ภาคแรกของท้องฟ้ากับก้อนเมฆ (http://thaiboylovestory.ueuo.com/webboard/index.php?topic=1060.0)
.
.
.
ผมเคยรักเขามาก และเมื่อเราสองคนต้องห่างไกลกัน ผมคิดว่าผมจะเลิกรักเขาได้เหมือนกับที่คนรอบข้างผมเคยพูดเคยอ้างว่าเป็นแบบนั้นเมื่อพวกเขาเลิกกับแฟน และน่าแปลก ที่ผมเองก็เคยคิดว่าผมทำแบบนั้นได้จริงๆ
แต่ทว่า ความเป็นจริงในความฝันของความเป็นจริงของผม ก็ปลุกให้ผมได้รู้ตัวว่า ไม่ว่าเราสองคนจะห่างหายจากกันไปนานเพียงไร ไม่ว่าเราจะอยู่ห่างกันไกลขนาดไหน และไม่ว่าผมจะหลอกตัวเองมากเท่าใด...........................
ผมก็ยังคงรักเขาอยู่เสมอ.......................
คงเช่นเดียวกับความเป็นจริงที่ว่า ทุกครั้งที่คนตัวเล็กๆอย่างผมแหงนหน้าขึ้นมองดูท้องฟ้า ผมจะเห็นก้อนเมฆ ที่ลอยอยู่เกลื่อนเคียงคู่กับท้องฟ้าผืนกว้าง และมันแสดงออกให้เห็นว่าความรักและความผูกพันของท้องฟ้ากับก้อนเมฆนั้นจะไม่มีวันจางหายไปจากโลกนี้ ตราบจนกว่าชีวิตของคนๆหนึ่งคนนี้จะหมดลง เท่านั้นเอง...........................
(๙ - จุดหมายของการเดินทาง)
ทั้งหมดมีเพียงรอยยิ้ม และความอบอุ่นในใจที่คนสองคนเท่านั้น ที่จะรู้สึกได้...................
นอกเหนือจากนั้นก็คงเป็นความอบอุ่นจากอ้อมกอดของแม่ของไอ้ซันกับรอยยิ้มของพ่อของมันที่มารอรับผมอย่างอบอุ่น
หนึ่งปีผ่านไป พวกท่านก็ยังคงรักและเอ็นดูพวกผมอย่างเคย
แล้วไอ้คนที่เคยรักผมและคนที่ผมเคยรักผมมากล่ะ ตอนนี้มันกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ...............
.
.
.
ลองมองขึ้นไปบนฟ้าดูสิ........... ดูมันช่างอยู่สูง และยิ่งใหญ่เกินกว่าจะไขว่คว้า
ท้องฟ้าและก้อนเมฆที่ลอยอยู่เหนือขึ้นไป ช่างกว้างใหญ่ และสวยงาม
ราวกับไม่มีวันที่คนตัวเล็กๆคนหนึ่งจะเอื้อมได้ถึง
แต่ถ้าลองคิดให้ดีๆก็คงจะรู้ว่า ตรงไหนกันถึงจะเรียกว่าท้องฟ้า........
ต้องอยู่สูงขึ้นไปขนาดไหน ถึงจะเรียกได้ว่ากำลังสัมผัสกับท้องฟ้าและก้อนเมฆ
บางทีคนเราก็ไม่รู้จุดยืนและความพอเพียงในสิ่งที่เห็นและสิ่งที่กำลังครอบครองอยู่
ถ้าหากเรายังสามารถได้ชื่นชมความงามของท้องฟ้าแล้วล่ะก็
การได้ครอบครองมันก็คงไม่มีความจำเป็น
ในเมื่อท้องฟ้าก็ยังคงลอยอยู่เหนือเรา โอบอุ้มเราอยู่ตลอดเวลา
ขอแค่สละเวลาเพียงแค่สามวินาทีแหงนหน้าขึ้นมองและมอบรอยยิ้มแทนคำขอบคุณส่งขึ้นไป
เราก็คงสุขใจ และเขาก็คงยินดี.............................
.
.
.
หัวใจที่หวั่นไหว กับ ความทรงจำที่ทำให้ไหวหวั่นทุกครั้งที่หวนคิดถึง
แค่สองอย่างนี้ก็มากเพียงพอแล้วที่จะทำร้ายและเล่นตลกกับคนๆหนึ่งได้
แต่เมื่อผมกับมันได้เจอกัน อะไรๆที่ผมเคยคิด เคยคาดหวัง และเคยกังวลมันก็พลันหายไปจนหมด
ระยะเวลาหนึ่งปีที่ยาวนาน ถูกทดแทนด้วยเพียงรอยยิ้มอันอ่อนโยนและเสียงหัวเราะที่ผมเคยเหลือไว้ในความทรงจำของมันเท่านั้นเอง
แค่นี้ ผมก็สุขใจแล้ว
ผมรักมันมากเหลือเกิน.....................
ความรัก ที่ผมมีให้มันมาตลอดนั้นเป็นของจริง ความผูกพันที่เราสองคนมีให้กันนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
และตอนนี้ผมก็มาถึงจุดหมายปลายทางของผมแล้ว
ความเศร้า คราบน้ำตา และรอยแผลที่เคยเกิดขึ้นกับผมก็ดูราวกับจะจางหายไปจนสิ้น เมื่อผมมีมันอยู่ข้างกายแบบนี้อีกครั้ง
ทุกครั้งที่ได้มองหน้า ก็รู้สึกอบอุ่น
ทุกครั้งที่ได้ยินเสียง ก็รู้สึกชื่นใจ
ทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้ม ก็ทำให้โลกดูสดใสขึ้นทันตา
ความเศร้าความทุกข์ทั้งหมดที่เคยมี ที่เคยแบกรับไว้ก็ดูราวกับจะสูญสิ้นหายไปจนหมด
ฟ้าครามเป็นมากกว่าท้องฟ้าไว้ที่พักพิงสำหรับก้อนเมฆ และซันก็เป็นมากกว่าดวงอาทิตย์ที่ให้ความอบอุ่นแก่ก้อนหิน
แต่มันคือคนๆเดียวที่ทั้งชีวิตของผมต้องการ..................
ไม่ใช่ต้องการมาไว้ในครอบครอง
แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว............
มันคือคนที่ผมต้องการให้เขามีความสุขที่สุดในโลกเหมือนอย่างเช่นที่มันเป็นอยู่ทุกวันนี้
และถ้าวันไหนมันเศร้า เสียใจ และรู้สึกไร้ที่พักพิง
ตอนนี้ผมก็อยู่ข้างๆมันแล้ว และก้อนเมฆก้อนเล็กๆก้อนนี้ก็จะทำให้ท้องฟ้ากลับมาสวยงามอีกครั้งให้ได้
ผมจะทำให้มันมีความสุขให้ได้..................
ขอแค่มันยังมีรอยยิ้ม ยังหัวเราะ และยังมีความสุขได้ในทุกๆวัน
แค่นี้ ผมก็มีสุขใจและพอใจแล้ว
ไม่สำคัญว่าต่อจากนี้ผมกับซันจะเป็นยังไง
ไม่สำคัญว่ามันจะคิดยังไงกับผม
ไม่สำคัญว่ามันจะยังรักผมอยู่หรือเปล่า
แต่หากสำคัญที่ผมยังสามารถยืนยันได้ว่าผมรักมัน และผมจะยังมีความปรารถนาดีให้มันเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง และจะไม่มีวันแปรเปลี่ยนไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร
ตอนนี้ผมโตขึ้น ผมได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง
ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อมัน และผมไม่ได้ต้องการให้มันมาอยู่ข้างกายผมเหมือนอย่างที่ผมเคยคิด
แต่ผมเกิดมาเพื่อทำให้มันมีความสุข และบางทีผมอาจแค่ต้องการให้มันเห็นคุณค่าของผมที่อยากจะคอยอยู่เคียงข้างมันตลอดไปเท่านั้นเอง
ผมรักมันและจะทำทุดอย่างเพื่อรักษารอยยิ้มของมันเอาไว้แบบนี้เสมอ
.
.
.
ผมรักท้องฟ้าสีคราม....... ผมชอบที่จะเงยหน้ามองดูท้องฟ้า เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงของก้อนเมฆและชื่นชมความงดงามอันยิ่งใหญ่ที่ธรรมชาติรังสรรค์
และตอนนี้ผมมีโอกาสได้ยื่นมือมาสัมผัสท้องฟ้าที่ผมเคยเฝ้ามองมาตลอดและเกือบจะสูญเสียมันไปแล้วอีกครั้ง
ทั้งชีวิตต่อแต่นี้ ผมจะไม่ทิ้งท้องฟ้าของผมไปไหนไกลอีกแล้ว...........................
.
.
.
.
.
ก้อนเมฆที่ด้อยค่า และก้อนหินที่เจียมตัว จะขอมีชีวิตอยู่เพื่อได้เห็นความงดงามของท้องฟ้าและรับความอบอุ่นอันอ่อนโยนของแสงแดดแบบนี้ตลอดไป
การเดินทางของก้อนเมฆก้อนนี้สิ้นสุดลงแล้ว และจากนี้ไป จะเป็นการเริ่มต้นเดินทางบทใหม่ของ เราทั้งคู่
การเดินทางของศิลาและฟ้าคราม..........................
สุขสันต์วันแห่งความรักนะครับ