พิมพ์หน้านี้ - Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: marionatte ที่ 05-03-2019 14:44:11

หัวข้อ: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 05-03-2019 14:44:11
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).






*****************************************************************************************

เปิดจอง-โอนหนังสือ ตั้งแต่ วันนี้ - 15 มิ.ย. 63  :mc4:
สามารถสั่งซื้อได้ที่
http://marionetta.lnwshop.com/p/7




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 :z13: Recommend
 :กอด1:แอบมารัก...ก็ไม่บอก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=35520.0)
 :กอด1:PLAYBOY LOVER (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41046.0) 
 :กอด1:RUSE เล่ห์รัก กลปรารถนา] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66913.0)
 :กอด1:ฺBetween us ... รักข้างเดียว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56894.0)

หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 1 - 05/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 05-03-2019 15:01:40
Level 1: สารภาพรักทายใจ




“เฮ้ยเป็ด เดี๋ยวกูมา”

ผมรวบช้อนส้อมของตัวเอง หลังจากเพิ่งกินข้าวมันไก่หมด แล้วลุกจากที่นั่ง เป็ดที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามชักสีหน้าอย่างเบื่อหน่าย ทำให้ผมเข้าใจคำว่า 'เซ็งเป็ด' ได้เต็มตา

“มีแล็ปบ่ายนะมึง อย่ามัวแต่ส่องผัวมโนของมึงเพลิน”

“ผัวเผอมโนอะไร บางทีพี่เขาอาจจะอยากเป็นเมียกูในชีวิตจริงก็ได้”

เป็ดใช้สายตามองใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มของผม ก่อนที่นัยน์ตาเหยียดหยามจะกลับไปสนใจข้าวขาหมูของ11ตัวเองต่อพร้อมกับน้ำเสียงระอา

“กูเบื่อความเชื่อมั่นแบบผิดๆ ของมึงว่ะบลู จะไปไหนก็ไป”

ผมยกยิ้มรับเล็กน้อย ก่อนจะมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ แล้วรีบวิ่งไปที่คณะบริหารเพื่อไปเจอหน้ารุ่นพี่ที่แอบปลื้มมาหลายเดือนครับ

แสงแดดตอนกลางวันไม่ได้บั่นทอนพละกำลังของผม หลังจากฝีเท้าที่ใช้งานในช่วงเวลาหนึ่งหยุดลง ผมก็หอบหายใจพลางกดที่ท้องเพราะรู้สึกจุกเล็กน้อย สายตาก็มองหารุ่นพี่ที่เป็นเป้าหมาย โต๊ะม้าหินที่เคยนั่งประจำว่างเปล่า ผมเห็นกลุ่มแฟนคลับของพี่เชาชะเง้อมองหาอยู่เหมือนกัน

ผมเดินนวดหน้าท้องพร้อมกับเดินไปหามุมเพื่อรอส่องรุ่นพี่ที่อยู่ในดวงใจ เพียงไม่กี่อึดใจต่อมา เสียงกรี๊ดราวกับดาราเดินทางมาก็ทำให้ผมต้องมองตาม รอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้าชื้นเหงื่อ ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดถ่ายรูปเอาไว้อย่างรวดเร็ว ร่างสูงในชุดนักศึกษาปล่อยชายกำลังเดินผ่านหน้าของผมไปอย่างทุกที เลนส์จากกล้องของโทรศัพท์มือถือกำลังซูมไปที่ใบหน้าหล่อขาวตามฉบับคุณชายที่ทำให้หลายคนใจละลาย ทว่าในขณะที่ความฟินของผมกำลังพุ่งสูงขึ้น หน้าจอก็กลายเป็นภาพแผ่นหลังของใครก็ไม่รู้แทน

อ้าวเฮ้ย!

“พี่ลิงก์คะ แนนอยากตอบคำถามขอบพี่ค่ะ”

เสียงฮือฮาดังขึ้น ผมรีบขยับตัวเพื่อมองดูเหตุการณ์ตรงหน้า ผู้ท้าประลองในวันนี้เป็นสาวสวยหุ่นนางแบบเต็มขั้น พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึัน ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปาก

สีหน้าที่เหมือนกำลังยิ้มเยาะนั้นเรียกเสียงกรี๊ดและทำให้ปลายนิ้วของผมต้องขยับถ่ายรูปไม่หยุด

ง่า...หล่ออ่ะครับ

ผมเพ้อกับตัวเองอยู่ในใจ แล้วปรับโหมดเข้าสภาวะปกติอีกครั้ง ในกลุ่มแฟนคลับหรือคนที่สนใจคนดังของมหาวิทยาลัยต่างก็เข้าใจว่า การขอตอบคำถามของพี่ลิงก์คือการขอเป็นแฟนครับ แต่เท่าที่รู้มา ยังไม่มีใครตอบคำถามผ่านสักคน ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่พยายามก้าวผ่านเพื่อจะได้เป็นคนพิเศษของทายาทนักธุรกิจพันล้าน

พี่ลิงก์ยืนประจัญหน้ากับผู้ท้าชิงครู่หนึ่ง ก่อนเสียงทุ้มราบเรียบจะดังขึ้นพร้อมกับคำถาม

“มังคุด ละมุด ลำไยชอบอะไรครับ”

อืม…เอาอะไรดี?

ปริศนาของพี่ลิงก์ไม่ใช่คำถามที่อ้างอิงเรื่องของตัวเอง แต่เป็นการถามถึงเรื่องของคนตอบล้วนๆ วิธีนี้ก็คงเหมือนการคัดเลือกแบบจิตวิทยาที่คำตอบสามารถบ่งบอกนิสัยใจคอได้ มีแฟนคลับบางคนพยายามทำข้อมูลวิเคราะห์คำถามของพี่ลิงก์อย่างจริงจังจนผมที่เคยเช้าไปอ่านยังทึ่ง แต่ก็ยังหาคำตอบจากคำถามสารพัดรูปแบบของรุ่นพี่คนนี้ไม่ได้อยู่ดี

“แนนเลือกมังคุด”

“โทษที ไม่ใช่คำตอบที่พี่ต้องการ”

พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินผ่านผู้เล่นที่ยังไม่สามารถก้าวผ่านคำถามสุดหยั่งนี้ได้ แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมแพ้ มือเรียวดึงแขนใหญ่เอาไว้ พร้อมกับเอ่ยรั้ง

“คำถามบ้าบออะไรกัน! แนนไม่ดีตรงไหน!"

ความเงียบกลับมาอีกครั้ง พี่ลิงก์ตีหน้านิ่งพร้อมกับดึงแขนของตัวเองออก ก่อนเสียงทุ้มเรียบเรื่อยจะเย็นชามากขึ้น

“เพราะน้องน่ารำคาญไง”

เสียงกรีดร้องของคนถูกว่าดังขึ้น พี่ลิงก์ไม่ได้สนใจ แล้วเดินขึ้นตึกไปอย่างไม่รีบร้อน

ผมมองตามแผ่นหลังที่สะพายเป้ไว้ที่ไหล่ข้างขวาแล้วยิ้มบาง เมิ้อเห็นพวงกุญเจตุ๊กตหมีผูกโบว์สีเหลืองตัวใหญ่

ต้องตอบแบบไหน ถึงจะถูกใจคุณชายเท็ดดี้แบร์กัน?

ผู้คนโดยรอบเริ่มสลายตัว นี่เป็นเรื่องปกติของคนที่ต้องการสานสัมพันธ์พิเศษกับพี่ลิงก์ครับ ผมก้มมองนาฬิกาข้อมืออีกครั้ง แล้วรีบวิ่งกลับคณะของตัวเอง เพราะอีกไม่กี่นาทีขัางหน้าจะถึงเวลาเรียนช่วงบ่ายแล้ว




@@@@@@@@@@




ผมชื่อบลู อายุสิบเก้า เรียนคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ชั้นปีที่สองครับ ผมเป็นพวกเก็บตัวและเปิดเผยกับเพื่อนสนิทที่มีอยู่คนเดียวก็คือเป็ด เราสองคนถูกจัดอยู่ในกลุ่มเด็กเนิร์ดที่เพื่อนจะเข้าหาเฉพาะเวลาที่ต้องการใช้ให้ทำงาน

เพราะมีเพื่อนที่ไว้ใจอยู่คนเดียว ผมเลยเล่าเรื่องทุกอย่างให้เป็ดฟัง ซึ่งก็รวมไปถึงความประทับใจแบบกะทันหันที่ผมมีต่อพี่ลิงก์ด้วยครับ

จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์เมื่อหลายเดือนก่อน ผมถูกไหว้วานให้มาช่วยงานพี่ชายของเป็ดที่ทำงานในห้างที่มีอีเวนท์พิเศษ ครั้งนั้นผมต้องไปช่วยงานแทนเป็ดที่ป่วยเพราะท้องเสียหนักแทน โดยได้รับหน้าที่ใส่ชุดมาสคอตตุ๊กตาหมียืนทักทายคนที่มาร่วมงาน

ในเวลานั้นผมได้แต่นึกทอดถอนใจ ทั้งร้อนทั้งอึดอัด แถมยังต้องทำท่าปัญญาอ่อน แต่ก็ต้องอดทนเพราะทำเพื่อช่วยเพื่อน ทว่าในขณะที่ผมกำลังยืนนิ่งอู้งานอยู่ มือข้างหนึ่งของผมก็ถูกจับไว้

ตอนแรกผมนึกว่าเป็นเด็กน้อยสักคน แต่กลับเป็นเด็กโข่งหน้าหล่อหุ่นนายแบบแทนซะงั้น

ตอนนั้นผมตกใจพอสมควร ยิ่งได้สบตาที่มีประกายบางอย่าง รวมไปถึงรอยยิ้มเขินอายที่เหมือนเด็กอนุบาลแบบนั้น หัวใจที่เคยเต้นเป็นปกติก็เปลี่ยนจังหวะไป ทุกอย่างรอบตัวเหมือนกับจะหยุดนิ่ง มีเพียงผมกับคนแปลกหน้าเท่านั้น ก่อนฟองอากาศของความหวั่นไหวจะแตกสลาย เมื่อคนตรงหน้าถูกเรียก

“เหี้ยลิงก์! กูบอกแล้วไงว่าอย่า!”

“แค่มาดูเฉยๆ”

“เฉยพ่อมึงสิ! ถ้ากูช้ากว่านี้ มึงจะพุ่งเข้าไปกอดแล้ว! กูรู้นะเว้ย! โตเป็นควายแล้ว! ไม่อายเด็กบ้างหรือไงวะ!”

"ทำไมต้องอาย กูไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วกูก็ไม่ใช่ควายไอ้สัตว์"

"เออ! มึงไม่ใช่ควายแต่เป็นเหี้ย! ปล่อยมือเขาได้แล้วโว้ย!"

คนที่มาใหม่ต่อว่าไม่หยุด พี่พลที่ผมเพิ่งรู้จักชื่อทีหลังหันมาส่งยิ้มแห้งให้ผมพร้อมกับดึงพี่ลิงก์ที่หน้าบึ้งออกมา ผมรู้สึกงงแล้วก็เสียดายนิดหน่อย แต่ก็ทำได้แต่ยืนเฉยครับ

“ขอโทษครับ เพื่อนผมมันบ้า”

ผมไม่ได้ตอบรับอะไร ทำเพียงโบกมือลาให้พี่ลิงก์ที่ทำตาละห้อยยกมือบ๊ายบายให้ ใบหน้าหล่อที่มองมาอย่างอาลัยอาวรณ์ ทำให้ผมหัวใจเต้นแรงไม่หยุด แล้ววันนั้นผมก็กลับมาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เป็ดฟัง มันเป็นความประทับใจที่ไม่รู้สาเหตุและให้คำนิยามไม่ได้ครับ

ทั้งที่ผมคิดว่าคงจะไม่ได้เจอกันแล้ว อีกไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้น ผมก็เพิ่งรู้ว่า เราสองคนเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกัน

ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็กลายเป็นหนึ่งในแฟนคลับของพี่ลิงก์ นักศึกษาคณะบริหารชั้นปีที่สามอย่างเต็มตัว

หลังจากเลิกเรียนกลับมาที่หอพัก ผมเอารูปของรุ่นพี่ในดวงใจมาแต่งเล็กน้อย แล้วเก็บไว้ในโน้ตบุ๊กอย่างที่ทำเป็นประจำ ผมมีความคิดเพ้อฝันว่า อยากจะทำโฟโต้บุ๊กให้พี่ลิงก์ในวันเกิดของเขา แต่ก็ต้องลบความตั้งใจนี้ไป เมื่อมีข้อความในเฟซบุ๊กของพี่ลิงก์ประกาศชัดเจนว่า 'กูมีเงิน ซื้อเองได้ ไม่รับของจากคนแปลกหน้า' ผมว่าเขาคงรำคาญที่มีแฟนคลับเอาของมาให้เยอะล่ะมั้งครับ

พี่ลิงก์มีทั้งเฟซบุ๊ก ไอจี และทวิตเตอร์ แต่ก็ไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่นัก นานๆ ทีถึงจะโพลต์รูป ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นรูปตุ๊กตาหมีในสถานที่ต่างๆ แฟนคลับต่างก็รู้กันดีว่า พี่ลิงก์คลั่งเท็ดดี้แบร์มากคร้บ

ผมปิดหน้าจอสังคมออนไลน์ลง แล้วเริ่มทำงานของตัวเองแทน ชีวิตประจำวันของผมไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจนักหรอกครับ นอกจากไปเรียน ถ่ายรุปพี่ลิงก์ แล้วกลับหอนอน

แต่มันก็มีความสุขดีครับ




@@@@@@@@@@




"ถามจริง มึงจะบ้าตามไปถายรูปพี่เขาไปถึงเมื่อไหร่วะ"

เป็ดหันมาถามผมอย่างสงสัย ผมละสายตาจากสไลด์หน้าห้องแล้วมองกลับไปพร้อมกับใช้ความคิด ผมมีรูปของพี่ลิงก์เป็นพันหรืออาจจะหมื่นรูปแล้วก็ได้ แต่ก็แค่เอามาเก็บไว้ดูคนเดียวเท่านั้น

"ไม่รู้ว่ะ แต่กูอยากทำ"

"แล้วถ้าพี่เขาเรียนจบไปแล้ว มึงจะทำยังไง"

ผมขมวดคิ้ว พี่ลิงก์เรียนปีสาม ยังมีเวลาอีกหนึ่งปีที่จะได้ติดตามคนที่ตัวเองชอบได้แบบนี้ ผมไม่รู้ว่า ถ้าหากพี่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัยไปแล้ว ผมจะทำยังไงต่อเหมือนกัน บางทีอาจจะหาวิธีตามต่อหรือตัดใจไปอย่างช่วยไม่ได้ ซี่งผมเองก็ยังไม่เคยคิดไปไกลขนาดนั้นครับ

"บลู บางทีมึงก็ควรใช้เวลากับความจริงดีกว่าเสียเวลาทำอะไรแบบนั้น"

"หืม ความจริงที่ว่าคืออะไร มึงจะให้กูหาแฟนสักคเหรอ"

ผมมองเป็ดที่ทำหน้าซีเรียสด้วยรอยยิ้มบาง ผมเคยชอบเพื่อนสมัยประถมยันมัธยม แต่ความรู้สึกเหล่านั้นก็จางหายไป เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง มันอาจจะแย่ในตอนแรก แต่ทุกอย่างก็เลยผ่านไปตามกาลเวลา

"มึงมัวแต่เสียเวลากับคนที่เป็นไปไม่ได้ ระวังเป็นโสดยันแก่นะมึง"

"เดี๋ยวนี้โสดกันเยอะจะตาย ไม่เห็นเป็นไร"

ผมหัวเราะเบาๆ อย่างไม่ได้คิดอะไรมาก ผมเข้าใจเจตนาของเป็ดดีครับ แต่เรื่องแบบนี้มันก็ยากเกินจะห้ามใจเช่นเดียวกัน

"กูรู้ แต่ตอนนี้กูไม่อยากมองใคร นอกจากพี่เขาว่ะ"

"ถ้ามึงจะชอบพี่เขาขนาดนั้น ก็ไปสารภาพรักให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย อกหักตั้งแต่ต้นดีกว่าหวังนานเว้ย"

ผมไม่ได้ตอบรับ แต่ก็เก็บคำพูดของเป็ดมาคิด อันที่จริงผมเคยนึกอยากลองวิ่งไปสารภาพรักกับพี่ลิงก์อย่างที่เคยเห็นจนชินตาบ้างเหมือนกันครับ แต่ก็ยังกลัวว่าความรู้สึกที่สะสมมาจะแตกสลายไป แล้วผมก็ไม่แน่ใจว่า หลังจากที่โดนปฏิเสธ ผมควรจะทำยังไงกับรูปภาพมากมายที่เก็บเอาไว้อีก

            ความรู้สึกที่แตกกระจายจะใช้เวลาฟื้นฟูนานแค่ไหน

ผมไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของตัวเองก่อนเวลาอันควรครับ ในเมื่อตอนนี้ก็มีความสุขที่ได้มองก็เพียงพอแล้ว

ผมเดินออกจากห้องเรียนพร้อมกับเป็ด ก่อนที่เราสองคนจะแยกย้ายกลับหอของตัวเอง หลังจากกินข้าวเย็นด้วยกันเสร็จ ผมเดินทอดน่องไปในซอยของหอพักอย่างเชื่องช้า ปล่อยให้สายลมกลางคืนพัดผ่านแผ่วเบา ในขณะที่กำลังเดินเหม่อไปเรื่อย ปลายเท้าของผมก็เหยียบบางสิ่งบางอย่างเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

"เฮ้ย!"

ผมรีบยกเท้าหนี แล้วก้มลงหยิบพวงกุญแจตุ๊กตาหมีสีดำขึ้นมามอง ความคิดถึงใครคนหนึ่งเข้ามาในสมอง เพราะผมเคยเห็นพวงกุญแจตุ๊กตาแบบนี้มาก่อน

"โคล!"

ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่ดังขึ้นทันที นัยน์ตาเบิกกว้าง เมื่อเห็นพี่ลิงก์วิ่งตรงเข้ามาหา แล้วหยุดยืนตรงหน้าของผม ใบหน้าหล่อที่มีแววกังวลก้มลงมองพวงกุญแจตุ๊กตาหมีที่ผมถือเอาไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นมองผมต่อ

"นั่นเป็นของพี่ ขอบใจที่เก็บให้ครับ"

ผมนิ่งอึ้งอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้คุยกับพี่ลิงก์ต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ผมส่งพวงกุญแจตุ๊กตาหมีที่ชื่อโคลคืนให้เจ้าของ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังเพื่อนของพี่ลิงก์ที่เดินเข้ามาสบมบ

"เจอแล้วเหรอ แค่ตุ๊กตาหายจะเป็นจะตายนะมึง"

พี่พลชักสีหน้าบ่นอุบ ซึ่งพี่ลิงก์ที่กำลังเอาโคลยัดใส่เป้ก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังอย่างไม่ยอมแพ้

"ถ้าสมาชิกในครอบครัวมึงหาย มึงจะไม่ตามหาเหรอวะ มึงมันคนไร้หัวใจ"

"กูหมดคำพูดกับมึงว่ะลิงก์ ถ้าสำคัญก็เก็บให้ดีหน่อย"

พี่ทีที่ยืนทำหน้านิ่งถอนหายใจออกมาพร้อมกับมองพี่ลิงก์ด้วยสายตาระอาปยเหนื่อยใจ แต่เจ้าของเรื่องก็ยังโต้ตอบกลับอย่างไม่ยอมอ่อนข้อ

"ก็ห่วงมันหลุดนี่หว่า กูจะรู้ไหมว่าร่วงไปตอนไหน"

"ถ้างั้นมึงก็เก็บไว้ในกระเป๋า เอามาห้อยเดี๋ยวก็หายอีก"

พี่พลสวนกลับ โดยไม่สนใจวว่าจะมีผมที่ยังยืนฟังอยู่ด้วย ดูเหมือนรุ่นพี่คณะบริหารทั้งสามคนจะเข้าโหมดส่วนตัวกันจนลืมโลกภายนอกไปแล้วล่ะครับ ทั้งที่ผมเองก็ควรจะเดินหนีเพราะหมดธุระไปแล้ว แต่ขาก็ยังไม่ได้ขยับไปไหน

ก็ผมยังอยากมองพี่ลิงก์ ยังอยากได้ยินเสียง แล้วก็อยากรู้ว่าบทสรุปของการปะทะคารมนี้จะเป็นยังไง

"ถ้าเก็บไว้ในกระเป๋า โคลก็หายใจไม่ออกพอดี มึงชอบอยู่ในกระเป๋าเหรอ"

"กูเพลียกับมึงจริงๆ"

พี่ทีกับพี่พลมองพี่ลิงก์อย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะหันมาทางผมที่ยังยืนอยู่ด้วย แล้วในตอนนั้นเองที่พวกรุ่นพี่ปีสามของคณะบริหารเพิ่งจะรับรู้การมีคัวคนของผมอีกครั้ง

"ลิงก์ มึงต้องตอบแทนน้องเขาที่หาโคลของมึงเจอนะเว้ย"

พี่พลหันไปบอกพี่ลิงก์ ใบหน้าหล่อที่แสดงความดื้อดึงหันมาทางผม เขาพยักหน้ารับ แล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา ก่อนจะยื่นแบงค์พันมาให้ผม

"พี่ให้ไว้กินขนมนะครับน้อง"

"ผมไม่เอาหรอกครับ"

ผมไม่รอให้พี่ลิงก์พูดอะไรต่อ ขาที่ยืนนิ่งเป็นรูปปั้นก่อหน้านี้ก็รีบวิ่งหนีออกมาทันที ก่อนฝีเท้าจะชะลอความเร็วแล้วหยุดลง เมื่อนึกอะไรได้บางอย่าง ผมหันหลังกลับไปยังกลุ่มรุ่นพี่ที่ยังยืนอยู่ห่างออกไปด้วยความลังเล

ผมสูดลมหายใจเช้าลึก แล้วตัดสินใจวิ่งกลับไปยังจุดที่วิ่งหนีมาอีกครั้ง ถ้าหากวันนี้โชคชะตาทำให้ผมได้คุยกับพี่ลิงก์แล้ว ก็อยากจะลองใช้ความโชคดีในวันนี้อีกสักครั้ง

"พี่ลิงก์! เดี๋ยวครับ!"

ผมรีบเรียกพี่ลิงก์ที่กำลังเดินอยู่ให้หันหลังกลับมามอง เขาเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย แล้วทำท่าจะหยิบอะไรบางอย่างมาให้ผม แต่ผมก็พูดถึงจุดประสงค์ของตัวเองออกไปก่อน

"ผมอยากตอบคำถามของพี่ครับ"




@@@@@@@@@@




พี่ลิงก์แสดงสีหน้าแปลกใจในทีแรก ก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะแต้มรอยยิ้มที่มุมปาก เขาหันมายืนเผชิญหน้ากับผมอีกครั้ง ก่อนจะตั้งคำถามประหลาดออกมา

"เฉาก๊วยกับลอดช่อง น้องชอบอะไรครับ"

ผมนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ผมคิดว่าจะตอบอะไรก็คงไม่ถูก ถ้าหากพี่ลิงก์ไม่ได้สนใจผม แล้วผมก็ไม่ได้ชอบเฉาก๋วยกับลอดช่องด้วย ผมชอบน้ำแข็งไสธรรมดาใส่น้ำหวานมากกว่าครับ

ผมมองใบหน้าที่ยังคงมองผมไม่ละสายตา พี่ลิงก์ไม่ได้เอ่ยปากเร่ง แต่สายตาที่เหมือนกำลังกดดัน ก็ทำให้ผมต้องเอ่ยปาก ไม่ว่าสิ่งที่พูดออกไปจะมีผลยังไงก็ตาม

"แล้วสองอย่างนี้พี่ชอบอะไรครับ"

พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้น นัยน์ตามีแววแปลกใจชัดเจน เขาวาดรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่รอยยิ้มเยาะอย่างที่ผมเคยเห็นประจำเวลาที่คนตรงหน้ามีต่อคนที่ถูกปฏิเสธ

"พี่ชอบเฉาก๋วยมากว่าลอดช่อง"

"ผมไม่ชอบทั้งสองอย่างเท่าไหร่ ผมชอบน้ำแข็งไสใส่น้ำแดงมากกว่าครับ"

ผมไม่แน่ใจผลลัพธ์ของการตอบคำถามนี้คืออะไร แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดเอาไว้ ผมลอบภอนหายใจออกมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบสายตาอีกคู่ที่กำลังมองมา

"หยิบมือถืออกมา"

ผมก็รีบทำตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างงุนงง แล้วมองพี่ลิงก์ที่ยังยืนอยู่ตรงหน้า เขามองผม ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือของผมต่อ

"เข้าไลน์"

ผมรีบทำตามที่บอกด้วยหัวใจที่เต้นแรงขึ้นมาเรื่อยๆ ตอนนี้รับรู้ได้เลยว่าปลายนิ้วกำลังสั่นอยู่ พอเปิดแอพพลิเคชั่นสำหรับแชทได้ สิ่งที่ผมคาดหวังเอาไว้ก็มาถึง

พี่ลิงก์หยิบโทรศัพท์มือถือของผมไปกดแอดไอดีไลน์เอาไว้ ก่อนจะส่งคืนมาให้ ผมก็ได้แต่มองหน้าจอของไลน์ที่มีรายชื่อเพื่อนใหม่่ขึ้นมา

"ไว้ค่อยเจอกัน"

"อา...ครับ"

ผมมองกลุ่มของพี่ลิงก์ที่เดินห่างออกไปอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก สรุปว่าผมตอบคำถามผ่านหรือเปล่า ถึงได้ช่องทางติดต่อทางไลน์มาแบบนี้

ผมได้เป็นแฟนกับพี่ลิงก์แล้วเหรอ?!!!

ผมยังนึกงงกับตัวเองไม่หาย รอยยิ้มกว้างฉายบนใบหน้า ผมรีบวิ่งกลับหออย่างรวดเร็วด้วยหัวใจลิงโลด ใช่! ผมต้องรีบเล่าเรื่องนี้ให้เป็ดฟัง

ผมรีบกดโทรหาเพื่อนสนิททันที รอสายอยู่ไม่กี่วินาทีอีกฝ่ายก็ตอบรับ ผมรีบเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและดีใจ

"มึงว่าพี่ลิงก์เขาคบกับกูแล้วหรือยังวะ!"

[กูจะไปรู้ไหม ก็แค่ให้ไลน์มาเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ]

"แต่พี่ลิงก์ไม่เคยให้ไลน์ใครตอนตอบคำถามเลยนะเว้ย"

[มึงแน่ใจได้ยังไง ใครจะมาสารภาพรักพี่เขาตอนไหนบ้าง มึงรู้เหรอ]

ผมคิดตามคำพูดของเพื่อน หัวใจที่เคยพองโตค่อยๆ ลดระดับลง ผมไม่ได้ตามติดพี่ลิงก์ยี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วก็แค่แจกไลน์ไม่ได้หมายถึงการตอบรับสถานะที่ผมต้องการ

แต่ไม่เป็นไร...ตอนนี้มีทางติดต่อส่วนตัวแล้ว ต่อไปก็ค่อยตามจีบต่อก็ยังได้ครับ

"อย่างน้อยมันก็ดีกว่าตอนตามถ่ายรูป เป็นคนไร้ตัวตนเหมือนเมื่อก่อนล่ะวะ"

[คงเพราะมึงเก็บของให้เขาได้ พี่เขาเลยยอมให้ไลน์มึงมั้ง]

"งั้นมั้ง ต้องขอบคุณโคลที่มาอยู่ตรงปลายเท้ากูอ่ะ"

[เออๆ แค่นี้ก่อน กูจะไปเข้าห้องน้ำ ปวดขี้]

"เออๆ"

ผมกดตัดสาย ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพักของตัวเองอย่างเชื่องช้า หลังจากวางกระเป๋าแล้วนั่งลงบนเตียง ผมก็กดไปยังไลน์ของพี่ลิงก์ นึกลังเลว่าควรจะกดอะไรส่งไปไหม แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจปิดมันลงพร้อมกับถอนหายใจออกมา

แค่นี้ก็ดีแล้วน่า ไอ้บลู...

ผมกลัวจะทำให้พี่ลิงก์รำคาญ ถ้ามีโอกาสได้สนิทมากกว่านี้ก็คงดี




@@@@@@@@@@




"กูงงกับมึงว่ะลิงก์"

"งงอะไร"

"ตกลงน้องเขาตอบคำถามงี่เง่าของมึงถูกไหม"

"เรื่องนั้นใครจะไปสนใจ กูก็ถามไปอย่างนั้น"

พลหันไปมองเพื่อนอย่างไม่เข้าใจ ลิงก์ก็แค่มองกลับ แล้วยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยอย่างกวนประสาทกลับไป ท่าทางวางท่าที่แสดงออกมา ทำให้คนงงเริ่มหมั่นไส้ขึ้นมาแทน

"ไม่เห็นทีจะเป็นแบบมึง"

ลิงก์หันไปมองเพื่อนอีกคนที่เดินอยุ่ข้างกัน ทีก็แค่มองตอบกลับมา แล้วมองไปทางอื่นอย่างไม่สนใจ

"มันก็อยากรู้ เแต่แม่งไม่กล้าแบบกูต่างหาก"

ทีหันไปมองพลด้วยสายตาเย็นชาที่ไม่ได้จริงจังนัก แน่นอนว่าเพื่อนสนิทย่อมรู้จักนิสัยกันดี พลเลยไม่สนใจท่าทางของคนที่พูดน้อย แล้วสานต่อบทสนทนาของตัวเองต่อ

"แล้วตกลงคำถามของมึงนี่ยังไงกันแน่"

ลิงก์หัวเราะรับ ก่อนจะยอมเฉลยเหตุผลในการตั้งคำถามปัญญาอ่อนของตัวเองที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อสองปีที่แล้ว

"กูก็แค่อยากให้ใครสักคนถามกูกลับมาบ้างว่ากูชอบอะไร แล้วน้องเขาก็เป็นคนแรกที่ทำแบบนั้น"

"อ่า...แอบลึกซึ้งจนกูคาดไม่ถึง"

"กูไม่อยากคบกับคนที่ไม่สนใจความคิดของกู นึกแล้วน่ารำคาญฉิบหาย"

"มึงก็แค่อยากเอาแต่ใจฝ่ายเดียวนี่หว่า แล้วน้องจะทนมึงได้เหรอาะ"

"ถ้าน้องชอบกูจริง ก็ต้องทนได้"

"แล้วมึงจะคบทั้งที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเนี่ยนะ"

ลิงก์หันมามองเพื่อนช่างถามอีกครั้ง แล้วถอนหายใจออกมา

"เรื่องแบบนั้นก็ต้องใช้เวลาศึกษากันไปสิวะ"
 


TBC+++++++
 
Marionetta
สวัสดีต่ะ สำหรับใครที่คยอ่านแล้ว ครั้งนี้แก้นิดหน่อยค่ะ ส่วนใครที่ไม่เคยอ่านก็ช่วยติดตามด้วยนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ

หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 1 - 05/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 05-03-2019 15:03:22
 :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 1 - 05/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-03-2019 18:06:58
น่าติดตาม รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 1 - 05/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-03-2019 19:25:54
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 1 - 05/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-03-2019 20:18:28
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 1 - 05/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 06-03-2019 14:32:48
Level 2: ทำความรู้จัก





ถึงผมจะตื่นเต้นกับการได้ไลน์ของพี่ลิงก์มาครอบครองอย่างคาดไม่ถึง แต่เมือคืนนี้ผมก็ยังนอนหลับดี แล้วก็ยังไปเรียนตามปกติครับ

วันนี้ผมมีงานที่ต้องทำเลยไม่มีเวลาว่างปลีกตัวไปตามพี่ลิงก์ อันที่จริงผมก็ไม่ได้ตามติดรุ่นพี่ในดวงใจทุกวันหรอกนะครับ แล้วแต่สะดวกมากกว่า

ทุกครั้งที่ผมเข้าไลน์ ผมก็มักจะเลื่อนไปดูที่ชื่อของพี่ลิงก์เสมอ และหน้าจอแชทระหว่างเราสองคนก็ยังว่างเปล่า เวลานี้ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหนสำหรับอีกฝ่ายกันแน่ อาจเป็นเพราะแบบนั้นผมเลยไม่กล้าเริ่มต้นก่อน

ทุกอย่างก็ยังผ่านไปตามชีวิตประจำวันที่เรียบง่าย วันนี้เป็นวันศุกร์แล้วครับ กว่าผมจะหาโอกาสไปเจอพี่ลิงก์อย่างที่มักจะชอบทำก็ต้องรอวันจันทร์หน้า ผมเดินเข้าไปซื้อของกินรอบดึกในเซเว่น ก่อนจะเดินเอื่อยกลับหอของตัวเอง

กลุ่มแฟนคลับของพี่ลิงก์ก็ยังมีการอัปเดตรูปเหมือนเดิม ทุกอย่างไม่มีอะไรแตกต่างจากที่ผ่านมา ถ้าหากในโทรศัพท์มือถือของผมไม่มีไลน์ของพี่ลิงก์อยู่ ผมคงคิดว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้อาจจะเป็นความฝัน

ผมเปิดหนังออนไลน์ดูก่อนเข้านอน แล้วก็ตื่นมาใช้ชีวิตแบบสบายๆ ในวันเสาร์ ปกติในวันหยุดผมก็ไม่ได้ทำอะไรนัก บางครั้งก็ไปหาเป็ดที่หอเวลาเหงาหรือเบื่อ เพราะผมก็คบเพื่อนแบบจริงจังแค่มันคนเดียว แต่ส่วนใหญ่จะนอนกลิ้งอยู่บนเตียง แล้วก็ดูหนังแบบมาราธอนเกือบทั้งวันครับ

ผมใช้เวลาอยู่กับการไล่ดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่ของมาเวลตั้งแต่เมื่อคืน โดยเรียงลำดับจากกระทู้หนึ่งในพันทิป ผมแกะขนมนั่งกินไปด้วย ทั้งที่สายตายังไม่ละจากฉากต่อสู้ที่ลุ้นระทึกและน่าติดตาม ก่อนเสียงโทรเข้าของไลน์จะดังขึ้นขัดจังหวะ ผมไม่ได้สนใจในทีแรกเพราะมีเพียงไม่กี่คนที่ติดต่อมา ซึ่งไม่กี่คนที่ว่า ก็คงมีแค่เป็ดคนเดียวเท่านั้น

ผมปล่อยให้เสียงจากโทรศัพท์มือถือดังแล้วตัดไป เพราะยังไม่อยากพลาดช็อตสำคัญของเรื่อง จนกระทั่งเสียงเรียกของไลน์ดังขึ้นอีกครั้ง ผมเลยยอมละสายตาไปหยิบเครื่องมือสื่อสารของตัวเอง ก่อนทุกความสนใจก่อนหน้านี้จะหยุดลง เมื่อรายชื่อที่แสดงอยู่บนหน้าจอคือคนที่คาดไม่ถึง

พี่ลิงก์!!!

ผมมือสั่นเล็กน้อยเพราะทำอะไรไม่ถูก ทั้งที่ยังตั้งตัวไ่ม่ทัน แต่ปลายนิ้วก็กดรับไปก่อนที่สมองจะสั่งการ เมื่อสัญญาณได้รับการเชื่อมต่อเรียบร้อย เสียงที่ไม่คุ้นเคยก็ดังขึ้นทันที

[แม่งกว่าจะรับ!]

ผมกะพริบตาปรับสติของตัวเอง เพราะไม่ชินกับน้ำเสียงเหวี่ยงของพี่ลิงก์ ถึงรุ่นพี่คนนี้จะไม่แคร์ใคร แต่ส่วนใหญ่เหล่าแฟนคลับก็มักจะเห็นท่าทางอัธยาศัยดีควบคู่กับน้ำเสียงทุ้มที่เรียบเรื่อย ไม่ใช่กระแทกใส่อย่างที่ผมได้ยินอยู่ตอนนีครับ

"เอ่อ...วะ..หวัดดีครับ พี่ลิงก์"

ผมเริ่มต้นทักทายไปตามมารยาท ปลายทางผ่อนลมหายใจออกมา ผมก็รู้สึกลุ้นระทึก หนังที่ดูค้างไว้ไม่ได้รับความสนใจอีกต่อไป
[มาเจอกูที่ห้าง A ตอนห้าโมงเย็น]

ผมรู้สึกงุนงงพร้อมกับมองดูเวลาไปด้วย ตอนนี้สี่โมงกว่าแล้ว เหลือเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่มีเวลาให้คิดมาก เมื่ออีกฝ่ายพูดขึ้นต่อ

[เฮ้ย! ได้ยินไหมเนี่ย!]

"คะ..ครับ"

[เออ]

ผมมองการติดต่อที่ถูกตัดไปแล้วอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก ทั้งที่ควรจะดีใจที่พี่ลิงก์ติดต่อมาก่อน แต่หัวใจและความรู้สึกในตอนนี้กลับมึนงงเสียมากกกว่า ผมรีบปิดโน้ตบุ๊ก แล้ววิ่งเข้าไปอาบน้ำทันที

ผมไม่รู้หรอกว่า พี่ลิงก์เรียกผมไปเจอทำไม แต่ผมก็สำนึกได้ว่า ไม่ควรไปนัดครั้งแรกของเราสองคนสายและทำให้อีกฝ่ายอารมณ์ไม่ดี



@@@@@@@@@@



ผมใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ธรรมดาและสวมรองเท้าแตะคู่เก่าที่ซื้อจากตลาดนัด ผมไม่ใช่คนชอบแต่งตัว เสื้อผ้าทีมีก็ใช้จนเปื่อยเป็นผ้าชี้ริ้วก่อนถึงจะได้เปลี่ยน ผมยอมรับว่า ตัวเองเป็นผู้ชายไร้สไตล์ที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนสนใจ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นมากเท่าไหร่นัก จนกระทั่งตอนนี้ที่ผมต้องนึกด่าการแต่งตัวห่วยๆ ของตัวเองมาเจอพี่ลิงก์

ถึงผมจะไม่รู้สถานะของเราสองคน แต่หวังว่าภาพลักษณ์ไร้ราคาของผมจะไม่ทำให้พี่ลิงก์เลิกการติดต่อกันหลังจากนี้หรอกนะครับ เฮ้อ...

เมื่อผมก้าวขาเข้ามาในห้าง ผมก็รีบโทรไลน์ไปหาพี่ลิงก์ทันที ตอนนี้เวลาห้าโมงเย็นพอดี ถือว่ามาทันแบบฉิวเฉียดครับ

[กูรออยู่ที่เอ็มเค ชั้นสอง]

"ครับๆ"

ผมรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังร้านสุกี้ที่พี่ลิงก์บอก ผมหอบหายใจเล็กน้อย เมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนที่ยืนรออยู่ที่หน้าร้าน แล้วเงยหน้ามองใบหน้าหล่อของรุ่นพี่ด้วยสีหน้าปั้นยาก

วันนี้พี่ลิงก์ก็ใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เหมือนกัน แต่คงผลิตมาจากห้องเสื้อชั้นนำ รองเท้าผ้าใบแบรนด์นอก เมื่อเทียบกับรองเท้าแตะขายข้างถนนของผม ก็ยิ่งบ่งบอกความแตกต่างให้ชัดเจนเข้าไปอีก

พี่ลิงก์ไม่ได้ทักทายอะไร นอกจากเดินนำผมเข้าไปในร้านอย่างไม่รีบร้อน ผมเดินตามหลังด้วยความตื่นเต้นและประหม่า เมื่อพวกเราได้ที่นั่งแล้ว รุ่นพี่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็เริ่มสั่งวัตถุดิบสำหรับใส่ในหม้อสุกี้โดยไม่ถามใคร ผมได้แต่นั่งบื้อเหมือนคนทำอะไรไม่ถูก และพอพี่ลิงก์สั่งรายการอาหารมากมายจบ นัยน์ตาคมก็เลื่อนมามองผม

"อยากเอาอะไรเพิ่มหรือเปล่า"

"เอ่อ...ไม่ครับ"

พี่ลิงก์พยักหน้ารับ ก่อนที่พนักงานจะทวนรายการมากมายที่สั่งไปทั้งหมด แล้วเดินจากไป ผมปั้นสีหน้าของตัวเองไม่ถูก เมื่อต้องมานั่งมองหน้ากับรุ่นพี่ที่แอบปลื้มแบบนี้

ความเงียบถูกขัดจังหวะเป็นระยะเพราะมีพนักงานข้ามาเตรียมโต๊ะและเริ่มเสิร์ฟอาหารอย่างรวดเร็ว

ผมมองพี่ลิงก์ที่เริ่มเทวัตถุดิบหลายอย่างลงไปในหม้อที่น้ำซุปกำลังเดือด ก่อนนัยน์ตาคมจะเลื่อนมาสนใจผม หลังจากที่ช้อนตับที่เพิ่งจะลวกสุกใส่ถ้วยของตัวเอง

"ไม่กินเหรอ"

"อ่า...กินครับ"

"นั่งเฉยๆ แล้วมันจะบินเข้าปากมึงเหรอ"

ผมรีบหยิบตะเกียบคีบเนื้อหมูใส่ตะกร้อลวกอย่างเก้ๆ กังๆ ภาพลักษณ์ของพี่ลิงก์ที่เคยเห็นก่อนหน้านี้กำลังพังทลาย อันที่จริงผมอึ้งตั้งแต่ที่พี่เขาใช้สรรพนามแล้วด้วยซ้ำครับ

ก็เมื่อวันก่อนยังน้องครับอยู่เลย แต่วันนี้มากูมึงซะงั้นอ่ะ!

ผมรีบปรับตัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนจะคิ้วกระตุดนิดหน่อยที่เห็นหมูในตะกร้อที่ลวกไว้ถูกคนตรงหน้าฉวยไปใส่ถ้วยของตัวเอง

เฉย ผมมองหน้าของพี่ลิงก์ ส่วนเขาก็มองหน้าผม แล้วยกยิ้มออกมา

"ชิ้นนี้กูขอ"

"ครับ"

ผมไม่ได้ใส่อารมณ์กับเรื่องเล็กน้อย ผมเอาตะกร้อที่ว่างเปล่ามาใส่เนื้อหมูใหม่อีกครั้ง แล้วก็เริ่มช้อนบางอย่างที่พี่ลิงก์เทใส่ในหม้อก่อนหน้านี้มากิน ในขณะที่ผมกำลังเคี้ยวลูกชิ้นปลา สายตาก็มองมือของฝ่ายตรงข้ามที่ขโมยเนื้อหมูในตะกร้อของผมไปใส่ก้วยของตัวเองอีกรอบ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำสองทำให้ผมต้องมองใบหน้าหล่อที่กำลังเคี้ยวเนื้อหมูที่เพิ่งแย่งมาตุ้ยๆ คิ้วเรียวเลิกขึ้น ใบหน้าแสดงท่าทางยียวนออกมาชัดเจน

"มีอะไร"

ผมลอบถอนหายใจออกมาโดยไม่ได้ตอบอะไร แล้วนำเนื้อหมุใส่ตะกร้ออีกครั้ง ก่อนจะกินอย่างอื่นต่อตามปกติ โดยที่สายตาก็เล็งเนื้อหมูในตะกร้อของตัวเองไปด้วย รอในจังหวะที่มือของพี่ลิงก์กำลังจะเอื้อมมาหยิบอีกครั้ง ผมก็แย่งตะกร้อของตัวเองมาแล้วนำเนื้อหมูใส่ถ้วยของตัวเองด้วยรอยยิ้มที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

รอบนี้ไม่ได้แอ้มของผมหรอก!

ความดีใจเล็กๆ ในการเอาชนะศึกแย่งเนื้อหมูทำให้ผมภาคภูมิใจได้ไม่กี่วินาที ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"เอ้าๆ กูให้"

ผมมองเกี๊ยวกุ้งที่ถูกส่งมาไว้ในถ้วย ก่อนจะเงยหน้ามองใบหน้าหล่อของพี่ลิงก์ที่มีรอยยิ้มมุมปาก ความรู้สึกในหัวใจของผมสั่นไหว เพราะไม่นึกฝันว่า รุ่นพี่ในดวงใจจะมีน้ำใจเอื้อเฟื้อแบบนี้ ในเมื่อก่อนหน้านี้เพิ่งแย่งเนื้อหมูของผมกินไปแท้ๆ ทว่าความประทับใจก็ถูกสกัดขาหน้าทิ่ม หลังจากเสียงทุ้มดังขึ้นต่อ

"นั่นของโปรดกูเลยนะ สำนึกบุญคุณด้วยล่ะมึง"

เอ่อ...แต่ก็ไม่ได้ขอหรือเปล่าวะ?

ผมได้แต่บ่นในใจ แต่ก็พยักหน้ารับเป็นเชิงขอบคุณ แล้วตักเกี้ยวกุ้งของพี่ลิงก์กินต่อ บรรยากาศที่อึดอัดเริ่มผ่อนคลายอย่างเชื่องช้าตามจำนวนอาหารที่เริ่มลดลง พี่ลิงก์หันไปสั่งพนักงานมาเติมวัตถุดิบสำหรับการกินสุกี้เพิ่ม โดยที่ระหว่างมื้ออาหารเราสองคนไม่ค่อยได้คุยอะไรกันนัก

ผมเพิ่งสังเกตว่าพี่ลิงก์ขอบกินกุ้ง และดูเหมือนพี่ลิงก์ก็คงสังเกตว่าผมชอบกินปลาเหมือนกัน เพราะหลังจากอาหารชุดแรกหมด รุ่นพี่ก็เริ่มสั่งแต่สิ่งที่เราสองคนชอบกินเยอะทีสุด

ผมลอบพิจารณามองพี่ลิงก์อย่างระมัดระวัง ท่าทางไม่ขัดเขินและเป็นธรรมชาติสร้างความรู้สึกแตกต่างจากการที่ผมได้มองแค่รอบนอก โดยปกติก็มีฉากที่รุ่นพี่พูดคุยกับเพื่อนอย่างเป็นกันเองให้เห็นอยู่บ้าง แต่ผมเชื่อว่าไม่ค่อยมีใครได้เห็นมุมกวนประสาทแบบที่ผมเจอตอนนี้เท่าไหร่หรอกครับ

ในฐานะของแฟนคลับ...ความอาแต่ใจของพี่ลิงก์ที่แสดงออกมา ทำให้ผมรู้สึกพิเศษ เพราะรับรู้ได้ถึงช่องว่างที่ลดน้อยลงของเราสองคน ตอนนี้ผมได้รู้จักตัวตนของพี่ลิงก์มากกว่าคนอื่น

หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะปกติพองโตขึ้นมาทีละน้อย รอยยิ้มถูกวาดขึ้นอย่างเงียบเชียบ ผมหลุบตามองถ้วยของตัวเองทันที เมื่อนัยน์ตาสีดำสวยทอดมองมา

"อิ่มยัง เอาอะไรอีกป่ะ"

"ไม่แล้วครับ"

ตอนนี้ผมอิ่มมากครับ ถ้ากินอีกอาจจะมีการอ้วกเกิดขึ้น พี่ลิงก์พยักหน้ารับ แล้วเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ผมรู้สึกเกรงใจและวางตัวไม่ถูก ในสถานการณ์แบบนี้ผมไม่รู้ว่าควรจะแชร์ค่าอาหารกับพี่ลิงก์หรือเปล่า

ความสับสนนี้มาจากความไม่รู้ในสถานะของตัวเองล้วนๆ!

"เอ่อ..."

"กูเลี้ยง"

"ขอบคุณครับ"

ผมมองรุ่นพี่ที่เดินนำออกไปเล็กน้อยอย่างครุ่นคิด ไม่ว่าคนตรงหน้าจะวางผมไว้ที่ตำแหน่งไหนในความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นนี้ ผมก็ดีใจที่วันนี้ได้มากินสุกี้กับพี่ลิงก์ครับ

"แล้วพี่จะไปไหนต่อหรือเปล่าครับ"

พี่ลิงก์หันมาหา เขามองผมเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำเข้าไปในร้านหนึ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจด้วยความคาดไม่ถึง

ร้านขายตุ๊กตา!

ผมมองพี่ลิงก์ที่ดูไม่เข้ากับบรรยากาศของร้านเลยสักนิดเดินหน้าตาเฉยเข้าไปในร้านที่เต็มไปด้วยตุ๊กตามากมาย ก่อนที่รุ่นพี่จะส่งสายตาเร่งให้ผมเดินตามมา ผมเลยต้องเข้าไปในร้านที่ชวนให้รู้สึกแปลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"มึงเลือกมาตัวนึง"

พี่ลิงก์หันมามองผม ผมก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง ก่อนจะตอบความจริงออกไป

"ผมไม่ชอบตุ๊กตาครับ"

"กูให้มึงเลือก ไม่ได้ถามว่าชอบหรือเปล่า"

พี่ลิงก์ส่งสายตาไม่พอใจมาให้ ผมเลยต้องหันไปมองบรรดาคุ๊ตุ๊กตามากมายที่อยู่ตรงหน้า ผมไม่รู้จะเอาตัวไหนดี เลยตั้งใจจะเลือกตัวที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอง แต่เสียงทุ้มของคนที่ยืนอยู่ข้างกันก็ดังขึ้นมาก่อน

"กูจริงจัง อย่าเลือกมั่วนะมึง"

ผมเลื่อนสายตาไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังส่งสายตากดดันมาให้ ผมรู้ว่าพี่ลิงก์บ้าตุ๊กตาหมี แต่ไม่รู้ว่าจะจริงจังอะไรขนาดนี้

เอาตัวไหนดีวะ...

ผมกวาดสายตามองอีกครั้ง ในร้านนี้มีทั้งตุ๊กตาหมี กระต่าย หมู แล้วก็ตัวอะไรอีกมากมาย ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์ให้ผมเลือกทำไม เพราะถ้าอยากจะซื้อไว้เก็บเองก็ควรเลือกเองไม่ดีกว่าเหรอ

พี่ลืงก์ไม่ได้เร่ง เขาเดินไปดูทางอื่นแล้วปล่อยให้ผมใช้เวลาเลือกตามสบาย ผ่านไปสักพัหผมก็ไปเจอตุ๊กตาไดโนเสาร์สีฟ้าที่มีหน้าตาชวนให้อมยิ้มตัวหนึ่ง ผมเลยหยิบมันเอาไปให้พี่ลิงก์

"ผมว่าหน้ามันน่ารักดี"

พี่ลิงก์มองตุ๊กตาขนาดกลางที่ผมเลือก เขารับไปถือไว้ ก่อนจะเอาไปจ่ายเงินโดยไม่ได้ถามอะไร หลังจากนั้นก็ส่งถุงใบใหญ่ให้ผมถือต่อแล้วเดินนำออกจากร้าน เขาเดินวนในห้างเล่นอีกสักพักแต่ก็ไม่ได้ซื้ออะไรอีก เราสองคนปล่อยให้ความเงียบเชื่อมกลางระหว่างที่เดินไปด้วยกัน

ท่ามกลางช่องว่างที่ไร้การสนทนา ผมไม่ได้รู้สึกอึดอัดใจอะไร อีกทั้งยังรู้สึกดีด้วยซ้ำที่ได้มองท่าทางและสีหน้าต่างๆ ของพี่ลิงก์แบบนี้

"กูจะกลับแล้ว"

"ครับ"

สรุปวันนี้ก็แค่พามาเลี้ยงข้าวแล้วก็ช่วยถือของ...

ผมได้แต่คิดในใจ แล้วส่งถุงตุ๊กตาคืนให้พี่ลิงก์ที่รับไว้ ก่อนเสียงทุ้มจะดังขึ้นต่อ

"ต้องให้กูไปส่งหรือเปล่า"

"ไม่ต้องครับ ผมกลับเองได้"

แค่พี่ลิงก์ชวนมากินสุกี้ แล้วก็ได้ใช้เวลาเดินเล่นด้วยกันไม่กี่ชั่วโมง ผมก็ดีใจแล้วครับ

"อืม ไว้ค่อยเจอกัน"

"ครับ"

ทั้งที่คิดว่าพี่ลิงก์จะเดินแยกไปก่อน แต่รุ่นพี่ตรงหน้าก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย หรือว่าเขาจะรอให้ผมเดินแยกออกไปก่อน?

ในขณะที่ผมกำลังทำตัวไม่ถูกอีกครั้ง เสียงของพี่ลิงก์ก็ตัดทุกความคิดที่วุ่นวายของผมให้หยุดชะงักหัวฟาดพื้น

"ว่าแต่มึงชื่ออะไรนะ"

เอ่อ...ที่รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล มันคือความดีใจใช่ไหมครับ!

"บลูครับ ผมเรียนวิทย์คอมปีสอง"

"อืม"

ผมมองพี่ลิงก์ที่เดินแยกไปอีกทาง แล้วถอนหายใจออกมา ก่อนจะเดินไปทางด้านหน้าของห้างเพื่อกลับหอพักของตัวเอง พร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาติดต่อหาเพื่อนสนิท

"เป็ด วันนี้กูมากินสุกี้กับพี่ลิงก์แหละ"

[หา? มาเดตกันเหรอ]

เคต? มันจะเรียกอย่างนั้นได้เหรอ ชื่อชองผม เขาก็ยังไม่รู้เลยครับ! ฮือ!

"ไม่ใช่หรอก ก็แค่มาเป็นเพื่อนกินข้าวมั้ง แล้วมึงก็บอกเองว่า เขาก็แค่ให้ไลน์กูเฉยๆ"

[กูก็แค่พูดไปตามที่คิด มึงลองคิดดู ถ้ามึงจะคบกับใครสักคนเป็นแฟน มึงจะคบกับคนที่แค่ตอบคำถามอะไรก็ไม่รู้ถูกใจหรือไง มันก็ต้องรู้จักนิสัยใจคอกันก่อนว่าจะไปกันรอดไหมอะไรแบบนั้น]

ผมคิดตามที่เพื่อนสนิทบอก แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ ก็จริงอย่างที่มันว่า ผมก็รู้จักพี่ลิงก์แค่ผิวเผิน แล้วพี่ลิงก์ก็เพิ่งรู้จักชื่อของผมเมื่อกี้เองด้วย

ผมมองท้องฟ้าที่เป็นสีเข้มตรงป้ายรถเมล์ ขากลับไม่ต้องรีบ ผมเลยตั้งใจจะรอรถเมล์เพื่อประหยัดเงิน เพราะขามาก็จ่ายค่าพี่วินซิ่งมาแพงครับ

"ก็จริง เมื่อกี้พี่ลิงก์ให้กูเลือกตุ๊กตาให้ด้วยว่ะ กูทำอะไรไม่ถูกเลย"

[งั้นเหรอ แล้วสรุปทุกอย่างโอเคไหมล่ะ]

"อืม ก็เหมือนได้รู้จักพี่ลิงก์ขึ้นมาอีกนิด แบบที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน"

วันนี้ผมรู้ว่าพี่ลิงก์ชอบกินอะไร นิสัยเป็นยังไงมากขึ้น ซึ่งมันก็แตกต่างจากสิ่งที่แฟนคลับที่อยู่รอบนอกมองเห็น

พี่ลิงก์ที่ดูเหมือนคุณชายจอมหยิ่งก็ไม่ต่างจากผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง แถมยังเอาแต่ใจ กวนประสาท ชอบสั่ง แล้วก็บ้าตุ๊กตามากกว่าที่ึิผมคิดเอาไว้

ว่าแต่...ให้ผมเลือกตุ๊กตาไปทำไมกัน จะเอาไปให้ใครหรือเปล่านะ

ผมได้แต่ครุ่นคิดในใจ โดยที่สายตาก็เฝ้ามองรถเมล์ที่รอคอย ซึ่งไม่รู้จะผ่านมาเมื่อไหร่ไปด้วย



@@@@@@@@@@



"พวกมึงมาถึงยังาะ"

[ถึงสักพักแล้ว ก็รออยู่เนี่ย]

"เออ เจอกันหน้าโรงหนัง"

ลิงก์วางสายจากพล หลังจากเห็นว่ารุ่นน้องที่แอบเดินตามหลังมาขึ้นรถเมล์สายหนึ่งไปเรียบร้อย เขาก็เดินกลับเข้าไปในห้างอีกครั้ง โดยที่มือข้างหนึ่งถือถุงที่ใส่ต๊กตาไว้

ลิงก์เดินขึ้นบันไดเลื่อนอย่างไม่รีบร้อน เขากวาดสายตามองไปเล็กน้อย ก็เจอเพื่อนสนิทสองคนมายืนรออยู่แล้ว พวกเขามีนัดดูหนังด้วยกัน

"แล้วนี่มึงไม่ไปส่งน้อง?"

"ทำไมต้องไปส่งวะ โตแล้วกลับเองได้แล้ว"

พลส่งสาตาหมั่นไส้มาให้เพื่อนสนิทที่ปากดีทุกครั้ง ก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังถุงใบใหญ่ที่อีกฝ่ายถืออยู่

"ซื้อมาอีกแล้ว ปีนี้มึงหมดลิมิตไปแล้วไม่ใช่เหรอ"

ลิงก์ขมวดคิ้วออกมา ยิ่งเขานึกถึงลิมิตที่พ่อยื่นคำขาดมาให้ก็ยิ่งขัดใจ ถึงจะเข้าใจเหตุผลว่า มันมากเกินไปแล้ว เดิมทีพ่อสั่งห้ามซื้อเพิ่มอีก แต่ป๊าก็ช่วยพูดให้จนซื้อได้ปีละสองตัวเท่าน้้น ซึ่งวิธีการนี้ก็คล้ายๆ กับการบำบัดบางอย่างที่ค่อยๆ ลดปริมาณเพื่อให้เลิกเองในที่สุด

แต่คนมันชอบอ่ะ! ไม่เลิกง่ายๆ หรอก!

"อันนี้ของน้อง"

"ของน้องแล้วทำไมไม่ให้น้องไปล่ะ"

"น้องไม่ชอบตุ๊กตา แต่กูชอบไง"

"ชอบอะไร ชอบตุ๊กตาหรือชอบน้อง"

ลิงก์มองสีหน้ากวนประสาทของพล แล้วชักสีหน้าโดยไม่ตอบอะไร ก่อนจะหันไปทางเพื่อนอีกคนที่ยืนเงียบราวกับไม่มีตัวตน

"แล้วมึงยังไงเนี่ย ยืนเป็นผีเลยมึง"

"ไม่ต้องสนใจกู"

ทีตีหน้าเซ็งออกมา ก่อนจะเดินไปซื้อของกินเพื่อเพิ่มอรรถรสในการดูหนัง ลิงก์มองตามเพื่อนที่เป็นเสือซ่อนเล็บ ซึ่งมักจะมีปัญหาเรื่องคู่ขาตบตีแย่งชิงจนน่าปวดหัวเป็นประจำ แล้วหันไปหาคนที่ยืนอยู่ด้วยกันต่อ

"ตกลงน้องโอเคไหม สำหรับมึง"

"ก็...โอเคมั้ง"

ลิงก์นิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามทีที่เดินนำเข้าโรงหนังไปก่อน เขาไม่ได้สนใจของกินอย่างทุกที เพราะตอนนี้ในอ้อมแขนมีตุ๊กตาตัวหนึ่งอยู่



TBC+++++++++
Marionetta
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ตอนหน้าจะทอยมาเรื่อยๆ จ้า เอาใจช่วยน้องกันด้วยน้า
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 1 - 05/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 06-03-2019 14:36:15
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 2 - 06/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-03-2019 15:28:31
 :L2: :pig4:

ตลกพี่Link
ความเพี้ยนได้มาจากเล้งใช่ไหม55
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 2 - 06/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 09-03-2019 14:11:01
Level 3: ตุ๊กตาหน้ารถ





ผมมองดูหน้าแชทในไลน์ของพี่ลิงก์ เราสองคนไม่ได้ส่งข้อความอะไร นอกจากการโทรติดต่อกันเมื่อวานนี้เท่านั้นครับ หลังจากหาข้าวกินในตอนเช้าเสร็จ ผมก็เริ่มดูหนังที่ค้างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานต่อ ผมใช้เวลาไปจนถึงเย็น ก่อนจะตัดสินใจชวนเป็ดไปกินข้าวเย็นด้วยกัน

ในระหว่างที่ผมนั่งรอข้าวจากป้าแม่ค้า ผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นฆ่าเวลา ผมไม่ค่อยอัปเดตเรื่องราวน่าเบื่อของตัวเองในโซเชียลเน็ตเวิร์กเท่าไหร่นัก โดยส่วนใหญ่ก็ใช้คิดคามเรื่องของพี่ลิงก์มากกว่า

ผมเปิดเฟซบุ๊กเล่นไปตามปกติ ก่อนจะสะดุดกับกระทู้ล่าสุดของพี่ลิงก์ที่อัปเดตตั้งแต่เมื่อคืนวาน

-งดตอบคำถาม-

ผมกะพริบตาอ่านข้อความซ้ำอีกครั้ง คอมเมนต์มากมายที่ต่อท้ายกระทู้นี้มีทั้งความสงสัยและอยากรู้ ผมทำความเข้าใจอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้แน่ชัดจะก่อตัวขึ้น

นี่มันหมายความว่า...

"เฮ้ย! ข้าวมาแล้ว มัวแต่เล่นมือถืออยู่นั่นแหละ"

ผมเงยหน้าจากจอของโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือ แล้วมองเป็ดที่กำลังส่งสายตาตำหนิมาให้ ตอนนี้ผมไม่ได้อยากกินข้าว แต่อยากทำความเข้าใจกับข้อความของพี่ลิงก์มากกว่าครับ

"มึงว่า ทำไมพี่ลิงก์งดตอบคำถามวะ"

“ตอบคำถามอะไรของมึงอีกล่ะ"

เป็ดทำสีหน้ารำคาญ แต่ก็ยอมสานต่อบทสนทนาของผม

"ก็คำถามเวลาจะขอเป็นแฟนไง ที่กูเคยเล่า"

"แล้วมึงจะงงอะไร ถ้าเขาไม่ให้ตอบ ก็แสดงว่าเขาคงหาแฟนได้แล้วมั้ง"

"ฮะ?!"

ผมเบิกตากว้าง เมื่อคิดตามคำพูดของเป็ดก็เข้าใจได้ในทันที ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะหยิบช้อนกับส้อมมาเขี่ยข้าวผัดหมูในจานอย่างหงอยเหงา

"อยากรู้จังว่าใครเป็นผู้โชคดี"

เป็ดถอนหายใจออกมา ก่อนน้ำเสียงที่เหนื่อยใจปนระอาจะดังขึ้น

"เอาน่า กินข้าวเถอะ คิดไปมึงก็ไม่อิ่มหรอก"

"แต่กูกินไม่ลงแล้ว"

"ไม่ลงก็ต้องกิน อย่าให้กูต้องใช้กำลัง"

ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะจำใจตักข้าวผัดที่ไร้รสชาติอย่างเชื่องช้า ถึงจะรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ได้รับรู้ แต่การถูกเป็ดใช้กำลังมันแย่ยิ่งกว่า

ทั้งที่ตัวก็มีขนาดไม่ต่างกัน แต่ลูกบ้าของมันมีเยอะจนน่ากลัวครับ

ผมยังค้างคาใจกับข้อความที่สร้างกระแสปั่นป่วนให้กับกลุ่มแฟนคลับ มีหลายคนที่พยายามหาคำตอบและเรียกร้องถึงเจ้าของข้อความให้มาอธิบาย แต่ก็อย่างที่รู้กันดีว่า พี่ลิงก์ไม่ได้สนใจ เขาไม่ใช่ดาราที่ต้องรักษาภาพลักษณ์หรือแจ้งทุกเรื่องราวให้สาธารณชนได้รับรู้

ผมขมวดคิ้ว ทั้งที่เมื่อวานเพิ่งไปกินข้าวด้วยกันแท้ๆ แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

ช่างเถอะ...คิดมากไปก็เท่านั้น

แฟนคลับก็เป็นได้แค่แฟนคลับ ถ้าพี่ลิงก์จะรักใครหรือคบกับใครจริงจัง ผมก็ควรยินดีกับเขาไม่ใช่เหรอ


@@@@@@@@@@



วันแรกของสัปดาห์เริ่มขึ้นไม่ต่างจากปกติ ผมเดินออกจากหอพักในตอนสิบเอ็ดโมงกว่า ตั้งใจจะมากินข้าวที่โรงอาหารแล้วก็ไปดักเจอพี่ลิงก์ที่มีเรียนตอนบ่ายอย่างที่เคย

ในขณะที่ผมกำลังเดินเอื่อยอยู่ริมถนน เสียงแตรรถที่ดังขึ้นไล่หลังก็ทำให้ผมต้องหันกลับไปมอง ก่อนสายตาจะเบิกกว้างขึ้น เมื่อผมจำรถคันนี้ได้

โฟล์คบีเทิลของพี่ลิงก์!

สิ่งที่ทำให้ผมแน่ใจยิ่งกว่าคือใบหน้าของคนขับที่ลดกระจกลง พี่ลิงก์มองผม ก่อนจะถามขึ้น

"จะไปเรียนเหรอ"

"อ่า...ครับ"

"ขึ้นมาสิ เดี๋ยวไปส่ง"

ผมได้แต่ยืนตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนกระทั่งได้รับสายตาเร่ง ผมเลยต้องรีบพยักหน้ารัวๆ ด้วยหัวใจที่เต้นแรง ทว่าในขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ ก็พบว่ามีตุ๊กตาหน้ารถจับจองอยู่ก่อนแล้ว

'ตุ๊กตาหน้ารถ' ในที่นี้ไม่ได้เปรียบเปรยถึงบุคคลที่ได้นั่งคู่กับพี่ลิงก์ แต่เป็นตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่กำลังนั่งอยู่ แถมยังคาดเข็มขัดนิรภัยพร้อมอีกด้วย

"เร็วๆ เกะกะทางคนอื่นเขา"

ผมนึกลังเลว่า ควรจะทำยังไงกับชีวิตที่กำลังสับสนหนักอยู่ตอนนี้ดี แต่เพราะถูกเจ้าของรถเร่งและไ่ม่กล้าถือวิสาสะทำอะไรโดยพลการ ผมเลยตัดสินใจเลื่อนเบาะรถ แล้วย้ายตัวเองไปนั่งด้านหลัง โดยที่มีสายตาสีดำมองตามโดยไม่ได้พูดอะไร

"ปิดประตูด้วย"

"ครับๆ"

ผมต้องโค้งตัวเอื้อมมือไปคว้าประตู หลังจากกดเลื่อนเบาะหน้าที่มีเจ้าของนั่งอยู่ ถ้าเป็นคนก็คงหัวทิ่มคอเคล็ดไปแล้ว เมื่อจัดการปิดประตูอย่างทุลักทุเลได้สำเร็จ พี่ลิงก์ก็ขับรถต่อ แต่ไม่ได้ไปส่งผมที่คณะอย่างที่คิดเอาไว้หรอกนะครับ เพราะตอนนี้รถกลับวนออกจากมหาวิทยาลัยแทน

เอ่อ...พี่จะพาผมไปส่งที่ไหนครับ คือผมจะไปเรียน ไม่ได้จะกลับบ้าน!

ผมก็ได้แต่บอกกับอีกฝ่ายในใจ แต่ก็ยังคงท่าทางนิ่งสงบ ถึงแม้สายตาจะเหลือบมองไปรอบด้านเหมือนคนตื่นตระหนกที่โดนหลอกจับมาก็ตาม

พี่ลิงก์อาจจะอยากแวะซื้ออะไรก่อน แล้วค่อยวนรถกลับไปส่งผมใหม่ก็ได้...มั้ง

ผมได้แต่หาคำตอบกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในใจ แล้วผ่อนลมหายใจที่คิดขัดเมื่อครู่นี้ให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

ภายในรถมีเสียงเพลงสากลดังผสานกับความเย็นของแอร์ ผมลอบมองคนขับที่ยังไม่ได้พูดอะไรเล็กน้อย แล้วมองไปนอกหน้าต่างด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่าน

ผมก็รู้สึกโชคดีอยู่หรอกที่มีโอกาสได้ขึ้นรถของพี่ลิงก์จนอยากจะถ่ายรูปไปอวดคนอื่นบ้าง แต่ว่าผมก็ยังรู้สึกตั้งตัวไม่ทันจนทำอะไรไม่ถูก ผมมองวิวข้างหน้าต่างที่กำลังเปลี่ยนไปตามเส้นทางที่ออกห่างจากมหาวิทยาลัยมากไปทุกที

ถึงแม้ภายในรภจะไม่ได้เงียบสนิทเพราะมีเสียงเพลงที่ช่วยสร้างบรรยาดาศ แต่ความอึดอัดก็ยังหนาแน่นจนรู้สึกเกร็งไปหมด ผมเองก็ไม่ใช่คนคุยเกง แต่จะให้นั่งนิ่งเฉยไม่รับรู้อะไรก็คงไม่ได้

ผมเลยตัดสินใจหันไปมองตุ๊กตาหมียักษ์สีน้ำตาลอ่อนที่ใส่ชุดกระโปรงสีฟ้า แถมบนหัวยังมีโบว์อันใหญ่สีเดียวกันติดอยู่

อีม... จะมีสักกี่คนที่พาตุ๊กตาหมีมานั่งแบบนี้วะ ไม่สิ! จะมีคนทำอะไรแบบนี้หรือเปล่า

ผมได้แต่ครุ่นคิดกับตัวเองพร้อมกับมองตุ๊กตาหมีจากเบาะหลัง แล้วก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อได้ยินเสียงของพี่ลิงก์ดังขึ้นมากระทันหัน

"มองเฮเลนทำไม"

ผมสบสายตาเรียบเฉยของพี่ลิงก์อย่างประหม่า ก่อนจะรีบตอบปฏิเสธทันที

"เปล่าครับ"

"ก็เห็นอยู่ ยังจะแก้ตัวอีก"

พี่ลิงก์ว่า ก่อนจะหันกลับไปสนใจถนนเบี้องหน้าอีกครั้ง ผมถึงเพิ่งรู้ว่า ตอนนี้ตัวเองกำลังติดอยู่ตรงสีแยกไฟแดงที่มีรถติดแน่นขนัด

"เฮเลนมีผัวแล้ว มึงไปมองแบบนั้นไม่ได้ เข้าใจป่ะ"

ฮะ?!

ผมได้แต่แสดงสีหน้างุนงงออกมา พี่ลิงก์หันกลับมามองผมอีกครั้ง ใบหน้าหล่อแสดงความเหนื่อยหน่ายใจ

"นี่มึงไม่รู้?"

แล้วใครจะไปรู้เรื่องแบบนี้วะ?!

ผมได้แต่ตอบอยู่ในใจโดยไร้คำพูด พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมาพร้อมสายตาทิ่มแทงราวกับผมเป็นคนโง่ที่ไม่รู้เรื่องอะไร

"ผัวเฮเลนก็ปารีสไง มึงไม่รู้เรื่องทรอยเหรอ"

"เอ่อ..."

ผมรู้เรื่องทรอยครับพี่ ดูหลายรอบด้วย แต่ไม่นึกว่าเฮเลนแห่งทรอยจะกลายร่างเป็นตุ๊กตาหมีผูกโบว์สีฟ้าไปแล้ว!

สรุปว่าผมชอบคนบ้าหรือเปล่าครับเนี่ย กลับตัวกลับใจยังทันไหม!!

"เดี๋ยวกูส่งลิงก์หนังไปให้ดูแล้วกัน"

"อ่า...ครับ"

ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อพี่ลิงก์กลับไปสนใจการขับรถอีกครั้ง ผมมองวิวข้างทาง ก่อนจะตัดสินใจถามคำถามที่ควรถามตั้งแต่แรก

"พี่จะพาผมไปไหนหรือครับ"

พี่ลิงก์ส่งสายตามองผมผ่านกระจกมองหลัง ก่อนเสียงเหน็บแนมจะดังขึ้น

"คิดวาจะไม่ถาม"

นี่ผมผิดอีกแล้วหรือครับ!

ผมไม่กล้าพูดอะไรโต้ตอบไปอีก ความเงียบเดินทางอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนที่พี่ลิงก์จะตอบคำถามของผม

"กูจะพาเฮเลนไปอาบน้ำ"

"ครับ"

ถ้ามีธุระ แล้วจะพาผมไปด้วยทำไมเนี่ย!

หลังจากฝ่าการจราจรที่ติดขัดในช่วงเที่ยงวันมาสักพัก พวกเราก็มาถึงร้านซักรีดขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง พี่ลิงก์ดับเครื่องและลงจากรถ ก่อนที่เขาจะเดินมาอุ้มเฮเลน แล้วหันมามองผม

"จะลงมาไหม"

"ลงครับ"

แหม...ก็ดับเครื่องไปแล้ว จะให้ผมหายใจไม่ออกตายอยู่ในรภหรือไงครับ!

ผมพาตัวเองออกจากรถ แล้วเดินโง่ตามพี่ลิงก์ที่อุ้มตุ๊กตาหมียักษ์ที่ชื่อเฮเลนเข้าไปในร้าน

ว่าแต่...แล้วปารีสไม่มาอาบน้ำด้วยกันเหรอ?

โอ๊ย! นี่ผมยังไม่ได้เพี้ยนใช่ไหมครับ สมองของผมยังปกติดีอยู่ใช่ไหม!

"สวัสดีค่ะคุณลิงก์"

พนักงานร้านยกมือไหว้พร้อมกับเอ่ยทักทายอย่างคนคุ้นเคย พี่ลิงก์ก็ยิ้มรับ

"สวัสดีครับ รบกวนด้วยนะครับ"

"ด้วยความยินดีค่ะ"

พี่ลิงก์ส่งเฮเลนไปให้พนักงาน ก่อนจะหยิบคูปองแทนค่าบริการให้

"ขอบคุณค่ะ อีกสองวันมารับนะคะ"

"ได้ครับ"

พนักงานยกมือไหว้ลา ก่อนที่พี่ลิงก์จะเดินนำผมออกไปจากร้านตรงไปยังโฟล์คสีดำที่จอดเด่นอยู่ตรงลานจอดรถ เมื่อเดินมาถึงจุดหมาย ความตื่นเต้นของผมที่หลับใหลอยู่ก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

"อ้าว! จะยืนนิ่งทำไม หรือจะอยู่ที่นี่?"

ผมรีบพยักหน้ารับพร้อมกับเปิดประตูเพื่อนั่งลงตรงเบาะข้างคนขับ หลังจากปิดประตูและคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย พวกเราก็ออกเดินทางกันอีกครั้ง

ผมมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ กว่าจะไปถึงคณะก็ไม่แน่ใจว่าจะมีเวลากินข้าวหรือเปล่า เพราะดูเหมือนว่ารถจะติดไม่ใช่เล่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรหรอกครับ บางครั้งความอิ่มใจก็สามารถทดแทนความอิ่มท้องได้ครับ

ผมลอบมองพี่ลิงก์ที่กำลังสนใจถนนเบื้องหน้า แล้วหันไปมองนอกหน้าต่างพลางอมยิ้มกับตัวเอง โดยที่มีเพลงสากลจังหวะฟังสบายคลายความเงียบ

ตอนนี้ตุ๊กตาหน้ารถของพี่ลิงก์ไม่ใช่เฮเลนแห่งทรอยแล้ว แต่เป็นบลู เด็กวิทย์คอมปีสองครับ!

ให้ตายเถอะ! อยากจะถ่ายคลิปอวดจริงๆ นะเนี่ย



@@@@@@@@@@



โฟล์คบีเทิลคันสวยมาจอดที่หน้าคณะของผมในเวลาเที่ยงห้าสิบนาทีโดยประมาณ ผมหันไปขอบคุณพี่ลิงก์ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ และเมื่อผมลงจากรถมาเรียบร้อยก็ต้องชะงักเพราะรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นเข้ามาเล่นงาน

ผมเหลือบมองโดยรอบครั้งเดียว แล้วรีบเดินไปทางโรงอาหารโดยไม่ได้สนใจใครอีก ตอนนี้ยังพอมีเวลาซื้อของกินเล็กน้อยมาใส่ท้องก่อนขึ้นเรียนครับ

ผมแกะแซนด์วิซทูน่าพร้อมกับครุ่นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ไปด้วย ก่อนความคิดจะถูกขัดขวางเพราะเสียงไลน์ที่ดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก็พบว่ามีข้อความส่งมาจากพี่ลิงก์ครับ

พี่ลิงก์ส่งลิงก์หนังออนไลน์เรื่องทรอยมาให้ผมพร้อมกับข้อความ

LINK
อย่าลืมดู

ผมส่งสติกเกอร์โอเคเป็นการตอบรับ แต่ไม่ได้กดตามลิงก์ของเว็บไซต์เข้าไปหรอกนะครับ ก็ผมเคยดูหนังเรื่องนี้หลายรอบแล้ว

"มาช้า"

เป็ดทักขึ้นมาทันที เมื่อผมนั่งลงที่โต๊ะข้างมัน ผมก็แค่ยักคิ้วรับไปตามประสา

"เกิดเรื่องนิดหน่อย เดี๋ยวเล่าให้ฟัง"

"ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่ลิงก์ของมึง ไม่ฟังได้ไหม เบื่อ"

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ กับท่าทางของเป็ด แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ตั้งใจจะเล่าเรื่องของพี่ลิงก์ให้อีกฝ่ายฟังอยู่ดีนั่นแหละครับ
ก็ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนเดียวนี่ครับ


@@@@@@@@@@



"ทำไมมาช้าวะ ไหนบอกว่าออกมาตั้งนานแล้ว"

"กูพาเฮเลนไปอาบน้ำ"

พลทำหน้าตายใส่เพื่อน ก่อนจะถอนหายใจออกมา

"ไหนบอกว่าจะไปตอนเย็น"

"ก็เปลี่ยนใจไง"

ลิงก์ไม่ได้สนใจเพื่อนสนิทอีก เขายกขวดชาเขียวที่เพิ่งซื้อจากเซเว่นขึ้นดื่ม แล้วเลื่อนสายตาไปมองทีที่พูดขึ้น

"แต่มีคนเห็นรถมึงไปจอดส่งคนที่หน้าคณะวิทย์"

"แล้วไงวะ กูจะไปส่งใครแล้วมันมีปัญหาอะไร"

ทีหันมาสบตากับลิงก์ เขายักไหล่โดยไม่ได้โต้ตอบบทสนทนาอีก ต่างจากพลที่แสดงท่าทางอยากรู้ชัดเจน

"แล้วมึงไปส่งใคร ไหนบอกไม่ให้ใครขึ้นรถนอกจากตุํกตาของมึงไง"

"ถ้าโง่ก็ไม่ต้องรู้หรอก"

"อ้าว! ไอ้สัตว์ลิงก์"

พลชักสีหน้าออกมา แล้วหันไปทางทีที่นั่งเงียบเล่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่

"แล้วมึงรู้ได้ไงวะที"

"กูฉลาด"

"ไอ้พวกเหี้ย! บอกกูมา! กูอยากรู้เรื่องบ้าง!"



TBC+++++++++
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 2 - 06/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 09-03-2019 14:15:04
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 3 - 09/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: catka12 ที่ 09-03-2019 14:29:01
 o13 ติดตามอ่านค่ะ  o13 พี่Link แอบมุ้งมิ้ง นะเนี่ย  :hao7: น่ารักดีค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 3 - 09/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-03-2019 15:01:53
พี่ลิงค์ เพี้ยนนนน

 :m20:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 3 - 09/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-03-2019 17:35:55
  :m20:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 3 - 09/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 10-03-2019 12:21:32
 o13 :really2:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 3 - 09/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 10-03-2019 18:53:51
รอจ้า ^^
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 3 - 09/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-03-2019 22:01:37
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 3 - 09/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 11-03-2019 14:07:50
Level 4: ชื่อเล่นเฉพาะ







LINK

พรุ่งนี้เลิกกี่โมง

ผมมองข้อความที่เพิ่งส่งเข้ามาด้วยความแปลกใจ ก่อนจะรีบตอบกลับทันที โดยไม่ได้สนใจว่าพี่ลิงก์จะถามไปทำไม

Blue++

เลิก 4 โมงครับ

LINK

พรุ่งนี้เลิกเรียน มึงไปรับเฮเลนให้หน่อย

ผมนิ่งงันไปเล็กน้อย ก่อนจะนึกถึงเฮเลนตุ๊กตาหมียักษ์ของพี่ลิงก์ที่เพิ่งส่งไปให้ร้านทำความสะอาดเมื่อวันก่อน และกำหนดที่จะได้รับคืนก็คือวันพรุ่งนี้ครับ

แล้วทำไมพี่ไม่ไปเอาเองล่ะครับ มันใช่เรื่องของผมไหม?

อาจเป็นเพราะผมนิ่งเงียบไปนาน อ่านแล้วไม่ยอมตอบ พี่ลิงก์เลยโทรไลน์เข้ามาแทน ผมตกใจก็รีบกดรับทันที

"ครับพี่"

[จำร้านได้ใช่ไหม ถ้าไปไม่ถูก เดี๋ยวกูส่งโลเคชั่นไปให้]

"เอ่อ...คือว่า..."

[ทำไม มึงจะไม่ช่วย?]

ถ้าเป็นข้อความ ดาเมจอาจจะไม่รุนแรงแบบนี้ แต่เพราะได้ยินน้ำเสียงเข้มกึ่งตัดพ้อ ผมเลยพูดอะไรไม่ออก คำปฏิเสธจุกอยู่ที่คอหอยเลยครับ

ถ้าจะกดดันกันขนาดนี้ ผมจะไปขัดขืนได้ยังไง!

"เปล่าครับ ยังไงพี่ก็ส่งที่อยู่ร้านมาอีกทีนะครับ ผมจำไม่ได้แล้ว"

[อืม]

ผมถอนหายใจออกมา หลังจากนั้นโลเคชั่นของร้านซักรีดที่เพิ่งไปกับพี่ลิงก์เมื่อวันก่อนก็ถูกส่งมาผ่านหน้าจอแชท

[เห็นยัง]

"ครับพี่"

[โอเค แค่นี้แหละ]

ผมกะพริบตามองการติดต่อที่ขาดหายไป แล้วได้แต่นึกสงสัยกับตัวเอง

ทำไม? อะไร? ยังไงวะเนี่ย!!!




@@@@@@@@@@





วันนี้ผมไม่ค่อยมีสมาธิกับการเรียนเท่าไหร่นัก ยิ่งช่วงเลิกเรียนเดินทางมาถึง จิตใจของผมก็พะวงถึงภารกิจในวันนี้ หลังเลิกเรียนผมได้รับหน้าที่ให้ไปรับเฮเลนแห่งทรอยกลับครับ

ว่าแต่...รับกลับไปไหนวะ?!

"เป็นอะไร"

เป็ดหันมาถาม หลังจากที่เห็นสีหน้าเคร่งเครียดของผม

"เย็นนี้กูต้องไปเอาของที่ร้านนี้ว่ะ มึงรู้จักป่ะ"

ผมเลื่อนหน้าจอที่แสดงที่อยู่ของร้านซักรีดให้เพื่อนดู เป็ดมองอยู่สักพัก ก่อนจะเงยหน้ามามองผม

"ไม่รู้จัก ว่าแต่มึงไปเอาอะไรวะ มีใครใช้บริการที่นั่นเหรอ"

"กูไปเอาตุ๊กตาให้พี่ลิงก์ ก็ตัวที่เล่าให้ฟังเมื่อวันก่อนไง"

ผมถอนหายใจออกมาเล็กน้อย แล้วเล่าเรื่องราวที่เพิ่งได้รับคำสั่งมาเมื่อคืนนี้ให้เป็ดฟัง

"แล้วทำไมมึงต้องไปเอาให้ มึงเป็นเบ๊พี่เขาหรือไงวะ"

"เออ ก็ไม่รู้ว่ะ"

ผมนึกปลงหนัก ถึงช่วงนี้จะได้เจอพี่ลิงก์บ่อย แถมยังเคยไปกินข้าวแล้วก็นั่งรถของเขาอีก แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตัวเองอยู่ในสถานะอะไรของอีกฝ่ายกันแน่

บางทีอาจจะเป็นรุ่นน้องที่เพิ่งรู้จักและใช้งานได้ล่ะมั้ง...

เอาเป็นว่า...ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน เสียงของพี่ลิงก์ในตอนนั้นก็ทำให้ผมปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละครับ

"ไม่รู้ก็ไม่ต้องไปป่ะ มึงไม่ใช่ขี้ข้าพี่เขานะ ที่ใช้อะไรก็ต้องไป หรือพี่เขาจ้างมึง? "

"เปล่า แต่แบบว่า..."

"มึงโง่หรือบื้อว่ะเนี่ย กูสรุปให้ มึงไม่ต้องไป ไม่ใช่เรื่องของมึงเลย"

เป็ดบอกเสียงเข้ม ผมก็ถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ

"ไม่ได้เว้ย กูรับปากไปแล้ว ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่เคยพากูไปเลี้ยงข้าวครั้งก่อนแล้วกัน"

"ไอ้บลู! "

"ไม่เป็นไรหรอก กูก็แค่กลัวไปไม่ถูกแค่นั้นแหละ"

ผมไม่ค่อยได้ไปไหนเท่าไหร่ครับ ชีวิตวนเวียนอยู่กับเส้นทางเดิมๆ พอต้องออกนอกเขตเซฟโซนเลยเหวอไปหน่อย กลัวหลงทางแล้วบอกไม่ถูกว่าหลงอยู่ตรงไหนด้วย แฮะๆ

"หลงผู้ชายนะมึง เฮ้อ...เอางี้เดี๋ยวกูไปส่ง"

"เฮ้ย! ไม่เป็นไรๆ มันไม่สะดวกหรอก ตัวมันใหญ่มากมึง เกือบเท่าคนอ่ะ มอเตอร์ไซค์เอากลับมาไม่ไหวแน่ ต้องแท็กซี่อย่างเดียว"

"ทำไมมึงต้องลำบากแบบนั้นด้วยวะ งั้นเดี๋ยวกูนั่งแท็กซี่ไปเป็นเพื่อนแล้วกัน"

"เกรงใจว่ะ"

เป็ดส่งสายตารำคาญมาให้ผม ก่อนจะเอ่ยเสียงเข้มมากกว่าเดิมสองเท่า

"เราเป็นเพื่อนกัน จะเกรงใจทำเหี้ยไร แค่นี้ยังทำให้กูหงุดหงิดไม่พอเหรอ"

"มึงก็ขึ้นง่ายไปนะ"

เป็ดถอนหายใจออกมาอย่างขัดใจ ผมก็ตบไหล่ของเพื่อนเบาๆ แล้วส่งยิ้มบางไปให้

"ไม่ต้องห่วง กูไปได้อยู่แล้ว เพื่อนมึงไม่ใช่เด็กประถม"

"ตามใจ มีอะไรก็โทรบอกแล้วกัน ขี้เกียจเซ้าซี้แล้ว"

"ขอบใจเว้ย"

"เออ"





@@@@@@@@@@




หลังจากเลิกเรียน ผมก็เดินไปเรียกเท็กซี่แล้วส่งที่อยู่ให้พี่คนขับครับ ช่วงเย็นรถค่อนข้างติดมาก กว่าจะเดินทางไปถึงก็เกือบหกโมงเย็นแล้ว ผมรีบเดินเข้าไปในร้านซักรีดที่ยังเปืดให้บริการ ก่อนจะตรงไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับที่มีพนักงานยืนอยู่

"สวัสดีครับ ผมมารับตุ๊กตาของคุณอชิตะครับ"

"รอสักครู่นะคะ"

พนักงานกดโน้ตบุ๊กตรงเคาน์เตอร์ครู่หนึ่ง แล้วเงยหน้ามายิ้มให้ผม

"ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรคะ"

"ปณิธานครับ"

"ค่ะ คุณบู้นะคะ"

"ฮะ...เอ่อ.. เดี๋ยวนะครับ ไม่ใช่บู้ครับ ผมชื่อบลู"

ผมยิ้มแห้งส่งให้พนักงาน เธอก็ทำสีหน้าตกใจ ก่อนจะหันไปมองหน้าจอโน้ตบุ๊กอีกครั้ง

"คุณลิงก์แจ้งมาว่า คุณปณิธานหรือคุณบู้จะมารับของแทน แล้วยังกำชับมาว่า ถ้าไม่ใช่คุณบู้ห้ามเอาของให้เด็ดขาดค่ะ"

ผมหน้าเหวอไปครู่หนึ่ง แล้วขมวดคิ้วออกมา หรือว่าพี่ลิงก์จะจำชื่อผมผิด แต่ในไลน์ก็เขียนชื่อชัดอยู่ ผมถอนหายใจออกมาพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาติดต่อหาพี่ลิงก์ด้วยความร้อนใจ

[ว่าไง]

"ผมมาถึงร้านแล้วนะพี่ แต่เขาไม่ให้ของอ่ะ พี่แจ้งชื่อผมผิด"

[ไม่ผิดนะ เอามือถือให้กูคุย]

ผมส่งโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้พนักงานคุยกับพี่ลิงก์โคยตรง เธอตอบรับบทสนทนาอย่างสุภาพ แล้วส่งยิ้มให้ผมเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ส่งอุปกรณ์สื่อสารคืนให้ผม

"กรุณารอสักครู่นะคะ"

"ครับ"

ผมนั่งรอที่โซฟาได้ไม่นาน เฮเลนที่ถูกบรรจุหืบห่ออย่างดีก็ถูกนำมาส่ง ผมมองตุ๊กตาตัวใหญ่อย่างปลงตก

"ขอบคุณครับ"

"ด้วยความยินดีค่ะ"

ผมอุ้มเฮเลนไว้เต็มอ้อมแขน แล้วมองไปยังหน้าร้านที่ท้องฟ้ากลายเป็นสีเข้ม การจราจรข้างนอกยังติดขัดไม่ต่างจากความคิดในสมองของผม

"แล้วจะเอากลับยังไงวะเนี่ย"

ผมบ่นกับตัวเอง คำตอบที่ได้ก็คงต้องพึ่งพาแท็กซี่เหมือนขามา แต่ก็ไม่รู้ว่าเวลาแบบนี้จะมีปัญหาเรื่องพี่โชเฟอร์ไม่รับลูกค้าหรือเปล่า แล้วถ้าผมต้องยืนรอรถอยู่ข้างถนนเป็นชั่วโมงคงเลวร้ายน่าดู

ปัญหาเรื่องการเดินทางยังไม่สำคัญเท่ากับปัญหาเรื่องการจัดส่ง ผมคงต้องถามพี่ลิงก์ก่อนว่า จะให้เอาเฮเลนไปส่งให้ที่ไหน หรือว่าจะฝากไว้ที่หอของผมก่อน?

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้ง ทว่ายังไม่ทันได้ติดต่อหาพี่ลิงก์ อีกฝ่ายก็โทรเข้ามาเสียก่อน

"ครับพี่ลิงก์"

[มึงอยู่ไหน ออกจากร้านมาหรือยัง]

"ยังครับ ผมกำลังจะโทรหาพี่เลย จะให้ผมเอาเฮเลนไปให้ที่ไหนครับ"

[กูถึงร้านแล้ว]

ผมเลิกคิ้วขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดของปลายสาย ผมมองออกไปนอกร้าน แล้วก็เห็นโฟล์คบีเทิลสีดำเข้ามาที่ลานจอดรถหน้าร้านซักรีด ผมกดวางสาย ก่อนจะอุ้มเฮเลนเดินออกไปจากร้าน

พี่ลิงก์ลงมาจากรถ ถึงแม้ตอนนี้ความมืดจะปกคลุมจนมองอะไรไม่ชัดเหมือนตอนที่พระอาทิตย์ยังทำงานอยู่ แต่รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อที่ถูกอำพรางเอาไว้ก็ทำให้ผมใจเต้นแรงได้อย่างง่ายดาย

พี่ลิงก์ไม่ได้เอาตุ๊กตาของตัวเองไปจากอ้อมแขนของผม มือหนาที่ยื่นมาตรงหน้าสัมผัสลงบนหัวของผม แล้วลูบไปมาอย่างอ่อยโยน

"ขอบใจนะ "

ผมยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว แล้วพยักหน้ารับรัวๆ พร้อมกับเผลอกอดตุ๊กตาหมีในอ้อมแขนแน่นกว่าเดิม ช่วงเวลานี้เหมือนกับทุกอย่างรอบตัวของผมหยุดลงและกลับสู่ปกติอีกครั้ง หลังจากความอบอุ่นจางหายไป พี่ลิงก์ไม่ได้ขอเฮเลนตืนจากผม แต่เดินนำผมกลับขึ้นรถของตัวเองแทน

"เดี๋ยวกูพาไปเลี้ยงข้าว"

"ครับ"

ผมเดินไปเปิดรถตรงฝั่งด้านข้างคนขับ ความคิดก็ชะงักอีกครั้ง เมื่อได้มองเบาะที่อยู่ตรงหน้า

ผมต้องให้ตุ๊กตานั่งหน้าหรือเปล่าวะ?

คงเพราะท่าทางของผม พี่ลิงก์ที่นั่งประจำที่เรียบร้อยแล้วก็หันมามอง ก่อนที่น้ำเสียงเรียบเฉยและท่าทางซังกะตายจะแสดงผ่านออกมาทางสีหน้า

"จะนั่งได้หรือยัง รออะไรอยู่เหรอ"

"เอ่อ...คือแล้ว..."

"มึงอยากนั่งตรงไหนก็นั่ง เร็วๆ "

"ครับๆ "

ผมยิ้มแหยกับท่าทางรำคาญของพี่ลิงก์ จากคำอนุญาตของเจ้าของรถ ผมเลยถือวิสาสะเชิญเฮเลนไปนั่งด้านหลังแทน ส่วนตัวเองก็ตีเนียนนั่งข้างคนขับด้วยหัวใจที่เบิกบาน หลังจากที่ผมคาดเข็มขัดนิรภัยแล้ว โฟล์คบีเทิลก็วิ่งไปยังถนนใหญ่ที่มีการจราจรหนาแน่น

วันนี้พี่ลิงก์ไม่ได้เปิดเพลง ความเงียบภายในรถเริ่มทำให้ผมทำตัวไม่ถูก ผมหันไปมองวิวข้างทางพร้อมกับคิดถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

อ่า...เมื่อกี้พี่ลิงก์ลูบหัวด้วยอ่ะ!

ผมอมยิ้มกับตัวเอง แล้วลองเอามือลูบๆ ตรงหัวที่เพิ่งถูกอีกคนสัมผัสอย่างอ่อนโยน รวมไปถึงรอยยิ้มที่แสนใจดีนั่นอีก ถ้าพี่ลิงก์จะละมุนแบบนี้ ต่อให้ต้องไปเอาของที่แม่ฮ่องสอน ผมก็จะไปครับ!

"อยากกินอะไร"

คำถามของพี่ลิงก์ ทำให้ผมต้องหันไปมอง ความเพ้อฝันที่จำลองในความคิดถูกทำลายลง เมื่อต้องนึกถึงมื้อเย็นที่กำลังจะมาถึง

"แล้วพี่อยากกินอะไรครับ ตามใจพี่เลย"

พี่ลิงก์มองผมเล็กน้อย แล้วพยักหน้ารับ ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง อาจเป็นเพราะบรรยากาศของอีกฝ่ายไม่ได้น่ากลัวจนไม่กล้าเอ่ยอะไร ผมเลยเริ่มต้นบทสนทนาขึ้นด้วยคำถามที่ยังสงสัยอยู่

"ในเมื่อพี่ก็มาที่ร้านอยู่แล้ว ทำไมต้องให้ผมมาอีกครับ"

พี่ลิงก์เลื่อนสายตามามองผม ก่อนจะกลับไปสนใจถนนเบื้องหน้าต่อ

"กูกลัวมาไม่ทัน เดี๋ยวร้านปิดก่อน"

"อ้อครับ แต่ถ้าไม่ทันจริงๆ ก็มาพรุ่งนี้ก็ได้นี่ครับ"

ผมคิดว่าทางร้านคงไม่มีปัญหา ถ้าหากลูกค้าจะติดธุระหรือไม่สะดวกมารับของตามกำหนดหรอกนะครับ

"กูทำแบบนั้นไม่ได้"

พี่ลิงก์หันมามองผมด้วยสายตาจริงจัง ผมก็เผลอเกร็งกับบรรยากาศที่เปลี่ยนไปกะทันหัน น้ำเสียงทุ้มหนักแน่นก็ดังขึ้น

"มึงลองคิดดู ถ้าหากมึงบอกกับเขาไว้ว่าจะมาวันนี้ แต่มึงไม่มา เขาจะรู้สึกยังไง เขาอาจจะไม่พูดอะไร แต่ในใจต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ แล้วแบบนี้มึงยังกล้าจะผิดสัญญาไม่มาเหรอ"

ผมได้แต่นิ่งเงียบ ก็พอจะเข้าใจสิ่งที่พี่ลิงก์บอกอยู่นะครับ แต่เผอิญว่า เรื่องที่กำลังพูดถึง มันหมายถึงตุ๊กตาตัวหนึ่ง

ตุ๊กตาหมีอ่ะครับ! พี่เข้าใจไหม อิท อีส อะ ดอล!

"สัญญาเป็นสิ่งสำคัญ มันไม่ใช่แค่ลมปาก แต่มันคือความคาดหวังของใครอีกคนด้วย เดี๋ยวกูส่งบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้มึงอ่าน จะได้ไม่ถามคำถามไร้หัวใจบบนั้นอีก"

"...ครับ"

โอ๊ย! ผมหลงชอบคนบ้าใช่ไหม!!!





@@@@@@@@@@





พี่ลิงก์พาผมมากินพิซซ่าที่ห้างในละแวกนั้นครับ พวกเราสั่งพิซซ่าถาดใหญ่กับของกินเล่นอีกเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่เจ้ามือก็เป็นคนสั่งเหมือนครั้งที่แล้วครับ

ทุกอย่างก็คงไม่มีอะไร ถ้าหากผมไม่ต้องอุ้มเฮเลนเดินเข้ามานั่งกินพิซซ่าด้วยกัน ไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนมองนะครับ เพราะถ้าไม่มีใครมองก็แปลกไปแล้ว!

ผมลอบถอนหายใจออกมา ยังคงนับเป็นความโชคดีที่พี่ลิงก์ยังมีสติพอที่จะไม่สั่งอาหารเผื่อเฮเลนที่กำลังนั่งอยู่ข้างผมนะครับ

ผมมองพี่ลิงก์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วตักผักโขมอบชีสขึ้นมากิน ส่วนอีกคนก็นั่งราดซอสมะเขือเทศบนพิซซ่าจนท่วม ดูน่ากลัวมากครับ แต่ภาพสยดสยองก็แปรเปลี่ยนไป เมื่อใบหน้าหล่อที่ใครหลายคนตามกรี๊ดกำลังเคี้ยวตุ้ยจนเต็มแก้ม แถมริมฝีปากย้งเปื้อนซอสจนเหมือนเด็กชวนให้เอ็นดูมากเลยครับ

"ซอสเปรอะอ่ะพี่"

ผมชี้ตำแหน่งที่บอกโดยอ้างอิงจากใบหน้าของตัวเอง พี่ลิงก์ก็มองตาม ก่อนจะเอานิ้วเช็ดตรงจุดที่ผมบอก แล้วดูดนิ้วนั้นด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ ผมก็ได้แต่มองตามเหมือนคนจิตหลุดไปแล้วครัย

ง่า...อยากดูดนิ้วนั้นบ้างอ่ะครับ

"เป็นอะไร"

เสียงของพี่ลิงก์ ทำให้ผมต้องกลืนน้ำลายตัวเอง แล้วหยิบพิซซ่าอีกชิ้นขึ้นมากินแก้เก้อ ผมไม่ชอบใส่ซอสครับ เพราะในความคิดของผม คือ พิซซ่ามันต้องกินแบบรสชาตืดั้งเดิมอะไรแบบนั้น

ผมรู้สึกอายเล็กน้อยกับท่าทางประหลาดของตัวเอง เพราะพี่ลิงก์ยังคงมองหน้าของผมอยู่ ผมเลยหาเรื่องคุยเพื่อเปลี่ยนความสนใจของอีกฝ่าย

"เอ่อ...เรื่องชื่อของผมอ่ะ บลูนะครับ ไม่ใช่บู้"

ผมไม่อยากหักหน้าอีกฝ่าย แต่คิดว่าควรจะบอกชื่อที่ถูกต้องให้คนตรงหน้าได้รู้ ถ้าขีนคนอื่นมาได้ยินเขาเรียกชื่อผมผิด อาจจะหน้าแตกอเไรแบบนั้นได้ ผมไม่อยากให้พี่ลิงก์เสียหน้าหรอกนะครับ

"หืม? แล้วไง"

"ก็...อย่างที่ร้านนั้นไง พี่บอกพนักงานว่าคนชื่อบู้จะมารับของแทน"

พี่ลิงก์หยิบชีสสติ๊กมากินพร้อมกับมองผมไปด้วย นัยน์ตาสีดำมีแววแปลกไปเล็กน้อย ก่อนเสียงของเขาจะดังขึ้น

"ถึงมึงจะชื่อบลู แต่กูจะเรียกมึงว่าบู้ จบป่ะ"

"ฮะ?! ไม่จบดิ"

ผมหลุดปากไปตามที่ใจคิด พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้น ริมฝีปากที่เคยเปื้อนซอสยกยิ้มเล็กน้อย

"ไม่จบยังไงวะ"

"ก็ผมไม่ได้ชื่อบู้ไง"

ผมสวนกลับไปทันที ความอายและเกรงใจลดระดับลงไป เมื่อความไม่พอใจพุ่งสูงขึ้น คิอ...บลูกับบู้ นี่มันคนละเรื่องเลยนะครับ

"ก็มึงบู้อ่ะ กูก็ต้องเรียกบู้ดิ"

"ยังไงครับ"

พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา เขากินขนมปังกระเทียมคำสุดท้าย แล้วอธิบายคำพูดของตัวเองต่อ โดยที่ผมยังคงมองอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง

"หน้ามึงบู้บี้ไง กูก็เรียกตามที่เห็น"

ผมเบิกตากว้าง แล้วเผลอยกมือจับใบหน้าของตัวเองพร้อมกับนึกตามความหมายของคำว่า 'บู้บี้' อย่างที่คนตรงหน้าบอกไปด้วย

ผมอาจจะไม่ใช่ผู้ชายหน้าตาดีจนใครต่อใครมองแล้วสนใจ แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่จนดูไม่ได้หรอกนะครับ

"เอาอย่างนี้ กูให้โอกาสมึงเลือก"

ผมมองพี่ลิงก์อย่างงุนงง แต่ก็ตั้งใจฟังถ้อยคำของอีกฝ่ายด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง

"บู้ บี้ บื้อ มึงจะให้กูเรียกอันไหน"

"ไม่เอาสักอย่างอ่ะ"

"ถ้ามึงไม่เอา กูก็จะเลือกให้ว่า บู้แล้วกัน เพราะคล้องกับชื่อเล่นเดิมของมึง โอเคนะบู้"

เฮ้ย! พี่อย่าเปลี่ยนชื่อเล่นคนอื่นมั่วซั่วสิ!

"ไม่โออ่ะ"

"เรื่องมาก กูก็จะให้มึงเรียกเหมือนกัน ให้เวลาคิดหนึ่งนาที"

ผมกะพริบตาพร้อมกับมองคนที่นั่งกินพิซซ่าต่อไป ถึงอยากจะเอาคืนพี่ลิงก์บ้าง แต่ก็นึกคำเรียกทำร้ายอีกฝ่ายไม่ออก

ไอ้หล่อ ไอ้ยิ้มสวย ไอ้บ้านรวย ไอ้บ้าหมี!

เอาเข้าจริง...ผมก็ไม่กล้าเรียกอะไรหรอกครับ นอกจากคำว่า...แฟนครับหรือที่รัก ฮ่าๆ

"หมดเวลาแล้วนะมึง"

"ก็ผมคิดไม่ออก"

ผมชักสีหน้าออกมา อยากเรียกที่รักอ่ะครับ!

"ช่วยไม่ได้ มึงหมดสิทธิ์แล้วบู้"

ผมถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันไปหยิบพิซซ่าอีกชิ้นขึ้นมากิน แล้วเหลือบมองเฮเลนที่นั่งใกล้กัน

ในเมื่อทำอะไรพี่ลิงก์ไม่ได้ เอาน้ำราดตุ๊กตาแก้แค้นดีไหมเ





@@@@@@@@@@





หลังจากกินมื้อเย็นด้วยอาหารอิตาเลียนเสร็จ พี่ลิงก์ก็มาส่งผมที่หอพักครับ ผมขอบคุณอีกฝ่ายที่ขับรถมาส่ง ซึ่งก็ได้รับการพยักหน้าเป็นการตอบรับ

"แล้วเจอกันนะบู้"

"ครับ"

ผมยืนมองโฟล์คบีเทิลที่เคลื่อนตัวห่างออกไปจนลับตา แล้วเดินขึ้นหอพักของตัวเองครับ

ผมใช้เวลาจัดการกิจวัตรประจำวันของตัวเองและเล่าเรื่องราวเมื่อตอนเย็นให้เป็ดฟัง ซึ่งอีกฝ่ายก็ยังมองพี่ลิงก์ไม่ค่อยดีเหมือนเดิม หลังจากนั้นผมก็เตรียมตัวเข้านอน เพราะใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว

ในขณะที่ผมกำลังจะเคลิบหลับ เสียงข้อความจากไลน์ก็ดังขึ้น ปกติผมไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ ทว่าตอนนี้มีบุคคลพิเศษที่มักจะส่งข้อความมาหาผมเสมอ เลยจำใจต้องฝืนตาของตัวเองมาดูครับ

พี่ลิงก์ส่งลิงก์ไปยังบทความหนึ่งเกี่ยวกับความหมายของการสัญญาที่เคยบอกกับผมไว้เมื่อตอนเย็น แต่ผมไม่ได้อ่านหรอกครับ เรื่องแบบนั้น...ช่างมันเถอะ

ผมตั้งใจจะกดหน้าจอโทรศัพท์มือถือลง ทว่าเสียงของข้อความที่ดังขึ้นต่อ ก็ทำให้ผมต้องมอง แล้วเผลอยกยิ้มออกมา

LINK

บู้ ฝันดีนะ

Blue++

เหมือนกันครับ

ผมเขินเกินกว่าจะส่งคำว่า 'ฝันดี' ไปให้พี่ลิงก์อ่ะครับ

ว่าแต่...พี่ลิงก์จะไม่จ่ายค่าแท็กซี่วันนี้ให้ผมหน่อยเหรอ





@@@@@@@@@@





"เฮ้ย! พลหาบทความที่เกี่ยวกับคำสัญญาให้กูหน่อย"

[อะไรของมึงวะ ทำไมไม่หาเอง]

"กูขี้เกียจ เพื่อนกันก็ช่วยหน่อยดิ"

[แล้วทำไมต้องกู ไอ้ทีอ่ะ ไม่ใช่เพื่อนมึง?]

"มันไม่ว่าง"

[กูไม่ว่าง]

"ถ้าไม่ว่าง แล้วมึงจะรับสายกูได้ไงวะ"

[เหี้ย! เออๆ เดี๋ยวกูหาให้ก็ได้ รำคาญเว้ย]





TBC+++++++

Marionetta
หยุดยาวเลยไม่ได้มาลงหลายวันเลย แฮะๆ ยังคงความหวานเบาๆ เช่นเคย ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

1 คอมเมนต์ 1 กำลังใจค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 3 - 09/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 11-03-2019 14:23:50
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 4 - 11/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-03-2019 14:41:39
ดีใจมาบ่อยๆ

อิน้องยังจะห่วงค่ะแท็กซี่

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 4 - 11/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 11-03-2019 20:08:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 4 - 11/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 12-03-2019 11:16:22
 :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 4 - 11/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 12-03-2019 15:06:06
น่ารักดีฮะ ตอนแรกว่าลิงค์แปลกๆ แต่ก็นะ แบบนี้หายาก 5555+
ชักจะเริ่มสงสารบลูแล้วอ่ะ เริ่มเข้าใจเป็ดขึ้นมาเลย
รอตอนต่อไปฮะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 4 - 11/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 12-03-2019 16:07:13
 :m20: :laugh: :m20: :laugh:

ไหวกันมั้ยนิ ทั้งลิงค์และบลู
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 4 - 11/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 14-03-2019 10:41:10
Level 5: เรื่องที่ยังไม่รู้









ผมเข้าไปดูโลกภายนอกผ่านอินเทอร์เน็ตอย่างที่เคย แล้วก็ต้องแปลกใจ เมื่อเห็นรูปประจำตัวในเฟซบุ๊กของพี่ลิงก์เปลี่ยนไปครับ

จากภาพยืนหันหลังให้กล้องกลายเป็นภาพของตุ๊กตาตัวหนึ่งแทน แต่ไม่ใช่ครอบครัวตระกูลหมีหรอกนะครับ มันคือตุ๊กตาไดโนเสาร์ที่ผมเคยเลือกเมื่ออาทิตย์ก่อน

ผมมองด้วยความรู้สึกแปลกในอก แต่ก็กดไลค์อย่างที่เคย เมื่อพี่ลิงก์อัปเดตเรื่องราวของตัวเองในโซเชียลเน็ตเวิร์ก

“เป็ด กูไปก่อนนะ”

“ทำไมมึงยังต้องไปทำเรื่องปัญญาอ่อนนี่อีกวะ มึงสนิทกับพี่เขาแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ไม่ได้สนิท แค่รู้จักกันเฉยๆ”

“อะไรของมึง พาไปเลี้ยงข้าว ใช้มึงไปเอาของ ขับรถมาส่งที่หอ นี่ยังไม่สนิทอีกเหรอ”

“ก็...”

เป็ดทำสีหน้าหงุดหงิดใส่ผม แล้วถอนหายใจออกมา

“ช่างเถอะ จะไปไหนก็ไป แต่มาให้ทันเรียนบ่ายแล้วกัน”

“ครับคุณเป็ด”

“ได้สัตว์”

ผมยิ้มบาง ก่อนจะเเดินออกจากโรงอาหารของคณะวิทยาศาสตร์ไปยังคณะบริหาร โดยที่มีจุดมุ่งหมายคือการรอเจอรุ่นพี่ในดวงใจ แล้วแอบถ่ายรูปเก็บเอาไว้ดูเล่นคนเดียวครับ

ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินเพราะเวลาช่วงพักกลางวันที่มีจำกัด เมื่อมาถึงที่หน้าตึกของคณะบริหาร ผมก็เริ่มหามุมของตัวเอง แล้วก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อย หลังจากได้ยินเสียงทัก

“บู้มาทำไ่รวะ”

ผมมองพี่ลิงก์ที่โผล่มาจากด้านหลังด้วยความตกใจ รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อไม่ได้มีเพียงสายตาของคนตรงหน้าที่มองอยู่ ตอนนี้แฟนคลับของพี่ลิงก์ก็จับจ้องมาทางผมด้วยเหมือนกันครับ

ผมจะโดนโจมดีอะไรหรือเปล่าวะ?

“เงียบทำไมวะ กูถามก็ตอบดิ”

พี่ลิงก์เริ่มแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ผมเลยต้องรีบตอบโดยด่วน แน่นอนว่าไม่ใช่ความจริงหรอกนะครับ

“กำลังจะไปหากาแฟกินที่คาเฟ่ตรงนั้นครับ”

ผมชี้ไปทางร้านกาแฟของคณะบริหาร ซึ่งอีกฝ่ายก็มองตาม

“อืม เดี๋ยวกูไปซื้อด้วย”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินนำพี่ลิงก์ไปยังร้านกาแฟที่อ้างเอาไว้ โดยที่ยังรู้สึกถึงสายตาหลายคู่ที่ยังมองตามมา

“เป็นอะไร ทำหน้าตลก”

พี่ลิงก์ถามพร้อมกับเอามือดึงแก้มของผมไปด้วย ผมเบิกตากว้าง แล้วจับแก้มที่ถูกทำร้ายด้วยสีหน้าร้อนผ่าว

“พี่อย่าแกล้งครับ เดี๋ยวผมก็โดนรุมกระทืบหรอก”

“ยังไงวะ”

พี่ลิงก์แสดงสีหน้าสงสัยออกมาพร้อมกับก้มหน้าลงดึงแก้มของผมทั้งสองข้างราวกับท้าทายคำพูดของผม

“โอ๊ย! มันเจ็บนะ!”

“ดูมึงมึนๆ เลยเรียกสติ จะได้ไม่คิดอะไรเพ้อเจ้อ”

ผมว่า...พี่นั่นแหละโคตรเพ้อเจ้อ บ้าตุ๊กตาจนน่าจะไปหาจิตแพทย์ได้แล้ว

ผมลอบชักสีหน้าพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างขัดใจ โดยที่มีนัยน์ตาสีดำของอีกฝ่ายทอดมองอยู่

“ก็...แฟนคลับของพี่มองอยู่อ่ะ พี่มาทำสนิทกับผมแบบนี้ ผมก็โดนเขม่นไง”

พี่ลิงก์มองสีหน้าแขยงของผมครู่หนึ่ง ก่อนจะกวาดสายตามองโดยรอบ แล้วถอนหายใจออกมา

“น่ารำคาญฉิบหาย”

อ่า...นี่พี่ด่าผมเหรอ?

ผมหน้าสลดลงทันที พี่ลิงก์หันมามอง แล้วขมวดคิ้วออกมา

“ไม่ได้ว่าบู้”

ผมเงยหน้าสบตากับพี่ลิงก์ที่เสดงสีหน้าเบื่อหน่าย เขาเดินตรงไปยังร้านกาแฟต่อ

“ซื่อบื้อ”

ผมหันไปมองคนที่เดินข้างกันอย่างงุนงง พี่ลิงก์เลื่อนสายตามามองผมอีกครั้ง

“อันนี้กูว่ามึง”

“อ่า...ครับ”

ผมเดินคอตกไปยังร้านกาแฟที่มีลูกค้าค่อนข้างเยอะ กว่าจะได้คิวก็เสียเวลาอยู่พอสมควรครับ

พี่ลิงก์ไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนแล้ว ผมเดินถือคาราเมลมัคคิอาโตของอีกฝ่ายเพียงแก้วเดียว เพราะเห็นราคาแล้วเสียดายเงินครับ ช่วงนี้รายจ่ายที่ไม่คาดฝันเยอะเกินไป

“แล้วของมีง?”

พี่ลิงก์มองผมนิ่ง หลังจากแก้วกาแฟของเขาวางลงตรงหน้า ผมยิ้มแห้ง แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

“เปลี่ยนใจไม่อยากกินแล้วครับ มันแพง”

“แล้วไหนตอนแรกบอกว่า จะมาซื้อ”

“ก็ไม่คิดว่าจะแพงขนาดนี้”

พี่ลิงก์ส่งสีหน้าสมเพชมาให้แบบไม่ปิดบังพร้อมกับดูดกาแฟของตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เลื่อนคาราเมลมัคคีอาโตมาตรงหน้าของผม

“สงสาร กูแบ่งให้”

ผมเบิกตากว้างเล็กน้อย ความตื่นเต้นล้นปรี่ขึ้นมาในใจ นึกอยากจะคว้าแก้วตรงหน้ามาใจจะขาด แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้ เพราะมารยาทค้ำคอ

“ไม่เป็นไรครับ”

“หรือรังเกียจกู? งั้นเอาเงินไปซื้อมาอีกแก้ว”

ผมมองพี่ลิงก์ที่กำลังหยืบกระเป๋าสตางค๋ขึ้นมา เลยรีบคว้าแก้วกาแฟตรงหน้ามาดูดอย่างรวดเร็ว

ผมรู้สึกได้ถึงความร้อนที่แล่นผ่านไปทั่วใบหน้า อาการเขินอายตอนที่ได้สบตากับพี่ลิงก์ ทำให้ผมเผลอกัดหลอดอย่างไม่รู้ตัว

เฮ้ย! โมเมนต์นี้มาได้ไงวะ แบบว่า...ได้จูบพี่ลิงก์ทางอ้อมด้วยอ่ะครับ!

“บู้ กูแค่แบ่งให้ ไม่ได้ให้มึงทั้งแก้ว”

“อ่า...”

ผมรีบคลายหลอดที่กัดไว้ออก อันที่จริงดูดกาแฟไปนิดเดียว แต่อมหลอดนานอ่ะครับ งื้อ

“มึงกัดหลอดเละแบบนี้ ไปเอาอันใหม่มาให้กูเลย”

เอ่อ...เขารังเกียจผมอ่ะ

ผมหน้าเสียเล็กน้อย แล้วรีบลุกไปหยิบหลอดอันใหม่มาให้พี่ลิงก์ด้วยความหน่วงในใจ ทว่าเมื่อผมเดินกลับมาถึงโต๊ะอีกครั้ง อีกฝ่ายก็นั่งดูดกาแฟจนได้ยินเสียงของน้ำแข็งในแก้ว

ผมกะพริบตามองพี่ลิงก์พร้อมกับสงสัยว่า คนตรงหน้าได้หลอดอันใหม่มาแล้วเหรอ แต่ทว่าเมื่อปลายหลอดที่ยับเยินได้รับอิสระจากริมฝีปากสีอ่อน ก็ทำให้ผมสตั๊นไปครับ

“บู้มาช้า”

คือผมรีบไปรีบมาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำนะครับ!

“ขอโทษครับ”

ผมยอมเป็นฝ่ายผิดแบบไม่ได้คิดอะไรมาก พี่ลิงก์ก็พยักหนัารับพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก

“แล้วมีเรียนอีกป่ะ”

ฉิบหาย!

ผมรีบมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือด้วยสีหน้าตกใจ เหลือเวลาไม่ถึงห้านาทีก็จะเข้าเรียนแล้วครับ

“มีครับ ผมไปก่อนนะ”

ถึงผมจะอยากโดดเพื่อให้ได้ใช้เวลาร่วมกับพี่ลิงก์ แต่ผมก็มีจิตสำนึกในหน้าที่ของตัวเองครับ ผมสามารถแยกแยะเรื่องผู้ชายกับการเรียนได้

“อืม แล้วเจอกัน”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบวิ่งเต็มฝีเท้ากลับไปที่คณะของตัวเอง แต่ก็ไม่ทัน โดนอาจารย์มองนิดหน่อย แต่เพราะผมเป็นเด็กเรียนเลยไม่ได้ถูกต่อว่าอะไรครับ




@@@@@@@@@@







LINK

กูรออยู่ที่ช้่น 3 หอสมุดกลาง

Blue++

ครับ

วันนี้เราสองคนมีเรียนแค่ตอนเช้าเหมือนกันครับ แต่เผอิญวันนี้อาจารย์นัดผมสอบแล็ปคอมตอนบ่ายต่อ พี่ลิงก์ที่นัดจะไปดูหนังด้วยกันเลยไปรออยู่ที่หอสมุดกลางแทนที่จะยกเลิกนัดแล้วกลับไปพักที่คอนโดครับ

ผมดีใจมาบทีเขายอมเสียเวลารอผม

หลังจากสอบเสร็จ ผมก็ไปที่หอสมุดกลางต่อ ตอนนี้ใกล้บ่ายสี่โมงแล้วครับ เมื่อผมมาถึงชั้นสาม ก็มองหาพี่ลิงก์รอบหนึ่ง ก่อนจะหยุดเท้าตรงโต๊ะอ่านหนังสือเดี่ยวที่อยู่ด้านในสุดของชั้น

พี่ลิงก์กำลังนอนหลับอยู่

ผมอมยิ้มออกมา แต่ไม่ได้ปลุกอีกฝ่ายหรอกนะครับ ผมค่อยๆ ยกเก้าอี้อีกตัวมานั่งอยู่ข้างคนที่นอนฟุบหลับอยู่ หลังจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแอบถาายรูปรุ่นพี่หลับเอาไว้

ผมนั่งมองพี่ลิงก์โดยมีความเงียบอยู่รอบตัวของเราสองคน ผมไม่แน่ใจว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เสียงปลุกจากโทรศัพท์มือถือของพี่ลิงก์ ก็ทำให้ผมต้องสะดุ้งโหยง แล้วรีบลุกขึ้นยืนทันที

พี่ลิงก์เงยหน้าขึ้นมาปิดเสียงของโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะหันมามองผมที่กำลังทำหน้าเลิกลั่กแบบมีพิรุธชัดเจน

"มานานแล้วเหรอ"

ผมไม่อยากให้พี่ลิงก์คิดว่า มาแอบมองเขานอนหลับ ก็เลยโกหกออกไปทันที

"เพิ่งมาครับ"

พี่ลิงก์มองผมเล็กน้อยด้วยใบหน้าที่ยังมีร่องรอยของความง่วงปะปนอยู่ ผมเม้มริมฝีปากพยายามกลั้นยิ้มกับสีหน้าน่าเอ็นดูนั้นเต็มที่ ก่อนที่อีกฝ่ายจะเลื่อนสายตาไปยังเก้าอี้ที่ผมเคยนั่งอยู่ก่อนหน้านี้

"แล้วเก้าอี้? "

"คือ...ผมเพิ่งเดินกลับมาจากห้องน้ำ แล้วก็เพิ่งเอาเก้าอี้มา ยังไม่ทันได้นั่งเลย"

พี่ลิงก์พยักหน้ารับแบบไม่ได้ติดใจอะไรอีก เขาลุกขึ้นยืน แล้วขยับตัวคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อที่นอนฟุบหลับมาสักพักหนึ่ง

"อืม เดี๋ยวกูขอเข้าห้องน้ำก่อน"

ผมพยักหน้ารับ พร้อมกับลอบถอนหายใจออกมา หลังจากที่พี่ลิงก์ออกมาจากห้องน้ำด้วยใบหน้าที่สดชื่นขึ้น เราสองคนก็เดินทางไปยังห้างที่อยู่ไม่ห่างจากมหาวิทยาลัยครับ




@@@@@@@@@@





"ยังพอมีเวลาอยู่ ไปหาอะไรกินก่อนป่ะ"

พี่ลิงก์หันมาถามผม เมื่อเราสองคนเดินเข้ามาในห้าง ผมมองเวลาอีกครั้งพร้อมกับพนักหน้ารับ

"แล้วอยากกินอะไร"

"อะไรก็ได้ครับ"

"อย่าให้กูได้ยินคำตอบแบบนี้อีก มึงอยากกินอะไร"

พี่ลิงก์ทำหน้านิ่งใส่ผมที่ยืนทำตัวไม่ถูก ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องอารมณ์เสีย ทั้งที่ประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาก็เป็นคนเลือกตลอด

"เอ่อ...ร้านนั้นก็ได้ครับ"

ผมหันไปทางร้านอาหารไทยที่มีลูกค้าไม่ได้พลุกพล่านและอยู่ในสายตาพอดี พี่ลิงก์ก็เดินนำเข้าไปในร้านอาหาร โดยไม่ได้กล่าวโต้แย้งอะไร

ตอนนี้เวลาราวห้าโมงเย็นครับ ผมนั่งมองรายการอาหาร ก่อนจะลอบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ปกติพี่ลิงก์จะเป็นคนสั่งเมนูทั้งหมด แต่ตอนนี้เชากลับนิ่งเงียบ ทำเพียงแค่เปิดหน้ากระดาษเมนูไปมาราวกับกำลังพิจารณาว่ามันทำมาจากกระดาษอะไร พิมพ์ที่ไหน ถ่ายรูปสวยหรือเปล่าอะไรแบบนั้นเลยครับ

คือ...เงียบทำไม สั่งสักทีสิ?

"จะรับอะไรดีคะ"

พนักงานส่งยิ้มสุภาพพร้อมกับเตรียมพร้อมรับรายการอาหาร ทว่าทางฝั่งลูกค้ายังไม่มีความคิดอะไรทั้งนั้น พี่ลิงก์เงยหน้ามองผมที่กำลังมองเขาอยู่เช่นเดียวกัน

"เลือกเองก็สั่งเองดิ"

แล้วที่พี่ไม่สั่ง นี่คือจะไม่กินหรือไงครับ?

ผมได้แต่ย้อนถามอีกฝ่ายในใจ แต่ก็หันไปยิ้มแห้งให้พนักงาน แล้วรีบดูรายการอาหารในเมนูอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็เลือกอาหารทั่วไปที่เคยกินออกมาสามถึงสี่อย่างครับ

พนักงานทวนรายการอาหารอีกครั้ง ก่อนจะเดินจากไป ผมลอบถอนหายใจออกมา แล้วมองพี่ลิงก์ที่กำลังมองหน้าของผมอยู่

“อ…อะไรครับ”

ผมเกร็งตัวขึ้นมา เพราะสายตาที่จับจ้อง หรือว่าผมจะสั่งอาหารไม่ถูกใจเขา ผมจำได้ว่าอีกฝ่ายชอบกินกุ้ง อาหารที่เพิ่งสั่งไปเมื่อกี้ ก็มีแต่กุ้งเป็นส่วนประกอบหลักทั้งนั้น

"ไม่มีอะไร"

พี่ลิงก์หันไปมองทางอื่นราวกับไม่ได้สนใจผมอีก ผมพรูลมหายใจระบายความอึดอัด หลังจากผ่านไปไม่นานอาหารที่สั่งเอาไว้ก็เริ่มทยอยเสิร์ฟ

ผมลอบมองท่าทางของพี่ลิงก์ด้วยอาการลุ้นเล็กๆ เพราะอีกฝ่ายเงียบไปอย่างไร้สาเหตุ จนกระทั่งเสียงทุ้มดังขึ้น

"พ่อกูทำอร่อยกว่านี้เยอะ"

ผมมองพี่ลิงก์พร้อมกับนึกถึงเรื่องครอบครัวของคนตรงหน้าไปด้วย พ่อของพี่ลิงก์เป็นเจ้าของกิจการเกี่ยวกับซอฟต์แวร์และอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นพันล้าน ตอนนี้รุ่นพี่ในคณะหลายคนก็ทำงานที่บริษัทแห่งนี้ ผมเองก็อยากเข้าไปทำงานที่นั่นเหมือนกันครับ

"ตอนอยู่ที่บ้านกินอร่อยจนชิน พอเวลาไปเจอไม่อร่อย ป๊ากูบ่นตลอด"

ผมได้แต่พยักหน้ารับพร้อมกับเริ่มสับสนว่า จะพ่อหรือป๊าก็เอาสักอย่างเถอะครับ

"อย่างต้มยำกุ้งนี่ ที่บ้านกูใช้กุ้งมังกร ไม่ได้กินตัวเล็กๆ แบบนี้หรอก"

คนรวยพูดอะไรก็ได้ ตามใจเลยครับ...

"มีอยู่ครั้งนึง กูบอกกับป๊าว่าอยากกินปูที่ฮอกไกโด ป๊าก็ซื้อตั๋วให้ไปวันต่อมาเลย พ่อบ่นใหญ่เพราะต้องอยู่ทำงานแทนป๊าที่หนีงานพากูไปเที่ยว ป๊าเว่อร์ตลอด"

ผมกะพริบตามองคนตรงหน้าแบบงงๆ สรุปว่าป๊ากับพ่อนี่คนละคนกัน? พี่ลิงก์ที่เห็นสีหน้าของผมก็เลิกคิ้วขึ้น

"มีอะไร ทำหน้าพิลึก"

ถ้าอยู่ในช่วงปกติ ผมคงไม่กล้าพูดอะไร แต่ดูเหมือนว่าพี่ลิงก์จะอารมณ์ดีจากการกินและนินทาครอบครัวของตัวเอง ผมก็เลยเอาความกล้าขึ้นมาใช้งาน

"ผมงงนิดหน่อย คือ...พ่อกับป๊านี่คนละคนเหรอ"

พี่ลิงก์นิ่งไปครู่หนึ่ง ผมเผลอกลั้นหายใจกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย ก่อนเสียงทุ้มเรียบผิดจากก่อนหน้านี้จะดังขึ้น

"นี่มึงไม่รู้? "

ผมว่าคำถามนี้ มันคุ้นว่ะ เหมือนว่าผมไม่รู้ในเรื่องที่พี่ลิงก์คิดว่า ทุกคนรู้ แต่เชื่อเถอะ...เรื่องนั้นคงมีแต่พี่เขาที่รู้อยู่คนเดียวนั่นแหละครับ

ผมใช้ความเงียบเป็นคำตอบ พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา แล้วทำหน้าเซ็งอย่างชัดเจนพร้อมกับพูดขึ้นอีกครั้ง

"บู้ นี่มึงรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกูบ้างเนี่ย ชอบกูจริงๆ ใช่ไหม"

ผมไม่เข้าใจว่า จากบรรยากาศเบาสบายกลายเป็นตึงเครียดไปได้ยังไงก็ไม่รู้ครับ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่ถามคำถามนั้นอีก

"ผม...ชอบ...พี่"

ตอนนี้มันไม่เหมาะจะมาพูดอะไรแบบนี้เลยสักนิด ผมไม่ได้เขินอายอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับรู้สึกกลัวและไม่มั่นใจในตัวเองขึ้นมา

ผมเพิ่งชอบพี่ลิงก์ได้ไม่นาน อาจจะไม่ใช่แฟนคลับที่รู้ทุกเรื่อง แต่เวลานี้ผมก็ดีใจและมีความสุขที่ได้มากินข้าวกับคนที่ตัวเองชอบ

ผมก็พอจะรู้ประวัติส่วนตัวของพี่ลิงก์มาบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้ลึกถึงเรื่องราวในครอบครัวของเขา พี่ลิงก์ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรตอบรับกับคำพูดของผมก่อนหน้านี้ เขากินข้าวของตัวเองต่อ ปล่อยให้ผมทนแรงอึดอัดที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนตามลำพัง





TBC ++++++++

หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 4 - 11/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 14-03-2019 10:42:10
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 5 - 14/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 14-03-2019 12:35:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 5 - 14/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 14-03-2019 20:41:27
 :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 5 - 14/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-03-2019 22:14:09
 :L2: :pig4:

สงสารบู้ผู้อยู่กับความงง
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 5 - 14/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-03-2019 05:18:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 6 - 16/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 16-03-2019 18:03:46
Level 6: ใกล้จนใจสั่นไหว







"พี่กินป็อปคอร์นไหม เดี๋ยวผมไปซื้อ"

พี่ลิงก์ที่ยืนมองโฆษณาหนังตัวอย่างหันมามองผม ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา แต่ผมก็รีบห้ามเอาไว้ก่อน

"พี่ซื้อตั๋วแล้ว เดี๋ยวผมซื้อขนมกินเล่นเองครับ"

ผมเป็นคนที่เวลาดูหนังชอบหาของกินไปด้วยครับ แบบว่าเพิ่มอรรถรสในการดูหนังอีกห้าสิบเปอร์เซ็นต์

บรรยากาศของเราสองคนดีขึ้นมานิดหน่อยครับ แต่ก็ยังทำให้ผมไม่สบายใจอยู่ดี พี่ลิงก์มายืนรอช่วยผมถือป็อปคอร์นกับน้ำ ก่อนที่จะเดินนำผมเข้าไปด้านในของโรงหนัง

ผมเพิ่งรู้ว่า พี่ลิงก์ชอบดูหนังมากเหมือนกัน ถ้าเรื่องไหนน่าสนใจ เขาก็จะรีบมาดูตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาฉายเลยครับ

หลังจากเข้ามานั่งในโรงหนัง ผมก็จัดการวางของกินให้พร้อม โดยที่พี่ลิงก์อนุญาตให้ผมวางถังป็อปคอร์นไว้ที่ตักของตัวเองเพื่อความสะดวกในการกิน ส่วนน้ำก็วางไว้ที่เก้าอี้ของตัวเองของใครของมัน

เวลาผ่านไปพร้อมกับเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ผมกับพี่ิลิงก์ไม่ได้คุยอะไรกัน ในตอนแรกผมก็ชะงักสายตาจากจอทุกครั้งที่อีกฝ่ายยื่นมือมาหยิบป็อปคอร์นบนตักของผมไปกิน แต่พอผ่านไปสักพักผมก็ไม่ได้สนใจอีก เพราะเพ่งสมาธิไปกับหน้าจอขนาดยักษ์ตรงหน้า

สายตาของผมจับจ้องดาราฮอลลีวู้ดพร้อมกับหยิบขนมที่อยู่บนตักกินไปเรื่อย ก่อนจะชะงักเพราะมือดันไปโดนมือของคนที่นั่งข้างกันพอดี ผมหันไปมองพี่ลิงก์ ซึ่งอีกฝ่ายก็หันมามองผมเช่นเดียวกัน

เราสองคนไม่ได้พูดอะไร แต่ผมที่มาทีหลังก็เป็นฝ่ายผละมือไปจากถังป็อปคอร์นพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นอีกจังหวะ ตอนนี้สมาธิที่เคยจดจ่ออยู่กับหนังก็หายไปเกือบครึ่งแล้วครับ

ผมตัดสินใจปรับอาการแก้เก้อของตัวเองด้วยการหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดูด แล้วก็หันไปมองคนที่นั่งข้างกันอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงทุ้มเบาดังขึ้น

"กินด้วยดิ ขอกูหมดแล้ว"

ผมเริ่มทำตัวไม่ถูกแต่ก็ส่งแก้วที่กำลังถืออยู่ให้พี่ลิงก์ไปแต่โดยดี อีกฝ่ายก็หันหน้าไปสนใจหนังต่อพร้อมกับดูดน้ำในแก้วของผมไปด้วยราวกับไม่ได้มีอะไร ทั้งๆ ที่ตอนนี้การกระทำของเขากำลังโจมตีหัวใจของผมอย่างรุนแรง

ผมเหลือบมองพี่ลิงก์เป็นระยะ หลังจากที่เขาคืนแก้วน้ำให้ผม นึกลังเลใจว่าจะดูดต่อดีไหม เมื่อเริ่มเขินนิดๆ กับความคิดเพ้อเจ้อของตัวเอง

แบบว่า...ไม่ได้จูบจริงๆ ก็ขอแบบทางอ้อมไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็ได้ครับ

ผมกลั้นยิ้มของตัวเองพร้อมกับถือแก้วน้ำมาดูดต่อ ทว่าของเหลวภายในแก้วที่ควรมีมากกว่านี้กลับเหลือให้ผมสัมผัสได้แค่ลมและเสียงน้ำแข็งเท่านั้น

"โทษที เผลอดูดหมดไปแล้ว"

"อ่า...ไม่เป็นไรครับ"

ผมวางแก้วน้ำที่เหลือแต่น้ำแข็งไว้ตรงที่วางแขน แล้วถอนหายใจออกมา

ก็...ไม่ได้อยากกินน้ำตั้งแต่แรกแล้วนั่นแหละครับ





@@@@@@@@@@





หลังจากออกจากโรงหนัง ดูเหมือนว่าพี่ลิงก์จะกลับมาเป็นปกติแล้วครับ ผมลอบถอนหายใจออกมา ตอนที่เขาพาผมเดินไปยังร้านขายตุ๊กตา

"บู้เลือก"

ผมเลิกคิ้วขึ้น ตอนที่ได้ยินคำสั่ง เพราะไม่อยากให้พี่ลิงก์อารมณ์เสียเลยไม่ได้พูดขัดอะไร และเมื่อได้มามองตุ๊กตา มันก็ทำให้ผมนึกถึงเรื่องบางอย่างที่หลงลืมไป

ผมหันไปมองพี่ลิงก์เล็กน้อยเพื่อเดาสถานการณ์ ซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายกำลังยืนคุยกับพนักงานอยู่ครับ

ผมหันกลับมาสนใจหน้าที่ของตัวเองอีกครั้ง แล้วตัดสินใจเลือกตุ๊กตานกสีเหลืองตัวอ้วนน่ากอดมาตัวหนึ่ง

พี่ลิงก์เดินไปจ่ายเงิน เพียงไม่นานพวกเราก็เดินออกจากร้านพร้อมกับตุ๊กตาตัวใหม่

"กลับเลยไหม"

"ครับ"

หลังจากโฟล์คสีดำเคลื่อนที่ออกจากลานจอดรถ และวิเคราะห์สีหน้าของพี่ลิงก์อีกครั้ง ผมก็ถามถึงสิ่งที่ค้างคาใจ

"พี่ลิงก์ ผมถามอะไรหน่อยได้ไหมครับ"

"อะไร"

พี่ลิงก์ไม่ไ้ด้หันมามองผม เขายังคงตั้งใจขับรถต่อไป ถึงแม้การจราจรจะเคลื่อนตัวได้ช้าก็ตาม

"ผมเห็นในเฟซบุ๊กของพี่นานแล้ว พี่เลิกให้คนตอบคำถามแล้วหรือครับ"

พี่ลิงก์หันมามองผมแทบจะทันที เขาแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา

"โพสต์ตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งถาม"

"ก็...ลืม"

ผมลืมไปเลยครับ เพราะช่วงนี้มีเรื่องอื่นที่ทำให้สมองของผมปั่นป่วนไม่หยุดด ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องของคนที่นั่งอยู่ข้างกัน แต่ก็ดันลืมเรื่องที่เคยคิดหนักจนแทบจะกินข้าวไม่ลงไปได้

"อืม ก็ตามนั้น"

ผมมองเสี้ยวหน้าที่กลับไปสนใจถนนต่อ เมื่อประมวลผลจากคำพูดที่เพิ่งได้รับเรียบร้อย ผมก็ดันเผลอถามในเรื่องที่ยังไม่ได้เตรียมใจมา

"พี่มีแฟนแล้วเหรอ"

พี่ลิงก์หันมามองผมแทบจะในทันทีอีกครั้ง เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วถามกลับด้วยน้ำเสียงที่นิ่งกว่าเดิมจนผมเริ่มหวั่น

ไม่ใช่ว่ามาโกรธกันอีกแล้วนะครับ!

"ทำไมคิดอย่างนั้น"

"ก็...เพราะพี่เลือกแฟนจากการตอบคำถามไม่ใช่หรือครับ"

พี่ลิงก์ทำหน้าเซ็งใส่ผม แล้วหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ ผมทำตัวไม่ถูกอยู่สักพัก ก่อนที่เสียงของอีกฝ่ายจะดังขึ้น

"มึงคิดว่า กูชอบเวลาที่เดินไปไหน แล้วมีคนแปลกหน้าพุ่งเข้ามาว่า ขอตอบคำถามพี่หน่อยอะไรแบบนั้นเหรอ"

ผมหันไปมองคนที่ยังมองถนนอยู่อย่างตั้งใจ ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าพี่ลิงก์กำลังอารมณ์ไหนกันแน่

"ก็พี่เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ"

พี่ลิงก์เลื่อนสายตามามองเล็กน้อย ผมก็นึกอยากตบปากตัวเองที่ไม่ทันได้คิดก่อนพูด

"ก็ใช่ แต่กูเบื่อแล้ว ทำไมกูต้องมาคิดคำถามล้านแปดด้วยก็ไม่รู้ วันๆ กูคิดคำถามจนจำไม่ได้แล้วด้วยซำ้ว่าอะไรบ้าง"

ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น... คำถามของพี่ลิงก์เยอะมากจนแฟนคลับทำคู่มือพิชิตคำถามออกมาไม่ถูก

ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจและไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก เพราะไม่อยากทำให้อีกฝ่ายเสียอารมณ์โดยไม่ได้ตั้งใจ พวกเราใช้เวลาอยู่สักพัก โฟล์คบีเทิลก็มาจอดที่หน้าหอของผมครับ

"ขอบคุณครับ"

พี่ลิงก์พยักหน้าเหมือนทุกครั้ง แล้วหันไปหยิบตุ๊กตาที่ผมเลือกไว้ส่งมาให้

"ฝากไว้ที่ห้องมึงก่อน"

"อ่า...ครับ"

ผมรับตุ๊กตานกตัวอ้วนมาถืออย่างงุนงง แล้วมองรถยนต์ที่เคลื่อนตัวออกไป

ผมก้มมองของที่อยู่ในอ้อมแขนอีกครั้ง ก่อนจะเดินขึ้นหอพักของตัวเองต่อ

ในขณะที่คิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมก็เพิ่งนึกได้ว่า ตัวเองยังไม่ได้รับคำตอบที่เคยถามรุ่นพี่เอาไว้

ตกลงว่า...พี่ลิงก์มีแฟนหรือยังวะ?





@@@@@@@@@@





"นี่ตุ๊กตาของมึงเหรอ"

ผมมองตามสายตาของเป็ดที่กำลังมองตุ๊กตานกสีเหลืองตัวอ้วนที่วางอยู่ข้างโต๊ะเขียนหนังสือของผม

"เปล่า ของพี่ลิงก์"

"แล้วของพี่เขามาอยู่ในห้องมึงได้ไง"

"เขาฝากไว้"

"ฝากทำไมวะ"

ผมกับเป็ดสบตากัน ในขณะที่ผมกำลังกะพริบตามองนิ่ง อีกฝ่ายก็กำลังทำหน้าหาเรื่องออกมา

"ไม่รู้ว่ะ"

"กูว่าแล้ว! มึงก็อย่างนี้ทุกที เคยรู้อะไรบ้างไหมเนี่ยเกี่ยวกับพี่เขาน่ะ"

ผมรู้สึกจุกในอกกับคำต่อว่าของเพื่อนทันที ราวกับได้ย้อนไปตอนที่พี่ลิงก์ถามผมทำนองนี้

ทำไมผมถึงโง่แบบนี้วะ...

"เฮ้ยๆ เป็นอะไรบลู"

เป็ดเปลี่ยนสีหน้าหงุดหงิดเป็นห่วงใยฉับพลัน ผมส่ายหน้าไปมาเป็นการปฏิเสธพลางสูดลมหายใจเข้าปอดให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะค่อยๆ ผ่อนออกมาทีละน้อย

"กูแค่เฟลนิดหน่อย แต้ก็จริงอย่างที่มึงว่านั่นแหละ"

"กูขอโทษ กูก็ปากไม่ดี ทั้ง ที่รู้นิสัยมึงดีอยู่แล้วแท้ๆ "

ผมยิ้มรับคำพูดของเพื่อนสนิทแบบไม่ได้ถือสาอะไร เป็ดอาจจะดูหัวร้อนง่าย แล้วก็พูดจาไม่เข้าหูไปบ้าง แต่เนื้อแท้แล้วนิสัยดีและห่วงใยคนอื่นเสมอครับ

"อืม กูไม่เป็นไรหรอก"

หลังจากเลิกเรียนผมกับเป็ดก็มานัดติวกันที่ห้องครับ ตั้งแต่วันที่ไปดูหนังกับพี่ลิงก์ครั่งล่าสุดแล้วได้ตุ๊กตามาอยู่ที่ห้องของตัวเอง ผมก็ยังไม่ได้เจอพี่ลิงก์อีกเลยครับ นอกจากผมจะเริ่มยุ่งเรื่องเรียนแล้ว ก็ยังไม่กล้าเสนอหน้าไปที่คณะบริหารเหมือนที่เคยทำด้วย กลัวโดนมองด้วยสายตาแปลกๆ อีก

พวกเราใช้เวลาติวหนังสือตั้งแต่หกโมงเย็นถึงสองทุ่ม ก่อนที่เป็ดจะกลับหอพักของตัวเอง อีกฝ่ายก็พูดขึ้น

"ตกลงมึงกับพี่เขานี่ยังไงวะ เป็นอะไรกันแน่"

"กูก็ไม่รู้"

"แล้วมึงไม่สงสัย? ไม่ลองถามตรงๆ ไปเลยล่ะ จะได้วางตัวถูกด้วยไง"

"ก็สงสัยอ่ะ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก"

ผมนึกสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ทุกครั้งที่นึกถึงนั่นแหละครับ แต่ที่ยังทำเฉยไม่ทุกข์ร้อน ก็เพราะไม่ว่าตำแหน่งไหน ผมในตอนนี้ก็ยังมีความสุขดี ไม่ได้มากหรือน้อยสำหรับการได้ชอบใครสักคนครับ

"อืม แล้วเจอกันพรุ่งนี้"

"อืม"





@@@@@@@@@@





เสียงโทรเข้าของไลน์ ทำให้ผมที่กำลังนอนอืดอยู่ในห้องต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู ก่อนจะรีบปรับสภาพของตัวเองแบบเร่งด่วน เมื่อเห็นชื่อของคนที่ติดต่อมา

"ครับ"

[บู้อยู่ไหน]

"อยู่ที่ห้องครับ"

[อืม เดี๋ยวไปหานะ เอาอะไรหรือเปล่า จะได้ซื้อเข้าไป]

ผมเบิกตากว้างขึ้นกับสิ่งที่ได้รับรู้ เฮ้ย! พี่ลิงก์จะมาหาผมอ่ะ! เขาจะมาที่ห้องผม!

[บู้?]

"อ...เอ่อ ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนครับ"

ผมกำลังจะตอบไปว่า เอาอะไรก็ได้ แต่ก็นึกได้ว่า พี่ลิงก์เคยสั่งห้ามพูดแบบนี้เอาไว้ เลยยั้งปากทันก่อน ไม่อย่างนั้นก็ยังเดาสถานการณ์ต่อจากน์ไม่ออกครับ

[กำลังจะออกจากคณะ]

อ้อ วันนี้พี่ลิงก์มีเรียนเช้า ว่าแต่...ทำไมไม่กลับคอนโด จะมาหาผมเนี่ยนะ?

"งั้นพี่ช่วยซื้อข้าวมันไก่ตรงปากซอยเข้าหอมาให้หน่อยนะครับ"

อืม]

เสียงสัญญาณตัดไป ผมก็รีบกระเด้งตัวเองเข้าไปอาบน้ำทันที เพราะตังแต่เช้าก็ยังดองเค็มตัวเองอยู่ หลังจากใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ผมก็ค้นหาชุดที่ดูดีแต่ไม่ดูประหลาดสำหรับคนที่อยู่หอ แต่อนิจจา...รสนิยมโหลยโท่ยของผมก็นำพาแค่เสื้อยืดเก่าๆ กับกางเกงขาสั้นเน่าๆ เท่านั้น

สงสัยต้องเก็บเงินไปช้อปปิ้งหน่อยแล้ว...

ผมคิดกับตัวเองพร้อมกับหาชุดใส่ต้อนรับแขกที่มาอย่างกะทันหัน เสียงโทรเข้าจากไลน์ดังขึ้นอีกครั้ง ทำให้ผมต้องรีบกดรับ เพราะรู้ดีว่าใครกำลังติดต่อมา

[มารับหน่อยดิ]

"รอแป๊บครับ"

ผมตัดสินใจคว้าเสื้อกับกางเกงใกล้มือมาใส่โดยไม่ได้คิดอะไรอีก แล้วรีบวิ่งลงไปรับรุ่นพี่ในดวงใจที่กำลังยืนเท่ถือถุงข้าวมันไก่อยู่

"ผมช่วยถือครับ"

"อืม"

พี่ลิงก์ไม่ได้ส่งถุงข้าวมันไก่มาให้ผมถือ แต่เลือกส่งถุงขนมที่เพิ่งซื้อมาจากเซเว่นให้ผมถือแทน ก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้าไปในหอพักด้วยกัน

"เพิ่งตื่นเหรอ"

"ตื่นนานแล้วครับ แต่เพิ่งอาบน้ำ"

ผมยิ้มแห้งให้กับพี่ลิงก์ที่พยักหน้ารับ ก่อนคำถามต่อมาของอีกฝ่ายจะดังขึ้น เมื่อผมเปิดประตูห้อง

"นี่ห้องหรือรังหนู"

ผมรู้สึกอับอาย ได้แต่ยิ้มแบบมึนๆ เดินไปวางของกินที่โต๊ะเขียนหนังสือ แล้วรีบจัดเสื้อผ้าที่รื้อมาเมื่อกี้เข้าตู้อย่างมักง่าย โดยที่มีสายตาของแขกมองตามการกระทำของผม

"มึงเป็นคนรักความสกปรกเหรอ"

มันน่าจะมีแต่คนที่รักความสะอาดนะครับ!

"คือ...ผมเพิ่งรื้อเสื้อมา เลยไม่ทันเก็บ"

พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา เสียงเข้มก็ดังขึ้น

"เอาออกมาเก็บใหม่ดีๆ กูไม่ชอบคบกับคนซกมก"

"อ่า...ครับ"

ผมหน้าจ๋อยรีบเอาเสื้อผ้าที่ยัดใส่ตู้ออกมาอีกครั้ง แล้วเริ่มจัดเก็บใหม่ให้เข้าที่ โดยที่มีแขกคอยกำกับทางสายตาตลอดเวลาจนเสร็จครับ

ผมลอบถอนหายใจออกมา ตอนที่พี่ลิงก์ละสายตาไปสนใจแกะข้าวมันไก่ที่เพิ่งซื้อมาแทน ผมรีบไปหาจานกับถ้วยที่มีติดห้องเอาไว้ออกมาใช้งาน

"คือ...ทำไมวันนี้พี่มาหาผมล่ะครับ"

ผมมองพี่ลิงก์ที่กำลังกินข้าวมันไก่อย่างสงสัย อีกฝ่ายก็มองมาเล็กน้อย แล้วกินอาหารเที่ยงของตัวเองต่อ

"กูมีนัดตอนเย็นแถวนี้ต่อ ขี้เกียจกลับคอนโด ไม่รู้จะไปไหนด้วย เลยมาหามึงแทน"

ผมพยักหน้ารับเข้าใจ หลังจากนั้นก็ใช้เวลาไปกับการกินข้าวมันไก่และเก็บล้างทุกอย่างให้เรียบร้อย

เมื่ออิ่มท้อง พี่ลิงก์ก็ถือวิสาสะขึ้นมานั่งเล่นบนเตียงของผม ถึงจะไม่มั่นใจในความสะอาดของที่นอนตัวเอง แต่ก็คงห้ามอีกฝ่ายไม่ทันแล้วครับ

"พี่อยากจะดูอะไรไหม เดี๋ยวผมเปิดโน้ตบุ๊ก"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูดูจากมือถือ"

"ครับ"

พี่ลิงก์นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ส่วนผมก็เดินไปเดินมาในห้องแคบๆ อย่างทำตัวไม่ถูก ก่อนจะตัดสินใจเปิดโน้ตบุ๊กนั่งเขียนโปรแกรมเล่นไปเรื่อย

พอมีสมาธิจดจ่ออยู่กับงาน ผมก็ลืมคนที่อยู่ในห้องทันที อาจเป็นเพราะพี่ลิงก์ไม่ไ้ด้ส่งเสียงดังอะไรด้วย ผมเลยรู้สึกเหมือนว่าอยู่คนเดียวตามลำพังอย่างเคย

กว่าที่ผมจะดึงตัวเองมาจากหน้าจอโน้ตบุ๊กได้ ก็พบว่าพี่ลิงก์นอนหลับอยู่บนเตียงของผมไปแล้ว

พี่เป็นเด็กน้อยหรือครับ ทำไมนอนกลางวันง่ายจัง

ผมอมยิ้มกับความคิดของตัวเอง แล้วปล่อยให้แขกนอนต่อจนถึงตอนเย็น ผมก็หันไปมองพี่ลิงก์อีกครั้ง ซึ่งคนตรงหน้าก็ยังนอนนิ่งเหมือนเดิม

เขามีนัดไม่ใช่หรือวะ...

ผมลุกจากเก้าอี้ของตัวเอง แล้วเดินไปปลุกพี่ลิงก์ แต่ยังไม่ทันเริ่มต้นทำอะไร ผมก็นึกได้ถึงปัญหาหนึ่ง

เอ่อ...จะปลุกยังไงดีวะ?

ส่งเสียงเรียก? เขย่าตัว? กระซิบข้างหู? หรือว่า...จะจูบปลุกเลยดี?!

ผมใช้ความคิดลามกอย่างฟุ้งซ่านพลางหันไปมองคนหลับอีกครั้งอย่างพิจารณาแบบเขินๆ

โอกาสแบบนี้...จะเสี่ยงดีไหม

ผมชอบพี่ลิงก์ก็จริง แต่ไม่เคยนึกมาก่อนว่า จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดอีกฝ่ายขนาดนี้ มันใกล้มากจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจแผ่วที่สัมผัสตรงปลายจมูกของผม

หัวใจของผมเต้นกระหน่ำกับความบ้าบิ่นของตัวเอง ผมมองเปลือกตาที่ปิดสนิทอย่างดูลาดเลา ก่อนจะเลื่อนมาที่ริมฝีปากที่อยากแตะต้องดูสักครั้ง

ถ้าเกิดว่า...พี่ลิงก์โวยวายแล้วเกลียดผมขึ้นมา ก็คงต้องยอมรับในผลจากการกระทำของตัวเอง ผมก็ไม่ได้คิดว่า จะได้คบกับพี่ลิงก์เป็นแฟนหรอกครับ แค่ได้รู้จักขนาดนี้ มันก็คุ้มแล้ว สำหรับคนที่ครั้งหนึ่งได้แค่แอบมอง

ผมก็แค่รุ่นน้องที่ชอบเขาเท่านั้น...

ผมหลับตาแน่นอย่างตื่นเต้นพร้อมกับขยับริมฝีปากเพื่อมอบจุมพิตแรกในชีวิตให้เจ้าชายนิทรา สัมผัสที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ ทำให้ผมผวาจนถอยห่างแทบจะทันที ความร้อนที่แตะอยู่ตรงริมฝีปากของตัวเอง ทำให้ผมต้องลืมตาโพลง

"ทำอะไร"

พี่ลิงก์ตื่นแล้ว?!





TBC +++++++++

Marionett
a ยังคงไร้สาระกับหวานเบาๆ เช่นเคยจ้า อิอิ ขอบคุณที่ติดตามต่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 6 - 16/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 16-03-2019 18:04:44
 :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 6 - 16/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-03-2019 18:46:18
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 6 - 16/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: deuxspades ที่ 16-03-2019 18:59:49
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 6 - 16/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: OrangeryLemon ที่ 16-03-2019 19:16:30

อิอิ น่ารัก
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 6 - 16/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-03-2019 20:08:27
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 6 - 16/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 16-03-2019 20:21:13
โดนจับได้แล้ว โจรขโมยจูบ 555
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 6 - 16/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 18-03-2019 19:26:06
Level 7:  เยือนถิ่นคุณชายหมี







ง่ะ...!!!

พี่ลิงก์จ้องผมเขม็ง ผมก็ตัวแข็งค้างพร้อมกับนึกด่าความใจง่ายของตัวเองไปต่างๆ นานา ถึงจะมาสำนึกได้ตอนนี้ ทุกอย่างก็สายไปแล้ว

"มึงจะลักหลับกู? "

"เอ่อ..."

ผมว่าพี่เข้าใจผิดนะ ไม่ใช่ 'จะ' แต่ทำไปแล้ว!

"ด้วยการขโมยจูบกู? "

"อ่า...."

โว้ย!!! เถียงไม่ออก! ขอรับผิดชอบ! ผมจะรับผิดชอบครับ! มาเป็นแฟนกับผมเถอะ!

ใบหน้าของผมร้อนระอุ สิ่งที่คิดในใจทำได้แต่พูดติดขัดเหมือนปลาขาดน้ำ พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอามือยันหน้าของผมจนแทบจะหงายหลังเลยครับ โชคดีที่ไม่ตกเตียง

"หึ! คิดว่ามึงจะได้จูบปากกูจริงๆ เหรอ"

ผมทำหน้าเหลอหลา ตอนนี้จับต้นชนปลายไม่ถูกแล้วครับ เหมือนกำลังโดนน้ำเย็นสาด หลังจากถูกจับแก้ผ้าล่อนจ้อน

งงเว้ย!

"กูเอามือกันทัน แบบที่กูทำไปเมื่อกี้ไง บู้จูบมืออ่ะ"

พี่ลิงก์ทำหน้าเซ็งพร้อมกับเอามือลูบบนหมอนของผมเหมือนกำลังเช็ดอะไรสักอย่าง ผมก็ได้แต่มองค้าง เพราะไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้

สรุปว่า...ไอ้นิ่มๆ อุ่นๆ เมื่อกี้คือฝ่ามือของพี่ลิงก์เหรอ?

ผมเกาหัวตัวเองแบบคนงงกับชีวิต ก่อนจะถูกคนที่ยังนั่งอยู่บนเตียงตอกย้ำอีกครั้ง

"ซื่อบื้อ"

พี่ลิงก์ลุกขึ้นจากเตียง แล้วเดินไปทางห้องน้ำ ผมก็ถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ภารกิจชั่วร้ายไม่สำเร็จ

ผมเอามือแตะริมฝีปากของคัวเอง ความรู้สึกเพียงเสี้ยววินาทีนั้นยังคงอยู่ แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ตำแหน่งที่ต้องการ แต่อย่างน้อยก็ได้จูบมือพี่ลิงก์แล้วอ่ะครับ

เขินอ่ะ....




@@@@@@@@@@





เรื่องราวน่าอายที่เกิดขึ้นในห้องของตัวเองผ่านไปสองวันแล้วครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมไม่ได้เล่าเรื่องลุ้นระทึกหัวใจที่เกี่ยวข้องกับพี่ลิงก์ให้เป็ดฟัง นอกจากจะละอายใจแล้ว ผมก็กลัวโดนต่อว่าซ้ำด้วยครับ

พี่ลิงก์ยังไม่ได้เอาตุ๊กตากลับไป หลังจากเกิดเรื่อง เขาก็มองผมด้วยสายตาสมเพช แล้วออกจากห้องไป ปล่อยให้ผมสำนึกผิดในความสิ้นคิดของตัวเองตามลำพัง

LINK

-พรุ่งนี้ว่างป่ะ

Blue++

ว่างครับ

LINK

มาหาที่คอนโดหน่อย

ฮะ?! พี่ลิงก์ชวนผมไปที่คอนโด!

ผมอ่านข้อความซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่ดูเหมือนว่าผมจะไม่ได้ตาฝาดหรืออ่านผิดอะไร

LINK

บู้ มานะ จะรอ

อานุภาพของประโยคนี้แค่ตัวอักษร หัวใจของผมก็อ่อนระทวยแล้วครับ ถ้าได้ยินเสียงคงตายอนาถ เพื่อป้องกันชีวิตของตัวเอง ผมเลยรีบตอบรับ ก่อนที่อีกฝ่ายจะโทรมา

Blue++-

ได้ครับ ให้ไปกี่โ
มงครับ

LINK

เร็วหน่อยก็ดี

งั้นไปคืนนี้เลยแล้วกัน ไปนอนรอที่ใต้คอนโดนี่แหละ!

ผมหัวเราะกับความคิดเพ้อเจ้อของตัวเอง ก่อนจะมองโลเคชั่นที่พี่ลิงก์ส่งมาให้ มันคือที่อยู่ของคอนโดมิเนียมหรูติดรถไฟฟ้าที่ผมไม่เคยคิดฝันว่าจะได้ไปเหยียบที่นั่นเลยสักครั้ง

LINK

แล้วเจอกัน

Blue++

ครับ







@@@@@@@@@@









ผมตั้งใจเอาไว้ว่า จะมาหาพี่ลิงก์แต่เช้าครับ ในที่นี้คำว่า 'เช้า' ของผมคือไม่เกินเจ็ดโมง แต่พี่ลิงก์เป็นคนพิเศษก็เลยเพิ่มคำว่า 'ตรู่' เข้าไปอีก ด้วยเหตุนี้ผมเลยมาถึงด้านหน้าของคอนโดมิเนียมราคาแพงในเวลาหกโมงครึ่งครับ

ผมมองสถานที่ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย แล้วหันไปทางป้อมยามที่มีลุงคนหนึ่งกำลังมองผมอยู่เช่นเดียวกัน และเมื่อขาของผมก้าวเข้ามาในอาณาเขต ก็มีเสียงดังทักขึ้นมาทันที

"มาทำอะไรครับ"

ลุงยามเดินมาถาม ผมก็ส่งยิ้มมารยาทแล้วตอบไปอย่างมั่นใจ ตอนเช้าอากาศดี ก็ควรทำอารมณ์ให้สดชื่นนะครับ

"มาหารุ่นพี่ครับ คือเขาพักอยู่ที่นี่"

"ห้องไหนครับ"

ผมชะงักรอยยิ้ม ก่อนจะทบทวนความทรงจำแบบเร่งด่วน แต่ก็ไม่มีเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่อีกฝ่ายถามเลยแม้แต่น้อย

พี่ลิงก์อยู่ห้องไหนวะ?

"เอ่อ...ผมไม่รู้"

ลุงยามใช้สายตาพิฆาตมองผมนิ่ง ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากใจ อีกฝ่ายเลยเสนอทางเลือกให้

"ถ้ายังไงขอแลกบัตรประจำตัวประชาชนเอาไว้ก่อนนะครับ"

"คือ..."

ผมไม่อยากให้อ่ะ ทำไมแค่จะมาหาพี่ลิงก์ถึงได้ยุ่งยากแบบนี้วะ เขาให้ผมมาหาเองนะ ไม่ได้เสนอหน้ามาเอง!

"เดี๋ยวนะครับ ผมขอโทรหาพี่ก่อน"

ผมส่งยิ้มแห้งให้ลุงยามพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา บางทีการที่ผมถูกเพ่งเล็งขนาดนี้ เพราะการแต่งตัวที่แสนจะราคาถูกไม่สมกับที่รู้จักคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ก็ได้

ผมลอบถอนหายใจออกมา ก่อนจะรอสัญญาณที่กำลังเดินทางไปหาปลายสาย แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อการติดต่อถูกตัดไปพร้อมกับความกดดันจากสายตาของลุงยามที่มองมาเป็นระยะ

เฮ้ยๆ ทำไมไม่รับวะ เป็นคนนัดมาเองนะ!

ผมได้แต่ต่อว่าอีกฝ่ายในใจ แต่ก็พยายามติดต่อซ้ำไปอีกหลายครั้ง จนในที่สุดพี่ลิงก์ก็รับสายของผมสักที

"พี่..."

[มีอะไร]

น้ำเสียงมาอย่างเข้มและเย็นชามากเลยครับ ไม่ต้องเห็นหน้าก็รู้ว่าเพิ่งตื่นแน่นอน ผมหน้าแหย แล้วค่อยๆ พูดกลับไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ

"เอ่อ...ผมมาถึงแล้วนะครับ"

พี่ลิงก์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจออกมา ผมเผลอกลั้นหายใจของตัวเองเพื่อเตรียมรับคำพูดที่จะโต้ตอบกลับมา

[อืม แล้วโทรมาทำไม ก็เข้ามาสิ]

พี่ตื่นหรือยังครับ ถ้าเข้าไปได้ ผมจะโทรหาเพื่อ? ใช้สมองคิดหน่อย!

"ลุงยามไม่ให้เข้าครับ พี่อยู่ห้องไหนเหรอ คือ...ผมไม่อยากแลกบัตรอ่ะ"

[3203 แลกบัตรแล้วเข้ามา หรือไม่มีบัตร? งั้นร้องเพลงชาติให้เขาฟัง ร้องได้หรือเปล่า หรือต้องให้กูส่งเพลงไปให้มึงฝึกร้อง?]

เพราะผมกวนเวลานอนของพี่ใช่ไหม พี่เลยกวนส้นตีนผมกลับมาแบบนี้

ผมขมวดคิ้วออกมา แล้วข่มอารมณ์กับคำพูดยียวนของอีกฝ่าย ผมอาจจะผิดที่มาเช้าไปสำหรับวัยรุ่นสมัยนี้ แต่ผมก็แค่อยากใช้เวลาอยู่กับคนที่ชอบนานๆ นี่ครับ

"พี่ลิงก์ครับ แบบว่า..."

[รำคาญบู้แล้วว่ะ]

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง เมื่อสายถูกตัดไป หลังจากพยายามติดต่อไปอีกครั้ง พี่ลิงก์ก็ไม่รับสายของผมอีก ผมถอนหายใจออกมา และในขณะที่กำลังเซ็งกับเหตุการณ์ที่เผชิญอยู่ ลุงยามก็หันมาพูดกับผมพร้อมกับรอยยิ้มจางไม่ต่างจากผู้ชายสูงวัยที่อบอุ่นแสนใจดี

"เชิญเข้าไปเลยครับ"

อ้าว....

ผมทำหน้างงใส่ลุงยามที่อยู่ดีๆ ก็อัธยาศัยดีขึ้นมากะทันหัน ผมบอกขอบคุณอีกฝ่าย ก่อนจะเดินไปทางล็อบบี้ของคอนโดที่หรูหราจนไม่กล้าแตะต้องอะไร

ประตูอัตโนมัติที่เลื่อนออกมาพร้อมกับแอร์ที่เย็นฉ่ำ ผมมองไปโดยรอบราวกับคนหลงทาง ในขณะที่ผมกำลังแสดงท่าทางงุนงง พนักงานที่ทำงานตรงเคาน์เตอร์ก็เดินเข้ามาหา

"มาทำอะไรคะ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า"

"ผม..."

ผมส่งยิ้มให้พี่สาวคนสวยแทนการทักทาย ในขณะที่ผมกำลังจะขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย สายตาก็หันไปเจอพี่ลิงก์ที่เพิ่งเดินออกมาจากลิฟต์เสียก่อน

พี่ลิงก์หันมามองผม เขาเลิกคิ้วขึ้น แล้วกระดิกนิ้วเรียกผมไม่ต่างจากเรียกหมา แต่ถึงจะเรียกแบบไหน ผมก็เต็มใจเดินเข้าไปหาอยู่แล้วล่ะครับ ผมหันกลับมาส่งยิ้มให้พี่พนักงานอีกครั้ง

"เขามารับแล้วครับ"

พี่พนักงานมองตามสายตาของผม เธอพยักหน้ารับพร้อมกับรอยยิ้มบาง ก่อนจะเดินกลับไปทำงานของตัวเองต่อ ผมเดินไปหาพี่ลิงก์ แล้วอดจะชื่นชมอีกฝ่ายไม่ได้

ที่เขาว่ากันว่า หน้าตาดี หุ่นดี ใส่อะไรก็ดูดี มีให้เห็นอยู่ตรงหน้าของผมแล้วครับ

พี่ลิงก์ที่ผมยุ่งเล็กน้อยในชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นไม่มีลายแบบบ้านๆ คู่กับรองเท้าแตะที่แสนจะธรรมดากลับดูดีจนน่าอิจฉา แต่ผมก็เชื่อว่า ความเรียบง่ายของเครื่องแต่งกายเหล่านี้ต้องหาซื้อได้เฉพาะในร้านดังตามห้างแน่นอนครับ

ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้ทักทายกับพี่ลิงก์ อีกฝ่ายก็บีบแก้มของผมจนต้องร้องออกมา

"โอ๊ย! ผมเจ็บ"

"หมั่นไส้บู้"

ผมขมวดคิ้ว แล้วเดินตามพี่ลิงก์เข้าไปในลิฟต์ เราสองคนไม่ได้คุยอะไรกัน ผมลูบแก้มของตัวเอง แล้วก็ลอบมองอีกคนผ่านกระจกตรงผนังลิฟต์ครับ

พี่ลิงก์เหล่มองผมเล็กน้อย เขามีใบหน้านิ่งราวกับคนไร้อารมณ์ ก่อนจะอ้าปากหาวออกมาด้วยสายตาที่งัวเงีย ผมอมยิ้มกับตัวเองในใจ ก็ตอนนี้พี่ลิงก์เหมือนแมวจอมหยิ่งที่กำลังง่วงนอนเลยครับ

ผมรีบถอนสายตาที่ลอบมอง เมื่อนัยน์ตาสีดำหันมาทางผมอีกครั้ง ถึงพี่ลิงก์จะรู้ตัวแล้ว แต่ผมก็ยังไม่กล้ามองเขาตรงๆ ครับ ความเงียบรายล้อมพวกเราเอาไว้ จนกระทั่งลิฟต์เดินทางมาถึงชั้นที่ต้องการ









@@@@@@@@@@









"เฮ้ย! "

เมื่อประตูห้องของพี่ลิงก์เปิดออก ผมก็เจอกับตุ๊กตาหมียักษ์ในชุดทักซิโด้สีดำยืนพิงชั้นวางรองเท้าราวกับหมีขี้เมาอยู่ครับ

"ทักทายมอร์แกนสิ เขามีหน้าที่เฝ้าประตู"

ฮะ?!

ผมเบิกตากว้าง แล้วหันไปมองพี่ลิงก์อย่างไม่อยากจะเชื่อ หล้งจากนั้นก็กลับมามองตุ๊กตาหมีสีเทาตัวใหญ่อย่างงุนงง

คือ...พี่เอาตุ๊กตาหมีมากันโจรหรือครับ?!

"เร็วๆ "

"อ่า...ดีครับ"

ผมได้แต่นึกงงตัวเองว่ากำลังทำบ้าอะไรอยู่ พี่ลิงก์พยักหน้ารับอย่างพอใจ แล้วเดินนำผมเข้าไปในห้อง

ผมกวาดมองโดยรอบ ก่อนจะต้องชะงักฝีเท้าของตัวเองทันที เมื่อเห็นภาพตรงหน้า

นี่มันอะไรวะเนี่ย!!!

ผมมองตุ๊กตาหมีที่วางอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ของห้อง ซึ่งขนาดของแต่ละตัวก็ไซส์ใหญ่ทั้งนั้น ถ้ามองเผินๆ ก็คิดว่าเป็นห้องของตุ๊กตาหมีมากกว่าคนเสียอีก

หรือว่า....พี่ลิงก์จะชอบผู้หญิงอ้วนขนดก? ตุ๊กตาหมีพวกนี้ มันบ่งบอกถึงสเปคได้หรือเปล่า?

ผมได้แต่คิดอย่างหนักกับสิ่งที่เห็น พี่ลิงก์แนะนำตุ๊กตาหมีแต่ละตัวในห้องให้ผมรู้จัก

"นั่นโจแอน ที่นั่งตรงนู้นคืออลิซ ที่อยู่ตรงมุมนั้นคือวิลสัน ตรงโน้นมากาเร็ต ที่อยู่บนโต๊ะก็ฮาร์วี่ แล้วนั่นก็เฮเลน มึงรู้จักแล้ว"

เอาจริงดิ...

ผมมองไปตามตุ๊กตาหมีแต่ละตัวที่มีสีแตกต่างกันไป แล้วหยุดสายตาตรงสีหน้าของพี่ลิงก์ที่หันกลับมามองผมอีกครั้ง

"มึงจำได้หรือเปล่า"

"อ่า...ครับ"

"ไหนลองดูดิ"

พี่ลิงก์มองหน้าของผมอย่างจับผิด ผมกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเริ่มทวนชื่อของตุ๊กตาแต่ละตัวที่เขาเพิ่งบอกไปเมื่อครู่นี้

"เอ่อ..เฮเลน โจแอน วิลสัน อลิซ แล้วก็...ฮาร์วี่กับมากา..."

"มากา...? "

ผมใช้ความเร็วทวนความจำเต็มสปีด แล้วตอบออกไป เมื่อเห็นสีหน้าที่มึดมนลงทุกทีของพี่ลิงก์

"มาการี่"

"มากาเร็ตเว้ย บู้อย่ามั่วดิ"

ผมยิ้มแห้งให้พี่ลิงก์ที่ทำหน้าดุใส่ เขาให้ผมนั่งลงที่โซฟาหนังสีน้ำตาลเข้มที่ตอนนี้มีโจแอนนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ก่อนจะเดินไปหาน้ำดื่มมาให้พร้อมกับถามต่อไม่ต่างจากเจ้าบ้านที่ดี

"แล้วกินอะไรมาหรือยัง"

"ยังครับ"

ผมตื่นมาตั้งแต่เช้ามืด เสียเวลาเลือกเสื้อผ้าอยู่นาน แล้วไหนจะสำรวจตัวเองอีกหลายรอบ กว่าจะมั่นใจออกมาจากห้องของตัวเอง เรื่องปากท้องไม่ได้อยู่ในความคิดเลยครับ

"งั้นอยากกินอะไร เดี๋ยวทำให้"

"พี่ทำอาหารเป็นด้วยเหรอ"

ผมนึกแปลกใจสุดขีด จากข้อมูลของแฟนคลับไม่เคยมีใครพูดถึงเรื่องการทำอาหารกับพี่ลิงก์มาก่อน โดยทั่วไปทุกคนจะรู้แค่ว่า งานอดิเรกของพี่ลิงก์คือการสะสมตุ๊กตาหมีครับ

"ก็พอทำได้ แล้วตกลงอยากกินอะไร"

ผมรู้สึกเกรงใจพี่ลิงก์มากเลยครับ แต่ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะอีกฝ่ายกำลังจ้องหน้ากดดันอยู่ ผมเลยหาเมนูง่ายๆ ที่ไม่ทำให้เขาลำบากและสกิลการทำอาหารระดับ 'พอทำได้' ออกมาอร่อย

"ขอแค่ข้าวไข่ดาวก็พอครับ"

ผมว่า พี่ลิงก์น่าจะทำเมนูไข่ได้แบบผมเนี่ยแหละ เอาแบบปลอดภัยและไม่เดือดร้อนคนทำด้วย หรือถ้ามันยากไป ผมไปทอดเองก็ยังได้ อันที่จริง...แค่พี่ลิงก์ต้มมาม่าให้ผมสักถ้วยก็ประทับใจมากแแล้วครับ

"สิ้นคิดกว่ากะเพราหมูสับไข่ดาวอีก"

พี่ลิงก์ว่า แล้วเดินเข้าไปในห้องครัว ผมก็ได้แต่นั่งงงอยู่บนโซฟา เมื่อไม่มีอะไรทำอยู่คนเดียว ผมเลยหันซ้ายหันขวา แล้วหยุดสายตาตรงตุ๊กตาหมีสีเหลืองอ่อนในชุดกระโปรงผ้าลื่นสีครีมอย่างพิจารณา

อืม...ทำไมพี่ลิงก์ชอบตุ๊กตาหมีวะ?

ผมคว้าโจแอนมาอยู่ตรงหน้า ตัวหนักเหมือนกันนะครับ แต่ก็นุ่มมาก พอลองกอดดูก็เต็มอ้อมแขนของผมเลย

ผมมองหน้าหมีที่ส่งตาแป๋วสีดำสนิทมาให้ นัยน์ตาคู่นั้นกำลังสะท้อนสีหน้าของผมอยู่ ราวกับผมตกอยู่ในภวังค์ความคิดไปวูบหนึ่ง เสียงของพี่ลิงก์ก็ดังขึ้น

"บู้ กินข้าว"

ผมหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังวางจานอาหารลงบนโต๊ะกินข้าวที่มีเฮเลนนั่งอยู่ด้วย หลังจากวางโจแอนเอาไว้ที่เดิม ผมก็เดินตรงไปหาเจ้าของห้องครับ

กลิ่นหอมของอาหารเช้าไม่ได้ดึงดูดความสนใจของผมเท่ากับหน้าตาของมันหรอกนะครับ ผมตาโตขึ้น เมื่อเห็นว่าจานตรงหน้าคือข้าวห่อไข่ที่แสนจะน่ากิน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีข้อความที่ชวนให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาทันที

'LOVE'

ล....เลิฟ!!!!

พี่ลิงก์บอกรักผม?!!!

ใบหน้าของผมร้อนผ่าว ถึงจะอายและหัวใจเต้นแรง แต่ก็ยังอยากมองหน้าของรุ่นพี่ที่แอบชอบ อยากจะมองให้แน่ใจว่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้คือเรื่องจริง

"เป็นอะไร อยากเข้าห้องน้ำเหรอ"

อ่า...พี่ลิงก์ครับ มันไม่ใช่ประโยคแรกที่ควรพูดหลังจากบอกรักหรอกนะครับ

"คือ...พี่..."

ผมอมยิ้มแต่ไม่กล้าพูดอะไรออกไป ทำได้แค่ส่งสายตาไปทางข้าวห่อไข่ที่มีข้อความปรากฏชัดเจน พี่ลิงก์เลิกคิ้ว แล้วมองตาม

"อันนั้นข้าวของกู ส่วนของมึงก็ไข่ดาวไง"

อ้าว...

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วมองตามพี่ลิงก์ที่เดินเข้าห้องครัวไปอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินออกมาพร้อมกับข้าวที่โปะหน้าด้วยไข่ดาวสองฟองครับ

นั่นสินะ... ผมก็ละเมออะไรไปล่ะเนี่ย!

ผมลอบถอนหายใจออกมา แล้วนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่พร้อมกับมองข้าวไข่ดาวของตัวเองอย่างสิ้นหวัง ความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อครู่นี้สลายไปโดยสิ้นเชิง

ตอนนี้บนโต๊ะกินข้าวขนาดกลางมีมนุษย์สองคนกับตุ๊กตาหมีหนึ่งตัวครับ ผมหันไปมองเฮเลนเล็กน้อย แล้วเลื่อนสายตาไปทางพี่ลิงก์ที่นั่งลงข้างตุ๊กตาหมีของเขา ซึ่งอยู่ตำแหน่งตรงกันข้ามกับผมพอดีครับ

ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะลงมือจัดการอาหารเช้าของตัวเอง จานอาหารของผมก็ถูกสลับ ผมมองข้าวห่อไข่ที่มาอยู่ตรงหน้าแทนข้าวไข่ดาวอย่างแปลกใจ แล้วเงยหน้ามองพี่ลิงก์ที่ยังมีสีหน้าเป็นปกติอย่างสงสัย

"ยกให้ก็ได้ สงสารบู้ อยากกินจนมองตาละห้อย"

" อ่า...ขอบคุณครับ"

พี่ลิงก์พยักหน้ารับ แล้วสนใจข้าวไข่ดาวของตัวเองต่อ ผมนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจละเลงซอสที่เขียนข้อความชวนให้ใจเต้นแรงไปทั่วเนื้อไข่สีเหลืองสวยอย่างครุ่นคิด

ทำข้าวห่อไข่กินเอง แล้วจะเขียนคำว่าเลิฟทำไมล่ะวะ.....





TBC++++++

Marionetta
มาแล้วค่ะ มีความฮาและสงสารบู้อย่างเต็มเปี่ยม 5555 พี่ลิงก์ขี้แกล้งนะ

ปล. บู้ได้จูบมือของพี่ลิงก์จริงๆ หรือเปล่านะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 6 - 16/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 18-03-2019 19:27:06
 :n1: :n1: :n1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 7 - 18/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-03-2019 20:07:47
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 7 - 18/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-03-2019 20:14:10
สงสารคนโดนปั่นหัว
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 7 - 18/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 18-03-2019 21:09:30
สงสารบู้จริงๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 7 - 18/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 18-03-2019 22:37:56
โอ้ยยย กวนจริงๆพี่ลิงค์ แต่น่ารักๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 7 - 18/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-03-2019 22:55:16
 :L2: :L1: :pig4:

สงสารบู้ โดนทดสอบตลอดเวลา
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 7 - 18/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 21-03-2019 15:00:55
บู้จะทนพี่ลิ้งค์ได้ไหม เหมือนอยู่ในความงง เขาวงกตตลอดเวลา 555+
 :really2:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 7 - 18/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 21-03-2019 18:11:46
 :mew5:
 :L1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 7 - 18/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 22-03-2019 10:42:15
Level 8: ก้าวเข้ามาอีกนิด









นี่มันไม่ใช่ระดับแค่พอทำได้แล้ว!

ผมไม่ได้อวยพี่ลิงก์เพราะความพิศสวาทส่วนตัวหรอกนะครับ แต่เขาทำอาหารอร่อยจริงๆ ผมกินข้าวห่อไข่จนเกลี้ยงจานในเวลารวดเร็ว

"พี่ทำอาหารอร่อย"

ลิงก์ก็แค่เลิกคิ้วขึ้น แล้วยิ้มบางออกมา ตอนนี้ข้าวไข่ดาวของเขาก็หมดแล้วเหมือนกันครับ

"เหรอ พ่อกูทำอร่อยกว่านี้อีก"มพยักหน้ารับ แล้วอาสาเอาจานทั้งหมดไปเก็บล้างให้เรียบร้อย ภายในห้องครัวของพี่ลิงก์มีอุปกรณ์ครบครันเลยครับ ดูเหมือนว่าเขาจะใช้งานทุกอย่างด้วย

ไม่อยากจะเชื่อจริงๆ

ถ้าผมไม่ได้มาที่นี่ แล้วมีคนบอกว่าพี่ลิงก์ทำอาหารกินเอง ผมก็คงไม่เชื่อ เพราะมาดคุณชายที่หยิบจับอะไรไม่เป็นเสียขนาดนั้นนี่ครับ

หลังจากเดินออกจากห้องครัว ผมก็ไม่เห็นพี่ลิงก์แล้ว สงสัยเขาคงอยู่ในห้องนอน ผมไม่กล้าเดินเพ่นพ่านเลยกลับมานั่งที่โซฟาในห้องรับแขก ก่อนจะกวาดสายตาไปเจอกรอบรูปหนึ่งที่วางอยู่ตรงชั้นที่มีอลิซเฝ้าอยู่

ผมลุกขึ้นไปมองใกล้ๆ ความสูงของชั้นทำให้ผมต้องย่อตัวลง ผมหันไปมองอลิซ ตุ๊กตาหมีสีขาวในชุดกระโปรงลูกไม้ที่ตอนนี้อยู่ในระยะสายตาเดียวกันเล็กน้อย แล้วกลับมาพิจารณารูปภาพตรงหน้าอีกครั้ง

รูปถ่ายในกรอบรูปไม้เป็นภาพของผู้ชายสามคนที่กำลังยืนยิ้มครับ คนที่อยู่ตรงกลางคือพี่ลิงก์สมัยที่ยังหัวเกรียน ส่วนผู้ชายอีกสองคนที่ยืนขนาบข้างก็น่าจะเป็นพ่อกับป๊าของเขานั่นแหละครับ ในภาพนี้นอกจากความหน้าตาดีจนน่าอิจฉาของทุกคนแล้ว พวกเขาก็ยังมีจุดเชื่อมโยงความเป็นเดอะแก๊งด้วยที่คาดผมหูมิกกี้เมาส์

คนหล่อมาทำตัวหน่อมแน้มแล้วน่ารักจังเลยตรับ

ผมอมยิ้มออกมา เท่าที่เคยหาประวัติของพี่ลิงก์ดูหลังจากที่เผลอพูดอะไรไม่เข้าหูอีกฝ่ายที่ร้านอาหารในวันนั้น ผมก็รู้เพิ่มมาว่า นอกจากเขาจะเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนักธุรกิจที่ร่ำรวยแล้ว ป๊าของพี่ลิงก์ก็คบกับผู้ชายครับ ซึ่งก็คงเป็นพ่อที่เขามักบอกเสมอว่า ทำอาหารเก่ง

รูปนั้นถ่ายตอนไปเที่ยวฮ่องกง"

เสียงทุ้มที่ดังขึ้นกะทันหัน ทำให้ผมเผลอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะเบิกตากว้างกว่าเดิมอีกนิด เมื่อตำแหน่งที่อลิซควรอยู่กลายเป็นพี่ลิงก์แทน เพราะผมมัวแต่เหม่อมากไปเลยไม่รู้ตัวว่า เจ้าของห้องมาอยู่ใกล้มากขนาดนี้

"อ่า...ครับ"

พี่ลิงก์ย่อตัวลงมาให้อยู่ระดับเดียวกับผม แขนข้างหนึ่งของเขากอดคออลิซเอาไว้ราวกับเป็นที่พักแขน นัยน์ตาสีดำเลื่อนมามองผมเล็กน้อยแล้วกลับไปสนใจภาพถ่ายของตัวเองต่อ

"กูสอบเข้ามหา'ลัยได้ ป๊ากับพ่อเลยพาไปเที่ยว คนที่ยืนทางขวาคือป๊ากู ส่วนทางซ้ายก็พ่อกู"

ผมพยักหน้ารับพร้อมกับมองไปยังภาพที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ละความสนใจมามองคนที่นั่งย่อตัวอยู่ข้างกันแทน เมื่อได้ยินเสียงของเขา

"ไม่ตกใจเหรอ"

"ตกใจอะไรครับ"

ถ้าหมายถึงตอนที่พี่โผล่มาแบบเงียบๆ ล่ะก็ ผมตกใจเสร็จไปแล้วครับ...

"ก็ที่กูมีพ่อสองคน"

"ก็ไม่แปลกอะไรนี่ครับ"

ผมตอบไปตามตรง พี่ลิงก์ก็เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับพูดต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"พ่อกับป๊ากูเป็นเกย์"

ผมลอบถอนหายใจออกมา เพราะไม่แน่ใจว่า พี่ลิงก์รู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ แต่ในความคิดของผม การจะรักใครสักคนก็ไม่เห็นต้องแคร์ว่าเป็นเพศอะไร

แค่เป็นคนที่ดีต่อใจก็พอแล้วไม่ใช่หรือครับ

"ผมยังชอบพี่ที่เป็นผู้ชายเลย แล้วการที่พ่อกับป๊าของพี่เป็นเกย์ก็ไม่เห็นแปลก"

พี่ลิงก์มองผมครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้ารับ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยิ้มออกมา แต่แววตาที่สดใสขึ้นก็ทำให้ผมโล่งอกที่ไม่ได้พูดอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจอีก

"เดี๋ยวพาไปเจอเอาป่ะ"

"ไม่เอาครับ"

"ทำไมอ่ะ บู้ไม่อยากเจอเหรอ"

ผมปั้นสีหน้ายาก ก็ไม่ใช่ว่าไม่อยากเจอหรอกนะครับ แต่ไม่พร้อมที่จะเจอมากกว่า แล้วทำไมผมต้องไปเจอบุพการีที่หน้าตาดีของพี่ลิงก์ด้วย ถ้าหากพวกเขารู้ว่า ลูกชายรู้จักกับยาจกอย่างผม จะโดนกีดกันหรือเปล่าก็ไม่รู้

ผมเดาใจคนในสังคมไฮโซไม่ถูกหรอก บางทีพวกเขาอาจจะอยากให้ลูกชายคบค้าสมาคมกับคนที่มีฐานะในระดับเดียวกัน

อย่างพี่พลก็เป็นถึงลูกชายของทหารยศสูงที่มีบทบาทในกระทรวงกลาโหม ส่วนพี่ทีก็เป็นถึงทายาทเจ้าของโรงแรมห้าดาวสุดหรูที่ตอนนี้กำลังขยายกิจการไปยังต่างประเทศด้วย

เอาเป็นว่า...นอกจากพวกเขาอาจจะเลือกคบคนที่หน้าตาแล้ว อาจจะเพราะฐานะที่อยู่ในแวดวงเดียวกันก็เป็นได้

"มึงคงไม่รู้ ป๊ากูเป็นมาเฟีย ส่วนพ่อกูก็เป็นนักฆ่า เขารักกันตอนที่พ่อกำลังจะไปลอบฆ่าป๊า โรแมนติกไหมล่ะ"

ฮะ?!

ผมได้แต่ฟังเรื่องราวด้วยความตกตะลึง พี่ลิงก์ทำหน้าขรึม แล้วเล่าต่ออย่างใจเย็น

"ถ้ามีใครที่พวกเขาไม่ไว้ใจมาป้วนเปี้ยนในชีวิตกู พวกเขาก็จะจัดการ แล้วมันก็เป็นสาเหคุที่ทำให้กูไม่ชอบสุงสิงกับใครมาก"

ผมได้แต่กะพริบตาปริบๆ ด้วยความตกใจ ตอนนี้อึ้งจนพูดอะไรไม่ออกแล้วครับ

"กูไม่แน่ใจว่า พวกเขารู้เรื่องมึงหรือยังนะบู้ ไม่แน่...พวกเขาอาจจะส่งใครสักคนจับตามองมึงอยู่"

เฮ้ย!!!

"ได้ยินว่าคนล่าสุดนี่ก็เอาไปทิ้งไว้ในโกดังร้างมั้งหรือว่าปล่อยในป่าวะ จำไม่ได้แล้ว แต่ที่แน่ๆ จบไม่สวย"

เหี้ย! น่ากลัวได้อีก!

"พี่หลอกผมหรือเปล่าเนี่ย"

ผมไม่เชื่อนะครับ เรื่องพรรค์นี้ แต่ทำไมใจสั่นวะ!

"มันก็ไม่น่าเชื่อจริงๆ นั่นแหละ กูก็แค่เล่าตามที่ได้ยินมา พวกเขาไม่ได้บอกเรื่องพวกนี้ให้กูฟังนักหรอก หรือว่ามึงอยากพิสูจน์? "

เรื่องบางเรื่องก็ไม่ต้องหาคำตอบก็ได้ครับ...

ถึงจะไม่เห็นสีหน้าของตัวเอง แต่ผมก็มั่นใจว่า ตัวเองต้องหน้าซีดไปแล้วแน่ๆ พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา นัยน์ตาของเขาอ่อนแสงลง แล้วผมก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อเขาดึงผมเข้าไปกอดเอาไว้พร้อมกับลูบหัวของผมเบาๆ

"ไม่ต้องกลัวนะบู้ จนกว่ากูจะแน่ใจเรื่องป็ากับพ่อ กูจะตามไปรับส่งมึงก่อนก็แล้วกัน"

ผมรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นโครมคราม ทว่ามันไม่ใด้มาจากความกลัว แต่เป็นเพราะความเขินล้วนๆ ครับ ถึงแม้ว่าใบหน้าของผมตอนนี้จะบี้กับหัวของอลิซอยู่ก็ตาม

เจ็บ...แต่ก็ดีต่อใจอ่ะครับ





@@@@@@@@@@





ผมไม่แน่ใจว่าพี่ลิงก์คลายกอดไปตอนไหน แล้วสิ่งที่ไม่แน่ใจยิ่งกว่า นั่นก็คือเรื่องที่เขาเพิ่งบอกกับผมไป

เรื่องป็ากับพ่อของเขาน่าตกใจมาก แต่เรื่องที่พี่ลิงก์จะมารับส่งผมนี่คืออะไร?!!!

เขากำลังปกป้องผม?

ผมจะได้นั่งโฟล์คบีเทิลบ่อยขึ้น?

นั่นก็หมายความว่า...เราสองคนจะได้ใช้เวลาและเจอกันมากกว่าเดิม!

ผมได้แต่ครุ่นคิดกับตัวเองอย่างฟุ้งซ่าน ผมไม่อยากเชื่อเรื่องที่พี่ลิงก์บอก แต่ทุกอย่างย่อมมีสองด้าน ไม่แน่ว่าในสังคมปัจจุบันอาจจะมีโลกอีกด้านหนึ่งที่คนทั่วไปไม่รู้ก็ได้ ที่มาของเงินมากมายก็อาจจะมาจากบางแหล่งที่คนอย่างผมคาดไม่ถึง

หวังว่า...ผมจะไม่ถูกฆ่าตายหรือเป็นอะไรไปก่อนวัยอันควรนะครับ

ผมยืนมองวิวมุมสูงผ่านหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ตอนนี้เวลาราวแปดโมงเช้าครับ แล้วผมก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่

ผมลอบถอนหายใจออกมา ก่อนจะมองไปทางโซฟาที่ตอนนี้พี่ลิงก์กำลังนอนหนุนตักโจแอนพร้อมกับอ่านหนังสือการ์ตูน โดยที่มีเสียงเพลงที่บรรเลงจากเปียโนฟังสบายคลายความเงียบ

คือ...พี่ลืมผมไปแล้วหรือเปล่าครับ?

ผมเดินมาแอบมองพี่ลิงก์ที่ใส่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นธรรมดาดูแปลกตา แล้วอยากจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้ แต่ก็เริ่มระแวงจนไม่กล้าทำอะไรอย่างที่ใจคิดครับ

ผมไม่รู้ว่า ภายในห้องนี้จะมีกล้องวงจรปิดแอบมองผมอยู่หรือเปล่า

"มีอะไร"

พี่ลิงก์ลดหนังสือการ์ตูนที่ถืออยู่ลง แล้วมองผมที่กำลังยืนระแวดระวังไปรอบตัวด้วยสายตาสงสัย

"คือ...พี่ให้ผมมาทำอะไรเหรอ"

การที่เรียกให้มาหาแบบนี้ ผมก็พอจะเดาทางออกครับ มันก็คงหนีไม่พ้นมาช่วยทำงานสักอย่าง อาจจะมาทำความสะอาด ทำอาหาร ซักผ้า จัดห้องอะไรเทือกนั้น

ผมเตรียมตัวมาเป็นคนรับใช้พี่ลิงก์เต็มที่แล้วครับ!

"อันที่จริงก็มี แต่เกรงใจมึง"

พี่เกรงใจช้าไปหลายชั่วโมงเลยนะครับ

ผมยิ้มแห้งให้พี่ลิงก์ที่ขยับตัวมานั่ง เขามองผมครู่หนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา

"รออยู่นี่ก่อน"

พี่ลิงก์เดินไปทางห้องหนึ่งที่ผมเดาว่า น่าจะเป็นห้องนอน หลังจากนั้นเขาก็เดินออกมาวางตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลเข้มสองตัวลงบนโซฟา ก่อนจะเดินไปอีกห้องหนึ่ง แล้วเดินกลับมาพร้อมกับตุ๊กตาหมีสีครีมที่ใส่ชุดกิโมโน

"สองตัวนี่ชื่อ ลอร่ากับลูอิส ส่วนตัวนี้ชื่อยูกิโนะ"

ผมเลิกคิ้วมองตุ๊กตาหมีใส่ชุดกิโมโนอย่างแปลกใจจนเผลอหลุดปากถามกลับด้วยความสงสัย

"ทำไมตัวนี้ชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นล่ะครับ"

"ก็มันใส่ยูคาตะไง"

ยูคาตะ...ผมเองก็แยกกิโมโนกับยูคาตะไม่ค่อยออกเหมือนกันครับ แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะ

"แล้วถ้าใส่ชุดไทย? "

"ชื่อยุพิน"

"ฮะ?! "

เอาจริงดิ!

ผมทำสีหน้าตกใจ แล้วหลุดหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ พี่ลิงก์ที่ตอบหน้าตาย ก็แค่เลิกคิ้วขึ้น ก่อนน้ำเสียงทุ้มที่แฝงแววหาเรื่องจะดังขึ้น

"นี่มึงคิดว่ากูปัญญาอ่อนเหรอ"

พี่ลิงก์จับมือของยูกิโนะมาตบหัวของผมหลายทีเป็นการเอาคืน มันไม่ได้เจ็บนะครับ แต่ผมก็ต้องร้องออกมา ทั้งที่ยังขำอยู่

"โอ๊ยๆ ฮ่าๆ พี่ผมยอมแล้ว"

พี่ลิงก์ชักสีหน้าใส่ผมพร้อมกับเอามือนุ่มๆ ของยูกิโนะมาตีปากของผมทีหนึ่งที่ยังมัวแต่หัวเราะอยู่

"ยูกิโนะก็คือยูกิโนะ จะใส่ชุดอะไรก็คือยูกิโนะ"

ผมพยักหน้ารับทั้งที่พยายามกลั้นยิ้มอย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นคำถามที่ยังสงสัยก็ยังไม่หายไป

"ตกลงเพราะใส่ชุดญี่ปุ่น ถึงชื่อญี่ปุ่นจริงหรือครับ"

"ก็ซื้อมาจากญี่ปุ่นไง"

ผมเลื่อนสายตาไปมองตุ๊กตาโดยรอบ ไม่ใช่ว่าที่ชื่อฝรั่งทั้งหมดซื้อมาจากต่างประเทศอะไรแบบนั้นหรอกนะครับ!

"สงสัยอะไรอีก"

พี่ลิงก์วางยูกิโนะให้นั่งข้างโจแอน แล้วเมื่อผมส่ายหน้า เขาก็เริ่มอธิบายถึงสิ่งที่ต้องการ

"เดี๋ยวกูเอาชุดมาให้ใหม่ บู้ก็เปลี่ยนให้ทุกตัวเลยนะ"

"เปลี่ยนชุด? "

"ใช่ งงตรงไหนอีก"

ก็งงตรงที่ว่า ทำไมต้องทำอะไรแบบนี้ด้วยนั่นแหละครับ

ดูเหมือนว่าครั้งนี้พี่ลิงก์จะอ่านใจของผมได้ เขาถอนหายใจออกมา แล้วมองผมอย่างจริงจัง

"มึงยังเปลี่ยนชุดทุกวัน คนอื่นเขาก็ต้องเปลี่ยนชุดบ้างดิ"

ผมว่าพี่กำลังสับสนระหว่างคนกับตุ๊กตาอยู่นะ...

ผมได้แต่ยืนนิ่งไม่เถียงอะไร ผมรู้ว่าจินตนาการของพี่ลิงก์ก้าวล้ำเกินกว่าที่ผมจะต้านทานเอาไว้ได้ อะไรที่ทำให้เขามีความสุข ผมก็จะทำครับ

"เดี๋ยวไปหยิบชุดมาให้"

พี่ลิงก์เดินไปอีกห้องหนึ่ง ก่อนจะหอบชุดที่อยู่บนไม้แขวนเสื้อมาเต็มแขน แล้ววางไว้ตรงหน้าของผม

"ไล่เปลี่ยนให้ครบนะบู้ ทำได้ใช่ไหม"

"แล้วตัวไหนใส่ชุดอะไรล่ะครับ"

"บู้ ปีสองแล้วนะ รู้จักคิดเองได้แล้วไม่ใช่เหรอ"

พี่ลิงก์ย้อนถามผมด้วยสีหน้าเรียบเฉย ผมก็พยักหน้ารับอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

ผมคิดได้ แต่กลัวไม่ถูกใจพี่ยังไงครับ...




@@@@@@@@@@





ตอนนี้พี่ลิงก์กำลังเปิดหาหนังดูอย่างจริงจัง ในขณะที่ผมกำลังวุ่นวายอยู่กับตุ๊กตาและชุดของพวกมัน อันที่จริงผมก็พอจะแยกได้อยู่ว่า ชุดไหนเป็นของใคร ก็เดาจากสไตล์ชุดเดิม รวมไปถึงขนาดครับ

ผมเริ่มจากตุ๊กตาตัวเล็กที่สุดในกลุ่มนี้ก็คือลอร่ากับลูอิส พอผมถอดชุดเดิมของพวกมันออก ก็เผลอคิดไปว่า ตุ๊กตาสองตัวนี่้คงเป็นฝาแฝดกันแน่ๆ

"ลอร่ากับลุอิสเป็นฝาแฝดกันหรือเปล่าครับ"

พี่ลิงก์หันมามองผมเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปสนใจหนังเรื่องหนึ่งที่เพิ่งเลือกได้เมื่อครู่นี้

"ใช่"

เออว่ะ...ผมก็เริ่มบ้าไปแล้ว!

ผมขำตัวเองในใจ แล้วลองแกล้งเปลี่ยนชุดสลับกัน ก็อยากทดสอบว่าพี่ลิงก์จะจำได้หรือเปล่าว่าตัวไหนคือลอร่าตัวไหนคือลูอิส

ผมยกยิ้มกับตัวเอง แล้วหันไปมองยูกิโนะที่นั่งมองผมตาแป๋ว ผมเริ่มแกะชุดยูคาตะของเจ้าหมีสีครีมออกมา

พอมานั่งพิจารณาแต่ละชุด ผมคิดว่ามันต้องสั่งตัดมาแน่นอนเลยครับ แล้วพอผมสังเกตอย่างละเอียด ตรงคอเสื้อหรือชุดจะมีชื่อของตุ๊กตาติดอยู่

สุดยอดเลยว่ะ...

ผมลอบมองพี่ลิงก์ที่ทุ่มทุนเกี่ยวกับตุ๊กตาหมีขนาดนี้ ผมใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการไล่เปลี่ยนชุดตุ๊กตาแต่ละตัวภายในห้อง แล้วหยุดตรงโจแอนที่พี่ลิงก์กำลังนอนหนุนตักดูหนังอยู่ครับ

"พี่ครับ ผมจะเปลี่ยนชุดให้โจแอน"

พี่ลิงก์เลื่อนสายตามามองผม ก่อนจะมองไปที่หน้าจอโทรทัศน์ที่กำลังส่งเสียงระเบิดตูมตามต่อไป

"เอาโจแอนไป แล้วใครจะมาให้กูนอนตัก"

แล้วทำไมต้องนอนตักล่ะ?

ผมอยากจะย้อนถามกลับไปแบบนั้น แต่ผมก็เลือกตอบในสิ่งที่คิดว่าเข้าท่ากว่าครับ

"เอายูกิโนะไปแทนก่อนไหมครับ ผมเปลี่ยนชุดแล้ว"

พี่ลิงก์เลื่อนสายตามามองผม ก่อนจะหันไปทางยูกิโนะที่เปลี่ยนเป็นชุดยูคาตะสีเหลืองสดใส แล้วหันไปสนใจหนังต่อ

"ตัวเล็กไป"

"หรือพี่จะเอามอร์แกนล่ะครับ"

ถ้าจะมีตุ๊กตาหมีตัวไหนที่ใหญ่พอๆ กับโจแอนก็มอร์แกนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูนี่แหละครับ

"มอร์แกนเฝ้าประตูอยู่ อย่าไปกวนเขาสิ"

ผมว่าพี่กำลังกวนตีนผมอยู่นะครับ

ผมลอบถอนหายใจออกมา ถ้าพี่ลิงก์ยังดึงดันจะนอนหนุนตักโจแอนต่อ ผมก็ห้ามไม่ได้ ก็ผมไม่ใช่เจ้าของห้องนี้นี่ครับ แล้วแต่เขาเลย

ผมไม่ได้ถามอะไรต่อ แล้วรวบรวมชุดที่ถอดทั้งหมดใส่ตะกร้าที่พี่ลิงก์เตรียมเอาไว้ให้ ในขณะที่ผมกำลังเก็บของทุกอย่าง เสียงของพี่ลิงก์ก็ดังขึ้น

"ทำไมไม่เปลี่ยนชุดให้โจแอน"

"ก็พี่หนุนตักอยู่ไง"

พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา เขาขยับตัวลุกขึ้นพร้อมกับบอกคำสั่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นและทำตัวไม่ถูก

"บู้มานั่งแทนโจแอน"

"ผม? "

"เร็วๆ "

ผมรู้สึกใบหน้าของตัวเองร้อนขึ้นมาทันที ผมกลั้นลมหายใจเดินไปนั่งแทนโจแอน น้ำหนักจากหัวของพี่ลิงก์ที่อยู่บนตักก็ทำให้ผมตัวเกร็งจนทำอะไรไม่ถูก

"แข็ง"

ตักผู้ชายจะไปเทียบอะไรกับตุ๊กตาล่ะครับ

ผมได้แต่ต่อว่าอีกฝ่ายในใจ ก่อนจะหันไปสนใจตุ๊กตาหมีต่อ ว่าแต่...แล้วผมจะเปลี่ยนชุดให้โจแอนยังไงล่ะครับ

"พี่ ผมไม่ถนัด"

"เปลี่ยนชุดใช้มือไม่ได้ใช้ตักไม่ใช่เหรอ"

ผมถอนหายใจออกมา แล้วก้มมองพี่ลิงก์ที่ยังสนใจหนังตรงหน้าต่อ ด้วยเหตุนี้ผมเลยต้องใช้ความพยายามทั้งหมดในการเอี้ยวตัวเปลี่ยนชุดให่ตุ๊กตาหมียักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในห้อง

ลำบาก แต่ทำไมมีความสุขวะ...

ผมอมยิ้มกับตัวเอง แล้วแอบจับผมของพี่ลิงก์เล่นนิดหน่อย แต่เขาคงไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่สนใจหนังมากกว่าเลยไม่ได้ว่าอะไร





TBC+++++++++





หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 7 - 18/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 22-03-2019 11:08:12
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 8 - 22/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 22-03-2019 11:55:34
ป๊าเป็นมาเฟีย กับพ่อเป็นนักฆ่านี่สุดยอด อ่านปุ๊ปขำก๊ากเลย 5555+
ไปๆมาๆ คงต้องเป็นบลูนั่นแหละถึงจะทนพี่ลิ้งค์ได้
รอตอนต่อไปฮะ อ่านเรื่องนี้แล้วอารมณ์ดีมากๆ ชอบ
 :L1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 8 - 22/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-03-2019 12:33:04
(น้องโดนหลอกแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 8 - 22/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-03-2019 20:01:36
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 8 - 22/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 30-03-2019 09:18:42
Level 9: คนมีเสน่ห์









กว่าพี่ลิงก์จะลุกจากตักของผมก็ต้องรอให้หนังที่เขาดูอยู่จบก่อนครับ โดยที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็เอาแค่บ่นว่า แข็ง เมื่อย เป็นระยะ ถึงอย่างนั้นพอผมจะลุกแล้วให้โจแอนมาทำหน้าที่แทน อีกฝ่ายก็บอกว่า อย่ามากวน

ผมตีหน้าตักของตัวเองเพื่อคลายกล้ามเนื้อนิดหน่อย ตอนนี้เหมือนเหน็บจะกินครับ แต่ผมก็ไม่ได้โทษพี่ลิงก์หรอก ผมให้เขานอนหนุนตักได้ทั้งวันทั้งคืน

เอ่อ...ถึงจะบอกไปแบนั้น แต่มันก็แค่คำเปรียบเปรยนะครับ แค่สิบนาทีก็กลัวตะคริวกินแล้ว เหอะๆ

"หิวป่ะ"

ผมหันไปมองนาฬิกาที่แขวนผนัง ตอนนี้เวลาใกล้บ่ายโมงแล้วครับ พอพูดถึงอาหาร ท้องของผมก็ร้องออกมา แล้วเผลอคิดไปว่าพี่ลิงก์จะทำอะไรให้กินหรือเปล่า

"กูว่าจะออกไปซื้อของ ก็ออกไปกินข้างนอกเลยแล้วกัน"

"ครับ"





@@@@@@@@@@





พี่ลิงก์ไม่ได้เปลี่ยนชุด เขายังใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นเหมือนเดิม แต่ที่กล้าแต่งตัวแบบนี้ไปที่ห้างได้ เพราะความมั่นในหน้าตาล้วนๆ ครับ

พี่ลิงก์พาผมมาเลี้ยงอาหารญี่ปุ่น ผมไม่ได้กินอะไรมากแต่อาศัยอานิสงส์จากการสั่งของอีกฝ่ายที่บอกให้ผมช่วยกิน

ในขณะที่ผมกำลังช่วยพี่ลิงก์จัดการซูชิอย่างเอร็ดอร่อย เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ผมรีบหยิบขึ้นมากดรับทันที คุณเป็ดเพื่อนสนิทของผมโทรมาครับ

"อืม"

[เย็นนี้ไปเดินตลาดนัดกันป่ะ]

"กูอยู่ข้างนอก"

[อ้าว แล้วจะกลับกี่โมง]

"กูยังไม่รู้เลย"

[เออ แล้วนั่นมึงกำลังทำอะไร กินข้าวอยู่เหรอ]

"อืม"

อาจเป็นเพราะผมกินไปด้วยคุยไปด้วย เป็ดก็เลยสงสัย

[อืม งั้นไปพรุ่งนี้แล้วกัน]

"ได้ๆ แค่นี้ก่อนนะมึง"

[อืม]

หลังจากที่เป็ดตัดสายไป ผมก็เก็บโทรศัพท์มืถถือใส่กระเป๋าเหมือนเดิม แล้วเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นสายตาของพี่ลิงก์ที่มองมา

"เอ่อ...เพื่อนผมโทรมาครับ"

"อืม ไม่ค่อยรู้เรื่องเพื่อนของบู้เลย"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วนึกว่าควรจะเล่าเรื่องเป็ดจากตรงไหน ควรจะบอกไปไหมว่า มีคนที่คบเป็นเพื่อนสนิทแค่คนเดียว เขาจะมองว่าผมนิสัยไม่ดีไม่มีใครคบหรือเปล่า

ช่างเถอะ...การที่มีเพื่อนจริงใจคนเดียวก็ยังดีกว่ามีเพื่อนเยอะแต่ไว้ใจไม่ได้ก็แล้วกัน

"ผมมีเพื่อนสนิทคนเดียวชื่อเป็ดครับ คือ...ผมเป็นพวกที่ไม่ชอบคบเพื่อนเยอะ"

พี่ลิงก์ก็พยักหน้ารับฟัง นัยน์ตาสีดำทอดมองมาอย่างตั้งใจ ทำให้ผมนึกอะไรไม่ออก

"คือ...ก็แค่นี้แหละครับ"

"แล้วมีใครมาจีบบ้างป่ะ"

ผมตาโตขึ้นกับคำถามที่ไม่คาดคิด ก่อนจะรีบตอบปฏิเสธทันควัน อย่าว่าแต่มาจีบเลย ขนาดมาคุยด้วยยังแทบจะไม่มี ยกเว้นตอนทำงานกับใกล้สอบนะครับ

"ไม่มีหรอกครับ"

"แต่กูว่ามีนะ"

พี่ลิงก์ยิ้มขึ้น แล้สหันไปสนใจซูชิตรงหน้าต่อ ผมก็นึกสงสัย แต่ก็ไม่ได้ต่อบทสนทนาอะไรอีก




@@@@@@@@@@





หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จ พี่ลิงก์ก็ชวนผมไปเดินซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตต่อครับ ผมรู้สึกแปลกใจอีกครั้งกับการเลือกซื้อของที่ดูคล่องแคล่วราวกับแม่บ้านมาเอง

"อยากกินอะไรก็หยิบมา"

"ไม่เอาหรอกครับ"

"ถ้างั้นไปจ่ายเงินเลยแล้วกัน"

ผมมองวัตถุดิบที่พี่ลิงก์หยิบใส่รถเข็นอย่างสงสัยจนอดถามขึ้นมาไม่ได้

"พี่จะทำอะไรกินหรือครับ"

"กุ้งอบวุ้นเส้น"

ฟังดูดีนะครับ

หลังจากจ่ายเงินเสร็จแล้ว ผมก็ช่วยพี่ลิงก์ถือของไปไว้ที่โฟล์คบีเทิลเพื่อกลับคอนโด นึกแปลกใจเหมือนกันที่ครั้งนี้เขาไม่พาผมไปเลือกซื้อตุ๊กตา

แต่ก็ช่างมันเถอะครับ

เราสองคนใช้เวลาเพียงไม่นานก็กลับมาถึงห้อง ผมช่วยพี่ลิงก์จัดของใส่ตู้เย็น แล้วก็นึกฉงนอีกครั้ง เพราะไม่ได้คาดคิดว่า ตู้เย็นของคุณชายหมีจะมีแต่ของดีต่อสุขภาพ ภาพที่เปิดมาเจอแค่เหล้า เบียร์ และน้ำเปล่าหายไปหมดเลยครับ

"พี่ไม่กินเหล้าเหรอ"

พี่ลิงก์ที่กำลังจัดตู้เย็นหันมามองผมเล็กน้อย ก่อนจะยัดเนื้อหมูเข้าช่องแช่แข็ง

"มึงกิน? "

"ผมก็พอกินได้ครับ"

"อืม เหมือนกัน"

ผมได้ยินมาว่า กลุ่มของพี่ลิงก์ก็เที่ยวกลางคืนนะครับ โดยเฉพาะพี่ทีนี่เสือขย้ำเนื้อเลย แต่ไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะเฮลตี้แบบนี้

"ป๊าสอนให้กินเป็นไว้เข้าสังคม"

"อ้อครับ"

พอนึกถึงป๊าของพี่ลิงก์ ผมก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองครับ หนังมาเฟียที่เคยดูลอยมาในความคิด ถ้าเขาไม่ชอบหน้าผม แล้วจะเกิดเรื่องร้ายๆ กับผมหรือเปล่าก็ไม่รู้

"เป็นอะไร ปวดขี้ก็ไปเข้าห้องน้ำดิ"

"เปล่าครับ"

พี่ลิงก์มองผมอย่างสงสัย แล้วกลับไปสนใจของที่เพิ่งซื้อมาต่อ ผมก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพยายามลืมเรื่องน่ากลัวที่คิดไปเองออกจากสมอง

หลังจากเก็บของทุกอย่างเข้าที่ พี่ลิงก์ก็เดินนำผมเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น เขาทิ้งตัวนอนคว่ำหน้าหนุนตักโจแอน

"บู้นวดหลังให้หน่อย"

"อ่า...ครับ"

ตอนนี้เปลี่ยนจากคนรับไช้กลายเป็นหมอนวดแล้วครับ

ผมนวดไม่เป็นหรอกนะครับ ทำได้แต่เอามือทุบไปตามช่วงไหล่กับหลังแบบกะน้ำหนักเอาเอง แต่พี่ลิงก์ไม่ได้ว่าอะไรก็คงใช้ได้มั้งครับ

ผมลอบมองพี่ลิงก์ที่นอนนิ่งไม่ขยับตัว แล้วไล่มือทุบจากกลางหลังไปยังหัวไหล่พลางลอบมองใบหน้าที่ก้มลงอย่างระมัดระวังอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว

เฮ้ย! หลับง่ายจริงว่ะ...

ผมยิ้มออกมาพร้อมกับหยุดมือของตัวเอง ผมนั่งลงที่พื้นพิงหลังกับโซฟา แล้วปล่อยให้ความเงียบเดินทางไปรอบตัวของเราสองคน

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดถ่ายรูปตัวเองกับพี่ลิงก์ที่นอนก้มหน้า หลังจากได้ภาพที่ต้องการ ผมก็นั่งดูมันอีกครั้ง

เอ่อ...เหมือนฆาตกรถ่ายรูปคู่กับเหยื่อที่กลายเป็นศพเลยว่ะ

ผมนึกตลกกับความคิดของตัวเอง ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้คนหลับอีกนิด แล้วแอบถ่ายรูปของพี่ลิงก์ตอนหลับเอาไว้อย่างแนบเนียน ผมรีบจัดเก็บเข้าแกลลอรี่ลับอย่างรวดเร็ว

ในเมื่อไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว ผมเลยนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือต่อครับ หลังจากผ่านไปสักพักผมก็สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อมีมือมาจากด้านหลังจิ้มที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของผม

"ตรงนี้อีกอัน"

ผมเกร็งตัวขึ้น ไม่รู้ว่าพี่ลิงก์ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เวลานี้เหมือนเขากำลังโอบผมอยู่เลยอ่ะครับ

ผมกลั้นลมหายใจ เมื่อพี่ลิงก์ยังคงจิ้มไปที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของผมต่อไป ตอนนี้ผมกำลังเล่นเกมจับผิดภาพโง่ๆ อยู่ครับ

"กี่โมงแล้ว"

เสียงทุ้มที่ดังตรงต้นคอ ทำให้ผมขนลุก ยังไม่รวมถึงลมหายใจอุ่นของเขาอีก ผมหลับตาลงตั้งสติทีหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองเวลาที่ฝาผนัง

"ใกล้หกโมงแล้วครับ"

ตอนนี้ผมไม่ใช่คนที่เล่นเกมแล้วครับ แต่กลายเป็นคนถือโทรศัพท์มือถือให้พี่ลิงก์เล่นมากกว่า เขาตอบรับในลำคอ ขณะที่ปลายนิ้วยังจิ้มหาจุดต่างของภาพต่อไป

"รอแพ้ก่อน แล้วค่อยไปทำกับข้าวแล้วกัน"

"อ่าครับ"

อันที่จริงการที่ได้นั่งแบบนี้ก็ดีอยู่หรอก แต่หัวใจของผมที่เต้นรัวอยู่ตอนนี้คงจะรับไม่ไหว

แกล้งปิดหน้าจอเลยดีไหม?





@@@@@@@@@@





ผมนั่งเกร็งอยู่สักพัก ในที่สุดเกมก็โอเวอร์ครับ ผมโดนพี่ลิงก์ว่าโทษฐานที่ไม่ช่วยเขาเล่น

อย่าว่าจะมีสมาธิดูเลย แค่จะขย้บนิ้วก็ยังยากเลยครับ

หลังจากผ่านช่วงเวลาที่น่าอึดอัดไปได้ พี่ลิงก์ก็ลากผมเข้าไปช่วยเขาในห้องครัวครับ โดยเริ่มจากงานง่ายๆ อย่างแช่วุ้นเส้น ล้างผัก หุงข้าว เอ่อ...ผ่าหลังเอาขี้กุ้งออก ซึ่งงานอันหลังสุดพี่ลิงก์ก็สาธิตให้ผมดูก่อนครับ

ส่วนพี่ลิงก์ก็ทำซอสที่เขาบอกว่าจะใช้ตอนทำกุ้งอบวุ้นเส้น แล้วก็มีรายการอาหารอย่างอื่นด้วย ก็คือไข่ตุ๋นกับแกงจิดเต้าหู้สาหร่ายครับ

ให้ตายเถอะ! นี่มันไม่ใช่พี่ลิงก์ในความคิดของผมก่อนหน้านี้เลยครับ!

ตอนนี้พี่ลิงก์กำลังโขลกกระเทียม!

ถ้าโบราณเขาว่า เสน่ห์ของหญิงสาวก็ต้องมองตอนใช้ครก แล้วผู้ชายล่ะ...ผู้ชายที่ใช้ครกตำอย่างมั่นใจจะหมายความว่าอะไร?!

ผมมองพี่ลิงก์ตาค้างราวกับต้องมนต์สะกด ใบหน้าหล่อที่นิ่งเฉยกับสายตามุ่งมั่นและไร้ความลังเลในทุกจังหวะที่สากกระแทกลงครกเป็นเสียงหนักแน่น

โอ้ มาย ก็อด!

หัวใจของผม อยู่ดีๆ ก็เต้นเร็ว ทั้งที่แค่ยืนมองเท่านั้น ก่อนที่ร่างกายจะชะงักและกลับสู่ภาวะปกติ เมื่อปลายมีดที่ถืออยู่เผลอเฉือนเข้านิ้วของตัวเองจนได้เลือด

ผมไม่ได้ร้องออกมา แต่ก็สะดุ้งนิดหน่อย แล้วมองนิ้วที่มีเลือดซึมอย่างตกใจ ผมรีบเอาน้ำเปล่าจากก๊อกล้างแผล ก่อนจะหันไปมองพี่ลิงก์ เมื่อได้ยินเสียงของเขา

"กุ้งเรียบร้อยหรือยัง"

"อ่า...เหลืออีกสองตัวครับ"

ผมรีบทำงานของตัวเองต่อ ถึงแม้ตอนนี้จะเริ่มเจ็บนิ้วนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะทำให้ผมต้องละเลยหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย

กลิ่นหอมของน้ำซุปลอยเข้ามาแตะจมูก หลังจากส่งกุ้งให้พี่ลิงก์นำไปอบ ผมก็มองดูแกงจืดเต้าหู้สาหร่ายที่กำลังเดือดน่ากิน

"อีกแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว"

ผมพยักหน้ารับ ปกติเวลาอยู่ที่บ้าน ผมก็ไม่ค่อยได้เข้าห้องครัวเท่าไหร่ครับ สกิลการทำอาหารก็จัดอยู่ในพวกตระกูลไข่เท่านั้น

พี่ลิงก์ให้ผมล้างภาชนะที่ไม่ได้ใช้งาน ส่วนเขาก็เดินออกไปข้างนอก พอผมจัดการทุกอย่างเรียบร้อย อีกฝ่ายก็กลับเข้ามาในห้องครัวอีกครั้ง แล้วส่งพลาสเตอร์ให้ผม

เขารู้?!

"รำคาญบู้ว่ะ"

ผมตะลึงงันไปหลายวินาที หลังจากรับพลาสเตอร์ปิดแผลมา นึกอยากให้พี่ลิงก์ติดให้เหมือนในการ์ตูนหรือซีรีย์เลิฟสตอรี่ แต่แค่เขาเอาพลาสเตอร์ปิดแผลมาให้ก็ดีมากพอแล้ว

"ขอบคุณครับ"

ผมเผลออมยิ้มกับตัวเองพร้อมกับแกะแถบกาวเพื่อปิดปากแผล ส่วนพี่ลิงก์ก็ยกอาหารไปวางไว้ตรงโต๊ะอาหาร ซึ่งก็มีเฮเลนนั่งประจำที่อยู่เหมือนเดิม

"เอาจานกับช้อนส้อมมาด้วย"

พี่ลิงก์ตะโกนบอกผมจากด้านนอก ผมก็รีบทำตามที่เขาสั่ง แล้วเดินมาพบกับอาหารน่ากินที่วางล่อน้ำลายตรงหน้า

"พี่ชอบทำอาหารใช่ไหมครับ ถึงได้ทำเก่งแบบนี้"

"เปล่าหรอก พ่อกูบังคับให้ทำ"

ผมนึกสงสัย พ่อที่ลิงก์ที่เป็นนักฆ่าอ่านะ ไม่ใช่ว่า...ฆ่าเสร็จแล้วเอาไปกินต่อเปล่าวะ ฉากในหนังฆาตกรโรคจิตเข้ามาในสมองเลยครับ

"พ่อกูบอกว่า จะทำอะไรไม่เป็นก็ได้ แต่ต้องทำอาหารให้เป็น จะได้ไม่อดตาย"

ก็จริงนะครับ

"ความหมายของอาหารมันไม่ใช่แค่การทำให้อิ่ม แต่ทำให้คนที่ได้กินมีความสุข แล้วที่พ่อกูจีบป๊าติด ก็เพราะพ่อกูทำอหารเก่งนี่แหละ"

"ครับ"

พี่ลิงก์มองผมเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะก้มลงสนใจไข่ตุ๋นของตัวเองต่อ ผมไม่ใช่คนกินเก่งนะครับ แต่ก็จัดการอาหารตรงหน้าจนเกลี้ยง

หลังจากมื้อเย็นที่เรียบง่ายและอร่อยจบลง ผมก็ช่วยพี่ลิงก์เอาจานไปเก็บ แล้วทำความสะอาดต่อ แต่อีกฝ่ายก็ห้ามผมเอาไว้

"ไปนั่งดูทีวีไป"

"แต่..."

"บู้อย่าดื้อ"

ผมกะพริบตาปริบๆ แต่สุดท้ายก็ยอมเดินออกจากห้องครัว แล้วปล่อยให้พี่ลิงก์เป็นคนล้างจานทั้งหมด ผมรู้สึกเกรงใจแล้วก็ผิดนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจว่า เพราะเขาไม่อยากให้แผลของผมเปียกน้ำ

คือ...ตอนนี้ก็ปิดพลาสเตอร์แล้ว อีกอย่าง...มันก็แค่แผลเล็กๆ เท่านั้นเอง

ผมลอบถอนหายใจออกมา หลังจากเดินกลับไปนั่งที่โซฟากับโจแอน ผมก็นึกอยากทดลองบางอย่างขึ้นมา

ก็แค่อยากรู้ว่า ตักของโจแอนนุ่มขนาดไหน พี่ลิงก์ถึงชอบนอนหนุนตักของตุ๊กตาตัวนี้

ผมหันไปมองเจ้าของห้องที่ยังอยู่ในห้องครัวอีกครั้ง แล้วตัดสินใจทิ้งตัวเองนอนเหยียดขาไปตามความยาวของโซฟา โดยที่หัวก็หนุนตักของโจแอนอย่างที่พี่ลิงก์ชอบทำ

อืม...สบายดีเหมือนกัน

หลังจากได้ข้อสรุป ผมก็รีบลุกขึ้นนั่งเป็นปกติ ก่อนที่เจ้าของห้องจะมาครับ

ผมนั่งมองโดยรอบเริ่อยเปื่อย สายตาก็ไปหยุดตรงตุ๊กตาสามตัวที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย

ยูกิโนะ ลอร่า และลูอิส ตุ๊กตาหมีที่ตอนนี้ยังไม่ได้กลับเข้าห้องของตัวเอง ผมยกยิ้มขึ้น เมื่อนึกถึงบั๊กที่ตัวเองวางไว้ให้กับตุ๊กตาหมีคู่แฝด

"ทำหน้าตาชั่วร้าย"

ผมหันไปมองทางต้นเสียง พี่ลิงก์ไม่ได้สนใจอะไรผมนัก เขาเดินไปอุ้มยูกิโนะเข้าไปไว้ในห้อง แล้วเดินกลับมาอุ้มลอร่ากับลูอิส

พี่ลิงก์ก้มลงมองตุ๊กตาสองตัวที่อยู่ในมือครู่หนึ่ง ผมเองก็นึกสงสัยแต่ก็แอบลุ้นว่า เขาจะรู้ตัวไหมว่า ผมแอบสลับชุดไว้ ว่ากันตามจริงแล้ว...ถ้าหากให้ผมเปลี่ยนชุดอีกครั้ง ผมก็ไม่รู้หรอกว่า ตัวไหนเป็นตัวไหน

ก็แค่ตุ๊กตาหมี จะอะไรนักหนา จริงไหมครับ

แต่ก็คงไม่ใช่สำหรับคุณชายลิงก์ที่บ้าตุ๊กตาเข้าเส้นเลือด

"รู้นะ คิดอะไรอยู่"

"ครับ? "

พี่ลิงก์ไม่ได้ถือตุ๊กตาแฝดสองตัวเข้าไปในห้อง แต่เดินมานั่งลงที่โซฟาข้างผมแทน เขาหันมามองผมด้วยสายตาจับผิด

"บู้นิสัยไม่ดี"

ผมเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง ก่อนที่พี่ลิงก์จะขยายความคำต่อว่าของตัวเอง

"แกล้งลอร่ากับลูอิสใช่ไหม คิดว่ากูโง่เหรอ"

ผมนึกแปลกใจ แต่ก็สงสัยมากกว่าว่าเขารู้ได้ยังไงว่า ผมสลับชุดให้อีกตัวหนึ่งใส่ ทว่าตอนนี้ผมก็ยังทำตัวเป็นปกติดูท่าทีของอีกฝ่ายไปก่อนครับ

"พี่พูดเรื่องอะไร ผมงง"

พี่ลิงก์ตีหน้าดุใส่ผมพลางชี้แจงหลักฐานเพื่อยืนยันความผิดของผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ดูผิวเผินตุ๊กตาสองตัวนี้เหมือนกันทุกอย่าง แต่ก็มีอยู่อย่างนึงที่ไม่เหมือนกัน ก็เหมือนฝาแฝดที่หน้าตาเหมือนกันยังไง มันก็ต้องมีตำหนิสักอย่างที่ทำให้รู้ว่าไม่ใช่คนเดียวกัน"

ผมนึกทึ่ง แต่ก็ตั้งใจฟังคำพูดของเขาอย่างอยากรู้ พี่ลิงก์จับแท็กผ้าที่บอกชื่อแบรนด์สินค้าที่ติดตรงช่วงเอวของตุ๊กตาหมีขึ้นมา แล้วด้นส่วนที่อยู่ข้างในให้ผมเห็นรอยปากกาที่เขียนรูปดอกจันเอาไว้

"ถ้ามีดอกจัน แสดงว่าตัวนี้คือลูอิส ส่วนอีกตัวตือลอร่า"

...พูดไม่ออกเลยครับ

ผมได้แต่อึ้งกับสิ่งที่เห็น พี่ลิงก์หยิบแท็กผ้าของลอร่าแล้วดันด้านในให้ผมดู มันไม่มีร่องรอยอะไรอย่าง ที่เขาบอก น้ำเสียงทุ้มราวกับเยาะเย้ยผมก็ดังขึ้น

"ไม่ใช่มึงคนแรกที่ทำแบบนี้หรอก ไอ้พลแม่งก็ทำมาก่อน ปัญญาอ่อน แกล้งกระทั่งตุ๊กตาได้ลงคอ"

ผมว่า...พี่พลต้องการแกล้งพี่มากกว่าตุ๊กตานะครับ ผมก็ด้วย

พี่ลิงก์ถอดชุดสลับคืนให้ลอร่ากับลุอิสอีกครั้ง ผมก็ได้แต่นิ่งรับฟังความผิดของตัวเองโดยไร้ข้อโต้แย้ง ก่อนที่เขาจะหันมาสั่งเสียงเข้ม หลังจากเปลี่ยนชุดให้ตุ๊กตาหมีทั้งสองตัวเสร็จ

"แบมือมา"

"ฮะ? "

ผมนึกงง แต่ก็ทำตามสิ่งทีพี่ลิงก์บอก แล้วก็ต้องหลุดยิ้มออกมา เมื่อเขาเอามือของลูอิสมาตีมือของผมสามที

"คนผิดก็ต้องถูกลงโทษ เอามืออีกข้างขึ้นมาแบด้วย"

ผมมองพี่ลิงก์ที่ตีหน้าขรึมใส่ พร้อมกับยกมือมาแบให้คนตรงหน้าใช้มือของตุ๊กตาหมีตีผมราวกับครูสั่งสอนเด็กที่ทำผิด

ง่า....พี่ลิงก์น่ารัก!

ผมอมยิ้มมองคนตรงหน้าที่ยังสวมบทครูจอมดุ ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วขึ้น

"ยิ้มอะไร ไม่สำนึกผิดอีก"

"ขอโทษครับ"

ผมยอมรับผิดด้วยสีหน้าที่ยังเปื้อนรอยยิ้มอยู่ พี่ลิงก์ทำหน้านิ่งมองผมครู่หนึ่ง แล้วเอามือของลูอิสมาตีหน้าของผมแทน

"รำคาญบู้แล้ว"

พี่ลิงก์ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องที่ผมเดาว่าเป็นห้องนอนพร้อมกับลอร่าและลูอิสครับ ผมก็มองตาม ทั้งที่ยังมีรอยยิ้มฉายอยู่บนใบหน้า







TBC +++++++

Marionetta
งื้อ....ความแบ๊วของพี่ลิงก์กับรอยยิ้มของบู้ ใครจะแน่กว่ากัน อิอิ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 8 - 22/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 30-03-2019 09:20:17
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 9 - 30/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-03-2019 19:32:00
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 9 - 30/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-03-2019 22:28:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 9 - 30/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 02-04-2019 10:47:12
ลิงก์น่ารักอ่ะ เหมือนเด็กๆเลย
บลูก็ใจเย็นดี เข้าคู่กันดีมากกกก
อยากอ่านอีกเยอะๆ มาอัพไวๆนะฮะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 9 - 30/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 12-04-2019 19:04:53
Level 10: สถานะพิเศษ








พี่ลิงก์หายเข้าไปในห้องสักพักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะออกมาในชุดใหม่ กลิ่นหอมสะอาดลอยเข้ามาแตะจมูก ตอนที่อีกฝ่ายนั่งลงข้างผม เขาอาบน้ำมาครับ

ตอนนี้เวลาประมาณสามทุ่ม ผมคิดว่าตัวเองควรจะกลับได้แล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าพูดอะไรกับคนที่กำลังกดรีโมตไล่ช่องในโทรทัศน์

สารคดีท่องเที่ยวฉายอยู่ในหน้าจอโทรทัศน์ ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อเราสองคนไม่ได้คุยอะไรกัน ผมปล่อยให้เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดก็ตัดสินใจกล่าวลา

"พี่ลิงก์ ผมกลับก่อนนะครับ"

ผมลุกขึ้นยืน โดยที่พี่ลิงก์ก็หันมามอง เขาพยักหน้ารับ แล้วลุกขึ้นยืนตาม

"เดี๋ยวไปส่ง"

ผมกลั้นรอยยิ้มของตัวเอง คำพูดที่เขาบอกผมเอาไว้เมื่อตอนเช้ากลับเข้ามาในความคิด แต่ก็ไม่นึกว่า อีกฝ่ายจะทำตามที่พูดเอาไว้จริงๆ

"เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ครับ"

ผมรู้สึกเกรงใจ แค่คำพูดของพี่ลิงก์ก็ทำให้ผมหัวใจพองโตแล้วครับ

"ก็บอกแล้วว่าจะไปรับไปส่ง"

พี่ลิงก์เดินนำผมออกจากห้อง หัวใจของผมเต้นแรงในทุกย่างก้าวที่มีแต่ความเงียบ ก่อนความสงสัยจะปรากฏขึ้นมาในใจ เมื่อเขาพาผมเดินมาด้านหน้าของคอนโดหรูที่มีท้องฟ้ามืดสนิท

"พี่ลิงก์จะไปไหนครับ"

ผมถามพี่ลิงก์ที่กำลังเดินนำผมออกมาจากคอนโดที่ติดถนนใหญ่ เขาก็ตอบหน้าตายด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

"ก็ไปส่งไง"

“ไปส่ง? "

"อืม ไปส่งขึ้นบีทีเอส"

อ่า...

ผมนิ่งไปชั่วอึดใจ แต่ก็ก้าวตามพี่ลิงก์ที่มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าที่อยู่ห่างจากคอนโคมิเนียมไม่กี่เมตร หัวใจพองโตของผมค่อยๆ แฟบลงพร้อมกับความหวังที่ลอยหายไป

ที่คิดว่า เขาจะขับรถไปส่งนี่ ผมคงหวังมากเกินไป

ก็ยังดีที่เขาไม่ส่งแค่หน้าห้องล่ะวะ...

ผมนึกปลงตกกับตัวเอง หลังจากขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงสถานีแล้ว ผมก็ยกมือไหว้อีกฝ่ายเป็นการลาตามอาวุโส

"ผมไปก่อนนะครับ"

"อืม ถึงห้องแล้วไลน์มาบอกกูด้วย เข้าใจป่ะ"

"ครับ"

ผมพยักหน้ารับสำทับ ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อพี่ลิงก์ยกมือบ๊ายบายผมเหมือนเด็ก

แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ









@@@@@@@@@@









ในวันอาทิตย์ตอนเย็น ผมกับเป็ดมาเดินเล่นที่ตลาดนัดใกล้หอครับ หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกจนอิ่ม เราสองคนก็เดินย่อยอาหารกันต่อ

"ซื้อเปล่าบลู"

ผมหันไปมองเพื่อนที่กำลังดูเสื้อยืดสกรีนลายแนวอาร์ต ตอนแรกก็สนใจนะครับ แค่ก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาก่อน

"กูไม่เอาอ่ะ"

ผมว่าจะเก็บเงินซื้อเสื้อผ้าที่ดูดีกว่าที่มีอยู่ครับ อย่างน้อยถ้าได้ไปไหนกับพี่ลิงก์จะได้ไม่ถูกมองเป็นคนรับใช้ที่เดินตามคุณชาย

"ทำไมวะ มาช่วยกูซื้อ จะได้ลด"

"กูว่าจะเก็บเงินไว้ซื้อในห้าง"

เป็ดทำหน้าสงสัย มันส่งเสื้อสองตัวไปให้พี่คนขาย ก่อนจะเริ่มเจรจาการค้า

"พี่ลดให้ด้วยนะครับ"

"น้อง นี่ก็ราคาส่งแล้วนะ ลดไม่ได้แล้ว"

"ผมลูกค้าประจำนะครับ พี่จำไม่ได้เหรอ อุตส่าห์พาเพื่อนมาช่วยอุดหนุนเนี่ย"

เป็ดพยักพเยิดมาทางผม พี่แม่ค้าก็ทำหน้าลังเล ส่วนผมเองก็ไม่ถนัดงานด้านต่อราคาด้วย ก็ได้แต่ยืนเงียบให้เพื่อนสนิทเจรจาต่อครับ

"ถ้าพี่ไม่ลด ผมเอาตัวเดียวพอครับ"

เป็ดดึงเสื้ออีกตัวที่เลือกเอาไว้ออกจากมือของแม่ค้า แต่อีกฝ่ายก็ยื้อเอาไว้พร้อมกับยินยอมลดราคาให้ตามที่มันต้องการ

"ก็ได้"

"ขอบคุณครับพี่ บลูมึงเลือกอีกตัวเร็วๆ "

มั่วจนได้ดีนะมึง...

ผมถอนหายใจออกมาพร้อมกับเลือกเสื้อยืดตัวหนึ่งส่งให้พี่แม่ค้าไปตามเรื่องตามราว หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย พวกเราก็เดินออกจากร้าน

"กูว่าจะเก็บตังสักหน่อย"

"แล้วทำไมมึงต้องไปซื้อของแพงในห้างด้วยวะ มึงต้องเอาเสื้อยืดไปอวดใครหรือไง"

"ก็ไม่ใช่เว้ย คือ...กูมีแค่เสื้อเก่าๆ ที่มันดูโหลยโท่ย"

ผมอธิบายความคิดของตัวเองให้เพื่อนสนิทฟัง เป็ดก็เลิกคิ้วขึ้น แล้วถามผมอย่างจริงจัง

"มีใครดูถูกการแต่งตัวของมึงหรือไง"

"เปล่าๆ คือ..."

"เกี่ยวกับพี่ลิงก์ของมึงด้วยหรือเปล่า"

ผมมองเป็ดอย่างแปลกใจ แต่มันก็คงรู้ว่า ชีวิตประจำวันของผมในตอนนี้มีไม่กี่เรื่องที่ทำให้ผมกระตือรือร้นครับ

"สรุปยังไงกันแน่วะบลู มึงกับพี่เขานี่ยังไง เอาให้กูเคลียร์ที"

"ก็รุ่นพี่ที่รู้จัก"

"อ่าฮะ แล้วเมื่อวานเขาให้มึงไปที่คอนโด ใช้มึงให้เปลี่ยนชุดให้ตุ๊กตา พาไปเลี้ยงข้าว แล้วก็ทำกับข้าวให้มึงกิน ก็คือรุ่นน้องที่สนิทแล้ว กูเข้าใจถูกไหม"

"ก็คงงั้น"

ผมไม่แน่ใจว่าเราสองคนสนิทกันแล้วหรือเปล่า ผมไม่กล้าบ่งบอกสถานะของตัวเองที่มีในความคิดของพี่ลิงก์หรอกนะครับ

"บลู กูจริงจังนะ"

ผมมองเป็ดที่ทำหน้านิ่งมองผมด้วยสายตาแน่วแน่ ผมก็พยักหน้ารับอย่างตั้งใจ

"ถึงจะเป็นรุ่นพี่ที่สนิท แต่มึงก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขาหรอกใช่เปล่าวะ"

"ก็ใช่ แต่..."

"กูรู้ มึงชอบเขา มึงเลยแคร์เขา แต่มึงต้องตั้งสตินะบลู มึงไม่ได้เป็นแฟนเขา จริงไหม"

"อืม"

"ถ้าพี่เขาจะคบมึงเพราะมึงแต่งตัวดูดี ก็ปล่อยแม่งไปเถอะ คนแบบนั้น มันไม่สมควรให้มึงทุ่มเทหรือทำอะไรให้ทั้งนั้น ถ้าพี่เขาจะคบกับมึงในฐานะอะไรก็ตาม ก็ควรมองที่ตัวตนของมึง ไอ้บลูที่ใส่เสื้อตลาดนัด เข้าใจป่ะ"

ผมพยักหน้ารับอีกครั้ง ตอนนี้รู้สึกซึ้งใจกับความจริงใจของเป็ดมากเลยครับ บางทีผมอาจจะหลงลืมบางเรื่องที่สำคัญไป

ผมกังวลไปเอง ทั้งที่พีลิงก์ก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องรูปลักษณ์การแต่งตัวของผมด้วยซ้ำ

ก็แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอแล้ว

"ขอบใจว่ะเป็ด"

เป็ดยิ้มให้ผม ก่อนจะพูดย้ำความคิดและความรู้สึกของผมอีกครั้ง

"ชีวิตส่วนตัวของมึง กูไม่อยากก้าวก่าย แต่การที่มันคลุมเครือนานไปก็ไม่ดีหรอก เหมือนเวลาเราเดินไปในหมอกอ่ะ ไม่รู้ว่าทางข้างหน้าแม่งจะเจอตัวห่าอะไรรออยู่"

"นั่นสิ"

ผมเข้าใจเจตนาของเพื่อนสนิทดีครับ เรื่องราวของพี่ลิงก์กับผม มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนที่เขาทำอาหารให้กิน แถมยังชวนผมไปเจอป๊ากับพ่อของเขาอีก ความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดดที่ทำให้หัวใจของผมเต้นแรง แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผมกลัว

กลัวว่าจะคิดไปเองฝ่ายเดียว

แล้วตอนนี้ผมก็ยังไม่มีความกล้าพอจะรับฟังคำตอบ ยังไม่อยากรู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเจอกับอะไร ขอนั่งอยู่ในหมอกตามลำพัง แล้วเดินต่อเฉพาะตอนที่อีกฝ่ายเรียกให้ไปหาเท่านั้น

แต่ผมก็เชื่อว่า สักวันทุกอย่างจะดีขึ้น เวลาจะช่วยสร้างความกล้าให้กับผม แล้วเมื่อถึงเวลานั้น ไม่ว่าพี่ลิงก์จะตอบคำถามของผมว่าอะไร ผมก็ยอมรับได้ทั้งนั้นครับ









@@@@@@@@@@









“บู้”

“พี่ลิงก์”

ผมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นพี่ลิงก์มานั่งอยู่แถวคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งอยู่คนละด้านกับคณะบริหารที่อีกฝ่ายเรียนอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นหัวใจของผมก็เต้นแรงทุกครั้งที่ได้เจอเขาครับ

“เป็ด นี่พี่ลิงก์ เอ่อ...พี่ลิงก์ นี่เป็ดเพื่อนสนิทของผมครับ”

ผมแนะนำรุ่นพี่ที่ชอบกับเพื่อนสนิทให้รู้จักกัน เป็ดยกมือไหว้เป็นการให้ความเคารพ ส่วนพี่ลิงก์ก็แค่มองแล้วพยักหน้ารับ ก่อนที่เขาจะหันมาสนใจผมต่อ

“ไปเลยไหม”

“ไปไหนครับ”

ผมทำหน้างงใส่คนตรงหน้า เพราะไม่ได้นัดอะไรกับเขาเอาไว้ครับ พี่ลิงก์ก็ทำหน้าเบื่อเหมือนเซ็งกับความไม่รู้เรื่องรู้ราวของผม

“ก็เคยบอกไปแล้วไงว่าจะไปรับไปส่ง บู้ความจำเสื่อมเหรอ”

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง ผมจำเรื่องนั้นได้ดีครับ แต่เห็นพี่ลิงก์เงียบหายไปหลังจากวันนั้น ผมเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว แค่วันนั้นที่เขาอุตส่าห์เดินไปส่งผมถึงสถานีรถไฟฟ้าก็ประทับใจพอแล้วครับ

“ผมคิดว่าพี่พูดเล่น”

“ไม่ได้พูดเล่น”

พี่ลิงก์ทำสีหน้าจริงจังมาให้ ผมก็รู้สึกอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วหันไปทางเพื่อนสนิทที่ยังยืนอยู่ข้างกันอย่างทำตัวไม่ถูก เพราะเพิ่งคุยกับเป็ดเรื่องร้านอาหารที่กำลังจะไปกินด้วยกันครับ แต่ตอนนี้ผมก็อยากไปกับรุ่นพี่ที่ชอบด้วย

“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกัน”

เป็ดหันมาบอก ก่อนจะดึงผมมากระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน

“โทษฐานที่ทิ้งกูไปกับผู้ชาย มึงต้องเอาคำตอบมาให้กูด้วยว่า ตกลงพี่เขายังไงกับมึง เข้าใจป่ะบลู”

“เฮ้ย! เอาเลยเหรอ”

“อืม เพื่อตัวมึงเอง อย่าลืม”

ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากใจ แต่ก็ยอมพยักหน้ารับในที่สุด เป็ดก็ตบไหล่ให้กำลังใจสองสามที ก่อนที่มันจะเดินไปอีกทาง

ผมถอนหายใจออกมา แล้วเผลอตกใจนิดหน่อยที่หันไปเจอพี่ลิงก์กำลังยืนจ้องอยู่ ผมรีบปรับสติของตัวเอง เริ่มทำใจกับภารกิจที่เพิ่งได้รับมอบหมายมา

“ตกลงมึงจะเอายังไง”

“อ่าครับ ไปเลยก็ได้เครับ”

ผมรีบตอบพร้อมกับพยักหน้ารับ พี่ลิงก์ก็มองเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นดันหัวของผมเบาๆ ราวกับหมั่นไส้ แล้วเดินนำออกจากบริเวณนั้น









@@@@@@@@@@









ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในโฟล์คบีเทิลสีดำคันสวยของพี่ลิงก์ครับ การจราจรค่อนข้างหนาแน่นเพราะเป็นช่วงเวลาเลิกงาน สิ่งที่พอจะคลายอาการหัวร้อนของคนที่ต้องติดแหง็กอยู่ในรถก็คงเป็นแอร์ที่เย็นฉ่ำกับเพลงที่มีทำนองฟังสบาย

หลังจากที่พี่ลิงก์บอกกับผมว่า จะพาไปกินข้าวเย็นด้วยกันก่อนจะพาไปส่งที่หอ เราสองคนก็ยังไม่ได้พูดอะไรกันอีก ผมรู้สึกอึดอัดนิดหน่อย เลยตัดสินใจเริ่มต้นบทสนทนา

“ที่จริง...พี่ไม่ต้องมารับหรือไปส่งผมก็ได้นะครับ”

“ทำไม”

“คือ ผมเกรงใจพี่”

ถึงแม้จะดีใจมากๆ แต่ก็ต้องเกรงใจไปตามมารยาทครับ

“กูยังไม่เกรงใจมึงเลย มึงก็ไม่ต้องเกรงใจกู เข้าใจป่ะ”

ผมหันไปมองอีกฝ่าย พี่ลิงก์ก็หันมามองผมเช่นเดียวกัน เขายิ้มให้ผมเล็กน้อย ก่อนจะหันไปสนใจไฟแดงของสัญญาณไฟจราจรต่อ

เอาอย่างนั้นเลยเหรอ!

“จำไว้นะบู้ อย่าเอาความเกรงใจมาเป็นข้ออ้างกับกูอีก”

“อ่า...ครับ”

ผมหันไปมองวิวข้างหน้าต่างที่เห็นแต่รถยนต์ที่เผชิญชะตากรรมเดียวกัน ความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นมาในใจ

อาจเป็นเพราะบรรยากาศและความรู้สึกอ่อนไหวบางอย่าง ความค้างคาใจที่เก็บเอาไว้ของผมเลยเผลอหลุดปากออกมา

“ถ้าจะไม่ให้ผมเกรงใจพี่ แล้วผมเป็นอะไรสำหรับพี่หรือครับ”

ผมหันไปมองพี่ลิงก์อีกครั้ง อีกฝ่ายไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร เขาแค่หันมามองผมเล็กน้อย แล้วกลับไปสนใจถนนที่การจราจรเริ่มเคลื่อนตัวได้อีกครั้ง

“อืม...ก็เป็นคนที่กูอยากตั้งชื่อเอาไว้เรียกคนเดียว”

หืม?

คำตอบของพี่ลิงก์ทำให้ผมต้องงงขึ้นอีกระดับ และสีหน้าของผมก็ทำให้เขาหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเอามือมาบีบจมูกของผมเล่น

“อ่ะ! อะไรของพี่เนี่ย!”

ผมโวยวายด้วยน้ำเสียงอู้อี้เพราะยังถูกคนชอบแกล้งบีบจมูกเอาไว้ พี่ลิงก์ก็แค่ยักคิ้วใส่อย่างท้าทาย แล้วเลื่อนมือไปบีบแก้มของผมแทนอย่างสนุกสนาน

“พี่อย่าแกล้งผม”

ผมว่าเสียงขุ่น บรรยากาศก่อนหน้านี้สลายไป พี่ลิงก์ยกยิ้ม โดยที่มือหนึ่งควบคุมพวงมาลัยและอีกมือหนึ่งก็เอามาบีบจมูกของผมบ้าง บีบแก้มของผมบ้างไปเรื่อย แล้วตอนนี้ก็กำลังจะมาบีบปากของผมด้วยครับ!

” เฮ้ย! พอแล้วๆ เดี๋ยวชนคันข้างหน้า!”

“หมั่นไส้บู้อ่ะ”

ผมถอนหายใจออกมาพลางปัดมือที่ยังป้วนเปี้ยนแถวใบหน้าของตัวเอง จนสุดท้ายก็เลยต้องจับมือข้างนั้นของเขาเอาไว้ พี่ลิงก์ที่มองถนนก็หันมามองผมเล็กน้อย ก่อนนัยน์ตาสีดำจะเลื่อนไปสนใจทางข้างหน้าต่อ โดยที่ไม่ได้ดึงมือที่ถูกผมจับเอาไว้ออก

“จับไว้ให้ดีแล้วกัน ถ้าเผลอ กูจะบีบหน้ามึงอีก”

พี่ลิงก์ส่งสายตามาดร้ายมาให้พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากราวกับตัวโกง ผมก็ได้แต่จับมือของอีกฝ่ายเอวไว้มั่น เพราะไม่อยากถูกแกล้งอีก แล้วที่สำคัญผมก็กลัวเกิดอุบัติเหตุด้วยนะครับ

เฮ้อ...โตจนหล่อขนาดนี้แล้ว ยังจะเล่นเป็นเด็กไปได้!









@@@@@@@@@@









เมื่อเดินทางมาถึงห้าง พี่ลิงก์ก็พาผมไปกินสเต๊กกันคนละจานเป็นอาหารเย็นครับ หลังจากนั้นเราสองคนก็มาเดินเล่นกันต่อ ในตอนนั้นเองที่ผมนึกถึงเรื่องบางอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่วันก่อน

ในกลุ่มแฟนคลับของพี่ลิงก์เริ่มมีคนสังเกตและตั้งประเด็นเกี่ยวกับผมขึ้นมา โดยเริ่มจากการที่หลายคนแอบถ่ายรูปพี่ลิงก์แล้วดันมีผมติดอยู่ในภาพด้วย หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนสีบประวัติและมองหาความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคนครับ

ผมไม่ได้รู้สึกอะไร ถ้าหากจะมีคนมาโจมตีผมผ่านสังคมออนไลน์ ในความคิดของผม...มันก็แค่ข้อความที่ใครก็ไม่รู้ว่างจัดเลยมานั่งวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นเหมือนพวกเสียสติ แต่ถ้ามาต่อว่าหรือหาเรื่องกันต่อหน้าก็ค่อยว่ากันอีกเรื่องครับ

ถึงแม้เรื่องราวจะเป็นแค่หัวข้อเล็กๆ ในกลุ่มคนจำนวนหนึ่งเท่านั้น แต่เพื่อนสนิทของผมก็ไม่สบายใจแทน จากความคิดเห็นของเป็ด มันเลยแนะนำให้ผมชัดเจนกับเรื่องความสัมพันธ์คลุมเครือนี้สักทีเพื่ออะไรหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นและอาจจะเกิดขึ้นในอนาคตครับ

“เป็นอะไร ทำหน้าประหลาด”

พี่ลิงก์หันมามองผม เขาเป็นคนตัวสูงสักร้อยแปดสิเซนติเมตร ส่วนผมก็สูงราวร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร ถึงระยะการก้าวขาของเราสองคนจะไม่เท่ากัน แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้เดินเร็วหรือก้าวเท้ายาวจนผมต้องวิ่งตามนะครับ ในขณะที่ผมเดินเอื่อยและจมอยู่ในความคิด พี่ลิงก์ก็ยังเดินเคียงคู่ไปกับผมอย่างไม่รีบร้อน

“ไม่มีอะไรครับ”

ผมลอบถอนหายใจพร้อมกับนึกปลงตกกับตัวเอง ก่อนที่ทุกความคิดและความรู้สึกจะถูกกระชากออกไป เพราะมือของคนที่เดินมาด้วยกันดึงแขนของผมให้เข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่ง

“แวะซื้อของหน่อย”

“ครับ”

ผมมองโดยรอบอย่างสนใจ ระหว่างที่พี่ลิงก์กำลังดูเสื้อตัวหนึ่งที่ราวแขวน ผมก็เดินไปดูเสื้ออีกด้านหนึ่งของร้านครับ หลังจากพลิกป้ายราคาออกมาดู ผมก็ปล่อยมือจากมัน แล้วเลิกสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกต่อไป

ก็อย่างที่เป็ดเคยบอกเอาไว้....คนเราต้องมองจากนิสัยใจคอ ไม่ใช่ราคาของเสื้อผ้าที่สวมใส่ครับ









@@@@@@@@@@









ในขณะที่ลิงก์กำลังยืนมองเมนูไอศกรีมที่อยู่ด้านบนของร้าน เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น และเมื่อเห็นว่าใครติดต่อมา ก็รีบกดรับสายทันที

"ครับป๊า"

[ลิงก์วันนี้กลับบ้านนะ ป๊าคิดถึง]

"เอาไว้วันหลังนะป๊า"

[ทำไมอ่ะ]

ลิงก์ถอนหายใจออกมา ถึงจะไม่เห็นหน้าแต่ก็นึกภาพใบหน้าของอีกฝ่ายออก

"วันนี้ลิงก์ยุ่งอยู่อ่ะ"

[ยุ่งอะไร ก็เห็นยืนอยู่หน้าร้านไอติม]

ลิงก์เลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะหันซ้ายหันขวา แล้วสายตาก็ไปเจอกับคนที่ติดต่อมากำลังทำมือเป็นรูปปืนชี้มาทางเขา โดยที่นั่งอีกตัวหนึ่งมีพ่อของเขาที่กำลังนั่งอ่านอะไรในโทรศัพท์มือถืออยู่

"ป๊ามาทำอะไรที่นี่"

ลิงก์เดินไปหาอีกฝ่าย ตอนนี้เขากำลังรอบลูที่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่นึกว่าจะมาเจอป๊ากับพ่อที่นี่

"ก็มาเดตไง ถ้าไม่กลับบ้าน ไปดูหนังด้วยกันไหม"

"ลิงก์ไม่ได้มาคนเดียว"

"อ้อ ก็เหมือนเห็นแวบๆ ใครน่ะ"

ลิงก์ขมวดคิ้ว เมื่อเห็นท่าทางเจ้าเล่ห์ของป๊า อีกฝ่ายก็รีบแก้ตัวอย่างรวดเร็ว

"ป๊าไม่เห็นนะ พ่อเห็น"

ลิงก์หันไปมองพ่อที่นั่งกัมหน้าไม่ได้ทักทายใคร ทว่าเมื่อถูกอ้างถึง อีกฝ่ายเลยเงยหน้าขึ้นมามองลูกชายของตัวเอง

"อืม งั้นไปกินข้าวเย็นด้วยกันไหม จะพาเพื่อนไปด้วยก็ได้"

"ลิงก์กินแล้ว แล้วคนนั้นก็ไม่ใช่เพื่อน"

คำตอบของลูกชายทำให้คนเป็นพ่อกับป๊าเลิกคิ้วขึ้น แล้วลอบมองหน้ากัน ก่อนที่ใครจะทันได้ถามต่อ ลิงก์ก็พูดขัดก่อน

"เอาไว้จะพาไปหาที่บ้านแล้วกันนะครับ ลิงก์ไปก่อน"

ลิงก์ยกมือไหว้ลา แล้วรีบเดินตรงไปยังผู้ชายอีกคนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ









TBC++++++++++

Marionetta
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ อิงอิงกับเล้งมาเดตกันล่ะ ><
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 9 - 30/03/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 12-04-2019 19:07:08
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 10 - 12/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-04-2019 20:38:15
 :mew1: :mew1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 10 - 12/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-04-2019 20:56:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 10 - 12/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-04-2019 21:03:38
 :L2: :L1: :pig4:

คิดถึงอิงๆกับเล้ง โผล่มานิดหนึ่งก็ดีใจ
รออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 10 - 12/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 12-04-2019 21:16:01
คนแปลกกับคนบื้อมาเจอกันแต่กลายเป็นความน่ารักซะงั้น
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 10 - 12/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 13-04-2019 05:31:48
น่ารักมากๆค่ะชอบโทนเรื่อง​ สงสัย​ลิ้งก์กลัวไม่ได้ไปรับไปส่งบู้แน่เลยน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 10 - 12/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 20-04-2019 19:34:42
Level 11: แรงกดดัน





“ตกลงเรื่องมึงกับพี่เขาว่ายังไงวะ”

เป็ดเริ่มต้นบทสนทนาของวันด้วยการถามถึงเรื่องราวของผมที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ผมนั่งนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเป็นปกติ

“ก็...คนที่เขาอยากตั้งชื่อเอาไว้เรียกคนเดียว”

“อะไรของมึงเนี่ย กูงง”

“อืม กูก็งง”

เป็ดขมวดคิ้วออกมา ผมก็อมยิ้มเล็กน้อย เมื่อนึกถึงความทรงจำเมื่อวานนี้ อีกฝ่ายก็ทำหน้าปั้นยาก แล้วเริ่มเค้นข้อมูลของผมต่อ

“แล้วทำไมมึงไม่ถามต่อให้มันรู้เรื่อง”

“กูไม่อยากอวดโง่ให้เขารู้”

ถึงมันจะไม่ทันแล้วก็เถอะ...

“กูไม่รู้จะสงสารมึงหรือตัวเองดี ที่มีเพื่อนอย่างมึง”

ผมก็หัวเราะออกมาเบาๆ กับคำประชดประชันแบบไม่จริงจังของเพื่อน อันที่จริงในตอนนั้นผมก็แค่เผลอหลุดปากถามออกไป ไม่ได้อยากฟังคำตอบสักเท่าไหร่หรอกครับ แล้วมันก็น่าขำตรงที่พี่ลิงก์ก็เหมือนไม่ได้จริงจังกับการตอบคำถามของผมเช่นเดียวกัน

“แล้วอย่างนี้มันจะต่างอะไรกับตอนแรกวะ”

“กูว่าต่างนะ กูรู้สึกอย่างนั้น”

ตอนนี้เหมือนกับผมเผลอสะดุดก้อนหินระหว่างทางจนเสียหลักไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไร ทุกอย่างยังดำเนินต่อไปเหมือนเดิม

“ถึงจะเป็นแค่ข้อความไร้สาระในอินเทอร์เน็ต แต่มันก็ส่งผลทางอ้อมในระยะยาวได้นะเว้ย ที่สำคัญกูก็ไม่ชอบให้ใครมาว่าเพื่อนกูด้วย"

"ช่างเถอะ...กูไม่ได้สนใจอยู่แล้ว"

"ไม่ได้! มึงต้องสนใจบ้าง เอาอย่างนี้ มึงลองไปขอเขาเป็นแฟนแบบตรงๆ เลย ทุกอย่างเคลียร์แน่นอน”

"แล้วยังไงวะ"

"ถ้าพี่เขาเซย์โน ก็ออกตัวไปเลยว่าแค่รุ่นน้องจะได้เลิกยุ่งเรื่องของมึง แต่ถ้าเซย์เยสขึ้นมา มึงก็ออกตัวไปว่า มีอะไรไปเคลียร์กับแฟนกู โอเคนะ"

“ฮ่าๆ กูว่าไว้ทีหลังเถอะ มันใกล้สอบแล้วว่ะ กูไม่อยากคิดเยอะกว่าเดิม”

เป็ดนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ผมก็ยิ้มบางออกมา

“อืม กูเข้าใจ แต่อย่าปล่อยไว้นานนะมึง”

“รู้แล้วๆ ขอบใจว่ะ”









@@@@@@@@@@









LINK
บู้ กูจะอ่านหนังสือสอบ ห้ามกวนนะ

ผมอ่านข้อความทางไลน์ที่แสดงตรงหน้าจอ ก่อนจะตอบรับแบบไม่ได้คิดอะไรมาก

Blue++
ครับ

มะรืนนี้มหาวิทยาลัยของผมจะเข้าสู่ช่วงสอบไฟนอลของเทอมแรกอย่างเป็นทางการ ผมเองก็เริ่มแบ่งเวลาทบทวนบทเรียนและทำสรุปเพื่ออ่านสอบแล้วครับ

ในช่วงสองสัปดาห์ก่อนหน้านี้ผมได้เจอพี่ลิงก์แค่บางวัน เขามารับและไปส่งผมอย่างที่เคยบอกเอาไว้จริงๆ แต่แบบว่า...มารับที่คณะตอนเลิกเรียนแล้วก็ไปส่งผมที่หอต่อ โดยที่เขาพาผมไปกินข้าวเย็นด้วยกันตลอดเลยล่ะครับ

นอกจากนี้ภาพของพี่ลิงก์ที่มารับผมที่คณะ รวมไปถึงภาพที่ผมนั่งในโฟล์คบีเทิลสุดหวงที่เดิมทีเคยมีแต่ตุ๊กตาที่ได้โดยสาร ก็ยิ่งทำให้ผมตกเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้น และเริ่มมีแฟนคลับบางคนเข้ามาหาผมเพื่อสอบถาม ซึ่งผมก็แค่ตอบไปตามความจริงที่ว่า...แค่รุ่นน้องที่สนิทกัน

เรื่องนี้ผมไม่แน่ใจว่า พี่ลิงก์รู้เรื่องไหม แต่สถานะล่าสุดในเฟซบุ๊กที่นานๆ ทีอีกฝ่ายจะอัปเดตความเป็นไปของตัวเองก็ปรากฏข้อความสั้นๆ แบบไม่มีที่มาที่ไปว่า...

-อย่าเสือก เรื่องของกู-

ไม่ต้องบอกผลลัพธ์ของมันนะครับ ถือว่ารุนแรงราวกับพายุโซนร้อนปะทะกลุ่มแฟนคลับเลย พี่ลิงก์ก็ไม่ได้แคร์ความคิดเห็นอะไรทั้งนั้น แฟนคล้บส่วนใหญ่ต่างก็คิดว่า ข้อความนั้นสื่อถึงใครก็ตามที่กำลังวุ่นวายกับผมอยู่

แต่ที่แน่ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเล่าเรื่องของพี่ลิงก์ แล้วเป็ดแสดงความคิดเห็นในเชิงบวกออกมาครับ

หลังจากนั้นเรื่องราวของผมก็เริ่มจางลง เพราะพี่ลิงก์ดันไปถ่ายรูปคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเธอก็แท็กรูปพร้อมกับข้อความที่แสดงถึงความสนิทสนมจนผมยังสงสัย แต่ก็ยังไม่กล้าถามพี่ลิงก์ครับ

บางทีอาจจะเป็นคนที่เขาคบอยู่ล่ะมั้ง....

ถึงจะมีเรื่องแบบนั้น แต่พี่ลิงก์ก็ยังส่งข้อความมาคุยกับผมทุกวันเลยนะครับ ผมก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไรเกี่ยวกับข่าวของผู้หญิงคนนี้เท่าไหร่ อาจเป็นเพราะผมยังมีความสุขกับความสัมพันธ์ที่ระบุไม่ได้ชัดเจนในตอนนี้ก็ได้

หลังจากที่ผมส่งข้อความตอบรับพี่ลิงก์ แล้วอ่านหนังสือต่อได้ไม่ถึงห้านาที ผมก็ต้องละสายตาไปมองโทรศัพท์มือถือ เพราะเสียงของไลน์ที่ดังขึ้น

LINK
บู้ทำอะไรอยู่

Blue++
อ่านหนังสือสอครับบ

พี่ลิงก์ส่งสติกเกอร์ตอบรับ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ตอนนี้กำลังนั่งไล่โค้ดอยู่ครับ ถ้าเขียนผิดแม้แต่นิดเดียวคะแนนหายหมด ถือว่ารันโปรแกรมไม่ผ่าน ซึ่งเป็นอะไรที่ต้องระมัดระวังและน่ากลัวมาก

LINK
บู้ส่งตารางสอบมึงมา

ผมเลิกคิ้วขึ้น แต่ก็ส่งตารางสอบของตัวเองให้อีกฝ่าย แล้วหันมาสนใจเอกสารตรงหน้าต่อ ก่อนที่เสียงของไลน์จะรบกวนผมอีกครั้ง

LINK
มีสอบตรงกันด้วยนี่หว่า สอบวันสุดท้ายวันเดียวกันด้วย

LINK
วันสุดท้ายมารอกูที่คณะ กูมีสอบบ่าย

ผมนึกสงสัย แล้วดูตารางสอบของตัวเองอีกครั้ง วันนั้นผมมีสอบแค่ตอนเช้าครับ

Blue++
ครับ

LINK
บู้ กูจะอ่านหนังสือแล้ว อย่ากวนอีกนะ

Blue++
ครับ

ผมได้แต่นึกตลกอยู่ในใจ ผมยังไม่ได้กวนอะไรเขาเลยนะ มีแต่พี่ลิงก์ที่ส่งข้อความมากวนสมาธิผม

LINK
ตั้งใจอ่านหนังสือนะบู้

Blue++
ครับ

พี่เตือนตัวเองดีกว่าไหมครับ...

ผมอมยิ้มกับตัวเอง แล้วกลับมาเพ่งสมาธิกับเอกสารที่อยู่ตรงหน้าต่อ ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นเพียงไม่นานจะมีข้อความของคนที่บอกว่า 'อย่ากวน' ส่งมาหาอีกเป็นระยะก็ตาม








@@@@@@@@@@









ช่วงสองสัปดาห์ของการสอบ ผมไม่ได้เจอพี่ลิงก์เลยครับ แต่เราสองตนก็ส่งข้อความหากันบ้าง ถึงแม้ตอนแรกผมจะกลัวทำให้เขารำคาญเลยไม่กล้าติดต่อไปก่อน ทว่าเมื่อลองส่งสติกเกอร์ทักดูและได้รับสติกเกอร์ตอบกลับมา ก็ทำให้ผมมีความกล้าที่จะเป็นฝ่ายเข้าหามากขึ้น

"สอบเสร็จมึงจะลับบ้านเลยป่ะ"

เป็ดถามผม หลังจากที่เราเดินออกจากห้องสอบและพูดคุยกับเพื่อนเรื่องคำตอบที่เขียนลงไปอย่างเคร่งเครียด

"ยังไม่แน่ใจ แต่ว่าจะหาอะไรทำตอนปิดเทอมว่ะ"

ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่สอบติดมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ อันที่จริงก็อยากกลับบ้านนะครับ แต่ก็อยากทำงานพิเศษหาเงินช่วงปิดเทอมด้วย

"กูจะไปช่วยพี่สอนพิเศษเด็กว่ะ มึงเอาด้วยป่ะ"

"เอาดิ สอนอะไรวะ"

"เดี๋ยวต้องลองคุยกับพี่นกก่อน"

ผมพยักหน้ารับ หลังจากที่เราสองคนเดินออกมาจากตึก เป็ดก็ชวนผมไปกินข้าวที่ห้าง แล้วค่อยไปรอพี่ลิงก์ที่คณะหลังจากเขาสอบเสร็จตอนบ่ายครับ

"แล้วมึงจะเอายังไงเรื่องพี่ลิงก์วะ"

เป็ดเริ่มต้นหัวข้อสนทนาใหม่ตอนที่เราสองคนเดินออกจากร้านชาบู ผมก็ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

"อืม ก็ยังไม่ได้คิด"

"แล้วตกลงผู้หญิงที่มึงเล่าเป็นแฟนพี่เขาหรือเปล่า"

"นั่นกูก็ยังไม่รู้"

เป็ดกลอกตาไปมาเหมือนคนเบื่อโลก มันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ผมก็ยิ้มแหยออกมาเพราะเข้าใจอารมณ์และความคิดของอีกฝ่ายดี

"เอาน่า...ตอนนี้เขาก็ตกเป็นประเด็นแทนกูไปแล้ว"

อันที่จริงผมไม่ได้สนใจกระแสของตัวเองเลยครับ เพราะใช้เวลาไปกับการสอบมากกว่า แต่ก็พอจะเปิดดูผ่านตาอยู่บ้าง ซึ่งกลุ่มแฟนคลับก็กำลังเพ่งเล็งไปยังผู้หญิงที่ออกตัวแรง โพลต์รูปคู่กับพี่ลิงก์หลายรูป ล่าสุดอีกฝ่ายก็เพิ่งแท็กรูปพร้อมกับข้อความว่า...He is mine.

อืม...ตกลงมันยังไงกันแน่?

มีหลายคนแสดงความคิดเห็นอย่างเผ็ดร้อน ทั้งความไม่พอใจ อิจฉา และสงสัย แต่ดูเหมือนว่าคนที่ถูกโจมตีจะไม่สะทกสะท้าน แถมยังตอกกลับด้วยข้อความที่แสดงถึงความเหนือกว่าที่ทำให้กลุ่มแฟนคลับอยู่ไม่เป็นสุขเลยครับ

ผมไม่ได้ตามเรื่องราวต่อ เพราะมีข้อความของเจ้าของข้อพิพาทส่งมากวนอย่างทุกที สุดท้ายผมก็ไม่ได้สนใจเรื่องผู้หญิงที่ชื่อ 'พริ้ม' คนนี้อีกครับ

"เอาอย่างนี้ไหมบลู ถ้ามึงไม่กล้าถาม เดี๋ยวกูถามให้ รับรองรู้เรื่อง"

"เฮ้ย! ไม่ต้องๆ "

"แบบนี้มันก็ยังแย่นะมึง ถ้าเกิดเขาเป็นแฟนกันจริง แล้วมีคนมาเห็นพี่เขาไปรับไปส่งมึงอีก มันจะไม่ มโนว่ามึงเป็นมือที่สามหรือวะ"

ผมเริ่มนิ่งคิดตามเพื่อนขึ้นมา แล้วก็รู้สึกหนักใจกับความเป็นไปได้ที่อีกฝ่ายสมมุติขึ้น มันแย่ยิ่งกว่าที่ผมเป็นแฟนกับพี่ลิงก์อีกนะครับ

"เออว่ะ งั้นเอาไงดี"

"ก็อย่างที่กูเคยบอกไป ถามพี่เขาเลย หรือไม่กล้าถาม...มึงก็ลองชวนเขาเป็นแฟน แบบว่า...เหมือนชวนไปกินข้าวอ่ะ ยังไงมึงก็ไม่ได้หวังอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"

"ฮะ? "

แบบนั้นจะได้หรือวะ!?

ผมหันไปมองเพื่อนสนิทแบบงงๆ ปนตกใจ เป็ดก็ทำสีหน้าจริงจังออกมา

"ตอนนี้สมองมึงว่างแล้ว กูว่ารีบจัดการให้จบก่อนจะเปิดเทอมดีกว่า"

ผมถอนหายใจออกมาด้วยความไม่มั่นใจ แต่ก็นึกเห็นด้วยอย่างที่เพื่อนสนิทบอก ในเมื่อปิดเทอมแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะใช้เวลาช่วงนี้ทำใจ ก่อนจะเริ่มต้นใหม่อย่างเป็นปกติในเทอมหน้า

เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน!!!

"ตกลง กูจะทำตามที่มึงบอก"

"อืม กูเอาใจช่วยมึง ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม"

ผมพยักหน้ารับให้เป็ดอย่างตั้งใจ ก่อนจะแสร้งทำสีหน้าคิดไม่ตกออกมา

"แล้วถ้าพี่ลิงก์ยอมเป็นแฟนกับกู จะทำยังไงดีวะ"

"ก็ตอบไปว่า มึงไม่ได้อยากเป็นแฟน แต่อยากเป็นเบ๊ให้พี่มากกว่าครับ"

ผมหัวเราะกับคำตอบหน้าตายของเป็ด เวลาที่เราสองคนเอามาพูดเล่นกัน ทุกอย่างก็ดูง่ายไปหมด แต่เมื่อผมยืนอยู่ตรงหน้าพี่ลิงก์ มันไม่ใช่แบบนั้น

แต่...จากประสบการณ์ที่ผานมา การเริ่มต้นอะไรสักอย่างเกี่ยวกับพี่ลิงก์ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวอย่างที่ผมกังวลเช่นเดียวกัน








@@@@@@@@@@









หลังจากแยกย้ายกับเป็ด ผมก็มารอพี่ลิงก์ที่คณะบริหารตามที่อีกฝ่ายเคยบอกไว้ โดยที่มีสายตาบางคู่มองมาเป็นระยะ ผมพยายามทำเป็นไม่สนใจจนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกจากคนที่รออยู่

พี่ลิงก์ส่งยิ้มให้ผมเล็กน้อย เขาเดินมาพร้อมกับพี่พลและพี่ทีที่กำลังมองมาทางผม พี่พลส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร แตกต่างจากพี่ทีที่แค่ส่งสายตาเฉยชามาให้เท่านั้นครับ

“เราเคยเจอกันครั้งนึงแล้ว จำได้เปล่า พี่ชื่อพลนะ ส่วนคนที่ทำตัวเป็นผีตายซากชื่อที”

พี่พลแนะนำตัวเองกับพี่ที ผมก็ยกมือไหว้ไปตามมารยาท นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้คุยกับเพื่อนสนิทของพี่ลิงก์อย่างเป็นทางการครับ

"ผมชื่อบลูครับ"

ผมทำตัวไม่ถูก เมื่อถูกรุ่นพี่ที่ไม่คุ้นเคยจ้อง ก่อนที่เสียงของพี่ลิงก์จะดังขึ้นเรียกความสนใจของเพื่อนทั้งสองคน

"มองอะไรของพวกมึง"

"ก็เรื่องของกูไหม อะไร? ห้ามมองเหรอ"

พี่พลส่งสีหน้ากวนประสาทให้พี่ลิงก์ ส่วนพี่ทีก็แค่มองเพื่อนทั้งสองคน แล้วหมุนตัวเดินออกไปอย่างเงียบเชียบ

"อ้าว! ไปเฉย"

พี่พลหันไปมองพี่ทีที่เดินไปอีกทางแบบไม่สนใจใคร ก่อนจะหันมามองพี่ลิงก์ด้วยรอยยิ้มชวนหาเรื่อง ทว่ายังไม่ทันที่จะได้โต้ตอบกัน เสียงสดใสของใครอีกคนก็ดังขึ้นขัดเสียก่อน

“พี่ลิงก์!!!”

ผมหันไปมองตามที่มาของเสียง แล้วพบว่าผู้ที่มาใหม่พุ่งเข้ามาควงแขนของพี่ลิงก์อย่างเป็นเจ้าของก็คือพริ้ม ผู้หญิงที่กำลังตกเป็นประเด็นร้อนของแฟนคลับในตอนนี้

"ขอโทษน้าที่มาช้า พี่ลิงก์ไม่โกรธพริ้มเนอะ"

ใบหน้าขาวจิ้มลิ้มกับนัยน์ตาสดใส ทำให้พริ้มเหมือนดอกไม้ที่กำลังบ่งบาน น้ำเสียงเจื้อยแจ้วอย่างไร้เดียงสาก็ฟังน่าเอ็นดู ถ้าหากไม่ได้เห็นการตอบโต้ของเธอที่ฟาดฟันในอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้นะครับ

พี่ลิงก์แค่มองอีกฝ่ายอย่างงุนงง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แสดงท่าทางไม่ชอบใจที่ถูกแตะเนื้อต้องตัว ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นก็ทำให้สายตาหลายคู่ที่ลอบมองอยู่ตกตะลึงอย่างคาดไม่ถึง ผมเองก็เช่นเดียวกัน

ก็อย่างที่รู้กันว่า....พี่ลิงก์มีระยะของตัวเองกับคนอื่นเสมอ เขาไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้มากเกินไป ยกเว้นคนที่สนิทด้วยครับ

“ไม่ได้รอ จะโกรธทำไม”

อ่า…

ผมได้แต่ยืนอึ้งหนักกว่าเดิม บรรยากาศรอบตัวของผมเหมือนเกิดความเงียบขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงหัวเราะของคนที่มองเหตุการณ์อยู่ อย่างน้อยก็มีพี่พลคนหนึ่งล่ะครับ แต่เขาก็พยายามเก็บอาการเหมือนให้เกียรติคนที่โดนฉีกหน้าเต็มที่

“พี่ลิงก์อ่ะ! ก็เรานัดกันไปกินขนมไง”

พริ้มชักสีหน้างอนออกมาอย่างชัดเจน ต่างจากพี่ลิงก์ที่ยังคงสีหน้าปกติมองคนที่ควงแขนของตัวเองอยู่

"ไม่เห็นจำได้ ฝันหรือเปล่า"

คราวนี้ผมได้ยินเสียงหัวเราะของพี่พลชัดเลยครับ พริ้มหันไปถลึงตาใส่อย่างไม่พอใจ แล้วหันมามองพี่ลิงก์อย่างตัดพ้อ

"พี่ลิงก์! "

พี่ลิงก์แค่ถอนหายใจออกมา เขาหันไปสนใจเพื่อน เมื่อพี่พลเอ่ยลา

"กูไปล่ะ แล้วค่อยเจอกัน"

"อืม"

พี่พลหันไปมองพริ้มที่ยังมีสีหน้าบูดบึ้ง สายตาที่เจือแววขำจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลื่อนมามองผมต่อ

"ไว้เจอกันนะบลู"

"ครับ"

หลังจากที่พี่พลเดินแยกไปอีกคน พี่ลิงก์ก็หันมามองผม ก่อนที่พริ้มจะเรียกร้องความสนใจของเขาอีกครั้ง

"งั้นเราก็ไปกันเนอะ"

"ไปไหน พี่จะกลับไปนอน"

น้ำเสียงเบื่อหน่ายของพี่ลิงก์ไม่ได้ลดทอนความพยายามของพริ้ม เธอคลี่ยิ้ม แล้วโต้ตอบอย่างร่าเริง ไม่หลงเหลือความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

"พริ้มไปด้วยนะ ไม่ได้ไปที่คอนโดพี่ลิงก์นานแล้วอ่ะ"

"กลับบ้านไปพริ้ม"

"ไม่เอาอ่ะ พริ้มอยากอยู่กับพี่ลิงก์"

ท่าทางดื้อดึงของพริ้ม ทำให้พี่ลิงก์ถอนหายใจตออกมาอีกครั้ง ผมก็ได้แต่ยืนโง่เป็นตัวประกอบ แล้วแอบกลั้นหายใจเล็กน้อย เมื่อน้ำเสียงเบื่อหน่ายของคนที่ถูกเซ้าซี้เข้มขึ้นมาหลายระดับ

"อย่าทำให้พี่รำคาญไปกว่านี้"

พริ้มหน้ามุ่ยลงพลางปล่อยมือจากแขนของพี่ลิงก์ เขาส่งสายตาเย็นชาให้อีกฝ่าย แล้วหันมาทางผมด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

"ไปกันเถอะ"

ผมก็พยักหน้ารับ ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวไปไหน เสียงของพริ้มก็ดังขึ้นราวกับต้องการประกาศกร้าวอย่างไม่เกรงใจใคร

"นายเองสินะ! พี่ลิงก์เป็นของฉัน! จำเอาไว้! เราเป็นศัตรูกัน! "

ฮะ?!!!

ผมยืนช็อกกับท่าทางเกรี้ยวกราดของพริ้มที่แสดงออกมา ถึงจะไม่เคยเป็นที่นิยมในหมู่ผู้หญิง แต่ก็ไม่เคยถูกว่าหรือแสดงความเป็นอริแบบนี้มาก่อน

"ไม่ต้องไปสนใจ ไร้สาระ"

พี่ลิงก์พูดขึ้นพร้อมกับลากแขนของผมที่ยังยืนนิ่งให้เดินตามเขาไปอย่างไม่รีบร้อน โดยที่รอบตัวยังมีสายตาและเสียงสนทนามากมายที่ฟังไม่ได้ศัพท์ลอยตามมาไม่ต่างจากสายลม

















TBC++++++
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 10 - 12/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 20-04-2019 19:36:01
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 11 - 20/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-04-2019 19:56:03
 :L2: :pig4:

ตัวเร่งปฏิกริยาไหม
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 11 - 20/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-04-2019 21:22:35
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 11 - 20/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 03-05-2019 19:49:50
Level 12: ระยะห่าง









ตกลงพริ้มเป็นใครกันวะ?

ผมได้แต่นึกสงสัย แต่ก็ไม่กล้าถามพี่ลิงก์ครับ ดูเหมือนเขาไม่อยากให้ใครเซ้าซี้ในเวลานี้เท่าไหร่ ผมเลยได้แต่เก็บความค้างคาใจเอาไว้ข้างใน

พี่ลิงก์กลับมานอนพักหนุนตักของโจแอนที่คอนโดครับ เขาหลับไปเฉย แล้วทิ้งผมให้ยืนเอ๋ออยู่ในห้อง ผมนั่งลงบนพื้นพรมโดยพิงหลังกับโซฟาที่เจ้าของห้องนอนอยู่ จนกระทั่งเวลาเกือบหนึ่งทุ่มคนนอนหลับก็ตื่น

"บู้ไปอาบน้ำสิ"

"อ่า...เดี๋ยวผมกลับไปอาบน้ำที่ห้องตัวเองครับ"

อะไรของเขา? อยู่ดีๆ พี่ลิงก์ก็สั่งให้ไปอาบน้ำ? หรือว่าผมตัวเหม็นมาก?!

ผมลอบสำรวจกลิ่นของตัวเองอบ้างไม่มั่นใจ แต่คำพูดของพี่ลิงก์ก็ทำให้ผมต้องหันไปสนใจเขาต่อ

"เดี๋ยวจะพาไปเที่ยว"

"ไปเที่ยว? "

"อืม นัดกับพวกนั้นไว้ว่าจะไปที่ผับ A"

ผับ A!?

ผมไม่รู้จักผับที่ว่าหรอกครับ เพราะไม่เคยไปเที่ยวสถานที่แบบนั้นมาก่อน แต่ที่งงยิ่งกว่านั้นก็คือ...พี่ลิงก์ชวนผมไปเที่ยวผับเนี่ยนะ?!

หน้าอย่างผม...ชวนไปเที่ยวสวนสัตว์คงเหมาะกว่ามั้งครับ!

"เอ่อ...พาผมไปด้วยจะดีเหรอ"

"มึงมีปัญหาอะไรบู้ ถึงอายุสมองมึงจะไม่ถึง แต่อายุตามบัตรประจำตัวประชาชน กูว่าเข้าได้นะ"

อันนี้ก็รุนแรงต่อหัวใจของผมเกินไปนะครับ เหอะๆ

"คือ...ผมไม่เคยไปอ่ะ แบบว่า..."

"ไม่เคยไป ก็ลองไป เลิกงอแง แล้วไปอาบน้ำ"

งอแง...?

ตอนนี้ผมอยากจะไปเปิดพจนานุกรมหาความหมายของคำนี้จริงๆ ผมว่า...คนที่เหมาะกับคำนี้ที่สุดก็คือพี่ลิงก์นั่นแหละ

งอแง ปากร้าย เอาแต่ใจ!

ถึงจะไม่ค่อยอยากไป เพราะไม่ใช่สายดื่มเที่ยว แต่เพราะเป็นพี่ลิงก์ ผมก็โอเคหมดนั่นแหละครับ ถือว่าไปเปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน ในเมื่อชีวิตประจำวันของผมก็คงไม่มีโอกาสได้ไปอยู่แล้ว

จะว่าไป...ก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะ

"หลับในเหรอ ตื่นๆ ยังไม่ใช่เวลานอน"

คนที่ชอบนอนกลางวันอย่าว่าคนอื่นแบบนี้ครับ!

ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อพี่ลิงก์กำลังจ้องหน้าเหมือนหาเรื่อง เขาลุกจากโซฟา แล้วเดินไปทางห้องครัวต่อ

"ไปอาบน้ำ เดี๋ยวทำอะไรให้กิน แล้วเราค่อยไปผับกัน"

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะบอกเจ้าของห้องที่กำลังเดินเอื่อยถึงปัญหาที่ยังทำให้ผมไม่ขยับไปทำตามที่เขาบอกเสียที

"พี่ลิงก์ ผมไม่มีชุดเปลี่ยน"

พี่ลิงก์ชะงัก ดูเหมือนว่าเขาก็คงลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกัน ปลายเท้าที่เดินไปทางห้องครัวเลยเปลี่ยนเส้นทางไปยังห้องที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นห้องนอนแทน

"เดี๋ยวหาให้"

พี่ลิงก์กลับมาอีกครั้งพร้อมกับเสื้อผ้าชุดหนึ่ง ซึ่งรวมไปถึงกางเกงในที่ยังไม่ได้ใช้ด้วยครับ ผมมองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยความเขินอาย

"ลองดู น่าจะใส่ได้"

"ขอบคุณครับ"

ผมไม่ได้มองสีหน้าของพี่ลิงก์ แล้วรีบเดินตรงไปยังห้องน้ำทันที









@@@@@@@@@@








ผมใช้ห้องน้ำด้านนอกครับ ทั้งที่ตอนแรกแอบหวังเอาไว้ว่าจะได้ลองเข้าห้องนอนของพี่ลิงก์สักครั้งก็ตาม เมื่อผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยด้วยชุดที่อีกฝ่ายเตรียมให้ ถึงแม้เสื้อและกางเกงจะมีขนาดใหญ่กว่าตัว แต่ก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไรครับ

พอผมเดินออกมาจากห้องน้ำ บนโต๊ะอาหารที่เฮเลนนั่งประจำที่ก็มีผัดมาม่าจานใหญ่วางอยู่ พี่ลิงก์ที่ยังอยู่ในชุดนักศึกษาเดินเลยผ่านผมไปยังห้องส่วนตัวของเขา

"กินให้หมด แล้วก็ล้างจานให้ด้วย เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน"

"แล้วพี่ไม่กินหรือครับ"

"กินแล้ว ตอนรอมึงอาบน้ำ"

ผมพยักหน้ารับแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเฮเลนที่นั่งมองผมตาแป๋ว ผมนั่งกินมาม่าผัดพร้อมกับพิจารณาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไปด้วย ตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจว่า ทำไมพี่ลิงก์ถึงได้วางตุ๊กตาหมีไปทั่วห้องแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกแปลกที่ต้องมานั่งกินข้าวให้ตุ๊กตาหมีดูน่ะครับ

ผมใช้เวลาไม่นานก็กินอาหารเย็นของตัวเองหมด หลังจากที่เก็บล้างให้เจ้าของห้องเรียบร้อย ผมก็เดินออกจากห้องครัว แล้วก็เจอพี่ลิงก์กำลังยืนรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น

"พวกนั้นมารอแล้ว"

"ครับ"

ผมเดินตามพี่ลิงก์ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย และยิ่งรู้สึกประหลาดใจเป็นเท่าตัว เมื่ออีกฝ่ายเดินนำผมออกจากดอนโดมิเนียมหรูไปทางสถานีรถไฟฟ้า

"พี่ไม่ขับรถไปเหรอ"

"ขี้เกียจ รถติด หาที่จอดลำบาก"

"อ่า...ครับ"

พี่ลิงก์เดินไปซื้อตั๋วรถไฟฟ้ามาให้ ก่อนที่พวกเราจะขึ้นไปยืนรอรถไฟฟ้าที่ชานชาลา ผู้คนมากมายที่อยู่รอบตัวไม่ได้ทำให้ความเงียบที่เกิดขึ้นระหว่างเราสองคนหายไป

ผมสังเกตว่ามีหลายคนลอบมองพี่ลิงก์อยู่ แต่ดูเหมือนว่าคนที่ตกเป็นเป้าสายตาของใครหลายคนเพราะความหน้าตาดีจะไม่ได้สนใจ

เมื่อรถไฟฟ้ามาจอดเทียบที่ชานชาลา ผมก็พบกับจำนวนคนมากมายที่ยืนแออัดอยู่ภายใน ในขณะที่ผมกำลังมองซ้ายมองขวาว่าจะไปยืนแทรกตรงไหนดี พี่ลิงก์ก็คว้าแขนของผมไปเบียดแทรกอยู่ตรงทางเชื่อมของโบกี้ที่พอจะมีที่ว่างอยู่เล็กน้อยครับ

ผมยืนพิงหลังกับผนังของรถไฟฟ้า ทุกคนในบริเวณนั้นต่างก็เล่นโทรศัพท์มือถือไม่สนใจสิ่งรอบข้าง แต่ก็มีบางสายตาที่เหลือบมองไปยังพี่ลิงก์ที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของผม

พี่ลิงก์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่น ส่วนผมก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่รู้จะทำอะไร สุดท้ายเลยได้แต่หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาบ้าง แล้วพบว่าแบตเตอรี่ของมันใกล้จะหมดแล้ว ผมเลยจำใจต้องเก็บพลังงานของเครื่องมือสื่อสารที่มีจำกัดเอาไว้ตามเดิม

อาจเพราะเส้นทางและการขับเคลื่อนที่ไม่ปกติ ทำให้ขบวนรถไฟฟ้ากระชากตัวจนผู้โดยสารทรงตัวลำบาก ถ้าหากไม่ได้จับห่วงหรือเสาเพื่อยึดเป็นหลักเอาไว้

พี่ลิงก์ที่ทรงตัวด้วยสมดุลของตัวเองมาตลอดเลยเซเข้ามาหาผมกะทันหัน ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ผมเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย เพราะตอนนี้ใบหน้าของเราใกล้กันมากเลยครับ!

นัยน์ตาสีดำที่เอาแต่จ้องโทรศัพท์มือถือก่อนหน้านี้สบกับนัยน์ตาของผม พี่ลิงก์ยกยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่เสียงทุ้มจะดังแผ่ว

"โทษที กูเซ"

ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วเบือนสายตาไปทางอื่นแทน หัวใจของผมเต้นแรงจนน่ากลัว ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนจากร่างกายที่เข้ามาชิดใกล้ ลมหายใจก็คล้ายจะติดขัดไปหมด

เนื่องจากพี่ลิงก์ต้องการป้องกันการยืนเซเพราะไม่มีที่ยึดอีก เขาเลยใช้มือยันกับผนังของรถไฟฟ้าที่ผมยืนพิงอยู่ ระยะห่างที่น้อยลงกว่าเดิมมากขึ้น ทำให้ตอนนี้ผมเหมือนตกอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายโดยปริยาย

เขินอ่ะ....

ผมยืนเกร็งทำตัวเป็นรูปปั้นด้วยใบหน้าร้อนผ่าวต่างจากพี่ลิงก์ที่มือหนึ่งค้ำยันผนังรถไฟฟ้าเหนือหัวของผมไว้ อีกมือหนึ่งก็กดโทรศัพท์มือถือไม่หยุด ผมลอบมองเสี้ยวหน้าของคนที่กำลังก้มมองหน้าจอทัชสกรีนด้วยหัวใจที่เต้นระรัว

ด้วยความเร็วของรถไฟฟ้าที่ไม่ติดขัดเหมือนการจราจรบนถนน ผมกลั้นใจตกอยู่ในอาการไม่เป็นตัวของตัวเองได้ไม่นาน พี่ลิงก์ก็ดึงแขนของผมเดินฝ่าคนที่ยังเบียดแน่นออกจากรถไฟฟ้าครับ

ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อได้รับอิสระ ก่อนจะเดินตามพี่ลิงก์ไปยังผับ A ต่อ








@@@@@@@@@@








ถึงจะดึกแล้ว เมื่อเทียบกับบางพื้นที่ แต่บริเวณที่พวกเราเดินอยู่กลับคึกคัก ผมมองรอบตัวด้วยความสนใจ แล้วหันไปทางพี่ลิงก์ หลังจากที่ได้ยินเสียงของเขา

"อย่าทำตัวเหมือนบ้านนอกได้ไหม"

"ผมก็เป็นเด็กบ้านนอกจริงๆ ครับ"

พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้น ผมก็เลยถือโอกาสเล่าเรื่องของตัวเองสร้างบรรยากาศระหว่างที่เราสองคนเดินไปที่ผับด้วยกัน

"ผมเป็นพี่คนโต มีน้องชายคนนึง ชื่อกรีน ปีหน้าก็จะเข้ามหา'ลัยแล้ว"

"พี่น้องตระกูลสีเหรอ"

"ครับ เป็นสีที่พ่อกับแม่ชอบครับ"

"อืม ดีนะ"

พี่ลิงก์ตอบรับ แต่สายตาของเขากลับมองไปทางอื่นเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง บรรยากาศโดยรอบที่ก่อตัวขึ้นของอีกฝ่าย ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีนัก

"พี่ลิงก์ อีกไกลไหมครับ"

พี่ลิงก์หันมามองผม แล้วเลื่อนสายตามองไปรอบตัว ก่อนที่เสียงทุ้มเรียบจะดังขึ้น

"เหมือนมาผิดซอยว่ะ"

"ฮะ?! "

ท่าทางเด๋อด๋าของผม ทำให้อีกฝ่ายหัวเราะออกมาเบาๆ เขาเอามือบีบแก้มของผมทีหนึ่ง แล้วชี้นิ้วไปยังร้านข้างหน้า

"กูล้อเล่น อยู่นั่นไง"

ผมถอนหายใจออกมาพร้อมกับลูบแก้มที่โดนบีบอย่างไม่ค่อยพอใจนัก แต่อย่างน้อยความเจ็บครั้งนี้ก็สามารถทำลายบรรยากาศสีเทาที่อยู่รอบล้อมเราสองคนเอาไว้และเรียกท่าทางสดใสของอีกฝ่ายกลับคืนมาได้

นี่คือตัวอย่างของความรักที่ทำให้เจ็บปวดสินะครับ








@@@@@@@@@@








ภายในผับ A เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเสพความสุขของเครื่องดื่มและเสียงดนตรี พี่ลิงก์เดินลากแขนของผมฝ่ากลุ่มคนที่สังสรรค์และโยกย้ายตามจังหวะเพลงที่สนุกสนานไปยังโต๊ะหนึ่งที่มีผู้ชายนั่งอยู่สี่คน

มีสองคนที่ผมรู้จัก คือพี่พลกับพี่ที แต่อีกสองคนที่กำลังมองผมอย่างไม่ปิดบังไม่คุ้นหน้าเลยสักนิดครับ

"พามาเปิดตัวหรือจ๊ะน้องลิงก์ กิ๊วๆ "

เสียงของพี่ที่ผมไม่รู้จักคนหนึ่งดังขึ้น เขายิ้มกว้าง นัยน์ตาเป็นประกาย ก่อนที่เสียงของผู้ชายแปลกหน้าอีกคนจะดังขึ้นต่อ

"เอาจริงดิ ไอ้เหี้ยลิงก์หลุดแนวกระจุยกระจายเลยว่ะ"

"ที่เขาว่า จิตใจคนยากแท้หยั่งถึงไงมึง"

พี่พลพูดเสริม ผมได้แต่มองพวกเขาสามคนอย่างทำตัวไม่ถูก ก่อนจะลอบมองพี่ทีที่นั่งเงียบมองไปทางอื่นราวกับไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น

"ร้องขอส่วนบุญกันหรือพวกมึง"

พี่ลิงก์ว่ากลับด้วยรอยยิ้มพร้อมกับกดไหล่ของผมให้นั่งลงที่โซฟาข้างเขา โดยที่มือข้างหนึ่งก็พาดไปกับพนักโซฟา ผมรู้สึกอยู่ไม่เป็นสุข เพราะเหมือนตกอยู่ในกลุ่มคนที่ดูไม่น่าไว้วางใจ

"อ่าฮะ ขอส่วนบุญสักแสนดิเฮีย ผมจะเอาไปเปย์สาว"

"ป๊ากูคงมาจ่ายให้ ตอนกูอัดมึงเข้าโรงพยาบาลอ่ะเหี้ยดิม"

"เอาดิ กูจะตามไปเผาตุ๊กตาหมีสุดที่รักของมึงให้วอดเลย"

"ไอ้สัตว์"

เสียงหัวเราะดังขึ้นตามประสาเพื่อนที่พูดคุยเล่นหัวกัน ผมที่ไม่ได้มีส่วนร่วมอะไรก็ได้แต่นั่งฟังครับ

"กูขำทุกที จุดอ่อนไอ้เหี้ยลิงก์คือตุ๊กตาหมี ฮ่าๆ "

"แล้วไง ก็กูชอบ"

ผมมองเสี้ยวหน้าของพี่ลิงก์ที่กำลังพูดคุยกับเพื่อน ต่อมาพี่ผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็หันมาสนใจผม

"ไอ้ลิงก์ แล้วมึงจะไม่แนะนำน้องเขาหน่อยหรือครับ"

"นั่นสิ"

"บลู เรียนอยู่ปีสอง"

ผมกะพริบตาหนึ่ง นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกชื่อเล่นของผมได้ถูกต้อง

"หวัดดีครับน้องบลู พี่ชื่อดิมนะครับ"

พี่ผู้ชายที่ท่าทางคุยเก่งแนะนำตัวเอง ก่อนพี่ผู้ชายอีกคนจะแนะนำตัวตาม

"พี่ชื่อเรย์นะครับ"

"ครับ บลูครับ"

อาจเพราะผมเป็นคนเพื่อนน้อย เลยทำให้ทักษะการสร้างมนุษยสัมพันธ์อยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ยังดีที่เพื่อนของพี่ลิงก์ทั้งสองคนอัธยาศัยดี แถมยังพยายามพาผมเข้าสู่บทสนทนาอย่างกระตือรือร้นอีกด้วย

ทั้งพี่ดิมและพี่เรย์เป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยมครับ พวกเขาเรียนกันคนละมหาวิทยาลัย แต่ถ้ามีเวลาว่างตรงกันก็จะนัดเจอกันเสมอ

"แล้วบลูเจอกับเพื่อนพี่ได้ยังไงเนี่ย"

"เอ่อ...ก็เจอที่มหา'ลัยอ่ะครับ"

"กูต้องต่อยังไงดีวะ"

พี่ดิมหันไปทางพี่พลที่นั่งยิ้มอยูข้างกัน

"คือน้องเขาเก็บตุ๊กตาหมีที่เป็นพวงกุญแจของไอ้ลิงก์ได้ สื่อรักที่ห้อยหมีอ่ะมึง"

"โรแมนติกสัตว์โลกมาก"

พี่เรย์พูดขึ้นพร้อมกับพี่ดิมที่พยักหน้ารับ ก่อนที่พี่ลิงก์จะพูดขึ้นบ้าง แล้วส่งสายตาดุใส่พี่พล

"อย่าเรียกโคลแบบนั้น"

"ประเด็นที่ควรท้วงไม่ใช่ตรงนั้นหรือเปล่าวะ"

พี่เรย์ย้อนถาม พี่ลิงก์ก็หันไปมองอีกฝ่าย แล้วยักคิ้วขึ้นเป็นการตอบรับ จากนั้นเสียงโห่ของเพื่อนร่วม โต๊ะอีกสามคนก็ดังขึ้น ส่วนพี่ทีก็แค่มองเล็กน้อย แล้วสนใจเครื่องดื่มของตัวเองต่อ

ผมที่ยังไม่ค่อยเข้าใจบทสนทนาของพวกรุ่นพี่เท่าไหร่ก็ได้แต่นั่งเงียบ แล้วทบทวนคำพูดของพี่พลไปด้วย

ก็อาจจะจริงที่โคลเป็นสื่อรัก แต่คงเป็นของผมฝ่ายเดียวครับ ที่ห้อยตุ๊กตาหมีตัวนั้น ทำให้ผมได้คุยกับพี่ลิงก์เป็นครั้งแรก แล้วก็ทำให้ผมได้มานั่งอยู่ข้างเขาในตอนนี้

ผมอมยิ้มกับตัวเองในใจ ก่อนจะหันไปทางคนที่นั่งอยู่ข้างกัน เมื่อได้ยินคำถามของเขา

"กินอะไรเพิ่มป่ะ"

"ไม่ครับ"

ตอนนี้ผมกินกับแกล้มของพวกเขาอยู่ครับ ส่วนเครื่องดื่มก็เป็นน้ำอัดลมที่พี่พลสั่งเอาไว้ให้ก่อนหน้านี้

"บลูกินเหล้าได้ป่ะ"

พี่เรย์หันมาถามผม ผมก็พยักหน้ารับ รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อของคนถามฉายชัดขึ้นพร้อมกับเลื่อนแก้วบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตรงหน้าของผม

"พี่จัดให้ ถือว่าฉลองที่ได้เป็นเด็กของเพื่อนพี่"

"มึงอย่าเยอะไอ้เรย์"

พี่ลิงก์หันไปว่าเพื่อนที่หัวเราะรับ ก่อนที่เขาจะหันมาทางผมต่อ

"ถ้าไม่อยากกิน ก็ไม่ต้องกิน"

"ไม่เป็นไรครับ ผมกินได้"

ผมมองแก้วเหล้าสีเข้มอย่างพิจารณา ผมไม่ใช่คนชอบดื่มเที่ยวก็จริง แต่ก็ไม่ใช่คนที่เอาแต่ดื่มนมก่อนนอนหรอกนะครับ

"แกล้งน้อง"

น...น้อง!

ผมรู้สึกขัดเขินเล็กๆ กับสรรพนามที่เขาเรียกแทนตัวของผม แล้วลอบมองพี่ลิงก์ที่หันไปว่าเพื่อนอีกครั้ง แต่พี่เรย์ก็ยักคิ้วให้แบบไม่สนใจ ก่อนที่เสียงของพี่พลจะดังขึ้น

"เอาน่า...ถือว่าเป็นการรับน้องไง"

"ใช่ๆ รับน้องที่ได้มาเป็นคนพิเศษของมึงไง"

"เงียบปากไปเลยไอ้เหี้ยดิม"

ผมได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น ตอนนี้ไม่ได้สนใจเรื่องที่ต้องดื่มเหล้ารสเข้มในแก้ว แต่กำลังหวั่นไหวกับบทสนทนาที่ชวนให้คิดไปเองแบบสุดๆ มากกว่าครับ

"ฮ่าๆ น้องลิงก์เขินแล้วว่ะ"

"โอ๋ๆ เดี๋ยวพี่เรย์ซื้อตุ๊กตาหมีมาปลอบใจนะครับ"

"กูว่าเวลานี้ มันคงไม่อยากได้ตุ๊กตาหมีแล้วมั้ง เพราะมีอย่างอื่นที่มันอยากได้มากกว่า"

ทั้งพี่พล พี่ดิม และพี่เรย์ต่างก็หันมามองพี่ลิงก์ด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ส่วนพี่ทีที่ไม่ได้พูดอะไรก็ยังมองมาด้วยนัยน์ตาที่มีแววขำชัดเจน คนโดนรุมก็ยังดีหน้าปกติ ทั้งที่ผิวแก้มของเขาแดงระเรื่อ

"บู้ปวดฉี่ใช่ป่ะ เดี๋ยวกูพาไปเข้าห้องน้ำ"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง เมื่อพี่ลิงก์หันมาพูดกับผมเฉย แถมยังดึงผมให้ลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะทันที โดยที่มีเสียงหัวเราะลอยตามหลังมาครับ







TBC ++++++++++



Marionetta
สำหรับตอนนี้เพิ่มตัวละคนมาอีกแล้วคือพี่เรย์กับพี่ดิมจ้า ส่วนพริ้มที่เปิดตัวไปเมื่อคอนที่แล้วจะเฉลยในตอนหน้าค่ะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

ปล. บู้ก็ดื่มเป็นนะ แต่ไม่ได้ชอบเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 11 - 20/04/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 03-05-2019 19:51:10
 :pigha2: :pigha2: :pigha2: :pigha2:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 12 - 03/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 03-05-2019 21:09:43
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 12 - 03/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-05-2019 00:18:26
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 12 - 03/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-05-2019 01:02:25
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 12 - 03/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-05-2019 15:50:37
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 12 - 03/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 20-05-2019 10:25:01
Level 13: ความสัมพันธ์






"อยากเข้าห้องน้ำไหม"

พี่ลิงก์ถามขึ้น เมื่อลากผมเดินออกจากโต๊ะมาตรงทางแยกที่จะไปห้องน้ำ ถึงแสงไฟภายในผับจะทำให้มองเห็นสีหน้าของแต่ละคนไม่ชัดเจนมากนัก แต่ท่าทางที่อีกฝ่ายแสดงออกมา ก็ทำให้รู้ว่า เขากำลังทำตัวไม่ถูกครับ

"ไม่เข้าครับ ถ้าพี่อยากเข้า เดี๋ยวผมยืนรออยู่ตรงนี้"

"ก็เปล่า ช่างมันเถอะว่ะ"

ผมอมยิ้มยืนมองคนที่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะแกล้งถามอย่างนึกสนุกกับการที่พี่ลิงก์ลุกหนีออกจากโต๊ะมาแบบนี้

"แล้วจะลุกมาทำไมล่ะครับ เรากลับไปที่โต๊ะเลยไหม"

"อย่าเพิ่ง เดี๋ยวค่อยกลับไป"

"แล้วเราจะยืนอยู่อย่างนี้หรือครับ"

ตอนนี้เราสองคนยืนอยู่ตรงทางเดินครับ แล้วผมคิดว่าจะมายืนขวางคนอื่นเฉยๆ ก็คงไม่ดี แต่ถ้าไม่กลับไปที่โต๊ะเหมือนเดิม ก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ตรงไหน ทว่าพี่ลิงก์ยังไม่ทันได้ตอบคำถามของผม ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักเขาเสียก่อน

"ลิงก์ ไม่ได้เจอกันเลยนะ"

พี่ลิงก์หันไปมองตามเสียง ก่อนจะยกยิ้มเล็กน้อย

"อืม"

"มากับใครเหรอ ทีมาด้วยหรือเปล่า"

"มา แต่เราว่ามันคงไม่อยากเจอพิมพ์หรอก"

"ก็แค่ไปทักตามประสาคนคุ้นเคยก็ไม่ได้เหรอ"

"ไม่รู้สิ ก็ลองดูแล้วกัน"

พี่ลิงก์ไม่ได้สนใจผู้หญิงตรงหน้าอีก เขาหันมาทางผมแทน

"กลับกันเถอะ"

ผมยังคงสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ถูกมือของพี่ลิงก์ดึงให้เดินไปด้วยกัน โดยสายตาก็เหลือบมองผู้หญิงคนนั้นที่เดินตามมาด้วย









@@@@@@@@@@









เสียงหัวเราะและพูดคุยหยุดลง เมื่อผมกับพี่ลิงก์ไม่ได้กลับมาที่โต๊ะแค่สองคน ทุกสายตาหันไปมองหญิงสาวผมดัดลอนที่กำลังยิ้มหวาน

"กูเจอระหว่างทาง"

พี่ลิงก์พูดขึ้น แล้วหันไปมองพี่ทีที่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา

"ทำไมมองพิมพ์อย่างนั้นล่ะ"

"กำลังตะลึงในความสวยของพิมพ์ไง"

พี่ดิมพูดขึ้นทำลายความเงียบ ก่อนจะหันไปทางพี่ที คนที่ถูกเพื่อนมองทำหน้าเบื่อ แล้วลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะโดยไม่ได้พูดอะไร

"เดี๋ยวสิที! "

คนที่มาใหม่รีบเดินตามพี่ทีไปทันที ผมได้แต่มองตามอย่างงุนงง แล้วหันไปมองพี่ลิงก์ที่ถอนหายใจออกมา

"กูบอกไปแล้ว ก็ยังจะตามมา"

"เดี๋ยวมันก็จัดการเองนั่นแหละ"

พี่เรย์บอก ก่อนที่พี่พลจะพูดขึ้นบ้าง

"วันนี้พริ้มก็มาว่ะ กูต้องอิจฉาพวกที่ผู้หญิงมาตามตื้อหรือเปล่าวะ"

"อืม กูว่าพริ้มสลัดยากกว่าพิมพ์เยอะ ใช่ป่ะลิงก์"

พี่ดิมหันมาทางพี่ลิงก์ที่นั่งเงียบ เขาถอนหายใจออกมาอีกรอบโดยไม่ได้ตอบอะไร ผมก็ได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจ และสีหน้าของผมก็ชัดเจนพอให้พี่เรย์เห็น เขาเลยอธิบายให้ผมฟัง

"บลูเคยเจอพริ้มป่ะ"

"เพิ่งเจอกันวันนี้ครับ"

แถมยังถูกอีกฝ่ายประกาศตัวเป็นศัครูค่อหน้าด้วย...

"คือไอ้ลิงก์มันเป็นคู่หมั้นพริ้ม แล้วก็..."

ผมเบิกตากว้างกับสิ่งที่ได้รับรู้ ก่อนเสียงของพี่ลิงก์จะดังแทรกขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ

"หยุดเลยมึง ไอ้ห่า พูดมั่วซั่ว"

"ก็จริงอ่ะ พริ้มบอกกูและทุกคนว่าจะแต่งงานกับมึงคนเดียว"

พี่เรย์ตอบกลับหน้าตาย พี่ลิงก์ก็ส่งสายตาดุใส่ ผมก็ได้แต่มองทั้งสองคนสลับไปมาอย่างไม่เข้าใจ

"บลูงงแล้วมึง"

พี่ดิมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มขำพร้อมกับหันมามองผม พี่พลที่เอาแต่ยิ้มก็อธิบายให้ผมฟังต่อ

"คืออย่างนี้...."

"ไม่ต้องเลยพวกมึง กูบอกเอง"

พี่ลิงก์หันไปว่าพี่พล แล้วหันมาทางผมด้วยสีหน้าที่ยังหลงเหลือความขุ่นเคืองและเบื่อหน่ายเอาไว้

"พริ้มเป็นญาติห่างๆ น่ะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก"

"อ่า....ครับ"

ความรักระหว่างลูกพี่ลูกน้อง?

ผมพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่รับรู้ พี่เรย์ก็หัวเราะออกมาเบาๆ

"มึงไม่มีแต่เขามี แล้วหนียังไงก็ไม่พ้นด้วย จัดการให้ดีนะมึง"

พี่ลิงก์ชักสีหน้ายุ่ง ผมก็ได้แต่ยกแก้วเหล้าที่พี่เรย์เสิร์ฟให้นานแล้วขึ้นดื่มด้วยความว้าวุ่นใจกับเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ความทรงจำเกี่ยวกับพริ้มค่อยๆ ไหลเข้ามาในความคิด

เพราะแบบนี้อีกฝ่ายถึงได้ออกตัวแรงแบบนั้น...

"ช่างหัวพริ้มเถอะว่ะ กูเบื่อจะสนใจ"

"แหม....แล้วตอนนี้สนใจใครถึงจะไม่เบื่อล่ะครับ"

พี่ดิมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่ พี่ลิงก์ที่ทำหน้าซังกะตายหันไปมองอย่างอ่อนใจ

"ไม่ใช่พวกมึงก็แล้วกัน"

"น้องลิงก์ไม่สนใจดิมแล้วอ่ะพล"

"ทำใจนะดิม มึงไม่ได้ชื่อบลูอ่ะ เอาไงดีวะเรย์"

"เปลี่ยนชื่อก็เท่านั้น ถ้าไม่ใช่คนที่นั่งข้างมันตอนนี้ก็หมดสิทธิ์ว่ะ ฮ่าๆ "

ผมไม่ได้มองใครเลยครับ ทำได้แค่ยกแก้วเหล้าของตัวเองขึ้นดื่มเงียบๆ ต่อไป ถึงมันจะรสชาติเข้มข้นและรู้สึกถึงความร้อนที่วิ่งผ่านใบหน้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมมึนมากจนฟังบทสนทนาของพวกเขาไม่รู้เรื่อง

"ไร้สาระฉิบหาย"

พี่ลิงก์ว่าด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง ต่อมาบทสนทนาก็ต้องหยุดชะงักอีกครั้ง เมื่อคนที่เดินออกจากโต๊ะไปครู่ใหญ่กลับมาครับ

พี่ทีกลับมาด้วยท่าทีปกติ เขาเลิกคิ้วขึ้น เมื่อทุกคนมองมาเป็นทางเดียวรวมถึงผมด้วย

"กูแค่ไปสูบบุหรี่มา"

เอ่อ...เขาไม่ได้อยากรู้เรื่องนั้นหรือเปล่าครับ









@@@@@@@@@@








ถึงทุกคนจะอยากรู้เรื่องของพี่ที แต่ก็ไม่มีใครพูดถึง ผมมองความเงียบชั่วอึดใจที่เกิดขึ้น ก่อนที่ความอึดอัดจะหายไป เมื่อพี่พลเป็นคนเริ่มต้นหัวข้อบทสนทนาใหม่

ระหว่างที่เวลาเลยผ่านไป ความมีชีวิตชีวาของผับ A ก็ยังเต็มเปี่ยม มีผู้หญิงหลายคนแวะเวียบมาทักทายที่โต๊ะของพวกเราไม่ขาดสาย แต่ก็ไม่มีใครคิดจะลุกขึ้นตามเพื่อสานต่อความสัมพันธ์แต่อย่างใด

"คืนนี้ไอ้ทีนิ่งเว้ย"

พี่เรย์พูดขึ้น เมื่ออีกฝ่ายเพิ่งชนแก้วกับผู้หญิงสวยแต่งตัวเปรี้ยวสะดุดตาที่เดินจากไปเมื่อครู่นี้

"แค่อยากมาเที่ยว ไม่ได้อยากมาเอากับใคร"

พี่ทีบอกเสียงเรียบพร้อมกับนัยน์ตาเฉยชา ท่าทางที่ราวกับไม่มีอะไรที่สำคัญในสายตา ทำให้บุคลิกของเขาดูเท่สุดๆ ไปเลยครับ

"อ่าครับคุณที กูผิดไปแล้ว กูเป็นแค่ไพร่ที่ใฝ่ในกามครับผม"

พี่เรย์ตอบรับด้วยน้ำเสียงยียวน พี่ทีก็ทำเพียงปรายตามองอย่างวางท่า ปล่อยให้เสียงกระเซ้าเป็นเพียงลมปากที่ไม่เอามาใส่ใจ

"กวนตืน กูขอด่าแทนไอ้ที"

พี่ลิงก์ว่าด้วยรอยยิ้ม พี่พลกับพี่ดิมก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ในขณะที่พี่เรย์ก็แค่ยักคิ้วรับแบบไม่ทุกข์ร้อน

"ไอ้พวกประสาท"

พี่ทีบ่นออกมาเบาๆ แต่ทุกคนที่นั่งอยู่ด้วยกันก็ได้ยินชัดเจน ผมลอบมองท่าทางของรุ่นพี่มาดนิ่งอีกครั้ง ผมเคยได้ยินเรื่องของอีกฝ่ายมาเยอะ แล้ววันนี้ก็เพิ่งได้เห็นเสน่ห์ของเขากับตา แค่นั่งเฉยๆ ก็มีผู้หญิงเข้าหาไม่หยุด

พี่ทีเป็นผู้ชายมาดขรึมที่มีความคูลอยู่เต็มเปี่ยมครับ แค่ถึงอย่างนั้นก็ยังสู้พี่ลิงก์ที่นั่งข้างผมไม่ได้อยู่ดี เพราะตอนนี้เขาคูลมากจนผมขนลุกซู่และทำตัวไม่ถูกแล้ว!

"กินเยอะไปแล้วหรือเปล่า"

เสียงกระซิบของพี่ลิงก์ดังขึ้นข้างหูของผม ลมหายใจร้อนกับน้ำเสียงของเขากำลังเล่นงานผมอย่างจังเลยครับ

พี่ไม่ต้องกระซิบก็ได้ครับ พูดธรรมดา ผมก็ได้ยิน

ถึงอยากจะบอกคนที่กำลังนั่งชิดกันไปแบบนั้น แต่ผมก็ไม่ได้ทำตามที่ใจคิด เพราะตอนนี้ใบหน้าของพี่ลิงก์อยู่ใกล้จนผมใจสั่น นัยน์ตาสีดำที่สบมา ทำให้ผมต้องรีบตอบคำถามของเขาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

"ม...ไม่เป็น...เอ่อ ไม่เป็นไรครับ คือ ผมไหว"

ตั้งแต่ที่ได้รับแก้วแรกมา ผมก็นั่งดื่มเพลินจนหมดไปสองแก้วแล้วครับ พี่เรย์ที่ตั้งใจและยอมรับว่าจะมอมเหล้ายังชม ผมก็ได้แต่ยิ้มรับไปตามมารยาท

ตอนนี้ผมยังไม่รู้สึกเมาเลยครับ แต่ดูเหมือนพี่ลิงก์จะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เขาเลยทดสอบผมด้วยการชูขึ้นมาสองนิ้วแล้วส่ายไปมาเร็วๆ

"นี่กี่นิ้ว"

"สองครับ"

พี่ลิงก์ยกยิ้มขึ้น แล้วขยี้หัวที่ไม่เป็นทรงของผมจนยุ่งมากกว่าเดิม ก่อนที่เขาจะหันไปคุยกับพี่อนต่อ








@@@@@@@@@@









พวกเราใช้เวลาจนผับ A ใกล้ปิด ถึงได้แยกย้าย โดยที่พี่พลอาสาขับรถมาส่งพี่ลิงก์กับผมที่ไม่มีรถกลับครับ

"เดี๋ยวกูไปส่งบลูก่อนแล้วกัน"

"เอาไปส่งที่ห้องกูนั่นแหละ จะวนไปวนมาทำไม"

พี่พลกับพี่ลิงก์มองหนัากันที่เบาะข้างหน้า ผมก็ได้แต่นั่งเงียบๆ ไม่แสดงความคิดเห็นอะไรอยู่ที่เบาะหลังเพียงลำพัง

"กูไปส่งบลูได้ ไม่ได้ลำบาก"

"เปลืองน้ำมัน"

"กูมีตัง"

"แต่กูอยากนอนแล้ว ง่วง"

"หึ! ข้ออ้างเยอะ"

"มึงนั่นแหละที่เยอะ ทำตามทีกูบอกพอ"

"ครับๆ ไอ้เหี้ยน้องลิงก์"

พี่พลยิ้มออกมา พี่ลิงก์ก็ชักสีหน้าใส่ พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับเพลงที่เปิดอยู่ตอนนี้ต่อ ผมไม่ได้สนใจรุ่นพี่ทั้งสองคนอีก แล้วหันไปมองวิวข้างทางที่การจราจรปลอดโปร่ง

หลังจากใช้เวลาเดินทางได้ไม่นาน พี่พลก็ขับรถมาถึงคอนโดมิเนียมหรูที่พี่ลิงก์อาศัยอยู่ ผมก็ขยับตัวเพื่อเตรียมลงจากรถอย่างเชื่องช้า ถึงจะไม่ได้เมาจนดูไม่ได้ แต่ก็รู้สึกมึนอยู่พอสมควรครับ

"ไว้เจอกัน"

"เออ ขอบใจที่มาส่ง"

พี่ลิงก์เปิดประตูรถออก ผมยกมือไหว้บอกลาพี่พลที่กำลังหันมามองพร้อมกับรอยยิ้ม

"ขอบคุณครับพี่พล"

"อืม ระวังเจอหมีหลอก"

"ฮะ? อะไรนะครับ"

ผมไม่แน่ใจว่าฟังผิดหรือเปล่า แต่ไม่ทันได้ไขความงุนงง พี่ลิงก์ก็เร่งให้ผมลงจากรถ แล้วเดินนำไปก่อน เราสองคนไม่ได้พูดคุยอะไรกันระหว่างที่เดินมาถึงห้องของอีกฝ่าย

"คืนนี้นอนที่นี่นะ"

พี่ลิงก์พูดขึ้น ทั้งที่ไม่ได้มองผมด้วยซ้ำ เขาเดินไปทางห้องครัว แล้วรินน้ำเปล่าใส่แก้วดื่ม ปล่อยให้ผมเดินตามเหมือนวิญญาณเร่ร่อน

"อ่า...ครับ"

ถึงจะเกรงใจแล้วก็ทำตัวไม่ถูก แต่ความรู้สึกข้างในก็กำลังกรีดร้องด้วยความดีใจที่จะได้ค้างคืนที่นี่ครับ

"ไปนั่งรอไป เดี๋ยวกูไปหาชุดมาให้"

พี่ลิงก์เดินเข้าไปในห้องส่วนตัว ผมเลยเดินมานั่งลงที่โซฟาที่มีโจแอนจับจองพื้นที่ไปส่วนหนึ่งอยู่แล้ว เพียงไม่นานเจ้าของห้องก็กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดหนึ่งที่ให้ผมใส่นอน

"ขอบคุณครับ"

"นอนโซฟาได้ใช่ป่ะ"

"ได้ครับ"

"งั้นกูไปนอนแล้ว เจอกันพรุ่งนี้นะบู้"

พี่ลิงก์กำลังจะเดินกลับเข้าห้องของตัวเอง แต่ด้วยอะไรหลายอย่างที่ผมไม่อาจระบุได้ชัดเจน อีกทั้งยังมีแอลกอฮอล์เป็นตัวขับเคลื่อน ทำให้ผมใจกล้าคว้าข้อมือของคนตรงหน้าเอาไว้ด้วยร่างกายที่ทำงานก่อนสมอง

พี่ลิงก์ไม่ได้ดึงมือออก เขาแค่เลิกคิ้วมองอย่างสงสัยพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย

"อย่าบอกว่านอนคนเดียวไม่ได้? "

ผมนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะคลายมือที่จับอีกฝ่ายเอาไว้ออกพร้อมกับถอนหายใจออกมา

"เปล่า...ครับ"

ผมตัดสินใจรีบเดินเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว หวังเพื่อให้สายน้ำช่วยชะล้างความรู้สึกที่ไม่คงที่ของตัวเอง ผมไม่แน่ใจว่า ทำไมเมื่อครู่นี้ถึงได้รั้งพี่ลิงก์เอาไว้แบบนั้นเหมือนกัน

เฮ้อ...

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ความคิดก็สดชื่นขึ้นมาพอสมควร ในขณะที่กำลังคิดว่าคืนนี้จะนอนหลับหรือเปล่า ร่างของเจ้าของห้องที่นั่งอยู่บนโซฟาที่จะเป็นที่นอนของผมในคืนนี้ก็หยุดความคิดของผมเอาไว้เสียก่อน

"เอาหมอนกับผ้าห่มมาให้ หรือจะนอนหนุนตักโจแอนก็ได้นะ กูว่าสบายดี"

"ครับ"

ผมเดินมานั่งลงข้างพี่ลิงก์ที่กำลังจะลุกขึ้นยืน แล้วก็เป็นอีกครั้งที่ผมรั้งอีกฝ่ายด้วยการจับแขนของเขาเอาไว้

พี่ลิงก์ไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจเหมือนครั้งแรก เขาเพียงแค่มองมาด้วยสีหน้าเป็นปกติ

"มีอะไร"

ผมสบตากับพี่ลิงก์ ความคิดที่ตกตะกอนอยู่ในใจยังไม่ได้จางหาย แล้วมันก็คงไม่สลายไป ถ้าหากผมยังไม่ได้คำตอบ

เรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ผมว้าวุ่นใจ เมื่อทบทวนความคิดของตัวเองอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็เอ่ยถึงความในใจออกมา โดยไม่ได้คำนึงถึงช่วงเวลาหรือสถานการณ์ที่เหมาะสมเลยสักนิด

ก็แค่...อยากรู้ว่าพี่ลิงก์จะว่ายังไง

"พี่ลิงก์เป็นแฟนกันไหมครับ"













TBC+++++++
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 12 - 03/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 20-05-2019 10:25:54
 :jul3: :jul3: :jul3: :jul3:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-05-2019 14:44:48
 :L2: :L1: :pig4:

เป็นไหมพี่ลิงค์ บอกบู๊ไปสิ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-05-2019 19:07:52
 o13 o13
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 20-05-2019 19:51:22
พี่ลิงซ์จะทำร้ายใจน้องมั้ยเนี่ย
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 22-05-2019 17:41:40
เย้ เอาใจช่วยบลู....
รอตอนต่อไป มาไวๆนะฮะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 24-05-2019 09:34:36
แวะมาแก้ไขคำผิดค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ตอนนี้ก็กำลังปั่นอยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 24-05-2019 12:58:24
ตอบชัดๆมาเลยพี่ลิงค์  :impress3:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-05-2019 10:22:42
รอลุ้นคำตอบของพี่ลิงก์ ที่จะตอบน้องบลู
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 25-05-2019 18:52:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 25-05-2019 23:34:43
โอ้ยยย​ ค้างงงงงงง​ งอแงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 26-05-2019 07:22:18
พี่ลิ้งค์คือมึนมากจ้า บลูขอพี่เป็นแฟนแล้ว o13
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-05-2019 22:15:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 28-05-2019 22:42:16
Level 14: ความเปลี่ยนแปลง






ความเงียบเกิดขึ้นบริเวณห้องนั่งเล่น พี่ลิงก์มองผมนิ่ง นัยน์ตาสีดำสวยแสดงถึงความตกใจอย่างชัดเจน ผมเบือนหน้าไปมองทางอื่นพร้อมกับคลายมือที่จับอีกฝ่ายเอาไว้ออก เมื่อเพิ่งสำนึกได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป

ไอ้บลูเอ๊ย! ต้องเป็นเพราะคำพูดของเพื่อนพี่ลิงก์ที่แซวกันนั่นแหละ ถึงทำให้กล้าทำแบบนี้!

"เมาหรือเปล่าวะ"

"เปล่าครับ ก็แค่ลองถามดู"

ผมลอบถอนหายใจออกมา ตอนนี้รู้สึกใจแป้วไปแล้วครับ แต่ก็ถอยหลังไม่ได้แล้วเหมือนกัน ในเมื่อเริ่มต้นไปแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเป็นยังไงก็ตาม

"เอาใหม่ เมื่อกี้มึงพูดว่าอะไร"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง เมื่อพี่ลิงก์กำลังมองหน้าผมอย่างจริงจัง ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก แล้วกลั้นใจบอกความในใจที่เปิดเผยไปแล้วอีกครั้ง

"เรามาเป็นแฟนกันไหมครับ"

ไม่ว่าพี่ลิงก์จะมีแฟนแล้วหรือยัง ถ้าเขาไม่สนใจผมในแง่นั้นก็คงปฏิเสธอยู่แล้ว ผมเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องถามเกริ่นเรื่องที่มีแฟนไหมหรือชอบผมบ้างหรือเปล่าอะไรแบบนั้น

ถึงไม่อยากคาดหวังในคำตอบ แต่ข้างในใจลึกๆ ผมก็ลุ้นอยู่ดีครับ มันคงไม่มีอะไรเสียหาย ในเมื่ออีกฝ่ายก็รู้ถึงความรู้สึกที่ผมมีต่อเขาอยู่แล้ว

ผมยังนึกภาพอนาคตของตัวเองไม่ออกเลยครับ ไม่ว่าเขาจะตอบรับความรู้สึกของผมหรือไม่ ผมกลั้นใจมองพี่ลิงก์อย่างลุ้นระทึก เมื่อความเงียบยังล่องลอยอยู่รอบตัวของเราสองคน

"อืม ก็ได้"

ผมเหมือนจะหยุดหายใจไปทันทีที่ได้รับคำตอบ ใบหน้าของผมร้อนผ่าวและหัวใจเต้นแรง พี่ลิงก์ส่งยิ้มมาให้ ก่อนที่เขาจะยกมือบีบแก้มของผมอย่างที่ชอบทำ

"ทำหน้าตลกอีกแล้ว มีอะไรอีกไหม จะไปอาบน้ำนอนแล้ว"

"เอ่อ...ไม่มีแล้วครับ"

ผมยังรู้สึกอึ้งและเขินมากเลยครับ ก็เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนพี่ลิงก์เพิ่งจะตอบตกลงคบกับผมเป็นแฟนนะ! แถมยังตอบมาง่ายๆ อย่างน่าเหลือเชื่ออีกด้วย! ถึงเขาจะทำตัวปกติได้ แต่ผมทำไม่ได้หรอกนะครับ!

"นอนได้ใช่ป่ะบู้"

"เอ่อ...อ่า...ได้...ครับ"

"อืม แต่ถ้าอยากเป็นเมียกูตั้งแต่คืนนี้เลย ก็เข้าไปนอนในห้องได้ ไม่ได้ล็อกประตู"

"อ่า...."

ผมได้แต่ทำหน้าเหวอกับคำพูดของพี่ลิงก์ เขาอมยิ้มออกมา แล้วยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ และกว่าที่ผมจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ริมฝีปากของเราก็สัมผัสกัน แล้วหายไปในเวลาไม่กี่วินาที ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินกลับเข้าห้องของตัวเองไป ทิ้งถ้อยคำอ่อนโยนที่ปั่นป่วนความรู้สึกของผมมากมายจนยากเกินกว่าจะอธิบายได้

"ฝันดีนะครับบู้"









@@@@@@@@@@













ผมนอนไม่หลับเลยครับ!

ผมไม่ได้กลัวผีหรือสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นอะไรพรรค์นั้นหรอกนะครับ ถึงแม้ว่าการเห็นตุ๊กตาหมีตัวยักษ์อยู่ล้อมรอบจะชวนผวานิดๆ ก็ตามที แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ได้วางแผนกับคำตอบที่ไม่ได้คาดหวัง ทำให้ทั้งสมองและหัวใจของผมทำงานนหนักมากกว่า

ตอนนี้เวลาตีสองครึ่งแล้ว แต่ผมก็ยังเดินไปเดินมา ก่อนจะหยุดมองวิวมุมสูงที่เห็นแสงไฟตามตึกประปรายดูแปลกตาอย่างพยายามสงบจิตใจ

ผมตั้งใจจะบอกข่าวดีที่สุดแสนมหัศจรรย์ให้เป็ดฟังเป็นคนแรก แต่ก็เกรงใจเพราะป่านนี้มันคงหลับไปแล้ว ทำได้เพียงส่งข้อความมากมายระบายความรู้สึกที่ไม่ว่าพิมพ์ไปกี่ตัวอักษรก็ถ่ายทอดออกมาไม่หมด

ไม่อยากจะเชื่อเลย!!!

ผมอยากจะตะโกนออกไปให้สุดเสียง แต่ก็กลัวรบกวนพี่ลิงก์ที่นอนหลับไปแล้ว สุดท้ายก็ได้แต่ร้องบอกอยู่ในใจอย่างอัดอั้นพร้อมกับกระโดดโหยงเหยงด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนที่ผมจะมาทิ้งตัวลงที่โซฟาอีกครั้ง แล้วเอนซบไหล่ของโจแอนด้วยหัวใจที่พองโต

พี่ลิงก์ตกลงคบผมเป็นแฟนแล้ว!

ผมตอกย้ำกับตัวเองในใจด้วยความเหลือเชื่อ บอกกับตัวเองซ้ำไปซ้ำมาราวกับท่องมนต์ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ที่ผมเผลอหลับซบไหล่ของตุ๊กตาหมียักษ์จนได้









@@@@@@@@@@









ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตัวเองกำลังนอนซบไหล่ของพี่ลิงก์อยู่ครับ

ซ....ซบไหล่!!!

ผมกระเด้งตัวอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ ท่าทางของผมทำให้คนที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือเงยหน้าหันมามอง เขาเลิกคิ้วขึ้น นัยน์ตาสีดำยังสวยเหมือนที่ผ่านมา แต่ผมกลับไม่กล้ามองเลยสักนิด

ใบหน้าของผมร้อนไปหมด ความรู้สึกเขินอายทำงานเต็มที่ตั้งแต่สติยังมาไม่ครบ ผมสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อมือของคนที่นั่งอยู่ข้างกันจับคางของผมให้หันมาสบตากับเขา

"บู้เป็นอะไร"

น้ำเสียงทุ้มราบเรียบกับสายตาที่มองตรงมา ทำให้ผมกระอักกระอ่วนจนทำตัวไม่ถูก อยากจะหันหน้าหนีอีกครั้งก็ทำไม่ได้ เพราะมือของอีกคนกำลังจับเอาไว้ สิ่งเดียวที่พอจะเคลื่อนไหวได้ก็คงเป็นนัยน์ตาที่พยายามเลื่อนไปทางอื่น

เสียงถอนหายใจดังออกมาเบาๆ พี่ลิงก์ปล่อยมือออกจากคางของผม แล้วกลับไปสนใจโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง

"ไปอาบน้ำไป จะได้ไปหาอะไรกิน ตื่นสายแล้วยังจะโอ้เอ้อยู่อีก"

ผมกะพริบตาทีหนี่ง ก่อนจะหันไปมองเวลาที่นาฬิกาแขวนผนัง ตอนนี้เกือบสิบเอ็ดโมงแล้วครับ พอตั้งสติได้ ผมก็รีบลุกขึ้น น้ำเสียงของคนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ดังขึ้นอีกครั้ง

"จะใส่ชุดนักศึกษากลับหรือจะยืมชุดลิงก์ใส่ก่อน"

"อ่า...ใส่ชุดนั...ฮะ?!!! "

ผมอ้าปากเหวอมองคนที่ยังก้มหน้าเล่นเครื่องมือสื่อสารของตัวเองโดยที่ไม่ได้มองผมสักนิด ใบหน้าหล่อขมวดคิ้วเล็กน้อย นัยน์ตาสีดำตวัดมองผมราวกับต้องการหยั่งเชิง

"ตกใจอะไรเหรอ"

ผมอยากจะตอบคำถามของเขา แต่ผมก็พูดไม่ออก หัวใจของผมเต้นกระหน่ำ เมื่อนึกถึงสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งเอ่ยออกมาก่อนหน้านี้

พี่ลิงก์เรียกชื่อแทนตัวเองกับผม!!!!

"มึงโอเว่อร์ไปป่ะบู้ อึ้งอะไร กูพูดอะไรประหลาดหรือไงวะ"

น้ำเสียงที่แฝงแววหงุดหงิดไม่ได้ทำให้ผมสนใจจนนิ่งค้างเท่ากับใบหน้าที่แดงระเรื่อของพี่ลิงก์ที่ตรึงสายตาของผมอยู่

พี่ลิงก์กำลังเขิน!!!!

"บู้!!! "

"อ่า ครับๆ! "

"ไปสักทีสิ วันนี้กูต้องกลับบ้านนะ"

ผมพยายามปรับสติของตัวเองอีกครั้งพร้อมกับพยักหน้ารัวอย่างร้อนรน ทั้งที่ในความคิดยังมีทั้งเสียงและภาพของพี่ลิงก์ที่แสนจะน่ารักวนเวียนอยู่

โอ๊ย!!!! ผมตายตาหลับแล้วครับ!!!!









@@@@@@@@@@









ผมใส่ชุดนักศึกษาที่สะอาดเอี่ยมอย่างสงบสติอารมณ์ หลังจากที่ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ พี่ลิงก์ก็พาผมมานั่งกินข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่นัก ตอนนี้ผมรู้สึกเกร็งยิ่งกว่าตอนที่เราสองคนมากินข้าวด้วยกันครั้งแรกอีกครับ

ผมสูดลมหายใจเข้าลึกระหว่างรออาหารที่สั่งเอาไว้มาเสิร์ฟ พี่ลิงก์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก็มองผมเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเท้าคางมองไปทางอื่นเงียบๆ จนกระทั่งพนักงานยกอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะ เราสองคนถึงได้กลับมาสู่บรรยากาศเดียวกันอีกครั้ง

"บู้"

"...ครับ"

พี่ลิงก์ไม่ได้แตะต้องอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า แต่เขาเลือกที่จะจ้องหน้าของผมแทน ท่าทางที่จริงจังขึ้น ทำให้ผมรู้สึกเกร็งขึ้นมาเหมือนกับไม้ที่ดีดตรง

"เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ป่ะ"

ผมเม้มริมฝีปากแน่นพลางพยักหน้ารับด้วยความเขินสุดขีด แล้วเบี่ยงสายตาลงมองจานอาหารของตัวเองอย่างทำตัวไม่ถูก

"อืม คิดว่าลืมไปแล้ว"

ฮะ?! ใครจะไปลืมเรื่องแบบนี้กันครับ!

สีหน้าตกใจของผม ทำให้พี่ลิงก์ยกยิ้มออกมาเล็กน้อย

"ก็เห็นทำท่าตกใจตลอดเวลา คิดว่าเพี้ยนไปแล้ว"

ผมปั้นหน้ายาก แถมตอนนี้ก็ยังรู้สึกทั้งเขินทั้งอายยังไม่หายเลยด้วยครับ ผมเลื่อนสายตาไปมองพี่ลิงก์อีกครั้ง เขาก็กำลังมองผมอยู่เช่นเดียวกัน

"ก็..."

"ก็บู้มาชวนเองไม่ใช่เหรอ หรือว่าคิดจะเปลี่ยนใจ? "

"ไม่ๆ คือว่า....ผมแค่...ทำตัวไม่ถูก"

ผมลอบถอนหายใจออกมา เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็เหมือนที่เราหวังว่าจะมีเงินสักร้อยล้านมาตลอด แล้ววันหนึ่งเงินก้อนโตที่ฝันเอาไว้ก็มากองอยู่ตรงหน้า ถึงจะอยากได้สุดๆ แล้วก็ดีใจมากๆ แต่ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงกับโชคครั้งใหญ่ที่คาดไม่ถึงนี้ดีนั่นแหละครับ

พี่ลิงก์เป็นเหมือนคนที่อยู่แค่ในความฝัน แล้ววันหนึ่งเขาก็ยอมตกลงคบกับผมเป็นแฟนง่ายๆ ในฐานะของคนที่สาวไม่เคยแลและไร้ประสบการณ์ความรักแบบนี้มาก่อน ผมก็เลยลนลานอยู่ตลอดเวลา

"ไม่เห็นยาก ก็ทำตัวซื่อบื้อเหมือนเดิมก็พอแล้ว"

ผมต้องรู้สึกยังไงกับคำพูดนี้ดีครับเนี่ย....

ผมได้แต่มองพี่ลิงก์ที่กำลังหยิบกุ้งนึ่งตัวหนึ่งมาแกะเปลือก ก่อนที่เขาจะวางมันใส่จานของผมพร้อมกับน้ำเสียงเรียบเรื่อย

"นอกนั้น...ลิงก์จะดูแลเอง ดีไหม"

ผมได้แต่นั่งอึ้งกับรอยยิ้มที่คนตรงหน้าส่งมาให้ แล้วก็ยังสรรพนามที่ทำลายหัวใจนั่นอีก ผมต้องใจหยาบกระด้างขนาดไหน ถึงจะเฉยชากับความน่ารักของพี่ลิงก์ได้

"หรือว่าบู้ไม่ชอบให้ทำแบบนี้? "

"ป..เปล่าครับ! ชอบ ชอบมากเลยครับ! "

ผมรู้สึกหน้าแดงเถือก ยิ่งพี่ลิงก์กำลังมองพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น แล้วยังแกะกุ้งมาให้ผมอึก หัวใจที่อ่อนไหวก็พลันจะอ่อนระทวยไปหมดแล้ว

"อืม ที่จริงก็อายนะที่เรียกแทนตัวเองแบบนี้ แต่ก็เป็นแฟนกัน ก็อยากให้พิเศษนิดนึง บู้ก็อย่าตกใจมาก เข้าใจป่ะ ทำให้มันเป็นเรื่องธรรมดา"

"อ่า...ครับ"

ผมอมยิ้มพลางกินกุ้งที่พี่ลิงก์แกะให้ ทั้งที่มันก็อร่อยดีอยู่แล้ว แต่ผมก็รู้สึกว่ามันอร่อยมากกว่าปกติอีกหลายร้อยเท่าเลยครับ

"บู้มีอะไรอยากบอกไหม"

ผมนั่งคิดเล็กน้อย การที่เราคบใครสักคนเป็นแฟน มันไม่ใช่การเปลี่ยนตัวเองให้เป็นอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ แต่เป็นการปรับเพื่อให้เข้ากับคนสำคัญคนนั้นต่างหาก

ผมก็แค่ชอบพี่ลิงก์ ถึงเขาจะทำให้ผมขุ่นเคืองบ้าง แต่ผมก็ไม่เคยลดความรู้สึกพิเศษนี้ลงเลย เขาไม่เคยสร้างภาพกับผมเหมือนที่ผมไม่ได้ใส่หน้ากากเข้าหาเขาเช่นเดียวกัน

"ไม่รู้สิครับ"

"เหรอ"

พี่ลิงก์ยิ้มที่มุมปาก แล้วเขาก็ยิ่นมือมาบีบแก้มของผมอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ

"เฮ้ย! พี่มือเปื้อนอ่ะ! "

"แล้วไง"

"หน้าผมก็เปรอะไงครับ"

ผมชักสีหน้าออกมา แล้วหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบกุ้งที่เลอะแก้มของตัวเอง พี่ลิงก์ก็แค่ยักคิ้วเหมือนต้องการกวนประสาท

"แต่ลิงก์ชอบแกล้งแฟนนะครับ บู้ไม่รู้เหรอ"

น้ำเสียงใสซื่อ แต่รอยยิ้มร้ายกาจของพี่ลิงก์ได้ทำลายหัวใจของผมจนย่อยยับไปเรียบร้อยแล้ว ผมนั่งนิ่งเหมือนโดนสาป ทว่าภายในใจกำลังทำงานเร็วจี๋ราวกับเครื่องยนต์ที่ใกล้ระเบิด

ถ้าบอกให้แกล้งอีก พี่ลิงก์จะหาว่าผมบ้าไหมครับ









@@@@@@@@@@









หลังจากผ่านการทำความรู้จักในสถานะใหม่ไปแล้ว ผมก็เริ่มปรับตัวให้เป็นปกติ แล้วก็สังเกตว่า ถึงพี่ลิงก์จะเรียกชื่อแทนตัวเอง แต่เขาก็ยังกูๆ มึงๆ กับผมอยู่ดีครับ

"แล้วปิดเทอมบู้ทำอะไร กลับบ้านเหรอ"

พี่ลิงก์ถามขึ้น ในขณะที่เขากำลังนั่งกินทับทิมกรอบเป็นของหวานหลังมื้ออาหาร ผมก็สั่งน้ำแข็งไสใส่ขนมปังธรรมดามากินครับ

"เป็ดชวนไปสอนพิเศษครับ"

"ฮะ? มึงจะสอนใครรู้เรื่องเหรอ เหมือนตัวเองก็ยังงงกับชีวิตอยู่เลยไม่ใช่หรือไง"

บอกผมอีกครั้งได้ไหมครับว่า เราสองคนเป็นแฟนกันแล้ว เหอะๆ

"ก็...น่าจะไหวนะครับ"

พี่ลิงก์พยักหน้ารับ ผมหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย เจอคำพูดแบบนี้ต่อหน้าก็เสียความมั่นใจไปนิดหน่อยครับ

"แค่แหย่เล่น หงอง่ายไปป่ะ"

สำหรับคนอื่นผมก็ไม่ป๊อดแบบนี้หรอกครับ แต่เพราะเป็นพี่ลิงก์ไง ผมเลยแพ้ตลอด เพราะเป็นเขาที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผม

"บู้ ไม่ต้องยอมกูทุกอย่างก็ได้ จะว่ากลับมาบ้างก็ได้"

ผมมองพี่ลิงก์อย่างไม่เข้าใจ เขาก็แค่ยิ้ม แล้วกินของหวานของตัวเอง

"ไม่อยากให้คบกันแบบกลัวๆ เกรงๆ น่ะ"

"ครับ"

ผมพยักหน้ารับพร้อมกับพิจารณาคำพูดของพี่ลิงก์ไปด้วย อาจเป็นเพราะอีกฝ่ายไกลเกินเอื้อมมาตลอด พอจับถึงแล้วก็ยังกล้าๆ กลัวๆ เพราะรู้ดีว่า ตัวเองไม่คู่ควร ผมคงต้องปรับความคิดของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ใหม่อีกครั้งแล้ว

ผมเงยหน้าจากถ้วยน้ำแข็งไส ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ เมื่อเห็นพี่ลิงก์กำลังมองมาแบบไม่ละสายตา เขาก็ยื่นมือมาตรงหน้า

ในขณะที่ผมคิดว่าพี่ลิงก์จะบีบแก้มของผมอีกแล้ว ทว่ามือข้างนั้นกลับแต่ยึดปลายคางของผมเอาไว้ ก่อนที่คนตรงหน้าจะโน้มตัวข้ามโต๊ะเข้ามาจูบริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็วแบบไม่ให้ตั้งตัว

อ๊ะ!

"นี่ไงตัวอย่าง ไม่ต้องเกรงกลัวอะไร เป็นแฟนกัน อยากจูบก็จูบเลย เข้าใจป่ะบู้"

มันไม่ใช่แบบนี้มั้งครับ!!!









@@@@@@@@@@









หลังจากผ่านการกินอาหารกลางวันที่เสียพลังงานไปมากพอสมควร พี่ลิงก์ก็พาผมมาส่งที่หอในตอนบ่าย เพราะเขามีนัดกับที่บ้านเย็นนี้ เขาจะต้องไปดูงานที่บริษัทในช่วงปิดเทอมครับ

ในขณะที่ผมกำลังลงจากโฟล์คบีเทิลคันสวย พี่ลิงก์ก็รั้งแขนของผมเอาไว้ ก่อนน้ำเสียงของเขาจะดังขึ้น

"บอกลาด้วยดิ"

"เ่อ่อ...ขอบคุณครับ"

ผมกำลังยกมือไหว้ด้วยท่าทางที่ประณีตงดงาม แต่ก็ถูกปัดมือทิ้ง เขาทำหน้าเซ็งออกมาอย่างชัดเจน

"ไม่เอาอย่างนี้ดิ ลาแบบแฟนอ่ะบู้"

แล้วมันยังไงล่ะวะ?!

ผมทำหน้างงชั่วครู่ ก่อนจะปั้นหน้ายาก เมื่อมีมโนภาพบางอย่างเข้ามาในความคิด ฉากโรแมนติกของคู่รักที่เคยเห็นผ่านสื่อต่างๆ ไหลเวียนเข้ามาราวกับน้ำทะลัก

เมื่อทุกอย่างในความคิดแจ่มชัด ผมก็รู้สึกเขินมากเลยครับ แต่ก็ตื่นเต้นดีใจอย่างบอกไม่ถูกด้วยเหมือนกัน ถึงอย่างนั้นความไม่กล้าก็ยังมีอยู่มากจนได้แต่มองใบหน้าหล่อที่กำลังจ้องอยู่อย่างทำตัวไม่ถูก

"เร็วๆ "

พอถูกพี่ลิงก์เร่งด้วยสีหน้าบึ้งตึงแบบไม่ปิดบัง ผมเลยกลั้นใจยืมฉากหนึ่งที่แวบผ่านเข้ามาในสมอง แล้วลอกเลียนแบบตามทันที

ผมเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจุ๊บที่ริมฝีปากของพี่ลิงก์อย่างรวดเร็ว แม้แต่ตัวเองก็ยังจำความรู้สึกในวินาทีนั้นไม่ได้ ทว่าสัมผัสที่ทิ้งเอาไว้กลับร้อนผ่าวลามไปทั่วใบหน้า พี่ลิงก์เลิกคิ้วแปลกใจ ใบหน้าหล่อวาดยิ้ม ออกมา

"แค่จะให้หอมแก้ม แต่อยากจูบก็อย่าหนีเร็วแบบนี้ดิบู้ เดี๋ยวทำให้ดู"

พี่ลิงก์รั้งท้ายทอยของผมเอาไว้ ก่อนที่เขาจะบดเบียดริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็ว มิหนำซ้ำยังดูดดึงแล้วแทรกปลายลิ้นเข้ามาราวกับกลืนกินวิญญาณของผมให้หลุดออกจากร่างอย่างเลือดเย็น และกว่าความรู้สึกอึดอัดที่แสนหวานจะจบลง สติของผมก็ล่องลอยไปไกล

"บู้จำได้ใช่ป่ะ"

"อ่า..."

ผมนึกออกแค่นั้นจริงๆ ครับ







TBC++++++++

Marionetta
ลิงก์กับบู้คบกันแล้วอ่ะ! ต่อจากนี้ความมุ้งมิ้งก็จะมาอย่างต่อเนื่อง จนกว่า.... 555

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ก่อนปั่นก็อ่านคอมเมนต์ตลอดเลย มีให้อ่านเยอะ ก็ปั่นได้เยอะนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 13 - 20/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 28-05-2019 22:44:59
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-05-2019 00:01:00
 :L2: :pig4: :-[

น่ารัก
บู๊จะตามพี่ลิงค์ทันไหมนั่น
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-05-2019 02:03:16
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 29-05-2019 05:04:16
ลิงค์น่ารัก​ ชอบความมุ้งมิ้งนี้
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 29-05-2019 14:10:24
ชอบทั้งคู่เลย ดีใจเป็นแฟนกันสักที บลูต้องโดนพี่ลิงก์แกล้งสนุกไปเลย 5555+
มาอัพตอนใหม่ไวๆนะฮะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-05-2019 23:00:44
งืมๆๆๆๆ กำลังอ่านเพลินๆจบตอนซะแล้ว
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 31-05-2019 12:56:56
เป็นแฟนแบบงงเนอะบู้ :laugh:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 31-05-2019 23:45:30
งานนี้บู้ไม่ทันลิงก์แน่ๆเลย,,,
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 02-06-2019 17:23:19
 :-[
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 03-06-2019 10:28:25
แวะมาแก้คำผิดค่ะ  :-[
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ดีใจมากเลย
พี่ลิงก์มีความอ่อยเพื่อให้บู้จีบ 100%  :hao6:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 06-06-2019 22:49:41
Level 15: ฝันที่เป็นจริง






พี่ลิงก์ทิ้งผมให้ยืนเคว้งคว้างอยู่ที่หน้าหอพักครับ ความทรงจำสุดท้ายคือรอยยิ้มบางที่เขาส่งให้ ก่อนที่โฟล์คบีเทิลจะเคลื่อนตัวห่างออกไป ผมไม่แน่ใจว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ ผมถึงได้ลากขาเดินกลับมาที่ห้องของตัวเอง

หลังจากกลับเข้าสู่อาณาเขตของตัวเองเรียบร้อย ผมก็สูดลมหายใจเข้าลึก ริมฝีปากที่เพิ่งผ่านการสัมผัสชวนให้จิตหลุดยังร้อนผ่าวราวกับถูกไฟลน ผมแตะมันเล็กน้อย ก่อนจะเม้มแน่นด้วยความเขินอายสุดขีด

วันนี้ผมได้จูบกับพี่ลิงก์หลายครั้งเลยอ่ะครับ!

ผมยิ้มกว้างพร้อมกับล้วงเอาของทุกอย่างในกระเป๋ากางเกงออกมา ซึ่งมันก็มีแค่กระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มือถือ

โทรศัพท์มือถือ!

ผมเบิกตากว้าง แล้วรีบไปหาสายชาร์จมาต่อเครื่องมือสื่อสารที่หน้าจอดับสนิท ทันทีที่มีพลังงานเข้าไปเติมเต็ม ระบบปฏิบัติการก็ทำงานอย่างรวดเร็วพร้อมกับการแจ้งเตือนมากมายที่แสดงผ่านหน้าจอ

อันที่จริงก็ไม่มีใครหรอกครับ นอกจากเป็ด เพื่อนสนิทที่ส่งทั้งข้อความแล้วก็โทรหา เมื่อผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูได้เพียงไม่นาน คนที่พยายามติดต่อมาตลอดในช่วงที่อุปกรณ์สื่อสารของผมหยุดทำงานก็โทรเข้ามา

"เป็ด!!!! พี่…"

[พอ! ตอบคำถามกูก่อน! ตอนนี้มึงอยู่ที่ไหน]

ผมที่กำลังอารมณ์ค้างรู้สึกขัดใจเล็กน้อยที่ถูกอีกฝ่ายสกัดฟีลลิ่ง แต่ก็ยอมทำตามที่มันบอกอยู่ดีครับ

“อยู่ที่ห้อง”

[งั้นเดี๋ยวกูไปหา]

สัญญาณการติดต่อขาดหาย หลังจากที่ผมวางสายของเป็ดได้ครู่หนึ่ง อีกฝ่ายก็โทรให้ผมลงไปรับ ขณะที่เราสองคนกำลังเดินขึ้นห้องมาด้วยกัน ผมก็ตกเป็นเป้านิ่งให้เพื่อนสนิทโจมตีทันทีครับ

“เมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้น”

“ก็อย่างที่บอก”

ผมบอกเพื่อนได้ไม่เต็มเสียงนัก เพราะถูกความเขินอายเล่นงานอีกแล้ว ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ผมถึงจะวางตัวเป็นปกติเวลาที่พูดเรื่องนี้ได้

“ที่ว่า…มึงคบกับพี่ลิงก์แล้ว?”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะเปิดประตูห้องออก และเมื่อเราสองคนเข้ามาด้านใน คำถามสบประมาทของเป็ดก็ทำลายอารมณ์หวานของผมเข้าอย่างจัง

“มึงแน่ใจ? ไม่ใช่มึงเข้าใจผิดเข้าข้างตัวเองนะบลู”

ถึงผมจะหน้าตาไม่ดีและไม่มีเสน่ห์ แต่ก็ไม่หลงเอาใครมาอ้างเป็นแฟนมั่วซั่วหรอกนะครับ

“กูเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ กูยังแอบคิดว่า ฝันไปหรือเปล่าด้วยซ้ำ แต่พี่เขาคบกับกูแล้วจริงๆ เว้ย แล้วพี่ลิงก์ก็…ก็…”

“ก็อะไร?”

เป็ดมองผมอย่างสงสัย ผมก็เริ่มทำตัวไม่ถูกอีกครั้ง ถึงอยากจะบอกและเล่าให้ฟังทุกอย่าง แต่ผมก็กระดากอายจนพูดไม่ออกครับ และท่าทีอายม้วนตัวนของผมก็ขัดสายตาของเพื่อนสนิทน่าดู

“ไอ้บลู! จะยึกยักอะไรเนี่ย! เล่ามาให้หมด! กูค้างมาตั้งแต่เช้าแล้วนะโว้ย! "

เป็ดตีหน้ายักษ์ใส่เป็นการกดดัน แต่ผมก็ยังอายผสมเล่นตัวนิดหน่อยครับ ซึ่งเป็นการกระตุ้นต่อมเสือกของเพื่อนให้มากกว่าเดิมได้เป็นอย่างดี

แหม…เรื่องความรักไม่ใช่ฝนฟ้าอากาศที่จะพูดไปเรื่อยแบบไม่คิดอะไรนี่ครับ

“แบบว่า…กูยังไม่กล้าพูดตรงๆ ว่ะ”

“งั้นกูพูดเอง! เมื่อคืนมึงไม่ได้กลับห้องใช่ไหม เพราะมึงไม่เคยปิดเครื่อง แล้วกูก็ติดต่อไม่ได้ แสดงว่าแบตมือถือมึงหมด แล้วการที่กูเพิ่งโทรหามึงได้ ก็เพราะมึงเพิ่งกลับมาชาร์จที่ห้องเมื่อไม่กี่นาทีก่อน”

เป็ด…มึงไปสอบตำรวจเถอะ ถ้าจะวิเคราะห์ขนาดนี้

“อืม เมื่อคืนกูไปค้างที่คอนโดของพี่ลิงก์”

ผมบอกด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม เป็ดก็ยังมองมาอย่างกดดันไม่ต่างจากตำรวจที่ไล่ต้อนผู้ร้ายที่กำลังจนมุม

“กูว่าแล้ว! ที่มึงไม่กล้าพูด เพราะมึงเสียตัวให้พี่เขาไปแล้วใช่ไหม! พี่เขาเลยยอมคบกับมึง!”

“จะบ้าเหรอ! ไม่ใช่เว้ย! กูกับพี่ลิงก์ยังไม่ได้มีอะไรกัน! แค่จูบกันเฉยๆ!”

เป็ดตาโตขึ้น ในขณะเดียวกันผมก็อ้าปากค้างกับคำพูดสุดท้ายของตัวเอง ความเงียบวิ่งวนรอบเราสองคน ก่อนที่คนตรงหน้าจะกระแอมไอด้วยสีหน้ากระดากอาย ส่วนผมก็หมุนตัวหนีไปอีกทางเพื่อซ่อนความร้อนที่บ่งบอกความเขินบนใบหน้าของตัวเอง

ชอบหลุดปากทุกทีสิน่า!

ผมก็ไม่ได้อยากปิดบัง แถมยังอยากพูดอวดให้เพื่อนฟังด้วยซ้ำครับ แต่ความตั้งใจมักถูกขัดด้วยอารมณ์จนพลั้งเผลอหลุดปากออกไปก่อนที่คิดเอาไว้อยู่เรื่อย

“ก็…เป็นแฟนกัน จะจูบกัน ก็...เป็นเรื่องธรรมดา”

น้ำเสียงที่พยายามปั้นให้เป็นปกติของเป็ด ทำให้ผมหันกลับไปมองแล้วอมยิ้มกับท่าทางขัดเขินที่ยังกลบไม่มิดของอีกฝ่าย

“อืม แล้วมึงคิดว่ากูเสียตัวให้เขาจริงๆ เหรอ"

ผมมองเพื่อนสนิทอย่างจับผิด เป็ดกลอกตารอบหนึ่งพลางผ่อนลมหายใจออกมา

"กูก็พูดไปอย่างนั้น ก็รู้อยู่แล้วว่า มึงต้องแก้ต่างจนหลุดความจริงออกมา แต่...ถ้ามึงยอมรับ กูก็คงช็อก"

ผมพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ สมกับเป็นเพื่อนรักที่รู้จักนิสัยของผมดี ถ้ามันไม่ล่อให้เผลอบอกออกไป ผมก็ยังคงละล้าละลังที่จะเล่าไปเรื่อย

"ว่าแต่...ทำไมต้องทำหน้าเข้มจนแก้มแดงด้วย”

ทั้งที่ผมก็ยังเขินอายอยู่ แต่พอเห็นคนที่มีอาการหนักกว่า ผมก็นึกอยากแกล้งแซวเพื่อนเล่นทุกที

สองหนุ่มเนิร์ดที่ไม่เคยพบพานกับความวาบหวิวมาก่อน แค่พูดเรื่องจูบก็อายกันง่ายๆ แบบนี้แหละครับ

“ช่างกูเถอะน่า ตกลงว่าทำไมพี่เขาถึงหลวมตัวมาคบกับมึงได้”

ถึงจะถูกเพื่อนใช้น้ำเสียงเหวี่ยงใส่ แต่ผมก็ชินกับนิสัยของอีกฝ่ายไปแล้ว ผมยิ้มบางพร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่การได้รู้จักเพื่อนของพี่ลิงก์จนถึงเรื่องของพริ้มครับ

"ผู้หญิงคนนั้นน่ะเหรอ สงสัยจะเป็นโรคหวงพี่ชายหรือเปล่าวะ"

เป็ดตั้งสมมติฐานขึ้น หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดจบ แต่ผมก็นึกถึงคำพูดของพี่เรย์เมื่อคืนนี้

"แต่พริ้มก็บอกใครไปทั่วว่า จะแต่งงานกับพี่ลิงก์ด้วยนะ"

"กูว่าไร้สาระว่ะ เขาเป็นญาติกันไม่ใช่เหรอ จะแต่งงานกันได้ยังไง"

ทั้งที่เมื่อคืนผมก็กังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่พอได้ยินความคิดเห็นของเป็ด ผมก็เริ่มนึกเห็นด้วยขึ้นมา

พริ้มยังอยู่แค่มัธยมปลาย บางทีก็อาจจะคลั่งพี่ชายหน้าตาดีก็ได้มั้งครับ

"แล้วมึงจะยังไงต่อวะ จะย้ายไปอยู่กับพี่เขาไหมเนี่ย"

ผมเลิกคิ้วมองเพื่อนอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเป็ด

"ย้ายทำไม"

"อ้าว! กูเห็นเดี๋ยวนี้ ใครเป็นแฟนกัน เขาก็ขนของไปอยู่ด้วยกันแล้วไม่ใช่เหรอ"

"อืม ก็จริงของมึง"

ผมนึกตามคำพูดของเป็ดอีกครั้ง แต่ผมนึกภาพตัวเองใช้ชีวิตประจำวันในคอนโดกับพี่ลิงก์ไม่ออกเลยครับ แต่ที่แน่ๆ ผมก็คงยึดโซฟาในห้องนั่งเล่นเป็นเตียงนอนถาวรแน่นอน

ก็...จนกว่าผมจะใจกล้าเข้าห้องนอนของพี่ลิงก์นั่นแหละครับ

พอนึกถึงคำพูดของพี่ลิงก์เมื่อคืนนี้ ผมก็หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอีกแล้ว ภาพใบหน้าหล่อและรอยยิ้มของอีกฝ่ายฉายชัดในความคิด ถ้าหากได้สัมผัสร่างกายน่าหลงใหลอย่างแนบชิดจะเป็นยังไงนะ

ใจเย็นนะไอ้บลู! มึงอย่าเพิ่งจินตนาการอะไรไปไกลขนาดนั้น!

"บลู กูจริงจังนะ ไม่ใช่ว่ากูดูถูกมึง แต่เรื่องพี่ลิงก์เนี่ย กูว่า...มึงเตรียมใจเอาไว้บ้างเถอะ"

สีหน้าเป็นห่วงของเป็ด ทำให้ผมที่กำลังฟุ้งซ่านผ่อนลมหายใจออกมา ผมเข้าใจสถานการณ์และความรู้สึกของอีกฝ่ายดี ไม่แปลกที่มันจะเป็นห่วง เพราะเรื่องราวของพี่ลิงก์กับผมมันดูรวดเร็วและน่าเหลือเชื่อจนไม่น่าไว้วางใจ

"บางทีพี่เขาอาจจะหลอกมึงก็ได้ ใครจะไปรู้ สังคมของเขากับเรามันคนละเรื่อง พี่เขาอาจจะนึกสนุกอะไรสักอย่างก็ได้ แล้วกูก็ไม่อยากให้มึงไปเป็นของเล่นของใคร"

"มึงก็คิดในแง่ร้ายเกินไป พี่ลิงก์ไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก"

เขาก็แค่ผู้ชายหน้าตาดี มีเงิน แล้วก็บ้าตุ๊กตาหมีเท่านั้นแหละครับ

"กูยอมรับ แต่มึงก็ต้องระวังตัวเอาไว้ด้วย"

"เอาน่า...ก็แค่แฟนกัน ถ้าสุดท้ายจะต้องเลิกกันก็ช่วยไม่ได้"

ว่าแต่...ทั้งที่เพิ่งคบกัน แล้วทำไมต้องมาพูดเรื่องเลิกกันด้วยเนี่ย!

"มึงชิลไม่ได้นะบลู ให้ตายเถอะ! กูไม่ไว้ใจพี่เขาเลยว่ะ ถ้าให้มึงเป็นเบ๊ยังดีกว่านี้"

ผมขมวดคิ้วเล็กน้อยกับสีหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนสนิท ทั้งนึกฉุนทั้งนึกขำ แต่สุดท้ายผมก็ทำได้แค่ถอนหายใจ แล้วตบไหล่ของมันเบาๆ

"ไม่เป็นไรเป็ด มึงก็รู้ กูไม่เคยเสียใจกับเรื่องที่ตัดสินใจไปแล้ว"

เป็ดสบตากับผมนิ่ง มันพยักหน้ารับด้วยใบหน้าที่คลายกังวลขึ้นมาเล็กน้อย ผมส่งยิ้มให้เพื่อลบล้างบรรยากาศอึดอัดที่รายล้อมเราสองคนในตอนนี้

"จนกว่ากูจะแน่ใจ ยังไงก็ไม่ยอมเสียตัวให้พี่ลิงก์กินเล่นแน่ มึงวางใจได้ ถ้ากูไม่เผลอปล้ำเขาล่ะนะ"

"ไอ้เหี้ยบลู! "

"ฮ่าๆ "

ผมมองสีหน้าบึ้งตึงของเป็ดอย่างไม่คิดอะไรมาก ก่อนที่ผมจะชวนมันไปดูหนังแล้วก็หาอะไรกินเป็นมื้อเย็นที่ห้างกันต่อ









@@@@@@@@@@









กว่าที่ผมจะกลับมาที่ห้องของตัวเองอีกครั้งก็เกือบสามทุ่มแล้วครับ ระหว่างที่ผมกับเป็ดกินอาหารเย็นด้วยกัน พวกเราก็พูดคุยเกี่ยวกับงานพิเศษระยะสั้นที่จะทำกันตอนปิดเทอม

พรุ่งนี้เราสองคนมีนัดจะไปหาพี่นกที่เป็นพี่สาวแท้ๆ ชองเป็ดและเป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของสถาบันสอนพิเศษ B เกี่ยวกับรายละเอียดของงานครับ

หลังจากตั้งนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์มือถือเสร็จและเตรียมตัวเข้านอนในเวลาเกือบห้าทุ่ม เสียงวีดีโอคอลจากพี่ลิงก์ก็ดังขึ้น ผมนึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะตั้งแต่ที่รู้จักกันมาอีกฝ่ายไม่เคยติดต่อแบบเห็นหน้าเห็นตาแบบนี้มาก่อน

"บู้หลับยัง"

ใบหน้าของพี่ลิงก์ที่มองมาผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ทำให้ผมรู้สึกเขินเล็กน้อย แต่ก็พยายามปรับน้ำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติมากที่สุด

"กำลังจะนอนแล้วครับ"

"แล้วทำไมไม่โทรหาลิงก์เลยอ่ะ รออยู่เนี่ย"

พี่ลิงก์ชักสีหน้าออกมา ผมก็ทำหน้าเหลอหลาอย่างไม่เข้าใจว่า ตัวเองผิดอะไร แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับผู้ชายคนนี้แล้ว ผมก็ยอมเขาตลอดนั่นแหละครับ

"อ่า...ขอโทษครับ"

"ลิงก์จดไว้แล้ว บู้ทำผิดหนึ่งครั้ง"

"อ่า...ครับ"

อะไรวะ? คือผมต้องโทรหาเขาทุกคืนใช่ไหมครับ?

"ทำหน้างงอีก แสดงว่าไม่สำนึก ลิงก์เขียนดอกจันไว้สามอันด้วย"

เอาที่พี่สบายใจเถอะ....

"ต่อไปผมจะโทรหาพี่ทุกคืนครับ"

พี่ลิงก์ทำหน้านิ่งไปเล็กน้อย กน้ำเสียงเรียบเฉยดังขึ้นพร้อมกับนัยน์ตาสีดำที่จ้องมองมาอย่างจริงจังจนผมเกร็ง

"ซื่อบื้อ"

เอาเข้าไป! โดนว่ามาอีก!

ผมทำหน้าเซ็งออกมา พี่ลิงก์ก็ทำหน้าบึ้งใส่ เราสองคนเงียบใส่กันครู่หนึ่ง มันไม่เหมือนเวลาที่พิมพ์ข้อความคุยกัน เพราะจะทำท่าทางยังไง คู่สนทนาก็มองเห็นทั้งหมด แล้วมันก็ชวนอึดอัดมากด้วยครับ

"บู้"

"ครับ"

ผมมองพี่ลิงก์เล็กน้อย ก่อนจะเลื่อนสายตาไปทางอื่น เพราะไม่อยากได้รับแรงกดดันจากสายตาคู่นั้นเท่าไหร่ ทว่าเสียงของเขาก็ทำให้ผมต้องกลับไปมองอีกครั้ง

"ไม่ได้อยากให้โทรหาทุกคืน แค่เฉพาะเวลาที่คิดถึงก็พอ เข้าใจป่ะ"

ผมนิ่งไปครู่หนึ่งพลางปั้นสีหน้าไม่ถูก เมื่อความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นมาในใจ ความหวานที่ชวนให้จั๊กจี้แบบนี้ มันคืออะไรกันครับ!

"ครับ"

"อืม แค่นี้แหละ หายคิดถึงแล้ว"

ผมนั่งอึ้งไปชั่วขณะ ตอนนี้ภาพใบหน้าของพี่ลิงก์หายไปจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือของผมแล้วครับ ผมไม่อาจบรรยายความรู้สึกในเวลานี้ได้ชัดเจนนัก แต่ปลายนิ้วก็กดไปที่ปุ่มวีดีโอคอลเพื่อติดต่อคนที่ทิ้งระเบิดไว้ให้ผมอีกครั้ง เพียงเสี้ยววินาทีที่การเชื่อมต่อเกิดขึ้น หน้าจอก็กลายเป็นภาพใบหน้าหล่อที่กำลังอมยิ้มอยู่

"หึ! กะว่าอีกห้านาทีก็จะคิดถึงบู้อีกแล้วเหมือนกัน"









@@@@@@@@@@








ผมกับเป็ดมาถึงสถาบันสอนพิเศษ B ที่ตั้งอยู่ในห้างตอนบ่ายโมงครับ เดิมทีผมก็รู้จักพี่นกอยู่ก่อนแล้ว ทำให้การพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องงานเป็นไปอย่างราบรื่น ผมทำงานทั้งหมดห้าวันต่อสัปดาห์ครับ ในวันจันทร์ถึงพุธทำงานเบ็ดเตล็ดทั่วไป ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์จะได้สอนเลขน้องมอปลายแบบกลุ่มส่วนตัวครับ

"ก่อนจะถึงวันเสาร์ บลูก็ลองเข้าไปดูบรรยากาศในห้องแต่ละรอบได้ ส่วนเรื่องแนวทางและเทคนิคต่างๆ เดี๋ยวพี่มีคลิปให้ดู บลูก็ลองศึกษาเอาเองนะ มีอะไรไม่เข้าใจก็ถามพี่"

"ครับ"

พี่นกยิ้มให้ผม ก่อนจะเล่าเรื่องราวคร่าวๆ ของสถาบันสอนพิเศษแห่งนี้ หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็พาไปแนะนำตัวกับเจ้าหน้าที่รวมไปถึงรุ่นพี่ที่ทำหน้าที่สอนคนอื่นๆ อย่างเป็นกันเอง ส่วนเป็ดตอนนี้ไปทำธุระให้พี่สาวที่ธนาคารครับ

"พรุ่งนี้ค่อยเริ่มงานเต็มเวลาแล้วกันนะ แต่ตอนบ่ายถ้าอยากจะเข้ามาดูรุ่นพี่คนอื่นสอนก็ตามสบาย"

"ครับ ขอบคุณครับพี่นก"

พี่นกพยักหน้ารับ แล้วเดินแยกไปอีกทาง ผมติดต่อไปหาเป็ดที่ยังไม่กลับมา ซึ่งมันก็บอกให้ผมไปเจอกันที่ธนาคารเลยครับ

หลังจากที่ผมรอเป็ดทำธุระให้พี่นกที่ธนาคารเสร็จ เราสองคนก็ไม่ได้กลับไปที่สถาบันสอนพิเศษ B อีก ยังเหลือเวลาอีกหลายวันกว่าที่ผมจะได้ลงสนามจริงครับ ระหว่างนี้ผมต้องทบทวนบทเรียนเก่า รื้อฟื้นความรู้ที่หายไปกลับคืนมาให้หมด

"แล้วพรุ่งนี้มึงต้องมากี่โมง"

เป็ดถามขึ้น ตอนที่เราสองคนกำลังจะลงบันไดเลื่อนเพื่อเดินไปยังลานจอดรถ มันไม่ได้ทำหน้าที่สอนพิเศษครับ แต่ต้องมาทำงานใช้หนี้ให้พี่สาว ก็เลยชวนผมมาทำงานด้วยกัน

"ก็เข้างานเก้าโมงเลิกหกโมงเย็น"

"สอนเฉพาะเสาร์อาทิตย์ใช่ไหม"

"อืม ตื่นเต้นเหมือนกันว่ะ"

เดิมทีผมก็ไม่ใช่คนพูดเก่งอยู่แล้ว ก็นึกกลัวจะทำให้น้องที่มาเรียนเบื่อด้วยซ้ำ เพราะสถาบันแห่งนี้มีชื่อเรื่องการสอนสไตล์วัยรุ่น เน้นการเรียนการสอนที่เป็นกันเองเพื่อให้น้องๆ ที่ไม่เข้าใจกล้าถามและไม่รู้สึกเคร่งเครียดมากเกินไปครับ

เป็ดยิ้มขำออกมากับท่าทางประหม่าของผม มันส่งหมวกกันน็อกมาให้ แล้วขึ้นนั่งบนมอเตอร์ไซค์ของตัวเองอย่างคล่องแคล่ว ผมก็น้่งซ้อนท้ายด้วยความเคยชิน

"ถึงกูจะชวนมึงมาทำงานเป็นเพื่อน แล้วมึงก็ดูมึนๆ แต่กูว่ามึงทำได้นะบลู เวลาที่กูงงเรื่องเรียนทีไร มึงก็อธิบายให้กูเข้าใจได้ทุกที"

"งั้นเหรอ"

ผมมองด้านหลังของเพื่อนสนิทที่ทำหน้าที่คนขับด้วยความรู้สึกสงบใจขึ้น แล้วเลื่อนสายตาไปมองวิวข้างทางที่ผ่านไปตามความเร็วของเครื่องยนต์พร้อมกับรอยยิ้มบางที่ไม่มีใครมองเห็น









@@@@@@@@@@









เมื่อมาถึงห้องพักของตัวเองและจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย ผมก็ใช้เวลาทั้งหมดหลังจากนั้นในการนั่งทบทวนความรู้และข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับงานของตัวเอง และพอหลุดจากสมาธิอีกที ตัวเลขบอกเวลาก็ทำให้ผมต้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

อีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงคืนแล้วครับ ปกติพี่ลิงก์มักจะส่งข้อความมาหาตั้งแต่ก่อนที่เราสองคนจะตกลงคบเป็นแฟนกัน แถมเมื่อคืนนี้เขาก็เพิ่งคาดโทษที่ผมไม่ยอมติดต่อหาด้วย ไม่รู้ป่านนี้กาดอกจันความผิดของผมไว้กี่อันแล้ว

ทว่าเมื่อผมกดวีดีโอคอลหาพี่ลิงก์ ภาพที่ปรากฏในหน้าจอก็ทำให้ผมต้องแปลกใจเล็กน้อย เพราะใบหน้าหล่อบ่งบอกถึงความงัวเงียชัดเจน นัยน์ตาสีดำสวยกำลังสะลืมสะลือ แถมน้ำเสียงที่ทักมาก็ยังเนิบเอื่อยเหมือนสมองยังทำงานไม่เต็มที่อีก

"พี่ลิงก์? "

"บู้.."

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ กับท่าทางของอีกฝ่าย ผมเพิ่งเคยเจอพี่ลิงก์เป็นแบบนี้ครั้งแรก เขาเหมือนเด็กเลยครับ หมดมาดคุณชายที่ผมเห็นจนชินตา

"ผมปลุกพี่เหรอ ขอโทษนะครับ""

"ไม่...เป็นไร แล้วทำอะไร...อยู่"

"อ่านหนังสือครับ งั้นผมไม่กวนแล้ว พี่ไปนอนต่อเถอะ"

"อืม บู้ไม่ได้กวน"

ผมอมยิ้มมองคนที่หลับตาคุยกับผมอย่างนึกตลกพลางนึกเอ็นดูที่เขายังอุตส่าห์ตื่นมารับสายของผม ทั้งที่จะไม่สนใจหรือรีบตัดสายทิ้งเลยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองมาคุยกับผมแบบนี้

"ครับ ผมก็จะนอนแล้วเหมือนกัน ฝันดีนะครับ"

ผมยิ้มมองพี่ลิงก์ที่ผงกหัวรับหงึกหงัก ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นบ๊ายบายผม

"บู้ จุ๊บๆ นะครับ"

ผมนั่งนิ่งมองภาพหน้าจอที่กลับมาเป็นพื้นหลังปกติ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมากับท่าทางน่ารักของพี่ลิงก์ แล้วเตรียมตัวเข้านอนบ้าง













TBC +++++++++
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 14 - 28/05/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 06-06-2019 22:51:40
 :a5: :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: Kenta ที่ 06-06-2019 23:36:18
ตั้งแต่กลับมาเริ่มอ่านนิยายอีกครั้ง เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกดีมากเลยครับ

ไม่ค่อยเห็นพระเอกมุ้งมิ้งแบบนี้เลย  :mew1:

ขอบคุณที่ทำให้มีความสุขนะครับ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 07-06-2019 02:59:01
 :กอด1: :กอด1: :impress2: :impress2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 07-06-2019 04:57:54
แทนตัวเองว่าลิ้ง  จั๊กจี้ดีเนอะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-06-2019 09:04:56
พี่ลิ้งค์ น่ารัก ทำให้นึกถึงเล้งไปด้วย

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 07-06-2019 09:41:27
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-06-2019 11:11:15
บู้จุ๊บจุ๊บนะ คือน่ารักมากพี่ลิ้งก์
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-06-2019 11:19:45
พี่ลิ้งน่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 07-06-2019 19:30:26
บลูน่ารัก
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 07-06-2019 20:01:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 07-06-2019 23:19:04
มีมุมมุ้งมิ้งด้วยนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: changemoo ที่ 11-06-2019 08:48:36
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ แงงง ชอบจริงๆ อ่านแล้วเอาไปมโนต่อเป็นวัน 555
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 17-06-2019 09:46:53
แวะมาแก้คำผิดค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-06-2019 23:04:25
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: nuja ที่ 18-06-2019 07:18:59
เกลียดพี่ลิ้งค์มีความอ่อย
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 20-06-2019 23:05:04
Level 16: อำนาจต่อรอง







ในช่วงก่อนวันที่จะได้รับหน้าที่สอนนักเรียนกลุ่มแรกของตัวเอง ผมก็ทำงานจิปาถะทั่วไปและได้เข้าไปดูบรรยากาศจริงเพื่อนำไปเป็นแนวทางสำหรับการทำงานของตัวเองด้วยครับ

นอกจากผมจะทำงานในช่วงปิดเทอมแล้ว พี่ลิงก์เองก็ทำงานที่บริษัทของทางบ้านด้วยเหมือนกันครับ อีกปีเดียวเขาก็จะเรียนจบแล้ว ก็คงต้องเรียนรู้งานเพื่อรับช่วงกิจการต่อ

"พรุ่งนี้หยุดใช่ไหม"

พี่ลิงก์ถามขึ้น ขณะที่เราสองคนกำลังวีดีโอคอลคุยกัน ผมได้หยุดสองวันก่อนจะเริ่มทำงานของตัวเองในวันเสาร์นี้ครับ

"ครับ"

"มาหาลิงก์ที่บริษัทไหม"

"เดี๋ยวผมไปรบกวนพี่เอาเปล่าๆ "

"ถ้ากวนแล้วจะชวนทำไม คิดหน่อยดิ"

ผมมองพี่ลิงก์ที่ชักสีหน้าออกมา ผมยิ้มแหย แล้วตอบปฏิเสธไปอีกครั้งอย่างนุ่มนวล

"ผมกะว่าจะทบทวนความรู้เก่าหน่อยครับ"

"อืม งั้นตอนเย็นจะไปหาที่ห้อง"

"ครับ"

"อยากกินข้าวเย็นที่บ้านลิงก์ไหม จะได้ชิมฝีมือของพ่อไง"

"ไว้คราวหลังดีกว่าครับ"

พี่ลิงก์หรี่ตาลง ก่อนจะยกยิ้มอย่างดูแคลน

"หึ! ป๊อดนะ"

แหม...งั้นพี่ไปเจอครอบครัวของผมบ้างไหมล่ะครับ

ผมได้แต่ต่อว่าพี่ลิงก์ในใจ ถึงแม้เสี้ยวหนึ่งในความรู้สึก ผมก็แอบคิดว่า หากผมชวนไปหาพ่อกับแม่ที่บ้าน เขาคงไม่ปฎิเสธ

ในเมื่อพี่ลิงก์ไม่มีจุดด่างพร้อยอะไรให้ต้องอายใคร ไม่เหมือนผมที่ดูไม่เหมาะกับเขาเลยสักนิด

"เหม่ออะไรบู้ ง่วงก็ไปนอนไป"

"ผมยังไม่ง่วง พรุ่งนี้ผมหยุด นอนดึกได้ครับ"

"แต่กูง่วงแล้ว แค่นี้นะบู้ ฝันดีครับ"

"ฝันดีครับ"

พี่ลิงก์ยกมือบ๊ายบายผม ก่อนที่ภาพของเขาจะหายไปจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ผมอมยิ้มเล็กน้อย แล้วเตรียมตัวเข้านอนบ้าง









@@@@@@@@@@









ในวันหยุดก่อนเริ่มทำงานจริง หลังจากใช้เวลาทำภารกิจประจำวันเรียบร้อย ผมก็ตั้งใจอ่านหนังสือและลองทำความเข้าใจเนื้อหาที่จะนำไปสอนเกือบตลอดทั้งวันเลยครับ จนกระทั่งตอนเย็นที่พี่ลิงก์มารับผมไปหาอะไรกินด้วยกัน

พี่ลิงก์ในชุดทำงานแบบหนุ่มออฟฟิศทำให้ผมรู้สึกแปลกตาไปเล็กน้อย ถ้าไม่ติดที่กระเป๋าเป้ของเขามีโคลห้อยอยู่ คนตรงหน้าก็ดูเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวขึ้นมาเลยล่ะครับ

"กินนี่แล้วกัน"

ผมพยักหน้ารับคำพูดของพี่ลิงก์ แล้วเดินตามเขาเข้าไปในร้านก๋วยจั๊บที่ไม่ได้อยู่ห่างจากหอพักของผมเท่าไหร่ เพราะพวกเราเดินกันมาครับ

เนื่องจากตอนนี้มหาวิทยาลัยอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน บรรยากาศโดยรวมเลยค่อนข้างเงียบเหงาพอสมควร

"อาทิตย์หน้าต้องไปดูงานกับพ่อที่เวียดนาม ไปด้วยกันป่ะ"

พี่ลิงก์ถามขึ้น ขณะที่กำลังคีบหมูกรอบมาวางในจานของผม ผมเลิกคิ้วมองเขาอย่างสงสัย

"ไปทำงานไม่ใช่หรือครับ แล้วจะชวนผมทำไมอ่ะ"

"ก็แค่ไปดูงานนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ยุ่งจนไม่มีเวลาเที่ยวหรอก"

"ผมจะไปได้ยังไง ผมก็มีงานต้องทำเหมือนกัน แล้วพี่จะกลับมาเมื่อไหร่ครับ"

"ไม่แน่ใจ พ่อกลับเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น"

ผมยิ้มบางออกมา เมื่อเขาทำหน้าเบื่อ ผมว่าพี่ลิงก์ก็ชวนไปอย่างนั้นนั่นแหละครับ เพราะเขารู้ดีว่า ผมต้องปฏิเสธอยู่แล้ว

"แล้วต้องทำงานถึงเมื่อไหร่"

"ก็ยาวจนเกือบเปิดเทอมเลยครับ"

พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา แล้วแย่งหมูกรอบที่ผมเพิ่งวางใส่จานของตัวเองไปกินเหมือนกับคนที่กำลัง ไม่พอใจ แต่ผมก็ไม่ได้โวยวายอะไรหรอกนะครับ ก็แค่คีบชิ้นใหม่ แล้วก็โดนแย่งอีก จนต้องหยุดกินเท่านั้นเอง

นี่มันหาเรื่องกันชัดๆ เลยนี่หว่า....

"พี่ลิงก์"

ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงอ่อน เขาไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ทว่านัยน์ตาสีดำยังคงเจือความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบัง

"แล้วเมื่อไหร่จะว่าง เสือกทำงานเสาร์อาทิตย์อีก"

"ก็ว่างพฤหัสกับศุกร์ไงครับ"

พี่ลิงก์ส่งสายตาดุใส่ผม แล้วแย่งแก้วน้ำของผมไปกินเองอีก ผมก็ได้แต่มองท่าทางต่อต้านของเขาอย่างนึกระอาปนขำครับ

"ทำไมต้องไปทำงานด้วยวะ ร้อนเงินหรือไง"

"ไปทำเป็นเพื่อนเป็ดอ่ะ"

พี่ลิงก์ตีหน้าบึ้ง ก่อนน้ำเสียงทุ้มเข้มจะดังขึ้นอย่างเอาเแต่ใจ

"งั้นก็มาทำงานเป็นเพื่อนกูบ้างดิ"

ผมถอนหายใจออกมา แต่ดูเหมือนงานนี้พี่ลิงก์จะไม่ยอมง่ายๆ นะครับ เขาจ้องหน้าผมอย่างกดดัน และแสดงสีหน้าชัดเจนว่า จะไม่รับฟังคำตอบที่ขัดใจ

"ผมจะทำอย่างนั้นได้ไงครับ ตกลงกับพี่เขาไปแล้ว เบี้ยวไม่ได้หรอก"

"งั้นสองวันที่มึงหยุดต้องมาทำงานกับกู"

เฮ้ย!

"ผมจะไปทำงานอะไรของพี่ได้ล่ะครับ"

"ไปนั่งเป็นกำลังใจให้กูไง งานน่าเบื่อจะตาย"

พี่ลิงก์บ่นออกมา ในขณะเดียวกันผมก็รีบหาทางรอดให้กับตัวเอง ผมไม่อยากทำงานครบเจ็ดวันหรอกนะครับ อย่างน้อยก็ต้องมีสักวันที่ผมได้นอนอืดปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างสูญเปล่าด้วยความขี้เกียจบ้าง อีกอย่าง...ถึงผมจะอยากอยู่ใกล้พี่ลิงก์แต่ก็ไม่ได้อยากไปนั่งเฝ้าเขาให้ใครมองด้วยครับ

คนอื่นจะคิดยังไงกับผมที่มานั่งเฝ้าลูกชายเจ้าของบริษัททำงานเนี่ย คงได้นินทาจนกลายเป็นเรื่องสนุกปาก ถึงผมจะแน่ใจว่า พี่ลิงก์ไม่สนใจก็ตามที แต่ภาพลักษณ์ของเขาก็เป็นสิ่งที่ผมควรแคร์

"ผมขอคิดดูก่อนนะครับ"

"ทำไมต้องคิดวะ นี่มึงไม่คิดจะมีเวลาให้กูเลยใช่ไหม"

"เราก็คุยกันทุกคืนก่อนนอนแล้วนี่ครับ"

คำตอบของผม ทำให้พี่ลิงก์หน้าหงิกยิ่งกว่าเดิม

"นี่มึงจะมีเวลาให้กูแค่ตอนนั้นใช่ป่ะ เราเป็นอะไรกันแน่วะ ทำไมถึงใช้เวลาด้วยกันได้แค่หลังพระอาทิตย์ตกดินเนี่ย"

ก็เราสองคนว่างตรงกันตอนนั้นนี่ครับ

ผมตอบอีกฝ่ายที่เริ่มพาลในใจ แต่ดูท่าทางพี่ลิงก์จะอารมณ์เสียแล้วจริงๆ แล้วผมก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น อีกทั้งผมก็ยังไม่อยากเสียสละวันหยุดของตัวเองเช่นเดียวกัน

ผมหันไปเรียกเด็กเสิร์ฟมาเก็บเงิน ซึ่งราคาอาหารทั้งหมดนี้ผมเป็นคนจ่ายครับ เพราะพี่ลิงก์นั่งหน้าบึ้งตึง หลังจากจัดการค่าอาหารเรียบร้อย ผมก็ใจกล้าจับมือของคนอารมณ์ไม่ดีให้เดินออกมาจากร้าน แล้วเริ่มทำ การประนีประนอมอย่างใจเย็น

"เอาแบบนี้ดีไหมครับ ผมไปหาพี่หนึ่งวัน ส่วนอีกวันผมขอหยุดพักนะครับ"

การต้องเสียวันหยุดหนึ่งวันก็ยังดีกว่าต้องเสียสองวัน ผมว่าเขาก็แค่อยากเอาชนะผมนั่นแหละครับ

"ไม่"

ดื้อยิ่งกว่าน้องของผมอีกนะเนี่ย

ผมลอบถอนหายใจออกมา แล้วพยายามคิดหาวิธีที่ลงตัว แต่ก็พบว่ามันว่างเปล่า ก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นโคลที่ห้อยอยู่ตรงเป้ของเขา

"ผมซื้อตุ๊กตาหมีให้ดีไหมครับ"

"ไม่ต้อง กูมีเยอะแล้ว ถ้าเงินเหลือนัก ก็ไม่ต้องไปทำงาน"

น้ำเสียงเรียบนึ่งที่บ่งบอกความไม่พอใจ ทำให้ผมต้องยิ้มแหยออกมาอย่างจนหนทาง เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน จนกระทั่งผมพาเขาเข้ามาในห้องของตัวเอง

นี่เป็นครั้งที่สองที่พี่ลิงก์มาที่ห้องของผมครับ แล้วผมก็จัดการทำความสะอาดเรียบร้อยกันเขาต่อว่าเหมือนคราวก่อน ผมมองอีกฝ่ายที่นั่งลงบนเตียงด้วยความหนักใจ

เอายังไงดีวะ....

พี่ลิงก์ยังหน้าตึงอยู่ครับ แล้วผมก็หาทางออกไม่ได้ นอกจากจะเปลี่ยนความตั้งใจของเขา ซึ่งวิธีการก็มาบรรจบที่การอ้อน เหมือนเวลาที่ต้องการให้พ่อแม่ซื้อของเล่นแล้วพวกท่านไม่ยอมก็ต้องอ้อนจนกว่าจะใจอ่อน

แต่จะอ้อนพี่ลิงก์ยังไง?

ซื้อของให้ก็ไม่เอา ความคิดเดียวที่นึกได้ก็ต้องลองเปลืองตัว แต่ผมก็ไม่มั่นใจว่า ตัวเองจะใช้วิธีอ้อนได้น่ารักมากพอหรือน่ารำคาญขัดสายตากันแน่

ผมผ่อนลมหายใจออกมา แล้วสูดอากาศเข้าปอดเป็นการเริ่มตันการตัดสินใจ

เอาวะ! ลองดูสักตั้ง!

ผมหยุดยืนตรงหน้าของพี่ลิงก์ที่กำลังนั่งอยู่ริมเตียง เขาเงยหน้ามองผมเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะก้มลงหอมแก้มด้านขวาของเขาฟอดใหญ๋ด้วยหัวใจที่เต้นกระหน่ำ

อื้อ....แก้มนิ่มอ่ะ!

พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้น สีหน้าไม่สบอารมณ์คลายลง ผมจึงเริ่มทำตามแผนการที่คิดเอาไว้ทันที

"พี่ลิงก์อย่าโกรธผมเลยนะ ผมก็แค่อยากมีเวลาพักบ้าง"

"แล้วอยู่กับกูมันเหนื่อยนักหรือไง"

พี่ลิงก์ว่าค่อนขอด ผมเลยยิ้มบาง แล้วจ้องตาของเขาด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว

"เหนื่อยสิ ก็เวลาที่อยู่ใกล้พี่ หัวใจของผมเต้นแรงตลอดเลยครับ"

พูดเองยังเขินเองเลยเว้ย!

พี่ลิงก์ไม่ได้โต้ตอบอะไร แต่ผมเห็นริมฝีปากบางที่ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย แต่แผนการของผมยังไม่จบครับ ผมก้มลงหอมแก้มด้านซ้ายของเขาอีกฟอดใหญ่ แล้วบอกเสียงอ่อน

"นะครับ ให้ผมพักบ้างนะ"

พี่ลิงก์เบือนหน้าหลบไปทางอื่น แต่ตอนนี้ผมก็เห็นแก้มของเขากำลังแต้มสีแดงระเรื่อ ผมอมยิ้มในใจ แล้วงัดไม้ตายสุดท้ายเพื่อพิชิตศึกครั้งนี้

ผมจับใบหน้าหล่อให้กลับมามองตากันอีกครั้ง ก่อนจะมอบจูบเลเวลหนึ่งของตัวเองเพื่อคว้าชัยชนะ

"นะครับ ดาร์ลิงก์"

งื้อ....ขอเนียนนิดนึงครับ!

พี่ลิงก์ตาโตขึ้น นัยน์ตาสีดำจ้องมองจนผมอยากจะหายตัวไปด้วยความเขินสุดๆ แต่ก็ทำได้เพียงมองกลับด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แล้วผมก็ต้องตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ร้องโวยวายอะไร เมื่อเวลานี้ถูกอีกฝ่ายจับมานั่งบนตักพร้อมกับกอดเอวเอาไว้

"ถ้าจูบจนทำให้ลิงก์พอใจได้ แล้วจะยอม"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง หัวใจเต้นแรงจนแทบระเบิดกับรอยยิ้มมุมปากของคนตรงหน้า ตอนนี้พี่ลิงก์กำลังท้าทายความรู้สึกของผมให้ปั่นป่วนมากไปกว่าเดิมอีกหลายเท่า

ผลลัพธ์ของสงครามไม่ว่าผู้ชนะหรือแพ้ย่อมมีการสูญเสียเสมอ

พี่ลิงก์ที่ยอมเสียความเอาแต่ใจของตัวเองและผมที่ต้องเสียจูบ!

"เร็วๆ เดี๋ยวเปลี่ยนใจนะ"

"ครับๆ "

ให้เวลาผมเขินบ้างเถอะครับ!

ผมหลับตาปี๋ก้มลงจูบคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นและเขินอาย ทันทีที่กลีบปากสัมผัสกัน พี่ลิงก์ก็เผยอริมฝีปากออกอย่างเชิญชวน ผมเลยลองแทรกปลายลิ้นเข้าไปเหมือนที่เขาเคยทำดูบ้าง และเมื่อได้รับการตอบสนองด้วยการตวัดรับอย่างเร่าร้อน ผมก็แทบจะเป็นบ้าไปในวินาทีนั้น

พี่ลิงก์เลื่อนมือข้างหนึ่งที่กอดเอวของผมขึ้นจับที่ท้ายทอยแทน ต่อมาการรุกของผมก็กลับกลายเป็นการถูกไล่ต้อนด้วยจูบที่ทำให้ลมหายใจติดขัด ตอนนี้ไม่ใช่การที่ผมจูบจนกว่าจะทำให้เขาพอใจแล้วครับ แต่เป็นการที่เขาจูบผมจนกว่าตัวเองจะพอใจมากกว่า

พี่ลิงก์ผละริมฝีปากออกมาเพียงเล็กน้อย ผมหอบหายใจหนักด้วยใบหน้าที่ร้อนราวกับถูกไฟลวก แต่ความทรมานที่แสนวาบหวามนี้ก็ยังไม่จบลง เมื่อเสียงทุ้มกระเส่าของคนตรงหน้าดังขึ้น

"แค่นี้เองเหรอ ลิงก์ยังไม่รู้สึกอะไรเลยนะครับ"

โอ๊ย! ไม่ไหวแล้ว!! ผมขอตายเลยได้ไหม!!!

ผมคร่ำครวญอยู่ในใจ แต่สุดท้ายก็ยังเป็นฝ่ายที่กดจูบลงบนเรียวปากของพี่ลิงก์อีกครั้ง ก่อนที่จะถูกเขาตอบรับอย่างร้อนแรงจนสติหลุดไปอีกรอบ









@@@@@@@@@@









ผลจากการจูบแบบมาราธอนเมื่อไม่กี่นาทีก่อน ถึงจะเกือบตายด้วยความฟินจัด แต่ก็ทำให้ผมสามารถคว้าวันหยุดของตัวเองมาได้สำเร็จครับ เพียงแค่ต้องแวะไปหาพี่ลิงก์ที่ทำงานบ้างเท่านั้น

ผมลูบใบหน้าที่ยังแดงเถือกและริมฝีปากทีบวมเป่งของตัวเองด้วยหัวใจที่ยังเต้นผิดจังหวะ ส่วนพี่ลิงก์ก็กำลังเล่นโทรศัพท์มือถือสบายใจอยู่บนเตียงของผมครับ

หลังจากเดินไปเก็บผ้าที่ระเบียงและเรียกสติกระเจิดกระเจิงของตัวเองให้กลับคืนมา สายตาของผมก็เลื่อนไปมองตุ๊กตาตัวใหญ่สีเหลืองชอบอีกฝ่ายที่กำลังอยู่นิ่งมาได้เป็นเดือนแล้ว

"พี่ลิงก์จะเอาตุ๊กตากลับไปเลยไหม"

"ไม่"

ผมก็ไม่รู้ว่า เขาจะทิ้งไว้ที่ห้องของผมทำไม แต่ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรครับ จนกระทั่งเวลาเกือบห้าทุ่มพี่ลิงก์ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับแต่อย่างใด

"พี่ไม่กลับบ้านหรือครับ"

พี่ลิงก์หันมามองผม ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

"ก็เวลานี้เป็นเวลาของเราสองคนไม่ใช่หรือไง"

"อ่า...ครับ"

ในเวลาช่วงนี้ของทุกวันเป็นเวลาที่ผมจะวีดีโอคอลคุยกับพี่ลิงก์ครับ ผมไม่ได้สนใจอีกฝ่ายอีก แล้วเดินเข้าไปอาบน้ำอย่างไม่รีบร้อน ทว่าพอเดินออกมาอีกที คนที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือก็นอนหลับไปแล้ว

หลับง่ายเหมือนเดิม...

ผมอมยิ้มออกมา สายตาก็หันไปมองโทรศัพท์มือถือของพี่ลิงก์ที่ส่งเสียงร้อง ผมแอบมองหน้าจอแล้วก็ตาโตขึ้นเล็กน้อย เมื่อมันแสดงภาพผู้ชายวัยกลางคนที่หล่อสะดุดตา แล้วก็ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นใคร เพราะชื่อที่แสดงก็บ่งบอกความสัมพันธ์กับเจ้าของโทรศัพท์มือถือได้เป็นอย่างดี

ผมนึกลังเลว่าควรจะทำอะไรต่อไป ในเมื่อเสียงเรียกเข้ายังดังไม่หยุดแล้วคนนอนหลับก็ยังไม่ยอมตื่น และในขณะที่ผมกลั้นใจจะปลุกพี่ลิงก์ เขาก็ลืมตาขึ้นแล้วคว้าเครื่องมือสื่อสารของตัวเองมากดรับพร้อมกับผมที่ลอบถอนหายใจออกมา

"ครับพ่อ อืม กลับครับ"

ผมมองพี่ลิงก์ที่ปรือตาคุยโทรศัพท์ด้วยความโล่งอก เขาลุกขึ้นยืน แล้วหันมามองผมเล็กน้อย

"รู้แล้วครับ แค่นี้นะ ครับ"

พี่ลิงก์วางสาย เขาเดินเข้าห้องน้ำไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินกลับออกมาด้วยใบหน้าที่สดชื่นขึ้น แล้วหยิบกระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นมาสะพายไหล่

"กลับก่อนนะ พ่อโทรตาม"

"ครับ เดี๋ยวผมไปส่ง"

พี่ลิงก์ยิ้มรับ แล้วเข้ามากอดไหล่ของผมเอาไว้ เราสองคนเดินออกจากหอพักโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกัน จนมาถึงโฟล์คบีเทิลสีดำคันสวย

"ถึงบ้านแล้วจะโทรหา"

"ครับ แล้วบ้านพี่อยู่ไกลหรือเปล่า"

"ไม่ไกล ถนนโล่งแบบนี้แป๊บเดียวก็ถึง"

ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่พี่ลิงก์จะหันมาหอมแก้มของผมแล้วกระซิบที่ข้างหู

"ฝันดีนะครับบู้"

ผมอมยิ้มออกมา โชคดีที่มืดแล้ว ความเขินของผมเลยถูกอำพรางเอาไว้ไม่ให้ขายหน้ามากเกินไปนัก

"ขับรถดีๆ นะครับ"

"อืม บู้ลืมบอกอะไรไปหรือเปล่า"

พี่ลิงก์ขึ้นรถของตัวเอง แล้วลดกระจกลงมองผมที่ยืนอยู่ ผมนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงเบา

"เอาไว้ถึงบ้านแล้วจะบอกนะครับ"

พี่ลิงก์ยกยิ้มขึ้นพร้อมกับยกมือบ๊ายบายเหมือนที่ชอบทำเวลาบอกลา ผมเองก็ทำตามเขาเหมือนกันครับ

หลังจากโฟล์คบีเทิลเคลื่อนตัวออกจากบริเวณหอพักของผมไปราวเกือบหนึ่งชั่วโมง เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น

[ถึงบ้านแล้ว]

"ครับ ฝันดีนะครับ ดาร์ลิงก์"





TBC +++++++

Marionetta:
ตอนนี้บู้ก็เลเวลอัพแล้วนะ ยังไงก็เอาใจช่วยน้องกันด้วยนะคะ ^^ สำหรับตอนนี้ก็ยังเป็นโมเนต์หวานเล็กๆ ที่ยังไม่มีเค้าลางของดราม่าเช่นเคย (ทำร้ายบู้ไม่ลง แงงงง) ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ ส่งกำลังใจให้ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 20-06-2019 23:12:22
ฃ :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 16 - 20/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-06-2019 23:22:27
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 16 - 20/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: Kenta ที่ 20-06-2019 23:43:52
 :impress2: :hao7: ดาร์ลิงก์ด้วยอ่าาาา
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 16 - 20/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 21-06-2019 00:43:29
หวานมากครับ,,,
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 16 - 20/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-06-2019 00:56:00
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 16 - 20/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 21-06-2019 17:39:35
พี่ลิ้งค์ขี้งอนต้องง้อให้หนักเลย o18
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 16 - 20/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 21-06-2019 19:26:50
ลิงซ์งอแงได้น่ารักน่าหยิกมาก
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 16 - 20/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 23-06-2019 09:27:58
แวะมาแก้คำผิดค่ะ  :katai5:

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมากเลยค่ะ ความหวานก็ยังมีอย่างต่อเนื่องและต่อไป อิอิ  :hao6:

อาทิตย์หน้าเจอกันแน่นอนจ้า
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 16 - 20/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 26-06-2019 22:55:11
Level 17: งานพิเศษ






ถึงเมื่อคืนจะนอนดึก แต่ผมก็ตื่นเช้าเป็นปกติครับ หลังจากจัดการมื้อแรกของวันใหม่ด้วยขนมปังทาแยมกับกาแฟสำเร็จรูป ผมก็แต่งตัวแล้วไปรอเป็ดที่ด้านล่างของหอพักเพื่อเดินทางไปทำงานพิเศษด้วยกัน

สองวันที่ผ่านมาผมได้นั่งทำความเข้าใจกับเนื้อหาที่ตัวเองจะต้องสอนทั้งหมด แล้วก็ลองซ้อมพูดให้เป็ดวิพากษ์วิจารณ์ด้วยครับ การทำงานในวันนี้เลยค่อนข้างมั่นใจมากกว่าเดิมอยู่เล็กน้อย

"สวัสดีครับพี่นก"

ผมยกมือไหว้ทักทายพี่นกที่กำลังเตรียมงานอยู่ในห้องทำงาน อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ก่อนจะทักทายกลับด้วยน้ำเสียงสดใส

"วันนี้ได้สอนเองแล้ว พร้อมไหม"

"ก็คิดว่าพร้อมนะครับ"

"ฮ่าๆ มั่นใจหน่อย"

พี่นกเดินเข้ามาตบไหล่ของผม ก่อนจะหันไปทางเป็ดที่เดินไปหยิบพายชิ้นใหญ่ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานมากินหน้าตาเฉย

"ไอ้เป็ดตะกละ! นั่นอาหารเช้าของฉันนะ! "

"กินหน่อยไม่ได้หรือไง ยังไม่ได้กินอะไรมาเลยเนี่ย"

"ไอ้น้องเวรเอ๊ย"

ผมมองพี่น้องที่พูดคุยทักทายแบบนี้เป็นประจำ แล้วมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เมื่อคืนนี้ผมทบทวนเนื้อหาและวางแผนการสอนเอาไว้ในสมองเรียบร้อย แต่ไม่รู้ว่าพอเอาจริงทุกอย่างจะเป็นไปอย่างที่คิดไหม

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความหาพี่ลิงก์ที่ไม่แน่ใจว่าตื่นแล้วหรือยัง

Blue++
ผมกำลังจะไปสอนน้องแล้วนะครับ

ผมมองข้อความที่แสดงบนหน้าจอ แล้วผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ พลางเลื่อนสายตากลับไปสนใจหน้าจอแชทที่มีการเคลื่อนไหว พี่ลิงก์ไม่ได้ส่งข้อความตัวอักษร แต่เขาส่งข้อความเสียงมาให้ผมครับ

LINK
อืม อย่าสอนเองงงเองล่ะ ขายหน้าเขาพอดี

Blue++-
พี่ต้องให้กำลังใจผมสิ

ผมไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองอะไรครับ ก็แค่แหย่อีกฝ่ายเล่นแก้อาการเกร็งและประหม่าที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้

LINK
ไม่มาหา แล้วจะให้ได้ยังไง

Blue++
ผมไปบ้านพี่ไม่ถูก

LINK
ถ้าบอกแล้วไม่มา จะโกรธ

หลังจากที่ใช้ข้อความเสียงมาก่อนหน้านี้ พี่ลิงก์ก็กลับมาใช้ข้อความปกติตามเดิม ผมอมยิ้มออกมาเล็กน้อย เมื่อเขาส่งรูปหน้าบึ้งของตัวเองแบบหัวยังฟูคล้ายเหมือนยังอยู่บนเตียงมาประกอบด้วย

Blue++
ถ้างั้นไม่ต้องบอกมาครับ ผมไม่อยากให้พี่โกรธ

พี่ลิงก์ส่งสติกเกอร์มาแบบรัวๆ ในทำนองที่อยากจะทำร้ายผมด้วยความโมโห ผมก็ส่งสติกเกอร์ยิ้มแฉ่งไปให้ ผมเก่งเวลาอยู่หลังแป้นพิมพ์เสมอครับ แต่ถ้าเจอตัวจริงมาอยู่ตรงหน้าก็หงอให้เขาทุกที

"ได้เวลาแล้วนะบลู"

เสียงของพี่นกเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ผมส่งยิ้มแห้งแล้งไปให้เป็นการขอโทษที่มัวแต่แชทเพลินจนลืมเวลา

Blue++
แค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องไปทำงานแล้ว

ผมพิมพ์ข้อความปิดท้าย แล้วรีบปิดเสียงกันการรบกวนเวลาสอนในชั้นเรียนของตัวเอง โดยไม่ได้เปิดดูข้อความของอีกฝ่ายที่ตอบกลับมา








@@@@@@@@@@









ครึ่งชั่วโมงแรกของการทำงานค่อนข้างเกร็งและอึดอัดครับ แต่พอเริ่มปรับตัวได้ การสอนของผมก็ผ่านไปด้วยดี น้องๆ แต่ละคนก็ตั้งใจกันดีมาก ระหว่างที่สอนพวกเราก็มีคุยเล่นแทรกกันบ้างเป็นการคลายเครียด ก่อนจะเริ่มเนื้อหาต่อไป

"ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ"

"ค่ะพี่บลู"

นักเรียนของผมเป็นเด็กสาวทั้งหมดเลยครับ ถึงจะชวนให้รู้สึกประหม่าไปบ้าง แต่น้องๆ ก็เป็นมิตรดี ผมรอให้นักเรียนกลุ่มแรกของตัวเองเดินออกจากห้อง ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แล้วก็พบข้อความที่แจ้งเตือนค้างเอาไว้ของพี่ลิงก์ตั้งแต่เช้า ผมยิ้มออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นภาพของเขาที่ชูสองนิ้วมาให้

น่ารัก...

ผมส่งสติกเกอร์ตอบรับ ถึงแม้ว่ามันจะช้าไปแล้วก็ตาม ก่อนจะเก็บเครื่องมือสื่อสารของตัวเองใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม พร้อมกับเดินออกจากห้องเรียนขนาดเล็กเพื่อไปพูดคุยกับพี่นกเกี่ยวกับการสอนครั้งแรก

"เป็นไงบ้างบลู ไหวไหม"

"ไหวครับ แล้วเป็ดอยู่ไหนครับ"

"ให้ไปถ่ายเอกสารน่ะ สงสัยยังไม่เสร็จ"

"งั้นผมไปดูมันหน่อยนะครับ"

"อืม ไปพักกันได้เลยนะ แล้วอย่าลืมเวลาล่ะ บ่ายสี่โมงนะบลู"

"ครับพี่นก"

ผมเดินออกจากห้องทำงานของพี่นก แวะทักทายรุ่นพี่ที่เดินผ่านตามมารยาท แล้วเดินตรงไปหาเพื่อนสนิทที่ยืนเปื่อยอยู่ตรงเครื่องถ่ายเอกสารด้วยรอยยิ้มขำ

"เป็ดใกล้เสร็จหรือยัง"

"คิดว่าใกล้แล้วว่ะ น่าเบื่อโคตร แล้วมึงเป็นไงบ้าง ไหวป่ะ"

"กูว่าโอเค ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร"

"อืม ก็ดีแล้ว”

เป็ดส่งยิ้มมาให้ ก่อนจะกลับไปทำงานของตัวเองต่อ ทว่าผ่านไปเพียงห้านาที อีกฝ่ายก็วางมือลง แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"หิวแล้วว่ะ เดี๋ยวค่อยกลับมาทำต่อแล้วกัน"

ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินตามเพื่อนสนิทที่ทำหน้าเบื่อออกจากห้องที่เต็มไปด้วยเอกสารอย่างไม่รีบร้อน








@@@@@@@@@@









หลังจากกินอาหารกลางวันเสร็จ ผมก็ใช้เวลาก่อนจะเริ่มงานสอนน้องอีกกลุ่มในการเตรียมตัวและทบทวนความรู้ของตัวเองอีกรอบ ส่วนเป็ดก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อครับ

ผมโทรศัพท์คุยกับพี่ลิงก์เล็กน้อย ตอนเย็นนี้เขาต้องเดินทางไปเวียดนามกับพ่อแล้วครับ เดิมทีกำหนดการจะต้องเป็นสัปดาห์หน้า แต่ดูเหมือนคู่ค้าจะมีปัญหาเรื่องการนัดหมายเลยต้องเร่งเดินทางกันก่อน

[ถ้ากลับห้องแล้ว ส่งข้อความาด้วยนะบู้]

"ครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ"

[อืม เดี๋ยวซื้อของมาฝาก หรือว่าอยากได้อะไรหรือเปล่า]

"ไม่มีเลย แต่ไม่ต้องซื้ออะไรมาหรอกครับ"

[ทำไม เกรงใจ? กูจำได้ว่าเคยคุยกับมึงเรื่องนี้แล้วนะ]

น้ำเสียงเรียบเรื่อยเริ่มกระด้างขึ้นและสรรพนามที่เปลี่ยนไป ทำให้ผมลอบถอนหายใจออกมา ก่อนจะบอกออกไปแบบส่งๆ ให้หมดเรื่องหมดราวครับ

"เอาขนมขึ้นชื่อที่เป็นของฝากของที่นั่นมาก็ได้ครับ ผมไม่เคยกิน"

นอกจากจะไม่เคยกิน ก็ยังไม่รู้ด้วยว่า ขนมที่ว่าคืออะไร

[อืม แค่นี้นะบู้]

"ครับ"

ผมอมยิ้มกับโทรศัพท์มือถือที่ตัดสายไปแล้ว ก่อนจะเดินไปที่ห้องเรียนอีกครั้งเพื่อเริ่มงานพิเศษของตัวเองต่อ








@@@@@@@@@@









งานพิเศษที่ได้รับหน้าที่สอนหนังสือครั้งแรกในชีวิตเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยดีครับ ส่วนในวันจันทร์ถึงวันพุธผมก็ยังมาช่วยงานจิปาถะกับเป็ดเหมือนเดิม จนกระทั่งเวลาได้หมุนวนกลับมายังวันที่ผมต้องทำหน้าที่หลักอีกครั้ง

"มีใครจะถามอะไรไหม"

"พี่บลูอธิบายตรงนี้อีกรอบได้ไหมอ่ะ"

ผมพยักหน้ารับ แล้วบรรยายเนื้อหาที่เพิ่งพูดจบไปอีกครั้งอย่างใจเย็น เพราะเป็นการสอนแบบกลุ่มส่วนตัวจึงไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรมาก บรรยากาศก็คล้ายกับพี่ที่กำลังสอนการบ้านน้องนั่นแหละครับ

เมื่อหมดเวลาสอนในช่วงเช้า ผมก็เดินออกมาจากห้องอย่างไม่รีบร้อน วันนี้เป็ดเบี้ยวงานครับ ผมเลยต้องเดินทางมาคนเดียว แล้วก็คงต้องไปกินข้าวกลางวันเพียงลำพัง

ถึงเวลาที่ผ่านมาผมจะทักทายกับรุ่นพี่คนอื่นภายในสถาบันสอนพิเศษ B บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนิทสนมกับใคร อีกทั้งโดยพื้นฐานนิสัยของผมก็ไม่ได้อัธยาศัยดีอยู่แล้ว เวลาที่ไม่มีใครก็เลยไม่กล้าเข้าหาใครโดยปริยาย

ผมเดินไปกินข้าวที่สวนอาหารของห้าง ก่อนจะบังเอิญเจอพี่เลมอนกับพี่จันทร์ที่กำลังเดินผ่านมาพอดี พวกเขาเป็นรุ่นพี่ที่ทำงานที่เดียวกับผมครับ

"อ้าว! บลู ไหงมาคนเดียวอ่ะ เป็ดไปไหน"

พี่เลมอนมองผมอย่างแปลกใจ ผมก็ยิ้มรับตามมารยาทของคนที่รู้จักกันครับ

"เป็ดป่วยครับ เลยไม่ได้มาทำงาน"

พี่เลมอนพยักหน้ารับ แล้วหันไปทางพี่จันทร์ที่ยืนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างกัน

"มึงยังจะไปดูของอีกป่ะ หรือจะกลับเลย"

"ไปดูก่อนดิ ยังมีเวลาอยู่อีก บลูไปด้วยกันไหม มีสอนอีกทีกี่โมง"

ผมกำลังจะปฏิเสธ แต่คนพูดไม่เก่งอย่างผมก็ไม่อาจต่อกรความเป็นกันเองแบบสุดๆ ของพี่ทั้งสองคนได้

"มาด้วยถันเถอะ กินข้าวเสร็จแล้วใช่ไหม ไปเดินย่อยกันดีกว่า จะได้ไม่อ้วน"

"ใช่ๆ จะไปนั่งรอเวลาทำไม น่าเบื่อออก"

ทั้งพี่เลมอนและพี่จันทร์ต่างก็ส่งสีหน้าโน้มน้าวเต็มที่ ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้ง แล้วจำใจตอบรับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

"ก็ได้ครับ"

รุ่นพี่ทั้งสองคนชวนผมคุยไม่หยุด ก่อนที่พวกเขาจะเดินนำผมเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่ง เมื่อเข้ามาด้านใน ผมก็แยกตัวมาเดินวนเล่นคนเดียว ปล่อยให้พวกพี่สาวเลือกซื้อกันตามสบาย ผ่านไปสักพักผมก็เดินวนไปเจอพี่จันทร์กับพี่เลเมอนกำลังยืนคุยกันอยู่

"เฮ้ย! กูถ่ายรูปได้ไหมวะ เขาจะฟ้องไหม"

"มึงก็บ้า เขาไม่รู้แล้วจะฟ้องมึงได้ไง"

"แต่ถ่ายมุมนี้มันไม่ค่อยเห็นหน้าเลยว่ะ เมื่อกี้กูลองเดินวนแอบมองแล้ว งานดีมาก แกล้งเป็นลมต่อหน้าเขาดีไหมวะ เผื่อจะได้พ่อของลูก"

"อีบ้า! ลองขอถ่ายรูปก่อนดิ ถ้าไม่ได้ค่อยแกล้งสลบ แต่กูขอแกล้งชนก่อนได้ป่ะ อยากสัมผัสแบบเนื้อแนบเนื้อ เห็นแค่หลังตอนนี้ก็รู้แล้วว่าอบอุ่น กรี๊ด! "

ผมเลิกคิ้วมองรุ่นพี่สาวทั้งสองคนที่คุยกันอย่างออกรส ก่อนจะเลื่อนสายตามองไปยังตำแหน่งที่เป็นเป้าหมายของคนทั้งคู่ แล้วก็ต้องเบิกตาโตขึ้นด้วยความตกใจ

"อ้าว! บลู มาตั้งแต่เมื่อไหร่ จริงสิ! ให้บลูไปถ่ายให้ดีเปล่าวะ ผู้หญิงออกตัวแรงแล้วไม่งามนะมึง"

พี่จันทร์หันมาทางผมด้วยท่าทีตื่นเต้น ส่วนพี่เลมอนก็ชักสีหน้าออกมา

"จะทำอะไรก็ทำ เดี๋ยวเขาเดินไปอดแล้วนะมึง! กูจะไม่ทน! ไม่ต้องอยู่ในชีวิต แค่ในสายตาสักวินาทีก็พอ! "

"โอ๊ย! อยากได้ผู้ชายคนนี้! "

ผมกะพริบตามองท่าทางของพี่เลเมอนกับพี่จันทร์ที่กำลังพร่ำเพ้อด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก แล้วหันไปมองผู้ชายตัวสูงที่เหมือนกำลังจะเดินห่างออกไปอย่างปลงตก

"ถ้าพี่อยากถ่ายรูปเขา เดี๋ยวผมบอกให้ไหมครับ"

ผมเสนอความช่วยเหลือให้รุ่นพี่ทั้งสองคนที่พร้อมใจกันหันมามองผมด้วยสายตาที่เป็นประกาย

"ดีเลยน้องรัก! ฝากด้วยนะ! "

"เดี๋ยวพี่ซื้อขนมเลี้ยงนะบลู แต๊งกิ้ว! "

ผมพยักหน้ารับ แต่ไม่ได้รับโทรศัพท์มือถือของพี่จันทร์กับพี่เลมอนที่ยื่นมาให้ ทว่าเลือกที่จะเดินตรงไปหาเป้าหมาย โดยที่มีรุ่นพี่สาวทั้งสองคนเดินตามมาติดๆ อย่างลุ้นระทึก

ผมไม่ได้เอ่ยเรียก แต่ดึงแขนของคนตรงหน้าอย่างเสียมารยาท และเมื่อเขาหันกลับมา นัยน์ตาสีดำก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าหล่อวาดรอยยิ้มขึ้น

"บู้"

"มาเดินเล่นหรือครับ ไหนว่ากลับวันนี้"

"กลับมาเมื่อเช้า แล้วก็มารอรับบู้ด้วย ของฝากอยู่ในรถนะ"

พี่ลิงก์บอกพร้อมกับขยี้หัวของผมจนยุ่ง ก่อนที่เขาจะเลื่อนสายตาไปมองพี่จันทร์กับพี่เลมอนที่มองมาตาค้าง ผมเลยถือโอกาสบอกจุดประสงค์ที่เดินเข้ามาทักในครั้งนี้

"นี่พี่ที่ทำงานครับ พี่จันทร์กับพี่เลมอน พอดีเขาอยากถ่ายรูปกับพี่อ่ะ ได้หรือเปล่า"

พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้นมองผม แล้วหันไปมองรุ่นพี่ที่กำลังหน้าแดงยืนบิดไปบิดมาอีกครั้ง ผมลอบถอนหายใจออกมาอย่างทำตัวไม่ค่อยถูก

"อืม ได้ดิ"

หลังจากได้รับการตอบรับ ทั้งพี่จันทร์กับพี่เลมอนก็ใช้โอกาสที่ได้มาอย่างคุ้มค่า ทั้งถ่ายรูปเดี่ยว รูปคู่ รูปรวม โดยที่มีผมคอยเป็นตากล้องให้ครับ

"ขอบใจนะบลู"

พี่จันทร์บอกด้วยรอยยิ้ม ผมก็พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน

"ถ้ายังไง ถ่ายรูปให้ผมด้วยได้ไหมครับ"

เสียงของพี่ลิงก์ ทำให้สมาชิกจากสถาบันสอนพิเศษ B ทั้งหมดหันไปมอง เขาส่งยิ้มหว่านเสน่ห์มาให้พร้อมกับโทรศัพท์มือถือ

"ด...ได้ค่ะ! "

พี่เลมอนรับมาด้วยความประหม่า ก่อนที่ผมจะสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อถูกพี่ลิงก์กอดคล้องคอมาจากด้านหลังอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผมตาโตขึ้นพร้อมกับปั้นหน้าไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ หน้าร้อนไปหมดแล้วครับ!

“ถ่ายได้เลยครับ”

พี่เลมอนกับพี่จันทร์ยืนอึ้ง ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์แสดงสีหน้าแบบไหน แต่แก้มนิ่มที่กำลังแนบแก้มของผมตอนนี้ก็ทำให้สมองของผมเบลอไปหมดแล้วครับ!

“ค…ค่ะ”

ผมได้แต่ยืนนิ่งค้างเป็นรูปปั้น จนกระทังพี่ลิงก์รับโทรศัพท์มือถือคืน แล้วเรียกให้ผมดูรูปที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อครู่นี้ด้วยกันนั่นแหละครับ สติของผมถึงได้กลับมาอีกครั้ง

“บู้หน้าตลก”

ผมไม่ได้ตอบรับอะไร ทำได้แต่ยืนมึน ก่อนจะถูกพี่ลิงก์บีบแก้มจนต้องร้องออกมา ผมชักสีหน้าใส่ แต่คนประทุษร้ายก็แค่ยิ้มร้ายกลับ

"ผมเจ็บนะ! "

“ก็บู้หลับในอ่ะ”

ผมได้แต่ลูบแก้มของตัวเองปอยๆ แล้วมองพี่ลิงก์ด้วยสายตาขุ่นเคือง

“แล้วนี่เลิกงานแล้วเหรอ ไหนบอกเลิกหกโมง”

“มาพัก มีสอนตอนสี่โมงครับ”

“อืม เดี๋ยวไปดูหนังรอ”

“ครับ”

พี่ลิงก์ดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ แล้วเงยหน้ามองผมพร้อมกับส่งถุงเสื้อผ้าจากร้านที่กำลังถืออยู่มาให้ผมรับไปถือต่อ

"อีกสิบนาทีหนังเข้าแล้ว ลิงก์ฝากถุงนี่ด้วย ไม่อยากถือไป เกะกะ"

"ครับ"

พี่ลิงก์หันไปยิ้มให้พี่จันทร์กับพี่เลมอนเล็กน้อยเป็นการบอกลา

หลังจากที่พี่ลิงก์เดินจากไป ผมก็ถูกพี่สาวร่วมงานทั้งสองคนรุมทึ้งต่อครับ

“นี่มันอะไรกัน!!! อย่าบอกว่าแค่คนรู้จัก เพราะพี่ไม่เชื่อ!!!”

“โธ่! ไม่นะ! ผู้ชายหน้าตาดีที่หายากยิ่งกว่าทองคำ! อย่านะ! อย่าเป็นอย่างที่คิด! บลูอย่าทำร้ายพี่! ได้โปรด!”

ผมมองท่าทางทุรนทุรายกับสีหน้าราวกับโลกจะแตกของพี่จันทร์กับพี่เลมอนอย่างทำตัวไม่ถูก ก่อนจะถูกสองสาวเขย่าไปมา นอกจากจะทั้งอายทั้งเขินแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มมึนด้วยครับ

"พี่พร้อมแล้วบลู! ถึงความจริงจะเลวร้าย! แต่พี่จะยอมรับ! "

"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แค่หัวใจสลายเท่านั้นเอง บอกมาเถอะ ทำให้พี่ตาสว่างที! "

ผมได้แต่กลอกตาไปมาอย่างไม่มั่นใจ ถึงจะเขินจนไม่กล้าบอก แต่ตอนนี้จะหาข้ออ้างอะไรก็นึกไม่ออกด้วย ผมสบตากับพี่จันทร์และพี่เลมอนที่มองมาอย่างกดดัน สุดท้ายเลยจำใจบอกความสัมพันธ์กับพี่ลิงก์ด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม

"เอ่อ...คือ เขาเป็นแฟนผมครับ"

ผมมองสีหน้าสะเทือนใจของรุ่นพี่ทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มแหย เพราะตอนนี้ทั้งพี่จันทร์และพี่เลมอนทำหน้าเหมือนจะตายไปแล้วครับ

"กูเกิดมาทำไม! ผู้ชายได้กันเอง! ผู้หญิงอย่างกูเกิดมาทำไม!!! "

"อิจฉาที่สุด! บลูทำบุญด้วยอะไร! บอกพี่มาเดี๋ยวนี้! "







TBC ++++++

Marionetta;
ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกกำลังใจ และทุกการติดตามค่ะ

ปล. เห็นพี่ลืงก์เรียกแต่บู้ พอใช้บลูแล้วไม่ชินเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 16 - 20/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 26-06-2019 22:57:42
 :really2: :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 27-06-2019 00:00:07
555 แอบมาเซอร์ไพรส์,,,
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 27-06-2019 02:40:52
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 27-06-2019 04:43:25
ลิงค์น่ารัก
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-06-2019 10:13:47
ขำสองสาว 555
ดีใจที่บลูกล้าพูดความจริง
เรื่องจะได้ไม่ยุ่งยาก
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 29-06-2019 12:29:47
"ผู้ชายได้กันเอง ผู้หญิงอย่างกูเกิดมาทำไม" ตรงนี้คืออย่างฮา5555
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 06-07-2019 10:07:57
แวะมาแก้คำผิดค่ะ จะพยายามมาอัพให้ทันในอาทิตย์หน้าค่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 06-07-2019 21:41:45
จะว่าไปลิงซ์ก็ยอมให้บู้หลายอย่างเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 08-07-2019 02:34:00
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai4: :katai4: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 16-07-2019 22:19:23
Level 18: แฟนสไตล์





ผมนัดเจอกับพี่ลิงก์หลังเลิกงานที่ร้านอาหารในห้างครับ หลังจากกินอาหารเย็นด้วยกันเสร็จ เขาก็มาส่งผมที่หอพัก แล้วเอาของฝากให้ด้วย

"เม็ดบัวอบแห้ง ลิงก์ลองกินแล้ว อร่อยดี"

"ขอบคุณครับ แล้วพี่ไม่ขึ้นห้องเหรอ"

ผมรับถุงของฝาก แล้วมองพี่ลิงก์อย่างแปลกใจ เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ดับเครื่องยนต์อย่างที่คิด เขายกมือมาบีบแก้มของผมเล่นพร้อมกับเสียงทุ้มที่ดังขึ้น

"หนีมาหาบู้อ่ะ อยู่นานไม่ได้ เดี๋ยวโดนบ่น"

"อ่า...ครับ"

ผมลูบแก้มที่โดนทำร้ายเท่าไหร่ก็ไม่ชินอย่างเข้าใจ ก่อนจะลงจากรถ ทว่ายังไม่ทันได้เปิดประตู เสียงของพี่ลิงก์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง

"จะไม่อ้อนหน่อยเหรอ"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง ไม่รู้ทำไม คำว่า 'อ้อน' ถึงทำให้ผมใจสั่นขึ้นมากะทันหัน ภาพเมื่อหลายวันก่อนวิ่งเข้ามาในความคิดทันทีเลยครับ

"ผมว่า พี่กลับไปพักผ่อนดีกว่า เพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ "

"หึ....ไล่เหรอ พอเป็นแฟนกันแล้ว มึงก็คงไม่สนใจกูเท่าเมื่อก่อนแล้วใชไหม"

ผมได้แต่นั่งอึ้ง พี่ลิงก์ตีหน้านิ่งใส่พร้อมกับมือที่ปล่อยแขนของผมออก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเป็นเลิฟคอเมดี้แต่ทำไมตอนนี้กลายเป็นดราม่ากระชากอารมณ์ไปได้

"คือว่า..."

"คนซื่อบื้อแบบมึง ไม่เข้าใจหรอก"

ผมกลอกตาไปมา ก็ไม่เข้าใจจริงๆ นั่นแหละครับ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ยอมปล่อยให้เราสองคนจากกันด้วยความรู้สึกขุ่นมัวแน่ๆ ผมลอบถอนหายใจออกมาพร้อมกับจับมือของพี่ลิงก์เอาไว้แน่น นัยน์ตาสีดำสวยของเขาเลื่อนมามองอย่างไม่ค่อยพอใจนัก

"ผมไม่ได้ไล่พี่ แล้วก็สนใจพี่เหมือนเดิมครับ"

ผมมองอีกฝ่ายอย่างจริงจัง ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่า ความรู้สึกของพี่ลิงก์ตอนนี้คืออะไรหรือเขาอยากจะงี่เง่าขึ้นมา แต่ผมจะไม่ยอมให้คำพูดไม่ดีเหล่านั้นกล่าวหาตัวเองอย่างไร้เหตุผล

"ผมชวนพี่แล้ว แต่พี่ปฏิเสธไม่ใช่หรือครับ แล้วที่ผมไม่อ้อนให้พี่อยู่ต่อ เพราะผมไม่อยากเอาแต่ใจ ผมแคร์พี่มาก อยากให้พี่พักผ่อนเยอะๆ "

พี่ลิงก์ทำสีหน้าปั้นยาก เขาเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะดึงผมเข้ามาในอ้อมกอดพลางลูบหัวของผมเบาๆ

"เข้าใจแล้วครับ ลิงก์ผิดเอง"

ผมได้แต่นั่งงงอยู่ในอ้อมแขนของพี่ลิงก์ แล้วแอบฉวยโอกาสกอดตอบไปแบบเนียนๆ กลิ่นน้ำหอมก็ยังไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับไออุ่นจากร่างกายของเขา ถึงจะตกใจนิดหน่อยกับสัมผัสนี้ แต่ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

"พี่ลิงก์...."

"ลิงก์แคร์บู้เหมือนกันนะ แต่ลิงก์นิสัยไม่ดี ขอได้ไหม...ของี่เง่า เอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผลกับบู่ได้หรือเปล่าครับ"

ผมได้แต่นั่งนิ่งในอ้อมกอดของเขาแบบไม่ขยับเขยื้อนไปไหน อาจเป็นเพราะว่าผมไม่ได้ตอบรับอะไร พี่ลิงก์เลยคลายอ้อมแขนของตัวเองแล้วมองหน้าของผม

"บู้? "

เอ่อ...ที่เงียบไปคือไปสู่สุคติแล้วนะครับ ทำบุญด้วยรูปของพี่ลิงก์มาให้ผมด้วย!

พี่ลิงก์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะบีบแก้มของผมทั้งสองข้างบิดไปมาแบบไม่อ้อมแรงจนผมสะดุ้งร้องโวยวายออกมาเลยครับ

"โอ๊ย! "

"เมื่อกี้ได้ฟังไหมเนี่ย จะโกรธแล้วนะ"

"ฟังครับ ปล่อยแก้มของผมได้แล้ว"

"ถ้าฟังก็อย่าโวยวายสิ ก็บอกแล้วไงว่าจะเอาแต่ใจ"

"อื้อ! เจ็บอ่า! "

ผมได้แต่มองรอยยิ้มมุมปากของพี่ลิงก์ด้วยสายตาตัดพ้อ เพราะเขายังบีบแก้มของผมไปมาไม่ยอมปล่อย ผมเลยงัดไม้ตายขั้นสุดยอดออกมา

"ดาร์ลิงก์ ปล่อยแก้มบู้นะครับ"

พี่ลิงก์เม้มปากแน่น แล้วแทบจะปล่อยมือจากแก้มของผมทันที ผมก็ได้แต่ลูบคลำปลอบประโลมแก้มที่ถูกทำร้ายอย่างขุ่นเคืองปนระอาใจ

แก้มผมต้องเจ็บอีกกี่ครั้ง ถึงจะพอ ฮือ....

ผมหน้ามุ่ยออกมา แล้วตั้งใจจะลงจากรถอย่างไม่สนใจคนขับอีก แอบเคืองนะครับ แต่ไม่ได้โกรธ แล้วผมก็ไม่กล้าทำอะไรเขาคืนด้วย

ผมยังไม่ทันขยับตัวหนี มืออุ่นที่ทาบลงมาบนแก้มทั้งสองข้างก็ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความตกใจ ก่อนจะหลับตาปี๋เตรียมใจว่าแก้มคงจะโดนปู้ยี่ปู้ยำอีกแล้ว แต่ทว่าสิ่งที่ไดัรับนั้นเป็นสัมผัสอุ่นนุ่มที่แนบลงมาอย่างแผ่วเบาจนผมต้องลืมตาด้วยความประหลาดใจ

พี่ลิงก์หอมแก้มผม! ทั้งสองข้างด้วยอ่ะครับ!

พี่ลิงก์ส่งยิ้มให้ผม แล้วใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มของผมเบาๆ ราวกับปลอบใจที่ได้ทำร้ายมันอย่างเลือดเย็น

"เคยบอกแล้วไงว่าชอบแกล้งแฟนอ่ะ"

ทั้งที่ยังแอบไม่พอใจคนตรงหน้าอยู่ ทว่าน้ำเสียงเรียบเรื่อยและรอยยิ้มจางบนใบหน้าหล่อก็ละลายความขุ่นเคืองที่เคยมีไปจนหมด เพียงเพราะคำพูดแก้ต่างที่แสนเอาแต่ใจของเขาได้ทำร้ายหัวใจของผมตอนนี้

ไม่อยากให้พี่ลิงก์หยุดแกล้งเลยอ่ะครับ ฮือ....

ผมแทบจะน้ำตาตกในกับชะตากรรมที่ต้องเผชิญ หากยังอยากคบกับผู้ชายบ้าตุ๊กตาหมีคนนี้ ร่างกายอาจจะไม่ชินชาต่อความเจ็บปวด แต่หัวใจยอมศิโรราบไปแล้วครับ

"บู้อย่าเงียบ"

"ครับ แกล้งผมได้ตามสบายใจเลย"

"ประชด? "

"เปล่าครับ ก็ผมเป็นแฟนพี่ไม่ใช่หรือครับ"

ผมบอกด้วยน้ำเสียงเง้างอนพลางปลงตกในคราวเดียวกัน พี่ลิงก์ยกมือลูบหัวของผมอีกครั้ง นัยน์ตาสีดำมองมาอย่างอ่อนโยนมากกว่าเดิมจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูก

"มันเขี้ยว ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวเอากลับไปแกล้งต่อที่บ้านเลย"

ผมชักสีหน้าใส่พี่ลิงก์ ก่อนจะรีบลงจากรถ ถึงจะชอบมากขนาดไหน ก็ไม่อยากโดนบีบแก้มจนเละหรอกนะครับ

เป็นอะไรกับแก้มผมมากไหมเนี่ย....

ผมได้แต่บ่นอีกฝ่ายในใจ หลังจากลงจากรถเรียบร้อย ผมก็มองโฟล์คบีเทิลที่ยังจอดติดเครื่อง พี่ลิงก์เลื่อนกระจกฝั่งข้างคนขับลง แล้วยกมือบ๊ายบายผม

"คืนนี้ไม่โทรหานะ ต้องรีบพักผ่อนเยอะๆ อย่างที่บู้บอก"

"ครับ ฝันดีนะครับ"

ผมยกมือบ๊ายบายกลับ ผมว่าผมติดท่าทางแบบนี้ของพี่ลิงก์มาแล้วนะครับ ยังดีที่ยังไม่ได้คลั่งตุ๊กตาหมีแบบเขา

"ฝันดีครับบู้"

พี่ลิงก์เลื่อนกระจกปิด แล้วพาโฟล์คบีเทิลสีดำขับออกไป ผมถอนหายใจออกมา ตอนนี้ไม่ได้เจ็บแก้มแล้ว แต่หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด

เจ็บแต่ก็ชอบมากเลยครับ เอ่อ...ชอบพี่ลิงก์นะครับ ไม่ได้ชอบความรุนแรง เฮ้อ...









@@@@@@@@@@









การทำงานพิเศษเดือนแรกผ่านพ้นไปด้วยดีครับ ส่วนพี่ลิงก์ก็เจอกันบ้างแล้วแต่เวลาจะสะดวก ผมไม่เคยไปหาที่บริษัท แต่เลือกที่จะมานั่งรอที่ร้านกาแฟในบริเวณนั้นแทน ผมยังไม่พร้อมเปิดตัว ถ้าหากบังเอิญไปเจอป๊าหรือพ่อของเขาที่ทำงานอยู่ที่นั่น

ก็ป๊อดนั่นแหละ....

ผมยังจำเรื่องของบุพการีทั้งสองของพี่ลิงก์ได้ดีครับ เรื่องเหลือเชื่อที่เขาเคยขู่ผมเอาไว้ก็เลือนหายไปบ้างแล้ว แต่ผมก็ยังกลัวเกรงอยู่ดี ถ้าหากพวกท่านกล่าวหาว่า ผมมาหลอกลวงลูกชายของพวกเขาเข้า ผมคงไปไม่เป็น

ถ้าจะคบผู้ชายสักคน พี่ลิงก์ก็ควรคบหากับคนที่หน้าตาดีกว่านี้หรือไม่ก็ฐานะดีกว่านี้

แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้เก็บเรื่องราวน่าน้อยใจมาคิดหรอกนะครับ ในเมื่อพี่ลิงก์ก็ยังคบกับผมอยู่ แล้วก็ยังไม่มีวี่แววจะเลิกราหรือหนีหายไปไหน ซึ่งตอนนี้ก็ครบหนึ่งเดือนแรกแล้วด้วยครับ

[พรุ่งนี้ลิงก์ลาหยุด]

พี่ลิงก์โทรมาบอกผมเกี่ยวกับวันครบรอบครับ เราสองคนไม่ได้นัดไปเที่ยวที่ไหน แต่เขาชวนผมไปที่คอนโดในวันหยุดงาน ทั้งที่ก็เคยไปมาแล้วสองครั้ง แต่ผมก็ยังตื่นเต้นมากอยู่ดี

"ได้ครับ"

[โอเค จะไปรับตอนเช้านะ]

"ครับ"

ผมวางสายของพี่ลิงก์ ก่อนจะเดินไปหาเป็ดที่นั่งรอกลับพร้อมกัน ผมตั้งใจว่าจะแวะซื้อของขวัญสักอย่างด้วยเงินเดือนแรกที่เพิ่งได้มา แต่ก็ไม่ได้ทุ่มทุนอะไรหรอกนะครับ เพราะผมคิดว่า พี่ลิงก์ก็ไม่ได้อยากได้ของแพงอะไรหรอก

"เป็ด มึงจะกลับก่อนก็ได้ เดี๋ยวกูจะเดินซื้อของหน่อย"

"ซื้ออะไรวะ นานป่ะ"

"ก็คงนานอ่ะ ต้องเดินดูก่อน มึงกลับก่อนเลยก็ได้"

เป็ดมองผมครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับ วันนี้มันเดินขาขวิดเลยครับ ทำนั่นทำนี่ไม่หยุด พี่นกใช้งานคุ้มมาก ถึงแม้ตอนแรกจะให้ทำงานฟรี แต่สุดท้ายพี่สาวก็ให้เงินเดือนน้องชายนะครับ

พี่น้องเป็นพวกปากร้ายใจดีกันทั้งคู่

"แล้วมึงจะกลับยังไง กูว่าฝนมันจะตกนะ"

"ก็นั่นแหละ มึงขับมอเตอร์ไซค์มา รีบกลับไปก่อนเลย เดี๋ยวขับลำบาก ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกูขึ้นแท็กซี่ ยังไงพรุ่งนี้ก็หยุดด้วย"

ช่วงนี้เริ่มเข้าฤดูฝนแล้วครับ อากาศแปรปรวน ร้อนบ้าง เย็นบ้าง ฝนตกบ้าง หากร่างกายปรับตัวไม่ไหวก็ป่วยได้ง่ายๆ เลยครับ

"อืม แต่ถ้าไม่มีรถกลับยังไง ก็โทรมา เดี๋ยวมารับ ฝนตกแม่งหารถกลับยาก"

"อืม ขอบใจ"

เป็ดพยักหน้ารับอีกครั้ง แล้วเดินแยกจากไปด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน ผมยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเริ่มเดินดูของที่ต้องการ

ถึงผมจะคบกับพี่ลิงก์ได้ครบเดือนแล้ว แต่ผมก็รู้เรื่องราวของอีกฝ่ายไม่มากเท่าไหร่ครับ สิ่งที่เขาคลั่งไคล้ ยังไงก็คงเป็นตุ๊กตาหมีนี่แหละ

ผมเดินเข้าไปในร้านขายตุ๊กตาอย่างใช้ความคิด แล้วชั่งใจว่าควรจะซื้อตุ๊กตาให้พี่ลิงก์ดีไหม ทั้งที่เขาก็มีเยอะอยู่แล้ว หรือผมควรจะซื้ออย่างอื่น?

ผมจ้องหน้าตุ๊กตาหมีสีขาวนิ่ง แต่จะว่าไป...ถ้าจะให้ของขวัญในวันครบรอบแบบนี้ก็น่าจะหาของที่ใช้คู่กันหรือเปล่า อย่างเช่นเสื้อคู่ รองเท้าคู่ หรืออะไรทำนองนั้น

ผมเดินออกจากร้านขายตุ๊กตา แล้วมองหาของอย่างอื่นต่ออย่างครุ่นคิด ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าร้านขายเคสโทรศัพท์มือถือ ผมยืนดูอยู่สักพัก โดยมีสายตาของคนขายเฝ้ามองพร้อมกับพยายามแนะนำสินค้าของตัวเองไปด้วย

ผมไม่ได้สนใจเสียงของพ่อค้าเท่าไหร่นัก สมองก็พยายามกลั่นกรองไอเดียที่มีอยู่น้อยนิดออกมาอย่างเต็มที่ แล้วตัดสินใจซื้อเคสพลาสติกสีดำเรียบธรรมดามาสองอันให้ตรงรุ่นของพี่ลิงก์และของตัวเอง หลังจากนั้นก็เดินไปที่ร้านขายของเบ็ดเตล็ดต่อเพื่อซื้อสติกเกอร์รูปต่างๆ ที่เหมือนกันสองชุดครับ

ผมจะทำเคสโทรศัพท์มือถือคู่แบบแฮนด์เมด เนื่องจากทักษะด้านศิลปะมีอยู่น้อยนิด ก็เลยใช้สติกเกอร์มาเป็นตัวช่วยตกแต่งครับ

หลังจากที่ได้ของที่ต้องการครบถ้วน ผมก็ไปหามื้อเย็นลงท้องก่อนกลับห้องของตัวเอง และเมื่อถึงเวลาที่ต้องกลับ อากาศชื้นแฉะที่เป็นร่องรอยของฝนที่ตกไปแล้วก็ทำให้ผมผ่อนลมหายใจออกมา

โชคดีที่ฝนหยุดตกแล้ว...

ผมเดินทางด้วยรถเมล์ที่ยังมีผู้โดยสารหนาแน่น ทั้งที่เวลาใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว เมื่อถึงห้องพัก ผมก็จัดการธุระส่วนตัว แล้วเริ่มลงมือทำงานของตัวเองทันที โดยที่ก่อนหน้านี้ได้ออกแบบลวดลายบนเคสโทรศัพท์มือถือในความคิดตั้งแต่ที่เลือกซื้อสติกเกอร์ในร้านขายของแล้ว

ผมใช้เวลาแค่ยี่สิบนาที ของขวัญครบรอบของผมกับแฟนคนแรกในชีวิตก็เสร็จ ผมชื่นชมผลงานของตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะใส่กล่องของขวัญให้เรียบร้อยพร้อมส่งครับ

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาติดต่อพี่ลิงก์อย่างที่ทำเป็นประจำทุกคืน ทว่าสัญญาณที่ไร้การตอบสนองของอีกฝ่ายก็ทำให้ผมนึกแปลกใจ สุดท้ายก็เลือกที่จะส่งข้อความไปหาแทน แล้วเข้านอนครับ

ยังไงพรุ่งนี้ก็ได้เจอกันแล้ว...









@@@@@@@@@@









ในขณะที่ร่างกายกำลังพักผ่อน ผมก็ต้องตื่นขึ้นมากะทันหันเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ผมปรือตาขึ้นมาเล็กน้อยเพราะความง่วงที่มีอยู่เต็มเปี่ยม ทว่าเมื่อเพ่งสายตาจ้องมองหน้าจอที่สว่างในความมืด นัยน์ตาที่สะลึมสะลือก็พลันเบิกกว้างขึ้นทันที

พี่ลิงก์?!

ผมรีบกดรับสายด้วยความง่วงผสมความงง ยังไม่ได้พูดอะไร เสียงของอีกฝ่ายก็ยิ่งทำให้ผมตาโตขึ้นกว่าเดิม

[บู้ มารับแล้ว]

"ฮะ? "

ผมกะพริบตาอย่างพยายามตั้งสติ ก่อนจะรีบลุกจากเตียง แล้ววิ่งออกจากห้องด้วยความสับสนพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ หลังจากได้ยินเสียงของพี่ลิงก์

[รออยู่ข้างล่างครับ]

ผมแทบจะวิ่งลงบันไดมายังชั้นล่าง ทว่าพอมองซ้ายมองขวาก็ยังไม่เห็นใครหรือรถโฟล์คคันคุ้นตา ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะดังจากปลายสาย

[วิ่งลงมาเหรอ ฮ่าๆ]

"พี่ลิงก์! "

นี่อำผมเล่นหรือไงวะ!

ผมชักสีหน้าออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะชะงักความขุ่นเคือง เมื่อทบทวนคำพูดของพี่ลิงก์อีกครั้ง เขารู้ว่าผมวิ่งลงมา ก็แสดงว่าอยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอ

นี่มันไม่ใช่เวลามาเล่นวิ่งไล่จับนะครับ!

"พี่อยู่ที่ไหนครับ"

ผมกวาดสายตามองไปรอบตัว แต่เพราะความมืดเลยเห็นสิ่งรอบข้างไม่ชัดเจนเท่าที่ควร

[มาตรงรถสีขาวดิ]

ผมเลิกคิ้วขึ้น สายตาก็มองฝ่าความมืดที่มีแสงจันทร์และเสาไฟนำทาง บริเวณนี้มีหอพักจำนวนหนึ่งครับ เลยมีรถยนต์หลายคันจอดอยู่ แล้วรถยนต์สีขาวที่เกลื่อนเมืองก็มีอยู่หลายคัน แต่สายตาของผมก็สะดุดเข้ากับรถสปอร์ตคันหนึ่งเข้า

ถึงจะไม่เคยเห็นพี่ลิงก์ใช้รถนอกราคาแพงแบบนี้มาก่อน แต่คนมีเงินจะขับอะไรก็ได้ไม่ใช่หรือครับ

[เดินไปทางไหนอ่ะ]

ผมชะงักฝีเท้าที่กำลังเดินไปยังรถยนต์ที่เล็งเอาไว้ ความไม่พอใจเกิดขึ้นมาอีกครั้งและจางลง หลังจากเริ่มปรับอารมณ์ด้วยการถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"พี่เล่นอะไรเนี่ย นี่มันกี่โมงครับ รู้หรือเปล่า"

นี่มันตีหนึ่งนะเว้ย!!!

พี่ลิงก์หัวเราะออกมาผ่านสายโทรศัพท์ ก่อนน้ำเสียงที่บ่งบอกความอารมณ์ดีจะดังขึ้นต่อ

[ก็บอกว่าจะมารับตอนเช้าไง ลิงก์ผิดอะไรครับ]

ผมพูดอะไรไม่ออก แต่จะให้ยืนเคว้งคว้างอยู่บนถนนก็ใช่เรื่อง แล้วพี่ลิงก์ก็คงแกล้งผมไม่หยุดจนกว่าจะสาแก่ใจของเขานั่นแหละ

โอ๊ย! นี่ผมนอนได้ไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ! แล้วทำไมต้องมาเดินหารถเหมือนโจรด้วยวะ?!

ผมนึกโมโหและปลงตกในคราวเดียวกัน ก่อนจะก้าวเท้าไปข้างหน้าอีกครั้ง ผมก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นรถคันไหน อย่างมากก็แค่เดินไปหารถยนต์สีขาวทุกคันในบริเวณนี้เท่านั้นเอง

"พี่แกล้งผม"

ผมบ่นออกมาอย่างอดไม่ได้ เสียงหัวเราะแผ่วเบาตอบรับ ทุกก้าวที่เดินมีทั้งความไม่มั่นใจและพะวง หวังว่าจะไม่มีใครมาเอาเรื่องกับผมที่ทำพฤติกรรมน่าสงสัยกลางดึกแบบนี้นะครับ

[จะได้หายง่วงไง]

"ผมตาสว่างตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงของพี่แล้ว"

[งั้นเหรอๆ]

น้ำเสียงกวนมากครับ หึ! อย่าให้ถึงทีของผมบ้าง ผมจะ...จะ...จะอะไรก็ช่างมันก่อนก็แล้วกัน!

[ว่าแต่...จะเดินไปไหนอ่ะ หลงทางแล้ว]

ผมขมวดคิ้วแต่ก็ยังไม่หยุดเดิน ถ้าไม่ใช่รถสปอร์ตที่เล็งเอาไว้ก็ถือว่ามาชมความแพงของมันอย่างใกล้ชิดก็แล้วกัน

"ถ้าไม่ใช่ ก็แค่เดินไปหาคันอื่นต่อ"

พี่ลิงก์เงียบไป ผมไม่ได้สนใจเสียงจากโทรศัพท์มือถือที่กำลังถือแนบหูอีก ยังไงอีกฝ่ายก็คงเฝ้ามองดูอยู่ ผมมองตรงไปยังรถยนต์สีขาวสวยที่จอดอยู่ไม่ไกล จนกระทั่งมาหยุดยืนอยู่ค้านข้างของรถหรู แล้วเพ่งมองด้านในอย่างสงสัย

ไม่มีใคร… พลาด?

ผมชะโงกหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นเพื่อมองภายในรถอีกครั้ง แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อความเงียบถูกทำลายด้วยเสียงที่ดังอย่างไม่ทันคาดคิด

ติ๊ดๆ

เสียงปลดล็อกรถที่ดังขึ้น ทำให้ผมผงะถอยเท้าออกห่างโดยอัตโนมัติ แล้วก็ต้องเกร็งตัวขึ้น เมื่อถูกกอดเอาไว้จากด้านหลังแบบไม่ทันตั้งตัว

"ทำไมคิดว่าคันนี้อ่ะ"

เสียงทุ้มที่เคยส่งผ่านโทรศัพท์มือถือก่อนหน้านี้ดังขึ้นที่ข้างหู ผมเผลอกลั้นหายใจ เมื่อตอนนี้สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนที่พัดผ่านแก้มของตัวเอง ผมตั้งใจจะหันหลังไปมองคนชอบแกล้ง แต่อ้อมแขนของเขาก็กระชับแน่นขึ้นกว่าเดิม

"พี่ลิงก์"

"ตอบมาก่อน ทำไมเลือกคันนี้"

"ก็พี่รวยไง"

พี่ลิงก์หัวเราะกับคำตอบของผมพร้อมกับคลายพันธนาการของตัวเอง ทำให้ผมหันไปมองตากับเขา

พี่ลิงก์ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้นกับรองเท้าแตะทั่วไป แต่ก็ยังดูดีเสมอต้นเสมอปลายครับ

"พี่ไม่รวย แต่ป๊ารวย"

พี่ลิงก์ยืนพิงกระโปรงหน้ารถด้วยรอยยิ้ม นัยน์ตาสีดำมีประกายบางอย่าง ก่อนจะจางหายไป ผมตั้งใจจะถามเรื่องรถสปอร์ตคันนี้เพราะไม่เคยเห็นเขาใช้มาก่อน ทว่าอีกฝ่ายกลับตั้งคำถามขึ้นมาเสียก่อน

“ทำไมถึงยอมทำตามที่บอก มาเดินแบบนี้ มันดูงี่เง่าจะตาย"

ก็ใช่น่ะสิ! เสียอารมณ์แล้วก็เสียเวลา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็มีคำตอบของการกระทำโง่ๆ ของตัวเองในใจอยู่แล้วครับ

“เพราะเป็นพี่ลิงก์”

เพราะเป็นผู้ชายคนนี้ ผมถึงได้ยอมทำตัวบ้าบอแบบไร้เงื่อนไข ถ้าหากเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว อย่าหวังว่าผมจะขยับตัวออกจากเตียงเลย สายก็ไม่รับหรอก แถมยังด่าคนมารยาททรามรบกวนเวลานอนอีกต่างหาก

พี่ลิงก์ยกมือขึ้นลูบหัวของผม เขายังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า สายตาที่ส่องสว่างในความมืดจ้องมองนิ่งจนผมเริ่มทำตัวไม่ถูกอีกครั้ง

“บู้ซื่อบื้อ”

ถึงจะเป็นคำต่อว่า แต่น้ำเสียงของพี่ลิงก์กลับอ่อนโยนจนหัวใจของผมเคลิบเคลิ้ม มือที่เคยลูบหัวของผมเลื่อนมาจับที่ต้นแขน ก่อนที่จะดึงผมเข้ามาใกล้ เขาก้มหน้าลงจนปลายจมูกของเราสองคนชนกัน ผมเม้มปากแน่นด้วยความเขินที่วิ่งทั่วใบหน้ากับความใกล้ชิดนี้

“แต่ลิงก์ก็ชอบมากเลยครับ”

พี่ลิงก์ไม่อ่อนโยนต่อหัวใจของผมเลย! ฮือ.... ฟินจังเลยครับ!









@@@@@@@@@@









ในช่วงบ่ายแก่ภายในห้องทำงานของประธานบริษัท ลิงก์ลอบมองผู้ที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดของตึกหลังนี้อย่างพิจารณา เมื่อแน่ใจว่า อีกฝ่ายกำลังอู้งาน เขาจึงเอ่ยถึงเรื่องที่คิดอยู่ในใจ

“ป๊าถามอะไรหน่อยสิ”

“ว่าไง”

“ป๊าจีบพ่อก่อน แต่พ่ออ่อยป๊าก่อนใช่ไหม”

ลิงก์นึกถึงความทรงจำที่อีกฝ่ายเคยถ่ายทอดให้ฟัง

“อืม อย่าหลุดปากให้พ่อรู้ล่ะ เขินขึ้นมาแล้วไม่ทำอะไรให้กิน จะซวยกันหมด”

เล้งส่งสายตาจริงจัง ลิงก์ก็พยักหน้ารับ

“แล้วคบกันใหม่ๆ เป็นยังไงบ้าง”

“ก็มีเรื่องอยู่บ้าง พ่องอนเก่ง ป๊าต้องโอ๋อยู่เรื่อย แต่บางทีป๊าก็แกล้งให้พ่อมาง้อบ้างเหมือนกัน ว่าแต่…ทำไมถึงถามเรื่องแบบนี้ มีอะไรหรือเปล่า”

เล้งเลิกคิ้วมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างสงสัย ลิงก์ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร

“เปล่าป๊า ลิงก์ก็แค่ถามดูเฉยๆ”













TBC+++++++

Marionetta:
สำหรับตอนนี้ก็ยังมาแบบหวานเบาๆ อ่ายเพลินๆ ชีวิตจริงมันเครียดพอแล้ว นิยายก็ให้สบายๆ กันเนอะ อิอิ พี่ลิงก์ชอบแกล้งน้อง แต่การแกล้งแต่ละครังก็ทดสอบอะไรบางอย่างไปด้วยล่ะนะ สู้ๆ นะบู้!

ขอบคุณที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้เสมอมาค่ะ ^^ รัหษาสุขภาพกันด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 17 - 26/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 16-07-2019 22:20:28
 o18 o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 18 - 16/07/19
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 16-07-2019 22:48:41
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 18 - 16/07/19
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 16-07-2019 23:59:48
มาแล้ว. อยากเห็นเคสคู่บ้างว่าเป็นแบบไหน?? 555
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 18 - 16/07/19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 17-07-2019 11:05:06
 :L2: :L1: :pig4:

สู้สู้
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 18 - 16/07/19
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-07-2019 20:51:30
น้องบู้ของพี่ลิงค์น่ารัก
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 18 - 16/07/19
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 17-07-2019 22:11:53
น่ารักจัง :กอด1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 18 - 16/07/19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 27-07-2019 10:02:07
แวะมาแก้ไขคำผิกค่ะ จะพยายามปั่นตอนหน้าให้ทันอาทิตย์หน้าค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 18 - 16/07/19
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 01-08-2019 10:10:03
+1 o13 ขอบคุณมากครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 1 > 02-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 02-12-2019 14:17:52
แก้ไขตอนที่ 1 จ้า
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 1 > 02-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 04-12-2019 13:05:47
อัพตอนที่ 3 ค่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 3 > 04-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 04-12-2019 17:45:44
เห็นแค่ ตอน 1-3 ที่เหลือ ไปไหน เห็นแต่ชื่อตอน  ?????
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 3 > 04-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: lovenine ที่ 04-12-2019 17:48:54
รอจ้า รอยุนะ ^^
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 3 > 04-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 09-12-2019 18:33:32
มาต่อแล้วค่ะ จอนต่อไปก็จะมาเรื่อยๆ ต่ะ :z10:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 6 > 10-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 10-12-2019 13:22:10
มาลงเพิ่มอีก 2 ตอนค่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 6 > 10-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 13-12-2019 13:29:59
มาลงอีก 3 ตอนจ้า
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 9 > 13-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-12-2019 20:58:47
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 9 > 13-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 16-12-2019 13:29:22
ใาลงอีก 3 ตอนจ้า
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 12 > 16-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 20-12-2019 09:32:54
:pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 12 > 16-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 20-12-2019 13:09:05
มาเรื่อยๆ ทีละ 3 ตอนจนกว่าจะถึงตอนล่าสุดค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 15 > 20-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 25-12-2019 13:14:50
มาอีก 3 ตอนค่า ขอบคุณทุกคนที่ติตเาม ฝากให้กำลังใจกันต่อไปด้วยนะคะ  :man1:
Happy Christmas   :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 18 > 25-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 25-12-2019 16:30:08
อ่านไปเขินไป  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 18 > 25-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 27-12-2019 22:40:24
รอ

ลุ้น

อยู่


จ้า
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ [EDIT VER.] Level 18 > 25-12-19
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 03-01-2020 16:23:40
Level 19: ยั่วเย้า





พี่ลิงก์พาผมไปถึงคอนโดของเขาในเวลาเกือบตีสองครับ เพราะผมถูกเร่งเลยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาก นอกจากคว้าเสื้อผ้ามาเปลี่ยนชุดหนึ่งและของขวัญที่ทำเอาไว้ใส่กระเป๋าเป้

เมื่อผมเดินตามพี่ลิงก์เข้ามาด้านใน ก็ต้องนึกประหลาดใจ เพราะมอร์แกนที่ยืนประจำหน้าประตูหายไป และพอกวาดสายตาไปทั่วก็ไม่เห็นตุ๊กตาสักตัว แม้กระทั่งโจแอนที่มักจะอยู่ตรงโซฟาเสมอ

"ตุ๊กตาหายไปไหนหมดครับ"

ผมหันไปมองพี่ลิงก์อย่างสงสัย การหายไปของเหล่าตุ๊กตาหมี ทำให้บรรยากาศในห้องต่างออกไปจากเดิมจนรู้สึกได้

"เอากลับไปซัก แล้วก็อยู่ที่บ้าน ตอนนี้ลิงก์ไม่ได้อยู่นี่ไง เอาไว้เปิดเทอมค่อยเอามาอยู่ด้วยกันใหม่"

ผมไม่ได้ต่อบทสนทนาอีก หลังจากนั่งลงบนโซฟาก็ต้องรู้สึกแปลกที่ไม่ได้อิงแอบโจแอนอย่างที่เคย โซฟาดูกว้างกว่าเดิมเยอะเลยครับ

"บู้หิวป่ะ"

"ไม่ครับ ผมง่วงมากกว่า"

ตอนที่ได้นั่งรถสปอร์ตครั้งแรกในชีวิตก็ตื่นเต้นอยู่ครับ แต่พอผ่านไปสักพักเจอแอร์เย็นและเบาะที่นุ่มสบายก็เกือบจะหลับอยู่หลายรอบ แต่การพูดคุยเกี่ยวกับรถหรูก็ช่วยพาสติของผมให้ตื่นจนถึงตอนนี้

รถยนต์ที่พี่ลิงก์ขับมารับผมเป็นรถสปอร์ตของป๊าครับ ดูเหมือนว่าที่บ้านจะมีหลายคัน พี่ลิงก์เลยขอยืมมาขับเล่นแบบเฉพาะกิจ ซึ่งโดยปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบรถราคาแพงแบบนี้เท่าไหร่

หลังจากที่ได้รู้จักกับพี่ลิงก์อย่างใกล้ชิดมาระยะหนึ่ง ผมก็เริ่มสงสัยในบางอย่างขึ้นมา บางทีเขาก็ดูใช้เงินเก่งไม่ต่างจากลูกคนรวยทั่วไป แต่บางครั้งก็ทำตัวธรรมดาจนผิดวิสัย ถึงอีกฝ่ายจะบอกว่าไม่ชอบรถในฝันราคาหลักล้านจนดูน่าหมั่นไส้ แต่รถส่วนตัวที่ใช้ประจำก็ราคาไม่เบาเช่นกัน

เอาเถอะ...ยังไงมีเงินอยากจะขับอะไรก็ได้อยู่ดีนั่นแหละครับ

"ง่วงก็นอนดิ"

พี่ลิงก์ยืนมอง ผมก็ได้แต่ฝืนเปลือกตาของตัวเอง เมื่อร่างกายชักจะทนไม่ไหว ตักของโจแอนไม่มีแล้ว ผมจะหนุนอะไร หรือต้องใช้เป้ที่วางอยู่ตรงนี้แทนหมอนชั่วคราวไปก่อน

"งั้นผมนอนนะ"

ถ้าจะไปรับให้มานอนแบบนี้ ก็ไม่ต้องรีบไปรับก็ได้ไหมล่ะครับ

แกล้งกันชัดๆ ...

ผมได้แต่บ่นอีกฝ่ายในใจพลางตั้งท่าหาทำเลนอน ในขณะที่ผมกำลังใช้เป้วางต่างหมอนของตัวเอง เสียงของพี่ลิงก์ก็ดังขึ้น

"อยากนอนในห้องลิงก์ป่ะ"

"...ไม่เป็นไรครับ ผมนอนตรงนี้ดีกว่า"

ถึงสติจะเริ่มขาดหายไปกับความง่วง แต่ความทรงจำยังดีอยู่ครับ ผมไม่รู้ว่าคำพูดของพี่ลิงก์ในตอนนั้นจริงหรือหลอก แต่ยังไงก็ยังไม่พร้อมรับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าหากผมตัดสินใจเอาตัวเองไปนอนในห้องของเขา

พี่ลิงก์หัวเราะในลำคอ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อมหมอนกับผ้าห่ม

"ใช้หมอนนี่ จะหนุนเป้ทำไมวะ"

"ขอบคุณครับ"

ผมรับหมอนกับผ้าห่มของเขามาใช้แทน กลิ่นหอมบางอย่างทำให้เผลอสูดลมหายใจเข้าลึกอย่างไม่รู้ตัว ผมขยับตัวอีกเล็กน้อย โดยที่ยังฝังตัวเองอยู่กับกลิ่นหอมของเครื่องนอนที่ได้รับมา

"หมอนกับผ้าห่มของพี่หอมจัง ใช้น้ำยายี่ห้อไหนอ่ะ ผมจะเอาไปใช้บ้าง"

ผมถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้น เขายิ้มออกมา ก่อนจะโถมเข้ามานอนทับเต็มตัวจนผมต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

"เฮ้ย! พี่..."

"ลองดมดิ ใช่กลิ่นนี้หรือเปล่า"

พี่ลิงก์ขยับซอกคอของตัวเองให้ตรงกับปลายจมูกของผม ตอนนี้น้ำหนักที่ทับลงมาไม่ใช่ปัญหาเท่ากับความใกล้ชิดแบบเอ็กคลูซีฟที่อีกฝ่ายยัดเยียดมาให้จนหายง่วง หัวใจเต้นกระหน่ำเหมือนใกล้จะระเบิดแล้วครับ!

"เป็นไง กลิ่นเดียวกันป่ะ"

อ๊ากกกก!

พี่ลิงก์! ถ้าจะทำแบบนี้ เอามีดมาปาดคอกันเลยดีกว่า ฮือ....

ผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะเป็นบ้า ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสของลมหายใจหรือเสียงกระซิบที่ข้างหูล้วนสร้างความเสียหายต่อความรู้สึกของผมจนย่อยยับ แต่ก่อนที่ทุกความอดทนจะหมดลง พี่ลิงก์ก็ขยับตัวออกห่างเล็กน้อย ใบหน้าหล่อก้มลงให้เราสองคนได้ประสานสายตากัน

"บู้หลับแล้วเหรอ"

ใครหลับลงก็บ้าแล้ว!!!

ผมปั้นหน้าไม่ถูก แต่เขินมากครับ ความรู้สึกปั่นป่วนไปหมด เมื่อได้กลิ่นของพี่ลิงก์ชัดๆ แบบไม่มีน้ำหอมเจือปน กลิ่นที่เหมือนหมอนและผ้าห่มของเขา

"บู้ยังไม่ตอบเลยนะ"

พี่ลิงก์ยังไม่ละสายตาไปไหน นัยน์ตาสีดำพราวเป็นประกายหยอกเย้าชัดเจน รวมไปถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่เผยออกมาอย่างไม่ปิดบัง ถึงจะรู้สึกร้อนจนหน้าแทบไหม้แค่ไหน แต่ผมก็แสร้งตีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างทุลักทุเล

"พี่...แกล้งผมอีกแล้ว"

ผมบ่นออกมาเสียงเบา แต่ร่างกายไม่กล้าดันอีกฝ่ายออก เพราะเกร็งไปหมดครับ พี่ลิงก์ยิ้มรับพร้อมกับขยับตัวให้เราสองคนเบียดชิดกันมากขึ้นอย่างไม่สำนึกว่าได้สร้างความเดือดร้อนต่อหัวใจของผมมากแค่ไหน ทว่าสถานการณ์ชักจะบานปลาย เมื่อผมรู้สึกถึงบางอย่างบริเวณช่วงล่างของร่างกาย

ตรงที่...ส่วนนั้นของเราสองคนเสียดสีกันอยู่อ่ะครับ!!!

ฉิบ....หาย....แล้ว!!!

"พ...พี่..."

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้หลีกหนีจากช่วงเวลาอันแสนวิกฤต พี่ลิงก์ก็กะพริบตาทีหนึ่ง แล้วก้มลงไปมองจุดอันตรายด้านล่าง ก่อนสายตาที่บ่งบอกความแปลกใจของเขาจะแปรเปลี่ยนเป็นร้ายกาจในทันที

"ดูเหมือนว่าจะไม่ง่วงแล้ว"

โอ๊ย! อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้วเว้ย!!!

ผมเม้มปากแน่นด้วยใบหน้าที่ร้อนฉ่า เพราะอับจนคำพูด ถึงนึกอยากจะนอนเต็มแก่ แต่ส่วนสำคัญของร่างกายดันตื่นขึ้นมาแล้ว แถมยังซื่อตรงเปิดเผยให้พี่ลิงก์รับรู้อีกต่างหาก!

"บู้ ให้ช่วยไหมครับ"

"ม...ไม่ครับ!!! "

ผมตัดสินใจผลักคนที่กำลังจะเลื่อนมือไปสัมผัสตรงจุดต้องห้ามเต็มแรง ก่อนสติจะหายไปมากกว่านี้ พี่ลิงก์ที่ไม่ทันตั้งตัวเลยเซจนเกือบตกโซฟา แต่ผมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำตาลีตาเหลือกโดยไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย

แค่โดนเบียดนิด สูดกลิ่นของเขาหน่อย ก็อารมณ์ขึ้นแล้วเหรอ! ไอ้บลู!!!

ผมนึกสมเพชกับความอ่อนหัดของตัวเองถึงขีดสุด ลมหายใจผิดจังหวะไปเล็กน้อย ผมใช้มือบรรเทาอาการน่าอายให้สงบลง ถึงความต้องการทางเพศจะเป็นเรื่องปกติที่แสนจะพื้นฐานของมนุษย์ โดยเฉพาะวัยรุ่นชายสุขภาพดีแบบผม แต่ก็ไม่ใช่เวลานี้ไหมวะ!

"บู้ครับ โอเคไหม"

เสียงของพี่ลิงก์ดังขึ้นจากหน้าประตู ผมไม่อยากจะตอบ แต่ถ้าเงียบก็คงไม่ได้ สุดท้ายเลยได้แต่กลั้นใจบอกคนที่อยู่ด้านนอกด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้

"อ่า..ผ...ผม..โอเค"

"อืม รออยู่นะ"

พี่รออะไร!!!

ผมกรีดร้องอยู่ในใจ นึกอยากจะฝังตัวเองอยู่ในห้องน้ำจนกว่าเรื่องราวเมื่อครู่นี้จะหายไปจากความทรงจำ แต่ก็คงทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะสิ่งที่ฟ้องชัดถึงตัวตนของเหตุการณ์ยังเลอะที่มือของตัวเองอยู่เลย

ผมจะกล้ามองพี่ลิงก์ได้ยังไงครับ!!!

หลังจากใช้เวลากับตัวเองจนความสงบสุขกลับมาอีกครั้ง ผมก็เดินวนไปวนมาสักพัก พลางมองนาฬิกาที่แขวนผนังในห้องน้ำไปด้วย ตอนนี้เวลาตีสามกว่าแล้ว แต่ผมยังไม่กล้าออกไปเจอโลกแห่งความจริงเลย

หรือจะนอนในห้องน้ำเลยดี?

ผมได้แต่ปลงกับความกากของตัวเอง แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกเรียกกำลังใจให้เข้ามาในชีวิตอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ค่อยๆ แง้มประตูห้องน้ำออกมาทีละน้อย สายตาสอดส่องมองหาว่าเจ้าของห้องอยู่แถวนี้หรือเปล่า เมื่อพบว่าทางปลอดโปร่ง ผมก็รีบวิ่งตรงไปที่โซฟาแล้วคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงสร้างสถานที่ปลอดภัยให้กับตัวเองไม่รับรู้สิ่งใดอีก

หัวใจของผมยังเต้นแรงอยู่พักหนึ่ง ก่อนจังหวะของชีวิตจะกลับมาทำงานเป็นปกติ เมื่อไม่มีเหตุการณ์น่าหวาดเสียวเกิดขึ้น ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์อยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากเจอเขาครับ

ในขณะที่ทุกอย่างผ่อนคลายลง แล้วร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยกำลังจะพักผ่อน ผมก็รับรู้ได้ถึงบางอย่างที่ทาบลงมาบนใบหน้าที่ถูกปกป้องด้วยผ้าห่มจนมิด

"นอนดีๆ เดี๋ยวก็หายใจไม่ออก"

เสียงของพี่ลิงก์ดังขึ้นใกล้ๆ แต่ผมไม่สนใจพร้อมกับหลับตา สมอ้างว่าหลับไปแล้ว นิ่งสยบทุกความเคลื่อนไหว ปล่อยให้อีกฝ่่ายจัดผ้าห่มให้คลุมตัวตามปกติครับ

ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์มีท่าทียังไง แต่สัมผัสบางอย่างที่กดลงตรงหน้าผากก็ทำให้หัวใจที่เคยสงบสุขวุ่นวายอีกครั้ง

"หึ! ไอ้อ่อนเอ๊ย"

ว่าไปเถอะครับ ยังไงผมก็ไม่สู้ แล้วก็ไม่โกรธด้วย ก็น้ำเสียงของพี่ลิงก์ที่ดูถูกผม มันอ่อนโยนมากจริงๆ เลยนี่ครับ









@@@@@@@@@@









ผมไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้น แล้วเลื่อนสายตาไปมองวิวตรงกระจกใสที่เปิดผ้าม่านเอาไว้ ก็ยังเห็นเพียงแสงอาทิตย์รำไร ผมเลยหันไปมองเวลาที่แน่นอน ก่อนจะต้องผงะ เพราะตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้าเท่านั้น

เฮ้อ..

คงเพราะร่างกายจดจำเวลาตื่นนอนไปแล้ว ถึงจะนอนน้อยแค่ไหน ประสาททุกส่วนในร่างกายก็ยังทำงานตามเวลาอย่างที่ผ่านมา ปกติผมจะตื่นเช้าแล้วนอนเล่นแอื่อยเฉื่อยต่อทั้งวันครับ แต่ที่นี่ไม่ใช่ห้องของผม จะมานอนอืดเป็นซากเปื่อยติดที่นอนไม่ได้

ผมลุกขึ้นนั่งแล้วกวาดมองพี่ลิงก์ แต่ก็ไม่พบเลยตัดสินใจไปอาบน้ำให้สดชื่นขึ้น พอเดินออกมาอีกทีก็เห็นเจ้าของห้องกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจคือท่าทางเหนื่อยหอบของเขา

"พี่ไปไหนมาเหรอ"

"ไปฟิตเนสมา"

พี่ลิงก์หันมามอง ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากให้ผมเกร็งขึ้นมา

"ที่รีบอาบน้ำ เพราะต้องการลบหลักฐานอะไรหรือเปล่า"

"ไม่ใช่นะครับ! "

ผมหน้ามุ่ยมองพี่ลิงก์ที่หัวเราะออกมาเบาๆ เขาลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า แล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูของผม

"เหมือนมีบางคนจะครางชื่อลิงก์ด้วยล่ะ"

"ไม่..."

ถึงตอนนั้นสติของผมจะกระเจิดกระเจิง แต่ผมก็จำได้ว่าเอาพี่ลิงก์ไปจินตนาการเป็นมโนภาพเท่านั้น และไม่ได้หลุดเสียงร้องเรียกเขาแน่นอน

อย่ามาใส่ร้ายผมนะ!

"หึ! ไม่ใช่ในห้องน้ำ แต่บนโซฟา ตอนนอนอ่ะ"

ผมได้แต่ตาค้าง ใบหน้าร้อนวูบขึ้นมาทันที พี่ลิงก์ยักคิ้วใส่พร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก แล้วเดินไปทางห้องของตัวเองอย่างไม่รับผิดชอบ

ไม่จริงน่า! ผมไม่ได้ฝันลามกถึงเขาใช่ไหม!!!!









@@@@@@@@@@









ผมได้แต่นั่งดูโทรทัศน์ไปเรื่อยเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด เอาล่ะ...ผมอาจจะเผลอมีอารมณ์กับความใกล้ชิดที่ไม่เคยเจอมาก่อนแบบนั้น แต่ผมก็จำไม่ได้ว่า ฝันอะไรเกี่ยวกับพี่ลิงก์แม้แต่น้อย ในเมื่อจำอะไรไม่ได้ ผมก็จะไม่ยอมรับ ไม่ว่าความจริงผมจะได้ทำตัวน่าขายหน้าออกมาก็ตาม

ไม่รู้ไม่ชี้ครับผม!

ผมพยักหน้ากับตัวเอง หลังจากจัดการกับความคิดฟุ้งซ่านได้เด็ดขาด ก่อนจะหันไปมองพี่ลิงก์ที่เดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดลำลอง เขาเหลือบมองผมเล็กน้อย แล้วเดินตรงไปทางห้องครัว ผมลุกขึ้นเดินตามไปดู แล้วก็เห็นอีกฝ่ายกำลังอุ่นอะไรบางอย่างอยู่

"จะกินข้าวเลยไหม"

"ก็ได้ครับ"

ผมนึกโล่งใจที่พี่ลิงก์ไม่ได้พูดถึงเรื่องน่าอายทั้งหลายเกียวกับผมอีก เมื่อเดินเข้าไปยืนข้างกันตรงหน้าเตา ผมก็มองหม้อที่กำลังส่งกลิ่นหอมอย่างสนใจ ข้าวต้มรวมมิตรที่กำลังเดือดเรียกน้ำย่อยในท้องได้อยู่หมัดเลยครับ

"พี่ทำเองหรือครับ"

"อืม ทำตอนบู้หลับ"

พี่ลิงก์หันมามองผม แล้วกลับไปสนใจข้าวต้มตรงหน้าต่อ ผมอมยิ้มออกมาพลางลอบมองท่าทางของเขาไปด้วย จะมาโทษกันไม่ได้หรอกนะครับ เพราะเวลานั้นชาวบ้านเขานอนกัน

"ผมตักให้นะครับ"

ผมกระวีกระวาดไปเตรียมชามมาตักเสิร์ฟข้าวต้มเครื่องกลิ่นหอมให้เรียบร้อย โดยที่พี่ลิงก์ถือแก้วกับเหยือกน้ำเดินตามมาที่โต๊ะอาหาร

ผมนั่งลงพร้อมกับมองชามข้าวต้มน่ากินไปด้วย และเมื่อได้ชิมรสชาติก็รีบตักคำต่อไปทันที พี่ลิงก์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ถามขึ้น

"ไม่ปรุงหน่อยเหรอ"

"โอเคแล้วครับ ผมไม่ได้กินรสจัด"

"อืม บู้ไม่กินรสจัด ลิงก์จะจำไว้ครับ"

พี่ลิงก์อมยิ้มบอก ผมก็กะพริบตาปริบๆ ปรับสายตาที่ปะทะออร่าความน่ารักของเขาอย่างเร่งด่วน ผู้ชายที่ย่ำยีหัวใจของผมอย่างเลือดเย็นก่อนหน้านี้หายไปแล้วครับ เหลือแต่ผู้ชายที่แสนน่าเอ็นดูที่ทำให้ผมอยากจะลงไปนอนชักดิ้นชักงอบนพื้นแทน

โธ่....พี่ลิงก์หยุดทำให้ผมเป็นบ้าสักทีเถอะครับ ได้โปรด!

"หน้าแดงทำไม เผ็ดเหรอ"

พี่ลิงก์มองผมด้วยนัยน์ตากระจ่างใส ต่างจากผมทื่หลบสายตาไปมาแล้วก้มลงกินข้าวต้มของตัวเองต่อไปพร้อมกับตอบไม่เต็มเสียงนัก

"....เปล่าครับ"

งื้อ....พี่ลิงก์ใจร้าย! อย่ามาแกล้งถามแบบนี้!

"อืม ไม่ต้องรีบกินก็ได้ เดี๋ยวสำลัก"

ผมพยักหน้ารับหงึกหงัก ทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้ามองคนที่นั่งร่วมโต๊ะเลยสักนิด มือก็ยังจ้วงกินข้าวต้มต่อไปอย่างต่อเนื่อง

"บู้น่ารัก"

"แค่กๆ ..."

ทันทีที่ได้ยินเสียงของพี่ลิงก์ ผมก็สำลักข้าวต้มของตัวเองทันที เสียงหัวเราะของคนต้นเหตุดังขึ้น ผมหันไปคว้าแก้วน้ำที่วางอยู่ไม่ไกล แล้วเหลือบมองตนตรงหน้าที่ยิ้มขำอย่างปั้นหน้าไม่ถูกเลยครับ

"ฮ่าๆ ตลกว่ะ"

เออ! ขำไปเถอะ ถนัดนักใช่ไหม การทำให้หัวใจคนอื่นปั่นป่วนน่ะ!

ผมคาดโทษอีกฝ่ายเอาไว้อย่างนึกขุ่นเคืองผสมเขินอาย พี่ลิงก์กินข้าวต้มของตัวเองอย่างไม่รีบร้อน นัยน์ตาสีดำก็จ้องมองผมไปด้วยอย่างอารมณ์ดี

"แกล้งผม"

ผมเผลอหลุดปากออกมาเล็กน้อย แล้วเบื่อนสายตาหลบไปทางอื่น พลางกินข้าวต้มที่ใกล้หมดต่อ

"แกล้งอะไร อย่าใส่ร้ายกันดิ"

"ก็พี่....อ่ะ"

ผมขมวดคิ้ว โดยที่สายตายังมองอาหารเช้าที่ใกล้จะว่างเปล่าของตัวเองไปด้วย เพราะยังไม่กล้ามองพี่ลิงก์เท่าไหร่

"ก็พี่อะไร พูดให้รู้เรื่อง"

ผมเม้มปากของตัวเอง ความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนเสียงของพี่ลิงก์จะดังขึ้นอีกครั้ง

"เป็นอะไร ไม่คิดจะมองหน้ากันเลยหรือไง"

ถึงคำถามและน้ำเสียงจะชวนหาเรื่องนิดหน่อย แต่เมื่อผมเลื่อนสายตาไปมองเขา พี่ลิงก์ก็นั่งเท้าคางมองด้วยสายตาที่ยังเจือด้วยรอยยิ้ม

"ก็...."

"ก็....? "

"...เขิน"

ผมปั้นหน้าไม่ถูก ตอนที่เงยหน้าขึ้นมามองพีลิงก์ อันที่จริงก็ไม่อยากตอบนักหรอกครับ แต่ถ้ามัวแต่อ้ำอึ้งต่อไป เขาก็คงไล่ต้อนผมไม่หยุด และก่อนอะไรก็ตามที่คาดไม่ถึงและยากเกินจะต้านทานตามมา ผมเลยกลั้นใจบอกให้หมดเรื่องหมดราว

ผมเขิน! จบนะครับ!

"บู้กินอิ่มยัง"

ผมทำหน้างงกับคำถามที่คนละเรื่องของเขา แต่ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี เพราะตอนนี้ข้าวต้มของผมหมดแล้ว

"ลิงก์ไม่อยากกินข้าวต้มแล้ว อยากกินอย่างอื่นมากกว่า"

"ฮะ? "

ผมนิ่งอึ้งไปเล็ดน้อย และหน้าตาเหลอหลาของผมก็ทำให้พี่ลืงก์โน้มตัวข้ามโต๊ะมาตรงหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะจุ๊บที่ปากจนผมสะดุ้งตกใจจนเกือบหงายหลังตกเก้าอี้

"พี่ลิงก์อยากกินน้องบลูอ่ะครับ"

ถ้าได้ข่าวว่ามีนักศึกษาชายตายในคอนโดหรู ก็ไม่ต้องสงสารหรือเห็นใจอะไรนะครับ เพราะเขาคนนั้นไปสู่สุคติแล้ว ฮือ....













TBC+++++++


Marionetta:
พี่ลิงก์แกล้งน้อง อิอิ ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้ค่ะ ^^
สวัสดีปีใหม่ค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 03-01-2020 22:33:33
พี่ลิงค์แกล้งน้อง,,,

หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-01-2020 08:39:00
สวัสดีปีใหม่
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 04-01-2020 13:07:14
บู้เสร็จลิงก์ ในหลายๆทาง
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: LifePo-YuGu ที่ 06-01-2020 17:09:31
เสร็จพี่ลิงค์สักทีเถอะลูก  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 19 > 03-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 09-01-2020 14:14:25
Level 20: เราสองคน





"พี่ลิงก์! "

ผมมองพี่ลิงก์ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ ส่วนคนก่อเหตุก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วกินข้าวต้มของตัวเองต่อ

"ตกใจอะไร ก็แค่บอกความในใจให้ฟัง"

ยัง ยังอีก!

"พี่จะทำให้ผมเป็นบ้า"

ผมบ่นออกมาอย่างอดไม่อยู่ ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ พร้อมกับรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงให้กลับเข้าที่อีกครั้ง พี่ลิงก์แค่ยิ้มรับอย่างไม่ทุกข์ร้อน

"บู้หาเรื่องลิงก์ก่อนเองนะ"

ผมเลื่อนสายตาไปมองคนที่มากล่าวหาหน้าตาเฉยอย่างไม่เข้าใจ ฝ่ายโจทก์เลยขยายความของตัวเองต่อ

"ก็บู้มาทำให้ลิงก์เขินก่อน"

พอเถอะครับ! จบเรื่องนี้จะได้ไหม....!

"โอเคครับ ผมผิดทุกอย่าง พี่อย่าแกล้งผมอีกเลย"

ผมบอกอย่างยอมแพ้ แล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเพื่อดับความร้อนที่วิ่งไปทั่วใบหน้า

"ยอมตลอดอ่ะ แล้วเมื่อไหร่จะยอมเข้าไปนอนในห้องด้วยกันสักที"

"พี่ลิงก์ครับ! "

"ฮ่าๆ "

พี่ลิงก์หัวเราะจนน้ำตาเล็ด ผมก็ถอนหายใจพลางมองเขาอย่างระอา

ไอ้คุณชายตุ๊กตาหมีเอ๊ย!








@@@@@@@@@@









หลังจากมื้อเช้าที่ทำให้ผมหัวใจจะวายตายในทุกหนึ่งนาทีได้จบลง ผมก็อาสาเก็บล้างชามให้เรียบร้อย แล้วเดินออกมานั่งดูโทรทัศน์กับพี่ลิงก์ในห้องนั่งเล่น เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่เขินเลยไม่ได้พูดคุยในเรื่องที่อยากรู้นัก ตอนนี้บรรยากาศกลับสู่สภาวะปกติแล้ว ผมเลยถามถึงเรื่องที่สงสัย

"พี่ง่วงไหม ได้นอนบ้างหรือยังครับ"

ผมหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังสนใจข่าวรอบเช้าอยู่ ตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาไปรับผมช่วงตีหนึ่งจนกระทั่งผมได้นอนก็ราวตีสามเกือบตีสี่ นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องทำอาหารเช้าแล้วก็ออกไปเล่นฟิตเนสอีก ถ้าจะได้นอนก็คงไม่ถึงสองชั่วโมงแน่นอนครับ

"นอนตอนบู้หลับ"

พี่ลิงก์หันมาบอก ก่อนจะขยับตัวเข้ามาใกล้มากขึ้นจนผมเผลอเอนตัวถอยห่างโดยอัตโนมัติ สีหน้ามีลับลมคมในของเขา ทำให้ผมขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไม่ไว้วางใจ

"หึ! ลิงก์ทำทุกอย่างตอนที่บู้หลับ"

"อ่า...ครับ"

มันแค่คำบอกเล่าธรรมดาใช่ไหม ผมไม่ต้องคิดอะไรมากใช่ไหม....

ผมมองพี่ลิงก์ที่กลับไปสนใจโทรทัศน์อีกครั้ง แล้วชวนคุยเรื่องที่อยากรู้ต่อไป ถึงจะคบหาด้วยสถานะพิเศษมาเป็นเดือนแล้ว แต่ผมก็รับรู้เรื่องราวในชีวิตประจำวันของเขาน้อยมากครับ

"ว่าแต่...พี่เข้าฟิตเนสบ่อยไหมครับ"

"ถามทำไม"

น้ำเสียงและแววตาแข็งกระด้างของพี่ลิงก์ ทำให้ผมที่กำลังใช้โอกาสนี้ล้วงข้อมูลส่วนตัวของอีกฝ่ายให้มากขึ้นต้องหยุดชะงักไป

ความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมา แล้วยกมือบีบแก้มของผมเบาๆ

"แค่เสียงเข้มนิดเดียว แล้วจะหงอทำไมวะเนี่ย"

"ก็...เหมือนพี่ไม่พอใจ"

ก็เล่นส่งอารมณ์มาแบบน้ัน ใครจะกล้าไปต่อวะ....

ผมต่อว่าอีกฝ่ายในใจ แล้วลอบถอนหายใจออกมา เมื่อพี่ลิงก์ส่งยิ้มหวานมาให้ นัยน์ตาสีดำเรียบนิ่งมีแววขบขันเจืออยู่ ผมหน้ามุ่ยมากกว่าเดิม

"แกล้งดุเฉยๆ บู้ไม่เอาดิ ยิ้มหน่อย"

ผมมองที่ลิงก์ที่ยังคงรอยยิ้มเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือการเอานิ้วชี้มาจิ้มริมฝีปากของผมไม่หยุดเหมือนกำลังแหย่ตัวอะไรสักอย่างด้วยท่าทางสนุกสนาน

งับนิ้วแม่ง!

ผมทำตามที่คิดทันทีพร้อมกับจ้องตาแขม็งใส่คนที่ทำให้ผมใจแกว่งไปก่อนหน้านี้ พี่ลิงก์แค่ทำสีหน้าแปลกใจ แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ เขาเอามืออีกข้างลูบหัวของผมไปด้วย

"บู้เหมือนลูกหมาเลย"

ผมปล่อยนิ้วของพี่ลิงก์ให้เป็นอิสระ ถึงจะยังหลงเหลือความขุ่นเคืองอยู่บ้าง แต่สัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับก็ลบล้างความรู้สึกไม่ดีออกไปจนหมด

ผมเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัว เวลามีปัญหาหรือไม่พอใจอะไร ส่วนใหญ่ผมก็มักเก็บอาการเอาไว้ และไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วง ผมเลยมีนิสัยง่ายๆ ไม่คิดมาก อะไรทนได้ก็ทน อะไรยอมได้ก็ยอม เป็นผู้ชายทื่อๆ ที่ไม่มีอะไรน่าค้นหา ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ก็อาจจะทำให้พี่ลิงก์เบื่อเข้าสักวัน แต่จะให้ผมมาออดอ้อนฉอเลาะก็คงไม่ไหว มันไม่ใช่ตัวตนของผมเลย

"ผมน่าเบื่อไหมครับ"

ผมหลุดปากออกไปอย่างเผลอไผล พี่ลิงก์คลายรอยยิ้มลง เขาเลื่อนมือมากอดคอของผมเอาไว้พร้อมกับมองสีหน้าหม่นหมองของผมไปด้วย

"เป็นอะไร ลิงก์จะเบื่อบู้ได้ไง"

"ผมรู้ตัวดีว่า ตัวเองธรรมดาเกินไป ไม่มีอะไรดีเหมาะกับพี่เลย เพราะผมกลัวพี่จะทิ้งล่ะมั้ง ผมเลยไม่กล้าไปหมด เวลาที่เห็นพี่ทำเหมือนไม่พอใจขึ้นมา"

ผมบอกความในใจที่มีออกมา ความรู้สึกเล็กๆ ที่อยู่ในเบื้องลึกของจิตใจ แต่นานวันก็ยิ่งทับถมมากขึ้น แล้วผมก็ไม่รู้ว่า ตะกอนเหล่านี้จะทำให้ผมเสียพี่ลิงก์ไปหรือเปล่า

"รู้ป่ะ ลิงก์เคยมีแฟนมาแล้วสามคน บู้เป็นคนที่สี่"

อยู่ดีๆ พี่ลิงก์ก็เล่าเรื่องแฟนเก่าขึ้นมาเฉย ผมหันไปมองเสี้ยวหน้าที่มองไปทางโทรทัศน์อย่างแปลกใจ ก่อนที่เขาจะหันมาสบตากับผม

"คนแรกหนึ่งอาทิตย์ คนที่สองสามอาทิตย์ คนที่สามสองเดือน"

อ่า....

ผมนั่งอึ้งกับสถิติความรักของพี่ลิงก์ เขายิ้มออกมา

"สาเหตุที่เลิกทุกครั้งก็คือเบื่อ คนแรกเป็นรุ่นพี่โคตรสวย เรียนเก่ง คนดังประจำโรงเรียน แต่ที่คบได้อาทิตย์เดียว เพราะเบื่อที่ชอบสั่ง อวดดี คงคิดว่าเป็นลูกคุณหนูสวยสั่งได้มั้ง ก็เลยเลิก"

โอ้....

"คนที่สองเลยลองมาคบรุ่นน้องแทน หน้าตาน่ารัก ใสๆ จะได้ไม่ต้องมาสั่งอีก แต่ก็อ้อนเยอะ วุ่นวาย น่ารำคาญ ก็ทนมาได้อีกนิดก็เลิกอีก"

พี่ลิงก์เล่าด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ใจของผมนี่เต้นตุบๆ เลยครับ ไม่ต้องบรรยายเยอะ ผมก็พอจะจินตนาการออก แล้วก็อดสงสัยอีกไม่ได้ว่า การที่บอกเลิกได้เร็วแบบนั้น แสดงว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับผู้หญิงที่คบเป็นแฟนเลยหรือไงกัน

แล้วถ้าหากไม่ได้คิดอะไร แล้วจะคบกันทำไม...

"พอเข้ามหา'ลัย ก็กะว่าจะเริ่มต้นใหม่ แฟนคนที่สามเป็นสาวเปรี้ยวเลย ทุกอย่างก็พอได้ ไม่อีโก้ ไม่งี่เง่า แต่ไถเงินเก่งฉิบ ชวนให้ซื้อของแบรนด์เนมให้ตลอด ก็เลยเลิก แต่ก็ไม่ได้ง่ายเลยนะ ลิงก์ต้ิองจ้างเลิกด้วย ไม่งั้นตื้อไม่เลิก"

ผมได้แต่นั่งฟังตาปริบๆ พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา แล้วมองผมด้วยสายตาจริงจัง

"เวลาเบื่อก็คือเบื่อ มันไม่ได้เกี่ยวกับหน้าตา ฐานะ นิสัยใจคอหรอก แต่การที่เราคบกับใครสักคนไม่ได้นาน เพราะอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข พอคิดได้แบบนั้นก็เลยตั้งคำถามสักอย่างเพื่อหาใครสักคนที่เข้ากันได้ จนมาเจอบู้ไง"

ผมเผลอยิ้มออกมา เมื่อพี่ลิงก์ลูบแก้มของผมเบาๆ นัยน์ตาสีดำเป็นประกายขึ้น หัวใจของผมเต้นแรงอีกระดับ ขณะที่ฟังคำพูดของเขา

"บู้เป็นคนที่สี่ ลิงก์ชอบเลขนี้นะ มันพ้องกับภาษาจีนที่แปลว่าตาย"

ฮะ?!

ผมหน้าเหวอออกมาทันที พี่ลิงก์เลยหัวเราะออกมา ตผมปั้นสีหน้าไม่ถูกเลยครับ ตอนแรกมาเกือบซึ้งแล้วนะ แต่ทำไมถึงกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้

"ลิงก์ไม่ได้พูดเล่นนะ คิดแบบนั้นจริงๆ ก็หวังว่าคนที่สี่จะเป็นคนสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันไปจนตายเลยอ่ะ บู้โอเคป่ะ"

ผมพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้ผมเหมือนถูกพี่ลิงก์เหวี่ยงไปมาจนตามอารมณ์ของบทสนทนาไม่ทันแล้วครับ ความรู้สึกสับสนไปหมด

ซีนนี้มันต้องเขินไหมครับ?!

"ผมก็ไม่รู้..."

"อืม ช่างเถอะ ก็เอาเป็นว่า...ไม่อยากให้บู้ดูถูกตัวเอง เพราะเราสองคนต่างก็เลือกแล้ว บู้เลือกที่จะเข้ามา แล้วลิงก์ก็เลือกที่จะให้เข้ามา ถ้าจะมีใครสักคนที่เบื่อก่อน...ก็อาจจะเป็นบู้ที่เบื่อลิงก์ก่อนก็ได้"

"เฮ้ย! ไม่มีทาง! "

ผมรีบปฏิเสธ เมื่อเห็นใบหน้าหล่อหมองลง เขาเลื่อนสายตามามองผมอีกครั้ง ผมก็ทำสีหน้าจริงจังกลับไป

"ถึงพี่จะแกล้งผมบ่อยมากๆ แต่ถ้าพี่นิยามคำว่าเบื่อ คือการที่อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุข ผมก็ไม่เคยเบื่อพี่เลย"

"จริงเหรอ"

"ครับ"

น้ำเสียงหนักแน่นของผม ทำให้พี่ลิงก์ยิ้มออกมา ใบหน้าหล่อดูเปล่งประกายขึ้น เขาดึงมือของผมไปกุมเอาไว้

"อืม ดีแล้ว จะมาเบื่อกันง่ายๆ ได้ไง อุตส่าห์รอมาตั้งนาน"

สีหน้างุนงงของผม ทำให้พี่ลิงก์ทำหน้าเซ็งออกมาอย่างขัดใจ ก่อนที่น้ำเสียงทุ้มเรียบเรื่อยจะอธิบายให้ผมเข้าใจ

"ลิงก์ตั้งคำถามมาหลายปีนะ เจอคนเข้ามาตอบไม่รู้เท่าไหร่ คิดดูดิ ตอนนี้จะขึ้นปีสี่แล้ว เพิ่งจะเจอเนี่ย"

ผมนึกถึงเรื่องราวในวันนั้น วันที่ผมได้ตอบคำถามของพี่ลิงก์ ถึงจะมีบางอย่างชวนให้แปลกใจอยู่บ้าง เมื่อได้ย้อนกลับไปนึกถึง แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจของผมได้ชัดเจนที่สุดก็คือ ผมตอบคำถามถูกใช่ไหม

"ตกลงผมตอบคำถามของพี่ถูกใช่ไหมครับ"

พี่ลิงก์มองผมนิ่งๆ อีกครั้ง แล้วปล่อยมือของผมออก ก่อนจะลุกเดินหนีไปในห้องครัวพร้อมกับคำพูดทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงที่ไร้เยื่อใย

"ซื่อบื้อ"

ผมได้แต่มองตามโดยไม่เอ่ยรั้งอะไร เพราะรู้ดีว่า อีกไม่กี่นาทีเขาก็กลับมา ผมทบทวนเรื่องราวที่ได้รับรู้อีกครั้ง แล้วก็ได้แต่นึกปลงตกกับตัวเอง

ช่างเถอะ...เรื่องวันนั้นคืออะไรก็ไม่รู้ แต่วันนี้ผมเป็นแฟนของพี่ลิงก์แล้วแน่นอน









@@@@@@@@@@









"ฟิตเนสเหรอ ก็เล่นบ่อย"

ถ้าพี่ลิงก์ตอบคำถามแบบนี้กับผมตั้งแต่แรก เราสองคนก็ไม่ต้องพูดเรื่องจริงจังสะเทือนอารมณ์กันแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ได้รับรู้ความคิดของเขาเพิ่มมากขึ้น

หลังจากที่พี่ลิงก์เดินเข้าไปในห้องครัว เขาก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับขนมขบเคี้ยวหลายถุง พอบรรยากาศผ่อนคลายเป็นปกติ ผมก็พูดถึงเรื่องที่ค้างคาเอาไว้ตั้งแต่แรก ซึ่งคราวนี้อีกฝ่ายก็ไม่ได้เล่นบทแปลกๆ มาให้ผมเหวออีก

"ผมไม่เคยเล่นฟิตเนสเลยครับ ขี้เกียจ"

"ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่"

ผมแอบชักสีหน้ากับน้ำเสียงที่แฝงการกวนอารมร์เอาไว้เล็กน้อย พี่ลิงก์เหลือบมองผม เขาหยิบขนมใส่ปากแล้วเล่าเรื่องของตัวเองต่อ

"เมื่อก่อนโดนป๊าบังคับ แต่พอผ่านไปสักพัก แล้วอะไรหลายอย่างมันดีขึ้น ก็ทำมาตลอด"

"ป๊าของพี่เขาหวังดี"

"อืม ที่จริงแล้วป๊าอยากให้ลิงก์เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบนะ แต่จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไงใช่ป่ะ ป๊าเลยหวังให้อย่างน้อยที่สุดรูปลักษณ์ภายนอกก็ต้องดูดีไว้ก่อน ทำนองนั้น"

ผมคิดตามคำบอกเล่าของพี่ลิงก์ แล้วมาเทียบกับตัวเอง สมัยมัธยมผมก็กินๆ นอนๆ ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเท่าไหร่ ต่างจากน้องชายที่โหมเล่นกีฬาจนตัวสูงนำผมไปหลายเซนติเมตรแบบไม่เกรงใจพี่ชายอย่างผมบ้างเลย แต่โชคดีที่ผมเรียนเก่งให้พ่อกับแม่ชื่นชมครับ

"แต่พี่ก็ดูดีจริงๆ นั่นแหละ"

พี่ลิงก์ก็แค่ยักคิ้วรับแบบวางมาด ผมนึกหมั่นไส้เขาเต็มอก แต่ก็พูดอะไรออกมาไม่ได้ ในเมื่อคนน่าอิจฉาตรงนี้ดันมาเป็นแฟนของผม

"บางทีผมน่าจะหาเวลาไปออกกำลังกายบ้าง"

"ไม่ต้องหรอก ตัวนิ่มๆ ก็ดีอยู่แล้ว"

"พี่จะบอกว่าผมอ้วนใช่ไหม"

"บู้ยังไม่อ้วนนะ แค่มีพุง"

ผมทำหน้าเซ็งพร้อมกับแอบแขม่วพุงของตัวเองไปด้วย พี่ลิงก์ที่มองท่าทีของผมออกก็อมยิ้มออกมา

"มีพุงก็ตัวนิ่มไง ดีออก"

"เขามีแต่คนชอบผอมเพรียว เอวบางไม่ใช่หรือครับ"

"ก็ใช่ ถ้าจะเอาไว้ควงเล่น แต่ถ้าจะเอาไว้นอนกอดก็ต้องนุ่มนิ่มไม่ใช่เหรอ"

นั่นไง! โดนอีกแล้ว! ผมต้องเขินไหมครับ บอกที!









@@@@@@@@@@









เราสองคนคุยสัพเพเหระไปเรื่อย โดยที่มีองค์ประกอบคือโซฟา รายการในโทรทัศน์ และขนมกินเล่นครับ จนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงบ่ายพี่ลิงก์ก็สั่งพิซซ่ามากิน ตอนนั้นเองที่ผมเริ่มคิดถึงโอกาสและจังหวะที่จะมอบของขวัญที่เตรียมเอาไว้ให้เขาสำหรับวันครบรอบนี้

ผมไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติกหรือถนัดเรื่องสร้างความประทับใจ หลังจากช่วยพี่ลิงก์เก็บกวาดซากอาหารเที่ยงที่กินจนอิ่ม ผมก็ตัดสินใจยื่นของขวัญที่ทำเอาไว้ให้อีกฝ่ายแบบไม่มีพิธีรีตองหรือเกริ่นนำอะไร ซึ่งทำให้คนรับทำหน้างงออกมา

"อะไร"

ถึงพี่ลิงก์จะทำหน้าสงสัยแต่ก็รับของขวัญที่ผมส่งให้แต่โดยดี ความรู้สึกเขินอายของผมกลับมาทำงานอีกครั้ง

"เอ่อ..ของขวัญ"

"ของขวัญ? "

"ก็...วันครบรอบอ่ะครับ"

ผมก้มหน้างุดพร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงอ้อมแอ้ม พี่ลิงก์มองผมครู่หนึ่ง เขาเลื่อนใบหน้าเข้ามาหอมแก้มของผม แล้วอมยิ้มออกมา

"ขอบคุณครับ"

ผมพยักหน้ารับรัวๆ พลางมองพี่ลิงก์ที่แกะของขวัญที่ได้รับไปด้วย เมื่อกระดาษที่ห่อหุ้มถูกแกะออกจนหมด เคสโทรศัพท์มือถือที่ผมตกแต่งเอาไว้ก็ตกอยู่ในสายตาของเขา

"ลายอะไรวะ"

"ผมก็ไม่รู้"

ผมยิ้มแหยออกมา ตอนที่พี่ลิงก์พิจารณาของขวัญที่เพิ่งได้รับ อันที่จริงลวดลายก็ไม่มีความหมายอะไรเป็นพิเศษครับ นอกจากสติกเกอร์ตัวอักษรที่เรียงเป็นชื่อของเราสองคน

ชื่อของพี่ลิงก์ที่อยู่บนเคสโทรศัพท์มือถือของผม และชื่อของผมที่อยู่บนเคสโทรศัพท์มือถือของเขา

ตอนนั่งทำ ผมก็เขินนะ ยังแอบคิดว่า พี่ลิงก์จะกล้าใช้หรือเปล่า แต่ถ้าเขาไม่ใช้ก็ไม่เป็นไรครับ ขอแค่อย่าทิ้งก็พอ

"ขอใช้เลยได้ไหม"

พี่ลิงก์ไม่ได้รอคำตอบของผม เขาเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองมาเปลี่ยนเคสใช้งานเสร็จ แล้วหันมามองผมที่กำลังยืนยิ้มอยู่

"เอาของบู้มาด้วย เดี๋ยวเปลี่ยนให้"

ผมส่งโทรศัพท์มือถือของตัวเองไปให้ พี่ลิงก์ทำการเปลี่ยนเสร็จเรียบร้อย แล้วหยิบไอแพดมาถ่ายรูปเคสโทรศัพท์มือถือที่วางคู่กัน ทั้งสองอันลวดลายเหมือนกันทุกอย่างยกเว้นชื่อของเจ้าของที่เป็นของกันและกัน

พี่ลิงก์ส่งโทรศัพท์มือถือคืนให้ แล้วจับมือของผมเอาไว้

"จริงๆ ลิงก์ก็มีบางอย่างให้เหมือนกัน"

ผมนึกแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าพี่ลิงก์จะมีของขวัญให้ผมด้วยเหมือนกัน เขาพาผมเดินไปยังห้องหนึ่งที่ผมได้แต่มอง ทว่าไม่เคยได้เข้าไปสักที มันไม่ใช่ห้องนอนของเขาครับ แต่เป็นห้องบางอย่างที่มียูกิโนะอยู่

"ที่ชวนมาคอนโด วันนี้ ก็ตั้งใจจะเปิดห้องนี้ให้บู้เห็น ห้องส่วนตัวของลิงก์"

ผมมองพี่ลิงก์ที่กำลังจะเปิดประตูออก ความตื่นเต้นมากขึ้น ตอนนี้ผมกำลังเข้ามาในชีวิตของเขามากขึ้นอีกนิดแล้วครับ













TBC++++++++

Marionetta:
เป็นตอนที่ปล่อยให้แฟนเขาสวีตกันค่ะ อิอิ พี่ลิงก์ก็หยอกบู้ด้วยความรักเช่นเคย >///< ขอบคุณที่ติดตามค่ะ เจอกันตอนหน้าน้า
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 20 > 09-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 09-01-2020 22:46:56
ไม่ชินพระเอกสายมุ้งมิ้งเลยอ่ มันแหววไป๊ :m20:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 20 > 09-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 10-01-2020 00:21:55
มันคือห้องอะไรนะ,,,
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 20 > 09-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 14-01-2020 13:10:14
Level 21: โลกส่วนตัว






คอนโดของพี่ลิงก์ไม่ได้กว้างมาก แต่ก็มีสัดส่วนชัดเจน ทั้งส่วนทางเข้าที่มีเฟอร์นิเจอร์เป็นตู้ใส่รองเท้า ห้องนั่งเล่นที่อยู่ติดกับห้องครัวและโต๊ะกินข้าวขนาดสี่ที่นั่ง ถัดออกไปเป็นห้องน้ำที่ผมใช้งานประจำเวลาได้มาที่นี่ อีกด้านหนึ่งประกอบด้วยห้องที่ผมไม่เคยเข้าไปสองห้อง

ห้องหนึ่งคือห้องนอนและอีกห้องหนึ่งพี่ลิงก์กำลังจะพาผมเข้าไปด้านในครับ เมื่อประตูไม้เปิดออก ห้องที่ทาด้วยสีขาวสะอาดก็ปรากฏสู่สายตา ทว่าสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ผมคือ สิ่งของที่อยู่ภายในห้องนีั

ผมหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังส่งยิ้มมาให้เหมือนเด็กที่กำลังอวดของ

"ตามสบายเลยนะ"

"อ่า...ครับ"

หลังจากที่ผมก้าวเข้ามาในอาณาเขตส่วนตัวของพี่ลิงก์ ผมก็กวาดสายตามองไปรอบด้านด้วยความตื่นตาตื่นใจ

ห้องสี่เหลี่ยมกว้างอัดแน่นไปด้วยสิ่งของจนเกือบเต็ม แต่ก็ไม่ได้ดูรกหรือเกะกะแต่อย่างใด ฝั่งตรงข้ามกับทางเข้ามีระเบียงที่ถูกกั้นด้วยประตูกระจก ทางด้านซ้ายของห้องมีชั้นหนังสือที่จัดเข้ามุมคู่กับโซฟาขนาดเล็กที่ดูอบอุ่น ถัดไปเล็กน้อยมีโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่อยู่ติดกับประตูที่เชื่อมไปอีกห้องหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นห้องนอน ส่วนทางด้านขวามีกีตาร์โปร่งที่วางพิงผนังใกล้กันมีเบาะนอนยาว ชั้นวางของ และอุปกรณ์สำหรับวาดรูปวางอยู่ครับ

"พี่ชอบวาดรูปด้วยหรือครับ"

ผมถามขึ้นพร้อมกับเดินไปมองภาพสีน้ำบนกระดานวาดรูป ซึ่งเขาวาดเลียนแบบมาจากรูปถ่ายที่หนีบอยู่กับไม้กระดานแผ่นหนึ่งที่วางอยู่ข้างกัน แถมฝีมือก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย

"อืม ชอบตั้งแต่เด็กแล้ว ลิงก์ไปเรียนวาดรูปเพิ่มมาด้วย"

ผมพิจารณาผลงานที่อยู่ตรงหน้าด้วยความทึ่ง พี่ลิงก์เดินไปหยิบสมุดวาดรูปมาให้ผมดูเพิ่ม มีทั้งลายเส้นที่วาดด้วยดินสอและปากกา รวมไปถึงภาพที่ระบายสี

พี่ลิงก์เดินไปเปืดคอมพิวเตอร์ แล้วเรียกให้ผมที่กำลังตั้งใจดูภาพวาดในสมุดหันไปสนใจ เขาเลื่อนเมาส์ไปเปิดโฟลเดอร์หนึ่ง ก่อนถาพมากมายจะปรากฏขึ้นมาเต็มหน้าจอ

"เป็นไง สวยป่ะ"

ผมพยักหน้ารับรัวๆ เมื่อภาพถูกเปลี่ยนไปตามการคลิกของเมาส์ รูปที่พี่ลิงก์ให้ผมดูเป็นภาพการ์ตูนที่ลายเส้นสวยมากครับ แถมการลงสีก็เข้าขั้นเทพเลยด้วย อลังการงานสร้างมากๆ

"ลิงก์วาดรูปเก่ง"

ตรงนี้มีคนขี้อวดหนึ่งคนครับ!

ผมมองท่าทางกระหยื่มยิ้มย่องของเชาอย่างนึกหมั่นไส้และชื่นชมในคราวเดียวกัน ภาพวาดของพี่ลิงก์ส่วนใหญ่อ้างอิงมาจากอนิเมะและเกมครับ

"ถ้าพี่จะเก่งขนาดนี้ ทำไมไม่เรียนด้านนี้ไปเลยครับ เรียนบริหารทำไม"

พี่ลิงก์ที่กำลังอวดผลงานของตัวเองให้ผมดูนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนเสียงทุ้มเรียบเรื่อยจะดังขึ้น นัยน์ตาที่เป็นประกายอ่อนแสงลงจนเห็นได้ชัด

"ก็อยากช่วยป๊ากับพ่อมากกว่า บู้รู้หรือเปล่าว่าชีวิตคนเรามีงานอยู่สองอย่าง"

ผมมองพี่ลิงก์อย่างแปลกใจ เขาส่งยิ้มบางมาให้แล้วอธิบายให้ฟังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"งานที่ต้องทำเพื่อหาเลี้ยงชีวิตและงานที่ต้องทำเพื่อล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ"

ผมยืนนิ่งฟังอย่างคาดไม่ถึง แม้ว่าบ่อยครั้งเขาจะทำตัวเหมือนเด็กจนน่าอ่อนใจ แต่ก็มีหลายครั้งที่แสดงความเป็นผู้ใหญ่ออกมา พี่ลิงก์หันไปมองภาพวาดของตัวเองที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง

"แล้วภาพวาดพวกนี้ก็เป็นงานที่ช่วยเติมเต็มตัวตนของลิงก์ แล้วที่สำคัญเป็นผู้บริหารที่วาดรูปเก่งก็เท่ดีออก"

"ครับ"

ผมก็ว่าพี่ลิงก์เท่จริงๆ นั่นแหละครับ

ผมยิ้มรับพร้อมกับมองอีกฝ่ายไม่ละสายตา โดยไม่ได้สนใจน้ำเสียงทุ้มที่กำลังเล่าที่มาของภาพที่เปิดให้ดูเท่าไหร่นัก ก็ในเมื่อตอนนี้ภาพที่สวยและดึงสายตาของผมได้มากที่สุดคือเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังแต้มรอยยิ้มน่ามองนี่ครับ









@@@@@@@@@@









"ลิงก์จะวาดรูปให้ แลกกับเคสโทรศัพท์มือถือที่บู้ทำให้"

พี่ลิงก์หันมาบอก หลังจากนำเสนอผลงานของตัวเองทั้งหมดเสร็จแล้ว ผมเลิกคิ้วขึ้น ก่อนจะเดินไปนั่งตรงโซฟา เพราะยืนดูภาพในคอมพิวเตอร์มาพักหนึ่งแล้วครับ

"ไม่เป็นไรครับ รบกวนเวลาพี่"

"ถ้ากวนแล้วจะอยากทำให้ไหม"

พี่ลิงก์ชักสีหน้าใส่ ผมก็ยิ้มแหยออกมา เขาเดินไปหยิบกระดานวาดรูปแบบตั้งโต๊ะและอุปกรณ์ต่างๆ มานั่งตรงหน้าผม แล้วเผยรอยยิ้มมุมปาก

"ลิงก์จะวาดรูปเหมือน บู้นั่งนิงๆ แล้วกัน"

"เอ่อ...ครับ"

ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน ผมรู้สึกเกร็งเล็กน้อย เมื่อต้องมานั่งประจันหน้ากับพี่ลิงก์แบบนี้

"ทำหน้าแบบนั้น ปวดขี้เหรอ"

"เปล่าครับ ก็แค่...ไม่รู้จะทำหน้ายังไง"

"ก็ทำตัวตามสบาย"

"...ครับ"

ผมตอบอ้อมแอ้ม พี่ลิงก์ยกยิ้มพร้อมกับขยับมือที่กำลังวาดรูปของผมไปด้วย เวลาผ่านไปสักพัก ผมก็เริ่มทำตัวไม่ถูกอีกรอบ

"ใกล้เสร็จหรือยังครับ"

"ยัง"

ท่าทางตั้งใจของพี่ลิงก์ ทำให้ผมไม่กล้ากวนเขาอีก ผมรู้ว่างานศิลปะต้องอาศัยเวลาและสมาธิ แต่จะให้นั่งเฉยอย่างเดียวก็ไม่ค่อบโอเคเท่าไหร่ครับ

"ผมคุยกับพี่ได้ไหม"

"แล้วนี่เราไม่ได้คุยกันอยู่เหรอ"

พี่ลิงก์มองผมด้วยสายตาต่อว่า เมื่อได้ยินคำอนุญาตผมเลยเริ่มชวนเขาคุยทันที

"พี่ชอบวาดรูปอะไรมากที่สุดครับ"

"วิวมั้ง แล้วแต่อารมณ์"

"แล้วพี่วาดภาพเหมือนบ่อยไหม"

"ไม่บ่อย"

"แล้วพี่เคยวาดภาพแบบว่า...อืม...ภาพอาร์ตแบบเซ็กซี่อะไรแบบนั้นไหมครับ"

ผมนึกถึงฉากหนึ่งในหนังที่เคยดูขึ้นมา นักเรียนกลุ่มหนึ่งนั่งวาดรูปกึ่งเปลือยของนางแบบสาวสวยอะไรแบบนั้น แล้วคงจะมีผู้หญิงหลายคนเต็มใจแก้ผ้าเป็นนางแบบให้เขาวาดรูปฝึกฝีมือแน่นอนครับ

"ไม่เคย แต่ก็น่าสนใจดี"

ผมมองพี่ลิงก์ที่เลื่อนมาสบสายตากับผม เขายิ้มมุมปาก โดยที่มือก็ยังไม่หยุดเคลื่อนไหว

"อยากวาดภาพนู้ดของบู้"

"ไม่เอานะพี่ลิงก์! "

ผมโวยวายออกมาอย่างร้อนรน พี่ลิงก์ก็แค่หัวเราะเบาๆ แล้วไม่ได้สานต่อบทสนทนาเดิมอีก ความรู้สึกร้อนไปทั่วใบหน้า เมื่อเผลอจินตนาการถึงภาพของตัวเองที่กำลังเปลือยกายเป็นแบบให้พี่ลิงก์วาดรูป

ไม่ไหว!

ผมลูบแขนของตัวเอง รู้สึกสยองปนเขินอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะคบกับพี่ลิงก์เป็นแฟน แต่ผมก็ยังใจไม่กล้าพอจะเปลื้องผ้าต่อหน้าเขา แม้ว่าหลายครั้งจะแอบเอาอีกฝ่ายไปจินตนาการลามกอยู่บ้างก็ตาม

"เป็นอะไรอีก"

คำถามของพี่ลิงก์ ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ของตัวเอง แล้วส่ายนห้าไปมาพร้อมกับทำตัวให้เป็นปกติปิดบังพิรุธที่เกิดขึ้นในใจ จนเวลาผ่านมาระยะหนึ่ง แสงแดดตอนบ่ายอ่อนลงตามการเดินทางของเข็มนาฬิกาที่แขวนผนัง

"ใกล้เสร็จหรือยังครับ"

ผมอดถามขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้ เพราะเวลาในการเป็นนายแบบผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้วครับ

"อย่าเร่ง"

"ขอโทษครับ"

ผมมองพี่ลิงก์ที่ยังทำงานศิลปะของตัวเองต่อไป แล้วมองไปทางกีตาร์ที่วางอยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง

"ผมเล่นกีตาร์เป็นด้วยนะครับ"

"เหรอ เล่นให้ฟังหน่อยดิ"

"แต่ผมเล่นไม่เก่งมากนะครับ ไม่ได้เล่นนานแล้วด้วย"

"อืม อยากฟัง"

ผมก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย หลังจากนั่งไม่มีอะไรทำอยู่สักพัก หน้าที่นายแบบของผมก็จบลงครับ ในที่สุดพี่ลิงก์ก็วาดรูปเสร็จสักที

"นี่ไง"

พี่ลิงก์ลุกเอารูปมาให้ผมดูด้วยรอยยิ้ม ผมก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ก่อนจะตาค้างเมื่อได้เห็นภาพเหมือนของตัวเองเต็มตา

"เอ่อ..."

"เหมือนเป๊ะเลยใช่ป่ะ"

พี่ลิงก์นั่งลงบนที่วางแขนของโซฟาพร้อมกับมองรูปที่ตัวเองสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยกัน ผมคงจะไม่ตกตะลึงขนาดนี้ ถ้าหากภาพของตัวเองคือก้อนอะไรสักอย่างสีฟ้าที่อยู่บนโซฟาครับ

ไอ้นี่มันคืออะไรวะ?! สองชั่วโมงกว่าที่ผ่านมาคือไอ้ก้อนนี่เหรอ?!!!

"พี่ลิงก์...."

ผมลากเสียงคร่ำครวญออกมา เพราะมั่นใจแล้วว่า โดนเขาแกล้งอีกแล้ว ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่วาดและระบายด้วยปากกาสีครับ ทุกอย่างเป็นภาพเหมือนทั้งหมด ยกเว้นตัวเอกอย่างผม!

"หึ! ทำไม ไม่ชอบเหรอ"

"ก็พี่แกล้งผม"

"ไม่ได้แกล้ง ก็บู้เป็นแบบนี้อ่ะ"

ผมมองพี่ลิงก์อย่างหาเรื่อง เขาก็เริ่มอธิบายภาพวาดของตัวเองด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน แล้วผมก็ต้องนึกระอาใจ เมื่อได้ฟังที่มาที่ไปของก้อนประหลาดนี้

"ก็บู้ตัวกลมๆ นิ่มๆ ตรงนี้เป็นแก้มกับพุงของบู้ ชื่อบลูก็ต้องตัวสีฟ้า แล้วนี่ก็แขนกับขาสั้นๆ เหมือนเป๊ะเลย"

เอ่อ...ถ้าจะบรรยายมาขนาดนี้ ผมก็หมดคำพูดแล้วครับ

ผมตีหน้ามุ่ยออกมา พี่ลิงก์ก็ยกมือขึ้นลูบหัวของผมเหมือนกำลังปลอบใจ พอผมหันไปส่งสายตาไม่พอใจใส่ เขาก็อมยิ้มออกมา

"ในสายตาลิงก์ บู้ก็เป็นแบบนี้อ่ะ น่ารัก"

ผมเม้มริมฝีปากของตัวเอง ก็ไม่อยากจะยิ้มหรอกนะครับ แต่ความขุ่นเคืองที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็หายไปหมดแล้ว

"เหมือนก็เหมือน"

"หึ! "

ให้ตายเถอะ! ใช้เวลาตั้งนานได้แค่ไอ้ก้อนนี่จริงๆ น่ะเหรอ เฮ้อ...









@@@@@@@@@@









พี่ลิงก์บังคับให้ผมเปลี่ยนรูปดิสเพลย์เป็นรูปที่เขาวาดให้ครับ ผมในฐานะที่เป็นรองมาตลอด ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร เราสองคนนั่งคุยกันไปเรื่อยแบบไม่มีหัวข้ออะไรจริงจังนัก

ผมหยิบกีตาร์โปร่งของพี่ลิงก์มาเล่น โดยที่เขาเปิดหาคอร์ดเพลงในอินเทอร์เน็ต ถึงจะไม่ได้เล่นมานาน แต่ดูเหมือนทักษะด้านนี้ของผมจะยังไม่หายไปไหน

พวกเราผลัดกันเล่นผลัดกันร้องจนแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านมาจากระเบียงหายไป ท้องฟ้าสดใสก็กำลังเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้น

"ตอนเย็นกินอะไรดี"

พี่ลิงก์ถามขึ้น เขานอนอยู่บนเบาะที่วางอยู่บนพื้น ส่วนผมก็นั่งขัดสมาธิโดยที่ถือกีตาร์ไว้บนตักครับ

"แล้วแต่พี่ ผมนึกไม่ออก"

"อืม งั้นหาของเหลือในตู้เย็นมาทำก็แล้วกัน"

พี่ลิงก์ลุกขึ้นยืน ผมวางเครื่องดนตรีที่ใช้งานมาสักพักพิงกับผนังไว้เหมือนเดิม แล้วเดินตามเขาไปที่ห้องครัวเพื่อเตรียมมื้อเย็นของพวกเรา

พี่ลิงก์เดินไปค้นของที่จะสามารถนำมาทำอาหารได้ครู่หนึ่ง เขาก็บอกให้ผมช่วยเตรียมของให้ หลังจากนั้นเพียงไม่นานอาหารง่ายๆ สองสามอย่างก็เสร็จสิ้น

เราสองคนนั่งกินข้าวเย็นในเวลาเกือบหนึ่งทุ่มตรง รสมือของพี่ลิงก์ก็ยังอร่อยเหมือนเดิมครับ พอมานึกถึงตรงนี้ผมก็เริ่มทบทวนตัวเองขึ้นมา บางทีผมก็ควรจะฝีกทำอาหารบ้างเหมือนกัน

"ไปนั่งเล่นที่ระเบียงกัน"

พี่ลิงก์พูดขึ้น หลังจากที่ผมจัดการเก็บล้างเรียบร้อย เขาก็ส่งถุงขนมมาให้ผม แล้วเดินถือกล่องน้ำผลไม้และแก้วน้ำเดินนำเข้าไปในห้องที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขาอีกครั้ง

เราสองคนก้าวตรงไปยังระเบียงด้านนอกที่มีวิวกลางคืนสวยงามและสายลมพัดผ่าน

"ลมแรงเหมือนกันนะครับ"

"อืม แต่ก็สบายดี ว่างๆ ลิงก์ก็ชอบมานั่งเล่นบ่อยๆ "

พวกเรานั่งบนพื้นที่ปูด้วยกระเบื้องโดยมีของกินคั่นกลางครับ ผมมองพี่ลิงก์แล้วยิ้มออกมา เมื่อเห็นคนที่นั่งข้างกันยกแก้วที่ใส่น้ำผลไม้ขึ้นดื่ม

พี่ลิงก์เป็นผู้ชายรักสุขภาพครับ เขาไม่ชอบดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่ด้วย ซึ่งก็อาจจะดูแปลกไปบ้างเมื่อเทียบกับคนในวัยเดียวกัน

"คืนนี้ค้างที่นี่นะ"

พี่ลิงก์หันมามอง ผมนึกลังเลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับ

"แต่ผมนอนโซฟาเหมือนเดิมนะ"

พี่ลิงก์หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนน้ำเสียงกลั้วหัวเราะจะดังขึ้น นัยน์ตาสีดำอ่อนแสงอย่างอารมณ์ดี

"นอนห้องนี้ไหม เอาผ้ามาปูนอนด้วยกัน"

ผมเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย พี่ลิงก์หันไปมองวิวด้านหน้าโดยที่หลังยังพิงผนังด้านหนึ่งของระเบียงไว้อย่างผ่อนคลาย

"แค่อยากนอนกอด ได้หรือเปล่า"

พูดมาขนาดนี้ ผมยังปฏิเสธได้หรือไงครับ!

พี่ลิงก์เลื่อนสายตามามองผมอีกครั้ง ผมที่หัวใจเต้นแรงก็พยายามเก็บท่าทีของตัวเอง แล้วเลื่อนสายตาไปสบกับเขา

"แค่นอนกอดนะครับ"

"จูบด้วย"

"อ่า...ครับ"

ผมอมยิ้มด้วยความรู้สึกเขินมากครับ ตอนนี้ไม่กล้ามองพี่ลิงก์เลย แต่ไออุ่นที่ได้รับตรงผิวแก้ม ก็ทำให้ผมต้องหันไปมองอย่างเผลอตัว และเมื่อได้สบสายตาของเขา ทุกการควบคุมของผมก็พังทลายลง

เราสองคนไม่ได้พูดคุยอะไร แต่สื่อสารกันผ่านการสัมผัสของริมฝีปากที่แนบชิดอย่างลึกซึ้งแทน ใช้ทุกจังหวะและการเคลื่อนไหวส่งต่อและบ่งบอกความรู้สึกที่มีต่อกัน

ถึงความสูงของคอนโดมิเนียมจะทำให้อากาศค่อนข้างเย็น แต่พี่ลิงก์ก็เน้นย้ำจูบซ้ำไปซ้ำมาจนร่างกายของผมร้อนผ่าวและอุ่นซ่านไปทั้งหัวใจเลยครับ







TBC++++++++

Marionetta:
มาแบบหวานละมุนอีกแล้ว 555 ขอบคุณที่ติดตามค่ะ อ่านคอนเมนต์ทึกครั้งก่อนแต่งเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 21 > 14-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 14-01-2020 23:39:55
หวานมากครับ,,,
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 21 > 14-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 17-01-2020 14:45:03
Level 22: ผู้ร่วมเดินทาง







ผมจำไม่ได้ว่าถูกนอนกอดครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะสมัยที่ผมยังเป็นเด็กประถมมั้งครับ ซึ่งมันก็นานจนลืมความรู้สึกในตอนนั้นไปแล้ว และความอบอุ่นที่ถ่ายทอดจากท่อนแขนที่กำลังกอดรัดอยู่ตอนนี้ก็ทำให้ผมนอนไม่หลับ

คืนนี้ผมนอนค้างที่คอนโดของพี่ลิงก์ครับ เจ้าของห้องเอาฟูกมาปูนอนกับพื้นและกำลังนอนกอดผมหลับสบายในห้องงานอดิเรกของเขา ทิ้งให้ผมตาสว่างและหัวใจเต้นแรงตามลำพังในความมืดอย่างสิ้นหนทาง

ผมพยายามข่มตาหลับ แต่ลมหายใจร้อนสม่ำเสมอที่กำลังพัดผ่านข้างแก้มเป็นอุปสรรคหลักที่ทำให่ความรู้สึกของผมไม่สงบจนนอนหลับไม่ลง จะขยับตัวหนีก็กลัวคนที่นอนหลับไปแล้วตื่น ตอนนี้เลยได้แต่นอนลืมตามองเพดานไปเรื่อยเปื่อย

“...บู้”

เสียงทุ้มแผ่วเบาที่ดังขึ้นข้างหู ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อย และเมื่อเหลือบไปมองคนที่นอนหลับ ก็เห็นนัยน์ตาสีดำกำลังทอดมองอยู่

“นอนไม่หลับเหรอ”

“...ครับ”

ผมบอกเสียงเบา แต่ก็ยังนอนนิ่งในอ้อมแขนของอีกฝ่ายอยู่เหมือนเดิม พี่ลิงก์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะพูดขึ้น

“งั้นหาอะไรทำให้เหนื่อยดีไหม”

“เอ่อ....ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวสักพักผมก็หลับ ผมรู้สึกง่วงนิดๆ แล้ว”

ผมรีบพูดออกไปทันที ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์หมายถึงอะไร แต่สมองของผมไม่ได้คิดในแง่ดีสักอย่าง เสียงหัวเราะแผ่วเบาของคนที่นอนข้างกันดังขึ้น ก่อนที่ปลายจมูกของเขาจะกดลงที่หูของผมจนขนลุกไปทั้งร่าง

“ถ้าเปลี่ยนใจก็เรียกได้ตลอดนะ”

แล้วทำแบบนี้ เมื่อไหร่ผมจะหลับได้ล่ะครับ!








@@@@@@@@@@









วันต่อมาพี่ลิงก์ก็มาส่งผมที่หอพักในช่วงบ่าย หลังจากนั้นชีวิตประจำวันของผมก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้งครับ ผมยังไปทำงานพิเศษช่วงปิดเทอมเหมือนเดิม และบางวันผมก็ไปรอพี่ลิงก์ที่ร้านกาแฟแถวบริษัท แล้วออกไปดูหนังหรือหาอะไรกินด้วยกัน

ทุกอย่างผ่านไปอย่างเรียบง่ายจนกระทั่งมาถึงช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนเปิดเทอมใหม่ งานพิเศษในฐานะครูสอนพิเศษของผมก็จบลงตามที่ได้ตกลงกับพี่นกเอาไว้ก่อนหน้านี้ พวกรุ่นพี่นัดพาผมกับเป็ดไปเลี้ยงส่งกันเล็กน้อย แน่นอนว่าถ้ามีโอกาสอีก ผมก็อยากกลับมาทำงานที่นี่อีกครั้งครับ

เป็คอยช่วยพี่นกบ้างเป็นครั้งคราวอยู่แล้ว ส่วนผมก็พักผ่อนอยู่ที่ห้องรอเวลาของการเป็นนักศึกษาชั้นปีที่สามที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าครับ

ในขณะที่ผมกำลังนั่งดูหนังในโน้ตบุ๊กอย่างผ่อนคลาย เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น และเมื่อหยิบมาดูก็พบว่าเป็นพี่ลิงก์ครับ

“ครับพี่”

[บู้เตรียมตัวจัดกระเป๋า พรุ่งนี้จะไปรับ]

“ไปไหนครับ”

[จะพาไปเที่ยว พอดีพวกนั้นจะไปบริจาคของที่โรงเรียนในต่างจังหวัดน่ะ]

“อ้อครับ แล้วไปกี่วันครับ”

[ไปค้างคืนเดียว หรือบู้อยากไปเที่ยวไหนต่อล่ะ]

“ไม่ครับ จะเปิดเทอมแล้ว ผมขี้เกียจ”

[เอาแต่นอนอืดเป็นหมู แค่นี้ล่ะ ทำงานต่อแล้ว]

“ครับ”

ผมวางสายของพี่ลิงก์แล้วกลับมาสนใจหนังที่หยุดไปเมื่อครู่นี้อีกครั้ง ก่อนจะลุกไปจัดกระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้ครับ









@@@@@@@@@@









เมื่อคืนนี้พี่ลิงก์นัดจะมารับผมตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เพราะต้องเดินทางกันไกล ผมลงมารอที่ด้านล่างของหอพักได้เพียงไม่นานก็เห็นรถยนต์สีขาวไม่คุ้นตามาจอดอยู่ตรงหน้า และผมก็คงจะไม่ได้สนใจ ถ้าหากกระจกด้านข้างคนขับไม่ถูกเลื่อนลงมาจนเห็นใบหน้าน่ารักของใครคนหนึ่งเข้า

พริ้ม...

ผมนึกแปลกใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองพี่ลิงก์ที่เดินลงมาจากรถด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ผมยังไม่ทันได้ถามอะไร เขาก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“พริ้มไปด้วย มาดักที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนน่ะ”

ผมพยักหนัาเข้าใจ เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไร ถ้าหากพริ้มจะเดินทางไปด้วย ถึงแม้ตอนนี้เธอจะกำลังส่งสีหน้าเอาชนะผมมาให้อย่างชัดเจนก็ตาม

ผมไม่ได้โมโหหรือไม่พอใจครับ ในเมื่อจะต้องเดินทางไปด้วยกัน ผมเลยหันไปทักทายเพื่อไม่ให้บรรยากาศหลังจากนี้ตึงเครียดจนเกินไป

“สวัสดีครับพริ้ม”

“เชอะ!”

พริ้มแค่นเสียงพร้อมกับสะบัดหน้าใส่ ผมก็ถอนหายใจออกมา แล้วหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังต่อว่าน้องสาวที่ทำกิริยาไม่น่ารัก

“ทำตัวให้ดีหน่อย เดี๋ยวก็ไม่ให้ไปด้วยหรอก”

“พี่ลิงก์จะผิดสัญญาเหรอ!”

พริ้มทำหน้างอนใส่ แล้วเลื่อนกระจกขึ้นปิดด้วยท่าทางไม่พอใจ พิลิงก์จ้องเขม็งไปยังน้องสาว ก่อนจะหันมาทางผมด้วยท่าทางหงุดหงิด

“บู้นั่งหลังนะ ขี้เกียจเถียงกับพริ้ม”

“ครับ”

ผมยิ้มให้พี่ลิงก์ แล้วเดินไปเปิดประตูด้านหลัง สัมภาระของผมมีแค่เป้ใบเดียวครับ และเมื่อทุกคนเข้ามานั่งในรถเรียบร้อย การเดินทางก็เริ่มขึ้น

ผมมองบรรยากาศภายในรถที่เงียบกริบ พี่ลิงก์ก็เอาแต่สนใจภนนข้างหน้า ส่วนพริ้มก็เอาแต่กดโทรศัพท์มือถือ ผมเลยหันไปมองวิวข้างหน้าต่างแทน

หวังว่าทริปครั้งนี้จะไม่น่าอึดอัดจนเกินไปนะครับ









@@@@@@@@@@









พี่ลิงก์นัดกับเพื่อนๆ กันที่ปั๋มแห่งหนึ่ง เพราะวันหยุดนี้ตรงกับวันเกิดของพี่ดิมพอดี ทุกคนเลยตกลงไปเที่ยวและทำบุญไปพร้อมกัน ทริปบริจาคของให้น้องๆ ที่อยู่เขตห่างไกลแบบเฉพาะกิจจึงเกิดขึ้นครับ

การเดินทางครั้งนี้มีกลุ่มของพี่ลิงก์ รวมผมกับพริ้มไปด้วยก็ทั้งหมดเจ็ดคนครับ สิ่งของที่จะนำไปบริจาคเป็นอุปกรณ์กีฬาและเครื่องเขียน ซึ่งใส่ในรถกระบะที่พี่เรย์เป็นคนขับมากับพี่ดิมและพี่พล ส่วนพี่ทีขับรถมาคนเดียว

“มาจริงดิ”

พี่เรย์ทักขึ้น เมื่อเห็นพริ้มลงมาจากรถ เธอก็แค่ยิ้มให้ ก่อนจะเดินไปทางร้านสะดวกซื้อ โดยไม่ลืมที่จะคว้าแขนของพี่ลิงกให้เดินไปด้วยกัน

ผมก็ได้แต่มองตามเล็กน้อย แล้วก็มารู้ทีหลังจากพี่เรย์ว่า พริ้มรู้เรื่องทริปนี้มาจากน้องสาวของเขาที่เป็นเพื่อนสนิทกับเธอครับ

"พริ้มมาด้วยก็ทนเอาหน่อยนะ"

พี่พลพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ผมก็ยิ้มรับไปตามเรื่อง อันที่จริงระหว่างการเดินทางที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรหรอกครับ อาจจะมีการถกเถียงระหว่างพี่ลิงก์กับพริ้มบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น

“ถ้ารำคาญก็ไปนั่งกับไอ้ทีก็ได้ มันขับรถคนเดียวอาจจะเหงา”

พี่ดิมพูดขึ้นพร้อมกับพยักพเยิดไปทางพี่ทีที่กำลังยืนพิงรถยนต์ของตัวเองพลางยกขวดน้ำขึ้นดื่มไม่ต่างจากนายแบบ

“ไม่เป็นไรครับ”

ถัาจะให้ไปทนนั่งอึดอัดในรถของพี่ทีสู้ทะเลาะกับพริ้มยังดีกว่าครับ

หลังจากที่แยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ออกเดินทางกันต่อ

“บู้แกะขนมมาให้กินหน่อย”

พี่ลิงก์พูดขึ้น ท่ามกลางความเงียบของห้องโดยสาร ผมก็หยิบถุงขนมเตรียมจะแกะให้ แต่ก็มีมือหนึ่งมาคว้าไปเสียก่อน แถมยังเปิดพร้อมเสิร์ฟให้เสร็จสรรพ

“เดี๋ยวพริ้มป้อนให้”

พี่ลิงก์เลื่อนสายตาไปมองพริ้มที่กำลังยื่นขนมมาตรงหน้า เขาหันไปสนใจถนนข้างหน้าต่อ ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง

“บู้ จะเอาน้ำ”

ผมไม่ทันจะได้หยิบของที่คนขับต้องการ พริ้มก็คว้าขวดน้ำดื่มไปเปิดพร้อมกับใส่หลอดแล้วยืนให้พี่ลิงก์อย่างรวดเร็วทันใจ ผมก็ได้แต่นึกขำและทำตัวไม่ถูกไปพร้อมกัน

พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา เขาไม่ได้รับขนมและน้ำดื่มจากพริ้มแต่เลื่อกที่จะพูดบางอย่างออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาแทน

“ชื่อบู้เหรอ”

“เปล่าค่ะ แต่พริ้มทำให้สะดวกกว่านี่”

พี่ลิงก์ไม่ตอบอะไร แต่เลี้ยวรถเข้ามาจอดข้างทางแบบกะทันหัน ในขณะที่ผมกำลังงุนงง เขาก็หันมาพูดกับพริ้มด้วยสีหน้าเอาเรื่อง

“ไปนั่งหลังซะ”

“ไม่เอาอ่ะ”

“พริ้ม!”

“พิ่ลงก์! พริ้มผิดอะไร! ก็แค่จะช่วยเท่านั้นเอง!”

ผมมองพี่ลิงก์ที่ยังจ้องหน้าพริ้ม ส่วนคนที่ถูกจ้องก็ส่งสายตาตัดพ้อ แถมยังทำท่าเหมือนจะร้องไห้ออกมาด้วยครับ แล้วผมก็ทนมองเหตุการณ์นี้ต่อไม่ได้อีก

“พี่ลิงก์ ใจเย็นๆ ครับ น้องก็แค่หวังดี”

“ยุ่งน่า!”

“ใครน้องนายกัน! "

ทั้งพี่ลิงก์และพริ้มหันมาว่าผมพร้อมกัน ผมก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างระบายอารมณ์ แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ถ้าอย่างนั้นผมขอโทรเรียกให้พี่พลมารับนะครับ”

พี่ลิงก์หันมาคว้าโทรศัพท์มือถือของผมไปจากมือด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร นอกจากมองตามเท่านั้น ส่วนพริ้มที่ทำหน้าเหมือนน้ำตาจะแตกอยู่เมื่อครู่ ก็ส่งสายตาเขียวปั๊ดมาให้ผม แล้วนั่งกอดอกเชิดหน้าอย่างคุณหนูผู้เอาแต่ใจ ความเงียบเกิดขึ้นอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่พี่ลิงก์จะออกรถอีกครั้ง

“ปั๊มหน้าไปนั่งกับไอ้ทีไป"

ผมไม่รู้ว่าพี่ลิงก์หมายถึงใครระหว่างพริ้มกับผม แต่เราสองคนก็เลือกที่จะนั่งเงียบต่อไป เมื่อบรรยากาศขุ่นมัวเริ่มคลายลง ผมก็ตัดสินใจพูดทำลายความเงียบขึ้น

“เปิดเพลงฟังดีไหมครับ”

พี่ลิงก์ไม่ได้พูดตอบรับ แต่ส่งโทรศัพท์มือถือของเขามาให้ผมเลือกเพลงบรรเลงที่มีทำนองฟังสบายในอินเทอร์เน็ตเพื่อทำให้บรรยากาศในห้องโดยสารดีขึ้นและอารมณ์ของทุกคนจะได้สงบลง

“รสนิยมห่วย”

“พริ้มหุบปาก”

พริ้มทำสีหน้างอนใส่พี่ลิงก์อีกครั้ง แล้วหันมาแสดงสีหน้าไม่พอใจใส่ผมต่อ ผมก็ได้แต่กะพริบตาทีหนึ่งอย่างปลงตกและอ่อนใจ









@@@@@@@@@@









การเดินทางใช้เวลาหลายชั่วโมง ในที่สุดพวกเราก็มาถึงโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลแห่งหนึ่ง โดยที่มีคุณครูและน้องๆ ออกมาต้อนรับกันด้วยรอยยิ้ม ผมที่ไม่เคยทำกิจกรรมอะไรแบบนี้มาก่อนก็พลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันทีเลยครับ

นอกจากจะบริจาคสิ่งของแล้ว พวกเราก็ยังบริจาคเงินสมทบทุนในการบำรุงรักษาโรงเรียนอีกด้วย ความรู้สึกสีเทาที่เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางที่ชวนปวดหัวหายไปจนหมด

นี่สินะ...ที่เรียกว่าความสุขของผู้ให้

หลังจากทำการส่งมอบสิ่งของและเงินกันเรียบร้อย พวกพี่ๆ ก็เล่นฟุตบอลร่วมกับน้องๆ ท่ามกลางแสงแดดร้อนแรงกันต่ออย่างสนุกสนาน ปล่อยให้ผมยืนมึนอยู่กับพริ้มที่ข้างสนามครับ

ผมมองตามพี่ลิงก์ที่เตะส่งลูกให้น้องคนหนึ่ง เกมครัังนี้แบ่งทีมรวมกับพวกน้องๆ คละกันครับ

พี่ลิงก์เท่ว่ะ ช็อตนี้ต้องเก็บ!

ยังไม่ทันที่ผมจะได้หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองเพื่อเอามาถ่ายรุปอย่างที่ตั่องการ เสียงหวานแข็งของคนที่ยืนอยู่ด้วยกันก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน

“เป็นแฟนกันได้ ก็เลิกกันได้”

พริ้มยังจับจ้องไปย้งสนามฟุตบอลที่เต็มไปด้วยพื้นหญ้าแห้งกรอบ ผมไม่ได้พูดโต้ตอบอะไร อยากพูดอะไรก็ช่างเถอะครับ ผมไม่ได้ถือสาอยู่แล้ว ตอนนี้ก็คิดว่าอีกฝ่ายป็นเหมือนน้องสาวตัวแสบเท่านั้น จนผ่านไปสักพักเสียงหวานของพริ้มก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“นี่! พาไปห้องน้ำหน่อยสิ”

ผมหันไปมองพริ้มที่กำลังทำหน้ายุ่งคิ้วขมวดด้วยความอ่อนใจ แล้วเดินนำอีกฝ่ายไปยังห้องน้ำที่อยู่ห่างออกไป

หลังจากสอบถามน้องผู้หญิงคนหนึ่ง เธอก็ชี้ไปด้านหลังของอาคารเรียนชั้นเดียวที่อยู่ห่างออกไป ผมกับพริ้มเดินไปตามทางสักพักก็เห็นห้องน้ำที่แบ่งชายและหญิงคนละฟากอยู่ตรงหน้า

“ทำไมมันดูสกปรกจัง”

พริ้มทำสีหน้าไม่ชอบใจ แต่ก็ยอมเดินไปทางห้องน้ำหญิงอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ห้องน้ำของโรงเรียนก่อจากปูนที่ทาสีส้มแสบตาและมุงหลังคาด้วยสังกะสีที่แสงแดดส่องถึงโดยไม่ต้องอาศัยแสงไฟในตอนกลางวันครับ

ผมยืนรอพริ้มอยู่ไม่ถึงหนึ่งนาที เสียงกรีดร้องของคนที่เข้าห้องน้ำไปก็ดังขึ้น ผมรีบวิ่งเข้าไปดูด้วยความตดใจ พริ้มวิ่งเข้ามาหาหร้อมกับส่งเสียงร้องโวยวายราวกับคนเสียสติ นิ้วเรียวชี้ไปห้องนัำด้วยท่าทางหวาดกลัว

“กิ้งกือๆ! อี๋ๆ! เอามันออกไป! "

ผมลอบถอนหายใจออกมา เมื่อมองตามทิศทางที่อีกฝ่ายบอก

“โอเค เดี๋ยวผมจัดการให้”

ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ กิ้งกือตัวใหญ่กำลังขดตัวอย่างสงบอยู่ข้างส้วมซึมที่อับชื้น ผมตักน้ำราดใส่เพื่อไล่มันออกไป เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีสัตว์อะไรที่ไม่น่าพิสมัยอีก ก็เดินออกมาหาพริ้มที่ยืนหน้าเสียอยู่

“มันไปแล้ว”

“บ้าจริง! ใครจะกล้าเข้ากัน!”

“จะไม่เข้าแล้วเหรอ"

ใบหน้าหวานเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ห้องน้ำหญิงมีทั้งหมดห้าห้อง ผมลองเปิดสำรวจดูทุกห้องแล้ว สภาพก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ พริ้มยืนชั่งใจอยู่สักพัก แล้วหันมาบอกผมเสียงเข้ม

“รอแถวนี้ด้วยล่ะ เผื่อมันมีอะไรน่ากลัวมาอีก”

“ครับ”

พริ้มค่อยๆ ก้าวเข้าห้องน้ำด้วยท่าทางหวาดระแวง ก่อนจะปิดประตูลง ผมถอนหายใจออกมา หลังจากยืนรออยู่สักพัก อีกฝ่ายก็รีบวิ่งออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ผมมองท่าทางนั้นแล้วอมยิ้มออกมา แต่เมื่อคนตรงหน้าหันมามอง เธอก็ถลึงตาใส่ผม แล้วเดินเชิดหน้าอย่างไม่สนใจ

เอาเถอะ...

ผมได้แต่นึกปลงตกกับท่าทางเอาแต่ใจของพริ้ม และเมื่อเราสองคนกลับไปที่สนามฟุตบอลอีกครั้ง กิจกรรมก็จบลงแล้ว ทุกคนกำลังนั่งพักกันที่ใต้อาคารเรียน พี่ลิงก์หันมาถามผมในทันที

“ไปไหนมา”

“พาพริ้มไปเข้าห้องน้ำมาครับ”

พี่ลิงก์พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปมองพริ้มที่ยืนเงียบอยู่ เขาหยิบขนมกับน้ำเปล่าส่งให้น้องสาวพร้อมกับถามเสียงเรียบ

“หิวหรือเปล่า เอานี่ไปกินรองท้องก่อน”

พริ้มรับขนมกับน้ำดื่มที่พี่ลิงก์ส่งให้ แล้วยิ้มหวานออกมาด้วยท่าทางสดใส

"ขอบคุณค่ะ”

พี่ลิงก์ไม่ได้ตอบรับอะไร นอกจากยกมือลูบหัวของพริ้มเบาๆ ผมมองท่าทางอ่อนโยนของเขาด้วยรอยยิ้มบาง

ถึงจะทะเลาะกันยังไง แต่พี่ชายก็ยังห่วงใยน้องสาวอยู่ดี

เห็นแบบนี้แล้วผมก็นึกถึงน้องชายที่บ้านเลยครับ ตอนนี้กรีนสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพเหมือนกัน ผมเพิ่งจะไปช่วยจัดของเมื่ออาทิตย์ก่อน แล้วก็ได้เจอพ่อกับแม่ด้วย

“เหม่ออะไรบู้”

ผมเหมือนหลุดจากภวังค์ความคิดในอดีต ก่อนจะหันไปตามเสียงเรียก พี่ลิงก์กำลังยืนข้างผม เขาดูเหนื่อยพอสมควรเพราะไปวิ่งเล่นกลางแดดมาพักใหญ่

“เปล่าครับ แล้วเป็นไงครับ สนุกไหม”

“อืม นี่ขนมของบู้”

ผมมองขนมปังเนยสดที่เหลือครึ่งเดียวเล็กน้อย แล้วมองพี่ลิงก์ที่กำลังดื่มน้ำ นัยน์ตาสีดำทอดมองตรงไปข้างหน้า ก่อนที่เขาจะหันมามองผม แล้วเลิกคิ้วขึ้น

“ทำไมมันเหลือครึ่งเดียวล่ะครับ”

“ก็ลิงก์กินไปแล้วไง แบ่งกันไม่ได้เหรอ”

ผมส่วยหน้าพร้อมกับกินขนมปังที่เหลืออยู่จนหมด โดยอุทิศตนยืนเป็นที่วางแขนให้พี่ลิงก์ที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนอย่างสงบไปด้วยครับ





TBC++++++++
Marionetta ขอบคุณที่ติดตาม เจอกันตอนหน้าจ้า อิอิ  :-[
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 22 > 17-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 17-01-2020 17:56:47
เป็นอีกหนึ่งด่านของบู้
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 22 > 17-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 18-01-2020 05:03:00
บู้ซะอย่างเอาอยู่ทุกคนแหละ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 22 > 17-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 21-01-2020 13:09:11
Level 23: เขย่าหัวใจ






กว่าที่พวกเราจะออกจากโรงเรียนก็ใกล้จะเย็นแล้วครับ หลังจากแวะหาอะไรกินเป็นอาหารเย็นที่ร้านข้างทางเสร็จ ก็เดินทางมายังที่พักในคืนนี้กันต่อ

เดิมทีทริปครั้งนี้เป็นกลุ่มผู้ชายล้วนและตกลงจะอยู่กันห้องละสองคน แต่เพราะพริ้มมาเพิ่มแบบกะทันหันเลยต้องจองห้องเพิ่มครับ ทว่าก็เกิดปัญหาขึ้นเพราะที่พักเต็ม

“เต็ม? ที่แบบนี้เนี่ยนะ?!”

พริ้มโวยวายออกมา ถึงที่พักแห่งนี้จะไม่ได้ราคาแพง แต่ก็ถือว่าใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้แล้วครับ อีกทั้งแถวนี้ก็ไม่ค่อยมีที่พักให้เลือกด้วย

“แต่ว่า....”

“ฉันจ่ายเพิ่มก็ได้ จะเอาเท่าไหร่”

พริ้มพูดขึ้นพร้อมกับมองพนักงานต้อนรับอย่างกดดัน พี่ลิงก์เลยต้องดึงแขนของน้องสาวออกมา ผมก็เดินตามทั้งสองคนไปรวมกลุ่มพื่อปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น

“งั้นก็ยกห้องนึงให้พริ้ม แล้วพวกเราก็นอนห้องละสามคนแล้วกัน”

“แต่มันเป็นเตียงแฝด แถมแต่ละคนก็ไม่ได้ตัวเล็ก หุ่นกะทัดรัดเหมือนบลูด้วยนะเว้ย”

ผมได้แต่นึกเซ็งกับการเปรียบเทียบของพี่เรย์ แต่ก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร ในเมื่อผมตัวสูงเท่ากับพริ้มเลยนี่ครับ ส่วนพวกพี่ๆ แต่ละคนก็อย่างกับเสาไฟฟ้า พอมารวมกลุ่มกันแบบนี้ ผมเหมือนโดนกดดันทางอ้อมเลย

“แค่คืนเดียวเปล่าวะ ก็เลื่อนเตียงมาชิดกันดิ”

พี่พลเสนอทางเลือก แต่ดูเหมือนคนอื่นๆ จะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะการเดินทางมาไกลและกิจกรรมกลางแจ้งที่โรงเรียน ทำให้ทุกคนอยากจะนอนพักผ่อนให้สบายตัวกันมากกว่า

ผมเดินตามพี่ลิงก์กลับไปหาพนักงานต้อนรับอีกครั้งเพื่อสอบถามเกี่ยวกับห้องพักเพิ่มเติม พนักงานสาวมีท่าทีหนักใจ เธอเปิดสมุดอะไรสักอย่าง แล้วถอนหายใจออกมา

“ไม่มีห้องที่หลุดคิวจองหรือเพิ่งเช็กเอาท์บ้างเลยหรือครับ ผมยินดีจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้ได้ห้อง ยังไงก็ช่วยหน่อยนะครับ”

ผมได้แต่ยืนนิ่งมองการเจรจาต่อรองของพี่ลิงก์อย่างทำใจ ถ้าหากไม่หาที่พักใหม่ คืนนี้ก็ต้องยัดกันห้องละสามคน แล้วที่นี่ก็ไม่มีเตียงเสริม คงต้องมีคนเสียสละนอนพื้นหรือเก้าอี้แน่นอน

ผมได้แต่คิดในใจ แล้วหันไปสนใจพนักงานที่พยายามหาห้องว่างอย่างเต็มที่ เธอยกโทรศัพท์ติดต่อหาใครสักคนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันมาส่งยิ้มให้พวกเรา

“มันมีห้องว่างอยู่ห้องหนึ่งค่ะ แต่ยังไม่ได้ทำความสะอาด ถ้าต้องการจริงๆ ก็ต้องรอสักครู่นะคะ”

“ครับ ขอบคุณมากเลยครับ”

พี่ลิงก์ส่งยิ้มขอบคุณให้พนักงานสาวก็ยิ้มรับด้วยสีหน้าปั้นยาก ผมก็ถอนหายใจที่รอดพ้นจากชะตากรรมที่มีความเสี่ยงจะได้นอนพื้นหรือหลับคาเก้าอี้อย่างหวุดหวิด

“ได้ห้องแล้ว พวกมึงไปที่ห้องกันเลย เดี๋ยวกูรอห้องกับพริ้ม”

พี่ลิงก์บอกเพื่อน แล้วหันมาส่งกุญแจห้องให้ผม รวมไปถึงข้าวของอย่างอื่นด้วย

“บู้ไปเก็บของที่ห้องเลย เดี๋ยวลิงก์ตามไป”

“ครับ”





@@@@@@@@@@





ผมเดินตามพวกพี่ๆ เข้าไปในลิฟต์ ซึ่งก็พักกันคนละชั้นครับ โดยที่พี่พลพักกับพี่ทีที่ชั้นหก พี่เรย์กับพี่ดิมพักที่ชั้นสาม ส่วนผมกับพี่ลิงก์พักที่ชั้นห้าครับ

ผมเดินออกจากลิฟต์ แล้วมองไปตามหมายเลขที่ติดอยู่ตรงประตู พอเดินมาได้ครู่เดียวก็เจอห้องพักของตัวเองครับ

ภายในห้องพักขนาดกลาง มีเตียงแฝดและเฟอร์นิจอร์พื้นฐานทั่วไป หลังจากเดินสำรวจความเรียบร้อยจนพอใจ ผมก็นั่งเล่นบนเตียง เพียงไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

ผมส่องตาแมวเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูออก

พี่ลิงก์เดินตรงเข้ามากระโดดนอนบนเตียงที่อยู่ติดกับห้องน้ำราวกับคนหมดแรง

“เหนื่อย”

ผมยิ้มบางออกมา พลางเดินเข้าไปนวดหลังให้พี่ลิงก์ เขาหันมาส่งยิ้มให้ แล้วหลับตานอนสบายอยู่บนเตียง

“ตกลงพริ้มพักที่ห้องไหนครับ”

“ชั้นนี้แหละ แต่อยู่อีกด้าน”

“แล้วจะไปรวมกลุ่มที่ห้องพี่ดิมกี่โมงครับ”

พวกเรามีนัดจัดงานฉลองว้นเกิดของพี่ดิมกันต่อครับ

“ก็สักสามทุ่ม ตอนนี้ก็พักผ่อนกันก่อน”

ผมพยักหน้ารับพร้อมกับนวดทั้งไหล่และหลังของพี่ลิงก์ไปเรื่อยครับ จนรู้สึกว่าเริ่มเมื่อยมือแล้ว ผมเลยหยุด คนที่นอนสบายเลยลืมตาขึ้นอีกครั้ง

“เสร็จแล้วเหรอ”

“ผมเมื่อยแล้ว”

ผมบอกไปตามตรง ในขณะที่ผมกำลังจะลุกเดินไปเปิดโทรทัศน์เพื่อไม่ให้ห้องเงียบเกินไป ก็ถูกอีกฝ่ายดึงจนหงายหลังล้มไปบนเตียงอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมเบิกตากว้าง เมื่อถูกพี่ลิงก์กักตัวเอาไว้ด้วยท่าทางล่อแหลม

“ลิงก์จะให้รางวัลบู้”

ผมยังไม่ทันได้ถามว่าคืออะไรและเพราะเหตุใด พี่ลิงก์ก็ก้มลงจูบริมฝีปากของผมอย่างนุ่มนวล ความตกใจเกิดขึ้นชั่ววูบหนึ่ง ก่อนความเคลิบเคลิ้มจะทำให้ผมตอบรับปลายลิ้นที่สอดเข้ามาอย่างเผลอไผล เสียงสัมผัสดังขึ้นตามจังหวะของอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นตามลำดับ โดยที่มือของเราสองคนต่างก็ลูบไล้ร่างกายของอีกฝ่ายเพื่อเล้าโลมกันและกันอย่างต่อเนื่อง

หัวใจของผมบีบรัดรุนแรงทุกครั้งที่ถูกพี่ลิงก์จูบเน้นหนัก เขาตักตวงทุกความรู้สึกนึกคิดจนผมเลื่อนลอยไร้สติ

“อื้อ! อือ...”

ผมครางออกมาเบาๆ ถึงแม้หัวใจจะเต้นรัว ใบหน้าเห่อร้อนและลมหายใจติดขัด ทว่าความทรมานนี้กลับสร้างความสุขจนไม่อยากให้ทุกอย่างหยุดลง ผมขยุ้มเส้นผมและรั้งต้นคอของอีกฝ่ายไม่ปล่อย ยิ่งถูกช่วงชิงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกอดคว้าเอาไว้เท่านั้น

"อือ...อืม"

เสียงครางอย่างพอใจของพี่ลิงก์ ทำให้ผมกระดกลิ้นรับอย่างกระตือรือร้น และการตอบสนองของผมก็ทำให้เสียงจูบดังขึ้นกว่าเดิม ความร้อนแรงเร่งเร้าจนแทบขาดใจ

ลมหายใจผิดจังหวะของเราสองคนดังก้อง เมิ่อริมฝีปากที่แนบชิดบดเบียดยาวนานหลายนาทีผละออกห่าง ผมสบนัยน์ตาสีดำทอประกายอย่างหลงใหล ก่อนจะหลับตาลงส่งเสียงร้องแผ่วด้วยความเสียวซ่าน เมื่อถูกพี่ลิงก์ลากเลียและดูดเม้มตั้งแต่ใบหูจนถึงซอกคอ

ฝ่ามือร้อนของเขาสอดผ่านชายเสื้อเข้ามาสัมผัสหน้าท้องนิ่ม

ผมหดเกร็งตัวขึ้นฉับพลันพร้อมกับความเขินอาย ตอนนี้พี่ลิงก์ถลกเสื้อยืดของผมขึ้นโชว์หน้าอกสีแดงระเรื่อและหน้าท้องที่กระเพื่อมตามจังหวะของลมหายใจที่ถี่เร็ว

"หึ..."

ผมขมวดคิ้วกับเสียงหัวเราะนั้น แล้วหลุดเสียงครางออกมา เมื่อพี่ลิงก์ก้มลงดูดหัวนมของผมราวกับคนหิวโหย ฝ่ามือที่เคยลูบไล้ผ่านเอวที่ไร้ส่วนโค้งเว้าเลื่อนลงมาทำความรู้จักกับน้องชายของผมที่กำลังดันตัวออกมาไม่หยุด

"อ๊ะ! อ่า...พ...พี่ลิงก์! อึก! "

ผมร้องและบิดเกร็งร่างกายของตัวเองด้วยความกระสัน

พี่ลิงก์ถอยห่างจากหน้าอกแดงช้ำของผม แล้วเลื่อนใบหน้าขึ้นมาจูบปากของผมอีกครั้ง ริมฝีปากของเขาดูดเม้มแทรกสอดปลายลิ้นเกี่ยวพันหยอกเย้าไปทั่วโพรงปาก ฝ่ามือก็เคล้นคลึงกดน้ำหนักตรงเป้ากาวเกงที่นูนออกมาของผมจนชื้นแฉะ

ถึงผมจะใจไม่กล้าและยังหวาดกลัวกับความสัมพันธ์ที่เกินเลยกว่านี้ เพราะเคยศึกษาและอ่านประสบการณ์ของการมีเพศสัมพันธ์ของผู้ชายด้วยกันมาบ้าง แต่ถ้าหากพี่ลิงก์ลากผมไปทำมิดีมิร้ายหรือรุกหนักขึ้นไม่หยุดเหมือนที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ผมก็คงไม่ขัดขืนอะไรครับ

ในเมื่อก้นบึ้งของความรู้สึก ผมก็อยากสัมผัสตัวตนของพี่ลิงก์ให้มากกว่านี้

ปังๆ!

"พี่ลิงก์ๆ! "

เสียงเรียกและเคาะประตูดังขึ้นขัดทุกความรู้สึกและอารมณ์ให้ชะงัก สติที่กำลังล่องลอยกลับเข้ามาในทันที ผมลืมตาขึ้นและกำลังจะดันพี่ลิงก์ออก แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับลงน้ำหนักทับมามากกว่าเดิม มือทั้งสองข้างจับยึดใบหน้าของผมเอาไว้ไม่ให้หันหนีไปไหน ริมฝีปากยังคงประกบจูบผมต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผมรู้สึกดีและพอใจไปกับทุกการกระทำและทุกสัมผัสของพี่ลิงก์ แต่เสียงเรียกและเคาะประตูไม่หยุด รวมไปถึงเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาที่ดังขึ้นก็ทำให้ผมพาอารมณ์วาบไหวไปต่อไม่ได้ มือที่เคยรั้งต้นคอและแผ่นหลังกว้างเปลี่ยนมาดันไหล่หนาให้ออกห่าง ใบหน้าที่ถูกล็อกเอาไว้ขยับหนีจูบดูดวิญญาณอย่างเต็มที่

เสียงอู้อึ้ประท้วงขัดขืนของผม ทำให้พี่ลิงก์พ่นลมหายใจแรงอย่างหงุดหงิด แล้วยอมถอยในที่สุด ใบหน้าหล่อที่แดงระเรื่อบูดบึ้ง คิ้วขมวดกันแน่น นัยน์ตาที่เคยทอแววหวานพราวน่ามองแข็งกร้าวอย่างไม่สบอารมณ์ ผมปรับลมหายใจให้เป็นปกติ ถึงแม้ร่างกายจะยังร้อนรุ่มด้วยอารมณ์อย่างเต็มเปี่ยมอยู่ก็ตาม

"โอ๊ย! "

ผมร้องเสียงเบาพลางลูบแก้มของตัวเอง เมื่อถูกพี่ลิงก์กัดแบบไม่เบาแรง เขาขยี้ผมที่ยุ่งจากฝีมือของผมให้เสียทรงมากกว่าเดิมพร้อมกับเดินไปที่ประตู โดยไม่สนใจเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ผมรีบลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำทันที

ผมตัดสินใจอาบน้ำพร้อมกับจัดการสภาพของตัวเองให้เรียบร้อย โดยไม่ได้ฟังเสียงจากภายนอก ผมมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกเงาที่มีร่องรอยเป็นจ้ำแดงพลางยกมือแตะริมฝืปากบวมเจ่อด้วยความเขินอาย

เราสองคนกอดจูบอย่างแนบชิดกันหลายครั้งแล้วครับ แต่ครั้งนี้นับว่ามาไกลกว่าปกติ ถ้าไม่มีการขัดจังหวะ ผมคงคล้อยตามจนโดนพี่ลิงก์กินเพลินแบบไม่รู้ตัวแน่!

แต่...ถึงจะรู้ตัวก็ยอมให้กินอยู่ดีครับ งื้อ...

ผมอมยิ้มเขินพลางสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อลบจินตนาการลามกให้หายไปจากสมอง หลังจากควบคุมจิตใจและความรู้สึกให้เป็นปกติได้อีกครั้ง ผมก็เปิดประตูหัองน้ำ แล้วใบหน้าก็มีอุณหภูมิสูงขึ้นมาเล็กน้อย ลำคอแห้งผากกับภาพบาดตาบาดใจ

พี่ลิงก์ที่ถอดเสื้อกำลังนอนอ้าขาเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ครับ ใบหน้าหล่อที่ริมฝีปากบวมเจ่อน่าจูบ แผ่นอกและไหล่กว้างสีน้ำนมน่าซบ ตลอดจนกล้ามท้องเป็นลอนสวยน่ากัด ทำให้ผมเผลอเลียริมฝีปากพลางกลืนน้ำลายอีกใหญ่

ไอ้บลู! หยุดคิดเรื่องทะลึ่งเดี๋ยวนี้! ถึงแม้ตอนนี้พี่ลิงก์จะเซ็กซี่น่าปล้ำสุดๆ ก็เถอะ!

ผมตบแก้มของตัวเองที่ความหื่นกามขึ้นสมองกำเริบพร้อมกับพยายามเรียกสติกลับมา และท่าทางเหมือนคนบ้าของผม ก็ทำให้พี่ลิงก์หันมามอง

"บู้เป็นอะไร"

"อ่า...เปล่าครับ เอ่อ...แล้วเกิดอะไรขึันครับ"

ผมเปลี่ยนเรื่องทันที พี่ลิงก์ชักสีหน้าออกมา เสียงทุ้มเจือความเบื่อหน่าย

"พริ้มมาเรียก บอกว่าในห้องมีแมลงสาบ แต่ลิงก์ไปดูก็ไม่เห็นมีอะไร ตอนนี้ให้ไปอยู่ห้องไอ้ดิมแล้ว"

ผมพยักหน้ารับ พี่ลิงก์ลุกขึ้นเดินมาหา เขาก้มตัวมาหอมแก้มของผมฟอดใหญ่ แล้วกระซิบเสียงพร่าที่ข้างหูให้ผมสยิวเล่น

"เมื่อกี้...กำลังกินบู้อร่อยเลย"

ผมกลั้นหายใจ แล้วหันไปสบกับนัยน์ตาสีดำแวววาว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์วาดขึ้นบนริมฝีปากที่ผมฝากรอยจูบเอาไว้

"เดี๋ยวไปกินเค้กแล้ว ลิงก์จะกลับมากินบู้ต่อ"

ผมพูดอะไรไม่ออก หัวใจเต้นเร็วขึ้นมาทันที มโนภาพที่พยายามลบล้างไปจากความคิดไหลกลับมาอีกครั้ง จนกระทั่งได้ยินเสียงปิดประตูหัองน้ำ ผมก็เหมือนได้หลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียงพร้อมกับลูบใบหน้าร้อนผ่าวของตัวเอง รอยยิ้มปรากฏขึ้นมา

หึ! ชอบแกล้งอยู่เรื่อย





@@@@@@@@@@





เมื่อผมกับพี่ลิงก์ไปถึงห้องของพี่ดิมกับพี่เรย์ เสียงแซวก็ดังขึ้นจากรอยแดงตรงคอของผมและริมฝีปากที่บวมเจ่อของเราสองคน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายมองปราดเดียวก็เข้าใจทุกอย่าง

"แหม...แบบนี้จะกินกับพวกเราไหวเหรอ น่าจะอิ่มกันแล้วมั้ง"

"สงสัยต้องเปลี่ยนจากงานเลียงวันเกิดกูเป็นงานเลี้ยงฮันนีมูนของใครหรือเปล่าวะ"

"พวกมึงก็อย่าไปแซวไอ้น้องลิงก์ ถ้ามันอาย คงไม่ทำโชว์หลักฐานแบบนี้หรอก"

พี่เรย์แซวขึ้นเป็นคนแรก ตามด้วยพี่ดิมและพี่พล ส่วนพี่ทีก็ยกยิ้มมุมปากแต่ไม่พูดอะไร ส่วนพริ้มก็นั่งนิ่งเงียบเสมือนว่าไร้ตัวตนจนผิดปกติ

"เอาแต่พล่ามอะไรกันอยู่ได้ สรุปไม่กินเค้กอะไรแล้วใช่ไหม จะได้กลับห้อง"

พี่ลิงก์ว่าพร้อมกับทำท่าจะพาผมที่ยังยืนมึนแสร้งว่าไม่ได้ยินอะไรออกจากห้อง

"ทำเป็นหัวร้อน จะหาเรื่องไปกินตับกันต่อแบบนี้ เค้กกูก็น่าสงสารแย่"

พี่ดิมพูดขึ้นพลางตีหน้าเศร้าจนน่าหมั่นไส้ ผมได้แต่ปั้นหน้ายาก

"ไอ้สัตว์"

พีีลิงก์สบถออกมาพร้อมกับเดินเข้าไปตบหัวของพี่ดิมที่ร้องโอดโอยด้วยน้ำเสียงกวนประสาท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อน

"ก็ดี มันจะได้เลิกบ้าตุ๊กตาหมี แล้วมาติดเมียแทน"

"ไอ้เหี้ยที! มึงเงียบก็ดีแล้ว"

"หึ! แล้วระหว่างตุ๊กตาหมีกับเมียจะเลือกอะไร"

พี่ลิงก์อ้าปากค้าง ส่วนพี่ทีก็เลิกคิ้วขึ้น ทุกคนเงียบรอฟังคำตอบ ผมมองเขาอย่างลุ้นระทึก

"ก็ต้อง...เมียสิ"

"ฮ่าๆ ยังไงกอดเมียก็ต้องดีกว่ากอดตุ๊กตาหมีอยู่แล้ว คราวนี้ป๊ากับพ่อมึงคงดีใจน่าดู"

พี่ลิงก์ทำหน้ายุ่งกับการถูกเพื่อนเย้าแหย่ ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วคิดกับตัวเองในใจ

แบบนี้ต้องรีบเลื่อนจากสถานะ 'แฟน' เป็น 'เมีย' แล้วครับ





@@@@@@@@@@





งานเลี้ยงฉลองวันเกิดของพี่ดิมจบลงในเวลาราวห้าทุ่ม พวกเรากินเค้กกับขนม โดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และของขวัญ มีแค่คำอวยพรตามประสาเพื่อนที่ให้กับเจ้าของวันเกิดเท่านั้น

แค่ได้ใช้เวลาที่มีความสุขด้วยกันก็คือของขวัญที่มีค่ามากกว่าสิ่งของทุกอย่างแล้ว

"พี่ลิงก์ พริ้มไม่อยากอยู่คนเดียว"

พริ้มพูดขึ้น ตอนที่เราสามคนกำลังขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นห้า

"อย่าเรื่องเยอะ"

"ก็พริ้มกลัว..."

"พริ้ม อย่าทำให้พี่หงุดหงิด"

พี่ลิงก์มองพริ้มอย่างกดดัน อีกฝ่ายหน้ามุ่ย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ผมเดินกลับห้องพักก่อน ปล่อยให้พี่ชายไปส่งน้องสาวตามลำพังที่ห้องครับ

หลังจากนั่งดูโทรทัศน์ได้ครู่เดียว พี่ลิงก์ก็เดินหน้านิ่งกลับมา

"พี่อย่าว่าพริ้มมากเลย สงสารน้อง"

ถึงแม้จะกลัวพี่ลิงก์ไม่พอใจที่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขา แต่ผมก็อยากเตือนสติในฐานะแฟนและพี่ชายคนโต

"หึ! ก็ชอบหาเรื่องตลอด"

ผมถอนหายใจออกมา พี่ลิงก์นั่งลงข้างผม

"พี่ต้องอดทนมากกว่านี้นะครับ พริ้มเป็นน้องสาวที่พี่ต้องดูแล"

การเป็น 'พี่' ไม่ใช่แค่เกิดก่อนหรือมีอายุมากกว่า แต่พี่จะต้องมีความอดทนมากกว่า เสียสละมากกว่า เพื่อเป็นที่พึ่งพิงให้กับน้อง บางทีการที่พี่ลิงก์เป็นลูกคนเดียว อาจจะไม่เข้าใจเรื่องเหล่านี้

"ถึงพริ้มจะเอาแต่ใจ ทำให้พี่รำคาญไปบ้าง แต่ตแนนี้พี่เป็นคนเดียวที่พริ้มเชื่อใจนะครับ"

พี่ลิงก์มองผมนิ่ง เขาผ่อนลมหายใจออกมา นัยน์ตาสีดำฉุนเฉียวสงบเยือกเย็น

"วันนี้ลิงก์ก็อารมณ์เสียใส่บู้ด้วย ขอโทษนะครับ"

ผมยิ้มบาง แล้วจับมือข้างหนึ่งของเขาเอาไว้ ก่อนที่นิ้วของเราสองคนจะสอดประสานกัน

"ไม่เป็นไรครับ"

"บู้น่ารัก"

พี่ลิงก์อมยิ้ม แล้วพูดขึ้นที่ข้างหู ผมเหลือบตามองเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจหอมแก้มของเขาไปฟอดใหญ่

"พี่ก็น่ารักครับ"

"ยั่วเหรอ"

"เปล่าครับ ผมพูดไปตามที่คิด"

"อยากขย้ำบู้แล้ว"

ผมตัวแข็ง หัวใจเต้นตึกตัก มือของเราสองคนที่จับกันไว้กระชับมากขึ้น เมื่อปลายจมูกของพี่ลิงก์กำลังซุกไซ้ที่ซอกคอของผม ทว่าผ่านไปไม่กี่อึดใจ การเคลื่อนไหวทุกอย่างก็หยุดลง ลมหายใจร้อนเป่ามาที่หูของผม

"แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้"

ผมนั่งอึ้งมองพี่ลิงก์ที่ขยี้หัวของผมเล่นพร้อมรอยยิ้ม

"มันเขี้ยว"

พี่ลิงก์บีบแก้มของผมทีหนึ่ง เขาคลายมือที่จัยกันไว้ออก แล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังเล็กน้อย




@@@@@@@@@@





ปังๆ!

"พี่ลิงก์ๆ ฮือ! พี่ลิงก์! "

หลังจากที่พี่ลิงก์เข้าไปในห้องน้ำได้ไม่กี่วินาที เสียงร้องเรียกตรงหน้าประตูก็ดังขึ้น ผมรีบลุกไปเปิดประตูด้วยความตกใจ

เสียงเรียกที่เจือเสียงสะอื้น...

เมื่อผมเปิดประตูออก พริ้มก็วิ่งเข้ามากอดแน่น ใบหน้าน่ารักเปื้อนคราบน้ำตา เสียงหวานสั่นเครือด้วยความหวาดกลัวชัดเจน

"ฮึก! ช่วยด้วย ฮือ...พ...พริ้ม.."

ผมขมวดคิ้วอย่างงุนงง แล้วก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น หลังจากเสียงตะกุกตะกักของคนที่้เอาแต่กอดพร้อมกับซุกหน้าลงที่ไหล่ของผมแน่นดังขึ้น

"พริ้ม...เจอ ฮึก! ผี ฮือ..."





TBC+++++++

Marionetta
มาแล้วค่ะ เปลี่ยนโหมดกันบ้าง ฮ่าๆ เอาใจช่วยในตอนหน้าด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 23 > 21-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 21-01-2020 20:37:09
ถ้าเลื่อนสถานะแล้วลิงซ์คงหลงหนักมาก​
อยากเห็นลิงซ์หึง​ว่าจะดุสักแค่ไหน
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 23 > 21-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-01-2020 09:27:39
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 23 > 21-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 27-01-2020 14:30:39
Lenel 24: กระชับมิตร







ผี...?!

ผมได้แต่ยืนนิ่งอึ้งเป็นเสาให้พริ้มกอดร้องไห้สะอึกสะอื้น แล้วหันไปมองทางหัองน้ำ เมื่อได้ยินเสียงประตู

"เกิดอะไรขึ้น"

พี่ลิงก์ขมวดคิ้ว พริ้มเงยหน้าขึ้น แล้วผลักผมออก เธอโผเข้าหาพี่ชายด้วยสีหน้าน่าสงสาร

"ฮือ! พี่ลิบก์! พริ้มกลัว! "

พี่ลิงก์มองพริ้มที่ซบอกกอดเอวของตัวเอง น้ำเสียงทุ้มเรียบดังขึ้น

"มีอะไรอีก พูดให้มันรู้เรื่อง"

"ที่...ห้อง ฮือ...มีผี! "

"เหลวไหล ผีมีจริงที่ไหน"

พี่ลิงก์ว่าพร้อมกับมองคนที่เอาแต่กอดไม่ปล่อยนิ่ง พริ้ม เงยหน้าขึ้น น้ำเสียงตื่นกลัวดังขึ้นอย่างร้อนรน

"จริงๆ มี...มีผู้หญิงอยู่ในห้อง! ฮือ...พริ้มเห็น! "

ผมนึกสงสารพริ้ม แต่ยังไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ ผมไม่ได้กลัวแต่ก็ไม่ลบหลู่ครับ

"พริ้มขอนอนด้วยนะ"

"งั้นพริ้มก็นอนที่นี่ พี่กับบู้จะไปนอนห้องนั้นแทน"

พี่ลิงก์ถอนหายใจ ผมคิดว่าเขากำลังใช้ความอดทนอย่างที่ผมเคยบอกเอาไว้

"ไม่เอา! พริ้มไม่อยากอยู่คนเดียว! "

พี่ลิงก์แสดงสีหน้าไม่สบอารมณ์ออกมา ส่วนหนึ่งอาจเป็นเรื่องของพริ้ม อีกส่วนหนึ่งเพราะความง่วง ตอนนี้ก็เที่ยงคืนกว่าแล้วครับ

"พริ้ม! "

เสียงเข้มของพี่ลิงก์ ทำให้พริ้มรัองไห้มากกว่าเดิม เธอเอาแต่ส่ายหน้าไปมาไม่ยอมปล่อยคนที่ตัวเองกอดเอาไว้

"เอาแบบนี้ไหม เราไปดูด้วยกันเลยดีกว่า"

ถ้าขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้เรื่องก็คงไม่จบ

"พริ้มไม่ไป! "

"งั้นก็รออยู่นี่"

พี่ลิงก์บอก แล้วก้าวเดินนำผมออกจากห้อง ทว่ายังไม่ทันพ้นหน้าประตู พริ้มก็ร้องโวยวายถลาเข้ามากอดแขนของพี่ชายเอาไว้

"ฮือ! อย่า! อย่าทิ้งพริ้ม! "

พี่ลิงก์ก้มมองคนที่เกาะแขนเล็กน้อยแล้วเดินต่อ ผมมองพริ้มอย่างพิจารณา

พริ้มกลัวมากจริงๆ …

แต่สาเหตุจะเป็นตาฝาด เพราะอยู่คนเดียวจนคิดไปเอง หรือเพราะเธอเห็นผีจริงๆ




@@@@@@@@@@





เราสามคนเดินไปตามทางที่เงียบกริบ แสงไฟยังเปิดสว่าง แต่เพราะได้รับรู้เรื่องราวบางอย่าง เลยทำให้บรรยากาศดูวังเวงชอบกล

ห้องของพริ้มอยู่เกือบสุดทางครับ ประตูหัองที่ปิดอยู่ไม่ได้ล็อก คงเป็นเพราะความตกใจ เธอคงออกมาโดยไม่ทันได้สนใจ

“พี่ลิงก์ๆ ตอนที่พริ้มวิ่งออกมา พริ้มไม่ได้ปิดประตูนะ”

ผมกับพี่ลิงก์ห้นไปมองพริ้มที่มีใบหน้าซีดเซียว ก่อนที่พวกเราจะเดินเข้าไปด้านใน โดยไม่ได้พูดอะไร ผมมองไปรอบห้องอย่างสำรวจ นอกจากเฟอร์นิเจอร์ทั่วไปเหมือนกับห้องที่ผมพัก ก็มีเพียงเตียงคู่ขนาดราวห้าฟุตที่แตกต่างครับ

“ไม่เห็นมีอะไร”

“ฮือ! พี่ลิงก์์ พริ้มเห็นจริงๆ นะ”

พริ้มหน้าเสีย เธอสะอึกสะอื้น นัยน์ตาหวานที่มักทอแววสดใสกำลังเอ่อคลอด้วยน้ำตาอีกครั้ง ผมถอนหายใจออกมา ทุกอย่างก็ดูปกติดีครับ

ผมมองเตียงกว้างที่มีรอยยับเล็กน้อยไปจนถึงผนังห้องที่ยังดูใหม่ต่างจากห้องที่ผมอยู่อย่างพิจารณา ก่อนการเคลื่อนไหวของร่างกายจะหยุดชะงัก เมื่อหางตาเห็นบางอย่างผ่านไปทางระเบียงที่เยื้องไปทางด้านหลังที่ผมกำลังยืนอยู่

ความเงียบระหว่างพวกเราเกิดขึ้นทันทีราวกับอยู่ในสุญญากาศ แม้กระทั่งเสียงสะอื้นของพริ้มก็เหมือนจะแข็งค้าง มีเพียงนัยน์ตาที่เบิกกว้างขึ้นเท่านั้น

“อ๊ะ...กรี๊ด!”

ผมหันขวับไปมองทันทีที่ตั้งสคิได้ และถ้าผมตาไม่ฝาด เส้นผมสีดำยาวที่ฉายเข้าในสายตาตัดผ่านไปทางระเบียงแน่นอนครับ!

ผมคงรีบไปดูด้วยความสงสัยและตกใจ ถ้าหากตอนนี้แขนทั้งสองข้างไม่ได้โดนจับเอาไว้แน่นเสียก่อน

เอ่อ...อะไรกันล่ะเนี่ย

พริ้มที่ขวัญเสียไปแล้ว ผมไม่ได้ตกใจหรอกนะครับ แต่ผู้ชายตัวโตที่ยึดแขนของผมเอาไว้อีกข้าง นี่อะไรกัน

ผมเงยหน้ามองพี่ลิงก์ที่จ้องเขม็งไปทางระเบียง ถ้าจำไม่ผิด ก่อนหน้านี้เขายืนอยู่อีกที่หนึ่งไม่ใช่เหรอ ทำไมมาเกาะผมเร็วขนาดนี้?!

“พี่ลิงก์?”

พี่ลิงก์ขมวดคิ้ว เขาหันมามองผมด้วยสีหน้าจริงจัง ทว่านัยน์ตากลับสั่นไหวแบบแปลกๆ

“เมื่อกี้...?”

พี่ลิงก์ถามเสียงเบา ผมไม่ได้ตอบอะไร แล้วหันไปสนใจพริ้มที่กระตุกแขนผมยิกๆ พลางร้องออกมาเสียงสั่น

“” พ...พริ้มไม่ไหวแล้ว ฮือ...ไปจากที่นี่ ฮึก! ออกไปจากที่นี่"

ผมเห็นแค่หางตา แต่สองพี่น้องคู่นี้คงเห็นบางอย่างเต็มตา

“ขอผมเดินไปดูหน่อยนะครับ”

พี่ลิงก์ไม่ได้ตอบรับอะไร แต่เขากลับยึดแขนของผมแน่นกว่าเดิมไม่ต่างจากพริ้มที่ยังก้มหน้าหลับตาสะอื้นไม่หยุด ผมฝืนก้าวขาไปทางระเบียงอย่างเชื่องช้า

แกร๊ก

ผมกดปลดล็อดประตูระเบียงที่เป็นกระจกติดฟิลม์สีเข้มออก หัวใจเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย เพราะอะไรก็ตามที่มาที่ระเบียงคงไม่ใช่มวลสารปกติแน่

ผมค่อยๆ เลื่อนประตูออก โดยที่มีพี่ลิงก์กับพริ้มเกาะอยู่ไม่ห่าง สายลมเย็นวูบหนึ่งปะทะเข้ามาที่ใบหน้า ผมกะพริบตาทีหนึ่ง ก่อนจะกวาดมองพื้นที่โดยรอบ

ไม่มีอะไร?

ใช่! มันก็ควรไม่มีอะไรอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง!

ผมขบคิดกับตัวเองในใจ ลมเย็นตอนกลางคืนพัดผ่าน ทว่ากลับไม่มีเสียงใบไม้หรือแมลงแต่อย่างใด

เงียบ...จนน่าขนลุก

"เหมือนจะไม่มีอะไรนะครับ”

ผมบอกเสียงเบาพร้อมกับมองคนที่เกาะแขนทั้งสองข้างด้วยรอยยิ้มบาง

ผมรู้ว่ามันไม่ปกติ แล้วก็คงจะมีอะไรบางอย่างแน่ เพราะตอนนี้นอกจากพริ้มแล้ว พี่ลิงก์ก็คงเห็นแล้วเหมือนกัน

"พี่ลิงก์ ถ้างั้น..."

ปึง!

ผมหยุดชะงักคำพูดของตัวเอง แล้วหันไปมองทางห้องน้ำ ซึ่งเป็นที่มาของเสียงปริศนา

ครืดดดดด!

เสียงกดชักโครกจากห้องน้ำที่ไม่มีใครอยู่!

ผมตัวแข็งไปชั่วขณะ ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกหนึ่งพลางขมวดคิ้ว ตั้งใจจะไปดูให้เห็นชัดๆ ด้วยตาของตัวเอง ถึงในใจจะลงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้วก็ตาม

"...บู้"

ผมหันไปมองพี่ลิงก์ที่หันมามอง ใบหน้าของเขาซีดกว่าปกติจนผมนึกเป็นห่วง ส่วนพริ้มก็เอาแต่หลับตาปี๋ซุกหน้ากับไหล่ของผมไม่ปล่อย

"ถ้าพี่..."

"ออกจากที่นี่ก่อนเถอะ"

พี่ลิงก์บอกเสียงเรียบพร้อมกับลากแขนผมเดินไปทางประตูห้อง ทางที่พวกเราต้องผ่านห้องน้ำอยู่ดี ทว่าในขณะที่เราสามคนกำลังเดินผ่าน ประตูห้องน้ำที่ปิดไม่สนิทก็ค่อยๆ เปิดกว้างออกมาทีละน้อยอย่างไร้ที่มา ผมหันไปมองตามสัญชาตญาณ แล้วนิ่งค้างไปอีกครั้ง

ภายในห้องน้ำที่ไฟปิดสนิท มีเพียงแสงไฟในห้องที่ลอดผ่านเข้าไป อ่างล้างหน้าที่อยู่ตรงกับประตูและมีกระจกเงาบานหนึ่งติดอยู่ ภาพสะท้อนที่ควรจะเป็นพวกเราสามคนกลับกลายเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่!

เธอยืนก้มหน้าจนผมยาวสีดำปกปิดใบหน้า แล้วผมก็ต้องสะดุ้ง เมื่อเงาสะท้อนในกระจกเงาขยับตัวราวกับอีกฝ่ายจะวิ่งออกมา ในจังหวะนั้นแรงกระชากของพี่ลิงก์ก็ดึงทั้งผมและพริ้มออกมาจากห้องอย่างรวดเร็ว

ผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่กะพริบตาปริบๆ ความตกใจมากกว่าความกลัวครับ ทั้งที่ถูกพี่ลิงก์ดึงให้วิ่งออกมา แต่ผมก็ยังหันไปมองประตูที่เปิดอ้าทิ้งเอาไว้ แล้วก็ต้องเบิกตากว้างขึ้น เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลง

เรื่องที่ประตูปิดเอง อาจหาเหตุผลได้ทางวิทยาศาสตร์ ทว่าเรื่องเสียงของตกและเสียงกดชักโครกยังหาคำตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ดูด้วยสายตาของตัวเอง แต่ที่แน่ๆ ผู้หญิงในกระจกเงามีอยู่จริง!

แล้วเธอก็คงเป็น 'ผี' อย่างไม่ต้องสงสัยครับ!





@@@@@@@@@





"ฮือ...พี่ลิงก์! "

พอกลับมาที่ห้องพริ้มก็เอาแต่ร้องไห้กอดพี่ลิงก์ไม่ปล่อย ผมก็ถอนหายใจ ก่อนจะอาสาลงไปดูที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง เพราะไม่สามารถติดต่อพนักงานของที่พักได้ทางโทรศัพท์

ตอนี้เวลาดีหนึ่งแล้ว ผมถอนหายใจออกมา ในขณะที่รอลิฟต์ ผมก็หันไปมองห้องของพริ้มอย่างค้างคาใจ

นี่ผมเพิ่งโดนผีหลอกมาจริงๆ เหรอ?!

เมื่อลงไปถึงชั้นล่างก็ไม่พบใครครับ มีเพียงไฟที่เปิดทิ้งไว้แต่ไร้วี่แววของพนักงานสักคนให้บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อผมกลับไปที่ห้องอีกครั้ง ก็พบว่าพวกเพื่อนของพี่ลิงก์มารวมตัวกันครบแล้ว ส่วนพริ้มก็คงร้องไห้จนเหนื่อยหลับไปเรียบร้อยแล้วครับ

"ไม่มีใครอยู่ครับ"

ผมบอกพี่ลิงก์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียด พี่ทีกับพี่พลเดินกลับไที่ห้องของพริ้มอีกครั้ง แล้วกลับมาบอกว่า ประตูล็อก

ประตูล็อก?!

ผมกับพี่ลิงก์มองหน้ากัน หากต้องการจะเข้าห้องอีกครั้ง ก็คงต้องรอพนักงานเอากุญแจสำรองให้ เพราะกุญแจที่พริ้มถือยังอยู่ในห้องนั้นครับ

"แล้วจะเอายังไงวะ"

พี่ดิมถามขึ้น พี่ลิงก์ที่มีสีหน้าปกติแล้วถอนหายใจออกมา

"ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ช่างมัน พวกมึงไปนอนกันก่อนเถอะ"

ไม่เป็นไรกันใช่ไหม"

"อืม"

"งั้นพวกกูกลับห้องก่อนแล้วกัน มีอะไรก็เรียกได้ตลอด"

หลังจากนั้นภายในห้องก็เหลือแค่ผู้ประสบเหตุสามคนเหมือนเดิมครับ พี่ลิงก์เปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำเปล่ายกดื่ม ก่อนที่เขาจะส่งมาให้ผม

"เอาไหม"

"อ่า...ครับ"

ผมรับมาดื่มเล็กน้อย ก่อนจะวางเอาไว้ที่หัวเตียง พี่ลิงก์้เดินไปดูพริ้มที่นอนหลับไปแล้ว เขาหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กเข้าไปในห้องน้ำ แล้วกลับออกมาเช็ดคราบน้ำตาของน้องสาวเงียบๆ

ผมอมยิ้มมองภาพนั้นครู่หนึ่ง เมื่อเห็นพี่ลิงก์วางผ้าขนหนูลง ผมถึงได้ส่งเสียงทำลายความเงียบ

"พี่นอนเถอะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องขับรถอีก"

"บู้นอนไปเลย ลิงก์หลับไม่ลง ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้เดี๋ยวไอ้พลมาขับรถให้"

"ผมก็ตาสว่างแล้วเหมือนกันครับ"

พี่ลิงก์เดินมานั่งบนเตียงข้างกัน ผมเลยหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

"เรามาดูหนังด้วยกันไหมครับ กว่าจะเช้าอีกหลายชั่วโมง"

"อืม"

เราสองคนขยับตัวมานอนเบียดเหยียดขาพิงหัวเตียงด้วยกันครับ โดยที่ผมถือโทรศัพท์มือถือที่เปิดหนังเอาไว้และพี่ลิงก์กำลังกอดไหล่ของผมเอาไว้

พวกเราใส่หูฟังกันคนละข้าง เมื่อหนังเริ่มเรื่อง ผมก็ตั้งสมาธิอยุ่ที่เนื้อเรื่องแทบจะในทันที จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ผมก็ต้องหันไปมองคนที่นั่งเบียดอยู่ข้างกัน เพราะรับรู้ได้ถึงน้ำหนักที่กดทับลงมาที่ไหล่

พี่ลิงก์หลับไปแล้วครับ

ผมอมยิ้มออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นไปถอดหูฟังของพี่ลิงก์ออก ก่อนจะเขี่ยปอยผมของเขาเล่นเบาๆ แล้วกลับไปสนใจเนื้อเรื่องในหน้าจอโทรศัพท์มือถือต่อ




@@@@@@@@@@





ตอนเช้าผมกับพี่ลิงก์ลงไปติดต่อกับพนักงาน หลังจากที่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ให้อีกฝ่ายฟัง ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้เรื่องอะไร แล้วรีบนำกุญแจสำรองไปเปิดห้องให้แต่โดยดี

ผมกวาดตามองโดยรอบ พี่ลิงก์เดินไปเก็บของของพริ้ม ส่วนผมก็เดินไปเปิดประตูห้องมองข้างในอย่างสงสัย

แน่นอนว่าไม่มีอะไรตก ส่วนเรื่องชักโครก ผมก็คงหาคำตอบไม่ได้ ผมหันไปมองกระจกเงาสยองขวัญเมื่อคืนนี้อีกครั้ง ภาพใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนออกมา ทำให้ผมต้องขมวดคิ้วขึ้น

เมื่อผมออกมาจากห้องน้ำ พี่ลิงก์ก็เก็บของเสร็จหมดแล้ว พนักงานรับกุญแจคืน ก่อนที่พวกเราจะเดินกลับห้อง ผมกับพี่ลิงก์ไม่ได้ถามที่มาที่ไป เพราะป่วยการที่จะขดคุ้ย อีกทั้งพวกเราก็ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับรู้อะไรทั้งนั้นด้วยครับ

พริ้มมีอาการดีขึ้น ถึงแม้เธอจะซึมไปพอสมควร หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อย พวกเราก็ลงไปเช็กเอาท์ แล้วเดินทางออกจากที่พักครับ จุดหมายไม่ใช่ทางกลับไปกรุงเทพ แต่เป็นวัดที่อยู่ในบริเวณนั้นครับ

หลังจากถวายสังฆทาน ทำบุญ และกรวดน้ำเรียกขว้ญกำลังใจกลับมา ทริปครั้งนี้ก็จบลงอย่างสมบูรณ์ครับ

"เดี๋ยวกูจะเอาเลขห้องของพริ้มไปซื้อหวย"

พี่พลพูดขึ้น ตอนนี้เขามีหน้าที่ขับรถ โดยที่พี่ลิงก์นั่งอยู่ที่นั่งข้างกัน ส่วนผมกับพริ้มนั่งอยู่ที่เบาะหลังครับ

"งมงายไม่เข้าเรื่อง"

พี่ลิงก์ว่าไปตามเรื่อง ผมก็แค่ยิ้มแล้วหาวออกมาเล็กน้อย

"บู้ ง่วงก็นอน"

"ผมกินกาแฟแล้ว ไม่ค่อยง่วงแล้วครับ"

หลังจากออกจากวัด พกวเราก็แวะกินอาหารเช้ากัน ผมเลยจัดคาปูชิโนแก้วใหญ่จนตาสว่าง

"อืม"

การจราจรไม่ค่อยติดขัดเพราะไม่ใช่ช่วงวันหยุดเทศกาล พี่พลกับพี่ลิงก์พูดคุยกันเป็นระยะ ส่วนผมที่ไม่ได้ทำอะไรก็หันไปมองพริ้มที่เอาแต่นั่งเงียบ ใบหน้าน่ารักเซื่องซึมจนน่าสงสาร

ผมลอบมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอ ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นเกมออนไลน์เกมหนึ่งอยู่

"เกมนี้ผมก็เล่นอยู่นะ"

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้น แล้วโชว์เกมเดียวกันของตัวเองให้อีกฝ่ายดู พริ้มเหลือบมามองเล็กน้อย

"ตอนนี้มีอีเวนท์แจกของ พริ้มได้ครบหรือยัง"

"ครบแล้ว"

"ของผมยังขาดตั้งหลายอย่าง ตอนนี้กำลังจะเก็บไม้กวาดสีรุ้ง แต่ตีบอสไม่ผ่านสักที"

"บอสอ่อนจะตาย"

"ก็ผมเพิ่งเล่นได้ไม่นานเอง ดูเลเวลสิ"

เกมออนไลน์นี้เป็ดเพิ่งชวนผมเล่นเมื่อไม่กี่วันก่อนครับ แล้วก็ไม่นึกว่าพริ้มจะเล่นเกมแบบนี้ด้วย

"ห่วยจัง ของพริ้มเลเวลร้อยสามสิบสองแล้ว"

ผมลอบยิ้มออกมา ก่อนจะพยักหน้ารับ เมื่อพริ้มเริ่มแนะนำวิธีจัดอาวุธและสกิลให้มือใหม่อย่างผมเข้าใจ

"มีแต่ของขยะ เดี๋ยวพริ้มเอาของให้"

"ขอบคุณครับ"

หลังจากนั้นเราสองคนก็คุยเรื่องเกมออนไลน์กันต่อ ท่าทางที่หงอยเหงาของพริ้มจางหายไป แล้วตอนนี้ก็เกือบจะกลับมาเป็นคุณหนูที่แสนเอาแต่ใจเหมือนเดิมอีกครั้ง

"แล้วสกิลนี่ บลูจะอัพทำไมเปลืองแต้ม สรุปจะเล่นสายอะไรกันแน่เนี่ย โอ๊ย! แบบนี้ของที่ให้ไปก็ใช้ไม่ได้น่ะสิ เอากลับคืนมาเลยนะ เสียของ! "

"ขอเก็บไว้ก่อนไม่ได้เหรอ เผื่อได้ใช้"

"เชอะ! ก็ได้ๆ "

ทริปสองวันหนึ่งคืนครั้งนี้คุ้มค่ามากครับ ถึงแม้จะมีเรื่องไม่คาดฝันต่างๆ เกิดขึ้น แต่มันก็ผ่านไปได้ด้วยดี

นอกจากความสัมพันธ์ของผมกับพี่ลิงก์จะเข้าใกล้กันมากขึ้น คนที่เคยประกาศตัวเป็นศัตรูก็กลายเป็นเพื่อนใหม่ไปแล้วครับ







TBC++++++++

Marionetta
เป็นตอนที่มาทำให้พริ้มกับบลูดีกัน อิอิ ไม่เคยแต่งแบบนี้เลนค่ะ อยากให้มันน่ากลัวนะ แต่ทำไมมันดูตลกก็ไม่รู้ บู้กลัวพี่ลิงก์แต่ไม่กลัวผีนะ ชวนไปล่าท้าผีได้ 5555
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 24 > 27-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 27-01-2020 20:26:53
ตอนแรกนึกว่าเป็นคนปลอมมาหลอกขโมยของ พอเป็นผีจริงๆขนลุกเลย
ทริปนี้พี่ลิงซ์ก็อดกินบู้อยู่ดี 55
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 24 > 27-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 27-01-2020 22:34:54
บู้น่ารักเชียว
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 24 > 27-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 30-01-2020 12:48:27
Level 25: คนที่ถูกเลือก









บริเวณหอพักที่เคยเงียบเหงา เวลานี้เต็มไปด้วยเหล่านักศึกษาหน้าเก่าและหน้าใหม่ ตอนนี้ผมเป็นรุ่นพี่ปีสามแล้วนะครับ แล้วก็ยังอาศัยอยู่ที่หอพักเดิม โดยที่พี่ลิงก์ก็มาค้างด้วยเป็นบางครั้ง เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ผมเลยให้กุญแจห้องและคีย์การ์ดกับเขาไปอีกชุด แต่ก็มีไปค้างที่คอนโดของอีกฝ่ายบ้างแล้วแต่สะดวกครับ

ความสัมพันธ์ของพวกเรายังเป็นไปอย่างเรียบง่ายเช่นเดิม เคยใกล้ชิดกันมากแค่ไหน ตอนนี้ก็ยังเท่านั้น ถึงแม้ทุกครั้งที่พี่ลิงก์สัมผัสผมมากขึ้นจะชวนให้ผมเผลอคิดไปไกลก็ตามที

ทว่าก็มีสิ่งที่เปลี่ยนไปจนน่าแปลดใจก็คือเรื่องตุ๊กตาหมีครับ ตอนนี้คอนโดของพี่ลิงก์ไม่มีตุ๊กตาหมีแล้ว และเหตุผลของเขาก็ทำให้ผมต้องเขินขึ้นมาทุกครั้งที่นึกถึง

"ที่ไม่ได้เอากลับมา ก็เพราะลิงก์มีบู้แล้วไง"

อีกนัยหนึ่งก็คือ ผมมีความสำคัญมากกว่าตุ๊กตาทั้งหลายเหล่านั้นแล้ว!

ด้วยเหตุนี้ถ้าไม่มีเหตุขัดข้องอะไร พี่ลิงก์ก็จะมานอนกอดผมแทบทุกคืนครับ

"พี่นกฝากถามกูว่า มึงสนใจไปสอนวันเสาร์อาทิตย์ไหม คือ...ถ้าจะไป ก็ได้อ่ะ"

ตอนนี้เป็ดยังคงไปช่วยพี่นกอยู่ครับ แล้ววันหยุดสุดสัปดาห์ก็ไม่มีธุระอะไรด้วย เพียงแต่...

"ฝากขอบคุณพี่นกด้วย แต่กูคงไม่ไปว่ะ พี่ลิงก์โวยวายแน่"

ตอนนี้พี่ลิงก์เรียนหนักและงานเยอะขึ้นด้วย แล้วถ้าผมไม่มีเวลาให้เขาอีก มีเรื่องกันแน่นอนครับ

"อะไรวะ ชีวิตมึง มึงก็ตัดสินใจเองดิ ทำไมต้องรอให้ใครมาตัดสินให้"

เป็ดชักสีหน้าออกมา ผมก็ถอนหายใจกับท่าทางเอาเรื่องของคนตรงหน้า

"หึ! มีแฟนแล้วต้องมีบ่วงคิดคอแบบนี้ ซวยชัดๆ "

"กูพอใจกับบ่วงนี้นะ"

"เออ! ภูมิใจมากล่ะสิ แฟนทั้งหล่อทั้งรวยเนี่ย เขาสั่งให้ทำอะไรก็ทำ"

"ฮ่าๆ ก็ไม่ขนาดนั้น"

เป็ดทำหน้าเซ็งออกมา ผมก็ได้แต่ยิ้มรับก่อนจะลุกขึ้นยืน เมื่อเวลาพักกลางวันหมดลงแล้ว

"ขึ้นเรียนกัน"

"เฮ้อ...นึกถึงเมื่อก่อน พักกลางวันทีไร มึงต้องวิ่งแจ้นไปตามผู้ชาย น่าสมเพชชะมัด"

"แต่กูก็ตามจนได้เป็นเจ้าของอ่ะ ถือว่าประสบความสำเร็จ"

ผมยักคิ้วส่งให้เป็ดอย่างกวนประสาท เมื่อเราสองคนเข้ามานั่งในห้องเรียนได้ไม่นาน เสียงแจ้งเตือนข้อความจากโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น

LINK
เย็นนี้ เดี๋ยวไปรับที่คณะ

Blue++
ครับ

พี่ลิงก์ส่งสติกเกอร์ตอบรับเป็นการปิดท้าย ผมก็เก็บเครื่องมือสื่อสารของตัวเอง เล้วกลับไปสนใจเป็ดที่กำลังคุยเรื่องงานต่อ





@@@@@@@@





หลังจากที่แยกย้ายกับเพื่อนสนิทและเดินลงจากตึกเรียน ผมก็กวาดตามองไปรอบตัว แล้วก็หยุดสายตาตรงผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือในมุมอับ ทว่าความดูดีของเขาก็ไม่อาจรอดพ้นการตกเป็นที่สนใจของใครหลายคนได้อยู่ดี

"พี่ลิงก์"

ผมลอบถอนหายใจออกมา และเมื่อผมเดินไปหา สายตาหลายคู่ที่ลอบมองพี่ลิงก์อยู่ก็หันมาสนใจผมทันที

ตอนนี้มีแฟนคลับของพี่ลิงก์หลายคนรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขาแล้ว แน่นอนว่าผมโดนวิจารณ์ยับ แต่ผมก็ไม่ค่อยสนใจกับข้อความว่าร้ายทั้งหลายอยู่ดี ต่างจากเป็ดกับพริ้มที่เดือดร้อนแทนผมครับ

หลังจากที่เป็ดรับรู้เรื่องของพริ้ม รวมถึงเกมที่พวกเรากำลังเล่นกัน ทั้งสองคนก็สนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้น และตอนนี้พวกเขาก็โต้ตอบคนที่โจมตีผมอย่างเผ็ดร้อน ผลสุดท้ายพี่ลิงก์ที่เป็นตัวต้นเหตุก็มายุติสงครามสังคมออนไลน์ลงด้วยข้อความสุดอินดี้ตามเคย

'ถึงแฟนกูจะหน้าตาไม่ดี แต่กูก็ไม่เอาพวกมึงหรอก'

ผมอ่านข้อความนั้นด้วยหัวใจที่หนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ดีใจที่พี่ลิงก์ออกมาปกป้องผมอย่างชัดเจนแบบนี้

ข้อความนั้นสร้างกระแสในเวลาไม่กี่นาที มีหลายคนแสดงความไม่พอใจ บางคนก็ต่อว่าพี่ลิงก์กลับด้วย แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

ตั้งแต่ที่ผมคบกับพี่ลิงก์ก็ไม่ได้ตามไปสนใจเกี่ยวกับแฟนคลับของเขานัก จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีหลายคนที่ชื่นชอบพี่ลิงก์สลายตัวไปพอสมควร ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหลายคนที่เลือกจะเมินความจริงและสร้างมโนภาพในแบบที่ตัวเองต้องการต่อไปอย่างมีความสุขครับ

"อืม"

พี่ลิงก์ลุกขึ้นจากม้านั่ง ก่อนที่เขาจะกอดคอผมเดินไปทางลานจอดรถอย่างไม่รีบร้อน

"วันนี้จะไปซื้อของก่อน"

พี่ลิงก์พูดขึ้น ผมก็พยักหน้ารับ เดิมทีเขาจะมานอนที่ห้องของผมคืนนี้ครับ แต่ผมคงต้องไปนอนที่คอนโดแทนแล้ว

"พี่ลิงก์ ผมขอไปเอาโน้ตบุ๊กที่ห้องก่อน"

"อืม"





@@@@@@@@





พวกเรามาซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดเท่าไหร่ครับ ผมเข็นรถเข็นตามพี่ลิงก์ที่เดินไปตามชั้นวางของอย่างคุ้นเคยไม่ต่างจากพ่อบ้านมืออาชีพ

"เย็นนี้กินสปาเกตตีดีไหม"

"ครับ"

"งั้นก็เอาเส้นสปาเกตตีไปด้วย"

ผมหันไปหยิบเส้นสปาเกตตียี่ห้อหนึ่งมาใส่รถเข็น แล้วกำลังจะเดินตามพี่ลิงก์ต่อ ทว่าเขากลับเอาของที่ผมเพิ่งใส่รถเข็นกลับคืนชั้นวาง แล้วหยิบอีกยี่ห้อหนึ่งมาแทน

"อย่าหยิบมั่วดิบู้"

ผมมองพี่ลิงก์อย่างงุนงง แต่ก็ไม่ได้สอบถามอะไร นอกจากทำหน้าที่เข็นรถเข็นเดินตามเขาต่อไป

"เอาใส่ชีสด้วยดีไหม"

"ดีครับ"

"งั้นก็ไปเอาชีสมาด้วย พาเมซานชิสนะ"

"ครับ"

ผมก็เดินตามพี่ลิงก์ไปที่ชั้นจัดวางชีสหลากหลายยี่ห้อ ก่อนจะหยิบพาเมซานชีสยี่ห้องหนึ่งมาใส่รถเข็น และก็เป็นอีกครั้งที่อีกฝ่ายนำของที่ผมเลือกออกไปคืน แล้วหยิบอีกยี่ห้อหนึ่งมาแทน

"บู้"

"อ่า...ครับ"

"เลือกของไม่เป็นเหรอ"

ผมก็ได้แต่กะพริบตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจ ในเมื่อเขาอยากได้พาเมซานชีส ผมก็หยิบให้ แล้วมันยังไงต่อล่ะครับ

ผมทำอะไรผิด?

สีหน้าของผมทำให้พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา แล้วอธิบายด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"ของที่บู้หยิบมา คุณภาพมันไม่ดีพอไง อันที่ลิงก์หยิบดีกว่า"

"แล้วพี่รู้ได้ยังไงว่ามันดีกว่า"

ผมว่ามันก็เหมือนกันหมด เขามียี่ห้อที่อยู่ในใจแล้ว? หรือจะต้องให้อ่านส่วนประกอบก่อน?

"ก็มันเพงกว่าไง"

ผมได้แต่ยืนอึ้งกับคำตอบ พี่ลิงก์ทำสีหน้าเบื่อหน่ายออกมา

"ตรรกะง่ายๆ ของดีก็คือของแพง คุณภาพตามราคาไง"

"แต่บางทีของดีก็ไม่จำเป็นต้องราคาแพงก็ได้นี่ครับ"

ของบางอย่างคุณภาพก็ไม่ต่างกันมาก ขายยี่ห้อมากกว่าสินค้าด้วยซ้ำ

"นั่นมันทฤษฏืของคนไม่มีเงิน วัตถุดิบคุณภาพดี ต้นทุนก็สูง ราคาถึงแพงไง"

คนไม่มีเงินอย่างผม พูดไม่ออกเลยครับ

"เพราะไม่เลือกของให้ดีไง บู้ถึงได้เตี้ยแบบนี้"

ผมยืนเก็บความรู้สึกจุกในอกอย่างอดกลั้น ทำได้เพียงเงยหน้ามองคนที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย และตัวสูงกว่าแบบเทียบไม่ติดพร้อมกับตะโกนอยู่ในใจ

แล้วยังไง? ไอ้เตี้ยอย่างผมก็เป็นแฟนของพี่ คนไม่มีคุณภาพดีพอที่พี่เลือกไม่ใช่เหรอ?!

"ไม่พอใจ? "

พี่ลิงก์เลิกคิ้วมองผมที่อาจจะแสดงสีหน้าที่แท้จริงออกไป ผมลอบถอนหายใจออกมา

"เปล่าครับ โอ๊ย! "

ผมร้องออกมาพลางจับแก้มข้างหนึ่งที่เพิ่งโดนอีกฝ่ายกัดด้วยความขุ่นเคืองระคนเขินอาย พี่ลิงก์จ้องผมไม่ละสายตา

"มันเขี้ยวบู้"

ผมทำสีหน้าไม่ถูก ทั้งที่โดนเขาหยอกแบบนี้บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคบชินเสียที ในขณะที่อารมณ์กำลังปั่นป่วน ผมก็สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อคนตรงหน้าก้มลงมาจูบริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็ว โชคดีที่เขาตัวใหญ่พอจะบังผมจนมิด อีกทั้งยังไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน ถึงได้ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์น่าอายเมื่อครู่นี้

"อยากฟัดอีก"

พี่ลิงก์ยังก้มหน้าไม่ห่างไปจากผม ปลายจมูกของเราสองคนลากผ่านแผ่วเบา นัยน์ตาสีดำวาววับสบมองจนใบหน้าของผมร้อนผ่าว

"พี่ลิงก์"

ผมร้องปรามด้วยการเรียกเขาเสียงเบา ตอนนี้หัวใจของผมเต้นระรัว ทั้งตื่นกลัวว่าจะมีใครมาเห็นและตื่นเต้นกับสัมผัสของพี่ลิงก์ที่จะทำให้ผมเป็นบ้า

"หึ! "

พี่ลิงก์ถอยห่างออกมาพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ก่อนที่เขาจะเดินนำต่อ ผมก็ได้แต่ขมวดคิ้วชักสีหน้า แล้วเข็นรถเข็นตาม





@@@@@@@@




หลังจากนั้นไม่ว่าพี่ลิงก์จะให้ผมหยิบอะไร ผมก็เลือกจากราคาครับ อันไหนแพงที่สุดก็เลือกอันนั้น ซึ่งทำให้เขาแสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา

หึ! แฟนใครวะ น่าหมั่นไส้!

"อ้าว! ลิงก์ไม่ได้เจอกันนานเลย"

เสียงทักของใครสักคนดังขึ้น ผมที่เดินเข็นรถเข็นตามหลังมาก็ชะโงกหน้าไปมองเล็กน้อย ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังส่งยิ้มมาให้พี่ลิงก์อยู่ครับ

"อืม"

"บังเอิญจัง อยู่แุถวนี้เหรอ"

"อืม"

"งั้นเหรอ ไหมมาที่นี่บ่อยนะ แต่ไม่เคยเจอลิงก์เลย"

ผมก็ได้แต่ยืนมอง แต่ไปไหนต่อไม่ได้ครับ เพราะมีรถเข็นของผู้หญิงที่กำลังยืนคุยกับพี่ลิงก์ขวางทางอยู่ แต่ดูเหมือนเธอจะรู้ตัว เลยรีบเข็นรถเข็นหลบทางให้ผมผ่านไปก่อน

ผมก็มองผู้หญิงที่หันไปคุยกับพี่ลิงก์ต่อเล็กน้อย แล้วเข็นรถเข็นผ่านทั้งสองคนไปอย่างไม่สนใจ ผมหันไปมองที่ชั้นวางของที่อยู่ไม่ไกลจากวงสนทนา แล้วหยิบกระดาษทิชชูยี่ห้อที่ราคาแพงที่สุดใส่รถเข็น

"แล้วลิงก์มาคนเดียวเหรอ"

"เปล่า มากับแฟน"

"อ้อ ไหนล่ะ คนนั้นเหรอ"

ผมหันไปมองทั้งสองคนที่กำลังยืนคุยกัน แล้วชะงักไปเล็กน้อย ทว่าเมื่อมองตามสายตาของผู้หญิงคนนั้น ผมถึงเหลือบไปมองผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนเลือกของอยู่ถัดจากผมไม่กี่ก้าว

"อืม"

"แฟนสวยนะเนี่ย"

"ไม่สวย แต่น่ารัก"

ผมปั้นหน้ายาก ผู้หญิงคนนั้นยังคงมองไปที่อีกคน ส่วนพี่ลิงก์กำลังมองผมอยู่ แถมยังยักคิ้วส่งมาให้อีกต่างหาก!

"แหม...งั้นไหมไปก่อนนะ ไว้ค่อยเจอกันใหม่"

"อืม"

พี่ลิงก์เดินมาหาผม แล้วดันไหล่ให้ผมเดินต่อผ่านผู้หญิงที่ยืนเลือกของอยู่ ผมแอบหันหลังกลับไปมองผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เพราะตอนนี้เธอกำลังมีสีหน้าตกใจ

"เพื่อนหรือครับ"

"อืม เพื่อนที่โรงเรียนเก่า"

"ดูเหมือนเธอเข้าใจผิดเรื่องแฟนของพี่นะครับ"

"เหรอ ช่างเถอะ..ลืมเลย ต้องไปเอาซอสมะเขือเทศด้วย ใกล้หมดแล้ว"

ผมก็พยักหน้ารับ แล้วเดินอมยิ้มตามคนที่กอดคอของผมเอาไว้อย่างอารมณ์ดี





@@@@@@@@@@





ช่วงนี้สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวนครับ มีหลายฤดูในหนึ่งวัน แต่ที่แน่ๆ ฝนมักจะตกตอนเวลาเร่งด่วนเป็นประจำ

เฮ้อ...

ผมได้แต่มองร่มในมืออย่างละเหี่ยใจ แล้วเดินขึ้นห้องเรียนด้วยตัวที่เปียกชุ่ม

"เปียกเป็นหมาตกน้ำเลยมึง"

เป็ดทักทายพร้อมกับมองสภาพของผมด้วยสายตาเวทนา ผมนั่งลงแล้วถอนหายใจออกมา

"กูก็คิดว่าจะพ้นแล้ว ดันตกมาได้ แถมยังหนักด้วย"

ผมบ่นออกมา ก่อนหน้าที่จะมาถึงมหาวิทยาลัย สภาพอากาศก็แค่ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ผมก็รีบออกจากห้องพักเพราะกลัวจะเปียกระหว่างทาง แต่ก็ดันโชคร้ายหนีไม่พ้นอยู่ดี

"ทำใจอย่างเดียว กูก็บิดมาเต็มที่ หวุดหวิดเหมือนกัน"

"กูแทบจะเขวี้ยงร่มทิ้งแล้ว ไร้ประโยชน์"

ผมหันไปส่งตาขวางใส่ร่มของตัวเอง เป็ดก็หัวเราะออกมาเบาๆ

"พกมาก็ดีแล้ว ถ้ามึงไม่เอามา มันจะมีเรื่องที่ทำให้มึงต้องโมโหที่ไม่ได้เอามา"

"ก็จริง"

ผมกวาดตามองรอบห้องที่คนยังบางตา อาจเป็นเพราะติดฝนและโดดเรียนจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย

"แล้วแฟนมึงไม่อยู่เหรอ ทำไมไม่ให้เขามาส่ง"

"พี่ลิงก์อยู่คอนโด"

"แฟนมึงก็เหมือนร่มที่มึงพกอ่ะบลู"

"ยังไงวะ"

"ถึงจะมี แต่ก็ไม่มีประโยชน์"

"อย่ามาว่าพี่ลิงก์นะเว้ย"

ผมว่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เป็ดก็ทำหน้าตาเบื่อหน่ายออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

พี่ลิงก์น่ะ...ไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แค่ดีต่อใจก็พอแล้ว









TBC+++++++

Marionetta
มาแล้วค่ะ ช่วงนี้สภาพอากาศไม่ดีเลย รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ

ตอนนี้มาแบบเบาๆ อ่านสบายเหมือนเดิม ขอบคุณที่ติดตามนะคะ 

หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 25 > 30-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 31-01-2020 05:11:57
พี่ลิงซ์พูดไม่รักษาน้ำใจน้องเลยแต่วิธีที่ใช้ทำให้หายงอนนั้นหวานมาก
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 25 > 30-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 31-01-2020 13:26:46
 :L2: :L1: :pig4:

ถนอมน้องหน่อย
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 25 > 30-01-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 01-02-2020 20:42:36
Level 26: น้องชาย







เนื่องจากสภาพอากาศที่หมุนเวียนจนสุดจะคาดเดา อีกทั้งการมาของสายฝนที่ทำหน้าที่เป็นประจำในช่วงเวลาเร่งด่วนของวัน ทำให้ร่างกายของหลายคนไม่สามารถต้านทานอาการเจ็บป่วยที่แวะมาทักทายได้

"แค่กๆ เจ็บคอ"

"มึงก็อย่ากินน้ำเย็นสิ"

"ก็มันร้อนนี่หว่า แค่กๆ "

"เฮ้ย! ไปไอไกลๆ ไป อย่าเอาหวัดมาติดกู"

ผมไม่ได้สนใจท่าทีรังเกียจของเพื่อนสนิท ทำเพียงแค่ไอตอบรับอีกครั้งอย่างห้ามไม่ได้

"กูแค่ไอ แค่กๆ ยังไม่มีน้ำมูก"

"มันเป็นอาการเร่ิ่มต้นไงวะ รีบกลับไปนอนไป"

ผมพยักหน้ารับ เมื่อสองวันก่อนผมเริ่มเจ็บคอเล็กน้อย แต่ก็ชะล่าใจจนอาการลุกลามมาเป็นอาการไอครับ ถึงจะอยากหยุดเรียนนอนพัก แต่ผมก็ดันมีงานและสอบแทบทุกวัน

เป็ดขับมอเตอร์ไซค์มาส่งผมที่หอพักในตอนบ่าย วันนี้พี่ลิงก์มีเรียนบ่ายแล้วก็ไปทำธุระต่อ ผมไม่แน่ใจว่าเขาจะกลับมาค้างที่ห้องด้วยกันหรือเปล่า

ผมเดินมึนไปที่ร้านขายยาในละแวกนั้น หลังจากได้ยามาชุดหนึ่งก็เดินกลับห้องครับ

"บลู"

เสียงเรียกที่ดังขึ้นมาระหว่างที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปด้านในของหอพัก ทำให้ผมต้องหันไปมอง แล้วก็นึกแปลกใจที่เห็นคนตรงหน้า

"มาไงวะ แต่กๆ "

ผมมองน้องชายตัวสูงอย่างสงสัย กรีนขมวดคิ้ว สายตาสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

"ป่วยเหรอ"

"อืม ว่าแต่ แค่กๆ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ถึงได้มาถึงนี่ แค่กๆ แล้วทำไมไม่โทรมาบอกก่อน"

"พอดีมาหาเพื่อนแถวนี้เลยแวะมา ก็กำลังจะโทรหาอยู่"

"อืม แล้วกินอะไร แค่กๆ หรือยัง"

"กินแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว รำคาญ"

ผมส่งสายตาไม่พอใจไปให้ แล้วเดินเข้าไปด้านในของหอพักตามเดิม โดยที่มีน้องชายเดินตามหลังมาด้วยกัน

"แม่งครึ้มมาอีกแล้ว"

กรีนพูดขึ้น เมื่อมองไปที่หน้าต่าง ท้องฟ้าสีหม่นเป็นลางบอกเหตุถึงสายฝนที่จะมาอีกไม่ช้า

"อืม แล้วจะกลับกี่โมง"

"ค้างที่นี่แล้วกัน ขี้เกียจกลับ"

"พรุ่งนี้ไม่มีเรียน? "

"มีตอนบ่าย"

"อืม"

ผมไออีกเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปกินยาที่เพิ่งซื้อมา แล้วล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลีย กรีนเพิ่งเป็นนักศึกษาปีหนึ่งคณะสถาปัตยกรรมศาสคร์ของมหาวิทยาลัย D ครับ

"นอนพักไป เดี๋ยวหวัดมาติดกู"

"งั้นมึงก็กลับไปเลยกรีน แค่กๆ "

"ก็ฝนมันจะตกแล้ว ไม่อยากนั่งแท็กซี่ มันแพง"

ผมชักสีหน้าใส่น้องชาย แล้วหลับตาลง เพียงไม่นานยาก็ออกฤทธิ์จนผมเผลอหลับไป





@@@@@@@@@@




ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน แต่ก็รู้สึกตัวตื่นเพราะได้ยินเสียงบางอย่างรบกวน

ผลัวะ!

เสียงการต่อสู้ที่ดังขึ้น ทำให้สติมึนงงของผมทำงานเต็มที่ ผมรีบลุกขึ้นจากเตียงด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าน้องชายกับแฟนกำลังตีกันอยู่!

เกิดอะไรขึ้น!

"หยุดก่อน! "

ผมวิ่งถลาไปแยกผู้ชายตัวโตสองคนที่กำลังใช้หมัดสื่อสารกันอย่างกับคนบ้า

"บลูออกไป! "

"บู้! ไอ้หี้ยนี่ใคร! "

ถึงจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผมก็ยังยืนหยัดทำหน้าที่เป็นไม้กันคนบ้าตีกันอย่างแน่วแน่

"แต่กๆ ใจเย็นก่อน! เฮ้อ"

โชตดีที่ทั้งสองคนยังมีสติพอที่จะฟังผมมากกว่าเข้าใส่กันตามอารมณ์

ผมหันไปหาน้องชายที่ยังจ้องหน้าพี่ลิงก์เขม็ง ใบหน้าได้รูปมีรอยช้ำที่มุมปาก แล้วหันไปมองใบหน้าหล่อของแฟนตัวเองที่มีสภาพไม่ต่างกันอย่างอ่อนใจ

"บลู! มันเป็นใคร! "

กรีนถามเสียงเข้มพร้อมกับใช้สายตาเหี้ยมเกรียมจ้องมองผม ในขณะเดียวกันพี่ลิงก์ก็ส่งสายตาแข็งกร้าวอย่างกดดัน ผมผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่

"กรีน นี่พี่ลิงก์แฟนพี่ พี่ลิงก์ครับ นี่กรีนน้องชายผม"

เมื่อผมแนะนำตัวให้พวกเขารู้จักกัน สีหน้าหาเรื่องของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไป คนหนึ่งแสดงความตกใจ ส่วนอีกคนหนึ่งแสดงความเบื่อหน่าบออกมาแบบไม่สบอารมณ์นัก

พี่ลิงก์เดินกลับไปนั่งตรงปลายเตียงราวกับกำลังข่มอารมณ์ ต่างจากกรีนที่มีท่าทางคุกคามผมมากกว่าเดิม

"หมายความว่าไง! บลู! มึงเป็นเกย์?! "

"ไม่รู้"

ผมตอบปัดอย่างขอไปที แล้วไอออกมาอีกครั้ง คงเพราะอาการป่วย ทำให้ผมไม่อยากสู้รบตบมือกับใครเท่าไหร่ แต่น้องชายคงไม่เข้าใจ อีกฝ่ายเข้ามากระชากแขนของผมที่กำลังจะเดินไปหากล่องปฐมพยาบาลที่มีติดห้องเอาไว้

ฉับพลันที่ผมซวนเซไปตามแรงของกรีน พี่ลิงก์ที่นั่งอยู่ก็รีบลุกมาดันน้องชายของผมให้ถอยห่าง เขาส่งสายตาไม่พอใจไปให้พร้อมกับดึงผมมากอดเอาไว้แทน น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นอย่างดุดัน

"อย่ามากระชากแขนแฟนกู"

"ไม่ใช่เรื่องของมึง! อย่าเสือก! "

ผมนึกปวดหัวขึ้นมาทันที อาจจะเป็นความผิดของผมทีไม่ได้เล่าเรื่องของพี่ลิงก์ให้กรีนฟังมาก่อน ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายเป็นพวกหัวร้อนง่ายและไม่ยอมใคร

"ขอทีเถอะ แค่กๆ อย่าทะเลาะกันได้ไหม"

ผมพาพี่ลิงก์กลับไปนั่งที่ปลายเตียงเหมือนเดิม แล้วก็พาน้องชายไปนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะเขียนหนังสือที่อยู่อีกด้าน ผมมองทั้งสองคนอย่างจริงจัง

"เฮ้อ เอาล่ะ...ตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมต้องต่อยตีกันด้วย"

"กูออกมาจากห้องน้ำ เห็นมันกำลังลวนลามมึงตอนหลับไง เลยต่อยมัน"

กรีนบอกด้วยท่าทางกระฟัดกระเฟียด ผมปั้นหน้ายากแต่ก็พยักหน้าเข้าใจ แล้วหันไปมองพี่ลิงก์ที่นั่งหน้าบึ้งตึง

ฟังแค่นี้ผมก็เดาเรื่องทั้งหมดได้แล้วครับ ความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนเสียงเคร่งเครียดของกรีนจะดังขึ้น

"ไอ้ห่าเอ๊ย! บลูเป็นเกย์! "

กรีนโวยวายเหมือนคนที่รับความจริงไม่ได้ สายตาจ้องมองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"อืม"

ผมตัดสินใจยอมรับ คงไม่มีเหตุผลอะไรมาปฏิเสธ ในเมื่อแฟนของผมก็เป็นผู้ชาย ถึงแม้ผมจะชอบผู้ชายคนนี้แค่คนเดียวก็ตาม

"มึงทำให้พี่กูเป็นเกย์! กูจะจัดการมึง! "

"หนวกหู โวยวายอยู่ได้"

"บลูอย่ามาขวาง! "

ผมรีบห้ามน้องชายที่ทำท่าจะพุ่งเข้าหาพี่ลิงก์อย่างเหนื่อยใจ แต่ก็ดูเหมือนจะยากพอตัว เพราะคู่กรณีกำลังส่งสีหน้ากวนอารมณ์ยั่วโมโหมาให้กรีนอย่างท้าทาย

นี่มันเด็กทะเลาะกันจริงๆ นะครับ!

"กรีน! หยุดบ้า! แล้วกลับไปนั่งตรงนั้น! "

ผมตวาดใส่น้องชายอย่างอดไม่อยู่ ซึ่งทำให้กรีนยอมหยุด ทั้งที่สีหน้ายังแสดงความโมโหอยู่ก็ตาม ปกติผมเป็นคนใจเย็น แต่เมื่อไหร่ที่ผมอารมณ์ร้อนขึ้นมา น้องชายก็มักจะเย็นลงเสมอ

ผมมองกรีนที่ยอมเดินไปนั่งตามที่ผมสั่ง แล้วผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหันไปมองพี่ลิงก์ที่แสดงสีหน้าประหลาดออกมาตอนที่เราสบตากัน

"พี่หยุดแกล้งน้องสักทีสิครับ"

"ไม่ได้แกล้ง ลิงก์อยากแกล้งบู้คนเดียว"

น้ำเสียงเง้างอนที่โดนตำหนิและสายตาตัดพ้อที่ส่งมา ทำให้ผมกลั้นยิ้มเอาไว้ในใจ ทว่าบรรยากาศชวนคันยุบยิบฟัวใจก็ถูกทำลายจากเสียงทุ้มเข้มที่กราดเกรี้ยว

"ไอ้เหี้ย! มึงรังแกพี่กูเหรอ! "

ไอ้น้องบ้า!

ผมเดินเช้าไปตบกระโหลกกรีนอย่างหมดความอดทน ส่วนน้องชายก็หันขวับมามองผมตาขวางอย่างไม่พอใจ

"กูจะฟ้องพ่อกับแม่ว่ามึงกกผู้ชายไว้ที่ห้อง! "

"ไอ้กรีน! "

ผมเรียกอีกฝ่ายเสียงเข้ม กรีนมีท่าทางฮึดฮัดนั่งกอดอกราวกับกำลังข่มอารมณ์ของตัวเอง ผมได้แต่นึกเหนื่อยใจและกังวลใจไปพร้อมกัน แต่พ่อกับแม่ของผมก็เป็นคนหัวสมัยใหม่แถมยังใจดีมาก คงไม่มีปัญหา ถ้าหากผมจะคบกับผู้ชายหรอกมั้งครับ

"บู้ยังไม่ได้บอกที่บ้านเหรอ"

พี่ลิงก์หันมาถามด้วยสายตาไม่พอใจชัดเจนจนผมทำตัวไม่ถูก

"ก็...ยังครับ"

"ทำไม เพราะแบบนี้ไง ถึงมีไอ้โง่บางคนไม่รู้เรื่อง"

"อ้าว! อย่าเก่งแต่ปาก มึงลุกขึ้นมาเลย! "

"พอสักทีกรีน พี่ลิงก์อย่ายั่วโมโหน้องได้ไหมครับ แค่กๆ "

ผมหันไปสั่งกรีนและขอร้องพี่ลิงก์อย่างหมดหนทาง ตอนนี้ปวดหัวจนลืมไอไปเลยครับ

"กรีนรังเกียจที่พี่มีแฟนเป็นผู้ชายเหรอ"

ผมหันไปถามน้องชายอย่างจริงจัง ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่พี่ลิงก์ แต่อยู่ที่กรีนมากกว่า

กรีนมองผมอย่างไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนจะตวัดสายตาไปทางพี่ลิงก์ที่นั่งเงียบอย่างเอาเรื่อง

"กูไม่ได้อะไรนะบลู แต่ต้องไม่เอาไอ้เหี้ยนี่มาเป็นแฟนมึง"

"หึ! กูก็ไม่นับมึงเป็นน้องแฟนกูเหมือนกัน"

นี่มันคู่แค้นกันตั้งแต่ชาติปางก่อนเหรอ?!

"อย่าเอาแต่ใจกันนักสิ ไม่เห็นใจคนป่วยบ้างหรือไง แค่กๆ "

ผมไอออกมาแสดงความเป็นคนป่วย ทำให้คู่กัดเลิกเขม่นกันชั่วคราว พี่ลิงก์เดินมาจับหน้าผากของผมเพื่อวัดไข้ ส่วนกรีนก็เบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำกระแทกประตูเสียงดังอย่างระบายอารมณ์

"ลิงก์ไม่ชอบน้องของบู้"

พี่ลิงก์บอกเสียงขุ่น ผมไม่ได้สนใจพลางหันไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้เขาอย่างเบามือ ผมถนัดเรื่องนี้ เพราะกรีนมักมีเรื่องต่อยตีบ่อยด้วยนิสัยหัวร้อนง่ายไม่ยอมใคร

"กรีนเป็นคนตรงๆ แบบนี้แหละครับ มันไม่มีอะไรหรอก พี่อย่าถือสาเลยนะครับ"

"อืม"

ผมยิ้มบาง แล้วไอออกมาเล็กน้อย พี่ลิงก์ขมวดคิ้ว

"กินยาแล้วใช่ไหม"

"ครับ"

หลังจากตอบคำถามของพี่ลิงก์ ผมก็หันไปมองกรีนที่เดินหน้าบูดออกมาจากห้องน้ำ เลยกวักมือเรียกให้น้องชายจอมดื้อมานั่งตรงหน้าเพื่อทำแผลให้

"ลิงก์ซื้อโจ๊กมา แต่มีแค่สองถุง"

"กูไม่กิน"

ผมถอนหายใจอย่างระอา ขณะที่ทำแผลให้กรีนไปด้วย

"โจ๊กเก็บไว้กินพรุ่งนี้เช้า เดี๋ยวเราไปกินช้าวข้างนอกกันดีกว่านะครับ"

ผมหันไปบอกพี่ลิงก์ เขาไม่ได้โต้เแย้งอะไร ส่วนกรีนก็นั่งหน้าบึ้งออกมาเท่านั้น





@@@@@@@@@@




หลังจากมื้อเย็นผ่านไปอย่างราบรื่น โดยที่พี่ลิงก์เป็นเจ้ามื้อเลี้ยง ปัญหาต่อมาก็เกิดขึ้นจนได้

"ทำไมมึงต้องค้าง"

"ไม่เกี่ยวกับมึง"

"กูไม่อนุญาต! "

"ห้องแฟนกู ไม่ใช่ห้องมึง"

ผมถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย ได้แต่มองคนทะเลาะกันอย่างปลงตก ตอนนี้ผมอยากอยู่คนเดียวมากเลยครับ แต่คงเป็นไปไม่ได้

หลังจากกินยาหลังอาหารไปอีกรอบ ผมก็อาการดีขึ้น พรุ่งนี้ก็น่าจะหาย

"บลู! กูไม่ยอม! "

"อย่าเรื่องมาก ถ้าไม่พอใจก็กลับไป"

"เห็นผู้ชายดีกว่าน้องหรือวะ! "

"ก็มึงมีปัญหา แค่พี่ลิงก์ไม่มีไง"

ผมบอกอย่างใจเย็น อันที่จริงถ้าให้เลือกระหว่างสองคนนี้ ผมก็เลือกน้องชายครับ แล้วผมก็ต้องทะเลาะกับพี่ลิงก์อีกคน ทางที่ดีอย่าเลือกจะดีที่สุด เตียงของผมกว้างพอจะรองรับผู้ชายสามคนนอนแบบเบียดกันได้

เมื่อเห็นว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว ผมก็เดินไปอาบน้ำต่อ ถึงแม้จะระแวงว่าถ้าปล่อยสองคนนั้นอยู่ตามลำพังจะมีเรื่องอะไรเกิกขึ้นหรือเปล่าก็ตาม





@@@@@@@@@@




ผมนอนมองเพดานที่ปิดไฟไปเรื่อย อาจเพราะเพิ่งนอนไปเมื่อกลางวัน ตอนนี้เลยไม่ค่อยง่วงเท่าไหร่ แต่ก็ถูกทั้งพี่ลิงก์และกรีนบังคับให้พักผ่อนจะได้หายป่วย

เสียงกรนแผ่วเบาดังมาจากน้องชายที่อยู่ด้านขวา ผมลอบถอนหายใจออกมากับการนอนหลับง่ายของอีกฝ่าย แล้วเหลือบสายตาไปมองทางด้านซ้ายที่มีคนที่นอนหันหลังให้

ผมขยับตัวไปนอนตะแคงข้างบ้าง แล้ววาดแขนกอดคนที่นอนหันหลังด้วยความเคยชิน เพียงไม่นานคนในอ้อมแขนก็ขยับตัวนอนหันหน้าเข้ามาหา

เราสองคนสบตากันในความมืด พี่ลิงก์ยกยิ้มออกมาเล็กน้อย ฝ่ามือของเขาลูบแก้มของผมอย่างอ่อนโยน

"วันนี้ลิงก์ยังไม่ได้จูบบู้เลย"

เสียงทุ้มแผ่วเบาดังขึ้น ผมเม้มริมฝีปากเล็กน้อยกับความร้อนที่พาดผ่านใบหน้าขึ้นมา

"ผมไม่สบายอยู่นะครับ"

"อืม ลิงก์อยากจูบคนไม่สบาย"

น้ำเสียงหยอกเย้าและนัยน์ตาที่วาววับในความมืด ทำให้ใบหน้าของผมร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรงขึ้น เพราะถูกฝ่ามือของพี่ลิงก์ลูบไล้เผ่วเบา แล้วสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อก้นของตัวเองกำลังโดนขย้ำ

"พี่ลิงก์! "

"ชู่ว...อย่าเสียงดังสิ เราไม่ได้อยู่กันสองคนนะ"

ผมกลั้นลมหายใจ แล้วหันไปมองกรีนที่ยังนอนหลับอยู่เล็กน้อย เมื่อเห็นว่าทุกอย่างยังปกติ เลยหันกลับมาชักสีหน้าใส่พี่ลิงก์

"พี่อย่าแกล้งผม"

พี่ลิงก์ยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะเข้ามาจูบริมฝีปากของผมอย่างร้อนแรง ปลายลิ้นสอดแทรกไปทั่วโพรงปากจนผมต้องเผลอครางออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

"อืม! อื้อ..."

ผมจับบ่าของพี่ลิงก์เอาไว้แน่น ร่างกายตอบรับทุกสัมผัสที่ถูกมอบให้โดยอัตโนมัติ ผมไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน หลังจากพี่ลิงก์ถอนริมฝีปากออกห่าง ผมก็ผวาไปเล็กน้อย แล้วเหลือบมองน้องชายที่ถูกลืมเลือนไปชั่วขณะ ลมหายใจผ่อนออกมา ดูเหมือนอีกฝ่ายจะนอนนิ่งไม่ตื่นขึ้นมารับรู้อะไร

"พี่ลิงก์"

ผมเรียกเสียงเบาพร้อมกับซุกหน้าเข้ากับหน้าอกของพี่ลิงก์ หัวใจยังเต้นแรงไม่หยุด

พี่ลิงก์หอมแก้มของผม ก่อนที่เขาจะกระซิบที่ข้างหู

"อยากแกล้งบู้อีก"

"ไม่เอา ผมจะนอนแล้ว"

ผมอมยิ้มกับตัวเอง หลังจากรับรู้ได้ถึงริมฝีปากนุ่มที่กดลงตรงขมับและวงแขนที่กระชับแน่นขึ้น





@@@@@@@@@@





หลังจากลิงก์ไปส่งบลูที่มหาวิทยาลัย เขาก็ขับรถไปส่งกรีนที่หอพักต่อ

"เมื่อคืนกูรู้นะ"

กรีนส่งสายตาขุ่นเคืองไปให้คนขับรถที่มองตรงไปยังถนนข้างหน้าราวกับเดินทางมาตามลำพัง

"ครั้งนี้กูจะไม่เอาเรื่อง ถ้ามีครั้งที่สองแบบนี้อีก มึงโดนดีแน่"

ลิงก์ปรายตามองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาและรู้สึกรำคาญเต็มทน แต่เขาก็เบื่อจะมีเรื่องด้วยเช่นเดียวกัน

"หึ! เก่งเฉพาะตอนที่อยู่ต่อหน้าพี่กูหรือไง"

"กูแค่ขี้เกียจทะเลาะกับเด็ก"

"ไอ้สัตว์! "

"กรีน"

ลิงก์กดเสียงต่ำพร้อมกับส่งสายตามองอย่างดุดัน เขาแค่นยิ้มกับสายตาเอาเรื่องที่ส่งกลับมา

"อยากทำอะไรก็เรื่องของมึง"

ความเงียบเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนที่เสียงทุ้มเยือกเย็นจะดังขึ้นราวกับคำประกาศิต

"ยังไงพี่ชายมึงก็เป็ยของกู"







TBC++++++++

Marionetta
เปิดตัวน้องกรีน อิอิ ยังมาแบบ slice of life เช่นเคย ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 26 > 01-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 02-02-2020 08:17:40
มาถึงขนาดนี้พาพี่ลิงซ์ไปเปิดตัวกับครอบครัวเลยบู้
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 26 > 01-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: prympws ที่ 03-02-2020 12:25:11
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 26 > 01-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 04-02-2020 22:26:33
Level 27: สายรหัส







"พี่บลู สวัสดีค่ะ! "

ผมหันไปมองตามเสียงเรียก กระแตน้องรหัสของผมกำลังส่งยิ้มหวานมาให้ เธอเดินมาพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งที่คาดว่า น่าจะเป็นหลานรหัสของผมครับ

เมื่อสัปดาห์ก่อนมีการจับสายรหัสของน้องปีหนึ่ง ซึ่งผมก็ไม่ได้ไปด้วย เพราะโดนพี่ลิงก์ลากไปหิ้วของ วันนี้มีโอกาสเลยนัดสายรหัสของตัวเองมาเจอกัน

"สวัสดีครับพี่บลู"

ผมพยักหน้ารับไหว้หลานรหัสพร้อมกับส่งยิ้มไปให้ พวกเรานัดมากินข้าวที่ร้านอาหารไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย

"พี่บลูน่ารักขึ้นหรือเปล่าเนี่ย"

กระแตพูดขึ้นพร้อมกับมองผมด้วยสายตาสดใส ผมก็ยิ้มแหยออกมา แล้วหันสายตาไปทางหลานรหัสที่จ้องมองผมอยู่

"อ้อ นี่น้องซีค่ะ หล่อนะ แต่ไม่สเปคอ่ะ เสียดายจัง"

กระแตบ่นอุบ น้องรหัสของผมมีรสนิยมชอบผู้ชายตัวเล็ก ทว่าแฟนของเธอกลับเป็นสาวเท่สุดฮอตของคณะบัญชีครับ

"พี่ชื่อบลูนะ สายเราก็มีกันแค่นี้ ส่วนปู่รหัสของเราก็ซิ่วไปตั้งแต่ปีสองแล้ว"

ซีพยักหน้ารับ โดยที่สายตายังไม่ละไปไหนจนผมต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างนึกแปลกใจ

"มองมาแบบนี้ มีอะไรหรือเปล่า"

"คือ...ที่จริงผมรู้จักพี่มาก่อนหน้านี้แล้วครับ"

ทั้งผมและกระแตหันไปมอง ซีก็ไม่เล่นตัวนานอธิบายทันที

"พอดีผมเป็นเพื่อนกับกรีนครับ"

ฮะ?!

ผมรู้สีกตกใจเล็กน้อย แล้วนึกถึงน้องชายที่แวะมาป่วนเมื่อหลายวันก่อน ผมเองก็ไม่ค่อยรู้จักเพื่อนของกรีนด้วย อันที่จริงตอนมัธยมผมค่อนข้างเก็บตัวและไม่มีใครคบเท่าไหร่ แถมยังเคยถูกดักไถเงินด้วย ถึงกรีนจะไม่เคยพูดเรื่องนี้กับผม แต่ผมก็รู้ว่า มันแอบไปจัดการทุกคนที่เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้ จนไม่มีใครกล้ามารังแกผมอีก

เพราะแบบนี้นิสัยนักเลงเลยลามมาตีกับพี่ลิงก์เมื่อหลายวันก่อน

"อ้อ บังเอิญจัง"

ผมก็ได้แต่ตอบรับด้วยรอยยิ้มบาง เสียงของกระแตก็โวยวายออกมา

"โอ๊ย! ทำไมแตเหมือนเป็นคนนอกไปได้ล่ะเนี่ย! "

"ไม่ต้องบ่นแล้ว สั่งอาหารเถอะ"

ผมยื่นเมนูส่งไปให้ทั้งกระแตและซีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อย หญิงสาวเพียงคนเดียวก็เล่าเรื่องช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา แล้วก็หันมาอวดผมให้ซีฟังอย่างสนุกปาก

"เห็นแบบนี้ พี่บลูเป็นตัวท็อปของสาขาเลยนะ เก่งสุดในรุ่นแล้ว"

"ไม่ถึงขนาดนั้น"

ผมปฏิเสธเสียงอ่อนแกมเขินอายขึ้นมานิดหน่อย กระแตทำหน้ายู่มองผมอย่างหมั่นไส้

"เยลก็ชอบว่าแตอยู่เรื่อย ทำไมไม่ไปติวกับพี่บลูตอนสอบ"

"เคยชวนแล้ว แต่ไม่มาเอง"

"ก็ขี้เกียจอ่ะ แตขอแค่เรียนจบก็พอ ไม่เอาเกรดอะไรหรอก"

ผมมองกระแตอย่างอ่อนใจ แล้วนึกถึงแฟนสาวของอีกฝ่ายที่ชื่อเยลลี่ ชื่อน่ารักแต่หล่อมากครับ ผมยังนึกสงสัยว่าคนนิสัยประหลาดอย่างกระแตไปคบกับดาวดังของคณะบัญชีได้ยังไง

"ครับ แต่พี่ก็เรียนเก่งมาตั้งนานแล้ว"

กระแตหน้ามุ่ยลง หันไปส่งค้อนขวับให้ซีที่นั่งอยู่ข้างกัน

"ซีรู้จักก่อนแบบนี้ พี่ก็ไม่มีอะไรให้เล่าเกี่ยวกับพี่บลูสิ"

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ กับท่าทางแสนงอนของกระแต แล้วพูดปลอบอย่างใจดี

"วันนี้พี่เลี้ยงไม่อั้นจนกว่ากระแตจะพอใจเลย"

"อื้อ ชอบพี่บลูอ่ะ ทั้งตัวเล็ก ทั้งใจดี"

กระแตส่งยิ้มหวานมาให้ ผมก็ส่ายหน้าเบาๆ แล้วมองจานอาหารที่ค่อยๆ นำมาเสิร์ฟ




@@@@@@@@@@





"พี่บลูกลับยังไงครับ"

หลังจากที่กินอาหารเย็นและพูดตุยกันจนถึงสามทุ่ม เยลลี่ก็มารับกระแตกลับไปแล้ว เหลือผมกับซีแค่สองคนครับ

"เดี๋ยวพี่นั่งวินกลับ"

วันนี้พี่ลิงก์นอนค้างที่คอนโดครับ เขาไปเรียนงานที่บริษัทเลยไม่ได้กลับมาค้างด้วยกัน

"ให้ผมไปส่งไหมครับ พอดีผมเอารถมา"

"อืม ขอบใจ"

ผมเดินตามซีมาถึงรถยนต์คันหนึ่ง อีกฝ่ายชะงักไปเล็กน้อย แล้วหันมาบอกด้วยน้ำเสียงเกรงใจ

"เดี๋ยวพี่รอแป๊บนึงนะครับ ขอผมเก็บของในรภก่อน"

ผมพยักหน้า แล้วมองซีที่กุลีกุจอเก็บของในรกให้เรียบร้อย ทว่ายืนรอได้ครู่เดียว เสียงวีดีโอคอลจากโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น

"ครับ"

[บู้อยู่ไหนแล้ว]

"กำลังจะกลับครับ"

ผมมองใบหน้าหล่อของพี่ลิงก์ที่มีฉากหลังเหมือนอยู่ในห้องอะไรสักอย่าง เขาหรี่ตามองผมเล็กน้อย

"ข้างหลังนั่นใคร"

ผมหันไปมองตามสายตาของพี่ลิงก์ก็เห็นซีกำลังมองมาทางนี้พอดี อีกฝ่ายคงจัดของเสร็จแล้ว แต่เพราะว่าเห็นผมกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ เลยไม่ได้เรียก

"หลานรหัสผมครับ เดี๋ยวน้องไปส่ง"

[อืม งั้นถึงห้องแล้วโทรมาด้วย]

"ครับ"

พี่ลิงก์ตัดการติดต่อไป ผมก็เก็บโทรศัพท์มือถือ แล้วส่งยิ้มบางให้หลานรหัสที่ยืนรออยู่

"เสร็จแล้วใช่ไหม โทษที"

"ครับ ไม่เป็นไรครับ"

หลังจากเดินทางเพียงไม่กี่นาที ซีก็มาส่งผมถึงหอพักครับ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ลงจากรถ เสียงของคนขับก็ดังขึ้น

"พี่บลูครับ"

ผมหันไปมองซี อีกฝ่ายมองผมเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ

"ผมขอส่งข้อความหรือโทรคุยกับพี่ได้ไหมครับ แบบ...คุยเล่น"

"ได้สิ"

"อ่า...ขอบคุณครับ"

ผมมองซีที่อมยิ้มออกมาด้วยความแปลกใจ ผมยิ้มให้เล็กน้อย แล้วลงจากรถ ในคืนนั้นนอกจากผมจะได้รับคำกล่าวฝันดีของพี่ลิงก์แล้ว ผมก็ยังได้รับข้อความ 'ฝันดีนะครับ' จากหลานรหัสด้วย




@@@@@@@@@@





"ได้ข่าวว่า หลานรหัสมึงโดนทาบทามไปประกวดเดือนด้วย"

เป็ดพูดขึ้น หลังจากที่เดินเข้ามานั่งข้างกัน ผมก็พยักหน้ารับ เพราะซีก็โทรมาเล่าให้ผมฟังอยู่เหมือนกัน

"แต่น้องไม่อยากประกวด"

หลังจากที่ได้รวมสายรหัสกันครั้งแรก ผมก็เล่าเรื่องของซีให้น้องชายฟัง กรีนก็ยืนยันเรื่องที่หลานรหัสของผมเป็นเพื่อนร่วมห้องของมัน แถมยังเป็นเพื่อนที่มันมาหาเมื่อครั้งนั้นด้วยครับ

"อืม เป็นกูก็ไม่เอาด้วยหรอก วุ่นวายชะมัด"

"ถึงมึงอยาก เขาก็ไม่เอามึงป่ะ"

ผมแกล้งหยอกเพื่อนสนิท เป็ดก็ส่งสายตาขุ่นเคืองมาให้ ก่อนเสียงข้อความจะดังขึ้นขัดการสนทนาของเราสองคน

"เบื่อคนมีแฟน จะไม่คุยกันสักชั่วโมงจะตายกันหรือไง"

เป็ดบ่นออกมาอย่างไม่จริงจัง ผมก็ยกยิ้มพร้อมกับหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองชึ้นมาดู

Sea S.
พี่บลู เย็นนี้ว่างไหมครับ

Blue++
ก็ว่าง มีอะไรเหรอ

Sea S.
พรุ่งนี้ผมมีสอบ อยากให้พี่ช่วยติวให้หน่อยได้ไหมครับ

Blue++
ได้ จะให้ติวที่ไหน

Sea S.
แล้วแต่พี่เลยครับ ผมสะดวกทุกที่

Blue++
งั้นเจอที่หอสมุดแล้วกัน
Sea S.
ครับ

ผมละสายตาจากข้อความที่เพิ่งได้รับ แล้วหันไปมองเป็ดที่กำลังเล่นเกมออนไลน์ที่ติดอยู่

"เย็นนี้มึงไปไหนป่ะ"

"มีอะไร"

เป็ดถามกลับ ทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากภาพกราฟิกของเกมที่อยู่ตรงหน้า

"วันนี้ซีนัดให้กูไปช่วยติว"

"แล้วไง"

"ก็เผื่อมึงจะนัดน้องไปติวด้วยกัน"

"ไม่อ่ะ ถ้ามันอยากติวก็ต้องมาบอกกูเองสิ"

เป็ดหันมามองผมเล็กน้อย แล้วเก็บโทรศัพท์มือถือ เมื่อเห็นอาจารย์เดินเข้ามาในห้องเรียน





@@@@@@@@@@





หลังจากเดินมาถึงหอสมุดที่นัดหลานรหัสเอาไว้ ผมก็กวาดตามองเล็กน้อย ซีกำลังนั่งอ่านอะไรบางอย่างในโทรศัพท์มือถืออยู่

"มารอนานแล้วป่ะ"

ซีเงยหน้าพลางส่งยิ้มให้ผม เมื่อผมนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม อีกฝ่ายก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ

"ไม่นานครับ พี่หิวหรือเปล่า ไปกินอะไรกันก่อนไหมครับ แล้วค่อยมาติวกัน"

"ไม่เป็นไร เพิ่งจะห้าโมงเอง"

ซีพยักหน้ารับ แล้วหยิบชีทเรียนขึ้นมาบนโต๊ะ ผมก็เอามาดู หลังจากนั้นก็เริ่มอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ

พวกเราใช้เวลาราวสองชั่วโมง แรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือของผมก็ทำให้การติวต้องหยุดชะงักลง ผมหยิบอุปกรณ์สื่อสารของตัวเองที่ปิดเสียงเอาไว้ แล้วหยิบมันขึ้นมา

[บู้อยู่ไหน]

น้ำเสียงทุ้มเข้มดังขึ้น ผมนิ่งค้างไปไม่กี่วินาที แล้วตอบเสียงอ่อน

"หอสมุดครับ"

ซวยแล้ว...ผมลืมบอกพี่ลิงก์เรื่องที่จะมาติวให้น้องครับ!

[ทำอะไร นี่มันทุ่มกว่าแล้ว ทำไมไม่บอกลิงก์ก่อน]

พี่ลิงก์ใช้น้ำเสียงอ่อนลงกว่าเดิม แต่ก็ยังแฝงการตำหนิเอาไว้

"ขอโทษครับ ผมมาติวให้น้อง"

ผมยิ้มแห้งออกมา ทั้งที่คู่สนทนามองไม่เห็น แต่หลานรหัสกลับมองผมนิ่งเลยครับ

[แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จ]

"อีกสักพักครับ"

[เสร็จแล้วบอกด้วย จะไปรับ]

"ครับ"

หลังจากพี่ลิงก์วางสายไป ผมก็วางโทรศัพท์มือถือไว้บนโต๊ะ แล้วหันมาสนใจเนื้อหาที่กำลังพูดต้างเอาไว้ต่อ ทว่าเสียงของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

"ถ้าพี่มีธุระต่อ ก็ไม่เป็นไครับ แค่นี้ผมก็เกรงใจแล้ว"

"ไม่เป็นไร หรือว่าหิวแล้ว? มันก็ทุ่มกว่าแล้ว"

ตอนแรกผมก็ยังไม่รู้สึกหิวอะไรหรอกครับ แต่พอนึกถึงเรื่องกิน ท้องก็เริ่มร้องประท้วงหาอาหารทันที

"ผมก็เริ่มหิวนิดหน่อย งั้นเราไปหาอะไรกินกันดีไหมครับ"

"อืม"





@@@@@@@@@@





เนื่องจากจะไปกินข้าวกับซีต่อ ผมเลยส่งข้อความไปบอกพี่ลิงก์ว่าไม่ต้องมารับ เพราะหลานรหัสจะไปส่ง แล้วก็ได้รับสติกเกอร์โอเคตอบกลับมาครับ

"ขอบคุณพี่บลูที่ช่วยติวให้วันนี้นะครับ"

ซีหันมาส่งยิ้มให้ ผมก็ยิ้มตอบพร้อมกับพนักหน้ารับ

"มีอะไรก็บอกได้ ไม่ต้องเกรงใจ"

"ครับ"

ผมลงจากรถยนต์ที่จอดอยู่ที่หน้าหอพัก แล้วยืนรอจนซีขับรถหายไปจากสายตา ถึงได้เดินขึ้นห้องของตัวเอง

พอผมเปิดประตูเข้าห้องก็เห็นพี่ลิงก์ที่ใส่เพียงบ็อกเซอร์นอนพิงหมอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนเตียง เมื่อก่อนผมคงจะช็อกกับภาพตรงหน้า แต่หลังจากที่พวกเราค้างด้วยกันบ่อบขึ้น ผมก็เริ่มปรับตัวไม่ให้เป็นบ้าทุกครั้งที่เห็นรูปร่างเปลือยของเขาได้

ถึงอย่างนั้นก็อดเหลือบมองด้วยหัวใจสั่นไหวไม่ได้อยู่ดีครับ

"เดี๋ยวนี้เถลไถลใหญ่เลยนะ"

พี่ลิงก์ว่าด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง ผมเดินไปนั่งที่ข้างเตียง หลังจากวางกระเป๋าเป้ของตัวเองแล้ว

"ขอโทษครับ พอดีน้องมาขอให้ช่วยติวกะทันหัน เลยลีมบอก"

"อืม"

ผมมองพี่ลิงก์ที่เงียบไป ก่อนจะถามเขาเสียงเบาอย่างรู้สึกผิด

"แล้วมื้อเย็นพี่กินอะไรครับ อร่อยไหม"

"ยังไม่ได้กิน"

อ่า...

ผมส่งข้อความให้พี่ลิงก์ไม่ต้องรอกินข้าว เพราะผมจะไปกินกับหลานรหัส และเขาก็ส่งสติกเกอร์ตอบรับมาแล้วด้วย แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยังไม่มีอะไรตกถึงท้องแบบนี้

"ไม่หิวเหรอ งั้นจะกินอะไรไหมครับ เดี๋ยวผมไปซื้อให้"

พี่ลืงก์เงยหน้ามามองผมอีกครั้ง นัยน์ตาสีดำนิ่งเฉยครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะยกยิ้มออกมาเล็กน้อย

"อยากกินบู้ได้ไหมล่ะ"

พี่ลิงก์บอกพร้อมกับดึงผมให้นอนลงบนเตียง ความตกใจที่เกิดขึ้นยังช้ากว่าการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเขาที่เข้ามากักตัวของผมเอาไว้ด้วยท่าทีล่อแหลมอีกครับ

"พี่ลิงก์"

"หมั่นไส้ว่ะ"

ทันทีที่เสียงทุ้มดังขึ้น ผมก็ถูกพี่ลิงก์กัดแก้มจนต้องร้องออกมา ความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความเขินอาบ เมื่อเขาซุกไซ้ดูดเม้มที่ลำคอของผมแทน

"อย่าเพิ่งครับ"

ผมร้องบอกเสียงแผ่ว ถึงแม้จะร้องห้าม แต่ร่างกายกลับไม่ได้ผลักอีกฝ่ายออก กลับกันดันกอดแผ่นหลังเปลือยอย่างพอใจอีกต่างหาก

ทั้งอาย ทั้งเขิน ทั้งชอบเลยตรับ!

"อืม"

พี่ลิงก์ครางรับ ก่อนที่เขาจะพรมจูบไปทั่วใบหน้าของผม แล้วหยุดสัมผัสชวนวาบไหวตรงริมฝีปากของผม เราสบตากันนิ่ง ท่ามกลางเสียงลมหายใจที่ผิดจังหวะ

"พี่ลิงก์"

ผมยกมือลูบใบหน้าของคนตรงหน้าอย่างเผลอไผล รอยยิ้มมุมปากสั่งการให้ผมโน้มลำคอของเขาลงเพื่อปลดปล่อยความรุ้สึกของตัวเอง ทว่าอีกฝ่ายกลับถอยตัวออก

"ไปอาบน้ำ"

ผมกะพริบตาทีหนึ่งแล้วดันตัวลุกขึ้น ในนาทีนั้นผมเพิ่งจะรู้ตัวเองว่า เสื้อนักศึกษาถูกปลดกระดุมหมดแล้วครับ

"แล้วพี่จะกินอะไรไหม ผมจะได้ซื้อให้"

ในห้องของผมก็พอจะมีของกินกันคายอยู่บ้างครับ แต่ถ้าหากเขาอยากกินอย่างอื่นผมก็พร้อมบริการไปซื้อด้วยความเต็มใจ

"เมื่อกี้กินของหวานไปแล้ว"

ผมมองพี่ลิงก์ที่กลับไปนอนเล่น แถมยังเอาตุ้กตาลูกเจี๊ยบสีเหลืองที่เขาเคยฝากผมเอาไว้ขึ้นมากอดเล่น

"อ่า...ครับ"

ผมรู้สึกงุนงง แต่ก็พยักหน้ารับ บางทีเขาอาจจะหาขนมกินรองท้องก่อนที่ผมจะมาถึงแล้ว พี่ลิงก์เหลือบมองผม แล้วยกมือขึ้นดึงแก้มของผมแบบไม่เบาแรง

"ไปได้แล้ว มันเขี้ยว"







TBC++++++++
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 27 > 04-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 05-02-2020 05:20:31
เอาแล้วคราวนี้พี่ลิงซ์จะร้อนเป็นไฟเพราะเจอคู่แข่ง
อยากเห็นเวอร์ชั่นลิงซ์หึงน่าจะแซบสุดๆ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 27 > 04-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 05-02-2020 14:29:15
ตามมาอ่านเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 27 > 04-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-02-2020 18:46:41
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 27 > 04-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 07-02-2020 14:41:55
น่ารัก ..
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 27 > 04-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 07-02-2020 21:03:15
Level 28: ปล่อยไปตามหัวใจ







"สุขสันต์วันเกิด"

ผมส่งยิ้มให้กับคำทักทายของเพื่อนสนิทในเช้าวันนี้

"ขอบใจ"

วันนี้เป็นวันเกิดของผม เมื่อเช้านี้ทั้งพ่อแม่ น้องชาย และคนรู้จักอีกไม่กี่คนต่างก็ส่งข้อความมาอวยพรจนผมยิ้มไม่หุบเลยครับ

"แล้ววันนี้ไปกินอะไรที่ไหนป่ะ"

"อืม ยังไงก็ได้"

ปกติในวันเกิดของผมหรือวันเกิดของเป็ด พวกเราก็ไม่ได้ให้ของขวัญกันหรอกครับ จะมีก็แต่คำอวยพรพอเป็นพิธี แล้วก็หาอะไรกินด้วยกัน โดยที่เจ้าของวันเกิดเป็นเจ้ามือ

"แล้วพี่เขาจะพามึงไปเลี้ยงที่ไหนหรือเปล่า"

เป็ดถามขึ้น ในเมื่อปีที่ผ่านมาผมยังโสดสนิท แต่ปีนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ผมยิ้มแห้งแล้วส่ายหน้า

"ไม่ พี่ลิงก์เอาเค้กมาให้กูแล้ว"

เดิมทีเมื่อคืนนี้พี่ลิงก์กลับไปนอนค้างที่คอนโด ทว่าพอเวลาเลยเที่ยงคืนเพียงไม่กี่นาที เขาก็บุกเข้ามาปลุกผมถึงเตียงนอนพร้อมกับเค้กช็อกโกแลตขนาดหนึ่งปอนด์ที่ตกแต่งด้วยข้อความอวยพรวันเกิด ตอนนั้นผมทั้งตกใจแล้วก็ดีใจมากครับ เราสองคนนั่งกินเคักด้วยกันจนหมด แล้วผมก็ถูกพี่ลิงก์นอนกอดอย่างมีความสุขจนถึงเช้า

"อืม งั้นไปหาอะไรกินที่ห้างไหม"

"อืม"





@@@@@@@@@@





หลังจากเลิกเรียนในตอนเย็น นอกจากเพื่อนสนิทแล้ว ผมก็นัดสายรหัสของตัวเองไปเลี้ยงฉลองวันเกิดในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ห้างไม่ไกลจากมหาวิทยาลัย

"ของขวัญจากแตกับเยลค่ะ แตเป็นคนเลือก ส่วนเยลจ่ายเงิน อิอิ"

ผมมองน้องรหัสที่ยื่นของขวัญมาให้ แล้วยิ้มออกมา หลังจากแกะของขวัญดู ก็พบว่าเป็นพวงกุญแจตุ๊กตามังกรสีดำและสีขาวที่มาจากหนังการ์ตูนเรื่องดังครับ

"ขอบใจนะ พี่ชอบมากเลย ให้มาตั้งสองตัว มันขายคู่กันเหรอ"

"เปล่า แตตั้งใจจะให้พี่บลูห้อยคู่กับพี่ลิงก์อ่ะ แฟนกันก็ต้องใช้ของคู่กัน น่ารักๆ "

ผมก็ยิ้มแห้งอย่างเข้าใจ แล้วเลือกพวงกุญแจมังกรสีดำมาห้อยกระเป๋าเป้ของตัวเอง ถึงตอนนี้ในห้องของพี่ลิงก์จะไม่มีตุ๊กตาหมีแล้ว แต่เขาก็ยังห้อยโคลอยู่ครับ

"สุขสันต์วันเกิดครับพี่บลู"

ซีส่งของขวัญกล่องหนึ่งมาให้ เมื่อผมแกะออกก็เห็นหมวกจากแบรนด์กีฬาที่ผมไม่คิดจะซื้อเพราะเสียดายเงิน แต่ก็ต้องยอมรับว่าชอบมากเลยครับ

"ขอบใจนะ"

บรรยากาศเป็นไปอย่างมีตวามสุข พวกเรานั่งคุยเล่นหัวเราะไปตามประสา จนกระทั่งถึงเวลาอันสมควรจึงได้ถ่ายรูปด้วยกันเป็นที่ระลึกแล้วแยกย้ายกันครับ

"ให้ผมไปส่งไหมครับ"

ซีหันมาถามผม เมื่อกระแตแยกตัวไปแล้ว เหลือผู้ชายสามคนที่ยังยืนอยู่บริเวณหน้าร้าน

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวแฟนพี่มารับ"

"อ้อครับ"

ซีส่งยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปทางเป็ด ซึ่งเพื่อนสนิทของผมก็บอกโดยไม่ได้รอให้อีกฝ่ายถาม

"พี่ัขี่มอเตอร์ไซค์มา"

"แล้วแฟนของพี่บลู มาหรือยังครับ"

"น่าจะอยู่แถวนี้แหละ"

ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ตอนแรกผมชวนพี่ลิงก์มากินเลี้ยงด้วยกันแต่เขาปฏิเสธ แล้วอ้างว่าจะฉลองวันเกิดกับผมแค่สองคนเท่านั้นครับ

เอาแต่ใจ...

ผมอมยิ้ม เมื่อนึกถึงพี่ลิงก์ หลังจากรอสัญญาณโทรศัพท์ไม่นาน อีกฝ่ายก็รับสาย

"ผมกินเสร็จแล้วครับ"

[อืม เดี๋ยวเดินไปหา]

"ครับ"

ผมตัดสายจากพี่ลิงก์ แล้วบอกลาเพื่อนสนิทและหลานรหัส หลังจากที่ทั้งสองคนเดินแยกไปไม่นาน พี่ลิงก์ก็เดินมาหา

"พี่กินอะไรมาหรือยังครับ"

"กินแล้ว บู้อยากกินอะไรเพิ่มอีกไหม"

พี่ลิงก์ดึงแก้มของผมเล่นอย่างที่ชอบทำ ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ

"งั้นก็กลับกัน"

"ครับ"





@@@@@@@@@





พี่ลิงก์ไม่ได้มาส่งผมที่หอพักครับ แต่เขาพาผมมาที่คอนโดแทน ระหว่างทางผมก็เหลือบมองอีกฝ่ายเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

บรรยากาศภายในห้องยังเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ทำไมทุกย่างก้าว ถึงทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นมาไม่หยุด

"วันนี้อาบน้ำด้วยกันนะ"

ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ถึงผมจะใกล้ชิดกับพี่ลิงก์แบบถึงเนื้อถึงตัวกันบ่อย แต่เราสองคนก็ยังไม่เคยล่อนจ้อนต่อหน้ากันมาก่อนเลยครับ

คงเพราะผมเงียบไป พี่ลิงก์เลยส่งยิ้มให้ แล้วจับมือของผมให้เดินตามเขามาราวกับผู้ใหญ่จูงเด็ก

ผมเดินเกร็งตามแรงดึง หัวใจที่เต้นผิดจังหวะกลับรัวเร็วมากกว่าเดิม เมื่อตอนนี้ผมได้เข้ามาอยู่ในห้องนอนของพี่ลิงก์แล้ว

อ่า....ห้องเสียตัว!

ใบหน้าของผมร้อนขึ้นทันที ยังไม่ทันที่ผมจะได้สำรวจห้องนอนที่เพิ่งได้เข้ามาเป็นครั้งแรก ความสนใจทั้งหมดก็ถูกรสจูบร้อนแรงดึงดูดไปจนหมด

"บู้"

ผมสบสายตากับเจ้าของเสียงเรียกแผ่วเบาด้วยความเขินอาย เขากอดเอวของผมเอาไว้หลวมๆ พร้อมกับหอมแก้มของผมฟอดใหญ่ แล้วเลื่อนไปกระซิบที่ข้างหู

"โตสักทีนะ"

ผมหันไปมองเสี้ยวใบหน้าหล่ออย่างไม่เข้าใจ แล้วความสงสัยก็จางหายไปเมื่อมือของพี่ลิงก์เริ่มปลดกระตุมเสื้อนักศึกษาของผม ผมกลั้นใจตัวแข็งทื่อ

"พี่..."

"กลัวเหรอ"

พี่ลิงก์ก้มมองผม โดยที่มือของเขายังทำงานอย่างต่อเนื่อง ผมเม้มริมฝีปากแน่น หัวใจสั่นไหว เมื่อเสื้อนักศึกษาถูกถอดออก

"เปล่า...ครับ"

คำตอบของผม ทำให้พี่ลืงก์ยกยิ้ม น้ำเสียงทุัมดังขึ้นอย่างเย้าแหย่

"บู้ตัวสั่น"

"ผม...ตื่นเต้น"

"หึ"

ผมก้มซ่อนใบหน้าแดงจัดของตัวเองพร้อมกับกำมือเกร็ง

ผมไม่ได้กลัวจริงๆ นะ ครับ แต่กำลังสั่นสู้อยู่!

พี่ลิงก์เชยปลายคางของผมให้เงยขึ้นไปรับจูบดูดดื่มของเขา ผมคล้อยตามทุกสัมผัสที่ได้รับอย่างลืมตัว แล้วก็ต้องผวากอดอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยความตกใจ เมื่อคนตรงหน้าอุ้มผมเอาไว้ แถมตอนนี้ร่างกายของผมก็เปล่าเปลือยไม่ได้ใส่อะไรแม้กระทั่งกางเกงใน!

"พี่ิลิงก์! "

ผมร้องด้วยน้ำเสียงตระหนกผสมเขินอายพร้อมกับซุกหน้าเข้ากับบ่ากว้างของเขาอย่างทำตัวไม่ถูก ทั้งที่ผมถูกปอกเปลือกจนหมด แต่อีกฝ่ายยังแต่งตัวครบชุดอยู่เลย

ไม่ยุติธรรม ฮือ...!

"บู้ชอบฝักบัวหรืออ่างครับ"

"ผมไม่รู้"

อย่ามาถามคำถามแบบนี้นะ! เลือกไม่ถูก! ไม่เคยลอง! ฮือ!

"งั้นลิงก์เลือกฝักบัวนะ จะได้เห็นบู้ชัดๆ "

โอ๊ย! ผมจะตายไหมครับ!!!

ผมได้แต่กำเสื้อของเขาเป็นคำตอบ พี่ลิงก์หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเดินไปทางห้องน้ำ ผมก็กอดอีกฝ่ายแน่นขึ้นพร้อมกับใช้ขาเกี่ยวเอวหนากลัวตกไม่ต่างจากลูกลิง

"ลิงก์ถอดชุดให้บู้แล้ว บู้ต้องถอดชุดให้ลิงก์ด้วยนะ"

งื้อ...ยังไม่ทันไรก็ฟินจนตัวระเบิดแล้วครับ!





@@@@@@@@@@





ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังขึ้นสวรรค์หรือตกนรกกันแน่ครับ เพราะทั้งรู้สึกทรมานและมีความสุขในเวลาเดียวกัน

การเปลื้องผ้าคนหล่อที่แสนตื่นเต้นจนหัวใจพาลจะล้มเหลวตลอดเวลาผ่านไปอย่างทุลักทุเล เพราะมือของผมสั่นไม่หยุด อีกทั้งยังหน้ามืดจนคล้ายจะเป็นลมได้ทุกเมื่อ เวลาที่ได้เห็นรอยยิ้มและสายตาพราวระยับของพี่ลิงก์ รวมไปถึงน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่กระซิบชักชวนให้ผมลองสัมผัสสัดส่วนร่างกายของเขาอย่างยั่วยวน

เลือดกำเดาไม่ไหลให้อับอายขายขี้หน้าก็บุญมากแล้ว!

สายน้ำจากฝักบัวไม่ได้ช่วยให้ความรุ่มร้อนทุเลาลง ทุกสัมผัสและการกระทำของพี่ลิงก์กำลังทำให้ร่างกายของผมร้อนระอุ หัวใจหลอมเหลวยากจะควบคุม

"อื้อ...พี่ลิงก์"

ผมครางออกมา เมื่อริมฝีปากร้อนกำลังไล่จูบไปทัว ผมคงจะทรุดไปล้มหมดสภาพอยู่กับพื้น ถ้าหากไม่ได้อ้อมแขนของเขาที่รั้งเอาไว้เสียก่อน ร่างกายของเราสองคนเบียดชิดเข้าหากันตามความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น

"บลู"

น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าดังข้างหู ยิ่งทำให้ผมใจสั่นมากกว่าเดิม ผมแทบจะจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่า เขาเคยเรียกชื่อเล่นจริงของผมหรือเปล่า แต่อานุภาพของมันก็ทำลายล้างสุดๆ ไปเลบครับ

ผมโน้มลำคอของพี่ลิงก์มาจูบตามความปรารถนา ทักษะอ่อนด้อยจากการมอบความรู้สึกผ่านริมฝีปากพัฒนาขึ้นตามประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้การช่วงชิงลมหายใจเป็นไปอย่างดุเดือด ความอ่อนหวานเนิบช้าแปรเปลื่อนเป็นหนักหน่วงเร่าร้อน

พี่ลิงก์วาดยิ้มหวาน นัยน์ตาสีดำที่เปล่งประกายกำลังทำให้ผมตาพร่า ผมลูบไล้ไปตามร่างกายที่ตกแต่งด้วยกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบอย่างหลงใหล ฉับพลันสติที่หลุดลอยก็กลับคืนมาเล็กน้อย เมื่อฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งกำลังกอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมเอาไว้ ปลายนิ้วของเขากดคลิงส่วนปลายที่ชื้นแฉะด้วยแรงหนักสลับเบาอย่างรู้จังหวะ

"อื้อ! "

พี่ลิงก์ก้มลงมาจูบผมอีกครั้ง ปลายลิ้นที่พลิ้วไหวไปทั่วโพรงปากเร่งแรงอารมณ์ที่ก่อตัวในร่างกายให้อัดแน่นมากกว่าเดิม ฝ่ามือร้อนเคลื่อนไหวปรนเปรอจนผมมัวเมาไร้สติ

ลมหายใจของผมติดขัด ทั้งที่เขินอายสุดๆ แต่สายตาไม่รักดีก็อดมองไปยังส่วนร้อนผ่าวที่ถูกพี่ลิงก์ควบคุมเบ็ดเสร็จไม่ได้ ลำคอแห้งผาก เมื่อพบแท่งเนื้อร้อนของอีกฝ่ายกำลังแข็งตัวและมีสีเข้มไปต่างกัน

อ่า...

ผมเงยหน้าขึ้นหนีด้วยความกระดากอาย ราวกับพี่ลิงก์รอโอกาสนี้อยู่ เขาก้มหน้ามาชิด แล้วบอกเสียงอ้อน

"ช่วยลิงก์ด้วยสิครับ"

เฮือก!

ผมเหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง พี่ลิงก์ปล่อยมือที่ช่วยปลดเปลื้องอารมณ์ให้มาจับมือของผมแทน ผมกลืนน้ำลายอย่างยาดลำบาก แล้วกลั้นใจจับเนื้อร้อนอย่างใจกล้า

พี่ลิงก์จูบแก้มของผม เขากลับไปกอบกุมส่วนอ่อนไหวของผมอีกครั้ง หัวใจของผมเต้นกระหน่ำ เมื่อรับรู้ได่ถึงปฏิกิริยาของสิ่งที่กำลังจับเอาไว้

"บู้ครับ"

"ครับ"

ผมตั้งสติแล้วเริ่มขยับฝ่ามือของตัวเองบ้าง เสียงครางต่ำดังขึ้นอย่างพอใจ ผมยิ่งได้ใจรูดรั้งไปตามความยาวด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม

"บลู...เด็กดี"

เราสองคนจูบกัน โดยที่ฝ่ามือของพวกเราต่างกอบกุมส่วนสำคัญที่กำลังตื่นตัวของกันและกันเอาไว้

ความเสียวซ่านเดินทางอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ในขณะที่ต่างฝ่ายต่างมอบความสุขสมให้แก่กัน การเคลื่อนไหวของผมก็สะดุดลง เพราะมีบางสิ่งกำลังกดแทรกเข้ามาในร่างกายราวกับโจรย่องเบาที่บุกรุกตอนที่เจ้าของเผลอ

ผมเบิกตากว้างและสะดุ้งจนเผลอกำแท่งเนื้อร้อนแน่นด้วยความตกใจ พี่ลิงก์สูดปากเล็กน้อย แล้วจับมือของผมเอาไว้ ถึงอย่างนั้นปลายนิ้วของเขาก็ยังคงรุกคืบผ่านเข้ามาในช่องทางด้านหลังของผมต่อไป

"พี่...ลิงก์"

น้ำเสียงของผมสั่นเครือ ทั้งทรมานกับความต้องการที่ไปไม่ถึงและกลัวเกรงกับสัมผัสที่ไม่เคยได้รับมาก่อน

"บู้ไม่ต้องกลัว ลิงก์จะเบามือที่สุดเลยครับ"

พี่ลิงก์ส่งยิ้มมาให้ เมื่อเห็นผมพยักหน้า เขาก็จูบผมอย่างอ่อนหวาน การเล้าโลมเกิดขึ้นอีกครั้งพร้อมกัยความพยายามของเราสองคน

ผมเจ็บจนน้ำตาไหล แต่ก็อดทนเอาไว้เพราะรู้ล่วงหน้าและรับสภาพเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้ว ทว่าในความเป็นจริงก็ยากเกินกว่าที่เคยติดเอาไว้

"อึก! พี่..."

"อีกนิดเดียวครับ"

น้ำเสียงปลอบไม่ได้ช่วยให้ความเจ็บและอึดอัดคลายลง แต่ส่วนกลางลำตัวที่ถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่องก็พอจะช่วยหันเหความสนใจของผมได้ ผมเกร็งตัวกอดพี่ลิงก์แน่นเป็นหลักยึด เมื่อตอนนี้ห้วงอารมณ์มากมายไหลรุนแรงเกินจะต้านทาน

พี่ลิงก์เร่งจังหวะทั้งข้างหน้าและข้างหลัง เสียงแหบพร่าดังก้องกลบเสียงของสายน้ำจากฝักบัว เพียงไม่นานผมก็ได้ปลดปล่อยสมใจ ถึงแม้ช่องทางด้านหลังยังคงถูกรุกล้ำด้วยปลายนิ้วของเขาอยู่ก็ตาม

"พี่ลิงก์"

ผมเรียกเสียงเบาพลางยกมือกอดและซุกซบตรงหน้าอกกว้างอย่างสิ้นท่า พี่ลิงก์กอดตอบ แล้วก้มลงจูบหน้าผากของผมด้วย่ทาทีอ่อนโยน

"บู้อย่าเพิ่งหมดแรงสิครับ นี่เพิ่งเริ่มต้นเอง"

ผมกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น เมื่อสติรับรู้ได้ถึงส่วนร้อนรุ่มของพี่ลิงก์ที่ยังไม่ได้ปลดปล่อยและปลายนิ้วของเขาที่ขยับวนอยู่ในช่องทางด้านหลัง

"อ่า..."

ผมหอบหายใจแรง เมื่อปลายนิ้วถอนออก ความรู้สึกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ก่อตัวขึ้น พี่ลิงก์ล้างตัวให้ผมและตัวเอง แล้วปิดน้ำจากฝักบัว ก่อนที่ผมจะผวาอีกครั้ง หลังจากถูกอีกฝ่ายอุ้มขึ้น

"บู้ยืนไม่ไหวแล้ว เราไปที่เตียงดีกว่า"





TBC++++++

Marionetta
ตามพี่ลิงก์กับบู้ไปที่เตียงต่อในตอนต่อไป เอิ๊กๆ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ไม่ถนัดฉากเรทจริงๆ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 28 > 07-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-02-2020 21:45:35
 :haun4: :jul1:

เรายังไม่ได้เกียมทิชชู่ :jul1:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 28 > 07-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 07-02-2020 23:56:23
แอบระแวงซี
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 28 > 07-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 08-02-2020 05:10:10
ของขวัญวันเกิดที่ลิงซ์มอบให้บู้คือตำแหน่งเมีย​ ร้ายมาก​ อดใจรอน้องโตมาตั้งนาน
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 28 > 07-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 12-02-2020 13:51:06
Level 29: ตัวตนของความรัก





ทันทีที่แผ่นหลังของผมทาบลงบนเตียงนุ่ม พี่ลิงก์ก็โถมตัวเข้าใส่ ทั้งที่ร่างกายของเราสองคนยังเปียกไปด้วยหยาดน้ำ

ปลายลิ้นอ่อนนุ่มไล่กวาดต้อนไปทั่วอย่างคุ้นเคย แล้วกระหวัดรับเกี่ยวพันอย่างสนิทสนมจนผมแทบสำลัก เรียวปากบางกลืนกินช่วงชิงทุกความรู้สึกและลมหายใจอย่างกระหายอยาก

เสียงครางของเราสองคนดังผสานขึ้นในห้องนอนกว้าง ถึงผมจะรู้สึกอ่อนเพลียจากเหตุการณ์ในห้องน้ำ ทว่าก็ตอบสนองทุกการกระทำที่พี่ลิงก์มอบให้อย่างเต็มใจ

ริมฝีปากร้อนกดเม้มผิวของผมจนเป็นรอยไปทั่ว ผมสะท้านไหวและบิดเกร็ง เมื่อพี่ลืงก์ลากเลียที่หน้าอกและดูดดึงหัวนมของผมอย่างรุนแรง

"อ๊ะ! อ่า! "

ผมได้แต่ขยุ้มเส้นผมของเขาอย่างระบายอารมณ์ พี่ลิงก์ย้ำสัมผัสอย่างย่ามใจ หลังจากทิ้งรอยแดงช้ำที่หน้าอกทั้งสองข้างของผม เขาก็ไล่จูบมายังหน้าท้องนิ่มจนถึงส่วนอ่อนไหวของผมที่ตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง

ผมกลั้นลมหายใจ เมื่อเรียวปากสีระเรื่อของเขากดจูบลงบนแท่งเนื้อร้อนของผมอย่างอ่อนหวาน นัยน์ตาสีดำลึกซึ้งเหลือบขึ้นมามองให้ผมใจกระตุก แล้วผมก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อริมฝีปากของเขากลืนกินส่วนกลางลำตัวของผมเข้าไป!

"พี่ลิงก์! อึก! อื้อ! "

ผมร้องครวญครางด้วยความวาบไหวที่จู่โจมใส่ไม่ยั้ง ความร้อนของโพรงปากและปลายฟันที่เคล้าคลึงด้วยลิ้นอ่อนนุ่มเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะ ทำให้ผมแทบจะขาดใจ

ในขณะที่ความคิดล่องลอย ร่างกายทำงานตามแรงอารมณ์ สติที่ถูกความรัญจวนลักพาก็กลับมา เมื่อช่องทางด้านหลังที่ได้รับอิสระถูกรุกรานอีกครั้ง และคราวนี้ไม่ใช่นิ้วที่กดแทรกเข้ามา แต่เป็นส่วนร้อนระอุที่ทำให้ผมใจเต้นระรัว

"พี่ลิงก์"

พี่ลิงก์ที่กำลังดันตัวตนเข้ามาประสานเชื่อมต่อหยุดไปครู่หนึ่ง เขาวาดยิ้มละมุน แล้วก้มลงมาจูบผมอย่างลึกซึ้งและขยับร่างกายสอดใส่เข้ามาในร่างกายของผมไปด้วย

ถึงแม้จะได้รับการเตรียมตัวด้วยนิ้วมาแล้ว แต่ขนาดที่แตกต่างกัน ทำให้ช่องทางที่ถูกบุกเบิกได้รับความเสียหายมากกว่าเดิม

ผมหลับตาแน่นข่มความจุกหน่วงที่อัดตรงสะโพก เสียงลมหายใจรุนแรงของเราสองคนดังก้อง ก่อนเสียงจูบของพวกเราจะดังแทรกขึ้นมาแทน

"อื้ม"

ผมกอดคอของพี่ลิงก์พร้อมกับกัดลงที่ต้นคอขาวอย่างระบายอารมณ์ พี่ลิงก์ขบเม้มที่ใบหูของผม แล้วพูดเสียงกระเส่า

"ลิงก์เข้าไปหมดแล้ว"

ผมรู้สึกถึงความร้อนที่เดือดอยู่บนใบหน้า ยิ่งได้สบตาแวววาวด้วยความต้องการที่ไม่ปิดบัง หัวใจก็เต้นแรงจนกลัวจะช็อกเพราะทำงานหนักมากเกินไป

"อื้อ"

ผมตอบรับได้เพียงแค่นั้น แรงกระแทกที่สอดใส่เข้ามาด้วยจังหวะรวดเร็วและรุนแรง ก็ทำให้ผมต้องร้องไม่ได้ศัพท์ด้วยความกระสันที่ถูกกระแทกใส่

ร่างกายเคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ที่โหมพัดไม่ต่างจากไฟลามทุ่ง และเปลวไหที่เผาผลาญคงจะไม่หยุดลง หากเชื้อเพลิงไม่หมดไป

ผู้ชายที่เคยอ่อนโยนก่อนหน้านี้ได้โดนไฟราคะเผาไหม้ไปแล้ว...

พี่ลิงก์ทั้งกัดทั้งจูบไปทุกสัดส่วน ฝ่ามือของเขาบีบขย้้ำร่างกายของผมจนเป็นรอยแดงไปหมด เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่กระแทกกระทั้นหนักแน่นเป็นไปอย่างดุดัน ผมสั่นคลอนไปตามแรงอย่างไร้ทางต่อต้าน ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านยากจะอดกลั้น

ในขณะที่คิดว่าจะตายเพราะจุดกระสันถูกโจมตีอย่างโหดร้าย ผมก็ถูกช่วยชีวิตด้วยจูบล้ำลึกเพื่อกลับมาเผชิญกับความทรมานแสนหวานต่อ วนเวียนสลับไปมาเสมือนติดอยู่ในวังวนที่ไม่อาจหลีกหนีได้

ความต้องการที่ก่อตัวจนถึงขีดสุดของผมแตกออกในเวลาต่อมา ร่างกายอ่อนปวกเปียกโยกไหวไปตามแรงที่โถมเข้าใส่ราวกับใบไม้ลู่ลม

พี่ลิงก์หอบหายใจแรงขึ้น เขาเร่งจังหวะในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่ของเหลวร้อนจะทะลักทลายเข้ามาในร่างกายของผม

ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นไปทั่วร่าง นัยน์ตาสีดำที่เป็นประกายกล้าอ่อนแสงลง รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้น พี่ลิงก์ก้มลงมาจูบนุ่มนวลกดย้ำซ้ำไปซ้ำมาอย่างออดอ้อน

"รู้สึกดีไหม"

เสียงทุ้มแหบพร่าดังขุี้น พี่ลิงก์จูบลงที่หัวไหล่ ก่อนจะไล้ปลายจมูกไปทั่วซอกคอของผม

"ครับ"

ถึงจะรู้สึกเจ็บทรมานในช่วงแรก แต่ผมก็มีความสุขกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ครับ ที่สำคัญ...เราสองคนได้เป็นเจ้าของกันและกันอย่างสมบูรณ์แล้ว

ผมส่งยิ้มบางด้วยความเหนื่อยอ่อน พี่ลิงก์ก้มลงจูบที่หน้าผากของผม ก่อนที่เขาจะพลิกร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของผมให้นอนคว่ำ ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วผ่อนลมหายใจออกมา หลังจากรับรู้ได้ถึงริมฝีปากร้อนที่กดจูบรวมไปถึงลิ้นนุ่มที่ลากเลียไปทั่วแผ่นหลัง

"พี่ลิงก์! "

ผมร้องออกมา เมื่อเขากัดแก้มก้นของผมแบบไม่เบาแรงจนสะดุ้ง แถมยังลับฟันคมของตัวเองด้วยการกัดต้นขาของผมด้วย ผมหันขวับไปมองทันที ทว่าอีกฝ่ายกลับขยับขึ้นมาจูบต้นคอของผม แล้วทำหน้าอ้อนแสนน่ารักมาให้

"อื้อ เนื้อนิ่ม"

ผมชักสีหน้าออกมาเล็กน้อย พี่ลิงก์โอบกอดหลังของผมเอาไว้ ลมหายใจร้อนพัดผ่านที่หลังคอ

"ทำอีกนะ ทำจนกว่าจะหมดแรงเลยนะ"

ผมเงยหน้าหันหลังไปมองด้วยความตกใจ และในขณะที่กำลังจะร้องห้าม เรียวปากของเขาก็ผนึกทุกคำพูดของผมเอาไว้ วงแขนอบอุ่นดึงรั้งสะโพกของผมให้ยกขึ้น ส่วนแข็งขืนกดแทรกเข้ามาประสานเราสองคนให้เป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง

เสียงสอดใส่ดังขึ้นอีกระลอกพร้อมกับเสียงครวญครางสุขสมของพวกเรา ความต้องการที่เคยมอดดับถูกสายลมของความปรารถนากระตุ้นให้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้งอย่างง่ายดาย

ผมไม่แน่ใจว่าทุกอย่างจบลงตอนไหน เมื่อรู้สึกตัวเต็มที่อีกครั้ง ผมก็นอนอยู่ในอ้อมกอดของพี่ลิงก์เหมือนเช่นทุกคืนที่ผ่านมาแล้วครับ





@@@@@@@@@@





"พี่ลิงก์"

เสียงเรียกของผม ทำให้เจ้าของชื่อปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย พี่ลิงก์ทำสีหน้างัวเงีย แล้วดึงท้ายทอยของผมให้เข้ามาจูบที่ริมฝีปากของเขาราวกับกำลังละเมออยู่

เราสองคนมอบรสสัมผัสอ่อนหวานนุ่มนวลให้แก่กันจนพอใจ พี่ลิงก์ถึงได้ตาสว่าง เขาอมยิ้มออกมาพลางใช้ปลายนิ้วเกี่ยวเส้นผมของผมเล่น

"บู้"

ผมรู้สึกเขินอายขึ้นมา เมื่อเราสองคนได้สบตากัน ยิ่งภาพเหตุการณ์ไหลย้อนเข้ามา หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะปกติก็รัวเร็วขึ้น

"เราเลิกเป็นแฟนกันเถอะ"

คำพูดของพี่ลิงก์ ทำให้ผมตาค้างในทันที หัวใจที่เต้นแรงหยุดทำงานกะทันหัน นัยน์ตาสีดำที่เคยพราวระยับเรียบนิ่ง รอยยิ้มบางที่แต้มบนใบหน้าหล่อเหลาเลือนหายไป

"พี่...แกล้งผมอีกแล้ว"

ผมพูดเสียงเบา แล้วยิ้มออกมา ทว่าสีหน้าจริงจัง ไร้แววล้อเล่นของพี่ลิงก์ก็ทำให้ผมนิ่งอึ้งไป เขาถอนหายใจ

"เบื่อจะเป็นแฟนด้วยแล้วว่ะ"

นี่...อย่าบอกว่าผมจะโดนฟันแล้วทิ้ง?!

"ขอโทษ"

ดวงตารู้สึกร้อนผ่าว แต่ผมก็ไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าเคร่งขรึมจริงจังของพี่ลิงก์ได้เลย สุดท้ายก็ต้องกะพริบตาทีหนึ่ง เมื่อน้ำตาเอ่อล้นออกมา

ทั้งที่เราสองคนเพิ่งจูบกัน ร่างกายเปลือยเปล่าก็ยังแนบชิดภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน กลิ่นกายของเขายังชัดเจน แต่ผมกลับเหมือนอยู่ห่างไกลออกไปทุกที

"เรา..."

ผมเผลอกลั้นลมหายใจอย่างไม่รู้ตัว ไม่มีก้อนสะอื้นจุกคอ นอกจากน้ำตาที่ยังไหลออกมาไม่หยุด ทั้งที่เคยบอกเพื่อนสนิทว่า ทำใจเอาไว้แล้ว แต่พอมาถึงสถานการณ์จริง ทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ก่อนที่จะได้ยินสิ่งที่ไม่อยากรับฟังไปมากกว่านี้ ผมก็พลั้งปากพูดออกไปตามที่ใจคิด

"พี่ลิงก์ ผมรักพี่นะครับ"

ผมไม่รู้หรอกครับว่าความรักคืออะไร และความรู้สึกที่มีต่อพี่ลิงก์คือความรักหรือเปล่า แต่เขาคือความสุขที่ผมไม่อยากเสียไป

พี่ลิงก์นิ่งไปเล็กน้อย สายตาของผมพร่ามัวเพราะน้ำตาบดบัง แล้วหวังว่าหยดน้ำที่ไหลออกมาไม่หยุดนี้จะชะล้างทุกสิ่งที่ผมไม่อยากรับรู้

ความจริงที่ผมกำลังจะถูกทิ้ง...

พี่ลิงก์ขมวดคิ้วออกมา เขาไม่ได้เช็ดน้ำตาให้ผม แต่กลับดึงแก้มของผมทั้งสองข้างเต็มแรงแทน

ฮือ! จะทิ้งกัน ก็ยังจะทำร้ายกันอีกเหรอ!

"เรามาเป็นผัวเมียกัน"

"ฮะ?! "

ผมอ้าปากค้าง ความรู้สึกทุกข์เศร้าแบบคนอกหักหยุดทำงานทันที สายตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาแจ่มชัดขึ้นมาอีกครั้ง

"ไม่โอเค? "

"โอเคครับ! "

ผมรีบตอบรับอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น พี่ลิงก์ก็กอดตอบพลางกดจูบที่แก้มเปื้อนน้ำตาของผม แล้วกระซิบที่ข้างหู

"ลิงก์ก็รักบู้เหมือนกันนะ"

ผมอมยิ้มออกมา หัวใจที่แห้งเหี่ยวราวกับโดนน้ำกรดกัดกร่อนไปเมื่อครู่ก็พองฟูฟื้นสภาพกลับมาอีกครั้ง





@@@@@@@@@@





ถึงหัวใจจะเบิกบาน แต่ร่างกายไม่เอื้ออำนวยครับ ผมลุกจากเตียงไม่ขึ้น แล้วก็ต้องขาดเรียนอย่างช่วยไม่ได้

[เออ ดูแลตัวเองดีๆ]

"อืม"

ผมตัดสายจากเป็ดที่โทรศัพท์มาหาด้วยความเป็นห่วง หลังจากเห็นข้อความลาป่วยของผม โชคดีที่เพื่อนสนิทไม่ได้เซ้าซี้อะไรมาก เพราะผมก็นึกหาคำพูดไม่ออกเหมือนกัน

"โจ๊กมาแล้ว"

พี่ลิงก์เดินเข้ามาพร้อมกับชามโจ๊กกลิ่นหอม ผมขยับตัวให้ถนัดขึ้น

เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนพี่ลิงก์อุ้มผมไปอาบน้ำ ถึงจะถูกแกล้งหนอกให้อายบ้าง แต่ร่างกายก็ไม่ได้บอบช้ำไปกว่าเดิมครับ หลังจากแต่งตัวให้ผมเรียบร้อยและเปลี่ยนผ้าปูเตียงชุดใหม่ เขาก็อุ้มผมกลับมานอนที่เตียงอีกครั้ง แล้วเข้าห้องครัวไปทำอาหารเช้า

บริการประทับใจจริงๆ ...

"อร่อยไหม"

พี่ลิงก์ถามขึ้น เมื่อป้อนโจ๊กให้ ผมพยักหน้า เขาก็อมยิ้มออกมา

"อืม งั้นก็กินเยอะๆ จะได้กินยา"

"ครับ"

ถึงผมจะรับปากไปแบบนั้น แต่ก็กินต่อได้อีกไม่กี่คำ ผมก็กินไม่ไหวแล้ว พี่ลิงก์ไม่ได้ฝืนใจ เขาวางชามโจ๊กลง แล้วหยิบยามาให้

"กินยาแล้วก็นอน"

"ขอบคุณครับ"

เมื่อผมกินยาเสร็จ ก็ไม่ได้นอนหลับไปในทันที ผมนอนมองพี่ลิงก์ที่นั่งกินโจ๊กที่ผมกินไม่หมดต่อ เขาเลิกคิ้วขึ้น เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของผม

"พี่ดูแลผมดีกว่าที่คิด"

ผมบอกออกไปตามตรง ผมคิดว่าเขาจะทิ้งผมเอาไว้ให้ช่วยตัวเองตามประสาผู้ชายที่ไม่ชอบความยุ่งยากวุ่นวาย

"แล้วไม่ดีเหรอ"

"ดีครับ"

พี่ลิงก์วางชามโจ๊กไว้ที่โต๊ะข้างเตียง เขาจูบหน้าผากของผมเบาๆ แล้วส่งยิ้มมาให้

"เพราะลิงก์เป็นคนรักเมียไง เลยอยากดูแลบู้"

อ่า...

ผมรู้สึกหน้าแดงจนแทบไหม้ พี่ลิงก์แค่ยิ้มออกมา แล้วเดินออกไปจากห้องพร้อมกับชามโจ๊กที่ว่างเปล่า หลังจากที่ได้อยู่ตามลำพังอีกครั้ง ผมก็กวาดตามองห้องนอนที่ไร้ตุ๊กตาหมีรอบหนึ่ง ก่อนจะหยิบตุ๊กตาไดโนเสาร์สีฟ้าที่เคยเลือกให้เจ้าของห้องมากอดไว้ แล้วเผลอหลับไปอีกครั้ง





@@@@@@@@@@





ภายในโรงอาหารของคณะวิทยาศาสคร์ยังเต็มไปด้วยนักศึกษาเช่นเคย หลังจากที่ผมหาที่นั่งได้สำเร็จ พี่ลิงก์ก็อาสาไปซื้ออาหารเช้ามาให้ครับ

"สวัสดีครับพี่บลู"

"อืม"

ผมส่งยิ้มทักหลานรหัสที่ถือจานข้าวมา ซีถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพเหมือนเคย

"ผมนั่งด้วยได้ไหมครับ"

"ได้สิ"

"ขอบคุณครับ"

ซีนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม ก่อนที่ผมจะถามไถ่สารทุกข์สุกดิบตามประสารุ่นพี่ที่ดี

"แล้วเป็นไงบ้าง เรียนไหวหรือเปล่า"

"ก็เรื่อยๆ ครับ ถ้าอันไหนผมงง ก็คงต้องกวนพี่ล่ะครับ"

"ได้ๆ ไม่ต้องเกรงใจ"

ในขณะที่ผมกับซีกำลังพูดคุยสัพเพเหระ พี่ลิงก์ก็เดินมาพร้อมกับอาหารเช้า ผมเลยแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกันอย่างเป็นทางการ

ซียกมือไหว้พี่ลิงก์ ส่วนอีกฝ่ายก็แค่มองแล้วพยักหน้ารับ ก่อนจะนั่งลงข้างผม

"โจ๊กอีกแล้วหรือครับ"

"บู้ยังไม่หายดี กินอาหารรสอ่อนไปก่อน"

ผมถอนหายใจออกมา แล้วเขี่ยโจ๊กในชามของตัวเองอย่างไม่ค่อยอยากกินเท่าไหร่ เมื่อวานก็กินโจ๊กกับข้าวต้มมาทั้งวันแล้ว ผมอยากกินอย่างอื่นมากกว่า แล้วกะเพราทะเลไข่ดาวของพี่ลิงก์ก็น่ากินสุดๆ ด้วย

ผมลอบมองปลาหมึกที่อยู่ในจาน รวมไปถึงไข่ดาวสีสวยเล็กน้อย ก่อนจะวกสายตามามองโจ๊กหมูสับของตัวเองอย่างปลงตก แต่สุดท้ายก็อดที่จะเหลือบมองจานอาหารของคนที่นั่งข้างกันไม่ได้อยู่ดี

"บู้"

น้ำเสียงทุ้มเข้มดังขึ้น ทำให้ผมที่กำลังกินโจ๊กของตัวเองอย่างซังกะตายต้องหันไปมอง แล้วก็อ้าปากรับปลาหมึกที่พี่ลิงก์ป้อนมาให้อย่างกระตือรือร้น

"มองเป็นลูกหมา"

ผมยิ้มแห้ง แล้วมองไปทางไข่แดงไม่สุกที่วางอยู่ในจานของเขาตาละห้อย พี่ลิงก์ดึงแก้มของผมหนึ่งที แล้วยอมตักไข่แดงเยิ้มป้อนให้ผมอีกครั้ง

อื้อ...อร่อย!

ผมเลิกสนใจโจ๊กที่อยู่เต็มชามของตัวเอง แล้วใช้สายตาสแกนหาของอร่อยในจานของพี่ลิงก์ต่อ น้ำเสียงทุ้มจริงจังดังขึ้นอีกครั้ง

"พอแล้ว กินโจ๊กของตัวเองไป"

"แต่ผมอยากกินกะเพราทะเล"

ผมบอกเสียงอ่อน แล้วส่งสายตาอ้อนวอนไปให้ เราสองคนสบตากันไม่กี่วินาที พี่ลิงก์ก็พูดขึ้น

"บู้ยังไม่หายดี"

"ผมหายดีแล้วครับ"

ถึงผมจะเจ็บเคล็ดขัดยอกเดินไม่ถนัดไปบ้าง และซาบซึ้งใจในความห่วงใยที่พี่ลิงก์มีให้ แต่ผมอยากหลุดพ้นจากอาหารคนป่วยสักทีครับ

"ถ้างั้น...คืนนี้ก็ทำต่อได้แล้วสิ"

ฮะ?!

ผมชะงักค้างกลางอากาศ ใบหน้าร้อนวาบขึ้นมาทันที ก่อนจะบอกเสียงแผ่ว

"อ่า...ผมกินโจ๊กดีกว่า"

พี่ลิงก์หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วสลับจานข้าวของตัวเองกับผม

"สงสารเมีย"

"แค่กๆ ...."

ผมสำลักน้ำลายตัวเองทันที พี่ลิงก์เท้าคางมองผมด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี

"เอ่อ...ผมขอตัวก่อนนะครับ"

เสียงของซีทำให้ผมปั้นหน้ายาก ทั้งเขินพี่ลิงก์ ทั้งอายรุ่นน้อง ทำได้แค่พยักหน้ารับแบบไร้คำพูดเท่านั้น

ซียกมือไหว้ลาอย่างมีมารยาท ก่อนจะลุกเดินออกจากโต๊ะ ผมหันไปมองคนที่นั่งข้างกัน เมื่อพี่ลิงกกำลังจิ้มแก้มของผมเล่นอย่างก่อกวน

"พี่ลิงก์"

"บู้แก้มแดง"

อ่า...

"น่ารัก"

ไม่กินข้าวแล้วครับ! ตอนนี้ผมอิ่ม...จนหยุดยิ้มไม่ได้เลย







TBC+++++++

Marionetta
ตั้งใจจะมาลงตั้งแต่หลายวันก่อน แต่ติดภารกิจเลยมาลงช้าเลย แฮะๆ ไม่เคยปั่นฉากเรทยาวขนาดนี้เลย อุทิศให้...พี่ลิงก์คนรักเมีย~ ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 29 > 12-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 12-02-2020 17:08:51
พี่ลิ้งก์ร้ายมากกก


ซีหลานรหัสคิดไม่ซื่อใช่ใหม


บลูรู้ไม่ทัน


แต่พี่ลิ้งก์อ่ะทันเกมส์


เสมอนั่นแหละ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 29 > 12-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 12-02-2020 21:54:29
คงไม่ได้แค่รักแต่น่าจะหวงด้วย แหมๆเรียกเมียต่อหน้าคนอื่นเลยนะพี่ลิงซ์
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 29 > 12-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 16-02-2020 13:06:57
Level 30: ห้วงอารมณ์







ถึงแม้ว่าพี่ลิงก์จะยกระดับความสัมพันธ์จาก 'แฟน' เป็น 'ผัวเมีย' แต่ความใกล้ชิดระหว่างเราสองคนก็ยังเหมือนเดิมครับ โดยจะมีบางวันที่พวกเราไม่ได้นอนกอดกันธรรมดาเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้น

เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต ผมก็นึกสงสัย ทั้งที่มีโอกาสหลายครั้ง แต่ทำไมพี่ลิงก์ถึงเลือกวันเกิดของผมเป็นวันเริ่มต้นความสัมพันธ์ทางกายอย่างลึกซึ่งเป็นครั้งแรก มีความหมายอะไรหรือเปล่า สุดท้ายผมก็ได้คำตอบที่น่าประหลาดใจออกมา

"อ้อ ก็บู้อายุยี่สิบไง"

สีหน้างุนงงของผม ทำให้พี่ลิงก์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วอธิบายอย่างใจเย็น

"ยี่สิบปี ก็ถือว่าบรรลุนิติภาวะเป็นผู้ใหญ่แล้ว ลิงก์ไม่อยากรังแกเด็ก"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วอดถามต่อด้วยความสงสัยไม่ได้

"แล้วก่อนหน้านี้? "

ผมปั้นหน้ายาก แต่พี่ลิงก์ก็เข้าใจความนัยที่ผมต้องการสื่อออกไป เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

"เคยสิ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้จริงจังไง"

ผมนิ่งอึ้ง พี่ลิงก์ดึงผมมากอดเอาไว้

"เอาน่า ถ้าเกิดท้องขึ้นมา ลิงก์รับผิดชอบอยู่แล้ว"

"ผมไม่ท้องหรอกครับ"

ผมตีหน้ามุ่ย พี่ลิงก์กัดแก้มของผมเล่น ก่อนจะคลายอ้อมกอด แล้วลุกจากเตียงที่เราสองคนนั่งเล่นด้วยกัน

"พี่จะทำอะไรครับ"

ผมขมวดคิ้วมองคนที่กำลังถอดกางเกงหน้าตาเฉย ถึงจะเคยเห็นร่างเปลือยเปล่าของเขามาแล้ว แต่ผมก็ยังกระดากอายและคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องชินครับ

"ก็จะอาบน้ำไง"

"อ่าครับ"

หลังจากพี่ลิงก์แก้ผ้าต่อหน้าผมเสร็จ เขาก็ไม่ได้เดินไปเข้าห้องน้ำ แต่กลับมาดึงผมให้ลุกขึ้นพร้อมกับเสียงทุ้มที่ดังขึ้น

"ไปอาบน้ำด้วยกัน"

"แต่ผมอยากอาบคนเดียว"

"ผัวเมียต้องไม่มีอะไรปิดบังกันสิบู้"

ผมปั้นหน้ายากกลืนไม่เข้าคายไม่ออก หลังจากถูกดึงให้ลุกขึ้นยืนแล้ว ผมก็ได้แต่มองพี่ลิงก์ที่ถอดเสื้อผ้าให้อย่างปลงตก

นอกจากกิจกรรมยามดึก เขาก็ชอบชวนผมอาบน้ำด้วยกันเสมอครับ แล้วก็จะหาเรื่องแกล้งผมเป็นประจำอีกด้วย

"บู้ผอมลงหรือเปล่า"

พี่ลิงก์พูดขึ้น เมื่อลากผมลงมาแช่น้ำอุ่นในอ่างด้วยกัน ผมถูกจับให้นั่งแทรกระหว่างขาและเอนพิงหน้าอกของเขา โดยที่มีวงแขนกอดเอวของผมเอาไว้

"ไม่รู้สิครับ"

"อืม สงสัยเพราะช่วงนี้บู้ออกกำลังกายมั้ง"

ผมเลิกคิ้วขึ้น แล้วเงยหน้ามองคนที่นั่งซ้อนหลัง พี่ลิงก์บีบหน้าท้องนิ่มของผมเล่นเบาๆ ราวกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง

"แต่ผมไม่ได้ออกกำลังกายที่ไหนเลยนะ"

ปกติผมก็ไม่ได้ออกกำลังกายอะไรอยู่แล้ว ยิ่งช่วงนี้เรียนหนักขึ้น กินเยอะขึ้นด้วยซ้ำ ร่างกายของผมไม่น่าจะผอมลงแต่อ้วนขึ้นมากกว่า

"ซื่อบื้อ"

พี่ลิงก์ว่า แล้วก้มลงมากัดแก้มของผม ผมชักสีหน้าออกมา ก่อนผิวแก้มที่น่าสงสารจะร้อนผ่าวขึ้น

"ก็เมื่อคืนลิงก์ชวนบู้ออกกำลังกายไง แต่ทำกันสองรอบเอง คืนนี้เอาให้หมดแรงเลยดีไหม พรุงนี้วันหยุดด้วย"

"ไม่ดีครับ"

"ทำไม เวลาที่เราทำกัน บู้ไม่ชอบเหรอ"

น้ำเสียงไร้เดียงสาพร้อมกับแววตาใสซื่อขัดกับเนื้อหาที่กำลังพูดถึงจนผมหมั่นไส้อย่างรุนแรง เลยตัดสินใจหันไปกัดคอของพี่ลิงก์เล่น แล้วดูดเม้มจนขึ้นรอบแดง

"เดี๋ยวนี้กัดเก่ง"

พี่ลิงก์ว่าพร้อมกับยกผมให้นั่งหันมาเผชิญหน้ากัน ผมอายนะครับ แต่ก็ไม่ได้หลบสายตาแวววาวของเขา

"พี่ต่างหากที่กัดเก่ง"

ผมตีหน้ามุ่บ พักหลังมานี้ผมโดนพี่ลิงก์กัดบ่อยมาก โดยเฉพาะตอนที่เรามีอะไรกัน เขาจะกัดผมไม่ยั้ง เวลานั้นอารมณ์ของผมกระเจิดกระเจิง เขาจะทำอะไรก็รู้สึกดีไปหมด แต่พอสติกลับมา ก็ต้องมานั่งมองรอยฟันช้ำเลือดอย่างจำทน

"ก็บู้น่ากัด"

พี่ลิงก์อุ้มผมไปนั่งที่เคาน์เตอร์ตรงอ่างล้างหน้า แล้วก้มลงกัดที่หัวไหล่ของผม

"พี่ลิงก์"

ภาพในกระจกเงาบานใหญ่ ทำให้ผมเห็นสภาพของตัวเองชัดเจน ใบหน้าที่แดงก่ำและมือที่จับบ่ากว้างของคนที่กำลังไล่กัดผมอย่างเพลิดเพลิน พี่ลิงก์เลื่อนมาขบกัดหน้าอกของผมทั้งสองข้างสลับไปมา มือที่เคยกอดเอวของผมเอาไว้กำลังเร่งเร้าส่วนกลางลำตัวของผมที่ตื่นขึ้นทุกครั้งที่ถูกเขาสัมผัส

ทั้งที่เสียวจนร่างกายบิดเกร็ง สะท้านจนต้องร้องออกมาอย่างน่าอาย แต่ผมก็ยังยึดคนตรงหน้าเอาไว้ ไม่อยากให้พี่ลิงก์หยุดและจากไป





@@@@@@@@@@





Sea S.
วันหยุดนี้ไปดูหนังกันไหมครับ พอดีผมมีส่วนลด

ผมอ่านข้อความของซี แล้วหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังนอนเล่นเกมในโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างกัน

"เสาร์อาทิตย์นี้พี่จะไปไหนหรือเปล่าครับ"

"มีอะไร"

พี่ลิงก์ละสายตามามองผมเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะขยับตัวมานอนหนุนตักของผม ทั้งที่สายตายังมองตัวละครในเกมอยู่

"พอดีน้องจะชวนไปดูหนัง"

"กรีนเหรอ"

เมื่ออาทิตย์ก่อนพวกเราพากรีนไปกินอาหารทะเลด้วยกันครับ น้องชายก็ถล่มเงินของพี่ลิงก์อย่างไม่เกรงใจ โชคดีที่เขารวยพอจะจ่ายจนน่าหมั่นไส้

"เปล่าครับ ซีที่เป็นหลานรหัสของผม"

พี่ลิงก์เหลือบตามามองผม ก่อนที่เขาจะกลับไปสนใจเกมในโทรศัพท์มือถือต่อ

"ลิงก์ก็ว่าจะพาบู้ไปกินบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ฟังโฆษณาเมื่อวันก่อน"

ผมตาโตขึ้นทันที เมื่อวันก่อนผมได้ยินโฆษณาจากวิทยุออนไลน์เกี่ยวกับบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติที่ชวนให้น้ำลายหก

"ครับ"
Blue++
พี่ไม่ว่าง เอาไว้ครั้งหน้านะ

Sea S.
ครับ





@@@@@@@@@@





หลังจากผ่านการสอบกลางภาคมาได้เพียงสัปดาห์เดียว พี่ลิงก์ก็ชวนผมไปงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายด้วยกันครับ

"ผมไปด้วยจะดีเหรอ"

"อืม"

งานเลี้ยงรุ่นจะจัดขึ้นทุกปีครับ เพราะเป็นโรงเรียนหรูที่มีแต่ลูกนักธุรกิจและผู้ที่มีชื่อเสียง ทำให้พวกเขาต้องติดต่อกันเอาไว้เพื่อผลประโยชน์ในอนาคต

ผมรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับเหตุผลนี้ ถ้าจะคบเพื่อนเพราะต้องการหาประโยชน์จากอีกฝ่ายมากกว่ามิตรภาพ ก็อย่ารู้จักกันเลยจะดีกว่า

พี่ลิงก์ขับโฟล์คบีเทิลสีดำคันสวยพาผมไปที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยง ผมกวาดตามองเพื่อนของเขาที่เข้ามาทักทาย แล้วลอบถอนหายใจออกมา

"พาใครมาด้วยน่ะ"

ผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น หลังจากที่ทักทายพี่ลิงก์เสร็จ นัยน์ตาสวยคมก็ปราดมองผมอย่างสงสัย

"เมีย"

ผมอ้าปากค้าง เพราะไม่คิดว่าพี่ลิงก์จะตอบไปแบบนี้ นอกจากผมจะตกใจแล้ว ทุกคนที่ได้ยินคำตอบต่างก็ตกตะลึงไปไม่แพ้กันครับ

"ลิงก์ตลกจังเลยนะ"

ผู้หญิงคนเดิมพูดขึ้นพลางหัวเราะคิกคัก พี่ลิงก์ก็แค่ยกยิ้ม แล้วกอดไหล่ของผมเดินไปยังที่พักที่ถูกจัดแบ่งเป็นห้องละสองคนไว้

"ไอ้เรย์"

พี่ลิงก์ทักพี่เรย์ที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนอีกสองคมอยู่ เขายักคิ้วตอบกลับ แล้วมองมาที่ผมด้วยรอยยิ้ม

"ปาล์มบ่นอยากเจอบลูมาตั้งนานแล้ว"

ผมนึกสงสัย แล้วมองตามพี่เรย์ที่ตะโกนเรียกคนที่ชื่อปาล์ม แล้วผมก็เบิกตากว้างเล็กน้อย เมื่อเห็นสาวสวยหุ่นนางแบบท่าทางทะมัดทะแมงเดินตรงมาหา เธอส่งยิ้มให้ผมด้วยแววตาสดใส

"คนนี้เองเหรอ ตัวเล็กจัง"

ผมปั้นหน้ายาก เพราะผู้หญิงตรงหน้าตัวสูงกว่าผมอีกครับ แถมยังสวยจนผมเกร็งไปหมด พอดีไม่เคยเจอผู้หญิงหน้าตาดียิ้มให้

"เห็นแบบนี้ แต่ก็เอาไอ้น้องลิงก์ติดเป็นขี้ปลาทองเลย ฮ่าๆ "

"ไอ้เหี้ยเรย์"

พี่ลืงก์ว่าเสียงเข้ม แต่ดูเหมือนผู้หญิงสวยสะท้านใจจะไม่สนใจ เธอเอาแต่มองผมอย่างพิจารณา

"ก็ดูซื่อดีออก อ้อ...พี่ชื่อปาล์มนะ เป็นแฟนไอ้เรย์มันอ่ะ"

"ครับ ชื่อบลูครับ"

"อืม อยากเจอบลูมานานแล้ว ถ้าคราวก่อนพี่ไม่ติดธุระคงจะได้เจอตั้งแต่ที่เอาของไปบริจาคครั้งก่อนแล้ว"

"ก็ดีแล้วที่ไม่ได้ไป"

พี่เรย์หันมาพูดกับพี่ปาล์ม เธอก็พยักหน้า แล้วหันมาพูดกับผมแทน

"สงสารยายพริ้มจริงๆ ไปลำบากยังพอว่า แต่ดันมาเจอผีด้วยแบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก"

พี่ปาล์มทำหน้าไม่สู้ดีออกมา ผมก็ยิ้มแห้ง พอนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ภาพผู้หญิงในกระจกเงาก็ทำผมหลอนไปหลายวัน ถึงตอนนี้จะลืมเลือนไปบ้าง แต่ก็ยังไม่หายไปจากความทรงจำครับ

หลังจากแวะทักทายพูดคุยเสร็จ พี่ลิงก์ก็พาผมเดินไปทางห้องพักต่อ รีสอร์ทแห่งนี้เป็นอาคารยาวสองชั้นที่ตกแต่งให้กลมกลืนกับธรรมชาติ แถมยังมีน้ำตกสร้างบรรยากาศให้รู้สึกเย็นสบายอีกด้วย

"ผมคิดว่าพี่เรย์ยังโสดเสียอีก"

ผมพูดขึ้นอย่างแปลกใจ ถึงทุกคนในกลุ่มของพี่ลิงก์จะหน้าตาดี ทว่าแต่ละคนก็เหมือนจะไม่ชอบผูกมัดกับใครสักเท่าไหร่ครับ

"ไอ้เรย์คบกับปาล์มตั้งแต่มัธยมแล้ว เรียนจบก็คงแต่งงานกันเลยมั้ง"

ผมเบิกตาโตขึ้น เพราะไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่ปีนี้พวกพี่ลิงก์ก็จะเรียนจบและทำงานกันแล้ว ก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะพอที่จะสร้างครอบครัวแล้วล่ะมั้งครับ

"ดีจังเลยนะครับ"

พี่ลิงก์หันมามองผมเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะดึงผมมานั่งตักแล้วกอดเอาไว้

"บู้อยากแต่งงานเหรอ"

"ผมยังไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลย"

"อืม"

พี่ลิงก์วางคางไว้บนไหล่ของผม เขาทำสีหน้าครุ่นคิดบางอย่าง

"รอบู้เรียนจบก่อนแล้วกัน"

"อะไรหรือครับ"

ผมถามอย่างงุนงง พี่ลิงก์ยิ้มออกมาเล็กน้อย แล้วหอมแก้มของผมฟอกใหญ่

"ไม่มีอะไร แค่คิดเรื่องอนาคตนิดหน่อย"





@@@@@@@@@@





ตอนนี้ก็เวลาราวสี่โมงเย็นครับ เราสองคนนั่งเล่นอยู่ในห้องพักจนถึงห้าโมงเย็น พี่ลิงก์ก็พาผมออกไปพบเพื่อนๆ ของเขาที่สนามหญ้าที่เปิดไฟสว่าง ซึ่งตอนนี้กำลังจัดบุฟเฟ่ต์อาหารและเครื่องดื่มอยู่

"มาถึงก็เอาแต่กกกันอยู่ในห้องนะมึง"

พี่ดิมทักขึ้น แล้วหันมาส่งยิ้มให้ผมอย่างผู้ชายขี้เล่น

"กูรำคาญคนเยอะ ไอ้พลกับไอ้ทียังไม่มาเหรอ"

"มาแล้ว ไอ้พลไปคุยอยู่กับพวกไอ้อั๋น ส่วนไอ้ทีก็จำศีลอยู่ในห้อง หิวเมื่อไหร่มันถึงจะออกมา"

พี่ดิมบอก พี่ลิงก์ก็พยักหน้ารับ ก่อนเพื่อนของพี่ลิงก์อีกสองสามคนจะเข้ามาพูดคุยด้วย ผมไม่ได้สนใจบทสนทนาเท่าไหร่นัก แล้วสายตาก็ไปเจอพี่ปาล์มที่กำลังอยู่หน้าเตาย่างบาร์บีคิว และเธอก็หันมาประสานสายตากับผม อีกฝ่ายเลยกวักมือเรียก

"พี่ลิงก์ ผมไปคุยกับพี่ปาล์มนะครับ"

พี่ลิงก์ละสายตามามองผมเล็กน้อย แล้วมองไปยังพี่ปาล์มก่อนจะพยักหน้ารับ

"เป็นไง อึดอัดหรือเปล่ กินนี่สิ"

พี่ปาล์มพูดขึ้นพร้อมกับส่งบาร์บีคิวไม้หนึ่งมาให้ผม

"ขอบคุณครับ"

ผมยิ้มบางออกมาพร้อมกับรับน้ำใจที่ถูกหยิบยื่นมาให้ พี่ปาล์มพยักหน้ารับ แล้วหันไปหยิบแก้วน้ำที่บรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขึ้นจิบ

"งานมันจะน่าเบื่อหน่อย หลักๆ ก็มาพุดคุยกันแล้วก็ดื่มน่ะ"

"ครับ"

"แล้วบลุดื่มได้หรือเปล่า หรือจะเอาน้ำอัดลม"

"ไม่เป้นไรครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง"

ผมส่งยิ้มให้พี่ปาล์มอย่างเกรงใจ มีหลายคนที่มาพูดคุยกับพี่ปาล์มตรงหนัาเตาย่าง บาร์บีคิว

"นี่น้องใครวะ"

ผู้ชายคนหนึ่งที่หันมาเห็นผมมองมาอย่างสงสัย

"แฟนลิงก์"

พี่ปาล์มเป็นคนตอบ แล้วก็ทำให้คนฟังตาเหลือก เขามองผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"เหี้ย! กูก็แค่คิดว่าเรื่องล้อเล่น ไอ้ลิงก์มันเป็นเกย์จริงหรือวะ"

"แล้วมันหนักหัวมึงหนักหรือไง ไปได้แล้ว เกะกะสายตากู"

พี่ปาล์มว่าพร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจ อีกฝ่ายก็ยักไหล่ไม่ใส่ใจ แล้วเดินถือแก้วเหล้าจากไปแต่โดยดี ผมได้แต่ยืนเงียบ

ถึงแม้สมัยนี้เรื่องรักร่วมเพศจะเปิดกว้าง แต่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะยอมรับได้เป็นเรื่องปกติอยู่ดี

"อย่าสนใจเลย"

พี่ปาล์มหันมาบอก เมื่อเห็นสายตาหลายคู่เริ่มมองมาทางผมมากขึ้นอย่างไม่ปิดบัง เรื่องราวของผมคงกำลังถูกซุบซิบนินทาอยู่แน่นอนครับ

"ผมไม่เป็นไรครับ"

ผมบอกพร้อมกับหยิบบาร์บีคิวสามไม้มาถือไว้ แล้วมองหาพี่ลิงก์ที่ไม่รู้ตอนนี้กำลังไปยืนคุยกับเพื่อนอยู่ตรงไหน

"พี่ปาล์มครับ เดี๋ยวผมขอเอาบาร์บีคิวไปให้พี่ลิงก์ก่อนนะครับ"

"อืม พี่ก็อยุ่แถวนี้แหละ มีอะไรก็มาหานะ"

ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินหาพี่ลิงก์ที่อยู่ตรงไหนสักแห่งในกลุ่มคนที่กำลังยืนพูดคุยสังสรรค์กัน ทว่าระหว่างทางในบริเวณที่คนบางตาผมก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งมาดักหน้าเอาไว้เสียก่อน

"นายเองเหรอ ที่เขาว่าเป็นแฟนลิงก์"

ผมมองผู้หญิงที่ใส่เสื้อผ้าโชว์รูปร่างอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะเดิมทีผมก็เป็นคนที่อัธยาศัยไม่ดีเท่าไหร่อยู่แล้ว

"ถ้าบอกว่าเป็นเด็กรับใช้ยังน่าเชื่อกว่า"

ผมขมวดคิ้วออกมา เมื่อนัยน์ตาที่ตกแต่งด้วยเครื่องสำอางกดมองอย่างดูถูก ผมตั้งใจจะเดินหนี แต่อีกฝ่ายก็มาดักหน้าเอาไว้ราวกับต้องการจะหาเรื่อง เธอกอดอกมองผมอย่างหยิ่งยโส

"ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าลิงก์เล่นอะไรอยู่ สงสัยอยากลองของแปลก"

"คุณอิจฉาผมเหรอ"

ทันทีที่ผมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย นัยน์ตาสวยก็วาววับ เธอจิกตามองผมอย่างไม่พอใจ

"คนอย่างแกไม่เห็นจะมีอะไรดี! ไอ้เกย์น่าขยะแขยง! "

ความกรุ่นโกรธพุ่งเข้ามาในใจ ผมข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ในเวลานี้แต่ละคนต่างก็สนใจแต่เรื่องของตัวเองเลยไม่มีใครหันมามองผมกับผู้หญิงน่ารังเกียจที่กำลังพูดจาถากถางผมอยู่

"ถ้าอย่างนั้น คนที่พยายามเสนอตัวให้กูกับเพื่อนนี่ต้องเรียกว่าอะไร"

เสียงทุ้มเย็นชาดังขึัน ผมหันไปมองอย่างตกใจ พี่ทีที่กำลังยืนอยู่ในมุมมืดกำลังมองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง

"ทีหมายความว่ายังไง"

ผู้หญิงตรงหน้าหันไปมองอย่างไม่พอใจ พี่ทีเดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งเฉย

"ก็ตามที่พูด แล้วก็อย่ามายุ่งกับเด็กนี่อีก"

"ที่ปกป้องมัน เพราะเอากับมันมาแล้วหรือไง! "

ผมตาโตขึ้นด้วยความโกรธกับคำพูดเหยียดหยามที่ถูกกล่าวหา ทว่าผมก็ต้องตกใจแทน เมื่อพี่ทียกมือขึ้นตบหน้าของผู้หญิงความคิดสกปรกจนหันไปตามแรง

"เมียเพื่อนกู ไม่ใช่คนที่มึงจะมาพูดจาแบบนี้ได้"

"ทำไม! ถ้าแค่ได้เอาก้นแล้วนับเป็นเมีย! อีฟก็เป็นเมียของลิงก์กับทีเหมือนกัน! "

"อย่างเธอก็แค่เอาไปแก้เบื่อ พวกกูไม่ใช้เมียร่วมกันหรอก"

"กรี๊ด! "

เธอกรีดร้องพร้อมกับยกมือขึ้นจะตบหน้าด้วยความโกรธแค้น แต่พี่ทีจับขัอมือนั้นเอาไว้ แล้วผลักอีกฝ่ายจนล้มไม่เป็นท่าด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ทว่านัยน์ตากลับเย็นเฉียบจนน่ากลัว

"ไปซะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน"

ผมได้แต่กะพริบตาอ้าปากค้างมองผู้หญิงคนนั้นที่รียลุกกึ่งวิ่งกึ่งเดินจากไปด้วยความกลัวอย่างตกตะลึง ตั้งแต่เสียงร้องแหลมของเธอดังขึ้นก็เรียกให้สายตาหลายคู่หันมามอง ก่อนที่จะไม่มีใครสนใจอีก

"ขอบคุณครับ"

ผมหันไปมองพี่ทีที่ยืนอยู่ข้างกัน เขาปรายตามามองผมเล็กน้อย ก่อนจะฉวยบาร์บีคิวทั้งสามไม้ที่ผมถืออยู่ แล้วเดินไปอีกทางอย่างเฉื่อยชา







TBC++++++++

Marionetta
ชอบพี่ทีจัง ^^ (หลังจากได้กินบู้ไปแล้ว พี่ลิงก์ก็มีความหื่นอย่างต่อเนื่อง 555)
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 30 > 16-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-02-2020 08:54:24
 :L2: :L1: :pig4:

รักบู๊ ... โดนพี่ลิังค์ต่อย
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 30 > 16-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 24-02-2020 13:57:34
Level 31: รับรู้







ผมรู้สึกแย่ครับ

ถึงแม้จะรู้ดีว่า พี่ลิงก์ต้องเคยมีอะไรกับใครมาก่อนอยู่แล้ว แต่พอมาได้ยินแบบนี้ ผมก็รู้สึกไม่ดีจนไม่อยากจะทำอะไร

ผมถอนหายใจ แล้วนั่งก้มหน้าที่ใต้ต้นไม้เพื่อปรับสภาพจิตใจของตัวเองตามลำพัง

"บู้"

เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำให้ผมเงยหน้าขึ้น พี่ลิงก์ย่อตัวลง แล้วยกมือลูบหัวของผมเบาๆ

"มีคนไปฟ้องว่าบู้มีเรื่อง"

"ผู้หญิงคนนั้นหรือครับ"

"เปล่า ไอ้ที บู้ไม่เป็นไรนะ"

"...ครับ"

มันก็แค่ความรู้สึกแย่ๆ ที่สักพักก็คงจะดีขึ้นเอง...

พี่ลิงก์มองผมนิ่ง มือของเขาเลื่อนมาลูบแก้มของผมอย่างอ่อนโยน

"ลิงก์ขอโทษนะ เมื่อก่อนทำตัวไม่ดีเลย แต่ตอนนี้ไม่มีใครแล้ว"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง ความหม่นหมองในจิตใจเบาบางลง เมื่อได้ยินคำพูดของคนตรงหน้า

"อยากกอดบู้คนเดียว"

ผมยิ้มออกมาได้ในที่สุด ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พี่ลิงก์ก็ลุกขึ้นตาม แล้วจับมือของผมเอาไว้

"อยากกลับห้องเลยไหม"

"ยังดีกว่า ผมยังกินไม่อิ่มเลย"

"อืม"

พี่ลิงก์พาผมเดินกลับเข้าไปในกลุ่มเพื่อนของเขาอีกครั้ง ถึงแม้จะยังมีสายตาหลายคู่ที่มองมา แต่ก็ไม่เป็นไรแล้วครับ เพราะมีมือของเขาที่จับมือของผมเอาไว้





@@@@@@@@@@





พี่ลิงก์พาผมมานั่งรวมกับพวกเพื่อนสนิทของเขาครับ พวกพี่ๆ ต่างก็ถามไถ่ด้วยความห่วงใย โดยเฉพาะพี่ปาล์มที่โมโหจนออกนอกหน้าไปเยอะ เธอสบถด่าผู้หญิงที่หาเรื่องผมไม่หยุด

"อย่าให้เห็นอีกนะ จะตบให้หน้าแหก! "

"ช่างเถอะครับ"

ผมก็ได้แต่พูดปลอบอีกฝ่ายอย่างใจเย็น พี่ปาล์มก็หายใจฮึดฮัดพลางปรับอารมณ์ร้อนของตัวเอง

"เพราะมึงไม่ดูแลให้ดี เมียเลยโดนรังแก"

พี่เรย์หันไปว่าพี่ลิงก์ที่เพิ่งเดินกลับมาจากการตักอาหารให้ผม

"เงียบน่า"

พี่ลิงก์ว่ากลับด้วยใบหน้าบึ้งตึง พี่ปาล์มก็พูดขึ้นต่อด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดฉุนเฉียว

"ยังดีนะ ที่ทีสั่งสอนไปแล้ว ไม่อย่างนั้นจะต้องลากอีอีฟมาตบให้ได้! "

"มึงก็เย็นลงได้แล้วปาล์ม บลูยังไม่รุนแรงเท่ามึง"

พี่พลพูดขึ้นเสียงอ่อน ก่อนจะโดนพี่ปาล์มถลึงตาใส่

"พวกมึงทุกคนก็เอาอีนั่นมาหมดแล้วนี่! ไอ้เรย์! ไอ้ชั่ว! ไอ้ผัวสารเลว! "

พี่ปาล์มหันไปด่าแฟนตัวเอง พี่เรย์ที่กำลังกินยำวุ้นเส้นถึงกับสำลักออกมา

"แม่งเมาแล้วเปล่าวะ"

พี่ดิมพูดขึ้นพร้อมกับมองพี่ปาล์มที่ตาขวางด้วยสีหน้าหวาดเกรง

"กูไม่ได้เมา! มึงก็ด้วยไอ้ดิม ถ้ามึงชวนไอ้เหี้ยเรย์เที่ยวกลางคืนอีก กูจะตัดไอ้จ้อนหนึ่งนิ้วของมึงทิ้ง! "

"อ้าวเฮ้ย! ของกูไม่ใช่หนึ่งนิ้วนะ! "

"ไม่รู้! ไอ้เรย์บอก! "

ผมลอบมองการสนทนาที่ตีกันไปมาตามประสาเพื่อนด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหยุดสายตาตรงพี่ทีที่กำลังมองเพื่อนตัวเองโวยวายใส่กันด้วยท่าทีเฉยชา

พี่ปาล์มที่ได้ระบายอารมณ์ไปชุดหนึ่งก็กระปรี้กระเปร่าขึ้น เมื่อเธอมองตามสายตาของผมก็วาดยิ้มออกมา

"ในกลุ่มนี้ก็มีทีนี่แหละที่พึ่งพาได้ที่สุดแล้ว"

ผมหันกลับมามองคนที่นั่งข้างกันแทน ตอนนี้พี่ลิงก์ถูกพี่พลลากไปร่วมสงครามน้ำลายอีกคนแล้วครับ

"พี่มีเรื่องตลกจะเล่าให้ฟังล่ะ"

พี่ปาล์มพูดขึ้น ผมก็รอฟังด้วยความสนใจ

"มันเป็นเรื่องตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว ลิงก์กับทีเคยเป็นคู่จิ้นกัน"

ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พี่ปาล์มเห็นสีหน้าของผม เธอก็หัวเราะออกมา แล้วเล่าต่อด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน

"ตกใจใช่ไหม มันมีที่มาอยู่ ตอนนั้นลิงก์พกตุ๊กตาหมีมาโรงเรียนด้วย แล้วก็มีคนแกล้งเอาตุ๊กตาตัวนั้นไปทิ้งที่บ่อน้ำหน้าโรงเรียน ลิงก์ก็กำลังจะกระโดดน้ำลงไปเอาอยู่แล้ว แต่ทีเร็วกว่า รีบว่ายน้ำไปเอาตุ๊กตาหมีมาให้ลิงก์ คือโมเมนต์นั้นสาววายกรี๊ดสนั่นเลย"

"จริงหรือครับ"

พี่อย่าหลอกผมนะ ผมเชื่อคนง่าย!

"จริงสิ เวลาสองคนนี้ทำอะไรด้วยกัน ก็มีคนจิ้นกระจุยกระจายแต่พอลิงก์มีแฟนกระแสก็เลยซาลง"

ผมพยักหน้ารับอย่างกระตือรือร้น ถึงจะไม่อยากจินตนาการเวลาสองคนนี้โรแมนติกใส่กันก็เถอะ

"ต่อมาทีก็ฮอตสุดๆ ไปเลย เฮ้อ...ที่จริงเมื่อก่อนพี่ก็ปลื้มทีอยู่นะ แต่เวรกรรมคงตามทันถึงได้หลงผิดมาคบกับไอ้เรย์แทน"

พี่ปาล์มชักสีหน้า ผมหัวเราะออกมาเบาๆ นัยน์ตาสวยหันมามองผมอย่างสดใสอีกครั้ง

"แล้วบลูคบกับลิงก์ได้ยังไง นี่ก็เลือกมากเลือกเยอะจะตายไป"

"มันเป็นเรื่องบังเอิญครับ"

ผมอมยิ้มออกมา เมื่อนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น พี่ปาล์มก็นั่งฟังด้วยความตั้งใจ

"พอดีผมตอบคำถามถูกใจพี่ลิงก์ แล้วเราสองคนก็ได้คบกันครับ"

"อ้อ เหมือนไอ้เรย์เคยเล่าให้ฟังอยู่ เรื่องคำถามอะไรสักอย่างนี่แหละ ดีจังเลยนะ ที่ผ่านมาแต่ละคนอยากจะวิ่งเข้าไปตบด้วยความหมั่นไส้"

เอ่อ...ทำไมคนสวยน่ากลัวจังเลยครับ

"แต่บลูก็อย่าวางใจ ผู้ชายไว้ใจไม่ได้ ผัวข้าใครอย่าแตะ จำเอาไว้ล่ะ"

ผมก็พยักหน้ารับ แล้วฟังวีรกรรมสุดแสบของพี่เรย์ที่โดนพี่ปาล์มกำราบเป็นกรณีศึกษา





@@@@@@@@





งานพบปะสังสรรค์ของทายาทผู้มีอันจะกินผ่านไปอย่างเรียบร้อย เมื่อคืนนี้พี่ลิงก์ก็นอนกอดผมจนถึงเช้าเลยครับ

หลังจากจบมื้อเช้าที่ทางรีสอร์ทได้จัดเตรียมเอาไว้ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายเดินทางกลับ ถึงอย่างนั้นกลุ่มของพี่ลิงก์ก็ยังเที่ยวกันต่อ พวกเราไปนั่งเล่นชมบรรยากาศพร้อมกับถ่ายรูปตามสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง กว่าจะถึงคอนโดก็ราวสามทุ่ม

"ขี้เกียจไปเรียนพรุ่งนี้"

พี่ลิงก์บ่นขึ้นมา ผมก็แค่มองแล้วรื้อเสื้อผ้าที่ใส่แล้วลงตะกร้าอย่างไร้ความคิดเห็น เพราะนานๆ ทีเขาจะขับรถระยะไกลหรืออาจจะไม่ได้นอนกลางวันด้วย เลยทำท่าจะหมดแรงแบบนั้น

"บู้ขับรถเป็นไหม"

"เป็นครับ"

"แล้วทำไมไม่บอก จะได้ผลัดกันขับ"

พี่ลิงก์หันมามองผมอย่างเอาเรื่อง ผมก็แค่ยิ้มบางออกมา แล้วบอกเสียงอ่อน

"ผมไม่มีใบขับขี่ครับ"

ส่วนใหญ่ผมขับมอเตอร์ไซค์ครับ นานๆ ทีถึงจะลองขับรถยนต์ไปซื้อของในละแวกบ้าน

"แล้วทำไมไม่ไปสอบ อาทิตย์หน้าไปเลยนะ เผื่อวันไหนฉุกเฉินต้องขับรถเอง"

ผมพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย แล้วจัดการเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าที่ใช้งานให้เรียบร้อย





@@@@@@@@





"เอาจริงหรือครับ"

"อืม"

ผมปั้นหน้ายาก ตอนนี้พี่ลิงก์กำลังยื่นกุญแจรถของโฟล์คบีเทิลมาให้ผมที่เป็นตุ๊กตาหน้ารถขับแทน

"ถ้าเกิดว่า..."

"ไม่มีอะไรหรอกน่า ขับเป็นไม่ใช่เหรอ"

ก็ใช่ไง...แต่ก็ไม่ได้ขับมาเป็นปีแล้ว

ผมลอบถอนหายใจออกมา ถ้าหากผมเผลอทำให้รถยนต์สุดที่รักของพี่ลิงก์เสียหายจะทำยังไง

"แค่ขับกลับหอแค่นี้เอง ซ้อมไว้ก่อนไปสอบไง"

ผมกลั้นใจเข้าไปประจำที่นั่งคนขับ ส่วนพี่ลิงก์ก็แกะขนมกินเล่นนั่งอย่างสบายใจอยู่ที่เบาะข้างกัน ทันทีที่เครื่องยนต์ทำงาน เหงื่อของผมก็ไหลซึม สายตาจ้องมองทางตรงหน้าเขม็ง แล้วเริ่มออกตัวอย่างช้าๆ

"ช้าไปหรือเปล่าวะ"

พี่ลิงก์พูดขึ้น เมื่อมองเห็นคนวิ่งแซงไป ผมขมวดคิ้วพยายามประคองรถยนต์ให้เคลื่อนที่อย่างระมัดระวัง

"เขตมหา'ลัยไม่ขับเร็วไงครับ"

"แต่ก็ช้าไปนะบู้ คนทีขับตามมากดแตรไล่แล้ว"

ผมเหลือบมองกระจกมองหลังเล็กน้อย แต่ก็ยังใช้ความเร็วที่ปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

"เราอยู่เลนซ้าย เขาทนไม่ไหว เดี๋ยวก็แซงไปเอง"

"อืม"

จากปกติที่ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ถึงหอพัก แต่วันนี้พวกเราใช้เวลาเกือบสองเท่าในการเดินทาง พี่ลิงก์ไม่ได้มีท่าทีหัวเสียกับฝีมือการขับรถของผม ถึงแม้ว่าระหว่างทางเราสองคนจะโดนต่อว่าด้วยเสียงแตรจากรถคันอื่น ผมผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เมื่อการขับรถจบลงอย่างสวัสดิภาพ

"ลิงก์ว่า ไม่ต้องไปสอบแล้ว ไปฝึกใหม่ก่อนดีกว่า"

"อ่า....ครับ"





@@@@@@@@@





เพราะฝีมือขั้นห่วยในการขับรถของผม จากที่วันนี้ควรจะได้ไปสอบใบขับขี่เลยต้องมาฝีกกันใหม่อีกรอบ

"มีพื้นฐานอยู่แล้ว แป๊บเดียวก็คล่อง"

"ครับ"

วันนี้พี่ลิงก์พาผมมาฝึกขับรถที่ลานกว้างแห่งหนึ่งที่อยู่แถวชานเมืองครับ พวกเรามาถึงที่นี่ในตอนสาย ถึงผมจะโดนเขาว่าหลายครั้ง แล้วก็ถูกบ่นอีกนับไม่ถ้วน แต่ในที่สุดฝีมือการขับรถของผมก็ดีขึ้นอยู่ในเกณฑ์ที่อีกฝ่ายพอใจ

"ถ้าไม่ใช่เมีย ลิงก์ไม่ทนขนาดนี้"

พี่ลิงก์บ่นอุบพร้อมกับยกขวดน้ำขึ้นดื่ม ผมก็ยิ้มแห้งอย่างไร้คำพูด

อาจเป็นเพราะพี่ลิงก์เห็นความพยายามและตั้งใจของผม เขาเลยให้รางวัลด้วยการพาผมไปเลี้ยงมื้อเย็นที่ร้านอาหาร ชมบรรยากาศและทิวทัศน์ที่สวยงามเย็นตาริมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ

"ขอบคุณที่ช่วยสอนนะครับ"

ผมส่งยิ้มให้พร้อมกับวางกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ใส่ในจานของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

"อืม ค่าสอนของลิงก์แพงนะ"

พี่ลิงก์ยกยิ้มขึ้น แทนที่เขาจะกินกุ้งที่ผมส่งให้ อีกฝ่ายกลับนำกุ้งตัวโตจิ้มน้ำจิ้มป้อนมาให้ผมแทน

"กินเยอะๆ กลับไปจะได้มีแรงจ่ายค่าเรียน"





@@@@@@





โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด เพราะเมื่อคืนนี้พี่ลิงก์แกล้งผมจนหมดแรง และต้องขอบคุณสุขภาพร่างกายของตัวเองที่แข็งแรงดี ไม่อย่างนั้นคงได้นอนซมอยู่บนเตียงเหมือนซากเปื่อยที่หมดอายุ

พี่ลิงก์เดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีออกมาจากห้องครัวพร้อมกับอาหารเช้าน่ากินที่ทำให้ผมลืมความเอาแต่ใจของเขาเมื่อคืนนี้ไปจนหมด

"ไปนอนดูหนังก้น"

พี่ลิงก์พูดขึ้น หลังจากมื้อเช้าของพวกเราจบลง ผมก็พยักหน้ารับ ทว่ายังไม่ทันที่พวกเราจะได้ลุกออกจากโต๊ะกินข้าว เสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นหลานรหัสที่ติดต่อมา

"ฮัลโหล"

[พี่บลูยุ่งอยู่ไหมครับ]

"ไม่อ่ะ มีอะไรเปล่า"

[พอดีผมเขียนโปรแกรมไม่ผ่าน เลยอยากให้พี่มาช่วยดูให้หน่อยครับ]

"อ้อ ได้สิ เดี๋ยวพี่ขอเวลาไปเปิดโน้ตบุ๊กก่อน"

ผมลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปหยิบโน็ตบุ๊กที่วางไว้ในห้องนอนออกมา แล้วกลับมานั่งที่โต๊ะกินข้าวอีกครั้ง

"ไอดีกับพาสเวิร์ดอะไร"

เมื่อได้รับไอดีกับพาสเวิร์ดเพื่อเชื่อมต่อถึงกันเรียบร้อยแล้ว ผมก็ตั้งใจนั่งอ่านโค้ดของโปรแกรมที่รุ่นน้องเขียน โดยวางโทรศัพท์มือถือที่เปิดลำโพงเอาไว้บนโต๊ะเพื่อความสะดวก

"รันไม่ผ่าน ลองเปลี่ยคำสั่งใหม่ดู"

ผมบอกหลานรหัสที่ยังไม่ได้วางสาย โดยที่สายตายังจับจ้องที่หน้าจออย่างใช้ความคิด แล้วก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อมีอ้อมแขนที่คล้องคอมาจากด้านหลังพร้อมกับลมหายใจอุ่นที่พัดผ่านข้างใบหู ผมหันไปมองเสี้ยวใบหน้าหล่อที่กำลังบึ้งตึง

"เมื่อไหร่จะเสร็จ"

เสียงทุ้มแผ่วดังขึ้น ผมยิ้มบาง แล้วหันกลับไปมองโค้ดยาวเหยียดตรงหน้าจอของโน้ตบุ๊กอีกครั้ง

"ขอเวลาอีกครึ่งชั่วโมงครับ"

"ห้านาที"

"สิบห้านาที"

"สิบนาที ห้ามต่อรอง"

พี่ลิงก์พูดจบ เขาก็ก้มลงมาหอมแก้มของผม ก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาด้วย่ทาทางเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ ผมถอนหายใจออกมา แล้วกลับมาตั้งใจช่วยงานของหลานรหัสต่อ





@@@@@@@@@@





"พี่บลู"

ผมหันไปมองตามเสียงเรียก ซีก็กำลังเดินเข้ามาหา

"เพิ่งเลิกเหรอ"

"ครับ เอ่อ...ผมมีของอยากจะให้พี่ครับ"

ผมก้มมองสร้อยหนังถักที่ถูกว่งมาให้ แล้วเงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ

"ของแทนคำขอบคุณครับ พี่ช่วยผมหลายครั้งแล้ว"

"เฮ้ย! ไม่เป็นไร พี่เต็มใจช่วย"

"รับไปเถอะครับ ผมตั้งใจซื้อมาให้"

ผมมองสีหน้าจริงจังของรุ่นน้องครู่หนึ่ง แล้วรับน้ำใจที่อีกฝ่ายมีให้ด้วยรอยยิ้มบาง

"แค่ครั้งนี้นะ"

"ครับ"

ผมพิจารณาสร้อยหนังถักเล็กน้อย แล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกง แล้วเดินจากมา เพราะมีนัดกับเพื่อนสนิทที่ไปรอที่หอสมุดก่อนแล้ว





@@@@@@@@@





"บู้ทำของตก"

"อ้อ ขอบคุณครับ"

บลูรับสร้อยหนังถักที่ลิงก์ส่งมาให้ มันหลุดออกมาจากกระเป๋ากางเกง ตอนที่เขากำลังนอนเล่นอยู่บนเตียง

"เพิ่งซื้อมาเหรอ"

ลิงก์มองบลูที่เดินไปวางสร้อยหนังถักไว้บนโต๊ะ

"เปล่าครับ พอดีซีซื้อมาให้"

หลังจากเสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น ลิงก์ก็เหลือบมองสร้อยหนังถักเล็กน้อย แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของบลูขึ้นมา

นัยน์ตาสีดำไล่มองหน้าจอที่แสดงข้อความสนทนาระหว่างเจ้าของเครื่องและคนที่ชื่อ 'Sea S.' อย่างไม่รีบร้อน

เมื่อเลื่อนปลายนิ้วมาจนสุดกับข้อความ 'ฝันดีนะครับ' ริมฝีปากก็เหยียดยิ้มขึ้น ก่อนจะกดปุ่มบล็อก แล้ววางโทรศัพท์มือถือเอาไว้ที่เดิม







TBC++++++
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 31 > 24-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 25-02-2020 05:20:27
ก็ไม่ได้หวงเมียเท่าไหร่หรอกแค่บล็อคชายอื่นไปเลยก็เท่านั้น​ เอาอีกๆอยากเห็นลิงซ์หึงกว่านี้
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 31 > 24-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-02-2020 17:30:50
 :z2:

55 สงสารบู๊
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 31 > 24-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 25-02-2020 18:14:38
แอบหึง
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 31 > 24-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: prympws ที่ 26-02-2020 19:46:08
 :katai2-1: :katai3:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 31 > 24-02-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 02-03-2020 16:01:13
Level 32: ความขัดแย้ง







"พี่ลิงก์ เดี๋ยวผมไปติวกับเป็ดที่ห้องมันนะ"

"อืม"

ผมมองพี่ลิงก์ที่ยังนอนหนุนตักของผมเล่นโทรศัพท์มือถือตาปริบๆ เมื่อเขาไม่มีทีท่าจะลุกขึ้นแต่อย่างใด

"พี่ลิงก์"

"อะไร"

"ผมจะไปหาเป็ด"

"รู้แล้ว"

"งั้นก็ลุกสิครับ"

พี่ลิงก์ลดโทรศัพท์มือถือลง แล้วส่งสายตาไม่พอใจมาให้เหมือนผมไปขัดอารมณ์ ผมลอบถอนหายใจออกมา แล้วก้มลงไปจุ๊บที่หน้าผากของเขาอย่างเอาใจ

"ปล่อยให้ผมไปได้หรือยังครับ"

พี่ลิงก์ยอมลุกมานั่งข้างกัน เขาจับปลายคางของผมเอาไว้ แล้วก้มลงจูบอย่างอ่อนหวาน ผมเคลิ้มตามรสสัมผัสนั้นไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งได้ยินเสียงแจ้งเตือนข้อความดังขึ้น ถึงได้ดันตัวเองออกจากริมฝีปากร้อนล่อลวงอย่างทุลักทุเล

"พี่ไม่ต้องรอกินข้าวเย็นนะ น่าจะกลับดึกเลย"

"พอขับรถเก่งก็จะเถลไถลหรือไง"

น้ำเสียงทุ้มราบเรียบ ทำให้ได้แต่ยิ้มแห้ง แล้วรีบแต่งตัวเพื่อไปติวหนังสือกับเพื่อนสนิทที่หอ หลังจากได้ใบขับขี่เป็นของตัวเอง พี่ลิงก์ก็ยกหน้าที่ขับรถให้ผมเป็นประจำครับ ถ้าวันไหนที่เราสองคนไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาจะทิ้งรถโฟล์คบิเทิลไว้ให้ผมขับ แล้วเอาออดี้สีดำของที่บ้านมาใช้แทน ตอนนี้ผมเลยมีรถยนต์เป็นของตัวเองแบบไม่ต้องเสียเงินเลยสักบาท

ผมใช้เวลาเดินทางจากคอนโดมิเนียมหรูกลางกรุงมาถึงหอพักแถวมหาวิทยาลัยครู่หนึ่ง ก่อนที่จะไปพบเพื่อนก็แวะซื้อของกินเล่นบำรุงสมองเพิ่มด้วย

"กว่าจะมา"

เป็ดบ่นขึ้นทันทีที่เห็นผม แต่ผมก็แค่ยิ้มรับอย่างไม่ใส่ใจ

"กูก็รีบที่สุดแล้ว รีบไปติวเถอะ กูว่าเน็ตเวิร์กต้องออกทั้งเล่มแน่"





@@@@@@@@@@





ช่วงสัปดาห์ของการสอบสุดท้ายของเทอมเป็นไปอย่างเข้มข้น ผมเดินคุยกับเพื่อนเกี่ยวกับข้อสอบที่เพิ่งจบไปเรื่อย ก่อนสายตาจะผ่านไปเห็นหลานรหัสที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนของเขาอยู่

"ซี"

ผมเรียกรุ่นน้องที่หลายวันมานี้เงียบหายไปด้วยรอยยิ้ม บางทีอีกฝ่ายก็คงจะเครียดเรื่องเตรียมตัวสอบจนไม่ได้สนใจจะส่งข้อความคุยกับผมอีก

"อ่า...สวัสดีครับ"

ซียกมือไหว้ผมตามมารยาท เขามองด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมจนผมต้องเลิกคิ้วขึ้น

"มีอะไรหรือเปล่า"

"ไม่มีครับ ผม..."

ผมมองท่าทางอึกอักของคนตรงหน้าอย่างสงสัย ซีมองผมครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองเป็ดที่กำลังเดินเข้ามาหา

"พี่บลูทำข้อสอบได้ไหมครับ"

"ก็พอได้ แล้วเราล่ะ"

"ก็พอได้เหมือนกันครับ"

"อืม มีอะไรให้ช่วยก็บอก เห็นเงียบหายไปเลย"

ซีมีท่าทีแปลกใจ เขาขมวดคิ้วออกมา แล้วพูดด้วยเสียงที่เบาลงอีกหนึ่งระดับ แต่กลับทำให้ผมตกใจมากกว่าเดิม

"ก็พี่บล็อกผมไม่ใช่หรือครับ"

"ฮะ?! "

ผมแสดงสีหน้างุนงงพลางหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมา หลังจากตรวจเช็กแอพพลิเคชั่นการสนทนาระหว่างผมกับซีก็พบว่า มันถูกบล็อกเอาไว้จริงๆ ด้วยครับ

"อ่า...โทษที"

ผมนึกคำพูดอะไรไม่ออก ได้แต่กดปลดบล็อกทั้งหมดออกพลางขบคิดถึงตันเหตุของเหตุการณ์นี้

"ไม่เป็นไรครับ ผมคิดว่าพี่บลูรำคาญที่ผมอาจจะกวนเยอะไป"

"เปล่าๆ อย่าคิดมาก"

ผมหันไปส่งยิ้มให้ซีที่พยักหนัารับ เป็ดที่ยืนข้างกันอยู่นานแล้วก็พูดขึ้น

"รีบไปเถอะ ไอ้พวกนั้นรอให้มึงช่วยติวอยู่"

"อืม เอาไว้ค่อยคุยกัน"

ผมตอบรับเพื่อนสนิท แล้วหันมาบอกลาหลานรหัส อีกฝ่ายก็ยิ้มรับ แววตาห่างเหินก่อนหน้านี้เจือจางลง

"ครับ"





@@@@@@@@@@





ผมกับพี่ลิงก์ไม่เคยหวงโทรศัท์มือถือของตัวเองครับ บางครั้งเราสองคนก็สลับกันเล่นเกมท่องอินเทอร์เน็ตไปตามเรื่องตามราว ทว่าการที่เขาแอบบล็อกซีก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะปล่อยผ่านไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้

"พี่ลิงก์"

เมื่อผมเจอพี่ลิงก์ที่กำลังนอนเล่นอยู่ในห้องนอน ความข้องใจที่ผสมกับความไม่พอใจก็ตีรวนขึ้นมา

"ครับ"

คำตอบรับที่มักจะทำให้ผมยิ้มได้เสมอ ครั้งนี้กลับไม่มีผลอะไร ผมถอนหายใจออกมา แล้วเดินตรงไปหาอีกฝ่ายด้วยท่าทีจริงจัง

"พี่บล็อกซีทำไมครับ"

"ซีไหน"

"หลานรหัสของผม"

ผมจ้องพี่ลิงก์อย่างกดดัน ทว่าอีกฝ่ายกลับทำสีหน้าเรียบเฉยไม่ทุกข์ร้อน เขานิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วกลับไปสนใจไอแพดของตัวเองต่อ

"แล้วไง"

"แล้วไง? ถ้าพี่จะบล็อกใครในมือถือของผม พี่ก็ควรจะบอกผมหน่อยไม่ใช่เหรอ"

"อืม"

"พี่ลิงก์"

ผมขมวกคิ้วออกมา เมื่อยังเห็นคนตรงหน้าเมินเฉย ผมไม่ชอบนิสัยแบบนี้ของเขาเลย

"ตอนนี้ก็รู้แล้ว แล้วจะอะไรอีก"

น้ำเสียงทุ้มเย็นชากับแววตารำคาญที่แสดงออกมา ทำให้ผมต้องสูดหายใจเข้าลึกเพื่อกดอารมณ์ของตัวเอง

"ทำไมพี่ต้องทำแบบนี้ด้วยครับ"

ถึงพี่ลิงก์จะเป็นคนชอบแกล้งและเอาแต่มจ แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ชอบสร้างความเดือดร้อนให้ใครมั่วซั่วแบบไร้เหตุผล

"ก็อยากทำ"

"พี่..."

"หยุดเรียกสักที รำคาญ"

ผมมองตามพี่ลิงก์ที่ลุกออกจากเตียง เขาเดินไปอีกห้องหนึ่งด้วยท่าทีหงุดหงิด ผมได้แต่นึกสงสัย

เขาเป็นบ้าอะไร ถึงได้ทำแบบนี้...





@@@@@@@@@@





ตั้งแต่ตอนเย็นจนถึงดึก เราสองคนยังไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ ผมกับพี่ลิงก์ก็เคยมีทะเลาะด้วยเรื่องไร้สาระกันบ้าง และส่วนใหญ่ผมก็จะยอมให้ก่อนเสมอ แต่ครั้งนี้ถ้าหากเขาไม่ยอมรับผิด ผมก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้

ผมไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่องนะครับ ก็แค่ไม่อยากให้เขาทำแบบนี้อีก

ผมพยายามเก็บรวบรวมสมาธิกลับมาจดจ่ออยู่กับหนังสือที่ต้องอ่านสอบอีกครั้ง ถึงแม้ว่าอารมณ์ขุ่นมัวจะตีขึ้นมาเป็นระลอก จนกระทั่งเวลามาถึงห้าทุ่ม ผมก็อาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอนครับ

หลังจากมื้ออาหารเย็นที่ไร้คำพูดสิ้นสุดลง พี่ลิงก์ก็แยกตัวไปอยู่ในห้องงานอดิเรกของตัวเอง แล้วก็ยังไม่ออกมาอีกเลยจนถึงตอนนี้ครับ ผมไม่ได้สนใจ นอกจากเดินไปปิดไฟแล้วทิ้งตัวลงนอนเหมือนอยู่คนเดียว

ทั้งที่ใจอยากจะหลับ ทว่าร่างกายกลับไม่ทำตาม ผมนอนตะแคงข้างตาค้างในความมืด เนื้อหาเกี่ยวกับการสอบไม่ได้วิ่งเข้ามาในสมอง มีแต่ท่าทางและสีหน้าไร้อารมณ์ที่มองผมราวกับไม่มีตัวตนปรากฏชัด

ผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เสียงประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงการเคลื่อนไหวของสมาชิกอีกคน

ความไม่พอใจยังเต็มอยู่ในความรู้สึก ผมขมวดคิ้วพร้อมกับพยายามข่มตาหลับอย่างเต็มที่ แต่ก็ต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรับรู้ได้ถึงอ้อมแขนที่กอดรัดจากด้านหลัง

ผมผ่อนลมหายใจออกมา หลังจากแข็งใจนอนนิ่งอยู่ได้ไม่นานก็ขยับตัวเข้าหาไออุ่นอย่างเคยชิน ท่านอนที่จะทำให้ผมนอนหลับสนิทที่สุด

ไม่มีคำพูดอะไร นอกจากไออุ่นที่อึดอัดและรสจูบตรงริมฝีปากที่จืดชืด





@@@@@@@@@@







"นี่มันสับขาหลอกกันชัดๆ ถ้าจะออกแบบนี้ ก็ไม่ต้องบอกแนวมาก็ได้มั้ง"

เป็ดบ่นขึ้นมาอย่างหัวเสียกับการสอบที่เพิ่งเสร็จสิ้น ผมก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

"กูจะไปบนตามไอ้พวกนั้นดีไหมวะ ความสุขทางใจ"

เป็ดหันมาถาม ผมก็พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วยอีกครั้ง

"นี่มึงเป็นอะไรวะบลู ข้อสอบทำร้ายมึงเหรอ ทำไมดูมึนขนาดนี้"

เป็ดขมวดคิ้วขึ้นมองผมอย่างจริงจัง ผมก็พยักหน้ารับพลางถอนหายใจออกมา

"กูทะเลาะกับพี่ลิงก์"

ตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนเราสองคนก็ยังไม่คุยกันเลยครับ ผมอาจจะดูถูกความอดทนของพี่ลิงก์ต่ำไป เพราะเขาดื้อด้านอย่างเหลือเชื่อ

ทั้งที่ไม่ยอมพูดคุยด้วย แต่ก็ไม่ยอมให้ผมอยู่คนเดียวครับ หลังจากวันที่เกิดเรื่องผมก็กลับมานอนที่หอของตัวเอง ปรากฏว่าพี่ลิงก์ตามมาค้างด้วย โดยที่เอาแต่ทำสีหน้าไม่สบอารมณ์แบบไร้คำพูด

"เขาไม่ได้ทำร้ายอะไรมึงใช่ไหม"

"เปล่า เขาแค่ไม่คุยกับกู"

ผมบอกเสียงเครียด ยังดีที่สมองของผมพอจะแยกแยะเรื่องการสอบกับเรื่องส่วนตัวได้ ไม่อย่างนั้นผมคงแย่กว่านี้

"เป็นแฟนกันก็ต้องมีเรื่องขัดใจกันบ้าง รีบหาวิธีคืนดีกันจะดีกว่า"

ผมมองเป็ดที่แสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมา ถึงอีกฝ่ายจะชอบพูดจาค่อนขอดราวกับแอนตี้การมีแฟนของผมอยู่เป็นประจำ แต่เพื่อนคนนี้ก็มีความห่วงใยให้ผมเสมอ

"อีม ขอบใจ"

ผมถอนหายใจออกมา มัวแต่ดื้อแพ่งกันอย่างนี้ต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ผมจะยอมถอยหนึ่งก้าวเพื่อให้พี่ลิงก์ถอยจนสุดทางก็แล้วกัน


@@@@@@@@@@


ตอนนี้ผมกับพี่ลิงก์ขับรถกันคนละคันแล้วครับ วันนี้เขาไม่มีสอบ แล้วก็คงจะนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่หอพักของผมที่นอนค้างด้วยกันเมื่อคืนนี้ ทว่าเมื่อผมกลับไปที่ห้องของตัวเองกลับไม่พบใครอย่างที่คิด

ผมเลยตัดสินใจขับรถไปที่คอนโดของพี่ลิงก์แทน เมื่อเปิดประตูเข้าไป ไฟและแอร์ก็ไม่ได้เปิดเอาไว้เหมือนไม่มีใครอยู่ ผมขมวดคิ้ว หลังจากนั้นก็เดินไปดูที่ห้องต่างๆ แล้วหยุดลงที่ประตูระเบียง เมื่อเห็นคนที่ตามหากำลังนั่งเหม่อมองท้องฟ้ายามเย็นตามลำพัง

"พี่ลิงก์ครับ"

ผมเรียกเสียงเบา เพราะตั้งแต่ที่เราทะเลาะกัน ผมก็ไม่ได้เรียกเขาอีกจนถึงตอนนี้ คนตรงหน้าแค่ปรายตามามองเล็กน้อย แล้วหันสายตาไปมองภาพวิวสูงตามเดิม

ผมนั่งลงบนพื้นข้างพี่ลิงก์พลางทอดมองท้องฟ้าสีเข้มอย่างครุ่นคิด มันก็ดูแปลกดี ทั้งที่ทะเลาะกัน แต่เวลานอนเราสองคนก็ยังกอดและจูบกันอยู่ดี

"ทั้งที่พี่เป็นคนผิด แต่พี่ก็จะให้ผมง้ออย่างนั้นหรือครับ"

ผมพูดขึ้น โดยที่ไม่ได้มองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน สายลมที่เคลื่อนผ่านทำให้ผมต้องหลุบตาลงเล็กน้อย

"บู้ต่างหากที่ผิด"

ผมหันไปมองพี่ลิงก์ที่หันมามองผมเช่นเดียวกัน สีหน้าของเขานิ่งเรียบ ท่วาเววตากลับวาววับบ่งบอกอารมณ์

"ผมผิดอะไรครับ"

ผมย้อนถามอย่างใจเย็น มาคิดดูแล้ว วิธีปราบเด็กดื้อให้อยู่หมัดต้องใช้น้ำเย็นตะล่อมให้เขาสำนึกผิดด้วยตัวเองดีกว่ายัดเยียดให้ยอมรับผิดครับ

"บู้นอกใจ"

ผมกะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงง พี่ลิงก์ขมวดคิ้วออกมาพร้อมกับน้ำเสียงทุ้มเย็นที่ข่มความไม่พอใจเอาไว้

"โง่"

ผมขมวดคิ้วตาม หลังจากได้ยินคำต่อว่าของพี่ลิงก์ ผมก็ลำดับเรื่องราวทั้งหมดด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะสรุปออกมาได้อย่างหนึ่งแบบไม่มั่นใจนัก

"พี่คิดว่าผมกับซี..."

นัยน์ตาสีดำที่ตวัดมามองอย่างดุร้าย ทำให้ผมเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ

"เฮ้ย! พี่จะบ้าเหรอ! นั่นหลานรหัสผมนะ! "

นี่เขาคิดว่า ผมกับซีจะแอบกุ๊กกิํกกันหรือไง?!

"หลานรหัสแล้วยังไงวะ! มันก็เป็นผู้ชาย! แล้วก็กำลังจีบมึงอยู่ชัดๆ! "

สรรพนามที่เปลี่ยนไปบ่งบอกระดับอารมณ์ของคนพูดได้เป็นอย่างดี ผมลอบถอนหายใจพร้อมกับจับมือของเขามากุมเอาไว้ ยังดีที่พี่ลิงก์ไม่ได้สะบัดออกอย่างไร้เยื่อใยครับ

"พี่ลิงก์ครับ พี่คิดมากไปแล้ว คนแบบผมจะมีใครมาสนใจ ตัวก็เตี้ย หน้าตาก็ไม่ได้เรื่องแบบนี้"

พี่ลิงก์ยังคงจ้องผมเขม็ง สายลมเย็นไม่อาจพัดพาบรรยากาศร้อนระอุจากอารมณ์ของอีกฝ่ายลงได้ เขาขมวดคิ้วมากกว่าเดิม

"พูดบ้าอะไรวะ! เมียกูน่ารัก! แม่งก็ต้องมีคนอยากจีบอยู่แล้ว! "

เอ่อ...ผม..เมียพี่นะครับ แล้วผมก็คิดว่าพี่เข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่เยอะเลย

ทั้งที่ผมควรจะเขินแต่กลับกระอักกระอ่วนกับคำชมจนต้องปั้นหน้ากลับมาเป็นปกติอย่างเร่งด่วน

"แต่ผมไม่ได้คิดอะไร ก็แค่รุ่นน้อง"

"มึงไม่คิด! แต่มันคิด! "

ผมมองท่าทีฉุนเฉียวของพี่ลิงก์อย่างอ่อนใจ ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองกดวีดีโอคอลไปหาหลานรหัส เอาให้รู้เรื่องชัดเจนแบบลูกผู้ชายเลยครับ

พี่ลิงก์มองผมอย่างไม่พอใจ นัยน์ตาสีดำกรุ่นโกรธเยียบเย็นขึ้น เมื่อหน้าจอโทรศัพท์มือถือของผมปรากฏใบหน้าหล่อเหลาของหลานรหัสที่เป็นชนวนเหตุในครั้งนี้

[พี่บลู]

น้ำเสียงสดใสดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่เห็นจนชินตา ผมยิ้มแหยออกมา ก่อนจะขยับมือให้คนในจอมองเห็นคนที่กำลังนั่งอยู่ข้างผม

"ตอนนี้พี่อยู่กับพี่ลิงก์นะ"

ซึมีสีหน้างุนงง แต่ก็ผงกหัวเหมือนจะทักทายพี่ลิงก์ตามมารยาท ทว่าเผอิญมือไม่ว่างเลยไม่ได้ยกมือไหว้ ผมปรับสีหน้าให้จริงจังขึ้น

"พอดีตอนนี้พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับซีหน่อย"

[ครับ]

"พอดีพี่ลิงก์เข้าใจผิดน่ะ แฮะๆ คือ..."

ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้คิดคำพูดออกมา พี่ลิงก์ก็ดึงโทรศัพท์มือถือของผมไปถือเอง แล้วถามคนในหน้าจอเสียงเข้ม

"มึงชอบเมียกูใช่ไหม! "

ผมอ้าปากค้างด้วยความตกใจไม่ต่างจากซึที่ทำหน้าเหวอออกมา พี่ลิงก์จ้องเขม็งมองอีกฝ่ายอย่างกดดัน

"ถึงเมียกูจะโง่จนตามมึงไม่ทัน แต่กูไม่ใช่! "

เสียงทุ้มยังตวาดด้วยแรงอารมณ์ ผมกลอกตาทีหนึ่งอย่างอธิบายไม่ถูกว่า ควรจะรู้สึกยังไงกับคำพูดนี้ดี

"พี่ลิงก์"

"มึงเงียบ! "

ผมเม้มริมฝีปากอย่างอดกลั้นอารมณ์ พี่ลิงก์ไม่ได้สนใจ เขาเอาแต่จ้องมองซีที่หน้านิ่งไปและยังไม่พูดอะไรออกมา

[ผมชอบพี่บลูจริงๆ แต่ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พวกพี่ผิดใจกัน]

ซีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังและสำนึกผิด พี่ลิงก์แค่นเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่สบอารมณ์ต่างจากผมที่ช็อกไปแล้ว

[ผมขอโทษครับ]

พี่ลิงก์โยนโทรศัพท์มือถือคืนให้ผม แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง นัยน์ตาของเขากดต่ำไปยังหน้าจอที่ฉายภาพรุ่นน้องของผม

"ถ้ามึงไม่เลิกจีบเมียกูอีก มึงเจอตีนกูแน่"

ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ดูเหมือนสถานการณ์จะกลับตาลปัตรไปหมดแล้วครับ ทั้งที่ผมตั้งใจจะเอาความผิดกับเด็กดื้อตัวโต แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกผิดเสียเอง

พี่ลิงก์เดินกลับเข้าไปในห้องแล้ว ผมนั่งปรับสภาพอารมณ์ของตัวเองครู่หนึ่ง ก่อนจะมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือที่ยังไม่ขาดการติดต่อ

[พี่บลู ผมขอโทษครับ]

"เอ่อ...ไม่เป็นไร"

ผมรู้สึกขัดเขินนิดหน่อย ใครจะไปคิดว่าคนอย่างผมจะมีคนมาชอบ แถมยังเป็นผู้ชายหน้าตาดี หรืออันที่จริงแล้วการที่ผมถูกผู้หญิงเมินมาตลอดก็เพราะดวงชะตาให้ผมมีเสน่ห์กับเพศเดียวกันมากกว่า?

ก็ว่าไปนั่น...

[ผม...ยังคุยกับพี่ได้ไหมครับ]

ผมมองซีที่มีสีหน้าเจ็บปวดอย่างทำตัวไม่ถูก น้ำเสียงเศร้าหมองชัดเจนจนผมรู้สึกสงสาร

"คุยได้สิ ก็เราเป็นลุงกับหลานรหัสกัน"

[...ครับ]

ซึหลุบตาลงต่ำ ผมถอนหายใจออกมาอีกครั้ง แล้วบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนบาง

"ขอบคุณที่ชอบพี่นะ แล้วก็ขอโทษด้วย"

[ครับ]

"งั้น...พี่ไม่กวนแล้ว"

[ครับ]

ผมมองซีที่กำลังสบตากับผมเช่นเดียวกัน ก่อนจะตัดสินใจตัดสายเพื่อยุติการติดต่อ ผมลุกขึ้นยืน แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อหมุนตัวไปเห็นพี่ลิงก์ที่กำลังยืนพิงกรอบประตูระเบียงมองผมอยู่

ผมสบตากับพี่ลิงก์นิ่ง เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของผม และผมก็จะไม่ขอโทษ คำพูดเดียวที่ผมอยากจะบอกให้เขาได้เข้าใจและเลิกงี่เง่าใส่กันเสียที

"พี่อยู่ในใจของผมคนเดียวนะครับ"

พี่ลิงก์ถอนหายใจออกมา ความดื้อรั้นก็ส่วนหนึ่ง ทิฐิก็ส่วนหนึ่ง แต่สุดท้ายเขาก็เดินเข้ามากอดผมเอาไว้ แล้วพูดเสียงเบา

"ขอโทษ ยิ่งรัก ลิงก์ก็ยิ่งหึง"

"แล้วพี่ไม่เชื่อใจผมเหรอ"

"เชื่อ แต่ก็หวงอยู่ดี"

พี่ลิงก์คลายอ้อมกอดพร้อมกับสบตากัน ผมรู้สึกถึงความร้อนที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ทั่วใบหน้า

"บู้เป็นของลิงก์คนเดียว คนอื่นห้ามยุ่ง"

เฮ้อ...เอาที่พี่สบายใจแล้วกันครับ





TBC++++++

Marionetta
เอาน้องซีมาให้พี่ลิงก์หึงเล่นนิดหน่อย ลิงก์คนรักเมีย เมียน่ารักที่ซู้ดดดด! ขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้ค่ะ อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 32 > 02-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 02-03-2020 21:01:55
ลิงก์เป็นคนจริงจังและเปิดเผย
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 32 > 02-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-03-2020 21:18:41
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 32 > 02-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 03-03-2020 19:41:02
คำก็เมียสองคำก็เมียนะพี่ลิงก์​ หวงขนาดนี้จัดงานแต่งเลยมั้ยโลกจะได้รู้ว่าบู้เป็นของใคร
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 32 > 02-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 17-03-2020 17:12:04
Level 33: กลับบ้าน




หลังจากจบเทอมแรกไปได้ไม่กี่วัน ผมก็เดินทางกลับบ้านครับ โดยที่พี่ลิงก์อาสาขับรถไปส่งและเป็นการพาเขาไปแนะนำอย่างเป็นทางการในคราวเดียว

"บอกพ่อกับแม่แล้วเหรอว่าจะพาผู้ชายเข้าบ้าน"

กรีนพูดขึ้นพร้อมกับมองผมสลับกับพี่ลิงก์ที่อยู่ด้านหน้า ผมหันมายิ้มแห้ง แล้วบอกออกไปตามตรง

"บอกแค่แฟนจะไปส่งเฉยๆ"

"หึ! ขอให้โชคดี"

กรีนชักสีหน้าออกมาอย่างประชดประชัน ผมไม่ได้สนใจ แล้วหันไปมองวิวข้างทางอีกครั้ง

การกลับบ้านครั้งนี้จะเรียกว่าเป็นการเปิดตัวก็ไม่ผิดนัก ทันทีที่พ่อกับแม่รู้ว่า ผมจะพาแฟนไปที่บ้านก็ตื่นเต้นกันใหญ่ ผมเลยไม่กล้าบอกต่อว่า แฟนที่ว่า...ผู้ชายนะครับ

"บู้นั่งชิลไป ไม่ต้องคิดมาก ลิงก์ยังไม่คิดอะไรเลย"

ผมเหันไปมองพี่ลิงก์ที่ยักคิ้วส่งมาให้พร้อมกับรอยยิ้มน่ามองก่อนจะแอบชักสีหน้าออกมาอย่างหมั่นไส้

ไม่คิดอะไรเลย...

แต่ขับมาเซราติไปโขว์ความรวยเนี่ยนะ แล้วไหนจะของฝากราคาแพงที่หวังเอาใจพ่อกับแม่ของผมเต็มที่อีก

ไม่คิดอะไรเลยจริงๆ

อาจเป็นเพราะสายตาที่สื่อความในใจออกมา พี่ลิงก์เลยดึงแก้มของผมทีหนึ่ง แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย

"ก็อยากให้พ่อกับแม่วางใจ อยู่กับลิงก์แล้วบู้กินอิ่มนอนหลับ ไม่อดอยากปากแห้ง"

"ครับ"

ก็...เอาที่พี่สบายใจ

ผมยิ้มบางออกมาแล้วพยายามไม่คิดอะไรล่วงหน้าให้วุ่นวายใจอีก ก่อนจะลอบมองเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลาที่แสนมีเสน่ห์อย่างคุณชายผู้มีอันจะกิน

แฟนหน้าตาดี แถมยังมีเงินขนาดนี้ ถ้าพ่อกับแม่ไม่ปลื้มก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว


++++++++


"จอดทางซ้ายข้างหน้าเลยครับ"

ผมบอกพี่ลิงก์ให้เข้าจอดเลียบที่หน้าประตูบ้าน กรีนเปิดประตูรถออกไปก่อน หลังจากนั้นรถยนต์หรูสัญชาติอิตาเลียนก็วิ่งเข้าไปในอาณาเขตของบ้าน

"มากันแล้วเหรอ"

น้ำเสียงอ่อนหวานของแม่ที่ดังขึ้น ทำให้ผมต้องยกมือไหว้ ก่อนจะชะงักไป เมื่อเห็นพี่ลิงก์เต็มตา

"สวัสดีครับ"

พี่ลิงก์ส่งยิ้มให้พร้อมกับยกมือไหว้อย่างสุภาพ ใบหน้าหล่อและรูปร่างการแต่งกายคล้ายนายแบบจากห้องเสื้อชั้นนำสะท้อนกับแสงอาทิตบ์จนเป็นประกายเจิดจ้า ความเงียบเกิดขึ้นอยู่ชั่วอึดใจ จนบุคคลที่ห้าเดินเข้ามาสมทบ

"แดดร้อน ทำไมไม่เข้ามาในบ้าน"

เสียงทุ้มต่ำใจดีของพ่อดังขึ้น ก่อนจะชะงักไปอีกคน หลังจากได้รับไหว้จากคนแปลกหน้า

"เอ่อ...พ่อกับแม่ นี่พี่ลิงก์ครับ แฟนบลู"

ผมยิ้มแห้งไปให้บุพการีทั้งสองที่มองผมสลับกับพี่ลิงก์อย่างตกตะลึง แล้วสติก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อของฝากถูกส่งให้อย่างนอยน้อม

"อันนี้ของฝากของตุณพ่อกับคุณแม่ครับ"

"อ้อ ขอบใจจ้ะ"

ดูเหมือนแม่จะตั้งสติได้เร็วกว่าพ่อเลยรีบรับของกำนัลมาอย่างไม่เป็นปกตินัก

"อ่า...เข้ามาคุยกันในบ้านดีกว่า มาๆ"

พ่อเดินนำเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางเหมือนยังมึนงงอยู่เล็กน้อย แม่หันมามองผมครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตามเข้าไปอีกคน ส่วนกรีนวิ่งเข้าบ้าน ตั้งแต่ที่พี่ลิงก์ส่งของฝากให้แล้วครับ

ผมถอนหายใจออกมา หัวใจเต้นแรงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ดูจากบรรยากาศแล้ว ก็คงไม่มีอะไรให้กังวล การที่ลูกชายมีแฟนเป็นผู้ชายก็คงไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่พ่อกับแม่จะนิ่งเฉยทำเป็นเรื่องปกติทั่วไปได้อยู่แล้ว

"ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องคิดมาก"

พี่ลิงก์พูดขึ้น แล้วเดินนำผมเข้าไปในบ้านด้วยท่าทีสบายๆ จนผมต้องนึกปลงกับความกลัวของตัวเอง


++++++


"ตอนนี้เรียนบริหารอยู่ปีสี่ครับ"

"งั้นเหรอ แล้วจบไปจะทำอะไรต่อ"

"ทำงานกับบริษัทที่บ้านครับ"

"อืม ดีๆ เป็นบริษัททำเกี่ยวกับอะไรล่ะ"

"อ้อ ก็มีหลายอย่างเลยครับ ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ ผลิตซอฟต์แวร์กับแอปพลิเคชันให้กับบริษัทต่างๆ แล้วก็มีโครงการคอนโดมิเนียมไม่กี่แห่งครับ"

ผมมองพี่ลิงก์กับพ่อที่กำลังนั่งพูดคุยซักประวัติส่วนตัวกันครู่หนึ่ง แล้วหันมามองแม่ที่กำลังทำน้ำส้มคั้นเสิร์ฟคลายร้อน

"แล้วยังไงล่ะเรา แม่ตกใจหมดเลย"

"ขอโทษครับ"

แม่หันมามองผมเล็กน้อย แล้วถอนหายใจออกมา เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของผม

"แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ดูโอเคดี"

เจอครีมโสมเกาหลีเซ็ตใหญ่เข้าไป ก็โอเคเลยใช่ไหมแม่...

ผมได้แต่แซวแม่แยู่ในใจ ก่อนน้ำเสียงนุ่มนวลจะดังขึ้น

"เดี๋ยวนี้คนรู้หน้าไม่รู้ใจ จะคบกับเพศอะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับคนนั้นเป็นคนดีหรือเปล่า"

"ครับ ถึงพี่ลิงก์จะเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ก็ดูแลผมดีมากเลย"

"ก็ว่าอยู่ อ้วนขึ้น แก้มห้อยเป็นกระติกเลย"

ผมหน้าเหวอพลางจับแก้มของตัวเองไปด้วย บางทีการที่แก้มของผมอวบอิ่ม อาจเป็นเพราะถูกดึงบ่อยจนบวมไปแล้วก็ได้ครับ


++++++


กรีนขับมอเตอร์ไซค์ออกไปหาเพื่อนตั้งแต่ช่วงบ่าย หลังจากทำความรู้จักกันเรียบร้อย พี่ลิงก์ก็อาสาเป็นคนทำอาหารเย็นแสดงศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ครับ

"แน่ใจหรือลูก"

"ครับ"

"งั้นเดี๋ยวแม่ไปซื้อของมาให้"

แม่ทำท่าจะลุก แต่พี่ลิงก์กลับรั้งเอาไว้ด้วยรอยยิ้มบางแสนสุภาพ

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวให้น้องพาไป"

พี่ลิงก์เหลือบสายตามามองผมที่นั่งดูโทรทัศน์ ผมเลยพยักหน้ารับ

"เดี๋ยวบลูพาพี่ลิงก์ไปเอง"

ผมลุกขึ้นจากโซฟา แล้วเดินนำพี่ลิงก์ออกจากบ้าน ตอนนี้้เขาเปลี่ยนจากมาดคุณชายมาเป็นสามัญชนแล้วครับ แต่ถึงอย่างนั้นความดูดีก็ยังเปล่งประกายอยู่ดี

"ขี่มอเตอร์ไซค์ไปนะ มันไม่มีที่จอดรถ"

ผมบอกพร้อมกับส่งหมวกกันน็อกไปให้ พี่ลิงก์ก็รับมาสวม แล้วผมก็เผลอหลุดยิ้มออกมากับท่าทางเก้ๆ กังๆ กับการติดตัวล็อกราวกับคนที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนของเคนตรงหน้า

"มา เดี๋ยวผมติดให้"

พี่ลิงก์ก้มตัวลงให้ผมติดคัวล็อกได้สะดวกขึ้น ทว่ายังไม่ทันที่ผมจะได้ถอยห่าง เขาก็กดจูบริมฝีปากของผมอย่างรวดเร็ว

"ขอบคุณครับ"

"พี่ลิงก์"

ผมเรียกด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองเล็กน้อยพลางมองรอบตัวอย่างระแวดระวัง พี่ลิงก์หัวเราะออกมาเบาๆ อย่างอารมณ์ดี

ผมตั้งหลักเล็กน้อย ก่อนที่พี่ลิงก์จะนั่งซ้อนท้ายด้านหลัง ทันทีที่ติดเครื่องยนต์ อ้อมแขนของเขาก็โอบกอดเอวของผมเอาไว้ ผมเกร็งตัวอย่างไม่ค่อยชินนัก ธรรมดาไม่เคยมีใครซ้อนมอเตอร์ไซค์แล้วกอดกันแบบนี้

"พี่ห้ามแกล้งนะ ถ้าผมตกใจแล้วรถล้มไม่รู้ด้วย"

"ไม่ได้จะแกล้ง แค่อยากกอดเมีย"

อันนี้ก็เรียกว่าแกล้งแล้วไม่ใช่หรือไง!

ผมต่อว่าอีกฝ่ายในใจ แล้วขับมอเตอร์ไซค์พร้อมกับอ้อมกอดด้วยรอยยิ้ม


++++++++


พวกเราใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เดินทางมาถึงตลาดในตัวเมือง ผมหาที่จอดในบริเวณนั้น แล้วหันไปมองผู้โดยสารสุดที่รัก

"บู้แกะให้หน่อย"

พี่ลิงก์ก้มตัวลงให้ผมช่วยปลดล็อกหมวกกันน็อกให้ ผมรู้ว่าเขาทำได้แต่อ้อนให้ผมลำบากครับ หลังจากเก็บของไว้ใต้เบาะและล็อกรถมอเตอร์ไซค์เรียบร้อย ผมก็พาพี่ลิงก์เดินเล่นตามประสาเจ้าบ้านที่ดี

"นั่นโรงเรียนที่ผมเรียน"

ผมชี้ไปทางโรงเรียนประจำจังหวัดที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร พี่ลิงก์ก็มองตามแล้วพยักหน้ารับ

"เมื่อก่อนหลังเลิกเรียน ผมต้องไปกินร้านนั้นประจำ"

ผมชี้ไปยังร้านขายขนมหวานแก้ร้อนที่มีคนนั่งอยู่ประปราย

"งั้นเราก็ไปนั่งหาอะไรกินกัน"

พี่ลิงก์เดินนำผมเข้าไปในร้าน เมื่อพวกเรานั่งเรียบร้อยแล้ว เขาก็ดูเมนูขนมหวานอย่างพิจารณา

"มีเฉาก๊วยนมสดด้วย เอาไหมครับ"

พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้นมามอง ผมก็กะพริบตาทีหนึ่ง

"ผมจำได้ พี่เคยบอกว่า ชอบเฉาก๊วยมากกว่าลอดช่อง"

ผมนึกย้อนไปถึงวันแรกที่เราสองคนได้คุยกัน แล้วก็ยังจำคำถามที่พี่ลิงก์ตั้งขึ้นมาพร้อมกับคำตอบในตอนนั้นได้ขึ้นใจ

"อืม"

พี่ลิงก์ส่งยิ้มมาให้ หลังจากนั้นผมก็เดินไปสั่งเมนูของหวานตามที่ต้องการ


++++++++++


เราสองคนใช้เวลากินขนมหวานดับลมร้อนเพียงไม่นาน ผมก็พาพี่ลิงก์ไปจ่ายตลอดต่อ ทั้งที่ผมก็มาที่นี่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยเลือกซื้อของสดอะไรเป็นสักอย่างครับ

"ที่บ้านชอบกินอะไรกัน"

พี่ลิงก์ถามขึ้น นัยน์ตาสีดำก็กวาดมองโดยรอบอย่างสำรวจโดยไม่ได้มีท่าทางรังเกียจกับความไม่สะอาดเท่าที่ควรของสถานที่แห่งนี้

"ก็ทั่วไปครับ"

พี่ลิงก์หันสายตามามองผมเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปตามแผงร้านค้าต่างๆ โดยไม่ได้ถามอะไร นอกจากให้ผมช่วยถือของไม่ต่างจากคนรับใช้

หลังจากใช้เวลาเดินวนเวียนหาวัตถุดิบประกอบอาหารมื้อเย็นอยู่พักใหญ่ เราสองคนก็กลับมาที่รถมอเตอร์ไซค์อีกครั้งด้วยข้าวของพะรุงพะรัง เพราะนอกจากจะมีของจำพวกเนื้อสัตว์และผักแล้ว พี่ลิงก์ก็ซื้อผลไม้กลับมาอีกหลายอย่างเลยครับ

ผมส่งหมวกกันน็อกให้พี่ลิงก์โดยไม่ลืมติดล็อกให้เสร็จสรรพ ก่อนจะวุ่นวายจัดเก็บของที่ซื้อมาต่อ

"ถนัดหรือเปล่า"

"ถนัดครับ แต่พี่ต้องช่วยผมถือแตงโมหน่อย"

"แบบนี้ก็ไม่ได้กอดบู้สิ"

ผมทำหน้าตายใส่พี่ลิงก์ เขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วรับแตงโมลูกใหญ่ไปถือไว้ ผมถอนหายใจออกมา แล้วเตรียมตัวออกเดินทางกลับบ้าน

ถึงแม้พี่ลิงก์จะได้รับหน้าที่พิทักษ์แตงโมในขากลับ แต่เขาก็มีความพยายามมากพอจะใช้มือหนึ่งกอดเอวของผมเอาไว้อยู่ดีครับ


+++++++


"ท่าทางคล่องแคล่ว"

แม่ชมด้วยสีหน้าพอใจ หลังจากลอบมองท่าทางการทำอาหารของพี่ลิงก์ที่ดูไมติดขัด

"เขาทำอาหารเก่ง"

ผมบอกแม่ด้วยรอยยิ้ม แล้วหันไปมองพี่ลิงก์ที่กำลังหั่นหอมหัวใหญ่อย่างตั้งอกตั้งใจ

"คงกวนพี่เขาบ่อยใช่ไหมเนี่ย อยู่บ้านรอบนี้ก็หัดเข้าครัวบ้าง เดี๋ยวแม่สอนให้"

แม่หันมาบอกด้วยสีหน้าจริงจัง ผมก็ยิ้มแหยอย่างคนขี้เกียจ ถึงแม้ในใจก็อยากทำอาหารเก่งแบบพี่ลิงก์บ้างก็เถอะ

วันนี้กรีนไปกินหมูกระทะกับเพื่อน มื้อเย็นเลยมีสมาชิกกันแคสี่คน ทว่าอาหารกลับมีเต็มโต๊ะราวกับสั่งมาจากร้านอาหารใหญ่

"ไม่รู้คุณพ่อ คุณแม่จะถูกปากหรือเปล่า"

พี่ลงก์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงถ่อมตัว พ่อกับแม่ก็รีบส่ายหน้ากันจนปวดคอ

"รสชาติกำลังดีเลย"

พ่อชมพร้อมกับตักปลาราดพริกใส่จานของตัวเอง

"อืม ไม่นึกว่าลิงก์จะทำเก่งแบบนี้"

แม่ชมต่อพร้อมกับตักยำรวมมิตรทะเลมาใส่จานของตัวเองอีกคน

"ขอบคุณครับ"

พี่ลิงก์ยิ้มรับ แล้วก็ตักปลาหมึกชุบแป้งทอดมาให้ผม


+++++++


พี่ลิงก์ตั้งใจจะนอนค้างที่บ้านของผมหนึ่งคืนครับ เพราะปิดเทอมนี้เขายังต้องไปเรียนรู้งานที่บริษัทอีก

"แม่มีแต่ผ้าปูรองนอน ลิงก์นอนได้ไหมลูก"

"ได้ครับคุณแม่ ไม่ต้องเป็นห่วง"

ภายในห้องนอนของผมไม่ได้กว้างมากนัก มีแค่เฟอร์นิเจอร์ไม่กี่อย่างและเตียงเดี่ยวสามฟุตครึ่ง แต่ก็ยังมีพื้นที่ส่วนหนึ่งพอให้หาฟูกหรือผ้าปูนอนกับพื้นได้สบายครับ

"ตามสบายนะ ขาดเหลืออะไรก็ให้บลูหาให้"

"ครับ"

หลังจากแม่เดินออกไปจากห้องนอนแล้ว พี่ลิงก์ก็เดินไปนั่งบนเตียงพลางมองผมที่กำลังจัดแจงที่นอนอยู่บนพื้น

"คืนนี้บู้นอนพื้นนะ"

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ลิงก์เล็กน้อย แล้วตบหมอนสองสามที

ก็กะเอาไว้แล้ว...เขาคงไม่นอนพื้นแน่

พี่ลิงก์ไม่ได้สนใจผมอีก เขาไปรื้อกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาเพื่อเตรียมตัวไปอาบน้ำที่ชั้นล่าง

เวลาผ่านไปสักพักพี่ลิงก์ก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง ผมถอดชุดทั้งหมดเปลี่ยนเป็นนุ่งผ้าเช็ดตัวเตรียมไปอาบน้ำบ้าง ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องก็โดนอีกฝ่ายดึงไปกอดเสียก่อน

"พี่ลิงก์"

ผมเบิกตากว้างเล็กน้อย แล้วจับผ้าเช็ดตัวที่นุ่งเอาไว้โดยอัตโนมัติด้วยความตกใจ

"เป็นอะไร"

พี่ลิงก์ถามขึ้น ก่อนที่เขาจะกดจูบตรงต้นคอไปถึงกกหูให้ผมขนลุกซู่ หัวใจเต้นระรัว เมื่อมือร้อนเลื้อยเข้ามาในผ้าเช็ดตัวที่ผมจับเอาไว้

"เปล่า...ครับ"

"ก็เห็นทำหน้าไม่พอใจ"

พี่ลิงก์พูดที่ข้างหู มืออันตรายล่วงล้ำเหมือนงูลากผ่านส่วนอ่อนไหวของผมจนผ้าเช็ดตัวที่นุ่งเอาไว้คลายออก ผมสูดลมหายใจเข้าลึก เพราะนอกจากจะหวาดเสียวช่วงล่างแล้ว ช่วงบนก็กำลังถูกปลายลิ้นลามเลียให้สยิวเล่นไม่ต่างกัน

"พี่..."

ยังไม่ทันที่ผมจะได้ร้องห้ามหรือบอกอะไร มือข้างหนึ่งของพี่ลิงก์ก็ล็อกปลายคางของผมเอาไว้ แล้วมอบจูบอย่างลึกซึ้งอย่างเอาแต่ใจ

ความคิดของผมเหมือนหยุดทำงานไปชั่วขณะหนึ่ง มีเพียงร่างกายที่ตอบสนองไปตามสัญชาตญาน ริมฝีปากของเรากลืนกินบดเบียดกัน ปลายลิ้นเกี่ยวพันตวัดรับอย่างโหยหา จังหวะของรสจูบรุนแรงขึ้นทีละน้อยจนเกิดเป็นเสียงชวนให้ใจสั่นไหว

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูที่ขัดจังหวะขึ้นทำให้ภวังค์น่าหลงใหลหายไปไม่ต่างจากฟองอากาศที่แตกกระจาย ผมสะดุ้งเล็กน้อย น้ำลายที่ลากยาวเป็นสายของเราสองคน ทำให้ใบหน้าของผมร้อนผ่าว

ในตอนนี้ผมเพิ่งตระหนักได้ว่ากำลังนั่งอยู่บนตักของพี่ลิงก์ที่นั่งอยู่บนเตียง ผ้าเช็ดตัวที่เคยนุ่งเอาไว้หลุดไปกองอยู่กับพื้น นัยน์ตาสีดำวาววับของเขาหลุบลงต่ำ ปลายจมูกคลอเคลียซอกคอ

ของผม

ก๊อกๆ

"บลู!"

เสีนงเรียกของแม่ดังขึ้นที่หน้าประตู ผมลุกพรวดออกจากตัก แล้วรีบจัดสภาพของตัวเองอย่างเร่งด่วน พี่ลิงก์ก็ถอนหายใจออกมา ก่อนจะนอนคว่ำหน้าซุกหมอนของผมเฉย

ผมเหลือบมองเล็กน้อย แล้วรีบเง้มประตูส่งยิ้มแห้งให้แม่

"แม่มีอะไร"

"อาบน้ำหรือยัง ตอนนี้น้ำไม่ไหลนะ"

"อ้าว"

ผมหน้าเหวอออกมา แม่ก็ขมวดคิ้ว เมื่อมองสภาพเตรียมตัวไปอาบน้ำของผม

"ไปตักน้ำในถังหลังบ้านมาใช้ก่อนแล้วกัน"

"แล้วกรีนล่ะ"

"กรีนไปค้างบ้านเพื่อนแล้ว"

"อ้อ"

"แม่กับพ่อจะนอนแล้ว ปิดไฟข้างล่างให้เรียบร้อยด้วย"

ผมพยักหน้ารับ แล้วรอดูจนแม่เข้าห้องนอนไปแล้ว ก็ถอนหายใจออกมา

"มีอะไร"

พี่ลิงก์ถามขึ้น ตอนนี้เขานั่งกอดหมอนพลางมองผมด้วยสายตาสงสัย

"น้ำไม่ไหลครับ เพราะพี่มัวแต่แกล้งผม เลยไปอาบน้ำไม่ทันเลย"

พี่ลิงก์เลิกคิ้วขึ้น ทั้งที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนแต่กลับไม่มีสีหน้าสำนึกผิดเลยสักนิด

"แล้วทำยังไง จะไม่อาบน้ำเหรอ"

"เดี๋ยวต้องไปตักน้ำหลังบ้านมาอาบ"

"ให้ช่วยไหม"

"พี่รออยู่นี่แหละ"

ผมไมต่อบทสนทนาอีก แล้วรีบเดินลงชั้นล่างออกไปทางหลังบ้านเพื่อตักน้ำในถังสำรองฉุกเฉินมาใช้งาน




TBC +++++++
Marionetta
หวานเบาๆ จ้า เตรียมหวานหนักๆ ในตอนหน้า อิอิ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 33 > 17-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 17-03-2020 20:29:33
แหม ลิงก์มั่นมากเลย คุณชายเพียบพร้อมเชียว
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 33 > 17-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 19-03-2020 23:36:27
หวานมากครับ,,,
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 33 > 17-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 24-03-2020 19:05:40
Level 34: หวานใจ




ผมนอนขยับตัวเล็กน้อย เมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังดันสะโพกเบาๆ ก่อนจะหันไปมอง แล้วพบว่าเป็นปลายเท้าของพี่ลิงก์ที่อยู่บนเตียง

ถ้าจะใช้เท้าเรียกแบบนี้ ขว้างหมอนใส่ยังดีกว่า...

"มีอะไรครับ"

ผมลอบถอนหายใจอย่างระอากับความไร้มารยาทของพี่ลิงก์ ก่อนจะลุกขึนนั่ง แล้วเงยหน้ามองอีกฝ่ายในความมืด

"ขึ้นมา"

"ไม่เป็นไรครับ ผมนอนพื้นได้"

ก่อนหน้านี้ผมไม่ค่อยพอใจที่พี่ลิงก์ไม่ยอมเสียสละเตียงให้ผมนอน แต่พอโดนจูบของเขาเล่นงาย ผมก็ลืมเลือนความรู้สึกนั้นไปหมด หล้งจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เลยกลับมานอนที่พื้นอย่างจนใจ

"ลิงก์ไม่มีอะไรกอด ขึ้นมา"

ผมชักสีหน้าออกมา แต่ก็ยอมลุกไปนอนเบียดบนเตียงแต่โดยดี พี่ลิงก์ขยับตัวแบ่งพื้นที่ให้ผมเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะฟัดแก้มของผมเล่นหนึ่งยก แล้วกอดผมเอาไว้ไม่ต่างจากหมอนช้าง

ผมผ่อนลมหายใจออกมาอย่างปลงตก ถึงแม้จะเขินมากและรู้สึกดีกับไออุ่นที่ได้รับก็ตาม

ผมหลับตาลงอีกครั้ง ทั้งที่นอนไม่ค่อยถนัดนัก ทว่าเพียงไม่นานความคุ้นเคยของกลิ่นอายที่หลงใหลก็นำพาความง่วงและทำให้สมองของผมผ่อนคลายจนเผลอหลับไป

+++++++


"นอนสบายไหมลูก"

"สบายครับ"

พี่ลิงก์ส่งยิ้มให้แม่ ผมก็แอบชักสีหน้าออกมาเล็กน้อยกับท่าทางแจ่มใสอัธยาศัยดีของเขา แล้วได้แต่นึกต่อว่าแม่อยู่ในใจ

ไม่ถามบลูบ้างล่ะว่า หลับสบายไหม แถมเมื่อเช้าผมยังโดนแกล้งจนอ่อนระทวยไปหมดด้วยครับ

"เป็นอะไร"

แม่หันมาถามผมในที่สุด ผมส่ายหน้าแล้วกินโจ๊กของตัวเองอย่างไร้คำพูด

หลังจากจบมื้อเช้า พ่อกับแม่ก็ชวนพี่ลิงก์คุยเรื่องสัพเพเหระ ส่วนผมก็ออกไปรดน้ำต้นไม้ แล้วก็กวาดฝุ่นถูพื้นในบ้านต่อ

"บู้"

พี่ลิงก์เดินมาหาผมที่กำลังถูพื้นตรงทางเดินชั้นสองของบ้าน

"ลิงก์กลับแล้วนะ"

"ครับ"

พี่ลิงก์ดึงแก้มของผมเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม ก่อนน้ำเสียงทุ้มนุ่มนวลจะดังขึ้น

"เดี๋ยวลิงก์มารับก่อนเปิดเทอม"

ผมพยักหน้ารับ แล้วเขย่งตัวหอมแก้มของเขาเป็นการบอกลา พี่ลิงก์เลยก้มลงมาจูบหนักๆ ตรงริมฝีปากของผมหนึ่งทีเป็นการตอบรับ

"อยากเอาบู้กลับไปด้วย"

พี่ลิงก์บ่นออกมา ผมเลยดันหลังเขาให้ลงจากบันไดไปชั้นล่างด้วยรอยยิ้ม

พี่ลิงก์ถอนหายใจเล็กน้อย แล้วเดินไปลาพ่อกับแม่ ก่อนที่จเขาะเดินไปที่รถยนต์คันหรู

"ขับรถดีๆ นะลูก"

พ่อพูดขึ้นพร้อมกับมองพี่ลิงก์ที่พยักหน้ารับ ผมเดินไปเปิดประตูรั้ว แล้วมองทางให้อีกฝ่ายถอยรถออกมาได้สะเดวก
พี่ลิงก์บังคับรถให้เข้า

ที่เข้าทาง แล้วหันมามองผมที่ยืนอยู่ตรงกับกระจกฝั่งคนขับพอดี

"ขับรถดีๆ นะครับ ถึงแล้วบอกผมด้วย"

"ครับที่รัก"

ผมยิ้มเขินออกมาพลางมองกระจกติดฟิล์มที่เลื่อนขึ้น จนกระทั่งรถยนต์ของพี่ลิงก์ห่างออกไปจากสายตา


+++++++


ปกติเวลาปิดเทอมผมก็ไม่ได้ทำอะไรมาก หลังจากช่วยทำงานบ้านเล็กน้อย ส่วนใหญ่ก็นอนอืดอยู่ในห้องทั้งวันครับ

เวลาผ่านเลยไปไม่ช้าไม่เร็ว พอรู้ตัวอีกทีพี่ลิงก์ก็ขับรถมารับผมกลับอีกครั้ง

คราวนี้ขับออดี้มาเลยครับ กลัวไม่รู้ว่าที่บ้านรวยจริง

"สวัสดีครับคุณพ่อ คุณแม่"

พี่ลิงก์ที่ใส่ชุดลำลองแต่ยังดูดีเหมือนเดิมส่งยิ้มหวานให้พ่อกับแม่ โดยไม่ลืมนำของฝากมาสมนาคุณ

"อุ๊ย! จอดดีๆ นะลูก ระวังรถเป็นรอย"

แม่ร้องบอก ถึงจะไม่มีความรู้เรื่องรถยนต์หรู แต่ท่านก็มองออกว่า รถสปอร์ตของคนรวยเป็นยังไง

"ครับ"

วันนี้พี่ลิงก์มาช่วงบ่ายแล้ว และที่ขับรถสปอร์ตมารับ เพราะว่ากรีนยังไม่กลับไปพร้อมกัน เหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์ก่อนจะเปิดเทอมครับ

"แล้วกินอะไรมาหรือยัง"

พ่อถามขึ้น หลังจากรับกระเช้ารังนกมา พี่ลิงก์ก็ตอบกลับไปอย่างอ่อนน้อมไม่เสื่อมคลาย

"กินข้าวกลางวันมาแล้วครับ เดี๋ยวผมว่าจะพาน้องไปทะเลด้วย"

"อืม"

สัมภาระของผมก็ไม่ได้มีอะไรมาก หลังจากแม่กำชับเรื่องทั่วไปเรียบร้อย ผมกับพี่ลิงก์ก็ออกเดินทางกันต่อ

"ให้ผมขับไหม"

พี่ลิงก์เหลือบมองผม เขาเลิกคิ้วขึ้น ทว่าสายตาไม่ไว้วางใจอย่างชัดเจน

"ฮ่าๆ ผมล้อเล่น"

ถึงตอนนี้ผมจะขับรถเก่งขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าเสี่ยงกับรถราคาหลายล้านหรอกครับ

"ถ้าอยากลอง เดี๋ยวลิงก์พอไปขับเล่น"

"ไม่เอาหรอกครับ ผมกลัวทำรถเป็นรอย"

"ก็อย่าทำให้เป็นรอยสิ"

พูดง่ายแต่ทำยากนะครับ

ผมได้แต่ตอบกลับอยู่ในใจ แล้วมองวิวข้างทางที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วการเดินทางผ่านไปราวชั่วโมงกว่าๆ พวกเราก็มาถึงที่หมายครับ

ทะเล...

ผมไม่ค่อยเข้าใจนักว่า ทำไมทะเลถึงเป็นสถานที่เกี่ยวกับความรัก ไม่ว่าจะมีความสุขหรือเสียใจ ผู้คนก็มักจะมาที่นี่กัน อาจเป็นเพราะความสวยงามของเส้นขอบฟ้าหรือความเวิ้งว้างที่ชวนให้รู้สึกเปลี่ยวเหงา

"อากาศกำลังดีเลย แดดไม่ค่อยร้อนแล้ว"


พี่ลิงก์พูดขึ้นพร้อมกับเอนหลังบนเก้าอี้นอนบริเวณหาดส่วนตัวของโรงแรมที่เข้าพักในคืนนี้อย่างผ่อนคลาย

"พี่จะเล่นน้ำไหม"

"อืม จะลงแล้วเหรอ"

"ครับ"

ผมมองหาดทรายขาวสะอาดและเกลียวคลื่นด้วยรอยยิ้ม นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เล่นทะเล

"ก่อนจะลงทาครีมกันแดดก่อน"

พี่ลิงก์หันไปหยิบขวดครีมกันแดด แล้วเริ่มทาแขนทั้งสองข้างและใบหน้าให้ผม

"ผมทาเองก็ได้ครับ"

"เดี๋ยวบู้ก็ทาให้ลิงก์ด้วยไง สลับกัน"

ผมพยักหน้ารับ แล้วยิ้มมองท่าทางของพี่ลิงก์

หลังจากทิ้งเวลาให้ครีมกันแดดทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ผมก็วิ่งลงทะเลเหมือนเด็กที่กำลังตื่นเต้น แล้วก็ต้องร้องโวยวายออกมาด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ดีๆ พี่ลิงก์ก็วิ่งมาอุ้มผมจนตัวลอย เขาส่งยิ้มร้ายกาจมาให้ ก่อนจะโยนผมลงทะเล

ตู้ม!

ไอ้พี่ลิงก์!

ผมร้องตะโกนอยู่ในใจด้วยความขุ่นเคือง เพราะน้ำทะเลเข้าจมูกจนแสบไปหมด
ผมตั้งใจจะต่อว่าอีกฝ่าย ทว่าเกลียวคลื่นใหญ่ก็สาดซัดจนผมล้มลงกลืนน้ำทะเลไปอึกหลายอึก


เสียงหัวเราะชอบใจของพี่ลิงก์ ทำให้ผมคิดแผนร้ายอย่างเร่งด่วน เมื่ออีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ ผมก็ไม่รีรอที่จะพุ่งเข้าใส่เพื่อให้เขาล้มลงไปบ้าง แต่คู่ต่อสู้ของผมก็เพียงเซถอยหลังไปไม่กี่ก้าวพลางจับผมเอาไว้แน่น

"แกล้งลิงก์เหรอ เดี๋ยวเจอดีแน่"

พี่ลิงก์ว่าพร้อมกับดึงผมออกห่างจากชายหาดไปเรื่อยๆ จากท่าทีขัดขืนในตอนแรก คราวนี้ผมเริ่มเกาะตัวของเขาเอาไว้ไม่ต่างจากลูกลิง เพราะระดับน้ำที่สูงขึ้น

"เฮ้ย! พี่พอได้แล้ว"

ผมบอกด้วยน้ำเสียงตกใจ เพราะลองหย่อนขาดู ระดับน้ำก็มาถึงปลายคางแล้วครับ!

"กลัวเหรอ"

พี่ลิงก์เลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่ ผมเม้มริมฝีปากแน่นพร้อมกับกอดลำคอและเกี่ยวเอวของเขาเอาไว้ให้มั่นคงมากขึ้น

"พี่แกล้งผม"

ผมชักสีหน้าออกมา พี่ลิงก์ก็หัวเราะ แล้วเคลื่อนตัวหลบคลื่นระลอกแล้วระลอกเล่าที่โถมเข้าใส่อย่างอารมณ์ดี วงแขนที่กอดผมเอาไว้กระชับมากขึ้น

"ไม่ต้องห่วง ลิงก์ไม่ปล่อยให้บู้หลุดมือแน่นอนครับ"

ผมจ้องมองเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลาที่อาบไล้แสงอาทิตย์อ่อนจางด้วยหัวใจที่เต้นระรัว แล้วเอียงใบหน้าเพื่อกดจูบริมฝีปากที่อยู่ห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตรตรงหน้าอย่างอ่อนหวาน ทว่าความรู้สึกลึกล้ำที่กำลังส่งมอบให้กันก็ถูกขัดจังหวะด้วยน้ำทะเลชุดหนึ่งจนต้องยุติความหวั่นไหวครั้งนี้ไว้

"ทั้งที่อยู่ในทะเล แต่บุ้ก็ยังหวานเหมือนเดิมเลย"
นัยน์ตาสีดำจ้องมองจนผมเขินไม่กล้าสบตาด้วย ทำได้เพียงซบหน้าลงกับซอกคอสูดกลิ่นอายที่เจือไอเค็มเบาบางเอาไว้

"ไปนั่งเล่นกัน"

"ครับ"


+++++++


เกลียวคลื่นยังคงพัดเข้ามากระทบหาดทรายเป็นฟองไม่หยุดนิ่ง เราสองคนนั่งอยู่บนหาดทรายเหยียดขามองเส้นขอบฟ้าที่กำลังเปลี่ยนสี

"พระอาทิตย์จะตกแล้ว"

พี่ลิงก์พูดขึ้นพร้อมกับเอียงหน้าซบไหล่ของผม ผมเลื่อนสายตาลงมองเล็กน้อย แล้วหันกลับไปมองภาพธรรมชาติที่งดงามตรงหน้า

ทั้งที่มีเพียงท้องฟ้าสีส้มเข้ม ผืนน้ำกว้างไร้ขอบเขต และระลอกคลื่นที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาไม่ต่างจากวิวทะเลทั่วไป แต่ทัศนียภาพนี้กลับดูงดงามอย่างที่ตาดไม่ถึงมาก่อน

"ขอบตุณที่พาผมมานะครับ"

ผมก้มลงมองคนที่ยังนั่งซบไหล่ของผมอยู่ ทั้งที่ตลอดช่างปิดเทอม พี่ลิงก์ต้องทำงายที่บริษัทแทบไม่ได้หยุดพัก แต่เมื่อผมบอกว่าอยากไปทะเล เขาก็พามา

"งั้นก็ให้รางวัลลิงก์ด้วยนะ"

ผมเลิกคิ้วขึ้น พี่ลิงก์ยกยิ้มมุมปาก แล้วใช้มือรั้งใบหน้าของผมให้กดลงแนบริมฝีปากของเขา กลีบปากบดเบียดอย่างเชื่องช้า เรียวลิ้นอ่อนนุ่มคลอเคลียกันและกันอย่างอ่อนหวาน

"อื้ม"

เสียงครางแผ่วเบาดังแทรกเสียงคลื่นที่รายล้อม ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังลาลับ


+++++++


หลังจากผมกับพี่ลิงก์อาบน้ำด้วยกันเสร็จ เราสองคนก็ไปกินมื้อเย็นง่ายๆ ที่ร้านอาหารไม่ไกลจากโรงแรมที่พักครับ

ทะเลกว้างกลายเป็นสีดำมืด สายลมกลางคืนพัดโชยไปด้วยกลิ่นเกลือจนเหนียวตัว ผมกับพี่ลิงก์เดินเล่นชมวิวกันสักพักก็ชวนกันกลับห้องพัก
อาจเป็นเพราะความรู้สึกอ่อนไหวและอารมณ์ปรารถนา รวมไปถึงบรรยากาศที่กล่อมเกลาความต้องการที่อยู่เบื้องลึกในใจ เมื่อกล้บเข้ามาในห้อง พี่ลิงก์ก็ดึงผมเข้าไปจูบพร้อมกับปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเราสองตนด้วยความรวดเร็ว

ริมผีปากกลืนกินกันอย่างหิวกระหาย ลมหายใจร้อนกระชั้นถี่ตามแรงสัมผัสที่ได้รับ ฝ่ามือปัดป่ายและบีบเฟ้นร่างกายของกันและกันด้วยความหลงใหล

ผมถูกพาไปที่เตียงกว้าง ยังไม่ทันให้ตั้งสติ สัมผัสร้อนแรงก็มอมเมาควาานึกคิดไปจนหมด การรับรู้มีเพียงความเสียวซ่านวูบไหวและร่างกายที่กอดรัดเขาเอาไว้ไม่ห่าง

"อื้อ! พี่ลิงก์!"

ผมขย้ำเส้นผมของคนที่กำลังซุกไซ้และดูดเม้มลำคอของผมอย่างมีอารมณ์ กลิ่นอายเร่าร้อนโอบล้อมจนหัวใจเต้นโตรมคราม

"อ๊ะ! อ่า!"

พี่ลิงก์เลื่อนใบหน้าลงต่่ำแล้วขบเลียหัวนมของผมทั้งสองข้างจนต้องแอ่นรับด้วยความเสียวที่แทบทนไม่ไหว ทางที่ริมฝีปากร้อนลากผ่านฝากร่องรอยลงไปถึงหน้าท้องนิ่มที่หดเกร็ง

พี่ลิงก์วนลิ้นเลียสะดือของผมเล่น แล้วขยับขึ้นมาจู่โจมริมฝีปากของผมจนสำลักความสุข น้ำลายของพวกเราเปรอะเเปื้อนไหลเป็นทางอย่างไม่มีใครสนใจ

ผมปรือตามองคนที่กำลังทาบทับ ทั้งที่ยังตกอยู่ในบ่วงของจูบที่เร่าร้อน พี่ลิวก์หลับตาพริ้มตักตวงและช่วงชิงลมหายใจของผมอย่างตั้งอกตี้งใจ และเมื่อผมเกือบจะขาดใจ เขาก็ถอยห่างเพียงชั่วครู่ แล้วกลับมาจูบอย่างกระตือรือร้นอีกครั้ง ทำวนเวียนจนจิตใจของผมล่องลอย

ความรู้สึกสั่งการร่างกายให้ตอบสนองทุกการกระทำของพี่ลิงก์อย่างเชื่อฟัง ผมได้แต่ร้องครวญครางด้วยความทรมานที่หวานล้ำจนเสียงแหบแห้ง ร้องเรียกชื่อของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

"อ่า...อื้อ! พี่ลิงก์!"

พี่ลิงก์ดันส่วนกลางลำตัวเข้ามาในร่างกายของผม ใบหน้าหล่อแต้มสีแดงระเรื่อเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ นัยน์ตาสีดำสว่างราวกับน้กล่าในยามค่ำคืน

แรงสอดใส่เตลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าในทีแรก ก่อนจะรวดเร็วและรุนแรงกระแทกย้ำจุดกระสันจนน้ำตาของผมไหลพรากด้วยอารมณ์ที่อัดแน่น

เสียงคราวต่ำของพี่ลิงก์ดังตามจังหวะที่ตัวเองชักนำ ร่างกายของผมสั่นคลอนไปมา ความใคร่ที่ผสมผสานกับความรักเหนี่ยวรั้งความปรารถนาให้อัดแน่นจนอยากจะระเบิดออก ทว่าห้วงอารมณ์ที่แสนรัญจวนใจกลับต้องหยุดชะงักเพราะพี่ลิงก์ดันหยุดเคลื่อนไหวกะทันหัน

"พะ...พี่ลิงก์"

ผมหอบหายใจแรงพลางมองพี่ลิงก์ด้วยความต้องการ เขาวาดยิ้มสวย แล้วจับผมเปลี่ยนให้นั่งตักหันหน้าเข้าหากัน ส่วนที่เชื่อมต่อกดลึกจนผมต้องร้องด้วยความเสียวซ่าน ใบหน้าหล่อซุกซบไหล่ของผมพร้อมกับเสียงทุ้มพร่าแสนเซ็กซี่

"...บลู"

หัวใจขอบผมเต้นกระหน่ำ ลมหายใจร้อนและปลายจมูกของพี่ลิงก์ลูยไล้จากซอกคอจนถึงใบหู ผมกอดตอของเขาเป็นที่ยึด ก่อนจะยกตัวบดเบียดสะเโพกเข้าใส่ ขย่มไปตามแรงปรารถนาเพื่อระบายอารมณ์ที่ตดค้างให้เดินหน้าต่อ

ความเร่าร้อนลุ่มหลงโหมพัดอย่างบ้าคลั่ง เมื่อคนที่อยู่ด้านล่างสวนแท่งเนื้อแกร่งขึ้นเร่งจังหวะและความหนักหน่วง เม็ดเหงื่อของผมไหลซึมและร่วงหล่นเป็นหยดน้ำ แต่ไม่อาจดับไฟที่กำลังหลอมละลายความรู้สึกในตอนนี้ได้

เพียงไม่นานความต้องการของผมก็ได้รับอิสระ ของเหลวฉีดพุ่งปะทะกล้ามท้องสวยของพี่ลิงก์อย่างสุขสม

"อืม บู้เสร็จก่อนอีกแล้ว"

พี่ลิงก์พูดเสียงเบา แล้วกดท้ายทอยของผมเพื่อรับจูบกระชากวิญญาณพลางด้นร่างกายของผมให้นอนลงรับการกระแทกกนะทั้นต่อ
ทั้งที่หมดเรี่ยวแรงและอารมณ์ได้รับการปลดปล่อยไปแล้ว แต่การเล้าโลมที่สั่นสะเทือนหัวใจกลับปลุกปั่นความปรารถนาได้อย่างง่ายดายอีกครั้ง

พี่ลิงก์ถาโถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นชัดเจน จนกระทั่งเราสองคนพาแรงอารมณ์มาถึงปลายทางไปพร้อมกัน

พี่ลิงก์นอนทับผมเอาไว้ทั้งตัว ลมหายใจร้อนพัดผ่านข้างแก้ม ผมขยับตัวเล็กน้อย เมื่อยังรับรู้ได้ถึงของเหลวชื้นแฉะและความคับแน่นตรงช่องทางด้านหลัง เพราะเราสองคนยังประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน

"อื้อ พอแล้วนะครับ"

ผมร้องบอก หลังจากรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของแท่งเนื้อที่ยังฝังเยู่ในร่างกายและจูบเล้าโลมที่แสนหวาน ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของบทรักครั้งใหม่

"อืม งั้นไปล้างตัวก่อน จะได้สบายตัว"

พี่ลิงก์ถอนตัวออกมา ความรู้สึกวูบโหวงเกิดขึ้นชั่วอึดใจ ก่อนที่ผมจะยกแขนทั้งสองข้างขึ้นสูงอย่างไร้เรี่ยวแรง

พี่ลิงก์ยกยิ้มพร้อมกับอุ้มผมอย่างอ่อนโยนเข้าไปในห้องน้ำ ทว่าหลังจากวางผมลงในอ่างอาบน้ำ หน้ากากเทพบุตรก็แตกกระจายกลายเป็นปิศาจร้ายที่กลืนกินผมอย่างร้อนแรงอีกครั้ง


+++++++


ผมกับพี่ลิงก์นอนหลับเพลินจนเลยเวลาอาหารเช้าของทางโรงแรม เพราะกิจกรรมสุดหฤหรรษ์เมื่อคืนนี้ ผมก็หมดแรงไม่อยากจะลุกไปไหนต่างจากอีกฝ่ายที่ร่าเริงแจ่มใส แถมตื่นมาแล้วก็ยังนัวเนีย กลั่นแกล้งและย่ำยีความรู้สึกของผมให้เคลิบเคลิ้มปนเสียวซ่านจนเสียพลังงานไปอีกรอบ

"บู้ไหวไหม"

พี่ลิงก์กอดเอวของผมเอาไว้ หลังจากที่เราสองคนอาบน้ำด้วยกันเสร็จ

"อยากนอน"

ผมบ่นออกมาอย่างอ่อนเพลีย ตอนนี้รู้สึกร่างกายอ่อนปวกเปียกจนแทบยืนไม่อยู่ครับ

หลังจากแต่งตัวเสร็จ ผมก็นั่งง่อยมองพี่ลิงก์จัดเก็บของด้วยสายตาสะลืมสะเลอ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เขาก็หันมาเรียก

"บู้ครับ"

ผมมองคนตรงหน้าที่ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกัน พี่ลิงก์อมยิ้มออกมาพลางลูบหัวของผมเบาๆ

"ขี่หลังลิงก์ไปไหม"

ผมนึกลังเล แต่เมื่อเห็นสายตาห่วงใยของเขาและความเหนื่อยล้าของตัวเองเลยพยักหน้ารับแต่โดยดีครับ

พี่ลิงก์เรียกพนักงานของโรงแรมให้ขึ้นมาจัดการสัมภาระไปไว้ที่รถ แล้วเดินไปเช็กเอาท์ที่ล็อบบี้ โดยที่มีผมกอดคอขี่หลังนอนหลับตาซบตรงไหล่กว้างอย่างไม่สนใจใคร





TBC+++++++

Marionetta
ตอนนี้เหมือนพาพี่ลิงก์กับบู้มาฮันนีมูน  อิอิ ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้ค่ะ
เจอกันตอนหน้า ตอนจบแล้วจ้า

หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 34 > 24-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: goosongta ที่ 24-03-2020 20:30:24
หวานและร้อนแรง
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 34 > 24-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 24-03-2020 23:26:50
หมดแรงเลยใช่ป่ะ???
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 34 > 24-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 26-03-2020 20:31:40
 :L1: :pig4:

ทะเลหวานนนนน
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 34 > 24-03-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 01-04-2020 18:41:24
Level 35: คำสัญญา



หลังจากกินอาหารกลางวันกับพี่ลิงก์ที่โรงอาหารของคณะบริหารเสร็จ ผมที่มีเรียนแค่ตอนช้าก็ว่างแล้วครับ ตอนนี้ก็ได้แต่รอเวลาเพื่อที่จะได้กลับพร้อมกันในตอนเย็น

ผมกวาดตามองรอบตัว เมื่อก่อนผมก็มักจะมาที่นี่เพื่อถ่ายรูปของพี่ลิงก์เป็นประจำ พอนึกย้อนกลับไปก็รู้สึกตลกกับความบ้าบอของตัวเองเหมือนกันครับ

เนื่องจากไม่อยากไปไหนไกล ผมเลยตัดสินใจไปนั่งฆ่าเวลาที่ร้านกาแฟดังในบริเวณนั้น ถึงแม้ราคาของกาแฟแต่ละแก้วจะไม่ต่ำกว่าหลักร้อย แต่ที่นี่ก็ยังได้รับความนิยมสม่ำเสมอ ผมสั่งโกโก้เย็นมาแก้วหนึ่ง แล้วหาที่นั่งรอบตัว

"พี่บลู"

เสียงเรียกที่ดังขึ้นไม่ห่าง ทำให้ผมต้องหันไปมอง แล้วก็เห็นหลานรหัสที่ไม่ได้ติดต่อมาคลอดปิดเทอมจนถึงตอนนี้

"อ้าว"

ผมส่งยิ้มให้ ถึงแม้ในใจจะรู้สึกแตกต่างจากที่ผ่านมาก็ตาม ซียกมือไหว้พร้อมกับส่งยิ้มมาให้อย่างสุภาพ

"ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้"

ผมถามอย่างสงสัย คณะบริหารและคณะวิทยาศาสตร์ไม่ได้อยู่ใกล้กันเลยสักนิด ซึเดินนำผมไปยังโต๊ะของเขาที่มีของวางอยู่

"พอดีเมื่อเช้าถูกยกเลิกคลาส แล้วเย็นนี้จะมีประชุม ผมก็เลยมานั่งรอเวลาที่นี่ คือ...ผมเป็นแฟนคลับกาแฟเจ้านี้"

"อ้อ"

ผมพยักหน้ารับแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้าม เมื่อเห็นคนตรงหน้าไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมนัก ผมก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น

"อืม พี่ก็มานั่งฆ่าเวลาเหมือนกัน"

"มารอพี่ลิงก์ใช่ไหมครับ"

"อืม"

เสียงเพลงเบาสบายดังขับกล่อมบรรยากาศ ผมดูดโกโก้ของตัวเองไปเรื่อยพลางเลื่อนปลายนิ้วบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ แล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้น เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่มองมา

ผมเลิกคิ้วขึ้นเป็นคำถาม ซึก็นั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าและแววตาก็จริงจังขึ้น

"ผมมีเรื่องจะสารภาพ"

"อะไรเหรอ"

"ผมชอบพี่ครับ"

ผมกะพริบตาทีหนึ่ง แล้วพยักหน้ารับช้าๆ เรื่องนี้ผมรู้แล้ว ก็อีกฝ่ายบอกความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

"ที่ผ่านมาถ้าผมทำให้พี่เดือดร้อนหรือรำคาญใจ ก็ขอโทษด้วยครับ ผมก็แค่อยากคุยกับพี่เฉยๆ ไม่ได้หวังอะไรไปมากกว่านั้น"

"อ่า...ไม่เป็นไร"

"ผมชอบพี่ตั้งแต่อยู่มอสี่แล้ว แต่ไอ้กรีนหวงพี่มาก ใครที่เข้าใกล้พี่ มันก็กันท่าไปทั่ว แล้วพี่ก็เหมือนชอบอยู่คนเดียวไม่อยากยุ่งกับใคร แถมผมก็เป็นผู้ชายด้วย ผมก็เลยแอบมองพี่มาตลอดเลย"

ผมรู้สึกเขินนิดหน่อย ยิ่งมาเห็นใบหน้าขึ้นสีเลือดฝาดของซี ผมก็ปั้นหน้าไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าวันนี้จะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนี้ก็ได้แต่รับฟังความรู้สึกของอีกฝ่ายเงียบๆ ครับ

"ที่ผมมาเรียนที่นี่ แล้วก็เลือกคณะนี้ ก็เพราะอยากเจอพี่อีกครั้ง พอรู้ว่าได้เป็นสายรหัสเดียวกัน ผมก็เลยคิดว่า...บางทีผมอาจจะมีหวัง"

นี่ผมทำลายความหวังของคนอื่นแบบไม่รู้ตัวเหรอ...

"ขอโทษนะ"

"ผมโอเคครับ ตั้งแต่ที่รู้ว่าพี่มีแฟนแล้ว แถมยังเป็นผู้ชายด้วย ผมทั้งดีใจทั้งเสียใจเลย ทุกวันนี้ก็ยังเจ็บใจที่น่าจะจีบพี่ตั้งแต่ตอนนั้น"

ผมถอนหายใจออกมา ถึงแม้ซีจะเล่าความในใจอย่างลื่นไหล แต่สีหน้าของเขากลับซึมเศร้าลงเรื่อยๆ รอยยิ้มที่ฝืนส่งมาให้ก็น่าสงสารจนผมรู้สึกหน่วงในใจ

"ผมไม่ได้แช่งนะ แต่ถ้า...พี่เลิกกับเขาแล้ว คนต่อไปที่พี่จะคบด้วย ช่วยมองผมเป็นคนแรกได้ไหมครับ"

น้ำเสียงทุ้มเว้าวอน ทว่าแววตามั่นคง ทำให้ผมต้องเกร็งตัวขึ้นพลางดูดเครื่องดื่มของตัวเองอย่างครุ่นคิด โกโก้เย็นจืดชีดจนไร้รสชาติ

"พี่ขอบคุณความรู้สึกที่ซีมีให้นะ แค่ซีก็ควรเปิดใจ อย่ารอพี่เลย"

ผมไม่ได้ใจร้ายไปใช่ไหมครับ

"ผมไม่ได้รอพี่หรอกครับ เพราะผมก็ไม่ได้หวังอะไรเท่าไหร่อยู่แล้ว ก็แค่...ถ้าพี่ต้องการรักครั้งใหม่จากใครสักคน ผมก็พร้อมเสมอครับ"

ซีส่งยิ้มมาให้อีกครั้งพร้อมกับสายตาแน่วแน่ ถึงแม้จะรู้สึกแปลกกับคำพูดนั้น แต่ผมก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

"เอาเป็นว่า...พี่บลูเป็นลุงรหัสของผมเหมือนเดิมก็พอครับ"

"อืม"


+++++++++


"พรุ่งนี้จะพาบู้ไปที่บ้านนะ"

"ฮะ?!"

ผมหันไปมองพี่ลิงก์์ด้วยความตกใจ แต่อีกฝ่ายกลับนั่งกินไอศกรีมอย่างสบายอารมณ์

"ไปที่บ้าน?"

ผมย้อนถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ พี่ลิงก์ก็พยักหน้ารับพลางกระดกช้อนที่กำลังงับอยู่เล่นเป็นคำตอบ

"ไปทำไมครับ"

"พ่อกับป๊าอยากเจอ"

ผมขมวดคิ้วอย่างเป็นกังวล แล้วอ้าปากรับไอศกรีมที่พี่ลิงก์ป้อนให้อย่างใช้ความคิด ในเมื่อเขาไปแนะนำตัวเองที่บ้านของผมแล้ว ตอนนี้ก็คงถึงคราวของผมบ้าง

"ไม่มีอะไรหรอก แค่ไปกินข้าวเย็น"

"อ่า...ตรับ"

ถึงจะตอบรับไปแบบนั้น แต่ผมก็รู้ดีว่า ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย
ครอบครัวของพี่ลิงก์เป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงครับ ถึงทั้งพ่อและป๊าของเขาจะไม่ได้ออกสื่อสังคมเท่าไหร่นัก ในฐานะที่เป็นเจ้าของบริษัทหลายแห่งก็สามารถการันตีความรวยจริงของพวกเขาได้ แน่นอนว่าสังคมผู้มีอันจะกินไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้าผมทำตัวไก่กาไม่รู้เรื่องรู้ราว สร้างประโยชน็ให้ลูกชายของพวกเขาไม่ได้ มีหวังโดนเหยียบย่ำเละเป็นซากแน่เลยครับ
"บู้น่ารัก พ่อกับป๊าต้องชอบแน่"

พี่ลิงก์ให้กำลังใจ แล้วป้อนไอศกรีมให้ผมอีกครั้ง ผมพยักหน้ารับ ทั้งที่คิ้วขมวดเข้าหากันมากกว่าเดิม


++++++


ผมมองสำรวจตัวเองในกระจกเงาเพื่อเช็กความเรียบร้อย วันนี้ผมกำลังจะไปบ้านของพี่ลิงก์เพื่อเจอพ่อกับป๊าของเขาแล้วครับ

เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่นุ่งทับในกางเกงขายาวสีดำพร้อมกับคาดเข็มขัดเรียบร้อย

อืม...เหมือนกำลังจะไปสมัครงานเลยว่ะ

"อืม เรียบร้อยดี"

พี่ลิงก์เดินวนพิจารณาผมรอบหนึ่ง ผมได้ยินเขาแอบหัวเราะด้วย แต่พอหันไปมอง อีกฝ่ายก็รีบเดินหนีไปอีกทางเสียก่อน

"ไปกันเถอะ"

ผมลอบถอนหายใจออกมา แล้วเดินไปหยิบถุงแอ๊ปเปิ้ลตามคนตรงหน้าออกจากห้อง

ระยะทางระหว่างคอนโดมิเนียมและบ้านของพี่ลิงก์ไกลพอสมควรครับ ทั้งที่เบาะนุ่มสบายและแอร์เย็นฉ่ำ ผมกลับลุกลี้ลุกลนและเหงื่อออกจนเกร็งไปหมด

"ตอนลิงก์ไปที่บ้านบู้ยังไม่เป็นขนาดนี้เลย"

"ไม่เหมือนกันนี่ครับ"

พี่ลิงก์เลิกคิ้วมอง ผมก็ถอนหายใจออกมา แล้วบอกเสียงเบา

"ก็พี่ดูดีกว่าผมตั้งเยอะ"

"พ่อกับป๊าไม่ได้สนเรื่องแบบนั้นหรอก"

ผมหันไปมอง แล้วพยักหน้ารับด้วยความกังวลไม่เสื่อมคลาย พอมองการแต่งกายของพี่ลิงก์ที่ใส่แค่เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ ผมก็เหมือนจะแต่งตัวเกินหน้าเกินตาไปเยอะเลยครับ

"พี่ว่า...ผมโอเคใช่ไหมครับ"

ผมถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ พี่ลิงก์หันมามองผมอีกครั้ง ก่อนจะดึงแก้มของผมเต็มแรงจนต้องร้องออกมา

"โอ๊ย! ปล่อย! ผมเจ็บ!"

"เลิกคิดมากได้แล้ว"

"แต่ว่า..."

"บู้โอเคที่สุดเลย"


++++++++


พวกเราใช้เวลาพอสมควรกว่าจะถึงที่หมาย เมื่อโฟล์ก บีเทิลสีดำจอดในโรงจอดรถเรียบร้อย ผมก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อกวาดตามองโดยรอบ

รถสปอร์ตจอดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ความหรูหราสวยงามเจิดจรัสจนผมไม่กล้าแตะต้อง โฟล์ก บีเทิลที่ดูโดดเด่นกลับไร้ราคาขึ้นมาทันทีเลยตรับ

"ของป๊า"

พี่ลิงก์บอกด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย ก่อนจะเดินนำผมไปยังบ้านหลังขนาดกลางที่เงียบสงบ ผมหันซ้ายหันขวาอย่างตื่นเต้น

"มีน้ำตกจำลองด้วย"

เส้นทางที่กำลังเดินอยู่ปูด้วยหินกรวดเป็นลวดลายตัดกับสนามหญ้าสีเขียวสด ด้านข้างมีศาลาไม้ขนาดเล็กและน้ำตกจำลองที่ทำให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในธรรมชาติ

"ของพ่อ"

พี่ลิงก์ยังพูดต่ออย่างไม่ใส่ใจ เขาเปิดประตูกระจกเข้าไปด้านในของบ้าน

"เปลี่ยนรองเท้าด้วย"

"ครับ"

ในขณะที่ผมกำลังเปลี่ยนใส่สลิปเปอร์อยู่นั้น เสียงของใครคนหนึ่งก็ทำให้ผมเกร็งจนต้องยืนตรงด้วยความตกใจ

"รถติดเหรอ ป๊าคิดว่าลิงก์จะมาถึงเร็วกว่านี้"

"รถติด"

ผมพยายามตั้งสติ และเมื่อได้ประสานสายตากับป๊าของพี่ลิงก์ ผมก็รีบยกมือไหว้ด้วยท่าทีแข็งทื่อ

ผมนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ถึงจะเข้าช่วงวัยกลางคนและเป็นถึงประธานบริษัทที่ชวนให้หวั่นเกรง แต่บุคคลตรงหน้ากลับเหมือนดาราหน้าใสที่อ่อนกว่าวัยไปเป็นสิบปี แถมยังหน้าตาดี ผิวขาว ตัวสูงจนเหมือนพี่ชายมากกว่าจะเป็นป๊าอีกครับ

"คนนี้เอง ตอนนั้นเห็นแวบๆ"

ผมกะพริบตาปริบๆ แล้วส่งยิ้มแหยออกมา เมื่อได้รับรอยยิ้มเอ็นดู

"บลูใช่ไหม ลิงก์เล่าให้ฟังนานแล้ว ไม่ต้องเกร็งนะ ตามสบาย"

"...ครับ"

ป๊าพยักหน้ารับ แล้วหันไปสนใจพี่ลิงก์ที่กำลังมองผมด้วยรอยยิ้มอยู่

"วันนี้พ่อจะให้ลิงก์มาเลือกตุ๊กตาพอดี เต็มห้องไปหมด จะเอาไปบริจาค"

พี่ลิงก์ชักสีหน้าออกมา เขาเดินตามป๊าพร้อมกับน้ำเสียงขุ่นเคือง

"จะเอากี่ตัว"

"ก็เอาให้มากที่สุด ลิงก์ก็เลือกมาแล้วกัน"

"ไม่อยากให้สักตัว"

พี่ลิงก์บ่นงึมงำ ผมก็ได้แต่เดินตามไปเรื่อยพร้อมกับถุงแอ๊ปเปิ้ลในมือ ก่อนจะชะงักฝีเท้า เมื่ออยู่ดีๆ ป๊าก็หันกลับมามอง

"บลูเอาแอ๊ปเปิ้ลไปวางไว้ที่โต๊ะเลย อยู่ทางนั้น"

"ครับ"

ผมรีบเดินไปทางที่ป๊าบอกพลางลอบมองบริเวณโดยรอบไปด้วย ทั้งที่เป็นบ้านของผู้บริหารใหญ่ แต่กลับไม่มีคนรับใช้อย่างที่คิดเอาไว้เลยสักคนครับ

ผมเดินมาถึงโต๊ะ แล้วมองเลยเข้าไปด้านในที่เป็นห้องครัว ผมตั้งใจจะไปล้างและปอกแอ๊ปเปิ้ล ทว่าก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายหน้าตาดีอีกแล้ว!

ผมอ้าปากค้างเงยหน้ามองบุคคลตรงหน้าที่มีสีหน้าเรียบนิ่ง นัยน์ตาคมที่จ้องมองผมแบบไร้คำพูด ทำให้บรรยากาศแตกต่างจากป๊าลิบลับ ผมรีบยกมือไหว้แบบเก้ๆ กังๆ

"สวัสดีครับ"

"อืม แฟนลิงก์ใช่ไหม"

"ครับ"

ในขณะที่ผมกำลังยืนทำอะไรไม่ถูก เสียงของพี่ลิงก์ก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้สายตาที่กำลังพิจารณาผมเลื่อนไปมองเขาแทน ผมลอบถอนหายใจออกมา

"พ่อจะเอาตุ๊กตาของลิงก์ไปให้คนอื่นอีกแล้วเหรอ"

"ถ้าจะซื้อใหม่ก็ต้องเอาของเก่าออกไป"

น้ำเสียงราบเรียบดังขึ้น พี่ลิงก์ก็ถอนหายใจออกมา

"ถ้าไม่ซื้อแล้วล่ะ"

พ่อมีท่าทางแปลกใจ พี่ลิงก์ที่เคยตัวโตดูเล็กลงในทันทีเลยครับ ใบหน้าหล่อบึ้งตึงเล็กน้อย

"รอบนี้ลิงก์จะให้แค่รอบสุดท้ายนะ พ่อห้ามเอาตุ๊กตาของลิงก์ไปอีก"

"อืม ถ้าไม่ได้ซื้ออีก"

"แหม...เดี๋ยวนี้มีแฟนให้กอดก็ไม่เอาตุ๊กตาแล้วเหรอ"

เสียงของป๊าดังขึ้น พี่ลิงก์ก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร อีกฝ่ายก็หัวเราะชอบใจ เอานิ้วจิ้มแก้มของลูกชายเล่นแกมหยอก ผมลอบมองท่าทีนั้นแล้วคิดในใจ

การที่พี่ลิงก์ชอบแกล้งผม อาจเป็นเพราะเขาถูกป๊าแกล้งบ่อยๆ จนเก็บกดหรือเปล่า?



++++++++


"พ่อปอกแอ๊ปเปิ้ลแบบนี้ได้ไง ต้องเป็นกระต่ายสิ จะได้น่ากิน"

ป๊าพูดขึ้น เมื่อมองพ่อที่กำลังปอกแอ๊ปเปิ้ลใส่จาน พี่ลิงก์ไม่ได้มีท่าทีใส่ใจ เขานอนเหยียดขาเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนโซฟาข้างผมครับ

"เรื่องมาก"

พ่อว่า แต่ก็ยอมใช้มีดแต่งแอ๊ปเปิ้ลเป็นกระต่าย ป๊ายิ้มรับ แล้วหยิบผลไม้ในรูปแบบที่ต้องการมากินอย่างสบายอารมณ์

"ให้ผมนั่งเฉยแบบนี้จะดีเหรอ"

"อืม แล้วอยากทำอะไนล่ะ"

"ก็ไม่รู้สิครับ"

ืทั้งพ่อและป๊าไม่ได้พูดคุยอะไรกับผมนัก นอกจากทักทายในตอนแรก ทั้งสองคนก็ให้ผมไปนั่งเล่นตามสบาย บางทีพวกเขาอาจจะสืบประวัติของผมมาหมดแล้วก็ได้!

"ตอนแรกผมคิดว่า ที่นี่จะมีคนรับใช้เหมือนในละคร"

ผมนั่งเล่นมาสักพักแล้วครับ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะมีผู้อยู่อาศัยแค่สี่คนเท่านั้น

"พ่อไม่ชอบให้คนมาเดินวุ่นวายในบ้านน่ะ แต่ป๊าก็ให้แม่บ้านกับคนสวนจากบ้านใหญ่มาดูแลเป็นประจำแบบไม่ค้างคืน"

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะแอบสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเสียงของพ่อดังมาจากด้านหลัง

"เย็นนี้บลูอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม"

"เอ่อ...ผมกินได้หมดเลยครับ"

"กินสุกี้ก็ได้ ง่ายดี"

พี่ลิงก์พูดขึ้น พ่อไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร นอกจากน้ำเสียงเฉยชา

"อาหารมักง่าย"

"อย่ามาดููถูกสุกี้นะ มันคืออาหารของครอบครัว อาหารแห่งความอบอุ่น"

ป๊าแย้งขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ พ่อก็ทำหน้าเบื่อหน่าย แต่เผลอแป๊บเดียว ก็ยกหม้อสุกี้และวัตถุดิบพร้อมสรรพมาวางไว้บนโต๊ะเหมือนเตรียมไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ

อ่า...


ผมไม่รอช้า รีบลุกขึ้นกระวีกระวาดไปช่วยเตรียมของอย่างอื่นทันที


+++++++++


หลังจากได้พูดคุยระหว่างมื้ออาหาร ผมก็ปรับตัวได้เป็นปกติ แล้วมองพ่อกับป๊าที่ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันด้วยรอยยิ้ม ไม่คิดว่าครอบครัวที่มีแต่ผู้ชายแบบนี้ก็ให้บรรยากาศอบอุ่นและอ่อนโยนได้เหมือนกันครับ

ผมอาสาเก็บล้างทั้งหมด ส่วนพี่ลิงก์ก็ไปเลือกตุ๊กตาเพื่อจะนำไปบริจาค

"เสร็จแล้วเหรอ"

ป๊าพูดขึ้น ตอนที่ผมเพิ่งเดินออกมาจากห้องครัว

"ครับ มีอะไรให้ผมช่วยอีกไหมครับ"

"งั้นก็ช่วยดูแลลิงก์ด้วย ลูกชายป๊าเลี้ยงยากหน่อย แต่่ก็เป็นคนดี ป๊ารับรองได้"

ผมนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย แต่เมื่อได้สบสายตาอ่อนโยนปละรอยยิ้มอบอุ่น ผมก็ยิ้มออกมา

"ครับ ผมจะดูแลพี่ลิงก์ให้ดีที่สุดเลยครับ"


++++++++


ผมนั่งฟังป๊าเล่าเรื่องสมัยเด็กของพี่ลิงก์มาสักพักหนึ่ง ก่อนคนที่ถูกนินทาจะมาลากผมขึ้นห้องนอนของเขาครับ


"เลือกของเสร็จแล้วหรือครับ"

"อืม"

พี่ลิงก์ทำหน้างอพร้อมกับดึงผมเข้าไปนั่งด้วยกันบนเตียงหลังใหญ่

"เมื่อกี้นินทาลิงก์กันสนุกเลยสิ"

ผมแค่ยิ้มรับ ก่อนจะถูกพี่ลิงก์กัดแก้มจนต้องร้องโวยวายออกมา เขาถึงจะพอใจ

"ป๊าเอารูปพี่ตอนเด็กมาให้ดูด้วย น่ารัก"

"แล้วตอนนี้ล่ะ"

พี่ลิงก์หันมาสบตากับผม นัยน์ตาสีดำมีประกายไม่น่าไว้วางใจชัดเจน

"ก็..."

ผมรู้สึกว่าตอบแบบไหน ก็ไม่ปลอดภัยครับ ฮือ...

"ว่าไงครับ"

"...น่ากลัว"

หลังจากได้ฟังคำตอบ พี่ลิงก์ก็ผลักผมให้ล้มไปนอนบนเตียงทันที ก่อนที่เขาจะทาบทับ แล้วจูบจนผมตัวอ่อนไปหมด เสียงหอบหายใจดังขึ้น เมื่อเขาปล่อยริมฝีปากของผมให้เป็นอิสระ

"มันเขี้ยว"

พี่ลิงก์ดึงผมไปนอนกอดจนเต็มวงแขน ผมได้แต่ปรับลมหายใจของตัวเอง แล้วซบลงที่หน้าอกฟังเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะด้วยใบหน้าที่ร้อนผ่าว

"ลิงก์มีความลับจะบอก"

น้ำเสียงทุ้มที่ดังขึ้น ทำให้ผมต้องเลื่อนสายตาขึ้นมอง พี่ลิงก์คลายอ้อมแขนออก แล้วยกมือเท้าหัวนอนตะแคงมองผมแทน มือของเขาข้างหนึ่งลูบหัวของผมเล่นเบาๆ

"อะไรหรือครับ"

"ทั้งที่พ่อกับป๊าไม่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกับลิงก์เลย แต่พวกเขาก็รักและดูแลลิงก์ดีมาก แต่ก็ยังรู้สึกไม่มีอะไรที่เป็นของตัวเองสักอย่าง เหมือนยืนอยู่ในที่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง"

ผมกะพริบตาทีหนึ่งพร้อมกับตั้งใจฟังความในใจของพี่ลิงก์ เขาอมยิ้มออกมา สายตาเจ้าเล่ห์ก่อนหน้านี้หงอยเหงาขึ้น

เรื่องของพี่ลิงก์ที่ถูกรับเลี้ยงจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ผมเพิ่งจะมารู้เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนเองครับ เพราะเขาเล่าถึงแรงกดดันจากการทำงานที่บริษัท ซึ่งญาติคนละสายเลือดบางคนไม่ยอมรับ

"เพราะพี่รู้สึกเหงา ถึงได้ชอบตุ๊กตาหรือครับ"

ว่ากันว่า...คนที่ชอบตุ๊กตามักเป็นคนขี้เหงา

"อาจจะเป็นอย่างนั้นมั้ง"

พี่ลิงก์ยิ้มบาง มือของเขาเลื่อนมาลูบแก้มของผมแผ่วเบา

"แต่ตอนนี้ไม่รู้สึกอย่างนั้นแล้ว เพราะมีบู้ที่อยู่ด้วยกัน"

ผมยิ้มออกมา แล้วมองนิ้วก้อยของพี่ลิงก์ที่ยื่นมาตรงหน้า

"สัญญากัน ไม่ว่ายังไงเราก็เห้ามเลิกรักกันนะครับ"

ผมยิ้มกว้างมากกว่าเดิมกับท่าทางน่ารักของพี่ลิงก์ ก่อนจะยกนิ้วก้อยของตัวเองเกี่ยวนิ้วก้อยของเขาเอาไว้ด้วยหัวใจที่พองโต


"จะไม่หยุดรักเลยครับ"



ฺEND



Marionetta
มาแล้วค่ะ ในที่สุดก็มาถึงตอนนี้จนได้ ขอบคุณทุกการติดตามที่เป็นกำลังใจให้กันมาตลอดค่ะ
หวังว่าพี่ลิงก์กับน้องบลูจะช่วยสร้างรอยยิ้มคลายเครียดจาดสถานการณ์ปัจจุบันในตอนนร่ได้ไม่มากก็น้อย

เนื้อเรื่องหลักก็จบลงแล้ว แต่ตอนพิเศษยังมีอยู่จ้า แต่อยู่ในเล่มนะ อิอิ

ผู้ใดสนใจ โปรดรอติดตามค่ะอบตุณอีกครัง  :-[
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 01-04-20
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-04-2020 21:19:39
 :L2: :L1: :pig4:

รักครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 01-04-20
เริ่มหัวข้อโดย: broke-back ที่ 01-04-2020 21:52:19
 o13
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 01-04-20
เริ่มหัวข้อโดย: prympws ที่ 01-04-2020 22:08:22
ขอบคุณที่แต่งนิยายน่ารักๆ มาให้อ่านค่ะ สนุกมาก  :impress2:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 01-04-20
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 01-04-2020 22:15:44
ด้วยรักและผูกพัน
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 01-04-20
เริ่มหัวข้อโดย: Kelvin Degree ที่ 01-04-2020 23:43:26
สนุกมากครับ ขอบคุณครับ,,,
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 01-04-20
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 02-04-2020 12:53:10
 o13
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 01-04-20
เริ่มหัวข้อโดย: marionatte ที่ 18-04-2020 16:36:09
ตอนนี้เปืดจอง-โอยหนังาือแล้วค่ะ  :impress2:
สามารถสั่งซื้อได้ที่ http://marionetta.lnwshop.com/p/7

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Noonnaja ที่ 19-04-2020 23:46:54
น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 20-04-2020 10:13:06
ลิ้งค์น่ารักเป็นผู้ชายอบอุ่นและขี้อ้อนเหมือนกันถึงจะเอาแต่ใจไปนิด บลูก็น่ารักซื่อดี ชอบค่ะ ขอบคุณที่เขียนนิยายสนุกๆให้อ่านนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 24-04-2020 20:37:47
เล้ง สายไม่เคยทำให้เราผิดหวัง
ำ ลืมนี่เรื่องของน้องลิงค์ พี่ก็ชอบน้องลิงค์เพราะน้องหึงแล้วเท่ 5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 27-04-2020 18:39:58
น่ารักดีค่ะ
ครอบอบอุ่นทั้งของบลูและลิ้งเลย
น่ารักมากกก
เราชอบทีอ่ะ ทำไมอยากอ่านเรื่องของทีจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 15 - 06/06/19
เริ่มหัวข้อโดย: หมูอ้วน_เผด็จเกิร์ล ที่ 04-05-2020 17:19:17
ตั้งแต่กลับมาเริ่มอ่านนิยายอีกครั้ง เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกดีมากเลยครับ

ไม่ค่อยเห็นพระเอกมุ้งมิ้งแบบนี้เลย  :mew1:

ขอบคุณที่ทำให้มีความสุขนะครับ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 06-05-2020 03:54:34
น่ารักมากครอบครัวอบอุ่น มีความรักในแบบของแต่ละคน พี่ลิงค์รักจริงแต่เอาแต่ใจ น้องบลูรักทุมเทยอมให้ทุกอย่าง ชอบเรื่องนี้ไม่มีดราม่า
ขอบคุณนักเขียน ส่งกำลังใจให้รัวๆๆๆๆ
:pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Fasai25448 ที่ 16-05-2020 17:28:39
สนุกมากกก รักพี่ลิ้งก์รักน้องบู้รักนิยายเรื่องนี้ค่ะ
มันเป็นน่ารักนุ้บนิ้บๆหัวใจ เนื้อเรื่องน่ารักมากเลยค่ะ
ขอบคุณนิยายที่ดีอีกเรื่องนะคะ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sakurako38 ที่ 04-06-2020 01:46:56
ก่อนอื่นขอชมการเขียน (ไม่นับคำผิดนะครับ) เป็นการเขียนที่อ่านง่ายเข้าใจง่าย ทำให้อ่านได้ตลอดครับ แต่ขอติที่เส้นเรื่องมันดูไม่มีอะไรเท่าไหร่เลย ถ้าพูดในแง่ของนิยายที่ควรจะมีจุดต่าง ๆ ปม ต่าง ๆ ซึ่งเรื่องนี้แทบไม่มีให้ลุ้นเลย ขายตัวละครพระเอกกับนายเอกอย่างเดียว จึงทำให้บางทีอ่านแล้วรู้สึกเบื่อในบางตอนครับ
หัวข้อ: Re: Between us...รักเลื่อนขั้น ★ Level 35 [END] > 18-04-20 เปิดจอง-โอนหนังสือจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 17-09-2023 00:41:33
น่ารักมากกกก