พิมพ์หน้านี้ - {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: yochan ที่ 29-03-2015 14:36:40

หัวข้อ: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 29-03-2015 14:36:40
อ้างถึง
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การ สนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้าง ความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่อง เล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้ เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ใน ความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกัน สร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็น ทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวด เล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกัน โดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ด อื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่า เป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะ แม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูด คุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
 7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
 - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่าง ของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com) ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้ เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพส เรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวป ไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและ ระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



สารบัญ

บทนำ  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3006486#msg3006486)
ตอนที่1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3010272#msg3010272)
ตอนที่2 ครึ่งแรก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3012912#msg3012912)
ตอนที่2 ครึ่งหลัง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3065771#msg3065771)
ตอนที่3 Part I (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3069260#msg3069260)
ตอนที่3 Part II (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3073035#msg3073035)
ตอนที่4 Part I (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3077901#msg3077901)
ตอนที่4 Part II (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3088254#msg3088254)
ตอนที่5 PartI (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3105846#msg3105846)
ตอนที่5 PartII (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3120597#msg3120597)
ตอนที่6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3155526#msg3155526)
ตอนที่7 PartI (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3180203#msg3180203)
ตอนที่7 PartII (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3194191#msg3194191)
ตอนที่7 PartIII (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3243208#msg3243208)
ตอนที่8 Part I (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3262578#msg3262578)
ตอนที่8 PartII
 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3351655#msg3351655)ตอนที่9 Part I
 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3357417#msg3357417)ตอนที่9 PartII (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3369905#msg3369905)
ตอนที่10 Part I (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3380787#msg3380787)
ตอนที่10 PartII (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3390596#msg3390596)
ตอนที่11 Part I (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3399057#msg3399057)
ตอนที่11 PartII (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3405802#msg3405802)
ตอนที่12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3410021#msg3410021)
ตอนที่13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3415311#msg3415311)
ตอนที่14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3418477#msg3418477)
ตอนที่15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3421558#msg3421558)
Epilogue (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46080.msg3423259#msg3423259)


อ้างถึง

ฝากติดตามนิยายอีกสามเรื่องด้วยนะคะ

ลิขิตเหนือภพ - สัตตบรรณหลงฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44332.0) [จบภาค]
LOVE CURE รักนี้ ต้องรักษา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45522.0) [นิยายแนวตลกขบขัน]
ดวงใจรัตติกาล (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47431.0) [นิยายย้อนอดีตไทย]

FB Page (https://www.facebook.com/psychoromancefiction)


 :mew1:



หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 29-03-2015 14:37:17
บทนำ


เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ในวายุ
ยิ่งถูกลมพัดแรงมากเท่าไหร่ ไฟอ่อนแรงก็มอดดับได้ง่ายมากเท่านั้น
แต่หากเปลวไฟนั้นรุ่มร้อนเกินกว่าที่สายลมจะดับได้
เพลิงไฟนั้นก็จะยิ่งลุกไหม้ ลุกลามจนไม่อาจดับได้อีก


 
แดดร้อนระอุในเวลากลางวัน แผดเผาจนผิวรู้สึกแสบร้อน


ทรมาน
หากแต่ก็ไม่เท่ากับเวลาที่เห็นใครคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า แม้อยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่ก็ไม่อาจคว้า เหมือนกับแสงแดดที่ไม่อาจจับต้อง ได้แต่ปล่อยให้เผาผลาญเราทีละนิด รู้ตัวอีกทีก็ถูกทำลายจนไม่เหลือตัวตน



ถึงอย่างนั้นผมก็ชอบความรุ่มร้อนดั่งเปลวไฟนั่น



เพราะมันทำให้เลือดในกายร้อนระอุขึ้น ให้รู้สึกว่าร่างกายนี้ยังมีชีวิต หัวใจยังคงเต้นสูบฉีดเลือดในกายไปทั่วร่าง ไม่ได้เป็นเพียงแค่
'รูปปั้น' ดังที่ใครคนนั้นเคยว่าไว้

 



ท่ามกลางแดดจ้า สองเท้ามุ่งเดินไปที่ป้ายรถบัสภายในมหาวิทยาลัย หยาดเหงื่อไหลย้อยจนปอยผมเปียกติดไปกับหน้าผากและต้นคอ หลังคอรู้สึกแสบร้อน หากแต่ก็ไม่คิดจะเร่งฝีเท้าให้เดินไปถึงจุดหมายโดยเร็ว



ได้แต่หวังว่าคนที่เห็นว่ากำลังยืนอยู่ที่ป้ายรถคนนั้นจะขึ้นรถบัสที่พึ่งมาถึงไปก่อน สายตาทอดมองเก็บเกี่ยวภาพบรรยากาศของตึกอาคารคอนกรีตที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสว่างไปด้วย แดดจ้าทำให้ภาพที่เห็นเจือไปด้วยสีขาวของแดด ดูน่าหลงใหจนทำให้ค่อยๆ ก้าวเท้าอย่างเชื่องช้าลง



ต่อให้ร้อนจนคนอื่นถอยหนี แต่ผมกลับชอบความร้อนแบบนี้ โหยหาราวกับคนที่รู้สึกขาด



เมื่อหันสายตากลับไปมองยังป้ายรถ สองเท้าก็หยุดชะงักชั่วครู่ คนคนนั้นยังไม่ไปไหน ยังคงยืนอยู่ที่เดิมอย่างแน่นิ่ง



ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยืนจ้องมองมาทางนี้ ผิวสีคร้ามแดดและใบหน้าอันดึงดูดสายตา โดยเฉพาะนัยน์ตาเรียบเฉยที่แผ่ไอร้อนอย่างคนลุไปด้วยโทสะ ทำให้ยากจะเข้าใกล้

ผมก้าวเดินต่อทั้งๆ ที่แต่ละย่างก้าวนั้นหนักอึ้ง ลมหายใจติดขัด ภายในอกหัวใจเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอย่างไรเหมือนกัน ที่ทุกครั้งเมื่อหัวใจเต้นแรง ในอกจะปวดหนึบจนแทบทนไม่ไหว


แต่แม้จะยากลำบากเพียงใด ก็ต้องเดินไปยืนรอรถอยู่ด้านข้างบุคคลที่ว่า เห็นได้ชัดว่าเพียงแค่เดินเข้าไปใกล้ เขาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองด้านลบออกมา ไหล่กว้างกระตุก ราวกับว่าไม่อยากเข้าใกล้ คนแบบผม



คนที่ค่อนข้างมีชื่อในทางเสียๆ หายๆ จนมักตกเป็นเป้าแห่งความเกลียดชังของคนอื่นๆ ในมหาวิทยาลัย



สายตาของคนที่จ้องมองมาเอง ไม่บอกก็รู้ว่าแฝงไปด้วยความเกลียดชัง เช่นกันแม้จะชินกับสายตาทำนองนี้แล้ว แต่พอเป็น เขา ภายในใจกลับรู้สึกแย่อย่างที่คนอื่นไม่มีวันทำให้รู้สึกทรมานขนาดนี้ได้



ระยะห่างระหว่างผมและเขาไม่ได้ใกล้ชิดกันนัก ผมรู้ว่าเข้าใกล้เขามากกว่านี้ไม่ได้ เพราะถ้าขืนเข้าใกล้มากเกินไป รังสีแห่งความเกลียดจากอีกฝ่ายก็คงทิ่มแทงให้รู้สึกเจ็บแปลบ



สีหน้าเรียบเฉยมักดูบึ้งตึงขึ้นทุกครั้งที่ผมเฉียดเข้าใกล้ แม้จะหงุดหงิดใจในหลายครั้งที่ได้รับสายตาฉายแววรังเกียจแบบนั้น หากแต่ผมก็เข้าใจเขาได้ในคราเดียวกัน



ทำยังไงได้ล่ะ เจอเรื่องแบบนั้นเข้าไป ไม่เกลียดผมก็คงแปลก 



เพลิง
ไม่ใช่พ่อพระ ที่จะให้อภัยใครได้ง่ายๆ ยิ่งหากคนคนนั้นเป็นผมด้วยแล้ว คงไม่มีวันที่เขาจะเห็นใจ

   

ร้อนจังน้า...”


เอ่ยคำพูดออกมาลอยๆ ขณะที่ยืนรอบัสคันใหม่มา น่าแปลกใจที่เขาไม่ขึ้นรถคันที่พึ่งผ่านไปคันนั้น บางทีอาจจะไม่อยากเบียดคนเยอะๆ แต่นี่ก็ได้เวลาเข้าเรียนคาบถัดไปแล้ว คนรักเรียนแบบเขามายืนอ้อยอิ่งที่นี่ได้ช่างน่าประหลาด



ระหว่างที่รอรถ ผมอดรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศเงียบงันนี้ไม่ได้ ยิ่งต้องยืนอยู่ข้างกันก็ยิ่งทรมาน ได้แต่คิดในใจว่าไม่น่าหาเรื่องมายืนอยู่ตรงนี้เลย จึงตัดสินใจเดินออกจากในร่ม ไปยืนอยู่นอกป้ายรถ



ให้ตากแดดร้อนๆ ก็ยังดีกว่าต้องเผชิญกับบรรยากาศน่าอึดอัด จุดบุหรี่ขึ้นสูบเพื่อช่วยผ่อนคลายอารมณ์ น่าแปลกที่ต่อให้ทรมานมากแค่ไหน ยามที่ได้อยู่ใกล้หรือได้มอง ก็ยังแฝงความรู้สึกดีเอาไว้ หัวใจสั่นไหวจนต้องมือยกขึ้นสัมผัสกับอกด้านซ้าย



ปวดร้าวเหลือเกิน หากแต่ยังคงอยากลอบมองอยู่อย่างนี้ ผมไม่เข้าใจความรู้สึกแบบนี้เอาเสียเลย



ควันบุหรี่ลอยเคว้งในอากาศ กระจายตัวไอแดด กลิ่นเมนทอลผสมกับกลิ่นแดดจ้าทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อยากให้ความรู้สึกเป็นเสมือนเขม่าควัน ก่อตัวขึ้น เกาะกลุ่มชั่วครู่ แล้วก็สลายไปง่ายๆ



สูบบุหรี่ได้ไม่นานสายตาก็มองเห็นรถกำลังแล่นมาตั้งใจจะดับบุหรี่และทิ้งลงถังขยะเพื่อเตรียมตัวจะขึ้นรถไป ชั่วขณะที่กำลังจะก้าวไป และเมื่อคิดว่าคงไม่บังเอิญเจอร่างสูงอีกง่ายๆ แน่ เพราะเราไม่มีวิชาไหนที่เรียนตรงกันแล้ว แล้วต่างฝ่ายต่างก็ไม่มีเพื่อนที่จะเชื่อมโยงให้ต้องเจอหน้าหรือคุยกัน ทันใดนั้นภาพเบื้องหน้าก็ขาวโพลนราวกับมีใครเอาสีมาป้ายทับไว้



รู้ตัวว่าร่างกายทรุดลง แต่น่าแปลกที่ไม่ได้ล้มกระแทกลงกับพื้นคอนกรีตแข็งๆ หากแต่มีวงแขนแกร่งของใครคนหนึ่งมารับผมไว้



ความรู้สึกแบบนี้
...ทำให้นึกถึงสัมผัสที่เคยได้เจอก่อนหน้า


รุ่มร้อน เผาผลาญจนร่างกายแทบลุกเป็นไฟ ร้อนจนทรมาน แต่ก็อยากครอบครองเปลวเพลิงนั้นไว้



สัมผัสนี้ก็เหมือนกับในวันนั้น



วันที่ความไว้เนื้อเชื่อใจที่แทบไม่เคยมีอยู่แล้วระหว่างผมกับเพลิงได้หมดลง เปลวไฟเผาทำลายทุกอย่าง ไม่เว้นแม้กระทั่งหัวใจผม



ผมจำได้
...อ้อมแขนนี้ที่รับร่างผมยังคงร้อนรุ่มไม่เปลี่ยน รู้ทั้งรู้ว่าต้องตายเปราะถูกไฟเผาไหม้ แต่ก็ยังอยากอยู่แบบนี้


อยากให้ความร้อนนี้ตอกย้ำให้ผมรู้ว่ายังมีชีวิต ยังคงมีหัวใจให้ถูกเหยียบย่ำ ถูกแผดเผา



แม้ว่าเจ้าของเปลวไฟนี้จะไม่มีวันได้รู้ก็ตาม




.

.


-จบบทนำ-


___


สวัสดีค่ะ วันนี้มาลงเรื่อง 'เพลิงในวายุ' ให้ลองอ่านกันค่ะ เรื่องนี้เคยเป็นฟิคที่โยเคยแต่ง แต่ว่าได้พล็อตเพิ่มมาจากความฝันสดๆ ร้อนๆ เลยเอามาปรับเป็นพล๊อตใหม่ฉากใหม่ค่ะ นิสัยของตัวเอกทั้งสองคนฉีกไปจากเดิม และเป็นแนวพระเอกเกลียดนายเอก แต่ก็แค่ในความคิดของนายเอกเท่านั้นล่ะค่ะ 

บรรยากาศเรื่องนี้ออกจะร้อนๆ ต้อนรับอากาศในไทยที่น่าจะร้อนขึ้น (แต่ช่วงนี้ฝนตกนี่เนอะ) อาจจะอึมครึมในตัวละครบ้าง แต่บอกเลยค่ะว่าคนเขียนแนวสุขนิยมมากกกกก

อ่านแล้วเป็นยังไงบอกกันบ้างนะคะ ยังไงขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วย

แล้วก็หากมีอะไรแวะไปทักทายกันที่ FB ได้นะคะ ^^ https://www.facebook.com/psychoromancefiction (https://www.facebook.com/psychoromancefiction) ค่ะ

เจอกันตอนหน้าค่ะ

 :mew1:
 

 
 
 
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 29-03-2015 15:42:02
ติดตามค่า ชอบเลยแนวนี้อิอิ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: hanahana ที่ 29-03-2015 17:35:40
เห็นชื่อเรื่องรีบเข้ามาเลย555 ชอบค่ะ รอติดตามน๊า
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 29-03-2015 17:42:22
 :pig4: :pig4:

ติดตามๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 29-03-2015 20:03:13
อื้อหือออ  อ่านแล้วร้อนกว่าเดิมอีก  เหมือนจะติดไฟแล้ว  55555555555 

น่าติดตามค่ะ  รอๆ  คนเขียนสู้ๆ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 29-03-2015 20:13:55
อ่านแค่บทนำก็รู้สึกได้ถึงไอแดดร้อนๆเลยค่ะ 5555555555555555  :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yaoionlyyes ที่ 29-03-2015 22:19:47
ของชอบมาแวัว
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: FarawayII ที่ 29-03-2015 22:41:13
ปูเสื่อรอค่ะ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Chocolate1134 ที่ 30-03-2015 00:01:04
รู้สึกมีไฟลุก ติดตามค่าาาา
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 30-03-2015 00:15:57
รอครับ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 30-03-2015 08:27:36
รอจ้า
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 02-04-2015 00:09:01
   
 
Chapter 1

 

วันที่ผมเจอกับเพลิงครั้งแรก เป็นวันที่แดดร้อนอย่างนี้เหมือนกัน

 
.
    .

เสียงร้องเพลงดังโหวกเหวก นักศึกษาเข้าใหม่ต่างนั่งตากแดดร้องเพลงตามที่รุ่นพี่สั่งให้ทำอยู่อย่างนั้น เชื่อว่าหลายคนคงร้อนจนไม่อยากทำตาม แต่ก็ขัดกระแสส่วนมากไม่ได้


ผมที่พึ่งกลับจากอเมริกาไม่เข้าใจในวัฒนธรรมแบบนี้เท่าไหร่ จึงไม่ได้มาเข้าร่วมตั้งแต่วันแรก และเพราะสาเหตุนั้นทำให้ต้องแยกออกมายืนตากแดดอยู่คนเดียวอย่างคนที่ถูกทำโทษ



...ทำไมต้องเชื่อฟังด้วยนะ


คิดหาสาเหตุให้ตัวเองไปด้วย ไม่ได้โกรธหรือหงุดหงิดอะไร แค่ไม่เข้าใจเท่านั้น เพียงแค่ไม่ร่วมงานรับน้องก็ถูกมองเขม่นแล้วหรือ และดูท่าผมจะทำให้รุ่นพี่บางคนไม่ชอบหน้าเอามากๆ เพราะหลังจากเลิกงานวันนั้นก็ถูกกลุ่มรุ่นพี่หมางเมิน และส่งผ่านความกดดันผ่านนักศึกษารุ่นเดียวกันด้วยเช่นกัน


และในเมื่อเป็นอย่างนั้น...สุดท้ายผมจึงตัดสินใจไม่ไปร่วมงานรับน้องใดๆ อีก


ไม่มีประโยชน์ที่จะดันทุรังหรือทำให้ใครพึงพอใจเพื่อให้มาสนใจตน แม้การเริ่มต้นชีวิตในมหาวิทยาลัยจะไม่สวยนัก แต่ผมก็เคยชินเสียแล้วกับการอยู่คนเดียว


ทว่าความคิดที่จะอยู่คนเดียวก็จบลงเมื่อย้ายเข้าไปอยู่ในหอพักนักศึกษาตามที่ครอบครัวต้องการ ผมไม่รู้มาก่อนว่าห้องพักเป็นห้องสำหรับสองคน เมื่อขนย้ายข้าวของมาถึงถึงได้รู้ว่าต้องอยู่ร่วมห้องกับใครคนหนึ่งด้วย


กลางวันที่ร้อนจัด ประตูห้องพักเปิดออกให้เห็นภายในที่สว่างจ้า มีคนร่างสูงยืนอยู่ด้านในก่อนแล้ว ผมจำได้ว่าเขาเป็นหนึ่งในนักศึกษาที่อยู่ในวงรับน้องนั้น ใบหน้าหล่อเหลาแบบคมเข้มทำให้ดึงดูดสายตาได้ง่าย ทั้งเขายังมีร่างกายกำยำสูงใหญ่เด่นกว่าคนอื่น


คนที่เห็นแวบเดียวก็จำได้ ไม่รู้ว่าแท้จริงเป็นเพราะรูปร่างหน้าตา หรือเพราะสายตาอันแสนเฉยชากันแน่


จำได้ว่าขณะที่รับน้องเจ้าตัวก็ไม่ส่งเสียงร้องเพลงนัก ทว่าไม่มีใครหาเรื่องลงโทษ ช่างน่าแปลกกับการเลือกปฏิบัติของคนเราเสียจริง



นายเองสินะ ที่พักห้องนี้ด้วย”


เมื่อลากสัมภาระเข้าไปภายใน อีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นให้ได้ยิน น้ำเสียงฟังดูเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ ทำให้คาดเดาไม่ออกว่าคนร่างสูงกำลังคิดอะไรอยู่


ผมยิ้มฝืด ก่อนจะเอ่ยถาม



นายเลือกเตียงฝั่งไหน?”


เนื่องจากห้องเป็นห้องเตียงคู่ หากเขาเลือกเตียงก่อนแล้ว จะเอาของไปวางสุ่มสี่สุ่มห้าก็คงไม่ดี


และเมื่อเพื่อนร่วมห้องชี้มือไปที่เตียงฝั่งหนึ่ง ผมก็เดินไปยังฝั่งตรงข้าม ทิ้งตัวนั่งลงกับเตียง มือพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกสองสามเม็ด อากาศอบอ้าวทำให้ต้องวักลมเข้าหาตัวอย่างต้องการความเย็นมาช่วยดับความร้อน



ฉันวายุ เรียกวาก็ได้ นายล่ะ”



เพลิง”


เขาตอบเพียงสั้นๆ ห้วนๆ ดูแล้วคงเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ไม่ดีนัก สายตาก็ออกจะดุดัน ผมสังเกตเห็นเรียวคิ้วเขากระตุกนิดหน่อย แต่ผมก็ไม่ใส่ใจเท่าไหร่ เพราะใช่ว่าตัวเองจะดีไปกว่ากัน หากมีการสอบด้านมนุษยสัมพันธ์ ผมคงสอบตกแบบคะแนนติดลบ


การแนะนำตัวจบลงแค่นั้น หลังจากนั้นเราก็เหมือนเป็นแค่คนร่วมห้องกันจริงๆ ไม่มีใครก้าวก่ายเรื่องของใคร พูดกันนับครั้งได้ ผมไม่รู้สึกอึดอัด เหมือนกับที่เพลิงไม่คิดจะสนใจ


แต่ความคิดของผมเกี่ยวกับเพลิงก็เปลี่ยนไป เมื่อได้เห็นเขาในชั้นเรียนที่ลงเรียนตรงกันและเวลาที่เขาอยู่กับเพื่อนทั้งในคณะและต่างคณะ


เพลิงมักดึงดูดสายตาผมเสมอ เขาเป็นคนตั้งใจเรียน เวลาที่อยู่ในหอพักก็มักเห็นเขาอ่านหนังสือเตรียมล่วงหน้า ในเวลาเรียนก็ดูตั้งใจ


ผมมักลอบมองแผ่นหลังกว้างที่เอาแต่ตั้งตรงแน่วแน่ ไม่มีอาการวอกแวก ไม่มีการแสดงท่าทีเบื่อหน่ายใดๆ ออกมาให้เห็น หลายต่อหลายครั้งก็ยกมือตอบคำถามอาจารย์ผู้สอน ช่างน่าชื่นชมในความตั้งอกตั้งใจ ไม่แปลกเลยที่เพลิงมักจะได้คะแนนระดับท็อปของวิชา


ถึงอย่างนั้นต่อให้เป็นเด็กเรียนยังไง ตามปกติก็จะเห็นเด็กเรียนคนนี้สุงสิงกับเพื่อนที่ไม่ใช่เด็กเรียนสักเท่าไหร่ บางครั้งบางครา ก็เห็นเข้ากลุ่มสังสรรค์กับเพื่อนต่างคณะบ้าง เรียกได้ว่าเขาไม่ได้เป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์แย่อย่างที่เคยเข้าใจผิด


จนบางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้



...ทำไมสายตาเวลาที่เพลิงมองผมถึงได้เฉยชานัก


ถึงแม้คนอื่นๆ ในมหาวิทยาลัยจะไม่ได้มองผมในแง่ดีเหมือนกัน แต่ก็ไม่มีใครที่จะใช้สายตาแบบที่เพลิงมองผม


ที่บางครั้งก็เมินเฉย บางครั้งก็ดุดัน


จริงอยู่ที่เขาอาจไม่ชอบใจเพราะได้ยินข่าวแย่ๆ เกี่ยวกับตัวผมที่คนอื่นเขาพูดกัน ทว่าสายตาที่ใช้มองมานั้นแปลกแยกจากใครทั้งหมด


คนอื่นๆ จะมองผมด้วยสายตาอย่างต้องการจับผิด ส่วนเพลิง...เขาไม่แม้แต่จะฉายแววลังเลสงสัย แต่เป็นแววตาที่ตัดสินผมไปแล้ว


เขาไม่ร่วมวงนินทา แต่ก็ไม่คิดจะคุยกับผมเช่นกัน


น่าแปลกที่ผมกลับแคร์สายตาเขา มากกว่าคนอื่นเสียด้วย




(มีต่อค่ะ)
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 02-04-2015 00:09:29
 
 
.
.
หลังเลิกชั้นเรียนในวันหนึ่ง ผมมีนัดพบกับรุ่นน้องต่างมหาวิทยาลัยที่รู้จักกัน อย่างที่บอกว่าผมไม่ค่อยได้สุงสิงกับคนในมหาวิทยาลัยเดียวกันนัก เพื่อนที่พบเจอด้วยก็มักเป็นเพื่อนจากที่อื่นเสียมากกว่า


อย่างรุ่นน้องที่กำลังจะไปพบเจอ เราสองคนนัดพบกันบ่อยครั้งเพราะออกจะมีนิสัยบางส่วนคล้ายคลึงกัน อย่างแรกคือผมและเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใครหากไม่จำเป็น อย่างที่สองคือต่อให้มีความสัมพันธ์กันทางร่างกาย เราก็ไม่คิดจะเหนี่ยวรั้งหรือผูกพันใดๆ


สัมพันธ์ที่ไม่ต้องการการยึดติดหรือการเรียกร้องจากฝ่ายตรงข้าม ทำให้เราคบหากันได้อย่างสบายใจ ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ไม่มีใครที่จะเป็นฝ่ายได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว ความสัมพันธ์แบบนี้ เป็นความสัมพันธ์ที่ยุติธรรมที่สุดสำหรับผม

ระหว่างทางที่เดินไปสถานที่นัดหมาย สายตาก็เหลือบเห็นหนุ่มรุ่นน้องจากต่างมหาวิทยาลัยที่ว่ากำลังก้าวเดินมาจากอีกฝั่งถนนพอดิบพอดี

อิฏฐ์ ชายหนุ่มรูปร่างสูงหน้าตาหล่อเหลา เพียงแค่เห็นจากตรงนี้ก็สะดุดสายตา ด้วยรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นกว่าทุกคน ทำให้คนรอบข้างแทบจะเหลียวหลังหันมองกันหมด จนผมชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าการนัดพบกับหนุ่มรุ่นน้องภายในละแวกใกล้มหาวิทยาลัยแบบนี้ จะเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือไม่ ได้แต่หวังว่าจะไม่มีเรื่องยุ่งยากให้หนักใจตามมาเท่านั้น


ดูเหมือนว่าอิฏฐ์เองก็มองเห็นผมด้วยเช่นกัน เขาจึงโบกมือทักพลางก้าวเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น และเมื่อเราทั้งคู่เริ่มเดินข้างกันเท่านั้น กลายเป็นว่าพวกเราตกเป็นเป้าสายตามากกว่าเดิม ความรู้สึกรำคาญปนหงุดหงิดใจจึงเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้


ยังดีที่พอเข้าไปในร้านกาแฟแล้ว บรรยากาศค่อยเงียบสงบลงหน่อย ผมจึงไม่ต้องย้ายที่ย้ายทางเพื่อตัดความรำคาญใจนั้นออกไป


เมื่อเดินเข้ามาภายใน รุ่นน้องร่างสูงก็เดินนำไปนั่งยังโต๊ะด้านในสุดที่ไม่มีคนพลุกพล่าน เราวางสัมภาระกันเรียบร้อย หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็เป็นคนออกปากเดินไปสั่งเครื่องดื่มให้



เอ็กเปรสโซ่เหมือนเดิม?” หนุ่มรุ่นน้องเลิกคิ้วถาม


ผมพยักหน้า


เพราะเรารู้จักกันดีมากพอ จึงไม่แปลกที่จะรู้ถึงรสนิยมความชอบของกันและกัน อิฏฐ์พยักหน้ารับรู้ ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มสำหรับสองคน หนุ่มรุ่นน้องเลือกนั่งฝั่งตรงข้าม ก่อนจะหยิบแก้วกาแฟส่งมาให้

เมื่อรับกาแฟมาจิบได้อึกแรก คนที่ไม่คาดคิดว่าจะเจอก็เดินเข้ามาในร้าน สายตาผมปะทะกับสายตาของ เพลิง ที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มเพื่อน


ทีแรกก็คาดเดาว่าหากเขาเห็นผมนั่งอยู่ตรงนี้ ก็คงจะเลือกหลบไปนั่งห่าง ๆ หากแต่ผิดคาด เจ้าของใบหน้าคมเข้มเป็นคนตัดสินใจเลือกนั่งถัดจากผมไปเพียงแค่ไม่กี่โต๊ะ


เวลาปกติหากไม่ได้อยู่ในหอพัก เพลิงจะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับผม จะทำเหมือนเป็นคนไม่รู้จักกัน แต่วันนี้กลับเลือกนั่งอยู่ใกล้ๆ


แปลกชะมัด



วา..”



วายุ!”


อิฏฐ์เรียกผมซ้ำด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น ถึงได้รู้ตัวว่าสติล่องลอยไปไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนอีกฝ่ายต้องเอ่ยย้ำ พอหันกลับมามองคนตรงหน้า ก็ต้องเผชิญกับสายตาของรุ่นน้องที่จ้องมองกลับแปลกๆ



วาดูใจลอยผิดปกตินะ”


ชายหนุ่มฝั่งตรงข้ามเอ่ยอย่างตรงๆ ผมจึงได้แต่ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึก ก่อนจะส่งรอยยิ้มเจื่อนออกไป



เปล่านี่...” เฉไฉสายตาไปทางอื่น ทอดมองบรรยากาศโดยรอบของร้านกาแฟไปด้วย


กลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟและเสียงเพลงเบาๆ สร้างบรรยากาศภายในร้านให้ผ่อนคลาย เหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือหรือพบปะกับเพื่อนนักศึกษา ร้านรวงแบบนี้เริ่มมีหลายร้านรอบๆ มหาวิทยาลัย แต่มันก็น่าแปลกที่ร้านก็มีอยู่มาก ผมกับเพลิงกลับเลือกมาที่ร้านเดียวกัน ทั้งที่ปกติจะเดินสวนกันนอกหอพักยังยาก


วิถีชีวิตของเราต่างกันเกินไป


ผมคิดแบบนั้น


กลุ่มของเพลิงคุยกันอย่างออกรสออกชาติ โดยที่ชายหนุ่มผิวเข้มเอาแต่พยักหน้ารับฟังโดยไม่ค่อยจะยอมโต้ตอบเป็นคำพูด ขณะที่กำลังทอดมองเรื่อยเปื่อย สายตาก็เผลอไปสบเข้ากับนัยน์ตาบึ้งตึงของเขาเข้า ผมจึงรีบหันกลับ ทำเป็นยกแก้วกาแฟขึ้นดื่มอีกครั้ง



นี่วา... กำลังมีความรักรึเปล่า?”

พรวดด!!


ถึงกับสำลักกาแฟออกมาเมื่อได้ยินคำถามไม่มีปี่มีขลุ่ยของอิฏฐ์ “ม.. ไม่ได้มี” ตอบพลางใช้หลังมือปาดเช็ดเครื่องดื่มที่หกรดเปรอะริมฝีปาก


หนุ่มรุ่นน้องที่เคยนั่งเท้าคางมองอย่างเย็นใจตัดสินใจลุกขึ้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเดินมาทางฝั่งที่ผมนั่ง แล้วยื่นมือมาช่วยเช็ดกาแฟที่หกรดลงมาตามลำคอและเสื้อผ้า



ผิดปกติอย่างนี้ไม่สมเป็นวาเลย”


เจ้าของเสียงทะเล้นเอ่ยพลางใช้กระดาษเช็ดปากเช็ดซับคราบกาแฟให้ทั้งที่คอและที่หน้าอก ถึงรุ่นน้องคนนี้จะไม่เรียกผมว่าพี่นำหน้า แต่สถานะยังไงก็คือน้อง บางครั้งพอต้องถูกดูแลโดยคนอายุน้อยกว่าแบบนี้ ก็รู้สึกลำบากใจอย่างบอกไม่ถูก


ผมดึงกระดาษออกจากมืออิฏฐ์ ตัดสินใจเช็ดคราบสกปรกออกด้วยตัวเอง แค่ทำกาแฟหกก็ถูกคนในร้านมองแทบเป็นสายตาเดียวแล้ว ผมไม่อยากเรียกสายตาอื่นๆ ให้มันมาจ้องมองมากขึ้นไปอีก


อิฏฐ์กลับไปนั่งลงที่เดิม ทว่าสายตาเขากลับมองมาไม่เหมือนเดิม ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วเข้าหากันราวกับมีคำถามค้างคาอยู่ในใจ



ใจลอยแบบนี้กำลังมีความรักแหง?”



“......” ผมนิ่ง อย่างที่แสดงออกว่าไม่อยากตอบคำถามไร้สาระ



ฮะๆๆ ล้อเล่นน่า ถ้าไม่มี งั้นมาคบกับผมมั้ย?”



ฉันคิดว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วซะอีก” ผมตัดบท

ไม่คิดว่าอิฏฐ์จะเอ่ยออกมา เพราะจริงอยู่ที่ครั้งหนึ่งเรา เคยมีสัมพันธ์กัน ผมก็ไม่เคยคิดว่าคนตรงหน้านี้จะเกิดคิดจริงจังหรือถามออกมาด้วยซ้ำ



ผมรู้หรอก แต่ก็แค่คิดว่าบางทีเราอาจจะไปกันได้ดีกว่าที่คิดไว้”


อิฏฐ์ยิ้ม ดวงตาเป็นประกายทอดมองมาอย่างประหลาด ทำให้รู้สึกว่าเด็กนี่ดูทะเล้นกว่าทุกที



ทำหน้าเครียดเชียว ผมล้อเล่นน่า แต่ก็อยากให้ไปลองคิดดูจริงๆ นะ”


รอยยิ้มยังคงฉายเด่นอยู่บนใบหน้าได้รูป เขาเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ ก่อนจะสนใจเครื่องดื่มตรงหน้าตนเองต่อ


ขณะที่สายตาของอิฏฐ์ผละออกจากผมไปแล้ว ทว่าอีกสายตา ยังคงจ้องมองมาทางผมอย่างรู้สึกได้ บางครั้งที่ปรายตามองไปทางแรงกดดันนั้น ก็ต้องสบเข้ากับความแข็งกร้าวที่เพ่งมองมาอย่างตรงๆ แม้เจ้าของความแข็งกร้าวนั้นจะหันไปทางอื่นเมื่อสองสายตาประสาน ทว่าไม่ทันไรแรงกดดันก็ส่งทอดมาเช่นเดิม


ผมไม่สันทัดในการรับมือสถานการณ์น่าลำบากใจแบบนี้สักเท่าไหร่ อิฏฐ์ก็คอยพูดจาหยอกล้อผมเป็นระยะ ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่มีอารมณ์ร่วมในอารมณ์ขันของหนุ่มรุ่นน้องแม้แต่น้อย


ไม่ใช่ความผิดของอิฏฐ์ ไม่ใช่ความผิดของใคร ผิดที่ผมเองที่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ให้ปกติอยู่ได้ จนสุดท้ายก็ต้องขอตัวกลับออกมาก่อน


แม้จะเดินจากมาจากที่ตรงนั้นแล้ว หากแต่สิ่งที่ยังคงอยู่ ณ สถานที่นั้น ก็คือสายตาที่ทิ่มแทง เสียดแทงให้ลมหายใจติดขัด แม้กระทั่งในขณะนี้ก็ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบ

 
.
.


(มีต่อค่ะ)



 
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀ บทนำ [หน้า1 up 29.03.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 02-04-2015 00:36:27
.

ผมกลับเข้าหอพักมาก่อนเพลิง นอนอ่านหนังสือที่เตียงของตัวเองไปเรื่อยเปื่อย พยายามทำตัวเองไม่ให้ฟุ้งซ่านไปคิดถึงสายตาที่เห็นที่ร้านกาแฟ


ไม่เข้าใจเพลิงเอาเสียเลย เริ่มคิดว่าบางทีเขาอาจเกลียดผมก็ได้ เหมือนที่คนอื่นก็ไม่ชอบผมอย่างไร้เหตุผล


แต่ขณะที่คิดอะไรไปเรื่อย เพลิงก็กลับเข้าห้องมา ผมเหลือบสายตามองเขาเล็กน้อย ผิดกับเพลิงที่เมินผมไปและตรงเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที


ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทั้งที่น่าจะชินกับท่าทีเย็นชาของคนรอบข้าง แต่กับเพลิง พักนี้ผมเริ่มอึดอัดขึ้นมาเสียแล้ว


ไม่นานนักเพลิงก็กลับออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสำหรับใส่นอน เรือนผมและใบหน้าของเขายังมีน้ำเกาะอยู่ ทั้งๆ ที่ก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ทว่าผมกลับรู้สึกได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากอีกฝ่าย


เขานั่งลงกับเตียงอีกฟาก มือพลางใช้ผ้าขนหนูซับใบหน้าและศีรษะ แล้วจู่ๆ ก็เอ่ยออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย



คนที่ร้านกาแฟนั่นใคร”


น้ำเสียงออกจะห้วน แม้จะสงสัยว่าเขาคุยกับผมงั้นหรือ แต่ในห้องนี้ก็ไม่มีใครอื่นอีก ดังนั้นเขาจึงกำลังถามผมแน่


อดที่จะมองอีกฝ่ายอย่างเคลือบแคลงไม่ได้ ร้อยวันพันปี เพลิงไม่เป็นฝ่ายเริ่มคุยกับผมก่อน วันนี้กลับทำตัวแปลกๆ เสียอย่างนั้น



เพื่อน...” ผมเว้นช่วง ก่อนจะเอ่ยต่อ “ทำไมเหรอ?”



ปกติไม่เคยเห็นมีเพื่อนที่ไหน”



“......”


รู้สึกอึ้งไปที่เขาตอกกลับมาอย่างนี้ ราวกับกำลังถูกจิกกัดด้วยคำพูด เร่ิมรู้สึกแน่ชัดในสิ่งที่คิด ว่าเพลิงไม่พูดคุยกับผมอย่างที่คุยกับคนอื่น ก็เพราะเกลียด
ช่วยไม่ได้


อย่างที่ถามอยู่นี่ ก็คงคิดว่าผมกับอิฏฐ์เป็นคู่ขาหรืออะไร


ข่าวเกี่ยวกับผมแพร่ไปทั่วว่าผมเป็นพวกที่ชอบเพศเดียวกัน แล้วก็นอนกับใครง่ายๆ ผมไม่คิดจะแก้ข่าว เพราะอย่างไรผมก็ไม่ได้อยากข้องเกี่ยวกับใครให้มากอยู่แล้ว ข่าวลือก็ช่วยกันคนได้มากพอดู



เป็นพวกอย่างนั้นหรือไง”


เพลิงเอ่ยต่อ โดยที่สายตามุ่งตรงมาอย่างไม่หลบหลีก


ผมเลิกคิ้วขึ้น พยายามตีความสิ่งที่เขากำลังสื่อ “หมายถึงเกย์?”


อีกฝ่ายนิ่ง ผมจึงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ



เป็น...”



นอนกับผู้ชายไม่เลือก ทั้งที่ไม่ได้คบกับใครจริงจังน่ะนะ?” เขาถามต่อทันที



“......”


ไม่รู้จะปฏิเสธหรือตอบรับ จะบอกว่าไม่เลือกก็ไม่ใช่ แต่คนที่มีสัมพันธ์ทางกายด้วยก็ไม่ใช่คนที่คบกันในแง่นั้นเหมือนกัน สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ปฏิเสธไป



ก็ทำนองนั้นมั้ง”



น่าสมเพชชะมัด”



“......”


เพลิงแสดงออกชัดเจนแล้วว่ารังเกียจ เขาไม่พูดอะไรกับผมอีก ผมเองก็ไม่ได้ต่อบทสนทนาเช่นกัน รู้สึกถึงไออวลแห่งความกดดันแผ่ไปรอบห้อง อากาศในห้องนี้หนักหน่วงกว่าที่ผ่านมา แค่สูดหายใจก็รู้สึกเหมือนถูกทิ่มแทง



...ทำไมต้องสนใจว่าเพลิงจะคิดกับผมยังไง ถูกคนเกลียดมานักต่อนักก็ไม่เป็นไรไม่ใช่หรือ?


ได้แต่ถามตัวเองอยู่อย่างนั้น แต่ก็ไม่อาจหาคำตอบได้
 


.
.

-Chapter 1 End-
___


Talk: ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ในตอนที่แล้วนะคะ ได้เห็นว่ามีคนรอติดตามก็ดีใจมากเลยค่ะ ^^ ยังไงขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ

เรื่องนี้ไม่ดราม่ามากหรอกนะคะ ออกจะอึมครึมนิดหน่อยมากกว่า นายเอกภายนอกดูเหมือนไม่ดี แต่จริงๆ เป็นคนน่ารักนะ แต่พี่เพลิงก็ดุเหลือเกิน TwT สงสารวาเล็กๆ

เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ


แล้วก็ขอฝากนิยายเรื่องอื่นไว้ด้วยนะคะ ^^

ลิขิตเหนือภพ - สัตตบรรณหลงฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44332.0) [จบภาค]
Love Cure ป่ว(ย)นนัก รักซะ! (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45522.0) [นิยายแนวตลกขบขันปนหื่นเล็กๆ]

FB Page (https://www.facebook.com/psychoromancefiction)

 :mew1:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Lilyrum ที่ 02-04-2015 07:40:18
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากค่ะ รอตอนที่สองอยู่นะคะ ><
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 02-04-2015 09:52:50
น่าติดตามมาก รอค่า  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 02-04-2015 10:07:02
เรื่องราวน่าติดตาม

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 02-04-2015 11:55:31
อร๊ายยย ชอบบบบ น่าติดตามมากค่ะ ค้างอ้าาา อยากรู้ว่าวาไปทำอะไรให้เพลิงโกรธขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 02-04-2015 12:09:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: ก็ไอ้หมอไง ที่ 02-04-2015 12:46:55
นี่มันพล็อตในฝันเราเลยอะครับ>< ชอบแนวนายเอกคิดเองเออเอง555555 แต่ก่อนเคยพยายามแต่พล็อตแบบนี้เหมือนกีัน แต่เบื่อซะก่อนเลยไม่แต่งต่อ. = =  ชอบๆๆๆๆ
ตาม. จิ้มๆ. รอน้าาา55555 :impress2:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: warin ที่ 02-04-2015 13:15:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 02-04-2015 14:08:34
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-04-2015 15:06:27
อึดอัด
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 02-04-2015 17:50:10
น่าติดตามค่ะรอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 02-04-2015 18:25:06
อึมครึมได้ใจมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 02-04-2015 21:20:39
น่าติดตาม เขียนดี รอมาต่อจ้า :impress2:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yandereko ที่ 03-04-2015 02:13:12
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 03-04-2015 18:12:40
สนุกค่ะ   อยากอ่านพาร์ทของพระเอกบ้างจัง






รอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 04-04-2015 13:12:05
 o13
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 1 [หน้า1 up 02.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 04-04-2015 14:53:56
Chapter 2 [part I]








 
วายุ เจ้าของชื่อนี้ ทุกครั้งที่ได้เห็น เขาก็มักจะแผ่รังสีประหลาดที่ทั้งดึงดูดให้คนอยากเข้าใกล้ และผลักไสคนให้ถอยห่าง


อาจเพราะหน้าตาที่ดูไร้ที่ติเหมือนหลุดออกมาจากเทพนิยายปรัมปรา ทำให้ใครต่อใครไม่ว่าจะหญิงหรือชายต่างพากันหลงใหล


ในขณะเดียวกัน รูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามก็ฉาบความน่าเคลือบแคลงสงสัยเอาไว้ด้วย ในเมื่อมีคนมากหน้าหลายตาอยากครอบครองชิดใกล้ ความสัมพันธ์เชิงโลกีย์กับใครต่อใครจึงได้มีตามมานับไม่ถ้วน หากมีคนเสนอ จะตอบสนองก็คงไม่แปลก


ทว่าสำหรับผมแล้ว คนที่สามารถนอนกับใครได้ไม่เลือกหน้าแบบเขา

ผม เกลียดที่สุด



 
...........




ครั้งแรกที่เจอกับวา ผมยังจำมันได้ดี


เจ้าของใบหน้าขาวซีดถูกทำโทษให้ยืนอยู่กลางแดดเพราะไม่มารับน้องในวันแรก นักศึกษารุ่นเดียวกันต่างไม่มีใครทักท้วงหรือสนใจ อาจเพราะตัวเองก็อยากให้สถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้จบเร็วๆ


แค่มองก็รู้ว่าเจ้าตัวต้องรู้สึกร้อนมากที่ต้องยืนอยู่อย่างนั้น หยาดเหงื่อใสเกาะพราวบนใบหน้าสวย ปลายผมเปียกจนลู่ติดกับหน้าผาก ริมฝีปากแดงอ้าปากหอบน้อยๆ


ยั่วยวนเสียจนเบือนสายตาไม่ได้ ได้แต่จ้องมองไปที่เขา


วาไม่ได้เข้ากลุ่มร่วมกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน แค่วันแรกก็ถูกหมายหัวเสียจากรุ่นพี่ ให้เดาก็คงลามไปถึงเพื่อนร่วมรุ่นด้วย สังคมมนุษย์ก็อย่างนี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังแสดงสีหน้าเรียบเฉย ราวกับสิ่งภายนอกไม่สามารถมากระทบเกราะหินอ่อนที่ห่อหุ้มใบหน้าและร่างกายอันสวยงามของเขาได้


หลังจากถูกทำโทษในวันนั้น ผมก็ไม่เห็นว่าวามาร่วมกิจกรรมใดๆ อีก แต่ใบหน้าสวยยามต้องแดดนั้นยังคงติดตามตลอด เพราะงั้นตอนที่เห็นเขาเดินเข้ามาในห้อง ถึงได้รู้สึกประหลาดใจที่เรากลายมาเป็นรูมเมทกันอย่างไม่คาดคิด


และแค่เห็นการกระทำของวาที่ปลดกระดุมเสื้อออกเผยให้เห็นผิวขาวเนียน ผมก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าเขาช่างไม่ระมัดระวังตัวเอาเสียเลย และออกจะจงใจยั่วกันเกินไป


ผมรู้ว่าเป็นความคิดที่ออกจะโทษอีกฝ่ายไปหน่อย แต่ผมก็รู้สึกไม่ชอบใจนักกับท่าทีแบบนั้น ได้แต่คิดสงสัยว่าเขาจะทำแบบนี้ตลอดเลยหรือไม่? แล้วผมก็อาจหงุดหงิดที่ตัวเองรู้สึกว่าผู้ชายด้วยกันนั้นมีเสน่ห์เย้ายวนจนยากจะละสายตา


แล้วความคิดที่ว่าเขาอาจเป็นพวกปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่นานนักก็ถูกยืนยันด้วยกระแสข่าวลือที่กระจายไปทั้งคณะ


แรกเริ่มผมไม่สนใจพวกคำนินทาที่ได้ยินเรื่องที่วาชอบผู้ชายด้วยกัน แล้วยังนอนกับคนไม่เลือกหน้า แต่พอได้เห็นและได้ยินจากปากเจ้าตัว โทสะก็เกิดขึ้นอย่างที่ไม่เข้าใจตัวเองนัก


หงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นท่าทีที่เปิดโอกาสให้กับทุกสายตามากเกินไป มากจนผมอยากถอยห่างไปให้ไกลจากความสวยงามที่อาจลวงหลอกให้เข้าไปติดกับตกหลุม รู้ตัวอีกทีก็อาจหมดสิ้นหนทางหนี และขาดใจตายอยู่ในหลุมพรางนั้นก็ได้


ไม่ว่ายังไง เขาก็เป็นคนแบบที่ผมไม่ชอบที่สุดอยู่ดี


แต่เราก็เป็นรูมเมทกัน การจะหลีกเลี่ยงไม่เจอนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายจึงทำได้แค่บอกตัวเองว่าอย่าหลงไปติดกับเข้าเท่านั้น

 

เวลาที่ผมกลับมาที่ห้อง วามักกำลังนั่งมองไปนอกหน้าต่างที่เปิดรับลม เขาจะสูบบุหรี่ไปด้วย สายตาจะทอดมองออกไปไกลอย่างที่คาดเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไร ผมพยายามไม่ตีความกับสีหน้าของเขานัก


วันนี้ก็เช่นกัน วายิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นผมเดินเข้ามา ยิ้มแล้วก็หันไปมองด้านนอกดังเดิม ออกจะเป็นยิ้มที่เสแสร้ง หรือไม่ก็เป็นแค่ยิ้มตามมารยาท เราไม่ค่อยคุยอะไรกันเท่าไหร่ ที่จริงอาจเป็นเพราะผมพยายามรักษาระยะห่างกับเขาก็ได้


ผมไม่เห็นวาสนิทสนมหรือแม้แต่จะพูดคุยกับใครในคณะ เขาเป็นคนไม่เข้าหาคนอื่นอย่างที่ไม่คิดว่าจะเป็น แต่แน่นอนว่าเขาก็ไม่ปิดรับหากใครจะเข้าหาเช่นกัน อาจจะเว้นคนในมหาวิทลัยเดียวกันไว้ เพราะหลายคนมองเขาไม่ค่อยจะดีนัก


คนที่เขาคบหาด้วยจึงกลายเป็นคนจากที่อื่น แล้ววาก็ยังยอมรับหน้าตายว่านอนกับผู้ชายที่เจอในร้านกาแฟทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน


น่าสมเพช


ทำไมต้องปล่อยตัวเองให้ไร้ค่าแบบนั้น


แต่ที่น่าสมเพชยิ่งกว่าคงเป็นผม ที่ทั้งๆ ที่ไม่ชอบใจการกระทำของวา แต่ก็ยังปั่นป่วนทุกครั้งที่ต้องอยู่ใกล้


ผมวางกระเป๋า ก่อนจะนั่งลงที่เตียงฝั่งตัวเอง ริมฝีปากแดงเรื่อพ่นควันออกด้วยท่าทีผ่อนคลาย ลมเย็นพัดเข้าภายในห้องเอื่อยๆ


แม้จะไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ แต่ผมไม่ถือที่เขาจะสูบในห้อง ดีเสียอีกที่มันจะช่วยตอกย้ำให้ผมไม่ต้องเข้าไปใกล้เขา และอย่างไรเสียผมก็ไม่ค่อยได้อยู่ในหอพักร่วมกับเขานัก วาจะกลับไม่ทันหอปิดบ่อยๆ ให้เดาก็คงก็ไป ค้าง กับคนนั้น


แต่นับวันกลิ่นบุหรี่กลับทำให้ความไม่ชอบใจเริ่มผิดรูปไปจากเดิม รวงควันสีขาวขุ่นที่ออกจะรังเกียจกลับเคลือบคลุมไปด้วยกลิ่นน้ำหอม กลิ่นที่หลอมรวมไม่อาจแยกจากกลิ่นเนื้อกาย ผสมผสานกลายเป็นกลิ่นที่ชวนนำพาให้สติหลุดลอยเข้าหาเจ้าของกลิ่นที่กลายเป็นยวนเย้า


รวงควันขมุกขมัวทำให้มองเห็นคนข้าง ๆ ได้ไม่ชัดเจน หากแต่ในความเลือนรางนั้นก็ยังสามารถรับรู้ได้ว่าเขามีแรงดึงดูดอันแสนอันตรายแฝงไว้อยู่ ท่ามกลางหมอกควันและไออวลกลิ่นยวนเย้า ใบหน้าและร่างกายที่ถูกปกคลุมด้วยละอองสีหม่น ยังคงเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์อย่างน่าประหลาด

ถึงอย่างนั้นทุกอย่างที่เกี่ยวกับคนคนนี้ก็ช่างคลุมเครือมากเกินไป เพราะภายใต้หมอกควันสีขุ่นบดบังทัศนียภาพ เบื้องลึกลงไปข้างใต้นั้น ไม่มีใครสักคนที่จะสามารถคาดเดาในสิ่งที่ ซุกซ่อน อยู่ภายในได้


ไม่ว่าแท้จริงจะสวยงามเพียงใด หรือเลวร้ายตรงกันข้ามเพียงไหน ผมก็ไม่อยากใส่ใจ


สุดท้ายก็ทำให้ตัดสินใจพูดออกไป



อย่าสูบบุหรี่ในห้องได้ไหม เหม็น”
 

วานิ่งไปครู่ ก่อนจะดับบุหรี่ลงกับที่เขี่ยบุหรี่สีเงิน



โทษที”


เขาตอบแค่นั้น ก่อนจะมองไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม ไม่แสดงท่าทีขึ้งโกรธหรือไม่พอใจสักครั้ง แม้ว่าบางครั้งผมจะจงใจพูดแรงๆ ใส่


อดคิดไม่ได้ว่าเขาเหมือนกับรูปปั้นหินอ่อนที่จิตรกรชื่อก้องโลกรังสรรค์ขึ้นอย่างสวยงาม เปลือกนอกแม้ยังคงความสวยงามไว้ได้ แต่แท้จริงนั้นภายในนั้นจะฟอนเฟะเพียงไรไม่มีใครรู้


กระแสลมพัดเข้าห้องหอบเอาไอเย็นมาด้วย หากแต่ผมกับรู้สึกร้อนระอุ เสี้ยวหนึ่งของความคิด รู้สึกอยากทำลายเกราะหินอ่อนของรูปปั้นนั้นให้แหลก อยากรู้ว่าเขาจะยังคงสีหน้าเรียบเฉยไว้ได้ไหม อยากรู้ว่าจะร้องออกมาด้วยเสียงอย่างไร


แต่ก็เป็นความคิดชั่ววูบ ไม่ว่ายังไงผมก็ไม่อยากข้องเกี่ยวกับเขา และคนที่จะทำให้วาแสดงสีหน้า อย่างอื่น ออกมา ก็คงเป็นคนที่เจอที่ร้านกาแฟนั่น


เวลาผ่านไป ไออวลกลิ่นบุหรี่คละเคล้ากลิ่นหอมหวานก็เลือนหายไปจากห้อง



..หายไป.. จนเหลือเพียงแค่กลิ่นไอแดดและสายลม



ถึงอย่างนั้นภายในใจยังคงได้ยินเสียงร่ำร้องครวญปรารถนากลิ่นที่คิดว่ารังเกียจนั้นอีกครั้ง ดังแว่วผะแผ่วอยู่ในเสียงหัวใจเต้น อยู่ในเสียงของกระแสลมหายใจ


ได้แต่หวังว่าความคิดที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงแค่สิ่งชั่วครั้งชั่ววูบ กลิ่นบุหรี่ที่แสนอันตราย ย่อมทำร้ายผู้ที่หลงไปลิ้มลอง ไม่มีทางที่ผมจะหลงใหลไปกับความอันตรายที่แสนงดงามนั้นได้


ไม่มีทาง และไม่มีวัน
 


.
.


[จบครึ่งแรก]
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 04-04-2015 15:03:08
Talk: มาต่อแล้วค่า >< ตอนนี้มาเป็นมุมมองของเพลิงค่ะ พี่เพลิงก็เป็นคนร้อนแรงจริงๆ แหละ ส่วนวาก็เอื่อยๆ เหมือนลมจริงๆ เหมือนว่ากำลังเข้าใจกันไปคนละทางอยู่ แต่ก็จะจูนเข้าหากันได้ในอนาคตค่ะ

สองคนนี้จริงๆ เหมาะสมกันมากเลยนะ ชอบผู้ชายแบบเพลิงเหมือนกันค่ะ ดูร้อนๆ ดี แต่ก็ดูเป็นคนขี้หวงเกินไปเหมือนกันนะ

ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ ^^ อ่านแล้วเป็นยังไงบอกคนเขียนกันบ้างนะคะ กระทู้ตกไปเร็วมากเลย TwT

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ในตอนที่แล้วค่ะ

แล้วก็ฝากนิยายเรื่องอื่นของคนเขียนด้วยนะคะ


ลิขิตเหนือภพ - สัตตบรรณหลงฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44332.0) [จบภาค]
Love Cure ป่ว(ย)นนัก รักซะ! (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45522.0)

FB Page (https://www.facebook.com/psychoromancefiction)


 :mew1:

หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 04-04-2015 15:19:46
อ่านจบปั๋บ เพลิงเป็นผช.ขี้มโนมาก คิดเองเออเองสุดๆ
หลับหูหลับตาเชื่อข่าวลือกันง่ายๆ งี้เลยเหรอ? อยู่ห้องเดียวกันน่าจะเห็นอะไรมากกว่าคนอื่น หลับหูหลับตางี้ไม่ไหวนะ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: hanahana ที่ 04-04-2015 16:00:53
อือหือ นี่ถ้าเพลิงได้รักแล้วก็น่ะ ไม่ต้องสืบ..
ดูท่าจะขึ้หึงขี้หวงน่าดู เพราะดูแล้วพี่เพลิงแกจะคิดไปเองคนเดียวเก่ง55555555555
วาเตรียมตั้งรับมุมนี้ของพี่แกไว้เลยลูก  :impress2:
รอๆจ้า

หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 04-04-2015 19:15:48
ชอบตัวละครแบบวามาก ดูน่าค้นหายังไงไม่รู้ ชอบคนเรื่อยๆเอื่อยๆแบบนี้เลย55555555555
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-04-2015 20:36:16
เพราะรักจึงเกลียด
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Lactobacillus_casei ที่ 04-04-2015 22:41:57
ถ้าเฮียเพลิงได้ขย้ำสักครั้ง เฮียคงจะเลิกเกลียด  #สัมผัสได้ถึงพลังหื่นในเฮีย555

หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: BlackAngel_N ที่ 04-04-2015 23:01:45
อยากให้พี่เพลิงรู้ความจริงเร็วๆ จะได้เลิกมโน  :katai1:
 สงสารหนูวาที่โดนเกลียด :mew2:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kkmm ที่ 04-04-2015 23:56:38
ขอบคุณครับมาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: PharS ที่ 05-04-2015 10:35:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 05-04-2015 10:45:03
ก็วาดันมาทำตัวในแบบที่เพลิงไม่ชอบ
เรื่องมันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
วาเลิกทำแบบนี้เถอะนะ
ขำเพลิงมีแอบหึงด้วย
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 05-04-2015 11:06:33
รอติดตามค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-04-2015 16:04:07
นี่ๆเอาต่างหูไปใส่นะตะเอง

หูเบาเหลือเกิน !!!

ที่จริงถ้าจะมั่วก็เรื่องของเขาป่ะว่ะ

พวกคนในคณะนี่น่ารังเกียจจริงๆ

ใครว่าไงก็ว่าตามกัน จริงไม่จริงไม่สน
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 05-04-2015 17:32:04
 o13

ชอบมากค่ะ 
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 05-04-2015 18:58:17
 :ling1: อร๊ายย ย ย ย เพลิง..ความจริงนายก็คิดไม่ซื่อกับวานั่นแหล่ะ จะทำอะไรก็ทำเลยยย  เราสนับสนุน ชอบการบรรยายจริงๆ ค่ะ รออ่านครึ่งหลังไม่ไหวร้าวว
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 05-04-2015 19:16:45
อ่านยังไม่ถึงไหน หลับซะงั้น เดวอ่านใหม่อีกรอบ แหะๆ เรื่องเขาออกจะร้อนแรงทำไมอิฉันถึงหลับได้เนี่ย งงตัวเอง
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 06-04-2015 12:15:30
รอครึ่งหลัง
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 07-04-2015 10:30:48
 :hao3:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 14-04-2015 22:49:01
ฮืออออออออออออออ น้องเพลิงคนซึน อบเค้าก็บอกมา ไม่ใช่มัวแต่สะกดจิตตัวเองว่าเกลียดๆ อยู่ร่ำไป  :-[ :-[

รอตอนต่อไปค่าาา -3-
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 26-04-2015 15:33:37
สัมผัสได้ถึงความหื่นของนายเพลิง   o18
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 26-04-2015 15:54:11
อ่านแล้วหน่วงใจเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Anong2013 ที่ 26-04-2015 16:39:31
สั้นมากกกๆๆๆๆๆ...... :z3:
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kail ที่ 15-05-2015 18:58:40
รออ่านต่อนะคะ^^
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-05-2015 21:31:39
ขั้วที่ต่างกันมาเจอกันน่าจะสมดุลได้น่ะ ลุ้นต่อจร้า
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: rujirapon1221 ที่ 16-05-2015 22:55:10
ไฟที่ลุกโชนอยู่แล้ว พอมาต้องลม มันก็ยิ่งจะลุกโชน ทอแสงสว่างมากยิ่งขึ้น

พี่เพลิงของเรา เป็นแบบนั้นเลย อิอิ

รีบๆมาต่อนะคะ ชอบสำนวนในการใช้บรรยาย และคาแรกเตอร์ของตัวละครมากเลย เป็นเอกลักษณ์ดี

ติดตามจ้าๆๆ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yandereko ที่ 20-05-2015 22:22:20
รอมาต่อคับ
หัวข้อ: Re: ✎・☀☀☀☀ เพลิงในวายุ ☀☀☀☀ ตอนที่ 2 ครึ่งแรก [หน้า2 up 04.04.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 20-05-2015 22:23:03
ตอนที่ 2 Part II






อากาศภายนอกร้อนระอุ หากแต่สายลมผะแผ่วที่พัดเอื่อย ช่วยทำให้รู้สึกไม่ร้อนมากจนเกินไป
   


ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากหาที่คลายร้อนเสียหน่อย ซึ่งจุดหมายก็ไม่ใช่ที่ไหน นอกจากเป็นห้องสมุดที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำและเงียบสงบ
   


ผมชอบมาอ่านหนังสือที่นี่ ยิ่งตอนนี้มีใครบางคนอยู่ในห้องพักด้วยแล้ว ก็รู้สึกไม่ค่อยอยากกลับหอสักเท่าไหร่ กลิ่นบุหรี่ที่อวลอยู่ในห้องมันน่าหงุดหงิดเกินไป แล้วยังภาพใบหน้าขาวอันแสนเรียบเฉยนั่นอีก เห็นแล้วก็มักจะอารมณ์คุกรุ่นขึ้นมาเสียดื้อๆ
   


ไม่เข้าใจตัวเองนักทำไมถึงเป็นแบบนี้ อาจจะเพราะผมไม่ชอบวายุมากก็ได้ ถึงจะหาสาเหตุลงลึกไปได้ไม่แน่ชัดว่า เกลียด เพราะว่าอะไรกันแน่
   


เกลียดท่าทีไม่ยี่หระต่อคนอื่น
   


เกลียดที่เขาเห็นว่าความสัมพันธ์เชิงลึกกับคนอื่นเป็นเรื่องแค่ล้อเล่น แล้วยังปล่อยตัวให้คนอื่นง่ายๆ
   


หรือเกลียด...ที่ความเกลียดของตัวเองเอาชนะความสนใจที่มีต่อคนคนนั้นไม่ได้
   


และเพราะฟุ้งซ่านมากเกินไป ผมจึงมานั่งที่ห้องสมุดเพื่อทบทวนบทเรียน หลังจากนั่งอ่านไปจนเข้าใจดี ก็ค่อยเดินค้นหาหนังสือสำหรับทำรายงานฆ่าเวลาเรื่อยเปื่อย
   


จะว่าบังเอิญก็คงได้ ที่สายตาดันสังเกตเห็นเพื่อนร่วมห้อง อยู่ในห้องสมุดนี้ด้วยเช่นกัน
   


ทีแรกก็เกือบจะเดินผ่านเขาไปโดยไม่ทันได้มองแล้ว หากแต่ใบหน้าอันเป็นเอกลักษณ์และความโดดเด่นแบบนั้น ก็สะดุดสายตาผมจนต้องเผลอหยุดยืนลอบมองอยู่ห่าง ๆ
   


ใบหน้าได้รูปดูตั้งอกตั้งใจกับการยืนอ่านหนังสือยาก  นิ้วมือเรียวเปิดพลิกหน้าหนังสือปรัชญา ไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะสนใจเรื่องทำนองนี้ด้วย ดูไม่เข้ากับบุคลิกที่ดูไม่ใส่ใจกับสิ่งรอบข้างแม้แต่น้อย พอนึกดูแล้ว ทำไมสิ่งที่คิดกับสิ่งที่ได้รับรู้ถึงได้ขัดแย้งกันในความรู้สึกขนาดนี้นัก
   


น่าหงุดหงิดชะมัด
   


ตัดสินใจจะเดินจากที่ตรงนั้น ทว่ายังไม่ทันได้เดินพ้นไปไกล เสียงของใครคนหนึ่งก็ทำให้สองขาหยุดก้าวเดินเสียก่อน
   


เป็นเสียงของผู้ชายคนหนึ่ง ที่เข้าประชิดตัววายุ และกำลังก้อร่อก้อติกเจ้าของใบหน้าสวยที่ไม่คิดแม้แต่จะให้ความสนใจ
   


ไม่รู้ว่าปกติเขาจะเจอพวกตามตื๊ออย่างนี้บ่อยหรือไม่ เพราะคนที่จะตามติดตามตื๊อจนน่ารำคาญแบบหมอนี่คงมีอยู่ไม่มากนัก แล้ววาก็ดันดึงดูดคนแบบนี้ได้ดีเสียด้วย ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ ที่ผ่านมาก็เห็นเขามีคนสนอกสนใจอยู่เยอะไป
   


แต่ส่วนมากที่สนใจ ก็คงเป็นความ ง่าย ของเจ้าตัวเองนั่นแหละ
   


เรื่องดูจะเกินเลยมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายพยายามตามติดเข้ามาประชิดตัว มือที่จับท่อนแขนดูจะไม่ปล่อยออกง่ายๆ แม้วาจะพยายามผลักดันให้ชายคนนั้นถอยออกไปก็ตามที
   


ไม่ใช่เรื่องของผมเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึง จงใจ ทำหนังสือร่วงหล่นจากมือ จนคนสองคนที่ยืนอยู่ในช่องมุมหนังสือปรัชญาหันมามองผมเป็นสายตาเดียว
   


ผมทำเป็นไม่สนใจสายตาของคนทั้งสอง หยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้น และเดินเข้าไปด้านในของชั้นเพื่อเลือกดูหนังสือต่อ ทำให้ผู้ชายที่ตามตื๊อวาผงะออก เขาแสดงสีหน้าตกใจ ก่อนจะแยกตัวออกมา
   


ในที่สุดหมอนั่นยอมล่าถอย หากแต่ก็ยังหันไปเอ่ยกับอีกฝ่ายทิ้งท้าย “ลองไปคิดดูนะ”
   


“......”
   


น่าปรบมือให้กับความพยายามเสียจริง นายวายุคง มีดี มากขนาดที่ยอมตามตื๊อได้ขนาดนี้ เมื่อชายคนที่ว่าเดินออกไปแล้ว ผมก็หันกลับมาทางสมาชิกร่วมกลุ่มที่จ้องมองผมมาด้วยสายตาเขม็ง
   


นี่กำลังไม่พอใจ?
   


“ไม่อยากให้ใครเข้ามาขัดจังหวะรึไง”
   


เลิกคิ้วเอ่ยถาม ก่อนจะหันกลับมาเปิดหน้าหนังสือพลิกอ่านไปด้วย วานิ่งเงียบไปจนคิดว่าคงจะไม่เอ่ยอะไรตอบออกมา หากแต่ไม่กี่อึดใจหลังจากนั้น เขาก็เอ่ยเสียงเรียบตอบกลับ
   


“ก็คงงั้น”
   


“......”
   


หันไปเผชิญเจ้าของใบหน้านิ่งเฉยโดยตรง ไม่มีความหมายอะไรแฝงไว้ในแววตาที่ส่งทอดให้อีกฝ่าย สองขาเดินเฉียดร่างบางเข้าไปด้านใน มือหนึ่งเลือกหยิบหนังสือออกมาเปิดดูเนื้อหาผ่านตา ขณะที่ริมฝีปากเอ่ยพูดลอยๆ
   


“ตามไปสานต่อสิ ดีเหมือนกัน ตรงนี้จะได้ไม่มีใครทำเสียงรบกวนคนอ่านหนังสือ”
   


“......”
   


เขาเงียบไปครู่ ก่อนจะสวนตอบออกมา “ถ้านายจะสังเกต ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ตั้งแต่ก่อนนายมาอีกนะเพลิง”
   


ตกลงแล้วจะบอกว่าผมเป็นฝ่ายเข้ามาสอดและเสนอหน้าจริงๆ งั้นสิ
   


ออกแรงปิดหนังสือลงแล้ววางมันไว้กับชั้นดังเดิม ก่อนจะปราดสายตามองใบหน้านิ่งราวกับรูปปั้นอย่างเย็นชา ผมตั้งใจจะเดินกลับออกไป หากแต่ทันใด วาก็เอ่ยบางอย่างที่ทำให้ต้องหยุดชะงัก
   


“เกลียดที่ต้องอยู่ที่ที่เดียวกับฉันมากรึไง?”
   


ผมหยุดกึก และหันกลับไปมองหน้าอีกฝ่าย
   


วายุกำลังยืนมองผมมาอย่างคาดเดาอารมณ์ไม่ได้ เขาอาจกำลังท้าทายหรือยั่วโมโห สติบอกให้ผมไม่ควรเดินตามเกม หากแต่สีหน้าท่าทางที่ไม่มีการแสดงความสนใจไยดีที่ปรากฏกับสายตา กับคำพูดที่แสนประชดประชัน ทำให้เกิดอารมณ์หุนหันจนเผลอหลุดคำพูดออกไป
   


“ใช่ ฉัน ‘เกลียด’ ที่ต้องอยู่ที่ที่เดียวกับนาย”
   


คำพูดร้ายกาจนั้นไม่ต่างจากใบมีดคมกริบที่อาจทำให้เปลือกนอกอันสวยงามเกิดริ้วรอย ร้ายที่สุดก็คือสร้างความแตกร้าวให้ ผมคิดว่าอย่างนั้น อย่างน้อยก็ในทีแรก หากแต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้ทำให้รูปปั้นงดงามเกิดริ้วรอยขีดข่วนแม้แต่น้อย
   


วายุยกยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่เหมือนกับล่วงรู้อยู่แล้วว่าผมจะเอ่ยอย่างนี้ออกมา
   


“พูดตรงดีนะ...ก็ไม่แปลกใจนักหรอก”
   


อีกฝ่ายเอ่ยพลางก้าวเดินเข้ามาใกล้ ทำให้ผมก้าวถอยหลังห่างออกโดยไม่รู้ตัว ขืนอยู่ต่อคงได้ถูกคนตรงหน้านี้ปั่นหัวแน่ จึงตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายเดินออกไปเสียดีกว่า ถึงกลับไปห้องจะต้องเจออีก แต่ตอนนี้อยู่ห่างๆ ไว้เพื่อสงบสติอารมณ์คงดีที่สุด
   


ทว่าทันใดนั้น วายุก็คว้าคอเสื้อผมไว้ ออกแรงดึงผมให้โน้มเข้าใกล้ ไม่ทันได้ตั้งตัว
   


ริมฝีปากอิ่มก็เข้าประทับลงกับริมฝีปากผม
   


รู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบที่ทาบทับ หากแต่ก็เป็นความเย็นที่ปลุกให้ร่างกายร้อนรุ่ม และสะกดให้ผมหยุดนิ่งได้ในคราวเดียวกัน
   


ไม่แม้แต่จะสามารถผละใบหน้าออก ริมฝีปากนุ่มก็ถือโอกาสบดเบียดแนบแน่นเข้ามากขึ้น
   


เสี้ยววินาทีที่กาลเวลาราวกับจะหยุดชะงัก บางสิ่งบางอย่างก็ค่อยๆ แจ่มชัด ค่อยๆ ก่อตัวเป็นรูปร่างขึ้นให้ผมได้ตระหนัก

   


ไออวลกลิ่นหอมที่วนเวียนอยู่ใกล้ ๆ อุณหภูมิจากร่างกายเย็นเฉียบจนสั่นไหว สั่นสะเทือนจนทำให้หัวใจผมเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
   


ไม่ต้องเสียเวลารวบรวมสติตนเอง วาก็จัดการเรียกสติผมให้กลับคืน ด้วยการฝังคมเขี้ยวลงที่ริมฝีปากให้รู้สึกเจ็บแปลบ ผมสะดุ้ง สัญชาตญาณทำให้ผมออกแรงผลักร่างอีกฝ่ายออกไป
   


ตึง!
   


ร่างตรงหน้าชนเข้ากับชั้นหนังสือจนเกิดเสียงกระแทกดัง หากแต่วายุกลับไม่มีทีท่าว่าจะแสดงออกมาว่าเจ็บ จะมีก็แต่ยกยิ้มราวกับกำลังเย้ยหยันส่งทอดมา
   


น่าเจ็บใจจริงๆ สุดท้ายก็โดนคนอย่างเขาปั่นหัวจนได้ ผมหันหลังกลับ รีบก้าวเดินออกจากที่ตรงนั้นโดยไม่คิดที่จะหันกลับไปเหลียวมองอีก แต่ผมก็รู้ตัวดี ว่าต่อให้ไม่คิดจะหันไปมอง ภาพบางอย่างก็ยังคงติดตรึงอยู่ในสายตา
   


ความสวยงามที่รังสรรค์อยู่บนใบหน้ารูปปั้นหินอ่อน แม้จะได้รับแรงกระทบจากภายนอก ก็ยังคงไว้ทั้งความสวยงามและความแกร่งกล้าเอาไว้ได้
   


ไม่แปลกใจที่ใครต่อใครต่างพากันหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของรูปปั้นนั้น
   


พอได้สัมผัสกับอุณหภูมิเย็นเยือกราวกับกำลังสัมผัสกับสิ่งไร้ซึ่งชีวิต ความร้อนรุ่มก็ยังคงถูกปลุกเร้าให้ก่อเกิดขึ้นในร่างกายได้ ถึงแม้จะเย็นเยือกจนบาดเนื้อมากสักเพียงไหน เชือดเฉือนไปจนถึงเนื้อในมากสักเพียงใด รูปปั้นหินอ่อนที่คงความงดงามนั้น ยังคงสามารถดึงดูดให้หลายต่อหลายคนต้องการครอบครองไว้แต่เพียงผู้เดียว

   


ปลายนิ้วพลางลูบที่ริมฝีปากที่เจ็บแสบ รสชาติและความรู้สึกที่รูปปั้นไร้ชีวิตได้ฝากฝังเอาไว้ หากมันจะเจ็บไปถึงขั้วหัวใจให้ผมรู้สึก เข็ดขยาด บ้าง ก็คงดี




.
.


TBC.

______



Talk: มาแล้วค่าา ขอโทษที่ตอนนี้มาช้านะคะ พอดีโยยุ่งๆ มากเลย เลยมาลงได้แค่คุณหมอเรื่องเดียว แต่ตอนนี้สามารถมาลงบ่อยได้แล้วค่ะ หวังว่าคนอ่านจะยังติดตามกันอยู่น้าา อย่าพึ่งทิ้งพี่เพลิงกับวายุไป

และสำหรับตอนนี้ เพราะว่าเป็นเรื่อง เพลิงในวายุ วายุน้อยของเราก็เลยใส่ไฟให้คุขึ้นกว่าเดิมอีก เห้ะๆๆๆ ทำไงได้ วาอยากเล่นกับไฟดูนี่นา แต่ไม่รู้เลยตัวเองทำให้เชื้อยิ่งไหม้แรงขึ้น ><

เจอกันใหม่ตอนที่ 3 นะคะ อ่านแล้วเป็นยังไงเม้นต์บอกโยบ้างน้า

แล้วก็ขอฝากนิยายเรื่องอื่นไว้ด้วยนะคะ ^^

ลิขิตเหนือภพ - สัตตบรรณหลงฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44332.0) [จบภาค]
LOVE CURE รักนี้ ต้องรักษา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45522.0) [นิยายแนวตลกขบขันปนหื่นเล็กๆ]

FB Page (https://www.facebook.com/psychoromancefiction)
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 20-05-2015 23:21:50
 :hao6: :hao6: :hao6:

ดูท่าจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 21-05-2015 00:22:51
 o13
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: usguinus ที่ 21-05-2015 00:49:25
ชอบบบบบบมากกกกกค่ะ ชอบตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว มันดึงดูดมากก :katai2-1:
เพลิง แกชอบวาชัดๆ ใส่ใจรายละเอียดเค้าขนาดนั้น มาเกลียดเกิดอะไร วาเสียใจหมด :katai1::katai1:
รอตอนต่อไปนะคะ มาอัพบ่อยๆน้า
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-05-2015 01:26:04
เอาแล้วไงเดี๋ยวได้ติดใจ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 21-05-2015 13:11:03
มาต่อเร็วๆน่า :mew2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 21-05-2015 19:57:29
ต่อๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 21-05-2015 20:00:22
เพลิงจะโหมกระหน่ำร้อนแรง หรือ จะอ่อนแรงดับมอดในวายุ  หุหุหุ
แหม๋  หลงเสน่ห์เขาแล้วมาทำมึน ปากบอกเกลียด แต่เก็บรายละเอียดทุกเม็ด น่าโบกหัวจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-05-2015 21:28:31
เหตุการณ์นี้นี่เอง
ที่มาของเรื่องที่วายุคิด
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 23-05-2015 09:27:27
คนนึงก็ร้อน อีกคนก็ทำให้ยิ่งร้อน :fire:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 23-05-2015 22:29:07
   Chapter 3 ครึ่งแรก

 




ท่าทีที่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาว่า เกลียด คำพูดที่ตอกย้ำอยู่กลายๆ ว่า ไม่อยากเข้าใกล้ ทำให้อดไม่ได้ที่จะกระทำสิ่งสิ้นคิดไปแบบนั้น


ช่างไร้การควบคุม ไร้การเหนี่ยวรั้งตนเองอย่างไม่น่าให้อภัย จนสุดท้ายก็มานึกเสียใจเองที่เผลอทำอะไรบ้าๆ ลงไป

ป่านนี้เพลิงคงยิ่งขยาดเกลียดขี้หน้าผมมากกว่าเดิม แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะต่อให้เกลียดมากหรือน้อย เกลียด ก็คือเกลียดวันยังค่ำ


ขณะที่เดินกลับหอพัก ก็รู้สึกเจ็บแปลบตรงหลังที่ถูกผลักไปชนกับชั้นหนังสือในห้องสมุด ที่ที่รู้สึกปวดร้าวไม่นานคงกลายเป็นแผลฟกช้ำ ริ้วสีคล้ำช้ำเลือดคงประดับเป็นทางอยู่ตรงลาดไหล่ลามไปจนถึงแผ่นหลัง


ตอนนี้เพียงแค่สัมผัสถูกอะไรเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้สะท้านตรงรอยแผลได้ง่ายๆ เพลิงออกแรงผลักโดยไม่คิดจะยั้งมือไว้แบบนี้ ก็พอให้คาดเดาได้ตัวเองว่าถูกเกลียดมากแค่ไหน

แต่สิ่งที่คาดเดาไม่ได้ก็คือ ทำไม เขาต้องเกลียดกันมากขนาดนั้นเท่านั้น

แล้วความเกลียดชังของเพลิงดูจะมีเพิ่มมากขึ้นเมื่อเขากลับมาถึงหอพักเช่นกัน แค่มองหน้าก็ยังไม่มอง ไม่มีทางที่จะได้เห็นสีหน้ายิ้มแย้มของเพลิงขณะที่อยู่กับเพื่อนฝูงในขณะที่เจอผมแน่ น่าสงสารที่จะหลบหน้าผมก็ไม่ได้ เพราะยังไงก็ต้องกลับมานอนที่หออยู่ดี


และความไม่พอใจทุกอย่างก็แสดงออกมาทางสีหน้าเพลิงโดยไม่มีการคิดที่จะปิดบัง เขากลับมาถึงก็แค่เปรยสายตาผ่านๆ แล้วก็เอาแต่นอนหันหลังให้


ภายในห้องของหอพักแม้ไม่เล็กมาก แต่เมื่อคนสองคนที่เอือมระอาที่จะเห็นหน้ากันต้องมาอยู่ด้วยกัน ก็ดูแคบขึ้นมาในทันที จะหลบไปไหนก็ไม่ได้เพราะไม่มีกำแพงกั้น


ทั้งๆ ที่คิดไว้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้ แต่ก็อดรู้สึกอึดอัดไม่ได้ ในที่สุดก็ต้องหลบออกมาสูบบุหรี่นอกหอเพื่อลดความกดดันให้ตัวเองเสียหน่อย การอัดสารนิโคตินเข้าสู่ร่างช่วยทำให้ผ่อนคลายได้มากขึ้น ผมยืนสูบจนบุหรี่หมดมวน ถอนหายใจไปก็หลายครั้ง และรอจนเวลาที่คิดว่าเพลิงน่าจะหลับ ก็ค่อยเดินกลับเข้าห้อง


เมื่อกลับเข้าห้องอีกครั้งดวงไฟภายในห้องก็ปิดสนิท ร่างใหญ่บนเตียงอีกฝั่งหลับไปแล้วอย่างที่คิด ผมจึงเดินเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายเสียหน่อย


สายน้ำเย็นไหลชโลมร่างขับความร้อนรุ่มให้หายไป แต่เมื่อคิดถึงหน้าคนที่นอนอยู่ด้านนอก ก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาอีกครั้ง


หัวใจเจ็บแปลบ ขณะที่ส่วนกลางร่างกายร้อนผ่าว


น่าสมเพชเหลือเกิน


มันช่างไม่มีคำว่า ยุติธรรม เสียจริง ขณะที่คนด้านนอกนอนอย่างไม่รู้สึกรู้สา ผมกลับรู้สึกปั่นป่วนเมื่อคิดถึงริมฝีปากร้อนยามที่ฝืนจนได้สัมผัส สุดท้ายก็ต้องปลดปล่อยอารมณ์ตัวเองออกมาด้วยความรู้สึกขมขื่น


ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงเป็นแบบนี้


เพราะว่าหัวใจผมเย็นเยือกเกินไป จนโหยหาความร้อนรุ่มงั้นหรือ


หากเป็นอย่างนั้นจริง ผมหวังว่าความร้อนของเพลิงจะไม่เผาผลาญให้ต้องสูญสลายไปก็พอ

 


_____

 

  วันรุ่งขึ้นเพลิงออกจากหอพักไปแต่เช้า ผมตื่นมาก็ไม่เจอเขาแล้ว ให้เดาก็คงเพราะเขาอาจจะอยากหลบหน้าผมก็เป็นได้ รอยที่หลังจากเมื่อวานขึ้นริ้วสีม่วงช้ำ ควรจะรีบหาน้ำแข็งมาประคบหรือหายามาทาแต่เนิ่นๆ แต่ปล่อยเอาไว้แบบนี้ก็ดี เพราะความเจ็บนี้จะได้ตอกย้ำผมไม่ให้ไปเล่นกับไฟ


ผมเข้าชั้นเรียนตามปกติ นั่งอยู่ข้างหลังสุด ส่วนเพลิงก็เลือกนั่งแถวที่ค่อนไปด้านหน้า บรรยากาศในห้องเรียนเคยน่าเบื่อยังไง ก็ยังน่าเบื่ออย่างนั้น ขณะที่อาจารย์บรรยายบทเรียนไป หูก็ฟังจับใจความได้บ้างไม่ได้บ้าง มือจดเท่าที่พอจะเข้าใจ แม้ผมจะไม่ได้เป็นคนที่ไม่สนใจเรียนเอาเสียเลย ทว่าก็ไม่ใช่คนที่จะสนใจเรียนมากเกินไปด้วยเช่นกัน


เท่าที่สังเกต คนในคณะมักจะจับกลุ่มนั่งด้วยกันเสมอ บางกลุ่มก็มักจะผลัดกันแลกโน้ต บางกลุ่มก็ผลัดกันเข้าเรียนบ้างไม่เข้าเรียนบ้าง ช่วงใกล้สอบเก็บคะแนนก็มักจะเห็นแต่ละกลุ่มช่วยกันติว


ผมไม่รู้สึกอยากเข้ากลุ่มใดๆ อาจเพราะรู้สึกแปลกแยก และชินกับการอยู่คนเดียวเสียแล้ว และเพลิงเอง คนที่เคยคิดว่าไม่ค่อยยึดติดกับกลุ่มไหนเป็นพิเศษ จู่ๆ วันนี้ก็เห็นนั่งเรียนเคียงคู่กับหญิงสาวผมยาวคนหนึ่ง


น่าแปลกใจเสียจริง หรือว่าเด็กเรียนจะดีแตกเสียแล้วล่ะ


ตอนที่เลิกชั้นเรียน เมื่อเพลิงเดินผ่านผม ใบหน้าที่เคยยิ้มกับหญิงสาวก็กลับถมึงทึงขั้นมาในทันที คงจะเสียอารมณ์มาก ผิดกับเวลาที่อยู่กับผู้หญิง ที่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ ทั้งถือกระเป๋าให้ ทั้งไม่เคยทำท่าทีเหมือนโกรธแค้นกันมานานใส่


และพอคิดแบบนั้น ก็รู้สึกสมเพชตัวเองนัก แต่แม้จะสมเพช ก็ยังตัดสินใจทำเรื่องที่ไม่เข้าท่าอีกจนได้






.
.




(มีต่อ)
 
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 2 ครึ่งหลัง [หน้า2 up 21.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 23-05-2015 23:33:10
.
.

  จะว่าไปผู้หญิงที่เห็นก็หน้าตาสวยทีเดียว ผิวขาวตัวเล็ก ดูน่าทะนุถนอม แล้วก็ดูอ่อนหวานอย่างที่เพลิงน่าจะชอบ


เมื่อเห็นว่าเพลิงแยกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว ผมก็เลือกที่จะเดินเข้าไปหาร่างสูงกว่า



แฟนเหรอ”


เอ่ยถามไปอย่างนั้น ทั้งที่รู้ว่าเพลิงจะตอบมาไม่ดีแน่



เกี่ยวอะไรกับนาย”



อย่างน้อยก็เป็นรูมเมทกันนี่ เผื่อนายจะพาสาวเข้าห้อง จะได้รู้หน้าเอาไว้”


เพลิงหัวเราะหึ ก่อนจะเอ่ยตอบ “อย่าคิดว่าคนอื่นจะเป็นเหมือนนาย”



“......”


เป็นเหมือนผม หมายถึงผู้หญิงคนนั้น ไม่ง่าย เหมือนผมงั้นสิ


ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าเพลิงไม่มีทางมองผมในแง่ดี ก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้ อาจเพราะผมรู้สึก อิจฉา ที่เขาสามารถแสดงออกออกมาได้ดั่งใจคิด ผิดกับตัวเองที่ไม่มีทางแสดงออกไปได้แน่ว่ารู้สึกอย่างไร



นั่นสินะ แต่ใครจะรู้ เห็นเงียบๆ อาจจะผ่านมาหลายคนแล้วก็ได้”



อย่ากล่าวหาคนอื่นทั้งที่นายยังไม่รู้จักเค้าด้วยซ้ำ”


หางตาผมกระตุกเมื่อได้ยิน ดูจะปกป้องกันเสียเหลือเกิน ได้แต่ยิ้มหยันให้กับความเป็นจริง สายตาจ้องมองไปที่อีกฝ่ายที่ดูจะเอาเรื่องมากเป็นพิเศษ สีหน้าแสนจะบึ้งตึงและแววตาฉายแววโกรธขึ้งกว่าครั้งก่อนๆ คนตรงหน้าฝังฟันคมกัดลงกับเนื้อริมฝีปากล่างอย่างไม่พอใจ


และเมื่อสายตาเผลอหยุดสังเกตตรงร่องรอยแผลที่ผมเป็นคนฝากไว้ ร่างสูงกว่าก็แสดงท่าทีกระฟัดกระเฟียดออกมา ลมหายใจเขาผ่อนไม่เป็นจังหวะ คงจะรู้สึกโกรธแค้นเรื่องคราวก่อนขึ้นอีกด้วย



ฉันไม่อยากรู้จักผู้หญิงคนนั้นหรอก แต่ถ้านายอยากให้ทำความรู้จักหล่อน...ฉันก็ไม่ขัดน้ำใจ”


เอ่ยพลางเดินเข้าใกล้เพลิงมากขึ้น ก่อนจะยื่นปลายนิ้วแตะที่ใบหน้าของอีกฝ่าย



เคยบอกหรือเปล่า ฉันน่ะ ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ถึงจะชอบผู้ชายมากกว่าก็เถอะ”


เรียวนิ้วลากไล้สัมผัสตามแนวสันกราม ร่างสูงสะดุ้งเมื่อปลายนิ้วผมลากมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก เขารีบปัดมือผมออกเมื่อตั้งสติได้



ไม่มีใครเขาหลงไปกับคนอย่างนายหรอก” น้ำเสียงแข็งกร้าวดังก้อง ชายหนุ่มผิวเข้มกัดฟันกรอดยิ่งกว่าเดิม


ผมยกยิ้ม ยิ้มอย่างไร้ซึ่งความหมาย


เพลิงไม่ได้ทิ้งเพียงแค่ความรังเกียจและสีหน้าบึ้งตึงไว้เท่านั้น เขายังฝากคำพูดทิ่มแทงไว้ก่อนเดินจากไป



รู้ไว้ด้วยว่าฉัน ‘เกลียด’ คนอย่างนายที่สุด”



“......”


แน่นอน ผมรู้อยู่แล้ว รู้ดีมากทีเดียว ถึงอย่างนั้นสองขาก็ยังเดินตามเจ้าของแผ่นหลังกว้างนั้นไปอย่างไร้เหตุผล ราวกับว่าไม่เป็นตัวของตัวเองอีกต่อไป สองเท้าก้าวเร็วขึ้นเพื่อให้ประชิดร่างนั้นได้ทัน มือดึงท่อนแขนแข็งแรงเอาไว้เมื่อมาเดินถึงหน้าห้องเรียนว่างเปล่า


!!


ชายหนุ่มร่างสูงแสดงสีหน้าแปลกใจ หัวคิ้วได้รูปขมวดมุ่น น้ำเสียงกระโชกเปล่งออกจากริมฝีปาก



มีอะไรอีก!”


ผมไม่ตอบ สองมือกลับเอื้อมคล้องคออีกฝ่ายก่อนจับโน้มให้เข้าใกล้ หากไม่ถูกผลักดันเอาไว้ ริมฝีปากเราคงประทับกันไปแล้ว



นี่คิดจะทำอะไร!?” ดวงตาคมเบิกกว้าง สีหน้าที่เคยบึ้งตึงแสดงออกถึงความประหม่า เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้



ฮะๆ ต้องถามอีกงั้นเหรอ


แค่นเสียงหัวเราะพลางประชิดเข้าใกล้มากกว่าเดิม วงแขนยังคงโอบไปรอบลำคอแกร่ง ปลายจมูกจงใจให้อยู่ห่างจากเขาแค่ช่วงลมหายใจ เพื่อปล่อยให้ไอร้อนจากในกายได้ผ่อนรดสัมผัสลงกับผิวเข้ม



อย่าทำอะไรงี่เง่าน่า” เขาเอ่ยโดยที่พยายามแกะมือผมออกไปด้วย ใบหน้าถมึงทึงเปลี่ยนเป็นหวาดหวั่นระคนประหม่า



กลัวผู้หยิงคนนั้นกลับมาเห็น หรือกลัวคนอื่นจะเห็นกันล่ะ?”


จงใจส่งเสียงตรงข้างกกหูอีกฝ่าย หากเข้าใกล้อีกนิดริมฝีปากคงแนบลงกับข้างแก้ม


ได้ยินเสียงผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังตรงมาทางนี้ ถ้าเกิดมีใครได้เห็นเราเข้า อดสงสัยไม่ได้ว่าคนตรงหน้านี้จะทำตัวเช่นไร


ทว่าก่อนที่จะมีใครได้เข้ามาขัดจังหวะ ร่างสูงกว่าก็เป็นฝ่ายดึงผมให้เข้าไปในห้องเรียนว่างเปล่าด้วยกัน เขาออกแรงกระชากและบีบไหล่ผมเสียแรงจนรู้สึกเจ็บแปลบตรงแผลฟกช้ำจากครั้งก่อน


ประตูห้องปิดลงก่อนที่จะมีนักเรียนคนไหนเดินผ่านมาเห็นเรา และทันทีที่เสียงผู้คนนอกห้องซาลงไปแล้ว แรงบีบที่ไหล่ก็ถูกผ่อนออก ขณะที่แรงกดดันจากแววตากราดเกรี้ยวถูกส่งทอดมาทดแทน


อยากมากนักรึไง?”
 

.
.


TBC.

____


Talk: มาต่อเพลิงกับวาแล้วค่า >< มีคนรออยู่บ้างมั้ยน้า อ่านแล้วเป็นยังไงบอกกันบ้างนะคะ  :mew2:


ขอบคุณที่ติดตามมากเลยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ^^


หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 24-05-2015 00:31:49
ค้าง!!
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 24-05-2015 00:38:02
มองไม่เห็นความคืบหน้าของสองคนนี้เลย กำแพงชั้นหนาเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: michiri.sama ที่ 24-05-2015 01:08:49
ชอบเรื่องนี้มากกกกกก
อยากให้มาต่อไวๆจัง มีคนรออ่านอยู่นะค้า >___<
โอยยย แพ้ทางเคะเมะแบบเนน้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: natt lUcky ที่ 24-05-2015 01:48:25
แงๆๆ ค้างง
อยากรู้ต่อ 555
ชอบวาอะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nongying2012 ที่ 24-05-2015 08:00:43
ชอบมาก ภาษาสวยดี อยากอ่านต่อนะคะ มาต่อไวไว  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 24-05-2015 08:35:13
อร๊าาาย ชอบสไตล์นี้
พี่เพลิงอย่าทำไรรุนแรงนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 24-05-2015 10:05:15
ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 24-05-2015 10:20:02
สนุกมากกก ดูอึนๆ
ตอนต่อไปน่าจะไม่รอดนะ หึหึ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 24-05-2015 10:43:55
ชอบบรรยากาศของเรื่องนี้ยังไงไม่รู้
เหมือนสองสิ่งที่แตกต่างมาอยู่รวมกัน
ความอึดอัดของสถานการณ์ อารมณของตัวละคร แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกฟุ้งๆลอยๆ

อ่านแล้วรู้สึกดีมากค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 24-05-2015 15:09:20
ปลายทางความสัมพันธ์ช่างมืดมิดเสียเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 24-05-2015 18:23:33
 :impress2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 25-05-2015 12:45:39
บรรยากาศร้อนแรงละเกิน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 26-05-2015 23:22:03
Chapter 3 ครึ่งหลัง


 
 

 
 
ผมยิ้มหยันให้กับคำพูดประชดประชัน ในสายตาของเพลิง ผมคงดูเหมือนเป็นคนที่ อยาก เล่นสนุกมากงั้นสิ?


ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกปั่นป่วนเพราะคำพูดของคนคนนี้นัก แค่จะควบคุมตัวเองยังทำไม่ได้ ผมก้าวเข้าใกล้อีกฝ่ายทั้งๆ ที่เขาอยากถอยห่างออกไป รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรที่จะฝืนเข้าใกล้ ก็ยัง อยาก ดันทุรังอยู่ดี



มือดึงรั้งคอเสื้อของเพลิงให้โน้มลง ริมฝีปากเข้าบดเบียดริมฝีปาก แม้จะถูกต่อต้าน หากแต่เขาก็ไม่สามารถถอยหนีไปไหนได้อีกเมื่อแผ่นหลังกว้างแนบติดอยู่กับประตู ไอความร้อนแผ่ออกจากอกพร้อมๆ กับแรงสั่นสะเทือนจากหัวใจที่เต้นแรง ไม่ใช่แค่จากคนตรงหน้า แต่จากร่างกายผมด้วย ความร้อนถูกถ่ายเทจากร่างสู่ร่าง ผ่านทางริมฝีปากและเรียวลิ้นชื้น


ยิ่งร้อน ก็ยิ่งกระหาย


แม้จะรู้สึกถึงแรงผลักจากสองมือแกร่ง หากแต่ผมก็หยุดรั้งตัวเองไม่ได้ ยอมผละออกจากริมฝีปากตรงหน้าได้แค่ชั่วครู่ ร่างกายก็สั่งการให้เข้าตักตวงอีกครั้ง ถึงอย่างนั้นทั้งลำคอผมกลับแห้งผาก ไม่มีทีท่าว่าการกระทำแบบนี้จะช่วยดับกระหายได้สักนิด



คืบเคลื่อนริมฝีปากมาที่ปลายคาง ผ่านมาถึงลำคอ ปลายลิ้นแตะลงจนรู้สึกถึงชีพจรที่เต้นอยู่ภายใต้ผิวสีเข้ม ผมรู้ตัวว่าประสาทสัมผัสทุกส่วนของร่างกายตัวเองกำลังทำงานปกติดีทุกอย่าง จมูกได้กลิ่นอาฟเตอร์เชพอ่อน ๆ สองหูได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย



จะเว้นก็แต่ สติ ที่ไม่แม้แต่จะยอมควบคุมหรือยอมรับอะไรทั้งสิ้น



ทำไมผมต้องเป็นฝ่ายเดียว ที่ได้แต่ไร้การควบคุมตัวเอง



ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริง ๆ



ตัดสินใจเดินหน้าต่อ แตะปลายลิ้นลากจากต้นคอลงมา ลิ้มรสชาติหยาดเหงื่อที่ผุดออกมาจากผิวกาย ซึมซับรสชาติเข้าไปในร่าง ลากไล้ต่อเนื่องลงมายังแอ่งกระดูกกลางลำคอ ก่อนจะดูดเม้มเนื้อกายอุ่น ขบแนวฟันลงเล็กน้อย แล้วดุนดึงให้เกิดร่องรอยเจือจางประดับบนสีผิวเข้ม




"หยุดได้แล้ว!"


เพลิงส่งเสียงทั้งกัดฟันกรอด สองมือจับไหล่ผมราวกับต้องการให้หยุดการกระทำ หากแต่ก็ไม่ได้รุนแรงมากขนาดที่จะรั้งผมไว้ได้ ผมจึงยิ่งฝืนแนบร่างกายเราให้สนิทกันมากขึ้น สองแขนกอดเกี่ยวรอบเอวเขา



ทีแรกก็สงสัยว่าหากอีกฝ่ายออกแรงผลักอย่างคราวก่อน ก็คงหยุดผมได้ง่ายๆ หากแต่เมื่อได้ยินเสียงจอแจนอกห้องดังขึ้น ก็พอเข้าใจได้ว่าเขาคงไม่อยากให้ใครเข้ามารู้เห็นเรื่องนี้มากกว่า



ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีทีเดียว อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าผมไม่ใช่คนที่จะยอมล่าถอย



จากกึ่งกลางลำคอ ผมลากปลายลิ้นต่อไปยังลาดไหล่ ใช้ฟันกัดผ่านเสื้อเพื่อฝังคมเขี้ยวลงไปตรงนั้นจนอีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก ฝ่ามือไล่สัมผัสจากแผงอกกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามสมส่วนลงไปยังบริเวณหน้าท้องแข็งแรง กล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบใต้เนื้อผ้าถูกสัมผัส ปลายนิ้วแตะความเป็นชายชาตรีผ่านกางเกงยีน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นปลดเข็มขัดเขาออก




วายุ หยุด!”


ยิ่งได้ยินเสียงเอ่ยห้ามน่ารำคาญ ก็ยิ่งแนบริมฝีปากลากผ่านเสื้อเชิ้ตชื้นเหงื่อลงมา จนกระทั่งมาถึงหน้าท้องกำยำ ถ้าอยากจะห้ามนัก ก็ส่งเสียงตะคอกให้ดังกว่านี้หน่อย แต่อย่างดีเขาก็ทำเพียงแค่กำหมัดตนเองแน่น พยายามกัดริมฝีปากตนเองไม่ให้ส่งเสียงอย่างเก็บอารมณ์เมื่อผมนั่งคุกเข่าลงกับพื้น



ไม่ใช่เรื่องยากที่จะปลุกปั่นอารมณ์ใครสักคน เพลิงก็เช่นกัน ยิ่งหงุดหงิดง่ายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งถูกปลุกเร้าง่ายมากเท่านั้น ตอนนี้เขาคงทั้งเกลียดผม ทั้งรู้สึกไร้สิ้นหนทางน่าดู เพราะเมื่อควบคุมอารมณ์คุกรุ่นของตัวเองไม่ได้ สีหน้าคนตรงหน้าก็เริ่มเสีย เห็นแล้วก็ค่อยรู้สึกว่า ยุติธรรม ขึ้นมานิดหน่อย



ความไร้สิ้นหนทางพอได้ลิ้มรสกับตัวเอง รู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ
?


ปลายลิ้นลากลง มือประคองบางส่วนที่แข็งขืนก่อนจะครอบริมฝีปาก เจ้าของคิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ใจคงอยากขัดขืนหากแต่ร่างกายกลับเป็นไปตามสัญชาตญาณดิบเมื่อถูกเร้าด้วยสัมผัสวาบหวาม โพรงปากผมเม้มกลืนส่วนร้อนรุ่มเข้าไปภายใน ลึกขึ้น และผ่อนออก ลิ้นโลมตวัดเข้าตามรอยลึกจนลมหายใจของคนตรงหน้าขาดห้วงไม่เป็นจังหวะ



เสียงผู้คนด้านนอกเดินผ่านไปมาดังไม่หยุด หากแต่ภายในห้องกลับได้ยินเพียงเสียงดูดกลืนความชุ่มชื้นเข้าไปในปาก เมื่อเงยมองคนร่างสูง ก็พบว่าเขากัดริมฝีปากตนเองจนเลือดซิบ ถึงจะกล้ำกลืนฝืนทนยังไงก็หักห้ามร่างกายตัวเองให้ตอบสนองไม่ได้ ทว่าผมก็ยังสงสัยว่าความอึดอัดที่ก่ออยู่ในร่างเขา จะหนักหนาสาหัสเท่ากับที่ผมรู้สึกรึเปล่า
?


ผมรุกเร้าหนักขึ้น มือข้างหนึ่งขยำคว้าชายเสื้อเชิ้ตคนตรงหน้า คมเล็บจิกเข้ากับเอวแล้วลากเป็นทาง มืออีกข้างสอดเข้าไปในเสื้อสัมผัสกับผิวกายร้อนตรงแผ่นหลัง ปลายนิ้วแตะกดตามแนวกระดูก อวัยวะที่ตื่นตัวในปากชุ่มแฉะ หากแต่ก็ร้อนเร่าเผาผลาญส่วนที่สัมผัสถูกให้ทุรนทุราย



และเมื่อใช้ริมฝีปากทำให้อารมณ์อีกฝ่ายถึงขีดสุดได้ ผมจึงค่อยยอมผละออกมา



ลำคอที่ของเหลวร้อนไหลผ่านลง ทั้งที่ควรจะดับกระหายกลับยิ่งแห้งผาก ปลายลิ้นตกค้างด้วยรสชาติที่ทำให้ทั้งร่างกายปั่นป่วน



ได้ยินเสียงลมหายใจกระชั้นถี่ดังก้อง แผงอกแกร่งตรงหน้ากระเพื่อมไหวรุนแรง หนักหน่วงมากพอๆ กับสายตากราดเกรี้ยวที่ส่งทอดมา ผิดกับเสียงเงียบภายนอกห้อง ที่รู้ตัวอีกทีเงียบหายไปหมด




ตึง
!!



เพลิงเหวี่ยงหมัดกระแทกประตูจนเกิดเสียงดัง ก่อนจะปราดดวงตาบาดลึกมองมาอีกครั้ง ความเกลียดชังระคนความสมเพชในตัวผมส่งมาอย่างไม่ปิดบัง





นายรีบไปให้พ้นหน้าฉัน ก่อนที่จะโดนเหมือนประตูนี่”




“......”




ผมยักไหล่ ก่อนจะยอมเดินออกไปตามที่เขาบอก หลังจากนั้นผมก็ไม่รับรู้สิ่งใดเกี่ยวกับเขาอีก นอกจากรสชาติกามารมณ์ที่ยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก ติดอยู่ภายในที่ซึมซับความรุ่มร้อน




คอยตอกย้ำว่าทุกอย่างยังคงตราตรึงอยู่ในทุกส่วนที่ได้สัมผัส







.
.






TBC
___




Talk: จบตอนที่ 3 แล้วค่า จริงๆ เรื่องนี้โยแต่งแบบตั้งใจให้มันออกแนวโรแมนติกแบบอึนๆ ช่วงแรกนะ คนนิสัยอย่างเพลิงนี่ตอนไม่รักคือไม่รัก แต่ถ้ารักนี่หวานเลี่ยนแน่ ยังไงก็รออ่านกันนะคะ ^^



เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ


ฝากติดตามนิดยายเรื่องอื่นด้วยนะคะ



ลิขิตเหนือภพ - สัตตบรรณหลงฟ้า (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44332.0) [จบภาค]
LOVE CURE รักนี้ ต้องรักษา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45522.0)
Because of Love เพราะรัก...รัดใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47058.0)


FB Page (https://www.facebook.com/psychoromancefiction)
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 Part I [หน้า3 up 24.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 26-05-2015 23:42:19
บอกเลย มันช่าง ค้างงงงงงงเสียจริงง  :o12:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 26-05-2015 23:48:26
 :pighaun: :pighaun: :pighaun:
เช็ดเลือด..
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 27-05-2015 00:04:26
สัมผัสได้ถึงความ เซ็กซี่ของน้องวายุ
เอาจริง เพลิงจะต่อต้านขัดขืนก็ไหวอยู่นะ แต่ต้านทานเสน่ห์ยั่วยวนไม่ไหว +อยากลองด้วยใช่ม่ะ
เฝ้ารอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 27-05-2015 00:13:48
อึมครึม หน่วงๆ เหมือนสวนกันไปสวนกันมา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: michiri.sama ที่ 27-05-2015 00:40:29
โฮกกกกกกกก ทำไมไม่ขัดขืนให้มันจริงจังกว่านี้อีกหน่อยล่ะเพลิงเอ๊ย 555555
ที่จริงก็แอบหวั่นไหวกับวายุไปแล้วหรือเปล่า
ตอนนี้ไม่ได้หวาน แต่ทำไมเราฟินล่ะ แอร๊ยยย

มาต่อเรื่องนี้บ่อยๆน้าาา *ทำตาปิ๊งๆ*
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 27-05-2015 02:35:10
วายุรุกหนักๆเลยนะ   :hao6:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 27-05-2015 13:16:14
รอต่อค่า :hao6:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 27-05-2015 14:02:56
รอติดตามค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-05-2015 14:29:27
ตายแล้ว อย่างนี้เพลิงมิสับสนแย่เหรอ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 31-05-2015 20:35:27
ตอนที่ 4 Part I



  


ตึง!!



วาดหมัดใส่ประตูไปอีกครั้งเมื่อวายุเดินออกจากห้อง รุนแรงเสียจนเสียงกร้าวดังสนั่นห้อง


กี่ครั้งต่อกี่ครั้งเขาก็สามารถยั่วโมโหผมได้สำเร็จ ทว่านั่นก็เทียบเท่าไม่ได้กับที่ผมกำลังรู้สึก โมโหตัวเอง ทั้งโมโหทั้งหงุดหงิดที่ควบคุมอะไรไม่ได้


ทำไมถึงปล่อยให้เขาทำตามใจอยู่ได้นะ?


ก้มหน้าฟุบลงกับฝ่ามือ ทั้งๆ ที่ควรจะรังเกียจ หากแต่ภาพใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มราวกับเย้ยหยันยังคงติดตา กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังคงติดอยู่ที่ปลายจมูก ราวกับว่าเจ้าของสัมผัสวาบหวามยังคงมีตัวตนอยู่ในละแวกใกล้ อยู่ใกล้เกินไปเสียด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่เจ้าตัวก็เดินออกจากห้องไปแล้ว


ทำไมถึงยังคิดถึงเรื่องของวายุอยู่


ทั้งจูบและสัมผัสเมื่อก่อนหน้า ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมดิ่งลงสู่ใต้ทะเลลึก จมลงเรื่อยๆ สู่เวิ้งน้ำดำมืดและหนาวเหน็บ หากปล่อยตัวให้จมลงอีกนิด ก็คงยากที่จะตะเกียกตะกายขึ้นมา


แต่ถึงจะตระหนักได้อย่างนั้น ความร้อนรุ่มที่ก่อตัวยามอยู่ใกล้หรือแม้แต่ยามที่ได้สัมผัส ก็ทำให้หลงลืมอันตรายเหล่านั้นไปเสียหมด


ไม่สมกับเป็นนายเลยเพลิง


รู้ทั้งรู้ว่าคนแบบนั้นอันตรายเกินกว่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ก็ยังปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามอำเภอใจ แล้วยังปล่อยให้ตัวเองโอนอ่อนไปตามแรงยั่วยุอย่างไม่น่าให้อภัย


แล้วการปลุกเร้าเมื่อครู่ ก็ดูท่าจะไม่ยอมดับมอดลงง่ายๆ ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น และสัมผัสยังตกค้าง จนทำให้มวนท้องน้อยป่วนปั่นจนน่าหงุดหงิด



บ้าเอ๊ย”


สบถอย่างเหลืออด ความโมโหสุมอกจนแทบระเบิด


ผมไม่รู้สึกอยากกลับหอพักอีกต่อไป จึงตัดสินใจที่จะไปพักอยู่กับเพื่อนแทน กดโทรศัพท์หาไอ้ณพเพื่อนสนิท ก่อนจะไปเก็บตัวอยู่คอนโดหมอนั่น


และเขาก็ทำหน้าตกใจเมื่อมาเปิประตูให้



ลมอะไรหอบมาวะเนี่ยไอ้เพลิง”


แค่ได้ยินก็ตะหงิด ไม่มีลมอะไรหอบมาทั้งนั้น ผมไม่พูดอะไรนอกจากบอกว่าขอมาอยู่ที่นี่สักพัก แม้ณพจะทำหน้าเหวอ แต่ก็ไม่ขัดอะไรที่จะปล่อยให้ผมอยู่ด้วย


คอนโดขนาดสามห้องนอนของหมอนี่กว้างขวาง และมีห้องว่างให้ผมพักอยู่ชั่วคราว ที่จริงที่นี่เคยปล่อยให้เช่า แต่พอณพเข้ามหา'ลัยทางบ้านก็ให้ย้ายมาอยู่ที่นี่แทนเพื่อจะได้สะดวกต่อการเดินทางไปกลับเวลาเรียน



ดีเลยว่ะ ฉันจะได้บอกยัยน้ำแข็งว่าห้องไม่ว่างเพราะมีเพื่อนมาอยู่ด้วย ผู้หญิงอะไรวะตามติดเป็นปลิง นี่ขนาดไม่ได้เป็นอะไรกันนะเนี่ย ทำท่าจะหอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่ด้วยละ หลวมตัวคุยด้วยชะมัด”


ไม่มีเหตุผลอะไรมากที่หมอนี่จะมีผู้หญิงมาตามตื๊อ นอกจากเป็นทายาทเศรษฐี และหน้าตาและการแต่งตัวก็ดูดีมากพอจะดึงดูดให้คนเข้าหา


และเขาก็ใช้ผมเป็นไม้กันหมาอยู่บ่อยๆ


บางครั้งพี่ชายณพที่ทำงานไปๆ กลับๆ ไทยกับต่างประเทศก็จะมาอยู่คอนโดกับน้องชายบ้าง ส่วนพ่อแม่ก็อาศัยอยู่บ้านเดี่ยวหลังใหญ่แถวชานเมือง


ตอนนี้ผมไม่อยากเจอหน้าวายุ เพราะหากเจออีก ก็ไม่รู้ว่าจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้โมโหได้ไหม เพราะงั้นอยู่ที่นี่ไปสักพักน่าจะดีกว่า


แค่คิดก็หัวเสียขึ้นมา จึงเดินไปห้องน้ำของคอนโดใหญ่อย่างถือวิสาสะ ตรงไปเปิดฝักบัวปล่อยให้สายน้ำเย็นฉ่ำชโลมร่างทั้งๆ ที่ยังสวมใส่เสื้อผ้า หวังเพียงแค่ว่าสายน้ำเย็นจะช่วยผ่อนคลายความร้อนรุ่มจากภายในกายออกไปได้บ้าง


ความเย็นตกกระทบใบหน้าร้อนผ่าว ไหลรินชโลมไปทั้งร่างจนเปียก ถึงอย่างนั้นไอเย็นและสายน้ำก็แทบไร้ความหมาย เมื่อองศาความร้อนภายในกายยังคงขึ้นสูง


สองมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก เพื่อให้ความเย็นเยือกสัมผัสกับร่างกายได้โดยตรง หากแต่ความรู้สึกร้อนรุ่มยังคงอยู่ สัมผัสของวายุยังตกค้าง ความรู้สึกปวดหนึบตรงช่วงท้องก็ยังคงไม่จางหาย กลับยิ่งรุนแรงขึ้นรุนแรงขึ้น ความเดือดพล่านสุมอกลามไปจนถึงใบหน้า


สบถต่อว่าตัวเองไปเท่าไหร่ ก็ยังควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าสมเพชเสียจริง



ฮะๆๆๆ”


ได้แต่หัวเราะอย่างเย้ยหยัน มือปลดเข็มขัดกางเกงลง


แม้ว่าภายในใจตะโกนกร้าวด้วยเสียงคัดค้าน และไม่อยากยอมรับว่าขณะนี้ตัวเองต้องการปลดเปลื้องอารมณ์มากขนาดไหน สายน้ำก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายที่ร้อนระอุแทบจะลุกเป็นไฟนั้นสงบลงได้แม้แต่เพียงนิด จนต้องใช้มือเลื่อนไปกอบกุมส่วนกลางร่างกายที่แข็งขืน


ความต้องการก่อเกิดจากภายในเตลิดไปไกลยากจะกู่กลับ แม้พยายามข่มใจไม่ให้หลงไปกับอารมณ์วูบไหว และอยากคิดโทษคนคนนั้นให้ถึงที่สุด หากแต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยอมรับว่า


คนที่ต้องคาดโทษมากที่สุดก็คือตัวผมเอง


ไม่ใช่ใคร


คนที่ยอมปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิด คนที่หักห้ามควบคุมตัวเองไว้ไม่ได้ ยินยอมปล่อยให้อารมณ์ไหลไปตามที่ถูกชักนำ ก็คือผม ไม่ใช่วายุ


ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแรง โกรธเกลียด ในตัวเขายังคงอยู่


เปลือกตาทั้งสองข้างปิดลงเผชิญกับความมืด ฝ่ามือขยับรูดไปตามแก่นกายจนกระทั่งความร้อนถูกผ่อนออกจากร่าง ในที่สุดก็รับรู้ได้ถึงกระแสความฉ่ำเย็นจากสายน้ำเมื่อทุกอย่างถูกปลดปล่อยออก


รู้ตัวอีกทีร่างกายก็แข็งชาไปหมดด้วยความเย็น ทั้งที่ทรมาน ก็ยังคงยืนปล่อยให้สายน้ำเฉียบเย็นอาบร่างอีกนานพอดูกว่าจะยอมกลับออกมา


แค่เดินออกมาเห็นตัวเองในกระจก ก็ยิ่งตอกย้ำความน่าสมเพชมากขึ้น


ร่องรอยสีจางที่วายุเป็นคนฝากไว้บริเวณลำคอทำให้รู้สึกรกหูรกตา มือฝังคมเล็บลงกับรอยไปอย่างไม่ทันคิดด้วยอารมณ์หุนหัน สุดท้ายก็ยิ่งตอกย้ำเพิ่มความเจ็บใจเสียอย่างนั้น


ณพที่ตามเข้ามาในห้องเพื่อพูดคุยด้วยตกใจที่เห็นสภาพผมแบบนี้ เขารู้ว่าผมอารมณ์ไม่ดี เลยทำแค่โยนผ้าเช้ดตัวและให้ยืมเสื้อผ้ามาใส่ ผมคว้าเสื้อผ้ามาสวมใส่ก่อนจะทิ้งตัวลงกับเตียงนอน ปิดการรับรู้ตัวเองด้วยการพยายามข่มตาให้หลับ บอกตัวเองให้คิดในแง่ดีเข้าไว้ เอาไว้จบเทอมก็ย้ายออกจากหอซะ แล้วหลังจากนั้นทั้งผมและวายุก็ไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกันอีก


ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องใดๆ กันทั้งสิ้น!

 
.
.

(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 3 ครึ่งหลัง [หน้า3 up 27.05.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 31-05-2015 20:51:24
.
.

  เป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ผมไม่กลับหอพักของตัวเอง ที่จริงผมไม่รู้สึกอยากกลับไปอยู่ที่นั่นอีกแล้ว แต่ให้รบกวนณพมากกว่านี้ก็ไม่อยากเหมือนกัน ยิ่งหมอนั่นบอกว่าจะไม่เอาค่าเช่ารวมถึงค่าน้ำค่าไฟที่ผมเต็มใจจะจ่ายให้ด้วย ผมเลยตัดสินใจจะกลับออกมาดีกว่า แม้ไอ้ณพจะใจกว้างมากพอก็ตามที


ห้องตัวเองในหอพักเหมือนได้กลายเป็นห้องคนแปลกหน้า ไม่อยากเปิดเข้าไปเลยจริงๆ และทันทีที่เปิดประตูเข้าไป ก็รู้สึกแย่อย่างที่คิดไว้


วายุกำลังนั่งมองออกไปนอกหน้าต่าง สูบบุหรี่อย่างสบายอารมณ์ ลมพัดเอื่อยๆ เข้าห้อง และพัดเอากลิ่นที่ไม่ชอบให้ลอยเตะจมูก


ใบหน้าขาวหันกลับมาเมื่อเห็นว่ามีใครเปิดเข้าห้องมา



คิดว่าจะไม่กลับมาแล้วซะอีก”


วายุดับบุหรี่ลง คงเพราะคิดว่าผมจะไม่กลับ เลยสูบบุหรี่ในห้องอีกแล้วสินะ


ผมไม่ตอบอะไร เดินไปยังเตียงฝั่งของตัวเอง หางตารับรู้ได้ว่ามีสายตาใครบางคนจ้องมองอยู่ อารมณ์โกรธที่เคยเจือจาง บัดนี้กลับคุกรุ่นขึ้นเมื่อเงยหน้ามองสายตานั้นกลับ แล้วเห็นรอยยิ้มหยัน


วายุกลับมานั่งที่เตียงตัวเองบ้าง ท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร และไม่รู้ว่ามันน่าขำอะไรนักหนา


ขณะที่ทอดถอนใจแรง โทรศัพท์ก็มีสายเข้ามาพอดี


ชื่อคนโทรเข้าปรากฎบนหน้าจอเครื่องมือสื่อสาร


น้ำหวาน


หญิงสาวที่รู้จักกันเมื่อวันรับน้อง ทีแรกผมไม่ได้สนใจอะไรหล่อน แต่เพราะเราลงวิชาเดียวกันหลายวิชา รวมถึงได้ทำงานกลุ่มร่วมกันอยู่วิชาหนึ่ง ทำให้ผมและหวานได้คุยกันบ่อยขึ้น


ผมไม่ได้สนใจหล่อนในแง่นั้น แต่ก็มีคนเข้าใจผิดอยู่เหมือนกัน อาจเพราะพักหลังเราเจอกันบ่อยล่ะมั้ง



ฮัลโหล”เมื่อกดรับก็เอ่ยไปยังปลายสาย



'เพลิง...หวานนะ'



ว่าไง”



'กลับมาอยู่หอแล้วเหรอ'



ใช่”



'งั้นก็อยู่แถวมหา'ลัยแล้วสิ ตอนนี้หวานอยู่ที่คณะล่ะ...'


น่าแปลกที่อีกฝ่ายบอกมาแบบนั้นทั้งๆ ที่เป็นวันหยุด และเมื่อเอ่ยเป็นเชิงให้ถามต่อ ผมไม่ขัดศรัทธา จึงถามออกไปตามน้ำ



งั้นหรือ...ทำไมถึงอยู่นั่นล่ะ มีอะไรหรือเปล่า”



'พอดีหวานมาช่วยงานบายเนียร์ที่คณะ ตอนนี้คนกำลังขาด ก็เลยโทรมาหาเพลิงเผื่อว่าจะพอมีเวลา...'



ก็ไม่ได้ยุ่งอะไร แล้วจะไปให้ช่วยงานอะไรล่ะ”



'มาเป็นเอ็กซ์ตร้าชั่วคราวกับจัดการพวกอุปกรณ์จัดฉากจ้ะ...รบกวนไปหรือเปล่า'



ไม่หรอก ไปช่วยได้”



'แล้วเพลิงมีเพื่อนอยู่ด้วยใช่มั้ย'



“......”


ผมนิ่งไป ไม่อยากนึกว่าหมายถึงเพื่อนคนไหน



'ถ้ามาหลายๆ คนได้ก็ดีเลย ไม่ค่อยมีคนอยู่หอใกล้มหา'ลัยเท่าไหร่ เพลิงอยู่กับรูมเมทนี่นา'


หล่อนเป็นหนึ่งคนที่รู้ว่าผมแชร์ห้องกับวายุ พอได้ยินก็ชักอารมณ์เสียขึ้นมาดื้อๆ ถ้าอยากชวนหมอนั่น ทำไมไม่ชวนเองโดยตรง ผมไม่อยากเป็นคนประสานงานแทนใคร โดยเฉพาะการที่ต้องไปข้องเกี่ยวกับวายุทุกอย่าง



'ถ้ารบกวนก็ไม่เป็นไรนะ...'


พอนิ่งไปไม่ตอบ คนปลายสายก็เสียงสลด ผมถอนหายใจแรง ยื่นโทรศัพท์ไปให้วายุให้หมดๆ เรื่อง อยากทำอะไรก็คุยกันเองแล้วกัน


วาทำคิ้วขมวดตอนรับโทรศัพท์ไปถือ แต่สุดท้ายก็คุยกับคนปลายสาย กระทั่งปะติดปะต่อเรื่องราวได้


ผมเดาว่าเขาจะปฏิเสธแน่นอน แต่พอกำลังจะเดินออกจากห้อง วากลับเดินออกมาด้วยเสียอย่างนั้น...

 
.
.



TBC

_____

Talk: มาต่อแล้วค่ะ :) อ่านแล้วเป็นยังไงบอกกันบ้างนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายค่ะ



 :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 31-05-2015 21:19:20
โมโหตัวเอง ที่หักห้ามใจไม่ได้ทั้งๆที่ก็ขัดขืนได้ชิมิคะ คุณน้องเพลิง หลงเสน่ห์เขาเต็มเปา แต่ก็ไม่อยากยอมรับ
เห็นพวกตัวเมะหัวฟัดหัวเหวี่ยง เพราะโดนยั่ว ปั่นหัว นี่ฟินจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 31-05-2015 21:49:23
รอนายเพลิงตบะแตก
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 31-05-2015 22:31:54
ชอบเรื่องนี้มากกก ชอบวาด้วย เมื่อไหร่คนจะเลิกเข้าใจผิดน้ออ
แล้วเพลิงนี่เมื่อไหร่จะเลิกเกลียดวานะะ
อยากเห็นหนุ่มซึนทำหวานน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 01-06-2015 09:55:35
อ่านแล้วลุ้นดีค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: sembia ที่ 01-06-2015 10:33:47
ชอบการบรรยายมากเลยค่า  มาต่ออีกนะคะ สนุกค่ะ  :mew1: :hao5:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-06-2015 11:26:26
ตอนนี้วายุกำลังพัดโหมเปลวเพลิงให้ร้อนรุ่มซินะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yandereko ที่ 01-06-2015 21:13:35
รอต่อค่ะ อ่านแล้วลุ้นว่าเพลิงจะตบะแตกเมื่อไหร่ 5555
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 02-06-2015 09:42:11
 :katai2-1: ชอบค่ะ มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: SUPERMUAY ที่ 02-06-2015 22:20:00
ค้างเลย
ชอบเรื่องแนวนี้มากมาย

หัวข้อ: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 02-06-2015 23:38:30
ชอบครับอึมครึมแบบนี้รอออออ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 03-06-2015 08:17:40
 :hao7:  หน่วงๆ อึมครึมๆดีนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 05-06-2015 22:57:02
รอลุ้นค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 06-06-2015 21:22:20
รอติดตามอยู่ค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 07-06-2015 00:55:12
 o13 o13 o13


 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: เอแคร์ไวท์ครีม ที่ 07-06-2015 01:10:00
วาเอาให้เพลิงอกแตกตายไปเลย ฟอร์มดีนัก  :m4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 08-06-2015 22:36:50
รออยู่นะ มาต่อเลยๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 10-06-2015 19:19:19
ทักทาย


คลิปนี้เป็นเพลงประกอบตอนที่ 4 ค่ะ ไปฟังกันได้นะคะ


https://www.youtube.com/watch?v=1g0ZO-92zKM (https://www.youtube.com/watch?v=1g0ZO-92zKM)

เอาล่ะ ไปอ่านตอน 4 ครึ่งหลังกันได้เลยค่ะ หวังว่าจะชื่นชอบนะคะ ><






And yet you're so far
 Like a distant star
 I'm wishing on tonight


.
.








หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 10-06-2015 20:32:19
ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง






  บายเนียร์ปีนี้มีการแสดงละครเวทีสั้นๆ เห็นว่างานเลี้ยงจะจัดขึ้นที่โรงแรมใหญ่ ผมไม่แน่ใจว่าตีมของงานคืออะไรเพราะไม่ได้ลงชื่อจะเข้าร่วมแต่แรก แต่ดูจากสถานที่นัดพบเป็นที่ของคณะดุริยางค์ด้วยแล้ว ก็คงจะเป็นงานเลี้ยงไสตล์ฝรั่งเสียล่ะมั้ง

แล้วงานเอ็กซ์ตร้าและเตรียมอุปกรณ์ที่ว่า เมื่อไปถึงก็ได้รู้ว่าเป็นงานใช้แรงงาน คือยกเครื่องดนตรีมาวางไว้ตามจุด โดยเฉพาะแกรนด์เปียโนที่จะใช้เล่นขณะที่มีการแสดงบนเวทีและงานเลี้ยงเต้นรำ


ผมกับนักศึกษาคนอื่นช่วยกันยกแบกของไปวางตามจุด โดยมีวายุยืนอยู่เฉยๆ ไม่มีใครอยากเข้าไปคุยกับหมอนั่น เว้นก็แต่นักศึกษาหญิงที่ทำใจกล้าเข้าไปทักทาย



ขอบคุณที่มาช่วยนะวายุ”



คนที่ใจกล้าที่ว่าเป็นเพื่อนกับน้ำหวาน ดูเป็นผู้หญิงห้าวๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะอยากยุ่งเกี่ยวกับวาด้วย แต่ดูท่าทีแล้วอาจจะเป็นผู้หญิงคนอื่นในกลุ่มมากกว่า เพราะเห็นส่งซิกอะไรกันอยู่



   “ฉันยังไม่ได้ช่วยอะไร”



   “ช่วยยืนตามจุดที่มาร์คไว้ตรงที่ขาดคนก่อนก็แล้วกัน”



วาเดินไปยืนอย่างไม่ว่าอะไร ขณะที่ผู้ชายคนอื่นเล่นกันเฮฮา หมอนั่นกลับเหมือนแปลกแยกไม่เข้าพวก ไม่คิดจะเข้าหา แล้วยังแสดงสีหน้าไม่สนใจราวกับจะผลักไสคนอื่นให้ไกลห่างออกไป



พูดง่ายๆ คือไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา จนไม่แปลกใจว่าทำไมเหล่าคนที่มาช่วยงานบางคนก็ทำหน้าเหม็นเบื่อที่เห็นว่ามีคนเรียกให้วายุมาด้วย ยิ่งวาไม่เคยเข้าร่วมงานอะไรสักอย่าง แต่มาที่นี่เพราะคำชวนของผู้หญิงด้วยแล้ว คงสร้างความไม่พอใจให้กับคนอื่นอยู่เหมือนกัน



หลังจากขนของและจัดตำแหน่งเสร็จสิ้น พวกคนแสดงทั้งรุ่นพี่ปีสองและปีสามที่มากันเพียงหรอมแหรมก็รันคิวแสดงกันตามมีตามเกิด ดนตรีที่ต้องเล่นสดในวันจริง ก็ใช้เป็นเปิดจากคลิปเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือแทน อาจเพราะเป็นการซ้อมช่วงแรกๆ อะไรหลายอย่างจึงยังดูไม่พร้อมนัก



 
   “เอาเปียโนมาตั้งแต่ไม่มีคนเล่นเนี่ยนะ เสียแรงยกมาชะมัด”



   “เอาน่า ก็คนเล่นมันเบี้ยวนี่หว่า”



ระหว่างแสดงก็มีเสียงบ่นให้ได้ยินเป็นระยะ ผมคิดว่าต่อให้ไม่มีคนเล่น แต่ตำแหน่งการวางเปียโนก็สำคัญ คนแสดงจะได้รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน จึงไม่คิดว่าเป็นการเสียแรงเปล่าที่ยกมา



เมื่อรันคิวจนครบทุกการแสดง ก็เป็นการบรรเลงเพลงสำหรับการเต้นรำ ผมสังเกตเห็นพวกผู้หญิงมองมาทางวายุบ่อยๆ เหมือนจะอยากเข้ามาทักหมอนั่นที่นั่งนิ่งราวกับเป็นเพียงรูปปั้น แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยด้วย



ผมไม่รู้ว่าทำไมวาถึงทำตัวห่างเหินกับคนในคณะนัก ไม่เข้าร่วมรับน้อง ไม่เข้าร่วมค่ายใดๆ แต่พอนึกได้ว่าเขาชอบที่จะอยู่กับเพื่อนต่างมหา'ลัย ก็คิดว่าบางทีหมอนั่นก็แค่ไม่สนใจคนอื่นนอกจากตัวเองเท่านั้นเอง



ดูจากการกระทำตามใจอย่างไม่คิดถึงผลที่จะตามมาก่อนหน้านี้ก็สาารถยืนยันได้อย่างดี



   “นายแชร์ห้องอยู่กับหมอนั่นใช่มะ”



จู่ๆ เอก เพื่อนปีหนึ่งในคณะก็เข้ามาคุยด้วย สีหน้าบ่งบอกว่าไม่ค่อยชอบวายุนัก



   “คนอะไรหยิ่งชะมัด หยิ่งไม่พอ ยังมั่วอีก ได้ยินว่ามั่วทั้งผู้หญิงผู้ชาย แต่กับคนในมหา'ลัยคงไม่เล่นด้วยมั้ง”


.
.




(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 10-06-2015 20:36:53
จิ้มๆๆ
วายุนี่ทำไมรันทดขนาดนี้
ปล.ขอโทโที่ปาดนะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งแรก[หน้า4 up 1.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 10-06-2015 20:39:17
.
.


 
 
   “......”



ผมนิ่งเงียบ บอกไม่ถูกว่าไม่พอใจตรงจุดในของคำพูดที่ได้ยิน แต่แค่ได้ยิน ก็รู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากคุยต่อ โชคดีที่การแสดงทุกอย่างจบ ทุกคนจึงลุกขึ้นเตรียมเก็บของกลับ ผมจึงไม่ต้องทนฟังอะไรอีก



วายืนรั้งท้ายขณะที่พวกผู้ชายออกแรงขนของ อุปกรณ์และฉากต่างๆ ถูกเก็บเข้าที่ และแกรนด์เปียโนก็ถูกเคลื่อนย้ายเก็บเข้าห้องเรียบร้อย ทุกคนเดินกลับโดยที่วาอยู่ห่างจากกลุ่มเหมือนเดิม ไม่ใช่แค่ผมไม่สนใจว่าเขาจะเป็นอย่างไร คนอื่นๆ ก็เหมือนจะลืมไปแล้วว่าวาก็อยู่แถวๆ นี้ด้วยเช่นกัน



เสียงหัวเราะโหวกโหวกดังไปทั่ว ดูเหมือนว่าหลังเสร็จงานพวกคนที่มาช่วยนัดกันจะไปดื่มต่อ ต่างคนจึงต่างเสนอไอเดียเรื่องร้านขณะที่กำลังเดินไปตามทางเดิน แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งที่ทำให้ทุกคนหยุดชะงักฝีเท้า



เปียโนบรรเลงขึ้นอย่างไพเราะ เป็นการบรรเลงที่ใครได้ยินก็ต้องหยุดฟัง



 
เมื่อหันหลังกลับไปยังต้นตอของเสียง ก็เห็นคนที่เหมือนจะเดินผ่านห้องดนตรีแต่หยุดยืนมองเข้าไปภายในอยู่คนสองคน



 
   “เล่นโคตรเพราะเลย ใครวะ”



พอมีคนหนึ่งพูด คนอื่นๆ ก็ต่างสงสัยไปด้วย พวกผู้หญิงกลุ่มเมื่อครู่เดินไปที่ห้องดนตรีบ้าง แล้วก็ทำท่ากรี๊ดกร๊าดแต่ไม่มีเสียงออกมา ก่อนจะหันมากวักมือเรียกให้พวกผมเดินตามไป



พึ่งสังเกตว่าวาไม่ได้อยู่ในละแวกกลุ่มนี้แล้ว ทีแรกคิดว่าเขากลับหอพักไปคนเดียว ทว่าพอมองผ่านช่องกระจกเข้าไปในห้องดนตรีที่เลื่อนเปิดแง้มอยู่นิดๆ ก็ได้รู้ว่าเจ้าของเสียงบรรเลงเปียโนไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็น วายุ นี่เอง



เสียงบรรเลงแรกเริ่มเหมือนเป็นการซ้อมมือด้วยเพลงคลาสสิก หลังจากนั้นก็เป็นเพลงสากลช้าๆ แต่ติดหู



 
ไม่ใช่แค่เสียงเพลงไพเราะที่สามารถสะกดทุกคนให้หยุดนิ่ง และคอยเงี่ยหูฟังอย่างตั้งอกตั้งใจเท่านั้น แต่ภาพของคนบรรเลง ก็ตราตรึงทุกคนไว้ได้



 
เรียวนิ้วสวยเคลื่อนไหวไปบนคีย์ แฝงไปด้วยพลัง สื่อถึงเนื้อเพลงรักที่ไม่คิดว่าคนอย่างวายุจะสื่อออกมาได้



ทุกตัวโน้ตขยี้หัวใจ ยามบรรเลงช้าก็ฟังดูครวญเศร้า ราวกับว่าเป็นเสียงครวญหาใครบางคน ยามบรรเลงดังและหนักแน่นขึ้น ก็ราวกับกำลังตอกย้ำความรู้สึกที่อัดอั้นผ่านบทเพลง



ผมมองภาพตรงหน้า พร้อมกับหูฟังเสียงบรรเลง เรียวคิ้วขมวดกันยุ่งอย่างคิดอะไรไม่ตก



นั่นไง บอกแล้วว่าให้ขอให้วายุเล่นเปียโนให้แต่แรกก็ไม่เชื่อ”



   “แล้วแกไปรู้ได้ไงว่าเขาเล่นได้ยะ”



   “ก็จำได้น่ะสิ สมัยม.ต้นฉันเห็นเขาที่เวทีแข่งดนตรี หน้าแบบนี้เห็นครั้งเดียวก็จำได้ หล่อเว่อร์”



   “มิน่าถึงได้คะยั้นคะยออยากชวนมานัก...”



 
เมื่อหญิงสาวในกลุ่มของน้ำหวานนึกได้ว่าผมอยู่ด้วยก็ทำเสียงกระซิบกันเบาลง ผิดกับพวกผู้ชายที่ส่งเสียงดังแบบไม่เกรงใจ



   “เหอะ ขี้อวดชะมัด”



นั่นดิ กลับกันเหอะว่ะ”



หลายคนแยกย้ายตาม และเดินห่างจากห้องดนตรีไปเรื่อยๆ โดยไม่มีใครสนใจเสียงบรรเลงเพลงอีก ไม่แปลกใจที่ทุกคนต่างสนใจในเรื่องของตัวเองมาก่อนเสมอ



ถึงอย่างนั้นผมยังกลับยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น



 
น่าสงสัยเกินไป ว่าทำไมเขาถึงบรรเลงเพลงที่ขยี้หัวใจแบบนั้นออกมาได้ ในเวลาปกติวายุไม่มีทางที่จะแสดงอารมณ์ใดๆ ผ่านสีหน้าออกมาได้แน่ แต่ครั้งนี้กลับแสดงออกผ่านบทเพลงออกมาจนได้แต่ยืนคิดสงสัย



หรือนี่เป็นเรื่องปกติของพวกอารมณ์ศิลปิน?



 
ผมไม่รู้คำตอบ และพยายามบอกตัวเองว่าไม่ต้องพยายามอยากรู้ด้วย



แต่ไม่ว่ายังไง ภาพของวายุที่อยู่เบื้องหน้า ก็ทำให้ทั้งโลกของผมเหมือนหยุดนิ่ง และจมดิ่งอยู่ตรงนั้น



จมไปกับห้วงอารมณ์ที่ผมไม่อาจเข้าใจ



และอาจไม่มีวันเข้าใจ


.
.






TBC


____



TALK: มาต่อจนจบตอนแล้วค่ะ ^^ อ่านแล้วเป็นยังไงอย่าลืมบอกกันมั่งนะคะ เงียบเหงาจังเลยยยย อย่าลืมไปฟังเพลงที่วาเล่นกันนะคะ :D ดูที่คอมเม้นต์ของโยก่อนหน้าตอนนี้ หรือว่าไปที่นี่ได้ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=1g0ZO-92zKM (https://www.youtube.com/watch?v=1g0ZO-92zKM)


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ขอฝากแท็กเพลิงกับวา #เพลิงในวายุ ด้วยนะคะ ไปฝากเม้นกันได้น้า
แล้วก็คนอ่านไปติดตามข่าวการอัพเดทนิยายของโยที่เฟสได้น้า บางวันก็อาจจะมีนิยายสั้นจบในตอนมาลงในเฟสด้วยค่ะ จิ้มๆ >> FB Page (https://www.facebook.com/psychoromancefiction?ref=bookmarks) <<

เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ



 :mew1:





 
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 10-06-2015 21:08:30
น้องวา ออกจะมีอารมณ์หลากหลาย อ่อนไหว มีแต่พวกเจอกำแพงน้ำแข็งแล้วไม่กล้าฝ่าเข้ามา ได้แต่กรนด่าไปตามความอิจฉา หมั่นไส้ของตัว
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 10-06-2015 21:25:27
วายุเริ่มเผยตัวตนแบบไม่ตั้งใจ
ให้เพลิงได้เห็น เพลิงเองก็เห็นอย่างไม่ตั้งใจ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 10-06-2015 21:27:22
 :hao5: :mew6:



 :L2: :L1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 10-06-2015 21:46:21
ชอบจังเรื่องนี่อ่านสบายๆดูอึมครึมแต่มีอากาศอบอวลเล็กๆพอหายใจ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 11-06-2015 01:36:16
ขอบคุณค่า o13
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 11-06-2015 09:22:34
ทำไมชีวิตถึงน่าสงสารอย่างงี้ อะไรจะหมั่นไส้กันขนาดนั้นนนน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 12-06-2015 09:49:06
ชอบวาอะ ดูมีเสน่ห์ :-[
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 26-06-2015 21:50:17
ตอนที่ 5.1





   
ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงตอบตกลงพวกผู้หญิงที่ขอให้ไปช่วยเตรียมงานบายเนียร์ ทั้งๆ ที่ผมเองก็ไม่ได้มีสัมพันธ์ที่ดีกับรุ่นเดียวกันหรือแม้แต่กับต่างรุ่น แต่คงเพราะความที่อยากเห็นว่าเพลิงจะเป็นยังไงในหมู่เพื่อน ผมถึงได้ตามไปทั้งที่รู้ว่าคนรอบข้างไม่ได้คิดจะต้อนรับ

   
แล้วก็เป็นอย่างที่คิด คนอื่นต่างทำเหมือนผมเป็นอากาศธาตุ แต่ก็ใช่ว่าผมจะใส่ใจ เพราะที่น่าสนใจกว่าคือเพลิงกับผู้หญิงที่สนใจเขาต่างหาก


   เห็นได้ชัดว่าหล่อนคิดยังไงกับเพลิง ทั้งพยายามเข้าไปอยู่ในสายตา ทั้งชวนอีกฝ่ายพูดคุยพลางหัวเราะคิกคัก บางครั้งก็เห็นแตะเนื้อต้องตัวเพลิงเล็กน้อย ตามประสาผู้หญิงที่เกิดความชอบพอในตัวฝ่ายชาย


   แปลกดี...ที่เพลิงดูเหมือนจะไม่รู้ตัวสักนิด


   หรือบางทีอาจจะรู้ หากแต่ทำเป็นไม่รู้


   เมื่อกลับมาถึงหอพัก เพลิงก็ทำเป็นเมินเฉยผมอย่างเคย ไม่น่าแปลกใจหรอกเพราะผมเองก็ทำเรื่องโง่เง่าไว้อย่างนั้น หากอีกฝ่ายไม่แสดงออกว่ารังเกียจสิ ยังน่าแปลกใจกว่า แล้วทีแรกผมคิดว่าเขาจะไม่กลับมาที่ห้องอีกแล้วด้วยซ้ำ แต่ถึงจะกลับมา เขาก็ยังทิ้งระยะห่างไม่ยอมเข้าใกล้ผมเหมือนกับผมเป็นของแสลง


   ไม่ต่างจากพวกเพื่อนเขาในวันที่ไปช่วยงาน ที่ทำเหมือนผมเป็นเพียงอากาศ ถึงอย่างนั้นผมก็เคยชินเสียแล้ว ยังไงแล้วผมก็ไม่อยากจะข้องเกี่ยวกับใครให้มากความอยู่ดี การอยู่คนเดียวยังไงก็ดีกว่าตรงที่รู้สึกสงบ ไม่ต้องทนรับมือกับอารมณ์ของคนรอบข้าง ไม่ต้องได้ยินเสียงนินทาเรื่องของคนอื่น ไม่ต้องรับรู้ทัศนคติที่คนอื่นพยายามยัดเยียดให้


   เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ที่ทั้งเพลิงและผมต่างฝ่ายต่างเพิกเฉยกัน นานจนผมคิดว่าตัวเองคงจะไม่คิดเรื่องของเพลิงมากเท่าเดิมอีก เพลิงไม่ได้อยู่หอพักบ่อย ผมกับเขาจึงเจอกันนับครั้งได้


   หัวใจเหมือนจะด้านชาไปแล้ว หากว่าวันนึงที่ผมกลับห้องพักมา แล้วเจอเพลิงพาผู้หญิงเข้าห้อง


.
.

   วันนั้นเป็นวันที่ฝนตกหนัก แล้วดูเหมือนว่าผู้หญิงที่ชื่อน้ำหวานจึงเข้ามาหลบในหอพักจนกว่าฝนจะหยุด
   

เพลิงเองก็ไม่ว่าอะไรที่ผู้หญิงจะเข้ามาในห้อง ทั้งๆ ที่ปากเคยบอกว่ารังเกียจคนที่นอนกับคนไม่เลือก แต่พอมีคนเสนอ เขาเองก็เหมือนจะตอบสนองเหมือนกัน


   หญิงสาวร่างเล็กหน้าตาสะสวยในชุดนักศึกษาที่เปียกฝนจนเนื้อผ้าแนบเนื้อ เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าและสายชั้นใน เมื่อทั้งคู่เห็นว่าผมเข้ามา ต่างฝ่ายต่างก็หน้าเก้อเขิน คงจะคิดว่าผมมาขัดจังหวะเสียล่ะมั้ง


   ความปั่นป่วนตีตื้นขึ้น สายตาเผลอมองไปที่หญิงสาว แค่เห็นผมไม่อยากรับรู้ว่าเพลิงกำลังมองผู้หญิงคนนี้ด้วยสายตาแบบไหน จึงได้แต่เดินเลี่ยงไปที่เตียงโดยไม่เอ่ยทักทายก่อนเหมือนทุกที


   ที่จริงควรจะเดินออกไปเพราะบรรยากาศชวนอึดอัดเต็มที เพลิงหยิบผ้าขนหนูมาให้หญิงสาวที่มีท่าทีหนาวสั่น ผมตัดสินใจที่จะออกไปนอกห้องทั้งที่ฝนตกหนัก แต่สุดท้ายเพลิงก็เป็นฝ่ายบอกกับผู้หญิงว่าจะไปส่งบ้าน


   “เดี๋ยวจะไปนั่งรถไปส่งที่บ้านด้วย นี่หอผู้ชาย หวานอยู่ที่นี่ไม่ดีหรอก”


   “อื้ม...แต่เพลิงไม่ต้องไปส่งหวานก็ได้ เดี๋ยวหวานเรียกแท็กซี่กลับเอง”


   “ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ”


   บทสนทนาที่ลอยเข้าหูทำให้รู้สึกแปลกๆ ที่หัวใจ แน่นอนว่าเพลิงมีใจให้กับหญิงสาวคนนี้ ก็ไม่แปลกนัก เพราะเพลิงเป็นผู้ชายธรรมดาไม่ได้เป็นคนที่ชอบเพศเดียวกันเสียหน่อย พอสองคนนั้นออกไปแล้ว ผมก็ไม่อาจทนอยู่ในห้องนี้ได้อีก ห้องที่ยังได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนนั้น สุดท้ายจึงตัดสินใจที่จะออกไปข้างนอก ไปยังที่ที่ปกติไม่คิดจะไปพร้อมกับการนัดหมายกับ อิฏฐ์ ก่อน ทั้งที่จะไม่ค่อยชวนอีกฝ่ายก่อนนัก

.
.


(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 26-06-2015 21:56:26
.
.


ผมมาอยู่ที่คลับดังแถวมหาวิทยาลัยในยามค่ำคืน
   

แสงไฟละลานตาสาดวิ่งวนไปทั่วทั้งไนท์คลับ ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจต้านทานความมืดมิดภายนอกไปได้ แม้จะเป็นเวลาดึกดื่นมืดค่ำ แสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ผู้คนนับไม่ถ้วนกลับมารวมตัวกัน ณ สถานที่แห่งนี้ ราวกับยามราตรีไม่เคยได้หลับใหล และคนด้านในก็ไม่รับรู้ว่าภายนอกจะเป็นอย่างไร


   ผมเองก็เหมือนกัน ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น ถึงได้เข้ามาในนี้ เพื่อหนีจากโลกด้านนอกชั่วครู่


   เสียงอึกทึกของดนตรีจังหวะหนักทำให้ประสาทแถวขมับเต้นตุบ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ที่กลืนลงคอ ก็เร่งจังหวะการเต้นของหัวใจให้เร็วและแรงขึ้น จำไม่ได้ว่านี่คือแก้วที่เท่าไหร่ เพราะผมนั่งนิ่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์มานานพอดู


   ..แต่นับไปก็เท่านั้น..


   คิดได้ดังนั้นก็ยกแก้วความขมแตะยังริมฝีปาก กระดกดื่มน้ำเมาสีอำพันลงคอจนกระทั่งหยดสุดท้าย ก่อนจะยกมือเรียกบาร์เทนเดอร์มาเพื่อสั่งเพิ่ม


   สายตามองประกายสะท้อนของของเหลวอาบน้ำแข็งล้อเล่นกับแสงไฟในไนท์คลับ บาร์เทนเดอร์หนุ่มรินเหล้าจากขวดลงสู่แก้วใส จมูกไม่รับรู้ถึงกลิ่นฉุนกึกของแอลกอฮอล์อีกต่อไปแล้ว คงเพราะทั้งร่างคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นแบบเดียวกัน


   นี่คงเป็นความเคยชิน ที่ทำให้เราไม่รู้สึกรู้สาทั้งความสุข หรือความทุกข์


   ยิ่งนานวันเข้า ก็กลายร่างเป็น ความด้านชา


   ชินชาเสียจนบางครั้งก็ไม่อาจรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง


   เวลาเที่ยงคืนตรง ผมยังไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่นัดกันไว้


   หากเป็นเวลาปกติ อิฏฐ์ไม่ใช่คนที่จะผิดนัดกันง่ายๆ ทั้งที่อีกฝ่ายรับปากว่าจะมาตั้งแต่สี่ทุ่ม แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แววของคนที่ว่าจะติดต่อมา คงจะผิดนัดเสียล่ะมั้ง


   หรือจะกลับเลยดี?


   ตั้งใจว่าจะส่งข้อความบอกอิฏฐ์ว่าจะไม่อยู่รอต่อ แต่สายเรียกเข้าจากหนุ่มรุ่นน้องก็ดังขึ้นเสียก่อน ผมจึงกดรับสายที่เรียกเข้ามา


   “ว่าไง”


   [วา ขอโทษทีนะ]


   คำขอโทษกลายเป็นคำทักทายแรก ผมไม่ได้รู้สึกโมโหหรืออยากต่อว่า เพราะถ้าไม่เกิดเหตุสุดวิสัย เขาคงไม่ผิดนัดกันง่ายๆ แบบนี้


   “อืม เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”


   เอ่ยถามไปที่ปลายสาย มือพลางป้องไว้กับโทรศัพท์เพื่อให้เสียงดังฟังชัดขึ้น ความอึกทึกจากภายในไนท์คลับทำให้เสียงการติดต่อสื่อสารขาดๆ หายๆ หรือบางครั้งก็ไม่ได้ยินไปเสียดื้อๆ


   [เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ผมพึ่งจะเคลียร์กับประกันเสร็จเมื่อครู่]


   เป็นอย่างที่คาดคิดไว้ โชคดีที่อีกฝ่ายปลอดภัย และสามารถโทรศัพท์กลับมาบอกข่าว


   “อ้อ แล้วนายไม่เป็นไรนะ?”


   [ไม่เป็นไร แต่ต้องเอารถเข้าอู่ วาเถอะ จู่ๆ ก็ชวนดื่ม เป็นอะไรหรือเปล่า?]


   ผมนิ่งไปครู่ ก่อนจะเอ่ยเปลี่ยนเรือ่ง


   “ไม่มีอะไร แค่คิดว่าไม่ได้เจอกันสักพักนึงเท่านั้นเอง แล้วนีขับรถเร็วรึเปล่า? ระวังหน่อยก็ดีนะ”


   ผมรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นหนุ่มเลือดร้อน บางทีก็อาจคึกคะนองไปโดยไม่ทันระวัง จึงเอ่ยทักให้ระวังตัวไว้หน่อย แล้วก็รู้สึกผิด ที่ชวนอีกฝ่ายมาทั้งๆ ที่ฝนตกหนักด้านนอก


   [ผมขับระวังแล้วนะ แต่รถคันหน้าน่ะ ผิดเต็มๆ เลย]


   แล้วหนุ่มรุ่นน้องก็สาธยายเหตุการณ์มายืดยาว ฟังได้ความบ้างไม่ได้ความบ้างเพราะเสียงเพลงดังสนั่นภายในไนท์คลับ ขณะที่ฟังก็นึกขันอยู่ในใจ รอจนอีกฝ่ายพูดจนพอใจ จึงค่อยเอ่ยต่อ


   “ฉันเข้าใจ งั้นกลับบ้านดีๆ นะอิฏฐ์ รถเสียแล้วก็อย่าไปเถลไถลที่ไหนล่ะ”


   [วาด้วย จะว่าไป ผมนั่งแท็กซี่ไปรับวาที่คลับดีไหม อย่าบอกนะว่าเมาแอ๋แล้วน่ะ]


   “ถ้าเมาคงคุยกับนายไม่รู้เรื่อง ฮะๆ”


   [ถ้ายังไหวงั้นเดี๋ยวผมไปหา รอก่อน..] ไม่รอให้อีกฝ่ายพูดจบผมก็เอ่ยตัด


   “ไม่ต้องหรอก ฉันจะกลับแล้วล่ะ ไว้คราวหน้า”


   ไม่รู้สึกอยากดื่มกับใครแล้วเพราะดื่มเองไปเยอะ อีกอย่างอิฏฐ์ก็เพิ่งเจอปัญหาเรื่องรถ จะชวนมาดื่มจนดึกดื่นอีกก็ดูจะรบกวนมากเกินไป


   ผมกดวางสายเมื่ออิฏฐ์ตอบตกลง เส้นประสาทแถวขมับกลับมาเต้นตุบอีกครั้งเมื่อความสนใจถูกเบี่ยงกลับมาที่เสียงอึกทึก และแก้วเครื่องดื่มแอลกอฮอล์


   ผมยกดื่มเครื่องดื่มที่เหลือเพียงครึ่งรวดเดียวหมด ก่อนจะวางเงินไว้ข้างใต้แก้วที่รวมทิปให้กับบาร์เทนเดอร์ สายตาไม่สนใจภาพสะท้อนของใครคนหนึ่งอีก หากแต่กวาดมองไปยังไฟหมุนที่สาดสว่างไปทั่วพื้นผนัง เพดานและผู้คน


   ยิ่งมองแสงสีก็ยิ่งรู้สึกวุ่นวายสับสน จนต้องหลับตาลงชั่วครู่ สักพักถึงดันตัวลุกขึ้นจากที่นั่ง ทว่าทันใดนั้นผมก็รู้สึกตัวว่าแทบไม่สามารถควบคุมศีรษะให้ตั้งตรงไว้ได้ไหว จึงต้องเท้ามือยันกับขอบเคาน์เตอร์บาร์ไว้ก่อน


   สองขาหยุดยืนนิ่งเพื่อรวบรวมสติ พยายามสะบัดศีรษะให้สร่างจากความมึนเมา ค่อยๆ หันหลังออกก้าวเดิน


   ดูเหมือนว่าการดื่มเหล้ารอใครสักคนไม่ใช่ความคิดที่ดีนักหากเวลาที่ต้องรอนั้นนานมากเกินไป เพราะระยะเวลาที่ยิ่งนาน จำนวนแก้วเหล้าที่ดื่มก็ยิ่งมาก อย่างวันนี้ผมนับจำนวนไม่ได้ด้วยซ้ำว่าดื่มไปมากเท่าไหร่


   ขณะที่กำลังโซซัดโซเซจนเกือบชนผู้คนที่เคลื่อนไหวขวักไขว่ไปมา คนแปลกหน้าคนหนึ่งก็ถือวิสาสะเข้ามาจับท่อนแขนผมไว้


   “ไหวรึเปล่า ให้ผมไปส่งไหม?”


   รีบสะบัดแขนออกจากบุคคลที่ไม่รู้จักทันที ไม่เคยรู้สึกดีใจที่มักเป็นจุดสนใจของคนอื่นง่ายๆ ไม่เคยตื่นเต้นหรือแม้แต่ภาคภูมิใจ ออกจะลำบากใจเสียมากกว่า ผมก้าวเดินต่อไปให้ถึงประตูห้องน้ำ ขืนไม่เอาสารพิษออกจากร่างกายบ้าง คืนนี้คงกลับไม่ถึงห้องของตัวเอง


   เดินเกือบจะถึงจุดหมาย ก็ถูกคนแปลกหน้าคนเดิมดึงแขนเอาไว้เสียก่อน


   “นี่... ให้ผมไปส่งดีกว่า”


   ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ผมจึงพยายามสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมเหนี่ยวรั้งอีกครั้ง ครั้งนี้ผมพยายามพาตัวเองให้ห่างออกจากห้องน้ำทั้งที่อยากจะอาเจียนแอลกอฮอล์ออกมาเต็มแก่ และหลบเลี่ยงเพื่อไปทางฟากอื่นของคลับ เดินผ่านคนที่เต้นกันขวักไขว่ และเพราะทรงตัวไม่ค่อยอยู่ จึงทำให้ถูกผลักถูกดันจนต้องใช้เวลานานกว่าจะฝ่ากลุ่มคนออกมาอยู่อีกด้านได้


   ผมยืนเอนหลังพิงกำแพงโดยที่สายตามองไปที่กลุ่มคนตรงฟลอร์เต้น เหล่าหญิงชายบางคู่ก็พลอดรักกันอยู่ตรงนั้น เห็นแล้วก็ตระหนักได้ว่าที่จริงผมไม่ควรมาที่นี่เลย ต่อให้อยากหนีโลกข้างนอกยังไง ข้างในนี้ก็ไม่เหมาะกับผมอยู่ดี


   ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และเมื่อตั้งใจจะเดินออกจากไนท์คลับ คนคนเดิมก็เข้ามาอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้ เขากลับมากับกลุ่มเพื่อนด้วย


   “นี่นายดูไม่สบายจริงๆ นะ...เดี๋ยวพวกผมช่วยทำให้สบายตัวมั้ย”



.
.


TBC
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 4 ครึ่งหลัง [หน้า4 up 10.06.2558]
เริ่มหัวข้อโดย: Nongying2012 ที่ 26-06-2015 22:17:07
รออ่านต่อ :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 26-06-2015 23:47:31
 :sad4:  ถ้ามันเม้นต์ซ้ำๆกันได้อยากเม้นต์ซักพันครั้งต่อชั่วโมงจะได้ดันๆอยู่กระทู้แรกๆแต่เค้าจำกัดอ่ะฮี่ๆ  ชอบเรืีองนี้นะชอบมาก ชอบพลอตอ่ะไม่ค่อยมีนะพระเอกรังเกียจนางเอกอ่ะ สู้ๆนะรอตลอด
ปล.หนูวาจะเป็นยังไงต่อไป :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 27-06-2015 00:00:32
จะรอดไหมเนี่ยะ
แอลกอฮอล์ ไม่เคยทำให้อะไรดีขึ้นมานะน้องวา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 27-06-2015 08:03:39
รอๆตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-06-2015 11:07:48
เฮ้ยยย วายุจะรอดมั้ยเนี่ย
มาเป็นกลุ่มๆซะด้วยซิ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-06-2015 15:24:17
จะรอดไหม
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 28-06-2015 00:20:10
จะรอดมั้ยนั่น...
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 28-06-2015 11:20:46
วายุ จริงๆแล้วเป็นยังไงกันแน่
ข่าวลือ ก็เป็นแค่ข่าวลือใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 01-07-2015 08:19:01
มาต่อเถิดคนเขียน คิดถึง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 01-07-2015 09:00:58
ซวยแล้วน้องวา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: sembia ที่ 01-07-2015 13:04:11
รอคนเขียนจ้าาาา  ลุ้นๆๆๆ :katai4: :z3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 01-07-2015 16:53:05
รออออ
เริศอะ เเซ่บค่า
วาจะโชว์เปียโนไหม??
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 06-07-2015 18:45:02
มาต่อเร็วๆนา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 11-07-2015 19:31:04
ตอนที่ 5.2




 
 
   “นี่นายดูไม่สบายจริงๆ นะ...เดี๋ยวพวกผมช่วยทำให้สบายตัวมั้ย”

กลุ่มคนรายล้อมรอบตัวผม ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาต้องการอะไร อาจจะต้องการของมีค่า ผมจึงเอ่ยถามไป


พวกคุณต้องการอะไรจากผม บอกมาตรงๆ เลยดีกว่า”

มือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อจะลองกดโทรศัพท์หาอิฏฐ์ที่เพิ่งวางสายไปก่อนหน้า ทว่าผมก็ได้รู้้ตัวเดี๋ยวนั้นว่าโทรศัพท์ไม่ได้อยู่ที่ตัวแล้ว

สะเพร่าชะมัด คงจะวางลืมไว้ที่เคาน์เตอร์แน่


ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากชวนไปข้างนอกด้วยกัน”


“......”

ผมไม่ตอบ ได้แต่มองทอดไปทางอื่น ก่อนจะถอนหายใจออกมา ชั่ววูบนึงคิดว่าคนพวกนี้อยากจะทำอะไรก็ทำ ไม่ได้คิดต่อต้าน และไม่ได้คิดกลัว สมองออกจะว่างเปล่าเสียมากกว่า รู้สึกเพียงว่าไม่อยากจะคิดอะไรอีกต่อไปแล้ว

ไม่อยากเชื่อนักว่าแอลกอฮอล์ทำให้เป็นไปได้ขนาดนี้

ท่ามกลางแสงสีและเสียงอึกทึก ผมได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง เป็นเสียงที่ผมคิดว่าคงหูฝาด


วา จะไปกันได้รึยัง”

เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้เจ้าของเสียงเดินเข้ามาขวางกั้นผมกับกลุ่มคนแปลกหน้าไว้

เพลิงปรากฏอยู่ตรงหน้าผม

ผมคิดว่าตัวเองอาจเกิดภาพหลอน จนต้องขมวดคิ้วอย่างไม่เชื่อสายตา แต่ความร้อนที่เข้ามากุมอยู่ที่ข้อมือ ทำให้ผมรู้ว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา


พวกคุณมีอะไรกับเพื่อนผมหรือเปล่า”

คนร่างสูงเอ่ยขึ้น และคนที่ตามเพลิงมาก็คือรปภ.ของคลับแห่งนี้ เมื่อกลุ่มคนแปลกหน้าเห็นท่าไม่ดี จึงล่าถอยไปอย่างเสียไม่ได้

ร่างสูงใหญ่ที่เข้ามาขวางยืนหันหลังให้ จากมุมนี้ผมไม่อาจมองเห็นสีหน้าของคนที่ยืนเผชิญหน้ากับชายคนเมื่อครู่ได้ แต่ไม่ต้องคาดเดาก็พอรู้ว่าคงไม่ใช่สีหน้าที่สู้ดีนัก เพราะเมื่อเขาหันกลับมา สายตาเย็นชาก็ทิ่มแทงบาดลึกมองผมมาจนรู้สึกเจ็บแปลบ

ผมไม่รู้ว่าเขามาที่นี่ได้ยังไง ไม่รู้ว่าเพลิงมีโทรศัพท์ผมได้ยังไงด้วย เพราะจู่ๆ อีกฝ่ายก็ยื่นเครื่องมือสื่อสารที่ผมหาอยู่เมื่อครู่มาให้


ออกจากที่นี่กันได้หรือยัง”

เขาส่งเสียงก้องแข่งกับเสียงเพลงดังสนั่น มือแกร่งกึ่งบีบกึ่งลากท่อนแขนผมไปทางทางออก แต่ผมยื้อแรงไว้เพราะพะอืดพะอมจนอยากอาเจียนออกมาเต็มที


เข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม”

เพลิงทำท่าจะลากผมออกไปเหมือนเดิม ทว่าเมื่อผมยื้อแรงมากๆ เขาก็เป็นฝ่ายลากผมไปที่ห้องน้ำของไนท์คลับเสียเอง



.
.

เสียงเพลงอึกทึกแผ่วลงเมื่อเข้ามาถึงภายในห้องน้ำ ร่างสูงกว่าเหวี่ยงปล่อยมือผมออก แม้จะรู้สึกแย่ที่ถูกปฏิบัติเหมือนเป็นเพียงแค่สิ่งของ ผมก็เลือกที่จะเงียบและมุ่งตรงไปยังอ่างล้างมือ มือปัดป่ายหน้าเซนเซอร์จับความร้อนเพื่อให้สายน้ำฉ่ำเย็นไหลรินออกมา แล้ววักน้ำชโลมใบหน้าเรียกสติ

แค่จะหยัดยืนตรงยังแทบไม่ไหว จึงตัดสินใจเดินไปยังชักโครกห้องที่อยู่ใกล้ ก่อนจะทำอย่างที่เคยทำเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเมา

ล้วงคอให้อาเจียนออกมาให้หมด

ความขมเขื่อนเคลื่อนไหวผ่านลำคอสู่ปลายลิ้น โดยมีความแสบร้อนของน้ำย่อยในกระเพาะพ่วงมาด้วย ทรมานนิดหน่อย หากแต่ก็ยังพอทำให้รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม ศีรษะจากที่เคยหนักอึ้งค่อยโล่งขึ้น ผมสามารถประคับประคองร่างออกมาจากตรงนั้นโดยไม่ชนสิ่งของหรือล้มลงได้ โดยที่ดวงตาของร่างสูงใหญ่ยังจ้องมองไม่หยุด

เดินไปวักน้ำรสชาติจืดชืดเข้าปาก ล้างปากล้างคอที่อ่างล้างหน้าอีกครั้ง สายตาเพ่งมองคนที่กำลังยืนกอดอกผ่านทางกระจกไปด้วย เพลิงเองก็กำลังมองผมมาด้วยท่าทีราวกับรังเกียจ เห็นแล้วก็อดสร้างความรู้สึกขัดแย้งในใจให้เกิดขึ้นไม่ได้

ก่อนที่จะได้หันไปเอ่ยอะไรออกไป เจ้าของแววตาเหยียดหยามก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงกึ่งประชดประชันออกมา



(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5 part I [หน้า 4-5 up 27.06.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 11-07-2015 22:47:49
  .
.


เสียเงินค่าเหล้า เพื่อมาล้วงคอออกทีหลังเนี่ยนะ?”


“......”

อย่างเขาคงพูดเป็นแค่คำประชดเสียดสี แต่ในคำเสียดสีก็ทำให้บางสิ่งที่ขัดแย้งกันเอง ชัดเจน ยิ่งขึ้นกว่าเดิม


นายนี่แปลกนะ ปากบอกว่าเกลียด แต่ตามฉันมาถึงนี่?” ผมยอกย้อนด้วยคำพูดแทงใจดำ

เพลิงทำหน้าราวกับกับถูกสาดด้วยน้ำเย็นเฉียบ คมเขี้ยวกัดลงที่ริมฝีปากอย่างเก็บอารมณ์ ถึงอย่างนั้นหัวคิ้วก็ยังขมวดเข้าหากันจนดูออกว่าไม่พอใจ ฝ่ามือทั้งสองข้างก็กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนออกมาให้เห็น

หากแต่ทันทีที่ร่างสูงเหมือนจะตั้งสติได้ เขาก็สาดคำพูดที่เย็นเยียบยิ่งกว่ากลับมา


จะบอกว่าฉันสนใจนายงั้นสิ?” น้ำเสียงแดกดันหลุดรอดจากฟันที่กัดกันกรอด “ถ้าจะสนใจ ก็คงเป็นความ หลงตัวเอง อย่างน่าเหลือเชื่อของนายมากกว่า”


“......”


ฉันจะกลับแล้ว ถ้าอยากจะอยู่เล่นกับไอ้พวกข้างนอกนั่นต่อก็เชิญ นี่ฉันคงเข้าไปขัดจังหวะอีกแล้วล่ะสิ” เขาเอ่ยต่ออย่างประชดประชัน


“......”

ครั้งนี้ผมเป็นฝ่ายหลุบสายตาลงต่ำ

ที่จริงต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่มาช่วยไว้ แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้พูดยั่วอารมณ์อีกฝ่ายไปอย่างนั้น

พอความเงียบครอบคลุมนานเข้า อีกฝ่ายจึงยืนกอดอกเอ่ยต่อ


ที่เงียบหมายความว่ายอมรับใช่ไหม”


ฉันนัดกับเพื่อนไว้ ไม่ได้มากับพวกนั้น ไม่รู้จักด้วยซ้ำ”


แล้วไหนเพื่อนนายล่ะ”


“......” ผมไม่ได้ตอบ สายตายังมองไปที่เท้า


ถ้าอยากมามั่ว ไม่เห็นต้องโกหก”

ไม่มีประโยชน์ที่จะต่อปากต่อคำ ยังไงเพลิงก็ไม่เคยมองผมในแง่ดี ผมเลือกเดินเลี่ยงร่างสูงกว่าออกไปด้านนอกด้วยอาการยังไม่สู้ดีนัก คงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์บางส่วนได้ซึมเข้าสู่กระแสเลือดไปแล้ว ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเต้นแรง จนกระทั่งบั่นทอนความสามารถในการควบคุมสติให้ลดน้อยลง

ชายหนุ่มใบหน้าบึ้งเดินตามผมมาถึงนอกคลับ ถ้ารังเกียจกันนักก็น่าจะอยู่ห่างๆ ผมจึงรีบสาวเท้าให้เร็วกว่าเดิม และนั่นก็ทำให้เกือบล้มทรุดเมื่อทรงตัวไม่อยู่หากมือแกร่งไม่เข้าโอบรั้งร่างไว้เสียก่อน


ทั้งสูบบุหรี่จัด ทั้งขี้เหล้า”

แว่วเสียงประชดแข็งกร้าว ร่างสูงจับประคองให้ผมยืนทรงตัว แผ่นอกกว้างไหวอยู่ตรงหน้า กลิ่นน้ำหอมเจือกลิ่นกายของร่างที่เป็นที่ให้ยึดเหนี่ยวลอยมาเตะจมูก ความร้อนจากกายอีกฝ่ายก็ร้อนรุ่มยิ่งกว่าความร้อนจากภายในร่างของตนเอง จนทำให้ผมรู้สึกปั่นป่วนไปหมด


ปล่อย...”

ส่งเสียงแผ่วพลางผลักเจ้าของแผงอกกำยำออกไป ทว่าก็เหมือนออกแรงผลักกำแพงที่ไม่มีวันพังทลายลงง่ายๆ เพราะเขาไม่เขยื้อนไหวติงสักนิด


จะกลับหอด้วยกัน หรือจะไปต่อกับพวกนั้น”

เพลิงเหมือนยื่นคำขาดให้เลือก ผมได้แต่บอกเสียงอ่อนว่า “กลับหอ” หัวใจได้แต่เต้นแรงอย่างหยุดไม่ได้ และยิ่งเต้นแรง ก็ยิ่งเจ็บ

หลังจากนั้นเข้าก็ลากผมออกไปนอกคลับ เจ้าของผิวสีเข้มยกมือหนึ่งขึ้นโบกแท็กซี่ไปด้วย ส่วนอีกมือก็โอบเอวผมและกระชับไว้กับข้างลำตัว แม้ไม่ได้บีบรัดรุนแรง หากแต่ก็แนบแน่นมากพอที่จะประคองไม่ให้ผมล้มลงไปกอง

แนบแน่นมากพอที่ความร้อนจากกายอีกฝ่ายจะซึมผ่านเนื้อผ้ามาให้รู้สึกได้

ศีรษะเอนเข้าหาไหล่กว้าง อาจเพราะความอ่อนล้า ทำให้ผมรู้สึกไปเองว่าแรงวงแขนเขากระชับแน่นขึ้น เป็นเวลาเพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้นที่ได้ยืนพิงพักกับความอบอุ่น

เพียงแค่ชั่วครู่เดียว ก่อนที่แท็กซี่จะมาจอดตรงหน้า กลิ่นกายและความร้อนผ่าวที่ได้สัมผัสก็ทำให้หัวใจผมเต้นดังรุนแรงได้มากกว่าที่เคยได้รับสารกระตุ้นใด ๆ


..ได้แต่ภาวนา..

ว่าเพลิงจะไม่มีวันได้ยินมัน
.
.




TBC




___




TALK: มาต่อแล้วค่ะ >< ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้มากเลยนะคะ ;_; ฝากเป็นกำลังใจให้วากันต่อด้วยนะคะ ><


เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ






 
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 12-07-2015 00:11:07
อร้ายยย เหมือนตอนต่อไปจะดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 12-07-2015 00:45:54
คนเขียนมาต่อเร็วน้าาา
โดนคนเขียนเตะ :z6:: ตรูพึ่งจะมาต่อ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 12-07-2015 09:19:53
โล่งอกโล่งใจที่วาปลอดภัย
แถมได้จิ้นต่อเมื่อคนที่ช่วยคือเพลิง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 12-07-2015 09:42:57
ลุ้นไปกับวา :z13:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 12-07-2015 09:59:15
เรามารอทุกวันเลย ><
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 12-07-2015 23:06:52
โฮ จะเป็นไงต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 13-07-2015 00:01:05
เพลิง ซึน ปากจัด
วา พูดน้อย ช่างประชด
กว่าจะเข้าใจกัน คงยังอีกนาน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 14-07-2015 10:34:53
ดีที่เพลิงมาช่วย แล้วจะเปนยังไงต่อล่ะ อยากให้ลงเอยกันจัง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: SUPERMUAY ที่ 14-07-2015 12:03:17
 :katai1:

ปากแข็งและซึนทั้งคู่
ถูกใจป้าคร่าาาา 555
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 5.2 [หน้า 5 up 12.07.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 16-08-2015 18:23:13
ตอนที่ 6




“หาเรื่องจริงๆ”


   ส่งเสียงบ่นใส่คนด้านข้างที่แทบจะทรงตัวยืนด้วยตัวเองไม่ได้ เรือนผมสีอ่อนแนบพิงที่ปลายหัวไหล่ หากปล่อยมือที่กระชับร่างไม่ได้สติออก เขาก็คงล้มลงไปนอนกองกับพื้นคอนกรีต ผมจึงต้องออกแรงกระชับให้แน่นยิ่งขึ้นกว่าเดิม

   ใจนึงก็ออกจะสมเพชจนอยากทิ้งเขาเอาไว้ที่นี่ อีกใจก็รู้สึกว่าปล่อยไว้ไม่ได้

   ทั้งๆ ที่ไม่อยากข้องเกี่ยวอะไรด้วยแท้ๆ เมื่อครู่ก็รู้สึกโมโหอีกฝ่ายจนเลือดขึ้นหน้า ทั้งโมโหทั้งหงุดหงิดใจที่ต้องอยู่ใกล้ๆ ทว่าสายตากลับเล่นตลก ไม่ยอมละออกห่างจากเขา ร่างกายก็กลับเดินเข้าหาทั้งที่ปากบอกว่าไม่ต้องการ ยิ่งได้สัมผัสความอ่อนแอที่แฝงอยู่กับความร้อนรุ่มที่แนบชิดกันอยู่ ยิ่งทำให้ไม่อยากปล่อยมือ

   “วายุ! ตั้งสติหน่อย!”

   ส่งเสียงออกไปอีกครั้ง หากแต่ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะเอ่ยตอบรับ แท็กซี่ที่โบกมือเรียกก็จอดรออยู่ตรงหน้าได้ครู่หนึ่งแล้ว

   ผมถอนหายใจเฮือก ก่อนจะเปิดประตูรถด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ทั้งผลักทั้งดึงคนด้านข้างให้เข้าไปนั่งอยู่ในตัวรถ วายุหลับตาราวกับไม่อยากรับรู้อะไรอีก

   ผมขึ้นรถตามไปนั่งลงด้านข้าง ผ่อนลมหายใจออกมาอีกเฮือก แล้วเอ่ยปากบอกจุดหมายปลายทางไปที่หอพัก

   เมื่อประตูปิดและรถออกตัว วายุก็เอนศีรษะพิงลงกับไหล่ ผมไม่ได้ผลักไสอีกฝ่ายอย่างที่เคยทำ ได้แต่ปล่อยไว้อย่างเลยตามเลย พยายามคิดเสียว่าอย่าถือสาคนเมาไม่ได้สติ

   ท่ามกลางความมืดสลัว มีเพียงแสงไฟจากนอกตัวรถและไฟจากหน้าจอจีพีอาร์เอสให้เห็นเพียงรำไร ใบหน้าซีดเผือดกลับส่องสว่าง แพขนตายาวทอดอยู่บนเปลือกตาที่ปิดสนิท จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ ความมีเสน่ห์ระคนด้วยความน่าหลงใหล ไม่น่าแปลกที่ใครต่อใครต่างรุมตอมไม่หยุดหย่อน

   กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศอบอวลในรถ ทำให้เจ้าของร่างข้างกายทำท่าพะอืดพะอมเหมือนอยากจะอาเจียน คนขับแสดงสีหน้าหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนผมก็พาลกังวลไปด้วย จนต้องเอ่ยปากขอเปิดกระจกเพื่อให้อากาศได้ถ่ายเทบ้าง มือจับช้อนปลายคางใบหน้าซีดให้เงยขึ้นรับลม สีหน้าเขาจึงดีขึ้น

   ไม่นานนักรถแท็กซี่มาจอดลงตรงหน้าตึก ผมแบกวายุขึ้นหลังไปยังห้องพักอย่างทุลักทุเล ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องถึงมาลงเอยแบบนี้ได้ อาจเพราะความใจอ่อนงี่เง่าไม่เข้าท่า เลยหาเรื่องยุ่งยากมาใส่ตัว ถ้าหากไม่เกิดปัญหาตามมาก็คงดี

   สองวงแขนที่พาดมาด้านหน้าแทบไม่เหลือพละกำลังออกแรงกระชับ หากไม่จับเอาไว้ให้ดี วายุก็คงพลัดตกลงจากแผ่นหลัง เมื่อมาถึงห้อง ผมก็วางร่างหมดสภาพลงไปกับเตียงนอน สายตาทอดมองร่างที่ปิดเปลือกตาสนิทอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงตามไปที่นั่น แล้วทำไมถึงไม่ปล่อยให้ล้มกองอยู่หน้าคลับนั่นตั้งแต่แรก
   
   ย้อนกลับไปตอนที่กลับมาที่หอพอไม่เห็นว่าวาอยู่ในห้อง แรกเริ่มผมก็ไม่คิดจะใส่ใจอะไร หมอนั่นไม่อยู่ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ?

   ทว่าความคิดชั่วแวบหนึ่งก็บอกผมว่าที่หมอนั่นไม่อยู่ อาจเพราะเห็นน้ำหวานอยู่ในห้องรอหลบฝน

   หากว่าเป็นผมเห็นหมอนั่นพาคนเข้าห้อง ต่อให้หลบฝนหรือเพราะอย่างอื่น ผมก็คงกระอักกระอ่วนที่จะอยู่เช่นกัน แล้วหลังจากไปส่งน้ำหวาน เธอก็โทรมาพอดีเรื่องงานซ้อมบายเนียร์ บอกว่าอยากให้ถามวาว่าจะช่วยเล่นเปียโนให้ได้ไหม

   ที่จริงผมไม่คิดจะเป็นคนติดต่อให้ แต่สุดท้ายก็โทรออกไปยังเบอร์ของวา แต่คนที่รับกลับไม่ใช่เขา

   เสียงจากปลายสายดังอึกทึก ฟังดูก็รู้ว่าเป็นในไนท์คลับ บาร์เทนเดอร์บอกว่าเจ้าของเครื่องลืมโทรศัพท์ไว้ แล้วก็บอกสถานที่มาให้เสร็จศัพท์ ไนท์คลับนั่นก็อยู่ไม่ไกลจากหอพักนัก ผมก็ไม่รู้คิดยังไงถึงได้จะไปรับเอาโทรศัพท์ให้เหมือนกัน หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ

   ไม่อยากจะคิดอะไรมากอีก ผมตัดสินใจเดินไปชำระล้างร่างกายร้อนระอุให้เย็นลง

   หลังจากกลับออกมาอีกที ก็พบว่าวายุกำลังหยัดร่างนั่งก้มหน้าอยู่ที่เตียง ไม่ได้นอนไร้สติอย่างที่ควร

   ผมเดินเข้าไปใกล้ มือพลางจับผ้าขนหนูที่พาดอยู่บนบ่าเปลือยเปล่าขึ้นมาซับเรือนผมเปียกของตัวเอง ช่วงล่างผมสวมเพียงกางเกงนอนขาสั้น

   “รู้สึกตัวแล้วรึไง”

   เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่ยินดียินร้าย สายตามองอีกฝ่ายที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองกลับ ทว่ากลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆ

   แสงไฟที่เปิดส่องสว่าง ทำให้สามารถเพ่งมองคนตรงหน้าได้ชัดเจนขึ้น อุณหภูมิห้องที่อุ่นกว่าด้านนอกทำให้สองข้างแก้มที่เคยซีดเผือดขึ้นสีเลือดฝาด วายุสะบัดศีรษะราวกับพยายามเรียกสติ หากแต่สุดท้ายก็คงไม่รู้สึกดีขึ้น มือเรียวจึงบีบจับอยู่ที่ขมับ อาจจะกำลังรู้สึกปวดหัวตุบ ผมจึงเอ่ยอย่างเสียไม่ได้

   “สภาพ น่าสมเพช ชะมัด” ถ้าผมไปที่นั่นไม่ทัน หมอนี่คงมีสภาพน่าสมเพชกว่านี้อีก

   “......”

   เขาไม่ตอบ ผมจึงไม่ทู่ซี้เอ่ยอะไรต่อ หันหลังเดินจากที่ตรงนั้นเพื่อไปหยิบเสื้อนอนมาสวมใส่ เดินไปได้ไม่กี่ก้าว คนที่นิ่งเงียบก็ยอมปริปากออกมา

   “นายน่ะ... การกระทำนี่ขัดกับคำพูดจังนะ”

   “......”

   “ทำเป็นคนดีอย่างนี้ จริงๆ ก็ คาดหวัง อะไรใช่มั้ยล่ะ?”

   สองขาหยุดก้าวเดิน สายตาหันขวับไปทางต้นเสียง เพียงแค่เห็นสีหน้าท่าทางของวายุ ความเดือดดาลก็ก่อตัว ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มเยาะแบบนั้น ทำให้อารมณ์โกรธขึ้งที่เคยทุเลาปะทุขึ้น

   คาดหวังงั้นหรือ?

   ช่างเลือกคำที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีคนอื่นได้ดีจริง ๆ

   “ตามฉันไปถึงที่นั่น หวังอะไรงั้นสิ?”

   ผมกัดฟันกรอด สองเท้าเดินกระแทกย่ำกลับไปทางเตียงนอน

   “พวกนอนกับใครไม่เลือกหน้าอย่างนาย คิดว่าฉันคาดหวังอะไรด้วยรึไง?”

   มือคว้าดึงคอเสื้อเจ้าของรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้น หากแต่อีกฝ่ายยังทำท่าไม่รู้สึกรู้สา

   “ถ้าไม่ใช่ งั้นจะบอกว่าที่ทำไปเพราะนายเป็นคนดี?”

   สีหน้าไม่ยี่หระ ไม่หวั่นไหว ไม่ต่างจากรูปปั้นไร้เลือดเนื้อและจิตใจ แม้ภายนอกจะสวยงามแค่ไหน หากแต่เพียงเท่านี้ ก็พอทำให้ผมล่วงรู้ถึงธาตุแท้ภายในของเขาที่ฟอนเฟะได้

   “มีสติพูดจาเหลวไหลได้ขนาดนี้ คืนนี้ก็ไปนอนที่คลับนั่นแล้วกัน!”

   ผมขึ้นเสียงตวาด ออกแรงลากคอเสื้อคนที่นั่งอยู่ให้ลุกออกมาจากเตียง ทั้งดึงทั้งเหวี่ยงเพื่อให้เจ้าของรอยยิ้มยั่วอารมณ์ออกไปให้พ้นๆ หน้า ทว่าเขากลับยื้อแรงไว้ แม้จะกระชากให้ลุกขึ้นมาได้ คนตรงหน้าก็ยังฝืนพยายามยื้อให้ยืนอยู่กับที่ จนผมต้องออกแรงดึงมากกว่าเดิม

   คอเสื้อเชิ้ตดูมีราคารั้งผิวขาวจนเกิดรอยแดง เนื้อผ้าแทบจะขาดแหล่มิขาดแหล่ ขณะที่กำลังยื้อแรงกันไปมา ทันใดนั้นวายุก็เลิกฝืนเอาเสียดื้อๆ ส่งผลให้ผมที่ออกแรงกระชากอยู่ฝ่ายเดียวเป็นฝ่ายเซถอยหลัง และล้มลงเมื่อเขาออกแรงผลักเสริมแรง

   ตึง!!

   ผมล้มลงหงายหลังลงไปกับพื้น มือที่ยังจับรั้งคอเสื้อทำให้ร่างที่ฝืนแรงเมื่อครู่ล้มทับลงมาด้วย วายุยิ้มอย่างรู้ว่ามันจะเกิดขึ้น มือเรียวทาบกดอยู่บนแผ่นอกเปลือยเปล่า ส่วนหน้าท้องผมก็ถูกเข่าเขากดทับไว้

   คาดเดาไม่ออกว่าเจ้าของสายตาที่ทอดมองมากำลังรู้สึกอย่างไร ผมรู้เพียงแค่รอยยิ้มที่เห็นอยู่นี้กำลัง เย้ยหยัน อยู่กลาย ๆ

   เพียงแค่เห็น ก็ทำให้ความโมโหพลุ่งพล่านจนหน้ามืด

   “ไปซะ! ถ้าอยากมากนักก็กลับไปหาคนที่คลับโน่น ลุกออกไปได้แล้ว!”

   ผมตะคอก มือปัดท่อนแขนที่ทาบทับหน้าอกออก พอกำลังจะดันตัวลุกขึ้น ก็ถูกสองมือผลักดันที่ไหล่ทั้งสองข้างให้นอนติดอยู่กับพื้นห้องอีกครั้ง

   “นายน่ะ เวลาไม่พูดนี่น่ารักกว่าเวลาพูดจาแย่ๆ ออกมาเยอะเลยรู้ไหม?”

   ทันทีที่เอ่ยจบ ริมฝีปากอิ่มก็เข้าแนบประทับกับริมฝีปากผม เขาใช้แนวฟันกดทับกัดฝังลงที่เนื้อปาก เจ็บจนร่างกระตุกวูบ หากแต่ไม่นานความชาก็เข้ามาแทนที่ เมื่ออีกฝ่ายค่อยๆ ดูดเม้มที่รอยแผล

   รสชาติแอลกอฮอล์เฝื่อนขมคละเคล้ากลิ่นเลือดแผ่กระจายจากปลายลิ้นสู่ปลายลิ้น อุณหภูมิร่างที่เคยเย็นกลับร้อนระอุ ไม่อยากยอมรับว่าไม่ใช่เพราะสารกระตุ้นใดที่ทำให้ไม่อาจตอบโต้ แต่เป็นวายุ ที่ทำให้การตอบสนองของร่างกายผมไม่อาจทำได้ดั่งใจหวัง

   แม้วายุจะผละริมฝีปากออก เรียวลิ้นชื้นก็ยังลากไปตามสันคาง ลมหายใจอุ่นรินรดอยู่บนผิว ผิดกับสัมผัสเย็นวาบของริมฝีปากภายนอกเมื่อครู่

   ลากไล้จากแนวคาง คืบเคลื่อนขึ้นมายังกกหู

   “ถ้าเกลียดที่จะเห็นกันนัก ก็หลับตาซะสิ”

   เขากระซิบ มือวางทาบปิดเปลือกตากั้นผมออกจากการมองเห็น ถึงอย่างนั้นประสาทสัมผัสส่วนอื่นยังสามารถรับรู้ได้อย่างดี ร่างกายช่วงบนที่เปล่าเปลือยรับรู้ถึงแรงเสียดสีของเนื้อผ้ายามที่เขาขยับไปมา กระทั่งส่วนครึ่งล่างของร่างกาย ก็รับรู้ว่ากำลังถูกปลุกเร้าให้อารมณ์คุกรุ่น

   นิ้วมือเย็นเฉียบกอบกุมที่แก่นกาย ขยับรูดขึ้นลงจนความเย็นแปรเปลี่ยนเป็นร้อน มืออีกข้างของเขาที่เคยบดบังดวงตาเลื่อนมาวางนาบยังหน้าท้อง ฉับพลันความมืดก็สว่างจ้าด้วยแสงไฟนีออน ทำให้มองเห็นใบหน้าเจ้าของร่างที่กำลังนั่งทับบนต้นขาพร่าเลือน ถึงอย่างนั้นรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าได้รูปกลับเด่นชัด

   รู้สึกราวกับเลือดในกายทั้งหมดวิ่งพล่านอย่างคลุ้มคลั่ง จนมาหยุดรวมกัน ณ ส่วนของร่างกายซึ่งไม่สามารถปฏิเสธความต้องการตามธรรมชาติได้

   ความรุ่มร้อนกระจุกรวมตัวอยู่ที่กึ่งกลางร่าง ส่วนอ่อนไหวที่ถูกเร้าด้วยสัมผัสตื่นตัวภายใต้เรียวนิ้วที่จับต้อง ความพึงพอใจฉายออกทางสีหน้าวายุ เขาปลดเปลื้องกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองลง เผยให้เห็นผิวขาวผ่องที่พาดไปด้วยรอยแดงจากการดึงรั้งเมื่อก่อนหน้า 

   “ทำไมไม่หลับตาล่ะ เกลียดไม่ใช่หรือไง”

   มือผมถูกดึงเข้าสัมผัสกับร่างขาวเนียน ร่างที่คิดว่าเย็นชืดไร้หัวใจกลับร้อนผ่าว แรงเต้นจากภายในส่งผ่านทางปลายนิ้วที่สัมผัสถูก จังหวะของหัวใจรูปปั้นทำให้ปั่นป่วนหวั่นไหว ความสับสนเข้ารุมเร้าขณะที่เขาใช้มืออีกข้างที่เคยสัมผัสกับแก่นกายแข็งขืนมาปลดเข็มขัดของตัวเอง

   วายุดันตัวขึ้นด้วยเข่า ร่นกางเกงสแลคไปกองที่ต้นขา แม้จะมองเห็นไม่ถนัด ผมก็รู้ดีว่าเขาคิดจะทำอะไร

   ผมกัดฟันกรอด พยายามตั้งสติอีกครั้ง ทั้งๆ ที่รู้ว่ากำลังถูกคนที่ เกลียด ปั่นหัวเข้าอย่างจัง รับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลัง กดทับร่างกายลงมา รู้ทุกการกระทำ แต่ทำไมผมถึงห้ามไว้ไม่ได้

   ทำไมถึงห้ามตัวเองไม่ได้?

   สะโพกคนตรงหน้ากดลงครอบคลุมกับส่วนร้อนเร่า เรียวคิ้วสวยขมวดมุ่นเมื่อขยับลงได้เพียงครึ่ง เปลือกตาช้ำปิดลงพร้อมกับริมฝีปากอิ่มที่เม้มแน่น ร่างบางหยุดชั่วขณะ ปล่อยให้ทุกอย่างยังคงค้างคา เม็ดเหงื่อเม็ดเล็กพราวผุดที่ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ

   เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง บางอย่างที่แฝงอยู่ในแววตาก็ให้ความรู้สึก ขัดแย้ง กับรอยยิ้มที่ฉายเด่น มันไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าวายุกำลังยิ้มอย่างที่กำลังทำอยู่ หากแต่เป็นสิ่งที่ ตรงกันข้าม

   ทว่าก็เพียงแค่ชั่วครู่หนึ่งเท่านั้น ที่ประกายความวูบไหวนั้นคงอยู่ให้เห็น

   “ไม่คิดจะปฏิเสธคนที่นาย เกลียด บ้างหรือเพลิง”

   “......”

   ความเดือดพล่านกลับมาเคลื่อนไหว เขาพูดถูก มันน่าเจ็บใจที่ปากผมบอกว่าเกลียด ร่างกายกลับไม่ทำอะไรนอกจากปล่อยให้ตัวเองถูกปั่นหัวอยู่ฝ่ายเดียว

   ไม่อยากยอมเป็นฝ่ายเดินตามเกมเขาอย่างเดียวอีกต่อไป จึงตัดสินใจเป็นฝ่ายพลิกร่างขึ้น เหวี่ยงร่างขาวนวลให้นอนแนบแผ่นหลังลงกับพื้นจนเกิดเสียงกระแทกดัง ฝ่ามือกดทับยังกึ่งกลางอกที่แต่งแต้มไปด้วยริ้วรอยแดงจากการฉุดทึ้ง

   "ถ้าคิดว่าฉันจะยอมให้นายเป็นฝ่ายคุมเกมล่ะก็ นายคิดผิดแล้ว"

   ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่จำเป็นต้องเหนี่ยวรั้งตัวเองกับคนอย่างเขาอีกต่อไป จัดการผลักไสร่างกายที่ยังคั่งค้างกับอีกฝ่ายเข้าไปจนสุด วายุสะดุ้ง หัวคิ้วขมวดเข้าหากัน เจ้าของริมฝีปากอิ่มกัดฟันอย่างอดทนอดกลั้น หากแต่เขาก็ไม่ส่งเสียงใดๆ ให้เล็ดลอดออกมา

   “รู้ใช่ไหมว่าฉันเกลียดนาย”

   โน้มใบหน้าลงส่งเสียงข้างใบหู ลมหายใจร้อนรินรดที่ข้างแก้มฝาดเลือด

   มือดึงกางเกงสแลคที่ค้างคาออกไปให้พ้นทาง ก่อนจับแยกเรียวขาให้ตระกองไปรอบเอว ร่างกายเบื้องล่างโถมเข้าหาเจ้าของเรือนผมสีอ่อนจนกายเคลื่อนไหวไปตามแรงที่เหนี่ยวนำ ทั้งรุนแรงทั้งไร้ความอ่อนโยน เสมือนแค่ต้องการระบายอารมณ์ใส่ตุ๊กตาไร้ชีวิตจิตใจให้เสร็จสิ้นไปให้จบๆ

   “เกลียด...”

   ได้แต่เอ่ยย้ำออกไปซ้ำๆ ตอกย้ำให้ทั้งผมและเขาได้รู้ว่า เกลียด

   เกลียดท่าทีที่เหมือนไม่แยแสอะไรสักอย่าง เกลียดการกระทำที่ทำเหมือนทุกอย่างเป็นเพียงแค่เรื่องล้อเล่น เกลียดที่เขาทำเหมือนสัมพันธ์ผิวเผินนี่ก็แค่เพื่อความสนุกความสะใจส่วนตัว เกลียดจนกระทั่งอยากจะทำลายเปลือกรูปปั้นที่ใครต่อใครว่าสวยงามไร้ที่ติให้แหลกสลายลงต่อหน้า

   ให้เนื้อแท้ปรากฏจนผมสามารถเกลียดเขา

   ได้มากกว่าที่เกลียดตัวเอง


.
.

TBC

____


TALK: หายไปนานเลยค่ะ ไม่รู้ว่าคนอ่านลืมเพลิงกับวาไปรึยังหนอ ;_; หวังว่าจะยังไม่ลืมกันนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนต่อไปด้วยนะคะ ^^
ขอบคุณมากค่ะ


หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 16-08-2015 20:48:44
จริงๆทั้งคู่ก็คิดอะไรกันอยู่
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 16-08-2015 21:06:04
 :hao7:  :hao7: อร๊ายยยย มาแล้วววว
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 16-08-2015 21:55:44
แล้วเขาก็ได้กัน
ทีนี้ใครจะยอมอ่อนให้ก่อนล่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 17-08-2015 00:59:28
ทำซะรุนแรง น้องวาช้ำแย่เลย
เพลิงเอ๊ยหลงเสน่ห์เขาแล้วยังไม่รู้ตัวอีก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 17-08-2015 01:45:59
สงสารวานะ  ทำเหมือนไม่แคร์ทุกสิ่งรอบตัวเลย  ทำไมวาเป็นแบบนี้ได้นะ :ling3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 17-08-2015 03:55:36
หลังจากนี้จะเป็นยังไงต่อ ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 17-08-2015 18:01:00
ในที่สุดก็มาาา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: anterosz ที่ 17-08-2015 21:15:13
โอ้วววว... ตอนนี้ เพลิง(อยู่)ในวายุ จริงๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yearrayoeng ที่ 18-08-2015 00:28:53
อ่านแล้ว เหมือนนานาเสะมาก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 20-08-2015 08:44:11
ฮืออออ อัพแล้ว เรารอคนแต่งทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 03-09-2015 20:37:52
เมื่อไหร่จะมาาาาา
รออยู่เน้อ ฮึบๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: SUPERMUAY ที่ 15-09-2015 22:09:18
 :impress2: :impress2: :impress2:
เค้ารออ่านอยู่นะตัวเองงงง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: tomozukii ที่ 16-09-2015 00:37:36
ได้โปรดมาต่อนะค่ะ plzzzzzzzzzz
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 6 (18+) [หน้า 5 up 16.08.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 17-09-2015 21:04:15
ตอนที่ 7



หากค่ำคืนไหนที่สายฝนกระหน่ำเทลงมา ผืนฟ้าร้องคำรามจนสัมผัสได้ถึงแรงสั่นไหว คืนนั้นผมจะรู้สึกสบายใจอย่างน่าประหลาด คงเพราะความมืดมิดในค่ำคืนนั้นไม่ได้มาพร้อมกับความเงียบงันดั่งเช่นทุกที

   
ส่วนค่ำคืนนี้ แม้จะไม่มีเสียงสายฝนร่วงหล่นลงจากฟากฟ้า ไม่มีเสียงฝืนฟ้าร่ำร้องอย่างไพเราะ ไร้สิ้นเสียงหยดน้ำนับล้านหยดหล่นร่วงโปรยปรายคอยขับกล่อมให้ถลำลึกสู่ห้วงนิทรา


   ความมืด ก็ไม่ได้มาพร้อมกับความเงียบเฉกเช่นทุกครั้ง


   ท่ามกลางไออวลของความร้อน เคล้าไอชื้นจากหยาดเหงื่อระคนกลิ่นกายจากใครบางคน ผมได้ยินเสียงแว่วจากแนวอกกระเพื่อมเคลื่อนไหวเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ได้ยินเสียงลมหายใจดังแผ่วเบา มันให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาด ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ราวกับร่างกายกำลังจมอยู่ในห้วงความอบอุ่นที่ไม่เคยได้สัมผัส


   ในขณะเดียวกัน มันก็ทำให้ผมรู้สึก หวาดกลัว


   หวาดกลัวในความรู้สึกอันแสนแปลกปลอมที่เกิดขึ้นอย่างไร้สาเหตุ


   แสงแดดยามเช้าลอดผ่านบานกระจกหน้าต่างห้องกระทบเปลือกตาเข้าจนต้องลืมตาตื่นขึ้น ต้องกะพริบตาถี่เพื่อปรับทัศนียภาพให้ชัดเจน เมื่อความพร่าเลือนหายไปจากตรงหน้า ไอแดดอ่อนก็ค่อยเผยให้มองเห็นภาพร่างกายสูงใหญ่กำลังยืนมองทอดออกไปนอกหน้าต่าง


   ใบหน้าคมอาบไล้ด้วยแสงแดดยามเช้า เน้นให้โครงหน้าหล่อเหลาดูดีขึ้นกว่าเก่า ผิวกรำแดดยิ่งทำให้ดูสมเป็นชายชาตรี ยิ่งบางครั้งที่เขาแสดงความใจดีออกมา ก็ยิ่งรู้สึกว่า เพลิง และผมเหมือนอยู่กันคนละฝั่งฟากของท้องฟ้า


   อาจเป็นเพราะแสงแดด ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า เขาเหมาะกับแสงสว่างจ้า


   หากแต่ยิ่งสว่างมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมองเห็นเลือนรางมากเท่านั้น


   เมื่ออีกฝ่ายรู้ตัวว่ากำลังถูกจ้องมอง ร่างสูงจึงหันใบหน้ามาสบสายตา ความร้อนแรงหายไป เหลือไว้เพียงแต่ความเย็นชาที่ถูกส่งทอดผ่านนัยน์ตาคู่คม


   ไม่แตกต่างจากเมื่อคืนเวลาที่ร่วมรัก


   ทว่าก็แตกต่างจากตอนที่เพลิงสู้อุตส่าห์ไปที่คลับแล้วแบกคนที่เกลียดแสนเกลียดกลับมาถึงห้องพักด้วยความเห็นอกเห็นใจ


   แผ่นหลังกว้างและอุณหภูมิร่างกายร้อนผ่าวราวกับจะสามารถหลอมละลายผมได้ยามที่สัมผัส ช่างผิดกับแววตาที่ประสานกันในตอนนี้ ที่เยือกเย็นจนทำให้รู้สึกสะท้าน เย็นเยือกบาดลึกจนทานไว้ไม่ไหว ต้องหลบสายตาเลี่ยงไปทางอื่น


   จัดการดันตัวขึ้นนั่งลงข้างเตียง ยังคงไม่อาจฝืนสู้ดวงตานั้น ไม่จำเป็นต้องเอ่ยออกมาเป็นคำพูด เขาก็สามารถทำให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า ความเกลียด มันโลดแล่นอยู่ในทุกอณูอากาศ กดดันให้บรรยากาศรอบข้างหนักอึ้ง แม้เพียงแค่หายใจก็ยังรู้สึกอึดอัด


   ความเกลียดชังแฝงตัวอยู่ในความเงียบ กดดันให้ความอึดอัดกลั่นตัวกลายเป็นเม็ดเหงื่อไหลลงตามข้างขมับ ไม่มีใครเอ่ยคำพูดใด จนกระทั่งผมเป็นฝ่ายทำลายปราการความเงียบลง


   “ดูท่าเมื่อคืนฉันคงดื่มหนักไปสินะ”


   ไม่อาจหาคำพูดอื่นใดมาอ้างได้ ไม่สามารถสู้กระแสความเงียบที่แสนกดดันนั้นได้ ความรู้สึกนี้ทรมานผมมากเกินไปจนไม่อาจทำอะไรได้ แม้กระทั่งการกล้ำกลืนฝืนเก็บความรู้สึกของตัวเอง ความรู้สึกที่เอาแต่ตอกย้ำซ้ำๆ ว่า ผมต้องการเพลิง


   เป็นความต้องการ ที่ไม่มีทางได้สิ่งใดกลับคืนมา


   ร่างสูงนิ่งเงียบ หากแต่ผมรู้ดีว่าเขากำลังไม่พอใจ


   ริมฝีปากผมสั่นระริกขณะที่พยายามคิดคำพูด สายตาไม่อาจกล้ามองหน้าอีกฝ่าย ความสิ้นหวังเจืออยู่ในทุกความรู้สึก จนทำให้อยากขย้อนออกมาเสียอย่างนั้น


   สุดท้ายก็พูดอะไรอื่นใดอีกไม่ออก ได้แต่ลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ที่พื้น ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยที่ไม่ได้มองหรือพูดอะไรกับเพลิงอีก


   “ก็แค่วันไนท์แสตนด์”


   ได้ยินเสียงเพลิงเอ่ยขึ้นเบาๆ ไล่ตามหลัง โดยที่ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเพลิงเอ่ยมันด้วยอารมณ์เช่นใด



[30%]
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Nongying2012 ที่ 17-09-2015 21:55:40
มาแล้วววว อยากอ่านต่ออะ :monkeysad:  มาต่อนะคะมาเฝ้าตลอดว่าเมื่อไรจะอัพ :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 17-09-2015 22:28:10
หน่วงดีจัง :mew2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 17-09-2015 22:36:52
กว่าจะได้เห็นคู่นี้เขาคุยกันดีๆท่าทางจะอีกนาน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 18-09-2015 08:39:24
เฮ๊ยยยยยย!!!!   เจ็บปวด :z3: :katai1: :hao5: :mew4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 18-09-2015 09:12:15
ถ้าวาได้ยินคงน้อยใจแย่
คราวนี้วาคงเอาตัวออกห่างเพลิงเองแน่ๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 20-09-2015 12:04:27
ตอนนี้ติดเรื่องนี้อยู่เรื่องเดียวเลยเนี่ย TT
มาต่อไวไวนะคะะะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: SUPERMUAY ที่ 20-09-2015 20:34:24
 :katai1:
สงสารวายุมากอะ
โดนเค้าทำแล้วยังต้องง้อเค้าอีกนะ   ฮือออ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Orange151987 ที่ 03-10-2015 15:07:05
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 04-10-2015 08:27:58
ตอนที่ 7.2

.
.


สายน้ำเย็นจากฝักบัวชโลมร่างกายและคราบเหงื่อไคล หากแต่ผมยังคงรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่ยังคงติดตรึงจากเมื่อคืน ร่างกายส่วนที่ถูกอีกฝ่ายสัมผัส บางจุดเกิดรอยฟกช้ำจางๆ จริงอยู่ที่เขาไม่ได้รุนแรงมาก หากแต่ก็ห่างไกลจากคำว่าอ่อนโยน
   
ต้องเกลียดมากแค่ไหนถึงทำให้เกิดรอยแบบนี้ได้?
   
ถึงอย่างนั้นก็น่าแปลก ที่ผมกลับรู้สึกว่าร่องรอยเหล่านี้ ไม่ได้ให้ความรู้สึกเจ็บแปลบได้มากเท่ากับที่ผมกำลังรู้สึกอยู่ในอก ยิ่งได้กลิ่นแชมพูที่เจ้าตัวใช้ประจำ ก็ยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกโหยหาเหมือนได้อยู่ชิดใกล้ ทั้งที่เรานั้นอยู่ห่างกันไกลแสนไกล ต่อให้เอื้อมมือไขว่คว้ายังไงก็ครอบครองเป็นของตัวเองไม่ได้อยู่ดี
   
ถลำลึกและจมดิ่ง
   
คงเป็นความรู้สึกที่กำลังเผชิญอยู่ อยากขอบคุณแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปเมื่อคืน ที่ทำให้ไม่ต้องยอมรับความเป็นจริงกับคนด้านนอก ว่าทุกอย่างไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะความไร้สติ หากแต่เป็นสิ่งที่ผม จงใจ และคาดหวังให้เกิดขึ้นเอง
   
นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมสูญเสียการควบคุมตัวเองได้ขนาดนี้ ทำให้ความสิ้นหวังก่อตัวมากจนเอ่อล้นอยู่ที่ลำคอแห้งผาก เพียงแค่อยากสัมผัสความอบอุ่นจากร่างกายนั้นดูสักครั้ง ถึงได้ยอมทำอะไรโง่ๆ ลงไป
   
เพียงแค่ครั้งเดียว ก็คงเกินพอจะทำให้ได้สติกลับคืนมายอมรับความจริงว่าความต้องการของผม ไม่มีทาง และไม่มีวันได้อะไรกลับคืนมา
   
หลังจากที่ออกจากห้องน้ำ เพลิงไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว และผมรู้ ว่าเขาจะไม่มีวันกลับมาที่ห้องนี้อีก
   
เขาไปจากที่นี่อย่างเงียบเชียบ แต่ร่องรอยของเขายังคงอยู่ ทั้งกลิ่นกายดึงดูดและสัมผัสร้อนรุ่ม  จะยังติดตรึงอยู่ไปอีกนานแสนนาน โดยที่ผมไม่มีทางรู้ว่าร่องรอยเหล่านั้นจะเลือนหายไปเมื่อใด



.
.

หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 11-10-2015 10:07:29
กรี๊ดดด มาต่อแล้ว เห็นชื่อตอนยังไม่ได้เปลี่ยนตรงเพิ่มเปอร์เซ็น แต่อวะมาอ่านรอ  นิดหน่อยก็ดี รอนะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 27-10-2015 22:08:40
รอฉันรอเธออยู่
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: SUPERMUAY ที่ 16-11-2015 12:06:41
โอเคค่ะๆ มาต่อเท่านั้นก็ยังดี 555
คิดถึงวายุมากเลยน้าาา T^T
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 16-11-2015 14:39:15
เหมือนจะเคยอ่านในเฟสคนเขียนว่าที่ไม่ค่อยอัพเรื่องนี้เพราะคนอ่านน้อย
แต่เราชอบเรื่องนี้มากๆเลยนะ มากว่าคุณหมอหรือคุณหลวงอีก
ชอบอารมณ์อึนๆหน่วงๆในเรื่อง มันน่าลุ้นและติดตามว่าสองคนนี้จะญาติดีกันได้อย่างไร
ยังรอมาอัพอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7 (30%) [หน้า6 up 17.09.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 29-11-2015 21:28:14
ตอนที่ 7.3





เนิ่นนานเท่าไหร่กันนะ ที่ไม่ได้สัมผัสกับความร้อนรุ่มขนาดนี้

หนึ่งปี
...กับอีกสี่เดือน

ตั้งแต่วันที่เพลิงไม่กลับมาที่ห้องอีก ผ่านมาหนึ่งปีสี่เดือนแล้วสินะ


สัมผัสในวันนั้น เหมือนกับดอกไม้ไฟ ที่เพียงจุดขึ้น ชั่วพริบตาความร้อนแรงอันสวยงามก็โลดแล่นอยู่บนฟากฟ้า แสดงภาพอันชวนให้ใครที่ได้เห็นหลงใหลจนยากจะละสายตา ทว่าต่อให้อยากได้อย่างไรก็ไขว่คว้าดวงไฟที่อยู่บนฟ้าไม่ได้ ซ้ำร้ายกว่านั้น ความเร่าร้อนและภาพอันแสนดึงดูดก็ดับสิ้นในชั่วลมหายใจเช่นกัน เหลือทิ้งไว้เพียงภาพความมืดและความหนาวเหน็บของยามค่ำคืน อิ่มเอมกับความฝันอันสวยงามได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงด้วยความรวดเร็ว แต่น่าแปลก ที่ภาพดอกไม้ไฟอันทำให้หัวใจพองโตได้ทุกครั้งที่นึกถึง ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำไม่เลือนหาย


เสียงเครื่องปรับอากาศและเสียงคนคุยกันหึ่งๆ ทำให้ผมลืมตาตื่นขึ้นจากฝัน เมื่อมองไปโดยรอบ ก็รู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ป้ายรถบัสที่เคยยืนอยู่ หากแต่เป็นห้องพยาบาลของมหาวิทยาลัย พยายามปะติดปะต่อเรื่องราวว่ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรทั้งที่ศีรษะยังปวดตุบๆ


ก่อนหน้านี้ผมกำลังยืนรอรถบัส แต่แดดคงร้อนจัดจนหน้ามืดและหมดสติลง

   
เอ้า ตื่นแล้วหรือ”

เป็นเจ้าหน้าที่หญิงวัยกลางคนเอ่ยทัก ในห้องนี้มีเพียงผมคนเดียวที่นอนอยู่บนเตียง ด้านนอกห้องพักมีนักศึกษาอยู่คนสองคน และไม่ปรากฏร่างคนที่ผมคิดว่าอาจจะเป็นคนพาผมมาที่นี่


ภาพดอกไม้ไฟเกิดขึ้นและดับลงยังค้างอยู่ในสมอง ผมสะบัดศีรษะเพื่อเรียกสติตัวเองให้กลับมา


ความหวังช่างน่ากลัวเหลือเกิน เพียงแค่ครู่เดียวที่นึกถึง
เพลิง หัวใจก็เจ็บแปลบจนต้องยกมือขึ้นทาบกับอกข้างซ้าย

ผมดันตัวลุกขึ้นจากเตียง เอ่ยบอกขอบคุณเจ้าหน้าที่ สายตาสังเกตเห็นข้าวของตัวเองวางอยู่ที่โต๊ะใกล้หัวเตียงครบทุกอย่าง ทำให้โล่งใจได้ว่าไม่ได้ตกหายตามทางและไม่ต้องไปตามหาว่าอะไรอยู่ไหน


หลังจากที่รับยา ผมก็เดินออกจากห้องพยาบาล วันนี้ผมตัดสินใจไม่เข้าเรียนอีกแม้ว่าจะเป็นวันแรกของปีสามก็ตาม เลือกเดินทางกลับไปนอนพักที่คอนโด


เป็นเวลาปีกว่าแล้วที่ผมย้ายออกมาจากหอพักของมหาวิทยาลัย ย้ายหลังจากที่เพลิงไปไม่นาน จะว่าทนอยู่ในห้องที่ข้าวของของเขายังอยู่ และกลิ่นของเขายังอวลอยู่ในห้องก็ได้ เพราะบางทีผมคงไม่เหมาะกับการอยู่ร่วมกับใครตั้งแต่แรก


การอาศัยอยู่คนเดียวในคอนโดของตัวเองทำให้รู้สึกดีกว่าแต่ก่อนมาก เพราะทำให้เหมือนได้อยู่ในฐานที่มั่นที่ผมเป็นเจ้าของ ไม่ต้องคอยกังวลถึงโลกภายนอก ได้ใช้เวลากับสิ่งที่ตัวเองชอบ ตอนแรกพ่อกับแม่ที่อยู่ต่างประเทศก็คัดค้านที่ผมจะย้ายออกจากหอพัก แต่สุดท้ายพวกท่านก็เข้าใจ บางครั้งการปรับตัวไม่ได้ก็ดีกว่าฝืนใจที่จะอยู่จนใช้ชีวิตอย่างไม่มีความสุข


ผมกลับมาถึงคอนโดตอนหกโมงกว่า ท้องฟ้านอกห้องกำลังทอไปด้วยสีส้ม จากหน้าต่างผมสามารถมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำ ผมเดินไปนั่งลงหน้าเปียโนอัพไรท์สีขาวข้างหน้าต่าง เปิดฝาเปียโนขึ้น แล้วเริ่มบรรเลงเพลงปลดปล่อยอารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ในหัวใจ


หนึ่งปีกับสี่เดือน ผมคิดว่าคงจะลืมสัมผัสนั้นไปแล้ว หากแต่สุดท้ายก็รู้ตัวว่าลืมไม่ได้


สองเดือนแรกที่เพลิงย้ายออกจากหอเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ทรมานที่สุด เรายังคงเจอหน้าเวลาที่ต้องเรียนในวิชาเดียวกัน แน่นอนว่าเขาทำเหมือนผมเป็นเพียงอากาศธาตุ หลังจากนั้นพอปิดภาคเรียน ความทรมานก็ค่อยๆ ทิ้งดิ่งสู่ก้นลึกของจิตใจ หากไม่สะกิดตะกอน ก็ไม่เจ็บปวดมากนัก


กระทั่งเวลาผ่านไป
ผมก็คุ้นเคยกับความทรมานและอึดอัดจนหายใจไม่ออกนั่นแล้ว ราวกับว่าความอึดอัดนั้นได้แปรเปลี่ยนสภาพเป็นก้อนความรู้สึกอันว่างเปล่า และได้หลอมเป็นเนื้อเดียวกับร่างกายจนแยกแยะไม่ออก จนผมคิดว่าตัวเองคงกลายเป็นรูปปั้นไร้หัวใจอย่างที่ใครต่อใครเขาว่ากัน

เมื่อขึ้นปีสองผมก็ไม่ได้เรียนวิชาไหนกับเพลิงแม้แต่วิชาเดียว หากไม่ใช่เพราะเขาจงใจลงแยก ก็คงเพราะผมตั้งใจหนี หรือไม่ทั้งหมดก็คงเป็นความบังเอิญล้วนๆ นานๆ ครั้งผมจะเห็นเพลิงกับเพื่อนๆ บ้าง ไม่ว่าเมื่อไหร่เขาก็มีคนห้อมล้อม แต่นั่นก็แค่เห็น เหมือนภาพพลุที่แตกตัวสวยงามบนฟ้าแล้วดับหาย


ส่วนผมยังคงปลีกตัวอยู่คนเดียวไม่ยุ่งกับใครให้มากความ เรียนเสร็จก็กลับ ปิดเทอมก็ไปอยู่ต่างประเทศ และอยู่คนเดียวมากจนคิดว่าคนในคณะคงไม่มีใครคิดว่าผมเรียนที่นี่อีกแล้ว ซึ่งก็ทำให้รู้สึกสงบได้เหมือนกัน ผมเกือบจะคิดว่าเวลาจะช่วยเยียวยาหัวใจได้แล้วเชียว หรือไม่เวลาก็คงช่วยทำลายหัวใจให้สลายไปจนไร้ความรู้สึกได้


ทว่าวันนี้
...สิ่งที่คิดว่าได้สูญสลายไปจากร่างกายนี้ไปแล้ว ก้อนกลวงเปล่าที่เคยหายไปกลับค่อยๆ มีตัวตนขึ้นอีกครั้ง ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง กลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า ความเจ็บปวด ตอกย้ำว่ามันไม่เคยสูญสลายไป ไม่ว่าจะพยายามลืมแค่ไหนก็ตาม

เรียวนิ้วผมไล่ไปตามคีย์ จากช้าไปเร็ว บางสิ่งที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ถูกสื่อผ่านตัวโน้ต และขณะที่บรรเลงนั้นเอง โทรศัพท์มือถือก็ส่งสัญญาณอีเมลเข้าใหม่ขัดจังหวะ


ผมหยุดมือ และหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาตรวจดูอย่างเลื่อนลอย


มีอีเมลเข้ามาใหม่ในเวลาไล่เลี่ยกันสองฉบับ
ฉบับแรกจากอาจารย์ประจำวิชาที่ผมขาดเรียนไป เป็นการส่งอีเมลแจ้งเรื่องการจับกลุ่มทำรายงาน

ส่วนฉบับที่สอง เป็นอีเมลจาก
เพลิง

รู้สึกงุนงงเมื่อเห็นชื่อผู้ส่งที่ว่า พอตรวจสอบเนื้อหาดูถึงได้รู้ว่าเราถูกจัดให้อยู่กลุ่มเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีสมาชิกร่วมกลุ่มอีกสองคน ซึ่งเพลิงก็ส่งอีเมลติดต่อไปด้วยเช่นกัน


ดูเหมือนว่าเขาต้องการจะนัดรวมกลุ่มเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับงาน ช่างเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากจริงๆ เพราะน้อยคนนักที่จะมีความคิดริเริ่มเป็นผู้นำเวลาทำงานกลุ่ม


ลมหายใจราวกับจะขาดห้วง ถ้าหากนี่คือความบังเอิญ ก็ช่างเป็นความบังเอิญที่เล่นตลกกับความรู้สึกได้ดีเกินไป


อดไม่ได้ที่จะลองจินตนาการว่าถ้าหากต้องเผชิญหน้ากับเพลิงโดยตรง ต้องทำงานร่วมกัน ความเกลียดชังจากสายตาคู่นั้นจะมุ่งตรงมาสร้างความกดดันได้มากแค่ไหน จะทำให้เจ็บปวดกว่านี้ได้อีกเท่าใด


ผมเปิดหน้าต่างออกรับลม แล้วหยิบจุดมวนบุหรี่ขึ้นสูบ สายตาทอดมองไปยังดวงอาทิตย์ที่ค่อยๆ ลาหายจากขอบฟ้า เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานเท่าใด ราตรีก็เข้ามาแทนที่


หมอกควันสีขาวของมวนบุหรี่ปล่อยออกจากริมฝีปาก ลอยล่องออกไปสัมผัสอากาศด้านนอก ก้อนกลุ่มควันกระจายตัวอย่างเชื่องช้า และเลือนหายไปในความมืดในที่สุด


หากความรู้สึกเปรียบเสมือนหมอกควันสีขุ่น สิ่งที่เก็บซ่อนอยู่ในใจก็คงจะสลายหายไปได้ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ ทว่าความรู้สึกไม่ใช่กลุ่มก้อนอากาศที่จะสูญสลายไปได้ง่ายๆ ถึงจะจับต้องไขว่คว้าไม่ได้ หากแต่มันจะยังคงอยู่ ให้ยังรู้สึก ให้ยังรู้ว่าความรู้สึกนั้นมันยังมีตัวตน

   
...
ไม่มีวันที่จะสูญสลายไปดั่งใจปรารถนา...


.
.


TBC

โฮกกกกก กลับมาแล้วค่าาาาา ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ก่อนหน้านี้ยุ่งจริงๆ T0T เลยทิ้งเพลิงกับวาจนเน่าเลย แง อย่าพึ่งทิ้งเพลิงกับวาไปนะคะ ฮืออออ จะพาทั้งสองคนมาบ่อยๆ นะคะ ;_; ลืมตอนเก่าก็จิ้มอ่านทวนๆ กันนะคะ รับรองความอึนเหมือนเดิมค่ะ อิอิ

เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ จะไม่อู้แย้วววววว
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: tararatart ที่ 29-11-2015 23:33:59
ใช่เราก็ชอบเรื่องนี้มากกว่าหมอและคุณหลวง เป็นเพราะเราสายดราม่ามั้งเรามาที่อ่านน้อยก็เพราะคนเขียนไม่ค่อยต่อนะเป็นเราอ่ะเราก็ไม่อ่านเรากลัวค้างแต่เราน่ะติดตามอยู่ตลอดนะ มาต่อบ่อยๆเถอะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-11-2015 23:56:42
โหววว ไม่คุยกันตั้งปีกว่าแน่ะ
ระหว่างนั้น เพลิงเป็นยังไงบ้างนะ
แต่วายุน่ะทรมานน่าดูเลยแหล่ะ

ดีใจมากได้อ่านต่อสักทีเนอะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 30-11-2015 10:27:58
ดีใจที่กลับมาต่อนะคะ
อยากรู้ความเป็นไปฝั่งเพลิงมั่ง ว่าจะฝังจิตฝังใจเหตุการณ์นั้นบ้างไหม ชริๆ ผู้ชายหน้าตาย ปากไม่ตรงกับใจ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 01-12-2015 07:13:44
ขอบคุณที่มาต่อจ้า
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Kerberossss ที่ 03-12-2015 00:34:03
 :hao5: ชอบเรื่องนี้จัง ดีใจที่มาต่อน้า
.......หน่วงดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 05-12-2015 19:29:47
ดีใจที่มาต่อนะคะ ยังตามอยู่ตลอดเลย รอทีก็อ่านซ้ำไปเรื่อยๆ ชอบมากเลยนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 05-12-2015 22:40:47
ทรมานน่าดูเลย :pig4: ที่มาต่อนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 21-12-2015 14:16:40
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-12-2015 14:29:13
จะมาต่อยังคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 7.2+7.3 (100%) [p6 up 30.11.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 21-12-2015 16:02:10
ตอนที่ 8.1






   ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบกับวายุ ผมรู้สึกได้ว่าเขามักจะแผ่รังสีประหลาดที่ทั้งดึงดูดให้คนอยากเข้าใกล้และผลักไสคนให้ถอยห่าง
 
อาจเพราะหน้าตารูปลักษณ์ไร้ที่ติราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายทำให้ใครต่อใครไม่ว่าจะหญิงหรือชายต่างพากันหลงใหลในขณะเดียวกัน ภาพภายนอกที่สวยงามก็ฉาบความน่าเคลือบแคลงสงสัยเอาไว้ด้วยในเมื่อมีคนมากหน้าหลายตาอยากครอบครองหรือชิดใกล้ความสัมพันธ์เชิงโลกีย์กับใครต่อใครจึงได้มีตามมานับไม่ถ้วนหากมีคนเสนอจะตอบสนองก็คงไม่แปลก
 
ทว่าสำหรับผมแล้ว คนที่สามารถนอนกับใครได้ไม่เลือกหน้าแบบเขา
 
ผม เกลียดที่สุด
 
และความเกลียดนี้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเท่าไร มันยังคงอยู่ คอยกัดกินเนื้อที่ในหัวใจผม
 
หนึ่งปีกับอีกสี่เดือน
 
ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวเองไม่สามารถขจัดความรู้สึกที่ครอบงำจิตใจออกไปได้แม้เพียงเศษเสี้ยว
 
ยิ่งความเกลียดมีมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งฝังตัวอยู่ในหัวใจผมลึกขึ้นมากเท่านั้น
 
แม้บางวันความรู้สึกนั้นจะเจือจางไป จนบางครั้งคิดว่าทุกอย่างที่เคยรู้สึกเป็นเพียงแค่ฝัน ทว่าวันนี้ ราวกับความรู้สึกได้ย้อนหวนกลับคืน
 
ทันทีทีเห็นวายุเดินเข้ามาในวิถีสายตา หลังจากที่ผมและเขาไม่ได้เจอกันตรงๆ มาตลอดปีกว่า รูปร่างความเกลียดที่เคยคิดว่ามันอาจจางหายไปแล้วกลับก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างชัดขึ้น
 
ผมไม่เคยลืมเจ้าของใบหน้าและร่างกายนั้น ไม่เคยลืมกลิ่นกายอันแสนดึงดูดนั่น
 
ไม่เคยลืมคนที่กำลังก้าวเท้าเข้ามาภายในอาณาบริเวณป้ายรถ และมาหยุดอยู่ด้านข้างผม
 
อากาศดีจังน้า...”
 
อีกฝ่ายเอ่ยคำพูดออกมาลอยๆ ด้วยนำเสียงไม่รู้ร้อนรู้หนาวถึงจะพูดออกมาอย่างนั้นหากแต่เห็นได้ชัดว่าเขาเหงื่อโทรมกายด้วยไอแดดแรงจ้า
 
แค่เห็นก็เกิดความหงุดหงิดใจราวกับว่าร่างที่กำลังยืนอยู่ข้างใกล้นี้สามารถแผ่รังสีที่ทำให้ผมไม่พอใจได้ตลอดเวลา
 
ผมไม่ปิดบังอารมณ์ที่ขุ่นมัว ไม่ว่าใครก็คงต้องรู้สึกถึงความกดดันนี้
 
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะจับความรู้สึกผมได้ ไม่นานนักเขาจึงเดินออกจากร่มและไปจุดบุหรี่ขึ้นสูบ
 
ริมฝีปากแดงเรื่อพ่นควันออกด้วยท่าทีผ่อนคลาย รวงควันสีขาวขุ่นม้วนตัวขึ้นเป็นสายในอากาศก่อนจะกระจายตัวออกไป ระยะห่างที่ไม่ไกลกันนัก ทำให้ได้กลิ่นบุหรี่ที่ออกจะรังเกียจเคลือบคลุมกลิ่นน้ำหอม กลิ่นที่หลอมรวมไม่อาจแยกจากกลิ่นเนื้อกาย ผสมผสานกลายเป็นกลิ่นที่ชวนนำพาให้สติหลุดลอยเข้าหาเจ้าของกลิ่นนั้น
 
วายุดูไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ไม่ยี่หระยังไงก็ยังคงไม่ยี่หระอยู่อย่างนั้น แม้กระทั่งน้ำเสียงยังฟังดูเสแสร้งเหมือนเคย
 
ทั้งใบหน้าขาวซีดทั้งริมฝีปากแดงที่เม้มสนิทหากแต่เย้ายวนดึงดูดเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมออกหลายเม็ดแล้วยังเปียกชื้นเหงื่อจนแนบติดไปกับร่างกายเนียนผ่องนั่นก็ด้วยทุกอย่างทำให้ผมเกลียด เกลียดมากจนอยากถอยห่างไปให้ไกลจากความสวยงามที่อาจลวงให้เข้าไปติดกับตกหลุมอีกครั้ง
 
และครั้งนี้...ผมรู้ว่าหากหลงไปกับสิ่งลวงหลอกอีก ผมคงหมดสิ้นหนทางหนีและคงขาดใจตายอยู่ในหลุมนั้นไม่มีวันได้กลับขึ้นมาอีก
 
เพราะงั้นความเกลียดที่ปรากฏชัดเจนขึ้น เป็นสิ่งที่ผมน้อมรับเอาไว้แต่โดยดี อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมมั่นใจว่าเรื่องแบบนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น
 
ทว่าเวลาที่วายุล้มทรุดลงต่อหน้า ความรู้สึกที่พยายามยึดติดก็ราวกับจะพังครืนลงตาม
 
ผมรับร่างเขาไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะกระแทกลงกับพื้นคอนกรีต ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นได้
 
จะว่าไม่เคยคิดว่าวายุจะมีวันที่แสดงแง่มุมอย่างคนทั่วไปก็ใช่ ในสายตาผม วายุเป็นรูปปั้นไร้ความรู้สึก ไร้ชีวิตจิตใจ โลกภายนอกไม่มีทางไปกระทบความรู้สึกเขาได้
 
ผมคิดอย่างนั้น จนกระทั่งเวลาที่ประคองร่างขาวซีดไว้ในอ้อมแขน ความเกลียดกลับสั่นคลอน
 
ไม่ว่าจะเอ่ยเรียกวายุยังไงเขาก็ไม่ตอบรับ เขาดูเปราะบางกว่าที่ผมคิดไว้ ไฝเจ้าน้ำตาใต้ตาซ้ายทำให้รู้สึกว่ารูปปั้นที่สวยงามอย่างไรก็มีย่อมมีจุดด่างพร้อย ผิวขาวซีดราวกับจะโปร่งใสจนเห็นเส้นเลือดจางๆ ก็ทำให้รู้สึกว่าหากทำรุนแรงก็คงทำให้เกิดรอยฟกช้ำง่ายๆ เหมือนวันนั้น
 
ผมอยากให้เขาแค่แกล้งทำเป็นอ่อนแอ เพราะรูปปั้นอย่างเขาควรจะตั้งตระหง่านอย่างมั่นคงไม่ใช่หรือ

ไอร้อนแผ่จากรูปปั้นที่ ไม่ควร มีชีวิตจิตใจ จะโกหกตัวเองว่าวายุเป็นเพียงแค่ตุ๊กตาต่อไปก็คงได้ ทว่าความเป็นจริงนั้นตอกย้ำในสิ่งตรงกันข้าม

ถ้าหากรูปปั้นนี้ไร้ชีวิตจริง ผมก็ไม่ควรสัมผัสได้ถึงกระแสลมหายใจที่กำลังผะแผ่วอยู่ตรงหน้า

ถ้าหากรูปปั้นนี้ไร้ความรู้สึกจริง ผมก็ไม่ควรต้องกังวลเมื่อเห็นเขาหมดสติ

และถ้าหากคนมีเลือดเนื้ออย่างวายุสามารถทำตัวเองให้กลายเป็นเพียงแค่หุ่นไร้ชีวิตจิตใจได้จริง

คนมีเลือดเนื้ออย่างผม ก็ควรสามารถทำตัวให้เป็นเพียงแค่หุ่นที่ไร้ซึ่งความรู้สึกได้เช่นกัน

แต่ผมไม่ใช่หุ่น...และวายุเองก็...
 

 

-----------------
 
 

เวลาที่เดินมาถึงห้องสมุด ที่เป็นจุดนัดพบในการทำงานกลุ่ม วายุก็นั่งอยู่ก่อนแล้ว

ใบหน้าสวยราวกับรูปปั้นเทพเจ้าคลี่ยิ้มบางๆ เมื่อเห็นผม ช่างเป็นรอยยิ้มที่ชวนให้สงสัยในความหมาย ภายใต้ความงดงามนั้น จะแฝงอะไรเอาไว้บ้างไม่มีใครล่วงรู้ น่าแปลกที่ผมไม่ได้เกิดอารมณ์หงุดหงิดเหมือนทุกที

ผมเลือกนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา ไม่ได้ยิ้มหรือทักทายตอบ บนโต๊ะมีเพียงแค่ผมกับวา สมาชิกอีกสองคนยังไม่มาเพราะอาจติดฝนด้านนอกทำให้มาช้ากว่าที่นัดหมายไว้

ระหว่างที่รอ เราไม่ปริปากเอ่ยคำพูดใดแม้แต่คำเดียว วายุเหมือนจะเอ่ยอะไรบางอย่าง เวลาก็ผ่านมาพอสมควรเกินกว่าจะเอ่ยทักทาย ผมจึงคิดว่าที่เขาอึกอัก อาจจะเพราะเรื่องเมื่อวาน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่พูดอะไร

หากเป็นเมื่อปีก่อน ผมคงไม่คิดมองหน้าเขาตรงๆ แต่ตอนนี้ผมกลับมองอย่างต้องการมองให้ทะลุว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

ท่ามกลางความเงียบไร้สุ้มเสียง จะได้ยินก็แต่เพียงเสียงเครื่องปรับอากาศภายในห้องสมุด ที่ดังหึ่งๆ กลบเสียงพูดงึมงำของผู้คนที่นั่งอยู่ในละแวกใกล้และไกล

ขนาดแค่นั่งอยู่ไม่ได้ใกล้ชิดกันนัก กลิ่นหอมหวานจากกายอีกฝ่ายก็ยังลอยมาเตะจมูก อาจเป็นเพราะกระแสลมจากเครื่องปรับอากาศที่เป่าอยู่เหนือศีรษะได้พัดเอากลิ่นแชมพูจากเรือนผมเปียกชื้นมาทางนี้ จนทำให้ผมได้กลิ่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 
ชอบตากแดดไม่พอ นี่คงไปเดินตากฝนมาอีกล่ะสิท่า

ถอนหายใจแรงออกมาอย่างไม่ตั้งใจ จนวายุหันสายตากลับมามอง

สองสายตาประสานชั่วขณะ หากแต่อีกฝ่ายเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างอึดอัดกับสายตาผมที่มอง ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังสามารถเก็บสีหน้าและความรู้สึกเอาไว้ได้ดี

หน้ากากที่เคลือบความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ภายใน ดูท่าจะไม่กะเทาะออกง่ายๆ สวยงามและมั่นคงยังไง ก็ยังคงสวยงามและมั่นคงอยู่อย่างนั้น ไม่ต่างจากรูปปั้นอันเป็นผลงานประติมากรรมชั้นเลิศ ที่ทุกคนต่างชื่นชมหลงใหลในความสมบูรณ์ไร้ที่ติ หากแต่แท้จริงแล้ว เนื้อในภายใต้เกราะหินอ่อน อาจจะเปราะบาง ผุกร่อน และไม่งดงามเหมือนดั่งภายนอก

ไม่มีทางที่จะสมบูรณ์แบบ โลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ

ความเงียบครอบคลุมเราอีกเพียงชั่วครู่ ในที่สุดพ่อรูปปั้นหินอ่อนก็เอ่ยออกมา


นี่หน้าฉันมีอะไรติดอยู่รึไง?”

คำแรกหลังจากไม่ได้พูดกันมาปีกว่า ไม่ใช่คำทักทายหรือขอบคุณ

ยามริมฝีปากอิ่มขยับเอ่ยเป็นถ้อยคำ ทำให้เริ่มสังเกตเห็นว่าเนื้อปากแดงเรื่อนั้นตัดกับผิวหน้าซีดเซียว ใบหน้าอีกฝ่ายขาวซีดจนเกือบจะเหมือนรูปปั้นไร้เลือดเนื้อเข้าจริงๆ มีแค่บางส่วนเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าเขาไม่ใช่รูปปั้น แล้วเสื้อเชิ้ตก็เปียกเล็กน้อย ยิ่งนั่งอยู่ใต้ลมด้วยแล้ว ไม่รู้ว่าเขายังนั่งแน่นิ่งอยู่ได้ยังไง

เมื่อผมยังไม่ตอบรับ วายุจึงถอนหายใจออกมาบ้าง เขาทอดสายตามองไปทางอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาผม น่าเสียดายที่ผมไม่อาจมองเห็นสิ่งที่แอบแฝงอยู่ในแววตาเขา เหมือนกับที่ไม่อาจล่วงรู้ถึงเนื้อในที่แฝงอยู่ภายใต้เปลือกนอกที่สวยงาม

บางสิ่งบางอย่างกำลังรบกวนจิตใจเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่ามันเกิดจากสาเหตุใด รบกวนจนผมต้องเอ่ยบางอย่างเพื่อหันเหความสนใจตนเองออกไป


ฉันว่าเราควรย้ายไปนั่งทางโน้นนะ”

ไม่รีรอให้อีกฝ่ายได้ออกความเห็น ผมก็จัดการหยิบหนังสือและข้าวของของวายุเดินนำไปยังโต๊ะอีกฝั่งฟาก หากเดินมาจากทางเข้าห้องสมุด ผมคิดว่าสมาชิกอีกสองคนคงจะสังเกตเห็นโต๊ะนี้ได้ง่ายกว่า


อยู่ดีๆ ทำไมถึงย้าย?”

คนที่เดินตามหลังมาเอ่ยถาม ผมยักไหล่พลางเลือกนั่งลงกับเก้าอี้ด้านที่รับลมจากเครื่องปรับอากาศโดยตรง


นั่งตรงนี้สังเกตเห็นง่ายกว่า อีกสองคนถ้าเดินเข้ามาจะได้มองเห็นง่ายๆ”


อ้อ...”

เขาถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะนั่งลงตามยังฝั่งตรงข้าม แล้วเราก็จมอยู่ในห้วงแห่งความเงียบอีกครั้ง จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายสิบนาที สมาชิกอีกสองคนก็มาถึง คนหนึ่งคือสมาชิกผู้หญิง เป็นรุ่นน้องปีหนึ่ง ส่วนอีกคนเป็นรุ่นพี่ผู้ชายที่อยู่ปีสูงกว่า

ทั้งสองคนรีบเข้ามาขอโทษขอโพยที่มาสาย ฝนที่ตกหนักภายนอกทำให้การจราจรเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกดั่งใจ ทั้งผมและวายุไม่มีใครเอ่ยว่าอะไร คงเพราะไม่ใช่นิสัยและไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้ ผมตัดสินใจเริ่มเป็นฝ่ายเสนอแผนการทำงานก่อน สามคนที่เหลือก็ดูท่าจะให้ความร่วมมือดีกว่าที่คิดไว้

ระหว่างที่ปรึกษางานกัน พอมองคนรอบข้าง ดูเหมือนว่าสมาชิกอีกสองคนต่างมองวายุด้วยสายตาประหม่า ทว่าในความประหม่านั้น ก็ยังบ่งบอกได้ว่าสายตาเหล่านั้นมีความหลงใหลได้ปลื้มแอบแฝงอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย คนคนนี้ก็ทำให้ทุกคนสนใจได้เสมอ ช่างเป็นคนที่ อันตราย เสียจริง

อันตรายมาก จนความหวาดหวั่นก่อตัวภายในใจผมอย่างไร้สาเหตุ

แต่อย่างไรผมก็ไม่อย่างฟุ้งซ่าน และไม่อยากให้เหตุการณ์ในอดีตเกิดขึ้นอีกซ้ำสอง
 

.
.

TBC



___


หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-12-2015 16:18:29
 :z13:

เมื่อไรเพลิงจะได้รู้จักตัวตนของวายุกันนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 21-12-2015 19:42:35
ยกกำแพงออกแล้วจะเห็นตัวตนที่แท้จริง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Kerberossss ที่ 22-12-2015 02:32:20
เพลิงหนูอคติกับวาและไม่ยอมถามหรือมองวาในมุมใหม่ๆ

ไม่แฟร์กับวาเลยจริงๆ

รอออออออ...  มาอีก มาอีก  :ling1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 22-12-2015 13:33:42
สนุกๆ น่าติดตาม อยากอ่านต่อ :z3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Peung002 ที่ 22-12-2015 16:41:11
ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกสงสารวายุอยู่  :ling3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 23-12-2015 08:16:16
ยังคงรอติดตามประจำ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: SUPERMUAY ที่ 27-12-2015 21:07:52
พระเอกซึนมากกกกกกกกกกก
ชอบมาก อยากอ่านต่อออ

 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Cyberenergy ที่ 09-02-2016 02:33:11
พึ่งได้มาอ่านเรื่องนี้สงสารนายเอกที่มีไม่มีคนเข้าใจว่าตัวตนที่เเท้จริงของตัวเองเป็นอย่างไร ตัวนายเอกก็ไม่ปฏิเสธ กลับตอบรับจนทำให้พระเอกเข้าใจผิด ส่วนตัวคิดว่านายเอกคงไม่อธิบายให้พระเอกฟังจนกว่าพระเอกจะเปิดใจ หรือจนกว่าตัวนายเอกเองจะถึงที่สุดจริงๆ เรารู้สึกว่าพระเอกเขาเป็นคนดีนะ เพียงเเต่ว่าอาจจะฟังคำนินทามากจนอคติ(เกินไปสักหน่อย) นายเอกดูเปราะบางเหลือเกิน หวังว่าพระเอกเราจะเปิดใจในเร็ววัน//ส่วนตัวชอบบทพูดน้อยอยู่เเล้ว ยิ่งคนเขียนใช้ภาษาบรรยายได้บีบรัดหัวใจขนาดนี้ ยิ่งประทับใจมาก เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: Aoya ที่ 09-02-2016 23:26:05
โห หายไปนานจังเลย
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L1: :L2: :3123:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.1 [p7 up 21.12.58]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 06-04-2016 00:20:31
ตอนที่ 8.2





  เสียงเครื่องมือสื่อสารสั่นจนส่งแรงกระเทือนไปยังโต๊ะหนังสือ ทำให้ผมละสายตาไปมองที่หน้าจอขณะที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ภายในห้องสมุด

ณพเป็นคนโทรเข้ามา

ผมตัดสินใจเดินออกมาข้างนอกเพื่อรับโทรศัพท์ สายตาพลางจ้องมองทัศนียภาพนอกตึกอย่างใจเย็น


[เพลิง นายอยู่ไหน]

สักที่”


[ในมหา'ลัยใช่ป่ะ ฉันต้องรออีกตั้งนานกว่าจะเรียนคาบต่อไป มาอยู่เป็นเพื่อนกันหน่อยดิ~]

แค่ต้องการหาคนอยู่เป็นเพื่อน ถึงกับต้องโทรมาตามเลยหรือ ไม่ใช่เด็กอายุห้าขวบเสียหน่อยถึงอยู่คนเดียวไม่ได้

ผมได้แต่ส่ายหน้าให้กับปลายสาย


ทำเป็นหญิงสาวเปลี่ยวใจจนอยู่คนเดียวไม่ได้ไปได้” ผมสวนตอบ


[เออน่า ตกลงอยู่ไหน?]

หน้าห้องสมุด”


[ไปทำอะไรที่นั่นน่ะ? ขยันไปรึเปล่า!]

แค่เดี๋ยวจะมีนัดทำงานกลุ่ม แล้วก็ไม่มีใครขอร้องให้นายตามมานี่ รอเรียนคาบต่อไปคนเดียวก็ไม่น่าจะลำบากขนาดนั้นมั้ง?”


[ทำเป็นใจร้ายไปได้ เดี๋ยวฉันเดินไปหาที่ห้องสมุดแล้วกัน อย่าหนีไปก่อนนะเฟ้ย!]

ผมส่ายหน้าให้กับคนปลายสาย ก่อนจะกดวาง เพื่อให้คู่สนทนาเมื่อครู่สังเกตเห็นได้ง่าย ผมจึงตัดสินใจยืนรออยู่ด้านนอกห้องสมุดทั้งอย่างนั้น

รอเพียงแค่ไม่นาน ณพก็มาถึง พวกเราคุยเล่นกันหน้าห้องสมุดสักพัก ตกลงกันว่าจะแวะนั่งร้านกาแฟกันก่อนที่ณพจะเข้าเรียนคาบต่อไป ผมก็รู้สึกถึงสายตาใครบางคนที่จ้องมองมา

เมื่อหันหน้าไปตามความรู้สึก ก็พบว่าวายุกำลังยืนมองมาทางผมนิ่ง

นี่มายืนอยู่นานแล้วรึยัง?

พอสบตากลับไปตรงๆ ร่างบางก็เริ่มสาวเท้ามุ่งตรงมาทางนี้

เพื่อนตัวดีทำหน้าแปลกใจใหญ่เมื่อเห็นว่าวายุกำลังเดินตรงมาจึงจ้องไม่วางตา เจ้าตัวเองก็เหมือนจะรู้ตัวว่ามีคนจ้องมองทุกการกระทำ จึงยืนทิ้งระยะห่างกับผมไว้ ก่อนจะยื่นมือส่งเอกสารบางอย่างมาให้


เอางานส่วนของฉันมาให้”

วายุเอ่ย สายตาเขามองผมได้ครู่ก็หันมองไปทางอื่น

ผมรับเอกสารนั้นไว้ นึกถึงการนัดประชุมกลุ่มรายงานและการแบ่งงานครั้งก่อนแล้ว ไม่คิดว่าวายุจะเสร็จงานในส่วนของตัวเองเร็วขนาดนี้ ค่อนข้างเหนือความคาดหมายไม่น้อยที่เขามีความรับผิดชอบในการเรียนมากกว่าที่คิด

กวาดสายตาอ่านอย่างผ่านๆ วายุทำงานในส่วนของตัวเองมาให้อย่างละเอียด เขาไม่ได้เป็นแค่พวกทำส่งๆ แบบขอไปที ไม่รู้ว่าจะเสียเวลาทำงานนี้นานเท่าไหร่เพราะดูจากรอยดำใต้ตา ก็ออกจะหมองคล้ำเหมือนกับคนที่อดนอน ถึงอย่างนั้นเจ้าของใบหน้างดงามก็ยังคงเปล่งประกายเหมือนทุกครั้ง


ถ้ามีอะไรให้แก้ก็บอกแล้วกัน”

วายุไม่รอให้ผมได้เอ่ยตอบ ก็เดินเลี่ยงกลับออกไป

คำพูดติดอยู่ที่ปากหากพูดอะไรไม่ออก ได้แต่ปล่อยให้เขาเดินจากไปอย่างเลยตามเลย ผิดกับณพ ที่ดูจะเสียดายที่สมาชิกร่วมกลุ่มผมเดินผละไปเร็วกว่าที่คาด


คนนี้ ที่เคยเป็นรูมเมทนายใช่ไหม แล้วทำไมถึงย้ายออกมาวะ”

ผมไม่ตอบ ในหัวพลางระลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

 

 

ดูท่าเมื่อคืนฉันคงดื่มหนักไปสินะ”

ประโยคแรกที่วายุเอ่ยออกมา ทำให้ไอแดดอ่อนยามเช้าในวันนั้นร้อนระอุกว่าที่ควร คำพูดที่ก่อให้เกิดความหงุดหงิด แผดเผาให้ทั้งอุณหภูมิร่างกายและอารมณ์พุ่งสูงขึ้นจนไม่อาจควบคุมได้

เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์งั้นสิ ที่ทำให้ความสัมพันธ์เกิดขึ้นอย่างง่ายดาย

ผมตีความจากคำพูดของวายุได้เท่านั้น

ความโมโหร้อนระอุยิ่งกว่าแสงแดด และยิ่งร้อนขึ้นไปอีกเมื่อเจ้าของใบหน้าขาวซีดรีบหลบสายตาไปทางอื่น ตอกย้ำว่าเขาไม่อยากแม้แต่จะเผชิญหน้าผมโดยตรง ถึงจะรู้อยู่ก่อนว่าวายุเป็นพวกที่มีสัมพันธ์กับใครง่ายๆ ทว่าการเจอเข้ากับตัวเองโดยตรงนั้น ผลักดันให้ความรู้สึก เกลียด มีมากขึ้นกว่าเดิม

ผมเกลียดท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวนั่นมากกว่าอะไรทั้งหมด มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น ความรู้สึกอัดสุมแน่นอยู่ในอก น่ากลัวว่ามันจะระเบิดออกมา ต้องหลับตานิ่งควบคุมสติเพื่อไม่ให้เผลอทำอะไรโง่ๆ ลงไปอีก

วายุตอบรับด้วยการเดินหลบหายไปในห้องน้ำโดยไม่พูดอะไรอีก ทิ้งผมเอาไว้กับห้องที่ยังอบอวลไปด้วยไอร้อนตกค้างจากร่างกาย และยังคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์เคล้าหยาดเหงื่อ ทั่วทุกอณูอากาศในห้องนี้ ยังคงปะปนไปด้วยลมหายใจร้อนฉ่าและน้ำเสียงหอบเครือ

ตอกย้ำว่าเมื่อใดก็ตามที่หายใจสูดอากาศเข้าไปในร่าง ความมีตัวตนของใครคนหนึ่งก็ได้แฝงลึกรวมตัวอยู่ด้วย

ถ้าหากอวัยวะภายในสามารถเปล่งเสียงพูดออกมาได้ มันคงจะกรีดร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่าตัวตนของใครคนนั้น ได้หลอมรวมอยู่ในร่าง อยู่ในกระแสโลหิต จนกลายส่วนหนึ่งของร่างกายยากจะแยกออก

เพียงแค่นึกถึงว่าเขายังอยู่ภายใต้อากาศเดียวกัน ความทรงจำเกี่ยวกับเมื่อคืนก็เข้ามารุมเร้าเล่นงาน

ความทรงจำที่ยังคงติดตรึงสำหรับใครคนหนึ่ง หากแต่กลับไร้ความหมายสำหรับใครอีกคน

เพียงแค่คิดก็เจ็บใจที่ต้องเป็นฝ่ายคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ฝ่ายเดียว ซึ่งสำหรับวายุแล้ว ทุกอย่างคงไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่ต้องใส่ใจ เหมือนกับที่เขามีสัมพันธ์กับคนอื่นอย่างง่ายดาย เพียงแค่ชั่วค่ำคืนเดียว ทุกอย่างก็จบไม่มีอะไรมากกว่านั้น

ผมน่าจะตระหนักถึงความจริงข้อนี้ดีแท้ๆ แต่ทำไมถึงยังจมปลักกับมันอยู่อีก?

ผมตัดสินใจที่จะออกจากห้องนั้น ไม่คิดกลับมาเหยียบที่นี่อีก ไม่มีความอาลัยอาวรณ์หรือเห็นใจให้กับคนแบบเขาอีกต่อไป แม้ผมจะรู้ว่ายังมีบางสิ่งบางอย่างหลงเหลืออยู่กับตัวเอง บางสิ่งที่ยังคั่งค้างอยู่ภายในร่างกาย และยังติดตรึงอยู่ในหัวใจและความทรงจำ

 



 
   “เฮ้ย เพลิง ตกลงยังไงวะ ทำไมนายถึงย้ายออกมานะ” เสียงของณพทำให้ผมหลุดจากภวังค์ความคิด


ไม่มีอะไร แค่อยากอยู่คนเดียว” เอ่ยตอบตัดบทไป เพราะผมไม่อยากคิดถึงใครคนนั้นอีก

ณพยักไหล่โดยไม่เซ้าซี้ต่อ เราสองคนเดินจากหน้าห้องสมุดไปยังร้านกาแฟ แม้จะคิดว่าไม่อยากคิดถึงอดีตรูมเมทที่ว่า สุดท้ายก็พบวาในร้านกาแฟเช่นกัน และเขาไม่ได้มาคนเดียว หากแต่กำลังนั่งมองคนฝั่งตรงข้ามพูดคุย

ถึงผมไม่อยากจำก็จำได้ ว่าคนที่นั่งกับวาคือเพื่อนคนเดียวของเขาที่อยู่ต่างมหาวิทยาลัย หน้าตาของทั้งคู่เรียกได้ว่าสูสี ดังนั้นใครที่เห็นย่อมไม่ลืมง่ายๆ


นั่นรูมเมทนายนี่หว่า เจอกันอีกแล้ว ดูท่าจะดวงสมพงษ์ไม่เบา” ณพพยักเพยิดหน้าไปทางโต๊ะของวายุ

ณพกับผมเลือกนั่งห่างจากวาและอยู่ในมุมอับ คิดว่าฝ่ายวาคงไม่สังเกตเห็นง่ายๆ ทว่าผมที่นั่งอยู่ตรงนี้มองเห็นเขาได้ชัดทีเดียว

ในใจผมรู้สึกปั่นป่วนจนแปลกประหลาด ปีกว่าที่ผ่านมาคิดว่าความรู้สึกเหล่านี้จะสงบลงได้แล้วเชียว

คนที่มากับรูมเมทนาย เป็นคนดังไม่เบานะ”

ณพเอ่ยขึ้น จนทำให้ผมเงยหน้ามองเขาด้วยความเคลือบแคลง


ทายาทเครืออสังหาชนินธร ฉันเคยเจอบ้างในงานสังสรรค์แต่ไม่เคยคุยกัน น่าแปลกที่ดูสนิทกับรูมเมทนาย ปกติไม่เคยเห็นว่าไฮโซนั่นสนิทสนมกับใครที่ไหน ไม่สุงสิงกับใครจนพวกสาวไฮโซต่างจ้องตาเป็นมันเพราะความลึกลับนิ่งๆ นั่นแหละ”

คำพูดของณพตอกย้ำว่าสองคนนั้นดูมีบางอย่าง

แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่ผมจะต้องไปยุ่งเกี่ยวด้วย จึงได้แต่ส่ายหน้าสลัดความคิดที่ชวนให้เสียเวลาออกจากหัว แต่ณพยังคงเอ่ยต่อไม่หยุด


และที่น่าแปลกกว่าคือรูมเมทนาย...ฉันไม่เคยเห็นเขาสุงสิงกับใคร แม้แต่นายที่เป็นรูมเมทฉันยังไม่เห็นเคยคุยกันสักคำ คิดว่าจะเป็นพวกไร้มนุษยสัมพันธ์เสียอีก ไม่น่าเชื่อว่าจะสนิทกับไฮโซนั่น”


นายรู้ได้ไงว่าเขาไร้มนุษยสัมพันธ์ ไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องเขาหรือไง อีกอย่าง เขาไม่ใช่รูมเมทฉันแล้ว”


ข่าวอะไร”

ผมหยุดเอ่ย “ช่างเถอะ” ไม่รู้จะฟื้นฝอยหาตะเข็บไปทำไม


อะไรว้า มาทำให้อยากรู้แล้วก็ไปได้ไงวะเพลิง”


อย่างนายมีหรือจะไม่รู้ ก็เที่ยวออกบ่อยไม่ใช่หรือไง”


หืม?” ณพขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะเอ่ยออกมา “อ้อ หมายถึงข่าวที่เขาเปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่นน่ะหรือ”

ผมเสสายตามองไปทางอื่น แค่คิดอารมณ์ก็กรุ่นๆ ขึ้นมา เพราะผมก็กลายเป็นหนึ่งในคู่นอนของเขาด้วยเหมือนกัน


ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ฉันไม่เคยเจอเขาตามที่เที่ยวที่ไหนเลยแฮะ ที่มหา'ลัยก็ไม่เห็นได้ข่าวว่ายุ่งกับใครเป็นพิเศษนี่”


“......”


แต่นายเคยเป็นรูมเมทเขา คงรู้อะไรดีมาล่ะสิ?”

พอผมส่ายศีรษะ ณพก็เท้าคางแล้วเลิกคิ้วมองผม


อะไรวะ ไม่รู้เนี่ยนะ? แล้วรู้ได้ไงว่าเขานอนกับใครไม่เลือกจริง?”

คำพูดของณพทำให้ผมนิ่งไป


ฮ่าๆๆ เพลิงเอ๊ย ไม่คิดว่าอย่างนายก็แคร์ข่าวลือกับเขาเหมือนกัน...นี่...ที่จริงเขาอาจจะนอนแค่กับไฮโซนั่นก็ได้นา”

ผมมองณพอย่างไม่ปิดบังอารมณ์ขุ่นมัว จนเพื่อนตรงหน้าทำท่ายิ้มตาหยีพลางยกมือเป็นเชิงบ่งบอกว่าเลิกพูด


ได้เวลาเรียนแล้ว อย่ามัวแต่นั่ง”


คร้าบๆ”

เมื่อผมและณพลุกขึ้นเพื่อกลับไปที่มหาวิทยาลัย วายุและเพื่อนก็ออกจากร้านกาแฟไปเรียบร้อยแล้ว
 

.

.



TBC

______

สวัสดีค่ะคนอ่านทุกคน ขอโทษที่หายไปนานเลย ถ้าลืมตอนเก่าๆ จะไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะคนเขียนก็ลืมเหมือนกัน ถึงกับต้องกลับไปย้อนดูว่าใครชื่ออะไร (ฮา)
ต้องขอบคุณคนอ่านมากๆ ที่ติดตามเพลิงกับวายุนะคะ ^^ ตอนต่อไปจะพยายามไม่ให้รอนานอย่างนี้อีกแล้วค่ะ

แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ
Yo.


หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 06-04-2016 11:00:39
มาต่อบ่อยๆ นะคะ รออ่านคะ ^^
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: empty102153 ที่ 06-04-2016 12:13:51
รออ่านเรื่องนี้มากๆเลย ดีใจที่มาต่อนะคะ
ชอบความอึมครึมแบบนี้จังเลยค่ะ มาต่อไวๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 06-04-2016 13:09:38
ขอบคุณที่มาต่อครับ
เรื่องนี้สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 06-04-2016 13:24:18
ตลอดปีที่ผ่านมาต่างคนต่างคิดแบบนี้นี่เอง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 06-04-2016 13:28:54
อ่านรวดเดียวเลย รออ่านตอนหน้าอยุ่นะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 06-04-2016 16:00:36
ในที่สุดก็มาต่อ
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 06-04-2016 17:22:46
อึนๆมาก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: qhanb ที่ 06-04-2016 17:42:39
หลงมาอ่าน ติดแล้ววว ชอบบรรยากาศแบบนี้ ชอบณพมาก คนแบบณพควรมีเยอะๆในสังคม55555
ฉุกคิดได้แล้วนะเพลิง เลิกอคติเร้ว
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 06-04-2016 20:53:47
เมื่อไหร่สองคนนี้จะเข้าใจกัน ลุ้น
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: pasita000 ที่ 10-04-2016 11:37:30
น่าติดตามมาก เพลิงดูเหมือนจะหึงวายุกับคนอื่นเลยนะเนี่ย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: pasita000 ที่ 10-04-2016 12:14:43
เพลิงนี่ยังไงๆนะ
น่าติดตามมากๆ รีบๆมาต่อนะคะ ค้างงงง
 :katai1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 10-04-2016 16:27:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 10-04-2016 17:58:48
สนุกอ่ะ อยากอ่านตอนต่อไปแล้วววว
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 13-04-2016 11:22:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 13-04-2016 11:38:33
ตอนที่ 9



หลังจากถูกอิฏฐ์รบเร้าหลายต่อหลายครั้งให้ออกมาพบ สุดท้ายผมก็ต้องยอมมาเจอเขาในวันที่แสนจะยุ่งกับงานของมหาวิทยาลัย ที่จริงแม้ไม่ได้ตั้งใจจะพบเขาในวันนี้ หากแต่อีกฝ่ายปุบปับมาที่คณะผมโดยไม่ทันได้บอกกล่าวกันล่วงหน้า
   
ทันทีที่นำรายงานในส่วนของตัวเองให้กับเพลิงแล้ว ก็พบว่าอิฏฐ์มายืนรอผมเลิกชั้นเรียนอยู่บริเวณคณะ เขาสวมใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสีมืดตัดกับใบหน้าที่ดูสว่าง แม้จะสวมแว่นกันแดด โครงหน้าหล่อเหลาก็ยังโดดเด่นท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่
   
ไม่ต้องคาดเดา ก็รู้ว่าชายหนุ่มที่รูปร่างหน้าตาราวกับนายแบบที่หลุดออกมาจากนิตยสาร สามารถดึงความสนใจได้จากทุกๆ สายตา ไม่ว่าจะนักเรียนหญิงหรือชายก็ต่างต้องหยุดเหลียวหลังหันมอง ยิ่งเราเดินเคียงข้างกันด้วยแล้ว ก็ยิ่งยากที่จะไม่เป็นศูนย์กลางความสนใจจากคนอื่นๆ จนผมต้องรีบพาเขาเดินออกไปจากที่ตรงนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงหลากสายตาที่ออกแววค่อนแคะสงสัย
   
น่าเห็นใจอิฏฐ์ที่ต้องตกมาเป็นเป้าสายตาคนอื่นพร้อมกับคนที่เต็มไปด้วยข่าวฉาวแบบผมอยู่เหมือนกัน
   
ผมกับอิฏฐ์เลือกเดินเข้าไปร้านกาแฟร้านเดิมที่มีผู้คนแน่นขนัดขึ้นแตกต่างจากคราวก่อน อาจเพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่ชั้นเรียนพึ่งเลิก นักศึกษาจึงต่างพากันมานั่งพักดื่มกาแฟและทานอาหารว่าง
   
“ไม่บอกกันล่วงหน้าว่าจะมา?”
   
ผมเอ่ยพลางทิ้งตัวลงนั่ง สายตาเหม่อมองไปนอกร้านอย่างไร้จุดหมาย สติไม่ได้สนใจคู่สนทนาอย่างที่ควรจะทำ
   
แม้จะนั่งอยู่กับใครอีกคน หากแต่ภายในใจผมตอนนี้ กลับรู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวบนโลกสีหม่น
   
โชคชะตาก็ช่างเล่นตลกเหลือเกิน ผมเคยคิดว่าถ้าหากไม่ต้องเจอกับเพลิงอีกจนกระทั่งเรียนจบ ผมอาจจะรู้สึกดีขึ้น หรือต่อให้ต้องเจอ ผมคงจะรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ความคิดเช่นนั้นกลับพังทลายเมื่อเจอกับเพลิงอีกครั้ง ตอนที่เราต้องทำงานร่วมกัน ผมอยากจะบอกขอบคุณเขาออกไป ทว่าพอเห็นสายตาเย็นชาของเพลิง คำพูดกลับติดอยู่ที่ลำคอ
   
ตอนที่ผมส่งรายงานของตัวเองให้กับเพลิงที่หน้าห้องสมุด เดิมทีผมไม่คิดจะเข้าไปหาเขาเลยด้วยซ้ำ  แต่เมื่อเห็นเพลิงคุยเล่นกับเพื่อนอย่างอารมณ์ดีแล้วก็อดรู้สึกแปลกไม่ได้ เพียงแค่เห็นจากที่ไกล ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามเขาก็สามารถดึงความสนใจจากผมได้เสมอจนเผลอเดินเข้าไปในวิธีสายตา
   
เพียงแค่เห็นหน้า อีกฝ่ายก็แสดงท่าทีเพิกเฉยใส่อย่างเห็นได้ชัด แววตาที่ไม่ว่าพบเจอกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็แสดงออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่าเกลียด ทั้งเย็นชาและเสียดแทง จนผมต้องเป็นฝ่ายหลบเลี่ยงดวงตาคู่นั้นไปทางอื่นแทน และตัดสินใจยื่นรายงานในส่วนของผมให้เขาอย่างไม่รู้จะสรรหาเหตุผลใดอีก
   
ไม่มีคำเอ่ยทัก ไม่มีสัญญาณใดๆ บ่งบอกว่าเพลิงและผมเป็นคนรู้จักกันมาก่อน ตอกย้ำว่าแม้เราจะเคยได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากแค่ไหน ก็ยังไม่อาจบอกได้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เราเป็นแม้กระทั่งเพียงคนรู้จัก
   
ช่างน่าหัวเราะให้กับความเป็นจริงเหลือเกินว่าแค่คนรู้จัก ผมก็ยังไม่สามารถพูดได้เต็มปาก
   
แววตาที่เย็นชา ท่าทีที่เมินเฉย ทำให้ผมได้รู้ว่าท้ายที่สุดแล้ว ผมกับเขาคงไม่มีทางมาบรรจบกันได้ เหมือนกับคนที่ยืนอยู่คนละฝั่งฟากของท้องฟ้า ไม่ว่ายังไงก็แสนจะอยู่ไกลเกินเอื้อม ไกลเกินกว่าจะคิดคาดหวังให้ได้ความรู้สึกใดกลับคืน
   
“ถ้าบอกก็ไม่ยอมมาเจอสิ”
   
เสียงของอิฏฐ์ทำให้ผมกลับมาสนใจคนตรงหน้า
   
ที่อิฏฐ์พูดก็ถูก ถ้าหากเอ่ยบอกก่อนล่วงหน้า ผมก็คงปฏิเสธเขาไปโดยไม่ต้องคิด   
   
“ช่วงนี้ยุ่งๆ น่ะ ไม่ใช่ไม่ยอมเจอสักหน่อย” ตอบบ่ายเบี่ยงโดยไม่ได้สังเกตว่าคู่สนทนากำลังทำสีหน้าท่าทางอย่างไร ผิดกับอีกฝ่าย ที่ดูเหมือนจะสังเกตผมในทุกๆ การกระทำ
   
“นี่ดีใจที่เจอผมจนอยาก ร้องไห้ เลยเหรอ” อิฏฐ์พูดติดขำ
   
“.......” ผมนิ่งไป
   
ไม่คิดว่าความขุ่นมัวทางอารมณ์จะแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน รู้สึกผิดขึ้นมาเมื่อคนตรงหน้าต้องมารับรู้กับอารมณ์ขมุกขมัวแบบนี้
   
“ทีแรกตั้งใจจะชวนวาไปทานอาหารสักหน่อย แต่ดูท่าวาจะไม่มีอารมณ์ไปไหนแล้วละสิ”
   
“แค่เลี้ยงกาแฟก็พอแล้วละ” ผมรีบตอบ
   
แล้วสายตาผมก็พลันมองเห็นเพลิงและเพื่อนของเขาเดินเข้ามา หัวใจผมเต้นแรงอย่างหยุดไม่ได้ ยิ่งเมื่อนึกถึงสายตาเย็นชาและตลอดเวลาที่ผ่านมา ความทรมานที่สะสมมาตลอดหนึ่งปีราวกับจะทะลักล้น ถึงอย่างนั้นผมก็พยายามข่มอารมณ์เอาไว้
   
ขณะที่กำลังจมอยู่ในห้วงความคิด อิฏฐ์ก็ยื่นปลายนิ้วอุ่นก็แตะที่หน้าผมเบา ๆ เพื่อเรียกสติ
   
“คุณ..”
   
สายตากลับมาทอดมองที่เด็กหนุ่มรุ่นน้อง หากแต่สมองยังคงนึกไปถึงเรื่องของ คนอื่น
ไม่รู้และไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังยึดติดอยู่กับเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่อีก ท่าทีของเพลิงหลังจากนั้นก็น่าจะบ่งบอกได้อย่างดีว่าต่อให้นึกถึงมากแค่ไหน ก็เปล่าประโยชน์
   
“ใครที่ทำให้คุณเป็นไปได้ขนาดนี้กันนะ?”
   
อิฏฐ์วาดนิ้วสัมผัสใต้ดวงตาช้ำ ผมเบี่ยงใบหน้าไปทางอื่นเพื่อหลบเลี่ยงสายตาที่จ้องมองราวกับต้องการคำตอบเสียให้ได้
อยากบอกเขาอยู่เหมือนกันว่าคนที่ทำให้เป็นได้ขนาดนี้ไม่ใช่ใคร แต่เป็นตัวผมเอง
   
“ไม่มีอะไรหรอก ช่วงนี้งานที่มหาวิทยาลัยกำลังยุ่งน่ะฉันเลยเครียดนิดหน่อย” ตอบเลี่ยงอีกครั้ง โดยที่คนตรงหน้าไม่มีทีท่าว่าจะเชื่อแม้แต่นิด อิฏฐ์ได้แต่ส่ายหน้าและถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ
   
เรานั่งอยู่ในร้านอีกแค่เพียงครู่ ผมก็ขอตัวกลับด้วยข้ออ้างเรื่องงาน หลังจากที่แยกกับอิฏฐ์แล้ว ผมก็ตัดสินใจกลับไปยังคอนโดที่พักของตัวเอง

.
.
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 8.2 (100%) [p7 up 6.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 13-04-2016 11:41:29
.
.

ตั้งแต่ย้ายออกจากหอ ผมก็มาอยู่ที่คอนโดขนาดหนึ่งห้องนอนที่มีทุกอย่างครบครัน ผมโชคดีที่มีเปียโนอัพไรท์สีขาวไว้เป็นเพื่อนยามที่อยู่ในอารมณ์หดหู่ ดนตรีช่วยบำบัดจิตใจให้ผมได้จริงๆ หากอยู่ที่หอผมคงไม่มีโอกาสเล่นเปียโนที่ผมรักเช่นนี้
   
คอนโดของผมไม่ขนาดว่าอยู่ติดรถไฟฟ้า ต้องเดินเข้าซอยไปนิดหน่อย ซึ่งมีข้อดีตรงที่ไม่เสียงดังเท่ากับคอนโดที่ติดขนส่งมวลชน หลังจากที่กลับจากมหาวิทยาลัย ผมก็ตรงเข้าที่พักตัวเอง
   
ขณะที่เข้าไปในลิฟท์ ผมก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
   
“ขอไปด้วยครับ”
   
ผมกดลิฟท์เปิดรอไว้ สายตาไม่ได้สังเกตว่าใครเดินเข้ามา เห็นเป็นเพียงชายสวมใส่ชุดนักศึกษา และผู้ที่เข้าลิฟท์ตามมาอีกคนก็เป็นนักศึกษาเช่นกัน ซึ่งทำให้ผมต้องเหลือบมองด้วยความตกใจ
   
“อ้าว อยู่ที่นี่ด้วยหรือ”
   
คนแรกที่เข้ามาในลิฟท์เอ่ยขึ้น เขาคือคนที่เพลิงคุยด้วยเมื่อตอนอยู่ที่ห้องสมุด และคนที่เดินตามเข้ามาทีหลังก็คือเพลิง
   
“กดชั้น 22 ให้เราหน่อย” คนคนนั้นเอ่ยต่อ ผมจึงกดลิฟท์ให้ตามที่บอก
   
ผมไม่รู้จักเขา ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อ แต่เคยเห็นอยู่ในมหาวิทยาลัยบ้าง คนคนนี้สูงพอๆ กับเพลิง แต่หน้าตาดูเป็นมิตรกว่ามาก
   
“มาอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เคยเจอเลย”
   
หากในลิฟท์มีคนอื่นอยู่ด้วย ผมคงคิดว่าอีกฝ่ายพูดกับคนอื่น ผมตอบไปอย่างรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย “ปีนึง”
   
สายตาเหลือบมองไปทางเพลิงที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่ส่งเสียงใด
   
“เราณพ นายวาใช่ปะ”
   
ผมพยักหน้าให้ เพียงครู่เดียวลิฟท์ก็มาถึงชั้น 15 เมื่อประตูลิฟท์เปิด ผมก็เตรียมข้าวขาออกไปด้านนอก ทว่าเพื่อนของเพลิงเปิดลิฟท์ค้างไว้แล้วเอ่ยเรียก
   
“เดี๋ยวๆ รอแป๊บ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว วันนี้เราจัดบุฟเฟ่ต์สุกี้ที่ห้อง ฝีมือไอ้เพลิง นายมากินด้วยกันดิ”
   
“......”
   
เมื่อมองไปที่มือของทั้งสองคน ก็เห็นว่าถือของพะรุงพะรังอยู่เหมือนกัน ผมส่ายหน้าให้โดยไม่ต้องคิด
   
“เฮ้ย ยังไงก็มหา'ลัยเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจหรอก”
   
แล้วคนที่ชื่อณพก็ล็อคคอผมให้กลับเข้ามาอยู่ในลิฟท์อย่างถือวิสาสะ กว่าจะฝืนตัวหลุดออกมาได้ประตูลิฟท์ก็ปิดและเคลื่อนตัวขึ้นชั้นบนแล้ว
   
พอหันไปมองหน้า ณพก็ยิ้มเห็นฟันส่งให้ ส่วนเพลิงยังคงทำหน้านิ่งมองมาเหมือนเดิม


.
.


TBC
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: j123 ที่ 13-04-2016 15:43:12
ความสัมพันธ์พระนายจะคืบหน้าบ้างไหมเนี่ย  :katai1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 13-04-2016 22:43:27
อิอิ แอบลืมตอนก่อนหน้าอะ เราเลยไปอ่านใหม่ตั้งแต่ตอนแรกหมดเลยยย :hao7:  ปล.อย่าทิ้งไปอีกเลยนะ งั้นเราคงต้องอ่านใหม่อีกหลายๆรอบ ฮิๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 14-04-2016 00:28:24
รอติดตามนะะะะะะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 14-04-2016 00:50:24
ดูเหมือนความสัมพันธ์จะเริ่มคืบหน้าแล้ว.... รึปล่าว
 :katai4: :katai4: :katai4:
อ่านไปดีดดิ้นไป สงสารน้องวา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 14-04-2016 13:26:39
ขอบคุณนพมากนะ ไม่งั้นเพลิงคงยังโง่อยู่
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 15-04-2016 01:53:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-04-2016 00:02:52
ตอนหน้ามีลุ้นใช่มั้ย
ว่าแต่ปาร์ตี้ 2 คนเองเหรอ
หรือจะมีตามมาอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 17-04-2016 04:29:42
โอ๊ย อ่านแล้วหน่วงมาก
แลดูใจตรงกัน แต่ไม่รู้ตัว แถมความติดคนละขั้ว
จะมาคบกันได้ยังไง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 18-04-2016 00:29:50
ต่างคนต่างปากแข็ง จะได้กันไหมเนี่ย จับมอมเหล้าดีกว่า 555
เพลิงทำไมหูเบาจัง ไม่ปลื้มเลยอ่ะ คนใจร้าย

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 19-04-2016 13:26:54
ต่อไปความสัมพันธ์จะดีขึ้นเนอะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 21-04-2016 20:33:03
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: namaquaru ที่ 21-04-2016 22:40:15
สายแข็งจริงๆคู่นี้ ปากแข็งด้วยกันทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 22-04-2016 00:37:09
 :mew2: หน่วงดี~  :ling2: รอค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 23-04-2016 04:19:12
ตามอ่านจนทันนนน คือชอบเรื่องนี้อ่ะ อ่านจนไม่คิดว่าจะหมดตอน คนเขียนมาต่อไวๆน่าาาาาาาา เค้ารออ่านอยู่ :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Qmulonimbus ที่ 25-04-2016 16:28:27
ค้างมากเลยค่ะ นี่อ่านแปปเดียวหมดเลย ฮือออ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 01-05-2016 21:18:49
ตอนที่ 9.2




 
ผมนานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารในห้องคอนโดของณพอย่างไม่เข้าใจความเป็นไปนัก เจ้าของห้องเชื้อเชิญผมอย่างยินดี ชวนผมคุยเรื่องที่มหาวิทยาลัยไม่หยุด ส่วนเพลิงที่ยืนเตรียมอาหารอยู่ที่เคาน์เตอร์ครัวก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไร จนผมคิดว่าบางทีที่เพลิงไม่เอ่ยปากไล่คงจะเกรงใจเพื่อนเจ้าของห้อง

รู้สึกลำบากใจไม่น้อยที่ต้องเข้ามาอยู่ในห้องของคนไม่รู้จัก หลังจากนั่งได้ครู่หนึ่งและบทสนทนาที่เงียบไปเนื่องจากผมไม่รู้จะเอ่ยอะไร ผมก็ลุกขึ้นยืน คิดว่าจะขอตัวกลับเพราะนั่นคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

จะไปช่วยไอ้เพลิงใช่ไหม?” ณพเอ่ยขึ้น ริมฝีปากของเจ้าของห้องที่นั่งเท้าคางยกยิ้มประหลาด “งั้นฝากช่วยมันแทนทีนะ ฉันไปเล่นเกมรอ ถ้าเสร็จแล้วมาเรียกด้วย”

แล้วเจ้าของห้องก็ละจากโต๊ะอาหารไปยังโซฟาห้องนั่งเล่น เปิดทีวีและเครื่องเกมอย่างสบายอกสบายใจ ปล่อยให้ผมยืนมองตาค้าง


เมื่อผมหันกลับไปทางเคาน์เตอร์ครัว ก็เห็นเพลิงยืนมองมาด้วยใบหน้าบึ้งตึง ถึงจะรู้สึกลำบากใจแค่ไหนผมก็เดินไปทางเขา คิดว่าจะเอ่ยบอกว่าผมไม่ร่วมวงอาหารด้วย ทว่ายังไม่ทันเอ่ยอะไรเพลิงก็ผลักถุงอาหารสดมาทางผมเสียก่อน

   
นายล้างแล้วหั่นผักไปแล้วกัน”
   
“......”


ผมยืนนิ่งอย่างตามไม่ทันนัก แต่เพลิงก็เดินละออกไปทำอย่างอื่น ผมมองถุงผักตรงหน้าด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก ทั้งณพและเพลิงปฏิบัติต่อผมแปลกๆ พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดจะชวนมาร่วมโต๊ะในห้องเช่นนี้เสียหน่อย แล้วผมก็เพิ่งจะเคยคุยกับณพเป็นครั้งแรกด้วย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเพลิงที่ความสนิทสนมเป็นศูนย์ ผมคิดว่าเขาจะไล่ตะเพิดผมแล้วด้วยซ้ำ

   
ถ้าไม่อยากทำก็ไปนั่งรอที่โต๊ะก็ได้” เสียงของเพลิงทำให้ผมสะดุ้ง ผมหันกลับไปมองคนร่างสูงที่ตอนนี้สวมผ้ากันเปื้อนทับชุดนักศึกษา ช่างเป็นภาพที่คาดไม่ถึง จะว่าไม่เข้ากับเขาก็ไม่เชิง ผมเพียงแค่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้เห็นภาพของเพลิงแบบนี้มากกว่า

สุดท้ายผมก็ได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆ แล้วตัดสินใจว่าจะช่วยพวกเขา แล้วค่อยขอตัวกลับห้อง


ผมหยิบถุงอาหารสดไปที่ซิงค์น้ำ นึกถึงเรื่องที่ณพบอกว่าจะทำสุกี้ ในถุงจึงเห็นพวกผักชนิดต่างๆ ที่คนนิยมทานกัน ผมหยิบผักออกมาวางไว้ข้างซิงค์น้ำ ทั้งผักกาดขาว ผักบุ้ง และผักอย่างอื่นที่ผมนึกชื่อไม่ออก นอกจากนี้ก็มีเห็ดฟาง เห็ดเข็มทอง


เพลิงบอกว่าให้ล้างผักแล้วหั่น ผมจึงหยิบผักกาดมาแกะออกจากห่อก่อน แล้วเปิดน้ำล้างคราบดินออก ล้างทั้งหัวเสร็จก็เตรียมหยิบผักชนิดอื่นต่อ แต่ทันใดเพลิงก็เข้ามาประชิดผมแล้วเอ่ยขึ้น

   
เคยล้างผักมาก่อนไหม”

พอผมไม่ได้ตอบอะไร เพลิงก็หยิบเอาผักกาดไปแกะออกเป็นใบๆ แล้วล้างให้ผมดู “นายต้องแกะออกก่อน แล้วค่อยล้าง” หลังจากนั้นเขาก็ให้ผมทำต่อ โดยที่ตนเองหยิบเอากะหล่ำปลีหัวใหญ่มาแกะออกและล้างด้วยความรวดเร็ว ด้วยความคล่องแคล่วขนาดนั้น แต่ใบกะหล่ำปลีกลับมีสภาพสมบูรณ์ ผิดกับผักที่ผมแกะที่ใบแตกๆ หักๆ ดูไม่สวยนัก

เพลิงนำใบกะหล่ำปลีไปลวกน้ำร้อน หลังจากนั้นก็นำมาห่ออะไรบางอย่าง ตามด้วยผสมน้ำจิ้ม และอีกหลายๆ อย่าง ขณะที่ผมแค่ล้างผักยังเก้ๆ กังๆ ไม่ต้องพูดถึงการหั่นผัก ที่หั่นแล้วแต่ละชิ้นมีขนาดเล็กๆ ใหญ่ๆ ไม่เท่ากันสักชิ้น
   
อย่าบอกนะว่าไม่เคยหั่นผักมาก่อนอีกน่ะ”

จู่ๆ เพลิงก็เดินมายืนข้างผม ดูเหมือนเขาจะเตรียมทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแต่ยกของไปวางที่โต๊ะอาหารเท่านั้น แม้น้ำเสียงเพลิงจะไม่เหมือนกำลังดุว่า แต่ผมก็รู้สึกตัวเองไร้ประโยชน์ไม่น้อย

   
เดี๋ยวฉันทำต่อเอง นายยกของไปวางที่โต๊ะ แล้วไปเรียกณพ”

เพลิงดึงมีดไปถือไว้เอง แล้วลงมือหั่นผักที่เหลือเสมือนเป็นเรื่องง่ายๆ


ผมทำตามที่เพลิงบอกแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างไม่เข้าใจทั้งพวกเขาและตัวเอง เมื่อณพเห็นผมก็ละมือจากเกมแล้วหันมามอง

   
เพลิงบอกให้มาเรียก”

ณพหยักหน้ารับรู้ ผมจึงรีบเอ่ยต่อ “เดี๋ยวเราจะกลับแล้ว”

   
อ้าว ยังไม่ได้กินเลยจะกลับได้ไง”
   
นายไม่เรียกเพื่อนคนอื่นมาแทนหรือ”
   
ไอ้เพลิงมันไม่ชอบคนเยอะ”

ณพไม่พูดอะไรต่อ ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วกอดคอผมเดินไปโต๊ะอาหารเสมือนคนสนิทกัน แล้วจับผมนั่งลงกับเก้าอี้

   
ลองกินข้าวฝีมือไอ้เพลิงดูก่อนค่อยกลับ โอกาสแบบนี้ไม่ได้หาง่ายๆ นะวา” ณพยิ้มให้ขณะที่เดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม
   
ไม่...” กำลังจะเอ่ยว่าไม่เป็นไร เพลิงก็เดินพร้อมกับอาหารจานสุดท้าย ทำให้คำพูดของผมขาดตอน

เพลิงถอดผ้ากันเปื้อนออกแล้วพาดไว้กับพนักเก้าอี้ ก่อนนั่งลงที่เก้าอี้ข้างผม


ดูเหมือนว่าผมคงได้แต่ต้องเลยตามเลยเสียแล้ว


จะว่าไปคงหาโอกาสทานอาหารที่เพลิงทำไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่ณพว่า แม้ว่าการทำสุกี้จะไม่น่าจะเรียกว่าทำอาหารก็เถอะ


เมื่อทุกคนนั่งลง ผมคิดว่าคงจะทานอย่างสุกี้ทั่วไป ประเภทเอาของทุกอย่างใส่ลงไปในหม้อ รอให้มันสุก อะไรเทือกนั้น ทว่าผมคิดผิดไป สุกี้วันนี้พิถีพิถันกว่าที่คิด เพลิงหยิบจานกะหล่ำปลีที่ห่อบางอย่างไว้และจานขนมจีบมาวางไว้บนถาด ก่อนจะนำถาดนั้นไปวางไว้บนหม้อสุกี้ที่ใช้นึ่งได้


ระหว่างที่รอให้สุก ณพก็ผสมน้ำจิ้มในถ้วยของตนเอง เจ้าของห้องหยิบนู่นผสมนี่ ส่วนเพลิงก็หยิบถ้วยพริกสดมาทางผม

   
กินเผ็ดหรือเปล่า”

ขณะที่ไม่รู้จะตอบอะไร เพลิงก็ตักน้ำจิ้มที่เขาผสมเองใส่ถ้วยให้ผมตรงหน้า และให้ผมลองเติมเครื่องตามรสที่ชอบ


ผมรู้สึกประหลาดเหมือนไม่ได้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง สมองเหมือนจะทำงานไม่ปกติ อดสงสัยไม่ได้จริงๆ ว่าทำไมท่าทีของเพลิงถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ เปลี่ยนจนผมทำตัวไม่ถูก สีหน้าก็ควบคุมให้นิ่งเฉยไม่ได้นัก


มือตักพริกสดใส่ถ้วยตัวเองด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น ตักหลายช้อนจนเพลิงยื่นมือมาหยุดผมไว้

   
กินเผ็ดขนาดนี้เลยหรือ”

ผมมองไปที่ถ้วยของตนเอง และไม่ได้รู้สึกว่ามันเผ็ดขนาดนั้น

   
คนจะกินเผ็ดยังห้าม เผด็จการว่ะ” ณพที่มองดูเหตุการณ์เอ่ยขึ้น
   
ไม่ได้ห้าม แค่ถาม เห็นตักไปจนจะล้นถ้วย ไม่กลัวระคายกระเพาะหรือไง” โทนเสียงของเพลิงไม่เหมือนว่ากำลังถามผม ทั้งสายตาของเขาก็หันไปมองเพื่อนเจ้าของห้องด้วย
   
อ๋อ ไม่ได้ห้าม แค่เป็นห่วงว่างั้น”

เพลิงไม่ได้ตอบอะไร เขาส่ายหน้าอย่างรำคาญเพื่อนตน ส่วนผมรู้สึกร้อนๆ ขึ้นมาเสียอย่างนั้น


ของที่เพลิงนึ่งไว้สุกแล้ว เขานำออกมาวางเรียงไว้บนจาน แล้วเริ่มใส่ผักลงไป ทั้งณพและผมไม่มีใครหยิบจับอะไร เพราะพอณพทำท่าจะโยนหมูหมักลงไป เพลิงก็ส่งสายตาไม่พอใจใส่ จนได้แต่ปล่อยให้เพลิงลงมือทำอยุ่คนเดียว และไม่ทันไร อาหารที่สุกก็ถูกนำมาวางไว้ที่จานผม


อึ้งจนกินไม่ลงเลยหรือวา ฮ่าๆๆ เดี๋ยวลองกินลงไปจะอึ้งกว่านี้อีก” ณพเริ่มคีบอาหารจิ้มกับน้ำจิ้ม “เสียดายวันนี้เป็นสุกี้ ไว้วันไหนมันทำอาหารไทยแล้วจะลงไปเรียก”

ผมคีบขนมจีบขึ้นมาเป็นอย่างแรก จิ้มกับซอสและลองหยิบใส่ปากทาน รสชาติของมันอร่อยกว่าที่ผมเคยทานตามภัตตาคารหลายๆ ที่ อร่อยจนน่าตกใจอย่างที่ณพว่า

   
อร่อยไหม?” ณพเป็นคนเอ่ยถาม

ผมพยักหน้า พอเคี้ยวและกลืนลงคอหมดจึงเอ่ยยืนยัน

   
อร่อย”
   
ใช่ไหม? ตอนรู้ว่าหมอนี่ทำอาหารเก่งก็แทบไม่อยากไปหากินที่อื่นเลยเถอะ”
   
ทานบ่อยหรือ” ผมหมายถึง...ณพได้ทานอาหารที่เพลิงทำบ่อยหรือ

ณพเหมือนจะตีความสิ่งที่ผมพูดครู่หนึ่ง ก่อนจจะตอบกลับ

   
จะว่าบ่อยก็บ่อย จะว่าไม่ก็ไม่ แล้วแต่อารมณ์มัน เดือนสองเดือนครั้ง หรือถ้าวันไหนโชคดีไปเยี่ยมแม่หมอนี่ ก็ได้กินทั้งอาหารที่แม่และไอ้เพลิงมันทำ...แม่เพลิงเป็นครูคหกรรม สูตรอาหารนี่ตำหรับชาววังเชียวนะ เพลิงได้แม่มาเยอะ”
   
เลิกพูดเวลากินข้าวได้แล้ว” เพลิงเอ่ยขัด
   
ฮ่าๆๆ น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีคนได้ลองชิมฝีมือหมอนี่ บอกเลยว่าใครได้ไอ้เพลิงไปเป็นพ่อบ้าน สบายพุงไปทั้งชาติ”

ผมเผลอยิ้มออกไปน้อยๆ เพราะคงจะจริงอย่างที่ณพว่า เพลิงดูพิถีพิถันกับการทำอาหารมาก ทั้งยังไม่ยอมให้คนอื่นทำเสียขั้นตอน แล้วรสชาติของอาหารก็ออกมาอร่อย จนรู้สึกอิจฉาณพที่ได้มีโอกาสทานบ่อยๆ

   
เฮ้ยๆ!” เสียงโหวกเหวกของณพทำให้ผมตกใจ “เชี่ย เมื่อกี้ยิ้มเปล่าวะ เสียดายถ่ายรูปไว้ไม่ทัน”
   
เลิกหยอกเขาสักทีน่า” เพลิงส่ายหน้า แล้วหันมาทางผม “นายกินไป อย่าไปฟังณพมันมาก”

เพลิงหยิบขนมจีบที่พร่องจานผมไปแล้วมาให้ ตามด้วยอีกหลายสิ่ง


ผมรู้สึกปรับตัวไม่ทันเกินไป ไมคาดคิดเลยว่าจะได้มานั่งโต๊ะทานอาหารด้วยกัน จนเหมือนกับว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาแค่ฝันไป


หรือจริงๆ แล้วบางทีตอนนี้ ผมอาจจะกำลังฝันไปก็เป็นได้


.
.

 
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9 [p7 up 13.04.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 01-05-2016 21:23:43
.
.

  หลังมื้ออาหาร ผมช่วยเจ้าของห้องล้างจานแทนการช่วยค่าอาหาร ไม่ว่าอย่างไรณพและเพลิงก็ไม่รับเงินจากผม โดยเฉพาะเพลิงที่ทำหน้าเหมือนโกรธจนผมไม่กล้าเอ่ยอะไรต่อ

ผมเอ่ยขอบคุณทั้งสองก่อนจะออกจากห้องของณพ เพลิงกลับออกมาพร้อมผมด้วย ขณะที่เราลงลิฟท์ บรรยากาศก็เงียบแตกต่างจากที่อยู่ในห้องของณพไปทันตา

นี่คือความจริงสินะ...ผมอดคิดเช่นนั้นไม่ได้จริงๆ

ครู่เดียวลิฟท์ก็มาถึงชั้นที่ผมอยู่ ขณะที่ผมชั่งใจว่าจะหันไปเอ่ยลากับเพลิงดีหรือไม่ เพลิงก็เดินตามออกมาจากลิฟท์ด้วย


ห้องนายอยู่ไหน”

ผมหันไปมองร่างสูงด้วยคิ้วขมวดกัน ลิฟท์ปิดลงแล้วเหลือเพียงเรายืนอยู่กลางทางเดิน ผมกระพริบตาอย่างประมวลความคิด เขามีเรื่องถามเกี่ยวอะไรกับห้องของผมด้วย

ฉันมีเรื่องจะถามนาย คุยตรงนี้คงไม่เหมาะ”

ผมพยักหน้า ก่อนจะเดินนำเขาไปที่ห้อง แม้ยังคิดไม่ออกว่ามีเรื่องใดที่ทำให้เพลิงต้องเข้าไปคุยข้างใน แต่ให้เดาก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไร

เมื่อเราเข้ามาในห้อง ผมก็ไม่รู้จะเอ่ยอย่างไร ไม่รู้ว่าจะบอกให้เขาไปนั่งลงดีหรือไม่ ผมไม่คุ้นที่ต้องรับแขกที่ไหนในห้องส่วนตัว จึงได้แต่ยืนนิ่งมองเพลิงว่าจะเอ่ยอะไร

เพลิงยืนหน้าประตู สายตามองไปที่ครัวที่ไม่มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรนอกจากไมโครเวฟและกาต้มน้ำ ถ้วยชามก็มีอยู่แค่อย่างละใบสองใบ อาหารสดยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในตู้เย็นมีแค่น้ำเท่านั้น


อยู่คนเดียวหรือ”

ผมนิ่งไปนาน กว่าจะตอบเพลิงว่า “อืม”


ฉันเห็นรถมาส่งนายที่ปากซอย”

คงหมายถึงรถของอิฏฐ์


เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยหรือไง”

ผมไม่รู้ทำไมเพลิงถึงคิดเช่นนั้น สีหน้าของเพลิงก็ไม่แสดงออกทางอารมณ์ใด ๆ ด้วย จนยากจะคาดเดาความคิดที่แฝงอยู่ในใจ ผมเหลือบตาขึ้นมองใบหน้านิ่งเฉย ครุ่นคิดว่าทำไมเขาถึงถามเรื่องนี้ออกมา


ไม่ได้อยู่ ฉันอยู่คนเดียว”

นึกว่าอย่างนาย จะย้ายมาอยู่กับคนรัก”

สองคิ้วผมขมวดกันอย่างอดไม่ได้ เพราะน้ำเสียงของเพลิงเริ่มจะเหมือนประชดประชันแล้ว


อิฏฐ์เป็นเพื่อนฉัน” ก่อนหน้านี้ผมก็เคยบอกเพลิงว่าอิฏฐ์เป็นเพื่อนผมไม่ใช่หรือ หรือว่า...


เพื่อนเขาจูบกันดูดดื่มด้วยหรือไง”


“......”

สายตาของเพลิงมุ่งมองตรงราวกับจะสามารถล้วงลึกเข้าไปถึงภายใน

ก่อนที่จะแยกกับอิฏฐ์ หนุ่มรุ่นน้องรบเร้าจะขับรถเข้ามาส่งผมที่คอนโด แต่ผมปฏิเสธ อีกฝ่ายจึงขอจูบผมทดแทน ไม่ทันบอกห้ามอิฏฐ์โน้มใบหน้าเข้ามาประทับริมฝีปากผมแล้ว เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นแค่ครู่เดียวเท่านั้น และเกิดขึ้นบนรถด้วย ถึงจะเปิดประตูอยู่ก็เถอะ


จำได้ว่านายบอกว่าเป็นเพื่อนหมอนั่น นายจูบกับเพื่อนทุกคนสินะ...ไม่สิ ต้องบอกว่าทั้งจูบทั้งนอนมากกว่า”

เพลิงเอนหลังพิงประตูห้อง สองแขนของเพลิงกอดอกไว้ สีหน้าของเขาเคร่งขรึมหากแฝงไว้ด้วยความไม่พอใจจนรู้สึกได้


เราเคยคบกัน”

ผมเผลอตอบโดยไม่ทันได้ไตร่ตรองไว้ก่อน อาจเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกอีกฝ่ายถากถางดูถูก ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่ผิดเลยที่จะรู้สึกอย่างนั้น

เพลิงนิ่งเงียบ จริงๆ แล้วจะบอกว่าผมกับอิฏฐ์เคยคบกันก็ไม่ถูกนัก เราแค่เคยมีสัมพันธ์กัน แต่ต่างคนต่างไม่เคยผูกมัดกันและกัน ออกจะแปลกด้วยซ้ำที่เรายังติดต่อเป็นเพื่อนกันอยู่จนถึงทุกวันนี้


เคย? หมายความว่าตอนนี้เลิกกันแล้ว?” เจ้าของน้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบไปครู่ใหญ่ ร่างกายแข็งแกร่งดันตัวตั้งตรง สองแขนที่เคยกอดอกไว้เปลี่ยนเป็นปล่อยลง ใบหน้าเบึ้งตึงขึ้นกว่าเดิม ทำให้เกิดความกดดันภายในห้อง “ท่าทีนายไม่ได้บอกอย่างนั้นสักนิดว่าเลิกกัน”


“......”

เขาพูดถูก เพราะความสัมพันธ์ของผมกับอิฏฐ์ก็ไม่ได้ตั้งอยู่ในฐานะเหมือนเพื่อนทั่วไป แม้ผมจะไม่มีสัมพันธ์ทางกายกับเขาแล้ว และต่อให้ผมไม่ชอบใจนักที่เขาจูบผม แต่ผมก็ไม่คิดจะต่อว่าอีกฝ่ายอย่างใส่อารมณ์ที่เขาทำอย่างนั้น อิฏฐ์เป็นเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่ผมไว้ใจคนหนึ่ง ถึงจะถูกจูบอย่างกะทันหันแบบนั้นผมก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไร

ซึ่งถึงจะตระหนักได้อย่างนั้น ผมก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะอธิบายความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ให้ใครฟังได้ โดยเฉพาะคนอย่างเพลิง

ความสัมพันธ์ที่ออกจะเคยผิวเผินทางร่างกาย หากแต่ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น ต่อให้พูดไปคนตรงหน้าก็ไม่เข้าใจ เพลิงยังคงเกลียดผม ไม่มีทางลดน้อยลงไปกว่าก่อนหน้า อย่างไรก็รังแต่จะเพิ่มมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ เรื่องเมื่อครู่ก็คงแค่เพราะมีณพอยู่ด้วย

ผมไม่เอ่ยคำตอบใด ทว่าคนตรงหน้าก็ยังคงยิงคำถามต่อเนื่อง


ทำไมถึงเลิกกัน”

ราวกับว่าตัวเองถูกซักไซ้ไม่ต่างจากจำเลยที่กำลังโดนสอบสวน แม้น้ำเสียงเจ้าของใบหน้าคมเข้มไม่ได้ฟังดูขึ้งโกรธ ออกจะราบเรียบเกินไปเสียด้วยซ้ำ หากแต่ภายในน้ำเสียงนั้น กลับแฝงไปด้วยบางสิ่งที่เปี่ยมไปด้วยแรงกดดันอันน่าหนักใจ จนทำให้ผมนึกถึงความรู้สึกย่ำแย่เมื่อปีก่อนขึ้นมา นึกถึงครั้งสุดท้ายก่อนที่เพลิงจะไม่กลับมาที่ห้องอีก

ผมไม่อาจตอบคำถามได้ จึงได้แต่เลี่ยงสายตาไปทางอื่น ถึงอย่างนั้นเพลิงยังคงไม่หยุดถามคำถามน่าอึดอัดออกมา


เลิกกันแล้ว ยังนอนกับหมอนั่นหรือเปล่า”

คำถามยิ่งละลาบละล้วงมากขึ้นเรื่อยๆ ในเมื่อเพลิงมีคำตอบในใจอยู่แล้วทำไมถึงต้องทู่ซี้ถามด้วย

พอเงยหน้าขึ้นเผชิญ ผมก็ต้องหยุดชะงักเมื่อสบสายตากับเจ้าของดวงตาสีเข้มที่กำลังแผ่ไอร้อนระอุแผดเผาคนที่เผลอจ้องกลับ

ราวกับว่าดวงตาดุดันตรงหน้าจะสามารถมองทะลุทะลวงไปถึงภายใน ทำให้อดไม่ได้ที่จะสั่นไหวเพราะหวาดหวั่นไปกับความกดดันรุนแรง แม้กระทั่งมือทั้งสองข้างก็ไม่อาจหยุดนิ่งอยู่ได้จนต้องกำหมัดไว้เพื่อให้หยุดสั่น

คงจะง่ายถ้าตอบเลี่ยงหรือโกหกออกไป ถึงอย่างนั้นดวงตาอันแข็งกร้าวที่ทำให้คิดว่าอาจสามารถมองทะลุจนล่วงรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ ทำให้ไม่อาจคิดหาคำพูดโกหกอื่นใดมาตอบ


ฉันมีอะไรกับอิฏฐ์แค่ครั้งเดียว”

เพลิงแสดงสีหน้าแปลกไป สองมือกำหมัดแน่น น้ำเสียงทุ้มต่ำเค้นผ่านริมฝีปากที่กัดฟันกรอดออกมา


ครั้งเดียวก็เลิกงั้นสิ”

“......”

เพียงแค่ได้ยิน ก็รู้สึกชาไปทั้งร่าง

รู้ตัวว่าพูดอะไรโง่ๆ ออกไปก็คราวนั้น ทั้งคำพูดและการกระทำไม่ต่างจากการขุดหลุมฝังตัวเองทั้งเป็น รู้ทั้งรู้อยู่ว่าในสายตาคนตรงหน้านั้นผมดูแย่แค่ไหน แต่เมื่อต้องเผชิญกับสายตากรีดแทงรุนแรงผมก็หักห้ามความรวดร้าวไม่ให้เกิดขึ้นภายในอกไม่ได้เสียที

เขาไม่จำเป็นต้องเอ่ยออกมาเป็นคำพูดต่อว่าสักคำ เพียงแค่เห็นสายตาและท่าทีที่แสดงออกมา ผมก็รู้ว่าไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่อาจทำให้เพลิงรู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกได้

เพลิงเคยเป็นเช่นไร เขาก็ยังคงเป็นเช่นนั้น

ต่อให้เวลาผ่านไปนานเท่าไร ความรู้สึกของเพลิงก็ไม่เคยเปลี่ยน

ส่วนความรู้สึกของผมที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจได้รับการตอบสนอง หากเก็บซ่อนเอาไว้ได้ตลอดไปก็คงจะดีกว่า

เราทั้งคู่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ความเงียบคืบคลานเข้าทดแทนบทสนทนา แต่ไหนแต่ไรเราก็รู้จักกันเพียงผิวเผินอยู่แล้ว แล้วยังมีหน้าคิด หวัง อะไรที่ไม่มีทางเป็นไปได้อีก

หากจะโทษ ก็ต้องคิดโทษตัวเองเท่านั้นที่ไม่รู้จักหักห้ามใจ เวลาผ่านมาขนาดนี้ทำไมถึงยังนึกถึงเขาอีก

บางทีการเก็บซ่อนทั้งความรู้สึกและความหวังทั้งหมดไว้ คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

ปล่อยทิ้งทุกอย่างให้จมดิ่งลงสู่ก้นหลุมดำมืด ลงสู่ส่วนลึกที่สุดของหัวใจ จนไม่อาจหาความรู้สึกและความหวังลมๆ แล้งๆ เหล่านั้นพบได้อีก

ไม่ว่าจะผม หรือใครก็ตาม
 

.
.

TBC
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 02-05-2016 00:07:27
กรี๊ดดดดด มาต่อแล้ววว นึกว่าฝันไป 556555


นังเพลิงมีสิทธิ์อะไรมาซักถามเยอะแยะ วุ่นวายเนาะ ไม่ชอบเขาไม่ใช่เหรอ -0-
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 02-05-2016 02:41:11
โอยยยย ลุ้นนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 02-05-2016 09:18:33
แต่ละคำพูดนี่นะ
ช่างบาดจิตบาดใจ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 02-05-2016 11:20:09
เพลิงปากจัดจริงๆ
มีสิทธิ์อะไรมาสอบสวนวา ตีความเลยเถิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 02-05-2016 13:18:23
เพลิงต้องการอะไร  :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 02-05-2016 13:19:17
งื้ออออออ อยากอ่านต่อยาวกว่านี้ ตอนต่อไปมาเร็วๆน้าาาาาาาาาา ส่วนเพลิงนี่ อะไรๆ หึงวาใช่ไหมมมมย่ะ!! o18
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 02-05-2016 20:53:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 06-05-2016 00:30:13
รอมาต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 06-05-2016 09:29:39
เป็นการเจอกันอีกครั้งที่มีคำถามมากมายจริง ๆ เพลิงถามเค้าจนเค้าตอบไม่ได้เลยอะ
จริง ๆ แล้วเพลิงคิดอะไรอยู่ถึงถามออกมาแบบนี้ เหมือนจะหึงหวงนะ
รู้สึกอึมครึมมาก อ่านแล้วแบบไม่คิดว่าจะเข้าใจกันได้อะ ถ้าเพลิงยังเป็นแบบนี้อยู่อะนะ
คิดว่าจะไม่มาซะแล้ว เอาใจช่วยนะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: sb_ng ที่ 06-05-2016 10:16:50
พึ่งเข้ามาติดตามค่ะ ติดเรียบร้อย ฮือออออ
ชอบบบ เพลิงวาน่าสนใจทั้งคู่
อึมครึมมาก หน่วง แต่เสพติดความอึมครึมนี้ไปแล้วววว
ต่างคนต่างหวั่นไหว แต่ความอึมครึมกลบหมด
หวังว่าณพจะช่วยทำให้ความอึมครึมนี่ค่อยๆหายไปนะ
นี่คือรู้สึกว่าณพมีประโยชน์มากจริง 555555555
เป็นพ่อสื่อได้ดีแน่ๆอ่ะ 5555555 ช่วยหน่อยนะณพนะ
ส่วนเพลิงกับวา นี่ก็รู้สึกเข้าใจทั้งสองฝ่ายนะ ฮือออ
เอาใจช่วยให้เคลียร์ความรู้สึกและค่อยๆชัดเจนกันไปเนอะ

รอติดตามต่อค่าาาา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 06-05-2016 12:44:33
เพลิงจะเป็นผู้ชายขี้มโนขี้โมโหไปไหน อุตส่าห์มีความก้าวหน้ามาถามวาตรงๆแล้ว ก็ช่วยฟังให้เยอะๆแล้วถามอะไรที่มันฉลาดๆหน่อย อย่าคิดเองเออเองให้มากนัก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 06-05-2016 13:40:21
เรากลับชอบที่เพลิงเป็นแบบนี้อะ กรี๊ดดดด สงสารวานะแต่ชอบเวลาที่แบบเพลิงโกรธเพราะหึงอะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: nijikii ที่ 06-05-2016 23:06:25
หน่วงจริง
อะไรจะอึมครึมลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนกันขนาดนี้
นี่ใช้ชีวิตกันมายังไงคะ 55555
วาก็แปลกคน พูดไม่พูดจนงงไปหมดว่าเป็นคนยังไงกันแน่
ตาเพลิงก็อะไรไม่รู้ จะจีบเขาก็ยังไปด่าเขาอีก 55555
วาควรเล่นตัวลูก อิตาเพลิงมันงี่เง่าขี้ประชดน่าจับตีปาก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 07-05-2016 19:51:01
ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่อัพแล้ว ชอบเรื่องนี้มากนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 11-05-2016 23:40:04
รอตอนต่อไปอยู่น้าา :hao5:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 11-05-2016 23:58:25
รออยู่นะคะ ><
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 15-05-2016 03:48:32
รออยู่น้าา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 15-05-2016 23:10:28
มาตามอ่านครับชอบๆ

ขอเป็นกำลังใจคับ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 9.2 (100%) [p8 up 2.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 16-05-2016 23:09:57
ตอนที่ 10







“ครั้งเดียวก็เลิกงั้นสิ”
   
แม้จะเอ่ยไปเช่นนั้น หากวายุกลับไม่ปฏิเสธใดๆ และการที่เขาเงียบ ก็ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก
   
ผมเพิ่งจะคิดว่าไม่ควรตัดสินเขาอย่างที่ณพบอก เปิดใจมองเขาเสียใหม่ แต่ไม่ทันไรเขาก็ทำให้ผมอยากล้มเลิกความคิดนั้น และก่อนที่จะรู้สึกแย่มากไปกว่านี้ ผมก็กลับออกจากห้องของวา ปิดประตูทิ้งบทสนทนาที่รังแต่จะพาให้ผมมองหน้าเขาไม่ติด
   
ผมรู้ตัวเองดีว่าความรู้สึกของผมตอนนี้มันย้อนแย้ง หากเป็นคนอื่น อย่างเช่นณพ ต่อให้เป็นคนนอนกับใครไม่เลือก ผมก็คงไม่หัวเสีย ไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัว ไม่คิดจะไปบอกว่าอะไรผิดหรือถูก
   
ทว่าไม่รู้ว่าทำไม พอนึกถึงเรื่องของวายุไม่ว่าจะเรื่องของนิสัยที่นอนกับใครง่ายๆ หรือแม้แต่ข่าวคาวที่เคยได้ยินมา ผมถึงได้หงุดหงิดใจอย่างที่ไม่ควรจะเป็น ตัดสินเขาอย่างที่ไม่ควรจะทำ
   
พอมาเป็นรูมเมท ได้ใกล้ชิดกัน ได้สัมผัสกับตัวตนที่ออกจะตรงกับข่าวแย่ๆ ที่ว่า ผมก็ยิ่งหงุดหงิดมากกว่าเดิมเป็นเท่าทวี
   
ไม่รู้ว่าความหงุดหงิดจะทุเลาลงบ้างหรือไม่ ใจหนึ่งคิดว่าอาจจะดีถ้าความสับสนวุ่นวายนี้หายไป ส่วนอีกใจก็ต้องการ เกลียด หมอนั่นให้ได้ตลอดเสียเหลือเกิน
   

   




หลังจากวันที่ณพชวนวายุมาร่วมโต๊ะอาหาร ก็ไม่รู้ว่าติดใจอะไรฝ่ายนั้นนัก คะยั้นคะยอให้ชวนอีกฝ่ายมากินข้าวด้วยกันอีกให้ได้ และเมื่อผมทำเฉย ขณะที่กำลังจะติดรถณพไปลงรถไฟฟ้า เพื่อนตัวดีก็ถือวิสาสะฉวยเอาโทรศัพท์มือถือผมไปเสียอย่างนั้น
   
“เฮ้ย ไม่มีเบอร์วาในเครื่องเรอะ”
   
“ไม่มี”
   
ที่จริงผมลบเบอร์เขาออกจากเครื่องไปนานแล้ว เวลาประชุมก็ใช้วิธีส่งอีเมล ถ้าณพไม่ทะลึ่งเปิดอีเมลผมดูอีก ก็เค้นหาวิธีติดต่อวายุจากผมไม่ได้หรอก
   

“หึ แต่ฉันมีเบอร์เขาว่ะ มา เดี๋ยวเมมให้”
   
“.....”
   
แล้วณพก็กดเครื่องผมประหนึ่งเป็นเครื่องของตัวเอง จนผมอดขมวดคิ้วไม่ได้ ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ณพยังใช้เครื่องผมโทรออกอีก
   
“ทำอะไรน่ะ!”
   
“เดี๋ยววาเขาตกใจถ้าใช้เบอร์ฉันโทรไปไง...” ณพรีบเบี่ยงตัวหลบไม่ให้ผมคว้าโทรศัพท์คืน “...ฮัลโหล วาใช่ไหม? ณพไง จำได้ปะ?”
   
ตอนนี้จะคว้าคืนก็ไม่ทันเสียแล้ว ได้แต่ต้องถอนหายใจและส่งสายตาไม่พอใจนักไปให้
   
“โทษทีที่ไม่ใช่เพลิง...อ๋อ ไม่มีอะไร ฮ่าๆๆๆ ตอนนี้อยู่ไหนหรือ?...อยู่ที่ห้อง? กินอะไรหรือยัง ยังงั้นหรือ? ดีเลย งั้นเดี๋ยวฉันกับเพลิงแวะไปกินข้าวที่ห้องนาย...ไม่ต้องเกรงใจๆ คนกันเอง”
   
ใครต้องเกรงใจใครกันแน่
   
“มีอะไรที่ห้องบ้างล่ะ...หา? ไม่มีอะไรเลย? เอ่อ...ไม่เป็นไร ไข่เจียวก็อร่อยได้...หา ไข่ก็ไม่มี? งั้นเดี๋ยวให้เพลิงไปซื้อแล้วแวะไปห้องนายนะ แค่นี้แหละ เดี๋ยวเจอกัน!”
   
แล้วณพก็ส่งโทรศัพท์คืนมาให้ผม ก่อนจะบอกให้ผมไปซื้อของกับเขาแล้วแวะไปที่คอนโด
   
แน่นอนว่าผมปฏิเสธ ใครอยากไปทำอะไรกินก็ไปเอง
   
“ไม่ว่าง”
   
“อย่าโกหกน่า ไหนๆ ก็ยังไม่ได้กินข้าว แวะไปห้องเพื่อนจะเป็นอะไรไปวะ”
   
“ไปสนิทกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่”
   
“ตั้งแต่กินสุกี้คราวก่อนไง...อย่าเล่นตัวน่าเพลิง ไปเถอะ”
   
แล้วณพลากคอผมไปทั้งอย่างนั้นโดยไม่ถามความสมัครใจ






   
สุดท้ายผมและณพก็มาอยู่ที่หน้าห้องวายุจนได้
   
เคาะประตูไม่นานเจ้าของห้องก็เปิดประตูรับด้วยสีหน้าประหลาดใจ คงเพราะวาเองก็ไม่น่าจะคิดว่าณพจะมาที่ห้องจริงๆ แล้วยังเอาอุปกรณ์ทำอาหารจากห้องตัวเองลงมาอีกด้วย
   
ที่จริงผมเป็นคนบอกเขาว่าถ้าอยากกินข้าวที่ห้องนั้นนัก ก็สั่งอาหารเข้ามาน่าจะง่ายกว่า เพราะเท่าที่ผมจำได้ ห้องวาไม่มีอุปกรณ์ทำอาหาร ครัวโล่งจนเหมือนห้องของโรงแรมมากกว่าจะเป็นห้องคน แน่นอนว่าเขาทำอาหารไม่เป็น มีดก็เหมือนไม่เคยจับมาก่อนจนกระทั่งวันนั้น น่าสงสัยจริงๆ ว่าโตมาด้วยอะไร อาหารสำเร็จรูปหรือ?
   
แม้วายุจะแสดงท่าทีประหลาดใจ แต่ก็เปิดประตูออกกว้างปล่อยให้ณพเดินเข้าไปแต่โดยดี ส่วนผมที่ถือหม้อหุงข้าวก็เดินตามด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับนัก
   
เจ้าเพื่อนตัวดีวางของไว้บนเคาน์เตอร์ครัวว่างๆ แล้วก็เดินไปนั่งแหมะยังโซฟาห้องนั่งเล่นของวายุอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ ก่อนจะหันมาตะโกนบอก
   
“มื้อนี้ก็ฝากด้วยนะครับพี่เพลิง”
   
“......”
   
ผมส่ายศีรษะอย่างระอา ส่วนวายุยืนนิ่งได้ครู่หนึ่งก็เดินมาทางผม เมื่อเขาก้าวเท้าเข้ามาอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกัน สีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้น คงเพราะคราวก่อนเราจบบทสนทนาไม่ใคร่จะดีนัก
   
พยายามคิดว่าวายุก็คือคนคนหนึ่ง พฤติกรรมของเขาจะเป็นอย่างไรก็ไม่เกี่ยวกับผม เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนั้น หากอีกฝ่ายลืมก็กลบฝังมันไปเสีย แม้ผมจะรู้ดีว่าตัวเองไม่สามารถทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างเขาก็ตาม
   
“นาย...จะทำอาหารหรือ” วายุเอ่ยขึ้น สายตามองมาทางผมที่ยื่นมือเท้ากับเคาน์เตอร์ครัว
   
“ก็ไม่อยากหรอก”
   
ตอบกลับพลางมองไปยังณพที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือหน้าตาเฉย ผมเองติดค้างณพมากก็จริง แต่บางทีก็ควรจะปฎิเสธความเอาแต่ใจของหมอนั่นบ้าง เพราะดูท่าวาเองก็ลำบากใจไม่น้อยที่ให้ผมและณพเข้ามายุ่มย่ามในห้อง
   
“เดี๋ยวฉันช่วย”
   
“......”
   
ผมมองคนที่เสนอตัวช่วยแล้ว ก็ไม่คิดว่าอย่างเขาจะมีประโยชน์ในครัวนัก
   
“หุงข้าวเป็นไหม”
   
พอถามไป วายุก็อ้ำอึ้งอย่างที่คิด ผมจึงต้องสอนเขาตั้งแต่การตวงข้าว ซาวข้าว ซึ่งเขามีท่าทีเงอะงะจนผมอดจะถามไปตรงๆ ไม่ได้
   
“ถามจริง ปกติกินข้าวยังไง”
   
“ก็...สั่งขึ้นมา หรือไม่ก็แวะกินที่ห้าง”
   
ว่าแล้วเชียว
   
ผมไม่เอ่ยอะไรต่อ มื้อนี้เนื่องจากผมไม่อยากเสียเวลามาก จึงทำแค่ทอดไข่เจียวกับยำปลากระป๋องง่ายๆ ให้สองคนผู้ไม่ถูกกับครัวทาน หากไม่นับว่าต้องรอข้าวหุงจนสุก เวลาที่ใช้ทำอาหารนั้นน้อยทีเดียว เวลากินยิ่งน้อยกว่า
   
ห้องของวาเป็นห้องขนาดหนึ่งห้องนอน ห้องนั่งเล่นจึงเล็กมาก โต๊ะทานอาหารจึงมีเพียงสองที่นั่ง ผมให้วากับณพทานอาหารที่โต๊ะ ส่วนตัวเองก็ยืนพิงทานกับเคาน์เตอร์ครัว บรรยากาศมื้ออาหารวันนี้จึงเงียบ ผิดจากคราวก่อน
   
ไม่ทันไรพวกผมก็จัดการอาหารจนหมด ณพเองก็คงรู้สึกเกร็งๆ ที่มานั่งอยู่ในห้องของวายุอยู่เหมือนกัน ถึงได้ดูเร่งรีบขนาดนั้น
   
“เฮ้อ แค่ไข่เจียวยังอร่อย ว่าไหม?”
   
เพื่อนร่างสูงหันไปพยักเพยิดหน้ากับเจ้าของห้อง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วหันมาเอ่ยกับผมต่อ
   
“เออ ยังไงก็ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะเพลิง ขอโทษทีที่วันนี้ต้องขอตัวก่อน ยังไงฝากล้างของหน่อย แล้วเอาขึ้นไปเก็บที่ห้องให้ที มีธุระจริงๆ ว่ะ”
   
ถ้ามีธุระขนาดนั้นจะมาที่นี่ทำไมตั้งแต่แรก?
   
ผมถึงกับเลิกคิ้วมองเพื่อน และไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยอะไร หมอนั่นก็ออกจากห้องไปอย่างเร่งรีบ ปล่อยให้ผมอยู่กับวายุสองคน
   
ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วมองไปยังคนร่างเล็กกว่าอย่างไม่สบอารมณ์นัก
   
วายุได้แต่ยืนอยู่เงียบๆ ยืนนิ่งราวกับกำลังจมอยู่ในห้วงความคิดอยู่นาน ก่อนจะคิดได้ว่าควรจะรีบเก็บจานมาล้างแล้วไล่ผมออกจากห้องเสียที
   
“เดี๋ยวฉันล้างให้ นายนั่งรอเถอะ”
   
อีกฝ่ายเอ่ยขึ้น
   
ผมไม่อยากอยู่ที่นี่นานนัก จึงคิดจะรีบล้างของให้เสร็จๆ ไป ขณะที่เขาเข้ามายืนอยู่หน้าซิงก์ ผมก็ยืนล้างของไปด้วย ครัวแคบๆ จึงยิ่งแคบกว่าเดิม คนสองคนยืนเบียดแย่งกันล้างจานโดยไม่พูดอะไรกัน สร้างบรรยากาศให้รู้สึกประหลาดไม่น้อย และทันใดนั้นเอง วายุก็เอ่ยออกมาจนทำให้ผมต้องหยุดมือ
   
“ขอบคุณนะ...อาหารที่นายทำอร่อยมากเลย”
   
“......”
   
วายังคงขัดล้างจานใบเดิมที่ตอนนี้เรียกได้ว่าสะอาดมากแล้ว
   
“เพลิง...”
   
ไม่รู้ทำไม ทั้งๆ ที่มีเสียงน้ำไหลเอื่อยดังแว่ว แต่ผมกลับรู้สึกว่าเสียงเรียกชื่อผมมันเรียกความสนใจผมยิ่งกว่าอะไร
   
“วันนั้นที่ป้ายรถ...ขอบคุณนะ”
   
“......”
   
“แล้วก็ขอโทษ...สำหรับเรื่องวันนั้น...ฉันรู้ว่านายคงเกลียดฉันมาก”
   
ผมหันไปมองวาอย่างไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยินนัก มือเอื้อมปิดน้ำ แล้วดึงจานออกจากมืออีกฝ่ายให้เลิกก้มหน้าเสียที ถึงอย่างนั้นคนร่างเล็กกว่าก็หันมามองผมแค่ครู่เดียวเท่านั้น แล้วเขาก็หลุบสายตาลงเช่นเดิม
   
น่าแปลก...ก่อนหน้านี้วายุในสายตาผมเป็นคนหยิ่งยะโสชวนให้หงุดหงิด แต่ตอนนี้คนตรงหน้ากลับแสดงท่าทีไม่มั่นใจในตัวเองออกมา

“หมายความว่ายังไง”
   
ผมเอ่ยถามออกไป แม้จะพอจับได้ว่าเขาหมายถึงเรื่องใด
   
“ก็ที่นาย...ต้องนอนกับผู้ชาย ทั้งๆ ที่ไม่เต็มใจ”
   
“......”
   
“ฉันรับรองว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก”
   
“เลิกพูดเถอะ” น้ำเสียงห้วนทำให้อีกฝ่ายหันมามองผมด้วยสีหน้าที่คาดเดาอารมณ์ไม่ถูก
   
ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่ ผมรู้อย่างเดียวก็คือไม่ได้รู้สึกดีกับคำขอโทษ เขาคิดว่าผมเป็นอะไรหรือ ถึงได้เอ่ยออกมาอย่างนั้น?
   
“รู้ใช่ไหม ว่าฉันไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้ใครมาขืนใจหรืออะไรทำนองนั้นได้”
   
“......”
   
“ถึงนายจะเมาจนจำอะไรไม่ได้ แต่ก็ไม่น่าจะลืมใช่ไหมว่าวันนั้นฉันไม่ได้เมา”
   
คนตรงหน้าเม้มริมฝีปาก แล้วก็ไม่พูดอะไรออกมาอีก
   
ผมถอนหายใจออกมา คำขอบคุณของเขาผมจะรับไว้ แต่คำขอโทษนั่น...บอกตามตรงว่าไม่ทำให้ผมพอใจอย่างที่เขาคิด ยิ่งเขาเงียบไม่ตอบอะไร ผมก็อดรู้สึกไม่ได้จริงๆ ว่าการมองวายุเสียใหม่มันทำได้ยากกว่าที่คิดไว้เหลือเกิน


.
.

TBC
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 16-05-2016 23:47:06
เมื่อไหร่จะเข้าใจกันนนนน :ling3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 16-05-2016 23:57:57
เพลิง นอกจากจะปากจัดแล้วยังปากไม่ตรงกับใจอีก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 17-05-2016 00:26:33
มันขัดใจในความคิดเองเออเองของทั้งสองคนจริงๆ
แต่อีกใจก็ช๊อบบบชอบ

ชอบมากค่ะ
รอตอนต่อไปน้า
 :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 17-05-2016 02:24:11
หวายๆๆ อิตาเพลิง ไม่พอใจคำขอโทษของวาที่ว่าจะไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้นอีก จริงๆแกก็อยากใช่ไหมล้าาาา อิอิ เพลิงนี่รู้ตัวหรือปล่าว ว่าคิดอะไรกับวาไปแล้วววว #ชอบเรื่องนี้มากกกกก คนเขียนมาต่อบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 17-05-2016 07:18:54
ชอบเรื่องนี้คะ มาต่อบ่อยๆ นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-05-2016 12:54:31
วายุจะเข้าใจเพลิงว่ายังไงอีกล่ะนี่
จะดัขึ้นหรือจะแย่ลงล่ะคราวนี้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 18-05-2016 08:24:48
ลุ้นอะ มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-05-2016 23:01:19
อ่านทันแล้วคับ

เรื่องสนุกดีคับ

เป็นกำลังใจให้คับผม
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: nijikii ที่ 19-05-2016 08:06:40
ความรู้สึกของพี่เพลิงวนอยู่กับที่ไม่ไปไหน
แล้วเมื่่อไหร่จะเข้าใจกันสักที
วาก็ไม่พูด แต่พอพูดแล้วเพลิงก็ไม่เชื่อ
เห้อออออ สงสารนายเอกจังค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 19-05-2016 22:31:25
มารอคับผม
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-05-2016 07:19:42
บางทีพวกนายก็ซึนเกินไป. เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน :hao4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: AiiSoul ที่ 20-05-2016 08:35:18
อ่านแล้วหน่วง
มันจะรักกันได้ยังไงงง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: saotome ที่ 20-05-2016 09:19:05
วาดูอ่อนแอจัง เพลิงอย่าร้ายนะสิ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 20-05-2016 12:50:50
ต่อด่วนคะ  พึ่งได้อ่านสนุกมากกกกกเลยจ๊ะ  สงสารวายุจัง :mew6:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 21-05-2016 05:36:06
รอตอนต่อไปอยู่น่าาาาา o18
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: SUPERMUAY ที่ 22-05-2016 17:14:37
“ถึงนายจะเมาจนจำอะไรไม่ได้ แต่ก็ไม่น่าจะลืมใช่ไหมว่าวันนั้นฉันไม่ได้เมา”
ประโยคบอกรักใช่มั้ยยยยย
เรารู้นะ เราไม่ได้ซึนเหมือนนายย
 :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 23-05-2016 08:55:47
นานเลยมั้งเนี่ยกว่าจะรักกันได
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 23-05-2016 21:03:38
แวะมาส่อง

อุ้ย....ยังไม่มา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 23-05-2016 21:58:48
เพลิงนี่กั๊กน่าดู เอาไงล่ะพ่อเอ๊ย คนอ่านนี่ลุ้น สงสารวา แพ้ทางคนเนี้ย

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 24-05-2016 17:03:54
รออยู่น้าาาาาา :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 29-05-2016 21:42:58
มาส่องทุกวันเลย

วันนีก็ยังไม่มา

รอๆๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 30-05-2016 16:52:56
ตอนที่ 10.2



   
ระหว่างที่ล้างจานแต่ละใบจนสะอาด รวมถึงเครื่องครัวที่หยิบยืมมาจากห้องของณพ วายุก็เช็ดน้ำออกจากเหล่าภาชนะอย่างขะมักเขม้น เขาดูตั้งใจขนาดที่หัวคิ้วขมวดเข้าหากันระหว่างที่ซับผ้าลงกับจานและจัดวางซ้อนขึ้น ผมยืนมองอยู่เงียบๆ รอให้เขาจัดการเสร็จสิ้นแล้วค่อยนำของใช้กลับขึ้นไปคืนที่ห้องของเพื่อนสนิท
   
หลังจากเช็ดน้ำออกจากภาชนะทุกอย่างแล้ว เจ้าของห้องก็ยกข้าวของทั้งหมดขึ้นจากซิงค์ แต่ผมก็แย่งเอาข้าวของมาถือไว้เสียเอง แล้วส่งสายตาให้วายุเอาเครื่องครัวอย่างอื่นถือตามออกมา
   
พอเอาข้าวของของณพออก ครัวของห้องนี้ก็โล่งไปทันตา    โล่งจนอดเอ่ยถามไม่ได้

“ไม่คิดจะซื้อพวกเครื่องครัวมาไว้ในห้องบ้างเลยหรือ อย่างน้อยก็หม้อหุงข้าว”

วายุเหลือบมองผม ท่าทางของเขาราวกับไม่เข้าใจในคำพูดผมนัก ใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะเอ่ยตอบออกมา

“ก็...ปกติซื้อกินข้างนอก”

“ไม่ชอบทำอาหารเอง?”

“ทำไม่เป็น...ทำเองแล้วไม่อร่อย”

“ไม่อร่อย? งั้นแสดงว่าเคยเข้าครัวมาก่อน”

“ครั้งสองครั้ง สมัยอยู่กับพี่สาวที่อเมริกา ตอนนั้นพอเข้าไปช่วยก็โดนไล่ตะเพิดออกมา” ขณะที่เอ่ย รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าสวย ทว่าแวบหนึ่ง แววตาของเขากลับทอประกายขมขื่นแปลกๆ

ผมไม่เคยเห็นวายุแสดงอารมณ์เช่นนี้มาก่อน ไม่แน่ใจว่าเพราะผมไม่เคยสังเกตเห็นมัน หรือเพราะเขาไม่เคยหลุดแสดงมันออกมากันแน่

เราเดินออกจากห้องของวายุ ระหว่างทางก็เอ่ยต่อไปด้วย

“นายมีพี่สาวด้วยหรือ นึกว่าลูกคนเดียวเสียอีก”

หลังจากเอ่ยไป บทสนทนาก็เงียบไปพักใหญ่ ซึ่งไม่น่าแปลกใจอะไร สิ่งที่ผมพูดออกไปไม่ได้เป็นคำถามที่ต้องการให้อีกฝ่ายตอบอยู่แล้ว และผมก็ชินกับการที่เราไม่ได้พูดอะไรกันด้วย ตอนที่เป็นรูมเมทกัน ผมกับวายุก็พูดกันนับคำได้ เรื่องที่จะเชื่อมโยงบทสนทนาระหว่างเราก็แทบไม่มี วาไม่เคยคิดจะเอ่ยชวนคุย ส่วนผมก็ไม่คิดจะเริ่มบทสนทนา

ความสัมพันธ์ในช่วงนั้น เรียกได้ว่าเหินห่างกันเหมือนอยู่คนละโลก มาคิดย้อนดูตอนนี้ ผมเองก็ยอมรับว่าอคติของตนเองนั้นมีส่วน

“แล้วนายมีพี่น้องไหม” น้ำเสียงของคนถามแผ่วเบา

“ฉันมีพี่ชายคนนึง น้องชายคนนึง เป็นลูกคนกลางน่ะ”

“คิดว่าเป็นพี่คนโต”

ผมหยุดเดินเมื่อมาถึงห้องของณพ และเพราะหยุดกะทันหัน วายุที่เดินตามมาติดๆ จึงชนเข้ากับไหล่ผมเล็กน้อย โชคดีที่ให้เขาถือหม้อหุงข้าวเดินตามมา ถ้าหากให้ถือถ้วยชาม เผลอๆ อาจจะซุ่มซ่ามทำตกพื้นก็ได้

“...ขอโทษที”

ครั้งที่สองของวันที่ได้ยินเขาเอ่ยคำว่าขอโทษ จนความคิดบางอย่างของผมเริ่มสั่นคลอน ผมพยายามมองข้ามความรู้สึกนั้นไป ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องพูด สองขาเดินนำเขาเข้าไปเก็บข้าวของให้ณพไปด้วย

“ที่ว่าพี่สาวนายไล่ออกจากครัวน่ะ ทำอาหารไม่อร่อยขนาดไหนหรือ”

วาใช้ความคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ

“ถ้านายกิน คงจะปวดท้องเข้าโรงพยาบาลละมั้ง”

มือที่กำลังเก็บของชะงัก

“แย่ขนาดนั้น?”

คนร่างเล็กกว่าพยักหน้า

“ชักอยากรู้แล้วสิว่าเป็นยังไง”

วายุนิ่งไปนาน จนผมคิดว่าเขาจะไม่ตอบออกมาแล้ว ทว่าเขากลับเอ่ยออกมา

“ฉันไม่อยากทำให้ใครต้องเข้าโรงพยาบาล”

ผมอึ้งไปนิด แล้วอดหลุดหัวเราะไม่ได้ “ฮะๆๆ อย่างนั้นฉันยิ่งอยากรู้”

พออีกฝ่ายเห็นผมหัวเราะ ไม่รู้ว่าเพราะอายหรือเปล่า ใบหูถึงได้ขึ้นสีแดงเรื่อตัดกับผิวขาวซีด ผมรู้ตัวว่าอาจเสียมารยาท จึงระงับท่าที

“โทษที ฉันไม่ได้จะหัวเราะที่นายทำอาหารไม่เป็นหรอก”

วายุส่ายหน้า ดวงตาหลุบมองต่ำ

ไม่รู้ว่าเพราะผมคิดจะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเขาหรือไม่ ตอนนี้ถึงได้เพิ่งรู้สึกว่าที่แท้แล้วคนตรงหน้าก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่อาจแสดงออกไม่เก่งเท่านั้น

คิดๆ ดูแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้น ถ้าวายุไม่แคร์อะไรเลยก็คงไม่มีทางเอ่ยขอโทษออกมา ถึงผมจะไม่พอใจแค่ไหน แต่การที่คนตรงหน้าไม่ทำเป็นเพิกเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็ทำให้ผมไม่รู้สึกโมโหเท่ากับแต่ก่อน

“ที่ฉันบอกว่าอยากลองกินดูน่ะ ฉันพูดจริงนะ”

ผมเอ่ยย้ำ

ตอนนี้...ผมเริ่มอยากเห็นปฏิกิริยาของเขาหลายๆ อย่างที่ไม่เคยเห็น ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้เปลือกนอกอันสวยงาม แท้จริงแล้วจะเป็นเช่นไร อันไหนคือรอยยิ้มที่แท้จริง อันไหนคือรอยยิ้มลวงหลอก ก่อนหน้านี้ผมเคยปิดกั้นหรือแม้แต่ต่อต้านเขา แต่พอได้เห็นท่าทีที่ไม่เคยเห็น ได้เห็นการแสดงออกที่ไม่ได้จ้องแต่จะยั่วโมโห อาการต่อต้านก็ราวกับจะสั่นคลอนและทลายลงได้

“ถ้างั้นนายคงต้องสอนให้ฉันทำอะไรที่พอกินได้แล้วละ”

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราวกับไม่คิดอะไรจริงจัง ทว่าผมกลับไม่คิดอย่างนั้น

“ไม่มีปัญหาหรอก”

เมื่อตอบออกไป คนที่เคยเอาแต่เสสายตามองไปทางอื่น ก็หันกลับมามองผมเต็มๆ ตาด้วยสีหน้าคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

.
.

(มีต่อ)
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10 [p9 up 17.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 30-05-2016 16:55:49
.
.



หลังจากวันที่ยืนยันว่าผมอยากรู้ว่ารสชาติอาหารที่วาทำจะเป็นยังไง สุดท้ายผมก็มารอเจอเขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนัก

วันเสาร์ เวลาสี่โมงกว่าๆ ผมเดินทางมาถึงโรงเรียนสอนดนตรีในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ตอนที่ผมเดินเข้าไป สายตาก็ประสานกับประชาสัมพันธ์สาวที่นั่งตรงหน้าเคาน์เตอร์พอดี

“มารับน้องอะไรคะ”

อาจเพราะไม่คุ้นหน้า เธอจึงเอ่ยทักเช่นนั้น

“ผมมารอวา...เอ่อ...ครูสอนเปียโนที่ชื่อวายุครับ”

“อ๋อ ครูวาหรือคะ สอนเสร็จห้าโมงค่ะ เชิญนั่งรอก่อนนะคะ”

“ครับ”

ภายในโรงเรียนมีผู้ปกครองและเด็กๆ มานั่งรอยังที่นั่งประปราย โชคดีที่บริเวณที่นั่งรอมีทีวีเปิดไว้ด้วย ทำให้ผมทอดสายตามองจอสี่เหลี่ยมระหว่างทีรอเวลาเลิกชั้นได้

บรรยากาศในโรงเรียนแห่งนี้ช่างแตกต่างจากที่มหาวิทยาลัย เสียงเด็กๆ คุยเล่นฟังเจื้อยแจ้วสดใส เสียงโน้ตจากเครื่องดนตรีประเภทต่างๆ ที่ดังลอดจากห้องซ้อมชวนให้ผ่อนคลาย เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่ผมไม่ค่อยมีโอกาสได้เข้ามายุ่งเกี่ยวนัก

นั่งรอจนกระทั่งเวลาห้าโมง ก็เริ่มมีเด็กๆ วิ่งออกมาจากห้องเรียนเพื่อมาหาผู้ปกครอง ผมหันหน้าไปมองยังทางเดิน เผื่อว่าคนที่รออยู่จะเดินออกมาบ้าง และไม่นานนักวายุก็เดินออกมา เมื่อสบสายตากับผม เขาก็ชะงักไปหน่อย ก่อนจะหันไปเขียนอะไรบางอย่างบนเคาน์เตอร์ แล้วเดินมาทางผมที่นั่งอยู่

“โทษที รอนานไหม”

“ตั้งแต่สี่โมง”

อีกฝ่ายหน้าเจื่อน ทำให้ผมหัวเราะหึในลำคอ

วายุที่หยุดยืนอยู่ข้างผมอยู่ในชุดลำลองเรียบง่าย เชิ้ตแขนยาวสีเข้มตัดกับผิวซีด แขนเสื้อพับขึ้นถึงข้อศอกเผยให้เห็นท่อนแขนและมือเรียว เขาไม่ใส่เครื่องประดับใดแม้แต่นาฬิกา ข้อมือและเรียวนิ้วสวยจึงยิ่งโดดเด่น

“รอไม่นานหรอก พอดีว่าง เลยมานั่งรอข้างในก่อน” ผละสายตาจากผิวที่ราวกับโปร่งแสงจนเห็นเส้นเลือดบางๆ แล้วเอ่ยต่อ

“อืม...งั้นไปกันเลยไหม”

ผมพยักหน้า ลุกขึ้นเดินนำเขาไปเปิดประตู

ก่อนจะออกจากโรงเรียน มีเด็กๆ รวมถึงผู้ปกครองเข้ามาสวัสดีวาหลายต่อหลายคน ดูๆ แล้วเขาเป็นครูสอนเปียโนที่ป๊อบปูล่าร์อยู่เหมือนกัน หนำซ้ำผมยังเห็นเขายิ้มให้ลูกศิษย์อีกด้วย ถ้าอยู่ที่มหาวิทยาลัย คงไม่มีทางได้เห็นภาพแบบนี้แน่

ใช่ว่าผมจะไม่รู้ว่าวายุไม่ได้สนิทสนมกับใครที่มหาวิทยาลัย เวลาเรียนหรือทานข้าวก็ไปคนเดียว แม้จะมีคนเข้าหาเขา แต่วายุก็ออกจะเมินเฉยไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย สำหรับเจ้าตัว โรงเรียนสอนดนตรีแห่งนี้คงเป็นที่ที่เขาอยู่แล้วสบายใจมากกว่า

เขาบอกว่ารับงานสอนดนตรีอาทิตย์ละสามหรือสี่วัน หมายความว่าเขาใช้เวลาอยู่ที่นี่อาจจะมากกว่าอยู่ที่มหาวิทยาลัยเสียอีก บางวันก็รับเล่นเปียโนที่ห้องอาหารของโรงแรม มีชีวิตอีกด้านที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน

ในเพื่อนรุ่นเดียวกัน คนที่ทำงานและรับผิดชอบตัวเองแบบเขามีไม่เยอะ ผมค่อนข้างประหลาดใจด้วยซ้ำที่ได้รู้เรื่องนี้

ขณะที่ผมสาวเท้านำเขาไปยังทางออกของห้าง วายุก็เอ่ยขึ้น

“เพลิง...ในห้างนี้ก็มีแผนกเครื่องครัวไม่ใช่หรือ”

ผมหันกลับไปมองอีกฝ่ายที่หยุดยืน ความจริงเรานัดกันว่าจะซื้อของใช้ในครัวเข้าห้องของวายุ เขาอยากจะลองทำอาหารแต่ไม่มีอุปกรณ์สักอย่าง แรกเริ่มก็ไม่น่าจะรอดแล้ว ตอนไปที่ห้องของคนตรงหน้า ผมลองนับถ้วยชามในห้องแล้ว มีแก้วสองใบ จานสองใบ ชามเล็กหนึ่งใบ ชามใหญ่หนึ่งใบ ช้อนส้อมมีอยู่ไม่ครบคู่ มีอยู่อย่างละสองสามคัน ครึ่งหนึ่งในของเหล่านั้นเป็นของที่แถมมากับอาหารสำเร็จรูป

ผมเข้าใจว่าเขาไม่น่าจะมีเวลาทำอาหาร ดังนั้นจึงคิดว่าการจะให้เขาซื้อของใช้เข้าห้องเพื่อลองทำอาหาร มันไม่สมเหตุสมผล และออกจะสิ้นเปลืองเปล่าๆ

“ทุกห้างก็ต้องมีแผนกเครื่องครัวอยู่แล้ว” เอ่ยกวนไปนิดหน่อย เห็นวายุหัวคิ้วชนกันก็อดยกยิ้มไม่ได้ “ไม่จำเป็นต้องซื้อของใหม่หรอก เดี๋ยวพาไปเอาของ”

“ที่ไหน”

“บ้าน”

“......”

วายุนิ่งเงียบไป ผมไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ก็ไม่คิดจะดึงดันหาคำตอบ สองขาก้าวเดินต่อจนกระทั่งมาอยู่หน้าห้างโดยมีอีกคนเดินตามมาเงียบๆ

ผมเรียกแท็กซี่ จุดหมายคือบ้านในแถบชานเมือง ครั้งสุดท้ายที่นั่งรถแท็กซี่กับวาก็คือคืนนั้น ผมยังจำได้ดีว่าอีกฝ่ายมีสภาพเมาจนไม่ได้สติ ศีรษะเอนพิงกับหัวไหล่ ใกล้ชิดจนได้กลิ่นหอมเจือกลิ่นแอลกอฮอล์ ถ้าผมไม่ตามไปในคืนนั้น ไม่แน่ว่าเขาอาจจะถูกซ้อมเอาของมีค่าแล้วถูกทิ้งไว้ข้างทางก็ได้ สถานที่แบบนั้นไว้ใจได้ที่ไหน ยิ่งเจ้าตัวเป็นประเภทดึงดูดคนแปลกๆ ให้เข้าใกล้ด้วย
ผมเคยคิดว่าถ้าหากคืนนั้นไม่เอาตัวเองไปยุ่งกับเขาจะเป็นยังไง จะเสียใจหรือโล่งใจกันแน่ แล้วผมก็ตอบตัวเองได้ในทันทีว่าผมไม่เสียใจที่เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น แม้จะโมโหแค่ไหนก็ไม่เคยเสียใจ ยิ่งในตอนนี้ พอเห็นแง่มุมของวาที่ไม่ค่อยจะสนใจรอบข้าง และออกจะเปิดโอกาสให้คนคิดมิดีมิร้าย ผมยิ่งรู้สึกว่าหากวันนั้นผมไม่ไป ผมจะยิ่งเสียใจที่ตัดสินใจเช่นนั้น

วันนี้ผมกับวานั่งห่างกันคนละฝั่งของรถ ต่างฝ่ายต่างมองออกไปนอกหน้าต่างคนละด้าน ทว่าความรู้สึกในขณะนี้กลับไม่น่าอึดอัด และไม่รู้สึกว่าเราเหมือนคนไม่รู้จักกันเหมือนเช่นวันนั้น

ที่รู้สึกอย่างนี้ อาจเพราะผมอยากเข้าใจเขาให้มากขึ้นก็เป็นได้






รถแท็กซี่มาถึงบ้านผมก่อนหกโมงนิดๆ ผมพาวายุเดินเข้าไปในบ้านเดี่ยวสองชั้น แค่ก้าวผ่านรั้วประตูบ้าน หมาบางแก้วสองตัวก็วิ่งออกมาเห่าทันที ผมดันให้วาไปอยู่ด้านหลัง แล้วส่งเสียงบอกให้เจ้าหมาหยุดอยู่กับที่

พอเห็นว่าแขกที่มาใหม่มากับผม เจ้าไมโลกับคุ้กกี้ก็กระดิกหางเหมือนเข้าใจ แต่สัตว์มีเขี้ยว อย่างไรก็ไว้ใจไม่ได้ ยิ่งกับคนแปลกหน้า เจ้าสองตัวนี้อาจจะพุ่งเข้ามากัดไม่ทันให้ตั้งตัว

เมื่อเข้ามาในบ้าน แม่และครอบครัวพี่ชายผมก็นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นอยู่ก่อนแล้ว พวกเขาหันมามองแขกนิดหน่อย ผมจึงกล่าวสวัสดี แล้วแนะนำวายุให้รู้จัก

“นี่วาครับ ที่ผมบอกแม่ไว้ จะขอของที่ไม่ใช้ไปหน่อย”

วาไหว้ครอบครัวของผมด้วยสีหน้าเกร็งอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเขาไม่สนิทสนมกับใครนัก โดยเฉพาะกับผม การแวะมาที่บ้านจึงน่าจะสร้างความลำบากใจให้ไม่น้อย แต่มันช่วยไม่ได้นี่ ในเมื่อหน้าตาของเขาตอนทำอะไรไม่ถูกมันน่าสนใจขนาดนั้น

ผมพาวายุเข้าไปในห้องครัวเพื่อเลือกเอาของใช้ส่งให้ แม่ผมชอบทำอาหาร แล้วยังเป็นครูสอนทำอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ในครัวทั้งที่ซื้อเองและที่มีคนให้มาจึงมีมากจนล้น ผมเปิดตู้เลือกเอาหม้อหุงข้าวขนาดเล็กที่ยังไม่เคยแกะกล่องออกมา ตามด้วยชุดอุปกรณ์ทำครัวที่ยังไม่แกะจากซีล

“เดี๋ยวฉันซื้อเอาก็ได้ บ้านนายเก็บไว้ใช้เถอะ” วารีบเอ่ยขัด และก่อนที่ผมจะตอบอะไร แม่ผมที่เดินเข้ามาในครัวก้ตอบแทน

“เอาไปเถอะจ้า แม่ไม่ได้ใช้หรอก ของบ้านนี้มีเยอะ ปีใหม่คงต้องขนไปบริจาคสักที”

เจ้าของใบหน้าขาวซีดไม่ตอบรับ เรียกได้ว่าแทบจะนิ่งจนไร้ปฏิสัมพันธ์ไม่ต่างจากรูปปั้นที่ตั้งโชว์ตามนิทรรศการ

“วันนี้ลูกค้างที่นี่ไหมเพลิง” แม่ผมเดินเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยถาม

ผมส่ายหน้าให้ “ไม่ครับ เดี๋ยวกลับไปนอนหอ”

บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พี่ชายผมปลูกไว้ให้ครอบครัว เดิมทีมีสี่ห้องนอน ลูกชายสามคนในบ้านต่างครองห้องคนละห้อง ส่วนแม่ของผมนอนห้องใหญ่ ทว่าตั้งแต่ที่พี่สะใภ้ย้ายมาอยู่ด้วย ห้องของผมจึงกลายเป็นห้องของน้องชาย ส่วนห้องของน้องชายก็กลายเป็นห้องที่ไว้ให้พี่ชายและพี่สะใภ้ใช้งาน ผมที่ย้ายออกไปอยู่หอตั้งแต่มัธยมปลายจึงไม่อะไรนัก เมื่อก่อนจะแวะกลับมาอยู่บ้านทุกเสาร์อาทิตย์และปิดเทอม แต่ปัจจุบันเมื่อพี่ชายผมมีลูก ผมจึงแวะมาทานอาหารหรือช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าจะนอนค้าง

“งั้นทานข้าวด้วยกันก่อนสิ ชวนเพื่อนลูกด้วย”

“ครับ” ผมวางของที่จะให้วาทั้งหมดไว้บนโต๊ะ แล้วหันไปทางมารดาของตน “วันนี้แม่จะทำอะไรครับ เดี๋ยวผมช่วย”

“ขอบใจลูก ไปคั้นน้ำส้มให้เพื่อนทานก่อนสิไป”

ผมรับคำแล้วเดินไปหยิบผลไม้ออกจากตู้เย็น ส่วนวายุเริ่มลนลานและเอ่ยกับผมที่กำลังเตรียมน้ำให้เขา

“ไม่ต้องลำบากหรอก แค่น้ำเปล่าก็พอ” อีกฝ่ายเอ่ยเสียงเบากับผม ราวกับไม่อยากให้แม่ผมได้ยิน

ผมหยิบส้มไปล้าง แล้วหยิบมาหนึ่งผลแกะเปลือกออก ส่วนวายังคงเดินตามผมมาไม่ห่าง

“เพลิง...ไม่...”

ไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยจบ ผมก็แกะส้มออกมาเสี้ยวหนึ่ง และยื่นไปตรงหน้าริมฝีปากของวา

“ลองดูสิ”

กลีบส้มแตะกับเนื้อปากอิ่ม ทำให้อีกฝ่ายต้องอ้าปากรับไว้อย่างเสียไม่ได้ ขณะที่เคี้ยวผลไม้ วายุก็หันหน้าไปทางอื่นทั้งที่คิ้วขมวดมุ่น ผมมองท่าทีของเขาอย่างไม่วางตา รอให้เขากลืนเนื้อส้มลงคอ แล้วแบมือยื่นไปใกล้ๆ ปากเขาอีกครั้ง

วายุผงะเล็กน้อยอย่างตกใจ นัยน์ตาหวานโศกช้อนมองอย่างฉงน

“ไม่มีใครเขากินส้มแล้วกลืนเม็ดเข้าไปด้วยหรอกนะ”

คนตรงหน้ากัดปากตนเอง ดวงตาเสมองทางอื่นอย่างลังเล

“คายเม็ดออกมาสิ มือจะได้ไม่เลอะไง”

ผมเอ่ยย้ำ เวลาผ่านไปนานพอดู กว่าที่ริมฝีปากอิ่มก็เผยอออก และคายเม็ดส้มออกมาในที่สุด

“เดี๋ยวนายไปนั่งรอที่ห้องนั่งเล่นกับพี่ฉันก่อน ตรงนี้ฉันจัดการเอง”

วายุรีบเดินกลับออกไป และผมคิดว่าเขาคงจะทำตัวเป็นแขกที่ดีไปอีกสักพัก เมื่อวาเดินออกจากครัวไปแล้ว แม่ผมที่ยืนอยู่ที่ครัวอีกฝั่งก็เอ่ยถามขึ้น

“สนิทกันหรือลูก”

ผมนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ “เคยเป็นรูมเมทกันครับ”

แม่ผมไม่ได้ถามอะไรต่อ และให้ผมไปช่วยเป็นลูกมือท่านสำหรับอาหารมื้อนี้


.
.

TBC

___

ขอบคุณที่รอค่า
เคยแอบคิดนะ ว่าน้องวาก็ดีขนาดนี้ อิพี่เพลิงไม่เหมาะกับน้องเล้ย แต่ก็เกลียดเพลิงไม่ลงแหะ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 30-05-2016 18:10:59
ตอนนี้น่ารักจัง  :ling1: :ling1:
รอมาต่ออยู่นะคะ

ถ้าเราปาด ขอโทษนะคะ เดี๋ยวเราจะมาลบให้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 30-05-2016 19:33:30
รอๆตอนต่อไป

รออยู่นะคนแต่ง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 30-05-2016 19:57:02
 o13 o13
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 30-05-2016 20:22:06
รอน้าาาาา~~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 30-05-2016 20:29:38
ณพนิสัยน่ารักจัง ถ้าเชียร์จนเพื่อนได้กันแล้ว จะยกอิฏฐ์ให้นะ ไหนๆ ก็ไฮโซเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 30-05-2016 21:02:47
หวังว่าซักวัน จะเข้าใจวายุบ้างนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 30-05-2016 21:19:37
มาๆต่อเลนคะ ^^
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 30-05-2016 23:37:02
มันค้างนะ มาต่อด่วนเลย พลีสสสส

ว้าววว เพลิงเริ่มเห็นวายุ
ที่ไม่ใช่คนที่คนอื่นพูดถึงแล้ว
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 31-05-2016 00:27:12
ค้างคะ อยากรู้ว่าวายุทำหน้าแบบไหน เริ่มรู้สึเห็นสีชมพูวิ๊งๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 31-05-2016 08:40:50
เริ่มมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นแล้ว
อย่าอคตินักเลยเพลิง น้องวาออกจะน่ารัก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 [p9 up 30.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 31-05-2016 09:16:28

รอคำว่า "มีต่อ" งืมๆ...
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 31-05-2016 17:49:28
ฉากส้มอ้อยเอาไปเต็มสิบ :hao6:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 31-05-2016 18:31:49
เพลิงอ่อนโยนกับวาแล้วน่ารัก~~ :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 31-05-2016 18:40:39
ต่อไปพี่เพลิงต้องดีกลับน้องวามากๆนะคะ :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: mojiiro ที่ 31-05-2016 21:38:11
โอ๊ยยยยยยยยย วาน่ารักเกินไปแล้วววว มีความหวาน ดราม่าเราก็ชอบหวานๆเราก็ชอบ 555 มาต่อเถอะค่ะ เอาให้เบาหวานขึ้นตา  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: imfckwn ที่ 31-05-2016 23:25:09
เพลิงคงจะเข้าใจวาในเร็ววัน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 01-06-2016 01:12:43
กรี๊ดดดด ตอนนี้น่ารักมากกกกก เพลิงเริ่มเปิดใจแล้ว  ฟิน ฟิ๊น :mew4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-06-2016 01:35:47
มาอ่านส่วนต่อ น่ารักฝุดๆ
วายุขี้อายนะเรา
แล้วอะไรล่ะตาเพลิง
มารับเม็ดส้มจากปากเขาน่ะ
มันชวนให้คิดไกลไปถึงไหนต่อไหน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: namaquaru ที่ 01-06-2016 01:39:00
เพลิงน่ารักขึ้นเป็นกองเลยยยยยย :-[
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 01-06-2016 23:51:18
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 02-06-2016 00:59:43
กรี๊ดดดดดชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 10.2 (100%) [p9 up 31.05.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 11-06-2016 16:56:53
ตอนที่ 11




   
ผมมาร่วมโต๊ะอาหารกับครอบครัวของเพลิงอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้จะรู้สึกเกร็งและลำบากใจที่ต้องพบเจอคนแปลกหน้า แต่มันก็ไม่แย่เกินไปนัก
   
ตั้งแต่วันที่ผมตัดสินใจเอ่ย ขอโทษ เพลิง ท่าทีของเขาที่มีต่อผมเปลี่ยนไป และเหมือนว่าคำขอโทษนั้น จะช่วยผ่อนความรู้สึกหนักอึ้งที่มีอยู่ในใจไปได้บ้าง
   
เพลิงเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะไม่กล่าวโทษอะไรผมอีก เขาปฏิบัติต่อผมเหมือนคนปกติ และออกจะดีกว่าตอนที่เราเป็นรูมเมทกันด้วยซ้ำ
   
ผมรู้ว่าไม่ควรคาดหวังอะไรตั้งแต่แรก และหนึ่งปีที่ผ่านมาผมได้เรียนรู้แล้วว่าผมไม่สามารถไขว่คว้าสิ่งที่ไม่อาจไขว่คว้าได้ ตอนนี้...เพียงแค่เท่านี้ก็นับว่าดีเพียงพอแล้ว แค่เราไม่ต้องเกลียดกันต่อไปก็พอแล้วจริงๆ
   
ขณะที่เพลิงกับแม่ของเขาช่วยกันทำอาหารอยู่ในครัว ผมก็ออกมานั่งอยู่ที่ห้องรับแขกกับพี่ชายของเพลิง จากที่สังเกต พี่ภูมิหน้าตาดุเหมือนกับเพลิง และดูเข้มงวดไม่น้อย เขาชวนผมคุยนิดหน่อย แต่พอถึงเวลาอาหารก็ขอตัวผมเดินไปเรียกภรรยาลงมาพร้อมกับลูกเล็กๆ
   
แค่มองดูก็รู้ว่าครอบครัวของเพลิงเป็นครอบครัวที่แตกต่างจากผมโดยสิ้นเชิง ครอบครัวปกติ ที่ผมไม่มีทางกลมกลืนไปกับพวกเขาได้
   
เมื่ออาหารเย็นจัดวางบนโต๊ะเรียบร้อย เพลิงก็ให้ผมไปนั่งข้างๆ เขา คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเป็นแม่ของเพลิงและพี่สะใภ้ ส่วนพี่ภูมิ ซึ่งเป็นพี่ชายของเพลิงละจากโต๊ะอาหารไปอุ้มลูกเล็กเพื่อให้ภรรยาทานอาหารได้สะดวก น้องชายของเพลิงกลับมาบ้านก่อนเวลาอาหารไม่กี่นาที โต๊ะอาหารขนาด 6 ที่จึงดูแออัดเล็กน้อยแม้ที่นั่งจะพอสำหรับทุกคนก็ตาม
   
ผมได้แต่นั่งทานอาหารเงียบๆ อาหารมื้อนี้อร่อยอย่างหาที่ติไม่ได้ พอนึกถึงอาหารที่ตัวเองทานประจำก็คิดว่าช่างแตกต่างจากอาหารครอบครัวแบบนี้เหลือเกิน
   
“วา...นี่ย่อมาจากเทวาปะพี่”
   
ผมชะงักช้อนที่กำลังตักข้าวเข้าปาก สายตาเหลือบมองไปยังน้องชายของเพลิงที่เอ่ยถามโพล่งขึ้นมา
   
“มาจากวายุ เหมือนนายนั่นแหละพาย”
   
เพลิงเป็นคนตอบแทน
   
“อ้อ” เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาฉีกยิ้ม
   
น้องชายของเพลิงดูนิสัยแตกต่างจากพี่ชายทั้งสองคนมาก ขณะที่พี่คนโตและคนกลางดูเอาจริงเอาจัง น้องคนสุดท้องให้ความรู้สึกว่าเป็นคนร่าเริงและรักสนุก
   
“ตอนแรกเห็นพี่ภูมิบอกพี่พาเพื่อนมาบ้าน ไอ้เราก็นึกว่าจะพาผู้หญิงมา...ใครนะพี่คนนั้นน่ะ น้ำหวานน้ำแดงอะไรน้า”
   
พายเอ่ยต่อ ทำหน้าทะเล้นใส่พี่ชายคนกลางไปด้วย
   
เพลิงนิ่งไปไม่ตอบน้องชาย จนพี่ชายเขาที่สลับมานั่งทานอาหารกับภรรยาเอ่ยขึ้นมา

“ถ้ามีแฟนก็พามาให้พี่ให้แม่รู้จักบ้างนะเพลิง”

คนถูกถามทำท่าไม่ใส่ใจ และผมก็คาดเดาไม่ถูกว่าเพลิงกำลังคิดอย่างไรกันแน่ ถึงได้เงียบไม่เอ่ยอะไรออกมา ไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธ จนทำให้คิดว่าความสัมพันธ์ของเพลิงกับผู้หญิงคนนั้นคงก้ำกึ่ง ถึงจะไม่ใช่คนรัก แต่ก็ทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่เพื่อนธรรมดา

หลังทานอาหารเสร็จสิ้น ผมเอ่ยขอช่วยเก็บล้างตามมารยาท แน่นอนว่าไม่มีใครยอมให้ผมล้างจานสักคน น้องชายของเพลิงรับหน้าที่นั้น ผมจึงรอเวลาอีกนิดหน่อยแล้วขอตัวกลับ

ถึงจะไม่รู้สึกแย่ที่มาเป็นแขกของบ้านนี้ แต่ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าอึดอัด และแปลกแยก การต้องเข้าสังคมไม่ใช่สิ่งที่ผมถนัดจริงๆ
เพลิงยืมรถของพี่ชายเพื่อขับมาส่งผมที่รถไฟฟ้า ทีแรกเขาตั้งใจจะไปส่งผมที่คอนโดแต่ผมปฏิเสธ ซึ่งเขาก็ไม่ดึงดันอะไร

ท้องฟ้ามืดสนิทแล้วเมื่อรถขับออกมาจากซอยของบ้านที่ไม่รู้จัก แม้จะขับรถจากชานเมือง แต่การจราจรก็แออัดไม่ต่างจากตัวเมืองกรุงเทพฯ รถจึงเคลื่อนตัวไปอย่างเชื่องช้าแม้เวลาจะมืดค่ำแล้ว

เพลิงไม่เปิดวิทยุหรือเพลง เสียงที่ได้ยินจึงเป็นเสียงเครื่องปรับอากาศที่เร่งแรงจนรู้สึกหนาว แต่รู้สึกเช่นนั้นแค่ครู่เดียว คนขับรถก็ยื่นมือมาปรับลดแอร์ลง พลางเอ่ยขึ้น

“เหมือนฉันบังคับพานายมางานเข้าสังคมเลยนะ” เจ้าของดวงตาคมละจากภาพหน้ารถมาทางผมขณะที่เอ่ย

ผมนิ่งไป ก่อนจะหันไปมองแสงไฟจากท้ายรถหลายคันข้างหน้าที่ยังไม่ขยับเขยื้อน

“บ้านนายน่ารักดี อาหารก็อร่อย” ผมไม่ได้รังเกียจที่มาบ้านของเพลิง แค่ไม่ชินและกระอักกระอ่วนกับบรรยากาศแบบนั้นเท่านั้น และคงเพราะผมอยากเปลี่ยนเรื่องพูด จึงพูดต่อ “นายดู...เหมือนพี่มาก แต่ไม่เหมือนน้องชายเลย”

เพลิงขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยิน

ที่ว่าไม่เหมือน ไม่ใช่ว่าหน้าตาไม่คล้าย แต่นิสัยดูต่างกันอย่างสิ้นเชิงมากกว่า

“นายก็ดูเข้ากับคนอย่างน้องชายฉันมากกว่าพี่ฉัน”

ผมไม่รู้ว่าเพลิงต้องการสื่ออะไร และควรจะตอบอะไร จึงได้แต่เงียบไป พอดีกับที่รถเริ่มขยับตัวอีกครั้ง

ระหว่างที่รถเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ ผมก็เอ่ยถามเขาอีกเรื่อง “พ่อนายไม่อยู่หรือ” กว่าจะรู้ว่าไม่ควรถาม ก็ตอนที่สีหน้าของเพลิงเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น

“ยังอยู่สบายดี ที่บ้านภรรยาใหม่”

น้ำเสียงของเพลิงไม่ได้บ่งบอกว่าไม่พอใจอะไร แต่ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้รู้สึกดีนัก

บทสนทนาเงียบไปนาน เพลิงไม่ใช่คนช่างพูด ผมเองก็ไม่ถนัดเริ่มบทสนทนา เราจึงไม่ได้เอ่ยอะไรกันอีกจนกระทั่งรถมาจอดบริเวณรถไฟฟ้า

ผมเอ่ยขอบคุณเพลิง และเตรียมจะลงจากรถพร้อมหอบของพะรุงพะรัง ทว่าก่อนหน้านั้นเพลิงก็เอ่ยกับผม

“วา” หัวใจผมเต้นแรงเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อ “พรุ่งนี้เจอกัน”

ผมพยักหน้า และลงจากรถ ยืนรอจนรถของเพลิงขับห่างออกไปจนลับสายตา จึงกลับมามองถุงอุปกรณ์ทำครัวในมือทีถืออยู่่ด้วยความรู้สึกประหลาด

หากไม่ได้คิดไปเอง กำแพงที่กั้นระหว่างผมกับเพลิงราวกับกำลังเบาบางลงทีละนิด ถึงอย่างนั้นก็จินตนาการไม่ออกเลยว่าหากกำแพงนั้นทลายลงทั้งหมดแล้วจะเป็นเช่นไร

.
.

หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 11-06-2016 17:20:16

ทำไมสั้น...? หรือว่ามีต่อ เอ๊ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 11-06-2016 20:31:25
มีจุดเหมือนจะมีต่อ? :hao4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: taltal020441 ที่ 11-06-2016 21:01:18
โหยย ชอบอ่ะ  เรื่องนี้
สองคนนี้เริ่มคลายกันแล้วววว
รอมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 11-06-2016 22:39:01
กำแพงน้ำแข็งเริ่มละลายแล้ว
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 12-06-2016 14:43:25
กริส ค้าง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 12-06-2016 15:50:46
มาแบบสั้นๆ ฮือออออออออ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 13-06-2016 07:06:49
รอต่อออ อึมครึม คลุมเคลือ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 13-06-2016 21:47:30
อยากให้เปิดใจกันเร็วๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 17-06-2016 21:34:31
มันสั้นไปปปในความรู้สึก งื้ออออ อ่านเพลินนนนน และ ค้างแรงมากกกกก คนเขียนรีบมาต่อน้าาาา เพลิงวา น่าร้ากกกเรื่อยๆ รู้สึกได้ว่าเพลิงขี้แกล้ง :impress2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-06-2016 19:23:15
รอวันที่เปิดใจให้กันนะคับ

หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 18-06-2016 23:00:26
สู้ๆ คะ :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-06-2016 00:55:33
วาเป็นตัวละครที่น่าสนใจมาก มาต่ออีกน๊าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 19-06-2016 17:26:57
ชอบจัง  :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11 [p10 up 11.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 20-06-2016 16:58:06
ตอนที่ 11.2







หลังจากเสร็จจากงานสอนเปียโน ผมก็กลับมาที่ห้องในช่วงบ่าย เพลิงส่งข้อความบอกผมว่าจะมาถึงในอีกไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ผมจึงเริ่มเอาของที่ได้มาจากเพลิงเมื่อวานออกมาจากห่อและอ่านคู่มือไปพลางๆ

ก่อนที่จะกลับจากการสอน ผมแวะเข้าซุปเปอร์ของห้างและซื้อของสดกลับมาด้วย รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยเพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะเข้าคลาสทำอาหารได้ในวันหนึ่ง และครูสอนก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นเพลิง ที่หากเป็นเมื่อหนึ่งปีก่อน ย่อมจินตนาการไม่ออกแน่ว่าเขาจะเป็นฝ่ายมาหาผมที่ห้องนี้เอง

ขณะที่ผมนำเอาของสดเข้าตู้เย็น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ดูเหมือนว่าเพลิงจะมาถึงก่อนเวลา ผมจึงละจากงานตรงหน้าลงไปรับเขาที่ชั้นล่าง

วันนี้เพลิงมาในเสื้อโปโลแขนสั้นสีเข้มและกางเกงยีน แม้เขาจะแต่งตัวเรียบง่าย แต่ด้วยท่าทางการเดินที่หลังตรง รูปร่างที่สูงสมส่วน และใบหน้าที่คมเข้ม ก็ส่งให้เขาดูโดดเด่นจนมักได้รับความสนใจจากคนอื่นเสมอ

นักศึกษาสาวที่มหาวิทยาลัย ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องเข้าหาเพลิงก็ไม่น้อย แต่คนที่มักจะอยู่กับเพลิงให้เห็น คือน้ำหวานคนนั้น
น้องชายของเพลิงก็เคยพูดถึงหวาน คงจะเคยเจอสองคนนั้นอยู่ด้วยกันมาก่อน และบางทีสองคนนั้นอาจจะมีสัมพันธ์อะไรกันมากกว่าที่คิด

ผมยิ้มให้เขาเล็กน้อย แล้วเดินนำเพลิงไปที่ลิฟท์ ขณะที่ยืนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยระหว่างรอ เพลิงก็เอ่ยขึ้น

“เหม่ออะไรอยู่”

ผมรีบส่ายหน้า โชคดีที่ลิฟท์มาถึงพอดี อีกฝ่ายจึงไม่เซ้าซี้ถาม

หลังจากมาถึงชั้นที่อาศัย ผมก็พาคุณครูจำเป็นเข้ามาในห้อง เนื่องจากผมยังเก็บของที่ซื้อมาเข้าที่ไม่ดี ตอนถึงห้อง ของสดหลายอย่างจึงยังวางอยู่บนเคาน์เตอร์ครัว และเมื่อคนร่างสูงกว่าเห็น ก็เดินเข้าไปหยิบจับของขึ้นมาดู

“ซื้ออะไรมาบ้างล่ะ” เพลิงเอ่ยถาม

“ก็เท่าที่เห็น แล้วก็มีอยู่ในตู้เย็นนิดหน่อย”

“ข้าวสำเร็จรูป ไข่หนึ่งแพ็ค เนื้อหมู 500 กรัม นมจืด ซอสปรุงรส น้ำมัน...พริกสามแพ็ค”

“......”

“ไม่มีผักเลย”

“......”

แล้วเพลิงก็ยกยิ้มมุมปาก ศีรษะส่ายน้อยๆ พลางเอาของออกมาวางเรียง

“ถ้างั้นวันนี้ทำอะไรง่ายๆ อย่างเจียวไข่ หมูทอดแล้วกัน ดีไหม?”

ผมพยักหน้าหงึกหงัก เพราะต่อให้ทำอะไรอย่างอื่นที่ยากกว่านี้ ผมก็คิดว่าตัวเองคงไม่รอดอยู่ดี และถึงเป็นเมนูง่ายๆ อย่างที่เพลิงว่า ผมก็ไม่มีความมั่นใจเอาเสียเลย

แค่เพลิงให้ผมลองตอกไข่ใส่ชาม ผมก็ทำได้อย่างเก้ๆ กังๆ เปลือกไข่ลงไปผสมกับเนื้อไข่จนเพลิงต้องเป็นคนหยิบเศษออกมาให้ ตอนทอดก็ทำไข่ไหม้ไปหนึ่งด้าน เวลากลับข้างก็ทำไข่เละ หมูทอดยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขนาดเพลิงคอยช่วยอยู่ข้างๆ ยังออกมากระดำกระด่าง น่าเห็นใจครูสอนที่มีนักเรียนไร้ฝีมือทางด้านนี้เสียจริง

เวลาที่เพลิงสอน เขาไม่ได้โมโหที่ผมราวกับจะทำทุกอย่างพัง กลับยิ้มขำและสอนอย่างใจเย็น ทว่าหลังจากทำอาหารเสร็จ ความมั่นใจของผมหายไปหมด เพราะอาหารที่ออกมาดูไม่ดีเอาเสียเลย

“ครั้งแรกได้ขนาดนี้ก็ดีแล้วเนอะ มาๆ มากินกันเถอะ”
   
เพลิงเอ่ยขณะจัดวางอาหารบนโต๊ะ เขาดูอารมณ์ดีผิดปกติจนน่าแปลกใจ บางทีฝีมือของผมมันน่าขำมากขนาดที่ทำให้เพลิงที่หน้าบึ้งตลอดเวลาอารมณ์ดีก็เป็นได้
   
อาหารบนโต๊ะ ที่อร่อยที่สุดคงเป็นข้าวสำเร็จรูป เพราะไข่เจียวค่อนข้างไร้รสชาติและออกจะติดขม ส่วนหมูทอดก็ทอดออกมาได้แข็ง และออกจะเค็มไปหน่อย แต่กับข้าวที่ไม่น่าจะหมดสุดท้ายก็ไม่มีเหลือสักอย่าง ผมรู้ว่าตัวเองทานไปนิดเดียว คนที่กินไปเยอะก็คือเพลิง ผมเชื่อว่าเขาคงหิวจนไม่รู้รสอะไร เพราะเห็นบอกว่ายังไม่ได้ทานอาหารกลางวันมาด้วย
   
คลาสเรียนทำอาหารจบลงอย่างไม่สวยงามนัก ผมหดหู่นิดหน่อย แต่ครูสอนก็เอ่ยอย่างให้กำลังใจ และคิดเมนูครั้งหน้าให้เสร็จสรรพ พร้อมจดลิสต์อาหารสดให้ผมซื้อเตรียมไว้ด้วย

“ไว้ครั้งหน้าลองเมนูใหม่ๆ วันนี้นายก็ทำได้ดีเหมือนกันนะ”
   
ผมไม่ค่อยเชื่อนัก จึงไม่ตอบอะไร เก็บจานชามไปล้างอย่างเงียบๆ เพลิงที่เห็นผมเงียบไปก็เดินเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยต่อ
   
“แต่ละคนก็มีสิ่งที่ถนัดมากถนัดน้อย ถ้าให้ฉันเล่นเปียโนครั้งแรกก็คงเล่นไม่เป็นเพลงเหมือนนาย”
   
ผมเหลือบมองคนร่างสูงไปหน่อย แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพลิงเองก็เงียบไปครู่ ก่อนจะเอ่ย
   
“สอนหน่อยได้ไหม” เขาชี้นิ้วไปทางเปียโนอัพไรท์สีขาว ผมลังเลเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าให้ เมื่อเก็บล้างของเรียบร้อย ผมก็กลายเป็นครูสอนเพลิงแทน
   



   
ผมกับเพลิงย้ายจากครัวมานั่งกันที่เก้าอี้เปียโนริมหน้าต่างห้อง พอผู้ชายสองคนมานั่งเก้าอี้ตัวเดียวกันแล้ว ทำให้รู้สึกร้อนและเกร็งแปลกๆ แต่พอผมได้ลองกดไล่โน้ตไปบนคีย์ ความรู้สึกผ่อนคลายก็ค่อยเกิดขึ้น

นิ้วมือพลิ้วพรมไปตามแป้น และเอ่ยบอกตัวโน้ตให้อีกฝ่ายฟัง หลังจากนั้นก็ให้เพลิงทำตาม ผมลองหยิบโน้ตเพลงที่ใช้สอนเด็กหัดเล่นมาให้ลองอ่านด้วย เขาเรียนรู้ได้เร็วทีเดียว ออกจะดีกว่าผมเรียนทำอาหารเสียด้วยซ้ำ และผมก็บอกเขาไปตามตรง
   
“แบบนี้ดีหรือ? กว่าจะเล่นเป็นเพลงเพราะๆ แบบนายคงอีกหลายปี”
   
สะดุดใจนิดหน่อยตรงที่เพลิงเอ่ยเหมือนได้ยินผมเล่นเปียโนมาก่อน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ถามออกไป
   
“นายชอบเพลงอะไรหรือ เล่นให้ฟังหน่อยได้ไหม”
   
เพลงที่ชอบมีหลายเพลง จึงเลือกไม่ได้ในทันที ผมถามเพลิงออกไปแทน “แล้วนายชอบเพลงอะไร ปกติคนอื่นขอให้เล่นเพลงที่ชอบมากกว่า”
   
ใบหน้าคมขมวดคิ้วน้อยๆ ดวงตาจ้องผมราวกับกำลังเฟ้นหาบางอย่าง
   
“คนอื่นนี่ใคร” น้ำเสียงที่เปล่งออกมเรียบเสียจนไม่คิดว่าเป็นคำถาม
   
สายตามองไปที่แป้นเปียโนสีขาวตัดดำขณะที่เอ่ยตอบ “แขกที่โรงแรมที่ทำงานอยู่”
   
เพลิงนิ่งไปครู่ ราวกับกำลังครุ่นคิด “ไปเล่นเปียโนที่โรงแรมบ่อยไหม” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียบนิ่ง
   
“อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง”
   
“คราวหน้า ฉันไปดูที่นายเล่นที่โรงแรมได้ไหม”
   
“......”
   
ผมไม่รู้ว่าทำไมเพลิงถึงคิดจะไปดูที่โรงแรม จึงมองเขาอย่างสงสัยหน่อยๆ
   
“ถ้าลำบากใจ จะปฏิเสธก็ได้ นายน่ะ...ไม่ค่อยปฏิเสธคนอื่นเท่าไหร่”
   
“......”
   
“คราวก่อนที่เจ้าณพมาลากนายขึ้นไป หรือตอนที่หมอนั่นลงมาที่นี่ นายคงไม่ได้รู้สึกดีนัก” เพลิงหยุดเว้นช่วง แล้วถอนหายใจ

“หรือตอนที่ฉันให้นายไปที่บ้านด้วยกัน ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืนใจ”
   
จริงอยู่ที่ผมลำบากใจ แต่ไม่ได้ฝืนใจขนาดนั้น ผมรู้ว่าตอนนี้เพลิงกำลังคิดว่าผมปฏิเสธคนไม่เป็น แน่นอนว่าผมไม่ใช่คนประเภททำตามใจคนอื่น
   
เหตุผลเรื่องณพ หรือเรื่องที่ผมไปบ้านเพลิง ไม่ใช่เพราะไม่กล้าปฏิเสธ แต่เพราะผมอยากเข้าใกล้เขาให้มากกว่านี้ มากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต ถึงจะรู้ว่าขอบเขตนั้นมีจำกัดแค่ไหน
   
ต่อให้เพลิงเปิดใจให้ผมมากกว่าเก่า แต่ผมรู้ว่าไม่มีวันมากอย่างที่ผมต้องการ ดังนั้นขอแค่ได้เก็บเกี่ยวความรู้สึกตรงนี้ แค่มีโอกาสได้อยู่ใกล้เขามากขึ้นกว่าที่ผ่านมาก็พอ

“ฉันไม่ได้ฝืนใจหรอก แค่ไม่ชินนิดหน่อย”

ผมตอบออกไป สายตายังคงมองไปที่เปียโนสีขาวตรงหน้า

“แล้วถ้าฉันไปเฝ้านายที่โรงแรมล่ะ จะฝืนใจไหม”

หมายถึงไปดูผมเล่นเปียโนน่ะหรือ?

ผมเหลือบมองเพลิงเล็กน้อย แล้วส่ายศีรษะ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ที่เห็นรอยยิ้มจุดขึ้นที่มุมปากของเพลิง ก่อนที่เขาจะทำหน้านิ่งเฉยตามเดิม

“ชอบกินของหวานหรือเปล่า” เพลิงเปลี่ยนเรื่องเอ่ย

“ชอบ”

“ชอบอะไร”

“อืม...ดาร์คช็อกโกแล็ต”

“งั้นคราวหน้าทำขนมกันไหม อย่างเช่น...บราวน์นี่”

พอพูดถึงขนม ผมก็รู้สึกลิงโลดขึ้น ถ้าถามว่าชอบกินข้าวหรือขนมมากกว่ากัน คำตอบคงเป็นขนม

“แต่คงต้องไปใช้เตาอบที่ห้องฉัน นายจะแปลกที่หรือเปล่าล่ะ”

คราวนี้เพลิงยิ้มอย่างคอนข้างจะเจ้าเล่ห์ จนผมขมวดคิ้วมองเขา

“ไม่ใช่เด็กสักหน่อย”

เพลิงไม่ตอบ แต่ยังคงยิ้มอย่างไม่ปิดบัง

“ตกลงจะให้เล่นเพลงอะไรล่ะ เพลงที่นายชอบน่ะ” ผมย้อนกลับไปคุยเรื่องเดิมที่ยังค้างคา

“ใจรัก...รู้จักหรือเปล่าเพลงนี้น่ะ”

“รู้สิ แขกที่ค่อนข้างมีอายุหน่อยที่โรงแรม ขอเพลงนี้อยู่บ่อยๆ” ซึ่งก็น่าแปลกใจที่คนรุ่นเพลิงจะชอบเพลงนี้

ผมเริ่มบรรเลงเพลงที่ไม่จำเป็นต้องดูโน้ตก็สามารถเล่นได้ จังหวะเพลงเนิบช้า ทำนองชวนให้ล่องลอยไปในความฝัน ยิ่งได้ยินเสียงทุ้มต่ำร้องเพลงคลออยู่ข้างๆ ก็ยิ่งชวนให้ไม่อยากตื่นจากฝันนี้เลย



ฟังเพลงใจรัก https://www.youtube.com/watch?v=vN0KJvQJXL0  (https://www.youtube.com/watch?v=vN0KJvQJXL0)

แบบเปียโนบรรเลง https://www.youtube.com/watch?v=xwZPyfQEXYo  (https://www.youtube.com/watch?v=xwZPyfQEXYo)



TBC
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Destiny ที่ 20-06-2016 20:34:11
มาแล้ววว โอยยย รออ่านทุกวันเลยค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 20-06-2016 20:45:13
555เหมือนวาแอบด่าเลย เพลงคนมีอายุชอบขอ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 20-06-2016 21:12:39
เพลิงชอบเขาแล้วสิ หึหึหึ  :hao3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-06-2016 21:50:33
แหนะๆๆ. มีแอบหวงๆ เอ๊ะ หรือหึง หึๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 20-06-2016 21:54:34

โอ้โหสั๊นสั้น!555
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 20-06-2016 22:28:19
รอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 20-06-2016 23:47:27
น่ารักจังงง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-06-2016 23:49:28
เพลิงนี่ถึงขั้นจะไปเฝ้าที่โรงแรมเลยนะ
แหมๆๆๆๆ ไม่ค่อยเลยเพลิงเอ้ยย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 21-06-2016 00:16:42
รู้สึกบรรยากาศวิ๊งๆ   :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 21-06-2016 01:36:24
เขาบอกว่าไปฟัง และไปเฝ้า  :m1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 21-06-2016 01:42:19
ขอกรีดร้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ไม่ได้เข้ามาอ่านนาน้ลย เห็นเครื่องหมายว่าตัวเองเคยตอบเรื่องนี้เลยเข้ามาอ่านอีกครั้งตั้งแต่เริ่ม สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกก อย่าหายไแนานอีกเลยนะคะ ใจจิขาดรอนๆๆๆๆ :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 21-06-2016 09:00:57
น่ารักที่สุด เรื่องนี ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 21-06-2016 09:32:10
สนุกแบบต่อเนื่อง มาต่อไวๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nunng ที่ 21-06-2016 15:30:49
ติดตามคร้าาาาาาาา :katai5:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 21-06-2016 23:02:39
เพลิงน่ารักขึ้นนะ
รอติดตามจร้า
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 22-06-2016 19:32:50
แอร้ยยยย คืบหน้าไปอีกกกก เพลิงนี่ไปเฝ้าเพราะหวงชิม่าาาา 5555 :z1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 22-06-2016 22:53:13
อ่านแล้วชอบมากกกกก อึมครึมมากกกกด้วย :laugh:
ตอนนี้เหมือนกำลังจะดีขึ้น
เป็นกำลังใจให้วานะ. สู้ๆๆๆ :mew1:

คนเขียนอย่าหายนะ :impress2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Rebtur ที่ 25-06-2016 07:51:57
โอ้ยตายๆๆ พี่เพลิงตกหลุมของวาแล้วใช่ไหมคะะะ
คนอ่านก็ตกหลุมนิยายเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน ฮืออออออ
หน่วงมากๆ ถึงตอนหลังจะดีขึ้นมาบ้างแล้ว รู้สึกอบอุ่นนิดๆ แต่ก็ยังไม่สุด
กะว่าแค่จะมาลองอ่านเพื่อตัดสินใจซื้อหนังสือ ปรากฏว่าติดซะงั้น
เพราะฉะนั้นอุดหนุนแน่นอนค่ะไม่ต้องห่วง เย้! :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 25-06-2016 12:05:13
ขอบคุณค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 25-06-2016 16:24:51
หวานกันนานๆนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 11.2 [p11 up 20.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 26-06-2016 13:06:33
ตอนที่ 12





   ตั้งแต่วันที่ผมเดินออกมาจากห้องนั้นและไม่หวนกลับไปอีก ผมเคยคิดว่าต่อให้แท้จริงวายุจะเป็นคนอย่างไร ผมก็จะไม่สนใจ ทว่าวันที่กลับมาเผชิญหน้ากันตรงๆ อีกครั้ง ความตั้งใจของผมก็พังทลายไม่มีชิ้นดี

   แม้ว่ายังมีความสงสัยในตัววายุ แต่ตัวผมในตอนนี้แทบไม่สนความสงสัยนั้นอีกต่อไปแล้ว

   ที่เคยตีตัวออกห่างไม่อยากเข้าใกล้ ที่เคยเชื่อว่าเกลียด ท้ายที่สุดมันก็เป็นแค่กลไกป้องกันตนเองของผมเท่านั้น และกลไกนั้น เวลานี้ก็ไร้ประโยชน์เสียเหลือเกิน

   เมื่อก่อน เวลาที่ผมต่อต้าน วาจะดึงดันเข้าหา พอตอนนี้ผมเข้าหาเขา เขากลับทำตัวไม่ถูก ผมจึงคิดว่าวาเป็นคนประเภทที่แสดงออกไม่เก่ง และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจที่ตัวเองเคยด่วนตัดสินใจเกี่ยวกับเขามากเกินไป

   ภาพในอดีตย้อนกลับมาเป็นฉากๆ ทั้งตอนที่เจอกันครั้งแรก ตอนที่อยู่ในห้อง ตอนที่จูบ หรือแม้กระทั่งวันที่ความสัมพันธ์ของเราถอยกลับไม่ได้อีก ถ้าหากแท้จริงวายุแค่อยากเข้าหาผม แต่ผมกลับผลักไสเขาไปทุกครั้งล่ะ?

   ทางออกของคนที่ถูกผลักไส ก็มีแค่ยอมออกห่างไป หรือไม่ก็ดึงดันอีกนิดไม่ใช่หรือ

   และท่าทีของวา แม้ภายนอกจะดูไร้ความรู้สึกเพียงไร ถ้าหากภายในไม่ได้ไม่ยี่หระอย่างที่แสดงออกล่ะ?

   ความมั่นใจที่เคยมีอยู่มากมายของผมเริ่มสั่นคลอน ถึงอย่างนัั้นผมก็ยังไม่อาจแน่ใจว่าสิ่งที่เคยยึดมั่น จะผิดไปทั้งหมดอยู่ดี เพราะวายุเองก็เก็บความรู้สึกได้ดีมากเกินไป

   ผมไม่อยากเข้าข้างตัวเองว่าบางครั้งสายตาที่อีกฝ่ายมองมานั่นสั่นไหวด้วยความรู้สึกบางอย่าง ไม่อยากยัดเยียดความคิดตัวเองให้เขาเหมือนที่เคยทำ ผมจึงค่อยๆ เรียนรู้เขาทีละนิด แต่การเรียนรู้ในตัววาก็ไม่ง่ายนัก เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกันมากกว่าแต่ก่อน เปิดใจให้กัน ทำอะไรด้วยกันมากขึ้นโดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทว่าพอมาอยู่ที่มหาวิทยาลัย วาก็มักทำตัวเหมือนคนไม่รู้จักกับผมเหมือนเดิม

   บางทีอาจเป็นเพราะหนึ่งปีที่ผ่านมา เราเมินเฉยต่อกันมากเกินไป ตอนที่เราเป็นรูมเมทกันก็ไม่เคยข้องเกี่ยวกันอย่างที่ควรจะเป็น กว่าจะรู้ว่ามันผิดปกติ ก็แทบจะยากี่จะกู้ความรู้สึกและความสัมพันธ์ให้เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว ผมเคยชวนวาไปทานอาหารกลางวันด้วยกันที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย แม้เขาจะยอมไปด้วย ทว่าพอเพื่อนในคณะเข้ามาร่วมกลุ่ม เขาก็ลุกหนีไปเสียดื้อๆ

   แล้วก่อนที่จะจะลุกไป พอมีคนถามว่า เรา สนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ วาก็เอ่ยตัดว่า “ไม่ได้สนิทกัน” จนคนที่นั่งตรงนั้นต่างหน้าเจื่อนกันไป

   ผมไม่ได้โกรธเขา เพราะมันก็คงจริงที่เราไม่ได้สนิทกัน ยิ่งนึกถึงเวลาที่ผ่านมา ยิ่งเรียกได้ว่าเราห่างไกลจากคำว่าสนิท แต่อย่างน้อยตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราก็น่าจะก้าวหน้าขึ้นสักนิดไม่ใช่หรือ หรือว่าผมคิดไปเองฝ่ายเดียว ส่วนวาก็แค่ปฏิเสธผมไม่ได้?

   ตอนนี้ผมจึงไม่มั่นใจในความรู้สึกของเขานัก แต่ถ้าหากผมมั่นใจเมื่อไหร่...







   ช่วงใกล้สอบ ผมกับวาไม่ได้นัดเจอกันนัก ทว่าจะเจอกันในงานประชุมกลุ่ม แน่นอนว่าระหว่างที่อยู่ที่มหาวิทยาลัย วาจะพูดน้อยคำได้ ผมคิดว่าเขาอาจกำลังทุ่มเทให้กับการเรียน จึงยังไม่คาดคั้นถามอะไร

   ผมได้เรียนรู้ว่าวาเป็นคนมีความรับผิดชอบ ยิ่งได้ทำงานกลุ่มร่วมกัน ก็ยิ่งเห็นว่าเขาทำงานดีมาก ทุกอย่างมีการหาข้อมูลอ้างอิง และไม่ได้ทำส่งๆ เหมือนคนอื่น แฃะถึงแม้ช่วงใกล้สอบเขาจะไม่จับกลุ่มติวกับเพื่อนๆ ในคณะ แต่เขาก็มักจะอ่านหนังสือเองที่ร้านกาแฟหรือที่ห้อง ผมกำลังชั่งใจว่าจะไปอ่านหนังสือกับเขาดีหรือไม่ เพราะผมไม่อยากฝืนใจวาถ้าหากช่วงนี้เขาต้องการอยู่คนเดียว แต่ลองถามเขาหลังจากประชุมกลุ่มเสร็จก็ดีกว่าไม่ลงมือทำอะไรเลย

   ถึงอย่างนั้นบางทีผมอาจคิดผิด เมื่อเห็นเขากับใครบางคนที่ลานจอดรถของคณะ

   ผมเพิ่งติดรถของณพมายังมหาวิทยาลัย เดินลงเหยียบพื้นได้ไม่เท่าไหร่ ณพก็สะกิดผมให้หันไปมองคนสองคนที่กำลังเดินมา ทีแรกผมทำเมิน แต่ณพยังสะกิดผมไม่หยุดจนต้องเอ่ยอย่างควบคุมน้ำเสียงไม่ได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

   “หยุดได้แล้ว!”

   ณพฉีกยิ้มแหย และทำให้คนสองคนที่กำลังเดินมาทางนี้หันมองมาทางผม ผมส่งสายตาไปเผชิญหน้าตรงๆ กับ วา และไฮโซคนนั้น น่าแปลกที่เวลาอยู่กับเพื่อนในคณะ วายุจะทำตัวเมินเฉยเหมือนคนไม่รู้จักกัน แต่กับหมอนั่นที่ไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยนี้ด้วยซ้ำ เห็นอยู่ด้วยกันบ่อยเสียเหลือเกิน

   วายุก้มหน้า และหลบสายตาไปทางอื่น

   ผมมองจ้องวายุเขม็งโดยไม่สนใจว่าคนรอบข้างจะคิดยังไง ทำให้บรรยากาศรอบข้างหมองหม่นกดดันทันตา ขนาดที่ณพต้องเดินเข้ามาดึงแขนผมให้เดินหลบไปอีกทาง ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงฝืนแรงไว้และยืนประจันหน้าอยู่ตรงนั้น ซ้ำยังเอ่ยทักไปอีกด้วย

   “ไง”

   เจ้าของใบหน้าขาวซีดเม้มริมฝีปาก ท่าทีลำบากใจนั่นคืออะไร ไม่อยากให้หมอนั่นเห็นว่ารู้จักกับคนอื่นหรือ?

   จู่ๆ ความหงุดหงิดก็คืบคลานเข้ามากัดกินหัวใจผม ทำไมผมต้องรู้สึกราวกับไม่ใช่ตัวของตัวเองแบบนี้ด้วย

   ขณะที่วายุยังไม่คิดจะกล้าเผชิญสายตา ชายหนุ่มที่เดินมากับเขาก็ดึงร่างนั้นเข้าไปใกล้เพื่อ

   ‘จูบ’

   ต่อหน้าต่อตาผมและณพที่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่คิดจะแคร์สายตาใคร ริมฝีปากประทับริมฝีปาก ดูดดื่มขึ้นเมื่อวายุไม่ได้ฝืนออกแรงผลักอีกฝ่ายมากพอ

   ชั่วขณะที่เห็นภาพนั้น รู้สึกราวกับถูกหินก้อนใหญ่กระแทกเข้ากับอก จนความชาแผ่ไปทั่วร่าง

   “งั้นไว้เจอกันนะวา ทำงานกลุ่มเสร็จอย่าลืมโทรบอกผมล่ะ”

   ร่างสูงที่โอบร่างวายุเอ่ยก่อนจะผละร่างกายออก เขาหันเหลือบมองมาทางผมชั่วครู่

   ทันทีที่สายตาปะทะกัน ความรู้สึกไม่ชอบหน้าก็เกิดขึ้นอย่างหยุดยั้งไม่ได้ ผมรู้ว่าเจ้าของสายตาไม่เป็นมิตรก็รู้สึกไม่ต่างกันนัก เพราะเขาเดินกระแทกไหล่ผมไปอย่างจงใจ

   “โทษที”

   อีกฝ่ายหันมาเอ่ยทั้งที่ฉีกยิ้มเสแสร้ง ผมกำหมัดแน่น หากแต่ก็ใจเย็นมากพอที่จะไม่สนใจเล่นไปตามเกมอีกฝ่าย

   ณพตบแผ่นหลังผมเบาๆ เพื่อให้เลิกสนใจเรื่องหยุมหยิม

   “งั้น...ฉันไปเรียนก่อนนะเพลิง ไว้เจอกันหลังเลิกชั้น”

   เพื่อนร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อชายหนุ่มแปลกหน้าเริ่มเดินห่างออกไป เขาตบบ่าผมเบาๆ อีกครั้งก่อนจะทิ้งให้ผมและวายุยืนอยู่ตรงนั้นท่ามกลางความเงียบที่ครอบคลุม

   สายตาจับจ้องไปยังร่างที่เอาแต่ยืนก้มหน้าหลบสายตา ใบหน้าสวยนิ่งเงียบไม่ปริปากเอ่ยอะไรออกมา นี่ผมเข้าใจผิดไปเองสินะ ที่ผ่านมาก็แค่เข้าข้างตัวเองเท่านั้น

   ผมไม่ได้พูดอะไรกับวาอีก หลังจากนี้เราต้องประชุมงานกลุ่มร่วมกัน จึงเดินไปยังสถานที่นัดหมายทั้งที่อารมณ์ยังไม่เย็นลง แน่นอนว่าวายุเองก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมเช่นกัน







   “ทำหน้าเหี้ยมเชียวนะนาย”

   น้ำเสียงกวนประสาทของเพื่อนสนิทที่นั่งฝั่งตรงข้าม ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นจากหนังสือเล่มหนาเพื่อปรายสายตาขึ้นมอง ณพ ที่กำลังเอนหลังกอดอกยกยิ้ม ส่งสายตาเป็นประกายประหลาดมาให้อย่างทะเล้น

   หลังจากที่จัดการงานกลุ่มเสร็จสิ้นและณพเลิกชั้นเรียน เราก็มานั่งกันอยู่ที่ร้านกาแฟใกล้มหาวิทยาลัย ทั้งๆ ที่ตั้งใจจะมาคนเดียวในทีแรก หากแต่หมอนี่ก็ดึงดันจะตามติดมาด้วยให้ได้ แม้ปากบอกว่าอยากจะอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ แท้จริงก็แค่อยากกวนอารมณ์ผมมากกว่า

   “หน้าเหี้ยม? ฉันอ่านหนังสือเรียนอยู่จะให้ยิ้มไปด้วยอ่านไปด้วยรึไง?” ผมตอบกลับพลางถอนหายใจแรง

   “เหรอ? แต่ผ่านมาจะชั่วโมงแล้วฉันไม่เห็นนายจะพลิกเปลี่ยนหน้าสักที”

   อีกฝ่ายพ่นลมออกทางจมูกอย่างพยายามกลั้นหัวเราะ ทว่าพอเห็นสีหน้าไม่ขำของผม เขาก็ยกสองมือขึ้นทำท่ายอมแพ้ทั้งที่ยังยิ้มยียวนไม่หยุด

   “นายก็เลิกกวนใจสักที”

   ให้พูดตรงๆ ก็คือผมไม่มีสมาธิ เลยยังอ่านไม่จบสักหน้า

   ยิ่งเห็นท่าทีของเพื่อนตัวเอง สมาธิก็ยิ่งกระเจิดกระเจิงไปไกล ตัวหนังสือที่พยายามอ่านซ้ำไปซ้ำมายังไงก็ไม่ซึมซับเข้าสมองแม้แต่ตัวเดียว

   “ฉันเนี่ยนะกวนใจนาย? นี่ฉันนั่งเฉยๆ เป็นชั่วโมงไม่ได้พูดกับนายสักคำเลยนะเว้ย”

   “แค่นายนั่งเฉย ๆ ก็เรียนว่ากวนแล้ว!”

   ตอบกลับเสียงดังจนแขกรอบข้างหันมามองทางเราทั้งคู่

   ณพหรี่สายตาพลางเลิกคิ้วขึ้น เดาะลิ้นดุนกับกระพุ้งแก้ม ก่อนจะพึมพำออกมา

   “...แล้วพาลนี่หว่า”

   “อะไรแล้วพาลนะ?” ผมทวนถามคำที่ได้ยินไม่ถนัดนัก

   เพื่อนฝั่งตรงข้ามส่งเสียงหัวเราะดังแทนการตอบตรง ๆ ยิ่งทำให้ความหงุดหงิดผมเพิ่มขึ้นจนแสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจน ว่ากำลังไม่พอใจ

   “เป็นไรเนี่ย อารมณ์เสียบ่อยเหลือเกิ๊น เพื่อนผม! ดูดิ ทำตาขวางเลย ฮ่า ๆๆๆ”

   ผมส่ายหน้า ปิดหนังสือเล่มหนาลง แล้วเลื่อนมันออกไปวางไว้ข้างโต๊ะ มืออีกข้างหยิบแก้วกาแฟดำขึ้นมาดื่มไปหลายอึกใหญ่ๆ รสชาติฝาดขมแผ่กระจายทั่วลิ้น กลิ่นกาแฟสีเข้มลอยฉุนจมูก หากแต่เพียงไม่นานนัก ประสาทรับรู้กลิ่นและรสก็ด้านชา เมื่อความทรงจำเกี่ยวกับบางเรื่องแวบเข้ามาย้ำเตือน

   “ฉันว่าคนที่กำลังกวนใจนาย ไม่ใช่ฉันหรอกมั้ง”

   “......”

   “เห้อ... หึง เค้าจนไม่เป็นอันทำการทำงานยังไม่รู้ตัว”

   “ว่าไงนะ?”

   แก้วกาแฟหยุดกึกอยู่ที่ริมฝีปาก สายตาจ้องเขม็งไปยังเพื่อนที่กำลังเป่าลมหายใจยาวออกทางปาก สองมือรวบกอดอกเลิกคิ้วมองผมตอบ

   “นายไง หึงน่ะ หึง เข้าใจยากตรงไหน”

   ก่อนที่จะได้ตอกกลับออกไปว่าไม่เข้าใจสิ่งที่หมอนี่พูด ณพก็เอ่ยต่อไม่หยุด

   “รู้ไหมหน้านายตอนนั้นน่ะ ฆ่าคนได้เลยนะ”

   “......”

   มือวางแก้วกาแฟลงกับโต๊ะพลางส่ายศีรษะไปมา หมอนี่ชักจะไร้สาระไปกันใหญ่

   “นี่นายพูดบ้าอะไร?”

   “ไม่รู้ตัวจริงๆ เรอะ? วาเค้ากลัวนายหัวหดแล้ว นี่ขนาดไม่ได้เป็นแฟนกันนะ ยังหึงขนาดนี้”

   “อย่าคิดเองเออเอง”

   “เหรอ...” ณพเบ้ปาก แสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจนว่า ไม่เชื่อ

   จะบอกว่าผม หึงวายุ งั้นเหรอ?

   ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ยังบอกได้ไม่เต็มปากเต็มคำว่าผมมีสิทธิ์รู้สึกอย่างนั้น ความรู้สึกอยากครอบครองทั้งที่ไม่ได้ครอบครอง แม้เคยได้จับต้อง ทว่าก็เหมือนแค่เคยได้ไขว่คว้าเพียงอากาศเท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้ว เขาเองก็ไม่ได้เห็นว่าผมแตกต่างจากคนอื่นๆ ในคณะ

   ความรู้สึกแบบนั้นน่ะ จะพูดได้รึเปล่าว่าหึงหวง ในเมื่อวายุกับผมไม่ได้อยู่ในฐานะคนรัก ที่จะมีสิทธิ์ดึงร่างนั้นกลับมาไม่ให้ใครคนอื่นได้แตะต้อง

   ที่สำคัญ ผมเป็นแค่คนที่มีสัมพันธ์กันชั่วค่ำคืนเดียวสำหรับเขา อาจเป็นแค่คนคนหนึ่งในหลายๆ คนที่เป็นแค่ของเล่น ที่คิดจะทิ้งขว้างเมื่อไหร่ยังไงก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจริงจังด้วย แบบนั้นน่ะ หึงหวงไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา


   “ฉันจะกลับแล้ว นายจะแวะไปกินข้าวด้วยกัน หรือจะแยกกันกลับเลย?” เอ่ยไปด้วยขณะที่ยัดหนังสือเล่มหนาลงสู่กระเป๋าอย่างลวก ๆ

   “ไอ้หมอนี่... รีบเปลี่ยนเรื่องเชียวนะ เออ ไปก็ได้ แต่ต้องเป็นร้านที่ฉันแนะนำนะเว้ย!” ณพเลิกคิ้วอย่างต่อรอง

   ลมหายใจยาวพรูออกจากริมฝีปาก ผมยกมือมองที่นาฬิกาข้อมือ ก่อนจะผันดวงตามองออกไปนอกร้านกาแฟ

   เวลานี้แผ่นฟ้ายามพลบค่ำค่อ ๆ โอบผืนโลกไว้ด้วยความมืดที่เคลื่อนกายแทนแสงแดดจ้า ถึงอย่างนั้นที่ปลายขอบฟ้าทางทิศตะวันตกก็ยังพอมีริ้วสีแสดรำไรให้เห็นอยู่บ้าง

   มืดค่ำแล้ว หากณพจะเลือกไปสถานที่ไกลๆ ก็น่าหนักใจอยู่ในเวลาใกล้สอบเช่นนี้ แต่การหมกมุ่นจมปลักอยู่กับตัวเองและความคิดไร้ประโยชน์ต่อที่บ้านก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น สู้ไปผ่อนคลายอารมณ์กับเพื่อนยังดีเสียกว่า

   “ก็ได้”

   ตัดสินใจตอบตกลง ก่อนจะส่ายหน้าให้เพื่อนที่กำลังนั่งเท้าคางมองผมด้วยสายตากวนประสาทอีกครั้ง







   ณพขับรถพาผมมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่เขาแนะนำว่ามีชื่อเสียง แม้ว่าร้านที่ว่าจะไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนัก หากการจราจรอันแสนคับคั่งทำให้รถแต่ละคันคืบเคลื่อนเนิบช้า ไม่ต่างจากฝูงปลาแหวกว่ายไปอย่างแออัดยัดเยียด ล้อรถบดเบียดพื้นคอนกรีตด้วยจังหวะเชื่องช้า ร้านรวงสองข้างทางสาดแสงหลากสีเข้ามาสู่นัยน์ตา

   เวลาเดินเคลื่อนไปอย่างเปล่าประโยชน์บนท้องถนน ไหลไปตามกระแสการจราจรอย่างเอื่อยเฉื่อย ไร้ท่วงทำนอง และจอมปลอม เสียงเพลงในรถคลอไปกับเสียงบ่นของเพื่อนคนขับ ทำได้เพียงแค่เอาหูทวนลมและพยักหน้าเออออห่อหมกตาม แต่ละคำพูดเข้าหูและผ่านเลยไป ผิดกับเรื่องบางเรื่องที่ยังคงติดอยู่ในหัวจนน่าหงุดหงิดใจ

   ใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงที่หมาย โชคดีที่ไม่ต้องต่อคิวเข้าร้านอาหาร ผมกับณพจึงเดินเข้าไปเลือกนั่งยังที่ที่อากาศถ่ายเทปลอดโปร่ง

   บรรยากาศของร้านนี้จัดแต่งแบบเอาท์ดอร์ พื้นที่ร้านก็ออกกว้างขวาง เพลงที่เปิดคลอก็ไม่โหวกเหวกโวยวาย โดยรวมแล้วก็ถือว่าบรรยากาศไม่เลวทีเดียว ส่วนแขกในร้านมีทั้งนักศึกษาและคนทำงาน หลายกลุ่มที่นั่งดื่มเหล้าและกับแกล้มไปพลาง

   อากาศดี ๆ ยามค่ำคืนแบบนี้ คงเหมาะกับการดื่มสังสรรค์ ถึงว่าหมอนี่คะยั้นคะยอให้ผมมาที่นี่ให้ได้เสียเหลือเกิน

   จัดการสั่งอาหารและเครื่องดื่มไปชุดใหญ่ รอไม่นาน อาหารก็มาเสิร์ฟพร้อมกับเบียร์สองเหยือก ผมขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเห็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากที่ว่า

   “นายต้องขับรถไม่ใช่รึไง?”

เอ่ยถามอย่างสงสัยเพราะดูท่าอีกฝ่ายแล้ว คงจะไม่จบที่เบียร์สองเหยือกนี้แน่  ช่างเป็นคนที่ไร้ความกังวลได้ทุกสถานการณ์ ดูท่าผมคงต้องดูเขาเป็นตัวอย่างเสียบ้าง

   “ถ้าฉันเมานายก็ขับแทนไง คิดมากไปได้” ว่าแล้วเขาก็จัดการยกเบียร์ขึ้นดื่ม

   ออกจะเคยชินกับนิสัยแบบนี้ของเพื่อนสนิท ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องแย่หรือน่ารำคาญ จึงปล่อยให้เจ้าตัวดื่มไปตามพอใจขณะที่ผมก็ตักอาหารเข้าปากไปด้วย

   รสชาติอาหารดีอย่างที่ณพบอกไว้ ไม่แปลกใจที่มีแขกหลั่งไหลหมุนเวียนเข้ามาไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะมาแค่ทานอาหาร หรือมาเพื่อดื่มสังสรรค์กับเพื่อนฝูง

   ยิ่งแอลกอฮอล์ผ่านลงสู่ลำคอมากเท่าไหร่ ณพก็ยิ่งพ่นคำพูดฟังไม่ศัพท์ออกมามากเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องจีบสาว เรื่องออกเที่ยว ผสมปนกันไปหมด พอผมไม่เออออตาม หมอนี่ก็หันไปคุยกับแก้วแทน ดูๆ ไปก็ทำให้อยากหัวเราะขำพรืดกับท่าทีหมดสภาพของเพื่อนตัวดี

   ขณะที่ยกแอลกอฮอล์สีอำพันในแก้วตัวเองที่ไม่ค่อยจะพร่องขึ้นจิบ สายตาก็เหม่อมองโดยรอบอย่างไร้จุดหมาย
ความคิดล่องลอยนึกไปถึงเรื่องเก่า...ในวันนั้น วายุก็ดื่มไปมากพอดู หากแต่สภาพตอนที่เมาแตกต่างจากเพื่อนตรงหน้าอยู่มาก ถึงจะไร้สติจนพูดจายั่วโมโห ทว่าก็ยังไม่พูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนหมอนี่

   ส่วนการกระทำ น่าสงสัยว่าเขาเป็นอย่างนั้นบ่อยแค่ไหน

   ประเภทที่ปล่อยตัวไปกับใครง่ายๆ

   แท้จริงเขาเป็นอย่างที่คนเล่าลือกันจริงๆ หรือ หรือว่าจริงจังกับผู้ชายคนนั้นคนเดียวอย่างที่ณพว่า

   เพียงแค่คิด ความโมโหก็ทำให้ศีรษะร้อนผ่าว

   โมโหตัวเอง ที่เคยบอกว่าเกลียดเขามาก ก็ยังพาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเขาอยู่ดี

   จะโทษคนอื่นให้ตายยังไง ความน่าโมโหนี้ก็ไม่หายไป

   หลังจากจัดการอาหารในจานและปล่อยเวลาไปพอสมควร ผมก็สะกิดณพว่าได้เวลากลับ หากแต่อีกฝ่ายนั้นเมาจนยืนทรงตัวแทบไม่อยู่ ในที่สุดผมจึงได้แต่หิ้วปีกประคองเขากลับไปยังรถอย่างทุลักทุเล

   ทั้งผลักทั้งดันร่างณพให้นั่งที่เบาะหน้าด้านข้างคนขับ ก่อนจะเดินวกกลับมายังฝั่งคนขับแทน ผมเปิดประตูรถมองเพื่อนที่ทันทีที่หัวถึงที่พิงก็หลับไม่รู้เรื่องราวอย่างขำขันระคนหน่ายใจ การมีเพื่อนช่วยบรรเทาความไม่สบายอกไม่สบายใจ ก็ทำให้โลกนี้ไม่หมองหม่นจนเกินไปนัก

   คิดไปถึงใครอีกคน ที่ไม่เคยเห็นสุงสิงกับเพื่อนคนไหนในมหาวิทยาลัย เห็นก็แต่มีเพื่อนเมื่อกลางวันคนนั้นเท่านั้น

   ไม่สิ... อย่างนั้นน่ะมันมากกว่าเพื่อนชัดๆ

   ขณะที่กำลังจะเข้าไปนั่งในตัวรถ เสียงโหวกเหวกโวยวายก็ดังลอยเข้าหูเรียกความสนใจให้หันไปตามต้นเสียง

   “ไอ้บ้า นายอีกแล้วเรอะ!” เสียงแหวชวนเสียดแก้วหูทำให้ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเมื่อได้ยิน

   พอมองไปต้นทาง ก็เห็นคนสองคนกำลังยืนเถียงกันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ท่าทางเป็นนักศึกษาทั้งคู่ แล้วหนึ่งในนั้นที่กำลังมีปากเสียงก็เป็นคนที่ผม เคยเห็นหน้าเมื่อกลางวัน

   “ฉันต้องเป็นฝ่ายพูดอย่างนั้นมากกว่า ขับรถแบบนี้ ใบขับขี่น่ะซื้อมารึไง? ถอยมาชิดจนจะชนอยู่แล้ว”

   ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาที่เคยเจออยู่กับวายุ กำลังยืนเถียงอยู่กับเด็กหนุ่มอีกคนที่น่าจะมีปัญหาเรื่องการจอด
ทีแรกก็เห็นเถียงตอบโต้กันไปมาอย่างสูสี แต่หลังๆ กลับเถียงสู้คนที่ตัวเล็กกว่าไม่ได้ซะงั้น ถึงแม้ดูรูปการณ์แล้วคนตัวเล็กกว่าที่ว่าจะเป็นฝ่ายจอดรถได้ไม่มืออาชีพเท่าไหร่ก็ตาม

   คำก่นด่ายาวเป็นชุดทำให้ชายหนุ่มหน้าตาดีเมื่อกลางวันถึงกับไปไม่ถูก ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ ตอกกลับอีกฝ่ายไม่ทัน อย่างดีก็ได้แต่ยกมือห้ามทัพและบอกให้คู่คดีหยุดพูดเท่านั้น

   แต่ห้ามไปก็เสียเปล่า เพราะไม่มีทีท่าว่าคนร่างเล็กกว่าจะหยุด

   ได้แต่ถอนหายใจเฮือกกับเหตุการณ์ไม่น่าพึงประสงค์ของคนอื่น ตัดสินใจขยับร่างเข้าไปนั่งที่เบาะฝั่งคนขับแล้วสตาร์ทรถ แล้วปิดประตูปิดกั้นเสียงโหวกเหวกน่ารำคาญออกจากโสตประสาท สายตามองไปยังคนสองคนที่ยังยืนถกเถียงอย่างไม่น่าจะจบลงง่ายๆ จนกระทั่งคนเมื่อกลางวันทำอะไรบางอย่างน่าตกใจเมื่ออีกฝ่ายไม่หยุดเสียที

   ชายหนุ่มร่างสูงดึงร่างที่กำลังชี้หน้าด่าเขาเข้ามา 'จูบ'

   ผมกัดฟันกรอด การกระทำแบบนี้ทำให้รู้ว่าหมอนี่ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกชอบความสัมพันธ์ผิวเผิน คิดจะทำก็ทำตามใจง่ายๆ โดยไม่คิดถึงคนอื่นหรือผลที่จะตามมา เพียงแค่เห็น ก็ทำให้ความรู้สึกหงุดหงิดเกิดขึ้น ความไม่ชอบหน้าและไม่ถูกชะตามีมากยิ่งกว่าเดิม

   ถึงวิธีการแบบนั้นจะทำให้อีกฝ่ายหยุดพูดอย่างได้ผลชะงัด แต่สำหรับผม มันยิ่งทำให้คิดว่าเขาดูเป็นพวกไม่แคร์อะไรมากกว่า

   น่าโมโห

   ไม่ใช่แค่ผมที่รู้สึกหงุดหงิดใจ แน่นอนว่าฝ่ายที่ถูกจูบหาทางเหวี่ยงหมัดใส่หน้ากลับด้วยเช่นกัน แม้จะพลาดในทีแรก ทว่าก็ยังสามารถเตะเข้ากลางหว่างขาร่างสูงกว่าได้อย่างจัง

   โอ๊ย!

   ชายหนุ่มร่างสูงร้องเสียงหลง ก้มลงมือกุมตัวบิดตัวงอด้วยความเจ็บ ส่วนอีกฝ่ายพอพอใจกับผลที่ได้ก็เดินดุ่มกลับไปยังรถถอยออกจากที่จอด

   ได้แต่หัวเราะหึในลำคอกับภาพที่เห็นตรงหน้า ยังคิดว่าหมอนั่นโดนน้อยไปเสียด้วยซ้ำ ผมมั่นใจแน่นอนแล้วว่าไม่ชอบคนคนนี้เอามากๆ ยิ่งคิดถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันที่เขาสามารถจูบวายุต่อหน้าผมและณพได้อย่างไม่ยี่หระ อารมณ์คุกรุ่นก็ทะลักล้นออกมา

   บ้าชะมัด

   ผมคิดไม่ออกด้วยซ้ำว่าคนแบบนี้มีดีอะไรจนทำให้ วายุ เข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือเพราะท่าทีไม่แคร์อะไรแบบนั้น ที่ทำให้ดึงดูดกันและกันได้ สำหรับเขาแล้ว ผมเป็นอีกหนึ่งคนที่เหมือนไม่ใส่ใจเรื่องใดแบบนั้นหรือเปล่า

   ถ้าใช่ ผมก็อยากบอกให้รู้ไว้

   ว่าเขาคิดผิด





TBC
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 26-06-2016 14:06:24
มาต่อแล้ว เย้ๆๆ :3123:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 26-06-2016 15:33:16
อดใจรอให้เพลิงรุกไม่ไหวแล้ววววววว
ถ้าเพลิงเอาตัวเข้าไปติดกับวามากกว่านี้ ให้ตายเถอะ
ไม่มีทางเอาตัวเองออกมาได้อ่ะ
เริ่มสงสารวาเล็กๆ ล้ะ มีแฟนขี้หวงขนาดนี้ 55555555
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-06-2016 16:03:28
หึงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 26-06-2016 16:08:20
เป็นเอามากแล้วนะเพลิง 5555
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 26-06-2016 16:16:20
คิดเยอะและขี้มโนที่สุด แถมคิดแต่แง่ลบอีก
ต้องเจอวาดัดนิสัยมั่งละ :fcuk:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 26-06-2016 18:34:33
เพลิงนี่ก็สับสนวนไปค่ะอยู่น่ะนะ :ling2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 26-06-2016 19:32:12
หึหึ เพลิงรู้สึกแค่นี้ยังไม่พอนะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 26-06-2016 23:36:29
กิ้ชชชชชชช อัพแล้วววว รอทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 27-06-2016 00:20:45
เพลิงเป็นยูโนะเวอร์ชั่นผู้ชายหรอ? ยันได้อีก :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 27-06-2016 10:58:26
เรื่องนี้ทั้งอึมครึม ทั้งเดินเรื่องช้า เอื่อยที่สุด แต่ก็ตามอ่าน หุหุ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Loste ที่ 28-06-2016 00:34:12
เพลิงหึงรุนแรง :ling1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-06-2016 01:23:03
แผนหรืออะไรเหรอวายุ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 28-06-2016 07:23:04
เพลิงเมื่อไหร่จะเดินหน้าจีบวายุสักที
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 29-06-2016 10:45:26
 o13
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 29-06-2016 13:48:30
ไอ้คุณเพลิงอาการหวงหนักมากกกกก
คราวนี้วาน้อยจะโดนคำพูดร้ายๆอะไรอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 03-07-2016 00:10:18
โอ้ยยยย เริ่ดด ตามมาอ่าน นี่สงสัยไปหมด มีกี่ปมเนี่ยนายเอก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 03-07-2016 20:38:58
ตอนที่ 13





ผมเดินทางกลับออกจากมหาวิทยาลัยในเวลาค่ำ ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันทำให้ทิ้งตัวลงกับเตียงนอนทันทีที่มาถึงห้องพัก ความคิดสะเปะสะปะแวบเข้ามาในหัว ไม่ว่าจะเรื่องคนที่มหาวิทยาลัย เรื่องอิฏฐ์ และเรื่องของเพลิง
   
ระยะนี้แม้ผมกับเพลิงเหมือนจะเปิดใจให้กันมากขึ้น แต่เวลาอยู่ที่มหาวิทยาลัย ผมรู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่มีคนจับตามอง ไม่ว่าจะกลุ่มเพื่อนของเพลิงหรือแม้แต่ผู้หญิงคนนั้นที่เพลิงสนใจ ราวกับว่าพวกเขากำลังจับผิด ไม่ใช่แค่ผม แต่เพลิงก็โดนไปด้วย
   
เสียงนินทาบางครั้งก็แว่วมาให้ได้ยิน บางครั้งก็เจอตรงๆ จนระอาที่จะต้องข้องเกี่ยวกับผู้คน ผมรู้ว่าตัวเองในสายตาคนอื่นไม่ได้ดีนัก แล้วยังมีเรื่องที่อิฏฐ์ทำอย่างนั้นอีก แม้ผมไม่คิดจะแก้ความเข้าใจผิดกับใคร แต่กับเพลิง...ผมรู้สึกลังเล   
   
ผมรู้ว่าเพลิงไม่ชอบอะไร เกลียดคนแบบไหน และวันนี้ก็คงตอกย้ำเขาอีกครั้งว่าผมไม่ใช่คนประเภทที่เขาจะชอบได้ เขาถึงได้ดูหัวเสีย ระหว่างที่ประชุมกลุ่ม หากไม่เมินเฉย ก็มองผมด้วยสายตาขุ่นเคืองจนผมไม่สามารถจะปริปากพูดอะไรได้สักอย่าง ถ้าอธิบายอะไรออกไป จะมีประโยชน์หรือ? แล้วในสายตาเพลิง ในเมื่อผมไม่ใช่คนที่เพลิงหมายตา คำอธิบายอะไรคงไม่จำเป็น หากพูดไปอาจจะยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่ก็เป็นได้

เมื่อกำลังจมดิ่งสู่ห้วงความคิด เสียงข้อความเข้าจากเครื่องมือสื่อสารก็ดังขึ้น ปลุกให้ผมลืมตาขึ้นมาเผชิญกับโลกแห่งความจริง
   
มือล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกง มือกดเลื่อนปุ่มเพื่อดูข้อความที่ได้รับจากรุ่นน้องที่เพิ่งนึกถึง เพียงแค่ได้อ่านเนื้อหา ก็ทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
   
[วันนี้ที่จู่ๆ ก็จูบน่ะ โกรธรึเปล่า?]
   
ปกติอิฏฐ์ไม่ใช่คนที่จะกังวลในสิ่งที่ทำไปแล้วในภายหลังเท่าไหร่ น่าแปลกที่เขาคิดถามขึ้นมา
   
[ไม่หรอก]
   
กดตอบข้อความอีกฝ่ายไปอย่างไม่คิดอะไรมาก
   
[ผมไม่ขอโทษหรอกนะ ก็วาน่ารักนี่นา ^TT^]
   
อิฏฐ์ตอบข้อความกลับอย่างรวดเร็ว หากเป็นเวลาปกติ พอได้อ่านก็คงจะยิ้มขำกับความทะเล้น ทว่าในเวลาที่อารมณ์ไม่สู้ดี ผมกลับคิดไม่ออกว่าจะตอบกลับเขาไปว่าอย่างไร จึงได้แต่เงียบไม่ตอบอะไรกลับเสียอย่างนั้น
   
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง อิฏฐ์ก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง
   
[ที่บอกว่าชอบน่ะ ผมจริงจังนะ]
   
ชอบงั้นหรือ?
   
การบอกชอบใครสักคน ทำไมถึงดูเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับใครคนหนึ่งได้ขนาดนี้ ขณะที่สำหรับใครอีกคน คำคำนั้นกลับเป็นเสมือนคำต้องห้าม ที่ไม่ว่ายังไงก็พูดออกไปไม่ได้
   
น่าสงสัยว่าต้องมีความหาญกล้ามากแค่ไหน ถึงจะกล้าเผชิญกับความผิดหวังได้กันแน่
   
ผมอิจฉาอิฏฐ์ ทั้งๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่าคำตอบของผมคืออะไร เขาก็ยังคงสามารถบอกความรู้สึกของตัวเองออกมาด้วยรอยยิ้มได้อย่างไม่ต้องฝืน ยังคงกล้าเผชิญหน้า และยืนอยู่เคียงข้างกับคนที่ไม่อาจให้สิ่งที่เขาต้องการกลับ
   
ช่างอาจหาญผิดกับผม ที่แม้แต่จะสบสายตาคู่นั้นตรงๆ ยังทำไม่ได้
   
[ขอโทษ...]
   
ตัดสินใจส่งข้อความตอบกลับหนุ่มรุ่นน้อง แม้ไม่อยากทำลายความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ แต่ในเมื่อไม่สามารถตอบรับความรู้สึกเขาได้ ก็ต้องคืนความรู้สึกเหล่านั้นกลับไปโดยไม่อาจให้อะไรคืนได้สักอย่าง
   
เหมือนกับที่ผม ไม่อาจได้ความรู้สึกแบบเดียวกันกลับคืนจากเพลิงเช่นกัน
   
เพียงแค่คิดภายในหัวก็เต็มไปด้วยความหมองหม่น แต่อย่างน้อยสำหรับอิฏฐ์แล้ว ก็ยังมั่นใจได้ว่าเขาไม่มีวันได้รับ ความเกลียดชัง เป็นสิ่งตอบแทนอย่างแน่นอน
   
[ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมไม่ล้มเลิกง่ายๆ หรอก ^^]
   
อิฏฐ์ตอบกลับมาอีกครั้ง
   
ได้แต่ยิ้มออกมาด้วยความกล้ำกลืน บางทีผมคงต้องดูอิฏฐ์เป็นตัวอย่าง ต่อให้ต้องเจ็บปวดก็ยังคงยืนหยัดในความรู้สึกของตัวเอง
   
อดคิดไม่ได้ว่าบางครั้ง โลกก็ไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย ขณะที่คนหนึ่งคิดถึงคนหนึ่ง คนคนนั้นกลับเฝ้าคิดถึงใครอีกคน ถ้าหากทุกคนสามารถสมหวังในสิ่งที่คิดที่ต้องการได้ล่ะก็ โลกนี้ก็คงไม่มีใครต้องเจ็บปวด
   
แต่นั่นคงเป็นได้แค่ในมโนความคิดอันแสนคับแคบเท่านั้น
   
[ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง]
   
หลังจากที่กดส่งข้อความสุดท้ายให้คนปลายสาย ผมก็ปล่อยให้ตัวเองดำดิ่งอยู่ในห้วงภวังค์อีกครั้ง






   
ผมมุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัยทั้งที่ยังวนเวียนคิดถึงเรื่องเดิม เพียงแค่เห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ในระยะสายตา ชั่ววูบหนึ่งของความคิด ก็อยากเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ เพื่อเอ่ยบอกสิ่งที่กำลังคิดสงสัยอยู่ หากแต่อีกวูบหนึ่ง ก็ขลาดกลัวเกินกว่าจะก้าวต่อ ยิ่งเห็นเขามากับกลุ่มเพื่อนกลุ่มใหญ่ ในที่สุดก็ได้แต่ยืนหยุดนิ่งมองตามเขาเดินผ่านไปไกลสุดลูกหูลูกตาเหมือนทุกครั้ง ได้แต่เป็นฝ่ายเฝ้ามองจากทางด้านหลัง แผ่นหลังอันตั้งตรงแน่วแน่ไม่สั่นคลอน ไม่หวั่นไหวกับสิ่งใด ช่างแตกต่างจากผมจนน่าอิจฉา แม้กระทั่งการแสดงออก ก็ยังสามารถทำได้อย่างตรงไปตรงมา
   
ในชั้นเรียนที่ลงไว้เหมือนกัน เพลิงนั่งเรียนกับกลุ่มเพื่อน ร่างสูงดูจะตั้งใจมากขึ้นเมื่อการสอบกระชั้นเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่ทำงานก็ตั้งอกตั้งใจสมกับเป็นหัวกะทิของคณะ ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เห็นแก่ตัวหรือหวงแหนความรู้สักนิด มีแต่คอยเผื่อแผ่และช่วยติวให้เพื่อนฝูงอยู่เสมอ
   
อย่างงานกลุ่มที่ทำร่วมกัน เขาก็เป็นคนที่รับผิดชอบมากที่สุด คนอื่นจะทำผิดยังไงก็ไม่เคยบ่นหรือแสดงท่าทีไม่พอใจ
   
ผมเฝ้ามองเขาจนกระทั่งชั้นเรียนเลิก สองขาก็พาร่างเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าโต๊ะของเจ้าของร่างสูงกว่าแม้ว่าจะมีเพื่อนของเพลิงอีกหลายคนมองมา ราวกับว่าสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อ ริมฝีปากก็เอ่ยทักออกไปก่อน
   
“นี่...”
   
มือที่กำลังเก็บข้าวของหยุดกึกเมื่อได้ยิน ร่างสูงเปรยสายตาขึ้นมองตามเสียง คิ้วเข้มขมวดมุ่น ดวงตาฉายแววงุนงง
   
“มีอะไรหรือ”
   
ผมเม้มริมฝีปาก ภายในหัวมืดสนิทราวกับถูกใครสาดน้ำหมึกสีดำรดใส่ เอ่ยทักเขาก่อนแท้ ๆ สุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก
   
อีกฝ่ายปิดกระเป๋าก่อนจะก้าวเดินออกมายืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะเรียนตัวยาว ทำให้ผมผงะถอยหลัง เท้าก้าวห่างออกไปด้วยความประหม่า
   
เจ้าของนัยน์ตาสีเข้มพิงร่างกับขอบโต๊ะ ก่อนจะหันไปบอกเพื่อนคนอื่นๆ ว่าให้ออกไปก่อน แม้จะมีสายตาลังเลส่งมา แต่ก็ค่อยๆ ทยอยเดินออกจากไป ทั้งผมและเพลิงยืนนิ่ง จนกระทั่งห้องเรียนกว้างขวางเหลือคนเพียงสองคน
   
ถึงจะเป็นคนเอ่ยทัก หรือแสดงท่าทีบ่งบอกว่ามีเรื่องจะพูดด้วย แต่ผมกลับไม่มีคำพูดใดหลุดออกจากปาก ราวกับว่าคำพูดทุกอย่างได้จุกแน่นรวมตัวสุมติดอยู่ที่ลำคอ
   
ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นดัง แรงสะเทือนจากอกซ้ายทำให้มือทั้งสองข้างสั่นตาม ความเย็นวาบคืบเคลื่อนจากปลายนิ้วขึ้นมาถึงริมฝีปาก ต้องกอบกุมประสานนิ้วมือทั้งสิบเข้าไว้ด้วยกันเพื่อไม่ให้สั่นเทิ้มไปมากกว่านี้
   
“ว่าไง?”
   
ผมสะดุ้งเมื่อเพลิงเอ่ยอีกครั้ง
   
สายตาสบมองร่างสูงกว่าได้เพียงครู่ก็หลุบลงต่ำ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่กล้าสบมองสายตาแข็งกร้าวนั้นโดยตรงได้ ภายในหัวยังคงมืดสนิทเหมือนเช่นเคย จนในที่สุดก็ทำได้เพียงแค่ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอตอบออกไป
   
“อืม...”
   
ราวกับว่าเวลากำลังเคลื่อนไหวไปอย่างเชื่องช้า แต่ละวินาทีที่แหวกว่ายในกระแสความเงียบ ก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาด เพลิงก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน และอาจกำลังคิดไม่พอใจที่ผมมัวแต่อ้ำอึ้ง
   
คงต้องล้มเลิก
   
ทั้งๆ ที่เคยทำอะไรหลายอย่างด้วยกัน แต่ก็ยังขาดกลัว เพราะรู้ว่าทุกๆ ครั้งที่คาดหวัง ความผิดหวังก็จะรออยู่ตรงหน้าเสมอ
   
หนึ่งปีที่เป็นเพื่อนร่วมห้อง ทว่าได้รับเพียงความเย็นชาจากเพลิง และอีกหนึ่งปีแห่งความว่างเปล่ามันเจ็บปวดเกินไป ตอนนี้แค่ได้รับการปฏิบัติอย่างคนทั่วไป ก็ไม่ควรจะหวังเกินไปกว่านั้น
   
ขณะที่กำลังคิดล้มเลิกความตั้งใจ คนตรงหน้าก็เอ่ยบางอย่างที่ผมเผลอจับใจความไม่ทันออกมา
   
“..?..”
   
ความสนใจถูกดึงกลับมายังคู่สนทนา ร่างสูงกว่าสีหน้าราบเรียบ แล้วเป็นฝ่ายเอ่ย
   
“ไปนั่งที่ร้านกาแฟด้วยกันไหม?” เขาทวนคำ
   
พอจับใจความได้ทุกคำ หัวใจที่เต้นแรงอยู่แล้วยิ่งส่งเสียงดังรุนแรงกว่าเก่า สูบฉีดกระแสโลหิตให้ใบหน้ารู้สึกร้อนผ่าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
   
เมื่ออีกฝ่ายเลิกคิ้วราวกับรอคอยคำตอบ ผมจึงพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะปรายสายตามองไปยังโต๊ะเรียนด้านหลังที่ยังมีข้าวของของตัวเองวางไว้อยู่
   
“งั้น...ฉันไปเก็บของ...” นิ้วมือชี้ไปทางที่นั่งของตัวเองโดยที่ไม่ได้หันไปมองอีกฝ่าย รู้เพียงแต่ว่าเขาส่งเสียง 'อืม' ตอบรับเบา ๆ ให้ได้ยิน
   
เดินผละจากร่างสูงไปยังด้านหลังด้วยความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยความสับสน ใบหน้ายังรู้สึกร้อน แม้กระทั่งสองมือก็พลอยอุ่นขึ้นไปด้วย ถึงอย่างนั้นภายในอกยังสัมผัสได้ถึงความเย็นวาบเสียดแทงจากแก่นลึกของจิตใจ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจึงเกิดความรู้สึกน่าสับสนเช่นนี้ขึ้นมา
   
ขณะที่เดินใกล้จะถึงโต๊ะที่มีข้าวของวางไว้ ความสนใจก็ถูกหันเหด้วยเสียงและแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องมือสื่อสาร ผมหยุดชะงัก มือล้วงหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงขึ้นมองดูหน้าจอ
   
อิฏฐ์...?
   
หนุ่มรุ่นน้องคงจะรู้ว่าผมเลิกชั้นเรียนจึงโทรมาได้จังหวะพอดี ทว่าผมกลับนึกไม่ออกว่าเขามีเรื่องอะไรต้องติดต่อมา หรืออาจจะอยากชวนไปทานอาหารเป็นเพื่อนเหมือนทุกครั้งก็เป็นได้
   
“ใคร?”
   
เสียงทุ้มต่ำดังจากทางด้านหลัง พอหันไปตามเสียงก็พบว่าเพลิงเดินเข้ามาใกล้ผมในระยะประชิด ใกล้ขนาดที่ใบหน้าผมแทบชนกับแผงอกแกร่ง ปลายจมูกได้กลิ่นกายเจือกลิ่นน้ำหอมไหวอยู่ตรงหน้า
   
เท้าผงะถอยหลังตามสัญชาตญาณ ริมฝีปากแม้คิดจะเอ่ยตอบหากแต่มือกลับไปไวกว่า ผมกดตอบรับสายเข้าโดยที่ไม่ได้ตอบคำถามนั้นของอีกฝ่าย
   
ตัดสินใจหันหลังให้เพลิง ก่อนจะส่งเสียงไปที่ปลายสาย ความเงียบที่ครอบคลุมห้องเรียนทำให้เสียงจากโทรศัพท์ดังลอดออกมาอย่างชัดเจน แม้จะพยายามพูดเบาเท่าไหร่ บทสนทนากับอิฏฐ์ก็ยังคงฟังชัดจนน่าลำบากใจ
   
คู่สนทนาพยายามชักชวนให้ผมไปทานอาหารค่ำด้วยกัน ซ้ำยังบอกว่าจองโต๊ะอาหารไว้ล่วงหน้าแล้ว ถึงอยากปฏิเสธก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะเขาตื๊อเสียเหลือเกิน ต้องยอมเออออไปก่อนจะบอกตัดว่าผมจะเป็นฝ่ายติดต่อกลับไปเอง
   
หลังจากที่วางสาย ทั้งห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง ทว่าเพียงแค่ไม่นาน เพลิงก็เอ่ยออกมา
   
“จะไปเจอหมอนั่น?”
   
ผมนิ่งไปครู่ ไม่ทันได้ตั้งตัวกับคำถาม “นายไม่ควรจะฟังคนอื่นเขาคุยกัน...” เอ่ยอย่างรู้สึกแปลกที่เจอคำถามแบบนั้น
   
“ก็ไม่ได้อยากฟัง แต่มันได้ยินเอง” เขาตอบห้วน “นายควรจะอยู่ห่างๆ จากหมอนั่นไว้”
   
ผมชะงักเมื่อมือร้อนคว้าจับที่ข้อมือผม พอเหลือบสายตามองหน้าอีกฝ่าย ก็พบว่าคนพูดไม่ได้ล้อเล่น เจ้าของดวงตาสีเข้มจ้องมองผมเขม็ง บ่งบอกว่าจริงจังในสิ่งที่พูด
   
ไม่รู้ถึงจุดประสงค์ ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องพูดอย่างนี้ออกมา จึงได้แต่ขมวดคิ้วมองตอบด้วยความไม่เข้าใจ
   
“ชอบหมอนั่นงั้นหรือ?”
   
แรงบีบที่ข้อมือหนักข้อขึ้นจนรู้สึกเจ็บ ถึงจะพยายามแกะนิ้วที่กอบกุมออกก็ไม่เป็นผล เพลิงยิ่งออกแรงหนักมากขึ้น หากรอยนิ้วมือสามารถประทับลงไปในเนื้อได้ ก็คงจะประทับลึกเข้าไปถึงกระดูก
   
“ปล่อย...”
   
“ถ้าไม่ชอบก็ปฏิเสธไปซะ” ไม่ให้แม้แต่โอกาสจะพูดโต้ตอบ เพลิงเอ่ยต่อไม่หยุด “หรือว่าเป็นพวกชอบให้ความหวังคนอื่น?”
   
“นายพูดเรื่องอะไร ปล่อยได้แล้ว ฉันเจ็บ” พยายามดึงมือออกจากการรัดกุมอีกครั้ง
   
ฉุดยื้อกันไปมา ในที่สุดคนตรงหน้าก็ยอมปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระ ถึงอย่างนั้นความร้อนและความเจ็บยังคงติดตรึงอยู่บนผิว และไม่ทันไร มือที่ปล่อยการเกาะกุมเมื่อครู่ ก็เปลี่ยนเป็นบีบกระพุ้งแก้มผมให้เงยขึ้นมองหน้าสบตา
   
“ชอบแบบที่ปล่อยตัวง่ายๆ แบบหมอนั่นงั้นสิ? หรือว่าเพราะเป็นคนจำพวกเดียวกัน ถึงได้ 'ติดใจ' จนปฏิเสธไม่ลง”
   
ราวกับถูกก้อนหินหนักๆ ทับ รู้สึกชาไปทั้งร่าง
   
“...หยุดว่าคนอื่นได้แล้ว อิฏฐ์ไม่ใช่คนแบบนั้น”
   
จู่ๆ มือคว้าที่ข้อมือก็เลื่อนมาบีบใบหน้าให้เผชิญกับเขา สติเหมือนกับจะกลับมา พร้อมกับความร้อนรุ่มรอบกรอบตาทั้งสองข้าง
   
“ปกป้องกันเหลือเกินนะ...นายน่ะ...เป็นพวก ง่าย อย่างที่เขาว่ากันจริงใช่ไหม? จะที่ไหน กับใครก็ได้ ก่อนหน้านี้ก็จูบกับหมอนั่นต่อหน้าคนอื่นได้ไม่อายเลยนี่”
   
พลั่ก!
   
ออกแรงผลักร่างสูงกว่าออกไปสุดแรง จนร่างเขาเซซัดจวนเจียนจะล้มชนเข้ากับโต๊ะ
   
“ถ้าใช่...ก็ไม่เกี่ยวกับนายไม่ใช่หรือ?”
   
เอ่ยทั้งที่กัดฟันกรอด ในหัวที่เคยมืดสนิทก่อนหน้า เปลี่ยนเป็นเต็มเปี่ยมไปด้วยคำถามว่า ทำไม
   
ทำไมผมถึงได้อยากเข้าใกล้คนแบบนี้นัก
   
ทำไมถึงได้ 'ยอม' ให้เขาดูถูกเหยียดหยามได้ตลอด
   
ทำไม ถึงได้ปล่อยให้เกิดเรื่องบ้าๆ แบบนี้ได้
   
ช่างโง่เขลาจริง ๆ
   
พออีกฝ่ายตั้งตัวได้ สีหน้าท่าทางก็เปลี่ยนเป็นไม่พอใจ นัยน์ตาเขาฉายแววกราดเกรี้ยวที่สุดเท่าที่เคยเห็น เขาเดินเข้ามากระชากแขน และผลักดันร่างผมจนแผ่นหลังกระแทกลงกับโต๊ะ ถึงพยายามขัดขืนเท่าไหร่ ก็สู้แรงไม่ได้ ข้อมือทั้งสองข้างถูกกดทับบีบแรงจนไม่สามารถขยับ
   
พยายามฝืนแรงต้านอีกครั้ง ใบหน้าเบี่ยงหลบอีกฝ่ายที่ใกล้เข้ามา ปลายจมูกโด่งของคนตรงหน้ารดลมหายใจร้อนเฉียดกับข้างแก้ม ริมฝีปากส่งน้ำเสียงแดกดันข้างกกหู
   
“อย่างนาย จะกับใครก็ได้ จะที่ไหนก็ได้งั้นสินะ...”
   
ร่างกายถูกหน่วงเหนี่ยวไว้ด้วยกรงแขน กักขังไม่ให้ผมหนีไปไหน
   
“อย่างวันนั้น ถ้ามีเซ็กส์กันที่มหา'ลัยได้ก็คงทำกันไปแล้วล่ะสิ” คำพูดถากถางดังก้อง ราวกับคนพูดต้องการทำให้ผมเจ็บช้ำที่สุด
   
“ถ้าอยากนักฉันจะช่วยสนองนายให้ เหมือนวันนั้นไง”
   
หยุด...พอเสียที
   
เสียงตัวเองดังอยู่ในหัว   
   
ทำไมต้องปล่อยให้ตัวเองถูก ทำลาย ซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ด้วย
   
ชั่วขณะนั้นผมถึงได้เข้าใจว่าความรู้สึกที่มีอยู่ทั้งหมด ทั้งความเคลือบแคลงสงสัย ทั้งความอัดอั้นภายในใจที่สั่งสมมาตลอด
   
ทุกๆ อย่าง ทุกๆ ความรู้สึก ทั้งความต้องการ ความอยาก
   
ความรัก ที่ไม่ได้เริ่มแม้กระทั่งก่อร่างสร้างตัว
   
ทุกอย่างที่มีนั้นไร้ค่าไร้ความหมาย
   
ทุกๆ อย่างที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ความสูญเปล่าเท่านั้น

   
สูญเปล่า...โดยเฉพาะกับเพลิง...




TBC
___

สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่ติดตามเพลิงกับวานะคะ เรื่องนี้อีกประมาน 2-3 ตอนก็จะจบแล้วละค่ะ ^^ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ

หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 12 [p11 up 26.06.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Destiny ที่ 03-07-2016 20:45:35
หวังว่าจะได้อ่านก่อนนอนคืนนี้นะค้าาา
อยากหลับฝันดีไปกับเพลิงและวา :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: empty102153 ที่ 03-07-2016 22:09:21
เข้าใจวาและก็เข้าใจเพลิงนะ
แต่วาควรจะพูดออกมาแบบอย่าให้เขาตีความผิดซิลูก
เพลิงเองก็ใจเย็นๆกับน้องวาหน่อย รับฟังวาบ้าง  :ling3:
อึดอัดและหน่วงใจดีมากเลยค่ะ ชอบ จะติดตามรอนะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 03-07-2016 22:26:42
เพลิงหึงจนหน้ามืดแล้ว :katai1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 03-07-2016 22:44:32
หึง หึง หึง---มันแปะอยู่บนหน้าผากเพลิงตัวเบอเริ่มแล้ววว แต่มันคงเหมือนเส้นผมบังภูเขาล่ะเนอะ
เพลิงงงงง อย่าทำร้ายวาน้อยเลยช้ำหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 03-07-2016 23:10:03
โอยยยยโอยยยโอยยยยยรอทุกวันเลยชอบมาก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-07-2016 23:11:09
เพลิงรุนแรงตลอด บทจะดีก็ดี๊ดี
พอพี่ท่านหึงก็ไม่สนใจอะไรเลยง่าาาา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 03-07-2016 23:18:56

ไม่เปิดปากพูดแล้วชาตินี้จะรู้เรื่องมั้ย?
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 03-07-2016 23:25:26
จะจบแล้วหรออ เร็วจังเลยอะ จะมีตอนหวานมั้ยอะ
แต่ดูจากนิสัยของสองคนแล้ว ไม่น่ามี55555
ต่างคนต่างชอบกัน แต่ก็ไม่มีใครยอมพูดออกมา
ถ้าใครคนนึงพูดออกมา ทุกอย่างมันก็จะง่ายกว่านี้
เพลิงก็หึงตลอดนะ แล้วก็ชอบพูดจาไม่ดีใส่วาตลอดเลย
เพลิงนี่ ไม่น่ารักเลย สงสารวาอะ ไม่ชอบแสดงออก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 03-07-2016 23:34:34
อึดอัดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :katai1: :katai1:  วายุอมอะไรอยู่ห๊ะ!!!!!!
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 03-07-2016 23:44:44
 :mew5: :mew5: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 04-07-2016 00:47:19
เพลิงงงงง จัยเยนนนนน วาก็ปากหนัก เฮ้อออ

2-3 ตอน จะจบแล้วหรอคะ ยังไม่เห็นฉากมุ้งมิ้งกันเลย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 04-07-2016 01:45:21
วายุจะเอ่ยพูดเมื่อไรเหรอ
ทั้งๆที่รับปากว่าจะไปกับเพลิง
พออีกคนโทรมาก็ยอมไปกับเขา
จะทิ้งเพลิงงั้นเหรอ เพลิงไม่ผิดที่เข้าใจไปอย่างที่เห็น
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 04-07-2016 02:23:57
ใจร่มๆนะเพลิงนะ คิดเองเออเองไปอีก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 04-07-2016 06:14:04
เข้าใจกันไปคนละทางแล้วว ทำไมไม่พูดันตรงๆเนี่ย พูดสิพูด หึงก็พูดออกมาาาา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 04-07-2016 07:07:56
วาพูดน้อยไปนะ. แล้วจะให้เพลิงเข้าใจยังงัย

คงต้องใช้จิตสัมผัสกันละ

 :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:

 :ling2:  :ling2:  :ling2:  :ling2:

....
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 04-07-2016 07:33:52
วามัวแต่ทำตัวน่ารำคาญอยู่ได้ น่าเบื่อ กี่ตอนๆก็ยังเป็นแบบเนี้ย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: felixia ที่ 04-07-2016 08:24:37
อ่านตอนนี้แล้วได้แต่ขมวดคิ้ว
วาไม่พูดอะไรเลยแบบนี้จะหวังในเพลิงเข้าใจอะไรได้ยังไง
จะปฏิเสธอจะอธิบายก็ไม่พูดอะไรสักอย่าง  แล้วเพลิงจะรู้ได้ยังไงว่าเรื่องเป็นยังไง วาคิดยังไง แล้วจะมาน้อยใจทำไม ตัวเองไม่พูดเอง เพลิงก็ไม่ใช่xmenนะจะได้อ่านใจออก ไม่ได้สนิทกันถึงขั้นจะรู้จักนิสัยรึความคิดดีด้วย
ไม่โทษเพลิงนะตอนนี้ เพราะไม่ใช่ว่าเพลิงไม่พยายามเข้าหานะดูๆแล้ว ก็พยายามจะทำความรู้จักวาเหมือนกัน ไม่ได้ฟังความจากเพื่อนอย่างเดียว แต่วาไม่เปิดไง เขาก็รู้สึกได้แค่เท่าที่เขารู้จักนั่นแหละ
เรื่องคนที่มาจีบด้วย เลี้ยงไข้มากค่ะวา ให้ความหวังสุด ปากบอกไม่แต่ก็ยังไปกับเขา เขาก็ต้องคิดอยู่แล้วว่ามีหวัง ยอมให้จูบแบบไม่แสดงออกว่าโกรธแบบนี้อีก คือถ้าไม่ได้ชอบกันแล้วยอมให้คนอื่นจูบง่ายๆก็จะดูเป็นคนง่ายๆไง เนี่ย ทำตัวเองเลยวา
เชียร์พี่เพลิงค่ะ ปล้ำเลย//เดี๋ยววววววววว  55555  ล้อเล่นค่ะ คุยกันดีนะเพลิงงงง  ง้างปากวาให้ได้ล่ะจะอะไรยังไง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 04-07-2016 08:56:34
อ่านแล้วอึดอัดน่ารำคาญเน๊าะตอนนี้
วามีปากแต่ไม่พูดอมพะนำอยู่นั่น คนเข้ามาจีบไม่เล่นด้วยแต่ก็ไม่ปฏิเสธให้ชัดเจน ไปไหนมาไหนด้วยปล่อยให้ถึงเนื้อถึงตัวง่ายๆ
เพลิงหึงเขาจะแย่แต่ก็มึนฟอร์มจัดเหลือเกิน นึกไม่ออกว่าจะจบในอีก2-3ตอนได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 04-07-2016 16:37:28
มืดมนดีแท้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Rebtur ที่ 04-07-2016 17:29:52
วาก็ควรพูดควรอธิบายมะ ไม่ใช่อะไรก็ตอบชวนเข้าใจผิดแบบนี้ไปซะหมด  :m16:
 เขาจะไปเข้าใจได้ไงถ้าไม่พูด เขาก็คงเข้าใจตามที่เขาเห็น
แล้วก็ดราม่ากับเพลิง ถามว่าทำไมๆๆ ถามตัวเองดีไหม ทำไมไม่อธิบายให้ถูก
เพลิงก็เหมือนกัน นี่ก็ไม่คิดจะถามดีๆ ใช้คำด่าแรงๆใช้กำลังเข้าว่าตามอารมณ์
หงุดหงิดคู่เลยค่ะตอนนี้ หงุดหงิดอิฏฐ์ด้วย ฮึ่ยยยย /ขอโทษค่ะอินไปหน่อย ._.
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 04-07-2016 21:43:10
โธ่ กำลังจะดีอยู่ละเชียว
ทะเลาะกันอีกแล้ว :z3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 04-07-2016 22:57:27
อ่านแล้วอึน อ่านแล้วมึน หึงกันรุนแรงเชียว  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 05-07-2016 06:31:49
อธิบายมันยากตรงไหนวะ แล้วทำไมไม่เข้าใจว่าตัวเองสมควรโดนว่า การกระทำมันชวนคิด จะโกรธทำไมวะ ไมไม่อธิบายให้เขาฟังถ้ากลัวเขาเกลียด ให้เขาตรัสรู้เองมันก็ไม่ใช่ เพลิงเป็นใครรู้จักกันมานานรึก็ไม่ใช่ สมควรโดนด่าเอาจริงๆ ยอมให้คนอื่นจูบเหมือนเป็นเรื่องปกติ ง่ายจริงๆนั่นแหละ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: winterday ที่ 05-07-2016 10:47:38
ขอบคุณผู้แต่งเรื่องนี้จริง ๆ นะคะ เนื้อเรื่องดี น่าติดตาม ชอบภาษาด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nooneder ที่ 05-07-2016 11:44:39
จะจบแล้วเหรอออ อยากอ่านต่อออออออ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: RindaP ที่ 05-07-2016 20:08:06
  :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 06-07-2016 11:40:27
เพลิงก็ใจเย็นๆเนอะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 07-07-2016 06:16:51
คาดว่าจะแบดเอน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: PIang-gel ที่ 07-07-2016 13:14:06
ชอบค่ะ รอ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 07-07-2016 13:32:14
ขอแฮปปี้แอนด์ดิ้งนะค่าาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 07-07-2016 20:17:39
ตอนที่ 14






“ปล่อย...”
   
น้ำเสียงสั่นเล็ดลอดจากริมฝีปากอิ่ม ไหล่ทั้งสองของร่างข้างใต้ถูกผลักลงจนแผ่นหลังแนบติดกับโต๊ะ สองมือยึดข้อมือคนตรงหน้าไว้ พร้อมออกแรงกดจนมือขาวซีดแทบจมลงไปในโต๊ะเรียนแข็งกระด้าง
   
แน่นอนว่าวายุยังคงไม่แม้แต่จะกล้าเผชิญสายตา
   
“ไม่”
   
ความเย็นชาแผ่ออกมาพร้อมกับคำพูด ดวงตาจับจ้องบุคคลใต้ร่างที่กำลังนอนหงายอย่างไร้หนทางหนี ไร้สิ้นอิสรภาพติดกับอยู่ภายใต้วงแขน
   
ถึงอย่างนั้น แม้แรงบีบที่ข้อมือจะกดทับเขาหนักหน่วงแค่ไหน เจ้าของข้อมือนั้นก็ยังคงพยายามฝืนแรงให้หลุดออกจากการเหนี่ยวรั้งไปเสียให้ได้ แม้จะรู้ว่าไร้ประโยชน์ก็ตาม
   
ทว่ายิ่งฝืนแรง ผมก็ยิ่งออกแรงบีบที่ข้อมือก็หนักมากขึ้นเท่านั้น คมเล็บฝังลงไปในเนื้อนุ่มแรงเสียจนมือเรียวทั้งสองขึ้นสีแดงตัดกับผิวเนื้อขาว ปลายนิ้วทั้งสิบของอีกฝ่ายน่าจะชาจนไม่สามารถกระดิกเขยื้อน
   
“ฉันเจ็บ... ปล่อย...”
   
วายุเอ่ยซ้ำ แรงที่ต้านทานค่อยๆ อ่อนลงไม่ต่างจากน้ำเสียง
   
“อยากให้ปล่อยงั้นหรือ? ออกแรงดิ้นแค่นี้ อยากให้ปล่อยจริงหรือไง?” ผมตะคอก
   
ความอัดอั้น ความโมโห โถมใส่คนตรงหน้าอย่างไม่คิดจะเก็บไว้ ท่าทีปวกเปียกแบบนี้ยิ่งกระตุ้นให้อยาก ทำลาย เปลือกนอกจนไม่สามารถแสดงออกมาอย่างน่าหงุดหงิดแบบนี้ได้อีก
   
อยากรู้นัก ว่าการปั่นหัวคนอื่นมันทำให้เขาสนุกมากแค่ไหน มันคงสนุกและสาแก่ใจเขามากขนาดที่สามารถล้อเล่นกับความรู้สึกอื่นได้โดยไม่จำเป็นต้องรู้สึกรู้สาเลยงั้นสิ
   
“บอกมาสิว่าอยาก เซ็กส์แบบชั่วข้ามคืนก็จบน่ะ อยากนักใช่ไหม?”
   
ลมหายใจผมถี่กระชั้นไม่ใช่เพราะเหนื่อยหอบ แต่เป็นเพราะแรงโทสะ
   
วายุปิดเปลือกตาแน่น ริมฝีปากกัดเม้มอย่างพยายามกล้ำกลืนบางอย่างลงลำคอ
   
“ตอบมาสิ!”
   
มือหนึ่งเคลื่อนจับใบหน้าที่เอาแต่หลบสายตา ยิ่งนิ่งเงียบไม่ยอมขยับไม่ยอมสบตา ผมก็ยิ่งออกแรงกดสองข้างแก้มแน่นจนเขายอมหันมาเผชิญอย่างเสียไม่ได้ ริมฝีปากแดงสั่นไหว เมื่อพยายามขยับเอ่ยคำพูด
   
“คนที่อยากน่ะ... มันนายไม่ใช่หรือไง เพลิง”
   
สิ้นประโยคนั้น แรงนิ้วมือที่จับกุมอีกฝ่ายไว้ก็ชะงักเสียดื้อๆ ราวกับว่าถ้อยคำที่เอ่ยออกมามีอานุภาพบางอย่างจนทำให้ไม่ว่าการกระทำ หรือกระทั่งลมหายใจของผมนั้นขาดห้วง
   
“นายไม่ใช่หรือไงที่บอกว่า เกลียด!”
   
เจ้าของน้ำเสียงสั่นเอ่ยดังขึ้นเรื่อยๆ ดังขนาดที่คิดว่านี่คงเป็นครั้งแรก ที่ได้ยินเขาเปล่งน้ำเสียงออกมาอย่างใช้อารมณ์
   
“ถ้าเกลียดกันนัก ก็ปล่อยฉันไปเสียที!”
   
“......”
   
ดวงตาจ้องมองเจ้าของใบหน้าขาว รูปปั้นงดงามที่เคยมีรอยยิ้มประดับ บัดนี้รอยยิ้มนั้นหายวับไปจากวิถีสายตา นัยน์ตาที่ไม่เคยฉายประกายใดๆ กลับเต็มไปด้วยความวูบไหว สีหน้าที่เคยไม่บ่งบอกความรู้สึกที่แท้จริง กลับแสดงออกไม่เหมือนทุกที
   
“หรือที่ไม่ยอมปล่อย เพราะนายเองต่างหาก ที่ติดใจจนปล่อยฉันไม่ได้”
   
ทุกอย่างนิ่งงัน ในหัวฉายเพียงภาพเบลอราวกับสติถูกกระแทกกระทั้นอย่างรุนแรง
   
กระแทกด้วยคำพูดและท่าทีที่ทำให้ความเชื่อมั่นพังทลาย
   
และชั่วขณะที่เผลอไป วายุก็ออกแรงผลักผมออก
   
สองขาถอยกลับไปยืนนิ่ง แม้มือจะปล่อยให้เขาเป็นอิสระ หากสายตายังคงไม่ผละออกไปจากร่างที่กำลังรวบรวมเรี่ยวแรงยันตัวลุกขึ้น
   
“ยอมรับมาเถอะ ว่านายต่างหากที่ต้องการฉัน”
   
รูปปั้นที่ดูผิดไปจากเดิมหัวเราะออกมาอย่างไร้ความจริงใจ บอกไม่ถูกว่าเขากำลังเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกใด อาจจะต้องการแดกดัน ไม่ก็รู้สึกสมเพช
   
“ถ้าอยากนอนกับฉันขนาดนั้น ฉันจะปล่อยให้นายทำก็ได้” เขาเอ่ยต่อไม่หยุด
   
ถอยเท้าออกจากอาณาบริเวณใกล้อีกฝ่ายเรื่อยๆ สิ่งที่เคยไม่อยากยอมรับ ที่เคยพยายามกลบเกลื่อนความรู้สึก ต่อให้ดิ้นรนฝืนความรู้สึกแค่ไหน สุดท้ายความจริงก็ปรากฏเด่นชัดอยู่ตรงหน้า
   
“นายพูดถูก...”
   
ผมเอ่ยทั้งที่ไม่มีกระแสโทสะเจืออยู่ในน้ำเสียง ทว่ามันกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยรู้สึกยอมรับความจริงจากก้นบึ้งของหัวใจ
   
“ฉันเอง...ที่ต้องการนาย”
   
ต้องการมาก จนกลายเป็นคนที่โง่เง่า เอาแต่วิ่งตามเขาและถูกปั่นหัวอยู่ฝ่ายเดียว
   
วายุอ้าปากราวกับจะเอ่ยคำพูด หากแต่ก็ไม่มีเสียงใดหลุดเล็ดลอดออกมา
   
“สำหรับนาย ทุกอย่างคงเป็นแค่เกมเกมนึง”
   
แค่เพื่อความพอใจ คนอื่นจะตกหลุมจมดิ่งลึกแค่ไหนก็ไม่มีความหมาย
   
“ฉันแพ้ พอใจแล้วหรือยัง”
   
แพ้อย่างราบคาบ จะดันทุรังต่อไป ก็รังแต่จะสูญเปล่า
   
“ถ้าสาแก่ใจแล้ว ก็อย่ามาล้อเล่นกับความรู้สึกฉันอีก”
   
วายุมองผมด้วยสีหน้าประหลาด แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะตีความเรื่องใดเกี่ยวกับคนคนนี้อีก ไม่มีประโยชน์ที่จะใส่ใจ ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดสนใจถึงเนื้อในที่แท้จริงของเขาตั้งแต่แรก
   
ได้แต่ยิ้มเยาะให้กับเจ้าของใบหน้าดุจรูปปั้น ท้ายที่สุดต่อให้เปลือกปูนปั้นอันสวยงามนั้นดูผิดแผกไป หรือแม้กรอบตาของรูปปั้นทั้งสองข้างจะแดงก่ำรื้นไปด้วยน้ำใส แม้กระทั่งมีหยาดน้ำตาจะไหลรินลงมาให้เห็นต่อหน้า
   
ผมก็จะไม่ทิ้งความรู้สึกใดให้กับเขาอีก



.
.
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 13 [p12 up 03.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 07-07-2016 20:18:02
.
.



   
“อืม อยู่ที่โรงอาหารใช่ไหม? ฉันกำลังจะไป”
   
ผมกดวางสาย พลางเก็บเครื่องมือสื่อสารสีดำกลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สองขามุ่งหน้าไปหาเพื่อนสนิทที่กำลังรออยู่ที่โรงอาหาร
   
ณพติดต่อชวนผมให้ไปทานข้าวด้วยกันที่นั่น เนื่องจากไม่อยากฟุ้งซ่านไปถึงเรื่องไม่เป็นเรื่อง จึงตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่จะว่าทำให้โล่งใจก็อาจใช่ เพราะความรู้สึกที่สั่งสมอัดอั้นมาตลอด รวมไปถึงความอาลัยอาวรณ์นั้นหายวับไปหมด
   
จะมีก็แต่ความเคลือบแคลงสงสัย ที่คืบเคลื่อนแทนที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ในหัวใจ เป็นความสงสัยที่ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิม ผมไม่ได้แคร์อีกต่อไปแล้วว่าเนื้อแท้ภายใต้รูปปั้นประติมากรรมชั้นเลิศจะสวยงามดั่งภายนอก หรือฟอนเฟะกลับตาลปัตรกับรูปลักษณ์ แต่สีหน้าและแววตาของวายุที่มองผมแบบนั้น ทำให้ความใคร่รู้ในเรื่องอื่นเข้ามาแทนที่
   
นัยน์ตาที่ซ่อนเร้นอะไรบางอย่างเอาไว้อย่างแยบยล ท่าทีที่ราวกับว่าเขาต้องการพูดอะไรบางอย่างออกมา แม้สมองจะสั่งการให้เมินเฉยต่อความวูบไหวผิดแปลก หากแต่หัวใจกลับไม่ยินยอมอยู่นิ่งเฉย
   
ผมเลือกที่จะเดินจากมา โดยที่วายุก็ไม่ได้คิดจะเอ่ยสิ่งใดเช่นกัน
   
น่าเหนื่อยหน่ายกับการต้องคิดตีความทุกอย่างเอาเอง ผมไม่อยากสร้างความหวังลมๆ แล้งๆ ให้เกิดขึ้นอย่างสูญเปล่าอีก แต่เสี้ยวหนึ่งในใจผม ก็ยังคิดว่าตัวเองไม่ได้มองผิด นัยน์ตาคู่นั้นที่มองมายามที่ก้าวเท้าถอยห่าง มันซ่อน คำขอร้อง เอาไว้อย่างแนบเนียน ทว่าก็ไม่แนบเนียนพอจะหลุดรอดไปจากสายตาผมได้
   
ถึงอย่างนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมยังมีความลังเลที่จะตีความให้แน่ชัดลงไป
   
บางทีการปล่อยให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้อาจจะดีกว่า เพราะการที่ต้องตกเป็นจำเลย ต้องจมอยู่ในห้วงของความไม่แน่นอน ทำให้การหยัดยืนบนพื้นดินนี้เหมือนจะสั่นคลอนได้ทุกเมื่อ
   
กดสายหาณพอีกครั้งเมื่อเดินมาถึงโรงอาหาร ทันทีที่เดินผ่านทางเข้า สายตาก็มองเห็นเขาโบกไม้โบกมือเรียก
   
ผมเข้าไปสมทบกับเพื่อนร่างสูง หย่อนตัวนั่งยังไม่ทันถึงเก้าอี้ ณพก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ป้องมือทำท่ากระซิบกระซาบบางอย่าง
   
“เมื่อกี้น่ะ...” เขาส่งเสียงเบาราวกับว่าไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน ทว่าหมอนี่คงลืมนึกว่าภายในโรงอาหารที่คนค่อนข้างแน่นขนัดและเสียงจอแจก็ดังจนฟังไม่ได้ศัพท์ ไม่มีใครจะสนใจเสียงจากโต๊ะอื่นหรอก
   
ผมเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามขณะที่ขยับเก้าอี้นั่งให้เข้าที่
   
“ฉันเห็นคนนั้นไปกับคนนั้นด้วย”
   
“......”
   
คนนั้นกับคนนั้น นี่เขาหวังว่าผมจะเข้าใจที่เขาพูดหรือไงว่าคือใครกับใคร?
   
มหาวิทยาลัยออกกว้างขวาง แล้วณพก็ออกจะรู้จักคนไปค่อนมหาวิทยาลัย จะให้เลือกว่าคนที่ว่านี้คือใครในหมู่คนที่เขารู้จัก ก็ออกจะยุ่งยากและเสียเวลาเกินไปหน่อยมั้ง
   
พอผมขมวดคิ้ว สายตาปรายมองอย่างเขม่นไปที่อีกฝ่าย ณพก็ล้มเลิกความพยายามที่จะบ่ายเบี่ยงไม่เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ
   
“วายุไง”
   
ทันทีที่ชื่อของเขาหลุดออกมา ผมก็ชะงักไป ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าอีกคนที่เขาจะพูดถึงคือใคร เป็นเรื่องที่ผมคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าสองคนนั้นจะต้องเจอกัน
   
“ฉันไม่อยากรู้”
   
สวนกลับออกไปทันควันก่อนที่ณพจะเอ่ยต่อ ผมลุกขึ้นผละออกมาซื้ออาหารโดยไม่สนใจเพื่อนที่กอดอกมองผมอย่างไม่วางตา
   
กลับมานั่งที่โต๊ะอีกที ณพก็เปลี่ยนเป็นพูดเรื่องอื่น ทว่าก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น เพื่อนตรงหน้าก็วกกลับมาที่เรื่องของวายุต่อ
   
“นี่...ถามจริงเหอะ นายจะไม่ทำอะไรจริงหรือ?”
   
“......”
   
มือที่กำลังตักอาหารใส่ปากหยุดค้าง สายตามองณพอย่างไม่เข้าใจในความหมายที่เขาเอ่ยสักเท่าไหร่ “ทำอะไรนี่คือ?”
   
“จีบไง เดินหน้าจีบจริงจังน่ะ ฉันรู้หรอกน่า นายน่ะชอบเขาใช่มั้ยล่ะ” เพื่อนฝั่งตรงข้ามยกนิ้วชี้มาใกล้ดวงตา จนผมผงะถอยไปนิดหน่อย “ตานายน่ะ มันฟ้อง เห็นกี่ทีก็มองเขาตาเป็นมัน”
   
“พูดอะไรบ้าๆ” ผมปัดมือที่ชี้นิ้วตรงหน้าออก
   
ในเมื่อเราไม่ได้เริ่มต้นด้วยซ้ำ ก็ไม่มีประโยชน์ที่เข้าไปสานสัมพันธ์
   
“อะไรว้า ทำเป็นหยิ่ง มีโอกาสได้ใกล้ชิดทั้งที เดี๋ยวก็โดนคนอื่นคาบไปกินหรอก!”
   
“......”
   
ความอยากอาหารหายวับไปทันที ผมวางช้อนส้อม ลมหายใจพ่นพรูออกจากจมูก
   
“เฮ้ย ทำหน้าเครียดอีกละ หรือว่าฉันพูดแทงใจดำ?”
   
ผมไม่ตอบ
   
“เอ่อ...” ณพเกาหัวแกรกๆ “เอาน่า อย่างนายหาดีๆ ได้อยู่แล้ว เอาไว้เดี๋ยวพาไปเปิดหูเปิดตา โอเค้?” เขาเปลี่ยนเรื่องพูดเพื่อแก้บรรยากาศ มือหนาตบไหล่ผมไปหลายที
   
ใบหน้าพยักให้อีกฝ่ายส่งๆ ไปอย่างนั้น แม้ใจจริงจะไม่ได้รู้สึกอยากไปเปิดหูเปิดตาอย่างที่เขาว่าแม้แต่น้อย
   
“ฉันว่าฉันกลับก่อนดีกว่า วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดี”
   
ตัดสินใจตัดบทสนทนา ศีรษะปวดหนึบขึ้นมาดื้อๆ จนต้องยกมือขึ้นนวดขมับให้คลายตึงเครียดลง
   
“เอางั้นเหรอ... งั้นให้ฉันไปส่งไหม? ดูท่าทางนายไม่ดีจริงๆ แฮะ”
   
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันกลับเอง”
   
“เอาน่า ยังไงก็ต้องขับรถผ่าน” ณพเอ่ยต่อ “นายไปสตาร์ทรถรอฉันก่อนแล้วกัน ขอเอาของนี่ไปคืนเพื่อนเดี๋ยว” สายตามองปราดไปที่ซีดีสองสามแผ่นที่วางอยู่ด้านข้าง
   
ผมถอนหายใจแรงอีกครั้ง มือพลางยื่นรับกุญแจรถจากเพื่อนสนิท
   
“รถจอดอยู่ที่เดิมนะ เดี๋ยวเสร็จแล้วตามไป”
   
เพื่อนร่างสูงเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะกดโทรศัพท์ติดต่อคนที่ต้องไปพบ ผมแยกกับณพตรงนั้น สองเท้ามุ่งหน้าไปยังลานจอดรถของตึกคณะ
   
ขณะที่กำลังจะเดินเลี้ยวตรงมุมตึกเพื่อเข้าไปยังลานจอด เสียงสนทนาบางอย่างก็ลอยเข้าหู เท้าผมหยุดชะงัก น้ำเสียงที่ได้ยินทำให้รู้ดีว่าผู้พูดนั้นเป็นใคร
   
ไม่ต้องมองเห็นหน้า ผมก็รู้ว่า วายุ กำลังคุยกับคนที่ชื่อ อิฏฐ์ อยู่ไม่ห่างจากจุดที่ผมยืน โลกมหาวิทยาลัยนี่ช่างเล็กจนน่าหงุดหงิดเสียจริง เล็กจนอดที่จะหัวเราะไม่ได้
   
“วาดูซึมไปนะ”
   
“ฉันไม่เป็นไร”
   
“เพราะเขาใช่ไหมวาถึงเป็นแบบนี้ หมอนั่นน่ะ มีอิทธิพลกับวาขนาดนี้เชียว?”
   
“......”
   
วายุนิ่งเงียบเมื่อเจอคำถาม เหมือนกับที่ผมเองก็รู้สึกประหลาดใจว่า ใคร คือคนที่เขาเอ่ยถึง
   
“ฉัน...ไม่เข้าใจว่านายกำลังพูดอะไร” วายุบ่ายเบี่ยงเลี่ยงการตอบคำถามนั้น
   
“ผมดูออกหรอก คนที่เจอหน้าห้องสมุดวันนั้นน่ะ พอวาเจอเขาที ท่าทีก็เปลี่ยน”
   
“......”
   
ความตึงเครียดแผ่ออกมาอย่างรู้สึกได้ แม้กระทั่งนิ้วมือทั้งสิบของผมก็เย็นเยียบผิดปกติ หัวใจเต้นรัวแรงราวกับจะทะลุจากอกออกมา
   
“วา...รักเขาใช่ไหม?”
   
“......”
   
เสี้ยววินาทีที่ได้ยินคำนั้น ทุกอย่างนิ่งงัน ภายในอกข้างซ้ายสะเทือนหนักเสียจนเจ็บแปลบ ทั้งเจ็บ ทั้งตื่นตระหนก คละเคล้ากันไปจนแยกไม่ออกว่าแท้จริงแล้วกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่
   
“เพราะงั้นถึงได้เป็นแบบนี้”
   
“พอเถอะ”
   
“วาได้บอกเขาหรือเปล่า”
   
“ฉัน...” เจ้าของน้ำเสียงสั่นเครือหยุด เขาพูดอะไรไม่ออก ผิดกับอีกคนที่ยังเอ่ยต่อ
   
“ไม่ได้บอกสินะ...” ลมหายใจยาวพรูออก “เอาเถอะ... แต่ถ้าเขาทำให้วาเจ็บขนาดนั้นก็ ตัดใจดีกว่า”
   
มือทั้งสองข้างกำหมัดแน่น คมฟันกัดลงที่ริมฝีปากจนปลายลิ้นรับรู้รสคาวของเลือดตัวเอง
   
ความรู้สึกอัดอั้นตีตื้นขึ้นจุกอยู่ที่ลำคอ ร่างกายหายใจได้ไม่ทั่วท้อง ภายในอกเจ็บแปลบยิ่งขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ทุกอย่างถาโถมเข้ามาหนักหน่วง ผมหลับตาลง ภาพเหตุการณ์หลายอย่างฉายอยู่ในหัวราวกับกำลังวกกลับไปในอดีต
   
ทว่ามันเป็นอดีตที่ผมย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้สักอย่าง
   
“ฉันรู้...” เจ้าของน้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยอย่างแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน
   
ผมเปิดเปลือกตาขึ้น ขณะที่สายลมพัดไหวให้น้ำเสียงแผ่วนั้นดังแว่วอยู่ในอากาศ
   
“ฉันจะตัดใจ”


.
.


TBC   


____


ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ^^ ใกล้จะจบแล้วล่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 07-07-2016 21:27:39
ต่างคนต่างรู้ใจกันแบบหน่วงๆ เพลิงเดินหน้าเอาจริงเลยวายุนางไม่ปฏิเสธหรอก มาต่อไวๆนะคะ ลุ้นเลย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-07-2016 23:33:43
สงสารวาจัง แบกรับทุกอย่างมาตั้งแต่ต้นเลยง่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 07-07-2016 23:41:30
อย่าพึ่งตัดใจน๊าาา รอเพลิงก่อนนนน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 08-07-2016 00:24:13
หนุ่มๆคะ  มีไรขัดข้องใจก็พูดออกมาค่ะ อ่านแล้วอึดอัดขนาด
อยากตบหัวเพลิงซักป๊าบ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: naoai ที่ 08-07-2016 00:32:48
อึมครึมตั้งแต่ต้นยันจะจบทีเดียว
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 08-07-2016 01:01:08
ในขณะที่วาจะตัดใจคนโง่อย่างเพลิงก็พึ่งรู็ใจ :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 08-07-2016 06:02:44
อึมครึม
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 08-07-2016 07:02:09
ไปซะเหอะเพลิง มีวี่แววว่าอยู่กับวาก็จะเสียใจเพราะต้องคิดไปเองทุกเรื่อง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 08-07-2016 08:37:13
ก็งได้แต่ฝากไว้ที่เพลิงแล้วล่ะ
ว่าจะเดินหน้าสุดกำลัง
หรือถอยไปเป็นเส้นขนาน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 08-07-2016 09:09:28
สงสารวาจังงง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 08-07-2016 13:16:20
ดีงามคะ รอ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-07-2016 19:28:21
ฮึ้ย....จะตัดใจจริงๆหรอวา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 08-07-2016 19:29:49
อ้าวเวรแล้วพี่เพลิง. หนูวาจะตัดใจฉับๆแล้ว :katai1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: owlseason ที่ 08-07-2016 20:19:53
 :ling1: :ling1:
ไม่อยากให้จบเลยอ่ะะะะะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 09-07-2016 07:09:53
แต่ละคน เห้อ 555
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 11-07-2016 12:34:33
เฮ้ออออออ...แต่ละคนอึมครึมมากนะคะคุณลูกขาาาาาา...
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 11-07-2016 19:52:39
ตอนที่ 15






กักขังตัวเองอยู่กับไออวลความเงียบในห้อง ไม่มีเสียงอื่นใด นอกจากความเงียบที่รายล้อม ทำให้ข้อความในห้วงความคิดกรีดร้องลั่น   
   
ทำไมการตกหลุมรักใครสักคนถึงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทำไมถึงมีแต่เรื่องที่ทำให้ไม่เข้าใจ
   
เพลิงบอกว่าเขาแพ้ แต่คนที่แพ้มาตั้งแต่แรกมันผมเองไม่ใช่หรือ ที่บอกมาว่าเขาเป็นฝ่ายต้องการผม แต่สุดท้ายเขาก็เดินจากไปโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลังอยู่ดี
   
ผมเจ็บ เจ็บจนพูดไม่ออก เจ็บแม้กระทั่งในตอนนี้ เพราะงั้นถึงได้อยากตัดใจ ตัดความเจ็บปวดออกไปให้หมด ถ้าหากสามารถตัดใจได้จริงๆ ความเจ็บก็คงจะหายไป ผมจะได้ไม่ต้องทุกข์ทนกับความรู้สึกที่รังแต่จะทำให้ทรมานอยู่อย่างนี้อีก
   
ถึงอย่างนั้นไม่ว่ายังไง ผมก็ยังทำให้ความเจ็บปวดนี้หายไปไม่ได้ เหมือนกับความรู้สึกที่มีให้เขา ไม่ว่ายังไงก็ยังคงอยู่
   
ผมหยิบบุหรี่ขึ้นสูบเพื่อให้ความปวดหนึบในอกผ่อนคลายลง ปล่อยตัวเองให้หมอควันสีเทารายล้อมโดยรอบ ซ่อนตัวอยู่ในรวงควันขมุกขมัวนี้ไม่ต้องออกไปไหน ไม่ต้องออกไปเผชิญความจริงหรือเผชิญหน้ากับใคร
   
มวนแล้วมวนเล่า หมดไปอย่างสูญเปล่า สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นเดินเข้าไปในห้องน้ำ ยื่นมือเปิดน้ำให้ไหลออกจากก๊อกน้ำที่อ่างล้างมือ จัดการวักน้ำเย็นเฉียบชโลมใบหน้า
   
รู้สึกไม่อยากจะจ้องมองลึกเข้าไปในกระจกที่กำลังสะท้อนภาพตัวเอง จึงได้แต่จงใจมองต่ำไปที่พื้นเพื่อหลบหลีกการมองเห็นสายตาและสภาพที่เหมือนกับไม่ใช่ตัวของตัวเอง น่าสมเพชเสียเหลือเกิน รูปปั้นที่ใครต่อใครว่าสวยงามน่าหลงใหล สุดท้ายก็เป็นได้แค่รูปปั้นที่มีแค่เปลือก ไร้ชีวิตไร้หัวใจ ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้รับความรักความอบอุ่นอย่างที่ มนุษย์ เขามีกัน
   
ผมอาบน้ำชำระร่าง ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยตัวลงนั่งในอ่าง เลื่อนร่างจมอยู่ข้างใต้น้ำ กล่อมตัวเองให้ยอมรับว่าเป็นแค่รูปปั้น อย่าได้คิดไปมีหัวใจหรือความรู้สึกใดๆ อีก
   
จมดิ่งอยู่ข้างใต้ จนกระทั่งอากาศแทบหมดไปจากร่างกาย อึดอัด ทรมานเมื่อขาดอากาศ ในที่สุดผมก็ดันตัวขึ้นมาจากใต้น้ำ โกยอากาศเข้าปอด
   
หายใจ
   
และยังรู้สึกเจ็บอยู่ภายใน



   



กลับออกมาด้านนอกอีกที เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่ามีสายที่ไม่ได้รับหลายสาย รวมทั้งมีข้อความเสียง ผมใจเต้นแรงเมื่อเห็นว่าข้อความนั้นมาจาก เพลิง
   
ทั้งตกใจ และแปลกใจ ผมไม่รู้ว่าเขามีเรื่องอะไรถึงได้ติดต่อมาอีก แต่คนอย่างเขาจะมีอะไรได้ถ้าไม่ใช่เรื่องงาน แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ข้อความที่ฝากไว้ต้องการให้ผมนำไฟล์รายงานหน้าชั้นไปให้ เพราะส่วนของผมนั้นมีปัญหา
   
ถึงจะแน่ใจว่าตัวเองตรวจสอบดีแล้ว แต่นั่นก็เป็นตอนที่ลองกับคอมพิวเตอร์ของตัวเองเท่านั้น บางทีพอเปิดที่เครื่องของเขา ไฟล์งานก็อาจจะมีปัญหาอย่างที่ว่าจริงๆ จึงตัดสินใจส่งข้อความกลับไปเพื่อหลีกเลี่ยงการต้องพูดคุยกันตรง ๆ
   
[ไฟล์มีปัญหาอะไรหรือ ให้ส่งอีเมลไปให้อีกครั้งไหม?]
   
[ฉันว่านายเอามาให้ฉันกับตัวเลยดีกว่า ส่งอีเมลมาก็เหมือนเดิม]
   
“......”
   
ผมไม่เข้าใจว่ามันจะแตกต่างกันตรงไหน ไม่ทันได้ตอบ อีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาอีกครั้ง
   
[เอามาให้ที่ห้องฉันนะ]
   
ข้อความราวกับมัดมือชก วูบหนึ่งก็คิดว่านี่เป็นแค่ข้ออ้างเพราะเขาอาจมีเรื่องอื่นที่อยากคุยต่อหน้า อีกวูบหนึ่งก็คิดว่าอย่างเพลิง จะมีอะไรที่อยากข้องเกี่ยวกับผมอีกหรือ
   
น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่ายิ่งสร้างความหวังมากเท่าไหร่ เบื้องหน้าก็มีเพียงแค่ความผิดหวังที่เฝ้ารอมากเท่านั้น
   
[ฉันอยากทำงานกลุ่มให้เสร็จในวันนี้ เหลือแค่ของนายที่มีปัญหา]
   
ข้อความส่งมาอีกครั้ง ผมพ่นลมหายใจแรงออกมา สุดท้ายก็เดินไปหยิบข้าวของและเดินออกจากที่พักของตัวเอง จัดการเรียกแท็กซี่ให้ไปยังจุดหมาย
   
ผมเคยไปที่ห้องของเพลิงครั้งหนึ่ง วันนั้นเราลองทำขนม คิดว่าได้มีโอกาสใกล้ชิดกันขึ้นอีกนิดแล้วเชียว
   
ตลอดระยะเวลาที่นั่งรถ วิถีสายตาคอยมองออกไปยังนอกหน้าต่าง เวลามืดค่ำทำให้แสงไฟตระการตายามค่ำคืนไปสะกิดความทรงจำเกี่ยวกับเขา
   
แม้จะไปแค่ครั้งเดียว ก็จดจำได้ดีว่าห้องพักเขาอยู่ชั้นไหน เลขห้องอะไร
   
เมื่อรถมาจอดอยู่ที่หน้าอพาร์ทเม้นต์ของเพลิง ผมก็เดินไปด้านหน้าด้วยความลังเล รู้สึกอึดอัด หายใจไม่ทั่วท้อง เพียงแค่นึกถึงว่าต้องเผชิญหน้า แล้วทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่หวัง ถ้าสุดท้ายแล้วเขาเมินเฉย ผมก็รู้สึกเจ็บ กลัว และก้าวขาไม่ออก
   
แต่สุดท้ายก็พาตัวเองเข้าไปอยู่ในลิฟต์ พาตัวเองมาจนถึงห้องนั้นในที่สุด


.
.

หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่ 14 [p13 up 07.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 11-07-2016 20:14:35
.
.



   
กดออดเพียงไม่นาน เพลิงก็ออกมาเปิดประตู
   
“เข้ามาสิ”
   
ร่างสูงใหญ่ยื่นใบหน้าออกมาให้เห็น มือยันบานประตูให้เปิดอ้าทิ้งไว้ เพื่อให้ผมเดินเข้าไปภายใน ผมทำตามที่เขาบอก ก้าวเท้าเดินไปหยุดยังโถงทางเข้าภายในตัวห้อง
   
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบเชียบ ไม่มีการไถ่ถามหรือเอ่ยใดๆ ต่อ มีเพียงเสียงลมหายใจที่ดังแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน และเสียงดันบานประตูปิดดังตามหลังมา
   
เจ้าของห้องก้าวเดินนำไปยังบริเวณโซฟาที่มีโน้ตบุ๊กวางไว้อยู่บนโต๊ะเตี้ยด้านหน้า ผมเดินตามเข้าไปนั่งที่พื้นฝั่งตรงข้าม รู้สึกตะขิดตะขวงใจหากต้องนั่งลงด้านข้างยังโซฟาที่มีขนาดเพียงสองที่นั่งกับเขา
   
“ส่งไฟล์ของนายมาสิ”
   
อีกฝ่ายเอ่ยเสียงเรียบ มือพลางยื่นรับ USB ที่ผมเตรียมมา เขาเสียบมันเข้ากับโน้ตบุ๊กสีขาวของตัวเอง หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรเหมือนเดิม เสียงคลิกเมาส์และเสียงพิมพ์คีย์บอร์ดดังแทรกความในเงียบขณะที่ผมยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง
   
น่าอึดอัด...
   
นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ที่นี่?
   
ผมมาที่นี่ทำไม คุ้มหรือกับการตัดสินใจมาเพื่อเพิ่มความรู้สึกย่ำแย่ให้ตัวเอง แทนที่จะได้ทำให้ความทรมานและความอึดอัดนั้นหายไป กลับกลายเป็นว่าต้องหอบเอาความเจ็บช้ำกลับไปแทน ท่าทีนิ่งเฉยของอีกฝ่ายก็ฟ้องชัดเพียงพอแล้ว ว่าเขาต้องการเมินเฉย ไม่มีความยินดียินร้าย ไม่ว่าผมจะอยู่หรือจะไป
   
ควรจะกลับออกจากห้องของคนแปลกหน้าเสียแต่ตอนนี้ ก่อนที่ผมจะต้องสูดเอามวลอากาศอันน่าเจ็บปวดเข้าไปในร่างมากกว่าที่มีอยู่ เพียงแค่นี้ภายในอกก็จุกแน่นเพียงพอแล้ว ผมไม่อยากเจ็บจนทนไม่ไหวอีก
   
“ถ้าทุกอย่างโอเค งั้นฉันกลับก่อน”
   
ผมเตรียมลุก ความตั้งใจที่ตระเตรียมมาสูญเปล่า สองมือดันกับโต๊ะตัวเล็กที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า สองขาส่งแรงหยัดตัวยืนขึ้น
   
“เดี๋ยว”

   
ราวกับว่าคำนั้นมีพลังให้ผมหยุดชะงัก ใบหน้าเงยขึ้นมองสบกับดวงตาสีเข้มที่นิ่งมากขนาดไม่มีแววไหวติง
   
“มาดูนี่ก่อน” เพลิงเคาะนิ้วที่หน้าจอโน้ตบุ๊กไปด้วย “ส่วนของนาย โอเคแล้วหรือยัง?” สายตาพลางมองไปที่จอภาพอย่างเฉยชา
   
ริมฝีปากเม้มแน่นอย่างอัดอั้น พยายามกลั้นใจเดินไปด้านข้างเขา ก้มมองดูอีกฝ่ายที่คลิกเลื่อนสไลด์รายงานอย่างเย็นใจ
   
ไม่มีปัญหาในการเปิดไฟล์หรือแม้แต่การจัดรูปแบบใดๆ ทุกอย่างออกมาไม่มีปัญหา เท่านี้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับผมและเขาก็จะจบลง
   
จบอย่างสมบูรณ์แบบ
   
“อืม”
   
ผมพยักใบหน้าตอบก่อนจะยืดตัวขึ้นยืนตรง เจ้าของห้องไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาอีก ราวกับเป็นการบอกกลายๆ ว่าหากผมจะกลับก็เชิญตามสะดวก
   
สุดท้ายแล้วก็จบลงเท่านี้ น่าหัวเราะให้กับความหวังที่เกิดขึ้นไม่รู้จบของตัวเองจริงๆ
   
ตัดสินใจผละตัวออกจากอาณาบริเวณนั้นด้วยความรู้สึกเจ็บจนล้น หากในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงความว่างเปล่า ภายในหัวโล่งและขาวโพลน สองขาเดินไปหยิบข้าวของของตัวเองก่อนจะเดินมุ่งหน้าไปที่ประตู
   
แม้ในขณะนี้ก็อธิบายที่มาที่ไปของความร้อนรุ่มรอบดวงตาทั้งสองข้างไม่ได้ ขบกัดริมฝีปากล่างตัวเองไว้แน่น เก็บงำน้ำเสียงบางอย่างไม่ให้หลุดเล็ดลอดออกมา นิ้วทั้งห้าที่สั่นเทิ้มจับกอบกุมกับลูกบิด ค่อยๆ หมุนให้เปิดแง้มทั้งๆ ที่เรี่ยวแรงราวกับหายวับไปจากร่างกาย อยากจะวิ่งออกจากห้องนี้ไปให้เร็วที่สุด
   
ทว่าเมื่อบานประตูแง้มออก เจ้าของมือใหญ่ก็ผลักดันให้ปิดลงดังเดิม
   

ปึง!

   

เสียงบานประตูกระแทกทับปิดลงกับกรอบดังสะท้อนภายในห้องที่อัดแน่นไปด้วยความเงียบ ท่อนแขนแกร่งแผ่อุณหภูมิร้อนฉ่าเสียดสีกับหัวไหล่ น้ำเสียงทุ้มต่ำดังจากทางด้านหลัง
   
“นายมีอะไรจะพูดกับฉันรึเปล่า?”
   
“......”
   
ความร้อนและความอึดอัดตีตื้นขึ้น
   
รู้สึกหายใจไม่ออก ต้องพยายามหายใจผ่านทางริมฝีปากอย่างยากเย็น คมฟันกัดข้อนิ้วไปด้วยเพื่อไม่ให้หลุดเสียง สะอื้น น่าอายออกมา ฝืนกล้ำกลืนทุกอย่างลงลำคอด้วยความยากลำบาก
   
เปลือกตาปิดลง พยายามตั้งสติให้กลับมาปกติอีกครั้ง ทว่าก็สายเกินไป หยาดน้ำอุ่นร่วงหยดเผาะ หากแต่ก็ยังอยากเก็บงำทุกอย่างให้ถึงที่สุด จนกว่าน้ำตาจะค่อยๆ เหือดแห้งหายไปในมวลอากาศเท่านั้น
   
“ไม่มีอะไรจะบอกฉันจริงๆ รึไง?”
   
เสียงทุ้มต่ำถามย้ำ แผงอกและลำตัวร้อนแนบเข้าใกล้กับแผ่นหลัง 
   
“เรื่องที่นายบอกกับหมอนั่นได้ แต่บอกกับฉันไม่ได้น่ะ”
   
“......”
   
เสียงที่ดังแผ่วคลอข้างหูทำให้ทั้งร่างกายสั่นไหว มันไม่ใช่น้ำเสียงดุดัน ไม่ใช่น้ำเสียงประชดประชัน หากแต่เป็นน้ำเสียงที่ทำให้หัวใจผมเต้นรัวแรงด้วยจังหวะที่ผิดแปลกไปจากเดิม
   
ผมไม่เข้าใจสิ่งที่เขาเอ่ย ไม่สามารถล่วงรู้ถึงความหมายของแต่ละคำพูด
   
ข้อมือข้างหนึ่งของผมถูกเรียวนิ้วแข็งแรงกุมเอาไว้ ร่างกายถูกร่างสูงกว่าจับให้หันกลับมาเผชิญหน้า ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่สามารถเอ่ยอะไรออกไปได้แม้แต่คำเดียว ความอัดอั้นที่สั่งสมมาตลอดยากที่จะกลั่นกรองออกมา ความรู้สึกที่มีอยู่นั้นมีมากเกินกว่าจะถ่ายทอดออกไปให้เขาได้ล่วงรู้
   
“มองฉัน”
   
ปลายคางถูกเชยขึ้นให้สบตากับอีกฝ่าย
   
ดวงตาของเขาทำให้ผมรู้สึก ...ร้อน ขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ
   
“ถ้านายพูดออกมาไม่ได้ ฉันก็จะไม่บังคับ”
   
ปลายนิ้วร้อนฉ่าแตะสัมผัสกับริมฝีปาก ใบหน้าคมเข้มโน้มลงด้านข้าง เพื่อผ่อนไอร้อน และเสียงทุ้มต่ำที่ข้างใบหู
   
“แต่อย่างน้อยก็ช่วยแสดงออกให้รู้ ..ว่านายก็ต้องการฉัน อย่างที่ฉันต้องการนาย
   
ลมหายใจผมขาดห้วง หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ได้แต่เผยอริมฝีปากขึ้น และเม้มลงอย่างฝืนกลืนความรู้สึกลงคอ
   
คนตรงหน้าผละกายออก สองมือลดลงถอยห่าง หากแต่ความร้อนจากร่างกายสูงใหญ่ยังคงแผ่ไออุ่นมาให้รู้สึก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ยืนอยู่แนบชิดกัน ทว่าผมกลับรู้สึกร้อนจนมือทั้งสองข้างเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
   
“ฉันให้เวลานายคิด จนกว่าที่ฉันจะบอกว่าหมดเวลา ถ้านายอยากหนี ก็เดินออกจากห้องนี้ไปซะ และจะทำเหมือนทุกอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ผ่านมาก็ได้”
   
“......”
   
“ฉันจะไม่เข้าใกล้นาย จะไม่สนใจอะไรอีก ต่อจากนี้ไปเราจะไม่กลับมาเกี่ยวข้องกัน จะเป็นแค่คนไม่รู้จัก เหมือนอย่างที่เคยเป็น”
   
“......”
   
“แต่ถ้าหมดเวลาเมื่อไหร่ แล้วนายยังไม่ออกจากห้องนี้... ฉันจะถือว่านาย ยอมรับ
   
ความจริงจังฉายออกทางสีหน้าร่างสูงกว่า น้ำเสียงที่เอ่ยไม่บ่งบอกว่ากำลังล้อเล่น หรือแม้แต่โกหก
   
“ว่าแต่นี้ต่อไป จะไม่ยอมให้ใครมายุ่งกับนาย แล้วฉันก็จะไม่ยอมให้นายไปยุ่งกับใครคนอื่น”
   
นัยน์ตาเข้มฉายประกายอย่างมีอำนาจ ดุดัน และสะกดให้ผมหยุดนิ่ง แม้กระทั่งลมหายใจ ผมไม่แต่จะรู้สึกว่าหัวใจตัวเองกำลังเต้นอยู่
   
“ฉันจะทั้งหึง ทั้งหวง จะแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ จะไม่ปล่อยมือจากนาย ไม่ว่าจะยังไง”
   
“......”
   
ราวกับว่าคนคนนี้ไม่ใช่เพลิงคนเดิม เขาไม่ได้เอาแต่ทำให้ผมรู้สึกกดดันเหมือนอย่างเคย หากแต่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูก 'กอดรัด'
   
รัดแน่นด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยได้สัมผัสจากใครมาก่อน
   
“ฉันจะนับถอยหลัง ถ้าหมดเวลาเมื่อไหร่ ฉันจะไม่ปล่อยให้นายหนีไปไหนอีก ต่อให้นายคุกเข่าขอร้อง ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยนายไป”
   
เพลิงกอดอก ทอดสายตามองผมที่หยุดยืนแน่นิ่ง ริมฝีปากคนตรงหน้าเม้มปิด ก่อนจะเอ่ยขยับเป็นคำพูด
   
“สิบ”
   
หัวใจกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง ผมรวบมือชื้นเหงื่อเข้าหากันอย่างทำอะไรไม่ถูก พอก้มหน้าและหันสายตาไปทางลูกบิด เจ้าของห้องก็ยื่นวางมือไว้กับประตูห้องเฉียดใบหน้าผมไป วิถีสายตาจึงถูกบดบังด้วยท่อนแขนแกร่งในทันที
   
“เก้า”
   
ผมหันกลับมาตรงหน้า ไม่กล้าแม้แต่จะเงยสายตาขึ้น มือทั้งสองสอดประสานยกอยู่ตรงหน้าริมฝีปากราวกับกำลังพร่ำภาวนา แค่บอกออกไปว่า ต้องการเขา หรือแค่เลือกเดินออกจากห้องนี้ไป ก่อนที่เวลาจะหมด
   
“แปด”
   
มืออีกข้างของร่างสูงกว่าผลักดันผมเข้าชิดประตูช้าๆ เมื่อแผ่นหลังแนบติด ผมก็ไม่สามารถถอยไปไหนได้อีก ฝ่ามือร้อนที่ดันแผ่นอกสัมผัสกับหัวไหล่ผมด้านที่หัวใจเต้นแรง ทำให้กลัวขึ้นมาว่าเขาจะรู้ได้ถึงแรงเต้นหนักของหัวใจที่ผิดปกติ
   
“ว่าไง ถ้าอยากหนี นายเหลือเวลาอยู่ไม่มากนะ”
   
ถึงจะพูดมาแบบนั้นก็เถอะ แต่แค่จะขยับตัวออกจากมือที่ตรึงผมไว้อยู่ ก็ยังทำได้ยากเลย
   
“เจ็ด”
   
เวลาถอยหลังลงเรื่อยๆ เหมือนกับร่างกาย ที่เป็นอิสระลดน้อยลง เพลิงเข้าใกล้ผมมากขึ้น จนจมูกผมแทบจะชนกับบ่ากว้าง ต้องดันมือกับอกของร่างที่โน้มใกล้นั้นเบาๆ เพื่อไม่ให้เขาเข้าใกล้มามากเกินไป
   
ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังโน้มใบหน้าลง เพื่อส่งเสียงกระซิบทุ้มต่ำ
   
“หก”
   
“ฉัน...” อยากจะเอ่ยบอกบางอย่างออกไป หากแต่แรงกระชับที่เอวจากมือข้างที่เคยดันกับประตูไว้ ทำให้ผมหยุดชะงักพูดอะไรต่อไม่ออก
   
“ห้า”
   
มือที่เคยตรึงที่หัวไหล่ เปลี่ยนมากระชับที่เอวอีกข้าง ร่างกายผมสั่นเทิ้ม สั่นไหวแม้กระทั่งสองมือที่วางกั้นกับอกคนตรงหน้า นิ้วทั้งสิบเผลอขยำเข้าเสื้ออีกฝ่ายแน่น ทั้งร่างกายร้อนผ่าว ร้อนลามไปจนถึงใบหน้าที่ชนแนบกับบ่า
   
ปลายจมูกโด่งแนบสัมผัสลงกับแก้ม ผมสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่หยาดรดลงกับผิว สองขาราวกับค่อย ๆ หมดเรี่ยวแรง ขณะที่ร่างกายถูกกระชับแน่นมากขึ้นทุกที
   
“สี่”
   
อ้อมกอดที่แนบแน่น ทำให้ได้ยินเสียงหัวใจยิ่งเต้นดัง กลิ่นกายของเขายิ่งกระจ่างชัดกว่าครั้งไหน ๆ ไอร้อนจากกายสู่กายยิ่งทำให้แทบหลอมละลายอยู่ตรงนี้
   
เวลาที่ใกล้หมดลง ทำให้พยายามออกแรงดันร่างให้ผละออกจากกันอีกครั้ง ทั้งดิ้นทั้งฝืนอ้อมกอดที่รัดแน่นไม่ยอมปล่อย ทั้งๆ ที่ความพยายามเหมือนกับไร้ผล
   
“สาม”
   
น้ำเสียงร่างสูงกว่าเอ่ยห้วนกว่าเก่า ผมยื้อแรง จนกระทั่งสามารถผละออก เพื่อเงยหน้าขึ้นเผชิญได้
    
เราสบตากัน เจ้าของคิ้วเข้มขมวดคิ้วเข้าหากันราวกับกำลังไม่พอใจ แต่ไม่ว่ายังไง ผมก็อยากเอ่ยบอก อยากบอกเขาให้รู้ก่อน
   
“พ..เพลิง...”
   
“สอง”
   
“ฉันไม่อยากหนี...”
   
“......”
   
ในที่สุด...ก็เอ่ยสิ่งที่คิดออกไป สองมือกระชับแน่นกับเสื้ออีกฝ่าย
   
“ไม่อยาก” ผมเน้นย้ำ
   
ไม่อยากปล่อยมือ ไม่อยากหนีไป...เพราะผมเอง ก็ต้องการเขา...
   
เพลิงยืนนิ่ง ไม่เอ่ยสิ่งใดต่อ เขาทำเพียงส่งสายตาสอดประสานจ้องมองมา จนทำให้ช่วงเวลาราวกับว่าได้หยุดเดินไปชั่วขณะ
   
และเมื่อเวลากลับมาเดินต่ออีกครั้ง ผมก็ได้รู้ว่าเวลาที่จะหนีจากเขาไปนั้น ได้หมดลง

   
“ฉันก็ไม่คิดจะปล่อยนายไปตั้งแต่แรกอยู่แล้ว”
   
   
น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยทิ้งท้าย ก่อนที่ ..ร่างกาย และหัวใจ.. จะถูกเขาตรึงไว้อย่างสมบูรณ์



.
.


[End Chapter 15 cont. in Epilogue]


สวัสดีค่ะ

นี่ตอนสุดท้ายแล้วล่ะค่ะ จะมาลงบทส่งท้ายในตอนหน้าแล้ว ยังไงต้องขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมากเลยนะคะที่ติดตาม ลงเรื่องนี้มาปีกว่าๆ ดองบ้างไรบ้าง ในที่สุดก็ใกล้มาถึงบทสรุปสักที อาจจะไม่หวานกันนัก แม้แต่ตอนส่งท้ายก็อาจไม่หวานอย่างที่คิด เพราะสองคนนี้ก็แค่เริ่มต้นกันเท่านั้นเอง แต่เชื่อเถอะค่ะว่าเพลิงและวา เมื่อมาถึงจุดนี้ ความรักของพวกเขาไม่สั่นคลอนแน่นอน กว่าจะเข้าใจกันได้ก็คิดหลบกันไปคนละทางมากพอดู และคนอย่างเพลิง ถ้าเขามั่นใจอะไรแล้ว ก็ไม่มีทางปล่อยมือได้เลย

คนอ่านอ่านเรื่องนี้แล้วเปนยังไง แวะมาบอกความรู้สึกกันบ้างนะคะ ^^ หากได้อ่านคอมเม้นต์ก็จะรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมากเลยค่ะ

เจอกันอีกทีบทส่งท้ายนะคะ

ขอบคุณค่ะ



หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 11-07-2016 20:50:09
กว่าจะพูดกันตรง ๆ หน่วงมา 15 ตอน

เรื่องนี้สนุกจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 11-07-2016 21:37:16
จะอ่านวนไปเรื่อยๆนะ ชอบเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: winterday ที่ 11-07-2016 21:58:58
สวัสดีค่ะ คุณ yochan

ไม่แน่ใจว่าเป็นการทักทายครั้งแรกหรือไม่นะคะ แต่ว่า เข้ามาอ่านเรื่องนี้โดยบังเอิญเมื่อหลายเดือนก่อน เลยได้อ่านแบบต่อ ๆ กันไป จนจบ ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่มองหาและติดตามอยู่ตลอดที่เข้าเว็บเลย โดยเนื้อหารู้สึกได้ถึงความพิเศษ มีความเซ็กซี่่ในการดำเนินเรื่อง คาแร็คเตอร์ของเพลิงนั้นสมชื่อ คือ ร้อนแรง ส่วนคาแรคเตอร์วายุนี่ก็คุณชายดีนะคะ นุ่ม ๆ ศิลปิน ชอบค่ะ

เรื่องเพลิงในวายุ เป็นเรื่องที่ชอบมากเรื่องหนึ่งเลยค่ะ ขอบคุณ คุณ yochan ที่สละเวลาในการแต่งเรื่องนี้ และนำออกมาเผยแพร่ะคะ ยังไงหากมีเวลา และมีโอกาส ก็อยากเห็นชีวิตของเขาสองคนในวัยทำงาน เพราะจริง ๆ นี่ก็เหลืออีกไม่นาน ทั้งคู่คงใกล้เรียนจบ อาจจะเป็นชีวิตที่เรียบ มั่นคงเลยนะคะ

หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: viewier ที่ 11-07-2016 21:59:35
ในที่สุดเค้าก็จบกันได้ด้วยดีค่ะ คิดว่าจะไม่ได้วันนี้ซะแล้ว
หลังจากเอาใจช่วยมา14ตอน แม้ตอนสุดท้ายจะไม่หวาน
แต่ก็คิดว่าคงไม่น่าจะหวานได้ ไม่มีทาง เพราะดูจากสองคนแล้ว
แค่เพลิงพูดแค่นี้ก็รู้สึกว่าแฮปปี้ละค่ะ ตอนจบอาจจะไม่เหมือนเรื่องอื่นๆ
แต่ชอบค่ะ จบแบบมีเอกลักษณ์ดีค่ะ เหมาะกับเนื้อเรื่องดี
อยากมีตอนพิเศษค่ะ ซักตอนก็ยังดี อยากเห็นว่าเค้าจะใช้ชีวิตด้วยกันยังไง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 11-07-2016 22:06:04
ไหนๆก็ดีละ ขอเอ็นซีหวานๆ จิ๊กหมอนขาดกันไปเลย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 11-07-2016 22:28:22
ขอให้มีสวีทกันม๊างงงงง หน่วงมาทั้งเรื่อง  :laugh:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 12-07-2016 00:09:43
ได้หยุดลุ้นสักทีนะคู่นี้
ลุ้นจนบรรทัดสุดท้ายจริงๆ
ยังดีที่ยังมีบทส่งท้ายอีกบท
ถ้าไม่มีนะ เหมือนจบแฮปปี้แต่แฝงความเศร้า
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-07-2016 01:20:51
ฟินฉากจบ เพลิงทำเราเขินอ่ะ
ขอตอนพิเศษหวานๆๆๆๆๆๆ นะค๊าาา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-07-2016 08:55:52
ชอบนิยายเรื่องนี้อ่ะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 12-07-2016 15:17:33
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-07-2016 20:39:40
หน่วงมาตั้งแต่ต้น เพิ่งจะโล่งอก ตอนสุดท้ายยย เห้ออ สนุกดีๆๆๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 12-07-2016 21:15:25
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: DevilCandy ที่ 12-07-2016 23:14:07
ตามอ่านจนทันอนที่จะจบล่ะ สนุกอ่ะ ถึงช่วงแรกจะหน่วงๆ สู้ๆนะค่ะ รอตอนจบอยู่น๊าาาา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 13-07-2016 00:50:43
เป็นเรื่องที่ดีมาก :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Bellze12 ที่ 13-07-2016 07:43:14
อยากอ่านตอนพิเศษ
เอาแบบเพลิงขี้หวงวาอะไรแบบนี้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 13-07-2016 23:11:56
บทส่งท้าย I




ผมตื่นขึ้นในยามเช้าโดยมีใครอีกคนนอนอยู่ข้างกาย หลังจากการปรับความเข้าใจกันเมื่อคืน ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับวายุได้เปลี่ยนไปจากเดิม เนื่องจากผมตื่นก่อน จึงทำอาหารเช้าอย่างง่ายๆ ก่อนที่จะปลุกใครอีกคนให้ลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาและทานอาหารด้วยกัน
   
ระหว่างที่ทานอาหาร ทั้งผมและวายุต่างก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไร มันสร้างความขุ่นเคืองใจให้ผมอยู่เหมือนกันที่บรรยากาศระหว่างเรายังคงมีบางอย่างขวางกั้น
   
ไม่ว่ายังไง ก็ยากที่จะคาดเดาว่าสีหน้าเฉยเมยแบบนั้นกำลังคิดหรือรู้สึกยังไงกันแน่ แต่ต่อให้ขุ่นเคืองและอยากถามอีกฝ่ายไปตรงๆ แค่ไหน ผมก็ยอมรับว่าทิฐิของตัวเองนั้นยังมีอยู่มาก
   
แต่เมื่อวายุทานอาหารบนจานหมด เขาก็เป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน
   
“ขอบคุณสำหรับอาหารเช้า”
   
“......”
   
ผมเหลือบมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม สายตาเราประสานกันเพียงครู่ แล้วใบหน้าสวยก็หลบเลี่ยงสายตาไปทางอื่น
   
“คือ...” เขาเว้นช่วง มีท่าทีลังเลที่จะเอ่ยต่อ
   
ก่อนหน้านี้ ผมมักจะตีความทุกอย่างที่วายุทำในแง่ลบ กระทั่งขณะนี้ก็ยังมีความเคลือบแคลงสงสัย อาจเพราะความรู้สึกที่มีให้มันมากกว่าที่เขามี จนกำแพงที่กั้นเราไว้ยังสลายไปไม่หมด
   
“มีอะไรก็พูดออกมาสิ” พยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้ดุดัน ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ช่วยเท่าไรนัก
   
รู้ว่าที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าความคิดแง่ลบไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น แต่...
   
“อาหารอร่อยมาก”
   
“......”
   
คำพูดของเขาทำให้ความคิดหยุดชะงัก สายตามองยังมือเรียวที่รวบวางอยู่บนโต๊ะ หากสังเกตดูดี ๆ คนตรงหน้ากำลังพยายามหยุดมือไม่ให้สั่นไหว
   
จะเป็นไปได้หรือเปล่า...ที่เขาอาจกำลังรู้สึก ประหม่า?
   
ทันทีที่คิดจะเอ่ยอะไรออกไป วายุก็ดันตัวลุกขึ้นจากโต๊ะเสียก่อน “งั้นฉันล้างพวกนี้ให้” อีกฝ่ายเอ่ยพลางรีบยกภาชนะทั้งหลายไปทางอ่างล้างจาน
   
“เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
   
ผมเดินตามเข้าไปใกล้ร่างเล็กกว่า มือคว้าแขนเขาไว้ ก่อนจะดึงจานอาหารมาถือไว้แทน
   
“แต่นายทำอาหารแล้ว ให้ฉันทำเถอะ”
   
เขาดึงดัน ทำสีหน้าจริงจังจนหัวคิ้วขมวดเข้าหากัน หากแต่ผมเองก็ไม่ยอมง่าย ๆ พยายามใช้ลำตัวขวางกั้นเอาไว้ 
   
“วันนี้ฉันล้าง แล้ว คราวหน้า นายค่อยล้าง”
   
“......”
   
เมื่อเอ่ยตัดบทอย่างแสดงออกว่ายังไงก็ตองมีครั้งหน้า วายุจึงยืนเงียบอยู่ด้านข้าง ซึ่งเวลาที่ไม่มีใครเอ่ยบทสนทนาแบบนี้ บรรยากาศก็กลายเป็นนิ่งเงียบผิดปกติเหมือนเดิม
   
“เสร็จจากนี่แล้ว นายอยากจะทำอะไรต่อ?”
   
ตัดสินใจลองเอ่ยถาม
   
สายตาหันไปมองขณะที่เปิดน้ำไหลเทลงอ่าง ใบหน้าสวยคาดเดาได้ยากตามเคย ดวงตาเขามองลงต่ำ ริมฝีปากอิ่มไม่ยิ้มหรือพูดอะไร ราวกับว่าที่ถามไปนั้นไม่ได้ซึมซับเข้าไปในโสตประสาท
   
“ว่าไง?” ส่งเสียงถามย้ำ
   
“ฉันคิดว่าจะกลับ”
   
“......” ผมปิดน้ำ จัดการสะบัดมือไล่หยดน้ำ ก่อนจะเช็ดซับกับผ้าเช็ดมือที่วางอยู่ใกล้ ๆ
   
“ฉันว่านายคงเข้าใจคำถามผิด” เอ่ยพลางดึงข้อมือของร่างข้างกายให้หันมาเผชิญหน้า
   
“ว่าไงนะ?”
   
“ฉันหมายถึงว่านายจะ ไปห้าง ไปเดินเล่น หรือไปดูหนัง? แต่ใกล้จะสอบแล้วนายอาจจะอยากไปอ่านหนังสือกันที่ห้องสมุดก็ได้”
   
เจ้าของริมฝีปากแดงก่ำทำท่าจะขยับพูดบางอย่าง หากแต่คนตรงหน้าก็เหมือนจะคิดคำพูดไม่ออก นัยน์ตาสวยฉายแววงุนงง ผมจึงได้ทีเอ่ยต่ออย่างไม่เปิดโอกาส
   
“แต่ถ้านายอยากจะอยู่ที่นี่ต่อทั้งวันฉันก็ไม่มีปัญหา”
   
“......”
   
“ตกลงอยากทำอะไร?”
   
“ฉัน... ยังไงก็ต้องกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
   
“......” ลองฉุกคิดดูแล้ว เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่อยู่ตอนนี้ออกจะยับและไม่เรียบร้อย คงต้องยอมให้กลับไปก่อนอย่างที่ว่า
“งั้นก็ได้” ผมพนักหน้า
   
“ยังไงก็แล้วแต่ ให้ฉันช่วยนายล้างดีกว่า สองคนทำจะได้เสร็จไว ๆ”
   
 วายุขยับเข้ามายืนหน้าบริเวณอ่างล้างจาน เขาพับแขนเสื้อขึ้นทั้งสองข้าง แล้วหยิบเอาฟองน้ำเช็ดถูคราบอาหารออกจากภาชนะ ที่ด้านหลังลำคอแม้จะถูกบดบังไปด้วยเส้นผมสีอ่อน แต่หากเพ่งมองดู ก็ยังสามารถมองเห็นรอยจุมพิตที่ผมเป็นคนฝากไว้ ลึกลงไปจากแนวปกเสื้อเชิ้ตที่ไม่ได้กลัดกระดุมไว้ ผิวขาวก็ประดับไปด้วยสีระเรื่อ
   
อยากกอด อยากแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมากกว่านี้

แต่ก็ต้องพยายามหักห้ามใจเอาไว้ก่อน
   
สติผมถูกเรียกกลับคืนเมื่อคนข้างกายดันศอกสะกิดที่สีข้างเบา ๆ
   
“นี่... เหม่ออะไรอยู่ รับไปสิ”

เขายื่นจานมาให้พร้อมกับพยักเพยิดสายตาเพื่อบ่งบอกให้ผมรับงานต่อ
   
“ไม่ได้เหม่อสักหน่อย” ผมตอบพลางเปิดน้ำล้างคราบน้ำยาออกจากจานที่รับมา สองคนช่วยกันก็ทำให้งานดูจะเสร็จรวดเร็วขึ้นจริงๆ
   
“แล้วเมื่อกี๊คิดอะไรอยู่ เรียกก็เหมือนไม่ได้ยิน”
   
“......” หันใบหน้ามองคนด้านข้าง มือหยุดทำงาน จนร่างบางปรายสายตามามองผมกลับด้วยความสงสัย
   
“อะไร?”
   
“อยากรู้จริงๆ หรือไง?” เอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจัง
   
ใบหน้าสวยครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยตอบ “ไม่ดีกว่า”
   
“แต่ฉันอยากบอก”

ค่อย ๆ ขยับกายเข้าไปใกล้อีกคน สองแขนวางคร่อมกับบริเวณอ่างล้างจานเพื่อเป็นกรงกักขังร่างที่เริ่มจะดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขน จมูกโน้มเข้าคลอเคลียกับแก้มเนียน “จะไม่ฟังที่ฉันอยากบอกจริงเหรอ?”
   
เขาไม่ตอบรับ หากแต่ก็ไม่ปฏิเสธ มือจึงคว้าหัวไหล่ของวายุไว้ ก่อนจะดันให้คนตรงหน้าพลิกร่างกลับมาเผชิญหน้า วายุโอนอ่อนแต่โดยดี จะมีก็แต่เพียงสายตาที่ยังหลบเลี่ยงมองไปทางอื่น
   
“ฉัน...”
   
ส่งเสียงกระซิบแผ่ว ให้เพียงเขาได้ยินความในใจ แล้วโน้มใบหน้าลงครอบครองริมฝีปากแดง ค่อย ๆ ละเลียดความหวานอย่างไม่เร่งร้อน มือหนึ่งพลางยกขึ้นประคองซีกแก้มเนียน มืออีกข้างคืบเคลื่อนไปหาท้ายทอย ออกแรงกดเบา ๆ ให้สัมผัสเราแนบแน่นยิ่งขึ้น
   
“อือ...”
   
ร่างในอ้อมแขนส่งเสียงครางอู้อี้เมื่อปลายลิ้นเราเกี่ยวกระหวัด เขาตอบรับจุมพิตด้วยจังหวะเนิบช้า ทว่ามันกลับเป็นการกระตุ้นให้ผมรุกเร่งขึ้น บางสิ่งในร่างกายถูกปลุกให้ตื่น จนมือที่คอยประคองท้ายทอยเคลื่อนลงตามแผ่นหลังอีกฝ่าย ปลายนิ้วสอดแทรกเข้าสัมผัสผิวกายอุ่นบริเวณขอบกางเกง
   
ทันใดนั้นวายุก็ผลักอกผมออก “เดี๋ยว... จะออกไปข้างนอกไม่ใช่หรือไง?”
   
“......” ผมถอนหายใจเฮือก คิดตอบอยู่ในใจว่า ใช่ ถ้าไม่ออกก็คงคิดแต่จะพานายกลับไปที่เตียงแน่
   
สุดท้ายก็ยอมผละออกอย่างเสียไม่ได้ จัดการงานตรงหน้าต่อทั้งที่รู้ว่าอารมณ์ที่ถูกปลุกไปแล้วครั้งหนึ่งนั้น ก็ยากที่จะทำให้สงบลง
   
หลังจากที่งานเสร็จสิ้น ผมกับวายุก็เตรียมตัวออกจากที่พัก

“ไม่ลืมอะไรใช่ไหม?”

เอ่ยถามก่อนที่จะเดินนำไปทางประตู เขาพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะเดินตามหลังมา
   
ในหัวยังคงมีความสับสนเพราะยังหาทางคาดเดาสีหน้าวายุไม่ออก ดีใจ เสียใจ อารมณ์ดี อารมณ์ไม่ดี ก็ดูจะไม่แตกต่างกันนัก รอยยิ้มที่ฉายอยู่บนใบหน้างดงาม บางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าด้านในนั้นยิ้มด้วยหรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้ว่าผมเองก็มีความกังวลอยู่เหมือนกัน
   
สถานะของเราไม่ใช่คนแปลกหน้าหรือคนรู้จักธรรมดาอีกต่อไปแล้ว หากแต่เราเป็น คนรัก จะคาดหวังได้หรือเปล่าว่าวายุรับรู้ถึงจุดนี้?
   
ขณะที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตู บางอย่างก็ทำให้ผมหยุดชะงัก สองแขนเรียวโอบกอดผมจากทางด้านหลัง อ้อมแขนที่กอดผมอย่างไม่แน่ใจทำให้ผมหยุดยืนอยู่กับที่
   
“ช่วยอยู่แบบนี้สักพักได้ไหม?” วายุส่งเสียงเบา
   
วงแขนที่โอบร่างไม่ได้กอดรัดแน่น ราวกับว่าเขาเองก็ยังมีความไม่มั่นใจอยู่ สองมือคู่สวยขยำเสื้อผมด้วยความสั่น จนทำให้รู้ว่าก่อนหน้าที่คิดว่าระหว่างเรายังมีกำแพงขวางกั้นนั้น บางทีอาจเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายสร้างกำแพงขึ้นมา
   
“ไม่ได้”

เอ่ยตอบพร้อมกับก้าวขาจนร่างหลุดจากอ้อมแขนหลวม ๆ ของอีกฝ่าย ผมหันหน้ากลับมาเผชิญหน้าเขา แล้วเป็นฝ่ายโอบร่างที่เอาแต่ก้มหน้าไว้แทน

“ไม่รู้เหรอว่าฉันเองก็อยากกอดนายใจจะขาด”
   
ออกแรงอ้อมแขนให้กระชับแนบแน่นยิ่งขึ้น แน่นจนคิดว่าอาจจะทำให้เขาหายใจไม่ออก ทว่าการหักห้ามใจนั้นยากเกินไป ไม่มีประโยชน์ที่จะกังวลในเมื่อยังไงแล้วผมก็ต้องการเขาอยู่ดี “ไม่สนุกเลยที่ต้องห้ามใจไว้”

กำแพงที่กั้นเราออกจากกัน ต่อให้ในความเป็นจริงวายุจะเป็นคนก่อกำแพงขึ้นมาก็ไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายแล้ว ผมจะเป็นคนทำลายมันลงเอง
   
อ้อมแขนของอีกคนแน่นขึ้นอย่างรู้สึกได้ “ถ้ายังเอาแต่ยั่วกันแบบนี้ วันนี้คงไม่ได้ออกไปไหน” เอ่ยพลางกดจูบลงที่เรือนผมนุ่ม วายุยังคงไม่เงยหน้า สองแขนกอดรอบเอวผมไว้ไม่ปล่อย
   
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่าไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อนี่”

เขาส่งเสียงอู้อี้ ใบหน้าซุกลงกับแผ่นอก แรงกอดกระชับวงแขนค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้น
   
“......”
   
ถอนหายใจอีกเฮือก ในที่สุดก็ขอยอมแพ้คนคนนี้แต่โดยดี จัดการอุ้มร่างเขาลอยขึ้นจากพื้น ร่างเพรียวส่งเสียงพลางออกแรงทุบกำปั้นลงกับบ่าเพื่อให้ปล่อยลง ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นผล
   
ผมตัดสินใจแล้ว วันนี้เราจะไม่ไปไหนนอกจากอยู่ที่ เตียง


.
.

หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} ตอนที่15 (last Chapter) [p14 up11.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: yochan ที่ 13-07-2016 23:22:06
บทส่งท้าย II



   
เสียงร้องครืนของท้องฟ้าร้องเตือนว่าอีกเพียงไม่กี่อึดใจ หยาดน้ำนับร้อยนับพันจะพากันไหลรินเทครืนลงมา รีบสาวเท้าเร็วขึ้นเพื่อไปให้ทันรถประจำทางที่กำลังเคลื่อนตัวมาจอดลงที่ป้าย
   
เมื่อก้าวเท้าขึ้นในตัวรถได้ไม่นาน หยาดฝนก็ค่อยๆ ทิ้งตัวลงจากฟากฟ้า สายตาพลางมองบรรยากาศอึมครึมนอกรถ สองขาเดินไปนั่งลงยังเบาะที่ว่าง นั่งจนลมหายใจหอบเริ่มคงที่ มือก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาตรวจดู มีข้อความจากเพลิงส่งมาให้ที่ยังไม่ได้อ่านอยู่หนึ่งข้อความ
   
[วันนี้ฝนตก อย่าลืมพกร่มมาล่ะ]
   
ดูท่าว่าผมจะได้อ่านข้อความช้าไปหน่อย ขึ้นรถมาอย่างนี้แล้วก็คงไม่เสียเวลาย้อนกลับไปตามที่อีกฝ่ายบอก ไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรบ้างหากรู้ว่าผมไม่ได้ติดร่มมาด้วย จริงอยู่ที่พอสังเกตเห็นท้องฟ้าสีครึ้มตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน แต่ว่าการต้องเดินตากฝน มันก็ไม่เลวร้ายไม่ใช่หรือ?
   
เพลิงเคยบอกว่าผมเป็นพวกไม่ระมัดระวังตัวเท่าที่ควร ชอบปล่อยให้ตัวเองเปียกฝนจนบางครั้งก็ทำให้ไม่สบายหนัก 
   
ใจหนึ่งผมก็เห็นด้วย หากแต่อีกใจก็ยังรู้สึกชอบเวลาที่ฝนตกจนอดไม่ได้ที่จะปล่อยให้ร่างกายซึมซับฝนพรำอยู่ดี และผมอาจจะชอบมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ ตั้งแต่ที่รู้ว่าจะมีใครอีกคนคอยอยู่เคียงข้างในยามที่ฝนตกแบบนี้
   
เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงรถบัสก็จอดลงที่หน้ามหาวิทยาลัย พอก้าวขาลงจากรถ ก็พบว่าฝนซาลงกว่าเมื่อก่อนหน้า ทำให้ผมสามารถเดินฝ่าสายฝนไปได้อย่างสบายๆ
   
เดินมาหยุดยืนรอหน้าตึกเรียน อีกเพียงชั่วครู่ก็จะเลิกชั้น แล้วคนที่ผมต้องการพบก็คงจะเดินออกมาหลังจากนั้น ขณะที่ยืนรอ มือก็พลางยื่นรับหยดน้ำเย็นฉ่ำไปด้วย เสียงของฝนตกทำให้จิตใจสงบได้ดีกว่าเสียงใด และในวันนี้ สายฝนก็ทำให้ผมรู้สึกสดชื่นมากกว่าจะหมองหม่น
   
ท้องฟ้าที่คอยเป็นมิตรแท้ ที่เคยร่วมร่ำร้องไห้ไปกับเรา บัดนี้หยดน้ำจากฟากฟ้ากำลังร้องประสานเปนบทเพลงอันไพเราะ คอยโอบอุ้มความสุขให้คงอยู่ในหัวใจ
   
ถึงอย่างนั้นทั้งที่ปกติแล้วผมไม่เคยมีปัญหากับหยาดฝนมาก่อน แต่อากาศที่ชื้นแฉะกับลมที่กรรโชกแรง ก็ทำให้ผมหลุดจามออกมาเบาๆ
   
“บอกแล้วไม่ใช่หรือว่าให้พกร่มมาด้วย”
   
น้ำเสียงอันคุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลัง ผมหันกลับไปมองเพลิงที่กำลังยืนกอดอกมองผม มือข้างหนึ่งของเขาถือร่มคันใหญ่เอาไว้ด้วย
   
ร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ขึ้น เขายื่นร่มให้ผมรับถือเอาไว้ เพียงแค่เข้ามาใกล้ ก็ได้กลิ่นน้ำหอมประจำตัวของเอีกฝ่าย
   
มือใหญ่ลูบที่ศีรษะผมเบาๆ ปลายนิ้วค่อยๆ เกลี่ยปอยผมเปียกที่ปรกหน้าไปด้านข้าง
   
“หิวรึยัง?”  คนตรงหน้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่ม
   
ผมพยักหน้า สายตามองใบหน้าคนตรงหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
   
“อยากไปร้านไหนเป็นพิเศษรึเปล่า?”
   
“ไม่”
   
พอตอบไปอย่างนั้น เพลิงก็ยกมือสัมผัสริมฝีปากตัวเองอย่างครุ่นคิด พอนึกอะไรได้ เขาก็เริ่มดึงให้ผมออกก้าวเดินตาม
   
“ไปร้านอาหารฝรั่งเศสแถวโรงแรมที่นายทำงานแล้วกัน ชอบพาสต้าที่นั่นนี่” อีกฝ่ายเอ่ยพลางเดินนำไปเรียกรถ
   
สองเท้าก้าวเดินตามอย่างว่าง่าย ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครในลักษณะนี้มาก่อน ความสัมพันธ์ที่บางครั้งก็ทำให้รู้สึกไม่คุ้นชิน บางครั้งก็ทำให้หวาดกลัวว่าจะทำให้เขาไม่พอใจ กลัวว่าเขาจะเบื่อ กลัวว่าจะทำอะไรไม่ถูกใจ กลัวว่าจะถูกเขา เกลียด อย่างที่เคยเป็นมา
   
แต่น่าแปลกที่ทุกครั้ง ความหวาดกลัวเหล่านั้น ก็ได้ถูกทำให้หายวับไปด้วยความแน่วแน่มั่นคงของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น คนรัก
   
ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับเพลิงหลายอย่าง แท้จริงแล้วเขาเป็นคนที่อบอุ่น แล้วก็ไม่ได้ขี้โมโหอย่างที่เคยแสดงออก เขาออกจะเป็นคนใจเย็นและมีเหตุผลมากกว่าผม บางครั้งก็ออกจะแสดงความเป็นห่วงมากเกินไปราวกับว่าผมเป็นเด็กเล็ก ถึงอย่างนั้นความเป็นห่วงเป็นใยที่ได้รับ ก็ทำให้ผมรู้สึกดีทุกครั้ง
   
และเมื่อได้เป็นฝ่ายได้รับ ก็อยากจะได้รับอีกเรื่อยๆ ราวกับว่าเสพติดความสุขที่ได้มาเสียแล้ว และเมื่อเป็นฝ่ายได้ให้ ก็อยากจะให้อีกไม่รู้จบ ราวกับว่าผมเสพติดการทำให้อีกฝ่ายมีความสุข
   
ไม่น่าเชื่อว่า ความรัก จะทำให้คนเรากลายเป็นได้ทั้งฝ่ายที่ให้ เป็นได้ทั้งฝ่ายที่ตักตวงในคราเดียวกัน
   
“เพราะนายไม่เอาร่มมา ก็ต้องทนเบียดกันในร่มนี่จนกว่าจะเรียกรถได้นั่นแหล่ะนะ” เขากางร่มคันใหญ่ออกไปด้วย ก่อนจะดึงผมให้เข้าไปอยู่ใต้ร่มด้วยกัน
   
“ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนี่”
   
แล้วผมก็คิดว่าร่มนี่ก็คันใหญ่มากพอสำหรับสองคนอยู่แล้ว
   
“จงใจไม่เอามางั้นสิ?”
   
“เปล่าสักหน่อย”
   
“เฮอะ หลงดีใจ นึกว่าจะอยากเบียดกันซะอีก”
   
“......”
   
พออีกฝ่ายแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ ก็ทำให้ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่ว่ายังไงผมก็ยังไม่เคยชินกับความสัมพันธ์แบบนี้จริงๆ นั่นแหล่ะ
   
คงมีอีกหลายอย่างที่ผมต้องปรับตัว เหมือนกับที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับฤดูกาลที่แปรเปลี่ยนไปอยู่ตลอด จากแสงแดดอ่อนเป็นฝนตกปรอย จากอากาศร้อนเป็นอากาศเย็น คงมีบ้างที่จะรู้สึกว่าปรับตัวไม่ทัน หรือบางครั้งก็คงอยากจะติดอยู่ในฤดูที่ตัวเองชอบนานที่สุดเท่าที่จะนานได้
   
แต่ยังไงแล้ว ไม่ว่าฤดูกาลจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง ปรอยฝนจะหมุนเวียนตกลงมาอีกกี่ครั้ง ผมก็ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไป
   
เพราะว่าผม จะมีเขาคอยอยู่เคียงข้างในทุกๆ ฤดูกาล


.
.

เพลิงในวายุ
- อวสาน -



๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑



TALK: กรี๊ดดดด จบแล้วค่ะทุกคน >< ขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอด และขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์นะคะ อาจจะไม่สามารถบอกชื่อคนอ่านทุกคนได้ แต่รับรองว่าได้อ่านทุกคอมเม้นต์แน่นอนค่ะ^^

เรื่องนี้ลงไว้หนึ่งปีกว่าๆ กว่าจะลงมาจนจบได้ก็หอบหืดเหมือนกันค่ะ คนอ่านเองก็คงอึดอัดเวลาอ่าน แต่สุดท้ายก็จบแล้วเนอะ >< มีคอมเม้นต์พูดถึงอนาคตของเพลิงกับวาหลังเรียนจบ คนแต่งเองก็มีคิดๆไว้เหมือนกันนะคะ แต่ยังไม่มีพลอตไว้เขียน อาจจะแต่งเป็นตอนพิเศษในตอนเรียนจบมาให้ทุกคนได้อ่านกันนะคะ ซึ่งคนเขียนเองก็คาดหนทางหลังเรียนจบของทั้งคู่ไว้ว่า อย่างวาก็คงจะเป็นนักดนตรีหรือครูสอนดนตรี ส่วนเพลิงจะทำอะไรได้นอกจากสอบเป็นข้าราชการ 55555 นี่คือที่เราจินตนาการไว้ค่ะ เพลิงที่เป็นข้าราชการ ตกดึกก็มารับแฟนที่เล่นเปียโนที่โรงแรมอะไรแบบนี้ โรแมนติกน่าดูค่ะ แต่ในสายตาคนรอบข้าง คงมองว่าขี้หวงชะมัดเลยแน่นอน

ถ้ามีโอกาส จะแต่งตอนพิเศษมานะคะ สำหรับเรื่องต่อไป คนเขียนจะไปเขียนเรื่องที่ค้างไว้ อย่างดวงใจรัตติกาลค่ะ (โฆษณางานอื่นซะได้) เรื่องนั้นแตกต่างจากเพลิงในวายุมากๆ เป็นแนวย้อนยุคไทย และขำขันเล็กน้อยค่ะ ไม่เครียดเท่าเพลิงกับวา หากสนใจแวะไปอ่านได้นะคะ

ขอกลับมาขายของเพลิงกับวายุต่อ
เรื่องนี้จะมีรวมเล่มกับสนพ.วันเดอร์วาย แอบเอาหน้าปกมาให้ดูค่ะ หน้าปกอันนี้คนเขียนชอบมากๆเลย มันละมุน แต่แฝงความดราม่าไว้ ซึ่งคิดว่าเข้ากับเรื่องมาก ยังไงใครสนใจ ฝากหนังสือแบบรูปเล่มด้วยนะคะ มีตอนพิเศษอยู่อย่างน้อย2-3ตอนค่ะ

(http://image.free.in.th/v/2013/in/160713045430.jpg)

แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้านะคะ ^^
ขอบคุณทุกคนมากค่ะ

รัก
Yochan
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 14-07-2016 02:39:59
 :pig4: คุณเขียดที่สร้างสรรค์งานมาให้อ่านกันนะคะ

เชื่อว่าวายุจัชอบความขี้หวงของเพลิงแน่นอน


หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 14-07-2016 08:34:04
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 14-07-2016 08:45:34
ตอนส่งท้าย ละมุม มากๆๆๆๆ

ขอบคุณคนเขียนจ้ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 14-07-2016 10:39:53
_ชอบมากๆค่ะ จบแล้ววววว...รอตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 14-07-2016 12:07:28

สนใจหนังสือมากๆค่ะ ซื้อแน่นอน
ปกสวยจริงๆ บทส่งท้ายมีความน่ารักดีค่ะ
ช่วงเวลาหลังเลิกงานที่คนเขียนบอกก็ดูโรแมนซ์

ติดใจเล็กๆตรงที่ว่า คืนนั้นได้เคลียร์กันรู้เรื่องแล้วรึยัง?
เข้ากันกันแล้วใช่มั่ยว่าที่ผ่านมาอะไรเป็นอะไร?
หรือว่าจบแค่ตรงที่เพลิงพูดว่าจะไม่ปล่อยวาไปแล้วก็เลิกคุย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 14-07-2016 16:50:07
รูปสวยอถ :hao7: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 15-07-2016 00:51:16
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 15-07-2016 05:20:28
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ...  นานๆจะได้อ่านนิยายแนวนี้สักที หน่วงเกือบทั้งเรื่องเลยอ่ะค่ะ ยังดีที่จบแฮปปี้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 15-07-2016 13:34:30
เสียใจที่มาเจอเรื่องนี้ตอนที่จบแล้ว ฮือออ สนุกมากเลยค่ะ มันเหมือนจะหน่วงก็ไม่หน่วงซะทีเดียว และห่างไกลคำว่าหวาน 5555 อ่านแล้วอยากหยิกปากพระเอกจริงๆ อะไรมันจะจิกกัดได้ตลอดแบบนี้ น่าให้วายุบีบปากสั่งสอน  :z3: จะมีตอนพิเศษหวานๆมั้ยคะ คนแต่ง  :hao7:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 15-07-2016 16:17:30
คนประเภทวายุเป็นคนที่คนอื่นมักจะตัดสินไปก่อนว่าไม่ดีไปแล้วจริงๆ ด้วยหลายสาเหตุที่แน่คืออิจฉา เพราะยิ่งดูดีด้วยแล้ว เราเคยเจอคนแบบวายุมาครั้งนึง ทุกคนต่างพูดว่าเค้าหยิ่งไม่ดี ทั้งๆที่ไม่มีใครรู้จักเค้าจริงๆ เลยซักคน เรายังเคยแอบมองเค้าเลยเพราะเค้าทั้งงดงามและสง่างามมากๆ  555 ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆคับ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 15-07-2016 18:22:23
เนื้อเรื่องไม่หน่วง แต่ตัวละครทำให้หน่วง 555
คนแบบเพลิงคือหาได้ทั้วไป มองคนแต่ภายนอกหูเบา แต่สุดท้ายถือว่าโอเคขึ้น
ส่วนคนแบบวายุ น่าสงสารนะ ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีแต่กลับโดนว่าโดนเกลียด
คนที่โอเคนี้คืออิฎกับณพ ถ้าไม่มีสองคนนี้ยากเลยละที่จะเข้าใจกัน 555
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 15-07-2016 19:41:00
จบได้แบบ...กรี้ดดดดด
เพลิงแลดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นว๊ากกก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Theznux ที่ 15-07-2016 21:26:06
เพิ่งมาตามอ่านตั้งแต่ต้นจนจบใน 1 วัน สนุกมากกก รู้สึกพลาดที่ทำไมเพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้
เป็นเรื่องที่ประทับใจมากๆเลย อึมครึมทั้งเรื่อง ไม่ถึงกับร้องไห้น้ำตาแตก แต่จุก เจ็บจี๊ดที่ใจมาก
5555555 เป็นเรื่องที่เราชอบมากๆอีกหนึ่งเรื่องเลย
 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 16-07-2016 13:01:03
เป็นอีกเรื่องที่ชอบมากกกกก   เป็นเรื่องง่ายๆแต่อิมแพครุนแรงมาก

ชอบทั้งเพลิง ทั้งวายุเลย

อยากอ่านมากกว่านี้ อยากอ่านตอนหวานๆและหวาบหวิว อิอิ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 16-07-2016 14:04:06
จบแล้ววววว เย่ว!!
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่นำมาแบ่งปันนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: silverrain ที่ 16-07-2016 16:18:07
นิยายสีหม่น ทุกข์ไม่สุด สุขไม่เต็มที่แต่สนุกมากค่ะ
ชอบสำนวนการเขียนเคยอ่านไว้นานแล้วและเพิ่งมีโอกาสมาอ่านจนจบ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
จะรอตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 16-07-2016 19:42:40
สนุกมากครับ ^^
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: jambool ที่ 16-07-2016 20:26:13
 o13 สนุกมากเลยค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย ชอบเพลิงมากๆๆ  เวลาพี่แกรัก แกหึงเนี้ย มันช่างโดนใจแท้ๆๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 16-07-2016 23:23:56
 :hao5:
เป็นเรื่องที่ดำเนินไปแบบเรียบเรื่อย อึนๆหม่นๆ แต่ชวนติดตามที่สุดเพราะภาษาและสำนวนน่าอ่านมาก

รู้สึกว่ายังมีปมครอบครัวของวาค้างอยู่รวมถึงปมอื่นๆด้วย แต่จบแบบนี้ก็ชอบนะคะ ดูเข้ากับเนื้อเรื่องดี ไม่หวือหวา

วาน่ารักเนอะ น่ารักแบบดูบอบบาง น่าปกป้อง ส่วนเพลิงนี่ขี้หึงขี้หวงสุดๆ ขนาดยังไม่รู้ตัวว่าชอบเขายังออกอาการมากขนาดนั้น หุหุหุ แถมขี้มโนให้ด้วย 5555

ชอบคาแรกเตอร์ณพมากนะ เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ben10 ที่ 17-07-2016 01:34:39
โอ้ยยยย ชอบบบ กว่าจะเข้าใจกัน หน่วงไปเย้อะะะะะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 17-07-2016 11:36:21
นึกว่าจะตัดใจกันซะแล้วววว ลุ้น เฉียดไปเฉียดมา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: gloyjai ที่ 17-07-2016 13:07:31
นึกว่าขะจบไม่แฮปปี้  หน่วงตั้งแต่ต้นเรื่องยันปลายเรื่อง  ลุ้นมากกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ป้ากิ่งkingkarn ที่ 17-07-2016 14:10:42
ชมที่1-ชอบชื่อเรื่องค่ะ ดึงดูดสายตามากๆ
ชมที่2-ชอบภาษา คือใช้คำน้อยๆแต่สื่อความหมายครบถ้วน อ่านง่าย อินตาม
ชมที่3-ชอบวายุ ชอบคนนิ่งๆ ไม่เสียเวลา ไม่ให้ค่ากับสิ่งที่ไม่มีความหมายในชีวิต
รักความติสต์ในตัววายุอย่างแรงเข้าขั้นหลงใหลเลยค่ะ^^
ชมที่4-ชอบความเร่าร้อนที่ลุ่มลึกของเพลิง เพลิงนี่เห็นวาก็ at first sight เลยนะคะ
แต่ด้วยไม่เคยรักผู้ชายประกอบกับอคติที่ได้ยินมาแถมวายังมีบุคลิกที่ไม่น่าเอ็นดูเท่าไร
การจะแปลความรู้สึกในใจของตัวเพลิงที่ตกหลุมรักไปโครมใหญ่
ที่มาพร้อมๆกับความหึงหวงอย่างรุนแรงทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นอะไรกันเลย
ความอคติบวกกับความหงุดหงิดที่ไม่เข้าใจว่าหึงหวงวาอยู่จึงเอาชนะความรักไปก่อนซะได้
ประกอบกับเป็นคนพูดน้อยทั้งคู่เมื่อเพลิงด่วนสรุปเชื่อตามคำนินทาว่าวาเป็นคนแบบที่ไม่ชอบ
การพูดคุยปกติธรรมดาเพื่อให้ได้รู้จักนิสัยใจคอ แล้วจะได้เรียนรู้กันและกันจึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้
เพราะเพลิงก็ใช้การตำหนิประชดแดกดันตลอดเวลา
วาที่ไม่แน่ใจในอะไรสักอย่างแทนที่จะอธิบายเพื่อให้เพลิงเข้าใจ
แต่เพราะรักแล้วยังเข้าใจว่าถูกเกลียด ทำให้ในใจมีแต่ความหวาดกลัว
กลัวจะเจ็บปวดเพราะถูกทำร้ายจิตใจ กลัวจะถูกรังเกียจที่ไปหลงรักคนที่ไม่ชอบผู้ชาย
และเพลิงยังคอยแต่จะพูดจาทำร้ายน้ำใจ ทำให้วาท้อและเหนื่อยใจจนไม่มีแรงจะอธิบาย
โดยรวมคือชอบเพราะอ่านง่ายครบรสกระชับได้หน่วงพอน้ำตาคลอๆได้แฮปปี้เอนมีแอบฟินกับความเร่าร้อนเล็กๆ^^
และที่สำคัญคือเรื่องนี้สนับสนุนข้อคิดที่ชอบและเชื่อมาตลอดว่า
การสื่อสารสำคัญและจำเป็นในทุกๆความสัมพันธ์ที่เราต้องการรักษาและอยากให้ยืนยาว
อย่าด่วนสรุปและรีบตัดสินใครเพียงเพราะคำที่ได้ยินเขาว่ามา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 17-07-2016 15:48:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 17-07-2016 18:24:06
หน่วงดีแท้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 17-07-2016 20:29:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 18-07-2016 14:01:33
ชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆค่ะ. ถึงจะดูอึมครึมมาั้งเรื่องแต่ก็ชอบค่ะ
อยากได้ตอนพิเศษที่เห็นถึงเวลาหลังจากที่คบกันก่อนเรียนจบและหลังเรียนจบด้วยค่ะ
อยากรู้ว่าคนรอบข้างจะอึ้งกันแค่ไหน55555
ขอตอนพิเศษในเล่มสัก5-6ตอนเลยได้มั้ยคะ :hao6: :call: :call:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 19-07-2016 19:08:38
สนุกมากเลยค่ะะะ น้องวาน่ารักมากกกกกก

เพลิงต้องฝึกให้วาแสดงออกเก่งขึ้นแล้วละ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 19-07-2016 22:45:23
ชอบณพ พ่อสื่อมือโปร
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 21-07-2016 04:31:34
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 21-07-2016 12:41:49
สนุกดีค่ะ
แต่ว่าอ่านแล้วแอบหนื่อยนิดนึง 55555+
แต่เขียนดีค่ะ ชอบบรรยายได้ดีมากเลย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: iaum ที่ 21-07-2016 22:27:34
จบแล้วววว  :katai2-1: :katai2-1: ชอบวานะ จริงๆสงสารวามากอะ :o12: คนที่อยู่แบบคนรอบข้างมากด้วยสายตาที่.... :z6: :z6:
เราไม่คิดว่าเพลิงจะเข้าหาวาด้วยซำ้ แต่จบมีความสุขเราชอบ  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: mass ที่ 24-07-2016 22:50:46
อ่านรวดเดียวจบเลย แอบดีใจที่อ่านตอนที่จบแล้ว มันหน่วงดีจริงๆ ถึงจะแอบหวานแแบอมยิ้มบ้างตอนสุดท้าย สนุกค่ะดีใจที่ได้อ่านงานดีดี ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ciin ที่ 26-07-2016 11:54:52
อึมครึมมากกก อ่านจนจบแบบอึดอัด 5555
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: p9hmiew ที่ 29-07-2016 02:39:26
รู้สึกได้ว่าความรู้สึกเราซึมลึกเข้าไปกับตัวละครเลย
 ทั้งลุ้นทั้งแอบเขิน แพ้ความดุดัน x ความเย็นชาค่ะ กรี้ด
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวประทับใจนี้นะคะ ชอบมากๆๆเลย เป็นเรื่องที่ถูกจริตเรา
ยังไม่อยากให้จบเลย แต่ก็รออ่านตอนพิเศษค่า สวีทได้อีกเด้อ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 29-07-2016 09:15:45
เรื่องมันเอื่อย ๆ ไปหน่อย หน่วงจนแอบเบื่อเบา ๆ ยิ่งอ่านยิ่งอึดอัด กว่าจะแฮปปี้ด้ายนี่ต้องรอถึงตอนจบ เฮ้อ ๆๆๆ

 :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 03-08-2016 19:26:30
หูยยยยยยยยยยยยยย หน่วงตั้งแต่ตอนแรกยันตอนจบเลยค่ะ คงเส้นคงวามาก สนุกมากเช่นกัน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮ ที่ 24-08-2016 15:25:35
ชอบนิยายเรื่องนี้หน่วงๆไปเรื่อยๆไม่ต้องดราม่ารุนแรงหน่วงๆแต่ไม่ได้รู้สึกน่าเบื่อ รู้สึกลุ้นมากกว่าว่าจะอะไรยังไงจนสุดท้ายก็แฮปปี้ถึงจะไม่มีตอนหวานกันเลยก็เถอะ  :hao5:
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ :pig4:

ปล. อยากอ่านตอนพิเศษ อิอิ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 26-08-2016 22:51:07
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ChabaSri ที่ 06-09-2016 07:33:08
ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีค่ะ ชอบมากเลย
ชอบสำนวนที่คนเขียนใช้ สละสลวยและเรียบง่าย
ดีงาม ^^
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 13-09-2016 13:22:02
 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: mmacchiato ที่ 27-10-2016 00:14:07
ชอบงานเขียนของคุณมากๆเลยค่ะ บรรยากาศของแต่ละเรื่องจะให้ฟีลที่แตกต่างกัน เขียนเก่งมากๆเลย เรื่องนี้ช่วงแรกๆทำให้นึกถึงเพลงหน่วงของ Room39 เลยหล่ะ ภาษาดีมาก โดยส่วนตัวชอบเรื่องแนวๆนี้อยู่แล้วแต่หาที่ถูกใจไม่ค่อยเจอเลย ของคุณโยนี่ตอบโจทย์สุดๆเลยค่ะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-10-2016 02:28:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Cappello ที่ 27-10-2016 03:33:05
สนุกมากเลยยย อยากอ่านตอนที่ทั้งคู่ทำงานแล้ว คงน่ารักน่าดู อิอิ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: volvox_nostoc ที่ 28-10-2016 12:02:01
 :L1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 28-10-2016 15:02:25
โอ้ยย คือดีไม่ล้นไม่ขาด กำลังอบอุ่น
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kio ที่ 01-11-2016 21:37:49
ไม่ค่อยถูกชะตากับเพลิงเท่าไหร่ มีอะไรทำไมไม่พูดกันดีๆ ล่ะค้าาาา พี่ไม่ได้ถูกปั่นหัว แต่พี่แค่คิดเองเออเอง ...
เออ ถ้าขยันแซะวาทุกนาทีแบบนี้ขอยืมตัวไปแซะดินที่บ้านหน่อยดิ จะปลูกสะระแหน่
อย่างเดียวที่เข้ากันได้คือเขาต่างดึงดูดกันและกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอล่ะมั้ง :-[

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: fida ที่ 13-12-2016 13:23:11
อ่านจบแล้ว

ชอบมากเลยค่ะ

เป็นคนชอบเนื้อเรื่องแนวหน่วงๆ แต่จบแฮปปี้

เรื่องนี้ตอบโจทย์มากค่ะ

ขอบคุณที่สร้างสรรค์นิยายดีๆ ให้อ่านนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 17-12-2016 09:40:48
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: เอวา ที่ 17-12-2016 13:08:57
"อือหือ" มากค่ะเรื่องนี้ ถึงแม้เนื้อเรื่องจะไม่ยาวมากนัก แต่ก็อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกและความอึมครึมอ่านไปหน่วงไปซึ่งดิฉันก็ชอบ ณ จุดๆนี้เช่นเดียวกับผู้อ่านท่านอื่นๆในหลายๆคอมเม้นท์ที่อ่านมา ขอบคุณผู้เขียนที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้กันได้อ่านนะค่ะ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 17-12-2016 21:44:57
อ่านรวดเดียวจบเลย
สนุกมากค่ะ หน่วงแต่ก็น่ารัก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 20-02-2017 17:42:54
สองคนนี้ยังคงมีตวามอึดอัดอยู่บ้าง แต่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยแหละ ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 23-02-2017 07:26:30


ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

กว่าจะลงเอย

หน่วงกันไป

หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 23-02-2017 09:31:32
แอร๊ยยยยยย.     เราชอบแนวนี้มากอะ.    อึมครึม.   หน่วงจิต.   คิดไปเอง.   ความเงียบ.    ไม่สมหวังแต่แรก.  มันมีให้เล่นกับความรู้สึกได้ทั้งตื้นและลึก.     การใช้ภาษาทำให้สื่อถึงความรู้สึกได้อย่างดี.      จบด้วยความน่ารักที่สุดแล้วสำหรับบุคคลิกที่สร้างขึ้นมาของทั้งสองคน.       อยากได้แนวนี้อีก.   แต่ให้ลึกกส่าเดิม. จะรอนะ. ขอบคุณคร๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: sb_ng ที่ 25-02-2017 21:25:17
เคยอ่านค้างไว้นานมากแล้ว วันนี้ได้มาอ่านจนจบแล้วค่ะ
ยินดีด้วยกับเพลิงและวา
ถ้าไม่เข้าใจกันเกินไป ลองถอยห่างออกมาแล้วค่อยกลับไปใหม่ก็ดีเหมือนกันเนอะ
ความไม่เข้าใจกันของเพลิงและวานี่หลักๆก็คงเกิดจากการไม่พูดไม่อธิบายกันนี่แหละ
คิดกันไปเองโดยที่อีกฝ่ายอาจจะไม่ได้คิดหรือไม่ได้เป็นแบบนั้น
มีความอึดอัดอึมครึมตั้งแต่แรกๆจนตอนหลังก็ยังคงมีอยู่ แต่ก็น้อยลง 5555555
อาจจะเพราะนิสัยของวาด้วย ไม่ค่อยพูด ดูเงียบๆงี้
ชอบตอนที่ทั้งคู่เริ่มกลับมาเข้าหากันใหม่ สอนทำอาหาร สอนเล่นเปียโน น่ารักกก
อยากให้มีตอนพิเศษจังเลยค่ะ อยากรู้การพัฒนาของเพลิงวา
แล้วก็ยังอยากรู้เรื่องอิฏฐ์ด้วย 55555555

ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 28-02-2017 22:50:42
ชอบอ่าาา
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 08-03-2017 10:18:24
เพิ่งมาลองอ่าน สนุกดีค่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 08-04-2017 21:44:32
สนุกค่ะ แต่พระเอกน่าจะมีเหตุผลมากกว่านี้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 18-04-2017 21:13:20
เป็นนิยายที่คุมโทนหน่วงตลอดเรื่องจริงๆ แต่ชอบแนวแบบนี้อ่ะ อ่านแล้วปวดใจมันใช่อ่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-08-2017 13:10:02
อ่านแล้วเหนืีอยดี อึมครึมตั้งแต่ต้นจนจบ
แต่เขียนเก่งมากค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: tutatoomtam ที่ 06-08-2017 23:38:21
หน่วงแบบได้ใจมากจ้ะ  เราจะจดชื่อเพลิงให้เป็นหนึ่งในพระเอกที่ทำตัวน่าหมั่นใส้ :z6: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: skysky ที่ 21-10-2017 22:34:52
ตอนแรกๆหน่วงมากเลย ความเงียบ การไม่พูดกัน มันอึดอัดชะมัด
คิดไปเอง อคตินิดๆ ปากไม่ตรงกับใจ กว่าจะเข้าใจกันก็เกือบจบแล้ว 555
คนเราต้องเปิดใจจริงๆเนอะ ถ้าไม่เปิดใจ ไม่อยากพยายามทำความเข้าใจ
ก็คงไม่มีเข้าใจในตัวตนของเขา
แต่วายุเป็นคนที่ปิดกั้นตัวเองมากเลย ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกอะไรออกมาตรงๆ
อาจเป็นความเคยชินไปแล้ว เลยทำให้เป็นคนบุคลิกแบบนี้ แต่ก็อย่างว่ามีสเน่ห์ ทำให้เพลิงสนใจ อิอิ
แต่ตอนแรกๆเพลิงก็อคติมากจริงๆ เชื่อในสิ่งที่ได้ยินมามากๆ
ดีใจกับวายุด้วยจริงๆ ที่มีคนอยากทำความเข้าใจในตัววายุและอยากมาอยู่เคียงข้าง ^^
ปล.แต่เรื่องครอบครัววายุก็ยังเป็นปริศนาอยู่นิดนึงนะ ตอนแรกคิดว่าจะมีคลี่คลาย เป็นครอบครัวอาจเป็นสาเหตุให้เป็นคนแบบนี้
ปล2.อยากกินอาหารฝีมือเพลิงบ้าง อิอิ
ปล3.ขอบคุณณพเพื่อนเพลิงจริงๆ ไม่งั้นเขาสองคนก็อาจไม่มีวันนี้ 555
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 22-10-2017 00:22:23
อ่านรวดเดียวจบเลย
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 23-10-2017 23:57:57
 :pig4:


หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: BooJiRa_ ที่ 07-04-2018 18:36:19
ชอบมากๆเลยค่ะ สนุกมาก  เป็นสไตล์ที่ไม่เคยอ่านมาก่อน  ประทับใจมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 24-04-2018 04:13:35
อ่านแล้วเหนื่อยจัง อึมครึมตั้งแต่ตอนแรกจนตอนสุดท้าย
มีบทส่งท้ายให้หวานนิดนึง เฮัออออ
ไม่รุ้วามีปมอะไร แต่พูดน้อยไปนะ ความรู้สึกก็เหมือนช้าๆ
เพลิงก็ตัดสินคนอื่นเร็วไปหน่อย แต่ชอบที่ตอนหลังแสดงออกมากขึ้น
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 29-04-2018 20:10:16
 :katai2-1: ชอบๆๆๆๆ อ่านรวดเดียว เริ่ด สั้นๆง่ายไ ภาษาโครตดี เก่งมากจริงๆ ค่ะ :hao7:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 02-05-2018 06:31:38
จบแล้ววววว อ่านแบบหน่วงๆมาตั้งแต่ต้น
กว่าจะหายหน่วงก็ตอนจบพอดี เข้าใจวายุ
เพราะเป็นคนที่ไม่อยากคิดอะไรเกินกลัว
เข้าใจผิดไปเอง
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 13-08-2018 11:58:35
 :hao5: :hao5: :hao5:

หน่วงงงงงงงง ทั้งเรื่องเลย แต่เราก็ชอบ
กว่าเพลิงจะลดทิฐิ ยอมมองวายุดีๆ รับรู้ เรียนรู้ที่เชาเป็นเขาโดยไม่ตัดสินเอาเอง

ชอบการเดินเรื่อง ภาษาก็ดี

กว่าจะยิ้มกันได้จริงๆทั้งเพลิง วายุ และคนอ่าน
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 16-08-2018 20:51:18
 กว่าจะลงเอยกันได้~ ลุ้นแทบแย่

 :mew1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 30-09-2018 00:13:35
สนุกมากอ่านทีเดียวจบเลย ตอนแรกก็หน่วงมากกกกกก :hao5: แต่จบดีจัง ชอบบบ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 30-09-2018 02:07:59
ภาษาคนเขียนนี่นะ เล่าเรื่องได้หน่วงใจสุดๆ (ฮา) แต่เป็นการเดินทางที่คุ้มค่าตั้งแต่ต้นจนจบ  o13
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 30-09-2018 22:21:16
ขอบคุณค่ะ หน่วงมาก เทาๆ ทั้งเรื่องเลย มีชมพูแต้มตอนท้ายหน่อยนึง

 :mew1: :mew1: สนุกค่ะ รู้สึกถึงตัวละครทั้งสองคนมาก
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 20-12-2019 08:50:14
:pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Areya ที่ 26-12-2019 02:37:47
โทนเรื่องอึมครึมอึดอัดแต่ละสายตาไม่ได้เลย อยากติดตามว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะจบอย่างไร คาดคะเนไปหลากหลาย ได้ข้อคิดดีๆว่าคนเราสามารถทำร้ายคนในสังคมเดียวกันด้วยอคติ(social bully)ได้อย่างร้ายกาจ แต่ก็อดเอาใจช่วยให้ทั้งคู่เข้าใจตรงกันเสียที แม้จะมีทิฐิและปมในใจของตน ขอบคุณนิยายสนุกหน่วงพ่วงลุ้นที่มีมาให้อ่านนะคะ ชอบมากค่ะ
ps.ขอบคุณเพื่อนดีๆอย่างณพ และเรื่องบังเอิญที่ทำให้ทั้งสองเข้าใจกันได้
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 26-12-2019 04:04:22
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 01-01-2020 15:32:28
เป็นนิยายที่แบบจะทุกข์ก็ทุกข์ไม่สุดจะสุขก็สุขไม่สุดเช่นกัน
เป็นนิยายหม่นๆ แต่สนุกมากเลยค่ะ
ขอบคุณนิยายสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: b2uty_pang ที่ 02-01-2020 23:41:01
น่ารักมากๆๆๆๆๆ ตอนแรกคือหน่วงมากๆจริง แต่พอรักกันโอ้ย มดกัด ถ้านักเขียนว่างๆ เขียนตอนพิเศษที่เขากุ๊กกิ๊กกันให้ได้ฟินกันอีกสักนิสสส ได้ไหมคะ >< ดูแล้วเขาน่าจะกุ๊กกิ๊กกันจนคนอ่านเลือดหมดตัวแน่ๆเลย -.,-
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 03-01-2020 22:52:36
สนุกมากๆค่ะ ทำไมเราเพิ่งมาเจอ อ่านรวดเดียวจบเลย


Sent from my iPhone using Tapatalk
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Guy_BLove ที่ 04-01-2020 23:08:37
 :hao5: :katai2-1: :กอด1: :-[ :o8: :impress2:
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Jessiebier ที่ 11-01-2020 09:39:38
 :L1: ลุ้นมากกว่าจะรักกันได้ สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: {{{{{{{{{ เ พ ลิ ง ใ น ว า ยุ }}}}}}}}} บทส่งท้าย [p14 up13.07.59]
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 04-07-2023 00:49:58
มาอ่านรอบ 2 ลืมไปแล้วว่าเคยอ่านเรื่องนี้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว