิ่งเข้าหา
นั่ง กิน เล่น นอน บางวันมีกิจกรรมเสริมแบบคู่ในร่มผ้านิดหน่อยพอให้หายเบื่อ
แต่ก็นั่นแหละ เรื่อยเปื่อยผ่านไปแปบๆ พรุ่งนี้มหาลัยผมเปิดเฉยเลย

บ่ายแก่ๆ อยากกินอะไรเปรี้ยวๆ (สงสัยจะท้อง ฮา~)ก็ออกมายืนเก็บมะยมในสวนหลังบ้าน
กะจะให้อิป๋าตำให้กิน ซึ่งวันนี้แกก็ดูจะขยันเป็นพิเศษเพราะเห็นลุกมาทำกับข้าวตั้งแต่หัววัน หลากหลายเมนูเสียด้วย
ผมเอื้อมเก็บจากกิ่งต่ำๆ เก็บไปกินไป ป๋าชินก็โผล่หน้าออกมาเรียกให้ไปรับโทรศัพท์ แถมไม่บอกด้วยว่าใคร สงสัยจะไม่ได้ถาม

ผมนิ่วหน้าขานตอบไม่สบอารมณ์เล็กน้อยที่มีมารมาขัดจังหวะ เลยต้องหอบมะยมกองเล็กๆ เข้ามาทิ้งในจานเปล่าบนโต๊ะ
ก่อนจะขโมยหยิบหมูทอดแดดเดียวที่ป๋าแล่เองตากเองและทอดเองในจานข้างๆ ใส่ปากเดินมารับสาย

"หยั่มๆ โหล" สั้นๆ ไม่รู้หรอกครับว่าใคร แต่อารมณ์มันจะเกรียนมันก็ประจำอ่ะ
"สิบสอง เชี้ย รับสายให้มันเป็นผู้เป็นคนหน่อยดิ" เสียงคุ้นๆ ของไอ้เบียร์ต่อว่ากลับมา
ที่ผมจำเสียงมันได้แม่นก็เพราะน้ำเสียงแหบๆ ต่ำๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของมันอ่ะครับ นึกว่าคนเป็นโรคหลอดลมอักเสบเหอะ

"อยากจะรับดีๆ หรอกนะ แต่พอตอนนี้รู้ว่าเป็นมึงแล้วกูไม่อยากทำว่ะ
ว่าแต่มีธุระไรถึงได้โทรหากูครับ ปิดเทอมไปเป็นเดือนเสือกคิดจะโทรหากูในวันสุดท้าย โคตรปลื้ม!" แดกดันมันเข้าไปครับ หมั่นไส้

"เอ๊า กูคนมีแฟนนะเว้ย แล้วทีมึงล่ะ กูไม่โทรก็ไม่คิดจะโทรเหมือนกัน ว่าคนอื่นเขาน่ะดูตัวเองบ้างหรือเปล่าครับไอ้คุณเอ"
"เพราะรู้ว่ามึงมีแฟนไง เลยไม่อยากรบกวน" แถเข้าข้างกำแพง ไม่มีทางซะหรอกที่คนอย่างน้องเอจะสำนึก ฮ่าๆ
"อ๋อ เหรอครับ ไม่บอกกูคงไม่รู้ ถุย!" เต็มหูกรูเลย ไอ้เบียร์บูด
"ที่กูโทรหามึงไม่ใช่ไร พอดีกลุ่มเรามันกลับกรุงเทพมาครบหมดแล้ว ก็เลยจะชวนไปทิ้งท้ายวันหยุดที่สะพานพุทธสักหน่อย ไปเปล่า?"
"อยากหาเพื่อนร่วมก๊วนไปซื้อของก็ไปชวนแฟนมึงเหอะไป๊"
"เฮ้ยเอ กูตั้งใจชวนจริงๆ นะเนี่ย แม่งไม่เข้าใจกูเลย น้อยใจว่ะ"
"ถามจริงเบียร์ แฟนมึงไม่อยู่ใช่ป่ะ"
"อยู่ แต่ไม่ไป"
"งั้นกูวางละ"
"เฮ้ย เดี๋ยวไอ้เอ กูล้อเล่น"
"เออ แต่กูจริงจัง"
"กูขอโทษ แค่คิดถึงเพื่อน อยากชวนเพื่อนไปเดินเที่ยวด้วยกันไม่ได้ไง" มันทำเสียงอ้อนๆ ถ้าอยู่ใกล้ผมได้ถีบมันไปแล้วครับ กระแดะชิบ
"คนอื่นว่าไง"
"ไปหมด เหลือมึงนี่แหละ"
"ไปก็ไป กี่โมง?"
"เดี๋ยวทุ่มนึงกูไปรับ"
"เชี้ย กลางคืนป๋ากูคงให้ไปหรอก"
"ตลาดมันเปิดเย็นนะไอ้เอ ไม่ไปกลางคืนจะให้ไปตอนสายๆ ไง มึงก็ชวนป๋าไปด้วยดิ"
"อืมมม...ไม่รู้ว่ะ"
"ไปขอให้เรียบร้อยเลยนะเว้ย อย่าให้กูไปเสียเที่ยว"
"รู้แล้วน่า แค่นี้นะ" บอกจบแล้ววางสาย แอบชะเง้อมองหลังคนในครัวก่อนจะลอบถอนหายใจ
บอกตรงๆ ไอ้ไปด้วยไม่กลัวหรอกครับ แต่กลัวอิป๋ามันจะไม่ไปแล้วห้ามไม่ให้ผมไปนี่สิ หวั่นจริงๆ

"ป๋าชิน~" เดินเข้ามากอดเอวเอาหน้าซบหลังเจ้าของชื่อที่ยืนต้มอะไรสักอย่างหอมๆ ในหม้อ
"มีอะไรครับ มาแนวนี้จะมาอ้อนเอาอะไรอีกล่ะ หืม" รู้ทันผมตลอดอ่ะ
"เบียร์บูดมันโทรมาชวนไปเดินสะพานพุทธอ่ะ ไปได้ป่ะ"
"ไปกี่โมงถึงกี่โมงครับ จะกลับมากินข้าวหรือเปล่า"
"เบียร์บอกจะมารับตอนทุ่มนึง คงกินข้าวก่อนไป แต่เวลากลับไม่รู้อ่ะ ถ้ารถติดก็น่าจะดึกอยู่นะ"
"....." อิป๋าเงียบ แกะมือผมแล้วหันมาสบสายตา
"ป๋าจะไปด้วยก็ได้นะ เบียร์มันบอกให้ชวนป๋าด้วย" ผมทำตาปิบๆ ให้น่ารักน่าเอ็นดู คริคริ
"เฮ้อ~ พี่ไม่ไปหรอกครับ และถึงไม่อยากให้น้องเอไปก็คงห้ามยาก แต่ยังไงก็อย่ากลับดึกให้มากนะ
มีอะไรให้โทรบอกทันทีรู้มั้ยครับ อย่าให้พี่ต้องมาเค้นถามที่หลังเหมือนคราวก่อน ไม่อย่างนั้นเรื่องไปไหนมาไหนไม่ต้องมาพูดกันอีก"
ป๋ากำชับทั้งยังยื่นคำขาดชี้ชะตาชีวิตในภายภาคหน้าให้ผมพร้อมสรรพ หน้าตาไม่ต้องพูดถึง เข้มเหี้ยมเหมือนยักษ์ไม่มีผิด

"รับทราบครับผม รักป๋าจัง ฟอดดดด" เขย่งเท้าหอมแก้มคนตรงหน้าไปหนึ่งทีแทนคำขอบคุณ
"แล้วป๋าอยากได้ไรป่ะ เผื่อเจอจะได้ซื้อมาฝาก"
"ไม่ดีกว่า" ป๋าขยี้หัวผมพร้อมคลี่รอยยิ้มละมุนก่อนจะหันกลับไปสนใจหม้อต้มบนเตาต่อ
"เออ ว่าจะถาม ป๋าต้มไรอ่ะ" มองน้ำกระทิสีส้มในหม้อที่กำลังเดือดปุดๆ
"แกงมัสมั่นเนื้อครับ"
"เป็นไงอ่ะ" ไม่รู้จริงๆ จังๆ กับเรื่องอาหารแปลกๆ อย่างสุดกรู่
"ก็คล้ายแกงกระทิ แต่รสชาติจะกลมกล่อมกว่า พี่ลองทำเพราะคิดว่าน้องเอน่าจะชอบ"
"น่ากินเนอะ ชิมได้ป่ะ" ผมเงยหน้าจากหม้อขึ้นมองป๋า แกก็ส่ายหัวยิ้มๆ แล้วใช้ช้อนตักน้ำแกงยื่นมาจ่อปาก
"ระวังร้อนนะ"
"อื้อ...โหย อร่อยอ่ะ หวานเผ็ดกะลังดีเลย"
"ถูกใจแบบนี้จะให้อะไรเป็นรางวัลพี่ล่ะ" รอยยิ้มอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ในทันที
"หวังตลอด"
"แล้วเคยได้มั้ย?"
"ไม่ อ้อ อย่าลืมตำมะยมให้ผมด้วยนะ อยากอ่ะ"
"ครับๆ"
"ดีมาก เสร็จแล้วเรียกด้วยนะ จะดูหนังรอ"
"ครับคุณชาย"
"รักมั้ยล่ะ"
"รักมากครับ รักมากกว่าตัวเองตั้งไม่รู้เท่าไรเนี่ย" ป๋ายิ้มขำผมที่กอดอกทำปากจู๋อยู่หน้าประตูครัว
"ก็แค่นั้น ให้ว่อง" ทิ้งท้ายจบผมก็เดินมานั่งหน้าโทรทัศน์เปิดรับข่าวสารตามช่องนั้นช่องนี้ไปเรื่อย
"น้องเอ" เสียงเรียกดังแว่วมากจากในครัว"
"อะไรคร๊าบบบ"
"มีผ้าจะซักมั้ย ถ้ามีไปเอาลงมาให้พี่ด้วย"
"ของป๋าจะเอาด้วยป่ะ" ปกติแยกตะกร้ากันครับเพราะชุดผมจะโสมากโดยเฉพาะกางเกงยีน
"ของพี่ซักไปตอนเช้าแล้วครับ"
"อ้อ โอเค รอแปบ" ลุกวิ่งขึ้นบันใดมาทีละสามขั้น ถึงห้องหยิบตะกร้าได้ก็ลงมาในสภาพเดียวกับที่ขึ้นไป มันส์ดี
"เดี๋ยวได้หน้าทิ่ม" ป๋าที่ยืนรออยู่หน้าบันใดว่า หน้านี่ขัดข้องหมองใจกับการกระทำเสี่ยงเป็นคนพิการของผมสุดๆ
"แหะๆ" ไม่มีอะไรจะเถียงก็ได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อนไปตามเรื่อง
"แล้วมีแค่นั้นเหรอน่ะ"
"ก็แค่นี้"
"กางเกงตัวที่ใส่กลับมาจากโรงพิมพ์ล่ะ ไม่ใช่จะเก็บเอาไว้ใส่อีกหรอกนะ"
"ยังไม่เหม็นเลย ใส่แค่วันนั้นวันเดียวด้วย"
"ไปเอามาซักครับ" น้ำเสียงนิ่งๆ หน้าเรียบๆ อย่างนี้แสดงว่าต้องทำตามครับ ไม่งั้นโดนสวดยับแน่นอน ขัดใจเด็กแนวว่ะ
"ก็ได้" เดินกระทืบส้นเท้า หน้าหงิกๆ มาบนห้องนอนอีกรอบ ลังเลอยู่พักหนึ่งก็ตัดใจคว้ากางเกงยีนขาดเขาตัวเก่งที่สามเดือนจะยอม
ให้เอาไปซักสักทีในตู้ลงมายัดใส่ตะกร้าในมืออิป๋า

"ทำอย่างจะเอาไปทิ้ง" ป๋าบ่นพลางเดินหอบหิ้วตะกร้าหายเข้าไปในครัว
"ป๋าจะไปรู้อะไร ชิส์" ว่าแล้วทิ้งตัวนั่งบนโซฟา ก็ไม่รู้นะครับ ว่ามีใครเป็นอย่างผมบ้างมั้ย
แต่ผมคิดว่ากางเกงยีนยิ่งใส่บ่อย ไม่ซักมันยิ่งสวย ถ้ามีกลิ่นก็แค่เอาไปตากแดด แม้จะคันเวลาเหงื่อออกก็ต้องทนเพราะมันดูเท่ห์

นั่งหน้าบูดจนถึงเวลาข้าวเย็น ป๋าชินเรียกไปกินก็กินอย่างเดียวไม่คุย อารมณ์นั้นงอนลูกเดียวครับ กินเสร็จก็หนีขึ้นมาอาบน้ำ แต่งตัว
แล้วลงมารอไอ้เบียร์ที่ม้าหินหน้าบ้าน มีการเลทกันนิดหน่อยพอให้อภัยเพราะรถติด พวกสามตัวที่หายหน้าไปเป็นเดือน ต่าย หงำ เบียร์
ยกมือไหว้ทักทายป๋าชินเป็นพิธี พูดคุยกันอีกเล็กน้อย จากนั้นก็พากันนั่งรถออกมาทั้งๆ ที่อารมณ์ผมยังไม่คงที่นั่นแหละ เอาแต่ใจเนอะ

"เป็นไรมึง" หงำที่นั่งหน้ากับเบียร์หันมาถาม
"จบแล้วว่ะ" ผมตอบ
"อะไรจบ" เบียร์สอดทันที
"ชีวิตของกู"
"อะไรมึง" หงำนิ่วหน้าบ่งบอกถึงข้อข้องใจ
"นั่นดิ อะไรอ่ะ" ต่ายก็เหมือนกัน
"กางเกงสุดรักกูจะถูกป๋าซักฟอกอ่ะ กูอุตส่าห์ตั้งใจว่าจะใส่ให้ครบสามเดือนก่อนค่อยซัก สุดท้ายไม่เคยครบสักที ป๋าแม่งขโมยซักตลอด"
"อี๋ สกปรก" ต่ายทำท่าขนลุก
"สกปรกบ้าไร ลีวายยิ่งเก่า ยิ่งใส่นาน ราคายิ่งสูงเว้ย"
"ใครเขาเป็นคนตั้งกฎวะ เป็นฉันไม่กล้าซื้อใส่หรอก อีเดียตว่ะ"
"เซ็งโลกโว้ย" ผมขยี้หัวตัวเองอย่างขัดอกขัดใจ
"เอาน่า ถือซะว่าป๋าชินเขาช่วยไม่ให้สังคังแดกมึงแล้วกัน" เบียร์ว่า
"กูใสอาทิตย์หนึ่งก็ซักแล้ว หมักหมมมากๆ ได้คันคะเยอแน่" หงำช่วยพูดอีกแรง
"เออ" ตอบไปทั้งๆ ที่อีกใจยังเคืองไม่หาย


*****************************************************


หาที่จอดรถได้ก็เดินหน้าคู่(หงำ+เบียร์)หลังคู่(ผม+ต่าย)ไปตามถนนที่มีทั้งรถทั้งคนและร้านขายของคับคั่ง
เกลียดจริงครับตลาดคืนวันหยุด คนเยอะยิ่งกว่ามดอีก เวลาเดินก็ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะหากไปเหยียบเท้าใครเขาเข้า
แล้วเราเอ่ยปากปรับความเข้าใจด้วยการขอโทษไม่ได้ อาจจะได้รับประทานตีนกันแทนมื้อดึกก็เป็นได้

"เอ ฉันอยากกินไข่หมึกอ่ะ" ต่ายกระตุกชายเสื้อยืดให้ผมหยุดเดิน พลางพยักเพยิดหน้าไปทางร้านขายไข่ปลาหมึกย่าง
"เฮ้ย ไอ้เบียร์บอกให้ไอ้หงำหยุดดิ๊ ต่ายมันจะกินไข่หมึก" ผมส่งเสียงบอกไอ้คู่หน้าที่ตอนนี้ต่างคนต่างเดินไปไกลแล้วครับ
"กินป่ะ" ต่ายถามขณะค้นหาเงินในกระเป๋าสะพายสีแดงใบหรู แบบสายเล็กแค่สะกิดก็หลุดครับ แต่ดีตรงที่มันเป็นคน
ไม่ค่อยชอบพกเงินเยอะ พวกผมที่มาด้วยเลยสบายใจไปได้เปราะหนึ่ง เพราะถึงจะถูกกระชากก็ได้แค่กระเป๋าก๊อปเกรดบี มีเงินสดแค่ไม่กี่ร้อย

"ซื้อมาเผื่อพวกมันสองตัวด้วย"
"อื้อ" ตอบแล้วก็เดินไปซื้อ ผมก็ยืนรอไอ้สองตัวย้อนกลับมา
"ได้ไรมาวะ?" ผมถามหงำที่ถือถุงใหญ่ๆ กลับมาด้วย
"ตุ๊กตา เห็นน่ารักดี" มันตอบพร้อมทั้งดึงตุ๊กตาหมีขนฟูๆ ออกมาจากในถุง ขนาดเท่าหมอนหนุนใบหนึ่งอ่ะครับ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก สีดำจมูกแดง
"หูย น่ารักจริงด้วย เท่าไรวะ"
"ไม่รู้ ไอ้เบียร์มันซื้อให้" หงำยิ้ม
"หะ? ไอ้เบียร์นี่นะซื้อให้ วันเกิดมึงก็ไม่ใช่" ผมพูดกับหงำแล้วมองเบียร์
"คือกู..."
"พวกมึงมีอะไรปิดกูเปล่า?" ผมเลิกคิ้ว
"เปล่า เบียร์มันแค่เห็นกูเหงาๆ ก็เลยซื้อให้" แล้วทำไมมึงต้องหน้าแดงครับ
"เออ มีอะไรแล้วปิดกู จำไว้เหอะ" ผมค้อนใส่ทั้งคู่ ไอ้หงำเห็นท่าไม่ดีเลยรีบลากผมออกมาห่างไอ้เบียร์แล้วกระซิบ
"ไม่มีอะไรจริงๆ มึงอย่าพูดแบบนั้นดิวะ"
"อ้าว แล้วทำไมมันต้องอึกอักเวลาตอบคำถามกูล่ะ มึงก็ด้วยทำไมต้องหน้าแดง"
"ก็คนที่ชอบซื้อของให้เพราะเป็นห่วง กูก็ต้องดีใจเป็นธรรมดาสิวะ"
"ดีใจกับหน้าแดงมันคนละเรื่องนะมึง"
"ไม่ใช่แบบที่มึงคิดแล้วกัน คือเมื่อคืนเบียร์มันมาคุยกับกูที่หอ มันบอกกูแปลกไป มันอยากรู้ไม่ว่ายังไงก็อยากถามให้ชัดให้ได้ แล้ว..."
"แล้วมึงก็บอกชอบมัน"
"เฮ้ยบ้า! กูไม่ได้กล้าขนาดนั้น กูก็แค่บอกว่ากูเฮิร์ทเพราะอยู่ในช่วงดามใจ"
"มันถามหรือเปล่าว่ามึงอกหักจากใคร"
"มันก็ถามตลอดแหละ ยิ่งได้ยินจากปากกูเองมันยิ่งเซ้าซี้หนัก กูก็เลยบอกให้จบๆ เรื่องไปว่าเพื่อนพี่ชายกู" เอาตัวรอดเก่งนะมึง
"แล้วไง แล้วมันก็เลยซื้อตุ๊กตาให้" ผมเหลือบมองไอ้เบียร์ที่เดินเข้าไปช่วยต่ายถือกล่องโฟมใส่ไข่หมึก
"อืม มึงว่ากูยังมีหวังมั้ยวะ กูไม่ต้องเลิกชอบมันก็ได้ใช่ป่ะ" หงำถามแล้วกอดตุ๊กตาแน่น
"คนเราถ้าไม่ย่อท้อ ก็มีความหวังเสมอแหละ ยิ่งถ้ามึงไม่ตัดกำลังใจตัวเองซะก่อนบางทีโอกาสอาจจะวิ่งเข้าหามึงในสักวัน"
"อืม แต่ถึงไม่มีโอกาส กูก็จะไม่เสียใจที่ได้ชอบและมีเพื่อนอย่างมันเลย"
"เออ คิดได้งั้นก็ดี ไปเหอะ กูขี้เกียจตอบคำถามพวกแม่ง" ตบบ่าให้กำลังใจไปหนึ่งทีก่อนจะเดินไปรวมกลุ่มสวาปามไข่หมึก
"ไปไหนต่อดีวะ" กินกันเกลี้ยงก็โยนซากใส่ถังขยะริมทาง
"ไปนั่งริมน้ำป่ะ ยังไม่ดึกเท่าไรด้วย หาซื้ออะไรไปนั่งกินกันแล้วค่อยกลับ" เจ้าพ่อวางแผนงานเบียร์เสนอ
"กินไข่หมึกคนเดียวไปสองกล่องมึงยังจะยัดอะไรลงอีกเหรอครับ ไอ้เบียร์บูด"
"กูก็ว่าดีนะ นั่งให้หายเมื่อยขาแล้วค่อยกลับกัน" หงำเห็นดีเห็นงามไปกับเบียร์ด้วย
แหมมมม โดนเขาเอาของไม่กี่ร้อยมาล่อ ยอมโอนอ่อนไปตามเขาหมดเลยนะ แรดจริง

"ซื้อเบียร์ไปด้วยนะ ฉันอยากจิบ" ต่ายบอก
"เหลือมึงแล้วครับ จะเอาไง" เบียร์ยิ้มถามผมกวนๆ
"นับเสียงข้างมากแล้วจะมาเอาคำตอบอะไรจากกู จะไปก็ไป แต่คนไปซื้อของต้องไม่ใช่กู" บอกจบก็เดินลิ่วมายังจุดนั่งชมวิวกินลมริมแม่น้ำเจ้าพระยา
จะว่าไปแสงไฟตอนกลางคืนในเมืองกรุงมันเป็นอะไรที่สวยงามและดึงดูดสายตาคนมองมากนะว่าป่ะ บางครั้งก็ช่วยทำให้อะไรหลายๆ อย่างคลายลงไปได้เยอะ
ต่ายเดินถืออีดำ(ตุ๊กตาที่เบียร์ซื้อให้หงำ)เดินมานั่งข้างผมที่เพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพรอบตัว

"ปิดเทอมแกไปเที่ยวไหนมาบ้าง"
"ไปอัมพวา"
"แค่นั้น?"
"อืม ป๋าเขายุ่งๆ จะให้ไปร้องขอไปเที่ยวไกลๆ มันก็จะดูเอาแต่ใจไปว่ะ"
"ปกติของแกก็แบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ฉันเห็นพอไม่ได้ดั่งใจอะไรก็งอน"
"แย่เหรอวะ" ผมมองหน้าด้านข้างของต่าย
"บางครั้งแกก็ไม่มีเหตุผลนะ แต่บางเรื่องแกก็ดี คนเราล้วนมีข้อเสียแล้วก็มีข้อดี แต่ถ้าข้อเสียมากเกินไปคนที่อยู่ด้วยเขาจะเอือมนะเอ" หันสบตากัน
"ฉันต้องกลับไปขอโทษป๋าใช่ป่ะ"
"ไม่หรอก ฉันว่าป๋าชินคงเข้าใจอารมณ์แกแหละ"
"อืม แล้วแกไปเที่ยวไหนมาบ้างล่ะ"
"ก็ไปเหนือกับที่บ้าน ไปเที่ยวเชียงใหม่ ไปไหว้พระตามวัดต่างๆ เพราะปีใหม่คงไม่ได้ไปแน่ แม่ฉันเกลียดที่ๆ คนเยอะ"
"อ้อ อืม"
"...."
"อะไร" ผมถามต่ายที่จ้องหน้าผมตาไม่กระพริบ
"มีใครมาจีบแกบ้างป่ะวะ"
"ไมถามงั้น"
"ไม่รู้ว่ะ จู่ๆ มันก็อยากถามขึ้นมา" สัมผัสพิเศษหรือพรายกระซิบบอก?
"ก็...มีมั้ง"
"เหรอๆ ใครวะ ป๋าชินรู้ป่ะ แล้วหน้าตาดีมั้ย" มึงจะตื่นเต้นทำไมครับ
"โนคอมเม้นต์" ผมผลักหน้าต่ายที่ยื่นมาใกล้ให้ไปห่างๆ
"งกนะแก"
"เอาเป็นว่าป๋าชินไม่รู้แล้วกัน"
"ระวังเห๊อะ ถูกจับได้จะหนาว" แช่งกรูอีก แถมตาขวายังกระตุกแปลกๆ สังหรณ์จะสมพรปากมันชอบกล
"กลัวทำไม ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขาซะหน่อย" ผมยักไหล่ไม่ยอมเสียจริตให้ชะนี ฮ่าๆ แต่หารู้ไม่ว่าภัยมันกำลังมาเยือน


*************************************************

ปล. เงียบเหงาเหมือนหัวใจคนเขียน อิอิ







หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 14 (07/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 07-03-2014 10:37:45
ป๋าชินนี้ ภรรยาผู้แสนดีชัดๆอ่ะ สลับบทกันดีม่ะ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 14 (07/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-03-2014 12:37:04
ป๋าหาเมียใหม่เถอะ :katai5:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 14 (07/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-03-2014 14:02:28
สงสารป๋านิดๆแหะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 14 (07/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 07-03-2014 14:19:48
รอพายุ 555555555555+

ป๋าชินต้องเจอเบอร์ในกระเป๋าใช่ป่ะ?  แล้วก็ต้องสอบปากคำใช่ป่ะ? แล้วๆ..

ก็ถึงเวลาให้บทลงโทษ  :z1:

ปล.คิดถึงคนเขียน อัพอีกๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 14 (07/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 07-03-2014 20:54:22
ตอนหน้าคงเห็นเบอร์ ในกระเป๋าแน่เลย :hao5: :hao5: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 15 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 08-03-2014 03:54:08
รักบอดๆ ตอนที่ 15




เบียร์หนึ่งโหล กับแกล้มในจานกระดาษอีกสองสามอย่าง
นั่งกินกันสี่คน ชิวๆ ไปกับบรรยากาศติดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาและเสียงพูดคุยของปุถุชนธรรมดาทั่วไปให้เพลิดเพลินเจริญใจ

"จะไปไหนวะ" หงำเงยหน้าถามผมที่ลุกขึ้น กินเบียร์เยอะครับ ปวดฉี่
"ไปเยี่ยว" ตรงตัว
"กูไปด้วย" เบียร์ลุกตามทันที
"อ้าว กูก็ปวด" หงำขมวดคิ้ว
"เดี๋ยวกูสองคนกลับมาค่อยไป ต่ายมันจะได้มีเพื่อนอยู่ด้วย" ผมบอกแล้วเดินออกมาโดยไม่รอคำค้าน
กลัวต่ายที่เริ่มจะเมากลิ้งตกน้ำตายครับ สุภาพบุรุษที่ดี พาลูกสาวเขาเที่ยวต้องรับผิดชอบจนกว่าจะถึงบ้าน หิ้วววว~

"ห้องน้ำไกลว่ะ" เดินมาไม่กี่เมตรไอ้เบียร์บูดก็บ่น
"หรือมึงจะฉี่ข้างทาง คนเดินกันให้วุ่นซะขนาดนี้"
"ได้ก็ดี" อิหน้าด้าน
"ทนหน่อยไอ้เชี้ย" ต้องหันไปด่าครับ ไม่งั้นไม่สำนึก
"ก็ทนอยู่เนี่ย" มันเถียง สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงด้านหลัง
เดินหาห้องน้ำกันมาเรื่อยๆ สายตาผมก็ไปสะดุดกับชายหญิงคู่หนึ่ง ผมหยุดฝีเท้า ไอ้เบียร์ก็หยุดตามพลางสะกิดถามอย่างสงสัย

"หยุดทำไมวะ?"
"มึงดูนู้น ร้านขายกางเกงยีนตรงนั้นน่ะ" ผมไม่ชี้ครับ แค่เพียงบอกเฉยๆ เพราะมันอยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดอยู่แล้ว
"อยากได้กางเกง?"
"ไม่ใช่ให้ดูของ แต่ให้ดูผู้หญิงกับผู้ชายตรงหน้าร้านโว้ย"
"ไหน...โอ้ สวยสลัด" ไอ้...ตอนนั้นด่าในใจเป็นชุดครับ
"มึงมองผู้ชายด้วย อย่ามองแต่ผู้หญิง" ตบกะบาลเตือนสติกันไปหนึ่งทีเนาะๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว
"ก็เขาสวยจริงๆ นี่หว่า" มันบอกพลางลูกหัวป้อยๆ
"อันนั้นกูรู้ แต่มึงดูผู้ชายก่อน"
"ไหนๆ เฮ้ย!" ไอ้เบียร์เห็นปั๊บจะปรี่เข้าไปหาผู้ชายคนนั้นอย่างเร็ว แต่ผมเร็วกว่าจึงคว้าแขนมันได้ไว้ทัน ไม่งั้นมีวางมวยกันแน่ๆ
จะอะไรล่ะครับ ก็ไอ้ผู้ชายที่ผมบอกให้มันมองก็คือไอ้เสื้อเชิ้ตดำที่เคยจะข่มขืนผมในห้องน้ำในผับเมื่อก่อนหน้านี้ ส่วนผู้หญิงคนสวยที่ว่า
ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หัวหน้าฝ่ายศิลป์ของโรงพิมพ์ป๋าชินเอง หึ! จะบอกว่าโลกกลมมันยังไม่เข้าท่า แต่ถ้าโลกจังไรนี่ชัดๆ เลยครับ
มีอย่างที่ไหนลากเส้นพรหมลิขิตให้ผู้หญิงเอาการเอางานมาพานพบกับไอ้สารเลวโคตรชั่วแบบนั้นได้

"อย่าวู่วามไอ้เบียร์ กูกับป๋าชินรู้จักกับผู้หญิงที่มันควงมาด้วย"
"แล้วมึงจะเอาไง ที่แน่ๆ กูไม่เอามันไว้ชัวร์" ไอ้เบียร์กำหมัดพูดลอดไรฟัน อย่างกะกูไม่แค้นมันงั้นแหละ
"เออน่า เดี๋ยวกูจะเข้าไปทักสักหน่อย มึงคอยดูท่าทีของไอ้เลวนั่นแล้วกัน" บอกจบผมก็ตรงดิ่งเข้าไปหาสองคนนั้น
"สวัสดีครับพี่ลูกเกต" ผมยกมือไหว้ ไอ้เบียร์ก็ยกไหว้ตาม
"อุ๊ย สวัสดีค่ะน้องเอแล้วก็..." มองไอ้เบียร์
"นี่เพื่อนผมครับ ชื่อเบียร์"
"อ้อจ้ะ สวัสดีเช่นกันนะคะ น้องเบียร์" พี่ลูกเกตยิ้ม
"พี่ลูกเกตมาเที่ยวกับเพื่อนเหรอครับ หล่อเสียด้วย" ผมมองหน้าไอ้อดีตเชิ้ตดำที่ตอนนี้ใส่เชิ้ตขาว
ซึ่งถ้ามีคนบอกว่ามันเป็นนักแสดงมือฉมังผมก็จะเชื่อนะครับ เพราะแทนที่มันจะตกใจกลัวในความผิดที่มันเคยก่อไว้
กลับยิ้มรับผมแล้วแนะนำตัวเสียนี่

"สวัสดีครับน้องเอ น้องเบียร์ด้วย พี่ชื่อทิวาครับ" เทพได้โล่จริงไอ้ปลวก!!
"เช่นกันครับ" ผมเขยิบไปยืนบังไอ้เบียร์ที่สีหน้าเริ่มหมดความอดทน
"น้องเอมากันสองคนเหรอคะ แล้วพี่ชินไปไหนเอ่ย?"
"อ้อ ผมมาสี่คนครับ อีกสองคนรออยู่ริมน้ำ ส่วนป๋าชิน..."
"รออยู่ที่รถกับเพื่อนตำรวจสองคนครับ เห็นว่ามีคนแจ้งความไปว่าเจอพวกโรคจิตเลวๆ ที่ชอบวางยาสาวแล้วจับไปข่มขืนอยู่แถวนี้อ่ะครับ"
ไอ้เบียร์เมคเรื่องขึ้นมาเองอย่างรวดเร็ว

"จริงเหรอคะน้องเอ" พี่ลูกเกตทำสีหน้าตกใจ "แล้วทำไมพี่ชินถึงไปอยู่กับตำรวจได้ล่ะคะ"
"คือ..."
"ป๋าชินเขาบังเอิญเจอกันกับเพื่อนน่ะครับ เลยเข้าไปช่วย" ไอ้เบียร์ตอบอย่างไหลลื่น
และผมแอบเห็นมันอมยิ้มเย้ยหยันให้ไอ้ทิวาที่ยังคงตีหน้าเป็นหมาไม่ทุกข์ร้อนด้วย

"พี่ลูกเกตก็ระวังนะครับ" มันต่อรอบ
"แหม ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะน้องเบียร์ พี่ไม่ได้อยู่คนเดียวสักหน่อย" หันไปยิ้มหวานให้ไอ้ทิวา
"ใช่ครับ มีพี่อยู่ทั้งคน ไม่ต้องกลัวว่าลูกเกตจะโดนใครที่ไหนทำร้ายหรอกครับ" มึงนั่นแหละ
"ก็ไม่แน่นะครับ สมัยนี้อะไรมันก็ไม่แน่นอน ไอ้ที่คิดว่าปลอดภัย จริงๆ อาจจะไม่ใช่ก็ได้" เยี่ยมมากไอ้เบียร์บูด หนังตาไอ้ทิวากระตุกผมหลุดยิ้มสะใจ
"พูดอะไรกันคะ พี่ไม่เห็นจะเข้าใจ" พี่ลูกเกตทำหน้างง
"หมายความว่า คนเราสมัยนี้ รู้หน้าไม่รู้ใจไงครับ" ผมยิ้มตอบแทนคำพูดไอ้เบียร์ ไอ้ทิวาก็กัดริมฝีปากด้านล่างมองไอ้เบียร์เขม็งเช่นกัน
"อ๋อ งั้นพี่จะระวังแล้วกันค่ะ" กระชับแขนที่ควงไอ้ทิวาแน่น
"อ่า...ผมไม่รบกวนพวกพี่แล้วดีกว่า พรุ่งนี้เจอกันที่ทำงานนะครับ ถ้าไม่ไปผมจะแจ้งตำรวจว่าพี่ลูกเกตถูกคนร้ายลักพาตัว"
"ตายละ น้องเอนี่ล่ะก็ ค่าๆ พรุ่งนี้เจอกันนะคะ อิอิ" พี่ลูกเกตบอกขำๆ ก่อนจะควงแขนไอ้ทิวาไปเดินเที่ยวต่อ
"ปล่อยให้ไปแบบนั้นจะดีเหรอวะ" ไอ้เบียร์ขบกรามถามเสียงเครียด
"เอาน่า กูวางกับระเบิดไว้แบบนั้น ถ้ามันยังกล้าทำพี่ลูกเกตแม่งก็ควายเต็มทน" ผมตบไหล่ไอ้เบียร์
"อยากซัดหน้าหล่อๆ ของมันให้คว้ำชิบหาย"
"เอาน่าๆ ไปเหอะ กูปวดฉี่"
"อืม"
เข้าห้องน้ำ ปลดปล่อยน้ำในร่างกายจนตัวโล่งผมสองคนก็กลับมาหาต่ายกับหงำ
กระป๋องเบียร์ที่ก่อนไปยังเต็มอยู่หกเจ็ดกระป๋องบัดนีเหลือเพียงกระป๋องเดียวที่อยู่ในมือนังต่าย ป๊าดดดด กินหรืออาบกันไม่ทราบครับวะ?

"นานว่ะ" หงำบ่นอุบพร้อมกับลุกขึ้นยืน
"ไปเจอตัวเชี้ยมาเว้ย" เบียร์บอกพลางฉุดให้ต่ายลุก
"ตัวเชี้ยไหน?" ต่ายที่หน้าแดงๆ เพราะฤิทธิ์แอลกอฮอล์เลิกคิ้ว
"ก็ไอ้ตัวที่จะพาแกไปสวิงกิ้งกับที่จะข่มขืนไอ้เอนั่นไง"
"ตายห่า แล้วเกิดอะไรขึ้นเปล่า แกสองคนคงไม่ได้ไปมีเรื่องกับมันใช่มั้ย" ต่ายเหลือกตาโตถาม
"เปล่า มันมากับคนรู้จักของไอ้เอ"
"ใครวะ" หงำอยากรู้
"เขาชื่อพี่ลูกเกต เป็นลูกน้องที่โรงพิมพ์ป๋าชิน"
"จริงเหรอเอ แล้วแกไม่กลัวมันทำแบบเดียวกันกับเขาเหรอ"
"วันนี้มันคงไม่กล้า...คิดว่านะ"
"โอ๊ย อยากจะบ้า" ต่ายตบหน้าผากตัวเอง
"แต่มึงก็เก่งนะเอ ที่ห้ามเบียร์มันได้ ปกติมันใจร้อนจะตาย"
"ถ้ามันกินเบียร์ไปเยอะกว่านี้ กูก็ว่าไม่แน่เหมือนกันว่ะ" ผมหันมองเจ้าตัว
"กูรู้ว่าอะไรควรไม่ควรหรอกน่ะ"
"เหรออออออ" ผมลากเสียงยาวล้อเลียน
จริงๆ ถ้าผมไม่ออกตัวขวางมันไว้ก็คงได้ไปนอนอยู่โรงพักกันสักคืนแล้วครับ

"เออสิวะ กลับๆ เสียเซลฟ์จริงเว้ย!"
"เฮ้ยเบียร์ รอด้วย" หงำรีบวิ่งตามเบียร์ที่เดินลิ่ว
"แกจะทำอะไรมั้ย?" ต่ายจับมือผมที่เดินตามสองคนนั้นไปพร้อมกับตั้งคำถาม
"ไม่รู้ว่ะ มันไม่ใช่เรื่องอะไรของฉันด้วย แต่อีกใจก็ไม่อยากให้พี่เขาต้องตกเป็นเหยื่อ
อีกอย่างเรื่องบ้าๆ แบบนี้บอกออกไปตรงๆ เขาก็คงไม่เชื่อฉันหรอก ต้องเอาไปปรึกษาป๋าชินก่อนอ่ะ"

"อื้อ ถ้าป๋าชินช่วยได้ก็ดีเนอะ" ต่ายบีบมือผมเบาๆ
"อืม"


*****************************************************


เบียร์ขับรถมาจอดหน้าประตูรั้วบ้าน
ผมกำชับให้มันรอก่อน เพราะจะเข้าไปเอาของฝากที่ซื้อจากอัมพวามาให้
เดินเข้าบ้านมาเจออิป๋ายังไม่นอน ผมไม่ได้สนใจอะไรเพราะเพิ่งห้าทุ่มกว่าๆ รีบวิ่งไปหยิบถุงของฝากเสร็จก็ขนออกไปให้พวกนั้น

"ขับรถกลับดีๆ นะ" ส่งส่วยเรียบร้อยก็โบกมือลา
"เออ ฝันดีเพื่อน" เบียร์
"ฝันดีเอ" ต่าย
"ไว้เจอกันพรุ่งนี้" หงำ
"เออ แล้วเจอกัน โชคดี" ผมบอกแล้วยืนดูรถที่ทั้งสามนั่งหายลับไปจากซอย
จากนั้นก็ปิดประตูรั้วเดินเข้ามาในบ้าน ป๋าชินยังนั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม แต่พอผมจะเดินเข้าไปกอดคอก็ลุกหนี ชักแปลกๆ

"ป๋าเป็นอะไร ผมก็ไม่ได้กลับดึกมากสักหน่อย โกรธเหรอ?"
"ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยแล้วค่อยลงมา พี่มีเรื่องจะพูดด้วย" หางเสียงอันตรธานหายไปไหนอีกและหว่า
"ป๋าเป็นอะไร" ใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะบรรยากาศที่ไม่เหมือนเดิม
"ไปอาบน้ำ!" ขึ้นเสียงดังมาก เล่นเอาผมงี้สะดุ้ง
"ป๋าก็บอกมาก่อนสิว่าเป็นอะไร"
"ก็บอกให้ไปอาบน้ำแล้วค่อยลงมาคุย อย่าให้พี่ต้องพูดซ้ำซากจะได้มั้ย" น้ำเสียงเย็นชา สายตาที่มองมาก็ไม่อ่อนโยนเหมือนปกติ
"ผมไม่ไป ถ้าป๋าจะไม่ยอมบอกว่าเป็นอะไร" บอกแล้วผมมันขี้ดื้อ
ไอ้ครั้นจะให้ทำตามอย่างว่าง่ายน่ะ ไม่มีทางหรอกครับ (ถ้าเจอผัวที่ชอบใช้ความรุนแรง ป่านนี้คงได้กินตีนกินศอกเป็นอาหารมื้อหลักไปละ)

"น้องเอเป็นอะไรกับโต้" ป๋าเข้าประเด็นโดยที่คนถูกถามเช่นผมไม่ทันตั้งตัว
นิ่งอึ้ง มึนตึบได้สักพัก กว่าจะเข้าใจอะไรๆ ได้บ้าง ก็ถูกอะไรบางอย่างปาใส่หน้าแล้วครับ

"เบอร์โทรนั่นหมายความว่าไง เดี๋ยวนี้สนิทกันจนมีเบอร์ส่วนตัวกันแล้วเหรอ"
"เบอร์..." ผมก้มลงเก็บก้อนกระดาษที่ถูกขยำมาคลี่ดู
'01-xxxxxx *รูปหัวใจ* จะรอนะครับ พี่โต้' เวรล่ะกรู ลืมไปเลยว่าอิพี่โต้ให้เบอร์ไว้
เงยหน้ามองป๋าชินที่ยืนนิ่งด้วยใบหน้าสงบ ทว่าแววตาพิโรจสุดๆ

"มันไม่ใช่อย่างที่ป๋า..."
"ไม่ต้องพูดน้องเอ ไปอาบน้ำ" ป๋าสวนขึ้นมาทันที
"ป๋าจะไม่ให้ผมอธิบายหน่อยเหรอ ป๋าจะไม่ฟังผมเลยใช่มั้ย หรือป๋าคิดว่าผมกับพี่โต้มีอะไรกันมากกว่าคนรู้จักที่ทำงานของป๋า"
ผมพูดน้ำตาคลอเบ้า สองมือกำแน่นแนบข้างลำตัว อารมณ์น้อยใจพุ่งพรวดมาจุกอยู่อกซ้าย เกินกว่าคำว่าจะต้านทานไหว น้ำตาหยดน้อยไหลรินอาบสองแก้มร่วงแหมะลงสู่พื้น

"โอเค ผมจะไปอาบน้ำ ป๋าอยากเข้าใจยังไงก็เรื่องของป๋า" ยกแขนปาดน้ำตาวิ่งขึ้นมาบนบ้าน คว้าผ้าขนหนูได้ก็เข้ามาพิงประตูร้องไห้อยู่ในห้องน้ำ


**************************************************

ปล . ตัดให้ขาดเลยฉับๆ เริ่มจะดราม่าเลยขอหยุดก่อน น้ำตาจะไหล

nunnan + ป๋าเขาเป็นเพอร์เฟคแมนสำหรับครอบครัวค่ะ อิคนเขียนมันเก็บกดส่วนตัวเล็กๆ เลยอยากจะปู้ยี่ปู้ยำพระเอกบ้างไรบ้าง
mukmaoY + เย้ย! ยุยงส่งเสริม หาใหม่จริงๆ จะรับกันได้เปล่า >O<
B52 + แลกกับกิจกรรมบนเตียงและความรัก ป๋าเขาจึงทนได้
ลิงภูเขา + ถูกต้องนะคะว่าเจอเบอร์ แต่จะลงโทษแบบไหนไว้รอกัน คิดถึงคุณลิงภูเขาเช่นกัน หายไปนานเยย
kik + แม่นแล้ว เจอจริงๆ คริคริ

หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 15 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 08-03-2014 04:00:38
มาม่ามาแล้ววววว  :เฮ้อ: :เฮ้อ: เหมือนว่าจะมีแต่เรื่อง นะเนี่ยยย  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 15 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-03-2014 04:11:54
มาม่าจริงดิ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 15 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 08-03-2014 07:45:30
เค้าอยากอ่านต่อมันค้างอ่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 15 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 08-03-2014 08:24:29
อุ๊ย ลงติดกันเลย แต่ค้างอ่ะ มาต่อด่วนจ้าอยากกินมาม่า ป๋าอย่ารุนแรงน๊าสงสารน้องเอบ้าง
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 15 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 08-03-2014 13:04:58
เนื่องจากตอนนี้น้องเอร้องไห้
เราให้อภัยค่ะ :mew6:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 15 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 08-03-2014 14:09:07
เรื่องแต่งอะไรจะเหมือนเรื่องจริงขนาดนี้
ไม่รู้แหละ จะมโนว่าคนแต่งคือน้องเอไปเรื่อยๆ ก่อน เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการอ่าน 555
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 15 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 08-03-2014 14:42:44
เป็นการตัดตอนที่โหดร้ายมาก  ทำร้ายจิตใจคนอ่านสุดๆ  :o12:

ใครหนอใคร ใช้อีพี่โต้ให้ใส่รูปหัวใจเข้าไป และใครหนอใครใช่ให้น้องเอเก็บไว้ในกระเป๋าแทนที่จะปาทิ้ง  :serius2:

คิดถึงผม  ก็อัพไวไวนะฮับ  จะได้ทักทายกันบ่อยๆ   :hao7:

เห็นใจน้องเอ .. สงสารป๋าชิน   ดีกันไวไวนะ  :hao5:

รอตอนต่อไปจ้า  :hao6:

ปล.หนีไปเชียงใหม่มา ((บอกแล้วบอกอีก  กลัวคนเขียนจะลืม))  :katai5:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 15 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-03-2014 14:57:42
แววดราม่าจะมาเยือนอีกแล้วเหรอ  เดี๋ยวถ้าทะเลาะกันอีก เดี๋ยวป๋าก็เมาเละเทะเหมือนคราวก่อนโน้นอีกหรอก เฮ้อออออ เย็นๆกันไว้ก่อนนะโยม
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 16 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 08-03-2014 20:02:25
รักบอดๆ ตอนที่ 16




ซุกหน้ากับหัวเข่า สองมือกำแน่นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
ไม่มีเสียงเรียก ไม่มีคำขอโทษ ไม่มีการตามง้องอนเหมือนอย่างเคย
ความเงียบ เสียงสะอื้น และหยดน้ำตาคือสามสิ่งที่อยู่กับผมตอนนี้

'ป๋าชินบ้า'
'คอยดูนะ จะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ เลย'
'ไม่เลิกด้วย ก็เราไม่ผิดนิหน่า'
'บ้าๆ ทำไมเราต้องมารักคนขี้หวงแบบนี้ด้วยวะ!'

หลายประโยค หลายถ้อยคำที่กล่าวโทษ ว่ายวนอยู่ในหัว
สองมือกำแน่นทุบลงบนศรีษะอย่างต้องการจะหาที่ระบาย แต่ไม่เป็นผล
.
.
.
.
.
นาน...นานมากเท่าที่รู้
ผมค่อยๆ ยันตัวเองลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าอย่างไร้เรี่ยวแรง
เปิดฝักบัว เอามือแตะผนังแล้วโยกหัวโขกลงบนกำแพงเบาๆ ปล่อยให้น้ำชะล้างร่างกายไปเรื่อยๆ
เวลาผ่านไป หนาวสะท้านจนรู้สึกด้านชา ผมปิดน้ำ เช็ดตัวแล้วห่อเนื้อตัวอันสั่นเทาเดินออกมายืนตรงหน้าห้องน้ำ
สายตาไล่กวาดมองไปทั่ว ทว่าต้องถอนหายใจออกมาอย่างหดหู่ เมื่อพบว่าไร้วี่แววของคนคู่ชีวิตอยู่ภายในห้องนอน


********************************************************


เสียงกริ่งโทรศัพท์บ้านจากด้านล่างปลุกเรียกให้ผมตื่นในตอนเช้าตรู่
มันดังเรียกอยู่อย่างนั้นนานพอสมควรกว่าที่จะเงียบลง สักพักก็ตามด้วยเสียงฝีเท้าเดินขึ้นบันไดบ้านมาชั้นบน
ประตูห้องนอนถูกเปิด ป๋าชินในชุดทำงานเรียบร้อยเดินเข้ามาในห้อง แต่แทนที่เขาจะหยุดมองผมด้วยรอยยิ้มและคำทักทาย
กลับกลายเป็นประโยคคำสั่งห้วนๆ แสนเย็นชาชวนให้นึกถึงเรื่องเมื่อคืน

"ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำ กินข้าวเสร็จจะได้ไปเรียน พี่จะรออยู่ที่รถ" แล้วก็เดินออกไป หน้าก็ไม่แม้แต่จะหันมองกันสักนิด
"อืม..." ผมกลืนลูกสะอื้นตอบตามหลัง แม้จะรู้ว่าป๋าคงไม่ได้ยินหรอก

อาบน้ำล้างคราบน้ำตา เดินลงมาในครัว ข้าวเช้าเป็นแบบง่ายๆ คือข้าวต้มหมูธรรมดา
ที่ทำให้คนมองอย่างผมน้ำตาตกในได้อย่างสบาย ผมตักข้าวต้มใส่ชาม กินได้สองสามคำก็รู้สึกอิ่ม
อิ่มตื้อจนแน่น ทั้งไอ้ที่กินเข้าไปยังขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ ผมยกน้ำดื่มตามให้บรรเทาอาการ ก่อนจะนำข้าวที่เหลือไปเททิ้งแล้วนำชามไปแช่ที่ซิ้งค์ล้างจาน
ออกมาสวมรองเท้า ปิดบ้านเสร็จก็เดินมายังรถ ที่ป๋าชินจอดสตาร์ทรออยู่หน้าประตูรั้วด้านนอก ผมเข้ามานั่งด้านหน้าคู่กับป๋าแล้วเหม่อมองออกไปข้างนอก
ไม่มีการพูดคุยใดๆ ระหว่างทาง น้ำตาผมไหล ได้ยินเสียงป๋าชินถอนหายใจแต่ก็ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมา กระทั่งรถเลี้ยวขวาเข้ามาจอดหน้าคณะที่ผมเรียน

"ป๋าจะมารับผมหรือเปล่า" ผมปาดน้ำตากลั้นใจหันไปถาม
"ถ้าไม่ว่างจะโทรมาบอก" ป๋าตอบเรียบๆ ไม่ได้มองหน้าผมเหมือนเดิม
"ก็...ก็อย่าลืมโทรบอกแล้วกัน" ผมบอกก่อนจะเปิดประตูลงมา จากนั้นป๋าก็ออกรถไปทันที
วันนั้นจำได้แม่นว่าไม่เข้าเรียน เพื่อนโทรหาก็ไม่รับซ้ำยังปิดเครื่อง

ผมเดินออกมานั่งรถเมล์ไม่ได้มองด้วยซ้ำว่าสายไหน รู้สึกตัวอีกทีก็นั่งรถทัวร์มาลงพัทยา
เดินไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย อารมณ์นั้นแค่อยากทำให้ใจตัวเองปลอดโปร่ง ไม่ได้อยากประชดใครจริงๆ
พอเมื่อยก็หาโบกรถสองแถวมาลงด้านหน้าสวนสาธารณะติดชายหาด เดินหาที่นั่งร่มๆ ได้ก็เหม่อเลยครับ
เวลานั้นไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น แม้แต่ฝรั่งเข้ามาถามราคายังนิ่ง(ฮา) เที่ยงแดดเริ่มร้อนร่างกายรู้สึกขาดน้ำจนทนไม่ไหว
ต้องลุกออกไปหาซื้อน้ำมาดื่มสองขวดแล้วก็กลับมานั่งตรงณ.จุดเดิม ตกบ่ายแก่ๆ เด็กวัยรุ่น(ก็น่าจะอายุน้อยกว่าผมแหละ)
เจ็ดแปดคน พากันหอบหิ้วของหลายอย่างมานั่งล้อมวงฉลองใกล้ๆ จุดที่ผมนั่ง กินไปดื่มไป มืดค่ำเมาได้ที่ก็เริ่มปากหมากันเรื่อยเปื่อย
แซวฝรั่งคนโน้นที แซวคนไทยคนนั้นที แล้วอย่าคิดว่าผมที่นั่งใกล้พวกมันจะรอดไปได้ ไอ้หัวลานบินตัวใหญ่สุดกว่าเขาในกลุ่ม
ลุกเดินออกมาหยุดยืนคล้ำหัวผมที่นั่งอยู่คนเดียว กลิ่นเหล้านี่หึ่งมาเชียว

"ถอยไปดิ กูจะเยี่ยว" มันใช้รูปประโยคคำสั่ง เป็นคุณจะทำตามมั้ยล่ะครับ
"ที่มีตั้งเยอะ ไม่ไปล่ะ" ผมบอกพลางทำไม่สนใจ
"กูอยากเยี่ยวตรงนี้ ถ้ามึงไม่หนีเปียกเยี่ยวอย่าหาว่ากูไม่เตือน" มันทำท่าจะรูดซิบกางเกง
ผมที่ไม่อยากมีปัญหาโดยเฉพาะกับต่างถิ่นอย่างมัน ก็จำใจลุกหนีออกมา และแทนที่ไอ้ลานบินมันจะพอใจ
เสือกกระชากคอเสื้อผมให้หงายหลังลงไปนอนซะงั้น

"ทำเชี้ยไรของมึงเนี่ย!!" ผมสบถ เจ็บหลังมากครับ
"เปลี่ยนใจล่ะ" แล้วแม่งก็ฉี่ใส่ผมเลยครับ เปียกไปทั้งตัว กลิ่นนี่ไม่ต้องบอก เหม็นบรรลัย
พวกเพื่อนๆ มันที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ทุกชอตต่างพากันหัวเราะยกใหญ่

"ไอ้สัด มึง!!" ลุกขึ้นได้ก็ชกใส่หน้า และแล้วการยำตีนก็เกิดขึ้น
ผมชกไอ้ลานบินกับเพื่อนมันที่เข้ามาช่วยรุมไปได้หลายหมัด แต่หลังจากนั้นก็โดนเละครับ รวดร้าวไปทั้งกาย

"ถุย! มาคนเดียวทำเจ๋ง ไอ้อ่อนเอ๊ย คราวหน้าอย่ามาแถวนี้ให้กูเห็นอีก ไม่งั้นตื่นอีกทีมึงได้ไปอยู่ห้องICUแน่"
ไอ้ลานบินชี้หน้าเตือนแล้วเตะอัดใส่ท้องน้อยผมสุดแรง ก่อนที่มันกับพรรคพวกของมันจะแยกย้ายกันกลับเพราะมีคนตะโกนเรียกตำรวจเสียงดัง

"อึก..." ผมนอนกุมท้องตัวงอ สำลักจนต้องอาเจียนออกมา
"คุณๆ เป็นอะไรหรือเปล่า"
"อื้อ...ไม่เป็นไรค...แค่กๆ" เจ็บแทบตายแต่ยังปากเก่ง
"บ้านคุณอยู่แถวไหน จะให้ผมเรียกรถพยาบาลให้มั้ย"
"ผมไม่เป็นไรครับ...ขอบคุณ" พยายามลุกขึ้นยืนเอง ทว่าเข่าอ่อนจนต้องพึ่งพิงแรงคนตัวสูงที่เข้ามาช่วย
"ไหวนะคุณ รถผมอยู่ใกล้ๆ นี่ ถ้าไงให้ผมไปส่งคุณดีกว่ามั้ย"
"ไม่เป็นไรครับ ไปส่งผมที่โรงแรมใกล้ๆ นี่ก็ได้"
"คุณพักอยู่แถวนั้น?"
"เปล่า แต่ก็ว่าจะพักพอดี"
"ถ้างั้นคุณไปบ้านผมดีกว่า จะได้มีเสื้อให้เปลี่ยนด้วย เพราะสภาพแบบนี้ไม่มีโรงแรมไหนให้เข้าพักหรอกคุ๊ณ"
"...." ไม่อยากพูดอะไรแล้วครับ ปวดท้อง อยากช่วยนักก็เลยตามเลยแม่ง(เกรียน)
"ซ้อนไหวนะ" คนตัวสูงถามความเห็นผมเมื่อพามาถึงรถมอเตอร์ไซค์
"ไหว ขอบคุณ" ผมตอบพร้อมกับค่อยๆ ยันกายขึ้นไปซ้อนด้านหลังมอเตอร์ไซค์ก่อนคนขี่ที่ยังยืนช่วยพยุงไม่ให้ผมล้ม
"กอดแน่นๆ ล่ะ ไม่ต้องกลัวผมจะเปื้อน"
"อืม..." ผมยกสองมือเกาะเอว ใช้คำว่าเกาะนะครับ ไม่ได้กอด อิอิ
"อ้อ ลืม ผมชื่อก้าน เป็นคนแถวนี้ คุณล่ะชื่ออะไร" ก้านสตาร์ทรถแล้วหันมาถาม
"เอ"
"แล้วทำไมเอ ถึงมาถูกพวกไอ้แจครุมได้ล่ะ"
"นายรู้จัก?"
"โอ๊ย คนแถวนี้ไม่มีใครไม่รู้จักไอ้แจคเด็กของเสี่ยเพชรหรอก ดังจะตาย"
"เด็กเสี่ย..." ผมทวนคำ
"ก็ไอ้นั่นไง ที่เขาเลี้ยงไว้ทำเมียอ่ะ"
"ผู้ชายอ่ะนะ"
"คนมีตังค์ทำอะไรก็ไม่ผิดหรอก อีกอย่างเด็กมันสมยอมใครจะกล้าเอาเรื่องล่ะ"
"แล้วทำไมนายถึงมาช่วยฉัน ไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย"
"ผมเป็นคนดีของสังคมไงครับ เห็นใครเดือดร้อนก็อยากช่วย เฮ้ย ไม่ต้องทำหน้าเหม็นเบื่อขนาดนั้น เรื่องจริง"
"ทำที่ไหน นี่มันรอยโดนตีนเหอะ" ผมมองหน้าก้านทางกระจก มันได้ยินก็หัวเราะร่วน ดูๆ ไปหน้าตามันก็น่ารักดี
ขาวๆ ตี๋ๆ สเป็กผมชัดๆ

นั่งซ้อนเอาหน้าโต้ลมทะเลได้พักใหญ่ ก้านก็มาจอดรถที่หน้าบ้านทรงไทยยกสูงที่หลังโคตรใหญ่
ผมลงจากรถแล้วหันมองหน้าก้านอย่างตกตลึง แต่ก้านยิ้มกว้าง

"เป็นอะไร ไม่ต้องกลัว นี่บ้านผมเอง ป่ะเข้าไปเหอะ ไม่มีใครอยู่หรอก เขาไปทำงานกันหมด"
"ทำงาน" ผมยังยืนนิ่ง
"ก็ธุรกิจโรงแรมเล็กๆ น่ะ เอ้า เข้ามาสิ จะได้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ตัวคุณเหม็นไปหมดแล้วเนี่ย" ก้านพูดแล้วก็ลากผมเข้ามาในบ้าน
"ไม่ต้องเกร็ง ตามสบายเลยนะ เดี๋ยวผมไปหาเสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยนก่อน"
ผมพยักหน้ารับคำ แต่ก็ยังคงยืนนิ่งเหมือนก่อนหน้านั้น ไม่กล้านั่งครับกลัวเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงของเขาเปื้อน
ตามพนังไม้ มีปืนสำหรับล่าสัตว์ หัวกวาง เสือ และหมีติดโชว์ ใกล้ๆ หัวหมีมีกรอบรูปผู้ชายไว้หนวดครึ้มถือปืนเหยียบอยู่บนหลังหมี
ผมล้วงโทรศัพท์ เปิดเครื่อง สายไม่ได้รับเกินกว่าครึ่งร้อย สามสิบสายในนั้นเป็นเบอร์ป๋าชินกับของที่บ้าน ส่วนที่เหลือเป็นของเพื่อน

"ไอ้เชี้ยเอ!!!" ดังอย่างกับระเบิดกัมปนาทเมื่อผมกดโทรศัพท์หาเฮียเอ็ม พี่ชายคนที่สองที่คาดว่าน่าจะใจดีที่สุดในบ้าน
"เบาเฮีย เดี๋ยวเขาก็รู้หรอกว่าใครโทร" ผมว่าหน้าซีดเผือก
"มึงอยู่ไหน"
"อยู่...อยู่บ้านเพื่อน" ไม่ได้โกหกนะ รู้จักชื่อก็น่าจะเป็นเพื่อนกันแล้ว
"เพื่อนมึงคนไหน ทำไมมึงชอบทำอะไรให้คนอื่นเขาเป็นห่วงอยู่เรื่อง มหาลัยป๋าเขาก็ไปส่ง แต่มึงเสือกไม่เข้าเรียน มึงเป็นเชี้ยไรครับเอ" เป็นชุด
"บอกมาเลยนะว่าบ้านเพื่อนที่ไหน กูจะให้ไอ้อาร์(พี่ชายคนที่สาม)ไปรับ อย่ามาตอแหลกูด้วย ไม่งั้น หมอไม่รับเย็บแน่"
สภาพกรูตอนนี้หมอก็คงไม่รับเหอะ

"ผมกลับเองได้ มีเงิน"
"มึงอย่ามาดื้อ ป๋าชินเขาจะไปแจ้งตำรวจอยู่แล้วถ้าคืนนี้มึงไม่โทรมาเนี่ย"
"ป๋าอยู่ที่บ้าน?"
"เพิ่งกลับไปเมื่อกี้"
"เออ ช่างเขาเหอะ"
"มึงทะเลาะกันก็อย่าให้เดือดร้อนคนอื่นสิวะ โตๆ กันแล้ว"
"เฮียคิดว่าผมอยากทะเลาะหรือไง ป๋าชินต่างหากที่ไม่ยอมฟังผม"
"ถ้ามึงคิดที่จะอธิบายจริงๆ ทำไมต้องหนีไปแบบนี้ มึงอย่ามาอ้าง มันฟังไม่ขึ้นหรอกเอ"
"ก็...ก็ทีป๋าเขายังหนีผมได้เลย"
"มันคนละเรื่องกัน มึงฟังกูนะเอ โทรไปหาป๋าชินซะ ก่อนที่มึงจะไม่มีโอกาส"
"เฮียเข้าข้างป๋าชินนี่"
"กูไม่ได้เข้าข้าง แต่กูรู้จักนิสัยมึงดีไอ้เอ กูเป็นพี่มึงนะ ถ้ามึงไม่ผิดมึงก็บอกเขาไปเลย ไม่ใช่หนีไปแบบนี้แล้วมาอ้างว่าเขาไม่ฟังมึง"
".....ฮะ..อึก" น้ำตาไหล ไม่รู้คำพูดเฮียเอ็มแทงใจดำผม หรือเจ็บแผลมากกว่ากัน
"มึงไม่ต้องร้อง เงียบแล้วบอกกูมาว่ามึงอยู่ไหน" น้ำเสียงเฮียเริ่มอ่อน
"อยู่พัทยา เฮียเอ็มบอกเฮียอาร์ให้มารับผมที่ท่ารถก็ได้...อึก"
"เออ ไปถึงแล้วกูจะให้อาร์มันโทรหา อย่าปิดเครื่องล่ะ แค่นี้นะ"
"อื้อ...อึก" กดวางสายแล้วก็ต้องตกใจตาค้าง เมื่อไอ้คุณก้านกำลังยืนมองผมอยู่หน้าห้องที่มันหายเข้าไป
"เฮ้ย! มาตั้งแต่ตอนไหน" รีบปาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว
"ไม่ตั้งใจจะแอบฟัง แต่ไม่กล้าทัก โทษนะคุณ" ก้านยิ้มแหยๆ พลางเดินเอาเสื้อผ้ากับผ้าขนหนูใหม่มาให้
"เอ่อ...ไม่เป็นไร ขอบคุณ แล้วห้องน้ำไปทางไหน"
"เดินตรงไปเลี้ยวขวา อยู่สุดทางเดิน สวิตซ์ไฟอยู่ข้างห้องน้ำนะ"
"อื้อ"
"ของใช้ในห้องน้ำ ใช้ได้หมดทุกอย่าง แปรงสีฟันอันใหม่อยู่ในตู้หน้าอ่าง อาบเสร็จแล้วรีบออกมาล่ะ ผมจะทำแผลให้" ก้านยิ้มบอกหน้าแดงๆ
"อืม" ผมพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นก็เดินไปตามทาง เปิดไฟ เข้าห้องน้ำปิดล็อก
มองตัวเองในกระจกแล้วถึงกับช็อค คิ้วแตก ตาขวาบวมเป่ง ปากแตก หน้าช้ำ โอ้พระเจ้า เฮียเห็นต้องฆ่ากรูแน่!


*********************************************************

เอ๊ะ...เหมือนกับที่คิดไว้หรือเปล่า
ก้าน(ตัวละครใหม่) เป็นใคร แล้วจะมีบทบาทมากกว่านี้หรือไม่ ต้องติดตาม
ผู้ชายเยอะจริงนะเรื่องนี้ คริคริ

******************************************************

nunnan + มาม่าไม่ค่อยอืด คิดว่าพอถูไถให้ใจชื้นไปได้เนอะ
B52 + ก็นิดหน่อยอ่ะค่ะ
kik + มาต่อให้แต่ก็ค้างเหมือนเดิม
อยากรัก + ตอนนี้ป๋าไม่ค่อยมีบทเท่าไรเนอะ คนเขียนแอบหมั่นไส้ อิอิ
mukmaoY + โอ๊ะ น้ำตาเรียกคะแนนสงสาร
insomniac + ชีวิตจริงก็อยากได้แบบนี้แหละ เอาเป็นว่าเชิญมโนกันตามสบายถ้าไม่ขัดใจตัวคนอ่านเองน่ะนะ
ลิงภูเขา + ที่อยู่ในกระเป๋ากับไม่ปาทิ้งนี่น่าจะเหตุผลเดียวกัน คือไม่ได้ใส่ใจ หนีไปแอ่วเหนือมาสนุกล่ะสิ สนุกล่ะสิ อิอิ อิจฉา
dahlia + เหมือนเหตุการณ์จะสลับกัน เอาเป็นว่ายังดราม่าได้ต่อ >3<

ขอบคุณ และ + เป็ด จุ๊บๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 16 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 08-03-2014 20:13:30
ถ้าผู้หญิงนะแปลก ก็มันวายนิ
น้องเอตอนนี้โชคร้ายจริง สงสัยต้องทำบุญ  :เฮ้อ: :L2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 16 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 08-03-2014 21:16:08
ป๋าสู้ๆนั
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 16 (08/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: michiri.sama ที่ 08-03-2014 21:39:17
น้องเอง่ะ ดื้อจังเลยลูก แถมยังชอบอุบอิบเก็บความลับกับป๋าด้วย
อย่ามัวแต่ประชดกันแล้วหนีปัญหาสิจ๊ะ ชีวิตคู่นี่มันต้องเปิดใจพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายนะค้าาาาาา
ป๋าขี้หึงมากกกกกกกกก แต่เราชอบอะ 55555 หึงได้แต่อย่าทำรุนแรงเหมือนคราวแล้วเป็นพอ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 17 (09/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 09-03-2014 01:53:52
รักบอดๆ ตอนที่ 17



เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ โอ๊ย กรูอยากร้องเพลงมากกว่าร้องไห้ เชี้ย!!
ตักน้ำในโอ่งราดตัวเองหลายสิบขันยังไม่ทำให้หัวกลวงๆ หายโหวงเหวงเลยแม่ง

ก็อกๆ

"เอ" เสียงก้านเรียกอยู่ด้านนอก
"แปบ ใกล้เสร็จละ" ผมส่งเสียงบอก
"ระวังตัวเปื่อยนะ อาบนานน่ะ"
"เออ เสร็จแล้ว เร่งจริงวุ้ย" โยนขันลงโอ่งแล้วหันมาเช็ดตัวลวกๆ
"คุณหิวมั้ย บ้านผมมีข้าวต้ม" ข้าวต้มอีกแล้ว กรูเกลียดเมนูนี้!!

คว้าเสื้อผ้าชุดที่ก้านให้มาสวม(เสื้อยืดขาวกางเกงเลสีส้มขายาว)
เรียบร้อยก็เปิดประตูห้องน้ำออกมาบอกกับเจ้าตัวตรงๆ

"ไม่กิน เดี๋ยวพี่ฉันมารับแล้ว"
"ว้า~ เสียดายจัง นึกว่าค่ำนี้จะมีคนกินข้าวเป็นเพื่อน" ก้านทำหน้าหงอยเหมือนเด็กขาดความอบอุ่น
"ฉันไม่ชอบข้าวต้ม" ที่จริงชอบนะ แต่พอนึกถึงมื้อเมื่อเช้าที่อิป๋ามันทำให้แล้วไม่นึกอยาก
"งั้นเอางี้ คุณให้พี่คุณมารับที่ท่ารถใช่ป่ะ เดี๋ยวเราออกไปกินร้านแถวนั้นกันก็ได้" ก้านยิ้มแป้น
"ไม่เห็นต้องลำบากเลย นายช่วยฉันไว้ตั้งเยอะ ทั้งให้อาบน้ำ ให้เสื้อผ้าเปลี่ยน นี่ยังจะพาไปเลี้ยงข้าวอีก ไม่เอาหรอก"
"ใครบอกผมจะเลี้ยง ขี้ตู่นี่นา" อ้าว เงิบสิครับ แต่ก็จริงของมัน ผมดันเข้าใจผิดไปเอง อ๊ายอาย
"นายจะให้ฉันเลี้ยง?" ผมเลิกคิ้วพยายามไม่เขินที่พลาด
"อื้ม" ก้านพยักหน้า
"เออ ดี เลี้ยงก็เลี้ยงวุ้ย"
"ขอบคุณคร๊าบ งั้นมาๆ ผมจะทำแผลให้ ดูสิหน้าตาน่ารักเละไปหมดแล้วเนี่ย" มึงสิน่ารัก ไอ้โย่ง
"พูดเหมือนจีบมากกว่าจะชม" ปากพล่อย ก้านยักไหล่ยิ้มขำ
"นั่งลงสิ" บอกให้ผมนั่งบนเก้าอี้หวายที่มีเบาะรองนั่งนุ่มๆ ตรงชานบ้าน
แล้วก้านก็หย่อนตัวนั่งบนเก้าอี้หวายอีกตัวพลางหยิบกล่องปฐมพยาบาลสีขาวที่เตรียมไว้บนโต๊ะขี้นมาวางบนตัก

"ไหนดูซิ โหย จะเป็นแผลเป็นมั้ยเนี่ย" ใช้สำลีชุบยาเหลืองแตะๆ บนคิ้วข้างที่แตก
"ลูกผู้ชาย แค่นี้จิ๊บๆ"
"จิ๊บๆ แต่ลงไปนอน ถ้าผมไม่ไปช่วยคุณจะยังกล้าพูดแบบนี้ได้อีกหรือเปล่า"
คนพูดจิ้มสำลีลงมาแรงๆ ผมเบ้หน้า กัดฟันมองเขม็ง แม่งจงใจแกล้งผมอ่ะ

"ก็กล้า ทำไมล่ะ ถึงนายไม่มาช่วยพวกนั้นก็จะปล่อยฉันอยู่แล้ว" เรื่องจริงนะเออ
"หึ คนอย่างไอ้แจคถ้าไม่ทำให้ใครไปนอนโรงพยาบาลมีหรือจะปล่อย" เปลี่ยนสำลีก้อนใหม่แล้วจิ้มลงบนมุมปาก
"โอ๊ย!!" ผมตีมือก้าน "เบาหน่อยได้มั้ย"
"อ้าว ไหนบอกลูกผู้ชาย แค่ทำแผลแค่นี้ทนไม่ได้ไงครับ" กวนตีน
"ไม่ต้องทงไม่ต้องทำแล้ว"
"ไม่ได้ๆ เดี๋ยวแผลติดเชื้อจะแย่ เร็วอย่าดื้อ" แน่ะ ว่ากรูอีก
"ไม่ได้ดื้อ แต่ไม่อยากทำ พอๆ" ผมขมวดคิ้วไม่ชอบใจ ผลักมือที่ไม่ยอมแพ้ของก้านไปห่างๆ
"ทำตัวเป็นเด็ก" ก้านยิ้ม "เอ้า ยาแก้ปวดกับแก้อักเสบกินซะ จะได้หายไวๆ"
"สิบเก้า เด็กวัยกำลังโต" ผมก็รับยามากิน
"โหสิบเก้า อย่างนี้เขาไม่เรียกกำลังโตแล้ว เขาเรียกเด็กโข่ง"
"ว่าแต่เขา นายนั่นแหละ อายุเท่าไรกัน"
"ผมเหรอ ผมยี่สิบสองครับ หน้าเด็กป่ะ" ก้านวางกล่องปฐมพยาบาลลงบนโต๊ะแล้วหันกลับมาคลี่ยิ้มให้
"หลงตัวเอง" ผมลุกขึ้นยืน
"จะไปแล้วเหรอ"
"เออ"
"งั้นก็ป่ะ" ลุกขึ้นจูงมือผมออกมานอกบ้าน
คือมึงจะเนียนไปไหนครับ ให้กรูเดาไม่ออกบ้างเถอะว่าเราสองคนรสนิยมเดียวกัน

"เสื้อผ้า" หมายถึงเสื้อผ้าผมอ่ะครับ ถอดกองไว้ในห้องน้ำยังไม่ได้เก็บ
"เดี๋ยวผมซักให้" ก้านบอกพร้อมกับล็อคกุญแจบ้าน
"เฮ้ย ได้ไง ฉันกลับวันนี้นะ"
"คุณก็เอาที่อยู่กับเบอร์โทรศัทพ์ของคุณมาสิ ซักเสร็จผมจะส่งคืนให้"
"ไม่ดีมั้ง"
"คุณว่าไม่ดี แต่ผมว่าดี หายกัน" ตรงไหน?
"ไม่เอาๆ เปิดก่อน ฉันจะไปเอามา"
"ไม่เปิด ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมบอกก็ทิ้งมันไว้นี่แหละ ซักเสร็จผมจะได้เอาไปบริจาค" ชุดนักศึกษากูนะเฮ้ย!
"เผด็จการว่ะ" ผมพึมพำเดินตามก้านมาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์
"คนเรามีบุญวาสนาต่อกัน ทำยังไงก็หนีกันไม่พ้นหรอก"
"เออ อยากทำอะไรก็ทำเถอะ" คุยกับมันแล้วโคตรเหนื่อย
"ตามนั้น จับแน่นๆ เดี๋ยวตก" ก้านคว้าสองมือผมไปโอบเอว
"หมายถึงเสื้อผ้า ไม่ใช่แบบนี้" ผมยื้อจะเอาแขนออกแต่มันก็จับไว้แน่น แล้วออกรถอย่างแรง ถ้าไม่ได้โอบมันไว้มีหวังได้หงายหลังกันล่ะ
"ไอ้บ้าก้าน ขี่แบบนี้ปล่อยฉันลงเลยนะเว้ย!!" ตกใจตะโกนกรอกหู แทนที่มันจะสำนึกตัวได้ กลับบิดแรงกว่าเดิม พระเจ้า กรูจะตก!!
"จับให้แน่น" แน่นจนกรูจะรัดไส้มึงปลิ้นแล้วครับ ไอ้ก้าน
ใครเห็น ใครได้ยิน ต้องหันมองแล้วคิดว่าไอ้บ้าสองตัวนี่มันทำอะไรกัน นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์แหกปากอย่างกับไปเล่นรถไฟเหาะตีลังกา
แต่พวกคุณหารู้ไม่ ว่าไอ้คนขี่มันพยายามจะยกล้อทุกๆ ห้านาทีที่ผมคิดจะปล่อยมือ อ๊ากกกก ปล่อยกรูลงน้า ไอ้บ้าาาาาา!!!

ณ.ท่ารถพัทยา
ผมเซอร์ๆ ของหนุ่มศิลป์กรรม โดนลมสะบัดแม่งยิ่งเซอร์หนัก
ก้านล็อคคอรถมอเตอร์ไซค์ หันมาเห็นทรงผมที่ชี้โด่เด้ของผมก็อ้าปากขำกร๊าก

"หึๆ เท่ห์ดีนะคุณ" มีแซวให้ผมอายอีก ถ้าถีบถึงนะ จะเอาเบอร์รองเท้าประดับยอดหน้าให้ ชิส์
"ชาติหน้าชาติไหนอย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลยเหอะ สาธุ" ผมยกมือท้วมหัวพูดเสียงดังฟังชัด
"โหย แรงนะคุณ ผมออกจะอยากเจอคุณทุกชาติไป" ทุกวันนี้แค่มีอิป๋ากรูก็อยากชิ่งบวชสักพรรษาแล้วครับ
"หน้าตาก็ดี เป็นเกย์หรือไง หยอดจริงหยอดจัง"
"เป็นเหมือนคุณไง" หักหัวลูกศรยูเทิร์นกลับมาทิ่มกรูได้อีก ปลวกเอ๊ย
"รู้ได้ไงว่าฉันเป็น" แกล้งทำเข้มกลบเกลื่อน แม้จะรู้ว่าเอาไม่อยู่ก็เถอะ
"ก็คุณน่ารัก" มึงเอามาตรฐานอะไรวัดครับ
"นายก็น่ารัก" เผลอสวนซะงั้น ขุดหลุมฝังตัวเองได้พอดีตัวเด๊ะ ปล้ำเข้!
"เต๊าะ ก็นั่นไง" ก้านเด๊าะลิ้น แล้วหันมายิ้มภูมิใจ
"มีใครเคยบอกนายป่ะ"
"บอกว่า?"
"กวน-ตีน" เน้นชัดทุกคำครับ หมั่นไส้
"ต้องให้นับก่อนบอกมั้ย" ไม่เข้าหูมึงเลยใช่มั้ยไอ้คำที่กรูเน้นไปเนี่ย
"พอเหอะ อยากกินไรว่ามา จะได้กลับๆ ไปสักที" ผมตัดบท
"คุณอยากกินอะไรล่ะ"
"อะไรก็ได้ที่จะช่วยให้นายหยุดปาก"
"โห ง่ายจะตาย คุณก็จูบปิดปากผมสิ ผมจะได้หยุด" ก้านพูดหน้าทะเล้นแล้วเดินมายืนขวางข้างหน้าไม่ให้ผมเดินต่อ
"ประสาท" ผมนิ่วหน้า ขยับมาเดินอีกทางที่ว่าง
"เดี๋ยวก่อนคุณ รอผมด้วย" วิ่งมาเดินข้างๆ "ไม่มีอารมณ์ขันเลยนะ"
"อยู่กับนาย แถมในสภาพแบบนี้ คิดว่าจะมีดีมั้ยล่ะ" พูดทีเจ็บปากจะตายชัก
"อืมๆ แล้ววันนี้คุณมาทำอะไรที่พัทยานี่ล่ะ มาให้ไอ้แจคกระทืบ?" ตกลงนี่คือนิสัยจริงๆ ของคุณใช่มั้ยครับคุณก้าน กวนกรูเหลือเกิน
"ทะเลาะกับผัวมา" ตั้งใจจะบอกว่าแฟน แต่รำคาญมันสุดติ่ง หลุดคำว่าผัวไปซะงั้น
"......" เงียบในรอบชั่วโมงที่เจอ เออ ถ้ารู้ว่าประโยคนี้ทำให้เงียบได้แบบนี้ ผมพูดไปตั้งนานแล้วครับ
"นั่นอาหารตามสั่ง กินเปล่า" หันไปมองมันที่ตอนนี้ไม่เหลือรอยยิ้มทะเล้นๆ อยู่บนใบหน้า คำพูดผมท่าจะแทงใจน่าดู
"คุณมีแฟนแล้ว?" มันถามเสียงเบา หน้านิ่งๆ เหมือนคนที่ไม่รู้คิดอะไรอยู่
"ก็มี อายุขนาดนี้ใครเขาจะอยู่เป็นโสด"
"อืม...รักแรกก็หักดังเป๊าะ โอ๊ยเจ็บจริงๆ เจ็บสุดๆ" กุมหน้าอกแล้วลงไปนั่งยองๆ สรุปมึงแกล้ง?
"อย่ามาเวอร์ ลุกขึ้น คนมองแล้วน่ะ" ผมเอาเท้าเตะข้างลำตัวก้านเบาๆ
"โห่คุณ ไม่รับมุขเลย งี้แหละพวกไร้อารมณ์ขัน" พูดจบก็เดินไปนั่งในร้านอาหารตามสั่ง
"เออ กูมันพวกไร้อารมณ์ขัน" ผมพึมพำหน้าหงิกแล้วตามไปนั่ง
สั่งข้าวกินได้พักหนึ่ง โจษเก่าที่รุมยำผมในสวนสาธารนะก็เดินผ่านมา ราวกับโลกบังเอิญให้มาเจอกันทีเดียว

"เฮ้ยพวกเรา ดูไอ้อ่อนที่เคยกินตีนกูสิ แม่งมากับไอ้ตี๋ด้วยว่ะ"
"....."
"....."
ผมกับก้านต่างคนต่างเงียบ ทำเป็นไม่สนใจ

"แหมๆ หัวหดเป็นเต่าเลยเหรอวะ"
"น้อยๆ หน่อย กะอีแค่ได้เป็นเด็กเสี่ยเพชร อย่ามาทำปากดีน่ะแจค" ก้านพูดหน้านิ่ง
"เอ๊าะอ๋อ กูรู้ละ ตอนที่กูรุมยำไอ้อ่อนนั่นอยู่ เป็นมึงสินะที่ตะโกนเรียกตำรวจ อยากเอามันไปเป็นเด็กในเล้าอีกคนไงวะ ถุย อีลูกกระหรี่!"
"พูดว่าใครแล้วเข้าตัว กูว่ามึงอย่าพูดดีกว่านะ" โทนเสียงเรียบก็จริง แต่ทำผมหนาวสันหลังวาบไงไม่รู้
"ทำไม อย่างน้อยกูก็ไม่ได้ขายให้ใครเขาไม่ทั่วเหมือนแม่มึงนี่ ขายจนได้ดี แต่งกับเศรษฐีฝรั่ง คนแถวนี้ใครๆ เขาก็รู้กันทั่ว"
"ก็ยังดีกว่า... ไอ้พวกขายไปวันๆ ตูดจะฉีกยังได้แค่เศษเงินมาใช้" หูย แรงส์

โครม!!
โต๊ะที่ผมสองคนนั่งกินโดนไอ้เด็กแจคยกคว้ำข้าวของจานชามตกระเนระนาด
แม่ค้า ลูกค้าคนอื่นๆ ตกใจหนีหายไปยืนออกันอยู่หลังร้าน (ส่วนมากเป็นผู้หญิง)

"ปากอย่างมึงน่าส่งไปให้หมอเย็บสักสิบเข็มนะ ไอ้หน้าตี๋"
"ก็ถ้ามึงกล้าทำ หรือไม่กลัวโดนสวนก็เอาสิ" ก้านลุกขึ้นยืน ตัวนี่สูงเลยหัวไอ้เด็กแจคไปเยอะ
"มึงมีสองคนแต่กูมีเป็นสิบ"
"จบปอสี่ก็งี้ มีแปดนับเป็นสิบ เออ ก็ลองดู" ก้านกำหมัดเงื้อจะต่อย เพื่อนไอ้เด็กแจคก็เตรียมจะกรู่กันเข้ามาร่วมวง
ผมเห็นท่าไม่ดี วางตังค์ค่าข้าวไว้อีกโต๊ะแล้วจัดการคว้าแขนก้านวิ่งมายังจุดรอรถที่มีคนพุกพ่านให้พ้นจากดงตีน

"คิดอะไรบ้าๆ เดี๋ยวก็เจ็บตัวฟรีหรอก" ผมยืนหอบ พลางหันมองหลังว่าไอ้พวกนั้นพากันวิ่งตามมาหรือเปล่า โชคดีที่มันไม่ได้ตามมา
"ฮ่ะๆ คุณกลัวเด็กหรือไง พวกนั้นอายุน้อยกว่าคุณตั้งหลายปีนะ อย่างไอ้แจคน่ะ อายุแค่สิบห้าสิบหกเอง" ก้านบอกเสียงหอบปนเสียงหัวเราะ
"ตัวใหญ่ขนาดนั้นไม่เกี่ยวกับอายุหรอกมั้ง แถมพวกมันก็เยอะกว่า ฉันไม่อยากเจ็บตัวอีกหรอกนะ แค่นี้ก็ไม่รู้จะอ้างกับพวกพี่ว่าไงแล้ว"
"คุณคิดว่าผมจะแพ้?"
"ก็เออเซ่!"
"เหรอ งั้นหรอกเหรอ อืมๆ" ทำหน้าเข้าใจอยู่คนเดียว พิลึกคน
"อ๊ะ พี่โทรมา รอแปบ" ล้วงโทรศัพท์ที่เหน็บไว้กับกางเกงเลมากดรับสาย
"อยู่ไหนเอ" เสียงเฮียอาร์
"อยู่ตรงท่ารถ เบอร์...ครับ"
"อืม เห็นละ"
พอผมได้ยินเฮียอาร์บอกก็หันมองรอบๆ แล้วก็เจอเฮียแกกำลังเดินตรงมาทางเราสองคนพอดี

"ไอ้ตัวก่อเรื่อง" คำทักทายที่น่ารักของคุณพี่ชาย
"สวัสดีครับ ผมก้านเพื่อนของเอครับ" เจ้าของชื่อรีบตีเนียนสนิทแนะนำตัว
"อืม แล้วนี่หน้ามึงไปโดนอะไรมา" หน้าเหี้ยมเชีย ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ
"โดนเด็กวัยรุ่นแถวนี้รุมตีครับ"
"ไอ้ก้าน!" ผมกัดฟันเรียกชื่อคนข้างตัวที่เสนอหน้าบอกความจริงกับเจ้าพ่อประจำบ้าน กรูถูกฆ่าแน่ เวรเอ๊ย!!
"ใคร" สั้นๆ แต่แน่ชัดว่าต้องมีเคลียร์ ระดับหัวหน้าประจำแก๊งค์เด็กซิ่งกรุงเทพมีหรือจะจบแค่ฟัง
"มันชื่อแจคครับ เป็นเด็กของเสี่ยเพชร แถวนี้ใครก็รู้จัก เมื่อกี้พวกผมยังเจอมันมาหาเรื่องอยู่เลย"
ก้านบอกหน้าตาย ผมแอบหยิกหลังมันแรงๆ ให้หุบปาก แต่สายไป

"เสี่ยเพชร?...ใช่เจ้าของที่ดินส่วนใหญ่ในพัทยาแถบนี้หรือเปล่า?"
"เสี่ยเพชรนั่นล่ะครับ"
"อืม คงไม่เป็นไรท่าจะให้เสี่ยแกหาเด็กใหม่" เฮียอาร์หันมาทางผม "กลับบ้านเรามีเรื่องต้องคุยกัน" ผมสะดุ้ง
"ผมทะเลาะกับป๋าชินนะ ไม่ใช่กะเฮีย" หน้าซีดเป็นไก่ไปแล้วครับ เมื่อคิดย้อนสภาพตัวเองตอนโดดเรียนช่วงประถมแล้วโดนเฮียอาร์จับได้
ครั้งนั้นถูกจับแขวนห้อยหัวกับต้นมะม่วงหน้าบ้านตั้งชั่วโมง ตั้งแต่นั้นไม่กล้าหนีเรียนอีกเลย ขยาด บรื๊อ~

"คนในบ้าน รวมทั้งป๋าชินไม่มีใครกล้าทำมึง แต่กูไม่ใช่ มึงทำให้คนอื่นเดือดร้อนก็ต้องโดน
นี่ยังไม่นับที่มามีเรื่องนอกบ้านด้วยนะ อ่วมแน่ กูสาบาน" ยักษ์...ยักษ์ชัดๆ

"ขอบใจนะก้านที่ช่วยดูน้องพี่ อ่ะ นี่เบอร์ติดต่อ ถ้ามีอะไรหรืออยากจะไปเที่ยวกรุงเทพโทรหาพี่ได้นะ"
เฮียอาร์ยื่นนามบัตรด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แม่งคนละเรื่องกับที่ทำใส่ผมเลยครับ สองมาตรฐาน!

"ครับ" ก้านยิ้มแก้มปริที่ได้โอกาสติดต่อไป แล้วรีบหันมาทางผม "ไว้เจอกันนะคุณ"
"ฉันเกลียดนายเป็นบ้าเลยว่ะ"
"เอ กลับ!"
"บ๊ายบาย" ก้านใช้มือข้างที่ถือนามบัตรเฮียอาร์โบกลา คล้ายกับจะเป็นการยั่วยุให้ผมโมโหมากขึ้น
"ฝากไว้ก่อนเหอะ ไอ้ขี้ฟ้อง!!" ผมชี้หน้าคาดโทษ คนโดนไม่สลดซ้ำยังหัวเราะพร้อมกับส่งจูบให้อีกด้วย ไอ้บ้าก้าน!!


*************************************************

ปล. อิคนเขียนมันขยัน คริคริ ครอบครัวน้องเอเริ่มโผล่มาเรื่อยๆ เฮียอาร์ อายุ...ปี (มากกว่าเอสี่ปี)
เด็กขาโจ๋ ที่อดีตเคยคุมเด็กช่างนับร้อยไปตีกับโรงเรียนอื่นชนะโดยไม่เสียเบี้ย คริคริ ชอบตัวละครนี้เป็นการส่วนตัว :hao7:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 17 (09/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-03-2014 03:04:24
โฮ!! อย่างเท่อะเฮียอาร์ ตอนนี้ตลกๆรอดูตอนหน้าดราม่าท่วมจอแน่ๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 17 (09/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 09-03-2014 06:26:52
เฮียจะพาไปตื๊บไอ้แจ๊คหรือเปล่าอ่ะ อยากให้เอาคืนจัง. อิอิ แค้นแทนว่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 17 (09/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 09-03-2014 07:20:54
คนเขียนมาต่อบ่อย ๆ น่ารักจัง  เรื่องนี้ดูเรื่อยแต่สนุกดี ชอบ  :กอด1:


เด็กแจค  ก็ยังเด็กสินะทำตัวกร่างบังอาจทำน้องเอ :m16: :m16:

 :katai4:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 17 (09/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-03-2014 19:52:10
สนุกมากค่ะ น้องเอดื้อเสมอต้นเสมอปลายดีมากอ่ะ :laugh:
รออ่านตอนต่อไปนะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 17 (09/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 09-03-2014 22:23:44
อุ้ย.. เด็กคนนี้ของเฮียไรนะ อาร์?  ((ครอบครัวตัว อ. จำชื่อสับสนหมดแระ))

อยากรู้ว่าป๋าจะทำยังไง.. เพราะป๋าเลยนะทำน้องเอเจ็บทั้งตัวและหัวใจ ((ตอนไหนว่ะ!?))

คนเขียนขยันอัพจนคนอ่านตามเม้นไม่ทันเลยอ่าาาาาาาาาาาาาาา  ((น่ารักจริงๆ เลย))

กอดคนเขียนแรงๆ ซักที ((ฟัดๆๆๆๆๆๆๆ))

ฝันดีนะครับ  :hao7:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 17 (09/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 09-03-2014 23:09:18
อิน้องเอนี่ช่างแบบ.........สุดจะบรรยาย
คือก้านเค้าอุตส่าห์ช่วยแล้วยังปากเสียกับเค้าอีก
เป็นเรานะจะตบปากให้ สมน้ำหน้าโดนซะบ้างก็ดี
กะจะสงสารเรื่องป๋าแล้วไงมาเจอตอนล่าสุดนี่
ขอบอกว่าแอบสะใจเบาที่โดนรุมซะบ้าง5555++
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 17 (09/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 10-03-2014 00:04:17
กรี๊ดดดดด เฮียอาร์เท่ห์อ่า >< ตอนนี้ป๋าชินไม่มีบทเลยอ่ะ มีแต่ชื่อ 5555555555

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 18 (10/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 10-03-2014 01:40:58
รักบอดๆ ตอนที่ 18



ลูกเจี๊ยบในรังงู?
ผมนั่งตัวลีบอยู่บนแค๊บหลังกระบะ เพราะเบาะหน้าถูกไอ้แอล น้องชายที่เรียนอยู่มอปลายปีสอง
ครอบครองพื้นที่ไว้อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ฮึ่ม! เฮียอาร์ไม่เห็นบอกเลยวะ ว่าเอาไอ้ลิงนี่มาด้วย

"เฮียเอ หน้าขี้เหร่มากอ่ะ" มันหันมาพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะ
"เสือก" ผมผลักหน้ามันไปแรงๆ
"เฮียอาร์ เฮียเอแกล้งผมอีกแล้ว"
"นั่งเงียบๆ ก่อนจะโดนถีบออกจากรถ" สมน้ำหน้ามึง ฮ่าๆ
"ชิส์!" แอลมองผมค้อนๆ แล้วกลับไปนั่งกอดอกหน้าบูดเป็นปลาปักเป้าตอนเจอศัตรู(พองลม คริคริ)
"มีอะไรจะพูดให้กูฟังก่อนถึงบ้านมั้ยเอ" เฮียอาร์จ่ายเงินค่าทางด่วนเสร็จก็ตั้งคำถามกับผมทันที
"ผมไม่ได้ทำเพราะอยากประชดนะเฮีย" ออกตัวไว้ก่อน ไม่งั้นอ่วม
"แล้วป๋าชินไปส่งมึงที่มหาลัยทำไมมึงไม่เรียน ออกมาเตร่แถวพัทยาทำไม มือถือก็ไม่เปิด รู้บ้างมั้ยว่าทำคนเขาวุ่นวายกันไปหมด"
"ก็ลืม" เสียงอ่อย
"ลืม ตอบง่ายเนอะ มึงคิดมั้ยว่าคำสั้นๆ คำเดียวของมึงทำให้กูต้องเสียเวลาในการขับรถออกมารับ แทนที่จะได้นอนพักหลังกลับมาจากทำงานเหนื่อยๆ"
"ผมไม่ผิดสักหน่อย คนผิดป๋าชินต่างหากที่ไม่ยอมฟังผมอธิบาย" เอาเข้าจริงๆ ก็ผิดกันทั้งสองฝ่าย
ผมผิดที่ไม่บอกเรื่องพี่โต้ ส่วนป๋าชินผิดที่ไม่ยอมฟัง

"เขาจะฟังมึง ถ้ามึงรอให้เขาใจเย็น ไม่ใช่พอเขารู้เรื่องและเขากำลังร้อน มึงก็ร้อนตามแล้วรีบจะอธิบายให้ได้เดี๋ยวนั้น"
"ผมไม่ได้ร้อน ผมแค่..."
"มึงอย่ามาเถียงกูเอ!" ทั้งผมทั้งแอลสะดุ้งตามกัน
"ขนาดกูพี่มึงแท้ๆ มึงยังเถียง แล้วกับป๋าชินมึงจะไม่เถียงเขาเลยเหรอ หัดใช้เหตุผลบ้าง อย่าใช้แต่อารมณ์"
ฟังเฮียอาร์ไปก็คิดขึ้นได้ เมื่อคืนที่ผมกลับถึงบ้าน แรกๆ ป๋าชินบอกให้ผมขึ้นไปอาบน้ำ ไม่ได้มีการใส่อารมณ์สักนิด
แต่เป็นผมเองนั้นแหละ ที่เซ้าซี้จนแกเก็บอารมณ์ไม่อยู่แล้วระเบิดมันออกมา

"ตอนเย็นที่ป๋าชินไปบ้าน กูลองเค้นเอาเรื่องออกจากปากเขาเพราะห่วงมึง แต่ที่ไหนได้ป๋าชินบอกว่าเมื่อคืนเขาพยายามรอให้มึงลงมาอธิบาย
แต่มึงกลับขึ้นบ้านไปแล้วไปเลยไม่ยอมลงมา แล้วมึงจะบอกกูว่าป๋าชินไม่ฟังมึงอีกเหรอเอ ไม่ใช่มึงหรือไงที่ใช้ความคิดแบบเด็กๆ ทิ้งโอกาสนั้นไปเอง"

"แต่ผม..."
"มึงอย่ามาเถียง!"
ผมนั่งนิ่ง กลืนคำพูดทั้งหลายทั้งมวลที่คิดจะเถียงกลับลงคอ เฮียอาร์มองผมผ่านกระจกด้วยดวงตากร้าวแล้วพูดต่อ

"เป็นคนอื่น มึงลองคิดซิว่าจะทนมึงได้ขนาดนี้มั้ย งานบงงานบ้านไม่เป็นอะไรเลยสักอย่าง เอาแต่ใจก็ที่หนึ่ง
ขี้ดื้อก็ไม่เป็นรองใคร ปากเสียใช่ย่อย ถ้ากูไม่ใช่พี่มึงนะเอ ฆ่าหมกป่าไปนานและเหอะ" กรูเชื่อ!

"โหดไม่เข้ากับหน้าเลยนะเฮีย โอ๊ย!" แอลแซวไม่รู้เวลาล่ำเวลา เฮียอาร์เลยจัดการโบกกระหม่อมไปหนึ่งทีหนักๆ
"ผู้ใหญ่เขากำลังคุย อย่าสอดไอ้เปี๊ยก" แต่ผมเห็นด้วยกับแอลนะเฮีย ก็หน้าหวานๆ ตัวผอมๆ อย่างเฮีย
แม่ง โคตรจะไม่เหมาะกับนิสัยเถื่อนๆ เลยง่ะ อันนี้ได้แค่คิดในใจครับ บอกออกไปมีหวังได้ตายอย่างเขียด สยอง~

"พวกหลอกลวง ชิส์"
"ไอ้แอล มึงอยากโดนถีบตกรถจริงๆ ใช่มะ ลูกชายหายไปสักคนสองคนแม่คงไม่ว่าหรอกมั้ง"
"แม่จะเป็นลมตายสิไม่ว่า"
"ปากดี ไอ้เด็กเวร" เฮียอาร์เงื้อมือจะเขกกะโหลก
"โว๊ะๆ โว้ ขอต่อต้านการใช้ความรุนแรงในครอบครัวคร๊าบ!!" แอลรีบเหยียดตัวลุกหนีมานั่งกับผม
"เอาสิ เอาเลย อยากรถคว้ำก็ทำสิ" ยื่นหน้ายื่นตาไปแลบลิ้นใส่
"พอเหอะแอล กูรำคาญ" ผมปราม
"ก็ผมไม่อยากฟังเฮียอาร์บ่นเฮียเอนี่ น่าเบื่อจะตาย เรื่องเดิมๆ" เออ เหน็บกรูเข้าไปไอ้ลิง
"แล้วมึงจะตามกูมาทำหอกอะไรครับ"
"อยู่บ้านมันก็เบื่อนี่"
"พรุ่งนี้ไม่ไปโรงเรียนไงวะ" ผมถามไอ้น้องชายที่นั่งกอดแขนผมแน่น
"ไป"
"แล้วตื่นไหว"
"โหย ไหวเดะ ดับนี้"
"กูจะคอยดูไอ้ดับนี้ของมึง ถ้าพรุ่งนี้กูปลุกไม่ตื่นมึงดับแน่แอล" เฮียอาร์คาดโทษเสียงเข้ม ท่าทางจะหมั่นเขี้ยวไอ้ลิงไม่ใช่น้อย
"ง่ะ...ซวยและกู" มันบ่นอุบ
"ทำตัวเองนะแอล กูไม่ช่วย เพราะขนาดเรื่องของกูยังเอาไม่รอดเลย" ผมกระซิบบอก
"เอาให้รอดเถอะเฮีย ค่อยห่วงผม อ้อ สวดมนต์อย่าให้ป๋าชินผูกคอตายไปซะก่อนด้วยล่ะ"
"ป๋าร้องไห้ป่ะวะ"
"ไม่รู้อ่ะ แต่ถ้าโกรธล่ะก็ เยอะเลย"
"เอิ่ม..." กลืนน้ำลายแล้วสวดภาวนาให้กลับตัวเองแทน


*****************************************************


เห็นบ้านเหมือนเห็นแท่นประหาร
เฮียอาร์ผลักผมให้เข้ามาในบ้านพร้อมกับจุดบุหรี่สูบ
สมาชิกครอบครัวและลูกเขยคนเดียวของบ้านอยู่กันครบในห้องนั่งเล่น
ขาดก็แต่หนูแดงหลานสาววัยสามขวบกับเมียเฮียเอฟที่เข้านอนกันแล้วเท่านั้น

"ตายแล้ว อกอีแม่จะแตก เอไปทำอะไรมาลูก!!" แม่โผลเข้ามากอด จากนั้นก็จับหน้าผมหันมองซ้ายทีขวาที
"ไปกวนตีนเขาเลยโดนเขาเหยียบมาน่ะแม่" เฮียอาร์ตอบ ผมก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ
"ใคร ใครกันที่มันทำลูกของแม่ ไหนดูซิ เจ็บมั้ยจ๊ะลูกจ๋า" แม่ผมโอเวอร์แบบนี้ตลอดล่ะครับ
"พอเถอะแม่ ลูกผู้ชายมีแผลบ้างไม่เห็นจะแปลก" พ่อบอกแล้วยกเหล้าเพียวกรึ๊บ อดีตนายทหารเก่าก็งี้
"หุบปากไปเลยพ่อ แม่เลี้ยงลูกมาไม่เคยตบไม่เคยตีนะ แค่วันนั้นที่มันมาตามตาชินเห็นมันตาบวมลมแม่แทบจับ
แล้วนี่ดูสิ คิ้วเอย ปากเอย ไหนจะตรงนั้นตรงนี้อีก โอ๊ย มันน่าจับไอ้คนที่ทำมาขึงนักเชียว"

"แล้วเอาแส้หวดใช่มั้ยแม่" ไอ้ซีเสริม
"เอาน้ำตาเทียนสาดด้วยนะแม่" ไอ้แอลต่อ
"จับมันถ่วงน้ำเลยก็ดีนะแม่" ไอ้ซีอีก
"อย่าลืมโบกปูนก่อนนะแม่ เดี๋ยวไม่จม" ไอ้แอลตาม
"แล้ว..."
"พอเลยไอ้พวกลิง จะตีสองแล้วไม่หลับไม่นอน ขึ้นบ้านไป๊!!" เฮียอาร์ตวาดลั่น
สองตัวผู้ส่งเสริมที่อยู่ข้างแม่กระโดดลงจากแคร่ขึ้นบ้านแทบไม่ทัน

"อาร์เสียงดังใส่น้อง" แม่ดุ
"ก็มันดื้อ"
"ยังไงมันก็น้องนะ"
"ตามใจมันเข้าไปเหอะ เสียนิสัยอย่างไอ้เอ อย่าหาว่าผมไม่เตือน" เฮียอาร์ทำเสียงงอน
"ตาลูกคนนี้นี่จริงๆ เลย" แม่ส่ายหัว
"เอาน่าแม่ อาร์มันไม่รักน้องมันไม่ยุ่งด้วยหรอก" เฮียเอฟพูดช่วย
"รักแต่ไม่แสดงออกแบบนี้ เขาจะรู้มั้ยล่ะ"
"แสดงออกแบบแม่ มันก็ได้ใจกันน่ะสิ"
"อาร์มึงก็นะ พอๆ"
"เฮ๊อะ!"
"มึงก็เหมือนกัน อย่าดื้อให้มันเยอะนัก" เฮียเอฟเดินมาตีหัวผมแล้วหันหลังเดินกลับไปพาพ่อที่เมาแล้วไปนอน
"แม่ด้วย ไปนอนเถอะ ดึกแล้ว" เฮียเอ็มเข้ามาดึงแม่ขึ้นบ้านบ้าง
"แต่น้อง..."
"ไปนอนนะแม่ ให้ผัวเมียเขาได้ปรึกษาปรับความเข้าใจกัน แล้วพรุ่งนี้แม่ค่อยมาคุยนะครับ" เฮียเอ็มหยอดเสียงหวาน
แม่ชำเลืองมองผมแวบหนึ่งก่อนจะยอมตัดใจขึ้นบ้านไปกับเฮีย

"เฮียอาร์จะไปไหน" ผมรีบหันไปถามเฮียอาร์ที่กำลังจะเดินออกไปนอกบ้าน
นึกว่าจะอยู่รอคิดบัญชีกับผมอย่างที่พูดไว้เสียอีก

"โทรศัพท์" ตอบเสียงห้วน
"หาใคร?" ผมทำหน้าสงสัย
"หาครูสองสามคนไปสอนเด็กเรื่องการใช้กำลังสักหน่อย มึงมีอะไรจะคุยกับป๋าก็คุยไปเหอะ หรือมึงอยากจะคุยกับกู"
"เอ่อ ไม่อ่ะ" ผมส่ายหัวรัว คุยกับเฮียเหมือนคุยกับกิโยตินอ่ะ เผลอเป็นสับ
"เออ งั้นก็คุยไป" หันมองป๋า "มันเจ็บตัวมาพอแล้ว ป๋าก็ใจเย็นๆ หน่อยนะ ถือว่าผมขอ"
"อืม ขอบใจนะอาร์ที่ไปรับน้องกลับมาให้"
"ไม่เป็นไร ยังไงมันก็น้องผม" พูดจบเฮียอาร์ก็จุดบุหรี่อัดอีกมวนแล้วเดินออกไปหน้าบ้าน
ป๋าชินถอนหายใจเหนื่อยๆ หันมองทางผมด้วยสายตาที่ตัดพ้อ "ทำไมทำอะไรไม่บอกกันบ้างครับ รู้มั้ยว่าทำให้พี่เป็นห่วง"

"ก็..." ปลายนิ้วทั้งสองข้างเขี่ยกันเล่นอยู่แถวต้นขาอย่างทำตัวไม่ถูก
รู้สึกผิดนิดๆ ที่ทำให้ทุกคนในบ้านและป๋าเป็นห่วง เค้าขอโทษง่ะ งื๊อออ น้ำตาคลอ

"น้องเอรู้ใช่มั้ยครับว่าพี่โกรธ แต่น้องเอจะรู้หรือเปล่าว่าพี่โกรธน้องเอเรื่องอะไร หืม" ป๋าเดินเข้ามาใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาให้ ผมสะอื้น
"พี่โกรธน้องเอที่ไม่ยอมลงมาคุยกับพี่เมื่อคืน โกรธที่น้องเอทำอะไรไม่ยอมบอกพี่ ไม่ว่าจะเรื่องที่ได้เบอร์โต้มาหรือหนีไปพัทยา
จนไปถูกคนอื่นทำให้เจ็บตัวกลับมา ทุกๆ วันนี้พี่ทำทุกอย่างให้น้องเอก็เพราะว่าพี่รัก... รักน้องเอมากและไม่หวังสิ่งตอนแทนใดๆ นอกจาก
ปรารถนาให้น้องเอรักพี่กลับบ้างเท่านั้นก็พอ แต่บางครั้ง พี่ก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่คนรักของน้องเออย่างไรอย่างนั้น น้องเอรู้มั้ยครับทำไมพี่ถึงมีความรู้สึกแบบนี้"

"...ผมขอโทษ" ผมยื่นมือสั่นๆ ไปจับชายเสื้อป๋าแน่น "ผมรู้ว่าป๋าก็คงรู้สึกน้อยใจบ้าง ที่บางครั้งผมมีอะไรแล้วชอบเก็บหงำไว้คนเดียว
แต่เรื่องบางเรื่องผมก็ไม่อยากให้มันไปทำให้ป๋าไม่สบายใจ เรื่องพี่โต้ก็เหมือนกัน เขามาจีบผม ผมก็ปฏิเสธไปแล้ว
บอกด้วยว่าเป็นแฟนป๋า ถึงเขาจะดูไม่เชื่อก็เถอะ ส่วนเบอร์ผมได้มาก็ไม่ได้ใส่ใจ ไม่...ไม่คิดว่าป๋าจะไปเจอ"

ป๋าส่ายหัวแล้วถอดถอนใจอีกหน
.
.
.
.
.
.
.
.

"เราลองห่างกันสักพักมั้ยน้องเอ"


***************************************************


เอ่อ...ดราม่าพอยัง ตัดมันตรงนี้ล่ะ วันนี้สั้นๆ ก่อน เตรียมตัวไปพักร้อน
คือขออธิบายตรงนี้นะคะ ว่าอิตัวคนเขียนมันเขียนดราม่าไม่เก่ง เพราะเขียนไปมันจะร้องเอง (รับไม่ได้อ่ะ)
เอาเป็นว่าไม่ถึงใจตรงไหน โปรดอภัย ขอตัวไปลันล๊า ก่อนนะเคอะ รักคนอ่านฝุดๆ

รายชื่อครอบครัว ตัว 'อ'

คุณแม่ อิงออน (มีลูกคนแรกตอน 19 ขวบปี คริคริ)
คุณพ่อชื่อ อานนต์ (ห่างกับภรรเมีย 7 ปี ตอนมีลูกคนแรก)
ลูกคนที่หนึ่ง ชื่อ เอฟ (อายุมากกว่าป๋าชิน 3 ปี)
ลูกคนที่สอง ชื่อ เอ็ม (เรียนโท ปีสุดท้าย)
ลูกคนที่สาม ชื่อ อาร์ (ห่างจากเอ็ม 4 ปี)
ลูกคนที่สี่ ชื่อ เอ (19 จะ 20)
ลูกคนที่ห้า ชื่อ แอล (มอปลายปี2)
ลูกคนที่หก(ผู้หญิง) ชื่อ ซี (13 ปี)
*เพราะเป็นผู้หญิง และมติในบ้าน จึงไม่ให้เป็นตัว อ (เกี่ยวป่ะ 5555)

ปล. อายุแต่ละคน ไปบวกลบกันเอาเองและกัน >O<


B52 + คนเขียนเป็นคนอารมณ์ดี ดราม่าไม่ค่อยเก่ง =3= เฮียอาร์สุดยอด ชอบโดยการส่วนตัว

อยากรัก + เฮียแกเป็นคนทำอะไรไม่ค่อยเปิดเผย ชอบพูดให้คิด แต่ไม่ทำให้เห็น อดไป แหะๆ

kik + ต่อบ่อยเพราะมีคนอ่านน่ารักอ่ะค่ะ

BeeRY + จะว่าไปคะแนนน้องเอ ตกฮวบก็เพราะดื้อกับเกรียนนี่แหละ

ลิงภูเขา + ท่าทางตัดจบแบบนี้ คุณลิงภูเขาอาจจะของขึ้น กร๊ากกกก

AMINOKOONG + น้องเอ มันเกรียนค่ะ แต่ถ้าช่วงจริงจังมันก็ทำได้นะ แต่มันไม่ทำไง ถึงได้เจ็บตัว แต่คนรักก็เยอะนะ (ชอบของแปลกมั้ง 555)

Mbbyza + ตอนนี้มีมาหน่อยนึงและ ตอนหน้ามาลุ้นกันว่าจะเป็นไงต่อ (ชอบเฮียอาร์เหมือนกันชิมิ ชิมิ กรี๊ดดดด)


หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 18 (10/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 10-03-2014 01:58:18
ครอบครัวนี้ลูกดกเวอร์ วงสัยขยันทำการบ้าน อิๆๆๆ :o8:

ปล.แอบเห็นด้วยกับป๋านะ ลองห่่างกันซักพักก็ดี ป๋าแกทนมามากพอแระ
ให้อีน้องเอมันปรับปรุงตัวมั่งเผื่ออะไรๆจะดีขึ้น เอจะได้เข้าใจและรู้ใจตัวเองมากขึ้นด้วย
ป๋าใจเย็นมากอ่ะ น่าร๊ากกกกกก แบบนี้แหละพระเอกในฝัน :mew3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 18 (10/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-03-2014 03:57:47
บ้านนี้ลูกชายเยอะมากแอบหวังน่ะตอนนี้ว่าอาจจะหลงมาสักคน 555 ชอบป๋าอะเป็นคนที่ใจเย็นมากๆ อิจฉาเอหน่อยๆนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 18 (10/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 10-03-2014 05:25:02
ห่างกันซักพัก..................   :mew5:

หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 18 (10/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 10-03-2014 11:31:11
จะไปไหน !!  :angry2:

ตัดฉับแล้วบอกว่าพักร้อน หมายความว่ายังไง  :angry2:

กลับมาต่อเดี๋ยวนี้เลยนะ  :angry2:

.
.
.

 :laugh:

เที่ยวให้สนุกนะครับ .. แต่อย่าไปนาน  o18

รักคนเขียน คิดถึงคนเขียน

รอคอยตอนใหม่เสมอ  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 18 (10/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 10-03-2014 13:32:38
น้องเอ คราวนี้บทเรียนหนักนะคะ
น้องต้องปรับตัวเองบ้างแล้วล่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 18 (10/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 10-03-2014 14:06:32
ป๋าพูดเพราะ อบอุ่นมาก
ขนาดแค่บอกว่าลองห่างกันสักพัก ยังรู้สึกดีเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 11-03-2014 13:35:39
ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก
มันคงจะดีซะกว่า
ไม่ได้ถือสา ไม่ได้ถือสา
กับคำที่เธอนั้นบอก

ก็ฉันไม่ค่อยจะรู้หรอก
ก็ฉันไม่ค่อยจะรู้หรอก
ที่เธอบอกอย่างนั้น
ที่เธอบอกอย่างนี้ ที่จริงมันแปลว่าไง

ไม่เข้าใจ ก็ต้องแกล้งเข้าใจ
เธอบอกว่าเรา ใกล้กันมากไม่ดี
เจอะกันทีไร มีเรื่องทุกที
มันเป็นเพราะอะไร

สิ่งที่ฉัน เคยทำแล้วมันถูก
แต่อยู่ดีๆ ก็ผิดทุกเรื่องไป
ผิดตรงที่ฉัน แต่ผิดตรงไหนก็ยังไม่รู้เลย

โกรธไหมถ้าจะบอก ฉันต้องเชื่อเธอหรอกเหรอ
ที่เธอไม่ขอเจอ เธอไปยืมคำของใครมา

ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก
เพื่อจะไปรักคนอื่นมากกว่า
เธอหมดรักฉัน เธอก็พูดมา
เธอจะมองหน้าทำไม

ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก
สักพักนี่มันต้องนานแค่ไหน
ตลอดชีวิต หรือจนฉันตาย
ห่างกันทำไม ทำไมไม่เลิกกัน

อย่ามาทำ ให้ฉันโทษตัวเอง
ก็คนกันเอง ไม่รักก็ต้องบอก
เธอไม่ใช่ฉัน เธอไม่รู้หรอก
ว่าฟังแล้วเสียใจ

สิ่งที่ฉัน เคยทำแล้วมันถูก
แต่อยู่ดีๆ ก็ผิดทุกเรื่องไป
ผิดตรงที่ฉัน แต่ผิดตรงไหนก็ยังไม่รู้เลย

โกรธไหมถ้าจะบอก ฉันต้องเชื่อเธอหรอกเหรอ
ที่เธอไม่ขอเจอ เธอไปยืมคำของใครมา

ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก
เพื่อจะไปรักคนอื่นมากกว่า
เธอหมดรักฉัน เธอก็พูดมา
เธอจะมองหน้าทำไม

ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก
สักพักนี่มันต้องนานแค่ไหน
ตลอดชีวิต หรือจนฉันตาย
ห่างกันทำไม ทำไมไม่เลิกกัน

ห่างกันสักพัก ห่างหันสักพัก
มันคงจะดีซะกว่า
ไม่ได้ถือสา ไม่ได้ถือสา
กับคำที่เธอนั้นบอก

ก็ฉันไม่ค่อยจะรู้หรอก
ก็ฉันไม่ค่อยจะรู้หรอก
ที่เธอบอกอย่างนั้น
ที่เธอบอกอย่างนี้ ที่จริงมันแปลว่าไง

ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก
เพื่อจะไปรักคนอื่นมากกว่า
เธอหมดรักฉัน เธอก็พูดมา
เธอจะมองหน้าทำไม

ห่างกันสักพัก ห่างกันสักพัก
สักพักนี่มันต้องนานแค่ไหน
ตลอดชีวิต หรือจนฉันตาย
ห่างกันทำไม ทำไมไม่เลิกกัน

ทำไมไม่เลิกกัน
 
ศิลปิน หวาย ปัญญริสา เธียรประสิทธิ์
อัลบั้ม Waii Playgirl
ฟังได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=WsUlfw3mOyQ

*เข้ากับอารมณ์ของผมในเรื่องเลยครับ




รักบอดๆ ตอนที่ 19



'เราห่างกันสักพักมั้ยน้องเอ'
ประโยคที่ป๋าชินพูดทิ้งไว้เมื่อคืน ก่อนจะขับรถออกไป ดังอยู่ในหัวของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
น้ำตาที่ไหล ก็ไหลจนแห้ง เสียงที่เปล่ง ก็สะอื่นเรียกจนแหบ กำลังใจที่พยายามใช้กดเบอร์โทร ก็เริ่มจะหดหาย
ตลอดทั้งคืนผมได้แต่นั่งกำโทรศัพท์เหม่ออยู่หน้าบ้าน โดยมีเฮียอาร์นั่งอยู่เป็นเพื่อนเงียบๆ ไม่มีการพูดหรือคำปลอบใจ
หลุดออกจากปากของเฮีย จะมีก็แต่ สัมผัสอบอุ่นจากฝ่ามือที่คอยลูบหลังผมเป็นระยะๆ ตลอดคืนเท่านั้นเอง

"เฮีย ผมจะทำไงดี" ผมมองโทรศัพท์ในมือแล้วเอ่ยถามบุคคลซึ่งนั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างๆ ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
"ไปอาบน้ำ แต่งตัวแล้วไปเรียน" คนถูกถามให้คำตอบกลับมาอย่างเรียบง่าย พลางเงยหน้ามองควับบุหรี่ที่ตัวเองพ่นออกไปในอากาศ
"ป๋าเขาจะเลิกกับผมมั้ยอ่ะ"
"เขาบอกว่าห่างกันสักพัก ไม่ได้บอกจะเลิกนี่"
"แล้วสักพักมันถึงเมื่อไหร่ล่ะ ผมไม่สบายใจเลย" ผมเอนตัวซบไหล่เฮียอาร์
ก็เพราะไอ้คำว่า ห่างสักพักนี่แหละ ที่ทำให้หลายคู่ต้องเลิกลากันไป หวั่นใจจริงๆ

"เย็นนี้" เอ่อ คำตอบพี่จะมักง่ายเกินไปมั้ยครับ?
"....." ผมเงียบ
"ป๋าเขาไม่ได้กำหนดนี่ มึงก็ไปหาเขาซะ แต่วันนี้มึงต้องไปเรียนก่อน กูไม่ยอมให้มึงโดดแน่" เฮียอาร์ผลักหัวผมออกแล้วลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ

"แล้วถ้าป๋าไม่ยอมคุยกับผมอ่ะ"
"มึงก็กลับ"
"โหย อะไรวะ"
"อย่ามาวะกับกู ไอ้น้องเวร" เฮียอาร์ตบกะโหลกผมหนึ่งฉาด "ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวกูไปส่งที่มอ"
"ไม่ทำงานเหรอ" ผมถามพลางลูบหัวตัวเองให้คลายความเจ็บ มือบางแต่หนักชิบหาย
"มึงคิดว่าคนไม่ได้นอนอย่างกูจะไปทำไหวมั้ยล่ะหะ"
"ผมไม่ได้นอนยังต้องไปเรียนเลย" ผมทำหน้าเบ้
"ทำตัวมึงเองทั้งนั้น ไปอาบน้ำ แล้วก็ไม่ต้องบอกแม่ล่ะ ว่าป๋าเขาพูดอะไรกับมึงบ้าง...ฮ้าวววว"
เฮียอาร์กำชับเสียงเข้มก่อนจะเดินหาวหวอดใหญ่เข้าไปในบ้าน

"อืม...เฮ้อ!" ลุกเดินตามเฮียเข้าบ้าน มองนาฬิกา...(น่าจะเกือบๆ หกโมงเช้า)

ล้างหน้า อาบน้ำ รื้อชุดนักศึกษาเก่าๆ ที่ขนมาทิ้งไว้มาใส่
เหม็นอับหน่อยก็ต้องทน เพราะปล่อยให้มันอยู่ในตู้มานานดีดัก หึ! สมเพชตัวเองชะมัด

"เอ หนูจะไปสภาพนั้นเหรอลูก" แม่ซึ่งยืนเตรียมอาหารเช้าให้ทุกคนในบ้านอยู่กับพี่แก้ว(พี่สะไภ้)ถามผมขณะเดินหมดอาลัยตายอยากเข้ามาในครัว
"ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากมายอ่ะครับ ไปได้" แม้ตาขวาจะลืมไม่ขึ้น และปากก็เจ้ออย่างนี้ก็เถอะนะ
"อุบ๊ะ ลูกทหารมันต้องอย่างนี้สิวะ" พ่อเดินเข้ามาในครัวในยินเข้าตบหลังผมดังแอ่ก ไอ้ที่ช้ำๆ อยู่ก็คงจะหนักกว่าเก่าล่ะทีนี้
"พ่อ!" แม่ทำตาดุแหวใส่เสียงเขียว
"พ่อตบเบาๆ เองนะ" พ่อรีบปฎิเสธให้ตัวเอง "ใช่มั้ยไอ้ลูกชาย"
"เอ่อ...ครับ" เจ็บจนพูดไม่ออก น้ำตาก็เหือดแห้งไม่มีจะเล็ด
"พี่ทายาให้ก่อนไปดีมั้ยจ๊ะเอ"
"ผมทาเรียบร้อยแล้วครับพี่แก้ว ขอบคุณครับ เอ่อ..." หันมองหาหลานสาวคนโปรด "หนูแดงไปไหนอ่ะครับ"
"อ๋อ เอฟเขาพาไปเดินเล่นน่ะจ้ะ"
"อ้อ" ผมพยักหน้ารับรู้แล้วเดินมานั่งที่โต๊ะกินข้าว แม่ตักข้าวในหม้อมาวางตรงหน้า
"ทานได้นะลูก ถ้าทานไม่ได้แม่จะต้มข้าวต้มให้" ลูบหัวผมเบาๆ
"ได้ครับ"
"งั้นก็ทานซะ"
"อื้อ"
"แก้ว" แม่หันไปหาพี่สะไภ้
"คะแม่"
"ไปเรียกตาเอ็มกับตาอาร์ลงมาทานข้าวป่ะลูกป่ะ อ้อ เจ้าแอลกับเจ้าซีด้วยนะ เดี๋ยวจะพากันไปเรียนสาย"
"ได้ค่ะ" พี่แก้วเดินมาจับบ่าผมยิ้มๆ "กินให้อิ่มนะเอ เดี๋ยวพี่มา"
"ครับพี่แก้ว"
"แม่ๆ เย็นนี้พ่ออยากกินน้ำพริกปลาทู ทำให้หน่อยซี่"
"งั้นพ่อไปตลาดนะวันนี้"
"ได้จ้ะ" พ่อยิ้มตอบ ทำท่าดีใจที่จะได้กินของที่อยาก
"ว่าแต่ลูกเอ ทำไมตาชินไม่ค้างที่นี่ล่ะ?" แม่มีสีหน้าสงสัย
"....." ผมชะงักช้อนคาปาก
"ว่าไงลูก ยังไม่ได้คุยกันเหรอ"
"แม่ เรื่องของลูกนา มันอยากบอกเดี๋ยวมันก็บอกเองล่ะ" พ่อว่าหลังมองอาการผมอยู่พักหนึ่ง
"ก็แม่อยากรู้นี่นา พ่อนี่ก็ชอบห้ามแม่ยุ่งจริงๆ ไม่เอาล่ะ ออกไปรดน้ำหน้าบ้านดีกว่า" เหมือนจะงอน เดินสะบัดก้นออกไปเลย
"เอ" พ่อเรียกด้วยโทนเสียงที่จะฟังขรึมก็ไม่ใช่ จะธรรมดาก็ไม่เชิง ทว่าได้ยินแล้วชวนให้รู้สึกอึดอัดแปลกๆ
"ครับ"
"ชีวิตคู่น่ะ ก็เหมือนลิ้นกับฟัน มีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังต้องอยู่ด้วยกันอยู่ดี
เรื่องไหนปล่อยวางได้ก็ปล่อย เรื่องไหนปล่อยไม่ได้ก็ต้องรีบหาวิธีแก้ไขโดยที่เราไม่ต้องกลับมานั่งเสียใจตามหลังนะลูก"

ผมวางช้อนลง "ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับพ่อ มึดแปดด้านไปหมด"
"พ่อถามเราจริงๆ เถอะนะ เราเหนื่อยมั้ยกับความรักครั้งนี้"
"มีท้อบ้างแต่ไม่เคยรู้สึกว่าเหนื่อยเลยครับ คนที่เหนื่อยน่าจะเป็นป๋ามากกว่า เพราะผมมันนิสัยเด็ก ทำอะไรไม่ค่อยคิดถึงอีกฝ่าย"
"อืมๆ อย่างน้อยๆ เราก็ยังรู้จักตัวเองน่ะนะ เอาเถอะ ทำไปตามที่ใจตัวเองต้องการแล้วกัน ส่วนผลลับมันจะออกมาเป็นแบบไหน
แล้วเราจะทำยังไง ค่อยมาว่ากันอีกที ขอให้คิดซะว่ายังไงที่นี่ก็เป็นบ้านเอคนหนึ่ง อยากกลับมาพักเมื่อไหร่ก็มาได้เสมอนะลูก"
พ่อคลี่ยิ้มบาง แต่ผมจะร้องไห้

"ขอบคุณครับพ่อ ผมรักพ่อนะครับ"
"แหมวะ! บอกรักกันตรงๆ แบบนี้ พ่อเขินแย่ หึๆ" พ่อตบโต๊ะพร้อมกับหัวเราะด้วยใบหน้าที่เขินอายยังไงบอกไม่ถูก


**********************************************************************************************


มหาลัย
ราวแปดโมงครึ่ง เฮียอาร์ขับรถมาส่งผมที่หน้าคณะเสร็จก็กลับเลย ไม่มีการถามสักแอ่ะว่าน้องคนนี้เย็นนี้จะกลับยังไง
แถมเช้านี้ผมก็มีเรียนตอนสิบโมง เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงกว่าไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเดินมานั่งตรงม้าหินอ่อนที่มักใช้เป็น
ที่นั่งเป็นประจำก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะ เพื่อจะได้หลีกหนีความเป็นจริงทุกอย่าง หรืออีกนัยหนึ่ง คือขี้เกียจทักตอบทุกคนที่เห็นผมครับ
อารมณ์ตอนนี้มันไม่ได้อยากเชื่อมสัมพันธไมตรีกับใครหน้าไหนทั้งนั้นอ่ะ

ผลั่วะ! ฝ่ามือหนักตบลงกลางกบาลทำเอาคนโดนประทุษร้ายอย่างผมถึงกับสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจจนต้องรีบเงยหน้าขึ้นมามอง

"เป็นเชี้ยไร เมื่อวานพวกกูโทรไปแล้วปิดเครื่องหนี" ไอ้เบียร์บูดยืดกอดอกค้ำหัวทำหน้าหงุดหงิด
"ทักกูดีๆ ไม่เป็น?" ผมนิ่วหน้าบูด
"แล้วหน้ามึงไปโดนไรมา ทำไมมันถึงได้เชี้ยขนาดนี้วะ" มันทำหน้าตลึงเมื่อเห็นสภาพหน้าผมชัดๆ
"มีเรื่องซวยนิดหน่อย"
"ไม่นิดแล้ว หน้าเป็นศพขนาดนี้" โวยวายแล้วจับคางผมพลิกซ้ายขวาตรวจดูทุกตาราง "ถามจริง ไปโดนใครซัดมา อย่าบอกนะว่าป๋าชิน"
"มึงก็กล้าถามเนอะ" ผมจิ๊ปาก หน้าหงิกฟุบลงกับโต๊ะอีกหน
"แล้วไปโดนอะไรมาล่ะ ชอบจริงนะความลับกับเพื่อนกับฝูง" มันนั่งลง
"ทำอย่างกับมึงไม่มี ช่างแม่งเถอะ รอมากันครบแล้วกูจะบอก ขี้เกียจเล่าซ้ำหลายรอบ เจ็บปาก"
"เออ ก็ตามใจ แต่กูว่าหน้ามึงเป็นแบบนี้ไปขอลาอาจารย์เหอะว่ะ หลอนชิบหาย"
"ลาไปก็กลับบ้านไม่ได้" ผมทำหน้าเซ็ง
"ทำไม"
"เฮียอาร์อยู่ รายนั้นไม่ยอมให้กูหยุดอ่ะ"
"อ้อ เออ งั้นไปนอนเล่นหอไอ้หงำมันมั้ยล่ะ"
"ไม่เอา อยู่คนเดียวเดี๋ยวฟุ้งซ่านอีก"
"หืม...ท่าทางแบบนี้ ทะเลาะกับป๋าชินมาอีกล่ะสิ" เบียร์แนบหน้าลงกับโต๊ะจ้องตาผมในระยะประชิด
"รู้ไปซะทุกเรื่อง"
"ถูกล่ะสิ" มันยักคิ้วกวนผมเลยจัดการโบกไปที "เชี้ย เจ็บ"
"กูจะนอน มาครบแล้วปลุกด้วย" สั่งจบผมก็หลับตา
"อ๊ะ...หวัดดีครับน้องโบว์"
"สวัสดีค่ะ พี่เบียร์ อ้าว...พี่เอทำไมมานอนตรงนี้ ว๊าย!" ได้ยินเสียงหลานระหัสร้องก็รู้ละ ว่าตกใจหน้าผม
"ทำเหมือนเห็นผีเลยนะจ๊ะน้องโบว์ หน้าลุงระหัสตัวเองแท้ๆ"
"พี่เบียร์ หน้าพี่เอไปโดนอะไรมาคะ น่ากลัวจะเจ็บมากเลย"
"สงสัยไปแย่งเมียชาวบ้านมา เจ้าของเขาเลยมายำน่ะจ้ะ" สู่รู้! ผมหลับตากัดฟันกรอด
"พูดเป็นเล่นไปค่ะพี่เบียร์"
"แน่ะ พี่พูดก็ไม่เชื่อ แล้วน้องโบว์คิดว่ามันไปโดนอะไรมาล่ะจ๊ะ"
"อืมมม ไม่รู้สิคะ ไม่เดาดีกว่า แล้วก็นี่ค่ะ ฝากให้พี่เอด้วยนะคะ พอดีโบว์เห็นน่าอร่อยเลยซื้อมาฝาก"
"แล้วของพี่ล่ะ"
"ก็ทานด้วยกันนั่นแหละค่ะ โบว์ซื้อมาเผื่อเพื่อนพี่เอทุกคนนั่นแหละ โบว์ไปนะคะ เดี๋ยวเข้าเรียนสาย"
"อ๊ะ จ้า ขอบใจนะจ๊ะ"
"อิอิ ค่ะ" เสียงฝีเท้าเดินจากไป ผมลืมตาเห็นไอ้เบียร์มองมาทางผมยิ้มแฉ่งพร้อมกับโชว์ถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ได้รับมาให้ดู
"หลานมึงน่ารักดีนะ"
"เออ" บอกตรงๆ ว่าต้องข่มความรู้สึกอยากจะด่ามันไว้สุดๆ


**********************************************************************************************


ให้พูดตามจริง เหตุการนี้เป็นเรื่องติดท็อปเรื่องหนักที่ผมเจอในชีวิตคู่เลยก็ว่าได้
ซ้ำยังเป็นเหตุการณ์แรกที่ทำให้ผมว้าวุ่นใจสุดๆ และนานมากด้วย (สปอยอีกและ)
เอาเป็นว่า จะลำดับเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ จนจบเรื่องเลยแล้วกัน อาจจะยืดเยื้อ แต่อยากให้รู้ว่า...ผมจะไม่พยายามดราม่า เพราะคนเขียนมันไม่ชอบ


**********************************************************************************************


ปล. สั้นๆ ไปก่อนนะคะ กลัวคนอ่านขัดใจ อยู่ในช่วงลั่นลา พักร้อนกับบ้านต่างอากาศสุดหรูในกรุงเทพ? (บ้านนอกเข้ากรุง อิอิ)
จะพยายามมาต่อเรื่อยๆ ค่ะ ก็วันหยุดนี่นะ ยังไงก็อย่าเพิ่งเบื่อกันเน้อ


AMINOKOONG + เหมือนจะหมั่นไส้น้องเอเยอะพอดู แต่ไม่รู้ทำไมคนเขียนถึงชอบนิสัยเด็กๆ แบบนี้ของน้องเอ (หรือลึกๆ ของอิคนเขียนมันนิสัยแบบนี้?)

 B52 + หวังให้หลงไปไหนคะ อิอิ เรื่องที่ป๋าใจเย็นนี่เพราะแก่แล้วหรือเปล่า? (ป๋าชิน - ผมสุภาพบุรษนะคุณคนเขียน) อะไรประมาณนั้น แต่เราก็รักนะคะ

kik + ทิ่มแทงใจ กับคำๆ นี้ โดนกับตัวเองแล้วมัน เฮ้อ!

ลิงภูเขา + นั่นไง กะแล้วเชียวว่าคุณลิงภูเขาต้องโวย แต่แบบว่า ลืมบอกไปว่า ถึงอิคนเขียนจะพักร้อนแต่ก็ยังมาต่อได้ตลอดนะเคอะ อิอิ

kokoro + จะปรับหรือเปล่าเน้อ ต้องรอดูกันต่อไป

mukmaoY + ป๋าชินคะแนนล้นหลาม นี่สินะ ผู้ชายในอุดมคติ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 11-03-2014 14:14:56
พูดไม่เคลียร์เองนะ  โดนบ่นไปฟรีๆ ละกัน  :laugh: :laugh: :laugh:

ป๋าหนอป๋า ทำเด็กเกรียนฝ่อหมด (?) ไม่มีแรงเกรียนเลยนะนั่น  :m20:

สมน้ำหน้า แต่ก็สงสาร ไม่รู้จะพูดไง  :jul3:

รักคนเขียน ขยันมาต่อทุกวันนะจ๊ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 11-03-2014 15:28:40
เอ จำไว้เป้นบทเรียนนะลูกกกกก  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 11-03-2014 15:31:07
ไม่ค่อยสงสารน้องเอเท่าไหร่เลย อยากให้โดนป๋างอนไปนานๆจนกว่าจะคิดได้ :mew2:
แต่เราก็ไม่ชอบดราม่าซะด้วยซี เดี๋ยวร้องไห้แบบคนเขียน อิอิ งั้นก็อย่างอนนานนะคะป๋า :impress2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 11-03-2014 16:38:45
ตามความคิดของวิวนะ ก็ไม่ได้จะเข้าข้างใครหรอก แต่ดูจากที่แล้วๆมาในช่วงแรกๆจนถึงปัจจุบัน วิวว่าเอไม่ค่อยจะแคร์ความรู้สึกของป๋าชินเท่าไหร่(แบบไม่ได้มากเหมือนคู่อื่นๆ) ส่วนหนึ่งเลยทำให้ป๋าชินอาจจะคิดว่าเอไม่ค่อยรักตัวป๋าสักเท่าไหร่ และบางครั้งเอค่อนข้าง เอ่ออยากจะบอกว่ากวนตีนเยอะไป อะไรๆก็เหมือนเป็นเรื่องเล่นๆไม่จริงจัง จนบางครั้งอาจจะทำให้เรื่องราวจากดีๆกลายเป็นแย่ลง  แต่สำหรับตอนนี้ เท่าที่อ่านดู ดูเหมือนป๋าชินจะขี้หึงมากกกก มากจนสำหรับตอนนั้นไม่อยากจะฟังคำอธิบายจากเอ จนต้องไล่ไปอาบน้ำก่อน  วิวคิดว่าป๋าเองไม่น่าจะทำแบบนั้นเพราะมันดูเหมือนไม่เชื่อใจกันแต่เชื่อคนอื่นแทน เป็นวิวเองวิวก็อาจจะทำคล้ายๆเอเหมือนกัน(แต่ตอนอื่นไม่ได้ทำอย่างเอนะ) ป๋าชินน่าจะรีบฟังคำอธิบายของเอเลยน่าจะดีกว่า แล้วมาตอนเช้าก็ยิ่งเข้าใจผิดกันเข้าไปใหญ่เลย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 11-03-2014 19:22:14
ช่างเป็นอะไรที่เหนื่อยใจจริงๆ
ต่างคนต่างขุ่นข้องหมองใจ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 11-03-2014 20:34:43
ป๋างอนนานๆ เลยยยยย ถือโอกาสดัดนิสัยเอด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 11-03-2014 21:32:38
ไม่ค่อยสงสารน้องเอเท่าไหร่เลย อยากให้โดนป๋างอนไปนานๆจนกว่าจะคิดได้ :mew2:
แต่เราก็ไม่ชอบดราม่าซะด้วยซี เดี๋ยวร้องไห้แบบคนเขียน อิอิ งั้นก็อย่างอนนานนะคะป๋า :impress2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-03-2014 23:47:54
งานหนักเลยล่ะเอ คิดได้เร็วๆแล้วก็ไปง้อป๋าซะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 19 ห่างกันสักพัก (11/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 12-03-2014 01:10:32
กำลังติดลม มาต่อไวไวนะ อยากรู้เรื่องต่ออ่ะ
ป๋าเองก็คงรีบกลับไปร้องไห้ที่บ้านแน่ ห่างกันก็ดีนะน้องเอ เข้มแข็งไว้
ใครจะอาการหนักกว่ากัน ฮา
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 20 บางทีคำว่ารักก็ไม่สำคัญ... (12/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 12-03-2014 15:04:01

รักบอดๆ ตอนที่ 20 (โย่ว! หลักสองบันไซ!!)



ไม่กี่นาทีก่อนเข้าเรียน หลังได้เล่าเหตุการณ์เรื่องทะเลาะกับป๋าชินจนไปโดนกระทืบที่พัทยา
ให้เพื่อนทั้งสามคนของผมฟัง ทุกคนก็ให้คำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า...

"สมน้ำหน้า!" เอิ่ม กรูรักพวกมึงจัง (น้ำลายเต็มหน้า ฮา-)
"เขาให้มึงไปอาบน้ำแล้วลงมาคุย มึงเสือกอาบแล้วนอนมันน่ามั้ยล่ะ
เป็นกูไม่ได้ ไม่พูดหรอกไอ้ห่างกันสักพักน่ะ แต่จะบอก ห่างกันตลอดชีวิตเลยเหอะ" ไอ้เบียร์บูด ไอ้เพื่อนเลววววว

"มึงก็ไปซ้ำเติมมัน แต่ถ้าเป็นกู กูก็คิดเหมือนมึงว่ะ" หงำจับบ่าเบียร์แล้วพยักหน้าเห็นด้วย
เอ่อ ตกลงมึงจะเห็นใจกรู หรือจะเหยียบย่ำซ้ำเติมเอาให้แน่

"ใช่มะ หนีนอนไม่ว่ายังหนีเที่ยวจนโดนกระทืบ ป๋าชินแกใจเย็นได้ถึงขนาดพูดห่างกันสักพักอย่างนั้นได้ก็สุดยอดแล้ว"
"ไม่หรอกแก ฉันว่าป๋าชินก็เกินไป แทนที่จะให้เอมันได้อธิบายก่อน กลับไล่ให้ไปอาบน้ำ มันฟังออกแนวเหมือนไม่เชื่อใจในตัวเอมากกว่าว่ะ"
ต่ายแก้ต่างให้ ผมพยักหน้าหงึกๆ

"แต่กูว่า การที่ป๋าชินไล่ไอ้เอไปอาบน้ำก็มีเหตุผลเหมือนกันนะ" เบียร์พยายามให้ความเห็น
"ตรงไหน?" ผมถามทันที
"ก็มึงลองคิดดูสิ ป๋าชินเขาเป็นพวกขี้หึงใช่ปะ ทีนี้พอจับได้มึงมีกิ๊ก..."
"กิ๊กเตี่ยมึงสิ ไม่ใช่เว้ย แค่พี่ที่รู้จักเฉยๆ" ผมรีบเถียงหน้ามุ่ย
"เออก็นั่นแหละ ที่เขาไล่ให้มึงไปอาบน้ำก่อนลงมาคุย แทนที่จะคุยกันตอนนั้นเลย เพราะเขารู้ตัวดีไงว่าถ้าไม่ทำให้ตัวเองเย็นลงก่อน
มึงพูดอะไรมาเหตุผลที่จะเชื่อมันก็ไม่เหลือ ไม่อย่างนั้นเขาคงโทรเรียกให้มึงกลับบ้านตั้งกะเจอเบอร์ในกระเป๋ากางเกงมึงแล้วใช่ป่ะล่ะ"

"อืมมม ข้อสันนิษฐานนี้ฟังขึ้น" หงำกอดอกหลับตาพยักหน้า
"แล้วที่ป๋าชินทำเมินไอ้เอตอนเช้า แกจะว่าไง" ต่ายยังตั้งข้อสงสัย
"ต้องโกรธแน่อยู่แล้วสิ ก็ไอ้เอดันไม่ยอมลงมาอธิบายกับเขานี่หว่า เออ กูว่าป๋าแกก็เก่งนะ ที่ยังสงบสติพูดกับไอ้เอได้"
"กูก็ว่างั้น"
"ขัดมั่งก็ได้นะหงำ เบียร์มันไม่ว่ามึงหรอก" ผมขมวดคิ้วพูดลอดไรฟัน เจ้าตัวมองผมแล้วหน้าแดง ห่านจิกเอ๊ย!
"ถึงอย่างนั้นฉันก็ว่า ป๋าชินทำไม่ถูกว่ะ"
"ไม่ถูกไรอีก"
"คือในความรู้สึกฉันน่ะนะ ไอ้การที่ป๋าโกรธแล้วอยากให้ตัวเองเย็นลงเลยไล่ไอ้เอไปอาบน้ำนี่ฉันก็เข้าใจ
แต่ป๋าชินคงลืมคิดไปว่าการกระทำอย่างนั้น จะเป็นการทำให้เอมันน้อยใจและพาลเข้าใจผิดคิดไปว่า
ป๋าไม่เชื่อใจในตัวมัน อย่างที่รู้ๆ นิสัยเพื่อนเรามันทิฐิสูง ไม่มีทางที่ถูกไล่แบบนั้นแล้วจะยอมลงมาคุยตามที่บอกหรอก"
ต่ายพูดจบ ต่างคนก็ต่างมองหน้าผมแล้วถอนหายใจราวกับเครียดมาเป็นปีๆ

"เออว่ะ ป๋าชินคงลืมคิดจริงๆ นั่นแหละ" เบียร์ทุบฝ่ามือพร้อมกับพยักหน้าเข้าใจ
"อื้อ หรือไม่ก็คิดว่า เอมันผิดแล้วจะว่านอนสอนง่ายขึ้นล่ะมั้ง" หงำพยักหน้าเช่นกัน
"ไม่อย่างนั้นก็คงจะศึกษานิสัยสันดานเมียตัวเองมาไม่ดีพอ" ต่ายพยักหน้าร่วมอีกคน
จากนั้นทั้งสามก็พากันถอนหายใจอีกคนละรอบ เอาผมงงแดกไปเลยทีเดียว

"สรุป กูผิด?" ผมชี้หน้าตัวเอง
พวกมันสามตัวพากันส่ายหน้าแล้วลุกขึ้นยืนเก็บเศษซากถุงข้าวเหนียวหมูปิ้งที่หลานรหัสผมซื้อมาฝากไปทิ้งถัง

"เข้าเรียนดีกว่าว่ะ" หงำตัดจบ
"เออ เข้าเรียกดีกว่า" เบียร์ยืดเส้นยืดสายแล้วเดินนำไปหน้าตึก
"เย็นนี้ก็ไปเคลียร์ปัญหาของแกซะนะ" ต่ายตบไหล่ผมก่อนจะเดินตามคนอื่นไป ปล่อยให้ผมหลุดอยู่ในภวังต่อไปอีกพักใหญ่
(เป็นบทสนทนางงๆ ใช่ป่ะครับ อย่าว่าแต่คุณงงเลย ตอนนั้นผมฟังพวกมันพูดในเหตุการณ์ก็งง มาเข้าใจอีกทีเรื่องก็ผ่านไปนานแล้ว
ความหมายที่พวกมันอยากจะบอกคือ ให้ผมลดทิฐิตัวเองให้น้อยลงกว่านี้หน่อย ประมาณว่าช่วยยอมๆ ป๋าชินบ้างเถอะไรเงี้ย โง่เนอะ)


**********************************************************************************************


ชั่วโมงเรียนสุดท้ายจบตอนบ่ายสาม ผมกดโทรศัพท์หาป๋าชินแล้วเดินออกมายืนตรงระเบียงทางเดิน
ฟังเสียงรอสายอยู่หลายครั้งก็ไม่มีวี่แววว่าคนปลายสายจะรับเสียที อารมณ์หงุดหงิดเลยแทรกเข้ามาอย่างช่วยไม่ได้

"เบียร์" ส่งเสียงเรียกไอ้เบียร์ที่นั่งคุยอยู่กับเพื่อนกลุ่มอื่นในห้อง
ส่วนต่ายกับหงำเห็นว่ามีธุระเกี่ยวกับงานประกวดของภาคจิตกรรมเลยขออาจารย์ออกไปตั้งแต่ยังไม่เลิกชั่วโมงเรียน

"แปบ" มันขานตอบ แล้วหันไปคุยกับเพื่อนต่ออีกสองสามนาทีก็โผล่ออกมาหาผมหน้าห้อง "มีไรมึง?"
"ไปส่งกูที่โรงพิมพ์ป๋าชินหน่อย"
"ไม่ไปเอง" มันเลิกคิ้ว
"มึงจะถามอะไรดูสภาพหน้ากูด้วยครับ เละขนาดนี้ถึงเป็นกลางวันก็ไม่มีแทกซี่ที่ไหนเขากล้ารับหรอก"
"ไปรถเมล์ดิ"
"เอางี้ มึงจะไปไม่ไป" ตัดปัญหา
"โกรธอีก ล้อเล่นเว้ย ไปก็ไปดิ"
"เออ ก็แค่นั้น ถามซะเหมือนไม่อยากไป"
"มึงจะไปง้อป๋าเหรอ?" มันถามขณะเดินลงตึก
"เห็นว่าไงล่ะ"
"ก็เห็นว่ามึงจะไปง้อป๋า"
"ใช่มั้ง"
"เมื่อคืนมึงอธิบายกับป๋าไปหมดแล้วไม่ใช่ไง"
"อืม อย่างที่เล่าให้ฟังนั่นหละ แต่กูอยากไปคุยอีกที"
"ถ้าเขายังยืนยันคำเดิมว่าจะ ห่างกันสักพักล่ะ"
"ถึงตอนนั้น กูก็จะยอมรับ...หรือก็ เลิกเลย"
"เอาจริงดิ" เบียร์คว้าแขนผมให้หันไปหามัน "มึงแน่ใจเหรอว่าจะเลิกกับเขาได้"
"กูไม่รู้ แต่ถ้าต้องห่างกัน กูว่าเลิกไปเลยน่าจะปวดใจน้อยกว่า"
"กับแค่เรื่องที่คนอื่นเข้ามาทำให้มึงสองคนทะเลาะกันน่ะนะ"
"แล้วมึงจะให้กูทำไง กูทนไม่ไหวแล้วนะเว้ย" ผมน้ำตาคลอ ไอ้เบียร์ถึงกับมีสีหน้าตกใจ
"เฮ้ย อย่าร้องไห้ดิ" บอกพลางเดินลากผมมาหลบมุมตึกที่ไม่มีคนพุกพ่าน
"กูพยายามแล้วนะเบียร์ ไม่ใช่กูไม่พยายาม แล้วทำไมวะ ทำไมป๋าเขาไม่เข้าใจกูบ้างว่ากูรักเขาคนเดียว"
"เอ่อ ป๋าเขาก็เข้าใจมั้ง แต่คนมันขี้หึง อีกอย่างกูว่า ป๋าก็คงไม่มั่นใจในตัวเองด้วยแหละ ว่ามึงจะรักเขาได้เท่ากับที่เขารักมึง"
เบียร์พูดหน้าตาจริงจัง

"กูบอกเขาตลอดนะเว้ย" ยกแขนเสื้อเช็ดน้ำตา
"บางทีคำว่ารักมันก็ไม่สำคัญเท่ากับการกระทำหรอก มึงลองคิดดูให้ดีๆ ดิ
ว่าตลอดเวลาที่คบกับเขามามึงทำอะไรที่เป็นการบอกรักเขาให้เห็นในรูปของการกระทำบ้าง"

"....." ผมนิ่งคิด ทว่ายิ่งคิดยิ่งสลด
ลืมช่วงเวลาเกือบสองปีที่ป๋าชินตามจีบผมไปได้เลยครับ ไม่ได้ทำอะไรให้แกสักอย่าง
ของขวัญวันเกิดหรือเทศกาลสำคัญส่วนมากก็ให้แค่ของขวัญกากๆ ทำเองบ้าง ซื้อเองบ้างอะไรทำนองนั้นไม่ได้ใส่ใจ
ส่วนช่วงห้าเดือนที่คบกับอีกสองเดือนกว่าที่ได้อยู่ด้วยกันเป็นหลักเป็นฐาน มานึกๆ ดูแล้ว ก็แทบนับเรื่องที่ผมแสดงออก
ว่ารักทางการกระทำได้เพียงไม่กี่อย่าง (ถ้าตัดเรื่องบนเตียงออกไป พวกคุณที่อ่านมาทั้งหมดก็จะรู้ว่าไม่กี่อย่างจริงๆ)

"มึงคิดนานไปป่ะ" เบียร์สะกิดให้ผมตื่นด้วยคำพูด
"คือก็รู้นะ ว่ากูแม่งโคตรเห็นแก่ตัว แต่กูก็เคยถามแล้ว ป๋าเองก็เข้าใจ แล้วจะให้กูทำไงอ่ะ"
บอกตรงๆ มาถึงตอนนี้น้ำตาไม่มีแล้วครับ มีแต่ความสับสนเกี่ยวกับสันดานตัวเองที่ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ

"ให้กูแจงให้มั้ย"
"อืม" ผมพยักหน้า
"ไอ้รูปของการกระทำที่กูว่าน่ะ กูหมายถึงมึงมีปัญหาอะไรก็ควรบอกเขาไปตรงๆ ไม่ใช่เก็บเอาไว้แล้วมาให้เขารู้เรื่องที่หลัง
หรือก็คือเรื่องที่ควรพูดมึงก็ควรพูดไปเลย อย่าไปคิดถึงผลที่จะตามมาเพราะมึงไม่มีทางคาดเดาได้ล่วงหน้าหรอกว่าจะเกิดหรือไม่เกิด"

"......." ผมเงียบ
"มึงเข้าใจป่ะ"
"เบียร์..." ผมมองหน้าเจ้าตัว
"อะไร?"
"กูงง" ไม่มีกั๊กครับ
"แม่ง! กูไม่ใช่ศิราณีเรื่องความรักนะเว้ย จะได้อธิบายให้เข้าใจง่ายกว่านี้ หัดเก็บเอาไปคิดเองบ้างสิวะ"
"ก็คิดอยู่"
"คิดอยู่ แล้วคิดว่าไง" มันเลิกคิ้ว
"คือมึงจะบอกว่า กูทำตัวไม่สมกับเป็นคนรักป๋า เพราะมีอะไรกูไม่ชอบบอกเขางั้นใช่ป่ะ" คิดจนหัวจะเบิดแล้วนะ แต่ได้แค่นี้
"เออนั่นแหละ"
"งั้นเวลามีใครมาจีบ กูต้องรายงานเขาหมดงั้นสิ"
"นั่นก็แล้วแต่มึงอ่ะ"
"ยังไง?" ผมทำหน้างง ต้องเข้าใจนะครับคนเพิ่งเคยมีรักจริงจังครั้งแรก
(น่าจะใช่อย่างนั้นนะ ในเมื่อป๋าชินเป็นผู้ชายคนเดียวที่ผมยอมตกลงเป็นแฟนด้วย)

"มึงดูรูปการณ์ไม่ออกเลยเหรอวะ" เบียร์ขมวดคิ้วมองผมอย่างขัดใจ
"กูไม่ได้โชกโชนด้านความรักมาอย่างมึงนี่ ถึงจะมีคนมาจีบ แต่กูก็ไม่เคยคบใครเพราะรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์" ผมตอกกลับ เบียร์หน้าเอ๋อ
"โทษที กูลืม"
"ช่างเหอะ" ผมยกชายแขนเสื้อซับน้ำตาเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าไม่เหลือคราบของความอ่อนแอให้ใครได้เห็น
"แล้วมึงคุยกับป๋าเรื่องไอ้เลวนั่นยัง" มันเฉไฉเปลี่ยนเรื่อง
"ไอ้ทิวานั่นน่ะเหรอ หึ! คงมีเวลาได้คุยหรอก"
"เออ...นั่นสิเนอะ" เบียร์พึมพำพลางหัวเราะเฝื่อนๆ แล้วเดินตามผมออกมาหารถที่ตัวเองจอดไว้แถวข้างตึกคณะ


**********************************************************************************************


ปล. ยิ่งแต่งยิ่งสั้นเนอะ พักร้อนก็เหมือนอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหนเลย อยู่ในห้อง อ่านการ์ตูน แต่งนิยาย ดูคลิปเกาหลี กร๊ากๆ
อยากลงตอนพิเศษเล็กๆ แต่เนื้อเรื่องหลักมันยังเครียด เลยไม่เอาดีกว่า (ขี้เกียจด้วยแหละ เหอะๆ) เอาเป็นว่า...
ใครมีความรู้สึกยังไงกับตอนนี้ โปรดดดดดดด บอกกันด้วยนะคะ ...นะ แก้เหงา รักคนอ่านฝุดๆ


 ลิงภูเขา + เวลาเกรียนน้องเอเขามีเป็นช่วงๆ แต่ช่วงนี้อาจไม่บ่อยเพราะกำลังนอยด์ ไอ้เรื่องสมน้ำหน้าแต่ก็สงสารนี่รู้สึกจะขัดกันยังไงไม่รู้เนอะ 555

nunnan + กลัวน้องเอมันจะจำแต่ก็ยังจะทำน่ะสิคะ แปลกๆ เนอะ แต่จริงๆ คนเราสมัยนี้ก็เหมือนน้องเอแหละ รู้ว่าผิดแต่ก็ทำ เฮ้อ!

BeeRY + เอิ่ม อิคนเขียนมันชินล่ะ ที่น้องเอไม่ค่อยมีใครเขาสงสาร ก็นิสัยอย่างนั้นนี่เนอะ

loveview + เป็นความคิดเห็นที่ตรงใจมากค่ะ แต่อย่างป๋าชินอารมณ์นั้น จะเข้าบทที่ว่า แม้น้ำแข็งยังมีวันละลาย มีหรือใจคนที่เย็นๆ จะไม่ร้อนขึ้นมาได้ ประมาณว่าป๋าแกกลัวจะโมโหจนหน้ามึดอ่ะค่ะ เลยต้องให้เอไปอาบน้ำเพื่อแกเองจะได้มีเวลาสงบใจอีกสักพักทำนองนั้น

mukmaoY + ต่างคนต่างครั้งแรก เอรักแรก ส่วนป๋าชินก็ ผู้ชายคนแรกที่รัก....ล่ะมั้ง

Mbbyza + เอ๊ะ ยังไง? ทำไมมีแต่คนอยากให้ป๋างอนนานๆ อิอิ

B52 + น้องเอมันคิดได้แล้วนะ แต่คิดถูกหรือเปล่าก็อีกเรื่อง

อยากรัก + ต่อให้แล้วค่ะ ส่วนใครจะอาการหนักกว่ากันนี่บอกไม่ได้ (ไม่มีความคิดจะเขียนพาร์ทป๋า เลยไม่รู้ 555)
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 20 บางทีคำว่ารักก็ไม่สำคัญ... (12/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 12-03-2014 15:20:01
"กูพยายามแล้วนะเบียร์ ไม่ใช่กูไม่พยายาม แล้วทำไมวะ ทำไมป๋าเขาไม่เข้าใจกูบ้างว่ากูรักเขาคนเดียว"

เอ่อคุณเมิงน้องเอ แกกล้าพูดนะว่าพยายาม ตั้งแต่เกิดเรื่องมาเห็นแต่หนีปัญหาแล้วก็พร่ำเพ้อมโนอยูคนเดียว
ยังไม่เห็นไอ้ความพยายามที่ว่าเลย บางครั้งเอก็ซื่อบื้อเรื่องความรักเกิ๊น ป๋าชินหาแฟนใหม่โล้ด คือเอเป็นคนรักที่นึกถึงแต่ตัวเอง
ไม่แคร์ความรู้สึกป๋าเท่าไหร่อ่ะ นานๆทีจะเจอนิยายที่ไม่ค่อยปลื้มกับนิสัยนายเอกเท่าไหร่ :katai1:
(ส่วนใหญ่ได้แต่เม้นท์จวกพระเอกเมามันส์คือพระเอกเลวนี่มีเกลื่อนอ่ะ)
ป๋าดัดนิสัยเอนานๆไปเลยอย่าเพิ่งใจอ่อน หรือไม่ก็มาซบอกเค้าได้ว่างอยู่ อ๊าย เขิล :o8:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 20 บางทีคำว่ารักก็ไม่สำคัญ... (12/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 12-03-2014 15:59:58
รอป๋านานละ.. จะเอาป๋าๆ ((สองแง่สามง่ามอีกแระ))  :laugh:

ก็สมน้ำหน้าไง แต่ก็สงสารมันด้วย ไอ้เอน่ะ  :hao7:

เห็นมันไม่เกรียน เกรียนไม่ออกอย่างเคยก็สงสาร .. แต่มันก็สมควรโดนละ ((เริ่มงงเอง))

ไม่ค่อยนิยมดราม่าเท่าไหร่ เลยอยากให้อิป๋ามันดีกะเอได้แล้ว สั่งสอนเล็กน้อยก็พอ  :-[

เดี๋ยวพรุ่งนี้มานั่งรอคนเขียนอีกรอบ .. สู้ๆ นะตัวเอง  :กอด1:


ปล.งอนพี่ชาย  .. ชวนไปดูพี่ชายก็ไม่ยอมไป และไม่พาไป ใจร้าย  ตัดพี่ตัดน้องแม่มเลยดีม่ะ?

ปล.2 ได้ยินคนพูดถึงพี่ชายๆ มานาน กลับไม่เคยสนใจ  เพิ่งจะมาตื่นตัวเมื่อวานนี้แหละ

ปล.3  แล้วผมจะมาบ่นเพื่อ????    :o12:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 20 บางทีคำว่ารักก็ไม่สำคัญ... (12/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 12-03-2014 16:08:02
ดูน้องเอไม่ค่อยเข้าใจไรเลยนะเนี่ยยย  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 20 บางทีคำว่ารักก็ไม่สำคัญ... (12/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 12-03-2014 16:10:05
น้องเอ เข้มแข็งไว้อย่าไปสนใจ เขาบอกให้ห่างก็ถอยออกมาก่อน
คริคริ  ใครจะอกแตกก่อนกัน
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 20 บางทีคำว่ารักก็ไม่สำคัญ... (12/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 12-03-2014 16:46:56
ก็นิสัยน้องเอเป็นอย่งนี้จะทำไม

ป๋าควรยอมรับตั้งแต่เริ่มจีบ เรพราะคนเราเปลี่ยนนิสัยไม่ได้

อะไรนิดอะไรหน่อยก็ยอมกัน มีมีเมียเด็กระวังเหอะ ให้น้องเอบอกเลิก

แล้วไปหาใหม่เหอะ คนดีแล้วไงหาคนที่ยอมรับตัวตนจริงๆดีกว่า

ป๋าก็ใช้แต่อารมณ์ตลอด คิดโน่น คิดมาก เป็นตาแก่ขี้จุกจิก เป็นเราเราเบื่อ 555


หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 20 บางทีคำว่ารักก็ไม่สำคัญ... (12/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 12-03-2014 17:14:28
ต้องลองดูว่าป๋าแกว่าไง อืม ถ้ายังมึนตึงหรือเย็นชาชาเย็นอีกทั้งๆฟังเหตุผลกันไปแล้วนั้น ก็ลองถามกันดูแล้วกันว่าเหนื่อยที่จะรักกันอย่างนี้ต่อไปไหม ถ้ามันเหนื่อยมากขนาดนั้นป๋าก็เลิกเถอะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 20 บางทีคำว่ารักก็ไม่สำคัญ... (12/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 12-03-2014 17:27:03
กว่าจะเป็นชีวิตคู่...

เพื่อนเอน่ารักมาก
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 20 บางทีคำว่ารักก็ไม่สำคัญ... (12/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 12-03-2014 19:35:46
น้องเอต้องปรับตัวด้านความรักมากกว่านี้เน้อ  :เฮ้อ:
 :katai4:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ ป๋าชิน (13/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 13-03-2014 11:54:26


รักบอดๆ ตอนพิเศษ



[ป๋าชิน]


'เราห่างกันสักพักมั้ยน้องเอ'

ป๋าชินกุมขมับทันทีเมื่อนึกถึงประโยคนี้ ประโยคต้องห้ามที่ไม่เคยคิดฝันว่าจะกล้าพูดออกไป
แต่ด้วยอารมณ์ และความรู้สึกต่างๆ ที่เอ่อล้น มันก็ทำให้เขาเผลอพลั้งปากพูดออกไปจนได้

ป๋าชินปิดแฟ้มงานบนโต๊ะลง แล้วเอนกายพิงกับพนักเก้าอี้ สองมือประสานไว้บนตัก สายตาทอดมองเพดานสีขาวขมุกขมัว
ป่านนี้น้องเอของเขาจะเป็นอย่างไรหนอ จะกินข้าวได้หรือเปล่า จะไปเรียนมั้ย หรือจะคิดมากจนนอนไม่หลับอย่างเขากันแน่
แล้วแผลที่โดนใครหน้าไหนก็ไม่รู้ทำร้ายมาจะเป็นหนักขนาดไหน ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากหนีงานตรงหน้าบึ่งรถกลับไปหาคนรักจอมดื้อของเขาใจแทบขาด
หากแต่ถ้าไม่ติดตรงที่มันเป็นการกระทำที่แสนจะตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาพูดออกไปเมื่อคืนสุดๆ ล่ะก็นะ

"เฮ้อ!" ขบคิดเสียนึกเป็นห่วงจนอดถอนใจไม่ได้ คงต้องปล่อยไปสักพักทนไม่ไหวค่อยว่ากัน

ก๊อก ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังเรียกสติเขาให้กลับมา

"เชิญครับ"

"พี่ชินคะ คุณวิกานดามาขอพบค่ะ" หัวหน้าฝ่ายศิลป์พ่วงด้วยหน้าที่เลขาบางเวลาเปิดประตูเข้ามารายงานด้วยสีหน้าค่อนข้างรำคาญอยู่ไม่น้อย
แต่ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบอะไรจากอีกฝ่าย หญิงสาว เจ้าของชื่อวิกานดาก็ผลักไหล่เธอให้พ้นประตูพลางแทรกตัวเข้ามาภายในห้องอย่างไร้ความเกรงอกเกรงใจเสียแล้ว

"ชินขา" เสียงลากยาวเรียกชื่อเขาพร้อมกับพุ่งเข้าถึงเนื้อถึงตัว เขาที่ไม่ทันตั้งตัวได้แต่ชะงักทำอะไรไม่ถูก

"เอ่อ คุณวิกานดาผมว่าแบบนี้มันไม่ค่อยจะ..." พูดไม่ทันจบวิกานดาก็ปาดนิ้วเรียวมาปิดปากเขาไว้

"เรียกวิเฉยๆ สิคะ จะได้ดูไม่ห่างเหิน" หล่อนยิ้มหวานโดยไม่สนใจว่ากิริยาท่าทางเธอชวนหมั่นใส้สายตาของคนที่สามขนาดไหน

"อะแฮ่ม! พี่ชินคะ อย่าลืมนะคะว่าบ่ายนี้มีนัดคุยกับลูกค้า แล้วก็...คุณวิกานดาคะ นี่ที่ทำงานนะคะ ไม่ใช่บ้านซึ่งเป็นสถานที่ส่วนตัว"
ลูกเกตเอ่ยเตือนตารางงานให้เขาและไม่ลืมที่เหน็บแนมเรื่องมารยาทในสถานที่ทำงานให้วิกานดาด้วย

"ไม่เห็นจะเป็นไรเลย คนรักกันชอบกันมันก็ต้องมีบ้างสิคะคุณลูกเกต เอ...หรือว่าคุณลูกเกตกำลังอิจฉาฉันเหรอคะ" วิกานดายิ้มเยาะ
และใครหนอใครจะคิด ว่าหล่อนนั้นช่างกล้าพูดออกมาได้อย่างไม่อายปากกับประโยคคลาสสิคที่คนถูดพาดพิงฟังแล้วยังต้องสะอึก

"โอ๊ย ไม่อิจฉาเลยค่ะ เพราะดิฉันไม่ใช่คนประเภทจินตนาการเพ้อพกเก่ง... พี่ชิน ลูกเกตขอตัวกลับไปทำงานต่อนะคะ"
ไม่เสียเวลารอคำอนุญาตจากเขา เธอก็จัดการปิดประตูกระแทกเสียงดังปัง!

วิการดายืดตัวตรงปลายตามองบานประตูที่ปิดสนิทอย่างไม่ชอบใจ "มารยาทแย่นะคะ"

"ช่างเถอะครับ เขาก็เป็นของเขาแบบนี้แหละ" เขาพูดตัดความรำคาญ และคิดว่าน่าจะเข้าเรื่องให้จบโดยเร็ว

"คุณวิมาที่นี่ด้วยตัวเองแบบนี้ แสดงว่าจะมาคุยกับผมเรื่องออเดอร์ของงานที่ส่งเข้ามาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วใช่มั้ยครับ"

"เรื่องออเดอร์ก็ใช่ แต่ยังมีอีกเรื่องด้วยค่ะ"

"ผมว่าเรื่องงานของเราน่าจะมีเรื่องออเดอร์ที่ยังค้างอยู่แค่เรื่องเดียวนะครับ"

"ก็เรื่องรับปากจะไปทานข้าวกับวิไงคะ"  วิกานดาชักสีหน้าเหมือนเด็กถูกขัดใจ
พลางเยื้องกายอรชอนเดินอ้อมไปทางด้านหลังพนักพิงเก้าอี้ของเขาแล้วทำการสวมแขนทั้งสองข้างคล้องรอบคอทันที

"ชินขา ลืมแล้วเหรอคะว่าตกลงอะไรกับวิเอาไว้" หล่อนกระซิบข้างหู

"แต่นั่นเป็นความผิดพลาดของฝ่ายคุณที่ไม่ประสานงานกับเจ้าหน้าที่กราฟิกดีไซน์ที่คุณจ้างมาเองนะครับ"
เขาพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยพร้อมกับจับแขนทั้งสองข้างของวิกานดาออกให้ห่างตัว

"แต่ครึ่งหนึ่งก็เป็นความรับผิดชอบของทางคุณนะคะ ที่ไม่ได้ส่งตัวอย่างก่อนตีพิมพ์ไปให้วิ"

"ผมส่งไปแล้ว"

"วิไม่เห็นรู้เรื่อง"

"นั่นคุณก็ต้องไปถามเลขาหรือผู้ช่วยของคุณเอง เขาเป็นคนจัดการทุกอย่างและบอกให้ทางเราตีพิมพ์ได้ทันที ในขณะที่คุณบินไปดูงานที่ต่างประเทศ"

"อ๋อ เรื่องนั้นวิจัดการลงโทษไปแล้วค่ะ แต่ทางคุณก็ยังผิดอยู่ดีที่ไม่ได้ส่งตัวอย่างให้วิด้วย" วิกานดาสรุปเสียงแข็งอย่างไม่ยอมแพ้

"หรือคุณจะให้ผมเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดกับทางคุณก็ได้นะครับ" เขาเสนอทางออกเพื่อตัดปัญหา

"เรื่องค่าเสียหาย วิก็บอกแล้วไงคะว่าไม่ต้อง แค่ชินไปทานข้าวกับวิสักมื้อก็พอ นะคะ มื้อเดียวเอง" วิกานดาทำเสียงอ่อนเสียงหวาน

"เฮ้อ!" เขาถอนหายใจ ทว่าเป็นการถอนหายใจคนล่ะเรื่องกับครั้งแรกราวฟ้ากับเหว
"ตอนนี้ผมคงไปกับคุณไม่ได้ ขอเป็นตอนเย็นหลังจากผมกลับจากไปพบลูกค้าได้หรือเปล่าครับ"

แม้จะรู้แก่ใจว่าคู่ค้าธุรกิจคนสวยคนนี้ต้องการอะไรจากเขามากไปกว่าการทำธุรกิจกันธรรมดา แต่ก็ยังหนักใจที่จะปฎิเสธไปตรงๆ อยู่ดี

"ได้แน่นอนค่ะ งั้นสี่โมงเย็น วิจะมารับนะคะ" วิกานดาตอบตกลง

"นัดสถานที่มาเลยดีกว่ามั้ยครับ" ค่อนข้างเหนื่อยใจกับการเสนอตัวของหญิงสาวไม่น้อยทีเดียว

"บอกไป ชินก็ไปไม่ถูกหรอกค่ะ เป็นร้านเจ้าประจำของวิเอง ไว้เจอกันเย็นนี้นะคะ จุ๊บ" วิกานดาก้มลงหอมแก้มเขาจากนั้นก็กลับออกไปอย่างอารมณ์ดี


**********************************************************************************************


ปล. ว่าจะไม่เขียนพาร์ทป๋าชินแล้วนะ แต่ก็ต้องเขียนมาแก้ขัด (ด้วยความไม่ถนัด มันเลยสั้น =_=)
เอาเป็นว่า ใครรู้สึกขัดใจบอกได้นะ โดยเฉพาะชะนีตัวใหม่ที่เข้ามาในเรื่อง บอกตรงๆ ว่าไม่ชอบเหมือนกัน (ฮา)
ถ้ายังทัน ตอนหลักจะมาเย็นๆ แต่ถ้าไม่ทันน่าจะพรุ่งนี้เช้า เพราะมีเวลาใช้คอมแค่เช้าถึงเย็น โดยที่้เจ้าของเครื่องมันไปทำงาน อิอิ

AMINOKOONG + จวกนายเอกได้ตามสบายค่ะ อย่างว่าล่ะ นิสัยน้องเอมันเด็กแล้วก็สกิลเรื่องรักต่ำโคตรๆ ว่าแต่...คิดอะไรกับป๋าป่ะเนี่ย (หัวเราะ)

ลิงภูเขา + อ่ะ ส่งป๋ามาให้เล็กๆ แก้ขัดไปหน่อยๆ  สรุปสมหน้าหน้าเอสินะ โอเคร๊ เข้าใจ ....แล้วงอนพี่ชายเรื่องอะไรล่ะเนี่ย บ่นๆ มาก็ฟังได้แต่แอบงงจะว่าอะไรป่ะคะ ฮ่าๆ

nunnan + แบบเป็นตัวของมันเองที่สุดล่ะ น้องเออ่ะ เข้าใจอะไรยากโดยเฉพาะเรื่องรักๆ ใคร่ๆ

อยากรัก + เอิ่ม...นานๆ จะมีคนเข้าใจช่วยเชียร์น้องเอ แอบดีใจแทน

jimmyFG + โอ๊ะ แปลกใหม่ เข้าข้างน้องเอด้วยเว้ยเฮ้ย แบบนี้ต้องฉลองงงงงงง!!

loveview + ถ้าเหนื่อยก็พัก ถ้าไม่รักก็พอ เนอะ

mukmaoY + ความสุขมักมาคู่กับอุปสรรค (โดยเฉพาะ อุปสรรคที่เป็นชะนี ฮา)

kik + คิดว่าน่าจะค่อยๆ พัฒนาเรื่อยๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ ป๋าชิน (13/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-03-2014 13:17:21
เหนื่อยใจกับ เอ นะ เฮ้อๆๆๆๆๆๆ  :sad2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ ป๋าชิน (13/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 13-03-2014 13:41:47
พอมาอ่านพาร์ทป๋าชิน ก็ขอจวกอีกอย่างหน่อย
คือการเป็นสุภาพบุรุษเกินไป ปล่อยให้ยัยวินั่นนัวเนียอยู่ได้
ถ้าเผื่อเอมาเห็นเข้าได้เลิกสมพรปากแน่ๆป๋า นี่แหละจะเป็นปัญหาตามมา
เอยิ่งเป็นคนอารมณ์ร้อนๆอยู่ แต่ถ้าเราเป็นเอเกิดมาเห็นก็โกรธนะ
ขนาดป๋าแค่เห็นเบอรร์โทรยังปปรี๊ด แต่ตัวเองกับปล่อยเนื้อปล่อยตัว :katai1:

ปล.สรุปไม่มีใครในโลกสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง และการทำตัวเป็นสุภาพบุรุษมากไปก็ไม่ดีนะจ๊ะป๋า
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ ป๋าชิน (13/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 13-03-2014 14:18:29
เบื่อป๋าชิน  :serius2:

ปล่อยชะนีฉอเลาะอยู่ได้  :angry2:

ขอให้น้องเอมาเห็น  :m31:

ตายแน่  :fire:

.
.

หรือว่าน้องเอจะนอยด์หนักกว่าเดิมฟ่ะ?  :hao4:


...........................................

เร่องพี่ชายช่างมันเถอะครับ .. เมื่อวานผมนอยด์อยู่เลยบ่น  :laugh:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ ป๋าชิน (13/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 13-03-2014 14:20:21
5555 ดีใจมีชะนีมาป่วน มีตัวช่วย


แล้วน้องเอก็เข้ามาในจังหวะเหมาะเจาะนะ

ตอนไปกินข้าว นึกภาพออกเลย ต้องมีเกมส์พลิกแน่ๆ เดียวอีป๋าชิน มีง้อยืดอ่ะ555

สมน้ำหน้าอีป๋าชิน ป๊อด แล้วยังพูดว่าห่างกันสักพัก นี่ไงน้องเอไม่ผิด อีป๋าอารมณ์ร้อนไม่มีสติ สมควร

บอกเลิกไปเลยน้องเอ จัดหนัก อยากจะดูน้ำหน้าอีป๋าชิน และหาคนอื่นควงเย้ย ยื่นชู้ ให้ดีนัก

ก็มีมันซ่ะเลย555 ปล่อยอิตาแก่ป๋าชินคลั่ง ตายไปเลย หึหึ สะใจ




หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 13-03-2014 15:01:16


รักบอดๆ 21


โบกมือลาเบียร์ที่ต้องลำบากวกรถกลับไปรับแฟนที่มหาลัยตรงหน้าโรงพิมพ์ ไม่สิ...ไม่ใช่หน้า
แต่เป็นตรงถนนฝั่งตรงข้ามต่างหาก บังเอิญว่าไม่อยากเป็นเป้าสายตาครับ ต้องการมาแบบเงียบๆ คุยเงียบๆ แล้วกลับแบบเงียบๆ

มองท้ายรถเพื่อนสนิทที่ขับหายออกไปทางหัวโค้งด้านหน้าก็หันซ้ายหันขวาแล้ววิ่งข้ามถนน
ช่วงเวลาบ่ายสามเกือบบ่ายสี่เช่นนี้ ไม่ค่อยมีคนในโรงพิมพ์เงยหน้าขึ้นมาสนใจใครหรอกครับ
เพราะทุกคนต้องรีบทำงานในส่วนของตัวเองให้เสร็จจะได้ไม่ต้องอยู่ต่อโอฟรี

แอบทำตัวเนียนเดินลิ่วๆ เข้ามาข้างใน จะถึงบันไดอยู่แล้วเชียวถ้าไม่ติดตกใจ
เสียงร้องโวยวายของกระเทยเสียก่อน ผมสะดุ้งโหยงค่อยๆ หันไปยิ้มให้พี่เขียวแหยๆ

"สวัสดีครับพี่" ยกมือไหว้
"ทำไมหน้าเป็นอย่างนั้นคะน้องเอ!!" เสียงดังไปสามตึกสี่ตึก ไอ้ที่ง่วนทำงานกันอย่างเอาเป็นเอาตายก็พากันเงยหน้าขึ้นมาดู กรูจะบ้า!
"มีเรื่องกับหมามานิดหน่อยครับ ไม่เป็นอะไรมากหรอก ชิลๆ" หัวเราะเจื่อน กลบบรรยากาศน่าอาย
"โอ๊ย! อกอีเขียวจะแตก ปกติหมาใช้ปากกัดนะคะ ไม่ได้ใช้เท้าใช้หมัด ถึงจะได้เป็นรอยช้ำรอยแตกเป็นด่างเป็นดวงขนาดนี้"
"เอ่อ..." เล่นดักกันซะขนาดนี้ แล้วคุณพี่จะให้ผมตอบยังไงล่ะครับ
"เป็นอะไรอิเขียว แหกปากซะลั่น ไม่มีงานทำหรือ ว๊าย ตาเถร!!" พี่ลูกเกตเปิดประตูออฟฟิศออกมาถามหน้าหงิก
ทว่าพอเดินเข้ามาเห็นหน้าผมก็ต้องเอามือกุมอกร้องอุทานเสียงหลงเช่นเดียวกับรายแรก

"คนนะครับพี่ลูกเกต ไม่ใช่ผี เห็นแล้วจะต้องตกใจ" ผมว่าเสียงอ่อย
"ไม่ตกใจยังไงไหวล่ะคะ ทำไมหน้าเยินขนาดนั้น ถูกใครเขาทำมาคะเนี่ย"
"น้องเอเขาบอกว่าไปมีเรื่องกับหมามาค่ะพี่ลูกเกต" พี่เขียวฟ้องทันที
"กับหมา? หมาที่ไหนกันคะ"
"อย่าสนใจเลยพี่ ไม่กี่วันเดี๋ยวมันก็หาย ป๋าชินอยู่เปล่าครับ"
"ออกไปพบลูกค้าค่ะ แต่อีกสักพักน่าจะกลับ น้องเอขึ้นไปรอที่ห้องทำงานพี่ชินก่อนก็ได้นะคะ"
"อ้อ ครับ งั้นผมขอขึ้นไปรอข้างบนนะ"
"ค่ะ ว่าแต่ไม่เจ็บเหรอคะ พี่ว่าน่าจะเจ็บพอตัวเลยนะ"
"โอ๊ย สิวๆ ครับ แค่นี้ไกลหัวใจเยอะ" ทำเป็นเก่ง พูดทีเจ็บปากน้ำตาจะไหล
"เข้มแข็งสมเป็นลูกผู้ชายจริ๊งงงงง" พี่เขียวทำเสียงสูงปรี๊ด
"อยากได้ไว้ดูเล่นสักคนมั้ยล่ะครับ" หยอดใส่สักนิดจะได้เลิกฟุ้งสักที
"ไม่ดีกว่าค่ะ หุ่นผอมๆ แบบนี้ เขียวไม่ปลื้ม" ย่ะ ใครจะไปสู้พ่อหนุ่มแอฟริกันของคุณได้ล่ะ ชิส์!
"ไปอิเขียว ไปทำงานต่อ เหลืออีกตั้งบาน" พี่ลูกเกตปรามตาดุ
"เจ้าค่ะคุณพี่ จะไปทำเดี๋ยวนี้เลยค่ะ" ตอบรับแล้วคุณเธอก็เดินเฉิดฉายเข้าไปประจำตำแหน่งในออฟฟิศ
"อยากได้อะไรก็อินเตอร์โฟนลงมาบอกนะคะ" หันมากำชับผมทิ้งท้าย จากนั้นพี่ลูกเกตก็กลับเข้าไปทำงานต่อ
"ตั้งใจทำงานนะครับพี่ เผื่อป๋าจะขึ้นเงินเดือนให้"
ผมยืนรอให้พี่ลูกเกตกลับเข้าออฟฟิศเรียบร้อย ตัวเองก็ก้าวเท้ายาวๆ ขึ้นบันไดมาทีล่ะสองขั้น เปิดปิดประตูห้องทำงานป๋าชินได้
ก็หย่อนก้นนั่งบนโซฟาพร้อมกับถอนหายใจโล่ง ยังถือว่าโชคดีนะเนี่ย ที่ไม่ต้องเจอกับไอ้พี่โต้ง ไม่อย่างงั้นโดนตัวต้นเหตุยิงคำถามยาวไม่รู้จบ

นั่งเล่น นอนเล่น เดินสำรวจนั่นสำรวจนี่ไปทั่วห้องแบบเซ็งๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดผลั่วะ
พ่วงด้วยเสียงแจ๋นๆ ของผู้หญิงชุดสูทกระโปรงแดง ปากแดง อายไลเนอร์น้ำเงินเข้มตื๋อหลุดเข้ามาในห้อง

"ชินขา---!" เจ้าตัวเอ่ยชื่อคนรักของผมแล้วหยุดชะงักหันมาทำสายตากร้าวใส่ "ตายแล้ว เธอเป็นใครเนี่ย!!"
"ผมควรถามคุณมากกว่า ว่าคุณน่ะเป็นใคร" รู้สึกอยากเกรียนแตกขึ้นมาฉับพลันทันด่วน อารมณ์มันปรี๊ดครับ
"ฉันเป็นแฟนชินเจ้าของโรงพิมพ์นี้ เธอนั่นแหละไอ้เด็กเมื่อวานซืนทำไมมาอยู่ในห้องทำงานของแฟนฉันหะ"
ชัดถ้อยชัดคำมาก ชัดซะจนอยากต่อยปาก

"โห เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าป๋าชินของผมมีปัญญาหาแฟนได้แค่นี้" ไม่ได้เทียบกับตัวเองนะครับ แค่ปากมันไปเองเฉยๆ
"แค่นี้อะไรยะ แล้วทำไมเธอเรียกชินว่าป๋า...เท่าที่ฉันจำได้ ชินเขาเป็นลูกคนเดียวแล้วก็ยังไม่ได้แต่งงานนี่" หือ? พูดเหมือนรู้จักกันมานาน
"อยากรู้รอป๋าชินกลับมาก็ถามสิครับ" ผมบอกแล้วมั่วหยิบหนังสือในชั้นเดินกลับมานั่งบนโซฟา แสดงท่าทางไม่สนใจคนตรงหน้าอย่างโต้งๆ
โวยไม่ว่าแต่อย่ากรี๊ดนะ เพราะน้องเอไม่ปลื้ม! (ยืมคำพี่เขียวมาใช้ คริคริ)

"ไม่ต้องท้าหรอกย่ะ ชินกลับมาฉันถามแน่" เชิดหน้าถือดีไปนั่งตรงเก้าอี้ทำงานป๋า มิหนำซ้ำยังจ้องหน้าจะเอาเรื่องผมอีกด้วยแน่ะ
จากการคาดเดาของผม การแสดงออกถึงการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมากจนเกินงามแบบนี้ ผมขอทายแม่งตรงๆ เลยครับว่า หล่อนไม่คันก็ต้องมีอะไรสักอย่างกับป๋าชินชัวร์

ไอ้คำว่าหึง สำหรับคนรักกันเป็นใครใครก็มีทั้งนั้น
ผมเองก็มี แต่ติดตรงที่เชื่อใจป๋ามากกว่าคนทั่วไปนิดหน่อย จึงไม่ออกอาการอะไรมากมาย ข่มไว้รอถามเอาทีเดียว ใส่ทีเดียว จบ!
และหากถามต่อว่าหวั่นใจมั้ย? ขอตอบตามความสัจจริงครับ ว่าหวั่นสุดตีนอ่ะ ในเมื่อผมยังอยู่ในสถานะการณ์ก่ำกึ่ง
จะเลิกไม่เลิกแบบนี้แล้ว ต่อให้เก่งมาจากไหนก็ไม่มีใครทำใจแข็งได้ลงหรอก เชื่อเถอะ

ผ่านไปสิบห้านาทีเห็นจะได้ ประตูที่ปิดสนิทก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง
ผมเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านยังไงก็ไม่รู้เรื่อง มองตามหญิงสาวขี้ตู่ยันตัวลุกจากเก้าอี้ เข้าไปควงแขนของคนร่างสูงที่เดินเข้ามาทำหน้าหล่อในห้อง

"ชินขา ปล่อยให้วิรอตั้งนานแน่ะ" แหวะ กรูจะอ้วก
"น้องเอ..." ป๋าชินเห็นผมแล้วทำสีหน้าตกใจ
"รบกวนป่ะ ถ้ารบกวนผมค่อยมาวันหลังก็ได้นะ" ผมโยนหนังสือไปบนโต๊ะพร้อมกับลุกขึ้นยืน
โดยที่สายตาไม่ยอมละไปจากคนตรงหน้าแม้แต่วินาทีเดียว

ป๋าชินยืนนิ่ง มองเหมือนไม่คาดฝันว่าผมจะมาอยู่ที่นี่ได้ ทั้งยังปล่อยให้อิชะนีคนสวยเกาะหนึบอย่างไร้การปัดป้องใดๆ
แม่ง! กรูชักจะหมดความอดทนแล้วนะ เดี๋ยวก่อน... อีกนิด... ถ้าไม่คิดจะแยกจากนังนั่นมีเฮแน่อิป๋า

"ชินคะ เด็กนั่นใคร ปากคอเราะร้ายมาก พูดกับวิเหมือนวิเป็นเพื่อนเล่น ชินต้องจัดการให้วิน้า" ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่ในความคิดผมถือว่าฟ้องอ่ะ
แล้วไอ้ท่าทางออดอ้อนออเซาะ ฉอเลาะนั่นหมายความว่าไง อยากจะมีเรื่องกับน้องเอใช่มั้ย?! ผมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมือกำแน่น

"น้องเอ พี่ว่าเราคุยกันเรียบร้อยแล้วนะเมื่อคืน" ป๋าบอกเสียงเรียบ และไม่พยายามผลักไสแม่สาวคนสวยไปให้พ้นตัว
"อ้อ..." ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ สะกดกลั้นทุกอย่าง ทั้งความโกรธ ความน้อยใจ ความเสียใจ และคำพูดลงไปกับคมเล็บที่ฝังลึกอยู่ในฝ่ามือ

ทะลัก อะไรสักอย่างที่เอ่อล้นอยู่ภายในกำลังทะลักออกมาเรื่อยๆ
ต่อจากนั้นผมก็มองไม่เห็นและไม่ได้ยินอะไรอีก ไม่ว่าจะสีหน้าของป๋า หรือน้ำเสียงหัวเราะเย้ยหยันของยัยคนสวยนั่น
ผมเดินกระแทกไหล่เจ้าของประโยคที่ทำให้ผมแทบคลั่ง ก่อนจะออกวิ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตามาที่ถนน มือหนึ่งฉุดคว้าให้ผมหยุด

"น้องเอเป็นอะไรครับ"
ผมหันไปมอง สะบัดมือออกโบกรถแทกซี่แล้วกระโดดขึ้นเบาะหลัง ยังไม่ทันบอกจุดหมายปลายทาง
เจ้าของเสียงที่รั้งผมไว้ก็กระโดดตามขึ้นมา แถมมีหน้าบอกให้คนขับออกรถโดยไม่ถามความเห็นผมเลยสักคำ

เหนื่อย...
คำที่เคยตอบอย่างมั่นใจว่า 'ไม่'
ทว่าตอนนี้ มันกลับถาโถมเข้ามาใส่ผมจนรับไม่ทัน


**********************************************************************************************


ปล. อีกตอนสั้นๆ เดี๋ยวค้าง แต่ก็ค้างแหละ เหอๆ
คือ ดราม่าไม่เก่ง ไม่รู้อธิบายความรู้สึกของน้องเอชัดพอมั้ย ยังไงก็ขออภัยมาณ. ตรงนี้
พรุ่งนี้เจอกันค่ะ ... ขัดใจป๋าชินตอนนี้ อนุญาตให้ตบได้ตามอัธยาศัย (หัวเราะ)

dahlia + บอกคำเดียวว่าทำใจ (=3=)

AMINOKOONG + อย่าว่าแต่เอโกรธเลย ใครก็โกรธแหละ แต่ด้วยนิสัยของเอ จริงๆ น่ะนะ ถ้าผู้หญิงทำฝ่ายเดียวมันไม่คิดไรมากหรอก แต่ถ้าป๋าเล่นด้วยนี่ก็อีกเรื่อง

ลิงภูเขา + เห็นถามถึง พอเอามาเสริฟก็ทำเป็นเบื่อ (ฮา) อ๊ะ...น้องเอมาเห็นและ พอใจป่ะคะ (ลงไปนอนขำ) โอเค เรื่องพี่ชายแค่อยากบ่น จะว่าไปอารมณ์ขึ้นลงพอตัวนะคะ คุณลิงภูเขาขาาาาา อิอิ

jimmyFG + กลัวจะเป็นโศกนาฎกรรมอ่ะจิ เอาน่ะ รอตอนต่อไปดีกว่า คริคริ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 13-03-2014 15:07:30
อะไรเนี่ยยยยย  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 13-03-2014 15:40:08
หลังจากหมั่นไส้เอมานาน ตอนนี้หมั่นไส้ป๋ามาก
ป๋าว่าแต่เอไม่อธิบาย แต่ตัวเองก็เหมือนกันแหละ
ปล่อยให้ยัยนั่นเกาะแกะอยู่ได้ จนเอเข้าใจผิด
เป็นเราจ่กห่างจะกลายเป็นเลิกไปเลยนะ 
ขัดใจป๋าๆๆ โดนลบ20คะแนน :katai1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 13-03-2014 16:33:57
เริ่มหมั่นไส้อิป๋าและ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 13-03-2014 18:57:07
โอเคป๋า ถ้าอยากโกรธหรือให้โกรธกันขนาดนั้นก็ตามนั้นเลยพี่
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 13-03-2014 19:31:06
จัดไป :เฮ้อ: พอกัน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 13-03-2014 20:06:01
อะไรเนี่ย น้องเอต้องบอกเลิกก่อน

จะหนีไปสิ ไม่ได้ดั่งใจเลย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-03-2014 20:10:09
สั้นจัง หวังว่าคงไม่ใช้การลองใจนะ ไม่ชอบการลองใจหรือหลอกให้หึงแบบนี้ที่สุด มันงี่เง่าน่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-03-2014 20:41:15
แต่ละคน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 13-03-2014 21:20:57
บอกตง ไม่ประทับใจให้เราค้าง ไอ้คนที่ขึ้นรถตามมา เคลียร์ให้ดี ไม่งั้นคนเขียนโดนแน่
น้องเออย่าเครียดลูก อย่าอ่อนแอเข้มแข็งไว้ "แม้แผ่นดินสิ้นชินที่พึงเชย อย่ากระนั้นเลยลุยชนีเอามันดีกว่า"
กลับไปตั้งหลักที่บ้าน อย่าแสดงความอ่อนแอให้ป๋าชินเห็น เดี๋ยวก็ซานมาหาหนูเองลูก ฮิ้ว
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 13-03-2014 21:43:45
 :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ + ตอนที่ 21 เหนื่อย (13/03/57) ต่อและ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 13-03-2014 23:32:33
คนเขียนสามารถทำให้น้องเอที่ถูกทุกคนหมั่นไส้มานาน .. ได้รับความเห็นอกเห็นใจและสงสารได้ทันทีในตอนเดียว  ยอดเลย  o13

ทั้งนี้ทั้งนั้น .. รีบๆ มาต่อให้ไว  :laugh:

คิดถึงและเป็นห่วงสวัสดิภาพของคนเขียนมาก ((มีแววว่าจะโดนรุมยำ))  :m20:

เรื่องนี้อิป๋าต้องได้รับบทเรียน !  :angry2:

รักคนเขียน .. จุ๊บ  o18
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 14-03-2014 16:43:47



รักบอดๆ ตอนที่ 22



"น้องเอครับ อย่าร้องไห้นะ เจ็บแผลเหรอ หรือว่าโดนใครทำอะไรมา?" อิพี่โต้หน้าเหวอ
มือไม้เก้งก้างคล้ายตัดสินใจไม่ถูกว่าจะวางไว้ตรงไหนดี ลุงคนขับแท็กซี่ชำเลืองมองกระจกสลับกับถนน แต่ขอบอกไว้ก่อน
บ่อน้ำตาแตกอย่างผมขณะนี้ ต่อให้อายยังไง ให้ตายแม่งก็หยุดร้องไม่ได้ เสียงสะอื้นนี่มาเป็นลูกระนาด เจ็บอกชิบหาย

"ฮะ....ฮึกฮึก...ฮะฮึก" ได้เท่าเนี๊ยะ หายใจยังไม่ทันอย่าหวังจะได้คำตอบจากกรูเลยครับ
ผมก้มตัวลง หน้าผากจรดหลังมือที่วางอยู่ตรงหัวเข่า เข้าซีนนางเอกถูกพระเอกหักหลัง...

"ทะเลาะกับคุณชินมาเหรอครับ บอกพี่สิครับน้องเอ" สัมผัสจากฝ่ามือแตะลงบนกลางหลัง

พลาดไปแล้วครับ พลาดไปแล้วจริงๆ ที่ปล่อยให้พี่โต้ตามผมขึ้นรถมาได้แบบนี้ แต่ถึงกระนั้น พอนึกไอ้ประโยคคำพูดตัดรอนเจ็บๆ ร้อนๆ
ของป๋ากับอากัปกิริยาออดอ้อนของยัยคนสวยในห้องทำงานขึ้นมา
สมองของผมก็ไม่สามารถแยกแยะอะไรได้อีกแล้ว ใครอยากจะตาม
หรือจะอยากทำอะไรก็เชิญเหอะ ส่วนตัวผมตอนนี้ ขอร้องไห้มันไปแบบนี้ละกัน หมดน้ำตาเมื่อไหร่ค่อยกลับมาว่ากันอีกที

"น้องเอ เงยหน้าขึ้นมาตอบพี่สิครับ"
"ฮึก...ผมอยาก...ฮะ...ฮึก...อยู่เงียบๆ" พูดเพียงสั้นๆ ทว่าออกซิเจนในร่างกายหายไปเกือบเก้าในสิบ ทรมาณมาก
"เฮ้อ!" พี่โต้ถอนหายใจเสียงดัง แล้วหยุดตั้งคำถามอย่างที่ผมต้องการ บอกตรงๆ แอบรู้สึกดีที่แกเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย
"เอ่อ คุณครับ ขอโทษนะ จะให้ผมไปตรงส่วนให้ของ....(ชื่อจุดหมายปลายทางที่บอกไปตอนแรก) หรือครับ?"
"อ๋อ..." เงียบไปพักหนึ่ง มีการขยับร่างกายเล็กๆ ซึ่งผมยังคงไม่ได้มอง "เปลี่ยนไปสวนรถไฟก็แล้วกันครับพี่"
"ต้องอ้อมไปไกลเลยนะครับ" น้ำเสียงลุงแกเริ่มไม่มั่นใจ อย่าว่าแต่ลุงคนขับเลยครับ
ตอนนั้นผมก็แปลกใจอิพี่โต้อยู่เหมือนกัน ว่าจะเสียเวลาอ้อมไปไอ้สวนรถไฟทำไม

"เท่าไรผมก็จ่าย แต่ถ้าพี่ไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร"
"ได้ครับๆ ตกลงสวนรถไฟนะครับ"
"ครับ"

การสนทนาเงียบลง และเข้าสู่สภาวะอึมครึม
ผมร้องไห้สะอึกสะอื้นเบาๆ แล้วสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ตัวเองดัง ปาดน้ำตาล้วงเจ้าตัวก่อกวนขึ้นมาดูเบอร์
ชื่อที่เม็มไว้กับหมายเลขที่คุ้นตา ทำเอาผมแทบอยากจะปาโทรศัพท์ทะลุกระจกรถออกไปกลางถนนเสียเดี๋ยวนั้น
พูดตัดรอนออกมาเองแล้วจะโทรหากรูอีกทำไม?!!

"ไม่รับเหรอครับ?" พี่โต้คงทนไม่ไหวถึงได้เอ่ยปากถามผมออกมา "ดังนานแล้วนะ ไม่อยากรับก็กดตัดไปเลยสิ"
".........." ผมไม่ตอบ ได้แต่สะอื้นโดยไม่มีน้ำตา มือขวากำโทรศัทพ์แน่น
"ดื้อเหมือนกันนะเรา" พี่โต้ขยี้หัวผมด้วยรอยยิ้มอ่อนใจ ผมยังใช้ความเงียบเป็นคำตอบพลางหันมองทิวทัศน์ด้านนอกไปตลอดทาง


**********************************************************************************************


อากาศดี สวนสวย บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจเป็นที่สุด ทว่าสภาพของผู้ชายสองคนที่มาด้วยกัน
ไม่ได้มีใครอยู่ในอารมณ์นั่นเลย เพราะตั้งแต่ลงจากรถแท็กซี่ พี่โต้ก็เอาแต่เดินตามผมมาเงียบๆ ตัวผมเองก็ไม่ได้อยากให้ถาม
ไม่อยากพูดคุย ซ้ำยังไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ต่างพากันเดินกันไปเรื่อยๆ กระทั่งสวนปิด เราสองคนก็ออกมายืนรอรถตรงป้ายรถเมล์

"ให้พี่นั่งแท็กซี่ไปส่งดีกว่ามั้ย" พี่โต้ถาม น้ำเสียงเป็นห่วงสุขภาพหน้าตาของผมมากมาย
"ไม่เป็นไรพี่ บ้านผมอยู่แค่นี้เอง"
"แต่พี่อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆ นะครับ"
"วันนี้ผมรบกวนพี่มาเยอะแล้ว พี่กลับไปเถอะ โดดงานมาด้วยนี่ คิดหรือยังว่าพรุ่งนี้จะบอกกับป๋าชินยังไง"
"เอ่อ..." ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาทันที เวลางานอยู่แท้ๆ ยังกล้ากระโดดตามผมขึ้นรถแท็กซี่มาได้
ผมล้วงเงินในกระเป๋ายื่นให้พี่โต้ "นี่ค่ารถครับ"

"เฮ้ย ไม่เอาครับ พี่ออกให้" พี่โต้รีบปฎิเสธแล้วดันมือที่ถือแบงค์ห้าร้อยของผมกลับมา
ตอนยืนคุยกัน คนอื่นที่มารอรถก็มีแอบมองนะ แต่พวกผมไม่สนอ่ะ ไม่รู้จักกันสักหน่อย

"ไม่เอาอ่ะ พี่รับไปเหอะ ผมไม่อยากเก็บไว้เป็นหนี้บุญคุณกันที่หลัง" พูดเท่านี้ หน้าพี่โต้ก็หมองลงไปถนัดตา
"ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าพี่ชอบน้องเอ แล้วทำด้วยความเต็มใจน่ะเหรอครับ"
"พูดเพราะอยากให้ตัดใจไง พี่น่ะเป็นคนดี ยังมีโอกาสได้เจอคนดีๆ กว่าผมอีกเยอะ เพราะงั้นรับไปเถอะครับ" ผมคว้ามือพี่โต้มายัดเงินใส่
"น้องเอเลิกกับเขาไม่ได้เหรอ!" อิพี่โต้โผงขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมนี่มองตาค้างไปสิบวิฯ
คนทั้งป้ายสอดส่ายสายตาอยากรู้อยากเห็นกันเต็มพิกัด

"พี่โต้พูดอะไรรู้ตัวป่ะน่ะ" ผมดัดเสียงเข้ม
"พี่รู้ตัวครับว่าพูดอะไร แล้วก็รู้ด้วยว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องเอร้องไห้"
"บ...บ้าหรือเปล่า" ผมรีบหันหนีมองหารถเมล์สายที่จะขึ้น
"เพราะคุณชินใช่มั้ย?"
"ไม่ใช่" ผมสวน
"ถ้างั้นวันนั้นที่พี่เห็นน้องเอตาบวมออกมาจากห้องน้ำหลังคุณชินเข้าห้องก็คงตาฝาดไปเอง..."
พี่โต้พูดน้ำเสียงจริงจัง จนผมต้องหันกลับไปจ้องหน้า

"น้องเอเคยพูดใช่มั้ยล่ะว่า คุณชินเป็นแฟน ตอนที่ได้ยินพี่ไม่เชื่อก็จริง แต่ตอนนี้พี่เริ่มจะคิดแล้วล่ะว่า น่าจะใช่อย่างที่น้องเอพูด"
คิดได้ช้าไปมั้ยครับ แถมไปเห็นตอนหน้าอายเข้าเสียด้วย บอกตรงๆ น้องเออยากแทรกแผ่นดินหนีตรงนี้เลย
หนอย อิป๋านะอิป๋า ทำให้กรูช้ำใจไม่พอยังทิ้งระเบิดลูกโตไว้ให้กรูได้อายอีก เชี้ย!!

"เออ ใช่แล้วไง ถึงงั้นมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่โต้นี่" ไหนๆ มาถึงขั้นนี้แล้วก็ยอมรับไปเลยแม่งเหอะ
"น้องเอพูดมาก็ถูก พี่คงจะได้ใจมากเกินไป ขอโทษครับ" โห เอาซะกรูรู้สึกผิด
"ผมไม่ได้จะว่าอะไรพี่โต้นะ แต่ผมชอบพี่ไม่ได้จริงๆ ผมรักป๋า..." จู่ๆ ก็รู้สึกจุกขึ้นมาถึงลิ้นปี่ แล้วน้ำตาก็ไหล
พี่โต้ตกใจ หันซ้ายหันขวาลนๆ จากนั้นก็ยกมือขึ้นโบกรถแท็กซี่ก่อนจะเปิดประตูคว้าแขนผมให้ตามเข้ามานั่งอย่างรวดเร็ว

"ไปไหนครับ?"
"บ้านอยู่ไหนน้องเอ" พี่โต้ถามผมแบบด่วนๆ
"ประชาชื่น ซอย......ครับ" ผมตอบทั้งน้ำตา (ยอมรับครับว่าตอนนั้นโคตรอ่อนแอ)
คนขับกดมิเตอร์แล้วออกรถไปตามเส้นทางที่จะนำไปสู่จุดหมายปลายทาง
พี่โต้เอนหลังพิงเบาะพลางถอนหายใจเบาๆ มือข้างหนึ่งที่ไม่ได้จับผมไว้พาดอยู่ตรงหน้าผาก

"คิดว่าแพ้เฉพาะน้ำตาผู้หญิงซะอีก น้ำตาของคนที่ชอบก็แพ้ด้วยวุ้ย" เหมือนจะพูดคนเดียว เพราะหลังจากจบประโยคนี้พี่โต้ก็เงียบกริบ
รถแท็กซี่ขับมาส่งถึงหน้าบ้าน พี่โต้บอกให้แท็กซี่รอแล้วจูงผมที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุดลงจากรถ ผมก็เดินตามอย่างว่าง่าย และไม่มีเหตุผมอะไรให้ปฎิเสธด้วย

"หยุดร้องได้แล้วน้องเอ ถึงบ้านแล้วนะ" พี่โต้ดึงชายเสื้อยืดสีขาวของตัวเองขึ้นมาพร้อมๆ กับกดหัวผมให้ลงต่ำเพื่อเช็ดน้ำตาให้
"ฮะ...ฮึก พี่โต้ผมเจ็บ!" ผมสะบัดหัว ถอยหลังออกมาสองก้าว
"ทำอย่างกับคนอกหัก ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร พี่สิอยากจะร้องมากกว่า" พี่โต้ยิ้มเศร้า
"ไม่ใช่...ก็คล้าย..." ผมพึมพำมองหน้าพี่โจ้เขม็ง
"พี่ไม่ตัดใจหรอกนะ ถึงจะรู้ว่าสู้ไม่ได้แต่พี่ไม่ตัดใจแน่" พี่โต้ก้าวเท้ายาวๆ เข้ามาหาผมหนึ่งก้าว
"เลิกกันเมื่อไหร่ อย่าลืมว่าพี่รออยู่นะครับ" ยื่นหน้ามากระซิบข้างหูผมแล้วหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถ

ผมยืนยกมือขึ้นจับหูข้างที่ถูกกระซิบมองส่งรถแท็กซี่อยู่หน้าประตูรั้วบ้าน โดยไม่ทันคาดคิดว่า...
ไอ้สิ่งที่อิพี่โต้ทำทิ้งไว้กับผมเมื่อกี้มันจะมีความหมาย ผมปาดน้ำตาหันหน้าเข้าบ้าน ทว่ายังไม่ทันเปิดประตูรั้ว
แขนผอมๆ ของผมก็ถูกกระชากอย่างแรงจากทางด้านหลัง


**********************************************************************************************


ปล. รู้นะว่ามันสั้น แต่ก็ต้องตัดลงก่อนเพราะ หนึ่ง เสาร์กับอาทิตย์คงไม่ได้มาลงแน่ (จะไปเที่ยว)
สอง เจ้าของคอมหยุดงานต้องใช้คอมแน่ๆ สาม อยากแกล้งคนอ่านให้ค้างๆ คาๆ (หัวเราะ)
จริงๆ จะลงตอนพิเศษ แต่แบบว่า ตอนหลักมันกะลังดราม่าใช่มะ อิคนเขียนเลยกลัวว่าเดี๋ยวมันจะขัดกันเพราะงั้นเลยยกเลิก
แต่สัญญาว่า วันจันทร์จะกลับมาลงให้ยาวๆ เท่าเดิมนะคะ รักคนอ่านมากมายก่ายกอง จ๊วบ!!  :mew1:


หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 14-03-2014 18:35:09
ป๋าดึงหรอออออออ  :ruready
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 14-03-2014 18:46:16
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง TT
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 14-03-2014 19:16:41
ป๋านี่ขยันทำร้ายจิตใจกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: michiri.sama ที่ 14-03-2014 19:31:38
ป๋าเข้าใจผิดแหงมมมม เดี๋ยวก็พูดเดี๋ยวก็ทำรุนแรงให้น้องเอปวดใจอีกอะ
อะไรกันหนอคู่นี้ ประชดกันไปมา

ตอนแรกๆหมั่นไส้น้องเอจริงค่ะ แต่พอตอนผ่านๆมาปุ๊บ เปลี่ยนข้างแทบไม่ทัน 55555

น้องเอเค้าได้รับบทเรียนแล้วแหละป๋า ส่วนจะปรับปรุงตัวได้ไหมเป็นเรื่องของอนาคตที่น้องเอต้องพยายาม ตอนนี้เป็นหน้าที่ของป๋าที่ต้อง"ฟังอย่างจริงๆจัง"บ้างแล้วนะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-03-2014 20:05:56
พี่โต้นี่ก็ยังไง จ้องจะเสียบอยู่เรื่อย จริงๆไม่ค่อยปลื้มคนแบบนี้อ่ะ เชียร์ป๋าเหมือนเดิม :hao3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kik ที่ 14-03-2014 21:07:39
รอ กำลังค้างได้ที่ :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 14-03-2014 21:28:37
ฉากสุดท้ายถ้าป๋าเห็นเราจะสมน้ำหน้าป๋านะ
คืออย่างน้อยเอก็ปฏิเสธโ้แบบเด็ดาดแต่กับป๋าไม่เห็น
ทำอะไรให้ชัดเจนกับยัยวิอะไรนั่นเลย ครั้งนี้เราขอย้ายฝั่ง
มาเชียร์เอนะป๋า ป๋าไม่เด๋ดขาดปล่อยให้ยัยชะนีนัวเนียเองช่วยไม่ได้  :katai1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 14-03-2014 21:46:38
ลาก่อนป๋า  :bye2:

ขนาดป๋าพูดจาทำร้ายขนาดนั้น  น้องเอยังไม่คิดจะทำตัวไม่ดีให้ความหวังอิพี่โต้เลยอ่ะ  o13

หมั่นไส้อิป๋าโว้ยยยยยยยยยยยย !

รอคนเขียน  :hao5:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 15-03-2014 00:02:17
อิโต้!!!!!
อิวิ!!!!
ไม่มีไรทำกันเลยใช่มั้ยห๊าาาา
โอ๊ยเดือดมากตอนนี้
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 15-03-2014 02:40:43
เพิ่งเข้ามาอ่านค่าาา

แปะไว้ก่อน ตามอ่านทันแล้วจะมาเม้นใหม่ :bye2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 17-03-2014 13:59:39
อ่านแล้วนอนไม่หลับไปสองวันเลย  รอนะก๊าบ  :hao5:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: khaohom552027 ที่ 17-03-2014 20:02:53
พึ่งตามมาอ่าน ชอบมากค่ะ รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ว หวังว่าป๋าจะไม่ทำร้ายเอนะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 22 ไม่ตัดใจ (14/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-03-2014 20:45:35
มันค้างงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 18-03-2014 16:45:48




รักบอดๆ ตอนที่ 23



ตาประสานตา
น้ำหนักมือและนิ้วกดลงหนักเสียจนรู้สึกเจ็บแปลบตรงบริเวณปลายแขนที่โดนจับ
หน้าอีกฝ่ายกำลังโกรธจัด ทั้งยังเป็นความโกรธชนิดที่ไม่เคยแสดงให้เห็นมาก่อนสักครั้ง

"ป๋าชิน...!" ผมเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ มาเมื่อไหร่ ตอนไหน ทำไมผมไม่ทันสังเกตเห็น?
"ทำไมเพิ่งกลับ!" ตวาดใส่เสียงดัง

พยายามตั้งสติ บอกกับตัวเองว่าเราไม่ผิดอย่าได้กลัว
ผมสะบัดแขนออกสุดแรง ทำหน้าไม่แยแสมองอีกฝ่าย

"แล้วเกี่ยวอะไรกับป๋าด้วย อ้อ! โดนผู้หญิงสวยๆ คนนั้นทิ้งมาหรือไง ถึงได้กลับมาเรียกร้องความสนใจเอากับผม"
"อย่าประชดน้องเอ พี่ถามก็ตอบมาดีๆ" ป๋ากดเสียงต่ำ ราวกับกำลังควบคุมอารมณ์ให้เย็นกว่าที่เป็น ผมฝืนยิ้มเยาะ
"พูดความจริงเลยรับขึ้นมาไม่ได้งั้นสิ...อืม ใช่สินะ ผมทำไรก็ผิดไปหมดเลยนี่ ไม่เหมือนป๋าหรอก ขนาดยืนให้ผู้หญิง
เอานมเบียดแทบจะสิงเข้าไปในร่าง ป๋าก็ยังถูกเสมอ"

"น้องเอ! คุณวิเขาเป็นลูกค้าพี่นะ"
"ลูกค้าป๋าแล้วมีสิทธิ์เข้าไปควงแขนออเซาะกันขนาดนั้นเลยเหรอ!"
"แต่ยังไงเขาก็เป็นลูกค้า"
"ก็แล้วทำไมป๋าไม่คิดบ้างเล่า ว่าพี่โต้เขาก็แค่คนรู้จักผม"
"มันไม่เหมือนกันน้องเอ"
"งั้นถ้าป๋ากับผู้หญิงคนนั้นไปนอนด้วยกัน ผมคงต้องยอมรับเพราะเขาเป็นลูกค้าด้วยใช่มั้ย"
"น้องเอ!"
"หึ! ผมว่านะ ผู้ชายปกติอย่างป๋าน่ะ กลับไปคบหากับผู้หญิงเหมือนเดิมเถอะ อุตส่าห์สละเวลามาคบกับเด็กนิสัยเสียอย่างผมไป
ก็ไม่ทำให้ป๋ามีความสุขหรอก แต่งงานก็ไม่ได้ ลูกก็มีไม่ได้ คนในสังคมยังไม่ยอมรับอีกต่างหาก แล้วไอ้คำว่า ห่างกันสักพักน่ะ ผมว่า
เปลี่ยนเป็นเลิกกันเลยจะดีกว่ามั้ย อะไรๆ จะได้ง่ายขึ้น"  ทุกคำพูดที่หลุดออกจากปากผม ไม่ใช่ไม่คิดนะครับ แต่คิดก่อนแล้วจึงพูด
ยอมรับเลยก็ได้ ตอนนี้ความอดทนของผมมันมาถึงขีดสุดแล้ว

"น้องเอพูดอะไร" น้ำเสียงดุดันในตอนแรกเริ่มสั่นคลอน แต่มีเหรอผมจะยอม
ผมเบือนหน้าหนี สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสะกดกั้นน้ำตาไม่ให้ไหล

"ผมเหนื่อย"
จบด้วยคำสองคำ แล้วเปิดประตูรั้วเข้ามาในบ้าน เอาจริงๆ นะ ตั้งแต่คบกับป๋าชินมา ผมก็เฝ้าบอกกับตัวเองตลอดไม่ต่างกับการสะกดจิต
ให้ฝังอยู่ในรากสมองเรื่องของความเชื่อใจ แต่สุดท้าย... ความพยายามของผมที่สร้างสมมาเป็นอันสูญเปล่า เพราะคำพูดไม่รักษาน้ำใจไม่กี่คำ
ยิ่งคิดยิ่งแค้น ไม่เชื่อใจกันไม่ว่า ยังมีหน้าปล่อยให้ผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มาทำอ้อล้อใส่ต่อหน้าผมอีก ไม่ฆ่าให้ตายทั้งคู่ก็ดีขนาดไหนแล้วแม่ง!!

"น้องเอ มีเหตุผลหน่อยสิ"
"เพี้ยะ!!" หันไปตบหน้าคนที่เดินตามมารั้งไว้เต็มแรง เจ็บทั้งมือเจ็บทั้งใจ
"แล้วป๋าเคยมีเหตุผลกับผมบ้างมั้ย?" ผมกัดริมฝีปากพลางลดมือชาๆ ที่ตบหน้าป๋าลงข้างลำตัว
"ทำมาใช้คำพูดสวยหรูให้ดูเหมือนกับผมผิดทุกอย่าง ทั้งๆ ที่จริงป๋าก็ไม่เคยคิดจะฟังเหตุผลหรือทำความเข้าใจกับคำอธิบายของผมเลย"
"นั่นมัน..." ป๋าชินเตรียมจะพูด ทว่าเห็นน้ำตาผมไหลก็ตัดใจหุบปากมองผมเงียบๆ

"เมื่อคืนป๋าบอกผมว่า บางครั้งป๋าก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่คนรักของผม และถามผมทำไมป๋าถึงเป็นอย่างนั้น
ตอนนี้ผมคิดออกมาได้ข้อหนึ่งแล้วล่ะ" ผมมองตาป๋าชิน "นั่นก็เพราะ ป๋าไม่เคยเชื่อใจในความรักของผมที่มีให้กับป๋าเลยไง!!"
ก็ไม่รู้หรอกครับว่าร่างกายของผมแม่งไปกลั่นเอาน้ำจากตรงไหนมาออกนัก ทิ้งตัวลงนั่งยองๆ เหมือนคนหมดแรง
เอาหน้าซุกเข่าร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายแบบไม่อายฟ้าอายดิน

"ไปคุยกันที่บ้านเราดีกว่าน้องเอ" ป๋าค่อยๆ ฉุดแขนผมให้ลุกขึ้น
"ไม่ไป ผมไม่อยากคุยกับป๋าแล้ว ผมเหนื่อย ผมท้อ ผมอยากอยู่คนเดียว" คราวนี้หย่อนก้นแหมะลงบนพื้นทางเดินเข้าบ้านเลยครับ
"ลุกน้องเอ ดึกแล้วเกรงใจคนในบ้านบ้าง" (ประมาณสี่ทุ่ม)
"ไม่ต้องมาสั่ง จะไปไหนก็ไป จะห่างสักพักหรือจะห่างตลอดชีวิตยังไงก็เชิญ ไม่เอาแล้ว!" กระชากแขนออกจากมือป๋า
"อย่าดื้อได้มั้ย"
"อะไรก็อย่าดื้อๆ เคยถามตัวเองบ้างมั้ยว่าทำไมถึงทำให้ผมต้องเป็นแบบนี้"
"ปากบอกว่ารักอย่างงู้นอย่างงี้ แต่ก็ไม่เคยจะเชื่อใจ ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้รักให้ตายชีวิตคู่แม่งก็ไม่มีความสุขหรอก ไปไหนก็ไปเลยไป๊!!"
คว้าเศษหินเศษหญ้าปาใส่ป๋าด้วยสายตาตัดพ้อ แล้วก้มหน้าสะอึกสะอื้นต่อเป็นวรรคเป็นเวร ช่างเป็นสภาพผู้ชายอายุสิบเก้าที่ดูไม่ได้สุดๆ

"ไม่ลุกดีๆ ใช่มั้ยน้องเอ" น้ำเสียงไร้วี่แววของความอดทนโดยสิ้นเชิง
"ไม่ลุก ให้ตายตรงนี้ก็ไม่ลุก" สิ้นสุดคำพูดอย่างคนไม่ยอมแพ้ ร่างอันบอบบางของผมก็ถูกจับยกพาดบ่าราวกับกระสอบข้าวสาร
"อยู่นิ่งๆ ไม่งั้นจะจับโยน" ป๋าสั่งเสียงเหี้ยม ผมนิ่งค้างสองมือจิกเล็บลงบนแผ่นหลังเจ้าตัวด้วยความตกใจ ว่าแต่...
ดักทางกันก่อนงี้แล้วกรูจะกล้าดิ้นมั้ยล่ะครับ?!


**********************************************************************************************


ตุบ!!
ป๋าชินแบกผมเข้าห้อง ปิดประตูใส่กลอนแล้วโยนผมลงบนเตียงทันที

"วันนี้ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง อย่าหวังว่าจะได้นอน" ป๋าชินบอกก่อนจะโถมน้ำหนักตัวลงมากดทับผมไว้
"ออกไป ผมกับป๋าไม่มีอะไรจะต้องพูดกันแล้ว" ผมขืนแรงสุดตัวเพื่อให้หลุดจากการกักกัน น้ำตาก็ไหล หายใจก็ยาก
"ไม่มีทาง"
"พี่ชิน!" โกรธสุดๆ แล้วนะ
"วันนี้ หนีพี่ไปไหนกับโต้มา"
"ผมไม่จำเป็นต้องตอบ ปล่อย!"
"ตอบมาดีๆ" ป๋าย้ำเสียงเย็นน่าขนลุกพลางรวบแขนสองข้างของผมขึ้นไปไว้เหนือหัว
พร้อมกับดึงเนคไทออกจากคอตัวเองมามัดแขนผมติดกับหัวเตียงที่เป็นเสาเหล็ก

"พี่ชินจะทำอะไร?" ผมเริ่มหวั่นใจกับการกระทำที่น่างุ่นงง "อย่าทำบ้าๆ นะ ไม่งั้นผมร้องให้คนที่บ้านช่วยจริงๆ ด้วย"
"ผัวเมียทะเลาะกัน พ่อกับแม่ไม่เข้ามายุ่งหรอก"
"โธ่เว้ย ไอ้ป๋าบ้า บอกให้ปล่อยไงวะ!!"
"โอ๋ๆ ไม่ต้องกลัวนะน้องเอ พี่ไม่ทำอะไรรุนแรงหรอก แต่ถ้าน้องเอยังดื้อไม่ตอบก็อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะครับ"
หางเสียงกลับมาแล้วครับ แต่ผมไม่ยักดีใจ มิหนำซ้ำยังแอบหลอนๆ กับรอยยิ้มเสริมที่แถมมาด้วยอีกต่างหาก สถานะการณ์ไม่มั่นคงชอบกล

"ไอ้โรคจิต"
"ให้ตอบอีกครั้ง"
"ชิส์ บอกไปป๋าก็ไม่เชื่ออยู่ดี จะมาถามให้เสียเวลาทำไม คิดยังไงก็ให้เป็นเป็นอย่างนั้นแหละ" ผมหลบสายตา รู้สึกเสียดแน่นอยู่ในอก
"ถ้าให้เป็นอย่างที่พี่คิด พี่จะคิดว่าน้องเอมีใจให้กับโต้นะ"
"ประสาท!" ผมหันมาสบตาป๋าอย่างรวดเร็ว "เอาสมองส่วนในคิดไม่ทราบ"
"ส่วนที่รักน้องเอนี่ล่ะ...."
"เฮ๊อะ รักภาษาอะไร ทำกันแบบนี้" ป๋ามองผมนิ่ง แววตาที่เคยเฉยฉามีแต่ความโกรธ บัดนี้หลงเหลือไว้เพียงความกังวล
ผมถอนใจ "ถามจริงๆ ป๋าชินเสียใจมั้ยที่มารักผม"

"ไม่"
"แล้วเหนื่อยมั้ยที่ไม่เชื่อใจผม"
"อืม"
"งั้นทำไมถึงไม่คิดจะเชื่อใจผมบ้าง"
"พี่ไม่รู้" ป๋าตอบเสียงสั่น ตาขาวเริ่มแดงก่ำ แก้มด้านที่โดนตบยังขึ้นเป็นรูปมือ
"ป๋ากำลังเทียบผมอยู่กับใครหรือเปล่า" เรามองตากัน ห้องทั้งห้องเงียบสนิท ป๋าชินแก้มัดผมแล้วพลิกตัวลงไปนอนหลับตานิ่ง
"หากมีให้เทียบ พี่ก็คงไม่ต้องมาเป็นกังวลเรื่องน้องเอมากมายขนาดนี้ บางครั้งพี่ก็รู้นะ ว่าหึงมากไป แต่พี่รักของพี่ ไม่อยากให้ใครมาแย่งไป
อยากเก็บไว้กับตัวไม่ให้ห่าง น้องเอยังเด็กยังมีโอกาสเจอใครอีกมาก มันยิ่งทำให้พี่ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะดีพอสำหรับให้น้องเอหยุดอยู่ที่พี่"
ได้ฟังเหตุผล ไอ้ที่โกรธๆ อยู่มันก็หายวับไปกับตา ความรักนี่มันสามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ ผมพลิกตัวขึ้นไปเป็นฝ่ายทับคนแก่

"ไม่มั่นใจตัวเอง กับไม่เชื่อใจกันมันต่างกันนะป๋า"
"ก็ว่างั้น" ป๋าชินลืมตาพลางยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาให้ก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ
"ถามจริงๆ เถอะ หนีพี่ไปไหนกับโต้มาครับ เห็นมีกระซิบกระซาบเหมือนกับจะหอมแก้มกันด้วย"
"ยังไม่จบอีกเหรอเนี่ย" ผมขมวดคิ้ว
"อืม"
"เออตอบก็ได้ พี่โต้เขาเห็นผมร้องไห้ก็เลยพาไปเดินเล่นที่สวนรถไฟ"
"แค่นั้น?"
"ก็แค่นั้นแหละ ผมก็ปฎิเสธไปชัดๆ แล้วด้วย ว่าแต่ป๋าเถอะ ยอมปล่อยให้ยัยคุณวินั่นแตะเนื้อต้องตัวได้ไง หัดหวงบ้างสิครับ"
"หึงเหรอ" ป๋ายิ้มบางแต่ก็ยังดูฝืนๆ
"คิดว่าผมหึงคนรักตัวเองไม่เป็นไง ดูถูกกันเกินไปแล้ว ชิส์"
"แต่ก็ไม่เคยเห็นจะแสดงออกชัดๆ"
"มันไม่ใช่นิสัยผมนี่"
"ก็น้องเอเป็นแบบนี้ไง พี่ถึงไม่มั่นใจว่าถูกรักจริงหรือเปล่า" ป๋าชินทิ้งมือที่ลูบหัวผมลงกับเตียง
หน้าตาหมดอาลัยตายอยากเหลือแสน

"จะให้เป็นแบบป๋าก็ไม่เอาด้วยหรอก เยอะเกิ๊น"
"...จะพยายามลดลงครับ ขอโทษที่ไม่เชื่อ"
"แล้วจะยกเลิกยัง"
"เรื่อง?"
"ห่างกันสักพักอ่ะ"
"ไม่ได้คิดตั้งแต่แรกแล้วครับ แต่เผลอพูดไปแล้วมันก็เลยตามเลย" เสียงอ่อนเสียงเบาเชียะ
"ให้จริงเหอะ โป๊ก!!" ผมโขกหน้าผากลงบนหน้าผากแกแรงๆ เจ็บทั้งคู่ ทว่าค่อนข้างสะใจไม่น้อย
"จะไปไหนครับ"
"ไปอาบน้ำ ร้องไห้ทั้งวัน เหนื่อย แล้วก็จะไปนอนกับแม่ด้วย ไม่ต้องตามมาล่ะ สำนึกผิดไปซะ!"
บอกพร้อมกับชี้หน้าป๋าที่จะลุกขึ้นมาจับตัวผมไว้ แล้วรีบจรลีหนีห่างออกมาทันที
หายโกรธก็จริง แต่ยังไม่หายเคืองที่ทำให้ผมต้องทุกข์ใจ ฉะนั้นนอนเหงาไปคนเดียวเหอะ!


**********************************************************************************************

ปล. อารมณ์มันก้ำกึ่งเนอะ ใครที่คิดว่าตอนนี้มันไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย ขอให้เข้าใจทั่วกันว่า ไม่อยากจะดราม่าแล้ว!!! เครียดอ่ะ งื๊อ!
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: khaohom552027 ที่ 18-03-2014 17:10:59
เย้ ในที่สุดก็ดีกัน แต่ น้องเอต้องลงโทษป๋าเยอะๆนะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-03-2014 17:12:37
เอ เรื่องนี้จริง ๆ มันเริ่มที่น้องเองอแงไร้เหตุผลก่อนนี่หว่า
แล้วไหงลงท้ายด้วยป๋าเป็นคนง้อหว่า แต่ก็นะ พอกันทั้งคู่
น้องเอเวลาไม่มีเหตุผลนี่ก็เหลือเกินจริง ๆ น่ามีเมียน้อยเป็นอย่างยิ่ง เฮ้อ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 18-03-2014 17:15:14
เราว่ามันก็สมเหตุสมผลดี สะใจที่เอตบป๋า
เป็นเราๆตบตั้งแต่ปล่อยให้ยัยชะนีวินั่นเอานมเบียดแล้วล่ะ
ยังแอบเคืองอยู่เนี่ย จริงๆแล้วป๋าเองนั่นแหละที่ไม่ชัดเจนไม่ใช่เอ
ไปจัดการซะอย่าให้น้องเอต้องร้ายจนตามไปตบมันเองนะป๋า  :katai1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: jimmyFG ที่ 18-03-2014 17:35:05
น้องเอไม่ผิด ป๋าต้องง้อ :hao7:


นี่แหละถูกที่สุด ฮ่าๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: michiri.sama ที่ 18-03-2014 17:50:56
เราว่าผิดทั้งคู่

ป๋า ไม่ชัดเจน ปล่อยให้ผู้หญิงมาใกล้ชิด"เกินไป"
ถึงคนของเราจะบริสุทธิ์ใจ แต่อีกฝ่ายไม่คิดอย่างงั้น
เราก็ควรแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำว่า
'มีคนรักแล้ว อย่าพยายามทำอะไรที่มันไร้ประโยชน์
เพราะไม่คิดจะสานต่อแน่ๆ'

เรื่องไหนที่ทำได้เฉพาะคนรัก เช่น แตะเนื้อต้องตัวแบบลึกซึ้งอย่างงี้ ป๋าชินควรรู้ตัวว่าอย่าไปทำกับใครและอย่าให้ใครมาทำกับเรานอกเหนือจากแฟน

ส่วนน้องเอ โตแล้ว แต่ความคิดและการกระทำยังเด็กนัก
มีแฟนเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้หมายความว่าเราจะเอาแต่ใจและเขาจะตามใจได้ตลอดเวลานะ
เรื่องทิฐิ เรื่องดื้ออะไรนี่ ถ้าน้องเอรู้ตัวว่ามันทำให้ป๋าเหนื่อย ก็ลดๆมันลงบ้างดีไหม

แต่น้องเอเจ๋งกว่าป๋าตรงที่ชัดเจนกว่า รักคือรัก รักไม่ได้ก็บอกตรงๆ
ตอนนี้เอเด็ดขาดดีนะ เราชอบ (เพราะแอบหมั่นไส้ป๋าจากตอนแล้วๆด้วย ไม่ฟังไรเลย หึงอย่างเดียว 5555555)

แต่น้องเอนะ มีอะไรอย่าหนีปัญหาดิ ถ้าพูดจาวกวนหรือประชดกัน สุดท้ายเรื่องก็จะไม่เคลียร์และเจ็บกันทั้งสองฝ่าย
ถ้ามั่นใจว่าเราไม่ผิดก็อธิบายตรงๆ ป๋าคงเข้าใจ

หวังว่าตอนหน้าจะมีฉากหวานแหววนะคะ หมดดราม่าแล้วมั้ง ;____;
อืดมาหลายตอนแระ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mamaUM ที่ 18-03-2014 17:56:17
เบื่อนะ คนที่คิดว่าตัวเองถูกตลอด

เมะต้องง้อเคะตลอด เพราะเป็นเมะ คือมันไม่ใช่นะเราว่า

เรื่องมันยังไม่เคลียเลย ถ้าเราเจอแบบป๋าเราก็ไม่ยอมอะ ไอ้มีเบอร์โทรคนอื่นอยู่ในกระเป๋าแฟน

มันไม่รับมาก็ได้ เอาไปทิ้งก็ได้ คือมีวิธีมากมายในการปฏิเสธ

พอถึงเวลาก็หนี เราว่าเหนื่อยตายอะถ้ายังเป็นแบบนี้ ต่อมาก็เห็นผญ.อยู่กับแฟนตัวเองก็หนีอีก แล้วดันไปอยู่กับคนที่จะจีบตัวเองถึงจะบอกว่าปฏิเสธแช้วแต่อีกคนก็ไม่ตัดใจนี่ มันก็เหมือนให้ความหวังไปเรื่อย

พอมาตอนนี้ก็ให้ป๋ามาง้ออีก ทั้งๆที่ตอนแรกคนผิดมันก็เห็นๆอยู่ว่าใครอะ นี่มันเหมือนยังไม่ได้แก้ไขเลยสุดท้ายป๋ามาขอโทษเรื่องที่ไม่เชื่อใจ คือไอ้ขอโทษอะถูก แต่เอก็ควรเคลียร์นิสัยตัวเอง เคลียร์ประเด็นก่อนป่ะ ไม่ใช่ของตัวเองปล่อยผ่านของป๋านี่ความผิดใหญ่เท่าภูเขา

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-03-2014 18:52:50
เอจะมางอนต่ออีกทำไมห๊าาา
ตัวเองไม่ใช่เหรออยากเคลียร์ อยากจบ
เดี๋ยวปั้ดให้ป๋าขังไว้ในห้องนั่นแหละ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-03-2014 19:17:16
จะอะไรก็็ช่างเถอะคืนดีกันได้ ก็ดีแล้ว
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 18-03-2014 20:57:22
พอดีๆ ผมชอบนะ  o13

เอเป็นคนเกรียนๆ ไม่เครียดอยู่ล่ะไง .. ส่วนป๊าก็เป็นผู้ใหญ่มีเหตุผลมากพอ ((ยกเว้นตอนนังวิ))  :hao7:

มาม่าพอกรุบกริบ แล้วกลับมาเหมือนเดิม .. พอดีสุดๆ อ่ะ ชอบๆ  :katai2-1:

รอตอนต่อไปครับ ((กระโดดกอดคนเขียน))
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 23 (18/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 18-03-2014 23:02:33
อืม หลังจากดูๆแล้ว น่าจับตีก้นทั้งคู่เลย เป็นงี้บ่อยๆไม่ไหวจะแย่เอานะ  พูดจาไม่รู้เรื่องกันไม่ฟังกันเรื่องถึงไม่จบ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 24 (19/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 19-03-2014 18:46:13

รักบอดๆ ตอนที่ 24



เอาเข้าจริงๆ เสือกนอนไม่หลับ รู้สึกกระสับกระส่ายเหมือนหาหมอนกอดไม่เจอ
ผมกระดกตัวลุกนั่งบนที่นอนปิกนิกข้างเตียงของพ่อกับแม่ในความมืด คลานจากที่นอนมาเปิดประตูอย่างเงียบเชียบ
แล้วออกมายืนหัวโด่อยู่หน้าห้องตัวเองที่ชั้นล่าง อารมณ์นั้นไม่ค่อยแน่ใจครับ ว่าไอ้คนข้างในมันล็อกประตูไว้หรือเปล่า
ต้องยืนทำสมาธิกันอยู่นานมากกว่าผมจะกล้าเปิดประตูเข้าไป

"โห ไฟเฟยก็ไม่ปิด" ผมบ่นอุบเมื่อเห็นไฟในห้องเปิดสว่าง
แถมบนเตียงสามฟุตครึ่งป๋าชินยังนอนก่ายหน้าผากตายอยู่ในชุดเดิม

ผมส่ายหน้าพลางเข้ามาดึงผ้านวมตรงปลายเท้าเจ้าตัวขึ้นห่มให้ ก่อนจะเดินกลับไปปิดไฟที่หน้าประตู
แล้วมาล้มตัวนอนบนพื้นที่ว่างข้างๆ ป๋าชินจากนั้นก็หลับ

ฝันแปลกๆ แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าฝันถึงอะไร

เช้าตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการขั้นเนื้อขั้นตัว หัวหนุนอยู่บนแขนป๋าชิน ทั้งยังโดนกอดเอวเอาไว้
ได้ยินเสียงพูดคุยดังแว่วมาจากด้านนอก ฟังแล้วน่าจะเป็นเสียงของคนในบ้านที่ตื่นเช้ากันเป็นปกติ
ผมเงยมองหน้าป๋าชินจากมุมต่ำ หนวดเคราเขียวครึม ขนตาเป็นแพรหนาทั้งสองข้างสั่นระริก แกล้งหลับหรือเปล่าวะ?

"ป๋า" เอานิ้วชี้เขี่ยหลังคนแก่เล่น ทำให้แรงแขนที่รัดแน่นอยู่แล้วยิ่งกระชับหนัก
"ตื่นดิ ผมมีเรียนเช้านะ แล้วก็กอดเบาๆ หน่อย เจ็บ"
"เข้ามานอนตอนไหนครับ" ป๋าชินลืมตาพร้อมกับก้มหอมหน้าผากผมเบาๆ
"ตีสามมั้ง นอนไม่หลับ คิดถึงคนแก่" ผมยิ้มตอบ
"อืม"
"วันนี้ไปทำงานเปล่า"
"ไปครับ"
"แล้ว..."
"แล้ว?"
"ยัยคุณวินั่นจะมาอีกป่ะ"
"ไม่รู้สิ"
"ไม่รู้ได้ไงอ่ะ ลูกค้าป๋าไม่ใช่เหรอ" ผมเบ้หน้าบูด
"เมื่อวานพี่ผิดนัดเขา ไม่รู้วันนี้จะมาทวงสัญญาหรือเปล่า"
"หือ? ไปนัดอะไรกันไว้ เรื่องงานหรือเรื่องอื่น เอาดีๆ นะ" ผมงัดตัวเองออกจากแขนป๋าชินมานั่งจ้องจะเขมือบ
"นัดไปทานข้าวครับ แล้วก็เกี่ยวกับเรื่องงานด้วยนั่นล่ะ" ป๋าชินดึงผมเข้าไปกอดใหม่
"เอาเป็นว่าพี่จะไม่ให้เขาเข้ามายุ่มย่ามนอกเหนือจากเรื่องงานแล้วกันนะ"
"ให้จริงเหอะ แต่ผมว่ายัยคุณวิต้องคิดกับป๋ามากกว่าเรื่องงานแหงๆ" ใครดูไม่ออกผมถือว่าโง่อ่ะ
"ไม่ต้องห่วงครับ ฟอดดดด" ขโมยหอมแก้มก่อนจะยิ้มกริ่ม
"ไม่ห่วงได้ไง แฟนผมทั้งคนนะครับ คราวหน้าถ้าเห็นถึงเนื้อถึงตัวเหมือนเมื่อวานนี้นะ ผมจะวีนให้"
"เอางั้นเลย ไหนบอกไม่ใช่นิสัยของน้องเอไง หืม"
"ไม่รู้ล่ะ ผมไม่ชอบยัยนั่นอ่ะ ทำเป็นพูดเหมือนมารู้จักป๋าดีอย่างนั้นอย่างนี้ เฮ๊อะ!"
"ฮ่ะๆ หายากอยู่นะที่น้องเอจะนินทาผู้หญิงแบบนี้ ท่าทางจะไม่ชอบจริงๆ นะเนี่ย"
"ก็เออสิ"
"เอ้าอึบ!" ป๋าออกแรงจับผมให้ขึ้นมานอนทับบนตัว
"ไหนขอดูหน้าหน่อย ดีขึ้นหรือยัง" จับหน้าผมให้ตั้งตรงเอานิ้วกดๆ แตะๆ บริเวรรอยช้ำกับแผลแล้วนิ่วหน้าเครียด
"เดี๋ยวก็หาย" ผมผลักมือป๋าออกพลางลุกนั่งคร่อมในท่าชวนหวิว
"ชอบทำเรื่องอันตรายนะเรา" ป๋าพูดเหมือนไม่ชอบใจแล้วจับมือผมไว้ทั้งสองข้าง
"อะไรเล่า ไม่ได้ชอบสักหน่อย"
"ครั้งหน้าก็หนีไปให้โดนกลับมาแบบนี้อีกนะ"
"ไม่ได้หนีเหอะ" อารมณ์ทำให้ขาพาไปล้วนๆ
ผมดึงมือออกกะจะลุกไปอาบน้ำ แต่ป๋าไม่ยอมคว้าแขนผมดึงกลับจนล้มลงไปกลายเป็นฝ่ายถูกทับแทน

"จะไปไหน ไม่ให้ไปครับ อยู่ก่อน"
"อย่าเยอะป๋า ดูนาฬิแกดิ๊ นี่กี่โมงแล้ว"
"หกโมงครึ่ง" ป๋าทำหน้ากรุ้มกริ่มอย่างไม่ต้องให้ผมใช้สมองเดาอะไรมากมาย
เพราะบัดนี้เจ้าปืนใหญ่พร้อมประจำการรบอยู่แถวต้นขาของผมแล้ว หื่นว่ะ

"ไม่ทำนะป๋า" ผมส่ายหน้าดิก
"ไม่ทำอะไรครับ?" ยิ้มละมุนอุ่นละไม ทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์ที่ยากจะอธิบาย บอกตรงๆ กรูกลัวครับ
"ก็อะไรที่ป๋าคิดจะทำอยู่ตอนนี้นั่นล่ะ"
"ถ้าไม่ทำอย่างที่คิดอยู่ตอนนี้ น้องเอจะอนุญาตใช่มั้ย" นั่นไง หายนะคลืบคลานมาเยือนกันละคราวนี้
"ผมยังเจ็บอยู่นะ วันอื่นได้ป่ะ" ทำเสียงอ้อนๆ เข้าว่า เผื่อรอดจากสถานะการณ์เปิดประตูทะลวงด่าน คริคริ
ป๋าชินมองหน้าผมแล้วนิ่งค้างอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็ถอดใจพลิกตัวกลับไปนอนแผ่ท่าเดิมเหมือนกับเมื่อคืน

"อย่างอนนะป๋านะ จุ๊บจุ๊บ!" คลานไปจุ๊บปากซ้ำสองสามที หน้านิ่งๆ ก็ยังไม่ยิ้ม
"ใช้ปากช่วยเอาป่ะ" ยกนิ้วแตะปากตัวเองแล้วทำปากจู๋ น่ารักเปล่าไม่รู้ แต่ทำให้ป๋าผมยิ้มได้ละกัน
"ไปอาบน้ำเถอะครับ" ป๋าบอกยิ้มๆ
"อ้าว ไม่เอาเหรอ หรือจะให้ไปทำในห้องน้ำ"
"เก็บไว้คราวหน้าแล้วกันครับ"
"เอางั้นเหรอ แน่ใจนะ" ผมแลบลิ้นเลียนิ้วกลางตัวเองตั้งแต่โคนจนถึงปลาย
"ไม่เลิกทำแบบนั้นระวังจะไม่ได้ไปเรียนนะครับ" ป๋าเลียริมฝีปากแล้วส่งสายตาเซ็กซี่
"อืมม อยากเปลี่ยนใจเหมือนกัน..." วางมือแปะลงไปบนต้นขา ลูบไล้ขึ้นลงอย่างแผ่วเบา
กระตุ้นให้อีกฝ่ายเกิดอารมณ์อยากสุดๆ แล้วลุกออกจากเตียง คว้าผ้าขนหนูหน้าตู้เสื้อผ้า
มาพาดไหล่ พร้อมกับหันไปบอกป๋าชินด้วยน้ำเสียงสดใส

 "...แต่ผมจะยอมเชื่อป๋า แล้วไปอาบน้ำดีกว่า" ฮา---

อาบน้ำเสร็จป๋าชินก็เข้าไปอาบต่อ ทำหน้าเหมือนจะยังงอนๆ ที่ถูกผมแกล้งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
แต่งตัวเสร็จออกจากห้องนอนเดินเข้ามานั่งในครัว แล้วหยิบปาท่องโก๋กินกับโอวัลตินที่แม่ชงให้ควบคู่ไปกับการนั่งเม้าส์บนโต๊ะอาหาร

"เสียงดังตั้งแต่หน้ารั้วบ้านยันในบ้านเลยนะเมื่อคืน" เฮียเอ็มไม่ยอมแซวปากเปล่า มีผลักหัวผมด้วย
"คนทะเลาะกันนะเฮีย ไม่ใช่นินทาชาวบ้านจะได้เสียงเบา"
"เหรอครับ พวกกูก็นึกว่ากลัวคนไม่รู้ว่ามึงมีผัวเป็นผู้ชาย" เฮียเอฟพูดน้ำเสียงแดกดัน
"เอฟ!" พี่แก้วที่ยืนป้อนข้าวให้หนูแดงหันมาแหวใส่ทันที อย่างว่านะ ผมน้องรักพี่สะไภ้เขา อิอิ
"อะไรแก้ว เอฟพูดเรื่องจริงนี่"
"จะจริงหรืออะไรไม่รู้แหละ แต่ห้ามพูดแบบนี้อีก มันฟังดูไม่ดีแล้วน้องเอก็น้องเอฟนะ"
"เออ ครับๆ ขอโทษครับคุณแก้ว แตะไม่ได้เลยไอ้เอเนี่ย"
"นั่นสิ ให้ท้ายมันเข้าไปนะพี่แก้ว ไอ้เอมันยิ้มปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้วนั่น"
"หรือที่พี่พูดมาไม่จริงล่ะเอ็ม"
"จริงครับ จริงที่สุด เนอะเฮีย" สะกิดศอก
"อย่ามายุ่งกับกู" คนโดนสะกิดขยับศอกบอกเสียงหงุดหงิดแล้วหันมาค้อนผมวงเบอเริ้ม
"แม่ ไอ้แอลกับไอ้ซีอ่ะ ยังไม่ตื่นเหรอ" ผมไม่สน หันไปคุยกับแม่ดีกว่า
"พ่อขับรถไปส่งโรงเรียนแล้ว"
"ไปเช้าจัง ผิดวิสัยพวกมันนะเนี่ย" ปกติไม่จวนเจียนเวลาเข้าเรียนจริงๆ ไม่มีตื่นกันหรอกครับ
"เห็นว่ามีซ้อมกิจกรรมทั้งสองคนน่ะ"
"อ้อ พวกมันสองตัวอยู่วงโยธวาทิตนี่เนอะ" ฉีกปาท่องโก๋ป้อนหลานที่เดินหนีแม่มาเกาะขา
"หม่ำๆ จิ้มจ้วย" หนูแดงชี้ที่แก้วโอวัลตินผม "จิ้มจ้วย จากิน"
"หลานอิ่มข้าวยังอ่ะพี่แก้ว"
"อืม ให้กินไปเถอะ แต่อย่าให้เยอะล่ะ เดี๋ยวมันอ้วก"
"โอเช มามะหลานรัก" ผมวางแก้วโอวัลตินลงแล้วอุ้มหลานขึ้นมานั่งตัก
"หม่ำจี้ เอ้ๆ หม่ำจี้" นิ้วเล็กๆ ชี้จานปาท่องโก๋ ผมก็หยิบมาฉีกจิ้มกับโอวัลตินป้อนให้คำเล็กๆ
"อร่อยมั้ยครับหลานอา"
"แหวะ" เต็มกางเกงครับ หลานอ้วก
 
เฮียเอฟ เฮียเอ็มมองแล้วหัวเราะก๊าก ไม่มีน้ำใจเข้ามาช่วยกันสักนิด พี่แก้ววิ่งหน้าตื่นเข้ามาอุ้มหนูแดงไปห้องน้ำ
แม่เอาผ้าชุบน้ำมาส่งให้ผม แต่สภาพกางเกงยีนตัวโปรดตอนนี้กรู่ไม่กลับแล้วครับ กลิ่นโจ๊กหมูยังไม่ย่อยนี่ได้ใจ
เอ้า บอกอย่างไม่อายเลยก็ได้ แม่งโคตรอยากจะร้องไห้จริงๆ งื๊อ!

"อ้าวชิน มาก็ดี มาดูเมียมึงดิ ทำหน้าจะเป่าปี่อยู่และ ฮ่าๆๆ"
"เป็นอะไรครับน้องเอ" ป๋าชินเข้ามาดูผมที่กำลังนั่งเช็ดอ้วกบนกางเกง
"โดนหนูแดงอ้วกใส่น่ะสิป๋า" เฮียเอ็มตอบเสียงขำ
"แม่ว่าหนูไปเปลี่ยนกางเกงดีกว่ามั้ยลูก" จริงๆ จะไม่เศร้าเลยครับถ้ามีกางเกงเปลี่ยน
อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ ผมย้ายสำมะโนครัวไปบ้านป๋าแล้วไง ไอ้ที่เหลืออยู่ก็มีแต่กางเกงสแล็คที่ผมไม่คิดจะใส่หากไม่ถูกบังคับ

"เฮียเอ็ม ยืมยีนใส่หน่อยดิ" หันไปทำตาปริบๆ อ้อนพี่บังเกิดเกล้า
"หุ่นมึงคงใส่ของกูได้หรอก" เออ ก็จริงของมัน ในบรรดาพี่ชายเฮียเอ็มถึกสุดอ่ะครับ รองลงมาก็เฮียเอฟ ไอ้แอล
ส่วนที่เหลือไม่นับไอ้ซีที่เป็นผู้หญิงก็เหลือที่พึ่งสุดท้าย ปลุกตอนยังไม่ถึงเวลาตื่น กรูจะโดนเฮียอาร์ฆ่าป่ะวะ สยอง

"ปลุกไอ้อาร์ตอนนี้ระวังตายไม่รู้ตัวนะมึง" เฮียเอฟทักดักความคิดผมอย่างรู้ทัน
"มึงมีกางเกงสแล็คทิ้งไว้นี่ไม่ใช่ไง วันก่อนกูไปเปิดเจอตั้งสามตัว" เฮียเอ็มตั้งข้อสงสัย
"ใส่แล้วมันเน้นตูดอ่ะ เดี๋ยวเพื่อนแม่งแอบตีอีก ไม่ชอบ" เรื่องจริงครับ ไม่รู้ตูดผมมันน่าตีหรือยังไงใส่กางเกงสแล็คไปทีไรโดนตีทุกที
"เดี๋ยวพี่ไปยืมให้" ป๋าชินเสนอตัวแล้วหันหลังออกไป
"โอ้ กล้าน่าดู" เฮียเอฟยิ้มขำ ผมหมั่นใส่เลยจัดการหยิบปาท่องโก๋ยัดปากไปซะเต็มคำ

ป๋าชินหายไปประมาณห้านาทีก็กลับเข้ามาในครัว พร้อมกับกางเกงยีนสีเข้มหนึ่งตัว ผมรับมาก็ถอดเปลี่ยนมันตรงนั้นล่ะ
ไม่รู้จะอายใคร พี่แก้วก็ไม่อยู่ ป๋านั่งมองแล้วส่ายหัว แม่ชงกาแฟมาให้ป๋าพร้อมกับขนมปังแฮมชีสสองแผ่น

"กินเยอะๆ นะลูกนะ เดี๋ยวแม่ไปทำความสะอาดห้องก่อน"
"ขอบคุณครับ"
"เฮ้ย หลวมไปมั้ยนั้น ขนาดไอ้อาร์มันผอมๆ แล้วนะ มึงยังผอมกว่ามันได้อีกนะไอ้เอ" เฮียเอฟว่า ทำหน้าเย้ยๆ ยังไงชอบกล
"ใส่เข็มขัดเดี๋ยวมันก็พอดี" ผมขมวดคิ้วบอกแล้วดึงเข็มขัดจากตัวเก่ามาใส่
"ว่าแต่ว่า ป๋าชินไปปลุกไอ้อาร์แล้วมันไม่ว่าอะไรเลยเหรอ" เฮียเอ็มถาม
"เปล่านี่" ป๋าตอบสั้นๆ
"เจ๊งว่ะ" ผมชม ป๋ามองหน้าแล้วก็ส่ายหัวอีก อะไรวะ
"เออ ไอ้เอวันนี้มึงจะกลับบ้านมั้ย?" เฮียเอฟถาม
"คงไม่อ่ะ ทำไม?"
"ไม่มีอะไร พอดีเพื่อนกูจะมาเที่ยว เลยกะจะให้มันนอนห้องมึงไง"
"เออ ตามสบาย อย่าลืมค่าเช่าด้วยนะ"
"เอาตีนกูไปก่อนมั้ยครับ" เฮียเอฟยกนิ้วกลางให้ เฮียเอ็มหัวเราะ
"ตัดมาดิ"
"ชินคืนนี้กูฝากจัดหนักสักทีนะ" เฮียเอฟกัดฟันบอก
ป๋าชินวางแก้วกาแฟที่ดื่มจนหมดลงบนโต๊ะแล้วหันมองหน้าผม

"ถึงไม่บอกก็ว่าจะทำอยู่แล้ว" เจอแบบนี้ ถึงกับทำเอาพูดไม่ออกเลยทีเดียว


**********************************************************************************************


ปล. มีหลายเหตุผลที่หลายๆ นักอ่านลงความเห็นเข้ามาในเหตุการณ์ทะเลาะและคืนดี ก่อนอื่นเลยคือ
ดีใจเพราะเม้นต์ยาวดีระเอียดด้วย (หัวเราะ) และไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ค่ะ เอาตามความเข้าใจของแต่ละคนเลยแล้วกันเนอะ
ใครไม่ชอบน้องเอตรงไหนบอกได้ เตือนได้ ใครไม่ชอบป๋าตรงไหนด่า กระสวกไส้ได้ตามสบายโล้ด
ทั้งนี้ทั้งนั้น อิคนเขียนจะได้นำมาเป็นประโยชน์ในการเขียนต่อไป

ลงท้าย รักคนอ่านฝุดๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 24 (19/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 19-03-2014 19:36:03
ป๋าชินคงน่าเกรงขามมาก ถึงฝ่าไปเอากางเกงมาได้
ตอนหน้าจัดหนักเอเลยนะค่ะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 24 (19/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 19-03-2014 19:48:06
555
โดนอ้วก :pigha2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 24 (19/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 19-03-2014 20:11:48
 :eiei1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 24 (19/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 19-03-2014 21:13:39
ทำไมป๋าไม่ยอมให้ใส่กุงเกงสแลค ใจร้ายยยยยยยยยยยยย  :o12:

ไม่อยากเห็นตูดเน้นๆ หรือไงนะ ((เซ็งเบยยยยยยยยยย))

55555555555555555+

รอตอนต่อไปงับ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 24 (19/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 19-03-2014 21:37:12
แอบเม้นต์ผิด ฮิฮิ  เฮียนี่หลงหนูเอค่อนข้างมากถึงมากที่สุดนะนี่
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 25 (20/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 20-03-2014 16:42:54
กลับมาแต่งสไตล์เดิมหลังหลงทางอยู่หลายตอน






รักบอดๆ ตอนที่ 25



หนึ่งอาทิตย์หลังจากคืนดีกันแล้ว น่าจะประมาณวันพุธมั้ง
ช่วงเช้าผมมีเรียนตามปกติ ตกบ่ายว่างเพราะอาจารย์ภาคติดสัมมนาเกี่ยวกับพวกภาพเขียนอะไรทำนองนั้น
แถมไม่ลืมสั่งงานไว้กองหนึ่งบอกให้ส่งภายในอาทิตย์ ไม่เคยคิดจะถามความเห็นพวกผมเลยว่าอยากทำมั้ย
ผมจึงเข้าสเต็ปเดิมครับ ปล่อยให้เดตไลน์ก่อนค่อยทำ

ทีนี้ครั้นจะกลับบ้านเร็วก็เบื่อ จะไปหาป๋าก็ไม่อยากไปเจอหน้าอิพี่โต้ เดี๋ยวเป็นเรื่องขึ้นมาอีก
อ้อ ไม่อยากเจอหน้ายัยคุณวิอะไรนั่นด้วย เห็นว่าช่วงนี้ตื๊อหนักน่าดู ไม่รู้คันอะไรนักหนาขนาดยกเอางานโปรเจ็คบิ๊กๆ
มาเสนอกับป๋าเพื่อพูดคุยโดยเฉพาะ ผมเองก็นะ ไม่ว่าหรอกถ้าเป็นเรื่องงาน แต่ถ้าไปนอกรอบกันเมื่อไหร่ บอกได้เลย มึงตายทั้งคู่!!

ว่างจัดบวกกับไม่มีที่ไป ผมก็เลยมานั่งฟังเพื่อนแลกกันเล่าประสบการณ์เขย่าขวัญเกี่ยวกับอาคารเกษตร
ตรงม้าหินอ่อนหน้าตึกคณะ กำลังถึงไคลแม็ค เสียงโทรศัพท์ของผมที่วางทับชีทงานไว้ไม่ให้ปลิวก็ดัง ทำเอาผวากันทั้งกลุ่ม

"เชี้ยเอ ใครโทรมาวะ" เบียร์ยกมือกุมอกสบถถามหน้าเสีย ผมมองเบอร์ที่ขึ้นโชว์บนหน้าจอ
"เบอร์ไม่คุ้น"
"ไหน" ต่ายคว้าไปกดรับโดยไม่ถามกันสักคำ
"ฮัลโหล" สำเนียงฝรั่งจ๋า แรดมากครับ
"หะ? อ้อ ได้ค่ะ แปบนึง" ชียื่นโทรศัพท์ให้ "เขาบอกอยากคุยกับแกอ่ะ"
"ใครวะ?" ผมขมวดคิ้ว
"ชื่อก้าน"
"หา?!"
"จะหาไรเล่า รับดิ" ต่ายบอก ผมก็รับมาคุยงงๆ เท่าที่จำได้ผมไม่เคยให้เบอร์ก้านนะ
"เอ่อ ครับ" เพราะพริ้งอย่างขัดจิต บรรดาเพื่อนสามคนของผมถึงกับสุมหัวนินทาระยะเผาขน
"คุณจำผมได้มั้ย" เอิ่ม บอกจำไม่ได้มึงจะวางป่ะล่ะ
"อืม ว่าไง"
"คุณจะไม่ถามหน่อยเหรอ ว่าทำไมผมถึงมีเบอร์คุณอ่ะ" เอ้า กรูนึกว่าอยากเก็บไว้เป็นความลับ
"แล้วไปเอามาจากไหนล่ะ"
"ถามพี่ชายคุณมา"
"พี่อาร์?"
"ถูกต้องครับ"
"อืม แล้วโทรมามีธุระไร"
"อ๋อ ผมขึ้นมากรุงเทพเลยกะแวะเอาเสื้อผ้าของคุณมาส่งคืน"
"อ้าว ยังไม่ได้บริจาคไปเหรอ แล้วตอนนี้อยู่แถวไหน"
"อยู่หมอชิตครับผม"
"หืม เพิ่งถึง?"
"ใช่แล้ว"
"ตอนนี้ฉันอยู่มหาลัยอ่ะ ไกลจากที่นายอยู่พอสมควร นายจะอยู่กรุงเทพกี่วันล่ะ"
"ประมาณสามวัน"
"อืมๆ ถ้ายังไงนัดไปเอาเย็นนี้ได้มั้ย"
"อ้อ โอเค ยังไงก็ได้"
"นายสะดวกเจอได้ที่ไหนล่ะ"
"แล้วแต่คุณเลย"
"อืม งั้นเดี๋ยวฉันจะโทรกลับไปบอกอีกทีนะ"
"ครับ ตามนั้น"
"งั้นฉันวางก่อนนะ ขอบคุณมากที่อุตส่าห์เอามาคืน"
"ไม่เป็นไร อ๊ะ เดี๋ยวคุณๆ"
"ว่า?"
"คิดถึง" จบประโยค ผมกดตัดสายทิ้งแม่ง น่าขนลุกยิ่งกว่าเรื่องเขย่าขวัญที่ฟังเมื่อกี้อีกอ่ะ
เพื่อนรักสามคนเห็นผมกดวางก็เลิกซุบซิบออกหน้าออกตา แล้วเปลี่ยนมาเป็นเสียงเหน็บแนม

"ความทุกข์เพิ่งจะคลาย มึงจะเอาน้ำตามาอาบเล่นอีกแล้วเหรอวะ" เบียร์
"อะไรของมึง" ผมตีหน้ามึน หยิบชีทมาพัดคลายร้อน
"ผู้ชายที่ไหนล่ะที่โทรหามึงเมื่อกี้"
"อ้อ เขาชื่อ(ไอ้)พี่ก้าน คนที่ช่วยกูตอนไปโดนกระทืบที่พัทยาไง เฮียอาร์ก็รู้จัก" ผมบอกหน้าซื่อ
"เฮียมึงรู้จัก แล้วป๋ามึงล่ะ รู้จักมั้ย?" เบียร์ถาม หงำกับต่ายมองตากันแล้วหันมาพยักหน้าเสริม
"เออว่ะ กูไม่ได้บอก ลืมสนิท...อีกอย่างแกไม่ได้ถามด้วย" แบบว่า ตอนนั้นมีเรื่องเครียดหลายเรื่องอ่ะ
อิป๋าก็คงนึกไม่ถึงด้วย เลยไม่ได้ถามรายระเอียดอะไรมากมาย

"เดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีกหรอกอิเอ" ต่ายว่าเสียงขุ่น
"เออ คงไม่เป็นไรหรอก ไว้เดี๋ยวกูชวนป๋าไปด้วย" ตัดปัญหา
"กูไปด้วยดิ" หงำเสนอตัว
"กูด้วย"
"ฉันด้วยๆ"
"มึงสองตัวน่ะไม่เท่าไร แต่ไอ้เบียร์ มึงน่ะไปได้เหรอ ไม่ไปรอรับแฟนไง" บอกตรงๆ ผมเริ่มสงสัย
เพราะไอ้เบียร์มันเริ่มกลับเข้ากลุ่มบ่อยขึ้น ไม่ค่อยไปไหนมาไหนกับแฟนเหมือนช่วงแรกๆ มากสุดก็ไปส่งบ้านแค่นั้น

"พักนี้เขายุ่งน่ะ ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับกู" เบียร์บอกเสียงเบาพร้อมกับสีหน้าเหนื่อยใจ คือว่ากันตามนิสัยนะ ไอ้เบียร์เป็นพวก
เก็บความลับเก่งมากครับ ทั้งเรื่องส่วนตัว ทั้งเรื่องส่วนรวม ถ้าไม่คาดคั้นถึงที่สุดหรืออึดอัดจนเกินทนมันแทบไม่มีทางพูด

"เขายุ่งหรือมีใหม่ เอาให้แน่นะมึง" อิต่ายครับ ทำหน้าเหมือนไปรู้อะไรมาเลยอ่ะ
"พื้นฐานของความรักคือความเชื่อใจ เคยได้ยินมั้ยครับคุณต่าย อย่าหาเรื่องให้กูแตกแยก เดี๋ยวปั๊ดเหนี่ยวหลับกลางอากาศ"
"มันก็ใช่ แต่เชื่อใจจนไม่มองอะไรเลยมันก็แย่นะเว้ย"
"ต่าย พอเถอะ" หงำเอามือปิดปาก
"มันอยากพูดให้มันพูดไปหงำ" ไอ้เบียร์ว่า ท่าทางน้ำเสียงชักไม่ปกติ
"มึงก็อย่าไปซีเรียสดิวะ ต่ายมันพูดเล่นเหอะ มึงก็ว่างั้นใช่ป่ะเอ" หันมาหาคนร่วมทัพ
"เออ นั่นดิ ตกลงพวกมึงจะไปกับกูใช่ป่ะ" เปลี่ยนเรื่องหนีดีกว่าครับ ด้วยเหตุที่ว่า เพื่อนทะเลาะกันมันไม่น่าดู
"กูไม่ไปละ อารมณ์เสีย"
"งั้นไปเตะบอลกับกูแทนมั้ย" หงำเสนอทางเลือกใหม่ให้
"เออ ดีเหมือนกัน ไม่ได้ออกกำลังกายนานและ"
"เกลียดนักอิพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เชื่อใจกันนักอย่ามาร้องไห้ซบอกกูละกัน" ต่ายบ่นให้ผมได้ยินคนเดียว
"ไปรู้ไรมาไง" ผมถามต่าย แต่ตามองเบียร์กับหงำคุยกันเรื่องสถานที่นัดเตะบอล
"ฉันไม่เท่าไรหรอกแก แต่ไอ้หงำนี่สิเห็นมากับตา" ต่ายกระซิบแล้วทำหน้าเหม็นเขียวใส่สองคนนั้น
จะตลกมาก ถ้าผมไม่ได้สนใจประโยคที่ได้ยินนี้มากกว่า

"ยังไง" ผมหันมอง ต่ายถอนใจแล้วลุกขึ้นลากแขนผมออกมายืนคุย ห่างจากพวกนั้นไกลพอสมควร
"แกจำวันที่ฉันกับหงำแยกออกไปเรื่องงานประกวดตอนเลิกเรียนได้ป่ะ" มันเริ่มเกริ่นเรื่อง
"อืม วันที่ฉันเฮิร์ทเรื่องห่างกันสักพักพอดี" คิดแล้วยังแปลบอยู่ในใจ
"นั่นล่ะ พอคุยกันเสร็จเรื่องงานประกวด ลงจากตึกกิจกรรมมา หงำมันดันปวดท้อง ฉันสองคนเลยพากันไปห้องน้ำ
พอฉันทำธุระของตัวเองเสร็จก็ออกมารอมันอยู่ด้านนอก แล้วหูดันได้ยินเสียงคนทำอะไรกัน...พูดง่ายๆ คือเอากันในห้องน้ำชายอ่ะ
อยากเข้าไปดูนะ แต่แบบว่ามียางอายไงคะ ก็ยืนฟังจนหงำหน้าซีดออกมานั่นแหละ ตอนแรกฉันคิดว่ามันคงท้องเสีย
หรือถ่ายไม่ออกไรงี้ ยืนดูอาการมันสักพักก็มีผู้ชายกับผู้หญิงท่าทางคุ้นๆ เดินก้มหน้าโอบไหล่กันออกมาจากในห้องน้ำ
หงำนี่สะดุ้งเฮือกบอกให้ฉันรีบๆ ไป แต่ตอนนั้นฉันยังห่วงที่มันหน้าซีดก็ยื้อถามมันอยู่นั่น กระทั่งทันได้เห็นหน้าผู้หญิงว่าเป็นใคร"

"แฟนไอ้เบียร์?" ผมเลิกคิ้ว
"ก็ใช่น่ะสิ ฉันนี่คันปากอยากจะบอกไอ้เบียร์แทบตาย แต่หงำมันขอไว้ ฉันล่ะเบื่อ" ต่ายทำหน้าเซ็ง
"หงำมันคงไม่อยากให้เบียร์เสียใจมั้ง"
"โอ๊ยแก ความรักมันบังตาต่างหาก รู้ตั้งแต่แรกดีกว่าเจ็บที่หลังนะเว้ย"
"แล้วแกคิดว่าเบียร์มันจะเชื่อทันทีที่แกบอกไง ออกจะรักของมันซะขนาดนั้น"
"ฉันเพื่อนมันนะแก มันต้องเชื่อฉันบ้างแหละ"
"ไม่รู้ว่ะ ถ้าถามฉัน ฉันก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งจนกว่าจะได้เห็นเองกับตา"
"อะไรวะ หงุดหงิด เออ ช่างมันเหอะ ถือว่าฉันไม่ได้เล่าให้แกฟังแล้วกัน"
"เออ อย่าคิดมาก ไอ้เบียร์มันก็ใช่จะโง่ให้หลอกไปได้ตลอดหรอก สักวันมันต้องได้ยินอะไรบ้างล่ะ"
"ให้มันเป็นงั้นจริงเถอะ ฉันล่ะโคตรเกลียดอิพวกจับปลาสองมือ หึ๊ย เดี๋ยวแม่จับมือที่สามทำผัวเย้ยแม่ง" แรงส์อ่ะ
"พอเหอะ ไปๆ กลับที่เดี๋ยวแม่งสงสัย" ผมดันหลังต่ายให้กลับโต๊ะ


*********************************************************************************


ตกเย็นป๋าชินมารับ เบียร์กับหงำทักทายป๋าเสร็จก็แยกไปเตะบอลที่สนามหลังมหาลัย
ส่วนนางสาวต่ายก็มากับผม เพราะอยากจะเห็นหน้าพระเอกก้านที่เคยช่วยผมไว้

สรุปผมนัดให้ก้านมาเจอที่ห้างฯ ไม่ไกลจากที่พักของเขาด้วยเกรงว่าจะมาลำบากเพราะไม่มีรถ
 ระว่างนั่งรถผมก็เล่าให้ป๋าฟังคร่าวๆ และบอกเหตุผลที่จะไปเจอกัน

"ทำไมเขาต้องอุตส่าห์เอามาคืนด้วยครับ" คำถามแรกอย่างที่หวังไม่มีผิด รู้ว่าเป็นผู้ชายนี่หาเรื่องจับผิดตลอด
"ผมบอกให้เขาเอามาคืนเองแหละ ถ้าได้ขึ้นมากรุงเทพ ไม่อยากให้ทิ้งเสียดาย" โกหกคนแก่ครึ่งเดียวไม่บาปหรอกเนอะ คริคริ
"จริงเหรอต่าย" ทำไมต้องหันไปถามเพื่อนผมด้วยล่ะครับอิคุณป๋า
"ต่ายมันรู้เรื่องที่ไหน ถามมั่ว อยากรู้จริง ไม่จริง มาถามผมนี่"
"หืม...จริงเหรอครับ" หันมายิ้มเจ้าเล่ห์ ตกลงนี่แกล้งหึงใช่มั้ยครับ แหม ขอโบกสักที "โอ๊ย!"
"ต่ายเย็นนี้อยากกินไร รีเควสมาเลยฉันเลี้ยง" แต่ตังค์ป๋า หมั่นไส้
"พิซซ่า"
"เอาที่มันอิ่มหน่อยดิ"
"แล้วพิซซ่ามันไม่อิ่มตรงไหนยะ"
"เออ พิซซ่าก็พิซซ่า" ผมตอบเสียงเอื่อย ป๋ากระตุกยิ้มหัวเราะในลำคอ ไม่เห็นว่าขับรถจะจัดให้อีกสักที แง่ง!

ถึงที่นัด กลับมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมตกใจสุดๆ พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าคืออะไร?
เดาไม่ถูกไม่เป็นไร ผมเฉลยให้ก็ได้ สิ่งที่ทำให้ผมตกใจคือ... เฮียอาร์ของผมยืนคู่อยู่กับ...
กับไอ้คุณก้านหน้าแมคฯ ครับ ผมนี่เอ๋อไปชั่วขณะ ไม่รู้มันไปทำอีท่าไหนถึงได้ลากเฮียผมออกมาเจอได้ ใช่ว่าจะสนิทกันสักหน่อย

"เฮียมาไงอ่ะ" ผมถาม
"เอาชุดก้านที่มึงใส่กลับมาวันนั้น มาคืนน่ะสิ" เออ จะว่าเข้าใจก็เข้าใจอยู่นะ แต่ไอ้ครั้นจะไม่เข้าใจมันก็ไม่เข้าใจอ่ะ
แบบว่าๆ เฮียอาร์ต้องออกมาอยู่แล้ว จะให้เบอร์ผมเพื่อนัดกับเขาออกมาอีกทำไม น้องเองงครับ งงจริงๆ งงจังๆ โคตรงง!

"รู้จักกันเหรอ?" ป๋าชินเก็กถามเสียงขรึม มาดปกติเขาล่ะ
"รู้จักกันตอนไปรับเอที่พัทยาน่ะครับ" เฮียอาร์ตอบหน้านิ่งไม่ยิ่งย่อนไปกว่ากัน
"อ้อ"
"ก้าน นี่ป๋าชินแฟนฉัน ส่วนนี่ต่ายเพื่อนที่มหาลัย" แนะนำอย่างไม่กระดากอาย ยังไงก็รู้รสนิยมกันอยู่แล้วไม่รู้จะปิดไปทำไม
"สวัสดีครับ ผมก้านครับ" ก้านยกมือไหว้ป๋าแล้วหันไปมองต่ายที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังผม
"สวัสดีค่ะพี่ก้าน แหม น่ารักกว่าที่เอเล่าให้ฟังอีกนะคะเนี่ย" เท่าที่จำได้ ฉันไม่เคยสาธยายรูปร่างหน้าตาเขาให้แกฟังเลยนะ
"ขอบคุณครับ น้องต่ายก็น่ารักนะครับ" ปากหวานจริงพ่อคุณ
"เอมึงจะไปไหนต่อ" เฮียอาร์ถาม
"ว่าจะไปกินพิซซ่า เออ...ก้านไปกินด้วยกันมั้ย ถือเป็นการเลี้ยงขอบคุณด้วย"
"เอาสิ ถ้าคุณอยากให้ผมไป"
"โอเคมั้ยป๋า" ถามเจ้ามือก่อน หน้านี่ไม่บ่งบอกอารมณ์สักติ๊ด
"ตามใจน้องเอครับ"
"งั้นก็ป่ะ"
ผมออกตัวเดินนำขึ้นบันไดเลื่อนไปยังร้านพิซซ่าที่อยู่ชั้นบน ต่ายเดินคุยมากับก้านด้านหลังสุด
ส่วนเฮียอาร์เดินคู่กับป๋าชินเงียบๆ มาถึงร้านก็เข้าประจำที่

ผมเลือกโต๊ะริมสุดของร้าน บรรยากาศสงบไม่ค่อยมีคนพุกพ่านดีครับ ป๋าชินนั่งเก้าอี้ข้างผม
ต่ายเองก็รีบจองที่นั่งข้างก้านอย่างไว ท่าทางจะยังไม่รู้ว่าอิพี่ก้านมันเป็นเกย์เหมือนผม ปล่อยให้ฝันหวานไปแล้วกันขี้เกียจท้วง
ตามด้วยเฮียอาร์เป็นพ่องาน นั่งหัวโต๊ะทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นคนจ่าย แต่พี่แกก็เล่นสั่งตะบี้ตะบันไม่เกรงใจสามีของผมเช่นเคย ชิส์!

"คุณชอบทานผักมั้ย?" ก้านถาม ทีแรกนึกว่าคุยกับผม แต่ไม่ใช่ครับ ก้านคุยกับเฮียอาร์
"ไม่ชอบ" เจ้าตัวตอบพลางเขี่ยมะเขือจิ๋วไปไว้ขอบจาน
"ไม่ชอบแล้วโตมาได้ไง?" ก้านพูดยิ้มๆ
"ก็โตตามปกติ"
"ผมว่าไม่ปกตินะ ผอมซะขนาดนี้"
"เรื่องของกู" เฮียอาร์ขึ้น 'กู' กับคนอื่น ถ้าไม่ชอบหน้าก็ต้องสนิทกันในระดับหนึ่ง
แต่ผมมองก้านแล้วไม่น่าใช่ทั้งสองอย่าง กลิ่นชักเริ่มไม่ธรรมดาละ

ต่ายที่ความรู้สึกไวกว่าคนอื่นมองหน้าผมอย่างตั้งคำถาม ผมพยักหน้าน้อยๆ ตอบ
มันก็ทำนิ้วชี้ทั้งสองข้างแนบติดกันก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปที่เฮียผม

"กู-ไม่-รู้" ผมให้ต่ายอ่านปาก มันทำท่าฟึดฟัดไม่พอใจ
"ก้านจะจีบอาร์เหรอ" ทั้งโต๊ะหันมองอิป๋า บทจะทำอะไร พ่อไม่แคร์สื่ออ่ะ
และที่หน้าตกใจไปกว่านั้นคืออิเฮียผมหน้าแดง เอ๊ะ! มันยังไงกันนี่

"ป๋าพูดบ้าๆ อาร์ผู้ชายนะ" เฮียอาร์รีบออกตัว
"พี่กับน้องเอก็ผู้ชายนะ ลืมหรือไง" ป๋าบอกเรียบๆ หน้านี่เป๊ะเวอร์
"ก้านนายจีบพี่ชายฉันเหรอ" ผมถามบ้าง ไอ้เฮียจ้องหน้าผมเขม็ง
"คุณอยากได้พี่ชายเพิ่มอีกคนมั้ยล่ะครับ" ก้านถามกลับด้วยรอยยิ้มพราวเสน่ห์ แลมั่นใจแปลกๆ
ผมตักสลัดผักใส่จานป๋าชิน "ถ้าไม่ตายก่อนค่อยว่ากัน"


********************************************************************************************


ปล. ฆ่าตัดตอน และเรื่องก้านกับเฮียอาร์มันมีที่มา แต่ยังไม่บอกหรอกปล่อยให้ลุ้นกันเล่นๆ (หัวเราะ)
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน บวกคอมเม้นต์แสดงความคิดเห็นกันนะคะ ไม่สนุกบอกได้เน้อ รักฝุดๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 25 (20/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 20-03-2014 18:04:38
เฮียอาร์นี่แมนไม่ใช่รึ?
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 25 (20/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: josephine ที่ 20-03-2014 18:21:57
สนุกมากค่ะ   อยากให้ป๊าปรามๆ น้องเอเยอะ ๆ หน่อย
เอาแต่ใจมากเกิ้น
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 25 (20/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-03-2014 20:25:30
อัยย่ะ พี่อาร์ของฉันจะเสร็จก้านหรือเนี่ย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 25 (20/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 20-03-2014 21:16:44
คู่ใหม่น่าจะมันดีน่ะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 25 (20/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 20-03-2014 21:19:02
พิซซ่าาาาาาาาาาาาาาาาาา

จะว่าไปผมก็อยากกินนะ .. อืมๆๆๆๆๆๆ

เคเอฟซีก็อยากกิน .. อืมๆๆๆๆๆๆๆๆ

และพอตั้งใจจะกินพิซซ่า ดันซื้อเคเอฟซีทุกที ไม่เข้าใจ  :เฮ้อ:

((พล่ามพอละ))

 :z13: ให้เฮียอาร์ .. เชียร์พี่ก้านนะครับ  :-[

รอ ร๊อ รอ ตอนต่อไปจ้า  o13
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 25 (20/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 20-03-2014 21:25:14
ถ้าไมีตายก่อนค่อยว่ากัน

จากอาการหน้าแดงของเฮีย
ท่าทางจะไม่ตายแน่นอน :katai3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 25 (20/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Tun_Bow ที่ 20-03-2014 22:49:06
ก้านกะเฮียอาร์....อยากอ่านคู่นี้!!! :katai2-1:
เชียร์เฮียอาร์เคะนะคร๊าบบบบ

หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 25 (20/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-03-2014 09:27:10
เมะxเมะ?

ฮาาาา ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ รุก vs รุก I (21/03/57)
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 21-03-2014 15:50:07




รักบอดๆ ตอนพิเศษ : รุก VS รุก I



[อาร์]


ไม่อยากคิดหรอก ว่าแค่อยากตอบแทนใครสักคนที่เข้ามาช่วยชีวิตของคนที่เรารักมันจะนำความชิบหายมาเยือน
ไอ้ผู้ชายหน้าตี๋ มองจากส่วนไหนของหน้าตา แม่งก็เด็กกว่าผมอยู่หลายขุม พอเอาเข้าจริงๆ เสือกห่างกันแค่สองปี
แต่เรื่องนี้ช่างมันไปก่อน ไม่ใช่ประเด็น เพราะเนื้อหาหลักๆ มันอยู่ที่ไอ้หมอนี่ใช้บริการเบอร์โทรศัพท์ของผมซึ่งติดไปกับ
นามบัตร โทรหากันทุกเช้าเย็น พ่วงด้วยข้อความหวานเลี่ยนอีกเป็นกระบุง เปิดตัวอย่างให้ดูเลยก็ได้ เช่น...

หนึ่ง 'ทำอะไรอยู่เอ่ย?'
สอง 'ทานข้าวหรือยัง วันนี้ข้าวกลางวันผมเป็นก๋วยเตี๋ยวผัดล่ะ *ทำรูปหน้ายิ้มกว้าง*'
สาม 'คืนนี้อย่าลืมฝันถึงผมด้วยนะ คุณพี่ชายเอ *รูปหัวใจ*'
สี่ 'อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคนสวย เมื่อคืนเห็นผมในฝันมั้ย ผมเห็นคุณด้วยนะ'
และอีกบานเบอะ เป็นต้น
บอกตามตรง โคตรแขยง

"โรคจิตป่ะวะ ถึงกล้าส่งข้อความชวนอ้วกแบบนี้มาหามึง" พี่อั๋น
รุ่นพี่ในบริษัทที่ทำงาน ค่อนข้างสนิทกันมาก หลังได้อ่านข้อความในโทรศัพท์ของผมก็พูดด้วยท่าทีขนลุก

"จะไปรู้เหรอ" ผมตอบพลางแย่งโทรศัพท์คืน อารมณ์หงุดหงิดถึงหงุดหงิดที่สุด

พูดกันตามจริง สองวันก่อนถ้าไม่เผลอให้นามบัตรไอ้คนชื่อก้านนั่นไปซะก็ดี
ถึงส่วนตัวจะไม่ได้อคติอะไรกับคนประเภทนี้ แต่ก็ไม่นึกอยากจะสนิทสนมด้วยนักหรอก
แถมจะปิดเครื่องหนีก็ดันติดเรื่องงาน เป็นอะไรที่น่าลำบากใจชิบหาย

"เปลี่ยนเบอร์ใหม่เลยเถอะ" พี่อั๋นเสนอทางออก
"วุ่นวายอ่ะ" ผมก้มหน้าลงโปรแกรมให้คอมพิวเตอร์ใหม่
"ขี้เกียจมากกว่ามั้ง"
"นั่นก็ด้วย"
"เออ แล้วพรุ่งนี้มึงต้องตามหัวหน้าไปพัทยานี่ เตรียมตัวยัง?"
"ไม่อยากไปเลยว่ะพี่ เบื่อ แม่งไปก็ไม่ได้ทำอะไร ไปนั่งรอเขาประชุมให้เสร็จไปวันๆ โคตรเซ็ง"

ตอนนี้ผมทำงานด้านการออกแบบและโปรแกรมระบบกราฟิกให้กับบริษัทในเครือต่างชาติ และเนื่องเป็นเด็กใหม่ด้อยประสบการณ์
ที่เสือกเข้าตากรรมการเพราะหน้าตา(สวยกว่าผู้ชาย) จึงได้รับอานิสงส์ในเรื่องติดสอยห้อยตามหัวหน้างานไปประชุมวางแผนกับลูกค้าบ่อยๆ
เรียกง่ายๆ พกพาเอาไปไว้ใช้งานจับฉ่ายนั่นล่ะครับ เขาประชุม ผมรออยู่ข้างนอก เขาคุยงาน ผมเสิร์ฟกาแฟ ไม่ติดว่าเงินดีสวัสดิการเยี่ยม ผมลาออกไปนานแล้ว

"เอาน่าไอ้อาร์ มีคนในทีมเราตั้งเยอะที่อยากจะไปกับหัวหน้า มึงน่าจะภูมิใจตัวเองไว้นะ"
"พูดงี้ พี่ไปแทนผมมั้ยล่ะ" แถมข้าวกลางวันให้อีกสองมือเอ้า
"เฮ้ย แจน ขอกาแฟเผื่อพี่แก้วสิ กำลังไปชงใช่ป่ะ" เนียนหนีกรูซะงั้น
ไหนบอกมันน่าภูมิใจไง ผมขมวดคิ้วหันกลับมาตั้งหน้าตั้งตาลงโปรแกรมต่อ

ครืดดดดดดดดด
เสียงสั่นข้อข้อความเข้า ผมหยิบโทรศัพท์มาเปิดอ่าน

'จะเที่ยงแล้วนะคนสวย ทานข้าวหรือยังครับ *ทำรูปหน้ายิ้มปากจู๋*'

"ว่างจริงนะมึง" ผมสบถพร้อมกับโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างไม่แคร์ถ้ามันพัง
พี่อั๋นที่ยังนั่งทำงานข้างๆ สะดุ้งหันมาทำหน้าสงสัย

"เป็นเชี้ยไรของมึงครับอาร์ ตกใจนะเนี่ย"
"สัมภเวสีมันส่ง sms มาขอส่วนบุญอีกแล้วน่ะพี่"
"ไอ้เด็กชื่อก้านอีกแล้วเหรอ?"
"จะมีใคร ก็มีมันอยู่ตัวเดียวนั่นล่ะ ที่กล้ากระหน่ำ Messenger มาหาผมแบบนี้"
"ไม่บอกมันไปล่ะ ว่ามีแฟนแล้ว" พี่อั๋นมองตา
"พี่คิดว่าผมไม่เคยบอกมันเหรอ ผมบอกไปแล้วเหอะ แต่มันหัวเราะแล้วบอกว่าผมโกหก
แถมยังร่ายประวัติรายชื่อแฟนเก่าผมทุกคนที่เคยคบมาด้วยนะ" ที่พูดไปเนี่ย ยังไม่รวมรายระเอียดยิบย่อย
แบบคนต่อคน ว่าเหตุไฉนผมจึงเลิกกัน สโตกเกอร์หรือเปล่าวะแม่ง

"นี่ถ้าไม่เรียกว่าบ้ามึงเข้าขั้น ก็ต้องเคยรู้จักมึงมาก่อนชัวร์"
"แม่งก็แค่ไอ้บ้าเท่านั้นแหละ ผมเคยเจอมันที่ไหนกัน..." พูดเหมือนไม่ใส่ใจ
แต่สมองกลับไล่เรียงภาพใบหน้าบรรดาผู้ชายที่ผมพอจะจดจำได้ตลอดทั้งชีวิตภายในหัว
แน่นอน ว่าไม่มีหมอนั่นอยู่หนึ่งในหลายคนนั้นเลย แค่หน้าเหมือนเศษเสี้ยวเดียวยังไม่มีด้วยซ้ำไป

"ระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะ มึงยิ่งบอบบางอยู่ เกิดวันดีคืนดีโดนมันฉุดไปทำเมียจะแย่เอา"
"หึ" ผมแค่นหัวเราะ ใครจะไปคิดล่ะครับว่าคนรูปร่างหน้าตาเหมือนผู้หญิงอย่างผม
อดีตนั้นจะเคยมีลูกน้องเป็นร้อยที่คอยสยบอยู่ใต้ชายตีน พี่อั๋นมองผมงงๆ

"ไม่มีอะไรหรอกพี่ ทำงานไปเหอะ" ผมสั่นหัว พี่อั๋นยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันกลับไปทำงาน


*************************************************************************************


พัทยา

"อาร์ คุณไปเดินเล่นแถวนี้ก่อนก็ได้นะ เที่ยงค่อยกลับมาทานข้าวด้วยกัน
เดี๋ยวผมจะแนะนำให้คุณได้รู้จักกับผู้บริหารที่มาคุยงานด้วย"

"ครับ งั้นขอตัวก่อนนะครับ"
โค้งให้พอเป็นพิธี แล้วยืนรอจนหัวหน้าคล้อยหลังหายเข้าไปในห้องประชุมของโรงแรม

ผมคลายเนคไทออกหลวมๆ ถอดสูทสีน้ำเงินเข้มพาดไหล่ ล้วงบุหรี่นอกที่ได้เป็นของกำนัลจากหัวหน้าเมื่อครั้งที่แล้ว
ขึ้นมาคาบไว้ ก่อนจะลงลิฟท์เดินออกมาสูบอยู่หน้าโรงแรม ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวและลมทะเล


ติ๊ดต่าตะติ๊ดติ๊ดต่า ติ๊ดต่าตะติ๊ดติ๊ดต่า ติ๊ดต่าตะติ๊ดติ๊ดต่า!!
ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากดรับโดยไม่พูด เป็นสิ่งที่ทำประจำตั้งแต่ที่รู้ว่าเป็นเบอร์ของหมอนั่น

"สวัสดีตอนสายครับคุณคนสวย" เสียงเจื้อยแจ้วน่ารำคาญจริง ไม่รับแม่งก็เล่นกระหน่ำโทรจนน่าหงุดหงิด
"........." ผมไม่ตอบ ปล่อยให้แม่งคุยคนเดียวไปครับ ตัวเองก็สูบบุหรีดูคนเดินผ่านไปผ่านมาเรื่อยเปื่อย
"พักนี้ชอบเงียบจริงน้า ทั้งๆ ที่ผมโทรหาเพราะอยากได้ยินเสียงของคุณแท้ๆ"
".........."
"แต่ก็เอาเถอะ ไม่ได้ยินเสียง ได้เห็นหน้าก็ยังดี" ผมชะงัก รีบกวาดสายตามองหาเจ้าตัวการจากปลายสายทันที
"ไม่ต้องลนขนาดนั้นหรอกครับ คุณมองไม่เห็นผมหรอกน่ะ แต่ถ้าอยากเจอกันก็อีกเรื่องหนึ่งนะ หึๆ"
"ไอ้โรคจิต" ผมกัดฟันกรอกเสียงต่ำๆ ลงไป
"ขอบคุณที่ชมครับ แหม... หน้าตอนโกรธก็ยังสวยเหมือนเดิม ว่าน้องคุณหน้าหวานแล้ว ยังไม่ได้ครึ่งของคุณเลยนะเนี่ย"
"ไอ้เหี้ย!" เต็มเสียง ฝรั่งเดินผ่านผมตกใจหันมามองหน้าเหล๋อ ผมส่งยิ้มให้แล้วเดินหนีมาตรงที่ห่างไกลผู้คนเล็กน้อย
"อ๊ะ จริงสิๆ เมื่อวานก่อนคุณให้คนมาจัดการกับไอ้แจคใช่มั้ย แล้วคุณรู้มั้ยว่าเสี่ยเพชรโกรธมากเลยนะ ที่คุณไปทำแบบนั้น"
"แค่เด็กเลี้ยงคนเดียวเสี่ยเขาไม่คิดมากหรอกน่ะ" เวลาผมคิดจะทำอะไรเสี่ยงๆ ผมต้องชัวร์ ไม่งั้นไม่ทำแน่ อย่างเสี่ยเพชร
ลูกชายเสี่ยแกก็เคยเป็นเด็กในสังกัดผมมาก่อน คุยกันได้อยู่แล้วไม่มีปัญหา

"ไม่ๆ คุณคิดง่ายไปนะ ไอ้พันที่คุณคิดจะให้ช่วยน่ะ ตอนนี้ถูกส่งไปนอกแล้วนะ แบบนี้คุณจะไปหาใครมาช่วยคุยได้เอ่ย?"
"อะไรนะ เมื่ออาทิตย์ก่อนมันยังมารวมกลุ่มกับกูอยู่เลย มึงโกหกหรือเปล่า"
"เสี่ยเพชรส่งมันไปก่อนหน้าน้องคุณโดนรุมวันหนึ่งน่ะ ไม่มีตัวขัดแข้งขัดขาซะอย่างนั้น ไม่งั้นไอ้เด็กแจคมันจะกล้าหือ
ถึงขั้นลงไม้ลงมือกับคนต่างถิ่นเหร๊อ" น้ำเสียงเล่นๆ ฟังน่าโมโห ทว่าผมกลับรู้สึกได้ว่าเรื่องที่หมอนี่พูดเป็นเรื่องจริง

"วันนี้อย่าเดินไปไหนมาไหนคนเดียวนะคุณ จะหาว่าผมไม่เตือน"
"ไม่มีใครรู้ว่ากูส่งคนไปทำไอ้เด็กนั่นสักหน่อย ทำไมกูต้องกลัว"
"แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้ไม่ใช่เหรอ"
"แล้วไง กูเอาตัวรอดได้ ไม่ได้อ่อนหัดจนต้องให้ไอ้โรคจิตอย่างมึงมาห่วงหรอก แค่นี้นะ" ผมกดวางสายพลางกำโทรศัพท์แน่น
"ก็รู้แหละครับ ว่าคุณน่ะเก่ง แต่ยังไงก็คงสู้ลูกตะกั่วไม่ไหวแน่ หรือคุณคิดว่าไม่จริง หืม?" เสียงที่ไม่ได้ลอยมาจากไกลๆ
ดังขึ้นที่ข้างหู ผมจัดการทักทายไปตามสัญชาตญาณด้วยการปล่อยหมัดข้างที่กำโทรศัทพ์ใส่อย่างรวดเร็ว ทว่าอีกฝ่ายกลับใช้ฝ่ามือรับไว้ได้ทัน แม่งน่าเจ็บใจสุดๆ

"มือไม้ไวเหมือนเดิม" มันยิ้มพอใจแล้วปล่อยมือ
"มาตั้งแต่เมื่อไหร่" ผมปั้นหน้าหงิกถามเสียงแข็ง
"ตั้งแต่คุณมาถึงโรงแรมนี้นั่นแหละ แล้วก็อยู่ใกล้ๆ คุณตลอด แต่คุณไม่เห็นเอง" มันยักไหล่ ทำหน้ายียวนกวนเบื้องล่าง
"อย่ามาตอแหล มึงอยู่ใกล้ๆ กูก็ต้องเห็นสิ"
"คุณจะเห็นได้ไง ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ในสายตาของคุณมาตั้งแต่แรก ส่งข้อความไปก็ไม่เคยตอบกลับ
โทรไปถ้าไม่รับก็เอาแต่เงียบใส่ทุกที" มันทำหน้างอนๆ

"คุยกับมึง ไปคุยกับขี้ยังจะรู้สึกดีซะกว่า" ผมบอกแล้วเดินหนี ขี้เกียจต่อความยาวสาวความยืด
"นี่คุณ ผมเตือนแล้วนะว่าอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว"
"มึงเป็นพ่อกูหรือไง ถึงต้องเชื่อ ถ้าไม่อยากโดนตีนกูเดี๋ยวนี้ จะไปตายไหนก็ไป"
"อู๊ยยย เป็นคำพูดเสียดแทงที่ไม่เข้ากับรูปลักษณ์เลยนะเนี่ย" มันหัวเราะ
"เสือก!!" ผมหันกลับไปยกนิ้วกลางให้ ไอ้บ้านั่น ก่อนจะใช้เท้าขยี้ก้นบุหรี่แล้วเดินกลับเข้าโรงแรม

รู้กระทั่งผมใช้คนให้ไปเช็คบิลกับเด็กเสี่ยเพชร อีกทั้งยังรู้ว่าผมต้องมาพัทยาเรื่องงานวันนี้
ท่าจะไม่ปกติแล้วนะเนี่ย สงสัยจริงๆ หมอนั่นมันเป็นใครกันแน่


*************************************************************************************


ตอนเที่ยง

นั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารอย่างคนไม่มีปากมีเสียงในห้องอาหารของโรงแรม คือไม่ว่าผมจะพูดอะไรก็ถูกขัดคอไปหมด
ตกลงเอากรูมาทำเหี้ยอะไรเนี่ย รีบกินรีบชิ่งเป็นหนทางที่ดีที่สุด ที่จะไม่ทำให้ผมหมดความอดทนจนลุกต่อยหน้าผู้ช่วยผู้บริหาร

"เอ่อ หัวหน้ามีประชุมช่วงบ่ายต่อใช่มั้ยครับ?" ผมถามเมื่อเดินตามหัวหน้าเข้ามาในห้องน้ำ
"ใช่ คุณจะไปเดินเที่ยวหรือจะไปไหนก่อนก็ได้นะ ผมคิดว่ากว่าจะประชุมเสร็จ น่าจะเลยสองทุ่มไปแล้ว"
"อ้อ ครับ" ผมพยักหน้า ดูจากเหตุการณ์ทั้งหมด ผมตอนนี้แม่งก็ไม่ต่างอะไรไปจากคนขับรถประจำตำแหน่งดีๆ นี่เอง
คิดแล้วเครียดจริง!

"เออ คุณอาร์"
"ครับ" ผมสะดุ้ง
"ผมฝากซองเอกสารที่อยู่เบาะหลังรถไปส่งไปรษณีย์ให้ทีนะ"
"ดะ...ได้ครับ แค่นี้ใช่มั้ยครับ"
"อืม ใช่ ขอบใจนะ" ล้างมือเสร็จก็เดินออกไป
"มันใช่นิสัยกูจริงป่ะวะ" ผมกวักน้ำล้างหน้าพลางมองตัวเองในกระจก
ดึงกระดาษทิชชู่เช็ดมือ แล้วมองหน้าจอโทรศัพท์ที่มีรับข้อความเข้าใหม่

'ทานข้าวอิ่มแล้ว ลงมาหาผมที่หน้าโรงแรมด้วยนะคุณ *รูปหน้ายิ้ม*'

พวกคุณคิดว่า ผมที่ได้รับข้อความแบบนี้จากคนที่ไม่ชอบขี้หน้าจะไปมั้ยล่ะครับ?
ปล่อยให้มันรอจนรากงอกนั่นแหละดี ผมโยนเสื้อสูทใส่เบาะหลังรถก่อนจะเดินถือซองเอกสารไปตามถนน
เท่าที่จำได้ตอนที่มาครั้งก่อน ที่ทำการไปรษณีย์อยู่ห่างจากโรงแรมไปไม่กี่ร้อยเมตร แถมข้างไปรษณีย์ยังมี
ร้านอินเตอร์เน็ทด้วย คงพอช่วยทำให้ผมหายเซ็งไปได้สักพัก

ส่งเอกสารให้หัวหน้าเรียบร้อย ก็เดินเข้ามาในร้านอินเตอร์เน็ทคาเฟ่ ภายในร้านมีคอมพิวเตอร์อยู่สิบเครื่องและติดแอร์เย็นฉ่ำ
มีสองเครื่องว่างเหลืออยู่ริมสุด ผมจ่ายเงินค่าชั่วโมงไปแบบฟรีไทม์ คือร้อยหนึ่งเล่นได้ถึงหกโมงเย็นหรือก็คือเหมาจ่ายนั่นล่ะ

เปิดเว็บนั่นเว็บนี่ไปเรื่อยเปื่อย หลักๆ คือปล่อยตัวพ่อค้าในเกมRagnarok ขายของทิ้งไว้ (ช่วงนั้นกำลังฮิตคับไร้บอทเล่นสบาย)
มีลูกค้าใหม่มานั่งเครื่องข้างๆ ก็ไม่ได้สนใจมอง นั่งเล่นไปพักหนึ่ง ได้ยินเสียงคนคุยกันจากห้องว่างด้านหลังร้าน ที่คาดไว้ว่า
น่าจะเป็นแหล่งซ่องสุมของเด็กวัยรุ่นแถวนี้ ได้ยินชื่อแจคแว่วเข้าหูไม่เท่าไร แต่ชื่อเสี่ยเพชร ผมนี่ขยับตัวตั้งใจฟังอย่างดีเชียวครับ

"แขนหัก หน้าแหก เสี่ยเพชรนี่แทบคลั่ง"
"แจคมันต้องอยู่โรงบาลกี่วันวะ?"
"ไม่รู้เหมือนกัน แต่กูได้ยินว่าเสี่ยแกต้องการจับตัวใอ้คนที่ทำให้ได้"
"แจคมันสำคัญขนาดนั้นเลยนิ หน้าแม่งก็อย่างเถื่อน หรือตูดมันฟิตวะ เสี่ยแกถึงเป็นเดือดเป็นแค้นขนาดนั้น"
"กูว่าก็แค่ไม่อยากเสียหน้ามากกว่าว่ะ เพราะใครก็รู้ว่าไอ้แจคมันเด็กเสี่ย"
"แล้วยังไง รู้จักคนทำ?"
"อันนี้กูก็ฟังจากพวกที่อยู่ในเหตุการณ์มาน่ะนะ เห็นว่าก่อนไอ้แจคมันจะถูกจับส่งโรงพยาบาล มันไปกระทืมเด็กต่างถิ่นที่สวนมาด้วย"

"เห..."
"เป็นเด็กมอใดมอหนึ่งในกรุงเทพนี่แหละ ก็เลยเดากันว่าไอ้คนที่ทำน่าจะเกี่ยวข้องกัน
และถ้าไปดักรอที่หน้ามอก็น่าจะลากตัวมาถามได้ เขาว่างั้นอ่ะ"

"แล้วจะเจอเหรอวะ?"
"กูจะรู้เหรอ มึงไปถามเสี่ยเองเดะ"
แล้วก็บลาๆๆๆ ผมฟังไม่เข้าหูละ เริ่มเป็นห่วงน้อง
หากเสี่ยเพชรทำอย่างที่เด็กพวกนี้พูดกันจริงๆ น้องผมที่พวกของมันจำหน้าได้คงตกอยู่ในอันตรายแน่

"หน้าซีดเชียวนะคุณ" ผมหันขวับไปที่โต๊ะข้างๆ ไอ้โรคจิตยิ้มพร้อมกับยักไหล่
"น่าเป็นห่วงเอจังเนอะ ถูกจับมาเอี่ยวกับสิ่งที่คุณทำซะงั้น"
"มึงรู้ แล้วทำไมไม่บอก" ผมพยายามข่มอารมณ์โกรธ
"ผมไม่ทันคิดน่ะ คนเราก็ต้องมีบ้างใช่มั้ยที่จะต้องเห็นคนที่ชอบสำคัญกว่า อ๊ะ แต่ผมก็ชอบเอนะ"
"มึงนีมัน..."
"นี่ๆ โกรธผมไปก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ ในเมื่อคุณทำของคุณเอง" มันหมุนเก้าอี้รอบหนึ่งแล้วหยุดยื่นหน้ามาใกล้
"แต่ถ้าคุณจนปัญญาจริงๆ จะให้ผมช่วยก็ยินดีนะครับ"

"ไม่จำเป็น กูจัดการของกูได้" ผมปิดคอมก่อนจะลุกเดินหนีออกมาสูบบุหรี่หน้าร้าน
"จะแย่เอาน้า ถ้าเอรู้ว่าตัวเองทำให้พี่ชายลำบาก อีกอย่างคงอึดอัดน่าดูชม เกิดต้องมีคนคอยตามคุมทุกฝีก้าว"
"อึก......." มือที่คีบบุหรี่สั่น ทั้งโมโห ทั้งคิดถึงความรู้สึกของน้องชายที่ต้องตกอยู่ในอันตราย หากไม่มีเรื่องนี้มาเกี่ยว
ผมคนเดียวคงจัดการอะไรได้สักอย่าง

"จะเอายังไงดีล่ะ" มันย้ำถาม

ผมอัดควันบุหรี่เข้าปอด ทางเดียวที่จะจบเรื่องนี้ได้โดยที่น้องผมยังปลอดภัย คือผมต้องเข้าไปคุย
กับเสี่ยเพชรด้วยตัวเอง อาจจะเสี่ยงหน่อย แต่นอกเหนือจากนี้ ก็ไม่มีทางเลือกเหลือให้ผมอีก

"เลิกคิดจะไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า คุณก็น่าจะเคยได้ยินมาบ้างนะ
ว่าคนอย่างเสี่ยเพชรฆ่าคนได้โดยที่มือไม่ต้องเปื้อนเลือด" ไอ้โรคจิตแย่งบุหรี่จากในมือผมไปสูบหน้าตาเฉย

"เอางี้ คุณไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวผมจัดการเอง"
"อย่างมึงนี่นะจะจัดการเอง?" ผมเลิกคิ้ว เกือบจะหลุดหัวเราะแล้วเชียวถ้าไม่ทันได้เห็นสายตา
ที่แฝงไว้ด้วยความเยือกเย็น ซึ่งลึกจนไม่เห็นก้นแวบหนึ่ง

"แลกกับการที่คุณต้องคอยดูแลผมทุกครั้งที่ผมไปกรุงเทพ โอป่ะ?"
"หะ?!"
"ง่ายออก ไว้ผมจะติดต่อไปนะครับ คุณคนสวย จุ๊บ!"
ได้โอกาสที่ผมกำลังเผลอ ไอ้โรคจิตก้านก็ยื่นหน้ามาจุ๊บปากผม แล้วเดินยิ้มกริ่มกลับเข้าไปในร้านอินเตอร์เน็ท


**********************************************************************************************

*บันทึกจากคำให้การส่วนหนึ่งของเฮียอาร์

********************************************************************************


ปล. บอกแล้วเรื่องเฮียอาร์กับก้านมันมีที่มา อ่านตรงนี้คิดว่าน่าจะมีคนเข้าใจเรื่องคร่าวๆ ของคู่นี้
ไม่มากก็น้อย จะบอกว่าเป็นเมนหลักอีกเรื่องก็ได้ แต่คงมาไม่บ่อยหรอกนะ ก็คู่หลักมัน น้องเอ กับ ป๋าชินนี่นา (หัวเราะสะใจ)

หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ รุก vs รุก I (21/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: michiri.sama ที่ 21-03-2014 15:55:16
อ๋าาาา
แต่เราออกจะชอบคู่นี้นะ ฮ่าๆๆๆ
อยากจะรู้ว่าคนอย่างอาร์จะมารักก้านได้ยังไง
เกลียดซะขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ รุก vs รุก I (21/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: thehackzzi ที่ 21-03-2014 16:06:12
ตามมาจากนิยายที่แนะนำนะครับ

เข้ามาให้กำลังใจคร๊าบบบผม
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ รุก vs รุก I (21/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 21-03-2014 18:29:15
อร๊าย สงสัยก้านอ่าาา เป็นใครจ๊ะหนูก้าน
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ รุก vs รุก I (21/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 21-03-2014 19:11:29
ชอบนะ ดูแมนๆไม่ยอมกันนน  :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ รุก vs รุก I (21/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-03-2014 04:01:44
ก้านนี้เป็นใครปลอมตัวมาหรือเปล่า รู้ลึกรู้จริงอะ :hao4:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษ รุก vs รุก I (21/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 23-03-2014 03:45:05
อยากอ่านอาร์กับก้านอะ น่าสนุก :katai5:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 25-03-2014 12:34:07



รักบอดๆ ตอนที่ 26/1





สิ้นสุดมื้ออาหาร ก็ถึงเวลาที่ผมกับป๋าชินต้องพาลูกสาวเขาไปส่งบ้าน
ซึ่งเท่าที่ผมสังเกตจากอาการฮึดฮัดไม่ได้ดั่งใจของนังต่ายตอนเดินมาขึ้นรถ
ผมว่ามันคงอยากตามเกาะติดพฤติกรรมเฮียอาร์ที่จู่ๆ เกิดนึกอยากขันอาสาพาไอ้พี่ก้านไปส่งที่พักมากกว่า
ว่ากันตามจริง ผมก็อยากรู้นะครับ และคาดว่าสองคนนี้คงมีซัมติงอะไรกันแน่ๆ ไม่งั้นมีเหรอที่คนอย่างเฮียอาร์จะยอมออกปากไปส่งคนที่ไม่สนิทง่ายๆ ไม่มีทาง~!

ขึ้นรถได้ ป๋าชินก็เปิดเพลง ผมก็นอนหลับตาฟังเพลงไปเรื่อย
ส่วนนังตายก็นั่งจิ๊จ๊ะๆ คนเดียวอยู่เบาะหลังจนถึงบ้านมัน บอกลากันเรียบร้อยป๋าชินก็วกรถกลับบ้านของเราสอง(อร๊าย~)

เกิดอาการคันปากอยากรู้ ต้องหาคนร่วมก็เลยถามอิป๋าสักหน่อย

"ป๋าๆ ป๋าคิดว่า ไอ้พี่ก้านกับไอ้เฮียมันมีอะไรในกอไผ่ป่ะ?"
"ไม่รู้สิครับ"
"ผมว่ามันแปลกๆ คือถ้ามองจากสายตาผมที่เป็นน้อง ผมว่าสองคนนี้ต้องมีอะไรมากกว่าที่เห็นอ่ะ"
"พี่ว่าอาร์เขาโตพอที่จะรู้ตัวเองแหละว่ากำลังทำอะไร"
"ถึงงั้นก็เหอะ" ไม่ให้คิดมากได้ไง ในเมื่อตอนแรกไอ้พี่ก้านมันทำท่าเหมือนจะจีบผม
แต่พอมาเจอกันวันนี้ มันเสือกหักหัวเลี้ยวไปหม้อเฮียอาร์ซะอย่างนั้น เป็นพวกคุณจะสงสัยมั้ยล่ะครับ

"ถ้าเกิดเขาสองคนคบกัน น้องเอจะคัดค้านเหรอครับ" ป๋าชินถามพลางยื่นมือมาลูบหัวผม ทว่าสายตายังจับจ้องอยู่ที่ถนน
"ก็เปล่า"
"ถ้างั้นก็ไม่ต้องไปคิดมากหรอกครับ นะ" ป๋าชินโยกหัวผมสองสามทีแล้วชักมือกลับไปจับพวงมาลัย
"อืออออ..." ลากเสียงยาวแบบไม่ค่อยพอใจเท่าไร มันรู้สึกเหมือนโดนขัดใจไงไม่รู้อ่ะครับ
ก่อนจะนั่งกอดอกมองไปยังถนนเบื้องหน้าแล้วไม่พูดอะไรอีก

บ้าน
เดินลงรถมาเปิดประตูรั้วให้ป๋าชินขับรถเข้าไปจอดข้างใน ตอนเดินมาเปิดรั้วไม่มีปัญหานะครับ
เพราะปกติล็อคก็ได้ ไม่ล็อคก็ได้ ถ้าผมเป็นคนเปิดปิดผมจะล็อคตลอดนะ แต่ทีนี้เป็นประตูบ้าน ผมแทบอยากจะกระโดดงับหัวอิป๋า

"ป๋าชิน ทำไมไม่ล็อคแม่กุญแจหะ!" ใส่ก่อนหนึ่งดอก
แถมพอดึงประตูลูกบิดเปิดได้ง่ายๆ นี่ปรี๊ดขึ้นสมองเลยครับ แม่งไม่ได้ล็อคเหมือนกัน เชี้ย!

"หู๊ย อะไรเนี่ย ลูกบิดก็ไม่ได้ล็อค ป่านนี้ของในบ้านไม่เหลือแล้วมั้งเนี่ย" บ่นๆ ควานหาสวิตซ์ไฟข้างประตู
กวาดสายตามองไปทั่วบ้าน ระดับความโกรธลดลงไปหน่อยนึงที่ได้เห็นข้าวของเครื่องใช้ยังอยู่ครบ

"สงสัยเมื่อเช้าพี่จะเบลอ" ป๋าชินบอกแล้วหัวเราะขื่นๆ
ได้ข่าวเมื่อเช้าคึกคักขนาดน้องชินขอสองนะครับ (เตียงหนึ่ง ห้องน้ำอีกหนึ่ง จะบอกเพื่อ?)

"อย่ามาอ้าง ดีนะเนี่ยที่ไม่มีขโมยมายกเค้า"
"ขโมยที่ไหนจะมีครับ หมู่บ้านนี้ปลอดภัยจะตาย" เดินมากอดเอวผมที่กำลังถอดรองเท้าจากทางด้านหลัง
"โชคดีสิไม่ว่า ที่โจรมันไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านนี้เขาใจดี" ผมถอดรองเท้าเสร็จก็สะบัดตัวหนีมานั่งลงบนโซฟา
"โอ๋ๆ พี่ขอโทษครับ แต่คนเรามันก็ต้องมีลืมกันบ้างใช่มั้ยล่ะ" เข้ามานั่งเบียดแล้วหอมแก้มย้ำเสียหลายที แก้มกรูจะช้ำป่ะเนี่ย
"ปล่อยให้ล็อกบ้านเองแล้วเป็นงี้ ทีหลังไม่ต้องเลยนะ ฮึ๊ย~" โมโหครับ ยอมรับด้วยว่ามาก
"ไม่เอาครับไม่โมโหนะ มานี่มะ" ป๋าชินช้อนตัวผมขึ้นไปนั่งตัก
"อย่าทำให้เรื่องเล็กๆ มาทำให้เราเสียบรรยากาศเลยนะครับ" พูดไปมือป๋าชินก็ลูบๆ คลำๆ แถวหน้าท้องผมไปด้วย
"หึ เรื่องเล็กมากกกกกกก" เครื่องเรือยหายผมจะไม่เสียดายเท่าเงินสดที่แกวางทิ้งไว้ทั้วบ้านเลยอ่ะ
ไหนจะเช็คอีกเป็นแสนๆ ได้มาไม่เคยเอาไปขึ้นหรอก กองอย่างเดียว เด้งมาจะสมน้ำหน้าให้

"น่านะ คราวหน้าจะไม่ลืมแล้วครับ หายโมโหกันนะ" ป๋าบอกเสียงอ้อน พลางถูๆ ไถๆ ปลายจมูกกับแก้มป่องๆ ของผมเล่น โคตรจั๊กจี้
"เออ หายก็ได้"
"เมียใครน้า น่ารักจัง"
"ไม่เอานะป๋า ไปอาบน้ำไป" ผมเอามือดันหน้าป๋าชิน
"อาบด้วยกันนะครับ" แน่ะ ทำตาวิ๊งใส่กรูอีก
ผมว่านะ หนึ่งอาทิตย์มานี่ อิป๋ามันอัพเลเวลสกิลอ้อนขึ้นเยอะอ่ะ อยู่กันสองต่อสองเป็นไม่ได้
อ้อนตลอด ไอ้อ้อนเฉยๆ ยังพอทน นี่อ้อนแล้วอมกรูเคลิ้มทุกที (เพลิ๊นเพลินจรุงใจ ฮ่าๆ)

"อาบอย่างเดียวเปล่าล่ะ" ออกอาการระแวงเล็กน้อย
"...อย่างเดียวครับ" ไอ้ที่ทำหน้าคิดหนักก่อนจะตอบหมายความว่าไง?
"แน่ใจ" ผมเลิกคิ้ว
"อื้อ" ตีหน้าซื่อ พยักหน้าหงึกๆ กรูเชื่อตายล่ะ
"เอางี้ อาบพร้อมกันก็ได้ แต่ป๋าอาบห้องข้างบน ส่วนผมอาบห้องข้างล่าง โอเคป่ะ" ยังไงก็ได้ชื่อว่าอาบพร้อมกันจริงมั้ย
"ไม่โอเค" ตอบสวนกรูทันที คิดบ้างไรบ้างก็ได้นะ น้องเอรอได้
"เมื่อเช้าก็สองแล้วนะป๋า ให้ผมพักบ้างเถอะนะ ทำบ่อยๆ ทุกวันเดี๋ยวเครื่องจะหลวม"
"ทำมาจะครบปี ก็เห็นยังฟิตเหมือนเดิม" อิป๋าตอบแล้วยักคิ้วให้กวนๆ น่าตบชะมัด
"ทะลึ่งว่ะ" ผมยู่หน้าบอก
"ก็เรื่องจริงนี่ครับ" ป๋ายิ้มกริ่มก่อนจะจัดการอุ้มผมขึ้นบ้านไปอาบน้ำอย่างเผด็จการ

ตอนอาบมีลูบบ้าง คลำบ้างพอเป็นพิธีให้หายกระสัน มิได้มีการลงแรงเสียเหงื่อกันแต่อย่างใด
ในใจน้องเออุตส่าห์ยินดีปรีดา คิดว่าคงรอดแล้วเว้ยวันนี้ ทว่าเช็ดตัว เป่าผม โป้ะแป้งเด็กเสร็จ
อิป๋าดันพามาจบด้วยการคร่อมผมอยู่บนเตียงในชุดวันเกิด...ฮือ เอาความดีใจของกรูคืนมา~!!


******************************************


ปล.หักดิบไปก่อน กำลังสองจิตสองใจว่าจะตัดหรือจะต่อ
หายไปหลายวันแต่ก็ยังรักคนอ่านเหมือนเดิม อิอิ~
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 25-03-2014 13:04:13
ป๋าข๋า เอาอีกค่าาาา หวานๆกันให้มดขึ้นจอเลย หลังจบดราม่าสุดช้ำใจ  :ling3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Ra poo ที่ 25-03-2014 13:47:49
หักดิบ! :katai1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 25-03-2014 16:39:06
อยากอ่านเรื่องอาร์บ้าง มันดีแก้หวานน  :hao3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 25-03-2014 18:00:21
...สนุกมาก ชอบความเกรียนของนายเอก
...คู่ของเฮียอาร์ก็น่าติดตามนะ ดูเหมือนจะแสบด้วยกันทั้งคู่
...ขอเป็น Fc ด้วยคนนะจ๊ะ ขอบคุณมากที่เขียนนิยายดีๆให้อ่าน :L2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-03-2014 18:24:14
หวานๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 31-03-2014 19:55:59
รักคนเขียนเหมือนกันน่ะครับ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 03-04-2014 23:08:44
ก้านอาร์ก็แจ่มนะ....
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: sai ที่ 05-04-2014 15:09:00
 :sad4: นักเขียนครับบบบบบ  ผมมารอพี่ที่เล้าเป็ดทุกวันเลยยยยยยยยย   มาต่อได้แล้วววววคร้าบบบบบบบ  o22
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-1 (25/03/57) หน้า 7
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 11-04-2014 21:27:18
ตามอ่านจนทันน น น อ๊ากกกกกก
น้องเอมันเกรียนได้น่ารักมาก
ส่วนป๋าชิน เมียนางอยุ่เหนือทุกอย่างอ่ะ
ชอบตอนที่ทะเลาะแล้วป๋าหนีไปกินเหล้าที่บ้าน
แล้วน้องเอมาตาม แล้วป๋าละเมอ
ตอนนั้นขนาดเราได้ยินยังจุก  น้ำตาซึมเลย
น้องเอมันคงคิดได้แหละ 55 5 55
ชอบความรักของทั้งคูด้วยย ย
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-2 จบตอน (12/04/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 12-04-2014 16:22:12



รักบอดๆ ตอนที่ 26/2 จบตอน



ป๋าชินสัมผัสริมฝีปากนุ่มลงที่ซอกคอ ผมสะดุ้งเฮือก
ไม่ได้ตกใจครับ แค่จั๊กจี้เฉยๆ

"หอมจังครับน้องเอ" ยกความดีความชอบไปให้โคโดโมะ
"หื่นว่ะป๋า พอเหอะ" ผมนอนยุกยิกอยู่ไม่สุข
"พอได้ไงครับ ยังไม่ได้เริ่มเลย"
"พอเหอะ พอน้า พอได้แล้ว"
"ไม่อยากทำขนาดนั้น?" อิป๋าเลิกคิ้ว น้ำเสียงขัดอกขัดใจเล็กๆ
"พรุ่งนี้ผมมีเรียนนะป๋า เมื่อเช้าผมก็ยอมให้ทั้งๆ ที่ต้องไปเรียนแล้วนะ" น้ำเสียงตัดพ้อ
"เอ๊ะ...หรือป๋าจะลองให้ผมทำบ้างล่ะ" ถามไปงั้น เผื่อความมหัศจรรย์กำลังจะเกิด
"ทำเป็นเหรอ" ต๊าย ดูถูก! เห็นเป็นเกย์งี้ก็เคยถูกอิพี่ใหญ่ของบ้านพาไปขึ้นครูนะจ๊ะ
เฮียเอฟ พี่ชายที่แสนดี อารมณ์ช่วงนั้นเหมือนถูกข่มขืนนเลยว่ะครับ ว่าไงดีล่ะ ตอนนั้นที่บ้านยังไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นอย่างทุกวันนี้ไง
ไอ้เฮียกลัวน้องจะเสียเชิงชาย อายุสิบห้าสดๆ เฮียจัดให้สองคนเลย เล่นจ้ำจี้ยันฟ้าสาง อ่ะฮึๆ

"หูยยย หมูๆ อ่ะ" ไม่กล้าบอกตรงๆ กลัวคุณจะช้ำ
แต่ก็นั่นล่ะ ป๋าชินนิ่วหน้า ขมวดคิ้วมองผมดุๆ แบบรู้ทาง

"ที่ไหน เมื่อไหร่ และกับใคร"
"เพศไหนด้วยมั้ย จะได้ตอบทีเดียว"
"ดีๆ ครับ เร็วๆ" เอาหางเสียงตรงนี้ไปใช้กับไอ้คำถามข้างบนได้ป่ะ จะได้น่าตอบกว่ากันเยอะเลย ชิส์!
"ก็นานแล้ว กับผู้หญิงเพื่อนเฮียเอฟที่ชอบกินเด็กอ่ะ" สาว สวย หมวย อึ๋ม ตอนนี้ลูกสาม
หลังๆ เจอหน้าตอนงานวันเกิดเฮียเอฟทีไร ผมอายตัวม้วนทุกทีเชียว

"หือ? ผู้หญิง" อิป๋าทำหน้าแปลกใจ
"เออ ผู้หญิง หรือคิดว่าเป็นผู้ชาย ผมว่าป๋าน่าจะภูมิใจนะ ที่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของผมน่ะ" ชักเคือง
"ขนาดนั้นเลย" ทีงี้น้ำเสียงอารมณ์ดีขึ้นมาเชียว
"เออ พอเถอะ ไปปิดไฟป่ะ ผมง่วงละ" ดันอิป๋าให้เลิกทับอย่างอารมณ์เสีย
"ไม่" สั้นๆ แล้วกดปากลงบนหน้าผากผม ไล้ไปตามแก้มเนียนขาวลงไปยังซอกคออันเป็นจุดสยิวกิ้ว
สองมือป๋าก็ไม่ปล่อยว่าง ลูบๆ คลำๆ อย่างแผ่วเบาไปตามร่างกายของผมอย่างไม่สะดุด
ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากส่งลิ้นอุ่นเข้ามาคุกคามในช่องปากผมด้วยความหื่นกระหาย
ทั้งยังเสียดสีปืนใหญ่ไปกับเอน้อยของผมจนค่อยๆ พองขึ้น

"อื้ออ...." โดนแบบนี้ถึงกับคราง
ป๋าชินถอดริมฝีปากหวานๆ ออกมามองหน้าผมแล้วส่งยิ้มให้

"รักนะครับ คนดี" ปากนั้นว่าหวานแล้ว คำพูดยิ่งหวานกว่าหลายเท่า ผมคลี่ยิ้มหน้าร้อยผ่าว
"ผมก็รักป๋านะครับ" บอกออกไปเขินๆ ป๋าชินได้ฟังก็ฉีกยิ้มกว้างทันที เอื้อมมือไปคว้าเจลหล่อลื่นมาบีบจนล้น
และความรู้สึกก็จะคล้ายกันทุกครั้ง เมื่อนิ้วที่เปื้อนเจลของป๋าสัมผัสพื้นผิวปากป้อมปราการด้านหลัง แวบแรกมันจะเย็นๆ
ทำให้สะดุ้งเล็กๆ จากนั้นก็จะเคลิ้มจนเกือบถึงสวรรค์ แล้วสะดุ้งอีกทีที่มีของที่ใหญ่กว่านิ้วทะลวงด่านเข้าไป

"อึก!"
"อย่าเกร็งครับน้องเอ..." ป๋าชินเลียริมฝีปาก
"อื้อ ป๋าจูบผมหน่อย" ผมร้องขอ เพราะต้องการหาอะไรทำให้ลืมความเสียวแปลบแวบแรก
ป๋าชินก้มลงจูบผม และค่อยๆ ขยับสะโพกช้าๆ ผมรู้สึกว่าวันนี้ค่อนข้างแปลกๆ จะว่าน่ารำคาญก็คงใช่
อารมณ์มันเหมือนไม่ทันใจยังไงไม่รู้

"ป๋า...อื้อ แรงๆ นะ" ผมยกขาสองข้างขึ้นเกี่ยวรอบเอวแกไว้ จากนั้นก็ออกแรง
กดน้ำหนักไปที่สองขาทั้งสองให้ตัวแกพุ่งเข้าหาผมสุดแรง เป็นความจุกที่ก็รู้สึกดีอ่ะครับ

"ทำแบบนี้ไม่เจ็บเหรอครับ แน่ใจนะ?" ป๋าถามตื่นๆ คงจะตกใจไม่น้อยที่เห็นผมทำรุนแรงกับตัวเอง
อย่าว่าแต่ป๋าเลย ตอนนี้ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงมีความต้องการเรื่องเซ็กส์มากมายขนาดนี้

"ไม่รู้สิ แต่อยากให้ป๋าทำ"
"แต่พี่ว่า..." ผมจับหน้าป๋าชินลงมาจูบปิดปากให้เงียบไปพักใหญ่ก็ปล่อย
"ตามใจผมหน่อย ได้มั้ย"
"อืม" ป๋าพยักหน้า แล้วเริ่มขยับปืนใหญ่เข้าออกเร็วๆ
ผมกัดหลังมือขวาสะกดกั้นเสียงอันน่าอาย มือซ้ายก็จิกหมอนใต้ศรีษะในการรองรับอารมณ์เสียว
เสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังแบบนอนสต็อปไปตามจังหวะที่รุนแรงเรื่อยๆ

ป๋าชินก้มจูบฝ่ามือผมที่ยกขึ้นกัดพร้อมกับใช้มือช่วยให้ผมถึงจุด
ก่อนที่ตัวป๋าจะกระตุกสองสามครั้งแล้วล้มแผละลงมาทับผมทั้งตัว

สรุปคืนนั้นผมเป็นฝ่ายไม่ยอมให้ป๋านอนครับ เราทำกันทุกท่า ทุกที่ในห้อง
และไปจบครั้งสุดท้ายที่ห้องน้ำตอนเช้า สายๆ ผมไข้ขึ้นเลยต้องหยุดเรียน
ส่วนป๋าชินลางานครึ่งวันเพื่อจะได้อยู่เฝ้าไข้ผม ซึ่งการเอาอกเอาใจกันเล็กๆ น้อยๆ
ทว่าหวานน้ำตาลเรียกพ่อ ก็โคตรจะเป็นอะไรที่ทำให้ลืมเรื่องร้ายๆ ในอดีตไปได้หมดเลย

น้องเอ รักป๋าชินมากนะครับ


*************************************

ตอนพิเศษ แอ่วเหนือกับเทศกาลสงกรานต์ ครึ่งแรก!
เรื่องของเรื่องคือปัจจุบันได้มีโอกาศไปแรดยาวๆ กับป๋าช่วงวันหยุดเทศกาลแถวภาคเหนือ
และเป็นการไปพักร้อนช่วงปิดเทอมของผมที่บ้านเกิดเพื่อนที่เรียนโทด้วยกัน เพื่อเล่นสงกรานต์

วันแรก เมื่อประมาณวันที่เจ็ดเมษา(แอบมาส่องก่อนป๋าหยุดงานคนเดียว เผื่อเจอหนุ่มเหนือสักคนให้เลี้ยงต้อย)
ลงเครื่องที่เชียงใหม่ เพื่อนไผ่ก็ขับวีโก้สีดำล้อใหญ่เบิ้มมารับพาไปบ้านที่ทำเป็นรีสร์อทหรูติดภูเขา
มีสระน้ำกว้างๆ มีสวนนั่งพักผ่อน มีสปา มีเล้าท์เครื่องดื่ม เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่คนมีเงินต้องการอ่ะครับ
อ้อ ผมไม่ได้มาพักฟรีนะ เกรงใจเพราะอิป๋ามันจะตามมาด้วย ก็เลยขอแค่ลดครึ่งราคาพอ คริๆ
ใช้เงินเก็บตัวเองจากตอนทำงานมาจ่ายนั่นแหละ จริงๆ จะให้เป็นของขวัญอีกป๋าครบรอบแต่งงาน
แต่ไม่มีเวลาสักที เลยขอโอกาสนี้ใช้ซะเลย ไม่ได้บอกป๋าหรอกครับ เขินมาก แก่แว้วนี่
ก็เลยกะไว้เซอร์ไพส์เป็นของขวัญชิ้นเล็กอีกอันแทนตอนจะกลับ (ไม่บอกหรอกว่าอะไร ให้ลุ้นเอง)

สามวันหมดไปกับการกินเที่ยวกับเพื่อนไผ่สุดเลิฟรออิป๋าที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานแลกวันหยุด
ไผ่พาผมนั่งรถตู้ไปแม่ฮ่องสอน แล้วเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปปางอุ๋ง ไปพอกโคลน ไปยลทะเลสาปไทย สวยมากครับ
เห็นหงค์ขาวกับดำพระราชทานกำลังเล่นน้ำเป็นคู่ๆ อยากให้ป๋ามาเห็นจุงเบย ค้างหนึ่งคืนลงมาก็ไปต่อปาย
ไปน้ำตกร้อน ไหว้พระเก้าวัด เอาเสียคุ้ม รูปถ่ายนี่มีคนเป็นสิบ แต่ผมรู้จักแต่ไอ้ไผ่คนเดียว

วันที่สิบตื่นเช้าไปรอรับป๋าชินที่สนามบินกับเพื่อนไผ่ รอนานมากเพราะตอนใกล้ๆ หกโมงป๋าโทรมาบอกว่าขึ้นเครื่องแล้ว
จริงๆ ชั่วโมงหนึ่งต้องถึง แต่นี่เลยไปเป็นสองสามชั่วโมงอิป๋าก็ยังไม่ถึง โทรไปก็ปิดเครื่อง ผมนั่งรอยืนรอกับเพื่อนจนโมโห
บวกกับเป็นห่วงด้วยกลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดีหรือเปล่า ผ่านไปจนถึงบ่ายสี่ พอเห็นอิป๋าลงมาที่ทางออกตรงที่นัดไว้ว่าจะมารอ ก็ใส่เป็นชุดครับ

"ทำไมนานแบบนี้!" คนมองกันทั้งสนามบิน ป๋าคลี่ยิ้มแหยๆ ปล่อยกระเป๋าเดินทางลงข้างตัว
"ติดงานด่วนครับ" ได้ยินแค่นี้ องค์ผมลงเลยครับ แม่งเอ๊ย!
ติดงานแต่ไม่โทรมาบอกแล้วให้มายืนรอตั้งแปดชั่วโมงเนี่ยนะ ไม่เข้าท่าเลยจริงๆ

"ทำไมไม่โทรบอก โทรศัพท์มีไว้พกเฉยๆ หรือไง แล้วทำไมปิดเครื่อง รู้มั้ยว่าผมเป็นห่วงน่ะ"
"ใจเย็นๆ สิครับน้องเอ พี่ไม่มีเวลาจริงๆ นะ พอรู้ตัวอีกทีเครื่องมันก็ดับไปแล้วอ่ะครับ"
"งั้นทำไมไม่โทรตู้ หรือใช้ของใครก่อนก็ได้ ปล่อยให้มันผ่านไปทั้งๆ ที่โทรบอกว่าจะขึ้นเครื่องแล้วแบบนั้น"
ผมใส่อารมณ์ ป๋าหน้าจ๋อย เมื่อเห็นว่าคนเริ่มมุงดูกันเยอะ เพื่อนไผ่ก็สะกิดให้ผมไปคุยกันต่อที่รถแบบขลาดๆ
คือมันไม่เคยเห็นผมอารมณ์ขึ้นไงครับ พอเห็นก็เลยกลัวมั้ง แต่ตอนนั้นผมไม่สนใจสะบัดหน้าใส่ทั้งมันทั้งป๋า
เดินกระทืบเท้ามาที่รถได้ก็กระโดดขึ้นหลังกะบะไม่นั่งข้างหน้า กลัวเดี๋ยวจะทนไม่ไหวจนต้องทะเลาะกันอีก
และอีกอย่างก็อยากให้ตัวเองใจเย็นลงอีกนิดแล้วค่อยคุยอ่ะครับ รู้นิสัยตัวเองว่าร้อนแล้วงุ่นง่ายแค่ไหน เพลีย~




*****************************************

ติดไปทานข้าวกับอิป๋า ไว้ว่างๆ จะมาต่อนะครับ ไม่หาย ไม่ตาย ไม่จบ ฮ่าๆๆๆ :mew3:




หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-2 จบตอน (12/04/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-04-2014 16:54:49
 ดีใจที่ได้อ่าน
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-2 จบตอน (12/04/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: thanza1970 ที่ 12-04-2014 19:00:52
 :katai1:อ่านจบตอนแบบงงๆ :z3:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-2 จบตอน (12/04/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 12-04-2014 21:47:04
มาแล้วตอนน่ารักๆ ><
น้องเอน่าฮักขนาด
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-2 จบตอน (12/04/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 12-04-2014 21:55:08
น้องเอสาย M สินะ  :laugh:

ป๋าจัดหนักเลย ..  :haun4:

..

 :heaven

รู้สึกคนเขียนอู้นานเนอะ ((กะจะไม่บ่นละ))  :laugh:

มาให้ดีดเหม่งลงโทษเลย เร็ว!!

รอตอนต่อไปนะจ๊ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-2 จบตอน (12/04/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 26-04-2014 15:48:17
..จะหวานกันไปไหน คู่นี้55 :o8:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่26-2 จบตอน (12/04/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: sai ที่ 29-04-2014 19:14:17
มาต่อเร็วจะครับ รออยู่  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษต่อ (9/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 09-05-2014 05:54:25

ตอนพิเศษ ต่อจากสงกรานต์ครึ่งหลังนะครับ วันนั้นหลังจากหงุดหงิดแล้วทะเลาะ ไม่สิ ไม่ได้ทะเลาะ
น่าจะเป็นฝ่ายผมเองมากกว่าที่โวยวายอยู่คนเดียวเพราะอิป๋าแทบจะไม่เถียงอะไรเลย

ผมนั่งเอาหน้าโต้ลมอยู่หลังรถกระบะ จู่ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาเอง มันรู้สึกบอกไม่ถูกอ่ะครับ
มันทั้งห่วง ทั้งคิดมากโน้นนี่กลัวว่าป๋าจะเป็นอะไร ทั้งโกรธทั้งน้อยใจปนกันให้มั่วไปหมด
ทีนี้ไอ้เพื่อนไผ่หรือไม่ก็อิป๋านั่นแหละที่เห็นผมร้องก็เหยียบเบรครถกระทันหันเอาซะผมหน้าเกือบทิ่ม
แม่งจะหยุดจะจอดหัดทำให้นิ่มกว่านี้ได้มั้ย!!

พอรถจอดตัวนิ่งสนิทป๋าชินก็เปิดประตูลงมา หน้าตาตื่นตระหนกตกใจเป็นที่สุด คิดว่าเมียตายมั้ง เช๊อะ

"น้องเอเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมครับ"
อ๊ะโหย ถามกันมาแบบนี้ก็อยากตอบคุณพี่หรอกนะครับ แต่คุณน้องไม่รู้จะตอบว่าไงในเมื่อยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ฉะนั้นความเงียบจึงกลายเป็นคำตอบของผมที่อิป๋าได้รับกลับไป

"ไปนั่งข้างในด้วยกันนะครับน้องเอ ข้างนอกเดี๋ยวโดนน้ำค้างจะไม่สบายเอานะ" กูไม่ได้บอบบางขนาดนั้นเหอะ
ผมมองอิป๋าค้อนๆ แล้วหันตัวหนี ขี้เกียจหันแค่หน้าเดี๋ยวมันจะดูแรดเกินไป (หัวเราะ)

"น้องเออย่าดื้อสิ"
ไอ้ประโยคนี้ขึ้นมา ผมนี่ปรี๊ดแตกเลย ถ้ากูดื้อกับเรื่องอื่นจะไม่ว่า ทว่านี่เรื่องมึงแท้ๆ นะครับอิคุณป๋า

ผมยืนบนหลังกระบะแล้วมองอิป๋าจากที่ที่สูงกว่า
(นานๆ จะได้ก้มมอง ทุกทีมีแต่เงย ยกเว้นเวลานอนนะ เท่าเที๊ยมเท่าเทียม)

"เออ ผมดื้อ แล้วแม่งก็โคตรดื้อเลยด้วย ป๋าไม่ต้องมาสนใจผมหรอก
คราวหลังจะมาไม่มาก็ไม่ต้องบอกนะ ไม่อยากรอให้เสียเวลา!" พูดไปน้ำตาก็ไหลไป

"น้องเอมีเหตุผลหน่อยสิ" ป๋าบอกเหนื่อยๆ จริงๆ ก็คงเหนื่อยเขาแหละก็ไปเคลียร์งานมานี่

อันนี้มารู้หลังกลับจากเชียงใหม่ ว่าของในโกดังเปียกหมด เพราะน้ำจากห้องน้ำชั้นบนมันซึม
รั่วลงมาหลายวันแล้ว กว่าคนที่อยู่จะรู้ตัว ของที่เก็บรอส่งตามออเดอร์ก็เสียหายไปพอสมควร
ป๋าชินต้องคัดไอ้ที่ไม่เปียกออก แล้วพิมพ์ซ้ำใหม่ โดยที่ต้องเรียกลูกน้องที่ไม่ได้กลับไกลๆ มาช่วย
และเนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ลูกค้าที่มาจ้างก็หยุดด้วย การติดต่อแจ้งเลื่อนกำหนดหรือส่งข่าวก็เลยลำบาก
ต้องทำหลายอย่างวุ่นวายกันไปหมด แถมป๋าต้องลงมือคุมเครื่องพิมพ์เองเพราะพี่หยังกับพี่โต้
กลับบ้านต่างจังหวัด อยู่ทนเนอะเหอะๆ ไหนจะนั่นนี่อีก บลาๆ และที่มาหาวันนั้นงานก็เพิ่งเสร็จยังไม่ดีด้วยซ้ำ
ผมดันใจร้อนไม่ฟังเสียก่อน ส่วนเรื่องโทรศัพท์เนี่ย รู้สึกแบ็ตมันจะเสื่อมอ่ะครับ ป๋าชินไม่รู้มาก่อน มารู้อีกทีก็ตอน
งานเริ่มบางลงแล้วนั่นล่ะ เฮ้อ! เอ้ามาต่อดีกว่า นอกเรื่องไปเยอะละ คริคริ

"ผมไม่มีเหตุผลตลอดแหละ ฉะนั้นป๋าปล่อยให้คนไม่มีเหตุผลมันนั่งตากน้ำค้างตายไปเลยสิ"
เริ่มพาล บอกแล้วอย่าให้ได้ขึ้น รอให้เย็นหน่อยก็ไม่ได้ ผมกอดอกมองป๋าชินตาเขียวปั้ด

"น้องเอ!!" กูเกลียดการเรียกชื่อโดยไม่มีอะไรต่อท้ายนี่จริง ผมโมโหน็อตหลุดเลยทีนี้
กระโดดลงจากหลังรถเดินไปตามถนนแปดเลน (หรือเปล่าวะ มืดและจำไม่ค่อยได้ แหะๆ)
เดินกึ่งวิ่งไม่สนใจว่าป๋าชินจะเรียกหรือตาม เดินหน้าตรง มองทางเบลอๆ เพราะน้ำตาไหลไม่หยุด
ไอ้เพื่อนไผ่บีบแตร ผมก็ไม่แม้แต่จะหันไปดู อารมณ์นั้นอยากอยู่คนเดียวครับ ใครจะว่างี่เง่าก็ช่าง
กูจะทำมิวสิค~

"น้องเอหยุดนะ!" ป๋าชินตะโกน ตามด้วยเสียงบีบแตรของไอ้เพื่อนไผ่อีก

"น้องเอพี่โมโหแล้วนะครับ!" เชิญ กูไม่ได้ห้าม

ผมเดินไปเรื่อยๆ รถไอ้เพื่อนไผ่ก็ตามมา ป๋าชินก็ตามมาจับแขนผมแล้วกระชากอย่างแรง
ตัวผมนี่ลอยถอยหลังกลับไปกระแทกกับอกป๋าชินเลย บอกสองคำ เจ็บเชี้ย!!

"ชอบให้ใช้ความรุนแรงหรือไง ไม่อายเพื่อนบ้างเหรอ
โตจนป่านนี้แล้วนะ เรียนปริญญาโทนี่ไม่ช่วยให้มีความคิดบ้างหรือไง" เป็นชุด ผมเถียงไม่ออกร้องไห้อย่างเดียว

"ทำไมชอบเป็นแบบนี้ ทำไมทำตัวมีเหตุผลไม่ได้ พี่บอกแล้วไงว่ามีงานด่วน
ขอโทษก็ขอโทษแล้ว ทำไมยังทำตัวแบบนี้ อยากให้พี่เหนื่อยใจตายหรือไง!"
ป๋าดุไปทำหน้าเหี้ยมไป ผมนี่ตัวหดเหลือสองนิ้ว ไม่เจอป๋าของขึ้นนานแล้วเหมือนกัน

"ฮะ...ฮึก ก็..ฮึฮึก ผมห่วงป๋านี่ ปะ...ฮึก ป๋าบอกจะมาๆ แต่ก็...ฮะฮึกๆ ไม่มา ผมรอตั้งนานก็นึกว่าป๋าจะเป็น..."

"แล้วพี่เป็นอะไรหรือเปล่า ก็เปล่ามาครบสามสิบสองดี เหนื่อยขนาดไหนพี่ก็มา แต่มาแล้วน้องเอเป็นแบบนี้เหรอ"
สวนเสร็จอิป๋าหอบ ผมยืนก้มหน้าสะอื้น ได้ยินป๋าชินถอนหายใจเฮือก

"ขึ้นรถ เกรงใจไผ่เขา" ป๋าบอกเสียงเบา ผมพยักหน้าแต่ยังร้องไห้อยู่ สะอื้นซะเจ็บลิ้นปี่ไปหมด

ผมเดินไปขึ้นรถตามที่ป๋าชินจูง แต่ไม่ได้นั่งหน้ากันนะครับ นั่งหลังกระบะสองคนเลย สงสัยป๋าชินคง
กระดากจะมองหน้าไอ้เพื่อนไผ่มั้ง ไม่กล้าถามกลัวเข้าตัวอีก เห่อๆ

ตลอดทางกลับที่พักป๋ากอดผมไว้แน่นโดยไม่พูดอะไร ผมเองก็เอนตัวซบป๋าจับแขนที่กอดไว้แน่นเช่นกัน
ทว่าน้ำตาไม่หยุดนะครับ ป๋าเช็ดให้เท่าไรก็ไม่หยุด ขนาดถึงที่พัก อาบน้ำเข้านอนมันก็ยังไหลอยู่อย่างนั้นแหละ สงสัยเก็บกดไว้นาน

เช้าผมตื่นมาหนักหัวมาก ไม่เห็นป๋าชินอยู่บนเตียงก็ฝืนยันตัวเองลุกขึ้นเดินหาไปทั่วห้อง
ไปเจอแกนั่งอยู่ที่ห้องอาหาร บนโต๊ะมีกาแฟที่น่าจะชืดแล้วกับโน๊ตบุ๊ควางอยู่ ปากแกก็คุยโทรศัทพ์ไป
หน้าก็เครียดไป ท่าทางจะคุยเรื่องงาน พอป๋าเห็นผมแกก็รีบวางสาย แล้วทักพร้อมรอยยิ้มที่ผิดกับหน้าเหี้ยมๆ เมื่อคืน

"ตื่นแล้วเหรอเด็กดื้อ หือ"

"อื้อ" ผมตอบอยู่ในลำคอ รู้สึกเจ็บคอมากมาย

"หิวมั้ยครับ?" ป๋าชินถาม ผมส่ายหัวรัวทำหน้าแบะๆ
(หน้าไงวะ? พิมพ์เองก็อธิบายไม่ถูก เอาเป็นว่าหน้าเหมือนเด็กจะร้องไห้อ่ะครับ)

"เมื่อคืนก็ไม่ได้กินอะไรเลยนี่" ไม่ได้กินตั้งแต่เช้าเมื่อวานเหอะ อยากเถียงใจจะขาดแต่ไม่มีเสียง

ผมนั่งยื่นหน้าไปซบตรงไหล่ป๋า แกก็สะดุ้งรีบจับตัวผมเป็นพลวันยกใหญ่

"ตัวร้อนนี่น้องเอ"

"อื้อ ไม่เป็นไร" บอกเสียงแหบๆ

"ไม่เป็นไรได้ไงตัวร้อนขนาดนี้ ต้องไปหาหมอรู้มั้ย" หาหมอตอนสงกรานต์นี่น่ะ เอาอะไรคิดครับ
เดี๋ยวมีอันได้อดเล่นน้ำกันพอดี ขาวๆ ตี๋ๆ รอน้องเออยู่นะครับเพ่ ผมโยกหัวกลับมาตั้งฉากตรงเหมือนเดิม

"ไม่ไปอ่ะ กินยาเดี๋ยวก็หาย ผมอยากเล่นน้ำ"

"ไม่ได้ เกิดเป็นปอดบวมจะทำไง ไม่ให้เล่น ต้องไปหาหมอเข้าใจมั้ย"

"อื้อ ไม่เอาเค้าจะเล่นน้ำ" ออกอาการเด็กไม่หย่านม ป่วยทีไรเป็นทุกที

"เล่นไม่ได้ครับ" ป๋าชินไม่ยอมท่าเดียว

"ก็เค้าอยากเล่นอ่ะ นะป๋า นะครับที่รัก" ทำเสียงอ้อนพลางทำตาปริบๆ

"ไม่ได้" เสียงแข็งขึ้นมา ผมหน้าบูดใส่เลย

"ไม่ได้ก็จะเล่นอ่ะ มาเที่ยวนะไม่ได้มานอนโรงพยาบาล"

"อยากตายเหรอน้องเอ" เอ๊า มีมาแช่งกันอีก

"ทำไม ป๋าจะฆ่าผมเหรอ" ทำหน้าท้ามือพยายมเสียหน่อย (วอน)

"เออ ไอ้ดื้อ!!" พูดจบป๋าจับผมพาดบ่าโชว์คนทั้งไทยและเทศที่มาเที่ยวรีสอร์ททันที
เห็นสายตาแล้วตะโกนเป็นนางเอกไม่ลง เลยได้แต่ปล่อยสังขารให้อิป๋าแบกไปขึ้นเตียง

สรุปนอนตายเพราะพิษไข้ที่รีสอร์ทหนึ่งวันกับหนึ่งคืน มีไอ้เพื่อนไผ่คอยโทรมารายงานการเล่นน้ำเป็นระยะ
แล้วก็ไปตายต่อที่โรงพยาบาลเชียงใหม่อีกสามคืน ก่อนไปปลงศพต่อที่บ้าน ทำพิธีเผาจบป๋าก็มีเมียใหม่
อร๊าย! ยังไม่ได้ แต่ก็นั่นล่ะ อดเที่ยวอย่างที่วาดฝันไว้เลย ยังดีที่มีหวานต่อหน่อยๆ ที่บ้าน
จะเรื่องอะไร ก็เรื่องของขวัญครบรอบแต่งงานนั่นแหละ งานนี้อิป๋าเป็นฝ่ายซึ้งน้ำตาตก
ด้วยการตบรางวัลให้ผมยันฟ้าสางฉลองหายไข้ จบ~

*อ้อผมไม่ใช่พวกป่วยบ่อยนะครับ แต่ที่ป่วยๆ ส่วนมากถ้าไม่ใช่เพราะหนักกับกิจกรรมบนเตียงมากไป
ก็เกิดจากข้างในมันเครียดเยอะไปบวกกับสภาพอากาศก็เท่านั้น จริงจริ๊ง สาบาน ^^


**************************************

ห่างหายไปนาน (ได้ข่าวบอกไปกินข้าว สงสัยไปกินที่ขั่วโลกมา)
ตอนหน้าจะกลับมาต่อตอนหลักนะครับ ไปหลับก่อน บาย~



หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษต่อ (9/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-05-2014 11:58:16
นายเอกเรื่องนี้น้ำตาท่วมเล้าทุกตอนเลย 555
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษต่อ (9/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 09-05-2014 12:17:20
 ...ขอสามคำ...เอ..งอ...แง :laugh:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษต่อ (9/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 09-05-2014 12:25:09
น้องเอชอบความเจ็บปวดดดด
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนพิเศษต่อ (9/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงภูเขา ที่ 09-05-2014 22:26:49
น้องเอน่ารักอ่ะ (?)

รอนะจ๊ะ..รออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  :hao7:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: runrunna29 ที่ 31-05-2014 23:45:36


รักบอดๆ ตอนที่ 27





"น้องเอทำอะไร" อิป๋าเดินมายืนกอดอกมองผมดุๆ ที่หน้าประตูรั่วบ้าน
"คุยกับพี่ข้างบ้าน" จบปิ้ง? เหมือนไม่จบ หน้านี่ขมวดหนักกว่าเดิมอีก เอ๊อ!
"พี่เขาเพิ่งย้ายมาเลยมาทักทายอ่ะ เนี่ยชื่อพี่กร แล้วก็พี่กรนี่...พ่อ เอ้ย พี่ชินพี่ผมครับ" บอกตรงๆ อธิบายสถานะไม่ถูก
"สวัสดีครับพี่ชิน" พี่กรยกมือไหว้เร็วๆ หน้าเอ๋อ คงไม่เข้าใจทำไมป๋าต้องทำหน้าดุอย่างกะหมาพันธุ์บางแก้ว
"ครับ น้องเอข้าวเย็นเสร็จแล้วคุยจบก็รีบไปกินซะ" บอกจบปุ๊บหันหน้าเข้าบ้านเลย
ผมอ้าปากที่จะตอบค้างไว้ ถอนหายใจปลงกะอาการสามี

"เอ พี่ชินเขาโกรธไรพี่ป่ะ ท่าทางเหมือนไม่ชอบพี่เลยนะ" เขาก็ไม่ชอบผู้ชายทุกคนที่เข้าใกล้ผมนั่นแหละ
อยากตอบจริงๆ คำพูดนี้ เสียดาย

"อ๋อ เขาก็เป็นงี้แหละ พี่กรก็ไม่ต้องไปสนใจหรอก อ้อ ขอบคุณนะครับสำหรับผลไม้"
ผมยิ้มขอบคุณพลางยกถุงส้มโอที่พี่กรเอามาเป็นของเยี่ยมขึ้นโชว์

พี่กรคนนี้
เขาว่าเพิ่งเรียนจบแล้วก็มาทำงานใกล้ๆ แถวนี้ เพราะพอดีมีบ้านของญาติที่ซื้อไว้แต่ไม่ค่อยได้อยู่เนื่องเดินทางทำงานต่างประเทศบ่อย
ก็เลยมาอาศัยพร้อมกับเป็นคนดูแลบ้านให้เขาไปด้วยประมาณนั้น หน้าตาพี่กรออกไปทางบ้านๆ ไม่หล่อทว่ามีเสน่ห์มาก

"ไม่เป็นไรครับ งั้นพี่เข้าบ้านดีกว่า กลัวไม่รีบพี่ชายเอจะออกมาทำหน้ายักษ์ใส่อีกหน"
"ได้แค่นั้นล่ะครับ" ผมพูดลอยๆ พี่กรก็ทำหน้าตาประมาณว่า
'ห๊ะ' ผมก็เลยหัวเราะบอกไม่ต้องสนใจ จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้าบ้านตัวเอง

"อุ้ย" ผัวแอบอยู่หลังประตู "ทำไรป๋า ตกใจหมด หน้าน่ะแก่อยู่แล้วนะ ยังจะทำให้มันแย่หนักกว่าเดิมอีก"
"คุยกันกระหนุ๋งกระหนิ๋งเชียวนะ อย่าคิดไม่รู้นะ แอบดูตั้งนานแล้ว" โอ้ ขนาดนั้นเลยเหรอครับพ่อ
"คุยธรรมดาเหอะ อย่าเหมารวมว่าผู้ชายทุกคนจะเป็นเกย์สิ ไปๆ เอาส้มไปปลอกเลย"
"ไม่" เดินดุ่ยๆ เข้าไปในครัว ตักข้าวกินไม่รอผมสักนิด
"ป๋าอย่ามาหึงไม่เข้าเรื่องนะ เขาอุตห์ส่ามีน้ำใจเอาของมาทักทาย ทำตัวไม่เป็นผู้ใหญ่เลย"
ผมวางส้มโอลงบนโต๊ะกินข้าว ป๋าไม่ตอบสนองนั่งยัดข้าวเข้าปากอย่างเดียว

"เออ เอาเหอะ" ผมเดินออกจากห้องกะว่าจะอาบน้ำก่อนค่อยกินข้าวเพราะชุดนักศึกษามีแต่เหงื่อ
"ก็ให้รู้ไปว่าเท่าที่เป็นอยู่มันไม่ใช่ผู้ใหญ่" เสียงอิป๋าดังตามหลังผมเข้ามาในห้องนั่งเล่น
"ประสาท" ผมบ่นแล้วถอนหายใจ

อาบน้ำใส่ชุดบอลลงมาก็หาข้าวใส่ท้อง อิ่มท้องก็เดินไปดูป๋าชินที่นั่งอยู่บนม้าหินอ่อนหน้าบ้าน
แหม คนแก่กูช่วงนี้เป็นวันนั้นของเดินป่ะวะ อารมณ์แปรปรวนบ่อยเกิ๊น

"ป๋าไม่อาบน้ำอ่ะครับ" พูดเพราะๆ ง้อเขาหน่อย อ๊ะครึ อ๊ะครึ
"ไม่" คำเถียงโดดๆ ประธานกูหายไปไหน
"มืดแล้วนะ ยุงเยอะด้วย เข้าไปนั่งในบ้านเหอะ กลับมาเหนื่อยๆ เดี๋ยวผมนวดให้เอาป่ะๆ" เอานิ้วจิ้มไหล่ป๋าจึกๆ
"ไม่"
"งั้นผมสระหัวให้ด้วยเอามั้ย ป๋าชอบนี่"
"ไม่" ถี่ไปนะคำนี้
"งั้นก็ตามใจ ง้อแล้วไม่เลิกงอนก็เชิญ" ผมพูดแล้วเดินมานั่งบนโซฟาในห้อง เปิดคอมเล่นเกมเดอะซิม (เคยเล่นกันป่ะ?)
ป๋าชินหน้ามุ่ยเดินตามมาหลังจากนั้นสิบนาที หย่อนก้นลงข้างๆ ผมแล้วหมุดหัวเข้ามาวางตรงตัก

"ง้อนานสักหน่อยมันเหนื่อยรึไง"
"ไม่เหนื่อยหรอก แต่ยุงมันกัด คัน แล้วก็นะ ไม่รู้จะง้อทำไมนานนัก ผมไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย" ผมว่า ตาก็มองจอ
ไม่มองป๋าหรอก หน้าซิมผมหล่อกว่าตั้งเยอะ ฮ่าๆ

"รักกันน้อยลงหรือเปล่า?"
"มีแต่จะเพิ่มสิไม่ว่า ป๋าเป็นไรไปเนี่ย แปลกไปนะผมว่า มีอะไรบอกมาตรงๆ สิ ไม่งั้นผมก็ไม่รู้หรอกนะ"
น่าจะเป็นช่วงหลังฉลองปีใหม่มั้งที่แกเริ่มมีอาการง๊องๆ แง๊งๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้แบบนี้

".........." เงียบไประยะชั่วอึดใจ "เปล่า" คำตอบมึงไม่ได้ชื่นใจกูเลยครับ
"อย่ามาตอแหล" ผมละจากจอคอมมองหน้าอิป๋าเคืองๆ
"เปล่าจริงๆ พี่แค่คิดว่าคู่เรามันอยู่ในช่วงอิ่มตัวแล้วหรือยังเท่านั้นล่ะ"
"เหรอ ถ้าใช่ป๋าจะเลิกกับผมหรือไง"
"ไม่เลิกได้ด้วยเหรอ?" ถามมาหน้าซื่อแต่พาลเอาคนฟังหงุดหงิดเกือบจะแจกขนมตุบตับไปหลายถุง
"งั้นก่อนผมจะตอบป๋า ป๋าตอบผมมาข้อหนึ่ง...ป๋าคิดว่าผมเปลี่ยนไปหรือเปล่า?" ผมดันหัวป๋าชินออกแล้วลุกขึ้นยืนหอบคอมขึ้นมาถือ
"ไม่ต้องรีบ ผมให้ป๋าได้มีเวลาคิดถึงเย็นพรุ่งนี้ วันนี้ผมจะนอนห้องรับแขก แล้วพรุ่งนี้จะให้ไอ้เบียร์มารับไปเรียน เข้าใจนะ"
หนีขึ้นบ้านล็อคห้องแม่ง โทษฐานดูถูกความรักของกู!



**********************************



มหาลัยตอนเช้ากับการสนทนาระหว่างกลุ่มเพื่อนรักหน้าคณะ

"มึงไปทำอะไรให้ป๋าเขาเข้าใจผิดเปล่า" หงำว่า ปากเคี้ยวทาโร่ตุ้ยๆ
"กูจะไปทำไร ตัวติดกันตลอด ล่าสุดที่กูจับสังเกตแกเป็นแบบนี้ก็ตอนหลังไปเค้าดาวกับพวกมึงสามตัวแหละ"
จำได้แค่ว่าเมาไม่ลืมหูลืมตา แต่ไม่ลืมทางกลับบ้านแค่นั้น

"ตอนนั้นป๋าเขาอนุญาตเองไม่ใช่ไงวะแก" ต่ายพูดทันที
"ก็ให้..." ผมก้มเอาหน้าแนบโต๊ะ ถึงจะว่าแปลกที่ยอมให้ไปเที่ยวกันเองง่ายๆ โดยไม่ขอตามไปคุมก็เถอะนะ
"แต่กูเองก็ไม่รู้ว่ากูไปทำอะไรให้เขาคิดแบบนั้นได้ หรือรักของพวกกูมันถึงจุดที่ป๋าเขาว่าแล้วจริงๆ วะ"
"ไม่ใช่ป๋าอยากเลิกกับมึงไปมีคนอื่นหรอกนะ" ไอ้เบียร์แส่ ผมหันมองมันตาขวาง
"ความคิดเชี้ยดีนะมึงอ่ะ"
"เอ้า ก็เพิ่งจบเรื่องยัยคุณวิอะไรนั่นมาหยกๆ ถัดมาก็หาเรื่องง๊องแง๊งกับมึง ก็คิดได้แค่นี้ไม่ใช่เหรอ"
"สร้างสรรค์เหลือเกิน...เออว่ะ ถ้าเป็นงั้นจริงทำไงวะ แสนดีขนาดนั้นหายากด้วย" ยังมีอารมณ์เล่น
"มึงก็ห่วงเอาแต่ความสบายเนอะ"
"ขาดป๋าชิน ชีวิตกูก็ขาดลมหายใจ"
"อ้วก!!" พร้อมใจกันสามตัว
"ขาดคนใช้สิไม่ว่า" เบียร์แดกดัน ต่ายกับหงำพยักหน้าเห็นด้วย
"คือๆ กันไม่ใช่เหรอวะ"
"อิคนเห็นแก่ตัว" ต่ายจิ้มหน้าผากผมแรงๆ ผมเบ้หน้า
"กูพูดเล่น เล็บยาวนะมึง กูไม่ยอมเลิกหรอก กูรักของกู ถึงไม่ชอบแสดงออกก็เถอะ"
"ทำสีมา สวยมั้ยๆ" เปลี่ยนเรื่องตลอด
"สีเหมือนไปจกไส้ใครเขามา" หงำแหย่ ต่ายหน้างอ
"จะจกแกคนแรกน่ะแหละ ปากดี เชอะ!"
"แต่แม่ง! ชีวิตกูทำไมไม่ราบเรียบบ้างวะ จบเรื่องนั้นเจอเรื่องนี้ เหนื่อยชะมัด" ยกมือขยี้หัวตัวเองแล้วแน่นิ่งเป็นศพ หมดแรงจริงเลย
"สมุติป๋าแกให้คำตอบมึงมาอย่างไม่ตรงใจมึง มึงจะทำไงวะเอ" เบียร์เจาะประเด็น
"บอกว่ากูเปลี่ยนไปเหรอ...ก็คงจะจริงมั้ง ก็กูเปลี่ยนไปรักเขาขนาดนี้อ่ะ ผู้ชายคนแรกของกูนะโว้ย คบมาขนาดนี้ไม่รักมากขึ้นมึงไม่ว่าแปลกไง อีกอย่างก็ไม่ใช่แค่ความรักที่มากขึ้นนะ ความผูกพันของกูกับป๋าก็มากตามไปด้วย คิดแล้วอยากโซแซด ช่างหัวมันเหอะ"

"เฮ้ย ช่างได้ไง" ต่ายแหวคว้าข้อมือผมที่กำลังจะลุกขึ้นยืน
"วันนี้มีสอบนะมึง จะให้กูเอาความรักที่ยังไม่มีข้อสรุปมาทำลายอนาคตมันไม่เข้าท่าว่ะ"
"ใจมึงหล่อมากไอ้เอ วันนี้มึงดูมีสง่าขึ้นสิบเปอร์เซ็นต์" หงำชม
"แล้ววันอื่น?"
"ลบร้อยยี่ว่ะ" ตอบได้โดนตีนมากครับไอ้เพื่อนเลิฟ น่าโบกสักรอบ
"หึๆ ขอให้มึงสอบตก แดกF ระนาว" จับหัวหงำมาเป่ากระหม่อมให้พรสำฤทธิ์ผลพร้อม (เลวเนอะ)
"ไอ้สาดเอ!!" ไล่เตะกันยันถึงห้องสอบ



*********************************

เรื่อยๆ เปื่อยๆ
อารมณ์หดๆ หายๆ
แต่ก็คิดถึงคนอ่าน และรักคนเม้นต์นะจ๊ะ


หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 01-06-2014 00:43:17
น้องเอออ อ  น่ารักเสมอ และเกรียนไม่ส่างจริงๆ
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-06-2014 01:57:17
ปัญหาตลอดอะคู่นี้ จบเรื่องนั้นมาโผล่เรื่องนี่
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 01-06-2014 08:14:32
ทะเลาะกันอีกละคู่นี้นี่ มีปัญหาเรื่องความไม่เชื่อใจนะเนี้ย
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 01-06-2014 10:07:56
สงสัยต้องจับน้องเอขังไว้ ป๋าจะได้ไม่หึงง  :z10: :z3: :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: StillLoveThem ที่ 19-07-2014 16:25:45
.....มีอารมณ์..กลัว...กันทั้งสองคน ...พอกลัวแล้วก็เริ่ม...ระแวง..จริงป่ะ
.....แหม..แต่น้องเอ พูดเต็มปากเต็มคำเชียวนะ ...ว่ารักป๋า มิได้รักความสะดวกสบาย
.....ป๋าได้ยินคงยิ้มแก้มระเบิด พร้อมจัดหนักจัดเต็มให้น้องเอ :laugh:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 02-07-2015 21:36:23
คิดถึงน้องเออออออออออ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: Pin_12442 ที่ 10-07-2015 15:32:23
น้องเอหายไปหนายยยย? :ling1:
หัวข้อ: Re: รักบอดๆ ตอนที่ 27 (31/05/57) หน้า 8
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 10-07-2015 15:36:01
มารอน้องเอ