ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
✎ Again and again ✎
-chomin-
Tag : #ปราบเม่น
ว่ากันว่า ‘การทำงาน’ หากต้องการความราบรื่น ก็ต้องรู้จักผูกมิตร
แต่บางทีก็ควรต้องกลับมานั่งคิด..
ว่าคนๆ นั้น จะเหมาะสมต่อการ ‘ผูกมิตร’ ด้วยหรือไม่
✎
"ผมศึกษามาแล้วครับ เขาบอกว่าเม่นน่ะขี้หวง
หมายถึงหวงบ้านน่ะครับ แล้วก็รักความสงบ ชอบอยู่เพียงลำพัง"
อ่าจ้า มึงศึกษามาดีมากจ้า
แต่ได้ข่าวว่าสิ่งที่มึงศึกษา มันคือเม่นที่เป็นสัตว์
ไม่ใช่เม่นที่เป็นคนโว้ย!
--------------------------------------------------------
♥ ผลงานอื่นๆ ♥
(เรื่องสั้น) บันทึกรักนักเดินทาง (End) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65492.0)
(เรื่องสั้น) Cloud9 Diary (End) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68572.0)
(เรื่องยาว) Fall in you (End) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=62956.0)
(เรื่องยาว) ในป่าสน (End) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65693.0#gsc.tab=0)
(เรื่องยาว) มหาบุรุษแห่งครีตัน (End) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69870.0)
(เรื่องยาว) ความลับของช่างตัดเสื้อ ✁ BDSM (Onair) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71181.0)
✎ 07
หลังจากตกลงคบหากันอย่างเป็นทางการแล้ว ผมก็มีโอกาสได้ไปเยือนบ้านของไอ้ผู้กองอนิลผู้มีสถานะเป็นแฟนใหม่ป้ายแดงอยู่หลายครั้ง ซึ่งสถานที่ดังกล่าว ผมว่ามันควรจะเรียกว่าหอพักมากกว่าบ้านนะ แถมผนังยังไม่เก็บเสียงอีก
แม่งเง้ยยยยย ไอ้ผู้กองงงง มึงนอนเข้าไปได้ยังไง!
“ปราบ” ผมเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแหบโหย พลางทำตาหลุกหลิกไปมาอยู่นานสองนาน เพราะไอ้เสียงรบกวนที่ว่าเนี่ย แม่งยังกับหนังอย่างว่าที่มีทั้งภาพและเสียงแบบคมชัดในระดับ HD
“ครับ ?” ไอ้ผู้กองขานรับ โดยไม่คิดจะหันมามองหน้าผมแต่อย่างใด เพราะสถานการณ์แบบนี้ ผมก็เพิ่งจะเจอเป็นคืนแรกนี่แหละ
“คืนนี้ไปนอนที่บ้านผมกันดีกว่ามั้ย ?” ผมเอ่ยขอความคิดเห็น หากแต่การกระทำ มันคือการตัดสิน โดยปิดกั้นช่องว่างของอีกฝ่ายแทบทุกทาง ขณะที่ใบหน้าก็ยังคงร้อนผะผ่าวไม่แปรเปลี่ยน เพราะไอ้ห้องข้างๆ แม่ง! ไม่รู้จะกำศึกหนักไปไหน
เกรงใจกูบ้างก็ได้จ้า
ระหว่างการเดินทางจากหอของไอ้ผู้กองมายังบ้านของผม บรรยากาศระหว่างเราแม่งโคตรจะเงียบฉี่ ขนาดหายใจแม่งยังไม่กล้าจะหายใจเลยว่ะ สัส! เพราะไอ้ห้องข้างๆ แท้ๆ ทำเอาคู่รักหมาดๆ อย่างพวกผม ถึงคราวต้องตกอยู่ในสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วน
“ฟังเพลงกันดีมั้ยคุณ ?” สารถีหนุ่มเอ่ยถามราวกับต้องการคำตอบ หากแต่มือใหญ่กลับเอื้อมไปเปิดเพลงอย่างไม่รีรอ
ครั้งแรกที่พบเธอก็รู้ว่าเธอคือความหมาย
และใจเธอเองคงรู้หัวใจฉัน
ขอเป็นคนของเธอสุขทุกข์เราไปด้วยกัน
ช่วยกันดูแลและช่วยกันแบ่งปัน
ท้องฟ้าสดใสเมื่อบนโลกนี้มีเธออยู่
ต้นไม้ดอกไม้รอบกายช่างสวยงาม
ระยะทางจากหอพักของไอ้คุณอนิลมาจนถึงบ้านของผมนั้นสุดแสนจะสั้น แต่ดูเหมือนว่าบทเพลงที่ทางคลื่นวิทยุเปิดให้ฟัง จะทำให้จังหวะการเหยียบคันเร่งของชายหนุ่มผู้มีสถานะเป็นแฟนป้ายแดง ค่อยๆ ลดน้อยถอยลงจนแทบจะเทียบเท่ากับเต่าคลาน แต่ถึงจะรู้อย่างนั้น ผมก็ไม่คิดจะปริปากเร่งแต่อย่างใด เหตุเพราะเวลาใกล้เที่ยงคืนแบบนี้ ไม่ค่อยจะมีรถสวนไปสวนมาสักเท่าไหร่ อีกทั้งเพลงๆ นี้มันก็ยังมาได้ถูกที่ถูกเวลาเสียด้วย
ขอฉันขอรักเธอเสมอไม่มีวันเปลี่ยน
วันและคืนเดินเคียงบนเส้นทางด้วยกัน
ไปฉันพร้อมจะไปแค่ใจของเรามีกัน
ตราบใดฟ้ามีตะวันเธอและฉันมั่นใจ
นี่คือรักยั่งยืนที่มีให้กัน
จะเป็นสายลมแห่งความห่วงใย
จะเป็นอากาศดีๆให้เธอได้หายใจทุกวัน
เรามาทำอะไรดีๆให้โลกนี้่
เรามาเติมชีวิตที่ดีให้แก่กัน
ทั้งเธอและฉันแบ่งปันรอยยิ้มให้อิ่มใจ
(คือรักยั่งยืน: นนท์ ธนนท์ feat. ปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว)
“เม่น.. ถึงแล้วครับ”
เป๊าะ!
“เหม่อ” ไอ้ผู้กองมันยิ้มขำ พลางอธิบายการกระทำของตัวเองให้ผมฟังเพียงสั้นๆ จากนั้นก็ลงจากรถและไปยืนคอยอยู่ตรงข้างประตูรั้ว ส่วนผมที่เพิ่งจะถูกประทุษร้ายไปหมาดๆ ก็ได้แต่ลูบหน้าผากของตัวเองป้อยๆ อารมณ์โดนๆ จากเพลงเมื่อครู่แม่งหายเกลี้ยง เพราะความหน้ามึนของไอ้ผู้กองมันเนี่ย! ผมเลยเดินลงจากรถไปเปิดประตูรั้วเพื่อเตรียมตัวเข้าบ้าน ขณะที่อีกฝ่ายก็เดินตามก้นผมต้อยๆ ไปจนถึงห้องนอน
“เห้อ~” ผมทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างอันคุ้นเคย พลางถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ที่โลกของผมมันหวนกลับมาสงบสุขอีกครั้ง จากนั้นก็มุดเข้าไปซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม พร้อมกับปัดป่ายฝ่ามือเพื่อควานหารีโมตแอร์ ที่เมื่อเช้าโยนทิ้งเอาไว้บนเตียง กระทั่งความเย็นเริ่มแผ่ซ่าน ผมก็ถึงกับยิ้มกริ่มอย่างสบายอารมณ์อยู่ภายใต้เซฟโซนของตัวเอง
ซึ่งก็คือ ‘เตียงนอน’
“อึดอัด” ผมบ่นด้วยน้ำเสียงอู้อี้ เพราะจู่ๆ ไอ้ผู้กองมันก็ทิ้งตัวลงมานอนทับผมที่กำลังซุกอยู่ในผ้าห่มเสียอย่างนั้น
ตัวของมันรึก็ไม่ใช่เบาๆ แม่ง! ทับมาได้
“ก็คุณอยากทำตัวน่ารักเองนี่ครับ”
โว้ยยยยย! ใช่เวลามาหยอดกูมั้ยไอ้ผู้กอง
เฮ้ย! กูจะหายใจไม่ออก ตายอยู่ในกองผ้าห่มนี่แล้ว!
“ปราบผมหายใจไม่ออก” ผมดิ้นไปดิ้นมา พลางสารภาพอย่างหมดท่า ทำเอาอีกฝ่ายหัวเราะร่า แล้วก็ล้มตัวลงนอนแผ่ข้างๆ กัน
แต่มึงครับ! มึงนอนทับผ้าห่มกู๊!
“ตามที่ผมศึกษามา เขาบอกว่าเม่นจะมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิไงครับ ผมเลยกลัวว่าคุณจะหนาว เนี่ยเห็นไหมครับคุณเริ่มจะหายใจไม่ออกแล้วด้วย” แม่ง! หนาวบ้า หนาวบอ อะไรวะ แอร์เพิ่งจะเปิดโว้ย ดึงสติหน่อยมั้ยไอ้ผู้กอง! แล้วที่กูบอกว่าหายใจไม่ออกเนี่ย คือมึงนอนทับผ้าห่มเว้ย มันปิดช่องทางการหายใจ
โว้ย! เหนื่อยจะคุยด้วยจริงๆ
นี่ผมคิดถูกหรือคิดผิดวะเนี่ย ที่ยอมปล่อยให้มันผ่านการพิจารณาน่ะ!
“ตลกครับคุณอนิล รีบขยับตัวออกไป ก่อนที่คุณจะโดนผมถีบนะครับ ปฏิบัติ!”
“เม่นของผมน่ารักที่สุดในโลกเลย ผมจะเลี้ยงดูคุณอย่างดีเลยครับ เพราะก่อนจะได้เลี้ยง ผมก็ศึกษามาเยอะจริงๆ” แม้ว่าไอ้ผู้กองอนิลมันจะลุกให้ผมได้มุดออกมาหายใจได้อย่างที่ต้องการก็จริง แต่แม่งก็รวดเร็วพอที่จะเนียนเข้ามากอดผมไว้ ทั้งๆ ที่ผมยังคงม้วนตัวอยู่ในผ้าห่ม จนสภาพของผมตอนนี้ เริ่มใกล้เคียงกับแหนมป้าย่นเข้าไปทุกทีแล้ว
เฮ้ยมึ๊งงงงงง เนียนกอดกูไม่พอ ยังจะมาเนียนหอมแก้มกูอีก!
“คุณรู้ตัวไหมครับ คุณน่ะเม่น! เม่นชัดๆ นิสัยเหมือนกันเลย” อีกฝ่ายกล่าวพลางยกขาขึ้นกอดก่ายก้อนกลมๆ อย่างผมไว้ พร้อมกับย้ำให้รู้ชัดๆ กันไปเลยว่าผมน่ะ นิสัยเหมือนตัวเม่น
“…”
“แล้วก็น่ารักเหมือนกันด้วย”
วุ้ย! ไอ้ผู้กองนี่ก็หยอดกูจริง
เห็นกูชอบทำหน้านิ่งๆ ซึนๆ แบบนี้ กูก็เขินเป็นนะโว้ย!
ผมนอนดิ้นไปดิ้นมาอยู่พักใหญ่ แต่สุดท้ายก็ยังไม่หลุดออกจากอ้อมกอดของไอ้คุณปราบมือตุ๊กแก ด้วยความสิ้นหวัง ผมเลยทำใจแล้วนอนหลับตาเพื่อเข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา จนกระทั่งเช้าวันใหม่มาเยือน ไอ้ผู้กองอนิลคนกวนตีนคนเดิม เพิ่มเติมคือชอบนัวเนีย ก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำตั้งแต่ไก่โห่ และที่ผมรู้สึกตัวก็เพราะว่ามันชอบทำเสียงดัง เพื่อปลุกให้ผมตื่นเวลาเดียวกับมันนี่แหละ ทั้งๆ ที่จริงๆ มันก็อนุญาตให้ผมนอนตื่นสายได้แล้วนะ โดยอ้างทฤษฎีบ้าบอคอแตกขึ้นมาว่า ‘ผมรู้ครับว่าเม่นชอบนอนขี้เซา แถมวันๆ ก็มีแต่กินกับนอนซะด้วย แต่เอาเถอะครับ ผมยอมให้คุณนอนต่อจนถึงเจ็ดโมงครึ่งก็ได้ เพราะนี่คือโปรพิเศษแกะกล่องสำหรับ ‘แฟน’ ของผมครับ’
“ผมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ คุณอย่าลืมกินข้าวต้มที่ผมทำไว้ให้ด้วยล่ะ” ไอ้ผู้กองมันหายหัวไปพักใหญ่ ทำให้ผมนอนหลับสบายเพราะไม่มีใครมารบกวน แต่แล้วมันก็กลับมาพร้อมกับการคลุกวงในด้วยการจุ๊บเบาๆ ลงบนหน้าผาก พร้อมออกคำสั่งราวกับพ่อคนที่สอง
“อื้อ” ผมตอบรับในลำคอ พลางปัดป้องมือของไอ้ตัวกวน แล้วก็มุดหน้าเข้าหาที่นอนและหมอนใบนุ่ม พร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงเป็นลำดับสุดท้าย
จากนั้นความสงบสุขของการนอนก็หวนคืนกลับมา
และตามมาด้วยเสียงสตาร์ทรถที่มันดังก้องจนลั่นบ้านจากใครอีกคน
เช้าวันนี้ผมกับอิมต้องเดินทางไปคัดหนังสือรับรองบริษัท แล้วก็พวกบัญชีผู้ถือหุ้นกับบริคณห์สนธิและสบช.3 (แบบนำส่งงบการเงิน) ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือเรียกย่อๆ ว่า DBD ซึ่งที่จอดรถก็หายากมาก เพราะผมไปสายด้วยแหละ ก็เลยต้องจอดรถเอาไว้แถวข้างถนน จากนั้นก็เข้าไปรอคิวในห้องแอร์เย็นๆ เพราะว่ามันไม่ได้วุ่นวายเหมือนกับตอนไปที่ติดต่อยื่นวีซ่า โดยผมก็ติ๊กให้อิมดูเป็นตัวอย่างว่าเอกสารแต่ละอย่างมันต้องติ๊กตรงช่องไหน เพราะว่ามันมีช่องให้ติ๊กเยอะมาก กระทั่งได้รับเอกสารอันแพงหูฉีกจนเรียบร้อยแล้ว ผมก็มุ่งตรงไปยังกรมสรรพากรที่อยู่ในละแวกเดียวกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อทำการคัดงบดุลและงบกำไรขาดทุนของปีล่าสุด ซึ่งในความเป็นจริงก็คืองบของปีที่แล้ว รวมไปถึง ภงด.1 และ ภพ.30 ของเดือนเก่าๆ ส่วนเดือนใหม่จะต้องไปยื่นอีกที่นึง ซึ่งการจะถ่อรถจาก DBD ไปยังที่หมายแม่งโคตรไกล!
ไกลแบบอ้อมโลกเห็นจะได้!
แต่สุดท้ายเราก็เดินทางมาจนถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย จากนั้นผมก็พาอิมเดินเข้าไปในอาคาร และมุ่งตรงไปยังลิฟต์ตัวเก่าๆ ที่วันดีคืนดีก็อาจจะปิดการใช้บริการ เพราะมันเสียนั่นเอง แต่ถึงมันจะไม่เสีย ก็ใช่ว่าเราจะไว้ใจมันได้นะครับ ด้วยความขลังของมันแล้ว เล่นเอาใจระทึกทุกวินาทีที่ได้ใช้ แต่หากจะให้เดินขึ้นบันไดไป ก็เกรงว่าสภาพร่างกายมันจะรองรับไม่ไหวเพราะไขข้อเสื่อมเสียก่อน อายุอานามก็ 30 กันแล้ว อะไรที่ถนอมได้ก็ต้องถนอมกันไป
“ถ้าเกิดลิฟต์มันเล่นตุกติกขึ้นมานี่พีคเลยนะเม่น” อิมกล่าวติดตลก แต่สายตาของเธอนั้นไม่ได้ตลกตามคำพูด เพราะมันบ่งบอกถึงความระแวงล้วนๆ
“เฮ้ยอิมอย่าพูดอย่างนั้นดิ เรายิ่งเสียวๆ อยู่”
กระทั่งหมายเลขสีแดงเคลื่อนไปยังเลข ‘3’ อันเป็นจุดหมายปลายทาง ผมก็เปิดโอกาสให้สุภาพสตรีเดินออกไปก่อน จากนั้นถึงค่อยเร่งฝีเท้าเพื่อนำทางเธอไปยังห้องคัดเอกสาร ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือ พร้อมกับชี้แนะว่าจะต้องไปยื่นที่โต๊ะไหน และเอกสารสามารถหยิบได้จากที่ไหน แต่เนื่องจากทางบริษัทของเราได้มีการเก็บแบบฟอร์มเอาไว้แล้ว เราก็เลยไม่ต้องเสียเวลาเทียวไปเทียวมา เพราะเอกสารชุดนี้จะต้องได้รับการมอบอำนาจจากฝ่ายบริหารเพื่อให้เรามาดำเนินเรื่องแทน ซึ่งผมให้อิมเป็นผู้รับมอบอำนาจ เนื่องจากการยื่นวีซ่าล็อตนี้ อิมจะต้องทำเองทั้งหมด และผมจะเป็นแค่ผู้ติดตามในครั้งแรก
ติ้ง!
Prab: เที่ยงนี้ไปกินข้าวด้วยกันนะครับ ตอนเย็นผมไม่ว่าง พอดีพ่อกับแม่จะขึ้นมาหา
เม่นเดย์: อ่าฮะ ผมว่าจะไปกินก๋วยจั๊บแถวๆ ร้อยหลังอยู่พอดี
Prab: โอเคครับ เดี๋ยวผมไปรับนะ
เม่นเดย์: กว่าจะไปจะมา เดี๋ยวผมขับรถไปเองดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา
Prab: ครับผม
*แนบรูปเม่นแคระนอนยิ้มแป้น*
เม่นเดย์: รู้สึกว่าคุณอนิลจะมีรูปเม่นในสต๊อกเยอะเหลือเกินนะครับ
Prab: แน่นอนครับ ก็ผมชอบของผม แต่มีเม่นอยู่ตัวนึงที่ผมชอบที่สุดเลยนะครับ แถมยังมีรูปเยอะที่สุดด้วย
*แนบรูปเม่นกำลังนอนหลับตาเอาหน้าซุกหมอน เห็นแต่แก้มยุ้ยๆ กับเส้นผมสีดำสนิท*
วุ้ย! พูดแบบนี้แสดงว่าไอ้ผู้กองมันแอบถ่ายรูปผมไปหลายแสนรูปแล้วมั้งเนี่ย
เม่นเดย์: เบื่อคุณจริงๆ ชอบกวนประสาทผม
Prab: ยิ้มอยู่ก็สารภาพมาเถอะครับ คุณเม่นไม่ต้องทำเป็นดึงหน้าบึ้งหรอก
เม่นเดย์: รู้ดีจังเลยนะครับ ไปทำงานได้แล้วครับคุณอนิล
Prab: ฮ่าๆ งั้นผมไปทำงานแล้วนะครับ
“ฮั่นแน่~ ยิ้มอะไรน่ะ คุยกับสาวเหรอเม่น ?” อิมเดินเข้ามายิ้มล้อพลางหรี่ตามองแบบแกล้งๆ แต่ผมนี่สิเขินจริงจังมาก
แล้วทำไมต่อหน้าไอ้คุณอนิลผมถึงเก๊กขรึมได้วะ
หรือจริงๆ แล้ว กูโป๊ะแตก แต่ไอ้ผู้กองมันทำเมินไม่ล้อผมวะ แต่คนอย่างมันเนี่ยนะจะไม่ล้อ เป็นไปไม่ได้โว้ย!
การเอาตัวรอดเป็นยอดดีคือทางของไอ้เม่นครับ แต่ก็ไม่ได้รอดเพราะความสามารถของตัวเองหรอกนะ เพราะสาเหตุที่ทำให้รอดตายมันเป็นเพราะหัวหน้าไลน์มาบอกว่าเย็นวันนี้จะเลี้ยงโออิชิบุฟเฟต์ครับ โอ้โห ช่างเลือกวันได้เหมาะสมเหลือเกิน ไอ้คุณอนิลไม่ว่างพอดีด้วย เล่นเอาผมไม่มีข้ออ้างไปปฏิเสธนัดครั้งนี้เลย แต่เอาเป็นว่าผมจะยอมลาภปากก็ได้ครับ
“ลาภปากอีกแล้ว~” สาวอิมดี๊ด๊าขึ้นมาทันควัน และเธอก็ลืมหัวข้อสนทนาก่อนหน้าไปโดยปริยาย มิหนำซ้ำตอนลงลิฟต์เธอก็ยังไม่มีอาการหวาดระแวงว่าลิฟต์มันจะเกเรกับเราหรือไม่
‘เรื่องกิน’ นี่มันคือเรื่องมหัศจรรย์จริงๆ ครับ ทำเอาผมนี่รอดตัวแบบหวุดหวิด!
ปกติผมจะไปกินข้าวกลางวันกับอิม แต่เพราะวันนี้ผมมีนัดกับไอ้คุณอนิล อิมก็เลยต้องกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารตามสั่งป้ามล เนื่องจากเธอไม่กล้าข้ามถนนคนเดียว เพราะวันก่อนพวกเราต่างก็อยู่ในช่วงนาทีระทึก เหตุเกิดเพราะรถทัวร์เหยียบมอเตอร์ไซค์ครับ ผมนี่ยังจำเสียงหมวกกันน็อคลั่นได้อยู่เลย คิดแล้วก็ขนลุก แถมเมื่อวานนี้พนักงานบริษัทของเรานี่แหละครับถูกรถชน ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก คือเรื่องของเรื่อง รถใหญ่เขาจอดให้คนข้ามครับ แต่มอเตอร์ไซค์วิ่งมาไม่ดูตาม้าตาเรือ แถมพนักงานผมก็ไม่ทันเห็นด้วย เลยสอยเธอลอยขึ้นฟ้าเข้าให้ เพราะเธอตัวเล็กด้วยนั่นแหละ คิดแล้วก็แทบไม่อยากจะข้ามถนนเลย ให้ตายสิ พูดเรื่องนี้แล้วมันของขึ้นทุกที สัญญาณไฟมีไว้ให้คนกดเวลาจะข้ามถนน แต่ปรากฏว่ารถแม่งไม่ยอมหยุดให้ครับ
จะว่าไปชีวิตของคนเดินเท้านี่มันโคตรจะระทึกใจเลยจริงๆ
“อร่อยดีว่ะคุณ ร้านนี้ผมยังไม่เคยมากินเลย” ไอ้คุณผู้กองออกปากชมครั้งแล้วครั้งเล่า ท่าทางว่าจะชอบกินจริงๆ เพราะมันถึงกับขอเบิ้ลอีกชามแน่ะ ขนาดว่าร้านเขาให้เยอะแล้วนะนั่น
“เอ้อ วันนี้หัวหน้าผมจะเลี้ยงโออิชิ อาจจะกลับดึก” ผมบอกอีกฝ่ายถึงนัดในตอนเย็น เพื่อที่เจ้าตัวจะได้ไม่ต้องโทรหา
“อ่าฮะ ถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกผมด้วยนะครับ”
“อื้อ”
“ผมว่าจะพาพ่อกับแม่ไปเที่ยว แกอยู่ตั้งอาทิตย์นึงแน่ะ คุณว่าผมควรจะพาท่านไปที่ไหนดี แถวจันก็มีทะเลอยู่แล้วด้วย”
“คุณอนิลครับ นี่ผมเม่นเอง! เม่นผู้ไม่ชอบเที่ยว โอเค๊?” ผมกล่าวพลางชี้หน้าตัวเองเพื่อให้ใครอีกคนได้ครุ่นคิดด้วยว่า หน้าอย่างกูนี่ ไม่ชอบเที่ยวครับมึง เป็นโรคชอบอยู่แต่บ้าน ชีวิตต้องการเวลานอนมากกว่าการเที่ยวครับมึง
“ครับๆ เม่นคนนี้ชอบนอนขี้เซา”
“หึ!” ผมชักสีหน้าและทำเสียงฮึดฮัดเวลาไม่พอใจอะไรสักอย่าง พลางปัดมือใหญ่ๆ ของไอ้คุณอนิลออกจากแก้มของตัวเองที่มันดึงจนแทบย้วย
“หึ!” ไอ้คุณอนิลมันเริ่มจะส่อแววอ้อนตีนขึ้นมาอีกแล้ว เพราะแม่งมีการเลียนแบบเสียงฮึดฮัดของผมด้วย และผมก็ไม่ยอมแพ้ เลยนั่งถลึงตาใส่ไอ้คนขี้แกล้งซะเลย มันเองก็ไม่ยอมแพ้ผมเหมือนกัน กว่าจะสงบศึกได้ก็ตอนที่ไอ้ผู้กองมันสำลักจนหน้าดำหน้าแดงนั่นแหละ
ดี! สมน้ำหน้า
“คุณ.. ค่อยๆ กินน้ำดิ เอ้า! ทิชชู่” แต่พอมันสำลักไม่เลิกสักที ผมก็ชักจะเป็นห่วงเลยต้องคอยพูดกำกับไอ้คุณอนิลราวกับมันเป็นเด็ก และมันก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายซะด้วย ก็ดูสภาพของไอ้ผู้กองตอนนี้ดิ แม่งโคตรน่าสงสาร ท่าทางจะสำลักพริกนั่นแหละครับ เพราะปกติแล้วแม่งกินโคตรเผ็ดเลย น้ำในชามของมันงี้แดงเถือก เล่นเอาหน้าแดง หูแดง น้ำตาไหลเป็นทางเลย
แต่เห็นจะมีอยู่แค่ครั้งเดียวเองมั้ง ที่มันไม่กินเผ็ด ก็ตอนที่มันขับรถถ่อมาหาผมที่ร้านบะหมี่เพื่อมานั่งมองผมกินนั่นไง
“เม่น ถ้ากลับถึงบ้านแล้วอย่าลืมไลน์มาหาผมนะ ผมเป็นห่วง” หลังจากเช็คบิล เราก็พากันเดินตรงมายังบริเวณที่เราจอดรถไว้ตรงข้างทางแถวๆ ในซอยร้อยหลัง
“อื้อ”
เมื่อเวลาเลิกงานเดินทางมาถึง ฝูงนกที่กำลังห่อเหี่ยวต่างก็พากันเริงร่าเป็นทิวแถว โดยผมกับอิมเราเดินทางไปด้วยกัน เพราะผมสนิทกับเธอที่สุดแล้ว อีกทั้งช่วงนี้เธอก็ยังไม่ได้ซื้อรถด้วย เห็นว่ากำลังดูๆ อยู่ แต่ยังเลือกไม่ได้สักที และเมื่อไปถึงอเวนิว เราก็มุ่งหน้าตรงไปยังร้านโออิชิอันเป็นจุดหมายปลายทาง จากนั้นเราก็ต้องยืนรอสมาชิกคนอื่นๆ เพื่อรวมตัวให้ครบตรงหน้าร้านเสียก่อน กระทั่งทุกคนในแผนกมากันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว มื้อเย็นสุดหรูที่ไม่ต้องจ่ายเงินเองก็เริ่มขึ้น ส่วนขากลับผมก็รับหน้าที่ไปส่งอิมที่บ้าน เพราะผมเองก็เพิ่งจะทราบว่าบ้านของเราไปทางเดียวกัน เพียงแต่บ้านของเธอจะอยู่ถึงก่อนผมสักเล็กน้อย
“ผมถึงบ้านแล้วนะ” หลังจากปิดประตูรั้วบ้านเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้ว่าด้วยอารมณ์ไหน ผมถึงได้โทรไปหาไอ้ผู้กองแทนที่จะไลน์ไปบอกมันอย่างที่สั่งไว้
(อ่า.. ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ ?) อีกฝ่ายถามกลับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย จนผมนึกแปลกใจที่มันนอนเร็ว และก็อดคิดไม่ได้ว่าโชคดีแล้วที่ผมตัดสินใจโทรไปหา
“สามทุ่มครับ ทำไมนอนเร็วล่ะ ?” ผมถามด้วยความสงสัย พลางปิดประตูบ้านให้เรียบร้อย แล้วก็พาตัวเองขึ้นไปยังห้องนอน
(พอดีพ่อกับแม่นอนเร็วน่ะครับ ผมก็เลยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อดี ก็เลยนอนซะเลย) น้ำเสียงของไอ้คุณอนิลยังคงงัวเงียไม่หาย มิหนำซ้ำมันยังต้องพยายามพูดคุยให้เบาที่สุดด้วย เพราะหอของมันก็ไม่ได้ใหญ่โตนัก และตอนนี้มันก็น่าจะต้องนอนรวมกับพ่อแม่ของมันนั่นแหละ ซึ่งผมก็เคยถามมันนะว่าทำไมไม่ซื้อคอนโดไปเลยจะได้สะดวกๆ ไอ้ผู้กองมันเลยบอกว่า ตอนแรกมันไม่ได้กะจะทำงานอยู่ที่นี่นานขนาดนั้น ก็เลยไม่คิดที่จะซื้อ แล้วอีกอย่างหอนี้ก็เดินทางไปมาสะดวกดี มันก็เลยไม่ยอมหาใหม่ พูดง่ายๆ ก็คือ มันยังมีความหวังว่าจะทำเรื่องขอย้ายกลับไปที่เดิมได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดันไปลงทุนเปิดร้านนั่งชิลด์กับเพื่อนสมัยเรียนมหาลัยที่ต่างก็เป็นคนพื้นที่ด้วยกันทั้งคู่ซะงั้น
“อ่อ งั้นคุณไปนอนเถอะ ผมไม่กวนแล้ว” หลังจากสมองประมวลผลในสิ่งที่ตัวเองควรต้องทำได้แล้ว ผมก็เอ่ยลาอีกฝ่ายในทันที แต่ผลปรากฏว่ามันก็ยังคงไร้การตอบรับจากปลายสาย
(…)
“คุณ..”
(…)
“หลับแล้วเหรอ ?” ผมยังคงเอ่ยถาม แม้จะเริ่มมั่นใจแล้วว่าอีกฝ่ายคงจะกลับเข้าสู่ห่วงแห่งนิทราไปแล้ว
(…)
“ฝันดีนะปราบ”
-----------------------------------------------------
เอามาเสิร์ฟอีกตอนแล้วค่ะ ตอนนี้มันก็จะอุ่นๆ กวนๆ อีกแล้ว
ความสัมพันธ์ของปราบกับเม่น เราอยากเขียนให้ออกมาในรูปแบบ คนรัก และ เพื่อนค่ะ
ก็เลยติดจะกวนตีนหนักๆ แต่ก็ดูแลอย่างดี แบบเนียนๆ เหมือนช่วงจีบกันนั่นแหละค่ะ
เพิ่มเติมแค่อ่อนโยนขึ้น