พิมพ์หน้านี้ - ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: jaevin ที่ 10-04-2017 13:25:24

หัวข้อ: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 10-04-2017 13:25:24
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


**********************************************

คนกลางอย่างผมใครจะเข้าใจ
ว่ารักน่ากลัวเท่าไร
เอ่อ...ไม่ใช่ละ...

(http://www.mx7.com/i/219/JiqZwT.jpg)
cr.หนังสั้นเพื่อนรัก ใช้ภาพเพียงประกอบเรื่องเท่านั้นไม่ใช่อิมเมจตัวละครนะคะ

สารบัญนิยาย
 1 ใจกลางความทรงจำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3613356#msg3613356)
 2 กลาง(จำเป็นต้อง)ใจกล้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3614300#msg3614300)
 3 พยัญชนะตรงกลาง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3615651#msg3615651)
 4 คนกลางเวที (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3617503#msg3617503)
 5 คน(ของ)กลาง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3619689#msg3619689)
 6 คนกลางหัดงอแง...ก็ได้หรอวะ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3620908#msg3620908)
 7 กลางความบ้าคือกล้าเป็นห่วง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3622354#msg3622354)
 8 กลางความเจ็บ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3624827#msg3624827)
 9 กลางหน้าที่ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3628140#msg3628140)
 10 กลางความหวั่นไหว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3633275#msg3633275)
 11 กลางความสับสน (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3635053#msg3635053)
 12 ความรู้สึกของคนกลางใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3637324#msg3637324)
 13 คนกลางใจผม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3639646#msg3639646)
 14 เกมส์ กลาง เปา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3644173#msg3644173)
 15 เมื่อคุณกล้วยมีปัญหา เพื่อนกลางต้องทำยังไง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3647588#msg3647588)
 16 ความลับที่คนกลางค้นพบ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3651783#msg3651783)
 17 วันที่คนกลางไม่เห็นจะเข้าใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3655635#msg3655635)
 18 คนกลางกับวันเหนื่อยๆ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3658848#msg3658848)
 19 คนเล็ก VS คนอย่างเปา1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3663889#msg3663889)
 20 คนเล็ก vs คนอย่างเปา2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3668445#msg3668445)
 21 กลางวันสายบุญ กลางคืนสายบาป (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3672213#msg3672213)
 22 มรสุมกลางดราม่า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3677655#msg3677655)
 23 ความสว่างกลางหัวใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3682531#msg3682531)
 24 ฟ้าสีกลางๆ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3686318#msg3686318)
 25 คนกลางเเห่งโลกใบนี้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3690425#msg3690425)
 ตอนพิเศษ 1 ไอ้เปาลูกพ่อปลา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3695429#msg3695429)
 ตอนพิเศษ 2 ตามหารักแท้กับคุณกล้วย 1 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3824308#msg3824308)
 ตอนพิเศษ 3 ตามหารักแท้กับคุณกล้วย 2 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=59298.msg3849746#msg3849746)

►THE END◄

หัวข้อ: Re: คนกลาง ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 10-04-2017 13:38:46
1
ใจกลางความทรงจำ




ผมชอบความพอดี..


นั่นเป็นวลีที่ผมชอบพูดมากที่สุดรองจากคำว่าเหี้_


โธ่ มันต้องมีบ้างแหละที่จะต้องหลุดคำอุทานที่ใครก็ไม่รู้นิยามว่ามันเป็นคำหยาบ


ผมมักหงุดหงิดเสมอ เมื่อมีใครซักคนนึงทำอะไรหลุดกรอบ เป็นต้นว่า แซงคิว หรืออะไรก็ตาม มันจะยากซักแค่ไหนกับการทำตามกฎ ทำอะไรที่ไม่ล้นกว่าคนอื่น อาจจะเป็นเพราะผมเป็นลูกคนกลาง เห็นพี่ชายเรียกร้องน้อยไป มองน้องชายเรียกร้องเยอะเกิน แถมผมยังมีชื่อสุดตรงแด่วว่า “คนกลาง”


ไอ้เพื่อนตัวดีของผมอย่างไอ้โจ๊กมักจะเรียกผมว่าชายกลาง แต่ก็ดีกว่ามันเรียกผมว่ากลางคนล่ะมั้ง แต่ คน กับ ชาย มันจะสะกดคล้ายกันตรงไหนวะ


ตั้งแต่จำความได้ผมก็ทำหน้าที่คนกลางสำหรับพี่น้องมาโดยตลอด ผมพยายามรักษาระดับความพอดีของการใช้ชีวิตไว้ คำว่าคนกลางสำหรับผมมันน่าเบื่อสุดๆ ผมห้ามตัวเองไม่ให้ยุ่งเรื่องเกินพอดีของคนอื่น ผมจึงเรียนชั้นประถมได้อย่างมีความสุข


จนวันนึงที่ผมต้องทำหน้าที่ “คนกลาง” ที่โรงเรียนเป็นครั้งแรก



วันนั้นเป็นวันที่หนาวที่สุดของภาคเหนือ

 


ติ๊ง

Joker manyu ได้เพิ่มคุณเข้าร่วมกลุ่ม YT49


ส่วนบ่ายวันนี้ร้อนสุดๆ และไอ้โจ๊กได้ลากความทรงจำของผมไปสู่ชั้นประถมอีกครั้ง




เด็กชายตัวเล็ก ผมรองทรงยืนก้มหน้าอยู่กลางห้องเรียน มันใส่เสื้อกันหนาวมีฮู้ดสีแดงซึ่งตัดกับกางเกงนักเรียนชายสีน้ำเงินเป็นอย่างมาก แก้มย้วยๆ ของมันสั่นน้อยๆ คงเป็นเพราะมันขบริมฝีปากตัวเองไว้ ส่วนคนที่ยืนตรงข้ามสูงกว่ามากโข มันมีผิวสีแทนเพราะเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนแถมยังมีพรรคมีพวกหลายคน ลูกกระเดือกของเด็กชายตรงข้ามขยับขึ้นลงเมื่อตอนกลืนน้ำลาย นายคนนี้เป็นเด็กชายวัย 12 ที่แตกหนุ่มก่อนเพื่อนทั้งชั้นเรียน เพราะแบบนั้นจึงทำให้ไอ้ตัวเล็กที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ฝั่งตรงข้ามกลายเป็นเด็กแคระไปเลย


“ไอ้เปามึงมันลูกแหง่ ทำอะไรก็ไม่เป็น ไม่ได้เรื่อง เดี๋ยวก็กลับบ้านร้องไห้ไปฟ้องพ่อกับพี่มึงอีก”


เด็กตัวสูงเริ่มเปิดศึก เจ้านี่มีชื่อว่าเกมส์ เด็กเฮี้ยวประจำ ป.6 มันเกเรแต่ก็ร้ายเอาเรื่องเพราะเป็นถึงนักฟุตบอลอนาคตไกล เตรียมเทรนกับสโมสรดังของประเทศ ส่วนไอ้เด็กเตี้ยข้างหน้า มันชื่อเปา ผอมแห้งแรงน้อย ไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับใคร มันชอบเล่นคนเดียวบ้าง บางทีก็เผลอพูดคนเดียวก็มี


แต่เหตุที่ผมต้องให้มันยืนข้างหลังผมก็เพราะว่า เจ้านี่มันเหมือนน้องชายของผม ไม่เหมือนน้องชายของผมที่บ้านนะ ผมแค่รู้สึกว่ามันต้องมีใครดูแล ผมชอบดึงผมมันเล่น แล้วบอกว่าผมนุ่มเหมาะมือ ก่อนจะถามต่อไปอีกว่าใช้ยาสระผมยี่ห้ออะไร มันตอบกลับมาว่า “ตรานกกระปูดแดง” เสียงเป็ดของมันดูตลกดี การได้กวนมันให้หรี่ตามองด้วยความรำคาญเป็นเรื่องที่สนุกไปอีกแบบ
   
เหตุการณ์ตอนที่ผมอยู่ ป.5 คงเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับผมและไอ้เปา ก็ตอนนั้นน่ะ...ไอ้นี่มันขี้โรคเผลออ้วกในห้อง ไอ้เกมส์ยี้เสียงหลง มาสเตอร์อภิรักษ์บอกให้เพื่อนในห้องช่วยเช็ดอ้วก แต่ไม่มีใครลุกมาซักคน ไอ้เปาก้มหน้าหงอยก่อนจะเดินไปหยิบไม้ถูพื้นตรงมุมทำความสะอาด ท่าทางเก้ๆ กังๆ มองดูแล้วคงจะทำอะไรไม่เป็น และผมไม่เข้าใจความคิดของคนมากนัก แต่พอเห็นแล้วก็สงสัยว่าทำไมไม่มีใครลุก ผมยืนขึ้นแล้วแย่งไม้ถูพื้นจากกมือไอ้เปามาเช็ด ตัวผอมขนาดนี้จะทำอะไรได้ จากนั้นเราก็เริ่มคุยกันมากขึ้น


หลายคนคงจะงงว่าทำไมหัวหน้าห้องอย่างคนกลางจะแปรพักตร์จากคนส่วนมากมาเล่นกับไอ้เปาที่ไม่มีใครคบ โดยเฉพาะไอ้เกมส์มันมองผมตาเขียวปั๊ดทุกครั้งที่ผมคุยกับไอ้เปา


ครั้งนี้ก็เหมือนกัน


“โดนไปกี่แผล” ผมถาม


“...” ไอ้เปาเงยหน้าขึ้นมามอง เม้มปากจนลักยิ้มแก้มขวาปรากฏเป็นร่อง มันเลิกแขนเสื้อมาให้ผมดูเเทนคำตอบ


“ทำไมมึงต้องยอมตลอดวะ คนเรามันเท่าเทียมนะเว้ย”


“...”


“เมื่อไหร่มึงจะสู้คนซักที” ผมทิ้งท้ายแล้วมองมันอย่างผิดหวัง ไอ้เปามันโดนแบบนี้ทุกอาทิตย์และทุกอาทิตย์ ไม่แผลตามตัวก็รองเท้าหาย แว่นตาว่ายน้ำหายบ้าง ผมเห็นมันโดนพ่อฟาดกับตา เพราะตอนนั้นของที่แพงสำหรับนักเรียนวัยประถมก็มีไม่กี่อย่างที่ต้องรักษาดีๆ


“ไอ้กลาง มึงอย่าเสือกได้มั้ยวะ”


ไอ้เกมส์กอดอกมองหน้าผม ชุดนักเรียนประถมดูเด็กไปเลยเมื่ออยู่บนตัวมัน ผมมองหน้าไอ้เปาที่กลับไปก้มหน้ากำหมัดเหมือนเดิม มันไม่เคยตอบโต้อะไรเลย เพื่อนคนอื่นที่มุงดูก็ไม่เบื่อที่จะดูทุกครั้ง


“มึงพอเถอะไอ้เกมส์ อีกไม่กี่เดือนก็จะแยกย้ายกันแล้วนะเว้ย”


“แล้วไงวะ ไอ้อ่อนนี่มันก็กวนตีน เสือกให้พ่อไปฟ้องมาสเตอร์ว่ากูขโมยของมันไป เหอะ บ้านกูมีปัญญาซื้อเองเถอะ ไม่จนเหมือนมัน”


มันคงแปลกใจที่คนอย่างไอ้กลางที่ไม่ชอบมีปัญหากับใคร ถึงกล้ามายืนจ้องหน้ามันท่ามกลางสายตาเพื่อนนับสิบ ในตอนนั้นผมพูดขึ้นอย่างสุดทน


“มึงเลิกแกล้งมันได้มั้ยวะ”


“ไม่เลิก แต่ถ้ากูเลิก...มึงต้องมาเป็นพวกกู”


ไอ้เกมส์พูดชัดถ้อยชัดคำ ผมมองไอ้เกมส์ก่อนจะหันไปมองไอ้เปา น้องชายของผม และการเป็นคนกลางของผมเริ่มเอนเอียงตั้งแต่นั้น อาจเป็นเพราะผมไม่อยากเห็นมันโดนแกล้งอีกแล้ว ไอ้เกมส์ยิ้มแสยะลูกกระจ๊อกของมันหัวเราะส่งเสียงครืนๆ ไปทั่วห้อง ผมกำลังก้าวเท้าออกจากกรอบ เพื่อช่วยเพื่อนที่ผมรักคนหนึ่ง


“ถ้ามึงเลิกแกล้งมัน กูจะอยู่กับมึง”


เสี้ยววินาทีนั้นไอ้เปากระตุกชายเสื้อกันหนาวของผมเหมือนกับว่ามันตกใจอย่างรุนแรง ผมกำลังทำให้มันเข้าสู่วังวนความโดดเดี่ยวเหมือนตอนที่มันย้ายโรงเรียนมาใหม่ๆ  ไอ้เปา อดทนนะเว้ยอีกไม่กี่เดือน ผมตบบ่ามันเบาๆ พลางส่งสายตาให้หวังว่ามันจะเข้าใจสิ่งที่ผมทำ กูจะช่วยมึงเอง


แต่ในตอนนั้นผมไม่รู้ว่า.... บางทีมันอาจจะยอมโดนแกล้งตลอดไปแล้วเป็นเพื่อนกับผมเหมือนเดิมดีกว่าให้ผมกลายเป็นพวกไอ้เกมส์


ผมไม่รู้


พอคิดอะไรได้ มันก็หลังจากนั้นหลายปี


“ฮ่าๆๆ ไงล่ะไอ้อ่อน อยู่คนเดียวไปเถอะมึง”


รอบตัวผมอื้ออึงไปด้วยเสียงหัวเราะสะใจ นาทีนั้นผมได้แต่มองหน้ามันที่เอาแต่ก้มหน้า หลังจากนั้นไม่กี่อาทิตย์มันก็ย้ายโรงเรียน ย้ายไปไหนก็ไม่รู้ และเรื่องราวของไอ้นกกระปูดแดงก็ค่อยๆ เลือนหายไป



ติ๊ง

Joker manyu
กดเข้าร่วมด้วยไอ้กลาง


เสียงแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊กระชากผมกลับสู่โลกความจริงอีกครั้ง ตอนนี้เราอยู่ช่วงปิดเทอมเตรียมพร้อมเข้าสู่โลกมหาวิทยาลัย ผมกับไอ้โจ๊กเป็นคนเหนือ อยากท้าทายความแปลกใหม่ตัดสินใจเลือกแอดมิดชั่นที่กรุงเทพฯ อาทิตย์หน้าผมก็จะเดินทางไปหอพักกับไอ้โจ๊ก ส่วนข้าวของต่างๆ ผมส่งไปหอพักก่อนเรียบร้อยแล้ว เรามันชายแมนๆ ไม่มีของใช้อะไรมาก

Joker manyu
กดยังงงงงง


Khonklang  KP
แปปดิวะ
เออ กดละ


Joker manyu
มึ้งงงง ไอ้เชี่ยย มึงส่องด่วน มึงจำอีเจี๊ยบได้มั้ยตอนนี้เป็นแฟนกับไอ้ไรไม่รู้ตัวดำๆ ตอนป. 6   อยู่ห้อง 5 ขนาดแยกกันไปเรียนคนละที่แล้วนะแม่งแบบพวกมึงนี่ไม่หาคนไกลๆ ตัวบ้างหรอวะ


ผมคุยกับมันเรื่องเพื่อนเก่าอีกสักพักนึงก่อนที่มันจะขอตัวไปทักทายสาวเพื่อนเก่า กลุ่มที่ไอ้โจ๊กลากผมเข้าร่วมคือกลุ่มโรงเรียนประถมที่แม่งคึกอะไรกันก็ไม่รู้ ผมลากสายตามองโพสต์ที่เพื่อนวัยเด็กทักทายกัน เฮ้ย ไอ้วินนี่หน้าเปลี่ยนมาก ไอ้เจก็สูงตอนเด็กโคตรเตี้ย ผมหัวเราะกับตัวเองอย่างบ้าคลั่ง แต่ในใจแอบหวังว่าอาจจะมีคนที่ผมกำลังคิดถึงอยู่ก็ได้


น้องชายนกกระปูดแดง


หลายๆ คนในกลุ่มหน้ามีเค้าเดิมแต่ถ้ามองแวบแรก ผมก็จำไม่ได้เหมือนกัน แน่ล่ะ เราแยกกันมาตั้ง 6 ปี แถมบางคนที่มาเรียนต่อมัธยมโรงเรียนเดียวกัน จากเคยสนิทกัน เดินผ่านก็แทบไม่ยิ้มให้กันแล้ว แต่ยังมีไอ้โจ๊กเนี่ยแหละตอนประถมมันอยู่ห้องท้าย พึ่งจะมาสนิทกันตอนเข้ามัธยม แล้วก็ติดหนึบผมจนน่ารำคาญ นึกถึงเพื่อนสมัยเด็ก ผมก็พยายามนึกหน้าไอ้นกกระปูดตอนโตแต่ก็นึกไม่ออกเพราะภาพในความทรงจำวัยเด็กจำได้แค่ภาพเด็กผอม แก้มตุ่ย ผมชี้โด่ขี้เด่ ท่าทางไม่มั่นใจในตัวเอง แถมชอบพึมพำอะไรคนเดียวอยู่เรื่อย


ติ๊ง


Games  BAEU
ไอ้กลางป่ะ?

ใครวะ เสียงแจ้งเตือนจากแชทเด้งขึ้นมาแทรกเสียงเพลงป๊อปที่ผมเปิดไว้เบาๆ ผมคลิกเข้าไปดูหน้าโปรไฟล์นึกตั้งนานถึงร้องอ๋อ

Khonklang  KP
เออกูกลางเอง มึงไอ้เกมส์ใช่มั้ย?
ไม่เจอกันนาน หน้าไม่เปลี่ยนเลยนะมึง


Games  BAEU
ส่วนหน้ามึง กูก็จะเกือบไม่ได้ละ ไอ้โจ๊กบอกกูว่านี่เฟซมึง


Khonklang  KP
แล้วนึกไงทักกูมาวะ


Games  BAEU
ก็เปล่า นึกถึงเรื่องเก่าได้ไอ้สัด


Khonklang  KP   
เรื่องไรวะ ว่าแต่มึงเถอะ เป็นนักฟุตบอลแล้วอ่ะดิ

 
Games  BAEU
เออกูก็ไม่ได้มุ่งเรียนมาแต่แรกแล้วเนี้ย จบ ม.6 กูก็เข้าแคมป์เลย


Khonklang  KP
สโมสรไรนะมึงอะ กูไม่ค่อยรู้เรื่องบอลไรกะเค้า ตีฮอนอย่างเดียว
555


Games  BAEU
555
ไอ้เชี่ย  กูอยู่บีเออี ยูไนเต็ด


Khonklang  KP
เฮ้ย เจ๋งว่ะ


แล้วผมก็คุยเรื่องเพื่อนคนอื่นอีกซักพัก น่าแปลกที่เรื่องราวบาดหมางสมัยเด็กจางหายไป ผ่านมา 6 ปี โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด พวกผมก็คุยกันได้เหมือนเดิมเหมือนกับเรื่องเก่าๆ เป็นเพียงแค่ความทรงจำให้พอนึกถึงแล้วได้ยิ้มบ้าง


Games  BAEU
เออ ไอ้กลาง


Khonklang  KP
ว่า


Games  BAEU
มึงจำไอ้เปาได้ป่ะ
... Games  BAEU กำลังพิมพ์ ....


ไอ้เด็กน้อยนั่นน่ะหรอ...



“กลางงงงงงงง กลางงงงงงงง”


เฮือก! ผมสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเรียกโคตรดังแหวกอากาศมาพร้อมกับเสียงวิ่งขึ้นบันไดตุ้บๆ ไอ้ตัวดีกระชากประตูห้องนอนผม แล้วยืนจังก้าจ้องผม


“อะไรน่ะเล็กเสียงดังทำไม”


“เล็กเรียกหลายครั้งแล้วกลาง”


“แล้วทำไมอะ มีอะไร”


“กลางลงไปข้างได้แล้ว เร็วๆๆๆ”


ไอ้เด็กนี้มันเอาแต่ใจเหลือเกินครับ ลูกคนเล็กของบ้านอายุ 16 ตัวโตอย่างกับตึก ออกกำลังกายเล่นบาสกับพี่ชายคนโตทุกวัน มีแต่ผมเนี่ยแหละ หยุดสูงมาสองปีแล้ว แต่ก็ไม่เตี้ยนะครับ


“...” ผมมองหน้ามันนิ่ง เล็กลากเก้าอี้คอมผมมาใกล้ประตู นิ้วที่กำลังจะพิมพ์ตอบเพื่อนยกค้างไว้อย่างนั้น


“กลางเล่นคอมมา 3 ชั่วโมงแล้ว ถึงตาเล็กเล่นบ้าง นัดกับเพื่อนไว้เล่นเกม”


“เล็ก แต่กลางใช้อยู่”


“ไม่ แม่บอกคนละ 3 ชั่วโมง ลงไปเลยโตรออยู่ จะพาไปซื้อมือถือ”


ผมลอบถอนหายใจก่อนจะปล่อยให้ไอ้เด็กชื่อเล็กเข้ามานั่งแทนผม หน้ามันบานเป็นกระด้ง กูว่านัดสาวคุยชัวร์ บ้านผมไม่ได้ฐานะร่ำรวยและมีลูกชายอายุไล่เลี่ยกันสามคน แม่มักจะมีกฎของบ้านไว้เสมอ เราต้องแบ่งกันตั้งแต่เด็ก ผมจะต้องเสียสละให้น้อง ยอมให้พี่เสมอ ส่วนเรื่องโทรศัพท์มือถือผมก็ไม่มีกับเค้าหรอกครับ ไม่รู้จะใช้ทำไม ผมทุ่มเทเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยเลยตั้งใจว่าจะไม่ใช้โทรศัพท์เด็ดขาดแถมบ้านยังใกล้โรงเรียนใจกลางเมืองอีก ผมเป็นคนติดบ้าน ไม่มีเหตุผลที่ผมต้องใช้มือถือเลยซักนิด แต่ตอนนี้จะต้องไปเรียนห่างพ่อห่างแม่ต้องมีซักหน่อยเผื่อเวลาคิดถึงกัน


ผมเดินลงมาข้างล่างเห็นโตกำลังนั่งดูโทรทัศน์กับพ่อแม่ พี่ชายผมเป็นคนสุขุม แต่จะกวนตีนเวลาอยู่กับผมและน้องเมื่ออยู่ตามลำพัง


“กลางมาพอดีเดี๋ยวพี่โตจะไปส่ง จะได้เลือกฟังก์ชั่นที่มันเอาไว้ใช้เรียนด้วย ไอ้แอพเอิ๊พอะไรนั่นน่ะ”


นั่นแหละครับ แม่ผมยังจะเก่งเรื่องเทคโนโลยีมากกว่าผมอีก แม่หันมาพูดเรื่องโทรศัพท์กับผมอีกสองสามคำ ผมตอบรับก่อนจะพุ่งไปนอนซบพุงพ่อ “พ่อ เล็กมันกวนกลาง”


“ฮะๆ เมื่อกี้ยังนั่งจ้ออยู่นี่อยู่เลย ไอ้เล็กนี่มันไอ้เล็กจริงๆ เลย ขี้หวงพี่”


“เกี่ยวอะไรกับหวงอะพ่อ มันจะไปคุยกับสาว”


“ก็วันหยุดทั้งทีกลางเล่นแต่คอม ไม่สนใจคุยกับน้อง เล็กมันเลยไปเรียกร้องความสนใจน่ะสิ”


แม่ตอบแทนพ่อ พ่อที่นั่งอยู่หัวเราะต่ำแต่พุงกระเพื่อมสั่นมาถึงหัวผม คุยกับพ่อแม่ได้ไม่นานก็ลุกมาเตรียมตัวไปซื้อมือถือ พี่โตแต่งหล่อหยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ กุญแจรถก็พร้อมออกจากบ้าน




“ป่ะ ไปดูมือถือกัน อยากได้แบบไหนอะเรา”


ผมไม่นิยมอะไรหวือหวา เอาแค่ใช้ได้เป็นพอ เห็นไอ้โจ๊กติดมือถือเป็นบ้าเป็นหลังดีแล้วหงุดหงิด ดีที่ผมเคี่ยวเข็ญมันอ่านหนังสือ มันถึงได้ปล่อยมือถือบ้าง ไม่งั้นล่ะก็คะแนนเข้ามหาลัยเน่าแน่


 “เอากลางๆ พอดีๆ”


 “ฮ่าๆ ไอ้กลางเอ้ย”


พี่โตขยี้หัวผมด้วยความหมั่นไส้ สาวที่เดินผ่านมองตาค้างเป็นแถว พี่ชายผมเรียนเภสัชอยู่ที่นี่ครับจะขึ้นปี 4 แล้ว มีแต่ผมที่แหวกแนวไปเรียนกรุงเทพฯ พ่อแม่ไม่เท่าไหร่แต่ไอ้เล็กเนี่ยสิ บ่นเป็นหมีกินผึ้ง ส่วนพี่โตก็มองนิ่งๆ แต่ผมรู้ว่าในใจด่ากูแน่นอน


“แน่ใจนะอยู่ได้อ่ะ”


“แน่ดิ” ถามผมรอบที่ร้อยแล้วครับ พี่โตนี่ยิ่งกว่าพ่ออีกบางที ผมตอบไปทีแล้วพลิกดูโทรศัพท์กลางๆ ของผม 


“ไม่ใช่เอาสาวมานอน รับผิดชอบเองนะ”


“กวนตีนละโต บอกตัวเองเหอะ”


“บอกทำไม ไม่เคย”


“ไม่เคยครั้งเดียวสิมึง”


“ขึ้นมึง ฟ้องไอ้เล็กแน่”


 “เออ ไม่ต้องห่วงน่า กลางไม่ชอบความวุ่นวาย อยู่คนเดียวเงียบๆ พอ”


“พ่อคนกลัวเสียสมดุลชีวิต อะไรมากอะไรน้อยนี่ไม่ได้เชียว”


“อ่ะดิ ผมชอบพอดีๆ”




ใครจะไปคิดวะ ว่าชีวิตผมต้องเผชิญความล้นของอะไรบางอย่าง แล้วความล้นนี่ทำให้ผมเสียความพอดีไป...เอ่อ มากเลยทีเดียว


ติ๊ง

Games  BAEU
ไอ้กลางหายไปไหนวะ
กูจะบอกว่ากูเจอไอ้เปาเมื่อตอนกีฬามัธยม เห็นมาด้อมๆ มองๆ แถวแสตนโรงเรียนมึงอะ
ตอนแรกก็ไม่คุ้นหรอก ให้ไอ้นิคไปถาม
นึกว่าใครทีไหน หล่อแทบจำไม่ได้
มึงตกใจแหง กูยังผงะ
แต่มันแปลกอยู่อย่างนึงเว้ย
ไอ้กลาง
ไอ้เชี่ยกลาง
อยู่ป่ะเนี่ยไอ้สัด
อ่านไม่ตอบอะไรของมึง

Khonklang  KP
พี่ผมไปทำธุระครับ


ไอ้เด็กแสบจอมหวงพี่แสยะยิ้ม ไอ้นี่เองสินะที่ทำให้พี่เขาไม่สนใจ มัวแต่เล่นคอมพิวเตอร์อยู่ได้ เด็กปิศาจหางโผล่ เลื่อนมือขวาไปกดปุ่มนั้นอย่างไม่ลังเล


ลบการสนทนา



“เล็กทำไรกับเฟซบุ๊กพี่”


“เปล่าทำ”


“แล้วทำไมแชทพี่แม่งว่างงี้วะ”


“เล็กจะไปรู้หรอ ตอนจะเล่นเน็ตมันหลุดไปแปบนึง”


ไอ้เล็กพูดน้ำเสียงธรรมดาไม่มีสะดุด เนียนนัก “แล้วกลางหยุดพูดคำหยาบซักทีได้มั้ย มันระคายหู” เล็กกอดอกหรี่ตามองผม พร้อมกับเอานิ้วเขี่ยรูหู กวนตีนชิบ เดี๋ยวนะผมว่าสถานการณ์มันจะเปลี่ยนแล้ว


“เออ ขอโทษ” ผมว่าอย่างหงุดหงิด กูเนี่ยแหละเปลี่ยน


“ละจะคุยอะไรนักหนา เฟซบุ๊กเนี่ย ไอ้คนชื่อเกมส์อะไรนั่นอ่ะ”


ไหนมันบอกไม่ได้ทำอะไร แล้วรู้ได้ไงวะ  “ไม่ได้นักหนา พึ่งเจอเฟซเพื่อนเก่า”


ขี้เกียจเถียงกับมัน เอาเป็นว่า ไอ้เล็กบ่นยาวเหยียด เป็นเสียงงึมงำอยู่ในลำคอ ผมมองหน้าจอคอมอีกครั้ง..เออ เดี๋ยวค่อยทักแชทไปคุยกับไอ้เกมส์ใหม่ละกัน ตอนนี้ขอจัดการไอ้เด็กปากดีซะหน่อย


“แม่!!!!!!” ไอ้ตัวดีแหกปากลั่น เมื่อผมลงโทษมันด้วยความหมั่นไส้ จุดอ่อนของเล็กคือห้ามกอด ถ้ากอดปุ๊บจะมีปฏิกิริยาทันที มันเคยบอกว่าความเกร็งมันแล่นพล่านไปถึงไขสันหลัง


“พี่โต!!!!!!!!!!! ช่วยเล็กด้วย กลางมันจะฆ่าเล็กกกกกกกก”


“อ๊ากกกกกกก ยอมแล้วๆๆๆๆ ปล๊อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!”


“คราวหลังอย่าแอบส่องของกลางอีกเข้าใจ๊ ไอ้น้อง”


“อ๊ากกกกกกกกกกกกก(เสียงสูง)”


โอ้ย หูจะแตก




“ไม่ลืมอะไรแล้วนะลูก”


“ครับแม่”


ค่ำนี้ครอบครัวผมเดินทางมาส่งผมที่อาเขต ส่วนไอ้โจ๊กนั่งน้ำตาซึมเหตุเพราะว่าแม่ติดธุระมาส่งไม่ได้ ไหนบอกแมนๆ ผมไหว้พ่อแม่อีกครั้ง พี่โตเดินมาตบไหล่เบาๆ พลางเหล่ไปที่ไอ้เล็กที่กำลังนั่งกดโทรศัพท์มือถือยิกๆ


“ไปละนะ”


“...”


“เล็กไปละนะ....” ไอ้เล็กเหลือบมองผมแวบนึง ตามันแดงๆ ครับ ส่วนผมก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ กับอาการที่ใครก็ขัดใจพี่ไม่ได้


“อย่างอแงนะเล็กโตแล้ว ตั้งใจเรียน”


“เออน่า กลางก็ตอบไลน์ด้วยละกัน อย่าเงียบหายไม่งั้นตามถึงที่แน่”


“น้องหรือพ่อกูวะเนี่ย”


พี่โตยืนขำเงียบๆ “โชคดี ตั้งใจเรียนนะกลาง”


“ครับ”


เอาล่ะครับ ชีวิตมหาลัยของผมกำลังจะเริ่มขึ้น 


....................................................

หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 10-04-2017 14:06:41
ติดตามจ้า :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-04-2017 14:20:45
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 10-04-2017 15:57:00
ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: aommyga40 ที่ 10-04-2017 17:58:25
เกาะค่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: toncivil ที่ 10-04-2017 18:03:17
ติดตาม ^^  :z1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Moonuglygirl ที่ 10-04-2017 18:58:52
ติดตามค่า
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 10-04-2017 19:25:08
ตามมมมมมม~~~ o13 :katai2-1: :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 10-04-2017 19:29:20
รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-04-2017 19:35:59
ตามมมๆๆฟ ต่อบ่อยๆนะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: เสพศิลป์ ที่ 10-04-2017 20:39:59
 :z1: :z1: มาต่อๆอยสกอ่านต่อแล้วคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lightseeker ที่ 10-04-2017 20:46:01
โอย ชอบอ่ะ มาต่อออีกค่่ะ รอ :hao7: :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 10-04-2017 22:59:04
เล็กขี้หวงพี่อ่า
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: bungg ที่ 10-04-2017 23:13:58
ชอบค่ะ มาต่อบ่อยๆนะคะ รอๆๆๆๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ณัฐฐา ที่ 11-04-2017 08:36:04
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: panitanun ที่ 11-04-2017 09:00:29
อะไรเเปลก?!
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 11-04-2017 11:22:28
 :o8: :o8: :o8: :o8:  น่ารักกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 11-04-2017 12:17:51
น่าติดตามค่าา เปานี่พระเอกป่าวว
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 11-04-2017 14:48:50
ชอบค่ะ
ปูเสื่อรอติดตาม
มาต่อไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 11-04-2017 15:10:57
กำลังตามกลางไปเมืองกรุงค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-04-2017 16:44:27
น่าสนุก ติดเลย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

เกมส์ นิสัยแย่มาก
ไม่รู้เป็นเพราะเปาดูอ่อนแอ น่าแกล้ง
หรือเกมส์ชอบเปา แต่แสดงออกแบบได้แต่แกล้ง
แต่เกมส์ก็ส่งข่าวมาถึงกลาง
ว่าเปามาที่โรงเรียน จำเปาไม่ได้ เปาหล่อ

กลางเลยไม่รู้เรื่องเปา
เพราะน้องเล็ก เด็กขี้หวงลบแชท
คิดว่ากลางต้องได้เจอเปาอีกแน่
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 1 หน้า 1 (10-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-04-2017 21:01:13
เปาโตมาเป็นเมะไหมลูกกกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 2 หน้า 1 (11-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 11-04-2017 21:36:12
2
กลาง(จำเป็นต้อง)ใจกล้า





“ฐาน!!...อักษร อักษร เรียนหนัก รักพัง ตังค์ไม่มี มาทางนี้เลยค้า”



ตึง ตึง ตึ่ง ตึง



ผม...นายคนกลางกำลังอยู่ท่ามกลางมหกรรมการรับน้องรวม มหาลัยผมจะมีกิจกรรมนี้เพื่อรับน้องใหม่ทั้งมหาลัย แต่ก่อนหน้านั้นเราก็รับน้องกันในคณะเรื่อยๆ ผมกับเพื่อนในคณะก็รู้จักกันบ้างประปราย วันนี้นัดตั้งแต่ตีห้าครับ ทั่วมหาลัยเต็มไปด้วยเสียงกลอง และรุ่นพี่ที่แต่งตัวกันเต็มที่ เรียกว่าเน้นฮาไว้ก่อน หลังจากที่นัดกันคณะแล้ว พวกผมก็จะเดินเรียงแถวสิบกว่าคนเพื่อไปยังฐานต่างๆ ซึ่งมีกลุ่มเพื่อนจากทุกคณะในมหาลัยมารวมกัน เรียกได้ว่าวันนี้เราจะได้รู้จักเพื่อนทุกคณะ แม้จะไม่ครบทุกคนแต่ก็ทำให้เราได้เห็นอะไรใหม่ๆ



เมื่อเช้าผมซดโจ๊กอย่างรีบๆ คิดว่าอีกไม่นานก็หิวแน่ๆ พูดถึงโจ๊ก ผมกับไอ้โจ๊กอยู่คนละคณะ ทุกวันนี้กลับหอก็แทบจะไม่ได้เจอกัน ยกเว้นที่มันจะเดินละเมอมานอนห้องผม ผมอยู่คนเดียวครับ แต่ไอ้โจ๊กมันประกาศหาเมทก่อนหน้านั้นเลยได้อยู่กินกับเมท


“ไอ้กลาง ถ้าถึงตาเรามึงร้องดังๆ หน่อยนะ กลุ่มเราขาดไปหนึ่งเเต่ได้ข่าวว่ามันไปต่างประเทศพึ่งจะมาวันนี้”


ผมพยักหน้ารับคำไอ้เบสเพื่อนใหม่ที่นั่งอยู่ข้างหน้า เดิมทีผมก็ไม่ใช่คนที่จะมาแสดงออกอะไรแบบนี้หรอกครับ เอ่อ หมายถึงแต่งตัวเพี้ยนๆ หรือเต้นบ้าๆ บอๆ แต่เพื่อนศิลปกรรมของผมแม่งกล้ากันทุกคน ขนาดหญิงเรียบร้อยยังเต้นแรงขนาดนั้น ถ้าผมไม่ทำต้องกลายไปแกะดำแน่ๆ วันนี้ผมต้องแหกกฎตัวเองเพื่ออยู่ร่วมกับเพื่อนๆ ให้ได้ครับ


“ขอเสียงให้ชาวสินกำมาแนะนำตัวเองหน่อยยยยย!!!! ฮิ้ววว”


“พวกเราสินกำ ไม่หล่อมากแต่ท่ายากเยอะ!!! อื้อ อ่าส์ ซ่า เสียว”


เป็นไงล่ะสโลแกน...พวกผมตะโกนพร้อมกับทำท่ารูดเสา สาวๆ คณะอื่นกรี๊ดกันเป็นแถวๆ ไอ้เชี่ย ผมอายชิบหาย พอพี่ๆ บอกว่ายังไม่พอขออีกรอบผมต้องหลับหูหลับตา ขยับเอวอีกรอบ ชีวิตกูมันเกิดพอดีแล้วโว้ย


“กรี๊ดดดดด!!!!”


พอทุกคนปรบมือพวกผมก็เขย่าพร็อพของตัวเองแทนการปรบมือ แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าไปนั่ง สาวไม่แท้ของคณะอักษรก็กรี๊ดขึ้นมา พวกผมพร้อมกับพี่ๆ ที่ยืนอยู่หน้าฐานหันไปมอง คนที่เดินมาใหม่นั้นใส่เสื้อสีอิฐสีเดียวกับพวกผม หัวของมันคาดผ้าโพกหัวออกแนวชาวเพื่อชีวิต มันคงเป็นหนึ่งในเพื่อนคณะผมเพราะดูจากพร็อพที่ถือคล้ายๆ กับผม ป้ายรูปกำมือเขียนชื่อว่า ‘น้องคูก้ารสนมอมแล้วเสียว’ เอ่อ...นั่นแหละครับมันชื่อว้ากของคณะผม จริงๆ แล้วเราต้องไม่บอกชื่อจริงๆ กับเพื่อนระหว่างรับน้องครับ แต่ไอ้เบสมันคะยั้นคะยอผมเลยต้องผิดกฎของรุ่นพี่ พอก้มมาดูชื่อตัวเอง ‘โคอาล่ามาร์ช’ ก็ยังดีวะ ไม่ได้อมแล้วเสียวแบบไอ้หัวตั้งนั่น


“ว้ายยย เรามีลูกแกะหลงทางค่า น้องๆ จากสินกำอย่าพึ่งไปนะคะ เรามีเหยื่อมาสายแล้ว”


“ไอ้เหี้ยนี่ไงที่กูพูดถึง” ไอ้เบสเอียงหน้าที่เต็มไปด้วยลิปสติกมากระซิบกับผม


“ไปไหนมาคะน้องทำไมถึงพึ่งมา” รุ่นพี่สาวเจ้าของฐานพูดขึ้นหลังจากที่เสียงฮือฮาจบลง ผมเองก็พึ่งได้เงยหน้ามองมันชัดๆ เจ้านี่มีคิ้วพาดเฉียงเหนือดวงตาที่โคตรกวนตีน มันเจาะหูทั้งสองข้าง สองสามรู สไตล์ไหนก็ไม่รู้แถมตัวยังสูงมากอีกต่างหาก มันเหลือบตามองเพื่อนปีหนึ่งร่วมฐานก่อนจะผงกหัวขึ้นลง


“โทษครับพี่ พึ่งมาจากต่างประเทศ”


“แหมๆ เด็กนอกซะด้วย ไหนแนะนำตัวซิ อย่าให้เสียชื่อคณะนะน้อง”


พวกผมหันไปมองมันที่อยู่หัวแถวทางซ้ายมือ เพื่อนข้างๆ สะกิดบอกสโลแกนแนะนำตัวของพวกเรา  มันทำหน้าตาเฉยเมยไม่บอกอารมณ์แต่ก็แอบเห็นสาวๆ ซุบซิบยิ้มกรุ่มกริ่ม แต่พอแนะนำตัวเท่านั้นแหละ...


“สินกำหล่อไม่มากแต่ท่ายากเยอะ อะส์ อะส์ ผมคูก้ารสนมอมแล้วเสียวววววววววววววววววว อ่าส์”



เหี้XXXXXXXXXXXXXXX



มันนี่แหละครับตัวสัปดนของคณะเรา



ไอ้คูก้ามันจับเพื่อนชายหัวแถวหันหลังแล้ว เด้งเอวเข้าไปเต็มที่ประกอบเสียงกลอง เรียกเสียงกรี๊ดอย่างโหยหวนพร้อมกับเสียงพี่ๆ รีบวิ่งเข้าไปบัง แล้วให้เรากลับเข้าไปนั่งอย่างเร่งด่วนเพราะติดเรทเกินไป ส่วนไอ้ตัวดีมันเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะตามเข้ามาเป็นคนสุดท้าย


“เหยดแม่ มึงโคตรบ้าเลยว่ะไอ้คูก้า” ไอ้เบสเอนหลังมาคุยกับเพื่อนใหม่ที่นั่งข้างหลังผม “กูปีโป้สามชั้นนะเว้ย”


“เออดีเว้ย กูต้องทำไรบ้างวะ” ไอ้คูก้าตอบรับคำชมแล้วถามเสียงเรียบๆ


“มึงถามๆ ไอ้โคอาล่าหน้ามึงละกัน เดี๋ยวคุยมากพี่จับทำโทษอีกให้กูซี้ดซ้าดจนจะได้เมียละ” พูดจบมันก็กลับไปนั่งตัวตรง แหมไอ้สาสกูเห็นนะ เล็งสาววิดยาไว้อยู่


“เอ่อ...หวัดดี”  ผมเอี้ยวตัวแล้วพูดทักทาย ไอ้หัวตั้งเหลือบตามองเล็กน้อย “หวัดดีโคอาล่ามาร์ช กู คูก้า ต้องทำไรบอกด้วยนะ” ผมได้แต่นึกในใจว่าไม่ต้องแนะนำอะไร คุณมึงก็ทำได้หมดแหละค้าบ



“โอเค”


ผมได้แต่พูดแค่นั้น แล้วก็พบว่าไอ้บ้านี่ทำได้จริงๆ ครับ มันร่วมทุกกิจกรรมร้องแหกปากดังกว่าเพื่อน พี่ฐานให้ทำอะไรทำหมด ไม่มีเขินอายแม้แต่น้อยขัดกับหน้าตาหล่อๆ ของมันจริงๆ  มีแต่ผมนี่แหละที่หน้าบางแทนมัน


“โคอาล่า เต้นแรงๆ หน่อยสิวะ เดี๋ยวก็ได้ทำใหม่หรอก”


เอ่อ ผมแรงยังไงก็สู้พลังที่ล้นของมันไม่ได้หรอกครับ ไอ้คูก้าเดินตัวติดกับผม เวลาโดนเรียกไปทำกิจกรรมมันมักจะลากผมไปด้วย ไอ้ผมก็ไม่ถนัดเข้าสังคมแบบกะทันหันซะด้วย ไม่เหมือนคูก้าที่มันปรับตัวและไหลลื่นเป็นปลาได้ทุกวินาที แถมสาวๆ ทั้งกลุ่มของเรารู้จักมันเกือบหมดแล้วครับ


“หนึ่ง สอง สาม เอ้า จ้ำ จ้ำ จ้ำ ผมพาเธอมา อ้ำ อ้ำ อ้ำ”


พ่อครับ แม่ครับ ผมขอโทษ


“เอ้า อ้ำ อ้ำ อ้ำ”






ตกเย็นแทนที่ผมจะได้กลับเข้าถ้ำของผมซักที เพื่อนในคณะก็พากันยกโขยงไปกินข้าวด้วยกันกลุ่มใหญ่ ถึงแม้ว่าคณะเราจะมีหลายสาขาแต่เพราะการรับน้องทำให้พวกเราได้เพื่อนในคณะเพิ่มจากสาขาตัวเองมากขึ้น ผมส่งข้อความยกเลิกนัดกินข้าวเย็นกับไอ้โจ๊ก มันบ่นนิดหน่อยแต่เพราะวันนี้มันก็รับน้องเหมือนกันเลยขอนอนกินมาม่าอยู่ห้องดีกว่า


“คุยกับสาวหรอวะ”


ไอ้คูก้าที่นั่งติดกับผมชะโงกหน้ามามองจอ “ขี้เผือกนะมึงอะ” ผมพึมพำ แต่มันเอาแต่หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ผิดกับลุคมาดเท่ของมันซะจริงๆ นึกแปลกใจตัวเองอยู่เงียบๆ ว่าผมก็เข้ากับเพื่อนใหม่ได้เหมือนกัน


“ฮ่าๆ กูได้ยินนะสาด เฮ้ยไอ้กูล” มาจากกูลลิโกะน่ะครับ ไอ้คูก้ามันหันไปตะโกนเรียกเพื่อนอีกคนที่นั่งจ้ออยู่อีกฝั่งของโต๊ะ


“สาวโต๊ะนั้นมองมึงอะ พี่สาวคร้าบบบ เพื่อนผมชอบครับบบ!!!! มีทุกอย่างยกเว้นตังค์และสมองค้าบพี่” พี่ผู้หญิงโต๊ะหน้าสุดหันมาหัวเราะกับเพื่อนๆ


ตั้งแต่รู้จักกันมาหนึ่งวัน นิสัยของมันที่ผมพยายามหลีกเลี่ยงคือความล้น อาจจะเพราะผมชอบอยู่เงียบๆ แต่ไอ้นี่โหวกเหวกชิบหาย เพื่อนที่นั่งอยู่หัวเราะกันขรม ไม่ต้องกลัวจะลืมชื่อกันครับ เราต้องห้อยป้ายชื่อไว้ตลอด


“เฮ้ยยย ไอ้เหี้ยคู ป่าวครับพี่ เพื่อนผมมันเมา!!!” ไอ้กูลร้องเสียงหลง


“เป็นผู้ชายมันต้องแมนรู้ป่าว ต้องอย่างงี้...โคอาล่า ทำอะไรต้องกล้า” คูก้าหันมากอดคอผมพร้อมกับกดหัวผมเข้ากับบ่ามัน ผมดันตัวออกก็ไม่เป็นผล ตามันแดงและกลิ่นแอลกอฮอล์ฟุ้ง แน่นอนว่างานนี้คงไม่จบแค่ข้าวเย็นหรอกครับ


“ฮื้อ เชี่ย ปล่อยยย”


ผมตบท้ายทอยมันไปหนึ่งที ส่วนมันก็ตบเกรียนผมกลับมา คณะผมรุ่นพี่ให้ผู้ชายสกินเฮดทั้งชั้นปีครับ ส่วนผู้หญิงต้องรวบผมตึงตามระเบียบเชียร์ อย่าให้พูดถึงชุดนักศึกษาโอ้โห ไซส์เสื้อใหญ่กว่าชาวบ้านชาวเมืองเค้าแหละครับ


“ไอ้คูแล้วมึงทำไมพึ่งมาวันนี้วะ ผมก็ยังไม่ได้ตัด พี่ไม่ว่าอ่อวะ” ไอ้เซอร์ถาม แน่นอนว่ามาจาก สปอนเซอร์ครับ ซึ่งผมแอบคิดว่าแม่งต้องมาจากคำว่าเซ่อซ่าแน่ๆ พอไอ้เซอร์ยกประเด็นนี้ขึ้นมาไอ้คนที่ไม่ได้อยู่กลุ่มรับน้องเดียวกันก็หูผึ่งกันขึ้นมา


“กูตอบคำถามไหนดี เอาแบบดาราหรือคนธรรมดา”


“ไอ้เหี้ย กวนตีน ซักทีนะมึง” เพื่อนรอบโต๊ะหัวเราะ


“กูก็ไปธิเบตมาหาแรงบันดาลใจในงานศิลปะ ส่วนเรื่องผมเนี่ยอย่าไปบอกใครนะ กูใหญ่  ใหญ่ทั้งบนทั้งล่าง พี่เค้าไม่ว่ากูหรอก”


“ฮ่าๆๆๆ ไอ้สัดดดด กวนตีน หน้าตาเหมือนส้นตีนอีก”


“ไอ้เหี้ยเซอร์แม่งว่ามันไม่ดูหนังหน้าตัวเอง เออพวกมึงแปบๆ เมียโทรมา” ไอ้เบสขว้างเม็ดมะม่วงหิมพานต์ใส่ไอ้เซอร์ที่พยายามอ้าปากรับ ผมหัวเราะ เพื่อนพูดกันรัวผมได้แต่ฟังเงียบๆ 


“ว่าไงจ๊ะน้องส้ม”


“อ้าวเมื่อกี้ไม่ใช่คนนี้หนิ” ไอ้คูก้าตะโกนลั่นส่วนเพื่อนก็รับส่งกันฮาไป ได้เสียงกัดฟันจากไอ้เบสว่า “คxย” เบาๆ เพื่อนก็สุขใจแล้วครับ







.
.
จะว่าเปิดเทอมก็พูดไม่ได้เต็มปาก เพราะปีหนึ่งอย่างผมเน้นกิจกรรมมากไปหน่อยครับ ผมกับเพื่อนๆ ต่างสาขาจึงได้เจอกันโคตรบ่อย ต้องประชุมกันทำพร้อบที่ต้องเปลี่ยนทุกอาทิตย์ ทำกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นเสตนเชียร์ ร้องเพลง วาดคัตเอาท์ ซ้อมกีฬา เข้าห้องเชียร์ ทำแม่งทุกอย่างขอหยาบคายหน่อยครับ และที่สำคัญสิ่งที่ผมอยากจะหลีกหนีมันก็ได้กลับมาอีกครั้ง ผมได้รับหน้าที่ให้เป็นประธานชั้นปีครับ


ไอ้เห้....


ทั้งชีวิตการเรียนของผมจะต้องได้รับหน้าที่อะไรแบบนี้ตลอด จำได้ว่าตอนม.ปลาย ผมก็เป็นประธานสีทำงานหัวหมุนจนสาวๆ ประธานสีห้องอื่นแทบจะเกลียดผมกันหมด ทุกคนคงเข้าใจกีฬาสีไม่เคยทำให้นักเรียนสามัคคีกันเลยให้ตายเถอะ แล้วผมเกลียดการที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนที่ทะเลาะกัน มันเป็นฟีลที่ผมไม่ชอบเลยจริงๆ


“ไอ้โค(อาล่ามาร์ช)!!!”


และเจ้าของเสียงนี่เป็นบุคคลประเภทหนึ่งที่ไอ้กลางไม่อยากจะเสวนาด้วย ทุกคนในห้องประชุมเหลือบตามองมาทางต้นเสียง 


“มึงจะเสียงดังทำไมวะคูก้า” ผมพึมพำและมองหน้ามันอย่างหงุดหงิดกลายเป็นเป้าสายตาไปจนได้ ตอนนี้พวกเราชั้นปีที่ 1 กำลังประชุมงานกันอย่างเคร่งเครียด โดยที่มีผมยืนอยู่หน้าห้องประชุม ก็นี่แหละครับ พึ่งได้รับตำแหน่งเมื่อสามสิบนาทีที่แล้ว


“เป็นประธานอะไรว้า เหม่อชิบหาย” มันยังคงพูดเสียงดัง เพื่อนคนอื่นเงยหน้ามามองอีกครั้ง เหรัญญิกสาวอย่างปาปริก้าเดินมาสะกิดผมเบาๆ


“มีไรป่ะแก”


“เปล่าๆ ” ผมบอกปัด ถลึงตามองไอ้คูที่เอาแต่ล้อเลียน


“ประธานยิ้มหน่อยค้าบบบบ”


“ผัวง้อแล้วยิ้มหน่อย”


พวกเพื่อนหัวเราะกันครืนโดยเฉพาะไอ้เบส ไอ้กูล และไอ้เซอร์  ผมเริ่มประหม่าอีกครั้ง ไอ้หมอนี่มันเกินพอดีจริงๆ ถ้าถามว่าทำไมผมมายืนตรงนี้ก็เป็นเพราะว่าไอ้คูก้ามันมาสายโคตรๆ และผมที่เป็นเพื่อนกับมันด้วยความบังเอิญก็มาสายด้วยเพราะมันเกาะติดผมไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมให้ผมไปหาเพื่อนที่ไหน จนเพื่อนล้อผมว่าเป็นเมียมัน ล้อเหมือนเด็กเลยสาด ถ้าผมทำอะไรขัดใจมันละก็มันจะทำให้ผมอับอายทันที  อย่าถามว่ายังไง เอ่อ...นั่นแหละไอ้นี่มันมีสารพัดวิธีพิสดาร


ไอ้การมาสายครั้งนี้ทำให้มีผู้นำในการประชุมคือเบงเบง(มาจากชื่อขนม)กำลังประชุมหารือว่าจะให้ใครเป็นประธานและเพื่อนที่มาประชุมนั้นก็นั่งเงียบไม่ออกความเห็นใดๆ พอยิ่งไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครเสนอ แถมยังมีคนมาสาย เบงเบงเลยโมโหยกใหญ่และมาลงกับใครที่ไหนล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้คูก้าที่มาสาย


“ขอพูดหน่อยนะ ไม่ใช่หน้าตาดี พี่รู้จักเยอะจะทำไรก็ได้นะเว้ย มาก็สายแถมยังมาชวนเพื่อนคุยอีก”


“เอ้าก็กูติดธุระ แล้วมันเกี่ยวไรกับหน้าตาดีวะ เรื่องนั้นกูรู้” ไอ้คูเลิกคิ้วขึ้นอย่างท้าทาย มันกลัวใครที่ไหนแล้วผมก็ตัวลีบเลยครับ แต่ก็ดึงแขนเสื้อมันไม่หยุด “แล้วมึงอ่ะ จัดประชุมอะไรก็ไม่เห็นมีไรคืบหน้า เอาแต่โมโหหน้ายักษ์เพื่อนที่ไหนเค้าจะอยากตอบวะ”


“เอ้าก็เพื่อนไม่ออกความเห็นกูจะรู้ได้ไงว่าใครคิดอะไร”


ทั้งห้องประชุมเงียบกริบ มีบางคนที่แทรกมาเบาๆ ว่าให้ใจเย็น ผมเหงื่อแตกพลั่กๆ


“คูเราผิดนะเว้ย เอ่อ...” ผมกล้าๆ กลัวๆ  และตัดสินใจภายในเสี้ยววินาทีไปยืนแทรกกลาง “เราขอโทษนะเบงเบงที่มาช้า คูขอโทษดิ” เงยหน้ามองส่งสายตาอ้อนวอนไปให้มัน พอเถอะนะ....


ไอ้คูชะงักไปแวบหนึ่งก่อนจะขยี้หัวเกรียนของตัวเองอย่างหงุดหงิด มันขมวดคิ้วแน่นหน้าดุอย่างกับเสือ แล้วเท้าเอวกับเสื้อนักศึกษาตัวโคร่งที่ชายเสื้อหลุดลุ่ย


“เออขอโทษ”


เบงเบงใจเย็นลงมานิดหน่อยแต่ก็ไม่วายกัด “เก่งจริงก็จัดการเองดิวะ ไอ้เหี้ยอุตส่าห์มาพูดให้” ไอ้คูก้าเพื่อนผมถึงกับกำหมัดแน่น ดีที่ผมคว้าไหล่มันไว้ทัน


“พวกมึงจะทะเลาะกันทำห่าไรวะ” เริ่มมีเสียงเซ็งแซ่ นี่มันเริ่มไปกันใหญ่แล้ว “รู้งี้กูกลับบ้านตั้งนานแล้ว เถียงกันอยู่ได้”


“ทุกคนเอางี้ เรามาโหวตกัน เสนอชื่อมา 5 ชื่อเดี๋ยวเราเขียนบนไวท์บอร์ดให้ หลังจากนั้นก็แบ่งจับสลากแบ่งฝ่ายตามสาขา แล้วก็คิดธีมงาน โอเคมั้ย!!”


ผมหลับหูหลับตาพูดขึ้น


“เออเอา พูดแต่แรกก็จบ”


“เออๆ มาๆ”


และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ว่า “มึงเป็นคนพูดก็โหวตมึงเลยละกัน โคอาล่า”



คือผม...เอ่อ เวรแล้วว



เบงเบงกับผมคะแนนสูสี มันฮึดฮัดเล็กน้อยเพราะไม่มีอารมณ์ประชุมต่อ ส่วนไอ้ตัวดีคูก้าน่ะเหรอ นั่งหน้าสลอนอยู่หน้าสุด แถมยังแกะขนมไม่สนใจใคร ไม่ต้องถามว่ามันโหวตใครนะครับ


และนั่นก็เป็นที่มาที่ผมได้เป็นประธานครับ ส่วนเบงเบงเป็นรองประธานไปตามระเบียบ แม้ในใจผมอยากจะร้องตะโกนว่า เบงเบง เรายกตำแหน่งให้นาย!!


“ทำหน้าไรงั้นวะ” ไอ้คูก้าเห็นสีหน้าผมไม่โอเค มันก็เดินมาแทรกระหว่างผมกับปาปริก้า เพราะมึ้งงง....ไอ้คูก้ารสนม


“เพราะมึงเลย” ผมครวญคราง แม่งผมไม่อยากเป็นจริงๆ นะเว้ย


“เบะปากทำเชี่ยไรเนี่ย” จอมแหวกแนวอย่างไอ้คูก้าถึงกับหันหน้าหนี นี่หน้ากูคงอุบาทว์มากสินะ มันเอาหลังมือเช็ดจมูกเบาๆ แล้วยกมืออีกข้างมาลูบหัวผม


“เออขอโทษๆ ” มันพูดพร้อมกับขยี้แรงขึ้น “ไม่ต้องคิดมากหรอก เดี๋ยวกูจะเป็นลูกมือมึงทุกงานเลย”


“หลอกกูอีกดิ” มันหลอกแน่ๆ ครับ คูก้ามันเป็นตัวแทนคณะไปประกวดดาวเดือนในงานเฟรชชี่เกมส์ที่จะถึงนี้ มันคงมีเวลามาช่วยผมหรอก


“หลอกไร พูดจริง นี่คนเมพนะครับ” มันยิ้มกว้างส่งมาให้ผม มองเเล้วก็หมั่นไส้ความหล่อ “เอาน่า ถือว่าได้ทำอะไรใหม่ๆ เจ๋งดีออก”


“เจ๋งกับผีไรล่ะ นี่มันไม่พอดีแล้ว ชีวิตกูเป๋ออกนอกกรอกแล้วโว้ย!!”


“เอ้าๆ นับโหวตธีมเสร็จแล้วครับ เมื่อไหร่ประธานกับผัวจะเลิกจีบกันซักที”



ไอ้เชี่ยเบสปากมึงนี่นะ



“ฮิ้ววว”



แทนที่ผมจะได้คิดอะไร เสียงเย็นๆ ของคนข้างตัวก็โพล่งขึ้นมาก่อน เล่นเอาเพื่อนเงียบกริบกันอีกหน


“พวกมึง...”



ไอ้เบส ไอ้เซอร์ ไอ้กูล มึงโดนแน่




“ถ้ากูเป็นผัวแล้วจะจีบทำไมล่ะ เอาเลย มันส์กว่าเยอะ”




ไอ้เหี้ยคู๊!!!



 “กรี๊ดดดดด ได้กัน ได้กัน ได้กัน”


“ว้ายยยยยยย เหวอเลย”


นี่มึงยังมีหน้ามาล้อเลียนกูอีกหรอ อย่าอยู่เล้ยยย.....




----------------------------------
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 2 หน้า 1 (11-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 11-04-2017 22:43:08
เปาสินะ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 2 หน้า 1 (11-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: aommyga40 ที่ 11-04-2017 22:44:07
 :laugh: :laugh: ล้นเกินนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 2 หน้า 1 (11-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 12-04-2017 00:01:04
อะไรยังไง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 2 หน้า 1 (11-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 12-04-2017 01:04:42
น้องโคอาล่าทำอะไรก็น่ารัก เบะปากยังน่ารักเลย อีคูรับดาเมจไม่ไหวยังเบือยหน้าหนีเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 2 หน้า 1 (11-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 12-04-2017 08:04:53
คนกลางน่ารัก
คูก้า เห็นความน่ารักของคนกลางแล้วใช่ม้า
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 2 หน้า 1 (11-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 12-04-2017 12:06:49
หวงคนกลางงงง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 2 หน้า 1 (11-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 12-04-2017 13:39:37
 :o8: :o8: :o8: :o8:  ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 2 หน้า 1 (11-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 14-04-2017 12:42:23
3
พยัญชนะตรงกลาง


“ช่วงนี้กลางโคตรยุ่ง เออออ ไม่ได้ติดหญิงโว้ย ถ้าเล็กเข้ามหาลัยก็รู้เอง เออๆๆๆ แค่นี้ ทำงานก่อน”


“คุยกับแฟนหรอวะ”


คูก้าถามขึ้นหลังจากผมวางสายจากน้องชายสุดที่รักที่พยายามโทรหาผมตลอดเวลาถ้าไม่ตอบไลน์หรือแชท ตอนนี้เรานั่งอยู่ลานกิจกรรมทำอุปกรณ์สำหรับงานเฟรชชี่ ไอ้คูก้าที่เป็นตัวแทนเดือนคณะก็ยังมีเวลามานั่งทำงานอยู่กับผม


“แฟนไร น้องชายกูเอง ยิ่งกว่าพ่ออีก”


“ก็นึกว่ามีแฟนแล้ว”


“ห๊ะ อะไรนะ”


ไอ้คูมันส่ายหัวยิกๆ พร้อมกับลงสีที่คัตเอาท์ต่อไป เพื่อนผมบางคนก็นอนบนกระดาษลังเหมือนอยู่ข้างถนน ผู้หญิงนี่สภาพไปหมด สวยไปหมดอะครับ


“แล้วมึงนี่ยังไง ไม่เหนื่อยหรอมาช่วยกูอีกเนี่ย”


“ก็กูบอกแล้วไงว่าจะช่วย”


“เออขอให้เหนื่อยตายไปเลย”


“ไม่ต้องคิดมากนะน้องกลาง  พี่บอกจะช่วย เดี๋ยวจัดให้ยันเช้า” ไอ้นี่...


“เฮ้ย! มึงรู้ชื่อกูได้ไงเนี่ย เดี๋ยวรุ่นพี่ก็รู้หรอกว่ามึงแอบรู้ก่อน” ผมตาโตด้วยความตกใจ แค่ผมบอกไอ้เบสคนเดียวก็รู้สึกไม่ดีแล้วครับ การแหกกฎเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะกับจิตใจของผมจริงๆ


“เอ่อ..กูได้ยินที่คุยโทรศัพท์ไง” มันก้มหน้ามือก็ปาดสีไปเรื่อยๆ


“เออๆ เงียบๆ ไว้แล้วกัน ไม่อยากโดนทำโทษ”


“นี่กูรู้คนแรกปะเนี่ย ว้าวเลย”


“ว้าวเหี้ยไร ไม่ต้องทำหน้าตาตอแหล” ผมพูดพร้อมกับเช็ดพู่กันที่เปียกน้ำกับกระดาษหนังสือพิมพ์ ไอ้คูแลบลิ้นปลิ้นตาเป็นกระสือล้อผมอยู่ข้างๆ “คนแรกไรหลงตัวเอง มีคนรู้ก่อนมึงเว้ย” ผมพูดกับตัวเองแต่มีคนได้ยิน


“ห๊ะ ใครวะ!”


“อย่าเสียงดังดิ เออไม่ต้องมองงั้น  มึงไม่ใช่คนแรกโว้ย”


มันเงียบ เหมือนปิดสวิตซ์ที่ดีดๆ เมื่อกี้ “ทำไมเศร้าหรอ” ผมแหย่


“เออ แต่ไม่เป็นไร กูอาจจะไม่ได้เป็นคนแรก แต่กูจะให้มึงรู้ชื่อกูคนแรก...หันหลังมาดิ๊“


“มึงจะบอกหรอ เดี๋ยวพี่รู้นะเว้ย”


“ทีมึงยังบอกเลย อีกอย่างกูเขียนไม่ได้พูดซะหน่อย”


“เฮ้ยไม่เอา ก็ตอนนั้นไอ้นั่นมัน...กูโดนไอ้ตัวนั้นบังคับอะ”


ผมบอกใครไม่ได้ครับว่าคนที่ถามชื่อผมคนแรกคือใคร เดี๋ยวกูโดน เพราะวันพรุ่งนี้เราจะมีประเพณีบอกชื่อแรก ไอ้คูก้าทำให้ผมเดินนอกกรอบอีกครั้ง


“เออน่า หันมาเร็ว”


ไอ้คูลากนิ้วมาเขียนที่หลังผม คูก้ากูคงไม่ได้บอกมึงสินะ ว่ากูอะโง่เรื่องเขียนหลังมาก กูไม่มีประสาทสัมผัสดีพอ ขอโทษด้วย


“รู้ยัง”


ถามเป็นพี่ต้น ธนษิตแล้วไอ้คูก้ายิ้มตาหยีส่งมาให้ผม ผมชะงักไปนิดนึงเพราะปกติไม่เคยเห็นมันยิ้มกว้างขนาดนี้ ดีใจอะไรขนาดนั้นวะเนี่ย พึ่งสังเกตว่ามันมีลักยิ้มด้วย


“มึงมีลักยิ้มด้วยหรอวะ”


“เอ้า รู้จักกันมาตั้งนานพึ่งเห็นหรอ” ไอ้คูมันบอกยิ้มๆ พร้อมกับเอื้อมมือมาตบหัวผม เชี่ย มือมีแต่สีทาบ้าน ผมเม้มปากเอื้อมมือไปแก้แค้นที่หัวของมัน ผ่านมาซักพักผมของเด็กปีหนึ่งเกรียนๆ ก็เริ่มยาวขนาดมันที่ตัดช้ากว่าเพื่อนก็ยังยาวพอๆ กัน


ผลัวะ


“โอ้ย โคอาล่า ตบมาได้” มันร้องโอดครวญเหมือนญาติเสีย เว่อร์จริง


“โทษๆ โอ๋ๆๆ เพี้ยงหาย”


ผมวางมือขยี้ที่หัวมัน น่าแปลกที่ความรู้สึกคุ้นตีตื้นขึ้นมา ผมนุ่มๆ ของมันทำให้ผมนึกถึงใครบางคน เดี๋ยวนะ สงสัยเริ่มดึกเริ่มดราม่า


“มึงนี่เหมือนคนที่กูเคยรู้จักเลย...เฮ้ย...ทำไมมองงั้นวะ”


“มึงรู้แล้วหรอว่ากูคือใคร”


ไอ้คูหยุดทาสีแล้วหันมาจ้องหน้าผม สายตามันจริงจังขึ้นอีกโข ผมกลืนน้ำลาย พร้อมกับพยักหน้าขึ้นลง


“อืม คนนั้นอ่ะนะ....ก็คือ”


“...”


“คือพี่หม่ำไง เหมือนมึงมากไอ้คู”



มันหน้าเหวอ ผลักหัวผมพร้อมกับสบถลั่น


“ไอ้โง่เอ้ย!!”้


เล่นมุขนิดเดียวโดนด่าว่าโง่เลยหรอวะ เริ่มสงสัยหรือกูโง่จริงๆ


“เอ่อ...ทำงานนะครับโคอาล่ามาร์ช ไม่ใช่สวีทกัน”


“พวกกูมองอยู่นานแล้ว ไม่สนใจเล้ย งานจะเสร็จเมื่อไหร่ครับ”



“เหี้ย ไม่ใช่โว้ย!!”


ผมปฏิเสธยิกๆ โบกมือพันกันหมด ถึงว่าลานกิจกรรมเงียบกริบ  นึกว่าตั้งใจทำงานที่แท้แอบจับผิดกูกันหรอ







วันนี้พวกเราชาวสินกำ ได้รับน้องเข้าห้องเชียร์เสร็จสิ้นแล้วครับ พวกพี่ๆ จัดกิจกรรมในตอนกลางคืน เฉลยพี่รหัสและมี
ดราม่ากันตามระเบียบ มีเพื่อนผู้หญิงร้องไห้เพราะผ่านการรับน้องโหดๆ มาตลอดแต่ตอนนี้พี่ๆ ก็รับขวัญน้องท่ามกลางแสงเทียน พวกผมเดินเข้าไปผูกข้อมือกับรุ่นพี่ทีละคน รุ่นพี่ที่โหดๆ นั้นโกหกทั้งเพ ทุกคนเฮฮาและจริงใจมากครับ


“น้องๆ คะ และแล้วตอนนี้ก็ถึงเวลาสำหรับพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของคณะเรานั่นคือ ชื่อแรก พี่จะให้น้องๆ จับคู่กับเพื่อนที่อยากให้รู้ชื่อเล่นจริงๆ เป็นคนแรกนะคะ หลังจากนั้นเราจะปล่อยให้น้องๆ บอกชื่อเล่นกันได้ตามอัธยาศัย แล้วมาพบกับการแสดงส่งท้ายคืนนี้ ก่อนที่น้องๆ จะเริ่มอาทิตย์เฟรชชี่เกมส์หฤโหดกัน เริ่มเลยค่ะ” พี่จ้าพิธีกรสุดสวยประกาศพักบรรยากาศแล้วให้เราบอกชื่อแรกกัน ส่วนพี่ๆ ก็แอบหายตัวไปเตรียมการแสดงสองสามชุด ผมหันไปมองซักพักก็มีคนสะกิด เป็นชายแว่นหน้าตาติ๋มๆ


“โคอาล่า เราอยากจะบอก...”


“เฮ้ย โคอาล่า มานี่แปบ”


ยังไม่ทันที่เพื่อนสาวร่วมคณะจะพูด ไอ้คูก้าก็กระชากแขนผมตามไปอยู่มุมหนึ่งของห้องโถงทิ้งเพื่อนคนนั้นมองตามงงๆ  ชาวปีหนึ่งก็เริ่มจับคู่กัน เสียงพูดคุยก็ดังขึ้นเรื่อยๆ โชคดีที่คณะผมไม่ได้มีเพื่อนร่วมชั้นปีมากเหมือนวิดวะ หรือวิดยาเลยทำให้เห็นหน้ากันบ่อยๆ


“กูอยากบอกชื่อมึงเป็นคนแรก”


“มึงเคยบอกกูแล้วนี่”


“หรอ งั้นมึงบอกกูดิ๊มากูชื่อไร”


“เอ่อ....”


พอเห็นผมเงียบอยู่นาน คนรอเลยยกมือมาตบหน้าผากตัวเองเบาๆ


“ไอ้กลางเอ้ย ไอ้เอ๋อ”


“อะไรวะ แค่กูอ่านหลังไม่ออกให้กูเป็นคนเอ๋อเลยหรอวะ” ผมขมวดคิ้ว กูผิดขนาดนั้นเลย


“มึงหยุดโวยวาย ฟังดีๆ”


มันชะโงกหน้ามาใกล้กับหูผม เชี่ยยยย มึงทำไรเนี่ย ผมทำตาโตตกใจ ขนลุกเมื่อมันเริ่มพูด


“กู ชื่อ”


เว้นให้กูลุ้นทำไมครับ


“เ_า”


อะไรนะ เอาหรอ พอเห็นผมทำหน้าเหวอ ชื่อน่าเกลียดสัด มันคงรู้ว่าผมได้ยินไม่ชัดมันเลยขยับตัวมาพูดใกล้ๆ จนเกือบเป็นเสียงตะโกน


“กูเปาไง จำนกกระปูดแดงไม่ได้หรอไอ้โง่”


มันยกยิ้มร้าย เห็นลักยิ้มจางๆ แล้วผมก็เห็นหน้าตามันซ้อนทับกับใครคนหนึ่ง พร้อมกับเหตุการณ์คุ้นๆ ที่ผ่านเข้าหัวมาเป็นฉากๆ เพื่อนที่เหมือนน้องชายผมเนี่ยนะ ไอ้คนตัวผอม เตี้ยๆ เนี่ยนะ คนที่ทำให้ผมรู้สึกผิดมาตลอดหลายปีเนี่ยนะ




คือไอ้ตัวร้ายที่อยู่ข้างหน้าผมจริงๆ หรอ




“จำไว้ แล้วอย่าลืมชื่อกูอีกล่ะ”


ไอ้คูก้า เอ๊ย ไอ้เปาใช้นิ้วชี้ดันหน้าผากผมที่คงกำลังทำหน้าเหมือนหมางง แล้วก็เดินไปคุยกับเพื่อนคนอื่นๆ ทิ้งให้ผมประมวลผลอยู่ชั่วขณะ ถ้ามองดีๆ มันก็เหมือนเค้าเดิมเพียงแต่ผมไม่เคยเอะใจ แต่เวลาผ่านไปเกือบสิบปีแถมตอนนั้นยังเด็ก ไอ้เปามันเด็กมากกว่าคนรุ่นเดียวกัน ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ เพราะไอ้เปาในความทรงจำของผมคือไอ้ผอมพร้อมกับแก้มย้วยๆ ของมันเท่านั้น


ผมมองตามหลัง มันโตขึ้นนะ หลังกว้างแถมยังตัวสูงอีกต่างหาก ผมยิ้ม หัวใจเต้นเร็วพอๆ กับเสียงกลองของพี่สันทนาการที่กำลังตีประกอบกิจกรรม ผมต้องยอมรับความรู้สึกที่มันตีรวนนี้ สิ่งที่กวนใจผมมาตลอด ผมดีใจ...ไม่สิ ดีใจมาก มันไม่โกรธผมใช่มั้ย เพราะจากวันนั้นที่มันย้ายโรงเรียนไป ผมได้แต่หันไปมองที่โต๊ะมันเท่านั้น เป็นเพราะผมใช่มั้ยที่มันต้องไป ไอ้น้องชายนกกระปูดแดงเอ้ย แต่ตอนนี้มันตัวโตกว่าผม มันคงเป็นน้องชายผมไม่ได้แล้วสินะ


ไอ้เปาเพื่อนรัก


“ยิ้มค้างไร ไอ้โค อ่ะ กูทัพ ชื่อในวงการกูลลิโกะไงจำไม่ได้หรอ”


ผลัวะ


ไอ้กูลเดินมาตบเกรียนผมให้ออกมาจากภวังค์ มันมองตามสายตาผมก่อนจะพูดขึ้น “มองผัวแล้วยิ้มเนี่ยคิดไรป่าววะ”


“ไอ้เชี่ย เปลี่ยนเรื่อง กูชื่อกลาง คนกลาง”


“เหยดดดด ชื่อเจ๋งสาด ขนาดกลางด้วยป่ะวะ”


“เหี้ย ทะลึ่งละ”


มันหัวเราะร่า พร้อมกับเพื่อนอีกหลายๆ คนที่เดินวนมาบอกชื่อกัน  บางคนก็สะดวกเรียกชื่อว้ากได้ไม่มีปัญหาเพราะผ่านมาซักพักสนิทใจจะเรียกชื่อนั้นมากกว่า แต่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า ที่ไอ้เปาที่ยืนหัวเราะบ้าบออยู่ตรงนั้นมีความสุขกว่าทุกวัน


กูเป็นเพื่อนกับมึงอีกครั้งได้ใช่มั้ยวะ


----
สวัสดีวันปีใหม่ไทยค่ะ  :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 14-04-2017 12:51:57
ไม่ต้องเป็นเพื่อนแล้วค่ะคนกลาง
เป็นแฟนกันเล้ย เย่
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 14-04-2017 13:03:22
โห น่ารักอ่ะเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 14-04-2017 13:12:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 14-04-2017 16:27:58
 :o8: :o8: :o8: :o8: น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 14-04-2017 17:16:48
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 14-04-2017 18:50:08
โอ๊ยยยยยย น่ารักมาก
เพื่อนไม่ต้องหรอกจ้า ข้ามไปเป็นแฟนเลยแล้วกันถ้าจะอะไรปานนี้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-04-2017 19:03:21
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-04-2017 19:32:24
งื้อออ จะเอาอีกกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: knxiiviii ที่ 14-04-2017 19:53:25
เปายึดคนกลางเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองใช่ไหม แบบฉันจะต้องเก่งขึ้น แข็งแรงขึ้น จะไม่ยอมให้ใครแย่งคนกลางไปได้อีกงี้ มีความมโน555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 14-04-2017 19:58:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 14-04-2017 20:32:06
น่ารักมากกกกก ชื่อคนกลางก็น่ารักก อยากต่อไม่ไหวแล้ววว :z3: :ling1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 15-04-2017 00:47:53
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 15-04-2017 10:45:25
มารอ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 15-04-2017 12:46:07
 :m22: :m22: :m22: :m22: :m22: :m22: :m22: :m22: :m7: :m7: :m7: :m7: :m7: :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 15-04-2017 14:46:14
เนื้อเรื่องน่ารักอ่ะอยากอ่านตอนต่อไปเลย นกกระปูดตาแดงโตเป็นหนุ่มแล้ว มาลงชื่อรอค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-04-2017 17:05:52
เปาอาจจะต้องรับศึกหนักจากน้องเล็กนะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 16-04-2017 19:17:22
เปา กลาง  :mew1: :mew1: :mew1:
ทำไมเปาเป็นนกกระปูดตาแดง
โดนกลางแกล้งหรอ
ทำไมกลางถึงอยากเป็นเพื่อเปาอีกครั้ง  :katai1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 17-04-2017 08:14:27
โอ้ยยยย กลางน่ารักกกกกกก   :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 3 หน้า 2 (14-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 17-04-2017 10:20:47
4
คนกลางเวที


คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของงานเฟรชชี่เกมส์ ผมทำงานหัวหมุน บางคืนก็ไม่ได้นอนเพราะต้องทำออกมาให้ดีที่สุด เฟรชชี่มีครั้งเดียวนี่หว่า พวกเพื่อนๆ ผมก็ช่วยกันเต็มที่แต่เพราะผมเป็นประธานต้องละเอียดรอบคอบกว่าคนอื่น จะว่าไปหลังจากวันบอกชื่อผมก็ไม่ค่อยได้คุยกับไอ้เปาจริงจังเพราะมันต้องยุ่งกับการเดินสายโปรโมทคณะเลยไม่ได้มาช่วยผมเท่าไหร่นัก


เฟรชชี่เกมส์คืนนี้ส่งท้าย แต่ละคณะไม่ได้มีการแสดงอะไรมากเพราะเราโชว์จัดเต็มไปเกือบห้าวันที่ผ่านมา วันนี้ตั้งแต่เย็นจนถึงดึกก็จะเริ่มการประกวดดาวเดือน แต่ละคณะจะนั่งบนแสตนเชียร์ สันทนาการเชียร์ดาวเดือนคณะตัวเองไป



“ไอ้กลางไหวป่ะเนี่ย”


“เออไหวๆ ”


ไอ้เบส เดินมานั่งข้างๆ พร้อมกับไอ้สปอนเซอร์ที่มีชื่อจริงๆ ว่ากล้วย เอ่อมึงชื่อเซอร์อาจจะดีกว่านะเพื่อน และไอ้ทัพที่หอบของกินมาด้วย คืนสุดท้ายปีหนึ่งก็มากันพอควรครับ คืนนี้เราฟรีสไตล์ไม่ต้องนั่งนิ่งๆ เหมือนที่ผ่านมา ออกเสียงกรี๊ดได้เต็มที่หลังจากที่โดนว้ากให้ทำหน้านิ่งมาหลายคืน


“คืนนี้จบก็นอนยาวๆ เลยไอ้กลาง”


“ต้องจัดอยู่แล้วดิรอไร”


“อ้าวเริ่มละๆ” ไอ้ทัพพยักเพยิดหน้าไปทางเวที การประกวดเริ่มแล้วครับ


พวกดาวเดือนต้องเดินโชว์ตัวแบบใส่ชุดนักศึกษารอบนึง โอ้โห หล่อสวยกันโคตรๆ เลยว่ะ บรรยากาศครึกครื้นเพราะรุ่นพี่หลายชั้นปีก็มาดูน้องๆ ด้วยเหมือนกัน พวกปีหนึ่งบางคณะก็ถอดป้ายกันหมดแล้ว สินกำชาวเราก็มีตัวแทนใส่ชุดเดินโชว์กวนชาวบ้านเค้าไปทั่ว พวกผมทำขึ้นแบบอลังการล้อเลียนขนมชื่อดังๆ ตามคอนเส็ปต์ชื่อว้ากของพวกเรา


“เฮ้ยๆๆๆ นั่น ไอ้เปาๆๆๆ”


ตึง ตึ่ง ตึ่ง


“สินกำ!!”


ชาวปีหนึ่งส่งเสียงเชียร์กันสนั่นหวั่นไหว คนอาจจะสู้คณะอื่นไม่ค่อยได้ แต่ขอบ้าหน่อย ไอ้เปาวันนี้แปลกตามากครับคงเป็นเพราะใส่ชุดนักศึกษาถูกระเบียบ และไม่ต้องห้อยพร็อพอะไรมากมาย เพราะเรารับน้องเสร็จสิ้นแล้ว ดาวคณะผมคือเบบี้ครับ น่ารักแค่ภายนอกแต่จังไรภายใน


คณะผมไม่ซีเรียสเรื่องตำแหน่ง เพราะส่งประกวดเอาฮาครับผม เห็นรุ่นพี่บอกว่าการแสดงแต่ละปีไม่เหมือนกัน แล้วแต่ความเกรียนจะครีเอท ผมเลยตั้งหน้ารอดูเป็นพิเศษ  ก็มัน...เพื่อนผมนี่นา



“เอาละค่ะ น้องๆ ก็เดินโชว์ตัวกันไปเรียบร้อย คณะกรรมการของเราบางคนก็น้ำลายไหลเลยนะ”


“ทำไมคะ คือตะลึงในความสวยความหล่อ”


“เปล่าค่ะ ฟันปลอมหลวม”


“ว้าย พี่จี้อย่าพูดงั้นสิคะ คณะกรรมการของเราทรงคุณวุฒิ ขอประทานอภัยนะคะ”


พวกผมก็ฮาครืน คณะกรรมการปีนี้เป็นดาวเดือนมหาลัยปีที่ผ่านมา และรุ่นพี่ด้านการประกวดที่จบไปแล้วอีกสองคน


“เดี๋ยวเราจะให้น้องดาวเดือนไปพักผ่อนเตรียมการแสดงด้านหลังก่อนนะคะ อย่าลืมนะคะ เราจะนับคะแนนไลค์เพื่อรับรางวัลป๊อปปูล่าร์โหวตผ่านเฟสบุ๊คและไอจีนะคะ ใกล้ปิดโหวตแล้วใครยังไม่ได้ไลค์คนไหนอย่าลืมกดกันนะคะ เราจะปิดหลังจากการแสดง
และพี่ๆ น้องๆ คนไหนอยากให้ดาวเดือนคณะตัวเองเป็นดาวเดือนประจำปีนี้ ก็อย่าลืมซื้อดอกกุหลาบกันเยอะๆ ”


“ใช่แล้วค่ะพี่จี้ ดอกกุหลาบด้านหน้างานนะคะ นับเป็นสิบคะแนน เราจะให้มอบหลังการแสดงแต่ละคณะจบนะคะ รักใครชอบใคร อย่ามัวแต่เชียร์เงียบๆ นะคะ”


“ค่ะ คณะแรกพร้อมแล้วนะคะ ขอเสียงปรบมือให้กับการแสดงดาวเดือนคณะวิทยาศาสตร์ค่า”





“เฮ้ย ดาวครุศาสตร์สวยว่ะ ตอนเต้นนี่ผมมองขาอ่อนเลยครับ” ไอ้ทัพเปิดประเด็น


“กูว่าวิดวะ โอนะ สาวสวยมารำมวยโชว์โอ้ยแจ่ม อยากโดนต่อยซักที อยากเป็นนวม”


“น่ากลัวว่ะไอ้เบส ไอ้พวกน่าจัว ไม่เหมือนยอดชายนายกล้วยชอบหุ่นสาวอักษรที่สุดแล้วครับ เสียงก็น่าลากกก”


“น่ารักครับเพื่อนไม่ใช่น่าลาก แล้วเพื่อนกลางล่ะครับ ชอบดาว เอ้ย เดือนคนไหน”


“กูชอบเดือนวิดยาทรงผมเจ๋งดี ถุ้ย เดือนเห้ไรล่ะ”


“มึงก็ไปกวนตีนมันไอ้เบส” ขอบคุณเพื่อนทัพ มันนั่งข้างผมครับ “มันรอเดือนสินกำคนเดียว”


“ฮิ้ววววว”


“ไอ้ฝัด”


ครับเรายังอยู่ในงานเฟรชชี่เกมส์ กับการประกวดดาวเดือนมหาลัยประจำปี 60 ครับ ไม่ต้องสนใจเพื่อนผมหรอกครับ ว่าแต่ละคณะนี่ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะสวยหล่อมีความสามารถกันทุกคน นี่ก็ใกล้จะหมดช่วงการแสดงแล้วเหลืออีกไม่กี่คณะ


“และแล้วก็ถึงคณะที่เป็นที่จับตามองนะคะ”


“คณะอะไรนะคะน้องเบน”


“คะน้า หมูกรอบ เอ้ยไม่ใช่ค่ะพี่จี้ คณะศิลปกรรมศาสตร์ค่า”


“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด”


“ว้ายยยยยยยยยยย เพื่อนผมค้าบบบ” เป็นตุ๊ดเลยมึง


ไอ้พวกบ้าบอเพื่อนคณะผมตะโกนโหวกเหวกทันทีที่เห็นภาพดาวเดือนขึ้นจอโปรเจ็คเตอร์ด้านหลัง


“เสียงกรี๊ดถล่มทลายมาก เชียร์ดาวหรือเดือนจ๊ะ ถ้าดาวพวกแกเอาไป แต่เดือนของฉัน” พี่พิธีกรหันมาเล่นกับคนดู


“ได้ข่าวว่า คนกดไลค์เยอะมากกก แต่จะไม่พูดอะไรมาก ไปพบกับการแสดงของคณะศิลปกรรมศาสตร์กันเลยค่า”


เสียงกรี๊ดเยอะจริงๆ ครับ ผู้หญิงข้างหน้าเวทีดิ้นเหมือนโดนผีสิงครับ เหล่าชายหนุ่มน้อยใหญ่มีสะเทือน ดาวเดือนของคณะผมเดือนออกมาใส่ชุดนักศึกษาเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนชุดอะไรมาก อย่างคณะอื่นจะจัดเต็มเสื้อผ้าหน้าผม โชว์ที่อลังการแต่คณะผมไม่เลยครับ จะโชว์อะไรกันนะ


“สวัสดีครับ สวัสดีค่า”


“ผมชื่อคูก้ารสนมอมแล้วเสียวครับ” ถึงจะหมดการรับน้องไปอาทิตย์ที่แล้วแต่ตอนที่สมัครดาวเดือนมหาวิทยาลัยยังเป็นช่วงรับน้อง ชื่อดาวและเดือนคณะผมก็ยังเป็นชื่อว้ากอยู่ครับ


“กรี๊ดดดด ผัวช้านนนน”


“เสียวจริงมั้ยอ๊า”


“ขออมหน่อยยยยย กรี๊ดดดดดดด”


ไอ้เปายังคงคอนเส็ปต์ไร้สมองเหมือนเดิมครับ ส่วนพี่ๆ ด้านหน้าแทบจะเอื้อมมือไปอม เอ้ย ลูบเป้ามันแล้วครับ สนใจดาวสวยๆ ที่ยืนข้างๆ ด้วยครับยิ้มเหงือกแห้งหมดแล้ว


“ดิฉันชื่อพอยจีพีจอยค่ะ”


“เอ่อ พี่ๆ ข้างหน้าอย่ากรี๊ดมากครับเดี๋ยวเป็นลม ปีนี้พี่เท่าไหร่แล้วครับ” ไอ้เปาเบรกพร้อมกับหันไปถามพี่กระเทยกลุ่มข้างหน้ามันที่ดิ้นรุนแรงมาก


“ว้ายยย อายุหรอคะ พี่ 22 ค่ะ หญ้าอ่อนกินได้พี่ไม่ถือ”


“เปล่าครับ น้ำหนักอ่ะครับพี่”


คนข้างล่างก็โห่กันเต็มครับ ส่วนพวกเพื่อนก็หัวเราะกันท้องแข็ง นอกจากหน้าตาแล้วผมว่าพวกมันไม่มีอะไรเลยครับ มันสองคนเล่นรับส่งมุขตลกพอควรก็ได้เวลาเริ่มการแสดง


 “วันนี้เราสองคนจะมาร้องเพลงค่ะ”


“เป็นเพลงที่พวกเราสองคนช่วยกันแต่งเอง ชื่อเพลงว่าคนพิจิตรครับ”


ดนตรีสดขึ้นมาเสียงกรี๊ดก็ดังตามมาอีกระลอกใหญ่ ผมก็ไม่เคยเห็นมันร้องเพลงหรอกครับ ส่วนรุ่นพี่คณะผมก็มาเชียร์น้องตัวเอง
รวมถึงเดือนปีที่แล้วอย่างพี่เช่ที่ไว้หนวดไว้เคราเหมือนคนป่า สองคนบนเวทีร้องเพลงคนพิจิตรทำนองพรหมลิขิตของบิ๊กแอส


ครับ พวกมึงต้องมาแปลกกันแน่ๆ และแล้วไอ้เปาก็เริ่มก่อนสลับกับพีจอย อย่าถามว่าเพราะมั้ย ต้องถามว่าเพราะอะไรถึงร้องครับ


“เหม่อมองบนฟ้าไกล อยู่ในเจ้า บขส.
นั่งเหม่อชะเง้อรอ ว่าใครจะพอกรุณามานั่งกับฉัน


คนไปเป็นร้อยคน ช่างไร้เหตุผลจริงๆ ที่เราเจอกัน
หากว่าเธอไม่ว่าอะไร อยากถามให้ได้ ให้หายคาใจของฉัน “


“ตกลงเธอคนพิจิตรใช่ไหม ส่วนฉันนครสวรรค์
ตกลงว่าไปด้วยกันใช่ไหม อย่างนั้นขอได้หรือไม่
อยากจะเป็นเพื่อนคุยข้างๆ นั่งไปด้วยกัน เนิ่นนานถึงจนปลายทาง
โอ้วโอว ฉันขอได้ไหม”


บ้านเกิดยังแสนไกล และเธอก็เป็นเหมือนฉัน
จากถิ่นเดิมพื้นดิน ที่คุ้นที่ชินมาหากินในเมืองสวรรค์

คนไทยเป็นล้านคน ช่างไร้เหตุผลจริงๆ ที่เราเจอกัน
หากว่าเธอไม่ว่าอะไร อยากขอให้ได้ ให้ฉันไปไกลกว่านั้น


* ตกลงเธอคนพิจิตรใช่ไหม ส่วนฉันนครสวรรค์
ตกลงบ้านเราใกล้กันใช่ไหม อย่างนั้นขอได้หรือไม่
เก็บเบอร์เอาไว้ตอนว่างๆ กดมาแล้วกัน ไม่นานฉันคงโทรไป
โอ้วโอว ฉันขอได้ไหม


เวลาเรามีน้อยไป แล้วพอสุดสายสุดท้ายก็แค่ฝัน
หากว่าเธอไม่ว่าอะไร อยากรู้ให้ได้ ว่าคิดยังไงกับฉัน


* ตกลงเธอคนพิจิตรใช่ไหม ส่วนฉันนครสวรรค์
ตกลงว่าเธอชอบกันบ้างไหม ให้คบเธอได้หรือไม่
อยากจะไปนั่งคุยที่บ้าน ได้กินข้าวกัน ให้ความสัมพันธ์บานปลาย
โอ้วโอว ฉันขอได้ไหม


โอ้ว โอว ฉันขอได้ไหม”


เพื่อนกูตำแหน่งเดือนคณะตลกคงจะเป็นของมัน ส่วนดาวเบบี้ขอโทษที่ต้องบอกว่าคุณเป็นนักร้องเสียงเพี้ยนครับ





ขณะนี้เวลาห้าทุ่มห้าสิบห้า เลขห้าอาจจะทำให้ทุกคนขำและสำหรับผมแล้วเริ่มขำไม่ออก แบตชีวิตเริ่มหมดแล้วครับ มันหมดเวลาสำหรับกายหยาบแล้ว ผมต้องการพักผ่อนแต่ก็อยากแสดงความยินดีกับเพื่อนที่ได้รับรางวัลป๊อปปูล่าร์โหวตประจำปีนี้ด้วยยอดไลค์ 6.4k กว่าๆ ครับไอ้เบสบอกมามันบอกว่ามีคนกดแชร์ไปเยอะมากๆ คนเลยกดเยอะตามๆ กัน แต่ไอ้เจ้าของรางวัลที่อยู่ตรงข้ามผมตอนนี้กำลังนั่งจ้องหน้าผมท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ แก็งค์คนหล่อคอหล่นของสินกำ

“ไอ้เหี้ยฮาชิบหาย เห็นท่ามันตอนขึ้นเสียงสูงป่ะ เหี๊ยเหี้ย เหมือนกลั้นเยี่ยวอะ นึกว่าเป็นพี่ตูนหรอสาด ฮ่าๆๆๆ” ไอ้กล้วยเปิดประเด็นครับ ตอนนี้นั่งอยู่ในร้านข้าว สาวๆ นี่มองเหลียวหลัง เพราะพึ่งออกจากการประกวดมาหมาดๆ หน้าตายังเรียกแขกได้ครับ มีบางส่วนที่อยู่ในงานเต็มที่กับคอนเสิร์ตวันสุดท้าย ไอ้ทัพหัวเราะตบโต๊ะตึกๆ ก่อนจะพูดเสริมว่า


“เออยิ่งตอนตอบคำถามนะ มึงไม่สมควรได้ไปต่ออะไอ้เปา คือแบบปรับตกตรงนั้นเลย”


ไอ้เบสตักข้าวผัดหมูเข้าปาก เคี้ยวสองสามทีแล้วถามต่อ “เค้าถามว่าไรนะ” แต่เดือนคณะผมก็ยังนั่งเฉยๆ ว่าแล้วไอ้ทัพก็ตอบเองซะเลย


“น้องเดือนมีความเห็นอย่างไรกับคำสั่งปิดร้านเหล้าที่ใกล้สถานศึกษาคะ”


“ผมคิดว่า....เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนจะต้องทำเหมือนผมแน่นอนครับ ถ้าเราอยากกินแล้วถ้าร้านใกล้ๆ มันปิดผมก็จะไปกินร้านอื่นให้ได้ เพราะคติของผมความพยายามอยู่ที่ไหนความพยายามอยู่นั่นครับ”


“ฮ่าๆๆๆ”


 “ไอ้สัด คณะเราได้ก็แปลกละสาด”


“ฮาแล้วมองหน้าเพื่อนด้วยครับ จะจมจานข้าวอยู่ละ” จู่ๆ ไอ้เปาก็พูดขึ้นเล่นเอาผมสะดุ้งเฮือกจนหน้าจะทิ่มจานข้าวจริงๆ พวกที่เหลือก็หันมามองหน้าผม


“ไปกลางเดี๋ยวกูไปส่ง”


“กินข้าวยังไม่หมด”


“จะกินได้อีกหรอวะ ไม่ไหวก็ไปนอน”


“เออกูไปละงั้น อ่ะ ค่าข้าว กูไม่ไหวละ” ผมยื่นเงินวางไว้บนโต๊ะให้ไอ้เบส ไอ้ทัพกับไอ้กล้วยพยักหน้าให้เบาๆ


“ตามมารถกูอยู่นี่”



ไอ้เปาพูดพร้อมกับเดินนำ ผมก็เดินตามมันไปงงๆ


“กูไปเองก็ได้นะไม่ไกลหรอก มึงอะไม่กลับหอไปวะ ไม่ปวดขาหรอยืนตั้งนานกว่าจะประกาศผล”


“ไม่ต้องห่วงกูหรอกน่าแค่นี้สบาย ปล่อยให้มึงเดินกลับเอง คงจะเดินชนเสานอนตรงฟุตปาธเฝ้าถังขยะแล้ว”


“มึงไม่ต้องพูดให้เห็นภาพขนาดนั้นก็ได้” แต่มันอาจจะจริงอย่างที่มันว่าล่ะครับ


“ง่วงก็โดดขึ้นแสตนก็ได้นี่หว่า มึงทำมาหลายคืนแล้วยังจะมาอีกทำไม ปล่อยให้คนอื่นทำมั่งเหอะ คนขาดไปคนนึงแสตนไม่ถล่มหรอก” เปามันบ่นตลอดทางกลับหอผมขับรถไปด้วยบ่นไปด้วยครับ ส่วนผมก็ได้แต่อือออตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ง่วงแบบมากๆ ครับ เหมือนร่างกายหนักอยู่ตลอดเวลา ยิ่งได้มานั่งเบาะนุ่มๆ จิตวิญญาณมันเริ่มไปแล้วครับ



“กลาง กลางถึงแล้ว”


“อือ...”



“เฮ้อ มึงนี่น้า”


เสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินก็คือเสียงถอนหายใจของไอ้เปาแล้วตัวผมก็ลอยขึ้น ผมมีเรื่องอยากคุยกับมันเต็มไปหมด ผมพยายามลืมตาแต่ก็ทำไม่ได้ อยากจะบอกมันก่อนจะหลับไป


“ดีใจด้วยเว้ย” ....ที่มึงได้รางวัล

===============
ขอบคุณเนื้อเพลงเเปลงเพลงคนพิจิตรจากกูเกิ้ล

เจ้ากลางเอ้ยง่วงก็ไปนอน
เจอกันตอนหน้าค่ะ
 :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 17-04-2017 13:29:54
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 17-04-2017 14:33:19
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 17-04-2017 15:24:55
คนกลางน่าร๊ากกกกกก เปาก็คิดอย่างนั้นใช่ปะล่าาา  :hao3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 17-04-2017 15:30:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 17-04-2017 15:41:48
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 17-04-2017 16:06:23
 o13
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 17-04-2017 16:53:33
มาตามติดชีวิตคนกลางด้วยคน คึคึ ใครก็ชอบมาเอาแต่ใจกับคนกลาง แต่เพราะคนกลางใจดีแบบนี้ไง ใครๆก็รัก ใครๆก็หวง ใครๆก็อยากได้ๆๆๆๆ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-04-2017 19:52:47
เปา กลาง  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 17-04-2017 20:12:02
แอบคิดถึงน้องเล็กซะแล้ว
ชอบคนกลางจังเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-04-2017 20:29:43
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-04-2017 20:50:30
จะเปงในรูปแบบไหนนะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-04-2017 20:59:23
มารอ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-04-2017 23:01:09
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 18-04-2017 06:53:35
 :pig4: :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 18-04-2017 09:05:05
ติดตามจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-04-2017 22:55:06
เกลียดเพลงคนพิจิตร นี่ประกวดเดือนดาวโจ๊กเหรอคะ ตลกมาก 55555555  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 18-04-2017 23:37:32
น่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 4 หน้า 2 (17-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ปลายฝน ต้นหนาว ที่ 19-04-2017 13:28:21
น่ารักอะ ชอบๆ รอตอนต่อไปนะคะะะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 20-04-2017 15:49:08
5
คน(ของ)กลาง




ผมตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกมึน ต้องนั่งนิ่งๆ บนเตียงเกือบสิบห้านาที ผมเป็นคนตื่นตรงเวลาไม่ว่าจะนอนเร็วหรือนอนช้าก็ไม่เคยตื่นสายเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน บางทีก็แอบเบื่อเพราะกูยังอยากนอนต่อ



ก๊อกๆ



“กลาง ตื่นยังวะกลาง”


“แปบๆ” ผมตะโกนบอกคนข้างนอกเสียงแหบ เดินจัดหน้าตาเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ไปหน้าประตู เสียงแหลมแบบนี้มีคนเดียวคือไอ้โจ๊กเพื่อนผมนี่เอง ช่วงนี้ผมแทบจะไม่เจอมันเลย มันจะรู้ครับว่าผมตื่นช่วงไหน แต่บางวันก็มาเคาะห้องผมเอาของกินมาฝากเพราะรู้ว่าผมชอบทนหิวแบบขี้เกียจอ่ะครับ มันเป็นเพื่อนที่ดีครับดีนิดเดียวที่เหลือเหี้ยครับ 


“ว่าไงไอ้โจ๊ก”


“มึงไม่ไปเรียนหรอวะวันนี้”


“กูเหนื่อยว่ะมึง เลยว่าจะหยุดวันนึงมีโควต้าให้ตั้งหยุดสามครั้งนี่”


“เออไอ้สาดดดมาเรียนกรุงเทพแล้วดีแตกหรอวะเออๆ หาข้าวแดกด้วยนะมึง” มันเอื้อมมือมาตบหัวผม ไอ้เชี่ยสมองกูยิ่งไม่มีอยู่ “เดี๋ยวบ้านมึงก็โทรมาเช็คที่กูอีก หัดตอบไลน์ตอบแชทเค้าบ้าง”


“เออแต้งกิ้วเว้ย”


“กูไปเรียนละ”


บอกลากันเรียบร้อยผมก็เก็บกระเป๋าที่วางระเกะระกะอยู่ตรงโซฟา จะว่าไปเมื่อคืนไอ้เปามาส่งผมที่ห้องนี่นา ผมสะลึมสะลือไม่แน่ใจว่ามันกลับตอนไหน  ผมเข้ามานั่งปลายเตียงพลางกดเปิดเพลง ได้นอนเต็มอิ่มแล้วอารมณ์ดียิ่งฟังเพลงยิ่งดีไปใหญ่ ผมหยิบโทรศัพท์มากดๆ  ผมไม่โลเทคแล้วนะครับ เมื่อวันก่อนไอ้ทัพสมัครไอจีให้ผม มันบอกให้ผมช่วยกันกดไลค์รูปไอ้เปา จะได้เพิ่มคะแนน แต่ความจริงผมว่ามันก็มีแฟนคลับเยอะเหมือนกันนะเนี่ย ว่าแล้วก็แอบส่องมันหน่อยครับ มันไม่ค่อยลงรูปเยอะ ล่าสุดที่มันลงรูปก็น่าจะตอนที่ไปธิเบตเมื่อก่อนเข้ามหาลัย โอ้โห ถ่ายแค่ตาข้างเดียว เห็นหน้าแค่ครึ่งหน้า ฉากหลังเป็นวัดธิเบตแต่คนไลค์หลายพัน



Rrrrrrrr


คูก้า


“ว่า”


(กลางมึงตื่นแล้วใช่มั้ย)


“ตื่นแล้ว ขอบใจมึงมากนะเว้ยเมื่อคืน แต่วันนี้กูไม่ไปเรียนนะ”


(เออกูก็ไม่ไป)


“อ้าว เออ มึงก็คงเหนื่อยงานเมื่อวานน่าดู”


(จะเหนื่อยกว่านี้ถ้ามึงยังไม่มาเปิดประตูให้กู)


 “หือ...ไรนะ”


(เปิดประตูห้องมึงเนี่ย เร็วไอ้สัดหนัก)


แอด


“เฮ้ย เพื่อนเปา โทษทีเปิดเพลงดังไปหน่อย”


“ไม่หน่อยละไอ้เชี่ย ถ้าช้ากว่านี้กูตามรปภ.ละ”


ผมหัวเราะแหะๆ ก่อนจะช่วยมันถือของเข้ามา ห้องผมกว้างพอประมาณครับเหมือนคอนโดย่อมๆ เพราะแบ่งสัดส่วนชัดเจน มีครัวเล็กๆ ให้ด้วย ซึ่งจริงๆ ไม่จำเป็นเพราะผมขี้เกียจขั้นสุด แต่ห้องนี้พี่โตเลือกให้ก็ต้องตามใจเค้าหน่อย ส่วนผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว


“อู้หู ซื้อมาให้กูหรอวะ”


“เสียงตอแหลสัด ซื้อให้หมามั้งเนี่ย” ไอ้เปาวางข้าวของก่อนจะนั่งลงรอที่โต๊ะอาหาร เออเห็นว่าซื้อมาให้นะ ผมจะไม่พูดเรื่องเงินค่ากับข้าวละกันครับ ไม่อยากทำลายบรรยากาศ


“ไหนหมาวะ” ผมหันซ้ายหันขวาทันทีที่มันเริ่มตอบกวนตีน ไอ้เปาทำหน้าเอือมพลางกดโทรศัพท์ไปด้วย


“หมากลางนี่ไง งงเป็นหมาเลย”


“ไอ้สัด” ผมสบถแล้วก็ลงมือแกะอาหาร โห ผมไม่เคยกินข้าวเช้าที่เยอะขนาดนี้มาก่อนมีกับข้าวหลายอย่าง ปกติผมกินอย่างมากก็แค่โจ๊ก ไม่ก็ตามสั่ง กินแบบนี้จนจะเป็นโรคเบื่ออาหารออยู่แล้วครับ


“ซื้อมาเยอะแยะ  ใครจะกินหมดวะ”


“พูดมาก เมื่อคืนมึงไม่ได้กินอะไรมากไม่ใช่หรอวะ เห็นหน้าแทบจุ่มจานข้าวหมา”


หือ ไอ้เปาเนี่ยเป็นพวกใส่ใจเพื่อนหรอวะ ปากจัดขึ้นด้วย ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมันอย่างสงสัย สมัยเด็กผมมักจะลากมันไปโรงอาหารไม่ก็สหกรณ์โรงเรียนเพราะมันมักจะอยู่นิ่งๆ เล่นคนเดียวของมันไปเรื่อย ไม่ค่อยสนใจโลกภายนอกเท่าไหร่ ข้าวขนมอะไรก็ไม่กินถึงตัวผอมแห้งแบบนั้น


แต่ผมรู้สึกว่าวันนี้มันดูดีกว่าทุกวันอาจจะเป็นเพราะว่ามีตำแหน่งเดือนป๊อปปูล่าร์โหวตสุดฮอตค้ำคอไว้อยู่ ออร่ารอบตัวมันถึงได้กระจายแสงขนาดนี้ สังเกตมาซักพัก ผมว่ามันเป็นคนชอบแต่งตัว คือมันจะจัดเต็มมากมิกซ์กันได้เจ๋งมาก เปามันชอบแต่งตัวเท่ๆ อย่างที่ผมมองแล้ว รู้สึกว่ามันเหมือนนายแบบเกาหลีอะไรเทือกๆ นั้น ขามันยาวยิ่งตอนใส่กางเกงยีนส์ยิ่งแจ่มครับ สาวเหลียวหลังมองคอแทบเคล็ด แต่ถ้าวันไหนไม่แต่งก็ไม่แต่งเลยครับ มันเป็นพวกสุดโต่งตามอารมณ์ไม่ทันเหมือนกันนะบางที


“มองไร”


“มองนกกระปูดแดง”


“เรียกอยู่ได้ไอ้คำเนี้ย”


“นึกถึงตอนเด็กๆ ที่กูถามว่ามึงใช้ยาสระผมอะไรวะทำไมผมนุ่มจัง มึงก็ตอบมั่วๆ เพราะรำคาญกู ไอ้คำว่า ‘ตรานกกระปูดแดง’ เนี่ยโคตรเหมือนเสียงเป็ด ตลกดี กูชอบ”


“...”


ผมเล่าเรื่องตอนเด็กๆ ได้เป็นฉากๆ ผมจำได้เสมอแหละ เวลาผมเรียกมันด้วยชื่อนกนี้ เสียงเป็ดของมันจะลอยเข้ามาในหูผมเหมือนกับเหตุการณ์นั้นได้ย้อนกลับมาด้วยเหมือกัน หน้าตาไอ้เปาดูหมางง แถมตอนที่เล่าหูมันยังแดงขึ้นอีกต่างหาก แต่ถึงอย่างนั้นมันก็จ้องหน้าผมกลับเหมือนกับว่าเรามีอะไรที่ต้องพูดคุยกันมากมายกับเวลาที่หายไป


“น้องชายนกกระปูดแดงโตเป็นหนุ่มแล้วนะ...” ผมยิ้มพลางเท้าคางมองหน้ามัน  เมื่อก่อนมันเป็นคนที่ไม่มีใครสนใจ เป็นคนที่ไม่ได้มีตัวตน แต่ตอนนี้มีคนชอบมันมากขึ้น ผมดีใจแทนมันอย่างบอกไม่ถูก กูรู้สึกเหมือนเป็นแม่มันก็ไม่ปาน


“ดูดิ แก้มย้วยๆ ของมึงก็หายไปละ” ผมชอบคิดว่ามันยังเป็นเด็กเสมอ ตอนเด็กมันน่ารักจริงๆ นะครับ ไม่สู้คนโคตรๆ ผมถึงต้องคอยดูแลมัน ผมเอื้อมมือไปยืดแก้มมันที่ตอนนี้เข้ากับรูปหน้าหล่อๆ ของมันอย่างพอดี มันปัดมือผมออกเริ่มหันหน้าหนีไม่สบตาผม


“ก็แน่ดิวะ กูไม่ใช่เด็กอีกแล้ว”


“อืม...ก็คงจะจริง แต่ว่า...มึงยังเป็นน้องชายกูเหมือนเดิมนะ” ตบผมนุ่มมันไปสองสามที ไอ้เปามองหน้าผมนิ่งจนเป็นผมเองที่ต้องเปลี่ยนเรื่องเพราะทำตัวไม่ถูกกับสายตาของมัน


“ป่ะ กินข้าวได้แล้ว”







หลังจากกินข้าวเสร็จ ไอ้เปามันก็ไม่ยอมกลับ ไหนๆ ก็โดดแล้ว ผมก็เลยชวนมันดูหนังในห้องต่อ ตอนนี้ผมกับไอ้เปานั่งอยู่หน้าทีวีกอดหมอนดูหนังกันไป ในแก็งค์คอหล่นแห่งสินกำเนี่ย ผมสนิทกับไอ้เปามากที่สุดครับอาจจะเป็นเพราะว่าไอ้เปามันเปิดเผยนิสัยจังไรไม่มีกั๊กตั้งแต่รับน้องและยิ่งรู้ว่าเป็นไอ้เปาเพื่อนเก่าคนนั้นด้วย ผมยิ่งให้ใจสุดๆ รองลงมาก็คงเป็นไอ้เบสเพื่อนคนแรกของผมที่เทพดรออิ้งมาก ส่วนไอ้ทัพ ไอ้กล้วย มันก็จะเฮฮาอะไรของมันไปแต่เห็นงั้นพวกมันติสต์มาก งานที่ทำแต่ละทีสุดๆ ครับ เผาไหม้กันมาเลยทีเดียว


“เปา แล้วมึงไปอยู่ที่ไหนมาวะ”


ผมถามขึ้นระหว่างดูหนัง จำได้ว่ามันอยู่กับพ่อและพี่สาวมันแค่สามคน ผมเคยไปบ้านมันครั้งนึงเพื่อทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ทาวเฮ้าส์สองชั้นเล็กๆ ของมันดูอบอุ่นดี พ่อมันใจดีมากยิ้มแย้มตลอดเวลา ชอบทำอาหารใหม่ๆ มาให้ลองชิม แต่ผมไม่เคยเจอพี่สาวมัน ได้ยินแค่ชื่อเท่านั้น


“กูก็ย้ายมาอยู่กรุงเทพนี่แหละ ตอนแรกก็ย้ายมาอยู่กับแม่อะ..พ่อกูเสียแล้ว”


“กู...ขอโทษนะเว้ยที่ถาม” ผมตกใจมากได้แต่ยกมือลูบหัวและตบบ่ามันเบาๆ ตามันยังคงจ้องโทรทัศน์นิ่งๆ ต่างกับผมที่ใจเต้นแรงไม่รู้สาเหตุ ไอ้เปาหันมามองผมพร้อมกับยักไหล่เล็กน้อย


“ไม่เป็นไร ผ่านมานานแล้ว แม่กูเค้าเลยรับเลี้ยงกูกับพี่ต่อ”


“มึง...โอเคมั้ย”


“กูโอเค้ แม่ก็ใจดีอยู่กับครอบครัวใหม่มีความสุข รวยด้วย แต่กูห่างจากเค้ามานานแล้ว กูอยู่ได้ แล้วเค้าก็คงจะโอเคกว่าถ้ากูกับพี่จะอยู่กันเองด้วยเงินเค้า”


ผมนึกสงสัยเรื่องราวร้อยพัน แน่นอนว่าชีวิตคนเรามันมีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในตอนที่เรามีความสุขใครบางคนอาจจะยังทุกข์อยู่ก็ได้ แล้วตอนนั้นผมทำอะไรอยู่กันนะ


แปะ


ไอ้เปาตบหน้าผากผมไปทีก่อนจะพูดขึ้น


“ลากเข้าดราม่าอะไรเนี่ย ถามกูเองแล้วมาทำหน้าเศร้าทำไม กูง่วงแล้วขอนอนแปบนึง”


พวกเรานั่งอยู่บนพื้นแต่พิงส่วนล่างของโซฟาไว้ ผมนั่งกอดเข่าหันหน้าไปทางมัน คิ้วเข้มสวยที่ผมแอบมองตั้งแต่เจอกันตอนรับน้องขมวดนิดๆ มันหลับตากอดหมอน ผมทำให้มันเศร้ามั้ยนะ ไม่ใช่เพียงแค่คำถามนั้นแต่เป็นทุกเรื่องที่ผมเคยทำให้มันเศร้า ผมตัดสินใจได้ในวินาทีนั้น ไม่สิ ในวินาทีที่ผมรู้ว่ามันคือไอ้เปา ผมจะเป็นเพื่อนที่ทำให้มันมีความสุข ผมจะไม่ให้มันเป็นแบบเดิมอีกแล้ว ผมจะไม่ทิ้งมันเหมือนตอนนั้น


ผมไม่กล้าขอโทษกับมันตรงๆ ไอ้กลางแม่ง...โคตรขี้ขลาดเลยว่ะ พอเจอมันอีกครั้งแถมมันยังไม่พูดถึงเรื่องเดิม ทำเหมือนตอนเด็กไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เรื่องนี้กวนใจผมมาตลอดหลายปี


“โกรธกูมั้ยวะ ตอนนั้นน่ะ...กูขอโทษจริงๆ นะเว้ย”







ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง

เสียงไลน์ดังแทรกเข้ามารบกวนการนอนของผม อือ...ใครมาพูดอะไรกันเยอะแยะวะ ผมพลิกตัวเอาหมอนปิดหน้า หือ...เดี๋ยวนะ ผมนอนอยู่หน้าทีวีไม่ใช่หรอ


“ไอ้เปา”


“เปา”


กลับแล้วหรอวะ ผมขยี้ตาพลางหยิบมือถือมาดูขณะนี้เวลาสามโมง ไลน์เดอะแก็งค์ขึ้นตัวเลขข้อความที่ไม่ได้อ่านเยอะมาก เกิดไรขึ้นวะเนี่ย


คอหล่นแห่งสินกำ
กะ-ละ-ล้วย
วี้ดวิ้วววววววว ผัวเมียคู่นี้โดดเรียนไปแอบอยู่ด้วยกันหรอเนี่ยยยยยย
Mr.Tap
สาวๆ ถามหากันใหญ่ ได้ตำแหน่งแล้วหายจ้อย พวกกูก็นึกว่าเพื่อนหายไปไหนนนน
เยส เอ้ย เบส
ต๊ายยย เค้าอยู่ด้วยกันคร่า
ชายกลาง มึงนอนน่ารักดีนะ น่าขยำ ขย้ำบั้นท้ายจังเลออ



เดี๋ยว เดี๋ยวนะ....
นอน?


กูนอนแล้วพวกมึงรู้ได้ไง ผมสงสัยมากเลยพิมพ์ตอบกลับไป
   
กลาง
อะไรของพวกมึงวะ
เยส เอ้ย เบส
น้องกลางยังไม่เห็นหรอคับ ไอจีโลด ผัวลงรูปมึงอะ ว้ายยย


ไอจี...หรอ ผมรู้สึกถึงหายนะที่คืบคลานมาเหมือนผีจูออน


ไอจีผมยังไม่มีรูปแม้แต่รูปเดียว เป็นปกติถ้าจะไม่มีแจ้งเตือนอะไร แต่ตอนนี้มันกลับพุ่งพรวด ทั้งตัวเลขของฟอลโลวเวอร์ และจำนวนคนที่แท็กมาหา เดี๋ยวครับ....ผมไม่ใช่ณเดชน์


Paramatkrikri
คนนี้...คน(ของ)กลางครับ @khonklang


รูปที่ถูกแท็กโชว์หราขึ้นมา ไอ้เปาในชื่อปรมัตคริคริกวนตีนยันชื่อไอจีได้แท็กรูปที่มันเซลฟี่อยู่ในห้องผม มันชูสองนิ้วขึ้นมาปิดระหว่างตา เห็นหน้ามันแค่ครึ่งหน้ายังดูเท่ แต่แบ็กกราวน์ข้างหลังเนี่ยแหละหายนะของแท้ ผมนอนหลับดูดนิ้วอยู่บนเตียง ถึงจะอยู่ไกลแต่มึงจะแท็กทำซากอ้อยอะไรครับ อีกอย่างของกลางเห้ไร ชื่อผมคนกลางเฉยๆ นะเว้ย


Henna น้องน่าใส่ เอ้ย หน้าใสมากเลยค่า เอฟซีน้องเปาจ้า
Ekuana เมื่อวานน้องหล่อมาก ฮาด้วย ปล.ข้างหลังใครคะ #ทีมรอเผือก ขอวาร์ปหน่อยค่ะใครมีบ้าง
Rinda นอนห้องเดียวกันหรอคะ รูมเมทใช่มั้ย
Weloveclass @Ekauna คนนี้เลยค่ะ หนึ่งในเดอะแก็งค์คอหล่นสินกำ @khonklang วาร์ปไปค่ะน่าจะพึ่งเล่น
Bbaere ว้ายยยยยย ความผัวนี้ น้องข้างหลังเบ้าหน้าดีนะคะ พี่จะซูม
Yesbest คนหลังชื่อคนกลางครับ เลขห้อง 4208 อยากได้ไลน์ทักมาหลังไมค์
Famefire @yesbest ได้จริงปะครับ
Bananaboat คนกลางของใครนะครับ ของเพื่อนหรือของใคร
Teletapbieeee @khonklang เพื่อนหลับว่ะ มาดูหน่อยเร็ว
Paramatkrikri ไอ้เหี้ย@yesbest @famefire มันพูดเล่น ไม่ต้องเสือกทักไป ใจนะ




ไอ้พวกเหี้xxxxxxxx


==============
คนอย่างเปาตอนเด็กนี่มีจริงๆ นะ
เจอกันตอนหน้านะคะ
ขอบคุณที่ติดตาม
 :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-04-2017 16:11:49
งื้อออ ตั้ลล้ากดีนะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 20-04-2017 16:17:06
55555555555555 ชอบความซึนของกลาง และความทรามของพ้องเพื่อน เพื่อนเชียร์ขนาดนี้ไม่น่ารอดนาน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-04-2017 17:28:09
ชอบความผูกพันนี้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 20-04-2017 19:03:13
รอตอนต่อไปจ้า  :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 20-04-2017 19:18:07
ชอบตอนที่กลางพูดเรื่องตอนเด็กๆ
ชอบที่จับแก้มเปาแบบไม่ระวังตัว
เหมือนลูกแกะมากเลย น่าขย้ำ555555
สงสารเปาเหมือนกันนะ  ดูท่าจะรักกลางมาก
เอาน่า  เปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนไม่น่ายาก
สู้หน่อยไอ้หล่อ555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 20-04-2017 19:30:13
 :o8: :o8: :o8: :o8: น่ารัก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-04-2017 20:43:05
น้องกลางได้โดนน้องชายเปาจับกลืนลงท้องแน่~ :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 20-04-2017 22:00:01
พ่อนกกระปูดเริ่มแสดงความเป็นเจ้าของแล้วสิเนี่ย :hao6:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 20-04-2017 22:02:34
น่ารักจังเลยยยยย :impress2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-04-2017 23:08:14
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-04-2017 23:37:52
ชอบเลยเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 21-04-2017 00:32:01
ชอบในความเป็นเปาอ่ะ กวนตีน 5555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 21-04-2017 02:07:49
น่ารักกกกกก คิดถึงเปาตอนเด็กแล้วหมั่นเขี้ยวมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 21-04-2017 11:49:38
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-04-2017 12:04:45
 :hao3:
ชอบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Tuffina ที่ 21-04-2017 12:35:50
คนกลางน่ารักกกกก ฮื้อออ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 21-04-2017 13:07:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 21-04-2017 15:34:17
คนกลางตอนหลับมีดูดนงดูดนิ้วด้วย ตั้ลล๊ากกกก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 21-04-2017 18:43:20
ชายกลางเอ๊ย

พลาดแล้วที่นอนหลับ 555+
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Wereena ที่ 21-04-2017 21:12:43
น่ารักอ่ะ คนกลาง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 5 หน้า 3 (20-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 21-04-2017 23:53:39
แสดงความเป็นเจ้าของแล้ววววว  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 22-04-2017 14:55:42
6
คนกลางหัดงอแง...ก็ได้หรอวะ


 “กลาง วันนี้สองทุ่มนะเว้ย อย่าลืม พี่จิ้มแกจองโต๊ะไว้ละ”


“รู้เรื่องป่ะเนี่ย”


“เปาดูเมียมึงดิ๊”


“เมียหน้ามึงดิ”


“ด่าขนาดนี้คงหายง่วงแล้วล่ะ”


ผมคนกลางคนเดิมครับ เมื่อคืนไม่ได้นอนอีกแล้ว เหตุผลเป็นเพราะว่าส่งดรออิ้งที่ไม่เสร็จซักทีครับ วาดมาตั้งแต่เย็นของเมื่อวานไม่ออกไปไหน ข้าวไม่กินเพราะวาดยังไงก็ไม่ตอบโจทย์ ผมกระดกกาแฟไปหลายกระป๋องตาค้างทั้งคืน จะง่วงก็ตอนฟังเลคเชอร์วิชาศิลปะเอเชียตอนเช้าเนี่ยแหละ หลับๆ ตื่นๆ มาซักพัก ไอ้เบสก็เอื้อมมือมาสะกิด คืนนี้รุ่นพี่ปีสองนัดเลี้ยงครับ เป็นพี่กลุ่มที่สนิทกับพวกผมพอควร เห็นว่าอยากเลี้ยงเนื่องในโอกาสฉลองให้ไอ้เปาได้รางวัล กูว่าอยากแดกก็บอกมาตรงๆ เถอะ


ถ้าถามถึงเรื่องไอจีในวันนั้น ผมก็โทรไปด่าไอ้เปาครับ มันไม่ตอบอะไรเอาแต่หัวเราะเหมือนคนบ้ากลับมา มีหลายคนถามมันว่าแทนที่จะอัพรูปที่ได้รางวัล กลับอัพรูปอะไรก็ไม่รู้ มันก็ยิ้มๆ ไปไม่ได้ตอบกลับ ส่วนรูปนี้ถูกแชร์ในเฟซบุ๊กด้วย มีคนแอดมาหาผมมากมาย แท็กจนกูงง  ผมโผล่ไปแค่นั้นนี่ดังขนาดนี้เลยหรอครับ ทางสายกลางของผมเริ่มสั่นเบาๆ ขนาดน้องชายผมยังโทรมาถามว่าไอ้คนนั้นมันเป็นใครถามซ้ำๆ ผมก็ตอบซ้ำๆ ว่าเพื่อนแกล้ง ถ้าไม่ตอบนี่ไอ้เล็กซื้อตั๋วลงมากรุงเทพแล้วนะครับ ส่วนไอ้โจ๊กนี่หายเข้ากลีบเมฆไปเลย ไม่เห็นแม้แต่ขนจมูก


“กลาง ไอ้กลาง!”


“อือๆๆ รู้แล้ว”


“เป็นไรมึง”


ไอ้เปาโบกมือผ่านหน้าผม มันขมวดคิ้วท่าทางหงุดหงิดใจหน่อยๆ  “โอเคมั้ย”


“เอออไม่ต้องห่วงนกกระปูด กูมันเทพ” ผมตอบขณะเดินออกมาจากห้องเรียน หิวโคตรๆ



“พวกมึงไปกินส้มตำกันมั้ย ตั้งแต่เราอยู่มอยังไม่ได้ไปลองร้านเด็ดเลยนะเว้ย” ไอ้กล้วยเดินมากอดคอผมกับไอ้เปา แทรกกลางระหว่างผมสองคน ไอ้เปาทำหน้าอะไรซักอย่างส่งให้กลับไปให้ไอ้กล้วย มันเลยปล่อยแขนออกจากผมแต่ยังกอดไอ้เปาไว้เหมือนเดิม สงสัยกลัวผมหนัก ใช่สิ แค่นี้กูก็สูงตามพวกมึงไม่ทันละคือผมไม่ได้เตี้ยนะครับ สูงตามมาตรฐานชายไทยแต่พอมายืนกับคนสูงกว่ามันจะหงุดหงิดหน่อยๆ


“แล้วก็ไปกินเหล้าตอนค่ำต่อเนี่ยนะ” ผมถามต่อ


“เออไม่เป็นไรหรอกกกก”


“ไปๆ” ไอ้ทัพกับไอ้เบสพยักหน้ารัวเหมือนคนบ้า อยากแดกก็บอกมาตรงๆ นะเพื่อน


“ไปกัน เอารถมึงไปนะเพื่อนเปา”


ว่าแล้วไอ้สามตัวก็วิ่งส่ายตูดกวนตีนไปที่รถของไอ้เปา เหลือผมที่เดินลากขาช้าๆ ตามหลังไอ้เปา มันหันมามองเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรจนสุดท้ายมันหยุดเดินรอผมให้เดินไปพร้อมกัน ระหว่างทางรุ่นพี่รุ่นน้องก็ทักทายมันเหมือนเป็นคนของประชาชน ส่วนผมก็ได้อานิสงส์จากมันนิดหน่อย บางทีก็มีชี้ๆ บ้าง แต่เอาเถอะครับ ยังไงผมก็ชอบอยู่แบบนี้อยู่แล้ว ผมมันคนกลางๆ นี่นา


เดินมาถึงลานจอดรถนักศึกษาเห็นรถของมันจอดเด่นเป็นสง่าวันก่อนผมมัวแต่ง่วงไม่ได้มองรถมันอย่างจริงจัง ผมเชื่อแล้วครับว่าแม่มันรวยจริง ซื้อรถให้มันขับยี่ห้อมินิคูเปอร์ เล็กไปหน่อยแต่ก็เข้ากับไอ้เปาอย่างบอกไม่ถูก ตอนเด็กมันน่ารักนะครับ แต่พอโตมาแขนขายาวรถคันนี้เลยดูเล็กไปสำหรับมัน ไอ้เปาบอกว่าไม่อยากได้รถหรอกแต่แม่บังคับให้ใช้ แม่มันไม่ได้ดูแลตอนเด็ก แม่ก็ขอร้องให้มันรับสิ่งที่มันแม่อยากให้ เอาที่สบายใจครับ


“ไอ้ทัพมึงมาบิดตูดกูทำไมเนี่ย”


“มึงแหละเจ๊กกล้วย ตูดบานขนาดนี้กินที่ชิบหาย”


“ไอ้เบสสสส เอนหลังมาหาพ่อง มันต้องสลับกันเว้ย ไหล่มันชนกันมันนั่งไม่ได้”


เสียงทะเลาะกันข้างหลังทำให้ผมหันไปหัวเราะเยาะเย้ย  ชอบแกล้งกูดีนัก กูนั่งหน้าเว้ย!


“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เน้นเสียงไปอีก ยักคิ้วเยาะเย้ยด้วย


“ใช่สิ๊ กูมันไม่ใช่ไอ้กลางนี่จะได้นั่งข้างหน้าสบายๆ” ตอแหลมากกกกไอ้เบส ท่าจีบปากจีบคอเหมือนเคยเป็นผู้หญิงมาก่อน


“ทำเป็นหัวเราะ ถ้าผัวมึงทิ้งแล้วจะรู้สึก” ต่อด้วยไอ้กล้วย


“ไอ้เปาจะทิ้งกูหรอ หือ” ผมถามขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปจับคางคนที่กำลังขับรถให้ส่ายไปมาเบาๆ ไอ้เด็กน้อยนี่อะนะจะทิ้งผม


“ใครจะทิ้งวะ”


มันตอบแล้วเอามือมากดหัวผม


เอ๊ะ แต่เดี๋ยว ผมว่าบรรยากาศมันพาไปแน่ๆ


“ฮิ้วววววววววววววววววววว น้องกลางและผัวเค้ายอมรับแล้วครับทุกคน เห็นเมื่อกี้กันใช่มั้ยครับ” ผมหันไปมองข้างหลังไอ้เบสยื่นโทรศัพท์มาเกือบติดหน้าผม


“ไอ้เชี่ย นี่มึงหลอกถามกูหรอ แล้วมึงตอบอะไรเนี่ย” ผมหันไปด่าคนข้างๆ


“กูยังพูดไม่จบ จะบอกว่าหน้าตาเหมือนหมาหายากแบบนี้ทิ้งไม่ลง”


“ว้ายยยย โดนหลอก ไอ้เบสๆๆๆ กดอัพโหลดลงสตอรี่ไอจีเร็วๆๆๆ ไอ้เหี้ยยย”


“ไอ้กลางยื่นมือมาแล้ว เร็วๆ รีบโหลดดดด”


“อ๊ากกกก”


Yesbest ได้กล่าวถึงคุณ


ไม่ทัน....


ไอ้เชี่ยเบสเล่นกูอีกแล้วววว






“น้องเปา พี่ขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยคะ”


“ได้ครับ”


"ดีใจด้วยนะที่ได้รางวัลป๊อปปูล่าร์อ่ะ พี่โหวตให้ด้วย"


"ขอบคุณครับพี่"



“อ๊ายย น่ารักอ่ะมากินส้มตำด้วย”


ผมไม่เข้าใจครับ แค่มากินส้มตำนี่ต้องน่ารักด้วยหรอ ผมไม่ได้พาลนะ ร้านส้มตำร้านนี้ไอ้กล้วยบอกว่าเด็ดมาก รุ่นพี่แนะนำกันทุกคน วันนี้คนไม่เยอะมากครับ คิดว่าไม่นานคงจะได้กินไอ้กล้วยบอกมา พวกผมสั่งกันแบบที่ว่าจัดหนักเหมือนไม่เคยกินข้าวมาก่อนในชีวิต ไอ้กล้วยวิ่งไปหน้าร้านหยิบไก่ปิ้งมาหลายไม้ให้พวกผมระหว่างรอ มันเป็นคนแนะนำร้านนี้ต้องบริการประหนึ่งเป็นเจ้าของร้านครับ เดี๋ยวเพื่อนไม่ประทับใจ


“มึงทำไมนานวะ”


ไอ้ทัพเริ่มเปิดประเด็น ส่วนตัวผมหิวจนตาลาย นั่งแทะผักบุ้งผักสดจนจะเป็นเต่าอยู่แล้วครับ แล้วแฟนคลับไอ้เปาเนี่ยจะวีดว้ายอีกนานมั้ยครับ คนกลางเซ็ง


“ไอ้เปาๆ ไอ้กลางเป็นไรวะ”ไอ้เบสกระซิบแบบดังๆ จนสาวๆ หันมามองอย่างสงสัยว่าใครกันนะช่างมาขัดจังหวะ


“ขอตัวนะครับพี่ๆ”


ไอ้เปาเดินมานั่งตรงข้ามผมหลังจากพบแฟนคลับเรียบร้อยก่อนจะยกแก้วโค้กขึ้นมาดื่ม คุยกับสาวคนคอแห้งเลยหรอมึง ส่วนไอ้เบสก็นั่งชะเง้อมองหน้าร้าน พร้อมกับบ่นว่าเมื่อไหร่จะเดินมาเสิร์ฟโต๊ะเราซักที


“กูว่ามันนานไปป่ะวะ ไอ้เหี้ย นั่นไง คนเค้าสั่งหน้าร้านโคตรเยอะ  ถึงว่าแม่งไม่มาถึงซักที”


เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ผมนั่งกดโทรศัพท์จนแบตเกือบจะหมด บรรยากาศบนโต๊ะเริ่มกร่อย ไอ้สามตัวก็หาเรื่องคุยกันทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องเกมส์ เมื่อมันเห็นว่าผมเริ่มไม่โอเค แต่ผม ทน ได้ ครับ ผมเป็นคนกลาง ผมทนได้...ที่ไหนเล่า


“มึง”


ทุกสายตามองผมเป็นจุดเดียว “กูว่ากูกลับก่อนนะ กูไม่ไหวแล้วอะ”


“เป็นอะไร” ไอ้เปารีบโพล่งขึ้นมาหน้าตามันดูกังวลสุดๆ มันจับแขนผมก่อนจะยื้อๆ ให้นั่งลง


“กูหิวข้าวอะ”


“ไอ้กลางรออีกแปบนึง ไหนๆ ก็รอมาขนาดนี้แล้ว” ไอ้ทัพช่วยกันยื้อ จริงๆ นะครับ โต๊ะสาวๆ ข้างหน้าผมมาก่อนผมตั้งนานยังเห็นไม่ได้ซักที ได้ยินเสียงเค้าบ่นเหมือนกัน มึงเข้าใจกูมั้ย กูง่วง แล้วก็หิวด้วย 


“แต่กูไม่ไหวแล้วอะ”


ผมส่งสายตาอ้อนวอนให้พวกมัน ไอ้เบส ไอ้ทัพ ไอ้กล้วย และไอ้เปาพวกมันดูอึ้งๆ และคงไม่เคยเห็นผมในมุมนี้และผมก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ปกติผมจะไม่โวยวายเพราะเรื่องแบบนี้มักจะเป็นนิสัยไอ้เล็กมากกว่านิสัยคนกลางอย่างผม แต่ผมไม่รู้เป็นอะไร สงสัยโมโหหิวแแหงเลยครับ


“เชี่ย น่ารักสัด..” ไอ้ทัพพึมพำอะไรซักอย่างตาลอยๆ ก่อนจะพูดขึ้นเหมือนตั้งสติได้  “เฮ้ย อย่างอแงดิวะ อีกแปบเดียว”


“อะ กินนี่ไปก่อนเร็ว” ไอ้เปาเลื่อนจานมาให้ผม มันเดินไปเอาไก่เพิ่ม “ป้าเค้ากำลังทำ ทนอีกนิดได้มั้ย” ผมเงยหน้ามองมัน นี่ผมเป็นที่พึ่งให้มันไม่ได้เลยต้องมาให้มันดูแล ไอ้เชี่ย...โคตรไม่คูลเลย


“พวกมึงเคยเล่นหัวก้อยกันป่ะวะ”


ไอ้กล้วยเปิดการ์ดเกมส์อีกครั้ง มันหยิบเหรียญขึ้นมาวางบนโต๊ะ ไอ้สามคนที่เหลือพยายามทำให้บรรยากาศมันดีขึ้น


“เคยดิ”


“เอาล่ะ เรามาลองทายกันดีกว่า หัวหรือก้อยยยยยย”


“หัวๆๆๆ กูให้บาทนึงเลย หัวไอ้สัด”


“ก้อยยยยย ก้อยยยยย”


ผมดูความพยายามของพวกมันแล้วก็ตลกดีครับ พวกมันเล่นกันเหมือนเด็กจนสาวๆ หันมามอง โวยวายเสียงดัง อย่างไอ้เปาหมดคราบคนหล่อเลยทีเดียว นี่พวกกูทำทุกอย่างเพื่อรอข้าวเลยนะเนี่ยลงทุนมากมั้ง ถึงผมจะชอบทนหิวแต่ก็ไม่ใช่คนเหล็กนะครับ เจ็บได้และหิวเป็น


“เฮ้ยยยย พวกมึง ป้ามาแล้วววว”


“โต๊ะผมใช่มั้ยครับป้า”


“ป้าคร้าบบ พวกผมรอจนจะกินโต๊ะแล้วนะครับ”


“ขอโทษจริงๆ นะ วันนี้ลูกมือป้าลาป่วย ขอโทษสุดหล่อด้วยนะ เอ้า กินกันให้เต็มที่ เดี๋ยวยกมาเพิ่ม”


“มึงจะรอที่เหลืออีกมั้ยวะ”


“มึงจะรอทำเชื่ยไรรรรไอ้ทัพ  กินเลย”


ผมจ้วงกิน แย่งคอหมูย่างจากมือไอ้เปา มันก็แย่งถ้วยต้มแซ่บจากผมไป อื้อ...ไอ้นี่ กูเคี้ยวอยู่ด่าไม่ได้ ไอ้กล้วยทำหน้าตารู้สึกผิดอยู่ไม่ถึงวิ มันขอโทษผมที่พามากินร้านนี้แล้วต้องรอนานพร้อมกับแย่งจานส้มตำไปไว้ทางมัน



“ไอ้คล้วย!”


“กูชื่อกล้วย กอไก่นะเพื่อนกลางไม่ใช่คอควาย ได้โอเน็ตไทยเท่าไหร่เนี่ย”


“หนอย ไอ้ทัพ ไอ้เบสจัดการ”


“ได้เลยไอ้กลาง”


แล้วศึกสงครามแย่งอาหารก็จบลงเมื่อป้ายกอาหารมาเสิร์ฟเพิ่ม  ไอ้เปาเท้าคางมองผม มันไม่หิวหรอวะผมเห็นมันตักนู่นนี่ให้ผมเรื่อยเลย ถ้าผมเผลอก้มกินไอ้เปาก็จะยกมือถือมาถ่าย เดี๋ยวโดนเอาคืนแต่ยังไม่ว่างเคี้ยวอยู่


“อารมณ์ดีแล้วอ่อมึงอะ”


“อะไร”


“ไม่งอแงแล้วหรอน้องกลาง” ไอ้เชี่ย ไม่ต้องมาเช็ดมือที่หัวกู ไม่ใช่เด็กนะเว้ย เห็นมั้ยไม่คูลจริงๆ ด้วย


มันดีดหน้าผากผม พร้อมกับตักลาบใส่จานผมอีก “กินเยอะๆ จะได้ไม่โมโหหิวอีก”


เออ ไม่ต้องมายิ้มหล่อล้อเลียน สาวมองมึงใหญ่แล้วโว้ย




2 ทุ่ม ร้านเหล้าหลังมอ


“เหยดดดดดดดด น้องเปาเดือนคณะยอดไลค์ทะลักมาแล้วครับ”


“เงียบทำไมปรบมือต้อนรับน้องผมด้วยคร้าบ”


“ว้าย พกเมียมาด้วยหรอ พกเมียมาด้วยหรอเนี่ย แหมมาแค่เนี้ย...”


พอไอ้เปาเดินมาคนแรก พวกพี่ก็เฮฮาเสียงดังเหมือนงานบวช แต่พอเห็นผมเดินตามมาก็แซวจัง กูละเอือม มึงมาลองเป็นเมียกูมั้ยไอ้พี่จิ้ม ลองซักทีมั้ยพี่มึง


พิ่จิ้มแม่งเล่นใหญ่มาก พี่อั๋น พี่แตง พี่กอบ พี่เช่ โห่รับกันสนั่น เออกูไม่แปลกใจหรอกขนาดพี่เช่ที่เคยหล่อยังเป็นบ้ากับเค้าด้วย ผมว่าผมปกติสุดในคณะแล้วล่ะ ผมมาร้านเหล้าหลังมอแนวเพื่อชีวิตครับ ไม่เน้นแต่งหล่อ ไอ้เปามันก็จัดเต็มด้วยการใส่ชุดบอลรองเท้าเตะ มันบอกเข้ากับธีมร้าน มืออีกข้างก็มีกุญแจรถ กระเป๋าตังค์ และโทรศัพท์ มันหนีบมาแค่นี้จริงๆ ครับ ลำบากกูต้องคอยบอกว่ามึงอย่าลืมของนะเป็นสิบๆ รอบ นี่กูกลัวของหายหรือกูโรคจิตเนี่ย


หลังจากกินส้มตำเสร็จพวกเราก็แยกกันพักผ่อน ไอ้เปามันไปส่งผมที่หอแล้วบอกให้รอตอนสองทุ่ม ได้ข่าวว่าพี่นัดสองทุ่ม แต่อย่าไปท้วงมันครับ มันบอกอยากสร้างตัวตน เออ อยากสร้างแลนด์มาร์กไปอีก ส่วนคอหล่นอีกสามหน่อมันบอกจะไปเอง ไม่อยากนั่งเบียดกันอีก เดี๋ยวเกิดอารมณ์แล้วจะยุ่ง


“ไอ้เปา มึงมานั่งนี่”


“ไอ้เหี้ยจิ้มจะไปบังคับน้องมันทำไม เรื้อนแล้วอย่าปีนโต๊ะ”


“โหพี่สองทุ่มกว่าๆ นี่เมาแล้วหรอ” ไอ้เปาพูดพลางยกแก้วขึ้นมาดื่มแบบสบายๆ แต่ยังคงความเยอะไว้เหมือนเดิม


“สาวคนไหนอยากโดนพี่ผมจิ้มมั้ยคร้าบบบบ” พูดไปเรื่อยสาวๆ ร้านนี้ไม่ค่อยมีมีแต่หนุ่มทึนทึกอะครับ


“ไอ้เหี้ยยย จังไรอีกละ”


“กลางมาเอาคนของมึงไปดิ๊ กวนตีนกูไปอีก”


“นกกระปูดมาทางนี้”


โต๊ะที่เรานั่งมีประมาณห้าหกคนครับ รู้จักกันหมด ส่วนมากเป็นรุ่นพี่ปีสองที่มาช่วยทำตอนงานเฟรชชี่เกมส์ ตอนรับน้องนี่โหดชิบหาย แต่ตัวจริงขอแค่มีเหล้าก็เรื้อนได้ครับ


“พี่จิ๋มมมมมม พวกผมมาแว้ววว”


“จิ๋มเหี้ยไรไอ้เบส เดี๋ยวบ้อง”


“โทษครับพี่เห็นหน้าตาเชี่ยวชาญเรื่องจิ้มๆ เลยพูดผิด”


“ไอ้สัดกล้วย พวกมึงไปแดกเหล้าไป๊”


“ขอบคุณคร้าบ ” แหน่ะ ของฟรีนี่ประสานเสียงเชียว


ในวงเหล้าครื้นเครงอีกครั้งเมื่อไอ้พวกคอหล่นที่สถาปนาตัวเองว่าหล่อแซวสาวๆ ไปเรื่อย จนคนที่ผ่านไปมาหัวเราะในความเรื้อน โดยเฉพาะตอนที่เพลงขึ้น ทั้งพี่ทั้งน้องพากินกอดคอตะโกนลั่นร้าน ไอ้ตัวดีอย่างไอ้เปาก็เอากับเขาด้วย ชุดบอลไม่เข้ากับเพลงเลยให้ตาย


“ศพแรกผ่านไป ศพสองศพสามค่อยๆ ผ่านไป หลงผิดคิดภาคภูมิใจ...”


เดี๋ยวมึงจะกลายเป็นศพ


“บัวลอยเจ้าเพื่อนยาก ทำไมจากข้าเร็วเกินไป๊ บัวลอยไปอยู่ที่ไหน บัวลอยย”


เออ เดี๋ยวมึงได้จากไปกับบัวลอยแน่



แกร็งๆ เสียงน้ำแข็งกระทบแก้วดังขึ้นก่อนคนถามจะยื่นแก้วให้ผม



“กลางมึงกินเป็นป่าว”


“เป็นดิ”


“ก็เห็นมึงเนิร์ดๆ ตอนเด็กๆ นี่เนิร์ดจัด เอาแต่เรียนหนังสือกับวาดรูป นึกว่ากินไรแบบนี้ไม่เป็น”


มึงเห็นว่ากูเป็นงั้นหรอ นานๆ ทีที่มันจะพูดเรื่องเก่าครับ หลังจากยืนร้องเพลงเสร็จ ไอ้เปากลับมานั่งข้างผมแถมยังยื่นหน้าเข้ามา
ใกล้พ่นลมหายใจที่อบอวลไปด้วยกินเหล้า ผมดันหน้ามันออกก่อนจะยกแก้วเหล้ามาดื่ม โดยมีมันเลิกคิ้วมองดูอยู่ข้างๆ


“คนเราก็ต้องเปลี่ยนแปลงมั่งดิวะ”

------

เจอกันตอนหน้าคนกลางจะพยายามโชว์บู๊ด้วยเเหละ
มาดูว่าใครจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน 55
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
 :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 22-04-2017 15:19:14
คนกลางแผ่ออร่าน่ารักทุกตอนเลยนะลูก
อยากอ่านตอนคนกลางกับคนเล็กมุ้งมิ้งกันจังเลยค่ะ ชอบโมเม้นท์พี่น้องของพวกเขา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ซีเนียร์ ที่ 22-04-2017 15:50:39
รอตอนต่อไปจ้า  :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 22-04-2017 16:08:07
คนกลางนี่อ่านไปอ่านมานึกถึงเพลงชายกลางของแสตมป์ขึ้นมาเลย
คนกลางแผ่ออร่าน่ารักกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 22-04-2017 16:08:58
 :L2: :pig4:

คนงอแงจะบู๊ไหวไหม 55
อยากอ่านไปเรื่อยๆ ชอบ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 22-04-2017 16:32:55
เหอ ๆ มารอ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 22-04-2017 16:36:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 22-04-2017 17:09:49
กาลเวลาอาจจะเปลี่ยนไปแต่ดูท่าใจเปาไม่เปลี่ยนแปลงนะ ง่ออออว์ น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 22-04-2017 18:11:35
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่า
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-04-2017 18:43:32
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ชมรดา ที่ 22-04-2017 18:50:53
น่ารักดีนะจ๊ะคนกลาง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-04-2017 19:33:32
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-04-2017 19:55:42
เปา กลาง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เปา เอาใจกลางดีมาก
เพื่อนๆ รู้ใจ เชียร์เปา กันสลอน
      :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-04-2017 20:45:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 22-04-2017 21:09:22
รอๆๆตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 22-04-2017 21:20:14
คนกลางทำไมน่าเอ็นดูเช่นนี้  :ling1:
ถึงว่าเปาหวง  o18
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Ujeen ที่ 22-04-2017 22:09:29
โอ้ยชอบบบบบบบบบบบบ เราชอบกลุ่มคอหล่นมากนะจริงๆ
คือชอบในความฮาขี้แตกของเรื่องนี้จริงๆ ขำค้างยังกะคนบ้าาาาา มันสนุกมาก เลิฟเลย
รีบมาต่อตอนต่อไปเร็วๆ น้าาาาาจุ้บ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 23-04-2017 00:05:29
คนกลางน่ารักมาก เอ็นดูค่ะคุณคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Moonuglygirl ที่ 23-04-2017 00:20:24
คนกลาวเริ่มไม่กลางแล้วนา 555+
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-04-2017 00:20:52
เป็นเอฟซีเพื่อนๆนักชง  คนกลางยอมรับด้วยว่าเป็นเมีย ฮื่อออออ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 23-04-2017 00:29:28
 ชอบคนกลางจัง
ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกว่าเป็นคนน่ารัก
ชอบตอนจับคางคุณนกกระปูด5555555
หยอกเขาไว้เย๊อะะ
เดี๋ยวเถอะกลาง ระวังเขาจะรุกไม่ทันตั้งตัวนา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 23-04-2017 01:15:47
ชอบน้องเล็กหวงพี่คนกลาง. เชี่ย น่ารักสาดดดด เป็นคำอุทานจากน้องทัพ คนกลางต้องน่าร้ากกกกมากช่ายมั๊ย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Rosary ที่ 23-04-2017 04:22:28
ชอบคนกลางงงงง :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 23-04-2017 07:52:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-04-2017 14:45:40
หึหึ คนกลางดูมึนๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 23-04-2017 19:51:33
คนกลางน่ารักกก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 23-04-2017 22:58:12
ชอบบบบบบบบ
ชอบคนกลางงงงง ชอบเล็กด้วย โคตรหวงพี่555555555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-04-2017 01:00:14
 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 24-04-2017 11:15:28
น่ารักมาก เป็นนิยายที่น่ารักขอให้เป็นแบบนี้ต่อไปชอบเรื่อยๆตลกน่ารักๆม่ดราม่าเท่าไร  นะจ๊ะคนเขียน จะติดตามต่อไปนะ ปูเสื่อคนกลางกับคน(ของ)กลาง 55
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 24-04-2017 11:36:56
มารอผู้แต่งที่น่ารักทุกวันเลยยยย  :impress2:
รอคนกลางด้วยนะคะ  :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 6 หน้า 4 (22-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 24-04-2017 12:57:08
 :o8: :o8: :o8: น่ารัก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 24-04-2017 19:51:20
7
กลางความบ้าคือกล้าเป็นห่วง



ค่ำคืนนี้ยังมีดวงดาวเจิดจ้า ใช่ครับ ผมเห็นดาวเต็มไปหมด คนไม่ค่อยได้กินเหล้าแบบผมถึงกับมึนแต่ก็ยังมีสติ ไม่อยากจะอวดว่าผมไม่แน่จริง ผมว่าเหล้ามันไม่ใช่สไตล์สายกลางแบบผมเลยได้แต่นั่งคุย นั่งมองสาวๆ โต๊ะข้างๆ ก็พอจิบได้ครับ ไอ้กล้วยและไอ้ทัพเพื่อนผมนั่งกอดขวดเหล้าอยู่หน้าร้านรอไอ้เปาวนรถมารับ มันกินเหมือนไม่เคยรู้จักเหล้ามาก่อน ส่วนไอ้เบสกับพวกพี่จิ้มพึ่งร่ำลากลับกันไปไม่นาน นั่นก็ไร้สติพอกัน พากันกลับนี่หวังว่าคงไม่ได้ไปเมาจนปล้นชาวบ้านเค้านะ


จากคำถามที่ไอ้เปาตอบตอนประกวดเดือนมหาลัย ร้านเหล้าทุกร้านที่ไกลมหาลัยต้องปิดเที่ยงคืนครับ แต่พวกผับใกล้ๆ มออีกที่นึงก็เปิดเพื่อขายเหล้าให้หมดสต็อคก่อนปิดตัว ผมยืนรอไอ้เปามาซักพัก เริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เพื่อนผมไปนานแล้วนะครับ รถก็ไม่มีเยอะนี่หว่า ผมเท้าเอวแล้วมืออีกข้างก็คอยปัดยุงให้เพื่อนที่นั่งอยู่ริมฟุตปาธ ชะเง้อไปมาซักพักก็ได้ยินเสียงคนตะโกนมาแว่วๆ


“เฮ้ยๆๆ เล่นมันๆ”


“เอาไงวะเก๋าหรอ”


นั่นไงประโยคคุ้นๆ ที่พวกนักเลงชอบใช้กัน ผมหันขวับไปตามเสียงที่ดังมาจากลานจอดรถ หรือว่าเพื่อนผมมันไปกวนตีนใครเข้า หน้าตายิ่งกวนบาทาอยู่ ผมตื่นตระหนกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เกิดมาไม่เคยได้ประชิดเหตุการณ์แบบนี้เลย จะทำไงดี ผมกระวนกระวายใจเมื่อตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้เสียงและเห็นแน่ชัดว่านั่นมันไอ้เปาแน่ๆ


มันยืนหันหลังให้ผมแต่อยู่ในวงล้อมของพวกชายวัยรุ่นกลุ่มนึงประมาณ 3-4 คน อยู่ข้างหลังไม่รู้ว่าไอ้เปาแสดงสีหน้าอะไร แต่คิดว่าไม่ดีแน่นอน เพราะคนตรงข้ามมันแยกเขี้ยวใส่ด้วยท่าทางโกรธจัดแถมยังกำหมัดแน่นเตรียมพร้อมพุ่งชน


ทำไงดีๆๆๆ ผมจะทำยังไงดีวะ ขณะที่พวกล้อมวงเริ่มเดินมาผลักอกไอ้เปาสองสามที มันเซไปข้างหลังนิดหน่อย มันอาจจะยังไม่เมามากแต่ผมว่ามันไม่มีสติเต็มร้อย เสียงเซ็งแซ่ของชายกลุ่มนั้นดังขึ้นมาเรื่อยๆ มีหลายคนคาบบุหรี่ถือขวดเหล้ามายืนล้อม


หน้าสิ่วหน้าขวานสมองของผมกลับนึกไปถึงครั้งสุดท้ายก่อนที่เราจะแยกกัน ในวัยเด็กไอ้เปาถูกพวกไอ้เกมส์ยืนล้อมแบบนี้ ไม่อยากยอมรับว่าเหตุการณ์นี้มันเป็นสิ่งที่ติดค้างในใจผมเสมอ และตอนนี้มันจะเป็นแบบนั้นอีกครั้งงั้นหรอ


ไอ้เปาเริ่มกวนตีนคนอื่นด้วยเงยหน้ามองพวกมันนิ่งๆ และนั่นถือเป็นเหมือนระเบิดที่กำลังนับถอยหลัง เสี้ยววินาทีที่ไอ้หัวโจกตรงข้ามง้างหมัด หัวสมองผมขาวโพลน รู้เพียงแต่ว่าผมต้องช่วยมัน ผมอาจจะกลัวมันหนีไปอีกครั้ง ถ้าผมขี้ขลาด...


“ไอ้เปา!! ระวัง!!”


เท้าผมเหมือนติดสปริง วิ่งเข้าไปผลักไอ้เปาออกด้วยแรงทั้งหมดที่มี ผมสบตากับมันตอนที่มันหันมามอง ผมโล่งอกเป็นที่สุดแต่ในขณะที่มันเบิกตากว้างอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กูช่วยมึงได้แล้วเพื่อน


“ผลัวะ!!”


“ไอ้กลาง!!”


เสียงหมัดกระทบแก้มขวาผมอย่างจังเบอเร้อ ตัวผมลอยคว้างไปด้านข้างแต่ไอ้เปาดึงสติกลับมาจากอารามตกใจได้สำเร็จ มันคว้าแขนผมไว้ก่อนที่ตัวผมจะไปนอนหมอบบนพื้นให้เท้าเกือบสิบคู่กระทืบ  ไอ้เหี้ย นี่สินะ การโดนต่อย ผมไม่เคยมีปัญหากับใครเป็นคนกลางที่อยู่อย่างสันติ ในชีวิตนี้ผมมีเรื่องชกต่อยแล้ว...แต่นี่ไม่ใช่เวลานะไอ้กลาง


“ไอ้เหี้ยเอ๊ย ผลัวะ!”


“กลางๆ มึงอดทนไว้ ผลัวะ”


ไอ้เปาบอกน้ำเสียงร้อนรนหน้าตากังวลแบบที่ผมไม่เคยเห็น มึงไม่ต้องห่วงกู กูจะพยายามช่วยมึง ผมได้แต่คิดและพยักหน้ากับหลังมัน ไอ้เปาเอาตัวมาบังผมไว้จนมิด มันสวนหมัดออกไปอย่างทุลักทุกเล ตัวผมเหวี่ยงไปมาตามที่มันจะบังคับ ผมแทบไม่เหลือสติเพราะหมัดเดียวกูจอดเลย ไอ้เปาเริ่มล้ามันหายใจแรง ถูกต่อยไปหลายทีทั้งหน้าบ้าง หลังบ้าง แต่ก็ยังฮึดสู้ มันหลบหลีกได้ดีกว่าผม นี่ผมทำได้แค่มองมันงั้นหรอ...ผมไม่มีแรงขยับเลย ผมมันแย่ชะมัด



เชี่ยเอ้ย...ยอมแล้ว



อย่าต่อยมันเลย


“เปา...”


“ไอ้เหี้ยเอ้ย! มึงใช่มั้ย กล้าดีมาต่อยมันได้ยังไงวะ ผลัวะๆ!” ไอ้เปาเหมือนหมาบ้ามันต่อยไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งเมื่อคว้าคอไอ้คนที่ต่อยผมได้  ไอ้นั่นก็หลบได้ต่อยคืนได้บ้างหน้าตาถมึงทึงเมื่อโดนหมัดเมาของไอ้เปา เสียงเอะอะโวยวายยังดังต่อเนื่อง


“โอ๊ย ไอ้บ้านี่ พวกมึงรุมกระทืบมันอีก จัดหนักมันเลย จับมันแยกออกมา”


ผลัวะๆ! ตุ๊บๆ!


“อย่ามาซ่าในถิ่นกูไอ้ชิบหาย”


“อั๊ก!”


ไอ้เปาร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อฝ่าเท้าประทับมาที่หลังอย่างแรง ผมฮึดแรงครั้งสุดท้ายเหวี่ยงหมัดออกไปข้างหน้า โดนบ้างก็ยังดีวะ ในตอนที่ผมคิดว่าไม่รอดแน่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้น พร้อมกับเสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังมุ่งตรงมาทางนี้ ใครก็ได้ขออย่าให้เป็นพวกมันมาเพิ่ม


“เฮ้ยๆๆๆ ทำไรกันวะ!!!!”


“เหี้ย ไอ้กลางนี่หว่า เฮ้ยๆๆ พี่ครับมาทางนี้เร็ว มีคนโดนรุมครับพี่!!!”


“เฮ้ย! พวกมึงไปเร็ว มีคนมาแล้ว”


“ไปๆ”


“ไปไอ้สัด!”


“ไว้เจอกูใหม่ไอ้หน้ากวนตีน!”






“เป็นไงบ้างวะพวกมึง”


เสียงคนมาใหม่คุ้นอย่างน่าประหลาดรวมถึงแก้มของผมที่แผลงฤทธิ์เจ็บเหี้ยๆ คนแปลกหน้าช่วยกันพยุงไอ้เปาขึ้นมา เสื้อผ้าเปื้อนฝุ่นและคราบรอยตีนหลายรอย ผมนั่งนิ่งๆ ไม่นานก็พยายามลุกขึ้นตามตัวผมมีแผลถลอกนิดหน่อยถ้าเทียบกับไอ้เปานี่ช่วยบังผมแล้ว ตอนนี้ผมเข้าใจคำว่ายืนงงในดงตีนแล้วครับ


“เปา มึงเจ็บเยอะเลยไปหาหมอกันนะ”


ผมถามมันเป็นประโยคแรก ไอ้เปานั่งหอบ หน้าอกกระเพื่อมรุนแรง หน้าตาเท่ๆ ที่ผมชอบมีรอยเต็มไปหมด มัวแต่มองหน้ามันจนมีคนมาคว้าไหล่


“ไอ้กลาง! มึงเป็นไงบ้างวะ ตายห่าอย่าให้ที่บ้านมึงรู้นะ”


 “ไอ้โจ๊ก!” เสียงที่คุ้นนั้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างรวดเร็ว หน้าตาสงสัยเหมือนมันมีอะไรจะพูดอีกเยอะแต่ผมกลับอ้าปากร้องเรียกชื่อมันซะก่อน


 “มึงช่วยไอ้เปาหน่อย มึงเร็วๆ เข้า”


ผมเจ็บบริเวณแก้มมากแต่ก็ยังพอพูดได้ ไอ้โจ๊กพยักหน้ารัวๆ พี่เจ้าของร้านวิ่งหน้าตาตื่นมาทีหลังพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผลเบื้องต้น มันต้องไปโรงพยาบาลครับ เสียงตีนกระแทกหลังในดังอยู่ในหูผม ผมเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าของร้านฟังคร่าวๆ พร้อมบอกหน้าตารูปพรรณไอ้แก็งค์เวรนั่น


“กลาง”


“อีกคนใส่เสื้อสีเหลืองครับ เจาะหูรูใหญ่ เห็นเพื่อนมันเรียกไอ้นุ๊ก ครับใช่ครับ ซี้ด...” ใครกวนตีนใครก่อนไม่รู้แต่มารุมทำร้ายแล้วหนีอย่างงี้ก็ต้องเอาผิดกันบ้างครับ


“กลาง”


“มึงทนแป๊บนึงนะ ไอ้โจ๊กกำลังไปเอารถมึง”


ผมยกมือไปแตะไหล่มันไว้ ไอ้เปาขมวดคิ้วแล้วเอื้อมมือมาจับมือผมที่พึ่งรู้ว่ามันสั่นมากแค่ไหน “กลางมึงใจเย็นๆ”


ผมที่กลัวแทบตายแต่พอมันพูดคำนั้นด้วยท่าทีนิ่งๆ ผมก็ระเบิดความรู้สึกทุกอย่างออกมา รวมถึงเรื่องอดีตด้วย เรื่องนี้มันต่างกับการแกล้งเล่นแบบมีแผลฟกช้ำเหมือนตอนที่ไอ้เกมส์ทำ มันยิ่งใหญ่และน่ากลัวต่อชีวิตมากกว่านั้น


“มึงจะให้ใจเย็นได้ไงวะ!! มึงโดนรุมกระทืบไม่ใช่หรือไง มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะเว้ย!”


“แล้วมึงเป็นอะไรวะ! มึงโผล่เข้ามาทำไม! กูจัดการได้ มึงเห็นตีนพวกมันมั้ย!”


ผมเริ่มขึ้นเสียงอย่างที่ผมคิดว่าไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต ถ้าไม่มีผมมันจะจัดการได้งั้นหรอ ไอ้เปาจ้องผมเขม็ง สายตาแข็งกร้าวขึ้นแล้วมันก็ระเบิดออกมาไม่แพ้กัน นี่เป็นครั้งแรกที่เราเสียงดังใส่กันตั้งแต่รู้จักกันมา พี่พนักงานร้านที่อยู่ไม่ไกลจากนั้นก็ยังหันมามอง แต่ผมไม่สนใจ ตอนนี้ผมสนใจแค่มัน


“แล้วมึงทำไมไม่ยอมลงวะ! แต่ก่อนมึงยอมตลอดแค่ตอนนี้มึงไม่ไปกวนตีนมัน มึงจะไม่เจ็บขนาดนี้เว้ย!” เป็นผมเองที่กลับคำ ทั้งๆ ที่เคยบอกให้มันสู้ มันไม่เหมือนกันนี่...ใช่มั้ย เรื่องแบบนี้มันอาจถึงตายได้ ถ้ามันมีมีดหรือปืนล่ะจะทำยังไง ชีวิตคนเรามันมีค่านะ โดยเฉพาะชีวิตมึง


“แต่กูไม่เหมือนเดิมนะกลาง! กูไม่ใช่ไอ้ขี้แพ้เหมือนตอนนั้น กูไม่อยากให้มึงมาปกป้องกู!!”


ว่าไงนะ


“แต่กูจะช่วยมึง! ยังไงกูก็จะทำ!”


ผมตะโกนออกมา ผมไม่เคยเห็นไอ้เปาเป็นแบบนี้มาก่อน มันโกรธจัดเหมือนผมไปกดสวิตซ์บางอย่างในตัวมันเข้า 


“แต่ตอนนี้กูปกป้องมึงได้แล้ว! กูไม่ใช่คนอ่อนแอที่หลบแค่หลังมึง กูไม่อยากมองแค่หลังมึงอีก มึงเข้าใจมั้ย!”


ผมได้แต่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น พูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว มันคิดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมแค่อยากเป็นที่พึ่งให้มันเหมือนเดิม


“มึงมันไม่รู้อะไรหรอกกลาง” มันลดเสียงลงเบาแทบจะเป็นเสียงกระซิบ




 นี่เรากำลังทะเลาะกันหรอ


ตลอดทางไปโรงพยาบาลทั้งรถมีแต่เสียงแอร์กับเสียงเมาอ้อแอ้ของไอ้กล้วยและไอ้ทัพ ไอ้โจ๊กที่เป็นคนขับรถจำเป็นกลอกตาซ้ายขวาอย่างกล้าๆ กลัวๆ มันบอกผมว่ามันทำงานเสร็จอยากหาอะไรคลายเครียดเลยชวนเพื่อนวิดยามันสองสามคนออกมากินเหล้า ไม่คิดว่าจะเจอผม ผมตอบอือออกลับไป ในหัวคิดถึงแต่เรื่องก่อนหน้านี้เต็มไปหมด


“เอ่อ...พวกมึงเข้าไปตรวจแล้วเดี๋ยวกูรอหน้าห้องรับยานะ โชคดีเว้ย เออ กูจะอวยพรทำไมวะ”


ไอ้โจ๊กบ่นพึมพำก่อนจะโบกมือให้พวกผมเดินไปห้องตรวจ และก็อีกเช่นกันที่เราไม่คุยอะไรกันเลย โรงพยาบาลในตอนเกือบตีหนึ่งนี่วังเวงดีชะมัด ผมเดินช้าลง ในขณะที่มันก็เดินเร็วขึ้น ผมได้แต่มองหลังมันเดินห่างไปเรื่อยๆ


“ไอ้เปา”


มันเดินช้าลงแต่ก็ยังไม่หยุดเดิน ผมไม่ชอบบรรยากาศเงียบๆ แบบนี้ ระหว่างที่มาโรงพยาบาลผมนั่งทบทวนเหตุการณ์ต่างๆ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมหรืออะไรทำให้ไอ้เปาที่เคยอ่อนแอกลายเป็นคนแข็งแกร่งขึ้น บ้าดีเดือดขึ้น ระยะเวลาที่เราไม่เจอกันมันอาจจะมีหลายอย่างที่ทำให้มันเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผมไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเอง อย่าคิด นั่นสิ...ผมจะคิดอะไรให้มากมาย ผมสัญญากับตัวเองไม่ใช่หรอวะ ผมจะไม่ทำให้มันทุกข์ และเป็นผมเองที่ทนไม่ไหวและทำลายความเงียบนั้นลง


“มึงเป็นอะไรวะ”


ผมเร่งฝีเท้าไปข้างๆ มัน “มึงโกรธกูหรอวะ” สายตาคมกริบเบนมามองผมนิดหน่อยแล้วหันกลับไป เอ่อ คงโกรธกูมากสินะ


“เฮ้ยอย่าเงียบดิ”


“...”


“มึงโกรธที่กูวิ่งเข้าไปช่วยมึงหรอ”


กึก เสียงฝีเท้าชะงัก หน้าตามันบึ้งตึงแถมคิ้วยังขมวดแน่นอารมณ์ประมาณว่ายังจะถามอีกหรอ


“กูขอโทษที่เข้าไปแบบนั้น ถ้าเป็นมึง มึงจะไม่ทำแบบกูหรอวะ”


“กูจะทำยิ่งกว่านั้น”


“นั่นไง..ใช่มั้ยล่ะ” ผมยิ้มร่า ดีใจที่มันตอบผมแล้ว เราหยุดอยู่หน้าห้องตรวจพอดี ระหว่างห้องตรวจที่ 1 ของมัน และห้องตรวจที่ 2 ของผม


“แต่การที่มึงชกใครไม่เป็นแล้วยังวิ่งเข้าไป ยังไงกูก็โกรธ” เกือบจะดีใจอยู่แล้วเชียวถ้ามันไม่พูดประโยคหลังออกมา


“ก็กูขอโทษแล้วไงงง” ผมร้อง “แต่ที่กูทำกูเป็นห่วงมึงนะเว้ย”


“แล้วคิดว่ากูไม่ห่วงมึงงั้นหรอ” ไอ้เหี้ย สายตาจะคมบาดลึกไปไหน แต่ผมจะถือว่าระหว่างเราดีกันแล้วนะครับ


“งั้น...เจ๊ากัน เอาน่า ถ้ามีคราวหน้ากูจะไม่ทำอีก โอเค้ อ่ะสัญญา”


“ไม่มีคราวหน้าแล้ว”


ผมเอื้อมมือไปขยี้ผมนุ่มของมันเหมือนเดิม เลิกหงุดหงิดได้แล้วนกกระปูดแดง กูไม่โอเคที่มึงเป็นแบบนี้เลย มันหันมามองผมนิ่งๆ ไอ้ความนิ่งนี่มันไม่เข้ากับมันเลยครับ ผมยิ้มค้างรอมันรับคำขอโทษซักพักจนมันถอนหายใจแล้วก็พยักหน้า


โอเค กูยอมให้มึงเลยนะเนี่ย







หลังจากนั้นเราสองคนก็แยกเข้าห้องตรวจครับ ผมบอกย้ำกับพี่พยาบาลว่าตรวจร่างกายมันไปเลย โดนชก โดนถีบไปขนาดนั้น ส่วนของผมไม่เป็นอะไรมาก ทีแรกนึกว่ากรามจะหลุด มันเจ็บจริงๆ นะครับ ถ้าพี่น้องผมรู้ละก็โดนด่ายันลูกบวชแน่นอน โดยเฉพาะไอ้เล็ก ผมทำแผลเสร็จพร้อมกับฟังขั้นตอนการรักษาหน้าที่มันเริ่มบวม ฮือ ผมจะเป็นไอ้กลางเวอร์ชั่นหน้าบวมครับทุกคน ตอนวิ่งเข้าไปไม่ได้คิดอะไร พอเห็นหน้าตัวเองคิดหนักเลยครับ


 “ไอ้โจ๊กกกก หน้ากูอ่ะ” ผมนั่งรอไอ้เปาตรวจเสร็จอยู่หน้าห้องรับยากับไอ้โจ๊กเพื่อนรัก มันนั่งกดมือถือยิกๆ เหมือนโดนเมียตาม นี่มึงไม่สนใจกูเรอะ


“ร้องหาพ่อมึงหรอ โตเป็นควายแล้ว”


“ก็มันเจ็บ มึงไม่ลองดูมั่ง” ยื่นหน้าที่เริ่มบวมให้มันดู มันเหลือบมองนิดนึง อะไรวะตอนวิ่งเข้ามาช่วยยังหน้าตาตื่นอยู่เลย


“กูผ่านมาทุกรูปแบบแล้วเว้ย ลืมไปแล้วหรอกูเด็กห้องท้ายนะ”


“เออ ไอ้ปัญหาสังคม”



“ส่วนมึงก็ไอ้คุณชายกลาง”


ไอ้โจ๊กมันเด็กห้องท้ายของจริงครับ เด็กห้องท้ายของโรงเรียนผมถือว่าสุดๆ โคตรบ้าดีเดือด ถึงแม้ตอนมัธยมมันจะมาสนิทกับผมแต่ไอ้โจ๊กก็ยังคงไปกับพวกหัวโจกเหมือนเดิม ชอบโดดรั้วโรงเรียนบ้าง เข้าสายบ้าง สารพัดสารเพจนผมเหนื่อยแล้วเหนื่อยอีกบอกกับมันครั้งสุดท้ายว่าถ้ามันยังไม่ตั้งใจเรียน ผมจะไม่สนมันอีกเลย จะสอบตกกูจะไม่มองมึงละ พอมันติดวิดยาที่เดียวกับผมได้กราบกูใหญ่


“แล้วนี่เป็นไงมาไงวะ”


ไอ้โจ๊กถามต่อ มันเป็นคนที่ตัวสูงหุ่นแมนแต่เสียงแหลมชิบหาย แถมหน้ายังเหมือนลิงอีกด้วย 


“กูวิ่งไปช่วยเพื่อนอะ”


“โถถถถ ไอ้คนมีพลังเยอะ อย่างมึงจะไปสู้ใครได้”


“ก็นี่ไง หมัดเดียวนิ่งเลย”


“มันหรอ”


“กูเนี่ยแหละ”


“เด๋อนะมึง จำไว้ละกัน อย่าทำอีก มีปากก็ร้องให้คนช่วย เอาตัวเองไปเสี่ยง” ทำไมทุกคนต้องพูดทำนองนี้กับผมวะครับ


“โห วันนี้มีสาระว่ะ”


“แน่นอนการศึกษาทำให้กูพัฒนา เออ...”


“สะกิดไมวะ”


ไอ้โจ๊กสะกิดผมแล้วพยักเพยิดหน้าเมื่อเห็นไอ้เปาเดินออกมาจากห้องตรวจ มันมีผ้าก็อตแปะอยู่ตรงโหนกแก้มมีเลือดซึมออกมานิดๆ ดีนะจมูกไม่หัก นอกจากผมนุ่มๆ และคิ้วของมันแล้วผมชอบจมูกมันสุดๆ ถ้ากูไม่เข้าไปผลักมึงนะ จมูกมึงได้ศัลยกรรมแน่ๆ ขอบใจพี่ซะ


“ไอ้คนนั้นเพื่อนมึงอ่ะ หน้าตามันดูคุ้นตายังไงชอบกล มันชื่อไรนะ”


“เอออ...กูลืมบอกมึงเลย มันคือไอ้เปาอ่ะ ไอ้เปาไง! มึงจำมันได้มั้ยวะ”


ผมเผลอพูดชื่อมันดังจนไอ้เปาที่กำลังจะนั่งรอรับยาข้างๆ ผมถึงกับสะดุ้ง ไอ้นี่ก็ขวัญอ่อนไปอีก 


“เปา อ๋ออออ”


“จำได้ใช่ป่ะๆๆ”


“ไม่อะ”


“เอ้า แล้วจะอ๋อ หาพ่อง...”


“ก็เนี่ย...” ผมชี้คนข้างตัวประกอบให้ไอ้โจ๊กดู “ไอ้เปาที่เคยอยู่ห้องกูไงตอนประถมอะที่มันย้ายไปก่อนจบป.6”


“นานสาด ขอนึกความทรงจำอัลบั้มแปบ” ซีรีบั้มมั้ยอะไอ้โจ๊ก


มันทำท่าคิดแบบโคนันซักพักก็ร้องอ๋อ จำได้ใช่มั้ย


“เฮ้ยๆๆๆ กูจำได้ละ”


มันลุกขึ้นยืนเดินมานั่งเบียดระหว่างผมกับไอ้เปา ไอ้โจ๊กจับไหล่ไอ้เปาเขย่าๆ เพื่อน เบาๆ หน่อย มันมึนนะ


“จริงหรอวะ มึงไอ้เปาจริงหรอวะ แม่งหล่อขึ้นสาดๆ อะ ไอ้เหี้ย มึงมาเจอกันได้ไง แล้ว...เชี่ย โลกโคตรกลม กูไอ้โจ๊กไง”


“เออ...จำได้” แค่ท่าเลิกคิ้วของมันทำไมเท่จังวะ ไอ้เด็กน้อย


“กูเกือบจำมึงไม่ได้แล้วว่ะ”


“มีแต่คนเป็นแบบนั้น” ไม่ต้องเหลือบมามองกูได้ป่ะ


“เท่าที่จำได้แต่ก่อนมึงไม่ได้สายวาดนี่หว่า ทำไมเข้าสินกำได้เนี่ย”


ใช่ครับ ผมเองก็สงสัยแต่ไม่กล้าถาม เมื่อก่อนนักวาดรูปของโรงเรียนมีไม่กี่คนหนึ่งในนั้นคือผม ทีชเชอร์ชอบส่งไปประกวดอยู่เลย แต่ไอ้เปาเนี่ยเท่าที่จำได้เห็นวาดรูปหุ่นยนต์จากดินสอไม้เส้นหนาทึบลงในกระดาษสมุดแล้วทำเสียงว่ามันสู้กันแค่นั้น แต่ตอนนี้ต้องเรียกว่าขั้นเทพเคยดูงานมันสีน้ำมันโคตรแจ่มครับ ส่วนตัวผมสายดรออิ้งไม่เก่งเรื่องสีเลยซักนิด


“แล้วทำไมมึงต้องทำท่าอยากรู้ขนาดนั้นเนี่ยไอ้กลาง” แล้วทำไมมึงวกมาถามกูเนี่ย มันกำลังจะตอบเลย “ทำหน้างออีก เดี๋ยวเหนี่ยว”


“เหนี่ยวหน้ามึงดิ”


“โอ๋งอนหรอจ๊ะ...”


ไอ้โจ๊กเอื้อมมือมาลูบหัวลูบหางผม แม่ง ไปไกลๆ ไปไอ้สัด ผมหันหน้าหนีมือไอ้โจ๊ก


“อะแฮ่ม”


จู่ๆ ไอ้เปาก็ไอออกมา แถมบอกว่าคันคออีกด้วยทำเอาไอ้โจ๊กสะดุ้งเกือบตบหัวผมแทน เอ หรือว่ามึงจะไม่สบายวะเปา  มันโบกไม้โบกมือเป็นเชิงว่าสบายดีให้ผม สีหน้ากูเป็นคำถามหรอ รู้ได้ไงวะเนี่ย ผมกำลังจะอ้าปากถามเรื่องเดิม


“คุณคนกลางรับยาช่อง 3 ค่ะ”


“เพื่อนมึงเพี้ยนจนต้องรับยาเลยน่ะโจ๊ก”


“ฮ่าๆๆ เออว่ะ”


“ไอ้เชี่ย”


ผมลุกขึ้นอย่างหงุดหงิดแล้วเดินไปหน้าเคาท์เตอร์แบบไม่สบอารมณ์ พวกมึงพึ่งคุยกันนะโว้ย คุยกันอยู่สองคนอยู่ได้ แถมไอ้เปายังเป็นเพื่อนกูมาก่อนมึงอีกนะไอ้โจ๊ก


“คุณปรมัตเชิญรับยาช่อง 3 ค่ะ”


“อ้าว มึงก็เพี้ยนเหมือนกันนี่หว่า”


แล้วพวกมันก็หัวเราะกันกับจังหวะนั้นเหมือนมุขตลกที่แม่งแทรกขึ้นมาพอดี



------------
มาเเล้วว มีซีนอารมณ์เเถมคุณคนกลางเค้าหน้าบวม
เเละวันนี้พาไอ้โจ๊กที่หายหน้าไปมาเจอกลางเเล้ว555
ขอบคุณที่ติดตามเปากับกลางนะคะ
 :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-04-2017 20:09:16
เกือบเท่แล้วล่ะกลาง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 24-04-2017 20:18:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-04-2017 20:22:49
เปา อยากปกป้องกลาง มาตั้งนานแล้ว
ที่วาดรูปเก่ง ไปเรียน ฝึกมาใช่ปะ เพราะอยากมาเรียนกับกลางละสิ
เปา หึงกลาง ที่โจ๊กลูบหัวลูบหูกลางสินะ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: maekkun ที่ 24-04-2017 20:49:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-04-2017 20:52:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 24-04-2017 20:57:42
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-04-2017 21:14:53
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 24-04-2017 21:15:52
มันน่าดีใจจริงๆ นะถ้าได้รู้ว่ามีใครสักคนทำเพื่อเราขนาดนี้

 o13
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 24-04-2017 21:36:28
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-04-2017 21:56:57
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 24-04-2017 22:02:38
เปาคงอยากปกป้องกลางบ้าง ฮื่ออ ชอบจังงง  :katai2-1: :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-04-2017 22:26:48
เลยไม่รู้เลยว่าเปาเวอร์ชั่นใหม่ต่อยตีเก่งหรือเปล่า
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 24-04-2017 22:41:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 24-04-2017 23:06:31
ชอบมาก ดีกับใจมากค่ะ :)
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ●GreenTEA● ที่ 24-04-2017 23:07:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 24-04-2017 23:19:37
โถ่กลางหมัดเดียวจอดเลย 55555 นับดาวเลยด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 25-04-2017 00:12:25
เฮ้ย ขำอ่ะ ชอบๆ ยิงมุกกันตลอดเลย
น้องเปาเปา พัฒนาตัวเองเพื่อมาปกป้องพี่คนกลางเนอะ น่ารักอ่ะ พี่คนกลางนะ
รอติดตามเรื่องป่วนๆของแกงค์คอหล่นสินกำต่อเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 25-04-2017 00:31:48
เปากับคนกลางมีความน่ารัก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: noozzz ที่ 25-04-2017 00:45:58
คนกลางน่ารัก  :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-04-2017 00:48:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 25-04-2017 01:22:45
โถคนกลาง หน้าพังเลยลูก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 25-04-2017 01:34:55
งื้ออออ น้องคนกลางน่ารักอ่ะ พอเข้าใจอารมณ์ของเปาอยู่นะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-04-2017 02:24:36
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-04-2017 05:54:38
ยังจะซ่า
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 25-04-2017 08:57:28
งุ๊ยๆๆๆ   น่ารักจังเลยอะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Ujeen ที่ 25-04-2017 11:12:21
เปานี่ก็หึงจริ๊งงงงงงงงงง   :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 26-04-2017 11:28:17
โธ่คนกลาง

ถ้าเล็กรู้เรื่องนี่งานเข้าแน่
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 7 หน้า 5 (24-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 26-04-2017 15:36:26
โหหหหห กลางอ่ะ เลยอดดูเปาตอนเป็นสายบู๊เลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 28-04-2017 13:14:29
8
กลางความเจ็บ

   ผมนึกแล้วว่าลืมอะไร ลืมเพื่อนกล้วยกับเพื่อนทัพ นอนอยู่เบาะหลัง ดีนะที่ไอ้โจ๊กหัวไวกว่าผม มันเลยลดกระจกลงเพื่อระบายอากาศ พอผมลงมาที่รถมันสองคนก็ยังหลับหัวชนกันเหมือนเดิม เฮ้อ เพื่อนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเล้ย


   “มึงนี่มันก็ดึกแล้ว มึงจะกลับไงวะ”


   ด้วยความที่เป็นรถไอ้เปา แล้วหอผมกับไอ้โจ๊กอยู่ที่เดียวกันแถมใกล้มอ ใกล้โรงพยาบาลด้วย มีแต่คอนโดไอ้เปานี่แหละต้องขับไปอีกซักพัก มันอยู่คอนโดของพี่สาวที่พึ่งย้ายออกไปทำงานต่างจังหวัดครับได้ยินว่างั้น 


    “ให้ไปส่งก่อนมั้ย เดี๋ยวกูนั่งแท็กซี่กลับ”


   “ไม่ได้! มึงนั่งไม่ได้หรอกไอ้กลาง”


    “ทำไมวะ” มันล้าซะขนาดนั้นจะกลับเองได้ไงไหว


   “ก็...มึงรู้เรื่องหรอ กรุงเทพไม่ใช่เชียงใหม่บ้านมึงนะ”


   “เดี๋ยวกูให้ไอ้โจ๊กไปด้วยไง กูขับรถไม่แข็งอยู่แล้ว”


   “มึงดูไอ้โจ๊กก่อนจะหลับแล้วเนี่ย”


    “มึงไม่ต้องเถียงกัน ไอ้เปามึงไปนอนกับไอ้กลาง มันอยู่คนเดียว หอกว้างแถมใกล้แค่นี้เอง พรุ่งนี้ค่อยว่ากันมันดึกแล้ว โอเคมั้ยไอ้เปา”


   “คิดงั้นอยู่แล้ว”


   เอ้า แล้วจะเถียงกูเพื่อ บอกแต่แรกก็จบ ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ผมเกือบลืมเพื่อนทัพกับเพื่อนกล้วยไปอีกแล้วครับ ผม ไอ้โจ๊ก กับพี่ยามช่วยกันแบกเพื่อนทั้งสองที่เมาหลับขึ้นมาบนห้อง ซึ่งที่นอนวันนี้ก็ต้องเป็นห้องนายคนกลาง แต่จะเสียสละนอนบนเตียงแล้วกัน ส่วนเพื่อนคอหล่นอีกสองคนนั้น ต้องไปคอหล่นต่อบนพื้นหน้าทีวีแล้วล่ะ



   “โอเคยัง”


    “อื้อๆ” ผมพยักหน้าเมื่อจัดที่นอนให้เพื่อนเสร็จ


   “ขอบใจมากเว้ยไอ้โจ๊ก”


   “เออๆ ไม่เป็นไร กูดีใจที่ได้เจอมึง ไอ้กลางชอบบ่นถึงตั้งนาน กูก็นึกไม่ค่อยออก”


   “เออดิ ตอนอยู่โรงเรียนเก่าไม่ค่อยได้คุยกัน ยังไงก็ขอบใจอีกครั้งเว้ยที่ช่วยเหลือกัน”


   “สบาย กูไปละนะ ฝากดูมันด้วย เจ็บร้องนอนไม่ได้แน่นอน”


    “ทำไมมึงพูดเหมือนไอ้เปาไม่ต้องดูแลวะ กูโดนแผลนิดนึงเอง แต่มันโดนตั้งเยอะ กูสิต้องดูมันมากกว่า”


   “แล้วมึงจะมาแทรกกูสองคนทำไมวะครับ”


   “เออ โทษ ก็มึงคุยกันสองคนอะ”


    “ไอ้เปามันดูแข็งแรงกว่ามึงเยอะ แต่มันเสือกชอบกรอกหูกูว่ามึงตัวเล็กใสๆ” ไอ้โจ๊กหันมาพูดกับผมทีแล้วหันไปหาไอ้เปาที


   “พูดมาก ไปได้แล้วไป” ผมดันหลังเพื่อนโจ๊กออกจากห่วง มันหันมามองผมแล้วส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะเดินหาวออกจากห้องไป


    “เออกูไปละ จะตีสามแล้วเนี่ย ง่วงสาด”


   “แต้งกิ้วววววเพื่อน”





   “ซี้ด เจ็บๆ”


   “พึมพำไรวะกลาง”


   “เปล่าๆ ไม่มีไร แล้วมึงโอเคเปล่า มาเร็วมานั่งนี่เดี๋ยวพี่ชายดูแลน้องเอง”


   “สัด กูไม่ใช่น้องมึง”


   “ไม่ใช่ได้ไง”


   “...”


   เอ้า เงียบใส่อีก ไอ้เปาอาบน้ำตัวหอมฉุยออกมาจากห้องน้ำ ผมเลยเรียกให้มานั่งทำแผล แม่งอิดออดอยู่ได้ เดี๋ยวนอนไม่ได้หรอก โอ๊ย ซี้ด หันหน้าที่มีแผลไปชนไหล่ตัวเอง


   “มาทายาเร็ว หมอบอกทาก่อนนอนอีกรอบนี่”


    “กูทาแล้ว


    “แน่ใจ๊”


   “อือ”


   “โอเค งั้นนอนกัน”


   ผมปิดไฟล้มตัวลงนอน โอ๊ย หันผิดด้าน ผมไม่ชอบตะแคงด้านซ้ายเลย แต่หันขวาก็ไม่ได้ ไอ้เชี่ย มันตึงมาได้ซักพักแล้วครับ ผ่านไปประมาณสิบนาที เสียงทุกอย่างก็เงียบลง ไอ้เปาคงจะเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการนอน แต่...


   ไอ้กลางคนนี้ยังนอนไม่หลับครับ


   กูว่ามันตึงกว่าเดิมนะเนี่ย โคตรเจ็บเลย ผมนอนไม่ได้แหงๆ จะพลิกตัวแรงก็เกรงใจเพื่อน ผมค่อยๆ พลิกตัวนอนหงายให้เบาที่สุด


   “โอ๊ย” เผลอร้องดังไปอีก ผมตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทัน ไอ้เปาพลิกตัวมาทางผม คะแตงแขนกับหมอน ทำไมมึงไม่เจ็บเลยวะ มึงเป็นคนเหล็กหรือไง


   “เป็นไร บอกมา กั๊กทำเชี่ยไรเนี่ย” เสียงไอ้เปาดูหงุดหงิดจัง แถมตาดุด้วยรับรู้ได้ด้วยความรู้สึก นั่น..มันส่งสายตากดดันมาอีก


   “กูเจ็บแผลอ่า” ผมอ้อมแอ้มบอก พอมันยิ่งกดสายตาผมเลยต้องบอกออกไป “กูไม่อยากบอกมึง มึงโดนตั้งเยอะยังไม่ร้องเลย”


   “เอ้า เจ็บแล้วจะอดทนทำไม เจ็บก็บอกว่าเจ็บ”


   “มันไม่คูล กูไม่อยากอ่อนแอ”


   “มึงไม่ต้องเอานิสัยพี่คนกลางมาใช้ ไอ้นิสัยแบบเนี้ย อยู่กับกูเอาแต่ใจบ้างเข้าใจ๊ อยากพูดไรก็พูด อยากทำไรก็ทำ”   


   “มันไม่ใช่คนกลางอะดิ”


   “เออ งั้นทนเจ็บต่อไป”


   “อือออ บอกๆ อยากบอกก” งอนเป็นตุ๊ดเลย ผมรีบพูดต่อเดี๋ยวเด็กน้อยงอน “กูเจ็บอะ เจ็บจริงๆ นะเว้ย กูพูดแล้วทำไมต้องหัวเราะด้วยอ่า”


   “หมดคราบคนกลางเลยว่ะ” แม่ง...ยิ้มทำไม


   “ทำไมมึงนอนไหว ไม่เจ็บหรอ”


    “กูมีวิธี”


   ผมตาโตวิธีไรวะ


    “อะไรอะ บอกหน่อยยย”


    “มึงเจ็บแล้วงอแงหรอวะ” อย่าใช้คำนี้กับกูมันไม่เท่เลย


   “ขำเหี้ยไรเด็กน้อย”


   “มึงสิเด็กกว่ากูอีก”


   “บอกก”


   “หลับตาดิ”


   ไอ้เปายันแขนตัวเองขึ้น ตามันสบกับตาผมในความมืด มันส่ายหัวหน่อยๆ เมื่อผมยังมองมันตาค้าง มันเอื้อมมือมาปิดตาผม
ส่วนมืออีกข้างก็จับคางผมหันไปทางซ้าย พอหลับตาแล้วทำไมมันตื่นเต้นนักวะ มันเงียบไปหลายนาทีจนผมเริ่มดิ้น


   “ไรเนี่ย”


   “ชู่ว เริ่มละ พรจากแม่มดน้อยตาโปน”


   กูจะหายเจ็บมั้ยเนี่ย แม่มดน้อยอะไรตาโปนนี่ไม่ไหวนะ คิดได้ไม่นานก็รู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาตรงแก้มขวาของผม มันเบาและจางหายไปอย่างรวดเร็ว รู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆ เฉียดไปมา


   เฮ้ย เมื่อกี้มึงทำอะไรน่ะ ก่อนที่มันจะผละออกผมลืมตาและรีบจับมือมันทั้งสองข้างไว้ หน้ามันเลยอยู่ใกล้ผมมากๆ


   เราสบตากันอีกครั้งในความมืด แสงไฟจากที่เปิดไว้ห้องรับแขกสาดเข้ามาในห้องนอนกระทบกับตาสวยของไอ้เปา มันเป็นประกายวิบวับเหมือนดาว ผมเผลอจ้องและต่างคนต่างชะงักค้างไว้แบบนั้น


   “เอ่อ...เฮ้ย ทำไรเนี่ย” ผมได้สติก่อนจะพูดแก้เก้อ ผลักอกมันออก บรรยากาศมันแปลกนะว่ามั้ย


   ไอ้เปากลับไปล้มตัวลงนอนตามเดิม หางตาผมเห็นมันยังจ้องผมเหมือนเดิม ไอ้เชี่ย กูทำตัวไม่ถูกนะเว้ย หน้าหล่อๆ ของมันมีรอยเผลทำให้ดูเท่ขึ้นเป็นกอง


   “ก็ทำให้หายเจ็บไง...นอนได้ยัง”


   ไอ้เปายกมือมาลูบหัวผม พร้อมกับพูด “หายเจ็บนะไอ้กลาง” เชี่ยย กูไม่ใช่...เด็กนะ มันลูบหัวผมไปซักพักก็เริ่มเคลิ้ม


   น่าแปลกที่ความเจ็บตรงแก้มขวาเปลี่ยนเป็นความอุ่นวาบ


   อืม


   วิธีของมันเจ๋งชะมัด


   ผมเริ่มหลับตาลง ในตอนนั้นผมแอบคิดว่า...ไม่อยากให้มันหยุดลูบหัวผมเลย





   Rrrrrrrrr


   คนเล็ก


   “อือ...”


   “กลาง โทรศัพท์”


   “อืม...”


   “โทรศัพท์ มันสั่นเนี่ย”


   ผมหลับตาขณะที่ไอ้คนข้างยัดโทรศัพท์ใส่มือของผม ผมลืมตาอย่างยากลำบาก เมื่อวานมันมีเหตุการณ์อะไรเยอะเหลือเกินครับ มองนาฬิกานี่มันเก้าโมงกว่าเข้าไปแล้วแต่คิดว่าไอ้เปาคงยังไม่ใช่เวลาปกติที่มันตื่น เพราะหน้าตามันยุ่งเหยิงคงเพราะโดนปลุกจากเสียงโทรศัพท์ผม มันเดินขยี้หัวเข้าไปในห้องน้ำพลางคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าไปด้วย


   “กูไปอาบน้ำก่อนนะ”


   Rrrrrrrrrr


   “ใครโทรมาวะเนี่ย”


   กดรับแนบหู โอ๊ย อยากนอนครับ ผมเอาผ้าห่มคลุมหัวแล้วมุดตัวเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่ม แอร์เย็นชะมัด


   “ครับ”


   (กลางงงงงงงงงงงงงงงง ทำไมไม่รับโทรศัพท์ เล็กโทรสองครั้งแล้ว) เสียงแสบหูทำเอาผมสะดุ้งผุดออกจากผ้าห่ม


   “กลางพึ่งตื่น” ตอบเสียงอ่อยเพราะตัวเองไม่ค่อยได้ติดต่อกลับทางบ้านมากนัก นี่ไอ้เล็กมันคงทนไม่ไหวถึงกับต้องโทรมา
เลยทีเดียว ดีนะเนี่ยที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ไปร้านเหล้าเมื่อวานแถมยังมีเรื่องอีก เกือบไปเรียนด้วยหน้าเขียวๆ แล้วเรา


   (แต่นี่มันสายแล้วนะกลาง กลางไปทำอะไรมา)


   “วันนี้วันหยุดไง”


   (โกหกเล็กหรอ เล็กฟ้องพี่โตแน่ อยากเห็นหน้ากลางไม่เห็นเป็นเดือนแล้ว)


   มันรู้ครับว่าผมไม่ตื่นสาย ไอ้เด็กนี่หัวหมอจะตาย แต่...ซวยแล้ว วันนี้หน้าตาผมไม่เหมือนเดิมด้วยสิ


    “ก็เหมือนเดิมอะ”


   (เปิดดิ๊ เร็วๆๆๆ เปิดกล้องเร็วววว)


   “แม่งสั่งว่ะ” บ่นแต่ในใจนี่ปั่นป่วนไปหมดแล้ว สมองผมวิ่งหาทางเลี่ยงเร็วจี๋แต่ยังคงเสียงนิ่งไว้ เดี๋ยวมันจับได้


   (พูดไม่เพราะ)


   “แป๊บนึงงง”


   “ไอ้กลางยืมเสื้อตัวดิ”


   ขณะที่ผมกำลังจัดท่าทางเปิดกล้องอยู่นั้น ไอ้เปาก็ส่งเสียงมาทางข้างเตียง ผมสะดุ้งตกใจเป็นครั้งที่สอง พอหันไปมองก็พบว่ามันขมวดคิ้วแน่น หน้าตาไม่สดชื่นเหมือนยังไม่ได้อาบน้ำงั้นแหละ ทั้งๆ ที่เนื้อตัวมันมีหยดน้ำเกาะพราวไปหมด ผมชี้ๆ ไปทางตู้เสื้อผ้าก่อนจะขยับมือบอกไอ้เปาว่าอย่าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว


   (ใครวะ เสียงไรอะกลาง)


   “เปล่าไม่มีไร อะ เปิดละ”


   ผมรีบเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการเอาผ้าห่มสีน้ำเงินเข้มมาห่มจนเห็นแค่ตา ไอ้เล็กในจอมือถือกำลังนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น น้องชายของผมยื่นหน้ามาติดกล้องเหมือนจะมองใกล้ๆ จอ ทำอย่างกับจะเห็นผมชัดขึ้นงั้นแหละ


   (แล้วเป็นอะไรทำไมต้องเอาผ้าห่มมาคลุมหน้า เล็กจะดูหน้าไง) มันส่งเสียงงอแงมาตามสาย เฮ้อ น้องกู ผมบ่นในใจ ตัวโตเป็นตึกแล้วนะน้องแต่ลูกคนเล็กอะครับ ร้องอะไรได้ร้องหมด


   “เล็ก กลางพึ่งตื่นนะหน้าไม่เจ๋งเข้าใจป้ะ แล้วพ่อแม่ไปไหน”


   (พี่โตไปส่งพ่อกับแม่ไปลำปาง เดี๋ยวเย็นๆ กลับ) เล็กขยับกล้องเล็กน้อยท่าทางมันจะล้มตัวลงนอนที่โซฟา แต่ตายังจ้องมาที่จอเหมือนจับผิดผมอะ


   (กลางงงงงงงงงง เล็กเหงาอะ เมื่อไหร่จะปิดเทอมวะ)


   “เดี๋ยวๆ พึ่งมาเรียนครับน้อง” เวลาไวโคตรๆ แป๊บเดียวก็กลางภาคแล้วครับ บ้านผมไกลซะด้วย เวลาเห็นไอ้กล้วย ไอ้เบสกลับบ้านทุกเสาร์อาทิตย์บางทีก็อิจฉานะครับ ส่วนไอ้ทัพเด็กอีสานนอนเฝ้าหอเหมือนผมไปอีก


    (เล็กเบื่อเนี่ยไม่มีใครเล่นด้วยเลย)


   “กลาง กูเอาตัวนี้นะ” ไอ้เปาที่อยู่หน้าตู้เสื้อผ้าชูเสื้อสีเทาขึ้น ผมเหลือบมอง เออตัวนั้นตัวใหญ่ ใส่ได้


    “เออ เอาไปเลย”


   เชี่ยยยย แล้วผมจะตอบทำไมวะครับ ไอ้เปาจะมาถามอะไรตอนนี้ ไอ้เล็กหันขวับมาทางจอทันที เมื่อกี้เกือบจะดีแล้วเชียว ผมแอบส่งสายตาเขม่นไปให้ไอ้เปา มันก็ยักไหล่ ทำตัวน่าถีบเดินไปหยิบเสื้อในตู้ ใส่ๆ ไปเห๊อะ มึงยังเลือกไม่ได้อีกหรอวะ เห็นมันเดินป้วนเปี้ยนให้ห้องนอนผมนานสองนานแล้วครับ


   (เล็กได้ยินเสียงผู้ชาย กลางอยู่กับใคร) เสียงแข็งแบบนี้ไม่ธรรมดาแล้วครับ


    “เอ่อ...อ๋อก็ เพื่อนกลางมานอนด้วยเมื่อคืนทำงานไง เนี่ยมีหลายคน พาไปดู นี่ไง”


   ผมรีบเปลี่ยนเป็นกล้องหลังเดินไปที่โซฟานอกห้องนอน เห็นเพื่อนสองคนหลับเบียดกันกันเหมือนผัวเมียอยู่ตรงนั้น น้องชายผมหรี่ตามองอย่างจับผิด ไอ้เล็กมันเป็นเด็กมีปมครับ สมัยก่อนเวลามีงานรวมญาติ ลูกพี่ลูกน้องที่อายุไล่เลี่ยกันก็มันจะมาเล่นกับผมซะเป็นส่วนมาก เพราะเป็นคนกลางนี่แหละ ญาติดึงไปไหนก็ไปกับเขา ซึ่งถ้าจะให้ญาติๆ ไปเล่นกับเล็กต้องยอมตามใจมันทุกอย่าง พวกนั้นก็ไม่เอา ส่วนพี่โตรายนั้นก็ผู้ใหญ่สุดเข้าถึงยาก พวกญาติๆ ก็ไม่เอาเช่นกัน ดังนั้นแล้ว...ผมจึงถูกเลือก พอทุกคนมาเล่นกับผม ไอ้เล็กในฐานะที่เป็นเด็กอายุน้อยสุดของตระกูล มันหน้างอเป็นปลาทูเลย โกรธมากที่ทุกคนเอาแต่เล่นกับผม ในใจผมนั้นอยากจะตะโกนอย่ายุ่งกับตูเล้ย ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ไอ้เล็กก็ชอบป่วนผมตลอด ไม่ยอมให้ใครมาเล่นกับผมเลย


   “ก็แล้วไป”


   ผมเดินไปทางห้องนอนอีกครั้ง ล้มตัวลงแล้วเอาผ้าห่มมาปิดครึ่งหน้าเหมือนเดิม ไอ้เปาที่ใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียวพร้อมกับเอาเสื้อยืดสีดำพาดบ่า(เป็นตัวที่มันไม่ถามผม)เดินเข้ามาในห้อง ...เข้ามาอีกแล้ว นี่มึงยังไม่ใส่เสื้ออีกหรอ แต่ก่อนที่ผมจะสลับเป็นกล้องหน้านั้นมันก็เดินเปลือยท่อนบนกวนบาทาผ่านกล้องไปสามวิ ชิบหายกูยังไม่ทันกดเปลี่ยนกล้อง


   “ไอ้เปา” อีกแล้วนะ คราวนี้ผมพูดเสียงดัง ใครใช้ให้ทำตัวน่าหมั่นไส้กวนผมอยู่ได้ มันหันมามองด้วยสีหน้าไร้ความผิด ก่อนบอกว่าจะไปปลุกเพื่อน มันว่าพร้อมๆ กับใส่เสื้อทางหัว แหม ทีงี้เร็วเชียวนะมึง


   (กลางฟังเล็กดิ ใครน่ะ)


   “เอ่อเพื่อนกลางอีกคนอะ”


   (แล้วทำไมเขาต้องถอดเสื้อในห้องกลางด้วยอะ แล้วเข้าห้องนอนด้วยหรอ ยังไงอะกล...)


   “เมื่อคืนไม่ได้ตั้งใจนอนไง แบบงานไม่เสร็จก็เลยต้องค้าง ขออาบน้ำด้วยเลยก็เลยต้องขอยืมเสื้อ”


   ผมรีบอธิบายไอ้เล็กยังถามไม่เลิก ขอโทษที่โกหกถ้ามันรู้ว่าผมไปกินเหล้าและโดนต่อยเรื่องจะไม่หยุดแค่นี้ ผมว่ามันไม่เชื่อหรอกครับ แต่มันไม่มีอะไรนี่ไม่เห็นต้องมาจับผิดผมเลย เพื่อนเล็กยังมานอนที่บ้านบ่อยๆ เลย


   “ไอ้เชี่ยยยยยย ทำไมหน้ามึงเป็นงี้วะ”


   และเสียงโวยวายจากไอ้ทัพก็ดังขึ้น


   (เออ เล็กเดี๋ยวกลางไปอาบน้ำกินข้าวก่อนนะ แสบท้อง)


   ทางเลี่ยงที่ดีที่สุดคือการตัดบทเรื่องกินข้าวครับ มันจะปล่อยตัวผมไปทันทีแล้วลืมเรื่องอื่นหมด


    (เออ รีบๆ ไปเลยเดี๋ยวปวดท้อง ตื่นก็สาย ข้าวกินเยอะๆ เปลี่ยนบ้างอย่ากินแต่ของเดิมๆ เข้าใจมั้ย)


   “ครับน้องเล็ก ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวกลับไปดูเกรด”


   (โห ระดับเล็กแล้ว โอเค รีบเรียนรีบกลับบ้านนะ)


    “ไปล่ะ”


   ผมส่ายหัวให้กับความคิดน้องชาย ไอ้เล็กเอ๊ย จะรีบเรียนได้ไงวะ ผมกดวางสายแล้วเดินออกมาหาเพื่อน ไอ้เปาคงเล่าเรื่องเมื่อคืนเรียบร้อย เพราะงั้นไอ้กล้วยกับไอ้ทัพเลยนั่งหน้าเครียดเหมือนคนท้องผูก พอพวกมันเห็นหน้าผมก็วิ่งมาเกาะแข้งเกาะขาทันที อึดอัดว้อยยย


   “ไอ้กลางงงงงง โถ ดูหน้ามึงดิ กูขอโทษนะเว้ย” โอ๊ย ลูบแรงโดนแผลอีก เจ็บ...


   “พวกมึงนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ”


   “กูไม่น่าแดกเหล้าเยอะเลย เห็นของฟรีเป็นไม่ได้ เพื่อนมีเรื่องก็มัวแต่เมา”


   “มึงเจ็บมั้ย เพื่อนกูววววว”


   “ไอ้เปาเจ็บกว่ากูอีก” โดนหมัดเดียวยังน่าสงสารกว่าไอ้คนนั่งดูทีวีที่มีแต่รอยช้ำอีกหรอครับ ไอ้กล้วยเหลือบตาไปมองไอ้เปาแป๊บนึงก่อนจะหันมาร้องกับผมต่อ


   “ไอ้เปามันหนังหนา กวนตีนอย่างงั้นเลยพามึงเจ็บไปด้วย” ไม่ต้องมาลูบสะโพกกูไอ้กล้วย เช้าๆ อย่างงี้ไม่ดีนะเพื่อน


   “เออใช่ไอ้เปาแม่งไม่ได้เรื่อง กูรายงานไอ้เบสพ่อมึงก่อน” ไอ้กล้วยหันซ้ายหันขวาหาโทรศัพท์แต่มือยังไม่ปล่อยจากเอวผม


   “โอ๊ย มึงจะเบิ๊ดกระโหลกกูทำไมไอ้ทัพ”


   “กูเปล่า” ไอ้ทัพพยักพเยิดหน้าไปทางโซฟาที่ผมยืมพิงอยู่


   “ไอ้เปาหรอ กูไปทำไรให้มึง”


   “ยังอีก”


   “ยังไม่โทรหาไอ้เบสหรอ”


   “ยังไม่ปล่อยอีก โดนอีกทีดีมั้ย”


   “เย้ยย มาว่ะ โทษๆๆ กลางโทษที”


   ไอ้กล้วยกับไอ้ทัพสะดุ้งเหมือนเจอของร้อน มันหัวเราะกวนตีนก่อนจะจรลีไปนั่งบนโซฟา ผมส่ายหัวเบาๆ เฮ้อ เช้าวันเสาร์ของผม


   หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยผมก็มานั่งรอเพื่อนกล้วยและเพื่อนทัพไปเข้าห้องน้ำ ทำไงได้ห้องผมมีห้องน้ำห้องเดียวนี่หว่า ไอ้เปานั่งกดโทรศัพท์เล่นเหมือนเดิม เล่นเกมหรอวะเนี่ย พอผมชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ไอ้เปาก็หันมามองทันที


    “อะไร”


   “มาทายา”


    “เออลืมเลย”


   ผมทำท่าจะลุกไปหายาทาแก้ฟกช้ำแต่ไอ้เปากลับชูมาตรงหน้า โห เอามาตอนไหน


   “นั่งนิ่งๆ เดี๋ยวทาให้”


   มันว่าพลางบีบยาออกมาป้ายที่หน้าผมแบบที่ยังไม่ทันได้ปฏิเสธอะไร ผมสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่ความเย็นของยาโดนผิวหน้า เสียงโฆษณาจากโทรทัศน์ยังมาแว่วๆ แต่ผมไม่ได้สนใจ กลับมองไปที่คนตรงหน้า ไอ้เปาตั้งใจทาจังวะ หน้ามันใกล้ผมมันมากและมือมันเบาโคตรๆ จนผมไม่รู้สึกเจ็บเลย ผมมองทุกการกระทำของมันจนมันยืดตัวกลับไปพิงโซฟาเหมือนเดิม บรรยากาศแปลกๆ ยังลอยอยู่ในอากาศแถมใจผมยังเต้นแรงอีกด้วย


   “เอ่อ ตอนแรกกูก็จะมาด่ามึงต่อนะไอ้เปา”


   “เห็นมึงดูแลไอ้กลางอย่างงี้”


   เสียงไอ้กล้วยกับไอ้ทัพดังมาจากข้างหลัง ผมกับไอ้เปาเลยหันไปมองมันยืนทำหน้ากรุ่มกริ่มอยู่ ถ้ามองไม่ผิดในมือของไอ้เพื่อนกล้วยคือถือไอโฟนค้างอยู่ด้วย คงจะไม่ได้ทำอะไรพิเรนทร์หรอกนะ


   “เออ..พวกกูก็สบายใจละ” พวกมันพูดพร้อมกันแล้วก็พยักหน้าไปด้วย


   “มึงรับผิดชอบแผลมันจนกว่าจะหายเลย” เว่อร์ไปอีกเดี๋ยวอีกวันสองสามวันก็หายแล้วเว้ย โดนต่อยหมัดเดียวกูจะโดนล้ออีกนานแค่ไหนวะเนี่ย


   ผมทำหน้างงๆ ส่งไปให้พวกมันพร้อมกับเกาแก้มแก้เก้อ ไอ้เปาชะโงกหน้ามาใกล้ผม มันกระตุกยิ้มเท่ๆ ก่อนจะส่งสายตาบ้าบอมาให้ ผมได้แต่มองหน้ามันด้วยความประหม่า ใกล้ไปเปล่าวะ และความประหม่านั้นก็หยุดชะงักลง เมื่อคนตรงหน้าเอ่ยคำพูดออกมาพร้อมกับสายตาวิบวับ


   “เดี๋ยวจะดูแลทุกวินาทีเลย...ดีมั้ย”


   ไอ้เชี่ย ใจกระตุกเลย


================
 :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 28-04-2017 13:59:31
ใจกระตุกเลยย :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: PEAKT_ ที่ 28-04-2017 14:56:26
เจ้าเปาาาา  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 28-04-2017 15:05:26
น้องชายหรือเมียฮัลโหลลลลล
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 28-04-2017 15:05:51
กลางทำไมน่ารักตะมุตะมิจังเลย  :ling1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-04-2017 15:17:44
อุ้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 28-04-2017 15:18:32
ง่อวววว มีใจกระตุกอ่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 28-04-2017 15:19:09
จะฟ้องน้องเล็กว่าคนกลางโดนต่อย
 :z2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-04-2017 15:22:24
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-04-2017 16:28:00
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 28-04-2017 16:36:38
น้องเล็กงอแงมาก


ติดพี่ก็เงี้ย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 28-04-2017 16:56:15
จ้ะ น้องเปา เอาให้เต็มที่ ยกกันมาทั้งไร่อ้อยนั่นแหล่ะจ้ะ
พี่คนกลาง ก็นะ ใจเต้น ก็ไม่แปลกค่ะ แต่อยากให้พัฒนาแบบว่า อ้อยมาอ้อยกลับนะคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 28-04-2017 17:26:37
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 28-04-2017 18:25:26
ทำไมคนกลางซึนแบบเน้ 55555 แต่น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-04-2017 18:29:33
ใจกระตุกด้วยยยยยยย ฮื่ออออ ดีต่อหัวใจจจจจ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 28-04-2017 19:20:57
ฮื่อออออ น้องเล็กๆๆๆ มาจัดการคนกลาง เอ้ย แฟนคนกลาง เอ้ย มาจัดการพี่เปาเลยน้อง มาทำให้พี่กลางหนูใจกระตุกได้ไว
55555 โอ๊ยยยย  ชอบอาการหวงพี่ของเล็กมากอ่ะ ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 28-04-2017 20:07:03
อยากให้คนเล็กมาาา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 28-04-2017 20:23:02
555  คราวนี้รอดตัวแต่คราวหน้าคนเล็กไม่น่าจะปล่อยผ่าน 555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 28-04-2017 20:32:19
พี่เปารุกหนักจัง55555555555555555555
น้องเล็กน่ารัก เด็กหวงพี่ งื้อ อยากให้มาหาพี่กลาง มันส์น่าดู
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-04-2017 20:52:14
เปา ให้พรจากแม่มดน้อยตาโปน มีหอมแก้มกลาง ด้วยหรอ
เล็ก ติดกลางมากไปหน่อยมั้ย
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 28-04-2017 20:59:41
 :-[  :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 28-04-2017 22:28:49
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 29-04-2017 00:38:13
เขินนนน หวานมาก เปาหยอดแรง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-04-2017 13:10:42
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 29-04-2017 20:55:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 30-04-2017 01:43:29
ง่อววว ใจกระตุก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Ujeen ที่ 30-04-2017 07:54:54
ฮอลลลลลลลลลลลลลลลล :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 (28-04-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 02-05-2017 00:46:18
ชอบน้องเล็ก มีความติดพี่หนักมาก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 (03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 03-05-2017 17:14:25
9
กลางหน้าที่

“กลาง”


“ครับพี่ยอร์ช”


ขณะที่ผมกำลังเดินอยู่โถงทางเดินไปหน้าคณะ พี่ยอร์ชประธานชั้นปีที่ 2 ก็เข้ามาทัก พี่ยอร์ชเป็นผู้ชายเซอร์ถุลคนหนึ่งในคณะถึงแม้จะมีดีกรีเป็นประธานก็เถอะ เสื้อฮาวายสีน้ำเงินซีดพลิ้วๆ กางเกงยีนส์ขาดๆ สไตล์การแต่งตัวที่เรียกว่าเน่าทั้งตัว แต่เรื่องการทำงานชั้นปีนี้เข้มงวดอย่าให้บอก พี่เค้าเป็นที่ปรึกษาผมในการทำงานกับเพื่อนในคณะครับ


“มึงไปประชุมมายัง”


“กำลังไปครับพี่”


“มึงระวังมอxxดีๆ ไอ้พวกนี้หน้าเลือด ครั้งก่อนมาประชุมแทนรุ่นพี่มันกูนี่เถียงแทบไม่ทัน”


“เอ่อ...ครับ”


“เฮ้อกูว่าไม่รอดแน่นอนน้องกู” ทำไมอะพี่ผมไม่ได้เอ๋อนะ คิดไม่ทันไรพี่ยอร์ชก็พูดต่อ “มึงไปกับใคร”


“ไปกับปาปริก้า เอ้ย เพียว น้องรหัสพี่บูมอะครับ”


“อ๋อ เออๆ แล้วไอ้เจไปไหน”


“เจ...อ๋อ เบงเบง มันตามไปทีหลังครับ”


“เออๆ ขอให้เถียงมันชนะมันชื่อไรนะใส่แว่นเนี่ยแหละ ตัวจี๊ดเลย เถียงไม่ทันส่งไอ้เจไปสู้”


ช่วงนี้มีงานสี่เสาแห่งศิลปะครับ เป็นงานที่จัดเพื่อสานสัมพันธ์คณะศิลปกรรมของสี่มหาลัย ผม เพียว ไอ้เจตัวแทนปีหนึ่งต้องไปประชุมที่มอเจ้าภาพร่วมกับคณะกรรมการคณะอีกสามคน งานก็เยอะแถมยังใกล้สอบกลางภาคเข้ามาทุกทีแทบจะไม่มีเวลาพักเลยล่ะครับ ตอนกลางคืนผมกับพวกคอหล่นก็นัดกันไปเผางานกันใต้คณะ ตอนกลางวันก็ต่างคนต่างไปเพราะนอกจากวิชาเรียนก็ไม่ค่อยเจอกันหรอกครับ ส่วนไอ้เปาก็มีรุ่นพี่ปีสี่มาขอให้มันไปเดินแบบแฟชั่นโชว์งานธีสิส ไอ้นี่ก็ไปครับ มันบอกได้ทำอะไรใหม่ๆ แต่ผมว่ามันปฏิเสธรุ่นพี่ไม่ได้หรอก มันคนของประชาชน ตอนนี้เราก็ได้แต่เจอกันตอนทำงานเท่านั้นครับ



แก็งค์คอหล่น
เยส เอ้ย เบส

ไอ้กลางอยู่ไหนวะ
จะชวนไปแดกเนื้อย่างตอนเย็น
กะ-ละ-ล้วย
เออกูว้อนท์มาก
คนกลาง
กูต้องไปประชุมอะ
พวกมึงกินกันเลย
Mr.Tap
อะไรว้า ใครใช้งานประธานอีกล่ะ
Paramatkrikri
ประชุมไรวะ
กับใคร
ไปยังไง


โห เล่นพิมพ์มารัวซะขนาดนี้ผมก็ตอบไม่ทันสิครับ ตอนนี้ผมกำลังยืนรอเพียวหรือเหรัญญิกสุดสวยอยู่ที่หน้าคณะ ไหล่ขวาก็แบกเอกสารไปเสนองานด้วย ส่วนมือซ้ายก็จับมือถือ ผมกำลังจะพิมพ์ตอบด้วยมือข้างเดียว แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นซะก่อน หน้าจอโชว์เบอร์เป็นคนที่ยิงคำถามมารัวๆ นั่นเอง พอรับปุ๊บพี่ท่านก็ยิงเหมือนเดิม


(อยู่ไหน)


“อยู่หน้าคณะ”


(ประชุมไรวะ ตอนเย็นเนี่ยนะ)


“ก็เค้านัดเย็นอะ” ก็แล้วทำไมต้องมาทำเสียงหงุดหงิดด้วยอะ ผมไม่ได้นัดซะหน่อย


(จะเสร็จกี่โมง ไปกับใคร)


“ไปกับเจ เพียว เสร็จดึกๆมั้ง...ไม่รู้ดิ เมื่อไหร่เค้าไม่ได้บอก”


(อะไรวะ ประชุมไม่มีกำหนดการหรือไง งั้นรออยู่นั่นจะไปรับ ที่ไหน)


“เฮ้ยไม่ต้อง มึงซ้อมเดินไม่ใช่หรอวะ เดินพรุ่งนี้แล้วด้วย ไม่เป็นไรอะกูกลับได้”


มันเดินแบบพรุ่งนี้เย็นครับที่ลานกิจกรรมของพวกแฟชั่นดีไซน์ แต่ก็ซ้อมรันทรูกันหลายรอบทีเดียว ผมเดินผ่านเมื่อตอนกลางวันก็เห็นเตรียมงานวันวุ่นเลย ว่าแต่โคตรดื้อเลยไอ้เปาเนี่ย ไม่เหนื่อยหรือไง จะว่าไป...ตั้งแต่ที่ผมโดนชกครั้งที่แล้วไอ้เปามันก็ดูแลผมตามที่บอกจริงๆ แม้ว่าหน้าผมจะกลับมาเป็นปกติแล้วก็ตาม


(ตอบมาที่ไหน)


“มอxxx”


(เดี๋ยวโทรหา แค่นี้)


ตู๊ด...ตู๊ด


แล้วไอ้เปาก็วางสาย ผมมองหน้าจอที่ตัดไปอย่างงงๆ นาทีกว่าที่คุยมันรวบรัดจนผมตามไม่ทัน ได้แต่เกาหัวแกรกๆ


“คุยกับใครอ่ะกลาง หน้างงเชียว”


“คุยกับไอ้เปาอะ”


ยังจำกันได้มั้ยครับปาปริก้าหรือเหรัญญิกของชั้นปีผมนั่นเอง ชื่อเล่นจริงๆ ชื่อเพียวเป็นผู้หญิงปราดเปรียว น่ารักดีครับ ผมสั้นประบ่าหน้าตาเกาหลี ไม่น่าหลงมาอยู่คณะป่าเถื่อนแบบพวกผมจริงๆ เราสองคนออกเดินไปขึ้นรถของมหาลัยที่จะขับเข้าไปในเมืองผ่านมอxxx เหมือนเป็นรถรับส่งอ.อะครับ ระหว่างการเดินทางเพียวก็ชวนผมคุย


“เออว่าจะถามนานแล้ว รู้จักกับเปามาก่อนป่ะ สนิทกันโคตรเร็ว” ผมเลิกคิ้วสงสัยก่อนจะพยักหน้า


“อื้อก็ประมาณนั้น”


“ถึงว่า แต่กลางเนี่ยน่ารักจังเลยน้า ผมยาวแล้วดูน่ารักไปอีกแบบ”
เอื้อมมือไปลูบผมหน้าตัวเองแล้วรู้สึกแปลก ตัดสกินเฮดมาสองเดือน ผมยาวแล้วไม่ชินเลย ผมไม่ชอบเซ็ทผมหรือทำอะไรกับผมมากมายปล่อยมันไว้อย่างนั้น ส่วนผมที่ยาวก็เลยไปเล็มให้มันไม่ปรกหน้าก็พอ


“เราไม่ชินเลย สกินเฮดมาตั้งนาน”


“ฮ่าๆ ตอนนั้นเหมือนหลวงจีนน้อย แต่ก็น่ารักนะ เพื่อนเราชอบกลางกันเพียบบบบ”


“หือเราน่ะหรอ” โดนชมว่าน่ารักมาสองรอบ ไอ้กลางนี่ตากระตุกแปลกๆ สาวๆ นี่ใช้คำชมแบบนี้กันหรอครับ


“เพื่อนเพียวพูดถึงเยอะเลย ยิ่งกลางเดินไปไหนกับเปาเนี่ยคนมองกันเต็มเลยรู้ป่ะ”


“จริงดิ ไม่เห็นรู้สึกเลย” ผมตาโตอย่างตกใจ แต่ว่าไอ้เปามันหล่อซะขนาดนั้นแถมแฟนคลับเพียบ ไม่มองก็แปลกแล้ว อีกอย่างยิ่งเปิดตัวด้วยป๊อปปูล่าร์โหวต ก็ยิ่งมีอีเว้นท์ติดต่อมาเยอะแยะเลย อันนี้ได้ยินมาจากพวกเดอะแก๊งครับ


“โธ่ กลางงง ไม่ไหวเล้ยยย เล่นโซเชียลไรมั่งป่ะเนี่ยยย”


“เราไม่ค่อยเล่นอะ”


“เปานะโคตรฮอตเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าเห็นกันมาตั้งแต่รับน้องเพียวจะจีบเลย” ฮะ เฮ้ย สาวน่ารักอย่างเพียวจะจีบผู้ชายเลยหรอครับ


“ล้อเล่นน่ะ หน้าเหวอเลย แฟนคลับเนี่ยตามติดชีวิตเปาเลยนะ”


“แล้วเราเกี่ยวอะไรด้วยอะ” ผมยังไม่เข้าใจครับ เพียงมองผมด้วยความเอือมระอาแต่ก็อมยิ้มหน่อย เธอส่ายหน้าก่อนจะจับหัวผมโยกไปมา


“โหยยย ไม่รู้ตัวเลยคนเนี้ย”


แล้วเราก็คุยกันเรื่องนู้นเรื่องนี้เต็มไปหมด ส่วนมากเพียวจะเป็นคนพูดมากกว่า เธอกรอกหูผมเรื่องโซเชียลสอนผมเรื่องแอพที่เจ๋งๆ เพราะเพียวบอกว่าในโทรศัพท์มีสิ่งที่มีประโยชน์อยู่มากมายอย่างวาดเส้น ถ่ายภาพ ผมฟังก็ชักเคลิ้มลองกดๆ เล่นๆ กับเค้าบ้าง ซักพักในรถเมล์ของมอเงียบกริบแล้วเพียวก็หลับตาลง สงสัยเหนื่อยพูด ส่วนในมือของผมก็ถือมือถือไว้แล้วจ้องนิ่งๆ ที่แอพพลิเคชั่นรูปกล้องที่ผมเคยสมัครไว้โหวตใครบางคนเมื่อนานมาแล้ว







ขณะนี้เราอยู่มอxxxครับ สวยสง่าสมเป็นมหาลัยเก่าแก่ มีชื่อเสียง และใหญ่โตมากครับ ผมกับเพียวเราลงรถแล้วเดินตามหาห้องประชุมของคณะศิลปกรรมฯ ส่วนคณะกรรมการคณะผมอีกสามคนต้องล่วงหน้ามาก่อนเพื่อดูสถานที่วางแผนเส้นทางประกอบการเสนอกิจกรรมครับ


“เอ้า ไอ้กลาง เพียวทางนี้เว้ย”


ขึ้นบันไดมาชั้นนึงก็ได้ยินเสียงไอ้เจหรือเบงเบง(หวังว่าทุกคนคงจำกันได้) โบกมือหยอยๆ อยู่ตรงประตูไม้สักบานใหญ่มีป้ายแกะสลักว่า “ห้องประชุมเพชรจินดา” หลังจากมีเรื่องกันตอนเลือกประธานชั้นปี ผมกับไอ้เจก็สนิทกันมากขึ้นเพราะต้องติดต่องานกันตลอด แรกๆ ไอ้เปาหงุดหงิดมันบอกไม่ชอบหน้าไอ้เจ พักหลังๆ ถ้ามันว่างมันจะตามไปนั่งประชุมด้วยมันให้เหตุผลว่าถ้าผมเถียงไม่ทันมันจะจัดชุดใหญ่ให้ นั่งรอกันซักพักก็มีผู้ชายคนนึงเดินออกมาเรียก


“เชิญทุกคนเลยครับ ผมจะเปิดประชุมเวลาหนึ่งทุ่มนะครับ คุณพีช่วยตามคุณสามาด้วยนะครับ ไปเอาของนานแล้ว”


“ได้เลยคุณอาร์ต”


ผมมองไปข้างหน้าอย่างสนใจ ในชีวิตผมไม่ค่อยมีใครจะพูดเพราะๆ นักโดยเฉพาะกับเพื่อนผู้ชายด้วยกัน พอเห็นคุณอาร์ตที่ยืนสั่งงานอยู่ตรงนั้นผมก็เกร็งขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ  ผมเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย


“ทำไมถึงเรียกเค้าคนอื่นว่าคุณหรอ”


“อ๋ออออ...ก็ไอ้เนี่ย มันเรียกทุกคนว่าคุณ แทนตัวเองว่าผมทุกคำ เพื่อนทั้งชั้นปีก็เลยเรียกแบบนี้กันหมด แปลกเนอะ แต่ไอ้เนี่ยโคตรเก่ง เก่งทุกอย่าง” ไอ้เจกระซิบกระซาบแถมทำหน้าเหมือนเกลียดเค้ามาแต่ชาติปางก่อน มึงอิจฉาเค้าป่ะเนี้ยยย อาร์ตมอxxxคนนี้เป็นผู้ชายใส่แว่น ผมแสกกลาง ตัวสูงโปร่ง แต่งตัวด้วยแนวอะไรซักอย่างที่ผมไม่ค่อยสันทัดนัก อย่างที่บอกเราอยู่สายศิลปะดังนั้นการมีสไตล์เป็นของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดาของคณะแบบนี้


ว่าแต่เอ่อ...ผมเจอคนล้นอีกคนแล้วหรอครับ


รอองค์ประชุมซักสัก พวกผมก็ได้แต่แนะนำตัวให้กับเพื่อนมออื่นเพราะปีหนึ่งเป็นฝ่ายจัดงานครับ ส่วนปีอื่นก็มาเป็นที่ปรึกษาหรือช่วยเราบ้างตามกำลังศรัทธา


เมื่อการประชุมเริ่ม ผมเริ่มนึกถึงคำพูดของพี่ยอร์ชขึ้นมาทันที “ระวังไอ้แว่นไว้ให้ดี” เพราะเวลาผมเสนออะไรไปมักมักจะเป็นแบบนี้


“ผมว่าคนจะไม่พอนะครับคุณกลาง เพราะแต่ละชั้นปีคนไม่ได้เยอะ เราต้องแบ่งคนไปบริการหลายด้าน”


“ใช้วัสดุแบบนั้นผมว่ามันแพงแล้วก็ไม่ทนน่ะสิครับ”


“คุณกลางครับ ผมว่าที่คุณเสนอ ผมว่ามันจะเกินงบประมาณนะครับ”


เอ่อ ผมเหลือบตาขอความช่วยเหลือ ทำไมไอ้หมอนี่มันขัดผมคนเดียวเลยครับ ไอ้เจทนไม่ไหวมันก็เลยโพล่งออกมา หน้าตามีอารมณ์ทางความโกรธสูง


“เกินไงอะ ถ้าไม่เอาไปทำของชำร่วยแพงก็ไม่เป็นไรป่ะ”


“เราว่าเราชอบแบบมันนะ สวยมากเลย แต่ถ้าเราลดต้นทุนของชำร่วยจะได้ไปโปะในส่วนอื่นได้มันก็คงจะดี”


“เอาของที่มันหาง่ายๆ มาทำเป็นของชำร่วยเก๋ๆ ตามแบบมั้ย”


 พอไอ้เจพูดขึ้นมาหลายคนก็เลยกล้าแสดงความคิดเห็นกันมากขึ้น ไอ้อาร์ตมันก็ยอมจำนนพยักหน้ารับแถมส่งแรงอาฆาตให้ไอ้เจที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พลางแกะของว่างมากิน


“เราจะเริ่มตามแผนที่ประชุมอีกสองอาทิตย์หลังจากมอพวกคุณสอบกลางภาคเสร็จนะครับ ปิดการประชุมเวลาสามทุ่มสามสิบหกนาทีครับคุณสา”




“โอ้ย โคตรหิวเลย”


เพียวกับไอ้เจบ่นทันทีที่เราเดินออกมานอกห้องประชุม เราบอกลาเพื่อนร่วมประชุมที่เดินเหนื่อยกันไปคนละทาง ผมใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดตา มันเหนื่อยมากครับข้าวก็ไม่ได้กินเลยแถมนั่งโคตรนาน ส่วนของว่างในห้องประชุมไม่ถูกปากผมเลยครับเลยได้แต่จิบน้ำไปเรื่อยๆ ผมมายืนรอไอ้เปาที่หน้าคณะสินกำ คุณอาร์ตที่เดินตามหลังมาก็ทักขึ้น


“แย่หน่อยนะ ดึกเลย พวกคุณกลับยังไงกันเนี่ย”


“เอ่อก็...” เพียวกับเจไม่ตอบครับ มันบ่นว่าเกลียดขี้หน้าผมเลยต้องรับหน้าสถานการณ์นี้แทนแต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไร อาร์ตก็ถามขึ้นมาอีก


“มอพวกคุณอยู่ไกลให้ผมไปส่งมั้ย”


“เดี๋ยวเราให้ที่บ้านมารับแล้วอะ มอนายใกล้บ้านพอดี” ปกติเพียวจะนอนหอใกล้มอครับ สงสัยบ้านอยู่ในเมือง เพียวรีบตอบตัดบท
แล้วหันหน้าหนีทันที


“บ้านเพียวอยู่ไหน” ไอ้เจได้ยินก็เกิดสนใจขึ้นมา มึงจะไปบ้านเค้าหรอ


“อยู่แถวzzz”


“เฮ้ยงั้นกลับด้วย ไอ้กลางมึงอะยังไง”


“กูหรอ ไอ้เปาบอกว่าจะมารับอ่ะ”


“ดึกขนาดนี้เนี่ยนะ เพื่อนมึงนี่ดีจังวะ”


“เออนั่นสิ เพื่อนเราไม่มีใครสนใจซักคน”


“มันมาทำธุระแถวนี้มั้ง” ผมตอบเพียวกับไอ้เจ


“เอาไงคุณ ไปกับผมมั้ย”


“ไม่รบกวนดีกว่า ขอบใจมากนะ”


ผมหันไปบอกคุณอาร์ตที่อยู่ด้านหลัง ตัวสูงกว่าผมอีก มันไม่ตอบอะไรแต่ก็ยังยืนใกล้ๆ ผม คนที่มาประชุมเริ่มกลับกันหมดหน้าคณะมันก็วังเวงใช้ได้ เพื่อนผมก็เช่นกัน มันสองคนเดินไปขึ้นรถของบ้านเพียวแล้วก็จากไป ทิ้งให้ผมมองตามหลังอย่างเหงาๆ เดี๋ยวดิ ไม่รอกูหน่อยหรอ ดูท่าทางจะเหนื่อยครับเรียนทั้งวันยังจะมาประชุมต่ออีก



“เพื่อนคุณมายัง”


“คิดว่าคงยังไม่ถึงน่ะ” ผมตอบแล้วหัวเราะแหะๆ คุณอาร์ตทำหน้าชะงักวูบหนึ่งก่อนจะกระแอมเสนอทางเลือกให้ผมตามประสาเจ้า
บ้านที่ดี แปลกใจจังว่าอีกสองสามคนที่เหลือทำไมไม่ไปถามไถ่บ้าง


“งั้นคุณไปนั่งอยู่ร้านกาแฟมอผมดีกว่าเปิดยี่สิบชั่วโมง รอที่นั่นดีกว่าเยอะ”


“เอางั้นหรอ” ผมถามย้ำ


“งั้นแหละ มากับผมเดี๋ยวผมไปส่ง”


ผมตัดสินใจไปกับไอ้คุณอาร์ตเพราะไอ้เปาก็ยังไม่โทรมาแถมตอนนี้ผมต้องการน้ำหวานๆ ไม่งั้นผมวูบแน่ๆ ไอ้คุณอาร์ตก็ชวนคุยนิดหน่อยแล้วก็บอกลากันจากไปเหลือแต่ผมกับนักศึกษาในร้านประปราย สี่ทุ่มกว่าแล้วไอ้เปาก็ไม่โทรมาหรือมันจะลืมวะ


Rrrrrr


พูดถึงก็โทรมาปั๊บเลย


 (อยู่ไหน กูรอหน้าคณะสินกำเนี่ย)


“แปบนะ กูอยู่ร้านกาแฟหลังตึกสินกำอีกนิดนึง เดี๋ยวเดินไปหา” ผมว่าพลางเก็บของบนโต๊ะเตรียมจะลุก


(ไม่ต้องเดินมา มันมืด เดี๋ยวกูอ้อมไปรับเอง)


ผมเดินออกมายืนรอหน้าร้าน ลองมาคิดๆ ดูว่า ถ้าไอ้เปาไม่มารับผมก็ต้องไปขอนอนบ้านไอ้เจมัน ดึกขนาดนี้ไม่มีรถเข้ามอผมหรอกครับ ครอบครัวผมไม่มีญาติพี่น้องคนรู้จักอยู่แถวนี้ซักคน ส่วนพวกคณะกรรมการที่มาด้วยกัน พวกนั้นยังไม่กลับมอง่ายๆ ครับ เพราะมีประชุมกันต่อ จะให้นั่งแท็กซี่กลับคนเดียว...ผมป๊อดครับบอกตรงๆ


“กลาง”


รอไม่นานไอ้เปาก็มาถึง ผมเปิดประตูขึ้นไปนั่ง ไอ้เปามันเหนื่อยมั้ยวะ


“มองอะไร”


“เปล่า มึงเลิกซ้อมเดินกี่โมง”


“ก็สองสามทุ่มมั้งไม่ได้ดูเสร็จแล้วก็ออกมาเลย แล้วทำไมไม่รอที่คณะ รู้ทางมอเค้าหรอเดี๋ยวก็หลงหรอก”


“มีเพื่อนเจ้าถิ่นมาส่ง ไม่หลงเว้ย แค่นี้เอง”


“ได้เพื่อนใหม่แล้วไง” ทำไมทำเสียงไม่พอใจวะไอ้นกกระปูด มันตั้งหน้าตั้งตาขับรถแต่เสียงประชดใช้ได้


“ก็เพื่อนที่ประชุมนั่นแหละ”


“ผู้หญิงผู้ชาย”


“มึงเป็นไรเนี่ย...ถามเยอะจัง ผู้ชาย เป็นประธานเหมือนกัน”


“แม่ง”


ไอ้เปาบ่นเป็นหมีกินผึ้งมันบอกผมตามคนที่พึ่งรู้จักไปได้ยังไง บ่นทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องที่ได้เป็นประธานแล้วต้องมาทำงานงกๆ ก็มึง
นั่นแหละตัวการเลย กูอยากเป็นมั้ยก็ไม่ ไอ้เปามันบ่นไปด้วยขับรถไปด้วย ผมก็นั่งฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ไอ้เด็กน้อยนี่มันขี้บ่นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ พอผมพูดว่ายังไม่กินข้าวและชวนแวะกินข้าวข้างทางมันถึงจะยอมหยุด ตอนนี้เราเลยอยู่ตรงตลาดกลางคืนครับทางผ่านกลับมอ ตลาดนี้คนเยอะใช้ได้ หาที่จอดไม่นานเราก็มานั่งกันที่ร้านก๋วยจั๊บญวนโบราณ


“กินดิ”


“ไม่หิว”


“หิวหน่อยน่า หรือว่ากลัวอ้วน พรุ่งนี้เดินจริงนี่หว่า” ผมที่กำลังจะยื่นช้อนตักกระดูกอ่อนให้มันชิมก็เลยชะงักกลับ ชวนมันมากินได้ไงเนี่ย กว่าจะนอนก็ท้องอืดกันพอดี ไอ้เปาทำหน้าตาไม่สบอารมณ์แต่ก็คว้าข้อมือผมไว้ แล้วสุดท้ายงับช้อนกินจนได้


“กินก็ได้ ไม่เห็นต้องทำหน้างั้นเลย”


“ไม่ได้ทำโว้ย”


“แล้วประชุมเป็นไงบ้าง”


“ก็ดี เดี๋ยวมีประชุมต่ออีก ตอนเตรียมงานกูอาจจะต้องมานอนฝั่งนี้ก่อนสองสามวัน”


“ห๊ะ...ก็ไปพร้อมกับเพื่อนไม่ได้ไงวะ”


“ได้ไงอะ กูต้องไปก่อนไปพร้อมกับไอ้เจมัน”


“เชี่ยนี่อีกละ”


“ละมึงเป็นไรเนี่ยยย หงุดหงิดอะไร”


“เออ ไม่รู้แม่ง”


   วันนี้มันแปลกๆ นะครับมันเริ่มทำหน้าตาหงุดหงิดใส่ผมอีกแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดตักหมูยอนึ่งมาใส่ชามผมอีก กินเสร็จไอ้เปาก็ชวนผมเดินดูตลาด โชคดีที่พรุ่งนี้เรียนสาย มันเองก็ไม่เห็นรีบอะไร ผมที่ไม่อยากขัดใจมันก็เลยยอมเดินตามเงียบๆ จนไปหยุดที่สะพานไม้เล็กๆ ซึ่งมีไฟกระพริบติดอยู่ เสียงเหล่าแม่ค้าพ่อค้ายังดังอยู่โฉงเฉง


   คนที่เดินนำหน้าผมนั้นไปถึงกลางสะพานก่อน สองมือของมันจับขอบสะพานไม้ไว้แล้วมองไปข้างหน้า กางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตที่น้ำเงินเข้มขับให้ผิวขาวของมันเด่นขึ้น แสงจากไฟกะพริบกระทบเสี้ยวหน้าระยิบระยับ ไม่อยากยอมรับเลยว่าไอ้เปาเวอร์ชั่นโตคนนี้คือคนเดียวกับที่ผมคิดถึงมาตลอด ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายด้วยความเผลอไผลก่อนที่มันจะหันกลับมาถามผม


“ไปดูกูเดินด้วยนะพรุ่งนี้อะ งานแรกอยากให้มึงไปดู”


“มึงชอบทำอะไรแบบนี้หรอ แต่ก่อนขี้อายจะตาย” ผมเก็บมือถือแล้วก้าวเท้าไปยืนมองแม่น้ำข้างๆ มัน


“ทำไมวะ กล้าๆ แบบนี้ไม่ดีหรอ มึงไม่ชอบหรอ” มันหันมาจ้องเหมือนอยากให้ผมย้ำคำตอบนั้น


“ก็เปล่า กูสนับสนุนมึงอยู่แล้ว ไอ้นกกระปูด” ผมมองมันที่ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้เด็กน้อยขี้อาย โตขึ้นโคตรเจ๋งเลย ขอให้มึงเจ๋งมากขึ้นไปอีกนะ


“ว่าไงจะไปเปล่า”


“อื้มไปดิ”





ผมกลับมาที่ห้องและเริ่มทำอะไรบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
Khonklang first posts in a while
แต้งกิ้ว พรุ่งนี้จะไปดู

ผมขอบคุณที่มันกลับมาแล้วก็ขอบคุณที่มารับผมด้วย ไอ้น้องเลิฟ ผมอัพโหลดรูปที่สะพานแล้วแท็กมัน นี่มึงได้อภิสิทธิ์รูปแรกในอินสตาแกรมกูเลยนะเพื่อน โพสต์ได้ไม่นานก็มีเสียงเเจ้งเตือนดังขึ้นมามากมายครับ

Najanak ต้อนรับรูปแรกค่ะน้องกลาง โอ้มายก้อดจะเป็นลม
Feyina โอ้ย หลังน่าซบจัง ครั้งแรกนึกว่าน้องกลางแต่ดูแท็กแล้วกรีดร้อง
Gta44 ยังไงอะสองคนนี้ อยู่ด้วยกันตลอดเลอ
Pcdexk พี่จะไปดูน้องกลางไปด้วยได้มั้ยคะพรุ่งนี้ เจอกันค่า
Yesbest รูปแรกเป็นคนรูปไอ้เปาต้องคิดไงอะ มีพัฒนาการขั้นสูงว่ะ
Bananaboat กูว่าไม่อะ
Teletapbieeee ไม่มีพัฒนาการหรอไอ้กล้วย
Paramatkrikri ไม่เสือกดิมึงอะ
Bananaboat ว้ายยยยย
Paramatkrikri @khonklang แอบถ่ายหรอวะ ไปนอนได้แล้วไป





จนแล้วจนรอด ผมก็ยังอยู่ที่ห้องประชุม คณะกรรมการมีประชุมด่วน ผมที่ว่างคนเดียวก็ต้องรีบไปประชุม เพราะเพียวกับเจติดเรียน ผมนั่งแชร์ข้อมูลการประชุมให้กับพวกคณะกรรมการพร้อมกับหารือกัน นี่มันจะห้าโมงแล้ว ไอ้เปามันเริ่มเดินตอนหกโมงนี่หว่า โอ้ยจะทันมั้ยวะ


“มึงดูรีบๆ นะไอ้กลาง มีอะไรเปล่า” ไอ้เต้นทักผมเมื่อเห็นผมดูลุกลี้ลุกลน ไอ้เต้นเป็นหนึ่งในคณะกรรมการมันหมุนปากกาเล่นระหว่างรอเอกสาร เราประชุมกันมาซักพักแต่ว่ามีเอกสารจากฝั่งเจ้าภาพมาใหม่เลยต้องรอก่อนจะได้ไม่เสียเวลามาประชุมซ้ำ


“เอ่อ...คือ...” ผมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบผมจะละเลยไม่ได้ แต่ว่าผมก็อยากรักษาสัญญา


“มีธุระไรป่ะวะ”


“คือมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก”


ผมหันไปมองสายตาหลายคู่ในห้องประชุมเลยได้แต่ปฏิเสธไป ขอโทษนะไอ้เปา





เพจผู้ชายของเรา XU
น้องเปาวันนี้ค่ะ ใครยังไม่ตามมารีบนะคะ ใกล้จะเดินแล้ว
มาดูงานแฟชั่นสวยๆ กัน รูปHDลงคืนนี้นะคะ @paramatkrikri
#ปรมัตคริคริ
2.2k ถูกใจ
Deejai โอ้ย หล่อมากกกก
Rearaiwan ทำไมทำหน้างั้นนนน หรือคุมธีมคะน้องเปา
Oopsza ขอโฟกัสที่กล้ามเนื้อนะคะ อยากสัมผัส
Teletapbieeee มายัง @khonklang มีคนรอว่ะ


“เพื่อนไม่มาเชียร์ว่ะ”


“มันบอกในไลน์ว่าติดประชุมที่ห้องคศก. จะรีบมา”


“จะทันป่ะเนี่ย เดินไปสองชุดละเหลือชุดสุดท้าย”


 “ทันป่ะวะ!”


ผมวิ่งกระหืดกระหอบมารู้สึกถึงไรผมที่เปียกเลย มองเห็นกลุ่มเพื่อนที่ยืนอยู่ในกลุ่มคนที่พอขอทางเข้าไปได้ พอพวกมันเห็นผมทำหน้าตกใจ


“เฮ้ยไอ้กลาง เกือบแล้วมึง ชุดสุดท้ายแล้วเนี่ย”


“ยังมาทันเพื่อน” ว่าแล้วพวกมันก็ตบบ่าปุๆ ไอ้เบสส่งทิชชู่มาให้ผม ส่วนไอ้ทัพก็ส่งน้ำเย็นมาให้


“เอาไปเช็ดหน้าไป แก้มแดงหมดแล้ว”


“ขอบใจว่ะ”


“มึงเห็นกลุ่มสาวๆ ถือกล้องตรงนั้นมั้ย”


“ทำไมวะ”


“แฟนคลับไอ้เปามัน”


“โห ขนาดนั้น ไม่ใช่เล่นนะไอ้เปาเนี่ย”


ผมว่าพลางยกน้ำขึ้นมาดื่มอึกๆ ก่อนจะมองรอบๆ อีกครั้ง สถานที่จัดงานจัดคล้ายกับงานแฟชั่นโชว์ของจริง ธีมงานในวันนี้น่าจะเป็นธีมแฟนตาซีล่ะมั้งครับ คนเยอะมากแถมยังจัดงานได้สวยมากๆ อีกด้วย เก้าอี้ขนาบข้างพรมแดงทั้งสองข้างคือที่นั่งสำหรับอาจารย์ที่จะมาให้คะแนน รวมถึงคนที่อยู่ในวงการแฟชั่นที่อาจารย์เชิญมาจากข้างนอกด้วย


“ก็งั้นแหละกูก็มีนะแฟนคลับอะ”


“ฝันเถอะไอ้กล้วย อย่างมึงมีแมลงวันบินมาตอมก็ดีใจแทนละ”


“เชี่ยยยย ไอ้สัดทัพ”


“เฮ้ยๆ มาแล้ว” ผมรีบห้ามทัพก่อนจะตั้งใจดู นั่นไอ้เปาหรอ โคตรเท่เลยมันเดินแมนๆ แข็งแรงๆ แต่มีเสน่ห์มากๆ ครับ ได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆ มาตามจังหวะบีทหนักๆ ทำให้ผมใจเต้นไปด้วย ชุดของมันเป็นเสื้อซีทรูสีดำคลุมด้วยโค้ทยาวที่มีทรงแปลกตาเหมือนมันกำลังสวมเสื้อโค้ทเป็นเกราะงั้นแหละ ส่วนผมก็เซ็ทให้ตั้งขึ้นแล้วมีสเปรย์สีเงินเคลือบผมไว้ แต่งหน้าโทนดาร์กเข้มแต่ไม่บังความหล่อของมันเลยครับ


“ไอ้สัดเท่ว่ะ”


“ชุดนี้เจ๋งสุด”


“กรี๊ดดดด”


ผมยิ้มที่ได้ยินคอมเม้นต์จากรอบๆ ข้าง ได้ยินแบบนั้นแล้วก็อดภูมิใจไม่ได้ เปามันทำได้ดีจริงๆ นะครับ โชคดีนะเนี่ยที่การประชุมตอนท้ายแค่ชี้แจง ไม่ได้มีอะไรสำคัญมาก ผมถึงรีบวิ่งออกมาทันทีที่จบการประชุม ถ้าผมมาไม่ทัน ผมต้องพลาดอะไรไปแน่นอนเลยล่ะ




หลังจากเจ้าของผลงานเดินคู่มากับนางแบบนายแบบของตัวเองแล้วก็ถึงเวลาถ่ายรูป ไอ้เปากับนางแบบนายแบบอีกหลายคนยืนคุมธีมเพื่อให้หลายคนเข้าไปถ่ายรูป บางคนก็หอบช่อดอกไม้มาแสดงความยินดีกับเจ้าของธีสิสลามไปเพื่อนผมด้วย ผมเห็นดังนั้นเลยจะหันไปชวนเพื่อนคอหล่นไปหาไอ้เปากันแต่พวกมันหายไปไหนเนี่ย ผมยืนงงกับคนที่รายรอบแต่พอมองไปที่ไอ้เปาแล้วคนรุมเยอะขนาดนั้น…


“ขอบคุณครับ”


“น้องเปาของขวัญค่ะ”


“เปาขอถ่ายรูปด้วยดิ”


“น้องเปาคะดอกไม้ค่ะ เดินดีมาก”


“เดี๋ยวผมรับแทนนะครับ”


“กรี๊ดน้องกลาง”


ผมยื่นมือไปรับของขวัญจากแฟนคลับมันแทนตอนนี้คนเริ่มตีเป็นวงกว้างรอบไอ้เปาแล้วครับ ของที่ได้ก็ล้นมือเรื่อยๆ ผมเลยเดินเข้ามาหามัน ไอ้เปาเบิกตาขึ้นเล็กน้อยตกใจที่กูมาเงียบๆ หรอ


“โทษทีเว้ย มาช้าไปหน่อยแต่ทันดูนะ” ผมรีบพูด


“ก็ไม่ได้ว่าไร” นี่ไม่ได้ว่าไรนะ แต่หน้าบูดเชียว


“อ่ะยิ้มหน่อยดิ พี่ๆ มาขอถ่ายรูปน่ะ”


ผมบอกแล้วขยับมาด้านหลังเล็กน้อย เดี๋ยวเข้าเฟรมครับ ระหว่างนั้นพวกคอหล่นก็เดินเข้ามา ไอ้เชี่ยหายไปไหนกันกูไม่มีมือจะถือของแล้ว พวกมันยิ้มๆ แล้วก็เดินมาอยู่ข้างผมไม่ไกลจากไอ้เปานักครับ เปามันหันมามองบ่อยๆ ผมก็พยักหน้าส่งกลับไป เออพวกกูอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนหรอกน่า


“ดีใจด้วยเว้ย เดินดีอ่ะ รุ่งนะเรา”


จู่ๆ ไอ้กล้วยก็พูดขึ้นตอนที่ไอ้เปาหันมามอง


“เป็นนายแบบแล้วรุ่ง”


“ไม่ เหมือนรุ่ง สุริยานะเรา”


“ไอ้สัด เก่าแล้วมึงอะ”


 พวกผมทำหน้าเอือมแล้วรุมตบหัวไอ้กล้วยขนาดไอ้เปายังเดินมาตบด้วยเลยครับ รำคาญความจังไรของมัน แต่ก็ได้ยินเสียงกดชัตเตอร์ดังมาเป็นระยะๆ


“แป้งๆ ถ่ายรูปให้เราหน่อยดิ”


ไอ้เบสทักเพื่อนมันที่ถือกล้องอยู่ในกลุ่มของแฟนคลับของไอ้เปา


“ได้ๆ”


“ไอ้กลางมึงไปถ่ายก่อน คนเยอะถ่ายหลายคนตากล้องถอยหลังไม่ได้”


ไอ้ทัพคว้าดอกไม้ตุ๊กตาในมือผมออกไปแล้วดันหลังผมไปยืนข้างๆ ไอ้เปา สาวๆ ข้างหน้ากรี๊ดเบาๆ กรี๊ดทำไมครับผมไม่ได้สะดุดนะแถมต้องยกมือถือถ่ายอะไรกันขนาดนั้นครับ ไอ้เปาอมยิ้มนิดๆ พลางเอามือมากอดคอผม


“กูดีใจที่มึงมานะ”


ไอ้เปาพูดก่อนจะมองไปข้างหน้า ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมันชัดๆ โห แต่งขนาดนี้เชียว ขณะที่แป้งกำลังบอกให้เตรียมตัวผมเหลือบไปเห็นเหงื่อของไอ้เปาที่กำลังจะไหลเข้าตามัน ผมรีบยกมือขึ้นไปปาดเหงื่อมันออก ไม่งั้นนะแสบตาน่าดู


ใครจะไปคิดว่า...นั่นเป็นเวลาเดียวกันที่เพื่อนไอ้เบสได้กดชัตเตอร์ และเป็นเวลาเดียวกันที่ไอ้เปาก้มลงมองผมพอดี


แชะ!

------------------------- :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-05-2017 18:07:37
อือหือ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 03-05-2017 18:24:34
 :o8:  :-[  :impress2:น่ารักกกกก....
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-05-2017 18:41:09
กลาง มีแอบถ่ายเปา แล้วลงอินสตราแกรมซะด้วย

ช็อตเด็ดแน่ รูปคนกลางปาดเหงื่อให้เปา แล้วเปาก้มมองกลาง

เปาหึงแน่ที่กลางไปประชุมแล้วมีเพื่อนใหม่มาเป็นเพื่อน

กลาง เห็นออร่าความหล่อกับการเป็นนายแบบของเปาแล้ว
      :L1: :L1: :L1:
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


 
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 03-05-2017 18:47:11
ฉากเรียกเสียงกรี๊ดจากสาววายเลยนะนั่น
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: knxiiviii ที่ 03-05-2017 18:53:17
ชอตนี้นั้นนน  :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 03-05-2017 19:04:16
ช็อตเด็ดคนดัง แชะๆๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 03-05-2017 19:09:06
ฮืออออ กลางคนน่ารัก ไม่รุ้อะไรกับเขาเล้ยย
มีเช็ดเหงื่อให้ด้วยอะ
อกอีแป้นจะแตก คนแถวนั้นตายไปยัง?55
สนุกมากค่าา  รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 03-05-2017 19:39:51
สวีทออกสื่อโดยไม่รุ้ตัว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 03-05-2017 19:59:19
โอ้ยยยเขินนนนน เปาเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ส่สนคุณคนกลางก็ยังมองเปาเป็นน้องเหมือนเดิม ฮือ5555555555
ปล.อ่านฉากกอดคอถ่ายรูปละมโนอิมเมจได้เป็นฉากๆเลยค่ะ กิ๊ด T_T
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 03-05-2017 20:28:16
กรี๊ดดดดด ฟินไปค่ะ น้องกลางทำไมน่ารักน่าฟัดดดด  :ling1:
ถึงว่าเปาทั้งหวงทั้งห่วง งื้อออ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 03-05-2017 20:30:56
ค้างงงงงงงง  :sad4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 03-05-2017 20:51:41
หึ๋ยยยยยย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 03-05-2017 20:53:38
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 03-05-2017 20:56:58
รูปดีย์
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 03-05-2017 21:22:34
คนกลางจะซึนเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 03-05-2017 21:36:28
ช็อตสุดท้าย ดีต่อใจจริงๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 03-05-2017 21:40:54
กรี๊ดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-05-2017 21:49:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 03-05-2017 21:54:21
คนกลางทำเปาเขินนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 03-05-2017 22:08:57
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 8 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 03-05-2017 22:14:18
น้องกลางจะทันใครเค้าได้คะ
ขนาดเปาทำรถอ้อยคว่ำขนาดนี้น้องกลางก็ยังไม่รู้ตัว
เปาเหนื่อยหน่อยนะ ยิ่งกลางน่ารักด้วย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 03-05-2017 23:10:54
โอ้ยยยยยย ใจกระตุกทุกตอนนน นกกระปูดต้องหล่อมากแน่ๆเลย หัวใจจจจ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-05-2017 23:18:37
อ่าาาาาาาาา น่ารักว่ะกลาง ไม่รู้ตัวดิ

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 04-05-2017 03:17:42
กลางงงง ทำไมน่ารักงี้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 04-05-2017 03:46:57
จังหวะดีมาก กลางน่าย้ากกกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 04-05-2017 10:04:15
อยากไปยืนอยู่ตรงนั้นอยากเห็นโมเม้นนั้น  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: temaripik ที่ 04-05-2017 11:06:51
 :mew6:  10 10 10 ไปเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 04-05-2017 11:22:00
 :-[ :-[ :-[ :-[
นึกว่าจะมาไม่ทันดูเปาเดินแบบซะแล้ววววว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-05-2017 11:46:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 04-05-2017 11:49:22
เตรียมเป็นทอกออฟเดอะทาวได้เลย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 (03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 05-05-2017 16:26:18
 :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 (03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 05-05-2017 17:01:32
คนกลางน่ารักกกกกก ชอตเด็ดนี่นา  อยากไปถ่ายรูปบ้างจัง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 (03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 06-05-2017 14:01:51
โอ้โหห กล้องจังหวะเป๊ะมาก
Best scene สุดด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 (03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 08-05-2017 20:58:17
เพิ่งมาอ่านต่อ  จบด้วยช็อตที่ควรค่าแก่การกรีดร้องมาก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 (03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 10-05-2017 15:32:30
รอไรท์มาต่อค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 9 หน้า 6 (03-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zxjmm ที่ 10-05-2017 17:46:12
โอ้ยยยตายๆหลงคนกลางหนักมากกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 11-05-2017 20:46:27
10
กลางความหวั่นไหว




เพจผู้ชายของเรา XU
คืนนี้ไม่ลงHDแล้วค่ะ เอารูปนี้ไปให้สาวกเปาตายกันไปข้างนึง
ดาเมจรุนแรงเหลือเกิน ดูน้องกลางสิคะ แอดมินเลือดสูบฉีดแรงมากค่ะ
#ปรมัตคริคริ #คนกลาง ขออนุญาติแท็กน้องค่ะ @khonklang @pparamatkrikri
4.7k ถูกใจ
Saicha กรี๊ดดดดด
Tumbi น้องกลางโคตรน่ารักเลย
Wairai โอ๊ยอยากช่วยเช็ดเหงื่อออออ
Fernwong เพื่อนกันใช่มั้ยคะ
Porpa เพื่อนกันค่ะ พอดีน้องเห็นเหงื่อจะเข้าตาพอดี เราอยู่ตรงนั้น *แนบรูปอีกมุม
Waawwa หน้างานกรี๊ดกันกระจายค่ะ อยากได้ ขอได้มั้ยผู้ชายคนนั้น


รูปที่ผมนั่งจ้องอยู่ตอนนี้เป็นรูปที่สวยมากครับมันได้ทั้งองค์ประกอบแสงสี มันจะดีกว่านี้ถ้ามันไม่ใช่ผู้ชายสองคนกับโมเม้นสีชมพู แต่ผมว่าไอ้แอคชั่นของผมกับไอ้เปามันแปลกๆ ไปหน่อย ผ่านมาหลายวันตั้งแต่วันงานเดินแบบคอมเม้นก็ยังมีเข้ามาไม่ขาดสาย ไอ้เปายังแอบแซวผมว่าเดี๋ยวนี้เข้าโลกสังคมออนไลน์กับเค้าบ้าง โธ่ ก็เค้าพูดถึงเรานี่นา ว่าแต่ผม ไอ้เปามันชอบรูปที่เพื่อนไอ้เบสถ่ายถึงขนาดเซฟรูปมาเก็บไว้ ส่วนสาวๆ ก็ชอบกรี๊ดกร๊าดกันมากขึ้นเวลาเห็นผมกับไอ้เปาเดินด้วยกันมีบ้างที่เข้ามาขอถ่ายรูปแต่ผมไม่ค่อยถ่ายรูปด้วยเลยได้แต่รูปไอ้เปาเดี่ยวๆ


ขณะนี้พวกเรากำลังนั่งติวหนังสืออยู่ที่หอไอ้ทัพครับ ห้องกว้างกว่าห้องผมอีก มันบอกว่าครอบครัวมันเป็นเศรษฐีทางอีสานครับ นอกจากชาวศิลปกรรมจะต้องส่งชิ้นงานแล้ว เราก็ยังจะต้องสอบทฤษฎีและเนื้อหาประวัติศาสตร์ศิลปะตั้งแต่รากเหง้าโบราณจนถึงปัจจุบัน และความยากมันอยู่ที่ความจำครับ


“มีใครหิวยัง”


จู่ๆ ไอ้กล้วยก็โพล่งขึ้นมาครับ แต่คำถามนี้คงจะวนเวียนอยู่ในหัวไอ้ทัพมาซักพักมันถึงรีบตอบทันที


“กู!!”


“แล้วทำไม ถามเฉยๆ คิดว่ากูจะไปซื้อให้หรอ”


“เอ้า มึงก็หิวทำมาพูดดีไอ้กล้วย”


“กินไร กูว่าซื้อมากินที่ห้องดีกว่าจะได้ไม่เสียเวลาอ่านหนังสือ”


“โห พ่อคนขยัน เสนอทางเลือกแบบไม่เข้ากับตัวมึงเลย กลัวไม่ได้อ่านหนังสือ”


“มึงแหละไปไอ้เปามีรถ กูไม่ขอกินของด่วนๆ นะแบบสั่งมามันไม่ดีต่อสุขภาพ”


“เออไปด้วยกันเลย คู่ผัวตัวเมีย”


“อุ้ย ไอ้กลางมองแรงว่ะ”


ผมปรายตามองคนพูดทั้งสามคนอย่างระอา พูดมาเสร็จสรรพขนาดนี้กูต้องลุกอ่ะนะ ส่วนเพื่อนประเสริฐทั้งสามนอนราบกับพื้นพรมหน้าทีวีในมือถือชีทไว้คนละข้าง นอนงั้นเดี๋ยวก็หลับ ตื่นมึงก็หิวแบบนี้ไง แล้วพวกมึงก็จะกลายเป็นไอ้หมูอ้วน


“เออ มึงเข้ามอไปเอาชีทที่กูที่พี่อั๋นฝากไว้ที่ร้านถ่ายเอกสารในมอให้หน่อยดิ เนี่ย ตัวช่วยพวกเราเลย”


“ไอ้เชี่ยเบส ทำไมพึ่งบอกวะ”


“กูลืมอะ งั้นมึงไปซื้อข้าวในมอเลยละกัน แวะเอาให้ด้วยนะ ขอบคุณคร้าบบบบเพื่อนเปาเพื่อนกลาง”


พอกูจะก้าวเท้าออกจากห้องก็มีเรื่องสั่งเชียวนะไอ้เบส ผมมองพวกมันอีกครั้งก่อนจะเดินนำไอ้เปาออกไปจากห้อง วันนี้ไอ้เปาพูดอะไรไม่ค่อยรู้เรื่องครับมันมึน เรื่องที่มันมึนมันมีเหตุมาจากไอ้เปามันปั่นงานดรออิ้งแบบที่ไม่ถนัด มันนั่งจ้องกระดาษขาวๆ มาทั้งวันกว่าจะลงมือวาดก็เกือบไม่ทันส่ง ผมต้องคอยโทรเช็คว่าถึงไหนแล้วไม่ตายก่อนส่งใช่มั้ยไอ้น้อง


“ดูแลกันด้วยน้า”


ไอ้ทัพเดินมาทำหน้าอ้อร้อน่าถีบอยู่หน้าประตูสองสามวิแล้วก็ปิดประตูตึงตัง ผมเดินตรงไปที่ลิฟท์แต่ไม่ได้ยินเสียงเดินตามเลยหันกลับมาดูไอ้เปาค่อยๆ ก้าวเท้าตามออกมาด้วยท่าทางสติสตังไม่ค่อยมี ด้วยความที่เป็นคนดีเลยเดินกลับไปคว้ามือมันมาเดินไปรอลิฟท์ เดี๋ยวล้มหน้าคว่ำละยุ่งเลย


“ล้างหน้ายังเนี่ย”


“ล้างแล้ว แม่งมึนชิบหาย”


ไอ้เปาเอามือขยี้หน้าลามไปถึงหัวอย่างหงุดหงิด ผมหัวเราะหน้าผมมันยุ่งพอๆ กับหน้าเลย  เมื่อถึงบริเวณหน้าลิฟท์ชั้นแปดมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนกดโทรศัพท์อยู่ เธอหันมามองไอ้เปาเป็นระยะๆ ก่อนจะเบือนหน้าหนี เฮ้ๆๆ ผมมองตามสายตาของเธอ เชี่ยย ผมไอ้เปาคนของมหาลัยเหมือนรังนกเลย ผมปล่อยมือจากมันแล้วยืดตัวไปจัดทรงให้ไอ้เปา เออ เรียบหรูกว่าเมื่อกี้ล่ะวะ ไอ้เปาเลิกคิ้วแล้วเกาหางคิ้วแบบงงๆ หูมันแดงขึ้นนิดๆ เอออายสาวบ้างเหอะมึง ส่วนสาวคนนั้นท่าทางจะเป็นแฟนคลับไอ้เปามันครับ ทีนี้แหละหันมามองใหญ่เลย ก็ไอ้เปามันดูดีแล้วนี่นา


ติ๊ง


“เชิญก่อนเลยครับ”


ผมว่าแล้วเอื้อมมือไปกดให้ประตูลิฟท์เปิดค้างไว้ สาวคนนั้นก้มหน้าขอบคุณแบบเขินๆ แล้วเดินเข้าไปอยู่ตรงแผงกดลิฟท์ ในลิฟท์มีแค่ 3 คนครับ ผมไม่รู้จะทำอะไรเลยต้องหาโทรศัพท์มากดๆ ไอ้เปาก็ยังไม่พูดไม่จาแต่เอาแขนมาวางที่ไหล่ผมแล้วก็ยังจะเท้าคางกับไหล่ของผม


“ไอ้เปาหนัก”


ผมพูดเบาๆ โดยไม่มองหน้าคนที่ยืนข้างๆ เลื่อนนิ้วไปเช็คไอจีของศิลปินวาดเส้นต่างประเทศ โคตรสวยครับ แถมคนวาดก็มีสไตล์มากครับหน้าตาแบบนี้อยากจะขอมาเป็นแบบวาดจริงๆ ไอดอลเลย ผมกดนิ้วโป้งเพื่อไลค์รัวแต่ความหนักตรงไหล่ซ้ายก็ยังมีอยู่แถมรู้สึกว่าหนักขึ้นเรื่อยจนไหล่แทบทรุด


“หนัก”


“มึงก็เลิกเล่นดิ จะดูอะไรนักหนา”


เชี่ย แกล้งกูเพราะกูกดโทรศัพท์เนี่ยอะนะ ผมกำลังจะหันไปว่ามันก็แต่ชะงักกับหน้าของมันที่เกือบจะติดกับหน้าผม ไอ้เปายื่นหน้ากวนทีนผมมาใกล้จนผมมองเห็นตัวเองในตาของมันเลย


“ไม่มีไรทำก็มองหน้ากูนี่ ดูดีกว่าไอ้ฝรั่งนี่เยอะเลย”


มันพูดพร้อมใจใช้นิ้วชี้เคาะที่หน้าผากผมเบาๆ ใจผมเต้นผิดจังหวะขึ้นมาซะดื้อๆ แถมยังรู้สึกว่าความร้อนมันไล่ขึ้นมาบนใบหน้า


“หล่อมากมั้งมึงอะ”


ผมลากเสียงยาวพร้อมกับยืดแก้มมัน โอ๊ย หมั่นไส้ ไอ้เปาที่เคยแก้มย้วยคนนี้เนี่ยนะ


“กรี๊ด โคตรแฟน”


ผมสะดุ้งเสียงกรี๊ดเบาๆ จากมุมลิฟท์ เราสองคนหันไปมองตามเสียงมือผมยังค้างอยู่ที่แก้มมัน เธอยกมือปิดปากแถมยังจ้องตาไม่กระพริบ ผมรีบส่ายมือส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน อย่าคิดไปไกลนะครับไม่มีอะไรจริงๆ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่คิดอย่างนั้น ยังไม่ได้ทันได้อ้าปากพูดอะไร


ติ๊ง


“ฟินแล้วกู ตามสบายค่ะ ไปก่อนนะคะ”


เธอก็รีบวิ่งออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเหลือไว้แต่ผมก็มือที่ยกค้างไว้...และเสียงหัวเราะในลำคอของไอ้เปาเป็นซาวน์ประกอบ
อะ เอ่ออออ ไม่...ไม่ใช่นะครับ




“กินอะไรดี”


เราสองคนขับมาไม่ไกลก็ถึงมอแล้วครับ เราตรงดิ่งไปเอาชีทที่ร้านถ่ายเอกสารใต้คณะแล้วไปซื้อข้าวให้เพื่อนที่ตลาดในมอ ในมอผมมีตลาดสำหรับเด็กหอในทุกวันครับ อาหารก็เยอะละลานตาถ้าไม่เบื่อซะก่อน ซึ่งแก๊งคอหล่นของผมอยู่หอนอกกัน ไม่ค่อยได้กินข้าวในมอตอนเย็นๆ อาหารที่นี่เลยเป็นสถานที่รวมแหล่งเลิศรสสำหรับเราครับ


“อยากกินไรอะ มึงถือกระเป๋าตังค์กูดิ๊”


พอลงจากรถก็เดินตรงเข้ามาในตลาดถึงจะตอนเย็นแล้วแต่อากาศยังคงร้อนสมเป็นประเทศไทยครับ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นข้างขมับ เดินเข้ามาได้ไม่นานไอ้เปาส่งกระเป๋าตังค์ของตัวเองมาให้ผม


“เลี้ยงอ่อ”


“เลี้ยงมึงคนเดียวอะ อยากกินไรก็ไปซื้อ”


“โห ป๋าจังวันนี้”


จะว่าไปเวลาผมไปไหนกับไอ้เปาก็ไม่ค่อยได้ออกตังค์ตลอดเลย มันจะชิงออกก่อนพอผมจะคืนเงินก็บอกเอาไว้ก่อนๆ จนตอนนี้หนี้ผมคงบานละครับ ไอ้คำว่าเอาไว้ก่อนเนี่ย


“ซื้อๆ ไปเหอะน่า เดี๋ยวกูไปซื้อน้ำมาให้”


ผมกวาดสายตามองร้านตรงข้ามพร้อมกับลิสต์รายการไว้ในหัว วันนี้คงต้องอยู่ดึก ซื้อของกินจัดเต็มไปเลยละกัน


“ไอ้กลาง”


“เฮ้ย พี่ภู มาทำไรครับ หวัดดีครับพี่”


พี่ภูที่โผล่หน้าจากด้านหลังคือพี่รหัสผมเองครับ นานๆ ทีจะได้เจอเหมือนไม่ได้อยู่คณะเดียวกัน ตอนประกาศสายเสร็จพี่แกก็หายเงียบไปเลย แต่ว่าพี่ภูคนเนี้ยเป็นเพื่อนพี่ชายผมเองครับ มาจากเชียงใหม่เหมือนกัน โคตรบังเอิญที่ได้เป็นพี่รหัสน้องรหัสกัน แต่พอรู้จักยิ่งไม่รักเธอ พี่ผมซกมกจริงๆ บางครั้งที่เจอกูไม่อยากจะเข้าใกล้


“หาข้าวกินดิ เป็นไงมั่ง”


“จะสอบแล้วครับพี่”


“ศาสตร์ศิลป์ป่ะ ไม่ยากนะมึง ตามความรู้สึก”


“จริงอะพี่” มันอาจจะยากเพราะสมองผมก็ได้นะพี่มึง


“เออ แล้วไว้ว่างกูพาไปแดกข้าว ช่วงนี้ยังไม่ว่าง”


“ผมไงก็ได้ไม่ซีเรียสครับ”


พี่ภูบอกลาพร้อมกับรับข้าวจากเพื่อนพี่เค้าก็เดินถือมาให้ ผมไหว้เพื่อนพี่ภูพี่แกเลิกคิ้วยิ้มรับก่อนจะยืนรออยู่ใกล้ๆ


“ไอ้คนกลางๆ เอ้ย กูไปละ เดี๋ยวรีบไปปั่นงานต่อ”


มาเร็วไปเร็วครับพี่ผมคนนี้ เฮ้ย พี่เสื้อพี่เป็นรูอยู่ด้านหลังอะครับ


“มองไรอ่ะ”


“อ้าวมาแล้วหรอ”


“อ่ะ น้ำกับทิชชู่เช็ดเหงื่อด้วย ถามว่ามองใคร”


“พี่ภูไง ป่ะไปซื้อข้าวได้แล้ว”


ผมพูดพร้อมกับกลั้วหัวเราะเมื่อนึกถึงเสื้อที่ขาดของพี่ภู ไอ้เปามันพึมพำก่อนขมวดคิ้วนิ่งอยู่ที่เดิม ผมเลยต้องลากมันเดินตาม ตัวหนักใช้ได้ เราสองคนต่อแถวซื้อของกินหลายร้านทั้งของคาวของหวาน ส่วนไอ้เด็กเปาเป็นแค่คนถือของเท่านั้นเพราะมันไม่ออกความเห็นอะไรเลย พูดแต่คำว่าอะไรก็ได้ เหนื่อยผมที่ต้องคิดว่าชอบกินอะไรแล้วไปต่อแถวซื้อ นี่มันเป็นอารมณ์ของคนที่โดนขัดใจแล้วจะดื้อเงียบครับ เมื่อตอนเด็กมันเคยโกรธที่ผมชอบไปยุ่งมากเกินไป ตอนที่มันทำแบบฝึกหัด บอกคำตอบมันทั้งๆ ที่มันจะตั้งใจจะทำเอง(เป็นครั้งแรก) จำได้ว่าเรียกนกกระปูดแดงแล้วแม่งไม่หันเลย น้องโกรธครับ



“ว้าววววววววววว มาแล้ววววววววว”


“กราบเพื่อนค้าบบบ”


“นี่ครับทุกคน คู่ผัวเมียที่มาบริการเราในวันนี้”


“ไอ้ทัพจะมาสตอรี่ไอจีอะไรตอนนี้ กูหนักเนี่ย ช่วยหน่อย”


“แค่นี้ก่อนนะครับ ม๊วฟ”


มาถึงห้องเพื่อนที่ดีทั้งสามตัวก็ยังนอนเรียงกันเหมือนเดิมพอเห็นของกินปุ๊บผีโซเชียลก็เข้าสิง ผมวางของกินไว้โต๊ะพับหน้าทีวีแล้วนั่งพัก ไอ้เปาก็เดินเข้าไปช่วยไอ้เบสเอาจานชาม ส่วนไอ้กล้วยและไอ้ทัพก็ค้นของกินเล่นอย่างหิวโหย


“เฮ้ยๆๆ อันนั้นไม่ได้ๆ”


ผมพูดพร้อมกับคว้าขนมโป้งเหน่งเป็นขนมหายากสำหรับผมแต่ในมอมีขายครับ อเมซิ่งสุด ตอนเด็กๆ ซื้อที่หน้าโรงเรียนอันละ 5 บาทเดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยเห็นใครทำขายเลยครับ แล้วที่สำคัญขนมเนี่ยไอ้เปาชอบมาก เวลากินแล้วแก้มมันพองโคตรน่ารัก


“ทำไมอะมีตั้งหลายอัน” ไอ้กล้วยพูดอย่างสงสัยในมือข้างขวาของมันถือโป้งเหน่งเสียบไม้มาหนึ่งชิ้น ส่วนปากก็อ้ากว้างเตรียม
พร้อมจะกิน


“ไม่ได้ ห้ามกิน” ผมคว้ามือมันไว้เป็นจังหวะเดียวกับที่ไอ้เปาและไอ้เบสเอาจานมาใส่อาหาร แล้วนั่งล้อมวงกัน พวกมันหันมามองการยื้อของผมอย่างแปลกใจ


“ทำไรกันวะ”


“ก็ไอ้กลางอะดิ ไม่ยอมให้กูกินอันนี้”


“ของกินมีหลายอย่างจะไปแย่งกันทำไม”


“ก็กูอยากชิมอันนี้”


“ก็ไม่ได้อะ”


“ทำไม”


“ก็...ไอ้เปามันชอบกิน...”


พวกมันสี่ตัวนิ่งค้างไปสองสามวิ โดยเฉพาะไอ้เปาที่จ้องผมตาไม่กระพริบ นิ่งได้ไม่นานไอ้กล้วย ไอ้ทัพ ไอ้เบสก็ยิ้มกริ่มเหมือนพึ่งออกจากโรงพยาบาลบ้า กูว่าโดนล้ออีกแหงๆ ที่ผมซื้อเพราะเห็นว่าไอ้เปามันงอนหรอก เอาใจมันหน่อย อารมณ์แปรปรวนสงสัยเครียด ไม่ได้คิดอะไรจริงจริ๊งงง


“กิ้ววววววว”


“ตอนแรกเคืองนะ ได้ยินงี้...เออ...ไม่งอนก็ได้”


“ว้ายยยยยยยย น้องกลางค้าบบบบ คิดไรป่ะเนี่ยย”


“หวงของกินผัว เอ้ย เพื่อนด้วย”


“เขินๆๆๆ”


“ไม่ได้เขินโว้ยย”


วันนี้เป็นอะไรทำไมกูต้องโดนมองโดนแซวทั้งวัน ตั้งแต่ไอ้สาวหน้าลิฟท์แล้ว ไอ้กล้วยเอาโป้งเหน่งเสียบไม้มาทำเป็นไมค์ ไอ้ทัพและไอ้เบสก็ทำหน้าที่ผสานกันดีเหมือนลงพื้นที่ทำข่าว ไอ้ฝัด กูไม่ใช่ณเดชน์บอกแล้วไง ไอ้เปาที่นั่งข้างผมก็ขำ เอออ ยิ้มเข้าไปปปป


“ก็มันชอบกิน เห็นมันเครียดไง เลยซื้อให้แต่กลัวไม่อิ่มไม่ได้กินนาน”


“แหลลลลลลลลลลล” ประสานเสียงเชียวนะพวกมึง


“เอ้ย โทษทีๆๆ พูดผิด หรออออออ”


แหลพ่องมึงเดะ


“ฮ่าๆๆๆๆๆ ไอ้กลางเอ้ยคิดถึงกูด้วย เขินหราจ๊ะตัวเองงงง”


ไอ้เปาไม่ต้องกินละ เดี๋ยวกูกินเองแม่งเลย ผมคว้าไมค์โป้งเหน่งจากมือไอ้กล้วยแล้วยัดปากไอ้เปา รำคาญมันล้ออยู่ได้ อีกสามคนก็ร้องเพลงแซวอยู่ข้างๆ


“จะกินข้าวได้ยัง”


“เฮ้ยย เอาดุเข้าสู้ว่ะ เอ้ากินข้าวพวกมึงงงง กินๆๆ อย่าไม่ล้อมันละ อย่าล้ออออ” มึงอะตัวแรกเลยไอ้เบสสส


พอของอร่อยเข้าปากพวกมันก็สวาปามกันไม่มีหยุด กับข้าวโคตรอร่อยจริงครับ ของทอด ผลไม้ ลูกชิ้น น้ำปั่น กินยังไงให้หมดภายในพริบตาต้องแพนกล้องไปที่ไอ้กล้วยครับ กูว่ามึงไม่ได้เคี้ยวใช่มั้ย สองมือมันไม่มีว่างเลย อ้าวเฮ้ย นั่นข้าวมันไก่ของกู ผมมองพวกมันแล้วต้องรีบครับ กินอะไรไม่ทันเค้าหรอก แต่ยังดีไอ้เปามันมือไวตักของกินมาใส่จานผมเรื่อยๆ เอออ ทำหน้าที่บ้างนะมึง ไอ้เปามันท่าทางจะชอบครับกินแต่โป้งเหน่งแบบกินไปยิ้มไป


“ไอ้เปา” จู่ๆ ไอ้เพื่อนเบสก็โพล่งขึ้น “ชอบป่ะชอบป่ะ” มันใช้คางต่างนิ้วชี้ไปที่ขนมที่ไอ้เปาเคี้ยวอยู่


“ชอบ”


“อู้ยยย”


ไอ้คำถามนี้ไม่ต้องเสียงเวลาคิด แต่ผมไม่ไว้ใจพวกมันซักตัว วันนี้พี่กลางเจ็บมาเยอะ เหลือบตามองรอบวง


“ไม่หมายถึงคนซื้ออะ”


“ถ้าชอบแล้วจะทำไมล่ะ”


“กริ้วววววววววววววววว ต้องคิดไงอะเพื่อนไม่เข้าจายย”


“ตัวทัพเค้าเขินนนน”


“ตัวกล้วยไม่เขินนะ”


“พวกมึงพอแล้ว แดกข้าววว เอ้า นิ่งเลย กินครับคนกลางครับ”
ไอ้เด็กเปานี่มึงแก้แค้นกูกลางวงกินข้าวหรอ อารมณ์ดีแล้วเป็นงี้หรอ ว่าแต่ทำไมอากาศมันร้อนชะมัด



สอบเสร็จแล้วครับบบบบ ผมกู่ร้องในใจ พวกเราโหมอ่านกันมากทำทุกวิธีที่จะทำให้จำได้ เพราะชื่อมันยากจริงครับเขียนผิดยุคผิดชื่อไปซวยตายเลย เย็นนี้พวกมันนัดกันกินเหล้าย้อมใจแต่ผมขอปฏิเสธไปเพราะอยากพักแบบนอนโง่ๆ ไอ้สามคอหล่นมันเลยเซ็งไปตามระเบียบแต่ไม่ได้ล้มเลิกนะครับ เพื่อนๆ พี่ๆ มันเยอะนู่นไปชวนพวกพี่จิ้มนู่น ขาดผมเลยไม่เหงาครับ ส่วนไอ้เปาบอกมีธุระต้องไปส่งพี่สาวทำอะไรซักอย่างสอบเสร็จก็รีบออกไปเลยครับ สรุปแก๊งคอหล่นหลังสอบเสร็จก็เป็นประการฉะนี้


ผมนอนหงายอยู่บนเตียง เฮ้อ โล่งสุดๆ คิดว่าจะกลับมานอนพักแต่เอาเข้าจริงๆ ก็นอนไม่หลับ ผมนอนเล่นมือถือตอบไลน์กลุ่มครอบครัวว่าสอบเสร็จแล้ว ไอ้เล็กส่งกลับมาทันทีว่าพี่โตอยากเห็นหน้า แหมเอาพี่มาอ้าง พี่โตก็คงอ่านหนังสือสอบอยู่แหละครับ ช่วงนี้มันช่วงสอบของเด็กมหาลัยนี่หว่า ขี้โม้ ผมเบะปากหมั่นไส้แต่ก็ยอมเซลฟี่ชูสองนิ้วแบบเก้ๆ กังๆ ให้ตายสิ การถ่ายรูปตัวเองมันไม่เหมาะกับผมเลย ส่งปุ๊บพ่อกับแม่ก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับมา ส่วนไอ้เล็กก็ส่งรูปหน้าง่วงจากในห้องเรียนมาให้ ผมหัวเราะแล้วบอกคิดถึงทุกคน เลื่อนไปดูไลน์ที่ผมดองไว้ นี่ผมลืมอ่านไปเยอะขนาดไหนเนี่ย ล่าสุดไอ้โจ๊กครับมันทักมาชวนผมกินข้าวแต่ผมไม่ได้ตอบอะไรไปเลย


คิดถึงเพื่อนครับ ว่าแล้วต้องโทรหาซะหน่อย เดี๋ยวเพื่อนเหงา


“เพื่อนโจ๊กกกก คิดถึงงง”


“ไอ้เชี่ยกลางหายไปเลยนะมึง”


“ขอโทษษ กูพึ่งสอบเสร็จ”


“เออๆ ไม่เป็นไร วันนี้มึงว่างยัง ไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อยเดี๋ยวเลี้ยงข้าวเย็น ไอ้สัดหายหัว”


“ว่างแล้ว ได้ๆ มึงมาเคาะห้องกูนะ”


“เออ เรื่องนี้เสี้ยนแต่ไม่อยากดูคนเดียว”


“ตามใจเพื่อนเลยครับเพื่อนโจ๊ก”


รู้สึกผิดลึกๆ ที่ผมละเลยมัน ไอ้โจ๊กเนี่ยมันมาสนิทกับผมตอนที่ไอ้เปาไปแล้ว ตอนนั้นผมโคตรเหงามันก็เข้ามาเล่นมาชวนคุย มันเลยเป็นเพื่อนผมตั้งแต่นั้นมา มันเป็นเพื่อนที่ผมไว้ใจเล่าได้ทุกเรื่อง ผมเองยังเคยบ่นเรื่องความทรงจำวัยเด็กให้มันฟังบ่อยๆ ถ้ามันไม่เข้ามาคุยป่านนี้ผมคงรู้สึกผิดและเป็นเด็กโดดเดี่ยวไร้เพื่อนไปตลอดชีวิตเลยครับ


ผมเผลองีบหลับซักพักไอ้โจ๊กก็มาเคาะห้อง เชี่ย เกือบไม่ตื่น วิ่งเข้าห้องน้ำล้างหน้าคว้ากระเป๋าตังค์แล้วออกมาเจอเพื่อนเลยครับ ดีนะผมแต่งตัวแล้ว แต่งนอนเลย


“โห ไอ้โจ๊ก หล่อไปไหนเนี่ย”


ผมทักมัน ไอ้เพื่อนโจ๊กลิงจ๋อวันนี้มันหล่อครับ เซ็ทผมด้วย ก้มมาดูตัวเองไอ้สัดเหมือนชาวบ้านอะ ผมก็เริ่มยาวแทบทิ่มตา


“หล่อไปดูหนังเนี่ยแหละ”


“เพื่อนกูต้องได้ๆๆๆ”


“ได้เหี้ยไร กูตามจีบคนนึงอยู่เว้ยจริงๆ”


“จริงอะ จริงหรอ ตื่นเต้นน”


“ไม่ต้องทำหน้าตาหางกระดิกได้ป่ะ ทำอย่างกับจีบเอง”


“เอ้า ก็เพื่อนจะมีแฟนแล้วนี่”


“จีบเฉยๆ  ว่าแต่มึงเหอะ จะยี่สิบแล้วแฟนยังไม่มีซักคน”


“ไม่ต้องยุ่งเลย”


เราสองคนเลือกนั่งแท็กซี่ไปห้างครับ คนไม่เยอะเท่าไหร่เพราะเป็นวันธรรมดา ไอ้โจ๊กมาดูหนังซอมบี้ครับมันบอกกลัวร้องดังในโรงถ้าผมไปมันจิกแขนผมกลั้นเสียงร้อง นี่ผมมีหน้าที่เท่านี้สินะ มันซื้อตั๋วรอบหกโมงเย็นตอนนี้พึ่งจะห้าโมงผมกับมันเลยตัดสินใจหาร้านกินข้าวเย็นไปเลย มื้อเย็นของเราวันนี้คืออาหารญี่ปุ่นครับ นานๆ ได้กินที เราก็คุยกันอย่างหนักหน่วงทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องงาน ส่วนประเด็นที่พูดในตอนนี้คือผู้หญิงที่มันกำลังจะจีบครับ สรุปว่าเธอชื่อป๊อปเป็นคู่แลปกัน แต่ปัญหาคือไอ้โจ๊กจีบแต่เค้าไม่รู้ตัว


“อืมมมม” พอฟังจบผมก็รับคำพร้อมกับดูดชาเขียวไปอึกใหญ่


“เงียบนานขนาดนี้มึงกูไม่น่ามาปรึกษามึงเลย”


“ก็กูไม่เคยจีบใครนี่หว่า แล้วมึงทำอะไรบ้างที่ว่าจีบอะ”


“ก็...ดูแล เป็นห่วงคอยถาม ชวนไปกินอะไรอร่อยๆ เวลาเห็นป๊อปเครียดก็อยากทำให้ยิ้มอะ อะไรก็ได้ที่มันไม่ได้มีให้แค่เพื่อนอะ มากกว่านั้น”


“นี่คือจีบหรอ”


“เออก็ได้แค่เนี้ย มึงไม่เข้าใจหรอก”


“เอ๊ะ...แต่”


ผมขมวดคิ้วไอ้ที่มันว่ามาทั้งหมดผมว่ามันคุ้นเคยแปลกๆ คงไม่ใช่หรอกมั้ง...


“อะไร อย่าบอกว่ามึงเคยจีบสาวแบบนี้หรอ”


“ไม่เคยเว้ย”


“หรือโดนจีบแล้วไม่รู้ตัว”


ไม่รู้โว้ย ไม่อยากคิดมาก แล้วมันเป็นไปไม่ได้ด้วย


“เฮ้ย จะหกโมงแล้วมึงไปกันเดี๋ยวไม่ทันอยากดูตัวอย่างหนัง”


“เออๆ แปบดิ”


ผมดูดชาเขียวให้หมด ชาเขียวจืดนี่ของโปรดเลยครับ ผมกับไอ้โจ๊กกอดคอกันเข้าไปในโรงหนัง ยืนตรงสรรเสริญพระบารมีเสร็จก็คว้าเอาโทรศัพท์มากดปิดเสียง แต่เอ๊ะ โทรศัพท์ผมล่ะ


“ไอ้โจ๊ก เห็นโทรศัพท์กูป่ะ”


ผมกระซิบ ไอ้โจ๊กที่กำลังคว้าป๊อปคอร์นมากินชะงัก มันทำหน้าเหมือนลิงหงุดหงิดเพราะนั่นเป็นป๊อปคอร์นคำแรกของมัน


“จะเห็นได้ไงของมึง กูไม่เห็นมึงถือเลยนะตั้งแต่เจอกัน”


“จริงหรอ”


“นึกดีๆ”


เอ...ก่อนออกมาผมนอนเล่นอยู่บนเตียงเผลอหลับไป วิ่งเข้าห้องน้ำ แล้วก็ไปที่ประตู เออใช่...ทั้งตัวผมมีแค่กระเป๋าตังค์นี่หว่า ไอ้โจ๊กเห็นสีหน้าผมมันก็ส่ายหัวเอือมๆ แต่ไม่เป็นไรครับชีวิตผมขาดโทรศัพท์ได้


“แหะๆ”


ส่งเสียงประจบเพื่อนก่อน เมื่อกี้โวยวายใหญ่ไปหน่อย แต่พูดอะไรมากครับเมื่อหนังเริ่มเล่น โห โคตรสนุกครับ ซอมบี้กับซาวน์
ทำเอาผมตกใจอยู่หลายรอบ แต่ไอ้โจ๊กฮาสุดมันกำลังจะเอาป๊อปคอร์นเข้าปาก ซาวน์ดังมันสะดุ้งตัวกระตุกป๊อปคอร์นกระจายโดนหน้าแทน ทั้งฮาทั้งสงสารเหมือนเพื่อนผมอยู่ในเรื่องเลยครับ เอฟเฟคมาเต็ม จิกเสื้อผมแทบขาด เดี๋ยวนะเพื่อนโจ๊กเล็บมึงเหมือนซอมบี้เลย จิกเข้าเนื้อขนาดนี้ผมจะกลายพันธุ์มั้ย ผมคิดอย่างสนุกหนังมันเจ๋งเกินไปแล้ว ผมน่าจะชวนไอ้เปามาด้วยมันต้องชอบแหงขนาดผมยังชอบเลย


แต่เรื่องไม่สนุกมันหลังจากนี้ครับ ไม่คิดว่าไอ้การลืมโทรศัพท์มันจะทำให้ชีวิตผมลำบากมากแค่ไหน ผมกับไอ้โจ๊กเดินเข้ามาในหอประมาณสามทุ่ม เราพูดถึงหนังที่พึ่งดูกันอย่างสนุกตั้งแต่บนรถแท็กซี่จนถึงหอ ไอ้โจ๊กแนะนำหนังให้ผมดูเพิ่มที่พระเอกเรื่องซอมบี้วันนี้เป็นคนเล่น มันบอกเรื่องอื่นก็เจ๋งไม่แพ้กัน


“เฮ้ย นั่นไอ้เปานี่ ไอ้เปา!”


ไอ้โจ๊กชี้ไปที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งแล้วส่งเสียงเรียก ไอ้เปาที่นั่งหันข้างแถมตาจ้องประตูหออยู่ตลอดเวลาหันมาอย่างรวดเร็ว อ้าว เพื่อนเปานี่นา


“ไอ้เปา กูเป็นซอมบี้”


ผมเดินตรงเข้าไปหามันแล้วทำมือเหยียดตรงเหมือนผีจีน เรื่องนี้สนุกอยากแชร์อยากเล่าให้มันฟัง ลืมดูหน้ามันที่ตาขวางได้ที่ แถมเสียงยังแข็งโคตรๆ อีกด้วย ท่าทางมันบ่งบอกว่า


“กูไม่สนุกด้วยนะเว้ย”


“เอ่อ...” นั่นแหละที่ผมคิด


“มึงไปไหนมาวะ”


“กู...ไปดูหนังกับไอ้โจ๊ก มัน..มันอยากดูพอดี”


“แล้วทำไมมึงไม่เอาโทรศัพท์ไปวะ ลืม?”


ทำไมมันต้องกอดอกทำหน้าดุด้วย ผมแค่ลืมเอง ผมอึกอักไม่คิดว่ามันจะมาโหดแบบนี้ ไอ้โจ๊กที่ตามมาทีหลังทำหน้างงเบาๆ บรรยากาศรอบๆ หนาวขึ้นมาพิกล


“มีไรกันวะ”


“กูแค่ลืมโทรศัพท์เองนะ”


“อ๋อ เรื่องนี้...อย่าไปดุมันเลยกูเร่งมันเองแหละ”


“เออ...กูผิดเองที่ห่วงมึงแทบตาย” มันพึมพำเสียงเบาก่อนขยี้หัวอย่างหงุดหงิด เปลี่ยนจากกอดอกมาเท้าเอวแล้วครับ “ไปไหนก็ไม่ค่อยจะรู้ทาง โดนปล้นทำไงวะ”


“ไม่มีใครปล้นหรอกในกระเป๋าไม่มีตังค์ โทรศัพท์ก็ลืม ไม่มีทรัพย์สิน” ผมรีบพูด


“โอ๊ยย ไอ้ซื่อ ไอ้กลางถ้ามึงโดนปล้นจริงๆ มึงจะให้คนช่วยยังไง เงินก็ไม่มี โทรศัพท์โทรหาใครไม่ได้”


ไอ้โจ๊กที่แปรพักตร์เรียบร้อยมันเข้าข้างไอ้เปาแถมยังไปยืนข้างกันอีก ผมก้มมองพื้นเห็นแผ่นกระเบื้องที่แบ่งเราสามคนอย่างชัดเจน ขนาดฝั่งยืนผมยังไม่มีคนเลย


“ทำหน้าเหมือนหมาอีกละ”


“คิดว่าทำแล้วจะลดความผิดหรอ”


“ใช่มั้ย ไอ้นี่แม่งมันเป็นงี้แหละไอ้เปา”


“คราวหลังมึงปล่อยมันไปคนเดียวนะ”


“เออ ให้โดนบ้างจะได้เข็ด”


คุยกันขนาดนี้... “หายโกรธแล้วใช่มั้ย” ผมพูดแทรก ยื่นหน้าไปใกล้ไอ้เปา โชคดีที่วันนี้ไอ้โจ๊กเป็นไม้กันไอ้เปาไม่งั้นผมโดนมันดุกว่าเดิมแน่ๆ ไอ้เปาแต่ก่อนกูต้องดุมึงนะ มึงทำผิด กวาดห้องทำเวรวันศุกร์ก็ไม่เป็นกูต้องรอเป็นเพื่อน 


“หยุดบ่นในใจ ไอ้เปากูไปก่อนนะเมื่อยไปหมด เอามันไปทิ้งบนห้องด้วย”


“เจอกันมึง ไป...ขึ้นห้อง”


มันเดินนำเหมือนเป็นเจ้าของตึก หลังจากนั้นก็บ่นๆ จนผมจำได้ทุกประโยค ผมเข้าห้องน้ำก็ได้ยินเสียงมันลอยมา เปิดทีวีมันก็ยังไม่หยุด ผมกดลดเสียงจากรายการทีวีแล้วหันมามองหน้ามันตรงๆ ไอ้เด็กน้อยโตแล้วขี้บ่นหรอวะ


“เหนื่อยยัง ขอโทษคราวหลังจะมัดติดมือเลย”


“ไม่ตลกนะไอ้กลาง”


“กูเป็นผู้ชายไม่มีอะไรหรอก กูไม่โดนปล้นหรอก”


“กูไม่ได้กลัวมึงโดนปล้น...”


“แล้วมึงกลัวอะไร”


ไอ้เปาจับหน้าผมไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง มันจ้องลึกมาในดวงตาของผม 


“กูกลัวมึงเป็นอะไร กลัวทุกอย่าง โทรไปก็ไม่มีคนรับห้องก็ไม่มีใครอยู่ มึงก็รู้...เวลาคนรอมันนานนะเว้ย”


“...”


“กูเป็นห่วงมึงจนจะบ้าแล้ว ชัดยัง”


ชัด


ใจผมเนี่ยดังชัดเลย




=====
พาคนกลางมาเเล้วว
ขอโทษทุกคนจากใจจริง
ที่หายไปเพราะวิจัยที่ยังไม่เสร็จ
เพราะวิจัยทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมาตอนเราท้อแท้
 :L1:
คนกลางกับเปาเนี่ยจริงๆ มันเป็นความผูกพันที่ยาวนาน
ทั้งๆ ที่ต่างคนต่างคิดว่าไม่เจอกันเเล้วเเต่ก็เเอบหวังลึกๆ
เจอกันตอนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-05-2017 21:06:02
โถ...
คนกลางเริ่มตงิดใจว่าถูกจีบ... แต่ก็ปัดไปอย่างเร็ว ฮา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 11-05-2017 21:14:10
 :o8: น้องกลางน่ารักมากๆๆๆๆๆ เขินมากเลย
อ่านไปนอนดิ้นไป
นี่ไม่รู้ตัวจริงๆน่ะหรอ หรือรุ้แล้วทำเป็นแกล้งไม่รู้
อิจฉาผญ.ที่เจอในลิฟต์ อยากจะเป็นคนเห็นโมเม้นเอง55
ชอบน้องกลางจริงๆนะ น่าเอ็นดูมากเลย TvT
อยากจะอุ้มเขย่าๆ หมั่นเขี้ยววว
นี่ว่าเปาก็คงหมั่นเขี้ยวมากๆ  เดี๋ยวเถอะ
ทำตัวน่ารักใส่บ่อยๆแบบนี้ นะวังเขาจับฟัดเอานะ555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-05-2017 22:02:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 11-05-2017 22:04:09
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 11-05-2017 22:25:02
เขินแทน คือเค้าหวานกันค่ะ เปาอ่ะชัดมาก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 11-05-2017 22:30:27
โอ้ยยยยยยยอ่านแล้วเขิน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 11-05-2017 22:43:47
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 11-05-2017 22:57:22
 :-[ :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 11-05-2017 23:30:30
อ่านเรื่องนี้เหมือนมาเติมความหวานให้หัวใจตัวเอง ดีงามมมม  :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: __jitlada ที่ 12-05-2017 00:00:15
เขินแทนคนกลาง :o8:  อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 12-05-2017 00:06:59
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วยิ้มตามเลยอะ...
 :-[ ชอบๆ คนกลางอะ น่ารักน่าเอ็นดู
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: rikulism♡ ที่ 12-05-2017 02:22:42
ถ้าชอบแล้วจะทำไมล่ะ นี่นึกถึงโมเม้นเต๋าคชาในบ้านแมคขึ้นมาเลย ชอบเรื่องแนวนี้จัง :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 12-05-2017 11:05:40
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 12-05-2017 11:46:03
เขิน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-05-2017 12:28:18
รีบรู้ตัวเถอะคนกลางงงงงงง

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 12-05-2017 13:42:06
เขินไปอีกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 12-05-2017 15:27:18
คนกลางเอ๊ย
เมื่อไหร่จะรู้ตัวล่ะลูก
 :z3: :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-05-2017 17:30:33
เปาน่ะชัด คนกลางเริ่มรู้สึกและ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 12-05-2017 18:25:25
เขินนน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: leefever ที่ 12-05-2017 18:48:37
หวานนนนนนน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-05-2017 19:49:39
ชัดหนักมาก 5555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 12-05-2017 20:29:26
กลาง ชัดยัง ว่าโดนจีบ 555

ตอนฟังโจ๊กเล่านี่ยังไม่คิด พอเปาพูดชัดละชะ กร๊ากก

น่าร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 12-05-2017 20:41:32
ชอบบบ เขินนนน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 12-05-2017 21:24:36
เป็นความผูกพันธ์และรักซึมลึกซินะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 13-05-2017 00:14:02
 :z13:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 13-05-2017 22:27:36
คนกลาง นางน่านัก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 10 หน้า 8 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 14-05-2017 13:53:40
คนกลางน่ารักมากกกก  :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 14-05-2017 19:49:52
11
กลางความสับสน



“กลาง ไอ้เปาอ่ะ”


“ไอ้กลาง เชี่ยเปาล่ะไม่มากับมึงหรอ”


“น้องกลางรู้จักนางแบบที่ถ่ายกับเปาป่ะ”


“โอ้ย ไอ้เปาดังใหญ่ละแม่งเหมาะกันสุด กลางดูรูปยัง”


“อ้าวน้องกลาง เปาไปไหน”


ตั้งแต่เด็กจนผมโต ผมมักจะได้รับเลือกให้ทำกิจกรรมโดยเฉพาะแข่งขันวาดภาพ มีอยู่ปีนึงได้รับรางวัลบ่อยจนไม่สร้างความหมั่นไส้ให้กับคนอื่น ผมได้รับจดหมายลูกโซ่ในวันหนึ่ง บนกระดาษมีสีแดงเหมือนเลือดอยู่ประปราย ข้อความนั้นเขียนถึงผมต่างๆ นานา(ในทางที่ไม่ดี) ถ้าอยากรู้ว่าใครเขียนให้ผมส่งต่อไป ตอนนั้นมันน่ากลัวมาก เพื่อนๆ เอาแต่มามุงที่โต๊ะผมแล้วขอดูจดหมายฉบับนั้น ถามผมว่าใครเขียนนะ ไอ้เปาเองมันก็แอบชะโงกหน้ามาดูด้วยแต่ด้วยความที่ตัวเตี้ยเลยได้แต่หรี่ตาเดินลากเท้ากลับโต๊ะตัวเองไป ส่วนผมทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่จนกลายเป็นที่พูดถึงทั้งชั้นแต่ผมไม่ได้ส่งต่อตามที่เขียนไว้แถมกระดาษนั้นก็หายไปหลังจากนั้น


สถานการณ์ตอนนี้ก็คล้ายๆ กันทุกคนแวะเวียนมาที่โต๊ะผมแล้วถามในสิ่งที่ผมก็ไม่รู้แถมยังยัดเยียดภาพในมือถือมาให้ผมดูแทน ผมกำลังนั่งสเก็ตภาพอะไรไปเรื่อยอยู่ลานม้าหินอ่อนข้างคณะคนเดียว เพื่อนพี่น้องที่รู้จักเดินมาแวะเวียนถามผมจนผมอยากจะติดป้ายประกาศไว้บนหน้าผาก ไอ้เปาที่ตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงเพราะไม่กี่วันมานี้รูปที่มันได้ไปถ่ายแบบให้กับนิตยสารแฟชั่นได้เผยแพร่ไปทางอินเทอร์เน็ต ไอ้เปากลายเป็นจุดสนใจอีกครั้งแต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจุดสนใจนี้มันทิ้งภาระให้กับผม ตั้งแต่เช้าจนถึงบ่ายผมตอบคำถามแบบนี้ไม่หยุด ไอ้ตัวดีมันก็หายตัวไปสองวันแล้วครับมันทิ้งท้ายว่าเดี๋ยวติดต่อกลับเอง


“ไม่รู้เหมือนกันครับ”


“โห ปกติเห็นตัวติดกัน”


“ไม่หรอกครับ”


“เห็นกลางเดินคนเดียวอย่างงี้ ทั้งคณะอยากรู้กันทั้งนั้น โกรธอะไรกันรึเปล่า”


“เปล่าครับ มันไปทำธุระ”


“โล่งอก พี่จะไปกระจายข่าว”


ขนาดนั้นเลยหรอครับ ผมไม่ใช่แฝดมันนะครับ ผมหัวเราะแหะพวกพี่ๆ ที่ล้อมวงผมอยู่คุยกับผมซักพักก็ขอตัวไป เฮ้อ หายใจไม่ออกเลย ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ไม่เห็นมีข้อความอะไรกลับมา มันจะเป็นอะไรรึเปล่านะ


“ไอ้กลาง”


“อ้าวเบงเบง”


“กูชื่อเจ เลิกเรียกเบงเบงเหอะแม่งตุ๊ดชะมัด”


“เออโทษทีติดอะ”


“นั่งด้วยดิ”


“เอาดิ มาทำอะไรแถวนี้”


“มาหามึงนั่นแหละ กว่าจะเจอปกติถ้าเห็นไอ้เปากูคงหามึงเจอเร็วกว่านี้”


“ทำไมต้องไอ้เปาวะ” ผมเลิกคิ้วอย่างสงสัย


“ไอ้เชี่ย มีชั่วโมงไหนบ้างที่มึงไม่อยู่ด้วยกัน ถ้าไม่นับวันนี้”


เคยมีคนพูดลักษณะนี้กับผมหลายคน ผมไม่ได้สังเกตอะไรมากนักแต่ผมรู้ว่าไอ้เปามันจะอยู่รอบๆ ตัวผมเสมอ หันซ้ายก็เจอหันขวาก็เจอ แปลกนะ ทั้งๆ ที่ตอนเด็กๆ ผมมักจะไปวอแวให้ไอ้หน้าตายมันมาเล่นกับผมมากกว่า


“เว่อร์ไป” ผมตอบไอ้เจ


“แต่ก็ดีเหมือนกัน เจอหน้ามันแล้วหมั่นไส้”


“ว่าแต่มึงมีอะไรนะ”


“เออเกือบลืมเลย” ไอ้เจทำหน้าตกใจก่อนจะค้นกระเป๋ามัน ขนาดตกใจตามึงยังไม่โตเลย ไอ้เจเป็นคนลูกคนจีนครับ ตาตี่เป็นอาตี๋ ถ้ามันอ้วนกว่านี้หน่อย เด็กสมบูรณ์เรียกพี่เลยครับ


“อ่ะนี่กำหนดการประชุมงานสี่เสาวันพุธนี้สี่โมงเย็น เราจะไปกลับกับรถตู้พวกคณะกรรมการ หัวหน้าฝ่ายก็ไปกับเรา วันศุกร์เก็บของ เสาร์อาทิตย์นี้มึงก็ไปนอนที่นู่นเลย”


วันจันทร์หน้างานสี่เสาศิลปะจะมาถึงแล้วครับ ผมที่พึ่งสอบเสร็จได้พักไม่นานก็ต้องคุยงานจนสายแทบไหม้ ไลน์ที่ไม่ค่อยได้ตอบก็ต้องเข้าไปคุยไปอ่าน การทำงานกับคนกลุ่มใหญ่แถมตั้งสี่มหาลัยนี่ค่อนข้างหนักเลยครับ ขนาดไม่ใช่เจ้าภาพสถานที่นะครับแต่ก็อยู่ในฐานะประธานชั้นปีที่เป็นตัวแทนของมหาลัยยังจะบ้าตายเลย


“เออแล้วพวกแก็งคอหล่นอีกสามตัวล่ะ”


ไอ้เจพูดขึ้นหลังจากปล่อยให้ผมอ่านเอกสารซักพัก ส่วนมันก็นั่งกดโทรศัพท์ตามประสาคนติดโซเชียลไปไหนต้องอัพอยู่ตลอด
เวลา


“มันไปส่องสาว แต่ไม่ใช่สไตล์กู”


“หน้าอย่างมึงอะนะไม่สนสาว”


ไอ้เจที่นั่งข้างผมทำหน้าตกใจอีกครั้ง ตอนนี้มันเท้าคางจ้องหน้าผมอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าตอนแรกเราเกือบจะเกลียดกันแล้ว ตั้งแต่ได้ทำงานร่วมกัน ผมก็ได้เพื่อนใหม่มาอีกหนึ่ง ไอ้เจมันทำงานเก่งครับบางทีก็ดีกว่าผมซะอีก


“ไม่ใช่แบบนั้น แค่ไม่ชอบไปแบบนั้น เข้าใจป่ะ”


ผมวางเอกสารลง ไอ้เจทำหน้ากรุ่มกริ่มไม่น่าไว้วางใจ ประโยคต่อมาทำให้ผมแทบจะสำลักน้ำลายตัวเอง


“นึกว่าไม่สนสาวแต่สนหนุ่มแทน”


“ไอ้เชี่ย พูดไรวะ”


“มานี่ ในฐานะที่กูเสียดายหน้าตามึง โสดไปทำไม เดี๋ยวจัดให้”


ไอ้เจคว้าคอผมเข้ามาใกล้ในตอนที่ผมยังงงงวย มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเซลฟี่ แก้มแทบจะติดกับหน้าผม ผมเหลือบตามองมันอย่างฉงน


“อะไรของมึง”


“ไม่อะไรทั้งนั้น เอ้า ยิ้ม หนึ่ง สอง สาม”


ผมยิ้มแล้วเสียงชัตเตอร์จากโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ไอ้เจหัวเราะในลำคอก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำบางอย่างในโทรศัพท์แล้วไม่นานไอ้ข้อสงสัยที่ผมอยากรู้ก็ปรากฏบนหน้าจอ


JJ green ได้แท็กคุณในโพสต์


ไอ้เจมันลงรูปผมในเฟซบุ๊กของมันเอง รูปที่ผมกับมันหัวติดกันเหมือนแฝดนรก หน้าตายิ้มแย้มมองกล้องมีแต่ผมที่ปากยิ้มแต่หน้าตาออกไปทางงงมากกว่า
คนซ้ายยังร้าง แต่ถ้ายังว่างคนขวาเลยครับ Khonklang Kp


“เฮ้ย ดูคอมเม้นดิ ไหลเร็วเลย ทำไมทีกูโพสต์ไลค์กันห้าสิบก็ว่าเยอะแล้วนะ”


“เล่นไรมึงวะไอ้เจ”


“หาสาวให้เพื่อนไง เอ๊ะคอมเม้นนี่ผู้ชายก็มีนะ”


“สัด ไม่เอาทั้งนั้นแหละ”


Big threwa ถามคนข้างๆ หรือถามพวกกูวะไอ้เจ
Mama sang น้องกลางงงง โผล่ในเฟซบุ๊กไอจีคนนู่นคนนี้ที
Tom seam ชอบคนข้างๆ อะครับ
Fight fire สเป็คผมต้องทำไงครับ
Peper mint พี่ขอคนขวา แต่กลัวคนซ้ายน้อยใจจัง
 

“เฮ้ย เพื่อนกูทักแชทมาเลยว่ะ บอกชอบมึง แต่ไม่ใช่ผู้หญิง”


“ไอ้สัด พอเลย”


“เออแกล้งเล่น ขอถ่ายรูปมึงเรียกเรทติ้งเฉยๆ เห็นนั่งเหงา”


“เล่นหน้ามึงดิ”


“ดูทำหน้า เออกูไปละ เย็นละเนี่ย”


“เออเจอกัน”


Yes best ทำตัวแบบนี้ไอ้เปาไม่ว่าหรอ
Teletap bieee สัดเจอยากเจอดีนะมึง
Fah Fatikan สองคนนี้ยังไง เปาก็อยู่กับผู้หญิง กลางก็อยู่กับหนุ่ม


ผมอ่านคอมเม้นล่าสุดพร้อมกับขมวดคิ้ว ไอ้เปาอยู่กับผู้หญิงอะไรนะ ผมเข้าไปดูในเฟซบุ๊กของไอ้เปา รูปล่าสุดเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วมันนั่งก้มหน้าเขียนอะไรซักอย่างโดยมีผู้หญิงสาวสวยที่คิดว่าเป็นนางแบบคู่กับมันนั่งอยู่ข้างๆ เธอชะโงกหน้าดูกระดาษบนโต๊ะด้วย แคปชั่นจากคนถ่ายว่า “อยู่กันสามคนนะไม่ใช่สอง” หัวใจรูปแอปเปิ้ลของผมเหมือนโดนกัดให้เป็นรอยเขี้ยว ความรู้สึกมันแหว่งยังไงชอบกล


กระดาษสมุดบนโต๊ะพัดไปซ้ายขวาตามแรงลม ใจลอยคิดอะไรไปไกลและเรื่องพวกนั้นก็ไม่พ้นเรื่องของไอ้เปา นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยซักพัก โทรศัพท์ในมือผมสั่นขึ้นมาเกือบสะดุ้งเกือบร้องเสียงดังแล้วมั้ยล่ะ เมื่อมองจอก็เป็นชื่อของคนที่ผมกำลังคิดถึงผมตอนนี้


(อยู่ไหน)


“คณะ”


น่าแปลกที่น้ำเสียงของผมมันไม่เหมือนเดิม และคงไม่แปลกถ้าไอ้เปามันจะรู้สึก


(เป็นอะไร)


“เปล่า”


(มึงเป็นแน่ๆ อ่ะ ไอ้เจแกล้งอะไรมึงรึเปล่า)


มันคงจากรูปที่ไอ้เจแท็กผม “ไม่มีโว้ย มึงอะมีไรโทรมา” ผมกลบความรู้สึกและน้ำเสียงอย่างรวดเร็ว


(เปล่ากูเสร็จธุระละ ไปกินข้าวกัน)


“กูไม่หิว แต้งกิ้วเว้ย เดี๋ยวจะกลับละ”


(หันหลังมา)


ไอ้เปาเวอร์ชั่นโตโคตรเอาแต่ใจ บ้าด้วย และผมก็บ้าจี้หันไปตามมัน ไอ้เปาเดินตรงมาหาผม มือขวาจับโทรศัพท์แนบไว้ที่หู หน้าตาไม่สบอารมณ์ ไอ้เปามาพร้อมกับเสื้อสูทสีน้ำเงินเข้มพาดไว้ที่บ่า มันใส่เสื้อเชิ้ตมีปกเสื้อเชิ้ตแบบคอจีนสีขาว เมื่อมันเดินมาใกล้ๆ ถึงพอเดาว่ามันคงไปถ่ายแบบมาเพราะมันแต่งหน้าแถมผมยังเซ็ทเป็นทรงอีกต่างหาก


ตอนนี้เกือบจะหกโมงเย็นแล้วที่คณะค่อนข้างเงียบ ยิ่งเป็นลานม้าหินอ่อนยิ่งไม่มีคน ผมชอบตรงนี้เพราะมีร่มจากต้นไม้ใหญ่ อากาศเย็นสบาย พอพระอาทิตย์ตกจะเห็นแสงสีส้มเหมือนสปอร์ตไลท์ลอดเงาใบไม้โคตรสวยครับ


“เป็นอะไรถามคำตอบคำ แล้วทำไมต้องนั่งนิ่งให้มันกอดคอแบบนั้นวะ” ประโยคหลังดูเหมือนจะบ่นกับตัวเองมากกว่า


“ชู่ว ดูนี่สิ”


ผมชี้ให้มันดูข้างหน้า ภาพตรงหน้าเหมือนภาพวาดสีน้ำที่ผมไม่ถนัด บางทีผมชอบสีขาวดำของดินสออีอีแต่บางทีผมก็อยากเห็นสีสันจากภาพบ้าง


“สวย”


“ใช่มั้ยล่ะ”


“น่ารัก”


“เอ๊ะ...”


“เซ็กซี่”


“ไม่ใช่ละ”


ผมทำหน้าเอือมยื่นมือไปผลักหัวมันไม่รู้ตัวว่ามันจ้องผมอยู่ก่อน ไอ้บ้านี่เคยเครียดนานๆ บ้างมั้ย หน้าตาไม่สบอารมณ์ของมันเริ่มผ่อนคลาย อืม ก็ดีอย่างน้อยไอ้เปาที่ล้นๆ ก็กลับมาแล้ว


“ฮ่าๆ หน้าโคตรเหวอ แล้วคุณคนกลางมานั่งทำเอ็มวีอะไรตรงนี้ครับ”


“มารอนางเอกเอ็มวีมั้ง”


“อ้าวรอกูหรอ สวัสดีค้า”


“กวนตีน ละมึงกลับมาทำไม”


“เห็นใครบางคนนั่งเหงาๆ เพื่อนไม่มี”


“ก็เพื่อนมันทิ้งอะ”


“ไม่ได้ทิ้งโว้ย ไปทำงาน...กระทันหันไปหน่อย เนี่ยจับโทรศัพท์ก็รีบมาหาเลย”


“ทำงานอะไร”


“ถ่ายแบบไง กูไม่ได้อยากทำหรอก มัน...อะไรหลายๆ อย่าง”


ไอ้เปายักไหล่แบบไม่ใส่ใจ มันเลี่ยงที่ไม่พูดและผมก็ไม่ถามต่อ สายตามันมองไปที่แสงอาทิตย์ บรรยากาศค่อยมืดๆ มันไม่น่ากลัวหรอกแต่ไอ้คนข้างๆ ผมไม่แน่ แล้วผมก็คิดอะไรบางอย่างออก


“จะหลอกผีกูอะดิ”


และผมลืมไปว่า ไอ้เปามันรู้ทันความคิดผมเสมอ


“เปล๊า”


“แหน่ะเสียงสูง ป่ะเก็บของ ที่พูดว่าหิวอะเรื่องจริง กินข้าวให้ตรงเวลาบ้างจะได้ไม่ปวดท้อง”


ไอ้เปาช่วยผมเก็บของพึ่งสังเกตว่ามันไม่เอาอะไรมาเหมือนเคย มีแค่โทรศัพท์กับกุญแจรถ แล้วมันก็เดินนำผมออกจากลานม้าหินอ่อนแต่สองมือของมันจับข้อมือผมไม่ปล่อย โตแค่ไหนก็กลัวผีหรอเนี่ย


“หึหึ”


“หัวเราะอะไร”


“นึกถึงตอนเด็กๆ วันที่กูลืมของในห้องแล้วขอให้มาเป็นเพื่อน ไอ้เปาเด็กน้อยตัวสั่นกึกๆ เดินตามหลังกูดึงเสื้อกูซะเกือบขาด”


“แล้วมึงก็แกล้งหลอกผีกู”


“ฮ่าๆ เหมือนตอนนี้เลย”


“ไม่เหมือน”


ไอ้เปามันหยุดเดินอีกก้าวเดินก็ออกจากลานม้าหินอ่อน ลมพัดผมให้ปลิวไปมา มันหันหน้ากลับมา “ต่างกันตรงนี้” มันชูมือมันที่จับมือผมไว้ แล้วก็พูดต่อ “แล้วต่างกันตรงที่กูได้เดินอยู่ข้างหน้ามึงด้วย”
นั่นสินะ



.
.
“แอบไปกินกันสองคนอีกแล้ว”


“กินข้าวเพื่อนกินข้าว”


“อ๋อนึกว่ากินกันเอง”


“หูไม่ดีเลอออพวกมึงอะ”


พวกเรานั่งอยู่หอสมุดครบแก็งครับวันนี้มานั่งหาข้อมูลพรีเซ้นงานกลุ่ม คนที่หาข้อมูลก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจากผม นอกนั้นก็อย่างที่เห็นแซวสาว แซวคนนู้นคนนี้แล้วก็กลับมาแซวผมเหมือนเดิม


“เช็คอินก่อน อ่อยสาว อยู่ห้องสมุดกับหนุ่มฮอตทั้งหลายครับ แท็กๆ ให้หมด โดยเฉพาะไอ้เปาสาวมาตรึมแน่”


ผมส่ายหัวเบาๆ มึงต้องดูหนังหน้ามึงนะเพื่อนกล้วย เอาเถอะ เอาที่มึงสบายใจ


“กูว่าไอ้กลางต้องด่ากูอยู่ในใจแน่ๆ”


“กูปวดหัว”


“เฮ้ยมึงพอก่อนดิ อย่าเครียด”


“งานไม่เท่าไหร่ กูปวดหัวเพราะมึงเนี่ยสงสารพ่อแม่มึงด้วย”


“ไอ้สัดกลาง เดี๋ยวหาผัวให้หรอก”


“อูยยย ไอ้กล้วยดูหน้าพ่อมันด้วย”


ก่อนที่เราจะฆ่ากันตายไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงทักขึ้นด้านหลังพวกเราหยุดเล่นกันแล้วหันไปมองพร้อมกัน คนที่เดินมาทักเป็นเพื่อนร่วมคณะแต่ไม่ได้อยู่เอกเดียวกัน


“เอ่อขอโทษนะคะ เปา...”


“เอาแล้ว คนสวยมาหาต่อหน้าคนบางคนเลย...”


“มีอะไรหรอ”


“คือเรามีเรื่องจะขอให้ช่วย”


เธอดูเขินอายเมื่อต้องยืนอยู่หน้าโต๊ะผู้ชายกว่าห้าคน คาดว่าเธอคงจะนั่งโต๊ะไม่ไกลจากพวกเราเพราะเห็นเพื่อนเธอหันหน้ามาดูหลายครั้ง แต่ไม่ว่าใครก็แอบมองมาทางโต๊ะเราทั้งนั้น


“นั่งก่อนสิ”


“คือว่า...” เธออ้ำอึ้งอยู่นาน จนพวกผมต้องทำเป็นหันมาคุยกันเองเพื่อลดความประหม่าของเธอลง แต่ดูเหมือนไอ้เปาจะรอนานไม่ได้


“มีไรป่ะ”


“คือ...เราอยากให้เปาช่วยสอนเราลงสีน้ำได้มั้ย!” เธอพูดเสียงดังและเร็วพร้อมกับยกมือไหว้ แก้มเธอแดงปลั่งน่ามอง ไอ้เปาหันมามองรอบๆ โต๊ะแล้วหยุดที่ผม พอมันเห็นก็ขมวดคิ้วฉับหน้าตามันดูหงุดหงิดขึ้นมาทันที สงสัยผมจะจ้องเธอมากเกินไป มันเลยเอื้อมมือมาปิดตาผมไว้


“อะไรเนี่ย” มันชอบเธอหรอไม่อยากให้ผมมองงั้นน่ะ


“ทำงานน” มันปล่อยมือแล้วยืดแก้มผมแทน ไม่สนใจเพื่อนร่วมรุ่นที่ได้แต่ก้มหน้าอยู่ตรงข้ามกัดริมฝีปากอย่างประหม่า แล้วไอ้เปาก็เลิกยุ่งกับผม ไอ้เชี่ยเพื่อนรอคำตอบอยู่


“ทำไมต้องให้เราช่วย”


“คือว่า เราลงเรียนเพ้นท์แล้วเราไม่เก่งเรียนสีน้ำเลย ทำยังไงก็ไม่ดี เรากลัวเอฟ อ.ที่ปรึกษาเราเค้าแนะนำให้เรามาถามเปา”


“...”


“ช่วยเราเถอะ เราขอร้อง เรากลัวเอฟจริงๆ นะ เราจ้างติวก็ได้ ไม่งั้นคะแนนเราดิ่งแน่”


เธอยกมือไหว้ปลกๆ ถ้าเป็นผมก็คงจะรับปากโดยไม่ยาก เพื่อนมีปัญหาแถมสวยน่ารักขนาดนั้น ไอ้เปาไม่ตอบในทันทีแต่มันหันหน้ามาหาผม เหมือนกับอยากได้คำตอบ เฮ้ๆๆ คิดเองสิไอ้น้อง


“ว่าไง”


“ถามอะไรกูล่ะ”


“แค่นี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันละ มึงอยากให้กูสอนเค้าเพิ่มมั้ย”


ไอ้บ้านี่...เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย ส่วนเพื่อนสามหน่อของผมทำเป็นตั้งหน้าตั้งตาเปิดหนังสือ แต่หูมึงนะกระดิกเชียว


“เอ่อ..ก็...ตามใจสิ”


ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกถึงปากจะบอกไปแบบนั้นแต่ใจกลับเต้นผิดจังหวะ ไอ้เปาทำท่าคิดหนัก มันเหมือนหนักใจชั่วครู่แล้วก็ถอนหายใจ ถึงมันจะบ้าบอเข้าถึงง่ายแต่เวลานี้ก็ทำให้สาวข้างหน้าเกร็งอย่างบอกไม่ถูก


“เราว่างแค่เย็นวันพุธกับวันพฤหัส”


“ได้...ได้จริงๆ หรอ” เธอยิ้มอย่างดีใจ น้ำตาที่คลอเล็กน้อยทำเอาผมแทบจะหากระดาษทิชชู่ให้เธอแทบไม่ทัน


“อืม เอาเบอร์ติดต่อมาสิ”


“เอ่อขอกระผมแทรกนิดๆ นะคร้าบ ว่าแต่เธอชื่อไรอ่ะ หน้าคุ้นๆ” ไอ้ทัพลุกขึ้นมากอดคอส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยไปข้างหน้าอย่างปิดไม่มิด


“เราลืมเลย มัวแต่ตื่นเต้น เราชื่ออิง เอกแฟชั่นดีไซน์”


“เฮ้ย ที่ถ่ายเอ็มวีด้วยป่ะ คนดังนะเนี่ย”


“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกแค่ไปช่วยพี่ที่รู้จักกัน อ่ะนี่เปาเบอร์เรา”


“โอเค”


“งั้นเราไม่กวนละ ขอบคุณมากนะคะ”


ผมนิ่วหน้าไอ้เบสเหยียบเท้าผม ผมหันไปมองมันอย่างเอาเรื่อง ไอ้ฝัด เจ็บนะเว้ย


“ไม่โอเคก็บอกไม่โอเคดิ”


“อะไรของมึงเนี่ย เจ็บ”


ไอ้เบสยักไหล่ทำหน้ากวนตีนก่อนจะแกล้งผมโดยการถ่ายรูป มันบอกว่าเพราะผมไม่ติดโซเชียลมันเลยจะสร้างกระแสให้ผม เล่นกันไม่นานก็ถึงเวลาพักผ่อนเพื่อนผมหนังตาปิดกันทุกคน ผู้เหลือชีวิตรอดมีผมกับไอ้เปาที่หน้าตาเริ่มไม่ไหวแล้วมันนอนหน้าแนบกับโต๊ะแล้วหันหน้ามาทางผม ผมที่กำลังเปิดหนังสือพึ่บพับชะงัก


“ง่วงก็กลับมั้ย ทำงานดึกหรอวะ”


“นิดหน่อย”


“งั้นมึงนอนไป ฝืนลืมตาทำไม”


“กลัวมึงเหงา”


“ไม่เหงาเว้ย คนเยอะแยะ นอนไปๆ”


ผมวางมือบนหัวมันลูบเล่นเหมือนตอนเด็กๆ ที่มันมักจะรำคาญแล้วปัดมือผมออกตลอด ยาสระผมตรานกกระปูดแดงนี่มันขายที่ไหนวะ ทำไมผมมันนุ่มตั้งแต่เด็กยันโต



[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 14-05-2017 19:58:19
[ต่อจากด้านบนค่ะ]

.
.
ผมต้องไปประชุมที่มอไอ้คุณอาร์ตตามกำหนดการบอกในกรุ๊ปไลน์ว่ามีประชุม เพื่อนๆ ผมมันก็มีหน้าที่ต่างๆ กันครับ คอหล่นเนี่ยเป็นพี่ฐานนำเต้นสันทนาการ มันเก่งเรื่องพวกนี้โดยเฉพาะไอ้เปาที่ไม่ต้องพูดถึง ด้านชิบหาย พูดถึงไอ้เปาตั้งแต่วันนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันครับ มันต้องไปสอนอิงวันนี้วันแรก ท่าทางจะดูสนุกดี เห็นจากภาพที่พวกคอหล่นแท็กผมใต้ภาพของอิง อิงอัพภาพเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เธอถ่ายด้านข้างของไอ้เปาแล้วเขียนแคปชั่นว่าขอบคุณค่ะ มีคนแท็กผมมารัวๆ ทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ และหนึ่งในนั้นคือไอ้กล้วย


Banana boat กลางผู้ชายของมึงน่ะ
Missing youbabe สวยหล่อกันเชียว


เชี่ย ผมไม่อยากยอมรับ นี่ผมหวงเพื่อนหรอ นิสัยไอ้เล็กแบบนี้ไม่ใช่ผมเลย ทำไมผมหงุดหงิดใจแปลกๆ  ผมส่งข้อความหาพวกมันว่าจะเริ่มการประชุมแล้วก่อนกดปิดโทรศัพท์ ไอ้เจตั้งใจทำเต็มที่ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ต้องเถียงอะไรกับคุณอาร์ตเพราะเราจะทวนกำหนดการกันอีกรอบนึง ผมต้องทวนอีกสองรอบเพราะผมเป็นหนึ่งในผู้ควบคุมงาน ต้องรู้หน้าที่ของทุกคนทั้งหมด


วันเสาร์จะต้องมารันคิวงาน ส่วนวันอาทิตย์ก็เริ่มงานจริงๆ ในตอนเย็นของงานวันนั้นก็จะมีการแสดงของแต่ละมหาลัยครับ หัวหน้าฝ่ายที่มาวันนี้ก็จะนำงานไปกระจายต่อกับทีมตัวเอง วันนี้เราประชุมไม่นานผมกับไอ้เจแบกถุงเสื้อที่มีโลโก้ของงานสี่เสามาให้เพื่อนปีหนึ่ง เราช่วยกันเอาไปเก็บที่ห้องคณะกรรมการก่อนที่จะแจกวันพรุ่งนี้ที่เราจะประชุมกันอีกครั้ง ครั้งสุดท้ายแล้วครับจะเป็นไทแล้วครับ ห้องคณะกรรมการตั้งอยู่หน้าคณะเป็นออฟฟิศขนาดกลาง เดินออกมาก็เห็นไอ้เปาก็ยืนพิงรอผม แสนรู้มากเพื่อนผม ไอ้เจพอเห็นหน้าไอ้เปาก็เบ้ปากก่อนจะลาไปอีกทางนึง


“ไอ้เปา”


ผมยิ้มตรงเข้าไปหามันกะจะไปแซวซะหน่อย รู้ได้ไงว่าผมกลับถึงกี่โมง แต่ก่อนที่ผมจะไปถึงอิงก็เปิดประตูออกมาจากรถมัน ผมยิ้มค้าง


“ไปประชุมไม่คิดจะบอกกูเลยหรอวะ”


“ก็บอกไปแล้วไง”


“แต่มึงไม่ได้บอกว่าไปที่ไหน”


“ก็เห็นมึงไม่ว่างอะ”


ผมไม่เข้าใจว่าเราต้องมาอารมณ์เสียใส่กันเพราะอะไร อิงที่ยืนระหว่างผมกับไอ้เปาเริ่มทำหน้าไม่ถูก


“เปารอกลางกลับหรอคะเนี่ย ถึงว่าสอนเราถึงเย็นเลย”


ผมไม่ได้รู้สึกดีกับคำพูดของอิงเลย ผมเป็นอะไรครับ ไอ้เปาต้องรู้จักคนอื่นบ้างอยู่แล้วแต่ทำไมผมไม่โอเค มันเป็นเพื่อนผมที่วันนึงจะไปสนใจคนอื่นแล้วผมต้องคิดยังไง หงุดหงิดจนปวดหนึบอยู่ในอก


“ไปขึ้นรถ”


“ไม่เป็นไร กูกลับเองมึงไปกับอิงเถอะ”


ถ้าผมยังหาคำตอบไม่ได้ขออยู่ห่างกับมันซักพักดีกว่าครับ แต่มันกลับไม่คิดอย่างนั้น


“กลาง” ไอ้เปากดเสียงต่ำ เราสองคนสบตากันนี่ผมเป็นเพื่อนที่แย่ชะมัด ผมกดความรู้สึกไว้ให้มันหายไปทั้งสีหน้าและแววตา


“โอเค ไม่เห็นต้องทำเสียงงั้นเลย”


“ก็มึงดื้อก่อน”


ผมให้เกียรติเธอที่นั่งเบาะหน้าอยู่ก่อนแล้วมุดเข้าไปนั่งข้างหลังแทน บรรยากาศอึดอัดลอยอยู่ในรถ ไอ้เปามันคงรู้สึก ก่อนจะถึงบ้านอิงเธอชวนพวกผมกินข้าวร้านอาหารขนาดกลาง เธออยากจะเลี้ยงขอบคุณที่สอนและมาส่งเพราะรถเธอเสีย อาหารที่สั่งจัดวางอยู่เต็มโต๊ะ แล้วทำไมผมไม่รู้สึกว่ามันน่ากินเลยวะเนี่ย


“นี่เปากินนี่สิ อร่อยมากเลย ต้มยำทะเล อ่ะนี่ด้วยยำเห็ดสามรส”


ว่าแล้วเธอก็ตักอาหารไปให้ไอ้เปา ไอ้เปาที่บ้าบอวันนี้มันเงียบโคตรๆ ผมก็พูดบ้างไม่อยากทำให้บรรยากาศมันกร่อย แต่ดูเหมือนอิงจะไม่คิดอย่างนั้น เธอยังคงร่าเริงจนผมอยากจะด่าตัวเองว่าผมคิดแบบนั้นไปได้ยังไง โอ๊ย ผีนิสัยไอ้เล็กเข้าสิงหรือยังไงวะเนี่ยยย


 “ทำไมไม่กินล่ะเปา อร่อยมากนะ กินๆๆ” เธอคะยั้นคะยอให้ไอ้เปายกช้อนที่เต็มไปด้วยเห็ดขึ้นมาทาน มันคงรู้และไม่ต้องให้ใครบอกนะว่าควรจะกินหรือไม่กิน ไอ้เปายังคงนิ่งมันมองผมเหมือนลองเชิง จะเล่นอย่างงี้หรอ ผมตักอาหารมากินหลบสายตามัน ไม่คิดว่าวินาทีต่อมาไอ้เปาจะคว้าช้อนนั้นแล้ว


“เฮ้ย คายออกมาเดี๋ยวนี้”
ผมตกใจพร้อมกับจับข้อมือมันเอาไว้ นี่มันเอาจริงหรอเนี่ย มันไม่ตอบพร้อมกับตั้งหน้าตั้งตาเคี้ยว


“มีอะไรคะกลาง”


“เปา” ผมเครียดไอ้เปามันดื้อ “คาย ถ้ามึงกลืนกูจะไม่คุยกับมึง”


กึก


ไอ้เปามองผมตาขวาง ท่ามกลางความงงของอิง ผมรองกระดาษทิชชู่ไว้ที่ปากมัน สุดท้ายมันก็ยอมคายออกมา แอบเห็นอิงเบ้หน้าเล็กๆ ผมไม่รังเกียจหรอก อ้วกมันยังเคยเช็ดมาแล้ว


“ขอโทษนะอิง ไอ้เปามันแพ้เห็ดน่ะ”


“จริงหรอเนี่ย เฮ้ยเราขอโทษทำไมไม่บอกกัน”


“ก็นึกว่าไม่สนใจกันซะแล้ว”


ไอ้เปาพูดขึ้น กวนตีน มันทำอย่างงี้เพราะผมไม่คุยกับมันอ่ะนะ ไอ้บ้าดีเดือด ล้นไม่มีใครเกิน ผมส่งน้ำให้มันล้างปากจ่อจนกว่ามันจะดื่ม เหตุการณ์บนโต๊ะอาหารจบลง อิงขอโทษไอ้เปาใหญ่ เธอหน้าเสียแต่ไอ้เปาบอกปัดว่าไม่เป็นไร เธอยกมือไหว้หลายรอบจนผมหัวเราะนี่อิงคงจะติดไหว้ล่ะสิ จากนั้นเราก็ไปส่งอิงกลับบ้านครับ


“เป็นอะไรไหนบอก”


“...”


“ไอ้กลาง”


“ไม่รู้ดิ”


“กลาง”


“ก็กูไม่รู้จริงนี่หว่า เอางี้ถ้ารู้กูจะบอกมึงคนแรก”


หวังว่ามันจะเข้าใจผมนะ


“ก็ต้องกูคนแรกสิวะ”


“แน่นอน”


.
.
ไม่อยากยอมรับว่าเพื่อนวัยเด็กของผมคนนี้มีอิทธิพลกับผมมากขนาดนี้ มันทำให้ผมนอนไม่หลับ หลังจากเรียนคาบเช้าเสร็จผมก็แบกหน้าตาเป็นซอมบี้ไปเปิดการประชุม วันนี้เพื่อนทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมมาพร้อมหน้า ห้องประชุมของเราเป็นโถงปิด ผมพูดไม่รู้เรื่องจนไอ้เจต้องแย่งไปพูดเอง


“ทั้งหมดก็มีแค่นี้ เจอกันวันอาทิตย์ตีห้านะครับทุกคน”


“ตีห้าไม่ถึงก็จวน”


“คิดทบทวน”


“เรื่องฝันชะนี” กูว่าไม่มีนะมึงไอ้อันหลังเนี่ย


“กรุณาฟังด้วยครับ” ไอ้เจตบโพเดียมกึกๆ ผมหลุดหัวเราะเพื่อนคอหล่นของผมนี่มันเคยจริงจังอะไรมั้ยเนี่ย “สุดท้ายนี้มีใครจะถามอะไรมั้ยครับ”


“ถามประธานครับ”


ไอ้ทัพกับไอ้กล้วยส่งเสียงอยู่ด้านหลัง “ถามว่า ถ้าเหงาทักไลน์ แล้วถ้าแครายไปยังไงครับ” ไอ้กล้วย มึงนะมึงเพื่อนในโถงหัวเราะกันยกใหญ่ ผมทำหน้าไม่ถูกอยู่ข้างหน้าเหลือบไปเห็นคนที่นั่งข้างพอจะห้ามปรามได้แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นชนวนให้โดนล้อ ผมเลยเรียกมัน


“ไอ้เปาจัดการดิ๊”


“ว้ายยยยยยยยยยย เรียกผัวเอสโอเอสทันที”


“ง่อววง่าสสสส์”


“ได้ จะ ‘จัด’ ให้หนักเลย”


“ฮิ้วววว”


“เดี๋ยวครับเพื่อนเปาจัดการไอ้กล้วยหรือจัดการประธานอะค้าบบบ”


“จัดประธานดีกว่าพวกมึงเยอะ”


ไอ้พวกเพื่อนเวร!!!!



.
.
“กลางมึงไม่รู้สึกอะไรหรอวะ ไอ้เปานั่งกับสาวนะเว้ย”


ไอ้เบสถามเมื่อเราต้องนั่งรอไอ้เปาสอนอิงวาดสีน้ำ ตอนนี้ผมกับไอ้เบสนั่งโต๊ะถัดจากไอ้เปากับอิง หลังการประชุมและวิ่งไล่เตะไอ้พวกเพื่อนๆ แล้ว ผมก็มานั่งรอไอ้เปาเพราะมันบังคับให้รอส่วนไอ้เบสวันนี้มันจะตามติดชีวิตผมครับ


“รู้สึกไรวะ”


“ไม่ต้องมาไก๋ หน้าตาไม่สบอารมณ์ขนาดนี้ มีไรปรึกษากูได้ เห็นมึงเป็นงี้เพื่อนก็ไม่สบายใจนะเว้ย”


ไอ้เบสยืดอกพร้อมกับตบลงบนอกล่ำของมันสองสามที หรอวะ กูถามมึงได้ใช่มั้ยเนี่ย ท่าทางมันจริงจังจนผมกระแอมเริ่มต้นจริงจังไปกับมัน


“กูไม่รู้ว่ะ ว่ากูเป็นอะไร”


“งั้นมึงตอบคำถามกูใช่หรือไม่ใช่ไอ้หมาขี้สงสัย” ผมพยักหน้าหงึกหงัก


“มึงไม่โอเคที่มันสนใจคนอื่น”


“อืม” ใช่เวลามันสนใจคนอื่นนอกจากผม ผมรู้สึกว่ามันไม่ให้ผมแค่คนเดียว


“มึงดีใจเวลามันเป็นห่วง”


“อืม” มากๆ กลัวด้วยเวลามันดุ


“มึงอยากแชร์เรื่องทุกอย่างกับมัน”


“...” แน่นอนอยากให้มันรู้นี่นา


“มึงนึกถึงมันคนแรก”


“อะไรดีๆ กูก็นึกถึงมันนะ”


“เอาล่ะ ยินดีต้อนรับสู่ทางสีม่วง”


“เฮ้ยๆ เดี๋ยวดิเรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะเว้ย แล้วพวกมึงก็เป็นเพื่อนกูเหมือนกัน กูอาจ...กูก็คิดถึงพวกมึงนะ...”


“นึกดีๆ ไอ้กลาง กูว่าพวกกูกับไอ้เปามันมีความแตกต่างกันอยู่นะ ลองสังเกตว่าใครให้มึงมากที่สุด หรือใครที่มึงอยากให้มากที่สุด”


“แต่มันเป็นเพื่อนกูนะเว้ย เป็นเหมือนน้องกูด้วย”


ผมว่าเราอยู่ด้วยกันมานาน ดูแลกันมาตั้งนานจนไม่รู้สึกว่ามันแปลก พอไม่เจอกันมาตั้งหกปีผมกลับไม่รู้สึกว่าเราแปลกหน้ากันไปกลายเป็นแค่อีกคนที่โตขึ้นแค่นั้นเอง


“มึงถามตัวเองดีกว่าว่ามึงอยู่กับมันแล้วเป็นยังไง แต่ที่แน่ๆ กูชอบที่มึงอยู่กับมันนะ” หรอวะ อันที่จริงผมก็ชอบที่ผมอยู่กับไอ้เปานะ


“แล้วกูอยู่กับมันเป็นยังไงวะ” ทำไมต้องทำหน้าเอือมใส่กูขนาดนั้นอ่ะไอ้เบส


“เอางี้มึงเข้าไปดูแท็กนี้ในไอจีเฟซบุ๊กก็ได้ มีเพื่อนในคณะส่งให้กูดู ถ้ามึงอยากรู้ว่ามึงสองคนเวลาอยู่ด้วยกันมันเป็นยังไง”
แท็กคูก้าโคอาล่ามาร์ชที่แผ่หลาบนจอโทรศัพท์ของไอ้เบส


“ไอ้เบส...มึง”


“ไม่ต้องขอบคุณกูหรอก”


“มึงมีสาระไม่เหมือนเพื่อนกูเลย องค์ใครลงออกมา”


“ไอ้สัดกลาง ไม่คุยแม่งละ งอน”


“โอ๋ๆๆๆ เพื่อนกลางขอบคุณเพื่อนเบสครับ อารมณ์ดีขึ้นเย้อเลยยย” อย่างน้อยผมก็พอจัดการความรู้สึกที่เป๋ไปมาได้ ถึงจะไม่เคลียร์ทั้งหมดแต่ผมก็โอเคขึ้นมากแล้ว


“เชี่ยอย่าเข้าใกล้กูมาก เดี๋ยวไอ้เปามันฆ่ากูพอดี”




.
.
“ไอ้เปา วันเสาร์กูจะไปนอนที่นู่นนะ”


ผมบอกลอยๆ หลังจากที่แยกย้ายกับอิงและไอ้เบสที่มหาลัยตอนนี้เรานั่งดูหนังอยู่ในห้องผมครับ ไอ้เปาเนี่ยมันมาบ่อยกว่าไอ้โจ๊กอีก บางวันก็มานอนบ้างแล้วแต่อารมณ์ถ้ามันไม่ได้ไปทำงานมันจะมาเคาะห้องผมอยู่เรื่อยเลยครับ ไอ้เปาหยิบขนมเข้าปากกร๊วมๆ ก่อนจะหันมาถามกลับ


“นอนไหน”


“ก็นอนที่มอxxxไง”


“ทำไมต้องนอน”


“ก็เคยบอกไปแล้วไง เตรียมงาน”


“เตรียมไรนักหนางานเนี่ย ไม่ต้องทำไรกันเลยใช่มั้ย”


“แล้วต้องทำอะไรกันอ่ะ” ผมยิ้มล้อเลียนปกติไอ้เปามันเป็นพวกพูดให้คนฟังคิดลึกอยู่ด้วย คราวนี้ผมขอลองมั่ง


“กลาง เดี๋ยวนี้หัดเป็นคนพูดอะไรแบบนี้แล้วหรอวะ” ท่าทางมันซีเรียส


“ทีมึงยังพูดได้”


“อย่าไปพูดแบบนี้กับใครนะ เดี๋ยวเค้าคิดลึก”


“แล้วมึงอ่ะคิดรึเปล่า”


ไอ้เปาทำหน้าตกใจสุดขีด หูมันแดงขึ้นเหมือนมะเขือเทศเหมือนตอนที่มันต้องออกไปท่องอาขยานหน้าห้องเลย


“ล้อเล่น ทำหน้าตกใจไปได้”


“ล้อเล่นก็ไม่ได้!”


จู่ๆ มันก็ตะโกนขึ้นทำเอาผมตกใจสะดุ้งโหยง ไอ้บ้านี่ มันนั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟาสองมือกอดหมอนหน้ามุ่ยแถมจ้องผมเหมือนผีเข้า


“ทำไมล้อไม่ได้”


“เพราะกู...”


มันเลื่อนตัวเข้ามาใกล้ผลักผมให้หงายหลังโดยไม่ทันตั้งตัว ชะ...เชี่ย ท่านี้มันล่อแหลมเกินไปแล้วนะเว้ย ใจผมเต้นระรัวเหมือนมีคนมาตีกลองอยู่ใกล้ๆ ไอ้เปายิ้มเย็นก่อนกักตัวผมไว้


“ไอ้เปา...อะไรของมึงวะ” ทำไมเสียงผมมันเบาอย่างนั้นวะ เชี่ยไม่คูลเลย


“ที่ล้อเล่นไม่ได้เพราะกูคิดจริงไง” มันยิ้มเหี้ยมแล้วค่อยๆ ก้มหน้ามาจนแทบจะติดกับหน้าผมแล้ว ไอ้เปาโว้ยย


“ไม่เล่นนะเว้ย”


“เมื่อกี้ยังจะเล่นอยู่เลย”


เมื่อคิดว่ามันจะทำอะไรต่อไป ผมก็รู้สึกปั่นป่วนในท้อง “ขอ...ขอโทษๆ ไม่เล่นจริงๆ”


“มึงต้องหัดรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง มาทำหน้าอ้อนแบบนี้ใช้ไม่ได้”


“อ๊ากกกปล่อยๆๆๆ ยอมแล้วๆๆๆ”


ผมดิ้นเพราะไอ้เปามันเอาจมูกมาไล้ที่คอผมแถมมือสองข้างยังจั๊กกะจี้ตัวผมไม่หยุด


“อย่ามาลองดีกับคนอย่างปรมัตนะครับคุณ”


“ปล่อยเว้ยยย ไอ้เปา อ๊ากกก ยอมแล้วๆ”


“รับปากห้ามไปทำแบบนี้กับใคร”


“ก็กับมึงคนเดียวป่ะวะ” คนอื่นกูจะไปกล้าเล่นแบบนี้หรอ อายตายเลย แต่คำตอบกลับยิ่งทำให้ไอ้เปากุมขมับ มันหยุดแกล้งผม พอมันปล่อยตัวผมก็ขยับไปชิดอีกฝั่งของโซฟา หน้าอกกระเพื่อมเหมือนไปวิ่งหลายร้อยเมตร


“มึงนี่น้า...”


ไอ้เปาเอามือปิดตาพร้อมกับส่ายหัว มันคงจะเอือมกับผมมากแต่ทำไมมุมปากมึงถึงยิ้มวะแถมหูยังแดงไปหมด


“ไอ้เปา” เป็นผมที่ขยับเข้าไปใกล้มันอีกครั้ง มันยังไม่เอามือออก ผมจับมือข้างที่ปิดตาของมันไว้แล้วตั้งใจถามคำถามนึง


“ไอ้เปา กูถามหน่อยดิ”


“อะไร”


“มึงอยู่กับกูแล้วมีความสุขมั้ย”


“โอ๊ย กูจะบ้าตาย พูดแต่ละอย่างออกมาเนี่ย” มันพึมพำแถมปิดตาแน่นกว่าเดิม


“ตอบเร็ว”


“มึงเดาเอาสิ”


“กูไม่รู้หรอก แต่กูอยู่กับมึงแล้วมีความสุขนะ”


“!!...มึงจะทำให้กูหัวใจวายตาย” มันเอามือออกทำให้ตอนนี้สายตาเราสบกันแบบไม่มีอะไรกั้นแล้วก็พูดต่อหน้าตาจริงจังจนผมอดจะกลืนน้ำลายไม่ได้


“เวลากูอยู่กับมึง มึงดูไม่ออกหรอวะว่ากูมีความสุขมากแค่ไหน”


=======
 :L1:
สงสารน้องเค้านะคะ 55555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (11-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 14-05-2017 20:21:49
ถ้าเราเป็นเปาเราช็อคตายแล้วววว
กลางลูกกกกก แค่นี้เปาก็อดใจไม่ไหวแล้วว5555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Tuffina ที่ 14-05-2017 22:00:15
ฮื้อออออออ เค้าแสดงอาการขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีกหรอคะคนกลางงงง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-05-2017 22:20:01
คนกลางจะมีแฟนแล้ว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 14-05-2017 22:21:23
ฟินจนระเบิดตัวเองเลย :hao6:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 14-05-2017 22:43:11
ทำไม....เหมือนยังไม่สุด แค่อยู่ด้วยแล้วมีความสุขหรอ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-05-2017 22:52:25
แฟนกันมากกกกกกก  :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 14-05-2017 22:53:54
ฮัลโหลลล เปายังอยู่ดีมั้ยลูกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 14-05-2017 23:11:22
คนกลางน่ารักมากก ถามอย่างนี้เปาก็ไปไหนไม่รอดแล้ว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 14-05-2017 23:11:46
เปา ยังโอเคไหม ฮัลโหลววว ตอบที เจอคนกลางแอทแทค ดาเมจรุนแรง ตายสิคะ ใจจะวาย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 14-05-2017 23:22:47
อุ๊ตะ พี่คนกลางยอมรับใจตัวเองไวมาก แถมเวลาจะรุกน้องเปานี่ก็จัดหนักเลยนะคะ
ยังนึกภาพไม่ออกเลย คู่นี้จะหวานกันยังไง ออกแนวรักนะจึงหยอกเล่น แต่เทคแคร์ดูแลเกินร้อย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 14-05-2017 23:24:57
โอ้ยยยยยเขินน น้องกลางคะ เปามันก็ชัดเจนขนาดนี้แล้วนะคะ :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 14-05-2017 23:43:15
เปาต้องมีความอดทนมากแค่ไหนอ่ะ แค่นี้เรายังจะหัวใจวายตายเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-05-2017 00:24:41
คนอะไรอ้อยคว่ำไม่รู้ตัวตลอดๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 15-05-2017 01:02:47
กลางจำเป็นต้องอ้อยกันขนาดนี้มั้ยคะ
เปาคือเขินตัวจะระเบิดแล้วอะ
โถถลูกกก อดทนนะคะ ใกล้แล้ว ใกล้ได้มาแล้ว
คนกลางของเราเริ่มรู้ตัวแล้วววว
เปาผู้น่าสงสารรร ฟินสุดแต่ต้องอั้นเอาไว้555
ขอฉากต่อไปค่ะะะ ขอเปาเขินเยอะๆ
นางน่าเอ็นดูมากอะ งืออออ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-05-2017 01:04:10
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 15-05-2017 01:17:11
 :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: rikulism♡ ที่ 15-05-2017 01:19:22
ง่อออวววน่ารักกก นุ้งกลางอ่อยไม่รู้ตัวเลยนะเรา ไร่อ้อยคว่ำเลยจ้า :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: pearlypear ที่ 15-05-2017 01:25:05
งืออออ ละมุนมากมาย :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 15-05-2017 11:07:21
ปล้ำเลยเปา 55555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 15-05-2017 14:01:39
คนกลางรุกหน้าตายยยย. แบบแต่ละคำพูดดดด.  เปาตายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-05-2017 14:28:40
เอาเลยจัดๆ 55555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 15-05-2017 20:13:47
ชอบความสัมพันธ์ของคนกลางกับเปาจังค่ะ
ติดตามอย่างใกล้ชิดอยู่นะคะ :)
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: __jitlada ที่ 15-05-2017 21:36:34
สงสารเปาต้องอดทนแค่ไหน555555555  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 15-05-2017 22:58:48
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Phetploy ที่ 15-05-2017 23:48:41
โอ้ยเขินมากค่าาา ฮือออออออ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-05-2017 00:31:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mjpnta ที่ 16-05-2017 14:27:26
งื้ดดดดด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 11 หน้า 9 (14-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: appattap ที่ 17-05-2017 19:50:44
แบบนี้เค้าเรียกว่า อ่อย รึเปล่าอ่ะ กลางงงงงง เขิน เขินไปหมดแล้วววววววว
ชอบเพื่อนแต่ละคนมากกกกกกกกก จังหวะมันได้ อ่านละเห็นภาพความจริงเวลาเพื่อนแซว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 18-05-2017 22:24:41
12
ความรู้สึกของคนกลางใจ



ขณะนี้วันเสาร์สิบโมงเช้าที่แสนสุข ผมกับเพื่อนที่มีหน้าที่เตรียมงานมาถึงมอxxแล้วครับ เชี่ยโคตรง่วง ผมเบื่อการนอนตื่นเช้าของตัวเอง ให้ตายเถอะ ผมแบกเป้ขนาดกลางเหมือนคอนเซ็ปต์ตัวเองขึ้นบ่าก่อนจะเดินตามพวกคณะกรรมการเข้าโรงแรม มอนี้เขาหรูครับ มีโรงแรมเป็นของตัวเองให้เด็กได้ฝึกเรียนรู้งานโรงแรม ทางประธานชั้นปีอย่างคุณอาร์ตก็จัดที่พักให้ผมกับเพื่อนคณะกรรมการห้าห้องรวมถึงอีกสามมอด้วย เรามากันเก้าคนครับจริงๆ แล้วมีสิบสองแต่ว่าอีกสามคนบ้านมันไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่เลยขอไปกลับดีกว่า


ปึก


“ง่วงหรอคุณ”


“เอ่อ นิดหน่อยครับ”


ผมเดินชนหลังของคนข้างหน้า ไอ้คุณอาร์ตประธานมอxxเหลือบตามองผมพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้า ผมก็ตาโตสิครับ หมายถึงอะไรคุณอาร์ต


“เอามานี่สิ ผมช่วยถือ”


มันคงหมายถึงแฟ้มเอกสารกำหนดการที่ผมกำลังถือไว้ “เอ่อไม่เป็นไร”


“มาสิ เดินง่วงอย่างนี้เดี๋ยวก็ไม่ถึงห้องหรอก ตกบันไดก่อน”


“ไม่เป็นไรค้าบบ คุณประธานอาร์ตเดี๋ยวผมดูแลเพื่อนผมเอง”


ไอ้เจที่โผล่มาได้จังหวะก็เบียดคุณอาร์ตซะกระเด็นแถมยังยกมือมากอดคอผมทำหน้ากวนตีนอีก เชี่ยเจเดี๋ยวเขาก็รู้หมดว่ามึงไม่ชอบขี้หน้าเขา


“อ๋องั้นหรอ ดูแลให้ตลอดแล้วกัน เจอกันครับคุณกลาง”


ทะ...ทำไมผมเห็นสายฟ้าออกจากตาพวกมันสองคนวะครับเนี่ย โคตรน่ากลัว ไอ้พวกอีโก้สูงพวกนี้


“แบ่งห้องตามนี้นะ เจอยู่กับรัน เพียวกับฟ้า...”


ไอ้เต้นเดินถือเอกสารมาจากล็อบบี้แล้วเริ่มอ่านรายชื่อพร้อมกับแจกกุญแจห้อง ถ้ายังจำกันได้ไอ้เต้นเป็นคณะกรรมการนักศึกษาครับ วันนี้มันมาในมาดคุณชายแต่งตัวเนี้ยบ แต่ต้องให้เขาหน่อยมามออื่นก็ต้องจัดเต็มเต็มยศ สาวมอนี้ติดอันดับสาวมหาลัยหน้าตาดีนะครับ ส่วนมอผมหรอเท่าที่เห็นมีแต่คนอินดี้ อย่างไอ้เปาเป็นต้น เอ๊ะ แต่มันไม่ใช่ผู้หญิงนี่นา


“เดี๋ยวๆ ทำไมกูไม่ได้นอนกับไอ้กลางอะ”


ระหว่างที่ผมคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไอ้เจถามขึ้นมาอย่างสงสัย จะว่าไปนอกจากเพียวแล้วมันสนิทกับผมมากที่สุดในคณะเดินทางนี้แล้ว 


“ก็ไอ้กลางนอนกับเปาไง นี่เขียนไว้แล้ว”


เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ ไอ้เปามันเกี่ยวอะไรด้วยครับ เท่าที่ผมจำได้ไม่มีชื่อมันอยู่ในหัวหน้าฝ่ายนะ ผมขมวดคิ้วแต่ก็แอบขำเพราะไอ้เจทำหน้างงกว่าผมอีก


“อ๋อ พอดีมันมาแทนหัวหน้าฝ่ายสันฯ อะ ไอ้กีวี่มันท้องเสีย” ไอ้เต้นตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ


“งั้นหรอ”


คนอื่นก็ยังไม่มั่นใจครับ ไอ้เปามันไม่ได้ร่วมประชุมกับเรานานนับเดือนให้ใครไม่รู้มาแทนแบบนี้ถ้างานมีปัญหาจะแย่เอาครับ ยิ่งประธานคณะสินกำของผมเนี่ยโคตรเข้มก็พี่ซัน พี่รหัสไอ้เต้นมันน่ะครับ พี่คนนี้มันเงียบโคตรๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนเลือกตั้งให้เป็นประธาน


“เรื่องกำหนดการรันคิวไม่มีปัญหาไอ้เปามันรู้เรื่องหมดละ ส่วนพี่ซันก็รับรู้เรียบร้อยออกคำสั่งเองด้วย” ไอ้เต้นบอกเสร็จสรรพพอได้ยินชื่อพี่ซันทุกคนก็พยักหน้ารับรู้กันเบาๆ แม้จะมีหนึ่งคนที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก


“แล้วนี่มันอยู่ไหน” ท่าทางไอ้เจจะไม่สบอารมณ์มันทำหน้ากวนๆ พร้อมกับเท้าเอวมองซ้ายขวาหาไอ้ตัวปัญหา ผมก็ลืมไปครับไอ้สองคนนี้มันเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งนาน


“อยู่ตรงนี้ไง” ไอ้เปาโผล่มาด้านหลังผมแล้วยกแขนไอ้เจทิ้ง เอ่อ สถานการณ์คุ้นๆ เหมือนที่ไอ้เจเบียดคุณอาร์ตกระเด็นเมื่อกี้ กรรมตามสนองแล้วเพื่อนเจ


“เอ่อ ไหนๆ ก็มาครบแล้วไปเก็บของกัน แล้วเราจะเดินไปจัดของที่ซุ้มเรา หลังกินข้าวเที่ยงนะเจอกันที่ล็อบบี้”


“ไปเถอะกลาง”


ไอ้เปากอดคอผมเดินชนไหล่ไอ้เจขึ้นบันไดก่อนจะยักคิ้วแบบกวนๆ ไอ้เจพยายามถลึงตาแต่ด้วยความที่มันตาชั้นเดียวเลยเป็นภาพที่ดูตลกๆ มันได้แต่ขบเคี้ยวฟันเหวี่ยงกระเป๋าใส่หลังแล้วเดินไปกับรันอย่างหงุดหงิด ส่วนเพียวก็ยืนยิ้มโบกมือให้ผมกับไอ้เปาหยอยๆ ห้องของผมกับไอ้เปาอยู่ชั้นสามครับติดกับห้องของเพื่อนอีกมอนึง งานสี่เสาวันพรุ่งนี้มีสี่มหาลัยร่วมมือกันไม่แปลกที่ในโรงแรมจะเต็มไปด้วยนักศึกษาที่ผมพอคุ้นหน้าจากการประชุมบ้าง ส่วนไอ้เปาก็เดินไม่สนใจใครทั้งนั้น ระหว่างทางมีสายตาที่แอบมองมันหลายคู่ เออไอ้หล่อ เดินกันไม่นานก็ถึงห้องพักขนาดมาตรฐานแต่ก็หรูอยู่เหมือนกัน


“มาได้ไงวะเนี่ย” ผมเริ่มต้นบทสนทนา ไอ้เปาที่กำลังเอาของใช้ออกจากกระเป๋าเงยหน้าขึ้นมามองผมแวบนึงก่อนจะก้มลงไปจัดการของมันต่อ 


“มาได้ละกัน แม่ง กว่าจะขอร้องพี่ซันได้” มันพูดงึมงำในลำคอจับคำไม่ได้หรอกครับ


“หือ ยังไงนะ”


“เปล่าไม่มีอะไร”


“มึงทำอะไรป้ะเนี่ย”


ผมหรี่ตาอย่างไม่ไว้วางใจ ผมรู้ว่ามันไม่พอใจที่ต้องมาทำงานงกๆ แต่ถึงขนาดลงทุนตามมาด้วยนี่บ้ามากเลยนะ


“เปล่า ไม่ดีใจหรอกูมาด้วยเลยนะ”


“มึงเป็นใครอะ ทำไมกูต้องดีใจ”


“เป็นเดือนคณะ”


“จะอ้วก มาเรียกเรทติ้งหรอ” หมั่นไส้ครับตั้งแต่เดินเข้ามามีใครบ้างที่ไม่มองมัน


“ตัวเองหึงเค้าหราจ๊ะ”


ไอ้เปาเริ่มทำตัวกวนตีนด้วยการใช้ปลายนิ้วชี้มาสะกิดคางผมอย่างหยอกล้อ ไอ้สาด กูไม่ใช่สาวน้อยนะเว้ย


“เชี่ย ขนลุก”


“ขนลุกเลยหน้าแดงเลออ” ไอ้คำว่าเลอเนี่ย ขายทิ้งพร้อมแก๊งคอหล่นได้มั้ย พูดกันจังเลอ


“รำคาญญญ”


หลังจากนอนพักไม่นานเราก็ลงไปกินข้าวแล้วก็ต่อด้วยจัดซุ้มกิจกรรม ซุ้มของมอผมอยู่ลานกิจกรรมเยื้องกับคณะศิลปกรรมของมอxx ซุ้มเรามีหลายกิจกรรม เราต้องแยกเพื่อนที่คละมหาลัยกันแล้วเป็นหลายกลุ่มเวียนกันไปจะได้สนุก ไอ้เปามันก็ทำหน้าที่หัวหน้าสันฯได้ดีครับ ขนาดพึ่งมาก็ไปนู่นไปนี่เหมือนรู้ดีนัก ส่วนพวกที่มาทำงานก็มองมันตาเคลิ้ม สาวๆ จากมอxxที่มาช่วยพวกเราส่วนหนึ่งก็อายม้วนกันไม่หยุด ยืมมองภาพเหล่านั้นแล้วก็ได้แต่คิดว่าผมเห็นหน้ามันทุกวันบางทีก็ลืมไปว่าไอ้เด็กนกกระปูดเนี่ยมันไม่ใช่คนธรรมดาแล้วนะเดี๋ยวนี้


ขณะที่ผมกำลังยกโต๊ะกั้นสำหรับวางเกมกินวิบาก ฟ้าก็เดินมาหาผม ฟ้าอยู่คนละสาขาครับแต่ด้วยความที่ทำงานด้วยกันบ่อยเราเลยคุยกันได้


“กลางๆ”


“ว่าไง”


“เดี๋ยวกลางไปหาคุณอาร์ตแทนเราทีดิ เราจะไปติดต่อเรื่องสวัสดิที่ซุ้มมอdd”


“อ๋อได้ๆ ”


ฟ้ายื่นสมุดลายคิตตี้ใส่ในมือผม ก่อนจะวิ่งตึกตักจากไป เหมือนละครที่ผมหันไปมองช้าๆ เดี๋ยวนะผมควรจะรีบไปเหมือนกัน มาช้าไอ้คุณอาร์ตโคตรเข้มคงจะได้ว้ากผมน่าดู ผมเดินเข้าไปฝั่งกลุ่มทำงานของมอxxที่อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อายุเกือบร้อยปีของมหาลัย โห เด็กมหาลัยนี้เขาคัดหน้าตากันหรอครับ มีสไตล์กันทั้งหญิงทั้งชาย แล้วผมที่ชอบงานพอร์ทเทรตจะเหลือหรอ โอ๊ย คนนั้นก็หน้าเก๋อยากวาดรูปชะมัด ผมเผลอมองสติแทบไม่อยู่กับตัว ผมสเก็ตโครงหน้าเก๋ของเพื่อนมอนี้ไว้ในกระดาษสมุดคิตตี้ เอ่อ ของฟ้านี่หว่า เดี๋ยวค่อยฉีกละกันนะฟ้า


“คุณกลางนี่ชอบคิตตี้หรอครับ”


“เฮ้ย!!”


ผมร้องเสียงดัง ไอ้คุณอาร์ตน่ะสิครับยื่นหน้าผ่านไหล่มาดูรูปที่ผมกำลังวาด รู้สึกถึงแก้มมันที่เฉียดผ่านแก้มผมไป มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเลย เพื่อนมันที่นั่งทำงานกันอยู่แถวนั้นหันมามองที่ผมกันหมด ไม่เข้าใจว่าส่งยิ้ม ทำหน้ากรุ้มกริ่มอะไรกันขนาดนั้น คนนั้นที่ผมแอบวาดอยู่หันหน้าไปอีกด้านแล้ว  แม่งไอ้คุณอาร์ตขัดจังหวะจริง


“ขอโทษๆ ทำไมต้องทำหน้าโกรธผมขนาดนั้น”


“แล้วคุณอาร์ตมีอะไรรึเปล่าครับ”


“อ๋อ พอดีจะปรับเปลี่ยนที่กันนิดหน่อย ฝ่ายพยาบาลจะอยู่ตรงโต๊ะนี้นะครับ ที่เดิมที่เราวางแผนกันไว้มันออกจะไกลไปซักหน่อยเลยขยับเข้ามาใกล้ๆ”


“โอเคครับได้เลย”


ผมก้มหน้าจดรายละเอียดที่เปลี่ยนใหม่ยิกๆ ไอ้คุณอาร์ตก็พูดไปด้วยชี้ไปด้วยครับ สมองอย่างไอ้คนกลางเนี่ยจะจำอะไรได้มากเท่าไหร่ผมเลยใช้วิธีวาดร่างคร่าวๆ


“แล้วก็สวัสดิการของฝั่งนี้จะประจำอยู่มอละทีมเลยนะครับ”


“โอเค”


“...”


ผมเงยหน้าจากกระดาษที่กำลังจดอยู่ก็พบว่าคุณอาร์ตกำลังจ้องหน้าผมอยู่ ลมที่พัดจนตัวผมแทบปลิวทำให้ไม่ได้ยินที่คุณอาร์ตพูดแน่ชัด ผมเลยถามย้ำเผื่อฟังพลาดตรงไหน


“มีอะไรอีกมั้ยครับ”


ไอ้คุณอาร์ตไม่ตอบกลับในทันทีแต่กลับยื่นมือมาหยิบอะไรบางอย่างบนหัวของผม ขณะนั้นลมก็พัดมาอีกระลอก ผมได้ยินเสียงโห่ฮามาจากไกลๆ  แต่เสียงคุณอาร์ตนี่ดังใกล้ชะมัด


“ใบไม้น่ะ”


“อ๊ะ ขอบคุณครับ”


แต่เสียงที่ดังแหวกอากาศมาเป็นเสียงที่ดังชัดที่สุดครับ


“กลาง!!”


“อะ...ไอ้เปา”


ไอ้เปาก้าวอาดๆ มาทางผม สาวๆ ที่นั่งทำงานหันมามองไอ้เปากันหมด เฮ้ๆ ทำงานสิครับคุณ เดี๋ยวกรรไกรก็เฉือนมือหรอก


“มึงทำไรตรงนี้นานวะ ทางนู้นมีคนเรียกหาอยู่” ปากมันก็พูดแต่ตาจ้องเขม็งไปทางไอ้คุณอาร์ต ฝั่งทางนี้ก็ไม่แพ้กัน คุณอาร์ตดันแว่นขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเลิกคิ้วส่งกลับไป นี่คือคุยกันแบบไม่ออกเสียงใช่มั้ย จะได้เอาไปใช้บ้าง


“เอ่อ นี่คุณอาร์ตประธานชั้นปีที่นี่ แล้วนี่เปาเพื่อนผมเอง”


“หวัดดีครับ”


“...” กริบ


“ไอ้เปา” ผมเอื้อมมือไปตบหลังมันเบาๆ ไอ้เปาหันมามองผมด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์แล้วมันก็หันไปทักทายคุณอาร์ตพร้อมกับหน้าตาหงิกงอเป็นบ้าบออยู่คนเดียว


“เออดีเว้ย”


“นี่คุณเปาทำงานตำแหน่งอะไรครับ ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้า”


“อ๋อเปาเป็นหัวหน้าสันฯ น่ะ” ผมชิงตอบแทนเมื่อเห็นว่าไอ้เปาเริ่มที่จะหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย


“เอ แต่ผมจำได้ว่าเป็นคุณกีวี่ไม่ใช่หรอครับ คนใหม่มาอย่างงี้ จะดีหรอครับ” คุณอาร์ตยื่นหน้าพูดกับไอ้เปาพร้อมกับแสยะยิ้มแบบเหนือกว่า


“ดีไม่ดีก็รอดูดิวะ”


“คนอื่นก็ชอบคนที่ทำงานเป็นกันทั้งนั้น คนที่ไม่ถนัดก็ถอยไปดีกว่านะครับ”


“หมดงานทางนี้ยัง ไปนะ”


ไอ้เปามันตัดบท ปากก็ยิ้มยียวนคุณอาร์ตอีกทีแต่มือจับข้อมือผมไว้แน่นแล้วหันหลังเดินไปทันที ท่าทางมันจะโมโหครับ ผมก้มหัวไปเชิงขอโทษส่งไปให้คุณอาร์ต ไม่ได้ครับเดี๋ยวตัดงบพวกผมตอนเคลียร์ใบเสร็จทำไง คิดไปเองมั้ยไม่รู้แต่ผมรู้สึกว่าบรรยากาศไม่น่าจะดีเท่าไหร่ครับ แอบหันไปมองพวกเพื่อนๆ ที่นั่งทำงานกันอยู่ด้านหลัง ทุกคนต่างมองมาทางเรากันหมดส่วนไอ้เปาตัวดีก็ลากผมกลับซุ้มไม่พูดไม่จา





“แนวมากมั้ง แต่งตัวอะไรก็ไม่รู้ ผมแสกกลาง ใส่แว่นกรอบทองสไตล์ไม่เข้ากับหน้าแม่งเลย”


“เป็นเหี้ยไรไอ้เปา”


“มึงดิเหี้ย”


“เอ้า กูก็ถามเฉยๆ ทำหน้าเหมือนแฟนมีกิ๊ก”


“ไอ้สัด!”


“ว่าแต่คนที่บ่นนี่ใช่คนเดียวกับกูป้ะวะ”


“อะไรอย่าบอกนะว่าไอ้เจ มึง...”


“เออ”


“มึงชอบไอ้แว่นทองคุณอาร์ตห่าเหวไรนั่นหรอ”


“พรวด!! กูหมั่นไส้หน้ามันโว้ย”


“ว้าย อีเจ!!! มึงจะหมั่นไส้หน้าใครก็ได้แต่ทำไมต้องพ่นน้ำใส่หน้ากู”


“โทษๆ ซาร่า โทษไอ้เปานู่น แม่งพูดอะไรน่าขนลุก กูขนลุกออกจากปากเลย”


“อ๊ะ เปาขา แค่เปานั่งหล่อๆ ให้พวกเราแทะโลมทางสายตาตรงนี้เปาไม่ต้องไปทาสียกโต๊ะอะไรทั้งนั้นค่ะ”


ผมยืนมองภาพตรงหน้าอยู่ไม่ไกล เหตุการณ์ชุลมุนมันเริ่มต้นที่ไอ้เจเดินไปใกล้ๆ ไอ้เปาตอนมันนั่งทาสีอยู่ข้างๆ ซาร่า แล้วจู่ๆ ไอ้เจก็พ่นน้ำออกมาแต่โชคดีที่ไอ้เด็กน้อยมันเอี้ยวตัวไปเอาสีด้านหลังพอดิบพอดี น้ำที่ออกมาจากปากไอ้เจนั้นก็ประทับอยู่บนหน้าของซาร่าแทน ซาร่าคือเพื่อนผู้หญิงที่ร่างกายบึกบึนเหมาะสำหรับยกของหนัก ตอนนี้ซาร่ากำลังเกาะแขนไอ้เปาท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ ไอ้เปามันก็ดันหน้าซาร่าที่เต็มไปด้วยน้ำลายของไอ้เจออกแล้วเริ่มต้นพูดอย่างจริงจัง ซาร่าทำหน้าเคลิ้มสุดๆ


“ซาร่า จริงๆ แล้วกูไม่เคยกลัวอะไรเลย”


“ว้าย ซังนัมจาแมนมากสมเป็นว่าที่ผัวซาร่าค่ะทุกคน”


“ไม่ยังพูดไม่จบ กูไม่เคยกลัวอะไรในชีวิตมาก่อน...”


“จ้ะ”


“แต่ตั้งแต่กูเจอมึงเนี่ยทำให้กูสัมผัสความกลัวเป็นตัวแรกเลยว่ะ”


“กรี๊ดด!! เปาอะ งอล ง้อด้วย อยากกินคูก้ารสนม อยากเสียวค่ะเปาขา”


เชี่ย ผมสบถกลัวแทนไอ้เปามันน่ะครับ แต่ไอ้เปามันทำหน้าแหยงก่อนจะเช็ดมือที่โดนตัวซาร่ากับผ้าขี้ริ้ว


ตึง ตึง ตึง


แล้วซาร่าก็สะบัดหน้ากระทืบเท้าออกไปช่วยด้านอื่นด้วยท่าทีแสนงอน ซาร่า...งานตรงหน้ามึงยังทาไม่ถึงไหนไปนู่นอีกละ


“ฮ่าๆๆๆๆ”


“หัวเราะไรไอ้เจ”


“เปล๊า ว่าแต่มึงไม่ชอบไอ้คุณเชี่ยอาร์ตหรอวะ เหี้ยแล้วกูจะเรียกมันว่าคุณทำไม”


“เออไม่ชอบหน้าแม่ง”


“อย่างงี้ต้องจัด”


“จัดไรหรอ”


ผมโผล่หน้าไปแทรกระหว่างไอ้เจกับไอ้เปา ไอ้เจตกใจจนน้ำเกือบพุ่งอีกรอบ


“เสือกนะมึง”


“...” ผมหน้าเหวอ ไอ้เจ เดี๋ยวนี้มึงพูดกับกูแบบนี้หรอวะ “ว่ากูงี้เดี๋ยวจับขังพร้อมกับคุณอาร์ตเลย”


“เชี่ย มึงเลิกพูดชื่อมัน เดี๋ยวท้องฟ้าวิปริตแปรปรวน”


ไอ้เจทำหน้าตาหงิกงอก่อนจะลูบแขนตัวเอง ส่วนไอ้เปานอกจากจะดื้อเงียบแล้วก็ยังทำหน้างอเหมือนไอ้เจอีก


“อะ กินน้ำ เอามาให้”


“กูมีแล้ว นี่ไงดูดอยู่”


“ให้ไอ้เปา ไม่ได้ให้มึง”


“แหม คุณคนกลางครับ เพื่อนอยู่ตรงนี้ตั้งหลายคน เลือกปฏิบัติหรอ”


ไอ้เจล้อ มึงกลายร่างเป็นหนึ่งในแก๊งคอหล่นหรอตั้งหน้าตั้งตาแซวกูอยู่ได้ ผมหรี่ตาส่งไปให้มัน ส่วนมือก็ยัดน้ำใส่ในมือไอ้เปา


“กินหน่อยดิ”


“ไม่ กูจะตั้งใจทำงานเดี๋ยวจะออกมาไม่ดี”


“มึงทำได้ดีอยู่แล้ว คิดมาก”


ท่าทางจะฝังใจกับคำพูดคนอื่น ผมยืนค้ำหัวมันอยู่เลยได้แต่วางมือบนหัวมันให้กำลังใจเขาหน่อยครับ ไอ้เปาเนี่ยแต่ก่อนมันไม่เคยได้เป็นหัวหน้าอะไรกับเขาหรอกหรือแม้แต่ทำกิจกรรมมันก็จะนั่งไม่มีส่วนร่วมเท่าไหร่นัก อยู่ในห้องเรียนเหมือนเด็กมีปัญหาไม่สุงสิงกับใคร ถ้าในห้องเรียนมีคนอยู่สามประเภทมันจะเป็นประเภทที่สี่ มาสเตอร์ยังเคยเรียกผมไปคุยให้ผมช่วยดูๆ มันหน่อย  ตอนนี้มันคงกดดันสินะ ไอ้ความคาดหวังคนอื่นที่ฝากไว้กับคำว่าหัวหน้าเนี่ย


“...” มันไม่ตอบอะไรแต่ก็เงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วเอื้อมมือมาจับมือผมที่วางบนหัวมันอีกที


“กู...จะทำได้จริงหรอวะ”


“ทำไมจะไม่ได้วะ มึงเจ๋งจะตาย ตอนนี้มึงไม่ใช่ไอ้เปาคนเดิมแล้วนะเว้ย”


มันไปไกลกว่าที่ผมคิดไว้ซะอีก ไม่รู้ตัวเลยหรอวะ ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้นแต่ในใจของมันกลับเหมือนไอ้เปาตอนเด็ก ขี้กลัว ไม่มั่นใจในตัวเองเอาซะเลย ทำไมต้องกังวลขนาดนั้นวะ


“ตอนที่เราเรียนกับทีชเชอร์สมศรีน่ะ กูเคยบอกมึงตอนที่มึงต้องออกไปพูดภาษาอังกฤษหน้าห้องว่าไงนะ”


“...กูต้องทำได้”


“อื้ม นั่นแหละ มึงทำได้อยู่แล้ว” ขยี้หัวมันเหมือนเดิม ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย มันส่งยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มกลับให้ผม เอองี้สิ สมกับเป็นไอ้เปาหน่อย


“กรี๊ดด”


“ทำไมน้ำเปล่ามันหวานอย่างงี้วะ”


“ประธานคร้าบ นี่ไม่ใช่มอเรานะค้าบบบ”


“กูจะแซวพวกมึงให้เต็มที่ ไอ้กล้วยส่งข้อความมาฝากแซวทุกย่างก้าว”


เชี่ย นี่พวกมันตามหลอกหลอนผมถึงที่นี่เลยหรอวะ




 “เอาล่ะ พร้อมสำหรับพรุ่งนี้นะครับ ขอบคุณทุกคนมาก ขอให้พรุ่งนี้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น”


ขณะนี้เวลาห้าทุ่มครึ่งครับ หลังจากที่เราจัดของเตรียมงาน เตรียมความเรียบร้อยกันเสร็จ คุณอาร์ตเรียกประชุมทุกมออีกครั้ง โดยมอเจ้าภาพอย่างไอ้คุณอาร์ตที่ย้ำเรื่องความเป๊ะ เรื่องเวลาจนผมจำได้ทุกคำพูดแทบจะละเมอเป็นเลขแล้ว หลังจากประชุมกันเสร็จก็เป็นเวลาพูดคุยทักทายกันครับ พวกเราทั้งสี่มอต่างก็รู้จักกันจากการทำงานหลายคนครับ เพื่อนใหม่ที่ทำงานคล้ายๆ กับเราต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องเรียนบ้าง เรื่องงานบ้าง เพราะเราอยู่สายอาชีพศิลปะเหมือนกัน


“เจอกันเว้ยพวกมึง”


อย่างพวกมอssเป็นต้นครับ มอนี้มีวิชาที่เรียนคล้ายๆ กับเราแถมยังอินดี้พูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนกันอีกด้วย ไอ้เปาดูเฮฮามากขึ้นเมื่อเจอเพื่อนต่างมอ บางคนก็รู้จักไอ้เปาจากแฟนเพจบ้างแต่ไม่รู้ว่ามันจะบ้าเต้นสันฯ แถมยังเป็นหัวหน้าด้วย ทั้งๆ ที่หน้าตาไม่เข้ากับทางสายนี้เลย เห็นมันยืนคุยกับเพื่อนคนอื่นถูกคออย่างงี้ผมก็ดีใจครับ ไม่รู้รึไงว่าคนอื่นชื่นชมมึงแค่ไหน


“เออๆ พักผ่อนเว้ย ดีใจที่ได้เจอพวกมึงนะเว้ย”


“พรุ่งนี้กูจะรอดูมึงเต้น มาประชันกันหน่อยดีกว่า”


“ดีเหมือนกันไอ้แจ็ค น้องสาวกูกดไลก์รูปไอ้เปาตลอดเดี๋ยวกูจะอัดคลิปไปให้แม่งดู ว่ามึงจังไรแค่ไหน”


“ฮ่าๆๆ เอาที่สบายใจเพราะกูหน้าด้านหน้าทน”


ฮ้าว


“หัวเราะเข้าไปไอ้เปาดูหน้าเพื่อนมึงด้วย”


“เออไปล่ะ พาเด็กเข้านอนก่อน”


“ไอ้สัด กวนตีน ไปก่อนนะครับคนกลาง”


“แหม ไอ้เอิงเจอคนน่ารักเข้าหน่อยผีคนพูดเพราะเข้าสิงหรอ”


“จ้าว่าแต่กู มึงก็มองเขาตาเยิ้มเชียว”


“เออ รีบมองก่อน รีบทำความรู้จักก่อนเดี๋ยวมออื่นมองตัดหน้า ได้ข่าวเป็นตัวเต็งในหัวข้อการพูดคุยนะครับไอ้กลางเนี่ย”


ขอโทษที่ขัดจังหวะนะเว้ย แต่นี่ผมหาวจนน้ำตาไหลแล้วครับ มึงบอกเจอกันๆ ตั้งแต่สามสิบนาทีที่แล้วจนเพื่อนคนอื่นเดินกลับที่พักกันหมด ดูดิ ขนาดไอ้เจยังไม่รอผมเลย


“ฮ่าๆ ไอ้กลางน่ารักสัด ดูหน้ามันดิ ไม่รู้เรื่องละ ไปเว้ยเจอกัน พวกกูจะไปซื้ออะไรมาโด๊ปก่อน”


ไอ้แจ็ค ไอ้เอิง ไอ้เบน และอีกหลายๆ คนของมอss เดินกอดคอกันไปอีกทางครับ มันบอกยังไม่กลับที่พัก คาดว่าไม่เหล้าก็เบียร์ที่มันจะมุ่งหน้าไปสู่ครับ ส่วนผมนายคนกลางตาจะปิดแล้ว


“ปะ กลาง เฮ้ย!ระวังดิ เดินหลับตาหรือไงวะเนี่ย”


ไอ้เปารีบปรี่เข้ามาใกล้ผม พอมันร่ำลากันเสร็จผมก็ได้แต่พยักหน้าส่งกลับไปอย่างมึนๆ แล้วเดินไปทางโรมแรมก่อนเพื่อน ไอ้เปาเลยต้องรีบวิ่งตามมากลัวว่าผมจะเดินไปชนต้นไม้เขาหัก


“ไอ้เปา กูขอจับเสื้อหน่อย”


ไม่รอมันตอบหรอกครับ ผมยื่นมือไปคว้าปลายเสื้อยืดมันไว้อย่างน้อยขอให้ได้เดินหลับตาได้มั่ง


“มึงนี่จริงๆ เลยน้า เห็นเหนื่อยงี้ไม่กล้าแกล้งเลยว่ะ”


นี่สมองมึงคิดแต่จะแกล้งกูหรอ นึกขึ้นมาได้ว่าผมเคยเดินหลับตาแล้วให้มันพาเดินไปซื้อของที่สหกรณ์โรงเรียนตอนประถม เห็นหน้าตาไอ้เปาตอนเด็กไม่มีพิษไม่มีภัยที่ไหนได้พากูไปลงทางต่างระดับบ้าง เกือบชนเสาบ้าง ร้ายเงียบแต่เด็กนะมึง อยากจะด่ามันเหมือนกันแต่พอมันยิ้มตาปิดแล้วก็ด่าไม่ลงครับ ผมบอกแล้วว่ามันน่ารักตอนเด็กน่ะนะ


“ขอเดินหลับ อย่าแกล้ง”


“ฮ่าๆ งั้นมานี่”


ไอ้เปาหยุดเดินมันดึงมือผมออกจากเสื้อมัน ก่อนจะรั้งแขนผมไว้ “กูง่วงอย่าพึ่งเล่น”


“กูเล่นที่ไหนล่ะ มาขึ้นหลังกูเดี๋ยววันนี้พี่จะพาน้องไปขึ้นสวรรค์ เอ๊ย ไปโรงแรม เอ๊ย เชี่ยไม่พูดละ แม่งเสื่อม”


“หึหึ มึงเนี่ยนะจะพากูขึ้นหลัง”


“เออมาดิ เร็ว พูดมาก เวลาทองนะครับ”


ผมส่ายหน้าเบาๆ ไอ้เปามันรั้นจะตาย มันย่อตัวตรงหน้าผม แสงข้างทางที่ส่องมาทำให้ผมหยีตาเล็กน้อยเพราะทางที่เรากำลังเดินอยู่ตอนนี้เป็นในสวนครับสองข้างทางมีไฟประดับสีส้มที่ห้อยลงมาจากต้นไม้เรียงเป็นทางตรงไปยังโรงแรม เสียงจิ้งหรีดดังมาแว่วๆ มอนี้ต้นไม้เยอะจริงๆ ครับ บรรยากาศดีมากด้วยถึงจะเริ่มเย็นเพราะดึกแล้วก็เถอะ


“อึ้บ ตัวหนักใช้ได้นี่หว่า”


“พูดมาก นอนละ เหนื่อยขึ้นมาอย่าบ่นล่ะ”


“ไม่บ่นหรอกเคยบอกว่าจะดูแลทุกวินาทีเลยไง”


“อืม”


“ไอ้กลางมึงดูดิ ลืมตาเร็ว โห เห็นดาวด้วย”


ดาวอะไรล่ะ นี่มันกลางเมือง ผมขยับหัวแนบหน้าไปกับลำคอของมัน แขนทั้งสองข้างของผมก็กระชับกอดมันแน่นขึ้นสัมผัสอุ่นๆ จากผิวมันทำให้ลดความเย็นได้บ้าง หวังว่ามึงคงจะอุ่นขึ้นเหมือนกันนะ ผมอยากเป็นที่พึ่งให้มันแต่วันนี้ผมขอแหกกฎตัวเองให้มันดูแลผมตามที่มันพูดละกัน


“อือ”


“กูโคตรดีใจ โคตรมีความสุขเลยว่ะ อยากหยุดเวลา...”


“...”


“แต่ไม่ดีกว่า กูอยากใช้เวลาไปกับมึงเรื่อยๆ ฟังอยู่ป้ะเนี่ย”


“...”


“รู้ป้ะ ตอนที่ไม่เจอกัน กูโคตรเหงาเลย”


“...”


“หลับแล้วหรอวะ หึหึ กูนี่เหมือนคนบ้าเลยว่ะพูดคนเดียวก็ได้”





[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 18-05-2017 22:29:28
.
.
.
06.25 น.


“ไอ้กลางได้ข่าวว่าเมื่อคืนหนักหรอ”


“ใจเย็xๆ เพื่อน ไอ้เชี่ยๆ ลิ้นพันกันโทษที ใจเย็นไอ้กล้วยไปถามงั้นได้ไง ไอ้กลางมันมึนอยู่มันตามมึงไม่ทันหรอกเช้าเกิน มันหมายถึงนอนดึกหรอ”


“พวกกูมารับผัวมึงไปแต่งหน้า”


คนที่มาเยือนไม่ใช่ใครที่ไหนครับ พวกมันลงจากรถมอมาพร้อมกับเพื่อนๆ ปีหนึ่งที่มาร่วมงานสี่เสาฯ แล้วมันก็ตรงมาเคาะห้องผม พอผมเปิดประตูยังไม่ทันจะได้ทักทายไอ้สามหน่อคอหล่นมันก็พรวดพราดเข้ามาในห้อง ปากก็ชมว่าห้องสวยๆ พอเดินไปในส่วนของเตียงเห็นไอ้เปานอนเปลือยท่อนบนอยู่มันก็ทำหน้าอ้อร้อกันไม่หยุด และจากนั้น...ก็เป็นอย่างที่เห็น พวกมันส่งเสียงล้อเลียนจนไอ้เปาตื่น มันพาร่างตัวเองไปห้องน้ำ ส่วนผมที่แต่งตัวเตรียมของเสร็จแล้วก็นั่งหน้ามึนให้พวกมันบ้าบอใส่


“กลางๆ มอนี้สาวเยอะปะ”


“เยอะ”


“สวยปะ”


“สวย”


“แล้วหนุ่มอะ สู้มอเราได้ปะ”


“คนอื่นก็หน้าตาดีหมดอะไอ้กล้วย พอมาเทียบกับมึงแล้วอะนะ”


“ไอ้สัดทัพ กูต้อนไอ้กลางอยู่ เชี่ยนี่”


“โทษๆ อะเอาใหม่นะเพื่อนกลาง สาม สอง หนึ่ง คัท แล้วหนุ่มล่ะหล่อป้ะ”


“หล่อ” เออกูก็ไม่เข้าใจต้องไปตอบมันทำไม ไอ้เบสขำทันทีที่เห็นผมเล่นต่อ ส่วนไอ้ทัพน่ะหรอครับ นอกจากจะเป็นลูกคู่แล้วก็ทำเป็นยกโทรศัพท์มากดๆ


“หล่อมากมั้ย”


“มาก”


“แซ่บเท่าไอ้เปามั้ย”


“ไม่”


“ว้ายยยย ได้กันได้กัน ได้กันแน่ๆๆ”


“เห็นมั้ยสาวๆ เพื่อนผมได้กัน เอ๊ย รักกันนนนน”


เอาอีกละ ไอจีไรมึงเนี่ย พอแท็กผมมาข้อความที่ส่งมาในไอจีผมก็พุ่งทะลุอีก ผมไม่ว่างตอบจนคนอื่นจะคิดว่าผมหยิ่งกันหมดแล้วครับ


“แกล้งไรมันเนี่ย”


ไอ้เปาเดินออกมาจากส่วนของเตียง มันแต่งตัวด้วยกางเกงวอร์มราคาแพงกับเสื้อยืด มันบอกต้องไปแต่งตัวกับกลุ่มสันฯ กันอีกที

“เปล๊า เสร็จแล้วใช่มั้ยมึงอะ”


“อืมเสร็จละ”


“เฮ้ย จริงดิท่าไหน”


“ท่าเบสิค ถุ้ย กูหมายถึงแต่งตัวเสร็จแล้วไอ้กล้วย พวกมึงน้า ปากอย่างงี้ระวังด้วย สาวมอนี้เขาไม่ชอบคนเถื่อนนะเว้ย”


“ฮ่าๆๆๆ เอออ มอนี้ไม่ได้มอหน้าก็ได้”


“ไปได้ยัง”


ผมเอือมพวกมันจริงๆ ครับ คว้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้นยืนทันที มัวแต่คุยกันเดี๋ยวเริ่มไม่ทันกันพอดี เราต้องไปรวมกันทั้งสี่มอที่หอประชุมใหญ่ของคณะศิลปกรรมเพื่อเปิดงานกันก่อนครับ ก่อนที่ผมจะเดินไปที่ประตูไอ้เปาก็เรียกผมไว้


“เดี๋ยวไอ้กลาง วันนี้งานใหญ่ขอกอดให้กำลังใจหน่อยดิ”


ไม่ทันที่จะตอบอะไรมันก็เดินเข้ามากอดผมทั้งตัว ได้กลิ่นสบู่ลอยออกมาจากตัวของมันแถมอ้อมกอดของมันยังเย็นชะมัด ผมตบหลังมันเบาๆ ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีนะไอ้เปา


“เฮ้ยอะไรอะ กอดด้วย”


“ได้ไง กอดกันสองคนได้ไง”


“รอเพื่อนกล้วยด้วยยย”


ไอ้เบสที่ลุกเดินตามหลังผมมาก็เดินเข้ามากอดด้วย ไอ้ทัพและไอ้กล้วยก็ไม่ยอมแพ้วิ่งเข้ามากอดแถมยังโยกตัวไปมา ตอนนี้พวกเราก็กอดกันกลมอยู่หน้าประตูเป็นเด็กๆ


“สู้เว้ย”


“ไปบ้ากันเถอะ!!”


“เลสโก!!!”






ผ่านไปแล้วครับกับกิจกรรมงานสี่เสาแห่งศิลปะ พวกเราทั้งสี่มอนั่งอยู่ในงานเลี้ยงครับ ทางมหาลัยของคุณอาร์ตจัดเต็มเรื่องอาหารและเอ็นเตอร์เทน โต๊ะกลมมากกว่าสามสิบโต๊ะตั้งเรียงรายอยู่ลานกิจกรรม มีเวทีที่เต็มไปด้วยเครื่องเสียงเพราะเราต้องจัดการแสดงของแต่ละมอ ช่วงท้ายก็มีคอนเสิร์ตเล็กๆ กันด้วย ให้สมกับงานที่ยาวนานหน่อยแต่งดแอลกอฮอล์นะครับ คุณอาร์ตย้ำมา


ตอนกลางวันประธานชั้นปีของสี่มอต้องเดินพาประธานเปิดงานเดินทัวร์แต่ละซุ้ม คุณอาร์ตก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเลยครับ ผมชื่นชมมันมากเพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็จะเห็นมันอยู่ตลอด ทุกคนต่างเรียกใช้มันและมันก็จะจัดการทันที แต่สิ่งที่ผมภูมิใจมากที่สุดก็คือไอ้เปาและแก๊งคอหล่นครับ ทีมสันฯ ของมันโคตรฮาและบ้าตามคอนเซ็ปต์  สันทนาการของมอผมใส่โจงกระเบนสีเขียวเข้มเสื้อยืดสีขาว หน้าตาที่แทบจำไม่ได้เพราะแต่งหน้าเป็นรูปสัตว์ต่างๆ อาจารย์ที่เดินมาชมหัวเราะกันใหญ่แถมเพื่อนที่ทำกิจกรรมไม่มีคนไหนที่ไม่ยิ้มเลยครับ มันฮาจริงๆ ทั้งการพูดการรับส่งมุก ผมส่งนิ้วโป้งชมจนยิ้มกว้างก่อนจะเดินไปซุ้มต่อไป ซุ้มของมหาลัยอื่นก็เป็นเอกลักษณ์ วันนี้เป็นวันที่ดีมากจริงๆ


ขณะนี้ผมนั่งอยู่กับเจ เพียว ครับ ส่วนเพื่อนผมมันไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะมากินอาหารชุดใหญ่ในวันนี้  ระหว่างที่กินก็มีการแสดงของมอคุณอาร์ตก่อน ส่วนของมอผมเป็นมอสุดท้ายที่จะทำการแสดง


“คุณกลาง”


“อ้าวคุณอาร์ต”


“ผมขอถ่ายรูปด้วยหน่อยสิ”


ผมชะงัก ไอ้คุณอาร์ตเดินหน้านิ่งเข้ามาพร้อมกับโทรศัพท์ในมือ เจกับเพียวที่นั่งตรงข้ามผมถึงกับหยุดกิน คุณอาร์ตเปิดกล้องหน้าก่อนจะยื่นมาเซลฟี่กดจอสองสามที สุดท้ายแล้วรูปผมกับหน้าคุณอาร์ตก็ปรากฏอยู่บนจอ


“คุณอาร์ตคิดอะไรกับเพื่อนผมป้ะเนี้ยย”


และคนอย่างไอ้เจก็ไม่เคยปล่อยความสงสัยให้ปล่อยผ่าน มันเอ่ยปากถามทันที


“ก็...คิด...ว่าน่ารักดี”


“เฮ้ย!! จริงป้ะ”


“คุณกลางไม่ต้องกลัวผมหรอกน่า” พอไอ้เจตะโกนผมก็สะดุ้งมองหน้าคุณอาร์ตด้วยท่าทางที่คงจะตลกน่าดู ผมขอโทษที่ต้องขยับตัวออกห่าง “เพื่อนผมไม่กล้ามาขอถ่ายรูปน่ะ”


“แล้วคุณอาร์ตกล้าหรอคะ”


“กล้าสิ มีอะไรที่ผมต้องกลัวหรอ”


“หูยยย มาแรง”


เพียวถามครับ แต่คุณอาร์ตก็ยักไหล่ท่าทางไม่คิดอะไรมาก สงสัยเพื่อนคงจะฝากมาถ่ายน่ะครับ


“ผมก็ไม่ได้น่ากลัวนี่นา”


“คุณไม่ได้น่ากลัวหรอก เพื่อนผมมันเขินเอง และผมก็เป็นพวกที่ไม่เขินคุณเท่าไหร่หรอกมั้ง”


ผมเกาหัวแกรกๆ ก่อนที่คุณอาร์ตจะขอตัวกลับไปนั่งที่โต๊ะ คล้อยหลังไม่ถึงห้านาทีไอ้เปากับคอหล่นก็เดินกลับมาพร้อมๆ กับเสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ผมก็เด้งขึ้นมาพอดี


Artsil ประธานทีมครับ @khonklang


“งานเข้าแล้ววว ไอ้กลาง ไอ้เปาดูนี่ดิ” ไอ้กล้วยคว้าโทรศัพท์จากมือผมไปดูแล้วยื่นให้ไอ้เปาแทบจะทันที


“เชี่ย ไอ้ผมแสกกลางนี่ยังไงวะไอ้กลาง”


“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง”


“ไอ้เปาหน้าบึ้งเลยเว้ย”


“ไม่คิดอะไรหน้าจะใกล้กันขนาดนี้หรอวะ สองรอบแล้วนะเว้ย”


“ไม่มีอะไรจริงๆ มันแค่มาถ่ายรูปให้เพื่อน ใช่มั้ยไอ้เจ เพียว”


สองคนนี้มันทำท่าจะฟ้องไอ้เปาครับ แต่มันไม่มีอะไรนี่หว่า ผมเลยถามย้ำ “ใช่มั้ย”


“เออไม่มีไร แค่ขอถ่ายรูป”


“หายหน้าบึ้งได้ยัง ทีมึงมีผู้หญิงมาขอถ่ายรูปกูไม่เห็นว่าไรเลย”


“ผัวเมียทะเลาะกันหรอว้า”


“กูไม่ได้ถ่ายแนบชิดเหมือนมึงนี่หว่า” มันเลี่ยงสบตาผมยื่นแขนไปตักอาหารไม่สนใจผม ส่วนคนอื่นก็เริ่มตั้งหน้าตั้งตากินไม่สนใจใครแล้วครับ อาหารเริ่มจะเย็นแล้ว


ตลอดการมื้ออาหารไอ้เปาก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมมาก ตอนนี้การแสดงทั้งหมดจบลงแล้ว แต่เพราะมอผมมีการแสดงสุดท้ายเลยต่อด้วยการร้องเปิดคอนเสิร์ตกันซักเพลง ต้องบอกว่านี่อยู่เหนือแผนที่วางไว้ครับ ไอ้คุณอาร์ตก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะถึงเวลาปลดปล่อยกันหน่อยก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับมอตัวเอง ส่วนวงที่จะไปร้องเปิดคือวงของไอ้เดย์ครับเพื่อนเอกออกแบบผลิตภัณฑ์


“กลางมึงมานี่หน่อยดิ๊”


ไอ้เปาดึงมือผมที่กำลังมองไปทางเวทีให้ลุกขึ้น มันเดินนำผมไปที่สระน้ำไม่ไกลจากลานกิจกรรม บรรยากาศกับไฟสวยๆ ปรากฏขึ้นในสายตา ส่วนหูก็ยังได้ยินเสียงทดสอบเครื่องดนตรีกันอยู่ คนที่ลากผมมายังคงยืนจ้องสระน้ำเงียบๆ


“วันนี้มึงทำดีมากเลยนะ”


“...”


“มึงไม่โอเคหรอวะไอ้เด็กน้อย” เมื่อผมเงยหน้ามองมันก็พบว่ามันจ้องผมอยู่แล้ว ผมยื่นมือไปเช็ดสีที่คางมัน มันคงจะล้างไม่สะอาดแน่ล่ะวาดเติมกันทุกชั่วโมง และในตอนนั้นเสียงของไอ้เดย์ก็ดังขึ้น


“มีใครบางคนขอเพลงนี้มาครับ สำหรับคนที่อยากบอกความรู้สึกกับคนพิเศษก็อย่าเก็บไว้นานนะครับ ไปฟังเพลงนี้กันเลย”

   อยากขยับเข้าไปใกล้เธอ
   อยากรู้จักตั้งแต่ได้เจอ
   ใจฉันสั่นเมื่อได้ยินเสียงเธอ
   ตั้งแต่วันแรกเจอ
   ก็เผลอเอาไปคิดละเมอ

   พอรู้จักก็อยากจะทักทาย
   แต่พอไม่เจอแล้วใจก็วุ่นวาย
   เธอหายไปก็ห่วงเธอแทบตาย
   จะเป็นเช่นไร ตรงนั้นมีใครดูแลอยู่หรือไม่ ก็ไม่รู้

   เกือบลืมหายใจเมื่อเธอเข้ามาใกล้ๆ
   แค่เธอยิ้มมา ก็สั่นไปทั้งหัวใจ
   อยากจะบอกเธอให้ได้รับรู้ความในใจ




ผมยืนนิ่ง แม้ว่าจะได้ยินเสียงทุ้มปนแหบเล็กๆ ของไอ้เดย์ลอยมาตามลม แต่ผมกลับได้ยินเสียงไอ้เปาชัดกว่าเสียงไหนๆ


“ความจริงกูชอบที่เราได้อยู่ด้วยกันแบบนี้...มันก็ดีอยู่แล้ว”


   แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่
   ก็ยังไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร
   ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่
   ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป

   ดีพอแล้วที่ได้มีเธออยู่ใกล้ๆ
   ได้ยินเสียงได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล
   จะซ่อนความลับเอาไว้ในหัวใจ
   มากเพียงไหนฉันจะไม่ยอมพูดไป

   อยากจะบอกให้เธอได้รู้ใจ
   ที่จริง ก็อยากจะบอกคำนั้นไป
   แต่กลัวเหลือเกินว่าจะต้องเสียใจ
   หากเธอรับไม่ได้ เธอคงไม่ยอมให้อภัย กับคำนั้น

   อึดอัดเหลือเกิน ต้องเก็บเอาไว้ข้างใน
   อึดอัดหัวใจ แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดไป
   กลัวว่าจะต้องเสียใจ



   “แต่พอเห็นมึงกับคนอื่นแล้วก็โกรธตัวเอง กูแม่งไม่มีสิทธิ์อะไรเลย”


   แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่
   ก็ยังไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร
   ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่
   ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป

   ดีพอแล้วที่ได้มีเธออยู่ใกล้ๆ
   ได้ยินเสียงได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล
   จะซ่อนความลับเอาไว้ในหัวใจ
   มากเพียงไหนฉันจะไม่ยอมพูดไป

   มองกันให้ดีเธอก็คงรู้
   ในความห่วงใยฉันมีอะไรซ่อนอยู่
   ที่ยังไม่รู้คือเธอนั้นคิดอย่างไร

   มองกันให้ดีเธอก็คงจะเห็น
   ความจริงที่เป็นว่าฉันคิดอะไร
   หนึ่งคำนั้นที่ยังไม่ได้พูดไป

   จะเก็บเอาไว้ในวันที่จะเผยใจ
   รอวันนั้น วันที่ฉันแน่ใจ
   ว่าวันนี้เธอคิดว่าฉันนั้นใช่
   และเธอพร้อมจะฟังความข้างใน



เปาโน้มหน้าเข้ามาใกล้ผม ไม่แน่ใจว่าเรายืนใกล้กันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เปาจ้องหน้าผม แววตาของคนตรงหน้าสะท้อนใบหน้าผมอยู่ในนั้น จนอีกสองสามวินาทีต่อมาผมก็รู้สึกถึงลมหายใจของอีกคน รู้สึกถึงปลายจมูกของเราที่เฉียดกัน รวมถึงสัมผัสนุ่มหยุ่นตรงริมฝีปาก เป็นเวลาไม่นานนักจากนั้นไอ้เปาก็ผละออก มันจับหน้าผมเบาๆ แล้วพูดกับผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง


“ตอนนี้มึงมองกูเป็นแบบไหนนะกลาง”

   จะบอกว่ารักให้เธอได้ยินใกล้ๆ
   บอกความรักเธอได้ยินหรือไม่
   ถ้ายังไม่ชัดฟังอีกครั้งก็ได้
   ได้ยินไหมว่ารักเธอทั้งหัวใจ


ผมตาพร่า ใจเต้นแรงจนปวดหนึบ

มือที่กำเสื้อตัวเองไว้แน่นคลายออก

มันจริงจัง

และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นไอ้เปาเป็นผู้ชายคนหนึ่ง





=============
*เครดิต เพลงไม่บอกเธอ
อยากติดเเท็กให้คุณเค้าน่ะค่ะ #คนกลาง นี่มันจริงๆ เล้ย
เรามีสารบัญเเล้วนะะ
 :L1:
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 18-05-2017 23:05:39
 :-[ :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: em1979 ที่ 18-05-2017 23:10:39
ค้าง..... อยากรู้คำตอบ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-05-2017 23:21:03
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 18-05-2017 23:31:34
โหหหห ค้างจ้า เปาตรงๆละ คุณอาร์ตนี่คือตัวกระตุ้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 19-05-2017 00:53:27
โหหหักมุมม
สรุปคุณอาร์ตคือคนขี้แกล้งที่หน้านิ่งเฉยๆอะ
มองออกว่าใครลอบกลาง พอหมั่นไส้ก้ทไเปนจีบ อหห
เปาานี่โดนไปเตมๆเลยย
ค้างงง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: __jitlada ที่ 19-05-2017 01:11:48
เขาจะเป็นแฟนกันแล้ว :o8: :-[ :katai4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 19-05-2017 01:16:03
โอ้ย ชห.แล้วล่ะเปาาา :katai1:
คืออะไรอะ เพิ่งจะมองเป็นผช.คนนึงหรอ
ไม่นั แล้วน้องกลางจะตอบว่าอะไรละเนี่ยะ
ฮือ อย่าทำเปาเสียใจนะ
ไม่อยากให้กลางเสียใจทีหลังด้วย
ไม่อยากเห็นสองคนนี้ปั้นปึงกันเลย งือ
น้องกลางเป็นผช.ที่น่าหมั่นเขี้ยวมากๆ
เหมือนเด็กน้อย เหมือนคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: pearlypear ที่ 19-05-2017 01:52:35
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 19-05-2017 02:29:20
 :katai1:  :katai1:  :katai1: ทำกันได้ไม่สงสารคนอ่าน้ลยยยย...รีบมาต่อนะค่ะ...ค้างมากกกก..รล้นสุดๆๆๆ....ขอหวานๆๆๆ...น่ารักน่าหยิกนะค่ะะะ... :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 19-05-2017 02:52:31
  o18 เริ่มรู้ใจตัวเองขึ้นมาบ้างแล้วสิ'คนกลาง'
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-05-2017 05:11:53
เปา บอกกลางไปเล้ย
ว่ารู้สึกยังไงกับกลาง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 19-05-2017 07:51:41
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-05-2017 07:59:54
ประเด็นคือ กลาง จะตอบว่าไง  :ling1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 19-05-2017 08:03:45
บอกอย่างที่ใจคิดเลยน้องกลาง
ว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่น้องน้อยในวันวานอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-05-2017 09:21:09
บ้าไปแล้ววว!! น้องเขิลลลล งุ้ย ><
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 19-05-2017 09:46:25
คนอย่างคนกลางถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาหรอก :m20:

เปาตีเนียนมาตั้งนาน ต้องมีใครมากระตุ้นเนอะถึงจะเริ่มรุกจริงจัง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-05-2017 10:19:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 19-05-2017 10:32:03
เปาเท่มากๆเลยตอนนี้ ขนาดไม่เป็นแฟนยังหึงหวงขนาดนี้ น้องกลางตอบตกลงเลยยยยย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 19-05-2017 13:04:32
อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่ากลางต้องน่ารักมากแน่ๆ
ตอนนี้แอบค้างงง รอนะคะะะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-05-2017 14:05:54
ต้องได้แฟนกลับไปนะคนกลาง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 19-05-2017 19:46:52
ค้างเจ้าค่ะ  :sad4:
คนกลางทำไมน่ารักจัง เชียร์ให้คบกันสักที  :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 20-05-2017 02:22:20
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 22-05-2017 20:09:11
13
คนกลางใจผม


“ตอนนี้มึงมองกูเป็นแบบไหนนะกลาง”


แบบไหนงั้นหรอ...


นั่นสิ ผมมองมันแบบไหนกันแน่


ผมไม่ได้ฉลาดเรื่องความรู้สึกเรียกได้ว่าเป็นไอ้โง่ที่เกิดมามีแต่เพื่อนกับครอบครัวเท่านั้น


ไอ้เปามันจ้องหน้าผม ดวงตา คิ้ว จมูก ปากที่ผมชอบตั้งแต่วันแรกที่มันเดินเข้ามาตอนรับน้อง ไม่สิ...ไม่ว่ามันจะเป็นแบบไหน ถ้ามันคือไอ้เปาผมก็ชอบทั้งนั้น แต่ว่า...


“กูไม่รู้ว่ะ...”


ผมสับสนและเป็นผมเองที่เบือนหน้าหลบตามัน ไอ้เปาชะงักเล็กน้อยก่อนที่นัยน์ตาของมันจะวูบไหว ตอนนี้เสียงดนตรีจากวงไอ้เดย์เงียบไปแล้วเพลงต่อไปก็ดังมาเบาๆ มือของไอ้เปาที่จับใบหน้าผมค่อยๆ เลื่อนออกอย่างช้าๆ มันเหมือนคนหมดแรงยังไงอย่างนั้น


“กูเข้าใจ...กูผิดเอง”


มันหน้าเศร้าจนผมใจเสีย ผมสัญญากับตัวเองถ้าผมเจอมันอีกครั้งผมจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมัน จะไม่ทำให้มันเศร้า แต่ตอนนี้ผมกลับทำลายสัญญานั่นลง


“ไอ้เปา”


“กูขอโทษมึงผิดหวังที่กูชอบมึงสินะ แต่อย่าเศร้าดิ มึงไม่ผิดหรอก...ขออย่างเดียวมึงอย่าเกลียดกูนะ อย่าเกลียดกันนะ...กูขอร้อง”


ไอ้เปาเหมือนคนน็อตหลุด มันละล่ำละลักบอกผม ทุกการกระทำของมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ตามันแดงก่ำบีบหัวใจผมจนเจ็บตามไปด้วย


“เปามึงฟังกะ...”


หมับ!


มันส่ายหน้าก่อนจะคว้าผมเข้ามากอด มันรีบพูดทันทีเหมือนกลัวคำพูดที่จะออกมาจากปากของผมจะทำให้มันเสียใจมากไปกว่านี้


“กูขอกอดมึงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วพรุ่งนี้ กูจะกลับไปเป็นเพื่อนมึงเหมือนเดิม กูสัญญา...”


“เปามึงฟังกูก่อน”


“ไม่ กูอยากบอกมึงก่อนที่จะไม่มีโอกาส” มันกระชับกอดผมแน่นซบหน้าลงบนไหล่ของผม “มึงคือฮีโร่ของกูนะเว้ย กลาง กูอาจไม่เคยบอกว่ากูดีใจ โคตรดีใจ โคตรมีความสุข ที่กูได้เกิดมาเจอมึง ตั้งแต่เด็กกูมันก็แค่คนอ่อนแอคนนึง ไม่มีอะไรดี กูไม่เหมือนมึงที่ดีทุกอย่าง กูอยากให้มึงภูมิใจในตัวกู กูพยายาม มันเจ็บเว้ยเวลามองมึงอยู่ข้างหลังแล้วไม่ได้ทำอะไรเลย”


“...”


“ตอนที่กูลำบากกูคิดถึงมึงจะมีใครซักคนที่เหมือนมึงมั้ยที่...ปกป้องกูอยู่กับกูทุกเวลา ตอนที่พ่อตายกูคิดถึงมึง ทำไมใครๆ ก็จากกูไปหมด ไม่มีใครอยู่กับกูซักคน”


“...”


“กูหวังว่าจะได้เจอมึงซักครั้ง วาดรูปไม่เป็นต้องเข้าโรงเรียนศิลปะฝึกจนเจ็บมือทั้งคืน กินนมออกกำลังกายจนตัวสูง เผื่อว่าวันนึง...กูไล่ตามมึงตลอด...แล้ววันนึง...มึงรู้มั้ยมันโคตรมีค่า กูที่วิ่งตามมึงมาตลอด ได้เดินไปพร้อมๆ กันแล้ว...ถึงแม้จะในฐานะเพื่อนก็ตาม”


“ฮึก...”   


ไอ้เปา มึงต้องพยายามแค่ไหนกัน คนอย่างกูนะ..มีค่าให้มึงไล่ตามขนาดนั้นเลยหรอวะ


“มึงร้องไห้หรอกลาง อย่าร้อง...กูยังไม่ร้องเลย”


ไอ้เปาบ้า แล้วมึงเสียงสั่นทำไม


“ความรักมันทำให้เราเจ็บปวดนะกลาง แต่กูอยากบอกมึงว่าทั้งหมดนี้...มึงเป็นความรักของกูนะ”


“มึงฟังกูนะเปา”


ผมปาดน้ำตาที่เกือบจะไหล ผละออกจากอ้อมกอดของมัน ไอ้เปายืนไหล่ตก มันเอาแต่ก้มตามองเท้าเพื่อหลบตาผม ผมจับหน้ามันไว้ทั้งสองข้างให้เงยหน้ามาสบตาผม มันที่ส่ายหน้าเหมือนไม่อยากยอมรับความจริงจนเราสองคนสบตากัน  ตาของมันแดงปลายจมูกโด่งนั่นก็แดงเหมือนมันต้องกลั้นความเสียใจไม่ให้แสดงออกมา


“กู...ชอบมึง”


“...!!!”


ไอ้เปายืนนิ่งตาเบิกกว้าง


“กูไม่รู้หรอกนะว่าความรักมันเป็นแบบไหนกูไม่เก่งเรื่องแบบนี้หรอก ตั้งแต่ที่มึงย้ายโรงเรียนไปกูคิดว่ากูมันแย่ กูรู้สึกผิดมาตลอด ถ้ากูไม่เลือกข้างไอ้เกมส์หรือเพราะกูขี้ขลาด พอเราเจอกันอีกครั้งกูก็อยากบอกมึงว่ากูขอโทษ แค่คิดว่ามึงต้องเกลียดกูแล้วก็แทบอยากจะร้องไห้ กูใจเต้นตอนอยู่กับมึง กูไม่ชอบที่มึงอยู่กับอิง กูอยากให้มึงมีความสุข อยากแชร์เรื่องดีๆ กับมึง เวลามึงทุกข์ก็อยากรับฟัง อยากปลอบมึงตอนเศร้า...อย่างนี้เค้าเรียกชอบ...อุ๊บ”


ไอ้เปาเอียงหน้าปรับองศา ริมฝีปากมันทาบทับมาที่ปากของผม ความรู้สึกประหลาดก่อตัวขึ้นเมื่อมันดูดเม้มปากของผม นี่คือจูบจริงๆ งั้นหรอ สมองผมพร่าไปชั่วขณะใจเต้นเหมือนจะกระดอนออกมาให้ได้ มือที่จับหน้ามันไว้แทบจะไร้เรี่ยวแรง


“กลางมึงพูดจริงๆ หรอ มึง...กู...ใจเต้นแรงจนจะระเบิดแล้ว” ไอ้เปาถอนจูบออกแล้วจ้องหน้าผมด้วยสีหน้าสับสน มุมปากมันยิ้มตาสีหน้าก็ยังไม่คลายกังวล


“อืม พูดจริง”


ผมอาจจะไม่เก่งเรื่องแบบนี้ ถ้าผมขี้ขลาดอีกมันจะหนีผมไปอีกครั้งรึเปล่านะ ไอ้เปามองผมนิ่งก่อนยิ้มกว้างกว่าครั้งไหนๆ ยิ้มแบบที่ออกมาจากใจจริงๆ ของมัน ไอ้เด็กน้อยเอ้ย...ไม่สิ มันไม่ใช่เด็กน้อยอีกต่อไปแล้ว


ตอนเด็กๆ ผมเคยสงสัยว่าเราจะยืนอยู่บนลูกบอลกลมๆ ได้รึเปล่า เย็นวันหนึ่งพี่โตเอาลูกบาสมาจากโรงเรียน ผมหยิบมันมาเล่นคนเดียวอยู่พักใหญ่ เลี้ยงลูกบาสไปมาอยู่สนามบาสหน้าบ้าน ตอนนั้นไอ้เล็กยังเด็กมากส่วนพี่โตก็เริ่มโตเป็นหนุ่ม ผมที่ยังอยู่ในช่วงเด็กเลยไม่ได้ใครเล่นด้วยมากนัก เลี้ยงไปฟังเสียงลูกบาสกระทบพื้นไป ตึง ตึง ตึง จากนั้นผมเริ่มเบื่อนั่งกอดเข่าอยู่บนพื้นโดยมีลูกบาสอยู่ข้างหน้า แล้วผมก็สงสัย...


เราจะทรงตัวอยู่บนพื้นผิวกลมได้มั้ยนะ นั่นอาจจะเป็นความคิดสุดโต่งที่คนกลางอย่างผมอยากจะแหกกฎ ถ้าเป็นผมตอนนี้คงจะอยากตบหัวไอ้กลางตอนเด็กๆ แล้วด่ามันว่า มึงโง่รึเปล่าคนเราจะยืนได้ยังไง แน่ล่ะ ตอนนั้นผมไม่รู้ และผมลอง ผลปรากฏว่าผมคิ้วแตก โดนแม่ฟาดไปหลายทีเพราะเล่นอะไรที่ไม่ได้เรื่อง แต่ผมอยากจะบอกความรู้สึกเวลาอยู่บนลูกบาส ผมยืนไม่ได้ก็จริงแต่มันมีช่วงเวลาที่มันหยุดนิ่ง ผมทรงตัวได้...ก็แค่สองวิเป็นอย่างมาก แล้วก็...โครม


ความรู้สึกที่ลองท้าทายตัวมันโคตรเจ๋งแม้ว่าตอนท้าย เหมือนเราขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดแล้วดิ่งลงมานอนแอ้งแม้งอยู่ข้างๆ นอนแผ่หลาสายตามองขึ้นไปบนฟ้า แล้วก็คิดได้ว่าอย่างน้อยเราก็ทำได้ละวะ


แวบนึงที่ผมกลัวว่าสิ่งที่เราลองมันอาจจะไม่สวยหรู ผมกลัวอุปสรรค เราอาจจะตกลงมาเจ็บ แต่ตอนที่เราได้ลองต่อสู้กับความกลัวเพื่อให้ได้มันมามันมีค่ามากแค่ไหน ความเจ็บมันจะแค่ไหนกับเชียวถ้าเทียบกับสิ่งที่เราได้พยายาม


ครั้งนี้ก็เหมือนกันผมอยากแหกกฎคนกลางของผม ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต ให้ผมได้ลองตามใจตัวเองบ้าง ลองสุขบ้างลองเจ็บบ้าง


“ตอนนี้เราเป็นอะไรกัน”


ผมถามขึ้นความร้อนจากแก้มยังไม่จางหายไปไหน ใจก็ยังเต้นแรงไม่เปลี่ยนแปลง เสียงดังเกือบจะเท่ากลองที่ตีอยู่บนเวทีแล้ว ดีที่ตรงนี้มันมืดแล้วไม่งั้นคงต้องโดนล้อแน่ๆ


“กูอยากจับมือมึง อยากหึงมึง อยากหวงมึง อยากทำทุกอย่างที่ไม่ใช่แค่...”


“เป็นแฟนกันนะ หรือถ้ามึงไม่อยากเป็น เราเพื่อนที่รู้ใจกันตลอดไปเลย...ได้มั้ย” ผมเอียงคอถามมัน ผมไม่อยากเห็นมันหน้าเศร้าอีก


“กลางมึงพูดอะไรออกมารู้ตัวมั้ย”


“ไม่ดีหรอ งั้นเป็นครึ่งชีวิต กูให้มึงอีกครึ่งนึงเลยละกัน”


“กลาง มึงพูดหน้าตายแบบนี้เลยหรอวะ” ไอ้เปายกมือปิดหน้าเอาไว้ ใครว่ากูไม่เขินกูจะบ้าตายอยู่แล้ว


“มึงไม่เห็นตอบซักที” ผมหรี่ตามองมันเกือบจะแกล้งหันหลัง เล่นตัวจริงๆ เลยไอ้เปาเนี่ย แต่จู่ๆ มันก็โพล่งขึ้นมาทันทีแล้วคว้าแขนผมไว้


“กูเป็น!!! กูจะเป็นทุกอย่างของมึง ทุกอย่างที่มึงพูดมาเลย”


มันก้มกอดผมไว้ทั้งตัวอีกครั้งพลางพึมพำว่าดีใจอะไรของมันก็ไม่รู้ ยิ้มอย่างนี้ก็ดีใจหน่อยเกือบร้องไห้ดราม่าใส่กันแล้วมั้ยล่ะ ผมขยี้หัวมันไปแรงๆ มันไม่ตอบโต้แถมยังหัวเราะร่าเหมือนคนบ้าไม่มีผิด


“ดีใจโว้ยยยย!!!”





“ฮิ้วววววววววววววววววว”


“พวกกูลุ้นจนเยี่ยวเหนียวแล้วโว้ยยยย”


“ไอ้เปาแม่งขี้แยสัดๆๆ”


“เชี่ยยุงกัด”


เดี๋ยวนะ...เสียงพวกนี้มันมาจากไหนกันน่ะ


ผมกับไอ้เปาผละออกจากกัน ไอ้คอหล่นทั้งสามคนยิ้มแป้นแล้นอยู่ตรงพุ่มไม้เยื้องไปไม่ไกล เงาดำๆ ถ้ามองไม่ดีจะนึกว่าผีหรือคน พวกมันออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วเห็นตั้งแต่ตรงไหน


“ดีใจด้วยเว้ย ลูกกูมีผัวเป็นตัวเป็นตนละ”


ไอ้เบสเดินนำทัพเข้ามาตบบ่าผมเบาๆ ก่อนที่ไอ้ทัพเเละไอ้กล้วยจะเดินยิ้มกว้างกอดคอกันเข้ามา ในมือมันก็ถือมือถืออีกเช่นเคย หวังว่าคงไม่ได้ทำอะไรหรอกนะ ผมคงทำหน้าตางงงวยไปให้พวกมัน ไอ้ทัพเลยรีบพูดเหมือนกลัวว่าผมจะคิดไปไกล


“หน้าเอ๋อเลย ไม่ต้องปิดพวกกูเสือกกันหมดเรียบร้อย”


“จ้างไอ้เดย์ร้องเพลงบิ๊วอารมณ์เลยนะเนี่ย”


“ตัวทัพ ตัวกล้วยเขินมากๆ เลยค่ะ จุ๊บๆ”


“ตัวกล้วย อี๋รับไม่ได้ว่ะ หน้าเหมือนศพขนาดนี้”


“ไอ้เชี่ย แล้วนี่ไอ้กลางเป็นไรนิ่งเชียว ดีใจสิๆๆได้ไอ้เปาซักที เอ๊ะหรือไอ้เปาได้มันวะ”


“พวกมึงไม่...รังเกียจกูหรอวะ”


เห็นพวกมันยิ้มร่าเเซวเล่นกันเเบบนี้เลยอดคิดไม่ได้ ผมพูดอ้อมแอ้มแอบขยับตัวไปหลังไอ้เปาเล็กน้อย ถ้าเพื่อนจะเทผม ผมก็ไม่อยากให้เพื่อนเห็นสีหน้าของผม ไอ้เปามันคงจะรู้เลยส่งสายตาให้กำลังใจมาให้ผม มันจับมือผมไว้แน่น


“มึงจะดราม่าทำไม พวกกูเชียร์กันทุกวันนี้มึงคิดว่ากูรังเกียจหรอ” ไอ้กล้วยขมวดคิ้วมันเดินเข้ามาใกล้ผมส่วนไอ้เปาก็ยืนจับมือผมอยู่ข้างๆ


“ก็คิดว่ามึงแซวเล่นนี่หว่า”


“ถึงพวกกูจะจังไร แต่บอกเลยเรื่องพวกมึงกูไม่เคยเล่นนะ แล้วอย่างไอ้กล้วยคนนี้นะบอกเลยว่าเชียร์ใครโดนทุกราย”


“โดนใจ”


“เปล่าโดนตีน ถุ้ยไอ้เปา มึงจะไม่ตบซักมุขได้มั้ย ส่วนไอ้กลางมึงไม่ต้องคิดอะไรมาก มึงได้ผัวของสาวมหาลัยไปครองแล้วนะ”


“เอออยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องคิดมาก ความรักไม่ใช่เรื่องผิด” ไอ้เบสสบตากับผมเพื่อนคนเเรกในมหาลัยโยกหัวผมประกอบคำพูด


“แต่เรื่องหายใจก็ผิด...”


“ต้องยกให้ไอ้กล้วย”


“เชี่ย พวกมึงเกลียดกูหรอวะ”


ผมหลุดยิ้มมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ออก ผมโชคดีจังที่เกิดมาเจอพวกมัน


“ไง ยิ้มออกแล้วหรอ”


“ขอบใจพวกมึงมากนะ ไอ้เบส ไอ้ทัพ มึงด้วยไอ้กล้วย”


“มาๆ กอดกันๆ ฉลองให้กูหน่อย”


"ฉลองให้เพื่อนหน่อย หวงก้างมานานอ่ะคร้าบบบบ"


ไอ้เปาสถบขำๆ ก่อนจะยิ้มแล้วคว้าผมมากอดซะเเน่น ไอ้คอหล่นไม่รอช้าจะวิ่งเข้ามากอดผมด้วย ไอ้เปาเลยโยกตัวหนี สุดท้ายไอ้พวกนี้ก็วิ่งมากอดผมอยู่ดี ขอบใจนะเว้ยพวกมึง แต่คนที่ต้องขอบใจที่สุดคือไอ้โจ๊กครับ



.
.
.
ย้อนไปเมื่อวันก่อน


หลังจากที่ไอ้เบสคุยกับผมในวันนั้น มันก็ส่งข้อความมาสปอยความคิดผมเรื่อยๆ จนผมทนความรู้สึกยุบยิบในใจไม่ไหวเลยตัดสินใจไปเคาะห้องไอ้โจ๊ก โชคดีที่เมทมันไม่อยู่ ไอ้โจ๊กที่นอนอ่านการ์ตูนพอเห็นหน้าตาจริงจังของผมมันก็ลุกขึ้นนั่งโดยที่ไม่ต้องบอก และผมก็เริ่มต้นเล่าเรื่องในใจให้มันฟัง


“กูคิดว่ากูชอบไอ้เปา” แบบไหนไม่รู้แต่รู้ว่าชอบ


“อืม” ไอ้โจ๊กพยักหน้าเบาๆ ท่าทางมันดูนิ่งจนผมอดถามขึ้นไม่ได้


“มึงไม่ตกใจหน่อยหรอไอ้โจ๊ก”


“ไม่อะ”


“ทำไมวะ”


“กูรู้ตั้งแต่มึงอยู่ป.6 ละ ไอ้เนิร์ดหัวหน้าห้องที่นั่งหน้าหงอยมองแต่โต๊ะไอ้เปาอะ”


“มึงรู้ได้ไง” ขนาดตัวกูยังไม่รู้เลย จำได้ว่าพอไอ้เปาไปแล้วผมก็ห่างกับไอ้เกมส์ ทำตัวเป็นหัวหน้าห้องที่ดีไม่สุงสิงกับใคร พอผ่านไปไม่นาน ไอ้เปาย้ายโรงเรียนพวกมันก็ลืมไป รวมถึงไม่เคยจำว่ามีไอ้เปาอยู่ในห้อง


“เวลากูผ่านมาเข้าห้องน้ำกูก็เห็นมึงเหม่อตลอด สงสารเลยเข้าไปคุยด้วย”


“ตอนนั้นกูชอบมันแล้วหรอวะ”


“ตอนแรกกูก็ไม่รู้หรอก แต่มึงไม่รู้ตัวหรอว่ามึงพูดถึงมันบ่อยแค่ไหน พูดกรอกหูกูเป็นร้อยๆ ครั้ง แถมยังเปิดรูปหนังสือรุ่นให้กูดูหน้าไอ้เปาตอนเด็กอยู่ได้ จนกูลืมหน้ามันตอนโตแล้วเนี่ย”


“จริงหรอวะ”


“มึงมันเอ๋อ ไม่มีใครบอกก็ไม่รู้ตัวหรอก ชอบคิดว่าเป็นน้องอยู่เรื่อย”


“ก็มันน่ารัก กูอยากดูแลมัน”


“มึงใจเต้นกับน้องมึงมั้ยล่ะ ไอ้เล็กอะ”


“เฮ้ย นั่นน้องกู”


“นั่นไง แล้วมึงใจเต้นกับไอ้เปามั้ย”


“ก็...”


“เต้น แรงด้วย”


“อือ” ผมพยักหน้าช้าๆ ก่อนที่จะรีบพูด “แต่ว่า กูชอบมันจะผิดมั้ยวะ กูทำผิดมั้ย มันเป็นเพื่อนกูนะ”


“งั้นมึงก็ตัดใจ ให้มันไปเจอคนอื่น อิงอะไรนั่นน่ะที่มึงเล่า ไม่ก็สาวที่ถ่ายแฟชั่นด้วย”



“ไม่เอาดิ” หน้าผมคงจะแย่มากๆ ครับไอ้โจ๊กถึงเลิกคิ้ว


“เอ้าเบะปากอีก มึงจะกั๊กทำเชี่ยไร”


“กูไม่ได้กั๊ก” พอไอ้โจ๊กว่าเเรงๆ ทำไมผมต้องรู้สึกขอบตาร้อนขึ้นมาด้วยวะ


“ถ้างั้นมึงลองบอกมันสิ ว่ามึงรู้สึกยังไง”


“แล้วถ้ามันไม่คิดเหมือนกูล่ะ ถ้าเกิดมันเกลียดกูขึ้นมา กูเคยทิ้งมันนะเว้ย”


“ไอ้เปาเนี่ยนะแสดงออกเป็นบ้าเป็นหลังซะขนาดนั้น”


“มึงพูดว่าอะไรนะ”


“เปล่า ถ้ามึงอยากรู้มึงก็ถาม ชอบมันมึงก็บอก ท้าชนไปเลย”


“แต่กูกลัวมันเสียใจ”


“แล้วตัวมึงเองล่ะ มึงอย่าพึ่งคิดเรื่องอื่น ใจมึงว่ายังไงมึงก็ลองทำตามมันดู”


“...”


ไอ้โจ๊กจ้องหน้าผมนิ่ง


“ทำตามใจตัวเองบ้าง อย่ากลัว บางทีผลอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้”


“ถ้ากูเสียใจล่ะ”


“กูจะพามึงไปเที่ยว ไปดูหนัง”


“แล้ว...ถ้ากูร้องไห้ล่ะ”


“กูจะปลอบมึงเอง”


ผมมองหน้าไอ้โจ๊กเพื่อนรักคนที่สอง มันอยู่กับผมตั้งแต่ไอ้เปาย้ายโรงเรียนไป คนห้องท้ายที่ไม่ตั้งใจเรียนกลับมานั่งกับผมทุกเย็นหลังเลิกเรียน เอาการ์ดมาให้เล่น สอนผมพับรถแข่งกระดาษพาผมออกจากการจมอยู่กับตัวเอง จนเข้ามัธยมมันก็ยังคุยกับผมปกติรับฟังทุกเรื่องราวของผมไม่เหมือนเพื่อนคนอื่นที่เจอหน้าก็ได้แต่ยิ้มแล้วจากนั้นก็ไม่ยิ้มให้กันอีก ไอ้โจ๊กมันเป็นเพื่อนที่ดีของผมเสมอ...กู


“ขอบใจเว้ย”


“ไม่ต้องมาทำตาเยิ้ม ขนลุก”


“น้องกลางขอบคุณพี่โจ๊กคร้าบ”


“ถอยไป ไม่ต้องมาโคฟเวอร์เป็นไอ้เล็ก”


“ขอกอดหน่อยย”


“อารมณ์ดีแล้วเป็นบ้างี้หรอวะ ปล่อยกู๊”


[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 12 หน้า 10 (18-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 22-05-2017 20:09:50
[ต่อจากด้านบน]


.
.
.
ผมกับไอ้เปาเราเลื่อนสถานะกันแล้วครับ ผมนายคนกลางผู้ที่เกิดมาไม่ได้เคยมีแฟนมาก่อนในชีวิตและแฟนของผมไม่ได้สาวนมตู้มหรือสาวน่ารักคิกขุแต่เป็นไอ้เปาที่(เคย)น่ารักมาก หลังจากที่เรากลับมาจากงานสี่เสา พวกเราชาวสินกำก็มุ่งหน้ากลับมอ ไอ้เปากับผมก็แยกย้ายกลับหอมันทิ้งท้ายว่าพรุ่งนี้เจอกันแล้วก็ขับรถออกไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผมมองมันแล้วก็กลั้นยิ้ม ตอนกลางคืนผมไม่อยากจะบอกใครว่าผมนอนไม่หลับ ความรู้สึกตื่นเต้นยังวิ่งวนอยู่ในท้อง สมองมีแต่ภาพกับคำพูดไอ้เปาวิ่งวนเต็มไปหมด


นี่ผมชักจะบ้าแล้ว


แต่คงไม่ใช่ผมคนเดียวที่คิดแบบนี้


Paramatkrikri
กลาง จะเช้าแล้วว่ะ อยากเจอมึงแล้วอะ
กูนอนไม่หลับเลยว่ะ
แต่มึงคงหลับอยู่ เดี๋ยวเจอกันนะ


ผมมองข้อความจากแอพพลิเคชั่นไลน์ที่เด้งขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ ไม่กล้ากดเข้าไปอ่าน ผมอยู่คนเดียวในห้องคงไม่ต้องกลั้นยิ้มอีกต่อไปแล้ว ผมยิ้มกว้าง ไอ้เปามันเหมือนเด็กน้อยที่พึ่งมีความรัก เอ๊ะ แต่ผมก็เหมือนกันนี่นา มันรอผมมานานแล้วผมก็รอมันเหมือนกัน เรื่องราวตั้งแต่เด็กไหลพรั่งพรูเข้ามาในสมอง เรื่องราวที่เกี่ยวกับมันผมไม่เคยลืม ผมนอนพลิกตัวไปมาอยู่เกือบเช้า



“นี่มึงสองคนทำอะไรกันมา”


ผลจากเมื่อคืน ผมกับไอ้เปามามหาลัยด้วยใบหน้าหมีแพนด้า แต่พอเจอหน้ากันความขัดเขินมันก็เริ่มจู่โจมขึ้น เราเจอกันที่ม้าหินอ่อนข้างโรงอาหารกลาง


“เอ่อ...ดี..ดีเว้ย หลับสบายมั้ย” ยกมือเป็นการประกอบคำพูดด้วยอ่ะ


“นอนไม่ค่อยหลับ มึงล่ะกลาง”


การเลื่อนสถานะทำให้ผมยังไม่ชิน เพื่อนคอหล่นอีกสามคนมองหน้าพวกเราตาปริบๆ ไอ้เปานั่งเท้าคางมองหน้าผม เชี่ย หันไปทางอื่นได้มั้ย ทำไมอากาศมันร้อนผิดปกตินะ


“ไอ้กลางเอ้ยยย มึงนี่มันน่าเอ็นดูจังวะ” ไอ้เบสเอื้อมมือหมายมาบีบแก้มผม มันขบเคี้ยวฟันแต่ไอ้เปาปัดมือออกก่อน


“เออรู้แล้ว หวงกว่าเดิมอีกมึงอะ”


และนั่นก็ทำให้ผมหลบตาทุกคน ก้มหน้าเปิดสมุดเลคเชอร์ไปมา


“กลาง..” ไอ้เปาเรียกผม ทำไงดีผมไม่กล้าหันไปหรอก แค่เสียงมันผมก็ใจเต้นแรงจะเเย่เเล้ว “มึงหันมานี่หน่อย”


ทำไมมันยังทำตัวปกติอยู่ได้นะ ผมหายใจติดขัดไม่กล้ามองหน้าใครเลย พอเห็นว่าผมไม่เงยหน้าซักทีไอ้เปามันจับหน้าผมให้ไปจ้องหน้ามันระยะประชิด ได้แต่หลุบตาลงไม่กล้าสบตามันเหมือนเดิม ตอนที่ก้มหน้าเผลอมองตรงริมฝีปากมันแวบๆ จู่ๆ ใจก็เต้นแรงขึ้นมาอีกจนเผลอกัดปากระบายความรู้สึก


“มองหน้ากูแปบนึง”


“อื้อ มึงอย่าบังคับดิ กูทำงานแปบ...” ทำงานบ้าอะไรล่ะกระดาษไม่ได้จดอะไรซักตัวเเถมเพื่อนก็นั่งกันอยู่ตรงนี้กันหมด ผมทำตัวไม่ถูกจริงๆ นะครับ


“มองก่อน”


ไอ้เปาทำเสียงจริงจัง มันเงียบไปแปบนึง ผมจึงค่อยๆ แอบเงยหน้าขึ้นแล้วก็พบว่ามันจ้องหน้าผมนิ่ง


“มี อะ...อะไรวะ” เชี่ย ผมบังคับเสียงตัวเองไม่ได้เลยให้ตายเถอะ


“กูเป็นไอ้เปาคนเดิมมั้ย”


“อื้ม”


“แล้วมึงเป็นไอ้กลางคนเดิมมั้ย”


“อื้อ” กูเองไงจำไม่ได้หรอ


“มีอะไรเปลี่ยนมั้ย...ก็ไม่มี แต่ใจเราตรงกันแล้วเท่านั้นเอง”


“อุ๊บ” ไอ้ทัพเอามือปิดปากแล้วเผลอหายใจมันรีบส่ายหน้าแล้วพูดต่อทันที  “กูเปล่าแอบฟังพวกมึงต่อเลย ไม่ต้องทำตาขวางขนาดนั้นครับเพื่อนเปา”



“อันที่จริงกูก็เขินนะเว้ยโคตรเขิน แทบจะกลั้นยิ้มไม่อยู่อยู่แล้ว โคตรเกินฝันเลย แต่กูไม่อยากให้มึงอึดอัด”


“กูไม่ได้อึดอัด แค่ยังไม่ชิน”


มันบีบแก้มผมที่ผมรีบพูด กูไม่อยากให้มึงเข้าใจผิดนี่หว่า


“กูรู้แต่มึงไม่ต้องเกร็งอะไรทั้งนั้น แค่มึงคือไอ้กลางของกูก็พอแล้ว” ผมขมวดคิ้วเริ่มเจ็บตรงที่มันบีบแล้ว แต่ไอ้เปาไม่ยอมปล่อยซักที  “มึงชอบบอกว่ากูเด็กน้อย แต่มึงอะเด็กน้อยที่สุดละ” ไม่ว่าเปล่ามันก็ปล่อยมือจากหน้าผมมาขยี้หัวผมแทน


“เชี่ย ผมยุ่งหมดแล้ว”


ผมทำหน้ายุ่งเบี่ยงหัวหลบมือปลาหมึกของมัน แต่น่าแปลกแค่ไม่กี่คำพูดของมันก็คลายความกระอักกระอ่วนลงไปได้มาก


“เออ บรรยากาศดีขึ้นละ ไอ้ทัพพูดได้”


“โฮ่ย กูกลั้นหายใจตั้งนาน กลัวเผลอหายใจแล้วไปขัดฟีลมัน”


ผลัวะ!


“พูด”


“อ๋อ เออ ไอ้กลาง มึงทำตัวปกติเถอะ มึงสองคนเป็นเพื่อนก็เหมือนแฟนกันอยู่แล้วป่ะ”


“เออดูแลกันทีกูเหมือนตัวประกอบ”


“มึงก็ใช่อยู่แล้วป่ะไอ้กล้วย พระเอกอะไรจะหน้าตาจังไรขนาดนี้”


“ไอ้สาดด ว่าแต่ไอ้กลางโคตรน่ารักขอจุ๊บทีนึงได้ป่ะ”


“อยากโดนตีนมั้ย”


ไอ้เปาหันไปมองตาขวางใส่ไอ้กล้วย มันแลบลิ้นปริ้นตาแล้วลุกขึ้นยืน ส่ายตูดล่อตีนไอ้เปา ไม่รอช้าไอ้ทัพที่สบตาแปรพักตร์อย่างรวดเร็วก็จับแขนทั้งสองข้างของไอ้กล้วยไว้


“เฮ้ย มึงอยู่ทีมเดียวกับกูไม่ใช่หรอ”


“จับมันไว้ๆ”


พวกผมตะโกนเสียงดังจนคนแถวนั้นหันมามองแล้วหัวเราะกันหมด ไอ้กล้วยร้องโหวกเหวกขอความช่วยเหลือเสียงดัง


“ยอมแล้วๆๆๆ”


“มาขอจุ๊บไอ้กลางอย่างนี้เอามือกูไปจุ๊บกระโหลกมึงก่อนนะไอ้กล้วย”


ไอ้กล้วยก้มหน้าหนีมือพวกผมที่พร้อมใจกับรุมตบหัว ยิ่งมือไอ้ทัพกับเเรงควายของมันยิ่งเพิ่มเเรงขึ้นไปอีก ส่วนผมปกติก็ไม่เคยเเกล้งเพื่อนเท่าไหร่ เห็นไอ้เบสพยักหน้าเป็นเชิงเชิญชวนก็ขอลองบ้างครับ


“โอ๊ย โอ๊ย ไอ้กลางนี่มึงก็เอากับเค้าด้วยหรอ เฮ้ย โอ๊ย”


หลังจากนั้นพวกเราก็ลากร่างอันสะบักสะบอมของไอ้กล้วยไปเรียน หึหึเล่นกับใครไม่เล่น มันบ่นไม่หยุดจนอาจารย์ที่สอนทฤษฎีสีอยู่ข้างหน้าเอ็ดมันหลายครั้ง


“วันนี้ทำไมกูซวยงี้เนี้ย เริ่มจากอะไรวะ” ไอ้กล้วยหรี่ตาสงสัยมันจะไม่อยากหยุดเปิดศึกกับผม ไม่เป็นไรยังไงผมก็มีไอ้เปาเป็นทีมเดียวกันอยู่แล้ว


“แหม เมื่อเช้ายังเกร็งอยู่เลย ตอนนี้มานั่งเบียดกันเพื่ออะไร”


“เอ้า คนไม่มีก็เหงาสิ” ไอ้กล้วยทำตาเหลือกมันทำท่าอ้วกใส่ เออขอให้ออกมาจริง แกล้งไอ้กล้วยนี่ตลกจริงๆ นะครับ ผมเอนหัวซบไหล่ไอ้เปาที่นั่งอยู่ข้าง ส่วนไอ้เปาก็ให้ความร่วมมือด้วยการซบผมอีกที


“จ้า...กวนตีนนะพวกมึง แชะ! กดถ่ายรูปแม่งเลย”


“เฮ้ย ไอ้กล้วยไม่ตั้งใจเรียนกูฟ้องจารย์นะ”


“เออแปบนึง กูแก้แค้นแปบ”


Bananaboat ไม่มีตรงกลาง @khonklang @paramatkrikri
สาวก #คูก้าโคอาล่ามาร์ช มาทางนี้เลยครับ ผมโดนทำร้าย
Nenae กรี๊ดดดดดด เค้าซบกันค่ะ เค้าซบกัน
Wowwa เปา โฮกกก แค่ซบทำไมต้องหน้ายิ้มหวานขนาดนั้นอะ
Beebie น้องกลางงๆๆ เชี่ยอยากได้ โคตรน่ารัก พวกมึงมาดูเร็ว @Ajoon @sapwat
Taletubbieee ไอ้เชี่ยกล้วย เรียนหนังสือบ้างนะมึง พ่อแม่ส่งมาเรียน
Bananaboat ไอ้สัดแล้วมึงตอบกูเนี่ยนะ


ผมก้มหน้าดูอินสตาแกรมแล้วก็อมยิ้ม หน้าผมกับไอ้เปาพริ้มซะขนาดนั้น ไอ้กล้วยคงเจ็บใจที่มันไม่ได้สร้างความสะเทือนใจให้ผมได้เลย ก็เพราะพวกมันแซวผมทุกวัน กูก็เริ่มหน้าด้านขึ้นมามั่งแล้วนะ ผมปล่อยให้แจ้งเตือนข้อความเด้งอยู่แบบนั้นแล้วตั้งใจฟังอาจารย์ ผมมีความสุขจังครับ ไอ้เปาที่นั่งจ้องหน้าผมอยู่ก่อนมันแปลกใจที่ผมยิ้มเป็นคนบ้าแล้วมันหูแดงขึ้น


“ไม่สบายหรอ”


ผมเอื้อมมือไปจับหน้าผากมัน ไอ้เปาชะงัก ทำไมหน้าแดงกว่าเดิมวะเนี่ย มันส่ายหน้าปฏิเสธบอกว่าอากาศร้อนเป็นจังหวะเดียวกับที่อาจารย์เปลี่ยนสไลด์ใหม่ผมเลยผละจากมันไปจดเนื้อหา


“ฟู่ว...ยิ้มทีใจจะพัง”


หือ ว่าอะไรนะ เฮ้ย อาจารย์เปลี่ยนสไลด์อีกแล้ว




.
.
.
“ไอ้เปา มึงทำไมลงเงาตรงนี้หนักจังวะ”


“ก็กูไม่ถนัดอะ”


ผมกับไอ้เปานั่งอยู่ที่พื้นหอพักของผม รอบตัวเต็มไปด้วยกระดาษ วันนี้ผมกับไอ้เปาทำงานคู่ครับและงานที่ต้องทำคือวาดภาพเหมือนอย่างมีเรื่องราว วาดมาเกือบสามชั่วโมงมือเต็มไปด้วยสีดำจากดินสออีอีลามไปจนถึงข้อศอกเปื้อนอะไรเบอร์นั้นครับ


“กูบอกมึงว่าลงเบาๆ หน่อย ตรงนี้มันโดนแสงมากมันต้องอ่อนดิวะ”


“ให้มึงลองใช้สีน้ำบ้างมั้ยล่ะ”


มันทำหน้าตายู่ยี่แล้วโยนดินสออีอีลงบนพื้นไม่แรงมากท่าทางจะเบื่อเต็มทน แต่ไส้มันจะหักนะเว้ย ผมมองมันตาขวาง


“บ่นหรอ เอานี่ไป”


ผมปาดมือที่เปื้อนดินสออีอีไปที่หน้าของมัน มันหลบเป็นพัลวัน


“เฮ้ยๆ เดี๋ยวสิวขึ้น”


หึ ไอ้เปาเด็กน้อยแก้มมึงนี่แหละน่าทำให้เลอะสุดแล้ว บีบแม่ง มันก็ปัดป้องตัวเองแล้วแก้แค้นผมแทน เชี่ย โดนจริงนะเนี่ย เล่นกันจนเหนื่อย ผมกับไอ้เปาก็นอนราบกับพื้นข้างๆ กัน แม้ว่ารอบตัวจะเต็มไปด้วยกระดาษปรู๊พหรือหน้าเปื้อนแค่ไหนก็ไม่สนครับ เหนื่อยแล้ว


 “ไอ้เปา มึงเคยมีแฟนป่ะ”


ผมถามขึ้นแต่สายตามองตรงไปที่เพดาน ไอ้เปาหันมาขวับแล้วจ้องผมก่อนจะตอบคำถามทันควัน แก้มมันเลอะไปด้วยรอยสีดำๆ ซึ่งหน้าผมก็คงไม่ต่างกัน


“เคยอะไรล่ะ รอแต่มึงกูต้องมองคนอื่นด้วยหรอ”


“แล้วมึงจูบเป็นได้ไง” นี่เป็นเรื่องคนที่นายคนกลางสงสัยครับ


“อะ...ไอ้กลาง ถามไรเนี่ย”


“ก็สงสัยอะ ไอ้เบสบอกว่าคนที่จูบเป็นต้องมีประสบการณ์เรื่องแบบ เอ่อแล้ว..แล้วมึงจูบกูมึงก็ต้องเคยดิ...”


“เชี่ยเบสพูดเหี้ยไรเนี่ย” ไอ้เปาดูหงุดหงิดมันขยี้หัวตัวเองเบาๆ พอเห็นแบบนั้นก็คิดได้ว่ามันเคยจริงๆ


“เรื่องจริงหรอ”


“เฮ้ยไม่ใช่ๆ ไอ้กลางทำไมทำหน้างั้นวะ กูไม่เคยนะเว้ย”


“แล้วมึงทำได้ไง” หมายถึงคืนวันนั้นที่มันจูบผม


“ก็...ตามความอารมณ์ความรู้สึก”


“สอนหน่อย” ผมจ้องหน้ามัน ไอ้เปาทำหน้าเลิ่กลั่กไม่มีสติ


“เดี๋ยวๆ มึงปีนตัวกูขนาดนี้มันไม่ปลอดภัยนะเว้ย”


“สอนหน่อย”


“เชี่ย ลืมตาแป๋วขนาดนี้กูจะทำไงวะเนี่ย” มันดันตัวผมออกตอนนี้เราสองคนลุกขึ้นนั่งหันหน้าเข้าหากัน เสียงพัดลมที่พัดกระดาษยังดังอยู่เป็นระยะๆ ไอ้เปามองหน้าผม สายตาของมันทำให้ผมรู้สึกแปลกตรงกลางใจ


“...”


“เออๆๆ งั้นอย่างแรกมึงต้องหลับตาก่อน”


“หลับตาแล้วกูจะเห็นหน้ามึงได้ไง”


“ไอ้กลางกูจะบ้าตาย เชื่อกูเถอะเร็ว ไม่ไหวแล้ว” ไม่ไหวอะไรวะ กูแค่ถามแค่นี้เอง ผมหลับตาตามที่มันบอก


“แล้วไงต่อ”


“เลื่อนหน้ามาดิ...”


“ใกล้พอยัง”


“อืม เอียงหน้าด้วย จมูกเราจะได้ไม่ชนกัน ทีนี้มึงลองนึกว่ามึงอยากจูบกูแบบไหน ตามความรู้สึกของมึง เเม่งเขินว่ะ”


“...”


ความรู้สึกของผมหรอ ไอ้เปายกมือขึ้นมาจับใบหน้าของผม ผมเริ่มรู้สึกถึงลมหายใจของมัน และเมื่อปากเราสองคนใกล้กัน และเป็นผมเองที่ยื่นตัวเข้าไป ปากของมันนุ่ม อืม...เหมือนเยลลี่ล่ะมั้ง ผมอยากชิม ค่อยๆ ชิมมันทีละน้อยเหมือนกลัวว่าเยลลี่ชิ้นนั้นมันจะหมด


“อือ...”


ไอ้เปาดูดดุนริมฝีปากล่างของผมในขณะที่ผมกำลังชิมริมฝีปากบนของมัน ยิ่งได้ยินเสียงตอนที่เราจูบกันผมก็ยิ่งเขิน


“อืม...กลางพอ”


ผมลืมตาขึ้น รู้สึกว่าหน้าแดงจัดเมื่อเห็นว่าเราใกล้กันมากแค่ไหน พอสติกลับคืนมาถึงรู้ว่ามันล่อแหลมมากเกินไปแล้ว เสียงหัวใจสองคนดังประสานกันคลอเสียงกระดาษ ไม่ได้สังเกตว่ากระดุมเสื้อผมหลุดออกไปตอนไหน


“ถ้ายังไม่หยุด แล้ว...มากกว่านี้ กูคงเป็นคนเลวเลยล่ะ เฮ้อกูจะให้มึงออกไปข้างนอกได้ไงเนี่ย มันชักจะติดเรทเกินไปแล้ว”


“...” อะไรของมัน ผมขมวดคิ้ว


“กลางมึงอย่าไปขอให้ใครสอนแบบนี้นะ กูจริงจัง”


นอกจากบ่นกับตัวเองแล้วมันก็โพล่งขึ้นมาอีก ไอ้เปาหน้าแดงไม่แพ้กันจนลามมาถึงหู มันเช็ดปากด้วยหลังมือก่อนจะจับไหล่ผมพูดเสียงจริงจัง ผมได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก ผมรู้น่าที่ผมขอให้มันสอนเพราะมันคือไอ้เปาไง แล้วก็...ไม่อยากจะดูเป็นคนไม่ได้เรื่องในสายตามันเท่านั้นเอง


“เหมือนกูพามึงใจแตกเลยว่ะ” ไอ้เปายิ้มขำลักยิ้มของมันปรากฏขึ้นอีกครั้ง มันจับมือผมข้างนึงไว้ก่อนจะย้ายมาไว้ที่อกข้างซ้าย ใบหน้าหล่อเหลากับสายตาเท่ๆ มันทำให้ผมตื่นเต้นเสมอ  ฝ่ามือที่มันจับผมไว้ร้อนผ่าว


“มึงจับดู”


“...”


“ใจกูเต้นแรงจนพังรึยัง”



=========
#คนกลาง
กลางงงงงทำไมน้องทำเเบบนี้
นิยายเราเป็นนิยายไสยไสยนะ หน้าตาเปื้อนขนาดนั้นยังจะอ้อยนะะะ...555
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ 
เจอกันตอนหน้าค่ะ เราจะพบกับนายเกมส์บุคคลต้นเรื่องกันค่ะ
 :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 22-05-2017 20:25:57
เป็นแฟนกันแล้ววววว เขินมากกกกกกกกกกก :-[ :-[ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-05-2017 20:40:42
โอย............ชอบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ลุ้นมานาน เขาบอกชอบกันแล้ว :ling1: :ling1: :ling1:
เขา กอด จูบ กันแล้ว   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
กลาง มีสงสัยเปา เคยมีแฟนหรือเปล่า
เปา ตอบแล้วชื่นใจ “เคยอะไรล่ะ รอแต่มึงกูต้องมองคนอื่นด้วยหรอ”  :hao5: :hao5:
กลางยังสงสัยเรื่องจูบอีก โอ๊ย.....ไปๆมาๆ ให้เปา สอนจูบอีก ฟินนนนน
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-05-2017 20:50:35
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 22-05-2017 21:13:37
กรี๊ดดดด เขาเป็นแฟนกันแล้วค่ะ
ดีใจเหมือนลูกสาวกำลังออกเรือน //เดี๋ยวๆ ฮ่าๆ :z1:
ทำไมคนกลางน่ารักอย่างงี้ อยากจับมาดูเล่น จับฟัด
ว่าแต่น้องเล็กจะโวยบ้านแตกมั้ยเนี่ย
ชอบค่ะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 22-05-2017 21:34:27
 :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 22-05-2017 21:37:21
โหหห เปาโคตรอดทน
เป็นนี่จะฟัดๆๆๆๆๆ ให้ปากช้ำกันไปข้าง5555
เอ๊ะ หรือทำไม่เป็น /คริ
มีความสบประมาท
นี่หนูกลาง หนูอยากรู้ได้โคตรยั่วเลย
แบบว่า อย่าไปทำแบบนี้กับใครที่ไหนนะ
เห้ออออออ น่าเป็นห่วงจริงๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: graciej ที่ 22-05-2017 21:48:00
คนกลางน่ารัก :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: __jitlada ที่ 22-05-2017 22:08:43
กลางหนูทำแบบนี้ไม่ได้นะลูกกก :katai4: :katai4: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 22-05-2017 22:54:04
โอ้ยยยน้องกลางคะ ทำไมอ่อยใสขนาดนี้หล่ะคะ พี่เขินแทนเปาเลย  :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-05-2017 00:04:23
ละมุนตอนจูบกันมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เป็นแฟนกันแล้วววววววววว
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 23-05-2017 00:08:44
อื้อหื้ม คนกลาง จะน่ารักไปไหน ปีนขึ้นตัวเปานั่นรู้ไหม อันตรายต่อใจเปามาก น่ารักกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-05-2017 00:12:07
โหยยยยย หวานอะไรแบบนี้ ฮื่อออ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 23-05-2017 00:49:12
ใจคนอ่านก็แรง จนจะพังแล้วค่ะ  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 23-05-2017 01:08:30
ชัดเจนดีค่ะ เราชอบตัวละครที่ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง
แถมจริงจังชัดเจนกับอีกฝ่ายด้วย ชอบ ฮืออออ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-05-2017 01:59:40
ใจ  พัง แล้ว เอ้ย~~~
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 23-05-2017 02:22:46
โอ้ยยยยกลางงงง
ทำไมอ้อยยขนาดนี้
เปานี่เข้าคอนเซบนี้เลยอะ
"คนนี้จริงจัง ใจพังก้ยอม"
ยอมทุกอย่างแล้ววว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 23-05-2017 07:47:58
ให้เปาสอนบ่อยๆนะ 5555ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 23-05-2017 08:14:42
ใจอิชั้นนี่แล่ะจะพังงงง โอยยยย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 23-05-2017 09:51:30
ตัวเราระเบิดแล้วววววววววว คนกลางทำไมใสแบบเน้
เขาเป็นแฟนกันแล้วววว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 23-05-2017 10:05:15
ไม่ อยาก จะ นึก ตอน น้อง คนเล็ก รู้ ข่าว หึ หึ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-05-2017 10:06:25
อ่อยนะคะนู๋กลาง 5555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 23-05-2017 11:40:38
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: rikulism♡ ที่ 23-05-2017 14:32:22
เป็นแฟนกันล้าวววๆๆ :hao7: :hao7: คนกลางน่าเอ็นดูอ้ะ น่ามันเขี้ยวววว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MissMay ที่ 23-05-2017 15:39:19
น้องกลางงงงง น่าเอ็นดูวววววว  :hao7:
จนเปาหวงขึ้นเรื่อยๆ ละ อิอิ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Kaikaaa ที่ 26-05-2017 16:30:43
ถ้ากลางจะอ่อยหนักขนาดนี้นะ  :hao5: :hao5:
น่ารัก อยากได้กลางทาเลี้ยง  :katai4: :katai4: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Phetploy ที่ 27-05-2017 13:30:54
กรี้ดดดดดดดดดด น้องกลางอ่อยมาเว่อร์ ฮือ  เขินตัวบิดแล้วค่ะ!
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 28-05-2017 00:38:04
เขินนน เปงแฟนกันแล้นนน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Mom2maM ที่ 28-05-2017 10:33:47
เอาใหญ่เลยนะกลาง
555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 13 หน้า 10 (22-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 29-05-2017 04:10:09
เขินเลยยยยยยยย
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 30-05-2017 08:12:46
14
เกมส์ กลาง เปา


ผมเล่นโซเชียลระหว่างนอนเล่นบนเตียง หลังจากทำงานและเรียนมาอย่างเหน็ดเหนื่อยทั้งอาทิตย์ สุดสัปดาห์นี้ผมจึงจัดหนักดูหนังติดต่อกันสามสี่เรื่อง ดูแล้วง่วงก็นอน พอตื่นมาก็ดูต่อวนลูปอย่างมาหลายชั่วโมง ไอ้เปาที่ไปถ่ายแบบกระหน่ำโทรหาผมแต่ผมไม่รับโทรศัพท์ มันแทบจะถลากลับมาจากกองถ่าย ดีที่มันมีเบอร์ไอ้โจ๊ก เพื่อนรักของผมเลยมาเคาะห้องผมหลายทีกว่าผมจะโผล่หน้ามาจากประตู พอเห็นว่าผมอยู่ห้องไอ้โจ๊กที่คงจะนอนกลางวันก็ตบหัวผมจนสมองแทบหลุดจากนั้นก็ด่าผมเล็กน้อย บอกว่าให้ทิ้งโทรศัพท์ไปแม่งเลย มันรับภาระมาหนักมากจริงๆ ครับกับทั้งที่บ้านผมและไอ้เปา ขอโทษครับเพื่อน


ผมเดินมึนเพราะโดนตบหัวกลับไปในห้องนอน ควานหาโทรศัพท์ที่ถูกหมอนวางทับไว้แล้วพบว่าไอ้เปาคงจะด่าพ่อผมอยู่แน่ ทั้งโทร ทั้งไลน์ แต่อย่าลามไปถึงเฟซบุ๊กอะไรเลยครับถ้าโทรศัพท์ไม่รับอย่าหวังว่าจะเล่นอย่างอื่น แต่แค่นี้ผมก็เชยจะตายอยู่แล้ว


Paramatkrikri
ห้าโมงจะมารับไปกินข้าว
รู้เรื่อง


ข้อความทิ้งทางในไลน์ล่าสุด ผมส่งสติ๊กเกอร์หมีกลับไป รู้เรื่องแล้วครับบบ จากนั้นก็ตอบไลน์กลุ่มครอบครัวส่งรูปหน้าตัวเองยิ้มยิงฟันไปทักทายทุกคนที่ตอนนี้เริ่มด่าผมเหมือนกันว่าถ้าไม่ถ่ายรูปก็คงจะลืมหน้าผมไปแล้ว ไอ้เล็กยังไม่เข้ามาตอบ มีแต่พี่โตที่ทักทายผมแล้วบ่นเรื่องการกินอาหารของผมมันเป็นหมอยาก็คงจะซึมซับเรื่องพวกนี้มาบ้าง ผมรับปากแล้วอยากจะบอกว่าทุกวันนี้ผมกินข้าวทุกมื้อครับ เพราะไอ้เปามันลากผมไปตลอด ถามว่าแฟนกันต้องเป็นยังไงผมก็คงจะตอบไม่ได้ ไอ้เปามันก็ทำอย่างนี้ตั้งแต่เราเจอกันแต่นอกจากนั้นมันก็บ้ามากขึ้น


ตอบไลน์เสร็จเรียบพร้อมผมก็เข้าเฟซบุ๊กด้วยความที่ต้องรอไอ้เปา ผมก็เล่นมันทุกอย่าง อย่างเฟซบุ๊กเนี่ยผมไม่ค่อยได้เล่นครับยิ่งตั้งแต่เข้ามหาลัยเนี่ยแทบไม่ได้แตะ หน้าโปรไฟล์ของผมก็มีแต่ที่ไอ้แกงค์คอหล่นมันแท็กมาเช่นไปเช็คอินกินข้าว ทำงาน หรือถ่ายรูปอะไรบ้าง ระหว่างที่ผมเล่นนิ้วไปมานั้นแจ้งเตือนก็ดังขึ้น


กลุ่ม YT49
Yean narak
พวกมึงกูไปดูไอ้เกมส์เตะมา มันส์ชิบหาย โคตรเท่เลยเพื่อน @Games BAEU
เผื่อใครจำมันไม่ได้ *แนบรูป


ใครวะยีนน่ารัก ยีน...อ๋อออ ไอ้ยีนเด็กห้องสามอะนะ ผมกดเข้าไปดูก่อนจะต้องร้องอ๋ออีกครั้ง ไอ้ยีนมันอัพโหลดรูปภาพที่มันตอนนี้ผมยาวประบ่า ตัวอ้วนลงพุง ใส่เสื้อสีดำ มันกำลังกอดคออยู่กับไอ้เกมส์ที่เปลือยท่อนบนแต่พาดเสื้อทีมไว้ที่ไหล่ขวา ไอ้ยีนมันโพสท่าด้วยนิ้วโป้งแถมยังฉีกยิ้มตาปิด จากฉากก็พอเดาได้ว่าอยู่สนามฟุตบอล ผมกดไลค์ไปตามประสาไม่คิดว่าวินาทีต่อมาจะมีคำร้องเป็นเพื่อนเพิ่ม ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ ไอ้เกมส์นั่นเอง ผมรับแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เอ..ตอนนั้นมันทักแชทมาเราไม่ได้เป็นเพื่อนกันแล้วหรอวะ


Games BAEU
เข้าประตูแรกของฤดูกาล ประตูนี้ให้พ่อครับ ผมรู้ว่าพ่อมองอยู่ *อิโมติค่อนรูปถ้วยรางวัล


ไอ้เกมส์พึ่งอัพรูปนี้ไปสามสิบนาทีก่อน มันแชร์รูปมันจากเพจข่าวกีฬาชื่อดัง ในรูปเป็นมันที่ร้องไชโยโดยมีเพื่อนร่วมทีมฟุตบอลวิ่งเข้ามาหามันด้วยท่าทางดีใจสุดขีด แฟนบอลด้านหลังโห่ร้องดีใจเหมือนได้แชมป์โลก


แม่งเจ๋งว่ะ มันไปได้ดีในทางของมันจริงๆ อ่ะกดไลค์ไปทีนึง ขณะที่ผมกำลังจะออกจากเฟซบุ๊ก เสียงแชทก็ดังขึ้นครับ


Games BAEU
ไอ้กลางหายไปเลยนะมึง
Khonklang KP
เฮ้ยโทษทีว่ะ
กูโคตรยุ่งเลย
Games BAEU
มึงมาเรียนกรุงเทพหรอเห็นในเฟซมึง
Khonklang KP
ใช่ๆ
คราวที่แล้วโทษนะเว้ยไม่ได้ตอบเลย
Games BAEU
เออไอ้สัด กูเหมือนคนคุยคนเดียวเลยตอนนั้น
ไหนๆ มึงก็มาเรียนกรุงเทพแล้ว มาเจอกันหน่อยดิ๊


มันยังคงใช้คำสั่งเหมือนเดิมตั้งแต่เด็กยันโต เอาแต่ใจชิบหาย ไอ้เกมส์พิมพ์ต่ออย่างรวดเร็วเหมือนกลัวคำสั่งมันจะขาดความต่อเนื่อง ผมก้มหน้าใช้ความคิดก่อนจะจิ้มนิ้วเพื่อพิมพ์ตอบ แต่ไอ้เกมส์ดันเร็วกว่าซะงั้น


Games BAEU
กูได้พักหลังเตะ เจอกันห้างxxx พรุ่งนี้สิบเอ็ดโมง เดี๋ยวกูเลี้ยงข้าวมึงเอง
เฮ้ยกูไปฟิตเนสก่อนนะ เจอกัน ไอ้กลาง


เอ่อ...


ไม่ทันจะได้ตอบอะไรไอ้เกมส์ก็ตัดบท ผมทำหน้ามึนพลางเกาหัวแกรกๆ มึนได้ไม่นานไอ้เปาก็โทรเข้ามา ผมกดเลื่อนหน้าจออย่างรวดเร็ว ต้องรีบครับมีความผิดติดตัวอยู่


“ว่า”


(ทีงี้แล้วรับเร็วเชียวนะ)


“งั้นไม่รับเร็วละ รับปีหน้าดีมั้ย”


(เอออไม่ว่าแล้ว คราวหลังก็อย่าเป็นงี้อีก คนเป็นห่วงเข้าใจ๊)


“เขินเลย มีคนเป็นห่วง”


(ไอ้สัด เขินจริงป่ะเนี่ย)


“จริ๊งง”


(ไม่จริงใจสุดๆ)


ต่อปากต่อคำนิดหน่อยเพราะได้ยินเสียงเพลงในรถมัน ผมเลยบอกให้มันรีบวางสาย ไม่นานไอ้เปาก็มาถึงครับ รถคันกะทัดรัดเคลื่อนตัวมาจอดหน้าหอ ผมเดินเข้าไปนั่งพอเห็นมันก็ขมวดคิ้วฉับ


“เช็ดหน้ายังไงครับคุณเปา”


ผมยื่นมือไปเช็ดใต้ตามัน ใต้ตามันเป็นสีดำครับ ไม่ได้นอนน้อยนะแต่เป็นดินสอเขียนขอบตา สงสัยวันนี้ธีมร็อคครับ


“หาคนเช็ดหน้าให้อยู่เนี่ย เช็ดคนเดียวไม่สะอาดเลย” มันหันมาตอบพร้อมกับยักคิ้วกวนๆ


“อ่อยเราหรืออ่อยคนอื่นอะ”


“ตอบว่าอ่อยคนอื่นจะได้มั้ยอะ”


“เรื่องของมึง”


“แหน่ะๆ เสียงแข็ง”


เกลียดมันจริงๆ ทำหน้าตากวนตีนยังไม่พอเสียงนี่อย่าให้พูดครับ กวนคูณสิบ ผมส่งสายตาเอือมไปให้มันก่อนจะใช้มือผลักหัวมันเบาๆ เซ็ทมาซะแข็งทิ่มมือเลย ผมมึงเนี่ย


“โอ๋ๆ ล้อเล่นๆ ”


มันส่งมือมาลูบหัวผมเบาๆ ผมก็สะบัดออกครับ ผมไม่ได้โกรธนะ สังเกตมาหลายครั้งแล้วผมคิดว่าไอ้การลูบหัวเบาๆ มันคือสไตล์การปลอบหรือขอโทษของไอ้เปามันครับ ประมาณว่าโทษทีๆ นะไอ้กลางหรือไม่ก็ไม่เป็นไรนะอะไรอย่างนั้นน่ะครับ แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือผมที่ยุ่งเหยิงของผมเอง


“ขับไปได้แล้ว จะกินมั้ยข้าวอะ”


“โหดวุ้ย”


ระหว่างการเดินทาง อย่าถามถึงความหวานครับ ไอ้เปาจังไรยังไงก็ยังเหมือนเดิม กวนตีนผมตลอดการเดินทาง เรามาถึงร้านอาหารไม่ไกลจากมอมาก สั่งอาหารมาสองสามอย่าง กว่าอาหารจะมาถึงก็หกโมงพอดี ร้านอาหารมื้อนี้มีบรรยากาศแบบสวนอาหารมีต้นไม้ร่มรื่น ตกแต่งสวยเลยทีเดียวครับ บนเพดานจะห้อยต้นไม้มีเถาวัลย์เลื้อยลงมาประปราย สวยมากเลยครับ


“ชอบอะดิ”


ไอ้เปาถามขึ้นเมื่อผมมองรอบๆ อย่างสนใจ ผมหันกลับมาแล้วเห็นมันยิ้มแก้มแทบปริ ดีใจเป็นคนบ้าเลย


“ชอบ ต้นไม้สวยดี” ตอบก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม


“เปล่าหมายถึงชอบกูอ่ะ”


ผมทำตาโต เกือบสำลักแน่ะ ไอ้เปาหัวเราะเมื่อเห็นว่าแกล้งผมได้ ผมกลั้นหายใจกลืนน้ำลงคอแทบไม่ทัน หน้าตาผมคงจะตลกน่าดู ไอ้เปาถึงยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้ คนอื่นมองแล้วเนี่ย


“หยุดยิ้มได้ป่ะ” ปิดปากมันแม่งเลย


“ขอโทษๆ ไม่แกล้งละๆ”


ผมเอามือออกจากปากมัน ส่วนไอ้เปาก็หุบยิ้มเลื่อนมือมาทำท่ารูดซิบปาก นั่งตัวตรงตะเบ๊ะท่าเหมือนทหาร


“ดี ผู้หญิงมองเยอะ พี่ไม่โอเค เข้าใจ๊”


“...”


“เอ้า นิ่งเลย”


ไอ้เปามันหูแดงเลยครับ ทีงี้ทำมาเขินนะมึงง ทีตัวเองหยอดผมทุกคำ มันยกมือปิดหูก่อนจะใช้หลังมือเช็ดจมูกแก้เก้อ โถๆ ไอ้เด็กน้อยยยยยยยย มันเสมองโต๊ะข้างก่อนจะพูดขึ้นโดยไม่มองหน้าผม


“แฟนน่ารักอะ เขินมั่งได้ป่ะ”


“...”


อะ..ไอ้บ้า กูเขินมึงเนี่ยเปา


ผมชะงักเป็นเวลาเดียวกับที่พนักงานเสิร์ฟยกอาหารมาพอดี ผมก้มหน้าช่วยขยับจานบนโต๊ะหลบตามันที่จ้องผม


“กินเร็ว หิวแล้ว”


“เปลี่ยนเรื่องเจรงงงง”


ลากเสียงยาวล้อผมอีก ผมตักผัดเต้าหู้ใส่ยื่นจ่อปากมากถึงจะหยุดพูด ไอ้เปาก็ยิ้มจัง นี่แฟนเป็นคนบ้าหรอครับ


“กินครับคุณเปา”


“อา...”


“อ้าปากทำไม”


“รอแฟนป้อน”


เชี่ย ไอ้เปาที่ขี้อายมันหายไปไหนวะ ผมเริ่มทำอะไรไม่ถูกอีกครั้ง ได้แต่มองอาหารแล้วตักไปวางบนจานมัน หน้าผมร้อนแทบไหม้ พอเงยหน้าแล้วพบว่ามันอมยิ้มมาองผมก็เท่านั้นแหละ ร้อนกว่าเดิมอีก


“กลางกูกลัวกูจะตาย”


“ทำไมวะ”


“แค่มึงหน้าแดงกูก็ใจเต้นแรงแล้วอะ”


บึ้มมม ให้ผมตายไปด้วยเลยครับ




.
.
.
“เออ เปามึงจำไอ้เกมส์ได้ป่ะ”


ผมพูดขึ้นระหว่างเดินทางกลับหอ เมื่อกี้เราไปต่อของหวานมาครับ สั่งมาสองสามอย่างผมต้องยกให้ไอ้เปาแทน ไม่สัดทัดเรื่องของหวานเลยจริงๆ มันหัวเราะอารมณ์ดีตั้งแต่เจอกันแต่พอผมพูดเรื่องไอ้เกมส์ขึ้นมาก็...


“ถามถึงมันทำไม”


ผมตกใจ ไอ้เปาเสียงแข็งขึ้น มันละสายตาจากถนนมาจ้องผมแวบนึง ไอ้บ้ากูกลัวนะเว้ย มันคงเห็นท่าทางตกใจของผม มันเลยถอนใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตอบ


“กูไม่ชอบมัน”


ผมรู้ครับ การที่โดนแกล้งตั้งแต่เด็กมันเป็นเรื่องที่ฝังใจมาก ไอ้พวกหัวโจกตัวดีมันไม่คิดหรอกครับว่าจะทำให้เด็กที่อ่อนแอแทบจะเป็นบ้าได้เลย ผมเอื้อมมือไปลูบหลังมือมันเบาๆ


“มึงถามถึงมันทำไมกลาง”


“เอ่อ...” ผมลังเลที่จะบอกมันเห็นท่าทางเมื่อกี้แล้วรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ


“บอกมา” อย่าทำเสียงแบบนั้นดิ


“คือ...วันนี้มันทักกูมาแล้วบอกว่าจะเลี้ยงข้าวให้ไปเจอกันที่ห้าง...”


“ไม่ให้ไป”


ไอ้เปาพูดจบมันก็ตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง มันเปิดประตูเดินดุ่มๆ ลงไปอย่างรวดเร็ว เฮ้ย ไปไหนวะ พึ่งจะมองชัดๆ ว่ามันคือสนามเด็กเล่นของโรงเรียนสาธิตมอผมเองครับ ไฟตามจุดต่างๆ ทำให้ที่นี่ไม่มืดไปทั้งหมด ผมรีบตามลงไป ไอ้เปานั่งหน้าเครียดอยู่ที่ชิงช้า 


“เป็นอะไร”


มันเงยหน้ามองผมก่อนจะหลุบตามองเท้าตัวเอง


“กลาง มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบมัน ช่วงเวลานั้นมันแย่มากเลยนะเว้ย แล้วยิ่งตอนที่มันแยกกูกับมึง ตอนนั้นกูสิ่งที่กูกลัวมากที่สุดคือการที่มันจะทำร้ายมึงแทนไอ้คนไม่ได้เรื่องอย่างกู...”


ผมขยับตัวไปกอดไอ้เปา หัวของมันอยู่ตรงหน้าอกผม  “มันผ่านมานานแล้วนะ ตอนนี้ทุกคนโตขึ้นแล้วด้วย” ผมลูบหัวมันเบาๆ เลียนแบบสไตล์การปลอบของมันมา


“กูรู้ กูถึงหงุดหงิดตัวเองที่ไม่เคยลืมเลย” มันดันตัวเองออกแล้วลูบหน้าลูบตา “ได้ยินชื่อมันทีไร ภาพพวกนั้นก็ผุดขึ้นมาตลอด”


“มันอยากเลี้ยงข้าวในฐานะที่เป็นเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานน่ะ”
ผมเอ่ยขึ้นหลังจากที่เดินไปนั่งชิงช้าข้างๆ มัน ไอ้เปาจ้องหน้าผมนิ่งก่อนจะพูดขึ้น “กูกลัวมันเอามึงไปจากกูอีก”


“ไอ้เปา กูไม่ได้ไปไหน แค่กินข้าวเอง ไอ้เกมส์มันอาจจะจำเรื่องพวกนั้นไม่ได้แล้วก็ได้”


“นั่นแหละที่กูเกลียด”


“มันไม่มีอะไรหรอก ยิ้มให้ดูก่อน...ได้มั้ย” ผมเอียงคอถาม ไอ้เด็กเปาหน้าเครียดไม่เข้ากับมันเลยจริงๆ ครับ ไอ้เปามันทำหน้าตาประหลาดๆ ท่าทางจะยิ้มไม่ออกและผมหัวเราะกับท่าทางของมันด้วย


“ไม่ตลกนะ”


“แล้วตกลงให้ไปมั้ย”


“กูไม่อยากเป็นไอ้บ้าแบบนี้หรอก” มันหันมามองผมที่เริ่มไกวชิงช้าช้าๆ มันนิ่งคิดอยู่ไม่นานก่อนจะพูดขึ้น “แต่กูต้องไปด้วย”


“แหงอยู่แล้ว กูไม่ไปคนเดียวหรอก”


อันที่จริงผมก็ไม่ได้อยากไปหรอกนะครับ แต่ไอ้เกมส์ก็เพื่อนเก่าทักมาทั้งทีไม่ไปมันก็ไม่ดี คนเคยรู้จักกันแถมตอนนี้ต่างคนก็ต่างโต มีแนวทางเป็นของตัวเอง เรื่องราวในวัยเด็กอาจจะฝังใจใครบางคน แต่สำหรับบางคนมันอาจจะไม่เคยจำเลยก็ได้


ไอ้เปามันเคยบอกผมว่า เราสองคนเป็นทั้งเพื่อน ทั้งแฟน เราคุยกันได้ทุกอย่าง เรามีวงกลมสำหรับเรื่องส่วนตัว สำหรับเพื่อน สำหรับครอบครัวให้ต่อกัน เรื่องที่ทะเลาะกันแทบจะไม่มีเลย เพราะเรารู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร อย่างตอนนี้มันแค่กลัวแล้วก็ระแวงไอ้เกมส์ครับ แต่การที่จะตัดสัมพันธ์ไม่คุยกับไอ้เกมส์มันรู้ดีว่าผมคงทำไม่ได้ อย่างน้อยเราก็เป็นเพื่อนมันมาก่อน ไม่ต้องคิดอะไรมาก ผู้ชายมันก็คงอย่างนี้แหละครับ


ไอ้เปาเห็นผมนั่งเงียบมันเดินมาข้างหลังผมแล้วจับเชือกให้แกว่งไปมาเบาๆ จนมันหยุดนิ่งไอ้เปาก็ถามขึ้น “คิดอะไรอยู่”


ไอ้เปาก้มหน้า ในขณะที่ผมเงยหน้าขึ้นไปหามัน ไอ้เกมส์ทำให้มึงกลัวขนาดนี้เลยใช่มั้ยไอ้เปา ผมยิ้มให้มันก่อนจะตอบ


“คิดว่ามึงจะยิ้มให้กูรึยัง”


“หึหึ” ไอ้เปาหลุดหัวเราะ “ทำหน้าหงอยขนาดนี้ไม่ยิ้มให้ไม่ได้แล้ว”


ไอ้เปาเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมที่เงยหน้าอยู่ ปากของเราสองคนประกบกันเบาๆ ทิศทางที่มันกลับหัวแบบนี้ทำให้รู้สึกแปลกๆ ไอ้เปาดูดเม้มริมฝีปากของผมเล็กน้อยก่อนจะผละออก


“หวานเนอะ”


ยิ้มหล่อขนาดนั้นจะให้ผมทำยังไงครับคุณเปา



[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 30-05-2017 08:14:38
[่ต่อจากด้านบนค่ะ]

.
.
.
“กลางทำไมมันต้องทักมึงคนเดียววะ ไอ้โจ๊กก็อยู่ คนอื่นก็อยู่กรุงเทพเยอะแยะ”


“...”


“ไม่ได้ต้องมองงั้น กูแค่สงสัย”


เอ...ผมก็ไม่ทันคิดเรื่องนี้เหมือนกันครับ มันจะไปเลี้ยงข้าวไอ้ยีนที่ไปดูมันเตะก็ได้ หรือเพื่อนเก่าหลายคนที่เรียนอยู่กรุงเทพก็ได้ทำไมมันต้องเจาะจงเป็นผม ถ้าไอ้เปาไม่พูดถึงเรื่องนี้ผมก็คงไม่เอะใจอะไร แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้งครับไอ้เกมส์น่ะ


“มันคงไม่ได้ชอบมึงหรอกนะ”


พอผมทำหน้าคิดไอ้เปาก็หรี่ตามอง มันขมวดคิ้วแน่นท่าทางจริงจังสุดๆ


“เอ่อ...ไม่หรอกมั้งงงง” เฮ้ยย ไม่มีใครชอบใครง่ายหรอกมันมีระดับความสัมพันธ์นะครับ


“อย่าประมาทมันนะกลาง กูไม่ยอมอีกแน่ๆ”


ผมพยักหน้าพึมพำในลำคอ เราเดินตรงมาเข้ามาในห้างที่ไอ้เกมส์นัด เมื่อเช้าไอ้เปามารับผมครับ วันนี้มันไม่มีถ่ายงานอะไรมันจึงมากับผมได้ทั้งวันซึ่งมันบอกว่าถึงมีมันก็จะมา ส่วนไอ้โจ๊กตอนแรกผมก็ชวนมันมานะครับ แต่พอได้ยินชื่อไอ้เกมส์มันก็หัวเราะเหอะๆ แล้วบอกว่าไอ้เปามาดีที่สุดแล้ว อะไรของมันก็ไม่รู้ครับ


วันนี้ไอ้เปาแต่งตัวหล่อมาเชียว สาวๆ นี่มองกันเหลียวหลัง ผมส่ายหัวแล้วยิ้ม ไอ้เปาเห็นแบบนั้นก็เอาฝ่ามือมาปิดตาปิดหน้าผมไว้


“อื้อ อะไรเนี่ย”


“ปิดไว้ เดี๋ยวคนอื่นมอง”


“ปล่อยยย”


“เชี่ยนั่นมองทำบ้าอะไรเยอะวะ”


ไอ้เปาเอ้ยย มัวแต่แยกเขี้ยวใส่คนนั้นคนนี้ทีไม่ได้มองตัวเองเลย “ผู้หญิงก็มองมึงเหมือนกันแหละ”


“มองไปเถอะ เอาไปไม่ได้”


“งั้นก็เลิกปิดหน้ากูซักที เค้ามองก็เอาไปไม่ได้เหมือนกัน”


“ไม่! มึงเป็นข้อยกเว้น”


เถียงกันไม่นานก็เดินมาถึงร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง ป้ายร้านหรูหราไฮโซก็ได้แต่คิดว่าไอ้เกมส์นี่รวยขนาดนี้เชียวหรอครับเป็นนักฟุตบอลเนี่ย เข้าไปในร้านผมเห็นมันนั่งโดดเด่นอยู่มุมในสุด ไอ้เกมส์มันตัดผมสั้นไถข้างเป็นขีดๆ ส่วนผิวมันก็แทนขั้นสุดคงเพราะต้องซ้อมบอล มันกำลังก้มหน้ากดมือถืออยู่ บนโต๊ะมีน้ำชาเขียวเพียงแก้วเดียว


“นั่นไง” ผมชี้อีกข้างก็จับมือมันไปด้วยก่อนจะปล่อยออก


“เฮ้อ ปรับอารมณ์แปบ”


“ปรมัตสู้” ลูบหน้ามันเบาๆ พร้อมกับบีบแก้มมันให้กำลังใจ เอาล่ะ คู่ปรับเจอหน้ากันแล้วครับ ผมเดินเข้าไปทักมันก่อนส่วนไอ้เปาตามหลังผมเข้ามา


“ไอ้เกมส์”


“เฮ้ย ไอ้กลาง นั่งๆ เกือบจำไม่ได้ละเนี่ย”


ผมนั่งตรงข้ามกับไอ้เกมส์ แล้วตามด้วยไอ้เปาที่นั่งข้างผม ไอ้เกมส์มองไอ้เปาตาไม่กระพริบ ส่วนเด็กน้อยของผมก็บีบมือผมใต้โต๊ะไว้แน่น มันทำหน้านิ่งๆ


“นี่ใครอะ..”


“นี่ไอ้เปา...มึงจำมันได้...”


“เฮ้ย! ไอ้เหี้ยย จริงป่ะสัดด ไอ้เปาอ่ะนะ”


ไอ้เกมส์ร้องเสียงดัง หน้าตามันตกใจแบบสุดๆ ตัดภาพมาที่ไอ้เปา มันก็พยักหน้ากลับไปเบาๆ เหมือนไม่ได้ดีใจที่ได้เจอ


“เฮ้ย มึงขนาดนี้เลยหรอวะ”


“ขนาดไรวะ”


“ฮะๆ ไอ้เชี่ย ก็แบบหล่อขนาดนี้ ตอนที่ไอ้นิคบอกกูไม่เห็นเชื่อเลย ตอนเด็กก็ไม่น่าจะสูงนี่หว่า”


ผมนั่งฟังมันพูดด้วยความงงอะไรของมันกันครับ ผมเข้าไปไม่ถึงพวกมันเลย ไอ้เปาที่บีบมือผมอยู่ก็บีบแน่นขึ้นเหมือนสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่าง ลึกๆ แล้วสิ่งที่ติดค้างในใจไอ้เปาคือคำว่าขอโทษ การที่ไอ้เกมส์ทำเหมือนปกติมันคือการทำลายวัยเด็กของไอ้เปาลงอย่างไม่มีความรับผิดชอบ


“เออ” ไอ้เปาตอบ


“แล้วมึงมาเจอกับไอ้กลางได้ไง”


“ก็เรียนคณะเดียวกัน”


“เดี๋ยวๆ มึงไม่ได้เรียนวาดรูปเท่าที่กูจำได้แล้วไหงมาเรียนกับไอ้กลางได้วะ แถมตอนกีฬามัธยมก็เห็นมึงยังกลับไปแอบมองไอ้กลาง เดี๋ยวนะ...กูว่ากูรู้แล้วล่ะไอ้เปา”


“รู้อะไร” ไอ้เปาตอบเสียงห้วน


“หึหึ”


รอยยิ้มมุมปากของไอ้เกมส์ทำให้ผมกลับไปสู่ช่วงอดีตอีกครั้ง มันกำลังกลับมา การทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างไอ้เปาและไอ้เกมส์เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง


“พวกมึงสั่ง...สั่งอะไรมั้ย”


บรรยากาศเริ่มมาคุ สายตาที่พวกมันมองกันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน ไอ้เกมส์เหมือนคนยิ้มร้ายอยู่ตลอดเวลา ส่วนไอ้เปาก็ดูเครียด ไม่ผ่อนคลายเลยซักนิด


“เออๆ มึงอยากกินไรจัดเลย”


ไอ้เกมส์ยื่นหน้าข้ามโต๊ะเข้ามาใกล้จนผมหลบเกือบไม่ทัน “โอ..โอเค” ทำไมผมต้องเสียงสั่นด้วยครับ


ผมพยายามทำให้บรรยากาศกลับมาเป็นปกติในระหว่างการทานอาหารมื้อนี้ไม่ว่าจะเป็นชวนคุยเรื่องฟุตบอล คุยเรื่องเรียนต่างๆ นานา แต่ไอ้คนที่ไม่ให้ความร่วมมือคือไอ้เกมส์ครับ


“ไอ้กลางมึงเคยกินนี่ยัง” ไอ้เกมส์คีบซูชิมาให้จนเกือบจะชิดปากผมครับ มันยื่นค้างไว้อย่างนั้นก่อนจะหันไปยักคิ้วให้กับไอ้เปา


“ยังไม่เคยว่ะ”


“มึงลองดิ เฮ้ยกูไม่แกล้งเอาวาซาบิใส่ไว้หรอก แดก หร่อยแน่ อ้าปาก”


“กูกินเองก็..”


“กลางกินนี่ดิ หน้าธรรมดา ลอง ‘ของแปลก’ เดี๋ยวก็ท้องเสียหรอก อ่ะ อ้าปาก” ส่วนนี่ไอ้เปาครับมันจ่อตะเคียบค้างไว้ใกล้ปากของผม


 “อะ...เอ่อ...”


คนกลางอย่างผมมองซูชิสองคำที่ยื่นมาให้สลับกันไปมา ถ้าเป็นการ์ตูนลูกตาของผมคงจะมองซ้ายทีขวาที แขนพวกมันยังคงไม่ขยับเขยื้อนไปไหนแต่สายตาของมันจ้องกันจนผมกลัว เชี่ย แล้วผมจะทำยังไงครับเนี่ย


“เร็วดิ เมื่อยแล้ว” ไอ้เกมส์เร่งครับ ผมกำลังจะยื่นหน้าไปกินให้มันจบๆ แต่ไอ้เปาก็เรียกก่อน


“กลางกินนี่ก่อน”


“เอ่อ อ่ะ...ไอ้เกมส์มึงวางตรงนี้เดี๋ยวกูกิน”


ผมหยิบจานให้ไอ้เกมส์ กดข้อมือมันให้วางซูชิลง ไอ้เปาก็มองผมแล้วเบือนหน้าหนีแต่ก่อนที่มันจะวางซูชิในมือมันลง ผมสังเกตว่ามันแทบจะไม่กินอะไรบนโต๊ะเลย ผมคว้ามือมันก่อนจะก้มไปงับซูชิชิ้นนั้นอย่างเร็ว ผมสะดุ้งเมื่อสบตากับไอ้เกมส์ที่นั่งหลังตรงมองผม เฮือก กลืนเกือบไม่ลงแหน่ะ ผมยิ้มแห้งๆ แล้วคีบซูชิของไอ้เกมส์เข้าปากทันที


“แหะๆ อร่อยๆ อร่อยหมดเลย มึงกินดิ ไม่ต้องเอามาให้กูหรอก”


“ไม่เป็นไร กูเป็นพวกอยากได้อะไรก็ต้องรีบทำ ถ้าไม่ได้ก็ไม่อยากพาลอะ ใช่ป่ะไอ้เปา”


“...”


“แต่มึงคงไม่เข้าใจหรอก มึงมันโคตรป๊อดนี่หว่า ฮ่าๆๆ”


เชี่ยยย ไอ้เกมส์รุกหนักขนาดนี้เลยหรอวะ ผมหันไปมองมันช้าๆ ไอ้เปานั่งกัดฟันกรอด ผมเอื้อมมือไปบีบมือมันอีกครั้ง ผมรู้ว่ามันพยายามและอดทนมากแค่ไหน ตั้งแต่เด็กที่ต้องเจอไอ้เกมส์บ้านี่ ว่าแต่ผมควรพอแล้วรึเปล่า ผมไม่อยากให้ไอ้เปาต้องมาทนกับอะไรแบบนี้ แค่นั่งให้ไอ้เกมส์ถากถางมันใจผมปวดหนึบไปหมดแล้ว


“ไอ้กลาง มึงก็หน้าตาน่ารักดีนี่หว่า อยู่กรุงเทพไม่มีแฟนหรอวะ”
ระหว่างที่ผมตัดสินใจจะหยุดบรรยากาศแบบนี้ไอ้เกมส์ก็วางตะเกียบแล้วพูดขึ้น หน้าตามันยังยียวนไม่เปลี่ยนแปลง


“....เอ่อ” ผมมองหน้าไอ้เปา มันหน้าตึงมองไปที่ไอ้เกมส์อย่างควบคุมอารมณ์


“ถ้าไม่มี กูจีบมึงได้ป่ะ กูชอบมึงอะ”


ตึง!


“อย่ายุ่งกับกลาง!”


ไอ้เปาลุกขึ้นกระชากคอเสื้อไอ้เกมส์เข้ามาใกล้จนเก้าอี้กระแทกผนังและเสียงจานกระทบกันดังลั่น ผมลุกขึ้นยืนไปด้วยพลางจับแขนมันไว้ ไอ้เปาอย่านะเว้ย แต่ปากมันพูดอะไรไม่ออกเลยครับ หางตาเห็นพนักงานยืนมองนิ่งแบบเกร็งๆ


“โอ้โห เดี๋ยวนี้มึงเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียว ไอ้ป๊อดชอบฟ้องพ่อหายไปไหนแล้ววะ”


“เรื่องของกู! มึงอยู่ส่วนมึง อย่ากลับมาเจอกันอีกไอ้เกมส์ ไม่ต้องยุ่งกับไอ้กลางด้วย”


ไอ้เกมส์ยังคงเป็นไอ้เกมส์มันคือไอ้ตัวร้ายตั้งแต่เด็กยันโต ไอ้เปากำคอเสื้อมันแน่น ผมคิดว่าไอ้เกมส์คงจะสะบัดมันออกได้ง่ายๆ แต่มันก็ปล่อยให้ไอ้เปากระชากไว้แบบนั้น  ไอ้เกมส์เชิดคางขึ้นก่อนจะพูดอย่างกวนประสาท


 “มึงไม่มีสิทธิ์ป่ะวะไอ้เปา”


“กลางเป็นแฟนกู” ไอ้เปาพูดเน้นด้วยเสียงหนักแน่น


“หึ....ก็แค่นั้น”


ไอ้เกมส์มันยิ้มก่อนจะบิดมือไอ้เปาออกแล้วตบไหล่มันเบาๆ แล้วนั่งลงเหมือนเดิม ท่าทางที่เปลี่ยนไปทำให้ผมงงไปหมด


“อะไรของมึงวะ”


“ก็แค่อยากรู้ว่ามึงจะเปลี่ยนไปแค่ไหน ท่าทางบ้าดีเดือดใช้ได้ แต่เป็นแฟนไอ้กลางนี่ไม่ได้อยู่ในความคาดหวังของกูนะ”


“ไอ้เชี่ยเกมส์ มึงชอบกลางจริงๆ หรอวะ”


ไอ้เปาอารมณ์เดือดขึ้นอีกรอบมันยังไม่นั่งลงแต่ขยี้ผมด้วยความหงุดหงิด ส่วนไอ้เกมส์มันนั่งจิบชาสบายๆ มองพวกผมนิ่ง


“ไม่ต้องห่วงหรอก กูมีแฟนอยู่แล้วถึงแม้ว่าไอ้กลางจะน่ารัก น่าเอา...มาเป็นแฟนก็เถอะ”


“ไอ้สัด!” ไอ้เปาแทบจะพุ่งไปอีกหรอกแต่ไอ้เกมส์ยกมือสองข้างพลางส่ายหน้าเล็กน้อย


“ล้อเล่นน่า แต่ก็แค่แปลกใจนิดหน่อย ไม่คิดว่ามึงจะตามไอ้กลางทัน วางแผนมานานมั้ยสัด นับถือความพยายามว่ะ”


“อะไรของพวกมึงวะ” ให้กูเข้าใจด้วยคนได้มั้ย


“กูกลับล่ะ ขอบใจที่เลี้ยงข้าว”


แค่คำว่าล้อเล่นไอ้เปาก็แทบจะหันหลังหนี มันจับข้อมือผมพร้อมจะเดินออกไปแต่ไอ้เกมส์รั้งไว้ก่อน ไอ้เปาหันไปมองด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ ไอ้เกมส์ลุกขึ้นแล้วเดินมาพูดใกล้ๆ ไอ้เปาแต่ถึงอย่างงั้นผมก็ได้ยินอยู่ดี


“จริงๆ คนเราถ้าไม่ยอมแพ้มันอาจจะไม่ต้องรอนานขนาดนี้ก็ได้นะ”


“...”


“กูไม่ได้ชอบไอ้กลางหรอกแต่เห็นท่าทางหวงก้างมึงแล้วก็สนุกดี”


“...”


“มึงนี่ยังแกล้งสนุกตั้งแต่เด็กยันโตนะไอ้เปา”


ไม่ต้องรอให้พูดจบไอ้เปาก็ลากผมเดินออกจากร้าน ก่อนจะพ้นประตูร้านก็ได้ยินเสียงไอ้เกมส์ดังตามหลังมา


“ไอ้กลางดีใจที่ได้เจอมึงนะ!”


แบบนี้กูดีใจกลับไม่ลงเลยไอ้เกมส์




.
.
.
“เปา”


ผมเรียกมันที่ตั้งหน้าตั้งลากผมแบบไม่สนใจผมเลย ไอ้เปาหน้าบึ้งไม่พูดไม่จาจนมาถึงลานจอดรถ อารมณ์ครุกกรุ่นเหมือนมีเมฆดำทะมึนลอยอยู่เหนือพวกเรา


“ปล่อยก่อนได้มั้ย เจ็บ”


พอผมพูดแบบนั้นมันก็คลายมือออกแต่ก็ยังไม่ปล่อย มันยังคงกำไว้หลวมๆ ไอ้เปาใช้มืออีกข้างลูบหน้าของมันเบาๆ มึงใจเย็นลงรึยังนะ


“กูเป็นตัวตลกให้มันแกล้งตลอดเลยหรอวะ”


กับเรื่องนี้ไอ้เปามันอ่อนแอเสมอ ผมเดินเข้าไปกอดมันไอ้เปาทิ้งตัวมาที่ผมเหมือนคนหมดแรง ผมลูบหลังมันแล้วรอให้มันเป็นคนระบาย


“แค่ได้ยินว่ามันชอบมึง กูก็กลัวจะตายแล้ว เหตุการณ์มันจะซ้ำเดิม...”


“...”


“กูไม่อยากเสียมึงไปอีกแล้ว มันนานเกินไปแล้วที่กูไม่ได้เจอมึง”


“เปาๆ กูยังอยู่ตรงนี้ กอดมึงอยู่เห็นมั้ย ไอ้เกมส์มันแค่ลองใจมึงเท่านั้น ไอ้เชี่ยนั่นมันจอมแกล้ง”


ผมพึมพำประโยคท้ายไอ้เกมส์มีอิทธิพลต่อไอ้เปามากนะครับทั้งกลัวทั้งทำให้เปลี่ยนตัวเอง ผมกระชับกอดมันให้มันรู้ว่าผมอยู่กับมัน ส่วนไอ้เปามันก็กอดผมแน่นขึ้นเหมือนกลัวว่าผมจะหายไป ยืนให้มันกอดจนหายใจไม่ออกซักพัก มันก็ผละหน้าออกจากไหล่ผมแล้วพูดขึ้น


“แม่ง กูน่าจะเหยียบเท้ามันให้หักไปเลย ให้เตะบอลไม่ได้เลย”


“เด็กน้อย เลิกคิดมากแล้วใช่มั้ย” ผมลูบหัวมันเบาๆ


“เลิกแล้ว พอ...กูเกลียดมันไม่มีวันลืมหรอก แต่ไม่อยากคิดถึงมันแล้ว”


“อื้มดีมาก ตอนนี้ใครอยู่ข้างๆ กู”


“กูไง”


“ใช่ ไม่มีไอ้เกมส์ มีแต่มึงที่อยู่ข้างกู”


“กลางอ่า...รักนะ...” ไอ้เปาเอ้ย อ้อนไรเนี่ย


“บอกรักตรงลานจอดรถมืดๆ งี้อ่ะนะ”


“ไม่ จะบอกทุกที่เลย กูดีใจที่ได้เจอมึงและรักมึงนะ”


มันเปิดประตูให้ผมเข้าไปนั่ง ส่วนไอ้เปาวางแขนไว้ระหว่างประตูรถกับหลังคารถเหมือนบังไม่ให้คนอื่นเห็น


“อะไรเนี่ย”


“ขอจูบหน่อยได้มั้ย”


“อะ...ไอ้เปา นี่มันห้างนะ...อุ๊บ...”


พูดไม่ทันจบไอ้เปาก็ก้มหน้ามาจูบผมดูดดุนริมฝีปาก มันจูบยาวนานกว่าปกติจนผมเริ่มจะหายใจไม่ทันและตามมันไม่ทันด้วย


“อื้อ...”


ผมประท้วงตกใจเมื่อไอ้เปามันสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปาก ไล่แทะเล็มเบาหนักสลับกันไป ผมใจเต้นแรงและหน้าก็คงจะแดงแทบไหม้ปล่อยให้มันได้ทำตามใจ ผมได้ยินเสียงจุ๊บจั๊บเบาๆ ไอ้เปาเลื่อนมือจากหลังคารถมาประคองหน้าผมไว้ มันชักจะเชี่ยวชาญเกินไปแล้ว ไหนบอกไม่เคยไง 


“อึก เปาพอ...”


รสจูบมันแฝงอารมณ์ความรู้สึกของมันในวันนี้ทั้งรุนแรงแล้วก็อ่อนโยนจนผมรู้สึกแปลกๆ ไอ้เปาเห็นผมหายใจไม่ทันมันก็ปรับองศาแล้วจูบย้ำที่ปากผมเบาๆ ผมทุบแขนมันแล้วผละออก


“พอแล้ว”


“มึงน่ารักจัง”


มันเช็ดน้ำลายมุมปากให้ผมพลางจะลูบหัวเบาๆ  ไอ้เปาปิดประตูรถให้ผมก่อนจะอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง ไอ้เปามันหูแดงไม่แพ้หน้าผมหรอก นี่เป็นครั้งแรกที่มันจูบผมแบบลึกซึ้ง ตัวมันคงไม่คิดว่าจะเลยเถิดไปขนาดนี้ มันเข้ามานั่งแล้วปรับการหายใจไม่นาน พอๆ กับผมที่ไม่รู้จะเอามือไว้ไปวางไว้ที่ไหนได้แต่นั่งเอ๋ออยู่ข้างๆ มันเงียบๆ บรรยากาศในรถมันเลยประหลาดๆ และไอ้เปาก็ทำลายบรรยากาศนั้นลงด้วยการหันมายิ้มจนเห็นลักยิ้มแบบที่ผมเห็นแล้วแพ้ให้ผม


“ไม่รู้จะพูดอะไรเลย เขินแฟนจนจะบ้าแล้ว”


============
ขอโทษทุกคนที่หายไปนานค่ะ
จัดการเรื่องข้าวของเเละการเรียนจบหมดสิ้นเเล้วว
เจอกันตอนหน้านะคะ
#คนกลาง
 :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-05-2017 08:50:44
เกมส์นิสัยไม่ดีอะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-05-2017 08:52:49
เกมส์ นี่ น่าตบ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 30-05-2017 09:40:43
เกมส์ไม่เคยรู้เลยเหรอว่าสิ่งที่ตัวเองทำตอนเด็กมันไม่ดี เพื่อนคนนึงต้องมีปมเพราะเกมส์ ขอโทษสักคำก็ได้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-05-2017 10:35:20
เกลียดดดดด 55555 หวานเกินไปล้าว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-05-2017 11:05:01
เปาเข้มแข็งๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 30-05-2017 11:27:43
 :กอด1: กอดกันๆ จุ๊บๆ ให้กำลังใจเปาเยอะๆน๊าา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 30-05-2017 11:45:12
 :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-05-2017 12:16:03
เกมส์ ตอนเด็กก็นิสัยไม่ดี  โตขึ้นก็เหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 30-05-2017 12:57:48
ชอบที่เปาเหมือนเป็นเด็กที่คอยอ้อนกลางตลอดเวลา
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 30-05-2017 12:59:15
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 30-05-2017 15:43:26
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 30-05-2017 16:50:27
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-05-2017 17:22:48
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 30-05-2017 21:00:41
รักคนกลางงงฝ :mew1: :heaven
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 30-05-2017 21:12:08
หวานงุ้งงิ้งสุดดดด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 30-05-2017 22:03:02
เราเกลียดเกมส์ มันควรจบเรื่องสมัยเด็ก บอกเลยถ้าเรามีความสามารถ โตแล้ว มีตังค์แบบเปา มีอำนาจสื่อในมือ ไอ้เกมส์ไม่ผุดไม่เกิดอะ ดับอนาคตทางกีฬา เราสายโหด จบคือจบแต่เกมส์ไม่จบ อยากแกล้งแกล้งได้แกล้งมาแกล้งกลับไม่โกง แฟร์พอ

คนกลางนี่ดีเนอะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: __jitlada ที่ 30-05-2017 22:44:32
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-05-2017 23:06:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 30-05-2017 23:42:12
เข้าใจความกลัวของเปาเลย
เกม ยังกะตัวร้ายมนดาร์ตูนเลยอ่ะ :beat:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 30-05-2017 23:58:03
ไม่ชอบคนแบบเกมส์อะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: rikulism♡ ที่ 31-05-2017 03:31:51
หมั่นไส้เกมส์อ่ะ ไม่ต้องรอนานขนาดนี้ เอาไรตัดสินหื้มมม คนเราก็มีเหตุผลต่างกันไปนะ
ขอโทษจากใจสักทีไม่ได้เลยย แกล้งเก่งง กวนประสาทเก่งง
นี่อินในอินอีกที :m31: :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 31-05-2017 07:23:12
คนโดนกระทำจำไม่เคนลืม
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: namnak ที่ 01-06-2017 16:39:19
มาอ่านรวดเดียวจบ น่ารักมากก อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jittrawa ที่ 03-06-2017 14:27:50
เลวขนาดนี้ ไม่น่ามีอนาคตนะ คนเค้าไม่สนุกด้วยไม่ใช่ไม่มี
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 14 หน้า 11 (30-05-60)
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กเลี้ยงแมว ที่ 03-06-2017 15:18:37
ไม่ชอบเกมเลยว่ะ ขำหรอ โลกหมุนรอบตัวเองหรอ :z6:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 05-06-2017 09:18:33
15
เมื่อคุณกล้วยมีปัญหา เพื่อนกลางต้องทำยังไง


“กลาง กูมีเรื่องจะคุยกับมึง”


“เรื่องไรวะ แล้วทำไมต้องกระซิบด้วยอะ”


“ชู่วว มึงอย่าพูดดังเดี๋ยวไอ้เปาได้ยิน”


“เออๆ มีไรวะ”


“คืองี้เว้ย....”


สวัสดีครับท่านผู้ชม พบกับผมนายคนกลาง พิธีกรประจำรายการเรื่องของเรื่อง ถรุ้ย นี่กูจะเป็นบ้าใช่มั้ย ขอคีพลุคคูลแบบคนกลางแปบนะครับ ตอนนี้ผมนั่งเรียนวิชาบังคับปีหนึ่งที่ห้องประชุมรวมกับเพื่อนหลากหลายคณะ เด็กสินกำอย่างพวกผมก็เลือกที่นั่งหลังๆ เข้าไว้ พวกเราสามารถแต่งตัวชุดไปรเวทมาเรียนได้ครับเพราะอาจารย์บอกว่าเราทำงานศิลปะชุดนักศึกษาไม่สะดวก แต่นั่นก็เป็นแค่วิชาที่ต้องปฏิบัติเท่านั้น แต่พวกเราชาวสินกำก็ยึดคำนั้นมาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตด้วยการไม่ใส่ทุกวิชายกเว้นวิชาที่โคตรเคร่งจริงๆ วิชานี้ก็ไม่มีอะไรมากครับแค่อย่าทำตัวให้อาจารย์เรียกเท่านั้นเอง


ผมนั่งข้างไอ้กล้วยที่วันนี้อยู่ในธีมเสื้อยืดมือสองกับกางเกงยีนส์ตัวโคร่งๆ มันชะโงกหน้ามาเกือบติดผมแล้วกระซิบเสียงเบาๆ ส่วนไอ้เปาก็นอนฟุบหลับอยู่ข้างผม เมื่อวานมันสอนสีน้ำให้อิงแล้วกลับมาทำงานตัวเองต่อสงสัยคงจะเหนื่อย


“มึงอย่าพึ่งหันไปมองแฟนมึงได้ป่ะ สนใจกูแปบนึงงง”


“ยังอีก”


“เออ ยังไม่สนใจกูอีก”


“มึงเนี่ยยังไม่เลิกเขย่าแขนกูอีก!”


ผมเอ็ดมันเบาๆ แม่ง กูมึนนะครับ ไอ้กล้วยทำหน้ามุ่ยเป็นม้าหมากรุกพร้อมกับทำหน้าจริงจัง โอเคฟังก็ได้ ตบมุขมึงแปบเดียวเอง ผมหันตัวไปทางมันแล้วเริ่มต้นฟังมันเล่าครับ บอกตรงกูเห็นมึงจริงจังแล้วขนลุกครับ ปกติมีแต่จังไร


คือว่าไอ้กล้วยเพื่อนผมเนี่ย มันไปชอบคนๆ หนึ่งชื่อฟ้าเป็นเพื่อนต่างคณะแบบว่าตัวเล็ก สเป็คมัน แล้วมันรู้มาว่าผู้หญิงคนนี้ปลื้มผมครับ เธอยิ้มให้มันตอนเดินผ่านกันก็เพราะเห็นว่ามันเป็นเพื่อนกับผม ตอนแรกมันรู้ก็เศร้าไปเหมือนกัน ล่าสุดมันก็แอดไลน์ไปหาเธอคนนั้นครับคุยกันมาซักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็มีแต่จะคุยเรื่องของไอ้กลางคนนี้ เอ่อ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมครับเพื่อน


“คือกู มึงอย่าโกรธกูนะเว้ย คือ...”


“คือไรวะ”


“กูเผลอบอกชอบเค้าไปในไลน์อะ”


“เฮ้ย ก็ดีแล้วนี่”


“ตอนนั้นเสือกโกรธ แม่งฟ้าคุยแต่เรื่องมึงกูเลยพิมพ์ไปว่า ชอบฟ้านะ”


“เชรดด เพื่อนกูเด็ดดวงอะครับ”


“ไอ้กลางคำว่าเชรดมันไม่เหมาะกับหน้ามึง”


“อ้าวหรอ โทษที ต่อๆ”


“แต่เรื่องมันหลังจากนี้เว้ย กูโกรธแล้วกล้าพิมพ์บอกชอบแต่ได้สติสามวิให้หลัง มือกูเร็วกว่าสมองพิมพ์ต่อไปว่าไอ้กลางอะชอบฟ้านะ นั่นแหละหายนะมันเกิดขึ้นแล้ว กูก็ต้องมากระซิบกระซาบหลบทุกคน เพราะถ้าพวกมันรู้กูตายหยั่งเขียดแน่ๆ”
ไอ้กล้วยมันเป็นงี้แหละครับ บ้าบอแต่พอเรื่องความรักแล้วอ่อนไหว ใช้ชื่อกูไปบอกชอบเค้าอีก เดี๋ยว...เดี๋ยวนะ ชื่อผม


“เชี่ยยยยยยยย” ผมสบถไม่ดังมากรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที ไอ้ทัพกับไอ้เบสที่นั่งสุมหัวเล่นเกมทางขวามือของไอ้เปาเหลือบมองมาเล็กน้อย


“ไอ้ฝัด ความรู้สึกช้ากว่ากูอีก เออนั่นแหละ ทำตาโตหาพ่องมึงหรอ”


“ไอ้กล้วยด่ากูขนาดนี้ มึงจัดการเองเลยนะ”


“เฮ้ยๆๆ เพื่อนกลาง ช่วยกระผมกล้วยด้วยครับ กูจะร้องแล้วไอ้สัดทำไงดีครับเพื่อน”


“ชีวิตยากแล้ว”


“ยากสัดตรงที่ว่า ฟ้าเว้ยแม่งส่งกลับมาว่าใจมึงตรงกับเค้าให้ช่วยพากลางมาเจอเค้าที ฟ้าจะรออยู่ร้านกาแฟข้างมอวันนี้สามโมง ในฐานะที่กูบอกเค้าว่ามึงชอบฟ้า กูต้องพามึงไปให้ได้”


เชี่ย...สามโมง...วันนี้ด้วย ผมมองหน้าจอมือถือของไอ้กล้วยที่ขึ้นข้อความของคนชื่อฟ้า จะบ้าหรอครับหน้าเป็นยังไงผมยังไม่รู้เลย ไอ้กล้วยหาเรื่องให้กูซวยจริงๆ


“...”


“มึงอย่าทำหน้าแบบนั้น กูขอโทษแต่ตอนนั้นกูไม่ทันคิดจริงๆ แต่...มึงไม่ต้องไปก็ได้นะ กูจะบอกเค้าว่ากูพูดเล่น”


“ถ้ามึงทำแบบนั้น ฟ้าจะไม่คุยกับมึงอีกเลยนะ”


“เออกูรู้กูไปให้ความหวังเค้าว่ามึงชอบ แต่กูยอมให้เค้าเกลียดก็ได้ อกหักคงไม่ตายหรอกมั้ง” ผมไม่เคยเห็นมันทำหน้าเศร้าเท่าวันนี้มาก่อน ไอ้กล้วยผู้กวนตีนและบ้าบอทุกสถานการณ์คนนี้ มันกำลังเศร้าเพราะความรัก


“กูจะไป แต่มึงต้องไปบอกความรู้สึกของมึงกับฟ้าด้วย”


“เอาจริงหรอวะ”


“เออดิ เนี่ยโอกาสอันดีแล้ว บอกต่อหน้า ท้าชนไปเลย ไม่ต้องพิมพ์ชื่อใครอีก”


“กู...กูจะไหวหรอวะ”


“ไอ้กล้วย...มึงเอาคารมคนบ้าเข้าสู้ดิวะ หน้าจ๋อยแบบนี้ไม่เหมาะเป็นมึงเลยนะ”


“ขอบใจมากเว้ย น้ำตาซึมบ่อทรายสัด”


“ไหนวะบ่อทราย”


“นี่ไง ใกล้ไหลแล้ว”


“น้ำตาหรอ”


“เยี่ยวกู ถุ้ย ถึงวันนี้มึงจะกวนตีนกู แต่ไอ้กลาง กูขอกอดมึงที” ไอ้กล้วยทำตาเยิ้ม ปากกระตุกยิ้มแบบสั่นๆ มันค่อยๆ สโลว์โมชั่นเข้ามาแถมยังเอื้อมมือหมายจะกอดผม


“ทำไร”


แต่เสียงทุ้มแหบเพราะพึ่งตื่นนอนก็เข้ามาแทรก ไอ้กล้วยเบรกแทบไม่ทัน ไอ้เปาใช้มือที่ยาวเหมือนนางนาคดันหัวไอ้กล้วยไว้ ไอ้กล้วยเบะปากก่อนจะพูด


“จะขอกอดแฟนพี่เปาได้มั้ยจ๊ะ”


“ไม่ แฟนกูก็กอดได้คนเดียวดิวะ” ไม่พูดเปล่าไอ้เปาก็คว้าผมไปกอดจมอกมัน


“มึงเบาๆ ดิ ไอ้กลางช้ำหมด”


“ไอ้กล้วย คิดไรกับกลางป่ะเนี่ย” ไอ้เปายืดตัวตรงแต่ยังไม่ปล่อยมือจากหัวผมซักที ผมไม่เห็นหน้าไอ้เปาแต่ฟังจากน้ำเสียงมันเริ่มจะตงิดๆ ใจสงสัยแล้วครับ


“เปล๊า เป็นห่วงเพื่อนไง”


“ตอแหล”


“ไอ้ทัพ นั่งฝั่งนู้นก็ไม่ต้องเสือกได้ป่ะ”


“ไอ้คล้วยยย มึงอย่ามาตอแหล แค่มองตากูก็เห็นตูดมึงละ ไอ้เปา ไอ้กล้วยอยากได้ไอ้กลางชัวร์ แบบกล้วยกลางงี้คล้องกันดี คู่จิ้นสุดประหลาดงี้”


“ไอ้สัดทัพก็เสี้ยมจัง พ่อเป็นเสียมหรอ”


“เออใช่ ดูดิวันนี้ไปนั่งข้างไอ้กลางเฉย ซุบซิบไรกันไม่รู้ทั้งคาบ ตอนกระซิบกูเห็นมันสูดลมหายใจตรงซอกคอไอ้กลางด้วย”


“ไอ้เบส...มึงเป็นไรแซะกูจัง ไอ้เหี้ยเปา มองกูหมายความว่าไง แล้วไอ้กลางมึงไม่คิดจะพูดไรหน่อยหรอคอมึงหอมนิดเดียวเอง แล้วมึงล่ะอกไอ้เปามันหอมมากหรอกอดอยู่ได้”
มึงพาลแล้วไอ้กล้วย เดี๋ยวเจอดีนะมึง 


“กล้วย”


“อะไร” มันสะบัดเสียงหน้างออีกครั้ง


“ถึงมึงอยากจะเป็นคู่จิ้นกับกู แต่ต้องขอโทษด้วยใจกูไม่ได้มีไว้ให้ผลไม้สีเหลืองเมื่อตอนสุก สีเขียวเมื่อตอนหนุ่ม”


“อะไรวะ”


“กล้วยไง”


ผลัวะ!


“ไอ้กลางสกิลมึงไม่ได้ก็ไม่ต้องเล่น แหมะกูล่ะนึกถึงมะม่วงเลยไอ้สัด”


ไอ้ทัพเอื้อมมือมาตบหัวผมครับ ไอ้เปามันยังไม่ปล่อยผมแต่พอเงยหน้าปุ๊บมันทำหน้าเอือมอย่างไม่น่าเชื่อ ผมผละออกมาจากตัวมันพลางลูบหัวป้อยๆ


“หึหึ เล่นไม่ฮาก็อย่าเล่นนะกลาง”


เชี่ย ไม่ต้องมาลูบหัวเลยไอ้เปา มึงยังไม่เข้าข้างกูเลย ผมไม่เล่นพวกมันก็บอกไม่เท่ ทีกูเล่นก็หักกูทุกมุข


“โถถถ น้องคนกลางคร้าบ มึงต้องไปฝึกสกิลกับพวกผมคอหล่นเดอะซีรี่ส์นะ จบออกมาจากอเคดามี่กล้วยและผองเพื่อนรับรอง...”


“ปากหมาไม่ได้ผุดได้เกิด”


“สาวไม่มอง ชายเมินอีกต่างหาก เหี้ย! ไอ้เบสพอ...”


“ไอ้เชี่ยเพื่อนกล้วยงอนบ่อยว่ะวันนี้”


“เรียนได้แล้วพวกมึงอะ จารย์มอง”


ไอ้เปาตัดบทก่อนที่ทุกคนที่หันกลับไปที่อาจารย์ จารย์มองจริงด้วยครับ ขอตั้งใจเรียนก่อนนะครับ ไร้สาระมานาน




.
.
“ไอ้กลาง เดี๋ยวใกล้ๆ กูทักไลน์ไปอีกที อย่าบอกใครนะเว้ย”


ไอ้กล้วยมันกระซิบอีกครั้งก่อนจะวางดินสอลงบนโต๊ะในโรงอาหาร วันนี้เราเลิกเรียนก็ตรงดิ่งมาที่โรงอาหารกลางของมหาลัยที่อยู่ไม่ไกลกับห้องประชุมรวมครับ คนนี่ยิ่งกว่าหนอน ตอนเที่ยงแบบนี้คนยิ่งเยอะครับ


“พวกมึงกูจองโต๊ะละแยกย้ายกันไปซื้อข้าวได้ ไม่มีใครแย่งโต๊ะแน่นอน” ไอ้กล้วยพูดแล้วจะหันหลังไปซื้อข้าวแต่ไอ้เบสทักขึ้นมาก่อน


“ไหน ไม่เห็นมีไรจองเลยไอ้กล้วย” มันหันกลับมาแล้วหรี่ตามองไอ้เบสหัวจรดเท้า


“ไอ้เบสสสส มึงนี่ไข่เล็กแล้วยังสมองน้อยอีก นี่ไงดินสอกูจองไว้”


ผลัวะ!


“ไอ้จั๊ดง่าว ดินสอเล็กเท่าตีนมดขนาดนี้ เป็นกูก็ไม่รู้ว่าจอง หายใจก็กลิ้งหล่นใต้โต๊ะแล้ว แล้วมึงรู้ได้ไงไข่กูเล็กไอ้สัด”


“กูเคยเห็นมึงวาดไข่แล้วมันใบเล็กไง เออๆ พวกมึงไปซื้อข้าวไปเดี๋ยวกูนั่งจองเอง ซื้อข้าวให้กูด้วย เอาข้าวผัดต้มยำ”


ไอ้กล้วยพยักเพยิดหน้าไล่พวกผมให้ไปซื้อข้าว ไอ้เบสส่ายหัวกับความกวนตีนของไอ้กล้วยก่อนจะกอดคอไอ้ทัพไปซื้อข้าว ส่วนผมกับไอ้เปาก็เดินไปอีกทางเลี่ยงคนเยอะตรงหน้าร้านอาหารครับ


“เปากินไรดี”


“กิน...มึงได้มั้ย”


“ทะลึ่งละ เดี๋ยวนี้มึงหัดพูดจาแบบนี้เหรอ เริ่มไม่น่ารักแล้วนะ”


ไอ้เด็กนกกระปูดนี่ชอบพูดจาขัดกับหน้าตามันชะมัด ถึงแม้ว่ามันจะล้นแบบนี้ตั้งนานแล้วแต่ผมต้องปรามมันหน่อย เดี๋ยวได้ใจ แถมตอนนี้คนยังเยอะอีกต่างหากไม่อยากจะบอกว่ามีคนแอบยกมือถือมาถ่ายรูปไอ้เปาด้วย ทำไรต้องระวังนิดนึง


“กลางงงง แค่ล้อเล่นเอง”


“กูตลกหรอ”


“ทำไมมึงดุขึ้น ไม่น่ารักเลย” แหน่ะมีเลียนแบบ


“ไม่ได้ มึงจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ดี”


 “แฮ่! เถียงไรกันอะผัวเมีย!”


ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นก็มีใครบางคนโผล่หน้ามาแทรกกลางระหว่างเราแถมยังถือวิสาสะกอดคอเราของคนด้วยความรุนแรง


“ไอ้เหี้ย!”  ไอ้เปาสบถเสียงดังจนคนรอบข้างสะดุ้ง


“เดี๋ยวๆ กูพี่มึง พี่จิ้มไงไม่ให้เหี้ย ไอ้สัดเรียกซะกูอยากกินไก่”


“มากินข้าวไกลนะพี่”


“เสือกอีกละ”


“เอ้า กูทักดีๆ นะพี่”


“เออโทษทีๆ เสือกเป็นคำสร้อย ไม่ใช่คำเลวร้าย แล้วนี่มึงทำไรน้องกูไอ้เปา หน้าบูดเป็นตูดไก่ แล้วกูจะอะไรกับไก่วะสึด”


“ไม่มีไรพี่”


“ไอ้กลางมีอะไรบอกพี่ได้นะน้องมึง ถ้าไอ้เปาทำอะไรไม่ดีพี่จะจิ้มไอ้เปาให้น้องเอง”


“เชี่ยพี่จิ้ม มึงอย่ายุ่งกับกูเลย”


“หรือจะให้กูจิ้มไอ้กลาง” พี่จิ้มพูดพลางยิ้มมุมปาก ไอ้สัดกูกลัวหนวดพี่เค้าครับ หนวดแหลมขนาดนี้อย่าใกล้ผมนะ ผมกลัวของแหลม ไอ้เปาที่ยืนข้างมองขำๆ ไม่ได้ช่วยอะไรกูเลย ผมเคลื่อนตัวหนีพี่จิ้มมาที่หลังไอ้เปาครับ


“โด่ แค่นี้ทำเป็นกลัว ป้าครับ สุกี้แห้งทะเลสามที่ครับ”


“พี่จิ้มกินสามจานเลยอ่อ”


“โง่อีก ไอ้เปาดูเมียมึง กูเลี้ยงพวกมึงไง ถูกหวย”


“ขอบคุณค้าบบบ” ผมกับไอ้เปาก้มตัวขอบคุณพี่จิ้มสุดหล่อที่เมื่อกี้ไอ้เปายังด่าว่าเหี้ยอยู่เลย พี่จิ้มยิ้มอย่างน่ารัก หนวดเหนือริมฝีปากขยับตามการยกยิ้ม ที่ผมกลัวเมื่อกี้ไม่มีครับไม่เคยกลัวหนวดพี่จิ้มเลย มีพี่นี่มันดีจริงๆ ครับ ไอ้พี่จิ้มตบหัวผมและไอ้เปาคนละทีก่อนจะตอบกลับคำขอบคุณมาว่า


“เสือก”


คำสร้อยครับ ท่องไว้ คำสร้อย




.
.
.
“มีสอนอิงสามโมงครึ่งจะไปด้วยป่ะ”


ไอ้เปาพูดขึ้นหลังจากที่รถมันมาจอดหน้าหอผม เออใช่ วันนี้มันมีสอนสีน้ำนี่หว่า ปกติไอ้เปามันจะให้ผมไปนั่งดูมันสอนเสร็จแล้วเราก็จะไปกินข้าวครับ แต่เนื่องจากวันนี้ผมจะต้องไปช่วยเพื่อนกล้วยดังนั้นคนกลางต้องปฏิเสธ


“ไม่ดีกว่า อยากอยู่ห้อง”


“โอเค สอนเสร็จเดี๋ยวมารับไปกินข้าว”


“ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวกูกินแถวนี้ก็ได้ เหนื่อยก็กลับไปพักบ้าง”


พอพูดแค่นั้นไอ้เปาก็ขมวดคิ้วฉับ ส่วนผมก็พยายามทำตัวปกติแต่มือขวานี่กำขากางเกงแน่นเชียว


“พูดหรอว่าเหนื่อย”


“ก็...เปล่า”


เชี่ย ไหงเรื่องมันเป็นแบบนี้ไปซะได้ ไอ้เปาหงุดหงิดขึ้นมาทันที ผมเริ่มทำตัวไม่ถูก ในหัวสมองกำลังหาคำพูดแบบด่วนจี๋


“อยู่กับมึงก็คือเวลาพักของกู” มันจ้องผมแล้วทำหน้าจริงจังจนผมเริ่มไปต่อไม่ถูก


“แต่ว่า...”


“ไม่ต้องแต่ เจอกันหกโมง”


“โอ..โอเค หันหน้ามาก่อนดิ๊....” มันยังเล่นตัวไม่หันมาซักทีแถมยังเม้มปากจนเห็นลักยิ้ม “เร็วหันมา โอ๋....งอนหรอ”


“ก็มึงพูดจาไม่เข้าหู”


“ขอโทษๆ อ่ะๆ เดี๋ยวเลี้ยงข้าวเลยมื้อนี้”


“ไม่ต้อง”


“เออน่า เจอกัน สอนเสร็จแล้วไลน์มานะ”


ผมลูบผมที่ปรกหน้าผากของมันสองสามทีก่อนจะคว้ากระเป๋าแล้วลงจากรถมา รีบเลยครับเดี๋ยวอยู่นานมันจะจับได้ เฮ้อ ไอ้กล้วยนะไอ้กล้วย เสร็จงานนี้เมื่อไหร่มึงต้องยกกูเป็นเทพแห่งคอหล่นนะ


.
.
.
“เชี่ยกลาง ทำไมมึงมาช้า เกือบจะสามโมงแล้วเนี่ย”


“มึงใจเย็นดิเพื่อนกล้วย”


“แล้วไอ้เปาไม่รู้ใช่มั้ย” ไอ้กล้วยจับตัวผมหมุนซ้ายหมุนขวาเหมือนกลัวว่าไอ้เปาจะย่อส่วนแล้วอยู่บนตัวผม


“เออไม่รู้ มึงใจเย็นนะกูเวียนหัว”


“เออๆ ก็กูกลัวนี่หว่า”


“แล้วคนไหนวะฟ้าอะ”


“นั่นไง ตัวเล็กๆ ผมสั้นอะ”


ผมกับไอ้กล้วยยืนส่องเธอคนนั้นอยู่หน้าร้านครับ ตรงนี้มีต้นไม้บังอยู่เราเลยยืนเป็นคนบ้าอยู่ตรงนี้ครับ ฟ้าคนนี้เรียนอยู่คณะเศรษฐศาสตร์ปีหนึ่งเหมือนพวกผม เธอหน้าตาน่ารักครับ ตอนนี้เธอนั่งคนเดียวอยู่ด้านในสุดของร้านนั่งกดโทรศัพท์หน้าตายิ้มแย้ม


“กูต้องทำไง”


“เราจะเข้าไปพร้อมกัน”


“แล้ว...”


“ไม่มีอะไรต่อ กูไม่ได้คิด”


“ไอ้เชี่ยกล้วยเดี๋ยวก่อนน” พูดไม่ทันจบไอ้กล้วยก็ลากมือผมเข้าไปในร้าน และผม นายคนกลางก็ยืนงงอยู่หน้าโต๊ะเธอโดยที่ไอ้กล้วยยืนหน้าแดงอยู่ข้างๆ


“ฟ้าหวัดดี” ไอ้กล้วยยกมือโบกไปมาอย่างรุนแรงให้ฟ้า


“หวัดดีครับ”


“คนกลางหวัดดีค่ะ นั่งเร็ว” เธอยิ้มแป้นผ้าโพกผมสไตล์วินเทจพลิ้วไปตามลม ผมนั่งลงตรงข้ามเธอแล้วไอ้กล้วยก็ยิ้มเจื่อนนั่งลงตาม


“กลางสั่งน้ำอะไรเราสั่งให้ อ๊ะ กล้วยด้วย ลืมไปเลยว่ากล้วยมาด้วย”


“อะ..เอ่อ...” ผมมาอยู่ท่ามกลางคนสองคนอีกแล้วครับ เกิดเป็นคนกลางนี่มันยังไงกันครับ ผมปวดหัว


“เราเอานมปั่น มึงอะไอ้กลาง”


“กูเอาชาเขียวนมแล้วกัน”


“งื้อ กลางกินชาเขียวเหมือนเราเลย น่ารักจัง”


เธอยิ้มเขินพลางเหลือบมองผมเป็นระยะๆ ผมสะกิดขาไอ้กล้วย คนที่มึงชอบแต่เค้าไม่ได้ชอบมึงเลยนะเพื่อน พอน้ำที่เราสั่งมาไอ้กล้วยก็เริ่มบทสนทนาแต่ฟ้าเธอก็เปลี่ยนเรื่องแล้วถามเรื่องผมอยู่เรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น


“ฟ้าเรียนกี่ตัวเทอมนี้เยอะป่ะ”


“ก็ไม่มากนะ กลางชอบสีอะไรหรอ”


“สีอะไรก็ได้ไม่อ่อนไม่เข้ม”


“งื้อ เท่อ่า”


หรือว่า


“ฟ้าอยากกินบิงซูมั้ย เราเลี้ยงเอง”


“ก็ดีนะ กลางอยากกินมั้ย”


“ตามสบายเลยครับ”


“ละมุนจัง กลางไม่ค่อยพูดเลย เขินฟ้าหรอ”


“เอ่อ...”


เชี่ย...ทำไมผมนายคนกลางต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วครับ นี่มันจะสี่โมงแล้วเรายังไม่ได้เริ่มอะไรเลย ผมส่งข้อความหาไอ้กล้วยระหว่างที่ฟ้ากำลังก้มหน้าดูเมนูบิงซูอย่างพิถีพิถัน ไอ้กล้วยกับผมสบตากันเล็กน้อย เราต้องเริ่มแล้วล่ะเพื่อนก่อนที่ฟ้าจะเข้าใจผิดไปกันใหญ่ ระหว่างนั้นเองผมก็ได้ยินเสียงคุ้นๆ ดังมาจากข้างหลัง บทสนทนานั่นทำให้ผมชะงัก แล้วค่อยๆ แอบหันไปมอง ไอ้กล้วยมันก็สะดุ้งเพราะเสียงนั้นเหมือนกัน นั่น...อย่าบอกนะว่า....


“เปา อยากกินอะไรสั่งเลย เราขอเลี้ยงตอบแทนที่เปาช่วยสอนเรา”


“จริงๆ ไม่ต้องก็ได้นะ”


“ไม่ได้หรอก เรารู้ว่าเปาต้องปฏิเสธ ถึงหลอกว่าวันนี้จะเรียนวันสุดท้าย สั่งเลยๆ”


“อื้ม งั้นเราเอาเอสเปรสโซ่ละกัน”


“ดีมาก”


โลกจะกลมอะไรขนาดนี้ครับ ไอ้เปากับอิงนั่งถัดจากโต๊ะผมไปแค่หนึ่งโต๊ะ ผมค่อยหดตัวลงมาให้พนักพิงมันบังผม ด้านหลังแต่ละโต๊ะจะมีกระถางต้นไม้บังอยู่ ขออย่าให้มันเห็นเลยครับ ไอ้กล้วยเห็นบรรยากาศไม่ค่อยจะดี มันสูดลมหายใจเข้าแล้วเริ่มพูดหลังจากที่ฟ้าสั่งบิงซูเสร็จ


“ฟ้าเรามีอะไรจะบอก”


ไอ้กล้วยทำเสียงจริงจังจนฟ้าที่กำลังเท้าคางมองหน้าผมชะงัก เธอคงรู้สึกถึงบรรยากาศแปลกๆ อบอวลอยู่จึงค่อยๆ หันกลับมามองไอ้กล้วย


“ทำไมกล้วยทำหน้างั้นล่ะ”


“เรามีอะไรจะบอก ฟ้าฟังเราก่อนได้มั้ย”


เสียงไอ้กล้วยทุ้มต่ำ สายตาของมันที่ส่งให้ฟ้าช่างมุ่งมั่นทำให้ผมชื่นชมมัน มึงต้องทำได้ไอ้กล้วย แดดที่ส่องผ่านกระจกมายังโต๊ะเราค่อยๆ ทอแสงลงเพราะเมฆฝนเข้ามาแทนที่เหมือนมันเป็นลางบอกเราว่าปรากฏแห่งหายนะกำลังจะถล่มพวกเราในไม่ช้านี้


“อื้อ เราก็ฟังกล้วยอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นเลย”


“คือเรา...ที่ไอ้กลาง...ชอบฟ้าน่ะ จริงๆ แล้ว”


“งืออ พูดต่อหน้ากลางเลยหรอเราเขินกลางนะ” เธอช้อนสายตาหลบผม คุณครับช่วยฟังเพื่อนผมหน่อยได้มั้ย


“จริงๆ แล้ว ที่จริงน่ะ เราชอบฟ้า เราแค่เอาชื่อไอ้กลางมาอ้างเท่านั้น!”


ไอ้กล้วยก้มหน้าพูดประโยคนี้จนจบ ฟ้าตาโตเธออ้าปากเล็กๆ ด้วยความตกใจเหมือนเธอพอจะเข้าใจเรื่องราวบางอย่างแล้วล่ะครับ


“นี่มันอะไรกัน กล้วยหลอกเราหรอ”


“เราขอโทษ เราแค่ไม่กล้า ฟ้าอย่าเลิกคุยกับเราเลยนะ”


“แต่กลางชอบเรานี่...ใช่มั้ย”


เธอไม่สนใจไอ้กล้วยที่มองเธออย่างอ้อนวอน ฟ้าหันกลับมามองผมเธอยื่นมือมากุมมือผมไว้แน่น เหมือนเธอได้ยินแต่คำที่ว่าผมชอบเธอเท่านั้น


“เราขอโทษนะฟ้า”


“กลางชอบเรา...”


“ฟ้าให้โอกาสกล้วยได้มั้ย”


“แต่ฟ้าชอบคนกลาง!!! ที่คุยกับกล้วยก็เพราะว่าชอบกลางได้ยินมั้ย!!”



“เราชอบเปานะ!!”


ฟ้าตะโกน ตากลมโตสั่นระริกและเป็นเวลาเดียวกับที่เสียงข้างหลังก็ดังมาซ้อนทับกัน ผมกับไอ้กล้วยตัวแข็งทื่อ ไอ้กล้วยเพื่อนผมนิ่งไปมันเม้มริมฝีปากแน่น  มันเหมือนคนหมดแรงแล้ว ส่วนผมยิ่งอึ้งกว่าเดิมเมื่อนึกได้ว่าเสียงที่ได้ยินคือเสียงอิง ผมหันกลับไปมองข้างหลังอย่างรวดเร็วแล้วก็พบว่าไอ้เปายืนขึ้นแล้วมองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว


“กลาง!”


เสียงของฟ้าดังขึ้นอีกครั้งเธอเดินอ้อมมาแล้วคว้าแขนผมไว้ พอๆกับที่ไอ้เปาสาวเท้าเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจอิงที่นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น


“เอ่อมาทำอะไรที่นี่?” ผมรู้ว่าคำถามผมมันโง่แต่ผมต้องไม่ทำให้บรรยากาศมันแย่ลงครับ ไอ้เปามันหน้านิ่งไม่ตอบอะไรแต่ตามันจ้องเขม็งไปที่แขนข้างซ้ายของผมซึ่งฟ้ากำลังกอดอยู่


“ปล่อย”


“เรามีเรื่องจะคุยกับกลาง”


“ปล่อย”


มันพูดเสียงแข็งครั้งที่สอง ผมค่อยๆ แกะตัวเองออกจากแขนของฟ้า เหลือบมองไอ้กล้วยมันนั่งมองมือตัวเองนิ่งๆ กูขอโทษนะไอ้กล้วย แต่ตอนนี้เรื่องทุกอย่างมันเริ่มวุ่นวายมากขึ้นแล้ว


“กลาง ฟ้าชอบกลางนะ คบกันมั้ย”


ฟ้าเงยหน้ามองผม แววตาสั่นระริกแต่พอเธอพูดว่าชอบผมไอ้เปาก็บีบแขนผมแน่น ผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะหันไปบอกฟ้าด้วยเสียงหนักแน่น


“เรา...เราไม่ได้ชอบฟ้า ขอโทษนะ”


“ฮึก เราเสียใจ เราเกลียดกล้วย ให้ความหวังเราทำไม หลอกเราทำไม กลางไม่ได้ชอบเรา!!”


ผมมองเธอนิ่งให้เธอเข้าใจว่าผมพูดจริง ฟ้ามองหน้าผมเธอพูดเสียงสั่นอย่างตัดพ้อแล้วก็หันไปตะโกนใส่ไอ้กล้วย น้ำตาเม็ดเล็กหยดลงมาช้าๆ เธอยกมือปาดมันอย่างรวดเร็วก่อนจะคว้ากระเป๋าถือแล้ววิ่งออกจากร้านไป


“ฟ้า! กล้วยขอโทษฟ้า”


ไอ้กล้วยตะโกนตามหลังฟ้าไป ไอ้เปาหันไปมองไอ้กล้วยเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนมือมากำข้อมือผมแน่นแล้วออกแรงลากผมให้เดินออกไปจากร้าน มันลากผมให้หยุดยืนที่หน้าอิงที่แววตาหม่นแสงลง


“อิง เราขอโทษ”


“....”


“เรามีแฟนแล้ว”


“เราเข้าใจ...ขอโทษนะที่ทำให้เปาลำบากใจแล้วก็ขอบคุณที่สอนเรา”


อิงพูดจบแล้วก็ยิ้มฝืนๆ ให้ไอ้เปา จมูกอิงแดงเล็กน้อย ไอ้กล้วยที่อยู่ด้านในสุดของร้านยืนขึ้นสบสายตากับผมเงียบๆ ไม่นานไอ้เปาก็ลากผมออกไปโดยไม่พูดอะไรอีก ผมหันกลับไปมองร้านข้างมอ ร้านกาแฟสไตล์ร่มรื่นที่ตอนนี้มีคนอกหักพร้อมกับถึงสามคนและฝนก็เริ่มลงเม็ดช้าๆ


[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 05-06-2017 09:35:43
[ต่อจากด้านบนค่ะ]


.
.
ผมมองหยดน้ำที่เกาะบนกระจก เราอยู่บนท้องถนนที่จราจรแน่นหนา หลังจากที่ไอ้เปาลากผมขึ้นรถมามันก็กระชากรถออกตัวอย่างแรงแต่ขับมาได้ไม่นานก็ต้องมาติดเหง็กอยู่ตรงถนนเส้นนี้ ได้แต่เคลื่อนตัวไปทีละน้อย ตอนนี้ก็ยี่สิบนาทีแล้วไอ้เปายังคงจ้องถนนที่เต็มไปด้วยไฟท้ายจากรถคันหน้า ผมที่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงก็ได้แต่ปล่อยให้ความเงียบอยู่กับเราแบบนั้น จะว่าไปตั้งแต่เด็กมันไม่เคยเงียบใส่ผมแบบนี้ จะมีแต่ครั้งแรกที่ผมเข้าไปคุยกับมันแล้วมันเมินใส่ มันหรี่ตามองผมแล้วก็เดินหนีไป ตอนนั้นโคตรเฟลนี่มันคนกลางนะเว้ย คนดังของเด็กประถม ทำไมไอ้เด็กเตี้ยนี่ถึงเมินเราวะ


“ยิ้มอะไร นี่โกรธอยู่นะ”


ไอ้เปาพูดขี้นเสียงแข็ง ผมสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็หันไปมองมันช้าๆ ไอ้เปาที่ตอนนี้วางแขนข้างขวาไว้กับประตูรถจ้องหน้าผมแถมหน้ามันยังหงุดหงิดสุดๆ มันปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาสองสามเม็ด ปลายผมเปียกฝนตอนเดินออกมาจากร้านเล็กน้อย อ่า ดูเซ็กซี่ชะมัด เฮ้ยไม่ได้! ดึงสติก่อน


“โกรธอะไร” ผมถามกลับหลังจากสติกลับมา


“ไม่รู้จริงอะ”


“อื้อ”


“ผู้หญิงคนนั้นชอบมึงได้ไงกลาง” มันกดเสียงต่ำจ้องผมตาไม่กระพริบ


“ไม่รู้เหมือนกัน...แต่คือ..”


“มึงรู้มั้ยว่ากูโคตรหงุดหงิด มีคนมาขอคบแฟนต่อหน้านี่แม่งน่าโมโหชิบหาย”


“ฟังก่อน” ผมเอื้อมมือไปจับมือมันที่กำลังขยี้ผมตัวเองอย่างบ้าคลั่ง


“ให้เวลาอธิบาย ถ้าไม่เข้าหูอีกละก็จะขังให้อยู่แต่ห้องเลย”


“ถ้าไปเรียนทำไงอะ”


“เดี๋ยวไลฟ์สดแม่ง กลาง อย่าเปลี่ยนเรื่อง”


ไอ้เปาแอบหลุดเก๊กมานิดนึงถือว่าบรรยากาศไม่แย่ครับ ผมก็แหย่มันไปอย่างนั้นแหละ ผมรู้ว่าไม่มีอะไรจริงๆ นี่นา ผมเล่าเรื่องที่ไอ้กล้วยมาปรึกษาให้มันฟัง มันหน้าบึ้งฟังไปด้วยกัดฟันไปด้วย เดือดร้อนผมต้องยื่นมือไปบีบแก้มมัน เออเดี๋ยวก็ปวดฟันตายหรอก ผมเล่าให้มันฟังสั้นๆ แต่ได้ใจความ ไอ้เปาเงียบไปไม่นานผมก็ถามต่อ


“จบแล้ว”


“อือ”


“หายโกรธยัง ยิ้มหน่อยดิ ไม่เห็นมีไรเลยยยย”


“แม่ง ไอ้กล้วยกูพอจะเข้าใจแต่ฟ้าอะไรนั่นชอบมึงจริงกูไม่โอเค” ไอ้เปามันคลายหน้าบึ้งลงแล้วครับแต่ก็ยังไม่ยิ้มอยู่ดี ง้อนานแล้วนะ


“ทีมึงอะ อิงยังชอบมึงได้ ไปสอนกันท่าไหน”


“กลางมึงอย่าตีรวนดิ กูโกรธก่อน” มึงจองโกรธไว้ตอนไหนครับ ผมขอโกรธต่อได้มั้ย อันที่จริงผมก็ไม่พอใจอยู่ลึกๆ ตอนที่อิงบอกชอบไอ้เปา ความรู้สึกมันแปลกๆ แถมใจเต้นแรงอีกด้วย ในใจได้แต่คิดว่าไอ้เปาจะตอบกลับอิงแบบไหน แต่พอเห็นมันเดินดุ่มๆ มาหาผมแบบสนใจใคร ผมก็คลายความรู้สึกนั้นลง


“กูขอโทษที่ไม่บอกมึง กูสัญญากับไอ้กล้วยไว้ยังไงต้องช่วยมัน ถึงแม้ว่าตอนสุดท้ายมันจะเละเทะก็ตาม เรื่องที่ฟ้าขอคบนี่มัน..เหนือการคาดเดา” ไอ้เปาฟังผมเงียบๆ ผมเสียใจเรื่องไอ้กล้วยครับ ถึงมันจะเตรียมใจไว้แล้วแต่มาเจอสถานการณ์แบบนี้จะให้ทนเจ็บก็คงไม่ไหว


“ส่วนเรื่องอิง...กูไม่รู้เหมือนกันว่าชอบกูตอนไหน เพราะกูเว้นระยะห่างไว้ตลอดกูถึงอยากให้มึงไปอยู่ด้วยตอนกูสอน” มันอธิบายบ้าง เห็นมะ มึงก็ไม่รู้เหมือนกันอะ


“แน่ใจ?”


“แน่ดิ ขอปรับอารมณ์แปบ” มันลูบหน้าเบาๆ มันคงหมายถึงความหงุดหงิดใจของมัน


“ว่าแต่ทำไมฟ้าถึงชอบกูนะ ไม่เคยรู้จักกันซะหน่อย กูก็คนกลางๆ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น” ผมขมวดคิ้วคิด ปกติผมไม่ได้สุงสิงกับใครนอกจากจะมีงานที่ต้องรับผิดชอบ ไม่เหมือนไอ้เปาที่ไปไหนคนก็รู้จัก ไอ้เปาขับรถไปซักร้อยเมตรก็ต้องเบรกเพราะรถติดมากจริงๆ มันหันมามองหน้าผม


“กลาง ถ้าคนมันจะชอบอ่ะแค่เห็นรูปมันก็ชอบแล้วเว้ย ไม่ต้องเจอตัวจริงยังได้เลย”


“งั้นหรอ”


“แล้วก็รู้ตัวซักทีเถอะ คนอื่นชอบมึงตั้งเยอะ เชี่ย หงุดหงิดอีกละ”


“คนอื่นก็ชอบมึงเหมือนกัน ถือว่าเราเจ๊ากัน มีคนรักดีกว่ามีคนเกลียดไง”


“รักอย่างเดียวขออย่าแย่งก็พอ”


“ไม่ใช่ละครนะเว้ยยย”


“กลางชีวิตมันเป็นต้นแบบของละครทั้งนั้นแหละ”


“เอาน่า เราคิดบวกชีวิตมีความสุข”


“ให้แน่ อย่ามาหึงแล้วกัน” โหอารมณ์มาเต็มนะไอ้เด็กน้อย


“เหมือนที่มึงหึงกูอะหรอ” ผมยิ้มล้อเลียนมัน ไอ้เปาปรายตามองนิดหน่อยก่อนจะกลับไปมองถนนเหมือนเดิม หูแดงนะเราอ่ะ


“มึงก็หึงกูเหมือนกันแหละ ตอนที่อิงบอกชอบกูหรือตอนที่กูสอนอิง”


“อะ...” เอออ ยอมรับก็ได้ ผมเม้มปากจ้องหน้าด้านข้างไอ้เปา มันเริ่มเคลื่อนรถอีกครั้ง


“หึงก็บอกว่าหึง มึงไม่พอใจใช่มั้ยล่ะ ดี หึงกูเยอะๆ เลย สนใจกูเยอะๆ จะได้มีแต่กูในสายตามึง”
มันหัวเราะหึหึในลำคอแล้วยิ้มมุมปาก ไอ้บ้าเปา โรคจิตป่ะเนี่ย ทำไมอากาศมันร้อนแบบนี้สงสัยฝนตกมั้งครับ



.
.
.
หลังจากรถติดอยู่นานเราก็ไปกินข้าวกันตามที่คุยกันไว้เหมือนเดิม นั่งได้ไม่นานไอ้ทัพก็ส่งข้อความมาในไลน์กลุ่มบอกว่าไอ้กล้วยมันเฮิร์ตหนักมาก อยากกินเหล้าแบบสุดๆ มันถือถุงขวดเหล้าเดินเข้าหอไอ้ทัพมา ผมกับไอ้เปาสบตากันอย่างเข้าใจก่อนจะตอบตกลง ไอ้เบสที่กำลังจะถึงห้องไอ้ทัพบอกให้ผมซื้อกับแกล้มเข้าไป เราอยู่ร้านอาหารพอดีเลยสั่งกับข้าวไปสามสี่อย่าง ตอนนี้ฝนก็ยังตกอยู่ครับแต่ไม่หนักเท่าไหร่ ผมถือถุงกับข้าวสองมือส่วนคุณเปาเค้าจะถือร่มล่ะ


กึก!


“กลาง ร่มหัก”


“ไอ้เปา” ผมลากเสียงยาว มือมึงจะหนักไปไหนเนี่ย


“ร่มมันอ่อนแอ อย่าทำหน้าบูดเห็นแล้วมัน...” แล้วมึงเป็นเดอะฮัคไง๊


“อะไร” ผมหรี่ตาไม่ไว้ใจมัน


“เห็นแล้วอยากจะบดให้หายหน้าบูดเลย”


เชี่ย...มันกลับมาเป็นไอ้เปาสุดล้นแล้วครับ


“โห คอแดงหมดแล้วกลางยังไม่ทันกินเหล้าเลย”


“พูดมาก ร่มหักแล้วเอาไง”


“ไม่เห็นยากเลย ผมไม่ยอมให้แฟนเปียกหรอกครับ”


มันถอดเสื้อคลุมที่พึ่งจะสวมตอนลงรถมาแล้วคลุมหัวให้ผม จากนั้นก็เอาร่มที่ก้านหักๆ มากางอีกที


“มึงก็เปียกดิ”


“เออไม่เป็นไร ไปเร็ว” ไม่ทันจะท้วงอะไรมันก็กอดไหล่ผมออกวิ่งไปพร้อมกัน ผมเหลือบมองร่มหักๆ ทรงแปลกประหลาดกับคนที่ใส่เสื้อสีขาววิ่งตากฝนอยู่ข้างๆ อืม...ฝนตกวันนี้ก็มีเรื่องดีๆ เหมือนกันเเฮะ



.
.
“แม่งฟ้าใจร้าย แม่งเอ้ยยย กูมันโง่ที่ไปชอบค้าวววววววววว”


“ปล่อยแม่งเถอะ ผู้หญิงมีเป็นล้านเพื่อน ดื่มเพื่อนดื่มมม”


“ใช่ หน้าตาเหมือนณเดชน์กลับด้านอย่างมึงหาใหม่ได้สบ๊าย”


“จริงหรอไอ้เบส กูขอญาญ่านะงั้นอะ”


“มึงได้แน่เพื่อนกล้วย”


“ญาญ่าหรอ”


“ยาฆ่าหญ้าไปก่อนเพื่อน เอ้า ชนนน”


“เหี้ย กูจะแดกเหล้าให้มันลืมมม ผู้หญิงแม่งใจร้าย ไม่ชอบกูไม่พอดันไปชอบไอ้กลางให้กูติดต่อให้ บอกกูให้ความหวัง มันกูให้ความหวังกูเหมือนกัน คุยกับกูทุกวันน ใจยักษ์ชิบหาย อึกๆ”


“เอออ อย่างงี้ต้องถอน”


“กูเศร้า กูจะร้องไห้ แต่คนอย่างไอ้กล้วยไม่ร้องงงงง อึก”


“แต่กูจะร้องนะ”


“มึงเศร้ากับกูหรอเพื่อนทัพ”


“เปล่า กูจะร้องเพลง”

“เออ! ร้องมาขอเพลงอกหักๆ กูเสียจายยยยย แกร๊ง!”


“เป็นแฟนกับกล้วย กฎข้อแรกก็คือห้ามทิ้ง ข้อที่สองก็คือห้ามทิ้ง โกรธมากเลยถ้าทิ้ง ชั้นไม่ใช่ถังขยะ ชั้นไม่ใช่ถังขยะ”


“ฮืออออออออออ กูมันเป็นถังขยะ ยังไม่ได้เป็นแฟนแต่เธอก็ทิ้งงงง”


“ไอ้สัดทัพ เพื่อนมึงงอแงแล้วเปลี่ยนเพลง”


“ทำตูดแล้ว ที่เธอเลือกเขา แล้วทิ้งชั้นไว้ตรงกลางถ่าง”


“อะไรถ่างๆ ตูดๆ วะ เออแต่แม่งกูก็เศร้า”


ผมนั่งมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย ไอ้กล้วยอกหักแต่ก็ยังมาหาเพื่อนถือว่าอาการไม่ได้แย่ครับ ผมกลัวเพื่อนคิดสั้นสมองยิ่งไม่ค่อยมีอยู่ด้วย ส่วยไอ้เปาตอนนี้นั่งดื่มเงียบๆ ครับ มันถอดเสื้อนักศึกษาที่เปียกออกแล้วก็มานั่งยกเอาๆ สงสัยยังหงุดหงิดเรื่องฟ้าอยู่ครับ อุตส่าห์ทำลืมๆ พอได้ยินไอ้กล้วยพูดถึงคงจะคิดอีก


“ไอ้กล้วย กูขอโทษนะเว้ย เพราะกูบอกให้มึงท้าชนเอง”


“กลางเพื่อนร้ากกก มึงไม่ผิดเพื่อน กูก็อยากท้าชนด้วยเหมือนกัน เตรียมใจเจ็บไว้แต่ไม่คิดจะเจ็บขนาดเน้” ไอ้กล้วยถลาออกมากอดผม กลิ่นละมุดช่างรุนแรงต่อใจครับ


“อุ้ย พ่อตัวจริงมันมา ขอโต้ดค้าบบบ กูขอโทษที่พาแฟนมึงไปหาหญิงใจร้ายคนนั้น”


“เออ ไอ้เชี่ยกล้วยมีอะไรก็ปรึกษาพวกกูก่อนดิวะ ทำสุ่มสี่สุ่มห้าเป็นไงล่ะ”


“กูกลัวพวกมึงด่า โดยเฉพาะไอ้เปามันคงให้ไอ้กลางมันไปอยู่หรอก ยกโทษให้เพื่อนคล้วยด้วย เพื่อนคล้วยอกหักอย่างอลกันเลยยยย”


ไอ้เปามันหันมามองไอ้กล้วยอย่างคาดโทษแล้วก็พยักหน้าให้ไอ้กล้วยสองสามที มันถึงยิ้มร่าแล้วเอาแก้วเหล้ามาชนกับแก้วไอ้เปาดังสนั่น


“ชนนนนน ไอ้กลางชนนนน”


แก้วแรกผ่านไปแก้วสองแก้วสามค่อยๆ ผ่านไป ไอ้สามหน่อคอหล่นที่ดื่มกันมาก่อนผมล้มตัวนอนกอดก่ายเหมือนผัวเมียอยู่ตรงหน้าทีวี ผมหันไปมองไอ้เปาที่นั่งข้างๆ มันไม่ได้เมาครับแค่กรึ่ม แต่นั่งเงียบไม่คุยกับผมเลย ผมวางแก้วแล้วนั่งเงียบๆ มองหน้ามัน พอมันรู้ตัวก็เริ่มพูดขึ้น


“กอดหน่อย”


“...”


“กอดง้อหน่อย”


“อะไรของคุณครับ”


“กอดหน่อยยยยยยย”


“กอดแล้วอารมณ์จะเป็นยังไง”


“อารมณ์ดี ยิ้มได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง” เออแบบนั้นเรียกบ้าแล้ว


ไอ้เปาวางแก้วเหล้าแล้วอ้าแขนรอผม ผมที่ปรกหน้าผากมันยังเปียกชื้นเล็กน้อย ใจผมเต้นแรงอีกครั้ง ดูดีเกินไปแล้วนะ แล้วนี่มันไม่หนาวหรือไงกัน ถอดเสื้อแถมแอร์ยังเย็นขนาดนี้


“ทำไมคิดนานเร็ว กอดดจะได้อุ่นๆ”


“เออๆ”


ผมเขยิบตัวเข้าไปกอดมัน ผมเคยบอกรึยังนะว่าหุ่นไอ้เปามันดีมากๆ ดีแบบเหมาะกับตัวมัน ตัวมันเย็นกว่าผมเล็กน้อย ผมกอดมันทั้งตัวคางผมอยู่ไหล่ซ้ายของมัน ส่วนคางของมันวางบนไหล่ขวาของผม อ่า...ผมกลัวว่ามันจะได้ยินเสียงหัวใจผมจัง


“ลูบหัวด้วย” มันจับมือผมไปวางแปะไว้บนหัวมัน


“อื้อ..” ผมลูบหัวมันเบาๆ ไอ้เปาเรื่องทั้งหมดมึงอย่าคิดมากเลยนะ


“มึงอยู่กับกูนะ...”


“ก็อยู่ตลอดอยู่แล้ว”
 


.
.
“พวกมึงจะเกินไปแล้วนะ กูอกหักอยู่นะ นอนกอดกันยังไม่พอ มึงจะลงรูปให้กูช้ำใจตายเลยหรอ”


ผมงัวเงียยกหัวขึ้นมาไอ้คนที่มาโวยวายอยู่หน้าโซฟาหันไปมองนาฬิกาถึงรู้ว่านี่มันสายแล้ว ไอ้เปานอนเบียดอยู่ข้างๆ แถมแขนยังรัดตัวผมแน่น


“ไอ้กล้วย หายอกหักแล้วหรอ”


“แม่ง ถึงมึงตื่นมาจะดูฮอตก็เถอะ กูไม่ให้อภัยหรอก”


“อะไรวะ”


“เอาไปดูไอ้สัด งอนโว้ย!”


ไอ้กล้วยยัดมือถือมันใส่มือผมแล้วเดินตึงตังเข้าไปในเขตครัวของไอ้ทัพ ผมขยี้ตาดูสาเหตุที่ไอ้กล้วยงอน ไอ้เปาก็กอดแน่นเกิน ผมเลยถืออย่างทุลักทุเล



Paramatkrikri  ของผมครับ


ไอ้เปาอัพไอจีเมื่อสี่ชั่วโมงก่อน รูปที่มันลงคือรูปที่มันกอดผม มันถ่ายเห็นด้านหลังของผมที่กำลังซบหน้าไปกับบ่ามัน ส่วนมันก็มองกล้องนิ่งผมเปียกแถมยังถอดเสื้ออีกต่างหาก ถึงแม้ว่าจะมืดสลัวมองไม่ชัดว่าผมเป็นใคร แต่ผมก็รู้ดียิ่งกว่าใคร


ผมวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะข้างโซฟา เงยหน้ามองไอ้คนที่กอดผมอยู่แล้วยิ้ม ไอ้เปาเอ๊ย...มันยังนอนไม่ใส่เสื้อเหมือนเดิมผมแนบหน้าลงไปบนอกของมัน ฟังเสียงตึกตักของหัวใจมันที่ดังสม่ำเสมอ ต่างกับผมที่เต้นแรงขึ้น แรงขึ้น


Bananaboat ทำงี้ก็แท็กเลยมั้ยอะ *อิโมติค่อนโกรธ
Jayjah กรี๊ด เปาถอดเสื้ออออออ
ourboysXu รูปใหม่ทำไมมันกร๊าวใจ
Paramatfc เอฟซีรอเธออัพเดตตั้งนาน มาทีเดียว ใจสั่นเลยง่า ปล.คนๆ นั้นคือใครคะ
Lanlabelle ฮืออออ ผมเปียกโคตรเซ็กซี่อ่ะ ฮอตมาก ชั้นร้อนไปหมดล้าว
Mylilboy ใครกอดผัวชั้นคะ อิจแรง ใครคะ ครายยยยย เกรี้ยวกราด
Enagua แฟนหรอเปา? ตอบด้วย






Paramatkrikri  แฟนผมครับ



======
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
 :L1: :L1:
ตอนนี้ใสๆ ไม่มีอะไรมาก
เหม็นความรัก555
นอกจากไทยบอยส์เเล้วก็สามารถไปพูดคุยกันได้ที่เเท็ก #คนกลาง นะคะเราแอบเเฝงตัวอยู่55
ไอ้เกมส์ออกมาป่วนเเปบเดียวคนเกลียดทั้งบาง55 สงสารนาง
เรื่องนี้ชื่อคนกลางดำเนินเรื่องโดยคนกลางทั้งหมด
ความคิดความอ่านมันก็ออกจะเป็นคนกลางๆ หน่อยๆ (ซึ่งตอนนี้อยากจะลองทำตัวเพี้ยนๆ)
ฝากน้องไว้ด้วยนะคะ เอ็นดูววว 55 :กอด1:
เจอกันตอนหน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 05-06-2017 09:47:32
เป็นแฟนกันที่โกรธ งอนได้น่ารักมาก
อิจฉาตาร้อนผ่าวๆ เลยค่ะคุ้ณ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 05-06-2017 09:49:32
โอ้ยยยยเปาเท่มากกกกก กรี๊ดดดดดดด โซแดมฮอตตตตต  :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 05-06-2017 10:48:07
โอยใจจะพัง เขินเกิ้นนน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-06-2017 11:48:38
 :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-06-2017 13:53:42
อิจแรง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-06-2017 13:55:16
กอดแล้วอารมณ์ดีทั้งวัน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: rikulism♡ ที่ 05-06-2017 13:57:26
แบบนี้น่าร้ากกก กร๊าวใจจัง :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 05-06-2017 14:41:46
โหยยยยย แสดง 's ที่ตัวกลางเลยค่ะ ถ้าจิลงรูปกางอาณาเขตขนาดเน้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-06-2017 16:37:11
กรี้ดดดดด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 05-06-2017 18:57:44
กรี๊ดเปาคนคูล เปาคนเท่ น่ารักจังคู่นี้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-06-2017 19:55:52
ต่างฝ่ายต่างหึง ก็อย่างนี้ละนะ เสน่ห์แรงทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 05-06-2017 20:51:54
 :pig4:  :L2: :pig4:
ชอบการแสดงความเป็นเจ้าของนะเปา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wunwanoo ที่ 05-06-2017 21:37:08
โอ้ย เปาน่ารักมาก จาตายยย ฮืออออ :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 05-06-2017 21:44:22
ค่ดคูล ฮืออออออ นึกภาพแล้วใจสั่นเลย  :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 05-06-2017 22:33:05
 :-[
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: anntonies ที่ 05-06-2017 23:25:01
คนมีความรักนี่น่าอิจฉาจริงๆ
ตอนแรกนึกว่าจะงอนกันยาวกว่านี้ แต่ตอนที่กอดกันนี่น่ารักมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 06-06-2017 04:12:41
โอ้ยยยยเปาโคตรเท่อะ
FC เลยได้มั้ยยยยย
So damn hot มากกกอะ
อิจฉากลางงงงงงง
รูปที่ลงนี่นึกภาพออก ใสฟิลเตอร์ขาวดำจะโคตรคูลลเลย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 06-06-2017 04:28:00
คนกลางใจเย็นมากกกกก ชัดเจนมากด้วย ดี๊ดีอ่ะ
มีแฟนแบบนี้แหละ ชีวิตสงบสุบราบรื่น
เปาก็รักคนกลางชัดเจนดีเหมือนกัน นางรักของนางมานาน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Phetploy ที่ 06-06-2017 11:14:16
กรี๊ดดดดดดด พี่เปา!!! เขินนนนนนรุนแรงมาก!!! :katai4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 06-06-2017 14:56:45
เหม็นฟามรักกกกก โอ้ยยยยย :hao7:
แต่ก็ฟิน ฮาาาาาา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: graciej ที่ 07-06-2017 15:04:34
เขาประกาศ..... :hao5: :hao7: :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wichta ที่ 07-06-2017 15:12:50
งื้ออออ ดีต่อใจ ขอฟิลกู๊ดไปจนจบนะคะ แค่พ่อแง่แม่งอน ง้อไปง้อมา เขินทุกตอน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-06-2017 22:52:29
เหม็งฟามรักกกกก /ย่นจมูก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 15 หน้า 12 (05-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 11-06-2017 06:43:35
เรารออยู่นะคะ สู้สู้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 11-06-2017 22:12:30
16
ความลับที่คนกลางค้นพบ


ฝนตกอีกแล้วครับ ผมมองออกไปนอกระเบียงท้องฟ้าเป็นสีเทาไปซะหมด เสียงฝนดังต่อเนื่องมานานกว่าสี่สิบนาที นาฬิกาที่หัวเตียงดังบอกเวลาสิบโมงเช้าของวันเสาร์ ผมเลื่อนสายตาไปมองมือถือที่กระพริบวาบเพราะแจ้งเตือนยังเด้งข้อความขึ้นไม่หยุดหย่อนตั้งแต่เมื่อวาน ถาดข้อความของไอจีผมแทบไหม้เพราะมีคนจุดประเด็นว่าคนในรูปคือใคร แฟนคลับไอ้เปาเลยค้นหากันใหญ่ ตั้งแต่ไอ้เปาประกวดเดือนมหาลัยหรือเริ่มถ่ายแบบ มันมีคนติดตามอยู่กลุ่มหนึ่งที่คอยอัพเดต พูดคุยกันในไอจี จะมีแชร์ภาพไอ้เปาตามเพจในเฟซบุ๊กบ้างแต่ความเคลื่อนไหวของมันในเฟซบุ๊กแทบจะเป็นศูนย์ แม้ว่ามันจะไม่เปิดพับบลิคแต่ก็มีคนกดติดตามเยอะอยู่เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะว่าไอ้เปามักจะตัวติดกับผมและนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมผมที่เป็นผมจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปด้วย ทั้งๆ ที่มันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ


ผมเดินเข้าไปในครัวหยิบป๊อปคอร์นที่ซื้อไว้เมื่อวานติดมือมานั่งที่โซฟากลางห้อง มือขวาก็กดรีโมทหาหนังน่าสนใจดู แต่ใจของผมกับจดจ่ออยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ เป็นเพราะว่าไอ้เปาที่มีอดีตสถานะเป็นเพื่อนวัยเด็กของผมยังไม่ตอบกลับข้อความซักที หลังจากที่เรากลับจากห้องไอ้ทัพเมื่อวานตอนสายๆ ไอ้เปาก็ขับรถมาส่งผม หูมันแดงตั้งแต่โดยไอ้สามหน่อคอหล่นมันแซวตั้งแต่ลืมตาตื่น มันบอกว่าต้องไปทำธุระให้พี่สาวก่อนจะขับรถออกไป
เรื่องธุระที่มันมักจะหายตัวไปบ่อยๆ โดยที่ผมก็ไม่เคยซักถาม ผมที่เป็นคนกลางๆ ชอบอะไรพอดีๆ ก็ไม่เคยจะติดใจสงสัย บอกแล้วว่าเรามีวงกลมให้กันแต่ครั้งนี้ผมชักหงุดหงิดกับการที่มันหายไปแล้วล่ะครับ


ไลน์กลุ่มแกงค์คอหล่น
กะ-ละ-ล้วย
ได้กัน ได้กัน ได้กัน
*แนบรูปบนโซฟาหลายมุม
กลาง
ยังไม่เลิกแซวอีกหรอ

เยส เอ้ย เบส
ไอ้กล้วยมันอิจฉาปล่อยมันบ้าไป
Mr.Tap
ฝนตกขนาดนี้เซ็งเลยว่ะ อยากไปเดินเจเจ
กะ-ละ-ล้วย
เรื่องของมึง
เยส เอ้ย เบส
เอ้า เสือกกกกนะไอ้กล้วย ซักดอกมั้ย
กะ-ละ-ล้วย
ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้กูได้เลือกดอกไม้ กูเอาดอกลาเวนเดอร์แล้วกัน
ไม่เอาดอกทอง
แตร้งกิ้วววววววววววววววว


ผมส่ายหัวให้กับเพื่อนจอมล้นพวกนี้ก่อนเลื่อนนิ้วกลับมายังบทสนทนาล่าสุดของผมกับไอ้เปา มันไม่เคยเงียบไปแบบนี้และผมก็หมดความอดทนให้กับความพอดีของตนเอง เลื่อนนิ้วเปลี่ยนเป็นหน้าโทรออก ใจเต้นเหมือนจะไปออกรบเลยว่ะ เป็นไรเนี่ยแค่โทรหาแฟน มันอาจจะทำธุระอยู่ก็ได้


ตรู๊ด ตรู๊ด ตรู๊ด....


เสียงสัญญาณดังอยู่ข้างหูนานจนดับไป มันไม่รับโทรศัพท์ ใจผมเริ่มจะว้าวุ่นแล้วล่ะ ธุระของมันนี่ประเภทไหนกันครับ ถ่ายแบบหรอก็ไม่น่าใช่ ช่วงนี้ก็ทำแต่เอาแต่เรียนกับทำงาน ไม่ได้เข้าไปถ่ายแบบอะไรนี่ซักพักแล้วนะครับ รู้ตัวอีกทีก็เผลอกัดเล็บตัวเองเข้าแถมยังปล่อยให้ตัวร้ายในทีวีพล่ามอะไรอยู่ได้ตั้งนานสองนาน แมร่ง ผมต้องใจเย็นคีพคูลๆ ฟู่วว ผมวางโทรศัพท์ไว้บนโซฟาก่อนจะเดินไปที่ซิงค์ล้างมือแล้วล้างหน้าซักหน่อย ผมคูล คู....


Tru …


“ฮัลโหล อยู่ไหนเนี่ยเปา ทำไมไม่รับโทรศัพท์ รู้มั้ยว่าเป็นห่ว...”


เชี่ย...คูลบ้าอะไรวะ รีบวิ่งมาตั้งแต่เสียงโทรศัพท์ดังครั้งแรก ช่างแม่ง ผมรีบคว้าโทรศัพท์แล้วกดรับอย่างรวดเร็ว ไอ้เด็กบ้านี่ต้องโดนด่าซะหน่อย


(กลาง...กลาง เล็กเอง)


“อะ...”


ผมชะงัก ค่อยเอาโทรศัพท์ที่แนบหูออกมาดูอย่างช้าๆ ชิบหาย นี่มันน้องชายผมโทรมา ไม่ใช่ไอ้เปาซะหน่อย ถ้ามีกระจกอยู่ข้างหน้ารับรองว่าหน้าผมต้องโคตรเหวอแน่ๆ ได้ยินเสียงอะไรแตกมั้ยครับ ผมกระแอมก่อนจะกลับไปพูดต่อเหมือนเดิม


“อ้าว เล็กว่าไง”


(เล็กสิ นึกว่าใครหรอ) ผมฟังไม่ผิดใช่มั้ยเสียงไอ้เล็กดูขุ่นชอบกล


“เปล่านี่แล้วเล็กว่าไง”


(ไม่ว่าไง โทรไม่ได้หรอ)


ผมขมวดคิ้ว นานๆ ครั้งไอ้เล็กจะพูดเสียงแข็งใส่ผม พอผมทักมันเข้าไอ้เล็กก็เริ่มเปลี่ยนเสียงเหมือนได้สติ โกรธอะไรก็อย่ามาลงกับคนที่เค้าไม่รู้เรื่องนะไอ้น้องเล็กก


“เป็นไรเนี่ย หงุดหงิดไรมา”


(ไม่ได้เป็นไร กลางกินข้าวยังงง)


“ยังเลย ฝนมันตก”


(นี่ก็ตกเหมือนกัน สงสัยพายุเข้า เออเล็กจะบอกว่าที่มอdddมีโอเพ่นเฮ้าส์อะ เล็กกับไอ้เก่งอยากไปดู)


“อ๋อเล็กอยากเข้ามอนี้หรอ แล้วงานมีเมื่อไหร่อะ”


(ก็อยากลองดูเพื่อนเล็กชวนกันไปหลายคน งานมีปลายเดือนหน้า)


“ปลายเดือนหน้า...เดี๋ยวกลางเช็คตารางแปบ เอ้อก็ได้อยู่เล็กก็มาหากลางช่วงนั้นปลายภาคน่าจะเสร็จพอดี”


(โอเค เล็กเก็บกระเป๋ารอ)


“เดี๋ยวครับน้อง ยังไม่ถึง อีกนานครับน้อง”


(เล็กรีบอยากไปไวๆ อยากไปเจอคนที่กล... อยากไปเจอกลางเร็วๆ )


“ขอพ่อแม่ยัง ลูกคนเล็กจะเข้ากรุงเทพเนี่ย”


(ลืมเลย แต่ไปหากลางไม่ว่าไรหรอก ดูงานเสร็จจะลากกลางกลับบ้านด้วยเลย)


“มั่นใจว่าได้มา”


(เชี่ย เดี๋ยวเล็กลงไปขอพ่อแม่ก่อนนะ เริ่มไม่มั่นใจละ งานนี้ไม่ไปไม่ได้เด็ดขาด)


“ชอบมอนี้ขนาดนั้นเชียว”


(เอ่อ...ก็...ชอบดิ อยากไปกรุงเทพโครตๆๆ)


“เออออ ขอให้ได้อ้อนเค้าเยอะๆ ไอ้คนเล็ก”


ผมหัวเราะเล็กน้อยก่อนมันจะขอตัววางสายแล้ววิ่งไปขอพ่อแม่ ปลายเดือนหน้าผมคิดไว้ว่าจะเคลียร์งานให้เสร็จหมดทุกอย่างแล้วก็กลับบ้านครับ ก่อนจะเข้าเทอมสองขอชาร์ตพลังก่อน ไอ้โจ๊กก็บอกผมไว้แล้วว่ามันจะกลับพร้อมผม คนบ้านไกลนี่มันแอบเหงานะครับ ผมวางโทรศัพท์แล้วก็เข้าไปในครัวอีกรอบ เปิดตู้เย็นหาอะไรรองท้อง ของกินผมแทบจะร่อยหรอแถมฝนยังตกแบบนี้ไม่อยากจะออกไปไหนเลยครับ


Tru Tru


ผมเดินกลับไปที่โซฟาคว้าโทรศัพท์แล้วกรอกเสียงลงไป ไอ้เล็กคงโทรมาอวดผมหรือไม่ก็แห้วแล้วโทรมาโวยวายแหงๆ เป็นอีกครั้งที่ไอ้กลางกดรับแล้วไม่ได้ดูหน้าจอ


“เล็กว่าไง พ่ออนุญาตแล้วหรอ”


(...นี่ไม่ใช่เล็กนะ)


เอ๊ะ เสียงผู้หญิง เดี๋ยวนะ ผมตาลีตาเหลือกยกโทรศัพท์ออกมาดูหน้าจออีกครั้ง นี่มันสายข้าวของไอ้เปา ไอ้เปาอ่ะนะ แล้วทำไมเป็นผู้หญิงไปได้


“เอ่อ สวั...สวัสดีครับ ใช่เบอร์เปาใช่มั้ยครับ”


(เปานอนอยู่)


มือข้างขวาชื้นเหงื่อ สมองของผมวิ่งเร็วจี๋ นี่มันอะไรกันเนี่ย ผมคิดไปต่างๆ นานา ตัวเย็นวาบอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไอ้เปานอนอยู่แล้วเธอคนนี้รับโทรศัพท์ มันเกิดอะไรขึ้นครับ แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรลึกกว่านี้เสียงจากปลายสายก็ดังมาอีก


(พี่เป็นพี่สาวเปา ชื่อเปล)


อะ...ไรนะ


“ครับ?”


(เปาไม่สบายนอนซมเป็นผักอยู่เนี่ย)


ที่มันไม่ตอบผมเพราะไม่สบายหรอเนี่ย ผมลืมคิดไปได้ยังไง ตากฝนแถมไปนั่งกินเหล้า ถอดเสื้อให้แอร์ตกใส่หัวขนาดนั้น แถมนอนมันก็ยังไม่ใส่เสื้ออีก แต่วันนั้นอุณหภูมิมันก็ปกตินะครับ


“เปาไม่สบายหรอครับ เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ”


(มันบ่นๆ ว่าเจ็บคอตั้งแต่ไปช่วยงานพี่เมื่อวานพอกลับมาก็นอนซม แต่ตอนเช้าดันไข้ขึ้น พี่ยัดยาใส่ปากมันไปแล้ว แต่ปัญหาคือพี่ต้องออกไปทำงาน  เห็นมีสายเธอโทรเข้ามา เป็นเพื่อนเปาใช่มั้ย? เสมอ...ชื่อแปลกดีนะ)


“ผมชื่อคนกลางครับ ไม่ใช่เสมอ”


“อ้าวงั้นหรอน้องฉันนี่มันติงต๊องรึไง พิมพ์ชื่อเพื่อนเพี้ยนๆ เธอชื่ออะไรนะ”


“คนกลางครับ”


“คนกลาง...อ๋อ...หึหึ เข้าใจละ งั้นพี่วานให้เธอมาดูมันหน่อยได้มั้ย เห็นหน้าเธอมันอาจจะอยากตื่นมากินข้าว”


“อะไรนะครับ”


“เดี๋ยวพี่จะออกไปทำงานที่ออฟฟิศด่วน ถ้าไม่ติดอะไรช่วยมาดูเปามันหน่อยได้มั้ย”


“ได้ครับได้ ยินดีครับ เอ่อว่าแต่...ผมไม่รู้จักห้องของเปาน่ะครับ”


“อะไรนะ! เป็นแฟ...อะแฮ่ม...เป็นเพื่อนกันประสาอะไรไม่รู้เลยรึไง”


“ผมไม่เคยไปห้องมันน่ะครับ”


“น้องชายฉันนี่มันป๊อดขนาดนั้น...ไม่เป็นไรเธอบอกแท็กซี่มาคอนโดaass...........”


พี่เปลพูดที่อยู่รวมถึงการเดินทาง เธอบอกว่าจะติดต่อเค้าท์เตอร์ข้างล่างให้ผมขึ้นมาได้แถมยังทิ้งคีย์การ์ดกับกุญแจไว้ด้วย บอกทุกอย่างเหมือนผมเป็นเด็ก พี่เปลกำชับผมให้ดูป้ายทะเบียนกับจำชื่อคนขับรถแท็กซี่ บอกกระทั่งพกร่มใส่หมวกมาด้วย ถ้าแต่งตัวให้ผมได้พี่เปลก็จะยื่นมือมาจากโทรศัพท์เลือกชุดให้ผมสินะครับ


“รับมือไอ้เด็กดื้อป่วยด้วยนะ แล้วก็เดินทางดีๆ ระวังตัวด้วย ถ้าเธอเป็นอะไรขึ้นมาไอ้เปาคงจะฆ่าพี่แน่ เหมือนหลอกเด็กมาหามันเลยเชียว”


ประโยคท้ายที่เปลพึมพำกับตัวเอง ผมบอกขอบคุณพี่เปลไปแล้วก็เตรียมตัวไปหาไอ้เปา คอนโดที่มันปิดเงียบ ไม่เคยมีใครขึ้นไปเหยียบ ผมนี่แหละจะไปคนแรก หึหึ...เอ๊ะ เดี๋ยวแล้วร่มอยู่ไหนวะ



.
.

“สวัสดีครับ เอ่อ ผมมาห้อง1712 ครับ”


“สวัสดีค่ะ คุณคนกลางใช่มั้ยคะ นี่ค่ะกุญแจกับคีย์การ์ดลิฟท์ไปทางซ้ายได้เลยค่ะ”


ฝนยังตกเหมือนเดิมครับแต่ตอนนี้เริ่มซาลงบ้างแล้ว ผมมาถึงคอนโดนี้เที่ยงพอดีก่อนจะเข้ามาผมก็ซื้อของกินมาฝากไอ้เปามัน เดินจัดลำดับของในมือแล้วเกือบจะสะดุด คอนโดนี้หรูเหมือนในหนังเลยครับ ผมเดินตรงมาที่ลิฟท์แล้วกดขึ้นไปชั้นที่ไอ้เปาอยู่ จนป่านนี้มันก็ยังไม่ตอบข้อความผมคงจะหลับไม่ตื่นจริงๆ


แกร๊กๆ


“เปา ไอ้เปา”


ผมเรียกมันเสียงเบา ห้องกว้างแถมหรูแบบนี้เล่นเอาผมทำตัวไม่ถูก ผมวางของไว้บนโต๊ะในห้องครัวที่แยกเป็นสัดส่วนก่อนจะเดินไปยังห้องทางขวามือซึ่งเป็นห้องของไอ้เปา พี่เปลบอกมาครับ ผมเดินเงียบๆ เหมือนพวกย่องเบาไม่มีผิด แหะๆ กลัวไอ้เปามันตื่นน่ะสิครับ


เปิดประตูเข้ามา ก็เห็นไอ้เปาที่ใส่เสื้อบาสแขนกุดสีฟ้าขาวนอนหลับอยู่บนเตียงสีน้ำเงินเข้มกลางห้อง มันนอนคว่ำกอดหมอน ผมเดินเข้าไปใกล้พลางหยิบผ้าห่มที่ร่นไปอยู่สะโพกของมันมาห่มให้ เฮ้อ เป็นห่วงแทบแย่ ไอ้เปามันไม่แสดงอาการเจ็บไข้ได้ป่วยอะไรเลยครับ นอกจากจะแกล้งป่วยเล่นหาเรื่องกวนผมไปวันๆ ไงล่ะป่วยจริงซ่าส์ไม่ออกเลย ผมนั่งข้างเตียงมองมันหลับเป็นเด็กเลย อังมือกับหน้าผากน้องเค้าซะหน่อย 


“อือ...”


มันครางเสียงแหบก่อนจะหันหน้าไปอีกทางหนีมือผม ไอ้ผมก็เลื่อนมือไปที่คอมัน ร้อนใช้ได้ ผมมองซ้ายขวาหาผ้าขนหนูไปมาไม่นานก็เห็นวางอยู่โต๊ะอีกด้านนึง สงสัยพี่เปลคงจะเตรียมไว้ หยิบกะละมังเล็กที่วางข้างๆ กันติดมือมาด้วยก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเช็ดตัวให้มันครับ ระหว่างที่ขยี้ผ้าขนหนูก็ได้ยินเสียงขยับตัว ผมวางมือกำลังจะก้าวออกจากห้องน้ำ ไอ้เปามันพลิกตัวนอนหงายดึงหมอนที่มันหนุนอยู่มากอด มันคงยังไม่รู้ว่าผมมาและยืนดูมันอยู่ตรงนี้ นิ่งไปซักพักไอ้ตัวดีก็ควานหาโทรศัพท์เหมือนคนบ้า มึงลืมตาก่อนมั้ยไอ้เปา


“กี่โมงแล้ววะ เหี้ย ยังไม่ได้โทรหากลางเลย”


พอคว้าได้มันก็บ่นกับตัวเองเบาๆ แล้วโทรศัพท์ผมก็มีคนโทรครับ ผมปิดเสียงและปิดสั่นไว้ก่อนหน้านี้กลัวจะรบกวนไอ้เปามัน


“ไอ้สัดเสียงแหบชิบหาย อะแฮ่ม...” ผมแอบยิ้มก่อนจะสไลด์หน้าจอเพื่อกดรับ ไอ้เปามันพยายามปรับเสียงให้เป็นปกติครับ


“กลาง กินข้าวยัง”


ป่วยก็ยังจะถามนะไอ้เปา มึงยังไม่ตื่นมากินข้าวเลย ผมกรอกเสียงลงไปแต่สายตายังคงจ้องอยู่ที่ไอ้คนที่นอนอยู่บนเตียง มันเลื่อนหมอนมาปิดหน้าไม่ขยับตัวลุกไปไหน


“กินแล้ว”


“ทักมานานแล้วหรอวะไม่ได้ตอบกลับเลย ไปทำงานเมื่อวานทั้งวันกลับมาสลบ”


“โกหก”


“เฮ้ยไม่ได้โกหก พูดจริงงง”


มันลากเสียงยาวยกขยับขาไปมาเหมือนคนโดนขัดใจ  ผมเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงมันแล้วถามออกไป


“ตอนนี้อยู่ไหน”


 “อยู่ห้อง ตอนเย็นไปกินข้าวกันเดี๋ยวไปรับ ทำไมเสียงมึงดังชัดขนาดนี้วะ”


“เปิดหมอนดิเดี๋ยวก็หายใจไม่ออกหรอก”


“เออว่ะ ขอบใจเว้ย รู้ได้ไงว่ากู...เฮ้ย!!!”


“ฮ่าๆ หน้าเหวอชะมัด”


ผมกดวางโทรศัพท์แล้วนั่งลงข้างเตียงมัน


“มึงมาได้ไงอะกลาง!”


มันเด้งตัวลุกขึ้น คงจะเร็วเกินไปเลยต้องยกมือมากุมหน้า หน้ามืดเลยไอ้เปา ผมยกมือไปลูบหลังมันเบาๆ ก่อนจะบอก


“ใจเย็นๆ”


“มาได้ไงอะ”


“แท็กซี่” ผมตอบกวนแต่ไอ้คนข้างๆ กลับไม่ตลกซะงั้น


“แท็กซี่หรอวะ คนเดียว แม่ง แล้วเข้ามาได้ไง”


“โทรหามึงแล้วพี่เปลรับ บอกให้มาหามึงอะ”


“เชี่ย พี่เปลนะพี่เปล อยากแกล้งกูหรอวะ”


มันพึมพำในลำคอหน้าหน้าแดงไปหมด เหงื่อซึมตามไรผม เริ่มทำตัวล่อกแล่กพิกล แต่ไม่ได้คิดอะไรมากครับ เป็นเพราะมันไม่
เคยชวนผมมาที่ห้องซักครั้งคงจะเกร็งๆ


“มึงยังไม่เห็นอะไรใช่มั้ย” ไอ้เปาถามจ้องรอคำตอบ


“เห็นอะไรวะ”


“อ๋อ เปล่าๆ มานานยัง มานั่งนี่ก่อนจะเดินไปไหน”


“เดินไปเอาผ้าขนหนูไง เช็ดตัวก่อน”


“เออ...ก็ได้รีบมานะ”


กวนตีน ไม่ได้ไปถึงขั้วโลกเหนือซะหน่อย ผมส่ายหัวเบาๆ ไอ้เปานั่งพิงหัวเตียงกอดอก จ้องผมตั้งแต่ออกจากห้องน้ำจนผมมานั่งข้างเตียงมันกระทั่งเช็ดหน้า เช็ดคอให้มันก็ยังไม่เลิกมอง


“จะจ้องไรนักหนาเนี่ย”


“กลัวมึงไปไหน”


“จะไปไหนเล่า เอ้าถอดเสื้อ อะไรหน้าแดงทำไม เร็ว...เดี๋ยวหนาวกว่าเดิม”


“ขอถอดเสื้องี้...กู...คิดนะ” มันถอดเสื้อแต่ก็ยังไม่วายบิดตัวไปมาเหมือนอายซะเต็มประดาแล้วมันก็ใช้สองมือปิดนมของมัน


“คิดอะไร ป่วยก็นอนให้หัวโล่งมั่งเถอะ”


“คิดก็โล่งเหมือนกัน”


“ไอ้เปา” ผมกดเสียงต่ำ หรี่ตาปรามมัน ตัวร้อนเป็นไฟยังไม่สำนึกอีก “ดูท่าจะไม่เป็นหนักเลยนี่ งั้นดูแลตัวเองละกัน”


“เฮ้ยๆ ล้อเล่น แค่กๆๆ โอ๊ยเจ็บคอ ไอจะตายแล้วครับยู”


เล่นใหญ่เลยทีนี้แฟนผม ไอ้เปาไถลตัวไปนอนชักดิ้นชักงอบนเตียง มันไม่ใช่ไม่ป่วยนะครับ ป่วย...ทางจิตซะด้วย


“นิ่งๆ เดี๋ยวเวียนหัว”


สู้รบกับมันไม่นานผมก็เปลี่ยนเสื้อให้มันและยกข้าวมาให้มันกินครับ ข้าวต้มแบบจืดๆ เลย มันเบ้ปาก เข้าใจนะครับว่ามันไม่อยากกิน แต่มันต้องกินยาไงประเด็น ทำไมมันโตขึ้นแล้วพูดยากงี้ ปาดเหงื่อแปบ


“กิน เร็วๆ” ผมยื่นช้อนไปจ่อที่ปาก มันก็ยังไม่ยอมกิน เม้มปากจ้องผมนิ่ง


“ไม่หิวอะ”


“มันต้องกินยาไง ทำไมมึงพูดยากงี้อะ”


“ทำไมมึงต้องดุด้วยอะ กูไม่หิว”


“น่า นิดนึง สิบคำ”


“กูกินแล้วมึงต้องมานอนกับกูนะ ไม่ติดไข้หรอกกูจะใส่แมสก์นอน”


“...”


“เพิ่มกินสิบห้าคำอ่ะ ตามด้วยยาแล้วนอนเลย มึงอย่าไปไหนนะอยู่ในห้องนี้ด้วยรอกูตื่นก่อน โอเค” สั่งมายาวเหยียดยกมือเป็นท่าโอเคหลอกล่อผมสุดๆ มันมีพิรุธมากทีเดียวครับ


“เออก็ได้”


ระหว่างที่มันกินผมก็บ่นตั้งแต่ที่มันตากฝนแล้วถอดเสื้อโชว์หุ่น เจ็บคอตั้งแต่ตื่นมาแล้วครับแต่มันไม่บอกนึกว่าเดี๋ยวก็หายอาจจะคอแห้ง มันมองผมบ่นปริบๆ แล้วก็กินข้าวต้มไปด้วย ผมเปิดทีวีให้มันดูระหว่างย่อยก่อนจะเอาถ้วยช้อนไปล้างเอาผ้าขนหนูไปแช่น้ำยาซัก เก็บอาหารที่ซื้อใส่ตู้เย็น เข้ามาอีกทีไอ้เปาที่ก็นั่งพิงหัวเตียงตาปรือแล้วครับ


“อือ กลาง....นอนได้ยัง”


“มึงก็นอนสิ”


“ไม่ กูรอ” มันยกแขนเหมือนคนไม่มีแรงมาทางผมพอผมเดินมาใกล้มันก็คว้าหมับไปที่มือผม สีหน้ามันดีกว่าตอนที่ผมมามากแล้วแต่ด้วยฤทธิ์ยากับอาหารกลางวัน ไอ้เปามันก็ง่วงอีกครั้ง


“โอเค”


“หนาวๆ”


ไอ้เปาที่ต่อปากต่อคำกับผมก่อนหน้านี้หมดฤทธิ์แล้วครับ ผมค่อยๆ เลื่อนตัวให้มันนอนดีๆ ก่อนที่ตัวผมเองจะสอดตัวเข้ามาให้ผ้าห่ม ไอ้เปาเลื่อนมือจากที่จับมือผมมากอดผมไว้ทั้งตัวแล้วก็หลับไปอย่างรอดเร็ว ผมถอดแมสก์ที่มันใส่ไว้เพราะกลัวจะอึดอัดมันดิ้นเล็กน้อย ผมลูบหลังลูบหัวมันไปไม่นานก็ผล็อยหลับไป 


[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 11-06-2017 22:25:14
.
.
กี่โมงแล้ววะเนี่ย แล้วผมอยู่ไหน ผมตื่นมาด้วยความมึนปรับสภาพสติตัวเองครู่นึงก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าผมมาหาไอ้เปาที่ไม่สบาย แรงที่กอดผมคลายออกแล้วครับ ไอ้เปาพลิกตัวไปกอดหมอนข้างอีกฝั่งนึง ผมลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆ ห้องไอ้เปา ก่อนหน้าที่มายังไม่ได้สำรวจห้องมันเท่าไหร่เลยครับ


ห้องของไอ้เปาก็สไตล์คนล้นๆ แบบมัน มีโต๊ะอ่านหนังสืออยู่มุมนึง บนโต๊ะมีหนังสือหลายเล่มหนาๆ ทั้งนั้น ใต้โต๊ะมันก็มีกองหนังสือตั้งอยู่ ไม่นึกว่าจะอ่านเยอะขนาดนี้นะเนี่ย มันเปลี่ยนไปเยอะเลย ผมลุกขึ้นไปดูตู้หนังสือของมัน โอ้โห หนังสือทั้งไทยและต่างประเทศ ส่วนมากจะเกี่ยวกับศิลปะและทฤษฎีต่างๆ ครับ ผมไล่ปลายนิ้วไปตามสันบางเล่มนี่ของหายากจริงๆ มันเหลือบไปมองไอ้เด็กขี้เกียจไม่สนใจใครที่ตอนนี้มันพัฒนาตัวเองขึ้นมาก


เอ๊ะ นั่นมันรูปผมนี่นา เหนือจากโต๊ะหนังสือจะเป็นบอร์ดที่มันติดรูปและโน้ตไว้ ผมขมวดคิ้วเพราะรูปที่เห็นมันเป็นรูปที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ผมในเสื้อพละและกางเกงนักเรียนสีดำของโรงเรียนมัธยมถือโทรโข่งพาดไว้บนบ่าตัวเอง ผมก้มมองกระดาษบนมืออีกข้าง ด้านหลังเป็นแสตนเชียร์ที่มีน้องๆ นั่งกันอย่างเป็นระเบียบ ไอ้เปามีมันได้ยังไง ผมดึงรูปนั้นอออกหมุดพิจารณาดีๆ ก็พอจะนึกออกว่าอยู่ในช่วงกีฬามัธยม ก่อนที่ผมจะติดรูปนั้นผมบังเอิญเห็นลายมือโย้เย้อยู่ด้านหลังของภาพ

ยังเหมือนเดิมนะหัวหน้า
เป็นกำลังใจให้ด้วย
คิดถึงเสมอ
23-11-xx



ผมยิ้มแล้วติดรูปนั้นกลับไปที่เดิม ไอ้เปาเอ๊ยยย โคตรเด็กน้อยเลย มันกลับมาเชียงใหม่งั้นหรอตอนนั้น รอมันตื่นผมจะถามมันทุกอย่างเลย ผมหันหลังมองห้องมันอีกครั้ง การตกแต่งก็ธรรมดาครับมีรูปศิลปะของศิลปินดังๆ บ้าง บนหัวเตียงมีผ้าจากธิเบตที่มันใส่กรอบไว้ด้วย ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้สายตาก็มองไปเรื่อยๆ จนไปสะดุดอยู่ที่หนังสือในตู้อีกครั้ง สังเกตดีๆ มันจะมีกระดาษโผล่ออกมาเกือบทุกเล่ม ผมคิดว่ามันคือที่คั่นหนังสือแต่มองดีๆ มันคือรูปครับ


ผมก้มลงไปหยิบมาดูสองสามเล่ม เปิดไปหน้าที่กระดาษนั่นโผล่ออกมา แล้วก็มีเรื่องให้ประหลาดใจอีกครั้ง รูปพวกนั้นมันคือรูปผมในวันกีฬานั่นแต่เปลี่ยนสถานที่ ผมรีบพลิกไปด้านหลังทันที


เชี่ย ท้อชิบหาย
อ่านยังไงก็ไม่เข้าหัว
แม่งพอ!
08-12-xx



ลายมือของไอ้เปาเขียนหวัดๆ ลงด้านหลังของรูป เหมือนมันจะเลิกอ่านหนังสือเตรียมสอบเล่มนี้จริงๆ ครับ แต่ไม่นานมันก็เขียนเติมไปข้างล่างด้วยปากกาอีกสีนึง

แค่นี้ก็ท้อแล้วหรอวะ พลิกกลับไปดูรูปไป
ไอ้เหี้ยเปา
อ่านต่อเว้ย มึงจะตามเค้าทันได้ไง
อ่านโว้ย!
09-12-xx



ถ้าจะให้ผมบอกความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ ผมคงจะอธิบายไม่ถูกครับ ตื่นเต้น ดีใจ ทุกๆ อย่างมันอบอวลอยู่ในความคิดของผม ภาพตั้งแต่เรารู้จักกันจนถึงวันนี้ ผมรู้ว่ามันพยายามตามผมแต่ไม่คิดว่าพอได้มาเห็นและรับรู้ด้วยตัวเองแล้ว มันตื้นตันจนจะล้นออกมานอกใจ คนๆ นึงที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครซักคนนึงมันต้องใช้พลังมากแค่ไหนกันนะ


รูปใบที่สองจากหนังสืออีกเล่มนึง เป็นรูปผมปาดเหงื่อตัวเองอยู่ตรงใต้ต้นไม้ เพื่อนข้างๆ เดินเข้ามาถามอะไรซักอย่างด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ตอนนั้นผมจำได้ว่าถังน้ำแข็งของเรายังไม่มาถึงครับแล้วน้องๆ ไม่มีน้ำเย็นดื่ม เราต้องหารถไปขอเช่าถังอย่างด่วน จำได้ว่าตอนนั้นผมเหนื่อยมากและอยากจะทิ้งทุกอย่างไว้ตรงนั้นเลย ทุกคนเอาแต่ถามผมแต่ไม่มีใครช่วยผมคิดแม้แต่คนเดียว


มึงเหนื่อยมั้ยวะกลาง
เรียนวาดรูปวันนี้โคตรโหด
ปวดมือไปหมด
มึงทำได้ไงตั้งแต่เด็ก
มึงคือแรงบันดาลใจของกูเสมอ
14-12-xx



แวบนึงที่ผมคิดถึงตอนเด็กๆ ขึ้นมา ผมได้รับเลือกให้ทำหน้าที่ต่างๆ มากมาย คิดว่าตัวเองไม่มีคนเกลียด คนที่เข้ามาเล่นด้วยก็ดูจะชอบผมกันทุกคน ให้ผมสอนวาดภาพ ไม่ก็ถามผมเรื่องการบ้าน พอผมได้รับจดหมายลูกโซ่ที่ด่าผม โลกของผมก็เริ่มกระจ่างขึ้น มาคิดๆ ดูแล้วไอ้เด็กพวกนั้นไม่เคยจริงใจกับผมซักคน ที่ให้ผมสอนวาดภาพก็อยากให้ผมวาดให้ ที่ถามการบ้านก็อยากจะลอกคำตอบ แต่แล้ววันหนึ่งความคิดผมก็เปลี่ยนไปเด็กชายปรมัตตัวผอมที่ไม่เห็นจะชอบผมซักนิด คนที่ผมชอบยัดเยียดให้มันทำกิจกรรมทำนู่นทำนี่ แล้วมันก็มักจะปฏิเสธไม่ก็เดินหนีผมไป ไอ้คนๆ นั้นคือคนที่เห็นผมเป็นแรงบันดาลใจ


ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปกระดานเหนือโต๊ะอ่านหนังสือของไอ้เปา หันไปมองมันที่นอนหลับสนิทแล้วก็ระบายยิ้มเบาๆ อัพโหลดรูปที่สองลงอินสตราแกรมของตัวเอง


Khonklang
ขอบคุณนะแล้วก็ขอให้หายไวๆ @paramatkrikri
Msjenny งืออออ คนกลางละมุนเว่อร์
Pindao น่ารักกกกกกอะคนกลาง น่ารักแต่เด็กเลยนะคะ
Paramatfc เชียร์คู่นี้ ขอเถอะ
Mango ยังไงคะ คิดนะ #คูก้าโคอาล่ามาร์ช
Bequiet แง ขาสวยกว่าเราอีกอะ คนกลางงง กรีดร้อง
Bananaboat มีไรกันหรอ @khonklamg @paramatkrikri
Teletubbieeee @bananaboat เสือกกกกก ได้เอาคืนสบายตัวเเล้วกู


ผมกดปิดหน้าจอแล้วนั่งลงกับพื้นข้างเตียง เอียงหน้าลงกับแขนตัวเอง มองไอ้เปาที่หายใจเข้าออกไปเรื่อยๆ หลุดขำออกมาบ้างตอนที่ได้ยินเสียงมันกรนฟี้ๆ


หายไวๆ นะเว้ย


.
.
แชะ!


“อ้าวไอ้สัด ลืมปิดเสียง”


“อือ...”


“กลางเย็นแล้ว ตื่นเร็ว เมื่อยคอหมดแล้ว”


นี่ผมหลับอีกแล้วหรอครับเนี่ย ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นเจ้าของห้องนอนก้มหน้ามาจ้องผมตาแป๋ว หน้าตามันดูสดชื่นผมยกมือขึ้นจับหน้าผากมัน โชคดีที่มันเป็นคนแข็งแรงครับ พักผ่อนซักนิดก็ดีขึ้นแล้ว


“แข็งแรวงงง!!” มันกระดกลิ้นพูดรอเรือครับ ดีขึ้นแล้วกวนตีนเลย


“อื้อหืออ น้ำลาย” ผมทำท่าเช็ดน้ำลาย ส่วนไอ้เปาอ้าปากเหวอ


“ไม่เห็นมึงในมุมนี้เท่าไหร่เล้ย”


“ฮ่าๆ เออเห็นซะบ้าง”


“ไม่ทำตัวคูลแล้วหรอ”


“อยู่ต่อหน้ามึงไม่คีพคูลดีกว่า มา...ลุก ออกไปข้างนอกซะบ้าง อุดอู้”


พูดจบไอ้เปาก็ทำตัวอ่อนปวกเปียก ไม่ยอมให้ผมดึงตัวมันขึ้นซักที รู้มั้ยทำแบบนี้ตัวมึงจะหนักกว่าเดิมนะ อึบ ออกแรงเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมลุกซักที ผมเท้าเอวมองมันเอือมๆ


“งั้นกลับละ ฝนหยุดตกแล้ว”


“เอออ ลุกแล้วๆ รีบกลับไปไหน ตกนานขนาดนี้น้ำท่วมแล้ว แกล้งนิดเดียวเอง”


“ทีงี้แล้วเดินเร็วเชียว”


ไอ้เปาเดินตามหลังผมออกมาแล้วกอดคอผมจากด้านหลังทิ้งน้ำหนักมาทั้งตัว


“หนักกก เดินดีๆ เป็นมั้ย”


“กูป่วยนะ อ่อนแอ” พูดไม่ฟังก็ปล่อยไป ไอ้เด็กนี่มันดื้อ


“หิวมั้ย”


“นิดหน่อย แต่มานี่ก่อน”


ไอ้เปาเปลี่ยนจากกอดคอมาจูงมือผมไปนั่งโซฟาหน้าทีวีในห้องนั่งเล่นครับ พอผมนั่งปุ๊บมันก็ทิ้งตัวมานอนตักผมทันที ทีแรกผมดันหัวมันออก เชี่ยยย ผมไม่ค่อยชินเลยให้ตายเถอะแต่เห็นมันหลับตาพริ้มผมถึงปล่อยให้มันนอนต่อก็ได้ อ่ะ ยอมให้วันนึงเห็นว่าไม่สบาย


“มีแฟนมันดีอย่างงี้นี่เอง ป่วยก็มีคนมาดูแล นอนตักก็ได้ แถมน่ารักด้วย”


“เมายาไง๊”


“ไรวะ หมดกันความโรแมนติก”


“ไอ้เปา กูถามหน่อยดิ รูปนี้มึงถ่ายหรอ”


มันลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็วเมื่อผมยื่นรูปที่ผมถ่ายจากโต๊ะมันไปให้มันดู


“เฮ้ย!!!” ไอ้เปาเบิกตากว้างผุดลุกขึ้นนั่งแล้วคว้ามือถือผมไปจ้อง  “เห็นแล้วหรอ”


“อื้ม...”


“มึง...เอ่อ...มึงไม่เห็นอย่างอื่นใช่มั้ย”


“อะไรล่ะ”


“เปล่าๆ จะเล่าละๆ ไม่ต้องกดดันๆ”


ผมเปล่ากดดันเลยนะครับ ไอ้เปามันมั่ว ตอนนี้มันนั่งพิงโซฟา ส่วนผมก็นั่งข้างๆ มัน ผมหันหน้าไปฟังมันเริ่มต้นเล่าเรื่องที่ผมอยากรู้


“กูกลับไปเชียงใหม่ ตอนม.5 ไปจัดการเรื่องเอกสารที่บ้านเก่า ตอนนั้นได้ยินว่ามีกีฬามัธยมกูก็อยากไปดู เผื่อเจอมึง หวังว่านะ...”


“....”


“แล้วก็เจอจริงๆ มึงยังเหมือนเดิมเลยเป็นหัวหน้าคอยทำงานนู่นนี่” มันเล่าแล้วก็ยิ้มไปด้วย ลักยิ้มของมันเด่นชัดในสายตาของผม


“มึงโคตรน่ารักเลย...อยากได้”


เชี่ย เกือบหงายหลัง


“เดี๋ยวไม่ใช่ละ”


“ฮ่าๆ ล้อเล่นอยากเห็นรีแอคชั่น เออต่อละๆ แล้วกูก็ตามถ่ายรูปมึงอะ ตั้งแต่เด็กกูยังไม่มีรูปมึงเลยนะเว้ย เฟซบุ๊กอะไรก็ไม่มี ตอนนั้นน่ะ ไม่ได้โซเชียลเหมือนเดี๋ยวนี้”


มันผ่านมานานแล้วครับ ผมไม่ค่อยจะมีรูปสมัยประถมมากนักมีแต่ตอนที่รับเกียรติบัตรหรือแต่งตัวเดินขบวนพาเหรดบ้าง ไม่มีหรอกครับไอ้รูปแบบที่ว่าถ่ายกับแกงค์เพื่อนหรืออะไรทำนองนี้


“บังเอิญกูเจอไอ้นิค มันเข้ามาทักเพราะไอ้เกมส์ชี้ให้มันดู ก็แน่ล่ะกูไม่ใช่เด็กนักเรียนแถวนั้นนี่หว่า มันนึกตั้งนานมันถึงจะรู้ว่าเป็นกู มันโคตรงงที่กูเปลี่ยนไปขนาดนี้ คิดแล้วยังขำหน้ามันไม่หาย เชื่อป่ะตอนที่เจอมึงกูไม่คิดว่ากูจะได้เจอเว้ย กูคิด่าถ้าเจอกูก็คงคิดถึงมึงแบบเพื่อน”


“...”


“แต่ความจริงมันไม่ใช่เว้ย พอได้เดินตามมึงกูก็รู้ว่า มันไม่ใช่จริงๆ ด้วย แต่ตอนนั้นกูพึ่งเสียพ่อ ชีวิตแม่งเคว้ง ไม่อยากเรียนหรือทำอะไรซักอย่าง...พอเห็นมึง กูถึงกลับมาได้ ตามมึงทันและได้อยู่กับมึงตอนนี้ไง”


“มึงรู้ได้ยังไงว่ากูอยากเรียนอะไรต่อ”


 “กูมีสายสืบ จากงานนั้นนั่นแหละ”


“ใคร”


“ไม่บอกหรอก” เอ้า ลีลา  มันยังคงยิ้มเหมือนเดิมเหมือนเรื่องที่มันเล่ามาเป็นความสุขในชีวิตมัน “สงสัยอะไรอีกมั้ย”


“มึงเหนื่อยมั้ยวะ กูอาจจะไม่เหมือนเดิมแล้วก็ได้”


“ไม่รู้สิ” มันยักไหล่ก่อนจะพูดต่อ “กูแค่อยากอยู่ใกล้ๆ มึงเหมือนเดิมก็พอแล้ว ตอนนั้นกูไม่ได้หวังอะไรมากหรอก กูกลัวมึงเกลียดกูจะตาย ถ้ามึงไม่ได้คิดแบบกู”


 “ตอนที่กูเจอมึงตอนรับน้องกูก็ไม่คิดว่าเป็นมึงเหมือนกันนะ เซอร์ไพร์สสุด มึงเปลี่ยนไปมาก เหมือนเป็นคนละคนเลย”


“มึงรู้มั้ย ตั้งแต่เจอมึงมีอย่างนึงนะเว้ยที่กูไม่เคยเปลี่ยนเลย”


ไอ้เปาขยับเข้ามาใกล้ผม มันประคองหน้าผมด้วยมือทั้งสองข้าง นัยน์ตามันแน่วแน่จนทำให้ผมรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น


“อะไรวะ”


“กับมึงอะ ไม่ว่าจะครั้งไหน กูก็ใจเต้นไม่เคยเปลี่ยนเลย”


บรรยากาศอาจจะพาไปหรืออาจเพราะความทรงจำของเรามันย้อนกลับมาให้มีความสุขได้อีกครั้ง ใบหน้าของเราสองคนก็เคลื่อนเข้ากันช้าๆ ผมไม่เก่งวิทยาศาสตร์ไม่รู้ว่าไอ้แบบนี้มันเกี่ยวกับแรงดึงดูดรึเปล่านะ มันเอียงหน้าเข้าใกล้ผมในขณะที่ผมหลับตาลงช้าๆ


แกร๊ก


“ไอ้เสือเป็นไงบ้า......ง”


ชิบหายแล้ววววว


ผมสะดุ้งผลักไอ้เปาด้วยความเร็วแสงจนมันกระเด็นไปอีกฝั่งของโซฟา ผู้หญิงที่ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูคือพี่สาวของไอ้เปาครับ ผมค่อยๆ เงยหน้าแล้วยกมือไหว้พี่เปลช้าๆ ผมกัดปากกับความกระอักกระอ่วนนี้หวังว่าพี่เค้าคงไม่เห็นอะไรหรอกใช่มั้ยครับ ไอ้เปามันบ่นเบาๆ ก่อนจะเอ่ยทักพี่สาวตัวเองออกไป


“พี่เปลเข้ามาไมวะ”


“เอ้าก็ห้องพี่ไง”


พี่เปลเป็นผู้หญิงผิวสองสี หุ่นอวบอั๋นดูน่ากอดดีครับ เธอวางของทั้งหมดไว้โต๊ะก่อนจะเดินมาเขกหัวน้องชายตัวเอง ผมได้แต่นั่งเกร็งๆ แก้มคงแดงเป็นมะเขือเทศแล้วครับ


“เออ ก็รู้อยู่ ทำไมไม่กลับค่ำๆ ล่ะวะ”


“เอ๊ะ ไอ้เปา ก็แกป่วยไง ฉันต้องมาดูแลตามประสาพี่สาวที่โคตรดี ทำไมพี่มาขัดจังหวะอะไรรึเปล่าน้องเสมอ เอ้ย น้องคนกลาง”


“เอ่อไม่...ไม่ครับ”


“เหี้ยยยยย พี่หยุดพูดคำนี้เลย ไปๆๆ โอ๊ยหิวข้าวแล้วต้องกินยา กลางไปกินข้าวกัน”


ไอ้เปามันเดินหูแดงเข้าไปในห้องครัวแต่พี่เปลชี้มือชี้ไม้ที่ของบนโต๊ะ มันเลยต้องย้อนกลับมาเอาของกินที่พี่เปลซื้อมาไปด้วย หน้ามุ่ยคิ้วชนกันเชียว หน้าคนโดนขัดใจอ่ะนะ


“เขินหรอ ทำตัวแบบนี้กลบเกลื่อน”


อ่า...ผมก็ยังไม่เข้าใจครับว่า เสมอมันคืออะไร ผมนั่งมองสองพี่น้องเถียงกันตาปริบๆ พี่เปลแซวไอ้เปาที่เดินลากเท้าเสียงดังๆ ขัดใจไปทางห้องครัว นี่ผมปล่อยให้คนป่วยเดินไปหาอะไรกินเองแล้วใช่มั้ยครับ ผมกำลังจะลุกตามไปแต่พี่เปลเดินเข้ามาใกล้ซะก่อน


“ว่าแต่คนกลางนี้น่ารักกว่าในรูปอีกนะเนี่...”


“พี่เปลลลลลลลลลลลลล!!!”


ไม่ทันจะพูดจบเสียงคนน้องก็แหวกอากาศออกมา ผมเห็นอีกมุมนึงของไอ้เปาเลยล่ะครับ


“จะตะโกนทำไม เจ็บคอแล้วจะบ้องหูให้”


และพี่เปลก็ตะโกนกลับก่อนจะกอดไหล่ผมเดินเข้าห้องครัว



.
.
มื้ออาหารเย็นของผม ณ คอนโดสุดหรู ผมตักซุปมันช้าๆ มองคนที่นั่งตรงข้ามกันซ้ายทีขวาที ผม...นายคนกลางกำลังกินข้าวอย่างเงียบๆ ท่ามกลางสองพี่น้องที่เถียงกันตลอดเวลา


“กลางรู้ป่ะ ทำไมไอ้เปาไม่ให้กลางมาที่ห้อง”


“อาจจะกลัวรบกวนพี่เปลล่ะมั้งครับ”


“โอ๊ยยย พี่ไม่ค่อยอยู่ห้องหรอก ไอ้เปามันมีความลับไงกลาง”


“จริงอะ” ผมเชื่อนะอย่าหลอกผม ผมเงยหน้าไปมองไอ้เปา มันส่ายหัวเป็นพัลวันแทบจะโยนช้อนกินข้าวแล้วทำท่าถลามาปิดหูผมไม่ให้ฟังพี่เปลพูด


“เฮ้ยยย อย่าไปเชื่อๆๆ พี่เปลกินข้าวไปดิวะ”


“ฮ่าๆ น้องกลางหน้าตกใจน่ารักจัง”


“ถ้าเป็นในห้องนอนผมพอจะรู้แล้วครับ”


ก็ความลับเรื่องรูปนั่นไง ใช่มั้ยล่ะ ผมคิดว่าผมรู้แล้วล่ะครับ


“แค่นั้นยังน้อยไปสิ” พี่เปลขยิบตาให้ผมทำให้ผมพลอยอยากรู้ไปด้วย


“พี่เปล” แต่เพราะไอ้เปาส่งเสียงขู่พี่เปล เธอจึงยอมแพ้ไปซะอย่างนั้น


“เออๆ ไม่พูดก็ได้ ไว้พวกแกไปเซอร์ไพร์สกันเองก็แล้วกัน กินนี่สิ ของโปรดพี่อาหารใต้อร่อยๆ”


“ของโปรดพี่จะให้กลางกินทำไมอะ”


“เอ้า กลางได้รับตำแหน่งเป็นน้องคนใหม่ของฉัน ฉันอยากให้น้องได้กินของที่ฉันชอบ ใช่มั้ยจ๊ะกลาง”


“ไม่ ตอบไปดิ”


“ได้ครับ ผมอยากลองชิม”


“เฮ้ย กลางเป็นพวกพี่เปลแล้วหรอวะ เอามานี่เดี๋ยวกินเอง มึงกินไม่ได้หรอก”


“หยุดไอ้เปา แกกินได้แค่โจ๊กหมูไม่ใส่ขิงเท่านั้นแหละย่ะ”


“พี่เปล! แค่กๆ”


“สมน้ำหน้า”


มื้ออาหารมื้อนี้มีแต่ความสนุกสนานครับ ผมหลุดหัวเราะไปตั้งหลายที นี่คงเป็นวงกลมของครอบครัวที่ไอ้เปาเปิดให้ผมเข้ามาอยู่ด้วยหนึ่งวันสินะครับ พี่เปลดูเป็นห่วงไอ้เปากว่าผมอีก


“กินยาด้วย ลีลาตลอด มันก็งี้แหละกลาง แต่ก่อนขี้โรคจะตาย”


“มันไปอ้วกรดพื้นด้วยพี่เปล”


“จริงอะ พี่ไม่เคยรู้เลย ที่เชียงใหม่ใช่มั้ย”


“ครับ”


“ฮ่าๆๆๆ ขายหน้าประชาชนชะมัด”


“นี่ๆ สองคนนั้นอะ เบาๆ หน่อย คนจะกินยา ขอทำสมาธิ”


พี่เปลเบ้ปากล้อเลียนไอ้เปาก่อนจะลากผมไปนั่งคุยที่โซฟา เธอน่ารักมากเลยครับ ความสัมพันธ์ของผมกับไอ้เปาพี่เปลคงจะรู้แล้ว แต่พี่เปลไม่ได้แสดงท่าทีที่ไม่สบายใจหรือทำให้ผมอึดอัดเลยครับ พี่เปลเล่าเรื่องตอนเด็กของไอ้เปาให้ผมฟัง ส่วนผมก็เล่าเรื่องวีรกรรมตอนอยู่โรงเรียนให้พี่เปลฟัง ตลกๆ ทั้งนั้นเลยครับ


“พี่เปลครับ เสมอคืออะไรหรอ”


“หึหึ กลางต้องไปถามเจ้าตัวเองดีกว่า ว่าแต่กลางนี่น่ารักจังน้า แหน่ะ เขินหรอ”


“เอ่อ น่ารักคงไม่เข้ากับผมเท่าไหร่หรอกครับ” ผมลูบท้ายทอยตัวเองแก้เก้อไปด้วย


“ไม่น่ารักแล้วจะอะไรล่ะ มาพี่ขอถ่ายรูปหน่อย จะไปลงอินสตราแกรมอวดเพื่อน”


แล้วพี่เปลก็จับผมจัดท่าทางไม่กี่วิ หน้าผมกับพี่เปลก็อยู่ในอัลบั้มเรียบร้อยแล้ว


“กลางนอนนี่เลยก็ได้นะ ห้องเล็กยังว่าง”


“ไม่ว่างโว้ยพี่เปล เข้าห้องตัวเองเลยไป”


ไอ้เปาเดินเข้ามานั่งเบียดผมกับพี่เปลครับ ไอ้เปานี่กวนตีนผมขนาดนั้นเลย


“กลางงง ส่งเข้านอนหน่อย สนใจหน่อยดิ ไม่สนใจกูเลย”


“อ่ะ มีคนเรียกร้องความสนใจละ พี่ไปก่อนนะจ๊ะ ตามสบาย”


พี่เปลลุกไปแล้วครับ และแล้วก็เหลือผมและไอ้เด็กมีปัญหากับโซฟาตัวเดิม ไอ้เปาคงเห็นสายตาของผมที่มองไปที่โซฟามันเลยพูดขึ้นมา


“ต่อมั้ย ถ้าติดไข้เดี๋ยวจะดูแลอย่างดี”


“ทะลึ่ง” ผมยื่นมือไปตบท้ายทอยมันเบาๆ ซ่าส์นะครับคุณ “เสมอคืออะไร”


“เอ่อ...” เพราะผมถามขึ้นมากะทันหัน ไอ้เปาที่ดีดๆ เป็นม้าเมื่อกี้เหมือนโดนปิดสวิทซ์ มันเริ่มหูแดงที่เป็นอาการเขินของมันครับ ผมจ้องหน้ามันรอคำตอบแต่เป็นมันเองที่หันหน้าหนีผมหลบความอาย


“ตอบมาเถอะน่า มาถึงขนาดนี้แล้ว”


“มึงอย่าล้อกูนะเว้ย”


“...”


“ก็แบบ...สำหรับมึงคนเดียวนะ แบบว่า...”


“อะไรล่ะ“ พอทำให้มันเขินได้ผมก็ไล่ต้อนมันเรื่อย ไอ้เปาเอนหลังหนีผมก่อนจะหลับตาพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว


“...ก็รักเสมอไง”


“...อ๊ะ...”


ถ้าหูมันแดง แก้มของผมก็คงไม่ต่างกันใช่มั้ยครับทุกคน


=====
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
มาช้าไปหน่อย ขอโทษทุกคนด้วยค่ะ
 :กอด1: :L2:

แถมให้อีกนิด
เปา: มึงเป็นทุกเสมอของกูเลยนะเว้ย
กลาง: ยังไงวะ
เปา: ก็เช่น รอเสมอ คิดถึงเสมอ รักเสมอ เป็น จุด จุด จุด ก่อนเสมอไง
กลาง: งั้นคำหน้าของเสมอก็เปลี่ยนได้ใช่ป่ะ
เปา: เเน่นอน
กลาง: เเบบนี้ก็ได้ดิ เหี้ยเสมอ จังไรเสมอ โง่เส...
เปา: เดี๋ยวๆ ไปกันใหญ่ละ
กลาง: ไม่ได้หรอ
เปา: (เอือม)มึงนี่มันตัวทำลายความโรเเมนติกของกูจริงๆ

อวยพรเเด่ #คนกลาง ด้วย 555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 11-06-2017 22:43:11
เล็ก กำลังจะมาาาาา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 11-06-2017 22:48:07
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้..มีความหลงน้องคนกลาง
ปันใจให้กับความมั่นคงของน้องเปา :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: knxiiviii ที่ 11-06-2017 23:10:57
เอ็นดู 5555 น้องกลางก็ยังน่ารักเหมือนเดิม :)
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-06-2017 23:33:25
ชอบชื่อเสมอที่เปาตั้งให้กลาง รักเสมอ คิดถึงเสมอ
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 11-06-2017 23:57:03
ดีจัง คนกลางเข้ากับคนในครอบครัวเปาด้ายยยย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-06-2017 00:31:49
 :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 12-06-2017 04:05:08
โอยยยย น่ารักมากกกก อ่านแล้วหยุดยิ้มไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-06-2017 06:35:04
ชอบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เปา คนกลาง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 12-06-2017 07:11:14
น่ารักดี
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 12-06-2017 07:41:00
ฮา ตอนคุย แถมท้ายอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 12-06-2017 09:05:25
เป็นคู่ที่ลงตัวมากๆ
คนกลางน่ารักจริงๆ เลย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 12-06-2017 09:46:11
น่ารักมากเด็กๆ แงงงงง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 12-06-2017 15:36:07
 :o8: คนกลางน่ารัก น้องเปาก็ยิ่งน่ารัก มีความมุ่งมั่นมากก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 12-06-2017 16:54:46
คนกลางน่ารักเสมอออออ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 12-06-2017 18:19:45
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-06-2017 18:35:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 12-06-2017 22:21:07
 :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 12-06-2017 22:30:01
อ่านแล้วเขินแทนคนกลาง
การที่ได้เป็นแรงบันดาลใจของใครสักคน ใครจะรู้เท่าคนกลางว่าทำให้รู้สึกดีขนาดไหน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: graciej ที่ 12-06-2017 23:36:21
ยิ่งอ่านยิ่งรุ้สึกว่าคนกลางน่ารักจิ้มลิ้ม  :o8:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ppreaww ที่ 13-06-2017 16:49:37
เป็นเรื่องที่เข้ามาอ่านแบบงงๆ มือลั้นกดเข้ามา ก็เลยลองอ่านดู จากนั้นก็ยาวเลย...มันดี มันน่ารัก หลงเปา หลวคนกลาง    :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 13-06-2017 21:07:36
เสมอ น่ารักอ่าน้องเปา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-06-2017 13:23:33
เกลียดดดด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 15-06-2017 22:19:20
คนกลางกับครอบครัว น่ารักมาก ๆ อบอุ่นดีจัง ชอบมากเลยค่ะ
ยังอ่านไม่ถึงตอนล่าสุด แต่ขอมาให้กำลังใจคนเขียนก่อนจ้ะ
ชอบนิสัยแบบคนกลางมากเลยค่ะ ไม่มากไม่น้อยเกินไป แค่กลาง ๆ พอดี ๆ
อ่านไปแล้วอมยิ้มตามตลอดเลย ขอบคุณคนเขียนมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 16 หน้า 13 (11-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: antavvanp ที่ 16-06-2017 00:56:20
ดีแบบดีมากกกกก ชอบน้องกลางมากๆๆๆ ชอบคาแรกเตอร์น้อง โอ๊ยถ้าเรื่องนี้จบแล้วจะไปหาเรื่องไรอ่านที่นายเอกน่ารักแบบนี้อะ ฮืออออออออออ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 18-06-2017 10:25:53
17
วันที่คนกลางไม่เห็นจะเข้าใจ


ถ้าโลกนี้ไม่มีศิลปะ มันจะเป็นยังไงกันนะ อืม...โลกก็คงจืดชืดมีแต่ความซ้ำจำเจ เพราะศิลปะมันช่างสวยงามและแทรกซึมอยู่ทุกแขนงของโลกนี้ อย่างที่ศาสตราจารย์ศิลป์  พีระศรีกล่าวคำพูดที่โด่งดังว่า “ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น” และผม...นายคนกลาง นักศึกษาศิลปะกำลังดำดิ่งและเข้าใจคำกล่าวนี้อย่างถ่องแท้


ครับ


ชีวิตผมสั้นแล้ว


เสียงพู่กันกระทบแก้วน้ำพลาสติกที่เหลือใช้จากในถังขยะดังแกร๊กๆ ถ้ามองไปรอบๆ แก้วน้ำพวกนี้จะอยู่เกลื่อนกลาดไปหมดรวมไปถึงขวดน้ำที่นำมาประยุกต์เป็นแก้ว ด้ามพู่กันที่เคลือบด้วยคราบสีน้ำคล้ำเป็นสีม่วงเข้มของผมถูกผมกวัดแกว่งในแก้วน้ำล้างพู่กัน ปลายนิ้วทั้งสองข้างเปื้อนสีจนเกรอะกรังไปหมด นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ผมนั่งอยู่ตรงนี้...โถงของอาคารกิจกรรมเต็มไปด้วยนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เอกไหนเป็นเอกไหนก็ไม่รู้แหละ รู้แต่ว่าผมและผองเพื่อนกำลังจะตาย


หมับ


ผมเงยหน้าขึ้นไปมองไอ้คนที่เอามือมาวางบนหัวผมนิ่งๆ มันถือน้ำเป๊บซี่ที่ผมว่าเป็นน้ำหวานที่ช่วยผมได้ดีที่สุดเวลาเหนื่อยและถุงของทอดอีกถุงนึงที่กลิ่นมันหอมฟุ้งสุดๆ ผมวางพู่กันบนกองกระดาษทิชชู่แล้วยื่นมือตรงขึ้นไปสุดแขนหวังจะคว้าน้ำอัดลมนั่น แต่ไอ้เปาเพื่อนรัก(ที่สุด)กลับยกขึ้นไปดูดเฉย


“อ่า...โคตรอร่อย”


อะ...ไอ้เด็กนี่


ผมแทบไม่มีเสียงจะด่ามันได้นอกจากอ้าปากค้างเล็กๆ เหมือนต้องการอากาศ ไอ้เปาเห็นแบบนั้นก็ขยี้หัวผมเล็กน้อยแล้วหัวเราะก่อนจะนั่งยองๆ ข้างผม มันยังมีที่สำหรับเดินอยู่นะครับแม้ว่ามันจะโคตรรกเพราะมีทั้งกระดาษทิชชู่ที่เอาไว้ซับสีน้ำหรือเช็ดพู่กันกองเป็นภูเขา แก้วน้ำที่วางเละเทะ ไหนจะขยะ ขนม และจานสีอะไรเต็มไปหมด


“ฮ่าๆ ลูกนกรอแม่นกมาป้อนหรอ”


“เร็วววว” มันเอื้อมไปหยิบมันก็ยืดแขนหนี กูหิวน้ำเนี่ย ลีลาชิบเป๋งง ผมเริ่มจะโมโหแล้วนะ...


“แล้วใครให้มัดผมจุกเป็นน้ำพุงี้เนี่ย”


นอกจากจะไม่ตอบผมแล้วมันยังขมวดคิ้วใส่อีกต่างหาก ไอ้เปาพูดไปด้วยแล้วก็คว้าจุกน้ำพุผมไปด้วย เออ เขย่าอีกต่างหาก ก็ไอ้เบสน่ะสิครับ เดินมากวนผมเพราะขี้เกียจทำงานตัวเอง มันเดินมาเห็นผมนั่งก้มหน้าทำงานแล้วก็คว้าหนังยางที่ตกแถวๆ นั้นมามัดให้อ้างว่าอยากให้ผมเห็นชัดๆ เพราะผมมันเริ่มยาวแล้ว เอาเข้าจริงๆ มันก็คงอยากเรียกไลค์จากไอจีมัน เพราะหลังจากนั้นไม่กี่นาทีแจ้งเตือนของผมก็ดังขึ้น


“ไม่มีใครให้มัด ไอ้เบสมามัดให้”


“แล้วทำไมไม่เรียกผมล่ะครับ”


“ก็มึงไปซื้อของกินนี่ไง”


อย่ามาเม้งใส่นะ เราสองคนเหมือนแข่งทำหน้าตาบูดใส่กันและกัน ไอ้ผมก็บูดเพราะหิว ส่วนไอ้เปาจะเพราะอะไรก็ช่างมัน มันจ้องหน้าผมนิ่งก่อนจะถอนหายใจ


“เสร็จงานใหญ่นี้ เดี๋ยวพาไปตัด”


“จะกินได้ยัง”


มันหรี่ตาเล็กน้อยก่อนจะอมยิ้ม เป็นบ้าหรอเปลี่ยนอารมณ์เร็วชะมัด ผมคว้าของทอดที่มันวางไว้บนพื้นมากิน เออน้ำก็ช่างแม่ง เดี๋ยวค่อยกิน ไอ้เปาบ่นอะไรไม่รู้ผมฟังไม่รู้เรื่องหรอกครับ หิวจนตาลาย ทำงานไม่รู้เวลา ตอนนี้มืดค่ำแล้วก็ยังไม่เสร็จ  ได้ยินเสียงถอนหายใจจากไอ้เปาก่อนที่มันจะฉีกซองผ้าเย็นที่มันหยิบจากกระเป๋าเสื้อมาเช็ดหน้าให้


“สีน้ำระบายบนกระดาษนะครับคนกลาง ไม่ใช่บนหน้าตัวเอง”


พอถึงประโยคนั้นผมถึงกับชะงัก ผมดูดน้ำค้างไว้อย่างนั้นแล้วมองไอ้คนที่ตั้งอกตั้งใจเช็ดหน้าผม สัมผัสเบาๆ บนผิวหน้ากับคำพูดเพราะๆ จากไอ้เปามัน....


“เอ้า แก้มแดงจัง ใช้สีอะไรเนี่ยเช็ดไม่เห็นออกเลย”


มันยิ้มล้อเลียนก่อนจะใช้ผ้าอีกด้านที่ไม่เปื้อนสีเช็ดหางตาผมเบาๆ เสร็จแล้วก็คว้ามือที่เปื้อนสีของผมไปเช็ดต่อ บริการหลังการขายดีครับ ผ้านี่ก็ใช้คุ้มเลย


“โว้ยยยยย รำคาญ คนเค้าทำงานกันแล้วก็ไม่มีคนมาดูแลเนี่ยมันน่ามคาญญญญ”


“เออออ กูว่าคนที่หิวๆ กันอะ มึงอิ่มน้ำตาลแล้วล่ะ”


“ฝากมันซื้อของกิน แต่ไม่เห็นแถมบริการเช็ดหน้าเลยว่ะ หนาวใจ...หนาวใจ...”


“อ่อนแอก็แพ้ไป หวั่นไหวก็ได้กันเองไงเพื่อน” ว่าแล้วมันก็ลุกขึ้นยืนมองไปทางพวกไอ้กล้วยที่นั่งโหยหวนอยู่ข้างเสา เปรียบเหมือนหมานะครับแต่มันอยู่ข้างเสาจริงๆ เพื่อนที่วาดรูปอยู่เงยหน้าไปมองแล้วก็ต้องหัวเราะ


“ได้กันจริงรึเปล่า อย่ามาพูด” ไอ้กล้วยยังไม่ยอมแพ้และจากประสบการณ์ ผมต้องบอกเลยว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้เปาเล้ย...มึงจะโดน...


“ซาร่า!!!! ไอ้กล้วยอยากโดนมึงเสียบ” นั่นไงไม่ทันขาดคำ


“อร๊ายยยยย เปาขา เพื่อเปาซาร่ายอมเสียบให้ได้ค่ะ ม๊วฟ”


“อีซาร่า! มึงอย่าวิ่งมาทางนี้นะเว้ย!!!”


“เสียบหน่อยยยย ให้เค้าเสียบหน่อย”


“ไอ้ทัพช่วยกูด้วยย!! อีซามันทิ้งพู่กันมาแล้ว ฮือออออออออออออ”


“ปีหนึ่ง!!! ทำงานเงียบๆ หน่อย อยากเสียบกันไปเสียบที่อื่น กูแดกข้าวไม่อร่อย”


พวกพี่จิ้มที่นั่งทำงานลานชั้นบนตะโกนลงมา ไอ้ผมก็สะดุ้งพู่กันแทบร่วง เสียงพี่มึงนี่น่าจะไปประกวดเดอะว๊อยซ์นะครับ กูหลอก แบร่แบร่


“โทษครับพี่”


“พี่จิ๋ม ช่วยผมด้วย”


“จิ๋มหน้ามึงไอ้เชี่ยกล้วย กูปล่อยให้อีซาร่าสูบเนื้อมึงออกมาแน่”


“ทุกคนรังแกกล้วย อ๊าก มึงอย่ามากอดกู กูกลัวแล้ว กูจะถวายผ้าไตรให้มึง”


“อีเหี้ยกล้วย!!! กูขอน้ำส้มด้วย”


“ฮ่าๆๆ”


“แล้วไอ้เปามึงมายืนหัวโตอะไรตรงนี้ ตอบ!”


“มาขอกำลังใจเมียครับพี่!!!”


ไอ้คนข้างตัวผมพูดเสียงดังฟังชัด เรียกเสียงหัวเราะฮาครืนจากเพื่อนๆ ในห้องโถงนั้น เรื่องผมกับไอ้เปามีแต่เดอะแกงค์ที่รู้เท่านั้นแหละครับ ไม่รู้ว่ามีคนอื่นรู้รึเปล่าแต่เพราะผมกับไอ้เปาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานเลยไม่มีใครแปลกใจอะไรมาก แถมพวกรุ่นพี่รุ่นน้องหรือต่างคณะแซวกันแหลกขนาดนี้ จริงเท็จคงไม่สงสัยกันเท่าไหร่ครับ


“เมียมึงคนไหน”


“คนนี้ครับ”


ผมก้มหน้าก้มตาทำงานแล้วยังจะมาชี้กูอีก ไอ้พี่จิ้มทำเป็นหรี่ตามองก่อนจะส่งเสียงมาอีก มันเป็นการแก้แค้นหลายต่อน่ะครับ


“เมื่อวานไม่ใช่คนนี้นี่!”


“ไอ้สัดพี่! หาเรื่องกูหรอ”


“กูพี่มึง ไอ้เปา”


“อ้าวหรอ พี่ โทษทีๆ ลืมตัว”


พี่จิ้มตะโกนทิ้งท้ายว่าให้รีบๆ ทำงาน ไอ้เปาก็ก้มตัวไหว้ปลกๆ ก่อนจะหันมาขยิบตาให้ผม เป็นไรอ่ะ ฝุ่นเข้าตาหรอ เมื่อเห็นว่าผมไม่เล่นด้วยมันก็เดินคอตกกลับไป ไม่วายหันมาพูดต่อ


“ผมไปทำงานก่อนนะที่รัก”


“ขอบคุณคุณเปามากเลยครับ”


“ไม่เป็นไรครับ หิวก็บอกนะ อย่าหิวแล้วอดเข้าใจ๊”


ผมส่งสัญญาณโอเคให้มัน ตอนนี้ท้องอิ่มแล้วหัวสมองก็แล่นฉิวแล้วครับ ผมนั่งทำงานต่ออีกสองสามชั่วโมงไม่สนใจเพื่อนที่ร้องโอดโอยเหมือนผีเข้า หรือพวกที่นอนกลิ้งเหมือนคนไม่มีบ้าน สีน้ำที่ผมไม่ถนัดต้องใช้สมาธิมากกว่าเดิม แต่ตามันเริ่มล้าแล้วครับแถมท้องยังโคตรหิวอีกต่างหาก ผมมองหาไอ้เปาที่ทำงานอีกด้านนึง มันนั่งพิงประตูกระจกหลับตานิ่งๆ เพื่อนผู้หญิงที่อยู่แถวนั้นแอบถ่ายรูปกันสนุก ผมหัวเราะเบาๆ พลางเก็บของ จะว่าไปไอ้เปามันก็ทำงานเสร็จเร็วนะครับ งานถนัดมันน่ะ แต่เพราะต้องรอผมมันเลยมานั่งหลับให้ชาวบ้านเค้าแกล้งแบบนี้


“ไอ้กลาง เสร็จแล้วหรอวะ” ไอ้เบสเห็นผมลุกมันเลยรีบถาม


“ยังเว้ย แต่พอก่อน หิวไม่ไหวละ”


“เชี่ยย เห็นมึงลุกกูก็อยากลุกเลยอะ พอเลิก ค่อยทำต่อ” เหลือพรุ่งนี้อีกวันครับ คงจะเผางานอยู่ที่ห้อง


“เฮ้ย  กูไปด้วย”


เพื่อนเดอะแกงค์ผมรีบเก็บของตาม ผมพยักหน้าให้เบาๆ แล้วบอกว่าจะไปปลุกไอ้เปา ไอ้กล้วยที่ถือพู่กันแบบเท่ๆ คือมันง่วงไง พู่กันจะหลุดจากนิ้วยังไม่รู้ตัว ไอ้ทัพยื่นมือไปตบหัวมันคลายง่วงทีนึงก่อนจะชวนมันเก็บของ เพื่อนคนอื่นก็เก็บบ้างเหมือนกันครับ ไม่ใช่วันสุดท้ายไฟไม่ลนตูดหรอกครับ


“เปา”


มันนั่งตรงหน้ามัน ยื่นมือที่ล้างแล้วไปตบแก้มมันเบาๆ มันนิ่งครับ ผมเลยยืดแก้มมันไปที ยังไม่ขยับ อะสองข้างเลย


“ไม่ตื่นหรอก กูเป็นเจ้าชาย ต้องการจูบ”


ตายังไม่ขยับแต่ปากมันขยับครับ พูดจบแล้วทำปากจู๋อีกต่างหาก


“เจ้าชายอะไร”


“เจ้าชายกบ”


“มึงกลัวกบนี่”


“เหี้ย ตื่นก็ได้ ทำไมมึงถึงพูดเรื่องกบได้หน้าตาเฉย”


สะดุ้งโหยงเลยไอ้เปา ตอนเด็กผมชวนมันไปเล่นที่สนามฟุตบอลครับ ตอนเย็นๆ อากาศดี เราถอดถุงเท้าเหยียบวิ่งไล่หาตั๊กแตน ไอ้เปาตัวผอมมันดวงซวยครับ หลังจากที่วิ่งเล่นหัวเปียกกลับมาล้างเท้าใส่รองเท้าเตรียมกลับบ้าน ไอ้เปาแหย่เท้าเข้าไปรีบชักขาออกมาแทบไม่ทัน จากนั้นก็ร้องไห้จ้า คางคกเข้าไปอยู่ในรองเท้าครับ ผมหัวเราะนิดหน่อยก่อนจะหยิบรองเท้ามันมาเขย่า ไม่นานคางคกตัวนั้นก็กระโดดหายไป แต่หลังจากนั้นผมก็สร้างปมให้มันเพราะมันกลัวสัตว์ประเภทนี้ผม มันบอกรู้สึกถึงผิวหนังของมันแล้วหยะแหยง


“ฮ่าๆ ไปเก็บของ” ขยี้หัวมันทีนึงละกัน


“เออ อย่าให้ถึงทีกูบ้างละกัน”


“เสร็จยังคร้าบ สองผัวเมีย”


“อ้าวแล้วทำไมพวกมึงไม่กลับล่ะ”


“กูขอกลับด้วย”


“อย่าบอกนะมึงจะทิ้งพวกกูไปกินมื้อดึกกันสองคน”


“รู้ได้ไง”


“กูฉลาด”


“เสือก”


พูดไปงั้นแหละครับ ดึกแล้วไอ้เปามันต้องไปส่งเพื่อนอยู่แล้ว เราแบกกระบอกซูมกับกระเป๋าใส่กระดานวาดรูปใบเขื่องเดินกอดคอกันออกมาขึ้นรถ อยากจะรู้ว่าของเยอะขนาดนี้มันก็ยังกอดคอกันอีกนะ แต่ก็ตลกดีครับ มีเพื่อนมหาลัยจังไรแบบนี้ก็ดีเหมือนกันครับ


“ไอ้เปา ตอนเห็นหน้าไอ้กลางครั้งแรกมึงรู้สึกยังไง”


“ไอ้กล้วยมึงเคี้ยวข้าวก่อน”


“มึงว่ากูไม่มีมารยาทหรอ ไอ้เบส”


“เปล่ากูฟังไม่รู้เรื่องงงงง”


“โทษๆ อ่ะมึงตอบ”


ไอ้กล้วยใช้ช้อนที่มันกินมายื่นตรงหน้าไอ้เปาทำเป็นเหมือนไมค์ ตอนนี้พวกเราอยู่ร้านอาหารที่เปิดโต้รุ่ง สั่งกับข้าวมาสี่ห้าอย่าง พวกเราก็จ้วงกินกันอย่างหิวโหย


“หมายถึงตอนไหน”


“ตอนมหาลัย”


“ทำไมกูต้องตอบ”


“เอ้า ไอ้เหี้ยนี่ ลีลา ไอ้กลางงง นั่งเงียบเชียวเขินหรอ” เขินอะไรก็ซดน้ำต้มยำอยู่


“ไอ้กล้วยมึงรีบแดกได้แล้ว”


“มึงตอบก่อนดิ”


ไอ้เปาวางช้อนแล้วหันมาจ้องหน้าผมที่นั่งข้างมัน ไอ้ทัพกับไอ้เบสนั่งฝั่งตรงข้าม ส่วนไอ้กล้วยนั่งหัวโต๊ะครับ เออมึงอย่าลืมจ่ายตังค์นะ เคยได้ยินป่ะ คนจ่ายตังค์นั่งอยู่หัวโต๊ะอะ ไอ้เปามันมองหน้าผมแปบนึงก่อนจะตอบไอ้กล้วยที่รอคำตอบอยู่


“เห็นมันตอนแรก กูนึกว่าหลวงจีนอะ”


“อะ...แค่กๆ” ตอนนั้นต้องตัดสกินเฮดไงฝัดด พวกมึงก็ตัดป่ะ


“เฮ้ยยย กินน้ำๆๆ”


“หลวงจีนก็เห้แล้วไอ้เปา”


“ฮ่าๆๆๆ ก็มึงเหมือนจริงอะ ไม่เชื่อถามไอ้พวกนี้ดิ”


“กูนึกว่าเด็กม.4 พึ่งเข้าเรียนร.ด.”


“คิดเหมือนกูเลยไอ้ทัพ ตอนกูทักนี่ทำหน้ามึนใส่กูอีก น่ารักตายอะมึง”


“ก็พอตัววว”


“จ้า.....” ประสานเสียงตอบไปอีก แต่มีคนนึงครับที่ไม่เข้าร่วมวงประสานเสียง


“เป็นไร ไอ้กล้วยนั่งเงียบเลย”


“เรื่องของไอ้เปากับไอ้กลางนี่นะ มีเพลงนึงที่เหมาะกับความสามพรานของพวกมึง”


“สัมพันธ์! ไอ้สัดนึกว่าอยู่นครปฐมเลย”


“เออนั่นแหละๆ พวกมึงฟังเพลงนี้นะ กูขอมอบให้ไอ้เปากับไอ้กลาง”


“ดนตรีมา...” หลับตาของดนตรีไปงั้นครับ มีแต่เสียงโช้งเช้งของตะหลิวกระทบกระทะ แล้วมันก็เริ่มร้องเพลง ส่วนไอ้ทัพกับไอ้เบสก็กลั้นหัวเราะยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิป


“ผมขอมอบเพลงนี้ให้เพื่อนของผม...นะฮะ” แหน่ะทำเสียงเป็นดีเจซะด้วย “ขอบคุณเพลงจากค่ายแกรมม่าโกลด์ด้วย...นะฮะ”


“เริ่ม”


“สาม สี่ เมื่อคิดให้ดี โลกนี้อุบาทว์ บุพเพสันนิบาด ที่ประสาทความรักภิรมย์....”


“เดี๋ยวๆๆ กูว่าพอก่อน”


“มันเริ่มเละเทะแล้ว ไอ้สัดเพลงคลาสสิคนะเสียของหมด”


“เอ้า เสียงกำลังมาเลย” มันลืมตาขึ้นมาเถียงทำหน้าตาไม่พอใจที่ต้องหยุดร้อง


“เสียงมึงกำลังมา ส่วนพวกกูเนี่ยไปละ”


ไอ้เปาคว้าข้อมือผมออกจากร้าน ส่วนไอ้ทัพกับไอ้เบสก็ตามมาติดๆ ไอ้กล้วยที่หลงอยู่ในดินแดนแห่งเสียงทำหน้าเหวอ เมื่อป้าเจ้าของร้านมายืนกดดันอยู่ข้าง


“จ่ายให้ด้วย!! รอที่รถนะไอ้กล้วย สุนทราภรณ์”


“ไอ้เพื่อนเว๊รรรรร!!! ป้าครับแปบนึงครับ ตังค์เหรียญรับมั้ยป้า”


Bananaboat ป้าครับ เพื่อนแกล้ง at ร้านสมใจโต้รุ่ง


“ฮ่าๆ ไอ้กล้วยยังไปเซลฟี่อีก ป้าเค้าไม่ด่าก็บุญแล้ว”


ผมเดินกดโทรศัพท์เข้ามาในหอเห็นรูปไอ้กล้วยแล้วก็ขำ มันทำท่าบีบน้ำตาโดยที่ข้างหลังมีป้าสมใจกำลังนับเหรียญอย่างเคร่งเครียด หลังจากไอ้เปาไอ้ส่งเพื่อนๆ เสร็จมันก็กลับมาส่งผม นี่มันก็จะตีหนึ่งแล้วผมกลัวมันง่วงก็เลยชวนให้มานอนห้องผม แต่มันก็ไม่ยอมท่าเดียว ขี้เกียจเถียงกับมันเลยบอกให้ถึงคอนโดแล้วส่งข้อความมาด้วย


“ไอ้กลาง”


หือ เสียงไรวะ  เงยหน้าหาต้นตอเสียงก็พบว่าเสียงดังมาจากข้างหลัง


“โจ๊กเพื่อนร๊ากก”


ถึงจะดึกแล้วแต่ผมยังไม่ง่วงครับ เหมือนได้ชาร์ตแบตตัวเองจากพลังงานอาหาร ผมหยุดรอมันเดินมาที่ลิฟท์ ทำหน้าตาดีใจสุดขีด ผมคิดถึงเพื่อนนะครับไม่ได้เจอมานานมากกกก ไอ้โจ๊กน่าจะไปติวหนังสือกับเพื่อนเพราะสภาพสะบักสะบอมแถมยังแบกหนังสือหลายเล่มมาด้วย ผมยิ้มรอมันจนเหงือกแห้งแต่มันก็ไม่เห็นจะยิ้มตอบมาเหมือนทุกที


“ตั้งแต่มีแฟนนี่ลืมกูไปเลยนะ”


เอ๊ะ... ตั้งแต่รู้จักกันมาไอ้โจ๊กไม่เคยทำหน้านิ่งแบบนี้ใส่ผม เสียงก็ไม่แข็งแบบนี้เหมือนกัน ผมค่อยๆ หุบยิ้ม มือกำสายกระเป๋าแน่น


“กูไม่ได้ลืมมึงนะ ช่วงนี้งานเยอะ”


“อืม”


มันตอบคำเดียวแล้วเงยหน้ามองตัวเลขของลิฟท์พอลิฟท์มาถึงมันก็เข้าไปยืนกดก่อน ถ้ามีกระจกอยู่แถวนี้หน้าผมคงจะซีด เกิดมาทั้งชีวิตผมไม่เคยโดนเพื่อนบอกแบบนี้ซักครั้ง ลืมเพื่อนงั้นหรอ ผมลืมมันใช่มั้ย ตั้งแต่ที่ผมตกลงคบกับไอ้เปา ผมคงลืมสังเกตไปว่าข้าวที่มักจะห้อยไว้หน้าห้องก็ค่อยๆ ลดลง จนหายไปเลย ผมเดินตามมันเข้ามาในลิฟท์ด้วยท่าทางหงอยๆ ผมกำลังทำให้เพื่อนรักรู้สึกแย่


“ไอ้โจ๊กมึงเป็นอะไร”


“กู...”


ครืด


ก่อนที่มันจะพูดอะไร เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น ผมจึงก้มมองที่โทรศัพท์ พอเงยหน้าขึ้นไอ้โจ๊กมันก็มองหน้าผมอยู่ก่อน มันเหลือบมองโทรศัพท์ในมือผมเเล้วพูดขึ้น


Paramatkrikri ถึงแล้ว สบายใจได้


“หึ กูเป็นอะไรมึงก็รู้อยู่แก่ใจป่ะ”


“อะ...ไอ้โจ๊ก”


ติ๊ง


“ไว้มึงมีอะไร ค่อยคิดถึงกูแล้วกัน”

.
.
[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 18-06-2017 10:36:28
.
.
[ต่อจากด้านบนค่ะ]



ไว้มึงมีอะไร ค่อยคิดถึงกูแล้วกัน


ผมนอนเคว้งอยู่พรมหน้าทีวี ตั้งใจว่ากลับเข้ามาจะทำงานต่อ ผมพยายามทำตัวให้วุ่นวายแต่ในหัวกลับมีเสียงไอ้โจ๊กดังอยู่ตลอดเวลา พอผมทำลืมไปมันก็เด้งกลับเข้ามาในสมองใหม่ กระดาษ สีน้ำ และทิชชู่ ยังคงแน่นิ่งอยู่แบบนั้น ผมไม่รู้จะเริ่มทำอะไรก่อนดี ไอ้โจ๊กที่อารมณ์ดี บ้าๆ บอๆ คนนั้นมันไม่เคยเป็นแบบนี้เลยซักครั้ง ผมคิดว่ามันอาจจะอยู่ในช่วงปรับตัว เราเคยอยู่ด้วยกัน เรียนด้วยกัน แต่พอขึ้นมหาลัยเราก็ต้องเจอสังคมใหม่ๆ เหมือนกันทั้งนั้น แต่ที่ไม่เหมือนกันคือผมมีไอ้เปาที่เคยเป็นเพื่อนที่ผมรักในวัยเด็ก


ไอ้โจ๊กมันคิดมากอย่างนั้นหรอ


ผมคิดทบทวนเรื่องต่างๆ และมั่นใจความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ ผมเศร้า....นั่นคือความรู้สึกที่ผมสัมผัสได้ตอนนั้น ล่วงเข้าเช้าวันใหม่ ไอ้กลางที่ไม่เคยทำตัวสกปรก นอนอยู่นิ่งๆ มาพักใหญ่ ผมเศร้าและมากกว่านั้นคือผมจะทำยังไงให้ไอ้โจ๊กเป็นเหมือนเดิม เหลือบไปเห็นพู่กันและงานที่ต้องทำ ผมถึงยันตัวเองขึ้น เดินเข้าไปล้างหน้าแล้วออกมาตั้งท่าทำงานต่อ
ผมกดส่งข้อความหาไอ้โจ๊ก เท่าที่ผมทำได้ตอนนี้ก็มีแค่นี้เท่านั้น รอให้มันอารมณ์ดีซะก่อนแล้วกัน


กูขอโทษนะ


เฮ้อ


ไม่โอเคเลย



.
.
.
Tru Tru


(กลาง งานถึงไหนแล้ว)


“อือ”


(ยังไม่ตื่นหรอจะบ่ายแล้ว แปลกว่ะ)


“อืม”


(ตื่นได้แล้ว กินข้าวด้วยวันนี้กูทำงานอยู่ที่ห้องนะ)


“ไม่เป็นไร เดี๋ยวไอ้โจ๊ก...”


(เดี๋ยวไอ้โจ๊กซื้อมาให้ใช่ป่ะ)


“...”


(กูแก้ไม่นานก็เสร็จ เดี๋ยวตอนเย็นเข้าไปช่วย)


“...”


(กลาง รู้เรื่องป่ะเนี่ย)


“โอ...โอเค”


เฮ้อ ผมนี่แม่งไม่ได้เรื่องเลย อยากจะร้องไห้ชะมัด ผมมองเพดานด้วยความเหนื่อยใจ ผมอยากจะบอกไอ้เปาไปทุกอย่างแต่ก็ไม่อยากทำตัวงี่เง่า จริงๆ ไอ้เปามันไม่ได้ผิดอะไรและผมก็ไม่อยากให้มันคิดมาก ผมขอรับทั้งหมดแล้วแก้ปัญหาเองดีกว่า


ทำงานโว้ย


ผมไม่กินข้าว ไม่ลงไปไหนทั้งนั้น  ดีหน่อยที่อาบน้ำแล้ว ผมมีขวดน้ำเย็นวางไว้ข้างๆ มันทำให้ผมตื่นและทำให้ผมอิ่ม ไอ้โจ๊กไม่ตอบกลับข้อความของผม มันอยู่ห้องไม่ไกลจากผมหรอกครับ แต่ผมก็ไม่กล้าที่ออกไปคุย ล่วงมาถึงตอนเย็น ผมอึดอัดจนรูปที่ใกล้จะเสร็จหยุดชะงัก ผมวางพู่กันและก็เป็นเวลาเดียวกับที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น


ผมลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที ไอ้เปายืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าห้อง มันชูถุงกับข้าวขึ้นมาเต็มไปหมด พอเห็นหน้ามันกระบอกตาก็ร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น ไอ้โจ๊กเพื่อนผมไม่ชอบไอ้เปาหรอครับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็เข้ากันดีแท้ แต่ถ้าไอ้โจ๊กมันกลัว ผมก็อยากบอกมันว่ามันคือเพื่อนของผม วงกลมของเพื่อนมีมันอยู่แล้ว ส่วนไอ้เปาก็คือคนที่มันก็รับรู้ว่าอยู่ในใจผมนานแล้วเหมือนกัน


ผมไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ


“มีไรรึเปล่า ทำไมทำหน้างั้น”


“เปล่า”


ไอ้เปาขมวดคิ้วก่อนจะพาผมไปนั่งที่โต๊ะอาหาร


“ใครทำอะไรรึเปล่า” แปลกที่เห็นแค่สีหน้าผมไอ้เปามันก็เดาออกอย่างรวดเร็ว ผมเงยหน้ามองมันที่ยืนมองผมด้วยสีหน้ากังวล ผมกอดเอวมันไว้ก่อนจะซบแก้มไปที่พุงแข็งๆ ของมัน


“อ้อนจัง”


“ต้องการที่พึ่งพิงทางใจ”


“แต่นั่นพุงนะ” มันพูดติดตลกเพราะอยากให้ผมหัวเราะ ไอ้เปามันลูบหัวผมเบาๆ สัมผัสที่มันลูบช้าๆ ทำให้ผมกอดมันแน่นขึ้น


“เป็นอะไร”


“อยากกอดอะ งานไม่เสร็จซักที”


“ไปไม่ถูกเลย แต่บอกแล้วไงเดี๋ยวช่วย”


ผมเงยหน้ามองมันที่จ้องผมนิ่งๆ มันหยุดลูบหัวผมแล้วนั่งคุกเข่าตรงหน้าผม มันจับมือทั้งสองข้างของผมไว้


“เล่ามาเถอะ อยากแบ่งเบา”


สายตาที่เว้าวอนของมันทำให้ผมก้มลงไปกอดมันอีกครั้ง ถ้ามันไม่อยากให้ผมเศร้า ผมก็เหมือนกันนั่นแหละ


“ไอ้โจ๊กมันโกรธกู...”


ระหว่างที่เล่าเรื่องไอ้เปาจ้องผมเงียบๆ มันรับฟังอย่างตั้งใจ เราสบตากัน มันเข้าใจผมใช่มั้ย ความรู้สึกของผมน่ะ...และผมก็คิดผิด ไอ้เปาเบือนหน้าหนีแล้วพูดในลำคอ “ไอ้เหี้ยเอ๊ย กูอยากจะล้มเลิกแม่ง”


“มึงว่าอะไรนะ”


“มึงร้องไห้มั้ย ร้องไห้เพราะคนอื่นหรอ”


“มันไม่ใช่คนอื่น”


“...”


“...ไอ้โจ๊กมันเพื่อนกู””


“บางที...กูก็อิจฉานะเว้ย ช่วงที่มันหายไประหว่างเรา ไอ้โจ๊กคงจะอยู่กับมึงตลอด มึงถึงแคร์มันมาก”


มันแปลกไป ผมขมวดคิ้ว ไอ้เปาไม่เคยคิดแบบนี้ เราเข้าใจเรื่องวงกลมของเราดี มันเข้าใจผมเสมอ มันเป็นอะไรไปนะ ทั้งไอ้เปา ไอ้โจ๊ก ผมปัดความสงสัยในใจเมื่อเห็นว่าไอ้เปาเริ่มเม้มปาก 


“มันไม่ใช่แบบนั้น”


“ถ้าอยากให้มันหายโกรธ มึงก็คงเลือกมันสินะ...”


“เปา...”


“ช่างเถอะกินข้าวซะ กูจะออกไปข้างนอกแปบนึง”


มันรีบพูดก่อนจะลุกแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งผมให้นั่งจมความคิดตัวเองอยู่แบบนั้น



.
.
.
ผมมองนาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะที่กำลังบอกเวลาห้าทุ่มห้าสิบแปดนาที หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จไอ้เปาก็ไม่กลับมาอีกเลย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับ ส่วนงานผมเสร็จแล้วครับ ตามอารมณ์หม่นๆ ของผมเอง เพื่อนเดอะแกงค์ของผมก็หายเงียบไม่มีใครให้ปรึกษาซักคน แม้แต่ไอ้เปาก็ไม่อยู่กับผม ขณะที่ล้างพู่กันอยู่ที่ซิงค์ล้างจาน เสียงคนทะเลาะกันก็ดังแว่วมาจากข้างนอก ตอนแรกก็คิดว่าข้างห้องพูดเสียงดังรึเปล่า พอนิ่งฟังดีๆ แล้วมันคุ้นแปลกๆ


“มึงอย่ามายุ่งได้ป่ะ ไอ้เปา เป็นไรก็เรื่องของกู มึงก็อยู่กับไอ้กลางไปดิ”


“เพื่อนประสาไรวะ มึงต้องเข้าใจไอ้กลางที่สุดดิวะ”


“ก็มันมีมึงอยู่แล้วนี่ จะให้กูเข้าใจอะไรนักหนาวะ”


“เฮ้ย พวกมึงใจเย็นดิ”


“มึงโกรธไอ้กลาง หรือมึงหวงไอ้กลางกันแน่”


“ไอ้กล้วย มึงอย่าขึ้นดิวะ”


“ก็ดูแม่งดิ”


“เดี๋ยวไอ้กลางได้ยินพอดีไอ้สัด”


“ซักตั้งมั้ยไอ้เหี้ย เกลียดหน้ามานานแล้ว”


“เออ!!!”


ผมแทบจะทิ้งพู่กันในมือแล้ววิ่งไปที่ประตู พวกมันแน่ๆ  มันจะต่อยกันหรอ ในใจผมร้อนรนไปหมดทั้งหมดนั่นคือคนที่ผมรัก ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ผมกระชากประตูออกอย่างไม่รีรอ แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ากลับทำให้ผมน้ำตาหยด


“พวกมึง!!....”


“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู้ยูวว แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู้ยูวว แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู้ยูววววววววววววว!!!!”


“....”


“เซอร์ไพร์ส!!!! สุขสันต์วันเกิดไอ้กลาง เป่าเทียนเร็ว”


เซอร์ไพร์ส...สัด...สัด...


แหมะ!


“เฮ้ย กลางงงง”


ไอ้เปารีบปรี่มากอดผม ทันทีแล้วพวกมันก็ตามเข้ามาในห้อง ไอ้เปาหน้าผมไว้กับหน้าอกมันแล้วลูบหัวลูบหลัง ที่พวกมันเป็นบ้ากันนี่หลอกกูหรอ ผมโล่งใจที่มันไม่ใช่เรื่องจริงอย่างที่สุด แต่เหตุการณ์มันเหมือนจริงจนผมอยากจะร้องไห้ พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นแต่ไอ้เปาคนเดียว มันจ้องหน้าผมพลางเช็ดน้ำตาให้ผมไปด้วยปากก็บอกขอโทษไม่หยุด


“ไอ้โจ๊กกับเดอะแกงค์ มันบังคับกูจริงๆ นะ”


“อึก มึงเล่นใหญ่...อ่ะ”


“โอ๋ๆๆๆ กูขอโทษนะ แต่พูดตรงๆ ว่าแอบหึงอะ มึงกับไอ้โจ๊กเนี่ย”


“ไอ้เชี่ย”


“ขอโทษนะ ขอโทษครับ”


“คราวหลังกูจะแกล้งมึงบ้าง ชวนไอ้เกมส์ไปเที่ยวแม่ง”


“อย่าๆๆๆ ขอร้องงง เรื่องนี้มันเป็นความคิดไอ้โจ๊ก ถ้ากูไม่ทำมันจะเปิดโปงความลับของกูให้มึงรู้ก่อน”


“อะไร...”


“ก็...”


“พวกเรามาจากรายการ...สาระแน!!!!”


ไอ้โจ๊ก ไอ้กล้วย ไอ้ทัพ และไอ้เบส ออกมาจากห้องครัว เดินมาทำท่าทางเป็นสตาฟรายการสาระแนแถมยังมีพร้อพเป็นปีกนางฟ้าด้วย ไอ้เชี่ย น้ำตาหยดลงมาอีกหยดเมื่อเห็นหน้าไอ้โจ๊กยิ้มกว้างเหมือนคนบ้าก็ไม่ปาน ลืมไปได้ยังไงมันไม่เคยอยู่ในโหมดหน้านิ่งใส่ผมนอกจากเรื่องผู้หญิง พอมันเห็นผมแล้วก็เดินเข้ามาตบหัวผมเบาๆ


“ฮ่าๆๆๆ ไอ้กลางร้องไห้รู้จักกันมาไม่ยักจะเคยเห็น ไงมึงคิดว่ากูจะทิ้งมึงหรอ ส่วนเรื่องไอ้เปากูแทบจะถวายตัวให้มันแล้ว มึงไม่ต้องกลัวกูเกลียดมันหรอก”


“ไอ้เลว” ผมด่ามันแล้วก็ซบหน้ากับคอไอ้เปาเพื่อหลบหน้า


“ไอ้เหี้ย เจ็บชิบหายไอ้กลางด่า”


ผมก็เอะใจอยู่นิดหน่อย ไอ้โจ๊กมันรู้เรื่องไอ้เปาตั้งนานแถมเป็นคนบอกให้ผมรู้ตัวใจตัวเองอีก มันจะมาโกรธอะไรตอนนี้วะ คิดไปถึงว่าหรือมันจะมีประจำเดือน แต่พอไอ้เปาเข้ามาเรื่องรัชดาลัยก็เกิดขึ้น


“มึงรู้มั้ย กูคิดมากอะ กูเศร้า”


“ไอ้เหี้ย ฟ้องใหญ่เลย”


“ไม่ต้องหัวเราะเลยไอ้กล้วย”


“กูจะโกรธพวกมึงทุกคน”


“โกรธทุกคนงั้นมึงก็เลิกกอดไอ้เปาดิ”


“เออ”


“เฮ้ยไม่ได้ๆๆ”  ผมทำท่าจะผละออก ไอ้เปาร้อนลนขึ้นมาทันทีนะมึง


“พวกกูแกงค์นางฟ้า ขอโทษมึงด้วยใจจริง”


อยู่ๆ พวกมันก็เข้าโหมดจริงจัง ไอ้เปาคลายกอดผมไปตอนไหนก็ไม่รู้มันเลื่อนมือมากุมมือผมไว้ ไอ้สี่คนนั้นนั่งคุกเข่าลงกับพื้น ปีกนางฟ้าของเด็กที่รัดแขนพวกมันแน่นทำให้ภาพตรงหน้าดูไม่น่ามองพิกล


“ที่ทำไปทั้งหมด....เพราะรักน๊า.....ม๊วฟ”


นั่น...มีทำท่าซารางเฮโยพร้อมกันด้วย


“ไอ้กลางหลุดขำแล้วเว้ยพวกเรา”


ถามว่าผมโกรธมั้ย ผมไม่โกรธหรอกครับแค่เคือง ไอ้เชี่ยหลอกกันมาได้ แต่มาคิดๆ ดูแล้วไอ้พวกนี้แหละคือเพื่อนที่อยู่กับผมเสมอ คนกลางอย่างผมโชคดีแล้วครับ พ่อพระไปอีก นิสัยของผมไม่เคยโกรธใครหรอกครับ


“ไอ้เปามันโดนบังคับจริงๆ นั่นแหละ อย่าไปโกรธมันล่ะ กูขู่ว่าจะเผารูปมึงที่มันวา...”


“เชี่ยโจ๊ก”


“เออโทษๆ พลั้งปาก ไปเคลียร์กันเอาเองนะ”


“ป่ะ พวกมึงไปกินเบียร์ซักกระป๋อง” ไอ้โจ๊กพูดขึ้นแล้วก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม


“ไอ้เบสเลี้ยงช่ะ”


“เลี้ยงเหี้ยไร จ่ายค่าปีกนางฟ้ามาด้วย ตอนไปซื้อกับไอ้ทัพนี่แทบจะแทรกแผ่นหนี”


“เออ เด็กมองกันชิบหายนึกว่าตุ๊ดอะไรตัวใหญ่ขนาดนี้”


“ฮ่าๆๆๆ ไปๆ ปล่อยให้ผัวเมียเค้าอยู่ด้วยกันดีกว่า”


“ไอ้กลาง พรุ่งนี้ส่งงานเสร็จพวกกูเลี้ยงวันเกิดมึงเองนะเพื่อน”


ลากันนิดหน่อย มันก็เดินกอดคอกันออกจากห้องไป แต่ก่อนประตูจะปิดไอ้กล้วยก็วิ่งพรวดเข้ามาแล้วถือมือถือมาถ่ายเซลฟี่อย่างรวดเร็ว


“ลืมเก็บภาพ แชะ!”


“ไอ้สัด”


พวกมึงลงทุนมาจริงๆ ครับ มาหอผมตอนเที่ยงคืนเพื่อทำภารกิจแกล้งกูให้เสร็จ นับถือความพยายามครับ ใกล้สอบแล้วยังมาทำตัวบ้าๆ บอๆ อยู่ได้


“กลางงง”


เสียงใครเรียกผมหรอครับ


“อ้าวยังไม่กลับอีกหรอ”


“กลางงงงงงงงงงงงงงงงง” เอ้าเสียงยาวไปอีก ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย


“จะเก็บความแค้นนี้ไว้  ไหนแล้วไปทำอะไรให้ไอ้โจ๊ก”


“เสียงยังแข็งอยู่เลยอ่ะ!”


“...อะไรของมึง” ทำไมมันงอแงอย่างงี้ครับ อ๋อ ก็คนมีความผิดไง


“มานั่งก่อนๆๆๆ” ไอ้เปาลากผมไปนั่งที่โซฟา เค้กที่ไอ้กล้วยเอามาวางอยู่ตรงหน้าทีวี เทียนก็ไม่ได้เป่ามัวแต่น้ำตาหยด


“หลับตาด้วย” มันสั่งผมต่อ ผมได้ยินเสียงมันเดินไปที่ไหนซักที่ก่อนจะกลับมาอยู่ข้างๆ ผม


“สุขสันต์วันเกิดนะกลาง ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้ แต่ดีใจที่ทำให้ยิ้ม”


พอลืมตาขึ้น ก็เห็นไอ้เปายิ้มอยู่ข้างหน้า ยิ้มที่ผมชอบ ลักยิ้มตรงแก้มมันทำให้ผมคิดถึงหน้ามันตอนเด็กเสมอเลย ไอ้เปาลุกไปหยิบกรอบรูปขนาดใหญ่ที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลมายื่นให้ผม


“แกะดูสิ”


ผมใจเต้นตึกตักเหมือนคนพึ่งมีความรัก แต่มันก็จริงนั่นแหละ ไอ้เปายืนอยู่ข้างๆ ส่วนผมก็ลงมือแกะกระดาษนั้นออก


“โห...”


มันเป็นรูปผมเองครับ แต่ที่สำคัญกว่านั้นรูปนี้เป็นภาพเหมือนจากดินสอ


“มึงวาดเองหรอ”


“อื้ม...ชอบมั้ย”


การวาดที่มันไม่ถนัดและทำไม่ได้ดีเลย แต่มันกลับวาดรูปนี้ให้ผม รายละเอียดทุกเส้นที่อยู่ในกรอบนี้ทำให้ผมยิ้มกว้าง หัวใจพองโตโคตรๆ


“ชอบ”


“รูปหรอ”


“มึงอะ”


“อะ...กลาง พูดงี้กูเขินแย่ดิวะ”


“ฮะๆ” ผมหัวเราะไม่ต้องบอกก็รู้หูแดงซะขนาดนั้น “ขอบคุณนะเว้ย”


ในเวลาเกือบจะตีหนึ่งของวันเกิดผมปีนี้ มีไอ้เปายิ้มอยู่ข้างๆ ครับ


Bananaboat สุขสันต์วันเกิดไอ้คนกลางๆ @khonklang มีคนร้องไห้ด้วย ว้ายยย ส่วนไอ้ข้างหลังพ่อมันเอง สวัสดีคร้าบบบ กับ ผู้ร่วมภารกิจ Joker manyu, Taletubbieee, yesbest, paramatkrikri


ไอ้กล้วยอัพโหลดรูปที่มันเซลฟี่ก่อนออกจากห้องโดยที่หน้าผมยังมีคราบน้ำตาอยู่ เยื้องไปด้านหลังผมมีไอ้เปายืนอมยิ้มอยู่ ผมเลื่อนๆ แล้วพิมพ์คอมเม้นด่าไอ้กล้วยไปทีนึงแล้วไอ้เปาก็เข้ามานอนข้างๆ ผม เรื่องภารกิจหลอกผมมันเริ่มมาจากที่ไอ้โจ๊กบังเอิญไปเจอไอ้เปาแถวๆ ร้านกรอบรูป ถามไปถามมาก็เค้นว่ามันทำของขวัญวันเกิดให้ผม ไอ้โจ๊กเลยคิดแผนชั่วได้ทันทีมันไปร่วมมือกับไอ้พวกคอหล่นแล้วขู่ไอ้เปาเข้าร่วมด้วย


“เอาเวลาที่ไหนไปวาด”


“ตอนกลางคืนอะ”


“อย่าบอกที่ชอบหลับตอนเรียนคือวาดไอ้นี่อะนะ”


“มันไม่ใช่ไอ้นี่ มันคือมึงนะ”


“เออนั่นแหละ เฉไฉจริง”


“กูก็วาดไม่เก่งอะ มันเสียไปเยอะเหมือนกันกว่าจะได้รูปนี้ออกมา แอบวาดในห้องเล็ก”


“ห้องที่มึงห้ามกูเข้าใช่มั้ย”


“อ่ะดิ ไม่งั้นมึงเห็นก็จบ กูซุ่มมาหลายเดือน” มันหันหน้ามาถามผมอีก ครั้งนี้ครั้งที่สามแล้วมั้ง “ดีใจมั้ย”


“ดีใจดิ”


“กูก็ดีใจนะ...”


“มึงควรดีใจที่วาดได้ขนาดนี้ พี่ขอชื่นชม” ผมวาดมือไปขยี้หัวมันเบาๆ ไอ้เปาจับมือผมให้หยุดนิ่งแล้วขยับตัวเข้ามาใกล้ ใบหน้าที่ผมชอบเคลื่อนมาใกล้ผมทีละนิด


“เปล่า กูดีใจที่ได้อยู่ข้างมึงอะ”


จุ๊บ


สัมผัสบนหน้าผากอุ่นวาบ ก่อนจะตามมาด้วยกอด เขินล่ะสิ ไอ้นกกระปูด ผมก็เขินเหมือนกัน


“สุขสันต์วันเกิดนะคนกลางของกู”



.
.
.
21.45 น.


“เอ้า ชนนนนนนนนนน”


ไอ้ที่บอกว่าเลี้ยงก็เลี้ยงจริงๆ ครับ เลี้ยงพวกมันเองไม่ได้เลี้ยงผมเลย บอกแล้วว่ากินเหล้าไม่ใช่สไตล์ผม เมื่อเช้าผมออกไปส่งงาน เพื่อนๆ พี่ๆ ในคณะอวยพรวันเกิดผมใหญ่แล้วล้อผมเรื่องเซอร์ไพร์สนิดหน่อย ถามว่ารู้ได้ไงน่ะหรอครับ ไอ้กล้วยนี่แหละตัวดี อัพรูปลงเฟซอีกต่างหาก คราบน้ำตาไอ้กลางปลิวว่อนเน็ตเลย


วันนี้ผมได้รับโทรศัพท์อวยพรวันเกิดจากครอบครัวครับ อิ่มใจเป็นที่สุดเพราะผมคิดถึงบ้านมาก พี่โตโทรมาหลังจากวางสายจากพ่อแม่บอกให้ผมหัดเอาแต่ใจซะบ้าง ผมได้แต่หัวเราะกลับไปแล้วบอกให้พี่โตตั้งใจเรียน พี่ใหญ่ของบ้านเรียนหนักครับ สายสุดท้ายจากไอ้เล็กน้องรัก โทรมาวอแวผมหลายสาย ไอ้เล็กอยู่ในช่วงอ่อนไหวที่ผมเดาว่ามันคิดถึงผมแหงๆ เรื่องของขวัญจริงๆ ผมไม่ซีเรียสหรอกครับ บ้านผมแทบจะไม่มีงานเลี้ยงหรือเค้กอะไรตั้งแต่เด็กแล้ว


“กลางไม่กินอะ”


“เอาเลยพี่”


พวกพี่จิ้มก็มาด้วยนะครับวันนี้ โต๊ะผมมีคนหน้าตาดีและหน้าตาปานกลางอยู่รวมกัน ดนตรีสดที่ดังมาทำให้บรรยากาศดีขึ้นมาก ผมชอบนะครับ


“กินหน่อยยย ผัวมึงไม่ว่าหรอก”


“เอ่อ...ครับพี่”


ไอ้เปามันไม่ว่าหรอกครับ นู่นนั่งชนแก้วกับพี่จิ้มสุดรักของมันจนหน้าแดง สงสัยจะโดนหลอกให้กิน


“กลาง สาวคนนั้นสวยมั้ย”


จู่ๆ กับโจ๊กก็มากอดคอกระซิบพูดที่ข้างหูข้างซ้าย


“อืมม ก็ดีนะ”


“สวยใช่มั้ย”


“อื้ม”


“สาวมีดุ้นนะสัส”


“เฮ้ย สวยไปป่ะวะ แล้วมึงรู้ได้ไง”


ก่อนที่ไอ้โจ๊กจะตอบไอ้เบสก็เข้ามากอดคอผมอีกคนพลางกระซิบบอก “ไอ้โจ๊กคลำเจอ กร๊ากกกกกกกกกกกก”


ผมหัวเราะ ไอ้โจ๊กทำหน้าบึ้งบ่นพึมพำว่าไม่น่าเล่าให้ไอ้เบสฟัง แล้วมันก็ผลักหัวผมจนไปชนกับไอ้เบสก่อนจะเดินไปสมทบไอ้กล้วยและไอ้ทัพที่สีสาวโต๊ะข้างอยู่


“ไอ้เบสแยกๆๆ ไอ้กลางมานั่งนี่” ไอ้เปาตบเก้าอี้ข้างตัวปุ๊ๆ เพื่อนคนอื่นนั่งกินนั่งคุยกันไปเหมือนอีกอาทิตย์นึงไม่มีสอบ


“ไม่เอาไม่อยากเป็นเมียน้อยมึง เดี๋ยวพี่จิ้มตบ”


“ไอ้เชี่ยกลาง หนวดกูจะทิ่มหน้ามึงอยู่เสือกให้กูเป็นเมียหลวง”


“จริงๆ ก็ดีนะ”


“หน้าตากูหรอ”


“เปล่า หมายถึงโต๊ะนู่นอ่ะ”


“ไอ้เหี้ยกลาง มึงชักอยู่กับไอ้เปามากไปละนะ”


พี่จิ้มเดินมาตบหัวผมแล้วผลักผมให้ไปนั่งข้างไอ้เปา พี่แกเดินเซๆ ไปชนกับเพื่อนอีกหลายแก้ว บอกเลยว่าปกติก็ไม่เหมือนคนอยู่แล้วเมานี่ยิ่งไปใหญ่ เฮ้ยแล้วไอ้กล้วยจะเลื้อยอะไรขนาดนั้น ดนตรีเบาๆ นะเพื่อนไม่ใช่ดิสโก้


“เพลงต่อไปนะครับ มีคนขอเพลงมาครับ จากโต๊ะเด็กสินกำ”


เสียงนักร้องบนเวทีเอ่ยขึ้นพร้อมกับมองกระดาษเล็กๆ ในมือ สมาชิกโต๊ะผมก็โห่ขึ้น ผมย้ายมานั่งข้างไอ้เปาที่เท้าคางกับโต๊ะมองผมตาเยิ้ม นี่วันเกิดผมหรืองานเลี้ยงระดับอบต.ครับ กินกันมึนเลย


“โต๊ะนู่นเค้าฝากบอกว่า ใครที่มีคนที่รักที่ชอบ อย่าช้าครับ ต้องรีบทำอะไรซักอย่าง”


“ฮิ้วววว”


พอดนตรีขึ้นไอ้เปาก็เอนหัวมาซบไหล่ผมแถมยังจับมือขวาผมไว้แน่น ผมเหลือบมองมัน ร้านมันมืดๆ ครับแถมคนเยอะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ไม่ใช่อะไรเพราะเมาแล้วนั่นเอง


“ง่วงหรอ”


“เปล่า อยากอ้อน”


“หัวใจเต้นแรงหน้าแดงทุกที
ใช่เธอหรือนี่ที่คอยตลอดมา
ควบคุมไม่อยู่รู้เลยว่าตัวสั่น
แค่เจอไม่นานถูกใจฉันเหลือเกิน


เจอกันแล้วอย่าผ่านเลยได้ไหม
ถ้าเสียเธอไปก็คงชอกช้ำ”



“เอ้า ร้องพร้อมกัน” เสียงดีดกีตาร์เร่งจังหวะแล้วทุกคนในร้านก็พร้อมใจกันร้อง ยิ่งไอ้คนข้างตัวผมร้องดังกว่าเพื่อนเลยครับ มันเงยหน้าจากไหล่ม้าจ้องตาผมแล้วร้องเพลงไปด้วย


“ฉันต้องทำทำอะไรสักอย่างแล้ว
ให้เธอนี้ไม่แคล้วไม่คลาดกัน
ให้เธอรู้ตัวมีคนคนอย่างฉัน
แอบมองเธออยู่ตรงนี้
รอคอยเธอตรงนี้ฉันนี่ไง”


“มึงไม่ต้องทำอะไรแล้วนี่ไอ้เปา”


ผมชูมือที่จับขึ้นมาให้มันเห็น ไอ้เปายิ้มกว้างก่อนจะซบไหล่ผมอีกครั้ง



===============
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ ทุกคอมเม้นท์เเละกำลังใจ
 :L2: :กอด1:
คนกลางอ่อนไหวกับเพื่อนมากนะคะ เพราะชีวิตไม่ค่อยมีเพื่อน555
เจอกันตอนหน้าค่ะ
พึ่งมาสังเกตว่านี่มันเป็นนิยายรายสัปดาห์ใช่มั้ย จะพยายามมาให้เร็วขึ้นนะคะ ฮึบบ
#คนกลาง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 18-06-2017 11:29:12
หวานมากกก เขินแทน แอบบิดตัวเบาๆ อู๊ยยย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 18-06-2017 11:43:02
น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-06-2017 12:00:30
โถแกล้งกันได้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-06-2017 12:23:14
เปา คนกลาง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 18-06-2017 12:23:55
โอ้วโหววว หวานหยด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 18-06-2017 13:30:21
มีความหวาน มีความซึ้ง มีความฮา.. ปนกัน..
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 18-06-2017 13:42:57
หวานมากกก เปาน่ารักเหมือนเดิมเลยยย
มดขึ้นจอเต็มไปหมดแล้วว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 18-06-2017 14:22:24
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 18-06-2017 14:48:18
คนกลางน่ารัก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 18-06-2017 15:12:27
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-06-2017 15:31:14
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-06-2017 16:07:44
ยิ่งอ่านคนกลางยิ่งน่ารักกกกกกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 18-06-2017 17:27:01
โธ่ ร้องไห้​เลยน้องคนกลางงง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 18-06-2017 19:35:49
ยาวมากค่ะ ประทับใจ :)
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-06-2017 19:57:06
ยิ้มแก้มแตกมาก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 18-06-2017 20:00:54
คือดี
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-06-2017 21:15:12
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

ตกใจเรื่องโจ๊กหมดเลยที่ไหนได้เซอร์ไพร์สวันเกิดคนกลางนี่เอง
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 18-06-2017 22:48:04
 :monkeysad: โถๆๆ  น้องคนกลางเลยต้องมาเสียน้ำตาในวันเกิด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 18-06-2017 22:55:35
น้ำตารวงเลยคนกลาง แต่มีเพื่อนที่น่ารัก
แ ละดีจริงๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-06-2017 00:10:54
ร้ายยยย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ก้มหน้าก้มตา ที่ 19-06-2017 00:44:13
สนุกมากค่ะ ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 19-06-2017 11:31:54
คนกลางเป็นคนน่ารัก
เพื่อนๆโชคดีที่มีคนกลางเป็นเพื่อน และคนกลางก้อโชคดีที่มีเพื่อนๆเป็นเพื่อน 555+
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-06-2017 17:37:28
 :กอด1: :L2: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 19-06-2017 21:33:43
อ่านไปสามสี่ตอน คนกลางน่ารัก เปากลับมาหาคนกลางแล้วอ่ายแล้วเพลินดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 17 หน้า 14 (18-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 20-06-2017 21:25:16
โอ้ยกลางน่ารัก เปาก็เท่ห์ ละมุนมาก ชอบค่ะ แต่งลื่นไหล เพื่อนพ้องเฮฮา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 23-06-2017 19:12:28
18
คนกลางกับวันเหนื่อยๆ

“ซ้ายๆ ส่งให้ไอ้เจต!”

“กูชื่อกอบ ไอ้เหี้ยแตง เจตชื่อพ่อกู!”

“เฮ้ย! ไอ้ทัพข้างหลังโว้ย แม่งตามมาทันแล้ว”

“กรี๊ดดดดดด พี่ซันคนดี”

“น้องเปา กรี๊ดดด”

แฮ่กๆ

“ไอ้กลางรับ!”

ชะ...เชี่ย กูเหนื่อย กูแทบจะวิ่งไม่ไหวแล้วเสือกส่งให้กูนะไอ้ทัพ ฟึบ! ผมรับบอลที่ไอ้ทัพส่งมาได้อย่างสวยงามแต่บอกเลยว่ากูขาแข็งไปหมดแล้วโว้ย สนามฟุตบอลมหาลัยตอนหกโมงเย็นคนยังเยอะอยู่ครับ บางคนก็มานั่งเล่นชมบรรยากาศบ้าง นั่งคุยกันบ้าง แม้ว่าจะใกล้สอบแล้วแต่ชาวคณะสินกำก็แหกปากชวนกันไปเล่นบอลได้อย่างหน้าตาเฉย และผมก็เป็นหนึ่งในนั้นในวงเล็บว่าอย่างไม่เต็มใจ

“เหี้ยกลางงงงง!! ไอ้เปาจะตามมาแล้วโว้ยย!!!”

ถึงผมจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแต่เรื่องวิ่งไม่เป็นสองรองใครครับ ผมวิ่งเร็วมาก เร็วกว่าไอ้เปาที่ตอนเด็กไม่เห็นทำอะไรนอกจากเล่นของเล่นไปวันๆ วันนี้ผมกับมันอยู่คนละทีมครับ มันวิ่งตามหลังมาเพื่อจะแย่งลูกจากผม ตำแหน่งกองหน้ากองหลังแม่งมั่วไปหมด ขออย่างเดียวได้ประตูเป็นพอเพราะคะแนนตอนนี้เท่ากับเป็นศูนย์ต่อศูนย์ ส่วนไอ้คนที่พากย์อยู่ตอนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนครับไอ้กล้วยกับไอ้เบสนั่นเอง พวกมันก็เล่นนะครับแต่ขี้เกียจเลยออกจากสนามไปพากย์บอลแทน

“คนกลางแห่งสินกำกำลังวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปที่ประตูครับ ผมน้ำพุของมันดูเผินๆ แล้วเหมือนหมาพุดเดิ้ลวิ่งเก็บบอลยังไงอย่างงั้น”

“ไม่ต้องสงสัย ทั้งสนามแม่งมันวิ่งนำอยู่คนเดียว”

“คือวิ่งเร็วมาก คนอื่นตามไม่ทันใช่มั้ยครับไอ้คุณกล้วย”

“เปล่าครับ คนอื่นเหนื่อยเลยยืนมอง”

 “ถุ้ย!”

“ปล่อยให้วิ่งไปงั้น เดี๋ยวแม่งเหนื่อยก็หยุดเอง”

 “เอาแล้วครับ ไอ้กลางหยุดชะงักอยู่ในดงผู้ชายสองคนครับ มันลังเลๆ คร้าบคุณเบสตี้”

“ตี้หน้ามึง เอ่อโทษๆ แล้วมันลังเลอะไรครับ”

“มันลังเลสงสัยว่าจะส่งบอลไอ้พี่จิ้มทีมเดียวกัน หรือจะส่งให้ไอ้เปาผัวมันฝั่งตรงข้ามดี”

“คนกลางงงงงง สู้เค้า”

“สาวๆ ที่เชียร์เบาๆ หน่อยครับ ให้คนกลางได้คิสสสนิดนึง”

“ให้กลางส่งให้กูเร็วๆ ไอ้เชี่ยอั๋นรออยู่หน้าประตูแล้ว” พี่จิ้มแทบจะถลาเข้ามาใช้ตีนตบกบาลผมแต่ในความเป็นจริงแล้วก็ได้แต่ชี้หน้าด่าผมเท่านั้น

“กลาง ขอเหอะ ถ้ากูไม่ได้ประตู พี่เช่ไม่ให้กูหยุดเล่นแน่” ส่วนไอ้เปาก็ใช้หน้าตาอ้อนวอนสุดๆ มันพูดไปด้วยหอบไปด้วย

“มึงจะหยุดคุยกันทำไม แย่งสิไอ้เปา!!! แย่งม้า!!”

ม้าไม่มีครับพี่มีแต่บอล ผมมองขวาทีซ้ายที ถึงไอ้เปาหัวเปียกจะดูดีก็เถอะ แต่ถ้ากูส่งให้มึงกูก็โดนให้มาเล่นต่อน่ะสิ ผมไม่ใช่คนดีขนาดนั้นหรอก ฮะฮ่า ส่วนพี่เช่ที่ไอ้เปาพูดถึงก็คือรุ่นพี่เดือนคณะของมัน พี่เช่เป็นหัวหน้าทีมไอ้เปาครับเป็นกัปตันที่ใช้แต่ปากไม่ใช้ตีนเลยทีเดียว  ล่าสุดกูเห็นวิ่งตามเพื่อด่าเพื่อนร่วมทีมไม่ต่างกับไอ้พี่จิ้มเลย

“ไอ้กลาง เร็ว ไอ้สัด!!”

“อ่ะ พี่จิ้ม รับ!”

“โห่!!” ถ้าเสียงเสียดายจะดังขนาดนี้ให้ผมรีเพล์ใหม่มั้ยครับ

“ไอ้กลางตัดสินใจแล้วครับ มันเลือกพี่จิ้มหนวดจิ๋ม ดับฝันคู่จริงเอ้ยคู่จิ้นของมัน เอาล่ะครับตอนนี้พี่จิ้มสับต้นขาหลอกไอ้เปาอย่างต่อเนื่อง” พี่มันก็สับจริงครับสงสัยเมื่อย...

“พี่จิ้มวิ่งหอบเป็นหมาเข้ากรอบเขตโทษแล้ว ไอ้เปาที่วิ่งตามมากว่าครึ่งสนามก็ยังพยายามต่อไป”

“เฮ้ยๆๆ มีดึงเสื้อๆ จะเจอลูกโทษนะครับ”

“กรรมการไม่เป่า เล่นต่อได้”

“ไม่ล้ำหน้าครับ พี่จิ้มยกเท้าซ้ายวงสวิงที่สวยงาม เตะเข้ามั้ย เข้าไม่เข้า ไม่เข้า!!!นะครับบบบ”

“ไอ้เหี้ย กลับไปวาดรูปต่อเถอะทำลายศักดิ์ศรีสนามบอล เตะวืดอีกต่างหากพี่กู”

กูว่าพวกมึงกลับไปเช็คสมองเถอะทำลายสถาบัน กรรมกงกรรมการไม่มีหรอกครับ มโนล้วนๆ ผมวิ่งเหยาะๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเดินหัวเปียกซกออกข้างสนามแล้วทิ้งตัวลงกับพื้นหญ้า ที่เดินออกมาคือเดินออกมาตามใจตัวเองนะครับพี่จิ้มไม่เห็นแน่นอนเพราะมันกำลังดวลอยู่หน้าประตู ตอนที่ผมเดินออกสาวๆ ข้างสนามก็กรี๊ดลั่นคือกรี๊ดผมหรือคนอื่นอันนี้ไม่แน่ใจ เหี้ย...เหนื่อยเหมือนหลอดลมจะหลุดออกจากปาก มองไปที่ไอ้เปามันยังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งครับถือว่าอดทนได้นานพอสมควร ตอนเด็กวิ่งสองสามร้อยเมตรไอ้เปามันแทบจะเป็นลม สู้เว้ยไอ้เปา ขออยู่ห่างอย่างห่วงๆ

“เชี่ย!”

ผมสะดุ้งเมื่อมีน้ำขวดเย็นๆ มาแนบกับแก้ม เริ่มมืดแล้วครับรอบสนามบอลมีไฟอยู่รอบๆ ทำให้ผมต้องหรี่ตามองคนที่ผมหลุดด่าไปเล็กน้อย

“กูเอง กินน้ำซะ อ่ะ”

“เอ้า พี่ภู หวัดดีครับ” ผมรับน้ำพลางบอกขอบคุณพี่ภู

พี่รหัสผมเองครับ พี่ภูสไตล์ดิบๆ เพราะว่าเซอร์ถุลเกินกว่าคนธรรมดาจะเข้าใจ พี่เซมองสนามหญ้าเหยียดๆ ประมาณว่ามันจะทำให้กางเกงพี่แกสกปรก เอ่อ พี่กางเกงที่เก่ากว่าหญ้าอีกครับ นั่งเถ้อ... ผมเปิดฝาขวดมองพี่รหัสตัวเองเงียบๆ วันนี้เสื้อพี่มันไม่ขาดแฮะ

“ไม่ทำงานทำการพวกมึง”

ผมวางขวดน้ำแล้วดึงหนังยางที่มัดผมหน้าออกพลางขยี้ผมให้กระจายออกแรงๆ ก่อนจะตอบพี่รหัสคนดีคนเดิมของผม

“เพื่อนพี่แหละ บังคับมา”

“ไอ้จิ้มไม่ใช่เพื่อนกู” พี่ภูว่าก่อนจะถอนหายใจแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ผม ไม่รู้ว่าถอนหายใจเพราะความสกปรกของหญ้าหรือเพราะต้องเป็นเพื่อนกับพี่จิ้มกันแน่ ขอเดาว่าเป็นอย่างหลัง

“แล้วพี่ภูมาทำอะไร”

“ก็มาหามึงนั่นแหละ ไลน์ก็ไม่หัดตอบ เห็นวิ่งเย้วๆอยู่เลยมาทัก”

“โทษทีพี่ มีอะไรด่วนมั้ย”

“ไม่มากหรอก แต่ไอ้โตมันฝากกูมาดูแลมึง กลัวเครียดตายซะก่อน กูเลยมาทำหน้าที่พี่รหัสที่ดีหน่อย”

ผมลืมไปได้ยังไงเนี่ย สองคนนี้เค้าเป็นเพื่อนกันนี่หว่า “ไม่เครียดหรอกพี่สบายดี มีเพื่อนช่วย”

“มึงมีไอ้เปานี่นะ”

ผมไม่รู้ว่าพี่ภูรู้อะไรรึเปล่า ผมหันไปมองเสี้ยวหน้าพี่ภู ส่วนพี่ภูก็พูดโดยไม่มองหน้าผม

“ก็เพื่อน...หลายคนครับ”

“เฮ้ยไม่ต้องซีเรียส กูไม่ยุ่งเรื่องมึงกับไอ้เปาหรอก” พี่ภูหันกลับมามองหน้าผม เหงื่อที่ไหลข้างขมับไม่รู้ว่ามาจากการเตะบอลหรือความกังวลของผมมากกว่ากัน ผมนั่งนิ่งและพยายามพูดออกมาอย่างอยากลำบาก

“!!...พี่ภูรู้...รู้ได้ยังไงครับ ”

“กูแอบสังเกตเอง ตอนแรกก็ไม่คิดว่าที่แซวกันจะเป็นจริงหรอก แต่ พลั่ก! กูไม่รู้ก็ควายแล้วป่ะ” ผมลูบหัวป้อยๆ ที่พี่ภูพึ่งจะผลักก่อนจะถามออกไป คำถามที่ผมอยากลองเสี่ยงดู

“แล้วพี่โตรู้...รึเปล่าครับ”

“ไอ้โตหรอ ไม่รู้สิ”

“...”

“แต่กูอยากบอกมึงไว้อย่างนึง” หน้าตาจริงจังของพี่ภูทำให้ผมใจเต้นแรง ทั้งระแวงและกังวลไปพร้อมๆ กัน พี่ภูเว้นวรรคก่อนจะมองไกลไปข้างหน้า สายตาไม่ได้โฟกัสที่จุดใด

“ไอ้กลางสิ่งที่มึงเลือกมึงต้องยอมรับผลของมันให้ได้นะ...ไม่ว่าจะยังไง...”

“...” ผมสบตาคนข้างๆ ความรู้สึกตอนนั้นมันบรรยายไม่ถูกครับ รู้แต่ว่านิ่งไป พี่ภูคลี่ยิ้มสบายๆ ส่งให้ผมแต่พอเห็นผมทำหน้าเป็นหมาหงอยพี่ภูเลยร้อนตัวขึ้นมา

“เฮ้ย หงอยทำเชี่ยไรเนี่ย กูไม่ได้บอกว่ามันผิดกูแค่สอนมึง เข้าใจมั้ย” ผมไม่ทันได้ตอบอะไรไอ้เปาก็วิ่งหัวเปียกเข้ามา

“พี่ภูหวัดดีครับพี่”

“เออดีเว้ย”

“แล้วนี่ไอ้กลางเป็นอะไรนั่งกอดเข่าซึมเป็นควายเลย” มันทักพี่ภูพร้อมเอาขวดน้ำเย็นเทใส่หัวของมันอยู่ข้างๆ พลางพยักเพยิดหน้ามาที่ผม เสื้อฟุตบอลของคณะสีขาวเปียกแนบตัวมันแต่มันก็ไม่ได้สนใจ

“ไอ้เปามึงนี่นะควายที่ไหนจะซึมวะ เดี๋ยวกูไปก่อนล่ะ”

“อ้าวพี่รีบไปไหน”

“กูไม่อยากเจอไอ้หนวดจิ้ม ไปก่อนนะไอ้กลาง ดูมันด้วยล่ะพี่มันฝากมา” มาทำให้ผมแล้วคิดแล้วตบหัวกลบเกลื่อน ผมจะเปลี่ยนชื่อจากคนกลางเป็นคนคิดมากแล้วครับ

“ครับ เจอกันพี่” มันขมวดคิ้วแต่ก็ยังไม่ยอมนั่งลงแต่กลับเท้าแขนที่เข่าทั้งสองข้างแล้วย่อเข่าก้มลงมาถามผม “เป็นอะไรครับคนกลาง”

ผมยังคงกอดเข่าก่อนจะค่อยๆ เงยหน้ามองมัน ถึงคำลงท้ายว่าครับมันจะดูกวนตีนแต่ก็รู้ว่ามันเป็นห่วง พอได้มองมันแบบนี้ผมก็ปัดเรื่องหนักอึ้งในใจผมให้ค่อยๆ คลายลง

“กูไม่ใช่คนกลาง”

“แล้วมึงเป็นใคร” มันเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าผมเริ่มต้นเปลี่ยนเรื่อง

“กูคน...เหนือ”

“หึ”

ไอ้เปากระตุกยิ้มแค่มุมปากแล้วหันหน้าไปอีกทาง แหน่ะ เห็นว่ายิ้มก็อย่าซ่อนเลย

“โอ๊ยยยยยยยยยยย ไอ้เชี่ยกลางเล่นมุขจังไรมาได้ กูนี่เบรกแทบไม่ทัน”

เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ผมเอี้ยวตัวไปมอง ไอ้เปาเอาหลังมือเช็ดจมูกแล้วกระดกขวดน้ำขึ้นดื่ม นั่งตั้งนานไม่ได้สังเกตว่ามีกลุ่มสาวๆ ยืนอยู่ด้านหลังห่างออกไปไม่ไกลนัก แล้วคนที่ตะโกนด่าผมก็คือไอ้กล้วยเพื่อนรักนั่นเอง มันเดินนำทัพสาวๆ มาทางผมไอ้เปา

“เป็นไงครับสาวๆ ได้ช็อตเด็ดเมื่อกี้มั้ย อีกคนนั่งอีกคนก้มมอง อูยยย ผมมองยังฟินตูดบิดเกลียวเลยครับ”

“เอ่อ...หวัดดีครับ” ผมลุกขึ้นแล้วผงกหัวสวัสดีกลุ่มสาวๆ พลางเอื้อมมือไปลากแขนไอ้เปาที่ยืนอยู่ข้างมาด้วย เพราะคิดว่าเป็นแฟนคลับของไอ้เปา เห็นมันจะเดินหนีต้องรีบคว้าแขนไว้ก่อนเดี๋ยวแม่งชิ่ง ไอ้เปาที่ดื่มน้ำอยู่เลยเซมาชนไหล่ผม แต่ไม่รู้ว่าการกระทำแค่นี้มันมีอะไรทำไมสาวๆ ถึงหวีดร้องขึ้นมา

“อร๊ายยยยย”

“น้องกลาง ผ้าเย็นครับลูก”

“ขอบคุณครับ”

รุ่นพี่ผู้หญิงจากมอไหนไม่รู้ครับเพราะเข็มมหาลัยไม่เหมือนมอผมยื่นถุงใส่ผ้าเย็นมาให้ พี่เค้ายืนอยู่ไกลจากผมจนผมต้องเอื้อมมือไปรับแต่ไอ้เปาเร็วกว่า เออ ขอบใจ ผมยิ้มขอบคุณพี่คนนั้นแล้วก็มองไปทางไอ้กล้วย ไหนคนที่ทิ้งผมกลางวงแบบนี้ มันยืนมองอยู่พร้อมกับไอ้เบสและไอ้ทัพ พวกมันแลบลิ้นปลิ้นตาหน่อยๆ แล้วก็โบกมือกวนตีนผมเบาๆ ส่วนพี่จิ้มยังคงวิ่งด่าเพื่อนร่วมทีมอยู่เหมือนเดิม ใกล้จะหยุดเล่นแล้วละครับ

“อ่ะ มองไรเช็ดหน้าไป” ไอ้เปาใช้มือมันบิดหัวผมให้กลับมามองพี่ๆ ข้างหน้าด้วยความรุนแรงระดับสาม คอจะเคล็ด

“แต้งกิ้ว” ผมรับผ้าเย็นที่ไอ้เปาแกะให้มาเช็ดหน้า แอบเห็นสาวๆ อมยิ้มกันใหญ่ มีอะไรกันหรอครับ ผมเริ่มเคอะเขินกับกล้องและมือถือที่ทุกคนร่วมใจกันยกขึ้นมาถ่าย จะเนียนออกไปไอ้เปาก็ส่งเสียงขู่อยู่ในลำคอ อะไรของมึงอยู่คนเดียวไม่ได้ไง๊ แฟนคลับมึงนะ นึกขึ้นได้ว่ามันคงอยากให้ผมช่วยถือของก็เลยยืนอยู่ต่อครับ ผมตอบคำถามแฟนคลับไอ้เปาที่ชวนคุยบ้างแต่ส่วนมากจะคุยกับไอ้เปาซะมากกว่า

“เปาเมื่อไหร่จะมีผลงานอีก”

“คงปิดเทอมนู่นแหละครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยรับงาน” ไอ้เปาตอบแล้วก็ยื่นมือไปรับของจากด้านข้าง “ขอบคุณครับ”

“น้องเปาขอถ่ายรูปหน่อย”

“สภาพนี้ได้มั้ย”

“ได้ ไม่งั้นจะขอหรอ”

ผมเขยิบตัวออกห่าง สองมือก็ถือของฝากของไอ้เปา ช่วงนี้ก็เป็นแบบนี้บ่อยๆ ครับ แฟนคลับไอ้เปาใจดีมากชอบซื้อของมาให้ตลอด แต่ไอ้เปามันก็บอกว่าไม่ต้องมาหาก็พอแล้วแต่บางคนก็ขอให้รับไว้เพราะอยากให้จริงๆ บางทีก็ลามมาถึงผมด้วยครับ อย่างที่บอกว่าแฟนคลับไอ้เปามีกลุ่มนึงไม่ได้เป็นคนดังอะไรมากมาย ไอ้เปากับพี่ๆ แฟนคลับก็เลยคุยกันได้ทุกคนครับ

“น้องกลางอยู่ข้างเปาแหละค่า ไม่ต้องเขยิบ ถ่ายคู่เลย”

“เอ่อ...ครับ” ปฏิเสธอะไรไม่ได้ก็ต้องถ่ายสภาพเหมือนลูกหมาตกน้ำอยู่แบบนี้แหละครับ

“โอ๊ย เสื้อเปียกเซ็กซี่เว่อร์ กลางหวงเปามั้ย”

ผมทำหน้าสงสัยมองตามมือที่ชี้ไปที่เสื้อไอ้เปาก็เลยถึงบางอ้อ ส่วนเสื้อผมสีเหลืองมาสตาร์ดครับยืมมาจากพี่จิ้มอีกที ส่วนไอ้เปามันใส่เสื้อขาวครับพอเปียกน้ำเห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องมันชัดเจน ผมยื่นมือที่ยังว่างไปดึงเสื้อมันให้ออกห่างจากตัว ดูไม่เรียบร้อยครับเห็นเนื้อหนังขนาดนั้น ไอ้เปามองหน้าผมแล้วก็ยิ้มมุมปาก เสียงแชะๆ ก็ยังดังมาต่อเนื่อง

“กรี๊ดดด หวงสินะ....”

เอ่อ แค่...แค่ดึงออกเฉยๆ ดึงเฉยๆ ครับ ผมคงทำหน้างงจนไอ้กล้วยหวีดเหมือนเจ้าเข้า

“โมเม้นท์ครับทุกคนนนน กล้วยตัวบิดแล้ว”

แล้วแฟนคลับก็หัวเราะกันใหญ่ พูดคุยถ่ายรูปไม่นานไอ้เปาก็ขอตัว ไอ้กล้วยเลยปรี่เข้ามาหา มันพูดด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้ง

“น้องกลาง เอาคุ้กกี้มั้ย ขนมมั้ย เอากันมั้ย”

“ไอ้กล้วยเดี๋ยวกูยัน” ไอ้เปาขมวดคิ้วทำหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันด่วน เมื่อกี้ยังยิ้มอยู่เลย

“โทษๆๆ พูดผิดครับเพื่อนครับ ไอ้กลางเพื่อนกูดังแล้วโว้ย” มันตบหัวผมดังฟังชัด มึนเลยกู ได้ข่าวว่าไม่ใช่แฟนคลับผม

“ไอ้กล้วยมึงไปตบอะไรขนาดนั้น มันสมองของเอกเรานะสาส ดูดิไอ้เปามองแรงเลย”

“เชี่ยๆๆ เพื่อนกล้วยขอโทษเพื่อนกลางค้าบ”

“วันนี้มึงหลายดอกนะ เดี๋ยวโดนยำตีน”

ไอ้เปายกนิ้วขู่คาดโทษส่งให้ไอ้กล้วย มันวิ่งหลบหลังไอ้เบสแต่หน้าตาก็ยังไม่สำนึก และเสียงสวรรค์ก็ลงโทษไอ้กล้วย

“ไอ้เชี่ยกล้วย!!!”

“ค้าบพี่จิ้ม”

“เอาบอลไปเก็บหลังรถกูให้ไว!”

“คร้าบบบบ”

“กลัวยิ่งกว่าเมียอีก”

“พูดไรไอ้ทัพ!”


“เปล่าครับพี่”

“พวกมึงอะเล่นไม่ได้เรื่อง สรุปวันนี้เสมอ”

“โหยพี่ เล่นกีฬาให้เสียเหงื่อ ดีกว่าเล่นตัวให้เสียเวลาครับพี่”

“เออไอ้สัด! แล้วมึงจะอ้อยอิ่งอีกนานมั้ยวิ่งไปเอาลูกบอลที่ไอ้เช่ให้กูด้วย เร็วเข้ามันเดาะอยู่นั่น บ้าพลังไปไหนกูเหนื่อยโว้ย”

“เหนื่อยเพราะเล่นบอลหรอพี่”

“เหนื่อยกับมึงเนี่ยไอ้กล้วย!”

พวกผมมองไอ้กล้วยที่วิ่งไปไหว้พี่เช่เพื่อขอลูกบอล มันโดนสั่งให้วิดพื้นสองสามทีก่อนที่พี่เช่จะส่งลูกบอลให้ ส่วนไอ้พี่จิ้มก็บ่นจังเลยไม่ได้สกอร์เนี่ย พี่จิ้มยืนด่าๆ ทุกสรรพสิ่งก่อนจะเดินนำออกไปพร้อมกับไอ้กล้วยที่กุมเป้ากอดลูกบอลตามหลังต้อยๆ

“อ่ะพ่อคนหล่อทั้งสองของกินทั้งหลายเชิญเอาไปด้วย อันไหนไม่แดกให้กูได้”

แล้วพวกเราก็ช่วยกันเก็บของแล้วตะโกนบอกลาพวกพี่ๆ เฮ้อ เหนื่อยครับ อยากพักแต่ต้องปั่นงานกับอ่านหนังสือสำหรับไฟนอลที่ตอนนี้ไฟลนมากจริงๆ ครับ ผมจะต้องเริ่มทำงานซักที...


เริ่มทำงาน


เริ่มทำซักที

.
.
[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 23-06-2017 19:24:24
[ต่อจากด้านบน]
.
.
.

“มึงนั่งๆ กันไปก่อน กูจะไปเอาเนื้อกับซูชิ”

“ไอ้ทัพ กูไปด้วยจะไปเอากุ้งแช่น้ำปลา”

“เออๆ กูเอาด้วยสองจาน เฮ้ยไปด้วยดีกว่า”

ครับ...

บุฟเฟ่ต์ชุดใหญ่เนื่องในโอกาสวันเกิดอยากจะกินแบบกะทันหัน เรื่องมันเกิดขึ้นว่าวันนี้เราไม่มีเรียนเลยตกลงกันว่าจะทำงานของตัวเองที่ห้อง ผ่านมาครึ่งวันตัวนำอย่างไอ้กล้วยเช่นเคยก็อยากจะกินขึ้นมา มันเลยนัดกันตอนเย็นแล้วมันก็ต้องลากผมกับไอ้เปาออกมาด้วย ไม่ใช่อยากให้เพื่อนได้กินอะไรอร่อยๆ นะครับ จะได้มีคนขับรถ ผมกับไอ้เปาเลยตกลงที่จะเจอกันที่ร้านครับเพราะไอ้เปามันจะตามมาทีหลัง พอมาครบพร้อม ของกินละลานตาขนาดนี้เพื่อนผมทั้งสามคนก็เนื้อเต้น อยากกินนู่นกินนี่ไปซะหมด

“ช่วงสอบนอนด้วยกันมั้ย” ไอ้เปาเอ่ยขึ้นขณะที่ผมกำลังจัดระเบียบของบนโต๊ะที่เพื่อนผมทยอยเอาจานมาวางเรื่อยๆ

“เฮ้ย! ทะลึ่งละ”

“เชี่ย ไม่ใช่ แบบว่ามาค้างด้วยกันมั้ย หมายถึง...อ่านหนังสือ”

“เออๆ รู้แล้วไม่เห็นต้องหน้าซีดเลย”

“เออนั่นแหละ ขอนอนด้วยได้มั้ย”

“นอนห้องกูอ่ะนะ”

“ได้มั้ยล่ะ ใกล้มอด้วย”

“เอาดิ”

“มึงไม่...เอ่อ...ไม่ว่าอะไรใช่ป่ะ”

ปกติแล้วมันก็มักจะมานอนด้วยครับแต่ไม่ยักจะเคยขออนุญาต วันนี้นึกครึ้มอะไรไม่รู้ ผมเอาแก้วน้ำไปวางในด้านในสุดของโต๊ะก่อนจะตอบมันออกไป “ว่าทำไมวะ มึงก็มาค้างออกตั้งบ่อย”

“เออๆ กูคิดมากไปเองแหละ” เสียงมันสะบัดรึเปล่าครับ เหลือบมองไอ้เปาที่ตอนนี้เอโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ หลังจากบ่นอะไรของมันเสร็จ

“พวกมึงนี่ใส่เสื้อคู่มาหรอวะ” ไอ้เบสทักหลังจากที่มันเดินเอาจานเบค่อนกับหมูสามชั้นหลายจานมาวาง

“คู่อะไรล่ะก็เสื้อสีดำธรรมดา” ผมใส่เสื้อแขนยาวมีฮู้ดแบบหนาครับ ไม่ได้บ้านะครับวันนี้หนาวจริงๆ ฝนตกทั้งวันแถมยังออกมานั่งในห้องแอร์เย็นแบบนี้ ผมยังไม่อยากเป็นหวัดช่วงทำงานซะด้วย ส่วนไอ้เปาก็ใส่เสื้อยืดสีดำ บอกเลยว่าพวกผมธีมดำโดยไม่ได้นัดหมาย ไอ้เปาสวมสร้อยสีเงินสองเส้นคล้องๆ กันอยู่ที่หน้าอก และวันนี้พี่ท่านใส่หมวกสีดำมาด้วยครับแต่หันปีกหมวกไปด้านหลัง มันบอกกลัวผมเหม็น หมวกผมมึงจะเหม็นแทนนะไอ้เปา

“งอนไรกัน”

“เปล่านี่ กูไปตักได้ยังอะ” ผมทำท่าจะลุกแต่ไอ้เปาที่นั่งปิดทางอยู่ข้างผมก็กดโทรศัพท์ไม่สนใจใคร แต่ไอ้เบสส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่ต้อง เอาไรเดี๋ยวไปเอาให้ มึงก็ง้อแฟนมึงซะ”

“ก็ได้ งั้นเอาผักด้วย แต่ไม่เอาเห็ดนะ”

“จัดไป”

พอได้เบสพยักหน้ารับผมก็หันไปหาไอ้เปา “ไหนทำไรอยู่อะ”

ไอ้เปาไม่ตอบครับ เอาแต่กดอะไรไม่รู้ยิกๆ ผมเลยชะโงกหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ มันยังไม่สนใจอีก เอียงหน้าจนเมื่อยแล้วเลยซบไหล่มันละกัน แต่ตาก็ยังพยายามมองไอ้ที่มันกดอยู่ครับคือผมเมี่อยแต่ก็อยากรู้ไง ไอ้เปาเหลือบตามามองเล็กน้อย

“นี่ง้อ?”

“ง้อแล้วก็ไม่รู้มึงโกรธอะไร”

“ไม่ได้โกรธมึงหรอก แค่กำลังคิดว่าตัวเองงี่เง่า” มันเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า

“แล้วทำไรอยู่” อยากจะต่อด้วย มือถือมันมีอะไรน่าสนใจหรอถึงเมินกูเนี่ย แต่ก็ไม่ได้พูดออกไปครับ

“เซฟรูปมึงอยู่”

“เฮ้ย รูปอะไรวะ” ผมเด้งหัวออกมาจากไหล่มัน ยื่นหน้าไปดูจอมือถือจนไอ้เปาส่งสายตาเอือมก่อนจะผลักหัวผมออกห่าง

“รูปวันนั้นไง แฟนคลับถ่ายมึงด้วยเพียบเลย มีตลกๆ ด้วยกูอยากได้”

“รูปนี้น่าเกลียดว่ะ” ผมชี้ไปที่รูปที่ค้างอยู่หน้าจอโทรศัพท์ไอ้เปา มันเป็นพวกไม่อัพเดตครับแต่เป็นสายส่อง มีอัพขอบคุณแฟนคลับบ้างแต่เรื่องส่วนตัวนี่กริบ

“เอ้าๆ ผมเอาจานมาวางไว้นานแล้วจะรอให้หมูมันกลับไปเป็นตัวรึไงครับพวกมึง ปิ้งสิปิ้ง เอ้อ ให้มาแดกไม่ใช่เปลี่ยนที่คุยกัน โอเค๊” ไอ้คอหล่น...พวกมันกลับมาแล้วครับ มันสามคนกลับมาพร้อมอาหารเต็มมี พวกของทอด อาหารว่างเอามาหมด

“ทีพวกมึงอะ ไปตักอะไรนานขนาดนั้น ช่วยเค้าให้อาหารหมูหรอ”

“ไอ้กลางพูดมาก มึงปิ้งให้กูด่วน หิวแล้ว คนมันเยอะโว้ย ฝนตกก็เข้ามาหลบฝนอะไรกันในร้านบุฟเฟ่ต์” ไอ้กล้วยบ่นก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เป็นคนสุดท้าย

“พาลแล้วไอ้กล้วย แค่หญิงที่เล็งไว้มากับแฟนแค่เนี้ย”

“แค่นี้ไรไอ้สัด เสือกมาตักหมูบดตัดหน้ากูอีก เดี๋ยวกัดคอแม่ง”

“เฮ้ยๆๆ เค้ามากับผั...เอ๊ย แฟนเค้าเพื่อน”

“ลืมตัว เห็นซอกคอหอม”

“จิตไปนะมึง แล้วเดินผ่านแค่สามวิเองไอ้เหี้ย”

ผมนั่งฟังพวกมันคุยกัน ส่วนมือก็จับที่คีบเพื่อปิ้งเนื้อปิ้งหมูให้เพื่อน ไอ้เปาก็ทำดีมากครับช่วยผมปิ้ง ในฐานะที่เราสองคนนั่งอู้เฝ้าโต๊ะ

“เออดีทำหน้าที่ได้ดี ขอมีเดียมนะ”

“นี่ครับท่านเพื่อนเชิญแดกสำรับครับ” ผมคีบเนื้อหมูแจกจ่ายให้เพื่อนแล้วก็เปลี่ยนมาตักผักให้ไอ้เปา “ไอ้เปาอ่ะผัก”

“ทำไมกูได้ผักอะ”

“อ๋อ เดี๋ยวหมูตาม เอาผักไปก่อน มันเป็นเพื่อนกันเดี๋ยวตามกันไป”

“ไอ้กลางปัญญาอ่อนสัด”

“ไอ้เบส กูเพื่อนมึงนะ”

“ฮ่าๆ ไอ้เปารอแปบหมูกำลังเดินทางไปหามึง แวะเติมน้ำมันอยู่” ล้อกูอีก ไอ้เปาก็กลั้นขำอย่างเดียวเลย

“แล้วมึงกินด้วยไม่ใช่ให้แต่คนอื่น”

เออ นึกว่าจะไม่มีคนพูดประโยคนี้ซะแล้ว เอาแต่คีบเนื้อสัตว์มาวางบนเตาแต่ไม่ช่วยกูพลิกซักคน พอไหม้ก็ด่ากูอีก มีแต่ไอ้เปา นามสกุลนกกระปูดนี่แหละเห็นใจผม ตักหมูที่ลวกมาให้ผม ฮือ ร้องไห้ซึ้งใจ ผมหันไปมองมันด้วยความตื้นตัน

“ไม่ต้องทำตาซึ้ง กินไปเดี๋ยวไม่มีแรงปิ้งให้พวกกูต่อ”

“ไอ้ฝัด!”

กินไปซักพักทุกคนก็เริ่มสปีดช้าลง กิจกรรมที่ทำระหว่างพักท้องคือการกดมือถือ ส่วนผมก็ได้ปิ้งให้ตัวเองบ้างแล้วครับ คือพวกมึงจะขนมาหมดร้านเลยหรอ เยอะมากครับผู้ชายห้าคนกับอาหารเป็นกอง อย่าเรียกว่ากองเรียกว่ามหึมาอาหารจะดีซะกว่า

“โอ้โห รูปนี้เด็ดดดด” จู่ๆ ไอ้กล้วยก็ร้องขึ้น

“ริกะจังอัพใหม่หรอ”

“อัพรูปอ่ะนะ?”

“เปล่า อัพนม! ไอ้เหี้ยทัพเสื่อมสัด”

“เอ้าก็เห็นมึงสายญี่ปุ่น”

“กูก็ดูสถานที่ป่ะ นี่สาธารณะนะครับเพื่อน จะให้กูเปิดในร้านนี้ก็ยังไงอยู่”

“เออโทษๆ แล้วตกลงรูปไร”

“ก็รูปไอ้เปากับไอ้กลางอะ เมื่อกี้เลย”

พอได้ยินชื่อผมก็เงยหน้าจากการจ้วงกินอาหารอยู่ ไอ้กล้วยยื่นมือถือมากลางวงครับ ผมถึงกับร้องอุทานเป็นสัตว์เลื้อยคลานทันที อย่าบอกว่างูนะครับ ไม่ใช่! เชี่ยย รูปที่ถูกโพสต์จากแฟนเพจไอ้เปาเองครับเป็นรูปมันนั่งก้มหน้ากดโทรศัพท์แล้วมีไอ้กลางซบหน้าเพื่อมองจอด้วยความเผือก เสื้อยืดสีดำของเราทำให้โคตรเด่นเพราะผิวขาวทั้งคู่ ดีที่เราก้มหน้าครับเพราะผมก็ปิดไปเกือบครึ่งหน้าแต่ดูยังไงก็ผมกับไอ้เปาชัดๆ รูปมันไม่มีอะไรครับแต่พอเห็นตัวเองถูกแอบถ่ายแบบนี้ก็เริ่มหวาดระแวง แต่ดูเหมือนไอ้เปามันจะเฉยๆ มันเหลือบดูแวบนึงก่อนจะก้มหน้ากินต่อ

“แฟนคลับพวกมึงนี่ก็เริ่มน่ากลัวนะ” ไอ้เบสพูดพลางมองซ้ายขวา

“พวกกูจะถูกแอบถ่ายมั่งมั้ยอ่ะ”

“จ้า พ่อคนดังในความคิดตัวเอง ไอ้เปากับไอ้กลางนู่นมันกำลังเป็นที่พูดถึง”

“อะไรวะ” ผมถามขึ้น พูดถึงอะไรช่วงนี้ก็ไม่ได้ทำไรนี่

“ไอ้ควายกลาง มึงมันเด๋อ”

“ไอ้เปากูโดนด่า พอโดนด่าแล้วมันปิ้งไม่ออกอ่ะ” ฟ้องแม่งเลย ไอ้เปาเลิกคิ้วหันหน้าไปทางเพื่อนคอหล่นที่นั่งฝั่งตรงข้าม

“ไม่ว่าแล้วววว โอ๊ยกระเพาะกูร้องอีกแล้วต้องการเนื้อมาเติมเต็มด่วนๆ”

แหม...เมื่อกี้ยังด่ากูไฟแลบ ผมปิ้งไปด้วยพลางเลื่อนดูคอมเม้นท์ไปด้วย เป็นสายส่องตามไอ้เปาอีกคนครับ


Paramatfc ช่วงนี้เรือเรากำลังแล่นค่ะ
โมเม้นท์เยอะเกิน เกินเพื่อนก็บอกมาเถอะ
วันนี้ล่าสุดสองคนนี้ไปกินบุฟเฟ่ต์ค่ะแต่ไม่ทราบว่าโลกเอียงหรอทำไมต้องซบขนาดนั้นนน
Cr.รูปจากหลังไมค์ค่ะ
Jyjinny วงในบอกว่าเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กของกันและกันค่ะ
Kaoworldy น่ารัก ฮือออ
Hardcore สองคนนี้ใครครับ ปล.ขาวจัง ส่วนคนซบเห็นแล้วอยากใส่ให้ร้องเลยครับ
Deejaa เม้นท์ข้างบนแรงเว่อร์
Zepia คนนี้ใช่แฟนป่ะคะที่เปาเคยลงในไอจี
Nanngai @zepia เฮ้ย คนนี้ผู้ชายนะคะ ไม่น่าใช่...
Hamona เป็นก็ดีจ้ะ ชอบบ

ถึงไอ้เปาจะเฉยๆ แต่ผมอ่านคอมเม้นแล้วแทบจะสำลักน้ำ อยากเห้อะไรวะครับ ผมผู้ชายนะ ไอ้เปาลูบหลังผมเบาๆ แล้วดึงโทรศัพท์ออก มันจะกดปิดจอแต่ก็ไปเห็นคอมเม้นท์ซะก่อน ไอ้เปาขมวดคิ้ว หน้าเริ่มบึ้งแล้วครับ

“ไอ้เชี่ยนี่อยากใส่เหี้ยไรวะ!”

“โมโหๆ เมื่อกี้ยังนิ่งอยู่เลย” ไอ้เบสพูดยิ้มๆ

“เค้าคอมเม้นท์เฉยๆ ไม่มีไรหรอก”

กลายเป็นว่าผมต้องลูบหลังคอให้มันใจเย็นๆ ที่ผมสำลักนั่นตกใจมากกว่าครับไม่คิดว่าจะมีคนพูดแบบนั้น แถมเป็นผู้ชายด้วย ปกติเจอแต่เพื่อนพูดเล่นๆ ใส่เลยไม่คิดอะไร ไอ้เปาสบถก่อนจะเอาโทรศัพท์ตัวเองมากดพิมพ์ข้อความ

“มึงทำไรวะ”

“บอกเค้าไม่ให้เอารูปมึงลงอีก”

“เฮ้ย” ผมร้องที่ร้องเพราะว่าไม่อยากให้ไอ้เปามีปัญหากับกลุ่มแฟนคลับ “กูไม่ได้เป็นอะไร”

“แต่กูเป็น...” ไอ้เปามันคงหงุดหงิด “กูไม่อยากให้ใครพูดแบบนี้กับมึง” มันพูดอย่างจริงจัง

“โอเค ตามสบาย”

มันบอกว่าพี่แอดมินก็บอกขอโทษครับแต่ไม่ลงรูปเลยก็เป็นไปไม่ได้ พี่เค้าจะลบคอมเม้นท์ที่พูดจาไม่ดีให้ ผมเก็บมือถือของมันใส่กระเป๋าตัวเอง ถ้าดูแล้วไม่สบายใจก็อย่าดูเลยครับ คนกลางๆ อย่างผมแนะนำ เพื่อนอีกสามคนเห็นบรรยากาศไม่ค่อยดีเลยหาเรื่องคุยครับ เริ่มบทสนทนาจากไอ้กล้วย

“พวกมึงคุยกับพวกกูบ้าง เหง๊าเหงา”

“ตอมากเชี่ยกล้วย เหงาไรคีบหมูเข้าปากไม่หยุด”

“เออ ปิดเทอมไปเที่ยวกันมั้ยวะ”

“สอบมึงยังไม่เริ่ม คิดเรื่องเที่ยวอีกละไอ้ทัพ”

“เออดิ เป็นเฟรชชี่อยากทำไรต้องทำ เดี๋ยวมึงจบไปจะได้เที่ยวกันอีกเมื่อไหร่”

“ดราม่าซะงั้น เอาไงพวกมึง”

ไอ้เบสหันมาถามพวกผมสองคน ไอ้เปาเลิกคิ้ว บรรยากาศเริ่มสดใสขึ้นมาบ้าง มันขยับปีกหมวกมาด้านหน้า ตอนนี้เห็นแค่ปลายจมูกพ่อเซเลปเค้าล่ะครับ

“ไงก็ได้ ไอ้กลางไปกูไป”

“ตั้งแต่มีแฟนคิดเองไม่เป็น” ได้ความมองแรงจากไอ้เปาเป็นคำตอบครับ

“กูดีลนะ คิดว่าพอหลังสอบกูต้องว้อนท์อะไรแน่ๆ การสอบต้องทำร้ายจิตวิญญาณของกูแหง” ไอ้เบสตอบแล้วก็ยกน้ำแก้วน้ำมาดื่มอึกใหญ่ ผมมองตามแล้วถึงกับกลืนน้ำลายตัวเองไปด้วย กูหิวน้ำหรอหรือไง

“กูไปได้ก่อนกลับอีสาน มึงอะไอ้กลาง” เกือบสะดุ้งที่ไอ้ทัพ เด็กโคราชหันมาถาม

“อะ...ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะ”

ผมว่าพลางนึกโปรแกรมหลังสอบว่าต้องทำอะไรบ้างก่อนกลับบ้าน อยู่ๆ เสียงไอ้เล็กก็แวบเข้ามาในสมอง แล้วไอ้เปาก็จะมานอนหออีก แต่ไอ้เล็กส่งข้อความมาบอกว่าจะมาวันศุกร์กลางคืน ผมสอบเสร็จพฤหัสตอนบ่าย ไม่น่ามีปัญหา

“เออ ไอ้เปาที่มึงจะไปนอนหอกูอะ น้องกูจะมาหลังจากสอบนะ” ผมบอกไอ้เปา คือกูต้องก้มหน้าเพื่อคุยกับมันเลยนะครับ หมวกมันนี่ขอซื้อต่อเอาไปทิ้ง มันยังไม่ทันตอบไอ้กล้วยก็ร้องขึ้นมา ตอนนี้ต่างคนต่างนั่งคุยแล้วครับ ท้องอิ่มแล้วดิ

“เดี๋ยวๆๆ นอนอะไร ไอ้เปามึงวางแผนไรป่ะเนี่ย”

“แผนไรไอ้สัด อยากอ่านหนังสือด้วย” ไอ้เปารีบตอบ ก่อนจะบ่น “เวลาสอบใครจะวางแผนทำไร”

“กูยังไม่ได้บอกเลยว่าทำไร คิดไปเองงงง”

“งั้นพวกกูไปด้วยได้ป่ะ อยากอ่านด้วยคน” ไอ้เบสถามยิ้มๆ ไอ้เปาตอบกลับแบบไม่มีเสียง

“เสือก”

“ฮ่าๆ แล้วมึงมีน้องตั้งแต่เมื่อไหร่ อายุเท่าไหร่ ผู้หญิงผู้ชาย” ไอ้ทัพที่นั่งหัวเราะเอ่ยขึ้น

“มีน้องตั้งแต่น้องเกิด”

“อึก เกือบสำลัก” ไอ้ทัพใช้มือเช็ดมุมปากที่น้ำเป๊บซี่ไหลออกมา “เดี๋ยวนี้มึงพัฒนานะไอ้กลาง”

“ล้อเล่นน่า ไอ้เล็กน้องกูอยู่มอปลายมันจะมาดูโอเพ่นเฮ้าส์พอดี จะได้กลับบ้านพร้อมกัน” เรื่องนี้ไม่ได้บอกไอ้เปาครับ รู้ตัวอีกทีมันก็เท้าคางจ้องผมแล้ว ผมเลยหันไปบอก “ว่าจะบอกอยู่ลืมเลย แหะๆ”

“แต่น้องมาด้วยงี้มึงจะได้ไปเที่ยวมั้ยไอ้กลาง กูไม่อยากแผนล่มนะสาส” ไอ้ทัพรีบถามต่อ

“จะยากไรไอ้สัดชวนน้องมึงไปเที่ยวด้วยกันก่อนแล้วค่อยกลับบ้านดิวะ”

“เออไอ้โง่” ไอ้กล้วยตบหัวไอ้ทัพดังลั่น

“เออเดี๋ยวกูชวนมันดู”

“เอ้า ไอ้เปาเงียบเลยวุ้ย เกรงใจน้องเมียหรอ”

“น้องมางี้ทางสะดวกป่ะว้า...”

“ทำอะไรลำบากแล้วล่ะเพื่อนกู”

ไอ้สามตัวล้อไอ้เปาใหญ่ ผมแอบขำพอเห็นหน้าตากวนตีนของพวกมัน แต่พอหันกลับมาเท่านั้นแหละไอ้เปาจ้องหน้าผมนิ่ง ขนาดไม่ได้สบตากับมันยังรู้สึกถึงรังสีควาย เอ่อ ความอันตราย ผมเบือนหน้าทำทีไปหยิบซูชิมากิน โห อร่อยว่ะ

“น้องแฟนก็เหมือนน้องเรา” ไอ้เปาพูดขึ้นเสียงเรียบ

“...”

“จะเอ็นดูให้หนักๆ เลย”

“ว้ายยยย จัดใหญ่ไปอีกเพื่อนกู”

ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ

เออ มึงเจอไอ้เล็กตัวจริงก่อนค่อยพูดก็ได้

“น้องมึงต้องน่ารักเหมือนมึงแน่เลย”

ไอ้กล้วยพูดเพ้อๆ ไอ้ทัพกับไอ้เบสก็เริ่มคุยกันเรื่องสถานที่จะไปเที่ยว ผมเสหลบตาไอ้เปาแล้วตอบไอ้กล้วย



“เออ น่ารักโคตรๆ”



.
.
“น้องมึงมาวันไหนนะ”

ตอนนี้เรากำลังกลับครับ ผมมองตัวเลขสีแดงที่นับถอยหลังร้อยแปดสิบห้าวิ ฝนหยุดตกแล้วและเราก็ไปส่งไอ้สามหน่อนั่นเรียบร้อย วันนี้ไอ้เปายังไม่ค้างกับผมเลยต้องวนมาส่งผมอีกรอบ บอกจะกลับเองก็ห้ามเสียงแข็ง ตามใจพี่เลยครับ

“บอกว่ามาวันศุกร์เย็นก็ถึงวันเสาร์เช้าอะ” มันมารถทัวร์ครับ ดีนะไม่มารถไฟ พอไอ้เปาได้ยินก็สวนกลับมาทันที

“สอบเสร็จก็จะอยู่กับน้อง แล้วกูอะ”

วันนี้มันงอนบ่อยจัง ผมหัวเราะก่อนจะเอามือไปขยี้ผมมัน ตอนนี้มันถอดหมวกแล้วครับเพราะผมบังคับมันเอง

“มึงทำไมล่ะ” ผมถามกลับขำๆ แต่รู้สึกว่ามันไม่ขำด้วย มันหันหน้าจากการมองถนนมามองผมแทน สายตาจริงจังทำให้ผมทำตัวไม่ถูก

“กูต้องการเวลา”

“เวลาอะไร”

“เวลาอยู่กับมึงมั่งไง ไปเที่ยวด้วยกันสองคนบ้าง”

“นี่เราแทบจะอยู่ด้วยกันทุกเวลาแล้วนะ แล้วมึงก็จะมานอนกับกูนี่ อาทิตย์นึงใช่มั้ย”

ที่มันขอมานอนกับผมเพราะรู้สินะว่าผมจะกลับบ้าน ไอ้เปามันไม่มีบ้านอยู่ที่เชียงใหม่แล้วครับ บ้านเก่าหลังนั้นก็กลายเป็นบ้านร้างไปซะแล้ว มันก็คงต้องอยู่กรุงเทพฯ ได้ข่าวว่ารับงานไว้ด้วย

“ที่มานอนกับกูกลัวกูทิ้งกลับบ้านแล้วจะเหงาหรอ” ผมแหย่ ไอ้เปามันขมวดคิ้วแต่ก็เอนตัวมาหาผม หางตาผมเห็นมาเลขที่แสงมันเริ่มจะลดลงเหลือแปดสิบแล้ว

“ที่กูมาอยู่กับมึงอะ...”

“...”

“เพราะว่ากูเป็นห่วง”

“...”

“กลัวมึงทำงานแล้วไม่กินข้าว กลัวมึงไม่นอน กลัวมึงเครียด อยากมาอยู่เป็นเพื่อนเท่านั้นเอง” ผมยิ้มรับรู้และเข้าใจครับ มันเคยบอกว่าอย่าห้ามเลยเพราะมันอยากทำ

“อ้าวนี่เราเป็นเพื่อนกันหรอ” ผมทำเสียงตกใจตอบกลับมันไป

“กวนตีน”

“จริงๆ ก็ถูกนะ”

“ไม่ใช่เพื่อนโว้ย พูดอีกทีกูจับจูบแม่ง มึงไม่รอดหรอก นี่อาณาเขตกู”

“คบกันเป็นทั้งเพื่อนทั้งแฟนไง ไม่ดีหรอ”

“ถึงเหตุผลจะพอใช้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้กูหายหงุดหงิด”

“แล้วทำไงหายหงุดหงิด”

“คิดดิ เรียนเก่งไม่ใช่หรอ” มึงแค้นไรกูเนี่ยเปา ผมหลุบตามองริมฝีปากสีแดงอ่อนแบบสุขภาพดีแล้วก็ใจเต้นแรง แล้วนี่ผมจะเขิน
ทำไมครับ มึงไม่เคยเห็นปากไง๊ไอ้กลาง

“ให้กูแวะซื้อพวงมาลัยกราบมึงหรอ” ผมกวนมันอีกทีถึงแม้จะรับรู้แล้วว่ามันจะให้ง้อยังไง

“เร็วๆ อีกสามสิบห้าวิ ไม่ทำ ไฟเขียวกูก็ไม่ไปอ่ะ”

“แม่ง อย่าให้ถึงทีกูมั่งนะ”

มันเร่งแต่ผมก็ยังไม่เริ่มซักที มันเลยเอามือมาจับหลังคอผมให้เข้าไปใกล้ เดี๋ยวนี่มึงเริ่มเองแล้วไอ้เปา เข็มขัดนิรภัยไม่ใช่ปัญหาสำหรับมันเลย

“อื้อ!”

“บอกให้ทำไรก็ไม่ฟังมึงเนี่ย”

มันกดจูบค้างไว้ไม่นานก็ผละออก แต่ตอนจะผละกลับแกล้งผมด้วยการดูดปากผมโคตรแรง ผมนั่งนิ่งไปแล้วครับรู้สึกถึงความร้อนที่กระจายทั่วใบหน้า มือไม้ไม่รู้จะไว้ตรงไหน ให้ตายเถอะไม่ชินจริงๆ เลยไอ้แบบเนี้ย ไอ้เปาหัวเราะในลำคอที่เห็นผมเอ๋อ พอดีกับที่ไฟแดงนับถอยหลังจนหมด มันออกตัวพร้อมกับพูดแล้วส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่ได้เรื่อง”


ผมกัดปากล่างเบาๆ



เออ...ไม่ได้เรื่องก็หยุดยิ้มดิ มึงอ่ะ


===========
พยายามเเล้วว มันก็ช้าจนได้ กราบขอโทษค่ะ
เรามีทวิตเตอร์สำหรับนักอ่านเเล้วนะคะ เย้
อยากมีพื้นที่เล็กๆ ไว้พูดคุยกัน อิอิ
จิ้มได้  jaevin  (https://twitter.com/jaevin3)
เรื่องนี้พึ่งจะเริ่มอัพในเด็กดีเหมือนกันค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามมากๆเลย
 :L2:
ใครคิดถึงเล็ก น้องมันกำลังจะมาโดยไม่รู้ตัวค่ะ
เจอกันตอนหน้าเด้อออ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 23-06-2017 20:24:22

ตั้งตารอน้องเล็กเลยจ้า
เปามีงอนแน่ๆ ถ้าน้องเล็กมา อิอิ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 23-06-2017 20:34:35
โอ้ยยยยยยยย

เหม็นความรัก

น้องเล็กมาไล่กลิ่นทีลูก

ตอนหน้าต้องสนุกแน่ๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-06-2017 20:50:02
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sebest ที่ 23-06-2017 21:01:52
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 23-06-2017 21:13:01
น้องเล็กจะมาแล้วเหรอ เดาล่วงหน้าเลยว่า น้องเล็กจับได้ชัวร์ ๆ
แค่คิดก็ปวดหัวแทนกลางแล้วนะเนี่ย เด็กเอาแต่ใจ ขี้หวงสองคนมาเจอกันจะเป็นยังไงน้อ
ชอบเพื่อนกล้วยเป็นพิเศษอ่ะ ตลกดี เพ้อหาน้องเล็ก เจอตัวจริงคงได้ตะลึง ๆ 555
ขอบคุณคนเขียนนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-06-2017 21:15:06
เปา คนกลาง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เปา งอนบ่อยขึ้น
อยากอยู่กับคนกลางมากขึ้น
เล็กก็อยากมาอยู่กับกลาง
ใครๆ ก็ต้องการคนกลาง
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: คนคิ้วท์คิ้วท์ ที่ 23-06-2017 22:32:35
กลิ่นความรักจย้า หมั่นไส้เชอะะะ เปานี่ขี้หึงเนอะ คนกลางของแม่น่ารักมากลูกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 23-06-2017 23:28:48
น่าร๊ากกกกก :impress2:
คิดข้ามช็อตไปตอนคนเล็กมา ว่าจะเกิดอะไรบ้างน้า
น้องขี้หวงกับว่าที่พี่เขย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 23-06-2017 23:37:24
อ่านเรื่องนี้ที่ไรอมยิ้มแก้มตุ่ยตลอดเลยยย เขาน่าร้ากกกก

ปล.ดีใจตอนหน้าเจอน้องเล็ก มีความชอบฟีลลิ่งตอนน้องเล็กอยู่กับคนกลางแบบบอกไม่ถูก ^0^
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kratair ที่ 23-06-2017 23:52:53
ใกล้จะเห็นเล็กมาเจอพี่เขยเเล้ววว :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-06-2017 01:04:14
ว่าที่พี่เขยปะทะน้องเมีย :hao3: :hao3:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 24-06-2017 01:10:39
เล็กไม่ยอมแน่นอน หวงพี่ขนาดนั้น เปาจะได้เอ็นดูน้องสมใจไหม 5555555555555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-06-2017 01:12:45
 :กอด1: :3123: :pig4: :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-06-2017 02:44:13
รอดู จะญาติดีหรือจะตีกัน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Zetnezz ที่ 24-06-2017 03:15:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 25-06-2017 03:02:23
รอน้องเล็กคนหวงพี่
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 25-06-2017 11:44:59
เล็กมาเปาต้องงานเข้าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-06-2017 16:17:01
รอชม ศึกชิงคนกลางงง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 25-06-2017 18:57:37
น่ารักกกกกอีกแล้ววว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-06-2017 10:11:13
รอเล้กมา 5555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wunwanoo ที่ 26-06-2017 12:01:06
ตอนนี้น่ารักกก ชอบความเทคแคร์กันของคู่นี้จัง :-[
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 26-06-2017 23:51:22
คนเล็กมาเพื่อขัดขาแฟนพี่ชายแน่ๆ ดูจะมีเรื่อง คนกลางเอาอยู่แหละ น้องก็รัก แฟนก็หลง
พักนีมุกเยอะนะคนกลาง สงสัยติดเพื่อนกล้วยมา

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 27-06-2017 11:28:06
ถ้าน้องเล็กมา.. จะมีมาม่าหรือเป่าหนออ...
ได้แต่คิดและก็สงสัย...  :katai5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 18 หน้า 15 (23-06-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 27-06-2017 21:37:01
อ่านแล้วอมยิ้ม คนกลางน้องจิ้มลิ้มน่ารัก น้องเปาคนเท่ห์ และผองเพื่อนสุดรั่ว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 01-07-2017 20:33:18
19
คนเล็ก vs คนอย่างเปา1


(น้องไปกับเก่งกับอุ่นนะ กลางจำได้มั้ย)

“เก่งกับอุ่น อ๋อ...จำได้ครับ คนที่เคยมาค้างบ้านเรา”

(นั่นแหละๆ ไปกันสามคนแต่ยังไงกลางดูน้องหน่อยนะ เดี๋ยวพากันไปหลง แท็กซี่ก็น่ากลัว)

“ครับแม่”

(โอเคงั้นแม่ไม่กวนแล้ว กลางตั้งใจอ่านหนังสือนะ)

“ครับ หวัดดีครับแม่”

วางสายจากแม่ปุ๊บผมก็หลับตารวบรวมสมาธิเพราะตอนนี้ผมนั่งอยู่โต๊ะอ่านหนังสือครับ หลังจากงานภาคปฏิบัติพึ่งจะทำเสร็จก็เร่งมาอ่านหนังสือตัวสุดท้าย เด็กสินกำอย่างผมจับด้ามปากกาตอบข้อสอบไม่ค่อยจะชินครับ ต้องด้ามพู่กันหรือดินสอวาดรูปนู่นถึงจะไหลลื่น ตัวสุดท้ายเป็นตัวบังคับของมหาลัย ปีหนึ่งก็ต้องเรียนต้องสอบกันทุกคน เนื่องจากเนื้อหาที่มันไม่ได้อยู่ในความสนใจเท่าไหร่เพื่อนผมจึงบ่นกันระนาว ส่วนผมก็อาศัยความรู้เก่าจากการสอบแอดมิดชั่นมารื้อฟื้อความจำครับ พอร้องอ๋อก็อ่านต่อได้สบาย แต่มีอยู่คนนึงที่มันบ่นว่าไม่ค่อยชอบแต่ก็ไม่ยักจะเห็นมันอ่านหนังสือ

ก็ไอ้คนที่มาอาศัยห้องผมนี่แหละครับ ผมหันไปมองไอ้เปาคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของผมแต่สถานะความเป็นเพื่อนก็ยังมีอยู่ในความสัมพันธ์ของเรา ไอ้เปานั่งหลังพึงปลายเตียงของผม มันเอาแต่จ้องโทรศัพท์ไม่ได้สนใจชีทที่เกลื่อนกลาดอยู่รอบตัวมันเลยแม้แต่น้อย

“จำได้ยัง เนื้อหาเนี่ย ตัวสุดท้ายแล้ว”

“เออ แปบดิ”

“มึงเล่นเกมมาสิบนาทีแล้วนะเว้ย”

ผมเป็นห่วงมันนะครับ ถึงแม้จะรู้ว่าไอ้เปามันไม่ใช่คนที่มาสเตอร์ลงโทษเพราะตอบอะไรไม่เคยได้เหมือนตอนเด็กๆ แล้วก็ตาม เพราะตอนนี้ไอ้เปามันเปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งด้านร่างกายและสมอง แถมยังมีนิสัยที่เปลี่ยนไปอีกด้วย ก็ไอ้ความล้น กล้าไปหมดซะทุกเรื่องนั่นแหละครับ ไอ้เปาเงยหน้ามามองผมแวบนึงแล้วก็รีบกลับไปมองจอโทรศัพท์ต่อ ถ้าไม่วางผมก็จะจ้องมันอย่างงี้แหละ เอาดิ

“ห้านาทีเอง”

“ไหนบอกจะคอยดูกู นี่อะไรหันไปกี่ทีก็ทำตัวขี้เกียจ”

“โอเค วางแล้วๆๆ กูพักแปบเดียวเอง”

ไอ้เปารีบวางเหมือนถือของร้อนก่อนจะยืดแขนบิดขี้เกียจ มันมาอยู่ห้องผมได้สามวันสามคืนแล้วครับ พรุ่งนี้เราสอบตัวสุดท้ายแล้วก็จบเทอมหนึ่งแบบสวยงาม(มั้ง) ถามว่าสามวันที่ผ่านมาไอ้เปาเป็นแบบนี้หรอ เปล่าครับ เราต่างคนต่างทำงานของตัวเองคนละมุม ผมที่มีนิสัยถ้าทำงานในห้องอยากนอนตอนไหนก็นอนก็จะโดนไอ้เปาบ่นทุกครั้งไป บ่นไปก็เท่านั้นยังไงผมก็ทำอยู่ดี มันบ่นจนเลิกบ่นแล้วก็นั่งเงียบๆ ทำงานเป็นเพื่อนผมไปแบบนั้น

“ทีกูทำงานดึกมึงยังบ่น”

“ก็มึงดื้ออะ”

“...”

“รับปากแล้วว่าจะหยุดก็ไม่หยุด เนียนทำต่อเฉย”

“เออๆ”

“นอนดึกไม่พอตื่นเช้าอีก” พอมันเริ่มจะบ่นผมก็รีบวกกลับมาที่เรื่องมัน

“มึงเอามือถือไปไว้ไกลๆ มือไป”

ไอ้เปาหัวเราะในลำคอพลางส่ายหัวให้กับการเอาชนะของผม มันหยิบชีทสองสามแผ่นขึ้นมาดูผ่านๆ

“มึงนี่ซีเรียสเนอะ เป็นคนจริงจังมาตั้งแต่เด็ก”

“แล้วทำไมกูต้องไม่จริงจังอะ”

“เหมือนกูไง กลับบ้านพ่อเอาผ้าฟาดขาทุกที ไปเรียนเหมือนไปเปลี่ยนที่หายใจ”

“นั่นมันตอนเด็ก แหน่ะ” ผมหรี่ตา “เปลี่ยนเรื่อง”

“เอ้ารู้ทันอีก” ไอ้เปายักไหล่แบบยียวน แอบคิดอยู่ในใจว่ามึงเลิกเล่นเกมแล้วมาชวนผมคุยรึเปล่าเนี่ย มาคิดอีกทีไอ้เปามันกำลังหลอกผมให้พักจากการอ่านหนังสือแหงๆ

“พรุ่งนี้สอบเสร็จจะกลับคอนโดเลยป่ะ”

“ไล่หรอ” น้ำเสียงปกติแต่หน้าตานี่ดูไม่ได้ ผมยักไหล่เลียนแบบมันพลางปฏิเสธเสียงสูง ก็ถามเฉยๆ

“เปล๊า”

“เดี๋ยวกูกลับมาเก็บของห้องมึงก่อนแล้วจะกลับวันศุกร์เช้า” มันตอบหน้าบึ้งสายตาจ้องผมเขม็ง ไอ้เปาก็ยังเป็นเหมือนตอนเด็กๆ ตาขวางๆ ตอนผมแหย่มันให้โมโหมากๆ เข้า เสียงมันก็จะเริ่มเป็นเสียงแบนๆ เหมือนเป็ด ตอนนี้เสียงเป็ดก็ทุ้มขึ้นแล้วแต่ผมก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม

“โอเค” ผมตอบพร้อมกับหมุนตัวมาอ่านหนังสืออีกครั้ง ไอ้เปาหน้าเหวอเมื่อผมไม่สนใจ ผมหมุนดินสอแล้วเริ่มต้นอ่านบรรทัดที่อ่านค้างไว้อีกรอบ แต่ไอ้คนด้านหลังนี่สิ มันยังไม่หยุดกวนผม

“เฮ้ย อะไรอะ ไม่ง้อเลย” ไอ้เปาร้องขึ้นมา ผมก็ยังไม่หันไปมอง

“แล้วกูทำอะไรผิดล่ะ”

“ไม่มีหรอก แต่อยากเรียกร้องความสนใจ”

“ขาดความอบอุ่นหรอ”

“เออ ตอนนี้หนาวมากต้องการความอบอุ่นโคตรๆ”

“เอาหมอนไปกอดสิ บนเตียงน่ะ”

“อยากได้สิ่งมีชีวิตที่คิดได้และยิ้มเป็น”

คุยกับมันก็ยิ่งปวดหัว ถ้าผมไม่ทำตามมันก็จะวอแวไม่เลิก ผมทิ้งดินสอแล้วหันตัวมามองมันอย่างเอาเรื่อง

“จะเอาไง เมื่อไหร่จะอ่านหนังสือซักที”

“ไม่เอาไง กอดชาร์ตแบตทีเดียว”

“แน่?”

“ทีเดียว รูดซิบปากเลย”

ผมถอนหายใจก่อนเดินไปก้มลงกอดหัวมันพลางตบเบาๆ

“อย่าถอนหายใจใส่กู ห้าม!”

“มาๆๆ ตั้งใจอ่านน้า เลิกกวนกูซักที”

ขยี้ผมมันไปแรงๆ พอมันมาอยู่กับผมแบบนี้แล้วผมแทบจะเป็นราชา ไอ้เปาแทบไม่ให้ผมทำอะไรเลย มันจะคอยสังเกตผมอยู่ตลอดเวลา หิวก็มีอะไรให้กิน คอยถามไถ่ตลอด อ่ะ ยกให้วันนึงละกัน เดี๋ยวพี่เค้าเหงา

“เดี๋ยวน้องมึงมากูคงเป็นหมาหัวเน่า”

“มึงจะถูกเมินไปเลย”

“กล้าเมินก็ทำดิ” เสียงบูดแต่มันก็กระชับกอดเอวผมแน่น แถมยังเอาหน้ามาซุกท้องอีก

“หึหึ ลองดูดีมั้ยนะ”

“กลาง” เสียงเรียบเลยว่ะ

“ฮ่าๆ หลอกๆ จริงจังไปได้” 

“...”

“ป่ะ...ไปอ่านหนังสือแล้วนะอีกสามชั่วโมงเจอกัน”

ไอ้เปาหน้านิ่งพอได้ยินคำว่าอ่านหนังสือก็ทำตัวอ่อนปวกเปียก โอดครวญแต่ก็ยอมคลายมือแบบอิดออด คือยื้อโคตรๆ เหมือนผมต้องไปไหนไกลๆ งั้นแหละ ผมก้มหยิบชีทยัดใส่มือมันแล้วเราก็ให้กำลังใจคนละประโยค ตั้งใจอ่านหนังสือนะเว้ยไอ้เปา





“เป็นไงบ้างวะพวกมึง ตัวสุดท้าย”

ผมหอบอุปกรณ์การเขียนและเสื้อกันหนาวออกจากห้องสอบมาเป็นคนสุดท้ายในแกงค์คอหล่น พวกมันก็เริ่มหัวข้อสนทนา ไอ้เปามันพึ่งออกมาก่อนหน้าผมครับ ส่วนไอ้คนที่เร็วที่สุดคงจะเป็นท่านเทพกล้วย

“พรากชีวิตกูไปแล้วเนี่ย สอบไรนักหนา รัมคัลลล” ไอ้กล้วยร้อง มันบอกว่าขี้เกียจคิดเลยรีบออกมา

“นี่ปีหนึ่งนะ ไม่คิดว่าปีต่อๆ ไปจะทำไง” ไอ้ทัพโอดครวญ

“แต่ก็แม่งนั่นแหละ” ไอ้เบสเอ่ยขึ้นก่อนจะมองทุกคน ไอ้ทัพกับไอ้กล้วยยิ้มเหี้ยม ส่วนไอ้เปาก็เดินเข้ามาช่วยผมเก็บอุปกรณ์เครื่องเขียนใส่กระเป๋า

“สอบเสร็จแล้วโว้ยยยยยย!!!”

มันชูมือขึ้นเหมือนได้รับอิสรภาพ ผมได้แต่ยืนมองขำๆ

“นักศึกษาคะ ยังมีเพื่อนสอบอยู่ค่ะ” เสียงแหลมของอาจารย์คุมห้องสอบดังออกมาทางประตูห้องสอบ อาจารย์เป็นประจำคณะอักษรฯที่สอนวิชาพื้นฐานมองมาด้วยสายตาดุๆ

“ขอโทษครับจารย์” เพื่อนผมรีบหันไปมองพร้อมกับยกมือไหว้ แต่ปากยังยิ้มถึงหูนู่นแหละ คนมันดีใจอ่ะนะ

“สอบเสร็จก็รีบกลับค่ะ”

“จารย์ค้าบ เมตตาพวกผมด้วยนะค้าบบ ซารังเฮโย”

นอกจากจะไม่กลัวอะไรแล้วไอ้กล้วยยังส่งหัวใจแบบเกาหลีให้อาจารย์ให้อีกด้วย อาจารย์แทบถลึงตามองก่อนจะไปโบกมือปัดๆ แล้วพวกเราก็กอดคอกันออกจากตึก ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนมาถึงแล้วครับ

“พวกมึงอย่าลืมนะเว้ย วันจันทร์”

ไอ้เบสพูดขึ้นระหว่างกินข้าวกลางวันด้วยกัน เด็กกรุงเทพอย่างไอ้เบสและไอ้กล้วยจะกลับบ้านก่อนแล้วเราจะเจอกันวันไปเที่ยวเลย ส่วนไอ้ทัพก็จะไปฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนในเอกอย่างพวกไอ้เจ มันสนิทกับเค้าไปทั่วแหละครับ

“ตกลงไปกาญจนบุรีนะ”

ผมพยักหน้าหงึกหงักพร้อมกับตักผัดเต้าหู้ใส่จานไอ้เปา อร่อยว่ะ ต้มยำก็ดี ไอ้ทัพมองมาที่ผมที่กำลังเคี้ยวอย่างมีความสุข สอบเสร็จมันดีอย่างงี้นี่เองเว้ยย

“มึงถามน้องมึงยังเนี่ย” หือถามกูหรอ ผมเงยหน้าแบบบงงๆ แต่หน้าตาคงจะไม่น่ามอง ไอ้พวกนั้นเลยส่ายหัวเบาๆ

“หน้าอย่างงี้อย่าไปหวังเล้ย” ไอ้กล้วยแซะ

ผมคิดสองสามวิถึงนะร้องอ๋อ “เออยังเลยว่ะ ยุ่งๆ เรื่องสอบ แต่มันมีเพื่อนมาด้วยนะเว้ย”

“ไม่เห็นเป็นไร มาเยอะๆ หนุกดี”

“โอเค เดี๋ยวถาม สัญญา” ผมวางช้อนส้อมแล้วทำท่าแบบลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ด้วยเอ้า

“เออ ดูแลแฟนมึงด้วยไอ้เปา สมองไม่ค่อยเร็ว ส่วนมึงแดกได้แดกดีนะไอ้เปา” ไอ้กล้วยหันไปเล่นกับไอ้เปาแทน แก้มไอ้เปาพองเพราะกินเต็มปาก มันกลืนเข้าไปอึกใหญ่ก่อนจะเลิกคิ้ว

“แดกแฟน?”

“แดกข้าวสิไอ้สัด!” กวนคนอื่นก็มีความสุขแล้วครับ โดยเฉพาะคนอย่างไอ้กล้วย

“ดีนะที่พักเค้าเป็นญาติกูอะ เรื่องที่นอนไม่เป็นปัญหา”

ที่พักนี่เป็นรีสอร์ทของบ้านไอ้เบสเองครับ มันจัดการให้เราเรียบร้อยส่วนเรื่องการเดินทางไอ้เปาโดนบังคับให้เป็นคนขับรถ เรื่องรถก็ให้คุณกล้วยเค้าจัดการ ตัวตั้งตัวตีมันต้องหาให้เราพร้อมครับ

“ไอ้เปา ไอ้กลาง ไม่แดกเหล้ากับกูจริงอะ” ไอ้ทัพถามผมกับไอ้เปา แต่ไอ้คนข้างๆ ดันชิงตอบซะงั้น

“ไม่!”

“ทำไมวะ”

“สอบเสร็จแล้วต้องรีบตักตวง”

“แหน่ะๆๆ ตวงไรอ่า”

“เผือก”

“ดุด้วยเว้ย”

“อ่ะๆ ไม่ถามแล้วก็ได้”

ผมมองพวกมันตาปริบๆ ไม่รีบกินเดี๋ยวกูตักหมดนะเว้ย พวกมันหันมองผมช้าๆ เหมือนภาพสโลโมชั่น ไอ้เปาที่นั่งติดกับผมยิ้มมุมปากเบาๆ ก่อนจะวางมือบนหัวผม เช็ดมือป่ะเนี่ย

“โถ่ คนกลางเพื่อนค้าบ นี่ถ้าไม่เป็นแฟนไอ้เปากูอยากเลยอะ”

“อยากไร” ผมวางช้อน เชี่ย น่ากลัวไปละไอ้เบส หน้าตามีความกระหาย

“อยากรับเลี้ยง กินง่าย นอนง่าย ไม่หือไม่อืออะไรกับใครทั้งนั้น คนกล๊างคนกลาง” อีกนิดนี่ด่ากูว่าไร้สมองเถอะไอ้เบส

“กูชักอยากเจอน้องมันซะแล้ว จะเป็นเหมือนไอ้กลางป่ะวะ”

พูดไปหัวเราะไปแต่มีคนนึงไม่ค่อยยิ้มเลย ก็ไอ้คนที่วางมือหนักบนหัวผมเนี่ยแหละ




ตักตวงอะไรหรอครับ...ไม่มีอะไรหรอก ไอ้เปาลากผมไปดูหนังติดกันสองเรื่อง เนียนจับมือผมซะด้วย ไอ้เด็กนี่มันเนียนนัก แต่ไม่นานผมก็พิงไหล่มันหลับเนื่องจากทนความง่วงไม่ไหว ไอ้เปาแทบจะแบกออกจากโรงหนัง

เช้าวันศุกร์ไอ้เปาก็เริ่มเก็บของตัวเอง ผมที่นั่งดูทีวีกินองุ่นสบายๆ ก็โทรหาไอ้โจ๊กเพื่อนรักซะหน่อย ไอ้โจ๊กขี้เกียจติวกับเพื่อนพอดีเลยคุยแอบอู้คุยกับผม

“โจ๊กมึงไปกาญฯ ด้วยกันมั้ยวันจันทร์”

(ไอ้สัดกูยังสอบไม่เสร็จ)

“อ้าวหรอ เซ็ง”

(ทำมาเซ็งไปกับแฟนมึงนี่)

ไอ้โจ๊กส่งเสียงตอแหลมาตามสาย ส่วนไอ้เปาก็เก็บของอยู่ในห้องครับ มันบอกว่าวันเสาร์จะไปรับน้องผมด้วยกัน จะเถียงว่านั่งแท็กซี่ไปเองก็โดนมองแรงใส่ ก็ตามใจล่ะครับ

“กลางเห็นเสื้อนอนกูป่ะวะ” เสียงไอ้เปาแทรกมาทำให้ผมผละจากการคุยกับไอ้โจ๊ก ปล่อยให้มันพูดคนเดียวไปก่อน

“ตัวไหน”

“สีเทาอะ”

“อ๋อ ตากอยู่นู่น”

(เออ ไอ้กลางกูลืมบอก น้องมึงมันขอกุญ...)

โครม!

“เชี่ย!”

“ไอ้โจ๊กแค่นี้ก่อนเดี๋ยวโทรกลับ” ไอ้เปาร้องสบถผมรีบวางสายจากไอ้โจ๊ก แล้วเดินไปหามันในห้องนอน

“เป็นไรวะ”
“ผมทิ่มตาแม่ง สะดุดเตียงเลย”

ไอ้เปามันไม่ได้ไปตัดผมครับ คราวที่แล้วมันไปส่งผมตัดแต่ตัวเองก็ออกไปทำธุระ ผมด้านหน้าที่ยาวของมันเลยทิ่มตาเข้าแล้ว โง่ได้อีกกกก ไอ้เปาใช้หลังมือขยี้ตาแล้วมองผม

“มองกูงี้หมายความว่า?”

“มองคนซุ่มซ่าม เอ๋อๆ น่าร้าก”

“ได้ทีแล้วเอาใหญ่”

ผมลากเสียงกวนตีนไปหน่อยก่อนจับมือมันออก โอ้โหตาแดงเว่อร์

“มานั่งนี่มา เดี๋ยวคนกลางบีเบอร์ตัดให้”

“บาร์เบอร์! บีเบอร์นั่นนักร้องหรือว่าชอบฝรั่ง?”

คืออะไรพูดเองโกรธเองผมไม่เข้าใจ ผมยิ้มขำแล้วลากมันมานั่งที่โซฟากลางห้อง “บาร์เบอร์ พูดผิดไง”

“เอออย่าให้รู้แล้วกัน” มันชี้นิ้วคาดโทษ หน้างอไปอีกแต่ก็เดินตามแรงลากของผม ผมดันไหล่ไอ้เปาให้นั่งลงแล้วก็เตรียมอุปกรณ์ทางการหั่นผม

“ท่าทางมึงกูเริ่มไม่ค่อยมั่นใจละ” ไอ้เปากวนตีนด้วยการขยับตัวออกห่าง ท่าทางผมเหมือนฆาตกรหรอครับ

“เล็มนิดเดียว ไม่ให้มันทิ่มตามึงเนี่ย”

ผมพูดก่อนจะใช้ผ้ารองตักมัน กรรไกรก็กรรไกรธรรมดานี่แหละครับ ผมจะเริ่มจากตรงไหนดีวะ ตัดออกเท่าไหร่ดี ขณะที่คิดอยู่กับตัวเองก็สังเกตว่าไอ้เปามันเงียบครับ แถมมองผมตาไม่กระพริบและหูก็เริ่มแดงขึ้นทีละนิด

“หลับตาไปดิ” ผมจะเริ่มแล้วแต่ติดที่มันเนี่ยแหละ ลืมตาเป็นนกฮูกไปได้ เอ๊ะ ลืมไปมันคือนกกระปูดแดง

“มึงมามองหน้ากูใกล้ขนาดนี้ ไม่เขินก็แย่ละ” มันพึมพำแต่ผมก็ได้ยินอยู่ดี

“หน้าบางนะเราอ่ะ หลับตาเร็ว ตัดไม่ได้”

“อือ”

“อือแล้วก็มืออะไม่ต้องกอดเอวก็ได้”

“หึ”

ผมเอือมกับการเนียนของมันแล้วก็เริ่มลงมือตัด ปล่อยให้มันจับเอวไปอย่างนั้นเหนื่อยจะพูดครับ ผมจัดท่าทางตัวเองสุดท้ายผมก็คุกเข่าบนโซฟาแล้วยืดตัวไปเล็มผมให้มัน มีสมาธิจนไม่รู้ตัวว่าไอ้เปาเริ่มทำตัวเนียนขยับมาแทบจะสิงกัน

“เสร็จแล้ว มึงหาเวลาไปตัดด้วยนะ”

ผมจับคางมันเอียงซ้ายเอียงขวา โอเคไม่น่าเกลียด ฝีมือผมใช้ได้ ถ้าไม่ดีก็มองเป็นงานศิลปะแล้วกันนะครับ ผมวางอุปกรณ์ไปบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา ไอ้เปาลืมตาขึ้น ตาคู่สวยของมันใกล้กับผมชะมัด พึ่งจะระลึกได้ว่าท่าทางเราสองคนมันชักจะล่อแหลมมากขึ้นทุกที

“ปล่อยดิ๊”

มันอมยิ้ม มือที่จับเอวผมสองข้างก็เหนียวเหมือนโดนหยอดกาวยังไงอย่างนั้น ผมดิ้นยังไงก็ไม่หลุดก็เลยจ้องตามัน สะกดจิตแม่งเลย พอได้มามองหน้ามันชัดๆ แบบนี้แล้วก็ภาพไอ้เปาตอนเด็กก็ซ้อนทับมา

“เปา กูคิดถึงมึงอะ...”

“...!” ไอ้เปาเบิกตาขึ้นนิดๆ หูมันแดงแจ๋ แต่ก็ยังไม่ยอมคลายมือ ผมขำแล้วก็ต่อให้อีกหน่อย

“ตอนเด็กๆ”

ไอ้เปาทำหน้าเซ็ง “กูชักสงสัยแล้วที่มึงคบกับกูเพราะชอบไอ้เปาตอนเด็กมากกว่าหรอ”

“...” เป็นผมที่เงียบบ้าง อะไรของมันเนี่ย

“หึงละ” พูดแล้วก็หันหน้าไปทางอื่นด้วยนะ

“ฮ่าๆๆ” โอ๊ยย มันน่ารักจังครับ คนบ้าอะไรหึงตัวเอง “ก็อาจจะมีส่วน”

“เชี่ย คิดจริงนะเนี่ย” มันหันกลับมาและเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผม “เราเป็นแฟนที่เหมือนเพื่อนกันสุดๆ เลยรู้ป่ะ”

“แล้วไม่ดีหรอ”

“มึงก็รู้...” หน้าผากของเราชนกันเบาๆ ไอ้เปากับผมมันเริ่มมาจากเพื่อนนี่นา ไอ้เปาสบตากับผมอีกครั้ง มันทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างก็แต่ไม่พูด

“แต่ช่างเถอะ...แค่มึงใจตรงกับกู กูก็ไม่ขออะไรแล้วล่ะ”

“ทำไมตามึงยังแดงวะ”

“หมดกันอารมณ์ที่กูปูมา”

“ติดไว้ก่อน ตามึงแดงอะ”

ผมขมวดคิ้วไม่ได้สนใจไอ้เปาที่ทำหน้าเซ็งสุดขีด เอียงหน้าไอ้เปาซ้ายขวาหรือว่าเศษผมเข้าไปในตาวะ นั่นไง จริงด้วย

“มึงอยู่นิ่งๆ เดี๋ยวกูเป่าให้”

“ยอมทุกอย่างเลยครับ ทำอะไรทำเล้ย”

ผมจับแก้มมันด้วยมือสองข้างแล้วก็ยื่นหน้าไปเป่าตามันช้าๆ ไอ้เปาเอนหลังแขนโซฟาส่วนผมก็ยืดตัวไปหามันเกือบทั้งตัว

แกร๊ก

“กลาง! เล็กมาแล้ว!!”

“เฮ้ย!!”

ผมสะดุ้งผลักไอ้เปาออกอย่างแรงจนเก็บตกโซฟา เชี่ย...น้องชายผมยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้าอึ้งๆ มือยังค้างอยู่ที่ลูกบิด กระเป๋าสะพายค่อยๆ หล่นจากไหล่มันช้าๆ

นี่มันจะบังเอิญเกินไปหน่อยแล้ว....



.
.
.
[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 01-07-2017 20:36:02
.
.
.
[ต่อจากด้านบน]



บรรยากาศนี้มันอะไรกันครับ มองนั่งมองหน้าทั้งสองคนด้วยความกระอักกระอ่วน ความอึดอัดที่ลอยตัวเหนือตัวผมอยู่ในขณะนี้ ตั้งแต่ไอ้เล็กเปิดประตูเข้ามาถ้าเป็นการ์ตูนอะนิเมชั่นมันก็อาจจะมีเสียงดังขึ้นมาว่า “เล็กปรากฏกาย!!”

ย้อนกลับไปเมื่อสักครู่นี้ ผมและไอ้เปานั่งอยู่ด้วยท่าทางชวนคิดลึกแล้วน้องชายผมที่รู้มาว่ามันขอกุญแจและคีย์การ์ดจากไอ้โจ๊กเพราะหวังว่าจะมาเซอร์ไพร์สผม สุดๆ ไปเล้ย ไอ้เล็กเปิดประตูเข้ามาทันควันแล้วตามมาด้วยเพื่อนอีกสองคนของมันที่ต้องมานอนค้างห้องผมด้วย ผมรีบลุกแล้วเดินไปหาน้องชายทันที พามันมานั่งโซฟาที่เกิดเหตุแต่ไอ้เล็กหน้าบึ้งไม่ยอมนั่งโซฟาตัวยาว ผมยื้อให้มันนั่งลงอีกฝั่ง ไอ้เปาก็นั่งอีกฝั่งโดยมีผมคั่นกลาง ส่วนเพื่อนน้องชายก็นั่งพรมหน้าทีวีครับ

“เอ่อ นี่เพื่อนพี่เอง เปา เปานี่อุ่น กับเก่ง น้องกูเล็ก” ผมเริ่มต้นเปิดบทสนทนาในเมื่อไอ้เล็กมันยังไม่โวยวายผมจะเนียนไปก่อน

ไอ้เปาหันมามองแวบนึงตอนผมพูดว่าเพื่อนก่อนจะกลับไปนิ่งๆ ตามเดิม

“หวัดดีครับพี่ พี่โคตรหล่อเลยอะ” น้องเก่งยกมือไหว้ไอ้เปา มันก็พยักหน้าด้วยสีหน้าที่อ่อนลง

“ดีครับ” ตามมาด้วยน้องอุ่น มันยื่นมือไปตีขาไอ้เล็ก “ไอ้เล็กนิ่งไรวะ เชี่ยนี่เก๊กได้อีก”

ไอ้เล็กไม่ตอบอะไรได้แต่จ้องไอ้เปาเขม็ง มันไม่ได้ยกมือไหว้แต่เปลี่ยนเรื่องซะงั้น “กลางอยู่คนเดียวไม่ใช่หรอแล้ว ‘คนอื่น’ มาได้ไง”

เชี่ย เน้นเสียงไปอีก ผมแอบมองไอ้เปาด้วยสายตาระแวดระวัง เดาใจมันไม่ถูกว่ามันจะพูดว่าอะไร ขอเถอะ...

“ไม่ใช่คนอื่นครับน้องเล็ก เพื่อน ‘สนิท’ สุดๆ ต่างหาก”

และไอ้เปาก็ไม่ยอมแพ้ เหมือนมันสองคนกำลังอยู่ในการแข่งขันเพื่อเอาชนะทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน ดูท่าน้องผมจะคิดกับไอ้เปาในแง่ลบตั้งแต่เปิดประตูแล้วสินะ ผมคิดว่าแม่ตั้งชื่อผมให้มาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ตลอดชีวิตเลยใช่มั้ยครับ

เอ่อ...

“เพื่อนสนิทกลางคือพี่โจ๊กต่างหาก”

“นี่สนิทกว่าไงครับน้อง” ถ้าไอ้เปาเน้นคำว่าน้อง

“อ๋อ...ก็เป็นแค่เพื่อนเก่าไม่ใช่หรอ” น้องผมก็จะเน้นคำว่าเพื่อน ผมชะงักกับคำว่าเพื่อนเก่าเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ไอ้เล็กจะรู้ได้ยังไงล่ะ

“เล็ก พูดดีๆ”

มันสะบัดหน้ากอดอกก่อนจะพูดกับผมเบาๆ ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน เก่งกับอุ่นมองพวกเรางงๆ ก่อนที่มันจะไปกันใหญ่เพื่อนน้องชายผมที่เหยียดขาเพราะเดินเยอะก็ช่วยผมคลายบรรยากาศนี้ลง

“ว่าแต่ พี่กลางตัวจริงดูเท่อ่ะ ไอ้เล็กงี้อวดพวกผมทุกวัน พี่กูอย่างงั้น พี่กูอย่างงี้” อุ่นเบะปากประกอบ

“มันอยากเข้าสินกำอะพี่ เห็นพี่ตัวเองเป็นไอดอล แต่แม่งวาดหมายังดูเป็นไก่อยู่เลยอะ”

“คือหลอกตัวเองเว้ยพี่ มันเก่งสายวิทย์แต่ชอบวาดรูป อยากจะบอกมันทุกวันว่ามึงเก็บการวาดรูปไว้เป็นความชอบส่วนตัวเถอะ”

ผมขำ เก่งกับอุ่นพากันแซะน้องชายผม ไอ้เล็กหน้าบูดกว่าเดิมมันขยับตัวมาใกล้ผมแล้วเอาหัวมามุดหลังผม พอเพื่อนล้อก็อายสินะ

“กลางงง อย่าไปฟังมันเว้ย” น้องผมพูดอู้อี้ขัดกับลุคตัวโตๆ ของมันชะมัด แต่น้องคนเล็กครับ ห้ามขัดใจ

“ฮ่าๆ กอดใหญ่เลยไอ้สัด” 

พรึ่บ!

“กลาง กูไปเก็บกระเป๋าก่อนนะ นอนด้วยกันมาหลายคืนละ”
แล้วเสียงแข็งๆ ของไอ้เปาก็ดังขึ้นท่ามกลางเสียงหัวเราะ ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากลำบาก

กริบ

กริบครับ ไอ้เล็กชะงักตัว ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มันเงยหน้าจากหลังผมแล้วมองไอ้เปา

“อ๋อ เออติวเสร็จแล้วนี่เนอะ” ผมรีบพูดเพื่อแก้ประโยคชวนเข้าใจผิดแต่เหมือนจะกลายเป็นแย่เข้าไปใหญ่

“เราติวกัน ‘เข้ม’ ขนาดนี้กูจะกลับไปพักที่ห้องก่อนนะ เพลีย” ไอ้เปาพูดจบก็ปรายตามองน้องชายผมก่อนจะเดินเข้าไปเก็บกระเป๋าในห้อง

“หมายความว่าไงวะกลาง”

“ก็มาติวนี่แหละไม่มีอะไร มันกวนตีนไปงั้น”

ผมบอกปัดๆ น้องผมมันจะตามไอ้เปาทันมั้ยครับเนี่ย ดูเหมือนยกนี้ไอ้เปาจะชนะขาด เพราะน้องชายผมทนไม่ไหวถามผมยิกๆ

“เก่งกับอุ่นขึ้นมานั่งพักบนโซฟา แล้วเดี๋ยวไปอาบน้ำอาบท่าพี่จะพาไปกินข้าว”

“ครับพี่ อยากไปดูมอพี่กลางด้วย”

“ได้เลย”

ตอนแรกก็แพลนไว้ว่าจะไปรับน้องด้วยกันกับไอ้เปาแล้วพาไปกินข้าวกระชับมิตร ล่มครับแผนที่วางไว้ วันนี้ไอ้เปาก็คงต้องกลับไปก่อน ไอ้เล็กลากผมไปที่ระเบียง เลื่อนปิดประตูกระจกก่อนจะเริ่มต้นพูด

“ถ้าไปกับเพื่อนกลาง เล็กไม่ไป”

“เป็นอะไรเนี่ยเล็ก”

“กลางทำอะไรกับมัน เมื่อกี้”

“ผมเข้าตาไอ้เปา พี่เลยเอาออกให้”

“...ไม่จริงอะ เล็กเห็นมัน...ไอ้พี่นั่นจับเอวกลาง”

“จริงๆ เว้ยจะโกหกเพื่อ”

“เล็กไม่ชอบ เพื่อนกันเค้าไม่ทำงี้หรอก”

“เล็ก ก่อนที่จะมาเม้งใส่พี่ แล้วนี่มายังไงกัน แท็กซี่?”

“อื้อ กลางเปลี่ยนเรื่องว่ะ”

“ถ้าเล็กจะมาเร็วทำไมไม่บอกพี่ก่อนซักคำ”

“เล็กอยากเซอร์ไพร์ส” เออ เป็นไงล่ะ ไอ้เซอร์ไพร์สเนี่ย ผมเข็ดมาหลายทีแล้วครับ

“คิดว่ากรุงเทพฯ ตัวเองเชี่ยวชาญว่างั้น”

“กลางอย่าบ่น แต่อยากบอกแม่ก็พอ...” แอบมาก่อนไม่พอหนีมาหอผมเองอีก มันขอให้ไอ้โจ๊กช่วยล่ะครับ ไอ้เล็กเคารพไอ้โจ๊กมากกว่าผมอีก

“งั้นเล็กก็อย่าตั้งแง่กับเพื่อนพี่”

“เล็กแค่ไม่ถูกชะตา”

“เป็นเด็กเป็นเล็ก”

“เล็กไม่เด็กโว้ย”

ก๊อกๆ

ไอ้เปาเคาะประตูกระจกก่อนจะเลื่อนเปิด ไอ้เล็กรีบดึงตัวผมไปบังทันที “มีไร” นั่นไม่ใช่เสียงผมครับ ผมบิดเอวมันแต่มันก็ไม่สะเทือน

“จะคุยกับกลาง น้องไม่เกี่ยว”

“จะคุยก็คุยกันตรงนี้” ไอ้เล็กกอดอก เชิดหน้าไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ผมเหมือนอยู่ท่ามกลางการทะเลาะกันของเด็กประถม ไอ้เปามันมองผ่านเล็กมาแล้วบอกผม

“กลางกูกลับก่อนนะ อย่าลืมกินข้าวด้วยล่ะ เศร้าเลยไม่ได้กินข้าวด้วยกันตั้งหนึ่งมื้อแหน่ะ”

“...” ได้ยินเสียงกัดฟันกรอดๆ จากน้องชาย “ไม่เป็นไร เดี๋ยวคนที่กินข้าวกับกลางมาทั้งชีวิตจะกินข้าวกับกลางเอง...ใช่มั้ยกลาง”

“เอ่อ...” ก่อนที่ผมจะตอบ ไอ้เปาเริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์แล้วรีบตัดบท ท่าทางจะไม่ไหว

“กูให้เวลาอยู่กับน้องมึง พรุ่งนี้กูจะมารับ” ไอ้เล็กทำท่าจะเถียง “ไม่ต้องพูดอะไร มอdddมันไกลโอเค๊ น้องคนเล็ก”

“เฮ้ยทำไรวะ” ไอ้เล็กขยับตัว มันร้องโวยวายเมื่อเห็นไอ้เปายื่นมือมาทางผมกับไอ้เล็ก

ไอ้เปายิ้มมุมปากแบบเหนือๆ ก่อนจะคว้าเสื้อยืดที่ตากไว้ข้างหลังผม

“เอานี่ไง”





เมื่อวานหลังจากไอ้เปากลับไปแล้ว ผมพาเด็กๆ ไปทัวร์มอก็สนุกสนานเฮฮากัน แนะนำมหาลัยตัวเองเหมือนขายตรง น้องผมมันพึ่งมอสี่อยากจะให้มันหาตัวเองก่อน กลับมาที่เรื่องไอ้เปาผมไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ยแต่ไอ้เล็กมันดูจะไม่ถูกชะตากับไอ้เปาคนเดียวครับ ตอนเช้าวันเสาร์ที่เราจะไปโอเพ่นเฮ้าส์กัน มันสองคนก็เริ่มกัดกันอีกครั้ง ตอนเดินทัวร์ไอ้เปาแทบจะกลายเป็นคนนอกทันที มันเดินตามช้าๆ ยังดีที่เก่งกับอุ่นมันเข้ากับคนง่าย ตอนนี้เลยไปเกาะติดไอ้เปาแทน

“พี่แม่งเจ๋งวะ แล้วตอนวาดไม่เป็นแล้วไปเรียนวาดทำไงวะพี่”

“อายว่ะตอนนั้นเหมือนพวกไม่ได้เรื่องอะ แต่อยากเข้าก็ต้องทนอายเว้ย”

“เชี่ยยย เป็นผมกลับบ้านไปแล้ว ไอ้เล็กดูไว้ ถ้าอยากเรียนสินกำจริงๆ ดูพี่เปาเป็นตัวอย่าง”

ไอ้เล็กที่เดินข้างหน้าคู่กับผมหันไปเหอะในลำคอเล็กน้อย แล้วก็หันกลับมาคุยกับผมเรื่องคณะทันตะฯ ที่เราพึ่งเข้าไปดูมา

“อย่าไปถือสาเลยพี่ ปกติมันไม่เป็นงี้หรอก”

“สงสัยดีใจที่ได้เจอพี่ตัวเอง ไอ้นี่มันขี้เหงา”

“เดี๋ยวก็ไม่เหงาแล้ว พี่กลางสอบเสร็จแล้วนี่”

ผมนึกได้ว่ายังไม่ได้บอกไอ้เล็กเลยนี่หว่าเราจะไปเที่ยวเลยเอ่ยถามขึ้นมาทันที

“เออ เล็กพี่กับเพื่อนๆ ว่าจะไปเที่ยวต่อวันจันทร์ อยากไปด้วยป่ะหรือกลับบ้านก่อน”

“เที่ยว? แล้วกลางทิ้งเล็กหรอ ไหนบอกกลับบ้านด้วยกันไง”

“ลืมเลยอะ พี่นัดกับเพื่อนไว้ด้วย ถ้าเล็กมีเรียนเดี๋ยวพี่ไปส่งขึ้นรถก็ได้”

“ได้ไงอะ”

“เอ้าก็วันจันทร์ไม่มีเรียนหรอ”

“กลาง แต่แม่บอกว่าให้รีบกลับนะ”

“ไอ้เหี้ยเล็กมึงเป็นไรเนี่ย ขามายังบอกว่าจะไปเที่ยวต่ออยู่เลย ไปพี่พวกผมขอไปด้วย เรื่องเรียนไม่ต้องห่วง ไว้ค่อยเรียน”

“ไอ้เล็กมันอยากไปพี่ ผมรู้ ได้มาที่อื่นนอกจากเชียงใหม่ซักที” เก่งกับอุ่นทำท่าตื่นเต้นขึ้นมาทันที ผมจึงหันไปหาไอ้เล็กอีกที

“แม่บอกให้รีบกลับหรอ”

“ใครเชื่อก็เป็นหมาบินแล้วพี่” ดีนะยั้งปากทัน เกือบบอกว่าเชื่อแล้ว

ไอ้เล็กแกล้งยกโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ แล้วบอกว่าแม่ส่งมา “อะแฮ่ม เอ่อ...แม่พึ่งส่งข้อความมา บอกว่าไปเที่ยวต่อได้” เฮ้อ เดี๋ยวค่อยโทรไปขอแม่แล้วกันครับ

“ไอ้เชี่ยเล็กตอแหล”

“ตอแหลหน้ามึงดิ”

เก่งกับอุ่นเห็นแบบนั้นก็วิ่งไล่เตะเพื่อนตัวเอง ผมจึงเดินไปหาไอ้เปาที่ยืนอยู่ไม่ไกล

“เหนื่อยมั้ยวะ ต้องมาส่งกูกับน้องเนี่ย เหนื่อยก็กลับก็ได้นะเว้ย” ผมหรี่ตาเพื่อคุยกับไอ้เปา ขนาดมอนี้ต้นไม้เยอะนะแดดก็ยังร้อนแถมยังแรงมากๆ

“ตัวกูยังไม่บ่นแล้วมึงมาบ่นแทนได้ไงเนี่ย” ไอ้เปาส่ายหน้าพลางพูดขำๆ มันคงสงสารผมเลยเอามือใหญ่ๆ มาบังแดดให้

“กูกลัวมึงเบื่ออะ”

“กัดกับน้องมึงสนุกดี” ไอ้เปาพูด สายตามันมองไปทางเด็กสามคนที่วิ่งไล่กันไปข้างหน้า “แล้วมึงเนี่ย อย่ายิ้มมากได้ป่ะ”

“ทำไมวะ”

“คนมองใหญ่แล้ว”

“กูหล่อ?...โอ๊ย ดึงแก้มกูทำไมเนี่ย”

“ยิ้มทีเหมือนเด็กเอ๋อ ทีหลังไม่ต้องยิ้ม ไม่ไหว ทนดูไม่ได้” ไอ้เปาเป็นคนแรกที่บอกว่าผมยิ้มแล้วน่าเกลียด แม่ง ผมหุบยิ้มแล้วมองมันตาขวาง

“เออดี ไม่ต้องยิ้ม เชี่ยนั่นมองไรนักหนาวะ” ไอ้เปาเบนหน้าไปทางอื่นพลางบ่นพึมพำอะไรของมันก็ไม่แน่ใจนัก

“กลางมาทางนี้เร็ว!....”

“โอเค”

ผมกำลังจะเดินไปหาน้องๆ ที่รออยู่หน้าคณะสถาปัตย์ ไอ้เปาที่เดินตามมาก็พาดแขนไว้ที่ไหล่ผม มันส่งเสียงหึหึในลำคอทำให้ผมต้องเงยหน้าไปหามัน มันก้มลงมาเล็กน้อยแล้วยิ้มแบบกวนๆ อะไรของมันครับ

“กลาง!!!”



การพาน้องๆ ไปงานโอเพ้นเฮ้าส์ของมอdddผ่านไปอย่างทุลักทุเลสาเหตุก็เพราะไอ้เด็กที่มันกัดกันไม่เลิก แล้วนี่จะไปเที่ยวด้วยกันอีก ผมอยากจะกุมขมับ ผมกับไอ้เปาแทบจะไม่ได้คุยกันแต่ก็ยังดีที่มันสองคนเหมือนหมาที่ขู่กันแง่งๆ ยังไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงให้ผมรับมือ ส่วนวันนี้เราเตรียมพร้อมที่จะไปเที่ยวแล้วครับ แม่บ่นผมนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ยอมเพราะน้องเล็ก ผมกำลังรอไอ้เปากับไอ้ทัพที่ไปเอารถจากบ้านไอ้กล้วยมารับพวกเรา ส่วนไอ้กล้วยที่ควรจะอยู่กับไอ้เปาก็เสนอหน้ามาที่หอผมเพราะอยากเจอน้องผมนั่นเอง

“ไอ้กลางไหนน้องมึงวะ ยังไม่ลงมาอีกหรอ”

“มึงมองหาใคร น้องกูก็ยืนอยู่นี่ตั้งนานแล้ว” ไอ้กล้วยชะเง้อคอยืดยาวไปทางหอผม อะไรของมันวะครับ “นี่ไง”

“ห๊ะ...ไหนบอกน่ารักไงไอ้กลาง” มันเบิกตากว้างเมื่อมองตามนิ้วผมไป ไอ้เล็กยืนข้างผมมาตั้งนาน

“น้องกูก็น่ารักอะ ตอนเกิดโคตรน่ารัก อ้าว เล็กหน้าแดงทำไมร้อนเหรอ”

“ในความคิดมึงอะดิ แหะๆ หวัดดีครับน้อง...ไม่เล็กเลยนะครับ”

“ดีครับพี่...”

“พี่ชื่อกล้วย นี่ไอ้เบส”

“หวัดดีครับพี่ ผมอุ่น ผมเกรียนๆ นั่นไอ้เก่ง”

“มึงจะติดพี่ทำเห้ไร ไอ้นี่ก็” เก่งเอ็ดขึ้นมาเมื่อไอ้เล็กใช้ไหล่ดันเพื่อนตัวเองให้ขยับออกห่างผม

“ไม่ต้องเสือกเลยมึงอะ”

ฟังมันเถียงกันเสร็จก็เกือบจะผงะไอ้กล้วยทำหน้าตาอ้อร้อมาใกล้ผมพลางมองสลับกับน้องชายผมด้วย

“ไอ้กลางงงง จริงๆ น้องมึงนี่ก็คล้ายมึงนะเนี่ย เนอะไอ้เบส”

“เออจริงด้วยว่ะ แต่มันบอกไม่ถูกเหมือนกัน”

“กูมีพี่สาวคนนึงเหมือนกัน ห่างกันสิบสี่ปี กูเลยเป็นลูกหาทางกลับบ้านไม่ถูก” ไอ้กล้วยเปิดมาอย่างงี้กูเริ่มระแวง

“อะไรวะ”

“ลูกหลง”

“ไอ้เหี้ยนี่หามุขมาตลอด บอกเลยว่ารำ”

ผมกับไอ้เบสมองหน้ามันด้วยความเอือม แต่น้องๆ ผมดันหัวเราะกันซะงั้น

“ฮ่าๆ แต่ผมชอบนะพี่”

“ตลกอะ ขนาดไอ้เล็กยังหัวเราะเลย”

เพราะความบ้าบอของพวกมัน น้องชายผมเข้ากับไอ้พวกนั้นได้ดีภายในเวลาไม่กี่นาที แล้วไอ้เล็กเป็นอะไรกับไอ้เปามากมั้ยเนี่ย

ปริ๊นๆ เสียงแตรจากรถตู้ฮุนไดก็ดังขึ้น

“เฮ้ย มาแล้วๆ ไปเที่ยวกันโว้ย!!!”




“ตรงนั้นๆ ที่มีคนโบกมือน่ะ”

“เออ ป้ายนั่นไง หทัยรีสอร์ท”

ผมตื่นมาด้วยความหนักทางไหล่ซ้ายประกอบกับเสียงโหวกเหวกอยู่ไกลๆ ตลอดการเดินทางผมแทบจะไม่ได้คุยกับไอ้เปาเลยครับ ผมนั่งเบาะหลังด้านในสุด ปิดทางด้วยไอ้เล็ก ขนาดจะลงไปเข้าห้องน้ำน้องผมยังต้องลากผมไปด้วย แล้วพี่โตก็โทรมาอบรมเรื่องน้องคนเล็กให้ผมจนหูชาก่อนจะบอกให้ผมดูน้องๆ ดี ที่บ้านก็ห่วงเรื่องอุบัติเหตุน่ะครับ ส่วนไอ้เล็กรู้ก็งอนไปตามระเบียบ ไม่มีใครด่ามันตรงๆ ได้หรอกครับ

“ถึงแล้วลงๆๆ ป้ากูมาต้อนรับแล้ว”

“มีป้ายต้องรับด้วยหรอวะนั่น ไอ้เบส”

“เชี่ยยย ป้านะป้า กูอายแปบบ”

“พี่เบสป้าตะโกนเรียกแล้วเร็ว”

“เออพวกมึงรีบๆ ลง”

เสียงดังขนาดนี้ไอ้เล็กยังคงหลับต่อไม่สะทกสะท้าน ผมขยี้ตาเงยหน้าขึ้นก็สบตากับไอ้เปาผ่านกระจกรถ มันขมวดคิ้วนิดๆ แล้วก็ลงไป เชี่ย อย่าบอกว่างอนอีกคนนะ

“เล็ก ถึงแล้ว”

ผมเขย่าปลุกน้องชาย ขนาดมันบ้าจี้ยังจะมานอนทับผมอยู่ได้ รีสอร์ทของป้าไอ้เบสดูดีเลยนะครับ เดินไปไม่ไกลก็จะเป็นแม่น้ำที่เราสามารถเล่นกิจกรรมแอดเวนเจอร์ได้ พายเรือ ล่องแพ ขี่เอทีวี หรือจะไปนอนชิลที่แพก็ได้ครับ พวกเราเข้าที่พักแบ่งเป็นห้องเด็กกับผู้ใหญ่ครับ ผมกับแกงค์คอหล่นนอนด้วยกันห้าคน มันเป็นบ้านหลังเล็กๆ มีพื้นที่ไว้ทำอาหารกินเองด้วย ทีแรกไอ้เล็กมันก็ไม่ยอมแต่ด้วยพี่ชายคนใหม่อย่างแกงค์คอหล่นหว่านล้อมมันก็ตกลงนอนกับเพื่อนมันในที่สุด

ไอ้เปากับไอ้เล็กก็ยังไม่ญาติดีกันเหมือนเดิมครับ ถ้าไอ้เล็กอยากไปทางซ้ายมันก็จะลากผมไปด้วยเรียกได้ว่ากันไอ้เปาสุดฤทธิ์ ส่วนตอนนี้น้องผมมันวิ่งไปเล่นน้ำเรียบร้อย กอดคอกันไปทั้งพวกคอหล่นและเก่งกับอุ่น ส่วนผมก็นั่งบนแพรอครับ โดดน้ำไรเนี่ยไม่ใช่สไตล์หรอก

“กลาง!”

“เหี้ย” ร้องออกมาเพราะเสียงทุ้มจากด้านหลัง ไอ้เปาครับ มันพึ่งเดินเข้ามาจากด้านหลัง

“เรียกตั้งนานแล้วไม่ได้ยิน”

“มึงมาทางนี้” ผมลากแขนมันเดินออกจากแพ

“ทำไมกูต้องทำเป็นเหมือนชู้มึงเลยวะ มึงแฟนกูนะเว้ย”

“ชู่ เบาๆ” หน้าตามันหงุดหงิดสุดๆ “มาเที่ยวมาพักผ่อน ใจเย็นๆ” ผมลูบหลังปลอบ

“เดี๋ยวมึงก็กลับแล้วกูจะมีเวลาอยู่กับมึงมั้ยเนี่ย” มันเสยผมแบบหงุดหงิด ผมคิดว่ามันจะเกลียดน้องผมซะอีกแต่มันแค่หงุดหงิดเพราะไม่มีเวลาอยู่กับผมงั้นหรอ

“ไม่เป็นไรน่า น้องกูมาทั้งทีกูก็ต้องเทคแคร์มันหน่อย เดี๋ยวเปิดเทอมกูก็อยู่กับมึงเหมือนเดิม”

“เออ”

“เสียงแข็งไปอีก”

“ช่างเหอะ สงสัยอากาศมันร้อน”

“งั้นไปเล่นน้ำกัน”

“ไม่อยากเปียก” ผมถลึงตามองไอ้เปา มันคงกลับมาเป็นคนเดิมแล้วล่ะครับ มาทั้งทีไม่อยากเปียกได้ไง อ๋อผมก็ไม่อยากเปียกไง ลืมตัว ในเมื่อไอ้เปาหงุดหงิดแบบนี้ หึหึ ผมจะทำให้มันหายอารมณ์ร้อนเอง

ผมออกแรงลากมันมาทางแพเมื่อกี้ ไอ้พวกที่โดดสะพานเชือกอยู่ตรงนู้นก็หันมามองผมอย่างงงๆ

“เฮ้ย กลาง ไม่อยากเปียกโว้ย”

“มา!”

ตูม!!!

“สองคนนั้นอะ หยิบเสื้อชูชีพแล้วมาเล่นทางนี้เร็ว!!” ไอ้เบสส่งเสียงมาทันทีที่ผมโผล่ตัวขึ้นจากน้ำ ไอ้เปาสะบัดหัวตัวเองสองสามที มันมองหน้าผมอย่างคาดโทษ นี่กูออกจากกรอบตัวเองที่ไม่อยากเปียกพามึงเล่นน้ำเลยนะเนี่ยยย ยังจะมองตาขวางอีก

“อยากตายหรอกลาง! เล่นอะไรเป็นเด็กๆ” ผม โดน ดุ ผมมัวแต่อึ้งไอ้เปามันลากผมมาจับแพไว้ ส่วนมันก็ขึ้นไปหยิบเสื้อชูชีพมาสองตัว นี่ผมโดนไอ้เด็กเปาดุหรอครับ

“กูแค่อยากให้มึงสนุกอะ มึงไม่เห็นยิ้มเลย” เถียงเสียงอ่อย

“จะเล่นอะไรก็ดูก่อน เสื้อชูชีพก็ไม่ใส่ จมน้ำทำไงวะ” หน้าบึ้งกว่าเดิมอีกไอ้เปายกตัวผมขึ้นมานั่งแล้วใส่เสื้อชูชีพมาให้ ปากก็บ่นไม่หยุด มันสวมให้ผมเสร็จก็ไปใส่ให้ตัวเอง มันก็ไม่ได้ลึกขนาดนั้นหรอก...มั้งครับ

“มา อยากเล่นดีนักลงมาเลย”

มันลากผมลงน้ำอีกครั้งแล้วค่อยๆ พาผมไปรวมกันคนอื่นอยู่ไม่ไกล ผมขี้เกียจว่ายเองเลยขี่หลังมันซะเลย ไอ้เปาหันมามองผม แสงแดดกระทบพื้นน้ำระยิบระยับสะท้อนมาโดนเสี้ยวหน้าของไอ้เปา ตึกตักตึกตัก ไม่อยากจะยอมรับว่าไอ้เปามันโตขึ้นมากจริงๆ 

“ขี่หลังกูงี้ไม่กลัวน้องเล็กมึงอาละวาดหรอ” มันเหลือบตามองน้องชายผมที่เกาะเชือกอยู่ด้านบน

“ไม่กลัว”

“หึ กล้าพูด นู่นไงมันมองตาขวางแล้ว”

“งั้นมึงก็ปล่อยกูลงดิ”

“เรื่อง? กูจะไม่ปล่อยเอาให้น้องมึงอกแตกตายไปเลย” ไอ้เปาพูดพร้อมกับกระชับ

“กลางงงงงงง! เล็กหนาวแล้วว มาหาเล็กหน่อย!!”

“เฮ้ย! ไอ้เล็กมึงจะกระโดดตอนนี้ไม่ได้”

“ไอ้เก่งจับมันไว้!!”

“ไม่! กลาง! เล็กจะตกแล้ว อ๊ากๆๆๆ”

“หึหึ ไม่ทันขาดคำ”



=====
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
#คนกลาง ปวดหัวเเปบบบ
 :L2:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: janehh ที่ 01-07-2017 21:00:33
สุดยอดของความติดพี่เลยคนเล็ก 5555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 01-07-2017 21:12:52
ทีมเปาค่ะ จัดการน้องเล็กเลยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-07-2017 22:13:52
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 01-07-2017 22:53:26
55555 ตลกท่อนน้องไม่เล็กเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-07-2017 23:00:36
เล็ก คนหวงพี่กลาง
เปา คนอยากอยู่่ใกล้กลาง
ก็ขัดกันตลอดน่ะสิ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 02-07-2017 00:12:14
ทีมเปาาาาาาาาา เอาให้เล็กอกแตกไปเลยยย555555 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 02-07-2017 00:36:27
เล็กหวงพี่ชายมากกก แต่ก็น่ารักดี เปาก็หวงแฟนมาก แต่ก็อดทน น่ารักมากจ๊ะ
ไม่ทันขาดคำ อ้อนพี่อีกแหล่ว

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-07-2017 00:37:26
 :laugh:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: BlogenzZ ที่ 02-07-2017 02:24:23
อ้ากกกกกก ร้องเล็กน่ารักมากกก  :serius2:
ชอบความหวงพี่ของคนน้อง  :impress2:
เปานี่ถึงกับงานงอกเลยทีเดียว  :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 02-07-2017 06:49:10
 :mew5: ปวดหัวแทนคนกลางจริงๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 02-07-2017 08:29:35
เหอะ เตรียมง้อ ยาว ๆ ฮ่า ๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 02-07-2017 10:44:44
สงสารเปา55555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-07-2017 12:09:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-07-2017 19:29:55
แต่ละคน 5555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 02-07-2017 20:16:01
ขำมาก ปกติเป็นแม่สามีกับลูกสะใภ้ นี่เป็นคู่กัดน้องเล็กกับพี่เขย
เที่ยวกาญจนบุรีกันเถอะ 
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 02-07-2017 23:03:35
คนเล็กนี้นะ..
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 06-07-2017 22:47:45
หวงพี่กลางมากกกกก :laugh:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 19 หน้า 16 (01-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 07-07-2017 13:18:41
รอติดตาม
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 08-07-2017 17:14:25
20
คนเล็ก vs คนอย่างเปา2


“ไอ้เก่ง มึงว่าพี่เปาหน้าคุ้นๆ ป่ะวะ”

“เออ กูก็แอบคิดมาซักพักเหมือนกัน”

“ทำไมวะ เพื่อนกูเคยออกคลิปโป๊หรอ”

“เสียวสุดยอด เฮ้ย!พี่กล้วย ไม่โว้ย”

“เพื่อนกูมันดังนะเว้ยยย”

“จริงหรอพี่ เฮ้ยๆๆ คิดออกแล้ว เพื่อนผู้หญิงในห้องมันชอบเอารูปผู้ชายมากรี๊ดกร๊าดกัน”

“มึงก็เลยไปกรี๊ดด้วย”

“ว้ายยยสุดเสียงเลย  ไม่ไช่โว้ย!”

“มึงชอบมันหรอ จัดเลย เพื่อนกูโสดมากกกก”

“บ้าพี่เบสก็...แต่...พี่เปาอย่ายิ้มเดี๋ยวผมคิดจริง”

“ฮ่าๆๆ ไอ้เด็กตลก ไอ้อุ่นเอ๊ย”


“อ้าวไอ้กลางมองไรอะ ทำอาหารไปดิ เค้าคุยกันอยู่ตรงนี้”

“มีคนไม่พอใจว่ะไอ้เบส ฮ่าๆๆ”

แม่ง หัวเราะกันอยู่ได้ มื้อเย็นก็ไม่ช่วยทำ ผมเหลือบมองไอ้พวกที่ล้อผมอยู่ไม่ไกล ไอ้เบส ไอ้กล้วย เก่งกับอุ่นนั่งคุยกันโฉงเฉง ไอ้เปาที่มีชื่อในบทสนทนาก็หัวเราะหึหึอยู่ข้างๆ ผม หลังจากเล่นน้ำกันมาสุดเหวี่ยง ตอนนี้เรากำลังทำอาหารเย็นครับ อภินันทนาการมาจากป้าของไอ้เบสทั้งอุปกรณ์ทำอาหารง่ายๆ ของกิน ของสด มีกุ้ง ปู ปลาเหมือนอยู่ทะเล ถึงจะไม่สดเท่าแต่ก็ใช้ได้เลยครับ ไอ้ทัพออกไปซื้อเครื่องดื่มเพิ่มเติม...ไม่ใช่โค้กหรืออะไรนะครับ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ห้ามไม่ได้คนมันว้อนท์

“กลางอันนี้ต้องหั่นยังไง”

ผมมองไปที่น้องชายของผม ไอ้เล็กเข้ามาในเขตการทำอาหาร เพราะเห็นไอ้เปามันมาช่วยผม ไอ้เล็กก็ไม่น้อยหน้า

“เล็กไม่ต้องทำ เดี๋ยวโดนมีดบาด” ผมเอ็ดเมื่อเห็นว่าน้องชายถือมีด ครัวก็ไม่ค่อยจะเข้าไปช่วยแม่ เก่งสุดก็หยิบจานให้แม่แค่นั้นแหละครับ ทั้งเล็กทั้งพี่โตนั่นแหละ ผมก็ไม่ได้มีฝีมือมากแต่เรื่องน้ำจิ้มนี่เด็ดครับ ผมหรอ? อ๋อ น้ำจิ้มน่ะ

“แล้วให้เล็กทำอะไร”

“เดี๋ยวเล็กรอปิ้งไง”

“...แต่เตามันยังไม่เสร็จ”

“ไปช่วยเปามันเตรียมเตาไป”

“ไม่เล็กจะอยู่ตรงนี้ อู้หู้ หิวกุ้งงง”

“อย่ายื่นหน้ามาใกล้ เดี๋ยวก็กระเด็นใส่หน้าหรอก โทรหาแม่ยัง?”

“โทรแล้ว กลางฟ้องแม่หรอ”

“เออดิ กระโดดน้ำแบบนั้นมันอันตราย แม่บอกให้ดูน้องให้ดี”

“แต่เล็กโตแล้ว”

“โตแต่ตัวดิมึงอะ”

“กลางอย่าพูดคำหยาบ” ผมมองมันเอือมๆ ทีตัวเองนะพูดไฟแลบ ไอ้เล็กขยี้หูแบบกวนตีนก่อนจะเดินไปนั่งคุยกับเพื่อนมัน เออบทจะไปก็ไปง่ายคงเพราะผมเริ่มบ่นล่ะมั้ง

“มองไร” ผมทักขึ้นเมื่อรู้สึกว่ามีคนมองอยู่ ไอ้เปานั่นเองครับ

“มองคนขี้ฟ้อง”

“...”

“หน้าบึ้งๆ หึหึ” มันขยับเข้ามาใกล้แถมยังยื่นมือที่เปื้อนถ่านตรงมาที่หน้าผม ผมเอนหลังหลบ สะบัดหน้าหนีเป็นพัลวัน ไอ้เปาก็หัวเราะในลำคอทันทีเห็นผมต่อต้าน แต่มึงก็ไม่หยุดซักทีนะ!

“แค่กๆๆ! กลางน้ำแข็งติดคอเล็ก” จู่ๆ เสียงไอ้เล็กก็ดังขึ้นมา

“เฮ้ย ไอ้เล็ก ตุ้บๆ เป็นไรมั่งวะ”

“ไอ้เก่ง มึงอย่าทุบแรง อ๊ะ กะ...กลาง อ่อกๆ”

“กลางมาดูน้องมึงเร็ว! ตายมั้ยวะเนี่ย”

ไอ้เปาเอียงหน้ามองขำๆ อ๋ออ แผนมึงสินะ ทำให้ไอ้เล็กเป็นบ้าเนี่ย ผมรู้ว่าไอ้เล็กมันแอคติ้งแต่คนอื่นไม่รู้ก็โหวกเหวกกันไปใหญ่ เห็นแก่มือที่ตะเกียกตะกายสมจริงนะ ผมล้างมือแล้วเดินเข้าไปหามัน

“อะแฮ่มๆ กลางหายพอดีเลยอะ” พอถึงตัวปุ๊บมันก็ยิ้มเผล่

“ไอ้เหี้ยตกใจหมด กินยังไงวะน้ำแข็งติดคอ นี่มึงโง่เหมือนไอ้กลางเลย ฝุ่นยังเดินสะดุด” ไอ้กล้วยลูบอกพลางบ่น ไม่ต้องเหล่มาทางกูนะ

“หายแล้ว?” ผมถามน้อง

“สงสัยน้ำแข็งละลายในคอ”

กวน...

ผมส่ายหน้าพร้อมกับชี้นิ้วคาดโทษ แล้วบอกให้เด็กๆ มาปิ้งอาหารทะเลกันเองส่วนผมจะไปทำน้ำจิ้ม ไอ้กล้วยและไอ้เบสเป็นฝ่ายจัดสถานที่ เราปูเสื่อผืนใหญ่นั่งกินกันหน้าบ้านพักของพวกผม แอบเห็นไอ้เปาเดินไปแหย่น้องผมเพราะมันเป็นคนควบคุมไฟ พูดเหมือนมีพลังนะครับ ไอ้เล็กทำท่าไม่พอใจแต่พอผมส่งสายตาดุมันก็ฟึดฟัดแต่ก็ยอมให้ไอ้เปาเข้าไปยืนแถวนั้น



.
.
“อื้อหือออ”  ไอ้กล้วยร้องหลังจากหยิบกุ้งจิ้มน้ำจิ้มลงไปก่อนจะเขมือบเข้าปาก

“อร่อยมากหรอวะ” ถ้าตาเป็นประกายคงเป็นไปแล้วล่ะครับ คาดหวังให้เพื่อนกินอะไรอร่อยๆ

“กูมีแผลในปาก”

“ไอ้สัด!”

“อร่อยๆ ล้อเล่น หน้าเหวอสัดๆ”

“ฮ่าๆ พี่กลางเบรกหน้าเกือบทิ่ม”

“กินๆ กันเข้าไป”

“อ๊ะๆ คนมาช้าต้องล้างจานนะครับคุณทัพ” ไอ้ทัพถึงกับจะลุกขึ้นพร้อมกับถุงขวดแอลกอฮอล์

“มึงจะเอาเหล้าไปไหนอะเพื่อน”

“เอาเททิ้ง กูไปซื้อเหล้ามาเซ่นไหว้พวกมึงนะ”

“ขอโทษค้าบบบ ไม่ต้องล้างหรอกจานชามกินเสร็จโยนทิ้งแม่งเลย”

“ไอ้เบส จัดดิ๊” ไอ้ทัพเรียกแล้วยื่นแก้วเปล่าให้ไอ้เบส

“อ๋อ ขอบคุณรู้ได้ไง กูยังไม่ได้แก้ว”

“ถุ้ย! ยื่นให้ชง เอาเข้มๆ นะเพื่อนน” พอได้ยินคำว่าเหล้า เด็กมอสี่สามคนก็หูกระดิกขึ้นมาทันที

“เด็กๆ ไม่ต้องกินนะ โค้กนู่น” ผมยกมือห้าม เสียงร้องโหยหวนก็ดังมาจากเด็กอายุสิบหกที่นั่งล้อมวงกินข้าว

“เฮ้ยพี่ ได้ไง” เก่งร้อง

“ไม่ได้ เรามากับพี่ เดี๋ยวพ่อแม่เราจะว่าได้”

“แม่ผมไม่รู้หรอกพี่” อุ่นทำหน้าอ้อนวอน

“ให้น้องมันลองดิวะไอ้กลาง พวกเราอยู่ใครจะเป็นอะไร” ก็มีพวกมึงนี่แหละกูถึงไม่ไว้ใจจจจ

“เล็กไม่กินหรอกใช่มั้ย” ผมหันไปถามน้อง ไอ้เล็กทำหน้าเหมือนกินยาขม

“โหหหหหหหหหหหห ไอ้นี่อะตัวร้ายพี่”

“มันไม่ใสหรอกพี่ ตัวดีเลยมันอ่ะ”

“ไอ้สัดใส่ความ เล็กกินไม่เป็นหรอก”

“หรา....”

“น้องเล็กไม่กินก็ไม่เป็นไรเดี๋ยว ‘ผู้ใหญ่’ เค้าจะกินเอง เอ้าชน”

ไอ้เปาที่นั่งตรงข้ามผมพูดขึ้นก่อนจะยกแก้วชนกันพวกที่เหลือ เพราะไอ้คำนี้แหละไอ้เล็กกัดฟันกรอดๆ มันหันหน้ามาหาผมแล้วก็เริ่มการปะทะกันรอบเย็น ผมทำท่าจะบ่นมันไอ้เล็กก็เปลี่ยนเรื่องทันที

“กลางอยากกินปูแต่เจ็บมืออะ” แม่งน้องผมนี่มัน แต่ก็ตอบออกไปว่า...

“ตัวไหนอะ”

“ตัวนั้น อื้อๆ”

“ไอ้กลางตักอันนั้นให้หน่อยดิ แต้งกิ้ว โคตรรู้ใจ” ไอ้เปาบอกต่อ

“กลางกินยังไงเลอะเนี่ย เดี๋ยวเล็กเช็ดให้ หึ”

“ไอ้กลาง เดี๋ยวคืนนี้มึงนอนฟูกข้างล่างกับกูแล้วกันเตียงไม่พอ”

“กลาง...”

ถ้าถามว่าวันนี้พวกมันกวนตีนกันและกันแล้วเรียกชื่อผมกี่รอบ ผมจะตอบเลยว่าอินฟินิตี้ครับ ไอ้คอหล่นกับน้องๆ เพื่อนไอ้เล็กมองเราสามคนตาปริบๆ ผมได้แต่มองพวกผมสลับกันไปมา โอ๊ย ปวดหัวครับ
เรื่องความหวงพี่ของไอ้เล็กเนี่ยเป็นที่เลื่องลือมากในครอบครัวผม เคยมีผู้หญิงมาขอเบอร์ผมครับแล้วไอ้เล็กก็ด่ากลับไป ขนาดมันเด็กอยู่นะ ผมไปนอนค้างบ้านเพื่อนนี่ถามแล้วถามอีก มันติดผมตั้งแต่เด็กๆ แล้วไอ้เล็กเนี่ย ไอ้คนกลางมันลำบากใจนะครับ ตอนอยู่บ้านเนี่ยพี่โตใช้ผมทุกอย่าง แม่ก็บอกว่าเป็นน้องไปหยิบให้พี่หน่อย พอน้องร้องบ้างแม่ก็บอกเป็นพี่นะทำให้น้องหน่อย ตกลงผมต้องทำตัวยังไงครับ วิถีสปากลางสุดๆ ครับ

“ปี้สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ”

“น้องกูววว ปี้เลยหรอ เชี่ย โทษๆ พี่สาวครับ”

เหล้าเข้าปากแล้วเก่งกับอุ่นใจกล้าขึ้นเยอะ มันร้องเพลงสำเนียงเหนือคลอไปกับทำนองกีตาร์ที่ไอ้ทัพดีด ส่วนสายตาก็เหล่ไปทางสาวๆ อีกกลุ่มที่บ้านพักไม่ไกลมาก เพื่อนผมนี่มองใหญ่ เรากินกันไปคุยกันไปล่วงเลยมาเกือบสี่ทุ่มแล้วครับ ผมล้างจานเก็บกวาดอุปกรณ์ทำอาหารมันก็ยังกินกันไม่เลิก ออกมาจากโซนล้างจานน้องชายผมหน้าแดงแจ๋ ตอนผมลุกไปยังหน้าใสอยู่เลย แสดงว่าที่ผมลุกคงจะอาบเหล้าสินะ

“พูดไม่ค่อยเก่งแต่เหล้าหมดไว ถ้ารู้ว่าชอบไวน์ จะหาให้เธ๊ออออ....”

ผมส่ายหัวเบาๆ กับความบ้าของพวกมัน ทริปนี้เรานอนแค่คืนเดียวครับเพราะว่าน้องผมมาด้วย กลัวว่ามันจะขาดเรียนนานเกินไป ผมจองตั๋วเครื่องบินรอบเย็นเรียบร้อย กลับกรุงเทพก็กลับบ้านเลย แม่สั่งมาครับ เพื่อนผมก็โอดครวญหน่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรครับ โอกาสหน้ายังมีเสมอ

“กลางงงงงง”

ผมสะดุ้ง วันนี้ผมหลอนชื่อไอ้กลางคนนี้จังครับ ผมหันหน้ามองตามเสียงเรียกไม่ไอ้เปาก็ไอ้เล็กแหละ อากาศเริ่มเย็นแล้วครับ นั่งใกล้แม่น้ำแบบนี้ไอ้เล็กเลื้อยตัวมาพิงผม หัวหนักๆ วางไว้ที่ไหล่ผมทันทีที่มันเขยิบเข้ามาใกล้ 

“เล็กเมาแล้วอะ”

“เมาแล้วเอาใหญ่เลยเพื่อนกู”

“มันเมาก็เป็นงี้แหละพี่ ชอบเลื้อย”

“พาไปน้องไปนอนหน่อยค้าบ” เสียงยานคางสุดไม่รู้เมาจริงหรือหลอก ผมสายธรรมะอยู่แล้วครับไม่ค่อยจะกินเหล้าอะไรพวกนี้ ผมรู้สึกที่ข้างเย็นวาบขึ้นมา พอนึกขึ้นได้เลยหันไปมองไอ้เปา มันยกแก้วมองนิ่งๆ

“เอ่อ..เล็กปล่อยแขนแปบนึง” ผมไม่ได้กลัวไอ้เปามันนะครับ จริงๆ ไอ้เล็กมันรัดแน่น เก่งกับอุ่นก็เริ่มจะไม่ไหว แต่ที่หนักสุดคงจะเป็นน้องชายผม

“ง่วงแล้ว”

“น้องอยากนอนก็พาไปตบตูดนอนเหอะไอ้กลาง” ไอ้เบสพูดยิ้มๆ ก่อนจะหันไปเล่าเรื่องวัยมัธยมให้น้องอีกสองคนฟังร่วมวงกับคอหล่นที่เหลือ เสียงกีตาร์ก็ยังดังคลอมาเบาๆ

“เอ่อ..ป่ะ” ผมทนสายตาไอ้เปาไม่ไหวเลยฉุดมือน้องชายลุกขึ้นยืน มันโงนเงนอยู่พักนึงก็ค่อยเดินออกจากวงเหล้าช้าๆ

“กุญแจในกระเป๋ากางเกงมันนะพี่”

“งั้นกูพาไอ้เล็กไปก่อนนะเดี๋ยวกลับมา” ผมพูดก่อนจะจับแขนน้องพาดบ่า มันโตขึ้นแล้วนะเนี่ย ก่อนผมจะมาเรียนที่นี่มันยังไม่สูงเท่านี้เลย พยุงกันมาซักพักก็มาถึงที่พักของพวกน้องๆ ผมล้วงกระเป๋ากางเกงของไอ้เล็กแล้วไขเข้าไป สภาพห้องก็มีข้าวของกระจัดกระจายทั่วห้อง

“เอ้านั่งตรงนี้ก่อน อาบน้ำมั้ย”

ไอ้เล็กนั่งแปะลงปลายเตียงครางฮื่อๆ ที่ผมบ่นมาตลอดทาง เด็กชายคนเล็กที่พึ่งจะเป็นนายเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมเกรียนเพราะเรียนร.ด.ของมันทำให้มันยังดูเด็กในสายตาผมเสมอ

“เป็นไงชอบมั้ยเหล้าอะ”

ผมเอาผ้าเย็นในตู้เย็นเช็ดหน้าให้มัน ไอ้เล็กยังนั่งโงนเงนแต่ก็ไม่ล้มหงายหลังไปนอนบนเตียง มันมองหน้าผมไม่พูดไม่จาขณะที่ผมลงมือเช็ดแก้มแดงๆ อย่างไม่รีบร้อน แล้วจู่ๆ น้องชายผมก็เอ่ยขึ้น

“เล็กรู้นะ...”

คำพูดนั้นทำให้ผมชะงักมือไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มเช็ดลงมาถึงลำคอ “รู้อะไร”

“คนนั้นคือเพื่อนเก่าของกลางใช่มั้ย...คนที่...” เป็นผมเองที่หยุดมือจากการเช็ด มองหน้าน้องชายที่ดื่มหนักอย่างนิ่งงัน เล็กรู้หรอ ได้ไงยังกัน?

“...”

“คนที่ทำให้กลางเสียใจตั้งนานคนนั้นใช่มั้ย” ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้เล็กรู้ได้ยังไง แววตาที่แข็งกร้าวขึ้นเมื่อยามพูดคำว่าเสียใจ

“เล็ก...ไม่ชอบเปาหรอ” ผมถามเสียงเบา รู้ทั้งรู้ว่าเล็กไม่มีสติ

“เล็กไม่ชอบใครทั้งนั้นอะ” เล็กสวนตอบกลับมาทันควัน “ยิ่งคนที่ทำให้กลางเศร้าเล็กยิ่งไม่ชอบ! กลางบอกเล็กสิ กลางแค่รู้สึก
ผิดใช่มั้ย กลางไม่ได้รั..อึก มึนชิบ...”
เล็กจ้องหน้าผมมันพูดเร็วจนลิ้นพันกัน สายตามันขอร้องเหมือนให้ผมตอบย้ำความคิดของตัวเอง

“เล็กไม่กลางอยากผิดหวัง...”

“...”

“ไม่อยากให้เศร้า พี่ชายเล็กทั้งคนนะเว้ย กลางรู้ได้ไงว่ากลางจะไม่เสียใจ ถ้ากลางเสียใจ”

“...”

“เล็กทนไม่ไหวหรอก...อึก”



ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปแม้แต่คำเดียว แล้วยกผ้าเช็ดหางตาเปียกชื้นของน้องชายเบาๆ




ก๊อก ก๊อก

ไอ้เล็กหลับไปแล้ว ผมเปลี่ยนชุดให้น้องนอนสบายๆ แล้วมานั่งจมอยู่กับความคิดตัวเองพักใหญ่ๆ จนได้ยินเสียงเคาะประตู

“นานไปแล้ว”

ผมเปิดประตูเห็นคนมาใหม่ ได้ยินเสียงแข็งๆ จากที่คิดมากอยู่เห็นไอ้เปาแล้วก็อดขำไม่ได้ มันทำหน้ามุ่ยเหมือนตอนเด็กๆ หรี่ตาจนแทบไม่เห็นตาดำ

“หัวเราะอะไร น้องชายสุดที่รักหลับแล้วหรอ ทาแป้งก่อนนอนยัง” มันชะโงกหน้าเข้าไปดูในห้อง น้องชายผมนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง กอดผ้าห่มเหมือนเด็กนิสัยนอนดูดนิ้วก็มีเหมือนผมนะบางที

“พาไปอาบน้ำแล้วก็ทาแป้งเรียบร้อย” เห็นหน้าตาบู้บี้ของมันก็อดจะกวนไม่ได้

“ดูหน้าด้วยกูไม่ตลก”

“ล้อเล่น”

“เห็นกูเป็นหม่ำไง๊? ไปได้แล้ว จะเข้าห้องกันหมดแล้ว” พูดจบก็หันหลังเดินไปทันที ผมได้ยินเสียงเก่งกับอุ่นดังมาแว่วๆ จึงออกมาจากห้อง แล้วเดินตามไอ้เปาไป หนาว ผมห่อตัวเข้าหากัน

ปั่ก

“หยุดทำไมเนี่ย” หยุดก็ไม่บอก

“หนาวก็มานี่ เดินช้าอีก” ปากบ่นแต่มือก็คว้าไปจับแถมยังเดินมาชิดผมอีก ผมยิ้มไอ้เปามันก็งี้แหละ ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย ทางมืดสลัวแบบนี้ไม่มีใครมองหรอกครับ ผมกับไอ้เปาเดินมาข้างๆ แล้วก็ไปโผล่บ้านพักเรา เพื่อนผมและเพื่อนน้องชายกำลังช่วยกันเก็บของ ยังดีที่ไม่เมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว

“สองคนนี้ไปไหนกันมาอะ” ไอ้กล้วยทักมันเป็นคนเดียวที่หยิบถั่วเข้าปาก ไม่ช่วยคนอื่น ไอ้ทัพกับไอ้เบสที่มึนก้มเก็บขวดหัวยังชนกันอีกคิดดู

“เก่งกับอุ่นไม่ต้องเก็บแล้วไปนอนได้แล้ว”

“เอางั้นหรอเพ่” เออตอบมาเสียงยานหน่อยๆ ผมพยักหน้ารับแล้วรีบดันน้องออกไปจากการเก็บของ เด็กสองคนเลยไหว้ก่อนจะ
กอดคอกันกลับที่พัก เออลืมบอก ไอ้เล็กนอนแผ่เต็มเตียงเลย พี่ขอโทษนะ

“เพื่อนเปา ไอ้กลางเมียมึงเมินกูอะ”

“จังไร”

“นิสัยเสียเนอะ มันใช่มั้ย?”

“มึงอะ”

“เออออ อะไรก็แตะไม่ได้ สมน้ำหน้า เจอฤทธิ์น้องเมียวันนี้เป็นไงล่ะ”

ผมชะงัก ไอ้เปายักไหล่มันเดินมากอดคอผมพร้อมกับยิ้ม “สบ๊ายยยยย แค่นี้จิ๊บๆ” สาบานว่าเสียงนั้นออกมาจากไรฟัน
ไอ้เปามันคงหงุดหงิดอยู่หรอกครับ ไอ้เล็กก็กวนซะขนาดนั้นแต่เห็นมันอดทนมาจนถึงตอนนี้แถมยังมองน้องผมขำๆ ก็ถือว่ายังดี แต่น้องชายผมเนี่ยสิไม่รู้มันตื่นมาจะจำได้มั้ย คำถามที่มันถามกับผม

“เสร็จแล้วเข้านอนเพื่อน น้ำก็อาบหลังเล่นน้ำแล้วกูนอนเลยละกัน” เพื่อนผมลากไอ้กล้วยตัวปัญหาเข้าไปด้วย ด้านนอกจึงเหลือแต่ผมกับไอ้เปา

“มึงมีอะไรจะบอกกูรึเปล่า” ไอ้เปาพูดกับผมแต่สายตามองออกไปไกล

“...”

ผมยังสับสนและไม่อยากคิดว่าต่อไปนี้ มันจะมีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ผมเป็นคนกลางที่สมถะในชีวิต อยากให้ทุกวันดำเนินไปในแบบที่มันเป็น

“มึงว่าพรุ่งนี้ฝนจะตกมั้ย”

“เปลี่ยนเรื่องนะมึง”

“ฝนตกแหงๆ...”

“อย่าให้รู้เองแล้วกัน” มันคาดโทษ

“ง่วงแล้วไปนอนกันเถอะ”

“ชวนนอน อ่อย?” ไอ้เปาเลิกคิ้วถาม ที่นอนผมกับไอ้เปาคืนนี้นอนข้างเตียงนะครับทุกท่าน

“อ่อยจริงแล้วไปปะล่ะ” ผมพูดขำๆ แล้วหมุนตัวไปจับลูกบิดประตู

“หึ จะโดนไม่ใช่น้อยนะมึง” ไอ้เปารั้งแขนผมไว้ก่อนที่ผมจะเปิดประตู “เดี๋ยวดิ วันนี้กูไม่ได้มองหน้ามึงเกินห้านาทีเลย”

“เว่อร์ เดี๋ยวให้ทั้งคืนเลย นาทีละห้าบาท”

“งี้กูก็จนดิวะ”

“...”

“กูอยากมองมากกว่าคืนนึงนี่คิดยังไงอะ”

ไอ้เปายื่นหน้ามาถามผมด้วยแววตาพราวระยับ ยกยิ้มจนเห็นลักยิ้มที่แก้ม ลมเอื่อยพัดผ่านหน้าเบาๆ เราเลื่อนหน้าเข้าใกล้กันทีละน้อย ทีละน้อยจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นของอีกคน

“โอ๊ยยยยยยยยย”

“ไปจีบกันไกลๆ โว้ย พูดอยู่หน้าประตูเนี่ย คนจะนอนน”

“เข้ามาแล้วปิดประตูแน่นๆ นะ กูกลัวมดขึ้นเตียง”

เราสองคนชะงักค้างไปแบบนั้นแล้วหัวเราะด้วยกันเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปจริงๆ ซักที

เสียงโห่แซวดังออกมาจากบ้านพักไม่ไกลจากแม่น้ำไม่นานแสงไฟในห้องก็ดับลง ปล่อยให้พรุ่งนี้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ

[ต่อด้านล่างค่ะ]
.
.
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 08-07-2017 17:15:55
.
.

“ฝนตกตอนไหนวะเนี่ยยยยยย”

“ไอ้เหี้ย โคลนเพียบ”

“ร้องทำไมครับเพื่อนกล้วย นี่ไงเราจะได้ขี่เอทีวีแบบวิบาก”

“ใช่พี่ ผมเห็นด้วย โคลนสาดดดดด”

“ไอ้เก่งนี่มึงด่ากูหรอ”

“พี่ๆ เพื่อนผมไม่ได้ด่า มันบอกโคลนเนี่ยมันสาด”

“น้องเล็กครับ เพื่อนน้องมันด่าเพื่อนพี่ว่า คนเหี้ยมันสาดครับ”

“หูเพี้ยนแล้วพวกมึง”

“ฮ่าๆ”

“พวกมึงอย่าตีกัน ไปเร็ว”

เราเดินออกไปที่จุดเริ่มขี่เอทีวีครับ นัดกันไว้ซะดิบดี เพราะเมื่อคืนดึกไปหน่อย เราต้องออกสายจนได้ แถมฝนยังตกตอนเช้ามืดอีกด้วย หลับเพลินกันไปอีก วันนี้เราจะกลับตอนบ่ายครับ ได้ขี่เอทีวีกันซักรอบสองรอบแล้วก็กลับ

“อากาศตรงนี้สดชื่นจังโว้ย เฮ้อออ หอมชื่นใจ”

เต๊ง!

เช้านี้ไอ้เปาเริ่มเปิดศึก มันสูดอากาศเย็นเข้าปอดแล้วก็บิดขี้เกียจก่อนจะเอาแขนอันหนักเหมือนท่อนซุง(เว่อร์ชิบเป๋ง)มาทับไหล่ผมไว้ ผมเหลือบตามองไอ้เล็ก มันเดินตามมาอึนๆ ช้าๆ พอเห็นไอ้เปาเท่านั้นแหละมันสาวเท้ามาปัดมือไอ้เปาออกอย่างรวดเร็วแล้วคว้าแขนผมไปแทน ท่าทางมันจะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้

“กลางมายืนทำอะไรตรงนี้ ก้าวยาวๆ เร็วเข้า ตรงนี้ เหม็นเหมือนอะไรเน่าๆ อะ”

เล็กมุ่ยหน้าพลางปัดจมูกไปมา ผมเดินตามแรงลากของไอ้เล็กมา เสียงคอหล่นอีกสามคนกับเก่ง อุ่นยังดังโฉงเฉงอยู่ข้างหน้า พวกมันเหมือนพี่น้องที่เกิดมาคู่กันครับ เดินห่างออกมาจากไอ้เปาไม่ไกลก็ยังได้ยินเสียงดังตามมา

“เดินยืดขาหน่อยก็ดี เมื่อคืนกลางกอดแน่นเมื่อยตัวไปหมด”

เชี่ย...อุทานในใจ ผมส่ายหน้าตาโตกับน้องชาย ไม่ใช่นะ อย่าเข้าใจผิด

ผมไม่ได้กอด มันต่างหากที่กอดผม

ศึกครั้งนี้น้องผมถึงกับเดินกระทืบเท้าระบายอารมณ์พร้อมกับเสียงประกาศชัยชนะของไอ้เปา




เดินมาไม่นานเราก็ถึงจุดเริ่มต้นของการขี่วิบากในครั้งนี้ มองไปตามทางข้างหน้าเราจะเห็นความวิบากนั้นชัดเจนครับ น้ำโคลนขังเป็นแอ่งๆ นอกจากเราแล้วก็ยังท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน พวกเราเตรียมพร้อมฟังคำอธิบายจากคนดูแลหลังจากรอต่อคิวให้เอทีวีมีครบพร้อมทุกคน สวมหมวกกันน็อคเรียบร้อยเราก็ไปเริ่มที่จุดสตาร์ท ไอ้เล็กกับเพื่อนคุยกันใหญ่ไม่บอกก็รู้ว่าตื่นเต้นที่ได้ทำกิจกรรมอะไรลุยๆ

“ใส่เสื้อกันฝนด้วย”

“ใส่ทำไม” ผมถามไอ้คนที่ยื่นเสื้อกันฝนสีม่วงใสๆ มาให้ผม 

“ใส่ไปเหอะน่า เดี๋ยวพวกนี้ก็ใส่”

“อ๋อ กันเสื้อเปื้อนโคลนใช่ป่ะ” ไม่ได้ตอบคำถามผมหรอกไอ้เปาน่ะ มันจับผมยัดใส่เสื้อกันฝนพลางจัดให้เรียบร้อย โผล่หน้าออกมาจากเสื้อกันฝนก็เห็นน้องชายยืนมองอยู่ ผมกระแอมเล็กน้อยก่อนจะจัดเสื้อกันฝนด้วยตัวเอง

“เสื้อมึงบาง โดนน้ำก็เห็นไปไหนต่อไหน อย่าให้กูหงุดหงิดเข้าใจ๊”

“...อะ...” ผมร้องเบาๆ รู้สึกร้อนที่หน้า “มึงก็ใส่ด้วยละกัน”

“กลัวเสื้อกูเปื้อนหรอ?”

“เปล่าเสื้อมึงบางเหมือนกัน” ผมรีบบอกก่อนจะเดินไปรวมกับเพื่อนๆ ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอตามหลังมา

“กูจะถ่ายคลิป ดีนะเอาโกโปรมา” ไอ้ทัพบอกพลางเช็คกล้องเหมือนลูกรัก

“อย่ามัวแต่ถ่ายเพลิน ระวังด้วยนะครับ โคลนเยอะระวังรถจะติดหล่ม” พี่คนดูแลเอ่ยเตือนไอ้ทัพรวมถึงพวกผมด้วย
เสียงรถเอทีวีจากนักท่องเที่ยวกลุ่มก่อนหน้าเราก็มาถึง “มาแล้วครับ เลือกคันได้ตามใจชอบ”

“งั้นผมคันหลัง ขอเกาแปบ”

ผลัวะ!

“ไอ้เชี่ยกล้วย” ไอ้เบสตบกบาลไอ้กล้วยแล้วพยักเพยิดไปทางพี่ข้างหลัง

“แหะๆ โทษครับพี่ไม่ได้ตั้งใจ ปากเร็วนึกว่าเพื่อน” ไอ้กล้วยหันไปไหว้พี่เจ้าหน้าที่

“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรน้อง”

การเริ่มต้นขี่เอทีวีนี้เราจะออกตัวตามกันไปครับ แล้วจะมีช่วงหนึ่งที่ถนนสำหรับขี่มันจะกว้างขึ้นให้เราโชว์ความสามารถสำหรับแซงเยาะเย้ยเพื่อนได้เลย ผมชักตื่นเต้นขึ้นมาแล้ว เมื่อเข้าประจำที่ก็เริ่มออกตัวทีละคนครับ เริ่มจากไอ้ทัพ ไอ้กล้วย ไอ้เบส แล้วก็เก่ง อุ่น ไอ้เล็ก ผม และไอ้เปาเป็นสามคันสุดท้ายครับ การขี่เอทีวีก็ไม่ยากสำหรับพวกเราครับ แต่สำหรับผมต้องก็จะไม่ค่อยถนัดอยู่หน่อยๆ ไอ้เปาเลยขอขี่ตามหลัง มันบอกกลัวผมทำรถพัง

“เริ่มเลยครับน้อง!”

“วู้วๆๆๆ”

เสียงล้อบดกับดินลูกรังดังก้อง พวกเราออกตัว ส่งเสียงตะโกนปลุกความสนุกในตัวเอง ผมที่ไม่มั่นใจในการขี่ พอเริ่มออกตัวก็สนุกไปกันมันครับ ไอ้พวกข้างหน้าขี่มาถึงทางโค้ง ผลัดกันแซงผลัดกันขึ้นนำครับ

“ไอ้เก่ง มึงจะแซงกูหรอ”

“ตามมาดิไอ้อุ่นนน”

“ไอ้กล้วยรอกูด้วยยย”

“นายทัพ สิงห์นักบิดมาแล้วครับผมมม”

เพราะน้องชายมาด้วยผมเลยต้องมองหามันบ่อยๆ ส่วนไอ้เปาก็เหมือนขี่เล่นๆ มากกว่าไม่ได้แข่งกับไอ้พวกนั้น ผมใจชื้นเมื่อเห็นว่ามันยังตามหลังมา

อ๊ะ ไอ้เล็กอยู่ไหนแล้วเนี่ย

“ฮ่าๆๆๆ กลางตามมาเร็ว”

ไอ้เล็กหัวเราะตาปิด มันหันมามองผม ทั้งๆ ที่ข้างหน้ามีหลุมอยู่ทางด้านขวา ผมจะอ้าปากร้องกลัวว่าน้องจะเกิดอุบัติเหตุแต่ไอ้เล็กรีบหันกลับไปแล้วยกตัวขึ้นผ่านหลุดตื้นๆ นั้นไปอย่างไม่เป็นอันตราย เพราะความที่มองแต่น้องทำให้ไม่เห็นว่าข้างหน้าของตัวเองมีหลุมโคลนขนาดใหญ่ มือขวาที่บิดแฮนด์รถเพิ่มแรงบิดไปข้างหน้าด้วยความตกใจ

เฮ้ย!!

“กลาง! ระวัง!”

“กลาง!!”

ผมได้ยินเสียงไอ้เปาร้องตะโกน ก่อนที่ร่างตัวเองจะลอยหวือไปด้านข้าง รถของผมติดโคลนทำให้เสียหลัก ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเห็นภาพวูบไหวไปไม่กี่วินาที ไอ้เปาทิ้งรถของมันแล้วเข้าถึงตัวผมเป็นคนแรก ตามมาด้วยน้องชายผมที่วิ่งมาด้วยความร้อนรน

“กลาง เจ็บตรงไหน กลาง”

“กลางเป็นยังไงบ้าง เล็กขอโทษ เล็กไม่น่าเรียกกลางเลย”

“...” ผมส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าผมไม่เป็นไร ยังดีที่ผมใส่หมวกกันน็อคแล้วตัวผมก็ลอยไปหล่นในหญ้าข้างทางด้านซ้าย ผมมอง
น้องชายกับไอ้เปาที่ทำหน้าตากังวลสุดขีด

“ไปโรงพยาบาล”

ไอ้เปาพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด น้องชายพยายามพยุงผมขึ้นแต่เพราะไอ้เปาแข็งแรงกว่า มันดันตัวน้องผมออกแล้วอุ้มผมไปที่เอทีวีมันแทน ผมแค่มึนครับ แต่ไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลยแต่ตกใจอยู่เลยพูดไม่ออก ใบหน้าไอ้เปาเคร่งขรึม แววตาฉายแววกังวลออกมา มันหันกลับไปมองน้องชายผมที่ยืนเคว้งอยู่ตรงนั้น

“เดี๋ยวพี่พากลางกลับไปที่รีสอร์ทเอง เล็กตามมาแล้วขี่ระวังด้วยล่ะ”




.
.

กร่อยสนิท

น้องชายผมนั่งเงียบ ไอ้เปาก็ขับรถไม่พูดไม่จา เรากำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯ ครับ หลังจากผมเกิดอุบัติเหตุเพราะความประมาทของตัวเอง ไอ้เปาก็ทำแผลให้ผม เสื้อกันฝนมันขาดตอนกระเด็นออก เข่าเลยมีแผลทั้งสองข้าง ข้อศอกมีแผลเล็กน้อย นั่งทำแผลไม่นานเพื่อนร่วมทริปก็ออกมาด้วยความแตกตื่น เราเก็บของกันแล้วก็ออกเดินทางไปตัวเมืองทันที ไอ้เปาพาผมไปโรงพยาบาลเอกชน เช็คตรวจรวดเร็ว พอรู้ว่าผมไม่เป็นอะไรมากก็ได้ฤกษ์กลับครับ

“เจ็บมากมั้ย?” ไอ้เบสถาม

“ไอ้กลางหรอ” ไอ้กล้วยตอบ

“เปล่า หญ้าที่มันล้มใส่อะเจ็บมากมั้ย”

“ถุ้ย!”

“ฮ่าๆ พวกพี่นี่เล่นรับส่งกันได้ทุกสถานการณ์เลย”

“ก็ไม่อยากให้เครียดดดด”

 “เล็ก...”

“...”

ไม่รู้ว่าน้องชายผมเป็นอะไร มันนั่งเงียบไม่กวนผมเหมือนเคย “เป็นอะไร”

“เล็กทำให้กลางเจ็บ”

“ไม่ใช่ความผิดของเล็กเว้ย”

“เล็กเป็นน้องยังดูแลพี่ไม่ได้เลย”

“...”

“...พยุงพี่ยังไม่มีแรง ขับรถพากลางไปโรงบาลก็ไม่ได้”

“ให้พี่ดูแลน้องน่ะดีแล้ว”

ผมยกมือไปลูบหัวน้องชายเบาๆ น้องไม่เจ็บก็โอเคแล้วครับ ผมคนดี,2017
พวกเรามาถึงหอพักผมก่อนเพราะผมต้องรีบกลับ ชีวิตมันคือการเดินทางจริงๆ ครับ เพื่อนผมก็ลงมายืดเส้นยืดสาย ผมเอาของออกจากหลังรถก่อนจะเดินไปหาไอ้เปาที่ยืนพิงรถอยู่ มันกดโทรศัพท์ไม่สนใจใคร

“เปา...กูกลับก่อนนะ ไว้คุยกัน”

ไอ้เปาเหลือบมองแผลผมก่อนจะหันไปหน้าไปทางอื่น ผมต้องนั่งแท็กซี่ไปสนามบินกับน้องๆ ครับ ทีแรกไอ้เปาก็จะไปส่ง แต่มันเสียเวลาตอนไปเอารถนี่แหละ ผมเลยตัดปัญหาลากันตรงนี้เลย ขึ้นไปเก็บของบนห้องอีกนิดหน่อยก็พร้อมเดินทาง

“...เจอกันเปิดเทอม”

พอเห็นว่ามันไม่ตอบ ผมก็เลยตบไหล่มันไปสองสามทีเตรียมจะไปหาไอ้คอหล่นคนที่เหลือแต่พอหมุนตัวไอ้คนที่เงียบก็คว้ามือผมไว้

“มึงเนี่ยน้า...เดินทางปลอดภัย ถึงแล้วบอกกูด้วย โทรไปต้องรับโอเค้”

“...อื้ม” ผมยิ้ม

“ไอ้กล้วย ไอ้เบส ไอ้ทัพ กูไปก่อนนะเว้ย”

“เพื่อนกูวว ขอกอดหน่อยยย”

“ไม่น่าเลย เห็นกันอยู่ ไม่น่าไปเร็ว”

“ไอ้สัด! ขอโบกทีนึง...”

“กลาง...” พอเสียงเฮฮาหายไปแล้ว ไอ้กล้วยก็ส่งเสียงเศร้ามาแทน ผมปรับอารมณ์แทบไม่ทัน

“อะไร”

“พวกกู...”

“ขอไส้อั่ว น้ำพริก แคบหมูด้วยน้า!!”

เชี่ย...

นึกว่าจะอาลัยอาวรณ์ ที่ไหนได้เห็นแก่กินนี่เอง แถมประสานเสียงกันไม่อายชาวบ้านเลย

“พี่ๆ ขอบคุณนะครับบ ไปกับพวกพี่สนุกมาก”

“หวัดดีครับพี่ คราวหน้าไปด้วยกันอีกนะ”

“โชคดีเว้ยทุกคน!”

“ตั้งใจเรียนนะไอ้น้อง”

ขณะที่ทุกคนหันหลังเข้าหอ ผมพบว่าน้องชายผมไม่ได้เข้ามาด้วย หันไปมองอีกทีก็เห็นไอ้เล็กเดินตรงไปที่หน้าไอ้เปา นั่นเป็นครั้งแรกที่มันเผชิญหน้ากันตรงๆ ผมยืนมองด้วยความรู้สึกหวั่นๆ กลัวมันตีกันตาย

ไอ้สามหน่อคอหล่นไม่อยู่ตรงนั้นคงจะขึ้นรถไปแล้ว ผมยืนมองแล้วก็เห็นน้องชายยกมือไหว้ไอ้เปา มันคุยอะไรกันก็ไม่แน่ใจเพราะน้องมันหันหลัง แต่ที่รู้ๆ คือไอ้เปายิ้มมุมปากก่อนจะตบบ่าน้องชายผม น้องชายผมเม้มปากแล้วก็วิ่งมากอดเอวผมอย่างรวดเร็ว ไอ้เปาที่ยืนมองอยู่ส่ายหน้าขำ ก่อนที่มันจะเปิดประตูคนขับ ไอ้เล็กก็หันไปตะโกน

“ถ้ามาเยี่ยมบ้านเก่าก็แวะมาบ้านเราได้นะพี่เปา!!”


Bananabaot จบทริปสั้นๆ ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกคนค้าบบบ  @yesbest @teletubbieee @paramatkrikri @khonklang แท็กน้องมึงด้วย
Violence งือออ โฟกัสข้างหลังค่ะ
Eralee @khonklang น้องจริงหรอ ต้องกอดเอวขนาดนั้นเลย
Paopp เปามองแรงแล้วเด้อออ ปล.น้องหล่อขอวาปหน่อย
Wassana อย่าแย่งคนกลางของพี่
Awana รักพี่เสียดายน้องค่า
Bananaboat คุณ(มึง)ครับ ช่วยพูดถึงคนถือกล้องด้วยครับ หล่อครึ่งรูปขนาดนี้มองแต่ข้างหลัง
Jimmie @bananaboat พวกมึงงง กูยังสอบไม่เสร็จไอ้สัด! อวดหาพ่องงง



“ยิ้มอะไรกลาง”

“เปล่า รูปในนี้ขำดี”

ผมตอบน้องตอนนี้เรานั่งอยู่บนเครื่องครับ แผลที่เข่าก็เริ่มตึงนิดๆ ตอนแรกที่ไม่เจ็บอะไรมาก เริ่มมีอาการเจ็บตามแขนขาจากแผลช้ำครับ น้องผมก็แบกกระเป๋าคอยดูผมตลอด เดี๋ยวกลับบ้านผมก็เป็นเบ๊ตามเดิม เก่งกับอุ่นหลับหัวชนกันอยู่เบาะด้านหน้าเรา

“ไม่ต้องดีใจไปหรอก เล็กก็แค่ไปขอบคุณที่ช่วยกลางไว้เท่านั้นเอง”

“โธ่ น้องเล็กของพี่โตขึ้นแล้วนะ...”

ผมวาดมือไปกอดไหล่ เอียงหัวไปซบก่อนจะเลื่อนมือไปขยี้หัวน้องตบท้าย ไอ้เล็กเอ๊ยยย ยอมลดทิฐิไปคุยกับไอ้เปาก่อนเนี่ยผมไม่คาดคิดเลยครับ

“ถ้ากลางเสียใจ เล็กไม่ปล่อยไว้แน่”

ผมตาโต มือที่วางอยู่บนหัวไอ้เล็กวางนิ่งไว้แบบนั้น น้องผมจำได้หรอเนี่ย

“...”

“เล็กจะคอยจับตามองทุกย่างก้าว” ดูใช้คำ

“ไอ้เด็กขี้หวง!”

“ก็มีพี่แบบกลางคนเดียวป่ะวะ” ไอ้เล็กพูดพลางถูจมูกตัวเอง แก้มก็แดงขึ้น แบบพี่มันเป็นยังไงหรอเล็ก

“เอ้า แล้วพี่โตอะ” ผมแกล้งถาม

“ปล่อยไป โตแล้วน่ารำคาญ”

“กลับถึงบ้านพูดงี้ต่อหน้าดิ”

“กลางนอนได้แล้ว กินยาแก้ปวดยัง”

“กินแล้วครับบบ” พูดเพราะให้เค้าซะหน่อย ไอ้เล็กมันแพ้ทางคนพูดเพราะครับ



.
.

“แม่ เล็กมาแล้ววววว”

ไอ้เล็กแหกปากโวยวายทันทีที่วางของทั้งหมดที่ห้องรับแขก เรามาถึงบ้านสองทุ่มกว่าครับจากรถของสนามบิน เก่งกับอุ่นก็ขอตัวกลับก่อน สองคนนี้เป็นเพื่อนบ้านกันครับ พอกลับมาบ้านไอ้เล็กก็จะกลายเป็นน้องคนเล็กขั้นสุด ที่นี่มันเป็นใหญ่นะครับ ถ้าขัดใจบ้านแตก ผมมองรอบบ้าน สูดหายใจเอาอากาศเชียงใหม่เข้าปอด ผมถึงบ้านแล้วครับ!!

“แม่หวัดดีครับ พ่อหวัดดีครับ”

“คิดถึงกลาง มาหอมก่อน ฟอด” แม่เดินเข้ามากอดมาหอมผม

“แม่อ่ะ แล้วเล็กอะ” เล็กหน้าแตกเพราะแม่เดินเข้ามาหาผมก่อน

“โดดเรียนงี้ ไม่อยากทัก” พ่อเดินออกมาทักครับ

“พ่ออออออออออออออออ กลางชวนไปเที่ยวเล็กจะกลับแล้วจริงๆ อะ พ่อก็เมินกลางดิ”

“กลาง แม่เตรียมข้าวเย็นมาเร็วๆๆ”

“พี่โตกำลังมาลูก เดี๋ยวเรากินกันก่อน”

“กลางคิดถึงพ่อ” ผมก้มไปกอดพุงพ่อที่ผมชอบที่สุด พ่อตบหลังผมแล้วก็เดินไปทางห้องครัว เล็กเดินไปอ้อนแม่เดินนำไปโต๊ะอาหารก่อนแล้วครับ

“เป็นไง ไอ้เล็กไปป่วนกลางมั้ย”

“ไม่ป่วน เล็กเรียบร้อย” เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ผมจะเก็บงำความจริงไว้ในใจเอง

“เห็นมั้ย เล็กดีสุด”

“บังคับพี่เค้าพูดหรอเล็ก”

“พ่ออ่า หิวแล้ว กินๆๆๆ”

อาหารเหนือที่ผมรอคอย แม่เอาใจผมตักอาหารให้ผมใหญ่ ผมคิดถึงบ้านสุดๆ เล็กพูดจ้อไม่หยุด เล่าเรื่องไปเที่ยว ไปดูมหาลัย เรื่องหอผม พ่อหัวเราะพุงกะเพื่อมน่ารักที่สุด ผมได้แต่ฟังยิ้มๆ ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถหน้าบ้าน

“เล็กโม้อะไรดังไปถึงดาวอังคาร”

พี่โตเดินเข้ามาพร้อมกับหนังสือเต็มอ้อมแขน พี่ชายคนโตของบ้าน เสื้อนักศึกษายับยู่ยี่ หน้าตาเพลียๆ ครับแต่พอเห็นไอ้เล็ก พี่โตก็ดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงในการจัดการมัน

“นี่ก็อีกคน...โตพูดอะไรเกรงใจการศึกษาหน่อย” มันตอบพี่มันครับ

“แม่ดีใจที่สุด ได้กินข้าวพร้อมหน้ากันซักที”

“แม่กินเกือบสามทุ่มอ้วนนะ”

“เล็ก!”

“ล้อเล่นค้าบ”

“ตัดค่าขนมมันเลยแม่”

“พี่โต!”

“มากินข้าวโต นั่งๆ”

“ครับพ่อ ไอ้เล็กไม่อยู่บ้านสามสี่วันนี่บ้านสบายหูไปเยอะ”

“จะกัดน้องอีกนานมั้ย” ไอ้เล็กทำตาขวาง

“แล้วเล็กไปหากลางกัดคนไปกี่คนแล้วล่ะ” พี่โตย้อนทั้งบ้านกลั้นขำกันครับ “สงสารกลางจริงๆ มีน้องเป็นหมาบ้า”

“โตๆๆ นี่น้องโตเหมือนกันนะ”

“อ้าวหรอ โทษๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆ พอมาพร้อมหน้าแบบนี้กลางจะกลายเป็นทาสพวกมันใช่มั้ย สงสารลูกพ่อที่สุด”

“กลางโอเค กลางมีพ่อเป็นพวก”

ผมเอียงหัวไปซบแขนพ่อ ส่วนแม่ก็มัวแต่ตักอาหารให้พวกผม คืนนี้พวกมันอาจจะใจดีเพราะพึ่งกลับมาถึงบ้าน ถ้าพระอาทิตย์ขึ้นเมื่อไหร่ ผมจะกลายร่างเป็นทาสพวกมัน


Khonklang
ถึงแล้วววว
*สติ๊กเกอร์หมาสงสัย
นกกระปูด เฮ้ๆ บินไปไหน

เย็นวันหนึ่งในช่วงปิดเทอมของผม ผมจ้องมองหน้าจอแอพพลิเคชั่นไลน์ที่เปิดค้างไว้ ส่งข้อความบอกไอ้เปาไปเมื่อสามวันก่อนจนป่านนี้มันยังไม่ตอบเลยครับ

“ทำไรอยู่”

ไอ้เล็กเดินเข้าห้องนอนผมเหมือนห้องนอนตัวเอง แถมยังชะโงกหน้ามาดูมือถือผม ไอ้เล็กคิ้วกระตุกนิดหน่อยก่อนจะโยนมือถือไว้บนเตียง

“มีกิ๊กแล้วงี้อะ”

“ใช่หรอ”

“ชัวร์....”

“ปากดีจริงๆ” ผมบีบปากน้องจนปากจู๋

“อื้อ...”

“ถามจริง ใครบอกเรื่องไอ้เปา” เรานอนคว่ำอยู่บนเตียง ผมปล่อยมือจากหน้าไอ้เล็กแล้วจ้องมัน นี่พี่จริงจัง

“...ก็ไม่มีใครบอกหรอก” เล็กหลบตาผมแต่สายตามองตรงไปที่โต๊ะเขียนหนังสือของผม ผมมองตาไปแล้วก็มีบางอย่างสะกิดสมอง

“เล็ก” กดเสียงต่ำ “นี่เล็กแอบอ่านไดอารี่พี่หรอ”

ตอนเด็กผมเคยเขียนไดอารี่ครับ เขียนตั้งแต่ประถม เขียนเรื่องที่เจอประจำวัน เรื่องครอบครัว และหนึ่งในนั้นก็มีเรื่องไอ้เปาสมัยเด็กๆ

“เล็ก!!!”

“กลางอย่าทำร้ายเล็ก!!!!” น้องมันซน ทั้งห้องผมมีอะไรที่มันจะไม่รู้ แต่ก็ไม่คิดมาก่อน ที่มันเป็นบ้ากับไอ้เปาเพราะรู้มาตั้งแต่แรก
ใช่มั้ย

“อ๊ากกกกแม่ ช่วยเล็กด้วยยยยยย”

ผมยิ้มเหี้ยม ไอ้เด็กชอบส่องมันต้องโดนดี หึหึ

“กลาง!”

เสียงสวรรค์เรียกมาจากด้านล่าง ไอ้เล็กยิ้มก่อนจะผุดลุกขึ้นจากเตียง “แม่ช่วยเล็กด้วย”

ตึก ตึก

“กลาง..” พอแม่เหวี่ยงประตูออกไอ้เล็กก็วิ่งไปหาแม่ทันที

“แม่ กลางมันใจร้าย จัดการกลางเลยแม่”

“เล่นอะไรของเรา แม่จะมาบอกกลางว่าเพื่อนมาหา คุยกับพ่ออยู่ข้างล่างแหน่ะ แม่เรียกตั้งนาน”

ผมกับไอ้เล็กมองหน้ากันช้าๆ ทั้งชีวิตเพื่อนผมมีแค่ไอ้โจ๊กครับที่รู้จักบ้านของผม เมื่อวานมันยังบอกอยู่เลยว่าจะกลับถึงเชียงใหม่พรุ่งนี้






แล้วข้างล่าง นั่นใครครับ


=====
ขอบคุณที่่ติดตามค่ะ
เราจะมาติดตามเบื้องลึกเบื้องหลังของชีวิตคนเล็กเเละพี่ชายของเค้าได้ในตอนพิเศษสั้นๆ
555
รักกันๆๆ
เป็น #คนกลาง มันลำบากใจจริงๆ
เจอกันตอนหน้าค่ะ
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 08-07-2017 18:35:07
เปาบุกถึงบ้าน สุดยอด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-07-2017 19:21:55
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-07-2017 20:07:52
เปา มาหากลางแน่เลย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 08-07-2017 20:34:53
 o13
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 08-07-2017 20:54:24
เปาาาาาาามาแน่เลย ฮ่าาาาาา :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 08-07-2017 20:59:43
ว่าที่พี่เขยมาแล้ว น้องเล็กเอ้ย 555
ชอบครอบครัวกลางมากเลย อบอุ่นน่ารักมาก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: JokerLK ที่ 08-07-2017 21:02:50
เปาทนคิดถึงไม่ไหวหรอก 555555555
นึกสภาพสงครามระหว่างเปากับเล็กที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้วสงสารน้องคนกลางเค้านะคะ
55555555555555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 08-07-2017 21:10:56
ใครมาเยี่ยมเอ่ย
เปาและแก๊งคอหล่นรึเปล่านะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-07-2017 21:18:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 08-07-2017 22:00:23
  อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขม้ากกกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 08-07-2017 22:17:07
มันก็จะวุ่นวายหน่อยๆ.. 55+
คนเล็กเอ๊ยยย..
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-07-2017 22:22:45
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 08-07-2017 23:10:31
 o13 น่ารักจริงๆ ระหว่างเพื่อน และพี่น้อง

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-07-2017 03:32:59
อุ้ต้ะ!! ตามถึงบ้านจ้า
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 09-07-2017 03:53:15
ยังไงเล็กก็แพ้  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 11-07-2017 08:18:41
เปากับแก๊งคอหล่นแน่เลย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 11-07-2017 22:19:21
ชอบตอนแย่งกันเรียกคนกลางแบบอินฟินิตี้
กับตอนที่คนกลางคิดว่าตัวเองโดนใช้ ทำให้พี่หน่อย ทำให้น้องหน่อย ปัญหาของพี่คนกลาง

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-07-2017 00:19:59
 :m20:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-07-2017 13:14:00
เปา หรือ ป่าวหนออออออ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 20 หน้า 17 (08-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 12-07-2017 17:28:59
เปา อิน เชียงใหม่
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 14-07-2017 21:29:20
21
กลางวันสายบุญ กลางคืนสายบาป

“เอ้าเร็วๆ เข้าสิ เพื่อนมานานแล้ว มัวแต่เล่นกันอยู่ได้”

แม่พูดขึ้นแล้วจะกระตุกแขนผม ไอ้เล็กทำหน้างงๆ ไม่นานก็ได้สติแล้วเดินลงบันไดไปก่อนคนแรก ผมตอบรับแม่ก่อนจะเดินตามหลังแม่เป็นคนสุดท้าย สมองก็ครุ่นคิดหรือว่าอาจจะเป็นคนที่ผมรอโทรศัพท์อยู่รึเปล่านะแต่คงไม่ใช่หรอก แม่เลี้ยวเข้าห้องครัวไปทิ้งให้ผมเดินเคว้งไปที่ห้องรับแขก ไอ้เล็กที่ลงมาก่อนแต่ก็ไม่ได้เดินเข้าไปข้างใน

“อ้าวนั่นไง กลางมาแล้ว นั่งๆ มีเพื่อนหล่อๆ ไม่เห็นบอกพ่อบ้างเลย”

พ่อหันมาเห็นผมพอดีจึงรีบกวักมือเรียกผมยิกๆ ส่วนไอ้เล็กก็ยืนนิ่งอยู่ข้างผม ผมเห็นแค่หลังของเพื่อนที่พ่อกับแม่บอกเท่านั้น พอรู้ว่าผมยืนอยู่ข้างหลังแขกที่ว่าก็หันหน้ามาพร้อมกับยกมือทักทาย

“ไอ้กลาง...เล็ก”

“เฮ้ย! พี่เก้/ไอ้เก้”

“ไง”

เจ้าของชื่อลุกขึ้นมาพร้อมกับเดินมากอดผมแล้วก็หันไปกอดไอ้เล็ก ไอ้เก้เนี่ยนะ มาหาผมได้ไง ไอ้เก้ตัวสูงพอๆ กับผมครับ ตอนประถมมันอยู่โรงเรียนเดียวกับผมเนี่ยแหละ จำได้ว่าที่นั่งเราใกล้ๆ กัน หลังจากจบป.6 ที่นั่นผมก็ไม่เจอมันอีกพอได้ยินชื่อจากไอ้เล็กบ้าง ไอ้เล็กมันก็รู้จักเพราะว่าไอ้เก้มันยังเรียนโรงเรียนเดิมอยู่ ตอนนั้นโรงเรียนเก่าผมสอนถึงม.ต้นครับ ไม่แปลกที่ไอ้เล็กจะได้เห็นหน้าค่าตามันแถม ไอ้เก้มีดีกรีเป็นนักดนตรีของโรงเรียนเล่นเป็นหมดทุกอย่าง พวกเด็กผู้ชายมองมันเป็นไอดอลเลยครับรวมถึงน้องชายผมที่อยากจะเล่นกีตาร์เป็นกับเค้าบ้าง มันมาเพ้อว่าเท่จนผมมึน

“เป็นไงมั่งวะ”

“ก็...เรื่อยๆ ว่ะแล้วมึงอะ”

ผมถามมันหลังจากที่เรานั่งที่ชุดรับแขก กระเป๋าเดินทางที่วางข้างๆ โซฟาดูคุ้นตาอย่างน่าประหลาด ที่น่าแปลกใจที่สุดคือผมกับมันไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นแบบที่ว่าต้องมาหาที่บ้าน เออ...แล้วไอ้เก้มาหาผมได้ไง

“เอ่อก็สบายดีเว้ย...” ผมมองชุดยูนิฟอร์มที่มันใส่ ไอ้เก้ใส่เสื้อของโรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตครับ หน้าตามันคมสันขึ้นเป็นกอง เจาะหูหลายรูพอๆ กับไอ้เปาเลย “แล้วมึงมานี่ได้ไง?”

“จริงๆ มันโคตรบังเอิญน่ะ กูไปเจอไอ้..”

แกร๊ก!

“ขนมจ้ะ...อ้าว เพื่อนกลางอีกคนมาแล้ว”

พวกเราหันไปมองอีกคนทันทีที่แม่บอก มันก้มหน้าเสยผมออกมาจากห้องน้ำ ตัวสูงแบบนี้ คิ้วแบบนี้ จมูกแบบนี้ นี่มัน...

“ไอ้เปา!”

ไอ้คนที่ถูกเรียกยิ้มมุมปาก ยกมือทักผมแล้วเดินค้อมตัวผ่านหน้าพ่อแม่ผมมานั่งถัดจากไอ้เก้ น้องชายผมที่นั่งบนแขนโซฟามองพวกเราตาปริบๆ น้องงงหรอ พี่ก็งง

“เอ้า กินๆ คุยกันไปนะ พ่อ เล็ก ปะ..ไปช่วยแม่ทำข้าวเย็นดีกว่า เด็กๆ จะได้กินข้าวพร้อมกัน”

“ได้ไง เล็กจะอยู่ด้วย!”

“คุยกันไปนะลูก มานี่เลย ยุ่งอะไรกับพี่เค้า”

“อ๊ากๆ พ่อออ” ผมยิ้มขำเมื่อเห็นพ่อล็อคคอไอ้เล็กออกไปจากห้องรับแขก พอหันกลับมาก็แทบสะดุ้ง

“มอง...มองไรวะ”

“โคตรบังเอิญเลย กูดีใจสัดๆๆ” ไอ้เก้ใช้แขนสองข้างเกี่ยวคอผมกับไอ้เปาเข้าไปใกล้  แก้มมันชนอยู่กับแก้มผมเลยทีเดียว

“ทำไมมาด้วยกัน มาบ้านกูได้ไง” ผมกระแอมแล้วพยายามดึงหัวตัวเองออกจากการเกาะกุมของมัน รัดคอกูแน่นชิบเป๋ง มึงเกิดมาเป็นเชือกไง๊

“ถามเป็นหมาสงสัยเลย” ไอ้เก้ยิ้มมุมปากแบบเท่ๆ ก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผม โอ้โห ไอ้เก้เด็กเงียบๆ มันหล่อร้ายขนาดนี้เชียว 

“อะแฮ่มๆ กลางหยิบน้ำตรงนั้นให้หน่อยดิ” ไอ้เปาส่งเสียงมาเป็นครั้งแรกตั้งแต่เราเจอกัน แก้วตรงหน้าก็มีนี่หว่า ผมบ่นในใจ เสียงมันปกตินะครับแต่เงยหน้าไปมองมันแล้ว ผมรีบส่งน้ำให้พี่ท่านเลยครับ ตาดุไปไหน

“อะไรติดคอมึงเนี่ยไอ้เปา”

“ฝุ่นมั้ง”

“ไอ้เชี่ย เออคืองี้ กูไปส่งน้ากูไปขอนแก่นที่สนามบิน” ไอ้เก้พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “เจอกระเป๋าตังค์ไอ้เนี่ยตกอยู่” มันยกนิ้วโป้งชี้ไอ้เปาที่นั่งข้างๆ

“ประชาสัมพันธ์ประกาศกันให้วุ่นเลย กูคุ้นชื่อกับนามสกุลมัน มาสเตอร์ชอบเรียกไปด่าบ่อยๆ”

“ไอ้สัด!”

ผมหัวเราะเบาๆ ตอนเด็กไอ้เปานี่มาสเตอร์ชอบมากเลยนะครับ เรียกทุกคาบ คือไม่สนใจโลกจนมาสเตอร์ต้องเรียกกระตุ้นให้มันเรียนหนังสือ ชื่อมันเนี่ย คนรู้ทั้งชั้นแหละครับ ไม่ใช่ในทางที่ดีหรอก

“รอมันเดินมารับกูก็ตกใจเหี้ยๆ เกือบจำไม่ได้ด้วย บังเอิญชิบหาย แต่ว่าไอ้เชี่ยเปาหายไปจากเชียงใหม่เป็นชาติ มาทั้งทีลืมกระเป๋าตังค์” ไอ้เก้หรี่ตามองไอ้เปา มันส่ายหน้าช้าๆ ให้ไอ้เปาที่ทำหน้าเป็นหมาตกใจไปแล้ว

“อย่าล้อดิวะ มึงไม่เคยทำตกไงวะ”

“ไม่โว้ย! ฮ่าๆ หน้าเหวอสัด มึงนี่เด๋อตั้งแต่เด็กยันโต”

“ไอ้เชี่ยเก้!” เรื่องความมึนความเอ๋อต้องยกให้ไอ้นกกระปูดแดงครับ ชีวิตเอื่อยๆ ของมันเนี่ยมีเรื่องราวเยอะ พวกเราเล่าเรื่องในอดีตกันนิดหน่อยไอ้เก้ก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ว่าแต่พวกมึงเนี่ย มาโคจรเจอกันอีกได้ไงวะ โลกกลมเหี้ยๆ”

“โลกมันจิตอะดิ” ผมตอบพลางมองเสี้ยวหน้าไอ้เปา ขอเคืองแป๊บ ไม่ตอบไลน์แต่มาโผล่ที่นี่ได้

“เออแล้วก็มาสนิทกันอีก” ไอ้เก้ย้ำ

“สนิทแนบเนื้อเลย” ไอ้เปายิ้มกวนตีนก่อนจะหันมามองหน้าผม มองไมวะ มีปัญหา

“คิดไปเองเปล่าว่าสนิท”

“ระดับนี้ไม่ต้องคิดแล้ว”

“เฮ้ๆ พวกมึงคิดว่ากูไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ไงวะ”

“หึหึ”

“ถ้าไอ้เปาไม่บอกว่ามาบ้านมึง กูคงไม่ได้เจอมึงหรอก” ไอ้เก้ทักขึ้นอีก ทรงผมอันเดอร์คัตของมันก็ดูเข้ากับลุคมันไม่หยอก

“รู้จักบ้านกูได้ไง?” ผมมองผ่านไอ้เก้เพื่อถามไอ้เปา มันไม่ตอบยกน้ำมาจิบยียวนผม “ไอ้เปาบอกกูมา”

“...”

“ไอ้โจ๊กหรอ?”

“ก็เทือกๆ นั้น” อะไรของมันครับ ไอ้เก้นั่งงงอยู่ตรงกลาง มันหันมองผมทีไอ้เปาทีด้วยความสับสน พอผมจ้องหน้าไอ้เปาเอาคำตอบมันก็โบกมือปัดไปมา

“เอาน่าใครบอกไม่สำคัญหรอก แต่ที่มาหาเพราะคิดถึง”

แค่กๆ!

“เดี๋ยวนี้มึงเล่นมุขอะไรกันแบบนี้หรอวะ” ไอ้เก้สำลักน้ำ ผมเลยตบหลังมันเบาๆ คิดถึงบ้าอะไรพึ่งจะเจอกันเมื่อสามสี่วันที่แล้ว

“มุขของเพื่อนสนิ๊ทสนิทไง” ไอ้เปาอมยิ้ม ส่วนไอ้เก้ก็ยกไหล่ทำหน้าแหยงๆ

“อะไรของพวกมึงเนี่ย เออมึงได้เข้ากลุ่มรุ่นเรามั่งป้ะ ไหนๆ มึงมาอยู่เชียงใหม่กันแล้ว วันอาทิตย์นี้พวกมันนัดเลี้ยงกัน”

“เอ่อ...”

“ไม่ต้องปฏิเสธ ไอ้พวกนั้นมันนัดกันหลายรอบแล้วมีแต่มึงเนี่ยแหละที่ไม่เคยไปไอ้กลาง แล้วไอ้เปามึงต้องไปนะเว้ย รับรองถ้าพวกมันเห็นมึงต้องตะลึงแหงๆ ถ้าไม่มีแฟนก็ได้แน่งานนี้ ฮ่าๆ”

ไอ้เก้นัดเสร็จสรรพผมไม่ทันได้ตอบอะไรแม่ก็เรียกกินข้าว มันลุกขึ้นอย่างร่าเริงแล้วก็เดินเข้าไปในครัว ไอ้เก้ บ้านกูครับเพื่อน ผมลุกขึ้นบ้างทำท่าจะเดินไปแต่ไอ้เปาคว้าแขนผมไว้ก่อน ผมหันไปมองมันก็ทำหน้าหงอยๆ อันที่จริงผมไม่ได้โกรธอะไรหรอกครับ แค่ตกใจนิดหน่อย

“งอนหรอ” มันถามขึ้น

“ไม่ได้งอนเว้ย” ผมบอกปัดพลางแกะแขนจากมือปลาหมึกของไอ้เปา

“กูรีบเคลียร์งานที่รับไว้น่ะ เสร็จแล้วก็มาเลยนะเว้ย”

“...” มันเลื่อนมือมาวางไว้บนหัวผม แถมยังยื่นหน้ามากระซิบใกล้ๆ อีก

“แต่ที่มาหาเพราะคิดถึงอะ พูดจริงๆ นะ”

อะ...ไอ้เปา

ผมหน้าร้อน เม้มปากแน่น ไอ้เปากดมือที่วางไว้แล้วออกแรงขยี้ ผมนะเว้ยไม่ใช่ผ้า ผมสะบัดหัวออกแต่มันก็ยิ่งกดลงมา หันไปมองหน้ามันก็เห็นไอ้เปายิ้ม ส่งเสียงหัวเราะในลำคอเหมือนคนบ้า

“มองไรนักหนาวะ”

“มองมึงไง เดี๋ยวนี้รู้จักคำว่างอนด้วย”

“...”

“มีการพัฒนาที่...”

“...” ยังไม่หยุดยิ้มอีก

“ดีต่อใจมาก”

ยัง...

“กลาง! กินข้าว!!”

เออ ยังไม่ไปอีกผมเนี่ย!
 




.
.
“โห นี่เปาเป็นเพื่อนกลางตั้งแต่เด็กเลยหรอ เก้ด้วย”

“ใช่ครับ เจอกันตอนเข้ามหาลัยอีกทีนึง”

“ขนาดผมอยู่เชียงใหม่ยังไม่เคยเห็นกลางเลยครับแม่ พึ่งมาเจอวันนี้เอง”

“กลางจะออกไปไหนได้ ติดบ้านจะตาย”

เอาล่ะครับ เข้าสู่รายการสัมภาษณ์แขกและเผาลูกชายตัวเอง ผมนั่งกินข้าวเงียบๆ ในขณะที่พ่อแม่กำลังคุยกับไอ้เก้และไอ้เปา ส่วนน้องเล็กของบ้านนั่งหน้ามุ่ยเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ย ไว้อาลัยให้กับคนที่ไม่น่าสนใจวินาทีนี้ด้วยครับ

“ว่าแต่ย้ายโรงเรียนไปตั้งนานเจอกันที่มหาลัยด้วย บังเอิญจังเลยนะ” พ่อผมเอ่ยขึ้นแต่จู่ๆ ก็มีเสียงคนมาใหม่ดังออกมาจากทางเข้า พี่ชายผมเองครับ มานิ่งๆ ซะผมเกือบสะดุ้ง

 “เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกครับ”

“อ้าวโต ไหนบอกจะไม่นอนบ้านไงวันนี้”

“น้องมาทั้งทีอะแม่ โตต้องมากินข้าวน้องหน่อย” รอยยิ้มแบบนั้นผมและไอ้เล็กรู้ในทันทีว่ามันสตอเบอเร่อครับ

“อะไรของพี่โตเนี่ย นั่งได้ยัง” ไอ้เล็กรีบลากแขนพี่คนโตนั่งข้างมันทันที มันคงคิดว่ามีพวกแล้วล่ะสิ ส่วนผมก็ต้องลุกไปเอาจานและตักข้าวตามประสาน้องต้องทำให้พี่ครับ แต่คำนี้ใช้ได้กับผมคนเดียวเท่านั้น ไอ้เปามองตามผมก่อนจะหันไปคุยกับพ่อแม่และไอ้เก้ต่อ

“นี่พี่โต นี่เพื่อนกลางเอง เปากับเก้” ผมวางจานข้าวให้พี่โตแล้วแนะนำเพื่อนให้กับพี่โตรู้จัก

“หวัดดีครับพี่” พี่ผมไม่ตอบอะไรแต่พยักหน้าแทน ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่สายตาของไอ้เปากับพี่โตมีอะไรแปลกๆ

“แล้วเล็กนี่รู้จักพี่เค้าหมดทุกคนเลย” แม่ผมหันมาถามน้องเล็ก มันดีใจหางกระดิกในที่สุดแม่ก็สนใจมันแล้ว

“พี่เก้เล็กรู้จักอยู่แล้ว ส่วนพี่...อะแฮ่ม พี่เปาก็เจอกันตอนไปหากลาง”

ขำไอ้เล็กจริงๆ ไอ้เปาก็แอบเผาผมเหมือนกันครับเพราะแม่ถามเรื่องผมเยอะทีเดียว

“ถ้างั้นดีเลยสิ แม่ฝากเปาจัดการกลางเลย เรียนด้วยกันอย่างงี้ ลูกชายสามคนเป็นห่วงคนกลางที่สุดแล้ว”

“แม่...”

“ไม่ต้องมาพูดตัวเองห่วงพี่ยิ่งกว่าอะไร นี่แม่ไม่อยากเล่า เล็กกับพี่โตนะ ตอนกลางไปนี่เงียบกันไปทั้งวัน เวลาน้องไม่ตอบไลน์งุ่นง่านกันทั้งบ้าน”

“ฮ่าๆ”

จริงหรอครับเนี่ย ผมเงยหน้าไปมองพี่น้องตัวเองที่ตักของกินเข้าปากไม่ได้สนใจสายตาล้อเลียนจากแม่และสายตาสงสัยจากผม

“เอ้า กินๆ แม่ชวนคุย”

“พ่อก็...นานๆ ทีบ้านเรามีคนหล่อๆ เต็มบ้านนะ แม่เป็นผู้หญิงคนเดียวก็พูดมากหน่อย”

“โถ แม่ของเล็ก เห็นผู้ชายไม่ได้เล้ย...”

“ฮ่าๆๆๆ”

“ค่าขนม?”

“เพิ่มหรอแม่”

“หักไม่เหลือ”

“แม๊!!”

ไอ้เก้กลับไปแล้วก่อนจะไปมันทิ้งท้ายแถมขู่เข็ญให้ผมพาไอ้เปาไปสังสรรค์เพื่อนเก่า ส่วนไอ้เปาก็ขอนอนบ้านผมครับ พ่อแม่ผมก็เอ็นดูมันสุดๆ พอรู้ว่าบ้านที่นี่ของมันไม่มีใครให้กลับมาหาแล้วยิ่งต้อนรับใหญ่ พี่ชายผมก็ปรายตามองไอ้เปาก่อนจะคว้าหนังสือขึ้นไปบนห้อง วันนี้พี่โตแค่มากินข้าวอาบน้ำครับ เดี๋ยวมันต้องออกไปอ่านหนังสือต่อ ปัญหามันอยู่ที่เรื่องห้องนอนครับ

“เล็กก็กลับไปนอนห้องตัวเองสิลูก” แม่พูดขึ้นขณะหอบหมอนกับผ้าห่มชุดใหม่มาให้ไอ้เปา เรื่องของเรื่องคือไอ้เล็กมันชอบมานอนห้องผม นอนประจำเลยก็ว่าได้แต่ตอนนี้มันไม่พอใจที่ต้องระเห็จออกไปจากห้องผม แล้วกลับไปนอนห้องนอนร้างของตัวเอง

“นอนสามคนไม่ได้หรอแม่” ไอ้เล็กต่อรอง

“อะไรของเล็ก ห้องตัวเองก็มี ไปๆ อย่าให้แม่บ่น”

“ก็ปกติเล็กนอนอยู่...”

“หยุดหรือจะนอนห้องพี่โต แม่ให้เลือก”

“นอนห้องตัวเองก็ได้! ห้องพี่โตเหม็นกลิ่นหนังสือ”

ผมรับผ้าห่มกับหมอนจากแม่ แม่มองไอ้เล็กอย่างเอือมระอา มันเดินตึงตังเข้าห้องตัวเองที่อยู่เยื้องกับผม มันเป็นเด็กที่โตแต่ตัวจริงๆ ครับ

“จะเอาอะไรก็บอกแม่นะ”

“ขอบคุณครับแม่”

ผมเอ่ยขอบคุณแม่ที่เดินเข้าห้องตัวเองไป ส่วนผมกำลังจะปิดประตู ไอ้เล็กก็เปิดประตูผลัวะออกมาทันที

“นอนเฉยๆ นะกลาง!”

“เล็ก!! ไปนอนไป!”

“แม่!!!”

หันหลังเข้าห้องก็เห็นไอ้เปานั่งเช็ดผมอยู่ปลายเตียง ผมอาบน้ำก่อนมันแล้วก็เดินไปเอาผ้าห่มจากแม่ครับ ผมโยนหมอนและผ้าห่มให้มันทับหน้าไอ้เปา หมั่นไส้ แต่มันรับผ้าห่มไว้แล้วก็เหวี่ยงไปข้างๆ ก่อนจะคว้าแขนผมอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย!” ผมเสียหลักล้มทับตัวไอ้เปาเหมือนในละคร แน่นอนว่าผมต้องไม่ใช่นางเอก

“ชู่ว เบาๆ สิ” ไอ้เปาหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นนั่งโดยที่มือมันยังกอดเอวผมไว้แน่น

“ปล่อยดิ” ผมขยับตัวมานั่งข้างๆ มันแต่มันก็ยังรัดเอวผมไว้

“ไม่ปล่อย วันนี้กูจะลงโทษมึง”

“กูทำอะไร”

“กูเห็นนะ มึงมองไอ้เก้ตาไม่กระพริบเลย” ไอ้เปาจ้องหน้าผมนิ่ง เรื่องอะไรมันต้องมาโกรธผมครับ

“กูไม่ได้เห็นมันนานนี่”

“มันกอดคอมึงด้วย”

“กอดคอมึงเหมือนกันแหละ”

“ไม่รู้แหละ มึงทำผิด”

“ทำไมมึงเอาแต่ใจ”

“เออ ใจแคบมาด้วย กับมึงอะ...” พูดจบมันยื่นหน้าเข้ามาเร็วจนปลายจมูกเราชนกัน ผมเม้มปากเน้นสบตาไอ้เปาอย่างหวาดๆ สองมือของมันเลื่อนมาประคองหน้าผมไว้ เฮ้ยๆ บ้านนะ นี่บ้านนะ

“กินนมมาหรอ งก...ไม่แบ่งกูเลยนะ”

อ๊ะ...ไม่พูดเปล่าไอ้เปาก็ค่อยๆ แนบริมฝีปากมันกับปากผมอย่างช้าๆ

“ขอชิมหน่อย” มันกระซิบชิดริมฝีปาก ผมใจเต้นจนแทบระเบิด รู้สึกแปลกๆ ที่ท้องน้อย มือไว้ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน ไอ้เปามันจับมือผมให้โอบรอบคอ

“อื้อ...”

“เด็กไม่ดีต้องโดนลงโทษ”

“อื้ม อะ....”

ถ้าไอ้เล็กมันรู้ผมตายแน่ๆ


.
.
[ต่อข้างล่าง]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 14-07-2017 21:31:29
[ต่อจากด้านบนค่ะ]

.
.
.
เช้าวันเสาร์ ผมต้องพาไอ้เปาไปเที่ยวเชียงใหม่กันสองคน พอเห็นผมยืนงงอยู่หน้าบ้านไอ้เปาที่แต่งตัวซะหล่อก็เดินมาหาผม อย่าพูดถึงเรื่องเมื่อคืนเลยนะครับ กว่าผมจะได้สติไอ้เปาก็ยิ้มจนผมหมั่นไส้ เอาเป็นว่าเรื่องราวหลังจากนั้นผมก็ล้มตัวลงนอนทันที

“กูจะได้เที่ยวมั้ยเนี่ย” ไอ้เปาทักขึ้นเมื่อเห็นผมมองแผนเที่ยวคร่าวๆ ในมือ ผมเป็นเจ้าบ้านนะครับถึงจะไม่ค่อยชอบออกไปไหนแต่เชียงใหม่เนี่ยถิ่นผม “เอาน่า รถแดงไปได้ทุกที่”

“งั้นคุณไกด์เชิญนำผมได้เลยครับ” มันผายมือแล้ววางหมวกแก๊ปสีดำไว้บนหัวผม “ก่อนจะไปช่วยดูแลตัวเองด้วยครับ”

ผมขยับหมวกแล้วเดินออกจากบ้านมาทันที ไอ้เปารีบตามมาพร้อมกับล้อ

“เขินหรอม” เกลียดหรอมเหรอมนี่จริงๆ เลย

“รำคาญญญ”

เชื่อเถอะครับ รถแดงพาเราไปได้ทุกที่จริงๆ ถึงแม้ไอ้เปามันจะเคยอยู่เชียงใหม่มาก่อน แต่การกลับมาของมันครั้งนี้เห็นอะไรก็ตื่นเต้นไปหมด นึกว่าพาน้องมาเที่ยว ผมพามันไปวัดรอบเมืองครับ ที่นี่วัดเยอะมาก นักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติก็เยอะมากเหมือนกัน

ตอนนี้เรากำลังเดินออกจากการไหว้พระพุทธรูปในอุโมงค์ เราอยู่วัดอุโมงค์ครับ หลังจากที่ไปวัดเชียงมั่น วัดดวงดิ วัดเจดีย์หลวง และวัดพระสิงห์มาแล้ว เราก็พักกินข้าว จากนั้นเราจบทริปด้วยวัดอุโมงค์ครับ วัดนี้อากาศดีมากครับทั้งต้นไม้ร่มรื่นแล้วอีกอย่างวัดนี้ใช้อิฐเกือบทั้งหมดเลยได้สัมผัสความเย็นสบายเต็มที่

 “กลางร้อนมั้ย” ไอ้เปาถามขึ้น

 “ไม่ค่อยร้อน”

“ไม่ หมายถึงมึงเข้าวัดแล้วร้อนมั้ย”

“แจ้” ผมทำเสียงเลียนแบบไอ้กล้วย ถ้าทำท่ากรอกตาด้วยผมคงตลกน่าดู

“แจ้หน้ามึงอะ”

“เปาๆ นี่แฟนนะ”

“อ้าวหรอโทษๆ”

“ดีมั้ย ได้มาวัด” ผมถามบ้างเราเดินมาโบกรถแดงครับหลังจากที่เดินมาซักพัก

“ดีแต่มากับมึงก็ดีหมดแหละ”

“โอ้โห ปากหวาน”

“อยากชิมมั้ย” มันหมุนปีกหมวกแก็ปของมันไปด้านหลัง แล้วยื่นหน้ามาใกล้ ชักจะบ้าบอแล้วไอ้เปา

“ชิมบ้าอะไร ไปขึ้นรถ”

“ยิ้มอะไร” มันดูดีใจสุดๆ ไปเลยครับ

“วันนี้เรามาเดทกันที่เชียงใหม่เลยเนอะ” ไอ้เปายิ้มจนเห็นลักยิ้มแล้วตอบผม จากที่เย็นสบายเมื่อกี้ผมร้อนเลยครับ

“เนอะอะไรล่ะ กูพามาเที่ยว” ผมบอกปัดกลบเกลื่อน

“เออๆ พามาเที่ยวก็ได้ แล้วนี่เราจะไปไหน?”

กริ๊ง!

ผมกดกริ่งแล้วลงรถแดงมาก่อนจะเดินไปจ่ายเงิน ไอ้เปาที่เดินลงมาจากรถงงๆ ก็ถามทันที

“ที่นี่ที่ไหนวะ” ไอ้เปามองไปฝั่งตรงข้ามของถนนที่มันร้านเช่าหนังสือการ์ตูน ผมได้แต่ส่ายหัวเบาๆ แล้วจับตัวมันพลิกมาดูฝั่งที่มันลงรถ

ที่สุดท้ายของวันนี้ผมมามันมาที่....โรงเรียนเอกชนที่เราเคยเรียนเมื่อหลายปีก่อนครับ ป้ายชื่อโรงเรียนแผ่หลาอยู่ด้านหน้า ผมเดินนำมันเข้าไปในโรงเรียน จะว่าไปหลังจากเรียนจบผมก็ไม่เคยมาที่นี่อีกเลย กำแพงทั้งสองข้างวาดรูปต่างๆ ครั้งหนึ่งทีชเชอร์เคยให้ผมมาวาดกำแพงด้วย แต่มันผ่านมาหลายปีแล้วรูปที่กำแพงก็ถูกลบแล้วลงสีใหม่

“รอด้วยดิ” ไอ้เปาที่รู้ว่าสถานที่นี้เป็นอะไรแล้วก็เดินตามมา “โห เปลี่ยนไปขนาดนี้เชียว” มันตาโตมองไปรอบๆ โรงเรียน วันนี้วันเสาร์ไม่มีเด็กมาเรียน ประตูทางเข้าไปในตัวโรงเรียนจึงปิดไว้ ผมบอกยามว่าเป็นศิษย์เก่าแต่ก็ยังเข้าไม่ได้อยู่ดี พอเราออกมาทุกอย่างมันก็เปลี่ยนแปลงหมดเลย ในทางที่ดีขึ้นอะนะ

“กลางๆ ไปดูตรงนู้นกัน”

จากที่ผมเดินนำไอ้เปาจับมือผมแล้วจูงไปทางปีกขวาของโรงเรียนที่สามารถเข้าไปได้ ที่นั่นเป็นที่ตั้งโบสถ์คาทอลิคประจำโรงเรียนครับ โรงเรียนนี้จะมีโบสถ์อิฐสีส้มที่สวยมาก โบสถ์จะมีสระน้ำรอบๆ เหมือนตั้งอยู่กลางน้ำ เราต้องเดินข้ามสะพานหินอ่อนเพื่อเข้าไปในตัวโบสถ์ รอบๆ จะมีแผ่นไม้แกะสลักเรื่องราวของพระเยซูก่อนจะถูกตรึงไม้กางเขน กลางสระน้ำด้านหนึ่งจะมีหอนาฬิกาสูง ผมกับไอ้เปาเป็นพุทธแท้ๆ แต่ก็ได้เรียนรู้เรื่องคริสต์ศาสนามาตั้งแต่เรียนที่นี่

“แต่ก่อนเราต้องร้องเพลงพวกนี้ด้วย”

ไอ้เปาดันผมเข้าไปนั่งเก้าอี้ยาวของโบสถ์ก่อนจะนั่งตาม ในโบสถ์มีแค่เราสองคน พนักพิงของเก้าอี้ข้างหน้าจะมีช่องสำหรับใส่บทเพลงที่เราต้องร้องเวลามาทำพิธีกรรม ไอ้เปาหยิบหนังสือเล่มหนาออกมาแล้วเปิดหน้าที่มีเนื้อร้องเหมือนพยายามจะร้องแต่มันก็ไม่ร้องออกมา

“มึงคงร้องไม่ได้น่ะสิ”

“แค่มานั่งกูก็ไม่รู้เรื่องแล้ว แต่มึงไม่เคยมานั่งกับกูเลย ยืนอยู่ตรงนู้นตลอด” ผมหันหน้าไปมองไอ้เปาที่ตอนนี้ไม่ใช่เด็กแก้มย้วย ผมกลับมาที่นี่อีกครั้งพร้อมกับมันที่เป็นวัยนักศึกษาตัวสูง ที่ผมไม่เคยมานั่งกับมันเพราะผมมักจะได้รับหน้าที่ให้ถือกำยานเพื่อให้คุณพ่อแกว่งกำยานในพิธีทางศาสนา แต่เวลามองมาที่มันก็เห็นมันทำปากขมุบขมิบให้เดาก็คงพูดไปเรื่อยแหละครับ บทสวดอะไรก็ไม่รู้เรื่องกับเค้า

“กูเห็นมึงเดินถือคู่กับใครนะ การ์ตูนมั้งที่เรียนเก่งๆ” ไอ้เปามองไม้กางเขนอันใหญ่ที่อยู่ตรงด้านหน้าพลางพูดถึงเรื่องอดีต ผมหันไปมองบ้าง โลงศพหินสีขาวที่ตั้งอยู่ด้านหน้าไม้กางเขนเป็นสิ่งที่เราสงสัยกันมาตั้งแต่เด็กๆ โลงศพนั่นมีศพจริงรึเปล่านะ แต่ไอ้เปาขี้กลัวมันมักจะรีบเดินกลับห้องก่อนทุกที

“อิจฉาหรอ” ผมถามล้อๆ

“หมั่นไส้เว้ย ทำกิจกรรมก็เห็นแต่หน้ามึงสองคน มาสเตอร์ไม่เลือกคนอื่นบ้างรึไงวะ”

“กูบอกให้มึงทำอะไรบ้าง ไม่เห็นจะทำเลย”

“ตอนนั้นกูมันเด็กดื้อ แถมยังทำอะไรไม่เป็น ไม่เก่งซักอย่าง อยู่เฉยๆ คูลสุดละ มาสเตอร์ไม่ด่าด้วย”

“คิดไปเองทั้งนั้นนน”

ผมลากเสียงยาว หันกลับไปมองข้างหน้าโบสถ์หินอ่อนนี้ยังสวยเหมือนเดิม แสงที่ผ่านแผ่นกระจกสีลายพระเยซูในโบสถ์กระทบพื้นระยิบระยับ

“ปะ...จะห้าโมงแล้วกลับกันเถอะ เสียดายที่วันนี้เราเข้าไปในโรงเรียนไม่ได้”

ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะยื่นมือไปจับแขนมันให้ลุกขึ้นแต่มันไม่ยอมลุกซักที ไอ้เปาเงยหน้ามันสบตาผม ในสายตานั้นทำให้ผมนิ่งงัน แสงแดดผ่านกระจกกระทบผิวหน้าขาวใสของมันดูน่ามองอย่างน่าประหลาด
เสียงบอกเวลาจากหอนาฬิกาดังขึ้นทั่วบริเวณ “มีคนเคยบอกว่าถ้าขอพรที่นี่ตอนเสียงนาฬิกาดังคำขอจะเป็นจริง” ผมเคยได้ยินผ่านๆ ครับ

“...” ไอ้เปายิ้ม เลื่อนมือมาจับมือผมทั้งสองข้าง ในขณะที่ผมได้แต่ยืนนิ่ง

แตร๊ง แตร๊ง แตร๊ง แตร๊ง

เสียงนาฬิกาดังขึ้นพร้อมกับเสียงใจเต้นของผมที่ไม่รู้ว่าอันไหนดังกว่ากัน ไอ้เปาคลี่ยิ้มพร้อมกับกระชับมือแน่น

“กูไม่มีพรอะไรอยากได้ เพราะเจอมึงอีกครั้งกูก็ไม่อยากขออะไรแล้ว”

“...”

“แต่กูอยากบอกมึงว่า”



“กูรักมึงนะ”




.
.
.
“โคตรเขินเลย”

ผมน่ะเขินครับแต่ไอ้คนข้างๆ เนี่ยเขินกว่า มันแก้มแดงเป็นมะเขือเทศทั้งๆ ที่มันผ่านมาเป็นวันแล้ว “มึงไม่เขินบ้างหรอ” มันถามผมขณะที่เราอยู่ในห้องรับแขก เรากำลังจะออกไปสังสรรค์กับเพื่อนเก่าตามที่ไอ้เก้บอก แต่วันนี้ไอ้โจ๊กจะมารับครับเราจะไปกับมัน หันไปมองไอ้คนแก้มแดง ผมก็ใจเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เหตุการณ์เมื่อวานมัน...

“...”

“ไอ้กลางคนซึนเอ๊ย” ไอ้เปายกมือขยี้หัวผม “ถ้าหายซึนแล้วช่วยบอกกลับกูให้ชื่นใจหน่อยนะ”

“อะแฮ่ม กลางเขยิบไปหน่อย”

ไอ้เล็กมานั่งแทรกกลางระหว่างผมกับไอ้เปาก่อนจะคว้ารีโมททีวีไปกดดูรายการวาไรตี้ ไอ้เปาหน้าเหวอไม่นานก็เปลี่ยนเป็นขำๆ คงจะชินกับน้องผมแล้วล่ะมั้ง

“แล้วกลางไปกี่โมง”

“ก็...ประมาณหกโมงอะ”

“โอเค”

“แล้วอะไร ปกติเห็นวิ่งไปเล่นคอมนู้น วันนี้มาแปลก”

“ก็อยากดูทีวีมั่งไม่ได้หรอ”

“ตามใจน้องเลยครับ”

นั่งดูทีวีไม่นานไอ้โจ๊กเพื่อนรักก็มาครับ จอดรถหน้าบ้านมันก็เข้ามาแหกปากเหมือนเป็นบ้านตัวเอง

“มาแล้วชายกลางงงง” สอบเสร็จแล้วหน้าตาสดใสขึ้นเป็นกอง

“พี่โจ๊ก”

“ไอ้เล็กอยู่บ้านด้วยหรอ” ไอ้โจ๊กทำหน้าแปลกใจเมื่อเห็นน้องผมนั่งตาแป๋วดูทีวี พอมันเห็นผมกับไอ้เปาที่นั่งข้างๆ ไอ้เล็กแล้วก็ร้องอ๋อขึ้นมาอย่างจังไร “มาเฝ้าพี่มึง? คนหน้าตาเป็นหมาอย่างงี้ต้องเฝ้าด้วย”

ไอ้เล็กโกรธพี่คนที่สามของมันหรืออายผมก็ไม่แน่ใจมันลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์ก่อนจะเดินออกไปก็ไม่วายกำชับ “ห้ามกินเหล้าเยอะนะกลาง พี่โจ๊กก็เหมือนกันดูกลางด้วย”

“ไม่ต้องบอกพี่หรอก บอกไอ้นี่ดีกว่า” ไอ้โจ๊กชี้มาที่ไอ้เปา ไอ้เล็กมองตามแล้วเม้มปากแน่น

“เอ้า เดินไปนู่นแล้วน่ะน้องมึง งอนเป็นตุ๊ดเลย”


“ไอ้โจ๊ก พ่องมึงดิ เอ่อกูด่าแทนน้อง”

“เบื่อหน้ามึงละ” ไอ้โจ๊กยื่นมือมาผลักหัวผมก่อนจะย้ายมานั่งข้างๆ ไอ้เปาพร้อมกับกระซิบ “เป็นไงวะแม่แฟนน่ารักป่ะ”

“ไอ้เชี่ย” กระซิบบ้านท่านสิครับคุณโจ๊ก ตั้งแต่ไอ้เปามาอยู่ที่บ้านผม ผมแทบไม่ต้องทำอะไรครับ แม่เรียกไอ้เปาตลอดพ่อก็ยิ่งชอบใหญ่ มีคนให้คุยด้วย ไอ้เล็กเลยหมั่นไส้ไอ้เปาขึ้นไปอีก โดนแย่งตำแหน่งลูกรักแล้วล่ะมั้ง

“น่ารักดี” ไอ้เปาบอกแต่พยักหน้ามาทางผม “แต่ลูกคนกลางน่ารักกว่า” เอ่อ...อะไรของมึงเนี่ย

“ไอ้สัด แซวพวกมึงนี่กูเพลียพลังใจ”

“ไปกันยังรีบไปรีบกลับ”

“ไอ้กลาง ไม่ทันไปมึงบอกจะกลับละ มีเพื่อนเป็นตัวตุ่นอยู่ในรูกูล่ะเหนื่อยจริงๆ”

“มึงอารมณ์ดีจังวะวันนี้” ผมหรี่ตา “มีแฟนหรอ”

“เปล๊า...”

“หรือมึงรอเจอในที่งานนี้”

“เชี่ย...ไม่มีเว้ย”

“อย่ามาโกหก ไอ้ลิงบาบูน”

“ไปๆ ลุกได้แล้ว ไอ้เปาไม่ต้องมาขำ เร็วออกมา” ไอ้โจ๊กรีบร้อนลุกขึ้นมาแล้วตะโกนบอกแม่ผมที่อยู่หลังบ้าน “แม่ไปแล้วคร้าบ เดี๋ยวพามาส่ง”

“อย่าเมามากนะลูก! เปาดูกลางด้วยนะลูก!”

“คร้าบแม่”

“มันนัดกันที่ร้านไหนนะไอ้เปาที่ไอ้เก้บอกวันนั้น”

เราออกรถมาได้ซักพักแล้ว ผมก็ยื่นหน้าไปถาม ผมนั่งเบาะหลังคนเดียวครับ ไอ้เปานั่งเบาะหน้าคู่กับไอ้โจ๊ก

“จำไม่ได้ว่ะ โทรไปถามมั้ย”

“พวกมึงถามตอนออกรถมาแล้วเนี่ยนะ ไม่ต้องโทร กูรู้แล้วไปร้านไหน”

“แล้วก็ไม่บอก”

“พวกมึงคุยกันงุ้งงิ้งสนใจกูบ้างมั้ยล่ะ”

ผมไม่ได้คุยงุงงิ้งครับ เมื่อกี้เถียงกับไอ้เปาเรื่องวันกลับ ไอ้เปามันต้องกลับพรุ่งนี้ครับเลยจะให้ผมกลับด้วย แต่ผมยังไม่อยากกลับอีกอาทิตย์นึงถึงจะเปิดเทอม ไอ้เปาก็หาเรื่องผมไปเรื่อย

“กูรู้ว่าเพื่อนโจ๊กรู้ดี”

“นี่มึงหาว่ากูเสือก”

“เปล่า....”

“ตอแหล”

“ไอ้เปา ไอ้โจ๊กว่ากูอ่ะ” ฟ้องแม่งเลย

“มารยา!!!”

“ฮ่าๆๆ พวกมึงสองคนเนี่ยนะ” ไอ้เปาหัวเราะตบท้ายไม่สนใจผมกับไอ้โจ๊กที่เถียงกันเลยซักนิด




หกโมงครึ่งผมมาถึงร้านครับ มันเป็นร้านเหล้าที่ขายอาหาร หรือร้านอาหารที่ขายเหล้าอะไรพวกนี้แหละครับ ร้านติดถนนและไม่มีที่จอดเพราะคนเยอะพอสมควร ไอ้โจ๊กนี่บ่นยับบอกวันอาทิตย์ยังจะมากินเหล้ากันอีก แหมไม่มองตัวเองเลยครับ มึงนี่กระดี๊กระด๊าใหญ่ รู้มาจากไอ้เก้ว่าร้านนี้เด็กเสิร์ฟสวยเด็ดนี่หางตั้งเชียว

ผมเดินนำมากับไอ้เปาที่วันนี้แต่งตัวหล่ออีกแล้ว เสื้อผ้ามันนี่บางทีไม่ต้องซื้อครับเวลาไปถ่ายแบบทีขนกลับมาตั้งหลายตัว เดิมทีพี่เปาถ้าอยู่มอมันจะใส่ชุดบอลครับ ดีนะไม่เอามาด้วย ส่วนผมก็กางเกงยีนส์เสื้อเชิ้ตพับแขนธรรมดาแต่พอใส่ออกมาแล้วไอ้เปาหงุดหงิดแล้วหงุดหงิดอีก อะไรของมันก็ไม่รู้ครับ

“พวกมึงแต่งตัวซะกูเป็นคนขับรถเลย”

ไอ้ลิงโจ๊กที่เดินตามมาบ่นอุบ ตอนเดินผ่านรถที่จอดรถแล้วมีสาวๆ มองแต่ไอ้เปา ไอ้โจ๊กเลยเป็นบ้า

“เปาๆ บอกคนขับรถหน่อยเงียบๆ เดี๋ยวเค้าไม่ให้เข้าร้าน” ผมจับแขนไอ้เปาแล้วหันไปทำหน้าล้อเลียนไอ้โจ๊ก

“ไอ้สัด!”

“คนขับรถอย่าพูดคำหยาบครับ”

“ไอ้เชี่ยเปา มึงก็เอาด้วย เดี๋ยวกูกลับแม่ง”

“โทษๆๆๆ”

ง้อคนขับรถแล้วก็เดินตามกันมาเป็นแถว จอดข้างถนนเดี๋ยวรถเฉี่ยว ร้านนี้ชื่อว่าคำตอบครับแปลไทยแล้ว หน้าร้านมีผู้ชายมีพุงคนหนึ่งกำลังยืนเหมือนพนักงานต้อนรับ

“อ้าว ยีนป่ะ” ถ้ายังจำกันได้นะครับ ไอ้ยีนห้องสาม พอมันเห็นพวกผมก็ปรี่เข้ามาทักทันที

“โห ไอ้กลางมาด้วยหรอวะเนี่ย เสียดายไอ้เกมส์ไม่มา” คิ้วกระตุกเลยครับ ชื่อไอ้เกมส์นี่ได้ยินตั้งแต่เด็กยันโต

“ฮะๆ ดีเว้ย” ดีนี่ไม่ได้ทักทายนะครับ ผมบอกว่าดีแล้วที่มันไม่มา

“ไอ้โจ๊กมาแล้วเว้ย ไปนั่งๆๆ” ไอ้โจ๊กที่เดินตามหลังมาถูกเพื่อนลากเข้าไปข้างในพร้อมกับยัดแก้วเหล้าใส่มือแต่หัววัน ไอ้โจ๊กมัน
เด็กห้องท้ายครับ ผมก็ไม่ได้สนิทกับใครมากนักก็เลยยืนทักทายไอ้ยีนก่อน

“แล้วไอ้กลางมากับใครวะ”

“อ๋อ นี่ไอ้เปาไง มันออกไปก่อนจบอะ”

“ไอ้เปา..” ไอ้ยืนทำท่านึกก่อนจะร้องออกมา “เฮ้ย ตัวเตี้ยๆ นั่นอะนะ” รู้สึกถึงรังสีอำมหิตข้างๆ ผม แต่มันก็กัดฟันยิ้มน้อยๆ

“สูงแล้วเดี๋ยวนี้” ผมว่าก่อนที่คุณเปาเค้าจะอารมณ์เสียน่ะครับ ไอ้เปามันไม่อยากมาก็เพราะแบบนี้แหละ ตอนเด็กๆ มันโดนล้อไม่เป็นท่า ชื่อเสียงกระฉ่อนเรื่องความไม่เอาไหน ถ้าเจอทั้งรุ่นแบบนี้มันทำตัวไม่ถูกเผลอโดนว่าบ่อยมันจะไปพังร้านเข้า แฮ่ ล้อเล่นน่ะครับ

“หล่อด้วยว่ะ ดูพุงกูดิ” ไอ้ยีนลูบพุงตัวเองช้าๆ

“มึงหน้าไม่เปลี่ยนนะแต่พุงเริ่มเปลี่ยนแล้วว่ะ” ไอ้เปาตอบกอดจะวาดมือมากอดไหล่ผม สะ...สถานการณ์แบบนี้มัน

“แล้วมึงมายืนทำไมตรงนี้” ผมเบี่ยงประเด็น

“เอ่อ..อ๋อก็พวกอีพลอยอ่ะดิ มันไม่เคยมาร้านบังคับให้กูมายืนรอเนี่ย ตั้งนานแล้วเมื่อกี้มีคนมาถามกูด้วยนึกว่ากูเป็นเจ้าของร้าน”

“ก็เหมือนอยู่นะ”

“ว่าไงนะไอ้เปา”

“อ๋อๆ เปล่าไอ้เปามันบอกว่าเหมือนจะเห็นเพื่อนแล้ว” ผมเอื้อมมือไปกอดไหล่มันอีกข้างเหมือนเพื่อนที่กอดคอเดินเข้ามาแล้วก็ออกแรงตบเบาๆ

“พวกมึงนี่สนิทกันดีนะ” ไอ้ยีนหัวเราะ “เออๆ เข้าไปได้แล้ว พวกมึงคงหิวแล้วล่ะ”

“เคเว้ย”

พอเดินเข้าร้านผมก็จับมือไอ้เปาออกจากไหล่ตัวเอง แต่กลับเอามาพาดอีกคราวนี้กอดคอกันเลยครับ อกมันแนบกับหลังผมเลย

“ปล่อยก่อน”

“ไม่!”

“เดินไม่สะดวก คนมองด้วย” ไม่รู้ว่าเพราะเราเดินชิดกันแบบนี้หรือเพราะหน้าตาไอ้เปากันแน่

“มึงอย่ายิ้มนะ”

“อื้มๆ” มันค่อยๆ ปล่อยแล้วเราก็เดินเข้าไปด้านในสุดของร้าน ห้องที่จองไว้เป็นห้องกระจกอยู่ด้านในสุด ส่วนด้านนอกที่เราเดินเข้ามาเป็นโต๊ะเล็กบ้าง ใหญ่บ้างแต่เต็มทุกโต๊ะครับ ด้านข้างจะเป็นเวทีดนตรีสด เคาน์เตอร์เบียร์ตรงนั้นงานดีจริงครับ

“ห้ามมองด้วย”

“โอเค”

ไอ้เปาหน้าบึ้งทำท่าจะเอาแขนมารัดคอผมอีกครั้ง ผมจึงรีบเดินไม่มองอะไรทั้งนั้น พอเดินมาถึงประตูห้องเปิดออกเห็นคนข้างในกว่าสี่สิบชีวิตก็เงียบกริบ เคยเป็นมั้ยครับ มึงจะกริบทำไม ผมทำตัวไม่ถูกหันรีหันขวางหาไอ้เปา มีมันก็อุ่นใจครับ รุ่นผมมันมีเยอะกว่านี้ล่ะแต่มาได้นิดหน่อยอย่างที่เคยบอกจบแล้วก็ห่างหายกันไปหมด ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นแต่ไอ้เก้เนี่ยแหละตัวดี

“ไอ้เปา ไอ้กลางมาๆๆ” ไอ้โจ๊กเดินมาลากมือผมกับไอ้เปาเข้าห้อง หลังจากนั้นทุกคนก็ฮือฮากันใหญ่ ผมถูกกระชากไปนั่งริมโต๊ะโดนถามคำถามรัวๆ ส่วนไอ้เปาก็โดนเพื่อนรุมถามไม่ต่างกับผม

“เนี่ยนะ ไอ้เปาทีไอ้เก้มาโม้ในกลุ่ม”

“เชี่ยยยย จำแทบไม่ได้”

“มึงเรียนไรวะ ไปอยู่ไหนมา”

“ไอ้เหี้ย หล่อชิบหาย ไปทำไรมา โมหน้าใหม่ป่ะสัด”

สารพัดคำพูดที่มันเตรียมใจไว้แล้ว ไอ้เปารับแก้วเหล้าที่พวกมันยัดใส่ปากแล้วกวาดตามองผม ผมพยักหน้าให้มันก่อนจะถูกสาวๆ ที่นั่งขนาบข้างทักทาย

“กลางงง จำเราได้มั้ย”

“การ์ตูนหรอ” เด็กเรียนในวันนั้นเป็นคนเมาในวันนี้ การ์ตูนแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดแก้มแดงปลั่งทักผมพร้อมกับกอดผมไปด้วย

“อีตูน เมาใหญ่แล้ว กลางอย่ากลัวมันนะ กู...เอ่อเราจี๊ดไง”

“หวัดดีจี๊ด” จี๊ดยิ้มรีบแล้วยื่นแก้วเหล้ามาให้ผม

“อุ๊ย กินเป็นป้ะเนี่ยกลางอะ” ผู้หญิงพูดแบบนี้ใส่ผมก็ไม่โกรธนะครับ

“ก็กินได้อ่ะ”

“เอาอ่อนๆ แล้วกันเนอะ”

“คิกคิก” เสียงหัวเราะดังรอบด้านเลยครับเมื่อสาวยื่นแก้วแอลกอฮอล์สีใสมาให้ผม เอาเถอะครับ แต่ที่แบบนี้ผมไม่คุ้นชินเท่าไหร่ ผมเริ่มมีความอึดอัดก่อตัวขึ้น ไอ้โจ๊กที่หลุดออกจากวงเพื่อนมันก็เดินมาหาผม

“สาวๆ หัวเราะไรกัน”

“กำลังคิดอยู่ว่ากลางเมาเป็นมั้ย” เพื่อนผู้หญิงที่จำชื่อไม่ได้พูดขึ้น ไอ้โจ๊กเหลือบมองผม “ถ้าจะมอมมันมามอมกูดีกว่า”

“โอ๊ย อีโจ๊ก มึงน่ะไม่ต้องมอมเดี๋ยวก็เมา”

“อย่ามาแอ๊บใสต่อหน้าไอ้กลาง ดูมันด้วย กูไปกินตรงนู้นก่อน”

“เออค่ะ! คนดีของโรงเรียนมากูต้องดูแลหน่อย” พวกผู้หญิงหันไปเม้าท์มอยกัน บางคนก็เดินไปชนแก้วกับพวกผู้ชาย ขอโทษนะครับในหัวผมคือเพื่อนยังเป็นเด็กประถมอยู่เลย มองภาพความจริงแล้วรู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ

“กลาง” การ์ตูนที่มึนๆ เริ่มเลื้อยครับ ผมอึกอักเพราะไม่รู้จะปฏิเสธยังไง มองซ้ายขวา เพื่อนผู้หญิงก็เริ่มลุกกันไปแล้ว “กลางมีแฟนยังอ่า...เรียนที่ไหนตอนนี้ เราเป็นเพื่อนกันในเฟซยัง” การ์ตูนเริ่มเบียด เอ่อ หน้าอกใกล้กับต้นแขนผม เชี่ย ผมจะทำไงดีครับ

“กลางตอบเราหน่อยดิ”

“เอ่อ เราว่าการ์ตูนนั่ง...นั่งดีๆ ก่อนนะ”

“มีแฟนยังอะ...” ขณะที่ผมนั่งตัวแข็งอยู่แบบนั้น เสียงก็เงียบลงอีกครั้ง การ์ตูนไม่ได้สนใจเอาแต่ยื่นหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางเข้ามาใกล้ๆ ผม ช่วยผมด้วยครับ

“มีแล้ว”

เอ่อ ผมไม่ได้ตอบนะครับ เงยหน้าก็เห็นเจ้าของเสียงห้วน ไอ้เปายืนตาเขียวอยู่ข้างผม แก้มมันแดงเล็กน้อย ไอ้เปาค่อยจับไหล่การ์ตูนให้นั่งพิงเก้าอี้ดีๆ ยังไม่ทันจะค่ำเพื่อนคนนี้ก็เมาซะแล้ว

“อย่าใส่ใจเลย อีนี่ผัวทิ้ง” ใครซักคนตะโกนมาแล้วในห้องก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยดังระงม

“เมายัง” ผมถามไอ้เปา 

“ยัง มึงจะนั่งตรงนี้หรือไปนั่งนู่น” ผมมองตามคำว่านู่นของมัน ยิ่งอึดอัดไปใหญ่ที่สำคัญกว่านั้นผมกลัวมันอึดอัดด้วย

“มึงโอเคมั้ย”

“โอเค พวกนั้นแค่ปากหมาแต่ไม่เป็นไรกูก็หมาเหมือนกัน ไอ้เก้ใกล้จะมาแล้วมึงค่อยไปนั่งกับมันแล้วกัน” มันส่งสายเป็นกังวลมาให้ผม ผมไม่เป็นไรหรอกจริงๆ นะครับ ผมเป็นห่วงมันมากกว่า ใช่ว่าผมจะไม่รู้ จุดประสงค์ของเพื่อนเก่าทั้งหลาย ไอ้เปามันโดนแกล้งตั้งแต่เด็ก พวกมันเลยคิดว่าหัวอ่อน ไม่ทันได้พูดอะไรมากเสียงหน้าห้องก็ดังมาก่อน

“พวกมึง กูมาแล้วจ้า!!”

“อีพลอย!!”

ดูเหมือนว่าพลอยจะเป็นที่รอคอยของเพื่อนๆ พอมันเดินเข้ามาเสียงโห่แซวก็ดังขึ้น พลอยเนี่ยมันเป็นคนแรงๆ แล้วก็เริ่มเป็นสาวตั้งแต่ป.6 ที่สำคัญมันเป็นเพื่อนกับไอ้เกมส์ด้วย

“ไหนๆ ไอ้เปาเตี้ยๆ มันมาหรอวะ!” พลอยในชุดเดรสสั้นตะโกน เพื่อนผู้หญิงข้างหลังผมส่งเสียงหมั่นไส้ทันที พลอยมากับเพื่อน
ผู้หญิงอีกสองคนและแน่นอนว่าผมจำไม่ได้ด้วย ไอ้เปาก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกัน 

“ไอ้เหี้ยยีนบอกหล่อขอดูหน้าหน่อยดิ๊” พลอยเดินตรงเข้ามาเมื่อมีคนส่งเสียงว่าไอ้เปาอยู่ด้านใน

“นี่มึง...ไอ้เปาหรอวะเนี่ย”

พลอยเดินเข้ามาประชิดไอ้เปาที่ยืนอยู่ข้างๆ เก้าอี้ผม ไอ้เปาเลิกคิ้วก่อนจะหันไปตามแรงของพลอย

“วิดวิ้วววว เห็นแล้วตะลึงเลยสิอีพล๊อยยย”

“มันเป็นนายแบบด้วยนะเว้ย กูเห็นมันในหนังสือ” เพื่อนคนหนึ่งพูดขึ้นแล้วเสียงโห่แซวก็ดังขึ้น พอได้ยินคำว่านายแบบสายตาของพลอยก็เริ่มเปลี่ยน ผมไม่ได้ดูถูกผู้หญิงหรอกนะครับ แต่ไอ้เปาเนี่ยตั้งแต่เด็กไม่มีใครเห็นมันอยู่ในสายตา เพื่อนๆ ก็มักจะล้อเล่นกับมันเสมอ รวมถึงพลอยที่อยู่ต่างห้องด้วย พอมาวันนี้ทุกต่างตกใจและสายตาที่มองไอ้เปาก็เปลี่ยนไปด้วย
บรรยากาศให้ห้องครื้นเครงเมื่อเสียงดนตรีสดเริ่มเล่นตอนนี้เกือบสามทุ่มแล้วครับ ไอ้เปามานั่งข้างๆ ผมและเริ่มกินข้าวที่พึ่งจะสั่งเพิ่ม ส่วนไอ้เก้เห็นแว้บๆ แต่มันก็ลอยไปนั่นไปนี่แทน แต่เพื่อนผมนี่ยังไงครับไอ้โจ๊กถึงไปนั่งข้างไอ้เก้ได้

“เปา ตอนนี้เรียนไรอยู่อะ”

อ่า...แล้วนี่ก็มานั่งข้างไอ้เปาได้ไงครับ พลอยนั่นเอง พลอยนั่งข้างไอ้เปาเอาแต่ชวนคุย ส่วนไอ้เปาก็เขยิบเก้าอี้แทบจะนั่งชิดกับผม มันไม่ค่อยกินเหล้ามาก เพราะมีแต่คนอยากคุยกับมันมากกว่าโดยเฉพาะพลอย

“เรียนสินกำอะ”

“วาดรูปตั้งแต่เมื่อไหร่ อะ...ชนหน่อยดิ” พลอยยิ้มเอียงอาย ผมยาวที่ปิดอกนูนของเธอสะบัดเล็กน้อย ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองแดงแน่ๆ

“ไม่อ่ะ เราต้องขับรถ ไอ้โจ๊กเริ่มเมาแล้ว”

“เมาก็ไม่เห็นเป็นไรเลย นอนกับเราก็ได้”

“อีพลอยย เก็บนอ เอ้ย เก็บอาการหน่อย เมาแล้วยิ่งกว่าอีตูนอีก” จี๊ดส่งเสียงมาจากหัวโต๊ะแต่ดูเหมือนว่าในสายตาของพลายนั้นไอ้เปาน่าสนใจอยู่คนเดียว พลอยเท้าคางมองหน้าไอ้เปาก่อนจะปรือตาแล้วยกแก้วขึ้นดื่ม

“อยากกลับยัง” ไอ้เปาหันมากระซิบถามผม ไม่ได้สนใจผู้หญิงข้างๆ แม้แต่น้อย

“อื้ม”

“กลับกันกูไปบอกไอ้โจ๊กก่อน” ไอ้เปาบอกแล้วลุกขึ้นไปหาไอ้โจ๊ก พลอยมองตามไปช้าๆ

“กลางเนี่ยสนิทกับเปาดีเนอะ เปามองตลอดเลย”

“อ่า ก็นิดหน่อยเรียนด้วยกันน่ะ”

“เปามีแฟนยัง”

“ก็...ก็มีแล้วนะ” แทนที่พลอยจะตกใจพลอยกลับยกยิ้ม

“ดีเลย เพราะเราก็มีเหมือนกัน”

“..!! ชู่วๆ กลางอย่าบอกเปานะ คิกๆ แบบนี้ตื่นเต้นดีออก” เธอหัวเราะเบาๆ แล้วมองตามไอ้เปาไปคุยกับไอ้โจ๊กและไอ้เก้ ค่า
อาหารค่าเหล้าในวันนี้พวกเรารวมเงินกันคนละเท่าๆ กันแล้วให้ไอ้ยีนเป็นคนจัดการ

“บอกไอ้โจ๊กแล้ว” ไอ้เปาเดินกลับมา เพื่อนแต่ละคนเมากันสุดเลยทีเดียว ผมเลยตัดสินใจลาแค่คนที่มีสติเท่านั้น

“กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”

“ไปด้วย เดี๋ยวไอ้โจ๊กไปรอที่รถ”

ผมพยักหน้าเดินออกมาเข้าห้องน้ำด้านหลังร้าน ก่อนจะออกจากห้องสังสรรค์ก็เห็นพลอยมาไอ้เปาด้วยสีหน้ายิ้มๆ ไอ้เปายืนรอ
ผมอยู่ข้างนอก ทางเดินจะมืดๆ หน่อย ผมแอบเห็นห้องน้ำด้านข้างคนเยอะทีเดียวเลยเลือกมาเข้าที่นี่แทน อยากกลับแล้วครับล้างมือเสร็จก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เหนื่อยจริงๆ ครับ ผมเดินออกมาจากห้องน้ำที่ไม่มีคนก็เห็นไอ้เปายืนพิงกำแพงอยู่

“เหม็นกลิ่นบุหรี่เว่อร์”

ไอ้เปาเดินเข้ามาใกล้ดมฟุดฟิดที่ข้างแก้ม เสียงเพลงจากดนตรีสดก็ยังมาต่อเนื่อง

“กูไม่ได้สูบ”

ไอ้เปาขำแต่ก็ยังแกล้งผมไม่หยุด “หึหึ มีคนหึงกูมั้ยวันนี้” ไอ้เปามันก็เป็นไอ้เปา พอเห็นผมเริ่มเบี่ยงหน้าออกมันก็เอาจมูกตามมาแกล้ง มันไม่ได้เมานะครับแค่กรึ่ม

“อยากจูบอะ”

“...!!” ไอ้เด็กนี่ ไอ้เปาพูดพร้อมยิ้ม เลื่อนหน้ามาใกล้เรื่อยๆ

“นะ...”







“นี่หรอ แฟนเปาที่มึงว่า!”


เสียงเอ่ยทักดังขึ้นจากด้านหลัง ผู้หญิงในชุดเดรสสั้นจ้องมาทางเราด้วยสีหน้าถมึงทึงราวกับถูกหักหน้าอย่างรุนแรง





===========
มาเเล้วววว
ขอบคุณทุกคนค่า
ขอให้มีความสุขในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ 
:L2: :กอด1: :กอด1:
ปล.ไม่ได้ตรวจคำผิดเเละชื่อตอนมันจะงงๆ หน่อย งงตัวเองเหมือนกันเด้อ..555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 14-07-2017 22:02:13
ถ้าใช่แล้วจะทำไมชะนี. มีปั๋วแล้วก็เงียบไปเลยนะ ขัดความสุข อิอิ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 14-07-2017 23:39:28
ชะนีถอยไปย่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 15-07-2017 00:21:02
โหววววว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 15-07-2017 00:31:36
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 15-07-2017 00:35:52
ไม่เอาสิพลอย ไม่เสือกสิ อย่าสาระแนเรื่องคนอื่นเนอะ มีแฟนแล้วก็กลับไปหาแฟนตัวเองนะลูก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 15-07-2017 00:47:34
ก็แล้วทำไมมมมย๊ะะ เค้าเป็นแฟนกันแล้วเธอเกี่ยวอะไร๊ :angry2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 15-07-2017 01:20:00
พลอย ไม่เผือกนะไม่ใช่เรื่องของเธอ ขัดใจกับชะนีมีนอจริงๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-07-2017 01:36:58
หึหึ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-07-2017 03:06:05
แล้วหล่อนมาเกี่ยวอะไรย่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 15-07-2017 08:17:49
ใช่ คนนี้แหละแฟนเปา
 :m31: :fire:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 15-07-2017 09:02:32
ก็แฟนเปาแล้วไง ไม่ทราบว่าเผือกอะไรด้วย :m16: :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-07-2017 09:47:54
ไม่เอาสิพลอย ไม่เสือกสิ อย่าสาระแนเรื่องคนอื่นเนอะ มีแฟนแล้วก็กลับไปหาแฟนตัวเองนะลูก

ช่ายยยย.....น่ารำคาญพลอย 
เจอเปา ก็อ่อยแต่เปา ทั้งที่มีแฟนแล้ว
นี่นางคงคิดว่ามีแฟนก็มีไรกันได้ ช่างเ-ว ซะจริง
ทำไมต้องรู้สึกว่าถูกหักหน้า ฮึ.... ใครเขาสน
ใครจะชอบใครก็เรื่องของเขา เสือกไรด้วย

เห็นด้วยกับกลางเลยยนะทีไม่ไปงานรุ่น เข้ากลุ่ม
ก็เจอแต่คนแบบพลอย แบบการ์ตูน นี่แหละ  :seng2ped:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 15-07-2017 11:56:58
จะไม่มีใครมาแทรกกลางระหว่างเปา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 15-07-2017 15:39:41
อย่าเผือกสิพลอย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 15-07-2017 17:59:54
พลอยแล้วกลางเป็นแฟนเปา เมิงงงวงงงจะทำไมฮึ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 15-07-2017 18:40:22
ถ้าใช่แล้วจะทำไมหรอชะนี มีผัวแล้วก้เงียบๆไปมะ เก็บนอตัวเองหน่อย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 15-07-2017 19:12:57
แล้วยุ่งอะไรอ่ะเธอ คันมากเร๊อะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 15-07-2017 20:56:47
ใช่...แล้วไง :m16:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 16-07-2017 10:39:19
ก็ใช่ไง ! ถ้าพูดไม่ดีนะ โดนตบแน่ หมั้นไส้ๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 21 หน้า 17 (14-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 16-07-2017 13:52:34
เสือกอะไร๊ชะนี๊
กลับไปหาผัวเทอนู้น ไป๊
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 24-07-2017 19:25:42
22
มรสุมกลางดราม่า

“นี่หรอ แฟนเปาที่มึงว่า!”

เสียงแหลมทักดังขึ้นจากด้านหลัง ผู้หญิงในชุดเดรสสั้นจ้องมาทางเราด้วยสีหน้าถมึงทึงราวกับถูกหักหน้าอย่างรุนแรง พลอยเดินปรี่เข้ามาประชากคอเสื้อผมไปที่กำแพงโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัวพร้อมกับตวาดลั่น

“อีกระเทยตอแหล!” ไอ้เปารีบคว้าข้อมือพลอยทันทีแต่ก็พลอยก็ไม่ยอมปล่อย คำด่านั้นเธอกระแทกใส่ผม เราสองคนยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่รวดเร็วเป็นพายุแบบนี้ซักนิด

“ปล่อยกลาง!” ไอ้เปาพูดเกือบจะเป็นเสียงตะคอก

“หึ ทำไมถ้ากูไม่ปล่อยแล้วจะทำไม หน้าอย่างมึงจะทำอะไรได้ไอ้เปา” สรรพนามที่เธอพึ่งจะเปลี่ยนกลับมาเรียกไอ้เปาตามเดิม

“พวกวิปริต!” ปากเหยียดยิ้มให้กับผมก่อนจะยิ่งรั้งเสื้อผมให้เข้าไปใกล้เธอ

ผมมองพลอยด้วยสายตาหวาดหวั่นพอจะเข้าใจที่มาที่ไป ผู้หญิงคนนี้ไม่ชอบไอ้เปาพอๆ กับไอ้เกมส์ ไอ้เปาตอนเด็กไปไหนก็มีแต่คนแกล้ง ไม่เอาไหน พอมาวันนี้เห็นไอ้เปาอีกครั้งก็มีแต่คนชื่นชม พลอยก็เป็นหนึ่งในนั้นที่มองมันแค่ภายนอก สนใจจนกระทั่งอยากจะได้แม้ว่าตัวเองมีแฟนแล้ว ประกอบกับไอ้เปาไม่สนใจเธอเลยแม้แต่น้อยพอมาเห็นผมกับไอ้เปาหยอกล้อกันแบบนั้นอีกเธอเลยรู้สึกว่าถูกฉีกหน้าเพราะลงทุนยอมลดความเกลียดมาคุยกับไอ้เปาที่ตอนเด็กเกลียดนักเกลียดหนาขนาดนี้แล้วแท้ๆ แต่คนที่ไอ้เปากลับเป็นผมที่เป็นผู้ชาย คนที่เปลี่ยนความรู้สึกเพียงเสี้ยววิแบบนี้ผมกลัวจริงๆ ครับ

“...” ไอ้เปาขบกรามจนได้ยินเสียงกรอดๆ เมื่อพลอยเริ่มพ่นคำหยาบออกมาจากปาก ส่วนผมก็ได้แต่ออกแรงจับข้อมือของเธออีกข้าง ปล่อยซักทีสิ

“มึงก็ยังขี้ขลาดอยู่วันยันค่ำ ไอ้เปา! เป็นห่วงอีนี่หรอ” พลอยเลื่อนมือมาบีบคางผม เล็บยาวของเธอจิกจนแสบไปหมดก่อนจะตบบนแก้มผมสองสามทีให้เกิดเสียงแล้วหันมาพูดกับไอ้เปา

“เสียดายหน้าตามึงจริ๊งจริงไอ้เปา...อุตส่าห์เปลี่ยนไปขนาดนี้ยังจะมาหลง...หึ ด้วยกันเอง” สายตาดูถูกมองปราดทั่วใบหน้าผม

“โอ๊ย” ผมร้องเมื่อพลอยจิกเล็บแน่น เพราะพลอยเป็นผู้หญิงแถมยังเมาด้วย ผมไม่กล้าทำอะไรหรอกครับได้แต่ปัดป้องตัวเอง ไอ้เปายังคงกำข้อมือพลอยแน่น ในเมื่อพลอยไม่ปล่อย มันบีบข้อมือพลอยแรงขึ้นแต่พลอยก็ไม่สะทกสะท้าน เปาออกกระชากมือพลอยอย่างแรง จากที่พลอยคร่อมผมไว้ตอนนี้ไอ้เปาก็กดแขนสองข้างของพลอยไว้ที่กำแพงแทน

“จะอะไรกับกูนักหนาวะพลอย! มึงเกลียดกูชิบหายเลยไม่ใช่หรอ อยู่ดีๆ มึงก็สนใจกูขึ้นมา แล้วตอนนี้เป็นบ้าอะไรอีกวะ ทำไม...เสียใจหรอที่กูไม่สนใจมึง” ไอ้เปากัดฟันพูด พลอยโกรธจนหน้าแดงจ้องหน้าไอ้เปาเหมือนจะฆ่าให้ตาย

“ปล่อยแขนนะ กูจะอ้วก” พลอยสะบัดตัวอย่างขัดใจก่อนจะพูดต่อ “พวกมึงรวมหัวกัน แก้แค้นแทนผัวมึงหรอไอ้กลาง ตอนเด็กๆ เห็นตามตูดกันต้อยๆ ไม่คิดว่าตอนนี้...ข้างหน้าข้างหลังมันคงจะติดกันอยู่สินะ” ไอ้เปากำข้อมือของพลอยทั้งสองข้างไว้แน่น เธอนิ่วหน้าอย่างเจ็บปวดแต่ก็ไม่ยอมหยุด

พลอยหันหน้ามาตะโกนใส่ผม ผมยืนนิ่งอึ้งพึ่งเคยได้ยินคนที่มองผมกับไอ้เปาแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่ปล่อยให้ผมได้คิดอะไรต่อเธอก็พูดอีก “หึ ที่กูสนใจมึงก็คิดชั่ววูบเท่านั้นแหละ สะอิดสะเอียนชิบหาย ทำเป็นปฏิเสธกูที่แท้ก็ได้ไอ้นี่เป็นเมียแล้วนี่เอง ถามจริงที่บ้านรู้มั้ยวะ”

“หยุดว่าคนอื่นแล้วมองตัวเองดีกว่ามั้ย! แล้วถ้ามึงว่ากลางอีกคำเดียว!...” ไอ้เปาพูดอย่างโกรธจัดแต่พลอยสวนกลับขึ้นมาทันใด

“จะทำอะไรกู! ทำดิ! ทำดิ! กูไม่กลัวมึงหรอก เหมือนที่ไอ้เกมส์บอกเลย คนอย่างมึงน่ะ อ่อนชิบหาย....เอาดิ กัดฟันทำเหี้ยไร” พลอยไม่ยอมแพ้ยื่นหน้ามาท้าทายไอ้เปาแถมยังเบียดตัวเองกับตัวไอ้เปาอีก ไอ้เปาจับแขนของพลอยไว้แน่นส่วนพลอยก็ออกแรงสะบัดแขนแต่ก็สู้แรงของไอ้เปาไม่ได้ก็เลยได้แต่สะบัดมือไปมา

“กลับเถอะ” ผมร้องก่อนจะเดินไปยื้อแขนไอ้เปาออกจากข้อมือของพลอย ผมไม่อยากฟังคำพูดของคนแบบนี้อีกต่อไปแล้ว พลอยส่งเสียงฮึดฮัดสะบัดมือไปมา ยื้อกันไปยื้อกันมาจนเหมือนจะมีเรื่องกันจริงๆ

“ปล่อยดิ ไอ้เหี้ยเปา ไม่ต้องมาจับกู”

“เปา!”

“หยุดดิวะพลอย!”

“โอ๊ย พวกเกย์น่ารำคาญ!”

เพี้ยะ!

“กลาง!!”

“พลอย!!!”

ทุกอย่างหยุดนิ่ง หน้าผมชาไปแล้วจากหลังมือของพลอย ไอ้เปารีบปล่อยพลอยแล้วเข้ามาดูผมทันที แต่พลอยกลับทรุดลงพร้อมกับกุมแก้มเมื่อเห็นว่าคนที่มาใหม่เรียกเธอเสียงดัง

“เตอร์...เค้าโดนตบ!”

“พวกมึงทำเหี้ยไรกับแฟนกูวะ!”

ไม่ทันได้ตอบอะไรไอ้เตอร์ที่คาดว่าจะเป็นแฟนพลอยก็วิ่งง้างหมัดเข้ามาด้วยความรวดเร็ว ผมที่อยู่ใกล้มือของคนมาใหม่... 

ผลัวะ!

เพราะความชุลมุนไอ้เตอร์คว้าคอเสื้อด้านหลังผมให้หันไปเผชิญหน้ากับมันแล้วประเคนหมัดใส่ผมทันที ไอ้เปาเซไปข้างๆ เพราะแรงกระแทก มันเบิกตากว้างและผลักผมออกทันทำให้หมัดโดนมุมปากผมไม่แรงมากแต่ผมชาเป็นครั้งที่สอง

“กรี๊ดดด เตอร์....”

ผลัวะ!

ไอ้เตอร์พยายามเหวี่ยงหมัดมาอีกแต่เพราะไอ้เปาตัวสูงกว่ามันเลยชกพลาดหลายครั้ง ผมเห็นกล้ามแขนที่ใหญ่กว่าไอ้เปา จึงรีบโทรตามไอ้เก้ด้วยมือสั่นๆ พูดไม่เป็นภาษาแต่ไอ้เก้กลับเข้าใจว่าผมต้องการความช่วยเหลือ

“มึงหยุดดิวะ มันเข้าใจผิดกัน!”

ผมตะโกนอย่างร้อนใจเมื่อเห็นไอ้เปาเริ่มเสียเปรียบ แขนมันสองคนรัวหมัดกันไม่ถอย ถึงมันจะไม่ค่อยโดนต่อยแต่หมัดหนักขนาดนั้นหลบทันก็มีช้ำเหมือนกัน จะเข้าไปช่วยแต่ไอ้เตอร์ก็ผลักออก มันโรมรันอยู่กับไอ้เปาจนผมไม่สามารถเข้าไปช่วยมันได้เลย นี่มันวันอะไรกันวะเนี่ย

“เปา!...พลอยบอกดิ พวกเราไม่ได้ทำอะไรเธอนะเว้ย!!” ผมตะโกนเมื่อเห็นเลือดซึมที่หางคิ้วมัน ตัวชาวาบ ใจเต้นแรงด้วยความกลัว พลอยปิดหน้าปฏิเสธและร้องไห้เพราะเสียงหมัดกระทบเนื้อมันดังมาชัดเจน นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว

“เตอร์ ฮืออออออ”

“แม่ง หยุดดิวะ! มึงฟังพวกกูก่อน” ผมตะโกนบอกแต่เพื่อนผมก็วิ่งมาพร้อมกับตะโกนลั่น

“เฮ้ยๆๆๆ หยุดโว้ย เหี้ยไรเนี่ย...”

“ไอ้เนมจับไอ้นั่นไว้ กูจับไอ้เปาเอง”

“ไอ้เหี้ยหยุด!!!”

พอจับแยกกันได้ ผมไม่สนใจใครอีกต่อไป รีบเข้าไปหาไอ้เปาที่ตอนนี้มันหอบหนัก “มึงเป็นยังไงบ้าง...” กระบอกตาร้อนขึ้นมาทันที ผมไม่อยู่เคลียร์อะไรทั้งนั้นเพราะมีพยานที่เดินมาเข้าห้องน้ำพอดีแล้วเห็นพลอยโวยวาย

“กูไม่เป็นไร มึงอย่าร้องนะ กูขอโทษที่ช่วยมึงไม่ได้” ไอ้เปาเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากแผลบนหน้าแล้วจับข้อมือผม มันพูดด้วยเสียงร้อนรน

“ไอ้กลางเป็นยังไงบ้างวะ” ผมยืนนิ่งยังตกใจกับเรื่องราวที่มันเกิดขึ้น “ขอโทษแทนไอ้เตอร์ด้วยเว้ย มันไม่รู้” ไอ้เก้ปรายตามองไอ้เตอร์ที่ยืนสงบสติอารมณ์ข้างๆ พลอยที่เอาแต่ร้องไห้

“กูกลับล่ะ ปะ..กลาง” ไอ้เปาไม่รับคำขอโทษ มันพูดแค่นั้นแล้วลากแขนผมออกเดิน ผมไม่อยากมองหน้าใครทั้งนั้น ก่อนที่จะผ่านพลอยไอ้เปาเดินเข้าไปพูดเสียงเหี้ยม ไอ้เตอร์มันก็ขยับตัวมาบังแฟนมันไว้ทันที ส่วนไอ้เก้กับไอ้เนมมองเราอย่างไม่ไว้ใจ

“จำไว้นะพลอย ที่มึงบอกว่ากูขี้ขลาดอะ สิ่งที่มึงทำมันน่าสะอิดสะเอียนกว่านั้นอีกหลายเท่า”

“...”

“ส่วนมึง...เชิญโง่ต่อไปเหมาะกันดีแล้วนี่ ผู้หญิงที่อยากได้คนอื่นตัวสั่นแบบนี้อย่าไปเอาให้ใครเลยเก็บไว้เองเถอะ”

“...!!”

“ไอ้เหี้ย!”

“ไอ้เตอร์! หยุดได้แล้ว!”

“แทงใจดำหรอ อ๋อลืมไปมึงไม่มีหัวใจนี่”

“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด”





กลับมาที่รถไอ้โจ๊กถึงกับสร่างเมาเมื่อเห็นสภาพผมกับไอ้เปา ไอ้เก้คุยกับมันนิดหน่อยแล้วเราก็ออกรถ เหตุการณ์เมื่อกี้มันรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว ผมมองนอกกระจกพลางควบคุมจังหวะหัวใจที่เต้นถี่ของตัวเองให้ลดลง คนข้างๆ มองผมด้วยสายตาเป็นกังวล ผมกับไอ้เปานั่งกุมมือกันเงียบๆ จนมาถึงบ้าน

“แน่ใจนะว่าพวกมึงโอเค” ไอ้โจ๊กถามย้ำอีกครั้ง

“อื้ม มึงไปเถอะขอบใจมาก”

ไอ้โจ๊กส่งสายตาเป็นห่วงแต่ผมก็พยักหน้ายืนยันกับมัน เข้ามาถึงบ้านก็เกือบห้าทุ่ม ไอ้เปาไม่ได้มีแผลที่ต้องเย็บ มันมองตามผมที่เข้าไปเอาอุปกรณ์ทำแผลเงียบๆ

“กลาง...”

สีหน้าผมคงแย่มาก ผมไม่ได้โกรธที่ผมโดนว่าแบบนั้น ผมเจ็บที่หัวใจเหตุการณ์ในวันนี้มันยิ่งทำให้ผมสงสารไอ้เปามากขึ้นไปอีก ผมไม่น่าไปงานอะไรนั่นเลย มันต้องรู้สึกแย่แค่ไหนกับคนที่เข้ามาทำดีกับมันเพราะสิ่งที่มันเปลี่ยนแปลง ผมดีใจที่ทุกคนยอมรับแต่ลึกๆ แล้วคนพวกนั้นมันก็ไม่เคยมองไอ้เปาไปจากเดิมเลย พวกมันไม่เคยรู้ว่าคนที่พยายามอย่างไอ้เปามีค่ากว่าพวกมันมากแค่ไหน ไอ้เปาควรได้รับการยกย่องอย่างจริงใจ ไม่ใช่หน้าไหว้หลังหลอกแบบนี้ ผมยังเจ็บขนาดนี้ แล้วไอ้เปาล่ะมันจะขนาดไหน

“ขอโทษนะ”

พออยู่กันสองคนแบบนี้น้ำตาที่ผมกลั้นไว้ก็ไหลออกมาเงียบๆ ไอ้เปาคว้าผมไปกอดหน้าผมซุบกับลาดไหล่ของมัน “มึงจะขอโทษทำไมวะกลาง กูสิที่ปกป้องมึงไม่ได้อีกแล้ว กูเป็นคนที่ไม่เอาไหนเหมือนเดิมเลยว่ะ”
ผมส่ายหน้าโดยที่ไม่พูดอะไร มึงปกป้องกูได้เสมอเปา ผมภูมิใจในตัวมันเสมอ

“มึงอย่าดูถูกตัวเองเหมือนที่คนอื่นดูถูกมึงได้มั้ย”

“...”

“สำหรับกูนะ...มึงไม่ใช่แบบนั้นเลย”

“กูทำให้มึงโดนว่าเสียๆ หายๆ กูขอโทษ” แน่นอนว่า มันกลัวและเสียใจกับการปกป้องผมไม่ได้เท่านั้น...

“ฮึก....” อยากจะกลั้นก้อนสะอื้นนั้นไว้แต่ก็ทำไม่ได้เลยจริงๆ ไอ้เปา ไอ้เด็กคนนั้นที่ผมเห็นตั้งแต่เด็กมันไม่ใช่ตัวตลก สิ่งที่เกิดวันนี้มันไม่มีความสำคัญที่ต้องจำแต่แค่ต้องใช้เวลาในการลืมมันไป

“ผ่านไปแล้วมึงอย่าจำเลย” มันผละออกแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม มันเข้มแข็งขึ้นมากทั้งๆ ที่ผมรู้ดีว่ามันก็คงรู้สึกแย่เหมือนกัน ผมภาวนาให้มันลืมเช่นเดียวกัน “เห็นมึงเจ็บแล้วกูปวดใจทุกที” ไอ้เปาใช้นิ้วโป้งไล้แผลผมเบาๆ

“กูก็เหมือนกัน”

ไอ้เปายิ้มบางๆ กลับมา แผลตรงมุมปากและข้างแก้มของผมเริ่มจะตึงๆ แล้ว ส่วนไอ้เปานอกจากตรงคิ้วแล้วมันก็มีแต่รอยฟกช้ำ ซึ่งก็ดีแล้วครับ ขณะที่ไอ้เปาทำแผลให้ผมนั้นผมก็ได้ยินเสียงเดินลงบันได้ กลัวจะเป็นแม่หรือพ่อ ผมไม่อยากให้พ่อกับแม่ตกใจแต่ไม่ทันจะหลบ เสียงก็ดังมาจากบันไดก็ดังขึ้นมาซะก่อน

“กลาง เกิดอะไรขึ้น!”

ไอ้เล็กพูดทันทีที่เห็นหน้าผม ผมไม่เคยมีเรื่องชกต่อย ไม่เคยมีปัญหากับใคร  ไอ้เล็กกำหมัดแน่นสีหน้ามันไม่พอใจ มันหันไปมองหน้าไอ้เปานิ่ง เหมือนจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“ที่งานมันมีเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อย...” ผมพยายามอธิบายแต่ไอ้เล็กก็สวนขึ้นมาทันควัน

“ทีแรกเล็กอุตส่าห์ไว้ใจ...เล็กเปิดใจแล้วนะกลาง” น้องชายผมพูดแต่สายตามองตรงไปที่ไอ้เปา สายตาของไอ้เปาวูบไหวบ่งบอกว่ารู้ว่ามันรู้สึกผิด

“พี่ขอโทษ...”

ผลัก!

“เล็ก!” ผมร้องเมื่อเห็นเล็กเข้าไปผลักอกไอ้เปาจนมันเซ มันไม่ได้ตอบโต้ ไอ้เปาหลบตา มันกำลังอ่อนแอ...และโทษตัวเองอย่างที่สุด

“ถ้าเป็นแฟนกลางแล้ว ดูแลกลางไม่ได้ก็อย่าเป็นเลยดีกว่าว่ะ!”

ไม่มีเสียงตอบกลับจากไอ้เปา แต่มีเสียงหนึ่งที่ทำให้ตัวผมชาวาบ ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

“...เล็กพูดอะไร...”

“แม่!!” เล็กเรียกด้วยเสียงตกใจ พวกเราอยู่ในอาการอึ้ง ไอ้เปาได้สติมันก็ลุกขึ้นยืนขยับตัวมาข้างๆ ผม

“หมายความว่ายังไง”

แม่เดินมาตรงหน้าผมกับไอ้เปา แผลที่หน้าและคำพูดของไอ้เล็กทำให้แม่หน้าซีดเผือก ไอ้เล็กได้แต่ยืนนิ่งมันคงไม่คิดว่าแม่จะลงมาได้ยิน

“แม่...” ผมพูดอะไรไม่ออก แม่ค่อยๆ ยื่นมือมาจับมือผม ในหัวผมคิดอะไรไม่ออกแม้แต่อย่างเดียว จนวินาทีที่แม่เริ่มพูด น้ำตาของผมก็เริ่มไหล

“กล...กลางกับเปา จริง...หรอลูก...แม่...” แม่สับสนจนพูดไม่เป็นประโยค ผมแทบไม่มีแรงยืนเมื่อแม่พูดประโยคถัดไป

“แม่เลี้ยงกลางไม่ดีหรอลูก ฮึก”



ผมทำลงไปแล้ว


...แม่ร้องไห้...


....เพราะผม....


“แม่ กลางขอโทษ ฮือ...”

“แม่ครับ ผมขอโทษ” ไอ้เปาทรุดลงนั่งที่พื้นพร้อมกับพนมมือ “ขอโทษที่ปิดบังครับแม่อย่าโกรธกลางเลยนะครับ ผมผิดเองเรื่องที่กลางเจ็บ ผมผิดเองครับ ผมไม่ดีเอง ทั้งหมดนี้....โกรธผมเถอะครับ”

“...” แม่ไม่ตอบอะไรเอาแต่ส่ายหน้า ผมนั่งลงข้างไอ้เปาพนมมือกราบเท้าแม่ตัวสั่น

“แม่อย่าร้องไห้เลยนะครับ ฮึก...กลางขอโทษ ขอโทษจริงๆ...”


ขอโทษที่ผมทำให้แม่ผิดหวัง


ขอโทษที่ทำให้แม่เสียใจ


ขอโทษที่ทำให้แม่ร้องไห้


แม่ปาดน้ำตาก้มหน้ามองเราสองคนด้วยสายตาสับสนก่อนจะสูดลมหายใจแล้วหันไปมองเล็กที่ยืนร้องไห้เงียบๆ

“เล็กพาพี่ขึ้นไปนอนห้องเล็กไป” พอได้ยินแบบนั้นผมก็หันหน้ามองไอ้เปาทันที มันก้มหน้านิ่งก่อนจะเงยหน้ามาส่งยิ้มให้ผม มันพยายามบอกผมด้วยสายตาว่ามันโอเค

“แม่ให้กลางอยู่ด้วยเถอะ”

“แม่จะคุยกับเปา” คุยอะไร...ผมไม่อยากให้มันรับไว้คนเดียว ตอนนี้มันไม่เข้มแข็งเลยซักนิด ทั้งหมดนี้เราสองคนยังเป็นเด็กนัก ผมหวังว่าแม่จะเข้าใจ

“เล็ก! พากลางขึ้นไป”

“แม่!”

“ถ้ากลางอยากให้เรียกแม่ว่าแม่ก็ขึ้นไปซะ!” ผมมองแม่ด้วยสายตาแดงก่ำ เม้มปากกลั้นน้ำตาและแม่ก็ไม่ต่างกัน “เดี๋ยวนี้!!”
เล็กพึมพำว่าขอโทษก่อนจะออกแรงดึงแขนผมขึ้นไป แม่ยืนมองตรงไปข้างหน้าไม่สบตาใครทั้งนั้น ผมหันไปมองไอ้เปา เราสบตากัน ผมมองมันไว้แบบนั้น เพราะผมกลัว... เล็กจับแขนผมพาผมขึ้นบันได ผมร้องไห้เมื่อเห็นน้ำตาของไอ้เปาหยดลงมา

“กูรักมึงนะ”

ถึงจะไร้เสียงแต่ผมรับรู้ถึงมันได้อย่างชัดเจน




ผมร้องไห้หนักมากเป็นครั้งแรกในชีวิตเหมือนเราดูหนังที่เศร้ามากๆ แล้วร้องไห้จนหายใจไม่ออก ความรู้สึกผิด ความเศร้า สายตาของแม่ ใบหน้าของไอ้เปา ทุกอย่างประดังประเดเข้ามาหมด ไม่รู้ว่าผมหลับไปในอ้อมกอดของน้องชายตอนไหน พอตื่นมาผมปวดหัวจนแทบระเบิด ปลอกหมอนเปียกเป็นวงกว้างแม้แต่ในความฝันผมก็ยังไม่หยุดร้อง

“กลาง...” น้องชายเรียกผมเสียงสั่นเครือ เปลือกตาผมหนักมากและเมื่อมองดูเล็ก เราสองคนก็สภาพไม่ต่างกัน

“เล็กไม่ได้ตั้งใจ...เล็กขอโทษ” ผมทำใจไว้เงียบๆ ไม่คิดว่าผลที่ผมคิดว่าผมเตรียมใจไว้จะหนักหนาสาหัสขนาดนี้ ผมตั้งใจบอกแม่เมื่อวันหนึ่งที่เราพร้อม

“ไม่เป็นไร” ผมเป็นคนกลาง ผมทนไหวอยู่แล้ว

“กลางร้องไห้ เล็กไม่ไหว”

น้องชายปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ “เล็กต้องไปโรงเรียน ถ้ากลางไม่ไหวกลางบอกเล็กนะ...” น้องชายเดินมาจับมือผม สายตาที่รู้สึกผิดจนผมต้องเอื้อมมือไปลูบหัวน้องเบาๆ

“อืม”

ผมเดินออกมาจากห้องของเล็กแล้วก็เดินเข้าไปในห้องตัวเองทันที สิ่งที่ผมคิดมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ของไอ้เปาหายไปจากห้องผมเรียบร้อย ไม่เหลือแม้แต่หมอนที่แม่เอามาให้ ในใจผมมีแต่คำถามและผมอยากรู้คำตอบ เมื่อคืนหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้น

“กลางไปกินข้าว”

ผมแทบสะดุ้ง หันไปมองแม่ช้าๆ “ไปกินข้าว” แม่พูดแล้วเดินนำไปข้างล่างเหมือนปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนไม่มีคนที่ชื่อเปาอยู่ในชีวิตผม

“แม่ครับ...”

ผมเรียกเสียงเบาแต่ก็ไม่ได้ยินอะไรกลับมาเหมือนกับว่าความเงียบคือคำตอบทั้งหมด
ลงมาข้างล่างก็เห็นพ่อแม่นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว พี่ชายคนโตของผมก็คงนอนข้างนอกอีกเช่นเคย ผมมองพ่อกับแม่และนึกถึงไอ้เปาจนใจเจ็บไปหมด

“อ้าวหน้ากลางเป็นอะไรล่ะลูก” พอทักทันทีที่ผมนั่งตรงข้ามพ่อ พ่อยังคงยิ้มแย้มเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าถ้าพ่อผิดหวังในตัวผมอีกคน พ่อจะยังยิ้มให้ผมอยู่รึเปล่า

“เมื่อวานมีเรื่องนิดหน่อยครับพ่อ”

“ทายาด้วยนะ เอ...ว่าแต่...ลูกพ่อมีเรื่องกับเค้าด้วยหรอเนี่ย” พ่อหัวเราะตามประสาก่อนที่แม่จะตัดบท

“กินข้าวเถอะพ่อ”

เสียงก๊องแก๊งจากช้อนกระทบชามดังขึ้นเบาๆ ผมก้มหน้าก้มตากินข้าวแบบฝืนๆ แต่ไม่นานพ่อก็พูดขึ้นคล้ายนึกขึ้นได้

“แล้วเจ้าเปาไปไหนแล้วล่ะเนี่ย”

อึก

“เพื่อนกลางกลับไปแล้วน่ะ มีธุระด่วน” แม่ตอบทันทีก่อนจะตักผัดผักคะน้าใส่จานผม เลี่ยงที่จะพูดถึงชื่อของคนที่แม่บอกว่าเป็นเพื่อนของผม แม่สบตาผมนิ่ง

“เสียดายเลย พ่อจะชวนไปช่วยเลือกเครื่องตัดหญ้าซะหน่อย”

มื้อเช้าผ่านไป ผมรู้ว่าแม่พยายามทำให้มันเหมือนเดิมแต่ผมรู้ รู้ว่าจริงๆ แล้วมันไม่เหมือนเดิม ผมยืนมองแม่ล้างจานเงียบๆ พ่อผมออกไปทำงานเหมือนเดิม ทั้งบ้านเลยมีแต่เราสองคน

“แม่ให้เรากลับไปทบทวนทั้งสองคน”

แม่พูดขึ้นทั้งๆ ที่ยังหันหลังล้างจานอยู่ แรกทีเดียวที่ผมปล่อยให้เสียงน้ำดังอยู่ในความเงียบ ผมคิดอยู่กับตัวเองว่าการกลับไปทบทวนครั้งนี้ก็ไม่ต่างกับการให้เลิกกันซักนิด

“กลางขอโทษที่ทำให้แม่ผิดหวังแต่ว่าเรา...รัก...”

“กลาง!” พูดไม่ทันจบแม่ก็เอ็ดขึ้น คำสารภาพของผมยังไม่ทันเอ่ยมาจนหมด “กลางยังเด็กนะลูก เปาก็ยังเด็ก บางทีกลับไปคิดทบทวนดูว่าที่เรารู้สึกต่อกันมันฐานะอะไร เคยเป็นเพื่อนกันมาก่อนกลางอาจจะเข้าใจผิดก็ได้”

“...” ผมเข้าใจแม่และผมก็เข้าใจความรู้สึกตัวเองแต่ภาพที่แม่ร้องไห้เมื่อคืนยังติดค้างอยู่ในความทรงจำ ผมก็ต้องเป็นคนกลางเสมอนั่นแหละ ไม่ว่าจะยังไง แม่ไม่ให้ผมเลือกเพราะแม่คงรู้ว่าถ้าให้เลือกผมคงเลือกไม่ได้ ส่วนไอ้เปามันไม่มีทางให้เลือกเลย

“ให้เรากลับเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเผื่อจะได้คิดอะไรๆ มากขึ้น”

“...” นานแค่ไหนครับ

“ขอเวลาแม่หน่อยนะกลาง ให้เวลาแม่หน่อย”

“...” นานแค่ไหนกัน

“แม่รักกลางมากนะ ถ้ากลางรักแม่ กลางทำตามที่แม่บอกเถอะ”

แม่หันมาสบตาผม แววตาสั่นไหวนั่นทำให้ผมก้มหน้าลงช้าๆ คำว่ารักจากแม่ดังสะท้อนอยู่ในอก



.
.
อาทิตย์นึงผ่านไปผมต้องเตรียมตัวกลับไปเรียน เจ็ดวันที่ผ่านมาผมโทรหาไอ้เปาแต่มันไม่เคยรับ ไลน์ก็ไม่ตอบ ผมเป็นห่วงมันมากได้แต่ติดต่อกับแกงค์คอหล่นอีกสามคนแทน แม่ไม่ได้ยึดโทรศัพท์ของผมแต่นั่นเป็นการห้ามโดยใช้ความเงียบเป็นคำสั่ง ระหว่างที่ผมอยู่กับครอบครัวทุกอย่างก็ยังดำเนินไปเหมือนปกติ พี่โตกลับมาบ้านเห็นหน้าที่บวมเป่งของผมก็ดูจะอารมณ์เสียไม่น้อย ส่วนแม่พูดถึงเรื่องลูกสาวของเพื่อนบ่อยมากขึ้นและลดการพูดถึงเพื่อนผมเช่นเดียวกัน ผมได้แต่รับฟังพยักหน้าไปกับแม่บ้าง อือออบ้าง พอผมอยู่ห้องคนเดียวทีไร ผมก็ไม่ไหวทุกที ถึงน้องชายผมจะชวนคุย ชวนทำกิจกรรมข้างนอกแต่ผมก็ขออยู่เงียบๆ ดีกว่า เรื่องราวในคืนนั้นมีแต่น้องชายกับแม่เท่านั้นที่รู้ และแม่ก็ไม่เคยพูดถึงมันอีก

“กลาง...”

“ว่าไง” เล็กเปิดประตูเข้ามาในห้องผม เดี๋ยวนี้น้องชายกลับไปนอนห้องของตัวเองแล้ว เล็กมองผมเศร้าๆ ก่อนจะนั่งลง

“เล็กมาอยู่เป็นเพื่อน”

“ไม่เป็นไร เล็กไปนอนเถอะต้องไปโรงเรียน”

“ตอนเด็กๆ....” น้องชายผมล้มตัวลงนอนข้างๆ ผม เตียงฝั่งซ้ายลดยวบไปนิดหน่อย “ตอนที่เล็กร้องไห้น่ะจำได้มั้ย”

“เล็กร้องไห้เยอะนะ...” ผมพูดติดตลกหันหน้าไปหาน้องที่มองตรงขึ้นไปบนเพดาน ไม่นานเสียงวัยหนุ่มของเล็กจะเริ่มต้นพูด

“ร้องตอนที่เห็นพ่อแม่ทะเลาะกันน่ะ” ผมมองหน้าเล็กนิ่งๆ “ตอนนั้นเล็กไม่เข้าใจทำไมพ่อแม่ถึงเสียงดังใส่กัน”

“...”

“กลางบอกเล็กว่าไงจำได้มั้ย”

“ไม่...”

“แต่เล็กจำได้...กลางบอกว่าจริงๆ แล้วพ่อกับแม่รักกัน แต่บางทีก็เห็นพ่อแม่ยิ้มบ้าง มีร้องไห้บ้าง เสียงดังบ้าง กลางบอกให้เล็ก
ไม่ต้องกลัว โตขึ้นจะรู้เอง”

“บางทีความรักก็เป็นแบบนั้นใช่มั้ย ไม่ได้มีแค่สุขอย่างเดียว ตอนนี้เล็กพอเข้าใจแล้วล่ะ”

น้องชายขยับตัวพิงกับหัวเตียงรั้งผมไปซบไว้กับบ่าของน้องชาย น้องที่ผมเคยกอดปลอบเมื่อตอนนั้นกลับทำหน้าที่นั้นแทนผมซะได้ ผมหลับตาปล่อยให้น้ำตาร้อนไหลอาบแก้ม ห้วงหนึ่งผมได้ยินเสียงตัวเองเมื่อวัยเด็กซ้อนทับกับเสียงน้องชายในตอนนี้

“ไม่ต้องร้องนะ พี่จะปลอบเล็กเอง ไม่ต้องร้องเดี๋ยวมันก็ผ่านไป”

“พี่ไม่ต้องร้องนะ เล็กจะปลอบพี่เอง เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”


ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง

ผมนอนคว่ำอยู่กับหมอนเงยหน้ามาช้าๆ ตอนนี้ตีสองกว่าแล้วผมยังนอนไม่หลับในหัวคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ใครส่งอะไรมาตอนนี้นะ

Paramatkrikri
โทรมาว่าไงวะ
ยุ่งๆ ว่ะ
เจอกันๆ

ผมรีบปลดล็อคโทรศัพท์ไม่ตอบอะไรมันแต่กดโทรออกทันที เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังจนสายตัดไปมันก็ไม่รับ ทั้งๆ ที่ผมโทรกลับทันทีที่มันส่งข้อความนี่หว่า ผมกดโทรอีกที มือที่จับโทรศัพท์เย็นเฉียบ ผมรอมันมานานแค่ไหนนะ หรือบางทีมันอาจจะรอผมนานเกินไปแล้วก็ได้

ติ๊ด

มันกดรับโทรศัพท์แต่เนิ่นนานกว่าจะพูด

(อะ...เออว่าไงวะ)

แค่ได้ยินเสียงมัน ผมก็แสบจมูกทันที คำพูดล้านแปดที่อยากจะพูดหายไปหมด ไม่รู้เพราะคลื่นสัญญาณหรืออะไรกันแน่ทำให้ผมได้ยินเสียงมันสั่นๆ

“เป็นยังไง มึงเป็นไงบ้าง อยู่ไหน กู...”

(อย่าร้อ..อะ...เออกูอยู่กรุงเทพฯ ดิ งานเยอะไม่ได้เล่นไลน์เลยเว้ย)

มันตอบกลับเสียงใส พยายามกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมตามที่แม่บอกสินะ ผมมีเรื่องอยากถามมันเยอะแยะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอย่างที่ใจคิด

“...ขอโทษนะ” ผมตอบกลับเสียงเบาหวิว ได้ยินเสียงกุกกักจากปลายสาย

(อึก...กูต้องไปก่อนนะ เจอกันเว้ย)

มันพูดอย่างรวดเร็วแล้วกดตัดสายไป ถ้ามันไหวผมก็ไหว






“โจ๊ก ดูกลางด้วยนะ”

เรามาถึงสนามบินตอนเย็นวันอาทิตย์ครับ ครอบครัวผมมาส่งผมเช่นเคย ไอ้เล็กจมูกแดงกอดผมมันทำท่าจะพูดอะไรแต่ก็นิ่งเงียบ ส่วนพี่โตก็อวยพรเหมือนเดิมครับ พี่โตคงรู้แหละแต่ไม่ค่อยพูดอะไร ก่อนจะเข้าไปเช็คอินแม่ก็เรียกผม

“ครับแม่”

“แม่จะลงไปหาบ่อยๆ นะลูก”

“ลงไปทำไมบ่อยล่ะแม่” พ่อทำหน้าตาสงสัย วันนี้พ่อให้เสื้อสีขาว พุงพ่อเด่นชัดขึ้นมาอีกแล้ว

“เป็นห่วงลูกไง”

พ่อส่ายหน้าก่อนจะหันมาพูดกับผม มือทั้งสองข้างก็จับไหล่ผมไว้ อาจจะเป็นครั้งแรกที่พ่อพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

“โตแล้วต้องดูแลตัวเองนะ พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่กับลูกตลอด ท้ายที่สุดแล้วเราก็ต้องเลือกทางเดินของเราเองนะลูกจะเดินไปทางสบายๆ หรือทางขรุขระกลางก็เลือกเอานะ” กลางมีสิทธิ์จริงๆ หรอครับพ่อ

“อะ...อะไรของพ่อเนี่ย...” แม่อึกอักจับแขนพ่อไว้

“เข้าใจมั้ยลูก เวลากลางล้ม กลางเจ็บ กลางจะได้เรียนรู้และดูแลรักษามันเองได้อย่างเข้มแข็ง”

“ครับพ่อ รักพ่อนะ”

ผมน้ำตารื้น กอดพุงพ่อก่อนไป พี่ชายและน้องชายผมเดินมาหาอีกครั้ง ผมไม่เคยขี้แงแบบนี้เลยนะ โคตรไม่คูล

“โชคดีลูก”

“ไปแม่ พ่อจะกลับไปดูละครภาคค่ำ”

“ปะ ไอ้กลาง” ไอ้โจ๊กรู้เรื่องทั้งหมดแล้วครับ มันบอกให้ผมให้เวลาแม่อีกสักนิดแล้วมันอาจดีขึ้นเอง ให้ผมทำตามที่แม่บอกไปก่อน

จำได้ว่าในตอนนั้นมันตบบ่าผมเบาๆ “อย่างน้อยมึงก็ยังเห็นหน้ากันอยู่นะเว้ย”

ผมมองไอ้โจ๊ก “เห็นหน้ากันทั้งๆ ที่เป็นแบบนี้ไม่เจ็บกว่าหรอวะ”

.
.
.
[ต่อข้างล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 24-07-2017 19:28:54
.
.
.
.
เปิดเทอมแล้วครับ ผมกลับมาอยู่หอทำความสะอาดได้สองวันผมมีเรียนวันอังคารวันแรกครับ ผมพยายามใช้ชีวิตปกติแต่ก็คิดถึงไอ้เปาเหมือนเดิม เรื่องที่แม่บอกให้ทบทวนคำตอบของผมมีอยู่อย่างเดียวคือผมไม่เปลี่ยนใจ ผมนั่งมองรูปที่มันวาดให้อย่างเหม่อลอย ไลน์กลุ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งและไอ้เปาก็ยังเงียบหายเหมือนเดิม หวังว่าพรุ่งนี้มีเรียนมันคงไม่หลบหน้าไปไหนนะครับ

“เพื่อนร๊ากก ไหนไส้อั่วผมคร้าบ”

มาถึงม้าหินอ่อนที่คณะในตอนเช้า ไอ้กล้วยก็ขว้างกระเป๋าบนโต๊ะแล้วกอดคอผมทันที “อ่ะ รีบกินนะ เอาไปอุ่นก่อนล่ะ”

“ขอบใจเว้ย แล้วผัวมึงไปไหนเนี่ย” มันมองซ้ายขวาก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งข้างๆ ผม

“...”

ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไปได้แต่ก้มหน้ากดโทรศัพท์ไปเรื่อย ผมไม่อัพเดตอะไรมากซักพักใหญ่ๆ แล้วและไอ้เปาก็เหมือนกัน

“ไอ้พวกที่เหลือไปไหนเนี่ย ช้าชิบหาย”

ผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ

“มาแล้วครับเพื่อนกล้วยยยย”

“ไอ้เชี่ยเปาแหละอิดออดไม่เข้ามาอยู่นั่น”

พอได้ยินชื่อผมก็เงยหน้าขึ้นทันที ไอ้เปามองผมอยู่ก่อนแล้ว พึ่งเข้าใจเวลาหยุดก็ตอนนี้แหละครับ แค่ไม่กี่วิมันก็เบือนหน้าไปทางอื่น มึงผอมลงรึเปล่านะ เห็นหน้ามันแบบนี้แล้วน้ำตาจะไหล มันมาเองน่ะครับ รอยแผลที่หน้าของมันไม่มีเหลือแล้วนี่นา ดีแล้ว ผมคิดถึงมันมากพอมาเห็นมันจริงๆ แล้วผมคิดถึงมันมากกว่านั้นอีกหลายเท่า หวังว่ามันคงจะยังรู้สึกเหมือนผม อย่าพึ่งยอมเพ้นะ

“นั่งดิสาสสส กูจะเล่าเรื่องไปสิงคโปร์เว้ย วันแรกเดินจนนิ้วปูดไอ้เชี่ย มึงพากูไปฝังเข็มเลยไอ้เบส”

“ไอ้ง่าวกล้วย มึงไม่ขึ้นรถสาธารณะเอา”

“มันแพงไงไอ้เบส”

“แพงแต่ได้แผลมาแทนอะนะ”

“เออว่ะ”

 “แล้วมึงสองตัวเป็นอะไร นั่งเงียบจ้องหน้ากันอยู่ได้” ผมสะดุ้งเมื่อไอ้เบสตบบ่า

“เปล่า”

“เดี๋ยวกูไปหาเสก่อนนะ เสเรียก” ไอ้เปารีบลุกขึ้นคว้ากระเป๋าออกไปทันที

“ไอ้เชี่ยเปา!”

“เรียกมันทำไมวะไอ้ทัพ”

“กูจะบอกมันว่าเสยังไม่กลับจากดูงานที่ต่างประเทศ มันจะไปทำไม”

“เออรีบขึ้นเรียนเหอะ นั่งตากแดดให้เกรียมกันทำไมวะ”

“เออไปๆๆ”

“ปะ ไอ้กลาง”

ไอ้กล้วยลากแขนผมขึ้นไปเรียน ผมมองหาไอ้เปาตั้งแต่เข้าห้องเรียนจนหมดคาบมันก็ไม่มา เปิดเทอมวันแรกไม่ได้เรียนอะไรหรอกครับ แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะมองหาว่าเมื่อไหร่มันจะเข้ามาซักที

“ถามจริง พวกมึงเป็นอะไรกัน ทะเลาะกันหรอ”

“เปล่า...” ผมหลบตาไอ้เบส มันยักไหล่แต่ก็ส่งสายเป็นห่วงผม

“เอออยากเล่าเมื่อไหร่ก็บอก”

ทั้งๆ ที่เปิดเทอมแท้ๆ แต่ไอ้เจก็เรียกผมเข้าประชุมกับคณะกรรมการคณะ มันแค่เหงาครับ ไม่ได้เจอตั้งนานไอ้เจย้อมสีผมใหม่หัวแดงมาเชียว ประชุมตั้งแต่เย็นถึงทุ่มครึ่งไอ้เจก็ลากผมไปกินข้าวที่ตลาดในมอต่อ เสร็จแล้วเราก็เดินออกมาหน้ามอด้วยกันครับ หอมันต้องไปเดินผ่านหอผมไปอีก ปกติผมจะกินข้าวเย็นกับไอ้เปาเสมอ นี่ผมคิดถึงมันอีกแล้ว

“ไอ้กลาง มึงรู้สึกอะไรมั้ยวะ”

“อะ..อะไร” ผมมองมันอย่างหวาดๆ ไอ้เจเลื่อนหน้ามาใกล้ผมระหว่างที่เราเดินกลับ ตอนนี้เกือบสามทุ่มแล้วครับ

แกรบ!

“เหี้ย!” ผละออกแทบไม่ทันมันกระโดดมาเกาะไหล่ผมแทน “ไม่รู้อะแต่กูรู้สึกเหมือนมีคนตาม”

“หรือว่าผีวะ” ไอ้เจคิดเองตอบเองซะด้วย

“คิดมากแล้วมึงอะ” ส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแล้วก็ยกมือชี้ไปหอข้างหน้า “จะถึงหอกูแล้ว”

“เฮ้ย ได้ไง กูก็ต้องเดินคนเดียวดิ กลัวอะ”

“เป็นบ้าอะไร นักศึกษาเต็มซอย” ผมแกะมือมันออกจากแขน มันเงยหน้าขึ้นก็เห็นคนเดินพลุกพล่าน พึ่งเปิดเทอมคนเยอะแยะ

“เออๆ ไปเหอะมึงอะ”

“ไอ้เชี่ยเจ” หมดประโยชน์แล้วก็ถีบหัวส่ง ผมโบกมือลาก่อนจะเดินเข้าทางเข้าหอ ก่อนจะเลี้ยวตรงมุมนั้นผมได้ยินเสียงแว่วๆ

“อ้าวไอ้เปามาทำไรแถว..อุ๊บ..”


ผมหันไปมอง คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง




วันนี้เรามีเรียนด้วยกันเหมือนเดิม ยังไงมันก็หลบผมไม่พ้นครับ เอ๊ะ หรือว่าเราจะหนีกันไม่พ้น ผมมองโทรศัพท์แต่ก็คิดถึงเรื่องนี้ในหัว เหมือนคนบ้าเลยว่ะ

“เป็นบ้าไรยิ้มคนเดียว”

“กูบ้ามั้ง”

“อิ้วว ไปไกลๆ เดี๋ยวเชื้อบ้าติด”

ผมหัวเราะพยายามเอาหน้าไปใกล้ๆ ไอ้ทัพ ระวังน้ำลายติดหน้านะเว้ย ไอ้ทัพดันหน้าผมออก ผมหัวเราะให้กับหน้าตาหวาดผวาของมันอย่างเต็มเสียงเป็นครั้งแรกในรอบเดือน ไม่รู้ตัวว่าไอ้คนที่รอมันยืนหน้าบึ้งอยู่ข้างหลัง พอเห็นผม ใบหน้าหล่อของมันก็ไม่คลายความขึงขังลง ไอ้เปาทำท่าจะหันหลัง ผมก็แกล้งมันซักหน่อย อะไหนๆ ก็จะกลับเป็นเพื่อนกันแล้วนี่ แต่มึงเมินกูก่อนนะ โคตรเจ็บเลย

“โอ๊ย ปวดท้อง” ผมส่งเสียงไอ้คนที่หันหลังรีบปรี่เข้ามาทันที

“เฮ้ย เป็นไรวะ! มึงไม่กินข้าวอีกแล้วใช่มั้ย!” ผมยิ้มเผล่เมื่อคนตรงหน้าดุผมใหญ่ พอมันรู้ตัวก็รีบยืดตัวทันที “ไปหาข้าวกินซะไปรำคาญ”

“ไปเป็นเพื่อนหน่อยดิ”

“เออมึงก็ไปเป็นเพื่อนมันหน่อย เดี๋ยวก็เข้าเรียนแล้ว” ไอ้ทัพโบกมือไล่ ผมรู้ว่าพวกมันรู้ ผมหยิบกระเป๋าแล้วคว้าแขนมันมาทันที

“นั่งรอตรงนี้นะ” ตอนเช้าที่โรงอาหารกลางนี่คนเยอะเหมือนกันนะครับ ผมวางกระเป๋าแล้วจะไปซื้อข้าว ไอ้เปายื้อแขนผมให้นั่งลงก่อนจะสั่งเสียงเรียบ

“ไม่ต้องเดี๋ยวไปซื้อให้” ว่าแล้วก็เดินดุ่มๆ ไปทันที

“ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะกินอะไร”

ผมส่ายหน้าขำๆ วันนี้ได้กินข้าวกับมันด้วย



“มึงไม่กินล่ะ ผอมใหญ่แล้วเนี่ย” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นจานข้าวที่มันถือกลับมาแค่จานเดียวแถมยังเป็นอาหารที่ผมชอบกินอีกต่างหาก

“กินไม่ลง”

“ไดเอ็ทหรอ” ผมถามต่อ ทั้งๆ ที่รู้คำตอบ ไอ้เปานั่งจ้องผมเงียบ มันแกะฝาขวดน้ำก่อนจะเอามาวางตรงหน้าผมใส่หลอดให้เสร็จสรรพ

“เปล่า ไม่อยากกิน”

“กินหน่อยน่า...” ผมยื่นช้อนไปให้มัน “อ่ะ...อ้าปาก เร็ว”

ได้ยินเสียงวี๊ดว้ายแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ ไอ้เปาขมวดคิ้วแต่เพราะช้อนจ่อที่ปากมันแล้ว คนตรงหน้าเลยได้แต่ทำหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมอ้าปากแต่โดยดี

“เด็กดี”

ผมพูดแล้วก็ก้มหน้ากินอีก เงยหน้าจะตักให้มันก็เห็นไอ้เปาเอามือปิดปากตัวเองซะแล้ว หูมันแดงชะมัด ผัดนี่เผ็ดหรอก็ไม่นะ

“ไม่กินก็บอกดีๆ ไม่เห็นต้องปิดปากเลย”



กินเสร็จเราก็เดินออกมาจากโรงอาหารกลางเพื่อเดินกลับไปที่ม้าหินอ่อนหน้าคณะ ระหว่างที่ผมกินข้าวไอ้เปาก็ไม่ได้คุยอะไรกับผมเอาแต่จ้องผมอย่างนั้น เอาเข้าจริงผมก็ยังไม่หิวหรอกครับ พอจะวางช้อนไอ้เปาก็หน้าบึ้งขึ้นมาทันใดเลยต้องกินให้หมดจาน เหลือบตามองไอ้คนที่กำลังเดินตามผมช้าๆ

“เดินทำไมข้างหลังวะ”

ผมหยุดแล้วหันกลับไปถามมัน ไอ้เปาที่เดินล้วงกระเป๋าก็หยุดเดินพร้อมกับเงยหน้ามาสบตาผม

“กลัวไม่เห็นมึง” ตามันวูบไหวก่อนจะเปลี่ยนเป็นไอ้เปาคนเดิมแล้วชี้ไปที่รถที่ขับผ่านไปมาใกล้ทางเท้า ผมเดินกลับไปหามัน

“เดินข้างๆ ก็เห็นเหมือนกันนี่นา”

พอผมพูดจบลมก็พัดมาวูบหนึ่ง ใบไม้สีเหลืองเข้มจนเกือบน้ำตาลปลิวไปในอากาศ ผมมองตามมีอยู่ใบนึงที่ปลิวไปอยู่บนผมมัน ผมเอื้อมมือไปหยิบออก หน้าเราเข้าใกล้กันเพียงเสี้ยววิ มันสบตาผมนิ่ง

“ใบไม้น่ะ”

ผมยื่นให้ดูแล้วออกเดินอีกครั้ง “กลาง...” เสียงที่รั้งไว้ทำให้ผมหันไปมอง ไอ้เปามองพื้นหน้าเศร้า แววตาของมันสับสน

“มึงอย่าทำอย่างนี้เลย”

“...ทำไมวะ”

“กูไม่อยากผิดสัญญากับแม่มึง” สัญญาอะไร...

“ถ้าแม่บอกว่าให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหนเลย”

“...” มันไม่ตอบอะไรปล่อยให้เสียงลมกระทบใบไม้ดังแทรกความเงียบระหว่างเรา

“ตอนเป็นเพื่อนกันกูก็ทำแบบนี้ก็มึงตลอดนี่”

มันชะงักและผมเองก็พูดคำว่าเพื่อนเสียงเบา ไอ้เปาเม้มปากก่อนจะตอบ “กูไม่ใช่คนทนเก่งหรอกนะเว้ย”

“แล้วมึงคิดว่ากูทนเก่งหรอ...”




หลังจากวันนั้นไอ้เปาก็ไม่เข้าใกล้ผมเกินจำเป็น พวกเราก็ยังเป็นแกงค์เดิมแต่แค่ความรู้สึกของผมกับไอ้เปามันไม่เหมือนเดิม ส่วนพวกแกงค์คอหล่น เดี๋ยวนี้ผมก็ไม่ได้ไปไหนกับพวกมันมากเพราะงานที่อาจารย์สั่งผมถึงต้องหาข้อมูล ผมจึงกลับมาอยู่กับตัวเองโดยสมบูรณ์ โชคดีหน่อยที่ไอ้โจ๊กเพื่อนรักซื้อข้าวมาห้อยไว้ทุกเช้า ส่วนแม่โทรหาผมทุกวันให้ผมเล่าเรื่องประจำวันให้ฟัง ถามว่าผมทำอะไร เจอใครบ้าง ส่งรูปมาให้ดูด้วย ผมรู้ว่าห่วงและผมก็ไม่กล้าหักหาญน้ำใจแม่

“ไอ้กลาง”

และช่วงนี้ผมเจอไอ้เจบ่อยขึ้นทุกวัน เหมือนตอนนี้ที่ผมกำลังเดินหาหนังสืออยู่ชั้นสี่ของหอสมุด เวลาประมาณสามทุ่มกว่าไอ้เจก็เดินมาทัก

“อะไร”

“โห ทักกูแบบนี้เลย แต่ก่อนเราอย่างนู้นเราอย่างนี้” มันทำเสียงเล็กเสียงน้อย

“เรื่องอดีตกูไม่อยากจำ” ผมพูดแล้วก็เดินหาหนังสือ รหัสขึ้นต้น DS มันอยู่ไหนวะ

“ปากร้าย” มันทำเสียงสูง แต่ก็ตามติดผมมาที่ชั้นหนังสือ “มึง...”

“อะไร”

“กูมีเรื่องให้ช่วยหน่อ...”

“ไม่”

“เชี่ยกลาง มีใครรู้บ้างว่ามึงมันไม่ใช่คนดีเลย”

“มีอะไร” รำคาญฟังมันโอดครวญ

“อยากแดกเหล้าอะ”

“แล้ว..”

“เหงาอยากมีคนไปแดกด้วย”

“เพื่อนมึงอะ”

“กูมันคนไม่มีเพื่อน”

“รู้ตัวก็ดี เพราะกูไม่ใช่เพื่อนมึง” ไอ้เจหน้าเหวอแต่ก็ไม่ลดละความพยายาม

“ไปเหอะๆๆ ขอร้องรับรองครั้งหน้ากูไม่ลากมึงไปประชุมแน่นอน”

ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเข้าประชุมนะครับ แต่อยู่คนเดียวก็เบื่อๆ เหมือนกัน

“เออก็ได้ แต่...ห้ามลากกูเข้าสามครั้งนะ”

“เชี่ย เออด้ายยย ไปตอนนี้เลย”

มันลากผมไปเลยครับ วันนี้ผมใส่ชุดนอกมาเรียนแล้วก็ขลุกตัวอยู่ที่นี่ทั้งวัน ผมเข็ดขยาดกับร้านเหล้ามากแต่ไอ้เจมันไม่ได้พาผมไปที่ร้านหรอกครับ มอผมจะมีลานเบียร์อยู่แถวหลังคณะผม มันเป็นลานที่ร่มรื่น ที่ตอนดึกๆ คนแบบพวกผมจะซื้อเครื่องดื่มไปนั่งจิบ ฟังเสียงลมหวีดหวิว หลอนๆ เมาๆ น่ะครับ

“มึงมีปัญหาไรกับไอ้เปาป้ะวะ” ชนเบียร์กันไปหลายกระป๋องไอ้เจก็ถามขึ้น ตอนนี้ผมกับไอ้เจนั่งอยู่ขอบรั้วที่กั้นลานเบียร์ มีรุ่นพี่เอกอื่นอยู่ประปรายสูบบุหรี่กลิ่นคลุ้งไปหมด

“ทำไมถึงถาม”

“คนพูดกับทั้งคณะ คู่จิ้นเบอร์หนึ่งแทบจะไม่มองหน้ากัน”

“ไม่มีอะไรนี่” ผมยักไหล่จิบเบียร์อีกอึก ในใจไม่ได้รู้สึกแบบที่แสดงออกไปเลยว่ะ

“เออค่อยยังชั่ว นึกว่ามันไปมีแฟนแล้วมึงห่างๆ กันซะอีก”

“หมายความว่าไงวะ”

“ก็ไอ้เปามันมีแฟนไงมึงเลย...ชิบหาย”

“อะไรพูดมา”

“นี่มึงยังไม่รู้หรอวะ”

ผมไม่ได้เล่นโซเชียลอะไรทั้งนั้นครับ ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรหรอก ถ้ามีเรื่องด่วนโทรมาได้ครับแต่วันนี้ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่หอ ขี้เกียจถือ..หนัก.. ไอ้เจทำตัวหลุกหลิกทันที

“มึงไม่เห็นนี่หรอ ลือกันเต็มโซเชียลไปหมด แคปชั่นเรียกที่รักอะไรนี่อีก”

ไอ้เจส่งมือถือที่มีโชว์รูปสาวสวยเซ็กซี่ที่ซบไหล่ไอ้เปาอยู่มือโอบรอบคอไอ้เปาด้วย คนคอมเม้นกดไลค์กันกระจาย ดูเหมือนฝ่ายหญิงจะเป็นคนลงรูป ผม...ผมไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ ฮึก

“เชี่ย นี่มึงร้องไห้หรอวะ”

“ที่มึงเห็นแค่ฝุ่นมันเข้าตา”

“หวงเพื่อนหรอมึงอะ โธ่ ไม่ต้องร้องๆ”

ไอ้เจโอบไหล่ผมก่อนจะเลื่อนฝ่ามือก็ตบหัวผมเบาๆ “อึก หวง”

ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ได้ยินเสียงแว่วผ่านเข้ามาในประสาทหู

“ทีแรกก็ไม่อยากแดกเหล้า นี่เมากว่ากูอีก”

“เดินดีๆ ดิวะ”

“เหี้ยยยยยยย อย่าอ้วก ทนไว้ไอ้กลาง”

“อ้วกกกก”

“ไอ้สาสสสส โทษครับพี่ เพื่อนผมเมา”

“นอนนี่แล้วกันมึงอะ หนักโว้ย”



เฮือก!


เชี่ยยย....กี่โมงกี่ยามแล้ววะ ผมอยู่ไหน เมื่อสายตาชินกับความสลัวและรวบรวมสติได้แล้วผมก็พยุงร่างตัวเองขึ้น แสงไฟจากทางเดินที่สาดเข้ามาทำให้ผมระลึกได้ว่าผมอยู่ห้องไอ้เจแหงๆ ไอ้เพื่อนเวร ปล่อยให้ผมนอนอยู่บนพื้นเสื้อก็ไม่ใส่ให้ แหวะ นี่กูอ้วกรดตัวเองหรอวะเนี่ย เห็นกองเสื้อเหม็นเน่าตรงนั้นแล้วรับตัวเองไม่ได้ พึ่งเข้าใจคำว่าเมาเป็นครั้งแรก ปวดหัว มึนไปหมด ผมได้ยินเสียงนาฬิกาบอกชั่วโมงดังอยู่บนหัวเตียงแข่งกับเสียงกรนของไอ้เจถึงรู้ว่านี่ตีห้าแล้ว ผมควานหาปากกาบนโต๊ะรกๆ ของมันเขียนโน้ตทิ้งไว้แล้วเปิดตู้หาเสื้อมัน ยืมตัวนึงนะเว้ย คว้ากระเป๋าตัวเองแล้วก็เดินเซๆ ออกจากห้องมันมา บอกตรงๆ ว่ามึน

ตีห้าซอยแถวหอมันก็เริ่มตั้งอาหารเช้าขายแล้วครับ ผมเดินเอื่อยออกมาๆ เสื้อยืดไอ้เจตัวใหญ่ชิบเป๋ง เฮ้ออ คิดถึงไอ้เปาจัง ตอนนี้มันคงหลับอยู่สินะ ผมนึกถึงเรื่องเก่าๆ แล้วก็ขำ แต่พอนึกถึงเรื่องรูปก็อดหัวเสียไม่ได้ ก็นะแนบสนิทซะขนาดนั้น ไหนบอกว่ารักผมไงวะ ช่างแม่ง ผมเมา เดินมาอีกหน่อยก็เกือบจะถึงหอผมแล้วครับ ได้เดินคิดอะไรเรื่อยเปื่อยก็ดีเหมือนกัน

ผมไปถึงห้องตัวเองอย่างไม่เร่งรีบ ก็ไม่มีคนรออยู่นี่หว่า เห็นตัวเองผ่านกระจกลิฟท์แล้วก็ได้แต่คิดว่าผมทำตัวเหลวไหลขนาดนี้เชียวหรอ พอถึงหน้าห้อง ผมหากุญแจในกระเป๋าแล้วก็เริ่มไขแต่ประตูอีกฝั่งก็ถูกกระชากออกทันทีเหมือนรออยู่ยังไงอย่างนั้น
คนที่ไม่เห็นหน้าหลายวันทำหน้าเครียดอยู่ในห้องผม พอมันเห็นผมแวบแรงไหล่มันก็คลายความเกร็งลง แต่ใจผมกลับเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ คนที่ผมอยากเจอมากที่สุด...มุมปากผมค่อยยกยิ้มขึ้น...คิดถึงโคตรๆ แต่มันกลับหน้าบึ้ง หลังจากที่ผมปิดประตูไอ้เปาก็เริ่มพูดเกือบจะเป็นเสียงตะคอก

“ไปไหนมา!”

“...” พอเห็นว่าผมไม่ตอบบรรยากาศในห้องก็เริ่มแย่ลงถนัดตา ผมกำลังรวบรวมสติ ทั้งๆ ที่อยากคุยแท้ๆ แต่มันกลับพูดต่อโดย
ไม่รอให้ผมอธิบายอะไร

“มึงไปทำอะไรมาวะ! โทรศัพท์ถ้ามึงจะไม่ใช้มึงเอาทิ้งเลยก็ได้!”

“...”

ผมโกรธ ไอ้คนกลางอย่างผมโกรธ มันหายไปไหนก็ไม่รู้ ไปอยู่กับใครก็ไม่รู้ เจอหน้าผมก็เอาแต่ตะคอกใส่ แล้วมึงเคยบอกอะไรกูบ้างมั้ย...

“กูจะไปไหนก็ได้! ไม่ต้องห่วงกูไม่ตายหรอก!”

“มึงจะเอาแบบนี้ใช่มั้ยกลาง” ไอ้เปาอึ้งไปนิดหน่อยนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมพูดเสียงดังใส่มัน คนอย่างผมเนี่ยนะ อาจจะเป็นเพราะดื่มหนักถึงได้กล้าพูดแบบนั้นออกไป ไอ้เปาขบกราม มันเดินเข้ามาคว้าแขนผมแล้วบีบไว้แน่น

“กูไม่ได้ทำอะไรผิด มึงจะตะคอกกูทำไม” ผมลดเสียงตัวเองลง

“กูรอมึงจนถึงเช้า! จะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว! มึงกลับมาตีห้านะกลาง โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ กลับมาใส่เสื้อไอ้เหี้ยตัวไหนก็ไม่รู้ มึงต้องให้กูคิดยังไงวะ!!”

“ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นแหละ มันไม่มีอะไรซักนิด” ผมแกะมือมันออกจากแขน ไอ้เปาตอนนี้น่ากลัวสุดๆ และผมหลบตามัน

“ที่บ้านมึงเป็นห่วงมึงขนาดไหนมึงไม่รู้ตัวเลยใช่มั้ย กูเป็นห่วงมึงจะตายมึงไม่รู้ตัวเลยใช่มั้ย” ท้ายประโยคมันพูดเสียงเบาแต่ผมก็ได้ยินอยู่ดี

“ถ้ามึงเป็นห่วงกูในฐานะเพื่อนก็ขอบคุณมาก” เออผมยอมรับผมไม่อยากทนแล้วเหมือนกัน กลับไปเป็นเพื่อนกันแบบนี้ผมไม่ทนแล้ว ไอ้เปามันเหนื่อยมามาก ผมรู้ดี มันคงจะดีถ้าเกิดไม่เจอผม มันคงไม่ต้องให้ใครมาดูถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือต้องคอยเป็นห่วงคนอย่างผม บอกแล้วว่าคนอย่างผมน่ะไม่มีค่าให้มันวิ่งตามหรอก คนอย่างผมน่ะ...ยอมแพ้กับกูเถอะเปา ไม่ต้องพยายามอะไรอีกแล้ว

“ถ้ามึงเหนื่อยมึงพอก่อนก็ได้นะ...”

มันนิ่งไปแล้วพูดคล้ายละเมอ “....มึงไม่รู้ตัวหรอกว่าพูดอะไรออกมา” ไอ้เปาหลับตามันคลายมือออกจากแขนผมช้าๆ แววตาสั่นไหวของมันทำให้หัวใจผมเจ็บปวด นาทีนั้นผมเห็นน้ำตาของมันก่อนที่จะปาดออก

“...”




“ถ้ามึงพูดแล้วเจ็บ ช่วยคิดด้วยว่าคนฟังเจ็บกว่า”



=========
มาล้าววววว สงสารรรน้องงงงงงง
เมื่อกี้จะอัพเเล้ว โถ่ ฟ้าร้องโลกสะเทือน สัญญาณอะไรรึเปล่าเนี่ย555
คนกลางเดินทางใกล้จะถึงตอนจบเเล้ว
เป็นกำลังใจให้น้องๆ ผ่านพ้นวิกฤตด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกๆ คนที่ติดตามมากๆ ค่ะ
 :L2: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-07-2017 20:08:51
อะไรจะขนาดนั้น
แม่ไม่ผิดที่ไม่มั่นใจเพราะคิดว่าลูกยังเด็ก แต่เราไม่ชอบแบบนี้เลย (แอบเกลียดการกระทำแบบนี้ด้วย ถึงจะรู้ว่าหวังดีก็เถอะ)
ความสัมพันธ์เปากับกลางก็ดูจะยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะข้ามผ่านอุปสรรค์นี้ไปได้อย่างสง่าผ่าเผย อาจจะล้มลุกคลุกคลานไปบ้าง แต่ก็หวังว่าทั้งคู่จะผ่านไปได้ด้วยดี
ที่จริงถ้ามั่นใจว่ารักกันจริง คนที่ต้องถอยน่ะคือแม่ของกลางนะ จะต้องให้ลูกตรอมใจตายไปเลยหรือไงถึงจะเข้าใจ ว่าคนเรามีสิทธิ์ตัดสินใจด้วยตัวเอง อย่างที่พ่อของกลางพูด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: BlogenzZ ที่ 24-07-2017 20:23:56
ได้ซดมาม่าชามโตเลยทีเดียวกับตอนนี้
อะไรจะดราม่าขนาดน้านนนนนนน
เปานี่โดนพายุดราม่าไซโครอย่างจังเลย คงต้องเสียใจมากเเน่ๆเลยย ส่วนคนกลางก็น่าสงสารไม่แพ้กันเลยย :sad4:
เอาใจช่วยทั้ง2คนนะ อีกไม่นานทุกๆอย่างมันน่าจะดีขึ้นกว่านี้แหล่ะเนอะ แต่ตอนหน้าไม่ขอดราม่าแล้วได้ไหมอ่า ใจคอไม่ดีเลย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 24-07-2017 20:37:42
งงใจ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 24-07-2017 20:42:21
 :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 24-07-2017 20:56:51
คนกลางทำเราร้องไห้ซะแล้ว :sad4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 24-07-2017 20:58:59
บอกตรงเราไม่ค่อยปลื้มเปาเลย ตอนนี้นางไม่ชัดเจน จะเพื่อน จะยังไงไม่ตัดสินใจ

ปกติแล้วความเป็นผู้นำคอยแก้ปัญหา นางก็ด้อยกว่ากลางอยู่แล้ว แต่พยายามได้ขนาดนี้คือเก่งนะ แต่นางยังไม่สตรองพอด้านจิตใจ ไม่พอที่จะโปรเทคกลาง เป็นที่พึ่งให้กลางได้

และไม่ว่าแม่จะคุยกับนางว่าอย่างไร นางไม่ควรมีข่าวเรื่องผู้หญิงออกมาเป็นกระแส เพราะมันจะยิ่งบั่นทอนจิตใจกลางแล้วก็ความไว้วางใจของคนรอบข้างกลางอีกด้วย เพราะคนอื่นไม่รู้นี่ว่านางตกลงกับแม่อย่างไร เป็นเราก็คงคิดว่าที่คบกับกลางแค่หลงไปพักนึง สุดท้ายก็เลือกผู้หญิงอยู่ดี หรืออีกทีพวกคนอย่างพลอย เกมส์ ก็จะยิ่งมองกลางในแง่แย่ๆ ด้วย

สุดท้าย เกลียดพลอย นางเป็นชะนีภูธรที่มั่นหน้ามาก เกลียดมาก อินสุดอะไรสุด :katai1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-07-2017 21:23:16
เพื่อนเลวๆ แบบพลอยมีทำไม
นอกใจแฟน บ้าผู้ชาย อยากเอาเปา
พอรู้ว่าเปาชอบกลาง เสียหน้า บ้าไปอีก
ด่าทอว่าวิปริต ดูถูกเหยียดหยาม มีสิทธิ์อะไร ใครรักใครสิทธิ์เขา
ไม่ได้เป็นไรกันสักหน่อย
แล้วตัวเองแรด  อยากเอา......เปา  ไม่เลวโคตรๆหรอมีแฟนอยู่แท้ๆ
ทำร้ายกลาง ตบหน้า กลางน่าตบกลับจริงๆ
สุภาพบุรุษไม่ทำร้ายกับผู้หญิงดีๆ น่ะสมควร นี่เมาระรานทำร้ายผู้ชาย
แล้วยังตอแหลอีก ไอ้เตอร์คบกันไม่รู้สันดานอีก
ไม่รู้ถูกสวมเขาไปเท่าไรแล้ว

เล็ก ก็บ้าพี่เกินเหตุ อะไรนักหนาไม่ฟังต้นสายปลายเหตุ
ก็ว่าปาวๆจนแม่ได้ยิน
ถูกใจพ่อมาก สอนกลางให้ใช้ชีวิตเอง คิดเอง โตแล้ว
แบบแม่เข้าขั้นควบคุม แม่ทำเพราะรัก เข้าใจแต่ก็เกินไปนะ

เปา พอแม่บอกให้คบกลางแบบเพื่อน เชื่อเลยไม่คุยกับกลางด้วย
ทำไมยอมให้หญิงกอดรัดถึงเนื้อถึงตัว สติเบลอเหรอ
แล้วไม่รู้หรือว่ากลางก็เจ็บ เจอกันก็ใส่ๆ
ตัวเองทำได้ แล้วแค่คิดว่ากลางทำ ก็เต้นแล้วนี่
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:     
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 24-07-2017 21:38:14
 :เฮ้อ:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 24-07-2017 22:00:25
ตอนนี้อึดอัดจิมๆดลยคะ น้ำตาคลอแหมะ สงสารทั้งเปาและคนกลาง อยากตบอีพลอยจิมๆ คุณแม่คะ เขาแค่รักกันนะคะ ปล่อยเขาไปเถอะค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 24-07-2017 22:02:04
ทำไมเป็นแบบนี้ง่ะะะะ เหมือนหลายๆคนตอนนี้ไม่ใช่คนที่เคยเป็นอ่ะ เปาที่มั่นคงมาตลอดขนาดนั้นดันเชื่อแม่กลางง่ายๆทั้งๆที่ก็ยังห่วงเปามาก
เล็กก็น่าโมโหอ่ะ โวยวายจนเป็นเรื่อง กลางด้วยคือจริงๆทุกคนดูเป็นคนมีเหตุผล แต่ทำไมไม่คุยกันให้เข้าใจ คิดมาได้ไงว่า คนอย่างตัวเองไม่มีค่าให้มาพยายามด้วย ทั้งๆที่เปาที่ไม่เคยเห็นค่าตัวเองแต่เปลี่ยนตัวเองเพื่อกลางขนาดนั้น แม่ด้วยนี่2017แล้วนะแม่เข้าใจว่ารักลูกแต่ไม่ฟังลูกหน่อยหรอ เอ้อออ หงุดหงิดทุกตัวละคร จบปุ้ง -_-
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 24-07-2017 22:27:55
ใจเย็นๆอน่าใช้อารมณ์เหนือเหตุผล แต่ถ้าอยากเคลียเร็วจับปล้ำเลยจ้า555555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-07-2017 22:35:42
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 24-07-2017 22:36:46
คือเราว่าแม่ไม่ได้ผิดที่ไม่มันใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ไม่ได้ผิดที่เป็นห่วงลูก
แต่แม่ผิดที่ไม่เปิดใจ ผิดที่ไม่ให้โอกาส ผิดที่วิธีการที่เลือกใช้คือการควบคุม บังคับ
คำพูดแรกที่พูดออกมาคือโทษตัวเอง คำต่อมาคือการกันกลางออกจากปัญหาโดยใช้ความรักแม่ของกลางเป็นเครื่องมือ
อ่จจะฟังดูรุนแรงอะ แต่การที่พูดแบบนั้นมันคือให้กลางเลือกระหว่างบุพการีกับคนรักชัดๆนะ
ถ้าไม่ขึ้นห้องแล้วเลือกจะสู้อยู่กับเปาก้คือไม่เลือกแม่ พอขึ้นห้องตามแม่สั่ง ก้เหมือนทิ้งเปาไว้กับปัญหาคนเดียว
แล้วแบบการคอยเช็คขนาดนี้อะมันน่าอึดอัด ถ้าเป็นเด็กธรรมาที่ไม่ได้นิสัยแบบกลาง
คงกลายเป็นคนก้าวร้าวกับแม่ไปแล้วอะ คือถ้าเราโดนเราลงเลี่ยงจะรับสายแม่ไปเลย อ้างงาน อ้าวเรียน กิจกรรมบลาๆ

ตอนนี้สงสารกลางมากนะ คือเหมือนนางโดนกันออกจากปัญหาทุกอย่าง
ทั้งๆที่เป็นเรื่องของตัวเอง แต่ไม่มีสิทธิรู้อะไรเลย
แม่คุยอะไรกับเปา ตกลงอะไรกันก้ไม่รู้ คุยกันตกลงกันเองไม่ถามกลางซักคำ ทั้งๆที่กลางเป็นคนรับผลเต็มๆอะ
พอจะกลับมาเป็นเพื่อน เปาที่แสดงออกแบบนั้นคือเพื่อนแบบไหนหรอ
กลางไม่รับรู้เรื่องราวของอีกฝ่ายเลยตลอดเดือนอะนะเพื่อน เป็นกลางนี่อึดอัดมากจริงๆอะ

ส่วนเปาคือไม่รู้ว่าตกลงอะไรกับแม่ ตั้งแต่แรกนางก้ไม่ได้เป็นผู้นำอะไรอยู่แล้ว
พอเจอปัญหาที่ไม่ได้เตรียมตัวตั้งรับมาก่อนในสภาพจิตใจโคตรย่ำแย่ แถมเป็นปัญหาที่โคตรหนัก
มันก้ไม่แปลกหรอกที่จะยอมแม่กลางง่ายๆอะ ในเมื่ออีกฝั่งคือแม่ของคนที่ตัวเองรักอะนะ
แต่กลางน่าสงสารกว่าเปาอีก เปาถอยออกมา แต่ห้ยังตามแอบดูกลางได้ป
ยังเห็นกลางว่าทำอะไรที่ไหน ใช้ชีวิตยังไง เพราะกลางใช้ชีวิตแบบเดิม อดทนเก็บกดทุกอย่างไว้ใต้หน้ากากที่บอกว่า ไม่เป็นไร
เปาเดาได้อยู่แล้วว่าจะเจอกลางที่ไหนบ้างในตอนไหน แต่กลางคือไม่รู้อะไรเลย ข่าวเปายังไม่ได้ยินเลย
ที่สำคัญที่สุดคือเปาไม่ควรมีข่าวผู้หญิงออกมางี้ไง ไม่ว่าจะไม่ตั้งใจหรือว่าอะไรก้แล้วแต่อะ
การที่ข่าวมีมาซักพักแล้วแต่พอเจเปิดรูปให้กลางดูแล้วรูปยังอยู่ มันแปลว่าเปาไม่ได้จัดการอะไรเลย หรือไม่ก้อาจจะตั้งใจ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรอะ มันทำร้ายกลางอย่างมากมายเลย มันทำให้คำว่ารักของเปาดูไร้ความหมายไปเลยด้วย
แล้วแบบนี้ครอบครัวกลางจะมั่นใจได้ยังไงว่าจะไปกันรอด ว่าถ้ามีปัญหาในอนาคตลูกเค้าจะไม่ต้องเจ็บแบบนี้อีก

ส่วนตัวตอนนี้คือชอบคุณพ่อมาก ดูเข้าใจชีวิตและเคารพความคิดเห็นของคนอื่นมากๆ ทัศนคติดีอะ
คาดว่าถ้ารู้ความจริงพ่อก้คงไม่ว่าอะไรอยู่ดี ส่วนน้องเล็กคือบางทีก้หวงพี่มากเกินไป
หลังจากนี้ควรจะได้บทเรียนว่าการกระทำของตัวเองทำให้กลางมีสภาพเป็นยังไงอะ
ใกล้จบแล้วขอให้พายุดราม่าผ่านไปเร็วๆเถอะะะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Lady~B ที่ 24-07-2017 23:03:24
ประกาศตัวเลยว่า #ทีมคนกลาง
เชื่อแหละว่าเปารักกลาง แต่วิธีแก้ปัญหามันไม่โอเคคคคคค  :angry2:

หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 24-07-2017 23:37:25
 :เฮ้อ:
แม่ผิดหวังแล้วถามลูกว่า แม่เลี้ยงลูกผิดหรือเปล่า นี่คือแผลในใจลูกแผลที่หนึ่ง
การจ้ำจี้จ้ำไชลูก ให้รายงานตลอดเวลา คือแผลที่กำลังลุกลาม
ถ้ารักษาหายก็คือเจ็บครั้งเดียว ถ้าไม่หายก็คือมะเร็งร้ายที่อยู่ในใจไปตลอดชีวิต และมักจะย้อนกลับมาหาคนที่ห้าม คือแม่

ถ้าคิดว่าลูกยังเด็ก ควรปล่อยให้ลูกคิดเองจนตกตะกอนแต่ก็ไม่ได้ปล่อยปะละเลยคอยแนะนำ ว่าสิ่งที่เขาเลือกเองมันคือความคิดยังเด็กของลูกหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 24-07-2017 23:48:25
แม่ขา ต้องมีตายกันไปข้างก่อนใช่ไหมถึงจะเปิดใจ :katai1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-07-2017 00:30:14
เห้อออ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 25-07-2017 00:49:49
เราไม่โอเคกับผีบ้าพลอยแล้วนะ ยังมาเจอที่พีคกว่าอีก เราว่าที่แม่ทำก็ไม่ถูกนะ ยิ่งกว่าการบังคับ นี่คือการควบคุมบงการชีวิตลูกเลยนะ แม่เอาคำว่ารักของตัวเองมาผูกไว้กับกลาง แม่บอกแม่เลี้ยงกลางไม่ดีตรงไหน การที่กลางมีคนรักเป็นเปา กลางไม่ดีตรงไหน กลางก็ยังเป็นกลางของแม่อ่ะ คำว่ารักของแม่แคร์แต่บรรทัดฐานสังคม คำว่ารักของแม่ต้องแคร์กลางด้วย ลูกเจ็บขนาดนี้ แม่ยังทำเป็นมองผ่านเหมือนปกติได้เหรอคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 25-07-2017 06:37:59
คุณแม่ใจร้ายยยยยยยย

อ้างถึง
“แม่รักกลางมากนะ ถ้ากลางรักแม่ กลางทำตามที่แม่บอกเถอะ”
อยากจะขอถามคุณแม่กลับ
แล้วคุณแม่ไม่รักกลางเหรอ นั่นก็ความสุขลูกนะคะ  :hao4:

แล้วทำไมเปาถึงให้ผู้หญิงมาเรียกที่รัก คิดจะทำอะไรกันแน่
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-07-2017 08:49:39
เครียดหนักมาก แต่ชอบคำพูดของพ่อกลางอ่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 25-07-2017 11:02:52
โอ้ยยยยยยย ทะเลาะกันแบบนี้จะทำให้เลิกกันมั้ยคะเนี่ยยย
เอาใจช่วยเปามากๆ เปามาคนเดียวตลอดเลยยยย
แก๊งค์คอหล่นช่วยพี่เปาหน่อยเร้วววว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Yukina ที่ 25-07-2017 11:20:50
ดราม่าเกินนนนนนนนนนน ไม่ไหววววว คนแต่งทำร้ายยยยยย
หลายเรื่องมากกกก ไหนจะอิพลอย ยังไม่ได้เอาคืน
ไหนจะแม่ ยังไม่เข้าใจ
ไหนจะรุปเปากะผญ เฮ้ออออออออออ
ยังไงๆเปา สงสารคนกลางมากกกกกกกกกกก
 :katai1: :katai1: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 25-07-2017 19:56:04
เข้าใจในการกระทำของตัวละครนะ
รอดูการแก้ปัญหาในตอนหน้าค่ะ
แอบน้ำตาซึมกับคนกลางด้วยเลย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 25-07-2017 20:35:35
เป็นคนกลางมันเหนื่อยจริงๆ
เข้าใจว่าคุณแม่หวังดีแต่ใช้ความรักมาบังคับแบบนี้ไม่โอเคเลย

เกลียดชะนีพลอย จิตใจต่ำจริงๆ หวังว่าเพื่อนคนอื่นจะรู้เช่นเห็นชาตินางเร็วๆ ช่วยเทนางทิ้งที
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 22 หน้า 18 (24-07-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 25-07-2017 22:22:41
เป็นคนกลางมันเหนื่อย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (02-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 02-08-2017 16:24:58
23
ความสว่างกลางหัวใจ

ผมรู้ ผมมันแย่ แต่ผมไม่รู้อะไรเลยแม้แต่น้อย ผมเหมือนคนโง่รอคอยว่าเมื่อไหร่เวลาที่ให้ผมทบทวนเรื่องความรู้สึก เวลาที่ให้กลับไปเพื่อนกัน เวลานั้นมันต้องนานเท่าไหร่ จะกี่วัน กี่เดือน กี่ปี ผมไม่รู้เลยซักนิด ผมอาจจะทำร้ายความรู้สึกมันแต่เพราะมันไม่บอกอะไรผมเลย ทุกคนต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเองแล้วเหตุผลต่างๆ เหล่านั้นมันกำลังทำร้ายกันและกันให้ย่ำแย่ไปหมด ผมนั่งนิ่งๆ นึกถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบมือถือที่วางอยู่บนโซฟามาชาร์จแบต มีคนโทรเข้าจนแบตมันหมดไปสินะ ทันทีที่เปิดเครื่องพี่โตก็โทรเข้ามาพอดี

“พี่โต”

(ไปไหนมา)

“ขอโทษ กลางลืมโทรศัพท์ กลางอยู่กับเพื่อน”

(ที่บ้านเป็นห่วงกลางมากนะ...เมื่อคืนโทรหาไม่ติดเลย)

“ขอโทษครับ”

(แต่คนที่ห่วงกลางที่สุดกลางคงรู้ว่าเป็นใคร)

“พี่โต...” ผมเรียกชื่อพี่ชายเสียงเบาเข้าใจความหมายในประโยคนั้นของพี่โตได้ทันที “กลางไม่รู้ว่าจะทำยังไง กลางรู้ว่ามันผิด แม่เสียใจ...แต่กลาง...” ผมไม่เคยทำอะไรนอกกรอบ ตั้งแต่เกิดมา ผมไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เชื่อฟังพ่อแม่เสมอ ผมเป็นลูกคนกลางที่ไม่มีอำนาจอะไรเลย ผมชอบความพอดีแต่มาวันนี้ผมเริ่มไม่มั่นใจซะแล้ว ว่าสิ่งที่ผมพร่ำบอก ผมเป็นแบบนั้นจริงๆ รึเปล่า

(กลางฟังพี่นะ ความรักมันก็คือความรัก จะเพศไหนมันก็ไม่ผิดหรอก)

“...”

(กลางอยากทำอะไรก็ทำ ออกนอกกรอบบ้างก็ได้) ผมออกมาแล้ว ผมรักมันไปแล้วแต่แม่เสียใจแล้วผมต้องทำยังไง

“...”

(กลางไม่อยากให้ใครผิดหวังในตัวกลาง...พี่รู้)

“...”

(แต่ถ้ากลางปล่อยให้ตัวเองเสียใจโดยไม่ทำอะไรเลย มันน่าผิดหวังมากกว่ารู้มั้ย)

“...”

(จำที่พ่อสอนไม่ได้หรอ...ไม่ต้องกังวลเรื่องแม่หรอก พี่จัดการเอง)

“พี่โต...เสียใจมั้ย”

(กลางเอ๊ย มึงน้องกูนะ จะเป็นแบบไหนกูรักมึงเสมอ)

ผมเกือบจะยอมแพ้แล้วล่ะ ขอบคุณครับ


วางสายกับพี่โต ผมก็เลื่อนดูแจ้งเตือนของโทรศัพท์ มิสคอลของเพื่อนและครอบครัวโทรมารวมกันเป็นร้อยสาย ที่มีเบอร์นึงที่มันโทรมากกว่าเพื่อนและครอบครัวรวมกันซะอีก ก็ไอ้คนที่มันรอผมจนถึงเช้านั่นแหละ เหลือบมองลูกกุญแจที่ผมเคยให้มันไว้ซึ่งตอนนี้ถูกวางทิ้งไว้บนโต๊ะ


Rrrrrr
เบส

(ไอ้เชี่ยกลางมึงเป็นบ้าไรวะ ติดต่อไม่ได้เนี่ย)

“กูดื่มหนักไปหน่อย”

(มึงเป็นเด็กไม่ดีตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกกูเกือบจะแจ้งตำรวจแล้วเนี่ยมึงรู้มั้ย  แล้วมึงกลับมากี่โมง)

“ตีห้า...”

(ชิบหาย ไอ้เชี่ยเปาไม่เป็นบ้าเลยหรอวะ แม่มึงโทรหาไอ้โจ๊กแต่มันไปดูงานแลปที่มออื่น มันเลยให้ไอ้เปาช่วยตามหามึง แล้วไอ้เชี่ยนั่นไม่ตายห่ากลางทางก็บุญแล้ว มึงนี่น้า...)

“หมายความว่าไงวะ”

(มันไปถ่ายงานที่ชลบุรีแต่ยกเลิกงานมาตามหามึงเนี่ย)

อะ...ไอ้เปา...

ไอ้เบสด่าผมรัวจนผมมึน พอวางสายจากไอ้เบสแล้วโทรกลับไปหาไอ้เปาแต่มันก็ไม่รับสายผมซะแล้ว


วันต่อมาผมตั้งใจว่าจะคุยกับมันให้ได้แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ไม่เจอมันอยู่ดี ผมไปหามันที่คอนโดพี่เปลบอกว่ามันทำงานที่ต่างจังหวัดอีกหนึ่งวัน อีกอย่างเทอมนี้ผมลงเรียนวิชาวัฒนธรรมเกี่ยวกับศิลปะคนเดียว เวลาว่างทั้งหมดต้องทุ่มให้กับเปเปอร์เดี่ยวที่หาข้อมูลจนหัวแทบระเบิด เสนอหัวข้ออาจารย์ก็ไม่ให้ผ่านผมต้องค้นแล้วค้นอีกเพราะวิชานี้ไม่มีสอบ กว่าจะได้เนี่ยผมแทบคลาน เด็กศิลปะอย่างเพื่อนๆ ผมไม่มีใครลงหรอกครับ แต่ผมชอบนะ ตอนนี้เริ่มไม่ชอบแล้วผมไม่มีเวลาไปไหนเลย พี่เปลพึ่งส่งข้อความมาบอกว่าไอ้เปากำลังจะกลับแต่เพราะผมมีนัดไอ้บ้าเจที่ตะโกนเรียกผมจากที่นั่งหน้าห้องทันทีที่หมดคลาส ไม่ทันกระดิกตัวไปไหน

“เดี๋ยวนี้มึงสนิทกับไอ้เจหรอวะ” ไอ้เบสถามขึ้น

“มันเรียนคัลเจอร์กับกู” อ้อ ลืมบอกไปยกเว้นไอ้เจไว้คนนึงครับ มันลงทะเบียนวิชานี้มาวินาทีสุดท้ายก่อนหมดวันเพิ่มถอน

“เออ..ปล่อยไอ้พวกเนิร์ดไปเหอะ ฟังแล้วกูอยากจะหลับ” ไอ้กล้วยบ่น

“เอองั้นเดี๋ยวกูไปก่อนนะเว้ย อาจารย์จะให้ส่งดราฟท์แรกวันพฤหัสนี้”

“ไอ้กลาง...” ก่อนที่ผมจะเดินออกจากห้องเพื่อนอีกสามคนก็เรียกผมไว้ ขนาดไอ้กล้วยที่เฮฮาเป็นบ้าบอยังส่งสายตากังวลมาที่ผม เรื่องเมื่อคืนผมโดนพวกมันด่าอีกรอบตอนเข้าเรียน

“ว่าไงวะ”

“พวกกูเป็นห่วงมึงกับไอ้เปานะเว้ย” ไอ้เบสพูดขึ้น

“...ขอบใจพวกมึงมาก”

“ตอนที่ติดต่อมึงไม่ได้ มันเหมือนจะตายเลยว่ะ มึงสองคนเป็นเพื่อนพวกกูนะ...เข้าใจมั้ย” มันเดินมากอดไหล่ผม คำหนักแน่นและความกังวลของเพื่อนส่งมายังผมอย่างหนักแน่น ไม่ว่ายังไง พวกเราก็ยังเป็นเพื่อนกัน เพื่อนกลุ่มแรกในชีวิตของผม

“ช่วงนี้ไอ้เปาแม่งดูเงียบๆ ผอมลงด้วย มึงเองก็เหมือนกัน” ไอ้ทัพหยิบกระเป๋าแล้วพูดเสริม

“ถ้ามึงเจอมัน มึงก็ลากมันไปกินข้าวด้วยนะ” ผมเป็นห่วงมันแต่ในเมื่อไม่ได้เข้าใกล้มันในตอนนี้ เพื่อนอีกสามคนก็เป็นความหวังของผม

ไอ้กล้วยส่ายหน้าช้าๆ “มึงก็ไปเองดิวะ จะได้คุยกัน”

“มันคงไม่ยอมไปกับกูหรอก”

“นะ...ถือว่ากูขอร้อง”

“ไอ้กลาง มาเร็วไอ้สัด” ไอ้เจตะโกนเรียกอีกครั้ง มันถือหนังสือกวักผมอยู่หน้าประตูผมเลยพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะหันไปย้ำเพื่อนอีกครั้ง

“เออกูไปละนะ อย่าลืมล่ะ”


ผมยืมหนังสือที่ใช้เขียนรายงานทั้งหมดมากกว่าสิบเล่ม ต้องทำเรื่องขอยืมเกินกว่าจะแบกกลับหอมาได้เหนื่อยชิบ หอสมุดผมไม่ได้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงครับ เลยต้องเอากลับมาทำที่ห้อง ไอ้เจมันไปช่วยผมหาหนังสือครับเพราะเราทำเรื่องคล้ายๆ กัน มันหาเจอเรื่องผมก็มาแบ่งให้ผม ถ้าผมเจอเรื่องของมันก็เอาให้มัน ตอนนี้เราแยกกันได้ตั้งแต่สี่ทุ่มแล้วครับแต่ไอ้เจมันไปหาเพื่อนต่อผมเลยต้องเดินกลับหอคนเดียว

ได้ยินเสียงคนเดินอยู่ข้างหลัง...

ผมรู้สึกแปลกๆ เรื่องที่ไอ้เจเคยบอกผมว่าเหมือนมีคนตามกลับมาในสมองผมอีกครั้ง นี่มันสี่ทุ่มกว่านะเว้ย มันก็เงียบๆ ถึงจะมีนักศึกษาบ้างแต่ระหว่างทางจากมอไปหอผมนี่ก็น่ากลัวเหมือนกันนะครับ ผมเหลือบมองแต่ก็ไม่เห็นอะไรรีบเดินดีกว่าเรา หนังสือที่ผมถือสองข้างนี่หนักใช้ได้ครับ เดินมาไม่นานผมรู้สึกว่าความรู้สึกว่ามีคนเดินตามมันจะหายไปแล้ว

ปริ้น ปริ้น

เชี่ย...แทบสะดุ้ง ไหงไม่ได้ยินเสียงรถเลยวะ พอหันไปมองรถที่มาจอดเทียบใจผมก็เต้นแรงขึ้นมา รถไอ้เปานี่นา มันมาทำอะไรดึกป่านนี้ ผมคลี่ยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นว่ากระจกด้านข้างคนขับลดลง

“น้องคนกลาง? มาทำอะไรดึกๆ แบบนี้คะ”

แต่คนที่เอ่ยทักกลับไม่ใช่เจ้าของรถ ผมคลายยิ้มลงช้าๆ สายตาก็จ้องมองไปที่คนขับมันมองผมอยู่เหมือนกัน ที่กำลังเอ่ยทักผมนั้นคือผู้หญิงในรูปนั่น

“น้องกลาง?” เธอเรียกอีกครั้ง

“อ่า...มาห้องสมุดน่ะครับ” ผมละสายตาจากไอ้เปาแล้วตอบกลับ ถึงจะไม่รู้จักก็เถอะ

“ขึ้นรถ” ไอ้เปาพูดเสียงนิ่งๆ

“มาค่ะ ขึ้นรถเร็ว” เธอพูดเชื้อเชิญเหมือนเป็นเจ้าของรถซะเอง ที่ตรงนั้นมันเคยเป็นของผมมาก่อนนะ ผมกัดริมฝีปากล่างแล้วตัดสินใจ

“ไม่เป็นไรครับ อีกไม่ไกล” ผมปฏิเสธแล้วรีบเดินทันที “ขอตัวก่อนนะครับ”

ปัง!

“กลาง!”

ผมรีบจ้ำเท้าเดิน แต่ไอ้คนที่เดินตามมามันกลับคว้าแขนผมไว้อย่างแรงจนถุงหนังสือตกพื้น ตอนนี้ระหว่างเราเกิดบ้าอะไรกันก็ไม่รู้ ทั้งๆ ที่อยากเจอมันมากแท้ๆ แต่พอเห็นมันกับคนอื่นแล้วผมขอหลบก่อนแล้วกัน

“จะถึงแล้วกูไปเองได้”

ไม่รู้ว่าผมมีสีหน้าแบบไหน ไอ้เปามันถึงเบือนหน้าหนีก่อนจะก้มลงเก็บถุงหนังสือแล้วดึงอีกถุงในมือไปถือให้

“กูจะไปส่ง”

ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไปหันไปอีกที ไอ้คนเผด็จการมันก็เปิดประตูหลังแล้ววางหนังสือผมไว้บนเบาะเป็นตัวประกัน ผมถอนหายใจก่อนจะเดินไปที่รถมัน ไม่อยากจะขึ้นไปเลยให้ตาย ไอ้เปามันก็ยังไม่เปิดประตูครับ มองผมอยู่อย่างนั้นเหมือนจะให้แน่ใจว่าผมจะไม่ไปไหนจริงๆ

“พี่เอิร์นเป็นพี่สาวกู” ไอ้เปาก็พูดขึ้นมาเบาๆก่อนจะก้าวเท้าขึ้นรถ

“มึงกำลังบอกกูในฐานะอะไร” คำถามที่ผมถามกลับไปนั้นเบาแทบจะเป็นเสียงกระซิบ

ระหว่างทางจากมอถึงหอผมนั้นไม่ไกลมากนัก ปกติข้ามถนนแล้วเดินเข้าไปในซอยก็ถึงแล้ว แต่เพราะเรานั่งรถเลยได้ยืดเวลาอยู่กับมันอีกหน่อย ไอ้เปาต้องไปกลับรถที่สี่แยกไฟแดงข้างหน้านู่นก่อนจะเข้าหอผม พี่เอิร์นเป็นคนอารมณ์ดี บรรยากาศระหว่างผมกับไอ้เปาเลยไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่นักล่ะมั้ง ใจจริงผมอยากจะเปิดอกคุยกับมันไปเลย แต่เพราะพี่เอิร์นอยู่แล้วมันต้องไปส่งพี่เค้าต่อ วันนี้ก็คงไม่ได้คุยเหมือนเดิม

“ว่าแต่น้องกลางเนี่ยน่ารักกว่าที่เปลโม้ไว้ซะอีกน้า”

“เปล? พี่เปลหรอครับ”

“ใช่จ้ะ มันคุยกับพี่นะแต่พูดถึงแต่กลาง จนพี่แอบหึงแล้วเนี่ย” พี่เปลหันหน้ามาคุยกับผม พอเห็นไอ้กลางทำหน้างงๆ “อุ๊ย พี่ลืมแนะนำตัว นี่พี่เอิร์นนะเป็นแฟนเปลมันน่ะ อย่าเข้าใจผิดล่ะ พี่กับเปลช่วยกันเลี้ยงไอ้เด็กไม่เอาไหนนี่มาตั้งแต่เริ่มเป็นหนุ่ม แล้วเปายังไงเนี่ย ให้น้องกลางมาเดินคนเดียวได้ ฉันจะฟ้องพี่แก”

“...” ไอ้เปาไม่ได้ตอบอะไรกลับแต่สบตากับผมผ่านกระจกหลัง นี่มันกำลังยืนยันกับผมงั้นหรอ

“เอ่อ...ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

“จ้ะ...แกนะเปา แทนที่จะไปส่งฉันก่อนเปลมันด่าชั้นใหญ่แล้วเนี่ย ให้มานั่งรอในมอแล้วเดินหายไปไหนตั้งนาน เงินที่ถ่ายงานวันนี้ไม่ต้องเอาฉันจะเก็บเอง เมื่อวานก็โดดกองทีนึงละไปไหนก็ไม่บอก พี่เจี๊ยบด่าฉันซะเละเลย”

“พูดมากน่าพี่เอิร์น” ไอ้เปาทำหน้าหงุดหงิด ส่วนผมก็ทำหน้าเป็นหมางงมองคนสองคนเถียงกันไปมา คนที่ผมให้ในภาพนั่นคือพี่เอิร์นคนนี้น่ะหรอ

“ตรงนั้นใช่มั้ยคะ หอน้องกลาง” พี่เอิร์นหันมายิ้มตอนที่ไอ้เปาตบไฟเลี้ยวเข้าซอยหอของผม

“อ่า ใช่ครับพี่”

เวลานั่นหมดลงแล้ว ผมลาพี่เอิร์นและบอกขอบคุณไอ้เปาเบาๆ พอรถจอดที่มุมตึก ผมก็ค้อมหัวขอบคุณแล้วเดินออกมาจากรถทันที

“กลาง!” ผมหันไปตามเสียงเรียกก่อนที่จะเดินเข้าประตูหอ ไอ้เปาวิ่งตามมาในมือสองข้างของมันถือถุงหนังสือของผมอยู่ ผมตั้งใจลืมมันเอาไว้ ถ้าผมไม่ลืมมันไว้ เราอาจจะไม่ได้คุยกันเลยก็ได้ ผมเดินกลับมาหามัน

“หนังสือ”

“อ๋อ...ขอบใจมาก”

หลังจากยื่นมือไปรับก็เกิดเดธแอร์โคตรๆ ไอ้เปามองหน้าผมนิ่ง สายตาของมันมองตรงมาที่ผม มันคล้ายจะพูดอะไรแต่ก็อึกอักอยู่แบบนั้น ระหว่างเรามันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ไอ้บรรยากาศแบบนี้ ผมวางหนังสือที่หนักไว้กับพื้น พอวางลงแล้วมันก็ไม่หนักแล้ว...มันไม่หนักเลย...ถ้าเราวางมันลง

“ไอ้เปา” ก่อนที่อะไรมันจะสายไป... “เรื่องเมื่อวานที่กูตะโกนใส่มึง กูขอโทษนะ...กูรู้ว่ามึงเป็นห่วงแต่ก็ยังพูดจาไม่ดีอีก”

“....”

“กูไม่รู้ว่าแม่พูดอะไรกับมึง ไม่รู้ว่ามึงต้องเจออะไรบ้าง แต่ถ้าเรายังไม่ได้เลิกกันมึงแชร์ให้กูได้มั้ย” ไอ้เปามองผมด้วยสายตาที่มีหลากหลายความรู้สึกอยู่ในนั้น แววตาที่ล้อกับแสงไฟของมันยังน่ามองเหมือนเดิม มันกัดริมฝีปากแน่นพอเห็นสีหน้าของผมเหมือนกำลังข่มความรู้สึกบางอย่าง

“กลาง...กูน่ะเป็นแฟนที่แย่ใช่มั้ย ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง ดูแลมึงก็ไม่ดี ดูสิ ตอนนี้มึงต้องมาเสียใจเพราะกูอีก” มันยกมือวางบนหัวผม สัมผัสที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและขอโทษ มันหลุบตาต่ำก่อนจะพูดเสียงเบา

“วันนั้นที่กูคุยกับคุณน้ากูรู้ทันทีว่าคงต้องเสียมึงไป ทางเดียวที่กูยังเห็นมึงได้คือกลับไปเป็นเพื่อนมึง ทางเลือกกูมีแค่นั้นจริงๆ ถึงจะทรมานแต่ก็ยังพอไหวล่ะมั้ง”

“...” มันฝืนยิ้ม ถึงตรงนี้ไม่เห็นมึงจะไหวตรงไหนเลย

“แต่มึงก็รู้ว่ากลับไปเป็นเพื่อนมึงมันไม่ได้ทำได้ง่ายๆ กูพยายามแล้วแต่แม่งยากจัง ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกอะไรมึงเลย ขอโทษที่ทำให้เสียใจ มึงมีครอบครัวที่ดี คุณน้าเค้ารักมึงมาก และครอบครัวมึงก็คือทุกอย่างของมึงเหมือนกัน ขอโทษนะที่กูเห็นแก่ตัวตัดสินใจแทนมึงแบบนั้น”

“...” ทำไมต้องคิดแทนผมขนาดนั้น...เคยคิดถึงความรู้สึกตัวเองบ้างมั้ยวะ

“ถ้าวันนึงคุณน้าเข้าใจ กูก็จะยืนยันคำเดิม กูไม่เคยเปลี่ยนใจ ความรู้สึกของกูที่มีต่อมึงมันเหมือนเดิมตั้งแต่ 6  ปีที่แล้ว ชีวิตกูเหลือแค่มึงกับพี่เปลเท่านั้น”

ความรักของมึงคือการเสียสละสินะ... ไอ้เปาดูภายนอกอาจจะเข้มแข็งแต่เพราะเป็นผม จึงรู้ดีกว่าใครว่าไม่ใช่เลย ถึงมันจะเปลี่ยนไปจากเดิมแค่ไหนแต่ความกลัวที่ถูกมันกดไว้ลึกๆ ก็ยังอยู่กับมันเสมอ 

“กูต้องไปแล้วล่ะ” มันยิ้มขำก่อนจะชูโทรศัพท์มือถือที่โชว์สายโทรเข้าจากพี่เอิร์น “มึงดูแลตัวเองด้วยนะ” พูดจบมันก็รีบหันหลังเดินไปทันทีไม่รอให้ผมตอบอะไร หมายความว่ายังไง

ผมเช็ดน้ำตาจากหางตาที่ไหลมาตอนไหนก็ไม่รู้ก่อนจะรีบตะโกนตามหลังเหมือนพึ่งได้สติ อีกไม่กี่ก้าวจะถึงรถของมันแล้ว คนกลางอย่างผมกำลังจะฉีกทุกกฎ

“ไอ้นกกระปูดแดง! กูน่ะ...ไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับมึงอีกแล้วโว้ย!!”

มันชะงักและหันกลับมาอีกครั้ง ผมจึงรีบพูดต่อ

“ครอบครัวสำคัญกับกูก็จริง แต่มึงก็สำคัญกับกูเหมือนกัน เราผ่านมันไปด้วยกันไม่ได้หรอ!”

“...”

“มึงบอกเองนี่ว่าเป็นเพื่อนกันมันยากถ้างั้นก็ไม่ต้องเป็นสิ!”

“...”

“...เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย!!?...”

วินาทีแรกมันยืนอึ้ง วินาทีต่อมามันยิ้มมุมปากก่อนจะใช้มือปิดตาตัวเองไว้ ผมรีบวิ่งไปหามันทันที

“กลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะ มึงไม่ต้องฝืนหรอก เราจะผ่านมันไปได้ หลังจากฟังกูพูดคำนี้แล้วมึงค่อยตอบกูนะ...”

ผมเอื้อมมือไปจับมือที่มันปิดตาไว้ สัมผัสเปียกชื้นตรงข้ามแก้มมันโดนมือผม ผมยืดตัวไปกระซิบข้างหูมัน พูดให้มันฟังช้าๆ ชัดๆ และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมพูดคำนี้กับมัน

“กู รัก มึง”

จริงๆ นะเว้ย



ก๊อกๆ

“ไอ้กลาง กูเอง”

“แปบนึงง”

แกรก!

“มาทำไมแต่เช้าวะไอ้โจ๊ก” ผมเปิดประตูให้มันแล้วเดินง่วงๆ มานอนต่อที่โซฟา กระดาษและหนังสือกระจายตัวยึดพื้นที่ห้องผมไปหมดแล้ว

ผลัวะ!

“เช้าพ่อมึงสิ นี่จะเที่ยงแล้ว”

ผมมองค้อนมันไปที จะรู้ได้ไงวะ คนพึ่งตื่น ตบมาได้ “มึงรู้ได้ไงว่ากูอยู่ห้อง”

ไอ้โจ๊กใส่เสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์เน่าๆ มานั่งทับขาผมที่นอนเหยียดอยู่บนโซฟา ลำบากผมต้องลุกขึ้นนั่งอีก แม่ง มันใช้นิ้วเคาะหน้าผากผมพร้อมกับยื่นถุงข้าวมาให้

“ก็ข้าวมึงห้อยอยู่เนี่ย ไม่ออกมาเอาตั้งแต่เช้ากูก็รู้ดิ”

“แสนล้านรู้จริงจริ๊งงง”

“ไม่ต้องมาด่ากู มึงอะ...ไอ้กลาง สีหน้าดีกว่าวันก่อนๆ แล้วนี่หว่า สายของกูรายงานมาว่า มึงไปทำอะไรไว้เมื่อคืน”

“ทำไรวะ” มึงจะยิ้มกรุ้มกริ้มทำไมวะ หน้าตาดูไม่ได้ไอ้ลิงเอ๊ย

“ทำมาไข่สื่อ เอ๊ย ไขสือ”

“ยุ่ง...” ผมไม่ตอบก่อนจะเลี่ยงคำถามมัน “แล้วก็ไม่ต้องซื้อข้าวมาให้กูแล้วนะ ถ้าหิวจะไปหาอะไรกินเอง”

“ข้าวอะไร” มันทำหน้างง

“นี่ไง” ผมชี้ไปที่ถุงโจ๊ก อะไรของมันก็ถือมาเองแท้ๆ

“ไอ้จ๊าดง่าว กูไม่ใช่คนประเสริฐขนาดนั้น ข้าวกูยังขี้เกียจแดกแล้วกูจะไปซื้อให้มึงทำเหี้ยไร” ไอ้เชี่ยโจ๊ก แม่กูบอกให้ดูแลกูมึงยังรับปากเลย

“อ้าวแล้วนี่อะของใคร” แล้วที่มาห้อยหน้าห้องผมทุกวันคือของใครครับ วันไหนที่ผมเรียนเช้าก็จะเป็นน้ำเต้าหู้ปลาท่องโก๋ วันไหนที่ผมไม่มีเรียนก็จะเป็นข้าวเลยทีเดียว

“มีสมองคิดเอาเองครับไอ้โง่! คนที่มึงไปตะโกนใส่เค้าเมื่อคืนน่ะใครครับ เวลามันไม่ว่างก็เสือกมาลำบากกู เป็นกูนะจะปล่อยให้ไอ้กลางแห้งตายแม่งเลย”

ตะโกน เมื่อคืน อะ...ไอ้เปาหรอ.... ประโยคที่สองของไอ้โจ๊กยังวนเวียนซ้ำอยู่ในหัว

นี่มันซื้อข้าวมาให้ทุกวันเลยหรอวะเนี่ย หึหึ ไอ้เปา...เพื่อนกันไม่ได้ดูแลกันขนาดนี้หรอกนะเว้ย รีบๆ ตอบได้แล้ว

“แหน่ะ ยิ้มเลย”

“อะไรของมึง”

“อย่ามาทำซึน แต่ยิ้มแค่ก็ดีแล้ว” มันยื่นมือมาผลักหัวผมอีกทีแล้วเอ่ยถามขณะที่มองหนังสือที่เกลื่อนพื้น “แล้วมึงทำไรอยู่ตื่นสาย”

“ทำเปเปอร์อะดิ เริ่มคิดผิดที่ลงละ”

“สมน้ำหน้า งานคณะมึงก็โหดอยู่แล้วยังเสือกหางานเพิ่ม”

“ก็แม่ง...คนมันเศร้านี่หว่า”

“ไอ้โง่เอ๊ย”

“วันนี้หลายรอบแล้วนะ โง่เนี่ย”

“ก็มึงมันโง่จริงๆ อะ ความรักมักทำให้คนโง่ เพราะว่ารัก คนเราถึงคิดอะไรโง่ๆ ทำอะไรโง่ๆ ที่ไม่ใช่ตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง”



ไอ้โจ๊กไปแล้วครับ ผมเดินไปล้างหน้าออกมากินข้าวที่มีคนเอามาห้อยไว้ เมื่อคืนหลังจากที่ผมบอกรักมันไป อ่า...ให้ตายเถอะครับ อายชะมัด...มันดูอึ้งไปนิดหน่อยแต่เหมือนจะกลั้นยิ้มไว้ยังไงก็ไม่รู้ ผมอยากจะกอดมันแต่พี่เอิร์นเปิดประตูออกมาก่อน ผมกับไอ้เปาถึงหลุดขำ นี่พี่เอิร์นคงรอนานแล้วสินะ

ก็นั่นแหละครับ ไอ้เปามันก็ขับรถออกไปและมันยังไม่ได้ตอบคำถามของผมแต่รอยยิ้มที่ติดมุมปากของมันก่อนจะไปทำให้ผมใจชื้น ไอ้เปาคนบ้ากำลังจะกลับมาแล้วใช่มั้ย ผมตักโจ๊กที่อุ่นเรียบร้อยมานั่งกิน จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปโจ๊กแล้วส่งไปให้ไอ้คนที่แอบซื้อมาให้

“โอ้โห อร่อยเว่อร์ คนซื้อให้ใจดีจัง”

ผมออกเสียงขณะที่พิมพ์ไลน์ไปหาไอ้เปา วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ ก่อนจะเริ่มต้นกินอีกครั้ง ตักกินไปพักหนึ่งเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น

ติ๊ง
Paramatkrikri
รีบๆ กินซะ
พูดมาก
ข้าวตั้งแต่เช้าแล้วพึ่งจะแดก


ยอมรับแล้วหรอว่าเป็นคนซื้อมา

หึ....ไอ้เด็กน้อยเอ๊ย เป็นห่วงก็บอกมาตรงๆ

ผมกดส่งสติ๊กเกอร์หมีกินอาหารไปให้มัน



Khonklang
เป็นใครหรอมาสั่งอะ


Paramatkrikri
หึ หลอกกูตอบมึงหรอ


มันรู้ทันครับ ผมกวนตีนมันหน่อยๆ แล้วมันก็ขอตัวไปทำงาน ช่วงนี้ได้ข่าวว่ารับเยอะ หาเงินไปทำไรเยอะแยะวะ ผมกินข้าวมื้อเที่ยงนี้อย่างมีความสุข ไอ้เปามันคุยกับผมเหมือนเดิมแล้ว ดีใจโคตรๆ มีแรงทำงานแล้ว คิดแล้วก็รีบตอบนะเว้ย ผมพูดในใจพลางมองรูปที่มันวาดให้อีกครั้ง

ติ๊ง
JJ green
ไอ้เชี่ยกลาง รีบปั่นนะมึงอีกวันเดียว

ไอ้ตัวตัดบรรยากาศเจเอ๊ย หลังจากกินโจ๊กเพิ่มพลังใจแล้วผมเริ่มปั่นงานอีกครั้ง เตรียมข้อมูลพร้อมจะพิมพ์แต่พอพิมพ์ไปจริงๆ กลับคิดว่ามันไม่ถูก วนไปวนมาอยู่อย่างนั้น จะทำยังไงดีวะเนี่ย ผมคุยงานกับไอ้เจยาวเหยียด ปรึกษาแค่มันเท่านั้นแหละครับ ไอ้เจบอกว่าให้ค่อยๆ คิดถ้าไม่ไหวให้ทำตามที่เข้าใจ แล้วค่อยปรึกษาอาจารย์ตอนส่งดราฟท์แรก เผื่อจะลืมไปครับอาจารย์ผมปีหนึ่งเองง

ทำงานข้ามวันใหม่ ง่วงก็นอนที่พื้นสะดุ้งตื่นก็มาพิมพ์ต่อ ตอนฝันยังฝันว่านั่งทำงานเลยครับ ผมไม่ได้ติดต่อใครเพราะตอนนี้กำลังเร่งมือ นอนรวมสองวันยังไม่ถึงห้าชั่วโมง ผมไม่ได้ออกไปไหน ข้าวก็ไม่ได้กิน ในตู้เย็นผมยังพอมีขนมปังเหลืออยู่สองสามแผ่น ยัดๆ ให้มันไปต้านกับน้ำย่อยเท่านั้นแหละครับ

หายนะเริ่มมาเยือน...ขณะนี้ห้าโมงของวันพุธแล้ว หัวผมตื้อไม่ไหวแล้วเลยไปล้างหน้าแปรงฟันให้มันตื่น ส่องกระจกแทบสะดุ้งครับ แม่ก็ไม่ได้โทรมาตั้งแต่วันก่อน ผมขอเวลาทำงาน ตั้งแต่วันที่ติดต่อผมไม่ได้ แม่เหมือนจะกลับมาเป็นปกติ บอกแค่ว่าให้ดูแลตัวเองแล้วก็วางสายไป อ๊ะ...ไอ้เปาล่ะ โทรศัพท์ผมอยู่ไหนวะ ผมเดินถือแปรงสีฟันออกมาที่หน้าโซฟา เดินฝ่ากองกระดาษและโน้ตบุ้คที่ใช้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง โทรศัพท์ผมอยู่ใต้หนังสือเล่มหนึ่ง

ไอ้เปาโทรมาหนึ่งสายถ้วน เมื่อสิบโมงเช้า ผมเลยรีบโทรกลับไปทันที มันรับสายผมด้วยประโยคนี้

(กูทำงานอยู่คุยนานไม่ได้)

“มึงโทรมาเพราะจะตอบกูแล้วหรอ” ไอ้เปามันคิดอะไรเยอะขนาดนี้ หรือมันเริ่มเอาความคิดมากจากผมไป

(เปล่ากูจะบอกว่าวันนี้กูซื้อข้าวให้มึงเป็นวันสุดท้าย)

“ทำไมล่ะ” ผมตอบคล้ายละเมอ มันจะเลิกแล้วหรอ...

(พรุ่งนี้กูจะพามึงไปกินข้าวเอง) ใจผมเต้นตึกตัก แปรงสีฟันแทบร่วงลงจากมือ

“จริงหรอ จริงๆ นะ”

(อืม แล้วข้าววันนี้อร่อยมั้ย)

“เอ่อ...” ข้าว? ตายล่ะ ผมยังไม่ได้เดินออกไปจากห้องเลยทั้งวัน

(อย่าบอกนะว่ามึงไม่ได้กิน)

“เปล่าๆ อร่อยๆ ต้มยำโคตรอร่อยเลย”

(กูไม่ได้ซื้อต้มยำ กลาง) มันกดเสียงต่ำ ผมไม่ทันได้ตอบอะไรก็มีเสียงเรียกมันดังขึ้นไกลๆ (กูต้องไปแล้ว กินข้าวซะ ติ๊ด..)

รู้สึกเหมือนจะโดนโกรธแฮะแต่ทำไมผมยิ้มล่ะ แปลกจัง

ผมเดินยิ้มเป็นคนบ้าออกไปหน้าประตูก็เห็นข้าวเช้าห้อยอยู่ แกงเขียวหวานกับข้าวสวย แต่มันคงกินไม่ได้แล้วล่ะ ผมเดินไปที่ตู้เย็นมองตู้เย็นที่มีแต่น้ำเปล่าแล้วก็ถอนหายใจ ผมไม่อยากเสียเวลาลงไปพรุ่งนี้ต้องส่งแปดโมงเช้า เอาวะแค่น้ำเปล่าก็ได้

ผมเริ่มต้นทำงานอีกครั้งด้วยสติไม่ค่อยเต็มร้อย ด้วยความที่นอนน้อยมากๆ อาการมึนหัวเริ่มโจมตีผมอีกครั้ง ผมทำงานต่อเนื่องมาจนถึงตีห้ามันยังไม่ดีที่สุดแต่สมองผมล้ามากแล้ว ผมตัดสินใจหลับตาพัก

เฮือก!

ผมสะดุ้งตื่นยกหัวขึ้นจากหมอนบนพื้นหน้าโซฟาอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องล้มตัวลงไปอีกครั้ง เชี่ย....ห้องหมุน ตอนนี้ผมรู้สึกตัวหมุนเป็นวงกลม มองไปทางไหนก็หมุน หลับตายังหมุนเลย กลืนน้ำลายเค็มๆ ลงคอตอนที่นอนนิ่งอยู่แบบนั้น ผมควานหาโทรศัพท์รอบตัว

“7 โมง”

ไม่ได้ ผมต้องลุกขึ้น วันนี้ผมจะได้กินข้าวกับไอ้เปานะ แล้วดราฟท์นี้ต้องส่งเป็นเล่ม อาจารย์คนนี้ต้องตรวจจากงานที่ปริ้นเสร็จแล้วเท่านั้นผมถึงต้องไปส่งด้วยตัวเอง แม่งเอ๊ย หมุนก็หมุนดิวะ ผมเดินคลำทางไปที่ห้องน้ำ ลืมตามากก็หมุน ผมกัดฟันรีบอาบน้ำอย่างเร็วที่สุด คิดว่าจะทำให้ดีขึ้นแต่แม่งยิ่งแย่ลงกว่าเดิม ผมรู้สึกว่าสีหน้าผมตอนนี้แทบไม่มีสีเลือด ได้แต่ด่าตัวเองว่ามึงไม่ควรอาบน้ำนะไอ้กลาง

ทุกอย่างดูช้าไปหมด นาฬิกาโทรศัพท์บอกว่าตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้ว ผมแทบคลานออกมาจากหอ ตอนนี้มันไม่หมุนมากเท่าไหร่แต่หัวผมหนักอึ้งเหมือนมีหินมาทับกันไว้ มองหาวินมอเตอร์ไซค์ก็ไม่มีซักคัน ผมตัดสินใจจะเดินข้ามถนนไปมอเอง ถ้าไม่ไปตอนนี้มันจะไม่ทัน

“กลาง!!!”

ขณะที่ผมยืนรอข้ามถนนอยู่นั้นก็มีเสียงเรียกฝั่งตรงข้าม มีคนสองคนกำลังยืนโบกมือให้ผมอยู่

“พ่อ แม่” มาได้ยังไงแล้วไม่โทรบอกผมเลย ผมยิ้มแล้วยกมือหนักๆ ชี้ไปที่ฝั่งนู่นบอกว่าผมกำลังจะข้ามไป มองรถฝั่งนี้ที่เริ่มมีช่องว่างให้ผมข้ามพร้อมกับสติของผมที่เริ่มติดๆ ดับๆ อาการมึนหัวทำให้ผมเริ่มพยุงตัวเองไม่อยู่ ผมจิกเท้าตัวเองจนขามันเริ่มสั่น

ทันใดนั้นคนที่ยืนข้างๆ ผมก็ออกเดินไปรอที่เกาะกลางถนนทีละคนสองคน ลำคอผมแห้งผาก ผมกระชับสายกระเป๋าสะพายไว้แน่นก่อนจะเริ่มก้าวไปที่ทางม้าลาย เพราะผมฝืนมากเกินไป ไหล่ของผมเหมือนโดนกดไว้ ขาแทบจะก้าวไม่ออก สมองไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว ขาของผมทรุดลงข้างหนึ่ง แต่ก่อนที่ร่างกายจะล้มลง

“กลาง!!!”

เสียงทุ้มที่บอกว่าจะมารับผมกินข้าวก็ตะโกนลั่น ใช่สิ วันนี้ผมจะไปกินข้าวเช้ากับมัน เสียงมันดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงร้องแทบขาดใจของแม่ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามและเสียงแตรรถดังสนั่น ผมสัมผัสความตื่นกลัวเป็นครั้งแรกในชีวิตที่แทรกเข้ามาในสติที่แทบไม่เหลือเลย

ปริ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!

.
.
[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 02-08-2017 16:25:43
.
.
[ต่อจากด้านบน]

ทำไมมันหนักแบบนี้ แค่จะยกตาขึ้นก็ทำไม่ได้ ผมอยู่ที่ไหน นี่วันอะไรแล้ว เจ็บตรงแขน ยกไม่ได้ ทำไมหนักขนาดนี้ แถมยังรู้สึกตึงๆ ที่เข่าด้วย

“กลาง...ลูก” เสียงแม่นี่

“กลาง” เสียงพ่ออีกคน

“กินน้ำก่อน” นั่นพี่โตหรอ

แล้วไหนเสียงอีกคนล่ะ...

“อึก...” ทำไมคอแห้งขนาดนี้ ผมลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก เพ่งมองตั้งนานกว่าจะมองแบบปกติได้

“กินน้ำก่อนลูก”

“แม่....กลางส่งงานรึยัง” จิตใต้สำนึกผมสั่งครับ หลังจากมองรอบๆ ห้องแล้วเห็นครอบครัวตัวเองทำหน้าตาเป็นกังวลมาให้

“เด็กคนนี้หนิ ตัวเองจะตายอยู่แล้วยังจะห่วงส่งงาน เป็นลมกลางถนนเกือบจะโดนรถชนเข้าให้”

“ทำงานอะไรนักหนา กลางความดันต่ำมากเลยรู้มั้ย” พ่อบ่น ส่วนพี่โตกับเล็กก็ค่อยๆ ประคองผมขึ้นเล็กน้อย

“แม่ใจเกือบวายน่ะรู้มั้ย ถ้าไม่ได้เปามารับไว้”

“เปา?”

“ใช่จ้ะ...กลางพักผ่อนอีกซักนิดนะลูก หมอบอกว่ากลางนอนน้อยข้าวปลาก็ไม่กิน นอนอีกหน่อยพรุ่งนี้ก็ได้กลับแล้ว” ผมมองเสาน้ำเกลือข้างๆ พลางรวบรวมความคิด แม่ให้ผมนอนลงอีกครั้งไม่นานผมก็ผล็อยหลับไป






“บอกตามตรงว่ากูเห็นด้วยกับแม่ พอเห็นหน้าน้องกูช้ำแบบนั้นก็สมควรแล้วล่ะที่มึงต้องทำตามแม่”

เสียงพูดคุยดังแว่วมา ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นในห้องตอนนี้มืดสลัวมีแค่ไฟตรงช่องประตูเล็กน้อยทำให้พอมองเห็นอะไรได้บ้าง เสียงที่คุยกันคงดังมาจากระเบียงเพราะผมเห็นชายผ้าม่านปลิวเล็กน้อย ประตูระเบียงคงติดไม่สนิทสินะ ผมกำลังจะร้องบอกแต่ได้ยินเสียงคุ้นๆ จึงนิ่งฟัง และลืมตาในความมืด

“ผมดูแลกลางไม่ได้ มันก็สมควรแล้วที่พี่จะโกรธผม ก็ผม...สัญญากับพี่ไว้แล้วแท้ๆ”

“ที่กูช่วยมึงตั้งแต่แรกเพราะกูเห็นในความพยายามของมึง มึงรับปากกูแล้วว่าดูแลกลางให้ดี กูถึงอนุญาต”

“ขอโทษครับ และผมก็ขอบคุณที่พี่ช่วยผมตลอดเลย”


....หมายความว่ายังไง....


....พี่โตกับไอ้เปารู้จักกันงั้นหรอ...


“ไอ้เปากูรู้จักมึงมาสองสามปีแล้ว มึงก็เหมือนน้องชายกูคนนึง อีกอย่างกูทนเห็นน้องเป็นแบบนั้นไม่ไหวหรอก ทั้งคู่เลย แต่จริงๆ แล้วน่ะมึงรู้มั้ย มึงดูแลน้องกูดีทุกอย่างเท่าที่คนๆ นึงจะทำได้แล้ว กูรู้...ทุกคนรู้...แต่เพราะมึงไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่...”

“....”

“มึงไม่ต้องโทษตัวเอง ไม่มีใครทำได้ทุกอย่างหรอก กูเองก็เหมือนกัน ถึงตรงนี้กูเลยกลับมาคิดว่า มึงควรได้รับโอกาส เพราะมึงยอมเจ็บอยู่คนเดียวแบบนี้กูถึงตัดสินใจพูดกับแม่ อีกอย่างกลางมันก็เสียใจมากเหมือนกันถึงมันจะไม่เคยพูดอะไรก็เถอะ แต่กูยังสงสัยทำไมมึงไม่บอกแม่ไปตั้งแต่แรกวะ”

“...”

“ถ้าแม่จำมึงได้ ป่านนี้รีบเอาชื่อมึงเข้ากองมรดกไปแล้ว”

“ผมไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้นหรอกพี่ ตอนนั้นผมคิดว่าผมแม่งไม่ดีพอซักอย่าง แถมคนที่กลางรักอย่างคุณน้ากำลังร้องไห้ขอร้องเด็กอย่างผมแบบนั้น...ผมคิดอะไรไม่ออกนอกจาก..ยังอยู่กับมันก็พอ...”

“มึงนี่น้า...แต่ไม่ต้องบอกก็ดีเหมือนกัน ให้แม่รู้สึกด้วยใจของแม่ดีกว่า”

“แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับพี่”

“ไม่ต้องขอบคุณบ่อยๆ กูสิต้องขอบคุณมึงมากกว่าครอบครัวกูเป็นหนี้มึงอีกแล้ว”

ครืด!

ผมแทบสะดุ้งแต่ก็หลับตาได้ทันเวลา ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาข้างๆ เตียง มือใครซักคนวางบนหน้าผากผมแผ่วเบา

“พี่จะนอนที่นี่มั้ย”

“ไม่ล่ะ กูจะไปนอนกับไอ้ภู เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้ามึงจะออกไปรับพ่อกับแม่ใช่มั้ย”

“ครับ”

“งั้นเจอกันพรุ่งนี้ ดูน้องกูดีๆ ล่ะไอ้เล็กฝากมา”

“ครับพี่ เจอกันครับ”

เสียงฝีเท้าดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงประตู คนที่นอนเฝ้าผมวันนี้คือไอ้เปา นี่แม่ผมยอมรับมันแล้วใช่มั้ย พี่โตบอกพูดหมายความว่ายังไง

“ข้าวปลาก็ไม่กินรอไปกินข้าวกับกูอยู่หรอ หืม...” ไอ้เปาเกลี่ยผมหน้าปรกหน้าผมเบาๆ มันพูดกับผมเหมือนดุเด็กเล็กๆ คนหนึ่ง

 “....”

“อย่าเป็นแบบนี้อีกนะ ไม่รักตัวเองก็เอามาให้กู”

“....”

“กูจะรักให้เอง เข้าใจมั้ย...”

“...”

“ฝันดีนะ..” ไอ้เปาก้มหน้ามาใกล้ผม ลมหายใจร้อนเป่ารดหน้าผากก่อนที่สัมผัสชื้นๆ จะอุ่นวาบที่หน้าผาก ก่อนที่มันจะผละไปผมเรียกมันเสียงเบา

“เปา...”

“เชี่ย...เฮ้ย กลาง! มึงตื่นแล้วหรอ หิวน้ำมั้ย เข้าห้องน้ำหรอ”

“ขอกอดหน่อยได้มั้ย” ผมขอแค่นี้... ไอ้เปาที่ลนลานอยู่หยุดนิ่ง มันเดินมานั่งที่ข้างเตียงอีกครั้งแล้วค่อยๆ พยุงผมขึ้นนั่ง ผมมองมันตาปริบๆ แล้วพูดอีกครั้ง

“ขอกอดหน่อย กู...คิดถึง”

มันส่ายหน้าช้าๆ แต่เลื่อนตัวขึ้นมานั่งบนเตียงคนไข้ ผมวาดแขนกอดเอวของมันให้ความอบอุ่นแทรกซึมเข้ามาระหว่างเรา คิดถึงจะตายอยู่แล้ว

“ตื่นมาทำไมเนี่ย”

“ตื่นมาฟังคำตอบ” ผมเงยหน้ามองไอ้เปา มันชะงักตัวไปนิดหน่อย ใบหน้าที่มีแสงสลัวกระทบดูอิดโรยแต่ทั้งหมดที่เป็นมันก็ยังน่ามองเหมือนเดิม

“งั้นฟังดีๆ นะ กูจะไม่กลับไปเป็นแบบเดิมอีก...”

“...มึง...” มันเอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้ผม เจ็บจัง

“เพราะว่าเรายังไม่ได้เลิกกัน ขอโทษสำหรับทุกอย่างและขอบคุณที่มึงไม่เป็นอะไร”

“กูคิดว่า..เราจะ...อึก” ผมมันโคตรอ่อนแอ ผมพิงตัวทั้งหมดไปที่มัน ซบที่ไหล่ของไอ้เปา ปล่อยให้น้ำตาร้อนๆ ไหลออกมา ไอ้เปาลูบหัวผมช้าๆ

“เป็นเพราะความกล้าหาญของมึงมันซัดไอ้เปาคนไม่เอาไหนซะกระเด็นเลย มึงยังสู้ขนาดนี้แล้วกูจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้จริงๆ หรอ เพราะกูรู้แล้วว่าความผิดพลาดครั้งที่เลวร้ายที่สุดคือการที่ปล่อยมึงไว้คนเดียว”

“...”

“ร้องทำไม...”

“กู...ดีใจ....ถ้ากูไม่ตะโกนไปแบบนั้นมึงคิดจะบอกกูบ้างมั้ย”

“คิดตลอดเวลานั่นแหละ อยากจะพามึงหนีไปเลย หึ อันที่จริงกูอยากจะเททุกอย่างทิ้งตั้งแต่ได้ยินเสียงมึงแล้ว ยิ่งมึงไปนอนกับไอ้เจอีก...”

“กูนอนพื้น ไม่ได้นอนกับมัน”   

“ไม่รู้แหละ แม่งหงุดหงิดชิบหายทำงานก็ไม่ได้”

“ก็มึงนั่นแหละคิดอะไรคนเดียวให้กูคิดมากตั้งนาน แถมยังมีรูปกับพี่เอิร์นอีกกูเศร้าอะ”

“พี่เอิร์นเห็นกูนั่งเงียบๆ เลยแกล้งกู แต่ตอนนั้นไม่มีอารมณ์สนใจหรอกกำลังตามหาโทรตามบางคนอยู่” มันเหลือบมองบางคนที่ว่าก่อนจะหัวเราะในลำคอ “...มึงหึงหรอ”

ยังจะถามอีกนะ “...เออ! ขนาดกูไปกับเจมึงยังเป็นบ้าขนาดนั้นเลย ตวาดกูด้วย”

“ขอโทษ...” ปกติมันจะดี๊ด๊าถ้าผมหึงมัน แต่ตอนนี้มันกลับทำหน้าหงอยลงถนัดตา

“ไม่ยกโทษให้โว้ย มึงต้องสัญญากับกูจากนี้ไป มึงต้องบอกกูทุกเรื่อง...เราต้องคุยกันเสมอ” ผมเงยหน้ามองมัน ไอ้เปาทำท่าคิด ส่วนผมก็ยื่นมือซ้ายไปตรงหน้ามัน “เร็วๆ ถ้ามึงไม่สัญญากูไม่หายโกรธมึงหรอก” ไอ้คนกลางอย่างผมไม่อยากขออะไรมาก ให้ผมได้รู้บ้างอะไรที่มันทุกข์ อะไรที่มันสุขผมก็ยินดี

“สัญญา...” มันยื่นมือมาเกี่ยวก้อยกับผมก่อนจะยกยิ้มแสงไฟสลัวทำให้เห็นลักยิ้มของมันชัดเจน ผมเห็นเหมือนรอยช้ำจางๆ ข้างมุมปากแต่ก่อนจะได้คิดอะไร มันก็เอ่ยขึ้น “วันนี้กูก้าวเท้าซ้ายออกจากห้อง”

“อะไร...”

“เอ้า ก็กูสัญญากับมึงแล้วว่าจะบอกทุกเรื่อง”

“กวนตีน แล้วมึงกับพี่โตรู้จักกันได้ยังไง  กูได้ยินนะ แล้วที่พี่โตพูดหมายความว่าไง แม่ล่ะ....แม่ว่ายังไง”

“ถามเป็นหมาสงสัยเลย พรุ่งนี้ก็ถามคุณน้าดูสิ”

“มึงคุยกับแม่แล้วหรอ มึงผิดสัญญาแล้วเนี่ย ยังไม่ทันข้ามวันเลย” ผมโวยไอ้เปาหัวเราะเบาๆ

“มันกี่โมงกี่ยามแล้ว นอนก่อน” ไอ้เปาทำท่าจะลงจากเตียงแต่ผมยึดเอวมันไว้แน่น “ปล่อยมือเร็ว”

“จะไปไหน”

“กูก็จะไปนอนไง ง่วงแล้ววันนี้วิ่งวุ่นทั้งวัน มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้เป็นลมอยู่กลางถนน รถเกือบจะทับ ปล่อยเร็ว นี่...มึงหัวฟาดหรอ...ก็ไม่นะ กูไปรับทันแล้วทำไมตื่นมามึงดื้อจังเนี่ย” มันพูดยาวแต่กลับส่งสายตาอ่อนโยนมาให้ผม

“มึงอยู่ตรงนี้ก่อน รอจนกูหลับก่อน แล้วถึงกูหลับก็ห้ามไปไหน” ผมขยับตัวออกจากมันแต่มือยังไม่ปล่อย ไอ้เปาส่ายหน้ามันจับมือผมที่จับเอวมันไปออกก่อนจะเปลี่ยนมากุมมือแทนแล้วนั่งลงข้างเตียง

“กูไม่ไปไหนหรอก ไม่ไปอีกแล้ว”

ไอ้เปาเท้าคางมองหน้าผมและผมก็จ้องหน้ามันจนเผลอหลับไป





แกรก!

ผมสะดุ้งตื่นมาตอนเช้าด้วยเสียงเปิดประตู แม่เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับพ่อ ตามมาด้วยไอ้เปา ไหนบอกไม่ไปไหนไง! ไอ้เด็กขี้โกหก แม่ทักทันทีที่เห็นผมลืมตามองก่อนจะวางของบนโต๊ะรับแขก แม่เอากระเป๋าของผมมาด้วย แม่กับพ่อคงไปนอนที่ห้องผมแหละมั้ง  เฮ้ยแต่...ผมยังไม่ได้เก็บห้องเลยนะครับแม่...

“ตอนบ่ายก็ออกโรงพยาบาลได้แล้วล่ะลูก เมื่อวานเพื่อนลูกก็มาเยี่ยมนะแต่กลางหลับตลอดเลย” แม่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับก้มลงหอมแก้มผม

“ครับ แล้วพ่อแม่กับพี่โตมาได้ยังไง ทำไมไม่บอกกลางล่ะ”

“มันกะทันหันน่ะลูก พอดีป้ากานต์เค้าเข้าโรงพยาบาลด่วนแล้วต้องส่งตัวมาที่กรุงเทพฯ แม่กับพ่อเลยรีบตามมาพี่นะเค้าติดงานเลยวานแม่กับพ่อแทนเสร็จจากป้ากานต์แล้วแม่กับพ่อก็ตั้งใจมาหากลาง ส่วนพี่โตตามทีหลัง”

“แล้วป้ากานต์เป็นยังไงบ้างครับ”

“ป้ากานต์เจ็บกระดูกสันหลัง คราวนี้เป็นหนักกว่าปกติ แต่ก็โอเคแล้ว” พ่อเดินเข้ามาข้างๆ แม่ก่อนจะวาดแขนกอดไหล่แม่พลางลูบเบาๆ ผมมองพ่อยิ้มให้แม่ด้วยความสงสัย

“เอ้อ เปาพ่อว่าเราไปเดินดูร้านอาหารข้างล่างกันมั้ย พุงพ่อมันร้องเรียกอาหารเช้าแล้วล่ะ” พ่อผละออกจากแม่แล้วหันไปเรียกไอ้เปาที่กำลังจัดผลไม้เข้าตู้เย็น มันขานรับแล้วส่งยิ้มมาให้ผมกับแม่ พ่อขยิบตาให้ผมงงเล่นๆ แล้วเดินกอดคอไอ้เปาออกไป

“แม่...” ผมพึ่งสังเกตว่าใต้ตาแม่คล้ำลง ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งได้นอนพักยาวๆ แบบนี้ร่างกายเหมือนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

แม่นั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียง มือข้างหนึ่งที่ทำงานหาเงินและเลี้ยงดูผมมาตั้งแต่เด็กก็ลูบหัวผมช้าๆ แล้วเริ่มต้นพูด “กลาง...”

“....” แววตาของแม่สั่นไหวแต่ในนั้นก็มีความยินดีบางอย่างอยู่ ผมสัมผัสถึงมันได้

“ระหว่างที่แม่ให้กลางกลับไปคิด แม่ก็คิดเหมือนกันว่าแม่ทำถูกแล้วจริงๆ น่ะหรอ แม่ตัดสินใจกลางกับเปาจากอะไร ทั้งเปา กลาง แล้วก็แม่ไม่มีใครมีความสุขซักคน คนรอบข้างก็ไม่มีความสุขซักคนเดียว”

“...”

“กลางเป็นลูกชายที่น่ารักเสมอไม่ว่าจะตอนไหน กลางไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวังเลย ทำให้แม่ภูมิใจมากด้วยซ้ำ มีแต่แม่นี่แหละที่ไม่เข้าใจกลาง บังคับกลางแต่กลางก็ไม่เคยโกรธแม่เลย”

“แม่ครับ...”

“กลางรู้มั้ย กลางไม่เคยป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล ทันทีที่แม่เห็นกลางล้มลง แม่ไม่ขออะไรอีกแล้วนอกจากขอให้กลางปลอดภัย นาทีนั้นแม่ยิ่งเข้าใจแล้วว่ากลางจะเป็นอะไรก็ได้ขอให้กลางเป็นลูกของแม่ก็พอแล้ว” หยดน้ำตาของแม่ไหลกระทบหลังมือของผมกับแม่ที่จับกันไว้ มันซึมเข้าไปในหัวใจของผมจนอุ่นวาบ

“เปาเป็นเด็กดีมากนะลูก แม่เอาความเป็นผู้ใหญ่แย่ๆ มาบีบบังคับให้เปาเลือกได้แค่ทางเดียว แม่เอาความเป็นแม่แย่ๆ มาขีดกรอบให้กลาง แม่ลืมไปได้ยังไง กลางจำได้มั้ยตอนที่กลางขอแม่เรียนวาดรูปตอนเด็กๆ น่ะแม่บอกกลางว่าอยากเรียนอะไรก็ได้แม่สนับสนุนกลางหมด แต่ทำไมตอนนี้เป็นแม่เองที่ไม่สนับสนุนกลาง ทั้งๆ ที่หน้าที่ของแม่ต้องคอยสนับสนุนลูก ตักเตือน แนะนำลูกในสิ่งที่ลูกเลือกแท้ๆ”

“แม่คิดทบทวนมาตลอดและรู้ว่ากลางรู้สึกยังไง จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อกับพี่โตเปิดอกคุยกับแม่ แม่ถึงรู้และเข้าใจว่าแม่ได้ทำสิ่งผิดพลาดที่สุดในชีวิตของแม่ลงไปแล้ว....แม่จึงตัดสินใจมาทำให้มันถูกต้องก่อนที่มันจะสายเกินไป”

แม่เงยหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตามองมาที่ผมซึ่งกัดปากกลั้นเสียงด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย

“กลางให้อภัยแม่ได้มั้ยครับ”

“แม่ครับ...” เสียงที่ออกมาช่างยากลำบาก แต่ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมอยากบอกกับแม่ “กลางรู้ว่าแม่รัก ที่แม่ทำทุกอย่างเพราะรัก กลางก็รักแม่เหมือนกันนะครับ แม่อย่าขอให้กลางให้อภัยแม่เลย กลางเองที่ปิดบังแม่ คนในโลกนี้จะหันหลังให้กลางยังไงก็ได้แต่คนที่สุดท้ายที่กลางไม่อยากให้หันหลังให้คือคนที่กลางรัก”

“กลาง...” แม่โผตัวเข้ามากอดผม หยดน้ำตาไหลซึมผ่านเนื้อผ้า ผมกอดแม่ไว้ด้วยความรู้สึกทั้งหมด ทั้งขอโทษ ขอบคุณและทุกๆ อย่างที่แม่ให้ร่างกายได้เกิดมาและให้หัวใจของผมได้เลือกเอง

“กลางขอบคุณและดีใจที่แม่เข้าใจ...ฮึก”

“แม่ขอโทษนะลูก”

นานมาแล้วที่แม่ไม่เคยร้องไห้แล้วกอดผมไว้แบบนี้ นานมาแล้วที่ผมไม่เคยร้องไห้แล้วกอดแม่ไว้แบบนี้ แม่เคยกอดผมเมื่อตอนที่ยายเสียแล้วร้องไห้ ผมกอดตอบแม่แล้วร้องไห้สงสารแม่และให้แม่รู้ว่ายังมีไอ้เด็กกลางๆ อยู่กับแม่ สถานการณ์และวันเวลาเปลี่ยนไปมากมายแต่อ้อมกอดของแม่ยังกระชับแน่น ให้ผมได้รับรู้ว่าแม่ยังอยู่ตรงนี้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคนกลางที่ฝ่าเท้าเล็กเท่าฝาหอย หรือคนกลางที่เติบโตจนฝ่ามือใหญ่กว่าแม่ก็ตาม



“แม่เคยเจอเปามาก่อนหรอครับ” ผมถามขึ้นหลังจากที่คุณหมอเข้ามาตรวจอีกรอบก่อนกลับบ้าน ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวกลับ นอนโรงพยาบาลแค่คืนเดียวผมก็คิดถึงห้องของตัวเองมากๆ แม่เข้ามาช่วยผมแต่งตัวให้ห้องน้ำ

“มันผ่านมาหลายปีแล้วล่ะลูก ตอนนั้นแม่กับพี่โตไปแอบดูกลางที่งานกีฬาสีเจอกับเด็กผอมเก้งก้างคนหนึ่งยืนมองกลางด้วยเหมือนกัน พี่โตงี้จ้องเขม็งเลยแต่แม่ไม่ได้ใส่ใจหรอก ตอนนั้นมันร้อนมากแล้วคนที่เข้ามาดูขบวนก็เยอะและเบียดจนแม่กับพี่โตคลาดกัน คนมันเยอะจนน่าเวียนหัว เสียงดังแล้วก็มีแต่กลิ่นน้ำหอม...”

“แม่เดินหลบออกมาจากกลุ่มคนได้ พาตัวเองมานั่งริมต้นไม้หลังแสตนถึงแม้ว่าจะมีอากาศถ่ายเทแต่แม่แน่นหน้าอกมาก บอกไม่ถูกเลย แม่เริ่มหายใจติดขัด ไม่มีสติ คนแถวนั้นก็ไปดูการเเข่งขันกันหมด ขณะที่แม่คิดว่าตัวเองแย่แล้วแน่ๆ แต่แล้วก็มีคนมาช่วยแม่” ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่านอกจากไอ้เปาแล้ว แม่และพี่โตก็มาหาผม ไม่รู้มาก่อนว่าแม่ล้มลง ผมยืนนิ่งฟังแม่เล่าด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุขขณะที่ปลดเชือกเสื้อคนไข้ให้ผม

“คนๆ คนนั้นแบกแม่วิ่งอ้อมแสตนด์หลายร้อยเมตรไปที่เต้นท์พยาบาล แม่มองเห็นแต่หลังกับหมวกแก็ปของเขาด้วยอาการไม่มีสติ เขาน่ะวิ่งเร็วกว่าคนที่วิ่งอยู่ในสนามด้วยซ้ำนะ”

“แม่ได้รับการช่วยเหลือจากพยาบาลอย่างเร่งด่วนโชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก แม่อยากขอบคุณเขาที่ช่วยเหลือ แต่คนๆ คนนั้นกลับยืนเกาะรั้วสนามแล้วยืนมองไปที่หนึ่งในฝั่งตรงข้ามของสนาม แม่มองตามเขาแต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกจากเด็กๆ บนสแตนด์เชียร์ตัวเล็กเท่ามด”

“น้ำใจคนมันยิ่งใหญ่กว่ามหาสมุทรอีกลูก...แม่อยากขอบคุณเขามาเสมอ และคิดว่าวันหนึ่งแม่คงได้ตอบแทนเขา ไม่ทันจะได้พูดอะไรเขาก็ทำท่าจะเดินออกไป ก่อนไปแม่เรียกเขา ถามเขาว่าชื่ออะไร อยากตอบแทนเขา เขาโบกมือพัลวันและบอกว่าต้องรีบไป เขาอยากมองคนๆ หนึ่งให้นานกว่านี้”

“สุดท้ายแม่ก็ไม่รู้ว่าคนๆ นั้นคือใครจนกระทั่งพี่โตพูดเรื่องนี้กับแม่ เรื่องที่เจอเปาครั้งแรกในวันงานกีฬาสีนั้นเหมือนกัน แม่ถึงได้รู้ว่าเด็กคนนั้นคือเปา เปาก็ไม่เคยเอาเรื่องนี้มาอ้างกับแม่เลย แถมยังกราบขอโทษแม่ขอร้องให้แม่อย่าโกรธกลาง มารู้ทีหลังแม่นี่ใจร้ายจังเลยนะ...”

“เด็กคนนี้ช่วยชีวิตแม่และช่วยชีวิตกลางด้วยนะรู้มั้ย เปาคงเหนื่อยน่าดู กลางเข้าโรงพยาบาลแบบนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะ คอยเทียวไปรับส่งแม่กับพ่อ จัดการเรื่องโรงพยาบาลให้ และถ้าไม่ได้เปากลางคงไม่ได้ยืนยิ้มตรงนี้หรอกนะ คราวหลังจะทำงานต้องดูลิมิตตัวเองด้วย”

ผมฟังเรื่องของแม่เพลินแต่มาสะดุดเอาประโยคสุดท้าย แม่พูดเสียงเข้มแล้วลงมือตีไหล่ผมสองสามที

“รักแม่นะครับ” ผมยิ้มแล้วกอดแม่ไว้แน่น

“เจ้าลูกคนนี้”

“พ่อมาแล้วหายไปนานเลย พุงพ่อโตขึ้นอีกสามเท่า อ้าว ไปไหนกันล่ะแม่ลูก”

“อยู่นี่ครับ” ผมร้องบอกเมื่อได้ยินเสียงพ่อ หลังจากนั้นไม่นานผมกับแม่ก็ออกมาจากห้องน้ำ ในห้องอยู่กันครบทั้งพ่อ พี่โต แล้วก็ไอ้เปา มันมีแผลที่มุมปากจริงๆ ด้วยแต่สีหน้ายิ้มแย้มไม่เหมือนวันที่เจอกันก่อนหน้านี้

“กลาง พี่จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้ว”

“ขอบคุณครับ พี่โตอย่าบ่นแม่บ่นไปแล้ว” ผมยกมือห้ามเมื่อเห็นพี่โตกอดอก ขมวดคิ้วปากก็พร้อมจะด่าผมทุกเมื่อ แม่ยิ้มขำๆ แล้วเดินไปนั่งตรงโซฟากับพ่อ

“เปากับกลางมานี่สิลูก” ไอ้เปาเดินเข้ามาหาผมแล้วยื่นมือมาให้ผม

“จับสิ” มันบอกเสียงเบา ไอ้เปาจูงผมไปนั่งตรงหน้าโซฟา พ่อกับแม่ได้แต่มองยิ้มๆ

“เปากับกลางรักกันใช่มั้ยลูก” แม่วางมือไว้บนไหล่ผมและไอ้เปา เปาสบตาผมแววตาของมันแน่วแน่และมั่นคง

“ผมรักกลางครับ”

“แม่ขอโทษที่แม่ไม่เข้าใจลูกทั้งสอง สิ่งที่แม่ทำพลาดไปแม่ขอโทษลูกทั้งสองคนด้วยนะลูก”

“คุณน้าอย่าขอโทษอีกเลยครับ ผมเข้าใจดี ผมต้องกราบขอขมาและขอโทษคุณน้าทั้งสองที่ทำให้คุณน้าต้องลำบากใจ” ไอ้เปาพูดพร้อมกับก้มลงกราบแม่ยื่นมือไปลูบหัวมันช้าๆ ผมมองมันด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกแต่ก็ก้มตัวกราบพ่อกับแม่เช่นเดียวกัน ฝ่ามืออุ่นของพ่อและแม่สัมผัสผมแผ่วเบา

“กลางขอโทษพ่อกับแม่ด้วยนะครับ”

“พอแล้วขอโทษกันไปขอโทษกันมาแบบนี้ไม่หยุดซักที” พ่อเอ็ดขึ้นมา ใบหน้ายิ้มแย้มทำให้ผมอมยิ้มด้วยถึงแม้ว่าจะรู้สึกแสบจมูก ตาร้อนผ่าว

“เรามาเริ่มกันใหม่นะลูกนะ” แม่จับมือของผมกับไอ้เปาที่พนมอยู่ที่อก “แม่ขอให้ลูกทั้งสองคนขอให้เป็นเพื่อน...”

ทุกสายตาหยุดนิ่งมองมาที่แม่อย่างตกใจ แม่ยิ้มกลั้นขำแล้วพูดต่อ “เป็นเพื่อนที่รู้ใจกัน รักกัน ช่วยเหลือกันแบบนี้นานๆ ถ้าหากว่ามีปัญหาพ่อกับแม่ รวมถึงพี่โตและเล็กด้วยพร้อมที่จะช่วยเหลือ คอยเป็นที่พักใจ ที่พักกายให้ลูกทั้งสอง”

“ขอบคุณครับคุณน้า ขอบคุณครับ” ไอ้เปาพูดขอบคุณแม่ด้วยน้ำเสียงสั่นๆ จนแม่รวบตัวมันไปกอด

“เรียกแม่เหมือนเดิมสิเปา”

“คระ...ครับ” ไอ้เปากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เด็กชายนกกระปูดแดงก็ยังเป็นเด็กคนนั้นเสมอไม่เคยเปลี่ยน

“เปาเป็นลูกแม่อีกคนแล้วนะ”

“ขอบคุณครับ” แม่กอดปลอมพร้อมกับกระซิบอะไรบางอย่างที่ทำให้ไอ้เปาน้ำตาไหลยิ่งกว่าเดิม ผมซึบซับภาพนั้นไว้ในความทรงจำ สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้คือการที่คนที่เรารักเข้าใจเราก็พอแล้ว พ่อมองภาพเดียวกับผมไม่นานก็หันมาพูดกับผม

“พ่อบอกกลางว่าถ้ากลางมีแฟน พ่อขอให้ไม่ต้องหน้าตาดีก็ได้ แค่เป็นคนดีก็พอจำได้มั้ย แล้วเปาก็เป็นคนดีก็พอแล้วลูก แต่ถ้าหน้าตาดีแบบเปาพ่อก็โอเค พ่อชอบ” พ่อหัวเราะจนพุงป่องๆ ของพ่อขยับเขยื้อนผมโผตัวไปกอดพุงพ่อเอาแก้มแนบฟังเสียงน้องชายอีกคนในน้องพ่อ ผมเงยหน้ามองพ่อ ผู้ชายที่ผมเห็นคนแรกในโลกใบนี้

“รักพ่อนะครับ” ผมไม่ค่อยพูดบ่อยนัก พ่อกอดผมแน่นก่อนจะเอาคางมากดที่กลางกระหม่อมผม

“โอ๊ยยย มาบอกรักอะไรกันที่นี่เหม็นกลิ่นโรงพยาบาล”

“พ่ออะ...” ผมพูดค้อน ทั้งห้องนั้นมีเสียงหัวเราะเต็มไปหมด พี่โตที่ยืนมองเงียบๆ ก็เดินเข้ามาข้างหลัง ผมกับไอ้เปาผละออกจากกอดของพ่อกับแม่ เห็นน้ำตาไอ้คนบ้าบอแล้วรู้สึกไม่ค่อยดี ผมเอี้ยวตัวไปหยิบทิชชู่ไปเช็ดน้ำตาให้มัน

“ร้องเป็นเด็กเลย กูยังไม่ร้องเลย” ผมบ่นลงมือเช็ดให้ไม่นานมันก็หล่อเหมือนเดิม ไม่ได้รู้ตัวว่าสายตาอีกสามคู่กำลังมองมา

“เอ่อ กลาง...กลางเห็นมันเลอะเทอะเลย...เลยเช็ด”

“ไปต่อไม่ถูกเลย” พี่โตเท้าเอวพร้อมกับส่ายหัว “ไอ้เปา สัญญาที่มึงให้ไว้กับกูยังมีเหมือนเดิมนะ” พี่โตพูดเสียงเข้ม เเต่กดกำปั้นขยี้บนหัวไอ้เปาอย่างเอ็นดู

“ครับพี่”

“โต ทำไมทำน้องอย่างงั้น แล้วพูดกูมึงต่อหน้าแม่ได้ไง”

“ไม่ทันไร แม่ก็รักลูกไม่เท่ากันแล้วหรอครับ ไอ้เล็กร้องบ้านแตกแน่”

“นี่เดี๋ยวเถอะ!”

Rrrrrrr

“เอ้านี่ไงโทรมาพอดีเลย ลูกคนเล็กใครคุยเองนะครับ”



==============
ตอนที่23 ได้จบลงไปเเล้ว
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่าน
ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ อ่านเเล้วตื่นเต้นเหมือนเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์
ให้อภัยข้าพเจ้าด้วยที่ใจร้ายให้ม่ามาเป็นมรสุม
ให้อภัยไอ้เปาคนกากๆ คนนึงด้วย
เจอกันตอนหน้าค่ะ
ให้ความหวานมันอยู่นานๆ ไว้
 :L1: :L1: :L1:
รักน้อง #คนกลาง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-08-2017 17:08:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Numai ที่ 02-08-2017 19:03:41
ดีใจกับคนกลาง

  :hao3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 02-08-2017 19:21:40
ดีใจด้วยยยยยเย้
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 02-08-2017 20:10:16
แงงงงง ซึ้งงงง อ่านไปน้ำตาจะไหลไปป เหมือนยกภูเขาออกจากอก  :m15: ดีนะมาม่าแค่นี้ ไม่งั้นน้ำตาท่วมม  :sad4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: dyomonrain ที่ 02-08-2017 20:16:09
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 02-08-2017 21:28:31
 :hao5: ในทีสุดแม่ก็เข้าใจและไม่ดันทุรัง ต่อไปก็หน้าที่ของเปาและกลางหล่ะนะที่จะรักษาความรักของตัวเองต่อไป
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 02-08-2017 21:31:50
 :katai2-1:

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 02-08-2017 21:38:55
มันผ่านไปพร้อมกับน้ำตาของเรา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-08-2017 21:56:05
นกกะปูดตาแดง   :hao3:
เคยช่วยแม่ที่ไม่สบายด้วย ตอนแอบไปดูกลางที่สนามกีฬา
กลางนี่นะ ทำแต่งานไม่กินข้าว พักผ่อนน้อย เป็นบทเรียนสอนทุกคนได้เลย
จนเกือบถูกรถชน เพราะหน้ามืดเป็นลมตอนข้ามถนน
โธ่เอ๊ย....กลาง หวิดไปจากโลกนี้ซะและ ดีที่กกกกเปาช่วยทัน
นี่ขนาดไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่นะเนี่ย
ช่วยทั้งแม่ ทั้งลูกเลย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 02-08-2017 22:26:41
โอ้ยยยยยยยยย โล่ง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 02-08-2017 22:51:46
ดีใจด้วยเด้อออออออ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 02-08-2017 23:52:57
กว่าจะเข้าใจกัน
คนอ่านเสียน้ำตาไปหลายก็อกเลย :mew6:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 03-08-2017 04:21:27
ดราม่าหมดแล้วววว
กลางกับเปามีความสุขซะที
การที่ครอบครัวยอมรับได้เป็นอะไรที่เีมากอะ
ดีใจมากที่แม่คิดได้เองด้วยส่วนนึง
เปาขี้แยเหมือนเดิมเลยย น่ารักก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 03-08-2017 06:25:47
ดีๆ เราชอบความหวาน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 03-08-2017 09:29:19
น่ารักจุงงง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 05-08-2017 08:17:21
เข้าใจกันซะทีเนอะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 05-08-2017 17:25:26
ขอให้เปามีความสุขจริงๆสักที  :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-08-2017 20:19:32
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 23 หน้า 19 (2-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Yukina ที่ 07-08-2017 11:40:19
เข้าใจกันซะที สงสารกลางจะแย่ ต่อไป ขอหวานๆนานๆนะ เอาเปาหึงกลางหน่อย 5555  :impress2: :o8: :L2:  สนุกๆๆ ขอบคุณนะครับ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 09-08-2017 20:33:12
24
ฟ้าสีกลางๆ

“วันนี้ฉลองกันเถ้ออออ ฉลองที่ไอ้กลางออกจากโรงพยาบาลกับฉลองให้ความรักอันชื่นมื่นของผัวเมียยยยย”

“ผัวเมียอะไรวะ” ผมเตะขาไอ้กล้วยใต้โต๊ะ มันทำหน้าเหวอปนตกใจแล้วเอียงตัวมาหาผมอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดเสียงเบา

“นี่อย่าบอกว่าพวกมึงยัง...” มันเว้นช่วงก่อนจะทำสีหน้ากรุ้มกริ้ม “ซิงมากูเตะหรอ”

“ไอ้เชี่ย ตั้งใจเรียนไป” ผมดันหน้ามันออกแล้วไอ้กล้วยก็พูดเสียงแหลม

“เออ เดี๋ยวเลิกเรียนกูจะจัดการพวกมึงสองตัว”

“ไอ้กล้วย” ไอ้เปาส่งเสียงเรียก มันนั่งถัดจากไอ้กล้วยไปสองโต๊ะ ถามว่าทำไมมันไม่ได้นั่งกับผมน่ะหรอครับ ผมต้องตอบว่าเรื่องของมัน

“อะไรไอ้เปา มาสายก็นั่งข้างนอกไปดิ”

“ไอ้สัด นั่งเรียนดีๆ ได้มั้ย แล้วทำไมต้องไปเบียดไอ้กลางด้วย”

“เอ้า ทำไมจะเบียดไม่ได้ นี่แน่ะๆๆๆๆ” ไอ้กล้วยกวนตีนไอ้เปาด้วยการเอาหน้าอกที่เต็มไปด้วยเอ่อ...นม มาถูไถที่ต้นแขนผม ไอ้เปาถึงกับจะกระโจนมาแต่ไอ้ทัพกับไอ้เบสคว้าเอวไว้ได้

“ใจเอาๆ เพื่อน หน้าตาเหมือนผลไม้สีเหลืองๆ แบบไอ้กล้วย ไอ้กลางแม่งไม่สนใจหรอก”

“ใช่ๆ ไอ้เปา ไอ้กล้วยมันเรียกร้องความสนใจ พ่อแม่ไม่รักก็เงี้ย”

“ไอ้เชี่ยอย่าเอาครอบครัวกูมาล้อเล่น เออทำไมล่ะ ก็พวกมึงสองคนไม่คุยกันนานดีนัก ถ้าช้ากว่านี้อีกนิดกูจะฉุดไอ้กลางมาทำมะ...”

“มึงพูดดีๆ นะไอ้กล้วย ตีนกูรอเจอปากมึงอยู่” ไอ้เปาพูดเสียงแข็งพร้อมกับทำตาขวาง

“โหดร้ายยยยยยยยยย กูจะบอกว่าฉุดไอ้กลางมาทำมะ...ทำมะไง”

“นักศึกษาด้านหลังคุณจะฉุดใครก็ฉุดไปแต่อย่าฉุดในคลาสของครูค่ะ” อาจารย์ส่งเสียงมาตามไมค์พร้อมกับเสียงหัวเราะครืนใหญ่ของเพื่อนๆ

“ขอโทษค้าบอาจารย์....”

“ชดวันเสาร์แค่นี้ต้องเกรี้ยวกราดในคลาสครูเลยใช่มั้ยคะ”

พวกเรายกมือไหว้ปลกๆ แล้วก็ทำเป็นจับหนังสือจับปากกาตั้งใจเรียนแทน ไอ้กล้วยขยับไปนั่งที่ตัวเองอย่างเนียนๆ โดยมีสายตาอาฆาตจากไอ้เปาส่งมาให้ตลอด

เมื่อวานหลังจากที่ผมกลับไปที่ห้อง ตอนค่ำพ่อกับแม่และพี่โตก็ต้องกลับเชียงใหม่แล้ว ไอ้เปาก็เลยอาสาไปส่งที่สนามบินครับ ส่วนผมก็ได้แต่นั่งรออยู่ที่ห้องเงียบๆ คิดว่าคงได้จัดห้องไปพลางๆ แต่พอกลับมาห้องเป็นระเบียบเรียบร้อยดีทุกอย่าง คงจะเป็นแม่นั่นแหละที่ทำให้ พูดถึงแม่แล้วน้ำตาจะไหล ฮือ... ไอ้เปาส่งครอบครัวผมกลับเชียงใหม่เสร็จมันก็กลับไปนอนที่คอนโดตัวเอง ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับ มันดึกแล้ว มันเลยส่งข้อความมาว่าจะมารับผมเหมือนเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือมันไม่มา ปล่อยให้รอจนเกือบจะเข้าเรียน ผมเลยต้องรีบวิ่งออกมาโบกพี่วิน ผมฟูเป็นสิงโตเลยทีเดียว


นี่แหละครับการเริ่มต้นครั้งใหม่ของเรา


Paramatkrikri
ช่วยขยับตัวไปห่างๆ ไอ้กล้วยด้วย

เอ๊ะ ผมหันไปมองไอ้คนส่งข้อความที่ตอนนี้นั่งหน้าไม่สบอารมณ์ มันก้มหน้าก้มตากดไม่นานข้อความถัดมาก็มาถึงมือผม

เมื่อเช้าตื่นสาย ยกโทษให้กูด้วยครับ

ผมไม่ตอบอะไรกลับจนรู้สึกว่ามันหันมาจ้องผมพร้อมกับรอคำตอบ เออ ตอบหน่อยแล้วกันเดี๋ยวเป็นบ้าไม่รู้สาเหตุอีก

“เออ” ผมตอบกลับไปแค่นี้ก่อนจะตั้งใจฟังอาจารย์อีกครั้ง เห็นหางตาว่าไอ้คนรับทำหน้ามุ่ยก็ขำดีครับ

พอเลิกคลาส ผมก็เก็บของใช้ปลายนิ้วสะกิดไอ้กล้วยที่หลับน้ำลายยืด วันนี้ก็ตัวบังคับมหาลัยเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือเรียนชดเชย วิชาการแบบนี้พวกผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่หรอกครับ ไอ้เรามันสายปฏิบัติ อาจารย์ประจำวิชาออกจากคลาสเรียนใหญ่ไป ไอ้เจที่นั่งหน้าห้องก็วิ่งขึ้นมาหาผมครับ ห้องเรียนมันเป็นสโลปน่ะครับ

“ไอ้เหี้ยกลางเป็นไงบ้างวะ” เห็นหน้ามันผมก็ลืมซะสนิทเลย

“เปางานกูล่ะ งานกูอยู่ไหน” ผมหันไปหาไอ้เปาที่ตอนนี้ยืนกอดอกหน้างออยู่ทางขวาติดกับทางเดินของอีกฝั่ง ไอ้เปากำลังจะอ้าปากตอบแต่ไอ้เจก็โพล่งขึ้น

“งานมึงส่งแล้วเพื่อน อาจารย์ชมใหญ่ว่าเด็กปีหนึ่งงานดีขนาดนี้เลย” ว่าแล้วก็ยกนิ้วโป้งขึ้นก่อนจะตบไหล่ผมปุๆ

“หน้าตากูหรอ?”

“งานเพื่อนงาน” ไอ้เจหัวเราะ มันเอื้อมมือมาโบกหัวผมทีนึง ผมก็ยิ้มขำๆ ตอบ “เล่นมุขได้แบบนี้มึงคงจะหายจากอาการป่วยแล้วล่ะสิ” มันถามต่อ

“อ๋อ เออดีขึ้นแล้ว จริงๆ ไม่ได้ป่วยอะไรหรอก กูแค่นอนไม่พอ”

“เปล่าๆ” ไอ้เจส่ายหัว ก่อนจะชะโงกหน้ามากระซิบข้างหูผม “ป่วยใจน่ะ”

“ไอ้เจ นานไปละมึง” ไอ้เปาเดินข้ามขาสามหน่อคอหล่อเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็วพร้อมกับดันหัวไอ้เจออก

“อะไรของมึงเนี่ยไอ้เปา ไอ้กลางดูเพื่อนมึงดิ เสียทีที่กูอยู่ปลอบใจมึงตั้งหลายวัน” มันทำท่าออเซาะผม ดูก็รู้ว่าแกล้งทำ แต่คนที่ไม่รู้คือไอ้เปาเพราะมันกำหมัดแน่นแล้วพูดลอดไรฟัน

“ไอ้สัด!”

“ไม่อยากให้กูปลอบใจไอ้กลางก็อย่าปล่อยให้มันอยู่คนเดียวอีกนะไอ้เปา” ไอ้เจหัวเราะหึหึแบบกวนตีนก่อนจะรีบพูดแล้ววิ่งแจ้นไปที่ประตูทางออกอย่างรวดเร็ว ไอ้กล้วยทำได้แต่คว้าไหล่ไอ้เปาไม่ให้มันวิ่งไปเตะไอ้เจเท่านั้นแหละครับ ไอ้เปามองผมตาขวางเหมือนผมเป็นคนผิดงั้นแหละ แต่ไม่ทันจะพูดอะไรออกไป ไอ้เจชะโงกหน้ามาจากประตูแล้วตะโกนเสียงดัง

“อย่าลืมเอาเสื้อกูมาคืนด้วยนะไอ้กลาง คืนที่เรานอนด้วยกันน่ะ”

“ไอ้เชี่ยเจ!!!”





กึก!

“แม่ง...หงุดหงิด”

“หงุดหงิดอะไรนักหนา ไอ้เจมันไปตั้งนานละ” ผมวางจานข้าวแล้วนั่งลงข้างๆ มัน ตอนนี้ชีวิตผมกลับมาสู่ชีวิตที่เรียกได้ว่าเหมือนเดิมอย่างเต็มรูปแบบ มันเหมือนเดิมโดยที่ใจของผมสบายขึ้นตั้งเยอะ ได้มากินข้าวกับเพื่อนๆ แบบนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากรักษาไว้นานๆ

“หงุดหงิดตัวเองนี่แหละ ถ้ากูไม่ปล่อยให้มึงอยู่คนเดียวมันก็คงไม่เป็นแบบนี้” มันคว้าน้ำแดงมาดูดอึกๆ อย่าคิดว่าผมจะปลอบมันนะครับ

“สมน้ำหน้า จำไว้ด้วยล่ะ”

“อะไรอะกลาง ทำไมมึงเป็นแบบนี้แล้วอะ มึงต้องปลอบกูดิ” มันโวยวาย

“เรื่อง?” ผมยักไหล่แล้วก็เริ่มตักข้าวกิน ไอ้เปามันขมวดคิ้วแต่ก็ยื่นช้อนมาตักต้นหอมในจานผมออก

“ไม่กินแล้วจะสั่งมาทำไมวะยำอะไรเนี่ย เดี๋ยวก็บ่นเหม็นอีก”

“กูยังไม่ได้บ่นซักคำเลย” ผมว่าพลางตบท้ายทอยมันไปหนึ่งที ไอ้เบสกับไอ้ทัพที่พึ่งมาถึงก็ทำหน้าปุเลี่ยนทันที

“โอ๊ยยยยรำคาญญญญ วันก่อนยังทำหน้าเหมือนจะเป็นจะตาย วันนี้มึงเป็นเชี่ยไรกัน ผีสิงหรอ”

“งั้นกูนั่งห่างๆ กับมัน พวกมึงจะได้ไม่รำคาญดีมั้ย” ผมพูดพร้อมกับทำท่าจะขยับตัวห่างจากไอ้เปาแต่ที่เหลือสามคนกลับตะโกนเสียงดัง

“ไม่ได้!”

“อะไรของพวกมึงเนี่ย”

“เออ พวกมึงจะผีสิง จะสิงกันก็ตามใจ ดีกว่าบรรยากาศอึดอัดกูไม่โอเค” ว่าแล้วไอ้เปาเดือนคณะก็พยักหน้าเห็นด้วยรัวๆ

“เออๆ กินข้าวได้แล้ว แล้วไอ้กล้วยหายไปไหนแล้วล่ะ ทิ้งข้าวไว้นี่ ตัวก็แวบเหมือนกระสือ”

“กูอยู่นี่ครับเพื่อนนนนนนนนน” ไอ้กล้วยลากเสียงพร้อมกับเสนอหน้าตาตอแหลมาตรงหัวโต๊ะ ถึงวันนี้จะเป็นวันเสาร์แต่ก็มีนักศึกษาที่มีเรียนอยู่เหมือนกัน ส่วนคนที่กำลังกินข้าวบริเวณนั้นสะดุ้งกันเป็นแถบๆ เพราะเสียงไอ้กล้วย ไอ้กล้วยไม่ได้มาคนเดียวแต่ลากพี่จิ้มที่พวกผมเคารพรักมาด้วย

“ดูซิว่ากูพาใครมา” ไอ้กล้วยผายมือออกเชิญแขกรับเชิญที่ทำหน้าตาเซ็ง ไม่ได้เจอนาน พี่จิ้มก็ยังมีหนวดเหมือนเดิม

“ไหนใครวะ กูไม่เห็นเห็นเลย” ไอ้เปาเงยหน้ามาตอบ สายตามันมองข้ามพี่จิ้มไปไกล

“แม่งหรือว่ากูพาผีมา” ไอ้กล้วยมันก็เล่นด้วยทำเป็นกวาดมือไปข้างๆ ตัวเฉี่ยวหัวพี่จิ้มบ้าง เฉี่ยวตัวพี่แกบ้าง

“ผีบ้าสิมึงอะไอ้เปา แล้วไอ้เหี้ยกล้วยลากกูมาดูพวกมึงแดกข้าวทำเหี้ยไร เห็นกูเป็นสัมภเวสีหรอมองแล้วก็อิ่มอะ” พี่จิ้มด่ารัวๆ จนไอ้กล้วยดึงตัวพี่จิ้มให้นั่งลงตรงข้ามไอ้ทัพที่โซ้ยก๋วยเตี๋ยวไม่สนประเทศชาติ “แล้วพวกมึงอะได้ฤกษ์มาแดกข้าวพร้อมหน้ากันแล้วหรอ อาทิตย์ก่อนๆ เห็นคนนู้นไปที่นึง คนนี้ไปที่นึง”

“จุ๊ๆๆ” ไอ้กล้วยส่งเสียงพร้อมกับโบกนิ้วชี้เป็นเชิงปฏิเสธ

“พ่อเป็นจิ้งจกหรอไอ้สัด หงุดหงิดโว้ย” พี่จิ้มตบหัวไอ้กล้วยเต็มแรง มันเลยกลายร่างจากจิ้งจกเป็นคนเหมือนเดิม พวกผมเห็นเลยหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่

“ใจเย็นดิพี่ น้องกล้วยรู้ว่าพี่จิ๋มหงุดหงิด น้องกล้วยเลยอยากจะชวนพี่จิ๋มและผองเพื่อนมาเลี้ยงฉลองที่ไอ้กลางออกจากโรงพยาบาลและฉลองก่อนจะเริ่มงานใหญ่ของพวกผม”

“เรื่องของมึงสิ”

“โหย พี่ผมรู้นะว่าปีพี่งานเยอะ แถมจารย์ยังด่าข้ามตึกขนาดนั้น ไปเมาให้หัวมันโล่งแล้วเรามาเต็มที่กับงานไง” ไอ้กล้วยบีบๆ นวดๆ รุ่นพี่มันยกใหญ่ ไม่นานพี่จิ้มก็เอนเอียง

“เออก็ดีเหมือนกันว่ะ แล้วงานนี้ใครเลี้ยงอะ”

“ก็คนที่พาพี่มาไงพี่จิ้ม” ไอ้เบสชี้ จนไอ้กล้วยสะดุ้งโหยง

“เล่นกูแล้วไงเพื่อนนน แต่ไม่เป็นไร เพราะความรักสีโม่งๆ ของไอ้เปาและไอ้กลางเพื่อนกล้วยจะยอมเสียเงินถุงเงินถัง”

“ว่าไงนะ” พวกผมถามพร้อมกัน

“เปล่าๆ เพื่อนกล้วยยอมเลี้ยงเพื่อเยียวยาหัวใจอันบอบช้ำของทุกคน” มันเม้มปากกำหมัดวางไว้บนอกซ้าย สายตามองไปยังฝ้าเพดานของโรงอาหาร ท่าทางเหมือนนักบอลเวลาได้ประตู

“ถ่ายเก็บไว้ยังไอ้ทัพ”

“เออได้ละๆๆ เป็นหลักฐานเว้ย”

“แดกวันไหน” ไอ้เปาถามขึ้น

“วันนี้ไง วันนี้วันเสาร์เมาได้ที่ห้องไอ้กลางเป็นไง”

“ทำไมต้องห้องกูอะ” ผมแย้ง ห้องผมพึ่งสะอาดเพราะแม่เก็บให้นะครับ อย่ามาสร้างความสำราญในห้องผม

“ห้องมึงอะดีสุด หอมึงเวลาเสาร์อาทิตย์คนเงียบเป็นป่าช้า”

ผมขัดอะไรไม่ได้หรอกครับก็คนมันจะไปอะ พี่จิ้มพยักหน้าตาปรือๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ “ตกลงตามนี้ใช่มั้ย กูจะไปกระจายข่าว มึงหมดตัวแน่ไอ้สัดกล้วยน้องรัก”

“หมดตัวไม่เป็นไร แต่หมดใจไม่เอาดีกว่า”

“แดก!”

ไอ้เบสลุกขึ้นมาตบหัวไอ้กล้วยฉาดใหญ่แล้วเลื่อนจานข้าวที่มันซื้อมาวางประดับโต๊ะให้ไอ้กล้วยกิน

“กูล่ะเหนื่อยใจจริงๆ อยากจะรู้นักคนที่ได้ไอ้กล้วยไปเป็นแฟนนี่จะหน้าตาเป็นยังไง”

“ทำแมะ มึงมีปัญหาอะไรกับกู”

“เปล่าเพื่อนเปล่า จุดธูปแดกข้าวตั้งนานแล้วรีบๆ แดกเถอะครับ จะได้กลับห้อง”

“ก็ด้ายย เห็นแก่กลิ่นธูปต้องรีบแล้วเดี๋ยวธูปหมดดอกไม่ได้แดก” ไอ้กล้วยเลียริมฝีปากก่อนจะจับช้อนส้อมพล่ามไปเรื่อย





“กลางมึงอยากไปไหนมั้ย” ไอ้เปาถามขึ้นขณะกำลังขับรถออกมาจากมอ หน้าตามันดูกระตือรือร้นแปลกๆ

“ไม่อะ กูอยากอยู่ห้อง”

“โห ไรวะ...” ไหล่มันห่อลงเหมือนเด็กโดนขัดใจ จนผมกลั้นขำ

“แล้วมึงไม่ได้รับงานอะไรแล้วหรอ”

“ไม่ กูจะเลิกแล้ว”

“เลิกกับกูหรอ”

“กลาง” มันกดเสียงต่ำ “มึงอย่าพูดคำนี้” อ่อนไหวอีกไอ้เด็กน้อยเอ๊ย

“ขอโทษๆ เซ้นซิทีฟจริงๆ แล้วตกลงเลิกอะไร”

“เลิกรับงาน” มันรู้ว่าผมเปลี่ยนเรื่องแต่ก็ยอมคุยตามน้ำ ไม่อยากจะรื้อฟื้นให้เด็กมันเจ็บ

“ทำไมอะ”

“กูอยากอยู่กับมึงนานๆ” มันตอบไปด้วยแล้วก็ชะโงกมองรถที่กระจกข้างคนขับ มันพูดเหมือนเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่มันไม่ได้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผม แอบมองมันแล้วอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะหยอกมันต่อ

“ถามกูยัง?”

“กลางงงง”

“ล้อเล่น แล้วแต่มึง เอาที่มึงสบายใจ แต่อันไหนที่เป็นโอกาสดีมึงก็คิดดูดีๆ ล่ะ” มันครางรับในลำคอแล้วชะลอรถให้นักศึกษาข้ามถนน

“ขอจับมือหน่อยดิ อยากจับมือแฟนตอนขับรถอะ อยากรู้ว่ามันจะรู้สึกยังไง” ผมมองมันงงๆ ส่วนไอ้คนที่พูดขอปาวๆ กลับหน้าแดงเป็นมะเขือเทศ ทำเป็นมองถนนแต่ก็แอบเหล่มามองมือผมอยู่ตั้งหลายครั้ง ผมก็เลยยื่นมือไปตรงหน้ามัน ไอ้เปามันถึงยิ้มกว้าง แต่ก่อนมือซ้ายมันจะจับมือขวาผมนั้น...

“เอ่อ...ขอโทษนะครับ พวกมึงสองตัวลืมไปแล้วรึเปล่าว่าพวกกูยังอยู่ตรงนี้น่ะครับ” ไอ้เบสโผล่หน้ามาระหว่างเบาะจนผมกับไอ้เปาสะดุ้ง

“ไอ้เบส กูว่าลงแล้วโบกแท็กซี่กลับเถอะ” ไอ้ทัพสะกิดหลังไอ้เบสจนมันหันไปมองก็เห็นไอ้กล้วยนั่งเงียบแต่ตามองมาที่ผมอย่างน่ากลัว ไอ้เบสเลยถามขึ้น

“แล้วนี่ไอ้กล้วยเป็นไร จ้องไอ้เปากับไอ้กลางเขม็งเลย”

“กูอยากได้บ้าง” พอไอ้กล้วยตอบแบบนั้น ไอ้เปาก็ส่งเสียงแข็งๆ ขึ้นมาทันใด

“ไอ้กล้วยมึงหลายทีแล้วนะ กูเริ่มคิดว่ามึงชอบไอ้กลางจริงๆ ละ”

“ไอ้เปา คนอย่างไอ้กลางจังไรภายในเงียบๆ งี้ไม่ใช่สเป็คกูร้อกกก”

“เสียงสูงนะมึง”

“มึงขับรถต่อไป ไอ้สารพี”

“สารถีไอ้สัด!”

“เออ นั่นแหละ คอยดูเถอะ ถ้ากูมีแฟนนะกูจะหวานให้หนักกว่าพวกมึงอีก หายใจเข้าเป็นน้ำตาล หายใจออกเป็นน้ำเชื่อมเลย”

“ไอ้สัดรำคาญ หาให้ได้ก่อนเถอะมึงอะ” ไอ้ทัพผลักหัวไอ้กล้วยไปทีนึง

“กูจะจำคำดูถูกของพวกมึงไว้ตรงนี้! ในรถคันนี้! เวลานี้! ถ้ากูมี พวกมึงก็อย่ามาอิจฉากูแล้วกันนนน”

ผมส่ายหน้าเอือมๆ แล้วหันมามองถนนแทนปล่อยให้พวกมันเถียงกันเป็นเด็กอยู่ด้านหลัง ไอ้เปาที่นั่งหน้าบูดขับรถแบบตั้งใจผิดปกติ ส่วนมือข้างซ้ายมันก็ยังไม่ได้จับมือผมอย่างที่มันว่าไว้เมื่อกี้ ผมขำเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมไปลูบท้ายทอยปลอบใจน้องนกกระปูดแดง พอสีหน้ามันดีขึ้นหน่อยก็หันไปมองวิวด้านข้างแทน





“เจอกันเว้ยพวกมึง”

ไอ้เปาจอดรถในซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ไอ้สามหน่อคอหล่นมันจะไปจัดการเรื่องอาหารและเหล้าครับ พวกมันบอกว่าไม่ต้องรอ เดี๋ยวจะจัดการเอง ส่วนผมมีหน้าที่ต้อนรับ จัดสถานที่ เรื่องแก้ว จาน  และไอ้เปาก็เป็นลูกมือของผมในวันนี้

ถึงห้องผมจะไม่กว้างเท่าห้องไอ้ทัพแต่อย่างที่ไอ้กล้วยว่าเสาร์อาทิตย์ชั้นที่ผมอยู่คนแทบไม่มี ก็จัดซะหน่อยนะ ผมกับไอ้เปาช่วยกันจัดพื้นที่ ลากโซฟาให้ขยับออกห่างวันนี้ก็คงนั่งดื่มกันข้างล่างนี่แหละครับ ก่อนมาที่ห้องเราก็แวะซื้ออุปกรณ์สำหรับใส่อาหาร
 น้ำ ซื้อถังใส่น้ำเเข็งเรียบร้อย เพราะผมอยู่คนเดียวแก้วก็ไม่ได้มีใช้หลายใบ

“พอยัง เดี๋ยวมึงก็หน้ามืดหรอก” ไอ้เปาถามขึ้นพลางเหลือบมองผมที่ก้มหน้าก้มตาอยู่ในครัว หลังจากจัดที่จัดทางแล้วนั้นมันก็ทิ้งตัวนั่งบนพื้นพรม และเอนหลังพิงส่วนล่างของโซฟาไว้ ไอ้เปาใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อแล้วกดเปลี่ยนช่องดูรายการวาไรตี้ในทีวี ผมเดินไปหยิบเอาผ้าเย็นออกจากตู้เย็นมาให้

“บ่นจังเลย” ผมฉีกซองผ้าเย็นก่อนจะนั่งลงข้างๆ แล้วเช็ดหน้าให้มันไปสองสามที น่าสงสารเค้านะครับ

“ก็แทนที่จะอยู่ด้วยกันสองคนอะ”

“นี่ไม่ได้อยู่สองคน” ผมเลิกคิ้วถามแล้วหันไปมองทีวีต่อ แต่จู่ๆ มันหันหน้ามาหาผมแล้วจ้องตาผมนิ่ง

“กลาง”

“อะไร” ไอ้เปาส่งเสียงขัดใจเมื่อเห็นว่าผมยังมองทีวีอยู่ “เฮ้ยๆ จะมาบังทำไมเนี่ย พิธีกรคนนี้กำลังโดนลงโทษนะเว้ย”

“กู...คิดถึงจริงๆ นะ” มันพูดด้วยสีหน้าจริงจังเหมือนกับเรื่องที่กำลังพูดเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย

“คิดถึงไรวะ ก็อยู่นี่แล้วไง” ผมผลักหน้ามันออกแต่มันก็ขืนตัวอยู่อย่างนั้น

มันอมยิ้มนิดๆ “ก็คิดถึง...จูบของเราอะ”

อะ...ไอ้เปา นี่มันเวอร์ชั่นอัพเลเวลรึไงเนี่ยยย

“นี่มึงเป็นคนแบบนี้หรอวะ” ผมดึงมือมันเพื่อให้หลุดจากการจับไหล่ผมแต่มันก็ไม่ยอมปล่อย คราวนี้ไอ้เปาเริ่มทำเสียงแข็ง กลไกการคิดไปเองเริ่มเดินอีกครั้ง

“หรือว่ามึงไม่คิดถึง?” ไอ้เปามองหน้าผมนิ่ง

“ก็...ไม่ค่อยเท่าไหร่” เรื่องอะไรจะให้มันยอมอัพเลเวลคนเดียวล่ะ มันเริ่มมีอาการทางสีหน้า สายตาวูบไหวไปเล็กน้อย ผมอยากจะขำนักแต่ต้องเก๊กไว้

มันเปลี่ยนแววสั่นไหวเป็นแข็งกร้าวก่อนที่มันจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงไม่ยอมแพ้ “โกหก! พิสูจน์สิว่าปากมึงก็คิดถึงกู”

ไม่ทันได้ตอบอะไร ไอ้เปาก็ยื่นหน้า ริมฝีปากอุ่นประกบกับริมฝีปากผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมเบิกตาค้างไว้นิดๆ ท่าทางต้องน่าขำแน่นอน ไอ้เปาไม่กดจูบอย่างเดียวมันเลื่อนมือที่จับไหล่มายึดท้ายทอยผมแน่น ส่วนอีกข้างก็รั้งเอวผมให้แนบกับตัวมันมากขึ้น

“ห้ามพูดอีก ห้ามพูดว่าจะเลิกกับกู ห้ามพูดว่าไม่คิดถึงกู” มันพูดชิดริมฝีปากของผม ไอ้เด็กเอาแต่ใจ

“อื้อ!” ผมประท้วง ไอ้เปาเหมือนหมาบ้า มันพยายามแทรกลิ้นเข้ามาสำรวจความร้อนในโพรงปากของผมแต่ผมเม้มปากแน่น ผมทุบไหล่มันประท้วงขออากาศ

“กลางขอลิ้นหน่อยดิ” ไอ้บ้านี่...จะให้ตัดให้หรอ

เสียงเจ๊าะแจ๊ะดังอยู่ใกล้กับเสียงครางต่ำของไอ้เปาพาลให้ปั่นป่วนหัวใจชอบกล ใจผมสูบฉีดแรงจนเจ็บเหมือนความร้อนไปกระจุกอยู่ตรงแก้มจนแทบจะระเบิด หน้าท้องของมันบดเบียดกับหน้าท้องผม มือที่จับท้ายทอยผมไว้เริ่มคลึงเบาๆ มันจะเกินไปแล้วนะ ไอ้เปาลดการจู่โจมแบบรวดเร็วมาเป็นช้าเนิบนาบเหมือนอ้อนขอด้วยการกระทำ ผมหายใจไม่ทันผมเลยเผลอเผยอปากขึ้นเล็กน้อย ไอ้เปายิ้มมุมปากโคตรร้ายก่อนใช้ลิ้นสอดเข้ามาทันที

“อะ...อื้อ!”ผมหอบหายใจหนักหน่วง ดันหน้าอกมันออกอย่างแรง ไอ้เปาผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง มันจูบเหมือนจะดึงปากผมไปด้วยอย่างนั้นแหละ

ผมใช้หลังมือเช็ดน้ำลายที่ไหลเปื้อนมาที่มุมปากก่อนจะปิดปากไว้แบบนั้นพลางมองไอ้ตัวต้นเหตุตาเขียว ไอ้เปายิ้มจนเห็นลักยิ้มข้างแก้ม ท่าทางไม่สลดซักนิด มันจับมือที่ผมปิดปากตัวเองไว้ออกช้าๆ แล้วไล้นิ้วโป้งเข้ากับมุมปากผมเบาๆ

“คิดถึงเหมือนกันนี่เราอะ”

.
.
[ต่อด้านล่างนะจุ๊]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 09-08-2017 20:43:55
.
.
[ต่อจากด้านบนจ้า]


“คิดถึงพ่อมึงอะ!!!”

เชี่ย...แทบสะดุ้ง ได้ยินคำว่าคิดถึงแล้วก็เผลอนึกไปถึงเรื่องเมื่อตอนบ่ายไม่ได้ ผมยกแก้วขึ้นดื่มบังสายตาจากไอ้เปาที่มองมาอย่างล้อเลียนทั้งๆ ที่ปากมันก็กำลังคุยอยู่กับพี่อั๋นอย่างออกรส

ไอ้คนที่พูดประโยคข้างต้นคือพี่จิ้มครับ ไอ้กล้วยคงไปกวนตีนอะไรพี่จิ้มแก เลยได้นิ้วกลางสั้นๆ ของพี่จิ้มมาเป็นของตอบแทน ไอ้กล้วยยิ้มร่าหลังจากกวนตีนพี่มันได้สำเร็จก่อนจะถลามานั่งข้างผม

แกร๊งๆๆๆ

“แดกให้หมด ไอ้กล้วยจ่ายต้องเอาให้หมดโว้ย” พี่จิ้มใช้นิ้วคนเหล้าในแก้วสองสามที่แล้วตะโกนขึ้นกลางวง

“ชนๆ!!”

ทุกคนในวงร่วมใจกันชูแก้วขึ้นก่อนจะชนกันเสียงดังแกร๊งกร๊าง เมื่อชั่วโมงที่แล้วไอ้ตัวต้นคิดมาหอผมพร้อมกับถุงเต็มมือ ไอ้ทัพไอ้เบส และไอ้กล้วยแบกอาหารและเหล้าเข้ามาในห้องผม ผมกับไอ้เปาก็จัดการใส่จานวางเตรียมไว้พร้อมเสิร์ฟ อย่าพูดถึงเหตุการณ์เลเวลอัพของไอ้เปาเลยครับ ผมไม่ขอพูดถึง หลังจากนั้นไม่นานพวกพี่ๆ ที่รักของพวกผมก็ทยอยเข้ามา งานวันเกิดอยากจะแดกของไอ้กล้วยก็ประกอบด้วย พี่อั๋น พี่แตง พี่กอบ พี่เช่ พี่จิ้มหนวดจิ๋ม และพวกผมแกงค์คนหล่อแห่งสินกำทั้งห้าคน

“ไอ้เปาทำไมวันนี้มึงนั่งห่างไอ้กลางจังวะ” พี่เช่หยิบเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาเคี้ยวกร้วมๆ ก่อนถามขึ้นแล้วมองผมสลับกับไอ้เปา

“เออนั่นดิ ปกติเห็นตัวติดกันเป็นผัวเมีย” พี่แตงเสริม พวกพี่มึงไม่ต้องสนใจผมร้อก แดกไปเถอะเหล้าน่ะ พอผมไม่ตอบไอ้เปาก็เริ่มปฏิบัติการจังไรทันที

“พี่อย่าไปถามไอ้กลาง วันนี้มันงอน ผมทำการบ้านไม่ถึงใจ”

“ไอ้สัด!” ผมสบถ

“ฮิ้วววววววววววววววว”

“จริงปะไอ้กลาง” พี่จิ้มจอมเสี้ยมให้ผมได้กับไอ้เปาตั้งแต่รับน้องปรบมือเป็นจังหวะแต่เสียงที่พี่มันทำเองคือเสียง “ปั่บๆๆๆ”

“ฮ่าๆ” เออหัวเราะกันไปให้หมด

“ไม่ใช่โว้ย”

“เขินหราจ๊ะ หน้าแดงกิ้วๆ”

“หน้าแดงพ่อมึงดิไอ้กล้วย” ทุกคนชี้นิ้วล้อผมกันหมด ไอ้เบสที่ไม่ค่อยจะล้อผมก็ยังขำไปด้วย “เบสช่วยด้วย”

“เฮ้ยๆๆๆ ไอ้กลาง คนที่มึงจะต้องเรียกหาคือกูไม่ใช่ไอ้เบส” ไอ้เปาวางแก้วเหล้าแล้วลุกพรวดมานั่งแทรกผมกับไอ้เบสทันที พี่อั๋นที่นั่งคุยกับมันหน้าเหวอก่อนจะด่ามันเสียงดังเรียกเสียงครื้นเครงขึ้นมาอีกระลอก

“เห็นเมียดีกว่าพี่!”

หลังจากนั้นพวกเราก็นั่งผลัดกันเล่าเรื่องเรียน เรื่องผู้หญิง เรื่องงาน เรื่องประสบการณ์จังไรๆ ที่เคยผ่านมา ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่ไอ้กล้วยเติมเหล้าให้ไอ้เปาอยู่เรื่อยเลย ผมก็สไตล์เดิม จิบๆ ไอ้ทัพกับไอ้เบสนี่หน้าแดงเหมือนเห็นแสงแห่งธรรมเรียบร้อย มันนั่งเลื้อยพิงกันฟังเรื่องคนอื่นเล่าอย่างน่าอนาถ

“อะไอ้กอบตามึงละ เล่าเรื่องที่เหี้ยที่สุดในชีวิตมึงมา”

“กูอะนะ...กูเคยทำมาทุกอย่างแล้วเว้ย เหล้า ยา หญิง กูมันจนไงไอ้เหี้ย มีใครจ้างกูทำอะไรก็ทำหมดจนกูไปทำงานกับแกงค์ยาผีแถวบ้านแกงค์นึง มันเป็นแกงค์ที่กูเข้าไปใหม่ก็ไม่รู้อะไรหรอก แต่ที่กูจำได้เสมอคือทุกวันเวลากูไปเอาของกูจะได้ยินเสียงร้องโหยหวนออกมา แล้วก็จะมีคนในแกงค์เดินออกมาจากด้านหลังด้วยมือเปื้อนเลือด กูพยายามไม่มองก็ทำหน้าที่ส่งของตามที่ต่างๆ พอ แต่สิ่งที่เหี้ยที่สุดคือวันนึงลูกพี่บอกให้กูลองฆ่า...” พี่กอบเว้นช่วง ทำให้คนที่ตั้งใจฟังโหยหวนขึ้นมา

“เหี้ยยยยยยยยย” ไอ้กล้วยร้องก่อนคนแรก

“จริงป้ะไอ้สัด” ตามมาด้วยพี่แตง

“เหี้ยจริง” และพี่จิ้ม

“ลูกพี่กูหรอ?” พี่กอบถามกลับ

“มึงเนี่ยแหละไอ้เหี้ยกอบ กูไม่เคยรู้มาก่อนเลย แล้วมึงจะฆ่ากูด้วยมั้ยเนี่ย วันนั้นยืมตังค์ไปสิบเจ็ดบาทซื้อกั๊ฟที่เซเว่น”

“ไอ้สัดจะฟังต่อมะ” พี่กอบโบกหัวพี่จิ้มไปทีนึงแล้วถามต่อ

“ฟังๆ พี่ผมฟัง ปล่อยเหี้ยพี่จิ้มไปเถอะ”

“แล้วไงต่อพี่” ไอ้ทัพกับไอ้เบสตาตื่นตั้งใจฟังอย่างดีพลางพยักหน้ารัวๆ ประกอบคำพูด

“ก็นั่นแหละกูตามลูกพี่ไปเข้าไปดูหลังจากที่แม่งบอกกูแล้ว มันชื่อพี่คม ตัวใหญ่อย่างกับยักษ์ตอนนั้นกูพึ่งจะสิบหกหมาดๆ เองมั้ง...”

“ยังไม่แห้งพี่จะไปทำไม เดี๋ยวก็เชื้อราขึ้นไข่หรอกพี่”

“ไอ้เหี้ยกล้วย มึงไปเล่นในห้องน้ำไป”

“โทษๆ พี่โทษษษษษ อะ..ต่อๆ”

“กูเดินตามเข้าไปด้านหลัง กลิ่นเลือดโชยเข้าจมูกแล้วก็กลิ่นอะไรไม่รู้ตีเข้าหน้า แม่งอยากอ้วกสุดๆ กูไม่กล้ามองตรงไปข้างหน้าได้แต่มองข้างๆ แทน เห็นพวกมีดใหญ่มีดเล็กวางไว้เต็มโต๊ะเลยเว้ย”

“เอื๊อก” ใครซักคนกลืนน้ำลายเสียงดัง ใจผมก็สั่นๆ นิดๆ พี่กอบเล่าด้วยสีหน้าจริงจัง จำได้ว่าพี่จิ้มเคยบอกว่าเมื่อก่อนพี่กอบลำบากมาก

“ไอ้พี่คมดันไหล่กูเข้าไปด้านในอีก มันชี้มือไปข้างหน้า กูมองตามไปที่กลางห้องก็เห็นอะไรเปลือยอยู่ พี่คมหยิบมีดพร้อมกับบอกกูด้วยเสียงเย็นๆ ว่า”

“ว่า....” ทุกคนครางรับพร้อมกันเหมือนโดนสะกดจิต

“มันบอกกูว่า...ไอ้กอบลองฆ่าหมูดู เดี๋ยววันนี้กูเข้าเนื้อไปส่งเอง ตึ่งโป๊ะ!” พี่กอบจบท้ายด้วยสีหน้าจังไรแต่พวกผมอ้าปากค้างไปแล้ว

“ไอ้สัด!!!!!!!!!!!!” พี่จิ้มได้สติก่อนร้องคนแรก พวกเราโห่ให้เรื่องเหี้ยๆ ของพี่กอบแบบเฟลสุดๆ

“โอ๊ย เปลืองหู”

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ หน้าพวกมึงเหวอเลย”

“อะไรของมึงเนี่ยไอ้เหี้ยกอบบ”

“ก็นี่ไงเรื่องเหี้ยของกู กูไม่อยากฆ่าหมูกูเลยหนีมาแม่ง”

พอทุกคนทำหน้าเหม็นเบื่อเรื่องเล่าของพี่กอบมันก็กลับไปเริ่มเรื่องใหม่ต่อ บัดนี้ห้าทุ่มแล้วเหล้าก็ยังดื่มกันเรื่อยๆ ไอ้เปาที่มีมือชงอย่างไอ้กล้วยชงเหล้าให้ก็เริ่มทรงตัวไม่อยู่ พวกพี่ๆ กินเหล้าสูบบุหรี่กันคลุ้งห้องไปหมด ไอ้เปาที่นั่งข้างผมก็ดื่มหนัก มันถอดเสื้อยืดออกทางหัว สงสัยจะร้อน แล้วก็คุยเล่นกับพี่ๆ พร้อมกับตาเยิ้มๆ ยกเหล้าดื่มเป็นระยะๆ

“กลางมึงแดกอีกนิดดิวะ” ผมที่คิดว่าจิบนิดเอาเข้าจริงแล้วก็ดื่มไปหลายแก้วอยู่เหมือนกัน พี่จิ้มนี่แหละตัวดีบังคับผมจริง

“เออๆๆ ทุกคนๆ เรามาดูหนังเปลี่ยนบรรยากาศกันดีกว่า กล้วยที่น่ารักของทุกคนเอาหนังมาด้วยคร้าบบ” ผมหรี่ตาไม่ไว้ใจไอ้กล้วย มันลุกขึ้นเสียบไดร์ฟเข้ากับทีวีของผม เลือกไฟล์อย่างชำนาญแล้วหน้าจอก็ปรากฏห้องๆ นึง ทั้งห้องมีแค่เตียงสีขาวเตียงเดียว

เดี๋ยวนะ กูว่ามันไม่ใช่ละ

“หนังไรวะไอ้เหี้ยกล้วย พวกกูเมาแล้วจะดูรู้เรื่องอ่อวะ” พี่อั๋นถามขึ้น พี่เช่ พี่กอบ พี่แตงกับพี่จิ้ม รวมไปถึงไอ้เปาก็ให้ความสนใจด้วย

“พี่อั๋นหนังเนี่ย ไม่ต้องดูก็ได้ฟังแต่เสียงก็ฟินแล้ว”

[เข้ามาก่อนสิ]

“ไอ้เหี้ย เอาแล้วเว้ยๆๆๆ” ไอ้กล้วยถือรีโมทส่งเสียงเชียร์เมื่อมีเสียงภาษาญี่ปุ่นดังขึ้น ซับข้างล่างทำงานทันที

เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

คนสองคนเดินกอดคอกันเข้ามานั่งปลายเตียงแล้วเริ่มถอดเสื้อ

หนังโป๊เฮชดี!

ที่สำคัญไม่มีผู้หญิงซักคน!

[อาบน้ำมั้ย?]

[ไม่ล่ะ รอไม่ไหวแล้ว]

[จุ๊บ จุ๊บ อะ...อ่าส์...ซี้ด]


ทำไมผมรู้สึกหวิวแปลกๆ วะเนี่ย

ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ!

สี่มือเน้นๆ บนหัวไอ้กล้วยกระชากผมออกจากความรู้สึกแปลกๆ นั่นอย่างรวดเร็ว

“ไอ้สัดกล้วย มึงปิดเดี๋ยวนี้เลย!”

พี่จิ้มยันโครมเข้าที่ขาไอ้กล้วยที่ยืนพริ้มเป็นพรีเซนเตอร์หน้าทีวี มันทำหน้าเหรอหรา

“มึงเอาหนังเกย์มาทำไมเนี่ย ทั้งห้องมีแต่ผู้ชายมึงจะให้พวกกูเอากันเองหรอ”

“อ้าวเฮ้ย!!” มันร้องแสดงโคตรเนียน “กดเปิดผิดอันอะพี่ ชิบหายยย” มันทำท่าหารีโมตแต่กว่าจะได้กดปิด ไอ้คนที่นอนแผ่อยู่กลางเตียงก็โดนจัดหนักจนแหงนหน้าร้องซะแล้ว

อึก...ผมกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ เมื่อเห็นภาพเคลื่อนไหวอยู่ติดตาถึงแม้ว่าทีวีจะปิดไปแล้วก็เถอะ

พวกพี่ๆ รุมตบกบาลไอ้กล้วย “มึงชอบแดกชายหรอไอ้เชี่ยกล้วย”

“เปล่าพี่ๆๆๆ ชื่อไฟล์แม่งเหมือนกันกูโหลดผิดแน่ๆ มันซ้ำกับเรื่องของน้องฮารุโกะอะพี่ โอ๊ยอย่าตีโผ้มมมมม”

ผมมองไอ้กล้วยโดนรุมประชาทัณฑ์ก็เลยร่วมสมทบทุนด้วยการคว้าถั่วปาใส่หัวมัน ผมรู้สึกว่าตัวเองโดนจ้องจนขนลุก พวกพี่ๆ ก็อยู่หน้าทีวีกันหมด ไอ้เบสกับไอ้ทัพก็นอนกอดขวดเหล้าหลับไปแล้ว จะเหลือก็แต่...

“อะ...ไอ้เปา” ไอ้เปาที่เปลือยท่อนบนวางศอกไว้กับหน้าขาตัวเองแล้วเท้าคางไว้กับฝ่ามือจ้องมองผม มันมองไปด้วยยิ้มไปด้วยเหมือนคนบ้า แล้วผมก็ได้รู้ว่ามันไม่ได้มองหน้าผมหรอกแต่มันผมปากผมอยู่!

“ไอ้เชี่ยเปา” ผมเอื้อมมือไปปิดตามันที่หัวเราะคิกคักหูแดงอยู่ข้างๆ เหลือบเห็นแก้วเหล้าที่มันไม่ยอมวางแล้วผมเลยจะเอาแก้วเหล้าในมือมันออก ดื่มเยอะไปละมึง เอามา! แต่ไอ้เปาที่โดนผมปิดตาอยู่ยื่นมือไปข้างหลัง ส่งผลให้ผมถลาไปปะทะอกมัน มันจะไม่มีอะไรผิดปกติถ้าผมไม่ได้รู้สึกว่าอะไรแข็งๆ ดันหน้าท้องอยู่

นี่มัน.....!!





ผมสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาบนหัวเตียงที่ร้องทุกชั่วโมงพลางขยี้ตาเบาๆ

“ตีหนึ่ง”

คว้านาฬิกามาดูแวบนึงก่อนจะวางมันไว้เฉยๆ โคตรง่วงเลย หลังจากเรื่องหนังโป๊ที่จังไรนั้นผ่านไป ไอ้คนที่เหลือก็นั่งดื่มกันต่อ พี่จิ้มกรอกเหล้าเข้าปากไอ้กล้วยใหญ่เพื่อเป็นการลงโทษ และผมก็รู้สึกง่วงเพราะเมานั่นแหละเลยขอตัวเข้ามาอาบน้ำนอน เสียงข้างนอกเงียบไปแล้วพวกมันคงจะกลับกันแล้วมั้ง ผมคิดว่าจะลุกออกไปดูคนข้างนอกแต่ก็ง่วงเกินกว่าที่จะลุก ไอ้เปามันจะนอนตรงไหน..นะ....ได้แค่คิดแล้วก็เผลอหลับไป

“อื้อ...”

ผมบิดตัวหนีสัมผัสที่เย็นและเปียกชื้นตรงแก้ม ปัดไอเย็นที่ลากผ่านลำคอผม นี่ผมฝันหรือกำลังตื่นอยู่วะเนี่ย “อืม..” ผมตะแคงข้างหนีแต่ก็มีอะไรซักอย่างดึงไหล่ผมให้นอนหงายเหมือนเดิม

“ฮือ..” ผมครางด้วยความรำคาญก่อนจะระลึกได้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียง ผมค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นเห็นเงาตะคุ่มอยู่เหนือหัว เชี่ย! นึกว่าผี...เงานั้นไม่รอให้ผมได้คิดอะไรมันแนบตัวมาทับผมจนไม่เหลือช่องว่างแล้วลากลิ้นร้อนๆ ไปที่บริเวณไหปลาร้าผมแทน

“ไอ้เปา” ผมเรียกมันชะงักไปไม่กี่วิแล้วก็เลื่อนหน้ามาจูบปิดปากผม กลิ่นครีมอาบน้ำของผมลอยเข้ามาเตะจมูก ไอ้เปามันไม่ได้ใส่เสื้อ ตัวเย็นเหมือนพึ่งอาบน้ำเสร็จ

“กลาง...อือ...จุ๊บ”

มันดันแขนตัวเองขึ้นกักผมไว้ระหว่างแขนยาวๆ ของมัน ไอ้เปาที่อยู่เหนือผมตอนนี้ดูสติไม่เต็มร้อย หยดน้ำจากปลายผมหยดมาโดนหน้าผากผมสองสามหยด มันโน้มตัวลงมาอีกครั้งก่อนปากจะประกบกันมันก็พูดขึ้นอีก

“กลางอยากจูบมึงอะ จุ๊บ อืม...”

“มึงจูบอยู่...อื้อ...นี่ไง...”

“อ้าวหรอ สงสัยเมาอะ” มันผละออกแล้วยิ้มเขินๆ เพราะแสงไฟจากห้องน้ำทำให้ผมเห็นแก้มมันแดงเล็กน้อย เราสบตากันในความมืด ไอ้เปาในตอนนี้เหมือนจะสร่างแต่ก็ไม่มีสติเต็มร้อย มันมองผมแล้วยิ้มจนเป็นผมเองที่เบือนสายตามองไปที่อื่น

เนื้อตัวหอม ผมเปียกนิดๆ กับสายตาหวานๆ แบบนี้มัน...

“อื้อ! มองกูดิ” มันร้องอย่างขัดใจพร้อมจับคางผมให้หันไปมองมันอีกครั้ง จะต้องให้บอกหรอวะว่าเขินอะ

“เมาก็ไปนอนไป”

“ไม่เมา อาบน้ำแล้ว สร่างแล้ว เหล้าแค่นี้ทำไรไม่ได้หรอก” มันว่าด้วยน้ำเสียงปกติเหมือนกับว่ามันไม่เมาแล้ว ผมไม่แน่ใจนักหรอก ท่าทางแบบนี้ผมไม่เคยรับมือกันมันเลยซักครั้ง นี่คือไอ้เปาเวอร์ชั่นไหนกันแน่เนี่ย

“กูจะนอนแล้ว มึงลงจากตัวกูซักที” ผมออกแรงดันมันไปด้านข้างแต่ก็ไม่ขยับ

มันไม่ได้ฟังที่ผมพูดเลยเพราะสายตาไอ้เปามองปากผมอยู่ตลอดเวลา “ขี้บ่นจัง..จุ๊บ..” ไอ้เปาก้มหน้าลงมากดริมฝีปากเร็วๆ ให้เกิดเสียงแล้วผละออก มันมีรอยยิ้มติดมุมปากจนผมเริ่มหมั่นไส้ อารมณ์ดีอะไรนักหนาวะ

“ทำกันเถอะกลาง”

“แค่กๆ ” แทบสำลักน้ำลายตัวเอง “อะไรนะ ว่า...มึง..อะไร” ผมพูดติดขัดจะถามย้ำอีกรอบ แต่ไอ้เปาทิ้งน้ำหนักลงบนตัวผมทั้งตัว ซบหน้าไว้กับคอผมแล้วพูดอู้อี้ แก้มเย็นๆ ขยับขึ้นลงบนลาดไหล่เวลามันพูด

“อยากทำ ขอได้มั้ย”

“ไอ้เปาเรื่องแบบนี้มันขอกันง่ายๆ งี้เลยหรอวะ” ผมพูดแต่มือก็ลูบหลังคอมันเบาๆ

นี่มันไอ้เปาเวอร์ชั่นอ้อนหรือไงนะ

“นะ...” สัมผัสแข็งขืนดันหน้าต้นขาผมอีกครั้งจนผมหน้าแดง “นับหนึ่งถึงสามแล้วตอบนะ”

“เดี๋ยวดิ เฮ้ย” ผมประท้วง กูยังไม่พร้อมนะเว้ย ผมใจเต้นแรงคิดเรื่องที่จะตามมาเต็มไปหมด

“หนึ่ง สอง สา...”

“มึงทำเป็นหรอ” ผมโพล่งออกไปไอ้คนที่ซบหน้ากับลาดไหล่ของผมดันตัวมองผมหน้าเหวอ

“ไอ้เชี่ย หายเมาเลยเนี่ย” มันผุดลุกขึ้นนั่งคุกเข่าข้างผม

ผมพึ่งคิดได้ว่าพูดอะไรออกไปเลยลุกขึ้นนั่งพร้อมกับส่ายหน้าไปมา “กูไม่ได้ดูถูกมึงนะเว้ย”

ไอ้เปาถอนหายใจเอื้อมมือไปเปิดโคมไฟ “กลาง กูแข็งแล้วอะ ไม่อยากมองมึงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำอีก”

มันพูดหน้าตาเฉยแต่ผมใจเต้นแรงจนจะระเบิดอยู่แล้ว หลายความรู้สึกอัดแน่นอยู่ในนี้ หัวขาวโพลนคิดอะไรไม่ออก หมายความว่าไงวิ่งเข้าห้องน้ำอีกเนี่ย

“มึงเคยบอกกูว่าไม่เคยนี่ แล้วเรื่องแบบนี้มัน...” ผมพูดเสียงเบา ไม่กล้าสบตามัน หน้าร้อนจนคิดไปว่าหรือว่าผมเมากันแน่วะเนี่ย

“ก็ไม่เคย... แต่อยากให้มึงเป็นคนแรกที่ไม่เคยไปด้วยกันไง” มันมองผมตาปริบๆ ผมยกมือกุมอกตัวเองช้าๆ ไอ้เปาแอคแทคผม

“นะ ลองดูก่อนแล้วมึงค่อยบอกกูว่ากูทำเป็นรึเปล่า”

ท่าทางหงอยๆ นั่นหลอกให้ผมตายใจ พอผมเผลอพยักหน้าแบบไม่ค่อยมีสติ ไอ้เปาก็กระโจนคร่อมผมทันที

“ขอบคุณนะ อยากรักมึงจะแย่แล้ว”

ไอ้เปาเริ่มต้นข้อพิสูจน์ของมันด้วยการจูบ มันจูบจนผมเบลอไปหมด นี่ผมกำลังตกลง...ที่จะไม่เคยไปพร้อมกับมันเนี่ยนะ...ไอ้กลางเอ๊ย ดูท่าผมจะยกเลิกไม่ทันแล้วล่ะ อือ...ทำไมมันรู้สึกแปลกๆ มันหวิวเกินไปแล้ว และมันก็รู้สึก...ดีด้วย...ใช่มั้ย...

“อ่า...กลาง มึงหวานอะ” เสียงความเปียกชื้นดังอยู่ในห้องเงียบๆ นี่ ไอ้เปาใช้มือฟอนเฟ้นไปทั่วตัวผม มันลากมือมาใต้เสื้อยืด พอผิวผมสัมผัสกับมือของมัน ผมก็งอตัวอย่างช่วยไม่ได้ ไอ้เปาเลื่อนมือขึ้นมาสัมผัสกับยอดอกของผมทั้งๆ ที่ปากก็ยังเลื่อนไปขบเม้มที่คอและไหล่ของผม ไม่อยากจะยอมรับแต่มันทั้งรู้สึกเจ็บแล้วก็รู้สึกดีไปพร้อมๆ กับ นี่ผมกลายเป็นคนลามกแล้วหรอวะเนี่ย

ผมเงยหน้าครางหวิวอย่างน่าอาย ทุกสัมผัสที่มันลากผ่านทำให้ผมร้อนไปหมด เลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง

ผมจะตายมั้ยครับ...

“เปา...มึง...พอก่อน อื้อ...” ทันทีที่มันบดขยี้ตุ่มไตของผม ผมก็แอ่นตัวด้วยสัญชาตญาณ นี่มันจะติดเรทเกินไปแล้วโว้ย

“ทำไมมันชำนาญจังวะ ไหนบอกไม่เคยไง”

มันไม่ตอบ ไอ้เปาถอดเสื้อผมแล้วขว้างทิ้งไปล่างเตียงอย่างไม่ใส่ใจ มันแลบลิ้นมองผมที่นอนหอบอยู่ด้วยสายตาที่ร้อนแรง ก่อนจะดึงขอบกางเกงผมลงเล็กน้อยและผมก็คว้ามือนั่นไว้ทัน

“มึงแน่ใจนะ”

“กูรักมึง”

มันตอบคำนี้ทำเอาผมแทบไปไม่เป็น ไอ้เปาพูดเสียงหนักแน่นแล้วจับมือผมไว้อีกที “เชื่อใจกูนะ”

ผมเงียบไปจ้องตาที่จริงจังของมันแล้วก็ตอบเสียงแผ่ว

“...อื้อ”

ไอ้เปายิ้มรับ มันก้มตัวลงกอดหัวผมไว้แล้วหอมที่หน้าผาก ไอ้เปามันผละออกแล้วเลื่อนมือมาคลึงน้องชายผมผ่านเนื้อผ้าเบาๆ มันดึงกางเกงผมลงทีเดียวพร้อมกับจับน้องชายผมไว้รูดรั้งขึ้นลงเป็นจังหวะเร็วบ้างช้าบ้าง  ให้ผมร้องครางในลำคอจนจะบ้าเมื่อมันจับตรงส่วนที่ไม่มีใครจับมาก่อน ผมยกแขนขึ้นมาปิดตาตัวเองไว้ พอรู้ว่าไอ้เปามันเห็นอะไรไปบ้าง ท่ามกลางเสียงหยาบโลนไอ้เปาหัวเราะในลำคอเบาๆ

“มึงน่ารัก...ใจกูจะพังแล้วนะ”

มันเร่งจังหวะให้ผมครางถี่ สะบัดหน้าไปมากับหมอน มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนลูกโป่งลอยสูงจนติดเพดานและกลัวว่ามันลอยไปนอกหน้าต่างจนหาทางลงไม่ได้

“อย่าพูด..อะ...อื้อ...มาก...อ๊ะ”

“จับของกูสิ” เสียงทุ้มต่ำหลอกล่อผม หลังจากที่ผละไปถอดกางเกงตัวเองแล้วก็ชักนำผมต่อ ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วิ

“ไม่...อ๊ะ”

“ใส่ถุงยางให้กูก็ได้” มันยื่นถุงยางที่วางไว้บนหัวเตียงตอนไหนไม่รู้ว่าให้ผม ไอ้เปาจับแขนผมออกมันสบตากับผมเข้าจังๆ  ก่อนจะเลื่อนมือที่จับมือผมไว้ให้จับน้องชายมัน “อืม..กลาง...แค่มึงจับ กูก็จะทนไม่ไหวแล้วอะ”

ผมหน้าแดง ขยับตัวขึ้นพิงหัวเตียง อุณหภูมิเย็นๆ ในห้องนี้แทบไม่ช่วยอะไรเลยแม้แต่น้อย เหงื่อชื้นตรงข้างขมับ ผมก้มหน้าฉีกซองแล้วยื่นมือสั่นๆ ไปใส่ให้มัน ครั้งแรกที่ผมเห็นของมันและใส่ให้ถุงยางให้มัน อึก...ไอ้เปากัดฟันมองผม น้องชายมันในมือของผมขยายเพิ่มขึ้นอีก ผมถึงกับเบิกตากว้าง

“ไอ้เปา!” ผมเอ็ด จะไหวหรอวะ ผมเนี่ยจะรับมันไหวหรอ

มันไม่พูดพร่ำทำเพลง มันนั่งคุกเข่าและดันตัวผมให้นอนหงายอีกครั้ง สอดแขนมาใต้ข้อพับทั้งสองข้างของผมอย่างรวดเร็ว ท่าทางของผมตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ เพราะสะโพกกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนหน้าขาของไอ้เปา ผมกัดริมฝีปากมองไปด้านข้าง ไม่หันไปมองมันด้วยซ้ำ จะไม่ไหวแล้วนะเว้ย มันน่าอายเกินไป...เนิ่นนานหลายนาทีที่ไอ้เปานิ่งไป ผมจึงค่อยๆ เลื่อนหน้ามามองมันด้วยความสงสัยแล้วผมก็พบว่าไอ้เปาหน้าแดงจัดมองผมอยู่ สายตามันมองไปที่ตรงนั้นของผม จะหุบขาก็ไม่ได้เพราะมันเล่นจับขาผมไว้แน่น ผมเม้มปากกลั้นความอาย ส่วนนั้นของไอ้เปาดีดขึ้นพร้อมรบตลอดเวลาแต่ตัวมันยังคงนิ่ง

“กูเขินว่ะกลาง เริ่มป๊อดแล้วเนี่ยกลัวมึงเจ็บ”  มันพูดพร้อมกับใบหน้าขึ้นสี คิดว่ากูไม่เขินหรอวะ

“ไม่ทำแล้วมั้ย” 

“เฮ้ย! ได้ไง มาขนาดนี้แล้วนะเว้ย” ไอ้เปารีบร้องขึ้นมา เอนตัวลงซบแก้มลงตรงหน้าท้องผม ทุกส่วนของเราแนบชิดกัน ทุกส่วนที่เปลือยเปล่า

“มันจะเข้าไปได้หรอ แล้วมึงจะเจ็บมั้ย แค่เห็นมันก็แข็งขึ้นอีกแล้วอะ ทาเจลแค่ไหนมึงจะไม่เจ็บ...” มันพูดอู้อี้ตรงหน้าท้องผม สัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจของมันที่เต้นแรง

ผมรู้ว่ามันแทบไม่ไหวแล้ว ท่าทางทั้งวันนี้มันคงจะอดกลั้นมานาน ผมวางมือบนผมนุ่มๆ ของมันก่อนจะตัดสินใจพูดเสียงเบาซึ่งตรงข้ามกับเสียงหัวใจที่เต้นถี่อยู่ในอก

“ไม่ต้องคิดว่าจะทำยังไงแล้ว ให้ใจมึงพาไปเถอะ”




และหลังจากนี้ผมคงต้องปิดโคมไฟแล้วล่ะครับ

หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 09-08-2017 20:45:26
.
.
[ยัง...ยังไม่พออีก ไปต่อ...]


ไม่รู้ว่าตอนนี้กี่โมง ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหนรู้ตัวอีกทีผมก็ตื่นมาพร้อมกับไอ้ตัวการที่กำลังนั่งจ้องผมอยู่ตอนนี้แล้วครับ มันหูแดงจนผมคิดว่าหูมันจะมีไอพวยพุ่งเหมือนกาน้ำรึเปล่า แต่ยิ่งมองหน้ามันก็...ตึกตักตึกตัก ใจผมเต้นแรงขึ้นแถมหน้ายังร้อนจนแทบไหม้เพราะแค่เห็นหน้ามันเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็วิ่งเข้ามาในหัวเร็วจี๋ ภาพฉายซ้ำไปมาเหมือนกลัวผมจะลืมทุกเสียง ทุกสัมผัสและทุกการเคลื่อนไหว

“แค่นิ้วเองนะ...”

“เจ็บ...เจ็บ... กูเจ็บ....”

“ไม่ไหวแล้ว อยากเข้าไป จุ๊บ”

“อื้อ...เจ็บบบบบ”

“อย่าร้องนะ...มันเข้าไปแล้ว...กลาง อืม...โคตรดี...”

“ตรงนั้น...อ๊ะ...มัน”

“กลาง อ่า....กลาง”

“ขอขยับนะ จะบ้าตายแล้ว”

“เปา...อ๊า”

“มึงรัดแน่นเกินไปแล้วนะ”

“อะ...อะ...จะ...อ๊ะ..ถึง...”

“ร้องสิ เจ็บก็กัดไหล่กูไว้”

“จับมือกูเร็วเข้า พร้อมกันไหวมั้ย”


เชี่ย....พอ...

หยุดนึกได้แล้ว...

ตึกตักตึกตัก

ผมเหลือบมองไอ้คนที่นั่งนิ่งอยู่ข้างๆ ไอ้เปายังคงเปลือยท่อนบน แสงแดดในตอนนี้กระทบผิวขาวๆ ของมันซะเจิดจ้ายกเว้นตรงหูกับแก้มที่แดงเป็นมะเขือเทศ ผมของมันชี้ไม่เป็นทรงแต่มันไม่สนใจ อะ...นั่นรอยฟันของ...ผมนี่ ผมหน้าร้อนเบือนหน้าหลบตามัน กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พึ่งรู้สึกตัวว่ามันแสบคอขนาดไหน และแน่นอนว่าผมยังไม่ได้ลองขยับ เอ่อ..ช่วงล่างเลย ดูจากเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่แล้วไอ้เปาคงจะเปลี่ยนให้ ให้ตาย ผมกับมันเห็นไปถึงไหนต่อไหน อ่า...ผมเขินชะมัด

“กูขอไม่คุยกับมึงสองชั่วโมงนะ” ผมหันไปมองคนพูดด้วยสีหน้างงๆ อะไรของมันอยู่ๆ ก็พูดขึ้นมา ไม่ทันไรมันก็พูดต่อ “ถ้ากูได้ยินเสียงมึงกูต้องตายแน่ๆ มันยังค้างอยู่ทำไงดีวะเนี่ยยยย”

มันร้องพร้อมกับขยี้หัวตัวเองจนยุ่ง ไอ้เปาเมื่อคืนที่ขอแล้วขออีกหายไปไหนเนี่ย คนที่บอกไม่เคยแต่โคตรชำนาญคนนั้นอะนะ ไอ้คนที่เขินเป็นบ้าเป็นหลังต้องเป็นผมมากกว่านะเว้ย

“ไอ้เด็กบ้านี่ มึงเป็นคนหมกมุ่นหรอวะ” ผมจะลุกขึ้นนั่ง ไอ้เปาเลยช่วยพยุงผมขึ้น พอวางหมอนให้ผมพิงดีแล้วไอ้เปาก็กัดปากล่างมองผมก่อนจะพูดต่อ

“มันเกินฝันจังอะมึงเข้าใจกูมั้ย กู...กับมึง มันเกินมาแล้ว กู...จะบ้าตาย เห็นมึงแล้วกูยังรู้สึกว่ายังไม่พอเลย อย่ามองกูตาแป๋วแบบนั้นเขินว่ะแม่ง” ยิ่งพูดหน้ามันก็ยิ่งแดง เห็นแล้วก็ขำไม่คิดว่าไอ้เปาที่ผมรู้จักจะมีมุมแบบนี้ด้วย แบบที่ทำอะไรไม่ถูกน่ะ

“กูให้ได้แค่จูบ พอมั้ย” ผมถาม ไอ้เปาหน้าเหวอนิดๆ แต่ไม่นานมันก็มีผีเจ้าเล่ห์เข้าสิง

“ไม่พอหรอกแต่กูก็ไม่ปฎิเสธ” พูดจบมันก็เลื่อนหน้ามาจูบผมแบบหนักๆ ทันที ไหนบอกว่าเขินไงวะ

“อืม...อะ...เบาๆ” หน้าอกผมกระเพื่อมอย่างหนักหน่วง

“มึงเรียกชื่อกูหน่อยได้มั้ยกลาง”

“ไอ้นกกระปูด”

“ไม่!” มันร้องเสียงเข้มแต่พอผมเม้มปากมันก็ส่งแววตาขอร้องมาทันที “เรียกหน่อย”

“เปา อือ...มึงจะแรง...ไปแล้วนะ”

มันเลื่อนหน้ามาฝังไว้กับหน้าอกผม รั้งคอเสื้อลงด้วยดูดเม้มทันที “มีแต่รอยกูเต็มไปหมดเลย ของกูหมดเลย”

“ให้แค่จูบนะเว้ย ไหงมือมันเลื้อยขนาดนั้น”

“ไอ้เปา!” ผมโวยวายตีหลังมันไปด้วยแรงไม่แรงนัก “เจ็บนะเว้ย มึงทำแรงมันกระเทือนแล้วเนี่ย” พอพูดแบบนั้นมันก็ได้สติ รีบมาดูผมใหญ่

“ทายามั้ย ทาอีกมั้ย มึงเจ็บนะ”

“เออรู้ตัวก็พอได้แล้ว”

ไอ้เปาอุ้มผมออกมานั่งหน้าโซฟาที่เก็บของเรียบร้อย มันบอกว่าหลังจากเอ่อ...นั่นแหละ มันนอนไม่หลับจะอยู่ในห้องกับผมก็จะทนไม่ไหวเลยออกมาทำความสะอาดดับอารมณ์ฟุ้งซ่าน ผมอยากจะขำให้กับความบ้าบอของมันจริงๆ ไอ้เปากุลีกุจอไปเอาข้าวมื้อแรกของวันกับยามาให้ผม พาผมไปอาบน้ำและแน่นอนว่าผมต้องทำเอง เห็นตัวเองในกระจกแล้วจะบ้าตายที่คนหรือหมาวะเนี่ย ผมใช้เวลาในห้องน้ำค่อนข้างนานจนไอ้เปาที่เดินวนอยู่หน้าห้องน้ำต้องเอ่ยปากเรียก

“กลางให้กูช่วยเถอะ มึงยืนไหวหรอ”

“เงียบไปเลย!”



“ตัวมึงร้อนนะ” ผมถามมันทันทีที่มันทิ้งตัวมานั่งพิงไหล่ผม ทั้งๆ ที่มันไปอาบน้ำมาเมื่อกี้ หลังจากที่มันเข้าไปเก็บซากอารยธรรมให้ห้องนอนและเตียง นกกระปูดก็เกิดร้อนขึ้นมา มันเข้าไปอาบน้ำ และตอนนี้เรานั่งดูรายการเกมโชว์ของเกาหลี พอว่างจากการทำความสะอาดแล้วไอ้เปาติดหนึบกับผมเหมือนปลิง

“อยู่ใกล้มึงก็ร้อนงี้แหละ” มันพูดพร้อมกับยักคิ้ว ผมเลยตบกระหม่อมมันไปทีนึง “แต่เมื่อคืนมึงโคตรน่ารักเลยรู้ตัวป้ะ”

“อะ...เชี่ย อย่าพูดได้มั้ย” ผมจับฮู้ดสีแดงเข้มมาคลุมหัวพร้อมกับปิดหูทั้งสองข้างไว้ ใครปิดแอร์วะทำไมร้อนเนี่ย

“ตอนที่มึงร้องไห้ ขอสารภาพว่ากูไม่สงสารมึงเลยอะ”

“ไอ้เลว”

“เห็นแล้วอยากได้ ได้ยินแล้วก็อยากได้อีก”

ไอ้เปาเกาท้ายทอยเขิน ทำเป็นเขินแต่ที่มึงพูดเนี่ยมันไม่มีความเขินเลยซักนิด ไอ้เปาจับมือผมมาประสานไว้มันมองที่มือแล้วยิ้มเหมือนคนบ้า

ผมเผลอหลับไปอีกครั้ง เพราะความเพลียที่สะสม ไม่อยากจะนอนไม่พอจนต้องเข้าโรงพยาบาลอีก และถ้าครั้งนี้มันไม่ได้เกิดจากการทำงานหนักคงจะอายหมอน่าดู ผมขยับตัวขึ้นก็พบว่าตัวเองนอนยาวเหยียดอยู่บนโซฟา มีผ้าห่มผืนบางคลุมหน้าอก ไอ้เปานั่งพื้นด้านล่างฟุบหน้าลงกับแขนตัวเองตรงโซฟา

ทำไมไม่นอนดีๆ วะ

มือขวามันกำโทรศัพท์ไว้หลวมๆ ผมเลยหยิบออกมาจะเอาวางไว้ดีๆ แต่แจ้งเตือนที่เลื่อนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมเอะใจ ผมเข้ารหัสโทรศัพท์ของไอ้เปาด้วยเลยห้าสี่ตัว มันเด้งเข้าไปที่หน้าไอจีของไอ้เปา ค้างไว้ที่รูปๆ หนึ่ง ผมชะงักแล้วหันไปมองคนที่หลับพร้อมกับส่งเสียงกรนเบาๆ

Paramatkrikri เพลียหนักก็พักบนไหล่ผม 

รูปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ถ่ายจากช่วงปากของไอ้เปา มองลงมาจนมาถึงช่วงไหล่ก็เห็นผมที่นอนพิงอยู่ ผมหน้าที่ปรกลงมาดูยังไงก็รู้ว่าคนในรูปคือใคร ไอ้คนที่ใส่เสื้อแขนยาวมีฮู้ดไม่ใช่ใครที่ไหน

Joyending กรี๊ดดดดดดดดดด หายไปไหนตั้งนานนนน กลับมาอัพแล้วหรอ อยากซบบ้างจังเลย
Vesaroch งื้ออออออ ปากน่าจุ๊บ อย่ายิ้มแบบนี้เขินนนนนนนนนนนนนนนน
JJgreen หายหัวเพราะเฮิร์ตนี่ได้ข่าว รูปนี้คงไม่เฮิร์ตแล้วม้างงงงง @paramatkrikri
Yesbest ทำไรเพลียวะเพื่อน @khonklang
Teletubbieee ไอ้กลางอ่อนแรงเชียว ทำไรอะกิ๊วก๊าววววว
Paramatkrikri เสือกกกกก @teletubbieee @yesbest
Paramatfc โอ๊ยยย ใจชั้นนนน ในที่สุดก็ได้เห็นหน้าคนกอดเปาชัดๆ แล้วค่ะทุกคน จุดพลุ @khonklang @paramatkrikri ร้ากกกก
Bananaboat อะไรกันกูพึ่งตื่น บอกกูด้วย
Auntieann น้องเปาคะพี่ขอพักที่ไหล่บ้างได้มั้ยคะ ช่วงนี้เพลี๊ยเพลียยยยยย
Paramatkrikri ไม่ได้ครับไหล่นี้ของแฟน

ของแฟน

ของแฟน

เท่ากับ

ผม

ผม

คนกลาง

=====================
มันต้องยาวอะไรเบอร์นี้
วันนี้ที่รอคอย
นี่เป็น NC กรุบๆ ของคู่เก้ๆ กังๆ เเละกากๆ 5555
และเปาก็ยังใช้วิชาแอบถ่ายกลางตลอด555555
ขอโทษที่มาช้าค่ะ ไม่ใช่คุณเสมอของเปาแต่สายเสมอ 
รักคนอ่านและขอบคุณที่เข้ามาอ่านและขอบคุณทุกคอมเมนต์เช่นเคย
ตอนหน้าก็จบแล้วเวลาผ่านไปเร็วจริงๆ ค่ะ
ติดแท็ก #คนกลาง ให้คนหน้าบางทั้งคู่
 :L1: :L2: :L2::L2: :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 09-08-2017 21:15:34
ยาวมากกกก โห พอกลับมาสวีทกัน ก็ให้อย่างยาวเลย คนเขียนใจดีจัง
และแล้ว ในที่สุด คนกลางของเราก็... แล้ว  เย้   :m3:
ชอบเพื่อนกล้วยมาก  ๆ พอพูดบ่อย ๆ เราก็คิดจริง ๆ แล้วนะ
ว่าเพื่อนกล้วยจะมีคู่กับเขาบ้าง อยากรู้เหมือนกัน ว่าคนที่ได้กล้วยเป็นแฟนจะเป็นคนยังไง
ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-08-2017 23:10:12
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 09-08-2017 23:30:57
โอ้ยยยยยยยย น่ารักมากกกกกกก น่ารักทั้งคู่ เอ็นซียังน่ารักกกกกกกกกกก เป็นคู่ที่เขินกันตลอดเวลา ฮืออ ใจบางมาก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 09-08-2017 23:45:58
ได้กันแล้ว ? ชะมะ พูด!!!

อ่านไปเขินไป
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-08-2017 23:52:45
อย่างเขินอะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 10-08-2017 00:10:40
เป็นเอ็นซีที่น่ารักที่สุดตั้งแต่ที่เคยอ่านมาเลยอะ
เป็นคู่ที่ขี้เขินกันตลอดเวลา โดนเฉพาะเปา
คือเขินก้เขินแต่ก้อยากไปต่อ แต่ก้เขินหนักมาก55555
โง้ยยยยน่ารักมากก ใจบางไปหมดดด
วันนี้ที่รอคอยของเปาและกลางมาถึงแล้ววว
ขอแสดงความยินดีกับบ่าวสาวด้วยค่ะ
รอค่าาาาา ยาวมากตอนนี้ รักกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-08-2017 05:47:25
เป็นเอ็นซีที่น่ารักที่สุดตั้งแต่ที่เคยอ่านมาเลยอะ
เป็นคู่ที่ขี้เขินกันตลอดเวลา โดนเฉพาะเปา
คือเขินก้เขินแต่ก้อยากไปต่อ แต่ก้เขินหนักมาก55555
โง้ยยยยน่ารักมากก ใจบางไปหมดดด
วันนี้ที่รอคอยของเปาและกลางมาถึงแล้ววว
ขอแสดงความยินดีกับบ่าวสาวด้วยค่ะ
รอค่าาาาา ยาวมากตอนนี้ รักกก

เหมือนใจ  ชอบบบบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 10-08-2017 06:44:07
เราว่ากล้วยต้องวางแผนให้เขาได้กันใช่ป่ะ 555555.
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 10-08-2017 09:46:41
ยาวสะใจเลยยยยยยยมแต่ตอนหน้าจะจบแล้วเหยอออออ งองแง  :o12:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 10-08-2017 10:44:23
มีความน่ารักอ่ะ..  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 10-08-2017 11:39:27
เป็น NC ที่น่ารักมากๆข่าาา
งื้อออออออ ต้องทำให้ชินนะเปา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 10-08-2017 11:55:42
 :o8:  :-[  :impress2: ในที่สุดน้องเปาก็มีวันนี้..... คุณคนกลางน่ารักกกกก... น้องเปาน่าหยิกมากกก  :hao3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 10-08-2017 14:46:52
 :z1: o13 :z1:


 :L2: :3123: :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-08-2017 12:21:24
เป็น nc ที่น่ารักมาก เปาท่าจะคลั่งรักกลางมาก นี่อย่าให้เล็กรู้นะ 5555555555555 เอฟซีกล้วยค่ะ อยากให้กล้วยมีของกล้วยบ้าง 555555555555555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: o4u0n7 ที่ 11-08-2017 14:34:57
 :katai1: ถ้าเล็กรู้ อะไรจะเกิดขึ้น  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-08-2017 21:31:20
จัาาา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 11-08-2017 22:21:08
จ้าๆๆ เจ้านกกระปูดแดง หวานเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์สาววาย ที่ 12-08-2017 12:11:21
ระเบิดตัวฟินนนนนน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 13-08-2017 09:39:27
ในที่สุดชอบเรื่องนี้นะคะ รวมเล่มก็บอกนะคะ ละมุนมากคะเปากลางและผองเพื่อน
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 24 หน้า 20 (09-08-60)
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 17-08-2017 13:05:25
ในที่สุดก็ถึงวันที่รอคอย อิอิ
ยังไม่อยากให้จบเลย คนกลางน่ารักมว้ากกกก เหล่าผองเพื่อนก็น่า..... 5555+
 o13
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 17-08-2017 20:52:37
25
คนกลางแห่งโลกใบนี้

ผมชอบ...ความพอดี

นั่นเป็นวลีที่ผมชอบพูดมากที่สุดรองจากคำว่าเหี้x

นอกจากนั้นอาจจะเป็นคำอื่นๆ ตามแต่สถานการณ์จะพาไป    

โธ่ มันต้องมีบ้างแหละที่จะต้องหลุดคำอุทานที่ใครก็ไม่รู้นิยามว่ามันเป็นคำหยาบ
   
ผมมักหงุดหงิดเสมอ เมื่อมีใครซักคนนึงทำอะไรหลุดกรอบ เป็นต้นว่า แซงคิว หรืออะไรก็ตาม มันจะยากซักแค่ไหนกับการทำตามกฎ ทำอะไรที่ไม่ล้นไม่กว่าคนอื่น อาจจะเป็นเพราะผมเป็นลูกคนกลาง เห็นพี่ชายเรียกร้องน้อยไป มองน้องชายเรียกร้องเยอะเกิน แถมผมยังมีชื่อสุดตรงแด่วว่า “คนกลาง” ผมเลยชอบอยู่ตรงกลางในพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับตัวเอง

ไอ้เพื่อนตัวดีของผมอย่างไอ้โจ๊กมักจะเรียกผมว่าชายกลาง แต่ก็ดีกว่ามันเรียกผมว่ากลางคนล่ะมั้ง มันเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องบอกว่าตั้งแต่ขึ้นมัธยม ผมมีเพื่อนหน้าเหมือนลิงเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว

และตอนนี้คนกลางหรือชายกลางที่ไอ้โจ๊กเรียกก็ได้กลายเป็นไอ้กลาง ไอ้เชี่ยกลาง ไอ้เหี้ยกลาง ของเพื่อนๆ ในแกงค์คนหล่อแห่งศิลปกรรมศาสตร์ สาบานว่าผมอยากตั้งใจเรียนเงียบๆ คนเดียว แต่เพราะคณะนี้ไม่มีใครปกติซักคน คนกลางอย่างผมเลยต้องมาอยู่ในวงโคจรความล้นกับคนล้นๆ ที่บังเอิญมาเจอกันที่นี่

จะว่าไป...มีอยู่คนนึงครับที่ต้องบอกว่ามาเจอกันอีกครั้งมากกว่า...ไอ้เปา ปรมัต หรือน้องชายนกกระปูดแดงของผม ไอ้คนที่ทำให้ผมต้องกลายเป็นคนกลางๆ ที่ชักจะไม่กลางไปซะแล้ว

ถามว่ามันอยู่ไหน...ก็นู่นไงครับ
   
ตึ่ง ตึ่ง โปะ ตึ่ง ตึ่ง โปะ
   
ไอ้คนที่เต้นเป็นบ้าเป็นหลังท่ามกลางกองสันทนาการสินกำอยู่ตรงนู้น
   
ไอ้คนที่แหกปากเสียงดังกว่าชาวบ้าน
   
ไอ้คนที่ทำท่าเซ็กส์เสื่อมน่าอุจาดตาที่สุดคนนั้นน่ะครับ
   
“มัดหมี่ มัดหมี่ ขูดมะพร้าวทำกับข้าวอยู่ครัว มัดหมี่ มัดหมี่ไม่รู้ตัวถูกคนชั่วลากออกไป อะ อะ อ๊ายยย ลากออกไป”
   
“เอาไม้แหย่รู ถูๆ ไถๆ อ๊ายยยย เอาไม้แหย่รูถูๆ ไถๆ ”
   
“แสบๆ คันๆ มันส์ๆ ปนกันไป”    
   
“เดี๋ยวๆๆๆ หยุดก่อน“ ไอ้เปายกมือเบรกกองสันฯ ที่กำลังซ้อมอยู่ทำให้เพื่อนๆ หยุดเต้นด้วยความงงงวยแต่ก็มีหนึ่งคนที่ไม่หยุดตามที่ไอ้เปาบอก
   
“แสบๆ คันๆ มันส์ๆ ปนกันไป เอาออกก็ไม่ได้ใครก็ได้ช่วยเอาออกที๊”
   
ผลัวะ!
   
“ตบกูทำไมเนี่ยเชี่ยทัพ”
   
“เหี้ยกล้วย เต้นมันส์ไม่มองประเทศไทยเลย เพื่อนยืนมองจนเสียวไปหมดแล้วโว้ย”
   
“เอ้า หยุดก็ไม่บอกวะ คนกำลังมันส์”
   
ไอ้เปาท้าวเอวก่อนจะส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ในวันนั้นมันคือเด็กชายปรมัตที่ขี้อาย แต่ในวันนี้มันกลายเป็นหัวหน้ากองสันฯ อย่างเต็มตัวแล้วครับ ส่วนกีวี่ได้ซิ่วไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากผลงานของไอ้เปาในงานสี่เสาแห่งศิลปะทุกคนเลยเรียกร้องให้มันเป็นหัวหน้าแทนครับ
   
“กูว่าตรงนี้พวกสันฯ หญิงต้องกรี๊ดด้วย ให้มีเสียงแทรกเว้ย แบบแสบๆ คันๆ จริงๆ จะได้ดูสนุกมากขึ้น” มันออกความเห็นเพื่อนหลายคนก็พยักหน้า
   
“งั้นตรงนี้กู อีส้ม อีแยม ซาร่าจะกรี๊ดแล้วก็ทำเสียงแบบอีโรติคหน่อย” เพื่อนผู้หญิงที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงตอบก่อนจะก้มไปพับขากางเกงเลที่หลุดลุ่ยจากการเต้น
   
“พูดเหมือนมีประสบการณ์” ไอ้กล้วยแซะครับ
   
“อีเหี้ย กูลูกสาวจ๊ะ คันหูนะเว้ย” ซาร่าร้องทำท่าคันประกอบจนเพื่อนผู้ชายโห่
   
“เออ เอาเต็มที่ กูขอเริ่มใหม่อีกที” ไอ้เปายกมือห้ามก่อนที่เพื่อนจะเถียงกันแล้วมันก็ส่งสัญญาณให้กับการซ้อมอีกครั้ง พอเสียงกลองเริ่มต้น เหล่าคนบ้าที่กำลังจะขึ้นปีสองก็เริ่มโยกย้ายร่างกายเหมือนโดนผีสิงอีกครั้ง หลังจบปีหนึ่งพวกมันคงเอาความแค้นกับการเรียนมาลงที่การเต้นละมั้งครับ
   
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ม้าดดดดดดหมี่ มัดหมี่ขูดมะพร้าว....”

“กลาง มายิ้มอะไรตรงนี้ไม่เข้าไปรอในห้องประชุม”

“อ้าวเพียว ก็ยังไม่ถึงเวลาเลยมานั่งดูอะไรไปเรื่อย ไอ้เปามีซ้อมพอดีเลยออกมาพร้อมมัน”
   
“อ๋ออออ มากับเปา...”
   
“ฮะ..เฮ้ย ทำไมตางั้น”
   
“ก็เปล่าตามันร้อนๆ เนอะ”
   
ผมขมวดคิ้วเอียงหน้ามองเพื่อน “เพียว...ไม่สบายรึเปล่า?”
   
“กลางงง ตาร้อนคืออิจฉาย่ะ”

“อ้าวหรอ”
   
“อิจฉาสุดๆ อะ...”

“มาอิจฉาเราทำไม”
   
“เขาอิจฉากลางกันทั้งประเทศนั่นแหละ ในไอจีหวานเว่อร์ ตอนเดินมาด้วยกันนี่ไม่มีคนมองเลยถามจริงงง”

“ก็ไม่เห็นมีอะไรนะ”

“จ้ะ พ่อคนไม่สนอะไรทั้งสองคน”

ไม่ใช่ว่าผมกับไอ้เปาจะไม่สนโลกนะครับเพราะเราทั้งคู่ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้ชอบโชว์หรือต้องบอกคนอื่นทุกอย่าง เราก็เป็นของเราแบบนี้ แต่อย่าให้พูดถึงตอนที่อยู่กันสองคนในห้องปิดตายนะครับ ไอ้เปาที่สาวๆ หนุ่มๆ กรี๊ดมันก็จะกลายเป็นไอ้เปาที่ผมเห็นได้คนเดียว อย่าอ้วกนะครับ ประโยคเมื่อกี้ไม่ได้เกินจริงแม้แต่น้อย ให้มันเป็นแค่ตอนอยู่กับผมสองคนก็พอ สงสารคนอื่นเขา

“ถามหน่อยดิ เปาเวลาอยู่กับกลางสองคนเนี่ยเป็นยังไงหรอ” เพียวถามราวกับรู้ความคิดผม

“เอ่อ...เวลาที่อยู่กันสองคนหรอ” ผมทำท่าคิดพลางนึกถึงเวลาที่มันอยู่กับผม เสียงโห่ฮายังคงดังมาเข้ามาในโสตประสาทไม่ขาดสาย ผมหันไปมองที่มาของเสียงก่อนจะยิ้มแล้วตอบเพียวอย่างเหม่อลอย
   
“ไอ้เปาก็จะเป็นไอ้เปาเวอร์ชั่นไอ้เปามากๆ เลยน่ะสิ”
   
หน้าไอ้เด็กแก้มย้วยลอยเข้ามาในหัว เวลาอยู่กับผมน่ะนะ...
   
“ให้ตาย ยิ้มละมุนขนาดนี้ไม่รู้จะถามต่อยังไงเลย”
   
“ฮะๆ” ผมลูบหัวแก้เก้อ ไม่รู้จะตอบเพียวว่ายังไงเหมือนกัน
   
“เบื่อคนมีแฟนแล้วมีโค้ดลับเนี่ย ปะ เข้าห้องประชุมกัน” เพียวลุกขึ้นแล้วชวนผมเดินเข้าไปห้องประชุมของคณะ ผมก้มลงมองนาฬิกาก็พบว่าจวนได้เวลาแล้ว อีกไม่กี่เดือนเราก็จะเป็นพี่ปีสองเต็มตัวแล้วก็จะมีกิจกรรมให้ทำอีกมาก ผมเดินตามหลังเพียวมาไม่นานไอ้เจก็เดินมาจากโรงอาหารคณะ ผมกับเพียวเลยหยุดเดินรอมันเดินมาหา
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“คนกลางงงงงงงงงงงงง!”
   
ไม่ทันได้สังเกตว่าเสียงร้องเพลงหยุดไปเมื่อไหร่แต่เสียงรัวกลองพร้อมกับเสียงประสานเรียกชื่อผมดังลั่น เราสามคนชะงักก่อนจะหันไปมอง ไอ้พวกกองสันทนาการที่เต้นล้อมกลองอยู่เมื่อกี้ก็เปลี่ยนเป็นเรียงแถวหันมาทางพวกเราแทนพร้อมกับป้องปากตะโกน บางคนก็กวักมือพยักหน้า การตีกลองแล้วเรียกชื่อแบบนี้คือการส่งข้อความของพวกสันฯ ครับ ไอ้เจกระตุกยิ้มพลางชี้นิ้วมาที่ผม ประมาณว่ามึงเรียกไอ้นี่กันหรอ
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“คนกลางงงงงงงงงงงงง!” พวกกองสันฯ โดยเฉพาะไอ้คอหล่นทั้งหลายแหกปากตะโกนลั่น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงของหัวหน้ากองสันฯ ตะโกนขึ้นมาเดี่ยวๆ ตบท้าย
   
“น่าร้ากอ๊า!”
   
เชี่ย...
   
ผมค้นพบแล้วว่าไอ้เปาหน้าบางเฉพาะเรื่องบนเตียงเท่านั้นแหละครับนอกนั้นด้าน
   
“ฮิ้วววววววววววววววววววววว”
   
ถึงตอนนี้จะปิดเทอมแต่พวกปีสองปีสามที่มาเตรียมงานรับน้องก็เดินกันให้ขวัก จะพูดจาบ้าบออะไรก็อายมั่งเหอะครับพี่
   
ผมรู้สึกว่ามือไม้ตัวเองจะอยู่ผิดที่ผิดทาง แม่งทำตัวไม่ถูกเลย เพียวหัวเราะล้อเลียนผม พวกเราสามคนตรึงเท้าจ้องกองสันฯ ที่โห่ฮิ้วกันอยู่แบบนั้น อะแฮ่ม เป็นผมที่รู้สึกตัวก่อนต้องรีบออกจากสถานการณ์นี้ให้เร็วที่สุด ผมหันหลังกลับพึมพำบอกเพื่อนอีกสองคนให้เดินตาม
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“คนกลางงงงงงงงงงงงง”
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“เป็นกำลังใจให้นะ” ไอ้เปาป้องปากตะโกนยืดแขนสองข้างมาข้างหน้า
   
ผมสบตาไอ้คนที่ส่งมินิฮาร์ทมาให้แวบนึงก่อนจะเดินก้มหน้างุดๆ เดินเข้าห้องประชุมไป ไม่วายยังได้ยินเสียงวี้ดวิ้วตามหลังมา
   

แม่งอากาศโคตรร้อนเลย
   
   



“สับปะรด สับปะรด!”
   
ผมสะดุ้ง จู่ๆ ไอ้เปาที่นอนกอดหมอนอยู่ตรงโซฟาก็ถีบตัวลุกขึ้นพร้อมกับตะโกนลั่น ผมที่ทำกับข้าวในครัวเลยรีบเดินเข้ามาหามัน ตกใจเสียงนึกว่าโดนผีเข้า ดูสิ...ในมือยังถือทัพพีอยู่เลยครับ
   
ไอ้เปาทำหน้ามึนๆ ก่อนจะมองไปรอบๆ นี่ห้องผมเองครับ และไอ้เปาก็ย้ายมาอยู่กับผมแล้วด้วยเพราะลูกตื้อลูกอ้อนของมัน ทิ้งพี่เปลให้อยู่คอนโดคนเดียว เอ แต่บางทีพี่เอิร์นก็มานอนค้างครับ
   
“เฮ้ย เป็นอะไร”
   
“เปล่า ละเมอเพลงสันฯ อะ”
   
ผมส่ายหน้า หลายวันนี้พวกสันฯ ซ้อมกันจริงจังเหมือนจะไปประกวดโอลิมปิกแต่จริงๆ แล้วรุ่นพี่จะมาทดสอบการเต้นสันฯ ของพวกมันเร็วๆ นี้ครับ พอซ้อมเสร็จก็จะนอนตายเพราะปวดเมื่อยกล้ามเนื้อแบบสุดๆ ส่วนผมก็จะนอนตายเพราะมึนประชุมครับ เพราะผมชื่อคนกลางแล้วยังต้องเป็นคนกลางคอยห้ามเวลาพี่ยอร์ชกับไอ้เจเถียงกันเรื่องจัดกิจกรรมผมก็จะบ้าตาย
   
“ท่าจะบ้านะเราอะ” ผมว่าแล้วทำท่าจะเดินกลับเข้าครัว
   
“ท่าจะบ้ารักมึงงายยยยยย” แล้วมันก็แหกปากลั่น นี่ไงครับอาการแรกๆ ของไอ้เปาเวอร์ชั่นไอ้เปา
   
“ไม่สบายหรอ”
   
“เปล่า”
   
“เมาหรอ”
   
“เปล่า”
   
“แล้วเป็นอะไร”
   
“เป็นแฟนมึง”
   
ได้ยินมันตอบถึงกับอยากกุมขมับ ไอ้เด็กเปามองผมแล้วยิ้มกว้าง “มึงนอนไม่พอก็นอนต่อไปเถอะ”
   
“นอนไม่หลับ ถ้าไม่กลับพร้อมเธอ”
   
“อ่านปากของฉันนะ” ผมเล่นด้วย
   
“ว่า...” ถ้าจะบรรยายท่าทางของไอ้เปาตอนนี้ต้องบอกว่าเหมือนหมาหูตั้งหางกระดิก มันกำลังคาดหวังอะไรจากผม
   
“ว่า...เรื่องของมึง”
   
“กลางงงง ไม่น่ารักแล้วมึงอะ” ไอ้เปาร้อง สีหน้าเหวอโคตรๆ ผมกลั้นหัวเราะแล้วตอบกลับไป
   
“ไม่ต้องรักดิงั้น”
   
“รักไปแล้วโว้ย!” มันตะโกนมาทันใด
   
ผมส่ายหน้าอย่างอ่อนใจแล้วเดินเข้าไปในครัว ผมไม่ได้ทำอาหารเก่งอะไรหรอกครับ ทำเป็นไม่กี่อย่างแล้วแต่อารมณ์ว่าวันนี้อยากจะกินอะไร ไอ้เปามันก็ไม่เรื่องมากเท่าไหร่ครับ ถ้าไม่อร่อยมันก็จะบอกว่าคราวหน้าเอาใหม่ คงต้องปรุงแบบนี้ ลดอันนี้ลง ถึงอร่อยไม่อร่อยมันก็กินหมดครับ มันบอกว่ามีคนทำกับข้าวให้กินก็ขอบคุณมากแล้ว จำได้ว่าผมมองมันอึ้งเลยทีเดียว ประทับใจด้วย ส่วนตั้งแต่ที่มันบอกว่าจะเลิกรับงานมันก็ไม่รับงานจริงๆ ไอ้เปาบอกว่าอีกซักพักคงจะกลับไปทำแต่ช่วงนี้ขอพักก่อน มันเลยเต็มที่กับการเป็นหัวหน้ากองสันฯ มากๆ
   
ตอนนี้ผมกำลังต้มยำกุ้งน้ำข้นกับยำผักบุ้งกรอบที่ไอ้เปาบอกอยากกิน ทำทุกอย่างเสร็จแล้วจัดใส่ถ้วย ใส่จาน ปกติจะยกไปกินข้างนอกตรงหน้าทีวีครับแล้วแต่บางวันก็มากินที่โต๊ะเล็กๆ ในครัว นึกขอบคุณพี่ชายตัวเองในใจ ถ้าพี่โตไม่เลือกหอนี้ให้ป่านนี้ผมคงไม่สะดวกสบายแบบนี้หรอกครับ
   
“เปา เสร็จแล้วมายกไปเร็ว” ผมเรียกและมันก็ใช้ความเงียบตอบกลับมา
   
“...”
   
“งอนไรวะ” ผมชะโงกหน้าไปดูก็ยังเห็นนายปรมัตนั่งกอดหมอนอยู่ตรงนั้น
   
“โตแล้วกูไม่งอนหรอก”
   
“ที่เป็นอยู่เนี่ย เขาเรียกว่ามึงยังไม่โต เร็วๆ มายกข้าวไป”
   
“เดี๋ยวนี้นะมึงไม่สนใจกูเลย”
   
“หูววว จริงอะ”
   
“กวนตีนด้วย”
   
“ฮ่าๆ” แกล้งมันก็ตลกดีครับ สุดท้ายไอ้เปาก็เดินมาช่วยยกกับอาหารไปหน้าทีวี ชีวิตประจำวันของผมกับมันก็มีอยู่แค่นี้ ไม่ไปทำงานที่คณะก็กลับมาอยู่ห้อง เล่นเกม อ่านการ์ตูน ดูหนัง นานๆ ทีถึงจะออกไปห้าง ซื้อเสื้อผ้า หรือดูหนังในโรงฯ หรือไม่ก็พวกเดอะแกงค์นัดหาอะไรกินกันข้างนอก บางครั้งพวกมันก็จะหาเรื่องด่าผมกับไอ้เปาว่าไม่ออกมาเจอหน้าเพื่อนฝูง ทำไงได้ครับผมเบื่อการออกไปเจอคนเยอะๆ ผิดคอนเซ็ปต์คนพอดีอย่างผม
   
ตอนนี้ปิดเทอมผมกับไอ้เปาก็มีเตรียมงานรับน้อง เราก็เลยยังอยู่กรุงเทพฯ ต่อ ไม่ยอมกลับบ้าน แกงค์คอหล่นคนหล่อของผมก็เช่นเดียวกัน จริงๆ ที่อยู่หอก็มีแต่ผมกับไอ้ทัพลูกเศรษฐีอีสาน ส่วนไอ้กล้วยกับไอ้เบสก็ไปกลับบ้านเป็นว่าเล่น แล้วเพื่อนรักผมอีกคนน่ะหรอครับ...ไอ้โจ๊กกลับเชียงใหม่ตั้งแต่ปิดเทอมวันแรกแล้วครับ เดี๋ยวนี้ไม่มีรงมีรอกันหรอก รีบไปไหนก็ไม่รู้
   
“กินข้าวดิ นั่งเหม่อไร” ไอ้เปาโบกมือมาตรงหน้าผม
   
“เออๆ”
   
“อยากกินก็กินไม่ใช่นั่งเหม่อเป็นพระเอกเอ็มวี” ก่อนที่ไอ้เปาจะเริ่มบ่นผม ผมก็พยักหน้าลงเบาๆ แอบคิดในใจเงียบๆ ว่าตอนเด็กๆ ผมมักจะเป็นคนบอกให้มันกินข้าวมากกว่าจะให้มันมาเตือนผมแบบนี้ นี่มันชักจะกลับหัวกลับหางซะแล้ว
   
ผมเหลือบมองไอ้เปาที่นั่งก้มหน้ากินข้าวข้างๆ มันตัวสูงขึ้นไม่ตัวเล็กเหมือนแต่ก่อน มีกล้ามเนื้อไม่ผอมแห้ง หน้าตาไม่เอื่อยเฉื่อยแถมยังกล้าแสดงออกสุดๆ ไอ้เด็กติ๋มๆ ไม่สนใจใครในตอนนั้น ดูมันตอนนี้แล้วก้มมองตัวเอง ช่างแตกต่างสิ้นดี
   
“เจาะหูหลายรูแบบนี้เจ็บมั้ย”
   
ไอ้เปาเงยหน้าขึ้นพร้อมกับทำหน้าตางงๆ “อะไรของมึงเนี่ย ข้าวก็ไม่กินมาถามเรื่องหูทำไม”
   
ผมตักข้าวกินไปคำนึงแล้วถามต่อ “อยากรู้”
   
“ไม่เจ็บหรอก”
   
“คิดไงถึงไปเจาะ”
   
“ไม่รู้ดิ ตอนนั้นเหงาๆ” เหตุผลมึงนี่เชื่อได้มั้ยเนี่ย
   
“มึงมาเรียนกรุงเทพฯ แล้วไม่มีเพื่อนเลยหรอวะ” ผมถามขึ้นอย่างสงสัยไอ้เปาไม่เคยพูดถึงเพื่อน หรือชีวิตหลังจากเราไม่เจอกันให้ผมฟังเลยครับ
   
“นี่รายการคนกลางร้อยคำถามหรอครับ” มันว่ายิ้มๆ แล้วรวบช้อนส้อม “อยากรู้ก็กินจานนั้นให้หมด นี่มึงหาเรื่องไม่กินข้าวปะวะเนี่ย”
   
เพราะความอยากรู้ผมเลยรีบกินให้หมด ไอ้เปานั่งรอผมกินเสร็จมันก็เก็บจานชามไปล้างให้ มันเป็นคนแบบนี้แหละครับ ถึงปากจะบ่นแต่อะไรช่วยได้มันจะช่วยโดยไม่ที่ไม่ต้องขอ นอกจากจะแกล้งให้ผมร้องขอเท่านั้นแหละ
   
“ล้างเสร็จยังงงงง” ผมเรียกแต่ก็ยังได้ยินเสียงจานกระทบกันดังตามมา หลังจากกินน้ำ หยิบแอปเปิ้ลมากินล้างปากเสร็จผมก็มานั่งรอไอ้เปาที่โซฟา
   
“ดูหนังไปก่อนไป ล้างอยู่เนี่ย”
   
ไอ้เปาตะโกนกลับมา ผมอมยิ้มแล้วยกมือถือขึ้นมาเช็คข้อมูลข่าวสาร เข้าแอพพลิเคชั่นรูปกล้องสีม่วงๆ ดูรูปกับอ่านพวกที่แท็กมา ไอจีผมแทบจะร้างเพราะไม่เคยอัพรูปอะไรกับเขาเลยตั้งแต่รูปไอ้เปารูปแรกเมื่อตอนนั้นและรูปที่สองที่แอบถ่ายจากในห้องมัน จนตอนนี้มันก็ยังเป็นสองรูปในไอจีของผมที่มีไอ้เปาเกี่ยวข้องด้วย ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย
   
ส่วนไอ้เปาหลังจากที่มันลงรูปผมไปเมื่อวันนั้นคนก็ยังเข้ามาแท็กแซวผมไม่หยุด ผมเลยบอกให้มันอัพรูปอื่นกลบกระแส มันก็ยอมทำตามนะครับอัพรูปที่มันเคยวาดแต่ไม่ใช่สีน้ำที่มันถนัดหรอกแต่เป็นรูปพอร์ตเทรตที่มีหน้าผมเด่นหรา จากนั้นผมก็ห้ามไม่ได้แล้วล่ะครับ คอมเมนต์พุ่งโดยการนำของไอ้กล้วยหอมจอมชง
   
“เสร็จละหรอ” ผมทักหลังจากที่ไอ้เปาทิ้งตัวนั่งที่โซฟา เสื้อยืดมันเปื้อนน้ำเป็นจุดๆ
   
“เสร็จอะไรยังไม่เอาเลย”

“เชี่ยเปา” ผมหน้าแดงวาบตีหลังมันไปทีนึง ไอ้ตัวการก็หัวเราะหึหึ แต่ก็แอบเห็นหูแดงๆ นะครับ เออเอาเข้าไปพูดเองเขินเอง
   
“มาเล่าเลย ลีลาจริงๆ” ผมหันไปมองแล้วจับแก้มมันให้หันมามองผม มันลีลาเอาแต่มองทีวีอยู่ได้
   
“มันก็ไม่มีอะไรอะ” มันตอบหน้าตายเลื่อนนิ้วเปลี่ยนเป็นดูยูทูปแทนช่องรายการปกติ เสียงติ๊ดๆ ตอนกดรีโมทดังแทรกบทสนทนาขึ้นมาเป็นระยะๆ
   
“ไม่มีได้ไง มึงไม่เคยพูดถึงชื่อเพื่อนมึงเลยนะ”
   
“เพื่อนในโรงเรียนมัธยมกูไม่ได้สนิทกับใครมากหรอก”
   
“ทำไมวะ”
   
“โรงเรียนที่กูอยู่มันไม่มีใครสนใจใคร เอาแต่เรียนกัน แถมม.ต้นกูก็ย้ายไปที่นึง ม.ปลายก็ย้ายไปอีกที่นึง คนอื่นๆ ก็สนิทกันหมดแล้ว”
   
“แต่จริงๆ ก็มีคนนึงนะชื่อซิง” ไอ้เปาหยุดคิดไปแป๊บนึงแล้วเล่าต่อ “เราคุยกันถูกคอพักนึงแต่มันย้ายไปเรียนต่อที่อื่นตอนม.5 จากนั้นก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย”      
   
“โธ่ เหงาน่าดูเลยน้องนกของพี่” ผมมองมันด้วยสายตาสงสาร ทำหน้าเศร้าส่งไปให้แล้วเกาคางมันไปทีนึง
   
“หมั่นเขี้ยวโว้ย” ไอ้เปาบิดคางออกจากมือผม มันกัดฟันพูดจนเห็นลักยิ้ม ผมยิ้มขำๆ อย่าไปว่ามันเลยครับผมยังมีไอ้โจ๊กเป็นเพื่อนคนเดียวเลย แต่อย่างน้อยมันต้องมีบ้างล่ะ เดินคนเดียวเหงาแย่เลย
   
ไอ้เปายื่นมือมาล็อคท้ายทอยผม จนผมชะงักเริ่มระแวงในความคิดของมัน ที่ผมระแวงเป็นเพราะว่าตั้งแต่วันนั้นที่เราเอ่อ...แบบนั้นกันไอ้เปาดูเหมือนจะกลายเป็นคนบ้าไปแล้วครับ อยู่กันสองคนเมื่อไหร่มันจะติดหนึบผมเป็นปลาหมึกเชียว    
   
“เฮ้ยๆ ทำอะไร” ไอ้เปายิ้มอย่างมีเลศนัย
   
“สงสารกูใช่มั้ยล่ะ ปลอบใจกูซะสิ” มันใช้มืออีกข้างบีบแก้มผมจนปากจู๋ มือมันใหญ่กว่าผมตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย
   
“อื้อออออ ปล่อยยย” หน้าผมคงจะดูน่าเกลียดสินะ ไอ้เปาถึงหลุดขำแต่ก็ไม่ยอมคลายมือ
   
“มาปลอบใจกันซะดีๆ โคตรเหงาเลยไม่มีเพื่อนเนี่ย” มันกดจูบลงมาที่ปากผมแรงๆ ผมดิ้นไอ้เปาก็กดลงมาอีกครั้ง ย้ำๆ อยู่แบบนั้น
   
Rrrrrrrr Rrrrrrrr
   
“อื้อๆๆ มีคนคอลมา” ผมทุบไหล่ไอ้เปา มันจิ๊ปากแบบหงุดหงิดพลางคลายมือออก พอผมได้อิสระก็เขยิบตัวหาที่มาของเสียงหลบสายตาพิฆาตของไอ้เปาทันที
   
“เล็กคอลมา” ผมบอกพลางเหลือบมองสีหน้าของไอ้เปา รอบตัวมันเหมือนมีรังสีสีเทาๆ แผ่ออกมา ตาคมคู่สวยหรี่มองแล้วกอดอก ผมมองมันหวาดๆ ก่อนจะกดรับสายของน้องชาย
   
พอกดปุ๊บก็เห็นน้องชายตัวโตใส่เสื้อนักเรียนปรากฏขึ้นในจอ ในมือของเล็กยังถือกล่องนมจืดอยู่
   
(กลางงงง รับช้าจัง)
   
“ช้าที่ไหนกัน”
   
(กลางต้องอยู่มอถึงเมื่อไหร่กลับบ้านได้แล้ว) แน่นอนว่าน้องชายผมมักจะถามคำถามนี้ตลอดเวลาที่ผมยังไม่กลับบ้าน
   
“อีกนิดนึง เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้วช่วงนี้พึ่งปิดเทอมเลยประชุมกันบ่อยก่อนแยกย้าย”
   
(แม่บ่นถึงแล้วเนี่ย)
   
“แม่หรือเล็ก” ผมถามอย่างรู้ทันเพราะแม่พึ่งคุยกับผมไปเมื่อวาน
   
(เล็กก็ได้...แล้วกลางทำอะไรอยู่) ไอ้เล็กเปลี่ยนเรื่อง
   
พรึ่บ!
   
ไอ้เปาที่ผมลืมมันไปชั่วขณะขยับตัวเข้ามาชิดแถมยังเอียงแก้มซบหัวไหล่ผมอีกด้วย และ...น้องผมต้องเห็นอย่างแน่นอน   
   
(เฮ้ยพี่เปา ง่วงก็ไปนอนที่อื่นดิวะ ไหล่กลางไม่ใช่หมอนนะโว้ย) น้องชายผมแทบจะปากล่องนมทิ้ง มือที่ถือมือถือสั่นตามแรงโวยวาย เล็กแนบหน้าเข้ากับจอเหมือนมองใกล้แล้วจะเห็นผมกับไอ้เปาชัดงั้นแหละ ไอ้เปาไม่ตอบแต่หลับตาพริ้มกวนตีนน้องชายผม บี้แก้มกับไหล่ผมไปมา
   
“ห๊อมหอม ฟอด!” ไม่ว่าเปล่าซุกจมูกมาที่ซอกคอผมอีกด้วย
   
เชี่ย....
   
(กลาง!!!! ถอยออกห่างเลยนะ! ทำไมกลางนิ่งให้กอดแบบนั้น! กลางโดนเล่นของใช่มั้ย!)
   
ผมเกาหางคิ้วตัวเองอย่างกระอักกระอ่วน นั่นสิ ทำไมผมไม่ขยับเลยซักนิด อาจจะเป็นเพราะว่าน้องชายผมกับไอ้เปาไม่เคยญาติดีกันแม้แต่วินาทีเดียว ตั้งแต่เรื่องคราวก่อนเล็กมันก็ยอมรับไอ้เปานะครับ มันบอกว่าไม่อยากให้ผมร้องไห้อีกแล้ว โถน้องเล็กของผม มารู้ทีหลังว่ามันเคยโทรเคลียร์กับไอ้เปาแล้วขอโทษไอ้เปาด้วย ระยะหลังๆ มาไอ้เล็กถึงยอมเรียกไอ้เปาว่าพี่เปา ถึงว่าพายุฝนซัดกระหน่ำ...
   
แต่เพราะความหวงพี่ของเล็ก ไอ้เปาจึงหมั่นไส้อยู่บ่อยๆ และยิ่งมากขึ้นเมื่อตอนที่ทางบ้านผมรู้แล้วว่าไอ้เปาจะย้ายมาอยู่กับผม ไอ้เล็กโวยวายยิ่งกว่าเมื่อกี้อีกครับ ดีหน่อยที่แม่กลัวว่าผมจะเป็นลมเป็นแล้งแล้วไม่มีใครดูแลขึ้นมาอีกไอ้เล็กเลยจำใจยอมแถมพี่โตยังเข้าข้างไอ้เปาจนออกนอกหน้า เรียกได้ว่าน้องเล็กโดนขัดใจก็คราวนี้เอง แต่ก็แค่นั้นแหละครับ เวลาไอ้เปาเจอกับน้องชายผมเมื่อไหร่ เหตุการณ์กวนบาทากันโดยใช้ผมเป็นเครื่องมือ มันก็จะเกิดขึ้นประมาณนี้แหละครับ
   
“เปามันแกล้งเล่น” ผมว่าแล้วเบี่ยงไหล่ออกจากหัวไอ้เปาแต่มันยังล็อคคอผมแน่น
   
(กลางไม่เห็นหน้าพี่เปาเมื่อกี้หรอ เยอะเย้ยเล็กหรอวะ) อะไรนะ มันไปส่งสายตาให้กันตอนไหน
   
“มากกว่าหอมก็เคยมาแล้ว อยากดูมั้ย” ไอ้เปาคว้าโทรศัพท์จากมือผมไปถือเอง ตอนนี้มันเลยจ้องหน้าไอ้เล็กที่ขบเคี้ยวฟันได้อย่างเต็มสตรีม
   
(อย่าแม้แต่จะคิดนะเว้ยยยยย)
   
“หึ” ไอ้เปายิ้มมุมปากทำเอาคนมองอย่างผมใจกระตุกจนตาพร่า มันยืดตัวขึ้นแล้วจับคางผมไว้ก่อนจะเลื่อนหน้ามาใกล้ๆ ขยับองศาเล็กน้อย
   
(หยุดนะ กลางได้สติเดี๋ยวนี้ อย่าไปหลง กลาง!!!)
   
ขณะที่ปากเราใกล้กันมากขึ้นจนเกือบจะชิด ไอ้เปาก็กระตุกยิ้มไปที่จอ ผมเห็นน้องชายเบิกตากว้าง หน้าแดงสุดขีด
   
“น้องเล็กครับ ขออนุญาตปิดกล้อง นี่เฉพาะสิบแปดบวกนะครับ”
   
(...!!!)
   
ติ๊ด!
   
ไอ้เปากดตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งไว้ด้านหลัง ผมโดนมันเบียดจนเอนหลังติดที่วางแขนโซฟาอีกด้านหนึ่ง ขอโทษน้องชายเมื่อกี้พี่ไร้สติจริงๆ
   
“แกล้งน้องกูได้แล้วก็เขยิบออกไปดิ” ผมดันอกมันออกไอ้เปายังไม่หยุดครับ
   
“ไม่ได้แกล้ง” มันว่าแล้วประกบปากลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับสอดลิ้นเข้ามาโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ใครบอกว่ามันใส ไอ้เปาเนี่ยตัวดีเลยครับ มันผละออกหลังจากที่ผมนิ่งงันแถมยังหอบหายใจแรง
   
“ทำจริงต่างหาก”
   

ท่าขยิบตาตอนท้ายทำให้ใจผมเต้นแรงชะมัด
   
   
.
.
[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 17-08-2017 20:53:23

“เอาล่ะ กิจกรรมเราจะจัดคล้ายๆ ปีที่แล้วนะ เริ่มต้นจากการรับน้องในคณะก่อนตรงนี้ก็จะคงกฎเดิม เสร็จแล้วก็จะมีรับน้องรวม”
   
พี่ซัน ประธานคณะกรรรมการศิลปกรรมศาสตร์กล่าวขึ้นภายในห้องประชุมของคณะ ลายมือเป็นระเบียบของเลขาฯ คณะเขียนชื่อกิจกรรมไว้อย่างเรียบร้อยบนไวท์บอร์ด ผมกับทีมงานคุณภาพของตัวเองก็ต้องมารับฟังเสนอข้อคิดเห็นแล้วไปกระจายให้แก่ลูกทีมของตัวเองอีกทอดนึง
   
“รับน้องรวมเราก็จะเดินไปในเส้นทางที่สโมฯ จัดไว้ให้ซึ่งเหมือนกับปีที่แล้ว น้องๆ ที่อยู่ในกลุ่มจะต้องคิดท่ากันเอง พี่กลุ่มไม่ใช่ว่าเดินนำอย่างเดียวต้องรู้จักกระตุ้นน้องให้ร่วมกิจกรรม ห้ามอาย ห้ามเขิน...”
   
อืม...ปีที่แล้วงั้นหรอ เหมือนผ่านไปเมื่อวานเองครับ
   
วันรับน้องรวมนั้นคือวันที่ผมเจอไอ้เปาครั้งแรก ไม่สิ ไอ้คูก้ารสนมต่างหาก
   
“เอ่อ...หวัดดี” 
   
“หวัดดีโคอาล่ามาร์ช กู คูก้า ต้องทำไรบอกด้วยนะ”
   
“โอเค”
   
“โคอาล่า เต้นแรงๆ หน่อยสิวะ เดี๋ยวก็ได้ทำใหม่หรอก”
   
“หนึ่ง สอง สาม เอ้า จ้ำ จ้ำ จ้ำ ผมพาเธอมา อ้ำ อ้ำ อ้ำ”

   
หึ โคตรอายเลยว่ะ ทำไปได้ไงวะเนี่ย ไอ้เปานั่นแหละตัวดี จะว่าไปนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ออกมาเส้นทางพอดีๆ ของตัวเองด้วยการเต้นบ้าๆ แบบนั้นน่ะครับ
   
“หลังจากนั้นน้องต้องเข้ารับน้องในคณะต่อ ประมาณว่าให้ทำความรู้จักกัน มีการเลือกดาวเดือนเหมือนเดิม ตรงนี้ขอบอกคร่าวๆ เพราะไม่รู้ว่าทางคณบดีจะให้เปลี่ยนจากรับน้องในคณะเป็นเพิ่มการทำกิจกรรมอะไรมั้ยนะ อะ...แล้วจากนั้นก็ให้เลือกประธานชั้นปีเพื่อทำงานเฟรชชี่ของตัวเองโดยจะมีรุ่นพี่ไปให้คำแนะนำ คอยช่วยได้”
   
ประธานชั้นปีหน้าที่ที่ได้มาแบบงงๆ เป็นหน้าที่ที่หนักกว่าประธานห้องอีกครับ ชีวิตผมถึงต้องมาติดแหง็กอยู่ตรงนี้ไงครับทุกคนแต่เพราะการเป็นประธานนี่แหละทำให้ผมได้เรียนรู้การทำงานเยอะมากขึ้น ต้องขอบคุณไอ้เปาคนที่เป็นต้นเหตุล่ะครับ
   
“ทำหน้าไรงั้นวะ”
   
“เพราะมึงเลย”
   
“เบะปากทำเชี่ยไรเนี่ย เออขอโทษๆ...ไม่ต้องคิดมากหรอก เดี๋ยวกูจะเป็นลูกมือมึงทุกงานเลย”
   
“หลอกกูอีกดิ”
   
“หลอกไร พูดจริง นี่คนเมพนะครับ เอาน่า ถือว่าได้ทำอะไรใหม่ๆ เจ๋งดีออก”
   
“เจ๋งกับผีไรล่ะ นี่มันไม่พอดีแล้ว ชีวิตกูเป๋ออกนอกกรอกแล้วโว้ย!!”
   
“ปีนี้เราจะตั้งชื่อในคณะให้น้องเป็นชื่อเกาหลี น้องรหัสใครก็ให้รับผิดชอบตั้งชื่อ กฎเดิมห้ามบอกชื่อจริงจนกว่าจะเข้ากิจกรรมชื่อแรก”
   
จำได้ว่าตอนนั้นไอ้เปาที่เคยไม่ชอบชื่อนกกระปูดแดงกลับพูดชื่อนี้ออกมาให้ผมจำมันได้
   
“เฮ้ย โคอาล่า มานี่แป๊บ”
   
“กูอยากบอกชื่อมึงเป็นคนแรก”
   
“มึงเคยบอกกูแล้วนี่”
   
“หรอ งั้นมึงบอกกูดิ๊มากูชื่อไร”
   
“เอ่อ....”
   
“ไอ้กลางเอ๊ย ไอ้เอ๋อ”
   
“อะไรวะ แค่กูอ่านหลังไม่ออกให้กูเป็นคนเอ๋อเลยหรอวะ”
   
“มึงหยุดโวยวาย ฟังดีๆ”
   
“กูเปาไง จำนกกระปูดแดงไม่ได้หรอไอ้โง่”

   
หลังจากนั้นก็มีอีกหลายเหตุการณ์ที่เราใกล้ชิดกันมาขึ้นแบบไม่รู้ตัว ไอ้เปาที่เปลี่ยนไปจนผมจำไม่ได้ก็มีอะไรมาให้ผมแปลกใจเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะเดินแบบ ถ่ายแบบ ร้องเพลงประกวดดาวเดือนที่ตรึงตาตรึงใจคนไปทั้งมอเพราะความล้นของมัน แถมมันยังดูแลผมเกินเพื่อนทั่วไปอีก ไอ้ความรู้สึกแบบพิเศษมันเลยเกิดขึ้น เพราะแบบนั้นผมจึงชอบมันโดยไม่รู้ตัวล่ะมั้ง
   

“....กลาง”
   
จึก จึก
   
อ่า คิดถึงเรื่องเก่าแล้วมันจะหลุดขำปนเขินๆ ครับ
   
จึก จึก
   
“ไอ้กลาง!”
   
เสียงเรียกผมดังขึ้น ผมถึงรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้ย้อนอดีตอะไรทั้งนั้นแต่กำลังจะท้าวคางฟังท่านประธานอธิบายอยู่ในห้องประชุม
   
เหี้ยยย โชว์เด๋ออะไรวะเนี่ยยยยย
   
“เอ่อ....” สายตาทุกคู่มองผมมาด้วยสีหน้าท่าทางสงสัยแถมบางคนยังหน้าแดงหลบตาผมอีกด้วย
   
“ไอ้คนกลางครับ มึงนั่งยิ้มแล้วหน้าแดงเป็นบ้าอะไร”
   
“ขอโทษครับทุกคน” ผมรวมสติกลับเข้าร่างแล้วก้มหัวขอโทษทุกคน แอบได้ยินเสียงไอ้เจที่สะกิดผมเมื่อกี้หัวเราะคิกๆ
   

“มันไม่ได้เป็นบ้าครับประธาน มันอาจจะคิดถึงผัว...เอ๊ย แฟนอยู่ก็ได้”
   
“เชี่ยเจ!”
   
“อะแฮ่ม ไปคิดถึงแฟนข้างนอกสิบนาทีมั้ยไอ้กลาง มานั่งยิ้มให้คนอื่นหน้าแดงตามหมดแล้วเนี่ย”
   
ผมทำหน้าเหรอหราแล้วส่ายหน้าช้าๆ น่าอายชิบเป๋ง ประธานสะบัดหน้าแล้วเริ่มพูดต่อคราวนี้ผมไม่เหม่อแล้วครับ สัญญาครับทุกคน

   
“อะ วันนี้ประชุมครั้งสุดท้ายแล้วเราจะเจอกันใหม่ก่อนเปิดเทอมสามอาทิตย์เพื่อมาเตรียมงาน นอกเหนือจากนั้นจะติดต่อกันทางไลน์ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ปิดประชุม ขอบคุณทุกคนครับ”
   
เลิกประชุมซะเย็นเลย ผมเก็บของเดินออกมาจากห้องประชุม นัดกับไอ้เปาและแกงค์คอหล่นไว้ครับ เพราะผมประชุมเสร็จก่อนเลยนั่งรอมันโดยหันหน้าไปบริเวณที่ซ้อม ตอนนี้ใกล้เวลาทดสอบกองสันฯ แล้วครับ ไอ้เปาทำหน้าจริงจังมันซักซ้อมกับเพื่อนๆ แล้วเตรียมพร้อมโชว์ให้กับรุ่นพี่ดูการสันฯ ของพวกมัน
   
“ยังไม่กลับ”
   
“รอดูนี่อะ”
   
“รอไอ้เปาก็บอกมาเถ้ออออ” เบื่อสายตาล้อเลียนของไอ้เจเต็มทน
   
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม” ขอยืมคำไอ้เปามาตอบหน่อย
   
“คนกลางน่ารัก” จู่ๆ ไอ้เจที่นั่งลงข้างผมก็พูดขึ้น
   
“อะไรของมึง”
   
“เปล่า กูได้ยินบ่อยๆ แล้วอยากเดินเข้าไปบอก มึงเนี่ยนะ...มันจังไรของแท้เลย”
   
“แมลงวันไม่ค่อยบินมาคุยด้วยหรอถึงมาคุยกับมนุษย์แบบกู”
   
“ตัวร้ายเลยมึงอะ” ไอ้เจหน้าเหวอ มันเสยผมแล้วล้วงมือถือขึ้นมากด ผมกลั้นขำ ไอ้เจเป็นคนที่ผมอยากจะแหย่มันครับ เวลาผมพูดอะไรแบบนี้มันมักจะไปต่อไปไม่ถูก
   
“เริ่มแล้ว”
   
เสียงรัวกลองดังขึ้นเป็นจังหวะ นักศึกษาที่ยังทำงานอยู่ที่คณะหันมามองด้วยความสนใจรวมถึงผมกับไอ้เจด้วย รุ่นพี่กองสันฯ หลายชั้นปีหน้านิ่ง ยืนกอดอกมองพวกมันอยู่บนขั้นบันได
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“สิน กำ สิน กำ เฮ้ เฮ้ วู้วววววววว”
   
“สวัสดี สวัสดีครับแฟนๆ ....”
   
แล้วเพลงสันทนาการที่ผมมักคุ้นก็ดังขึ้น พวกมันเต้นกันสุดเหวี่ยง ผู้หญิงผมเผ้าหลุดไม่สนใจ ผมเห็นไอ้กล้วยไม่มีหอบเลยครับ ท่าทางจะชอบมาก ทุกคนทำเต็มที่กันหมด แต่….
   
“หยุด!”
   
เจ๊โบน่า รุ่นพี่สาวประเภทสองหน้าโหดปีสูงยกมือขึ้น เสียงรัวกลองค่อยตีช้าลงจนเงียบไป “มีแค่นี้หรอ เสียงก็แผ่ว บางคนหน้าไม่ยิ้มเลย มันจะสันฯ ได้จริงหรอวะ”
   
เงียบ
   
ผมนั่งมองด้วยใจระทึก โคตรน่ากลัวเลยครับ ทั่วบริเวณนั้นเงียบสนิท
   
“หัวหน้าคนไหน?”
   
“ผมครับ”
   
แปลกที่ปกติไอ้เปาจะเป็นคนที่ใครๆ ก็มองตาค้างแต่วันนี้รุ่นพี่กลับมองมันตาแข็ง “ได้แค่นี้หรอ รุ่นคุณน่ะ”
   
“ไม่ครับ! เราจะทำใหม่ครับ!”
   
“เชิญ!”
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“สิน! กำ! เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ้ วู้วววววว พวกเราสินกำ”
   
“สวัสดี สวัสดีครับแฟนๆ เป็นหมื่นเป็นแสน...”
   
“เอาใหม่!”
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“โหดว่ะ แต่ละคนหงอยโคตร” ไอ้เจกระซิบ มันลูบแขนหวาดๆ ใจผมตอนนี้ตกไปอยู่ตาตุ่มแล้วครับ สงสารเพื่อนและสงสารคนที่โดนกดดันที่สุด สงสารไอ้เปา
   
“ไม่ได้เรื่อง หัวหน้าไม่สอนหรอว่าท่อนนี้เสียงสูง”
   
“ผมให้คุณรอบสุดท้าย! ถ้ายังไม่ผ่านสันฯ รุ่นนี้ก็ไม่ต้องมี!” พี่ผู้ชายหน้าโหดคนหนึ่งตะโกนมาจากขั้นบันไดขั้นบนสุด เสียงตวาดพี่เขาทำเอาใจผมหล่นวูบ
   
ผมจ้องไอ้เปาตาไม่กะพริบ น้ำตาจะไหลแล้ว ไอ้เปาที่ยืนก้มหน้าอยู่ด้านหน้าสุดลอบถอนหายใจ เสื้อสีดำของมันเปียกแนบเนื้อไปหมด รุ่นพี่ใจร้าย ผมกำสายกระเป๋าแน่น ช่วยอะไรไม่ได้เลย ไอ้เปาหันมามองหน้าผมก่อนที่รอบสุดท้ายจะเริ่มต้น ผมยิ้มให้มัน  หวังว่าเท่านี้ที่จะช่วยมันได้
   
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
   
“สินกำขอบคุณครับ/ค่า”
   
จบลงไปแล้วครับ รอบสุดท้ายโดยที่พวกพี่ๆ ไม่ยกมือห้าม ผม ไอ้เจกับเพื่อนคณะกรรมการสองสามคนที่เดินออกมาดูด้วยมองไปยังกองสันฯ อย่างลุ้นๆ ผมหายใจไม่ทั่วท้องไม่รู้ว่าคนในวงล้อมอย่างไอ้เปาจะรู้สึกยิ่งกว่านี้มั้ย
   
เจ๊โบน่าเอามือไขว้หลังแล้วเดินลงมาตรงหน้าไอ้เปาที่หอบแฮ่กๆ ทุกคนสายตาจ้องมองมาแล้วเงียบกันหมดทั่วบริเวณ จนกระทั่งเจ๊โบน่าเอาผ้าเย็นที่ซ่อนไว้ข้างหลังมาเช็ดเหงื่อให้ไอ้เปาท่ามกลางความงงของทุกคน
   
“ผ่านตั้งแต่รอบแรกแล้วค่า น้องเปาเหงื่อหยดแล้วเซ็กซี่เว่อรรรรรรรรรรร์”

“เฮ้!!!!!! เย้!!!!! วู้ว!!!!!”

“เก็บความรู้สึกนี้ไว้แล้วไปทำเต็มที่ในทุกกิจกรรมนะพวกแก”
   
ไอ้เจส่งเสียงเยสอยู่ข้างหลังพลางแท็กมือกับเพื่อนที่มายืนดูด้วย ผมยิ้มออกมาอย่างโล่งใจและยินดี ไอ้เปาเบิกตากว้างให้เจ๊โบน่าเช็ดเหงื่ออย่างอึ้งก่อนจะทรุดลงนั่งพร้อมกับยกมือกุมหน้าตัวเองไว้ เจ๊โบน่าหัวเราะแล้วก้มลงไปกอดมันทันที
   
“อย่าร้อง! อย่าร้อง! อย่าร้อง!”

พวกพี่ๆ เพื่อนๆ ตะโกนกันใหญ่ เอ็นดูไอ้เปาที่คงจะกดดันมาก พี่แม็คตำแหน่งกลองวิ่งเข้ามาแย่งไม้กลองแล้วตีรัว ทุกคนต่างวิ่งเข้ามาสันฯ พร้อมกัน เพื่อนๆ ผมและคนที่ทนเสียงกลองกับเพลงสันฯ สนุกๆ ไม่ได้วิ่งเข้ามาแจมกันหมด รวมไปถึงไอ้เจที่วางกระเป๋าลากมือผมเข้าไปในวงด้วย
   
“มีตารอบตัว วู้วววววววววววววว รอบตัวรอบตัว มีตัวลายตา วู้ววววววววว ลายตาลายตา ฮูลาฮูลา สับปะรดๆ”
   
“เปรี้ยวมั้ยยยยยยยยยยยย...”
   
“เปรี้ยววววววววววววววววว”
   
“เปรี้ยวต้องทำยังไง...”
   
“กรี๊ดดดดด วู้วววว”
   
“เปรี้ยวก็จิ้มเกลือ หวานก็จิ้มเกลือ เปรี้ยวก็จิ้มเกลือ หวานก็จิ้มเกลือ ถ้าไม่มีเกลือ ก็ไม่ต้องจิ้ม สับปะรด สับปะรด”
   
ผมเข้าในวงงงๆ มองไอ้เปาที่ปาดน้ำตา ปาดเหงื่อลุกขึ้นมาเต้นเพราะพี่ๆ เข้าไปหิ้วปีกมันมาเต้นด้วย ไอ้กล้วย ไอ้ทัพ กับไอ้เบสจับข้อมือผมดันเข้าไปเต้นกับไอ้เปา พวกเราเต้นเพลงสนุกๆ กันหลายเพลง ผมลืมไปหมดแล้วนะเต้นอะไรแบบนี้น่ะ แต่เห็นไอ้เปาหัวเราะพร้อมกับตาแดงๆ ก็ดีใจแล้วครับ
   
“เย้ วู้ววววววว ดีมากค่ะน้องๆๆ กรี๊ดดดดดด”
   
“มาพวกเราถ่ายรูปกัน!”
   
พี่ยอร์ชวิ่งถือกล้องออกมา ปลายผมมีเหงื่อเล็กน้อยอย่าบอกนะว่าแอบไปเต้นในห้องคณะกรรมการฯ ไม่รอช้าพอทุกคนได้ยินคำว่ากล้องก็ส่งเสียงเชียร์กันใหญ่ เข้ามารวมกลุ่มกันหมดเบียดกันจนวงเซไปเซมา ผมโดนเบียดเข้ามายืนใกล้ไอ้เปา
   
“มึงเก่งมากเลย” ผมพูดท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนานในตอนนี้
   
“กูอายว่ะ ร้องไห้ต่อหน้าทุกคน” ไอ้เปากระซิบ ผมเลยยกมือไปเช็ดคราบน้ำตาตรงหางตามัน สงสารน้องนกกระปูดจริงๆ
   
“ร้องไห้น่าร๊ากกกกก” ผมยิ้มกว้าง ภูมิใจในตัวมันจริงๆ นะครับ ไอ้เปาชะงักไปนิดหน่อยกอดจะยกมือมากอดคอผมแล้วเอียงหัวซบอีกที
   
“อย่ามัวสวีทกันครับสองผัวเมีย พี่ยอร์ชจะนับแล้ว วู้ววววววว” ไอ้กล้วยที่อารมณ์ตกค้างชะโงกหน้ามาด่าผมท่ามกลางเสียงหัวเราะของไอ้ทัพและไอ้เบส
   
“เอ้า ยิ้มมมมมมมมม จะกดแล้วนะ หนึ่ง สอง สาม”
   
แชะ!!!!
   
จะเก็บไว้เป็นความทรงจำครับ

   

“พวกมึงๆๆๆ โอ้โหดูสองคนผัวเมียคู่นี้ ถ่ายรูปรวมนะครับคุณณณณ กอดคอซบหัวกันในภาพหมู่นี่ได้อ่อ ด้ายอ่อออออออออออออออ” ไอ้กล้วยซูมรูปที่รุ่นพี่แท็กเข้ามาในเฟซบุ๊กครับ ผมกับไอ้เปาที่อยู่ตรงกลางทำท่าทางจากคนอื่นก็ไม่รอดพ้นสายตาเหยี่ยวของไอ้คล้วยหรอก แถมมีคนซูมแล้วแคปรูปไว้ข้างล่างคอมเมนต์ด้วย
   
“ได้ไม่ได้ก็ได้แล้วอะ” ไอ้เปาตอบพร้อมกับหยิบจานซูชิจากสายพาน ผมแทบสำลัก ตอนนี้เวลาเกือบสองทุ่มพวกผมและเดอะแกงค์มาฉลองความกดดันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นครับ
   
“กริ๊ววววววววววว ได้ไรง่ะ” ไอ้กล้วยทำท่าแบ๊ว ใช้นิ้วชี้จิ้มกันไปมาเหมือนสาวญี่ปุ่นในยุคดึกดำบรรพ์
   
“ต้องเสือกเรื่องชาวบ้านขนาดนี้เชียวนะครับเพื่อน” ไอ้ทัพตบหัวไอ้กล้วยไปหนึ่งที
   
“เห็นโลกสีม่วงก็ชื่นใจแทนลูกรักของพ่อ” ไอ้เบสคว้าหัวผมไปซบไหล่มัน ไอ้เปามองตาเขียวก่อนที่ไอ้เบสจะรีบปล่อยเหมือนโดนของร้อน
   
“แต่วันนี้รุ่นพี่ใจร้าย” ผมพูดขึ้นเมื่อนึกถึงเมื่อเย็นที่ผ่านมา บนโต๊ะเงียบกริบ พวกมันจ้องมาทางผมกันหมด 
   
“โอ๋ๆๆๆ ทำหน้างี้จะร้องไห้แทนพวกกูหรอ”
   
“แควนมึงน่ารักอะไอ้เปา”
   
“ไอ้สัด!”
   
“สองปั๋วเมียขี้แย”
   
“ก็กูเห็นพวกมึงทำดีแล้วอะ” ผมบอกก่อนที่มันจะล้อผมไปมากกว่านี้
   
“โถถถถถถถถถถ เพื่อนน่ารักงี้ไอ้เปารัดตายเลย”
   
“รักก็พอเพื่อนกล้วย รัดนั่นให้มึงไปรัดคนอื่นเถอะ”
   
ไอ้เปาใช้ตะเกียบคีบซูชิยัดเข้าปากไอ้กล้วย ผมแอบเห็นว่ามีวาซาบิก้อนสีเขียวเหมือนยาสีฟันแปะอยู่ด้านบน
   
“โทษๆๆ แซวนิด...อะแค่กๆๆๆๆ อ่อกๆ น้ำ น้ำ ไอ้เหี้ยเปา มึง แอ่กๆๆ จะ อะ...ฆ่า กูหรอ โอ๊ยยยย”
   
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” นอกจากไอ้กล้วยจะใกล้ตายแล้วไอ้ทัพที่นั่งใกล้มันสุดกลับทำตัวเชื่องช้าไม่ส่งน้ำให้มัน ใครมาอยู่ตรงนี้ต้องฮากันหมดแหละครับ ตอนมันแลบลิ้นออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลพรากโคตรฮา แน่นอนว่าไอ้เบสมือคลิปได้ถ่ายไว้เรียบร้อย
   
ไอ้เปาตีมือกับไอ้เบสดังลั่นพร้อมกับหัวเราะไอ้กล้วยที่ตอนนี้กลายเป็นกล้วยสุกแล้วครับ ผมมองแล้วขำน้อยๆ ขำเยอะไม่ได้เดี๋ยวโดนแกล้ง เล่นกันได้ไม่นานก็เริ่มสวาปามอย่างจริงจัง ผมกับไอ้เปานั่งตรงข้ามกันแล้วชิดสายพานสุด จานไหนใครชอบไอ้เปาไม่หยิบให้หรอกครับ มันเขมือบหมด ผมต้องคอยเป็นเบ๊ให้พวกมันใช้ จนไอ้เปาทนไม่ไหวป้อนผมแทนพอเห็นว่าผมเอาแต่หยิบให้เพื่อน
   
“กูดีใจที่เป็นเพื่อนพวกมึงนะ”
   
 เสียงล้งเล้งที่ดังอยู่เงียบลงอีกครั้ง ไอ้เปาเลิกคิ้วมองผมอย่างแปลกใจ
   
“ดราม่าไรไอ้กลาง” ไอ้กล้วยถาม
   
“เปล่า ก็แค่อยากบอก”
   
“แหนะๆๆๆ พวกผมนี่ลิมิตุ๊ด อิดิทชั่นนะครับ หาไม่ได้อีกแล้วดีใจไว้ถูกแล้วเพื่อนนน” ไอ้กล้วยตบอกตัวเองดังปั่กๆ
   
“น้องคนกลางดีใจ พวกเราก็ดีใจนะครับผม กริ๊ววววว” ไอ้ทัพลุกขึ้นยื่นมือมาเขี่ยคางผมเล่น พวกมันเริ่มล้อผมแทนแล้วครับ ผมเลยก้มหน้าซดซุปมิโสะแทน
   
“ดีใจที่เป็นเพื่อนพวกกูใช่มั้ย” ไอ้เบสถามยิ้มๆ
   
“อือ”
   
ซุปมิโสะยังอร่อยเหมือนเดิมเลย
   
“ดีใจที่ได้ไอ้เปาเป็นแฟนด้วยเปล่า”
   
“เออ”
   
“ฮิ้ววววววววววววว”
   
“ไอ้เปายิ้มเลยเว้ยเฮ้ยยยย”
   
เชี่ย.....
   
นี่ผมต้องเสียรู้พวกมันไปอีกนานเท่าไหร่วะเนี่ยยยยย

   
.
.
[ต่อด้านล่างอีกนิดค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 17-08-2017 20:53:46
หลังจากนั่งรถไปส่งเพื่อนเดอะแกงค์เสร็จ ผมกับไอ้เปาก็กลับหอครับ แต่ทางเลี้ยวข้างหน้าก็จะถึงหอแล้วแต่ไอ้เปากลับตรงไปอีก
   
“ไปไหน” ผมถามขึ้นพอเห็นว่ามันขับรถไปยิ้มไปด้วย อย่าบอกนะว่าเต้นจนเพี้ยนจำทางกลับหอไม่ได้
   
“มึงคิดว่ากูบ้าหรอ”
   
“เฮ้ย...รู้ได้ไง” ผมตาโต
   
มันยื่นมือมาผลักหัวผมก่อนจะตอบ “หน้ามึงฟ้องอะกลาง”
   
ผมมองข้างทางมันเริ่มขับออกนอกเส้นทางไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ไกลจากมอมากนัก
   
“แล้วมึงจะไปไหนเนี่ย”
   
“พามึงมาเดินตลาด”
   
“ไม่เมื่อยหรอมึงเต้นมาทั้งวันแล้วนะ”   
   
“เอาน่า...” มันบอกปัดแล้ววางมือหนักๆ ไว้บนหัวผมพร้อมกับขยี้เบาๆ แรงเยอะจริ๊งจริงงงง ตอนเด็กเดินนิดหน่อยขี้เกียจจะตายมันน่ะ
   
ที่ๆ ไอ้เปาพามาก็คือตลาดที่เคยมากับผมเมื่อหลายเดือนก่อนก่อนที่เราจะคบกัน หลังจากจอดรถเสร็จเราเดินเลี้ยวตามซอยต่างๆ ของตลาดกลางคืนซื้อของกินติดไม้ติดมือนิดหน่อย ที่กินซูชิไปมันเล็กน้อยครับไม่ถึงครึ่งกระเพาะ ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าสีเข้ม บรรยากาศเดิมๆ กลับมาอีกครั้ง แม้ว่าวันนี้มันไม่ได้แต่งตัวดูดีอะไรมากมายแต่เพราะเป็นไอ้เปาคนเดิม บรรยากาศมันก็ยังเหมือนเดิมสำหรับผม
   
“รอตรงนี้แป๊บนึง” ไอ้เปาบอกผมพร้อมกับเดินหายเข้าไปในร้านซีดีที่เปิดเพลงดังอยู่ไม่ไกล ผมมองของกินข้างทางแล้วอยากจะซื้อเพิ่ม ทั้งๆ ที่เป็นของธรรมดาพอเห็นแล้วก็หิวอีกจนได้
   
“ก๋วยจั๊บญวนอีกมั้ย” ผมถามตอนที่มันเดินกลับมาแล้ว ไอ้เปาส่ายหน้าเบาๆ ก่อนหันมามองยิ้มๆ เป็นอันว่ารู้กันสองคน
   
“กินเหมือนเดิมไม่เบื่อบ้างหรอ”
   
“ไม่เบื่อ เจอหน้ามึงทุกวันยังไม่เบื่อเลย”
   
“กูต้องเขินมั้ยเนี่ย” มันหัวเราะก่อนจะเดินนำผมไปที่สะพานไม้อาจจะเป็นเพราะดึกแล้วคนเลยไม่ค่อยเดินมาทางสะพานไม้นี้เท่าไหร่
   
สะพานไม้ในวันนี้ไม่ได้ต่างจากครั้งก่อนที่มา ยังคงมีแสงไฟกะพริบระยิบระยับเหมือนเดิม สะพานไม้สีเข้มยังดูสวยสำหรับผมยิ่งอยู่กับไอ้เปาแบบนี้ยิ่งสวยไปใหญ่ ไอ้เปาเดินไปที่กลางสะพาน มันยืนมองน้ำที่ตอนนี้กลายเป็นสีดำเพราะความมืด ผมไม่สามารถละสายตาจากภาพตรงหน้าได้เลย
   
“มานี่สิ” พอเห็นผมยืนนิ่ง มันเลยกวักมือเรียกผมขึ้นไปก่อนมองลงไปที่แม่น้ำเล็กๆ อีกครั้ง ผมเลยมองตามไปด้วย
   
“เห็นหมาน้อยป้ะ” ไอ้เปาถาม
   
“ไม่เห็นมีหมาเลยมีแต่...” เอ๊ะ “ไอ้เปานี่หลอกด่ากูหรอ”
   
“หลอกเล่นน่า”
   
ผมไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง รู้สึกดีที่วันนี้ผมได้ย้อนความทรงจำมากมายแม้จะผ่านไปไม่นานแต่ทุกเรื่องราวล้วนมีความหมายสำหรับผม
   
“คิดไงพามาเนี่ย”
   
“พามาระลึกความหลัง”
   
“อย่างกับคนแก่แหนะ” ผมพูดขำๆ แต่คนที่ยืนอยู่ข้างๆ กลับพูดด้วยเสียงจริงจัง
   
“กูนะ...” มันหันมาสบตาผม สองมือท้าวกับขอบสะพาน “ตั้งแต่เจอมึงอีกครั้งก็คิดตลอดว่าจะใช้ชีวิตให้คุ้มค่าในทุกๆ วัน จะได้ไม่เสียใจที่ไม่ได้ทำ”
   
“....” ผมมองมันอย่างแปลกใจ หัวใจเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้ ไอ้เปายืดตัวขึ้นหันมาหาผมทั้งตัว ตอนนี้เราทั้งคู่ยืนจ้องหน้ากันอยู่ท่ามกลางแสงไฟเล็กที่กะพริบเป็นจังหวะ
   
“ถ้ากูยอมแพ้ตั้งแต่แรกเราคงไม่ได้เจอกันอีกครั้งหรอกใช่มั้ย” มันจับมือผมทั้งสองข้าง แววตาของมันสะท้อนแสงไฟเหมือนดาวดวงเล็กๆ มันสว่าง สุกใส และมีความรู้สึกเป็นหมื่นล้านความรู้สึกอยู่ในนั้น
   
“กูคิดเสมอว่ากูมันขี้ขลาด แต่มีเรื่องนึงเว้ยที่กูกล้าหาญจนแทบไม่เชื่อตัวเองเลย จนถึงวันนี้กูยังรู้สึกขอบคุณตัวเองในตอนนั้นมากๆ” ถึงตรงนี้มันอมยิ้ม ผมที่มองหน้ามันอยู่เผลอยิ้มตามไปกับมันจนได้
   
“มึงอยากรู้มั้ยเรื่องอะไร...”
   
“อยากรู้”    
   
“ถ้าอยากรู้มึงฟังเพลงนี้สิ”
   
เป็นเวลาเดียวกันกับที่เสียงเพลงจากร้านซีดีดังขึ้น และแค่ได้ยินเสียงดนตรีขึ้นต้น ผมก็นึกเรื่องราวในวันนั้นได้เป็นฉากๆ เหมือนกับพึ่งเกิดขึ้นไม่นาน วันที่มันสารภาพกับผม...

กดฟังเป็นกำลังใจให้เปาด้วยค่ะ
https://www.youtube.com/embed/lFD2eid8Ugw

“อยากขยับเข้าไปใกล้เธอ
อยากรู้จักตั้งแต่ได้เจอ
ใจฉันสั่นเมื่อได้ยินเสียงเธอ
ตั้งแต่วันแรกเจอ
ก็เผลอเอาไปคิดละเมอ

พอรู้จักก็อยากจะทักทาย
แต่พอไม่เจอแล้วใจก็วุ่นวาย
เธอหายไปก็ห่วงเธอแทบตาย
จะเป็นเช่นไร ตรงนั้นมีใครดูแลอยู่หรือไม่ ก็ไม่รู้

เกือบลืมหายใจเมื่อเธอเข้ามาใกล้ๆ
แค่เธอยิ้มมา ก็สั่นไปทั้งหัวใจ
อยากจะบอกเธอให้ได้รับรู้ความในใจ”

“ถ้ากูไม่ตัดสินใจบอกมึงในวันนั้น เราคงเป็นเพื่อนกันไปเรื่อยๆ กูก็คงแอบชอบมึงไปเรื่อยๆ ได้แต่คิดไปวันๆ ว่าแรงบันดาลใจของกูจะมองกูอย่างที่กูมองมึงมั้ยนะ...”

“แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่
ก็ยังไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร
ถ้าบอกคำนั้นแล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่
ถ้าเป็นแบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป

ดีพอแล้วที่ได้มีเธออยู่ใกล้ๆ
ได้ยินเสียงได้คอยดูแลอยู่ไม่ไกล
จะซ่อนความลับเอาไว้ในหัวใจ
มากเพียงไหนฉันจะไม่ยอมพูดไป

อยากจะบอกให้เธอได้รู้ใจ
ที่จริง ก็อยากจะบอกคำนั้นไป
แต่กลัวเหลือเกินว่าจะต้องเสียใจ
หากเธอรับไม่ได้ เธอคงไม่ยอมให้อภัย กับคำนั้น

อึดอัดเหลือเกิน ต้องเก็บเอาไว้ข้างใน
อึดอัดหัวใจ แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดไป
กลัวว่าจะต้องเสียใจ”


ไอ้เปากอดผมทั้งตัวพร้อมกับกระซิบบอก
   
“มึงเป็นคนที่ทำให้กูยืนตรงนี้ได้นะกลาง ที่กูอยู่ตรงหน้ามึงตอนนี้ก็เป็นเพราะมึง มึงมีค่าที่สุดสำหรับกูนะเว้ย”
   
ผมซึมซับทุกความรู้สึกไว้ในใจ ตื้นตันจนพูดอะไรไม่ออก ผมนึกถึงทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามา เริ่มตั้งแต่เจอมันที่เป็นเด็กชายปรมัตจนถึงตอนนี้
   
“ขอบคุณนะ”
   
ผมกอดตอบแทนคำพูดทั้งหมด

“แต่บอกตอนนี้ไม่รู้จะเร็วไปหรือไม่ ไม่ ไม่ ไม่
ก็ยัง ยัง ยัง ยัง ไม่รู้ว่าเธอคิดเช่นไร
ถ้าบอกคำนั้น นะ นั้น แล้วเธอตอบมาว่าไม่ใช่ ใช่ ใช่
ถ้าเป็นบะ บะ แบบนี้เธอคงจะเดินหนีไป ไป ไป ไป”
   

“โทษทีไอ้น้อง! แผ่นมันเก่าแล้ว! เป็นไรของมันวะเนี่ยขอเช็คก่อนนะ!”
   
จู่ๆ เพลงบอกรักของไอ้เปาก็แผ่นสะดุดซะงั้น เราสองคนผละออกจากกันก่อนจะหันไปมองหน้าพี่เจ้าของร้านที่ตะโกนมาแล้วส่ายหน้าอย่างหัวเสีย เราหัวเราะออกมาพร้อมกัน บรรยากาศหวานซึ้งเมื่อกี้ชะงักกลายเป็นเสียงหัวเราะแทน ไอ้เปายกมือลูบท้ายทอยแก้เก้อก่อนจะหันไปโบกมือให้เจ้าของร้านขายซีดีเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร แล้วมันก็จูงมือผมเดินลงมาจากสะพานไม้ช้าๆ ผมหลุดขำที่ไอ้เปาหน้าแก้มแดงเพราะเนียนไปทำเซอร์ไพร์สแต่ดันล่มเพราะแผ่นเก่าซะงั้น
   
“จบเลย” มันบ่นแต่มุมปากก็ยังเปื้อนยิ้มเขินๆ
   
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไร...กูชอบนะ” ผมพูดแล้วก็รู้สึกถึงแรงกระชับที่มือ ไอ้เปายิ้มกว้าง และระหว่างที่เราเดินห่างออกมาจากสะพาน ท่อนสุดท้ายของเพลงก็ดังขึ้นพอดี

“จะบอกว่ารักให้เธอได้ยินใกล้ๆ
บอกความรักเธอได้ยินหรือไม่
ถ้ายังไม่ชัดฟังอีกครั้งก็ได้
ได้ยินไหมว่ารักเธอทั้งหัวใจ”

เราหันมายิ้มให้กัน วันนี้เป็นวันที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีสำหรับผม และต่อจากนี้ ผมกับไอ้เปาจะสร้างความทรงจำดีๆ แบบนี้ไปทุกวันครับ



Khonklang first posts in a while
Same place, Different time with my @paramatkrikri



------------ THE END ------------

17.08.2017
เปา x คนกลาง ผองเพื่อนและครอบครัว
เนื่องในโอกาสคนกลางตอนสุดท้าย
ตอนที่ตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าบังเอิญมากๆ
จริงๆ เคยเขียนนิยายเมื่อหลายปีก่อนแต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างก็ได้เลิกเขียนไปพักนึง
เลยได้เเต่เป็นสายอ่านอย่างเดียว
จนเมื่อเดินเมษาที่ผ่านมาเครียดงานจบมาก
และคืนหนึ่งก็ได้ฝันถึงเพื่อนเก่าคนนึงที่เป็นต้นแบบของเปาในวัยเด็ก
แบบจู่ๆ ก็ฝันเพื่อนคนนี้ไม่ได้เจอกันเป็นสิบปีกว่าแล้ว
แล้วน้องกลางก็เกิดขึ้นหลังจากนั้น
ชื่อเรื่องคนกลางอันที่จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะตั้งว่าคนกลาง ออกแนวหลอนๆ นะ555
แต่เพราะอยากให้มีคนแบบคนกลางก็เลยให้ชื่อกลางซะเลย
มาตีแผ่ชีวิตน้องในช่วงนึงของชีวิต
แรกๆ ตั้งใจว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ฟีลกู้ดสุดๆ เรื่องแรก เขียนไปเขียนมา
มันมีดราม่าเว้ย ได้ไงหรือจิตใจเรากำลังโหยหาดราม่าในชีวิต
มันเป็นดราม่าที่พัดเป็นพายุไซโคลน
จะบ้า ตอนนั้นตกใจและลุ้นอ่านคอมเมนท์ด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ
เขียนเสร็จ อ่านแล้วอ่านอีก นี่คนกลางต้องเจออะไรแบบนี้จริงๆ หรอ(วะ)
ตอนที่ลงไม่ได้คิดว่าจะมีคนอ่านมากอ่านน้อย เพราะเราคิดว่าอยากแชร์ ไม่อยากเก็บไว้คนเดียว
ซึ่งเป็นความคิดที่ดีมากเพราะตอนลงนิยายหายเครียดจากการทำงานเฉยเลย5555
จากนั้นก็เริ่มสนุกกับการเขียนมากขึ้นเรื่อยๆ
ต้องขอบคุณนักอ่านทุกคนไม่ว่าจะคลิกเข้ามาดู เข้ามาอ่าน และเข้ามาแสดงความคิดเห็น
เข้าใจคำว่ากำลังใจสำคัญของคนเขียนก็คือคนอ่านจริงๆ เลย
ไม่ได้ตอบทุกคอมเมนท์แต่ต้องขอบคุณทุกคนจากใจจริง
จริงๆ จากหัวใจเลยค่ะ
ขอบคุณเพลงไม่บอกเธอที่เป็นเเรงบันดาลใจให้เปาด้วยค่ะ

ฝากติดตามผลงานเรื่องต่อไปเร็วๆ นี้ด้วยนะคะ
ช่วงนี้คิดว่ายังคงเน้นสายฮีลอย่างต่อเนื่อง
สายฮาจงมา เพื่อเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่มีเรื่องราวเหนื่อยใจ

เรื่องการรวมเล่มคนกลาง คงต้องรอซักพักใหญ่ๆ
ถ้าหากว่ามีการอัพเดตเมื่อไหร่จะมาแจ้งให้ทราบโดยด่วนเลยค่ะ
ได้โปรดสนับสนุนด้วยนะคะ คาราวะด้วยน้ำชา
เจอกันในตอนพิเศษค่ะ

คิดถึงกันก็แวะมาทักทายกันได้ที่นี่ หรือทวิตเตอร์ Jaevin หรือติดแท็ก #คนกลาง ได้ทุกช่องทางค่ะ
หรือจะให้เปา กลางและเพื่อนๆ ขยับเขยื้อนตัวไล่ความเมื่อยในบรรทัดนั้นได้โดยการอ่านซ้ำค่ะ อิอิ

รักและขอบคุณทุกคนค่ะ

 :L1: :L1: :L1: :L1:


หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =end=
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 17-08-2017 21:35:42
ชอบอะ

ขอตอนพิเศษอีกนะคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =end=
เริ่มหัวข้อโดย: pktherabbit ที่ 17-08-2017 22:00:31
เราชอบเรื่องนี้ เขียนสนุก กระชับ ไม่เยิ่นเย้อ เป็นเรื่องสั้นขนาดกำลังดี แต่ติดใจนิดเดียวเรื่องเพื่อนที่เป็นนักบอลคู่อริกับเปา คืออยากให้มีตอนพิเศษที่กลับมาปะทะบทบาทกัน แต่ไม่ได้ตีกันนะ แล้วเปาชนะอ่ะ ปมในใจนางจะได้เบาบางลงกว่าเดิมมั่ง เราสงสารคนกลางงัย อยู่กับคนมีปมตลอดมันไม่แฮปปี้หรอก ถึงจะรู้ว่าชีวิตจริงไม่มีอะไรคอมพลีทก็เถอะนะ 555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =The END=
เริ่มหัวข้อโดย: Numai ที่ 17-08-2017 22:19:54
ประทับใจมากเลย..... ติอตามมานาน
เข้ามาเฝ้ารอน้องเปา 55555

ขอ E-book ด้วยนะ

 :mew3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =The END=
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-08-2017 22:34:32
มีความสุข อ่านไป ยิ้มไป  :katai2-1:

แก๊งคอหล่น คนหล่อ  :mew1:
ทำให้คิดว่าอ่านแล้วรู้สึกว่ามีความสุข อยากไปดูด้วยตา  :ling1: :ling1: :ling1:
คนที่เรียนสินกำ ฝ่ายสันฯ คงยิ่งมีความสุขมากกว่า
กล้วย ที่เต้นไป ไม่มองใคร ไม่ฟังใคร
เขาหยุดกันแล้วก็ยังไม่หยุด ท่าทางคงกวน เสื่อม.....สุดๆ
อ่านที่ว่าเปาไปเต้นบ้าบอ จนกลางต้องมองตลอด คงเต้นได้ฮา สนุกสนานมาก

เล็ก ที่หวงกลางมากกกกกกกก น่ารักดี
จบแล้ว ขอบคุณไรท์มาก รังสรรค์งานเขียนให้คนอ่านมีความสุข
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 17-08-2017 22:52:58
 :katai2-1: o13 o13 o13 :katai2-1:
 :กอด1: :L2: :3123: :pig4: :3123: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =The END=
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 17-08-2017 22:54:10
เราจะรอเก็บเล่มคนกลางนะคะ
คืออ่านแล้วฟีลกู๊ดมากๆค่ะ ถึงจะมีมาม่าเล็กๆ
แต่ชอบคนแบบคนกลางน้าาา น่ารักโดยธรรมชาติจริงๆค่ะ
ส่วนเปาก็เป็นพระเอกนิยายแนวใหม่ๆมากๆ ตอนแรกนึกว่าเปาจะเป็นนายเอกซะอีก 5555555555555555555555
พออ่านมาเรื่อยๆแล้วก็แบบ เปาาา โคตรของโคตรมุ่งมั่นเลย
ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้มานะคะ :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-08-2017 23:33:09
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-08-2017 02:06:37
ชอบเปามากกก ยิ่งอ่านเรื่อยๆยิ่งหลงรักคนแบบเปา เหมือนเปาเป็นพระเอกที่สามารถเจอได้ในชีวิตจริง เป็นคนธรรมดาที่มีใครอีกคนเป็นแรงบันดาลใจ เปาเก่งมากเลยยย คนกลางก็ยังเป็นคนกลางแบบกลางๆ น่ารักมาก ถึงดราม่าจะทำเราโกรธกลางไปบ้าง แต่ตอนจบดีต่อใจ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ จะติดตามเรื่องใหม่แน่นอนค่ะ  :mew1:

ปล.สารภาพว่าครั้งแรกที่กดเข้ามาเราก็นึกว่านิยายผีค่ะ ไม่คิดว่าจะฟีลกู๊ดเบอร์นี้ 55555555
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-08-2017 03:41:17
เหมือนะมีความรู้สึกภาคภูมิใจไปกับผลสำเร็จจากความพยายามต่างๆที่เปามีต่อคนกลาง อ่านแล้วนึกยิ้มได้ทุกที  :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 18-08-2017 07:04:04
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ รอตอนพิเศษค่า  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 18-08-2017 09:23:09
ตอนจบ น่ารักจุง...  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Yukina ที่ 18-08-2017 11:10:59
 :mew1: :mew1: :mew1:

อ่า จบแล้วเหรอ ยังสนุกอยุ่เลยยยยยยยย ฮืออออ ชอบๆ คนกลางน่ารัก เปาก้อดีต่อใจ
เฮ้อ เรื่องใหม่ก้อสายฮีลเหมือนเดมน่า แต่งดีมากๆๆๆๆๆ
ขอบคุนครับ
จะรอตอนพิเศษน้าาาา
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 18-08-2017 15:12:25
ชอบเรื่องนี้มาก ขอบคุณและขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้
ดีใจมากที่ยังเน้นสายฮีล และสายฮา มันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในโลกใบนี้
รอ และรอเรื่องต่อไปแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นคาดหวังว่าจะได้อ่านในไม่ช้านี้
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 18-08-2017 17:02:00
และนิยายที่ตามก้จบลงไปอีกเรื่อง หลังจากที่ตามมาหลายเดือน ใจหายนิดๆนะ
เรื่องนี้สนุกมากก กดเข้ามาอ่านด้วยความสงสัยกับชื่อเรื่อง
ชื่อเรื่องคนกลางคิดไปถึงแนวผี แนวดราม่ารักสามเศร้า แนวแอบรักงี้
ผิดคาดมากๆที่ออกมาได้อะไรที่ฟิลกู๊ดขนาดนี้ รู้สึกดีใจมากที่เลือกที่จะกดเข้ามาดู
เป็นอีกเรื่องที่เราเอาไว้อ่านเพื่อนฮีลอารมณ์ตัวเองหลังจากเจอเรื่องน่าหงุดหงิดในบางวัน
ชอบคาแรคเตอร์คนกลาง เพราะเราอ่านแล้วเราเช้าใจ คนกลางมีหลายๆมุมที่คล้ายตัวเราเอง
พวกที่มีความเพอเฟคชั่นนิสหน่อยๆไม่หนักมาก พวกที่อะไรก้ได้ที่ไม่เดือดร้อน รักความสงบและอิสระสุดๆ
และยิ่งอ่านก้ยิ่งทั้งหลงรักและเอ็นดูเปา คือนางน่ารักมากนะ
น่ารักด้วยสิ่งที่แสดงออก น่ารักด้วยความคิดของนาง
น่ารักด้วยความรักที่มีให้กลาง มันทำให้ปรมัตของเราน่ารักมากกกเลย
แก๊งคอหล่นและเพื่อนๆคนอื่นก้คอยสร้างสีสันให้เรื่องได้มาก ทำให้อ่านไปขำไปได้ตลอดเลยค่ะ
น้องเล็กก้ทำให้ทั้งเอ็นดูและหงุดหงิดไปพร้อมๆกันเลย หวงพี่แรงงงงมากก
ชอบที่ตัวละครทุกตัวมีพัฒนาการที่ชัดเจน คุณแม่ที่คิดได้เองว่าอะไรคือสิ่งที่เป็นความสุขของกลาง
เปาที่เข้มแข็งขึ้น พัฒนาตัวเองมากขึ้นมากๆ โดยมีคนกลางเป็นเป้าหมาย
เราคงใช้คำว่าแรงจูงใจ หรือแรงบันดาลใจกับเปาไม่ได้
เพราะเปามุ่งหวังว่าปลางทางของความพยายามจะต้องเป็นคนกลาง คนกลางเลยเป็นเป้าหมาย จุดหมายของเปา
ส่วนคนกลางก้พัฒนาที่จะรู้จักเรียกร้องและเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้น หลังจากที่ตามใจแต่คนอื่นมานาน
ชอบที่ทั้งคู่เหมือนเป็นบ้านของก้นและกัน เป็นคน เป็นสถานที่ที่กลับมาแล้วจะรุ้สึกสบายใจและผ่อนคลายเสมอ
กลับมาพักที่บ้านแล้วมีกำลังใจออกไปใช้ชีวิตในแต่ละวันอีกครั้ง
สุดท้ายตอนจบก้บังคงน่ารักมากๆเหมือนเคย น่ารักด้วยความรักและความขี้อายแต่อยากหวานของเปา
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ จะคอยติดตามเรื่องต่อๆไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Jitsupa_milk ที่ 18-08-2017 19:42:52
ขอบคุณนะคะ เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆเลย รวมเล่มเมื่อไหร่แจ้งด้วยนะคะ อุดหนุนแน่นอนค่ะเ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-08-2017 21:43:02
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-08-2017 09:35:31
สนุกมากๆเลยค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 19-08-2017 14:18:46
เปากับคนกลางน่ารักมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 19-08-2017 17:44:30
จบแล้วขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกมาให้อ่านนะค่ะ ชอบการบรรยายเรื่องและการผูกเรื่องค่ะ อ่านแล้วเพลิน หลงรักกลาง น้องเล็ก เปา แะลกผองเพื่อน ค่ะ จะรอรวมเล่มนะค่ะ ถึงแม้ว่าจะรอนานก็จิรอจ้า แล้วจะติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 19-08-2017 18:39:37
รับรู้ถึงความรักที่เปามีต่อคนกลางว่ามันมากมายจริงๆ หัวใจนายสุดยอดเลยเปา ขอบคุณคนเขียนที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้ออกมานะคับ เป็นอีกเรื่องที่เราชอบมากๆ เลย แต่อยากฝากถึงคนเขียนนิดนึง คือเราอยากอ่านเรื่องของกะละล้วย นายผลไม้สีเหลืองจัง รู้สึกว่าตัวละครนี้มันมีอะไรให้น่าอ่านเยอะอ่ะ ซึ่งทำให้เราหลงรัก 555555 ฝากด้วยนะค้าบบบบบ ขอบคุณครัช :katai3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =end=
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-08-2017 22:05:14
จ้าา ยินดีในทุกๆเรื่อง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 19-08-2017 23:59:16
 :3123: :pig4: ก่อนอื่นต้องขอบคุณคนเขียนก่อนที่เขียนนิยายดีๆมาให้ได้อ่านเพิ่งจะได้อ่านเรื่องนี้เพราะเ็นขึ้นว่าจบแล้วรู้สึกเจอช้าไปมากเราชอบความเป็นไปของตัวละครทุกตัวชอบความแข็งนอกอ่อนในของเปาชอบความไม่งี่เง่าของคนกลางที่มีความไม่กลางบ้างบางครั้งซึ่งนี่คือสิ่งที่ทำให้เราตกหลุมรักในตัวละคร ชอบเวลาเปาเขินมันดูเป็นโมเม้นแบบพระเอกนิยายเดี่ยวนี้หาแบบนี้ยากแล้วเรานี่เขินตามเลย และสุดท้ายเราชอบกล้วย คนเล็ก และอาร์ตมาก5555555แม้อาร์ตจะโผล่มานิดเดียว นี่รอเรื่องราวต่อๆไปนะคะอยากอ่านกล้วยโชว์ความหวานกับแฟนอยากให้กล้วยสายเคะคงจะเอ็นดูมากหรือจะมาสายไหนเราก็พร้อมสนับสนุน สนุกมากจริงๆจ้า  :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Panizzz3838 ที่ 20-08-2017 15:17:17
คุณหลอกดาว :z6: ไหนว่าเป็นนิยายฟิวกู้ดไง ตอนแรกๆก็ขำขันดีอยู่หรอด ตอนหลังๆทำบ่อน้ำตาท่วม ปวดตามากขอบอก :o12: ว่าแต่อยากให้ไอ้เกมส์แอนเดอะแก็งที่แกล้งพระเอกในวัยเด็ก ได้รับบทเรียนบ้างอ่ะ :angry2: :fire: :m31: ดาวอ่านแล้วเก็ทความรู้สึกเปาเลย คือตอนเด็กดาวก็ชอบโดนล้อบ่อยๆ อีดำบ้างล่ะ อีอ้วนบ้างล่ะ ไหนจะสาระพัดการเปรียบเทียบที่แปลรวมๆแล้วคือ ขี้เหร่ (ถึงแม้หน้าตาสดจะคนค่อยไม่หลอนก็เถอะ) แต่มันเสียความมั่นใจทางหน้าตาจริงๆนะยู โตมาก็ยังคงมีความนอยด์บ้างตามประสา ของแบบนี้ใครไม่เจอไม่รู้หรอกว่าเจ็บปวด :mew4: เพ้อเจ้อมาเยอะจริงแค่อยากเห็นการโดนกรรมตามสนองเดอะแก๊งแห่งวายร้ายบ้าง ถึงแม้ในชีวิตจิงจะไม่เป็นเช่นนั้นก็เถอะ :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 22-08-2017 00:47:34
ตอนแรกๆบอกว่าแนววฟีลกู้ด
แต่อ่านไปอ่านมามีดราม่าด้วยเฮ้ย
มาแบบปุบปับไม่ทันตั้งตัวเลย
แอบบีบอารมณ์ด้วยนิดนึง
ดีที่มีไม่เกิน 3 ตอนนะเนี่ย
สนุกดีค่ะ เรื่อยๆ ใสๆ ดราม่านิดนึง
NC มีพอให้กระชุ่มกระชวย 555
จะรออ่านเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 22-08-2017 05:06:30
ตอนแรกก็หวั่นๆว่าเปาจะมาร้ายหรือเปล่า คนกลางยิ่งซื่อๆอยู่ ตามใครเขาไม่ค่อยทัน ดีใจที่เปาไม่ได้คิดร้ายอะไร มีแต่คิดรัก 555  :กอด1:

แอบติดใจนิดหน่อยเรื่องเพื่อนประถม เกมส์กับเพื่อนบางคนคงเลวโดยสันดานจริงๆ แต่เพื่อนที่เหลือไม่มีใครเปลี่ยนแปลงเลยเหรอ สมัยก่อนอาจจะเคยทำผิดพลาดแบบเด็กๆ แต่ตอนนี้โตแล้วคิดเองได้แล้ว ไม่น่าจะยังรุมรังเกียจเปาทั้งห้องเหมือนเดิมเลย ฮือออออ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 23-08-2017 18:38:52
น่ารักมากค่ะ
อ่านไปยิ้มไป
คุณคนกลาง สนุกมาก ชอบครอบครัวของกลาง
ขอตอนพิเศษค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: spiral_sai ที่ 24-08-2017 01:45:10
อ่านจนจบเลย น่ารักมากกก ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนที่ 25 หน้า 20 (17-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: mouymai ที่ 26-08-2017 01:13:26
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ น่ารักมากเลยค่ะ ทั่งเปาและกลาง :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 27-08-2017 20:57:37
ตอนพิเศษ 1
ไอ้เปาลูกพ่อปลา

คำเตือน เรื่องราวต่อไปนี้มีสรรพนามหยาบคายเพราะเจ้าตัว(อยาก)เป็นคนหยาบคายโดยเนื้อแท้แต่ไม่กล้าแสดงออก


   “อย่ากลัวการเริ่มต้นใหม่ เพราะเราอาจไปได้ไกลกว่าเดิม”

   ประโยคนี้เคยได้ยินผ่านหูจากโทรทัศน์หรือวิทยุผมก็ไม่แน่ใจ เอาเป็นว่าช่างมัน เพราะประโยคนี้ผมได้ยินทุกปีพอๆ กับโรงเรียนเอกชนแบบสหศึกษาที่พ่อเลือกให้เปลี่ยนห้องทุกปีนั่นแหละ...จะอยากให้ผมเริ่มต้นใหม่อะไรขนาดนั้น

   แต่ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วล่ะ ซิสเตอร์วาระใหม่ประกาศหน้าเสาธงบอกว่าจะให้เราอยู่ห้องเดียวไปจนจบป.6 ให้มันจริงละกัน เฮ้อ...ต้องย้ายห้องจริงหรอวะเนี่ย แค่ย้ายโรงเรียนมาปีที่แล้วก็จะแย่แล้ว ความรู้สึกที่ต้องยืนแนะนำตัวหน้าห้องมันไม่สไตล์เลยว่ะ ความรู้สึกที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งน่ะ ถึงแม้ว่าโรงเรียนนี้จะเห็นหน้าค่าตากันหมดก็เถอะแต่ก็ชินที่ต้องอยู่ห้องนั้นแล้วนี่หว่า จู่ๆ ต้องมาเรียนห้องนี้อะนะ ผมบ่นอยู่ในใจก่อนจะเงยหน้ามองป้ายไม้ที่ห้อยเหนือประตู “ห้อง ป.4/3” มันไหวเบาๆ ด้วยแรงลม

   วันนี้เปิดเทอมวันแรก หวังว่าวันแรกให้ห้องเรียนใหม่จะทำให้ชีวิตเราสงบสุข มีเพื่อนเล่นด้วยด้วยเถ้อ สา...ธุ แอบยกมือไหว้เร็วๆ หลังกระเป๋านักเรียนที่ยกขึ้นมาบังแล้วก้าวเท้าซ้ายเข้าห้องเรียน ขวาร้ายซ้ายดีพ่อบอกให้ท่องมา ว่าแต่ผมลืมไปได้ยังไงว่านี่มันโรงเรียนคริสต์ พอลดกระเป๋าลงเท่านั้นแหละคำขอของผมมันก็ปรากฏขึ้นแบบทันตาเห็น

    “เฮ้ย กูนั่งตรงนั้น จองโต๊ะหลังเว้ย”

   “ไอ้โจ้ ข้างหน้าต่างกูจองตั้งแต่เทอมก่อนแล้วเว้ย”

   “เมย์ไปเที่ยวไหนมา วันนั้นเจอแม่แกที่ตลาด มาอวดเราใหญ่เลย”

   “มาสเตอร์อภิรักษ์เป็นครูประจำชั้นห้องเราเว้ย ห้องสองเป็นทีชเชอร์บังเอิญ”

   “จริงหรอวะ ได้ข่าวว่ามาสเตอร์คนนี้มาใหม่แถมโหดอีกต่างหาก”

   เสียงนักเรียนโหวกเหวก เสียงตีหัวเกรียนกันดังแปะๆ ทักทายกัน เสียงผู้หญิงอวดกล่องดินสอใหม่หรือกระเป๋าสีชมพูลายบาร์บี้ เสียงฟิ้วฟ้าวจากจรวดกระดาษ เสียงหัวเราะของกลุ่มเด็กหลังห้อง


   นี่....


   กู....


   มาทำอะไรที่นี่วะเนี่ย…


   ยืนเคว้งชิบเป๋ง อยู่ตรงนี้ไม่เท่เลยว่ะ จะเดินไปโต๊ะว่างไหนก็มีแต่คนมองหน้า เดี๋ยวแม่งเหนี่ยว ไอ้พวกนี้จะวิ่งผ่านกูไปไหนนักหนา มองไม่เห็นคนอย่างไอ้เปาเลยหรอวะ แต่...จริงๆ ก็ไม่ได้อยากอยู่โรงเรียนนี้หรอกเว้ย แต่เห็นพ่อยิ้มดีใจขนาดนั้น ปฏิเสธไม่ลงเลยเรา นึกถึงตอนเช้าที่ลงจากรถแวนเก่าๆ ของพ่อแล้วน้ำตาจะไหล

   “วันนี้โรงเรียนเปิดเทอมใหม่ กางเกงน้ำเงินตัวใหม่ กล่องดินสอ เสื้อรีดเรียบกริบ”

   “ตั้งใจเรียนนะลูกพ่อ เปาเก่งที่สุดในโลก หนูต้องทำได้”

   “พูดเร็ว”

   “คร้าบบ เปาเก่งที่สุดในโลก! หนูต้องทำได้”

   เมื่อเช้าต้องเรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประดับร่างแล้วก็ลงจากรถ มองรูปปั้นพระแม่มารีจูงเด็กๆ ที่ตั้งหน้าประตูแล้วก็สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ พี่สาวผมจบจากโรงเรียนนี้เหมือนกันตอนนี้ก็เรียนอยู่โรงเรียนหญิงล้วนประจำจังหวัด พี่เปลที่นั่งอยู่ในรถโบกมือให้ผมเล็กน้อยก่อนจะเร่งให้พ่อออกรถ

   “ที่ตรงนี้กูจอง”

   เสียงแหลมปรี๊ดของไอ้ต๋อมดังขึ้นปลุกผมให้ ไอ้ต๋อมคนนี้มันเคยอยู่ห้องเดียวกันเมื่อเทอมก่อน แหม กูเกือบจะหย่อนตูดแล้วเชียว ไม่เห็นมีป้ายติดเลยว่าจอง พ่อมึงเป็นหุ้นส่วนโรงเรียนไง๊

   “มึงไปนั่งข้างหน้าไป ที่ข้างหลังเค้าจองกันหมดแล้ว เตี้ยๆ อย่างมึงอะเดี๋ยวก็ได้ยืดคอยาวดูกระดานหรอ”

   “ฮ่าๆ” ไอ้ต๋อมทำหน้ายียวนแล้วหันไปหัวเราะกับเพื่อนข้างหลัง

   “ตลกมากหรอวะ ไอ้หมูอ้วน อยากลองดีกับกูหรอ เดี๋ยวเหนี่ยวพุงยุบ”

   แน่นอนว่าคนอย่างผมตอบกลับไปโคตรดังว่า

   “อ๋อ จองแล้วหรอ ไปที่อื่นก็แล้วกัน”

   เข้าใจถูกแล้ว ไอ้ข้างบนก็แค่ความคิด

   แม่ง

   มันหงุด...

   ทำไมกูต้องเกิดมาเตี้ยด้วยวะ

   พรึ่บ!

   ผมวางกระเป๋าที่มีตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนบนโต๊ะข้างประตูแถวที่สาม เออก็ยังดีไม่อยู่ข้างหน้ามาก ผมไม่ชอบเป็นจุดสนใจ ถามว่าผมเจ๋งมากงั้นหรอ หึ เปล่าหรอก แค่ไม่อยากโดนมาสเตอร์เรียกหลบตรงนี้ก็โอเคอยู่ ผมหยิบของในกระเป๋าออกมาจัดๆ กูเอาของเล่นมาด้วยนี่หว่าจับให้มันสู้กันแม่ง ขณะทุกคนยังโหวกเหวกอยู่นั้นเสียงคาบโฮมรูมก็ดังขึ้น ผมไม่สนใจหรอกเดี๋ยวมาสเตอร์ก็เข้ามาเอง ไม่มาก็ยิ่งดีใหญ่ ที่นั่งข้างๆ กับข้างหน้าผมยังไม่มีใครมานั่งเหมือนเดิม ทำไมวะ กลัวกูกันอ่ะดิ หึ...(มโน) ก้มหน้าเล่นไปเรื่อยแล้วจู่ๆ เสียงก็เงียบลง แล้วเสียงซุบซิบที่ดังโคตรๆ ก็เข้าลอยหู

   “ไอ้กลางนี่โดนทีชเชอร์หนิงเรียกไปคุยตั้งแต่เปิดเทอมเลยหรอวะ”

   “เออคนดังก็เงี้ย”

   “พ่อคิงต๋าย ห้ามพูดดัง เดี๋ยวมันได้ยิน” ฮาสงสัยว่าคิงกินโทรโข่งหรอ เออ..เข้าใจถูกผมพยายามพูดภาษาเหนือในใจ

   “ตอนเลือกหัวหน้าก็ให้มันเป็นเลยละกัน มาสเตอร์คงชอบ”

   ตึก ตึก ตึก

   “มีคนนั่งยัง?”

   เสียงดังขึ้นเหนือหัว ผมละสายตาจากของเล่นก่อนจะเงยหน้าไปมองมัน...ไอ้กลางที่คนอื่นพูดถึงนี่เอง มันเป็นคนเก่งของโรงเรียนใครไม่รู้จักก็แปลกขึ้นไปหน้าเสาธงแทบทุกครั้งที่มีงาน แต่เราไม่เคยพูดกันซักครั้ง ไม่เคยอยู่ห้องด้วยกันด้วย ไอ้นี่เกิดมาหน้าตาก็ดีเลยหรอวะ ผมเผลอขมวดคิ้วแต่ไอ้คนตรงหน้ามันกลับคิดไปอย่างอื่น

   “อ้าว มีคนนั่งแล้วหรอ งั้นไปข้างหน้าก็ได้”

   ไอ้กลางยิ้มใส่ผมเล็กน้อย ผมรีบก้มตาดูของเล่นที่ถืออยู่ มึงจะยิ้มทำไมเนี่ย รู้มั้ยว่ามัน...แสบตา ฮึ่ย มันคว้ากระเป๋าแล้วไปนั่งข้างหน้าผม เออ ไม่ต่างกันมาก เปลี่ยนจากนั่งข้างๆ มานั่งข้างหน้า มานั่งให้กูมองท้ายทอยมึงเนี่ยนะ แล้วมึงจะสูงกว่ากูเพื่อ หงุด...

   เพราะความหงุดผมไม่สนใจว่าใครจะมานั่งข้างๆ หรืออะไรอีกแล้ว ผมเล่นคนเดียวไม่ได้สนใจเรียนอะไรมาก มาสเตอร์ไม่เพ่งเล็งหรอก แบบว่าอยู่เงียบๆ แต่ก็ไม่สนใจเรียน ดูเหมือนว่าคนอื่นๆ ก็ไม่ได้สนใจผมเหมือนกัน ผมกินข้าวก็กินคนเดียวบ้าง ไม่กินบ้าง ไปเล่นกับไอ้แบงค์บ้าง มันเป็นเพื่อนห้องเก่าน่ะ ผ่านมาอาทิตย์กว่าการอยู่เงียบๆ ของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป

   “ปรมัต ออกมาทำข้อนี้ซิ”

   มาสเตอร์อภิรักษ์สอนวิทยาศาสตร์อยู่หน้าห้องเรียกผมเสียงดัง แทบสะดุ้งเพราะทุกสายตาหันมามองหมด กูไม่ได้อายหน้าห้องแค่นี้แม่งจิ๊บจ๊อย เดินออกไปช้าๆ เฮ้ยตรงนั้นมันจะหัวเราะทำซากไรวะ กูเป็นตลกหรอหรือใครจ้างตลกมาเล่นแถวนี้

   “ปรมัต สั่นอะไรออกมาหน้าห้องแค่นี้”

   สั่นอะไรมาสเตอร์ ผมไม่เคยเหอะ เก่งจริงกู...เก่งในใจเนี่ย ชิบหาย เงยมองบนกระดานดำ นี่มันคำถามอะไรวะเนี่ย ผมเอ๋อแดกอยู่หน้าห้อง ไอ้เพื่อนข้างหลังหัวเราะผมระนาว แน่จริงมึงมาตอบดิ แต่แน่นอนว่าสีหน้าและท่าทางของผมมันคงดูตลก

   “ทำได้มั้ย?” มาสเตอร์ถามย้ำ ผมเผลอไปสบตาแล้วก็รีบเบนสายตามองพื้น

   “ไม่ได้...ครับ”

   “ทำไมต้องทำเสียงเอื่อยๆ แบบนั้นด้วย ไม่กระตือรือร้นเลย” ฟาดไม้เรียวบนโต๊ะข่มผมไปที

   “...” เงยหน้ามองมาสเตอร์ตาปริบๆ ไม่ทันได้พูดอะไรก็มีคำสั่งลงมา ผมได้แต่มองผมเรียบแปล้แบบปัดขวาแนบไปกับหน้าผากของมาสเตอร์เท่านั้น

   “สก็อตจัมพ์สิบที!” หรือเพราะแอบมองหน้าผากมาสเตอร์ผมถึงต้องมันสก็อตจัมพ์ต่อหน้าเพื่อนทั้งห้อง พวกมันเงียบกริบเพราะมาสเตอร์คนใหม่แสดงอิทธิฤทธิ์แล้ว พอเห็นว่าคนอย่างไอ้เปาสก็อตจัมพ์เหมือนคนขาดสารอาหารไอ้พวกนั้นมันก็ส่งเสียงหัวเราะมาตามคลื่นเสียงระลอกใหญ่

   “พวกที่นั่งอยู่ก็อย่ามัวแต่หัวเราะ ถ้าถามแล้วไม่ได้ก็โดนเหมือนกัน” สมน้ำหน้าเงียบเลยนะพวกมึง

   สิบทีทำไมมันนานงี้วะ กูปวดขาชิบเป๋ง หงุดอีกแล้ว...

   ผมยืนก้มหน้าอยู่หน้าห้อง คนอย่างไอ้เปาไม่เคยสบตาใครอยู่แล้ว มาสเตอร์กอดอกแล้วพยักหน้าบอกให้กลับเข้าไปนั่ง ขาแทบสั้น เอ๊ย สั่น แน่ล่ะ เกิดมานอกจากเรียนว่ายน้ำตามกฏของโรงเรียนแล้วผมก็ไม่เคยออกกำลังกายอะไรอีก เดินขึ้นบันไดไปเรียนยังคิดแล้วคิดอีก

   “คนกลาง” มาสเตอร์เรียกคนข้างหน้าผมด้วยเสียงไม่ดังนัก ทุกคนเลยหันไปมองคนที่โดนเรียกกันหมด รวมถึงผมด้วย ทำไมต้นคอมันขาวจังวะ น่ากัด...เฮ้ย คิดอะไรวะเนี่ยความหงุดเข้าสิงไงวะกู

   “ครับ”

   “มาสเตอร์ฝากดูปรมัตหน่อยนะ” พูดกับไอ้คนกลางเสียงอ่อนเชียว ผมมองมันจากด้านหลัง มันพยักหน้าแล้วตอบรับว่าครับเบาๆ จากนั้นมาสเตอร์เบนสายตามาทางไอ้เปาบ้าง

   “ถ้าคราวหน้าไม่ตั้งใจเรียนอีกโดนแน่ เข้าใจมั้ย”

   หงุดเว้ย... อยากตะโกนว่าอย่ายุ่งกับผมแต่ก็ตอบกลับไปได้แค่ว่า

   “ครับ”



   นับตั้งแต่วันนั้นคนที่มองท้ายทอยมันมาตลอดก็เริ่มเปลี่ยนจากมองท้ายทอยมาเป็นมองหน้าของไอ้กลางแทน

   แต่ว่า...

   ไอ้นี่เป็นไรนักหนา ทำไมต้องมายุ่งกับผม

   “ไอ้เปา ส่งการบ้านยัง”

   “ไร” แม่งทำไมเสียงกูไม่แมนเหมือนคนอื่นบ้าง เสียงเป็นเป็ดเลย

   “การบ้าน” มันหันหลังมามองผมพร้อมกับแบมือ ชะโงกหน้าไปดูกองสมุดบนโต๊ะมันถึงได้รู้ หัวหน้าห้องเก็บการบ้านนี่เอง

   “อ่ะ” ผมควานมือในเก๊ะใต้โต๊ะ ไม่ต้องห่วงในนั้นไม่มีงู เจอสมุดการบ้านแล้วก็ยื่นไปให้มัน ไอ้หัวหน้าห้องคนดีก็คว้าไปเปิดปั๊บ เฮ้ยๆ มึงอย่าดูดิวะ

   รู้ว่าเก่ง บอกเลยภาษาอังกฤษกูเทพเล่นเกมบ่อย weapon attack left right ฮู้วๆ หมูๆ

   “อะไรเนี่ย ตอบมั่วใช่มั้ย”

   “...” อะ แม่งมันรู้เร็วไปป้ะ ยังไม่ทันได้อ่านอะไรเลย ไอ้กลางส่ายหน้า มันหันตัวมาทั้งตัวแล้วก็ชี้ๆ มาที่สมุดการบ้าน

   “ทำใหม่เร็ว”

   “ส่งไปเหอะน่า” หรี่ตามองด้วยความรำคาญ แต่ไอ้คนตรงหน้ากลับไม่ยี่หระ ผมที่ปรกหน้ามันสะบัดเบาๆ แก้มก็มีสีเลือดฝาดแบบคนมีกะตังค์ ผมมองมันนิ่งแล้วรู้สึกแปลกในใจ นี่กูเป็นไรเนี่ย...ไอ้ตัวน่ารำคาญมันทำอะไรวะ

   “ไม่ได้ ทำใหม่เร็ว เดี๋ยวสอน” ขมวดคิ้วยังไม่น่ากลัวเลยคนอะไร ผมไม่ได้ยอม บอกเลยแค่รำคาญ

   “ก็ได้”

   “เสียงมึงนี่โคตรเป็ดเลย” มันเท้าคางกับมือตัวเอง จ้องหน้าผมระยะประชิดก็เก้าอี้มันติดกับโต๊ะผมซะอย่างนั้น เวลามันหันมาที่ไรหัวแทบจะชนกันอยู่แถว จ้องหน้าแล้วยังจะ...เฮ้ยๆ อย่ายิ้มนะมึงง ไอ้กลางคนดีของโรงเรียนคลี่ยิ้มก่อนจะยกมือมาขยี้หัวผม “น่ารักดี”

   แม่ง บอกตัวเองเถอะ

   คำนี้ไม่เหมาะกับกูเลยซักนิด ผมเบี่ยงหัวแล้วมองสมุดการบ้าน บอกตรงๆ เลยว่าอ่านไม่รู้เรื่องซักตัว ที่ส่งไปเพราะแอบเหล่ไอ้เก้เด็กแว่นที่นั่งข้างๆ มา หรือมันเขียนคำตอบหลอกกูวะเนี่ย

   นับจากวันที่มาสเตอร์บอกให้ไอ้กลางช่วยดูผม ไอ้คนกลาง หัวหน้าห้องก็มายุ่งกับผมเรื่อยๆ บางทีผมก็เดินหนีบ้างแต่มันก็ไม่ลดละความพยายามวิ่งตามมาหรือไม่ก็ลากแขนผมไปเลยทีเดียว ขนาดต้องไปซ้อมวาดรูปไม่มีเวลาเรียนหนังสือ มันก็ยังตามมาวอแวเมื่อมีเวลาว่าง ผมมักจะทำหน้าไม่สนใจมันเวลามันมาวุ่นวายด้วย แต่พอมันขาดเรียนเพราะต้องไปทำกิจกรรม กูก็เหงาเลย เออยอมรับแบบแมนๆ ไอ้เก้ก็ไม่ค่อยจะคุยด้วย มองเก้าอี้ข้างหน้าที่ว่างแล้วรู้สึกแปลกๆ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ตอนมันอยู่ทำไมกูชอบหงุดแต่พอมันหายไปกูก็ไม่พอใจอยู่ดีแต่ก็นั่นแหละ....

   รู้ตัวอีกทีผมก็มักจะเผลอมองแต่ไอ้กลางไปซะแล้ว

   “ไอ้กลางไม่มาว่ะวันนี้”

   ผมเดินอยู่ทางเชื่อมไปตึกนักบุญเทเรซา เดินมาซักพักก็มีคนมาขวาง เงยหน้ามองก็ร้องอ๋อในใจ ไอ้เกมส์ขาใหญ่แห่งห้องสาม อยู่ห้องด้วยกันมาเป็นเดือน มันคือคนที่ผมไม่อยากยุ่งด้วยมากที่สุด ไอ้นี่แม่งชอบหาเรื่องแกล้งผมยิ่งตอนไอ้กลางไม่อยู่ยิ่งหนัก ตอนแรกมันไม่สนใจผมด้วยซ้ำ ตั้งแต่คำสั่งของมาสเตอร์อภิรักษ์ นอกจากไอ้กลางจะมาตามติดผมแล้ว ดูเหมือนว่าคำสั่งนั้นมีผลต่อไอ้เกมส์ด้วยเหมือนกัน ไม่เข้าใจว่าทำไม

   “ไปไหน ไอ้เตี้ย”

   “...”

   “ถามก็ตอบดิ”

   “ไปห้องไอ้แบงค์” แน่นอนว่าเสียงที่ออกมามันต้องไม่มีเรี่ยวแรงจนไอ้เกมส์หัวเราะลั่น

   “ไม่มีเพื่อนคุ้มกะลามึงแล้วดิ เลยไปหาห้องอื่น” กูแค่จะไปเอาการ์ดยูกิมาจากไอ้แบงค์ มันยืมไปเป็นปีแล้วโว้ย

   ผลัวะ!

   ไอ้โย่ง มึงเห็นกูเป็นลูกบาสหรอตบมาได้ ผมเม้มปากแต่ไม่ได้ตอบโต้ มันมากับพวกอีกหลายคน ผมไม่อยากของหายอีกแล้ววันนี้ กว่าจะหาเจอพ่อฟาดขากูทุกวัน ของหายมันหลายตังค์นะเว้ย คนมีตังค์ไม่เข้าใจหรอก

   “เม้มปากหาพ่อมึงหรอ อยากรองเท้าหายมะวันนี้” ไอ้เกมส์ทำเสียงยียวน ยื่นหน้ามาใกล้ๆ ผมถึงกับหดเท้าเหมือนว่าจะซ่อนจากสายตาพวกมันได้งั้นแหละ เพื่อนมันข้างหลังก็ยิ้มๆ

   “ไปก่อนนะ” หมุนตัวกลับ ไม่ไปแล้วห้องไอ้แบงค์อะ ยูกงยูกิกูไม่เอาละ เดี๋ยวกูปั้นดินน้ำมันเล่นเองละกันนะไอ้แบงค์

   “ไม่มีไอ้กลางเหมือนเป็นง่อยเลยว่ะ”

   ผมชะงักไปนิดหนึ่ง ส่วนพวกมันก็เดินมาล้อมผมไม่ยอมให้เดินไปไหนซักที เพื่อนมันยื่นมือมาผลักหัวผมอีกครั้ง เออ กูยอมรับความเจ็บปวด ก้มหน้าแม่งเลยอยากทำไรก็ทำ จะได้จบๆ แล้วเป็นอะไร

   เป็นอะไร

   มัน?

   ไม่! กูเนี่ยเป็นอะไร ยอมจังเลย

   “เฮ้ย ทำไรวะ” ก่อนที่ฝ่ามืออรหันต์ของไอ้เกมส์จะเริ่มเปิดฉากการฟาดกบาลผม เสียงคุ้นเคยก็ดังขึ้นด้านหลัง

   “ไอ้กลาง...” เชี่ย จะมาทำไมวะ เดี๋ยวก็โดนตีนหรอก ผมเหลือบตามองไอ้กลาง มันรีบเดินมา แขนขวาโอบกระดานวาดรูปขนาดกลางไว้ ผมพยายามจะบอกมันว่าให้กลับไปแต่ปากก็ไม่ขยับเลย ไอ้กลางเดินตรงมาแบบมั่นคงแล้วยืนบังผมซะมิด

   “ทำไรมันอีก” ไอ้กลางถามจ้องหน้าไอ้เกมส์เพื่อรอคำตอบ

   “อยากไปแข่งวาดรูปต่อก็อย่ายุ่ง”

   ไอ้กลางชะงักไปเล็กน้อย ผมเห็นมันเม้มปากแน่น ไอ้เกมส์พ่อมันใหญ่คับฟ้า เชียงใหม่อยู่ในกำมือพ่อมันอ่ะกูว่า มือเท่าใบลานใช่ปะ โด่

   “ไอ้เปาว่าไง จะไปฟ้องพ่อจนๆ ว่าอะไรอีก”

   พ่อคิงต๋าย พ่อกูไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะเว้ย พ่อที่ยิ้มตอนกูลงรถทุกวัน ถึงพ่อจะจนแต่มึงก็ไม่มีสิทธิ์พูดถึงพ่อกูแบบนี้ ผมกัดฟันกลั้นความโกรธ แต่ผมก็ยังเป็นผม ไอ้ขี้แพ้เปาที่ยอมไปวันๆ ลึกๆ แล้วผมไม่อยากให้พ่อเสียใจ ไม่อยากให้พ่อต้องมาห้องปกครองจนต้องยอมก้มหัวอยู่แบบนี้

   “ใช่มั้ย ฟ้องไรดี ใช่มั้ยพวกเรา พ่อๆ โดนแกล้ง ฮือๆ”

   “ร้องเป็นลูกแหง่ ฮือ...ฮือ ฮ่าๆๆ”

   “พ่อไม่สอนหรอว่าอย่าดูถูกคนอื่น!” ไอ้กลางสูดหายใจเฮือกหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นเสียงดัง มันเป็นคำพูดที่ผมอยากจะพูดมาตลอด แต่ไอ้กลางกลับพูดเพื่อผม...คนที่ไม่เอาไหนซักนิด แม้แต่พ่อตัวเองยังปกป้องไม่ได้ ผมรู้ว่าคนอย่างไอ้กลางไม่เคยเรียกร้องอะไร มันชอบบอกว่าตัวเองเป็นคนกลางๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มักจะออกนอกกรอบตัวเองอยู่เรื่อย เพราะมันเป็นคนดีเกินไป

   “นอกจากมึงเสือกเรื่องไอ้เปาแล้วมึงก็ยังจะเสือกเรื่องกูอีกนะ”ไอ้เกมส์พูดเสียงเเข็ม เพราะคำว่าพ่อไม่สอนทำให้ไอ้เกมส์ถลึงตา หูมันแดงขึ้น แต่มันไม่กล้าทำอะไรไอ้กลางหรอก ถ้าไอ้เกมส์มีพ่อเป็นแบ็คอัพ ไอ้กลางก็มีทีชเชอร์ทั้งโรงเรียนนั่นแหละ

   “ฝากไว้ก่อนเถอะ เล่นกับไอ้เปามากๆ ระวังโง่เหมือนมันนะ”

   ไอ้เกมส์หน้าตึงแต่ก็ยื่นมือมาผลักไหล่ไอ้กลางให้เซมาชนผมที่ยืนอยู่ด้านหลังเท่านั้น ไอ้เชี่ย มึงทำมันเจ็บนะ

   “ทีตัวเองยังไม่ชอบเลยแล้วคิดว่าคนอื่นจะชอบมั้ยล่ะ!”

   ไอ้เกมส์กับพรรคพวกล่าถอยไปไอ้กลางเลยตะโกนตามหลัง มันเดินกลับไปเหมือนแกงค์อะไรซักอย่าง โชคดีไป มันคงอายที่โดนไอ้กลางว่าต่อหน้าลูกกระจ๊อกของมัน

   “กูไม่เคยตะโกนอะไรแบบนี้มาก่อน” มันพูดยิ้มๆ พลางเอามือลูบหัวตัวเองเหมือนไม่เชื่อว่าคนที่ตะโกนปาวๆ คือตัวมัน พอเห็นผมมองมันนิ่งๆ มันค่อยๆ หุบยิ้มแล้วยื่นมือมาจับไหล่ผม

   “เป็นไร เจ็บหรอ”

   “มึงไม่ต้องยุ่งกับกูได้ป้ะ”

   ผมต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ยิ่งมันยุ่งกับผมมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีปัญหามากเท่านั้น ผมคิดแค่นั้นจริงๆ


[ต่อด้านล่างค่ะ]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 27-08-2017 20:59:02
[ต่อจากด้านบนเด้ออ]




   แต่เหมือนผม...


   ...จะคิดผิด...


   ไอ้กลางคุยกับผมมากขึ้น...มากขึ้น จนวันนึงผมเริ่มคิดกับตัวเองว่าถ้ามันไม่คุยกับผม ผมจะตายมั้ยวะ และเรื่องของไอ้กลางเริ่มออกมาจากปากผมมากขึ้น...มากขึ้นเช่นกัน พ่อยิ้มเสมอเวลาเห็นผมพูดถึงเรื่องในโรงเรียนและเรื่องของไอ้หัวหน้าห้อง ไอ้กลางเป็นคนดังคนอยากคุยกับมันเยอะแต่ผมไม่เห็นมันมีเพื่อนสนิทซักคน ทุกวันนี้มันก็เกาะติดกับผม...เอ๊ะ...ผมหรอ? นี่กูเป็นเพื่อนสนิทมันใช่มั้ย หลงตัวเองจังวะกู แต่มันชอบลากผมไปคุยกับคนอื่นบ้าง ลากไปเล่นด้วยบ้าง ผมถึงมีคนที่พอจะคุยด้วยหลายคนนอกจากมันน่ะ อย่าถามถึงไอ้เกมส์เลย ไม่อยากพูดถึงมัน ระคายต่อมเหงื่อ

   “มึงตัวเล็กแบบนี้ ไอ้พวกนั้นถึงชอบแกล้ง” ไอ้กลางเท้าคางมองผม ตอนนี้พักกลางวัน เรากินข้าวเสร็จเร็วจึงกลับเข้ามาห้องเรียนก่อน ผมมองมันตาขวางพลางแกะปีโป้ที่มันลากผมไปช้อปปิ้งที่สหกรณ์

   “เล็กแล้วไงวะ”

   “ฮ่าๆ” มันเอื้อมมือมาจับหัวผมเบาๆ “มึงนี่น้า เหมือนน้องกูเลย” น้องที่ขึ้น ป.1 ของมันอะนะ ติดพี่ยิ่งกว่าอะไรเห็นแล้วหงุด มันอมยิ้มแล้วพูดต่อ “ว่าแต่ผมนุ่มจังใช้อะไรสระผมเนี่ย”

   ผมสะบัดหัวออกมันก็ยังเอามือมาวางตามตอแยอยู่ได้ มันเป็นคนกวนตีนในคราบคนดีครับ “ตอบมาก่อนดิ” รำคาญว้อย อย่าให้กูหงุด...พูดบ่อยไปละ แต่ช่างแม่งกูเท่ที่สุดในโลก...โลกส่วนตัวอะนะ

   “ใช้แชมพูยี่ห้ออะไร ตอบก่อน” มันถามย้ำอีกท่าทางสงสัยจริงจัง

   ผมเงียบแล้วมองมันอย่างเอือมระอา มั่วไปละกัน เมื่อวานพ่อเปิดสารคดี “ตรานกประปูดแดง”

   ไอ้กลางขำตัวโยน มันขำขนาดนั้นเลยหรอวะ ไอ้เก้ที่ตามมานั่งข้างผมมองเราอย่างงงๆ ผมที่ปรกหน้าผากไอ้กลางสะบัดไปมา ผมพึ่งสัมผัสคำว่าภาพสโลว์โมชั่นก็วันนี้ ปากเล็กๆ คลี่ยิ้มน่ามอง แถมแก้มยังอมชมพู นี่มัน...กูคิดอะไรเนี่ย ผมยกมือขึ้นมาขยี้หัวอย่างหงุดหงิด

   “ขายที่ไหนวะ อยากได้บ้าง”

   มองมันตาขวางกลบเกลื่อนอาการแปลกของตัวเอง ไอ้กลางเช็ดน้ำตาป้อยๆ อยากจะบอกมันว่า ไม่ต้องอยากได้แชมพูหรอก ไม่เคยได้ยินเพลงนี้หรอ มึงไปหาฟังนะ ไปน่ารักไกลๆ หน่อย พี่สาวกูเปิดทุกวัน ตอนนั้นแม่งบ้าแดนบีม เออนั่นแหละ ไปหามาฟังมันเถอะไอ้กลาง เผื่อจะได้รู้ตัวเองบ้าง

   พอขึ้น ป.5 หลังจากที่ผมโชว์อ้วกไปวันนั้น แหม พูดเหมือนเกมโชว์แต่อย่าคิดภาพตามนะกูขอ เพื่อนทั้งห้องขยับโต๊ะหนีกันหมด มีแต่ไอ้กลางที่ลุกไปเอาไม้ถูมาช่วยผม ซึ้งใจที่สุดในโลกแต่ไม่แสดงออกหรอก พวกไอ้เกมส์ก็ไม่มายุ่งกับผมตั้งสองอาทิตย์ เดินใกล้โต๊ะยังโก่งคออ้วกใส่ผม เกินไปนะ กูไม่ใช่ขยะเปียก แต่ก็ดีเหมือนกัน รู้งี้อ้วกโชว์ตั้งนานแล้วจะได้ไม่โดนแกล้ง วันนี้ผมนั่งเล่นกบเหลาดินสอที่เนรมิตให้เป็นรถของเล่นอยู่คนเดียว อย่าว่างั้นงี้เลย ขึ้นมา ป.5แล้วผมก็ยังไม่มีสมองเหมือนเดิม

   “ทำโครงงานวิทย์เรื่องแชมพูว่านหางจระเข้ ไปทำบ้านมึงนะ”

   หือ...

   ไอ้กลางกำลังทำให้เกราะปราการของผมพังทลาย มันพยายามชวนเพื่อนในกลุ่มให้ไปทำงานบ้านผม ทำงานเนี่ยนะ? บ้านผมอะนะ? เกิดมาสิบเอ็ดปี ไม่เคยสนใจอะไรทั้งนั้น จริงหรอวะ...เอาจริงหรอ ทำงานกลุ่มก็ไม่เคยทำแถมนี่ใช้บ้านผมเป็นที่ทำงานด้วย ทวดผมคงนอนตายอย่างสบายใจ ผมตาเหลือก มองไอ้กลางจัดการแบ่งงานนู่นนี่ เสร็จแล้วก็หันมาบอกผมเหมือนให้รับรู้ไปงั้น

   “โอเคนะ?”

   กับผีอ่ะดิ แต่ไม่ได้ตอบโต้อะไร แค่มันยิ้มแล้วกูรู้สึกใจสั่น เย็นวันนั้นพ่อหัวเราะกว้างกว่าเดิมเพราะวันเสาร์ตอนสายๆ เพื่อนจะมาที่บ้าน ครั้งแรกในชีวิต พ่อผมโคตรดีใจร้องไชโยคนเดียวลั่นบ้าน ทั้งๆ ที่ยังใส่ผ้ากันเปื้อนที่แถมมาจากการซื้อคนอร์โหลนึง พ่อไม่ได้จัดบ้านอะไรมาก บ้านผมมันแค่ทาวเฮ้าส์เล็กๆ ของก็เยอะเป็นธรรมดา เรียกว่ารกก็สงสารคำว่ารก

   “มาแล้ว!!” นั่นเสียงไอ้เก้นี่ ผมเดินลากเท้าเหมือนคนไม่มีชีวิต ผมไม่ได้แกล้งทำทั้งท่าทางไม่สนใจโลกหรือเสียงเป็ดเหมือนที่ไอ้กลางชอบบอก บอกไว้เลยไม่ได้แกล้งทำ มันเป็นคาแร็คเตอร์ ผมดันประตูมุ้งลวดออกแล้วตามด้วยประตูบ้าน เด็กที่ยืนออกอยู่หน้าบ้านสามสี่คนยกมือโบกไปมา

   เฮือก แทบจะกระแทกปิด ทำไมไอ้คนหน้าสุดมันน่ารักจังวะ...

   ไม่ใช่ไอ้เก้นะ

   “ตกใจทำไม” คนนี้ต่างหาก สงสัยร้อนหัวเปียกเลย อยากจะยื่นทิชชู่ให้แต่ก็ได้แต่ทำหน้าตาไม่สนโลกไม่สนประเทศส่งกลับไปให้

   วันนั้นผมไม่ได้ช่วยเพื่อนอะไรมาก ได้แต่นั่งมองพวกมันทำงานสลับซ้ายไปขวา คือมันพูดข้ามหัวกูนั่นเอง บอกแล้วกูโง่ ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้นแต่ผมดีใจที่สุดเป็นครั้งแรก เวลาที่ผมสัมผัสคำว่าเพื่อน กูมีเพื่อน คงไม่ต้องบอกคนที่เป็นฮีโร่ของผมคือไอ้กลาง คนที่ทำให้ผมได้สัมผัสกับคำนี้จริงๆ คนที่ทำให้ผมเข้าใจคำว่ามีตัวตนมันเป็นยังไง จำได้ว่าวันนั้นบ้านผมครึกครื้นสุดๆ เสียดายที่พี่เปลไปเรียนพิเศษ อยากจะโชว์พี่สาว นี่ไงผมมีเพื่อน พี่เปลชอบเอารูปถ่ายสติ๊กเกอร์กับแกงค์เพื่อนมาอวดผมเสมอ ไม่อยากจะด่า ไม่ได้อิจฉาแต่มันเปลืองตังค์ ไม่ได้อิจฉาจริงๆ เชื่อผมเถอะ บ้านที่มีเพื่อนครึกครื้นวันนั้นเป็นยังไงน่ะหรอ ก็ประมาณนี้แหละมั้ง...

   “พ่อออ พ่อเอากระท้อนมาดองหมดเลยหรอ”

   “บ้านเรามีกระท้อน พ่อเลยเอาไปดองเพื่อนเปาจะได้กินไง”

   “เปา!! ถุงเท้าแช่ในห้องน้ำไว้ อย่าลืมซักนะอายเพื่อน”

   “พ่อจะพูดดังทำไม ได้ยินกันหมดแล้ว”

   คนที่อายมากที่สุดก็คนที่อมยิ้มอยู่ข้างๆ ผมเนี่ยแหละ “พ่อมึงน่ารักเนอะ” แหงล่ะ พ่อกูเป็นฮีโร่เบอร์หนึ่ง แล้วมึงก็ฮีโร่เบอร์สองไง ผมพูดในใจคนเดียวขณะเหลือบมองไอ้กลางที่อมยิ้มตลอดการทำงาน มองจนมุมปากผมเผลอยกยิ้มขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

   ถ้าวันนั้นผมมีความสุขที่สุด

   งั้นวันนี้ก็คงเป็นวันที่ผมเสียใจที่สุดล่ะมั้ง

   เรื่องนี้ทำให้ผมเศร้าอยู่พักใหญ่ มันเริ่มมาจากไอ้เกมส์เพื่อนรักเพื่อนร้าย มันเห็นผมยืนคุยกับมาสเตอร์วิชาญ คนที่โหดสุดในห้องปกครอง มันคิดว่าผมคงฟ้องเรื่องมันแอบสูบบุหรี่ ใช่ ไอ้เด็ก ป.6 เนี่ยแหละสูบบุหรี่ ก็ผมไปเข้าห้องน้ำตอนเย็น พ่อมารับช้าแถมไอ้กลางยังต้องไปรีบไปรับน้องมันกลับบ้าน ผมเดินเอื่อยตามประสาคนเหงาแล้วก็เห็นไอ้เกมส์ลองสูบบุหรี่กับรุ่นพี่ ม.ต้น โรงเรียนผมในตอนนั้นสอนถึง ม.3 น่ะ ผมก็ยังสงสัยงบหมดหรืออะไรแต่ช่างเถอะ ไอ้เกมส์มันโกรธจัดพอเห็นผมยืนคุยกับมาสเตอร์ ผมแค่คุยเพราะผมใส่รองเท้าเหยียบส้นแถมเสื้อออกนอกกางเกง นี่ขนาดใส่เสื้อกันหนาวตัวใหญ่แล้วชายเสื้อยังจะโผล่อีก และหน้าตาผมกวนบาทาไปหน่อย มาสเตอร์เลยเรียกไปด่า แถมอาทิตย์ก่อนพ่อผมทนไม่ไหวเอาเรื่องที่ผมโดนขโมยของไปลงบันทึกไว้กับอาจารย์ ไอ้เกมส์เลยโดนเพ่งเล็งหนัก คนผิดมันก็ร้อนตัวเป็นธรรมดา

   แค่นี้เอง

   แล้วผมต้องโดนมันสอยซะตัวช้ำไปหมด มันลากผมมากลางห้อง ล้อมกูเหมือนเล่นขายของ  ไอ้กลางมันไปคุยงานกับทีชเชอร์พอกลับมาถึงผมก็โดนไปหลายชุดแล้ว แม่งจะจบป.6 อยู่แล้วเชียว ผมก้มหน้าอยู่กลางห้อง ไม่อยากมีปัญหาถึงยอมให้มันจบๆ ไป เพราะยังไงกูก็ต้องโดนเหมือนเดิมไม่ว่ากูจะสร้างหรือไม่สร้างปัญหาก็ตาม

   แต่ครั้งนี้ไอ้กลางไม่คิดอย่างนั้น มันพึ่งเข้ามาถึงห้องแล้วก็เดินมาบังตัวผมทันที


   อีกกี่ครั้งวะ


   อีกกี่ครั้ง


   ที่กูต้องมองข้างหลังมึงแบบนี้


   ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม กูก็แค่ไอ้คนขี้แพ้ที่มึงต้องมาปกป้อง


   กูแม่งแย่


   “โดนไปกี่แผล”

   ประโยคแรกที่มันถามผมพาลทำให้น้ำตารื้น ผมกลืนมันกลับไปอย่างรวดเร็วแล้วเลิกแขนเสื้อให้มันดูช้าๆ

   “เมื่อไหร่มึงจะสู้คนซักที”

   ผมไม่มีปัญญาจะตอบมันเลยแม้แต่น้อย สายตาที่ผิดหวังทำให้ผมแทบทรุด มึงหมดหวังกับคนอย่างกูแล้วสินะ ทุกๆ เรื่องที่มึงพยายามจะทำให้กูเป็นคนที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องเรียน เข้าสังคม หรือแม้กระทั่งความกล้าหาญ ขณะที่ผมจมอยู่ความคิดของตัวเอง คำพูดของไอ้กลางทำให้ผมตัวเย็นเฉียบ

   “ถ้ามึงเลิกแกล้งมัน กูจะอยู่กับมึง”

   ผมกระตุกเสื้อมันทันที อย่านะเว้ย ถึงมึงจะหมดหวังกับกู หรือกูต้องไม่มีเพื่อนอีกครั้งแต่มึงไม่จำเป็นต้องไปอยู่กับมัน มันไม่จำเป็นเลยซักนิด คนอย่างกูไม่มีดีอะไรให้มึงมาปกป้องหรอก ทั้งหมดนั้นผมได้แต่ตะโกนในใจ คนขี้ขลาดอย่างผมได้พูดแค่ในใจเท่านั้น



.
.

   “ไม่ได้ ลูกพ่อโดนแกล้งได้ยังไง พ่อต้องเอาเรื่อง”

   “มันทำลูกพ่อเจ็บ”

   “พ่อไอ้เกมส์มันบีบให้หัวหน้าไล่พ่อออก”

    “เงินเราไม่พอใช้นะลูก”

   “เราต้องย้ายโรงเรียนแล้วล่ะลูก”

   “เปา...”

   เพราะผมอีกแล้วที่ทำให้รอยยิ้มพ่อหายไป พ่อที่ดีใจพอรู้ว่าผมได้เข้าโรงเรียนดีๆ แพงๆ ตอนนี้แม่งไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะผมเป็นต้นเหตุ หลังจากวันนั้นพ่อต้องตระเวนหางาน บ้านเราไม่ได้มีฐานะร่ำรวยพ่อต้องหาเงินคนเดียว เรื่องหลายอย่างที่ไม่ลงตัวทำให้ผมต้องย้ายโรงเรียนในที่สุด ผมยัง...ไม่ได้บอกลาไอ้กลางเลยว่ะ เพื่อนของผม ผมย้ายโรงเรียนได้ไม่นานพ่อก็ล้มป่วยลง นั่นยิ่งทำให้ผมเศร้า โคตรโดดเดี่ยว และไร้ค่า ผมไม่สามารถช่วยอะไรพ่อได้เลย ผมไม่มีเงิน พี่สาวผมต้องหางานพิเศษทำแต่นั่นก็ไม่พอกับค่าใช้จ่าย

   วันที่ท้องฟ้าไม่โปร่งใสนักก็มาถึง มันมืดครึ้มเหมือนว่าฝนกำลังจะตก

   พ่อเสียแล้ว

   และผมก็เหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง

   วันสุดท้ายที่ร่างของพ่ออยู่บนโลกนี้ พี่สาวเดินเข้ามาปลอบก่อนจะเดินออกไปคุยกับแม่ที่ยืนมองดูอยู่ไกลๆ แม่ที่มาหาผมในวันที่พ่อจากไป

   ผมได้แต่มองสองมือตัวเองอย่างว่างเปล่า เรื่องราวทุกเรื่องผ่านเข้ามาในสมองเป็นฉากๆ

   ผมคิดถึงพ่อ

   และในความเศร้านั้นผมก็คิดถึงเพื่อนคนเดียวของผมด้วยเหมือนกัน...

   คนที่ปกป้อง อยากให้คนไม่เอาไหนกล้าหาญ

   คนที่พยายามเพื่อผม แต่ผมไม่เคยพยายามด้วยตัวเอง

   ทั้งพ่อเเล้วไอ้กลาง...

   “วันนี้โรงเรียนเปิดเทอมใหม่ กางเกงน้ำเงิน กล่องดินสอ เสื้อรีดเรียบกริบ”

   “บ้านเรามีกระท้อน พ่อเลยเอาไปดองเพื่อนเปาจะได้กินไง”

   “เปา!! ถุงเท้าแช่ไว้ อย่าลืมซักนะอายเพื่อน”

   “ไม่ได้ ลูกพ่อโดนแกล้งได้ยังไง พ่อต้องเอาเรื่อง”

   “มันทำลูกพ่อเจ็บ”

   “ทำไมมึงต้องยอมตลอดวะ คนเรามันเท่าเทียมนะเว้ย”

    “เมื่อไหร่มึงจะสู้คนซักที”    

   “มึงเลิกแกล้งมันได้มั้ยวะ”

   “ถ้ามึงเลิกแกล้งมัน กูจะอยู่กับมึง”

    “ตั้งใจเรียนนะลูกพ่อ เปาเก่งที่สุดในโลก หนูต้องทำได้”

   “พูดเร็ว”

   “เปาเก่งที่สุดในโลก! หนูต้องทำได้”



   ทำ...ได้...


   ผมต้องทำได้


   ใช่!


   ไอ้เปาที่อ่อนแอ ไร้ค่าจะไม่มีอีกแล้ว


   ต้องทำได้


   ไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม


   รวมถึงเรื่องของมึงด้วย...


   ไอ้กลาง


   ถ้าเราเจอกันอีกครั้ง...



============
สวัสดีค่ะทุกคน
ตอนนี้พาย้อนอดีตไปเจอไอ้เปาลูกพ่อปลากันค่ะ ตอนนั้นยังใสๆ เป็นเพื่อนกันไม่คิดอะไรมาก
มีหลายคนยังติดใจเรื่องเกมส์ อย่างที่เขาว่ากันเนอะ คนพูดไม่คิดอะไร แต่คนฟังจำไม่เคยลืมจริงๆ
แต่จริงๆ แล้วเกมส์เป็นตัวละครที่มีปมตั้งแต่เด็ก และเรื่องหลักนี้เล่าผ่านกลางดังนั้นเราอาจจะไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นยังไงกันแน่ ทำไมเจ้าเด็กเกมส์คนนี้ถึงชอบแกล้งเปานัก หรือว่ามันแอบชอบเปา เฮ้ย จะดีหรอ555
ตอนงานเลี้ยงรุ่นมีแค่พลอยคนเดียวที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนและจุดดราม่า
ส่วนเพื่อนคนอื่นๆ นั้น อารมณ์แบบว่าพูดถึงเรื่องเก่าๆ ก็แซวๆ กันไปเรื่อยไม่ได้คิดอะไร เพราะมันผ่านมานานแล้ว และเปาก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะในวงเหล้าเปาก็แอบตอบกลับแรงๆ ด้วยฝีปากที่กล้าขึ้นมากแล้ว(แต่กลางไม่รู้)
เอาจริงๆ แล้วเปาไม่ชอบเกมส์นะ มากๆ ด้วย

ตอนพิเศษนี้อยากให้เห็นการพบกันของเปากับกลางและอดีตที่ไม่อยากจำ
เปาเรียนรู้ว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เปาก็จะไม่เอาไหนเหมือนเดิม โดยมีเรื่องพ่อ เรื่องกลาง และไอ้เกมส์เป็นตัวกระตุ้น
และที่เปาไม่พูดถึงเกมส์อีกเลยเพราะไม่อยากพูด ไม่อยากจำ แค่ตอนนี้ได้อยู่กับกลางก็พอแล้ว เกมส์เลยเป็นสิ่งที่ไม่อยู่ในสายตาและสมองอีกต่อไป เกมส์อาจจะไม่โดนกรรมตามสนองทางการกระทำแต่เกมส์จะโดนกรรมตามสนองทางจิตใจค่ะ55555
และเราอาจจะได้รู้กัน ส่วนเรื่องพ่อนั้นเปาขอเก็บพ่อไว้ในส่วนลึกสุดๆ เราพาพ่อมารู้จักกันทุกคนเพราะพ่อน่าร๊าก

เเต่...ตอนหน้าเราจะพาทุกคนไปตามหารับ เอ้ย รักแท้กับคุณกล้วยกันค่ะ
ตอนพิเศษของกล้วยนี้เราเขียนจบก่อนคนกลางจะจบซะอีก 555
อยากให้พี่แกมีคู่ และเนื้อคู่ของกล้วยก็เกิดพอดี

ขอบคุณทุกคนเช่นเคยค่ะ ดีใจที่ทุกคนมีความสุขกับการอ่านเปาคนกากเเละน้องกลางคนดี
เจอกันใหม่ค่ะ

:L2: :L2: :L1: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-08-2017 21:20:33
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 27-08-2017 21:46:04
เปาสมเป็นพระเอกจริงๆค่าาา ไม่ยอมแพ้เลย เท่มากๆๆ
ถึงตอนแรกเราจะคิดว่าเปาเป็นายเอกก็เถอะ เพราะเปาตัวเล็ก 555555555555555555
ลุ้นน้องกล้วยว่าจะคู่กับผู้ใดดดด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-08-2017 22:35:05
เปา น่าสงสารจริงๆ
เพื่อนเกเร แบบเกมส์ นิสัยเลวววววว
คนอ่อนแอถูกรังแก
แล้วคนแบบเกมส์ จะมีกรรมตามสนองมั้ยนะ

กลาง น่ารักมากกกกกกก
ช่วยเหลือเปาเต็มที่จริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-08-2017 12:47:34
 :L2: :3123: :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 28-08-2017 21:01:54
สนุกมากครับ
ชอบมากเลย
ชอบทั้งคนกลาง เปา และแก๊งคอหล่น
ได้ทั้งเรื่องราวมิตรภาพของเพื่อน และความรักแบบน่ารักๆ

ขอบคุณผู้แต่งมากๆครับ สำหรับเรื่องสนุกๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 28-08-2017 21:22:36
พี่กล้วยจะมีคู่แล้ว ดีใจ ๆ ชอบพี่กล้วยมากเลย  :m3:
รอติดตามเลยค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Yukina ที่ 28-08-2017 22:07:26
 :hao5: :hao5:เศร้ามากกกกกก ขอหวานๆหน่อยเถอะ เปากลาง ขอโมเม้นดีๆหลังมรสุมหน่อยยยยยยยยยยย
ยังไงก้อขอบคุนครับ ที่เขียนให้อ่าน ชอบเรื่องนี้มาก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 29-08-2017 09:07:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 29-08-2017 21:11:36
ยิ่งมาอ่านในพาร์ทของเปายิ่งไม่ชอบเกมส์
ว่าแต่เนื้อคู่ของกล้วยจะเป็นคนแบบไหนนะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 30-08-2017 23:56:45
ชอบเปาเป็นพระเอกที่หล่อแต่ไม่มีมาดอะไรเลยดูธรรมชาติจริงใจดี
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 31-08-2017 03:55:10
เรายังยืนยันว่าพระเอกแบบเปาหาได้ในโลกปัจจุบันนี้ค่ะ มีความเรียล คือเป็นคนจริงๆไม่ใช่เทวดาปั้นแต่ง ไม่แปลกใจเลยเพราะคุณพ่อเลี้ยงเปามาด้วยความน่ารัก เปาเลยโตมาเป็นแบบทุกวันนี้ ส่วนกลางเหมือนแสงสว่างในชีวิตของเปาเลยค่ะ อยากให้เปามีความสุขทุกๆวันเลย ส่วนเกมส์ เราขอเกลียดเกมส์ต่อไปได้ไหมคะ ยิ่งอ่านแบบนี้แล้วยิ่งไม่น่าให้อภัย เฮ้ออ

รอลุ้นคู่คุณกล้วยว่าใครจะเป็นผู้โชคดีคนนั้น  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 31-08-2017 10:50:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
ชอบทั้งนิสัยและการแสดงออก
ของน้องกลางและน้องเปามากกก
 :กอด1:
 :กอด1:
 :กอด1:
 :กอด1:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: SIRINN ที่ 03-09-2017 14:47:26
ชอบบบ. ขอบคุณนักเขียนจ้ะ , o22
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 04-09-2017 04:00:44
สนุกมากค่ะ ขอบคุณนะคะ
อยารู้จัง ถ้าน้องเล็กมีแฟนจะเป็นอย่างไงนะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: numildkub ที่ 04-09-2017 23:56:38
เนื้อเรื่องน้ารักมากเลย ชอบความเป็นคนกลางของคนกลางมากเลย
ชอบคนนิสัยแบบนี้ มาก 5555 แต่ก็ชอบเปานะ ตะมุตะมิ มาก 55555
ขอบคุณักเขียนมานะค้า เรื่องนี้สนุกมากเลย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 06-09-2017 21:57:06
ชอบมากกกกก รอเรื่องกล้วยยยย :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 06-09-2017 22:08:55
พ่อนกกระปูดแดง สงสาร ฮือ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: megatef4 ที่ 08-09-2017 03:31:40
สนุกมากๆเลยค่ะ เนื้อเรื่องดี ภาษาโอเค มีเรียงคำผิดบ้างเล็กๆน้อยๆ ตอนแรกๆ แต่ก็ยังโอเคอยู่
เราชอบมากกก
ตอนพิเศษนี่ทั้งเศร้าทั้งสงสารเปาอ่ะ เกลียดเกมส์ด้วย อินจัด 555 
ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะคะ   :L2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 20-10-2017 22:14:23
-ใครคิดถึงกลางเเละเพื่อนๆ มาจอยกันนนน-


สวัสดีค่ะทุกคนนนน
หายไปนานมากสำหรับเรื่องคนกลาง
คิดถึงมากกกก เเละเพราะคิดถึง
เราจึงมีตอนพิเศษเป็นนิยายเเชท ตอน วันเกิดกล้วย


นี่เลย


>>> http://www.joylada.com/story/59e5fb381ca2e20001b609ac <<<
หรือจะเสิร์ชชื่อเรื่องคนกลางในเเอพได้เลยค่ะ


เรื่องตอนพิเศษของกล้วย ต้องขออภัยที่ช้ามาก เเต่ว่ายังมีที่เเก้ไขเลยต้องติดไว้ก่อนเด้ออ
ขอบคุณทุกคนมากๆ เลยค่ะ


ขอพื้นที่เล็กๆ ฝากนิยายเรื่องใหม่ที่กำลังเเต่งอยู่ตอนนี้ให้ทุกคนได้คลายเครียดด้วยนะคะ อิอิ
#เรากับเขา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61891.0)
 คุณชาย2017 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61707.0)
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ 1 หน้า 21 (27-08-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Somporn ที่ 20-10-2017 22:56:48
ชอบมากเลย ขอบคุณนะครับ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ (่joylada) (20-10-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: 0% ที่ 22-10-2017 15:12:13
เนี่ยพออ่านรวดเดียวจบก็ติดน้องกลางมาก น้องน่ารักซึนๆ พ่อนกกระปูดเเดงก็น่ารักเเงๆ รอตอนพิเศษของกล้วยนะ ลุ้นว่าจะคู่กับใครหรือจริงๆนางจะคู่กับน้องมิริน 55555555555 ในจอยก็สนุกแอบเหม็นความรักเบาๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ (่joylada) (20-10-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 26-10-2017 18:08:20
เปา ต่อให้เท่ห์ หรือหล่อยังไง ก็ยังคงความมุ้งมิ้ง อยู่ดี :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ (joylada) (20-10-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: JanJanIsHappy ที่ 24-11-2017 21:00:08
ชอบมากกกกก เปาเป็นผู้ชายที่เรียลมาก อยากได้มาก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ (joylada) (20-10-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: SeaBreeze ที่ 15-04-2018 10:20:37
ชอบพี่โตกับน้องเล็ก น่าร๊ากกกดด :กอด1:
ส่วนคนกลาง ...... ชริ ชริ ชริ อิดซี่มากย่ะได้เปาไปครอง :oo1:
ตอนอ่านอิมเมจมาร์คมีน เด้งขึ้นมาเฉยเลย  ขออภัยในความจิ้น  ฟินระดับ10 มากๆ :z1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ (joylada) (20-10-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 15-04-2018 16:53:13
ฮือออ สนุกมากค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ (joylada) (20-10-60) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 16-04-2018 15:01:49
 :katai2-1: สนุกมากเรื่องนี้ ชอบเปาที่ไม่ยอมแพ้
กลับมาหากลางอีกครั้ง ฮาตรงกลุ่มคอหล่น
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย(29-4-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 29-04-2018 16:04:22
ใครลืมไปเเล้วต้องกลับไปอ่านใหม่นะะะ สัญญาาา

ตอนพิเศษ 2
ตามหารับ เอ๊ย รักแท้กับคุณกล้วย 1



                ชีวิตมันไม่ได้ง่ายเหมือนชื่อขนาดนั้น...



                อย่างน้อยก็เรื่องความรัก



                กูอกหักตลอดเลยโว้ย หลงรักใครพี่กล้วยคนนี้ก็กินแห้วตลอดมา น้ำฝนจัดมา! สาดมาครับพี่น้อง ให้ความเศร้ามันไหลไปกับน้ำ ให้มันไหลไปลอยลงสู่ทะเลให้หายไป นั่นมันเพลง เอ้อ...สาดมา!!!



                จอกๆ



                เดี๋ยวนะ...นี่พี่ขอน้ำฝนไม่ใช่น้ำจากท่อบนชั้นสอง เดินอยู่ริมถนนไม่มีน้ำฝนเหมือนในเอ็มวีเลย โถ อีชีวิตตตตตตตต!



                แม่ง เตะกระป๋องซักหนึ่งทีจะได้เท่



                ปึก!



                “โอ๊ยย”



                ไอ้เชี่ยยย ในกระป๋องมีน้ำอยู่ เจ็บตีนชิบหาย



                อันที่จริงในส่วนลึกก้นบึ้งจิตใจ พี่กล้วยเป็นคนง่ายๆ คิดง่ายๆ ทำง่ายๆ ถือคติว่าเกิดมาทั้งทีอย่าไปคิด อย่าไปทำอะไรซับซ้อน



                ดูชื่อเล่นพี่ดิ จะว่าไปแม่ก็ตั้งชื่อเข้ากับชีวิตเราจัง



                อยากให้ยกตัวอย่างเรื่องกล้วยๆ ที่เคยทำ?



                โอ๊ย ไม่อยากเล่าหรอก กลัวหลงรักผมเข้าอีกคน ไม่อยากเล่าจริงๆ นะ อะ...เล่าก็ได้ เรื่องความรักของผมก็ไม่เคยมีอะไรซับซ้อนหรอกครับ ชอบใครก็จีบ คิดอะไรก็พูด อยากได้ไลน์ก็เดินไปขอ ถ้าสาวอกตูมๆ ให้จะดีใจเป็นพิเศษแต่สาวอกเล็กก็ดี จับถนัดมือดี



                อก?

 

               ไม่ใช่!



                มือเล็กๆ จับกันถนัดดี



                เอ้ คิดไรเนี่ย



                เรื่องอกหักพี่กล้วยเจอมาทุกรูปแบบ ตั้งแต่อกหักแบบเล็กๆ ไปจนถึงอกหักแบบใหญ่ๆ อย่างเมาหัวราน้ำ ไม่เข้าใจทำไมคนอย่างผมถึงไม่สมหวังในความรัก จริงๆ เราก็หน้าตาดีนะ แต่ติดตรงที่ว่าจังไรไปหน่อย ทำไมอะครับ ผู้ชายไม่ขี้เก๊กแบบผมไม่ดีตรงไหน สาวๆ บอกว่าเพราะอย่างนี้ถึงไม่มีใครเอาเป็นแฟน โอ๊ย นึกแล้วมันจี๊ดถึงพวงไข่ เอ๊ย ทรวงในครับพี่น้อง เธอบอกว่าถ้าจีบเธอต้องไม่พูดเรี่ยราดใส่คนอื่น โธ่เยี่ยวราดผมก็ไม่เคย ก็แค่เห็นผู้หญิงคนนั้นสวย ใส่กระโปรงสั้นก็พูดแซวไปหน่อยเท่านั้นเอง ขาขาวๆ วับๆ แวมๆ พี่ก็ใจสั่นเป็นธรรมดา เพราะเป็นแบบนั้นสาวที่คุยอยู่ตบแก้มผมจนหน้าสั่น แจกกล้วยให้ผมหนึ่งทีก่อนจะเดินสะบัดก้นงอนๆ ออกไป โด่ ไม่ต้องแจกพี่ก็มีครับน้อง



                ผมแทบจะหมดสิ้นศรัทธาความรัก แต่อยู่ดีๆ ฟ้าก็ส่งผู้หญิงบ้องแบ๊วที่ชื่อฟ้ามาให้ผม ได้ไลน์มาคุยตั้งนานจู่ๆ ก็เผลอบอกชอบเธอไป แต่ตอนนั้นใจไม่กล้าพอเลยรีบบอกกลับว่าพิมพ์ผิด ไอ้กลางชอบต่างหาก สรุปเธอก็ดี๊ด๊าใหญ่เพราะดันชอบไอ้เอ๋อกลางจริงจัง ไอ้กลางเลยแนะนำให้ผมบอกชอบเธอ โธ่...ก็ผมผิดหวังจากความรักมาขนาดนั้นก็ไม่กล้าหรอกสุดท้ายไอ้กลางคอยให้กำลังใจ ทำให้ผมกล้าท้าชน ไอ้กลางเนี่ยน่ารักที่สุดจนอยากจะทำเมีย เฮ้ย กูคิดอะร้าย เดี๋ยวผัวมันจะตบผม เออนั่นแหละ สุดท้ายก็บอกชอบเธอไป



                แล้วเป็นไงล่ะ งานเข้า...แถมยังเมาเป็นหมาเลย



                เออ...ช่างแม่งเถอะ อย่าไปเศร้ากับเรื่องที่ผ่านมาเลย บอกแล้วผมไม่คิดอะไรมากมาย



                ผมเดินผ่านป้ายรถเมล์มาสามป้าย ถามว่าผมลงก่อนถึงบ้านตัวเองทำไม ก็พี่อยากอินดี้ เศร้าจนอยากจะเดินกลับบ้าน คิดถึงชะตาชีวิตไม่มีเมียแล้วกูเศร้า จริงๆ ผมก็มีหออยู่แถวมหาลัยแต่วันนี้อยากกลับบ้านมาขอตังค์อาม่าที่ย่านบางรักถิ่นเรา เห็นเป็นผีบ้าผีบอแบบนี้นี่พี่กล้วยอัสสัมฯ นะครับ อัสสัมชัญ? เปล่าครับ ชาอัสสัมนี่แหละอยากแดกพอดี ถุ้ย!



                “อาม่า ตี๋กลับมาแล้วคร้าบบบบ”



                เปิดประตูบ้านเข้าไปก็ตะโกนเรียกหน้าสดใส เดี๋ยวทำหน้าเศร้าเข้าบ้านอาป๊าด่าบอกตอแหล



                หือ?....ที่บ้านคนหายไปไหนหมด ปกติบ้านกูแทบจะไม่มีที่ยืนอยู่แล้ว บ้านคนจีนเนี่ยบางทีพี่กล้วยก็แอบคิดว่าบ้านคนหรืองานคอนเสิร์ตบริทนี่ย์ คนเยอะจนผมไม่มีที่หายใจ



                “อาป๊า!!! อาม้า!!! เจ้!!!” แหกปากเข้าไป เดี๋ยวป๊าม้าไม่รู้ว่ากลับบ้านแล้วจะน้อยใจ บอกอาตี๋น้อยไม่สนใจบ้างล่ะ ไม่มีใครรู้ว่าผมอยู่บ้านจะเป็นตี๋น้อย เพื่อนๆ ผมแม่งชอบเรียกผมว่าเจ๊กกล้วย เจ๊กบ้านมึงดิ นี่ตี๋น้อยแห่งบางรักนะโว้ย ได้แต่เถียงอยู่ในใจ อย่าไปบอกใครนะครับว่าที่บ้านเรียกแบบนี้ ผมไม่ได้เขินหรอก! แต่ชื่อแม่งเท่เกิน เดี๋ยวไอ้คอหล่นล้ออีก



                และด้วยเหตุที่ผมเป็นคนสุดท้องของบ้าน ก้นบึ้งของหัวใจจึงโหยหาโมเม้นท์ที่อยากจะเป็นพี่ดูบ้างซักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ไม่มีเลย พี่กล้วยจึงเป็นตี๋น้อยถึงทุกวันนี้



                ตึงตัง! ตึงตัง!



                เสียงดังข้างบนบ้านจนผมนึกว่าโจรขึ้นบ้าน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่หรอกครับ บ้านไม้สไตล์โมเดิร์นด๊อกผสมกับจีนแห่งนี้อยู่มาตั้งแต่อากงของอากงแล้วครับ และเสียงคนเดินตึงตังอยู่ข้างบนก็คงจะเป็น...



                “ตี๋น้อยยยยยย!!!!”



                ฝูงครอบครัว...เอ๊ย ป๊า ม้าและเจ้อีกสามคนวิ่งลงมาจากบนบ้าน พร้อมกับวิ่งเข้าลูบหัวลูบหาง หอมแก้มผมคนละฟอด ดีนะไม่ยืนต่อแถว อาม่าที่เดินจับไม้เท้าออกมาจากครัวก็เดินตามมาสบทบช้าๆ นี่...ทุกคนไม่มีใครไปช่วยพยุงอาม่าเลยหรอครับ



                ฟอด! นี่ก็หอมจนเนื้อแก้มพี่จะติดจมูกไปแล้ว



                “ตี๋น้อยกลับมาบ้านทำไมไม่บอกม้าก่อน”



                “วันนี้เลิกเร็วก็เลยกลับเลย อาม่ามานั่งนี่ก่อนครับ” ผมตอบม้าแล้วพยุงอาม่านั่งตรงเก้าอี้กลมที่มุมน้ำชาของบ้าน



                “โอเค งั้นม้ากับเจ้ๆ ไปทำกับข้าวต้อนรับตี๋น้อยดีกว่า” ม้าว่าอย่างอารมณ์ดีก่อนจะชวนเจ้ๆ เข้าครัวไป



                “งั้นเดี๋ยวป๊าไปตัดหญ้าหน้าบ้านต้อนรับตี๋น้อยดีกว่า”



                “เดี๋ยว...ป๊าไม่ต้องถึงขนาดนั้น”



                โอ๊ย บ้านตู ปวดหัวไปหมด ป๊ายิ้มรับอย่างขำๆ แล้วก็เดินไปดูทีวี อ้าวป๊าไม่ไปตัดหญ้าหรอพูดในใจครับ เดี๋ยวโดนส้น...ครับผม



                ส่วนอาม่าที่นั่งอยู่ก็เอ่ยขึ้นบ้าง “งั้นม่าไปขัดห้องน้ำต้อนรับตี๋น้อยลีกว่า”



                อาม่าหัวเราะเมื่อเห็นผมหน้าเหวอ ผมก้มไปกอดอาม่าที่ใส่เสื้อคอจีนทุกวันจนพี่กล้วยอยากถามว่ามันไม่ทิ่มคอหรอม่า



                “พาอาม่าไปดูทีวีกับอาป๊าลื้อปะ”



                “ครับม่า”



                “โอ๊ย อาเคงนี่หล่อจริงจริ๊งงงง” พอมานั่งอาม่ากระผมก็ตบเข่าฉาดๆ เงยหน้าไปมองทีวีขนาดยักษ์ เอ่อไม่ได้อวดรวยแต่คนในครอบครัวนี้สายตาสั้นเลยอยากได้จอใหญ่ๆ กลับมาที่คนในจอ เดี๋ยวนะอาม่า คนนี้ชื่อเคน ธีรเดช อาเคงนี่เส็งเครงปะครับ ผมนั่งมองคนในบ้านมีความสุขเพราะผมกลับบ้านก็ดีใจแล้วครับ หูย กระซิกระริกระรี้



                ตอนแรกร้องไห้กันเป็นวรรคเป็นเวรที่ผมติดคณะสินกำ มอผมอยู่ไกลจากบ้านมาก พอรู้ว่าต้องเช่าหอก็ร้องกันระงม พี่กล้วยงงจริงๆ นี่พี่ไปเรียนหรือไปรบที่ชายแดนครับครอบครัววว ตอบหน่อย เอาจริงๆ แล้วที่ครอบครัวรักผมขนาดนี้ก็เพราะว่าไอ้ตี๋น้อยคนนี้เป็นลูกหลงครับ หลงทางในใจเธอ ดีกว่าหลงเธอในดวงใจ



                พี่กล้วยมีชื่อเท่ๆ ว่าสืบสกุล เท่ปะล่า...จำได้ว่าตอนออกไปพูดแนะนำตัววิชาบังคับของมหาลัย ไอ้พวกเพื่อนผมก็ล้อกันชิบหาย แต่เสียใจที่ผมไม่แคร์ ป๊าผมอยากให้ผมเป็นลูกชายถึงได้ตั้งชื่อแบบนั้น แต่พี่กล้วยอยากจะแหมไปถึงดาวอังคาร บ้านเรามีลูกสี่คนรวมผมด้วย สามคนแรกเป็นผู้หญิงหมดจนป๊าถอดใจ ผมจึงเป็นความหวังของป๊าที่อยากให้มีลูกชายไว้สืบสกุลของตระกูล ทั้งๆ ที่เจ้ๆ ก็โตมีลูกมีผัวกันหมดแล้ว มีหลานไว้สืบสกุลสมใจป๊ากันเจ็ดชั่วโคตรนู่นแหละ แต่ทุกวันนี้ป๊าก็ยังถามผมเรื่องแฟนอยู่เสมอๆ



                เรื่องกิจการของอาป๊านั้นก็ให้สามีเจ้ๆ เป็นผู้ดูแลแทน ตัวเองก็เป็นผู้ควบคุมอยู่เบื้องหลัง ตอนที่รู้ว่ามีลูกหลงอย่างผมป้าก็เริ่มทำงานหนัก จึงไม่ค่อยได้ดูแลผมมาก ดังนั้นอาม้าจะเลี้ยงผมแบบสุภาพบุรุษเรียบร้อยเสียมากกว่า ก็แน่ล่ะเจ้ก็ช่วยกันเลี้ยงด้วย แถมอาเจ้คนแรกของผมอายุห่างจากผมตั้งสิบสี่ปี คนที่สอง สามก็เกิดไล่เลี่ยกัน เพราะงั้นตอนที่มีผม ทุกคนในครอบครัวเลยประคบประหงมเหมือนหินในไข่ เอ๊ย ไข่ในหิน โดยเฉพาะเหล่าเจ้ๆ และที่ผมเป็นคนทะลึ่งตึงตังเพราะที่บ้านมีแต่ผู้หญิงเวลาพูดเรื่องลับใต้สะดือเอาแต่อายม้วน เก็บกดไงเลยต้องไปเรียนรู้จากเพื่อนๆ ผู้ชายล้วนกันแบบเต็มสตรีม



                ถึงแบบนั้นก็เถอะ อย่างที่รู้ๆ กันถึงแม้ป๊าจะอยากให้มีแฟนแต่ชีวิตรักผมไม่เคยจะดีเลย ฮือ เจ็บหัวใจ อยากได้เมีย กล้วยอยากได้เมีย



                “เป็นไรตี๋น้อย” เจ้ส้มพี่สาวคนที่แรกทัก เมื่อเห็นว่าผมทำหน้าเป็นส้นเท้า เอ๊ย หน้ามุ่ยตอนเดินเซ็งเข้ามาแล้วนั่งแหมะดูเจ้ๆ กับม้าทำกับข้าวในห้องครัว เมื่อเจ้ส้มทักแบบนั้นทุกสายตาก็หันมามองกันหมด



                “ตี๋อยากได้เมีย”



                “เฮ้ย!!! ไม่ได้!!!” กูว่าแล้ว...ประสานเสียงกันทีเดียว



                “ไม่ต้องมีหรอก ตี๋อยู่เป็นน้องชายที่น่ารักของเจ้ก็พอ” เจ้โมถือมีดเข้ามาใกล้ผมเลยทีเดียว จะแทงแล้วววววเจ้



                “ใช่ ตี๋อยู่เล่นกับหลานๆ ก็ได้ถ้าเหงา” เจ้เปิ้ลอีกคนถลาแทบจะเอามือที่จับพริกมาบีบแก้มผม พี่กล้วยร้อนหน้าไปหมด



                “ไม่ต้องมีแฟนก็อยู่กับม้าไงตี๋ ฟอด” รวมไปถึงม้าที่อดไม่ได้หอมแก้มผมจนแก้มยาน



                “ได้ไงอะ เพื่อนตี๋มีเมียกันหมดแล้ว” แอบเอานิ้วไขว้หลังไอ้เบสกับไอ้ทัพยังไม่มีหรอก จนผมคิดว่ามันจะได้กันเองแล้วเนี่ย



                “เพื่อนมีก็ส่วนเพื่อน ตี๋ไม่ต้องอิจฉาเพื่อนหรอก เดี๋ยวโตขึ้นมันก็มาเอง”



                ผมหน้ามุ่ยเป็นตูดไก่ พูดเรื่องนี้ทีไรโดนขัดทุกทีไป อยากจะดิ้นกับพื้นแล้วบอกทุกคนว่าอยากได้เมีย อยากได้เมียยยยย ใครๆ ก็ไม่รักผมขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย

 





                กลับมาเรียนตามเดิม อาทิตย์ก่อนกลับบ้านได้เงินถุงเงินถังจนผมรวยก็กลับมาอยู่หอ เหงาๆ ก็ดูหนังโป๊ ไม่เหงาก็ออกมาหาเพื่อน เช่นวันนี้ผม--นายกล้วยออกมาเจอเพื่อนเดอะแก๊งที่สนามบาสของมหาลัย ขณะนี้พี่กล้วยนอนเล่นมือถืออยู่บนอัฒจันทร์เพราะขี้เกียจเล่นบาส กูเซ็ทผมมาดีทำไมต้องไปวิ่งให้มันกระเซิง เปลืองน้ำยาเซ็ทครับพี่น้อง ผมเหลือบมองไอ้เปากับไอ้กลางแล้วอิจฉานิดๆ เพื่อนกลางที่มีความเด๋อด๋าครอบงำมีคนชอบเป็นกระบุงเสือกโง่ ก่อนหน้าที่มันจะเป็นแฟนกัน ไอ้กลางโง่แล้วโง่อีก พวกกูชงจนจะได้กาแฟหลายแก้วแล้วยังไม่รู้ตัว



                ก่อนจะปล่อยเพื่อนลงไปเล่นกีฬาให้เสียหยาดเหงื่อ พี่กล้วยได้พูดคุยกับเพื่อน ในส่วนของเรื่องความรักน้าน...กระผมได้ปรึกษาเรื่องหาเมียกับพวกคอหล่นแล้ว ไอ้ทัพรับฟังพร้อมกับเกาคางที่มีหนวดประปรายพร้อมกับบอกว่า



                “ไอ้กล้วยมึงเสิร์ช วิธีตามหารักแท้ในกูเกิ้ลสิ”



                “เป็นวิธีที่ดี หาเมียก็หาในกูเกิ้ลนั่นแหละ” ไอ้เบสเสริมมาอีก ใจพี่เริ่มเชื่อมันแปดสิบเปอร์เซ็นต์เป็นคนบ้ายอนั่นเอง บ่องตง ส่วนไอ้เปากับไอ้กลาง นู่น...ยืนล้างหน้าให้กันนู่น เห็นแล้วร้อนในอก กรดไหลย้อน? เปล่ากูอิจฉา



                “เดี๋ยวกูลองดู”



                “เพื่อนหงอยกล้วยเลยเว้ย อยากได้เมียเหลือเกิน มึงไม่สนน้องมิรินแล้วหรอ”



                “เดี๋ยวๆ ไอ้สัดทัพ เพื่อนกล้วยหงอย ไอ้เหี้ย พูดจนกูเสียวกล้วยเลย”



                ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ไอ้สัด พวกมึงนี่พูดคำหยาบเหมือนหน้าตาจริงๆ ดีนะที่บ้านกูสอนมาดี ไม่เคยมีคำหยาบหลุดออกมาเลย แล้วพวกมันหัวเราะแปะมือกันสองสามทีก่อนก็เริ่มต้นแข่งบาสฯ ฝั่งละสองคน กูถามหน่อยมีสี่คนในสนามมันส์ตายห่าละพวกมึง



                 “เปา รับ”



                “เฮ้ๆ กั้นมัน”



                “ไอ้เบส รับ”



                “รับไปโว้ย บักจุ่น ฟึบ” ไอ้บ้า เล่นกันอยู่ทีมละสองคนเรียกหาใครวะบักจุ่น กูล่ะปวดหัวมีเพื่อนอย่างพวกมึง



                พี่กล้วยละสายตาจากเพื่อนแล้วหันมาจรดปลายนิ้วลงบนหน้าจอไอโฟน แล้วเข้าเว็บไซต์ชื่อดังที่มีทุกอย่างอย่างกูเกิ้ล แน่นอนว่าไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด อะ...พิมพ์แม่งเลยละกัน



                “วิ-ธี-ตอ-อา-มอ-หอ-อา”



                เพื่อนผมก็วิ่งแข่งกันเอาเป็นเอาตายเสียงของมันดังลอดเข้ามาในโสตประสาท



                “รับเร็วๆ”



                มึงจะตะโกนรับส่งอะไรกันนักหนา เหี้ย ร เรืออยู่ไหนวะ “ตาม-หา”



                “กลางรับ อ้อมไป ส่งมาให้กูรับ”



                “รอ-อะ-…”



                “เชี่ยทัพ เอ้า! รับไป!”



                “รอ-อะ-”



                ตุบ ตุบ



                “รับครั้งสุดท้าย ฟึบ”



                “รอ-อะ-บอ-ทอ-แอ-ไม้โท”



                สวบ!!!



                กริ๊ก...กำลังค้นหาด้วยกูเกิ้ล



                “เฮ!!!! ชนะแล้วไอ้ทัพเราชนะสองคนผัวเมียแล้ว”



                พี่กล้วยหันไปมองเหตุการณ์ในสนาม ไอ้กลางล้มตัวลงนอนเป็นหมาหอบแดด สองคู่ซี้หัวเราะกันน่าถีบ ผมจึงละสายตาจากพวกมันอีกครั้งแล้วมาดูบนเจอ



            เย้ ดีใจจังค้นหาแล้วเจอเลย



             โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากูพิมพ์ผิดครับไอ้สลัด!



                ผมเลื่อนดูอย่างรวดเร็ว กระทู้นี้บอกว่า รับแท้ตามเดือนเกิด อ่านแล้วรับแท้จะมาหาคุณแบบไม่ทันตั้งตัว ถ้ามันไม่มากูโกรธมึงจะอีกระทู้ ไหนๆ พี่กล้วยเกิดเดือนเมษายน ดูหน่อยก็ได้ เปลืองค่าเน็ตก็ดูหน่อยละกัน งิ



                รับแท้ของคุณเป็นคนน่าค้นหา พาให้หัวใจคุณเต้นเป็นจังหวะดิสโก้และคุณหวั่นไหวจนใจแทบกระอัก คู่ของคุณสำหรับคนเกิดเดือนนี้ บางทีเขาก็อ้อนคุณเป็นแมวแสนเชื่องๆ ตัวน้อยๆ แต่ถ้าคุณขัดใจเขาล่ะก็...แมวตัวน้อยๆ ตัวนี้ก็อาจจะกลายร่างเป็นแมวยั่วสวาท เอาล่ะ คุณต้องเอาใจเขาให้ดี...ถ้าไม่อยากโดนลงโทษน่ะนะ....คุณเหมาะจะเป็นทาสรักเขามากกว่า



                “คุณต้องเอาใจเขาให้ดีถ้าไม่อยากโดนลงโทษน่ะนะ....คุณน่ะเหมาะจะเป็นทาสรักเขามากกว่า กูเชื่อได้มั้ยเนี่ย”



                “ไอ้กล้วย”



                “เชี่ยกล้วย”



                “ไอ้คล้วย!!!!!”



                เฮ้ย!



                “เรียกตั้งนานเหม่ออะไรว้า” ไอ้เบสเดินขึ้นมาเหนี่ยวท้ายทอยพี่กล้วยเบาๆ เบาจนโทรศัพท์เกือบร่วง คอหล่นอีกสามตัวยืนท้าวเอวหัวเปียกมองผมอยู่ด้านล่างอัฒจันทร์



                “พวกกูเก็บของเสร็จแล้วเนี่ย” ไอ้กลางบ่น ปากเล็กๆ ของมันขมุบขมิบด่าผม ไอ้กลาง...พี่ขอดูด เอ๊ย ดีดที



                “ไหนมึงจ้องไรนักหนา” ว่าแล้วไอ้เบสก็แย่งโทรศัพท์ผมไปดูพร้อมกับบ่นว่าเรียกก็ไม่ขานซักที



                ผมเก็บของแล้วลุกขึ้นยืน “ก็นี่ไงที่พวกมึงบอกให้หารักแท้ในกูเกิ้ลเนี่ย”



                “อุ๊บ...ไอ้กล้วยหาเหี้ยไร ฮ่าๆๆ” ไอ้เบสกลั้นขำวิ่งลงไปยื่นโทรศัพท์ให้เพื่อนอีกสามตัวดู แล้วพวกมันก็ระเบิดเสียงหัวเราะ อะไร หัวเราะไม...ไหนตามลงไปดูหน่อย ไอ้เบสยื่นมือถือมาด้านหน้า พลางชี้ไปที่หน้าจอ



                “เอ้าก็เนี่ยอะ”



                “มึงพิมพ์ผิดไอ้สัด!!!”



                ห๊ะ...ห๊ะะะะะะะะะะะะะะ กูร้องมอในใจ เพราะหน้าจอขึ้นว่าตามหารับแท้ตัวเบอเร้อ



                “อยากได้รับแท้ก็ไม่บอกอะตัวเองงงงง กริ๊วววว” ไอ้ทัพส่งเสียงเป็นนกหวีด



                ส่วนไอ้กลางก็ทำนิ้วงอเป็นเขา หัวเราะตัวโยนก่อนจะร้องล้อผม “มอออออออออออออออออออ”



                “เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!”

 

.
.
[ต่อกันอีกนิด]
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย (29-4-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 29-04-2018 16:06:14
.
.



    แดกบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างกันเต็มอิ่มพวกมันก็ยังไม่จบประเด็นนี้ ล้อกูยันลูกบวชเลยมั้ย ทีพวกมึงไปเล่นบาสให้เสียเหงื่อแล้วมาแดกเนื้อสามร้อยกิโลกรัมกูยังไม่บ่นเลย ตอนนี้พวกมันให้ความสนใจกับไอติมและมาร์ชเมลโล่ปิ้งอยู่ครับ ด่าได้



                “หน้างอเป็นปลาทูเชียวว” ไอ้กลางทักถ้าไม่ติดว่ามีผัวแล้วนะมึง...



                “ปลาทูบ้านป้ามึงหล่อขนาดนี้”



                “จ้า.....” ไอ้กลางกินไอ้ติมเลอะปากตอบซะกวนตีน เอาเวลาหาเรื่องกูไปกินให้มันไม่เลอะดีกว่ามั้ย เหลือบมองไอ้เปาที่เอาแต่จ้องมาร์ชเมลโล่เสียบไม้แล้วขอหน่อย ขอแกล้งไอ้กลางหน่อย ผมชะโงกหน้าเข้าไปใกล้มัน ก่อนจะกัดฟันพูดด้วยความมันเขี้ยว



                “ไอ้กลางถ้าไม่อยากให้กูจับจูบ อย่ามายุ่ง”



                “อะแฮ่ม!”



                “อะไรตีนติดคอหรอ ชะอุ้ย! โทษครับเพื่อนเปา” หันขวับเชียวนะมึง ยกมือไหว้ท่วมหัวเพราะผัวมันหวงครับพี่น้อง



                “นี่พวกกูคิดจริงแล้วนะว่ามึงจะไปได้ดีกับทางของ...” ไอ้เบสว่าพร้อมทำท่าร้องเพลง “ทางของรุกอะเพื่อน”



                “ขนลุกเลย บรึ๋ย” ผมลูบแขนตัวเอง



                “ทำเป็นขนลุก ก็เห็นมึงพูดเล่นกับไอ้กลางอยู่เรื่อย จนไอ้เปาเครียดจนผมร่วงแล้วเนี่ย”



                “ไม่...”



                “ไม่ร่วงหรอไอ้เปา”



                “ไม่ต้องยุ่งกับหัวกูไอ้เบส!!”



                “เออนั่นแหละๆ มึงจะลองดูมั้ยเพื่อนเริ่มจากหนังโป๊เกย์แบบขั้นสุดยอด”



                “ไม่โว้ย! แต่ถ้ามาแบบเซ็กซี่พี่กล้วยจะใส่ไม่ยั้งเลย” พูดถึงสาวๆ นะครับ จริงๆ แล้วพี่กล้วยชอบคนเซ็กซี่ครับ มองแล้วมันกระชุ่มกระบวย เอ๊ย กระชวย



                “อันแหนะๆๆๆ พูดแล้วนะครับเพื่อน” ไอ้ทัพล้อหน้าบานเป็นกระด้ง มันคงเข้าใจว่ากูหมายถึงผู้ชาย เออช่างมัน เหนื่อยเถียงกับพวกคนสมองน้อย



                “รับรองมึงจะได้ตามที่มึงพูดเลยเพื่อน”



                “เลิกพูดเถอะไอ้ทัพ กูเริ่มแดกติมไม่ลงละ”



                “เชื่อกูเถอะน่า มันจะมาโดยไม่รู้ตัว หึหึ”



                 คำประกาศิตพร้อมกับหน้าตากะลิ่มกะเหลี่ยของไอ้ทัพในวันนั้นก็ไม่ได้มีผลศักดิ์สิทธิ์แต่อย่างใด ผมไม่ได้รอเลยจริงจริ๊งงงง รับทงรับแท้อะ พี่กล้วยยังคงเดินหน้าปากทะลึ่งแซวผู้....หญิงไปวันๆ จนลืมไปแล้วว่าไอ้ทัพเคยออกปากบอกว่ายังไง



                ใครจะไปคิดว่าวาจาศักดิ์สิทธิ์ของเทพทัพจะบังเกิดผล ณ วันหนึ่ง...



                วันหนึ่งนั้นคือวันนี้นายสืบสกุลเดินทางกลับบ้านอีกเหมือนเคย ไม่อยากยอมรับว่ากลับบ้านทีไรกระผมจะเหมือนคุณชายน้อยในบ้านหลังโต คุณชายป๊า พี่พจม้าค้าบบบ ผมก้มหน้าถอดรองเท้าแล้วก็เริ่มปฏิบัติการตะโกนแหกปากเหมือนแดกโทรโข่งให้อากงข้างบ้านได้ยินด้วยเลย



                “กลับมาแล้ว!!!!!!!!....ครับ” เอ่อ เสียงแผ่วเลยกู



                ไม่มีใครบอกพี่กล้วยเลยว่าจะมีแขก!!!



                “เอ่อ...หวัดดีครับป๊า ม้า อาม่า”



                “ตี๋น้อยมานั่งๆๆ” อาป๊าตบเก้าอี้ข้างตัว ส่วนอาเจ้ก็เดินปรี่เข้ามาลากผมไปนั่งท่ามกลางสายตาของครอบครัวตัวเองและครอบครัว...เอ่อ ใครวะ?



                “หวัดดีอาแปะซ่งสิอาตี๋”



                “จำได้ม้าย แปะเคยมาอยู่บ้านเราตอนสมัยนู้น”



                เวลารำลึกความหลังบอกตรงๆ รุ่นหลานไม่เข้าใจหรอกครับ ผมยกมือไหว้อาแปะซ่ง พี่ชายร่วมสาบานของอาป๊าแล้วแอบเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดๆ สายโซเชียลครับผมเนี่ย ไม่ค่อยสันทัดในวงสนทธนาผู้ใหญ่เท่าไหร่



                “เออมาพอดี! นี่ลูกชายแปะซ่งจะมาอยู่บ้านเราสองสามอาทิตย์นาตี๋”



                หือ!!!



                ทันทีที่ป๊าพูดจบผมก็เงยหน้าขึ้น แต่พลันสายตาก็ไปสบกับคนๆ นึงที่พึ่งเดินเข้ามาพอดี



                ตึกตัก ตึกตัก



                หัวใจเต้นแรง หน้าแดงทุกที ใช่เธอรึนี่ ที่คอยตลอดมา



                นี่....มัน...



                โดนใจ...จอร์ช



                ผมมองคนที่พึ่งเดินเข้ามาใหม่อึ้งๆ ...ก็หน้าตา รูปร่าง ดูแล้วโคตรเซ็กซี่ โดนกระดองใจพี่กล้วยอย่างแรง ผมไม่รู้ตัวว่าได้ไล้สายตามองคนตรงหน้าอย่างไร้สติแค่ไหน นั่น! ขาขาวๆ พ้นกางเกงนักเรียนขาสั้นทำเอาน้ำลายแทบหก และวินาทีที่เด็กคนนั้นช้อนตามาสบกับพี่กล้วย...



                “ตี๋!!”



                ...โอ๊ย แบบว่าใจมันหายละลายละล่องไปอยู่ไหน



                “อาตี๋!!!”



                เฮือก!



                ม้าเอื้อมมือมาแตะไหล่เรียกสติก่อนพยักพเยิดให้หันไปมองหน้าป๊าที่เริ่มขมวดคิ้วเนื่องจากลูกไม่สนใจฟัง



                “คระ...ครับม้า”



                “ได้ยินมั้ยเนี่ย นี่น้องตันหยงจะมาอยู่บ้านเราสองสามอาทิตย์นะ ดูสิทำหน้างงอีก สงสัยจำอีไม่ได้แหงๆ” ม้าส่ายหน้าบ่นกับตัวเองเบาๆ



                “ได้ ยิน ครับ” ตอบไปด้วยเสียงยานคาง บอกเลยว่าผมเบลอ เบลอว่ารักแถบ...



                “นี่ตี๋น้อย หนูตันหยงเรียกอาตี๋เรียกว่าอาเฮียเหมือนที่เคยเรียกก็ได้ ตันหยงเกิดหลังเฮียเขานี่นะ” ม้าจัดการเสร็จสรรพ ผมเช็ดน้ำลายมุมปากมองตันหยงตาไม่กระพริบ นี่เป็นเด็กผู้ชายที่หน้าตาสวยมาก ลาบปากไอ้กล้วยมีคนให้ตอดถึงบ้าน แล้วใจก็จะชุ่มฉ่ำพอเห็นเด็ก ...เดี๋ยวนะ เด็ก...ดะ...เด็กผู้ชาย!!!



                พี่กล้วยขนลุกซู่อย่างไม่ทราบสาเหตุ หรือว่าน้องเขาจะเป็นรับแท้ที่ตามหาอยู่ เอ๊ะหรือไม่ใช่วะ...แต่ช่างแม่งเหอะ คิดอะไรให้มากมาย รู้แค่ว่าเห็นแล้วอยากจีบ อยากได้ อยากด้ายยยยย



                กระผมตาพร่าและควบคุมจังหวะหัวใจไม่ได้ ตลอดการพูดคุยจนกระทั่งบทสนทนาจบลง ตาผมยังมองตรงไปที่น้องตันหยงไม่เสื่อมคลาย น้องทำท่าเอียงอายจนม้าและเจ้ๆ เอ่ยชมไปหลายครั้งว่าน่ารักน่าดูเอ็...เชี่ย เอ็นดู อาแปะซ่งบอกว่าน้องยังเรียนอยู่ม.6 โรงเรียนกางเกงน้ำเงินชื่อดังฝั่งนู้น แปะซ่งกับภรรเมียต้องไปหาอาม่าที่ป่วยอยู่ที่เมืองจีนจึงอยากจะฝากตันหยงไว้ที่นี่ แปะซ่งเป็นห่วงน้องมาก ดูผิวพรรณหน้าตาคงจะทำอะไรไม่เป็น เออพอๆ กับพี่นี่แหละ ไม่ใช่เรื่องผิวพรรณนะเรื่องทำอะไรไม่เป็นเนี่ย น้องตันหยงใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้วไม่อยากขาดติวที่โรงเรียน มาจ้ะ..อยู่กับเฮียจะติวให้ทั้งวันทั้งคืนเลย คริๆๆๆ



                “ตี๋!!” เจ้ส้มเอ็ดเสียงดังเมื่อเห็นผมเหม่ออีกแล้ว อา...ตอนนี้อาแปะซ่งกำลังจะกลับแล้วล่ะ น้องตันหยงลุกขึ้นกอดป๊าของตัวเองแน่นก่อนจะผละออก จมูกน้องแดงนิดหน่อย โถถถถ ไม่ต้องเศร้านะคนดี อยู่ตรงนี้เธอจะ have fun แน่นอนจ้ะ



                “แปะหวัดดีครับ”



                “หวัดดีๆ แปะฝากตี๋ดูแลน้องด้วยนะ”



                “ครับแปะ เดินทางปลอดภัยครับ”



                ผมค้อมหัวประหนึ่งฝากตัวเป็นเขย อาป๊าผมก็เดินกอดคอป๊าตันหยงไปส่งขึ้นรถ ส่วนน้องก็ยืนเคว้งอยู่ตรงนั้น หุ่นดีด้วยนะเนี่ยสูง ขายาวๆ ถ้ามารัดเอวพี่จะขนาดไหน แค่คิดก็ใจเต้นไม่ไหวล้าววววววว



                “ตันหยงไม่ต้องร้องนะอยู่กับเฮียสนุกแน่นอน” กระแซะเข้าไปใกล้ ตันหยงค่อยๆ ช้อนตามองพร้อมกับกัดปากล่างอย่างเขินอาย เชรดดด ทำไมรู้สึกเซ็กซี่จนใจจะแทบระเบิด



                “ตี๋พาน้องไปดูห้องไป เจ้ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว” เจ้เปิ้ลตะโกนมาจากห้องครัว เตรียมพร้อมกันมาดีไม่บอกผมซักคนมาน้องจะมานอนที่นี่ วันนี้พี่กล้วยไม่ค่อยหล่อเลย เจ้โมก็เดินเข้าไปช่วยเจ้ส้มกับเจ้เปิ้ลทำอาหาร พี่กล้วยไม่เข้าใจเจ้ไม่ไปรับลูกรับผัวเจ้หรอครับจะเลิกเรียนแล้วเนี่ย



                “เด็กๆ คุยกันไปเดี๋ยวถึงเวลาอาหารเย็นเจ้จะขึ้นไปเรียก ไปอาบน้ำอะไรก่อนก็ได้”



                “วันนี้หลานมามั้ยเจ้”



                “มาสิ วันนี้วันกินข้าวพร้อมกันลืมรึไง”



                “อ๋อครับ ปะน้องตันหยงขึ้นห้องกัน” อุ้ยยย แค่พูดคำว่าขึ้นห้องก็เสียวแล้วอ่า.... น้องตันหยงยกเป้ขึ้นมาสะพายไหล่ ผมเห็นว่ามันหนักเกินจึงคว้ามาถือเอาเอง น้องมองผมเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขอบคุณเสียงเบา จากนั้นก็หยิบกระเป๋าผ้าอีกใบตามหลังผมมาแทน



                เดินนำขึ้นมาชั้นสองห้องในสุดเป็นห้องคนเท่ของพี่กล้วยเอง ไม่ค่อยได้มานอนหรอกส่วนมากจะอยู่หอ แต่น้องตันหยงมานอนห้องพี่แบบนี้จะกลับบ้านมานอนทุกวันเลย ผมเปิดประตูห้องผายมือโชว์ห้องนอนตัวเองด้วยความภูมิใจ หวังว่าเจ้คงไม่รื้อหนังสือโป๊ใต้เตียงมานะ ผมเอากระเป๋าน้องวางข้างเตียงพร้อมกับหันไปบอก



                “ตันหยงนอนห้องเฮียนะ”



                “แล้วเฮียล่ะครับ



                โอ๊ยยย ดาเมจกระแทกใจ เวลามีคนเรียกตี๋น้อยของบ้านว่าเฮียแล้วมันใจบางจริงจริ๊งงงงงงงง



                “เฮียก็นอนกับตันหยงไง” ตอแหลสุดๆ จริงๆ กูต้องไปนอนที่หอครับ ไม่เป็นไรเดี๋ยวค่อยโม้กับม้า



                “อ้าว...อ๋อ...ครับ”



                “ไม่ลำบากใช่มั้ย”



                “ไม่ครับแค่ให้มาอยู่ก็ขอบคุณมากแล้ว อ๊ะ ของหล่น” จังหวะที่น้องจะค้อมตัวเหมือนขอบคุณผม จู่ๆ กระเป๋าตังค์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อนักเรียนของตันหยงก็หล่นลงพื้นดังตุ๊บ น้องเอียงข้างก้มลงไปเก็บช้าๆ อย่างกับภาพสปีดต่ำ ผมเผลออ้าปากค้างมองตามไปด้วย ชิบหาย เลือดกำเดาแทบพุ่ง กางเกงขาสั้นเลิกขึ้นไปอีกเห็นขาอ่อนด้านใน



                 โอ้มาย โอ้มายยยยย ก้อดดดดดดดดดดดด



                ฟู่ ฟู่ ใจเย็นนนนนนน



                เย็นน



                เย็นนนน



                เหยดดดดดดดด



                ของขึ้น! ไอ้เชี่ย พี่กล้วยของขึ้นเพราะเห็นขาน้อง ความเป็นชายกลางลำตัวมีความเคลื่อนไหว มึงจะเป็นอะไรตอนนี้! ผมนั่งหนีบแบบไม่มีพิรุจ ทำไมตอนน้องเงยหน้ากูเห็นเป็นภาพดูดนิ้ววะ ดูดมีเสียงจ๊วบๆ ด้วยนะ หรือผมกำลังเคลิ้ม



                ไม่ กูต้องตื่น!!



                “ตันหยงจัดของเข้าตู้เลยก็ได้ เฮียขออาบน้ำก่อนพึ่งถึงบ้าน ร๊อนร้อน” พูดลิ้นพันกันพร้อมกับวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างด่วน ตันหยงพยักหน้าช้าๆ ส่วนพี่กล้วยโกยแนบเลยครับ ก่อนจะปิดประตูก็ได้ยินเสียงแว่วมา



                “คิก...”



                ไม่มีอะไรหรอกมั้ง...

 





                 “อ่า...อ่า....อืม”



                เปิดน้ำแรงสุดให้กลบเสียงตอนนี้พี่กล้วยเสียศักดิ์ศรีเห็นแค่นั้นแล้วขึ้น ฝ่ามือรูดรั้งแก่นกายตัวเองเป็นจังหวะ ห่อปากซี้ดซ้าดไม่เกรงใจคนข้างนอก น้องไม่ได้ยินหรอก ว่าแต่...ไอ้เชี่ยรู้ถึงไหนอายถึงนั่น แล้วนี่อะไร อ่า...อ่า เสียววาบไปหมดยิ่งขึ้นถึงสายตาเซ็กซี่นั่น ใกล้แล้ว อ่า....เสียวโว้ย น้องมิรินก็มิรินเถอะเจอขาอ่อนหยงหน่อยเดียวกูแทบเดินไม่เป็นเลย



                นั่น ได้ยินมั้ย เสียงใสเรียกผมเบาๆ ในจินตนาการ “เฮีย....”



                อึก....



                “เฮียครับ”



                ....ตันหยง....



                เชี่ยยย ไม่น่าเชื่อว่าแค่หน้ากับเสียงตันหยงลอยมา พี่กล้วยถึงกับบรรลุทางสวรรค์ อกหอบกระเพื่อม ลมหายใจร้อนไปหมด สุดปลายสวรรค์นั้นผมแอบคิดว่าถ้าได้สัมผัสน้องจะดีแค่ไหนกันวะ...ไม่ๆๆๆ คิดอะไร กูชักจะบ้าใหญ่แล้วนั่นน้อง น้องงง อายุสิบแปด ใจเย็นๆ



                ก๊อกๆ



                “เฮียเสร็จรึยังครับ”



                เสียงตันหยงเรียก ผมตะโกนตอบกลับอย่างรวดเร็ว “เสร็จแล้วครับ” หมายถึงกูเนี่ยเสร็จจนมือแทบเปื่อย



                ผมลุกออกจากอ่างอาบน้ำ ปิดน้ำฝักบัวที่เปิดกลบเสียงแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวมาเช็ดหน้ารวบรวมสติอยู่แป๊บนึง อ้าว ชิบหาย กูไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้ามา ผ้าเช็ดตัวเจ้เตรียมไว้ในห้องน้ำอยู่แล้วแต่ไม่มีเสื้อผ้า และด้วยความหน้าด้าน พี่กล้วยก็จับผ้าเช็ดตัวมาพันเอวแล้วก็เดินออกมาอย่างนั้น คิดว่าน้องคงจะลงไปก่อน แต่พอเปิดประตูมาเท่านั้นแหละตันหยงนั่งรออยู่ปลายเตียง เสื้อนักเรียนถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีขาวบางเห็นจุดสีชมพูบนร่างกายน้อง ฟินตาแป๊บบบ



                ไม่ดีนะครับน้อง ยิ่งนั่งรอปลายเตียงแบบนี้ เดี๋ยวเฮียหน้ามืดผลักน้องนอนขึ้นมาแล้วจะลำบาก



                “ตันหยงลงไปก่อนเลยก็ได้” ทำเป็นเช็ดหัวตัวเองหลบสายตา



                ตันหยงกัดปาก แก้มแดงใสน่าหยิก โอ๊ย มึงบิดเนื้อตัวเองก่อนเดี๋ยวของขึ้นอีกจะลำบากไอ้กล้วย



                “ตันหยงอยากไปพร้อมเฮีย” ตันหยงช้อนตามองก่อนจะตอบ เอ่อ น้องครับน้อง พูดแบบนี้คิดอะไรกับเฮียรึเปล่าครับ



                “ไป ไปพร้อมกัน...เลยหรอ” พี่ละเมอเคลิ้มเลยแต่ต้องหยิกเนื้อตัวเองเรียกสติ “อะ...เอ่อ...ได้ๆ”



                ผมกำลังจะคว้าเสื้อผ้าไปแต่งในห้องน้ำแต่ตันหยงก็พูดขึ้นมาอีก “เฮียอายหรอ” ชะงักเลยกู พี่กล้วยไม่เห็นต้องอายเลยแต่ตอนนี้น้องจ้องแบบนี้พี่ไม่ไหวนะครับ



                “แต่งตรงนี้สิครับ” ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่าแต่หางเสียงของตันหยงออกจะติดบังคับแกมเอาแต่ใจเล็กน้อยแต่ก็นั่นแหละ ทำไมพี่กล้วยถึงไม่กล้าย้ายร่างตัวเองไปไหนเลย สายตาเฉี่ยวของน้องแทบจะฉีกผมเป็นชิ้นๆ ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่กระตุกอยู่กลางอก



                “ครับๆ แต่งตรงนี้ก็ได้ครับ” รีบยัดเสื้อกางใส่ร่างกายตัวเองไม่นานเจ้ก็ขึ้นมาตามอีกรอบ รอบแรกก็ตอนผมนั่งแช่น้ำนานไปหน่อย



                “ปะ..เรียบร้อยแล้ว ขอโทษเฮีย(จุด จุด จุด)นานไปหน่อย ตันหยงเลยไม่ได้อาบน้ำเลย”



                “ไม่เป็นไรครับ” น้องยิ้มให้ผมทีนึงพาลให้ใจกระตุก ผมเปิดประตูห้องให้น้องเดินลงไปก่อน ตันหยงเดินลงบันได้ไป ส่วนผมก็เดินมองบั้นท้ายที่บิดไปมาอย่างมีความสุข แต่จู่ๆ ตันหยงก็เหมือนจะชะงักทำให้การก้าวผิดจังหวะเกือบจะล้มลงตรงบันได พี่กล้วยเห็นแบบนั้นก็รีบคว้าเอวบางไว้อย่างรวดเร็ว น้องก็ดูจะตกใจเพราะคว้าคอผมไว้ เป็นเหตุให้หน้าสวยโดนใจของน้องซบเข้ากับซอกคอผมอย่างจัง



                “อ๊ะ....เฮีย” เสียงหวานกระซิบตรงลำคอลมหายใจของน้องเป่ารดผิวหนังจนเสียววาบ “ขอบคุณครับ” ตันหยงก้มหน้าขอบคุณ แล้วปล่อยมือออกจากลำคอผมแต่ก่อนจะผละไปนั้น...



                ตันหยงไล้มือจากอกผมลงไปถึงท้องน้อย สายตายั่วยวนเหมือนแมวเจ้าเล่ห์เข้ากันดีกับใบหน้าซุกซน เดี๋ยวนะ ผมไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย!



                ....!?!



                “ครีมอาบน้ำหอมดีนะครับ”



                ว่าแล้วก็ขยิบตาข้างหนึ่งให้พี่กล้วยที่ยืนอึ้งเพราะความตกใจอยู่ตรงนั้น



                นี่ตันหยงกำลัง....อ่อยผมหรอ!!??



_____

คิดถึงทุกคนมากกก
พากล้วยคนจังไรมาเเล้วค่ะ
หายไปประหนึ่งสูญสิ้นชีวิต

กลับมาคราวนี้มีข่าวดีมาบอกด้วยค่ะ
คนกลางกำลังจะมีเล่มเเล้วววว

อีกไม่นานเราคงจะได้เจอกัน

ติดตามรายละเอียดได้ที่เพจสำนักพิมพ์ฟาไฉค่ะ
พูดถึงเพจ คุณพระ เราก็มีเพจเเล้วนะคะ
https://www.facebook.com/Jaevin3/
มาพูดคุยกันเต๊อะ
#คนกลาง
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย (29-4-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: yasperjer ที่ 29-04-2018 18:05:54
ไงล่ะกล้วยอยากได้รับแท้ เจอของดีเลยนะ5555555555555555555
คิดถึงคนกลางมากๆค่า รอซื้อเล่มนะคะ แล้วก็ติดตามนิยายคุณแจวินทุกเรื่องเลยค่าา :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย (29-4-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-04-2018 18:39:33
น้องมันอ่อยเธออยู่นะกล้วย
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย (29-4-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-04-2018 18:51:36
โอ้.........กล้วย คอหล่น ตามหารับแท้  :z3: :z3: :z3:
แล้วเจอจริงๆด้วย น้องตันหยง
แล้วน้องเหมือนๆจะชอบเฮียกล้วยซะด้วย  o18

อยากอ่านทัพ เบส หรือ เบส ทัพ  :ling1: :ling1: :ling1:
เปา คนกลาง โผล่มาด้วย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เปายังขี้หวงเหมือนเดิม
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย (29-4-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: pornwicha ที่ 04-05-2018 14:47:34
555555555555555 ชอบบบ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย (29-4-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-05-2018 23:57:06
โอ้ยยยนังกล้วยย รับแท้มาหาถึงที่เลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย (29-4-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 02-06-2018 01:32:28
อิจฉาคนกลางเบาๆ อยากมีเปาเป็นของตัวเอง  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 21-06-2018 22:54:27
ตอนพิเศษ 3

ตามหารักแท้กับคุณกล้วย 2


   ข้อสรุปยังไม่เป็นผล ผมมองตันหยงที่นั่งข้างๆ อย่างจับผิด เด็กม.ปลายในชุดเสื้อยืดกางเกงนักเรียนขาสั้นที่กำลังยิ้มแย้มเข้ากับครอบครัวยักษ์ใหญ่ของผมได้เป็นอย่างดี คนที่กำลังเช็ดมุมปากให้กับหลานวัยสามขวบของผม คนที่ตักอาหารให้อาม้า คนที่ยิ้มกับมุขฝืดๆ ของอาป๊า คนๆ นั้น...ตันหยง...กระทำการเอ่อ...‘อ่อย’ ผมจริงหรือไม่

   พอคนที่อายุน้อยกว่าผมอยู่เต็มบ้านไปหมด ลูกชายคนเล็กอย่างผมก็หมดความสำคัญ ขนาดอาม่ายังไม่สนใจผมเลย ไม่เป็นไรครับ เรื่องนี้กระผมจะไม่โวยวาย เรามีเรื่องสำคัญที่ต้องตรวจสอบ ลึกๆ แล้วอยากจะเล่าเรื่องให้เดอะแก๊งฟังแต่ก็กลัวว่ามันจะล้อจนกูไม่เป็นทำอะไร ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นภารกิจลับของยอดชายนายสืบสกุลแต่เพียงคนเดียว

   บ้า...อ๋อ ว่ากูบ้าอยู่สินะ...

   เออ!...ยอมรับ

   ผมยกมือถือมาค้นหาคำทำนายที่ชวนให้ผมเข้าสู่ทางสายสีม่วงอีกครั้ง ไม่ทันจะกดเข้าช่องประวัติการเข้าชม อาม้าก็เอ็ดขึ้นมาก่อน วันนี้หลายรอบแล้วนะม้าเดี๋ยวอั๊วงอนซะหรอก

   “ตี๋น้อย!...วางโทรศัพท์แล้วตักกับข้าวให้อาตันหยง น้องกินไม่ทันคนอื่นแล้ว” ม้าพูดขึ้นทุกสายตาก็หยุดอยู่ที่ผมกันหมด ม้าส่ายหน้าแล้วบ่น “ไม่ไหวเลยจริงๆ ไหนตอนเล็กบอกอยากมีน้องชาย แต่ก่อนนะเวลาน้องมา...”

   “คร้าบบบ” พอม้าเริ่มบ่นพี่กล้วยก็รีบยิ้มขานทันที เดี๋ยวบ่นยาว เอาล่ะจะเอ็นดู ดูเอ็นให้สุดๆ ไปเลย ผมยิ้มประจบทุกคนเหมือนเคยก่อนจะตักอาหารที่น่ารับประทานไปวางไว้บนจานของน้อง

   “กินเยอะๆ นะครับ”

   “ขอบคุณครับเฮีย”

   “ตันหยงนี่เรียบร้อยน่ารักสุดจริงๆ ม่าชอบ” อึก เกือบสำลัก เรียบร้อย? ตันหยงเรียบร้อยจริงๆ งั้นหรอ ผมตักข้าวเข้าปากส่วนตาก็เหลือบมองตันหยง น้องนั่งกินข้าวนิ่งๆ ดูมีสกุลรุนชาติไม่เหมือนบ้านผมที่โหวกเหวกหาเรื่องคุยกันไม่หยุด มันเป็นสไตล์น่ะครับ

   เอ๊ะ...ชิบ...เกือบสะดุ้ง อยู่ดีๆ ก็มีสัมผัสอุ่นๆ มาโดนที่หลังเท้าขวา ผมชะงักพยายามหาต้นตออย่างไม่มีพิรุจ ผมนั่งติดกับตันหยง ส่วนข้างซ้ายของผมก็เป็นเฮียเป้นั่งจ้ออยู่กับเฮียไก่แถมเฮียเป้ชอบใส่ถุงเท้าเป็นชีวิตจิตใจ ล่าสุดกูเห็นซื้อคอลเล็กชั่นใหม่ลายการ์ตูนแข่งกับลูก เดี๋ยวนะ..แล้วถ้าไม่ใช่เฮียเป้ที่นั่งด้านซ้ายแล้วเท้านี้ของใคร?

   ขวับ!

   ผมหันไปมองตันหยงทันที สัมผัสยังลากขึ้นเรื่อยๆ ไล้หน้าแข้งไปถึงน่องอย่างไม่รีบร้อน ข้อสันนิษฐานของผมเริ่มเห็นชัดมากยิ่งขึ้น ต้องเป็นตันหยงแน่ๆ ว่าแต่ทำไมถึงกินข้าวได้หน้าตาเฉย....ทั้งๆ ที่ปลายเท้าของน้องกำลังหยอกล้อกับผมอยู่ใต้โต๊ะนี้...

          ทำไมกัน!!??

   พี่กล้วยไม่เคยคิดอะไรซับซ้อน พี่กล้วยเป็นคนง่ายๆ แต่ไม่รู้ทำไม กระผมถึงมานอนขมวดคิ้วอยู่แบบนี้ครับพี่น้อง ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้วน้องตันหยงพึ่งจะเข้าไปอาบน้ำหลังจากที่นอนคว่ำเล่นโทรศัพท์จนเห็นไปไหนต่อไหนล่อตาผมเป็นชั่วโมงๆ ถึงจะบอกว่าตันหยงเป็นแบบที่ผมชอบก็เถอะแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ ตันหยงเหมือนแมวในบางทีเวลาเรียกผมเสียงจะติดอ้อนๆ ช้อนตาทีแทบจะเป็นลม แต่ฉากลูบไล้ตรงบันไดกับเท้าที่สะกิดผมก็ชวนให้นึกถึงนางแมวจอมยั่ว

   ...ฉับพลันข้อความที่เคยอ่านก็ปรากฏขึ้นในหัว!!

   “รับแท้ของคุณเป็นคนน่าค้นหา พาให้หัวใจคุณเต้นเป็นจังหวะดิสโก้และคุณหวั่นไหวจนใจแทบกระอัก คู่ของคุณสำหรับคนเกิดเดือนนี้ บางทีเขาก็อ้อนคุณเป็นแมวแสนเชื่องๆ ตัวน้อยๆ แต่ถ้าคุณขัดใจเขาล่ะก็...แมวตัวน้อยๆ ตัวนี้ก็อาจจะกลายร่างเป็นแมวยั่วสวาท เอาล่ะ คุณต้องเอาใจเขาให้ดี...ถ้าไม่อยากโดนลงโทษน่ะนะ....คุณเหมาะจะเป็นทาสรักเขามากกว่า”

   เอาล่ะ อย่างนี้ต้องพิสูจน์ เรื่องจังไรกูมาแล้ว มาเป็นโฟร์ดีเลยด้วย

   “ดึกแล้วเฮียนอนแล้วนะ ฝันดีครับตันหยง” ผมยื่นมือไปวางบนหัวน้องก่อนจะออกแรงขยี้เบาๆ ตันหยงนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆ เหลือบมองด้วยความแปลกใจ เพราะไฟบนหัวเตียงฝั่งตันหยงทำให้ผมเห็นสีแดงระเรื่อบนแก้มน้อง

   “ฝันดีครับเฮีย”


   ในตอนที่ทุกคนหลับสนิท ไอ้กล้วยเริ่มแผนการดูหนังโป๊ ถ้าน้องเป็นแบบที่ผมคิด...พี่กล้วยจะยอมยกตัวและหัวใจให้เลยครับน้องตันหยง ผมเปิดหนังโป๊จากมือถือเปิดเสียงไม่ดังมากแต่ก็พอได้ยินในห้องเงียบนี้ๆ ตันหยงหลับไปแล้ว ตะแคงหันหลังให้เฮียมองบั้นท้ายอีก เอวเป็นเอว สะโพกเป็นสะโพก ไม่เคยคิดว่าสัดส่วนของเด็กผู้ชายจะดูเข้ากันไปหมดขนาดนี้ ใบหน้าที่มีความลงตัวน่ามองนานๆ คิดแล้วมันก็ขึ้น ผมไม่ได้สนใจภาพในจอเท่าไหร่นัก ในหัวจินตนาการถึงรูปร่างน้องไปมาไม่หยุด

   “อ่า...อ่า....”

   ล้วงมือไปจับกลางลำตัว จริงๆ แผนผมก็แค่แกล้งทำเสียงกับท่าทางตอนนอนข้างๆ น้องเท่านั้นเอง ไม่คิดว่าไอ้กล้วยจะทำแผนตัวเองพังตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ไอ้เหี้ยยย...ก็เสือกจินตนาการถึงตันหยงซะเต็มสตรีมขนาดนี้ กูเล่นลึกเล่นจริงเลยทีเดียว

   “อื้อ....”

   ตันหยงพลิกตัวกลับมาแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น พอเห็นผมทำหน้าฟินอยู่ข้างๆ น้องจะต้องทนไม่ไหวอย่างแน่นอน

   “เฮีย” เรียกเสียงแผ่วขนาดนี้ ตันหยงลุกขึ้นนั่งช้าแล้วเอื้อมมือหมายจะไปเปิดโคมไฟ

   “อย่า..อะ...เปิดนะ ตันหยงของเฮีย...อ่า”

   น้องก้มหน้าจนชิดอก หน้าแดงลามไปถึงคอ ไฟสลัวด้านนอกทำให้ผมเห็นใบหน้าเขินอายของน้องอย่างไร้เดียงสา เสียงหยาบโลนใต้ผ้าห่มที่เกิดจากน้ำมือผมดังเป็นจังหวะประกอบกับเสียงหวานในคลิปที่ผมเปิดทิ้งไว้ยิ่งทำให้ตันหยงหน้าแดงหนักขึ้น...หรือว่าน้องจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิด วูบหนึ่งที่ความรู้สึกเข้าโจมตี นี่กู..ทำอะไรอยู่วะเนี่ย

   “เฮียขอโทษ เดี๋ยวเฮียจะไปนอนที่อื่น”

   ผมหยุดมือทั้งๆ ที่ยังไม่เสร็จ ดึงกางเกงขึ้น คว้าทิชชู่กล่องบนหัวเตียงแล้วทำท่าลุก แต่จู่ๆ ตันหยงก็เอื้อมมือมาสัมผัสแขนผม
 
   “เดี๋ยวหยงช่วยเฮียเอง”

   “ไม่...ไม่ต้อง” วินาทีนั้นตันหยงเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม ดวงตาเฉี่ยวคมบาดลึกไปถึงใจผมที่เต้นรัวอยู่ในอก เซ็กซี่เป็นบ้า ตันหยงที่เอียงอายเหมือนแมวน้อยตอนแรกหายไปไหนแล้ว

   “เฮียดื้อจัง หยงจะลงโทษ”

   ผลัก!

   แมวที่ว่ากำลังกลายเป็นแมวยั่วสวาท หยงผลักผมให้หงายหลังไปบนเตียงอีกครั้งก่อนที่น้องจะขึ้นมานั่งทับช่วงสะโพกของผมไว้ เสื้อนอนตัวบางคอกว้างเอียงเร่เท่เห็นไหล่เนียนข้างหนึ่ง ลูกชายของผมคึกคักมาอีกหน ไม่สิ มันคึกมาตั้งนานแล้วบัดซบเอ๊ยยย

   “อึก...” ผมกลืนน้ำลายความเสียววูบวาบโหมตีสะพัดทั่วช่องท้อง ผมลอบมองหยงทุกๆ การกระทำ น้องไล้ปลายนิ้วตั้งแต่ริมฝีปากของผมจรดแอ่งสะดือ ไอ้กล้วยเจอรับแท้ของจริง!! บั้นท้ายกลมกลึงของน้องคลึงวนไปมาบนเอ่อ...ลูกชายผม เชรด ลูกชายผมตั้งแทบทะลุเนื้อผ้า

   “เฮียว่า...ไม่..ไม่ดีมั้ง...” ไอ้กล้วยกระท่อนกระแท่นบอก หอบหายใจหนักขึ้น

   “หยงรู้ว่าเฮียคิดอะไรกับหยง” น้ำเสียงเอาแต่ใจพูดขึ้น หยงเขยิบตัวเองไปนั่งทับต้นขาผม ฝ่ามือนุ่มของหยงเลื่อนเข้ามาในขอบกางเกงสัมผัสยั่วยวนนั้นโดนลูกชายผมเข้าแล้ว เชี่ย หายใจไม่ทั่วท้องเลยโว้ยยยยย อยากได้แล้วอยากได้ อย่ากดตัววนแบบนั้นเลย เฮียใจจะขาดแล้ว

   “...อึก หยง...เฮีย...ว่า....”

   “เฮียคิดจะทำอะไรหยงรู้หมดแหละ” หยงดึงลูกชายที่พร้อมรบของผมให้พ้นขอบกางเกง ตอนที่หยงแลบลิ้นเล็กรอบปากพร้อมกับเริ่มขยับมือ ท่าทางแบบนั้นโคตรบาดใจพี่มาก ผมไม่สนอะไรแล้ว แผนการ? ลูกแมว? ทาสรัก? ตอนนี้อยากได้น้องหยงมากๆ ทำให้เฮียเถอะ

   “เร็วหน่อยได้มั้ยหยงคนดี” ได้โปรดเถอะ ทำอะไรซักอย่างงง

   “หยงจะทำอะไรก็ได้” หยงสบตากับผมที่ปรือตามองน้อง “เพราะหยงจะลงโทษเฮีย”

   เพราะแบบนั้นผมถึง...

   อ่า....อ่า...หยง....ตันหยง....อ่าาาาาาาาา

   หมด…

   หมดกัน...

   ไอ้กล้วยไม่รู้จะเอาหน้าไปวางไว้ที่ไหน เรื่องเมื่อคืนแม่งชัดทุกสัมผัส เป็นไงล่ะโฟร์ดีมึงเนี่ย หยงลงโทษผมของจริง ทั้งชัก ทั้งอะ..(ตรู๊ด) ตายแน่ๆ กู หน้าร้อนไปหมด ไม่รู้ว่าเรื่องราวจบไปตอนไหนรู้อีกทีหยงก็นอนกอดเอวผมซะแน่น ท่าทางช่ำชองแบบนั้นทำเอาผมหวิวในใจแปลกๆ อยากจะถามให้แน่ใจว่าหยงเคยทำแบบนี้กับใครรึเปล่า แต่เพราะความหน้าบางของไอ้กล้วยที่มากะทันหัน ผมถึงแผ่นแนบออกจากห้องนั่งรถมาคณะตั้งแต่เช้าเพราะนอนไม่หลับ หยงน่ารัก เซ็กซี่ ร้อนแรง อ๊ากกกก แต่หยงช่วยผมถึงเว้ยยยยย ใจก็เต้นแรงสุดๆ ไปเลย นั่นน่ะครั้งแรกที่ให้คนอื่นทำแบบนั้นให้

   “จะบ้าตายแล้วโว้ยยยย!!!”

   ไม่มีใครทำให้ผมใจสั่นขนาดนี้เลย!



.
.
   “โลกจะถล่ม ไอ้กล้วยมารอแต่เช้า”

   เชี่ย...กูไม่มีแรงตอบมึงหรอกไอ้เบสตี้ขี้แตก กูเพลียเพราะเสียน้ำ ถ้ารู้แล้วอย่ากดว้าวเดี๋ยวร้าวแบบรู้ตัว

   “เงียบว่ะ...เป็นไงหน้าตาเคร่งเครียด”

   “หรือว่าได้เมียแล้วไม่บอกกัน” ไอ้ทัพทำหน้าตากวนตีนก่อนจะพูด ขยันหาเมียให้กูทุกวินาที

   อึก! แต่กูเสือกชะงักให้มีพิรุธซะงั้น

   “ชะงักแบบนี้กูว่ามีแน่ๆ”

   “ไม่อยากพูดด้วยแล้ว”

   “งอนไปอีกเพื่อนกู”

   อยากจะเล่าแต่ก็กลัวเพื่อนมองตันหยงไม่ดี ดูมีความสับสนในตัวเองสูง แต่ที่มั่นใจแน่ๆ ผมชอบตันหยงถึงจะเจอกันแค่วันเดียวก็เถอะ ชอบจริงๆ นะเว้ย เออยอมรับว่าตรงสเป็คส่วนนึงแต่ไม่รู้ทำไม รู้แต่ว่าชอบอะ.... ต้องคิดไรมากมั้ยก็ไม่ พี่กล้วยชอบน้องงง จะเอาด้วย แต่เพราะเรื่องเมื่อคืน... ขอหนีไปตั้งหลักก่อนเด้อพี่น้อง

   ผมไม่กลับบ้านสองวัน ปิดหูปิดตาหนีไปนอนที่หอตัวเองสอสองวันถ้วนแต่กลับคิดถึงหยงตลอดเวลา ผมส่งข้อความไปบอกเจ้ส้มแม่คนที่สองว่าไม่กลับมีงานด่วนแล้วก็แอบถามถึงตันหยงด้วยเจ้ส้มบอกว่าน้องซึมไปนิดๆ

   แม่งทำเอารู้สึกผิดไปอีก ทำไมผมเป็นแบบนี้ครับ ไหนมึงบอกเป็นคนกล้วยๆ ไง อยากพูดอะไรก็พูด ทำไมมึงถึงหนีมาวะ พอวันที่สามกำลังจะกลับบ้านแต่ไอ้ที่โกหกว่ามีงานด่วนกลับมีจริงๆ และไอ้กลางที่เป็นคนดีศรีสยามก็บังคับให้ผมทำงานไม่ต้องกลับบ้าน ใจผมนี่ไปถึงบางรักแล้วครับ ไอ้เปาไม่ดูเมียมึงเลย บังคับทำงานไม่รู้เวล่ำเวลา(ได้ข่าวว่างานมีชื่อมึงนะ)

   “มึงมองโทรศัพท์ทำไมบ่อยวะกล้วย”

   ไอ้กลางเปิดประเด็น กูอยากโทรไปหาน้องตันหยงอะ...มีเบอร์นะแอบขอเจ้มาเหมือนกัน เจ้บอกว่าน้องซึมหนักแล้ววันนี้หลุดถามถึงเฮียกล้วยด้วย ไอ้สาสสสสสส อยากกลับๆๆๆๆ ผมจะถามให้เคลียร์เลยที่ทำให้ผมเพราะอะไร อยากจะเบิ๊ดกะโหลกตัวเอง ถ้าอยากกลับแล้วมึงจะหนีมาทำผักชีอะไรวะ

   “คิดถึงเมียไง๊?” ไอ้เปาพูดขึ้น ผมเหลือบตามองมันเล็กน้อย พอเห็นหน้าไอ้กลางแล้วหมั่นไส้ มันเข้าขากันดีกับเมียมันเสมอในเวลาแบบนี้ ถึงผมจะไม่รู้ว่ามันทั้งคู่ได้กันหรือยังแต่กูก็จะพูดว่ามันคือผัวเมีย ก็ไอ้สองคนนี้แข็งเป็นหินขนาดนี้ ล้ออะไรไม่สะท้านหรอกครับ ขนาดเคยสร้างสถานการณ์ให้มันได้กันจนป่านนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันได้กันแน่รึเปล่า รู้อย่างเดียวกูจะเรียกพวกมึงว่าผัวเมียตลอดชีวิตและลมหายใจของกู!

   “มีเมียแล้วหรอ” ไอ้กลางถามเสียงสูง ถึงจะหมั่นไส้แต่มองหน้าตาอยากรู้อยากเห็นของมันก็...น่าเอ็นดู เฮ้ย ของเพื่อนๆ ท่องไว้ ตอนนี้ผมอยู่ในห้องกับผัวเมีย ไอ้ทัพกับไอ้เบสออกไปซื้อของกิน ดีแล้วถ้ามันอยู่กูโดนซักจนขาวแน่

   พอเห็นผมไม่ตอบไอ้กลางก็เริ่มทำเสียงอ้อร้อ “อันแหนะๆๆ มีเมียแล้วไม่เบา”

   “เมียบ้าไรล่ะ” ไอ้เหี้ยนี่น่าตบท้ายทอยจริงๆ “กูกลับได้ยัง”

   “กลับเชี่ยไร วันนี้มึงต้องนอนที่นี่ งานต้องเสร็จภายในคืนนี้” ไอ้กลางเลิกล้อทันที มันพูดเสียงเข้ม ส่วนไอ้เปาก็มองเมียยิ้มๆ ไอ้พวกหลงเมียเอ๊ยยยยย ถ้าไอ้กลางเดินตกท่อมันคงชมว่าท่าสวยสะเด็ด ไอ้กลางมันไม่ค่อยรู้ตัวหรอกเวลาไอ้เปามองมันเนี่ยสายตาเป็นยังไง

   หลังจากเถียงกันไปมาไม่นานและทำงานล่วงเลยไปจนถึงวันใหม่ พี่กล้วยที่แอบงีบก็สะดุ้งเพราะเสียงแจ้งเตือนเฟซบุ๊ก อะไรวะ เหลือบมองข้างๆ ตัวก็พบศพหลายศพนอนจมกองกระดาษอยู่ กี่โมงแล้ววะเนี่ย

   เหี้ย.....

   บนหน้าจอปรากฏรูปหน้าฟีดของผม มันจะไม่มีเหี้ยอะไร ถ้าคนในรูปไม่ใช่กูและไอ้กลางนอนตักกูอยู่ ผัวมึงทำไมไม่นอนตักมันวะ เรทติ้งกูตกหมด

   Best yes คู่ใหม่ #กล้วยกลาง กล้วยกลาง ปล.ไอ้เปาไม่เห็นเพราะกูล็อกมันแล้ว

   คอมเมนต์ก็มาแซวกันสนุกสนาน เปิดสาธารณะด้วยไงประเด็นไอ้เชี่ยเบส มีคนกดไลก์ กดว้าว กดหัวเราะ เหี้ยไรไปหมดแต่มีคนนึงที่กดร้องไห้ ใครวะ สายส่องโซเชียลต้องเข้าไปดูหน่อยครับ

   “Tanyong  Sethiwet”

   ใครวะ แทนโย่ง....

   ผมเข้าไปดูในโปรไฟล์ที่ขึ้นเห็นแค่ปลายจมูกจนถึงริมฝีปาก เดี๋ยวนะ...ปากสีเชอร์รี่แบบนี้

   ตันหยง!!

   ไอ้สัดอ่านผิดเป็นแทนโย่ง!!!



.
.
   วันต่อมาพอเรียนเช้าเสร็จไอ้กล้วยก็ตาลีตาเหลือกกลับบ้าน วิ่งขึ้นห้องไม่ร้องตะโกนบอกคนทั้งบ้านว่ากลับมาแล้วเหมือนเคย ในใจท่องแต่คำว่าตันหยง ขนาดยังไม่ได้เป็นเมียกูยังหลงขนาดนี้

   “หยง!”

   ไอ้ชิบหาย...ไม่มีหยงอยู่ในห้อง

   ลืมไปว่าน้องไปเรียน ไอ้จั๊ดง่าว(กลางเคยสอนคำด่าภาษาเหนือ) ผมยืนเคว้งอยู่ในห้องไม่นานก็ตัดสินใจไปอาบน้ำอยากตัวหอมไปหาน้อง เสร็จแล้วก็เดินคอตกลงไปหาอาม่าบีบๆ นวดๆ คุยเป็นเพื่อนอาม่าแต่ใจก็คิดไปถึงน้องหยง เมื่อไหร่จะกลับนะ...นั่งรอนอนรอจนกล้วยเหงาแล้วเนี่ย มือถือก็แบตหมดไปแล้ว เล่นทุกแอพแล้วไอ้สลัด

   “ม้าอาตี๋น้อยเอ๊ย พาม่าไปหาอาจูหน่อย ลูกอีบอกว่าอีออกจากโรงบางแล้ว” ม่าเรียกอาม้าที่อยู่หลังบ้าน

   “ได้ม่ารอแป๊บนึง” 

   “ตี๋ไปกับม่ามั้ย?” ม่าหันมาถามผม หลังจากที่ม้าตะโกนตอบกลับมา

   “ไม่ดีกว่าม่า”

   “ทำไมละ กงจูเขาเลี้ยงลื้อแต่น้อยๆ เลยนา”

   “อ๋อ...ก็วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน ป๊ากับเจ้ๆ ก็ไม่อยู่เดี๋ยวหยงมาจะอยู่กับใคร” เกือบนึกคำตอบไม่ถูก ในใจนี่เนื้อเต้น ได้อยู่เคลียร์กับน้องหยงสองต่อสองเลยโว้ยย

   “นั่นสิๆ ม่าคงคุยนาน ตี๋น้อยหาอะไรให้น้องกินด้วยนะ”

   “ได้ครับอาม่า”

   หลังจากที่อาม่ากับม้าออกไป ผมก็ออกมานั่งเล่นกับปลาคาร์ฟหน้าบ้าน ชะเง้อชะแง้ดูหน้าบ้านเมื่อไหร่ตันหยงจะมาซักที เอามือจุ่มน้ำในบ่อจนปลาจะกัดมือกูแทนอาหารปลาแล้วเนี่ย

   “ขอบใจที่มาส่ง”

   “เออไม่เป็นไร ใครจะไปรู้คุณชายตันหยงจะมาอยู่แถวบางรักได้”

   “ไม่นานหรอก”

   เสียงตันหยงนี่ พี่กล้วยรีบวิ่งหน้าตั้งไปหน้าบ้านทันที ตรงนั้นมีเด็กกางเกงน้ำเงินสองคนยืนคุยกันตรงประตูรั้ว เฮ้ยๆ มีจับลงจับไหล่…ได้ไง!

   “หยงเข้าบ้าน!”

   ผมตะโกนออกไปก่อนถึงตัวน้อง หยงสะดุ้งตกใจหันขวับมาทันใด “เฮีย...”

   “มาเร็ว” พอเห็นหยงไม่เดินเข้ามาหาผมซักที ผมเลยรีบปรี่เข้าไปคว้าข้อมือน้อง “ปะ...เฮียรอนานแล้วนะ”

   “สวัส...”

   “เพื่อนหรอ? ก็คงเพื่อนสินะ ขอบใจที่เดินมาส่งตันหยงของพี่ทีหลังไม่ต้อง บาย”

   ผมว่าพร้อมกับลากแขนน้องเข้ามาทันที ก่อนจะถึงประตูบ้าน หยงขืนตัวไม่เดินตามผม

   “หยง...” ผมใจหายวาบ ท่าทางเขินอายของน้องหายไปหมดสิ้นแต่กลับแทนที่ด้วยสายตาเศร้า “...เป็นอะไร”

   หยงไม่ได้ตอบอะไรเอาแต่ดวงตามีเสน่ห์นั้นกลับน้ำตาคลอหน่วยจนผมใจสั่น “เฮียขอโทษ ติดงานที่มอน่ะ” ตันหยงปาดน้ำตาที่หางตาแล้วเดินขึ้นห้องไป

   นั่นมัน....ฮาร์ทแอคแท็ค

   เฮียไม่อยากจะเลวนะหยงแต่ว่า ตาฉ่ำ จมูกแดง ปากสีเชอร์รี่ มันกร๊าวใจพี่มาก

   “หยง! รอเฮียก่อน” พอสะบัดหัวเรียกสติได้พี่กล้วยก็รีบตามขึ้นไป หยงไม่ได้ล็อกประตูแต่พอได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ ในห้อง ผมก็แทบจะถลาเข้าไปทันที ท่าทางกูคงเหมือนกระรอกบินแต่ว่าช่างแม่ง

   “ร้องไห้ทำไม” ตอนนี้หยงก้มหน้ากิดเข่าร้องไห้อยู่ข้างเตียง

   “หยงบอกเฮียได้มั้ยครับ...”

   “ฮึก!” หยงเงยหน้าทั้งน้ำตามาสบตาผมเท่านั้นแหละ พี่กล้วยก็คว้าตัวน้องมากอดปลอบทันที น้องพยายามกลั้นเสียงสะอื้อแล้วพูดอยู่ตรงอกผม

   “หยง คิดว่า...ฮึก หยงคิดว่าเฮียเกลียดหยงที่...อึก...หยง...ทำคืนนั้น”

   “...!!”

   โธ่ น้องหยงของเฮียยยยยยยย น่าร๊ากกกกก น้องปาดน้ำตาเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ท่าทางไร้เดียงสาแบบนั้นทำให้ผมใจเต้นขึ้นมาซะอย่างนั้น ที่แท้ก็กลัวผมเกลียดหรอเนี่ย เฮียไม่โกรธ ไม่เกลียดน้องหยงเลยครับ เฮียอยากได้มากกว่านั้นอีก

   “เพราะเฮีย...อึก...รีบออกไปแล้วไม่กลับบ้านเลย หยงกลัวว่าเฮีย ฮึก...รังเกียจหยง”

   “เฮียไม่ได้เกลียด ไม่ได้รังเกียจ เฮียยอมรับว่าเฮียสับสนแต่ว่าเฮียน่ะ...” ผมเชยคางหยงให้มาสบตากัน ปากสีสวยเม้มกันแน่น ผมไล้นิ้วโป้งกับปากน้องเบาๆ

   “เฮียน่ะ...ชอบหยงนะ”

   “เฮีย!!...” หยงเบิกตาสวยกว้างก่อนจะ “ฮือออออ” อ้าว อย่าบอกว่ารับไม่ได้ที่ผมบอกชอบนะ คิดได้ไม่นานหยงก็โอบรอบคอผมแน่น ฝังหน้าใสไว้กับลาดไหล่ผม

   “หยงก็ชอบเฮีย...ชอบมาตั้งนานแล้ว”

   และเป็นผมเองที่เบิกตากว้างแทน “หยงว่าอะไรนะ...” พูดอีกทีสิ พูดอีกทีได้รึเปล่า หยงช้อนตามองพร้อมกับลดมือมาดันหน้าอกผมออก จากนั้นก็พูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมตกใจกว่าเดิม...

   “หยงแอบชอบเฮียมาตั้งนานแล้วคนบ้าไม่เคยรู้ตัว” เดี๋ยวนะเราไม่ได้พึ่งเคยเจอกันหรอครับ แต่ยังไงก็แล้วแต่ไอ้กล้วยไม่อยากหาคำตอบ เพราะโจทย์อย่างตันหยงรอให้ผมหาคำตอบตรงนี้แล้ว วุ้ย พูดแล้วเขิน ไอ้กล้วยคนที่ผิดหวังกับความรัก วันนี้มีคนรักมันก่อน ใจมันฟูคับอกจนบรรยายไม่ถูกเลยครับพี่น้อง เรายังมีเวลาเรียนรู้กันอีกเยอะแค่ใจตรงกันมันก็ดีสุดๆ ไปเลยครับ

   “เฮีย...ทำให้หยงร้องไห้ เฮียต้องปลอบหยง” หยงพูดด้วยน้ำเสียงที่ผมคิดว่าโคตรมีเสน่ห์ เหมือนจะอ้อนแต่ก็มีแกมบังคับห้ามขัดขืน นี่ลูกแมวจะกลายเป็นนางแมวแล้วใช่มั้ยแค่คิดก็ติดสตาร์ทเลยทีเดียวกู

   “ให้เฮีย...ทำ...ยังไง” ผมลอบกลืนน้ำลายในหัวมีแต่เรื่องสิบแปดบวกเต็มไปหมด

   “เฮียไม่ต้องทำเดี๋ยวหยงทำเอง...” โอ๊ยยยยย พูดแค่นี้เฮียมวนท้องแล้วอะ ไม่ได้อยากอ้วกแต่มันฟินทั่วท้องน้อย ความรู้สึกดีมันพุ่งไปมาทั่วร่างกาย เกือบจะพุ่งตัวไปฟัดน้องแล้ว หยงกลับหยุดผมด้วยคำพูด

   “แต่...เฮียต้องสัญญากับหยงก่อน”

   “สัญญาอะไรจ๊ะ...” อยากได้น้องแล้วอ่า กล้วยอยากมีเมียยยยย หยงยกยิ้มแบบเซ็กซี่ ไล้นิ้วไปรอบกรอบใบหน้าผม

   “เฮียต้องสัญญาว่าจะมีหยงคนเดียว...ห้ามไปมองคนอื่น ถ้าหยงเห็นหยงจะเฉือน...”

   “อูยย...จ้ะๆ” ได้หมดได้ทุกอย่างเลยจ้ะทูนหัวของเฮียย โถถถ ไอ้กล้วย ยังไม่ทันได้เขากูก็เป็นผัวทาสอย่างเต็มรูปแบบ ผมยิ้มให้น้องเลื่อนมือข้างหนึ่งลูบไล้ตรงเอวน้อง มือไวจริงกู น้องตีมือผมจนผมต้องร้องแล้วก็รีบพูดต่อ

   “หยงเคยได้ยินประโยคนึงมั้ย...ได้ซักครั้งจะตั้งใจเรียนอะ แต่สำหรับเฮียอะเฮียว่ามันไม่เหมาะกับเฮียหรอก ถ้าเฮียได้หยงซักครั้งจะเป็นทาสหยงตลอดไป” ผมสบตาของอย่างจริงจัง

   “สัญญาแล้วนะ..”   


หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 21-06-2018 22:57:10






   หยงทิ้งผมให้ใจเต้นนอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียง โดยที่มีคำสั่งว่าผมห้ามทำอะไรกับตัวเองเด็ดขาด แล้วหยงก็หายไปในห้องน้ำ เสียงซู่ซ่าของน้ำทำให้ผมตื่นเต้นจนแทบกระอัก ใจพี่กล้วยจะกระดอนมาจนถึงปากแล้วครับพี่น้องงงงงงง น้องหยงน่ารักจะตายแล้วโว้ยยยยย

   และแล้วลูกแมวน้อยก็ออกมาจากห้องน้ำ ผ้าคลุมอาบน้ำสุดยิ่งทำให้หยงดูเซ็กซี่แต่ก็มีสิ่งที่น่าค้นหา ไอ้เด็กอายุสิบแปดแค่เนี้ย ร้ายชะมัด หยงค่อยๆ ปลดผ้าคลุมอาบน้ำให้ร่นมากองที่เอวเผยให้เห็นผิวเนียนกับเม็ดสีอ่อน...โอ้มาย ใต้ผ้าวับๆ  แวมๆ เห็นเรียวขายาวทำให้ผมเริ่มตื่นตัว อันที่จริงแค่เห็นหน้าน้องเฮียก็ตื่นแล้วครับ

   “ใจเย็นนะครับเฮีย” หยงบอกแค่นั้นก่อนจะล้มตัวนอนทับตัวผมและเริ่มต้นจูบ...ปลายคาง นี่น้อง...เริ่มเลยใช่มั้ยครับ เพราะท่าทางแบบนั้นมันกระตุ้นต่อมอยากรักน้องมากขึ้น

   น้องจุ๊บที่ปากผมจนเกิดเสียงให้ผมจั๊กจี้หัวใจเล่นๆ ผมทนไม่ไหวเชยคางน้องมารับจูบของตัวเองบ้าง หยงขืนตัวอยู่นิดหน่อยแต่สู้แรงผมไม่ได้

   “เฮียขี้โกง หยงไม่ให้เฮียทำอะไรนี่”

   “ก็หยงน่ารักเฮียทนไม่ไหว” ผมตอบกระซิบชิดริมฝีปากสีสวย “อ๊ะ....”

   เสียงหวานครางรับเมื่อผมขบเม้มใช้ลิ้นกวาดต้อนในโพรงปาก หวานไปหมดเลย พี่กล้วยฟินทุกอณูขุมขนครับพี่น้องงงงง ผมงัดทุกกลเม็ดการจูบให้หยงอ่อนระทวยคาอก เลื่อนริมฝีปากมาจูบตั้งแต่แก้มลงมาถึงคอ มือผมฟอนเฟ้นตัวเอวของหยง อยากจะกัดคอขาวให้ขึ้นสีแต่หยงเบี่ยงหน้าหลบ ความตั้งใจของผมนั้นถูกหยงขโมยไปแล้ว หยงฝังหน้ามาที่ลาดไหล่ขบเม้มต้นคอผมจนเจ็บจี๊ดๆ ลูกแมวตัวนี้แสบนัก ขณะที่ปากยังนัวเนียผมอยู่นั้นเอวของหยงก็หมุนวนไปมา ส่วนนั้นของหยงเบียดกับลูกชายผมผ่านกางเกงเนื้อผ้า ร่างกายที่แนบติดกันทุกสัดส่วนเริ่มร้อนมากขึ้น

   “อืออ...”


   “เฮียอยากเข้าไปในตัวหยงแล้ว ให้เฮียทำเถอะ” ผมร้องอย่างทนไม่ไหว คราวใดที่ผมรุกหยงจะพลิกกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมทันที หยงลุกขึ้นนั่งบนต้นขาผม ผ้าคลุมอาบน้ำที่หลุดมากองตรงเอวเพียงแค่ยื่นมือไปคลายปมก็จะเห็นหยงชัดเจนแล้ว ผมนอนมองหยงเช็ดมุมปากด้วยหลังมือ หน้าอกสวยกระเพื่อมหายใจแรง ผมจึงยื่นมือไปสัมผัสตุ่มไตบนสีสวยบี้เล่นเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนไปคลึงก้นนุ่มแทนแล้วขยับตัวไปดูดดุนจุกนมจนเปียกชุ่ม ทั้งกัดเบาๆ จนหยงแหงนหน้าครางวิว อ่า โคตรฮอต วิวโคตรดี ยิ่งผสานสายตาร้อนแรงที่มองมา อยากจะร้องเป็นภาษาต่างดาว บรรยายไม่ถูกจริงๆ รู้แต่ว่าผมอยากจะกินหยงจะแย่แล้ว

   “หยงสวยเซ็กซี่จัง เฮียจะคลั่งแล้ว”

   จู่ๆ หยงพลิกตัวหันหลังทั้งๆ ที่นั่งทับต้นขาผมอยู่ ถึงแม้ว่าหูและหน้าจะแดงไปหมดแต่หยงก็กัดปากล่าง หันมามองผมตาปรือ แม่เจ้าโว้ยย

   “เฮียอยากได้หยงหรอ ตรงนี้อะนะ” หยงโก่งสะโพกมาทางผม กลืนน้ำลายเอื๊อก ท้องน้อยเสียบวาบ อยากครับ อยากได้...ช่องทางสีสวยลอยเด่น ผมเริ่มเบลอ เลือดกำเดาเกือบทะลักเมื่อหยงดูดและเลียนิ้วตัวเองจนชุ่มแล้วแอ่นตัวไปข้างหน้า สอดนิ้วกลางเข้ามาในช่องทางของตัวเองขณะโก่งโค้งบนตัวผม ความคับแน่นแบบกล้วยโตเต็มไวกำลังร่ำร้องให้ผมปลดปล่อยมัน ยิ่งหยงครางแผ่วเพราะนิ้วของตัวเอง ไอ้กล้วยคนนี้ยิ่งแทบบ้า

   “หยง...เฮียไม่ไหวแล้ว!”

   ผมพลิกร่างหยงในนอนหงายบนเตียงทันที ส่วนตัวเองก็กระชากเสื้อคลุมออกจากตัวหยงอย่างรวดเร็ว มือสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเห็นน้องชายของหยงที่ชูชันด้วยความต้องการ แม่งเอ๊ย กูจะบ้า หยงหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือมาช่วยผมปลดเข็มขัดและกาง...เอ่อ...กางเกงใน ตอนที่มือของหยงปัดโดนลูกชายกล้วย มันยิ่งแข็งขืนขึ้นมา

   “ใจเย็นๆ สิเฮีย เดี๋ยวหยงทำให้”

   “แต่เฮียอยากใส่เข้าไปในตัวหยงแล้ว” ไอ้กล้วยยังคงเป็นไอ้กล้วย ผมพูดตรงจนคนข้างใต้ร่างอายม้วน หยงยืดตัวมาจูบผมจนเบลออีกครั้งแล้วค่อยๆ พลิกตัวผมลงนอนหงายเป็นครั้งที่สอง คราวนี้หยงสวมถุงยางให้ผมกับตัวเองพร้อมกับหยิบเจลที่ผมมีติดไว้ในห้องชะโลมจนชุ่ม ผมมองทุกการกระทำด้วยใจเต้นแรง ลูกแมวตัวนี้ชำนาญนัก

   “เคยทำอย่างนี้กับใครรึเปล่า” ผมถามตอนที่หยงตั้งอกตั้งใจจับลูกชายผม หยงชะงักไปนิดก่อนที่แววตาฉ่ำหวานจะเปลี่ยนไป อ่า นี่ผมทำหยงโกรธเข้าแล้วล่ะสิ

   “เฮียแค่ถามอะครับ”

   “คนแรกของหยงคือเฮีย...แต่เฮียทำหยงโกรธแล้วล่ะ” ผมมองน้องตาค้าง หยงยกตัวขึ้นจับลูกชายของผมจ่อเข้ากับปากทางตัวเอง “ใหญ่ขึ้นอีกแล้ว หยงก็แย่ดิ” เพราะโกรธหยงเลยจะกินเฮียแทนหรอคร้าบ

   แต่จริงๆ ลูกชายเฮียมันใหญ่เพราะน้องนี่แหละครับ ลูกเฮียเป็นสิ่งที่เฮียภาคภูมิใจ “เจ็บมั้ย” ผมถามแต่หยงไม่ตอบเอาแต่ครางทันทีที่ส่วนหัวเข้าไปในทีละนิด บรรยากาศบนเตียงร้อนไปทุกตารางนิ้วทั้งๆ ที่เปิดเครื่องปรับอากาศจนอากาศเย็นเฉียบแต่เหงื่อพวกเราหยดข้างขมับ

   “อ๊ะ อ๊า....” หยงแหงนหน้าร้องลั่นเมื่อช่องทางคับแคบกำลังต้อนรับไอ้กล้วยไปทีละนิด

   “ไหวมั้ย” ถามเป็นคนดีทั้งๆ ที่อยากจะจับกระแทกให้ลืมทางกลับบ้านไปเลย ผมเอื้อมมือข้างหนึ่งไปขยี้ยอดอกชูชันนั่นเพื่อผ่อนคลายเพิ่มออพชั่นดูดจุกนมน้องจนครางไม่เป็นภาษา ส่วนมืออีกข้างก็ลวนลามน้องชายหยงไว้ทั้งคลึง ผมตั้งใจจะลุกขึ้นนั่งจะได้ไปปลอบน้องหยงที่ร้องไห้แต่เพราะการกระทำนั้นหยงถึงกับร้องเสียงหลงแทน ผมหน้าเหวอ..ที่เผลอลุกจนน้องจุกอะครับพี่น้อง

   “อ๊าาาา เฮียอย่าพึ่ง...ขยับ ฮืออ”

   “ชู่วๆ ช่วยกันไงครับ” ไม่น่าเชื่อเพราะอยากเอาใจน้องหยงหรือเพราะอะไรไม่รู้ นายสืบสกุลตอนอยู่บนเตียงพูดเพราะมากๆ แต่ตั้งแต่หยงอยู่กับผม ผมก็ไม่เคยพูดคำหยาบเลย เอาล่ะกลับมา...ในที่สุดน้องก็หลงกลผม ไม่ใช่อะไรกูอยากเข้าอยากออกจะแย่อยู่แล้ว ผมลุกขึ้นนั่งพิงหลังกับหัวเตียงได้สำเร็จ ขณะที่ทำแบบนั้นเสียงครางดังข้างหูแรงไม่หยุดแถมหยงโอบรัดรอบคอแน่นรวมถึงขาเรียวสองข้างที่รัดเอวผมด้วย นั่นทำให้เราแนบชิดกันจนน้องชายของหยงชิดติดกับหน้าท้องผม ตรงนี้อยากจะร้องให้ลั่น น้องครับพี่สยิว ส่วนลูกชายผมเข้าไปจนหมดอย่างแรงเพราะการเปลี่ยนท่ากะทันหันเมื่อกี้ทำให้ต้องแช่ค้างไว้ ผมรีบจูบซับน้ำตาที่หางตา ปากขบเม้มมั่วไปหมด อารมณ์โหมสะบัด มือก็ปัดป่ายทั่วตัวน้องหยงที่ตอนนี้เปลือยเปล่าจนหมด เรียกได้ว่าจับเป็นจับ คลึงเป็นคลึงครับผม

   พี่กล้วยโคตรฟิน สุขสมสุดๆ ผมค้าง ‘เรา’ ไว้อยู่ในส่วนลึกของน้อง แรงรัดทำให้ผมยิ่งเสียบวาบ ข้างในมันลื่นสุดๆ แถมยังร้อนเหมือนดูดของผมให้เข้าไปอีก จะบ้าแล้วโว้ย “เฮียขยับนะ...” ผมกระซิบชิดใบหน้า ขบเม้มติ่งหูเบาๆ

   “ไม่ หยงจะ...อะ...ขยับเอง” ว่าแล้วหยงก็ทำสิ่งที่ผมตกใจปนเสียว ดื้อซะด้วย หยงเลื่อนมือจากรอบคอผมมายึดไหล่ผมสองข้างแทน หยงขยับตัวขึ้นลงเชิ่ดหน้าสูงตามแรงอารมณ์ ทั้งหลับตาแน่น เม้มปากกักเสียง ส่วนผมก็ครางต่ำเพราะหยงตอดรัดทุกครั้งที่ทิ้งตัวลงมา เสียวโว้ยยย

   “หยงครับ หยงของเฮีย อา...อะ...” เสียงร้องปนกันเต็มห้องไปหมด น้องชายขนาดน่ารักของหยงเด้งไปมาแบบว่าอยากกัด

   “เฮีย หยง อื้อ...เสียว...อ๊ะ...” หยงเริ่มผ่อนแรงลงแล้ว กระผมยิ้มกริ่มเอวผมสวนกระแทกเต็มร้องจนน้องร้องเสียงหลงจนในห้องของผมนั้นมีแต่แต่ครางปนเสียงจูบตามแรงอารมณ์

   “อ๊าาาา อื้อ”

   “เหนื่อยก็พักก่อนนะครับ เดี๋ยวเฮียทำให้เอง” ผมเร่งเครื่อง เสียงเรียกคำว่าเฮียกระตุ้มผมให้อารมณ์เตลิด พอหยงเริ่มหายเหนื่อยแล้วก็ขยับเอวประสานกับจังหวะผม เรารับส่งกันดีจนผมบรรยายไม่ถูก ผมครางต่ำแต่ก็เริ่มเมื่อยแล้วเหมือนกัน

   “ให้หยงนอนสิ” หยงบอก ผมเหลือบตามองคนเซ็กซี่ที่ขย่มอยู่บนตัวแล้วก็พลิกหยงให้นอนแต่ตรงกลางเรายังเชื่อมกันแนบสนิท ผมเดินเครื่องตามบัญชาของน้องหยงอย่างเต็มที่ เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นผสานกับเสียงครางทุกจังหวะเข้าออก ขาหยงอยู่บนไหล่ ส่วนล่างอ้ากว้างและมือเราประสานกันอยู่
   
   “เร็ว..อึก..อีก..เฮีย...”
   “ได้ครับ ฮ่า...”


   “แรงๆ ได้มั้ย...เฮียครับ อื้อ....อื้อ...”

   “ครับตามบัญชาเมียเลยครับ”

   เสียงเตียงกระทบผนังดังกึกๆ เราเปลี่ยนท่ากันหลายท่า เสียหลายน้ำก่อนจะนอนกอดกันกลม กลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วห้อง พี่กล้วยบริการน้องหยงทุกย่างก้าว ไม่ว่าน้องหยงจะไร้เดียงสาเป็นแมวน้อยหรือเซ็กซี่เหมือนแมวยั่วสวาทผมก็ไม่คิดหาคำตอบ เพราะเป็นแบบไหนไอ้กล้วยก็ชอบทั้งนั้นนนน

   หลังจากนั้นผมเหมือนจะเสพติดน้องหยงเรียนเสร็จต้องรีบกลับมานอนบ้านจนคนที่บ้านมองด้วยความสงสัย เราทำเรื่องอย่างว่ากันเกือบทุกวัน ไม่อยากจะบอกหยงมักจะเริ่มก่อนแทบทุกครั้ง ทำไงได้ พี่กล้วยมันหล่อจนน้องติดหนึบ ถ้าน้องหยงต้องติว ผมก็จะติวให้แต่ค่าจ้างคือน้องต้องให้ผมแทะเล็ม จนน้องหยงต้องกลับไปอยู่บ้าน เราก็จะเจอกันเสาร์อาทิตย์ บางทีก็หวงบ้างไกลหูไกลตา เมียเซ็กซี่อยู่ด้วย แต่ไม่เป็นไร พี่กล้วยกำลังขุนน้องให้สอบเข้ามหาลัยเดียวกับพี่อีกไม่กี่เดือนเราก็ได้จะเจอกันทุกวันแล้ว หึหึ
 



   “เป็นไรเนี่ย ตั้งแต่ขึ้นปีสองรีบกลับห้องทุกวัน มีเด็กหรอ” ไอ้เบสทักเมื่อเห็นว่ายอดชายนายกล้วยรีบปรี่ออกจากห้อง กูไม่ตอบมึงหรอกเพื่อนนน กูไม่ใช่คนเหงาที่นั่งเศร้าตอนอกหักอีกแล้วนะเว้ย

   “แล้ววันนี้มึงหน้าซีดนะ เสียน้ำเยอะเหรอเพื่อน”

   ผมยิ้มมุมปากตอบกลับให้เดอะแก๊งคอหล่นหน้าหงาย “เออ...เมียหื่น”

   ก็ดูสิ...

   “เฮียช้าอะ”

   “ช้าๆ ลึกๆ อึ้บๆ แต่รักนะครับ”

   “อื้อ! ไม่ต้องเลยเร็วๆ ด้วย”

   “บอกรักเฮียก่อน”

   “ช้าทำไมอะเฮีย เฮียพูดแล้วอย่าหยุดสิ”

   “บอกเฮียก่อนเฮียจะทำให้เดินไม่เป็นเลยคอยดู”

   ”หยงรักเฮียครั.. อ๊า...แรงๆ..อื้มม..อ๊ะ..อ๊ะ..อ๊ะ”

   นี่ขนาดน้ำออกไปสองรอบแล้วเมียยังคึกอยู่เลย วิชาทุกกระบวนท่าที่ผมดูหนังโป๊มันไม่ถูกใจเมียซักอย่าง แต่พี่กล้วยก็ต้องพยายามต่อไปเพราะตอนนี้พี่กล้วยคือผัวทาสอย่างสมบูรณ์แบบ ท่าไหนจัดไป ความถี่แค่ไหนจัดให้ เป็นไงล่ะสโลแกนของผม เดี๋ยวนี้พี่กล้วยก็ยังพูดแซวสาวบ้างที่ไม่เลิกเพราะเมียจะโกรธแล้วลงโทษพี่บนเตียง พี่ชอบ

   ...ไอ้ทัพ กูน่ะเจอ ตามหารับแท้เจอแล้วโว้ย...เด็ดด้วย!


---------------------
ขอโทษที่หายไปนานเลยค่ะ
พี่กล้วยที่มาพร้อมกับความหื่นกามเเละจบด้วยความหื่นกามเช่นเดิมม
ตอนพิเศษที่จะลงในเว็บมีเพียงเท่านี้
เเต่ต้องบอกเลยว่าในหนังสือมีอีกเพียบ โดยเฉพาะคู่เปากลาง
หมายถึงความหวาน และการปรับตัวของความสัมพันธ์หลังจากนั้นนะคะ
ส่วนเรื่องลามกไรงี้ให้พี่กล้วยเค้าเถอะ555
ขอบคุณที่ติดตามกันมา
คราวหน้าจะมาอัพเดตเรื่องหนังสือค่ะ
หรือไม่ก็รอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สนพ.ฟาไฉ
ไม่นานเกินรอออ

คิดถึงทุกคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- p.23 (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 21-06-2018 23:51:59
ประทับใจน้องตันหยงมากค่าาา แง ดีใจกับเพื่อนกล้วย จะอุดหนุนเล่มแน่นอนค่าาา  :hao5:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- p.23 (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: por_pla4u ที่ 22-06-2018 00:00:22
แหมมมม น้องหยงทำอิพี่กล้วยหลงหัวปรักหัวปรำเลยนะ ร้อนแรง อิอิ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- p.23 (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-06-2018 03:29:54
 :haun4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- p.23 (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 22-06-2018 08:20:06
ร้อนแรงกันจริงๆ  :haun4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- p.23 (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 22-06-2018 09:27:25
แงงง พี่กล้วยย น่าสงสารเจงๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- p.23 (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: 19august ที่ 22-06-2018 11:15:29
น้องหยกรูกกกกกกก กล้วยคือทาสเมียที่แท้  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- p.23 (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-06-2018 13:04:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- p.23 (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 22-06-2018 23:44:00
น้องแทนโย่งโซแดมฮอทมากกก พี่กล้วยถึงกับไปไม่เป็นเลย ปาทับจายในตัวรับแท้มักมาก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண ตอนพิเศษ ตามหารักแท้กับคุณกล้วย -ตอนจบ- p.23 (21-6-61) =THE END=
เริ่มหัวข้อโดย: jomyingg ที่ 02-07-2018 21:38:45
อ่านจบแล้วววว ชอบมากๆๆเลยค่ะ  :-[
อ่านแล้วเขินหนักมากกก เปากวนสุดๆ กลางก็น่าร้ากกก อยากมีไว้ที่บ้านจัง5555 แก๊งคอหล่นก็ตลก ทำให้เรื่องมีสีสันมากๆเลยค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண รายละเอียดเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: jaevin ที่ 01-09-2018 13:32:52
สวัสดีค่ะทุกคน
ไม่ได้เจอกันนานมากกก
กลับมาพร้อมกับ เล่มคนกลาง! เย้


วันนี้มีรายละเอียดการจองเรื่องเล่มคนกลางมาฝากค่ะ
ต้อนรับเดือนกันยาเลยทีเดียวว

สำนักพิมพ์ฟาไฉเปิดพรีเซล 1-4 กันยายน 2561
**สามารถนัดรับในงานเจนวายได้

รายละเอียดตามภาพนี้เลยนะคะ

(https://uppic.cc/d/Gk4) (https://uppic.cc/v/Gk4)

คนกลางมี 2 เล่ม จบ
จำนวนเล่มละ 300 หน้า
ปกโดยคุณหยก น่ารักมากเลยค่ะ
มีตอนพิเศษไม่ลงเว็บ 6 ตอน
แถมยังได้ Mini novel ด้วยย


ใครสงสัยอะไรสามารถสอบถามเพจสำนักพิมพ์ได้เลยนะคะ
เพจสำนักพิมพ์ https://www.facebook.com/Facai.Publishing/



แล้วพบกันใหม่ค่ะ คิดถึงทุกคนนน

หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 04-09-2018 20:41:27
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 25-09-2018 14:32:42
 :L1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-10-2018 13:41:40
สนุกมากๆๆๆๆๆๆ  อยากอ่าน spin off ของพี่กล้วย  :haun1: :haun1: :haun1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 30-10-2018 07:49:32
สนุกมากคร้าบ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: konfaibint ที่ 31-10-2018 21:29:14
เปา เป่า คนกลางๆ สะเชื่่องเลย  น่ารัก ชอบมากกกกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 11-11-2018 17:39:44
เอาอีกกกกกก กดซื้อหนังสือไปแล้ววว
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: namminzz ที่ 07-12-2018 16:31:06
สนุกมากเลยค่ะ ชอบนายเอกแบบคนกลางมากกกก > <
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 01-01-2019 13:36:57
สนุกดีค่ะ. ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: Maeo ที่ 09-01-2019 05:21:33
ชอบคนแบบ คนกลางมาก
คูลสุดๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 12-01-2019 20:43:05
ดีใจที่ได้เจอรับแท้นะเฮียกล้วย555
สงสารคนกลางอะ จากการที่แม่ควรจะเข้าใจลูกที่สุดแต่ดันเป็นคนแรกที่กีดกันซะงั้น เฮ้อ

ขอบคุณนะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 02-02-2019 01:08:38
น่าร๊ากกกกกกกก :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 16-02-2020 17:49:19
คนแบบอิเกมส์นี่ เมื่อไหร่จะหมดโลกไปสักที อย่ามาอ้างว่าเด็ก เด็กคนอื่นไม่เห็นเป็นแบบมัน โตมาละก็ตามมาปั่นเค้าอีกหนึ่งดอก เป็นชั้นจะตบให้คว่ำเลย อินจัด
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: mareeyah ที่ 21-02-2020 21:13:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 22-02-2020 03:42:52
 :impress2:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 18-03-2020 01:58:06
คิดถึงเปาคนน้วยกับคนกลางคนตัลล้ากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-04-2020 10:24:30
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 19-10-2020 10:53:18
อ่านจบแล้วจ้า   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ண คนกลาง ண แจ้งข่าวเล่มคนกลาง p.23 (1-9-61)
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 06-11-2020 12:20:45
อ่านรอบที่3 สนุกมากกกกกกกก ขอบคุณมากครับ