พิมพ์หน้านี้ - All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: monkey1990 ที่ 23-04-2017 15:02:32

หัวข้อ: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 23-04-2017 15:02:32
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม








ตอนที่  1_จุดเริ่มต้น...

“เฮ้ย..นุ..ปีนี้มึงจะไปช่วยดูน้องหลีดที่คณะป่าววะ...”  เสียงไอ้กิ๋วถามผมตอนกำลังเดินลงมาจากตึกที่คณะ
“กูว่าจะไม่แล้วว่ะ...ปีสามแล้ว...อีกอย่างจะฝึกสอนแล้วด้วยขี้เกียจว่ะ...”  ผมตอบแล้วเดินต่อ   ไอ้กิ๋ววิ่งอ้อมมาดักผมด้านหน้า...ผมเองก็มองมันแบบงงๆประมาณว่า...อะไรของมึงวะเนี่ย
“ได้ไงว๊า...มึงไม่ไปช่วยดู....แล้วน้องที่คณะมันจะทำไงอ่ะ...มือใหม่กันทั้งนั้น...น่านะ...ไปดูพวกมันซักนิดนึงก็ได้น่า....เย็นนี้ไปด้วยกัน..” ไอ้กิ๋วยังคงเซ้าซี้ต่อ
“อะไรของมึงวะเนี่ย...ร้อยวันพันปีไม่เห็นมึงจะสนใจเลยหลีดเนี่ย..เอางี้..คำเดียว...บอกมาตรงๆ”
“ครือว่า....กูอยากไปดูหน้าน้องใหม่ๆอ่ะ...เห็นมันบอกกันว่าน้องผู้หญิงน่ารักๆเพียบเลย...”
“น่านไง...กูว่าแล้ว..เออๆแค่ไปดูเฉยๆนะเว้ย..แต่เรื่องอื่นกูไม่ยุ่งนะ..ไม่อยากเหนื่อยว่ะ...เครียดมากๆหน้ากูโทรมหมด” 
“ก็แค่น๊านแหละ...นึกแล้วก็ตื่นเต้นว่ะ..อยากเห๊นอยากเห็น...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วทำหน้ากระดี๊กระด๊า
“เออ...แค่ดูนะเมิง..อย่าได้คิดอย่างอื่น...ไม่งั้นกูจะโทรบออกไอ้นิ่มนะเว้ย..ขอบอก...”  ผมพูดปุ๊บไอ้กิ๋วเอานิ้วมือทำจุ๊ๆปั๊บ...เฮ้อ....เพื่อนกรู...

   ห้าโมงเย็นผมกับไอ้กิ๋วเดินมาที่หน้าคณะนั่งรออยู่ที่ม้าหินอ่อน...คุยกันซักพักน้องๆปีสองปีสามก็เริ่มเดินเข้ามาหามาทักทายตามประสาแล้วก็นั่งลงเม้าท์ต่อกันอีกซักพัก
“เป็นไงปอย...น้องปีนี้...โอเคมั้ยล่ะ...”  ผมถามน้องปอยเป็นหลีดปีสองที่นั่งอยู่ข้างๆผม...ปอยเป็นเด็กผู้หญิงเชื้อสายจีนผิวขาวหน้าหมวยมีเขี้ยวหน้าตาน่ารักดีที่สำคัญเต้นเก่งมาก...เต้นน้ำไหลไฟดับ...
“โห..พี่นุ...กว่าจะหามาได้นะ...กวาดมาจนจะหมดเอกปอยกะเอกพี่นุแล้วเนี่ย...” ปอยบ่น
“พี่เห็นแว่บๆน่ารักทั้งนั้นเลยนี่หว่า...”  ไอ้กิ๋วพูดแทรกเข้ามาทำเอาเจ้าอิ่มซัดเพี๊ยะที่แขนไอ้กิ๋ว...อิ่มเป็นเพื่อนกับปอยเรียนอยู่เอกเดียวกัน...อิ่มเป็นเด็กน่ารักแบ๊วๆออกจะเอ๋อๆเพราะชอบเออเร่อตลอดเวลาซ้อม...                                       
“แหม!พี่กิ๋ว....ตางี้เป็นประกายวิ๊งๆเลยนะ..คอยดูนะหนูจะฟ้องพี่นิ่ม...” 
“โห...พูดกันจริงชื่อนี้..เมื่อกี้ไอ้นุก็ทีนึงแล้ว...กิ๊กๆกั๊กๆน่าอย่าคิดมาก...”               
“แล้วพี่นุจะไม่มาช่วยซ้อมจริงๆเหรอปีนี้อ่ะ...”  ปอยถามเสียงอ่อยๆ
“เหนื่อยอ่ะปอย...ขอพี่ดูอยู่ห่างๆดีกว่าอ่ะ...มีอะไรก็มาปรึกษาละกันแต่ถ้าจะให้ช่วยเต็มๆตัวเหมือนเมื่อก่อนอ่ะ...ไม่เอาแล้ว...เหนื่อยว่ะ...เครียดด้วย..”
“ปอยเอ้ยยยย....อ้อนไอ้นุมันดีๆเดี๋ยวมันก็ใจอ๊อนนนน...เชื่อดิ..” ไอ้กิ๋วแทรกเข้ามาอีก
“น่า..นะๆๆๆๆ...”  ได้เรื่องเลยปอยกับอิ่มเกาะแขนผมคนละข้างอ้อนวอนใหญ่
“นึกว่าช่วยน้องช่วยนุ่งน๊าพี่นุนะ....” อิ่มพูด
“งั้นเดี๋ยววันนี้พี่นุลองดูน้องๆหน่อยละกันว่าเวิร์คมั้ย...พอดีซ้อมมาได้สองสามวันแล้วอ่ะ..พี่นุช่วยดูๆให้ปอยหน่อยนะว่าควรปรับตรงไหนบ้าง...”  ปอยหันมาบอกผมแล้วดึงแขนอิ่มลุกไปที่สนามหญ้าเรียกน้องๆมาเข้าแถว  ผมก็กวาดสายตามองไปทั่วๆ....ดูๆแล้วปีนี้มาน้องหลีดเยอะเหมือนกันเว้ย...ผู้ชายพอๆกับผู้หญิงเลยซึ่งแตกต่างจากทุกปีที่จะมีผู้ชายน้อยมาก...ดูไปดูมาเริ่มรู้สึกเหมือนที่ไอ้กิ๋วบอกคือมีน้องๆหน้าตาดีหลายคนแฮะ....

ผมเห็นปอยกับอิ่มพูดอะไรกับน้องๆซักสองสามคำแล้วหันมากวักมือเรียกไอ้กิ๋ว  ไอ้นั่นก็แบบว่าพร้อมอยู่แล้วอ่ะครับพุ่งไปอย่างกะจรวด...ระริกระรี้เชียวมันอ่ะ...
“สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ...” น้องๆหลีดที่นั่งอยู่ยกมือไหว้...
“สวัสดีน้องๆทุกคนนะ...เป็นไง...ซ้อมกันมาได้2-3วันแล้วเป็นไงบ้าง...เห็นพี่ปอยกับพี่อิ่มบอกว่ายังเหยาะแหยะๆกันอยู่...วันนี้...พี่มีเพื่อนมาด้วยคนหนึ่ง...เป็นรุ่นพี่ในคณะนี่แหละ...”
“พี่เค้าช่วยสอนพี่สองคนมา....อยากบอกว่า...โหดมากกกก...” อิ่มบอก...น้องๆก็เริ่มหันมามองผมละ
“เอ๊า...ไอ้นุ..มาคุยกะน้องๆหน่อย...เร็วๆเลยมึงอย่าลีลา...” ไอ้กิ๋วตะโกนเรียก...ผมก็...เอาวะ...ไม่ลุกไม่ได้แล้วเดี๋ยวเสียฟอร์มหมด...ผมเดินไปคุยกันน้องๆได้นิดหน่อยแล้วก็ปล่อยให้ปอยกับอิ่มซ้อมน้องๆต่อไปกันก่อน...ผมกับไอ้กิ๋วนั่งดูอยู่ห่างๆพร้อมกับอาการหื่นๆของไอ้กิ๋ว...สักพักปอยเดินมาหาผม..
“พี่นุ...เดี๋ยวปอยจะให้น้องมาสอบกับพี่นุนะ...พี่นุดูให้หน่อย...มันไม่กลัวปอยเลยอ่ะ...” ปอยบ่น
“โห...หมดนี่อ่ะนะ...จะได้กลับกันกี่ทุ่มอ่ะปอย..”  ผมบอก
“เอางี๊...เดี๋ยวพี่ดูน้องผู้หญิงเอง...ส่วนไอ้นุ..มึงดูน้องผู้ชาย...” ไอ้กิ๋วหันมาบอกผมแล้วรีบลุกไปเรียกน้องหลีดผู้หญิงด้วยความไวแสง...เดี๋ยวเดียวน้องผู้ชายก็เดินมาหาผมแล้วพร้อมกับปอยมานั่งอยู่ข้างๆผม...ส่วนอิ่มไปคุมอยู่กับไอ้กิ๋ว
“อย่างพวกแกเนี่ยต้องเจอของจริง...เอ๊า..นั่งลง...เดี๋ยวออกมาทีละคน”  เสียงปอยตวาดแว๊ดๆ ผมมองไปทั่วๆแล้วก็รู้สึกว่า..นี่หลีดคณะกูเหรอวะเนี่ย...มีผู้ชายอยู่ประมาณสิบคน...แต่ที่ดูได้จริงๆนี่...เอ่อ...คือว่ามีไม่ถึงห้าคนเลยเว้ย...ที่เหลือหน้าเหี้ยหมดมีตั้งแต่เหี้ยน้อยจนถึงเหี้ยปานกลางเลย...
“เอ๊า!!!แก...ไอ้หนึ่ง...กะไอ้เดี่ยว...ออกมา....”  เสียงปอยตวาดเรียกน้องแต่ละคนออกมาสอบ...ดีบ้าง...มั่วบ้าง...หุหุหุ..
ไอ้หนึ่งนี่หน้าตาหล่อแต่ท่าทางเอาเรื่อง...คิ้วเข้ม...ขาว..หุ่นล่ำ..ไอ้เดี่ยวนี่หน้าเสี่ยวๆหุ่นคล้ายๆหมีแต่ท่าทางแข็งแรงแต่สาวแตกเชียว....ปอยยังเรียกต่อไปเรื่อยๆ...ไอ้แซ๊ก...ไอ้เอก...ไอ้วุ้น...ผมก็บอกนั่น..ตินี่ไปเรื่อย...จนมาคนต่อมา...                   
“ไอ้เจมส์....แกลุกมาเลยเร็วๆ...” ปอยเรียกชื่อ  ส่วนไอ้เจ้าของชื่อพอเดินออกมาปั๊บ...ผมก็เฮ้ย...แม่งตัวสูงมาก   มากกว่าทุกคนในรุ่นเลย...หุ่นแม่งสูงล่ำอย่างกะนักบาสเลย...ผมยังคิดอยู่เลยว่าจะจัดโซนเต้นยังไง...จะต่อตัวยังไงได้วะเนี่ย...เพราะเจมส์มันสูงโด่อยู่คนเดียวเลยในขณะที่คนอื่นเค้าตัวเท่าๆกันสามารถจับกันเป็นคู่ๆได้พอดี...ไอ้เจมส์ทำท่าพื้นฐานไปได้ซักพัก...ผมก็เริ่มหงุดหงิดเพราะไม่รู้ว่ามันไม่ได้จริงหรือมันแกล้งกันแน่...ผมก็เลยต้องเดินไปดูมันใกล้ๆ...พอไปใกล้ๆมัน  ผมว่าผมตัวสูงแล้วนะแต่ปรากฏว่าผมเองยังสูงแค่คอมันเอง.......
ตลอดช่วงที่ผมยืนบอกเจมส์มันใกล้ๆนั้นผมสังเกตได้ว่าเจมส์มันจะก้มมองผมตลอดจนผมรู้สึกได้...มองจนผมเริ่มจะเขินละ...ไม่รู้มันจะมองทำไม....โดยผมเองต้องเป็นฝ่ายถอยออกมายืนไกลๆจากมันซะเอง(หรือกลัวใจตัวเองหว่า...555)...ตกลงมึงมองกูนี่เพราะอะไรเนี่ย...มองเพราะจู้จี้หรือเลื่อมใสหรือยังไงวะ...งงๆ...หลังจากเจ้าเจมส์ก็ดูที่เหลือสอบต่อไปอีกเรื่อยๆจนครบ...ก็ถึงเวลาเบรกพักกินข้าว...
“เดี๋ยวไปกินข้าวกันพี่นุ...ไปร้านหลังมอเนี่ย...อิ่มมันบอกอร่อย..” ปอยเดินเข้ามาบอกผม...ผมก็เออๆออๆตาก็มองไปที่น้องๆแต่ละคน...ได้ยินมันแซวกันแว่วๆเข้าหูว่าเจ้าเจมส์มันกำลังตามจีบเมย์อยู่....เมย์นี่ก็เป็นหลีดที่อยู่เอกเดียวกะมันเหมือนกัน..มันเลยตามมาเป็นหลีดด้วยผมได้ยินก็..นะ..ไม่ได้รู้สึกยังไงแต่เหมือนกับวิ๊งๆยังไงไม่รู้แฮะ...แต่ก็ทิ้งไว้ตรงนั้นไม่ได้สนใจอะไรต่อ..
“เดี๋ยวกู...พาน้องขึ้นรถกูไปก็ได้..ประหยัดดี...แต่เอาเฉพาะน้องผู้หญิงนะเว้ย...” ไอ้กิ๋วเดินมาบอกแล้ว สตารท์รถขับออกไป...
ผมกับปอยและอิ่มก็เดินไปที่รถมอ’ไซด์ของตัวเองเตรียมตัวออกไปเหมือนกันสายตาก็เหลือบไปเห็นร่างสูงๆเดินอยู่หน้าตึก....ปอยกับอิ่มเลยขับไปจอดข้างๆ
“อ้าว..เจมส์ทำไมเดินไปล่ะ...รถไม่พอเหรอ?...”  อิ่มถาม...เจมส์มันก็ส่ายหน้า
“งั้นไปกับพี่นุไป๊...พี่นุเค้าไปคนเดียวน่ะ...” ปอยบอก
“พี่นุ...เอาไอ้เจมส์ไปด้วยนะ...มันไม่มีรถไป...” อิ่มหันมาตะโกนบอกผมแล้วรีบบึ่งออกไปเร็วจี๋   ผมก็เลยขับไปจอดตรงที่เจ้าเจมส์มันยืนรออยู่
“เจมส์ขับละกัน...” ผมลงจากรถให้เจมส์มันขับแทน  พอไปถึงร้านข้าวแต่ละคนก็พยายามสั่งอะไรที่มันเหมือนๆ กันเพื่อที่จะได้เร็วๆเพราะแต่ละคนนั้นหิวมากกกกกก....พอกินกันเรียบร้อยก็กลับมาซ้อมต่อที่เดิม...ระหว่างรอให้ครบแต่ละคนก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย...ผมก็นั่งรวมกลุ่มอยู่กับปอย  อิ่มแถมยังมีเจ้าเจมส์มานั่งรวมกลุ่มอยู่ด้วยแถมยังแอบมองผมเป็นระยะๆอีก...มันให้เหตุผลว่าไม่รู้จะคุยกับใคร...เมย์ก็ยังไม่มา...
   หลังจากมากับครบแล้วก็ซ้อมกันอีกซักพักแล้วจึงปล่อยน้องๆกลับบ้านกัน..สรุปว่าวันแรกของผมกับน้องๆก็ไม่เลวนะ...แต่ว่าผมจะยังไงดีละเนี่ย...คิดจะรับภาระอันใหญ่หลวงอีกแล้วเหรอเนี่ย...
“เป็นไงวะ...พอเจอน้องแล้วอ่ะ..” ไอ้กิ๋วถามผมระหว่างที่พวกเรานั่งรอส่งน้องๆกลับบ้าน
“ก็ดี...”  ผมตอบสั้นๆ
“พี่นู๊....นะๆๆ...ช่วยหน่อยเหอะน๊า...ไม่งั้นปอยตายแน่เลย...”  ปอยพูด
“นั่นดินะ...รับรองหนูจะไม่ให้พี่นุเหนื่อยเด็ดขาด..” อิ่มพูดแล้วชูมือสองนิ้ว
“น่าไอ้นุ...ช่วยๆน้องมันไปเหอะ...ดีออก...ปีนี้มีน้องเยอะ..เราก็พาน้องไปเก็บตัวชายทะเลกันได้เลยเนี่ย”
ไอ้กิ๋วบอก  ปอยกับอิ่มทำท่าเห็นด้วยทันที
“เออๆ...ก็ได้วะ..แต่ถ้าปัญหามันเยอะนักก็ไม่เอาเลยนะเว้ย..บอกไว้ก่อน...”  ผมบอก.....เฮ้ออออ....งานเข้าอีกแล้วผม....กรรมจริงๆ!!!!!

(ติดตามตอนที่ 2)
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 23-04-2017 15:44:29
ตอนที่  2_เมารัก...

“ไอ้เจมส์....แกจะเดินตามเมย์ทำไมนักหนาวะ...เมย์มันรำคาญนะเว้ย...”  เสียงของออยเพื่อนเมย์ที่เป็นหลีดเหมือนกันตวาดเจ้าเจมส์แว่ดๆตอนเดินมาที่หน้าคณะ...ผมกับไอ้กิ๋วหันไปมองตามต้นเสียงก็เห็นเมย์เดินมาก่อนตามด้วยไอ้เจมส์ที่ตอนนี้ออยยืนขวางไว้อยู่..ดูแล้วเมย์คงรำคาญอ่ะครับแต่ไม่กล้าพูดเลยให้ออยจัดการแทน...ผมเดาเอานะ...
“มันเรื่องอะไรของแกวะออย...เราตามเมย์ไม่ได้ตามแก...” ไอ้เจมส์เถียง  ผมเห็นออยยืนท้าวเอวละ
“ชั้นก็รู้ว่าแกน่ะไม่ได้ตามชั้น...ต้องให้บอกกี่ครั้งวะว่าเมย์มันรำคาญ...แต่มันไม่อยากพูดเอง..เข้าใจ๊”
“ไม่เข้าใจ...ถ้าเมย์มาบอกเองเราถึงจะหยุด...แกไม่ต้องมายุ่ง..”
“เอ๊อออ...สาธู๊!!!...ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา...เช๊อะ...” ออยสะบัดหน้าเดินไปนั่งข้างๆเมย์ ส่วนเจ้าเจมส์เดินมานั่งโต๊ะเดียวกับที่ผมกะไอ้กิ๋วนั่งอยู่
“สรุปว่าชอบเมย์เค้าใช่ป่าววะ...” ไอ้กิ๋วถามทันทีที่ไอ้เจมส์นั่งลง
“ก็ชอบอ่ะพี่กิ๋ว...ชอบมาตั้งแต่วันรับน้องแล้ว...” 
“เห็นออยมันบอกพี่ว่าเมย์มันมีแฟนแล้วนี่...” ไอ้กิ๋วถามต่อ
“ไม่มี๊พี่...มีที่ไหนผมยังไม่เคยเห็นเลย...”
“ตามเค้าต้อยๆแบบนี้ไม่กลัวเค้ารำคาญเหรอวะ...ตอนเรียนก็ชอบไปนั่งข้างๆเค้านี่หว่า...”
“โห..พี่กิ๋ว...ทำไมข้อมูลแน่นนักว๊า...ไอ้ออยบอกอีกอ่ะดิ..” ไอ้เจมส์ทำหน้าเซ็ง
“เมย์มันเป็นคนไม่พูด...ออยมันคงพูดแทนอ่ะ...คนเค้ามีแฟนแล้วอย่าไปยุ่งกับเค้าเล้ย...” ไอ้กิ๋วพูด
“นี่พี่กิ๋วพูดแทนเมย์หรือไอ้ออยให้พี่มาพูดเนี่ย...ถ้าผมไม่เห็นกะตาว่าเมย์มีแฟนแล้วนะผมไม่เลิกหรอก”
“แล้วถ้าถึงตอนนั้นเห็นเมย์เค้ามีแฟนกับตา...แล้วเราจะทำยังไง...” ผมถามบ้างหลังจากฟังอยู่นาน
“ผมก็คงอึ้งนะ...แต่ก็ไม่เป็นไร...เพราะตอนนี้ผมก็เริ่มมองๆคนอื่นอยู่ไว้เหมือนกัน...” ไอ้เจมส์ตอบแล้วยิ้มแบบแปลกๆ...ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่านะว่าเจมส์มันจ้องหน้าผมแบบพิกลๆเว้ย...เหมือนจะมีความหมายแอบแฝงในคำพูดของมันแฮะ...สงสัยงานจะเข้าหรือป่าวว๊า...????


   แต่แล้วเวลาเพ้อฝันของไอ้เจมส์ก็มาหมดลงเมื่อถึงตอนเบรกกินข้าวตอนหนึ่งทุ่มเมื่อแฟนเมย์เค้ามารับเมย์ไปกินข้าวเล่นเอาทั้งทีมหลีดฮากันยกใหญ่เว้นแต่ไอ้เจมส์นี่แหละที่ผมดูๆแล้วมันคอตกไปถนัดตา....
“ชั้นเตือนแกแล้วนะไอ้เจมส์..เสือกไม่เชื่อ...สมน้ำหน้า...” ออยเดินมาเยาะเย้ยแล้วขับรถออกไป  ไอ้เจมส์เองมันก็คงเถียงไม่ออกแล้วอ่ะครับตอนนั้นมันคงคิดว่าเวลานี้ไม่น่าจะมาถึงเร็ว...
“เฮ้ย...ไหวป่าวเจมส์...” ผมเดินเข้าไปถามเจมส์หลังจากที่คนอื่นๆทยอยกันออกไปหมดแล้วทิ้งให้ไอ้เจมส์นั่งคอตกอยู่ที่บันไดหน้าตึก...เจมส์พยักหน้างึกงัก
“ไปกินข้าวไหวป่าววะ.....เดี๋ยววันนี้พี่ขับเองก็ได้...” ผมขับแล้วให้เจมส์ซ้อนแล้วตามทุกคนออกไป
พอกินข้าวกันเสร็จก็เข้ามาซ้อมตามปกติระหว่างซ้อมกันสภาพไอ้เจมส์ไม่ต่างอะไรกับซอมบี้เลยคือไร้ชีวิตจิตใจเป็นที่สุดต่างจากเวลาปกติที่ดูมันจะกระดี๊กระด๊าตลอด...
“เอ๊า..รวมได้แล้วเด็กๆ..จะได้กลับบ้าน...” เสียงปอยตะโกน..น้องหลีดทุกคนก็มานั่งรอตรงหน้าบันได
“เร็วๆสิยะ...ชั้นอยากกลับบ้านแย่แล้ว...ไอ้เจมส์...เร็วๆเลย...ให้ว่อง” อิ่มชี้นิ้วแว๊ดๆ
“เดี๋ยวพี่แจกกระดาษให้นะ..แล้วเขียนชื่อ  ชื่อเล่น   เอกอะไร...เบอร์โทรมาให้เรียบร้อยด้วย...พวกพี่จะเก็บไว้...เผื่อมีอะไรจะได้โทรแจ้ง...” ปอยพูดแล้วส่งกระดาษให้เจ้าวุ้นเขียนแล้วส่งต่อให้คนอื่นๆต่อ...
“พี่นุมีอะไรจะพูดกับน้องป่าววันนี้..” อิ่มหันมาถามผม
“อืมม..ไม่มีอ่ะอิ่ม...เขียนกันเสร็จแล้วปล่อยน้องเลย...ท่าทางแย่กันแล้ววันนี้..” ผมตอบ
“อ้าวววว....ใครที่เขียนเสร็จแล้วกลับบ้านได้เลยน๊าค๊า...เจอกันพรุ่งนี้..เที่ยงตรงนะจ๊าาา...” อิ่มตะโกนบอก...น้องที่เขียนเสร็จแล้วเดินเข้ามาไหว้แล้วก็ทยอยกันกลับบ้าน
“พี่นุ..พี่กิ๋ว...เสร็จแล้วไปกินนมกันป๊าววว...พี่ปอย...พี่อิ่มด้วย...ยังไม่สามทุ่มเลย..” ไอ้เต๊ะรีบเข้ามาเกาะแข้งเกาะขาทันทีที่เขียนเสร็จ
“ยังมีแรงเหลืออีกนะยะไอ้เต๊ะ..เวลาให้ซ้อมนี่ทำอย่างกะจะตาย” อิ่มหันมาแขวะ
“โห่..พี่อิ่มก้อ...คืนวันศุกร์ทั้งทีจะรีบไปไหนนี่...นะพี่นุ...ไปเหอะ..ถ้าพี่ไปนะ...รับรองคนอื่นเค้าก็ไปกันหมดแหละ...น๊า..พี่นุ..น๊าค๊าบบบ...”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับพี่วะเนี่ย..ว่าไงกิ๋ว...ปอย...อิ่ม..ไปกันป่าว...” ผมหันไปถามความเห็นคนอื่นๆ
“ถ้าพี่นุไป...หนูก็ไปแหละ...แต่หนูไม่อยู่ดึกนะเดี๋ยวพ่อด่า...” อิ่มบอก
“แล้วมึงไม่ต้องไปส่งไอ้เจมส์เหรอเต๊ะ...นั่งทำหน้าจะตายห่าแล้วน่ะ...” ไอ้กิ๋วบอก
“ไปส่งดิพี่...ก็ว่าจะเอามันไปด้วย...อกหักแบบนี้มันต้องดื่มเพื่อลืมเธอ..ก๊ากกกกๆๆๆ...” ไอ้เต๊ะบอก
   พอถึงร้านนมหน้ามอ...ผม..ปอย..อิ่ม..ก็สั่งนมกินกันคนละแก้ว...ส่วนไอ้กิ๋ว..ไอ้เต๊ะ..ไอ้เจมส์มันสั่งเบียร์มาดื่มกันครับ...กระดกกันพรวดๆ...จนถึงเวลาสมควร....ที่ต้องแยกย้ายกันกลับบ้าน
“เฮ้ย...ไอ้เต๊ะ..ขับรถกลับกันดีๆนะเว้ย...” ผมบอกตอนที่ยืนกันอยู่หน้าร้าน
“ไหวน่าพี่นุ..แค่นี้ซาบายมากกกกก...” ไอ้เต๊ะตอบหน้าแดงก่ำ
“แกยังขนาดนี้แล้วไอ้เจมส์จะไหวมั้ยน่ะ...” ปอยหันไปมองไอ้เจมส์ที่นั่งยองๆหัวห้อยอยู่ข้างๆรถไอ้กิ๋ว
“หนูว่าให้พี่กิ๋วเอาไอ้เจมส์ไปส่งหอดีกว่าพี่นุ...ส่วนไอ้เต๊ะก็ให้ขี่กลับคนเดียวดีกว่า...ไม่งั้นหนูว่านะ...ไม่พ้นโค้งหน้านี้หรอก...เชื่อเหอะ...”  อิ่มพูด
“โด่..อย่าแช่งงงงกานดิ..เพ่อิ่มมมม...” ไอ้เต๊ะพูดแล้วเดินไปสตารท์รถ
“ไอ้กิ๋ว..ไปส่งเจมส์หน่อยดิ...มึงมีรถยนต์อ่ะ..” ผมหันไปบอกไอ้กิ๋ว
“เออๆ...ไปส่งก็ได้...แต่มึงไปด้วยนะไอ้นุ...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วเข้าไปสตารท์รถรอ...
“งั้นหนูกลับละนะ  พี่นุ...หวัดดี..พี่กิ๋ว..หวัดดี..” ปอยกับอิ่มลาแล้วขับรถออกไป..ส่วนผมกับไอ้กิ๋วก็ต้องพยุงไอ้เจมส์ขึ้นรถไปส่งที่หอกันตามระเบียบ...
“แม่ง...แล้วบอกทำใจได้...แดกซะคออ่อนคอพับ...” ไอ้กิ๋วขับไปบ่นไป
“ก็มึงนั่นแหละ...ชนเอาๆจนน้องมันเป็นแบบนี้อ่ะ...เพราะฉะนั้นอย่าบ่นว่ะ...”  ผมบ่นบ้าง...ไอ้กิ๋วขับรถมาสักพัก มันเริ่มชะลอรถ...
“แม่งเอ้ย...หออยู่ทางโค้งแบบนี้แล้วกูจะจอดยังไงวะเนี๊ยยยย...”
“เลยไปหน่อย...จอดได้มั้ยวะ...ข้างหน้าอ่ะ..”
“ข้างหน้าก็ไฟแดงแล้วไอ้นุ...เอางี้...มึงขึ้นไปส่งไอ้เจมส์ก่อน...เดี๋ยวกูไปวนรถย้อนมารับละกัน....” ไอ้กิ๋วพูดแล้วจอดรถให้ผมลากไอ้เจมส์ลงจากรถ...ผมเอาแขนเจมส์พาดบ่าแล้วพยุงเจมส์มันขึ้นไปบนหอ...แม่งเอ้ย...ลำบากกูอีก...ไม่อยากจะบอกว่าห้องไอ้เจมส์มันอยู่ชั้นสามครับ...โห..กว่าจะตะเกียกตะกายขึ้นมาได้  หนักโคตรๆตัวมันก็ใช่จะเล็กๆด้วยไอ้เจมส์อ่ะ..ดีที่มันยังพอรู้เรื่องก้าวขาเดินมาด้วยได้...ไม่งั้นผมตายแน่



“ทำไมช้าจังวะไอ้นุ..กูจอดรถไม่ได้อ่ะ...แม่งไปวนมาสามรอบแล้วเนี่ย..”ไอ้กิ๋วบ่นตอนผมขึ้นมานั่งบนรถ
“อ้าว..ไอ้เหี้ย...ชั้นสามนะเมิงกูไม่ใช่สไปเดอร์แมนนะเว้ยจะได้ชักใยแล้วโหนขึ้นตึกอ่ะ..ไม่ต้องบ่นแล้ว..ไปส่งกูเลย...” ปากดีอย่างงี้...ให้มันขึ้นไปส่งก็ดีอ่ะ..ไอ้กร๊วกเอ้ยยยย....ไอ้กิ๋วกลับมาส่งผมที่ร้านนมอีกครั้งเพราะรถผมจอดอยู่ที่นั่น...ผมขับรถกลับพอถึงหอก็แทบอยากจะสลบทันที...เพราะตั้งแต่รับภารกิจซ้อมหลีดให้น้องๆมาหลายวันเนี่ยระบบชีวิตผมเริ่มเปลี่ยนไปอีกแล้วหลังจากที่มันเข้าที่เข้าทางมานาน....  พองานเยอะเข้ามันก็เริ่มเป๋ๆอีกแล้วผม...ไหนจะงานตัวเอง...ไหนจะงานของหลีดอีก...OH!my god...ผมจะไหวมั้ยวะเนี่ย...เฮ้ออออ...

หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 23-04-2017 19:45:41
ตอนที่  3_ความ(นัย)ในใจ...


“โห..คุณน้องขา...ช้ามากกกก...ช้าได้อีกค๊าาาาา...” เสียงอิ่มบ่นตอนที่ยืนดูน้องๆวิ่งกันรอบสนามอยู่
“เฮ้ย..อิ่ม...เฮี๊ยบมากๆเดี๋ยวมันหนีหมดนะมึง..” ปอยสะกิดแขนอยู่ข้างๆ
“ก็แม่ง...ท่านี้สอนมาเป็นอาทิตย์แล้วยังผิดอีก...สมองแม่งไม่จำเลย...” อิ่มบ่น
“นี่รอบสุดท้ายแล้วใช่ป่ะ...ให้น้องมันมาพักก่อนเลย..เดี๋ยวตายห่ากันหมด...เอ๊าๆ..พักได้แล้ว..” ประโยคหลังปอยหันไปบอกน้องๆที่วิ่งกันอยู่...พอแต่ละคนได้ยินคำว่าพักปุ๊บก็แทบจะคลานมานั่งพักกันเลย...แต่ละคนหงายเงิบกับพื้นกันหมด..หุหุหุ...
“แม่ง...พี่อิ่มอ่ะ...โหดชิบหาย...กูแทบจะคลานแล้วเนี่ย...” ไอ้เต๊ะบ่น
“ก็เราทำไม่พร้อมกันจริงๆนี่หว่า...โดยเฉพาะมึงอ่ะไอ้หนึ่ง...ผิดประจำเลย...” เสียงไอ้เอกบ่นตามแล้วชี้ไปที่ไอ้หนึ่งที่นอนหายใจพะงาบๆอยู่
“อะไรวะ...โทษกูคนเดียวเลย...โน่น...ไอ้เดี่ยวก็ผิด...ไม่ใช่ว่าแต่กู..” ไอ้หนึ่งโวยวาย
“อีเหี้ยเบาๆก็ได้...บ่นกันมากๆเดี๋ยวพี่เค้าก็เรียกไปซ้อมต่อหรอกมึง...เค้าให้พักก็พักดิ..” ไอ้เดี่ยวพูด...
วงสนทนาเลยเงียบลงทันทีเพราะกลัวจะได้ซ้อมต่อ...
“โหดไปป่าวอิ่มวันนี้อ่ะ...เดี๋ยวน้องหายกันหมดแล้วจะซวยนะเว้ย...” ผมแซว ปอยกับอิ่มนั่งลงข้างๆ
“วันนี้เมนส์มันไม่มาอ่ะพี่นุ...เลยโหดกับน้องๆ...” ปอยแขวะแล้วคว้าขนมใส่ปากตุ้ยๆ
“มึงนี่รู้ดีนะอีปอย...ใครจะไปตามใจน้องเหมือนมึง..” อิ่มหันมาแล้วแย่งขนมไปกินบ้าง
“เอาน่า...แล้วนี่ปล่อยน้องกี่โมงล่ะซ้อมกันตั้งแต่เที่ยงแล้วนี่...สี่โมงเย็นก็ปล่อยได้แล้วม้าง”  ผมถาม
“เดี๋ยวก็ปล่อยแล้วพี่นุ...รมณ์เสียกะพวกมัน...การบ้านหนูก็เยอะด้วย...” อิ่มบ่น
“ก็จะสี่โมงแล้วเนี่ย...ปล่อยเลยละกัน...” ปอยพูดแล้วลูกไปบอกน้องๆให้กลับบ้านเสียงเฮลั่น...
“เฮ้ย..เจมส์เดี๋ยววันนี้กูจะไปบ้านเพื่อนกูก่อนว่ะ...มึงกลับเองได้ป่าว..” ไอ้เต๊ะหันไปถาม
“ไม่ได้ก็ต้องได้อ่ะ..ก็มึงพูดแบบนี้แล้วจะให้กูทำไงได้วะ...” ไอ้เจมส์ตอบทำหน้าเซ็งๆ
“อ้าวเหี้ย...หลอกด่ากูป่าวเนี่ย...เอางี้ดิ..มึงก็ให้พี่นุไปส่งดิจะได้ไม่ต้องนั่งรถเมล์...” ไอ้เต๊ะเน้นเสียงในคำสุดท้าย...     
จนไอ้เจมส์หันมาทำตาเขียว
“มึงไม่ต้องมาเน้นเลย...ไม่เอาอ่ะ..เกรงใจพี่นุว่ะ...”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย...เดี๋ยวกูบอกเอง...พี่นุ..ไอ้เจมส์ไม่มีรถกลับ...ไปส่งมันด้วยนะ..” ไอ้เต๊ะตะโกนบอกผม
“หนูกลับก่อนนะพี่นุ...งานเยอะชิบ..ไป..อีปอยเร็วๆ...” สองสาวบ่นแล้วลาผมกลับ ไอ้เจมส์เดินมาหาผม
“ไม่มีรถกลับอีกแล้วเหรอ...ต่อไปจะคิดค่าน้ำมันแล้วนะเว้ย...อ่ะ..” ผมส่งกุญแจรถให้ไอ้เจมส์ขับ

“พี่นุ...” ไอ้เจมส์เรียกชื่อผมระหว่างทางกลับหอ
“หึ๊..ว่าไง...”
“พี่นุไม่มีแฟนกะเค้าบ้างเหรอ??...” อ้าว...กำ...ผมไม่คิดว่ามันจะถามผมด้วยคำถามแบบนี้นะเนี่ย...
“ก็....ไม่มีอ่ะ..คนไม่มีแฟนผิดตรงไหนวะ...”  ผมตอบเสียงค่อย
“ไม่ผิดหรอกพี่..ก็แค่สงสัยว่า...ทำไมคนหน้าตาดีอย่างพี่ถึงไม่มีแฟน...”  เฮ้อ...ถึงหอมันซะที...จะได้ไม่ต้องมาตอบคำถามจี๊ดๆอะไรแบบนี้อีก...
“ขอบคุณครับพี่นุ...เดี๋ยวทีหลังจะใช้บริการอีก...” ไอ้เจมส์ยกมือไหว้ขอบคุณ...
“ได้ทีเอาใหญ่เลย...เออๆอย่าบ่อยนักแล้วกัน...ไปนะ...” ผมพูดแล้วขับรถออกมา


“มึงโทรหากูแต่เช้ามีไรวะไอ้เจมส์...” เสียงไอ้เต๊ะงัวเงียๆตอนรับโทรศัพท์ไอ้เจมส์...
“เช้าห่าไร..หอกูจะเที่ยงแล้วเนี่ย...หรือแถวบ้านมึงยังหกโมงเช้าอยู่วะ..”
“แม่ง...วันอาทิตย์แบบนี้ไม่ต้องไปซ้อมหลีด...มึงยังโทรมากวนกูอีก..มีอะไรว่ามาเลยมึงอ่ะ...ด่วน”
“วันนี้ไปเที่ยวหอพี่นุมั้ย...เอาหนังไปดูกัน...”
“ไปหอพี่นุเนี่ยนะ...มึงจะไปกี่โมงล่ะ...แล้วพี่นุเค้าอยู่ห้องเหรอ...มึงโทรไปบอกพี่เค้าเลย...ขี้เกียจไปแล้วเสียเที่ยว....เออๆ...เดี๋ยวบ่ายโมงกูไปรับมึงละกัน...” ไอ้เต๊ะพูดแล้ววางสาย


“หวัดดีคับพี่นุ...” 
“ว่าไงเจมส์...”
“พี่นุอยู่ไหนอ่ะคับ...”
“อยู่ห้องดิ...กะลังจะกินมาม่าอยู่...” ผมพูดไปเอียงคอเอาไหล่หนีบโทรศัพท์ไปมือก็กำลังกดน้ำร้อนใส่มาม่าอยู่
“ดีเลย...กะลังหิวอยู่เหมือนกัน...”
“หิวเหรอ...มากินดิ..มาม่าเป็นลังเลย...” ผมยกมาม่ามาวางที่โต๊ะแล้วเอาจานปิด
“ก็กะลังจะไปหาอยู่เนี่ย....กะลังอยากกินอยู่พอดี...” 
“อ่ะ..จริงดิ...อย่าอำว่ะ...”
“ไม่ได้อำพี่...พอดีไอ้เต๊ะโทรมาชวนผมเอาหนังไปดูที่ห้องพี่นุอ่ะ...ได้ป่าว...”
“เฮ้ย..หนังไรวะ...หนังเอ็กซ์ไม่ต้องเอามานะเว้ย...” ผมพูดไปปรุงมาม่าไป
“โห่..เห็นผมเป็นคนยังไงเนี่ย...ตกลงไปได้นะพี่...เดี๋ยวบ่ายโมงเคาะห้องเลย...แค่นี้นะคับพี่นุ...” ไอ้เจมส์วางสายแล้วมองโทรศัพท์ยิ้มๆกับตัวเอง....
   ผมวางโทรศัพท์รีบโซ้ยมาม่าอย่างรวดเร็วแล้วรีบเก็บกวาดห้องให้สะอาดในพริบตาเพราะปกติไม่ค่อยจะมีแขกรับเชิญมาเยี่ยมที่ห้องซักเท่าไหร่นักโดยเฉพาะรุ่นน้อง...ผมมองนาฬิกาบ่ายโมงยี่สิบ..เสียงเคาะประตูก็ดัง...ผมเดินไปเปิดประตูก็เจอไอ้เจมส์กับไอ้เต๊ะยืนทำหน้าแป้นแล้นอยู่
“เข้ามาดิ...” ผมบอก
“โห...ทำไมสะอาดจริงอ่ะพี่นุ..ว่างๆจ้างไปทำความสะอาดที่บ้านบ้างดิ...”  ไอ้เต๊ะแซวแล้วนั่งลงข้างๆเตียง
“น่าน...ลามละไอ้เต๊ะ..เดี๋ยวโดน...”
“ที่นอนน่านอนเนอะ...” ไอ้เจมส์พูดแล้วเอนลงบนที่นอนผมทันที..
“เฮ้ยๆ...เอางั้นเลยเหรอวะเจมส์...” ผมทำหน้าเหรอหรา
“ไอ้เหี้ยเจมส์...ที่นอนพี่เค้า...มึงก้อ...หลบไปกูนอนมั่ง...” นั่น...ผมนึกว่าไอ้เต๊ะมันจะพูดเข้าหู..ที่ไหนได้กวนตีนพอๆกัน..
เฮ้อออ...คิดถูกคิดผิดวะ..ผมเนี่ย...สรุปแล้วตลอดช่วงบ่ายนั้นทั้งสองตัวมันก็นอนดูหนังบนที่นอนของผมสบายใจเฉิบ...ปล่อยให้เจ้าของห้องอย่างผมต้องนั่งดูอยู่บนพื้น...ให้มันได้อย่างนี้ดิ...
“พี่นุ..อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอ..” จู่ๆไอ้เจมส์หันมาถามผม...
“ชินแล้วว่ะ....” ผมตอบคำถามมันสั้นๆแล้วดูหนังต่อ
“เออ..ไอ้เจมส์วันก่อนมึงเห็นสร้อยที่คอไอ้เมย์ป่ะ...แม่งสงสัยแฟนมันซื้อให้ว่ะ..เส้นแม่งเบ่อเร่อเลย..”
ไอ้เต๊ะพูดแล้วทำตาโต
“ช่างมันเหอะ...กูไม่สนแล้วเมย์อ่ะ...กูทำใจได้แล้ว...”
“จริงเร๊อออ...เห็นเมาจะเป็นจะตายนี่หว่า...หรือว่ามึงกำลังมองใครอยู่ป่าวว๊า...”
“มั้ง...ก็กำลังมองๆอยู่เหมือนกัน...แต่ยังไม่ค่อยแน่ใจตัวเอง..” ไอ้เจมส์พูด  ผมเองนั่งดูหนังอยู่เพลินๆแต่ก็ได้ยินคำพูดของมันทั้งคู่ทุกคำโดยเฉพาะประโยคของไอ้เจมส์...มันทำให้ผมรู้สึกเสียวสันหลังแบบบอกไม่ถูก...ก็เลยทำเนียนนั่งฟังมันต่อไป...หุหุหุ
“ไม่แน่ใจยังไงวะเมิง...มึงกำลังมองใครอยู่วะ...” ไอ้เต๊ะถามต่อ
“เหอะน่า....รอให้กูแน่ใจก่อน...ไม่รู้จะจีบเค้าได้หรือเปล่า...”
“ใครวะ...อีเปรมเหรอ...” ไอ้เต๊ะยังถามต่อ..
“ป่าววว...ไม่ใช๊...อีเปรมเนี่ยนะ...ไม่ไหวหรอก...”
“อ่ะงั้น..ก้อ...อีเก๋อ่ะ...ใช่ป่ะ..???”
“เฮ้ยยย...ไม่ไหวม้าง...มึงเลิกทายได้แล้ว...ทายยังไงมึงก็ทายไม่ถูกหรอก...”
“อืมมม...งั้นใครวะ...กูรู้จักมะ...”
“รู้ดิ...มึงรู้จักแน่...”
“ระวังเค้าจะมีแฟนแล้วเหมือนอีเมย์นะเมิง...คราวนี้กูไม่เมากะมึงแล้วนะเว้ย...เดี๋ยวแม่กูด่า...”
“ไม่นะ...กูถามเค้าแล้ว...เค้าบอกไม่มีว่ะ...” น่านนน...ใช่เลยครับ...ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเองนะว่าที่ไอ้เจมส์มันพูดอ่ะมันหมายถึงผม(หรือเปล่าวะ)...เพราะมันเพิ่งถามผมไปเมื่อวันก่อน..เอ๊ะ!ไอ้นี่นิ...มันยังไงของมันวะ...ผมหันไปมองหน้าไอ้เจมส์แว่บนึงก็พบว่ามันนั่งจ้องหน้าผมอยู่...ผมรีบหันกลับมาทันที....
“อ่ะจิงดิ...งั้นกูขอให้เป็นรักแร้..เอ้ย..รักแท้ของมึงละกันเพื่อน...อ้าวเฮ้ย...พี่นุ...เงียบเลย..วิญญาณออกจากร่างไปแล้วเหรอพี่...” ไอ้เต๊ะหันมาสะกิดไหล่ผม
“อ่ะ..เฮ้ย...ป่าว...ก็กำลังดูหนังเพลินๆอยู่..คุยไรกันแม่งดูหนังไม่รู้เรื่องแล้วเนี่ย...” ผมตอบ  ไอ้เต๊ะดูนาฬิกาแล้ววิ่งไปดูท้องฟ้าที่ระเบียง
“แม่ง...ฟ้าครึ้มแล้วว่ะไอ้เจมส์...กลับเหอะ...ไม่อยากเปียกว่ะ...” ไอ้เต๊ะเดินกลับมาหยิบกุญแจรถ  ผมรีบเดินไปเปิดประตู
“แหม!ไม่ค่อยรีบไล่แขกเลยนะพี่นุ...” ไอ้เต๊ะแซวแล้วเดินออกไปใส่รองเท้า ไอ้เจมส์เดินตามไปแล้วหยุดที่ประตู
“เดี๋ยววันหลังมาอีกนะพี่นุ...ผมรู้นะ...ว่าพี่ได้ยินที่ผมคุยกับไอ้เต๊ะอ่ะ..” ไอ้เจมส์หันมาลาผมแล้วก้มหน้ากระซิบเบาๆให้ได้ยินกันสองคนในประโยคหลังแล้วเดินออกไปทิ้งความสงสัยไว้ให้ผม...
“มันจะเล่นอะไรของมันวะ...”  ผมปิดประตูพูดกับตัวเอง
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 23-04-2017 21:52:29
เสียวสันหลังแทนพี่นุ..อย่าลืมลงกฎเล้าด้วยนาจา   :pig2:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 23-04-2017 23:34:17
ขอบคุงที่ช่วยเตือนนะครัช...แฮ่ะๆๆ...แก้ไขละคร้าบ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 23-04-2017 23:37:10
ตอนที่  4_สองสาวเล่าเรื่อง...


“นี่..อีเดี่ยว...มึงว่าหลีดคณะเราใครน่ากินที่สุดดดด...” วุ้นกะลังนั่งจีบปากจีบคอเมาท์ถึงเพื่อนๆในทีมอยู่กับเดี่ยวที่หน้าคณะระหว่างรอซ้อม...เดี่ยวเองก็นั่งเอาแป้งพัฟซับหน้าอยู่
“คณะเราเนี่ยนะเหรอ...อืมม..ขอเดี้ยนคิดก่อนนะค๊า...” เดี่ยวว่างตลับแป้งแล้วมือประสานกันทำท่าทางเพ้อฝัน..
“กูว่านะ...ไอ้หนึ่งก็ท่าทางจะแซ่บอยู่นะค๊า...” วุ้นพูด
“หนึ่งเหรอ...หล่อ..คิ้วเข้ม...ขาวล่ำ..ท่าทางจะอึ้มมม....แต่สงสัยจะแดกยากอยู่...กลัวจะโดนตีนก่อนได้แดกนะสิ”
เดี่ยวจีบปากจีบคอแล้วหยิบลิปติกขึ้นมาทาปาก 
“เหรอ..ว๊า...แย่จัง...เหลือใครอีกล่ะ..ไอ้แซ็ค...อี๋...ไม่ไหวอ่ะ...” วุ้นทำท่าขยะแขยง
“ก้อไอ้เอกไง...ลืมแล้วเหรอ..” เดี่ยวพูด
“ต๊ายย...หน้าอย่างกะปลาตีนจะเอาไปทำปุ๋ยเหรอยะให้ได้กะไอ้เอกกูเอาตูดไปถูกะเสาไฟฟ้าดีกว่า” วุ้นพูดแล้วเบะปาก
“อุ๊ยตายแล้ว...เหลือเจมส์ไงมึ๊งงง”  เดี่ยวทำเสียงสูง
“เจมส์เหรอ...สูงล่ำซะขนาดนั้น...โดนเข้าไปกูไส้แตกแน่เลยมึง...” วุ้นพูดเสียงอ่อยๆ
“แหม!ปากดีนะเมิง...ของอย่างนี้ไม่ลองไม่รู้...แต่ถ้าเป็นกู...กูยอมตายยยนะฮ้า..” เดี่ยวพูดแล้วปิดปากหัวเราะชอบใจ  วุ้นแลบลิ้นใส่แล้วทำปากยื่น...
“เจมส์มันคงจะมาเอามึงหรอกอีเดี่ยว...โน้น...เจมส์เค้าชอบหม้อ...ไม่ได้อยากแดกถั่วนะเมิง..”
“อ๊ะไม่แน่...กูว่านะ.....กูรู้สึกว่า..เจมส์มันก็จะมีองค์เหมือนเราเหมือนกันนะ...”
“มีองค์...ไอ้เจมส์เนี่ยนะ...มึงรู้ได้ยังไง...อย่าบอกนะว่า..มึง...มึง...แดกไอ้เจมส์มาเรียบร้อยแล้วอ่ะ...อ๊ายยยยยย....ไม่ย๊อมไม่ยอม...ทำไมมึงไม่แบ่งกูบ้าง...” วุ้นกรี๊ดลั่น...
“นี๊!!!!!หุบปากเลยอีชะมด...กูจะไปได้มันตอนไหนล่ะยะ...” เดี่ยวตวาด  วุ้นหุบปากทันที
“อ้าว...กูจะไปรู้เหรอ...สาวไวไฟอย่างมึงอ่ะ...แล้วยังไง...มึงรู้ได้ยังไงว่าไอ้เจมส์มันมีองค์อ่ะ...”
“ก็กูสังเกตเวลาไอ้เจมส์มันมองพี่นุน่ะสิ...กูว่ามันมองพี่นุแปลกๆนะ...” เดี่ยวพูดแล้วทำท่ากอดอก
“พี่นุ...ไอ้เจมส์...พี่นุกับไอ้เจมส์เนี่ยนะ...กูว่าไม่เห็นมันจะมีอะไรเลย...พี่นุเค้าก็ไม่เห็นจะอะไรนี่นา...”
“พี่นุน่ะ..อาจจะไม่...แต่ไอ้เจมส์อ่ะ..อาจจะคิดอะไรกับพี่นุก็ได้...”
“อ้าววว...แล้วที่เจมส์มันตามจีบเมย์ล่ะ..ยังไง..งง...คนสวยงงไปหมดแล้วคะเนี่ย...” วุ้นทำท่าปวดหัว
“นี่มึง...เสือไบไง..มึงไม่รู้จักเสือไบเหรอ...คอยดูนะ...กูต้องสืบเรื่องนี้ให้ได้...” เดี่ยวพูด
“เสือไบเหรอ...ตายแล้ว...กูก็อยากขี่เสือไบน๊า...ยิ่งเสือไบตัวใหญ่..สูงล่ำอย่างกะนักบาสแบบนี้..กูช๊อบบ”
“น้อยๆหน่อยอีวุ้น...ตัวเท่าลูกหมาเนี่ยนะ..โดนของไอ้เจมส์เข้าไป...มึงก็ไม่ต้องเบ่งกันพอดีล่ะ..อีห่า”
“มึงก็น้อยๆหน่อยอีเดี่ยว...จะบอกว่าไอ้เจมส์เหมาะกะมึงงั้นละสิ...อีควายอย่างมึงน่ะ..โน่นเลย...พี่กิ๋วโน่น
เหมาะกะมึงที่สุด...555555”
“ต๊ายยย...หุ่นอย่างกะหมีควายนะพี่กิ๋วน่ะ...มึงเก็บไว้เองเหอะ...ถ้าพี่นุนะก็ว่าไปอย่าง...”
“ไม่ได้...พี่นุน่ะ..ของกู...” วุ้นตบโต๊ะแล้วยืนขึ้น  เดี่ยวก็ตบโต๊ะลุกยืนขึ้นตาม
“ใจคอจะกวาดแม่งหมดทั้งคณะเลยเหรออีเตี้ยหมาตื่น..คืนหมาหอน..” เดี่ยวท้าวเอว
“อ๊ายยย....ใครจะไปสวยเหมือนมึงล่ะอีโอ่งราชบุรี...อีกระหรี่ร้อยชื่อ...” วุ้นเถียง
“นี่..ตกลงมึงกะกูจะมาเถียงให้ได้โล่รึไงเนี่ย.....ชิ...รมณ์เสีย...” เดี่ยวพูดแล้วนั่งลง
“ก็มึงเริ่มก่อนนี่...ไม่เอาล่ะ...เรามาตกลงกันดีกว่า...” วุ้นบอก  เดี่ยวทำหน้าสงสัย
“ตกลงห่าไรอีกล่ะอีดอก..”
“ก็ตกลงแบ่งคนกันไง...มึง...รับผิดชอบ...พี่กิ๋ว...ไอ้แซ็ค..ไอ้เอกไป...เอาไปตรวจสอบคุณภาพสินค้า...ส่วนกู...จะรับตรวจสอบ...ไอ้หนึ่ง...ไอ้เจมส์...แล้วก็พี่นุเอง...โอเค๊...”
“โถ...อีควาย...หล่อๆนี่มึงเก็บเรียบเลยนะ...ของแบบนี้ใครดีใครได้นะคะ...” เดี่ยวพูดแล้วสะบัดหน้าเชิ่ดๆเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นที่นั่งเมาท์กันอยู่กับไอ้กิ๋วที่อีกโต๊ะนึง
“แหม!อีเดี่ยวกูก็เลือกที่เหมาะสมกะมึงแล้วไง..จะโกรธกูทำไมเนี่ย...” วุ้นพูดแล้ววิ่งตามไปสมทบ
“เอ้อ...แต่งตัวน่ารักนะวุ้น...แหม!กูนึกว่าหมาชิสุ...”  ไอ้กิ๋วแซว
“ค๊า...ก็พันธุ์เดียวกับที่อยู่ในปากพี่นี่แหละ...” วุ้นสวนกลับทำเอาทุกคนหัวเราะชอบใจ
“อ้าวเจมส์..พี่นุยังไม่มาเหรอ..” เดี่ยวหันไปถามเจมส์ที่กำลังนั่งคุยกับไอ้เต๊ะอยู่
“กูจะไปรู้ได้ไง..ทำไมไม่ถามพี่ปอยหรือพี่อิ่มล่ะ..”
“จะไปรู้เหรอ...กูก็คิดว่ามึงจะรู้...”  เดี่ยวพูดแล้วลอยหน้าลอยตา
“ตกลงพี่กิ๋วจะพาพวกเราไปเก็บตัวกันที่ชะอำจริงๆเหรอ...”  ออยถาม
“อืมม...คิดไว้อย่างนั้นนะ...ต้องรอถามไอ้นุก่อน..” ไอ้กิ๋วตอบ
“โอ๊ยยย...พี่นุเค้าโอเคอยู่แล้ว...เชื่อหนูดิพี่กิ๋ว..”  อิ่มพูดแล้วนั่งลงข้างๆไอ้กิ๋ว
“แต่พวกเราก็ต้องตั้งใจซ้อมด้วย...ไม่งั้น...อด...” ปอยทำเสียงเข้มในคำสุดท้าย
“เอ้า..ไปๆ...ไปซ้อมได้แล้ว...” ไอ้กิ๋วบอก...น้องๆแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปซ้อมกันตามปกติ
“โน่น..พี่นุเดินมาโน่นแล้ว...” อิ่มหันไปสะกิดปอย
“พี่นุ..ตกลงวันนี้พาน้องๆไปวัดตัวได้เลยป่าว...” ปอยเดินเข้ามาถาม  ผมเดินมานั่งลงที่บันไดที่หน้าคณะ
“เจ๊เค้าบอกได้อ่ะนะ...เดี๋ยวไปรถไอ้กิ๋วกันนี่แหละ...จะได้ไปทีเดียว...”
“งั้นปอยไปเรียกน้องๆมารวมกันก่อนดีกว่าเนอะพี่นุ...เอ๊า..เด็กๆมารวมกันทางนี้...”
“พี่กิ๋วด้วยมารวมด้วยค๊า...คุณพี่...” อิ่มกวักมือเรียกไอ้กิ๋ว
“เดี๋ยววันนี้พี่จะให้พวกเราไปวัดตัวตัดชุดกันนะ...เดี๋ยวพวกหลีดปอมปอมไปรถของพี่กิ๋วนะ..ส่วนหลีดมือเดี๋ยวไปรอบสอง...” ผมบอก
“โห...รถกูจะเอาไปหมดมั้ยเนี่ย...” ไอ้กิ๋วบ่น
“อย่าบ่นน่าพี่กิ๋ว...ทำๆไปเหอะ”  อิ่มหันไปว่า  ไอ้กิ๋วเดินไปถอยรถมาจอดที่หน้าตึก...รถไอ้กิ๋วเป็นรถดีแม็กซ์..ตอนครึ่งใส่แค็ปด้านหลัง...ด้านหลังนั่งได้ประมาณหกคนมีแซ็ค  เอก   เดี่ยว  เจมส์  อิ่ม  ปอยและผมเพราะไอ้กิ๋วมันวางของไว้เต็มหมดเลย  ส่วนไอ้หนึ่งมันขอนั่งหน้า..มันบอกว่ามันชอบเมารถไม่ว่าจะใกล้ไกลแค่ไหนมันเมาหมด...เวรกรรม...
“อ้าว...แล้ววุ้นละ...นั่งตรงไหนได้เนี่ย...หลังเบาะพี่กิ๋วก็มีแต่กล่องอะไรไม่รู้...” วุ้นยืนบ่น..
“บ่นมาก..เดี๋ยวก็ให้วิ่งตามซะเลยนี่อีวุ้น...เอางี้มานั่งเบียดกับไอ้หนึ่งละกัน..” ไอ้กิ๋วบอก
“พี่กิ๋ว...หนึ่งมันตัวโตอ่ะ...”
“แหม!มึงนี่เรื่องมากจริงเล๊ยยยอีวุ้น..งั้นหนึ่ง  มึงให้มันนั่งตักละกัน” ไอ้กิ๋วบอก  วุ้นแววตาเป็นประกายทันที
“อ้าวพี่...ให้อีวุ้นนั่งตักนี่ผมจะเสียความบริสุทธิ์มั้ยเนี่ย...” ไอ้หนึ่งหันไปโวยวาย
“แหม!หนึ่ง...ชั้นสิต้องเสียหาย..ชั้นก็ยังซิงอยู่นะยะ...” วุ้นพูดแล้วขยับขึ้นไปนั่งบนตักของไอ้หนึ่งที่นั่งทำหน้าพะอืดพะอมอยู่
“อย่างมึงนะซิง...ให้มึงไปอมพระทั้งจังหวัดมาพูดกูยังไม่เชื่อเลยอีวุ้น...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วขับรถออกไป
“อุ๊ยๆๆๆ....” วุ้นทำเสียงสะดุ้งหลังจากนั่งไปซักพัก
“เป็นห่าอะไรอีกล่ะ...” ไอ้กิ๋วตวาดเข้าให้
“ปะๆ...ป่าวพี่...ขับต่อไปเหอะ..”  หน้าวุ้นแดงก่ำจรดใบหูเลย..เหอๆๆ...ส่วนไอ้หนึ่งก็นั่งเงียบกริบ...


พอถึงร้านที่มาวัดตัว...
“อ้าว..ลงได้แล้วกะจะนั่งกันให้ท้องไปเลยเหรอ...แหม...ชิสุ..เจอของใหญ่ยาวเข้าไปนั่งเงียบเชียวนะมึง”
ไอ้กิ๋วบอก  วุ้นกระมิดกระเมี้ยนลงจากตักไอ้หนึ่งไปอย่างเสียดายแล้วก้าวมารวมกลุ่มกับเพื่อนๆ
“ตาเยิ้มเชียวนะอีวุ้น...อย่างอื่นเยิ้มด้วยป่าวเนี่ยมึง...” เดี่ยวรีบเดินเขามากระซิบ
“ไม่อาว...ม่ายพูด...บอกได้คำเดียว...แซ่บค๊า...” วุ้นพูดแล้วดึงมือเดี่ยวเดินเข้าไปในร้าน  ไอ้กิ๋วหันไปมองไอ้หนึ่งที่ยังนั่งอยู่บนรถอยู่..หน้าแดงก่ำเชียว
“แหม!ไอ้หนึ่งถ้าร้านอยู่ไกลอีกนิด...สงสัยได้อีวุ้นเป็นเมียแน่มึง...555...งั้นขากลับมึงคงแตกก่อนถึงมอนะ...เดี๋ยวพี่จะหาทางขรุขระๆให้...จะได้ไม่ต้องออกแรงมากดีมั้ยวะไอ้หนึ่ง...คราวนี้อีวุ้นถึงสวรรค์แน่...ก๊ากกๆๆ...”
“โธ่...พี่กิ๋ว...ก็พูดไปเรื่อย....เรื่องธรรมดาของผู้ชายน่าโดนอะไรเสียดสีมันก็ต้องตื่นเป็นธรรมดา...”
ไอ้หนึ่งพูดแล้ววิ่งตามทุกคนเข้าไปในร้าน...พอวัดตัวเสร็จตอนขึ้นรถปรากฏว่าคราวนี้ไอ้หนึ่งไม่ยอมนั่งหน้าแล้วครับให้ไอ้เดี่ยวไปนั่งแทน...เล่นเอาไอ้กิ๋วขำก๊าก...
“มันน่าขำนักเหรอพี่กิ๋ว...” วุ้นหันไปถามไอ้กิ๋วตอนขับรถกลับมอ
“ก็ขำดิ..นั่นแหละ...ไอ้หนึ่งมันคงกลัวแหละอีวุ้น...ที่มึงไปนั่งทับหำมันอ่ะ...”
“แหม..พี่กิ๋วอ่ะ...นิดๆหน่อยๆ..สร้างโบรถ์สร้างวิหารน่า...”
“อ๋อ...แบบนี้สิกูถึงซวยมานั่งแทนไอ้หนึ่งเนี่ย...อี๋...พี่กิ๋วขับเร็วๆ...หนูขยะแขยงจะแย่อยู่แล้ว” เดี่ยวบ่น
“มึงทำอย่างกะกูอยากนั่งทับหอยมึงนักนี่อีเดี่ยว...อีมารคอหอย...ดูสิ...อดทับหำหนึ่งเลย...”
“อีดอก.......” ไอ้กิ๋วกับไอ้เดี่ยวประสานเสียงพร้อมกัน
“พอถึงแล้วอ่ะพี่กิ๋วกะพวกชั้นจะพาหลีดมือไปวัดตัวนะพวกแกก็ไปหาข้าวกินเลยจะได้ไม่เสียเวลา” อิ่มหันมาบอก
“พี่นุอยู่คุมไอ้พวกนี้แล้วกัน...เดี๋ยวปอยพาหลีดมือไปเอง...” ปอยบอกผม
“พี่ว่าวันนี้ปล่อยกลับบ้านเลยดีกว่า...อยู่กันไม่ครบด้วย...กว่าจะไปจะมากันอีก...” ผมบอก
“โอเคๆ...การบ้านหนูก็เย้อเยอะ...” อิ่มบ่น  พอมาถึงมอแต่ละคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน...ส่วนปอยกับอิ่มก็พาน้องหลีดมือไปวัดตัวอีกรอบนึง
“พี่นุ....วันนี้ไปส่งผมหน่อยดิ...” ไอ้เจมส์เดินมาหาผมหลังจากที่คนอื่นออกกันไปหมดแล้ว
“อืมม..ไปดิ...” ผมส่งกุญแจให้ไอ้เจมส์มันเป็นคนขับ...ออกจากมอไปได้ซักพัก...ปรากฏว่าฝนตกเว้ย....
“ตกทำไมตอนนี้ว๊า....”  เสียงไอ้เจมส์บ่น  ฝนก็เริ่มลงเม็ดหนาขึ้นเรื่อยๆ...
“หาที่หลบก่อนมั้ยเจมส์...ไม่อยากเปียกว่ะ...” ผมบอก...ไอ้เจมส์ก็ขับรถเข้าไปจอดในปั๊มน้ำมันฝนก็กระหน่ำเทลงมาไม่ลืมหูลืมตา...ผมกับเจมส์ยืนหลบฝนกันอยู่หน้าเซเว่นในปั๊มหลังมอ...เฮ้อ...ตกทำไมวะ
“มานั่งก่อนเหอะพี่นุ..ท่าทางจะอีกนาน..” เจมส์บอกแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเซเว่น...ผมเดินไปนั่งข้างๆ
มือกอดอกเพราะเริ่มหนาวละ...ผมหันไปมองเจมส์มันก็เปียกเหมือนกันเลย...เจมส์มันอยู่ในชุดเสื้อกีฬากางเกงขาสั้นเหมือนทุกวัน...ส่วนผมก็ยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลย...เปียกหมด...เฮ้อออออ...จะว่าไปมันมองผมนานไปแล้วนะ...ผมมองดูตัวเอง...โห..เสื้อนักศึกษากู...เปียกแล้วยังเนียบเนื้ออีก...โอ้..แม่เจ้า...
“มองอะไรอ่ะเจมส์...” ผมทักทำเอาเจมส์มันสะดุ้งเลย
“ป่าวอ่ะพี่นุ...ไม่ได้มอง...” ท่าทางมันก็เขินๆเว้ย...หลังจากนั้นต่างฝ่ายต่างก็นั่งเงียบต่อ...คุยอะไรดีวะ...
“เออ...เจมส์เรียน ร.ด.ป่าวอ่ะเราน่ะ...”
“ไม่ได้เรียนหรอก...แม่ผมอยากให้เป็นทหารจะตาย...”
“อืมม..ก็ดีนะ...ทำไมอ่ะ..ไม่อยากเป็นเหรอ??”
“ไม่อยากอ่ะพี่...ให้ผมช่วยชาติด้านอื่นดีกว่า...”
“จะว่าไปอย่างเจมส์เนี่ย...ทำไมมาเรียนปฐมวัยวะ...”
“รักเด็กมั้งพี่นุ...อยู่กับเด็กแล้วสบายใจ...แต่ตอนนี้ผมว่าอยู่กับผู้ใหญ่ก็ดีเหมือนกัน...ผู้ใหญ่กว่าก็น่ารักดี”
“เหรอ...อืมม...ดีเนอะ...”  ไปต่อไม่ถูกละผม...ไอ้เจมส์มันเหมือนจะหยอดผมอีกแล้ว...
“พี่นุหนาวเหรอ?..เห็นนั่งกอดอก...”
“หนาวดิ...เปียกซะขนาดนี้...”
“เห็นตัวเล็กๆแบบนี้...ก็ซ่อนรูปเหมือนกันนะพี่นุเนี่ย...”
“เยอะละไอ้เจมส์...เดี๋ยวให้กลับเองเลย...” ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกหูแดงเว้ย...ไอ้เจมส์ยืนขึ้นข้างๆผมแล้วยกมือบิดขี้เกียจ...ผมยื่นมือไปข้างหน้ารองดูว่าฝนมันเบารึยัง...
“ฝนเบาแล้วอ่ะเจมส์..ไปเหอะ...กว่าจะไปส่งเราแล้วกลับมาหอพี่อีก...ไปเร็ว”
“รอให้เบากว่านี้ก่อนก็ได้พี่นุ...เดี๋ยวเป็นหวัดไม่รู้ด้วยนา...” ไอ้เจมส์บอกแล้วเดินตามหลังผมออกมา
สตารท์รถแล้วขับออกไป....เฮ้อออ...เปียกหมด...
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 23-04-2017 23:48:43
ตอนที่  5_สัมผัส...
   วันนี้ก็เป็นเหมือนทุกวันที่ผมต้องมาช่วยซ้อมหลีดตามปกติและก็เป็นหน้าที่ผมเกือบจะทุกวันที่ผมจะต้องเป็นคนไปส่งไอ้เจมส์ซะทุกครั้งจนเริ่มเป็นที่สังเกตของใครหลายๆคนล่ะ
“ไปๆมาๆ..ไหงต้องไปส่งไอ้เจมส์มันทุกวันได้วะ...” ไอ้กิ๋วถามผมหลังจากพักซ้อมครึ่งแรก
“ก็ไม่อะไร๊...มันไม่มีรถกลับ..ก็ไปส่ง..แค่นั้นอ่ะ..ไม่มีอะไรหรอกน่า...ไอ้เต๊ะก็ไม่ค่อยมา” ผมตอบแล้วเอาผ้าซับเหงื่อ
“แต่กูรู้สึกว่าไอ้เจมส์มันมองมึงแปลกๆอยู่นา...”
“แปลกยังไงวะ...”
“ก็ไม่รู้ดิ..มันอาจจะอกหักจากไอ้เมย์แล้วเบี่ยงเบนมาชอบมึงก็ได้มั้ง...”
“บ้าแล้ว...มึงก็พูดไปเรื่อย...ไปใส่ร้ายน้องมันได้ไงวะ...ไม่มีไรหรอก”
“อ๊ะไม่แน่นะเว้ย..ของแบบนี้...โสดด้วยกันทั้งคู่...มันน่าคิดนะโว้ยยยย”
“กวนตีนละมึงอ่ะ....ไม่ได้คิดก็ไม่ได้คิดดิวะ...”
“เออๆ..ไม่คิดก็ไม่คิดดิ...ว่าแต่ปีนี้เราพาน้องไปเก็บตัวที่ไหนดีวะ....ไปชะอำหรือหัวหินดีอ่ะไอ้นุ...”
“ที่ไหนก็ได้..ถ้าเป็นทะเลกูไปได้หมดแหละ...”
“งั้นไปเมื่อไหร่ดีวะ...สิ้นเดือนเป็นไง...”
“อืมม...ก็ดีนะเว้ย..เฮ้ย..สิ้นเดือน...ก็อีกสิบกว่าวันดิ..จะทันเหรอวะ...”
“ทันน่า...เดี๋ยวกูจัดการเอง...เรื่องรถกะที่พักเดี๋ยวให้แม่กูจัดการให้...เรื่องค่าใช้จ่ายเดี๋ยวก็หารกันทั้งหมดนี่แหละ...คนละพันน่าจะอยู่ไม่น่าจะเกินนี้...”



ก่อนกลับบ้านในวันนั้นไอ้กิ๋วก็แจ้งรายละเอียดกับน้องๆเรื่องการไปเก็บตัวที่ชะอำหรือเรียกอีกอย่างว่าไปเที่ยวนั้นแหละ...แต่ละคนดีใจกันยกใหญ่...เฮกันลั่นเลย...ถามโน่นถามนี่กันใหญ่...สงสัยทริปนี้คงสนุกน่าดูเลย
“ต้องเตรียมชุดว่ายน้ำไปป่าวคะพี่กิ๋ว...” วุ้นยกมือถามเสียงแจ๋น
“ตามสบายเลยมึง..จะทูพีซ...วันพีซ...ตีโป่ง..อะไรก็เรื่องของมึงเลยอีวุ้น...” ไอ้กิ๋วบอก
“แล้วนอนกันยังไงอ่ะพี่กิ๋ว...”ไอ้เต๊ะถาม   แต่อิ่มแทรกขึ้นมาตอบแทน
“ก็แยกชายแยกหญิงสิยะไอ้เต๊ะ....คิดชั่วๆอีกสิแกน่ะ...”
“โห...ป่าวคิดชั่วนะพี่อิ่ม...แต่ผมสงสัยว่า..ถ้าแยกชายแยกหญิงแล้วอีวุ้นกะอีเดี่ยวมันจะนอนไหนอ่ะพี่..555”
เท่านั้นแหละฮากันลั่นเลยกับคำพูดไอ้เต๊ะ
“กูไม่นอนกะมึงละกันไอ้เต๊ะ...ปากดีนะมึงอ่ะ...” เดี่ยวหันไปซัดเพียะที่ต้นแขนไอ้เต๊ะ
“ไปทะเลอย่างเดียวเลยเหรอพี่กิ๋ว...” ออยถาม
“ขากลับอาจจะแวะพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งด้วยนะ...เดี๋ยวรายละเอียดพี่จะแจ้งอีกทีนึง..”
   

นัดหมายอะไรอีกนิดหน่อยก็ปล่อยน้องๆกลับบ้านแล้วก็เหมือนเดิมอย่างทุกวันที่ผมต้องไปส่งไอ้เจมส์เหมือนอย่างเคย...
“พี่นุจะไปทะเลกับพวกเราหรือเปล่าอ่ะ...” ไอ้เจมส์ถามผมตอนจอดรถที่หน้าหอมัน
“ถ้าไม่ติดอะไรก็น่าจะไปนะ...ทำไมเหรอ...เจมส์มีไรป่าว??” ผมแกล้งตีหน้าซื่อแต่ก็พอจะรู้ความหมายที่เจมส์มันถามผมแหละ...เหอๆๆ
“ก็ไม่มีอะไร...ผมก็แค่อยากให้พี่นุไปด้วย...จะได้สนุกๆ...”
“เหรอ...ขาดพี่คนเดียวคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?...แต่ก็คงต้องไปแหละไม่งั้นใครจะคุมพวกเราล่ะ...ลำพังแค่ไอ้กิ๋วคนเดียวไม่ไหวหรอก...ไปนะ..” ผมบิดกุญแจเตรียมสตารท์รถ
“พี่นุ...”
“หึ๊....ว่าไงอ่ะ...”
“พรุ่งนี้พี่นุว่างมั้ย....”  เจมส์ถาม  ผมทำท่านึกก่อนว่ามีภารกิจอะไรหรือเปล่า
“น่าจะว่างนะ..มีอะไรเหรอ...”
“พอดีไอ้เต๊ะชวนไปดูหนังอ่ะ...พี่นุไปดูด้วยกันนะ...” ผมคิดในใจ...ไอ้เต๊ะอีกแล้วเหรอวะ...
“ดูหนังเหรอ...ก็ดีเหมือนกัน...รอบกี่โมงล่ะ...”
“พี่นุมารับผมซักสี่โมงเย็นละกัน...”
“เออๆงั้นเดี๋ยวมาตอนสี่โมงละกัน...แล้วจะให้รอตรงไหน...”
“ขึ้นไปข้างบนห้องเลยก็ได้พี่นุ...เจอกันพรุ่งนี้นะครับ.....ฝันดีพี่...” ผมขับรถออกมามองไปในกระจกก็เห็นเจมส์มันยังยืนมองผมอยู่สักพักแล้วค่อยเดินเข้าหอไป...
   วันรุ่งขึ้นประมาณสี่โมงเย็นผมก็มาจอดอยู่ที่หน้าหอไอ้เจมส์แล้วก็เดินขึ้นไปบนชั้นสามห้องไอ้เจมส์มัน
ผมเคาะห้อง...ไอ้เจมส์เปิดประตุให้ผมเข้าไป...อื้อหือ..ห้องมันยังรกได้เสมอต้นเสมอปลายเหมือนวันที่ผมลากมันขึ้นมาส่งเด๊ะเลย...
“อ้าว..นัดให้มารับสี่โมงเย็น..ยังไม่เปลี่ยนชุดอีก...” ผมบ่นแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเตียงตรงโต๊ะทำงาน
“เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน..ห้านาทีครับรับรอง...” ไอ้เจมส์คว้าผ้าเช็ดตัวแล้ววิ่งปรื๋อออกไป...ลืมบอกไปหอนี้เป็นห้องน้ำรวมครับ...ผมนั่งมองไปรอบๆห้องเดินดูโน่นดูนี่ไปซักพัก...ไอ้เจมส์ก็เปิดประตูผลั๊วะเข้ามา....ทำเอาผมตกใจหมด...
“อ้าว..เฮ้ย...” ผมหันไปทางต้นเสียงแล้วก็ต้องรีบหันกลับมาทางเดิม...ก็ไอ้เจมส์นะสิครับเล่นนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเปลือยอกเดินเข้ามาในห้องจะไม่ให้ผมตกใจได้ไงอ่ะ
“เป็นไรอ่ะพี่นุ...” เสียงเจมส์มันถามผม...
“ปะปะ..ป่าว...เร็วๆเหอะ..เดี๋ยวไม่ทันดูหนังหรอก..” ผมตอบแต่ก็ยังไม่หันไปมองหน้ามัน...เสียงเจมส์มันเปิดตู้เสื้อกุกกักๆแล้วเดินอ้อมมายืนตรงหน้าผม...ผมก็หน้าเหรอหราเลย...เจมส์มันยื่นเสื้อให้ผมดูสองตัว
“พี่นุเลือกเสื้อให้ผมหน่อยดิ..ใส่ตัวไหนดี..”  ผมก็โอ้ยยย...เจมส์...มึงแกล้งกูป่าวว๊า...
“เอาตัวนี้...” ผมก้มหน้าก้มตาชี้ๆส่งเดชไปตัวนึง
“ตัวนี้เหรอ...แน่นะพี่นุ...ยังไม่ได้มองเลยแล้วเลือกได้ไงอ่ะ...” ไอ้เจมส์ยังงอแงผมก็เลยต้องเงยหน้ามองเสื้อที่มันถืออยู่แต่ว่ามันไม่ได้เห็นแค่เสื้อน่ะดิ...อิอิอิ...ทำไมแม่งล่ำจริงว๊าเจมส์เอ้ยยยย....
“เอ๊าาา...ตัวนี้นั่นแหละ...พอใจยัง...” ผมชี้ที่เสื้อตัวเดิมก็เห็นเจมส์มันยิ้มๆ ทำไมต้องให้ผมเลือกด้วยวะ
“รอแป๊บนึงนะค๊าบบบ...แต่งตัวก่อน...อ้าวพี่นุ..หันไปก่อนดิผมจะแต่งตัว...หรืออยากจะดูอ่ะ” เจมส์มันพูดแล้วทำท่าจะถอดผ้าเช็ดตัวจนผมต้องรีบหันไปอีกทาง...เสียงเจมส์มันหัวเราะคิกคัก...ฝากไว้ก่อนเถ๊ออ



“ไม่มาตอนห้างปิดเลยอ่ะพี่นุ....” เสียงไอ้เต๊ะโวยวายมาแต่ไกลตอนผมกับไอ้เจมส์เดินมาถึงหน้าโรงหนัง
“โน่นเลย...เพื่อนเราเลย...ช้ามากกกก...” ผมบอก
“ก็พี่นุอ่ะที่ช้า...ไม่ยอมเลือกเสื้อให้...” ไอ้เจมส์เถียงแบบข้างๆคูๆ
“โอ้ย..ไม่ต้องเถียงกันละ..นี่ตั๋ว..จ่ายมาเลยซื้อให้เรียบร้อยแล้ว...ไปเร็ว..เค้าเข้าไปกันหมดแล้ว” ไอ้เต๊ะพูดแล้วส่งตั๋วให้ผมกับไอ้เจมส์คนละใบแล้วเดินนำเข้าไปในโรง

“แบงค์..มึงรู้จักพี่ที่เดินเข้าไปในโรงหนังเมื่อกี้ป่ะ...”                                   

“คนไหนวะธีร์...”                                                  

“ก็ที่ยืนคุยกันสามคนเมื่อกี้อ่ะ....”  ธีร์ถาม...แบงค์ทำท่าคิดแล้วคิดออก                                                                                             

“อ๋อ...เค้าชื่อพี่นุ...อยู่ศึกษาฯน่าจะปีสี่ว่ะ...”                                                                                                                                           

“เหรอ...ทำไมกูไม่เคยเห็นวะ...”                                                                                                                                       

“มึงอยู่ปีหนึ่ง...พี่เค้าอยู่ปีสี่...แล้วมึงจะเคยเห็นมั้ยล่ะ...คนละคณะอีกต่างหาก...ทำไมอ่ะ...สนใจเหรอ?”                                             

“ก็พี่เค้าน่ารักดีนี่หว่า...” ธีร์พูดแล้วอมยิ้ม...


“เพิ่งอกหักมาหมาดๆก็จะเอาใหม่อีกแล้วเหรอวะไอ้ธีร์...มึงนี่ก็แปลก...คนเข้ามาชอบมาหามึงเยอะแยะเสือกไม่สน...ดั๊น..ไปชอบวิ่งตามคนอื่นเค้าซะนี่..หล่อเลือกได้นะเมิง...”

“เออ...ก็มันน่าลุ้นดีนี่หว่า...ชื่อพี่นุ..ใช่มั้ย??...อืมม...เดี๋ยวกูจะลองดูซักหน่อยละกัน...”

“แล้วคืนนี้มึงไปป่าว...ที่ The voice อ่ะ...กูนัดพวกมันหมดแล้วนะเว้ย...”

“เออๆ...ไป..เดี๋ยวกูไปเจอที่โน่นเลยละกัน...เดี๋ยวกูกลับบ้านไปอาบน้ำก่อน...แล้วเจอกันเว้ย...”



   ตลอดสองชั่วโมงกว่าๆที่อยู่ในโรงหนังเนี่ย...ทำเอาผมหลับสบายเหมือนกันแฮะแอร์เย็นๆคนก็ไม่เยอะเท่าที่ควร....สบายไปเลยผมอ่ะ...ออกมาจากโรงหนังก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว...
“ชวนมาดูหนังนะเนี่ย...ไม่ได้ชวนมาหลับนะพี่นุอ่ะ...” ไอ้เจมส์มันบ่นผม
“ก็มันง่วงนี่หว่า...ไม่ค่อยชอบด้วยอ่ะเรื่องนี้น่ะ...”  ผมตอบ
“เดี๋ยวไปต่อกันมั้ยพี่นุ...” ไอ้เต๊ะหันมาถามผม
“จะไปไหนอีกวะป่านนี้แล้ว...”
“ผมนัดเพื่อนไว้ที่ The voice อ่ะครับ..ไปป่าวพี่นุ...ไปด้วยกัน...ถ้าไม่ชอบไปสักพักแล้วกลับก็ได้”  ไอ้เต๊ะบอก...ผมก็ยังอ้ำอึ้งอยู่ไม่รู้จำเอาไงดีเลยหันไปถามไอ้เจมส์..
“เอาไงเจมส์...จะไปหรือจะกลับหอ”
“แล้วแต่พี่นุอ่ะ...ถ้าพี่นุไปผมก็ไป...”
“ไปเหอะพี่นุ...นานๆที...นะๆ”
“เออ..ไปก็ไป...แต่ไปแป๊บเดียวนะเว้ย...ไม่ค่อยชอบไปว่ะ”


ธีร์และแบงค์นั่งดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ที่โต๊ะหน้าเคาท์เตอร์บาร์  กลุ่มเล็กๆ มุมห้องในผับ The voice เป็นจุดสนใจของธีร์ ชายหนุ่มห้าคนและผู้หญิงหนึ่งคน--สองคนเขามองผ่านเลย หญิงสาวดูก๋ากั่น ส่วนชายอีกคนท่าทางนุ่มนิ่ม อายุราวสี่สิบ รูปร่างท้วมๆ แต่งตัวสีสันฉูดฉาด สามคนที่เหลือดึงดูดความสนใจธีร์ได้ไม่น้อย                      
“กูว่าคนที่นั่งอยู่มุมโน้นมันหน้าคุ้นๆว่ะ..” ธีร์หันไปบอกกับแบงค์ชี้ไปทางชายหนุ่มคนนั้นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ปลดกระดุมแขนเสื้อพับรั้งขึ้นมาครึ่งแขน กางเกงยีนส์สีเท้าเข้ม...ยิ้มกว้างสดใส! ธีร์รู้สึกเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูด รอยยิ้มของชายหนุ่มเป็นยิ้มที่สดใสมีชีวิตชีวา...ต่างจากที่เขาเคยเห็น รอยยิ้มกว้างนั้นเป็นรอยยิ้มที่เหมือนจะทำให้ห้องส่องสว่างวาบขึ้นมา
 “ไอ้ควายธีร์...มึงจำไม่ได้เหรอวะ...” แบงค์ถาม                                                         
“ใครวะ...เห็นไม่ชัด”   ธีร์ทำหน้างงๆ                                                                    
“ไอ้ห่า...ก็พี่นุของมึงไง...โอกาสดีนะเว้ย...เข้าไปหาเลยดิวะ..”  แบงค์บอก                                                            

“เอาไว้ก่อนว่ะ...ยังไม่พร้อม...” ธีร์พูด......เหมือนจะรู้ตัวว่าโดนจ้องมอง ชายหนุ่มคนนั้นหันขวับมามอง ธีร์รีบหลบตามองไปทางอื่นทำไม่รู้ไม่ชี้...แอบอมยิ้ม พอชายหนุ่มเผลอ ธีร์ก็หันกลับไปมองอีกอย่างเพลิดเพลิน
“อ่ะพี่นุ...คนละขวด...” ไอ้เต๊ะส่งเบียร์ขวดเล็กให้ผมกับไอ้เจมส์คนละขวด                                             
“ไม่ดื่มไม่ได้เหรอวะ...”  ผมถามเสียงอ่อย                                                                      
“ไม่ได้เลยพี่นุ...มาแล้วต้องดื่ม....น่าเพื่อผม....โชนแก๊วววววว”  ไอ้เต๊ะพูด...เอาวะ...ดื่มก็ดื่ม...ครั้งแรกในชีวิตเลยที่รสชาติเบียร์สัมผัสกับลิ้นผม...                                                                       
“กินเป็นกะเค้าด้วยเหรอพี่นุ...”   ไอ้เจมส์ถามหลังจากเห็นผมทำหน้าเหมือนจะอ๊วกซะให้ได้                                               

“ก็โอเคอ่ะ...ได้อยู่...”  ผมตอบ...เฮ้อออ...ผ่านไปซักครึ่งชั่วโมงผมยังคงนั่งดูทุกอย่างอยู่เหมือนเดิม...ส่วนไอ้เต๊ะกับ               ไอ้เจมส์ก็หลับหูหลับตาเต้นกันอย่างเมามัน...แอลกอฮอล์เริ่มสูบฉีด...รวมถึงผมด้วยมองขวดเบียร์ของตัวเอง...เอ๊ะ!เกือบจะหมดขวดแล้วนี่หว่า..เอิ๊กกกก...จาหวายม้ายยยยว๊า...เหอๆๆ...ก็ไอ้เต๊ะดิครับเล่นชนแก้วกันอยู่นั่นแหละ...ผมเองก็ไม่ใช่คอทองแดงซะด้วยดิ...                               
“ไหวมั้ยพี่นุ....จะกลับกันเลยก็ได้นะ...” ไอ้เจมส์หันมาถามผม...ดูแล้วมันก็ตึงๆนะแต่คงไม่เท่าผม                               
“กลับดิ...ไม่ไหวแล้วว่ะ...โลกหมุนติ้วๆเลย...” ผมตอบ                                                              

“เฮ้ย...เต๊ะมึงอยู่ต่อใช่ป่ะ...งั้นกูกับพี่นุกลับก่อนนะเว้ย...” เจมส์หันไปบอกไอ้เต๊ะแล้วเดินออกมากับผม                             

“เจมส์ไปส่งพี่แล้วกัน...แล้วเอารถกลับหอไปก็ได้แล้วพรุ่งนี้มารับพี่ด้วย...” ผมบอก                                        

“โห...ขับไปส่งพี่นุได้ก็บุญแล้วมั้ง...ผมก็แย่แล้วเนี่ย...ว่าจะขอนอนที่ห้องพี่นุอยู่พอดี”  ได้ยินก็ตกใจวุ้ย...แต่ห่วงรถตัวเองมากกว่า                                                                               

“ห๊า....เอางั้นเลยเหรอ....เออๆตามใจละกัน...” ผมตอบๆไปเพราะอารมณ์นั้นอยากนอนเต็มที่
   



พอกลับมาถึงห้องผมก็แทบจะคลานขึ้นเตียงเลย...อยากอ๊วกก็อยากอ๊วก...แต่อยากนอนมากกว่า ผมคลานไปบนที่นอน..นอนคว่ำฟุบนอนทันที..เหลือบตามองไอ้เจมส์...เฮ้ย..มันถอดกางเกงยีนส์ทำไมวะ                                       
“เจมส์...ถอดกางเกงทามมายอ่ะ...” ผมถามเสียงอ้อแอ้ๆ                                                 
“ผมนอนทั้งกางเกงยีนส์ไม่ได่อ่ะพี่นุ...ไม่งั้นนอนไม่หลับ..”                                               
“งั้นโน้นเลย..กางเกงขาสั้นอยู่ในตู้เลย...ปายหยิบอาววว....” ผมบอก  เจมส์มันก็เดินไปหยิบมาใส่...ผมก็เห็นมันถอดเสื้ออีก...เจมส์มันคงรู้ว่าผมจะโวยวายอีกมันเลยชิงบอกก่อน                                                                 
“ผมร้อนอ่ะพี่นุ...ขอนอนถอดเสื้อแล้วกัน...” เจมส์มันบอกแล้วคลานขึ้นมานอนข้างๆผม...ช่างมันเหอะ...ม่ายหวายแล่วววว...คร่อออกกกZZzzzz!!!!!!!....   
                                                                   
           ผมหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้รู้สึกตัวอีกที...ทำไมโลกมันหมุนติ้วๆแบบนี้ว่ะ...แต่เอ๊ะ...หมอนข้างผมทำไมมันใบใหญ่จังวะ...พอเห็นว่าอะไรเป็นอะไรผมก็เฮ้ย...ผมนอนกอดไอ้เจมส์อยู่นี่หว่า...ไอ้เจมส์นอนหงายอยู่โดยมีผมนอนตะแคงเอามือกอดมันไว้ด้วย  สักพักเจมส์มันขยับผมเลยพยายามพลิกตัวเอามือออกจากตัวไอ้เจมส์แต่ปรากฏว่าไอ้เจมส์มันดึงผมไปกอดมันให้อยู่ในท่าเดิมเป๊ะ....ตกลงมันรู้เรื่องป่าววะเนี่ย...เมาจริงหรือเมาดิบหว่า...ยังไม่ทันจะคิดอะไรต่อไปผมก็หลับไปอีก...ZZZZZzzzz!!!!!!


         โอ้ยยยย...ทำไมมันปวดหัวอย่างนี้ว๊า...ผมกุมขมับตัวเองในขณะที่ยังนอนคว่ำมุดอยู่ใต้ผ้าห่มอยู่..เอ๊ะ!..ผมไม่ได้อยู่คนเดียวนี่หว่า...แล้วตอนนี้หัวผมซุกอยู่กับอะไรว่ะนุ่มๆปนแข็งๆเหมือนกล้ามเนื้อ...แล้วมือของผมมันกำลังโอบกอดอะไรไว้อยู่วะ...ผมค่อยๆเงยหน้าจากผ้าห่มขึ้นมาก็เห็นไอ้เจมส์นั่งเอนหลังพิงกับหัวเตียงเสื้อก็ไม่ใส่...อมยิ้มมองผมที่กำลังหนุนอยู่ในซอกแขนของไอ้เจมส์แถมยังกอดมันไว้อีกต่างหาก...                                                                                                            

“ตื่นแล้วเหรอพี่นุ...”  เจมส์ทัก...ผมทำท่าจะดึงมือที่กำลังกอดไอ้เจมส์ไว้ออกแต่เจมส์มันไวกว่า...มันคว้ามือผมไว้ก่อน

“จะเอาออกทำไมอ่ะพี่นุ...ไหนๆก็นอนกอดผมมาทั้งคืนแล้ว...กอดผมต่ออีกหน่อยผมก็ไม่คิดเงินหรอก...” เจมส์พูดแล้วกุมมือผมไว้แน่น....                                                                                       

“เอ่อ...โทษทีว่ะเจมส์....พอเมาทีไรนิสัยเสียทุกทีเลย...” ผมพูดแบบแก้เขินยังไม่กล้าสบตาไอ้เจมส์นัก...                                 

“ไม่รู้อ่ะ..พี่นุนอนกอดผมทั้งคืนแบบนี้...ผมเสียหายนา...” ไอ้เจมส์พูดผมก็จะดึงมือออกแต่มันก็จับไว้อยู่                                 

“งั้นก็ปล่อยได้แล้วเว้ย...จะไปอาบน้ำ...” ผมพยายามดึงแต่ก็ยังไม่หลุด                                 

“อย่าเพิ่งดึงมือออกเลยพี่นุ...ขอผมมีความสุขอีกหน่อยนึงนะ...”  เจมส์พูดแล้วเลื่อนตัวลงมานอนคู่กับผม โดยที่เวลานี้กลายเป็นว่าผมนอนหนุนแขนไอ้เจมส์อยู่อีกมือก็ยังกอดเจมส์มันไว้เหมือนเดิมเป๊ะ...เจมส์ขยับให้ตัวผมชิดกับตัวมันมากขึ้น..จนตอนนี้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว...                                                                                       

“พี่นุ...รู้ใช่มั้ยว่าผมรู้สึกกับพี่ยังไง...” เจมส์พูดไม่ค่อยเต็มเสียงนัก...ผมก็ใจเต้นตึ่กๆ...ยังไงดีวะกรูเอ๊ยย..เงียบไปก่อนละกัน...ดูดิ๊เจมส์มันจะพูดอะไรต่อ...ถ้าผมยังเงียบอยู่แบบนี้...                                                                                          

“พี่นุเงียบทำไมอ่ะ...พี่ไม่ได้รังเกียจผมใช่มั้ย...”  เจมส์เลื่อนหน้าลงมาจนหน้าของเราแทบจะชนกัน...จนรู้สึกถึงลมหายใจของเราทั้งคู่                                                                 

“เอ่อ...พี่ไม่รู้จะตอบยังไงอ่ะเจมส์...” ผมตอบเสียงอ่อยๆ เจมส์ยังคงจ้องหน้าผมอยู่                                                 

“งั้นพี่ยังไม่ต้องบอกอะไรกับผมก็ได้....แต่ผมขออนุญาตกอดพี่นุไปแบบนี้อีกซักพักนะ...”  เอาแล้ว...ไอ้นุเอ๋ยยยย... 
งานเข้าอีกแล้วครับท่าน....
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-04-2017 09:21:26
เขิน..นนนนนนนนนนนนนนนน    :-[
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 24-04-2017 13:37:35
เด่วจะยิ่งฟินนนกว่านี้อีกคับ....อิอิอิ :o8:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 24-04-2017 13:58:57
ตอนที่  6_เผลอใจ...

                                                 
“ไงอีวุ้น...เดินขาถ่างมาเชียวนะเมิง....จะเต้นได้มั้ยเนี่ยอีดอก”   เดี่ยวขำชอบอกชอบใจแซววุ้นที่เดินเข้ามาซ้อมอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรง                                                                      

“แหม...มึงก้อ...แบงค์เค้าอุตส่าห์มาหา..กูก็เลยจัดชุดใหญ่ให้ซะดอกนึงเอ๊งงงง” วุ้นนั่งลงข้างๆ                                                 

“เมามาอีกละสิ..ไอ้แบงค์น่ะ...ไอ้พวกนี้เมาแล้วแอลกอฮอล์ลงไข่ทู๊กที...ตอนปกติกูไม่เห็นมันจะอะไรกับมึงเลยอีวุ้น...” เดี่ยวพูด วุ้นหันมาชักสีหน้า                                                                 

“ปากดีนะมึง..กูกะแบงค์อ่ะเราออกจะรักกัน..เจอเทอร์โบสิบหกวาวล์อย่างกูอ่ะแบงค์ไปไหนไม่รอดร๊อก”                           

“อ่ะจ๊า....กูนะรอดูวันมึงน้ำตาเช็ดหัวเหน่า...”                                                      

“อีควาย...เค้าเรียกหัวเข่า...”                                                        

“เออๆนั่นแหละ...นี่...วันหลังกูขอกินมั่งนะแบงค์น่ะ....อยากลองชิมซิว่าหนุ่มนิเทศมันจะแซ่บแค่ไหน...” เดี่ยวทำท่าเอาลิ้นเลียปากแพร่บๆ   วุ้นค้อนขวับ                                                                                             

“ข้ามศพกูไปก่อนเถอะอีเดี่ยว...”  พูดแล้วหยิบกูลิโกะป๊อกกี้สีชมพูขึ้นมาใส่ปากแล้วส่งให้เดี่ยวหนึ่งอัน...                               

“โน่น..เทพบุตรของมึงเดินมาโน่นแล้วอีวุ้น...ต๊ายยย...อะไรดลใจให้มาถึงที่นี่ยะ...” เดี่ยวบอก  วุ้นเองก็ยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเลยพอเห็นแบงค์กับธีร์เดินเข้ามา                                                                          

“จะมาทำไมไม่โทรบอกวุ้นก่อนละแบงค์...” วุ้นเดินไปดึงแขนแบงค์มานั่งที่โต๊ะ ส่วนธีร์ก็ยืนอยู่กวาดสายตามองไปรอบๆเหมือนกำลังหาอะไรอยู่ พอเดี่ยวหันไปเห็นธีร์ก็หันมาขยิบตากับวุ้นทำหน้าทะเล้น ทำปากพูดว่า “หล่อมากกกก” โดยไม่ออกเสียง

 “มองหาอะไรน่ะธีร์....ถ้าหาคนสวย.....ก็นั่งอยู่ตรงนี้ไงค๊า...”  เดี่ยวพูดแล้วทำตาปิ๊งๆ                                                   

“อ๋อ...ไอ้ธีร์มันมองหาพี่นุน่ะ...” แบงค์ตอบแทนทำเอาวุ้นกับเดี่ยวทำหน้างง                                             

“พี่นุ...ธีร์จะมาหาพี่นุทำไมอ่ะ..”  วุ้นถาม                                                                      

“อย่ารู้เลยน่า...” แบงค์ยังตอบแทนอยู่  ธีร์นั่งลงข้างๆแบงค์                                                            

“ปกติพี่นุเค้ามาที่นี่กี่โมงเหรอ?...”  ธีร์หันมาถามวุ้น                                                        

“ก็ไม่แน่ไม่นอนอ่ะ...ธีร์มีไรอ๊ะป่าว...” วุ้นทำหน้าสงสัย                                                     

“อย่าบอกนะว่าธีร์จะมาจีบพี่นุอ่ะ...หุหุหุ”  เดี่ยวพูดแทรกขึ้นมาแบบล้อเล่นไม่ได้จริงจัง                                              

“อืมม..ก็ใช่นะสิ..” ธีร์พยักหน้า                                                                             

“ห๊า...จีบพี่นุ...”  เดี่ยวกับวุ้นพูดพร้อมกันแล้วทำตาโตเอามือทาบอก                                                     

“จริงดิ๊....ตายละ...คนสวยอกหักอย่างแรง.....” เดี่ยวทำเสียงผิดหวัง                                

“ไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย...” วุ้นหันไปถามแบงค์...แบงค์ก็พยักหน้า                                

“คนหล่อๆทำไมต้องมาชอบคนหล่อๆด้วยกันหมดเลยว๊า..” เดี่ยวหันไปกระซิบกับวุ้น แบงค์ดูนาฬิกาแล้วหันไปถามธีร์                             

“เอาไงธีร์..จะรอหรือจะกลับวะ...”  ธีร์ทำท่าคิด                                                                 

“อืมมม...กลับก่อนก็ได้...วุ้น..งั้นฝากบอกพี่นุด้วยนะ....ว่ามีคนคิดถึง...” ธีร์พูดแล้วลุกออกไป                                                  

“จ๊า...เดี๋ยวจะบอกให้นะตัวเอง...” เดี่ยวพูดแทนโบกมือบ๊ายบายทำท่าส่งจูบให้ทั้งสอง                                                 

“ธีร์เค้าฝากกู...ไม่ได้ฝากมึง...อีปลวก...” วุ้นหันมาด่า                                            

“กูรู้ละ...อีชะมด...ว่าแต่..เฮ้อ...อิจฉาพี่นุจัง..มีแต่คนมาชอบ...” เดี่ยวพูดแล้วถอนใจเฮือกใหญ่   





“แบงค์...มึงว่าพี่นุเค้าจะชอบกูมั้ยวะ...” ธีร์ถามตอนเดินออกมาจากสนาม                                       
   
“ไม่น่าถาม...หล่อๆอย่างมึงใครไม่ชอบก็โง่แล้ว...” แบงค์ตอบ                                                  

“แล้วถ้าพี่นุเค้ายอมเป็นคนโง่ละวะ...”                                          

“อันนี้กูก็ไม่รู้ว่ะ...กูจะตอบแทนพี่เค้าได้ยังไงวะ...ว่าแต่มึงเอาจริงอ่ะ...ที่จะจีบพี่เค้าอ่ะ...”                                             

“ไม่รู้ดิ...แต่กูรู้ว่า..กูเห็นพี่เค้าแว่บเดียวกูก็ชอบพี่เค้าแล้วอ่ะ...คนอะไรน่ารักชิบ...” ธีร์พูดแล้วยิ้ม                                               

“เป็นเอามากเว้ยเพื่อนกู...ให้มันจริงเถ๊อ..กูกลัวแต่ว่ามึงจะฟันแล้วทิ้งเหมือนที่ผ่านมาอ่ะดิ....พอได้แล้วก็หายอยากอ่ะ...ชิ่งหนีตามระเบียบเหมือนพี่นวินไง...”                                                                    

“นั่นมันอดีตเว้ย...พี่นวินแม่งขี้หึงเกิน....ตอนนี้กูไม่แล้ว...คนนี้กูรักจริง...”                                                                                

“รักจริง...ทั้งๆที่มึงยังไม่เคยคุยกับพี่เค้าเลยเนี่ยนะ...บ้าไปแล้วมึงอ่ะไอ้ธีร์”                                                                        

“แค่พี่เค้ายอมคุยกับกู....ไม่ต้องได้กับพี่เค้า.....แค่นี้กูก็ดีใจแล้วว่ะ...”                                                               

“น้ำเน่าว่ะ...แต่ถ้าได้พี่เค้าด้วยก็ดีใช่มะ..กูรู้หรอกน่า...”                                                            

“มึงก้อ...แค่ได้ใจพี่นุเค้าอย่างเดียวก็พอแล้วเว้ย....สำหรับกูอ่ะ...”                                                                                             

“แต่กูว่า...ตอนนี้แค่หน้าพี่เค้า...ก็ให้มึงได้เห็นก่อนเหอะว่ะ....เฮ้ย!ธีร์...แต่กูว่านะ....ยังไงได้ทั้งตัวด้วยได้ทั้งใจด้วย...  มันก็ดีกว่าได้อย่างใดอย่างหนึ่งนาเว้ยยยย...เชื่อกูดิ ”                                                                          

“มึงขอเบอร์โทรพี่นุให้หน่อยดิ...จากไอ้วุ้นไง...ช่วยกูหน่อยดิ..ไม่ได้เห็นหน้าแค่ได้ยินเสียงก็ยังดี..”  ธีร์พูด  แบงค์เอามือไปทาบหน้าผากธีร์แล้วก็กลับมาทาบหน้าผากตัวเอง                                                                                    

“นี่มึงถึงขั้นเพ้อเลยเหรอวะธีร์...ท่าทางอาการหนักนะมึงเนี่ย...เออๆเดี๋ยวกูจะขอให้ละกัน...หวังว่าถ้าพี่นุเค้าไม่รับรักมึง..มึงคงไม่นั่งร้องไห้ฟูมฟายขี้มูกโป่งนะเว้ย...”                                                                                                                   

“ระดับกูไม่มีอยู่แล้วเว้ย...เรื่องจีบไม่ติดอ่ะ...”                                                      

“อ๊ะๆ...เวรกรรมมันมีจริงนา...หักอกคนอื่นเค้ามาเยอะระวังโดนมั่งนา...แล้วจะหาว่ากูไม่เตือนไม่ได้นะ..”                         

“อวยพรล่วงหน้าเลยนะเมิง...จะจีบพี่นุไม่ติดก็เพราะมึงนี่แหละ..ไปเร็ว..กูหิวข้าวแล้ว”
   


วันนี้เป็นวันแรกที่ผมเองไม่อยากจะไปซ้อมหลีดเลยเพราะผมเองยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับไอ้เจมส์เลยตั้งแต่มันบอกความในใจกับผม...ผมเองไม่รู้ว่าผมควรจะรู้สึกยังไงดี..ผมควรจะดีใจ..เสียใจหรือยังไงวะ...สับสนโคตรๆ...ผมนั่งมองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะหกโมงเย็นแล้ว...ป่านนี้เค้าก็คงซ้อมกันได้มั้ง?....
โทรศัพท์ผมก็ยังคงสั่นอยู่อย่างสม่ำเสมอซึ่งก็คงเป็นเจมส์นั่นแหละที่โทรมา...วันนี้ทั้งวันเจมส์มันโทรหาผมตลอดแต่ผมเองนี่แหละที่ไม่ยอมรับสายมันอ่ะ...เฮ้อ...ขอเวลาอีกนิดนะเจมส์....โอ้ยยย..ปวดหัวเว้ย...อาบน้ำดีกว่า...

“เอาละ...เดี๋ยววันนี้พี่จะปล่อยเลยละกัน....ส่วนกำหนดการเดินทางไปเก็บตัวของเรานี่...ก็อย่างที่บอกไปเมื่อกี้...เราจะเดินทางกันศุกร์หน้า...ส่งเงินได้ที่พี่ปอยตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปนะ...อย่างช้าวันพุธ..” ไอ้กิ๋วบอกเสียงเข้ม...แล้วจึงปล่อยน้องๆกลับบ้าน                                                                                                    

“ไอ้เต๊ะ...เดี๋ยวมึงเลยไปส่งกูที่หอพี่นุหน่อยดิ...”  ไอ้เจมส์เดินมาบอกไอ้เต๊ะมันก็ทำหน้าขมวดคิ้วสงสัย                                 

“ไปหอพี่นุอีกแล้วเหรอวะ...มีไรป่าวเนี่ยไอ้เจมส์...”                                                 

"ป่าววว....กูแค่เป็นห่วงพี่เค้า...วันนี้ทั้งวันติดต่อพี่นุไม่ได้เลย..ไม่รู้เป็นอะไรหรือเปล่า..”                                                             

“กูไปส่งแค่หน้าหอพี่นุนะ...แล้วมึงหาทางกลับเองนะเว้ย..กูรีบวันนี้อ่ะ...”                                                                   
ผมอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมานั่งเช็ดผมอยู่ที่ปลายเตียง..สักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น...ผมเดินไปเปิดประตูเพราะนึกว่าเป็นไอ้กิ๋วคงตามมาด่าผมที่อู้งานวันนี้...แต่ที่ไหนได้พอเปิดประตูออกไป...                                 

“เจมส์...” น้ำเสียงผมตกใจมากเพราะไม่คิดว่าจะเป็นไอ้เจมส์แถมผมยังนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่อีก  เจมส์ไม่รอให้ผมเรียกแต่เจมส์มันผลักประตูเข้ามาแล้วปิดประตูทันที....                                                                          

"ทำไมพี่นุไม่รับโทรศัพท์ผม....”  เจมส์จ้องผมตาเขม็ง  ผมก็ยืนอึ้งอยู่                                                         

“พอดีวันนี้พี่ลืมโทรศัพท์อ่ะ...” เหตุผลฟังไม่ขึ้นเล้ยผมอ่ะ...                                               

"ไม่จริงอ่ะ...พี่นุจงใจไม่รับต่างหาก...” เจมส์เริ่มเสียงดังจนผมตกใจ                                  

"พี่ว่าเจมส์คุยไม่รู้เรื่องแล้ววันนี้อ่ะ...กลับไปก่อนเหอะ...”                                                         

“พี่นุเกลียดผมใช่มั้ยที่ผมบอกพี่ไปแบบนั้นอ่ะ...”  ผมส่ายหน้าเดินไปเปิดประตูแต่เจมส์คว้าแขนผมไว้แล้วดึงกลับมา

“เฮ้ย..เจมส์ปล่อย...” ผมพยายามสะบัดมือ...ผ้าเช็ดตัวก็จะหลุด                                                

“ผมไม่กลับอ่ะ...ถ้าผมคุยกับพี่นุไม่รู้เรื่องแบบนี้...”  เจมส์เอามือสองข้างจับไหล่ผมไว้                                                                

“เจมส์...อย่าเพิ่งเลย...พี่ไม่รู้จะพูดอะไรอ่ะ...” ผมยืนก้มหน้านิ่ง เจมส์ยังคงจ้องตาผมอยู่                                                     

“พี่นุ...พี่นุก็รู้ว่าผมชอบพี่...แล้วพี่นุจะไม่ให้คำตอบอะไรกับผมบ้างเลยเหรอ..” น้ำเสียงเจมส์อ่อนลง                                             

“พี่นุ....ยังไม่บอกผมตอนนี้ก็ได้แต่ขอให้ผมได้กำลังใจจากพี่นุบ้าง....ให้ผมได้รู้สึกเพียงสักนิดก็ยังดีว่า พี่นุไม่ได้รังเกียจผม..”

เจมส์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมได้ยินเสียงหายใจ...ผมรู้สึกว่ามันใกล้ขึ้น...ใกล้ขึ้น...จนผมรู้สึกว่าริมฝีปากเราใกล้กันเกินไป...อีกนิดเดียวก็จะประกบกันแล้ว....ก่อนที่อะไรจะเลยเถิดไปกว่านี้ผมต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว...                         

“เจมส์....อย่าเลยนะ....”  ผมบอกเสียงค่อย...มือก็พยายามจะผลักอกไอ้เจมส์แต่มันเหมือนเอาไปแตะๆไว้มากกว่า   

“อย่าห้ามผมเลยครับพี่นุ...”  ผมก็รู้สึกว่ามีริมฝีปากอุ่นๆแตะลงมาบนริมฝีปาก ผมเผยอริมฝีปากรับการจูบอย่างไม่รู้ตัว  แล้วค่อยๆดันอกเจมส์ออกไปอย่างช้าๆ....เจมส์ค่อยๆถอนริมฝีปากออกมาอย่างตัดใจก่อนที่จะมองหน้าผมอีกครั้ง....รู้สึกหน้าตัวเองแดงจัดจริงๆเลยตอนนั้น...นี่กูทำอะไรไปวะเนี่ย...                                                                                                     

“ พรุ่งนี้เจอกันนะพี่นุ “ เจมส์พูดเขินๆ แล้วเดินออกจากห้องไปทิ้งให้ผมเองยืนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงนั้นพักใหญ่...นึกแล้วก็โมโหตัวเองที่เผลอใจจูบกับไอ้เจมส์ไป...เจมส์มันจะคิดว่าผมมีใจให้ไปแล้วหรือเปล่าวะเนี่ย...ไม่ได้การละ ผมเองก็ต้องเข้มแข็งกว่านี้ถ้ายังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดให้กับตัวเองอ่ะ...เฮ้ออ
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-04-2017 15:38:44
เค้าจูบกันแย้ว..ววววว  :mew1:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 24-04-2017 21:26:30
ตอนที่  7_ความบังเอิญ...

                                                                                       
“เบอร์ใครวะ...ไม่คุ้นเลย...” ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วพยายามนึก   แต่ก็ดูแล้วไม่คุ้นเลยกดรับซะหมดเรื่อง                    

“ฮัลโหล...สวัสดีครับ...” ผมพูด  ทางปลายสายฝั่งโน้นมีเสียงกุกกักนิดหน่อย                              

“ฮัลโหล...ใช่เบอร์พี่นุป่าวครับ...”                                               

“อ๋อ...พูดอยู่ครับ...ใครเนี่ย...” ผมเดินไปยืนรับลมตรงระเบียงเพราะมันร้อนมากกกกกกก...                                     

“ตอนนี้พี่นุยังไม่รู้จักผมหรอกครับ...แต่เดี๋ยวเราก็คงรู้จักกัน...”  ฟังแล้วก็งง...ใครอำผมหรือป่าววะ....                     

“แล้วได้เบอร์พี่มาได้ไงเนี่ย...”                                                                    

“มันไม่สำคัญหรอกครับว่าผมได้เบอร์พี่นุมายังไง...แต่มันสำคัญตรงที่ผมอยากรู้จักพี่นุมากกว่า...พี่นุจะว่าอะไรมั้ยครับถ้าผมจะขอโทรมาหา..โทรมาคุยกับพี่นุบ้าง...”  ฟังแล้วก็งงคูณสอง                                 

“เอ่อ...แล้วเราชื่ออะไรเนี่ย...มีที่มายังไงเล่ามา...ถ้าคิดจะคุยกัน...”  ผมยื่นขอเสนอ อีกฝ่ายที่ฟังอยู่หัวเราะคิกคัก                 

“แหม!รอบคอบจังนะครับพี่นุ...ผมยืนยันเลยว่าผมไม่มีเจตนาร้ายแอบแฝง...ผมชื่อธีร์ครับ...เรียนอยู่นิเทศฯปี 1”       

“แล้วนึกยังไงโทรมาคุย...”                                                                         

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ..ก็แค่ชอบ...ไม่ได้มีเหตุผลอื่น..”  โห...เล่นกันตรงๆอย่างนี้เลยเหรอวะ...                                

“เหอๆ...ตรงดีเนอะ...หึหึ..”  ผมเริ่มไปต่อไม่ถูกละ                                                            

“ก็ตรงๆนี่แหละครับ..ผมไม่ชอบอ้อมค้อม...พี่นุคงไม่ว่าอะไรผมนะครับที่พูดตรงแบบนี้....”                                                 

“อืมม..ไม่หรอก...มีคนชอบก็ดีกว่ามีคนเกลียดไม่ใช่เหรอ...”  เอาไงต่อดีอ่ะ...                                                      

“พี่นุไม่มีอะไรจะถามผมแล้วเหรอครับ...อยากรู้อะไรก็ถามผมได้นะ...”                                       

“อืมม...อ๋อ..นึกออกแล้ว...เราเคยเห็นพี่แล้วเหรอ...”                                                                                         

“เคยสิครับ..ไม่งั้นจะชอบได้ไง....”                                                   

“ที่ไหนอ่ะ...”                                                                            

“วันนั้นพี่นุไปดูหนังกับเพิ่อนใช่มั้ยครับ....แล้วพี่นุก็ไปเที่ยวต่อที่ The voice”                                              

“เฮ้ย...เรารู้...แอบสะกดรอยตามพี่หรือเปล่าเนี่ย...”                                                            

“ไม่หรอกครับ....มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า...วันนั้นที่ The voice พี่นุเองยังมองมาทางผมอยู่เลยเพียงแต่พี่นุอาจจะไม่ได้สังเกตว่ามีใครแอบมองอยู่...”                                                              

“อืมม..เหรอ...บังเอิญดีเนอะ...ไม่รู้จะถามอะไรแล้วอ่ะ..ไว้ถ้านึกออกจะเป็นฝ่ายโทรไปถามเองดีมั้ย..”                             

“ยินดีครับพี่นุ...ความจริงแล้ววันนี้ผมอยากเข้าไปหาพี่นุที่หอด้วยซ้ำ...อยากเห็นหน้าพี่นุใจจะขาด...แต่มันคงไม่เหมาะเพราะเราเพิ่งจะได้คุยกัน....จริงๆเมื่อวันก่อนผมก็เข้าไปหาพี่นุที่คณะนะครับ...แต่พี่นุยังไม่มาผมก็เลยกลับก่อน...แต่ว่าแค่พี่นุคุยกับผมขนาดนี้ผมก็ดีใจแย่แล้วนะครับ...ที่อย่างน้อย...พี่นุก็ไม่ได้รังเกลียดผม...”  ธีร์พูดจนผมอดอมยิ้มไม่ได้... จะเกลียดได้ไงฟะหน้าเจ้าธีร์ผมก็ยังไม่เคยเห็นเลย                                                      

“ไม่เป็นไรหรอก...ถ้ามาดีพี่ก็คุยด้วยได้หมดแหละ...แต่คุยแล้วอย่าโกหกกันก็แล้วกัน...มีอะไรก็บอกตรงๆไม่ต้องปิดบัง...ถ้าคิดจะคุยกันแล้วอ่ะ..”                                                             

“แน่นอนครับ...ผมไม่มีอะไรปิดบังพี่นุอยู่แล้ว...ขอบคุณมากครับสำหรับวันนี้...ผมคิดถึงพี่นุนะครับ...” พูดเสร็จเจ้าธีร์ก็วางสาย...ผมวางโทรศัพท์แล้วก็ยังมานั่งงงๆอยู่ว่า...คือใครวะเจ้าธีร์เนี่ย...แต่ช่างเหอะเค้ามาดีก็คุยดีไว้ก่อนละกัน...






“ไอ้นุ...โทรศัพท์เป็นห่าอะไรเนี่ย..สายไม่เคยว่างเลย...ชั้นนั่งกดมาเป็นชาติแล้วเนี่ย...แกรีบมาที่คณะเดี๋ยวนี้เลย...โรงเรียนที่เราเลือกฝึกสอนมีปัญหาว่ะ...แกรีบมาเร็วๆเลยนะ...” นัทตี้ใส่เป็นชุดหลังจากผมกดรับโทรศัพท์อีกครั้งนึง   

“เออๆพอดีแม่โทรมาว่ะ...รู้แล้ว...เดี๋ยวรีบไปเลยเนี่ย...พวกแกอยู่ที่คณะนะ..โอเคๆ..” ผมวางสายแล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพุ่งตรงไปที่คณะเร็วจี๋เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนนัทตี้มันว๊ากเอาอีก...อีกสิบห้านาทีผมก็มาถึง

“มีอะไรวะ...ตกอกตกใจหมด...” ผมบ่น  นัทตี้ดึงผมมานั่งที่ระเบียงหน้าห้องของอาจารย์ที่ปรึกษา

“ก็โรงเรียนที่พวกเราเลือกไปฝึกสอนเนี่ย...มันเต็มว่ะ...อาจารย์เค้าอยากให้ไปอีกทีนึง...” นัทตี้บอก

“ไปที่ไหนวะ...เฮ้ย..ถ้ากันดารไม่ไปนะเว้ย....”  ผมบอกแล้วนัทตี้มันก็ชี้ไปที่อาคารเก่าๆสี่ชั้นที่ตั้งอยู่หลังคณะ

“อาจจารย์เค้าจะให้ไปที่นั่นอ่ะ...” ผมมองตามที่นัทตี้มันชี้ไปแล้วก็เหวอเลย

“โรงเรียนสาธิตเนี่ยนะ...ไม่ไหวม้าง” ผมร้องเสียงดัง                  

“ไม่ไหวก็ต้องไหวอ่ะ...ชั้นเซ็นชื่อไปแล้ว...เหลือแกอ่ะไอ้นุ...เข้าไปเซ็นเลย..”  ไอ้นัทตี้พูดแล้วดึงผมลุกขึ้นดันหลังผมให้เข้าไปในห้องอาจารย์...เฮ้อ...จะไหวมั้ยเนี่ย...นุเอ๊ยยยยย....



   กว่าจะทำธุระเรื่องโรงเรียนที่ต้องฝึกสอนเสร็จก็สี่โมงเย็นพอดี...ผมกับไอ้นัทตี้และเพื่อนๆคนอื่นในเอกอีก   5-6 คนก็แยกย้ายกันกลับ...ผมเดินไปที่รถไขกุญแจแล้วเตรียมสตารท์แต่มันก็เงียบกริบ...

“เฮ้ย..เป็นไรอ่ะ...” ผมบอกกับตัวเองแล้วลองสตารท์ดูอีกทีมันก็ยังไม่ติด...เปิดถังน้ำมันดู...น้ำมันก็มีนี่หว่า...โธ่เว้ยยย
ต้องจูงอีกแล้วเหรอวะ...นึกแล้วก็หัวเสีย...หงุดหงิดเรื่องโรงเรียนแล้วยังต้องมาหงุดหงิดเรื่องรถเสียอีก...วันนี้มันวันอะไรวะ...ผมถอนใจเฮือกใหญ่แล้วก็จูงรถคนเก่งออกไปร้านซ่อมหลังมอ...เวลาขี่ผ่านหลังมอเหมือนร้านมันอยู่ใกล้นิดเดียวแต่เวลาจูงไปเหมือนมันไกลจังเลยวะ...จูงไปก็บ่นไป...ปิ๊นๆ....เสียงแตรรถใครมาดังอยู่ด้านหลังวะไม่เห็นรึไงว่าคนรถเสียเนี่ย...ผมหันไปมองก็เจอรถซีอาร์วีสีดำจอดอยู่ด้านหลัง...มีน้องผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเปิดประตูลงมา...ไม่ใช่หน้าตาดีสิ...หน้าตาหล่อเลยต่างหากเดินเข้ามาหาผม...ผมก็ใครวะ...ไม่เคยเห็นหน้า

“รถเป็นอะไรอ่ะครับ...รถเสียเหรอ..”  น้องคนนั้นเดินเข้ามาถามใกล้ๆแล้วนั่งยองๆก้มดูใต้ท้องรถ

“อืมมม...ไม่รู้มันเป็นอะไรเหมือนกัน...เมื่อกี้ก็ขี่มาดีๆ...” ผมบอก

“งั้นเดี๋ยวผมช่วยจูงไปละกันครับ...ผมเห็นพี่จูงมาไกลแล้ว..” น้องคนนั้นบอกแล้วคว้ารถผมจูงเดินต่อไป...ผมเห็นพี่จูงมาไกลแล้ว...มันหมายความว่าไงวะ...

“เอ่อ..ไม่เป็นไรหรอกครับร้านแค่นี้เองเดี๋ยวจูงไปเองดีกว่า...” ผมทำท่าเข้าไปจะจูงเองแต่น้องเค้าก็ยังจูงต่อผมก็เดินตาม

“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่นุ..เดี๋ยวผมจูงให้...” ห๊า...ไม่เป็นไรหรอกครับพี่นุ...น้องคนนี้มันรู้จักชื่อผม...รู้ได้ไงวะ...จะว่าไปเสียงนี้มันก็คุ้นๆนะ...หรือว่าน้องคนนี้จะเป็น....ผมเลยลองตัดสินใจเรียกดู..เป็นไงเป็นกันวะ

“ธีร์เหรอ?...ใช่หรือเปล่า??...” ผมถาม  คนที่จูงรถตรงหน้าผมหยุดกึกเลย....แล้วหันมาทำหน้ายิ้มๆ

“แหม!ผมไม่น่าพลาดเรียกชื่อพี่นุเลย...พี่นุก็เลยรู้หมดเลย...” ธีร์เกาหัวเขินๆ ผมก็..เฮ้อ..โล่งอกที่ใช่...จะว่าไปไอ้ธีร์นี่ก็หล่อดีนี่นา...อย่างธีร์มันไม่น่าจะมาชอบผมนะเนี่ย...พอรู้ว่าคนตรงหน้าคือคนที่โทรมาบอกว่าชอบผมก็เริ่มไปต่อไม่ถูกอีกแล้วเหมือนเดิม...ผมเดินตามเจ้าธีร์ไปจนถึงร้านซ่อมรถ..ระยะทางก็ทำให้เจ้าธีร์เหงื่อตกได้เหมือนกันแฮะ...เจ้าธีร์เอาแขนเสื้อซับเหงื่อที่หยดติ๋งๆ...ผมเลยส่งผ้าเช็ดหน้าให้เพราะเมื่อใครมีน้ำใจให้ผมผมก็ควรจะแสดงน้ำใจเล็กๆน้อยๆกลับไปบ้างจริงมั้ยครับ...ผมส่งให้...เจ้าธีร์มันก็หันมามองงงๆยิ้มๆแล้วก็รับผ้าไปซับเหงื่อ

“ขอบคุณครับ...เดี๋ยวผมซักมาคืนนะ...” พูดแล้วยิ้มหวานเชียว

“ไม่เป็นไรหรอก...มีเยอะ....” ผมบอกแล้วหันหน้าไปมองทางอื่นเพราะเริ่มรู้สึกว่าเขินๆยังไงไม่รู้





“โห..น้อง...เครื่องมันน๊อกไปเลยเนี่ยวันนี้คงไม่ทันหรอกเพราะพี่ต้องรื้อเครื่องหมดเลย...น่าจะเสร็จพรุ่งนี้เย็นๆแหละ”ช่างเดินออกมาบอก

“พรุ่งนี้เลยเหรอครับ...มันซ่อมก่อนซักนิ๊ด..ไม่ได้เลยเหรอครับ...” ผมต่อรอง

“ไม่ได้หรอกน้อง..แค่สตารท์ยังไม่ติดก็จบเลยอ่ะ...”

“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นๆผมมาดูละกัน...ธีร์ขอบคุณมากนะถ้าไม่เจอธีร์คงแย่..”  ประโยคหลังผมหันมาบอกธีร์แล้วเดินออกจากร้านซ่อมเจ้าธีร์วิ่งตามออกมา

“พี่นุ...แล้วจะกลับยังไงครับเนี่ย...”

“เดี๋ยวคงนั่งรอรถเมล์อ่ะ...ทำไงได้...”  ผมบอก     ผมเห็นเจ้าธีร์มันอึกอักๆทำท่าจะพูดอะไรซักอย่าง

“งั้น...ผมขอไปส่งพี่นุได้มั้ยครับ...จะได้ไม่ต้องรอรถเมล์...” 

“เอ่อไม่ดีม้าง...จะดีเหรอ...” ธีร์คงเห็นผมลังเลเลยพูดต่อ

“นะครับ...รับรองความปลอดภัย...” ธีร์พูดแล้วยิ้มเต็มที่...เออ..เอาวะคงไม่มีอะไรเสียหายหรอกเนอะ...ผมพยักหน้าแล้วเดินกลับไปที่รถเจ้าธีร์ที่จอดทิ้งไว้ก็ไกลจากร้านพอสมควร...ผมกับธีร์เราเดินคู่กันไปแบบเรื่อยๆไม่ได้รีบร้อนอะไร

“ไม่คิดว่าจะได้เจอพี่นุวันนี้นะครับเนี่ย...” ธีร์พูดเขินๆ

“อ้าวเหรอ...นึกว่าสะกดรอยตามมาซะอีก...” ผมแซวขำๆแต่ทำเอาเจ้าธีร์หน้าเสียเลย

“ป่าวนะครับพี่นุ...มันบังเอิญจริงๆนะ..พี่นุไม่เชื่อผมเหรอ...” ธีร์พูดแล้วทำตาละห้อย

“เฮ้ย...ล้อเล่น...อย่าคิดมาน่า....” ผมพูดแล้วเอามือผลักไหลเจ้าธีร์แบบขำๆเจ้าธีร์เองก็รับมุกเซแซ่ดๆเหมือนผมผลักแรงมากกกก....โดยไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาคนสองคู่ดูอยู่อีกฟากของถนน....



“นี่อีวุ้น...หล่อนเห็นเหมือนที่ชั้นเห็นมะ...” เดี่ยวพูดแล้วดูดไอ้ติมแจ่บๆ

“เห็นสิอีควาย...ไปไงมาไงสนิทกันได้นะสองคนนี้..” วุ้นบอกแล้วทำหน้าสงสัย

“หยอกล้อกันกระหนุงกระหนิงเชียว...”

“เค้าจะไปไหนกันนะอีเดี่ยว...แกลองเดาสิ...” วุ้นหันไปถาม

“ไม่ใช่ม่านรูดอย่างมึงละกันอีวุ้น...กูจะรู้มั้ยเนี่ย...”

“สวีทกันเหมือนแฟนกันเลยอ่ะ..ดูดิ..มีแตะไหล่กันด้วยอ่ะ...อ๊ายยย” วุ้นกรี๊ด

“ธีร์ก็หล่อ..พี่นุก็หล่อ...เฮ้ออออ...กูอยากอยู่ตรงกลางจริงๆ...” เดี่ยวพูดแล้วทำตาปิ๊งๆ

“อีเดี่ยว...แกว่าไอ้เจมส์มันจะรู้มั้ยเนี่ย...”

“รู้แล้วทำไมยะ...พี่นุไม่ได้เป็นแฟนไอ้เจมส์มันนี่...”

“อ้าว...ก็หล่อนบอกเองว่าไอ้เจมส์มันมีองค์เหมือนจะชอบพี่นุอยู่นี่...อีบ้า...พูดเองลืมเอง...”

“เออ..ใช่เว้ย...อืมม...เอาละมึง...ถ้าเป็นอย่างที่เราคิดนะ...รักสามเศร้าแน่มึง...ใครจะเป็นฝ่ายไปน๊า...”

“ไม่รู้อ่ะ...เหลือใครกูกวาดหมด...กูอิ๊บไว้ก่อน..” วุ้นหันไปบอกเดี่ยว

“มึงอิ๊บใช้มั้ย...งั้นกูอึ๊บละกัน...” เดี่ยวพูด วุ้นหันมามองหน้าแล้วตีมือกัน
“อร๊ายยยยย...เริ่ดค๊า....”




“หอพี่นุอยู่ตรงไหนอ่ะครับ...” ธีร์ถามผมหลังจากขึ้นไปนั่งบนรถแล้ว

“ขับตรงไปก่อนแล้วเลี้ยวซ้ายข้างหน้าละกัน...”

“เอ่อ...พี่นุครับ...ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมก่อนได้มั้ยอ่ะ...พอดีผมยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่กลางวันแล้ว...”

“โถ..น่าสงสารเนอะ...ก็ได้...งั้นก็ถือว่าพี่เลี้ยงขอบคุณที่ธีร์จูงรถมาให้พี่ก็แล้วกัน...”  ผมบอก

“งั้นก็ถือว่าผมเลี้ยงที่ได้เจอพี่นุจริงๆก็แล้วกัน...” ธีร์พูดสวนกลับมา...ผมหัวเราะเบาๆ

“เอาๆ...ตามใจ..ไม่เถียงแล้ว...”

“ดีแล้วครับที่ไม่เถียง....พี่นุจะได้ฟังผมอย่างเดียว...ดีมั้ยครับ..” ธีร์พูดแล้วยิ้มซะหวานเชียว...เฮ้อออ...งานเข้าซ้ำซ้อนซะแล้วผม...ผมนั่งเงียบจนมาถึงร้านอาหาร...ธีร์เลือกกินที่แพอาหารแห่งหนึ่งบรรยากาศดีมาก...เราเลือกนั่งโต๊ะริมสุด...

“ทานไรดีครับพี่นุ...” ธีร์ส่งเมนูให้ผม

“แล้วแต่ธีร์เลย...พี่ยังไงก็ได้..”

“โอเค..ครับผม...” ธีร์รับเมนูกลับไปเปิดดูแล้วสั่งอาหารมา2-3 อย่าง....ระหว่างรออาหารผมก็นั่งมองนั่งซึมซับบรรยากาศกลางแม่น้ำอะไรไปเรื่อย...ซึ่งผมก็รู้ว่าธีร์นั่งอมยิ้มมองหน้าผมอยู่

“ชอบเหรอครับพี่นุ...”

“อืมม..อากาศดีอ่ะ...ไม่ค่อยได้ลงมาบ่อยๆ” ผมตอบแต่ตาก็ยังมองแม่น้ำอยู่

“ดูแล้ว...พี่นุนี่คงกำลังเขินผมอยู่ใช่มั้ยครับ...” ธีร์ถาม...น่าน..รู้ทันอีก

“เขินอะไร๊...ป่าวววว...มีอะไรให้เขินอ่ะ...” ผมหันหน้ามาแต่ตายังเผลอมองไปที่อื่นอยู่

“ถ้าไม่เขิน...แล้วทำไมพี่นุต้องหลบตาผมอ่ะครับ...”  ธีร์มันต้อนผมไปถึงไหนวะเนี่ย

“ไม่ได้หล๊บบบบบบบบ...”

“อ๊ะ..ไม่หลบก็ไม่หลบ...ผมก็นึกว่าพี่นุจะเขินผมซะอีก..ที่คนที่บอกชอบพี่นุมานั่งอยู่ตรงหน้า...ผมก็เลยนึกว่าพี่นุจะเขินผม...แต่ก็ดีแล้วครับที่ไม่เขิน...อ้าว..อาหารมาแล้ว...” บ๋อยเอาอาหารมาเสริฟ์เหมือนระฆังดังช่วยชีวิตผมพอดี...เราต่างก็นั่งเงียบทานอาหารกันไปเรื่อยๆซึ่งธีร์ก็ตักอาหารให้ผมตลอด

“ขอบคุณนะครับพี่นุ..ที่ยอมมาทานข้าวกับผม...” ธีร์พูดเสียงนุ่มหลังจากทานข้าวเสร็จแล้วรอเช็กบิล....ผมได้แต่ยิ้มรับ..เพราะไม่รู้จะพูดยังไงดีนี่หว่า

“แล้วพรุ่งนี้พี่นุ..จะมาเรียนยังไงอ่ะครับรถก็ยังซ่อมไม่เสร็จ...” ธีร์ถาม...ผมก็เพิ่งนึกออก..กรูจะมายังไงวะ

“เออ..จริงดิ...ลืมสนิทเลย...”

“งั้นตอนเช้าผมมารับพี่นุที่หอนะครับ...แล้วตอนเย็นผมจะพาพี่นุมาเอารถเอง...”

“เฮ้ย...ไม่เป็นไรหรอก..เดี๋ยวพี่มากับเพื่อนก็ได้...”

“นะครับ...พี่นุอย่าปฏิเสธผมเลย...” ธีร์มองผมตาเชื่อมเชียว...ไอ้ผมรึมันก็เป็นคนใจอ่อนปฏิเสธคนไม่ค่อยเป็นซะด้วย

“ตามใจแล้วกัน...ถ้าไม่กลัวไปเรียนสายอ่ะ...ย้อนไปย้อนมา...”  ผมบอก  ธีร์จ่ายเงินแล้วขับรถมาส่งผมที่หอ

“ขอบคุณมากนะธีร์...” ผมหันมาลาแล้วเปิดประตูรถลงไป

“ฝันดีนะครับพี่นุ...เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมมา...” ธีร์ชะโงกหน้ามาบอก  ผมโบกมือบ๊ายบายแล้วหันหลังเดินเข้าไปในหอ

“ฝันถึงผมด้วยนะครับพี่นุ....ของผม...” ธีร์พูดแล้วยิ้มกับตัวเองแล้วขับรถออกไป.....






“ไอ้เชี่ยธีร์..มึงปิดโทรศัพท์ทำไมวะ...กูโทรหามึงตั้งแต่เย็นแล้วเนี่ย...” แบงค์โวยวายหลังจากธีร์กดรับ

“ก็กูกำลังติดภารกิจเว้ย...”

“ภารกิจอะไรของมึงวะ...นั่นแน่..น้ำเสียงมีความสุข...มึงไปทำอะไรมาบอกกูมาบัดเดี๋ยวนี้...”

“กูไปกินข้าวกับพี่นุมา....”  ธีร์พูด  แบงค์ขำก๊ากๆๆๆ

“มึงเนี่ยนะไปกินข้าวกับพี่นุมา...จะให้กูเชื่อเหรอวะ...หน้าพี่เค้าตั้งแต่วันนั้นแล้วมึงก็ยังไม่เคยได้เจออีกเลยแล้วมึงจะไปกินข้าวกับพี่เค้าได้ไงวะ...”

“มึงหาว่ากูโกหกว่างั้น??....”

“ป่าว...ก็แค่งงอ่ะ...ไม่มีประเด็นที่มึงจะได้ไปกินข้าวกับพี่เค้าอ่ะ...กูนึกไม่ออกว่ะ..”

“ก็เมื่อสายๆ...กูโทรไปหาพี่นุ...”

“อ่ะ..จริงดิ..”

“อืมม...เราก็คุยกัน...กูก็เลยบอก..ว่ากูอ่ะชอบพี่เค้า...”

“ว๊าววววว....จริงเหรอวะ...แล้วพี่เค้าว่าไง...เค้าด่ามึงมั้ย??”

“พี่นุไม่ด่าว่ะ...แต่ก็ไม่ได้ว่าไง...แค่นี้ก็รู้แล้วว่าพี่นุไม่ได้รังเกลียดกูอ่ะ...”

“โห...แม่ง...เจ๋งว่ะ...”

“แล้วเมื่อเย็นกูขับรถไปหลังมอ...กูเห็นพี่เค้าจูงรถอยู่...รถเสียอ่ะ...กูก็เลยลงไปช่วยแล้วก็เลยชวนเค้าไปกินข้าว...”

“แม่ง...นับถือว่ะไอ้ธีร์...แล้วมึงจะทำไงต่อ...”

“พรุ่งนี้เช้ากูจะไปรับพี่นุเค้าไปเรียนแล้วตอนเย็นกูก็ไปรับพี่เค้าไปเอารถ...”

“ซู๊ดยอดดดดดดดด....เพื่อนกู...นี่ๆมึงเอางี้ดิ...มึงก็ไปเตี๊ยมกับที่ร้านไง...ให้เค้าซ่อมรถพี่นุนานๆดิมึงจะได้มีโอกาสไปรับส่งพี่นุเค้าทุกวันไง๊...”

“เอ๊อออ...ไอเดียร์เจ๋งนี่หว่า...ขอบใจเว้ย...”

“เออน่า...ได้แล้วอย่าลืมแบ่งกูมั่งละกันพี่นุอ่ะ...”

“ไอ้ห่า...ห้ามยุ่งเลยนะมึงคนนี้อ่ะ...”

“อะไรวะ...ทีเมื่อก่อนมึงมีอะไรยังแบ่งกูเลยอ่ะ..ลืมแล้วเหรอ?...เหอๆๆ...”

“ก็บอกแล้ว...คนนี้กูรักจริง...”

“หวังฟัน...”

“หวังแต่งเว้ย....”

“ค๊าบบบบ....เชื่อแล้ว...ไม่ต้องทำเสียงดุกูก็ได้...”  แบงค์พูดแล้ววางสาย

“ท่าทางจะเป็นเอามากเว้ยเพื่อนกู...” แบงค์พูดแล้วขำหึๆ   ธีร์นั่งพิมพ์ SMS แล้วส่งไปยังหมายเลขที่คิดถึง

“ฝันถึงผมด้วยนะครับพี่นุ....ของผม...จากธีร์....พี่ไปเป็นของแกตั้งแต่เมื่อไหร่วะธีร์เอ้ยยย..”  ผมอ่านตาม SMS ที่ได้รับเมื่อกี้...อ่านแล้วก็รู้สึกดีอย่างประหลาด...ผมบ่นแล้วเอนหลังลงบนที่นอนพิมพ์ SMS แล้วส่งกลับไปเบอร์เดิมที่ส่งมา

“ฝันดีด้วยแล้วกัน...ไม่รู้จะบอกอะไร..หุหุ...จากพี่นุ...” ธีร์นอนอ่าน SMS แล้วยิ้มอย่างมีความสุข

“ไม่รู้จะบอกอะไรแต่ก็ยังส่งมาได้อีกเนอะพี่นุนี่...” ธีร์ยิ้มแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างๆหมอนแล้วหลับตา

“ผมจะไปหาพี่ในความฝันแล้วนะครับพี่นุ...”
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 24-04-2017 23:03:26
เอ๊ะยังไง พี่นุแลดูเทไปทางธีร์ ว่าแต่ธีร์นี่...เป็นคนดีรึเปล่า???   :hao4:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 25-04-2017 11:29:58
ตอนที่  8_หึงหวงกับห่วงหา...


“อรุณสวัสดิ์ครับ เชิญขึ้นราชรถได้เลยครับ” ธีร์เดินเข้ามาใกล้  เช้าวันนี้ธีร์อยู่ในชุดนักศึกษาแบบเข้ารูปดูแล้วท่าทางไฮโซไม่เบา...เฮ้อ...เอาวะ..อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องยืนขาแข็งรอรถเมล์หน้าหอแหละวะ...
“ปกติมีเรียนเช้าแบบนี้เลยเหรอ..”  ผมหันไปถามขณะติดไฟแดง
“ไม่เลยครับ...แต่ผมอยากเจอพี่นุผมเลยต้องตื่นเช้าให้ได้ไง....”
“โห...จะรู้สึกดีดีมั้ยเนี่ย...” ผมพูดแล้วหันออกไปนอกรถ  ธีร์จอดรถส่งผมที่หน้าคณะ  ผมสะพายกระเป๋าแล้วหยิบหนังสือลงจากรถ
“เดี๋ยวตอนเย็นผมมารับพาไปเอารถนะครับพี่นุ...”  ธีร์บอก...ผมกำลังจะอ้าปากพูดว่าไม่ต้องก็ได้แต่เจ้าธีร์ก็ปิดกระจกแล้วขับรถออกไปเร็วจี๋....ผมเดินขึ้นตึกมาในห้องเรียน..เพื่อนคนอื่นก็คุยอะไรไปตามระเบียบ......ไอ้นัทตี้กะโอเล่เดินอมยิ้มเข้ามาในห้อง แกล้งกระแอมดังๆ
“ใคร....”  นัทตี้เปิดฉากถาม
“ใคร อะไรเหรอ...”  ผมตอบพร้อมทำหน้างงๆ
“อย่ามาทำไก๋ ใครมาส่ง บอกมาซะดีๆ เขาอยากรู้กัน”  โอเล่ถาม
“อ๋อ มิน่าล่ะ ตอนเดินเข้ามาทำหน้ากันแปลกๆ” ผมคิดในใจ...ทีกูมาเองทุกวันไม่ยักกะมีใครสนแต่วันนี้เจือกสนกันขึ้นมาเชียว...เพื่อนผมแต่ละคน
“เร็วๆอย่าลีลาว่ะไอ้นุ...” นัทตี้ท้าวเอว
“นี่สงสัยคงเกาะหน้าต่างแอบดูกันเป็นแถวเลยเหรอวะ...” ผมพูด
“เปล่า ชั้นเห็นก่อน....ยัยพจน์กับไอ้กิ๊กรีบเข้ามาดูด้วยแล้วโอเล่ก็เลยหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูป” นัทตี้เล่าเป็นฉากๆ
“บ้าเหรอ ถ่ายรูปด้วยเหรอ บ้ากันไปใหญ่แล้ว” ผมขึ้นเสียง  ไอ้นัทตี้กะไอ้โอเล่หัวเราะแล้วแตะไหล่ผมเบาๆ
“ชั้นล้อเล่นเว้ย....ว่าแต่...ใครกันอ่ะ...” โอเล่ถามคะยั้นคะยอจะเอาความจริง
“เพื่อนมาส่ง...” ผมพึมพำเบาๆ
“เพื่อนคนไหน ชั้นรู้จักไหม” ไอ้นัทตี้ยังไม่ยอมเลิกรา
“ก็เพื่อนเราน่ะ....แกไม่รู้จักหรอก”
“เพื่อนหรือพี่น้องท้องติดหลัง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” โอเล่ล้อทะลึ่งๆ หัวเราะชอบใจ
“บ้าน่า...กวนตีนแล้วแก 2 คนอ่ะ…สัปดน” ผมส่ายหน้า อดหัวเราะกับสมมุติฐานของโอเล่ไม่ได้
“ขำอะไรกันแต่เช้าจ๊าเพื่อนฝูง...” เสียงไอ้กิ๋วทักทายมาแต่ไกล
“นินทาแกอยู่นี่แหละไอ้กิ๋ว....”  ไอ้นัทตี้หันไปบอกแล้วเดินกลับไปนั่งที่...ไอ้กิ๋วนั่งเก้าอี้ข้างๆผม
“วันก่อนหายไปไหนวะไอ้นุ...ทำไมไม่มาซ้อมหลีดให้น้องว่ะ...พวกมันก็รอกัน...” ไอ้กิ๋วหันมาถามผม
“เอ่อออ....วันก่อนกู..กู...” ตอบว่าไรดีว๊า
“กู...กูทำไมล่ะไอ้นุ...มึงติดขัดตรงไหนเนี่ย...อึกๆอักๆอยู่ได้” ไอ้กิ๋วพูด
“ก็กู...กูปวดหัว...แล้วก็ปวดแขนด้วย...มึงก้อ..กูไม่ไปมันก็ซ้อมกันได้นี่หว่า...”
“แน่นะ...ไม่ได้มีเหตุผลอื่นนะเว้ย..ไม่มีอะไรปิดบังกันแน่นะ...”
“เอ๊ออออ....”  ถามอยู่ได้...จะให้ผมบอกได้ไงวะว่าที่ไม่ไปเพราะผมไม่พร้อมจะเจอไอ้เจมส์ที่มันมาสารภาพรักผมอ่ะ




“เฮ้ยนุ...เย็นนี้ห้ามเบี้ยวนะเว้ย...มาซ้อมให้น้องมันด้วยวันก่อนไอ้ปอยกับไอ้อิ่มแทบอ๊วกเลย...มึงไม่มาน้องมันไม่ค่อยฟังว่ะ...แต่ละตัวกวนตีนทั้งนั้น...”  ไอ้กิ๋วบอกผมตอนเรียนวิชาตอนบ่ายเสร็จ
“เออ...รู้แล้วเดี๋ยวกูต้องแวะไปดูรถที่ร้านก่อนว่ะ...ไม่รู้เสร็จรึยัง”
“อ้าว...รถเสียเหรอ...แล้วมายังไงวะเมื่อเช้า...” ไอ้กิ๋วถาม  ผมยังไม่ทันตอบก็มีเสียงบีบแตรดัง  ผมกับไอ้กิ๋วหันไปดู...อ้าว...รถเจ้าธีร์นี่หว่า...รู้ได้ไงวะว่าผมเรียนเสร็จแล้วอุตส่าห์จะรีบหนีไปเอารถเองซะหน่อย...ผมกับไอ้กิ๋วหยุดยืนอยู่ที่บันได..เจ้าธีร์เปิดประตูรถเดินลงมาหา
“นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้วนะครับพี่นุ...”  ธีร์เดินมายืนตรงหน้ายกมือไหว้ไอ้กิ๋ว ไอ้กิ๋วก็รับไหว้งงๆ
“รู้ได้ไงว่าพี่เลิกตอนนี้อ่ะ..”
“ผมรู้ก็แล้วกันครับ...อะไรที่เกี่ยวกับพี่นุผมต้องรู้ให้หมด...” ธีร์พูดแล้วยิ้มยื่นมือมาดึงหนังสือผมไปช่วยถือ
“อะแฮ่มมมม...” ไอ้กิ๋วทำท่าไอขัดจังหวะขึ้นมา
“ไอ้นุงั้นกูไม่รอคำตอบที่ถามไว้จากมึงละ...เหอๆๆ...” ไอ้กิ๋วพูดให้คิดแล้วเดินผิวปากไปสบายใจเฉิบ
“ไปดูรถกันเลยนะครับพี่นุ...” ธีร์ถาม  ผมพยักหน้ารับเดินตามขึ้นรถไปอย่างไม่มีทางเลือก...เฮ้อ..ชีวิต..





“อะไรนะพี่...ยังไม่เสร็จ...อะไหล่ไม่มี...สั่งแล้วยังไม่มาเหรอ...แล้วทำไงอ่ะพี่ผมต้องใช้รถด้วยอ่ะ...” ผมยืนโวยวายกับเจ้าของร้านซ่อมรถโดยที่ไม่ทันสังเกตว่าไอ้ตัวแสบเจ้าของแผนการยืนอมยิ้มอยู่ด้านหลัง
“ก็อะไหล่มันไม่มีนี่น้อง...นี่พี่ก็สั่งอะไหล่ไปแล้วน่าจะภายใน 2-3 วันก็คงมา..”  เจ้าของร้านบอก  ธีร์พยักหน้าเห็นด้วย
“ก็แปลว่ากว่าผมจะได้ใช้รถก็คืออาทิตย์หน้า...”  ผมสรุปแล้วถอนใจเฮือกใหญ่...แล้วเดินออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“พี่นุ...รอผมด้วย...” ธีร์วิ่งตามออกมา
“อะไรวะร้านบ้าบอ...ย้ายร้านซะดีมั้ยเนี่ย...”  ผมบ่น
“ย้ายไม่ได้หรอกพี่นุ...เค้าสั่งอะไหล่ไปแล้วอ่ะครับ...”
“ก็นั่นดิ...อาทิตย์นี้พี่ก็ไม่อยู่ด้วย...เฮ้อ...วุ่นวายว่ะ...”
“แล้วพี่นุจะไปไหนมาไหนยังไงละครับทีนี้...”  ธีร์ถาม  ผมถอนใจอีกครั้ง...ผมก็กำลังคิดถึงปัญหานี้นี่แหละ
“ก็นั่นดิ...” ผมยังคงตอบเหมือนเดิม
“งั้นผมขอทำหน้าที่ต่อได้มั้ยครับ...”  ผมหันไปมองหน้าธีร์แล้วขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“หน้าที่...????”
“ครับ...หน้าที่รับส่งพี่นุไง...นะครับ...”
“เอางั้นเลยเหรอธีร์...ไม่ไหวมั้ง..ไม่ดีมั้งพี่เกรงใจเราอ่ะ...มันอีกตั้งหลายวัน..” ผมพยายามบ่ายเบี่ยง
“นะครับพี่นุ...อย่าปฏิเสธผมเลยนะ...” ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ...อย่าปฏิเสธผมเลย...ประโยคนี้อีกแล้วในช่วงเวลาไม่กี่วันมานี้ผมได้ยินคนพูดประโยคนี้กับผมหลายครั้งเลยนะเนี่ย...จะต่างกันก็แค่คนที่พูดก็เท่านั้น
“ขอพี่คิดดูก่อนก็แล้วกันนะธีร์...คนเพิ่งรู้จักกัน..รบกวนมากๆพี่ไม่ค่อยสบายใจอ่ะ...” ผมพูดไปแบบไม่ได้คิดอะไรแต่มันก็ทำให้แววตาธีร์สลดลงทันที
“คนเพิ่งรู้จักกัน...”  ธีร์พูดทวนประโยคที่ผมพูดไปแล้วเม้มปากก้มหน้านิ่งเลย...ผมก็..เฮ้ย..กูพูดไรผิดป่าววะ...
“เฮ้ย..ไม่ใช่อย่างนั้นนะธีร์..คือว่าพี่...ยังไงดีอ่ะ...เออ...พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้นอย่าแปลเจตนาพี่ผิดสิว๊า...”

“ไม่เป็นไรครับพี่นุ...ผมเข้าใจ..ถึงยังไงมันก็เป็นความจริงที่เรา...เพิ่งรู้จักกัน...”  ธีร์พูด...ไปใหญ่แล้วทีนี้
“อืมมม...ก็ได้...มารับก็มารับ...”  ผมตัดสินใจพูดออกไป...ธีร์เงยหน้ามองแบบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้จริง...
“อะไรนะครับพี่นุ...จริงๆเหรอ...”
“อืมม...แต่ถ้ามาสายพี่ไม่รอนะเว้ย...แน่ใจนะว่าตื่นทันอ่ะ...”
“ทันครับทันแน่นอน...แล้วนี่พี่นุจะไปไหนต่ออ่ะครับ...”  ธีร์ถามแววตาเปลี่ยนจากเมื่อกี้เป็นคนละคนเลยลิงโลดเต็มที่
“ก็ต้องเข้าไปที่หน้าคณะอ่ะ...ไปดูเค้าซ้อมหลีด...”
“เลิกกี่ทุ่มอ่ะครับ...ผมจะได้เข้ามารับหรือว่าจะให้ผมนั่งรอดี..”
“เฮ้ยไม่ต้องหรอก...เรามีธุระอะไรก็ไปทำเหอะ...เดี๋ยวพี่กลับกะไอ้กิ๋วก็ได้...”  ผมบอก  ธีร์ไม่ตอบเอาแต่ยิ้มอยู่นั่นแหละ






“พี่กิ๋ววันนี้พี่นุจะมาป่าว...”  เจมส์ถามไอ้กิ๋วตอนที่นั่งรอซ้อมอยู่ที่หน้าคณะ...ไอ้กิ๋วหยิบหมูปิ้งใส่ปากแล้วตามด้วย   ข้าวเหนียวอีกหนึ่งปั้นก่อนจะตอบ
“อี้-ออก-อัน-แอ้ว-อ้า-ไอ้-อัน-อา-อ้อม-อ้วย...”  ไอ้กิ๋วตอบไม่ชัดเพราะหมูเต็มปาก
“พี่กิ๋วเค้าบอกว่า...พี่บอกมันแล้วว่าให้มันมาซ้อมด้วย...ใช่มั้ยพี่กิ๋ว...” ไอ้เต๊ะแปลแล้วหันไปถาม
“ถะถะถะถูกต้องน๊าค๊าบ...” ไอ้กิ๋วตอบ
“ไม่เห็นพี่นุมาซักที...”  เจมส์ยังถามต่อแล้วชะเง้อมองเป็นระยะๆ
“มันไปดูรถมันมั้ง...ก็รถมันเสียอ่ะ...” ไอ้กิ๋วพูด
“อ้าว..พี่นุรถเสียเหรอ..ทำไมผมไม่เห็นรู้...”  เจมส์พูดแบบงงๆ
“แล้วทำไมมึงจะต้องรู้ด้วยวะไอ้เจมส์..มึงจะซ่อมให้พี่เค้าเหรอวะ...” เต๊ะพูดขัดขึ้นมา
“อ๋อ...มันกลัวไม่มีรถกลับบ้านอ่ะดิ๊...” ไอ้หนึ่งพูดขึ้นมาบ้างหลังจากเงียบอยู่นาน
“กูว่าไม่ใช่หรอกมั้งเจมส์..เนอะ..ใช่ป่าว..” ไอ้กิ๋วพูดแล้วเหล่ตามองไอ้เจมส์จนต้องหลบตา
“เฮ้ย..รถใครวะ...” ไอ้เต๊ะพูดแล้วชี้นิ้ว  ทุกคนหันไปมองตามที่ไอ้เต๊ะมันชี้
“รถกิ๊กไอ้นุมัน...” ไอ้กิ๋วพูด  เจมส์หันมามองหน้าไอ้กิ๋วแล้วหันกลับไปมองเหมือนเดิม
“อ้าวพี่นุเหรอวะ...มารถใครวะเนี่ย...” ไอ้เต๊ะพูด....





“ซ้อมเสร็จแล้วโทรหาผมนะพี่นุ...”  ธีร์ยื่นหน้ามาบอกแล้วขับรถออกไป...พอเห็นผมหันมาไอ้พวกตัวแสบทั้งหลายที่นั่งมองผมอยู่ก็หันควับกลับไปอยู่ในท่าเดิมกันเป็นแถว...ผมเดินเข้าไปทักทายทุกคนตามปกติซึ่งทุกคนก็ปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจะเว้นก็แต่ไอ้เจมส์นี่แหละที่นั่งก้มหน้าก้มตาแต่แอบเหลือบขึ้นมามองผมตาขวางใส่เป็นระยะๆ
“อุ้ยตายแล้ว...วันนี้หล่อนว่าจะเกิดศึกชิงนายมั้ยค๊าอีเดี่ยว...” วุ้นถามหลังจากนั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากอีกมุมนึง
“มีแน่ค่ะ..เดี๊ยนคอนเฟิร์ม..” เดี่ยวพูดแล้วยกมือทำท่าโอเค...
“หล่อนว่า..วันนี้ไอ้เจมส์จะน๊อตหลุดมั้ยยะ..” วุ้นถาม  เดี่ยวกอดอกทำท่าครุ่นคิด
“ไอ้เจมส์ด้วยอ่ะ...พันเปอร์เซ็นต์ค่ะ...มันต้องหึงพี่นุแน่นอน...ฟังธ๊งงง...”
“อุ้ย..แล้วเรื่องนี้มันจะเป็นยังไงต่อไปละคะคุณเดซี่...วิกกี้อยากรู๊อยากรู้...” วุ้นทำเสียงตื่นเต้น
“เรื่องแบบนี้ก็ต้องติดตามตอนต่อไปซิค๊า....หุหุหุ...” เดี่ยวพูดแล้วเอามือปิดปากหัวเราะแบบผู้ดีอังกฤษ...เหอๆๆ
“เอ๊าาา...เข้าที่ได้แล้วค่าาาา.....ใครช้าห้ารอบสนาม...” อิ่มตะโกนเรียก..ทำเอาน้องแต่ละคนวิ่งกันหูดับตับไหม้...เย็นวันนั้นเราซ้อมกันค่อนข้างหนักเพราะต้องต่อท่าเต้นใหม่ๆ...ไหนจะต้องซ้อมต่อตัวอีก...เพลงก็ยังเหลืออีกตั้งครึ่งเพลงที่ต้องใส่ท่าเต้น..เฮ้อ....เหนื่อยโคตรๆ
“เฮ้ย..กิ๋ว...จะไปกันศุกร์นี้อยู่แล้วทุกอย่างเรียบร้อยมั้ย...รถเอย...ที่พักเอย...”  ผมถามหลังจากที่เบรกการซ้อมในช่วงแรก...
“เรียบร้อยแล้วว่ะ...ปอยกับอิ่มมันก็เก็บเงินน้องจนครบหมดแล้วเนี่ย...” ไอ้กิ๋วบอก
“เอาให้มันชัวร์นะเว้ย...เอาลูกหลานเค้าไปเยอะแบบนี้อย่าให้ผิดพลาดนาาา....”
“รับรองน่า...มือชั้นนี้แล้วชัวร์...”
“พี่นุ...ผมขอคุยอะไรด้วยหน่อยดิ...”  ไอ้เจมส์เดินเข้ามาหาผม  ผมก็มองหน้ามันแบบหวั่นๆเดาไม่ออกเลยว่ามันจะมาอารมณ์ไหนวะตอนนี้อ่ะครับ...ไอ้กิ๋วหันมองหน้าผมกับไอ้เจมส์สลับไปมาๆ...
“คุยกันตรงนี้ก็ได้...” ผมบอก
“ไม่ได้อ่ะพี่นุ...ผมขอไปคุยตรงโน้น...” ไอ้เจมส์พูดแล้วดึงแขนผมลุกขึ้นคือตอนนั้นผมนั่งเหยียดขาอยู่ที่สนามหญ้าอ่ะครับ...ไอ้เจมส์ดึงผมมาคุยที่หลังตึกที่เราซ้อมกันโดยที่ผมไม่รู้เลยว่ามีคนสอดรู้อีกสองคนตามผมไปด้วย...
“วันนี้ใครมาส่งพี่นุเหรอ??...” ไอ้เจมส์ยิงคำถามทันทีที่ปลอดคน
“อ้าว...ทำไมล่ะเจมส์...พี่จะมากับใครแล้วยังไงล่ะ...”  ผมถามบ้าง
“พี่นุยังไม่ตอบคำถามผม...”
“เฮ้ย..เจมส์...พี่เป็นพี่เรานะเว้ย...เราอยู่ปีหนึ่ง..พี่อยู่ปีสามเรามาตะคอกพี่แบบนี้เนี่ยนะ...”
“แล้วพี่นุมากับใคร...” เจมส์พยายามปรับเสียงให้นุ่มลงแบบว่าพยายามมากกกก...
“พี่จะมากับใคร...พี่ต้องคอยรายงานเจมส์ด้วยเหรอ...เจมส์ไม่ใช่เจ้าของพี่นะเราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อย”  ผมพูดบ้างเพราะเริ่มจะไม่ไหวละ...เจมส์มันคาดคั้นผมเกินไป...
“ทะเลาะกันใหญ่เลยแก...” วุ้นหันมากระซิบกระซาบตายังจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามากระพริบ
“เงียบสิอีห่าจิกนี่...กูจะฟังต่อ..” เดี่ยวพูด
“แต่พี่นุก็รู้ว่าผมรู้สึกกับพี่ยังไง...”   เจมส์พูดต่อ...ผมถอนใจเฮือกแบบอดกลั้นเต็มที่      
“พี่ว่าเราคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วเจมส์...” ผมพูดแล้วเดินหนี...ไอ้เจมส์วิ่งมาดักผมด้านหน้า
“พี่นุ...ตลอดเวลาที่ผ่านมา พี่นุไม่ชอบผมบ้างเลยหรือครับ ผมไม่ดีตรงไหน...”  เจมส์ถามด้วยสายตาตัดพ้อ
“............................”  ผมก็อึ้งเลย...ไม่รู้จะพูดยังไง
“ไอ้หมอนั่นมันเป็นใครครับ มันสำคัญกับพี่มากนักหรือพี่ถึงบอกผมไม่ได้....แล้วผม...ไม่มีที่ในใจพี่บ้างเลยเหรอ” 
“ต๊ายยย....น่าสงสารเจมส์จังเลยเนอะอีเดี่ยว....”  วุ้นทำเสียงซึ้งแล้วปาดน้ำตา
“แล้วพี่นุจะว่าไงละทีนี้....”  เดี่ยวบ่นพึมพำๆ
“เจมส์....อย่าถามอะไรตอนนี้เลย ขอเวลาพี่บ้าง”  ลมกระโชกแรงขึ้น สายฝนเริ่มโปรยปราย เจมส์ยืนนิ่ง ตาหลุบต่ำมองพื้น ปากเม้ม สองแขนที่ตกอยู่ข้างกายกำมือแน่น
“พี่นุ...เห็นใจผมบ้าง...” เจมส์เสียงอ่อน
“เจมส์...ฟังพี่นะ...เราห้ามจิตใจกันไม่ได้หรอก เราบังคับมันไม่ได้...บางครั้งจิตใจคนเรามันอยู่เหนือการควบคุม”
ผมพยายามพูดอย่างใจเย็น
“แต่ผมรักพี่นุ...ทำไมพี่นุไม่รักผมบ้าง” เจมส์เริ่มน้ำตาซึม...ขยับตัวเข้ามาใกล้
“เจมส์จะให้พี่บอกว่ายังไง...” ผมเริ่มจนปัญญา  เจมส์ขยับมือมาจับแขนผม
“อุ๊ย!....จับมือกันด้วย...”  วุ้นกับเดี่ยวอุทานขึ้นพร้อมกัน
“เจมส์อยากให้พี่พูดตอนนี้ให้ได้เลยใช่ไม๊.....อยากให้ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเหรอ...   ที่เราสนิทกันอยู่อย่างนี้ ไม่ดีหรือยังไง...  ถ้าอะไรมันเป็นไปอย่างที่ต้องการไม่ได้...จะดันทุรังทำไม...อย่าให้พี่ต้องตัดสินใจตอนนี้เลย พี่ยังไม่พร้อม”
“พี่นุ...อย่าพูดกับผมอย่างนี้สิ......นะ...” เจมส์ก้มหน้า
“พี่อยากให้เรารู้สึกดีๆ ต่อกันไปนานๆ...เจมส์อย่าเพิ่งเร่งรัดพี่เลยนะ...” ผมเองก็ยังไม่กล้าตัดขาด...ผมยังอยากถนอมจิตใจของเจมส์อยู่...พูดจบผมก็หันหลังเดินมาเลยปล่อยให้เจมส์มันใช้ความคิดอยู่กับตัวเองซักพักละกัน....



   เรียกซ้อมกันได้อีกพักใหญ่ๆ....ก็เรียกรวมแถวเพื่อที่จะปล่อยกลับบ้าน...ไอ้กิ๋วเป็นคนอธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดการเดินทางในคืนวันศุกร์นี้ว่านัดเจอกันที่ไหน...กี่ทุ่ม..เตรียมอะไรไปบ้างก็ว่าไปแล้วก็ปล่อยน้องกลับบ้าน
“เฮ้ย...กิ๋ว...ไปส่งกูที่หอหน่อยดิ...” ผมเดินไปบอกไอ้กิ๋ว...พอมันเห็นผมหน้าเครียดๆมันก็เลยไม่ถามอะไรต่อแล้วผมก็เลยเดินไปหาไอ้เต๊ะ
“เต๊ะ..วันนี้แกไปส่งไอ้เจมส์ด้วยนะ...พี่ไม่มีรถว่ะ...” ผมบอก...ไอ้เต๊ะก็พยักหน้ารับงึกงัก  ผมเดินผ่านไอ้เจมส์ไปขึ้นรถไอ้กิ๋วโดยไม่มองหน้าเจมส์มันเลยแต่ผมก็รู้ว่าเจมส์มันมองตามผมตาละห้อยเชียว...
“เฮ้ย...อย่าซีเรียสมากนะเว้ย...” ไอ้กิ๋วบอกผมตอนมาถึงหอ
“เออ...ขอบใจเว้ย...ไม่มีอะไรหรอก...ขับรถดีๆนะเว้ย...”  ผมพูดแล้วหันหลังเดินขึ้นหอ...โทรศัพท์ดัง...
“พี่นุเลิกหรือยังครับ...ผมกำลังออกไปแล้ว..” เสียงธีร์กรอกมาตามสาย...ผมเองก็ลืมไปซะสนิทเลยว่าธีร์ต้องมารับ
“เอ่อ...ธีร์...โทษทีนะพอดีพี่ลืมอ่ะ...พี่เลยกลับมากะเพื่อนถึงหอแล้วเนี่ย..” ผมบอกเสียงอ่อยๆ...ปลายสายเงียบไปพักนึง
“อ้าวเหรอครับพี่นุ...แต่ผมก็ออกมาแล้วเนี่ย...ว่าจะมารับพี่นุแล้วชวนไปกินนมกันซะหน่อย...พี่นุไปได้มั้ยครับ...หรือว่าเหนื่อยแล้ว...ถ้าพี่นุเหนื่อยไม่อยากออกไปไหนผมขอไปนั่งคุยกับพี่นุที่ใต้หอได้มั้ยครับ...ได้เห็นหน้าพี่นุนิดนึงก่อนนอนก็ยังดี...ผมจะได้นอนหลับฝันดีด้วย...นะครับ” น้ำเสียงเจ้าธีร์ทำผมใจอ่อนอีกแล้ว...
“อย่าปฏิเสธผมเลย...ธีร์กำลังจะพูดประโยคนี้ใช่มั้ย...” ผมพูดแล้วขำ
“ว๊า..รู้ทันผมซะแล้ว...”
“จะมาก็มาแล้วกัน...ใกล้ถึงรึยังอ่ะจะได้นั่งรอที่ใต้หอนี่แหละ...”
“ใกล้แล้วครับ...เลี้ยวข้างหน้าก็ถึงแล้ว...” ธีร์บอก...ยังไม่ทันวางสายผมก็เห็นไฟรถเลี้ยวส่องเข้ามาแต่ไกล...ธีร์เดินยิ้มแป้นเข้ามาหาผมที่นั่งรออยู่ที่ม้าหินอ่อนใต้ถุนตึก..
“ท่าทางพี่นุจะเหนื่อยนะครับวันนี้...โทรมเชียว....สงสัยผมมากวนพี่นุแน่ๆเลย” ธีร์นั่งลงตรงหน้าผม
“ไม่หรอก...ถ้ายังไม่ดึกจนเกินไปอ่ะนะ...ว่าแต่ทำไมว่างล่ะปกติตอนนี้เราทำอะไรเหรอ...” ผมถาม
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คนร่อนอยู่กับเพื่อนๆอ่ะครับ...เฮโน่นเฮนี่ไปตามประสา...”
“ตามประสาเพลย์บอยเจ้าเสน่ห์.....แล้วมาทำอะไรแบบนี้ไม่เบื่อเหรอ...???”
“ไม่หรอกครับ...ไม่เบื่อเลย...ตั้งใจทำมากกว่า  ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ...แล้วพี่นุล่ะครับเบื่อผมรึยังที่มากวนใจพี่นุติดๆกันแบบนี้อ่ะครับ...”
“ตอนนี้ยังอ่ะ...ยังพอรับได้อยู่...แต่ถ้ามากไปกว่านี้ไม่แน่...”  พูดแล้วหัวเราะ...ธีร์เองมันก็ยิ้มๆ
“เมื่อก่อนนี้ผมเที่ยวมาเยอะแล้วอ่ะครับ..ก็เลยเบื่อ...อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง...เพื่อใครซักคน...” ประโยคสุดท้ายพูดแล้วมองตาผม...จนผมต้องเมินหน้าไปทางอื่นซะเอง
“คนที่เค้าชอบๆเที่ยวกัน...เค้ามีเบื่อกันด้วยเหรอ...แล้วแฟนเราล่ะไปไหน.....มาอยู่แบบนี้เค้าไม่ว่าเอาเหรอ...อย่าบอกน๊าว่าไม่มีแฟนอ่ะ...หน้าตาแบบนี้...”
“เคยมีครับ...แต่เลิกหมดแล้ว...มันคลิ๊กกันไม่ลงตัวอ่ะครับ..ถ้าจะบอกว่าไม่มีมันก็คงโกหกอ่ะครับ..จริงมั้ย?”
“นั่นดิเนอะ...”
“พักผ่อนดีกว่าครับพี่นุ...ผมไม่รบกวนแล้ว...แค่ได้มาเห็นหน้าพี่นุก่อนนอนก็ชื่นใจแล้ว...เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าผมมารับเวลาเดิมนะครับ...ฝันถึงผมบ้างนะพี่นุ”   ผมยืนส่งจนรถเจ้าธีร์ขับออกไปสุดถนนแล้วเดินกลับเข้าไปในตึก....ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆที่อยู่ๆก็มีคนเข้ามาเติมสีสันในชีวิตอีกคนนึงแล้ว...เฮ่อ...จะภูมิใจดีมั้ยเนี่ย...





“ธีร์..มึงอยู่ไหนเนี่ย...เค้านัดแดกเหล้ากันมึงรีบมาด่วนเลย...” เสียงแบงค์โวยวายมาตามสายโทรศัพท์
“กูขับรถอยู่...กำลังจะกลับหอ...ไปหาพี่นุมา...”
“งั้นอย่าเพิ่งกลับบ้าน..มึงเลี้ยวมาบ้านไอ้คิมก่อนเลยเมิง...ให้ไว...”
“เฮ้ย..ไม่ได้...ไปแดกเหล้ากะมึงเดี๋ยวพรุ่งนี้กูตื่นมารับพี่นุไม่ทันเว้ย...”
“นั่นแน่.....มีแฟนแล้วทิ้งเพื่อนเลยนะเมิง...เออๆตามจายเมิงละกัน...เบื่อนักไอ้พวกเกียมัว...กลัวเมียเนี่ย...”
“ไอ้บ้า...พี่นุเค้ายังไม่ได้เป็นเมียกูเว้ย...”
“ตอนนี้ยังไม่เป็น...แต่เดี๋ยวก็เป็น...ใช่มั้ยว่ะ..กร๊ากกๆๆ..เอ๊ะ!หรือว่ามึงจะเป็นเมียพี่นุซะเอง...”
“อ้าว...ปากหมาอีกแล้ว...กูว่า...มึงนั่นแหละ....เมาแล้วไปหาอีวุ้นทุกครั้งแบบนี้ระวังตื่นมามึงจะเป็นเมียมันนะเว้ย...หยึย...แค่นึกก็ขำว่ะ...ลองคิดดูนะมึงตื่นขึ้นมาร้องไห้กระซิกๆในอ้อมแขนอีวุ้น...แค่คิดก็สยองแล้วว่ะ...”
“ควาย....รุ่นนี้ไม่มีสับเปลี่ยนหน้าที่เว้ย...กูเห็นจุกทุกทีที่โดนเสียบอ่ะ...ครางอิ๋งๆเลย...หลงกูหัวปักหัวปำจะตาย”
“มันหลงมึง...หรือมึงหลงมันวะ....เห็นเมาทีไรต้องไปนอนกะมันทุกที...”
“อ้าว...ได้ไง...มีของฟรีอยู่กะตัวกลัวอะไรวะ...ครบทุกกระบวนท่า..มึงจะเอาอะไรล่ะอีวุ้นจัดให้ได้หมด...จูบปาก...   ดูดไข่..ไซร้ง่ามขา...ทำให้กูได้หมดแหละ...แค่กูทำให้ของกูแข็งแค่นี้พอ...นอกนั้นอีวุ้นจัดการเองหมด...ตั้งแต่อมยันนั่งเทียนโยกกูนี่แหละ...เหอๆ...”
“เออๆเล่าซะเห็นภาพเลยมึง.....แค่นี้แหละ...อย่าแดกเยอะละกันมึง..” ธีร์พูดแล้ววางสาย..รีบบึ่งรถกลับหอทันทีเพื่อที่จะได้นอนหลับแล้วฝันถึงคนที่คิดถึงอีกคืนนึง...กลับมาถึงห้อง...อาบน้ำเสร็จ....ธีร์เดินไปที่ระเบียงมองออกไปที่แนวต้นไม้ข้างนอก เหนือแนวต้นไม้นั้นเป็นตึกสูงประมาณสิบกว่าตึก หนึ่งในตึกเหล่านั้นอาจเป็นที่พักของ
พี่นุของเค้า...ขณะนี้ธีร์ยืนอยู่คนเดียวที่ระเบียง ซึ่งร้อยวันพันปีแทบไม่เคยเปิดประตูห้องด้านหลังออกมายืนเหม่อเช่นนี้

“ฝันดีนะครับพี่นุ....”  ผมอ่านตาม SMS ที่ได้รับอีกเหมือนเดิม..ผมอ่านแล้วล้มตัวลงนอนเผื่อบางทีอาจจะฝันถึงใครกะเค้าบ้าง...แต่ว่าไม่ไหวละมั้ง...เหนื่อยเหลือเกินวันนี้....คร่อออกกก...ZZZZzzzz!!!...ฟี๊ZZZzzzZZ!!!!

หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 25-04-2017 12:33:20
เจมส์คือตัวหลอกใช่ไหม? ธีร์น่าจะมาวิน  :hao3:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 25-04-2017 14:06:33
ทุกอย่างกะลังจะพีคขึ้นเรื่อยละคับ...อิอิอิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 25-04-2017 20:40:51
ตอนที่  9_ขอมัดจำ...


   ผมมาถึงที่ปั๊มน้ำมันหลังมอที่เป็นจุดนัดพบก่อนเดินทางและเป็นสถานที่รถจอดในคืนนี้ประมาณสามทุ่มกว่าๆแต่ไอ้กิ๋วมันนัดให้น้องๆมาไม่เกินสี่ทุ่ม...ผมมาก่อนเพื่อมาดูความเรียบร้อยและแน่นอนครับคนที่มาส่งผมก็คงเป็นใครไปไม่ได้...นอกจาก...เจ้าธีร์...เจ้าเดิมนั่นเอง...พอเห็นผมสะพายกระเป๋าเป้เดินลงมาจากรถเจ้าธีร์..ไอ้กิ๋วก็แซวเลย...
“กูนึกว่ามึงจะมาพร้อมน้องซะแล้วนะไอ้นุ...ดีนะมาก่อนเวลาเนี่ย...”
“เออ..กูรู้น่า...แล้วไหนยังไม่เห็นมีใครมาเลยวะ...” ผมวางกระเป๋าแล้วมองไปรอบๆ
“ไอ้อิ่มกะไอ้ปอยมาแล้ว...วิ่งไปซื้อขนมกับพวกหลีดมือในปั๊มกันโน่น...ส่วนหลีดแดนซ์ยังเงียบจ้อย...” ไอ้กิ๋วบอก
“เออๆ...เดี๋ยวมันก็มายังไม่สี่ทุ่มนี่หว่า...” ผมบอกไอ้กิ๋วแล้วเดินกลับไปที่รถ...ธีร์นั่งรออยู่ในรถหันหน้าออกนอกรถมองมาทางผมพอดี...
“ธีร์กลับเลยก็ได้นะ...ขอบคุณมากเลยที่เป็นธุระมาส่งทั้งอาทิตย์เลย...”
“ไม่ใช่ธุระหรอกครับพี่นุ...ผมเต็มใจ...” พูดแล้วยิ้มหวานอีกแล้ว
“ต่อไปก็ธีร์ก็สบายแล้วสิ...พี่ไม่อยู่ตั้งสามวันกลับมารถก็คงเสร็จพอดีแล้ว...ธีร์ก็จะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำมัน..”
“ไม่ดีอ่ะครับ...ผมอยากรับส่งพี่นุต่อไปอย่างนี้อ่ะครับ...”
“ไม่ได้หรอกธีร์...แค่นี้พี่ก็เกรงใจธีร์จะแย่อยู่แล้วถึงธีร์จะบอกพี่ว่าเต็มใจก็เหอะ...ลึกๆพี่ก็ยังรู้สึกเกรงใจอยู่ดี...”
“ใจร้าย...” ธีร์พูดตัดพ้อผมเล็กๆแต่คงเป็นการแซวๆกันมากกว่า
“ก็ใจร้ายนี่แหละ...รู้ไว้ซะด้วยแล้วต่อไปจะร้ายกว่านี้...”  ผมพูดแบบขู่ๆ
“ร้ายสิครับดี...ผมชอบ...” ธีร์พูดแล้วยื่นหน้ามาใกล้ๆ
“พี่นุ...พอพี่นุมีรถใช้เหมือนเดิมแล้ว....ผมจะมีโอกาสเจอพี่นุบ้างมั้ยครับ...” ธีร์ถามเสียงอ่อยๆ
“ก็โทรมาหาได้...คุยได้ตามปกติ...” ผมพูดพยักหน้าเออๆออๆ
“แค่โทรเหรอครับ...ผมมาหาพี่นุบ้างได้ไหม...นะครับ..ให้โอกาสผมบ้าง..พี่นุก็รู้ว่าผมชอบพี่นุนะครับถึงแม้พี่นุจะยังไม่เคยบอกอะไรกับผมบ้างก็เหอะ...แต่ผมอยากให้พี่นุเห็นความตั้งใจจริงของผม....พี่นุอย่าปฏิเสธผมเลยนะ...”
“น๊านน...เดาไม่ผิดเลยพี่ว่าแล้วธีร์ต้องจบด้วยประโยคนี้...” ผมพูดแล้วหัวเราะชอบใจ...ธีร์เองก็เขินๆ
“รู้ทันผมอีกแล้ว...”
“ธีร์...เรื่องของเรามันเพิ่งจะเริ่มต้นนะ...อย่าเพิ่งให้พี่พูดอะไรตอนนี้เลย...พี่อยากให้เรารู้จักกันมากกว่านี้ก่อนตอนนี้มันยังอยู่ในช่วงโปรโมชั่นอยู่...ทุกอย่างมันก็ดูดีไปหมดแหละ...แต่ถ้าทุกอย่างมันไม่เป็นไปอย่างที่เราคิดล่ะ.....มันจะเสียมิตรภาพเปล่าๆนะธีร์...พี่เองอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่ธีร์คิดก็ได้...เข้าใจพี่นะ...” ผมบอกธีร์ไปคล้ายๆกับที่บอกกับเจ้าเจมส์
“เข้าใจครับพี่นุ...อดีตของผมก็ไม่ดีนักหรอกครับ...แต่ผมเลือกที่จะอยู่กับปัจจุบันมากกว่า...” ธีร์ยื่นมือมากุมมือผมไว้
“ไปจำคำพูดแบบนี้มาจากไหนเนี่ย...” รู้สึกว่าผมเริ่มจะไปไม่ถูกอีกแล้วเวลาอยู่ต่อหน้าคนที่มองผมด้วยสายตาแบบนี้
"ผมรักพี่นุนะครับ....ผมขอมัดจำเฉยๆ...ไม่ได้คิดจะเกินเลยหรอก...นะครับ" ธีร์เสียงพร่า ใบหน้าแดงก่ำแล้วธีร์ก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดโดยการยื่นหน้ามาหอมแก้มผมฟอดใหญ่แล้วกลับลงไปนั่งเหมือนเดิม...ผมก็ตาเหลือกเลยที่นี้...
ใครจะมาเห็นบ้างป่าวว๊า...ผมหันซ้ายหันขวา...เฮ้อ...โชคดีตรงที่จอดรถมันเป็นมุมมืดพอดี...
“พี่นุไม่โกรธผมนะครับ...ผมห้ามใจไม่ไหวจริงๆ...อย่างที่บอกขอมัดจำไว้ก่อนไงครับ...ไม่ได้คิดจะเกินเลย”
“นี่แหละ...เค้าเรียกเกินเลยแล๊ว...เกิดใครมาเห็นทำไงเนี่ย...” ผมบ่นอุบอิบ
“งั้นแสดงว่าถ้าไม่มีคนก็โอเคใช่มั้ยครับ...”
“ไม่ได้...” ผมรีบพูดเลยก่อนจะเลยเถิด...ไปมากกว่านี้...เฮ้อ...นี่ผมปล่อยให้อะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับผมอีกแล้วเหรอวะเนี่ย...ทำไมผมถึงห้ามใครไม่ได้เลยว๊า...คนสองคนที่เข้ามา..ทำให้สิ่งที่เหมือนกัน...บอกในสิ่งที่คล้ายๆกัน...
จะต่างกันก็แค่คนพูด..สถานที่..และเวลาแต่ว่า...มีจุดหมายเดียวกันนั่นก็คือ...ผม...จะภูมิใจดีมั้ยเนี่ย...
“พี่ว่าธีร์กลับเลยก็ได้นะ...เค้ามากันครับหมดแล้ว...เดี๋ยวรถก็คงออกแล้วล่ะ...ขับรถกลับบ้านดีๆนะ...”
“พี่นุ...ผมขอโทรหาพี่เป็นระยะๆนะครับ...ผมจะได้แน่ใจว่าพี่นุถึงที่หมายโดยปลอดภัย...”
“ถึงห้ามไม่ให้โทร...ก็คงห้ามไม่ได้อยู่แล้วนี่...ตามใจแล้วกัน..ไปนะ..” ผมพูดแล้วเดินกลับเข้าไปรวมกลุ่ม...ธีร์มองตามไปซักพักแล้วขับรถออกไป...อย่างน้อยวันนี้ธีร์ก็ได้กำลังใจกลับไปมาโขอยู่
“แค่หอมแก้มแล้วไม่โดนด่าก็โอเคแล้ววะ...” ธีร์พูดกับตัวเองแล้วขับรถออกไป...ผมเดินกลับมาที่รถก็เห็นน้องๆมากันครบหมดแล้วกำลังขึ้นไปจับจองที่นั่งกันเกือบหมดแล้ว...



“ครบมั้ยปอย...???” ผมถาม
“เรียบร้อยแล้วพี่นุ...” ปอยหันมาบอกแล้วขึ้นไปนั่งคู่กับอิ่ม  ไอ้กิ๋วเดินมาหาผม
“ปะ...ออกเดินทางได้แล้วเพื่อน...ได้เวลาล้อหมุน...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วผมก็เดินตามมันขึ้นรถไป...ไอ้กิ๋วนั่งหน้าคู่ไปกับคนขับ...รถที่ไอ้กิ๋วหามาเป็นรถบัสเล็กประมาณสามสิบที่นั่ง...ก็ถือว่าโอเคนะครับ...ผมเลือกที่นั่งแถวที่สามนับจากคนขับ...นั่งคนเดียวครับมันว่างอยู่ก็ดีครับนั่งคนเดียวจะได้หลับอย่างสบายๆหน่อย....
“พี่นุ...ผมซื้อเป๊บซี่มาฝาก...” เจมส์ยื่นกระป๋องเป็บซี่ให้ผมแล้วนั่งลงข้างๆ...ผมรับมาแต่ยังไม่เปิดดื่ม
“แล้วนั่งตรงไหนได้ล่ะเราน่ะ...”
“ผมก็นั่งร้องรำทำเพลงกะไอ้เต๊ะไอ้หนึ่งด้านหลังแหละครับ...ไม่อยากกวนใจพี่นุ...”
“ก็ยังไม่ได้กวนใจอะไรนี่...เออ...เอาน้ำมาให้นี่แล้วเรากินอะไรได้อ่ะ...”  ผมถาม  เจมส์มันยิ้มๆ
“อ๋อ..มีแล้วเหมือนกัน...พี่นุกินเลยนะอุตส่าห์ตั้งใจเอามาให้...”
“ขอบใจนะ...” ผมบอกแล้วเปิดกระป๋องดื่ม
“พี่นุ...เรื่องวันก่อนผมขอโทษนะ...” เจมส์บอกเสียงอ่อยๆ
“อืมม...ช่างมันเหอะเจมส์...พี่ไม่ได้โกรธอะไรเราซักหน่อยพี่แค่อยากให้เรามีสติมากกว่านี้ก็แค่นั้นเอง...”
“ครับ...งั้นเดี๋ยวผมกลับไปสนุกกับพวกมันก่อนแล้วกัน...” เจมส์พูดแล้วลุกกลับไปนั่งที่เดิม...ผมหันหลังไปมองก็เห็นพวกมันกำลังร้องเพลงกันอย่างเมามันโดยมี...วุ้นกับเดี่ยวเป็นหางเครื่องที่ดูไปดูมาลีลามันคล้ายโคโยตี้นะเนี่ย..555
เราออกเดินทางกันตอนสี่ทุ่ม....ระหว่างนั่งรถไปธีร์ก็โทรเข้ามาถามเป็นระยะๆตลอด  จนผ่านไปซักครึ่งคืนแล้วบรรยากาศบนรถก็เริ่มเงียบส่วนใหญ่จะเมาพับกันไปซะมาก...ผมเองก็หลับๆตื่นๆมาตลอดทางพร้อมกับได้ยินเสียง  ไอ้หนึ่งโอกอากอ๊วกมาตลอดทาง...อย่างที่มันบอกอ่ะครับว่ามันชอบเมารถยิ่งทางไกลแบบนี้แล้ว...ม่ายรอด....ผมดูนาฬิกาที่ข้อมือ...ตอนนี้ตีสี่กว่าๆแล้ว....
“ถึงไหนแล้ววะไอ้กิ๋ว...” ผมชะโงกหน้าไปถาม
“เข้าเขตประจวบแล้วว่ะ...น่าจะถึงที่พักประมาณหกโมงเช้าแหละ...อาจจะก่อนด้วย...” ไอ้กิ๋วตอบ...
“ไม่นอนเหรอพี่นุ...” เจมส์เดินมาถามผมแล้วนั่งลงที่เบาะข้างๆติดกับผม
“นอนแล้ว...แต่มันหลับไม่สนิทอ่ะดิ...แล้วเราล่ะไม่นอนเหรอ...เห็นเค้าเงียบกันหมดแล้วนี่...”
“ผมก็หลับไม่ได้เหมือนกัน..ถ้าหลับแล้วจะเมารถ...สู้ผมมานั่งคุยกับพี่นุดีกว่า...” เจมส์พูดแล้วหันมายิ้ม....



ผมนั่งคุยกับเจ้าเจมส์กันตมาตลอดทาง...ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องจิปาถะทั่วไปเรื่องครอบครัว...เรื่องเรียน...ของผมบ้างของเจมส์บ้างผมดูแล้วเจมส์มันอารมณ์เบาลงจากวันนั้นเยอะสงสัยมันคงคิดได้บ้างอ่ะครับ....จนใกล้จะถึงที่พักไอ้กิ๋วเลยปลุกทุกคนให้ตื่น...ที่พักที่ไอ้กิ๋วมาจองก็ถือว่าใช้ได้นะครับ...ไอ้กิ๋วจองบ้านพักเป็นบังกะโลแฝดสองหลังเราแบ่งกันพักโดยให้ผู้หญิงหนึ่งหลังและผู้ชายหนึ่งหลัง...
“แล้วหนูล่ะจะไปอยู่หลังไหน....จะให้หนูนอนกะไอ้พวกเถื่อย..ถ่อย..ถุย..หนูไม่เราหรอกนะเหม็นเหล้า..” วุ้นเบะปาก
“แหม!อีวุ้น...อีหมาชิสุ...ทำอย่างกะพวกกูพิศวาสมึงนักเนี่ย...ลองมึงมานอนดิจะจับลงแขกให้ดู...” ไอ้เต๊ะพูดแต่มันกลับทำให้วุ้นตาโตเป็นประกาย...
“ลงแขกเหรอ...งั้นกูเปลี่ยนใจ...กูนอน...” วุ้นคว้ากระเป๋าแล้วทำท่าจะรีบวิ่งเข้ามา  เดี่ยวดันจิกผมคว้าไว้ก่อน
“มึงมานี่เลยอีวุ้น...เป็นผู้หญิงยิงเรือนะเมิง...กูไปด้วย...” เดี่ยวพูดแล้ววิ่งตามไปกะวุ้น
“มึงสองตัวรีบไปลงหลุมเลยเดี๋ยวโดนตีนกู...” ไอ้กิ๋วเข้ามาขวาง
“พี่กิ๋วอ่ะ...กลับก็ได้...แล้วพอเปลี่ยวอย่ามาเคาะห้องเรียกหูนะ..” วุ้นค้อนแล้วกระทืบเท้าปึงๆเข้าห้องไป
“เนื้อหงส์มีให้กินไม่กิน...เชอะ...” เดี่ยวสะบัดหน้าเดินตูดบิดตามวุ้นเข้าไปอีกคน
“เนื้อหงส์หรือเนื้อคางคกวะอีเดี่ยว...” ไอ้กิ๋วตะโกนตาม
“ตกลงใครพักไหนบ้างวะเนี่ย...” ผมถามเพราะบ้านผู้หญิงเค้าเข้าห้องกันหมดแล้วเหลือแต่ตัวผู้นี่แหละ...
“ก็เหลือกัน 8 คนก็แบ่งกันไปหลังละ 4 คนละกัน..สบายๆจะได้ไม่ต้องเบียด
“งั้นผมกะไอ้เจมส์มานอนห้องพี่นุกะพี่กิ๋วดีกว่า...” ไอ้เต๊ะรีบบอก...ผมอึ้งนิดเมื่อได้ยินแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“งั้นไอ้หนึ่ง...ไอ้เอก..ไอ้แซก...ไอ้คิมก็ไปนอนฝั่งโน้นแล้วกัน....ทำภารกิจให้เรียบร้อยแล้วซักเก้าโมงมารวมกันที่หน้าบ้านนะเว้ย...ดูๆไอ้หนึ่งมันด้วยนะเว้ย...เมารถจะตายห่าแล้วนั่นน่ะ...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วหิ้วกระเป๋าเข้าไปในห้อง...
“กูนอนพื้นนะเว้ย...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วโยนกระเป๋าโครม
“ผมก็นอนพื้นด้วย...” ไอ้เต๊ะบอกอีกคน...
“อ้าวแล้วเป็นเหี้ยไรนอนพื้นกันหมดเนี่ย....” ผมวางกระเป๋าแล้วโวยบ้าง
“ก็เตียงมันเด้งๆอ่ะพี่...ผมนอนไม่ได้หรอกมันเหมือนเมาเรือ...” ไอ้เต๊ะอธิบาย
“กูด้วย...กูนอนเตียงแบบนี้ไม่ชินว่ะ...” ไอ้กิ๋วช่วยเสริม...ไอ้เจมส์คว้าเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียง
“แล้วกูล่ะ..จะมีเหตุผลกะเค้าบ้างจะได้มั้ยเนี่ย...” ผมบ่น
“มึงก็นอนเตียงนั่นแหละ...สบายดีไม่ชอบหรือไงวะ...แบ่งๆให้ไอ้เจมส์มันนอนด้วยก็จบ...” ไอ้กิ๋วพูด
“เออๆ...ไม่มีทางเลือกนี่หว่า...พี่นอนฝั่งติดผนังนะ...เจมส์นอนฝั่งนี้ละกัน...” ผมบอกเจมส์ ไอ้เจมส์ก็พยักหน้ารับ
หันไปดูไอ้สองตัวนั้นอีกที...หลับไปแล้ว...นอนกรนกันสบายใจเฉิบ...
“เหมือนพี่นุไม่อยากนอนเตียงเดียวกับผม...” เจมส์ถามหลังจากที่เห็นสองคนนั้นหลับสนิทไปแล้ว
“ป่าว...ไม่ใช่อย่างนั้น...คือว่าพี่...เอ่อ....”
“พี่นุทำเหมือนเราไม่เคยนอนเตียงเดียวกัน...พี่นุลืมไปแล้วเหรอ...” เจมส์ถามเสียงค่อยพอให้ได้ยินกันสองคน
“ตอนนั้นมันเมาเว้ย...ปกติ...ชินกับการนอนคนเดียวมากกว่า...”
“เมาแล้วก็เลยนอนกอดผมทั้งคืน..” เจมส์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมเขินอีกแล้วก่อนที่จะเจออะไรซ้ำรอยผมหนีก่อนดีกว่า
“อืมม...เดี๋ยวพี่ไปสูดอากาศริมทะเลก่อนดีกว่า....เจมส์ก็นอนเหอะ...” ผมพูดแล้วรีบลุกออกไปเร็วจี๋เพราะป้องกันตัวเอง
เสียงเจมส์หัวเราะตามหลังมาแล้วเจมส์มันก็เอนหลังนอนหลับไปอีกคน...
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 25-04-2017 22:35:34
แหงะ..เดาไม่ถูก ใครคือคนที่ใช่ ไรต์อัพเร็วทันใจ เป็นกำลังใจให้น๊า  :pig4:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 26-04-2017 14:44:44
ตอนที่  10_ฟังเสียงหัวใจตัวเอง...



   ผมออกมาเดินอยู่ที่ชายหาดรอดูพระอาทิตย์ขึ้น...จริงๆแล้วผมก็ง่วงนอนนะแต่จะให้ผมนอนอยู่บนเตียงเดียวกับไอ้เจมส์ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมอ่ะครับถึงนอนยังไงก็ไม่หลับอยู่ดี...ผมเดินปล่อยใจใช้ความคิดอะไรไปเรื่อยโดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้..ช่วงเวลาที่มีใครๆเข้ามาในชีวิตพร้อมๆกัน...หลังจากที่หัวใจผมแห้งแล้งอยู่นาน
จู่ๆก็มีเข้ามาให้เลือกพร้อมกันถึงสองคนกับระยะเวลาเพียงแค่เดือนกว่าๆที่ผ่านไป...คนหนึ่งโผงผาง...วู่วาม...ยังคิดอะไรเหมือนเด็กๆแต่มีความรู้สึกดีๆมอบให้เต็มหัวใจ....กับอีกคนหนึ่งพูดตรง...สุขุมนุ่มลึก...แต่ท่าทางจะเคยเจ้าชู้มาก่อนแต่ก็มีความรู้สึกดีๆมอบให้ไม่แพ้คนแรก...แล้วอย่างนี้ผมควรจะเหมาะกับใครมากกว่ากัน..ผมถามตัวเอง...
กับ “เจมส์” รุ่นน้องในหลีดที่พอผิดหวังจากผู้หญิงที่รักกลับเปลี่ยนใจมาชอบผม...ซึ่งผมก็สนิทกับเจมส์อยู่ประมาณนึงจนเจมส์มันกล้าสารภาพความรู้สึกออกมาให้ผมฟังตรงๆแถมระหว่างผมกับเจมส์ยังเคยใกล้ชิดกันมาอีก...ทั้งกอด...รวมไปถึงจูบอีกหนึ่งครั้งที่เจมส์มันประชิดผมอย่างที่ไม่ทันตั้งตัว
กับ “ธีร์” หนุ่มรุ่นน้องนิเทศปีหนึ่งรูปหล่อเสน่ห์แรง...ที่จู่ๆก็โทรมาบอกรักผมอย่างที่ไม่ทันตั้งตัว...ธีร์เป็นคนที่พูดตรง..ตรงมากคิดอย่างไรก็พูดมาอย่างนั้นแต่แฝงไว้ด้วยความสุขุม...จะว่าไปแล้วธีร์ค่อนข้างเดินเกมเร็วมากอาจจะเพราะโชคกับความบังเอิญช่วยในหลายๆครั้ง...ตั้งแต่โรงหนัง...ที่ผับ...รถเสีย...จนเลยมาถึงรับส่งผมระหว่างซ่อมรถพร้อมกับการมัดจำโดยการขโมยหอมแก้มผมไปอีกหนึ่งฟอดก่อนเดินทางมาที่นี่....


ส่วนผมทำไมยังไม่ตัดสินใจบอกอะไรกับใครน่ะเหรอครับเพราะผมเองก็ยังไม่แน่ใจในอะไรหลายๆอย่างรวมถึงไม่แน่ใจตัวเองด้วย...ไม่ใช่เผื่อเลือกนะครับเพียงแต่ว่าผมยังไม่พร้อมจะเลือกต่างหาก...เจมส์เองผมไม่รู้ว่าเจมส์เข้ามาหาผมในช่วงที่เค้ากำลังสับสนจากการอกหักหรือเปล่า...หลายๆครั้งที่เจมส์แสดงออกมาหึงหวงผมจนเกินไปบวกกับยังควบคุมสติอารมณ์ไม่ค่อยอยู่อีกต่างหากทั้งๆที่เรายังไม่ได้เป็นอะไรกัน...ลึกๆผมก็ไม่อยากให้เจมส์มาเป็นอย่างผมนะ...เพราะถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เจมส์คิดผมกลัวจะเสียมิตรภาพไปต่างหาก....ส่วนธีร์...ผมพอจะรู้บ้างเล็กๆว่าธีร์เองค่อนข้างเจ้าชู้แม้ว่าธีร์จะบอกว่ามันเป็นอดีตแล้วก็เถอะ...อย่างที่รู้ๆกันคนเจ้าชู้มักจะทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการและเมื่อได้มาเรียบร้อยแล้วทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป...เหมือนตอนนี้ระหว่างผมกับธีร์จะเป็นช่วงโปรโมชั่นมากกว่าแต่ธีร์ก็มักจะย้ำให้ผมฟังอยู่เสมอถึงการกระทำต่างๆว่าออกมาจากใจจริงๆไม่ได้เสแสร้ง...


“เฮ้อออ...ใครก็ได้ช่วยตัดสินใจที๊.....” ผมตะโกนแล้วเอนหลังนอนหลับตาลงไปบนพื้นทราย...สักพักโทรศัพท์ดัง
“ว่าไงธีร์...ตื่นเช้าจังเพิ่ง 7 โมงเอง...” ผมพูด
“คงชินที่ตื่นมาส่งพี่นุมั้งครับ....ว่าแต่...พี่นุจะให้ใครช่วยตัดสินใจอะไรเหรอครับ...” ได้ยินธีร์พูดผมเด้งผึงลุกนั่งทันที
“ห๊า...ธีร์ว่าไงนะ....พูดอีกทีซิ...”
“ไม่บอกได้มั้ยครับ...พี่นุหันหลังมามองเองดีกว่า...” ผมหันไปด้านหลังก็สะดุ้งเพราะธีร์นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหลังผมหน้าแทบจะชิดกันเลย...ผมก็ได้แต่อึ้ง..อึ้ง..อึ้งแล้วก็อึ้ง...มาได้ไงวะ
“เฮ้ยธีร์...ตกใจหมด...มาได้ไงเนี่ย...”
“มีคนมานั่งใกล้ขนาดนี้แล้วยังไม่รู้ตัวอีกนะพี่นุ...เป็นโจรขึ้นมาทำไงเนี่ย...” ธีร์ขำแล้วเปลี่ยนมานั่งคู่กับผม
“ไปไงมาไงเนี่ย...แล้วไม่บอกกันซักคำนะว่าจะตามมาด้วยอ่ะ...เงียบกริ๊บ...” ผมบอกอย่างเคืองๆ
“บอกไปก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ...ว่าแต่..พี่นุดีใจมั้ย...ที่เจอผม...” ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกแล้ว...ใจเต้นตึ่กๆ
“บอกไปก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ...” ผมตอบกวนๆบ้างทำเอาธีร์หน้างอเลย
“ใจร้าย...ผมอุตส่าห์ขับรถตามมาทั้งคืน...ตอบให้กำลังใจกันบ้างไม่มีเลย..คนเราอ่ะ...” ธีร์พูดงอนๆ
“ก็บอกแล้วว่าใจร้ายนี่นา...ตามมาเองนี่...” ผมตอบแล้วคว้าทรายโยนใส่ธีร์หนึ่งกำมือแล้ววิ่งหนี
“โหพี่นุ...เล่นแบบนี้เหรอ...ด้ายยย....” ธีร์ถอดรองเท้าแล้ววิ่งไล่ตามผมสุดชีวิต...วิ่งไล่กันสักพักจนเริ่มหอบผมจึงชะลอหยุดเดินเพราะเห็นว่าวิ่งมาไกลจากหน้าที่พักมากแล้ว...ผมนั่งลงกับพื้นทรายกอดเข่าหอบแฮ่กๆธีร์วิ่งตามมานั่งใกล้ๆ
“วิ่งไวไปมั้ยพี่นุ...เหนื่อยนะเนี่ย...” ธีร์พูดหอบๆเหงื่อหยดติ๋งๆ
“ก็อยากวิ่งตามเองนี่หว่า...” ผมก็หอบ...เหงื่อไหลย้อยเหมือนกันธีร์หยิบผ้าเช็ดหน้าแล้วเช็ดเหงื่อที่หน้าผม...ผมมองดู..เฮ้ย...มันผืนเดียวกันกับที่ผมให้ธีร์ไปวันนั้นนี่หว่า
“ซักแล้วครับพี่นุ...รับรองเอี่ยมหน้าพี่นุไม่ขึ้นผื่นแน่นอน...”
“ซักแล้วแต่ห้ามคืนนะ...ให้แล้วห้ามเอามาส่งคืนด้วย...” ผมบอกแล้วเอนหลังนอนลงไปบนพื้นทรายแล้วพลิกตัวยันศอกขึ้นสองข้าง เอามือเท้าคาง
"ธีร์....พี่ถามอะไรอย่างนึงได้มั้ย???...." ผมทำหน้าจริงจัง
“ถามมาสิครับพี่นุ...ผมพร้อมตอบทุกคำถาม...” ธีร์พูดแล้วเอนหลังนอนเอาแขนมาหนุนหัว
"ถ้าเราไม่ได้ลงเอยกัน....ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่..ธีร์จะยังเป็นเพื่อนกับพี่มั้ย...???"  ผมถาม  ธีร์นิ่งไปชั่วครู่
ในใจกระตุกวูบ แต่ยังทำหน้ายิ้มๆ แล้วตอบว่า
"ไม่ครับ" ธีร์ตอบ  คราวนี้คนที่นิ่งคือผมเองแต่ก็นิ่งได้ไม่นานเมื่อธีร์พูดต่อ ซึ่งทำให้ผมต้องเปลี่ยนสีหน้าเป็นเขินอายแทบไม่ทัน
"ผมไม่อยากเป็นเพื่อน ผมอยากเป็นคนรัก"  ผมกลืนน้ำลาย ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ที่เคยปากดีตอนนี้อึ้งไปหมด
"แต่ถ้าเราไม่ได้ลงเอยอย่างที่ว่า....ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ผมก็จะยังรักพี่นุอยู่ ส่วนจะรักต่อนานแค่ไหน อันนี้ก็แล้วแต่เวลา....ผมยังบอกไม่ได้ แต่ที่แน่ใจคือสิ่งที่ผมกำลังบอกอยู่ตอนนี้ล่ะ" ธีร์พูดเนิบๆ ...เอาซะแล้วไหมล่ะ อยากรู้ดีนักคราวนี้เป็นไง ได้ยินเต็มสองหู แล้วก็อึ้งไปเลย...ผมคิดในใจ...ธีร์ขยับตัวเข้ามาใกล้ เอนตัวลงนอนตะแคงเกือบแนบชิดผม ศอกซ้ายวางอยู่บนพื้น ยื่นมือขวามาแตะต้นแขนของผมที่กำลังหลบตาก้มลงมองพื้น
"ผมรู้ว่ามันอาจจะเร็วไปที่ผมบอกพี่นุแบบนี้....พี่นุครับ ถามหัวใจพี่นุดีๆ นะ...ว่ามีความสุขเวลาอยู่กับผมหรือเปล่า สำหรับผมเวลาที่อยู่กับพี่นุ......ผมรู้สึกว่าเวลามันหยุดนิ่ง ไม่อยากห่างพี่นุเลย อยากคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ อยากทำอะไรที่ใจอยากจะทำ อยากให้เราได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานๆ... " เสียงธีร์แหบพร่า สั่นไหวอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน
ผมรู้สึกประหม่า ตายังจับจ้องอยู่ที่พื้น ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นเพราะกลัวจะหลอมละลายพ่ายแพ้ต่อสายตาหวานซึ้งของธีร์จนในที่สุดธีร์ก็ยกมือขึ้นมาแตะคางผมดันให้เงยหน้าขึ้นใบหน้าของธีร์อยู่ใกล้ผมมาก นัยน์ตาหวานเยิ้มด้วยแรงปรารถนา ลมหายใจหนักหน่วง ปากเผยอช้าๆ ก่อนจะจะยื่นมาประกบปากผมแน่น ลิ้นอุ่นๆ สอดเข้ามา ตวัดเกี่ยวกับลิ้นของผมจนต้องยอมต่อการลุกล้ำ...อยากจะขัดขืนอยู่หรอก แต่ทำไมกายมันไม่มีแรงขยับ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหมือนขี้ผึ้งกำลังถูกหลอมละลาย...ในที่สุดผมก็ยอมแพ้ต่อกายของตน ปล่อยให้อารมณ์พาไปร่างสองร่างเกี่ยวกระหวัดรัดกัน พลิกไปมาบนพื้นทราย  เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ผมยกมือขึ้นดันอกหนาของธีร์ให้ออกห่างเพราะกลัวจะทันทานใจและอารมณ์ของตัวเองไม่ไหวผมหายใจหอบ หนักหน่วงราวกับว่ายน้ำข้ามทะเลเป็นสิบๆรอบธีร์ก็ไม่ต่างกัน
“ธีร์..พอเหอะ...พี่.....”
"ผมรักพี่นุนะครับ...บอกแล้วไงผมขอมัดจำเฉยๆไม่ได้คิดจะเกินเลยหรอก" ธีร์เสียงพร่า ใบหน้าแดง รู้สึกร้อนผ่าวด้วยอารมณ์ปรารถนา
"จริงเหรอ??" ผมบ่นอุบอิบ ตาหลุบต่ำมองหน้าอกของธีร์ที่หายใจเข้าออกแรงๆ
"ไม่จริง ผมโกหก" ธีร์ตอบยิ้มๆ แววตาส่งความหมายตามที่พูด...โอ๊ย อะไรกันนี่...โชดดีนะที่เป็นเวลาเช้าแบบนี้...ที่ชายหาดถ้าเป็นกลางคืนต้องเสียตัวแน่เลยผม... ...ทำไงดีล่ะทีนี้......ผมรักธีร์หรือเปล่า พร้อมจะคบกับธีร์ไหม แล้วจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้หากมีอะไรกันแล้วทุกอย่างจะเหมือนเดิม หรือจะเป็นอีกแบบหนึ่ง...ผมนึกในใจ แต่อีกเสียงหนึ่งรีบแทรกว่า...อย่านะ อย่าเพิ่งยอม แค่เขาบอกรักก็จะยอมเป็นของเขาเลยหรือ...เสียงแรกเถียงกลับมา...แล้วเจมส์ล่ะเจมส์ก็บอกว่ารัก...แล้วเรามีต้องมีอะไรกับเจมส์ด้วยหรือ...หากผมจะมีความสัมพันธ์ทางกายกัน...แต่ความสัมพันธ์ทางใจสำคัญที่สุด......แล้วใจผมเป็นของใครล่ะ......กายและใจต้องสัมพันธ์กัน หากใจไม่รัก กายก็ไม่ควรจะรักด้วย...????
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 26-04-2017 17:58:27
ธีร์มาแรง...แซงเจมส์แล้ว  :hao3:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 26-04-2017 23:25:01
 :o8:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 27-04-2017 17:45:23
ตอนที่  11_รถไฟชนกัน...



“ว่าไงพ่อดอกรักเร่...เร่ไปจนถึงชะอำเลยนะเมิง....” เสียงแบงค์แซวมาตามสาย...ธีร์นอนโทรศัพท์อยู่ที่เตียง
“อ้าว...ไม่อย่างนั้นพี่นุเค้าจะรู้ได้ไงว่ากูชอบเค้าจริงๆอ่ะ...” ธีร์พูดไปยิ้มไป
“หือ...ทุ่มทุนสร้างจังเลยนะเมิง...ยังไงเผื่อใจไว้บ้างก็ดีนะเว้ย...”
“ไม่เผื่อว่ะ...อย่างน้อยกูก็ได้จูบพี่นุแล้ว...กูคงไม่ผิดหวังหรอก...” แบงค์ฟังแล้วตาโตเลย
“โห...ได้จูบแล้วเหรอวะ...มึงอำป่ะเนี่ย...”
“ดูแล้วพี่นุก็น่าจะมีใจให้กูบ้างแหละ...ไม่งั้นกูคงโดนต่อยคว่ำไปแล้ว...ทีแรกก่อนเดินทางกูก็เสี่ยงหอมแก้มเค้าแย่แล้วนะเว้ยแต่พี่นุเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร....พอมาถึงนี่ก็เลยจูบพี่นุซะเลย....กูคิดถึงเค้านี่หว่า...”
“ทั้งหอมทั้งจูบไปแล้วแบบนี้...อย่างอื่นก็คงไม่ยากแล้วซิว๊า...นั่นแน่...” แบงค์ทำเสียงล้อ
“เฮ้ย..กูยังไม่ได้คิดถึงขั้นนั้นว่ะ...ถ้าพี่นุจะยอมมีอะไรกับกู...ก็ต้องเกิดจากความเต็มใจของพี่เค้าเองไม่ใช่เพราะกู
คนเดียว...กูบอกแล้วไงกับคนนี้...กูรักจริง...กูไม่อยากให้เป็นเหมือนคนก่อนๆที่ผ่านมา...ที่ได้กันแล้วก็จบ...”
“อ๋อออ....รักแท้ว่างั้น....ไม่น่าเชื่อนะเนี่ยว่าเสืออย่างมึงจะยอมถอดเขี้ยวเล็บเพราะคนธรรมดาๆได้เนี่ย...”
“มึงต้องลองมีความรักเองแล้วจะรู้...ความรักแบบจริงๆนะเว้ย...ไม่ใช่วันไนท์สแตนด์...”
“ปากดี...ทำเหมือนมึงไม่เคยมีอ่ะนะไอ้วันไนท์สแตนท์เนี่ย...เผลอๆมึงจะเยอะกว่ากูอีก...”
“ก็บอกแล้วว่ากูเลิกไปแล้ว...กับพี่นุกูไม่มีทางยอมให้เป็นแค่วันไนท์สแตนด์หรอก...”
“แล้วนี่กลับเมื่อไหร่วะ...ไปก็ไม่ชวนกูซักคำเลย...น้ำใจเพื่อนอ่ะ...ทำอย่างกะจะไปฮันนีมูนนะมึง...”
“ก็กูรีบนี่หว่ากลัวตามไม่ทัน...วันอาทิตย์ก็คงกลับว่ะ...บางทีอาจจะชวนพี่นุกลับมาด้วยกัน...”
“แล้วนี่ยังไงเนี่ย..พี่นุเค้ามานอนกับมึงรึเปล่า...เอ้ย!..กูหมายถึงมาพักกับมึงที่บ้านหรือเปล่าวะหรือพักรวมกะคนอื่นๆ”
“เค้าก็พักอยู่กะคนอื่นๆดิ...”
“ว๊า...กระจอกว่ะมึงเนี่ย..ทำไมมึงไม่พาพี่นุมาพักที่นี่ละวะ...ป๊อดอ่าเด้!!!!....”
“ก็ไม่ได้ป๊อดเว้ย...มึงคอยดูละกันแค่นี้นะเว้ย...ของีบก่อน  ขับรถมาทั้งคืนแล้ว...”
“ของีบ...หรือขอเงี่ยนว๊าไอ้ธีร์...ไม่ใช่จูบพี่นุมาแล้วอารมณ์ค้างนะเว้ย...ใช้มือเองไปก่อนละกัน...เหอๆๆ...” แบงค์พูดแล้ววางสาย...ธีร์นอนหงายมองเพดานอย่างครุ่นคิด
“ทำยังไงพี่นุถึงจะยอมมานอนกับเราดีว๊า...” ธีร์คิดในใจแล้วก็หลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย



ผมเดินกลับมาที่บ้านพักค่อยบิดประตูเปิดเข้าไปอย่างเงียบๆเพราะมันยังหลับกันอยู่...ผมเลยเข้าไปอาบน้ำถึงยังไงนอนตอนนี้ก็ไม่หลับอยู่ดีกว่าจะหลับก็คงถึงเวลานัดหมาย...ผมยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำเผลอยกมือลูบแก้มและริมฝีปากของตัวเอง...ไม่กี่วันมานี้มีสองคนที่เข้ามาใกล้ชิดผมมาก...มากถึงมากที่สุด  แก้มและริมฝีปากของผมถูกสัมผัสโดยคนสองคนที่มีความรู้สึกเดียวกัน...วันนั้นที่หอผมไม่ได้มีอะไรกับเจมส์...วันนี้เมื่อเช้าที่ชายหาดผมก็ไม่ได้มีอะไรกับธีร์..แต่ก่อนจะแยกกันธีร์ก็หอมแก้มผมไปหลายทีบอกว่าตอนบ่ายจะมาหาใหม่...ขอไปนอนพักก่อน
นี่ผมใจง่ายไปรึเปล่าวะเนี่ย...ที่ปล่อยให้ใครต่อใครรุกล้ำเข้ามาในอาณาเขตของผมง่ายดายอย่างนี้หรือเป็นเพราะว่าลึกๆแล้วผมเองเรียกร้องให้มีใครซักคนเข้ามาเติมในส่วนที่ขาดหายไปต่างหาก...ภาพของคนสองคนยังซ้อนกันอยู่ภายในใจของผม...แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่ภาพในใจของผมจะชัดเจนเหลือเพียงแค่ภาพเดียว....เสียที...
   

กว่าที่ทุกคนจะรวมตัวกันได้ครบก็ปาเข้าไปสิบโมงกว่าๆกับอาหารมื้อเช้าของพวกเรา...ไอ้กิ๋วยืนกอดอกทำหน้าคว่ำอยู่ที่หน้าบังกะโล...ดูแล้วมันคงหิวมากอ่ะครับ....พอเห็นวุ้นกับเดี่ยวเดินมาอ้อยอิ่งไอ้กิ๋วก็ใส่เลย
“แหม...อีสวย...พวกกูหิวจะแย่แล้วเนี่ยนี่มึงจะไปกินข้าวหรือจะไปเดินแฟชั่นที่มิลานวะ...อีห่าเอ้ย..”
“แหม....พี่กิ๋วอ่ะ...ก็คนสวยนี่คะก็ต้องแต่งตัวนานเป็นธรรมดา...” วุ้นจีบปากจีบคอ  ผมยืนมองการแต่งกายของวุ้นกะดี่ยวแล้วเดาได้ถึงการเดินทางของทั้งคู่คือโดนหมาไล่ฟัดแน่ๆกับชุดสไตล์หางเครื่องหมอลำซิ่งที่ทั้งคู่ใส่มา
“โห..อีวุ้น....ชุดนี้เอามาจากคณะ เสียงอีสาน หรือเปล่าเนี่ย?” ไอ้เต๊ะถาม
“ ต๊าย....ดูถูกเค้า นี่ๆๆดูดีๆชุดนี่นะ DKNY เชียวนะยะ...” วุ้นตอบ
“อ๋อ...DKNY นี่ย่อมาจาก DOOD –K- NAM- YERM (ดูด-เค-น้ำ-เยิ้ม) ใช่ป่าวว่ะ...” ไอ้เอกแซวบ้างทำเอาทุกคนที่ยืนฟังอยู่ฮากันกระจายกับชุดของวุ้นและเดี่ยว...กางเกงขาระฆังผ้าต่านสีทองแซมผ้าลูกไม้ลายฉลุแบบที่เขาเอามาทำม่าน
ฉลุแบบที่เขาเอามาทำม่านพร้อมปักหมายเลข 60 ไว้ที่กลางหลังไม่รู้จะสื่อถึงราคาหรือว่าต้องการให้เห็นว่าเป็นมอไซค์วินหรือยังไง  เด็ดสุดต้องยกให้เสื้อตัวในที่พิมพ์ลายรูปรอยเท้า
“ ...แต่เสื้อตัวในน่ะ อิอิอิ...ยืมของแฟนมา “ วุ้นบิดชายเสื้อม้วนไปม้วนมาทำท่าอาย มองดูคล้ายๆชิสุห์ไล่งับหางตัวเอง
“ แต่ที่จริงวุ้นไม่จำเป็นต้องยื้มของแฟนมาก็ได้นะ..ใส่เสื้อขาวธรรมดาไปก็ได้แล้วไอ้รอยตีนพวกเนี้ยเดี๋ยวพวกพี่จัดให้”
“แหม..พี่นุก้อ...แขวะหนูอีกแล้วนะ...” วุ้นทำหน้างอแล้วก็เดินตุปัดตุป่องออกไป...พวกเราก็ขำกันใหญ่
“ไปกินข้าวกันเหอะ...พวกหนูหิวจนไส้กิ่วหมดแล้ว...” อิ่มตะโกนบอก....พวกเราจึงเคลื่อนพลเดินเลาะไปตามชายหาดดูร้านค้าต่างๆไปด้วยระหว่างทาง...ใครหิวก็แยกไปหาข้าวกิน...ใครอยากช๊อปปิ้งก็เดินดูได้ตามสบาย...
“เดี๋ยวตอนบ่ายจะให้น้องมันทำอะไรวะไอ้นุ...” ไอ้กิ๋วถาม...ปากก็เคี้ยวแตงกวาตุ้ยๆ
“อืมม...คงปล่อยให้พักกันตามอัธยาศัยก่อนอ่ะ...ลงน้ำไม่ได้หรอกแดดร้อนจะตายห่า...เดี๋ยวเย็นซักสี่โมงเย็นค่อยไปซ้อมที่ชายหาด...ไปต่อตัวกันในน้ำ...ตกจะได้ไม่เจ็บไง...” ผมบอกแล้วตักข้าวเข้าปาก
“แหม..พี่นุตกลงในน้ำถึงไม่เจ็บแต่จุกนะพี่...” อิ่มพูด
“ก็ขามันเป็นโปลิโออ่ะพี่นุ...ยืนนานไม่ได้...” ปอยพูดแล้วขำ
“ค๊า..อีสวย...อีขาแข็ง...กูเห็นต่อตัวทีไรมึงก็ตกก่อนกูทุกทีแหละอีปอย...” อิ่มหันมาแขวะพอเป็นพิธีแล้วกินข้าวต่อ
“ไม่รู้อ่ะ...เย็นนี้ใครตกก่อนจับโยนลงน้ำ...” ผมแซวพอขำๆ
“หนูว่านะพี่นุ...มันมีที่ร่มอยู่อ่ะ..เอาพวกหลีดมือไปซ้อมก่อนดีกว่าอีพวกนี้ขี้เกียจ...” อิ่มบอก
“ก็เหมือนมึงตอนปีหนึ่งไง...” ปอยบอก  อิ่มหันไปมองตาขวาง
“อีปอยยยยยย....ขัดกูอีกแล้วนะ...กินข้าวไปเลยมึงอ่ะ...”  ผมฟังแล้วก็ขำ...ชอบขัดกันจังเลยคู่นี้แต่ก็รักกันมากนะเนี่ย..
“นี่อีวุ้น...หล่อนช่วยดูสิคะว่าร้านไหนเค้ามีผู้ชายปิ้งขายบ้าง...เดี๊ยนจะได้เหมาซักไม้สองไม้...” เดี่ยวถามวุ้นขณะที่เดินดูข้าวของในร้านค้าแถวถนนเลียบชายหาด
“แหม...คุณเดี่ยวขา....ถ้าเดี๊ยนเห็นก็ต้องแวะแล้วสิค๊า...” วุ้นพูดแต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดอยู่ที่รถยนต์คนหนึ่งในระยะ
ห้าสิบเมตรจากตรงที่ยืนอยู่...วุ้นขยับแว่นมองให้ชัด
“นี่อีเดี่ยว...แกเห็นผู้ชายที่ยืนซื้อของอยู่ตรงหน้าโน่นมั้ย...” วุ้นถาม  เดี่ยวขยับแว่นมองดูบ้าง
“ไหน...ซีอาร์วีสีดำนั่นนะเหรอ...ใครวะ...มองไม่เห็นอ่ะ...”
“โน่น่ะ...คนนั้นน๊า...ที่ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล....เสื้อลายดอกสีฟ้าอ่อน...ข้างในสวมเสื้อสีขาวนั่นไง...อีควายมองเห็นมั้ยเนี่ย???” เดี่ยวพยายามเพ่งตามอง...แล้วก็ตาโตเป็นไข่ห่าน...
“ธีร์.....” ทั้งคู่หันมามองหน้าแล้วพูดพร้อมกันเมื่อธีร์ขับรถผ่านไป
“ตายแล้ว...ธีร์มันตามมาถึงนี่เลยเหรอเนี่ย...” วุ้นพูด
“สงสัยจะได้ข่าวเด็ดซะแล้วมาเที่ยวคราวนี้...อิอิอิ...” เดี่ยวหัวเราะชอบใจ....
“นี่นังเดี่ยว....หล่อนว่าพี่นุเค้าจะรู้มั้ยว่าธีร์ตามมาที่นี่อ่ะ...” เดี่ยวทำท่าคิดแบบอิ๊กคิวซัง
“อืมม...อาจจะรู้หรืออาจจะไม่รู้ก็ได้...แต่คิดว่าไม่น่าจะรู้นะ...”
“เหรอ....แล้วไอ้เจมส์ล่ะอีเดี่ยว...ถ้าเจมส์มันเห็นว่าไอ้ธีร์อยู่ที่นี่แล้วมันจะทำไงอ่ะ...อุตส่าห์ได้มาเที่ยวกับพี่นุแล้วยังมีมารตามมาผจญถึงนี่อีก...”
“มารรูปหล่อด้วยมึง...ขอบอก...ปะ..เราไปช๊อปปิ้งกันต่อดีกว่า...อีชิสุห์” เดี่ยวพูดแล้วดีดนิ้วเรียก
“แหม..อีหมีควาย...กล้าเรียกนะ...”




“พี่นุ...กินข้าวเสร็จแล้วเดี๋ยวไปเดินเที่ยวกันนะ..” เจมส์เดินเข้ามาชวน...ผมก็พยักหน้ารับก่อนที่โทรศัพท์จะดังขึ้น
พอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครผมก็เลยเดินเลี่ยงๆออกไปรับข้างนอกโดยที่เจมส์มองตามผมไปอยู่
“ว่าไงธีร์...” ผมพูดเสียงค่อยๆ
“ทำไมต้องกระซิบด้วยละครับพี่นุ...” ธีร์ถามมาอย่างแปลกใจ
“ปะปะ..เปล่า...ว่าไง...” ผมปรับเสียงพูดให้เป็นปกติ
“พี่นุอยู่ตรงไหนครับตอนนี้...ผมเข้ามาหาแล้วอ่ะ...” ธีร์พูดแล้วชะลอรถค่อยๆมองดูตามร้านค้า
“เอ่อ...เค้าเรียกตรงไหนหว่า...มันเลยที่พักมาหน่อยนึงอ่ะธีร์...”
“พี่นุทานข้าวยังอ่ะครับ...ไปทานกับผมมั้ย?..ช่วงบ่ายนี้มีภารกิจต้องทำอะไรรึเปล่าครับ....เอ๊!!วันนี้พี่นุใส่เสื้อสีชมพูหรือเปล่าครับ...”
“อืมม...ใช่ดิ...ทำไมเหรอ?...”
“กางเกงสีขาวด้วยใช่ป่าวครับ...ผมว่าผมเจอพี่นุแล้วนะ...” ธีร์ตัดสาย  พอผมหันไปอีกทาง  รถธีร์ก็จอดอยู่ตรงหน้าผมซะแล้ว...ธีร์ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลเสื้อลายดอกสีฟ้าอ่อน ทิ้งชาย ไม่กลัดกระดุม ข้างในสวมเสื้อกล้ามสีขาว เผยให้เห็นหน้าอกล่ำๆ..ดูแปลกตาดีเหมือนกัน...
“แต่งตัวแบบนี้เป็นกะเค้าด้วยนะเนี่ย...” ผมมองแล้วยิ้มๆ ธีร์กำลังจะอ้าปากพูดแต่เจ้าเจมส์แทรกเข้ามาซะก่อน
“เราไปกันเลยมั้ยพี่นุ.....”  ไอ้เจมส์ผ่าเข้ามากลางวงสนทนาระหว่างผมกับธีร์...งานเข้าอีกซะแล้วผม



“เอ่อ...คือ...”  ทำไงดีว๊า...รถไฟสองขบวนชนกันโครมเบ่อเร่อแล้วทีนี้...ตัวช่วยผมไปไหนหมดว๊า...ทั้งคู่ยืนจ้องหน้ากันไม่ลดละโดยมีผมอยู่ตรงกลาง  แววตาท้าทาย แววตาไม่ยอมแพ้ แววตาที่แสดงความหวงกันทั้งคู่เลย...ผมเริ่มรู้สึกถึงความตึงเครียดที่เริ่มก่อตัวขึ้น...โชคยังเข้าข้างผมเมื่อไอ้กิ๋วเดินออกมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี
“อ้าว..ไปไงมาถึงนี่ได้วะธีร์..” ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาสมทบ  ธีร์ยกมือไหว้
“ก็ขับรถตามมาตั้งแต่เมื่อคืนแหละครับ...ขับตามมาเรื่อยๆถึงเมื่อเช้าเหมือนกัน...” 
“แล้วใครใช้ให้ตามมาวะ...” ไอ้เจมส์พูด
“ก็ไม่มีใครใช้หรอก...เราแค่อยากมาหาพี่นุ...ไม่ได้อยากมายุ่งกับใคร..”
“แล้วรู้ได้ไงว่าพี่นุเค้าอยากเจอ...” 
“ไอ้เจมส์มึงไปกะพี่ตรงโน้นดีกว่า...” ไอ้กิ๋วแทรกเข้ามาแล้วลากคอไอ้เจมส์เดินออกไปด้วยกัน...
“ท่าทางเขาจะหวงพี่นุมากนะครับ....เลยไม่ชอบหน้าผมเอามากๆ” ธีร์พูดเสียงเรียบจนผมอึดอัด ไม่รู้จะตอบอะไรใบหน้าธีร์ดูยิ้มๆ ก็จริงอยู่ แต่ก็ดูไม่ขี้เล่นเหมือนเคย
“คงไม่มีอะไรหรอก...เออ..ธีร์ยังไม่ได้กินข้าวมาไม่ใช่เหรอ...ไปหาอะไรกินก่อนมั้ย...” ผมเปลี่ยนเรื่องแล้วเดินขึ้นรถไปกับธีร์...แต่ก็ยังไม่วายหันไปมองไปทางไอ้กิ๋วที่เพิ่งแยกไอ้เจมส์ออกไป...
“พี่กิ๋วจะลากผมออกมาทำไมวะ...” เจมส์หันไปโวยวายหลังจากที่ไอ้กิ๋วลากมาไกลพอสมควร
“งั้นมึงก็กลับไปเลยไอ้เจมส์...ถ้ามึงอยากให้ไอ้นุเกลียดขี้หน้ามึงก็ตามใจ...” ไอ้กิ๋วปล่อยไอ้เจมส์ให้เป็นอิสระ
“พี่กิ๋วไม่เข้าข้างผมเลย...ทำไมไปเข้าข้างไอ้นั่นล่ะ..”
“กูไม่ได้เข้าข้างใครทั้งนั้นแหละ...ไอ้เจมส์..กูรู้นะว่ามึงคิดยังไงกะไอ้นุ...แต่ถ้ามึงยังใช้อารมณ์อยู่แบบนี้นะอย่าหวังเลยว่าไอ้นุมันจะคิดอะไรด้วยน่ะ...แม้แต่ความเป็นเพื่อนมึงก็จะไม่ได้...คอยดูสิ...” ไอ้กิ๋วพูดเป็นชุดทำเอาไอ้เจมส์คอตก
“พี่กิ๋ว...ผม...” ไอเจมส์เสียงอ่อยๆ
“ถ้าอยากได้ใจไอ้นุ...มึงก็ต้องใช้ความจริงใจไม่ใช่ใช้อารมณ์แบบนี้...มึงเก็บไปคิดเองละกันไอ้เจมส์..ปะ..ไปรวมกลุ่มกับคนอื่นทางโน้นดีกว่าเว้ย...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วกอดคอไอ้เจมส์เดินไป



   ธีร์ขับรถช้าๆ ไปตามถนนเรียบริมทะเล เปิดกระจกลงให้ลมทะเลได้พัดเข้ามา ผมมองทิวทัศน์สองข้างทางอย่างสนใจ ลมพัดผมจนหัวยุ่งแถมยังต้องหยีตาเพราะแสงแดดจ้าอีก
“พี่นุ....สวมแว่นกันแดดผม...จะได้ไม่แสบตา” ธีร์ยื่นแว่นกันแดดให้
“โอ้โห ใหญ่เบ้อเริ่มปิดได้ทั้งหน้าเลยนะนี่”
“พูดเป็นเล่นไป ไหนลองใส่ให้ผมดูซิ”  ผมส่ายหน้า ธีร์พยักหน้าลุ้นให้ผมใส่
“แดดจ้านะครับ”  ผมสวมแว่นกันแดดของธีร์แล้วเงยหน้าขึ้นแกล้งทำเป็นกลัวว่าแว่นจะหล่นแล้วเอานิ้วชี้ดันแว่นให้แนบกับสันจมูก
“เดี๋ยวแวะซื้อแว่นที่พอดีๆดีกว่านะเนี่ย...”  ธีร์พูดแล้วยิ้มกว้าง
“ใครว่าพี่จะซื้อ...ธีร์พามาก็ต้องเป็นคนซื้อให้พี่ดิ..” ผมตอบ หันหน้าไปมองทะเล
“แล้วก็ไม่บอก จะเอาอะไรผมหาให้ได้ทั้งนั้นหล่ะ...เพื่อพี่นุ...ของผม...”



“คงอ้วนไปหลายวัน” อาหารกลางวันอร่อยมากสมกับที่ธีร์ชมนักชมหนา  ผมดื่มน้ำเอนตัวพิงพนักสวมแว่นกันแดดสีชาราคาถูกที่แวะซื้อจากซุปเปอร์มาร์เก็ตในตัวเมือง  ผมยุ่งเพราะลมทะเล แต่ผมก็ไม่สนใจที่จะปัดเสยให้เรียบร้อย
“เดี๋ยวกลับไปต้องทำอะไรต่อครับพี่นุ..” 
“กลับไปก็คงเรียกมาซ้อมกันอ่ะ...ซ้อมไปด้วยเล่นน้ำทะเลไปด้วย...”
“น่าสนุกดี...ผมไปเล่นน้ำด้วยนะครับ...”
“เอ่อ...”
“ไม่ต้องเอ่อแล้วครับ...รับรองว่าผมไม่สร้างความลำบากใจให้พี่นุแน่นอน...”  ธีร์จ่ายเงินค่าอาหารแล้วเราก็เดินออกมา
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 27-04-2017 20:34:30
เจมส์จ๋า....อย่าท้อนะ  อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ?  :hao5:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 28-04-2017 00:51:14
ติดตามอ่านตลอดเลย...ดีใจุง... :hao5:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 28-04-2017 09:24:19
ติดตามอ่านตลอดเลย...ดีใจุง... :hao5:

ถ้าเป็นกำลังใจให้ได้ก้อยินดีนาจา ตามอ่านตลอด สู้ๆเน๊อะ   o13
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 28-04-2017 21:10:26
ตอนที่  12_ทะเลหวาน...


   ผมกลับมาถึงบังกะโลก็พบว่าน้องๆบางส่วนนั่งคุยกันอยู่ที่ชายหาด...บางส่วนก็อยู่ในบ้าน...ดูๆแล้วอากาศก็เริ่มไม่ค่อยจะร้อนแล้วเลยเดินไปเรียกทุกคนให้ออกมาซ้อมกันเลยดีกว่า...อยากเล่นน้ำทะเลใจจะขาดแล้ว...ธีร์ไปจอดรถแล้วไปหาที่นั่งรอผมตามเตียงผ้าใบที่เค้ามีไว้บริการตามชายหาด...พอทุกคนมาพร้อมกันเราต่างก็รีบวิ่งลงทะเลกันยกใหญ่...หลีดมือต่างก็เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานเพราะยังไม่ต้องซ้อม...ส่วนบรรดาหลีดแดนซ์ก็เริ่มซ้อมต่อตัวกันก่อน...ต่อตัวกันไป...แกล้งให้ตกน้ำกันบ้าง...คนที่อยู่บนยอดตกเองจริงๆบ้างตกน้ำกันตู้มต้าม...ออกจะไปแนวเน้นแกล้งกันมากกว่าเน้มซ้อม...ธีร์ยังคงนั่งดูผมอยู่ไกลๆพอหันไปทีไรผมก็เห็นธีร์มองมาแล้วยิ้มให้ผมตลอด...โดยธีร์ให้เหตุผลว่า...รอให้คนอื่นขึ้นจากน้ำไปก่อนแล้วเค้าจะค่อยลงเล่นน้ำกับผม...เจมส์ยังคงวนเวียนเข้ามาใกล้ผมบ้างเป็นบางครั้งแต่ไอ้กิ๋วก็จะเข้ามาแจมเสมอ...ผ่านไปเกือบชั่วโมงคนอื่นยังคงเล่นสนุกกันอยู่..ผมเลยเดินขึ้นไปหาธีร์ที่นั่งอยู่ชายหาดห่างจากที่ผมเล่นกันอยู่พอสมควร...อ้าว...หลับไปแล้วนี่หว่า...ผมเดินไปนั่งลงที่เตียงผ้าใบตัวข้างๆ..นั่งมองหน้าธีร์ยามหลับใหล  จมูกโด่งคม ปากเผยอนิดๆ หายใจสม่ำเสมอ อกหนากว้างขยับเป็นจังหวะ แขนข้างนึงพับวางอยู่บนหน้าท้องแบนราบ อีกข้างหนุนศีรษะอยู่
“มองจนผมจะละลายแล้วนะพี่นุ...” 
“ธีร์...”  ผมอุทาน เมื่อจู่ๆ คนที่นอนหลับใหลก็ลืมตา
“รอพี่นุจนหลับไปเลย....” ธีร์ยิ้มจนตาหยี  ผมมองไปที่ชายหาดที่เลนน้ำกัน...แต่ละคนเริ่มทยอยเดินขึ้นมากลับเข้าไปอาบน้ำกันเป็นแถว...โดยไม่มีใครสังเกตเห็นว่าผมนั่งอยู่ตรงไหนเพราะมันห่างกันพอสมควร...
“ตะวันจะตกดินแล้ว...เค้าไม่เล่นกันแล้วน้ำน่ะ...” ผมบอก...ธีร์หน้าเสีย
“ง่ะ...ได้ไง...พี่นุรับปากผมแล้วนะครับ...ไปกันเลย...”  ธีร์พูดแล้วยืนขึ้นถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกตามด้วยเสื้อกล้ามสีขาว...จนผมต้องหลบตาก้มหน้าลงสายตาจับอยู่ที่ต้นคอของธีร์...อะไรบางอย่างบังคับให้สายตาผมเลื่อนต่ำลง  แผงอกของธีร์ถือว่าล่ำพอสมควรดูแล้วคงค่อนข้างให้ความสำคัญกับร่างกายอยู่..หน้าท้องก็แกร่ง แบนเรียบ แผ่นท้องกล้ามขึ้นเป็นลอน...เฮ้อ..เลือดกำเดาจะกระฉูด  เสียงหัวเราะในลำคอเบาๆของธีร์ทำให้ผมรู้สึกตัวเงยหน้าขึ้นมาหลังจากเผลอก้มหน้าสำรวจรูปร่างของคนอยู่ตรงหน้าอยู่หลายอึดใจ
 “มองพอหรือยังครับพี่นุ...เดี๋ยวผมจะให้พี่มองทั้งคืนเลยดีมั้ย...”   เสียงธีร์ฟังดูขันๆ
"เล่นน้ำด้วยกันนะครับ ผมไม่ได้เล่นน้ำทะเลมานานมากแล้ว" ธีร์พูดต่อแล้วดึงมือผมแล้วก้าวเดินลงทะเล




พระอาทิตย์ทอแสงอ่อน ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองสวยงาม ผิวน้ำทะเลต้องแสงตะวันยามเย็นส่องประกายระยิบระยับ  ผมเริ่มจะเหนื่อยเพราะอยู่ในทะเลค่อนข้างนานละ...ธีร์คลอเคลียอยู่ไม่ห่างแม้ไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวผม
แต่ผมกลับรู้สึกว่ากำลังโดนโลมไล้ไปทั่วตัว  ตอนอยู่ในทะเลผมยังรู้สึกว่าไออุ่นๆจากตัวของธีร์แผ่ออกมา รู้สึกร้อนผ่าวผสมเย็นสะท้าน ความรู้สึกนี้แปลกประหลาดนัก เหมือนคนจะเป็นไข้...หนาวๆ ร้อนๆ...
“เราว่ายกลับเข้าฝั่งกันดีกว่านะธีร์...”
"อ้าว ทำไมละครับพี่นุ...เหนื่อยแล้วเหรอ?..”  ผมพยักหน้าแล้วว่ายน้ำเข้าฝั่งช้าๆจนเท้าแตะพื้นทรายจึงยืนรอชั่วครู่
“ผมว่าไม่ต้องว่ายน้ำแล้ว....เรายืนเล่นโต้คลื่นกันอยู่แบบนี้ดีกว่า” เราสองคนยืนโต้คลื่นเล็กๆ ของทะเลยามเย็นอยู่ด้วยกันเงียบๆ
"คิดอะไรอยู่หรือครับพี่นุ" ธีร์ถามเสียงนุ่ม ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมากที่สุดเท่าที่เคยทำมา(เหรอ...มากกว่านี้ยังเคย..หุหุ)
"ก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย" ผมตอบเสียงเบาหวิว ยังไม่สบตาธีร์
"คิดอะไรอยู่ล่ะ บอกผมบ้างสิ"
"ก็เรื่อยเปื่อย จะบอกได้ยังไง" ผมยังไม่มองคนที่เซ้าซี้ถามคำถาม
"ก็อยากจะรู้ว่า ในความคิดพี่นุมีผมอยู่ในนั้นหรือยัง???" 
"ยัง..." ผมตอบไม่เต็มเสียง
"จริงหรือครับ"  ธีร์พูดพร้อมยิ้มมุมปาก ประกายตาวิบวับ
"จริงดิ..." ผมตอบเสียงเบายิ่งกว่าเดิม รู้สึกเขินอายขึ้นมาอีกแล้ว...จะโดนธีร์จูบไหมเนี่ย..ผมคิดในใจ...แต่ในที่สุดผมก็ต้องหยุดคิด เพราะสิ่งที่คิดนั้นเกิดขึ้นจริงๆแล้ว  ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาชิด ปากเรียวได้รูปทาบลงมาบนปากแดงๆ ของผมอีกแล้ว  ไออุ่นจากตัวของธีร์ที่ผมรู้สึกได้เมื่อตอนที่ว่ายน้ำอยู่ด้วยกัน ตอนนี้กำลังถ่ายเทออกมาผ่านริมฝีปากเข้าสู่กายของผมจนร้อน...ร้อนดังถูกนาบด้วยเหล็กเผาไฟ แต่ก็ไม่ทรมานแต่ทว่ากลับรู้สึกซาบซ่าน ตัวเบาหวิว ทั้งที่ยืนอยู่บนทรายหยาบๆ ในทะเล แต่ผมรู้สึกเหมือนลอยละล่องอยู่บนปุยเมฆ..นี่ผมกำลังโดนจูบอีกแล้วหรือนี่...ธีร์โอบแขนมาด้านหลังของผม ลดแขนซ้ายลงแล้วกดมือลงน้ำหนักดันให้ผมเข้ามาแนบชิดตัวธีร์มากขึ้น มือขวาของธีร์วางอยู่กลางแผ่นหลังของผมดันเอาไว้ไม่ให้ขยับตัวกระดุกกระดิกได้  ธีร์ขยับตัวเสียดสีกับผมเบาๆมือซ้ายเริ่มขยับยกขึ้นช้าๆ ไล้นิ้วไปตามขอบกางเกงของผมแล้วสอดมือเข้าไปสัมผัสกับเนื้อเนียนจนผมสะดุ้งเฮือก มือขวาของผมที่วางอยู่บนแผ่นอกกำยำของธีร์ขย้ำอกกว้างแกร่งนั้นแรงๆ แขนซ้ายที่รัดตัวธีร์อยู่กระชับแน่นขึ้นแต่ใบหน้าพยายามส่ายหนีเพื่อถอนปากออกสูดลมหายใจ
"ธีร์...พอก่อน.." ผมพูดเสียงกระเส่า ขาดห้วง  ธีร์ไม่ยอมหยุดออกแรงบีบมือที่วางทาบอยู่บนเนินเนื้อแน่นเต็มมือ แล้วประกบปากผมอีกครั้งหลังจากที่ยอมให้ผมหายใจ
"พี่นุ...พี่นุครับ" ธีร์เสียงอู้อี้หลังจากถอนปากออกมาหายใจเช่นกัน ธีร์เองก็รู้สึกเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้ แต่ครั้นสูดอากาศเข้าไปเฮือกใหญ่ ธีร์ก็บดปากเข้ากับปากของผมอีกครั้ง คราวนี้หนักหน่วงและยาวนานขึ้น ตะหวัดลิ้นดุนดันลุกล้ำเข้าไปลึกมากกว่าเดิม
"พอ พอเถอะ" ผมเสียงกระเส่า  กอดรัดธีร์หนักกว่าเดิม
"พี่นุครับ ผม...ผม..." ธีร์เสียงพร่าด้วยแรงปรารถนา 
“พี่นุ...ผม...รักพี่นุนะครับ...พี่นุรักผมบ้างนะ...???”  ธีร์เปลี่ยนมาจ้องตาผมนิ่งจนผมต้องหลบตาซะเอง....โดยที่ผมเองก็ไม่รู้เลยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในสายตาของ 2 ผู้สอดรู้โดยตลอด



 ผมกลับเข้ามาที่บ้านเป็นคนสุดท้าย...เข้าไปก็เห็นเค้าอาบน้ำกันหมดแล้วกำลังนั่งเล่นกีต้าร์ร้องเพลงกันอยู่ที่ระเบียงด้านนอก...ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพักก็เจอไอ้กิ๋วนั่งอยู่...
“กูนึกว่าจมทะเลตายห่าไปแล้ว...” ไอ้กิ๋วบ่นพอเห็นผมเดินเข้าไป
“กะกะกู..ไปเดินเล่นมาอ่ะ...” ผมตอบเลี่ยงๆ
“เฮ้ยนุ...อย่าหาว่ากูเสือกเลยนะเว้ย...จะยังไงก็เลือกเอาซักทางนะ...ไม่งั้นมันจะยุ่งยากกันไปกว่านี้นะเว้ย...”
“เออ...กูก็กำลังพยายามอยู่...”
“นี่แล้วจะบอกอะไรอย่างนึง...มึงกะไอ้ธีร์อ่ะอย่าประเจิดประเจ้อกันมากนักดิวะ...” ไอ้กิ๋วพูด  ผมทำหน้างงๆ
“ประเจิดประเจ้อยังไงวะ...”
“แหม!ต้องให้กูบอกอีก...ทั้งที่ปั้มเมื่อคืน..ทั้งเมื่อกี้น่ะ...ดูดดื่มไปป่าววะ...” ไอ้กิ๋วพูดทำเอาผมหน้าถอดสีเลย...
“มึงเห็นเหรอ...”
“ไม่ใช่แค่กูนะมึง...อีวุ้นกะอีเดี่ยวก็เห็น...มึงก็รู้ปากสองคนนี้อ่ะ...กูเดินผ่านไปพอดีเลยลากมันออกมาก่อน...”
“ขอบใจว่ะกิ๋ว...กูจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก...” ผมบอกแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป...คิดถึงคำพูดของ
ไอ้กิ๋วเมื่อกี้นี้...เลือกเอาซักทางนะไม่งั้นมันจะยุ่งยากกันไปกว่านี้...เสียงไอ้กิ๋วยังก้องอยู่ในหัวผม...ตอนนี้เหมือนกับว่าธีร์จะรุกเข้าหาผมมากขึ้นและผมเองก็รู้สึกเหมือนจะพึงพอใจกับการกระทำของธีร์ด้วย...เมื่อกี้ที่ริมทะเล...ทุกอย่างจบลงที่จูบของธีร์ที่ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นเหมือนเดิม...ธีร์เองพยายามควบคุมตัวเองอย่างหนักเพื่อไม่ให้มีอะไร
ถลำลึกมากไปกว่านี้รวมถึงผมเองด้วยที่ก็พยายามยับยั้งชั่งใจตัวเองเหมือนกัน...
“พี่นุครับ...ผมไม่ได้ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ...แต่ผมทำเพราะผมอยากทำกับพี่นุจริงๆนะครับ...” นั่นคือคำพูดที่ธีร์พูดกับผมก่อนจะขอตัวกลับไปบ้านแล้วจะมารับผมไปกินข้าวเย็น...



   หลังจากอาบน้ำกันเสร็จแล้วก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัย...ซึ่งส่วนใหญ่จะออกไปกินข้าวเย็นกันเกือบหมดเหลืออยู่แค่ไอ้หนึ่งที่กำลังนั่งคุยอยู่กับไอ้กิ๋วอยู่ที่หน้าบ้าน...แล้วก็ปอยกับอิ่มที่กำลังแต่งตัวอยู่....ส่วนผมเองก็นอนดูทีวีอยู่ในบ้านเพราะรู้สึกเพลียเหลือเกินเดินทางมาตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้หลับกับเค้าซักงีบเลยผมอ่ะ...
“เฮ้ยไอ้นุ...ไอ้ธีร์มันมาหาแน่ะ...” ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาบอก...แล้วลุกออกก็เห็นธีร์กำลังนั่งคุยอยู่กับไอ้กิ๋วและไอ้หนึ่งเหมือนกับว่ารู้จักกันมานาน...
“ผมยืมตัวผู้ฝึกซ้อมหน่อยนะครับพี่กิ๋ว...เดี๋ยวผมเอามาส่ง...” ธีร์บอกแล้วลุกมาหาผม
“เออ...เอาไปแล้วก็ดูแลมันหน่อยละกันช่วงนี้หัวใจไอ้นุมันว้าวุ่น...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วก็หัวเราะ...ผมเดินออกมากับธีร์ที่รถ
“ได้เห็นพี่นุแต่งตัวแบบนี้แล้วดูรีแล็กซ์ดีนะครับ...” ธีร์บอกผมเลยก้มมองตัวเอง...รีแล็กซ์ตรงไหนวะ
“แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเนี่ยนะ...ปกติก็ใส่อยู่แล้ว...”
“แต่ผมไม่เคยเห็นนี่ครับ...” ธีร์พูดแล้วเดินไปที่รถกดสัญญาณเปิดประตู...ผมมองดูธีร์มันแต่งตัวก็คล้ายๆกับเมื่อกลางวันเพียงแต่เปลี่ยนเป็นกางเกงสามส่วนรัดข้อสีเขียวขี้ม้ากับเสื้อยืดสีขาวพิมพ์ลายสดใสขนาดพอดีตัว...
”ท่าทางพี่นุเพลียๆนะครับ...” ธีร์ถามหลังจากขับออกมาได้ซักพัก
“เพลียดิ...ยังไม่ได้นอนเลยตั้งแต่เมื่อคืนอ่ะ..แถมยังโดนจูบอีกเลยเสียพลังงานไปเยอะ...” ผมพูดแล้วยักคิ้วขำๆ
“งั้นเราขับรถเล่นกันซักพักมั้ยครับ...ซึมซับบรรยากาศชายทะเลกันตอนกลางคืนซะหน่อย...”   

ธีร์พูดแล้วเลี้ยวเข้าถนนใหญ่การจราจรติดขัดมากเพราะมีการซ่อมผิวถนน ช่องทางเดินรถหลายช่องบีบเหลือเพียงช่องเดียว รถขยับตามกันได้ทีละนิด...เฮ้อ...นั่งบนรถที่เคลื่อนตัวที่ละน้อยมีแอร์เย็นๆ เป่าหน้านี่มันก็ทำให้เคลิ้มเหมือนกันแฮะ...สักพักผมก็แบตหมด...หลับซะสนิทเลย...
    รถจอดสนิท ผมงัวเงียรู้สึกตัวตื่นผมกระพริบตาถี่ๆพยายามปรับสายตา ลมเย็นโชยมาปะทะใบหน้า หูแว่วได้ยินเสียงซ่าๆ รอบข้างมืดสลัวมีแสงไฟวิบวับด้านหน้าผมหันไปมองด้านข้าง...ธีร์หายไป...นี่ไม่ใช่ ลานจอดรถร้านอาหารนี่นา...ผมหันขวับมาทางด้านซ้าย กดกระจกรถลดลงมาจนถึงขอบประตูธีร์ยืนยิ้มอยู่ เอามือล้วงกระเป๋า
“นี่ที่ไหน”
“บ้านพักริมทะเลของผมเอง...”
“อะไรนะ...บ้านพักริมทะเลแล้ว...ร้านอาหาร...” ผมเริ่มคิดอะไรออก
“ร้านอาหารก็ยังอยู่ที่เดิมสิครับ...ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศพาพี่นุมากินข้าวที่บ้านผมบ้าง...อ๊ะๆไม่มีเจตนาแอบแฝงนะครับ...ไว้ใจได้...”  ธีร์ยังเอามือล้วงกระเป๋ายืนอยู่ไม่ห่าง กางขาออกเล็กน้อย ท่าทางสบายๆ ผมเหล่ตามอง
“คราวที่แล้วก็พูดแบบเนี่ย...”  ผมหันหน้ากลับมองตรงไปข้างหน้า แสงไฟวิบวับหน้าบ้านไม้สีขาวอยู่ไม่ไกล บ้านชั้นเดียว หลังใหญ่พอสมควร ระเบียงหน้าบ้านกว้างมีซุ้มไม้เลื้อย เสียงลมทะเลสาดซัดหาดทรายดังซ่าๆ ผมเปิดประตูรถลงเดินตรงไปที่บ้านพักริมทะเลโดยมีธีร์เดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ  โต๊ะทานข้าวตั้งอยู่ตรงระเบียงใต้ซุ้มไม้เลื้อย เก้าอี้สองตัวสีขาววางไว้ติดกันแทนที่จะวางไว้คนละฟาก โต๊ะปูผ้าสีขาวค่อนข้างยับยู่ยี่...ผมเดินไปดึงเก้าอี้มาวางอีกฟากหนึ่งของโต๊ะทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส...ธีร์เดินไปยกอาหารมาวางสองสามอย่าง...
“ผมให้พ่อครัวเค้าทำให้อ่ะครับ...ผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศพาพี่นุมาทานที่สงบๆบ้างอ่ะครับ...ที่ที่มีแค่ผม..กับพี่นุ...”






“โอ๊ย..อิ่ม....พ่อครัวฝีมือใช้ได้นะเนี่ยนเปิดร้านอาหารได้เลย...” ผมบอก
“เป็นอาหารเย็นมืออร่อยที่สุดเลยครับ” ธีร์พูดเสียงนุ่ม ยิ้มกว้าง ส่งสายตาพราวระยับ  ผมเบือนหน้าไปมองทะเลที่กำลังสาดซัดหาดทราย...ผมนึกไว้อยู่แล้วว่าธีร์ต้องพูดอะไรแบบนี้
“พี่นุครับ กลับไปถึงแล้วผมขอแวะไปชวนพี่นุทานอาหารเย็นบ้างได้ไหม..ทำอะไรทานที่ห้องพี่นุก็ได้...”  ธีร์ยื่นมือมาจับมือผมเกร็งมือเล็กน้อยเหมือนจะดึงมือออกแต่ก็ไมทำ ธีร์กุมมือแน่นขึ้น   
“พี่นุก็รู้ว่าผมคิดกับพี่นุยังไง...พี่นุไม่ได้รังเกียจผมใช่มั้ยครับ...ไม่อย่างนั้นพี่นุคงโกรธตั้งแต่ผมบอกรักพี่นุครั้งแรกไปแล้ว....ให้โอกาสผมบ้าง...ถ้ายังไม่รู้สึกอะไรกับผมตอนนี้ก็เปิดประตูแง้มๆ ไว้ให้ผมบ้างนะครับ”  ผมไม่รู้ตัวว่าตัวเองหน้าแดง  รู้สึกอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะพูดอะไรดี หูอื้ออึงแทบไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลย....
“พี่นุครับ...” เสียงธีร์เรียกชื่อผม..ถึงรู้สึกออกจากภวังค์
“ห๊า...ว่าไงนะธีร์...”
“ไปเดินเล่นกันมั้ยครับ...”



หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 28-04-2017 22:53:18
ดูสภาพแล้วคงไม่ได้แค่แง้มๆแล้วหล่ะ เปิดประตูไปกว่าครึ่งแล้วม้าง...งงงงงง   :hao6:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 28-04-2017 23:05:30
ดูสภาพแล้วคงไม่ได้แค่แง้มๆแล้วหล่ะ เปิดประตูไปกว่าครึ่งแล้วม้าง...งงงงงง   :hao6:


5555...ลั่นเบยยยยย...
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90)
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 29-04-2017 14:35:54
ตอนที่  13_ความรัก..ที่ออกแบบ(ไม่)ได้...



   ผมทั้งสองไปเดินเล่นริมทะเล....ธีร์เดินล้วงกระเป๋าทอดน่องเคียงข้างไปกับผมช้าๆ มองทะเล...มองท้องฟ้ายามค่ำคืนไปเรื่อยๆ ปราศจากการพูดคุยด้วยคำพูด...ผมรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสอดประสานกับธีร์ที่กำลังเดินอยู่ข้างๆ ไหล่กระทบกันบ้างเป็นครั้งคราว  พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวส่องสว่างทอดแสงตกกระทบผืนน้ำในทะเลระยิบระยับเห็นอยู่ไกลๆต้นไม้สูงใหญ่ยืนต้นเป็นแนวทางด้านซ้ายของชายหาด  สายลมเอื่อยๆ พัดกิ่งใบของต้นสนให้ขยับไหว เสียงหวีดหวิวเบาๆ ราวกับกระซิบกระซาบกัน ผมกระชับแขนที่กอดอกให้แน่นขึ้น ลมเย็นๆ พัดโชยมาปะทะใบหน้าเบาๆ
“ดาวสวยนะครับพี่นุ...ประเดี๋ยวจะมีดาวตก” เสียงทุ้มข้างหูดังขึ้นทำลายความเงียบ 
“มีญาณวิเศษหรือไง” ผมอดแขวะไม่ได้
“จากประสบการณ์ที่ผมเคยยืนดูดาวที่นี่ตอนกลางคืนหลายๆครั้ง ผมเห็นดาวตกบ่อยๆ”
“อ้อคงพาใครมาดูบ่อยๆ” ผมอดเน้นเสียง ‘ดู’ ไม่ได้
“โธ่...พี่นุครับ...อย่าทำลายบรรยากาศสิ” นักดูดาวประท้วงอย่างอ่อนใจ  หางตาแอบมองผมซะด้วย  ก่อนที่จะทันได้พูดอะไร บนฟากฟ้าที่ระบายสีด้วยจุดสีขาวไฟระยิบระยับของดวงดาวก็มีดาวตกสองดวงไล่เลี่ยกัน
“เขาบอกว่า ถ้าเห็นดาวตกให้อธิฐานขอพรอะไรก็ได้...พี่นุลองอธิฐานสิครับ”  ผู้เชี่ยวชาญเรื่องดาวตกสาธยาย
“ธีร์เชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ” ผมถาม ใบหน้ายังแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เผื่อจะเห็นดาวตกอีก
“ลองดูก็ไม่เสียหายนี่นา”  ธีร์หันมามองผมด้วยสายตาอ่อนโยน  ครู่ใหญ่ก็เกิดดาวตกอีกครั้ง ดาวตกครั้งนี้เห็นเป็นลำแสงสีขาวนวลพาดยาวบนท้องฟ้าอย่างชัดเจน ก่อนจะเคลื่อนคล้อยตกลงอีกฟากหนึ่งของเส้นขอบฟ้าช้าๆ เหมือนจะรอให้ผมสองคนได้อธิฐานได้ทันท่วงที
“พี่นุอธิษฐานว่าอะไรเหรอครับ...”
“ขอให้แข่งหลีดชนะ...”
“แน่ใจหรือครับว่าอธิฐานแค่นั้น  ก็เค้ามักอธิฐานกันว่า ให้เจอเนื้อคู่ เจอคนรัก สมหวังเรื่องความรัก อะไรแบบนี้”
ธีร์ก้าวเท้ามายืนตรงหน้าผมมองหน้าด้วยสายตาแพรวพราว สองมือล้วงกระเป๋ากางเกงดูผ่อนคลายสบายใจเหลือเกิน
ผมยืนนิ่งเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าก็พบว่าสายตาธีร์ที่กำลังทอดมองมานั้นส่องแสงระยิบระยับเหมือนผิวน้ำทะเล
ไม่มีผิด ริมฝีปากได้รูปอมยิ้มนิดๆ ใบหน้ากรุ้มกริ่มทำให้ผมรู้สึกขัดเขิน...เฮ้ย..จะเขินไม่ได้นะนุ..เขินทีไรไม่โดนหอมก็โดนจูบทุกที...ผมหลบตาหันหน้าไปมองความมืดว่างเปล่าซ้ายขวาสลับไปมา พลางกระชับแขนที่กอดอกให้แน่นขึ้น ห่อไหล่เล็กน้อย พ่นลมออกมาเบา
“ฮื่อ เริ่มหนาวแล้ว กลับกันเถอะ”
“หนาวเหรอครับ” ธีร์ถามเสียงนุ่มพลางขยับตัวช้าๆ เข้ามาใกล้อีกราวกลับจะบอกว่า ถ้าผมหนาวธีร์จะทำให้ผมหายหนาว...ผมรีบหันกลับ แล้วรีบเดินอ้าวไปที่รถ ธีร์ส่ายหน้าเบาๆพร้อมระบายยิ้มอย่างถูกใจ


   ที่ริมถนนหน้าที่พักผมกล่าวขอบคุณธีร์เบาๆ ก่อนเปิดประตูรถลงเดินกลับที่พักธีร์มองตามผมไปจนลับตาธีร์ส่ายหน้า หัวเราะกับตัวเองเบาๆ นึกเขินตัวเองที่รู้สึกมีชีวิตชีวิตราวกับเป็นหนุ่มน้อยที่เริ่มมีความรัก
“คืนนี้สงสัยคงนอนไม่หลับแน่เลยเรา...” ธีร์พูดกับตัวเองสลับกับแหงนหน้ามองดูท้องฟ้าเป็นระยะ เผื่อจะเห็นดาวตกอีกครั้ง....พักใหญ่ๆ...ธีร์เองยังคงจอดรถอยู่หน้าที่พักอยู่อย่างนั้น...ธีร์เดินเข้ามาจนถึงหน้าบ้านพักของผม  ธีร์ยิ้มมุมปากหยุดยืนหน้าประตูบ้านพัก  ธีร์ยิ้มกับตัวเองว่าเขาเป็นเอามาก...มายืนมองประตูห้องก็ชื่นใจ...แค่นี้ก็พอใจแล้ว...
ธีร์ถอนหายใจแล้วเดินออกไปขับรถกลับที่พัก...โดยหารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาเจมส์ที่เพิ่งจะเดินออกมาจากบ้านอีกหลังนึงตลอด...พฤติกรรมของธีร์สร้างความหวั่นไหวและเจ็บปวดได้ไม่น้อยเลย...ผมนอนคิดอะไรอยู่เงียบๆบนเตียงคนเดียวเพราะไม่รู้ว่าเจมส์มันหายไปไหน...ผมอดถามตัวเองไม่ได้ว่า หากเหตุการณ์เมื่อเย็นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในทะเล แต่อยู่ในห้องพักของผมหรือบ้านพักของธีร์...อะไรๆจะเลยเถิดไปมากแค่ไหนสัมผัสของธีร์ทำให้ผมอ่อนปวกเปียกได้ไม่น้อย  ...แล้วนี่หากเจมส์ทำกับผมเหมือนกับธีร์มันจะเป็นอย่างไรนะ...ถึงแม้เจมส์จะเคยจูบผมครั้งนึงก็เหอะแต่ก็ยังไม่ดูดดื่มเท่ากับธีร์...
...จะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายวะเนี่ยมีคนมาชอบผมตั้งสองคนพร้อมกัน...ช่วงไม่กี่วันมานี้ผมกับธีร์ใกล้ชิดกันมากแบบที่ผมไม่เคยคิดว่าจะให้อะไรแบบนี้เกิดขึ้น เสน่ห์ของธีร์นั้นเข้มข้นไม่ใช่น้อยจนผมรู้สึกยากที่จะทัดทานไหว...ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว...หลับก่อนดีกว่า...                               


วันรุ่งขึ้นผมปลุกให้ทุกคนตื่นตั้งแต่เช้าประมาณเกือบ 7 โมงเพื่ออกไปวอร์มร่างกายวิ่งเลาะไปตามชายหาดแล้วกลับมาตั้งวงทำกายบริหารกันที่ชายหาดหน้าที่พัก...หลังจากนั้นหลีดมือก็ซ้อมท่า...หลีดปอมปอมก็ซ้อมเต้นกันประมาณ 4-5 รอบแล้วจึงมาซ้อมต่อตัวกัน
“เอ๊า..มาถ่ายรูปกันเร็วๆเวยยยยย....” ไอ้กิ๋วถือกล้องเดินเข้ามาเรียกพวกเราไปรวมกลุ่มถ่ายรูป...ถ่ายกลุ่มมือ...กลุ่มปอมปอม...ใครอยากถ่ายเดี่ยวถ่าย...ใครอยากถ่ายคู่ถ่าย...จนมาถึงภาพหมู่...เจมส์มันก็มานั่งข้างๆผมตรงด้านหน้า...
พอไอ้กิ๋วนับหนึ่ง...สอง...สาม...ไอ้เจมส์ก็ยื่นมือเข้ามาสวมกอดผมที่เอวทันที....แช๊ะ!!!!....ผมจะว่าอะไรก็ไม่ทันแล้วก็มันถ่ายไปแล้วนี่หว่า...ผมหันไปมองหน้าเจมส์มันยิ้มๆ...ระหว่างที่พักเหนื่อยหลายๆคนลงไปเดินลุยน้ำทะเลตามชายหาดบ้าง...เก็บเปลือกหอย...ก่อกองทรายกันบ้าง....ซึมซับบรรยากาศกันก่อนที่จะเดินทางกลับในช่วงสายๆ
ผมเองก็กำลังกางแขนสูดโอโซนชายทะเลเข้าปอดเต็มที่...เจมส์มันก็เดินเข้ามาหาผม...
“พี่นุ...ผมขอโทษ...”
“ขอโทษเรื่องอะไรอ่ะเจมส์”
“ขอโทษที่ผมชอบทำตัวงี่เง่าอ่ะพี่...ทำอะไรก็วู่วาม...ไม่ค่อยมีสติ...”
“เฮ้ย..ไม่เป็นไรหรอก...พี่เองก็ไม่ได้คิดมากอะไร...ไม่ได้โกรธเจมส์ด้วยซ้ำพี่ก็รู้ว่าเจมส์ทำไปด้วยความรู้สึกยังไง”
“ผมกลัวว่าพี่นุจะเกลียดขี้หน้าผม...”
“ไม่หรอก..คิดมากไปป่าวเจมส์...ความรู้สึกดีดีที่มี...สำหรับพี่มันไม่ได้พังลงง่ายๆด้วยเรื่องแค่นี้หรอก...”
“แต่พี่นุก็จะยังไม่เลือกใคร..ใช่มั้ยครับ...”
“พี่ไม่อยากเลือกหรอกเจมส์...คนสองคนต่างก็ดีกับพี่ด้วยกันทั้งคู่...พี่ไม่อยากเสียมิตรภาพทั้งหมดไป...อาจจะฟังเหมือนพี่เห็นแก่ตัวนะ...แต่พี่คงไม่ผิดมั้งที่อยากรักษามิตรภาพดีๆของคนสองคนไว้ให้นานที่สุดน่ะ...ความรู้สึกดีดีไม่ได้สร้างขึ้นได้ภายในวันเดียวนะเจมส์....จะปล่อยให้มันพังทลายไปง่ายๆแบบนี้..เจมส์ไม่เสียดายเหรอ..”
“แต่วันนึงก็ต้องมีคนคนหนึ่ง...เสียใจอยู่ดี...”
“ไว้รอให้ถึงวันนั้นก่อนมั้ยเจมส์...บางทีวันนั้นคนที่เสียใจ...อาจจะเป็นพี่เองก็ได้...” ผมพูดแล้วหันมายิ้มกับเจมส์แล้วเดินต่อไปเรื่อย...เจมส์ทรุดลงนั่งกับพื้นทราย...ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาหาแล้วโอบไหล่เจมส์...วุ้นเดินตามมาสมทบ
"พี่กิ๋ว....ระหว่างผมกับไอ้ธีร์...พี่เชียร์ใคร" เจมส์ถามเสียงเศร้าๆ
"พี่ก็เชียร์ทั้งสองคน"
"แน่ใจนะพี่" 
"ไอ้เจมส์ของแบบนี้มันอยู่ที่คนกลาง..จะมึงหรือไอ้ธีร์...แต่ท้ายที่สุดมันก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของไอ้นุมัน”
“ผมคงหมดโอกาสแน่ๆเลยพี่กิ๋ว...ผมแพ้แล้ว...”  ไอ้กิ๋วมองหน้าวุ้นแล้วถอนหายใจ
“กูเข้าใจนะเว้ยเจมส์....อย่าเพิ่งพูดอะไรมากใจเย็นๆไว้ก่อน...รวบรวมสติไว้อะไรๆอาจไม่ได้เลวร้ายมากอย่างที่เราคิดหรอก....อย่าพูดยังงั้น...ไอ้นุมันก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรนี่หว่า”  ไอ้กิ๋วเอามือลูบแผ่นหลังให้กำลังใจเจมส์
“พี่กิ๋ว....เจมส์มันไม่ได้อ๊วกนะ”
“อีวุ้น....” ไอ้กิ๋วถลึงตาใส่วุ้น วุ้นเองทำหน้ามุ่ยตัวเองก็งกๆ เงิ่นๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
“ผมดูแววตาพี่นุ...ผมก็รู้แล้วพี่กิ๋ว...แววตาพี่นุเค้าเปลี่ยนไปตั้งแต่ไอ้ธีร์มันเข้ามาอ่ะ...พี่กิ๋วไม่ต้องมาปลอบว่าพี่นุรักผมเหมือนน้องชายหรอก...ผมไม่อยากเป็นน้องชาย ผมอยากเป็นคนรัก ผมอยากเป็นแฟน ได้ยินไม๊”
“ถ้าเป็นแฟนไม่ได้ แล้วมึงไม่อยากเป็นน้องชายเลยเหรอ....แม้แต่ความรักแบบพี่น้องมึงก็ไม่ต้องการเลยใช่ไม๊”
ไอ้กิ๋วถามเสียงเข้ม
“ฟังนะเว้ยไอ้เจมส์....พี่เคยบอกแล้วว่าความรักมันบังคับใจกันไม่ได้หรอก บางทีเราก็บอกไม่ได้ว่าทำไม คนเรามีผิดหวังมีสมหวังเวลาเรายังเหลืออยู่อีกเยอะอย่าให้วันนี้อย่าให้การติดสินใจตอนนี้มาทำลายความรู้สึกดีๆที่เคยมีต่อกัน”
“แค่นี้...ผมก็รู้แล้วว่าพี่นุจะเลือกใคร...”
“งั้นกูถามหน่อย...ตอนไอ้เมย์หักอกมึง...ยังไม่เห็นมึงเป็นขนาดนี้เลย...มึงตอบกูมาว่ามึงชอบไอ้นุตอนไหน..”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันพี่กิ๋ว...พอรู้ตัวอีกทีมันก็รู้สึกชอบไปแล้ว...”
“งั้นกูถามอีกข้อนึง...ตรงๆเลย...มึงเคยมีอะไรกับผู้หญิงหรือยัง...”  เจมส์หันไปมองวุ้นแว่บนึงแล้วตอบเสียงค่อย
“ไม่เคยหรอกพี่กิ๋ว...แค่จับมือยังไม่กล้าเลย...”  พอได้ยินเจมส์ตอบวุ้นรีบหันหลังไปลูบปากตัวเองทันที
“แล้วกับไอ้นุล่ะ...มึงบอกมาตรงๆนะ...ห้ามโกหก..”
“ก็...ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก...”
“ไม่ถึงขั้นนั้น....แล้วถึงขั้นไหนวะ....”
“ก็แค่ได้กอด....กับจูบ...” ไอ้เจมส์บอกเสียงอ่อยๆ วุ้นทำตาเหลือกทันทีที่ได้ยิน
“แล้วมึงรู้สึกยังไง...”
“ผมก็รู้สึกดี...ดีมากอ่ะพี่กิ๋ว..เพราะผมไม่เคยใกล้ชิดกับใครขนาดนี้มาก่อน...”
“มึงจะบอกว่าไอ้นุคือคนแรกที่ใกล้ชิดมึงมากขนาดนี้ว่างั้น..???...ไอ้นุมันก็ทำตัวไม่ถูกนะเนี่ย...”  ไอ้กิ๋วบ่น
“นี่เจมส์....พี่นุอาจไม่ได้รักเจมส์อย่างแฟน...อย่างคู่รักแต่เจมส์ลองนึกดูสิ คนที่เป็นแฟนกัน ทะเลาะกัน ยังเลิกกัน หย่าร้างกันได้แต่ความรักแบบเพื่อนแบบพี่น้องที่มีให้กันมันพิเศษมากนะ...ถึงโกรธ ถึงทะเลาะกัน แต่เราก็ยังให้อภัยกัน คืนดีกัน รักกันได้เสมอ ความรักแบบนี้จากพี่นุ...เจมส์แกไม่ต้องการบ้างเลยเหรอ...จะเอาความรักแบบคู่รักอย่างเดียวให้ได้เลยใช่ไม๊ คิดให้ดีนะ”  วุ้นพูดแววตาจริงจัง
“นี่มึงพูดดีๆแบบนี้ก็เป็นนี่อีวุ้น..” ไอ้กิ๋วหันมาแซว วุ้นแลบลิ้นใส่แล้วเปลี่ยนแววตาจริงจังมาเป็นขี้เล่นเหมือนเดิม
“ว่าแต่....เจมส์...ยัง.....เวอร์จิ้น...อยู่เจงๆเหรอ...” วุ้นพูดเสียงอ่อนเสียงหวานแล้วเอามือทำปูไต่ไปตามขาเจมส์
“ขอบใจมากนะวุ้นถึงเราจะหันมาชอบผู้ชายบ้าง...เราก็ขอชอบแค่พี่นุนะไม่ได้หมายความว่าต่อไปเราจะชอบคนอื่น...”   
“แหม..เจมส์..รับรอง...เจอกับวุ้น...เจมส์จะได้อะไรที่มันมากว่ากอดกับจูบแน่นอน...”  วุ้นแซวจนไอ้กิ๋วรำคาญ
“น้อยๆหน่อยอีชิสุห์...นี่ไอ้เจมส์ระวังหำมึงเลยนะเมิง...ลองว่าอีชิสุห์รู้ว่ามึงยังเวอร์จิ้นแบบนี้อ่ะ..มันไล่แดกมึงแน่...”
“แหม..พี่กิ๋ว...หนูก็แซวมันเล่น...ไม่อยากให้มันเครียดหรอกน่า...อย่างเจมส์น่ะหนูไม่เอาหรอก...หนูกลัว”
“ทำไมวะ...ของสดๆนะเมิง...กลัวห่าอะไร” ไอ้กิ๋วถามงงๆ
“ไม่ไหวอ่ะพี่กิ๋ว...เจมส์ใหญ่เกิน...หนูกลัวไส้แตก...” วุ้นตอบอายๆแล้วปิดหน้าวิ่งหนีไปจากตรงนั้น
“โถ...อีดอก...นึกว่ากลัวอะไร...” ไอ้กิ๋วตะโกนด่าตามขำๆ


   พอกลับเข้ามาในบ้านต่างก็คนก็รีบอาบน้ำอาบท่าเก็บข้าวเก็บของอย่างรวดเร็วเพราะยังมีเป้าหมายให้เที่ยวระหว่างทางอีก...ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาขอให้ผมไม่ให้ไปกับไอ้ธีร์ซึ่งผมก็โอเคไม่ได้ขัดข้องอะไร...ผมก็บอกธีร์ไปตามตรงซึ่งธีร์เองก็คงเข้าใจ(มั้ง)...แต่ธีร์ก็ขอขับรถตามกลับมาอย่างเดิม...พวกเราออกเดินทางตอนแปดโมงกว่าๆตรงดิ่งไปยัง
เขาวัง..จ.เพชรบุรีก่อนเพื่อกินข้าวเช้าและหาซื้อของฝากกัน....แล้วจึงมุ่งตรงไปยังจ.นครปฐมเพื่อไปดูพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งกันและปิดท้ายที่พระปฐมเจดีย์...ซึ่งกว่าจะกลับมาถึงพิษณุโลกก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มครึ่ง...ผม  ไอ้กิ๋ว  ปอยและอิ่มเรารอส่งน้องๆให้กลับบ้านกันหมดแล้วพวกเราจึงแยกกันกลับ...
“ขับรถเหนื่อยมั้ยล่ะธีร์...” ผมหันไปถามก่อนที่จะเดินมาขึ้นรถ
“เหนื่อยสิครับ...ถ้ามีคนใจดีนวดให้บ้างก็คงดี...”  ธีร์พูดแล้วมองมาที่ผม
“อยากขับตามไปเอง...สมน้ำหน้า...”
“โห...ใจร้าย....”  ธีร์หรี่ตา แล้วแกล้งทำหน้ามุ่ย
“ว่าใจร้ายอีกแล้วนะ...เดี๋ยวคอยดูเหอะจะใจร้ายให้ดูจริงๆซะเลย...” 
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 13
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 29-04-2017 18:01:25
เห็นใจน้องเจมส์..แววแพ้มาแต่ไกล  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 30-04-2017 14:42:27
ตอนที่  14_คำตอบของหัวใจ...



การเดินทางสิ้นสุดลงที่หน้าประตูห้อง...ผมล้วงกุญแจห้อง...ธีร์ยืนพิงไหล่ซ้ายกับผนังข้างประตูรอกล่าวราตรีสวัสดิ์...ในมือยังคงช่วยถือข้าวของตามขึ้นมาส่งอยู่   ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตาธีร์อย่างครุ่นคิดชั่วครู่
"ขอบคุณนะธีร์...ที่เดินขึ้นมาเป็นเพื่อน"  ธีร์ขมวดคิ้ว....
“พี่นุ...” เสียงของธีร์ผ่านริมฝีปากออกมาแผ่วเบา แทบไม่ได้ยิน แววตาทักท้วง...ลมหายใจสะดุด
“เอ่อ...พี่หมายถึง...ขอบคุณที่เป็นเพื่อนเดินขึ้นมาส่งไง...”  ผมพูด...ธีร์ถึงยิ้มออก
"เต็มใจอยู่แล้วครับ..." ธีร์ตอบ ยิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกายวูบวาบ
“คอแห้งจังครับพี่นุ....” ธีร์กระแอมเบาๆ  ผมอมยิ้ม ไขกุญแจเปิดประตู ก้าวเท้าเข้าไปในห้อง...ธีร์มองตามตาละห้อย
“เข้ามาดื่มอะไรก่อนไม๊ธีร์...ถ้ายังไม่ง่วง"
“ไม่ง่วงครับ ไม่ง่วง...”  ธีร์ยิ้มกว้างจนตาหยี...หัวใจเต้นแรงเพราะดีใจ...ธีร์เดินออกไปยืนตรงระเบียงมองออกไปด้านนอก..ส่วนผมเองก็เดินไปเปิดตู้เย็น
“อยู่ตั้งชั้นเจ็ด...ไม่กลัวเหรอครับ...” ธีร์ถาม  ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ                                                                             
“ดื่มอะไรดี...”
 “อะไรก็ได้ครับ...ดื่มได้หมดยกเว้นยาพิษ...”  ผมเดินเข้ามาใกล้ยื่นแก้วน้ำส้มให้   ธีร์กุมมือของผมเอาไว้...ยกแก้วน้ำส้มในมืออีกข้างขึ้นดื่ม
“อร่อยจัง...”  ธีร์ยิ้มทำตาซึ้ง  ผมยืนนิ่งไปชั่วครู่คิดถึงเรื่องราวที่คุยกับเจมส์ที่ชายหาดเมื่อเช้า...
“คิดอะไรอยู่ครับพี่นุ...” มือธีร์ที่เกาะกุมมือของผมอยู่กระชับแน่นเข้า
“พี่นุครับ...กำลังคิดเรื่องของเราอยู่หรือเปล่า...”  ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้มาก เสียงนุ่มทุ้มลึกดังอยู่ใกล้หู ผมเงยหน้ามองธีร์ นัยต์ตาคู่นั้นของธีร์ทอดมองผมอย่างอ่อนโยน...ประกายตาบ่งบอกความในใจ
“พี่นุครับ...ผมรู้ว่ามันเร็วไป....ผมรักพี่นุนะครับ...เรามาเป็นแฟนกันนะ ผมไม่อยากรออีกแล้ว”   ธีร์ขยับตัวเข้าใกล้ผมที่ตัวเย็นเฉียบยังยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าธีร์ที่ยืนพิงระเบียงอยู่เล็กน้อย..ธีร์ดึงร่างผมเข้ามาใกล้ผมก็ไม่ขืนตัว โอนอ่อนตามมาเหมือนตุ๊กตา  ธีร์โอบเอวผมเอาไว้หลวมๆ
“รู้ไม๊ว่าผมมีความสุขมากที่เราได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้...พี่นุรู้สึกอย่างผมไม๊ครับ” เสียงธีร์จริงจัง  สายตาของผมจับอยู่ที่แผ่น อกหนากว้างของธีร์....ธีร์หายใจแรง แผ่นอกแกร่งกำยำขยับขึ้นลงเพราะจังหวะหัวใจที่เต้นแรงขึ้น...
“พี่นุมองตาผมสิครับ แล้วจะเห็นว่าผมจริงใจแค่ไหน”  ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้
“...ธีร์....พี่ขอให้สิ่งที่ธีร์พูดออกมา  เป็นการกระทำด้วยได้มั้ย???”
“ได้สิครับ”
“แต่พี่ขอเวลาอีกซักนิด...ขอเวลาให้พี่ได้ไตร่ตรองเสียก่อน...ธีร์คงเข้าใจพี่นะ...”
“ผมเข้าใจครับ...”
“พี่ขอบคุณธีร์มากนะที่ทำทุกอย่างให้พี่ถึงขนาดนี้...พี่รู้ว่าธีร์ทำให้พี่มันมากเหลือเกิน แต่อยากให้รู้ไว้ว่า สิ่งที่พี่ต้องการมากที่สุดคือความรักที่จริงจัง มั่นคง มันเป็นสิ่งเดียวที่พี่ต้องการ...พี่คงทนไม่ได้หากความรักที่ได้ต้องถูกแบ่งให้คนอื่น เพราะถ้าพี่ตัดสินใจแล้ว ก็หมายความว่าพี่มั่นใจแล้ว”  ผมพูดยาว...ซึ่งไม่บ่อยนักที่ผมจะพูดยาวขนาดนี้
“ผมรักพี่นุนะครับ....หัวใจของผมเป็นของพี่นุคนเดียว”
“กายด้วย ไม่ใช่หัวใจอย่างเดียว” ผมเสียงเข้ม
“ยังไงอย่าให้ผมรอนานนักนะครับพี่นุ...”  ธีร์รัดตัวผมแน่นขึ้น  ใบหน้าก้มลงซุกไซร้ซอกคอของผม พยายามที่จะเลื่อนมาด้านหน้า จมูกโด่งคมบดเบียดกับใบหูผมจนร้อนผ่าว ริมฝีปากของธีร์เผยอ ก่อนจะทาบทับลงบนแก้มซ้าย แล้วย้ายมาจนถึงมุมปาก ลมหายใจอุ่นๆของธีร์กระทบผิวหน้าของผมทำให้รู้สึกราวกับเป็นขี้ผึ้งกำลังถูกไฟลน  ผมใจเต้นแรง หายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้ผมแหงนหน้า ปากเผยออ้าเพื่อจะสูดอากาศเข้าไปต่ออายุลมหายใจที่กำลังจะขาดห้วง....ความร้อนในช่องท้องเหมือนลาวากำลังจะพุ่งขึ้นมาถึงกลางอก ลำคอที่ถูกริมฝีปากร้อนผ่าวของธีร์กำลังบดเบียดอยู่เหมือนถูกนาบด้วยเหล็กเผาไฟ....ใจจะขาดแล้ว...ไม่ไหวแล้ว...หากธีร์ไม่หยุดตอนนี้ผมก็คงจะหลอมละลายลงกองบนพื้นในวินาทีนี้นี่เอง...'
“ธีร์...”
“พี่นุ...”  สองเสียงครางประสานกัน...แผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน...ผมรู้สึกอ่อนแรงจนต้องยกมือขึ้นมายึดต้นแขนแกร่งที่โอบรัดอยู่เพื่อพยุงตัวเอาไว้  ภาพหลายภาพในความคิดคำนึงเริ่มเลือนจาง ความว่างเปล่าเข้ามาแทนที่...ผมหลับตาลง...รู้สึกถึงอากาศรอบตัวที่ยกให้ลอยขึ้นไปเบื้องบน...เงียบสงัด...กาลเวลาหยุดนิ่ง...เสียงเดียวที่ได้ยินคือจังหวะหัวใจสองดวงเต้นประสานกัน...


   ธีร์อิดออดไม่ยอมกลับบ้านจนผมต้องเอามือดันหน้าอกธีร์ให้ถอยออกไปให้พ้นประตู พร้อมกับขู่ว่าจะไม่ให้มาหาอีกแล้วหากยังดื้อดึงอยู่
“ผมจะคอยอยู่เป็นยามเฝ้าพี่นุอ๊า... กลัวว่าจะมีพวกไม่กลัวบาปมาเกาะแกะแฟนชาวบ้านเค้า”
“โห...ขี้ตู่...พี่ยังไม่ได้รับปากอะไรเราซักหน่อย...ไปเป็นแฟนเราตั้งแต่เมื่อไหร่กัน..”
“ไม่รู้อ่ะ...พี่นุเองยอมให้ผมจูบตั้งหลายครั้งแล้ว...ยังไม่เรียกว่าเป็นแฟนกันอีกเหรอ...พี่นุก็เห็นแล้วนาว่าผมน่ะจริงจัง..จริงใจกับพี่นุขนาดไหน...”  ธีร์พูดแล้วยิ้ม
“ไม่ต้องจริงจังมากก็ได้ เอาแค่จริงใจธรรมดาก็พอ”
“ทำไมเหรอ กลัวผมจริงจังแล้วก็โดนผม...” 
“หยุดพูดนะ....แล้วก็หันหลังกลับเดินไปเดี๋ยวนี้เลย...จะนอนแล้วเว้ย...”   ธีร์ยิ้มทำปากส่งจูบให้ผมแล้วถอยให้พ้นจากประตูไปยืนยิ้มมองผมที่ก้มหน้าปิดประตูช้าๆ  ธีร์เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีไปตามทางเดิน สลับกับหันหลังไปมองประตูห้องของคนที่เขารัก ระยะทางถึงลิฟท์ใกล้เกินไป จนเขาอยากเดินย้อนกลับไปกลับมาสักร้อยรอบ เพื่อชื่มชมกับความรู้สึกอิ่มเอมเช่นนี้...ผมยืนพิงประตูคิดอะไรอยู่ซักพัก...นี่เท่ากับว่าผมเปิดพื้นที่ให้ธีร์เข้ามายืนอยู่เต็มหัวใจแล้วใช่มั้ย...สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้มันยังคงหยุดอยู่ที่เดิมคือหยุดอยู่ที่รอยจูบของธีร์ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น...ผมกับธีร์ไม่ได้มีอะไรกัน...ถึงไม่เกินเลยไปขั้นนั้นแต่ใจผมก็ปล่อยใจเกินกว่าครึ่งไปแล้ว...ผมมั่นใจอะไรเร็วไปหรือเปล่านะ...กับคนเคยเจ้าชู้มันจะมั่นคงกับผมนานแค่ไหนกันนะ...ถ้าคิดกันแบบร้ายๆ..ช่วงนี้เค้ายังไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการไง...ทุกอย่างเลยยังดูดีอยู่...พูดดี..รับปากต่างๆนาๆถ้าเราเผลอไปมีอะไรกับเค้าล่ะ...ทุกอย่างยังจะสวยงามแบบนี้มั้ย...????....แต่ถ้าคิดในแง่ดี...ถ้าเค้าพร้อมจะปรับตัวเพื่อเรา...ทุกอย่างออกมาจากใจจริงๆอย่างนี้นะเหรอ.....เราถึงจะมอบทุกอย่างให้เค้าด้วยความเต็มใจ..ถึงแม้ตอนนี้ภาพของคนหนึ่งกำลังชัดขึ้นแต่ลึกๆลงไปก็ยังคงมีภาพของอีกคนซ้อนกันอยู่ดี.....



   วันนี้ผมขาดเรียนหนึ่งวันเพราะมันเพลียจริงกับการเดินทางในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา...กว่าผมจะตื่นก็เกือบสิบโมงเช้าแล้วผมมองตารางเรียนที่ติดอยู่ข้างๆเตียง..โอเค..วิชานี้ยังไม่เคยขาดไม่มีปัญหา...ผมหยิบโทรศัพท์มาดูบนหน้าจอปรากฏ 11 สายที่ไม่ได้รับกดดูมีแต่เบอร์ธีร์ทั้งนั้น...คงมารอรับผมเหมือนเดิมล่ะสิ...ผมลุกจากเตียงเดินไปหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะมาดูว่าเหลือเวลาซ้อมหลีดอีกเท่าไหร่...นับๆดูแล้ว..เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองอาทิตย์แล้วแฮะ...ผมหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาดห้องนิดหน่อยหลังจากที่ปล่อยให้รกมานานในช่วงที่ผ่านมา...ทำเสร็จแล้วจึงคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าไปอาบน้ำ...พออาบออกมาก็มีมาม่าเป็นอาหารหลักเหมือนเดิมจะออกไปไหนได้ละครับ...ก็รถไม่มีนี่หว่า...วันนี้แล้วสินะที่ผมจะได้รถคืนมาซักที...ว่าแต่พอผมมีรถเป็นของตัวเองเหมือนเดิมแล้วระหว่างผมกับธีร์มันจะเป็นยังไงต่อไปวะ...อาจจะเปลี่ยนไปหรือเหมือนเดิมอย่างที่ธีร์บอกไว้ก็ได้ใครจะไปรู้...ผมรู้สึกใจหายนิดๆเมื่อนึกถึงเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้...เสียงเคาะประตูดังที่หน้าห้อง...ผมเดินไปเปิดแง้มๆดู...ก็เห็นธีร์ยืนหน้าแป้นแล้นอยู่   ในมือหิ้วถุงบะหมี่มาสองถุง
“อ้าว...ธีร์...เข้ามาก่อนดิ...” ผมบอกแล้วเปิดประตูเข้ามา
“เกโรงเรียนก็ไม่โทรบอกผมซักนิด...”  ธีร์ตัดพ้อเล็กๆแล้วส่งถุงบะหมี่ให้ผม
“พอดีหลับยาวเลยอ่ะ...เพิ่งจะตื่นเหมือนกัน...” ผมบอกแล้วเทบะหมี่ใส่จานแล้วยกมาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นที่ใช้นั่งกับพื้น ธีร์ลงจากเตียงเลื่อนลงมานั่งที่โต๊ะมองผมตาแป๋ว
“แล้วนึกยังไงซื้อบะหมี่แห้งมาฝากเนี่ย...อารมณ์ไหนน้ออ” ผมถามแล้วเลื่อนจานบะหมี่ส่งให้ธีร์ 
“เห็นเพื่อนบอกว่าอร่อยอ่ะครับ...แล้วก็คิดว่าพี่นุคงยังไม่ได้ทานอะไรแน่เลย...ก็เลยซื้อมาฝาก..พี่นุไม่ชอบหรือครับ..”
“ไม่...” ผมแกล้งตอบเสียงแข็งทำเอาธีร์หน้าเสียเลย
“งั้นผมออกไปซื้อให้พี่นุใหม่ดีกว่า...” ธีร์บอกแล้วทำท่าจะลุกขึ้นจนผมต้องร้องห้าม
“เฮ้ยธีร์...ล้อเล่นน่า...ที่บอกว่าไม่น่ะไม่ใช่ไม่ชอบ...ไม่พอต่างหาก...” 
“แกล้งผมนะ...เดี๋ยวเจอดี..ขอบอก...” ธีร์พูดแล้วหยิบตะเกียบคีบบะหมี่เข้าปาก...ธีร์คีบลูกชิ้นส่งมาให้ผม
“ลูกชิ้นเจ้านี้อร่อยนะครับพี่นุ...”  ผมหยิบลูกชิ้นจากธีร์ใส่ปากแล้วเราต่างคนต่างทานกันอย่างเงียบๆ...
“เดี๋ยวเราออกไปร้านซ่อมรถกันเลยมั้ยธีร์...ไม่รู้เสร็จรึยัง...” ผมบอก...มือก็กำลังเก็บจานไปล้างโดยธีร์เองก็หยิบผ้ามาเช็ดโต๊ะแล้วพับโต๊ะเก็บไปวางไว้ที่เดิม
“ผมว่า...ออกไปตอนพี่นุไปซ้อมหลีดทีเดียวเลยดีกว่ามั้ยครับ...จะได้ไม่ต้องย้อนไปย้อนมาบ่อยๆ” ธีร์เดินมาเกาะอยู่ที่ขอบประตูห้องน้ำยืนดูผมล้างจาน
“เอาอย่างนั้นก็ได้...เพิ่งจะบ่ายสองเอง...” ผมบอกแล้วล้างจานต่อ...ธีร์ยิ้มๆแล้วเดินกลับมานั่งที่เตียง..ผมเดินเอาจานออกไปคว่ำที่ตะกล้าตรงระเบียง...มองดูแล้วท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนกับฝนกำลังเตรียมจะเทลงมาอย่างหนัก
“เมื่อกี้แดดยังจ้าอยู่เลยนะครับ...” ธีร์เดินตามออกมาที่ระเบียง
“จะได้ซ้อมกันมั้ยนี่วันนี้...” ผมบอกแล้วถอนใจเฮือกนึง
“ก็ดีครับ..ถ้าพี่นุไม่ได้ซ้อม...พี่นุจะได้ติดฝนอยู่กับผมที่นี่...”
“หลีกไปเลย...มายืนขวางประตูอยู่ได้...” ผมพูดแล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง...แต่ไม่ได้นั่งที่เตียงครับป้องกันไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวผมเองอยู่กับธีร์สองคนทีไรได้เรื่องทุกทียิ่งบรรยากาศครึ้มๆฝนตกเป็นใจอย่างนี้เหมาะกับการเสียตัวแท้ๆ...เหอๆ...นี่ผมคิดอารายออกปายยยย...!!!! ผมหันไปอีกทีก็เห็นธีร์นอนหลับไปแล้ว  ธีร์อยู่ในลักษณะเอนหลังกึ่งนั่งกึ่งนอนมือกอดหมอนไว้แนบกับอก  ผมนั่งลงกับพื้นแล้วเริ่มมองธีร์นอนหลับบนเตียงอย่างเพลิดเพลินพลางนึกเปรียบเทียบกับอีกคนที่อยู่ในจิตใจ
...ธีร์ดูหล่อกว่า หล่อมาเป็นอันดับหนึ่งคงเพราะธีร์ตาสวยและยิ้มสวยทั้งยังยิ้มกว้างอยู่เป็นประจำ หุ่นก็คงพอๆ กัน แต่เจมส์ดูหนากว่าหน้าตาเป็นรอง...ผมยิ้มกว้าง ตาเหม่อลอยเมื่อนึกถึงอะไรเรื่อยเปื่อย  ธีร์ขยับตัว ผมหันหน้ามามองคนตัวโตดูหลับสนิท อกกว้างสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ ตาผมมองต่ำลงไปยังส่วนล่างของธีร์ ตาหยุดมองตรงส่วนนั้นของธีร์ชั่วครู่...อืม ท่าทางไม่ใช่ย่อย ตัวโตขนาดนี้ก็คง...บ้าหรือวะไอ้นุ มาอ่านกินคนนอนหลับอย่างนี้ได้ยังไง...ผมคิดในใจ...ทำไมจะไม่ได้ ก็เราชอบเขานี่นา...ชอบหรือ...เราชอบธีร์แล้วหรือ...ผมถอนหายใจ ความคิดวนกลับมาเรื่องเดิมอีกครั้ง...ผมจะเลือกใครดี...เลือกยากนัก เลือกไอ้กิ๋วไปซะเล๊ย...เฮ้ย...ความคิดนั้นทำเอาผมสะดุ้ง...ผมลองยืนหน้าเข้าไปมองหน้าธีร์ใกล้ๆจนแทบจะแนบชิดกันในใจอดนึกถึงรสจูบของธีร์ไม่ได้
”เฮ้ย...ไม่ได้ๆ...เราจะทำแบบนี้ไม่ได้...” ผมรีบสะบัดหน้ารีบลุกจากตรงนั้นเดินไปยืนที่ประตูออกไประเบียง...โดยที่ผมไม่รู้เลยว่าธีร์หลี่ตามองตามหลังผมไปอย่างยิ้มๆ...ผมยืนเอาไหล่ซ้ายพิงประตูไว้นิดๆ...มองสายฝนที่กำลังเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา...ผมสะดุ้งเมื่ออ้อมแขนของธีร์สอดเข้ามาโอบเอวผมไว้หลวมๆ
“เมื่อกี้จะลักหลับผมเหรอพี่นุ...” ธีร์พูดแล้วเอาคางซุกลงตรงซอกคอ
“จั๊กกะจี้น่าธีร์...พี่มองดูคนเจ้าชู้ต่างหาก...ใครเค้าจะไปลักหลับเราอ่ะ...”   ผมพูดแล้วหนีบคอ หนีการซุกไซร้
“แล้วทำไมไม่ทำล่ะครับ...ถ้าเป็นพี่นุ...ผมยอม...”  ธีร์จูบใต้ใบหู เผยอปากพยายามจะเม้มใบหูนุ่ม
“พอเถอะธีร์...”
“ไม่...”
“เดี๋ยวใครเห็น ปล่อยเหอะธีร์...”  ผมพยายามดิ้นเพราะไม่รู้ว่าจะห้ามตัวเองได้นานแค่ไหน
“ฮื่อ...เลิกห้ามผมซะทีนะครับพี่นุ...เข้าไปในห้องกับผมนะ...”  ธีร์เสียงอู้อี้
“ไม่เอา...ต้องไปทำงานแล้วเดี๋ยวเค้ารอกันนาน...”  อีกนิดเดียวผมคงต้องแพ้ใจตัวเองแน่ๆ...ธีร์รุกผมหนักเหลือเกิน... “ก็ได้ครับ...พี่นุทรมานผมอีกแล้วนะเนี่ย...” ธีร์หยุดการกระทำแล้วพลิกตัวผมหันมาสบตา...คราวนี้ผมไม่โดนจูบแต่โดนซุกไซร้ซะจนระทวยแทน...เฮ้อออ...รอดไป...
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 30-04-2017 22:39:57
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 14
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 01-05-2017 10:02:51
 :hao6:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 02-05-2017 19:48:52
ตอนที่  15_สงครามนางฟ้า...


“อ้าว...ร้านปิดอ่ะครับพี่นุ...” ธีร์หันมาบอกผมขณะจอดอยู่ที่หน้าร้านซ่อมรถ...
“โห...แล้วจะได้รถเมื่อไหร่วะเนี่ย...ไม่ต้องมาทำหน้าดีใจเลย..” ผมหันมาต่อว่าคนข้างๆ
“ใครดีใจ...ผมนะเหรอ...เสียใจจะตายเนี่ยที่รถพี่นุไม่เสร็จอ่ะ...เดี๋ยวผมลงไปเอาเรื่องมันดีกว่า...” ธีร์ทำท่าเปิดประตูรถ
“ไม่ต้องทำเป็นเก่งเลย..ร้านเค้าปิด...เอาไว้ให้ร้านเค้าเปิดก่อนค่อยมาหาเรื่องเค้า...”  ธีร์ขับรถเข้าไปส่งผมที่หน้าคณะเจอน้องหลีดไม่กี่คนนั่งหลบฝนที่ในตึกอยู่...ในนั้นมีวุ้นกำลังนั่งคุยกะใครอยู่หว่า...ไม่เคยเห็นหน้า
“นั่นไอ้แบงค์นี่หว่า...สงสัยมาหาวุ้น...” ธีร์พูด
“รู้จักด้วยเหรอ???....”
“แบงค์เป็นเพื่อนผมน่ะครับ...เรียนเอกเดียวกัน...” ธีร์ตอบ  ผมหลี่ตามอง
“เพื่อนจริงๆครับพี่นุ...เพื่อนกอดคอกินเหล้าเลย...ไม่มีอะไรมากกว่านั้น..” ธีร์เริ่มอธิบาย
“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย...เพื่อนก็เพื่อนดิ...จะเป็นอะไรกันก็เห็นเกี่ยวกับพี่ซักหน่อย..”  ผมพูดไปไม่รู้ว่าตัวเองเนี่ยเริ่มงอน
“หึงผมเหรอครับพี่นุ...”  ธีร์ยื่นหน้ามาใกล้ๆ
“ป่าว...ไม่ได้เป็นอะไรกันจะหึงทำไม...”
“หึงหน่อยน่า...นะ...” ธีร์ล้อจนผมหน้าเริ่มแดงล่ะ...เสียงเคาะกระจกดัง...
“แหม...สวีทกันจังเลยน๊าค๊าบบบ....”  เสียงคนที่พูดถึงเดินเข้ามาใกล้ๆ  แล้วยกมือไหว้ผม
“หวัดดีครับพี่นุ...น่ารักอย่างนี้นี่เองถึงเอาไอ้ธีร์ซะอยู่หมัดเลย...”  แบงค์แซว  ผมกับธีร์เลยลงมาจากรถ
“ปากดีละเมิงไอ้แบงค์...”  ธีร์เดินมาซัดไหล่แบงค์ดังผลั่ก...แบงค์แกล้งเซแซ่ดๆมาหาผม
“โอ้ย..พี่นุ..ช่วยผมด้วย...”  แบงค์แกล้งกระโดดไปยืนข้างหลังผมทำท่ากลัวธีร์ สองมือจับแขนอผมเหมือนจะยกขึ้นให้เป็นโล่ป้องกันภัย
“มึงออกมาไกลๆพี่นุเลยไอ้แบงค์...” ธีร์ไล่ตาม  แบงค์วิ่งหนีไปรอบๆผม
“แบงค์...แบงค์ใช่มั้ย...”   แบงค์ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะหันกลับไปดู...สีหน้าตกใจนิดๆ
“ บี...บีเองเหรอ....”   เท่านั้นแหละคุณเธอก็สวมกอดเจ้าแบงค์ซะแน่น
“......คิดถึงจัง...พรหมลิขิตแน่ๆ” 
“ เดี๋ยวๆ บี ปล่อยก่อน เฮ้ย พอแล้วอายเขาตายห่า...” แบงค์พยายามดึงแขนบีออก  บีก็ยังไม่ยอมคลายอ้อมแขน  วุ้นที่กำลังถือแก้วโค้กเดินกลับมาอยู่พอเห็นว่ามีคนเกาะแกะแฟนตัวเองจึงรีบพุ่งมาด้วยความเร็วสูง
“ แหม... กลางบ้านร้านตลาดยังกล้ามากอดแฟนชาวบ้านเค้า....ไม่อายเลยเนอะ”  มาถึงวุ้นก็ใส่เลย  ด้วยความฉลาดหลักแหลม แบงค์จึงรีบเอาตัวรอด
“ เอ่อ บี นี่วุ้นแฟนเรา...”   บีค่อยๆคลายอ้อมกอดอย่างช้าๆแล้วมองวุ้นหัวจรดเท้า
“ อ๋อ...เดี๋ยวนี้ชอบของแปลกหรอแบงค์...ชอบคนที่ดูดีมีเกรดกว่านี้ บีจะไม่ว่าเลยสักคำ...แต่นี่อะไรก็ไม่รู้ แต่งตัวกะเร้อกะรังยังกับบ้านนอก สวยก็ไม่สวย...ตัวก็หยั่งกะหมาชิสุห์..เอ๊ะ..หรือชิวาว่ากันนะ..”   ไม่ต้องเดานะครับว่าแม่วุ้นจะ
ดีใจขนาดไหนที่มีคนชม
“คร่า....อีสวย อีไฮโซ...อิตุ๊ดปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”  ว่าแล้วก็เหลียวซ้ายแลขวามองหาอุปกรณ์เสริมและโปรโมชั่นที่เหมาะสมจากถังขยะ
“ปากอย่างนี้ตบด้วยเปลือกทุเรียนซักฉาดสองฉาดน่าจะดี”    วุ้นพูด  บีเองก็ไม่น้อยหน้า หล่อนคว้าเอากระบอกข้าวหลามจากในถุงขึ้นมาขู่
“ ก็ลองเข้ามาสิอีเตี้ย กูจะเอากระบอกข้าวหลามนี่ทิ่มหอยมึงซะเลย...”   กระเทยเกรียนทั้งสองทำท่าจะตบกันซะให้ได้จนแบงค์ต้องเข้าไปห้ามแล้วบอกให้บีกลับไปก่อน...แบงค์แยกวุ้นออกมาก่อนออกมายังไม่วายแลบลิ้นปลิ้นตาใส่       บีอีก...
“แบงค์...อีหัวโปกนี่มันคือใคร....” วุ้นหันไปไล่ต้อนแบงค์ที่ทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่
“มาคุยอะไรกันตรงนี้เล๊า...อายเค้า..นี่..มานี่เลย...”  แบงค์ลากวุ้นไปคุยกันห่างจากผมประมาณนึง...พอที่ให้ได้ยินกันสองคน...ผมยืนมองดูทั้งคู่แล้วหันไปมองธีร์ด้วยหางตา...จนธีร์ต้องรีบออกตัว...
“ทำไมมองผมแบบนั้นอ่ะครับพี่นุ...นั่นไอ้แบงค์นะไม่ใช่ผม..”
“ทำไมต้องร้อนตัวด้วยอ่ะ...ยังไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย...”
“ผมไม่มีทางให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอกครับ...” 
“เตรียมตัวมาดี...ว่างั้น..”
“โธ่..พี่นุ...ผมเลิกหมดแล้ว...ตอนนี้ก็เหลือพี่นุคนเดียวเนี่ย...แทบจะเป็นฤาษีอยู่แล้วตั้งแต่จีบพี่นุอ่ะครับ...ช่วยตัวเองก็แทบจะไม่ได้ทำเลย...”  ธีร์พูดแล้วยิ้ม
“บ้า...พูดอะไรไม่รู้เรื่อง...”  ผมพูดอายๆแล้วเดินไปรวมกับทุกคน...สักพักวุ้นก็เดินตามเข้ามาใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ไม่รู้ตกลงกันว่ายังไง...เหอๆๆ...ส่วนแบงค์ก็เดินไปคุยอะไรกับธีร์นิดหน่อยแล้วธีร์ก็เดินมาหาผม...ธีร์กำลังจะพูดแต่ผมแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ไปเหอะ...ตามสบาย...ไม่ต้องเป็นห่วง...”
“พี่นุ...งอนอีกแล้ว...”
“ป่าว...ไม่เห็นมีอะไรต้องงอน...”
“เดี๋ยวผมมา...พอดีต้องไปคุยโปรเจคงานส่งอาจารย์ก่อนอ่ะครับ...” ธีร์พูดแล้วขับรถออกไปกับธีร์...ในใจผมก็คิด...
โปรเจคอะไร๊...ถ้าไม่ใช่ตั้งวงดื่มเหล้าอ่ะ...นี่คงอดมาหลายวันแล้วอ่ะดิ...อีกเสียงหนึ่งขัดแย้งขึ้นมา...บ้าน่า  เค้ามีธุระจริงๆ...เรายังมีงานต้องรับผิดชอบเลย...ทำไมเค้าจะมีบ้างไม่ได้ล่ะ...
“สงสัยจะไม่ได้ซ้อมกันละมั้งพี่นุ...ป่านนี้แล้วยังมากันไม่ครบเลย...”  เสียงปอยบ่นมาแต่ไกลแล้วมานั่งข้างๆผม
“ท่าทางมันคงยังเพลียกันอ่ะพี่นุ...เอาไงดีเนี่ย...” อิ่มบ่น
“เหลืออีกไม่กี่วันก็จะแข่งแล้วด้วยเนี่ย...” เดี่ยวบ่นขึ้นมาบ้าง
“คนไม่ครบก็ต่อตัวไม่ได้ด้วย...” ปอยพูดแล้วมองไปที่สนามที่ตอนนี้เปียกแฉะไปด้วยสายฝนที่เพิ่งหยุดไป
“ตั้งแต่พรุ่งนี้คงต้องเข้มกว่านี้แล้ว...ไม่งั้นไม่ทันแน่ๆ...” ผมบอก
“วันนี้ไอ้เจมส์ไม่มานะค๊าบ...ทุกคน...” ไอ้เต๊ะตะโกนเสียงแจ๋ว
“มันเป็นห่าอะไรอีกล่ะไอ้เต๊ะ...” อิ่มตะโกนถามกลับไปแต่วุ้นพูดแทรกขึ้นมา
“สงสัยมันเป็นโรคหัวใจอ่อนแออยู่มั้ง...”  เดี่ยวซัดเพี๊ยะที่ต้นแขน 
“ปากเสียนะเมิง...หุบรูบนใบหน้ามึงเลย...” เดี่ยวกระซิบกระซาบ
“มันเป็นไข้อ่ะพี่นุ...ว่างๆพี่นุไปเยี่ยมมันมั่งดิ...บางทีมันอาจจะหายเร็วขึ้น...” ไอ้เต๊ะบอก
“ป่วยอีกคนละ...จะได้ซ้อมกันครบๆเมื่อไหร่เนี่ย..ขาดวันละคนสองคน...หลีดมืออ่ะเค้าไม่เคยขาดเลยซักวัน..” ปอยบ่น
“งั้นก็ซ้อมเท่าที่มีกันก่อน...ปอยเอาหลีดมือไปซ้อมไปมาครบแล้ว...ส่วนอิ่มเอาหลีดปอมปอมไปทบทวนท่าเต้นแล้วมาสอบทีละคน...ใครผ่านแล้วปล่อยกลับบ้านเลย...” ผมบอกแล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปซ้อม
“ไอ้กิ๋วมึงขึ้นไปเป็นเพื่อนกูเลย...” ผมเรียกให้ไอ้กิ๋วขึ้นไปเยี่ยมเจมส์บนห้องเป็นเพื่อนผม...แต่มันยังทำท่าอิดออด
“โห...ไอ้นุอยู่ตั้งชั้นสาม...กูจะปีนขึ้นไปไหวมั้ยเนี่ย...เอาอย่างนี้ถ้ามันปล้ำ...มึงก็ตะโกนดังๆละกันเดี๋ยวกูขึ้นไปช่วย”
“กวนตีนละมึง...” ผมหันไปด่าไอ้กิ๋วแล้วคว้าถุงข้าวต้มเดินขึ้นไปที่หอไอ้เจมส์...ผมเดินไปเคาะที่ห้องแต่ก็นึกได้ว่ามันป่วยนี่หว่าแล้วจะลุกมาเปิดได้ยังไงวะ..ผมก็เลยเอื้อมมือจะจับลูกบิดแต่ประตูมันเปิดขึ้นซะก่อน...


“พี่นุ  /  เจมส์...” ผมทั้งคู่พูดพร้อมกัน...
“ไหนไอ้เต๊ะบอกว่าป่วย..แล้วทำไมเดินได้...” ผมถาม
“แหม!พี่นุ...ผมเป็นไข้ไม่ใช่รถชนจะได้เดินไม่ได้อ่ะ...เข้ามาก่อนมั้ย..” เจมส์พูดแล้วเปิดประตูให้กว้างขึ้นผมเดินเข้ามา
“ก็เป็นห่วง...นึกว่าเป็นเยอะซะอีก...” ผมวางถุงข้าวต้มไว้ที่โต๊ะ
“งั้นผมอยากเป็นหนักกว่านี้ซะแล้ว...พี่นุจะได้เป็นห่วงผมเยอะๆ...” เจมส์เลื่อนเก้าอี้มานั่งข้าง...เอามือวางแล้วคางเกยอยู่บนพนักเก้าอี้...
“แล้วนี่มียากินมั้ยเนี่ย...ถึงกับต้องไปหาหมอมั้ย...”
“นอนมาทั้งวัน...ก็ค่อยยังชั่วแล้วล่ะพี่นุ...ผมขอโทษที่ทำให้ไม่ได้ซ้อมกันเลย...”
“ไม่เป็นไรหรอก...วันนี้ขาดกันตั้งเยอะแยะ  ก็รีบๆหายป่วยละกันขาดไปคนนึงก็ต่อตัวกันไม่ได้แล้ว...”
“พี่นุมาให้กำลังใจถึงหอแบบนี้...รับรองพรุ่งนี้หายแน่นอน...”
“งั้นก็โอเค..พี่กลับก่อนแล้วกัน...ไอ้กิ๋วจอดรถไว้นานไม่ได้...ไปนะ..”  ผมบอกแล้วลุกไปเปิดประตูเจมส์เดินตามผมไป
“พี่นุ...” เจมส์เรียก  ผมหันไป   แก้มตรงกับริมฝีปากไอ้เจมส์พอดี...ฟอดดดดดด....โดนอีกแล้วกู......
“ได้ยาดีแบบนี้...หายขาดเลย...” เจมส์พูดแล้วยิ้ม...ผมก็มองหน้าเคืองๆ
“ทำแบบนี้อีกแล้วนะเจมส์...เห็นพี่เป็นอะไรวะเนี่ย...” จะโกรธก็โกรธไม่ลง..ผมอ่ะ...ผมรีบหันหลังเดินลงบันไดไปทันที...เดินลงมามือก็ลูบแก้มไป...แก้มกูมันน่าหอมอะไรนักหนาว๊า...หอมกันอยู่นั่นแหละ...
“เอ้า...จะลูบอีกนานมั้ยไอ้นุ...เดี๋ยวก็เห็นตัวเลขขอหวยกันได้พอดี...ทำมะ...โดนไอ้เจมส์หอมมาอีกรึไงวะ...5555”
ไอ้กิ๋วขำหลังจากที่เห็นผมขึ้นรถมาแล้วมือก็ยังลูบแก้มอยู่
“ป่าวเว้ย...กะกะ..กูคันอ่ะ..สงสัยผื่นจะขึ้น...”  ผมตอบเลี่ยงๆ
“แล้วจะให้กูไปส่งที่หอเลยป่ะ...หรือจะรอไอ้ธีร์...”  ไอ้กิ๋วถาม ผมมองนาฬิกาเกือบสามทุ่มแล้ว...
“ไม่รอแล้วว่ะ...แต่มึงพากูไปกินข้าวหน่อยดิ..กลับหอไปกูไม่มีรถออกมาว่ะ..เบื่อมาม่าจะแย่อยู่แล้ว...”
“โถ...เพื่อนกู...น่าสงสารเนอะ...”  ไอ้กิ๋วพูดแล้วขับรถพาไปกินที่ร้านข้าวต้มข้างทางธรรมดาๆระหว่างกินไป...โทรศัพท์ดัง...ธีร์นั่นเอง...แต่ทำไมเป็นเสียงคนอื่นฟะ...
“พี่นุ ...ผมแบงค์นะครับ....พี่นุฟังผมอยู่หรือเปล่า”  เสียงอ้อแอ้ดังมาตามสาย
“ฟังอยู่....แบงค์มีอะไรเหรอ...”
“พี่นุช่วยมารับไอ้ธีร์ด้วย...เอ่อ...ตอนนี้มาวฟุบหลับไปแล้ว...ไก่อ่อนเจ็งๆ” แบงค์เองก็ท่าทางเมาไม่แพ้กัน
“แล้วทำไมแบงค์ไม่พาเพื่อนแบงค์กลับบ้านหล่ะ” ผมตอบเสียงเรียบ...แต่ในใจเริ่มหงุดหงิดล่ะ ไม่นึกว่าตัวเองจะได้รับประสบการณ์เช่นนี้....มีคนโทรมาให้ไปรับตัวคนเมากลับบ้าน..นึกแล้วไม่มีผิด..ขอตัวไปเมาจริงๆด้วยแล้วมาอ้างงาน
“ผมปายม่ายไหว เมาจะแย่เหมือนกัน...ผมมีภารกิจต่อ...”
“แล้วทำไมไม่นอนกันที่โน้น....”  ผมยังต่อรอง

“ม่ายด้ายหรอกคับ...พ่อไอ้คิมมันด่าแล้ว....พี่นุรีบมานะครับ เดี๋ยวใครคาบไอ้ธีร์ไปจะหาว่าม่ายเตือน...พี่นุเป็นแฟนมันก็ต้องมาเก็บมันไป”
“พี่ไม่ใช่แฟนธีร์....”  เริ่มฉุนละผมอ่ะ...โมโหคนเมา
“แต่ไอ้ธีร์มันบอกว่ามันเป็นแฟนพี่นุ”
”งั้นแบงค์ก็จับใส่รถของธีร์ไว้ละกัน...ให้นอนในนั้นแหละ..ดี...อยากเมานัก”  ผมหาทางออกให้
“ม่ายด๊าย...หากูนแจม่ายเจอ.......เฮ้ย...เฮ้ย...เฮ้ย”  เสียงขาดหายไปผมได้ยินแต่เสียงกุกกักๆ จากปลายสายเหมือนแบงค์กำลังทำอะไรซักอย่าง
“พี่นุมารับไอ้ธีร์ที่หอศุภาวรรณ...แถวๆประชาอุทิศนะครับ ผมม่ายหวายแล้ว”  ผมวางโทรศัพท์ลงอย่างอ่อนใจ ไม่นึกว่าจะโดนมัดมือชกเช่นนี้ เกิดมาไม่เคยที่จะต้องไปแบกคนเมากลับบ้านมาก่อน
“มีไรวะไอ้นุ...หน้าหงิกเชียว...” ไอ้กิ๋ววางตะเกียบแล้วถาม
“ไอ้กิ๋ว...มึงรู้จักหอศุภาวง..ศุภาวรรณอะไรนั่น...แถวประชาอุทิศมั้ยว่ะ...”  ไอ้กิ๋วทำท่านึก
“อ๋ออออ....รู้จัก...ทำไมวะ...”
“กูต้องไปลากธีร์มันกลับหอ...มันเมาหลับไปแล้ว...”  ยิ่งพูดก็ยิ่งหงุดหงิดไม่กงไม่กินมันแล้วข้าวต้มเนี่ย...เบื่อ...
“มีแฟนเพลย์บอยก็แบบนี้แหละว๊า...ต้องทำใจ...” ไอ้กิ๋วแซว
“กูยังไม่ใช่แฟน....”
“นั่นแน่...ยังไม่ใช่..เดี๋ยวต่อไปก็ใช่ช่ายม๊าาา...”
“หุบปากไปเลยนะไอ้กิ๋ว...ไม่งั้นกูจะขอให้มึงเป็นคนไปรับธีร์แทน”
“ไม่เอานะเว้ยนุ...ของๆ ใครคนนั้นก็รับผิดชอบเอาดิ” ไอ้กิ๋วกวน  พอจ่ายเงินผมกะไอ้กิ๋วก็ออกจากร้านตรงไปยังหอ
ศุภาวรรณที่ไอ้ตัวแสบเมาหลับอยู่...ในใจนึกว่าขอให้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย...ไม่มีวันเสียหล่ะที่จะต้องออกไปทำ ‘ภารกิจ’ เช่นว่านี้บ่อยๆ ตามที่ไอ้กิ๋วล้อ...พรุ่งนี้ผมจะยื่นคำขาดกับธีร์ หากจะยังคบกันต้องห้ามเมาหมดสภาพอย่างวันนี้
ไปถึงหน้าหอศุภาวรรณผมก็พบว่าธีร์นอนพาดอยู่บนม้านั่งหน้าหอตรงป้อมยาม มียามนังพัดวีไล่ยุ่งให้อย่างเอื้ออารีย์...ดูแล้วผมไม่แปลกใจอ่ะครับเพราะท่าทางเป็นขาประจำ...ผมตบแก้มไอ้ตัวดีเบาๆ เพื่อเรียกสติ...คนเมางัวเงียลุกขึ้นมามองตาปรือถามว่า
“ครายอ่ะ...พี่นุหรือ...คิดถึงจัง”
“หมดสภาพขนาดนี้แล้วยังปากดีอีกนะมึง...” ไอ้กิ๋วบ่นแล้วก็ช่วยผมหิ้วปีกไอ้ธีร์คนละข้างเข้ารถ...ก่อนกลับผมต้อง  ขอโทษขอโพยลุงยามกันใหญ่ที่สร้างความลำบากให้
“เอาไงเมิง...ต้องไปส่งไอ้ธีร์ที่ไหนเนี่ย...ที่หอมันเหรอ...” ไอ้กิ๋วถามก่อนออกรถ
“กูเองก็จำไม่ได้ว่ะทางเข้าอ่ะ...ธีร์มันเคยบอกครั้งนึงแต่ลืมไปแล้ว...”
“งั้นก็เอาไปไว้หอมึงเลยไอ้นุ...กูง่วงแล้ว...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วขับรถตรงไปยังหอผม...
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 02-05-2017 22:03:39
เอาหล่ะวุ้ย!! พี่นุจะรอดมั้ย ลุ้น....นนน    :ling1:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 15
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 03-05-2017 23:03:46
ตอนที่ 16_ข้อตกลง...


   เช้าวันรุ่งขึ้นโชคดีวันนี้ผมไม่มีเรียนเพราะอาจารย์ติดสัมมนา...ไอ้นัทตี้โทรมาบอกผมเมื่อคืน...ก็ดีผมจะได้มีเวลาจัดการไอ้ตัวดีที่นอนหลับใหลเมาหมดสภาพอยู่ในห้อง...ผมกดน้ำร้อนใส่ลงในคนอร์โจ๊กคัพสองถ้วย...ถ้วยหนึ่งของผมเอง...อีกถ้วยนึงเป็นของผู้ต้องหา....เหอๆ...เดี๋ยวก่อนชอบว่าผมใจร้ายนักคราวนี้แหละจะได้เห็นผมใจร้ายจริงๆ
ธีร์ค่อยๆ ยกหัวขึ้นมาจากที่นอนโผล่หัวขึ้นมามองไปยังต้นทางของเสียงและกลิ่นนั้น  สัญชาตญานของผมคงบอกว่ามีใครจ้องผมเงยหน้าขึ้นมา เห็นธีร์กำลังทำตาหวานมองอยู่  ผมยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงทำอาหารเช้ามื้อพิเศษต่อ...มื้อแรกและมื้อเดียวที่จะทำบริการคนเมา
“หอมจัง” ธีร์ทำท่าสูดดม
“รีบไปล้างหน้าล้างตาสิ...จะได้มาทานอาหารพิเศษ...”  ธีร์ยิ้มบางๆยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง
“ครับ ครับ...แต่ผมไม่มีแปรงสีฟัน”
“เตรียมไว้ให้แล้ว....ห้องน้ำอยู่ทางโน้น”
“ล้างหน้าแปรงฟันอย่างเดียวก็พอนะ”  ธีร์เดินโซเซไปที่ห้องน้ำ  ธีร์ยังอยู่ในชุดนักศึกษาตั้งแต่เมื่อวานไม่ได้ติดกระดุมเสื้อ..ผมเองก็ไม่กล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เพราะใจไม่ถึงหรือว่า..จะกลัวห้ามใจตัวเองไม่ได้ก็ไม่รู้...
“เรียบร้อยแล้วครับ ผมทานได้หรือยัง”  ธีร์นั่งกับพื้นที่โต๊ะญี่ปุ่นตัวเดิม...
“โจ๊กท่าทางจะอร่อยนะครับ...”  ธีร์ตักขึ้นมาดมกลิ่น...
“อืมม...เจมส์เค้าซื้อมาให้เมื่อวันก่อน...”  ผมแกล้งพูดแล้วตักโจ๊กเข้าปาก
“ใจร้าย กะจะแกล้งผมให้ทานไม่ลง” ธีร์ทำหน้างอนแต่ก็ตักโจ๊กเข้าปาก
“เมื่อคืนธีร์เมามากจนหมดสภาพ...” ผมเริ่มเมื่อเห็นว่าทานโจ๊กไปบ้างแล้ว  หลังจากล้างหน้าล้างตาจนสดชื่น สติของธีร์ก็เริ่มกลับมาเป็นปรกติ จำได้แล้วว่าเมื่อคืนอะไรเกิดขึ้นบ้าง
“กินโจ๊กให้หมดก่อนสิครับ กำลังอร่อย”
“อร่อยเหรอ?...งั้นธีร์กินให้อิ่มๆเพราะอาจไม่ได้กินอีก”  ผมยังหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอารมณ์แต่ดูแล้วธีร์คงเริ่มอึดอัดละ
“ไอ้แบงค์ไม่น่าหวังร้ายเลย ทำให้พี่นุลำบาก ให้คนอื่นไปส่งผมก็ได้ ที่จริงมันนั่นหล่ะควรไปส่งผม”
“ให้พี่จินตนาการนะ ทุกคนคงเมาฟุบกันหมด แบงค์เองก็ท่าทางไม่แพ้กัน แต่ยังดี...พอเดินได้พูดรู้เรื่องบ้าง”
“โธ่พี่นุ นานๆครั้งนะครับ...ผมหยุดดื่มมาตั้งนานแล้วแต่เมื่อวานพอทำงานกันเสร็จพวกมันก็ตั้งวงกันต่อ...ผมจะขอตัวกลับมาหาพี่นุ...แต่พวกมันก็ไม่ให้กลับคะยั้นคะยอให้ดื่ม...บอกว่าแก้วเดียวๆ...”
“แก้วเดียวแต่หลายรอบ...เลยออกมาในสภาพแบบนี้...” ผมพูดต่อแทน
“โธ่...พี่นุครับอย่าโกรธเลยน่า ผมไม่เมาให้พี่นุต้องออกไปแบกตัวกลับบ้านอย่างนั้นอีกหรอก จะไม่ดื่มเหล้าจนเมาหมดสภาพแบบนั้นอีกแล้วนะ...นะครับ”
“ดื่มก็ดื่มไปดิ...เรื่องปกติพอรวมกลุ่มกันก็ดื่มหนักกันอยู่แล้ว...แต่พี่จะไม่ออกไปรับธีร์อีกแล้ว...ไม่ว่าจะกลับมาที่นี่หรือไปไว้ที่ไหน”  ผมจ้องตาธีร์นิ่งๆ  ธีร์เองก็ยิ้มแหยๆ ผมหันหลังเอาถ้วยโจ๊กไปทิ้งแล้วถอนใจเฮือกใหญ่.....
ธีร์เอ้ย....อย่าให้ผมต้องมารบรากับความเจ้าชู้และความเจ้าสำราญของธีร์เลย...ภารกิจนี้ผมรับไม่ได้...ผมคิดในใจ....
ส่วนไอ้ตัวดีของผมนั่งหงอเป็นลูกแมวเซื่องๆเลยเพราะงานนี้ผิดซะเต็มประตู...





“สามวันเลยเหรอครับพี่นุ....ลดลงหน่อยไม่ได้เหรอ...” ธีร์ต่อรองตอนที่ผมเดินลงมาส่งที่รถ
“ไม่ได้หรอกธีร์...พี่ว่าสามวันมันยังน้อยไปด้วยซ้ำ...ธีร์ลองใช้เวลาสามวันที่ไม่ได้เจอกันนี่คิดดูว่าธีร์เองจะทำตามที่ธีร์เคยพูดกับพี่ไว้ได้หรือเปล่า...”  ผมพูดแล้วพยายามจะปิดประตูรถให้แต่ธีร์เองยังดันไว้...
“แค่เรื่องเมื่อคืนพี่นุโกรธผมขนาดนี้เลยเหรอ...ผมก็ขอโทษแล้วอ่ะครับพี่นุ...น๊าๆ...อย่าทำกับผมแบบนี้เลย...”
“เชื่อพี่เถอะธีร์...ถ้าในสามวันที่ไม่ได้เจอกันแล้วเราคิดถึงกัน...เราก็กลับมาคุยกัน....บางทีธีร์อาจจะตัดสินใจอะไรได้บ้างก็ได้ในช่วงที่เราไม่เจอกัน...บางทีพี่เองก็อาจจะตัดสินใจอะไรได้บ้างในสามวันนี้เหมือนกัน...”
“ตัดสินใจ...พี่นุจะตัดสินใจอะไรอ่ะครับ...” ธีร์รีบผลักประตูรถลงมาจับไหล่ผมทันทีที่ได้ยินผมพูด
“ธีร์อย่าลืมนะว่าชีวิตเราเดินสวนทางกัน...ชีวิตพี่ค่อนข้างเรียบ..จืดชืดและหน้าเบื่อแต่ชีวิตธีร์มีสีสัน..โลดโผนอยู่ตลอด
...บางทีเราอาจจะไม่ใช่คู่กันก็ได้...” ผมพูดเองก็ยังใจหายเองเลย...พูดไปได้ไงวะ...
“ไม่นะครับพี่นุ..อย่าพูดแบบนี้...พี่นุจะให้ผมทำอะไรก็ได้แต่พี่นุอย่าพูดอย่างนี้นะครับ...” ธีร์เสียงสั่น
“ธีร์...พี่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ธีร์ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อพี่...แต่พี่อยากให้ธีร์ใช้หัวใจในการที่จะทำอะไรเพื่อใครซักคนต่างหาก....นะธีร์...ถ้าเราไม่ได้เจอกันซักพักแล้วเราคิดถึงกันจริงๆ...ทำได้อย่างที่เราพูดกันจริงๆ...เราก็จะเดินไปด้วยกัน...ลองปล่อยให้หัวใจคิดถึงกันดูบ้างนะธีร์...”
“พี่นุ...” เสียงของธีร์ผ่านริมฝีปากออกมาแผ่วเบา แทบไม่ได้ยิน  ผมตัดใจเดินหันหลังกลับเข้าไปในหอปล่อยให้ธีร์ยืนอยู่อย่างนั้น...ธีร์มองตามผมไปจนสุดสายตา...ผมกดลิฟท์กลับขึ้นมาในชั้นของตัวเองรู้สึกตัวหวิวๆพิกลที่พูดอะไรแบบนี้ออกไป...ซึ่งก็ถือว่าวัดใจพอสมควรหากมันไม่เป็นไปตามที่ผมคิด...ผมคาดโทษธีร์ด้วยการไม่ต้องมาเจอกันสามวัน
ห้ามโทรศัพท์...ห้ามอะไรต่างๆทั้งสิ้นเพื่อแก้นิสัยเพลย์บอยของธีร์..อย่างที่บอกถ้าคิดจะคบกันก็ต้องห้ามเมาบวกกับอีกเหตุผลนึง...ผมต้องการให้ธีร์รู้จักรับผิดชอบในสิ่งที่พูดกับใครสัญญาอะไรกับใครไว้ว่าตัวเองจะทำได้อย่างที่รับปากหรือเปล่า...ผมไม่อยากให้ธีร์เอาแต่พูดจาหวานๆหว่านล้อมให้ผมหลงคารมอะไรไปเรื่อยจนให้ธีร์ได้ในสิ่งที่ต้องการ...ผมไม่อยากดูไร้ค่าขนาดนั้น...แต่ผมเองอยากดูมีค่าในสายตาของธีร์จริงๆอย่างที่ธีร์พูดต่างหาก...ไม่ใช่มองว่าผมเป็นของเล่น...คิดอยากจะเข้ามาจับดูเมื่อไหร่ก็มา..พอซื้อไปแล้วเล่นเบื่อก็โยนมันทิ้งไปอย่างไร้ความหมาย...อย่างที่บอกการยื่นคำขาดของผมในครั้งนี้ค่อนข้างจะวัดใจพอสมควร...คนหน้าตาดีสมบูรณ์แบบอย่างธีร์อาจจะไม่มาสนใจคนธรรมดาจืดชืดอย่างผมก็ได้..แต่ถ้าธีร์ทำได้อย่างที่ผมบอก...ผมก็จะรับผิดชอบคำพูดของตัวเองด้วยการให้ผมกับธีร์...เราสองคนเดินไปด้วยกัน...



“ไอ้กิ๋วเย็นนี้มึงมารับกูไปซ้อมด้วยนะ...เออ....รถน่าจะได้พรุ่งนี้ว่ะ....” ผมโทรไปหาไอ้กิ๋ว
“อ้าว...แล้วไอ้ธีร์ล่ะยังเมาไม่ตื่นรึไงวะ...”
“กูสั่งมันไม่ให้มาหากูสามวัน...โทษฐานที่เมา...”
“โห...แม่งโหดว่ะ...จะขาดใจตายมั้ยไอ้นั่นน่ะ...ไม่ได้เห็นหน้าพี่นุสุดที่รักของมันตั้งสามวัน...” ไอ้กิ๋วแซว
“ไม่หรอก...บางทีธีร์มันอาจจะดีใจก็ได้ที่ไม่ต้องมาวุ่นวายกับกู...” ผมพูดเสียงอ่อยๆ
“ไม่ม้างไอ้นุ...กูดูแล้วมันก็รักมึงดีนี่หว่ามันคงไม่คิดอย่างนั้นหรอก..ไม่งั้นมันจะขับรถตามมึงไปชะอำหรือวะ..”
“ไม่รู้ดิวะ...ใหม่ๆอะไรก็ดีหมด..มึงก็รู้...คนเจ้าชู้อ่ะทำได้หมดแหละเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ...”
“มึงกลัวไอ้ธีร์จะฟันแล้วทิ้งว่างั้น...”
“ก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก..ไม่รู้อ่ะ...กูยื่นคำขาดไปแล้วถึงกูยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกะมันแต่ถ้าอยากคบกะกูจริงก็ต้องทำให้ได้...”
“แล้วถ้ามันทำไม่ได้หรือไม่ทำขึ้นมา...มึงอย่ามานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งนะเว้ยไอ้นุ...ความผิดมึงเต็มๆเลยนะเที่ยวนี้”
“ช่างมันเหอะ...วัดใจเว้ย...กูก็เผื่อๆใจไว้บ้างแหละ...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”
“อ๋อ..ลืมไป...พลาดจากไอ้ธีร์ก็ยังมีไอ้เจมส์รอซับน้ำตาอยู่นี่หว่า....พี่นุของเจมส์....5555”
“หุบปากเลยไอ้กิ๋ว...อย่าลืมมารับกูก็แล้วกัน...”  ผมวางโทรศัพท์แล้วหันกลับไปมองที่เตียงที่เมื่อคืนมีใคนคนหนึ่งนอนหลับใหลอยู่....ใครคนหนึ่งที่ผมนั่งอยู่ข้างๆ...ใครคนหนึ่งที่ผมเช็ดหน้าเช็ดตาให้แล้วนั่งมองเค้าทั้งคืนจนหลับไป...
นี่ใจของผมกำลังเต็มไปด้วยธีร์แล้วใช่มั้ยตอนนี้...ผมเปิดรับธีร์เข้ามาในใจเต็มที่แล้วเหรอ...ผมถามตัวเอง...





“เพราะมึงเลยไอ้แบงค์...ลากกูไว้ให้กินเหล้าอ่ะ...พี่นุเค้าโกรธกูใหญ่เลยไม่ยอมให้กูไปหาตั้งสามวัน...”  ธีร์ใส่เป็นชุดหลังจากบุกเข้าไปหาแบงค์ที่หอ...แบงค์สะดุ้งตื่นแทบจะไม่ทัน...ทั้งคู่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาเมื่อวานเหมือนกันเดี๊ยะ...
“อะไรว๊า...แค่กินเหล้าไม่เห็นจะต้องอะไรเลยจะโกรธอะไรนักหนาเลย...ปกติมึงก็กินนี่...”  แบงค์ลุกขึ้นนั่ง
“นั่นมันเมื่อก่อนเว้ย...พี่นุไม่ชอบคนกินเหล้า...”  ธีร์นั่งลงข้างๆ
“แหม...ท่าทางหงอไปเลยนะมึง...มึงจะใส่ใจทำไมวะเค้าเล่นตัวนักมึงก็สลัดๆไปเลยดิ...อย่างมึงหาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้...จะเอาให้เหนือกว่าพี่นุเท่าไหร่ก็มีอยู่แล้ว...มึงยังจะแคร์อะไรอีกวะ...” แบงค์ตบไหล่ธีร์เบาๆ
“แสดงว่ามึงยังไม่รู้จักความรัก...กับพี่นุ...กูรักเค้าว่ะ...กูทำไมลงหรอก...” ธีร์ตอบเสียงเศร้าๆ
“นี่มึงรักเค้าขนาดนี้จริงเหรอวะ...แล้วเค้ารักมึงขนาดนี้มั้ย...” 
“เค้ายังไม่เคยบอกรักกูซักคำ...”
“คนบางคนเค้ารัก....แต่เค้าก็ไม่พูดออกมาก็มีนะโว๊ย”
“กูเองคงยังดีไม่พอให้พี่นุเค้าบอกรักกูว่ะ...”
“งั้นมึงก็ต้องพยายาม...ถ้ามึงรักเค้าจริงๆมึงก็ต้องทำให้เค้าเห็นให้ได้ว่ามึงดีพอที่เค้าจะบอกรักมึง...กูรู้มึงทำได้...กูเอาใจช่วยเว้ยธีร์...แต่งานนี้กูว่าเราต้องหากำลังเสริมว่ะลุยด้วยตัวมึงคนเดียวกะกูไม่พอแน่ๆ...”
“กำลังเสริม....” ธีร์ทำหน้างงๆ
“ใช่กำลังเสริมไง...คิดดูดิ.....ช่วงสามวันที่พี่นุห้ามมึงไปหาเนี่ย...ช่วงอันตรายนะเว้ยมึงเคยได้ยินมั้ย...ไม่เจอกันสามวันนารีเป็นอื่นอ่ะ...”
“เฮ้ย..พี่นุไม่ใช่นารีนะเว้ย...”
“นั่นแหละ....กูเปรียบเทียบให้ฟัง...เราต้องหากำลังเสริมไว้คอยสังเกตการณ์ทุกฝีก้าวว่ามีใครไปเกาะแกะพี่นุเวลาห่างกับมึงบ้างหรือเปล่า....แล้วมีมั้ยวะ..” แบงค์ถามธีร์ในประโยคสุดท้าย
“ก็มีอยู่คนนึงในหลีดนั่นแหละ...ชื่อไอ้เจมส์...กูเคยเจอตอนไปชะอำ...แม่งแสดงท่าทางหวงพี่นุออกหน้าออกตา...”
“นั่นแหละยิ่งไม่ปลอดภัย...เราต้องตีซี้กับใครซักคนที่สนิทกับพี่นุ...” แบงค์ทำท่าคิด
“มีพี่กิ๋วไง...แต่พี่เค้าจะยอมช่วยกูเหรอวะ...พี่เค้าอาจจะเชียร์ไอ้เจมส์อยู่ก็ได้”
“ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ว่ะ...ต้องวัดใจดู...”
“แล้วถ้าสามวันแล้ว...พี่นุไม่เหมือนเดิมล่ะวะ...กูกลัวว่ะ...”
“กูว่าคนที่จะกลัวน่าจะเป็นพี่นุกลัวมึงไม่เหมือนเดิมมากกว่าว่ะ...เสือกไปเมาให้เค้าเห็น...”
“ก็นั่นแหละเพราะมึงไง...เรื่องถึงยุ่งยากแบบนี้..”
“ก็นี่ไง...กูก็กำลังช่วยมึงอยู่เป็นการไถ่โทษนี่ไง...ยังจะมาด่ากูอีก...ไอ้สาดดดด...”
“คอยดูนะ...ถ้าพี่นุไม่ยอมคุยกับกู...กูจะฆ่ามึง...” ธีร์หันไปชี้หน้า  แบงค์แกล้งทำตัวสั่นรับมุก
“กลั๊วกลัว...กลัวแล้วค๊าบบบบ”




“พี่กิ๋วช่วยผมหน่อยนะค๊าบ...” ธีร์วางขวดเหล้านอกชั้นดีตรงหน้าไอ้กิ๋วแล้วทำท่าอ้อนวอน ไอ้กิ๋วเหล่ตามองขวดแล้วตาโตนิดๆแต่ยังวางฟอร์มอยู่ ธีร์กับแบงค์บุกมาหาไอ้กิ๋วถึงหอหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อมากันมาแล้ว
“ของแบบนี้มันอยู่ที่แกสองคนนะเว้ยธีร์...พี่คนนอกพี่จะช่วยอะไรได้ว๊า...”
“ช่วยได้สิพี่กิ๋ว....ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ไอ้ธีร์มันไงว่ามีใครไปเกาะแกะพี่นุบ้างหรือเปล่า...” แบงค์ช่วยเสริม
“โอ้ยยยย...จะมีอยู่ก็แค่ไอ้เจมส์นั่นแหละที่คอยเป็นก้างขวางไอ้ธีร์อยู่อ่ะ..” ไอ้กิ๋วบอก
“นั่นแหละก้างชิ้นใหญ่ที่อยากจะให้พี่กิ๋วช่วยเขี่ยออก...” แบงค์พูดแล้วเลื่อนขวดเหล้าเข้าไปใกล้ไอ้กิ๋วมากขึ้น
“พี่กิ๋วไม่ต้องทำอะไรมากเลยครับแค่พูดถึงผมให้พี่นุได้ยินบ้างในช่วงสามวันที่ผมเข้าไปหาพี่นุไม่ได้อ่ะ...นะครับ...”
ธีร์เขย่าแขนไอ้กิ๋วเชิงขอร้อง
“พูดอย่างเดียวไม่พอนะพี่กิ๋ว..พี่กิ๋วต้องช่วยเข้าไปขวางไอ้เจมส์ด้วยอย่าให้มันเข้าใกล้พี่นุบ่อยๆ” แบงค์เสริมอีก
 “นะครับ...ถ้าพี่กิ๋วไม่ช่วยผมก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว...” ธีร์บอกเสียงอ่อยๆ
“ก็ดั๊นไปเมาเหล้าให้ไอ้นุมันเห็น...มันก็โกรธอ่ะดิไอ้นุไม่ชอบคนกินเหล้าอย่างกะอะไรดี...คนอย่างไอ้นุนะธีร์พี่จะบอกให้รู้...คารมคำพูดต่างๆซื้อใจนุมันไม่ได้หรอก...ต้องซื้อใจไอ้นุด้วยความจริงใจเท่านั้นแหละ...แล้วทุกอย่างก็จะดีเอง..”
“แล้วพี่กิ๋วว่าหลังจากสามวัน...พี่นุจะเหมือนเดิมกับผมมั้ย...”
“ถ้าจะให้เดานะ...นุมันควรจะกลัวเราไม่เหมือนเดิมมากกว่าว่ะธีร์...” ไอ้กิ๋วพูด  แบงค์เลยแทรกขึ้นมา
“เห็นมะ...ขนาดพี่กิ๋วยังพูดเหมือนกูเลย...”
“มึงเงียบไปเลยไอ้แบงค์...”
“ไอ้นุมันก็คงกำลังใช้ความคิดทบทวนอย่างหนักแหละ...นุเองมันไม่ใช่คนที่จะเปิดรับใครเข้ามาง่ายๆแต่พอจะเข้ามาก็เสือกมาพร้อมๆกัน...โดยเฉพาะแกไอ้ธีร์...เข้ามาหามันโดยวิธีแปลกๆ...แถมยังเสือกประวัติไม่ดีมาก่อนอีกต่างหาก...
ก็สมควรแล้วที่ไอ้นุมันยังไม่ตัดสินใจอะไรอ่ะ...”
“แต่ผมก็เลิกแล้วนะพี่กิ๋ว...เพียงแค่พี่นุพูดมาคำเดียวว่าพี่นุไม่รักผม...เท่านั้นแหละผมจะไปเอง...”
“ไม่หรอก...ดูๆแล้วไอ้นุมันน่าจะโอเคกับแกอยู่นา...สังเกตดูเวลามันอยู่กะแกอ่ะท่าทางมันก็มีความสุขดี...ไม่เหมือนตอนอยู่กับไอ้เจมส์ที่ดูเหมือนไอ้นุมันจะเกร็งๆ...กังวลๆ...”
“แสดงว่าพี่นุเองก็รักไอ้ธีร์ใช่มะพี่กิ๋ว...” แบงค์พูด
“อย่าเพิ่งสรุป...พี่ไม่ได้หมายความอย่างนั้นของอย่างนี้มันต้องอยู่ที่เจ้าตัวเค้าสิวะว่าเค้ารู้สึกยังไง...ต่อให้พี่ช่วยพูดให้แกแทบตายก็เหอะธีร์แต่ถ้าแกทำให้ไอ้นุมันเห็นว่าแกรักมันจริงๆไม่ได้อ่ะ...เทวดาหน้าไหนก็ช่วยไม่ได้นะเว้ย...”
“เห็นหงิมๆแบบนี้...ท่าทางโหดเอาการอยู่นะเว้ยธีร์...” แบงค์หันไปบอกธีร์
“โอกาสของคนผิดมีให้แก้ตัวไม่บ่อยนะเว้ยธีร์...เมื่อมีโอกาสแล้วก็ทำให้ดีที่สุด...ลองไอ้นุมันพูดแบบนี้โอกาสของแกก็ยังมีอยู่...ถ้านุมันโกรธจริงๆมันคงตัดขาดกันไปแล้วแหละ...แต่นี่มันก็ยังคงวัดใจแกอยู่นั่นแหละว่าจะทำได้อย่างที่พูดมั้ย...เอาเป็นว่าพี่จะลองช่วยเท่าที่ทำได้นะ...แต่ไม่รับปากว่าจะสำเร็จนะเว้ย...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วหยิบขวดเหล้านอกชั้นดีมากอดไว้
“แหม...ไม่เท่าไหร่เลยนะพี่กิ๋ว..” แบงค์แซวแล้วยิ้มๆ
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 04-05-2017 08:49:23
ธีร์มีติดสินบน แบบนี้พี่นุจะไปไหนรอด..ดดด  :hao6:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 16
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 04-05-2017 22:58:24
ตอนที่  17_หมัดแลกหมัด...ใจแลกใจ...


   ตลอดสามวันที่ไม่เจอธีร์ผมซ้อมหลีดอย่างหนักเพื่อที่จะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่าน...ผมไปรับรถมาแล้วจึงไปไหนมาไหนเองเหมือนเดิม...หลายคืนที่ผ่านมาเวลาผมออกไปยืนที่ระเบียงผมก็จะเห็นซีอาร์วีสีดำคนหนึ่งจอดดูอยู่ไกลๆทุกคืนในช่วงสามคืนที่ผ่านมา...ธีร์ทำตามที่ผมพูดทุกอย่างคือไม่มาหาให้เห็น...ไม่โทรมา...ไม่ส่ง SMS...ผมเองรู้สึกเหมือนกับว่าขาดอะไรไปสิ่งหนึ่งในชีวิต...รู้สึกเหงาๆแบบบอกไม่ถูกไม่รู้ว่าธีร์มันจะเป็นเหมือนผมบ้างมั้ย...
“ไอ้ห่าเล่นเอาซะน้องมันลิ้นห้อยเลยนะเมิงไอ้นุ...” ไอ้กิ๋วแซวผมหลังจากปล่อยให้น้องๆพัก
“ก็ใกล้จะแข่งแล้วนี่หว่า...ก็ต้องเข้มกันหน่อย...” ผมบอกแล้วยกน้ำดื่ม...
“ก็นึกว่าซ้อมกลบเกลื่อน...เหอๆๆ...”
“กลบเกลื่อนห่าไรไอ้กิ๋ว...อย่ากวนว่ะ...”
“นี่ไอ้นุ...วันนี้ก็ครบสามวันแล้วไม่ใช่เหรอวะ...แล้วจะทำยังไงต่อไป...กูว่าป่านนี้ไอ้ธีร์ก็ใจจะขาดรอนๆแล้วม้าง”
“นี่...มึงเลิกพูดถึงธีร์ซะทีได้ป่ะ...เป็นไรเนี่ยเห็นพูดถึงจังเลยไม่กี่วันมาเนี่ย...ไปเป็นพวกเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่วะ...”
“ป่าวววว....กูก็แค่สงสารน้อง...ไม่อยากเห็นคนแก่ทรมานมัน...”
“แล้วมึงคิดว่ากูไม่ทรมานเหรอ...”  น้านนน...เผลอหลุดปากไปซะแล้วผม...ไอ้กิ๋วยิ้มกริ่มทันที
“กู...ไปซ้อมต่อดีกว่า...” ผมบอกแล้ววิ่งกลับไปที่เดิมโดยที่ไม่เห็นว่าไอ้กิ๋วยกโทรศัพท์ขึ้นมา....
“ได้ยินแล้วใช่ป่ะธีร์....”  เสียงไอ้กิ๋วบอก...ธีร์ที่ฟังโทรศัพท์อยู่อีกด้านหนึ่งยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“เห็นมั้ยไอ้ธีร์...พี่นุเค้าก็ทรมานเหมือนกับมึงเลย..ทีนี้มึงต้องทำให้เค้าเห็นนะเว้ยว่ามึงเป็นคนปากกับใจตรงกัน...
พูดยังไงก็ทำได้อย่างที่พูดอยู่แล้ว...กูดีใจด้วยนะเว้ย...” แบงค์ยื่นมือไปจับกับธีร์
“อย่าเพิ่งดีใจเว้ย...ให้กูได้เจอพี่นุก่อน...”




“วันนี้เลิกซ้อมแล้วไปกินนมกันนะพี่นุ...วันนี้มันเกิดอีปอยมัน...” อิ่มเดินเข้ามาชวนตอนก่อนจะปล่อยกลับ
“มีใครไปบ้างอ่ะ...” ผมถาม
“ก็มีไม่กี่คน...เซ็ตเดิมแหละพี่นุ...มีพี่นุ..พี่กิ๋ว...ปอย...อีอิ่ม...อีวุ้น...อีเดี่ยว...ไอ้เต๊ะแล้วก็ไอ้เจมส์..” ปอยพูดให้ฟัง
“ไปร้านไหนกันดีละจ๊า....”  ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาแจม
“ร้านเดิมดีกว่าพี่กิ๋ว....ยำไวไวอร่อยดี...”  อิ่มบอกแล้วเราแต่ละคนก็แยกย้ายไปที่รถของตัวเองเป้าหมายคือร้านนม
หน้ามอ...เจมส์เดินมาหาผมเหมือนในมือซ่อนอะไรไว้ด้านหลัง...
“พี่นุ...” เจมส์เรียกผมแล้วส่งกล่องแบนๆให้ผมใบนึง...กว้างยาวประมาหนึ่งฟุตเห็นจะได้
“อะไรอ่ะเจมส์...” ผมรับมาทำหน้างงๆ
“ลองแกะดูก่อน...ไม่รู้ว่าพี่นุจะชอบหรือเปล่า....” ผมค่อยๆแกะกระดาษที่ห่อไว้ออกแล้วเปิดกล่องดูก็พบ...
ภาพปักครอสติส...เป็นรูปตัวการ์ตูนเด็กผู้ชายสองคนยืนจูงมือกันอยู่...เหนือรูปภาพปักเป็นตัวหนังสือเรียงกันเป็น
เส้นโค้งคล้ายสายรุ้ง....
“เนื่องในโอกาสอะไรเนี่ย....”
“ก็เนื่องในโอกาสที่ผมรู้จักพี่นุ...รักพี่นุมาครบสามเดือนแล้วไงครับ...” เจมส์พูด...ช่วงสองสามวันมานี้พอรู้ว่าธีร์หายไป...เจมส์ทำคะแนนอย่างหนักเมื่อเห็นว่าธีร์ไม่เข้ามาเกาะแกะผม...
“แหม...ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้มั้งเจมส์...เปลืองเงินเปล่าๆ...” 
ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อผมก็ได้ยินเสียงรถเบรกเอี๊ยดหน้าคณะตรงทางออก...ซีอาร์วีสีดำคันใหญ่เบรกชิดแทบเบียดกับบันไดคนขับยังไม่ลงจากรถซึ่งผมกับเจมส์ก็รู้ว่าเป็นใคร
“ธีร์...”  ผมเรียกชื่อนั้นเบาๆ.. เจมส์หันมามองผม
“พี่นุรออยู่ตรงนี้นะ...ไม่ต้องตามเข้าไป.....” เจมส์บอกผมแล้วเดินตรงไปที่รถของธีร์...ผมอยากจะตามไปแต่ทำไมขามันก้าวไม่ออกวะ...

“กลับมาอีกทำไมวะ...”  เจมส์เดินหน้าบึ้งเข้ามา ท่าทางเอาเรื่อง  ธีร์ถอนหายใจเบาๆมองผมชั่วอึดใจราวกับจะบอกให้ว่าไม่ต้องกังวลแล้วเปิดประตูรถลงมาช้าๆใบหน้ายังเคร่งขรึม สองตาจับอยู่ที่ใบหน้าของเจมส์
“หายไปตั้งหลายวัน...แล้วกลับมาอีกทำไมไม่ทราบ...”  เจมส์พยายามควบคุมเสียงของตัวเองไม่ให้ดังเกินกว่าที่จะได้ยินกันเพียงสองคน 
“ไม่รู้เรื่องอะไรอย่ามาพูดดีกว่า...เราไม่ได้มาหาเรื่องใคร...” ธีร์ก็พูดได้ไม่เต็มเสียง
“เรากำลังอยู่กับพี่นุดีๆ...จู่ๆก็มีแกเข้ามา....ไม่รู้หรือไงว่ากำลังแย่งของของคนอื่นน่ะ...”  เจมส์ขบกรามแน่น
“เราไม่เคยแย่งใคร...พี่นุเค้าบอกแกอย่างนั้นรึไง..”
“แล้วที่กำลังทำอยู่นี่มันคืออะไร....เรารักพี่นุมาก่อน..แกมันมาทีหลัง..แย่งคนอื่นชัดๆ...ถ้าไม่มีแกซักคนพี่นุคงไม่ลังเลอย่างนี้...”  เจมส์เสียงกร้าว ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ธีร์  ผมลุกขึ้นตั้งใจเงี่ยหูฟังที่สองคนคุยกัน เจมส์ดูพยายามควบคุมอารมณ์อย่างมาก แต่นัยน์ตาลุกโชนเริ่มแดงก่ำ ขณะที่ธีร์ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงนิ่ง
“ของอย่างนี้มันอยู่ที่คนกลางว่าจะเลือกใคร...สามวันที่ผ่านมามันเป็นข้อตกลงระหว่างพี่นุกับเราสองคน....แกเองก็รอโอกาสอยู่ล่ะสิ พอเราแยกกับพี่นุก็รีบกระโดดเข้ามาเสียบแทน..รีบทำคะแนน...”  ธีร์พูดแล้วสูดลมหายใจลึก
“ไอ้ธีร์....”   เจมส์ปากเม้มตรง คิ้วขมวดแน่น นัยน์ตาลุกวาว
“แล้วที่เดินเข้ามาหาเราวันนี้ต้องการอะไร...”
“ออกไปจากชีวิตพี่นุซะ...”  เจมส์สั่ง
“พูดในฐานะอะไร...”
“ฐานะแฟนสิวะ”
“เหรอ...พี่นุเค้ารับแกเป็นแฟนแล้วเหรอ...ไปบอกพี่นุสิ...”  ธีร์ท้าเริ่มจะกรุ่นขึ้นมาเหมือนกัน
“แกหมายความว่าไง” เจมส์เค้นเสียงออกมาตามไรฟัน คิ้วขมวด
“ก็หมายความอย่างที่พูด ถ้าแกบอกว่าให้เราออกไปจากชีวิตพี่นุแล้วสั่งเราในฐานะแฟนพี่นุ ถ้างั้นเราก็เป็นชู้...ถ้าอย่างนั้นให้พี่นุมาไล่เราเอง...แล้วเราจะไปทันที...”  ธีร์เน้นเสียง ใบหน้าเรียบนิ่ง จ้องตาเจมส์อย่างท้าทาย
“ไอ้ธีร์...." เจมส์ทนไม่ได้แล้วมือที่กำอยู่ยิ่งกำแน่นมากกว่าเดิม หูอื้อตาลายไปหมด สิ่งเดียวที่มองเห็นตอนนี้คือใบหน้าขาวๆเรียบนิ่งของธีร์  เจมส์ยกมือขึ้นสวนหมัดชกเข้าที่หน้าของธีร์สุดแรง ใบหน้าของธีร์เหวี่ยงไปตามแรงต่อย ร่างสูงของธีร์เซไปปะทะกับพุ่มไม้เล็กๆ ที่อยู่ด้านข้าง  ผมตะลึง ไม่นึกว่าจู่ๆ สองคนที่ยืนคุยกันจะชกกันจนหน้าหงายเช่นนี้
ธีร์ยืดตัวขึ้นเตรียมพร้อมแต่เจมส์เร็วกว่า ส่งหมัดหนักๆ ต่อยฮุกเข้าที่ท้องของธีร์จนตัวงอ ธีร์รีบยกมือขึ้นผลักเจมส์ให้ออกห่าง แต่อีกฝ่ายไม่ยอม เคลื่นตัวเข้าประชิด มือซ้ายกระชาดคอเสื้อธีร์ดึงเข้ามาใกล้ ตั้งใจจะจับยึดให้นิ่งเมื่อยกหมัดขวาต่อยให้หายแค้น  ธีร์ไม่สู้...เขาไม่ต้องการสู้ เขาต้องการให้เจมส์ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทนเจ็บอีกซักหน่อย เดี๋ยวเจมส์ก็หยุด อย่างน้อยพี่นุอยู่ตรงนี้เจมส์คงต่อยได้อีกแค่หมัดเดียวหรือสองหมัด...นี่ล่ะ วิธีเอาชนะเจมส์
...นี่ล่ะ วิธีเอาใจพี่นุกลับมา...ธีร์คิดในใจ



“เจมส์....หยุดเดี๋ยวนี้”  ผมกระโจนถึงตัวเจมส์ สองมือคว้าแขนเจมส์ไว้ได้ทัน หลังจากชกหน้าธีร์ได้อีกหนึ่งครั้ง
“พี่นุ...”
“เจมส์...เรามีการศึกษานะเว้ยทำไมไม่คุยกันดีๆอ่ะ...อย่ามาทำตัวเป็นอันธพาล..” ผมจ้องหน้าเจมส์นิ่ง  เจมส์ปล่อยมือที่กำคอเสื้อของธีร์จนเซถอยหลับไปสองสามก้าว แล้วพยายามทรงตัวให้ยืนตรง
“กูนึกแล้วว่าต้องมีเรื่องแน่ๆ...” เสียงไอ้กิ๋วดังวิ่งเข้ามาแต่ไกลตามมาด้วยไอ้เต๊ะ...พอมาถึงไอ้กิ๋วหันไปมองธีร์ที่ยืนมองอยู่เงียบๆ เลือดกลบปาก
“ถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลยเหรอวะไอ้เจมส์...กูเคยเตือนมึงแล้วใช่มั้ยทำไมมึงไม่ฟังบ้างวะ...” ไอ้กิ๋วด่าลั่น ผมปล่อยแขนเจมส์แล้วเดินกลับไปที่รถของผม เจมส์ขยับตัวจะก้าวตาม แต่ต้องชะงักเมื่อหันไปเห็นธีร์ขยับตัวตามไปด้วย
“ไอ้เต๊ะ..มึงเอามันกลับบ้านไปก่อนเลย...” ไอ้กิ๋วหันไปบอกไอ้เต๊ะ
“พี่กิ๋ว...คือว่าผม...” เจมส์พยายามจะอธิบาย
“กูว่ามึงพลาดอย่างแรงแล้วเจมส์...มึงพลาดโอกาสสุดท้ายที่ไอ้นุให้มึงไปแล้ว...กูว่ามึงน่าจะรู้คำตอบไอ้นุแล้วนะ..”
“พี่กิ๋ว...ผะผะ...ผมขอโทษ...” เจมส์พูดน้ำตาคลอเบ้า...ไอ้เต๊ะพยายามลากไอ้เจมส์ออกไปจากตรงนั้น
“กูไม่รู้จะช่วยมึงยังไงแล้วว่ะเจมส์...ครั้งนี้มึงวู่วามเกินไป...กลับหอไปซะกลับไปคิดทบทวนถึงการกระทำของตัวเอง”
ไอ้กิ๋วพูดแล้วเดินเข้ามาหาผมกับธีร์
“โห...หมดหล่อซะละมั้งงานนี้...” ไอ้กิ๋วแซว  ธีร์ยกมือขึ้นเช็ดเลือดแดงๆ ที่กลบปาก  ผมส่งผ้าเช็ดหน้าให้ธีร์
“หวังว่าคงไม่มีผืนที่สามนะ...” ผมพูด  ธีร์รับไว้แล้วมองหน้า
“พี่นุ...ผม...”
“ยังไม่ต้องพูดหรอก...ไปล้างหน้าล้างตาก่อนไป...”  ผมบอกแล้วธีร์ก็เดินไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ
“เป็นไง...เกิดศึกชิงนายจนได้นะมึง...” ไอ้กิ๋วพูด
“ใครจะไปรู้ว่ามันจะเกิดขึ้นวะ...ก็คิดว่าเจมส์มันจะวู่วามขนาดนี้”
“แล้วยังไงทีนี้...คงเลือกได้ซะทีนะ...ไอ้เจมส์เองก็คงตัดไปได้แล้ว...ก็คงเหลือแต่ไอ้ธีร์แล้วที่นี้...มึงจะเอาไงวะนุ”
“กูก็กำลังคิดอยู่...”
“มึงควรได้คำตอบแล้วไม่ใช่มามัวคิดเอาตอนนี้...ความรู้สึกคนไม่ใช่สิ่งที่จะเอามาล้อเล่นนะเว้ยไอ้นุ...” ไอ้กิ๋วบอก
ผมพยักหน้ารับ  สักพักธีร์ก็เดินออกมา....ใบหน้าสะอาดขึ้น ไรผมเปียกระหน้าผาก แสดงให้เห็นว่าเพิ่งจะล้างหน้าล้างตา แต่ปากยังบวมเจ่อ โหนกแก้มแดงช้ำเพราะโดนเจมส์ต่อยไปหลายหมัด
“งั้นกูกลับก่อนนะ..ป่านนี้วันเกิดไอ้ปอยวงแตกไปแล้วมั้ง...” ไอ้กิ๋วพูดแล้วลุกไป
“ฝากขอโทษปอยมันด้วยแล้วกัน...” ผมบอกแล้วหันมามองคนข้างๆแต่ก็ยังไม่พูดอะไร...ผมจูงมอ’ไซด์ไปจอดแอบไว้ที่หน้าตึกล๊อกคอเรียบร้อยแล้วเดินกลับมาหาธีร์ที่นั่งมองผมตาละห้อยอยู่
“ไปเหอะ...ขับรถไปส่งไหวมั้ยเนี่ย...” ได้ยินผมพูดธีร์ถึงยิ้มออกมาได้  เดินไปลูบโหนกแก้มตัวเองไป
“เจ็บมั้ยนั่นน่ะ...”
“เจ็บสิครับ...เจ็บแต่คุ้ม...”  ธีร์พูดแล้วหันมายักคิ้ว  ผมชะงักเมื่อธีร์เดินเข้าใกล้ผมเห็นธีร์ขอบตาคล้ำเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืนตาเรียวเล็กคู่นั้นแดงระเรื่อ
“แล้วทำไมไม่สู้เจมส์มันบ้าง...ปล่อยให้เค้าต่อยอยู่ได้....” 
“ไม่รู้จะสู้ทำไมครับ...กลัวจะเป็นอันธพาลในสายตาพี่นุเข้าไปอีก...ซวยคูณสองเลยทีนี้...”  ธีร์บอก  แล้วผมเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งแล้วขับรถไปส่งผมที่หอ...ผมไขกุญแจเปิดประตูเข้าไปในห้อง...ธีร์นั่งลงที่เตียงผมเดินไปเอาน้ำแข็งแล้วห่อด้วยผ้าส่งให้ธีร์ประคบบริเวณที่ถูกต่อย...
“ไม่ได้เจอกันตั้งสามวัน...พี่นุคิดถึงผมมั้ยครับ...”  ธีร์พูดแล้วทำแววตาน่าสงสาร...แต่ผมยังคงทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยเป็นการกลบเกลื่อนจะดูสิว่าธีร์จะพูดอะไรต่อไป...
“ผมคิดถึงพี่นุมากเลยนะครับ...ผมลองคิดตามที่พี่นุบอกแล้วนะครับ...ผมคิดถึงพี่นุจริงๆ...”  ผมวางมือจากสิ่งที่ทำอยู่แล้วเดินไปนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงหน้าธีร์แต่ก็ยังไม่พูดอะไร...ธีร์ก้มหน้ามองผมพยายามมองเข้ามาในแววตา
“พี่นุจะไม่พูดอะไรซักคำเลยหรือครับ...ผมอึดอัดจะตายอยู่แล้ว...อยู่ห่างกันแค่นี้แต่ผมกอด...ผมจูบ..ผมหอมพี่นุไม่ได้มันก็ไม่ต่างจากอยู่ไกลกันคนละสุดขอบโลกเลยนะครับ...”
“พี่นุใจร้ายกับผมมากเลยนะครับ...รู้มั้ยว่าผมทรมาน...พี่นุจะทรมานผมไปอีกนานแค่ไหนครับพี่นุ..”
“ธีร์จำที่พี่เคยพูดกับธีร์ได้มั้ย...” ผมพูดหลังจากที่เงียบฟังอยู่นาน
“ได้สิครับ....พี่นุบอกว่าสิ่งที่พี่ต้องการมากที่สุดคือความรักที่จริงใจ มั่นคง...”
“ใช่ธีร์....มันเป็นสิ่งเดียวที่พี่ต้องการ...เพราะถ้าพี่ตัดสินใจแล้ว ก็หมายความว่าพี่มั่นใจแล้ว”   
“ผมรักพี่นุนะครับ....หัวใจของผมเป็นของพี่นุคนเดียว”
“กายด้วย ไม่ใช่หัวใจอย่างเดียว..พี่คงทนไม่ได้หากความรักที่ได้ต้องถูกแบ่งให้คนอื่น” ผมเสียงเข้ม  ธีร์เอื้อมมือมากุมมือผมแล้วก้มหน้าลงจนจะชิดหน้าผมแต่แล้วก็ต้องสะดุ้ง...ซี๊ด..ปากซะก่อน...
“สมน้ำหน้า....อยากเรียกคะแนนสงสารดีนัก..”  ผมแซว  ธีร์เอามือไปกุมที่ปาก
“ถ้าไม่เรียกคะแนนสงสารแล้วผมจะได้ใจพี่นุเหรอครับ...”  ธีร์เปลี่ยนมาทำเสียงร่าเริงทันที
“ใคร...ใครบอกว่าให้หัวใจไปแล้ว...ขี้ตู่...คิดเอาเองรึเปล่า...พี่ยังไม่ได้อะไรซักหน่อย..” ผมทำหน้าตาย
“อ้าว...ได้ไงอ่ะพี่นุ...ก็เมื่อกี้พี่นุบอกว่า...”
“ถึงบอกว่าจะคบ...แต่ก็ยังไม่ได้หมายความว่าเป็นแฟนกัน....เกิดดีแตกขึ้นมาก่อนใครจะรับผิดชอบ...เพื่อนแต่ละคนแสบๆทั้งนั้น...พากันไปดีๆทั้งนั้นโดยเฉพาะเจ้าแบงค์..”
“ผมเลิกหมดแล้วจริงๆน๊าค๊าบบบ...พี่นุ...” ธีร์ทำเสียงอ้อน
“นั่นแหละ..จะไม่ตกลงกันก็ได้นะไม่ได้ว่าอะไรก็ถือซะว่าคนเหงาสองคนมาเจอกันธีร์ก็คงหาใหม่ได้ไม่ยากอยู่แล้วนี่”
“น่านน...งอนผมอีกแล้ว...”
“ไม่ได้งอน...แต่พูดจริงๆถ้าระหว่างคบกันอยู่ในสถานะแบบนี้แล้วธีร์เกิดดีแตกขึ้นมา...อย่าหวังไปถึงคำว่าแฟนเลย..
แม้แต่ความเป็นเพื่อนธีร์ก็จะไม่ได้นะ...ขอบอก...”
“ใจร้าย....”  ธีร์ยังพูดคำเดิมที่ชอบว่าผมเหมือนเคย
“ก็บอกแล้วว่าใจร้าย...ใครใช้ให้มาชอบล่ะ...”  ผมยักไหล่ ทำท่าไม่ใส่ใจ
“ไม่ได้ชอบสักหน่อย...” ธีร์พูดผมรีบหันขวับไปมองหน้าธีร์ที่นั่งกอดอกอมยิ้มอยู่
“อ้าวถ้าไม่ได้ชอบแล้วมาบอ.....” ยังพูดไม่จบธีร์พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ไม่ได้ชอบ...แต่รักไปแล้วต่างหาก...”


เมฆก้อนใหญ่ดำทะมึนลอยต่ำ ฝนตั้งเค้ากำลังจะตกในไม่ช้า ลมเริ่มพัดแรงสายฝนเริ่มโปรยปราย
“ไอ้เจมส์...มึงจะยืนทำมิวสิคแบบนี้อีกนานมั้ยวะ...ฝนเริ่มตกแล้วนะเมิง...”  ไอ้เต๊ะนั่งโวยวายอยู่บนรถจอดรถชิดขอบสะพาน....เจมส์ยืนเกาะราวสะพานเหม่อมองสายน้ำเบื้องล่าง...เจมส์ยังอยากจะยืนอยู่อย่างนี้ไม่ไปไหน ละอองฝนที่พร่างพรมทำให้ผิวถนนว่างเปล่าส่องเป็นประกาย
“อย่าคิดสั้นนะเมิง...กูกลัวผีนะเว้ย...” ไอ้เต๊ะเอามือป้องใบ้หน้าเดินเข้ามายืนข้างๆไอ้เจมส์  เจมส์หลับตาลง...คิดถึงคนที่เคยอยู่ในอ้อมกอด ...คนที่เคยกระซิบกระซาบคำบอกรักกัน...สัมผัสกายแน่นๆ ของคนที่เขารัก แต่เจมส์รู้ดี...เมื่อลืมตาขึ้น ภาพที่อยู่ในหัวก็จะมลายไปสิ้น สิ่งที่เหลืออยู่ที่จะมองเห็นคือโลกแห่งความจริง...ความจริงที่ต้องอยู่คนเดียว...ความจริงที่ว่าชีวิตมันว่างเปล่าเหลือเกิน...



“คืนนี้ผมขอนอนที่นี่ไม่ได้เหรอครับพี่นุ...”  ธีร์ทำท่างอแงขืนตัวหลังจากที่ผมพยายามฉุดมือธีร์ให้ลุกขึ้นจากเตียง
“ไม่ได้...กลับไปนอนที่หอตัวเองเลยไป๊.....” ผมฉุดอย่างสุดแรงแต่ธีร์ก็ขืนตัวอย่างสุดแรงเหมือนกันแล้วแกล้งล้มลงบนที่นอน...นอนหดแขนหดขาไม่ให้ผมดึงได้...
“โธ่!พี่นุ ผมเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ง่วงนอนเหมือนกัน รู้ไม๊สองคืนที่ผ่านมาแทบไม่ได้นอนเลย ห่วงพี่นุ คิดถึงพี่นุจนนอนไม่หลับเลย...” ธีร์พูดจริงจัง
“ไม่ต้องมาปากดีเลย...”
“นะพี่นุ...ขอผมนอนด้วยหน่อย บนพื้นก็ได้...ไม่บ่นหรอก...รับรองความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีตุกติก ด้วยเกียรติของเด็กนิเทศฯเลย... ถ้าพี่นุไม่มั่นใจมัดผมไว้ด้วยก็ได้”
“จะนอนทั้งๆที่ไม่อาบน้ำเนี่ยนะ...” 
“งั้นเดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อน...”
“เสื้อผ้าไม่มีเปลี่ยน....” ผมหาข้ออ้าง
“ผมใส่ของพี่นุก็ได้....”
“อ๊ะ..ได้ไง...
“งั้นผมก็จะนุ่งผ้าเช็ดตัวนอนแทน...”  ธีร์พูดแล้วเหล่ตามองยิ้มๆ
“ตามใจละกัน...เถียงคำไม่ตกฟาก...” ผมพูดแบบฉุนๆแล้วเดินออกไปที่ระเบียงแล้วแอบอมยิ้ม...เสียงฝักบัวดังซ่าอยู่พักใหญ่...เอาหล่ะ...คืนนี้คงต้องนอนห้องเดียวกันกับธีร์เป็นครั้งแรกเสียแล้ว..ผมคิดในใจ...ผมกลับเข้ามาในห้องธีร์นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แผ่นอกเปลือยเปล่าเดินออกมา...นั่งดูทีวีอยู่...ผมส่ายหน้าเบาๆแล้วเดินไปหยิบเสื้อยืดกับกางเกง
ขาสั้นส่งให้ธีร์...
“ขอขาสั้นตัวเดียวก็พอครับพี่นุ...”
“แล้วใครเค้าให้สองตัวล่ะ...”  ผมกวนบ้าง
“พี่นุ...” ธีร์หันมามองผมงอนๆแล้วตามด้วยคำพูดเดิม...
“ใจร้าย...”   ผมมองธีร์เคืองๆแล้วเดินไปหยิบที่นอนปิกนิกกับหมอนออกมาปูให้ธีร์...
“พี่ปูที่นอนให้แล้วนะ...”  ผมบอกแล้วกระโดดขึ้นไปบนเตียงประมาณว่ากลัวโดนแย่ง
“ครับ” ธีร์พยักหน้าช้าๆ ตายังจับจ้องดูทีวี  ผมเริ่มฉุนคนที่กำลังพยายามเล่นเกมกวนประสาท
“แล้วไม่ใส่เสื้อผ้าหรือไง...นั่งโชว์หุ่นอยู่ได้...”  ผมถาม  ธีร์ส่ายหน้าช้าๆยังคงมองทีวีอยู่อย่างสนใจ  ผมหรี่ตามอง สงสัยว่าธีร์จะมาไม้ไหนในใจอดนึกไม่ได้ว่าธีร์อาจจะกำลังงอน น้อยใจที่ผมบอกให้นอนพื้นก็ได้...
“นี่ดึกใกล้เวลานอนแล้ว...ง่วงนอน...พรุ่งนี้ยังต้องไปเรียนอีก”  ผมพึมพำ
“พรุ่งนี้วันเสาร์นะครับพี่นุ...” ในที่สุดธีร์ก็พูดขึ้นมาหันหน้ามาทำตากรุ้มกริ่มจนผมหลบตารู้สึกขัดเขินบอกไม่ถูก
ธีร์ก็คือธีร์คนเดิมกวนอารมณ์...ชอบยั่วเย้า...เจ้าเล่ห์เป็นที่สุดที่สำคัญตอนนี้นั่งอยู่ใกล้ๆผม  ธีร์ในสภาพเช่นนี้เพียงปลดผ้าขนหนูออกธีร์ก็เปลือยกายแล้วอยู่ใกล้กันขนาดนี้ทำให้หัวใจผมเต้นแรง ใจหนึ่งก็นึกกังวลว่าคืนนี้ธีร์จะทำอะไร    อีกใจหนึ่งก็ตื่นเต้นว่าสงสัยคืนนี้ผมคงจะไม่รอด...มีหรือธีร์จะนอนอยู่เฉยๆ...
“งั้นพี่นอนก่อนนะ...”  ผมพูดเบาๆ ก่อนเอื้อมมือไปปิดไฟหัวเตียงเหลือไฟบางดวงเปิดทิ้งไว้ผมดึงผ้าห่มคลุมถึงคอ นอนตะแคงหันหน้าไปทางประตูกระจกเลื่อนที่เปิดออกสู่ระเบียง  เสียงธีร์ปิดทีวีแล้วเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปตากที่ระเบียงน่าจะใส่กางเกงขาสั้นแล้วนะ...ผมเดาเอา...ธีร์เดินเข้ามาใกล้ๆผม..
 “ราตรีสวัสดิ์ครับ ผมอยากจูบราตรีสวัสดิ์แต่พี่นุคงไม่ยอม”  ธีร์พูดเสียงนุ่มแล้วเอื้อมมือมาปิดไฟที่แผงควบคุมไฟข้างหัวเตียง...ชิ...ทำเป็นไม่กล้าจูบทำอย่างกะไม่เคยทำ..จะหลอกผมให้ตายใจล่ะซี๊...
“นอนหลับฝันดีนะครับพี่นุ....ฝันถึงผมด้วย...”  ธีร์กระซิบเบาๆข้างหูผมด้วยคำพูดที่คุ้นเคย...แล้วเดินกลับไปนอนที่พื้นแล้วเอนตัวลงนอน ดึงผ้าหุ่มขึ้นคลุมถึงหน้าอกกว้างแกร่ง...ธีร์นอนลืมตาโพลงในความมืด ในใจคิดคำนึงถึงคนที่นอนอยู่ใกล้ๆ ความรู้สึกเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข...คืนนี้...ได้นอนอยู่ในห้องเดียวกัน ใกล้กันเสียจนมือเอื้อมถึงได้...
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 05-05-2017 09:36:46
สงสารเจมส์..ยิ่งแข่งยิ่งแพ้  :mew6:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 06-05-2017 00:33:22
หลงรูปหลงกลิ่น
แล้วจะเสียใจไม่รู้ตัวนะพี่นุ

รักเธอทั้งหมดของหัวใจ#เจมส์
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 17
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 06-05-2017 13:41:43
ตอนที่  18_คนคนเดียว(กัน)...


   กลางดึก เสียงแอร์ยังดังอย่างต่อเนื่องผมขยับจะพลิกตัวจากการนอนตะแคงขวา แต่รู้สึกว่าถูกตรึงไม่ให้ขยับตัวได้ แผ่นหลังพิงกับอะไรสักอย่างอุ่นๆ มีแขนของใครกอดผมไว้แน่น ผมงัวเงียรู้สึกตัว...มีใครอยู่บนเตียงของผม...ผมกำลังถูกกอด!...ธีร์!!!!!
“ธีร์...ปล่อยนะ...”
“ฮื่อ...” ธีร์เสียงอู้อี้ หน้าซุกอยู่กับต้นคอของผม ลมหายใจอุ่นราดรดจนผมรู้สึกสะท้าน ธีร์ส่ายหน้า พลางกระชับอ้อมแขนให้แน่นเข้า ขยับตัวผมมาชิดมากขึ้น
“ธีร์...ปล่อย...”
“ไม่...”  ผมเริ่มขยับดันตัวออกห่าง แขนแข็งแรงของธีร์ยังรัดแน่น เบียดตัวเข้ามาชิด ขาสอดเข้ามาระหว่างขาของผมเกี่ยวพันเอาไว้ ผมรู้สึกถึงความร้อนผ่าวกำลังบดแนบต้นขาด้านหลัง
“ธีร์ลงไปเดี๋ยวนี้เลย...เราตกลงกันแล้วนะ...” ผมเริ่มดิ้นพยายามหนีการถูกรุกรานตอนกลางดึก
“พี่นุอย่าดิ้นสิ....”
“ปล่อยนะ....”
 “ไม่....”  ธีร์ไม่ยอมปล่อย...เขาง่วงและไม่อยากจะทนนอนคุดคู้อยู่บนพื้นอีกแล้ว
“ผมนอนไม่สบาย ขอกอดหน่อยสิครับ...”
“ไม่เอานะ...” ผมพึมพำเบาๆ ง่วงนอนเป็นที่สุด  ผมขยับศรีษะบนหมอนให้เข้าที่...ตอนนี้รู้สึกอบอุ่นเหลือเกิน...แม้อากาศจะเย็นชื้นเพราะหยาดฝนแต่ผ้าห่มนวมผืนใหญ่และแผ่นอกกว้างที่ผมนอนพิงอยู่ โอบรัดด้วยท่อนแขนแข็งแรงของธีร์ทำให้ผมรู้สึกอุ่นสบาย และไม่อยากขยับตัวอีกแล้ว
“พี่นุ...เป็นแฟนกับผมนะ...ผมรักพี่นุนะครับ...พี่นุรักผมบ้างนะ”  ธีร์กระซิบแผ่วเบา ซุกหน้าเข้ากับต้นคอของผม...


ผ่านไปอีกพักใหญ่ๆผมรู้สึกคอแห้งขึ้นมาจึงค่อยยกแขนของธีร์ออกจากตัวพลิกให้นอนหงายเบาๆแล้วลุกไปดื่มน้ำ  ผมเดินกลับมานั่งลงบนขอบเตียงมองชายหนุ่มหน้าตาคมสันที่กำลังหลับสนิทตรงหน้า  จมูกโด่งคม ปากเผยอนิดๆ หายใจสม่ำเสมอ อกหนากว้างขยับเป็นจังหวะ แขนแข็งแรงพับวางอยู่บนหน้าท้องแบนราบ อีกข้างแผ่กว้างบนที่นอน ผ้าห่มคลุมตั้งแต่เอวลงมา
คิดถึงเรื่องราวของเราตั้งแต่เริ่มต้น....ธีร์เว้าวอนขอคืนดีตั้งแต่เมื่อคืน...ผมเองก็ใจอ่อนและเช่นเดียวกัน ตอนนี้ผมก็กำลังมองอยู่ด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความ...
“ธีร์....”  ผมอุทาน เมื่อจู่ๆคนที่นอนหลับไหลก็ลืมตา ยื่นแขนแข็งแรงมาคว้าเขา ดึงตัวล้มลงทาบทับแผ่นอกแกร่งกำยำ
“ปล่อยนะ...”
“ไม่...”
“บอกให้ปล่อย....”
“คำก็ปล่อยสองคำก็ปล่อยตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว....ถ้าลองดิ้นอีกที ผมจะพลิกตัวขึ้นทับกดให้นอนลงบนที่นอนเดี๋ยวนี้”
ธีร์มองขึ้นมายิ้มๆ ตากรุ้มกริ่ม  ผมจ้องตาธีร์ไม่หลบ
 “คิดว่ากลัวเหรอ...”  เท่านั้นเอง...ธีร์ก็ตวัดร่างผมลงนอนบนเตียง ร่างของธีร์พลิกตัวขึ้นทับ บดเบียดตัวลงมาทับผมที่กำลังดิ้นอยู่ข้างล่าง
“ปล่อยนะ...”   ไม่รอดแล้วแน่ไอ้นุเอ๊ยยยย...เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน
“ไม่....” ธีร์พูดสั้นๆ แล้วก้มหน้าลงมาประกบปากของคนที่กำลังถูกรังแก...ปิดปากไม่ให้พูด..ผมยังดิ้นไม่หยุด...แม้จะแทบขยับตัวไม่ได้...ร่างของธีร์กดทับผมไว้เหมือนจะจมหายลงไปในที่นอน มือทั้งสองดันหน้าอกของธีร์ไว้ ใบหน้าส่ายไปมาแต่ก็ไม่พ้นจากการถูกคุกคาม พยายามยกสองขาขึ้นดันแต่ถูกขาแข็งแรงของธีร์เกี่ยวกระหวัดรัดเอาไว้แน่น
ผมหายใจไม่ออก พยายามเบี่ยงหน้าหลบธีร์เพื่ออ้าปากสูดลมหายใจที่กำลังจะขาดห้วง
“ธีร์......”
“พี่นุ..พี่นุครับ เป็นของผมเถอะนะ”   ธีร์สอดมือเข้าไปใต้เสื้อยืดสีขาวของผมลูบไล้ผิวกายส่วนมืออีกข้างหนึ่งอ้อมไปด้านหลัง เกาะกุมบั้นท้ายเกร็งแน่นของผมแล้วบีบเค้นเบาๆ  ก่อนที่ผมจะบิดตัว แอ่นร่างเมื่อปลายนิ้วของธีร์เขี่ยจุดเล็กๆ บนหน้าอกที่ไวต่อความรู้สึก ลิ้นของธีร์สอดเข้าไปในหูของผม ตวัดดุนแล้วเม้มติ่งหูนุ่มๆ จนต้องส่ายหน้าไปมา มือดันอกกว้างบึกบึนของธีร์ให้ออกห่าง แต่อีกฝ่ายไม่ยอม กลับบดเบียดตัวเข้าแนบชิดมากกว่าเดิม
“พี่นุครับ ผมจะไม่ไหวอยู่แล้ว...” ธีร์เสียงกระเส่า มือที่อยู่ด้านหลังสอดเข้าไปในกางเกงของผม นิ้วสอดไล้เข้าไปในจุดที่เขาโปรดปรานที่สุด ผมสะดุ้งเฮือก มือที่เคยผลักหน้าอกเปลี่ยนเป็นขย้ำราวจะหาที่ยึด  ธีร์ส่งเสียงครวญครางอยู่ในลำคออย่างชอบใจ บดปากเข้ากับปากอิ่มเต็มของผมแล้วสอดลิ้นเข้าไป    ไม่นานทั้งผมและธีร์ก็อยู่ในสภาพเปล่าเปลือย  สองร่างบดเบียดเข้าหากันจนเกือบกลายเป็นเนื้อเดียว เกลือกกลิ้งไปหาบนที่นอนนุ่มสบาย เสียงครวญครางสอดประสานกัน

“พี่นุ ผมจะขาดใจอยู่แล้ว อย่าทรมานกันเลยครับ...” ธีร์ขอร้องเสียงกระเส่า

“พี่นุครับ....”  ธีร์หลับตาพริ้ม กลั้นหายใจ ผมหยอกล้อด้วยปลายลิ้นจนธีร์แทบดิ้นพรวดพราด  สะดุ้งเฮือก สูดปากเสียงลั่น หน้าท้องแกร่งเด้งขึ้น ธีร์พลิกตัวขึ้นมาอยู่บนตัวผมแล้วแทรกไปอยู่ตรงกลาง....

“อูยซซซ ดะ...เดี๋ยวนะธีร์...” ผมเอามือมาดันหน้าท้องของธีร์ไว้

“พี่นุอย่าเกร็งสิครับ...” ธีร์กระซิบ...

“พี่นุที่รัก....ผมรักพี่นุนะครับ...พี่นุเป็นของผมนะ” ธีรครางเสียงกระเส่า

“ธีร์....”   ผมเสียงขาดห้วง มือเปลี่ยนจากการผลักหน้าอกแฟนหนุ่มเป็นโอบรัดต้นคอ

“พี่นุ อย่าหลับตานะครับ...”  ธีร์ล้อเล่นยิ้มๆ

 “ฮื่อ...ธีร์...แน่น..”  ผมร้อง กัดฟันแน่น

“เมื่อกี้ไม่เห็นบ่น....”  ธีร์เสียงกระเส่า 

“ธีร์...สงสารพี่บ้างนะ”  ผมบอก...ธีร์ยิ้มหวาน

“พี่นุ ผมเร่งแล้วนะ...” ธีร์ก้มหน้าลง เม้มติ่งหูของผมสลับกับไล้ลิ้นโลมเลีย

“นะครับ นะ นะ”

“พูดอยู่นั่นแหล่ะ....จะทำ...อะไร...ก็...ทำ...โอ๊ย” สิ้นเสียง ธีร์ขยับตัวเร่งแรงและเร็วขึ้น สลับกับบดเบียดเชื่องช้าให้โอกาสผมได้หายใจพัก ก่อนจะพาผมทะยานไปด้วยกัน เสียงร้องผสมผสานกับเสียงหอบหายใจถี่กระชั้น ต่างฝ่ายต่างเรียกชื่อกัน พร่ำรำพันถ้อยคำต่างๆ ขยับลีลาท่วงท่าพลิกแพลง ทำราวกับว่าบนเตียงเป็นสมรภูมิรบที่ต้องกระหน่ำแทงห้ำหั่นกันให้ขาดใจตายกันไปข้างหนึ่ง 
 
“ธีร์...เร็วๆ สิครับ...พี่...จะไม่ไหวแล้ว”  ผมเรียกคนรัก หอบหายใจถี่ราวกับอากาศรอบข้างกำลังจะหมดไป ต้องอ้าปากกว้างสูดเข้าไปเพื่อต่อชีวิต   
 
“พี่นุครับ....ผมรักพี่นุที่สุด...พี่นุรักผมไม๊ครับ”  ธีร์ออดอ้อน ผมส่ายหน้า หลับตาปี๋ หอบหายใจแรง

“นี่แน่ะ...” ธีร์ยิ้มมุมปากแล้วทำโทษผมที่ไม่ยอมรับว่ารักเขา แล้วเร่งจังหวะเร็วขึ้น
 
“รักไม๊ครับ...”  ผมพยักหน้า ทุกอย่างดำเนินต่อไปจนในที่สุด..........

ธีร์จึงค่อยปล่อยขาผมวางลงกับที่นอนแต่ส่วนนั้นของธีร์ยังตรึงแน่นอยู่ในตัวผมอยู่แล้วทาบตัวลงประกบกับผม...จุ๊บที่ปลายจมูกชื้นเหงื่อเบาๆ
“มีความสุขมั้ยครับพี่นุ....”  ธีร์โอบกอดผมไว้อยู่หน้าซุกอยู่ตรงซอกคอ
“สุข...จนจะออกปากอยู่แล้วละ...ธีร์...” ผมหอบเบาๆกอดธีร์แน่น จนกระทั่งลมหายใจเข้าสู่ปรกติ...
“ต่ออีกมั้ยครับ...” ธีร์ซุกไซ้อีกครั้ง 
“เอาออกไปนะ...” ผมสั่ง
“ไม่...”
“ฮื่อ...ธีร์....”
“ได้เค้าแล้วจะให้เค้าออกเร็วๆได้ไง....ขออยู่ต่อนานๆหน่อยนะครับพี่นุ...”  ธีร์ยิ้มวาบหวามแล้วดึงตัวผมเข้าไปกอดแน่นขึ้นก่อนจะอุทธรณ์เสียงอ่อนเมื่อผมขยับตัวหนีจากส่วนนั้นของธีร์
“...ฮื่อ...พี่นุ...รีบออกทำไมล่ะครับ...”
“เจ็บ...”
“เจ็บจริงเหรอ....เมื่อกี้ครางเสียงหลงบอกว่าชอบ บอกว่าเร็วๆ แรงๆ”  ธีร์เย้าก่อนจะรีบพลิกตัวออกห่างเพราะรู้ทันผมที่รีบหันมาเงื้อมือเตรียมฟาดคนปากดี
“กวนอยู่ได้..” ผมพึมพำ ยันตัวลุกขึ้นนั่ง
“ก็คนมันรักนี่ครับ....รักหรอกถึงหยอกเล่น...รู้ไม๊ ถ้าไม่รักผมไม่ยอมให้รีดน้ำจนหมดตัวหรอก...โอ๊ยย...” คราวนี้ธีร์หนีไม่พ้น พูดเสร็จจึงต้องร้องลั่นเพราะผมโถมตัวเข้าหา ฟาดฝ่ามือทั้งสองข้างบนหน้าอกกว้างแกร่ง แล้วฟาดซ้ำอีกครั้งจนคนหวงน้ำหงายหลังลงกับพื้น หากไม่ยอมแพ้ดึงตัวผมตามลงไปด้วย
“ฤทธิ์มากนัก เดี๋ยวก็โดนแทงอีกรอบ”  ธีร์ขู่
“ก็ลองดูสิ...” ผมไม่ยอมเหมือนกัน
“ขอพักซักห้านาทีนะ..” ธีร์ต่อรอง
“ไม่มีน้ำยา ห้านาทีเลยเหรอ เก่งจริงทำตอนนี้เลยสิ...”
“อ๊ะ อ๊ะ อย่ามาท้านะ...”
 “...ธีร์....ง่วงแล้วปล่อยทีเถอะ”  ผมเลิกเล่นกับธีร์ ยอมนิ่งปล่อยให้ธีร์กอดผมแน่น
“บอกก่อนสิว่ารักผมและขอโทษที่สบประมาท....บอกว่าพี่นุจะไม่พูดแบบนี้อีกแล้ว”  ธีร์เสียงนุ่ม
 “ไม่...”
“งั้นก็โดน...”  ธีร์ทำตาลุกวาบ ขยับตัวจะพลิกผมให้นอนราบกับที่นอน
“นี่มันดึกแล้วนะธีร์...พี่ง่วงนอนแล้ว..” ผมทักท้วง  ทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ
“ถ้าง่วงก็หลับไป ผมทำของผมเอง” ธีร์หัวเราะ ไม่ยอมเลิกหยอกล้อเลียนผม
“รักพี่นุจัง....รัก รัก รัก”
“รู้แล้ว...แล้วนี่จะลุกได้หรือยัง...” ผมพูด  ธีร์ก้มจูบผมอย่างเร่าร้อนอีกครั้งแล้วดึงตัวผมให้ลุกขึ้นเข้าไปในห้องน้ำ
“งั้นผมไปอาบน้ำด้วยคนนะ”  ผมมองร่างเปลือยเปล่าของธีร์ที่ยืนอยู่ข้างเตียงแล้วก็เบือนหน้าหนี ถึงแม้ว่าบางส่วนมันจะสงบลงแล้ว...ผมรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันทีที่จู่ๆเราต้องมาอาบน้ำด้วยกันสองต่อสอง แถมยังหลังจากที่เพิ่งเสร็จสิ้นการมีอะไรด้วยกันอีก  ผมเปิดฝักบัว...ธีร์ก้าวตามผมไปยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวด้วยกัน  ธีร์พยายามจะช่วยผมด้วยการฟอกเนื้อฟอกตัวให้ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ...ธีร์ดึงสบู่เหลวไปจากมือผมเทลงบนฝ่ามือ แล้วละเลงทำความสะอาดให้ผมทั่วตัว อ้อยอิ่งเนิ่นนานอยู่แถวร่างกายท่อนล่างของผม  ธีร์ทำหน้าทะเล้นมองผมด้วยดวงตายวนยั่วแล้วใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มต่ำลงมาแนบชิดกับใบหน้าของผม ธีร์ใช้สองนิ้วเชยคางผมแหงนหงายขึ้นเพื่อรับจุมพิตจากธีร์แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติเรียกร้อง

"พี่นุ...เป็นของผมแล้วนะ...."
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-05-2017 15:33:07
เค้ามีอะไรกันแล๊ว..วววววววว    :hao7:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 06-05-2017 20:39:47
เค้ามีอะไรกันแล๊ว..วววววววว    :hao7:
   นี่เซนเซอร์แล้วนะคับเนี่ย...ไม่งั้นอ่านไปเลือดกำเดากระฉูด..555
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 06-05-2017 23:22:40
ขอให้โชคดีขอให้มีความสุข


เจมส์ป่ะกลับบ้านเราเหอะ
จะไม่หวนกลับมาเช็ดน้ำตาให้ใคร
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 07-05-2017 12:30:58
ตอนที่  19_ความหวังดีของมือที่สาม...


   ผมบอกตัวเองว่าต้องอดทน ต้องหนักแน่น ต้องมั่นคง ในเมื่อยอมรับธีร์เป็นแฟนแล้วถึงจะยังไม่ออกจากปากแต่โดยพฤตินัยก็คงเลี่ยงคำนี้ไปไม่ได้ก็ต้องเชื่อใจกัน แต่อีกเสียงหนึ่งในหัวก็ยังรบกวนผมเป็นบางครั้ง...คนที่เคยเจ้าชู้ จะ “เลิก” ได้จริงๆ หรือ....ผมเคยได้ยินใครก็ไม่รู้พูดไว้ว่า คนที่เจ้าชู้นั้น มันเหมือนฝังอยู่ในสายเลือด ต่อให้ลดหรือเลิกไป ก็เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่าน้น จะช้าจะนาน สักวันก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม ความจริงก็คือว่า ใครเคยเป็นอย่างไรก็มักจะยังคงเป็นอย่างนั้น คนบางคน หรือแทบจะทุกคน เปลี่ยนแปลงได้ยากจริงๆ หรือบางทีอาจจะไปเปลี่ยนเลย คนที่บอกเลิกเจ้าชู้ไม่แน่อาจจะมีเผลอไผล ออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง  ผมถามตัวเอง...หากธีร์เป็นเช่นนั้นเล่า...ผมจะยอมรับได้หรือไม่... คำตอบสำหรับเรื่องของผมกับธีร์ไม่ใช่บทสรุปแต่มันกำลังจะเริ่มต้นต่างหาก...ทางข้างหน้าอาจจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่อย่างน้อยผมก็ยังอุ่นใจที่มีใครเดินเคียงข้างคู่ไปกับผมถึงแม้มันอาจจะไม่ตลอดไปแต่แค่เพียงช่วงหนึ่งของความทรงจำก็ยังดี....
“แหม...ไอ้นุไปทำอะไรมาวะดูมีน้ำมีนวล...สงสัยได้ยาดียี่ห้อไอ้ธีร์มาละสิเมิงงงงง....” พอเห็นผมเดินเข้าไปไอ้กิ๋วก็ตะโกนแซวแต่ไกล...ผมนั่งลงตรงข้ามมันแล้วมองไปรอบๆเห็นน้องหลีดกำลังวิ่งอยู่..เจมส์หันมามองผมแว่บนึง    ตอนวิ่งผ่านตรงที่ผมนั่ง...
“เจมส์มันเป็นยังไงมั่งวะ...” ผมหันไปถามไอ้กิ๋ว
“ก็อย่างที่เห็น..ตั้งแต่มันมากูยังไม่เห็นมันพูดจากะใครเลย...นั่งทื่อเป็นสากกะเบืออยู่...”
“มะรืนนี้จะแข่ง...งานจะล่มมั้ยว่ะ...กูกลัวว่ะไอ้กิ๋ว...”
“คงไม่ม้าง...กูว่ามันน่าจะแยกออกระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวนะเว้ย...”
“กูก็หวังไว้อย่างนั้น...มึงว่า...กูควรจะพูดอะไรกับเจมส์มันหน่อยมั้ยวะ...”
“มึงจะพูดอะไรล่ะ... พูดอีกจะเป็นการซ้ำเติมมันป่าว....”
“แต่กูก็เป็นห่วงความรู้สึกมันนะเว้ย...กูก็รู้ว่ามันรู้สึกยังไงกับกู...แต่กู....”  ผมพูดแล้วหยุด
“มึงก็ไม่น่าไปให้ความหวังมันตั้งแต่แรก...แต่ละอย่างอ่ะมึงทำให้มันคิดเข้าข้างตัวเองทั้งนั้นว่ามึงก็ชอบมันอ่ะ...ยอมให้กอดงี๊ ...ยอมให้จูบงี๊...เป็นกู..กูก็คิดวะ...”
“กูยอมรับว่าแรกๆกูก็รู้สึกดีกับมันนะ...แต่คนไม่ใช่อ่ะยังไงมันก็ไม่ใช่...มึงเข้าใจมั้ย???...”   
“แล้วมึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตอนไหนล่ะ...ตอนที่ไอ้ธีร์เข้ามาใช่มั้ย??....แล้วทำไมมึงไม่บอกมันตั้งแต่ตอนนั้นวะปล่อยให้มันเรื้อรังมาซะขนาดนี้...กูถามจริง...ถ้าไม่มีไอ้ธีร์...มึงจะเลือกไอ้เจมส์มั้ย...”
“ถึงธีร์ไม่เข้ามาในชีวิตกู...กูกับมันก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่ดีแหละ...กูยอมรับว่ากูผิดที่ไม่อยากเสียใครไปซักคนแต่กูผิดหรือวะที่กูไม่อยากเสียเพื่อนดีๆไปซักคนอ่ะ...”
“แต่นี่มันไม่ได้คิดเป็นเพื่อนกะมึงเลยซักคนนี่ไงไอ้นุ...มันรักมึงแบบคนรักทั้งสองคนเลยไง...กูรู้ว่ามึงไม่เคยบอกอะไรกับไอ้เจมส์หรอกแต่บางทีการกระทำของมึงอ่ะทำให้มันหวั่นไหวเอาการอยู่นา...”
“แต่ยังไงกูก็ต้องขอปรับความเข้าใจกับมันหน่อยว่ะ...ส่วนมันจะเข้าใจกูหรือเปล่าก็เป็นเรื่องของเจมส์มันเพราะกูถือว่ากูได้พูดไปแล้ว....มึงว่าดีมั้ย...”
“ก็ดี...เคลียร์ชัดๆไปทีเดียวจะได้จบ...แล้วนี่ระหว่างมึงกับไอ้ธีร์...คือ....ยังไง...” ไอ้กิ๋วถามแล้วเหล่ตามอง
“ก็...ไม่ยางงาย...” ผมตอบอย่างอายๆ
“ไม่ยังไงอ่ะคือยังไง...สรุปคือรับไอ้ธีร์เป็นแฟนเรียบร้อยโรงเรียนจีน...”
“ไม่อ่ะ...กูก็ยังไม่เคยรับปากว่าจะเป็นแฟนนะ..ก็ขอดูความประพฤติกันไปก่อน...เกิดดีแตกขึ้นมากูจะได้กลับไปตั้งหลักทัน...”
“กลัวเสียตัวฟรีว่างั้น...ระวังเถ๊ออ...ข้อตกลงเยอะมากๆแบบนี้..ไอ้ธีร์มันทนไม่ไหวแล้วอย่ามานั่งน้ำตาตกนะเมิง...”
“กูบอกแล้ว...ทนไม่ไหวก็บอก...จะได้ไม่ต้องถลำลึกกันไปมากกว่านี้...”
“อ่ะจ๊า....แล้วนี่มันไปไหนแล้วล่ะไอ้ธีร์น่ะ...”  ไอ้กิ๋วถามแล้วหันซ้ายหันขวามองหา
“ไปทำงาน...มีพรีเซ้นงานอาทิตย์หน้า...”
“ทำงานอีกแล้ว...เดี๋ยวก็ได้ไปลากคอมันกลับหออีกหรอก...คราวนี้กูไม่ไปด้วยแล้วนะเว้ย...”
“ก็ลองเมามาอีกดิเที่ยวนี้...จะได้กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้เลย...อย่าได้พบได้เจอกันอีก...”
“ทำให้ได้อย่างที่พูดละกัน...”




“ชุดมาแล้วพี่นุ...ช่างเค้าโทรเข้าเบอร์หนูเมื่อเช้าว่าให้ไปรับชุดได้เลย...หนูกะอีอิ่มก็เลยไปเอามา...” ปอย  อิ่ม  วุ้นและเดี่ยวช่วยกันแบกถุงชุดหลีดมาที่สนามแล้วหยิบส่งให้แต่ละคนแยกกันไปลอง...
“น้ำหนักหนูขึ้นอ่ะ...หนูจะใส่ได้มั้ยเนี่ย...สงสัยจะท้อง...” วุ้นพูดแล้วลูบพุงตัวเอง
“แหม...ท้องผูกสิอย่างมึงอ่ะอีผี....” เดี่ยวหันไปเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผากจนวุ้นหน้าหงาย
“อีชิสุ...มึงรีบไปลองเลยอย่าสะดีดสะดิ้งให้มากนัก..เดี๋ยวโดนตีนกู...” ไอ้กิ๋วพูด
“แหม..พี่กิ๋วอ่ะ...พูดกับสุภาพสตรีศรีสยามพูดเพราะๆหน่อยก็ไม่ได้...” วุ้นแลบลิ้นใส่ไอ้กิ๋วแล้วเดินไปลองชุด  ผมเห็นเจมส์มันถือชุดไปลองให้ห้องน้ำผมเลยเดินตามเข้าไป...ผมเปิดประตูเข้าไปเจมส์กำลังถอดเสื้อยืดออกหันมามองผมอย่างตกใจ...


“พี่นุ....”  เจมส์เรียกชื่อผม...เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ผมเดินเข้าไปใกล้เจมส์เอาเสื้อยืดที่ถอดอยู่พาดไหล่โดยที่ยังเปลือยอกอยู่...ผมสูดลมหายใจให้เต็มปอดแล้วเดินเข้าไปยืนตรงหน้า
“เจมส์....ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย....”
“คนที่แพ้จะเป็นอะไรได้ละพี่นุ...นอกจากเจ็บอ่ะครับ...” เจมส์ตอบเสียงเศร้า
“เจมส์...พี่รู้ว่าพี่ผิด...ผิดที่คบกับเจมส์เป็นแฟนไม่ได้...ผิดที่ให้ความหวังเจมส์มาตั้งแต่แรก..”
“พี่นุไม่ผิดหรอกครับ...เพราะพี่นุไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับความรู้สึกพี่นุซักอย่าง...พี่นุเองก็ไม่เคยบอกรักผมด้วยซ้ำ...
พี่นุพูดถูกแล้ว...เราห้ามจิตใจกันไม่ได้หรอก...เราบังคับมันไม่ได้...บางครั้งจิตใจคนเรามันอยู่เหนือการควบคุม...”
“เจมส์...พี่อยากให้เราคบกันเป็นเพื่อน..เป็นพี่เป็นน้องกันดีกว่านะมิตรภาพแบบนี้มันจะไม่บุบสลายไปไหน...ที่พี่เคยบอกเจมส์ว่าพี่ไม่อยากตัดสินใจก็เพราะพี่กลัวว่าถ้ามันไม่ได้เป็นอย่างที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดแล้วมันจะเสียมิตรภาพของเราไปแบบนี้ไง...พี่ไม่อยากให้เราเลิกคบกันด้วยเรื่องแบบนี้เลยนะเจมส์...”
“พี่นุ...คนอย่างผม...ถ้ารักไปแล้วจะให้กลับมาเป็นเพื่อน..ผมทำไม่ได้หรอกครับ...” เจมส์เดินเข้ามาใกล้ชิดผมมากขึ้น
“เจมส์....” เสียงผมแหบพร่า
“พี่นุไม่ต้องห่วงนะ...รับรองผมจะไม่ทำให้งานส่วนรวมเสีย...เหลืออีกไม่กี่วันพอภารกิจหลีดเสร็จ...เราก็คงเจอกันน้อยลง...บางทีถ้าผมไม่ต้องเจอพี่นุทุกวันแบบนี้ผมอาจจะหายเจ็บเร็วขึ้นก็ได้..พี่นุจะว่าอะไรมั้ย...ถ้าผมจะขอกอดพี่นุอีกครั้ง....เป็นครั้งสุดท้าย..แล้วจากนี้ไปผมคงไม่มีโอกาสได้กอดพี่นุอีก...” 
ผมพยักหน้าช้าๆน้ำตาคลอเบ้าเจมส์เดินเข้ามาสวมกอดผม  เจมส์กอดผมแน่น น้ำตาคลอเบ้าเหมือนกัน กล้ามเนื้อเจมส์แน่นเกร็งเหมือนคนพยายามอดกลั้นความรู้สึก อ้อมแขนแข็งแรงที่กอดผมอยู่กระชับแน่นเข้าจนแทบจะบีบอัดให้ผมหายเข้าไปในตัวเจมส์และขังผมไว้ในกายและหัวใจไม่ให้ออกมาได้
“ขอบคุณนะพี่นุ..ต่อไปนี้ถ้าพี่นุเมา...ไม่มีผมคอยพากลับหอแล้วนะ...” เจมส์พึมพำใกล้หูของผมแล้วจูบแก้มของผมอย่างอาลัยอาวรณ์ตอนนี้กลายเป็นผมกลับมาเป็นคนที่รัดแขนที่กำลังกอดเจมส์ให้แน่นขึ้นผมต้องการสัมผัสอันอบอุ่นของเจมส์ไว้ครั้งสุดท้ายและในขณะเดียวกันผมก็คิดว่าเจมส์ก็คงอยากได้สัมผัสจากตัวผมเช่นกัน...เพื่อเก็บไว้ในความทรงจำ...


               ผมเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนเพื่อจะได้ไม่มีใครสงสัย...ครู่ใหญ่ๆเจมส์ถึงเดินออกมา...พอหลีดทุกคนลองชุดเสร็จก็เข้ามาให้ปอยกับอิ่มดูว่าพอดีมั้ย..ต้องแก้ตรงไหนรึเปล่า...พอดูจนครบก็สรุปว่าไม่ต้องแก้ของใครเลย...ผมจึงให้ลองซ้อมโดยที่ใส่ชุดอยู่ซักสองรอบ...
“โอเคมั้ยวะไอ้นุ...โห...ตาช้ำมาเคยนะมึง...มีร้องไห้กันด้วยเหรอวะ...” ไอ้กิ๋วถามพอน้องๆลุกไป
“อืมม...” ผมพยักหน้าตอบสั้นๆ
“ตกลงเจมส์มันว่าไง...”
“เจมส์บอกว่า...ถ้ารักไปแล้วจะให้กลับมาเป็นเพื่อน..มันทำไม่ได้หรอก...” ผมพูดแล้วน้ำตาจะคลออีกแล้ว
“แม่งใจเด็ดชิบ...แต่ก็ดีแล้วที่มันเลือกแบบนั้นอ่ะ...แผลมันอักเสบกัดฟันกรีดเอาหนองออกไปทีเดียวจะได้หายเจ็บ...
มึงก็อย่าคิดมากไอ้นุ...เรื่องมันผ่านไปแล้วเราเองแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเว้ย...สักวันกูว่าเจมส์มันเข้าใจมึง...”
ไอ้กิ๋วตบบ่าให้กำลังใจผม...




“ทำไมตาช้ำอ่ะครับ...พี่นุร้องไห้มาเหรอ...” ธีร์เบรกรถเอี๊ยดทันทีที่หันมามองหน้าผม
“ป่าววว...พอดีน้องมันตีลังกาพลาดมาโดน...ไม่มีอะไรหรอก...” 
“อ้าวไป...นึกว่ามีใครเข้ามากวนใจพี่นุอีก...” ธีร์พูดแล้วขับรถต่อ
“แล้วมาทางนี้จะพาไปไหนเนี่ย...”
“ผมอยากได้เสื้อนักศึกษาสักตัวอ่ะครับ...พี่นุไปช่วยเลือกเสื้อให้ผมหน่อยนะ...” ผมกับธีร์จอดรถไว้ที่ชั้นสามแล้วเดินลงไปชั้นสองล๊อกเสื้อผ้าผู้ชาย...ธีร์ให้ผมเลือกเสื้อให้สองสามตัว...
“พี่นุเลือกให้หน่อย...เอาหล่อๆนะใครเห็นจะได้หลง...”  ธีร์พูดทำเอาผมมองตาขวางเลยแต่มือก็ยังเอาเสื้อมาทาบบนตัวธีร์วัดขนาดอยู่โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่ามีใครคนหนึ่งกำลังจ้องมองผมทั้งสองคนอยู่
“ใส่แบบพอดีตัวดีกว่าเนอะ...ใส่ใหญ่เกินเดี๋ยวแก่...เอาไซด์เล็กกว่านี้เบอร์นึงครับ...” ผมหันไปบอกพนักงาน
“วันนี้ผมขอนอนด้วยนะพี่นุ...” ธีร์กระซิบข้างๆ
“ไม่ได้...หอตัวเองก็มีก็ไปนอนดิ...” ผมพูดแล้วอมยิ้มมองเลยไปยังด้านหลังของธีร์เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งจ้องมองผมทั้งสองคนไม่วางตาแล้วเดินเข้ามาหาพวกผม..
“ธีร์....หนีมาอยู่นี่เอง...มาทำอะไรที่นี่เนี่ย...”  เสียงทักของชายหนุ่มดังขึ้น ธีร์หันไปมองแล้วตกใจขยับตัวมายืนอยู่ข้างหลังผมเหมือนหาที่หลบภัย
“หวัดดี...นี่คงเป็น...นุ....” ชายหนุ่มคนนั้นยื่นมือมาจับมือทักทาย
“เรานวินนะ...เป็นพี่รหัสของธีร์...ในที่สุดก็เห็นนุตัวจริงซะที..ได้ยินแต่ธีร์พูดถึงหลายครั้งแล้ว” 
...ไปพูดให้กันฟังตอนไหนวะ...ผมสงสัยแต่ก็เก็บเอาไว้ในใจ
“ธีร์ก็พูดถึงคุณบ่อยๆเหมือนกัน” ผมตอบยิ้มๆ ปรายตามองธีร์ที่ทำหน้าแหยๆ
“จริงเหรอ” นวินหันไปมองธีร์ ยิ้มหวานไม่เกรงใจผมเลย...เดี๋ยวมีเฮงานนี้...
“ไม่น่าเชื่อนะตั้งแต่หมดรับน้องคราวนั้น เราก็ไม่เคยเจอกันอีกเลยคิดถึงอยู่เหมือนกันนะเนี่ย...”
“พี่นวิน...” ธีร์เรียกเสียงเบา...ผมอึ้งที่ได้รับรู้ข้อมูลใหม่...อ๋อ..นวินคือคนสุดท้าย......แต่เอ๊ะ...เรียกว่าคนล่าสุดของธีร์ดีกว่า.....คนล่าสุดก่อนที่จะมาเจอผมเพราะรับน้องมันก็ตอนต้นเทอมนี่เอง...คิดแล้วอยากจะยกศอกขึ้นกระแทกท้อง
คนที่ยืนอยู่ข้างหลังผมนัก
“งั้นไว้ว่างๆ ก็นัดทานข้าวกันสิ..เผื่อมีเรื่องจะต้องคุยกัน...”  ผมพูดยิ้มๆ หันมองธีร์สลับกับนวิน
“ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างหรอก...โปรเจคเยอะแยะ...” ธีร์ตอบ  นวินยิ้มกว้างทำตาเชื่อมใส่ธีร์ทำราวกับว่าผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น
 “ยังเหมือนเดิมเลยนะธีร์...เคยเป็นยังไงก็เป็นยังงั้น...นุรู้ไม๊....ตอนเค้าเฉลยว่าใครเป็นพี่รหัสนะไอ้เราดีใจแทบตายที่ได้นอกรหัสหล่อก็เลยจะพาไปฉลอง...แต่ก็ยังมาห่วงงานอีก   ทั้งๆที่เพิ่งจะเปิดได้ไม่กี่วันแล้วในที่สุดเราก็ลากธีร์ไปฉลองกันสองต่อสองยันเช้าจนได้...”
“เหรอ...ท่าทางจะสนุกกันดีนะ...”  ผมพูด
“ได้ใหม่แล้วลืมเก่า ปรัชญาคนเจ้าชู้...นุเองก็คงเห็นด้วยกับคำพูดนี้”  ผมยักไหล่ทั้งที่ลึกๆ ก็เห็นด้วย
“อดีต...ถ้าน่าจำก็ควรจำ  แต่ว่าปัจจุบันสำคัญกว่าเพราะอดีตผ่านมาแล้วไม่มีประโยชน์ที่จะดึงกลับมาใช่ไหมธีร์” ประโยคหลัง ผมหันไปถามความเห็นธีร์ที่พยักหน้าช้าๆพร้อมกับยิ้มประจบ
“แต่เราว่าอนาคตสิสำคัญกว่า อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน เราไม่รู้ว่ามันจะออกหัวหรือออกก้อย” นวินยังไม่ยอมแพ้
พูดเน้นช้าๆ ด้วยเสียงเข้ม
“เราขอตัวก่อนนะ....เดี๋ยวคงได้เจออีก...” นวินยิ้มมุมปากยกมือขึ้นอำลาเหมือนฝรั่ง นัยน์ตามองธีร์นั้นพราวระยับ เหมือนจะส่งสารอะไรกันสักอย่างแล้วหันหลังเดินจากไปช้าๆอย่างมั่นใจ...นวินเดินจากไปแล้วแต่ผมยังคงเงียบอยู่..จนธีร์เองคงทนไม่ไหวเลยพูดทำลายความเงียบขึ้นมา...
“พี่นุ..จะว่าผมยังไงก็ได้แต่อย่าเงียบสิครับ...เค้าเข้ามาทักผมเองนะครับพี่นุ...” ธีร์พูดเสียงอ่อยๆ
“รับปากกันไม่กี่วัน...อดีตของธีร์ก็โผล่พรวดเข้ามาเลยนะ...ไม่รู้ว่ารับน้องกันยังไงเนอะถึงมองกันตาเยิ้มแบบนั้นน่ะ....มาถึงห้างยังไม่ถึงห้านาทีเลย...” ผมบ่น
“เอาอีกแล้วประชดอีกแล้ว...นี่หึงผมใช่มั้ยเนี่ย...” ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ  ผมยักไหล่ ทำท่าไม่สนใจ เร่งฝีท้าวเดินตรงไปที่ลิฟท์ ยื่นมือไปกดเรียกลิฟท์แล้วยืนมองมองเครื่องหมายหน้าลิฟท์อยู่เงียบๆ
“ถ้ามัวแต่หึงธีร์....คงไม่ต้องทำอะไรพอดี...”
“หึงหน่อยน่า” ธีร์เซ้าซี้ก้มลงให้ใช้ไหล่ซ้ายกระแทกไหล่ของผมเบาๆ   เมื่ออยู่สองต่อสองในลิฟท์
“ผมมีพี่นุคนเดียวนะครับ คนอื่นๆเลิกหมดแล้วเลิกตั้งแต่ก่อนมารับส่งพี่นุแล้ว...”
“อ๋อ แสดงว่าตอนที่เริ่มโทรจีบพี่ใหม่ๆ....ธีร์ก็ยังมีคนอื่นอยู่ใช่ไม๊”
“ไม่นะ ไม่ ไม่ ไม่ ก่อนที่จะโทรจีบพี่นุผมก็เลิกๆ ไปแล้ว” ธีร์รีบปฏิเสธ  ผมหยุดการสนทนาเมื่อมีคนเข้ามาในลิฟท์เพิ่งจนลงมาถึงชั้นล่าง...ธีร์ให้ผมเข้าไปเดินดูของก่อนแล้วขอตัวไปเข้าเข้าห้องน้ำ...ผมเดินตรงไปที่มุมขายซีดี




“น่าอิจฉานะ...ที่ได้เป็นเจ้าของเดือนคณะรูปหล่อที่เป็นขวัญใจของอีกหลายคน ขวัญใจที่ใครก็ลืมไม่ลง” 
เสียงนวินดังขึ้นข้างๆหู ผมหันไปมองนวินเองก็กำลังมองมาด้วยสายตาแปลกๆคราวนี้นวินไม่ทำหน้ายิ้มๆเหมือน
ตอนที่คุยกันก่อนหน้านี้กับธีร์ ใบหน้าของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดูเรียบตึงผิดกับเมื่อครู่ราวเป็นคนละคน......
นี่มันจะมาไม้ไหนวะ...ผมถามตัวเอง...ทำไมยังจะต้องเข้ามาคุยกับผมอีก...ธีร์ก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้

“ตั้งใจจะบอกอะไร” ผมตัดสินใจถามตรงๆ
“ในเมื่อถามเราตรงๆ เราก็จะบอกตรงๆ” นวินเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย
“ธีร์กับเรา...มีอะไรกันลึกซึ้ง...ก่อนที่จะเจอ” นวินพูดแล้วชี้มาที่ผม  ผมรู้สึกจี๊ดๆที่หัวใจทั้งที่เตรียมใจไว้ก่อนหน้านี้แล้วนะ
“ธีร์บอกว่าอดีตผ่านไปแล้ว”
“แน่ใจเหรอ?” นวินเลิกคิ้ว เอียงหน้าท้าทาย
“เรากับธีร์ไม่ได้เลิกกัน เราแค่ห่างกัน...ธีร์ไม่ได้ทิ้งเรา...ตอนนั้นเรายังรักกันอยู่ เราเองต้องยุ่งเรื่องกิจกรรมมากไปหน่อย...จนไม่มีเวลาให้ธีร์...เลยต้องห่างธีร์ไป”
“แล้วมาบอกเราทำไม” ผมถามเสียงเข้ม  พนักงานที่อยู่ในร้านเริ่มหันหน้ามามอง
“เราแค่ต้องการให้รู้ว่า เรายังรักธีร์อยู่....ธีร์ก็คงไม่ต่างกัน  เรากับธีร์รักกันมาก เรา2คนใช้เวลาอยู่ด้วยกันจนเรียนรู้กันและกัน เขารู้ใจผม ผมก็รู้ใจเขา เราเข้ากันดีทุกๆ เรื่องหรือแม้แต่กิจกรรมบนเตียงเราก็เข้ากันได้อย่างเพอร์เฟค” นวินพูดตรงๆไม่รู้สึกอาย ผมเสียอีกรู้สึกหน้าชา ไม่นึกว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้...รู้ทั้งรู้ว่าผมเป็นแฟนธีร์...นวินยังกล้าพูดแบบนี้
“เราไม่รู้นะว่าที่มาบอกเนี่ย...ต้องการอะไร ถ้าจะมาเล่าเรื่องไร้สาระให้ฟัง ขออนุญาตไม่ฟังเนาะไม่อยากรับรู้” ผมตัวเดินหนี   นวินเดินตาม
“นุ...” นวินเอื้อมมือมาแตะแขนของผมให้หยุด ผมชะงักแล้วหันกลับไปมอง นวินยิ้มมุมปากแล้วพูดเน้นเสียงว่า
“เราอยากได้ธีร์คืน”...หน้าด้าน...คำเดียวที่ผมนึกออกตอนนี้คือคำนี้เท่านั้น
“ก็ไปคุยกับธีร์ ไม่ใช่คุยกับเรา” ผมไม่ต้องการคุยกับนวินอีกแล้ว ไม่มีประโยชน์ ท่าทางนวินไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้นนอกจากสิ่งที่ตัวเองต้องการ  ผมก้าวเท้ายาวขึ้น ตั้งใจว่าจะออกไปรอธีร์ที่บริเวณชั้นหนึ่งอย่างน้อยก็ขอให้ไกลจากตรงนี้ก่อน...ก่อนที่ความอดทนของผมจะหมด...นวินเดินตามมาถึงตัวแล้ว ไม่รีรอ พูดสิ่งที่ตัวเองต้องการจะพูดทันที

“เรามาขอธีร์คืน...”
“เฮ้ยนวิน...กลับไปซะเถอะ...ธีร์ไม่ใช่สิ่งของที่เราจะได้ยื่นส่งให้ใครได้ง่ายๆ”  ผมเสียงเข้มความอดทนเริ่มหมด
“ถ้าขอดีๆแล้วไม่ให้ เราก็จะแย่งเอามา....เราผิดตรงไหนเราอยากได้เราก็จะขอ ถ้าไม่ให้เราก็จะแย่ง ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่ได้ เรารักธีร์...เราก็ต้องบอกว่ารัก” นวินมองตาผมอย่างท้าทาย
“งั้นก็แล้วแต่แล้วกัน...”  ผมบอกเดินตามตรงไปยังประตูทางออก ไม่สนใจนวิน ปล่อยให้มันยืนบ้าอยู่อย่างนั้นแหละ...นวินยืนจ้องมองตามอย่างขุ่นเคือง


“พี่นุขึ้นมาอยู่ตรงนี้นี่เอง...ผมเดินหาตั้งนาน...โทรหาแล้วทำไมไม่รับละคับ...พอดีออกจากห้องน้ำมาเห็นเสื้อมันสวยดี..พี่นุน่าจะใส่ได้ผมเลยซื้อมาอ่ะครับพี่นุ...” ธีร์ส่งถุงเสื้อให้ผม...ผมก็รับมาทำตาขวางๆ
“อ้าว!!!....โกรธผมอีกแล้วเหรอครับพี่นุ...”
“แฟนเก่าธีร์อยู่ดีๆ....ก็เข้ามาขอธีร์ไปจากพี่หน้าด้านๆ” ผมบอกอย่างหัวเสียแล้วถอนใจเฮือกใหญ่
“ใคร ใครกันแฟนเก่าผม ใครมาขอผมจากพี่นุ” ธีร์ถามเสียงร้อนรน
“จะใครซะอีกล่ะ..ถ้าไม่ใช่ไอ้นวิน...พี่รหัสของเราน่ะ...”  ผมบอกแล้วเดินขึ้นบันไดออกไปที่อาคารจอดรถ...ธีร์รีบวิ่งตาม
“พี่นุ..รอผมก่อน..พี่นุครับ...ผมยอมรับว่าผมกับพี่นวินเคยคบกันแต่มันก็เพียงช่วงสั้นๆ...เราต่างก็จบกันไปแล้ว...
ผมก็ไม่รู้ว่าเค้าทำแบบนี้เพื่ออะไร...”
“เพื่ออะไรเหรอ...เค้าก็บอกอย่างชัดเจนว่าอยากได้ธีร์กลับไป...”
“พี่นุอย่าโกรธผมเลยนะครับ...เราเพิ่งจะดีกันไม่กี่วันเอง...พี่นุจะเคอร์ฟิวส์ผมอีกแล้วเหรอ...อย่าเลยนะครับพี่นุ”
ธีร์พูดอย่างอ้อนวอน...ผมเดินนำหน้าไป แต่นึกอะไรได้บางอย่างจึงหันกลับมาพูดกับธีร์ว่า
“คืนนี้ธีร์กลับไปนอนหอตัวเองนะ...”
“โธ่พี่นุ ไหงเป็นงั้น” ธีร์โอดครวญ
“พี่อยากคิดอะไรเงียบๆ”
“คิดอะไร...คิดเรื่องเมื่อกี้หรือครับ...” ธีร์ทำหน้ามุ่ย....เสียงรีโมทปลดล๊อครถยนต์ดังขึ้น  ผมขึ้นนั่งบนรถ เอนตัวลงพิงกับเบาะอย่างเหนื่อยอ่อน...รู้สึกเพลียกับเรื่องในวันนี้จะแย่แล้ว...อะไรกันนักกันหนาวะเนี่ย...เป็นแฟนธีร์ต้องอดทนอย่างเนี๊ยะนะเหรอ?... ผมต้องใช่คตินี้ยึดเหนี่ยวจิตใจหรือไงนะ...แม้จะขึ้นรถแล้ว ธีร์ก็ยังไม่ยอมหยุดเซ้าซี้ผมเรื่องการนอนคืนนี้

“ผมจะไม่กวนเลย สัญญา” ธีร์ทำตาละห้อย...เชื่อได้หรอก พอได้อยู่สองต่อสอง...ธีร์ก็จะกวนผมอีกเหมือนเมื่อคืน
“พี่อยากอยู่เงียบๆ” 
“นะครับพี่นุ...ผมอยากอยู่กับพี่นุจริงๆนะครับ...”  ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วจึงพูดว่า
“นวินมันบอกว่าไม่ได้เลิกกับธีร์...มันกับธีร์เพียงแค่ต้องห่างกันไป”
“พี่นุไม่เชื่อเขาใช่ไม๊” ธีร์ถามเสียงเบา
“ผมไม่ได้รักพี่นวิน ไม่เคยรัก ส่วนเรื่องคบกันน่ะผมไม่ปฏิเสธเพราะคบกันจริงๆ…แต่ตอนนี้นาทีนี้ผมไม่ได้รักเขา   ผมรักพี่นุคนเดียว” ธีร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วพูดต่อว่า
“พี่นุต้องหนักแน่นนะครับ อย่าไปเชื่อ อย่างไปสนใจ พี่นวินคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ผมไม่มีอะไรกับใครที่ไหน เชื่อผมนะ”  ผมเหลือบตาไปมองคนที่กำลังเว้าวอนอยู่ข้างๆ ธีร์ท่าทางจริงจังมาก ผมรู้ว่าธีร์ไม่ได้มีอะไรกับนวินแล้ว แต่ก็อดฉุนไม่ได้ที่จู่ๆคนรักเก่าของธีร์โผล่มาขอแฟนผมคืนดื้อๆ
“นะ พี่นุที่รัก...ผมเลิกเจ้าชู้แล้วพี่นุก็รู้ ไม่เคยคิดถึงใครเลย” ธีร์ออดอ้อนไม่ยอมหยุด 
“มันคิดว่าของแบบนี้มันขอกันง่ายๆรึไงฟะ...สาดดดเอ้ย...” ผมบ่นเบาๆพอให้ตัวเองได้ยิน
“ตกลงคืนนี้ตามเดิมนะครับพี่นุ...ถ้าไม่ได้นอนด้วยกันผมคงนอนไม่หลับ...ยิ่งกำลังโกรธผมอยู่แบบนี้ ยังไม่เข้าใจกัน เขาว่าไม่ควรจะแยกกันนอนนะครับพี่นุ...อย่าปฏิเสธผมเลย” น่านนน...ใช้ประโยคไม้ตายกับผมอีกแล้ว
ผมบอกตัวเองว่า...หนทางระหว่างผมกับธีร์ยังเหลืออีกยาวไกล นวินอาจเป็นบททดสอบแรกๆ ของความสัมพันธ์
จะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้างผมยังไม่รู้...ขออย่างเดียว...ขอให้ธีร์รักผมคนเดียวและไม่นอกใจผมก็เป็นพอ...
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 07-05-2017 15:23:31
บวกเป็ด บวกหนึ่ง


ไม่ใช่ใคร จะไปถึง ดึงความรัก
ไม่ใช่ใคร จะแน่นหนัก หักเสน่หา
ไม่ใช่ใคร จะไร้ค่า ใช้น้ำตา
ไม่ใช่ใคร จะมองหา รักของกรู
#เจมส์
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 07-05-2017 15:35:39
พี่นุต้องหนักแน่น ว่าแต่ธีร์จะดีแตกมั้ย ไม่อยากจะคิด  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 19
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 08-05-2017 20:20:55
ตอนที่  20_มรสุม (1)...


“ธีร์....พี่อยากขอคุยด้วย พี่จะมาขอโทษ...” ธีร์เจอกับนวินโดยบังเอิญที่ศูนย์วิทยบริการหลังจากที่ธีร์เอางานเข้ามาให้เพื่อนที่มอ...สูดลมหายใจช้าๆ แล้วปรับสีหน้าให้ยิ้มอ่อนโยน
“พี่นวิน...ขอโทษเรื่องอะไรครับ”
“ก็เรื่องคืนนั้น ไม่รู้ว่านุเล่าให้ธีร์ฟังยังไง...พี่กลัวจะเข้าใจผิดก็เลยมาอธิบาย”
“พี่นุก็ไม่ได้เล่าอะไรมากนี่ครับ...”  ธีร์บอกไม่หมดเพราะไม่มั่นใจว่านวินมาด้วยเหตุใดกันแน่
“วันนั้นพี่พูดอะไรไปไม่คิด อาจทำให้แฟนธีร์เข้าใจผิด..พี่กลัวว่าธีร์จะเกลียดพี่ เห็นว่าพี่เป็นคนไม่ดี” ธีร์ถอนหายใจช้าๆ แล้วกล่าวว่า
“ช่างเถอะครับพี่นวิน...ผมเข้าใจ”
“เข้าใจว่ายังไงเหรอธีร์...”
“พี่นวิน...พี่ต้องยอมรับนะครับว่าเรื่องของเรามัน....”
“จบลงแล้ว พี่รู้...เพราะธีร์พบนุ.....หรือเพราะธีร์พบคนที่พี่เฝ้าไฝ่ฝัน ค้นหารักแท้ ธีร์ก็เลยเลิกเจ้าชู้อย่างนี้นะเหรอ?
รู้ทั้งรู้ว่าธีร์ไม่รัก...รู้อยู่เต็มอก...แต่พี่ก็ยังตัดใจจากธีร์ไม่ได้”
“ผมเปลี่ยนไปแล้ว....ยังไงก็ตามตอนนี้ผมรักกับพี่นุ...ผมก็ควรมีพี่นุคนเดียว..ถ้าพี่นวินยังไม่ลืม คงจำได้ว่าผมมีใครทีละคน...ไม่ได้คบกับใครพร้อมๆ กันหลายคน”
“จำได้สิ...พี่จำได้ไม่ลืม...พี่เป็นคนไม่ลืมอะไรง่ายๆหรอก  พี่จำได้ว่าธีร์บอกรักพี่หลายครั้ง คำพูดหวานๆพี่จำได้หมด...พี่ขอให้ธีร์โชคดีก็แล้วกัน...”  นวินเดินจากไปทิ้งให้ธีร์มองตามอย่างครุ่นคิด  โชคดีของนวินหมายความว่าอย่างไร อะไรบางอย่างบอกธีร์ว่า นวินไม่ได้หมายความอย่างที่พูดเสียทีเดียว แววตาของนวินซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้
...อะไรบางอย่างที่ค่อยน่าไว้ใจ...


   วันนี้ทั้งวันผมนัดน้องหลีดมาซ้อมตั้งแต่เก้าโมงจนถึงตอนนี้เวลาเกือบทุ่มนึงแล้ว...ท่าท่างแต่ละคนกระปลก
กระเปลี้ยกันหมดเพราะวันอังคารนี้เราก็จะแข่งกันแล้ว...ผมก็เลยยิ่งต้องเคี่ยวหนักไม่ใช่เพื่อต้องการชนะคณะอื่นแต่เพื่อชนะใจตัวเราเองต่างหากแต่ถ้ามันจะชนะคณะอื่นด้วยก็ถือซะว่าเป็นผลพลอยได้...ซ้อมเสร็จผมรีบกลับมาเคลียร์งานที่หอเพราะพรุ่งนี้มีงานต้องส่งอาจารย์ต้องทำให้เสร็จภายในคืนนี้...เฮ้อ..ธีร์ก็ยังคงอยู่กวนใจผมที่หอเหมือนเคย...ไล่ให้กลับหอตัวเองก็ไม่กลับ...ผมบอกให้ธีร์ไปอาบน้ำ แต่คนช่างยั่วก็ไม่ยอมผละจากผมเสียที มาตอแยผมจนชักจะใกล้หมดความอดทนละ...
 “นี่...หยุดกวนซะทีด๊ายม๊าย...ปวดหัว...” ผมลากเสียง  วางปากกา ถอนหายใจแรงๆ มองธีร์ตาขวาง
“จะกินยาไหมล่ะ ผมจะไปเอามาให้” อีกฝ่ายทำหน้าห่วงใย แต่นัยน์ตาวิบวับขัดกับคำพูด  ผมหรี่ตา...ท่าทางเอาเรื่อง หากธีร์ยังไม่หยุด ผมจะฟาดด้วยแฟ้มงานที่กำลังถืออยู่ในมือนี่แหละ...ทีเดียวสลบ..เหอๆๆ
“ขออยู่เงียบๆ ซักพัก ธีร์อย่ากวนใจ ไม่ต้องมาแตะเนื้อต้องตัว ไม่ต้องมาหยอกเย้าอะไรทั้งสิ้น อยู่เฉยๆ”
“ครับๆ...ได้...ให้ทำอะไรยากจริงน๊อ” ธีร์รีบรับคำ ถอยออกห่างไปอยู่บนเตียง นัยน์ตาตั้งเต้นระริก  เวลาผ่านไปไม่ถึงห้านาที ผมก็หมดความอดทน ธีร์ทำตามคำสั่งที่ให้อยู่เฉยแต่ความเป็นจริงแล้วจ้องมองผมอยู่แทบไม่กะพริบตา
“เลิกจ้องได้แล้ว...เดี๋ยวก็ไล่กลับหอจริงๆซะเลยนี่...”
“อ้าว บอกให้ผมอยู่เฉยๆ ผมก็นั่งอยู่เงียบๆ ของผม พี่นุนี่พาลจริง” ธีร์ทำหน้าเหรอหรา
“อยู่เฉยๆ ไม่ได้ให้มานั่งจ้องกันแบบนี้ พี่ไม่มีสมาธิ”
“มองหน่อยก็ไม่ได้...” ธีร์หน้ามุ่ย ทำเสียงราวกับกำลังงอน
“จะมองอะไรกันหนักหนา...” ผมส่ายหน้า หันมาก้มลงทำงานต่อ
“ก็คนมันรักนี่นา ห้ามกันได้หรือ” ธีร์ลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้ามาใกล้ ผมรีบเงยหน้าขึ้นทำตาขวางเพื่อบอกว่า...ห้ามแตะเนื้อต้องตัว แต่ธีร์ไม่สนใจ รวบร่างผมไว้ แล้วซุกหน้าเข้ากับซอกคอของผมพร้อมกับพูดว่า
“รักพี่นุจังเลย รักที่สุด รักจนไม่อยากห่างไปไหน”  ธีร์ซุกไซร้ใบหูขาวของผมจนทำให้ขนลุกซู่ เลือดสูบฉีดไปทั่วกาย
“พี่นุ...รักผมบ้างไหมครับ...” ธีร์ถามเสียงอู้อี้เพราะใบหน้ายังซุกไซร้อยู่ไม่ยอมหยุด 
“ไปอาบน้ำให้สะอาดๆ ซะไป๊” ผมผลักธีร์ให้ออกห่าง อีกฝ่ายยินยอมโดยดี พร้อมกับส่งสายตาหวานฉ่ำให้ ก่อนจะหันหลังเดินไปยังห้องน้ำแต่ก่อนที่จะถึงประตูกลับหันมาย้ำว่า
“เร็วๆ นะครับ รอนาน ผมใจจะขาด...ถ้านานมากจนทนไม่ไหว ผมจะแก้ผ้าเดินมาอุ้มพี่นุไปทำอะไรกันที่ระเบียง”
“ไอ้ลามก...” 


   ผมใช้เวลาไม่ถึงสี่สิบห้านาทีก็ทำงานเสร็จ  ผมลุกขึ้นบิดตัวอย่างอ่อนล้าหันไปบนเตียงนอนธีร์นอนคว่ำหน้ากางแขนหลับไปแล้ว...เสื้อก็ไม่ใส่...ขาสั้นตัวเดียวอีกตามเคย
“ธีร์...ตื่นมาใส่เสื้อก่อน....เดี๋ยวได้เป็นปอดบวมหรอก..” ธีร์ยังไม่ไหวติง  ผมเขย่าตัวอีกครั้งธีร์ครางอืออาเช่นเคย แล้วพลิกตัวขึ้นนอนหงาย ยิ้มบางๆ ให้ผมแล้วพูดเสียงนุ่มว่า
“รอตั้งสองชั่วโมงกว่า”
“น้อยๆหน่อย อย่ามามั่วนิ่มนะ” ธีร์ยิ้มกริ่มแล้วดึงตัวผมให้ซบลงบนอกผมขืนตัวเอาไว้มือดันหน้าอกแกร่งของคนขี้เซา
“ใส่เสื้อก่อน เดี๋ยวเป็นหวัด”
“ใส่ทำไม จะแก้ผ้ากันอยู่แล้ว ค่อยใส่ทีเดียวตอนเสร็จสิ้นภารกิจ”  ธีร์ตอบแล้วหัวเราะชอบใจ พลิกตัวผมให้ลงอยู่ข้างล่าง ตรงไว้ไม่ให้ขยับ
 “หนัก”
“เดี๋ยวก็หายหนักแล้ว รับรองว่าสบายตัว...”
“มะอาวววว...” ผมพยายามดิ้น
“น่า..นะครับพี่นุ...”  ธีร์ไม่รอคำตอบแล้วก้มหน้าลงมาประกบปากผมทันที...ผมยังดิ้นไม่หยุด...แม้จะแทบขยับตัวไม่ได้  มือแข็งแรงของธีร์สอดเข้าใปใต้เสื้อยืดบางๆของผม ลูบไล้ที่หน้าอก มืออีกข้างเลื่อนต่ำลง ช้อนตัวผมยกขึ้น สอดมือเข้าไปด้านหลัง นิ้วเกี่ยวกางเกงแพรเนื้อบางให้หลุดไปผมก็ยิ่งดิ้น แอ่นกายขึ้นโดยไม่รู้สึกตัว เผลอเปิดทางให้ผู้รุกรานได้กระทำการอย่างสะดวกยิ่งขึ้น มือทั้งสองที่ผลักดันหน้าอกของธีร์เปลี่ยนมาเป็นกอดรัด ป่ายไปมาบนแผ่นหลังแกร่ง
“ธีร์....ยะ..อย่า...” ผมครางเสียงกระเส่า
“ที่รักครับ...ที่รักของผม...”  ธีร์เองก็ครางเสียงกระเส่า...หายใจแรง ระดบจูบบดเบียดซอกคอของผม สลับกับไล้ลิ้นโลมเลียผิวเนื้อ  ใบหน้าเคลื่อนต่ำลงจนถึงแผ่นอกแน่นขาวสะอาด ก่อนจะตวัดลิ้นลิ้มรสเนินเนื้อให้สมปรารถนาจนผมสะดุ้งเฮือกเผลอร้องคราง มือแข็งแรงของธีร์กำลังเค้นคลึงแผ่นอกของผมนิ้วสะกิดติ่งเล็กชูชันบนหน้าอก พลางขยับใบหน้าคมเข้มเลื่อนไปอีกข้าง ขบเม้มเบาๆ ...หยอกเย้า...ยั่วยวน จนผมต้องแอ่นอกตามเมื่อคนที่กำลังเชยชมอยู่แกล้งถอนปากออกจากการโลมเลีย มือที่เหลืออยู่ของธีร์ซุกไซร้อยู่เบื้องล่าง บีบเค้นบั้นท้ายผมอยู่ไม่คลาย ก่อนสอดมือเข้าไปตรงซอกขา ดันให้แผ่กวางออก แล้วไล้นิ้วไปตามผิวเนื้อของต้นขาด้านในที่ไวต่อการสัมผัส...
ผมแหงนหน้า ส่ายหน้าไปมา รู้สึกซาบซ่านแทบจะทนไม่ไหวผมขยับแขนขึ้นรัดต้นคอของธีร์ มือตะกุยตะกายขยี้ผมของธีร์อย่างรัญจวน...ร่างกายร้อนเร่า...ความเสียวซ่านแทรกผ่านทุกอณูเนื้อของร่างกาย...กระตุกเกร็ง สั่นสะท้าน...ธีร์จับขาผมงอเข่ากางออกแล้วจับขาผมยกขึ้นพาดไหล่แล้วจัดการค่อยๆดันส่วนนั้นเข้ามาช้าๆ...ธีร์เริ่มกดสะโพกดันเข้ามาในตัวผมทีละน้อยๆพร้อมกับการซอยเข้าออกสั้นๆช้าๆจนทั้งหมดก็ถูกดันเข้าไปจนสุด  ธีร์ใช้มือยันลำตัวไว้แต่ก็ก้มหน้าลงไปจูบกับผม  ธีร์เริ่มโยกเข้าออกแบบยาวๆช้าๆผมก็กระดกก้นรับสัมผัสกับการกระแทกของธีร์จนธีร์ต้องเร่งความเร็วของสะโพก
“อาร์……ซี๊ด…พี่นุครับ...”  ธีร์ก้มหน้าลงไปจูบกับผมอีกครั้งเอวก็ทำงานขยับเข้าออกอย่างต่อเนื่อง  การโยกกระหน่ำของธีร์ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง.....จนธีร์ทนไม่ไหว
“เร็วอีก...ธีร์...พี่จะไม่ไหวแล้ว...ซี๊ดซซซดดดด” 
“อาซซซ พี่นุครับ... ผมเสร็จแล้ว... ซี๊ดซซซซซ”  ธีร์ครางเสียงดังขึ้นแล้วกระแทกเข้ามาในตัวผมแบบถี่ๆเน้นๆ เสียงดังผับ ผับ ผับ...ธีร์เร่งกระหน่ำโยกเอวหนักๆเข้ามาอีกสองสามที     ธีร์ฟุบลงกอดกับผมแน่นพลางซุกไซร้ใบหน้าจูบและหอมแก้มผมอีกครั้ง... เราสองคนนอนหายใจระทวยบนที่นอน ผมหลับตาหายใจลึกๆยาวๆ เข่าอ่อนเลยครับ พลางนึกถึงความสุขสุดยอดที่เพิ่งผ่านพ้นไปที่ธีร์มอบให้กับผมซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อยากให้มันอยู่กับผมให้เนิ่นนานที่สุด.....


   แล้วการแข่งขันกีฬาระหว่างคณะก็มาถึง...โดยวันนี้จะเป็นพิธีเปิดและจะมีการโชว์หลีดมือและแข่งหลีดปอมปอมของแต่ละคณะด้วย...พวกผมนัดน้องหลีดผู้หญิงมาแต่งหน้าทำผมที่ร้านกันตั้งแต่แปดโมงเช้า    ส่วนผู้ชายให้มาเจอกันตอนเที่ยงซึ่งกว่าจะแต่งตัวกันเสร็จทุกคนก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสอง...หลีดผู้หญิงขึ้นรถไปกับไอ้กิ๋วส่วนหลีดผู้ชายให้บิดมอ’ไซด์เข้าไปเอง...เราไปสแตนด์บายรอกันที่ใต้ถุนอัฒจรรย์ของคณะเราวันนี้ผมไม่ได้มาพร้อมกับธีร์เพราะธีร์เองก็ติดภารกิจที่คณะธีร์เหมือนกัน...ระหว่างรอผมก็จะเดินไปดูว่าในสนามเค้าถึงไหนกันแล้วแต่ทันใดก็มองเห็นร่างสูงโปร่งของคนที่ผมไม่อยากพบเจอเดินตรงรี่เข้ามาหา...นวิน...จองล้างจองผลาญกันจริงๆ สนามกีฬาก็ออกกว้างขวางแต่ก็ยังมาเจอกันอีกจนได้
“ไง...เจอกันอีกแล้ว...เคลียร์ปัญหารักสามเศร้าเรียบร้อยแล้วเหรอ...แบบนี้นี่เองถึงไม่ยอมคืนธีร์ให้เรา...อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองตนนี่เอง...พวกนกสองหัว...” นวินไม่ทักทาย เปิดฉากทันทีที่เดินมาถึงตัว...มันรู้เรื่องของผมได้ไงวะ
“หยุดพูดนะนวิน...พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง...อย่ามาปรักปรำ อย่ามาเป็นอันธพาล กล่าวหากันแบบนี้"
ผมเสียงแข็งเริ่มอารมณ์คุกรุ่น นวินไม่ยอมแพ้ เสียงแข็งไม่แพ้กัน
“จำไว้ด้วยนะ....เราเสียธีร์ไป...เราจะเอาของของเราคืนกลับมาให้ได้...”
“แกมันบ้า...ธีร์ก็ชัดเจนว่าไม่เคยรักแก เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาคร่ำครวญว่าเสียธีร์ไปเหมือนกัน คนแบบนี้มันไม่เคยได้ใครทั้งนั้น ไม่เคยเป็นของใคร ไม่ต้องมา..”
“พี่นุ...”  เสียงธีร์เรียกชื่อผมอย่างตกใจแล้วรีบวิ่งเข้ามาหา
“เรารักธีร์....แกเองแย่งธีร์ไปจากเรา...” นวินเสียงดังจนคนรอบข้างเริ่มหันมาดู
“พี่นวิน....เมื่อไหร่จะเลิกเสียที...ผมว่าเราคุยกันรู้เรื่องไปแล้วนะ...” ธีร์เสียงห้วน  ส่วนนวินนัยน์ตาแดงก่ำ 
“ธีร์ไปกันเถอะ อย่าสนใจคนพูดไม่รู้เรื่องเลย” ผมพูดแล้วหันหลังดึงแขนธีร์ให้เดินออกจากตรงนั้น
“พี่ต่างหากที่รักธีร์มาตลอด...เค้าก็เห็นธีร์เป็นแค่ตัวเลือก...ธีร์จะไปรักคนที่เขามีสองใจทำไม”  นวินเสียงกร้าว 
ธีร์หันขวับแล้วยกนิ้วขึ้นชี้หน้านวิน
“จำเอาไว้นะ ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเห็นว่าพี่นวินมาระรานพี่นุอีก...ผมจะไม่ใจดีอีกแล้ว..” ธีร์เน้นเสียงผ่านไรฟัน ใบหน้าบึ้งตึงก่อนจะดึงแขนผมรีบผละออกไป
“ธีร์ห้ามพี่ไม่ได้หรอก ยังไงพี่ก็ไม่ยอม" เสียงนวินดังตามหลังมา...ธีร์จูงแขนผมเดินออกมาจากใต้ถุนอัฒจรรย์...
ผมหน้าชาไปหมด....รู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก...ผมหยุดเดินยืนทำอารมณ์อยู่พักนึงแล้วหันมาหาธีร์
“คราวที่แล้วก็ที่ห้าง...คราวนี้ก็ในงานกีฬา...คราวหน้าจะที่ไหนอีกอ่ะธีร์...” ผมระเบิดอารมณ์ใส่ธีร์
“พี่นุ...”  ธีร์หันไปทำเสียงโอดครวญ
“พี่อายเค้านะธีร์..โดนด่าหน้าชาว่าแย่งธีร์มาจากคนอื่นแบบนี้อ่ะ...”
“พี่นุ...ผม...”
“พี่จะต้องเจออะไรแบบนี้อีกกี่ครั้งเหรอธีร์...บอกมาซิ...บอกม๊า...” ผมจ้องธีร์ตาเขม็ง ธีร์ยังไม่ทันตอบก็มีเสียงเรียกดังขึ้นข้างหลังผมทั้งสองคน...
“ธีร์...”  ทั้งผมและธีร์หันตามก็เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งยืนอยู่ไม่ไกล  ร่างสูงกล้ามเนื้อเป็นมัดเพราะใส่เสื้อสีขาวพอดีตัวเดินเข้ามาทักพร้อมส่งยิ้มกว้าง    ผมถอนหายใจหันไปมองธีร์ ฝ่ายนั้นทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก...ท่าทางผมจะเจออดีตของธีร์เข้าให้อีกละมั้ง...อะไรกันนักหนาวะ...ความวัวยังไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรกอีกแล้ว
“ว่าไงเป้...”  ธีร์ทักทายไม่เต็มเสียงนัก
“ตกลงธีร์เรียนที่นี่เหรอ...ไม่คิดว่าจะเจอธีร์ที่นี่นะเนี่ย...”
“แล้วเป้มาทำอะไรที่นี่อ่ะ...”
“เรามาดูเพื่อนแข่งหลีดอ่ะ...แล้วธีร์เป็นไงสบายดี...ตั้งแต่วันประกาศผลสอบแล้วก็ไม่เจอกันอีกเลยนะ..”
เป้พูดใบหน้ายิ้มๆ
“ตั้งแต่วันประกาศผลสอบ...”  ผมพึมพำ
“พี่นุ....”   ธีร์หันมาทำเสียงโอดครวญ กลัวว่าผมจะเข้าใจผิดอีก
“ ไปก่อนนะ..เดี๋ยวก็คงจะแข่งแล้ว..” ผมบอกเสียงเรียบแล้วหันหลังเดินตรงไป   ธีร์รีบเดินตามแต่เป้คว้าแขนไว้
“เดี๋ยวก่อนสิธีร์...นี่เป้นะ...ไม่ใช่ผีที่ไหนทำไมรีบเดินหนีล่ะ ไม่อยากให้เราเห็นแฟนใหม่ธีร์หรือไง...”
“เราต้องไปแล้ว...”  ธีร์สลัดแขน เดินตามผมไปโดยเร็ว แต่เป้ยังเดินตาม
“จะรีบไปไหน คุยกันก่อนสิธีร์...”  เป้ร้องเรียก  ธีร์ส่ายหน้าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆแล้ววิ่งเหยาะๆตามหลังผมไป...ธีร์รู้สึกหนักใจกับปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น...
“บ้าจริงๆพี่นวินเพิ่งลุยพี่นุไปหมาดๆ...ยังไม่ไปถึงไหนเจอเป้ที่หน้าสนามอีก...ทำไมวันนี้ถึงซวยแบบนี้วะ..ซวย...ซวยจริงๆ” ธีร์บ่นกับตัวเองส่ายหน้าหงุดหงิด
“แล้วพี่นุหายไปไหนแล้ววะ...”  ธีร์หันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ


หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-05-2017 22:07:22
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 08-05-2017 22:32:31
น้ำมันร้อน
โดนเข้าไป
มือถึงพอง
หึหึ

ชอบของร้อน
คิคิ
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 20
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 09-05-2017 21:53:44
ตอนที่  21_เพราะว่าฉันนั้นยังไม่แข็งแรงพอ...


“ไอ้กิ๋ว...กูฝากดูน้องมันด้วยนะ...กูไปละ...”  ผมเดินไปบอกไอ้กิ๋วแล้วรีบจ้ำพรวดเดินออกจากตรงนั้นทำเอาไอ้กิ๋วหน้าตาตื่นวิ่งตามผมมาทันที
“เฮ้ยๆๆ...ไอ้นุ..เดี๋ยวก่อน...”  ไอ้กิ๋ววิ่งไปขวางผมไว้
“มีปัญหาอะไรรึเปล่าไอ้นุ...หน้ามึงไม่ดีเลยนะ...แล้วนี่น้องมันจะลงสนามแล้วนะเว้ย...ต่อไปก็คณะเราแล้วมึงจะไม่อยู่เชียร์น้องมันหน่อยหรือวะ...พวกมันต้องการมึงนะเว้ย...”  ไอ้กิ๋วบอก...ผมก็สองจิตสองใจเอาไงดีวะ...อีกใจก็อยากอยู่ดูผลงานของตัวเอง...แต่อีกใจก็คิดถ้าผมยังอยู่ที่นี่ต่อผมจะต้องเจอปัญหาแบบนี้อีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้....ผมไม่มีแรงพอที่จะสู้รบปรบมือกับพวกนั้นหรอกนะ...ทำไมเป็นแฟนคนเจ้าชู้มันลำบากอย่างนี้วะ...
“ก็ได้...แต่กูไม่รู้ว่ากูจะทนอยู่ได้นานแค่ไหนนะเว้ย...”
“ไอ้นุ...กูไม่ได้สอนนะแต่กูจะบอกมึงไว้อย่างนึง...เมื่อมึงตัดสินใจคบกับไอ้ธีร์เป็นแฟนแล้วน่ะ...มึงก็ต้องมั่นใจในตัวมันด้วย...”
“แต่กูเจอกับคนเก่าๆของธีร์ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันถึงสองคนเลยนะเว้ย...กูทนไม่ได้ว่ะ...”
“นั่นก็ใช่...แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าธีร์มันยังรักพวกนั้นนี่  อีกอย่างมึงก็ยังไม่ได้ฟังมันอธิบายยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยแล้วที่สำคัญมึงเจอพวกมันข้างนอก...ไม่ใช่บนเตียง...”
“แสดงว่ากูไม่หนักแน่นพอใช่ไม๊ไอ้กิ๋ว...” ผมเสียงเบา
“นุมึงก็มีสิทธิ์จะคิดแบบนั้นนะ คนเรามันก็มีอารมณ์น้อยใจ เสียใจได้เป็นธรรมดา...ของแบบนี้ มันน้อยใจกันได้ แต่เมื่อมีอะไรแบบนี้ขึ้นมา มันต้องหันหน้าเข้าคุยกัน และเชื่อมั่นในตัวของกันและกัน...ถ้า...ถ้าเรารักเขาและเขารักเรา”
“กูรู้...แต่ว่ากู...กูควบคุมตัวเองไม่ได้...ทั้งๆที่กูก็เตรียมใจไว้บ้างแล้วนะ...พอเจอเข้าจริงๆก็ยังอึ้งเลย..”
“ไม่มีใครควบคุมตัวเองได้ตลอดเวลาหรอกไอ้นุ...คนเรารักกันก็ควรจะให้อภัยกันได้แต่ก่อนอื่นต้องฟังเขาอธิบายก่อนสิวะ...ไปเหอะ...เค้าเรียกคณะเราลงสนามแล้ว....”



   เสียงพิธีกรในสนามประกาศเรียกชื่อทีมหลีดปอมปอมคณะศึกษาศาสตร์ลงสนามหลังจากการแสดงของคณะมนุษย์ศาสตร์จบลง...ผมเดินมารวมมือกับน้องก่อนจะเดินลงสนามบอกให้ทำเต็มที่ไม่ต้องคิดถึงผลแพ้ชนะ...พวกเราตะโกนดังเฮ้!!!!...ผมมองจนน้องๆเดินลงสนามท่ามกลางเสียงเชียร์ลั่นของกองเชียร์บนแสตนด์...ผมเดินเลี่ยงไปหาที่ยืนดูอีกที่หนึ่งให้ไกลจากตรงที่คณะผมนั่งเพราะถ้าอยู่ตรงนั้นธีร์ต้องหาผมเจอแน่นอนเพราะตอนนี้ผมยังไม่อยากเจอกับธีร์...ไม่อยากอารมณ์เสียระหว่างดูการแข่งขัน...
“ขอเสียงเชียร์และเสียงปรบมือต้อนรับ...คณะเกษตรศาสตร์...เอ้ย...ขอโทษครับ...คณะศึกษาศาสตร์...”  เสียงพิธีกรชายในสนามประกาศ
“แม่งเอ้ย...ยังเสือกประกาศผิดอีกไม่ได้ดูโพยรึไงวะ...”  ผมบ่นแล้วยืนดูต่อ...เสียงเพลงเริ่มต้นดังขึ้นกระหึ่มท่ามกลางการต่อตัวที่เร้าใจคนดู...อิ่มกับปอยถูกจับโยนตีลังกาแล้วพลิกตัวมาถูกยกขึ้นยืนขาเดียวเหนือหัวจนสุดมือแล้วเตะขา นอนลงมาอย่างไม่ผิดพลาด....ย้ายโซนไปรวมกลุ่มเต้นซึ่งแต่ละคนก็ทำมันได้อย่างดีกว่าที่ผมคิด...ปอยถูกจับโยนขึ้นกลางอากาศแล้วฉีกขานอนลงมาท่ามกลางความตื่นเต้นของผู้คนในสนาม...จนมาถึงในช่วงสุดท้าย...อิ่มกับปอยม้วนหลังกลางอากาศแล้วถูกจับฉีกขายืนขึ้นเป็นปิรามิดเป็นการจบอย่างสมบูรณ์แบบ...เสียงปรบมือดังลั่นสนาม....
“เฮ้อออ....จบซะที...นึกว่าจะไม่รอดซะแล้ว...” ผมพึมพำกับตัวเอง...



“พี่เป็นผู้ควบคุมทีมนี้เหรอครับ...” เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ...ผมหันไปมอง...ไอ้เป้อีกแล้ว...
“ใช่...พี่เป็นผู้ควบคุมทีมของคณะนี้..มีอะไรรึเปล่า..???”
“คนเก่งอย่างนี้....เดี๋ยวคงมีใครติดต่อไปซ้อมให้จนรับงานแทบไม่ไหวแน่เลยนะครับ....” เป้พูด  ยืนเอามือล้วงกระเป๋า
“ก็ทำเฉพาะงานของคณะอ่ะ...ถ้าไปที่อื่นกลัวจะไม่คุ้นเคยและคงไม่ถนัด...คนเก่งๆในมอมีตั้งหลายคนเค้าน่าจะทำได้ดีกว่า...”
“จริงสินะ อะไรที่ไม่เหมาะกับตัวเองนี่ก็เปลี่ยนไปให้คนอื่นได้” เป้พยักหน้าเห็นด้วย  ผมเริ่มรู้สึกว่าคำพูดของเป้นั้นแฝงนัยอย่างอื่นซะแล้วดิ...เอาไงดีวะ..
“เหมือนคนที่ใส่เสื้อผ้า พอเห็นว่าไม่เหมาะกับตัวเอง ก็ต้องถอดให้คนที่ใส่แล้วดูเหมาะกว่าใช่ไหมครับ”  เป้พูด
“ใช่....ถ้างานชิ้นไหนไม่ถนัดพี่ก็คงทำออกมาไม่ดี แต่ถ้าเค้ายืนยันจะให้ทำ ก็แสดงว่าเค้าไว้ใจเราจริงๆ ก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุด ถ้าทำสุดความสามารถแล้ว ผลงานก็ต้องออกมาได้ดีแน่”  ผมพูด...เป้กลั้นหายใจแล้วยิ้มๆ...
“ขอตัวนะครับ....”  ผมพูดแล้วรีบออกจากตรงนั้นให้ไว...อีกแล้ว..ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงผมได้ปะทะคารมกับไอ้พวกนี้อีกแล้ว...ทั้งนวินทั้งเป้...นี่มันแท๊กทีมกันเข้ามาเล่นงานผมรึไงวะถ้าสองคนมันร่วมมือกัน...ผมเองจะตั้งรับไหวมั้ยเนี่ย
เอาไงดีวะ...จะอยู่ต่อหรือไปไหนดี...หนีก่อนดีกว่าเว้ย  ผมสะพายกระเป๋าเป้เดินฉับๆไปรอรถที่ป้ายรถเมล์เวลามาดันมากับไอ้กิ๋ว...แล้วจะกลับยังไงละทีนี้..



   ธีร์เดินตามหาผมจนรอบสนามแต่ก็ยังไม่เจอ...ธีร์หันไปเจอนวินกำลังชี้มือชี้ไม้สั่งน้องๆในคณะเตรียมอุปกรณ์เพื่อโชว์กองเชียร์อยู่..ธีร์จึงเดินเข้าไปหาเพื่อที่จะเคลียร์ทุกอย่างให้จบ...
“พี่นวิน...ผมอยากคุยด้วย...”  ธีร์เดินเข้ามาใกล้ ยืนตรงหน้านวินโดยไม่รีรอ
“คุยเรื่องเดิมใช่ไหม.. ธีร์จะคุยให้ได้อะไรขึ้นมา” นวินทำไก๋...รู้อยู่ว่าธีร์ต้องการอะไรจากการมาครั้งนี้
“ดูเหมือนว่าพี่นวินจะไม่ฟังที่ผมพูดไปสองสามครั้งที่แล้ว...พี่ไม่ยอมเลิกลายังจะพยายามทำร้ายพี่นุ ข้อนี้ล่ะที่ผมทนไม่ได้...”   นวินสะอึก รู้ทั้งรู้ว่าธีร์จะพูดกับเขาแบบนี้แต่พอได้ยินจริงๆก็ยิ่งปวดใจ
“พี่ไปทำร้ายนุมันยังไง...พี่แค่พูดอย่างที่พี่....”
“อย่างที่ตัวพี่เองอยากจะพูดไง...จะทำลายความรักผมกับพี่นุให้ได้เลยใช่ไหม....เพื่ออะไรครับพี่นวิน....เพื่ออะไร อย่ามาบอกว่าเพื่อต้องการอยากได้ผมนะ....เพราะไม่มีทางเป็นไปได้หรอกและผมจะบอกไว้เอาบุญนะว่า..ผมรักพี่นุ พี่นุ
คนเดียวเท่านั้นที่ผมรัก คนแรก คนเดียว และคนสุดท้าย...”  ธีร์พูดยืดยาว ตลอดเวลาจ้องตานวินอย่างแน่วแน่ ตั้งใจให้คำพูดทุกคำ แทรกเข้าไปในความรับรู้ของชายหนุ่มหน้าขาวที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีซีดเผือด นัยน์ตาแดงก่ำ ปากเม้มแน่น
มือกำจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน
“พอเหอะธีร์....ไม่ต้องย้ำขนาดนั้น” นวินเสียงเบา...
“ผมขอเถอะนะพี่นวิน...ให้มันจบแค่นี้จะดันทุรังไปก็ทรมานกันเปล่าๆ พี่นวินเองก็คงไม่มีความสุขหรอกพอเถอะพี่...
อย่าให้จากกันอย่างคนเกลียดกันเลยนะ”
“ธีร์ไปซะเถอะ....ไปซะ....”   นวินเริ่มสะอึกสะอื้นท่าทางจะเลิกพยายามที่จะควบคุมตัวเอง นวินร้องไห้จนน่าสงสาร ธีร์ยืนมองนวินอยู่ชั่วครู่ ถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินออกห่างตรงไปยังทางออก....ธีร์แหงนหน้ามองท้องฟ้า...เมฆดำทะมึนเริ่มตั้งเค้าว่าจะตก...ลมเริ่มพัดแรง...
“พี่นุหนีไปอยู่ไหนวะ...” 
“อ้าว...ไอ้นุไม่ได้อยู่กะเราเหรอ...”  ไอ้กิ๋วหันมาถามมือก็กำลังขนของกลับไปที่รถ...
“ไม่อยู่ดิพี่...ผมหาจนทั่วแล้วหาไม่เจอก็เลยวิ่งมาหาพี่กิ๋วนี่แหละ...นึกว่าอยู่ด้วยกัน...”  ธีร์พูดแล้วมองไปรอบๆ
“ชิบหายละ...ฝนก็จะเทแล้ว...จะไปหามันตรงไหนได้วะ...ตกลงมีเรื่องอะไรกันวันนี้อ่ะ..”
“คือว่า...พี่นุเจอกับคนเก่าๆของผมอ่ะครับพี่กิ๋ว...”  ธีร์ตอบเสียงอ่อยๆ  ไอ้กิ๋วส่ายหน้าช้าๆ
“คราวที่แล้วแค่เรื่องกินเหล้าไอ้นุมันยังเคอร์ฟิวส์เอ็งซะสามวัน...แล้วนี่เจอกะอดีตกิ๊กเก่าทั้งหลายนี่ไม่ล่อเข้าไปเป็นอาทิตย์รึไงวะเนี่ย...ตายแน่ไอ้ธีร์คราวนี้อ่ะ...”  ไอ้กิ๋วบอก  ธีร์เห็นว่าน้องหลีดนั่งอยู่ในรถไอ้กิ๋วนานแล้วเลยบอกให้
ไอ้กิ๋วไปก่อน...
“งั้นพี่กิ๋วไปก่อนเหอะ...เดี๋ยวผมลองวนรถดูรอบๆมอก่อน...หวัดดีครับ..” ธีร์ยกมือไหว้ไอ้กิ๋วแล้วเดินมาที่รถ...
ก็เจอเป้ยืนกอดอกพิงรถไว้อยู่...ธีร์ถอนใจอีกครั้ง...เอาวะจัดการทีเดียวให้หมด...ธีร์คิดในใจ..
“เดี๋ยวออกจากนี่แล้วเราไปต่อกันนะธีร์...นานๆจะเจอที...ไปรำลึกความหลังกันหน่อยนะ..” เป้พูดแล้วยืนรอให้ธีร์ปลดล๊อกรถแต่ธีร์ยังยืนอยู่...ฝนก็เริ่มลงเม็ด
“เราคงไปต่อไม่ได้หรอกเป้...เราต้องไปตามหาแฟนเรา...” ธีร์พูดทำเอาเป้หน้าเสีย
“พี่ที่ท่าทางจืดชืดคนนั้นน่ะเหรอ...ธีร์เปลี่ยนรสนิยมไปนะ เคยชอบเพลงร๊อค ไหงกลับมาชอบเพลงคลาสสิคล่ะ”
“เรื่องของเรามันจบไปแล้วนะเป้ให้มันจบไปเหอะ...ตอนนั้นเราสองคนต่างก็ยังเด็กด้วยกันทั้งคู่...อย่าไปคิดมากเลยนะ
วันนั้นเราก็ต่างคนต่างไปแล้ว...มีอนาคตที่ดีเป็นของตัวเอง..เป้ก็มีคนของเป้แล้วไม่ใช่เหรอ??...”
“แต่ว่า...เรายังรักธีร์นะ....” เป้พยายามเดินเข้ามาชิดแต่ธีร์ถอยห่าง...เห็นชายคนหนึ่งกำลังยืนมองอยู่
“เรื่องของเรามันนานมากแล้วเป้...แล้วเราคิดว่าคนที่มากับเป้วันนี้เค้าคงไม่พอใจแน่ๆที่เห็นเป้มาคุยกับเราแบบนี้...
คงไม่ต้องบอกหรอกนะว่าที่เป้มาที่มอเรา...เป้มาเชียร์ใครวันนี้..เป้น่าจะรู้ดีแก่ใจ...โชคดีนะ..” ธีร์พูดแล้วขับรถออกไปทิ้งให้เป้ยืนมองตามตาละห้อย...พอเห็นแฟนตัวเองเดินเข้ามาเป้ก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเดินกลับไปด้วยกัน...



   ผมเดินทอดน่องจากป้ายรถเมล์มายังร้านค้าตรงประตูทางเข้ามอ…เสียงกองเชียร์แต่ละคณะที่กำลังทำการโชว์ยังดังลั่นอย่างต่อเนื่องท่างกลายสายฝนที่กำลังโปรยปรายลงมา...บางคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานก็เริ่มขี่รถทยอยกันออกมา...ผมเดินไปนั่งที่ม้านั่งหน้าร้านค้าที่ปิดไปแล้ว....เก็บสิ่งที่ไอ้กิ๋วพูดไปคิดรวมทั้งที่เคยอ่านจากหนังสือ หรือได้ยินจากที่อื่นๆ ประมวลเข้าด้วยกันเพื่อช่วยในการไตร่ตรอง ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปแต่ประโยคเดียวที่ก้องอยู่ในหัวผมชัดเจนกว่าคำพูดอื่นๆ สารพัด คือเสียงของธีร์...พี่นุ ผมรักพี่นุ ผมรักพี่นุคนเดียว...ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างเหนื่อยแรง ตาเหม่อลอยไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ผมถอนหายใจเบาๆยกมือขึ้นกอดอกราวจะปลอบใจตัวเองว่ามีอ้อมแขนที่อบอุ่นกำลังปลอบโยนอยู่...อ้อมแขนของตัวเอง...แทนที่จะเป็นอ้อมแขนของคนที่ผมรัก...ตั้งแต่คบกับธีร์ผมเคยพร่ำบอกตัวเองเสมอว่าเมื่อตัดสินใจเป็นแฟนของคนที่เคยเจ้าชู้และตอนนี้เลิกเจ้าชู้แล้วผมต้องอดทนและหนักแน่นมากพอสมควรบอกตัวเองว่าอย่าคิดมาก อดีตของธีร์ที่เคยเจ้าชู้ อย่างน้อยก็ต้องมีบ้างที่คนเก่าๆจะโผล่ขึ้นมาทำให้รู้สึกหึงหวงบ้าง...ทั้งที่เตือนตัวเองเสมอ แต่ผมไม่เคยนึกว่าจะพบพร้อมกันทั้งสองคนอย่างที่เห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
แสงไฟสว่างจ้าจากรถมอ’ไซด์คันหนึ่งสาดส่องมากระทบใบหน้าผมเงยหน้าขึ้นมองแต่รถคันนั้นไม่ได้ขับผ่าน
“พี่นุ...”  เสียงที่คุ้นเคยเรียกอยู่ข้างๆ
“เจมส์.....”  ผมเรียกชื่อนั่นเบาๆ...เจมส์เดินเข้ามาหาผมพร้อมกับไอ้เต๊ะ
“โห...ฝนก็ตกมานั่งทำไมตรงนี้อ่ะพี่นู๊...” ไอ้เต๊ะทำเสียงสูงเอามือป้องใบหน้า....
“นี่เรียบร้อยแล้วเหรอ...ถึงกลับกันน่ะ...” ผมเลี่ยงที่จะไม่ตอบ  เจมส์นั่งลงข้างๆผม
“พี่นุหนีอะไรมา...มีอะไรรึเปล่า...” เจมส์ถามจ้องผมตาเขม็ง....ผมยังไม่ทันตอบไอ้เต๊ะพูดแทรกเข้ามาซะก่อน...
“หิวน้ำชิปเป๋ง...กูลืมเอาตังค์มาว่ะไอ้เจมส์..มึงมีติดมาเปล่า...กูจะเดินไปซื้อน้ำ..”  เจมส์สายหน้า
“เอ่อ...งั้นเดี๋ยวพี่ซื้อให้ละกัน...” ผมบอกแล้ววางกระเป๋าเป้เดินไปที่ร้านขายของชำข้างๆที่ยังเปิดอยู่


   ธีร์ขับรถวนรอบมอแล้วหาผมไม่เจอเลยขับรถออกมาเพื่อจะไปดูที่หอ...ในช่วงทางออกรถค่อนข้างติดธีร์จึงขยับไปได้ทีละนิดจนเมื่อกำลังจะผ่านตรงประตูทางออก...ที่ร้านค้าด้านข้างมีผู้ชายแต่งชุดหลีดปอมปอมยืนอยู่สองคน
ธีร์กำลังจะขับผ่านแต่บังเอิญเห็นกระเป๋าเป้ใบคุ้นเคยวางอยู่ที่ม้านั่งหน้าร้านขายของชำ...ธีร์จึงรีบจอดรถข้างทางมองผ่านกระจกหลังเห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ยืนเหมือนรอใครอยู่...ธีร์ก็จำได้ถนัดตาแล้วตรงรี่เข้าไปหาและเปิดฉากทันที...
“เจมส์...พี่นุอยู่ที่ไหน”  เจมส์เงยหน้าไม่มีท่าทีตกใจหากทำหน้าเรียบนิ่งต่างไปจากที่เคยเห็น
“จะรู้ไปทำไม....” เจมส์ตอบ
“บอกมา....” ธีร์เสียงกร้าว
“แกเป็นเจ้าของพี่นุไม่ใช่เหรอ?...แล้วทำไมไม่ดูแลพี่นุให้ดีๆวะปล่อยให้แฟนเก่าของตัวเองมาระรานพี่นุอยู่ได้”
“พูดยังงี้หมายความว่าไงเจมส์....”
“ก็หมายความตามที่พูด....ถ้าพี่นุเป็นแฟนแกแล้วต้องมาโดนแบบนี้ เราก็เสียดายคนดีๆ ที่ต้องมาตกระกำลำบาก พี่นุสู้กับบรรดาคนเก่าๆของแกไม่ไหวหรอก” เจมส์เสียงเข้ม
“เจมส์....แกเลิกมาตอแยกับพี่นุเสียเถอะเป็นชู้ทางใจกับแฟนคนอื่นน่ะ มันบาป”
“ก็ยังดีกว่าชู้ทางกายเราเคยรักพี่นุของเรายังไงเราก็ยังรักอยู่แกมาห้ามเราไม่ได้หรอก ที่สำคัญแกดูแลพี่นุให้ดีก็แล้วกัน”
“ทำไม คิดจะแย่งหรือไง”   
“ไม่ได้แย่ง...แต่แกกลับไปเหอะพี่นุไม่ได้อยู่ที่นี่...”
“ไม่อยู่เหรอ....แล้วนี่อะไร...”  ธีร์ชี้ไปที่กระเป๋าเป้ที่วางอยู่
“ก็บอกให้กลับไปไงวะ...”  เจมส์ขึ้นเสียงแล้วยกมือขึ้นผลักธีร์จนเซไปปะทะผนัง
“ไม่กลับ...นี่มันเรื่องของเรากับพี่นุ...ไม่เกี่ยวกับแก...”  ธีร์โต้กลับเสียงแข็ง นัยน์ตาลุกวาบพยายามมองเข้ามาในร้าน
ความโกรธของเจมส์พุ่งขึ้นจนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ผลักอกธีร์อีกครั้งแรงกว่าเดิมจนเสียหลักล้มลงกับพื้นจนไอ้เต๊ะต้องเข้าไปห้าม....เจมส์ผลักไอ้เต๊ะออกแล้วเจมส์ย่างสามขุมเข้าหาธีร์ พลันต้องสะดุดกึกเมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น...
“เจมส์...อย่า!!! ”  ทั้งสองคนหันขวับไปยังต้นเสียง ผมยืนหน้าเข้มอยู่ไม่ไกล จ้องมองทั้งสองนิ่ง ก่อนจะก้าวเท้าเร็วๆ เข้ามาหา
“นี่กำลังจะมีเรื่องกันอีกแล้วรึไง...” 
“ก็ผมปกป้องพี่นุ...จากแฟนเก่าไอ้ธีร์...ที่อยู่ดีๆ ก็มาขอไอ้ธีร์ไปจากพี่นุหน้าด้านๆ”
“เจมส์....เรารู้ด้วยเหรอ???” ผมถาม..เพราะงงจริงๆว่าเจมส์มันรู้ได้ยังไงก็ผมเองยังไม่ได้เล่าอะไรเลย
“ทำไมผมจะไม่รู้...ผมเห็นเหตุการณ์ตลอด...” เจมส์จ้องธีร์ตาขวาง...ธีร์ก็จ้องกลับมาไม่แพ้กัน..ผมหันไปบอกธีร์
“ธีร์...กลับ!!!....เจมส์...ขอบใจนะ” ผมพูดแล้วดึงแขนธีร์ออกมาจากตรงนั้นธีร์เองก็ยังขืนๆตัวไว้ไม่ค่อยจะยอมเดิน
“พี่นุ...ผะ..ผม...” เจมส์ทำท่าจะเดินตามแต่ไอ้เต๊ะรั้งตัวไว้...
“เฮ้ย..เจมส์เวลาของมึงมันหมดแล้วนะเว้ย...มันเป็นเรื่องของเค้าสองคน..ตอนนี้มึงมันเป็นคนนอกแล้วรู้ไว้ด้วย...”
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 09-05-2017 22:07:58
มาม่าชามโต เข้มแข็ง หนักแน่น ท่องไว้นะทุกๆคน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 09-05-2017 23:06:16
เวลาของหมาหัวเน่า#เจมส์
#อย่าให้มีคนอื่นเน่าด้วยทีหลัง

หึหึ
สู้เพื่อรัก


กร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 21
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 11-05-2017 17:53:07
ตอนที่  22_เสียงหัวใจเรียกร้อง... (18++++)


“พี่นุ....พูดอะไรกับผมซักคำสิครับ...” ธีร์ถามผมหลังจากที่นั่งเงียบกันอยู่นาน...
“พี่เหนื่อยอ่ะธีร์...อย่าเพิ่งให้พี่พูดอะไรเลยนะ...ปวดหัวแล้ววันนี้..”  ผมบอกแล้วเอามือกุมขมับ
“ผมขอโทษนะครับที่ปล่อยให้สองคนนั้นเข้ามาหาเรื่องพี่นุแบบนี้...รับรองครับว่าผมจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก..นะครับพี่นุ”
“ธีร์ไม่ต้องขอโทษหรอก...พี่เองก็ผิดที่โมโหไปลงเอากับธีร์น่ะสองคนนั้นเค้าเข้ามาเองไม่เกี่ยวกับธีร์หรอก..”
“พี่นุอย่าประชดผมสิครับ...” ธีร์จอดรถข้างทางแล้วยืนหน้าเข้ามาใกล้ๆ
“พี่ไม่ได้ประชด...แต่พี่พูดจริงๆ...แต่พี่ไม่รู้นะว่าพี่จะทนเรื่องแบบนี้ได้อีกซักกี่ครั้ง...พี่เป็นคนไม่ค่อยชอบเจอเรื่องตื่นเต้นบ่อยๆหรอกธีร์...รถไฟเหาะพี่ไม่ชอบเล่น...พี่อยากเดินเล่นเงียบๆมากกว่า...ธีร์เข้าใจนะ..”
“เข้าใจครับพี่นุ...ผมคุยกับพวกเค้าไปแล้วคงไม่มีเรื่องอะไรแล้วล่ะครับ..”
“ก็อย่าให้มีคนที่สามโผล่เข้ามาแล้วกัน...ถ้ามี...ก็ทางใครทางมันละกันนะ...” ผมบอกแล้วถอนใจยิ้มๆ
“ผมขอสัญญาว่าจะทำตัวให้ดีที่สุด ไม่ให้ต้องพี่นุหึงหวง.....พี่นุ...คืนนี้นอนที่หอผมนะ ฉลองที่เราคืนดีกัน...พี่นุไป
ค้างหอผมซักครั้งเถอะผมไม่อยากนอนคนเดียว” ธีร์ทำตาซึ้ง เสียงจริงจัง
“ทำยังกับว่าไม่เคยนอนด้วยกัน”
“เคย แต่ว่าพี่นุไม่ยอมไปนอนที่หอผมซักที”
“แสดงว่าธีร์ไม่ชอบนอนที่หอพี่”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ชอบสิครับ ชอบจะตาย อยากจะนอนทุกคืน แต่ผมอยากให้พี่นุไปนอนหอผมบ้าง หรือไม่ก็เราก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันเลย...ดีมั้ย”  ธีร์หันมายิ้มหวานแล้วขับรถออกไป




“เฮ้ย...รีบหน่อยสิวะ...กว่าจะมาครบแม่ง..ผับปิดพอดี...”  ไอ้กิ๋วกวักมือเรียกไอ้เต๊ะกับไอ้เจมส์ที่หน้าผับThe voice คืนนี้ไอ้กิ๋วนัดน้องหลีดมาฉลองที่แข่งรอบแรกเสร็จแล้วคะแนนนำมาเป็นอันดับหนึ่ง...ไอ้กิ๋วจองไว้ห้าโต๊ะอยู่มุมในสุด...
แต่ละคนส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่
“ท่าทางวันนี้..จะกวาดผู้ชายกลับไม่หวาดไม่ไหวนะเนี่ย...” วุ้นพูดแล้วกระดกสปายเข้าปากอั่กๆ
“ชั้นว่าคืนนี้เรามาแข่งเก็บแต้มกันก่อนดีกว่าอีวู้นนนนน...อ๊ายยยย...” เดี่ยวพูดแล้วหันไปชนแก้ววววว...ไอ้เจมส์เป็นอีกหนึ่งคนที่กระดกเหล้าพรวดๆจนไอ้หนึ่งต้องร้องห้าม...
“แม่ง...ดื่มเป็นน้ำเลยนะเมิง...เบาๆหน่อย...เหล้าแพงนะเมิง...”  พอแอลกอฮอล์เข้าปากแต่ละคนก็วาดลีลาแดนซ์ไม่แพ้กันซักคน...จนเวลาล่วงเลยไปตีสอง...น้องผู้หญิงเริ่มทยอยกลับกันไปหมดแล้วเหลือแต่บรรดาหลีดผู้ชาย...ส่วนวุ้นกับเดี่ยวก็หายไปพร้อมกับหนุ่มล่ำกล้ามใหญ่ตั้งแต่ตีหนึ่ง...ไอ้กิ๋วเป็นคนเดียวที่ประคองสติได้อยู่เพราะมันต้องขับรถ...
“เฮ้ย...กลับกันได้แล้วเว้ย...พรุ่งนี้ซ้อมกันไม่ได้เดี๋ยวไอ้นุด่ากูอีก...” ไอ้กิ๋วสะกิดให้แต่ละคนลุกเดินตามมันมาที่รถ...
“เดี๋ยววานนี้...ปายนอนน...บ้านโผมมมมกานโหมดนี่แหละ...ม่ายมีครายอยู่...” ไอ้เต๊ะบอกกับไอ้กิ๋ว....โดยมีไอ้เจมส์...         
 ไอ้หนึ่ง...ไอ้เอก...ไอ้แซค...ตามมาด้วยทั้งหมด
“ดี...กูจะได้ไม่ต้องตะเวนส่ง...” ไอ้กิ๋วบอกแล้วขับรถออกจาก The voice ไปยังบ้านไอ้เต๊ะ....พอถึงบ้านไอ้เต๊ะไขกุญแจเข้าไปในบ้าน...แต่ละคนก็เดินโซเซเข้าไปในบ้าน...แยกกันไปนอนตามห้องนอนไอ้เต๊ะบ้าง...ห้องรับแขกบ้าง....
ไอ้เจมส์ทำท่าจะอ๊วก..ไอ้หนึ่งต้องพยุงไปห้องน้ำแต่กว่าจะถึงห้องน้ำได้ก็แทบคลานเพราะเมาแอ๋ทั้งคู่...
“มาววววแล้วว...ปายนอนเลยเมิงอ่าอ้ายยเจมส์...” 

พอออกมาจากห้องน้ำไอ้เจมส์จะเดินไปเองแบบเบลอๆแล้วเซจะล้มลงไอ้หนึ่งเลยช่วยพยุงไปที่โซฟาแต่ว่ามันก็ล้มลงที่โซฟาทั้งคู่...ไอ้เจมส์ทับอยู่บนตัวไอ้หนึ่ง....                                                                                                           

“เพ่นู๊...” เจมส์เรียกไอ้หนึ่งที่เมาหลับใหลไปแล้วแต่ยังนอนทับอยู่บนตัวหนึ่งอยู่...ด้วยความเมาไอ้เจมส์คิดว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคือคนที่เรียกชื่อก็เลยก้มลงไปจูบปากกับไอ้หนึ่งอย่างหื่นกระหาย ปรากฎว่าไอ้หนึ่งตอบรับกับริมฝีปากไอ้เจมส์เหมือนกันจึงจูบซุกไซร้ซอกคอมาจนถึงหัวหัวนมที่เป็นสีชมพูน่าดูด จนไอ้หนึ่งครางออกมาซี๊ดซ๊าด...หนึ่งเริ่มรู้สึกตัวแล้วแต่ก็สลึมสะลือมากพยายามที่จะลุกขึ้นมาปฏิบัติการเอง  เจมส์เลยจัดการถอดเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและไอ้หนึ่งออก...เจมส์เลยรีบเอามือจับส่วนนั้นของหนึ่งที่แข็งเต็มที่ชักขึ้นชักลงแบบกำมือเน้นๆจนหนึ่งตัวอ่อนลงครางซี๊ดซ๊าดต่อ ปากก็ดูดดุนหัวนมกระตุ้นอารมณ์ต่อเนื่องแล้วจึงเลื่อนตัวลงมาค่อยๆครอบปากลงไป หนึ่งครางซี๊ดซ๊าดไม่เป็นภาษาแล้วกระดกบั้นท้ายส่งส่วนนั้นเข้าปากเจมส์อย่างมีอารมณ์เต็มที่ เจมส์คว้าเอาโลชั่นที่วางอยู่ข้างทีวี    เจมส์จับใบหน้าหนึ่งมาจูบปากแลกลิ้นอย่างหื่นกระหายแล้วเจมส์ก็จับตัวหนึ่งให้นอนคุกเข่าโก้งโค้ง 4 ขา ส่วนตัวเองยืนคุกเข่าอยู่ด้านหลัง เจมส์คว้าโลชั่นทาที่ปากถ้ำของหนึ่ง...แล้วก็ทาที่ส่วนนั้นของตัวเองที่ขนาดพอดีกับส่วนสูง เจมส์ใช้มือซ้ายจับเอวหนึ่งไว้ มือขวาจับน้องชายที่แข็งปั๋งแล้วค่อยๆปักหัวเข้ามาในรูของหนึ่งแล้วค่อยๆดันเข้าไปจนสุดเสียงหนึ่งอืออาๆในลำคอ...  เจมส์เอา 2 มือจับเอวหนึ่งไว้แน่นแล้วเริ่มซอยถี่ขึ้นเจมส์และหนึ่งครางแทบไม่เป็นภาษาเสียงครางยิ่งกระตุ้นให้เจมส์ซอยถี่ขึ้นอีก   
                                                                                                                                             
“อะ...อะ...ไม่ไหว...โอะ..ไม่ไหวแล้ว”  เจมส์ครางเสียงดังขึ้น เจมส์กดส่วนล่างแนบแน่นกับก้นหนึ่งแล้วพุ่งกระฉูดต่อจนล้นออกมาข้างนอกแล้วจึงล้มตัวลงนอนหอบกันอยู่นานด้วยความเหนื่อย   หนึ่งพลิกตัวนอนหงายคว้าโลชั่นทาที่ส่วนของตัวเองและที่ปากถ้ำของเจมส์แล้วดึงเจมส์ขึ้นคร่อมเจมส์จับเอาส่วนหัวจ่อเข้าในรูของตัวเองแล้วกลั้นหายใจหย่อนกตัวลง ปล่อยให้ส่วนนั้นของหนึ่งแทรกผ่านเข้าไป แต่หนึ่งมันกลับเด้งสวนขึ้นมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจมส์ทิ้งตัวลง ปล่อยให้เจ้าน้องชายของหนึ่งเสียบทะลวงเข้ามาจนเกือบมิด...แม้ความสูงจะไม่เท่าเจมส์แต่ว่าส่วนนั้นกลับแข็งขันขนาดพอๆกัน                                                     

“ ซื้ด...อา...” เจมส์สูดปากร้องเบาๆ เพราะความเจ็บปนเสียว                                       

“อะ...อา.....” หนึ่งครางเสียงกระเส่าพร้อมกระเด้งตัวขึ้นรับ   เจมส์เริ่มขย่มเบาๆทั้งๆที่ยังเจ็บอยู่                         

“อา..ดี...อา....” หนึ่งครางเป็นระยะ เจมส์ทนเจ็บไม่ไหวต้องชักให้ตัวเองไปด้วยจึงค่อยยังชั่ว  พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางกันแล้วเจมส์จึงเริ่มกระแทกแรงขึ้น หนึ่งเสียวมากกัดฟันกระเด้งตัวขึ้นรับเป็นระยะๆ  เจมส์กดบั้นท้ายลงจนส่วนนั้นของหนึ่งเข้าไปได้มิดอันแล้วถูกแรงเด้งของหนึ่งทำให้ก้นเจมส์ลอยขึ้น สาวส่วนนั้นออกมาเกือบสุดปลายแล้วลดตัวลงไปหามันอีกครั้งจนสุดแต่ก็ถูกแรงเด้งจนก้นลอยขึ้นอีก  สองมือเจมส์ยันไว้กับหน้าอกหนึ่งขณะที่หนึ่งเอามือมารวบรัดบั้นท้ายเจมส์ไว้แน่น  หนึ่งกระดกเอวและเร่งบั้นท้ายหนักขึ้นตามจังหวะเอวของเจมส์...ทั้งสองครางซี๊ดซ๊าดอือออาร์เสียงดัง...หนึ่งผลักเจมส์ลงนอนหงายเพื่อที่จะเป็นคนกระทุ้งเอง  หนึ่งยกขาเจมส์ขึ้นพาดบ่า แล้วจับส่วนนั้นของตัวเองยัดกลับเข้าไปที่เดิมหนึ่งเร่งควบกระเด้าอัดลูกสูบเต็มกำลัง ร่างของเจมส์ส่ายร่อนเอวโคลงไปมาหนึ่งเบียดซ้ายทีขวาที เงยหน้าซู๊ดปากเสียงดัง….สวรรค์รออยู่รำไรเพียงอึดใจเดียวทำนบเจมส์ก็พังทลาย สายน้ำไหลทะลักพุ่งกระเซ็นเต็มหน้าท้องและอก ไม่ทันไรหนึ่งก็ร้องเสียงหลงอัดท่อนลำบดเบียดหัวเหน่าชิดติดกับก้นของเจมส์ เงยหน้าอ้าปากซี๊ดปากเสียงดัง ร่างของหนึ่งโดยเฉพาะส่วนสะโพกกระตุกตัวสั่นหลายทีพร้อมกับฉีดน้ำสีขาวขุ่นเข้าไปในตัวเจมส์  หนึ่งฟุบตัวลงมาหาเจมส์แบบไม่ลืมหูลืมตา เจมส์คว้าทิชชู่มาเช็ดตัวของหนึ่งและของตัวเองจนสะอาดแล้วใส่เสื้อผ้าให้หนึ่งและตัวเองแบบลวกๆแล้วพลิกตัวลงไปนอนกับพื้น...


เช้าต่อมา ไอ้เจมส์ตื่นก็บ่ายกว่าๆ ไปดูห้องไอ้เต๊ะ แต่ละคนก็เห็นยังหลับอยู่ในสภาพเสื้อชุดเมื่อวาน แป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงชักโครก ไอ้หนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ มันยังอยู่ในชุดเมื่อวานเหมือนกันแต่ไม่ได้สวมเสื้อ ท่าทางดูสลึมสลือ

“เป็นไง เมาหนักเลยซิมึง”  ไอ้หนึ่งถามแล้วเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆไอ้เจมส์ที่นั่งเอามือกุมขมับอยู่...                                                       

“แม่ง...ปวดหัวชิบหาย...มึงกะกูนี่เหมือนกันเลย..เมาแล้วแม่งไม่ชอบใส่เสื้อ...” เจมส์หันไปมองไอ้หนึ่ง..                           

“เช้านี้ไม่รู้เป็นไร...แม่งแสบก้นชิบหาย...เมื่อคืนที่งานเรากินอะไรแสลงๆกันมั้งป่าววะ..”  หนึ่งถาม  เจมส์ทำหน้างงๆ         
 
“เดี๋ยวก็หาย มึงแดกเยอะล่ะมั้ง...จะว่าไปกูก็รู้สึกแสบๆเหมือนกันนะเว้ย...กูก็ลางๆว่ะแต่ยังนึกไม่ออก...”                         

“งั้นเดี๋ยวกูไปเข้าอีกทีดีกว่าว่ะ..แม่ง...ทีหลังกูไม่เมาแล้ว...ลำบากชิบ..”  ไอ้หนึ่งพูด  เอาเสื้อยืดพาดบ่าแล้วเอามือคลำก้นเดินไปเข้าห้องน้ำ...เจมส์ลุกขึ้นยืนแล้วก็เหลือบไปเห็นกองทิชชู่ที่ข้างๆโซฟา..เจมส์ก้มลงดูแล้วทำหน้าตกใจพยายามนึกถึงเรื่องเมื่อคืน...ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง...ความทรงจำที่ลางเลือนเริ่มกลับมา...ชัดขึ้น...ชัดขึ้น...                                           
 
“หมายความว่าเรากับไอ้หนึ่ง.....” เจมส์พูดกับตัวเองแล้วเอาทิชชู่ไปทิ้งถังขยะแล้วจึงรับออกจากบ้านไอ้เต๊ะไป.... 

           กลับมาถึงหอ...เจมส์รีบเข้าไปในห้องน้ำล้างสบู่ออกจากตัว ลูบไล้เรือนกายของตน อดนึกถึงเมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้ แม้ความจำจะไม่คมชัดเพราะสติถูกครอบคลุมด้วยความเมา แต่ก็พอจำได้ถึงความหฤหรรษ์ที่ได้รับ...ในใจนึกตำหนิตัวเองที่ปล่อยให้อะไรๆเกิดขึ้น เขาโทษเหล้า..เขาโทษความเหงา...ความผิดหวัง...ความเสียใจ...แต่ลึกๆ เขาอยากจะโทษตัวเองนักที่สับสนจนควบคุมตัวเองไม่ได้


ประตูกระจกบานใหญ่เปิดออก ผ้าม่านสีขาวนวลพริ้วไหวเพราะแรงลมสัมผัส ผมเดินเปลือยอกออกมาสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด มองไกลไปยังเส้นขอบฟ้าสีคราม...ผมลืมความหม่นมองที่เพิ่งเจอมาเมื่อวานหมดสิ้น...ธีร์ให้ความรักแก่ผมจนผมรับไว้แทบไม่หมด...หัวใจพองโตอัดแน่นไปด้วยความสุข ความน้อยใจที่มีอยู่มลายหายไปสิ้น                               
“แอบหนีมาอยู่ตรงนี้เอง...ใจร้าย....ปล่อยให้ผมนอนหลับอยู่คนเดียว...”   อ้อมแขนแข็งแรงของธีร์สอดเข้ามาโอบเอวผมหลวมๆใบหน้าซุกลงตรงซอกคอ แผ่นอกกว้างเปลือยเปล่าแนบชิดกับแผ่นหลังของผม....เนื้อแนบเนื้อ...เหมือนถ่ายทอดความอบอุ่นให้กัน...
                                           
“พอเถอะ....”

“ไม่....”
 
"เมื่อคืนก็เพิ่ง... ธีร์...ไม่เบื่อหรือไง"

"ไม่"  ธีร์ประทับจูบใต้ใบหู เผยอปากพยายามจะเม้มใบหู

"เดี๋ยวใครเห็น ปล่อยนะ"

"ไม่...อยู่ตั้งสูง...แถมมองออกไปยังเป็นทุ่งกว้างอีกต่างหาก...ถ้ากลัวใครเห็นก็เข้าไปในห้องกับผมนะครับพี่นุ"

"ไม่เอา ต้องไปทำงานแล้ว...ต้องไปซ้อม....เค้าคงรอกันนานแล้ว"

"ให้เค้ารอไป...นะครับพี่นุ...อย่าปฏิเสธผมเลย..."

"ธีร์....ไม่เอานะ"  ผมเสียงอู้อี้ ธีร์ปากเม้มใบหูเน้นน้ำหนักเบาๆ อ้อมแขนกอดกระชับแน่นเข้า หน้าท้องบดเบียดอยู่กับด้านหลังแน่นๆ ของผม

"เข้าข้างในเถอะ อายเค้า" 
                                 
"ฮื่อ..." ผมหมดแรงขัดขืน...ยอมถูกรั้งเข้าไปในห้อง...อีกเหมือนเดิม...
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 22 [18+]
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 11-05-2017 19:05:30
เจมส์#หมดหวังแล้วซินะ#คนแต่งพิพากษาแล้ว


คนไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่ คนจะใช่ก็ใช่ทั้งวันทั้งคืน
ก็แล้วแต่นะ
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 22 [18+]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-05-2017 22:38:08
เจมส์กับหนึ่งเป็นอะไรที่..เข็มขัดสั้น แถมเป็นโบ้ทด้วย เซอร์ไพรส์!!!!!!   o22
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 22 [18+]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 11-05-2017 23:48:49
ขอบคุณที่เม้นติดตามให้กำลังใจกันมาโดยตลอดนะคับ...อีกไม่กี่ตอบก้อจบแล้ว.... :mew4:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 22 [18+]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 13-05-2017 14:03:31
ตอนที่  23_มรสุม (2)                                                                  


“เฮ้ย...ไอ้กิ๋ว...น้องหายไปไหนกันหมดวะ...”  ผทรีบกดเบอร์ไอ้กิ๋วหลังจากมาที่หน้าคณะแล้วเงียบกริ๊บบบบ....   
 
“สงสัยแม่ง...ยังไม่ฟื้นกันว่ะ...”  ไอ้กิ๋วบอกเสียงอ่อยๆ   
                                 
“ยังไม่ฟื้น...แล้วเมื่อคืนมึงพาพวกน้องไปไหนกันมาวะ...”
                                           
“กูพามันไปฉลองกันที่ The voice ว่ะ...กูเห็นมึงกะลังมีเรื่องเลยไม่ได้บอก...”
                        
“แล้วไง...ตกลงคงไม่มีใครมาซ้อมกันแล้วใช่มั้ยเนี่ย...กูจะได้กลับ...ศุกร์นี้ก็แข่งรอบชิงแล้วนะเมิง...”
                      
“เอ่อ..น่า...กูขอโทษถือว่าวันนี้ให้มันพักผ่อนละกัน...พรุ่งนี้มึงก็อัดเต็มที่เลย...จะว่าไปมึงเองก็หายหัวไปเลยนี่หว่าตั้งแต่แข่งเสร็จอ่ะ...ตกลงเคลียร์กันเรียบร้อยยังอ่ะ...”   
                                       
“อืมมม...เรียบร้อยแล้ว...ขอบใจมึงด้วยที่เตือนสติกู....”   
                                                     
“นั่นแน่...เรียบร้อย....โดนไอ้ธีร์อ้อนจนตัวเบาหวิวอีกแล้วอ่าดิ๊...ระวังฟ้าเหลืองนะเมิง...คนเจ้าชู้อ่ะเค้าว่าเซ็กส์จัด...”
       
ไอ้กิ๋วแซวแล้ววางสายทำเอาผมหัวเราะ..หึหึ...แม่งพูดเหมือนตาเห็น...รู้ได้ไงคนเจ้าชู้เซ็กส์จัด...เหอๆ...ท่าจะจริงแฮะ...


อาหารมือค่ำผ่านไปอย่างอ้อยอิ่ง ผมอารมณ์ดีขึ้นมากที่ได้ทานอาหารอร่อยถูกใจผมอมยิ้ม เมื่อเห็นมองไปยังคนตรงหนัาที่เคี้ยวอาหารตุ้ยๆ                                                  
“นี่...ไปตายอดตายอยากมาจากไหนเนี่ย...”   
                                        
"อร่อยอ่ะ....แถมพี่นุยังใช้งานผมจนแทบไม่ได้พัก เหนื่อยจะแย่ " ธีร์พูดทั้งที่ยังเคี้ยวอาหารอยู่  ผมตาโต
                              
“ใช้งานอะไรพูดดีๆนะ...ไม่เคยใช้อะไรซักหน่อย...”
                                                   
“ใช้สิครับ...ใช้ผมอยู่ทุกคืน....จะไม่ให้หมดแรงได้ไงแต่เพื่อพี่นุ...ผมยอม..โอ๊ย"  ธีร์ร้องเบาๆ เมื่อผมเคาะมือด้วยส้อมแล้วเอนตัวพิงเก้าอี้ หยิบทิชชู่เช็ดปากที่ไม่เปื้อนเลยช้าๆ แล้วมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ  สายตาปะทะเข้ากับร่างของใครคนหนึ่ง  ธีร์เห็นผมเงียบจึงหันไปมองตาม...
                          
“โอยยย....พี่นวิน...”  ธีร์ครางเสียงเบา   ผมอมยิ้ม มองคนที่ก้มหน้าแล้วยกมือกุมขมับ
                             
“จะกุมขมับทำไมอ่ะ...เคลียร์กะเค้าแล้วไม่ใช่เหรอ??...”  ผมพูด  ธีร์ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้น  ผมเลยยื่นมือไปแกะมือของธีร์ที่กำลังกุมขมับออก แล้วใช้อุ้งมือตบแก้มเบาๆ แล้วปรายตาไปมอง "อีกคน" ที่กำลังนั่งมองอยู่จากโต๊ะที่ติดกับหน้าต่าง จงใจให้ฝ่ายนั้นเห็นว่า "นี่คือคนของผม อย่าคิดจะเข้ามายุ่ง"
                                 
"ไม่ต้องหันไป เดี๋ยวเค้าอดใจไม่ได้อีกหรอก.."

"พี่นุอ๊า...ประชดอีกแล้ว....ใจร้าย...ถ้าเขาเกิดเข้ามาเกาะแกะผม พี่นุตบเลยนะ"
                              
"ได้เลย" ผมรับคำสั้นๆ แต่ธีร์รีบพูดว่า
                                                                                                                             
"ตบเขานะ ไม่ใช่ตบผม ไม่ต้องมาทำตาร้ายกาจแบบนี้หรอก"
                                                                                  
“ถามจริง...นึกยังไงฟาดพี่รหัสตัวเองเนี่ย...หึ๊???...”   ผมถามแล้วมองไปทางนวินที่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าแอบมองผมกับธีร์บ้างเป็นบางครั้ง
                                                                                                                  
“โธ่...เรื่องมันนานมาแล้วนะครับพี่นุ...อย่าไปรื้อฟื้นเลย...”  ธีร์ตอบตาละห้อย ราวจะอ้อนวอนให้ผมอย่าสนใจ
                        
“นึกว่าจะชอบแต่ขาวๆ หน้าคมๆ หวานๆ เด็กๆรุ่นเดียวกันซะอีก”
                            
“ขนาดอายุมากกว่าที่อยู่ตรงหน้า...ยังชอบเล้ย...”  ธีร์พูดแล้วรีบเอนตัวชิดผนังเก้าอี้ให้ห่างจากรัศมีมือผมเอื้อมถึง แต่ผมไม่ขยับ นั่งนิ่งเฉยๆ แล้วหันไปเรียกเด็กเก็บเงิน
                                          
"ล้อเล่นน่าพี่นุ..รักพี่นุที่สุด ไม่เคยเห็นว่าแก่เลยนะ แต่ถึงแก่ผมก็จะยังรัก" ธีร์ทำหน้าตาออดอ้อน
                        
“ผมรักพี่นุมาก พี่นุก็รักผม เรารักกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปกลัวว่าใครจะมาทำให้เราแยกกันนะครับ...จริงมั้ย..."

“พี่ไปบอกรักธีร์ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน..ขี้ตู่รึเปล่า...”
                                                         
“พี่นุอ๊ะ...ใจร้าย...ทีเมื่อคืนยังบอกว่ารักผมอยู่เลยตอนอยู่บนเตียงอ่ะ...อะไรก็ไม่รู้อย่าหยุดๆ...” ธีร์ก้มหน้ามาพูดเบาๆให้ได้ยินแค่เราสองคน  แววตากรุ้มกริ่ม
                                              
"เซ้าซี้เรื่องไม่เป็นสาระอยู่ได้"

"ถ้างั้นเอาเรื่องที่เป็นสาระ" ธีร์ยิ้มกริ่ม
 
"คืนนี้เราทำอะไรกันในห้องน้ำนะ ผมอยากชุ่มชื่นใต้ฝักบัว...นะๆๆ"  พูดเสร็จธีร์ก็เอนตัวออกห่างผมเพราะกลัวโดนตี แต่ลืมไปว่าเท้ายังวางอยู่ใต้โต๊ะ และผมก็ "เหยียบ" ได้แม่นเหมือนมีตาอยู่ที่เท้า

"อูย"   ธีร์ครางเสียงอ่อย ก่อนจะตามมาด้วยคำว่า    
                                     
"โหดร้าย"
   

   สายๆของวันพฤหัส...เป็นวันสุดท้ายของการซ้อมเพราะพรุ่งนี้ในพิธีปิดกีฬาจะเป็นการโชว์กองเชียร์และแข่งหลีดปอมปอมในรอบสุดท้ายแล้วจะประกาศผล....วันนี้เราซ้อมกันอย่างหนักเปลี่ยนแปลงในบางจุดนิดๆหน่อยๆเพราะในรอบแรกเราทำคะแนนไว้ดีอยู่แล้วแต่ถ้าเปลี่ยนใหม่หมดเลยในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน..ผมคิดว่าไม่เสี่ยงเกินไปแต่จนป่านนี้เกือบจะหกโมงเย็นแล้วการซ้อมก็ยังไม่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์...
.                                                                     
“นี่ใครเห็นรู้บ้างว่าอีหมาชิสุห์มันหายหัวไปไหนไม่มาซ้อมเนี่ย...ว่าไงอีเดี่ยว..”  ไอ้กิ๋วตวาดลั่น                          
 
“หนูก็ไม่รู้อ่ะพี่กิ๋ว...โทรหามันเป็นร้อยรอบแล้วก็ไม่ติด...แยกกันตั้งแต่คืนนั้นแล้วหนูก็ยังไม่เคยเจอกันอีกเลยอ่ะ..”  เดี่ยวตอบทำหน้าคว่ำแล้วต่อโทรศัพท์ถึงวุ้นอีก..                                     

“แล้วจะเอายังไงดีอ่ะพี่นุ...นังวุ้นยังไม่มาเราก็ซ้อมของใหม่ไม่ได้...”  ปอยพูด                            

“หรือว่าเราจะใช้ของเดิมทั้งหมด...”  อิ่มเสนอ                                       

“ถึงใช้ของเดิม...ก็ไม่ได้อยู่ดีเพราะส่วนใหญ่วุ้นจะอยู่ชั้นสองตลอด..ถ้าวุ้นมันไม่มาจริงๆเราก็ต้องรื้อต่อตัวใหม่หมดเลย...แต่พี่ไม่แน่ใจนะว่ามันจะออกมาดีหรือเปล่ากับระยะเวลาแค่นี้...”  ผมบอกแต่ละคนถอนใจกันเป็นแถว...                 

“งั้นให้เวลาอีชิสุห์แค่หนึ่งทุ่ม..เดี๋ยวแยกย้ายกันไปกินข้าวเลยแค่ครึ่งชั่วโมงพอแล้วกลับมาเจอกัน...แล้วซ้อมกันจนถึงเที่ยงคืนไปเลยไอ้นุ...เดี๋ยวกูกะอีเดี่ยวจะไปตามมันที่หอเอง...”  ไอ้กิ๋วบอกแล้วน้องแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปกินข้าว  ผมเดินมาที่ม้าหินอ่อนที่ธีร์กำลังนั่งทำการบ้านรอผมอยู่
                            
“มีอะไรรึเปล่าพี่นุ..ท่าทางเครียดๆกัน..”  ธีร์เงยหน้าถาม  ผมนั่งลงตรงหน้า
                          
“ติดต่อวุ้นไม่ได้....หายตัวไปไหนก็ไม่รู้...นี่ก็ยังไม่ได้ซ้อมต่อตัวกันเลย..”   
               
“อยู่กับไอ้แบงค์รึเปล่าไม่รู้...เดี๋ยวผมลองโทรถามให้...” ธีร์บอกแล้วกดโทรศัพท์ไปหาแบงค์...


เสียงร้องครวญครางของชายหนุ่มสองคนดังประสานกัน สลับกับเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดของเตียงนอนเป็นจังหวะสัมพันธ์กับการขยับกายของร่างบึกบึนสองร่างที่อยู่บนเตียง แอร์ในห้องเปิดจนเย็นฉ่ำ แต่ร่างแกร่งที่กำลังระเริงรักกันอยู่กลับเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ  แบงค์สูดปากใบหน้าเหยเกเพราะใกล้จะทนไม่ไหว ขยับเอวเป็นจังหวะต้านแรงกระแทกจากเต้ย ดีเจหนุ่มของผับ The voiceที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขย่มกายของเขาดังควบม้าศึกอาระเบียเช้าห้ำหั่นกับศัตรู
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแบงค์ขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณให้เต้ยหยุดชั่วครู่ พร้อมกล่าวขึ้นด้วยเสียงหอบกระเส่าว่า

"เต้ย...พะ...พอก่อน เดี๋ยว...อูย...เดี๋ยวขอผมรับโทรศัพท์"

"บ้าเหรอแบงค์ กำลังมันส์...ซี๊ดส์... ผมใกล้แล้ว" เต้ยเสียงกระเส่าไม่แพ้กัน เอวยังขยับเด้งไปมาไม่ยอมหยุด

"น่านะ เดี๋ยวผมกลับมาทะลวงให้ถึงใจ ขอเวลาเดี๋ยวเดียว"

"แบงค์อ่ะ ไม่ยอมนะครับ" เต้ยส่ายหน้าอย่างขัดใจ

"อย่าดื้อสิจ๊ะ" แบงค์จับเอวของชายหนุ่ม พลิกตักดีเจตี๋ห้าวลงข้างล่าง กระแทกสุดแรงหนึ่งครั้งจนชายหนุ่มร้องเสียงหลง แล้วจึงถอดถอนท่อนลำของตัวเองออก เต้ยสะดุ้งเฮือก มือใขว่คว้าสิ่งที่เขาหลงใหล  แบงค์จับข้อมือของดีเจหนุ่มเพื่อไม่ให้คว้าส่วนนั้นของเขาเอาไว้ รีบโหย่งตัวออกห่าง แล้วก้าวขาลงจากเตียง เดินโทงๆ ไปคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะชิดผนังเขากดรับสาย ทักทายด้วยเสียงร่าเริง                                   

“ไอ้ห่าธีร์...โทรมาทำไมตอนนี้วะ...ขัดจังหวะกู..กูกะลังเข้าด้ายเข้าเข็ม..”                                        

“กว่าจะรับได้นะเมิง...กูนึกว่าตายห่าคาอกกันไปแล้วนี่กะลังเข้าด้ายเข้าเข็มเหรอวะ...รีบๆทำแล้วปล่อยตัวไอ้วุ้นมาได้แล้ว...พี่นุกับพวกหลีดเค้ารอซ้อมกันอยู่..”                                                                      
 
“เฮ้ย...ไม่ได้อยู่กับกู...ไม่เจอกันหลายวันแล้ว...อู๊ยยย...”  แบงค์ตอบแล้วตามด้วยเสียงอุทานเบาๆ เมื่อมีมือซุกซนของคนที่ควรจะรอเขาอยู่บนเตียง สอดแทรกมากลางหว่างขาจากด้านหลังแล้วเกาะกุมสิ่งที่อยู่ตรงกลางลำตัวเบื้องหน้า   

“แน่ะนะเว้ย..สาระนะเนี่ย...อย่าโกหกนะเมิง...เค้าตามหากันให้วุ่นไปหมด..”                  

“อะ..เออ...ดะ..เดี๋ยวๆ”  แบงค์ตอบ ลดมืออีกข้างลงไปปัดป้อง ง้างมือของเต้ยออกจากการเกาะกุมส่วนนั้นของเขา   

“เดี๋ยวอะไรวะ...มึงพูดกับกูรึเปล่าเนี่ย...”                                        

"เดี๋ยว...เอ่อ...อูย...เดี๋ยวกูไปช่วย...หา" แบงค์เสียงกระท่อนกระแท่นเพราะเต้ยไม่ยอมหยุด กลับขยับมือขึ้นลงแรงและเร็วขึ้น ปลายนิ้วเขี่ยส่วนปลายเบาๆ                                                   
 
“เออๆ...แค่นี้แหละ..ท่าทางมึงกำลังยุ่งอย่าหักโหมมากละกันมึง..” ธีร์พูดแล้ววางสาย ส่วนอีกทางแบงค์ก็รีบวางสาย โยนโทรศัพท์ไปบนไว้บนโต๊ะ แล้วดันหน้าของดีเจหนุ่มออกจากการรุกรานของรักของหวงของเขาแบงค์ทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ผลักหนุ่มหล่อให้นอนราบกับพื้นห้อง แล้วรีบปฏิบัติการทำโทษคนหัวดื้ออย่างรุนแรงและรวดเร็ว ไม่สนใจคำบ่นกระท่อนกระแท่นของเต้ยว่าเจ็บหลังที่โดนเขากระหน่ำอย่างไม่ปราณี  แบงค์ใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีก็เสร็จสมอารมณ์หมาย ส่วนเต้ยนั่นพุ่งกระฉูดไปตั้งแต่ในนาทีแรกที่แบงค์กระแทกกระทั้นชายหนุ่ม แบงค์ทิ้งให้เต้ยนอนหายใจหอบอยู่บนพื้นห้อง ตัวเองรีบถอดกายออก เดินตรงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแบบเร่งด่วนสุดชีวิต ดีเจหนุ่มน้อยร่างแกร่งบ่นตามหลังว่า                                                           

"ทำไมเร็วจัง"                                     

“พอดีคนหาย...ผมต้องไปช่วยตามหา...” แบงค์ปิดประตูห้องน้ำแล้วจัดการอาบน้ำอย่างรวดเร็ว




“วุ้นก็ไม่ได้อยู่กับไอ้แบงค์อ่ะครับพี่นุ...”  ธีร์เดินกลับมานั่งที่เดิม
                  
“คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกเนอะ...”  ผมปลอบใจตัวเองแล้วถอนใจเฮือกใหญ่
                              
“ใจเย็นๆครับพี่นุ...ทุกอย่างต้องคลี่คลายไปได้นะ...อย่าคิดมากนะครับพี่นุ...”  ธีร์กุมมือผมเบาๆให้กำลังใจสักพักโทรศัพท์ดัง...ผมดูเบอร์..อ้าวไอ้กิ๋วนี่หว่าอาจจะได้ข่าววุ้นแล้ว....   
                              
“ฮัลโหลว่าไงกิ๋ว...”
                                            
“เฮ้ยไอ้นุ...เจออีวุ้นแล้วว่ะ...”



   ผมรีบเดินตรงไปที่ประชาสัมพัน์ของโรงพยาบาลถามหาชื่อคนเจ็บว่าอยู่ที่ไหน...ธีร์วิ่งตามเข้ามา...ผมกดลิฟท์ขึ้นไปยังห้องพักที่เจ้าหน้าที่บอก...ระหว่างอยู่ในลิฟท์ธีร์กุมมือผมแน่น..ธีร์ดึงผมไปยืนใกล้ๆจนไหลเราชิดกัน พอลิฟท์เปิดผมเดินตรงไปตามทางเดินจนสุดก็เห็นไอ้กิ๋วยืนโทรศัพท์อยู่หน้าห้อง...                                       

“เรื่องมันเป็นมายังไงวะกิ๋ว..”                                              

“พยาบาลเค้าบอกว่าวุ้นมันถูกข่มขืนว่ะ...คงเป็นไอ้คนที่มันออกไปด้วยคืนไปเที่ยวอ่ะ..มันคงหลอกไปให้เพื่อนมันรุมโทรมว่ะ...คนที่เค้าเจอแล้วพามาส่งเค้าเล่าว่าเจอวุ้นกำลังโดนมันร่วมด้วยช่วยกันอยู่แถวๆแยกบายพาสนอกเมือง...พอพวกมันเห็นรถขับเข้าไปก็คว้าเสื้อผ้าวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น..จะเหลืออยู่ก็แค่วุ้นนอนเปลือยสลบเหมือดอยู่นี่แหละ..”           
ไอ้กิ๋วเล่าเป็นฉาก  ผมใจหายวาบกับสิ่งที่ได้ยิน                                 

“แล้วนี่วุ้นมันรู้สึกตัวรึยัง..”                                                                     

“นี่ก็ยังไม่ฟื้นเลยว่ะ...ไอ้นุ..ท่าทางมันจะลงแข่งพรุ่งนี้ไม่ทันแล้วว่ะ...แล้วมึงจะเอาไงต่อไปทีนี้”                          

“กูยังไม่รู้เลยว่ะ...ตื้อไปหมดแล้วตอนนี้..”   สักพักแบงค์ก็ถามมาถึง  แบงค์ยกมือไหว้ผมกับไอ้กิ๋ว                 

“วุ้นเป็นไงบ้างวะธีร์...”                                            

“มึงเข้าไปเยี่ยมเองในห้องดีกว่า..”  ธีร์บอก  แบงค์ผลักประตูเข้าไปก็เจอเดี่ยวนั่งน้ำตาซึมอยู่ข้างเตียง                                

“แบงค์...นั่งก่อนสิ...” เดี่ยวเช็ดน้ำตาแล้วลุกขึ้นให้แบงค์มานั่งแทน                  

“หมอว่าไงบ้างอ่ะเดี่ยว...”   แบงค์หันมาถาม                           

“หมอเค้าบอกว่าร่างกายวุ้นอ่อนเพลียอย่างหนัก...บาดแผลที่ถูกข่มขืนอักเสบอย่างหนักแต่ก็ปลอดภัยแล้ว...ภายนอกก็อย่างที่เห็น..ฟกช้ำนิดๆหน่อยๆ...โดนเข้าไปอย่างนี้คงหายแร่ดไปอีกนาน”  เดี่ยวพูดขำๆแต่น้ำตาซึม           

“เดี่ยวพอจะรู้มั้ยว่าวุ้นไปพลาดท่าเรื่องนี้ยังไงได้...”                                   

“ถ้าจะให้เดานะคงเป็นไอ้หน้าหล่อคนนั้นที่เจอกันคือไปเที่ยวนี่แหละ...ก็ไม่นึกว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้....ปกติก็นึกว่ามันจะพาขึ้นสวรรค์แต่ที่ไหนได้กลับพาลงนรกซะได้...”                                                   

“ทีหลังก็ระวังตัวกันหน่อยละกัน...อย่าไว้ใจกับคนที่เพิ่งเจอกันโดยเฉพาะที่เที่ยว...”                           

“จะพยายาม...”  เดี่ยวบอกเสียงค่อย  ไอ้กิ๋วเปิดประตูเข้ามา...                          

“ไป..อีเดี่ยวกลับไปซ้อมกันก่อน...ไปคุยกันว่าจะเอายังไงดีทางนี้ให้ไอ้แบงค์อยู่เฝ้าไปก่อน...”  แบงค์พยักหน้ารับ  เดี่ยวจึงเดินตามไอ้กิ๋วออกไป

 
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 13-05-2017 20:26:21
โธ่วุ้น...เศร้าอ่ะ  :m15:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 14-05-2017 12:09:02
รักกันซะขนาดนี้
ต่อให้มีมรสุมเข้ามาซักกี่ลูก
ก็คงไม่มีทางพังแล้วล่ะ

บทเรียนของวุ้น
อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า

+1 ฮับ
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 23
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 16-05-2017 19:55:51
ตอนที่  24_มรสุม (3)

                                                                   
ผม  ธีร์   ไอ้กิ๋วและเดี่ยว...กลับมาทีซ้อมเพื่อที่จะคุยกันว่าจะแก้ปัญหากับเรื่องที่เกิดขึ้นยังไงเพราะระยะเวลาที่เหลือก็ไล่บี้ตามหลังเรามาลดลงไปเรื่อยๆ  ผมตัดสินใจว่าจะไม่บอกเรื่องของวุ้นให้น้องที่เหลือรู้จะรู้กันแค่พวกผมเท่านั้น
                     
“คงต้องปรับใหม่หมดเลยว่ะ...ไม่อย่างนั้นทุกอย่างพังหมด..” ผมบอก   
                             
“แต่ถ้าเราปรับใหม่หมดก็เสี่ยงเหมือนกันนะพี่นุ..นี่เวลาก็เหลือไม่มากแล้ว..”   เดี่ยวพูด
                                
“จะให้ทุกอย่างเหมือนเดิมแล้วเว้นตำแหน่งไอ้วุ้นไว้...ก็ไม่ได้อีกอ่ะเนอะ..”  ไอ้กิ๋วคิ้วขมวด
                    
“ยังไงเราก็ต้องเสี่ยงอ่ะ...ก็ยังดีกว่าที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย...อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด..”  ผมบอก
                        
“ผมว่าถ้าตั้งใจกันจริงๆ...ทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดีนะครับ...”  ธีร์พูด  พอทุกคนกลับมาครบเราก็เริ่มซ้อมต่อทันที...เราต้องปรับโซนตำแหน่งที่ใช้เต้นใหม่...ปรับการเล่นเวฟใหม่และที่สำคัญปรับการต่อตัวใหม่...เราใช้เวลาในการปรับตำแหน่งต่อตัวใหม่อยู่หลายชั่วโมงซึ่งทุกคนก็ตั้งใจกันเป็นอย่างดีไม่มีใครอิดออดกันซักคำ...จากรอบแรกที่เราใช้ท่า  ต่อตัวที่มันยากและซับซ้อน...แต่คราวนี้เราเปลี่ยนมาเป็นแบบง่ายๆเล่นไม่ยาก..แน่นอนซึ่งต้องมีผลกับคะแนนแน่ๆ   ถ้าคณะอื่นเค้าเล่นท่ายากกว่า...
                                                                                                     
“โอ๊ะๆ..โอ้ยยย..ว้ายยยย...” เสียงปอยกรีดร้องแล้วเสียหลักตกลงมาที่พื้นในการซ้อมรอบสุดท้ายแต่โชคดีที่ช่วยกัน    รับไว้ได้ทันแต่ก็ทำให้ขาของปอยบาดเจ็บได้อยู่เพอสมควร   
                                     
“ท่าทางข้อเท้าจะพลิกนะพี่ปอย...”  หนึ่งพูดแล้วนวดข้อเท้าปอยเบาๆ  ทุกคนที่ยืนล้อมกันอยู่สีหน้าไม่ค่อยดีนัก   
 
“ซ้อมมาตั้งนานไม่ตกนะมึงอีปอย...จะแข่งพรุ่งนี้อยู่แล้ว...”  ถึงปากจะบ่นเพื่อนแต่อิ่มก็บีบมือปอยไว้ตลอดเวลา
   
“ไหว...กูไหวน่า...พรุ่งนี้ก็หาย...ถึงไม่หายกูก็จะแข่ง...”  ปอยบอก  ผมทนยืนอยู่ตรงนั้นไม่ไหวจนต้องแยกตัวออกมายืนห่างๆเพราะเริ่มรู้สึกว่าทำไมปัญหามันเข้ามาหาผมพร้อมๆกันมากขนาดนี้วะ...ผมยืนสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆเพื่อควบคุมสติอารมณ์                                                                                                

“กูว่าน้องมันล้ากันแย่แล้วว่ะไอ้นุ...ปล่อยมันกลับบ้านเลยเหอะ..ซ้อมต่อเดี๋ยวจะมีคนพลาดเจ็บตัวมากกว่านี้...นี่ก็จะตีหนึ่งแล้วให้มันพักกันเหอะ...พรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกที ” ไอ้กิ๋วเดินมาตบไหล่ผมเบาๆแล้วเดินกลับไปปล่อยน้องๆกลับบ้าน

“เดี๋ยวหนูจะย้อนไปเฝ้าอีวุ้นซะหน่อย...แบงค์โทรมาบอกเมื่อสี่ทุ่มว่าจะกลับไม่มีใครอยู่กะมัน..หนูเลยจะไปเอง” เดี่ยวเดินมาบอกไอ้กิ๋ว...ไอ้กิ๋วพยักหน้างึกงัก   
                                               
“เฝ้ามันแล้วมึงก้อย่าลืมนอนด้วยละ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงแข่ง...”



ตีสี่กว่าๆวุ้นลืมตาตื่นขึ้นมานั้นเห็นเดี่ยวฟุบหลับอยู่ข้างๆเตียงโดยนั่งซบศีรษะอยู่บนแขนของตนเอง  วุ้นขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบากด้วยจุกเสียดแถวบริเวณหน้าท้องและปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด วุ้นรู้สึกเจ็บบริเวณใบหน้าเมื่อลองเอามือคลำดูรู้สึกว่ามันบวมผิดปกติ แถมซ้ำยังมีความรู้สึกว่าตัวเองปากเจ่ออีกด้วย  เดี่ยวสะดุ้งตื่นเงยหน้าขึ้นมอง 
             
“เป็นไงบ้างอีผี...กูนึกว่าจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราซะแล้วมึง...แล้วนี่มึงเป็นไงบ้างเนี่ย...”
                                                                             
“ค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้วล่ะ ปวดท้องหน่อยๆ แต่คงไม่เป็นอะไรมากแล้ว”                                

“นี่หล่อน...ชั้นหลับไปนานเท่าไหร่แล้ว”
                                                                            
“เกือบ 2 วันสิอีดอก...”                                                 

“จริงหรือยะ...นานขนาดนั้นเลยเหรออีควาย... ชั้นนึกว่าแค่คืนเดียวเสียอีก”                                                                                                   

“เข็ดมั้ยละมึง...ต่อไปมึงก็ระวังตัวหน่อยละกันก่อนจะถ่างขาให้ใครน่ะ...ดีนะชั้นไม่โดนลากไปอีกคน...”  เดี่ยวพูดแล้วเอามือทาบหน้าอก                                                                                          

“ถ้าหล่อนไปกะชั้นนะ...ชั้นก็คงไม่มีสภาพอย่างนี้หรอก...ใครจะไปรู้ว่าพวกมันจะแตะมือแท็กทีมกันอย่างนี้โดนเข้าไปดุ้นแรกก็ยังซาบซ่านอยู่หรอกแต่สักพักโผล่มาจากไหนอีกไม่รู้สี่ห้าดุ้น...เฮ้อออ...เสียดาย”                                         

“แหม!อีห่านี่...ถ้าชั้นเป็นพี่คนนั้นนะชั้นไม่เข้าไปขัดจังหวะให้เสียเวลาหรอก...”                               

“ชั้น.......ขอบใจหล่อนนะยะเดี่ยวที่เป็นห่วงชั้น...”                                                    

“ใคร๊..ใครห่วงหล่อน..ที่ชั้นมาเฝ้าเนี่ยเพื่อมาดูว่าหล่อนน่ะจะตายรึเปล่าเพราะถ้าไม่รอดชั้นจะได้หุบแบงค์มาเป็นของตัวเอง...เหอๆ...กูจะได้จัดชุดใหญ่ให้แบงค์ซะดอกนึง..”                                                                                                      

“กล้ามากนะ..อีดอกกกกก....”  วุ้นพูดแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะพร้อมกัน                                              

“หลับได้แล้วอีชิสุห์เดี๋ยวพรุ่งนี้ชั้นต้องไปแข่งหลีดอีก...”  เดี่ยวพยุงวุ้นนอนลงที่เดิม                             

“ชั้นเป็นอย่างนี้แล้วพวกหล่อนทำยังไงกันได้อ่ะ...พี่นุโกรธชั้นมั้ยหล่อนนนน...”                                      

“ไม่มีใครเค้าโกรธหล่อนหรอก...นอนเหอะไม่ต้องกังวล..ไปที่ชอบๆได้เลย...”  เดี่ยวพูดแล้วขำ                      

“อินี่....กูยังไม่ตายอีบ้า....”            


   ผมตื่นประมาณเก้าโมงเช้าแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวแต่ยังไม่ทันจะได้อาบน้ำ ผมก็รู้สึกปั่นป่วนในท้อง จุกเสียดแน่นไปหมดเหมือนอาหารมันจะขย้อนออกจากปาก ผมรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำและอาเจียนออกมากองโต ปวดท้องจิ๊ดๆ ผมอยู่ในห้องน้ำประมาณครึ่งชั่วโมงเห็นจะได้อาเจียนจนหมดแรง  เสียงผิวปากดังมาให้ได้ยิน จากนั้นประตูห้องก็ถูกเปิดออกแต่พอธีร์เห็นผมยังอยู่ในชุดเดิม แถมซ้ำนอนตัวงอก่องอขิง เอามือกุมท้องอยู่บนที่นอนก็ร้องอุทานอย่างตกใจ เดินพรวดเดียวถึงเตียง และทรุดนั่งลงข้างๆผม โน้มตัวเข้ามาใกล้

“พี่นุเป็นอะไรหรือครับ ไม่สบายหรือเปล่า ท่าทางไม่ดีเลย”

“พี่ปวดท้อง....แล้วก็อ้วกด้วยไม่รู้เป็นอะไร...”
 
“ไปหาหมอก่อนดีไหมครับ อย่าปล่อยไว้เลย เดี๋ยวจะแย่กว่านี้”  น้ำเสียงที่ธีร์ถามเจือด้วยความห่วงใยธีร์ประคองผมให้ลุกขึ้นนั่ง  ผมพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ทรุดฮวบ เอามือกุมท้อง เจ็บปวดแทบขาดใจ เหมือนไส้ถูกบิดอย่างแรง

“ลุกไปโรงพยาบาลไหวไหมพี่นุ...ทนนิดนึงนะครับ”  ผมพยักหน้า  พอมาถึงโรงพยาบาล  หมอตรวจอาการเสร็จก็บอกว่าที่ผมปวดท้องและอาเจียนมากมาย เพราะว่าเครียดลงกระเพาะ...พอหมอไปแล้ว ธีร์ก็ดุผมทันที

“พี่นุอย่าคิดมากซิครับ...พี่นุห่วงแต่งานไม่ห่วงตัวเองเลย...” ผมได้แต่นอนฟังตาปริบๆ ถึงตัวเองกำลังโดนคนที่อายุน้อยกว่าต่อว่าแต่ก็โกรธไม่ลง

“ตอนนี้เป็นไงบ้างครับ หายปวดท้องหรือยัง ยังอยากจะอ้วกอีกไหม จะเข้าห้องน้ำหรือเปล่า เดี๋ยวผมพาไป”

ธีร์ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนชะโงกเข้ามาใกล้ แล้วเอามือลูบไล้แผ่วเบาไปตามใบหน้าของผม ท่าทางเป็นห่วงเป็นใย ผมส่ายหน้า

“ยังปวดท้องอยู่บ้าง แต่ก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว เพราะหมอให้กินยาแก้อาเจียนแล้ว...”

“นี่ยังโชคดีนะครับที่ไม่เป็นอะไรมาก แค่นอนพักให้น้ำเกลือขวดเดียว เดี๋ยวก็กลับได้แล้ว...”

“แล้วพวกนั้น...” ผมกำลังจะอ้าปากพูดต่อ  ธีร์เอานิ้วมาแตะที่ริมฝีปาก

“เลิกห่วงคนอื่นได้แล้วครับพี่นุ...ยังไงทางโน้นก็มีพี่กิ๋วดูแลอยู่ถ้ามีอะไรเค้าคงโทรมาหาเราเอง...กว่าจะแข่งก็ตั้งหกโมงเย็น...น้ำเกลือก็คงหมดพอดีแล้วเราค่อยไปกันก็ได้นะครับ..หรือพี่นุกลัวหายไม่ทันผมจะได้ฉีดยาให้...”   ไม่พูดเปล่า มือไวซุกซนของธีร์ก็วางแหมะลงตรงก้นของผมพอดี ผมซัดพลั๊วะเข้าที่มือของธีร์ พอเห็นธีร์สะบัดมือด้วยความเจ็บผมก็หัวเราะ

“สมน้ำหน้า ไอ้เด็กลามก”

“ไม่รู้อ่ะ...คนที่จะฉีดยาพี่นุได้มีผมคนเดียว....”  ธีร์ยิ้มเจ้าเล่ห์  ผมเลยเขกหัวไปทีหนึ่งค่อนข้างดังและชักผ้าห่มขึ้นมาคลุมบอกว่าจะนอนแล้ว  ธีร์ทำปากยื่นใส่ผม เอามือคลำหัวป้อยๆ
“รังแกผมอีกแล้ว...ใจร้าย...”

“ก็อยากบ้ากามไม่รู้กาละเทศะทำไม โดนแค่นั้นยังน้อยไปด้วยซ้ำ”  ผมว่า   ธีร์ก็เลยหัวเราะชอบใจ

“ผมก็หื่นแต่กับพี่นุคนเดียวเท่านั้นแหละครับ...อยู่ใกล้พี่นุแล้วมีความสุขจะตาย...นอนหลับนะครับถึงเวลาแล้วเดี๋ยวผมปลุกเอง....ปลุกมาฉีดยา...อิอิอิ..”  ผมขี้เกียจจะต่อปากต่อคำกะธีร์เลยหลับตานอนเงียบๆ  มีเสียงหัวเราะเบาๆจากคนข้างๆจากนั้น จมูกและริมฝีปากของธีร์ก็สัมผัสเข้าที่แก้มของผม   ผมพลิกตัวตะแคงข้างแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุข  ธีร์เดินออกมานอกห้องแล้วกดโทรศัพท์ไปหาไอ้กิ๋ว

“ยังไงฝากพี่กิ๋วดูแลทางโน้นด้วยนะครับ...ตอนนี้ผมกับพี่นุอยู่ที่โรงพยาบาล...ครับ...ไม่เป็นอะไรแล้ว...หมอบอกว่าพี่นุเครียดลงกระเพาะอ่ะครับ..หมอเลยให้นอนให้น้ำเกลือขวดนึง...เย็นๆก็น่าจะออกไปทัน...”

“บอกไอ้นุมันละกันว่าไม่ต้องเป็นห่วง...ถ้าไม่มีอะไรหนักหนาสาหัสเดี๋ยวพี่จัดการเองถ้ารับมือไม่ไหวยังไงจะส่งข่าว”

“ครับๆ..พี่กิ๋วไม่ต้องเป็นห่วงผมจะดูแลพี่นุอย่างดีเลย...”

“เออ...แค่ดูแลอย่างเดียวนะเว้ย...อย่าเผลอปล้ำไอ้นุมันเข้าล่ะ...โรงพยาบาลนะเว้ยไม่ใช่โรงแรม..เออๆแค่นี้แหละ..”               ไอ้กิ๋วพูดแล้ววางสาย...


“ว่าไงพี่กิ๋ว...พี่นุจะมาได้ป่าว...” อิ่มสะกิดไหล่ไอ้กิ๋ว...

“ยังนอนให้น้ำเกลืออยู่...เย็นๆมันน่าจะมาทัน...” 

“พี่นุเป็นอะไรมากมั้ยพี่กิ๋ว...” เจมส์เดินเข้ามาถาม

“ไม่เป็นไรมากหรอก...ไม่เป็นไรน่า...พี่คนเดียวก็พอ..ไปพวกแกไปแต่งตัวกันได้แล้ว...ไปๆ..” ไอ้กิ๋วไล่ให้แต่ละคนไปแต่งหน้าทำผมแต่งตัวกัน...

“พี่กิ๋วเนี่ยนะ..จะดูพวกหนูแทน...โอ้!มายก๊อดดด” เดี่ยวทำท่าเอามือกุมขมับแล้วเดินไป

“พี่นุไม่อยู่...เกิดพวกเราพลาดจะทำไงวะ...”  เอกบ่นกับหนึ่งตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้องน้ำ

“พวกเราก็ทำตามที่ซ้อมมาเมื่อวานสิวะ...ก็ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด....”  หนึ่งพูดแล้วถอดเสื้อแล้วเอามือวักน้ำล้างหน้า

“เฮ้ย...แม่งลืมเอาเสื้อหลีดมาว่ะ..เดี๋ยวกูกลับไปเอาก่อนเดี๋ยวพี่กิ๋วด่า..” เอกพูดแล้วเดินออกไปเจมส์เดินสวนเข้ามาพอเห็นหนึ่งอยู่ในห้องน้ำ เจมส์ก็ผงะไปนิดนึงก่อนที่จะเดินเข้ามา...หนึ่งเงยหน้ามองเจมส์ในกระจกนิดนึงแล้วล้างหน้าต่อ

“เฮ้ย...หนึ่ง...กูมีเรื่องจะถามมึงว่ะ...”  เจมส์ถาม  หนึ่งเงยหน้ามอง

“มึงมีอะไรเหรอ...ถามมาดิ..ถ้ากูตอบได้กูจะตอบ...” หนึ่งตอบแล้วเอาน้ำเสยผม

“คืนนั้นที่เมา...มึงกับกู...นอนอยู่ด้วยกัน....สองคนใช่มะ...”

“อืมม...ใช่ดิ...ทำไมเหรอ...”  หนึ่งพูดแล้วเอาผ้าเช็ดหน้า

“แล้วมึงจำอะไรได้บ้างมั้ยวะ...”

“กูก็...จำได้ลางๆว่ะ...คล้ายๆกูฝันว่ากูกำลังมีอะไรกับแฟนกูว่ะ...แต่กูเห็นหน้าแฟนกูไม่ชัดเลยไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า...เฮ้ย..คุยไรกันวะเนี่ย...”

“กูก็รู้สึกคล้ายๆมึงว่ะ...คล้ายๆว่ากูเองก็จะฝันเหมือนมึง...แต่คนในนั้น...ที่กูมีอะไรด้วยมันกลายเป็นมึงว่ะ...”

“เฮ้ย...นี่ถึงขนาดมึงเอาหน้ากูไปฝันเลยเหรอวะ...อย่างนี้กูก็ถูกมึงเปิดซิงแล้วอ่ะดิ...555..” หนึ่งบอก

“ใครบอกว่ามึงถูกกูเปิดซิงอย่างเดียว...มึงก็เปิดซิงกูเหมือนกันนะเว้ย...”

“อ่ะ..งั้นก็เจ๊ากันไปเว้ย...เฮ้ย...บ้าไปแล้วเมิงไอ้เจมส์..กูไม่ได้ชอบผู้ชายนะเมิง...กูแค่ได้กับมึงในฝันแค่นั้นแหละ...อย่ามาคิดอะไรกับกูนะเว้ยยย...”  หนึ่งทำท่าผงะหนีแล้วเดินเข้ามาตบไหล่เจมส์เบาๆใส่เสื้อแล้วเดินออกไป...

“นี่มึงไม่รู้จริงๆ.....หรือแกล้งไม่รู้วะไอ้หนึ่ง...”  เจมส์พูดกับตัวเองเปลี่ยนเสื้อแล้วเดินตามออกไป.....

   ผมตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนประมาณสี่โมงเย็นเพราะพยาบาลมาเรียกเพื่อจะถอดสายน้ำเกลือออก...ผมมองไปข้างเตียง ก็เห็นธีร์นั่งกอดอกหลับคอพับคออ่อนอยู่ที่โซฟา พอพยาบาลจัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ขอตัวออกไป...ผมขยับตัวลงจากเตียง แต่ธีร์รู้สึกตัวเสียก่อน ธีร์เงยหน้าขึ้นมองผม และยิ้มให้จนตาหยี กุลีกุจอลุกขึ้นช่วยพยุงผม
“ถอดสายน้ำเกลือแล้ว...เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนะครับ...” ธีร์บอกจากนั้นก็เดินมาแก้ปมที่ผูกเสื้อของผมออกจากกันจากนั้นก็มาถึงกางเกงที่ผมใส่อยู่ ธีร์กระตุกเชือกรัดเอวออก จากนั้นก็รูดกางเกงผมลง ธีร์หัวเราะหึหึ เมื่อผมเอาสองมือมากุมน้องชายปกปิดไว้จากสายตา

“อายทำไมกันน้า .. า ...า.....า ผมเห็นออกบ่อยๆ”  ธีร์พูดแล้วเอามือลูบไล้อย่างทะนุถนอม ผมเบี่ยงตัวหนี และทำเสียงเข้มใส่ธีร์

“นี่มันโรงพยาบาลนะ รุ่มร่ามจริงเชียว เดี๋ยวใครมาเห็นกันพอดี”  ผมดุ...ธีร์ส่งเสื้อผ้าให้ผมใส่

“ตัวนิดเดียวไม่น่าซ่อนรูปนะเนี่ยพี่นุ...” ธีร์ทำแววตาขี้เล่นจนผมต้องเขกหัวไปทีหนึ่ง...

“เดินไปที่ฝ่ายการเงินก่อนเลยไป..เดี๋ยวตามลงไป...”  ผมสั่ง...ธีร์ยิ้มๆแล้วก็เดินไปจ่ายเงินที่ฝ่ายการเงิน  ผมชะงักเพียงอึดใจเมื่อมาหน้าห้องฝ่ายการเงินเห็นธีร์กำลังนั่งคุยกับชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่แต่งตัวเนี๊ยบเหมือนกับกระโดดออกมาจากนิตยสารแฟชั่น ถัดไปอีกนิดก็มีอีกคนหนึ่งมองธีร์ตาเยิ้มอยู่  ธีร์หันขวับมาทางผมและรีบตัดบทสนทนาลุกขึ้นเดินลิ่วตรงมาผมทันที...อย่าบอกนะว่านี่คือคนที่สามและสี่ของธีร์ที่ผมต้องรับมือด้วย...แค่นวินกับเป้สองคนผมก็จะแย่อยู่แล้วนะเนี่ย....ขนาดโรงพยาบาลยังมีอีกเหรอวะเนี่ย...

“คุยกะเพื่อนอยู่เหรอ???...” ผมถามเสียงนิ่งดูเหมือนธีร์จะสะดุ้งนิดๆ

“เพื่อนสิครับ....เพื่อนจริงๆ...” ธีร์ตอบเสียงค่อยๆ

“แล้วทำไมตอบเสียงค่อย...ธีร์...อยากกลับด้วยกันมั้ยเนี่ย...”

“อยากสิครับ...”

“งั้นบอกมาหน่อยสิว่าใคร...”

“เอ่อ...พี่นุครับ...อย่าคิดมากน่าผมมีพี่นุคนเดียว พี่นุก็รู้...แต่เวลามีคนมามองผมมันช่วยไม่ได้นะครับ...มีแฟนหล่อก็ต้องทำใจ...แต่คนเมื่อกี้เพื่อนกันธรรมดาครับ...เพื่อนเก่า...”
 
 “นึกว่าคนเก่าๆ...ก็ให้มันเป็นแค่เพื่อนเก่าจริงก็แล้วกัน...ไปกันหรือยัง เดี๋ยวก็ไม่ทันพอดีหรืออยากจะนั่งอยู่ที่นี่นานๆ”

“จะได้หว่านเสน่ห์ต่อ พี่นุจะพูดแบบนี้ต่อใช่ไหมละ” ธีร์หัวเราะชอบใจ  ผมไม่ตอบ หยิบเป้สะพายที่วางอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ ลุกขึ้นแล้วเดินนำหน้าตรงไปทางออก  ธีร์เดินตามยังหัวเราะเบาๆไปตลอดทางคงรู้สึกสนุกละมั้งที่ได้ยั่วผมเนี่ย
แล้วเราสองคนก็ขับรถออกจากโรงพยาบาลตรงไปยังสนามกีฬา...
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 16-05-2017 21:35:43
มีแฟนหล่อก็ต้องทามมมจายยยยยย
แต่ถ้าเจ้าชู้ก็ตัดกาจู๋มันทิ้งปายยยยยย
ฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 16-05-2017 21:54:44
ผู้ชายเจ้าชู้..เหมือนงูไม่มีพิษ  หรา!!!   :m16:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 24
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 21-05-2017 17:23:53
ตอนที่  25_รักเธอทั้งหมดของหัวใจ...


“พี่กิ๋ว...ทำไงดีอ่ะพี่...ลองเช็คแผ่นแล้วแผ่นมันไม่เล่นไม่ได้อ่ะเครื่องมันไม่อ่าน...”  อิ่มวิ่งมาบอกหน้าตาตื่น

“เหรอๆ...แล้วทำไงดีวะมีแผ่นสำรองรึเปล่า...” ไอ้กิ๋วก็เลิ่กลั่กไม่แพ้กัน..เดินไปมาเป็นหนูติดจั่น

“โอ้ย...จะเดินทำไมนักหนาเนี่ยพี่กิ๋ว...หนูตาลายไปหมดละน๊า...”  อิ่มบ่น

“จบไปแล้วนะครับสำหรับหลีดปอมปอมจากคณะวิทนาการจัดการ..ต่อไปขอเชิญคณะศึกษาศาสตร์ลงสนามได้เลยคร๊าบ”
เสียงพิธีกรในสนามประกาศเรียกชื่อทำเอาอิ่มเต้นเร้าๆใหญ่...

“ตายๆๆ...เค้าประกาศแล้วอ่ะพี่กิ๋ว...”  อิ่มพูดแล้วชะเง้อชะแง้

“พี่อิ่ม...ไปเร็วเค้าเรียกคณะเราแล้ว...” แซ็กวิ่งมาตาม  อิ่มหันไปมองหน้าไอ้กิ๋วอย่างกังวลแต่ไอ้กิ๋วพยักหน้าให้ไปก่อน

“ทำไงดีวะกู...ไอ้นุนะไอ้นุเสือกมาป่วยอะไรตอนนี้ว๊า...” ไอ้กิ๋วบ่นแล้วกดโทรศัพท์

“อ้าวเหี้ย...เสือกแบตหมดอีก...”  ไอ้กิ๋วยิ่งหงุดหงิดใหญ่... 


   ธีร์จอดรถที่อัฒจรรย์ฝั่งมีหลังคา...ผมเห็นไอ้กิ๋วเดินชะเง้อชะแง้อยู่ตรงประตูทางออกเหมือนกับว่ากำลังมีปัญหาอะไรซักอย่างผมเลยรีบเดินไปหา

“เฮ้ย...ไอ้กิ๋วมายืนทำไมตรงนี้...น้องมันเดินลงสนามไปแล้วไม่ใช่เหรอ...” ผมทำหน้างง

“ไอ้นุ..มึงมาก็ดีแล้วมีแผ่นซีดีสำรองมารึเปล่า...แผ่นที่เตรียมมันเปิดไม่ได้นะเว้ย...”  ไอ้กิ๋วบอก  ผมก็ตาเหลือกเลยทีนี้

“อ้าว...แล้วทำไมมึงไม่โทรบอกกูตั้งแต่แรก...”

“แบตกูหมดพอดีดิ...”

“เดี๋ยวกูดูในเป้ก่อน...” ผมบอกแล้วค้นดูในกระเป๋าเป้ที่สะพายมาด้วย....โชคดีพระเจ้าเข้าข้าง...ผมรีบส่งซีดีให้ไอ้กิ๋วเอาไปให้เจ้าหน้าที่รีบเปิด...

“มีปัญหาอะไรรึเปล่าพี่นุ..” ธีร์เพิ่งเดินตามเข้ามาถึง

“นิดหน่อย..แต่ไม่มีอะไรแล้ว..ปะไปที่สนามกันเหอะ...”  ผมจูงแขนธีร์เดินแหวกผู้คนที่ยืนออกันอยู่บริเวณขอบสนามเพื่อยืนดูการแข่งขัน...พอเพลงเริ่มขึ้นการต่อตัวก็เริ่มขึ้น..พอเริ่มปุ๊บเราก็พลาดกันปั๊บเมื่อปอยพลาดในการต่อตัวฐานแรกตอนหัวเพลง ปอยยืนขาเดียวสุดมือแล้วก้าวขาไปเหยียบไหล่น้องผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงกลางแทนวุ้นไม่ถึงจนเซไปทั้งฐานแต่ก็ไม่ถึงกับล้มเมื่อปอยพยายามเหยียบไปแขนน้องคนนั้นแทน...พอถึงช่วงเต้นทุกอย่างที่เหมือนเดิมก็ผ่านไปด้วยดีแต่พอถึงช่วงที่ซ้อมใหม่ปรากฏว่าไอ้หนึ่งกะไอ้เอกและน้องอีกคนหนึ่งก็วิ่งผิดตำแหน่ง...พอถึงช่วงต่อตัวในช่วงกลางก็พลาดอีกเมื่ออิ่มก้าวขาพลาดทำให้ม้วนหลังคู่กับปอยไม่ได้...ผมเองก็เริ่มใจคอไม่ดีแล้วกองเชียร์ของคณะเราก็เริ่มไม่ส่งเสียงเชียร์แล้วเพราะเราพลาดเยอะเหลือเกิน

“เค้าให้มาแข่งหรือให้มาพลาดวะ...” เสียงหนึ่งดังที่ด้านหลังผม...ผมถอนใจเฮือกใหญ่  ธีร์บีบมือผมไว้แน่น

“ใจเย็นๆนะครับพี่นุ...”
   

เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน...เมื่อผู้ชายทั้งหมดต้องตีลังกาสวนกันแต่แล้วไอ้เจมส์กะไอ้คิมก็ตีลังกาไม่ทันอีกเลยทำให้การต่อตัวในช่วงสุดท้ายเองก็เกือบไม่ทัน...แล้วเราก็พลาดกันอีกในต่อตัวตอนจบเมื่อปอยกับอิ่มต้องม้วนหน้ากลางอากาศแล้วม้วนหลังอีกทีแต่ทั้งคู่ก็หมุนไปครบรอบปอยม้วนหน้าทันแล้วแต่ม้วนหลังไม่ขึ้น  ส่วนอิ่มม้วนหน้าไม่ทันแต่ม้วนหลังได้ทั้งทำให้ทั้งคู่ยืนขึ้นมาเหยียบคนที่อยู่ตรงกลางไม่ทัน...จบการแสดงปุ๊บพร้อมกับเสียงปรบมือที่ดัวเปาะแปะพอสมควรดูแล้วปรบมือกันตามมารยาทมากว่า....

ประกาศผลออกมาก็เป็นไปตามที่ผมคิดคือคณะเราได้อันดับสุดท้ายจากทั้งหมด...ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเลยเพราะครั้งนี้เราไม่พร้อมกันจริงๆรวมกับเรื่องราวความไม่พร้อม ความขลุกขลักหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นด้วยทำให้พวกเราขาดกำลังใจกันไปเยอะ ครั้งแรกเราเดินลงสนามด้วยความมั่นใจกำลังใจเต็มเปี่ยมแต่ครั้งนี้เราเดินเข้าสนามด้วยความรู้สึกว้าวุ่นกังวลไปหมด..กลัวจะพลาด..กลัวจะเต้นผิดโซนซึ่งมันก็เป็นไปตามนั้น...พอน้องทั้งหมดเดินกลับออกมาจากสนามแต่ละคนเดินหน้าเสียออกมากันหมดโดยเฉพาะปอยกับอิ่มเดินน้ำตาตกออกมาเลย...

“พี่นุ...” ทั้งสองสาวเรียกชื่อผมแล้ววิ่งเข้ามากอดผมคนละข้าง...ผมก็ลูบหัวเป็นการให้กำลังใจ

“ช่างมันเหอะ...พวกเราทำดีที่สุดแล้ว...” ผมบอก  ไอ้กิ๋วเดินเข้ามาสมทบ

“ไป...กลับกันเหอะถึงเราแพ้เราก็ฉลองได้...ใช่มั้ย...เฮ้!!!!”  ไอ้กิ๋วนำทุกคนร้องเฮกันดังลั่นแล้วกลับออกจากสนาม
ผมกลับธีร์เดินกลับมาที่รถ...แต่ก็เจอคนที่คุ้นเคยเดินมาขวางหน้าไว้...

“นวิน....”  ผมเรียก....มันจะมาไม้ไหนอีกวะวันนี้...

“เป็นไง...คงคิดว่าตัวเองจะชนะได้หมดทุกเรื่องสินะ...เสียใจด้วยนะที่ไปไม่ถึงดวงดาวซะแล้ว...” นวินพูดเยาะเย้ย

“พี่นวิน...” ธีร์ทำท่าจะพูดแต่ผมยกมือขึ้นห้ามแล้วพูดเอง

“ก็ไม่ได้หวังว่าชนะตั้งแต่แรก...ถ้าเราพยายามทำอะไรซักอย่างอย่างเต็มที่...แล้วผลออกมาไม่ว่ามันจะเป็นยังไงก็ช่าง..เราก็ภาคภูมิใจเพราะเราถือว่าเราทำดีที่สุดแล้ว..แต่กับคนบางคนอาจจะไม่เคยทำอะไรมาซักอย่างด้วยซ้ำแต่พอชอบใจสิ่งไหนหรือเห็นใครเค้าประสบความสำเร็จก็...ดีแต่จะคว้ามาเป็นความดีความชอบของตัวเอง...ไม่รู้คนแบบนี้เค้าภาคภูมิใจไปได้ยังไงไม่รู้นะ” ผมตอบกลับเสียงนิ่ง  นวินมองผมตาขวาง

“เดี๋ยวนี้พูดเก่งขึ้นนะ...คิดว่าเป็นแฟนกับธีร์แล้วเราจะยอมแพ้อย่างงั้นเหรอ...เราอยากจะรู้นักว่าคนจืดชืดแบบนี้จะทนคนเจ้าชู้อย่างธีร์ได้นานแค่ไหน...ที่จริงคนที่อยู่ตรงนี้คู่กับธีร์ควรจะเป็นเราด้วยซ้ำ....คุแกเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็มาแย่งธีร์ไปจากเรา...”

“พี่นวิน...หยุดนะ!!!....พี่นุไม่ได้แย่งผมมาจากพี่หรือจากใครทั้งนั้นนะพี่นวิน...ผมเต็มใจมาหาพี่นุเอง...ทำไมพี่ไม่เลิกยุ่งกับเราซะที...” ธีร์พูดแทรกขึ้นมา  แต่นวินไม่ยอมหยุด

“ธีร์รักมันได้...ธีร์ก็เลิกกับมันได้เหมือนกัน.... เราอยากได้ของของเราคืน...แกกล้าคืนมั้ยล่ะ...”

“อยากได้ก็เอาไปสิ...ถ้าธีร์ยอมไป อยากได้ก็เอาไป เราไม่อยากเก็บเอาไว้หรอก”  ผมพูดเสียงเรียบทำเอาธีร์ตกใจอยู่ไม่น้อยจนหันมามองหน้าผม...

“อ้าวไหงพูดงั้นล่ะพี่นุ...” 

“ไอ้นุ....ฟังไว้ให้ดีนะ เรายังรักธีร์อยู่ ไม่ว่าแกจะรักธีร์ขนาดไหนเราก็ไม่สน ยังไงเราก็จะแย่งธีร์จากแกให้ได้” 
นวิน ประกาศเสียงกร้าวพูดเสร็จก็เดินกระแทกเท้าออกไป

“ไหนบอกว่าจะลุยกับคนเก่าๆของผมไง...ยังมาจะยกผมให้เขาอีก แล้วไม่อยากเก็บผมเอาไว้จริงหรือ น้อยใจนะเนี่ย”

“ยกเว้นนวินก็แล้วกันนะ....คนอะไรร้ายจริงๆ ถ้าเป็นตัวอิจฉาเหมือนในละครทีวีก็คงปรี่เข้ามาตบพี่แล้ว...”

“พี่นุ....สู้หน่อยสิครับ...” ธีร์ให้กำลังใจ กลั้วเสียงหัวเราะ

“ไม่เข้าใจธีร์จริงๆ ทำไมนะทำไม....ทำไมไปยุ่งกับนวินตั้งแต่เริ่มแรก"

“ใครจะไปรู้...”

"แล้วมองไม่ออกหรือว่าเค้าร้าย" ผมถามเพราะอยากรู้จริง

"ตอนแรกๆ ก็เห็นอยู่ว่าเค้าท่าทางไม่เบาเหมือนกัน" ธีร์ยอมรับ แล้วเงียบไปชั่วอึดใจก่อนจะพูดเสียงหนักแน่นว่า

"แต่พี่นุครับ อย่าไปสนใจเลย ตอนนี้ผมรักพี่นุคนเดียว ผมเปลี่ยนไปแล้ว และถ้าเรามั่นคง หนักแน่น ใครก็มาทำอะไรเราไม่ได้นะครับพี่นุ.." ธีร์เอื้อมมือไปกุมมือของผมไว้ มองตานิ่ง แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน

"ผมขอสัญญาตรงนี้อีกครั้ง...ว่าจะทำตัวให้ดีที่สุด...เพื่อพี่นุ...”  ผมพยักหน้าพร้อมยกนิ้วชี้ตั้งตรงขึ้นตรงหน้า เป็นลักษณะการเตือน

“แต่หากเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว ถ้าธีร์พลาดแม้แต่ครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้นที่จำนนต่อหลักฐานและพยานบุคคล เราก็ขาดกัน”

"ขนาดนั้นเลยหรือครับ" ธีร์เสียงอ่อย หน้ามุ่ย แววตาของผมลุกโชน เอาจริง


   ไอ้กิ๋วนัดให้ไปเจอที่ร้านลานนมอารมณ์เพลงหน้าทางเข้าโรงแรมในเมือง...ไอ้กิ๋วจองโต๊ะต่อไว้ยาวเหยียด  ดูๆแล้วก็น่าจะมากันเกือบคบแล้ว..อาหารและเครื่องดื่มทยอยลำเรียงออกมาวางผมโต๊ะ...ทุกคนเริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน...ก็ดีแล้วครับที่น้องๆมันลืมความผิดหวังเมื่อเย็นที่ผ่านมามันก็คงไม่ควรค่าแก่การจดจำจริงๆผมก็ว่าอย่างงั้น....ผมกับธีร์นั่งลงข้างๆไอ้กิ๋วและปอยกับอิ่ม...มองไปรอบๆร้านก็ยังไม่ค่อยมีคนเลยดูเป็นส่วนตัวดี...บนเวทีเล็กๆมีนักดนตรีเล่นกีต้าร์อะคูสติกอยู่หนึ่งคน...ซึ่งแต่ละคนก็ทยอยเขียนขอเพลงกันตลอดเรียกได้ว่านักดนตรีเค้าเล่นแต่เพลงที่พวกเราอยากฟังกันทั้งนั้น...

“อยากฟังเพลงอะไรมั้ยพี่นุ...” ธีร์หันมาถาม

“จะขึ้นไปร้องให้ฟังเหรอ...”

“อ๊ะๆ..ถ้าขึ้นไปร้องจริงๆแล้วจะหนาว...”

“กลัวจะไม่หนาวแต่จะเปลี่ยนเป็นอ๊วกแทนอ่ะดิ...”

“น่ะพี่นุ...ใจร้าย..น่านะ...อยากฟังเพลงอะไรผมจะขอให้...”  ธีร์บอก  ผมทำท่าคิด

“แล้วแต่ธีร์ละกัน...อยากรู้เหมือนกันว่าธีร์จะขอเพลงอะไรให้....”  ผมบอก...ธีร์เอามือบังไว้ไม่ให้ผมเห็นแล้วเดินเอาไปส่งให้นักดนตรี...

“โห...มีปิดบังกันด้วย...”  ปอยแซว

“ขอเพลงอะไรอ่ะธีร์...อย่ามาบอกรักพี่นุผ่านนักดนตรีนะ...พี่อิจฉา...”  อิ่มพูดแล้วยิ้ม

“ตกลงเพลงอะไรอ่ะ...ถ้าเพลงทะลึ่งนะวันนี้หอใครหอมัน...” ผมหันไปกระซิบขู่ๆ

“รอฟังสิคร๊าบบบ...อีกเพลงเดียวก็ถึงแล้ว....”




“ฉันลองถามตัวเองในเหตุผลที่ยังรักเธอ...ฉันยังหาไม่เจอว่าทำไม...
มันเกิดจากอะไรฉันตอบไม่ได้...รู้แค่เพียงว่าฉันรักเธอ....
ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รักจะเจ็บยังไงก็รัก..ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม..
แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้..ให้เธอมามองเหลียวดู..ดูแลความรักฉันบ้าง....
เธอจะหันมองใครจะปล่อยทิ้งให้ฉันเดียวดาย...แค่เธอนั้นพอใจไม่เป็นไร...
เธอไม่มีเหตุผลฉันก็คนรับได้เพียงอย่าจากไปไหน...ฉันยอม...
ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รักจะเจ็บยังไงก็รัก..ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม
..แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้..ให้เธอมามองเหลียวดู..ดูแลความรักฉันบ้าง
....ยอมทำทุกอย่างที่โง่งม...ยอมทำทุกความผิด..เพื่อให้ชีวิตวันนี้ยังมีเธอต่อไป...
ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รักจะเจ็บยังไงก็รัก..ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม..
แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้..ให้เธอมามองเหลียวดู..ดูแลความรักฉันบ้าง....”



“เพราะมั้ยครับพี่นุ...” ธีร์หันมาถามผมพอเพลงจบลง...ทุกคนปรบมือกรี๊ดกันสนั่นท่าทางจะถูกใจโดยเฉพาะท่อนที่ร้องว่า...ก็คนมันรักจะทำยังไงก็รักจะเจ็บยังไงก็รัก..ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม..แต่เธอไม่รักจะทำยังไงไม่รู้..ให้เธอมามองเหลียวดู..ดูแลความรักฉันบ้าง....ทุกคนช่วยร้องกันลั่นเลยโดยเฉพาะเจมส์ร้องไปแล้วก็หันมามองผมเป็นระยะๆซึ่งผมก็คิดว่าธีร์ก็คงสังเกตเห็นได้เพราะเพลงนี้ถ้าตีความหมายในแบบของเจมส์มันก็ตรงเผงพอดี...

“ต่อไปไม่ได้ซ้อมหลีดแล้วก็ไม่ค่อยเจอพี่นุกับพี่กิ๋วแล้วอ่ะดิ...”  ไอ้เต๊ะพูดขึ้นมา

“มึงน่าจะดีใจนะไอ้เต๊ะที่ไม่ต้องซ้อมแล้วอ่ะ...” ไอ้กิ๋วพูด

“แหม...พี่กิ๋วเจอกันทุกวันตั้งแต่เปิดเทอมมามันก็ต้องใจหายกันบ้างดิพี่...” ไอ้หนึ่งพูด

“เออ..ใช่...ตกเย็นก็ต้องรีบมาละ...เห็นหน้ากันทุกวันตั้งแต่มิถุนามาเลย..สี่เดือนได้แล้วมั้งเนี่ย...” ไอ้เอกพูด

“หนูว่าต่อไปต้องเหงาแน่ๆเลย..ใช่มั้ยอีปอย..” อิ่มพูดแล้วหันไปสะกิดปอย

“ตอนแรกๆก็อยากให้แข่งเร็วๆ...พอแข่งเสร็จกลับรู้สึกเหมือนตกงานยังไงไม่รู้...” ปอยพูดแล้วก้มหน้าเอาส้อมเขี่ยกระดูกไก่ในจานไปมา

“แล้วต่อไปพวกผมจะเอาเวลาตอนเย็นไปทำอะไรดีอ่ะพี่กิ๋ว..” ไอ้แซ๊กหันไปถามไอ้กิ๋ว

“ใกล้สอบแล้วมึง...เตรียมตัวอ่านหนังสือกันได้แล้ว..พี่ก็วนเวียนกันอยู่ในนี้นี่แหละ...เดี๋ยวก็เจอกัน...”

“พี่นุจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ...” เจมส์หันมาถามผม

“พี่เหรอ...พี่ก็...ดีใจนะที่พวกเราร่วมมือกันฝ่าฟันอะไรหลายๆอย่างด้วยกันมาจนถึงทุกวันนี้...ขอบคุณทุกคนมากที่ให้ใจกับการซ้อมถึงแม้ว่าบางช่วงจะขลุกขลักบ้างจะมีปัญหาบ้างแต่เราทุกคน...ก็ผ่านกันมาได้...พี่ดีใจนะที่ทุกคนเต็มที่กับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย...ถึงวันนี้ผลการแข่งขันอาจจะไม่มีค่าอะไรกับเรามากแต่สิ่งที่มีค่าที่สุด...ที่พวกเราได้ไปก็คือมิตรภาพดีๆจากคนนับสิบๆคนที่ทำงานด้วยกันทุกวัน...อะไรที่เป็นความทรงจำดีๆเราก็เก็บเอาไว้...อะไรที่ไม่ดีก็ทิ้งมันไป...แรกๆพี่อาจจะลังเลที่จะมาทำงานร่วมกับทุกคนแต่ตอนนี้พี่คิดแล้วว่าพี่ตัดสินใจถูกแล้วที่ได้มาร่วมงานกัน...ได้รู้จักกับทุกคนแบบนี้...ถ้าไม่มีการซ้อมหลีดเราก็คงไม่ได้รู้จักกัน...ไม่ได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน...ถ้ามีโอกาสพี่คิดว่าเราคงได้ร่วมงานกันอีก...” ผมพูดแล้วยิ้มให้ทุกคนที่ปรบมือกันลั่น

“แหม...พูดซะหนูซึ้งเลยพี่นุ...” เดี่ยวทำท่าซับน้ำตา  ผมนั่งลงแล้วมองไปทางเจมส์หวังว่าคำพูดบางประโยคจะแทรกซึมเข้าไปถึงใจเจมส์บ้าง

“แล้วพี่กิ๋วล่ะ...พูดเลย...พูดเลย...พูดเลย...” ไอ้เต๊ะพูดแล้วนำเพื่อนเชียร์ลุ้นให้ไอ้กิ๋วพูดบ้าง...

“เฮ้ย..พี่พูดไม่เก่งเหมือนไอ้นุมันเว้ย...ยังไงดีวะ...สั้นๆละกัน..กูรักพวกมึงทุกคน..เอ๊า..โชนแก้วววว...”  เย้!!!!ไอ้กิ๋วพูดแล้วนำพวกเราชนแก้วแล้วบรรยากาศก็ดำเนินต่อไป...

“เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ...” ผมหันไปบอกธีร์แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ...พอออกมาก็ได้ยินนักดนตรีกำลังเล่นเพลงที่พอได้ยินเข้าก็บาดจี๊ดดดด!!!!ไปถึงขั้วหัวใจเลยทีเดียว...



“ถ้าใจเธอมีสองใจก็คงแบ่งไป...เท่าๆกัน...แต่มันคงมีสักวันที่เธอต้องเลือกใคร....ถ้าเธอยังพอเหลือใจให้ใครสักคน...แค่เพียงคนเดียวได้ไหม...เมื่อมีแค่หนึ่งใจ...ก็รักใครไปสักคน....”



“ใครขอเพลงนี้วะ...”  ผมหันไปถามไอ้กิ๋วและมันก็พยักหน้าไปทางไอ้เจมส์

“โดนมั้ยล่ะมึง...เหอๆๆ...กูชอบจริงๆเพลงนี้...ฮ่าๆๆ...” ไอ้กิ๋วขำแล้วกระดกเหล้าเข้าปาก...หนึ่งลุกไปเข้าห้องน้ำเจมส์หันไปเห็นพอดีจึงรีบลุกตามเข้าไป...พอหนึ่งเห็นหน้าเจมส์ก็ตกใจนิดๆ

“อ้าว..เจมส์...”

“เฮ้ย!หนึ่ง....” เจมส์เรียกแล้วทำท่าอึกอัก

“มึงมีอะไรจะพูดรึเปล่าวะ..อึกอักๆอยู่ได้...”

“หนึ่ง...เรื่องคืนนั้น....มึงก็จำได้เหมือนกูใช่มั้ย...” เจมส์ถามพยายามเพ่งมองหนึ่งจนหนึ่งต้องหลบตา

“นี่มึงยังไม่จบอีกเหรอเนี่ยเรื่องคืนนั้นน่ะ...มึงกะกูเราก็เมาด้วยกันทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ??” หนึ่งเริ่มไม่พอใจ

“ใช่เมาทั้งคู่...แล้วมึงแน่ใจเหรอว่าเรื่องที่มึงบอกกูเป็นแค่ฝันเท่านั้นน่ะ...กูรู้ว่ามึงก็จำได้...เพราะกูยังจำได้เลยว่ามึงทำอะไรกับกู...แล้วมึงจะจำไม่ได้เชียวรึไงว่ากูทำอะไรกับมึง...”  เจมส์พยายามสงบสติอารมณ์  หนึ่งหันมาเอามือจับคอเสื้อเจมส์แล้วดันไปจนติดผนัง...

“มึงจะบอกว่าเรามีอะไรกันใช่มั้ย...เออ..ใช่!มึงกะกู..มีอะไรกัน..กูทำมึงแล้วมึงก็ทำกู...กูจำได้แล้วไง..มึงจะเอาไงเจมส์”

“แล้วทำไมมึงไม่บอกกูตั้งแต่แรกว่ามึงก็จำได้...และมึงรู้สึกตัวอยู่ตลอด..มึงไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอหนึ่ง..”  เจมส์ปัดแขนไอ้หนึ่งออก...

“เจมส์...มึงกะกูไม่ใช่ผู้หญิงนะที่พอเผลอใจมีอะไรกันแล้วต้องรีบผิดชอบซึ่งกันและกันน่ะ...มึงต้องยอมรับนะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้น...มันเกิดขึ้นเพราะความเมา...กูก็เมามึงก็เมา...มันก็อาจจะเผลอใจกันเป็นธรรมดา...มึงเข้าใจกูนะ..”

“โอเค...มึงคิดอย่างนั้นก็ดี...กูจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดที่ไม่บอกมึงให้มึงรู้...ความจริงกูก็ผิดเองที่พอเมาแล้วกูเข้าใจผิดคิดว่ามึงเป็นพี่นุ...ไม่อย่างนั้นเรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น...กูต้องขอโทษมึงด้วยนะหนึ่ง...”
 
“ช่างมันเหอะ...มึงก็อย่าไปหน้ามืดตามัวกับคนอื่นก็แล้วกันเพราะมึงอาจจะโดนตีนเค้าเอาก็ได้...ส่วนกูมึงไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรหรอก...คิดซะว่าช่วยเหลือกันไปให้สบายตัวก็แล้วกัน...เพราะกูทำมึงแล้วมึงก็ทำกูเรา..เพราะฉะนั้นเจ๊ากันไป  ลืมๆมันไปเหอะมึง”หนึ่งพูดเจมส์พยักหน้าแล้วทั้งคู่ก็เดินออกไป..แล้วงานเลี้ยงก็ย่อมมีวันเลิกราเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน...ผม  ไอ้กิ๋วและน้องๆกอดร่ำลากันเลยที่หน้าร้าน  เจมส์ทำท่าจะเดินเข้ามาหาผมแต่ก็เปลี่ยนใจไม่เข้ามา...ผมเลยยิ้มและพยักหน้าแล้วยื่นมือไปจับมือเจมส์แทนเป็นครั้งสุดท้ายแล้วต่างก็แยกกันกลับบ้าน..รอวันเวลาที่อาจจะนำพาพวกเรากลับมาเจอกันอีกครั้ง...หรือไม่อาจจะไม่มีอีกแล้วก็ได้.....ชีวิตของการทำกิจกรรมเป็นผู้นำกองเชียร์.......


“เหนื่อยมั้ยพี่นุ...ทำงานมาทั้งวันแล้ว...”  ธีร์เดินตามผมออกมาที่ระเบียง

“ก็คิดถึงเรื่องเก่าๆบรรยากาศเก่าๆที่ต่อจากนี้...คงไม่มีอีกแล้ว...”

“ผมว่าพี่นุพูดดีมากๆเลยนะครับที่ร้านอาหารอ่ะ...ผมฟังแล้วยังขนลุกเลย....ผมว่าน้องๆคงไม่มีใครลืมพี่นุหรอกครับ...โดยเฉพาะน้องบางคน...” 

“จะไปพาดพิงถึงเค้าทำไม๊ธีร์...ห่วงแต่เรื่องของเราเหอะอย่าให้โผล่ขึ้นมาอีกแล้วกัน...

"ไม่เป็นไร ผมจัดการได้แต่พี่นุก็ต้องช่วยด้วย...เพราะนั่นคืออดีต ไม่สำคัญแล้ว ปัจจุบันและอนาคตสิสำคัญกว่า" ธีร์บีบมือของผมเบาๆ เพื่อยืนยันความมั่นใจ

"พี่นุครับ ต่อจากนี้ไป มีเราสองเท่านั้นนะ...หมดทั้งหัวใจของผมมีแต่พี่นุเท่านั้นนะครับ...พี่นุรักผมมั้ย...พี่นุยังไม่เคยบอกรักผมเวลาปกติๆเลยนะครับ...บอกแต่เวลาอยู่บนเตียง...โอ้ย..เจ็บนะพี่นุ"  ธีร์รีบเบี่ยงดูหนีจากการถูกทุบ

“ไม่บอก..บอกไปเดี๋ยวก็ดีแตก...ไม่น่ามาเป็นแฟนคนเจ้าชู้เล้ย..ให้ตายเหอะ...”  ผมแกล้งบ่นจนอีกฝ่ายทำหน้างอ 
               
“ใจร้าย.....” 

“อ๊ะก็ได้..เดี๋ยวจะหาว่าใจร้าย...รักสิค๊าบ...รักรักรัก..รักธีร์ที่สุดเลย....หายงอนเถอะน๊าๆ" ผมหันไปกอดแล้วยอมพูดอย่างที่ธีร์อยากได้ยิน

"ไม่" เสียงห้าวปฏิเสธ

"นะๆๆ ....หายงอนเถอะ" ผมออดออน

"ขอคิดดูก่อน"

"อย่าคิดนานนะ ตกลงหายงอนหรือยัง" ผมเซ้าซี้

"หายก็ได้ แต่ต้องมีข้อแม้" ธีร์เสนอเงื่อนไข

"ชักจะมากไปแล้วนะเนี่ย...ข้อแม้อะไรอีก" ผมเริ่มเสียงแข็ง

“หากเกิดอะไรเข้าใจผิดกัน...พี่นุต้องฟังผมก่อนนะอย่าหนีไป...หรือเคอร์ฟิวส์ผมอีกเด็ดขาด...แล้วก็ห้ามใจแข็งด้วย”

"ถ้าง้อหน่อยก็อ่อน"

"ผลัดกันง้อบ้างนะ อย่าให้ผมง้อฝ่ายเดียว" ธีร์เสียงนุ่มสอดแขนเข้ามาโอบเอวผมไว้หลวมๆหน้าท้องบดเบียดอยู่กับด้านหลังของผม 

"ปล่อยเหอะ...เดี๋ยวใครเห็น "  ผมหันมาบอกธีร์ 

"ไม่ปล่อย...ถ้ากลัวใครเห็นก็เข้าไปในห้องกับผม.....นะครับพี่นุ..."
 
“อย่าปฏิเสธผมเลย...ธีร์กำลังจะพูดประโยคนี้ใช่มั้ย...ประโยคไม้ตายใช่มั้ยเนี่ย...”

“แล้วได้ผลมั้ยล่ะครับ..เข้าไปให้ห้องกับผมนะครับ..ไม่งั้นผมจะจับพี่นุกดลงตรงนี้นะ” ธีร์พูดแล้วยิ้มทำท่าจะฟัดผมต่อ

“ไอ้เด็กลามก...”  ผมพูดได้แต่นั้นก็หมดแรงขัดขืน...ยอมถูกรั้งเข้าไปในห้องปาก 

“เป็นของผมคนเดียวนะครับพี่นุ...ห้ามเป็นของคนอื่นนะ...”  ธีร์เสียงอู้อี้เม้มใบหูเน้นน้ำหนักเบาๆ อ้อมแขนกอดกระชับแน่นเข้า  ผมพยักหน้า ก้มลงจูบธีร์อย่างรักใคร่อีกครั้งเป็นการให้สัญญาว่าจะทิ้งความเจ็บปวดไว้เบื้องหลัง เพื่อเตรียมเผชิญหนทางข้างหน้าที่ผมและธีร์จะฟันฝ่าไปด้วยกัน...


                                                                      The End

                              [เตรียมพบกับ All about Love :: The Beginning......Coming Soon]
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 21-05-2017 20:41:06
รอเรื่องใหม่นะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้ค่า  o13 :pig4: o13
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 23-05-2017 23:38:52
ขอบคุณฮับ
ลงเรื่องใหม่เมื่อไรจะตามมาอ่านนะ
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: monkey1990 ที่ 25-05-2017 20:47:44
ขอบคุงงับ :impress2:
หัวข้อ: Re: All about love :: รักเธอทั้งหมดของหัวใจ(เรื่องรักยุค 90) อัพเดตตอนที่ 25
เริ่มหัวข้อโดย: Gear77 ที่ 05-06-2017 15:59:48
อ่านแล้วไม่ฟินเลยอะ เพราะเราเชียร์เจมส์มาตั้งแต่ต้นมั้งไม่ได้เชียร์ธีย์เลยยย  :mew5: :mew5: