ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
εїз ในป่าสน εїз
-chomin-
คำเตือน!
status : Mystery & Warmth
゚゚❀゚゚
ที่ป่าสนแห่งนั้น..
ผมรู้สึกเหมือนกับว่า..
มันยังมีเรื่องราวที่เต็มไปด้วยปริศนาซุกซ่อนอยู่..
ร่วมติด Hashtag : #ที่ป่าสน ในทวิตได้นะคะ
--------------------------------------------------------
♥ ผลงานอื่นๆ ♥
(เรื่องยาว) Fall in you (End) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=62956.0)
(เรื่องยาว) Again and again (End) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67182.0)
(เรื่องสั้น) บันทึกรักนักเดินทาง (End) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65492.0)
(เรื่องสั้น) Cloud9 Diary (End) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68572.0)
(เรื่องยาว) มหาบุรุษแห่งครีตัน (End) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69870.0)
(เรื่องยาว) ความลับของช่างตัดเสื้อ ✁ BDSM (Onair) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=71181.0)
ตอนพิเศษในป่าสน
〄
ยามเมื่อจันทร์กระจ่างฟ้า..
ระยะ waxing crescent
แม้การหลอมรวมจะสำเร็จลงด้วยดี แต่กว่าที่เด็กชายจากบ้านกลางป่าสนจะได้รับอนุญาตให้ออกจากมาใช้ชีวิตในสังคมอันกว้างใหญ่อย่างเป็นทางการ ต้องใช้เวลาสำรวจความพร้อมต่ออีก 3 เดือน เท่ากับว่าจันทร์ใช้เวลาในการพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 3 ปี 3 เดือน โดยที่หลังจากนี้จันทร์จะต้องเข้ารับการบำบัดทางด้านจิตวิทยาเพื่อปรับเปลี่ยนมุมมองความคิดที่เป็นผลพวงมาจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศอย่างต่อเนื่อง และในขณะที่จันทร์กำลังอยู่ในช่วงเตรียมความพร้อม คุณแม่ของผมก็ทำหน้าที่เปรียบเสมือนพี่เลี้ยงคอยชี้แนะในเรื่องต่าง ๆ พร้อมกับคอยชักจูงให้จันทร์ค่อย ๆ ก้าวเดินออกจากเซฟโซนของตัวเอง เพื่อไปพบเจอกับผู้คนที่หลากหลายด้วยการทำกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ เช่น การไปช็อปปิ้ง หรือการไปเลือกซื้อวัตถุดิบที่ตลาดสด
ซึ่งผลดีก็ไม่ได้มีอยู่แค่นั้น..
เพราะการมีอยู่ของจันทร์ คือการเข้ามาเติมเต็มครอบครัวของผม
“จันทร์ตัดสินใจได้หรือยังว่าการเรียนแบบไหนที่เหมาะกับจันทร์” ผมเอ่ยถามเด็กชายจากบ้านกลางป่าสน ระหว่างที่เรากำลังเดินทางไปยังอำเภอสะเมิง เพื่อติดต่อเกี่ยวกับวุฒิการศึกษา เพราะในตอนนี้ผมกำลังวางแผนด้านการศึกษาให้กับจันทร์ โดยหลักสูตรที่ผมมองๆ ไว้ คือการเรียนแบบ กศน. และการเรียนแบบโฮมสคูล
“แล้วพี่ภัทรคิดว่าหลักสูตรไหนเหมาะกับจันทร์เหรอครับ ?”
“พี่คิดว่าโฮมสคูลน่าจะเหมาะกับจันทร์มากกว่า เพราะการออกมาใช้ชีวิตของน้องจิมและน้องลียากรส่งผลกระทบต่อการเรียนของจันทร์ค่อนข้างมาก ดังนั้นช่วงแรกอาจจะต้องเรียนปรับพื้นฐานไปก่อน อีกอย่างการเรียนโฮมสคูลในหลักสูตรของโรงเรียนนานาชาติก็ค่อนข้างอำนวยความสะดวกมาก เพราะเขามีครูที่คอยให้คำปรึกษา แล้วก็มีห้องสมุดสำหรับเด็กโฮมสคูล แถมยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เด็กโฮมสคูลเข้าร่วม พี่เลยคิดว่ามันเป็นโอกาสที่ดีที่จันทร์จะได้ส่องประกายมากขึ้น แล้วจันทร์ก็จะได้มีเวลาเรียบเรียงเรื่องราวในชีวิตเพื่อเขียนเป็นหนังสือด้วย”
“ส่วนการเรียนแบบ กศน. พี่กลัวว่ามันจะหนักเกินไปสำหรับจันทร์ เพราะการเรียนแบบนี้ เราจะต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แล้วด้วยพื้นฐานที่ไม่ค่อยแน่นมาตั้งแต่แรก มันอาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ยากลำบาก”
“แล้วการเรียนตามหลักสูตรปกติล่ะครับ ทำไมพี่ภัทรถึงคิดว่ามันไม่เหมาะกับจันทร์”
“ที่จริงก็ไม่เชิงว่าไม่เหมาะหรอก แต่พี่คิดว่าช่องว่างระหว่างวัยอาจจะทำให้จันทร์เข้ากับคนอื่นได้ยาก เพราะเด็กมอต้นเพิ่งจะอายุสิบสองสิบสามเท่านั้น ส่วนวัยของจันทร์ตอนนี้เทียบเท่ากับเด็กมหาลัยแล้ว ความคิดความอ่านน่าจะจูนกันลำบาก แต่สำหรับเด็กโฮมสคูลพี่คิดว่ามันน่าจะลดปัญหาเกี่ยวกับช่องว่างของอายุได้ เพราะเวลาที่ทุกคนต้องมาทำกิจกรรมร่วมกัน ขั้นแรกก็ต้องเริ่มจากการทำความรู้จักกันเป็นเรื่องพื้นฐานอยู่แล้ว อีกอย่างช่วงอายุก็จะคละกันด้วย มันเลยไม่ฟิกตรงนี้” สิ้นคำอธิบายของผม คนข้างกายก็นิ่งเงียบไปนาน ราวกับเจ้าตัวกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
“ถ้าเกิดจันทร์เลือกเรียนแบบโฮมสคูล ใครจะมาสอนจันทร์ล่ะครับ เพราะจากที่จันทร์อ่านในโบรชัวร์ที่พี่ภัทรเอามาให้เมื่ออาทิตย์ก่อน ดูเหมือนครอบครัวจะต้องเป็นคนสอนตามหลักสูตร ส่วนคุณครูจะคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเรียนการสอนเท่านั้น”
“ก็ครูประจำชั้นคนเก่าของจันทร์ไง ตอนนี้ท่านปลดเกษียณแล้ว” ผมเฉลยพลางหันไปมองคนข้าง ๆ ที่กำลังแสดงสีหน้าราวกับสงสัยว่าผมไปรู้จักกับคุณครูประจำชั้นสมัยประถมของตัวเองได้อย่างไร
“ท่านเป็นคุณแม่ของเพื่อนพี่แนน แล้วท่านก็พอจะรู้เกี่ยวกับอาการป่วยของจันทร์อยู่บ้าง พี่เลยคิดว่าคุณสมบัติที่ท่านมี ค่อนข้างจะเหมาะสมกับการเป็นคุณครูของจันทร์”
“แล้ว.. ท่านรู้เรื่องที่จันทร์ป่วยได้ยังไงครับ ?”
“จริง ๆ ก็ไม่เชิงว่าท่านรู้เรื่องของจันทร์อย่างละเอียดนักหรอก จะว่ายังไงดี คือท่านทราบจากการสังเกตในช่วงที่ท่านยังเป็นครูประจำชั้นอยู่ เลยทำให้ท่านมองเห็นถึงความผิดปกติที่ซุกซ่อนอยู่ในจิตใจของเด็กในความดูแล”
“ถ้าอย่างนั้น.. การตัดสินใจของจันทร์จะไม่เป็นการรบกวนท่านเกินไปใช่ไหมครับ ?”
“จากที่พี่แนนบอกมาก็ไม่ได้รบกวนอะไรนะ เพราะท่านเองก็เต็มใจที่จะทำอยู่แล้ว” สิ้นคำยืนยันจากผม จันทร์ก็ยกยิ้มเพียงนิดคล้ายกับโล่งใจที่การตัดสินใจของตัวเองไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครอย่างใจคิด
หลังจากนั้นไม่นานเราสองคนก็เริ่มเข้าสู่เขตตัวเมืองของอำเภอสะเมิง และมุ่งตรงไปยังเขตบ้านอมลองอันเป็นจุดหมายปลายทางอย่างไม่เร่งรีบ เพราะก่อนหน้านี้เราต่างก็ทานมื้อเช้ามาจากบ้านจนอิ่มแปล้
“เส้นทางนี้ต่อให้ผ่านไปกี่ปีก็ดูไม่เปลี่ยนไปเลย..” จันทร์กล่าวขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงบรรเลงที่ผมเปิดคลอไว้ ขณะที่สายตาก็จ้องมองออกไปด้านนอกหน้าต่างที่มีแต่ป่าเขาขนาบข้าง หรือบางครั้งก็มีวัวเดินข้ามถนนอย่างองอาจ
ราวกับว่าถนนเส้นนี้มีพวกมันเป็นเจ้าของมานานแล้ว
“จำได้ว่าจันทร์กับพี่ชลเคยโบกรถจากตรงนั้น เพื่อเข้าไปในตัวอำเภอแล้วก็ต่อรถไปเรื่อย ๆ จนถึงตัวเมืองเชียงใหม่” จันทร์พูดขึ้นพลางชี้ไปยังหนทางข้างหน้า ที่มองยังไงก็ไม่น่าจะมีจุดสังเกตให้จดจำได้ง่าย ๆ เพราะตลอดสองข้างทางมีแต่ต้นไม้ใหญ่และต้นหญ้าริมทาง
“ไม่สิ.. ประสบการณ์นี้เป็นของพี่กรต่างหาก” สิ้นการเรียบเรียงความทรงจำที่ค่อนข้างสับสน ผมก็รับรู้ได้ทันทีว่าสถานการณ์ที่อีกฝ่ายกำลังพูดถึง คือช่วงเวลาที่กรวินท์ออกมาใช้ชีวิต และกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่เรียกว่า ‘การหลบหนี’ เพราะความรู้สึกของจันทร์กำลังแตกสลายเป็นครั้งที่สาม
โดยครั้งนี้..
จันทร์ถึงกับลงมือทำร้ายร่างกายตัวเองด้วยการกรีดข้อมือ
“จันทร์เปิดกระจกรถได้ไหมครับ ?”
“อ้อ.. อื้ม” สิ้นคำถามของคนข้างกาย ผมที่กำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิดก็เริ่มมีสติขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังตอบคำถามอย่างมึน ๆ เบลอ ๆ อยู่ดี ส่วนคนที่ได้รับคำตอบอันน่าพอใจ ก็ยกยิ้มกว้างจนมองเห็นลักยิ้มตรงข้างแก้ม ก่อนจะเปิดกระจกรถเพื่อรับกลิ่นอายของดอกเก๊กฮวยที่กำลังรายล้อมอยู่รอบๆ ตัวอย่างกระตือรือร้น บ่งบอกว่าในขณะนี้เป็นช่วงเทศกาลเที่ยวชมทุ่งดอกเก๊กฮวยอย่างเป็นทางการแล้ว จากนั้นเด็กชายจากบ้านกลางป่าสนก็ดูเหมือนตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด เพราะเวลานี้อีกฝ่ายเอาแต่นั่งท้าวแขนไว้ตรงขอบหน้าต่างพร้อมกับวางปลายคางไว้บนข้างแขน ขณะที่สายตากลับเหม่อมองออกไปยังบริเวณที่ไกลแสนไกล
ผมจึงได้แต่ลอบมองด้วยความเป็นห่วง
กระทั่งตัวรถขับเคลื่อนเข้าสู่เขตโรงเรียนประจำท้องถิ่น จันทร์ก็เริ่มตื่นขึ้นจากภวังค์แห่งความคิด หลังจากนั้นผมก็ยกหน้าที่ติดต่อราชการให้กับศิษย์เก่าประจำโรงเรียน แต่ด้วยความที่จันทร์จดจำเลขประจำตัวในตอนนั้นไม่ได้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลเพิ่มอีกหนึ่งวัน เพราะก่อนหน้านั้นทางเราได้แจ้งความจำนงผ่านทางคุณแม่ของคุณชลวิทย์ไปบ้างแล้วก็เลยไม่ต้องรอถึงสามวันตามระเบียบการ
“จันทร์โอเคนะ” ผมเอ่ยถามหลังจากที่เราพากันเดินออกมาจากห้องธุรการ โดยที่สีหน้าของจันทร์ค่อนข้างเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผมก็เข้าใจดีว่าอีกฝ่ายกำลังเป็นกังวลในเรื่องไหน
“โอเคครับ”
“พี่ว่าถ้าหากจันทร์ไม่สะดวกใจจะไปนอนค้างที่บ้านของน้าเข็ม เราไปหาห้องพักที่โรงแรมในตัวเมืองก็ได้ ยังไงพวกท่านก็ต้องเข้าใจความรู้สึกของจันทร์อยู่แล้ว” ผมแสดงความเห็นอย่างหนักแน่น เพราะไม่อยากให้จันทร์รู้สึกกดดันมากเกินไป
“ไม่เป็นไรหรอกครับ จันทร์คิดว่าจันทร์น่าจะรับมือไหว”
“อื้ม”
เมื่อเจ้าตัวยืนยันอย่างชัดเจนขนาดนั้น ผมที่เป็นเพียงหน่วยซับพอร์ตก็จำต้องเคารพการตัดสินใจของอีกฝ่าย และถือโอกาสมองสถานการณ์ดังกล่าว ให้เป็นหนทางที่จะนำไปสู่การก้าวเดินที่มั่นคง
เวลานี้เราสองคนจึงได้รับน้ำเก๊กฮวยเป็นเวลคัมดริ้ง ก่อนจะเข้าพักที่ไร่ของป้าเข็มเป็นเวลาหนึ่งคืน
“ตอนเด็ก ๆ จันทร์ชอบเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เพราะกลิ่นหอมของดอกเก๊กฮวยจะทำให้จันทร์หลับสบาย” เด็กชายจากบ้านกลางป่าสนเริ่มบอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีต เมื่อเราสองคนกำลังขนสัมภาระเข้าไปเก็บยังอดีตห้องนอนของอีกฝ่ายที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีเลยไม่มีกลิ่นอับอย่างใจคิด
“แต่ก่อนจันทร์ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมกลิ่นหอมของมันถึงทำให้จันทร์รู้สึกปลอดภัย แต่ตอนนี้จันทร์คิดว่าตัวเองเข้าใจเหตุผลทั้งหมดแล้ว” เจ้าของห้องยังคงแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ ตามที่เคยได้รับคำแนะนำจากผมและทีมรักษาอย่างเรียบเรื่อย ขณะที่สองมือก็จัดการเปิดหน้าต่างทุกบานที่มีอยู่ในห้องนอนอันแสนเรียบง่าย เพราะในห้องเล็ก ๆ ห้องนี้ มีแต่สิ่งจำเป็นสำหรับเจ้าของห้องทั้งสิ้น
ต่างกันแค่ที่บ้านหลังนี้ ข้าวของต่าง ๆ ของผู้ชายและผู้หญิงจะปะปนกันอย่างเด่นชัด
เนื่องจากในอดีตห้องนอนห้องนี้ มีน้องลียากรและจันทร์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์
“เพราะกลิ่นหอมของดอกเก๊กฮวยทำให้จันทร์นึกถึงแม่ นึกถึงความสุขที่แม่มักจะแอบยิ้มเวลาที่มองดอกเก๊กฮวยในแจกัน แล้วก็รู้สึกได้รับความรักที่ตัวเองไขว่คว้า..” จันทร์เฉลยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ขณะที่เจ้าตัวยังคงยืนปักหลักอยู่ตรงข้างหน้าต่าง โดยที่แววตาอันไร้เดียงสาก็มองจ้องไปยังบรรยากาศด้านนอกที่เต็มไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ที่เจริญเติบโตอยู่ตรงกลางเฉลียงหน้าบ้าน
“แต่ว่าหลังจากนั้น.. กลิ่นหอมของมันก็คือกลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยอันตราย” สิ้นคำพูดของเด็กชายจากบ้านกลางป่าสนก็ตามมาด้วยเสียงปิดหน้าต่างทุกบาน
ซึ่งผมเข้าใจดีว่า ‘ความอันตราย’ ดังกล่าว มันเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร
“คืนนี้จันทร์ยกเตียงให้พี่ภัทรนะครับ”
กระทั่งอีกฝ่ายแจ้งความจำนงที่เปรียบเสมือนคำยืนยันว่า ‘อันตราย’ ดังกล่าว มีสาเหตุมาจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ผมก็รู้สึกสะเทือนใจไม่น้อย
เพราะห้อง ๆ นี้ มันคือสถานที่เกิดเหตุ
“วันนี้จันทร์เก่งมาก” ผมเดินไปนั่งยังตั่งไม้ริมหน้าต่าง พร้อมกับคว้ามือของคนข้างกายมากอบกุมไว้ และไม่ลืมจะกล่าวชื่นชมเพื่อให้กำลังใจคนเก่งที่ในวันนี้สามารถใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกเก๊กฮวยโดยไม่มีอาการแพนิค อีกทั้งยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันโหดร้ายได้ดีกว่าที่ผมเป็นกังวล
“ไปกินข้าวกันเถอะครับ” จันทร์สูดลมหายใจจนเต็มปอดพร้อมกระชับฝ่ามือของผมเพียงครู่ ราวกับเจ้าตัวกำลังเรียกขวัญและกำลังใจของตัวเองให้กลับคืนมา จากนั้นก็ลุกไปเปิดหน้าต่างทุกบานอีกครั้ง ก่อนจะหันมาบอกให้ผมรีบออกไปกินข้าว เพราะตอนนี้ญาติ ๆ ของเจ้าตัวกำลังจัดเตรียมมื้อเย็นอยู่ตรงโต๊ะแถวเฉลียงด้านนอก ซึ่งเราจะสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของไร่เก๊กฮวยในมุมมองที่กว้างไกลมากกว่าเดิม
บรรยากาศของมื้อเย็นในวันนี้จึงเต็มไปด้วยความอบอุ่นอย่างเห็นได้ชัด อาจเพราะครอบครัวของผมไม่ค่อยมีโอกาสได้มานั่งกินข้าวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งความแตกต่างตรงจุดนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าบรรยากาศรอบ ๆ ตัว สามารถเพิ่มพูนรสชาติอาหารให้อร่อยยิ่งกว่าเดิม
มื้อนี้เลยทำให้ผมเจริญอาหารมากเป็นพิเศษ
ส่วนจันทร์กำลังพูดคุยแลกเปลี่ยนความเจริญก้าวหน้าของ ‘บ้าน’ และ ‘โรงเรียน’ ร่วมกับครอบครัวที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้พบเจอกันอย่างออกรส ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ประจำบ้านดูเหมือนจะรับมือกับหลานชายได้ดี เพราะพวกท่านไม่เคยคิดจะแตะต้องอดีตอันเลวร้ายของจันทร์ ผมจึงอาศัยช่วงเวลาดังกล่าวมองสำรวจบ้านที่จันทร์เคยอยู่อย่างละเอียด จนกระทั่งพบว่าบ้านไม้ขนาดกลางหลังนี้ ค่อนข้างสะดวกสบายมากทีเดียว อาจเพราะแต่ก่อนคุณพ่อของจันทร์น่าจะสร้างรายได้ให้กับครอบครัวมากที่สุด กระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันค่าใช้จ่ายภายในบ้านทั้งหมด จึงกลายเป็นภาระของนายโชคที่มีการงานอันมั่นคง
กระทั่งครอบครัวเริ่มลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง ก็มีการต่อเติมบ้านตรงบริเวณใกล้ๆ ห้องครัวที่อยู่ด้านหลังสุด เพราะเดิมทีบ้านหลังนี้มีเพียง 3 ห้องนอนเท่านั้น ซึ่งผมคาดเดาเอาเองว่าเจ้าของห้องน่าจะเป็นน้าเข็ม นายโชค และจันทร์ เพียงแต่ห้องนอนของจันทร์ น่าจะเคยเป็นห้องของคุณพ่อเจ้าตัวมาก่อน ส่วนครอบครัวของคุณชลวิทย์ สมัยก่อนอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ที่ปัจจุบันกลายมาห้องเก็บของสำหรับการทำสวน ดังนั้นการที่สมาชิกในครอบครัวเลือกจะต่อเติมบ้าน ทั้ง ๆ ที่ห้องของจันทร์และห้องของนายโชคก็เพียงพอต่อการรองรับจำนวนผู้อยู่อาศัย คงเป็นเพราะพวกเขาไม่อยากจมปลักอยู่กับความสูญเสีย
หรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อปฏิเสธความเป็นจริงอันเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นที่บ้านของตัวเอง..
“ว่าไปแล้วการมาที่นี่ก็ดีตรงที่พี่ภัทรได้พักผ่อนอย่างจริง ๆ จัง ๆ สักที” จันทร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่เราขันอาสาเก็บล้างมื้อเย็นแสนอร่อยจนเรียบร้อยแล้ว
“เป็นห่วงเหรอ ?” ผมย้อนถามเด็กชายตัวเล็กที่ในตอนนี้กำลังเช็ดโต๊ะกินข้าวตรงใต้ต้นไม้ใหญ่จนสะอาดเอี่ยมอ่อง
“ครับ พออยู่ที่บ้านกับคุณแม่ ถึงได้รู้สึกว่าพี่ภัทรกับคุณพ่อใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่าที่บ้านเสียอีก”
“จะทำยังไงได้ล่ะ ในเมื่อเลือกมาทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว มันคือเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” ผมกล่าวพลางเดินไปนั่งยังเก้าอี้ไม้แบบม้านั่งยาวที่หันหน้าเข้าสู่ทุ่งดอกเก๊กฮวยสีขาวที่สะอาดที่ในเวลานี้ไม่มีนักท่องเที่ยวหลงเหลืออยู่อีกแล้ว
เพราะอีกไม่นานดวงอาทิตย์ก็จะลาลับขอบฟ้า
บ่งบอกถึงช่วงเวลาที่ดวงจันทร์จะได้อวดโฉมในยามค่ำคืน
กระทั่งความเงียบสงบตรงเข้าปกคลุมจากรอบ ๆ ทิศทาง เพราะจันทร์กำลังเดินหายเข้าไปในครัวเพื่อเอาผ้าขี้ริ้วไปซัก ภวังค์แห่งความคิดจึงเริ่มก่อตัวขึ้น โดยเรื่องที่ผมกำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้คือเรื่องของนายโชค เนื่องจากตอนไปล้างจาน ผมมองเห็นกรอบรูปที่บ่งบอกวันตายของคนในภาพ
ซึ่งผมมั่นใจว่าผมไม่ได้ตาฝาด
เพราะทั้งผมและจันทร์ต่างก็ยืนมองภาพนั้นอยู่เนิ่นนาน
“พ่อหนุ่มคงจะเห็นอะไรบางอย่างแล้วสินะ” ป้าเข็มกล่าวพลางทิ้งตัวลงนั่งตรงที่ว่างข้างตัวผม
“ครับ”
“เท่าที่ป้ารู้.. การใช้ชีวิตในคุกของไอ้โชคค่อนข้างลำบาก ยิ่งเป็นนักโทษคดีฆ่าข่มขืนด้วยแล้ว ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเป็นสิบเท่า เพราะคนในนั้นจะถือว่านักโทษคดีแบบนี้เป็นพวกหน้าตัวเมีย ความเกลียดชังก็เลยถาโถมเข้าใส่มากกว่านักโทษคดีอื่น ๆ”
“เขาถูกรับน้องเหรอครับ ?” ผมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา พลางลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะเท่าที่ผมเคยได้ยินการรับน้องของนักโทษมักจะเป็นการรุมกระทืบกันเสียมากกว่า
ซึ่งจำนวนคนที่รุมกระทืบก็ประมาณครึ่งร้อยเห็นจะได้
“อื้ม ไอ้โชคมันถูกรุมกระทืบตั้งแต่วันแรก” ป้าเข็มเฉลยได้เพียงแค่นั้น แล้วท่านก็นิ่งเงียบไป คล้ายกับมีบางอย่างในใจที่มันค่อนข้างสะเทือนใจอยู่มาก
“…”
“ต่อจากนั้น.. มันก็ถูกรุมโทรมจนติดเอดส์” สิ้นคำบอกเล่าของคนอายุมากกว่า ผมก็ถึงกับอึ้งอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เพราะในท้ายที่สุดกรรมก็ตามทันได้จริง ๆ
“แต่ที่มันตายไม่ใช่เพราะติดเอดส์ หรือว่าต้องโทษประหารอย่างที่ศาลตัดสินหรอกนะพ่อหนุ่ม มันตายเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น”
เวลานี้ถึงแม้ป้าเข็มจะไม่ได้ปริปากบอกว่าคนเลวคนนั้นเสียชีวิตเพราะอะไร แต่จากคำบอกเล่า ทำให้ผมคาดเดาเอาเองว่า..
การตายของนายโชค..
เกิดจากการฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน
“ป้าไปอาบน้ำนอนก่อนดีกว่า วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” หลังจากนั้นไม่นานป้าเข็มก็ทำลายความเงียบงันระหว่างเรา ขณะที่ผมก็ได้แต่ส่งยิ้มให้ท่านก่อนจะเบือนหน้าไปมองยังท้องฟ้าสีส้มอมม่วงอย่างเลื่อนลอย
“ถ้าจันทร์รู้สึกสะใจกับสิ่งที่อาโชคเคยเจอ พี่ภัทรคิดว่าจันทร์ใจร้ายเกินไปหรือเปล่าครับ”
“ไม่หรอก เพราะยังไงความดำมืดในจิตใจก็อยู่คู่กับมนุษย์อย่างเรา ๆ กันอยู่แล้ว สำหรับพี่มันเลยเป็นเรื่องปกติ หากเราอยากจะใจร้ายกับใครสักคนที่เคยมาทำร้ายเราก่อน”
“แวบหนึ่งจันทร์รู้สึกว่าอาโชค ไม่น่ามาด่วนจากไปแบบนี้ เพราะคนอย่างเขาน่าจะอยู่รับโทษให้นานกว่านี้ จะได้รู้สึกทรมานกว่าที่จันทร์เคยเจอ” เด็กชายจากบ้านกลางป่าสนเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น บ่งบอกถึงความคับแค้นใจได้เป็นอย่างดี
“แต่การถูกรุมโทรมมันก็ค่อนข้างแย่ ในใจของจันทร์เลยเกิดความขัดแย้งกัน เพราะสมองซีกซ้ายมันสั่งให้จันทร์สะใจและขอบคุณนักโทษกลุ่มนั้น แต่สมองซีกขวากลับสั่งให้จันทร์รู้สึกสงสาร แล้วก็คิดว่านักโทษกลุ่มนั้นต่างก็ทำความผิดไม่ต่างกับอาโชค พวกเขามีสิทธิ์อะไรไปพิพากษาคนอื่น เห้อ! หงุดหงิดตัวเองชะมัด” เด็กชายจากบ้านกลางป่าสนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะตีหน้ายุ่งพลางนั่งไขว่ห้างในท่าทางที่ทำให้ผมนึกถึงอัตลักษณ์ของคุณพีรวัตร แต่ในครานี้การนั่งด้วยท่าทางดังกล่าวมันคือการนั่งที่แสดงออกมาจากพฤติกรรมของจันทร์ เพราะเจ้าตัวไม่ได้นั่งในท่านั้นตลอดเวลา ขณะที่ผมก็ได้อมยิ้มให้กับความรู้จักผิดชอบชั่วดีของอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู
เพราะถึงแม้เจ้าตัวจะรู้สึกสะใจ แต่ดูเหมือนว่าจะสะใจไม่สุด
กระทั่งความมืดเริ่มคืบคลานเข้ามา เราสองคนเลยตัดสินใจไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอน โดยที่เราต่างก็ไม่ลืมจะแสดงความรักด้วยการจูบสัมผัสบริเวณริมฝีปากแบบไม่มีการล่วงล้ำ พร้อมกล่าวอวยพรให้ต่างฝ่ายต่างฝันดีในค่ำคืนนี้ ซึ่งการแสดงออกด้วยการสัมผัสในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นการบำบัดอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้จันทร์เรียนรู้ว่า ‘การจูบ’ สามารถแสดงถึงความรู้สึกนึกคิดได้อย่างหลากหลาย
ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเรื่องทางเพศ
“นอนไม่หลับเหรอจันทร์ ?” ผมเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เพราะจันทร์เอาแต่พลิกตัวไปมาในอ้อมกอดอยู่หลายครั้ง แม้เราจะหอบเครื่องนอนมาตั้งถิ่นฐานอยู่บนตั่งริมหน้าต่างแล้วก็ตาม
“ครับ พอหลับตาแล้วจันทร์ชอบนึกไปถึงเรื่องแย่ ๆ ทุกที คงเพราะจันทร์กำลังถูกความทรงจำเก่า ๆ โอบล้อมอยู่ล่ะมั้ง” ท้ายที่สุดคนนอนไม่หลับก็ต้องลุกขึ้นมานั่งคุดคู้ พร้อมบอกเล่าความรู้สึกของตัวเองให้ผมเข้าใจ ซึ่งก็นับว่าโชคดีที่จันทร์สามารถแก้อาการหวาดผวาเกี่ยวกับกลอนประตูได้ตั้งแต่ที่โรงพยาบาล
ไม่อย่างนั้นในค่ำคืนนี้จันทร์อาจจะอาการย่ำแย่แบบแต่ก่อนก็เป็นได้
“เราออกไปเดินเล่นข้างนอกกันดีไหม หรือว่าจันทร์จะออกไปวาดรูปเล่นก็ได้ เดี๋ยวพี่นั่งเป็นเพื่อน สบายใจเมื่อไหร่ค่อยกลับมานอน” ผมขันอาสาแม้ว่าเวลานี้ตัวเองจะง่วงนอนจนเต็มที แต่พอเห็นจันทร์กำลังตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะนอนอีกต่อไป
“ครับ”
สิ้นคำตอบรับอันแผ่วเบา เราสองคนก็พากันเดินออกจากบ้านที่กำลังถูกโอบล้อมไปด้วยความเงียบสงัด โดยจุดหมายปลายทางก็คือรถของผม เพราะอุปกรณ์วาดรูปถูกเก็บซ่อนไว้ตรงหลังรถ
“คืนนี้ให้พี่ภัทรเป็นแบบวาดรูปดีกว่า วาดเสร็จจะได้เอาไว้ประดับห้องด้วย”
เมื่อจิตรกรมือฉมังออกปากขนาดนั้น ‘แบบวาด’ อย่างผมก็จำต้องเดินตัวปลิวไปตามแรงลากจูงของอีกฝ่ายแต่โดยดี ซึ่งมุมที่จันทร์เลือกคือมุมที่สามารถมองเห็นทุ่งดอกเก๊กฮวยและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับร้อย
ส่วนผมกำลังนั่งอยู่บนขอนไม้ใหญ่
“อืม.. เหมือนยังขาดอะไรไป” จันทร์ที่กำลังนั่งอยู่บนพื้นดิน โดยมีอุปกรณ์วาดรูปรายล้อมอยู่รอบตัวกล่าวขึ้น พลางใช้ปลายนิ้วแตะตรงริมฝีปากเพียงเบาๆ พร้อมกับทำสีหน้าครุ่นคิดจนคิ้วขมวด ผมจึงได้แต่อมยิ้มที่อย่างน้อยการวาดรูปก็สามารถทำให้จันทร์รู้สึกผ่อนคลายได้มากกว่าที่คิด
“หึ แฟร์รี่ประจำทุ่งดอกเก๊กฮวย” จันทร์กล่าวพลางหัวเราะอย่างสนุกสนาน เมื่อจู่ ๆ ก็คิดไอเดียดี ๆ ออก ดอกเก๊กฮวยที่เคยเบิกบานอยู่บนต้น จึงย้ายมาอยู่บนศีรษะของผมแทน
“พี่ภัทรนั่งกอดเข่าหันหน้าไปทางซ้าย แล้วก็เงยหน้ามองฟ้า ส่วนจันทร์จะวาดปีกไว้ข้างหลัง” พอจิตรกรมือฉมังแต่งตัวผมราวกับเล่นแต่งตัวตุ๊กตาจนสาแก่ใจ ก็รีบออกคำสั่งเพื่อจัดแจงท่าทางให้กับภาพที่เจ้าตัวกำลังจะวาด พร้อมกับหยีตาข้างหนึ่งเพื่อวัดสัดส่วนต่าง ๆ กลางอากาศ
โดยภาพวาดดังกล่าวจะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์ของ ‘ภูติจิ๋ว’ ที่คอยปกปักรักษาดอกไม้ไม่ให้เหี่ยวเฉา
“ยิ้มอะไรนักหนา หืม ?” กระทั่งเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ผมก็ตัดสินใจเอ่ยถามจิตรกรตรงหน้าด้วยความสงสัย เมื่อสายตาบังเอิญสบเข้ากับรอยยิ้มที่มองเห็นข้างแก้มยุบลงไปตั้งหลายครั้งหลายครา
“จันทร์กำลังคิดว่าดอกเก๊กฮวยเหมือนเป็นดอกไม้ประจำตัวของพี่ภัทรเลยครับ” คนถูกถามอธิบายด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงกระแสความสุขที่กำลังโอบล้อมอยู่รอบตัวของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน
“หมายถึงยังไงเหรอจันทร์ ขยายความหน่อยสิ”
“ดอกเก๊กฮวยเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเย็น เวลาบานจนเต็มทุ่ง รอบ ๆ ตัวจะตลบอบอวนไปด้วยกลิ่นหอมของมัน ต่อให้อยู่ไกลแค่ไหน จันทร์ก็มั่นใจว่าจะต้องรับรู้ถึงกลิ่นหอมของมันแน่ๆ ก็เหมือนกับความหวังดีของพี่ภัทรที่คอยโอบล้อมอยู่รอบ ๆ ตัวจันทร์ตลอดเวลา แม้บางครั้งเราจะไม่ได้อยู่ใกล้กัน แต่จันทร์ก็รับรู้ได้ว่าพี่ภัทรเป็นห่วงจันทร์และคอยเอาใจช่วยจันทร์อยู่ มันเลยทำให้จันทร์รู้สึกว่าที่ผ่านมาจันทร์ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง”
“เป็นคำอธิบายที่ค่อนข้างลึกซึ้ง แล้วก็ทำให้คนฟังรู้สึกหัวใจพองโตที่ความหวังดีของเขาส่งไปถึงใครคนนั้น” ผมกล่าวพลางยกยิ้ม ขณะที่ดวงตาก็จ้องมองเข้าไปยังนัยน์ตาของอีกฝ่าย จากนั้นบรรยากาศรอบกายก็คล้ายกับหยุดการเคลื่อนไหว
เหตุเพราะเราสองคน..
ต่างก็ดึงดูดความสนใจจากกันและกันได้ดีกว่าธรรมชาติรอบด้าน
゚゚❀ ゚゚
[edit 23/02/2019 รีไรท์สำนวนใหม่]
บทความที่เกี่ยวข้อง
- ไร่เก๊กฮวย บ้านอมลอง ต.แม่สาบ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่
https://youtu.be/ztuoVfMW6tc
- บทความเกี่ยวกับเรื่องนักโทษ
https://www.thairath.co.th/content/982030
เอาตอนพิเศษมาฝากจ้า อาจจะไม่หวานมาก แต่ก็คือหวานแล้ว (ในความคิดเรา 555) คู่นี้จะเรียบๆ ไม่ค่อยหวือหวา สำหรับตอนพิเศษอันนี้เราตั้งใจเขียนให้เห็นถึงความสดใสของจันทร์ และความดำมืดในจิตใจ รวมถึงความรักของทั้งคู่ด้วย และสุดท้ายบทสรุปของอาโชคที่เรากั๊กไว้ตั้งแต่ตอนหลัก เรื่องของเรื่องเราไปเจอบทความนึงมา ก็คิดว่าจะเอามาเขียนเป็นจุดจบของอาโชคนี่แหละ มันสะท้อนถึงเรื่องราวในคุกได้ดี แล้วก็สะท้อนได้อีกอย่างว่า แม้แต่นักโทษด้วยกันก็ยังคิดว่านักโทษคดีข่มขืนเป็นนักโทษที่อยู่คนละชั้นกับพวกเขา ยิ่งข่มขืนเด็ก ก็จะยิ่งเจอจัดหนักมากกว่าเดิม ส่วนเรื่องการเรียนของจันทร์เราไปเปิดๆ อ่านกระทู้เกี่ยวกับการเรียนโฮมสคูลมาเยอะมาก เปิดโลกดีเหมือนกัน แต่เพราะมันไม่ค่อยจะเป็นที่นิยมในไทย ก็เลยหาข้อมูลยากมาก แต่ก็เจอที่ผู้ปกครองมารีวิวไว้เยอะพอสมควร
ปล. ตอนนี้ทุ่งดอกเก๊กฮวยบานแล้ว ใครมีโอกาสได้ไปเที่ยวแวะไปตามรอยเผื่อเราด้วย 555 (จริงๆ อยากไปเองแต่งบหมดมากมาย)
ส่วนเรื่องการรวมเล่ม เราจะออกกับทาง Hermit นะคะ แต่อาจจะต้องรอกันสักพักใหญ่เลย เพราะเราเพิ่งเขียนตอนพิเศษเสร็จตอนเดียวเอง 55 คาดว่าจะมีเล่มเดียวนะคะ เดี๋ยวสรุปอะไรได้แน่นอนแล้ว เราจะมาแจ้งอีกที แต่อาจจะแจ้งทางทวิตหรือเฟซก่อนนะคะ เบื้องต้นเราจะเขียนตอนพิเศษในคอนเซ็ปต์การโคจรรอบโลกของดวงจันทร์ ก็จะมีทั้งหมด 8 ระยะ เราคงจะเขียน 8 ตอนนั่นแหละค่ะ ฉะนั้นในตอนนี้จะเห็นได้ว่าดวงจันทร์ของหมอภัทรกำลังกระจ่างฟ้าเสี้ยวนึงแล้ว ต่อไปก็จะค่อย ๆ เจิ่ดจ้าขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนจะหม่นแสงลงมั้ย โปรดติดตามจากตอนพิเศษในเล่มจ้า >_<
https://static1.squarespace.com/static/5928a64e15d5db2bc1a8061e/t/59e059024c326de484c37f88/1507875081696/Moon-for-Manifestation_Moon-Guide_1.jpg?format=1000w
cr : pinterest
แจ้งรายละเอียดหนังสือเรื่องในป่าสน
น้องจันทร์มาแล้วค่ะทุกคนนนนนน ฝากรับน้องไปดูแลด้วยนะคะ ตอนพิเศษรับรองว่าอบอุ่นในความรักและความเอาใจใส่ของพี่ภัทรที่มีให้กับน้องจันทร์แน่นอนค่ะ และทุกคนจะได้เห็นถึงการเติบโตที่มั่นคงของน้องด้วยค่ะ เราแพลนจะทำการ์ตูนแจกด้วยค่ะ ทีแรกวางแผนไว้ 100 ใบ แต่งบเราจะหมด ฮือ อาจจะเหลือสัก 50 ใบ เดี๋ยวเอาไว้เราจะมาแจ้งอีกทีในเพจหรือแอคทวิตเตอร์สำหรับอัพนิยายนะคะ
(https://i.imgur.com/XhG6Y4C.jpg)
ประชาสัมพันธ์หนังสือใหม่ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 24
เรื่องที่ 4 วันนี้พาน้องเพียงจันทร์กับคุณหมอจิรภัทรมาเปิดตัวนะคะ
เล่มนี้ไม่ควรพลาด มีหลากหลายรสชาติ ทำให้เราลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ มีอะไรมากกว่าที่ทุกคนคิดนะคะ
เรื่อง : ในป่าสน
เขียน : Chomin
ราคา : 469
แถม : แก๊ก 4 หน้า สำหรับพิมพ์ครั้งที่ 1 เท่านั้น
วันจำหน่าย : 2 / 10 / 2562
คำโปรย:
ที่ป่าสนแห่งนั้น...
ผมรู้สึกเหมือนกับว่า...
มันยังมีเรื่องราวที่เต็มไปด้วยปริศนาซุกซ่อนอยู่