-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
นิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องแต่ง..อาจจะคนละแนวแตกต่างที่เคยเขียนมาอย่างมาก
แต่เป็นนิยายที่อยากทำอยากเขียน...แนวลึกลับซ่อนเงื่อน...ฆาตกรรม...ซาดิส..ชอบบบบบบ
เป็นอะไรที่อยากมากกกกก...หวังว่าคงได้รับการต้อนรับเหมือนผลงานที่ผ่านมาด้วยดีเช่นกัน
จะพยายามอัพให้บ่อย..ไม่ให้รอกันนาน...ที่สำคัญหากเนื้อหา....หรืออะไรก็ตามไปพาดพิงถึงใครเข้าโดยตั้งใจหรือบังเอิญ
ขอให้รับรู้ไว้ด้วยว่า..คนเขียนเจตนาอย่างยิ่ง...และบุคคลที่ถูกพาดพิง...คือคนพิเศษของคนเขียน
เพราะฉะนั้นห้ามต่อว่า...หรือโกรธ...เพราะคุณคือคนพิเศษที่ได้รับเกียรติจากเรา...ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
@มนต์มาร@
Part 1
ฆาตกรรมปริศนา.....
.
.
.
“หวอออๆๆๆzzzz!!!!!....” เสียงไซเลนรถพยายาล รถตำรวจ..ตลอดจนไทยมุงส่งเสียง
อึกทึกครึกโครม..ค่อยห่างไกลเบาหายไปเรื่อยๆ จนสงบลงในที่สุด..
อาณาเขตของคุ้มดงพญา ที่ดินกว่า 3,000 ไร่..ใช้ประกอบกิจการพืชไร่..ปศุสัตว์ รวมทั้งคอกม้าพันธุ์ดี
ฟาร์มโคนมอย่างครบวงจร
กอปรด้วยชุมชนขนาดย่อม..หมู่บ้านคนงานกว่า 200 หลังคาเรือน มีสมาชิกอาศัยอยู่ภายใต้ใบบุญ
ตระกูลดงพญา..นับตั้งแต่รุ่นคุณปู่ทวดมาแล้ว..กระทั่งถึงตอนนี้รวมกว่าหนึ่งพันชีวิต เทียบได้กับหมู่บ้านเล็กๆ
หมู่บ้านหนึ่งเลยก็ว่าได้
บัดนี้..ตกอยู่ภายใต้การปกครองของหนุ่มใหญ่อายุราว 33 ปี...ดีกรีด๊อกเตอร์จากอังกฤษ
สาขาวิทยาศาสตร์การเกษตรและเทคโนโลยี..ทายาทอันดับหนึ่งของคุ้มดงพญา...ซึ่งนั่งหน้าเครียดคิ้วขมวดมุ่น
อยู่ตรงโต๊ะรับแขก...แวดล้อมไปด้วยสมาชิกภายในบ้านทรงไทย...สร้างจากไม้สักทองทั้งหลัง...ซ้ำยังออกแบบต่อเติม
เพิ่มส่วนยกพื้นและเลียดติดดิน..ลดหลั่นกันเป็นเสต็ป หาได้ยากยิ่งกับบ้านทรงไทยที่มีขนาดใหญ่กินพื้นที่กว่า 5 ไร่..
แลดูลึกลับซับซ้อนทะมึนทึนน่ากลัวในย่ามค่ำคืนแห่งรัตติกาลมาเยือน
“คราวนี้ผู้หญิงหรือผู้ชาย” เสียงทุ้มห้าวทรงอำนาจ..ออกจากปากเจ้าบ้านหน้าเครียด..ตาคมดุยังกะเสือ...
รับกับคิ้วหนาเข้มจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาได้รูป...ใบหน้าสอบกรามแกร่ง..เข้าตำรานรลักษ์ของบุรุษเพศที่ทรงพลัง
มีความเป็นผู้นำสูงทุกสิ่งที่กล่าวมาเมื่อรวมอยู่บนหน้าคนๆนี้แล้ว..กับทำให้ไม่อาจละสายตาออกได้เลย เหมือนมีพลังซ่อนเร้น
ให้ใครก็ตามที่เผลอมอง..ต้องใจสั่นเต้นไม่เป็นจังหวะ....ชายรูปร่างสูงใหญ่คมเข้ม...ความสูง 187 ซ่อนกล้ามเนื้อแกร่งทรงพลัง
ไว้ใต้เสื้อผ้าที่สวมใส่อย่างพอดีตัว แสดงถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอ...ผิวสีแทนติดไปทางคล้ำด้วยแล้ว...
ยิ่งไม่ต้องนึกให้เปลื้องสมอง...นี่มันซีอุสกลับชาติมาเกิดชัดๆ
“ผู้ชายครับ” เสียงห้าวทุ้มแฝงความนอบน้อม ตอบจากปากของชายหนุ่มวัยไม่น่าเกินสามสิบ..
รูปหน้าเรียวยาว ดวงตารีคมหางตาชี้ยังกะเหยี่ยว ปากบาง ผิวขาวจัดจนซีด...ยิ่งหน้านิ่งๆ บวกดวงตาปานเหยี่ยวด้วยแล้ว
พาลให้คนมองหนาวยะเยือก เมื่อเผลอสบเข้ากับตัว
ทั้งที่รูปร่างผอมสูงกับใบหน้าที่ว่าไม่ได้ดูน่าเกลียดน่ากลัวสักกะหน่อย....ออกจะหล่อคาบสวยเสียด้วยซ้ำ..
ยิ่งไว้ผมยาวประบ่าด้วยแล้ว ยิ่งขับให้ใบหน้าขาวจัดดังกล่าวน่ามองกว่าเดิมอีก...แต่ก็อย่างที่บอก...มันดูน่ากลัวกว่าน่าสัมผัส...
“ตำรวจว่าไงบ้าง” ยังคงเป็นคนเดิมที่ตั้งคำถาม แต่คราวนี้คนตอบเป็นสุภาพสตรีใบหน้าสวยราว
เจ้านางในวรรณคดีทางเหนือ เอ่ยปากขึ้นแทน
“เหมือนเดิมค่ะ...ตำรวจสันนิษฐานถูกสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ทำร้าย...แต่ก็ยังคงแปลกใจ..
ลักษณะการตายเหมือนศพก่อนหน้า ถูกทารุณกรรมทางทวารหนักก่อนจะฉีกกระฉากร่างแยกออกเป็นเสี่ยงๆ” พูดจบ
หัวคิ้วมุ่นของผู้ตั้งคำถามก็ขมวดปมเข้าไปอีก....
“แล้วกายันต์ไปไหน...ทำไมยังไม่เห็นหัว” พูดไม่เจาะจงว่าใครจะเป็นคนตอบ
“ยังไม่ตื่นครับ...ผมไปปลุกแล้วรอบ...เห็นว่าปวดหัวของีบต่ออีกหน่อย..เดี๋ยวคงลงมา” คนตาเหยี่ยว
ยังคงตอบคำถามหน้านิ่ง
“หึ...ไม่เคยเปลี่ยน...หนูผาหละ...ใครขึ้นไปดูหรือยัง” ยังคงเป็นคำถามจากคนเดิมอีก
“สิตาไปดูให้แล้วค่ะ...ตอนนี้นมอ่อนอาบน้ำแต่งตัวให้อยู่ เดี๋ยวคงลงมา เห็นว่าคุณพ่อจะพาไป
ขี่ม้าไม่ใช่หรือค่ะ” หญิงสาวหน้าสวยคนเดิมเป็นคนตอบ เธอชื่อสิตาสินะ..
“ผมอยากรู้คุณจา..จะทำอย่างไรกับตำรวจ...เค้าติดต่อขอพบคุณ...สะดวกให้พบหรือไม่ จะให้จัดการยังไง
สั่งการด้วยครับ” ชายตาเหยี่ยวหน้านิ่งร่ายยาวเลยงานนี้
“ธรรมตรัย...คุณนัดให้ผมได้เลย...พรุ่งนี้บ่ายหากสารวัตรต้องการคุย..ผมเชิญทานอาหารว่างที่คุ้ม..”
น้ำเสียงเรียบนิ่งกับแววตาคมปราบปานเสือมองสบตาผู้รับคำสั่ง ถึงกับทำให้เจ้าของตาเหยี่ยวต้องเบือนหลบเพราะไม่อาจ
สบตาคมทรงพลังนี้ได้...
“ครับ...ผมจะจัดการให้...ทางทนายคงกระพันเค้าโทรแจ้งมาว่า...คุณระพินทร์ลูกสาวของคุณไพรภพ
จะเดินทางมาถึงพรุ่งนี้เช้า..ฝากผมแจ้งคุณจาด้วย...เธอจะมาอยู่ถาวร” ธรรมตรัยพูดจบ หนุ่มหน้าเข้มเลิกคิ้วสูง
ก่อนจะเอ่ยปากถามกลับทันที
“ฉันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว..ไม่งั้นจะให้นักสืบตามหาเพื่ออะไร...ไหนตอนแรกปฏิเสธว่าจะไม่มา..เกิดนึกยังไง
ถึงเปลี่ยนใจเอาได้...”
“ผมไม่ทราบเหมือนกัน...คงต้องรบกวนคุณจาถามเธอเอาเองครับ....เห็นว่าจบโทจากอังกฤษ..
ไม่รู้มหา’ลัยเดียวกับคุณจาหรือเปล่า” ถือว่าธรรมตรัยพูดมากกว่าปกติเสียด้วยซ้ำ..เพราะโดยนิสัย...
ธรรมตรัยจัดเป็นคนพูดน้อยที่สุดแล้ว...
“อ้าว..หวัดดีพี่จา...คุณตรัยพี่สิตาอยู่กันพร้อมเลยเหรอ...สังสรรค์อะไรกันหรือเปล่า...
ผมพลาดอะไรไปเนี่ยะไม่รู้เรื่องกะเค้าเลย” ชายหนุ่มรูปหล่อมาก..หน้าใสผิวขาว รูปร่างหน้าตาถอดจากคนมีอำนาจ
ที่ชายหนุ่มกล่าวสวัสดีในตอนแรกพิมพ์เดียวกันเปี๊ยบ
ข้อต่างที่เห็นชัดคงเป็นแววตาซุกซนขี้เล่น กับรอยยิ้มพราวเสน่ห์ที่ประดับบนใบหน้าตลอดเวลา
ซ้ำผิวยังขาวกว่าคนเป็นพี่...พาลอดคิดไม่ได้..หากคนเป็นพี่ลดความดุดันบนใบหน้าลง แล้วลองยิ้มพราวเสน่ห์แบบคนน้อง...
ใครจะหล่อกว่ากัน...ทำไมถึงปั้นหน้าดุ..ตาวาวโรจน์ยังกะเสือตลอดเวลา
“แกสนด้วยเหรอ..ว่าคนในบ้านเค้าจะทำอะไร...นอกจากกินแล้วเที่ยวไปวันๆ” พี่ชายพูดโดยใช้น้ำเสียง
ทรงอำนาจ...คนน้องยักไหล่ย่นคอ ก่อนจะออกตัวว่า
“โธ่!..พี่ปาจา...ผมยังสนุกไม่พอเลย..ขอเวลาอีกนิดนะพี่..สัญญาผมเจอคนที่ถูกใจแล้วจะหยุดทันที..
แถมยอมช่วยงานบริษัทฯดงพญาอย่างไม่อิดออดเลยครับ...” ตอบพี่ชายที่เพิ่งรู้ชื่อเต็มว่า ‘ปาจา’ แปลกมากชื่อนี้
ไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน..
“กายันต์....ฉันฟังแกแก้ตัวจนเบื่อพอแล้ว...ยังไงก็ตามฉันให้เวลาแกแค่สิ้นเดือนนี้..เดือนหน้า
ต้องเริ่มงานทันที..บ่ายเบี่ยงไม่ได้เด็ดขาด...ทุกครั้งฉันไม่เคยสนใจ...แต่คราวนี้หากแกยังไม่เอาอ่าว..อย่าว่าฉันร้าย...
ธรรมตรัยจะเป็นพี่เลี้ยงสอนงานแกเอง” น้ำเสียงบังคับ ทำให้คนเป็นน้องที่เพิ่งรู้ชื่อกายันต์..ได้แต่อ้าปากค้าง..
ไม่กล้าแม้จะโต้แย้ง..เพราะท่าทางแบบนี้ของพี่ชาย..ทุกคนต่างรู้ดีเอาจริงแน่..หากยังขืนดื้อเพ่งตนเองจะโดนไม่ใช่น้อย..
เลยได้แต่ทำตาปรอยตีหน้าเศร้า..เผื่อคนออกคำสั่งจะเห็นใจ..
“คุณพ่อขา....จันทร์ผาแต่งตัวสวยไหมค่ะ?” เสียงเจ้ยแจ้วดังมาก่อนตัว เด็กหญิงตัวน้อยวัยหกขวบ
ถลาพุ่งเข้าหาคนเป็นพ่อ..ซึ่งคือเจ้าคุ้มมาดเข้ม..กางแขนรับเด็กหญิงที่โจนเข้าใส่ทั้งตัวไว้บนตักทันที พร้อมกับหอมแก้มยุ้ย
ทั้งสองข้างไปด้วย...
“สวยไหม..พ่อว่าไม่สวยเลยค่ะ..” พูดแล้วทันเห็นหน้าของเด็กหญิงพองแก้มทำปากยื่น
เหมือนไม่สบอารมณ์ที่ผู้เป็นพ่อไม่ชมอย่างต้องการ
“หึหึหึ!..พ่อยังพูดไม่จบ..จันทร์ผาของพ่อไม่สวย แต่น่ารัก..น่ารักที่สุดรู้ไหมค่ะ” คำพูดเปื้อนยิ้ม..
แววตาอบอุ่นที่จ้องลูกสาวในอ้อมกอด..ทำให้เด็กหญิงยิ้มหน้าบาน..คิดไว้ไม่ผิด...ผู้ชายคนนี้ลองได้ยิ้มขึ้นมา
ใช้แววตาอ่อนโยนแบบนี้..หล่อมากเลยทีเดียว..พูดได้เต็มปากเลยด้วยซ้ำหล่อลากไส้..
กระชากใจสาวๆ ให้ละลายไปในพริบตา..สังเกตุหญิงสาวสวยคนเดียวในที่นี้ ที่มัวจ้องการกระทำของสองพ่อลูก
จนเคลิ้มหน้าแดงขวยอายโดยไม่รู้ตัว..แต่หาได้ลอดลูกกะตาของสองหนุ่มที่ลอบสังเกตุกริยาของเธออยู่ตลอดเวลา..
ต่อด้านล่าง
-
:mc4:เรื่องใหม่จองคนแรก(ปาดหน้าอย่างนี้จะโดนว่าไหมน้อ)
-
- 2 -
“จันทร์ผามาให้อากอดมั้งสิครับ...อาก็อยากหอมแก้มหนูด้วย..พ่อจาบอกไม่สวยไม่เป็นไร...
อายันต์ว่าหลานอาสวยที่สุดในโลกเลย..มาซะดีดีมาให้อาจุ๊บหน่อยเร็ว” เด็กหญิงยิ้มร่าหัวเราะคิก..กับคำชมถูกใจของผู้เป็นอา
ก่อนจะดิ้นแด่วๆ หลุดจากอ้อมกอดคนเป็นพ่อ ถลาเข้าหาอ้อมกอดคนเป็นอาที่กางแขนอ้ารับ พร้อมกดจมูกฟัดแก้มยุ้ย
อย่างหมั่นเขี้ยว เรียกเสียงหัวเราะชอบใจของหลานสาวตัวน้อยคิกคัก...ทำให้บรรยากาศตึงเครียดก่อนหน้านี้
เบาบางลงไปทันตาเห็น...
คุ้มดงพญา...ประกอบด้วยสมาชิกอยู่ในบ้านทรงไทยหลังใหญ่ดังนี้..เจ้าคุ้มที่ใครๆ ต่างเกรงบารมี
นามว่าปาจา..อุปนิสัยเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยออกสังคมมากนัก..แต่ก็ยังเป็นที่เล่าลือถึงความหล่อและเสน่ห์แรง
จนสาวน้อยสาวใหญ่ต่างพยายามหาโอกาสคว้าตำแหน่งเจ้านางคุ้มมาให้ได้..แม้เจ้าคุ้มรูปหล่อจะมีเรือพ่วงคือเด็กหญิงตัวน้อย
อายุหกขวบก็ไม่ใช่ปัญหา..ตรงข้ามกับมีแต่คนพยายามจะเข้าทางลูกสาวตัวน้อยเสียด้วยซ้ำ..ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าแม่ของเด็กสาว
เป็นใคร..ไม่เคยมีใครเห็นผู้หญิงคนนั้น แม้แต่ชื่อแซ่ก็ไม่มีใครทราบมาก่อน..
ที่สำคัญทุกคนยังคงไม่มีคำตอบว่าเจ้าคุ้มรูปงามไปแอบมีเมียเข้าอิตอนไหน...ทั้งที่สาวน้อยสาวใหญ่ต่างมุ่งหวัง
ไขว้คว้าหัวใจเจ้าคุ้มรูปงามไม่คลาดสายตา ดีกรีด๊อกเตอร์จากอังกฤษ ไม่นับสมบัติประเมินค่าไม่ได้..แต่ที่รู้ๆ คุ้มดงพญาคือ
เศรษฐีซ่อนตัวจากสังคม แต่เจ้าคุ้มรูปหล่อแสนลึกลับก็ไม่ยอมเปิดหัวใจรับใครสักที
น้องชายคลานตามกันมา..วัย 26 ปีชื่อกายันต์ รูปงามไม่แพ้พี่..แต่นิสัยต่างกันสุดขั้ว..ในขณะที่พี่ชายดูเป็นคน
ลึกลับน่าค้นหาเป็นอย่างมาก...แต่คนน้องกายันต์ กับเป็นชายหนุ่มร่าเริงยิ้มง่าย..อัธยาศัยเปิดเผยตรงไปตรงมา..
ที่สำคัญคาสโนวาตัวพ่อ..เปลี่ยนหญิงไม่ซ้ำหน้า..ช่างแตกต่างพี่ชายริบลับยังกะฟ้ากับดิน
อีกคนคือญาติห่างๆ สาวสวยที่ยอมขึ้นคานด้วยวัย 28 ปี เพราะแอบมีใจให้เจ้าคุ้ม พยายามทุกวิถีทางที่จะ
ครอบครองหัวใจของชายหนุ่มปาจา...แต่สิตาก็ยังทำไม่สำเร็จสักที ถึงอย่างไรเธอก็ไม่คิดที่จะเลิกล้มความตั้งใจ...
เธอไม่เหลือครอบครัวแล้วไร้ญาติขาดมิตร..ได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ในเรือนไทยหลังนี้..ถือว่ามีแต้มต่อเกินครึ่ง
รอแค่โอกาสเท่านั้น...
ธรรมตรัย...พ่อบ้านหน้านิ่งมือขวาของเจ้าคุ้มถือเป็นคนสนิทที่สุด....ที่คอยรับใช้คนในตระกูลดงพญา
มาตั้งแต่รุ่นพ่อ...ชายหนุ่มมีนิสัยเย็นชา..ไม่ชอบสุงสิงคบหากับใคร..ยิ่งผู้หญิงด้วยแล้ว...ธรรมตรัยไม่ให้กร่ำกราย
เข้าถึงตัวเป็นอันขาด...
นมอ่อน..แม่นมที่คอยเลี้ยงดูปาจากับกายันต์มาตั้งแต่เกิด...อาวุโสคนเดียวที่เหลืออยู่ในคุ้มนี้..
ทั้งปาจากับกายันต์ต่างรักเคารพนมอ่อนมาก..ใครห้ามหลบหลู่ก้าวร้าวเป็นอันขาด...
จันทร์ผา...เด็กหญิงวัยหกขวบ ลูกสาวของปาจา...เด็กหญิงมีโรคประจำตัวคือภูมิแพ้..
อาการมักกำเริบบ่อย..ต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด..คนที่คอยทำหน้าที่นี้ นอกจากนมอ่อนแล้วก็มีสิตา..
เด็กหญิงไม่ได้ไปเรียนหนังสือเหมือนเด็กปกติ..นอกจากจ้างครูมาสอนพิเศษที่คุ้ม..เคยส่งไปโรงเรียนแล้ว
แต่เด็กหญิงกลับอาการกำเริบในห้องเรียนเกือบเอาชีวิตไม่รอด..ตั้งแต่นั้นมาปาจาไม่เคยให้ลูกสาวตนเองไปเรียนอีกเลย..
แนะนำสมาชิกทั้งหมด....ไม่นับคนรับใช้อื่นๆ ที่ไม่ค่อยได้สิทธิ์ขึ้นมากรีดกรายบนเรือนไทยกันเท่าไหร..
เนื่องจากเจ้าคุ้มไม่ชอบความวุ่นวาย..นอกเสียจากให้มาทำความสะอาดและดูแลความเรียบร้อยจนเสร็จ ก็ต้องกลับลงไป
ยังเรือนคนใช้ซึ่งปลูกห่างออกไปกว่าสิบเมตร...หากมีความเร่งด่วนต้องการใช้ให้ทำอะไร
ก็จะกดอินเตอร์คอมโฟนเรียกเท่านั้น...
เช้าพรุ่งนี้....คุ้มดงพญาคงได้ต้อนรับสมาชิกใหม่..ทายาทหนึ่งเดียวของคุณอาไพรภพ...
น้องของไพรฟ้าพ่อของปาจาและกายันต์..คุณอาไพรภพไปอยู่อังกฤษโดยไม่ติดต่อกับคนในตระกูลดงพญากระทั่งตาย
ยังไม่มีใครทราบ...แต่คุณไพรฟ้าผู้เป็นพี่ชายก่อนตายได้ทำพินัยกรรมแบ่งทรัพย์สินให้คุณอาไพรภพมีสิทธ์ในทรัพย์สมบัติ
ของดงพญาครึ่งหนึ่ง...เพราะฉะนั้นเมื่อคุณอาเสียชีวิตไปแล้ว..สิทธิ์นั้นตกเป็นของลูกสาวคนเดียวโดยชอบธรรม
นามว่า ‘รพินทร์’ ซึ่งเธอจะเดินทางมาถึงพรุ่งนี้เช้า
ปาจาได้บอกนมอ่อนให้จัดเตรียมห้องทางปีกซ้ายติดกับห้องของสิตาจัดไว้ให้เธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ส่วนทางปีกขวาเป็นห้องของปาจาและกายันต์รวมทั้งจันทร์ผาลูกสาว นมอ่อนกับธรรมตรัยอยู่ห้องชั้นล่าง...
ช่วงนี้ที่คุ้มมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น..ลูกสาวลูกชายคนงานตายรวมหกศพ..ห่างกันศพละเดือน..
ทุกศพโดนข่มขืนก่อนจะฉีกกระชากแยกร่างออกเป็นชิ้นๆ ล่าสุดเพิ่งโดนไปเมื่อคืนเอง...ทางตำรวจยังหาเบาะแส
ตามจับคนร้ายไม่ได้เลยด้วยซ้ำ..ถือเป็นคดีเขย่าขวัญของผู้คนในคุ้มยิ่งนัก..สาเหตุการตายของแต่ละคน..มันคลุมเคลือมาก..
จะว่าเป็นฝีมือมนุษย์ก็ไม่น่าเชื่อ..เพราะคนที่ตายส่วนใหญ่เหมือนโดนกรงเล็บของสัตว์ใหญ่ที่มีพละกำลังมากฉีกกระชาก
ร่างกายออกเป็นเสี่ยงๆ...แต่จะว่าเป็นสัตว์แล้วทำไมถึงมีการข่มขืนมีคราบอสุจิ..บริเวณอวัยะเพศหญิงของศพและตรงทวารหนัก
ของศพผู้ชาย..ประเด็นตรงนี้แหละที่ทำให้ตำรวจงงเต็ก...
แม้จะตรวจสอบแล้วว่าอสุจิที่พบเป็นของคน...แต่คนจะมีพละกำลังมหาศาลขนาดนี้ได้อย่างไร..ถ้ามีคงต้อง
ตัวโตมากแถมต้องมีกรงเล็บแกร่งยิ่งกว่าสัตว์เสียอีก ถึงฉีกร่างของเหยื่อออกกระจุยกระจายได้แบบนั้น....
ที่สำคัญขนที่ร่วงหล่นไม่ใช่ของมนุษย์
เท่าที่ตำรวจตรวจสอบผู้ที่อาศัยอยู่ในคุ้มดงพญาทุกคน..พวกสูงใหญ่ตัวล้ำมากแค่ไหนไม่เกิน 187
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมเจ้าคุ้มนามว่า ปาจา และน้องชายกายันต์ด้วยเช่นกัน..แต่ผลการพิสูจน์หลักฐานและการวินิจฉัย
คนที่ทำเช่นนี้ได้...ผู้เชี่ยวชาญคำนวนจากพละกำลังแล้วต้องสูงไม่ต่ำกว่าสองเมตรครึ่งเสียด้วยซ้ำ....
นี่คือประเด็นที่ทำให้ทุกคืนวันพระจันทร์ดับ...คนงานกว่าสองร้อยหลังคาเรือนพันกว่าชีวิต....
จะไม่มีใครยอมโผล่หัวออกจากบ้านเป็นอันขาด..ต่อให้ได้ยินเสียงผิดปกติขึ้นก็ตาม ไม่มีใครกล้าเป็นพระเอกอาสาออกไป
พิสูจน์หลักฐาน..ฉะนั้นในวันพระจันทร์มืดจึงทำให้อาณาบริเวณ 3,000 กว่าไร่..พื้นที่ทั้งหมดของคุ้มดงพญาเงียบวังเวง
ยังกะป่าช้าแม่แต่เสียงของสัตว์เลี้ยงยังไม่ได้ยินเลยด้วยซ้ำ....
พอรุ่งเช้า..ทุกคนต่างรอลุ้นฟังข่าว..ว่าใครจะเป็นเหยื่อสังเวยชีวิตรายต่อไป...เป็นเช่นนี้ติดต่อกันมา
ร่วมหกเดือนแล้ว...ต่างพากันอยู่อย่างหวาดระแวง..ไม่ติดค่าจ้างดีรายได้และผลตอบแทนสูง..ทำให้คนที่ตั้งรกรากอยู่ที่นี้
สุขสบายแทบไม่ต้องดิ้นรน คงมีคนอพยพหนีตายกันไปหมดแล้วมั้ง...แต่ก็ไม่แน่หากทางตำรวจยังจับตัวฆาตกรไม่ได้...
ไม่รู้พระจันทร์เดือนดับในครั้งต่อไปที่จะมาถึง..ใครจะเป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายรายต่อไป...................
แล้วเมื่อถึงเวลานั้นชาวบ้านคนงานอาจจะไม่ทนอีกต่อไป...ก่อนที่คุ้มดงพญาจะกลายเป็นคุ้มร้างในที่สุด...
ฝากผลงานเรื่องใหม่ด้วยนะคะ...รับรองการันตีไม่ผิดหวัง
ขอแรงใจแรงเชียร์ด้วยนะคะ...ถ้าถูกใจให้เป็ด...รบกวนให้หน้าแรกนะคะ..
อย่ากดหน้าสอง...คะแนนมันไม่รวมกัน..ทำให้ยอดเป็ดเสียไปเปล่าๆ
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน
Luk. :กอด1:
-
แปะ ๆๆ
น่าติดตามมาก
-
ว้าวววววว
น่าสนใจมากคะ ลึกลับซับซ้อน น่าติดตามมากๆๆๆๆ
เปิดมาก็ชักสงสัยแล้วสิ 55555
-
น่าติดตาม ^^
-
:mc4: โว้วววว!!!!
น่าติดตามคร๊าบบบ..พระเอกนี่ใช่...ปาจา...หรือป่าวหว่า?..ชื่อแปลกจริงด้วย
แล้วใครเป็นนายเอกเหล่าเนี่ยะ.....ยังไม่ออกใช่ม่ะ!
เป็นกำลังใจให้คร๊าบบบ!!! :กอด1:
-
เข้าต้อนรับเรื่องใหม่จ้า :mc4: :L2:
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
ต้อนรับเรื่องใหม่ๆจ้า า~~~
รักคนแต่ง จุ๊ฟๆ
:L2: :L2: :L2:
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
แอบลึกลับน่าติดตามรออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
มาเข้าแถวลงชื่อ ตามอ่านตามจิก :z13: เอ้ย ตามให้กำลังใจ :กอด1: น้องลักษ์แล้วกั๊บ :3123:
-
ต้อนรับเรื่องใหม่
:L2: :L2: :L2:
-
เข้ามาติดตามอีกเรื่องค่ะ :กอด1: :กอด1:
-
:mc4: ตอนรับเรื่องใหม่จ้า
:กอด1: :L2: :กอด1:
-
:mc4: :mc4: :mc4:
-
มาแล้วๆๆ :mc4: :mc4: :mc4:
-
เจิมเรื่องใหม่^^ คำผิดน้อยลงเยอะเลย
การันตี เขียนแบบนี้จ้า
-
แวะมาเห็นเรื่องใหม่พอดี
ฉลองเลยครับ :mc4: :mc4: :mc4:
ที่จริงผมก็เขียนแนวนี้อยู่น๊า แต่ยังไม่เสร็จ กะว่าเสร็จแล้วค่อยมาทยอยลงดีกว่า
จัด + ไปคร้าบ o13
-
:mc4: ต้อนรับเรื่องใหม่ค้า
ลึกลับน่าติดตามจัง แล้วใครเป็นพระเอกนายเอกเนี่ย รอๆๆๆๆ
ปล.แนวแฟนตาซีป่ะคะพวกมนุษย์หมาป่าไรเงี้ย
o13
-
โอ้ววว ลาง SM -.,- กระฉูดดด
นักอ่านงงเต็กเหมือนกัน วะฮ่าๆๆ ตัวอะไรวะนั่น โคตรน่ากลัวเลย TToTT
:z13:
:pig4:
-
:mc4: ฉลองเรื่องใหม่คลอดแล้ววววววววว :pig4:
ใครคือผู้ร้ายรอลุ่นนะคร๊าบบบบบบบ :L2:
-
เรื่องใหม่น่าสนุก ลุ้นระทึกชวนติดตามมากค่ะ
-
มาตามอ่านครับ แค่เริ่มตอนแรกก็ มีปมชวนให้คิดตามแล้วสิ สู้ๆนะครับ
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
-
อ่านแล้วขนลุก
555555555
รอตอนต่อไปค่ะ
^^
-
:z2:
LIKE ดูซับซ้อนดีนะ
-
ต้อนรับเรื่องใหม่ด้วยคนครับเป็นกำลังใจให้นักเขียน
-
ออกแนวแฟตาซีหรือค่ะ ยินดีต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ
:mc4: :mc4: :mc4:
อยากอ่านเรื่องของรันกับพรตด้วยค่ะ
-
ว๊าวๆ ต้อนรับเรื่องใหม่จ้ะ
เปิดตำนาน คุ้มดงพญา จะหลอน รึเปล่านะ 555555555
-
:mc4: ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า
อ่านแล้ว.. น่าติดตามๆ
-
มาเจิมเรื่องใหม่ด้วยคน
:mc4:
-
แค่อ่านบทแรกก็สนุกแล้วครับ
มาต่อไวๆนะครับ
-
แป๊ะ เรื่องใหม่ มนุษย์หมาป่า ป่าวเนี้ย ^^
-
ต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ :mc4: :mc4:
-
:mc4: :mc4:
เยีๆๆ
-
:mc4: :mc4:
:กอด1:
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
มาจุดพลุรับเรื่องใหม่น้าา
เรื่องหนุก น่าติดตามๆๆ
-
รีมมาต่อไวไวน้า :3123:
-
จุดพลุฉลองเรื่องใหม่ๆๆๆ :กอด1:
-
มนต์มาร
Part 2
ทายาท.....
.
.
.
รถยุโรปหรูยี่ห้อดังจอดเทียบหน้ามุกทางขึ้นบ้านทรงไทย...ทองคำคนขับรถรับคำสั่ง
ให้ไปรับ ‘รพินทร์’ ลูกสาวคนเดียวของไพรภพ..
สาวหล่อนุ่งยีนส์สีซีด ใส่เชิ๊ตสีฟ้าอ่อน..สวมรองเท้าผ้าใบสีหม่น เปิดประตูก้าวลงมายืน
ด้วยท่าทางตื่นเต้นกับบ้านทรงไทยหลังใหญ่ตรงหน้า
“โห!.น้า..หลังเบ่อเริ่มเลยเนอะ..สักทองทั้งหลังเลยเปล่า?” คำถามจากปากของ
สาวหล่อหน้าใสอายุ 26 ปี องคาพยับใบหน้าช่างเหมาะเจาะลงตัวเหลือเกินออกไปทางหล่อเสียมากกว่า คิ้วเรียวยาว
จมูกโด่ง..ตาโตขนตาเป็นแพร ปากชมพูสด..ผิวขาวรูปร่างสูงโปรงสมส่วนดูทะมัดทะแมง...สุ่มเสียงแหบต่ำ...
หน้าอกแบนราบยังกะไข่ดาว
หากไม่ทราบมาก่อนอาจเข้าใจผิดง่ายๆ..คิดว่ารพินทร์เป็นหนุ่มหล่อร่างบางมากกว่าจะเป็น
หญิงสาวเสียด้วยซ้ำ...จัดเป็นสาวหล่อที่มีรูปร่างสูงกว่าปกติมาตรฐานหญิงไทยคงจะราวๆ 175 เซนติเมตรเห็นจะได้..
บุคลิกลักษณะแบบนี้เราเรียกกันว่า..’ทอมบอย’
รพินทร์คือนายสาวคนใหม่ล่าสุดของคุ้มดงพญา ในฐานะทายาทคนเดียวของคุณไพรภพผู้ได้รับมรดก
ตามพินัยกรรมซึ่งระบุให้ได้รับครึ่งหนึ่ง
“ครับ..สักทองทั้งหลัง..คุณรพินทร์เข้าใจถูกแล้วครับ” คำยืนยันจากปากคนขับรถเพื่อนสนทนา
ตลอดการเดินทางเพียงคนเดียว นับตั้งแต่สนามบินประจำจังหวัดออกนอกเมืองมาไกลถึงคุ้มดงพญาใช้เวลากว่าสามชั่วโมง
ทำให้รู้สึกสนิทคุ้นเคยพอสมควร
ที่สำคัญคนๆนี้คือผู้ให้ข้อมูลเบื้องต้นกับเธอ....เกี่ยวกับความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของคนในคุ้มดงพญา
ซึ่งเป็นประโยชน์กับเธอไม่น้อยเลยทีเดียว
“หึ..โค่นไม้เกือบหมดป่าเลยนะนั่น..น่าภูมิใจตาย” ทองคำทำหน้าอิหลักอิเหลี่ยหลังฟังคำพูดเชิง
ประชดกลายๆของนายสาวคนใหม่ เธอคงลืมไปละมั้งไอ้ที่พูดถึงนะมันคือสมบัติของบรรพบุรุษเธอเองไม่ใช่หรือไง
“ผมว่าคุณรพินทร์ ขึ้นเรือนไปพบคุณจาก่อนนะครับ” ทองคำตัดบท..รพินทร์รู้ดีว่าคำพูดเธอ
คงทำให้คนขับรถวัยกลางคนชื่อว่าทองคำ..คงลำบากใจเข้าให้ จึงพยักหน้าก่อนก้าวเดินตามไปติดๆ..
ระหว่างทางทองคำพูดขึ้นมาว่า
“กระเป๋าของคุณไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ..มีคนจัดการเอาขึ้นไปเก็บไว้บนห้องให้เองครับ.”
เค้าบอกให้รู้ว่าสัมภาระใบใหญ่ ที่เธอนำติดตัวมา จะมีคนนำไปส่งถึงห้องให้เอง คงกลัวเธอกังวลมั้ง
“ขอบคุณมากนะน้า..” เธอพูดตามมารยาท
“อย่าขอบคุณเลยครับคุณรพินทร์...คุณจาได้ยินคงไม่เหมาะ..อีกอย่างเป็นหน้าที่ของผม..
ที่ต้องอำนวยความสะดวกให้คุณอยู่แล้ว” ทองคำรีบเอ่ยปากห้ามเธอทันที...ทำให้รู้สึกตะหงิดใจพิลึกกับการแบ่งชนชั้น
ที่ออกจะเจ้ายศเจ้าอย่างอยู่ไม่น้อย ซึ่งเธอไม่ชินนักกับค่านิยมแบบนี้
“ทำไมน้า..คุณจาถือตัวมากเหรอ?..โหดเอาเรื่องเหมือนกันนะนี่” ถือโอกาสล้วงข้อมูลเกี่ยวกับ
อุปนิสัยส่วนตัวนายใหญ่ของคุ้มไปด้วยเลย
“ไม่หรอกครับ...คุณจาแกเรียบง่ายสบายๆ ไม่ถือตัวหรอกครับ เพียงแต่ลูกน้องต่างเคารพ
และย่ำเกรงแกมากแค่นั้น ใครไม่สร้างปัญหาแกก็ดีใจหาย..จะโหดเฉพาะพวกก่อปัญหาเท่านั้นและครับ” รพินทร์ฟังแล้ว
ถึงกับหน้านิ่ว..ชักอยากเห็นตัวเป็นๆ ซะแล้วสิ...คนดีใจหายร้ายสุดโต่ง หน้าตาประมาณไหน
ตัวจริงแตกต่างจากรูปถ่ายที่เห็นหรือเปล่า
“ป่ะ!..รีบเดินเถอะน้า..ชักอยากเห็นหน้าคุณจาเต็มแก่” เธอกลับเป็นฝ่ายเร่งซะเอง
ทองคำพาเดินผ่านส่วนต่างๆ ของบ้าน ซึ่งออกแบบแตกต่างจากที่รพินทร์เคยเห็นและสัมผัสมา มีการปรับลดระดับเป็นสเต็ป
พาเอาหลงได้ง่ายๆ เหมือนกัน คนสร้างช่างคิดเนอะ..ไม่ติดว่าเป็นบ้านไม้ทรงไทย
รพินทร์กลับรู้สึกว่ามันลึกลับซับซ้อนพอดู...
แล้วทองคำก็พามาหยุดหน้าบานประตูไม้สักแกะลวดลายงดงามจนน่าทึ่ง พร้อมกับเคาะประตูดังพอได้ยิน
ติดต่อกันสามครั้ง
“ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก..ขออนุญาตครับ” มารยาทดีจริงคนขับรถบ้านนี้
“เชิญ” เสียงทุ้มมีอำนาจ ดังมาจากข้างใน ก่อนทองคำจะเปิดประตูกว้าง ผายมือเชิญรพินทร์
เข้าไป.. ในขณะที่ตนเองปิดประตูและก้าวตามเข้ามาด้วยเช่นกัน
ภายในห้องประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ทำจากไม้สักแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ แม้แต่กรอบรูปบนข้างฝา
ยังเป็นกรอบไม้สักทอง...รูปถ่ายขาวดำเรียงลำดับไม่ต่ำกว่าหกภาพ หน้าตาแต่ละท่านทั้งชายหญิง แลดูมีอำนาจไม่น้อย
สังเกตุได้ชัดแจ๋วคือดวงตาแฝงแววดุเกือบทุกรูป นี่คงเป็นบรรพบุรุษของเธอสินะ
“คุณจาครับ คุณรพินทร์มาถึงแล้วครับ” ทองคำแนะนำเธอ ทำให้ดึงสติกลับมาพินิจวิเคราะห์
หนุ่มใหญ่ตรงหน้า ซึ่งเขาเองกำลังจ้องสำรวจเธออยู่เช่นกัน...
“สวัสดีค่ะ....ดิฉันรพินทร์ ดงพญา ลูกสาวคนเดียวของคุณไพรภพค่ะ” เธอกล่าวทักทายหนุ่มใหญ่
ตรงหน้าซึ่งยังไม่พูดอะไรสักคำ นอกเสียจากเหลือบตามองทองคำก่อนจะพยักหน้าให้ คนขับรถวัยกลางคนก็รู้งาน
ค่อมหัวให้เสร็จก็หันหลังออกประตูไป ทิ้งเธอไว้ตามลำพังกับชายตรงหน้า ผู้ซึ่งมีดวงตาคมเข้มจ้องเธอ
อย่างไม่กระพริบสักนิด ก่อนจะเผยปากหนาได้รูป พูดขึ้นมาว่า
“เชิญนั่ง...รพินทร์..” รู้สึกเกร็งๆ ยังไงไม่รู้สิ..ผู้ชายคนนี้มีอำนาจกดดันประหลาด
ทำให้คนอยู่ใกล้อึดอัดพิลึก....
“ขอบคุณค่ะ” เธอกล่าวขอบคุณ ก่อนจะพาตัวลงนั่งเก้าอี้ตรงข้ามเขา
“หึ..สงสัยอาไพรภพ..จะอยากได้ลูกชายเป็นพิเศษ” เสียงหึ..ขึ้นจมูกของปาจา
พาให้หน้าของรพินทร์ร้อนฉ่าขึ้นทันที ทำไมเธอจะไม่เข้าใจความหมายแฝงที่เค้าพูดมาเล่า คงผิดความคาดหมาย
ของเขาไม่น้อย กับรูปร่างหน้าตาเธอซึ่งออกไปทางทอมบอยมากกว่าหญิงสาว...เธอคาดการไว้ล่วงหน้าแล้ว
ว่าต้องได้รับความแปลกใจจากบรรดาเครือญาติที่เพิ่งรู้จักเจอหน้าครั้งแรกแน่นอน
“ไม่เกี่ยวกับคุณพ่อชอบไม่ชอบหรอกค่ะ ท่านไม่ซีเรียสเรื่องลูกหญิงหรือลูกชายเลยด้วยซ้ำ
ทำไมหรือค๊ะ? คุณปาจาสงสัยอะไรดิฉันหรือเปล่า?” หึ..ผู้หญิงคนนี้ฉลาดวาจายอกย้อน...ทำให้เขาต้องหรี่ตาสำรวจ
อย่างละเอียดอีกที
ใบหน้าใส จมูกโด่งรั้นเชิดนิดๆ ถือดีใช่เล่น ตากลมโตขนตายาวเป็นแพร ปากบางสีสด
ที่สำคัญแววตาซุกซนท้าทายจนเห็นได้ชัด เดาได้ถึงนิสัยไม่ยอมคนดื้อรันและฉลาดเป็นกรด
คงต้องประเมินญาติสาวของเขาเสียใหม่ ไม่คิดว่าเด็กโตจากเมืองนอกจะแต่งตัวเซอร์เป็นรสนิยมส่วนตัว
ที่สำคัญเธอเป็นผู้หญิง ทำไมถึงนิยมแต่งเป็นชาย นั่นหละทำให้แปลกใจ..อย่าบอกเธอเป็นเลสเบี้ยน
“ถ้าผมบอกว่าแปลกใจ คุณจะมีคำตอบให้ผมหรือเปล่า?” คำถามของเขาเล่นเอารพินทร์
กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว แต่ชายหนุ่มคงไม่เห็นเพราะมันอยู่ใต้โต๊ะ
“ขึ้นอยู่กับคำถามค่ะ ว่าดิฉันสมควรตอบไม่” รพินทร์ยังสามารถเล่นลิ้นกลับไปอีก
ทันเห็นหางคิ้วเจ้าบ้านหนุ่มกระตุกนิดหนึ่ง ก่อนจะจ้องตาเธอนิ่งๆ เหมือนค้นหาอะไรบางอย่าง
จนเธอเองเป็นฝ่ายเฉหลบเพราะสู้ตาคมเข้มติดสำรวจทะลุทะลวงไปถึงจิตใจเธอยังกะมีพลังจิต
พาให้ใจรัวกระหน่ำจนต้องแอบหายใจยาวๆ เพื่อไม่ให้มีพิรุธว่าเธอกำลังประหม่าอย่างหนัก เมื่ออยู่ตรงหน้าชายคนนี้
“ผมจะแทนตัวเองกับคุณว่าพี่คงไม่น่าเกลียด..ศักดิ์เราเป็นลูกพี่ลูกน้องกันอยู่แล้ว..”
เขาพูดได้หน้านิ่ง ยังไม่ละสายตาไปจากใบหน้าใสที่ยิ่งพิศยิ่งรู้สึกพิเศษ
“แล้วแต่คุณปาจาสะดวกเถอะค่ะ” เธอตอบไปตามใจคิด เรื่องของเขา
อยากแทนตัวเองว่าไงก็ไม่สำคัญอยู่แล้ว
“งั้นพี่ให้รพินทร์ แทนตัวด้วยชื่อเล่นดีกว่าใช้คำว่าดิฉัน ห่างเหินชอบกล..เหมือนเราเป็นคนแปลกหน้า
มากกว่าญาติพี่น้อง” น้ำเสียงทุ้มทรงอำนาจยังเอื้อนออกมาแบบสบายๆ แต่คนฟังกลับร้อนๆ หนาวๆ
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
“รพินทร์ไม่มีชื่อเล่นค่ะ ทุกคนเรียกชื่อจริงชื่อเดียวไม่สำคัญไรมาก หากคุณปาจา
ต้องการแบบนั้นก็ได้” เธอตอบไปตามจริง ก็จริงนิ..ชื่อเล่นเหี้ยไร ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้า..ชื่อจริงนี่แหละจะได้ไม่หลง
“อืม..งั้นหรอกเหรอ...เอาเป็นว่ารพินทร์แทนตัวด้วยชื่อกับพี่ ส่วนชื่อพี่รพินทร์ไม่จำเป็น
ต้องเรียกจนเต็มยศ เรียกพี่จาก็พอ...” ประหลาดคน..แค่ชื่อก็พาคุยอยู่กว่าสิบนาที แทนที่จะถามเรื่องอื่นพาเอาเกร็งชะมัด
เธอคิดในใจ..เหมือนคนตรงหน้าจะอ่านความคิดเธอออก
“เพื่อไม่เสียเวลา แนะนำตัวหน่อยสิ...ปัจจุบันมีครอบครัวหรือยัง” ชายหนุ่มถามจบ
ทันได้เห็นตาโตเบิกกว้างก่อนจะเป็นปกติ หรือไง..เธอมีคนรักแล้วสินะ..
“ประวัติของรพินทร์ พี่จาควรได้รับก่อนรพินทร์จะมาที่นี้ไม่ใช่หรือค่ะ” เธอยังไม่เล่นตามเกมส์
แต่กลับป้อนคำถามให้เค้าเป็นคนตอบซะงั้น...
“หึ...นั่นก็ใช่เอาตรงๆ นะ...พี่นึกภาพรพินทร์ในหัวเป็นสาวดีกรีนอก รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต
จากอังกฤษ ผิดความคาดหมายไม่คิดว่าจะห้าวขนาดนี้ เลยอยากรู้จักตัวตนของรพินทร์ ทำไมครับ
ไม่สะดวกหรือ” ร้ายมากผู้ชายคนนี้...มีวิธีการพูดที่ทำให้เธอจนมุมเหมือนกัน
“ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...รพินทร์เป็นทอมไม่ได้หญิงเต็มร้อย...ส่วนประวัติอื่นๆ
พี่จาคงมีรายละเอียดอยู่แล้วมั้งค่ะ..ไม่ทราบว่ารสนิยมส่วนตัวมีผลต่อการอยู่ในคุ้มดงพญาหรือเปล่า” เธอก็ไม่ใช่หมู
จะได้ต้อนขึ้นเขียงง่ายๆ
“ดีครับ...เปิดเผยกันตรงๆ จะได้เข้าใจกันมากขึ้น..รพินทร์มาเหนื่อยๆ ไว้พักผ่อนให้หายเพลีย
ก่อนดีกว่า..แล้วค่อยเจอกันมื้อเที่ยง..พี่จะแนะนำคนในบ้านให้รู้จัก...ห้องนอนของรพินทร์อยู่ปีกซ้าย เดี๋ยวจะมีคนพาไป
...อืม...กฏของที่นี่ที่รพินทร์ต้องรู้ไว้..พี่ไม่ชอบให้จุ้นจ้านในเวลากลางค่ำกลางคืน เป็นไปได้หลังสามทุ่มควรอยู่แต่ในห้อง
ไม่จำเป็นไม่ควรออกจากห้องจะดีที่สุด..ในห้องของรพินทร์มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เพียบพร้อมอยู่แล้ว..หวังว่าจะเข้าใจ...
มื้อเช้าที่นี่ทานเจ็ดโมงตรง มื้อกลางวันเที่ยงตรง มื้อเย็นหกโมง....พี่ไม่ชอบคนไม่ตรงเวลา...คงไม่ยุ่งยากเกินไปใช่ไหม
กับข้อปฏิบัติเล็กๆ น้อยๆ ในบ้านหลังนี้” พูดได้หน้านิ่งมาก...ทั้งที่มันเป็นคำสั่งชัดๆ
“ค่ะ..ไม่ลำบาก..รพินทร์จะทำตามให้ได้มากที่สุด” ใช่..เธอจะทำตามให้ได้มากที่สุด..
ส่วนที่ทำไมได้ก็อีกเรื่องหนึ่ง...ไม่จำเป็นต้องพูดออกไปนิ...
ระหว่างที่ปาจากดอินเตอร์โฟนเรียกคนรับใช้มาพาเธอไปห้องพัก ทำให้เธอมีเวลาสำรวจชายหนุ่ม
อย่างละเอียดอีกครั้ง ปาจา..หนุ่มใหญ่วัยสามสิบสามปี...ด๊อกเตอร์จากอังกฤษพ่อหม้ายลูกติด...หนุ่มเนื้อหอม
ที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่แปลกที่ชายตรงหน้าจะมีสาวๆ เสนอตัวเข้าหาต่อคิวเป็นหางว่าว ปฏิเสธไม่ได้ว่าชายคนนี้
หล่อบาดจิตบาดใจ บวกมาดเข้มๆแมนๆ กอปรกับรูปร่างสูงใหญ่ สังเกตุไหล่กว้างผึ่งผายคงซ่อนรูปอย่างมาก...
เอาเป็นว่าสามารถเป็นพระเอกแถวหน้าได้สบาย...แต่ที่เธอไม่ค่อยถูกชะตา คือสายตาคมเข้มเหมือนเอ็กซเรย์คู่นั้นต่างหาก
ทำให้เธอร้อนๆ หนาวๆ เย็นเยือกพิกล...
รอไม่นานนัก..หญิงรับใช้วัยไม่เกินยี่สิบ ก็มาพาเธอไปยังห้องส่วนตัว รู้ชื่อภายหลังว่าองุ่น..เป็นคนรับใช้
ที่ปาจาจัดไว้ดูแลเธอ เหมือนนางต้นห้องไรประมาณนั้น เธอถือโอกาสทำความรู้จักกับองุ่นระหว่างที่หญิงสาวช่วยเธอ
จัดเสื้อผ้าใส่ตู้ไม้สักบานใหญ่ในห้องนอน ที่กว้างมากมาย...มีเครื่องอำนวจความสะดวกครบถ้วนจริงๆ ออกจะมาก
เกินไปด้วยซ้ำ จนรู้สึกแปลกใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะมี LCD ขนาด 50 นิ้ว คอมพิวเตอร์ครบชุด
ระบบเครื่องเสียง มุมรับแขก ห้องน้ำอ่างจากุซซี่..ตู้เย็นมีผลไม้ ของกินเตรียมไว้เพียบ ที่สำคัญยังมีโซนเล็กๆ
สำหรับกาน้ำร้อนพร้อมไมโครเวฟมีไว้หมด..ประหนึ่งยามค่ำคืนแม้หิวโหย ก็ให้หากินแต่ในนี้
อย่าสะเออะออกไปเดินเผ่นผ่านประมาณนั้น...
แต่นึกเหรอว่าคนอย่างเธอจะสน...ที่เธอต้องมาที่นี่..เพราะมีภารกิจสำคัญต้องทำ...จะให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาด
ความลับทางราชการ...ตัวตนที่แท้จริงของเธอ หาใช่รพินทร์...ลูกสาวคุณไพรภพอย่างที่ทุกคนเข้าใจไม่..
เธอคือมือดีจากหน่วยสืบราชการลับอันดับต้นๆ ซึ่งไม่มีประวัติให้สืบค้นได้เลยเชียวหละ..
และเรื่องสำคัญที่สุด..ที่เธอถูกเลือกให้มารับงานนี้..เพราะเธอมีรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกับรพินทร์ตัวจริง...
ถึงจะไม่เหมือนเลยทีเดียว..แต่เธอคล้ายคลึงมากที่สุด...ที่แตกต่างและไม่เหมือนกันเลยก็ตรงที่รพินทร์เป็นผู้หญิง....
ส่วนรพินทร์กำมะลอคนนี้..เป็นผู้ชาย......
เธอต้องแฝงเข้ามาอยู่ในคุ้มดงพญา เพื่อคลี่คลายคดีตายปริศนา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถ
หาเบาะแสได้เลยสักนิด ผ่านมากว่าครึ่งปีหกศพเข้าไปแล้ว กลับเป็นคดีเขย่าขวัญและทำลายภาพพจน์ของทางราชการ
เป็นอันมาก ดังนั้นทุกอย่างจึงถูกเตรียมการ และเธอคือผู้ที่ได้รับเลือกให้มารับผิดชอบคดีนี้ ช่างท้าทายเป็นอันมาก...
ทั้งรูปคดี...และหลายๆ อย่าง...เมื่อการเตรียมความพร้อมกว่าสามเดือน...บัดนี้เธอได้เข้ามาอยู่ที่นี้ในฐานะทายาทคนหนึ่ง
ของคุ้มดงพญาเรียบร้อยแล้ว...ที่เหลือต้องอาศัยฝีมือความสามารถเฉพาะตัวของเธอเข้าจัดการแล้วหละ....
ค่ำๆ จะมาต่อให้อีกนะค่ะ...
ตอนนี้ฝากผลงาน 'มนต์มาร' ไว้ในอ้อมแขนนักอ่านทุกคนอีกเรื่องหนึ่งค่ะ
Luk. :กอด1:
-
อ๋ายยยยย แล้วตกลงนายเอกเราชื่อจริงว่าอารายอ่ะ เหอๆๆๆๆๆๆๆ
-
โอ้วววว!!!..ลุ้นระทึก..นายเอก...เป็น...ทอม...อ๊ะจ๊ากกกก....
รีบต่อเลยคร๊าบบบบ...อยากอ่านแล้ว...มันส์มาก...เนื้อเรื่องน่าติดตาม
ขอบคุณครับ
-
น่าติดตามมาก มาต่อไวไวนะคะ :impress2:
-
คาดว่า รพินทร์ ตัวปลอมคนนี้ จะไม่ได้ กลับออกไปจากคุ้มดงพญา ซะแล้ว หึหึ
-
นึกแล้ววววว ว่ารพินทร์คนนี้ต้องเป็นผู้ชาย
เป็นนายเอกของเราแน่ๆเลยคู่กะปาจาป่ะเนี่ย
รอๆ คืนนี้นะคะ
-
ถ้าความจริงถูกเปิดเผยรพินทร์(กำมะลอ)จะถูกทำโทษยังไงน้อ (ลุ้นๆๆ)
-
เริ่มมาก็น่าสนุกแล้วครับ
ตามมาอ่านด้วยคน
-
ถ้าโดนจับได้ว่าปลอมตัวมาจะเป็นยังไงน้อ
จะโดนลงโทษให้อยู่ที่ดงพญากับคุณจาตลอดชีวิตรึเปล่า :-[
-
รอคืนนี้่น่ะ รีบมาต่อล่ะ :impress2:
:L2: :L2:
-
จะรอคืนนี้นะคะ
เริ่มสนุกมากขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ
:L2:
-
ให้ไปเลย ย :L2: :L2: :L2: :กอด1: :กอด1: :กอด1: x 100
ตื่นเต้นแล้วๆ อยากรู้ตอนต่อไปเร็วๆ สู้ๆค๊า
-
เนื้อเรื่องน่าสนใจดี สะกดผิดน้อยลงมากอาจแล้วไม่ค่อยสะดุด
องคาพยศ นั้นน่าจะเขียนผิด น่าจะเป็น องคาพยับ (ลองเช็คดูอีกทีนะ ที่แนะนำนี่ก็ไม่แน่ว่าเขียนถูกเหมือนกัน)
-
แค่ 2 ตอนก็มันโคตร ๆ แล้วอ่ะ :pig4:
-
เข้ามาอ่านเรื่องใหม่ด้วยคน
คราวนี้จะเป็นวายแบบสืบสวน น่าติดตามๆ
ปล. แอบเสียวไส้กับสภาพศพมากๆอ่ะ
-
เขามาว่าจะมาทวงแต่ได้อ่านตอนใหม่พอดีเลย o18
วู้วู้ นายเอกออกมาแล้ววววววว จะรอดึกๆๆนะคร๊าบบบบ
อย่าลืมละ สู้ๆๆ o13
-
ว๊าววว เรื่องใหม่สนุก ลึกลับน่าติดตาม
รอติดตามตอนต่อไปคร๊าบบบบ
-
แล้วนายเอกของเรามีชื่อจริงมาอะไรอ่า...???
:m28: :m28: :m28: :m28: :m28:
:confuse: :confuse: :confuse: :confuse: :confuse:
-
o13
-
เป็นตำรวจปลอมตัวมานี่เองวู้แล้วจะสืบได้ไหมเนี่ยรออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
เนื้อเรื่องดี ตื่นเต้นอะ หนังสืบสวนฆาตกรรม เป็น FC ด้วยคนคะ ติดตามนิยายเรื่องอื่นด้วยนะ
-
มนต์มาร
Part 3
กายันต์.....
.
.
.
หลังจากองุ่นออกไปแล้ว รพินทร์รีบปิดประตูห้องลงกลอน ก่อนจะนำคอมพิวเตอร์แบบพกพาส่วนตัว
เอาออกมาต่ออินเตอร์เน็ทด้วยระบบแอร์การ์ดที่เอาติดตัวมาเฉพาะ เธอไม่กล้าใช้คอมฯ ในห้องเด็ดขาด ข้อมูลอาจรั่วไหล...
นี่เป็นความรอบคอบของหน่วยสืบราชการลับต้องมีเป็นอันดับแรก เมื่อคอมฯ ออนไลน์เรียบร้อยเธอแชทกับ
ผู้บังคับบัญชาโดยตรงทันที
“หวัดดีครับ...หัวหน้า” รพินทร์พิมพ์บทสนทนา
“อืม....เป็นไงเรียบร้อยดีไหม?..พระลักษมณ์” หัวหน้าตอบกลับมา..
ชื่อจริงเธอคือ ‘พระลักษมณ์’
“ผ่านฉลุย..ตอนนี้ผมเข้ามาอยู่ในคุ้มเรียบร้อยแล้ว อีกชั่วโมงคงรู้จักสมาชิกในบ้านครบทุกคน
คุณปาจาจะแนะนำผมกับสมาชิกตอนทานมื้อเที่ยงครับ” พระลักษมณ์รายงานให้หัวหน้าทราบ
“ดีมาก...อย่าลืมว่านายอยู่ในคราบคุณรพินทร์..ห้ามมีพิรุธเด็ดขาด” หัวหน้ากำชับมา
“ไว้ใจได้น่า....ไม่เชื่อมือผมแล้วให้รับงานทำไม?” เป็นแบบนี้เสมอสำหรับหัวหน้า ไม่ว่าจะกี่ปี
ก็ยังย้ำอยู่ประจำ นอกจากเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงแล้ว ยังมีศักดิ์เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของพระลักษมณ์อีกด้วย
“ไม่ใช่ฉันไม่เชื่อมือแก...แต่แกอย่าลืมข้อเสียของแกที่จะทำแผนหล่มก็ไอ้นิสัยเจ้าชู้เห็นผู้หญิงสวย
เป็นไม่ได้...เรื่องนี้ต่างหากที่ฉันเป็นห่วง” หัวหน้าประชดกลับ...เค้าพูดไม่ผิดพระลักษณ์เกือบทำงานพลาด ต้นเหตุมาจาก
ความเจ้าชู้ส่วนตัวนั่นแหละ..
“แฮ่ะๆ..คร๊าบบบบ!!..ผมจะระวังให้ดี อย่าย้ำบ่อยสิครับท่านเรื่องผ่านมาตั้งนานแล้วเหอะ”
ยังเล่นลิ้นกลับไปได้อีก
“รู้ตัวก็ดีแล้ว...เรื่องคดีเหยื่อทุกรายมักถูกฆ่าตายในคืนพระจันทร์ดับ..ฉันหวังว่าแกคงไม่ต้องอยู่ที่นั่นนาน..
พระจันทร์ดับครั้งหน้า..ต้องลากคอคนร้ายออกมาให้สำเร็จ...ฉันว่าคนในคุ้มดงพญาต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับฆาตกรรมปริศนา
ไม่มากก็น้อย...ระหว่างนี้แกต้องสืบให้ได้ว่าใครน่าสงสัยที่สุด มีอะไรผิดปกติบ้างหรือไม่...ห้ามพลาดเด็ดขาดมันอันตราย
ต่อตัวแกเอง...สำคัญอย่าล่าช้ารีบปิดคดีให้ไว ขืนนานกว่านี้ฉันกลัวความลับของแกจะแตกเสียก่อน.”
หัวหน้าร่ายยาวเลยคราวนี้
“เออน่า..เชื่อมือผมสิ...ผมเคยทำพลาดหรือเปล่าเล่า” พระลักษมณ์ยังคงมั่นใจว่าตนเองคงไม่พลาด
ผลงานที่ผ่านมาการันตีได้อยู่แล้ว ไม่งั้นชื่อชั้นของเค้าคงไม่ติด 1 ใน 5 มือดีของหน่วยหรอก..งานหินกว่านี้เค้าผ่านมาไม่น้อย...
การปลอมตัวเป็นผู้หญิงใช่ทำครั้งแรกเสียเมื่อไหร...ถึงกับเคยทลายแก็งค้ามนุษย์โดยยอมปลอมเป็นโสเภณีเข้าไปปะปนใน
กลุ่มพวกมันมาแล้วด้วยซ้ำ ก่อนจะกระชากหน้ากากล้างบางเรียบร้อยโรงเรียนพระลักษมณ์ในที่สุด
ต่างกันแค่งานนี้ใช้เวลาหน่อย จำเป็นต้องปลอมเป็นทอมดีกว่าจะแอบเนียนเป็นหญิงจ๋า..ไม่งั้นเค้าเอง
ก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเนียนได้เป็นเดือนหรือเปล่าก็ยังไม่รู้...แต่ถ้าหากสวมบทเป็นทอมบอยอย่างน้อยนิสัยห้าวกระด้าง
ก็ยังเนียนกว่าหวานหยดย้อยละหว้า..
“ฉันบอกแล้ว...ว่าไม่ใช่ไม่ไว้ใจฝีมือแก...แต่ที่ฉันกังวลอยู่เรื่องเดียวไอ้เรื่องเจ้าชู้ไก่แจ้
ของแกเองนั่นแหละ...ขืนรุ่มร่ามกับสาวๆ ที่มาพัวพันคุณปาจาเข้า จะทำให้ความแตกได้ง่ายๆ...อย่าลืมที่ฉันเตือน..
คุณปูจาไม่ใช่คนโง่...วันนี้เค้าอาจจะยังดูแกไม่ออก..แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าจะดูไม่ออกตลอดไป..เพราะฉะนั้นอย่าเสี่ยง..
ไม่งั้นต่อให้เป็นฉันก็ช่วยอะไรแกไม่ได้..รู้ใช่ไหมปริศนาการตายแต่ละศพมันธรรมดาซะที่ไหน...หากมันง่ายอย่างที่คิด..
งานนี้คงไม่ถึงมือหน่วยเราลงไปคลี่คลายคดีหรอกไอ้ลูกลิง” ตกลงเป็นพ่อลิงแล้วใช่ไหมนั่น...ว่าไม่คิดอีกพ่อกู..
หัวหน้าก็ยังเป็นตาแก่ขี้บ่นอยู่วันยังค่ำรู้ว่าพ่อรักและเป็นห่วงมาก...พระลักษมณ์เป็นลูกชายคนเล็ก..ในขณะพี่ชายคนโตพระราม
ไม่ได้มีอาชีพเสี่ยงแบบเค้า....พระรามแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ทำธุรกิจต่อยอดคุณปู่ที่พ่อไม่อยากทำ
สุดท้ายตกเป็นของหลายชายคนแรกเติบโตจนสร้างรายได้มหาศาล ซึ่งพระลักษมณ์มีหุ้นในนี้ด้วยเหมือนกัน
ที่น่าดีใจอย่างมากคงเพราะพระรามมอบหลานชายฝาแฝดน่ารักให้ครอบครัวอีกด้วย..
พระลักษมณ์ชอบที่จะเสี่ยงกับอาชีพนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเข้ารับการศึกษาผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก..
จนสำเร็จออกมาเดินตามรอยเท้าพ่อซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของเค้านั่นเอง....
ใช่ว่าท่านจะดีใจที่ลูกชายคนเล็กเจริญรอยตามอาชีพนี้ซะเมื่อไหร แต่เพราะความสามารถและฝีมือ
อันยอดเยี่ยมจนติด 1 ใน 5 มือดีแถวหน้าของหน่วย จนอดยอมรับไม่ได้ว่า..ไอ้ลูกคนนี้มันมีดีจริง...
แต่ก็นั่นแหละ..ข้อเสียติดตัวของพระลักษมณ์แก้ไม่หาย..คือเจ้าชู้เห็นสาวสวยเป็นไม่ได้..ทำให้หัวหน้าต้อง
เตือนตลอดเวลา....คิดว่าถึงเวลาเหมาะสมคงให้พระลักษมณ์เลิกอาชีพนี้ถาวรเสียที..กลับไปทำอาชีพที่ไม่ต้องเสี่ยงต่อชีวิต..
ทรัพย์สินที่ได้มาตลอดการทำงานกว่า 7 ปีของพระลักษมณ์ สามารถอยู่อย่างสบาย...ยังไม่รวมทรัพย์สินอันเป็นมรดกอีก...
กินไปทั้งชาติก็ไม่หมด..
เพราะพระลักษมณ์มีนิสัยโลดโผนชอบชีวิตแบบนี้ ทั้งที่รูปร่างหน้าตาออกจะตรงข้ามสิ้นเชิง..ซ้ำไม่เคยทำงาน
พลาดมาก่อน สร้างผลงานได้อย่างยอมเยี่ยมอีกต่างหาก..ต่อให้ลูกคนนี้ทำให้พ่ออย่างเค้าภาคภูมิใจมากแค่ไหน
ก็คงไม่มีพ่อคนไหนยินดีทนเห็นลูกเสี่ยงชีวิตกับงานที่ทำอย่างสบายใจหรอกจริงไหม?
“ทราบแล้วครับท่าน...ได้เวลาผมต้องไปร่วมทานกลางวันแล้ว ไว้แค่นี้ก่อนครับพ่อ....คืบหน้าอย่างไร
จะติดต่อกลับไป” น้อยครั้งที่ชายหนุ่มจะเรียกพ่อ หากไม่ใช่เรื่องส่วนตัวสรรพนามที่พระลักษมณ์ใช้ก็หัวหน้า
เหมือนคนอื่นจนชินปาก
“เดี๋ยว!...สารวัตรที่ดูแลคดีนี้คือ..ผู้กองคมสัน..แกควรทำความรู้จักเค้าไว้ด้วย..อย่าให้เค้ารู้เป็นอันขาดว่า
แกเป็นใคร...ฉันให้แกทำความรู้จักไว้เผื่อฉุกเฉินจะได้พึ่งพาเค้าได้..เข้าใจใช่ไหม?” ยังไม่หมดห่วง สั่งซะจริง..
“รับทราบครับท่าน...รับปฏิบัติครับผม” เป็นอันตัดจบบทสนทนา ก่อนพระลักษมณ์จะปิดคอมฯให้เรียบร้อย
ใส่ในกระเป๋าซ่อนไว้ใต้เตียงอย่างดี สำรวจผมเผ้าหน้าตาในกระจก แอบยักคิ้วเท่ๆ ให้หนึ่งที หึ...เป็นทอมยังหล่อสาด...
นี่ละหนาคนมันหล่อต่อให้อยู่ลุคไหนก็ไม่สามารถบดบังความหล่อลงได้....รำพันกับตัวเอง...หันหลังเปิดประตูห้องเดินออกไป..
รพินทร์เดินสำรวจตามทางมาเรื่อยๆ บ้านทรงไทยหลังนี้ใหญ่จริงๆมีห้องหับมากมายแถมลึกลับซับซ้อนพิกล...
เวลาแค่เดือนเดียวก่อนจะถึงคืนพระจันทร์ดับ อาจจะไม่มากพอถ้าขืนชักช้า ไว้คืนนี้ดึกๆ ต้องเริ่มลงมือสำรวจเสียแล้ว
แต่ตอนนี้ท้องร้องประท้วงขึ้นมา..ไปเติมพลังงานกับอาหารมื้อแรกของคุ้มดงพญาดีกว่า ทั้งที่ยังไม่รู้ว่า
ห้องอาหารของบ้านนี้อยู่ตรงไหนด้วยซ้ำ...มองหาใครก็ไม่เจอ...ตัดสินใจเดินไปเรื่อยๆเดี๋ยวคงเจอเอง...
ระหว่างเดินดุ่มๆ หันรีหันขวางหาทางไปอยู่นั้น จู่ๆ เสียงกระแอมก็ดังขึ้นด้านหลังไม่ไกลหนัก
“อะแฮ่ม...” ทำให้ต้องหันขวับไปทางต้นเสียงทันที....อ้าว!..คุณปาจานี่หว่า?.มาแต่เมื่อไหร่..
เอ๊ะ!..ไม่ใช่เหมือนคุณปาจาแต่ไม่ใช่แน่นอน..คนที่ยืนอยู่ไม่ไกลกำลังเดินตรงมาทางเขา ยิ้มพราวเสน่ห์นัยตาวิบวับ
ซุกซนอีกตะหาก....ไม่ใช่บุคลิกคุณปาจา..
“หวัดดีครับ...มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า..ผมกายันต์” ไม่ต้องเสียเวลา เจ้าตัวตรงรี่เข้าหา
รพินทร์ทันที พร้อมยิ้มสว่างโร่ขับใบหน้าหล่อลากไส้น่าดูยิ่งกว่าเดิม แต่เสียใจมันใช้ได้กับสาวๆ หาใช้รพินทร์คนนี้ไม่
ไอ้พฤติกรรมแบบนี้ใช่ว่าเค้าเองจะไม่เคยใช้ แถมใช้ออกบ่อยเมื่ออยู่ในลุคของพระลักษณ์ เวลาต้องการคู่นอนสักคน
เค้าไม่เคยพลาดเช่นกัน เห็นทีคนตรงหน้ากำลังตั้งใจโปรยเสน่ห์เค้าแล้วหละ...หึหึหึ!..สนุกพิลึก...
เล่นกับไอ้รูปหล่อมันสักหน่อยก็ไม่เลว
“รพินทร์ค่ะ..ยินดีที่รู้จัก” พูดพร้อมกับยื่นมือให้ เป็นการทักทายแบบฝรั่งขอจับมือตามธรรมเนียม
ท่าทางที่รพินทร์ทำ พาเอาหนุ่มหล่อตรงหน้าเลิกคิ้วสูงอย่างแปลกใจ แต่ก็ยอมส่งมือมาให้จับก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ฟังดูคุ้นๆ แฮ่ะ!..อย่าบอกคุณคือลูกสาวอาไพรภพ” หนุ่มหล่อกายันต์ถามตรงเพ่ง
“คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว...ฉันคือลูกสาวคุณไพรภพ...แล้วคุณ..ถ้าให้เดาคงเป็นน้องชายคุณจา”
หญิงหล่อมาดเท่ยืนยันฐานะตนเอง ก่อนจะคาดเดาสถานะของคู่สนทนาให้เสร็จสรรพ
“ครับ...กายันต์ชื่อผม..แต่ผมชอบให้เรียกยันต์เฉยๆ ไม่ต้องมีกานำหน้าหรอก..ไม่รู้ทำไมพ่อแม่
ถึงตั้งชื่อนี้ให้ผม..ตัวผมไม่ได้ดำสักกะหน่อย คุณว่าจริงไหม?..พอพี่จาชื่อกลับโคดเท่..ปาจาซะงั้น” ไม่ทันไรนายกายันต์
ก็ออกอาการงุงงิงยังกะเด็กไม่ยอมโต..ให้รพินทร์อมยิ้มขำท่าทางพองแก้มคำพูดประชดนิดๆเหมือนน้อยใจ
ชวนให้น่าถีบมากกว่าน่าเอ็นดู..
มันเหมาะไหมนั้นผู้ชายตัวโตๆ คนคุยถึงกับต้องแหงนหน้าให้ ทั้งที่รพินทร์สูงถึง 175 แต่ผู้ชายตรงหน้า
คงจะ 180 ปลายๆ แล้วหละ..มีหน้ามากระแดะออกท่าทางแบบนี้อีก...ขัดลูกตาพิลึก
“คิดอย่างนั้นเหรอค่ะ..ฉันว่าชื่อคุณเพราะดีออก...ถ้าคุณไม่ชอบฉันตั้งให้ใหม่เอาไหม...เปลี่ยนเป็น
ยันดะ..ท่าจะดี?” เธอพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ สำหรับชื่อใหม่ที่เธอเจตนาแกล้งคนตรงหน้า
“โห!..แรงจังคุณรพินทร์..เห็นอย่างนี้ผมก็เลือกน๊า..ใครว่าผมยันดะแหมว่าซะเสียเลยคุณ....
ช่างเหอะเรียกชื่อหลังผมดีกว่า...ว่าแต่คุณกำลังทำอะไรอยู่ครับ...ผมเห็นชะเง้อยึกยักยังกะกระเหรี่ยงคอยาวเลย..ฮ่าๆๆๆ”
อารมณ์ขันดีจริงนายกายันต์..กวนกลับจนได้..บุคลิกแตกต่างพี่ชายหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยวุ้ย!..แต่ก็ไม่เลวสำหรับมิตรภาพ
ของคนขี้เล่น ยิ้มง่ายอัธยาศัยดี..พลอยทำให้รพินทร์หัวเราะตามไปด้วย...พอเธอเป็นฝ่ายหัวเราะบ้าง หนุ่มตรงหน้า
กับยืนมองตาค้างซะงั้น
“มองอะไร...ไม่เคยเห็นคนหัวเราะหรือไง?” กลายเป็นเธอต้องแปลกใจเสียเอง อยู่ๆนายกายันต์
มองเธอตาลอยไปซะงั้น..ประสาทดีหรือเปล่าเนี่ยะ
“อะ..เออ..เคยครับ..เห็นมาเยอะครับคนหัวเราะ..แต่คนหัวเราะแล้วมีเสน่ห์ไม่เคยเห็นมาก่อน...
ผมถึงตะลึงไงครับ” อุแม่เจ้า!..เสือผู้หญิงอย่างรพินทร์ กลับมาเจอคาสโนวาตัวพ่อหม้อเอาซึ่งหน้าเข้าให้
“หืม!..บอกก่อนฉันมีรสนิยมเหมือนคุณนะ..เสียเวลาเปล่าถ้าคิดจะป้อฉันคุณยันดะ” รพินทร์เล่นลิ้น
กวนใส่ซะงั้น แต่ก็เรียกความฉงนในแววตาคู่สนทนาขึ้นมาทันที
“หมายความว่าไง ที่มีรสนิยมเหมือนผม..คุณรู้หรือว่าผมรสนิยมแบบไหน?” น้าน!...ว่าแล้ว
นายนี่ต้องงง..
“เข้าใจไม่ยากหรอก..คุณชอบผู้หญิงสวยฉันก็ชอบที่นี้เข้าใจหรือยัง” รพินทร์ตีแสกหน้า
เล่นเอานายกายันต์หน้าเจื่อนไปทันที ก่อนจะรีบถามให้ไว เพื่อยืนยันในสิ่งที่ตนเองได้ยิน
“อย่าบอกว่าคุณเป็นเลสเบี้ยน” พูดจบลุ้นระทึกอีกตะหาก..
“ต้องพูดใหม่ให้ถูกต้องฉันไม่ใช่เลสเบี้ยน..เลสเบี้ยนคือผู้หญิงจับคู่เล่นดนตรีไทยบทบาทไม่แน่ชัด..
แต่ฉันไม่ใช่แบบนั้นถึงจะนิยมดนตรีไทย แต่ฉันชอบเป็นฝ่ายคุมเกม..เพราะฉะนั้นอย่างฉันเรียกว่า..’ทอมบอย’
น่าจะโอเคที่สุด” พูดจบคนฟังถึงกับเอากำปั้นทุบหน้าผากตนเอง ก่อนจะกลับมาจ้องหน้ารพินทร์สำรวจตรวจตรา
อีกครั้งอย่างละเอียด
“ความจริงผมก็พอดูออก ไม่คิดว่าคุณจะยอมรับโต้งๆ แบบนี้..แต่ช่างเหอะผมไม่แคร์
ในเมื่อคุณมีสิ่งที่ผมสน..ผมนี่แหละจะเปลี่ยนทอมอย่างคุณกลายเป็นหญิงให้ดู...คงไม่ว่าอะไรนะครับ..ถ้าผมจะจีบคุณ”
ชิ...ไอ้นี่มันหน้าถีบดีจริง..ยังกล้าขอจีบกูอีก...ตายแล้วไปเกิดใหม่อีกรอบก็ไม่มีทางเปลี่ยนกูเป็นหญิงได้หรอกไอ้บ้า...
ไม่ติดว่ามีภาระสำคัญ..พ่อจะถอดกางเกงให้แม่งดูตาแหกไปเลยไอ้ห่า....ได้แต่คิดที่ทำได้ก็เพียงแต่ยิ้มประจบ
ก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ตามสบายเลยคุณ...ถ้าคิดว่าไม่ท้อเสียก่อนก็เชิญ” เหมือนเป็นการท้าทายคาสโนวาตัวพ่อ
อย่างกายันต์..ผู้ซึ่งไม่เคยมีใครกล้าลองดีมาก่อน..ชายหนุ่มจึงเผลอยิ้มกว้างจนตาหยี แสดงความดีใจอย่างปิดไม่มิด..
ชีวิตมีรสชาติขึ้นเยอะ..ให้มันได้อย่างนี้สิหวะ...ลองเปลี่ยนมาจีบทอมที่ดูยังไงก็ตรึงใจยิ่งมองยิ่งใจสั่น ท่าทางรั้นๆ
อย่างคนชอบเอาชนะนั้นอีก ท้าทายให้คนอย่างกายันต์กระโดดลงไปลุยแบบไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ
รูปร่างสูงโปรงไม่ถึงกับอ้อนแอ้นแต่ก็ดูดีน่ามอง...ผิวขาวใส รวมกันแล้วดูเท่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
สำหรับผู้หญิงที่ประกาศตัวว่าเป็นทอมได้อย่างองอาจผึ่งผาย...งานนี้ไอ้กายันต์จะล่อทอมให้ร้องครางดิ้นเร่าๆ
ใต้ร่างซะให้เข็ดเลยคอยดู...บ้านทรงไทยหลังนี้มีชีวิตชีวาขึ้นตา..เมื่อมีเรื่องสนุกให้ทำอยู่ข้างหน้า
“ถือว่าคุณรพินทร์อนุญาตแล้วนะ งั้นผมลุยได้เลยสิ..ว่าแต่ที่ผมถามคุณยังไม่ได้ตอบผมเลย..
กำลังทำอะไรอยู่” กายันต์ถามย้ำ ก่อนที่ทั้งคู่จะมายืนคุยกันแบบนี้
“ฉันกำลังหาทางไปห้องทานข้าว..จนคุณมานี่แหละ” รพินทร์บอกตามจริง
“พอดีเลย..ผมกำลังไปเหมือนกัน...มากับผมเลยดีกว่า..ดีใจจังมื้อนี้ได้ทานข้าวกับคุณรพินทร์..
เจริญอาหารน่าดูเลยหละ” พูดพร้อมกับก้าวเดินโดยที่รพินทร์ตีคู่ไปด้วย....ตลอดทางชายหนุ่มชี้ชวนให้ดูห้องหับต่างๆ
ที่เดินผ่าน ซึ่งรพินทร์รีบบันทึกข้อมูลไว้ในหัวอย่างละเอียด..ได้ประโยชน์ไม่น้อย ทำให้รู้ว่าส่วนไหนของบ้านมีห้องอะไรบ้าง
อย่างน้อยเธอก็สามารถเดินเองได้โดยไม่ต้องงงอีก..หลังฟังคำแนะนำจากเจ้าบ้านน้อย คุณกายันต์.............
มาต่อให้แล้วนะคะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน
Luk.
-
คุมค่ากับการรอคอย
พระลักษ์จะโดนกายันต์สลักรักแล้ววววว :เฮ้อ:
ปาจามาช่วยที :z3:
-
ถ้าหมายถึง น้องของพระรามในเรื่องรามเกียรติ์ น่าจะสะกดคำว่า พระลักษณ์แบบนี้นะคะ
พระลักษณ์
Casnova มาจากชื่อของคนอิตาเลี่ยน ถ้าจะสะกดเป็นภาษาไทย จะสะกดได้แบบนี้ค่ะ
คาสโนวา
รสชาติ สะกดแบบนี้ค่ะ
เท่ ไม่มีหอหีบกับตัวทัณฑฆาต ห์
เกม ไม่มีสอเสือกับทัณฑฆาต ส์
นะคะ สะกดแบบนี้ ไม่ใช่นะค่ะ คอควายเป็นอักษรต่ำค่ะ ( ลองออกเสียงตามดูนะ )
คะ ค่ะ ออกเสียงไม่เหมือนกัน
-
นายเอกเราชื่อพระลักษ์นั่นเอง!!
555+
-
o18 o18
นายเอกเป็นตำรวจด้วยยยยยยยยย
-
พระลักษมณ์ เขียนแบบนี้จ้าาาา
-
ขอบคุณ.....คุณ Maize และคุณ..ณยฎา มากๆ นะค่ะ
ที่ช่วยแก้ไขคำผิดให้ กล้บไปแก้ไขแล้วค๊า
น่ารักจริงๆ...ขอบคุณอีกครั้ง :กอด1:
-
ขอบคุณค่ะ :กอด1:
ว่าแต่ เค้าอยากอ่านต่อแล้วอ่ะ o17
-
พึ่งตามมาอ่านนนน
ชอบนายเอกมากกกก
ท่าทางจะซ่าไม่หยอกก
:laugh: :laugh:
-
ชักอยากจะรู้แล้วซิว่าใครจะเป็นพระเอก...... o13 o13
-
วุ้ยยยย สนุกกกกกกก ชอบแนวนี้จัง
o13 o13 o13
-
ว้าว เนื้อเรื่องน่าติดตามมากเลยค่ะ :m4: :m4: :m4:
-
โอ้โหพี่จีบดะคาสโนวาจริงๆขนาดทอมยังจะเปลี่ยนให้กลับเป็นหญิงอีกสุดยอดรออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
:m4: :m4: :m4:
:L2: :L2:
-
o13 o13 o13
-
ใครจะเป็นพระเอกนะ
-
ตายันรุกเร็วเกินคาด หนูรพินทร์คงหาสนไม่
เพราะตัวเองเป็น(ทอม)บอยอ่ะ555 แต่ปาจานี่คงต้อง
ลุ้นต่อไปว่าเมื่อไหร่จะปิ้งรพินทร์ภาคทอมบอย
-
แล้วแบบนี้ใครจะเป็นคู่เอกละเนี้ย เดาไม่ถูกเลยอ่ะ
-
o18...โอ้...พระลักษณ์ ....เจ้าชู้ด้วยย
-
o13 o13 o13 o13
-
จะู่คู่ไหนกันน๊า า
นิวเชียร์ ปาจาๆ ฮูเลๆๆ
^^ รอตอนต่อไป
ปลปล.รักคนแ่ต่ง จุ๊ฟๆ
-
รอตอนต่อไปคร๊าบบบ!!!
ไม่เอาน๊า..ผมอยากให้พระลักษ์ คู่กับปาจา...ต้องปาจา กับพระลักษ์เท่านั้น
อีพี่ยันดะ...หาคู่ให้ใหม่เลย....สองคนนี้ดูเหมาะกันแล้ว.... :กอด1:
-
นายเอกเรามาแปลกอ่ะ ปลอมเป็นทอมมาสืบราชการ
-
น่าติดตามๆๆ
-
อ่า......
ทอมบอยจอมเจ้าเล่ห์
555555555
ระวังตกหลุมคนหล่อ น่ารัก ซุกซนนะค่ะ
:D
-
:impress2:
-
คุณหัวหน้าพ่อพระลักษณ์เรียกพระเอกว่าปูจาอ่ะ
จากปา กลายเป็นปูไปแล้ว :laugh:
-
ถ้าหมายถึง น้องของพระรามในเรื่องรามเกียรติ์ น่าจะสะกดคำว่า พระลักษณ์แบบนี้นะคะ
พระลักษณ์
คุณMaize ขา
ชื่อตัวละครในเรื่องรามเกียรติ์ น้องของพระรามน่ะค่ะ
"พระลักษมณ์" มีตัวตาม(ตัวการันต์)สามตัวคือ "ษมณ" ถูกต้องแล้วค่ะ(ตามที่น้องLukใช้ในเรื่อง)
แต่ถ้าเป็น "ลักษณ์" ที่แปลว่า เครื่องแสดง, คุณภาพ, ประเภท นั่นจึงจะมีตัวตาม(ตัวการันต์)สองตัว คือ "ษณ"ค่ะ
-
ชื่อตัวละครแต่ละตัวไปได้แรงบันดาลใจมาจากไหนเนี่ย o22
-
ตอบ คุณ yayee2
แรกสุดคุณคนเขียนเขาสะกดแบบนี้ค่ะ พระลักษ์
ดิฉันเลยหวังดีท้วงติง ให้เปลี่ยนเป็น พระลักษณ์ ที่ไหนได้ ตัวเองก็สะกดผิด อายแทบจะแทรกแผ่นดิน :laugh:
พระลักษมณ์ ชื่อแอบยากเนอะ
+1 คุณคนเขียนกับคุณ yayee2 กลบเกลื่อนแล้วรีบหนีไปด้วยความอับอาย :-[
-
:กอด1:แล้วแอบจุ๊บคุณMaizeด้วยแหละ ขอบคุณนะคะที่กด+ให้
+คืนให้เหมือนการค่ะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ความผลั้งเผลอเกิดขึ้นได้กับทุกคน
"สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง สองขาโด่เด่ ก็ต้องเซลงบ้าง"
-
นายเอกเราเป็นตำรวจหราเนี้ย
-
มนต์มาร
Part 4
ความหมายชื่อปาจา....
.
.
.
รพินทร์เดินเข้าห้องอาหารพร้อมกายันต์ เสียงหัวเราะพูดคุยอย่างเป็นกันเองของทั้งสอง..
ดึงความสนใจคนบนโต๊ะหันมามองเป็นจุดเดียว ธรรมตรัยผู้มีนัยตาดุจเหยี่ยวจ้องรพินทร์เขม็ง..แลดูไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่
หวังว่าเธอกับกายันต์คงไม่ได้มาผิดเวลาหรอกนะ..นาฬิกาข้างฝาก็ยังไม่เที่ยงนี่หว่า...
ปาจานั่งเป็นประธานตรงหัวโต๊ะตาคมเข้มมองมานิ่งๆ...ยากคาดเดาว่าเจ้าตัวคิดอะไร...
ซ้ายมือเด็กผู้หญิงแก้มยุ้มหน้าตาน่ารักจ้องเธอตาแป๋วฉายแววตื่นเต้นบวกสงสัยสลับกันไปมา...ถัดจากหนูน้อยคือสาวสวย
หน้าหวานจนต้องเผลอมองซ้ำ...ยิ้มพิมพ์ใจของเธอสะกดให้รพินทร์ตะลึงไปเลยเหมือนกัน...และข้างเธอคือหญิงสูงวัย
ผมสีดอกเลาหน้าตาดูใจดีมากมาย...
รพินทร์รู้สึกชอบกลพาให้หงุดหงิดไม่น้อย..กับหนุ่มหน้าสวยผมทรงรากไทรตาดุยังกะเหยี่ยว..
ที่จ้องเธอเหมือนจะพรุนไปทั้งร่าง...ไร้เหตุผลสิ้นดีทำไมถึงมองคนได้เยือกเย็นพิลึก
“ธรรมตรัย....รบกวนคุณขยับไปนั่งเก้าอี้ผมที” กายันต์บอกหนุ่มตาเหยี่ยวเลื่อนไปนั่งเก้าอี้อีกตัว
ใกล้กับปาจา
“ทำไม...ตรงนี้ที่แกเองนะกายันต์” เจ้าคุ้มตาดุยังกะเสือ..นั่งหัวโต๊ะถามด้วยเสียงทุ้มต่ำแฝงอำนาจ
ขึ้นมาทันที
“ผมจะนั่งกับคุณรพินทร์...เธอพึ่งมาควรมีพี่เลี้ยง...ผมนั่งใกล้ๆจะได้คอยดูแลอำนวยความสะดวก
ให้เธอได้” รพินทร์สังเกตเห็นตาวาวโรจน์ของธรรมตรัยแวบหนึ่ง ก่อนเจ้าตัวจะยอมลุกทำตามความต้องการของกายันต์เงียบๆ
“อ่ะ!..คุณไม่ต้องย้ายหรอกค๊ะ...คุณยันต์นั่งที่เดิมดีแล้ว..จะยุ่งยากทำไม” รพินทร์จำต้องออกโลง
ยุติปัญหางี่เง่าเสียเอง..ปาจาหรี่ตาคมมองรพินทร์อย่างสนใจ..มาถึงไม่กี่ชั่วโมง..กลับกล้าขัดกายันต์ได้...แถมไอ้ตัวดี
ติดจะยอมอีกด้วย..หึ....ยัยทอมหน้าหล่อ..คงกระตุ้นต่อมน้องชายเค้าเข้าให้..อย่าบอกเกิดสนใจทอมแล้วทีนี้...
“อ้าว!..ทำไมครับ...ผมอยากนั่งใกล้คุณนี่...” หน้าถีบชะมัด..ตัวยังกะควายทำตัวเป็นเด็กไปได้...
รพินทร์คิดในใจก่อนพูดขึ้นมาว่า
“ถ้าคุณจะสร้างความประทับใจ...ก้าวแรกคุณก็สอบไม่ผ่านแล้วหละ...คุณกายันต์” ได้ผลกายันต์หน้าบูด
ยอมแต่โดยดี...รพินทร์เลื่อนเก้าอี้นั่งข้างธรรมตรัยหน้าตาเฉย
“ผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักคุณรพินทร์...ลูกสาวคุณอาไพรภพ...ซึ่งมีกรรมสิทธิในคุ้มดงพญา
ตามพินัยกรรม...ให้ทุกคนปฏิบัติต่อคุณรพินทร์เหมือนกับปฏิบัติต่อผม” เจ้าคุ้มน้ำแข็งพูดเสียงกังวาน..
สายตากวาดมองทีละคน ก่อนจะหยุดที่รพินทร์นิ่งๆ...จนเธอต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ...หรือว่าเขาต้องการให้เธอ
พูดเล็กน้อยเป็นการแนะนำตัว...คิดได้ดังนั้นเธอจึงพูดขึ้นว่า
“สวัสดีค่ะ....ฉันรพินทร์ต้องรบกวนด้วยนะคะ” พูดจบรพินทร์ยิ้มหล่ออย่างมั่นใจ..เจตนาเจาะจง
ให้สาวสวยที่นั่งเยื้องตรงหน้าเป็นพิเศษ...ทำให้สิตาหน้าแดงก่ำเขินไปเลย...ทอมบอยหน้าหล่อยิ้มให้ซะหวานเยิ้ม
นัยตาวิบวับได้อีก....สิตาไม่เคยถูกมองแบบนี้มาก่อน ผู้ชายคนเดียวที่เธอปรารถนาคือปาจา..เค้ากลับไม่เคยมองเธอ
ด้วยสายตาแบบนี้เลยสักครั้ง
ส่วนกายันต์ก็ชอบหมาหยอกไก่เธอประจำ...เอาแน่อะไรไม่ได้สักอย่าง....ธรรมตรัยก็เย็นชาเกินไป
ยังกะผีดิบ..ดีหน่อยตรงหน้าตาดีทำให้ไม่น่ากลัวนัก...เพราะงั้นไม่แปลกพอถูกรพินทร์มองสื่อความหมาย..
ถึงกับเลือดฝาดขึ้นหน้าเธอทันที
“คุณรพินทร์..ท่านนี้คือนมอ่อนแม่นมของผมกับกายันต์.” รพินทร์ยกมือไหว้...นมอ่อนก็รับไหว้
พร้อมยิ้มอบอุ่นส่งให้ หลังจากปาจาแนะนำ..ก่อนจะแนะนำคนต่อไปเรื่อยๆ
“ส่วนผู้หญิงสวยในที่นี้..คือคุณสิตาหลานของคุณยายเล็ก” น้ำเสียงที่เน้นตรงคำว่า
ผู้หญิงสวยในที่นี้..พาเอารพินทร์สะดุ้งโหย่ง..ไม่ใช่กลัวถูกจับได้..หากเจ้าคุ้มขี้เก็กรู้ว่าตนเองไม่ใช่ผู้หญิง คงไม่ปล่อย
ให้มานั่งชูคออยู่ได้หรอก...น่าจะเจตนาประชดที่เห็นว่ารพินทร์ทำตัวเป็นทอมมากกว่า..รพินทร์จำต้องยิ้มหล่อให้สิตา..
ซึ่งเธอก็ยิ้มอายๆ ตอบกลับมา...หรืออายเพราะถูกปาจาชมว่าสวยเป็นครั้งแรกก็ไม่รู้
“คนที่นั่งข้างคุณ...ธรรมตรัยพ่อบ้านใหญ่เป็นเลขาของผม...ขาดเหลืออะไรบอกธรรมตรัยเค้าได้...
และหนูน้อยคนนี้ลูกสาวผมเองเธอชื่อจันทร์ผา..เรียกหนูผาก็ได้...สำหรับน้องชายผมคงไม่ต้องแนะนำแล้วมั้ง..ดูคุณสองคน
สนิทกันแล้วนี่” ปิดท้ายประชดซะงั้น...ร้ายกาจไม่หยอกไอ้คุณน้ำแข็ง....ธรรมตรัยเพียงค้อมศรีษะทักทายหน้าตา
เย็นชาได้อีก..สงสัยนายใหญ่กับเลขาจะสปีชี่เดียวกัน...กายันต์ยังมียิ้มทะเล้นตาหยีให้เธออีก...หน้าถีบจริงๆ..ทำไปได้เนอะ..
ไม่ติดหล่อนี่หมดสภาพเลยนะนั่นปัญญาอ่อนชะมัด
ที่รพินทร์สนใจเป็นพิเศษคือสาวสวยในที่นี้ ซึ่งกำลังเขินไม่หาย..ส่วนหนูผายิ้มกว้างแววตาซุกซน
เหมือนกายันต์ยังกะแกะ..ถ้าไม่รู้มาก่อนคงนึกว่าหนูผาเป็นลูกของกายันต์ดูเหมาะเสียกว่า
“ตักข้าวได้เลยลำดวน..เชิญทุกคนทานอาหารครับ” เจ้าคุ้มน้ำแข็งบอกให้คนใช้ตักข้าวใส่จาน...
การทานมื้อเที่ยงก็เริ่มต้นขึ้น..
บรรยากาศทานข้าวไม่มีใครปริปากพูด...รพินทร์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย..ครอบครัวนี้ไม่นิยมคุย
เวลากินกันเลยว่างั้น....
หนูผามีสิตาคอยดูแลตักอาหารที่หนูน้อยชอบใส่จานให้ตลอดเวลา สิตาเอาใจใส่หนูผาเป็นพิเศษ..
เห็นแล้วพลอยชื่นชมอยู่ในใจ ผู้หญิงคนนี้นอกจากสวยแล้วยังอ่อนโยนเสียด้วย....
การที่มีสิตาอยู่ที่นี่..คุ้มดงพญาดูมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะ...ไม่ต้องทรมานหัวใจเจอแต่เจ้าคุ้มน้ำแข็ง
กับเลขาเย็นชาเห็นแล้วพาเครียดชะมัด
อ๋อ..ยังมีอีกคนสามารถสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้รพินทร์ได้ไม่น้อย...กายันต์รูปงามขี้เล่น
เฮฮาตลอด...ถึงกับพยายามตักอาหารใส่จานรพินทร์ ดูน่าเกลียดพิกล..พี่แกเล่นตักผ่านหน้าธรรมตรัยเฉยเลย...
รู้สึกกระอักกระอ่วนไงไม่รู้บอกไม่ถูกเพราะเธอเป็นผู้ชาย...ไม่ชินกับการมีคนคอยเทคแคร์แบบนี้..หากไม่ติดภารกิจ
ที่ต้องรับผิดชอบ..เธอเองยังอยากบริการตักอาหารให้สิตาบ้างด้วยซ้ำ..ผู้หญิงอาไร..หวานได้น่าชิมดีจัง
อาหารคาวเสร็จสิ้นลง..ต่อไปเป็นผลไม้ตามมาติดๆ...ถึงได้รู้ว่าเวลานี้ต่างหากที่ทุกคน
เปิดปากคุยกัน..แสดงว่าคนที่นี่ไม่นิยมคุยตอนกินข้าว...เปิดประเด็นโดยเจ้าคุ้มน้ำแข็งคนเดิม...
“สารวัตรคมสันมาพบผมกี่โมง?” ชื่อของนายตำรวจสะดุดหูรพินทร์ขึ้นมาทันที
จนต้องเงื้อมหูฟังเนียนๆไม่ให้มีพิรุธ
“บ่ายสองครับคุณจา” เลขาเย็นชา เป็นคนตอบ
“อึม..สารวัตรมาถึง..เชิญที่ห้องหนังสือเลยนะ..ผมจะรอที่นั่น”
“ครับ” ธรรมตรัยตอบ....เย็นชาพิลึก
“คุณพ่อขา...เมื่อไหร่จะว่างพาหนูผาไปขี่ม้าอีก” เด็กหญิงอ้อนปาจาน่ารักน่าชังได้อีก..
พลอยให้รพินทร์เผลอยิ้มเอ็นดูไปด้วย
“ไว้วันเสาร์นะคะ...ช่วงนี้พ่อไม่ค่อยว่างเลยค่ะ” รพินทร์ตะลึงอึ้งไปหลายวิ...เผลอจ้องยิ้มหล่อ
กระชวกไส้เจ้าคุ้มน้ำแข็ง...แววตาอ่อนโยนโคดๆ ยามมองหนูผา...นี่ยังไม่รวมน้ำเสียงอบอุ่นทุ้มหูนั่นด้วย...
เหว้ย!..หล่อเอาเรื่องเลยวุ้ย!.
ไม่คิดว่าจะได้เห็นรอยยิ้มคนหน้านิ่ง...กลับเห็นง่ายๆซะงั้นยามเจ้าคุ้มน้ำแข็งพูดกับลูกสาวตัวน้อย...
ปรากฎการณ์ครั้งนี้คงต้องประเมินใหม่...เท่าที่รู้มาปาจาคือพ่อหม้ายเนื้อหอมที่สาวๆ ต่างหมายปอง...ไม่แปลกใจเลย
หากคุณเธอจะหลงเสน่ห์เข้าให้...เมื่อมาเห็นมุมนี้ของเจ้าคุ้มปาจา...
ถึงกับสิตาจ้องตาค้างจิตหลุดไปแล้ว...หึ!..ฟีโรโมนฟุ้งกระจายกลบรัศมีคนที่เหลือ
นอนตายกันเป็นแถว....นายแน่มากปาจา
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
“เอางี้ไหมพี่จา...ผมพาหนูผาไปขี่ม้าเอง...จะได้พาคุณรพินทร์สำรวจคุ้มเราด้วยเลย”
กายันต์เสนอขึ้นมา...หนูน้อยหันไปจ้องหน้าอาสุดหล่อดีใจสุดๆ ก่อนจะตะกายลงจากเก้าอี้ วิ่งอ้อมโต๊ะโผล่เข้าสู่อ้อมแขน
ของกายันต์ที่อ้าแขนรับหลานสาวเอาไว้..ต่างหัวเราะคิกคักชอบใจกันใหญ่...รพินทร์เองก็คิดว่าดีเหมือนกัน..จะได้ถือโอกาส
สำรวจอาณาบริเวณด้วยเลย..
“คิคิคิ..อายันต์ใจดีจังเลย...หนูผาจะได้ขี่ม้าแล้ว เมื่อวานกำลังสนุกอยู่เชียวคุณพ่อก็พากลับ
เสียก่อน..วันนี้อายันต์พาหนูผาไปขี่ต่อนะคะ” หนูน้อยอ้อนได้น่ารักน่าชัง..อารูปหล่อหอมแก้มหลานรักสลับซ้ายขวา
อย่างเอ็นดู..เป็นภาพที่อบอุ่นมาก...ผู้ชายตัวโตๆ กอดรัดฟัดเด็กหญิงตัวน้อยแก้มยุ้ยในอ้อมแขน
“แกแน่ใจ....งั้นฉันฝากหนูผาด้วยหละ” เจ้าคุ้มน้ำแข็งพูดเสร็จ..หันมาจ้องหน้ารพินทร์นิ่งๆ...
เกี่ยวไรกะกูหวะเนี่ยะ..หาเรื่องชวนคุยแม่งเลยมองดีนัก
“โทษทีคุณจา..ชื่อคุณมีความหมายไหม?..ฉันอยากรู้” แอบสงสัยแหละคนห่าไรชื่อปาจา..
ใครช่างกล้าตั้งให้..
“ถ้าแค่อยากรู้...ผมไม่จำเป็นต้องตอบ?” สั้นๆ ห้วนๆกวนตีนโคด...รพินทร์หาได้แคร์
กวนมาก็กวนกลับ...หึ..มันส์พิลึก..หยอกคนหน้านิ่งซะหน่อย
“คุณไม่ตอบ..หรือไม่รู้ความหมายกันแน่ค่ะ” เป็นไง..เรื่องกวนประสาทรู้จักรพินทร์น้อยไป...
ถามดีดีเสือกกวนมาก่อน...เจอกันหน่อยคุณชายจา
“คงงั้นมั้ง...ผมไม่รู้” หน้านิ่งได้อีก..หมั่นไส้หวะ!
“เหรอ..คุณไม่รู้ความหมายชื่อตัวเอง...งั้นฉันเดาเอาแล้วกัน..ชื่อคุณปาจา..คงหมายถึง
คนที่ชอบใช้วาจาปาหัวชาวบ้านประมาณนี้มั้ง..ปาคือกริยาที่ขว้างออกไป..คำว่าจาคงย่อมาจากวาจา...ที่หลังคุณควรระวังคำพูด
จะไปโดนหัวใครสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าหละ..คนที่ตั้งชื่อนี้คงมีเจตนาให้คุณระวังคำพูดมั้งค่ะ” รพินทร์ตีหน้าซื่อ
กายันต์กลั้นขำจนหูแดงหน้าแดง..ไม่มีใครกล้าท้าทายพี่ชายเค้ามาก่อน...สาวทอมหน้าหล่อเหยียบจมูกเสือ
เป็นคนแรกเลยนะนั่น...ส่วนคนทีเหลือสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก..ไม่คิดว่ารพินทร์จะแรงได้เพียงนี้...
ส่วนเจ้าของชื่อจ้องเธอยังกะจะให้เละไปซะงั้น..รพินทร์หาได้สน..ในที่สุดเจ้าคุ้มน้ำแข็งก็พูดขึ้นอีกว่า
“ตามใจคุณสิ...ถ้าจะตีความแบบนั้น..ผมชิวๆ..คุณอยากจะแปลยังไงก็เชิญ...สำคัญตัวคุณเถอะ..
คำพูดอย่าไปสะดุดใครเค้าเข้าหละ” เธอยิ้มกว้าง..เมื่อเห็นพายุอารมณ์ของเจ้าคุ้มน้ำแข็ง..ที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากนี้...
ที่แท้ก็เลือดร้อนเหมือนกันหรือนี่...นึกว่าจะเย็นเป็นน้ำแข็งอย่างเดียว...แบบนี้ชักสนุกที่ได้ยั่วโมโหคนขี้เก็ก..เธอเลยสวนไปว่า
“เรื่องนั้นไม่ต้องให้คุณจาเตือนหรอกค่ะ...ฉันพูดสะดุดตีนคนเป็นประจำ...ส่วนใหญ่คนพวกนั้น
หงายหงึบมาแล้วทุกราย...ฮ่าๆๆๆๆ” พูดจบหัวเราะตบท้ายกวนโอยสุดๆ...เรียกเสียงหัวเราะหลุดขำของกายันต์เข้าจนได้..
ไม่คิดว่ายัยทอมตัวร้ายจะกล้าต่อปากต่อคำพี่ชายของเค้าได้แสบปานนี้
“พรืดดดด...ฮ่าๆๆๆ...คุณรพินทร์ตลกชะมัด” กายันต์หัวเราะเป็นลูกคู่ซะงั้น
เรียกเลือดขึ้นหน้าเจ้าคุ้มจนได้...หน้าแดงหูแดงแล้วนั่น...มีอย่างที่ไหนสองคนกับน้องชายเห็นเป็นเรื่องตลกซะงั้น...
ตาคมดุจ้องรพินทร์ยังกะจะทะลุ...คิดถูกคิดผิดหวะนี่..ดันไปแหย่หนวดเสือเข้า..
ไม่เพราะหมั่นไส้มาดขี้เก็กเธอคงไม่ทำ...แต่จะว่าไม่ได้...นิสัยเดิมของพระลักษมณ์ก็กวนอยู่แล้วยอมซะที่ไหน...
ยิ่งสวมบททอมบอยด้วยแล้ว..ออกจะเป็นตัวเองไม่น้อย..เผลอออกลายซะงั้น
“ผมอิ่มแล้ว...ขอตัวก่อน..อ๋อ!..มีอยู่เรื่องผมอยากเตือนคุณรพินทร์ไว้หน่อย....
ม้าที่นี่ขี่ยากนะครับ...ไม่เจ๋งจริงอย่าเสี่ยงเด็ดขาด..พยศขึ้นมาอาจเจ็บตัวฟรี...เพราะม้าที่นี่มันไม่สนคนขี่จะเป็นหญิงหรือชาย...
ยิ่งคุณรพินทร์ด้วยแล้ว...ม้ามันระบุเพศลำบากคงแย่เข้าไปใหญ่..ฝากเตือนแค่นี้แหละ” พูดจบลุกออกจากโต๊ะไปทันที...
ทิ้งระเบิดให้รพินทร์เป็นฝ่ายหน้าร้อนซะงั้น...เรียกเสียงหัวเราะของกายันต์ถึงกับกุมท้องขำน้ำตาเล็ด...
ไม่คิดว่าพี่จาจะว่าแดกเป็นกับเค้าด้วย....เห็นรพินทร์เม้มปากหน้าแดงก่ำ พาลพูดแหย่ไม่ได้
“คุณรพินทร์อย่าใส่ใจคำพูดพี่จาเลยครับ...คุณพูดเองไม่ใช่หรือ..ชื่อพี่จาแปลว่า..
คำพูดปาหัวคนอยู่แหม่บๆ...เป็นไงหละตรงเผ็งเลยเนอะ...ฮ่าๆๆๆๆๆ...ก๊ากกกก” ไอ้บ้า!..กายันต์...
รพินทร์ได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันทำอะไรไม่ได้....ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้น้ำแข็ง..ต้องได้เอาคืนแน่...
นมอ่อนได้แต่อมยิ้มส่ายหน้า..ไม่เคยเห็นปาจาออกอาการแบบนี้มาก่อน...ก่อนจะลุก
ตามไปอีกคน...สิตานั่งหน้าเจื่อนเหมือนจะเห็นใจรพินทร์นิดๆ...ส่วนนายเลขาเย็นชาตาเหยี่ยวยกยิ้มมุมปากเยาะเย้ยซะงั้น...
ก่อนจะค่อยลุกตามกันไปติดๆ เหลือแค่รพินทร์ หนูผา..และกายันต์ยังไม่หยุดหัวเราะอีก..จนเธอนึกอยากถีบให้ตกเก้าอี้สักที...
หงุดหงิดพิลึก..หัวเราะอยู่ได้...ไอ้บ้า..!!!!!!
หมายเหตุ: ปาจา มาจากรากศัพท์คำว่า ปารมาจารย์ หรือ ปาจารย์
แปลว่า อาจารย์ของอาจารย์อีกที คือผู้ทรงภูมิความรู้อาวุโส
ใช่ป่าวหว่า? ฟังเค้ามาอีกทีอ่า...ไม่ใช่อย่าว่ากัน...คึคึคึ!!!
ขอให้มีความสุขกับการอ่านนะค่ะ
อย่าลืมกำลังใจโพสรีไพฯ ให้ด้วยนะค่ะ
เป็นไปได้ ร่วมจับคู่ให้รพินทร์..หรือพระลักษมณ์หน่อย
ว่าอยากให้นายเอกของเราคู่กับใคร...ลองแนะนำกันเข้ามาดูดิ
Luk.
ปล. ขอบคุณพี่แก้ว Yayee2 คุณ ณยฎา และคุณ Mazie
ที่ช่วยแก้ไขคำผิดให้....กดบวก + ให้คนละ 1 บวกแทนการขอบคุณค่ะ
-
ฮะๆๆๆ
ชอบความหมายของชื่อปาจาจังเลยอ่า
แปลตรงด้วยล่ะสิเนี่ย~!!
-
ลึกลับจัง
-
ฮ่าๆๆๆๆ!!!!....กร๊ากกก!!!...ขำโคดดดด!
ชื่อนี้สงวนลิขสิทธิ์ป่าวเนี่ยะ!
ขอยืมไปตั้งให้ลูกได้ป่ะ!...โดนมากๆๆ...
ความหมายตลดมากมาย....คิดได้ไงคร๊าบบบบ.....
คำพูดปาหัวคน...'ปาจา'...กร๊ากกกกๆๆๆ
-
ต้อนรับวันแม่ เย้ๆ
ปาจา วาจาเชือดคน
555 ชอบค๊า เอาคืนให้ได้น๊า
ปลปล.รักคนแต่ง จุ๊ฟๆ
:L2: :L2: :L2:
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
คุณเลขา น่าสงสัยเนอะ
-
:m20: :m20: :m20: ชื่อความหมายตรงตัวมากกก
-
:laugh: :laugh: :laugh:
ชื่อตรงตัวดีจัง
:L2: :L2:
-
:m20:รพินทร์เหมาะกับการละลายน้ำแข็งที่สุดแล้ว..
-
แหม ๆ ให้เลือกพระเอก ไม่รู้จะเลือกใครดีเลยอ่ะ :m17:
-
:m20: :m20: :m20: :m20:
-
เพิ่งได้ติดตามค่ะ
สนุกและแปลกดี
มาเป็นกำลังใจให้นะคะ
-
ปะทะคารมกันมันจริงๆ แล้วปาจาแปลว่าอะไรคะอยากรู้เหมือนกัน
ปล.ขอให้รพินทร์คู่กับปาจาค่ะสมน้ำสมเนื้อดีแท้
-
ลุ้นกันต่อไป ขอบคุณคะ :กอด1:
-
ตีความหมายชื่อได้สุดยอดมากกกกกกกกก ฮ่่า ฮ่า ฮ่า :jul3: :jul3: :jul3:
-
คิดได้เนอะเลยโดนย้อบตามที่พูดเล่นซะจุกเลยอิอิ เอ๋อยากให้นายเอกคู่กับพี่จาอ่ะ กัดกันสนุกดี
-
น้องลักษมณ์ทำน้ำแข็งเดือดซะแล้ว ไร่นี้น่าสนุกขึ้นมากๆ เลย 55555
-
แสบดีแท้
-
มันส์!!!!!!!!!!
คิคิ
+1 ให้ค่ะ
อตนนี้แอบฮาอ่ะ
-
อ่านไปเราติดเสียแล้ว หนุกสุดๆเลยจ้า ถ้าให้เดาจากชื่อเรื่องนะ อยากรู้ว่าเดาถูกหรือป่าว ตัวจริงของฆาตกรคือปาจาหรือป่าว :call:
มาต่อหน่อยนะค่ะ
-
ขอแปลก แหวกแนวจากคนอื่นๆ หน่อยนะ คุณนักเขียน
อยากให้ พระลักษมณ์ <3 กายันต์
:impress2:
-
กำลังตื่นเต้น
-
ว้าววววว
คงได้ฉะกันสนุกแน่ๆ
พระเอกคงหนีปาจาไปไม่พ้นแหงๆ
-
:laugh: :laugh:
-
กายันต์สู้ๆ ลุยเต็มที่ จัดการ รพินทร์ เลย
-
มนต์มาร
Part 5
เปลวไฟในน้ำแข็ง...
.
.
.
รพินทร์เปลี่ยนชุดขี้ม้า...สวมกางเกงยีนส์เชิ้ตแขนยาวลายสก็อต...สวมหมวกคาวบอย....
รองเท้าบูธสีน้ำตาลเข้ม พร้อมออกไปขี้ม้ากับกายันต์และหนูผา...ไม่ต้องแปลกใจว่ารองเท้ากับหมวกได้แต่ใดมา...
ก็จากห้องเก็บอุปกรณ์ในบ้านนี้...กายันต์พาไปเลือกเอาตามใจชอบ..มีตั้งแต่ไซค์ S M L ยังกะคลังสะสมเชียวหละ...
แสดงว่าคนที่นี้ชอบขี่ม้า...หึหึหึ!..แต่รพินทร์ชอบควบม้ามากกว่า....ฮ่าๆๆๆๆๆ...กร๊ากกกๆๆ
“พร้อมยังครับรพินทร์” กายันต์เรียกซะสนิท รพินทร์ไม่ถือหรอกดีเสียอีกดูคุ้นเคยดี
หนูผาตัวน้อยกระตุกแขนยิกๆ อยากไปเต็มแก่แล้วนั่น
“อ่ะ..เรียบร้อยไปกันเถอะ” รพินทร์ตอบ พร้อมเดินนำไปยังมุกเรือนไทย...รถตำรวจ
วิ่งเข้ามาจอดพอดี..ก่อนที่นายตำรวจหนุ่มหน้าคมเข้ม จะเปิดประตูออกมาพร้อมกับตำรวจวัยกลางคน
“สวัสดีครับคุณกายันต์ หวัดดีค่ะหนูผา” นายตำรวจเอ่ยทักทายกายันต์กับหนูผาทันที
ส่วนรพินทร์เพียงแต่ส่งยิ้มให้ เพราะยังไม่แน่ใจว่าทอมหล่อคนนี้คือใคร
“หวัดดีครับสารวัตร จ่ายอด..” กายันต์ทักทายกลับ
“ผมมีนัดกับคุณจานะครับ” สารวัตรรูปหล่อบอกจุดประสงค์
“พี่จารออยู่แล้วมั้งครับ สักครู่ธรรมตรัยคงมาพาสารวัตรไปพบ...หนูผาไหว้คุณอาคมสัน
กับลุงจ่าก่อนสิค่ะ” กายันต์บอกหลานสาวตัวน้อยยกมือไหว้สารวัตรคมสัน กับจ่ายอด
“สวัสดีค่ะคุณอา คุณลุง” หนูผาก็ว่าง่าย ยกมือไหว้ได้น่ารักน่าชัง สารวัตรกับจ่ายอดยิ้มอบอุ่น
ให้เด็กหญิงกลับเช่นกัน
“ผมขอแนะนำคุณรพินทร์สมาชิกใหม่ของคุ้ม..คุณรพินทร์...นี่สารวัตรคมสันกับจ่ายอดเจ้าหน้าที่
ดูแลพื้นที่ในอำเภอดงพญาครับ” กายันต์แนะนำรพินทร์ ก่อนสารวัตรจะพูดขึ้นว่า
“ยินดีรู้จักคุณรพินทร์ มีอะไรเรียกใช้ผมได้ จะไปขี่ม้าใช่ไหมครับ?”
“ค่ะ...เรากำลังจะไปขี่ม้า สารวัตรสนใจไหมคะ?” รพินทร์เอ่ยปากชวนตามมารยาท
“วันนี้คงไม่สะดวก ไว้โอกาสหน้าต้องรบกวนคุณรพินทร์พาผมสำรวจคุ้มดงพญาแน่ๆ”
“คงลำบากดิฉันไม่รู้จักเส้นทางสักเท่าไหร่..ถ้าสารวัตรไม่กลัวหลงก็ยินดีค่ะ...ฮ่าๆๆๆๆ”
รพินทร์ติดพูดเล่นเป็นนิสัย อารมณ์สนุกของเธอ ทำให้สารวัตรหนุ่มพลอยขำไปด้วย ก่อนเสียงทุ้มเย็นจะขัดจังหวะทุกคนขึ้น
“เชิญสารวัตรครับ...คุณจากำลังรออยู่” เลขาเย็นชาตาดุจเหยี่ยว เอ่ยปากตัดบทสนทนาที่กำลัง
ออกรสชาติอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ไม่รู้ด้วยซ้ำเข้ามาตอนไหน ทำให้สารวัตรหนุ่มยิ้มเจื่อนให้กายันต์และรพินทร์ ก่อนจะเดินตาม
ธรรมตรัยเข้าไปในบ้านพร้อมกับจ่ายอด
ภายในห้องสมุดของเรือนไทย...เจ้าคุ้มหนุ่มหล่อนั่งหลังโต๊ะทำงาน โดยมีสารวัตรคมสันกับ
จ่ายอดนั่งตรงกันข้าม หลังจากคนรับใช้เอาน้ำมาบริการเสร็จกลับออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สารวัตรคมสันเริ่มบทสนทนา
ทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลา
“คุณจา..พอมีเบาะแสเพิ่มไหมครับ?” สารวัตรหนุ่มไฟแรงรับผิดชอบคดีฆาตกรรมปริศนา..
ซึ่งยังตามจับคนร้ายไม่ได้...หกศพกับระยะเวลาหกเดือน...หยามเกียรติผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ยิ่งนัก เอ่ยปากขึ้นสอบถาม
เจ้าคุ้มสุดหล่อมาดนิ่ง...โดยมีจ่ายอดเตรียมบันทึกข้อมูล
“ผมไม่มีข้อมูลอะไรให้สารวัตรหรอกครับ...ความจริงผมหวังพึ่งเจ้าหน้าที่ช่วยสะสางคดีนี้โดยเร็ว
มันมีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจคนงานของผมเป็นอย่างมาก ถ้ายังจับตัวคนร้ายไม่ได้..คุ้มผมเสียหายไม่น้อยเลยนะครับ...
แทนที่สารวัตรจะเอาเวลามาตั้งคำถามเดิมๆ...ผมควรถามสารวัตรมากกว่า..ทางตำรวจมีความคืบหน้าเรื่องคดีไปถึงไหนแล้ว?”
สารวัตรหนุ่มสะอึกกับคำย้อนของปาจาผู้ชายที่เจอกี่ครั้ง ก็คงนิ่งเข้มชวนให้อึดอัดพิกล...ไหนจะคำพูด
แดกดันที่เจ้าตัวช่างถนัดเหน็บแหนมอีกตะหาก...
“ความจริงทางเราพยายามอย่างเต็มที่ แต่ยังหาร่องรอยหลักฐานคนร้ายไม่ได้เลย ผมคงต้องขอ
ความร่วมมือคุณจา คงไม่ว่าอะไรนะครับ ถ้าผมจะขออนุญาตเข้าออกคุ้มดงพญาโดยไม่ต้องผ่านพิธีการเหมือนเคย...
เพื่อคอยตรวจตราดูความผิดปกติต่างๆ อาจเจอข้อมูลล่าตัวคนร้ายได้เร็วขึ้น” สารวัตรหนุ่มถือโอกาสรวบรัด
อาศัยประเด็นปัญหาเป็นข้ออ้างที่จะสามารถเข้าออกคุ้มดงพญาได้สะดวกยิ่งขึ้น ดีกว่าต้องนัดหมายอย่างเป็นทางการ
ซะทุกครั้ง เจ้าคุ้มหนุ่มสบตาสารวัตรนิ่ง ก่อนยกยิ้มมุมปากแล้วพูดขึ้นมาว่า
“หึ...ถ้าสารวัตรคิดว่ามันเป็นหนทางที่ช่วยให้จับคนร้ายได้เร็วขึ้น ผมก็ไม่มีปัญหา..เชิญตามสะดวก...
คุ้มดงพญายินดีต้อนรับ...คุณมีอะไรอีกไหม...ถ้าหมดธุระแล้วผมคงต้องขอตัว” เป็นการเอ่ยปากไล่อย่างมีมารยาท
สารวัตรหนุ่มก็คร้านจะดื้อดึงต่อ..อย่างน้อยก็บรรลุวัตถุประสงค์สามารถเข้าออกคุ้มได้สะดวก ถือว่ามาไม่เสียเที่ยว...
“งั้นผมขอตัวกลับเลยแล้วกัน...ไว้พบกันใหม่ลาหละครับ” สารวัตรหนุ่มพร้อมจ่ายอด
พากันกลับออกจากคุ้มดงพญา....
เจ้าคุ้มปาจามองออกหน้าต่างไปไกลถึงยอดเขาที่เห็นอยู่ลิบๆ...ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่....แววตาสงบนิ่ง
ดุจห้วงสมุทร...ใบหน้าคมเข้ม...จมูกโด่งเป็นสัน ปากหนาได้รูปรับกับโครงหน้าคมสันได้อย่างลงตัว...ใครต่อใครคงนึกอิจฉา...
ถ้าไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง...ว่าชายผู้นี้ช่างสมบูรณ์แบบเสียจริงๆ...รูปหล่อ...รวยทรัพย์..ดีกรีด๊อกเตอร์จากอังกฤษ
พ่อหม้ายเนื้อหอม...แต่ใครจะรู้ดีเท่ากับตัวเค้าเล่า
ภายใต้เกราะน้ำแข็งแฝงเชื้อไฟอยู่...ซึ่งรอคอยการจุดประกายจากใครสักคนเพื่อมาละลาย
เกราะน้ำแข็งนี้...หลังจากใจดวงนี้ปิดตายมากว่า 7 ปี ใครจะเป็นผู้ละลายเกราะน้ำแข็งหัวใจปาจาได้...ต้องคอยดูต่อไป
ในขณะอีกมุมหนึ่งของบ้าน เสียงหัวเราะสนุกสนานอย่างมีชีวิตชีวาของทอมบอยหน้าหล่อ
กับหนุ่มหล่อตัวโต พร้อมเด็กหญิงตัวน้อยหน้าชื้นไปด้วยเหงื่อ....พากันหัวเราะร่าอย่างมีความสุข...
“ฮ่ะ..ฮ่ะ..ๆๆๆ....สนุกมากมาย...โอ้ย!...ผมไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้วเนี่ยะคุณยันต์..”
รพินทร์ กายัตน์ หนูผา เดินขึ้นเรือนด้วยเหงื่อชุ่มตัวหน้าแดงก่ำ..หลังพากันไปตลุยขี้ม้าชมอาณาบริเวณของคุ้มดงพญา
“รพินทร์แมนโคด..คุณแทนตัวว่าผม...ไม่ใช้ค่ะแล้วหรือครับ..ลืมตัวละสิ...ถึงไงผมก็ไม่เลิกคิด
จะจีบคุณอยู่ดี” กายันต์ทัก..พร้อมยิ้มขำที่รพินทร์กร่างยังกะผู้ชาย..เรียกแทนตัวว่า ‘ผม’ ได้เต็มปากเต็มคำ...ในขณะที่
รพินทร์หน้าเจื่อน เมื่อสำนึกได้ถึงความละหลวมของตนเอง...เพลินจนลืมตัวเพราะการไปขี่ม้าในครั้งนี้ นอกจากจะได้
ข้อมูลไม่น้อย ยังสนุกได้เหงื่ออีกตากหาก...ทำให้พลั้งเผลอโดยไม่ตั้งใจ
“เหรอ...สงสัยลืมตัวไปหน่อย...ความจริงแล้วฉันคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายด้วยซ้ำเลยติดปาก...
ขอโทษด้วยจริงๆ คุณกายันต์” กายันต์ยิ้มขำ..กับท่าทางประหม่าของรพินทร์ ตัวตนของรพินทร์ไม่ได้ทำให้กายันต์
แปลกใจสักนิด..กลับมองว่ามันเป็นเสน่ห์แถมท้าทายอีกตะหาก...เห็นฝีมือการขี่ม้าของรพินทร์วันนี้..คงต้องยกนิ้วโป้งให้...
ไม่อยากเชื่อทอมบอยรูปร่างสูงโปร่ง...แม้จะดูกระฉับกระเฉงเกินปกติ...แต่ก็ไม่น่าว่าจะมีความคล่องตัวและท่วงท่าสง่างาม
ยามควบม้ายังกะบุรุษเพศ...ที่แน่ๆ ผู้ชายบางคนยังขี่ม้าไม่สง่างามเท่ารพินทร์เลยก็ว่าได้...นี่ต่างหากที่กายันต์ประทับใจ...
“โธ่!..คิดมากน่า...จะขอโทษผมทำไม..คุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย..ที่สำคัญผมสนที่ไหน..
ไม่ว่าคุณจะแทนตัวยังไง..ผมว่าดูเข้ากับคุณได้อย่างเป็นธรรมชาติเสียด้วยซ้ำ..อยู่กับผมสบายๆ...แต่กับพี่จาไม่รู้นะ..
ขานั้นสมชายจรดปลายเท้า...คุณควรระวังหน่อยก็ดี...ฮ่าๆๆๆๆ” รพินทร์ค่อยรู้สึกโล่งใจ คราวหน้าคราวหลัง
คงต้องระวังให้มากขึ้น นี่ดีนะที่กายันต์ไม่คิดเล็กคิดน้อย...แต่ถ้าเป็นเจ้าคุ้มน้ำแข็งคงได้หาข้อแก้ตัวพัลวัน
หลังจากแยกย้ายกันไปอาบน้ำ...เพื่อเตรียมตัวทานมื้อเย็นตอนหกโมง...รพินทร์ก็กลับเข้าห้องล๊อคประตู
แน่นหนาเรียบร้อย..รีบเอาโน๊ตบุ๊คออกมาเปิดคุยกับหัวหน้าทันที...รอไม่นานหัวหน้าออนกลับมา
“ว่าไง...ไอ้ตัวแสบ.” หัวหน้าทักหลังจากรพินทร์ แสดงความต้องการจะคุยส่งไปให้
“หัวหน้า...ผมมีเรื่องรบกวนให้ช่วยหน่อย” ไม่เสียเวลาเข้าประเด็นทันที
“เรื่องอะไร..ไหนว่ามาสิ” หัวหน้าถาม
“สืบประวัติของคุณปาจา..และทุกคนอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกทีได้ไหมครับ...คือผมต้องการรู้เรื่อง
ภรรยาคุณจาด้วย..รวมถึงคนที่นี้ตั้งแต่รุ่นพ่อเลยครับ” รพินทร์ หรือพระลักษมณ์ แจ้งความจำนงค์ให้หัวหน้าทราบทันที
“ความจริงฉันได้ส่งรายละเอียดให้แกไปศึกษาดู..ก่อนเตรียมตัวเข้ามาที่นี่แล้วนี่หนา....
แกยังไม่เข้าใจอีกหรือเจ้าลักษมณ์..” หัวหน้าทบทวนความจำพระลักษมณ์อีกครั้ง
“ฟังนะพ่อ...ที่ให้ผมมานะผมรู้หมดแล้ว แต่มันยังไม่โอเคไง...ข้อมูลขาดหายไปหลายอย่าง
ผมว่ามันเป็นเงื่อนปมที่มีประโยชน์...เช่นภรรยาของคุณจาแม่ของหนูจันทร์ผานั่นไง...ไม่รู้เป็นใคร เรารู้แค่คุณจา
เป็นพ่อหม้ายลูกติด...แล้วภรรยาเค้าไปไหน....ทำไมไม่มีประวัติ...ผมต้องการด่วน...ยังมีเรื่องของอาไพรภพพ่อของรพินทร์อีก..
เพราะอะไรถึงออกจากบ้านโดยไม่ยอมติดต่อใครอีกเลย...จนกระทั้งเสียชีวิตอยู่ที่อังกฤษคนทางนี้ก็ยังไม่มีใครทราบ..
พวกเค้าไม่ได้ติดต่อกันถึงกับว่าคนในคุ้มไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่า รพินทร์ตัวจริง..เสียชีวิตไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อน..
ที่สำคัญเธอไม่ได้เป็นทอม....ไม่งั้นแผนที่ให้ผมสวมรอยจะผ่านฉลุยหรือครับ...หน่วยเราใช้ช่องว่างที่พวกเค้าไม่เคยรู้
มาเลยตะหาก..อาศัยเปลี่ยนแปลงข้อมูลแล้วส่งตัวผมมารับงานนี้....โดยไม่มีใครระแคะระคายมาก่อน...
ยังไงก็ตาม...ผมว่ามันมีเงื่อนงำเกี่ยวข้องภรรยาคุณจา...หรือแม้แต่ความซับซ้อนรุ่นพ่อแม่แล้วด้วย....
ถ้าผมคิดไม่ผิด...พ่อทำยังไงก็ได้ผมต้องการข้อมูลอย่างละเอียด..ให้หน่วยข่าวกรองของเราหามาให้ผมด่วน...
ตกลงตามนี้นะพ่อ..ผมต้องรีบเตรียมตัวไปทานมื้อเย็นแล้ว...ที่นี้แม่งทุกอย่างเป็นระเบียบมาก...ผิดเวลาไม่ได้ด้วยโอเคนะพ่อ”
พระลักษมณ์ตัดจบทันที
“เดี๋ยว!...เจ้าลักษมณ์...ดูแลตัวเองให้ดี..” คำสั่งสุดท้ายจากหัวหน้าพ่อของพระลักษมณ์เรียกรอยยิ้ม
บนหน้าหล่อใสทันที..พ่อเค้ายังไงก็รักและเป็นห่วงเสมอหลายต่อหลายครั้งที่พ่อพยายามไม่ให้เค้ารับงานสุ่มเสี่ยง...
งานนี้ก็เหมือนกัน..ไม่ติดว่าหน้าตารูปร่างของเค้าสามารถตบตาคนอื่นได้...คงไม่ได้งานนี้มาหรอก....หึหึหึ!!!!
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
บนโต๊ะอาหารเย็น...ทุกคนพร้อมหน้า..พระลักษมณ์ในคราบของรพินทร์ไม่ได้มาช้า..เค้าไม่ต้องอาศัยใคร
นำทางเพราะจำได้แล้ว...ขณะนี้ทุกคนทานอาหารโดยไม่พูดไม่จาเหมือนเคย..ต้องรอช่วงของว่าง..
หลังอาหารคาวแล้วนั่นแหละ..
และก็จริงอย่างที่คิด..เมื่อผ่านอาหารคาวไปผลไม้ตามมา...หนูผาเปิดบทสนทนาขึ้นมาทันที
“ คุณพ่อขา...พรุ่งนี้ครูรัสสาจะมาสอนพิเศษหนูเหมือนเคยใช้ไหมค่ะ?” อ้อ!..หนูผาเรียนหนังสือ
อยู่ภายในบ้าน เนื่องจากเป็นภูมิแพ้ทำให้ปาจาไม่ยอมส่งลูกไปเรียนเหมือนเด็กปกติ..โดยการจ้างครูมาสอนที่บ้านแทน
“อืม...พรุ่งนี้สิบโมงเป็นต้นไปหนูต้องเรียนกับคุณครูห้ามดื้อนะค่ะ” รพินทร์นึกแปลกใจจริง..
ปาจาจะพูดนุ่มไพเราะ..ก็ต่อเมื่อคุยกับลูกสาวตัวน้อยเท่านั้น น่าตาท่าทางก็เปลี่ยนเป็นคนละคน..ไม่ปั้นหน้านิ่งเหมือนเคย..
“แต่หนูผาอยากไปขี่ม้าอีกนี่ค่ะ...คุณพ่อให้คุณครูสอนแค่ตอนเช้าส่วนช่วงบ่ายให้หนูผาไปขี่ม้า
ได้ไหมค่ะ?” หนูน้อยต่อรอง...กายันต์หัวเราะร่าก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ฮ่าๆๆๆ..ไม่ได้แล้วค่ะคนสวย..พรุ่งนี้อายันต์ไม่ว่างพาหนูไปขี่ม้า...หนูต้องเป็นเด็กดีตั้งใจเรียน
แล้วอายันต์จะพาไปวันหลังดีไหมค่ะ” รพินทร์อมยิ้มกับท่าทางเล่นเอาเถิดหลอกล่อเด็กของกายันต์ ดูไม่รู้จักโตจริงๆ
“อายันต์ไม่พาไป...หนูผาให้อารพินทร์พาไปก็ได้” จู่ๆ รพินทร์กลับมีส่วนร่วมในหัวข้อสนทนาขึ้นมา
ดื้อๆซะงั้น..ทำให้สิตา....นมอ่อน...และธรรมตรัยคนตายังกะเหยี่ยวต่างมองมายังเธอทันที
“ไม่ได้นะคะ...พรุ่งนี้อายันต์มีนัดกับอารพินทร์แล้ว...จะพาหนูผาไปขี่ม้าได้ไงจริงไหม?” กายันต์พยักพเยิด
ให้รพินทร์รับมุก ที่เจ้าตัวส่งมาให้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย..ทำให้รพินทร์ต้องยกนิ้วชี้เข้าหาตนเอง...ส่วนคนต้นคิดก็ยักหน้าให้กลายๆ
“อ่า...จริงด้วย..อารพินทร์นัดกับอายันต์...นัด...เรานัดไปทำไรหว่าคุณยันต์” คิดไรไม่ออกก็โยนกลับมาให้
กายันต์สานต่อทันที....ปาจาหรี่ตาจ้องรพินทร์นิ่งๆ..เธอหาได้สนใจกลับยักไหล่ส่งไปแบบไม่ยี่หร่า..เล่นเอาเจ้าคุ้มน้ำแข็งถึงกับ
เม้มปากกับท่าทางกร่างเกินหญิงของรพินทร์
“ก็นัดไปดูไร่ไง..แหมรพินทร์นี่ความจำสั้นเนอะ...แป๊ปๆ ก็ลืมแล้ว” กายันต์พูดอมยิ้ม...รพินทร์จำต้อง
ยักหน้ารับหงึกงักตามน้ำ....หนูผาพองแก้มเหมือนขัดใจก่อนจะพูดขึ้นมาอีกว่า
“ชิ...อายันต์นิสัยไม่ดี...มาเอาอารพินทร์ของหนูผาไปได้ไง...ทีหลังจะพาอารพินทร์ไปไหน..
ต้องขออนุญาตหนูผาก่อนเข้าใจไหมค่ะ.” หนูน้อยออกอาการหวงรพินทร์แบบไม่ถามความคิดเห็น...รพินทร์งงเต็ก
แม้วันนี้เธอจะคอยดูแลอำนวยความสะดวกตอนขี่ม้าให้กับหนูผาตลอดเวลาก็ตาม...ไม่คิดว่าหนูน้อยจะเหมาเอาเธอ
เป็นสมบัติส่วนตัวหน้าตาเฉย
“โอ้ย!..อะไรเนี่ยะหนูผา...ไหงกลายเป็นงี้ไปได้..อายันต์เลยกลายเป็นหมาหัวเน่าเลยใช่ไหม?...
งอนแล้วนะคะ..พอมีอารพินทร์ไม่เห็นหัวอายันต์ซะงั้น” กายันต์ทำแก้มป่องได้ทะเล้นพิลึก...
ก่อนจะแกล้งตัดพ้อหนูผาได้หน้าถีบชะมัด
“ก็อารพินทร์ขี่ม้าเก่งออก...เก่งแล้วก็เท่ด้วย..หนูผาอยากให้อารพินทร์สอนขี่ม้า..ไม่ได้บอกสักหน่อย
ว่าไม่สนใจอายันต์” พอเด็กสาวพูดแบบนั้น ปาจาเลิกคิ้วสูงอดแปลกใจไม่น้อย..ลูกสาวของเค้าน้อยครั้งที่จะเยินยอใคร
ออกนอกหน้า แสดงว่ารพินทร์ต้องขี่ม้าได้ประทับใจหนูผาจริงๆ ถึงกล้าพูดขนาดนี้
“เพิ่งรู้ว่าคุณขี่ม้าได้ดี...วันหลังคงต้องชมเป็นขวัญตาบ้างแล้วหละ” ในที่สุดก็อดพูดไม่ได้...รพินทร์ก็สวน
กลับทันควัน...ไม่รู้เป็นไง..กลับปาจารพินทร์คันปากพิลึก..คงเพราะไม่ถูกชะตากับท่าทางเก็กเข้มของเจ้าตัวเป็นทุนเดิมละมั้ง
ทั้งที่บทจะอ่อนโยนก็แสนจะดูดี..ทำไมถึงชอบดึงหน้าเป็นนิสัย..
“ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ...ความจริงฉันถนัดขี่คนมากกว่า...ส่วนม้าก็พอขี่ได้..โชคดีที่ม้าตัวที่ขี่มันไม่แบ่งเพศ
เลยไม่พยศ...รอดตัวอย่างหวุดหวิด” รพินทร์พูดจบ กายันต์กลั้นขำหน้าดำหน้าแดง ส่วนปาจาหน้าตึงทันที
ยังพอจำได้ที่เธอถูกประชดว่าระวังม้าพยศ..เพราะม้าที่นี้ไม่ค่อยชอบพวกที่บ่งบอกเพศไม่ชัดเจน..ถึงเวลา
ได้เอาคืนบ้างสะใจชะมัด คนที่เหลือปากอ้าตาค้างกันเป็นแถวหลังฟังรพินทร์ตอกกลับปาจา...ซึ่งไม่เคยมีใครกล้ามาก่อน
“หึ...ไม่เลว...คุณอาจจะถนัดขี่คนโดยที่ยังไม่รู้ว่า..ลองเปลี่ยนเป็นถูกคนขี่ดูบ้างว่ามันน่าจะเหมาะ
กับคุณมากกว่า...ผมว่าบ้างทีคุณอาจได้ลองอะไรใหม่ๆ เข้าสักวัน...ตราบใดที่ยังปากเก่งแบบนี้” คราวนี่เป็นปาจาบ้าง
ที่ทุกคนต้องปากอ้าตาค้างกันถ้วนทั่ว แม้แต่นมอ่อน...ที่ไม่คิดว่าคุณหนูผู้หยิ่งทรนงมาตลอดจะต่อปากต่อคำ
กับหญิงหล่อคนนี้..ไอ้มื้อกลางวันก็ทีหนึ่งแล้ว..ที่คุณหนูของนมมาดหลุด..แล้วนี่ยังตอนนี้อีก....แทบจะหาดูได้ยาก
ที่คุณหนูปาจาจะเสียศูนย์แบบนี้
“โอ๊ะโอ!...ก็น่าสนใจดีนะคะ...ไว้ฉันจะลองเอาไปพิจารณาดู...ตัดสินใจได้เมื่อไหร่..จะบอกคุณ
เป็นคนแรกเลยคะคุณจา...แต่คนที่ฉันเลือกนี่..พวกผีดิบเย็นเป็นน้ำแข็งคงไม่อยู่ในกลุ่ม....เอาเป็นว่า...ปรึกษาคุณไป
ก็คงไม่เกิดประโยชน์เพราะคุณดันเข้าข่ายจำพวกนั้นเสียด้วยสิ” คราวนี้รพินทร์ออกตัวแรง ไม่เพียงแต่คำพูด
ยังใช้ดวงตาวิบวับส่อแววล้อเลียนปาจาอีก จนชายหนุ่มหน้าแดงก่ำ...ก่อนจะลุกขึ้นช้าๆ..ทิ้งท้ายก่อนไปอีกว่า
“หึ...อย่าตัดสินคนแต่ภายนอกนะครับ..ผมขอเตือนรพินทร์...บางทีที่คุณคิดว่าพวกผีดิบ
เย็นเป็นน้ำแข็ง...อาจจะร้อนแรงจนคุณคิดไม่ถึงก็ได้...เพราะฉะนั้นอย่าท้าทาย...สุดท้ายคุณเองนั่นแหละเกิดติดใจผีดิบเข้า
แล้วจะลำบาก...” พูดจบก็ผลุดลุกเดินออกไป...เล่นเอาแต่ละคนหน้าเจื่อนตามๆ กัน...แม้แต่กายันต์ก็เจื่อนไปด้วย
ขนาดอมยิ้มอยู่แท้เชียวยังหุบยิ้มไปทันที
งานนี้พี่ชายน้ำแข็งประกาศศึกเลยเหว้ยเฮ้ย!..แต่ไม่ได้นะ..คนนี้เค้าจองแล้ว..ขืนพี่จาลงสนาม...
เค้ามิแย่เหรอ..ไม่มั่นใจเลยว่าจะชนะเสียด้วยสิ..เสือยิ้มยากคนนั้น..ลองโปรยเสน่ห์...เค้าเองก็ไม่มั่นใจว่าท้าประชันได้....
งานนี้ขึ้นอยู่กับทอมหล่อว่าจะหลอมละลายเพราะน้ำแข็งอย่างพี่ชายเค้าหรือจะเย็นจับขั้วหัวใจยังไม่รู้...รอเจ้าตัวตัดสินเองเถอะ...
เพราะถ้าหากพี่จาพูดแบบนี้...แสดงว่าไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ
มาต่ออย่างทรมาน....คนโพสฯเม้นท์เรื่องนี้หรอยหร่อ
เดี๋ยวอีกสองสามตอนจะมันส์ แล้วอย่าเสียใจเนอะที่รัก
นอยด์แหละ....ไม่เห็นแสดงตัวกันสักเท่าไหร่
Luk.
-
อ๊ายยยยยยยยยยยย
.
.
.
อย่างอนคนสวย ติดตามอยู่จ้า
-
ติดตามๆ
:L2: :L2: :L2:
-
โอ้วววววว
น้ำแข็งเริ่มละลายแล้วววว
ลุ้นนนนนน
-
โฮกกกก กำลังมันเลยครับพี่น้อง
แจ่มๆๆ บรรยายได้อารมณ์มากเลยค่ะ
จิ้ม + ด้วยความประทับใจ :z13:
:L1:
-
:sad11: :sad11:อย่างอนเลยนะ
-
โอ้ยตอกได้แรงกันจริงๆ
แหมพี่จะต่อกรไหวไหมเนี่ย
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
รอเขามาร้อนแรงกัน :z2: อยากให้รพินทร์แต่งหญิงบ้าง :laugh:
-
กรี๊ดดดด อ่ะ!
อยากเห็นผีดิบร้อนแรงจังเลย ^^
-
อุ๊ยๆๆ จับคู่ได้แล้ว o18 o18
-
รักคนแต่ง อ๊าย ย
นายน้ำแข็งน่าัลัก(ถูกแล้ว) !!^^
รอตอนต่อไปจ้า :)
-
มาแสดงตนให้คนเขียนรับรู้ถึงความรู้สึกคนอ่านว่าติดตามเสมอเหมือนมิได้ขาด
-
ใครจะเป็นผู้ละลายเกราะน้ำแข็งหัวใจปาจาได้...ต้องคอยดูต่อไป
ไม่ต้องคอยแล้วฮ่ะ ก็หนูพระลักษมณ์ไง
จากที่ฟังการต่อปากต่อคำของทั้งสองแล้ว เชื่อขนมกินได้เลยว่า "ลูกดกแน่ ๆ" :laugh3:
-
ช่วยตรวจคำผิดค่ะ
“ไม่ได้นะคะ...พรุ่งนี้อายันต์มีนัดกับอารพินทร์แล้ว...จะพาหนูผาไปขี่ม้าได้ไงจริงไหม?” กายันต์พยักพเยิด
ให้รพินทร์รับมุก ที่เจ้าตัวส่งมาให้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย..ทำให้รพินทร์ต้องยกนิ้วชี้เข้าหาตนเอง...ส่วนคนต้นคิดก็ยักหน้าให้กลายๆ
คิดว่าน่าจะเป็น พยักหน้า ใช่ไหมคะ
“อ่า...จริงด้วย..อารพินทร์นัดกับอายันต์...นัด...เรานัดไปทำไรหว่าคุณยันต์” คิดไรไม่ออกก็โยนกลับมาให้
กายันต์สานต่อทันที....ปาจาหรี่ตาจ้องรพินทร์นิ่งๆ..เธอหาได้สนใจกลับยักไหล่ส่งไปแบบไม่ยี่หร่า..เล่นเอาเจ้าคุ้มน้ำแข็งถึงกับเม้มปากกับท่าทางกร่างเกินหญิงของรพินทร์
ยี่หร่า -----> ยี่หระ
เท่าที่อ่านเจอนะ
ชอบนิยายของคุณนะคะ อ่านเรื่องแรกคือเรื่อง "ตะเกียงพิเศษ" ไม่เคยอ่านนิยายที่เขียนแนวนี้มาก่อนเลยบอกตรง ๆ หรือว่าเราจะตามเทรนด์การเขียนสมัยนี้ไม่ทัน แต่โดยรวมอ่านสนุกค่ะ
สู้ ๆ นะคะ
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
โอ๋ ๆ :กอด1: อย่างอนเลยนะ เรื่องนี้สนุกมาก
นายเอกกวนๆ กะ พระเอกน้ำแข็ง :impress2:
อ่านไปก็คิดตามไปว่า เอ๊ะ ตกลงไอ้ฆาตกรโรคจิตนี้มันเป็นใครหว่า
+1 ให้นู๋ลักษ์ หายงอนนะตะเอง :L2:
-
อ่า..นายหญิงคนใหม่ของคุ้มล่ะค่า งานนี้
-
แงๆๆๆ ค้างคาจังเลยยย อยากอ่านตอนที่ปาจารุความจริงไวๆอ่าาาาา
คนเขียนมาต่อไวๆน้าาาา คิดถึง
-
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ต่อปากต่อคำสะใจดีแท้
-
เริ่มจะสนุกแล้ว... o13
-
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย นั่งขำตอน คุณปากับรพินทร์ต่อปากต่อคำกัน มันส์มากๆ แล้วจะรอดูน๊าว่าตาผีดิบจะร้อนแรงได้ขนาดไหน ฮ่า ฮ่า ฮ่า :laugh: :laugh: :laugh:
คนแต่งอย่างอนนะจ๊ะ เราติดตามอ่านอยู่่ เข้ามาดูวันละ 2-3 รอบแหนะ ชอบเรื่องนี้มากๆ เป็นกำลังใจให้จ้าาาาาาาา :m18: :m18: :m18:
-
อ่าาา ตอนนี้ตอบโจทย์ไปได้แล้วว่า รพินทร์ตัวจริงหายไปไหน ทำไมไม่มีใครแปลกใจอะไรบ้างงง
ตื่นเต้นดีค่ะ แล้วมะไหร่พระเอกของเราจะรู้สึกผิดปกติ หรือว่าจริงๆๆก็ไม่ไว้ใจอยู่แล้วนะ
-
ประกาศตัวแล้วหรือนี่ ออกตัวแรงกันทั้งสองฝ่ายเลย รอตอนต่อไป^^
-
โห รอตั้งนานคิดว่าคุณปาจาจะไม่ลงแข่งในสนามนี้ซะแล้ว ท่าทางภายนอกที่เย็นแบบผีดิบ
ข้างในคงร้อนแรงหยุดไม่อยู่แน่ๆ
-
แรงกันทั้งสองฝ่ายเลยจริงๆ ปากจัดพอกัน o22
-
คุณปาจา มาดหลุดทุกทีที่อยู่ต่อหน้ารพินทร์เลยน่ะ ... อิอิ ...
ชอบค่ะ น่ารักทั้งคู่เลย :กอด1:
พระลักษมณ์ปลอมเสียงเก่งใช่ไหมค่ะ เพราะไม่มีใครสงสัยน้ำเสียงเลยว่าเป็นชาย :laugh:
ขอบคุณนะคะ เนื้อเรื่องน่าติดตามมากๆเลย
o13
-
เริ่มจะมันส์แล้วสิ :z2:
-
เมื่อไหร่จถึงวันนั้นล่ะ
อยากเห็นความร้อนแรงของปาจา :o8:
-
น่าสนใจมากเรื่องนี้ พระเอกเริ่มร้อนขึ้นแล้ว.น้ำแข็งเริ่มละลาย
กำลังใจไม่ร่อยหรอหรอกครับ..เชื่อสิ คุณนักอ่านเงาทั้งหลายครับ..แสดงตัวให้กำลังใจคนแต่งด้วยนะครับ ผมว่าคนแต่งจะมีแรงฮึดเพราะคนอ่านนี่แหล่ะ :L1: :3123:
-
โอ้วววววว...แรงกันมากมาย ทั้งปาจาทั้งรพินทร์ :กอด1: กอดคนแต่ง โอ๋ๆๆ อย่าพึ่งงอนน้า เค้าพึ่งสมัครใหม่แต่จะเป็นกำลังใจให้นะคะ :3123: :L1:
-
ออกตัวแรงทั้งคู่ :-[
-
เอาล่ะงานนี้น้ำแข็งปาจาละลายจะร้อนแรงได้แค่ไหน
ต้องรอดูพร้อมรพินทร์ซะแล้ว
ปล.คุณลักษณ์ไม่ต้องนอยด์ค่ะยังมีคนติดตามอ่านอยู่
แล้วอีกอย่างเพิ่งเริ่มเรื่องด้วย และอาจจะไม่ใช่แนวรัก
หวานแหววคนก็อาจนิยมน้อยหน่อยโนะ
เป็นกำลังใจให้ค่าาา :L2:
-
อย่าเพิ่งนอยด์นะคะ :กอด1: :กอด1:
เรื่องนี้สนุก+ฮาดี แต่ปมของเรื่องก็น่าสน
-
:L2:รักนะ...แต่ไม่ค่อยได้แสดงออก...... :L1:
-
ตามอ่านมาตลอดครับ
อย่าน้อยใจเลยน้า!!!!!!!
-
อย่่างนี้เรียกปากพาจนนะรพินทร์
ขืนคุณปาจาเอาจริงก็รู้หมดดิว่าไม่ใช่ทอมอ่ะ
-
ติดตามตลอดค่ะ
อย่างอนน๊าาา :L2: :กอด1:
-
กำลังสนุกเลยค่า
นายเอกนิสัยกวนๆน่ารักดี แถมไม่กลัวใครอีกต่างหาก ไปกวนซะน้ำแข็งติดไฟแล้วนั่น
จะรอดูการเชือดเฉือนของทั้งคู่นะคะ
+1 เป็นกำลังใจให้ค่า
-
มานั่งรอค่ะ เผื่อผู้เขียนของเราจะเห็นใจมากอัพให้ได้ชมกันค้าาาา
-
:pandalaugh: :pandalaugh:
รอตอนต่อไปน่ะ :จุ๊บๆ:
:L2: :L2:
-
อร๊ายยยยยอย่างอนนะตัวเอง เขาติดตามและเฝ้าดูตลอดนะ :man1:
:กอด1:มีกำลังมาฝากกกกกกกกก o13
-
เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก และจะติดตามอ่านต่อไป o13
กำลังสงสัย เรื่องตัวที่มีสร้างศพไว้ คงไม่ใช่พวกมนูษย์หมาป่านะ
อยากรู้ว่าเป็นตัวอะไรสปีย์ชี่ไหนอะ
-
แวะมาแล้วคร้าบ ช่วงนี้ยุ่งสุดๆ
+ไปเรย o13
น่าติดตามมากครับเรื่องนี้ แต่อยากให้คุณลักษ์เช็คเรื่องคำผิดอีกสักนิดเนอะ จะดีมากเลยคร้าบ
-
น่าลุ้นๆๆๆ โอ้ย ปวดตับ ปมเยอะเกิ๊นนน
-
รอค่ะ
แอบลุ้นๆ
-
ต่อด่วนครับ....อยากอ่านตอนปาจา กดรพินทร์ ดูคนปากดีจะโดนกดเป็นยังไง หุหุหุ! :haun4:
-
ไหงอ่านตอนนี้แล้วเรารู้สึกขำๆหว่า กร๊ากกกกก ลักษม์เอ้ย! ท้าเค้าอย่างเงี้ย สุดท้ายไม่รอดซักรายนะ โฮะๆๆๆ
-
ปะทะฝีปาก กันอย่างฮาอ่ะ
กร๊าก ก ก ก
น้ำเเข็งละลาย แล้วเป็นอย่างนี้นี่เอง
-
โอ๊ะ โอ....อยากเห็นผีดิบร้อนแรงจัง :haun4: :haun4:
เป็นกำลังใจให้คนเขียน มาต่อเร็วๆนะครับ
:L2: :L2: :L2:
-
ตามมาจ้า o13 o13 o13
เริ่มต่อปากต่อคำกันแล้วคู่นี้
รอ รอ รอ
-
อย่าเพิ่งน้อยใจสิค่ะ คุณ นักเขียน
คนอ่านอย่างเราๆๆ มันต้องมีอารายมากระตุ้นให้แสดงความเห็นนิดนึงงงง
อย่างเช่น บทร้อนแรง แบบแรงๆ อะ
อิอิอิ
-
ฮาอะ นายเอกเรากวนจริงจริง
-
เจ้าชายน้ำแข็งหลุดมาดแล้ว
-
มนต์มาร
Part 6
รู้แล้วช๊อค!!.....
.
.
.
พระลักษมณ์แต่งกายรัดกุมอำพรางตัว สวมชุดสีดำของหน่วยคอมมานโดพิเศษ
คืนนี้ตั้งใจสำรวจภายในบ้าน..เพื่อดูห้องต่างๆสักหน่อย...อยากรู้ว่าห้องเหล่านั้นไว้ทำอะไร...สามารถได้แปลนบ้านมายิ่งดี...
แต่คงยากมาก...เพราะมีหลายส่วนที่น่าจะต่อเติมเพิ่มมาภายหลัง
มองนาฬิกาพรายน้ำบนข้อมือห้าทุ่มเศษ..เป็นเวลาที่เหมาะแก่การออกปฏิบัติการ....จัดการปิดไฟ
ในห้องให้เรียบร้อย ไม่ลืมสำรวจความพร้อมของตนเอง...ปืนสั้นคู่ใจในซองหนังรัดขา...มีดพับติดสปริงซ้อนในแขนเสื้อ..
ลวดสะเดาะกุญแจ...ไฟฉายอันเล็กเท่าด้ามปากกา..แต่อานุภาพแสงสว่างที่เกิดจากแบตเตอร์รี่ชนิดจิ๋วให้ความสว่างมากกว่า
ไฟฉายปกติ...เครื่องมือทุกชนิดล้วนเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัยของหน่วยพิเศษทั้งนั้น...ที่ขาดไม่ได้คือโทรศัพท์มือถือเครื่องบาง
สำหรับบันทึกภาพและเสียง..ซูมขยายใช้แทนกล้องส่องได้สบายมาก..
เมื่อทุกอย่างพร้อม...ยามวิกาลที่เงียบสงบไร้แสงไฟมืดสนิท อาศัยแสงสลัวจากดวงจันทร์ที่ส่องลอด
เข้ามาสลัวลางจนดูทะมึนทึนในบ้านเรือนไทยหลังใหญ่....แทนความสว่างจากไฟฟ้า..เพราะหลังสามทุ่มทุกชีวิตก็อยู่แต่ในห้อง
ของใครของมันห้ามออกมาเพ่นพ่านเป็นอันขาดตามกฎเหล็กของที่นี่
ร่างสูงโปร่งปราดเปรียว...เร้นกายเงียบกริบลัดเลาะไปตามทางเดิน...จากโซนห้องพักฝั่งซ้าย
เพื่อมุ่งหน้าลงไปยังชั้นล่าง...จุดมุ่งหมายต้องการสำรวจส่วนต่างระดับว่ามีทางเชื่อมต่อกันยังไง...จากประสบการณ์ที่มีมา
พระลักษมณ์คาดเดาไว้...ที่นี่น่าจะมีห้องใต้ดิน...เพียงแต่ทางลงอยู่ที่ไหน....เค้ากำลังเร้นกายแฝงกับความมืดเพื่อสืบหา
เส้นทางดังกล่าว
แสงไฟสว่างวูบจากไฟฉายนิรนาม...ทำให้พระลักษณ์ต้องรีบหลบเข้าที่กำบังอย่างรวดเร็ว...
แทบไม่น่าเชื่อฝีมือระดับพระกาฬจริงๆ ไม่เสียแรงที่อยู่แถวหน้ามือดีในหน่วยนี้ แค่สำเนียกถึงความเคลื่อนไหว...
ก็สามารถใช่เวลาไม่ถึงสิบวิ..พาตัวเองโหนคานไม้ขึ้นไปแฝงกายกลมกลืนอยู่ด้านบนอย่างไร้ร่องรอย...พร้อมกับจ้อง
ความเคลื่อนไหวด้านล่างดุจตาแมวนิ่งสงบ..
เบื้องล่างขณะนี้ปรากฎร่างของปาจา พร้อมไฟฉายเดินอย่างเงียบเชียบใบหน้านิ่งขรึม....
ก่อนจะหายไปยังส่วนห้องพักของธรรมตรัย..ไม่ผิดเท่าที่พระลักษมณ์รู้จากกายันต์...ทางนั้นคือห้องพักของ
ธรรมตรัยเลขาชาเย็นแน่นอน...
นายบ่าวสองคนนี้มีอะไรแปลกๆ ปาจาต้องการเรียกใช้ธรรมตรัย ทำไมไม่โทรเรียกให้ไปหาที่ห้อง...
ลงทุนมาหาถึงห้องด้วยตัวเอง..น่าสนใจไม่น้อย...
คิดได้ดังนั้นพระลักษมณ์โรยตัวกลับลงมา ก่อนจะย่องสะกดรอยตามหลังปาจาไปอย่างเงียบกริบ....
ทันเห็นธรรมตรัยเปิดประตูให้ปาจาหายลับเข้าไปในห้องก่อนจะปิดตามหลัง...
พระลักษมณ์คิ้วขมวดมุ่น....เค้าต้องรู้ให้ได้ว่าปาจาเข้าไปในห้องธรรมตรัยยามวิกาลทำไม....แปลกพิลึก...
ไม่รอช้าพระลักษมณ์ตรงดิ่งไปยืนอยู่หน้าบานประตู..ก่อนจะล้วงสายสีดำเส้นเล็กปานขดลวดออกมาแย่เข้าตรงรอยแยกกุญแจ....
ปลายด้านในพรุบหายเข้าไปในห้อง..ในขณะที่ปลายด้านนอกพระลักษมณ์นำมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์เครื่องจิ๋ว...พร้อมกดปุ่ม
ยิกยิกสักครู่...ภาพความเคลื่อนไหวภายในห้องปรากฎบนหน้าจอเครื่องสื่อสารชนิดพิเศษทันที
สรุปมันคือกล้องขนาดจิ๋วที่ส่วนปลายสามารถสอดแนมถ่ายภาพเคลื่อนไหววีดีโอปรากฎบนจอ
ให้พระลักษมณ์ดูภายในห้องได้อย่างสะดวก เครื่องมือชนิดนี้เหมาะสำหรับถ้ำมองพิลึก...ถ้าพระลักษมณ์ไม่ใช่หน่วยพิเศษ
คงเป็นไอ้พวกโรคจิต ที่ชอบถ้ำมองชาวบ้านยามวิกาลแน่ๆ
ขณะนี้ธรรมตรัยกำลังช่วยปาจาถอดเสื้อคลุม...ท่าทางปรนนิบัติเจ้านายใกล้ชิดจนพระลักษมณ์
รู้สึกแปลก...เผลอคิดอกุศลว่าสองคนนายบ่าวคงไม่ใช่คู่เกย์กันละมั้ง...แต่ภาพมันก็ชวนคิด...ถัดจากเสื้อคลุมตัวนอก...
ปาจายังถอดเสื้อออกจนเปลือยช่วงบนที่มีกล้ามเนื้อตึงแน่น..โครงร่างใหญ่โต..หน้าท้องชิกแพ็คเรียงตัวเป็นลูกคลื่น....
โอ้!..ซ้อนรูปโคด
พระลักษมณ์ไม่คิดว่ารูปร่างปาจาใต้อาภรณ์จะอุดมด้วยกล้ามเนื้อสมบูรณ์แบบอย่างคนออกกำลังกาย
หรือพวกฟิสเนสเป็นประจำขนาดนี้....เทียบกับตัวเค้าแล้ว...ใหญ่หนากว่าหลายเท่าเลยนะนั่น...แม้จะเคยคิดเหมือนกันว่า
ทั้งปาจากับกายันต์มีโครงร่างสูงใหญ่ แต่ไม่คิดมาก่อนว่าจะดูบึกบึนแข็งแกร่งได้ปานนี้...พระลักษมณ์เองเสียอีก...
ฝึกหนักมากมายถึงจะมีกล้ามเนื้อแน่นสวยงามแต่ยังไม่หนาเท่ากับทั้งคู่...ออกทางสูงโปร่งมากกว่า..ถึงจะไม่บอบบาง
แต่ก็ไม่ล้ำแมนขนาดนี้...อาศัยพระลักษมณ์ปราดเปรียวว่องไว..กอปรกับมีฝีมือไม่เป็นรองใครจึงทำให้เป็นที่ยอมรับ
จู่ๆ ภาพก็ดำมืดไม่สามารถมองเห็นได้อีก..ธรรมตรัยคงเอาเสื้อคลุมใส่ไม้แขวนมาห้อยบังช่องประตู
ทำให้กล้องสอดแนมขนาดจิ๋วไม่สามารถเห็นอะไรภายในได้อีกต่อไป....ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดปิดอะไรสักอย่างแล้วเงียบหายไป
“แอดดดดๆๆๆ!..ปัง!..” เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้..พระลักษมณ์เลยมองหาทำเลแฝงตัวดู
ความเคลื่อนไหวของสองคนในห้อง..รอดูว่าปาจาจะกลับออกมาตอนไหน...คิดได้ดังนั้นคานด้านบนเหมาะแก่การนั่งยาม
จับตาที่สุด..พระลักษมณ์ไม่รอช้า....เก็บเครื่องมือเรียบร้อย...จัดการโหนตัวขึ้นไปนอนเอกเขนกแฝงตัวเงียบกริบ
รออยู่ด้านบนอย่างเงียบๆ
ผ่านไปร่วมกว่าชั่วโมง...ดูนาฬิกาพรายน้ำบนข้อมือ...ตีหนึ่งเกือบตีสอง...ประตูห้องธรรมตรัย
เปิดออกอีกครั้ง...โดยธรรมตรัยยืนส่งปาจา...ปาจาเอามือไปบีบบ่าธรรมตรัยนิ่งๆ..ใบหน้าของทั้งคู่แดงก่ำ....ที่น่าสนใจคือ
ทั้งสองคนชุ่มไปด้วยเหงื่อ....พระลักษมณ์เห็นแล้วให้รู้สึกขนลุกพาลสรุปในใจว่า
ข่าวใหญ่แล้วกู...เจ้าคุ้มน้ำแข็งกับเลขาเย็นชาเป็นคู่เกย์กันซะงั้น...หึ..นี่คือเหตุผลที่ภรรยาของปาจา
ไร้ตัวตนหรือเปล่า...เหงื่อโทรมขนาดนั้นคงไม่ต้องเดานะว่าเข้าไปทำอะไรกันมาเป็นชั่วโมง...เฮ้อ!..ได้เค้าคดีมาบ้างหละ..
คนร้ายแม่งตุ๋ยทั้งทวารล่อทั้งหญิงสาวก่อนจะฉีกกระชากฆ่าเหยื่อ..เริ่มคลำทางได้แล้วว่าหนึ่งในสองคนนี้ต้องคนใดคนหนึ่ง
อาจเป็นฆาตกร...พระลักษมณ์รอให้ปาจาเดินลับหายไปจากสายตา...หลังจากธรรมตรัยปิดประตูและไฟในห้องดับมืดสนิท...
จึงค่อยโรยตัวลงมา...คืนนี้คิดว่าพอแค่นี้...ก่อนเร้นกายหายกลับเข้าห้องไปอย่างไร้วี่แววในที่สุด...
ในหัววนเวียนคิดผู้ชายเข้มแมนมีโลกส่วนตัวสูงกลับเป็นพวกโฮโมเซ็กซวล...ใช้เลขาส่วนตัวเป็นคู่ขาในยามวิกาลซะงั้น..
น่าแปลกไม่น้อย........
เอาไป 50% ก่อน ที่เหลือจะมาต่อพรุ่งนี้
คืนนี้ปวดหัวมากเลย ไมเกรนขึ้น
ขอไปกินยานอนก่อน
Luk.
-
:a5: :a5: :a5: :a5:
-
เอาแล้ว เจ้าคุ้มแอบกิ๊กกั๊กกับเลขาซะได้
แต่ไม่น่าหรอกมาง เค้าคงนวดแผนโบราณอ่าเปล่า
หรือไม่ก็ทำพิธีแก้เคล็ด สงสัยจะผิดเรื่อง
คงเป็นเกย์จริงง่ะละ แต่เป็นกับสายลับเสียมากกว่าน๊า
สาธุ อย่าเอาขรึม กับขรึมมากกว่าเป็นกิ๊กกานเยย คิดแล้วหยดหยอง
-
:a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
มะ มะ มะ ไม่น่าเชื่อออ อะไรหวา
น่าติดตามมากๆๆ โฮกกก ไม่น่าถูกบังเลย โฮกกก :z13:
-
:a5: :a5: :a5:
-
เออ...แบบว่า เค้าอาจจะอกกำลังกายกันเลยๆม๊าง
แบบวิดพื้น อะไรอย่างนั้น555 สู้ๆค๊า
-
:o จ๊ากกกกกกกกกกกกก ไม่ใช่มั้ง
สองคนนี้ไม่น่าจะกิ๊กกันได้เลย เงียบขรึม เย็นชากันทั้งสองฝ่าย
ถ้าเป็นกายันกะธรรมตรัยก็ว่าไปอย่าง คิดว่างั้นนะ :confuse:
-
โอ้ออออออออ แล้วท่านคุ้มจะเอานายเอกของเราป่ายไว้ไหนเนี่ย!!!
-
O_o!!!>>>>>> จริงง่ะ
:a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22
:z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
-
:z3: กรี๊ดดดดด
มันต้องมีไรมากกว่าที่รพินทร์คิดแน่ๆ(หวังว่าอ่ะนะ)
พระเอกของชั้น แต่อาจไม่ใช่ของคนแต่ง 5555
-
:a5:
ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ชัวร์ป้าบ ฟันธง
หนูรพินทร์ หลังทำกิจกรรม มันก็ต้องนอนพักก่อนสิ เหงื่อแห้งแล้วออกมา
จะเป็นแบบ เจ้าของคุ้มและคุณเลขาที่ออกมาแบบนั้น มิใช่แหละ อย่าคิดมากน้าาาา หนูรพินทร์
(ขอเข้าข้างเจ้าของคุ้มก่อนทั้งๆที่ยังมิเคลียร์ :o8: )
-
ก่อนอื่น ต้องขอให้คุณลัคหายเร็วๆๆนะคะ หายเมื่อไหร่ ค่อยมาส่งความสุขกันต่อ
แต่ว่า..เจ้านายกะเลขา เค้า.. ไม่จริงหรอก ใช่ป๊ะ
:a5: o22
-
เข้ามาช๊อคด้วยคน โอ้ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :sad3: :sad3: :sad3:
ปล.ช่วงนี้อากาศเปลี่ยน ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ หายไวๆ นะ :teach: :teach:
-
อะห้า จริงเหรอนั่น!!!!
-
นี่เหรอ เหตุผลที่ธรรมตรัยแอบทำท่าทีหึง ปาจา ฮา :laugh:
-
ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงง
ไม่ใช่ ไม่เชื่ออออออ :serius2:
รอเฉลยด่วนเลย ธรรมตรัยไม่ได้ชอบกายันต์เหรอ
ปาจาต้องเป็นของพระลักษณ์ซิ :angry2:
-
แหมน่าสงสัยจริงๆด้วย
รออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
อยากรู้จังว่าปาจาเข้าไปทำอะไร
+ 1 นะคะ
-
:impress2:
:L2: :L2:
-
อาจจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่าที่คิดก็ได้นะ...ธรรมตรัยกับปาจาเนี่ยนะ -_-!!
-
:a5:เหวอ......น่าช็อคจริๆด้วย
-
ในที่สุดก็อ่านทัน...แต่ตอนสุดท้านนี้ o22ช๊อกสมชื่อตอนจริงๆ
-
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
ถ่ายทอดกำลังภายใน กันแน่ๆๆ
-
ไม่จริงม้างงงงงงงงงงงงงงงง o22 o22
-
สั้นจริง
-
จิงดิ ปาจากะ ธรรมตรัย เนี้ยน๊า
-
เกิดการเข้าใจไรผิดรึเปล่าอ่า
รออ่านอีก50%
-
ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงง
ไม่ใช่ ไม่เชื่ออออออ :serius2:
รอเฉลยด่วนเลย ธรรมตรัยไม่ได้ชอบกายันต์เหรอ
ปาจาต้องเป็นของพระลักษณ์ซิ :angry2:
คิดเหมือนกันเลย ไม่เชื่อออออออ
-
มาแค่นีืก็ดีใจแล้ว หายจากไมแกรนไววนะคร๊าบบบบบบ
:L2:
-
มนต์มาร
Part 6
รู้แล้วช๊อค!!..100%
เช้านี้พระลักษมณ์ตื่นเกือบเจ็ดโมงเหลือไม่ถึงสิบห้านาที ทำให้ต้องพรวดพราดรีบอาบน้ำ
ทำธุระอย่างเร็ว..เพราะเวลาอาหารเช้าเจ็ดโมงตรง
“ให้ตายเหอะ...เหี้ยจริงเรื่องเมื่อคืนพาลนอนไม่หลับกว่าจะข่มตาได้ล่อเอาเกือบตีสาม...
จะโทษก็ต้องโทษไอ้น้ำแข็งแม่งแหละ..ทำซะซ๊อคซีนีม่าเลยเว้ย!” พระลักษมณ์บ่นกับตัวเอง...ก่อนจะแต่งตัวลวกๆ
แล้วผลุนผลันออกประตูไปห้องอาหารด่วนจี๋
เข้ามาถึงทุกคนอยู่พร้อมหน้าครบแล้ว...ตนเองมาเป็นคนสุดท้าย เหลือบดูนาฬิกา
เจ็ดโมงห้านาที..แม่งเลสจนได้..ปาจามองเหมือนตำหนิกลายๆ..ทำให้พระลักษมณ์ในคราบของรพินทร์ ต้องเอามือลูบผมปอยๆ
ก่อนจะเดินตัวเกร็งเข้าไปนั่งประจำที่...เลขาเย็นชาไม่เหลือบมองสักแอ๊ะ..รู้สึกกระดากชะมัด...สุดท้ายกายันต์ก็ช่วยชีวิต
ทำให้คลายความอึดอัดลงได้บ้างเมื่อถามขึ้นว่า
“รพินทร์ไม่สบายหรือเปล่า...หน้าตาดูเพลียๆ” นึกขอบใจกายันต์ซะจริง...ทำให้มีโอกาสพูด..
จะว่าแก้ตัวก็ยังดีกว่าไม่ได้พูดอะไรเลย
“นอนไม่ค่อยหลับค่ะ...สงสัยยังไม่คุ้นที่..กว่าจะหลับลงเกือบสว่าง..เลยตื่นสาย..
ขอโทษทุกคนด้วยที่ให้รอ..” พูดพร้อมยิ้มเจื่อนแจกไปทั่ว...ปาจาเหลือบตามามองแล้วถามขึ้นว่า
“ปวดหัวหรือเปล่า?” อาห่ะ!..ท่าทางฝนจะตกหนัก..หรือเมื่อคืนสบายตัวกันแน่หวะ..ถึงกับอารมณ์ดี
ออกอาการเป็นห่วงซะด้วย..รพินทร์ส่งยิ้มอย่างจริงใจ...รอยยิ้มของรพินทร์ครั้งนี้...ทำให้ปาจาอึ้งไปเหมือนกัน...
เผลอจ้องซะงั้น..
“นิดหน่อยค่ะ...กะว่าทานเสร็จจะขอตัวไปนอนพักสักหน่อยสายๆ คงดีขึ้น..” คำตอบของรพินทร์
เล่นเอาคนใจร้อนถึงกับลุกจากเก้าอี้มาวัดไข้ด้วยตนเอง ถือวิสาสะเอาหลังมือสัมผัสหน้าผากรพินทร์ ต่อหน้าสายตาทุกคู่
ที่มองมา....ให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป
นมอ่อน....มองอย่างคนผ่านโลกมานาน พอดูออกว่าทายาทคนที่สองสนใจสาวทอมบอย
เป็นพิเศษเข้าแล้ว
สิตา...เขินแทนรพินทร์ที่เห็นกายันต์อ่อนโยนกับรพินทร์โดยไม่แคร์สายตาใครเลย
หนูผา...ยิ้มดีใจที่อายันต์ห่วงใยคนที่ตนเองชื่นชมอย่างออกนอกหน้า
ธรรมตรัย...ดวงตาไหววูบเหมือนไม่พอใจ..ก่อนเมินไม่สนใจมองภาพที่เห็นตรงหน้า
ปากบางเม้มเน้น
ปาจา...ไม่ชอบพฤติกรรมของกายันต์...รู้สึกหงุดหงิดกายันต์ที่แสดงความรู้สึกโจ่งแจ้งขนาดนั้น...
และยิ่งไม่ชอบใจเข้าไปใหญ่เมื่อรพินทร์ไม่ปฏิเสธสักนิด
“ดีจังตัวคุณไม่ร้อน..ไม่งั้นต้องตามพี่หมอให้มาตรวจสักหน่อย” กายันต์พูดจบ...รพินทร์ตาโต
สั่นหัวปฏิเสธทันที
“โอ้ย!...ไม่ต้องคุณยันต์...ฉันไม่เป็นไรมากจะตามหมอให้ยุ่งยากทำไม..บอกแล้วนี่..ทานข้าวเสร็จ
กินยานอนพักก็หาย...ขอบใจมากที่เป็นห่วง กลับไปนั่งเก้าอี้คุณเถอะ” ที่รพินทร์ปฏิเสธแข็งขันไม่ใช่อะไรหรอก...
ขืนยอมให้หมอมาตรวจสิ..ได้ความลับแตกชัวร์...แท้จริงแล้วตนเองไม่ใช่ผู้หญิง..
“นายกลับมานั่งได้แล้วกายันต์...ตักข้าวต้มได้แล้วเสียเวลา..จะรออะไรอีก” จู่ๆ ปาจาสั่งคนรับใช้
เสียงห้วน...ทำให้ทุกคนเงียบกริบ แม้แต่กายันต์จำต้องเดินกลับมานั่งอย่างหงอยๆ...ปาจานึกแปลกใจตัวเองไม่น้อย
ที่ไม่ควบคุมอารมณ์...รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ
รพินทร์เม้มปากเน้นแต่ไม่ได้พูดอะไร...คิดในใจคนเดียว ‘เป็นบ้าไรอยู่ดีดีก็เหวี่ยงขึ้นมา’
เลือดจะไปลมจะมาไม่มีปี่มีขลุ่ย..ทำเป็นหญิงวัยทองไปได้พิลึกคนชะมัด
มื้อเช้าผ่านไปท่ามกลางบรรยากาศอึมครึม รพินทร์อึดอัดเกินจะอยู่นาน กินไปนิดหน่อยก็ขอตัว
มานอนพัก...ทุกคนต่างคิดว่าเธอเพลียจัดจึงไม่มีใครเอ่ยรั้ง..
กลับมาถึงห้องรพินทร์ถือโอกาส...งีบหลับให้หายเพลีย..เดิมทีไม่ได้รู้สึกปวดหัวสักนิด..หลังกลับจาก
มื้อเช้าชักปวดขึ้นมาตะหงิดๆ คงเพราะบรรยากาศชวนอึดอัดมากกว่าทำให้ไมเกรนขึ้นมาดื้อๆซะงั้น..เลยซัดพาราฯ ไปสองเม็ด
ก่อนจะล้มตัวนอนหลับไปในที่สุด
เผลอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้..ลืมตาตื่นขึ้นมา..ตกใจสะดุ้งโหย่งเมื่อเห็นปาจานั่งไขวห้าง
เยี่ยงปลายเตียงจ้องมานิ่งๆ...ตายห่าเข้ามาได้ไงหวะ...ล๊อคลูกบิดแล้วนี่หว่า?
“คุณเข้ามาได้ไง...ฉันจำได้ว่าล๊อคประตูแล้วนี่” คำถามแรก..ให้หายสงสัยหลุดปากรพินทร์ทันที
“ในบ้านหลังนี้ผมสามารถเข้าออกได้ทุกที...ทำไม?คุณสงสัยอะไร?” อ้าว!..ทำไมพูดหมาๆ หน้าตาเฉย
“แสดงว่าไม่มีที่ไหนเป็นส่วนตัวเลยว่างั้น...แม้แต่ในห้องฉันเอง...มันไม่ไร้มารยาทไปหน่อยรึคุณจา.”
รพินทร์ตอกกลับอย่างแรง..คิดว่าคนฟังถ้าไม่ด้านเกินก็สุดเยียวยาแล้วเหอะ
“ถ้าคิดอย่างนั้น ก็พูดได้คำเดียวว่าขอโทษ..แต่ก่อนที่ผมจะถือวิสาสะเข้ามา ผมให้องุ่นมา
เรียกคุณแล้ว...แต่คุณไม่ตื่นเอง...ผมกลัวคุณเป็นอะไรมากหรอกถึงได้เข้ามาในนี้” ฟังแบบนี้รพินทร์เสียหน้าชะมัด
นี่ตนเองหลับเป็นตายเลยหรือไง..ถึงไม่ได้รู้ตัวว่าใครมาเรียก...ที่แย่ยิ่งกว่าเจ้าคุ้มน้ำแข็งพูดเหมือนจะทวงบุญคุณ..
หวังดีเป็นห่วงกลับกลายไม่สำนึกบุญคุณซะอีก..รพินทร์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก....ผีดิบน้ำแข็งแม่งร้ายกาจชะมัด
“ช่างเหอะ...แล้วคุณมีธุระอะไร?” ถามแก้เก้อ
“นี่มันกี่โมงแล้วคุณ...เที่ยงไม่โผล่ไปที่โต๊ะอาหาร...ผมเลยให้คนมาตาม.” พอปาจาพูดจบ
รพินทร์ยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่
“ฉันขอโทษ...บ่ายโมงแล้วนี่อย่าบอกว่าคุณไม่ได้ทานข้าวมานั่งเฝ้าฉันหลับอยู่นะ.” รพินทร์ไม่อยากนึก
เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แค่สงสัย
“ใช่....ผมมาตามด้วยตัวเองถึงรู้ว่าคุณหลับเป็นตาย..จะปลุกก็กลัวเสียมารยาท..เลยนั่งรอคุณตื่น”
ตายโหง...อุตส่าห์คิดว่าเป็นไปไม่ได้แล้วเสือกเป็นจริงซะงั้น
“แล้วคนอื่นๆ ไม่รอกันหรือไง..คุณจะมาเสียเวลานั่งเฝ้าฉันทำไม?” ทั้งรู้สึกผิด ทั้งรู้สึกแย่...
สุดท้ายทั้งเขินทั้งอาย...แม่งเอ้ย..สารพัดความรู้สึกประเดประดังเข้ามาโจมตีรพินทร์อยู่ตอนนี้...พาลทำหน้าไม่ถูกเข้าไปใหญ่
“หึ...ผมสั่งให้พวกเค้าทานกันก่อนไม่ต้องรอ...เพราะฉะนั้นตอนนี้ผมหิว...คุณไปกินเป็นเพื่อนผมหน่อย”
ปัดโธ่เว้ย!..มีหน้ามาสั่งอีก อยากจะมุดดินหนีอยู่แล้ว คงกล้าไปเสนอหน้านั่งกินกับคุณได้หรอก..
“ฉันไม่หิวเท่าไหร่..คุณไปทานคนเดียวเถอะ” รพินทร์บอกปฏิเสธ
“ไม่ได้..ไม่หิวก็ต้องไป” อ้าว!...นิสัย...เกิดเพี้ยนเหี้ยไรขึ้นมาเนี่ยะ..ถึงได้มาบังคับกันอย่างนี้
ความจริงก็หิวเหมือนกัน...แต่ทำใจนั่งกินกับเจ้าคุ้มน้ำแข็งในสภาพที่รู้ว่าโดนมองตอนหลับนี่มันทำหน้าไม่ถูกจริงๆ
“เพื้ยนไรเนี่ยะคุณจา...คนเค้าถึงว่าพวกโฮโมเซ็กชวลนี่ อารมณ์ไม่ปกติจริงๆ” เผลอพูด
ด้วยความโมโห...ตะครุบปากไว้ไม่ทันปากเร็วไปหน่อย
“หืม..เมื่อกี้คุณพูดว่าไงนะ..” ปาจาถามย้ำ...รพินทร์แน่ใจว่านายนี่ได้ยินแต่ต้องการให้รพินทร์
ย้ำให้ฟังอีกครั้งตะหาก
“เปล่า?...ฉันพูดเรื่อยเปื่อย...คุณอย่าใส่ใจเลย..รอแป๊ปขอตัวไปล้างหน้าก่อน.” รพินทร์หาทางชิ่งทันที
มีหรือปาจาจะปล่อยไปง่ายๆ
“เดี๋ยว!..คุณยังพูดไม่เคลียร์...ผมถามว่าเมื่อกี้คุณพูดว่าไง.” รพินทร์ถูกปาจารั้งแขนไว้ไม่ให้ไป...
“อะไรเล่า...บอกไม่มีก็ไม่มีสิ...ปล่อย!..” รพินทร์หงุดหงิดพยายามบิดให้หลุด แต่มือปาจา
ยังกะปลอกเหล็กทำไงก็ไม่หลุด...จับแน่นชะมัด
“คุณว่าผมเป็นโฮโมฯ...ผมได้ยินเต็มสองหู...ที่ถามเพราะอยากจะรู้ว่าคุณคิดแบบนั้นได้ยังไง...
นึกว่าคนอื่นจะมีรสนิยมเหมือนคุณหรือไงกัน” อ้าว!..เหี้ยแล้วไง...ดันย้อนรพินทร์ซะงั้น...แล้วนิสัยอย่างรพินทร์
มีหรือจะยอม
“ไม่เป็นก็อย่าร้อนตัวสิ...รสนิยมฉันมันหนักหัวใครไม่ทราบ...อย่างน้อยถึงฉันจะเป็นทอมก็เป็นฝ่าย
กระทำแหละหวะ...ไม่ได้วิ่งเร่ไปให้เค้าตุ๋ยเหมือนคนบางคนหรอก” ปาจาหรี่ตาจ้องรพินทร์...ซึ่งเธอก็จ้องตอบอย่างไม่ยอมแพ้...
เอาสิเรื่องเมื่อคืนถึงจะไม่แน่ใจว่าใครตุ๋ยใครแต่จะเหมาเอาซะอย่างจะทำไม...ไม่เจ้านายตุ๋ยเลขาก็คงเลขา
ตุ๋ยเจ้านายแหละหว้า...หรือไม่อาจผลัดกันตุ๋ยใครจะไปรู้..
“หึ...ความจริงผมไม่มีรสนิยมอย่างคุณมาก่อนเลย...แต่เมื่อพูดขึ้นมาชักน่าสนใจไม่น้อย...
ผมไม่เคยมีประสบการณ์ตุ๋ยหรือให้ใครตุ๋ย..คงต้องลองกับคนปากดีแถวนี้เสียแล้ว...สนใจมาตอกเสาเข็มบนพุงผมดูไหมเล่า...
เผื่อจะเป็นหญิงเต็มตัวขึ้นมาบ้าง” พูดจบ..กำปั้นหลุนๆ เสยเต็มคางปาจาจนหน้าสะบัดทันที
“พลั๊ก!..โอ๊ะ!” ปาจาไม่ทันระวัง ไม่คิดว่ารพินทร์จะมือหนัก เรียกเลือดมุมปากทันตาเห็น...
ชายหนุ่มยกมือปาดทิ้งจ้องรพินทร์ตาวาวโรจน์..ก่อนจะย่างสามขุมเข้าหา..งานนี้ไม่สั่งสอนยัยทอมจอมแสบให้สำนึก
เสียบ้างไม่ได้แล้ว...ปาจาคิดจับไหล่รพินทร์กระชากเข้าหา..แต่ผิดคาดนอกจากยัยตัวแสบจะไหวตัวหลบยังส่งลูกถีบ
ตามมาติดๆ..แต่ปาจาไม่ได้ประมาทเหมือนทีแรก..ลูกถีบของรพินทร์พลาดเป้า หนำซ้ำเจ้าตัวจะหลบได้แล้ว..
ยังพลิ้วเข้าประชิดตัวรวบกอดรพินทร์อย่างคล่องแคล่วว่องไวไม่แพ้กัน
รพินทร์ก็ใช่ว่าฝีมือกระจอก..งอเข่าเตรียมกระแทกเท้าอัดหน้าแข็งคนร่างใหญ่ที่ได้เปรียบกว่าทันที....
“อึ๊บ!..” พลาดอีกจนได้...เหมือนปาจาจะรู้ศิลปะการต่อสู้..แถมฝีมือไม่ธรรมดาอีกต่างหาก..
เบี่ยงขาหลบแล้วยังตวัดตัวรพินทร์เหวี่ยงล้มลงไปบนที่นอนพร้อมกดตัวล้มทับรพินทร์ไว้ใต้ร่างทันที...รพินทร์กำลังจะใช้
หัวโขกหน้าผากปาจาให้เจ็บปวด..แต่ไม่ทันการเสียแล้ว..
แค่ตั้งท่าผงกศรีษะเท่าทัน...ปากหนาได้รูปก็ฉกจูบลงมาทันที...พร้อมกับลิ้นชื้นสอดเข้าตวัดต้อน
ไล่ดุนลิ้นนุ่มในปากบางของรพินทร์อย่างชำนาญ
“อุ๊บ!..อื้อ!..อืออออ” รพินทร์เตรียมกัดลิ้นปาจา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เมื่อมือใหญ่ยังกะใบลาน
ขึ้นมาบีบคางเอาไว้ โดนปล้นจูบอย่างจาบจ้วงอ๊อกซิเจนเริ่มจะหร่อยหรอ...ตัวเริ่มหมดแรงต้านลงเรื่อยๆ...
ก่อนที่จะขาดอากาศหายใจ ปาจาก็ถอนปากออกให้อิสระรพินทร์สูดอากาศเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ฮา...เฮือกกกก!.แฮ่กๆๆๆ” จนหายใจหอบ...ปาจาลุกขึ้นมองนิ่งๆ สายตาเยาะยันแกมสมเพช...
ทำให้รพินทร์หน้าชา
“เป็นไง..รู้สึกอย่างไรบ้าง จูบผู้ชายได้รสชาติดีกว่าจูบกับผู้หญิงไหม?...ถึงคุณจะทำตัวกร่างแค่ไหน..
ก็ยังเป็นหญิงอยู่ดี..ถึงหน้าอกจะแบนไปหน่อยก็เหอะ...ที่ผมทำอย่านึกว่าพิศวาสคุณนะ...ผมแค่อยากให้คุณสำนึกเสียบ้าง
อย่าอวดดีให้มาก...คุ้มนี้ผมเป็นเจ้าบ้าน...จะพูดจะจาหัดให้เกียรติผมหน่อย...ถ้ายังก้าวร้าวผมอีก...ผมจะจัดชุดใหญ่ให้
แล้วอย่าหาว่าผมไม่เตือน” ปาจาพูดจบเดินออกจากห้องไปหน้าตาเฉย...รพินทร์โกรธจนหน้าดำหน้าแดง...ตั้งแต่จำความได้...
ไม่เคยมีใครทำทุเรศแบบนี้กับรพินทร์มาก่อน...โดยเฉพาะโดนผู้ชายด้วยกันจูบ...เหี้ยแล้ว...
รพินทร์นั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงสงบสติอารมณ์ตนเอง...ก่อนจะลุกไปปิดประตูลงกลอนแน่นหนา..
คราวนี้ล๊อคกลอนด้วย เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนกลับเข้ามาล๊อคแต่ลูกบิดประตู...มิน่าปาจาถึงเปิดเข้ามาได้
คงใช้กุญแจสำรองเปิดชัวร์
นั่งทบทวนเรื่องราวอย่างมีสติ....รพินทร์แปลกใจมากมาย...ปาจารู้ศิลปะการต่อสู้...
แถมฝีมือดีอีกตะหาก...แม้แต่ตนเองชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าสามารถรับมือปาจาได้หรือเปล่าด้วยซ้ำ...ปาจาคล่องแคล่วว่องไว
แถมอ่านทิศทางของรพินทร์ออกอีก...ที่รพินทร์วิตกคือปาจารู้หรือไม่ว่ารพินทร์ไม่ใช่ทอม...แต่ก็ไม่น่าจะรู้...
เพราะคำพูดสุดท้ายก็ไม่ได้ส่อพิรุธว่าเจ้าตัวรู้ว่ารพินทร์เป็นชาย...คิดได้ดังนั้นค่อยโล่งอกหน่อย
ส่วนปาจา..หลังออกมาจากห้องรพินทร์ก็มาคลุกอยู่ในห้องหนังสือเงียบๆ คิ้วขมวดมุ่น..
รู้สึกสับสนพร้อมเกิดคำถามมากมายให้น่าสงสัย...
จากที่ให้องุ่นสาวต้นห้องของรพินทร์ไปตามมาทานกลางวัน กลับไม่มีสัญญาณตอบรับ กายันต์อาสา
จะไปตามเอง...แต่ตนเห็นว่าไม่อยากให้กายันต์ใกล้ชิดรพินทร์เกินงาม จึงห้ามเอาไว้..บอกตนจะไปดูเอง..
ไม่ต้องรอให้ทุกคนทานกันไปก่อนเลย
มาถึงหน้าห้องเคาะเรียกรพินทร์ไม่ขานตอบ...จึงตัดสินใจใช้กุญแจสำรองเปิดเข้าไป...
ทั้งโมโหปนขำ..ตัวสร้างปัญหากลับหลับเป็นตายไม่รู้เรื่องรู้ราว...ใบหน้าตอนหลับเหมือนเด็กไร้พิษสง...ทำให้ปาจาเพลิน
กับการนั่งสำรวจรูปหน้าที่หล่อใสแก้มออกชมพูเหรื่อ..ขนตายาว..จมูกโด่งแหลมเชิดนิดๆ..รับกับปากบาง..รูปหน้าของรพินทร์
ดูไม่เบื่อยิ่งดูยิ่งมีเสน่ห์...จนละสายตาไม่ได้..ก่อนเจ้าตัวจะตื่นมาแผลงฤทธิ์กับเขาจนได้..
กล้าดียังไงมาว่าเค้าเป็นพวกโฮโมเซ็กชวล...ตั้งใจสั่งสอนให้หราบจำ..แต่ก็ต้องแปลกใจ
ฝีมือโต้ตอบของรพินทร์...ปาจามั่นใจว่ารพินทร์เรียนศิลปะการต่อสู้มาอย่างช่ำชอง...คนที่สามารถทำร้ายเขาได้
ต่อให้ไม่ระวังตัวก็เถอะมีน้อยคนนัก....
เป็นไปได้ยังไง...คนอย่างด๊อกเตอร์ปาจา...มือดีของตำรวจสากลระหว่างประเทศจากอังกฤษ...
ต้องมารับมือกับทอมบอยถึงกับต้องทุ่มทั้งตัวจึงกดเจ้าตัวลงได้...ตรงนี้ตะหากที่ปาจาเห็นทีต้องอาศัยเส้นสายในอดีต
สืบข้อมูลญาติสาวของเค้าเสียแล้ว...
และที่ทำให้เจ้าคุ้มน้ำแข็งงงตัวเองที่สุด...คือหัวใจที่รัวกระหน่ำหลังได้จูบปากบางที่ชอบกัด
กับเขาประจำนั่นตะหาก...ทั้งที่ความรู้สึกนี้มันหายไปจากชีวิตของปาจามากว่า 7 ปี...เป็นไปได้หรือที่เค้าจะรู้สึกแบบนี้
กับทอมบอยหน้าใส...เขาท่าจะบ้า...นี่ตะหากที่ทำให้ปาจาสับสนอยู่ขณะนี้...
มาต่อให้แล้วนะค่ะ...กับสภาพร่างกายที่ 'หน่วง'
ขอกำลังใจหน่อยนะค่ะ อ่านแล้วเม้นท์บ้างไรบ้างก็ดี
Luk.
-
รับมือยากเสียแล้วปาจาเป็นอดีตตำรวจเสียด้วยรออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
เดาว่าตอนหน้า ความแตกแหงๆ เพราะถ้าสืบประวัติก็ต้องรู้ว่าญาติตัวเองตายไปสามปีแล้วสิ
+1 ให้นะ
-
โอ้วววววววววววววววววว คู่นี้สมน้ำสมเนื้อกันมากๆ ทั้งฝีมือและฝีปาก ฮ่า ฮ่า ฮ่า :laugh: :laugh: :laugh:
สรุปที่หายไปในห้องคุณเลขาดึกๆ นี่ไปฝึกฝนการต่อสู้กันเฉยๆ ชิมิ อิอิ :13223: :13223:
-
กรี้ดเจ้าค่ะ :mc4:
เก้าแรกของความสัมพันธ์ ฮิ้วววว
สนุกมากมายเลยค่ะ โฮกกกก
รอค่อยตอนต่อไป :-[
-
o_O!!!!!!!!>>>>>>>>>>>>>>>>>> ขอช็อคอีกรอบ
ปาจาเป็นตำรวจสากลเหรอเนี่ยยยยยย
แบบนี้ก็กลายเป็นว่าหน่วยพิเศษปะทะตำรวจสากลอ่ะดิ
ท่าทางจะดุเดือดน่าดู
เฉือนกันไม่ลงแน่ๆๆๆเลยทั้งฝีปากและฝีมือ
แต่ว่าคาใจอ่ะ
ว่าคนที่เข้าไปในห้องของธรรมตรัยใช่ปาจาแน่รึป่าว
เพราะท่าทางปาจาจะงงอยู่นะที่โดนรพินว่าว่าเป็นโฮโมอ่ะ
แล้วอีกอย่าง
ท่าทางของธรรมตรัยตอนที่กายันเข้าไปวัดไข้รพินตอนกินข้าวเช้านั่นก็แปลกๆๆ
สรุป.....
คนที่เข้าห้องธรรมตรัยฮีเป็นใคร?????
-
:o8: :o8: :o8:น่ารักกกกกกกกก
-
ห๊า คุณน้ำแข็งเป็นอินเตอร์โพล งานนี้ตำรวจปะทะตำรวจ ตกลงไร่นี้มีเรื่องอะไรกันแน่ สงสัยอ่ะ
-
ปาจาใจเต้นตึกตักแล้วเริ่มมีใจให้รพินทร์แล้วซิ
แต่ปาจาเป็นถึงตำรวจสากลแนะ โอ้วววววว
แน่ใจอีกอย่างว่าปาจาไม่ได้มีไรกะเลขาเมื่อคืนแน่
ค่อยยังชั่วหน่อย แถมเค้าจูบกันแล้วด้วย
-
เริ่มต้นความสัมพันธ์ก็เรียกกันเลือด (โดนชกนะ อย่าคิดมาก :-[ )
คู่แรกยังไม่กระจ่าง จะมีคู่ที่สองตามมา o13
:pig4:
-
ตามๆๆ ต่อค้าบบบบบบบบ :impress2:
-
โอ้โหท่านเจ้าคุ้มอย่างเท่ห์อ่ะ เป็นอดีตตำรวจด้วย
ส่วนตัวคิดว่า ปาจาคู่พระลักษณ์
ส่วนคุณเลขาน่าจะคู่กับกายันต์นะ
-
ถ้าปาจารู้ว่ารพินทร์ไม่ใช่ตัวจริงจะเป็นยังไงนะ
-
ธรรมตรัยแอบชอบกายันต์แน่เลย ส่วนปาจาก็กลายเป็นตำรวจไปซะแล้ว ใครกันนะที่เป็นคนร้ายตัวจริง
-
ดูแลตัวเองนะคะคุณลัค คนอ่านรอได้นะ ไม่อยากให้คนเขียนไม่สบาย
:กอด1:
ถึง..ปาจา โอ๊ว!!! เท่ๆๆๆๆ :-[
ถึง..ธรรมตรัย เราว่าเรื่องมีสองคู่แน่ๆๆ :z1:
-
งานนี้สนุกแน่ๆ ไม่มีใครยอมใครเลยทั้งฝีมือและฝีปาก
คงต้องลุ้นกันว่าความลับใครจะแตกก่อน แต่กว่าจะถึงตอนนั้นทั้งคู่คงได้ลับทั้งฝีมือและฝีปากไปพลางๆ ฮ่าฮ่า
-
:m20: :m20:
-
จูบแล้วๆ :impress2:
-
โอ๊ะโอ....ปาจา กลายเป็น อดีตตำรวจสากล แล้วยังนี้ความจะไม่แตกเหรอ....ลุ้น ๆ
-
สงสัยว่าจะต้องมีอะไรระหว่างคุณเลขากับกายันต์แน่ๆ
ปาจาเป็นตำรวจสากล :a5:
งานนี้มันจริงๆ ตำรวจสากลป๊ะกับหน่วยพิเศษ :laugh:
และก็แน่นอนว่าสองคนนี้ได้จูบกันแล้ว กรี๊ดดด!! :m3:
-
:-[จับกดแล้วก็จูบ
:L2:เป็นกำลังใจให้คนเขียนคร๊าบบบ
-
แล้วตกลงเข้าไปทำอะไรในห้องธรรมตรัยน่ะคุณจา...เป็นตำรวจสากลด้วยแฮะ
งานนี้ไม่เป็นก็ได้เป็นแล้วแหละ...โฮโมฯเซ็กชวลน่ะ :laugh:
-
อ่านมาถึงตอนนี้ยิ่งทำให้สงสัยใหญ่เลย สรุปจาปาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะเนี่ย
เรื่องชักสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้ว
-
อ้่าวแล้วตกลงในห้องเป็นใครอ่ะ :m28:
เรื่องนี้นายเอกของเราเป็นตำรวจด้วยเหรอ
อย่างนี้ก็สนุกล่ะสิ :interest:
:L2: :L2:
-
กรี๊ดดดดดดดดด อย่างนี้สิถึงจะเรียกว่าคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกันหน่อยยย กรั่กกกก
คนนึงจากกรมตำรวจ อีกคนจากตำรวจสากล
มาเจอกันจะเป็นยังไง คิคิคิคิ
-
ช่วงนี้ยุ่งมากสุดๆ เลยแวะมาหน่อยนึง อิอิ
มา + คร้าบ แล้วก็กลับไปทำงานต่อ นิยายก็ยังไม่ว่างเขียนต่อเลย แย่จัง
-
ว้าว :-[ :-[ :-[
-
มาต่อแล้ว ดีใจจังเลย
ปาจาเริ่มตงิดๆแล้วหล่ะ สิ
ลุ้นๆรอต่อไป ^^
-
ชอบธิลเลอร์แบบนี้
มาต่อเร็วๆนะคะ อยากอ่านต่อแว้ววววว :กอด1:
-
ถ้าต่างฝ่ายต่างรู้ประวัติกันเมื่อไหร่
งานนี้มีเฮแน่ เก่งทั้งคู่แบบนี้
ว่าแต่ธรรมตรัยกับปาจา แอบคิดไม่ซื่อรึเปล่าเนี่ย 555
-
โอยยยยย!!!!.....มันสุดยอดมาก
คนแต่งโคดเทพเลยคร๊าบบบ..
ตกลงปาจาเป็นพระเอกแล้วใช่ป่ะ...แม่งหล่อได้โลว์เหะไอ้นี่
รพินทร์ของโผม....ผมจองก่อนนะเว้ย....ปาจาถ้านายจะแย่งมาเจอกันหน่อยดิเพื่อน...กร๊ากกกกก
-
โหหหห....ปาจาเป็นตำรวจ! อ่ะนะ อย่างนี้แล้วคงไม่ใช่คนที่น่าสงสัยในคดีหรอก
-
โห ที่แท้ปาจาเป็นถึงตำรวจสากลเลยเหรอเนี่ย เจ๋งอ่ะ
-
ฮั้ยยะ เนื้อเรื่องเริ่มเข้มข้นเเล้วววว
ปาจาเป็นถึงตำรวจสากล วู้ววววว ไฮโซอ่ะ แล้วจะสืบข้อมูลนี่จะรู้ไหม๊อ่ะ
หรือจะรู้ตั้งเเต่ต้นเรื่อง แต่ทำเป็นไม่รู้ ฮริ้ววววววววว :man1: :man1:
-
แฮ่แฮ่ ปาจาเริ่มหวั่นไหวล่ะสิ
-
เรื่องเริ่มสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้วซิ แถบจะอดใจรออ่านไม่ไหวเชียว ฮิฮิ...
-
รอ รอ รอ
-
งง ใหญ๋
-
มนต์มาร
Part 7
อึ้งแดก?...
.
.
.
พระลักษมณ์ออนไลน์ถึงหัวหน้า...ไม่ยอมไปกินมื้อกลางวันแล้ว รอมื้อเย็นทีเดียวดีกว่า...
ยังวางหน้าไม่ถูกถ้าเจอปาจาตอนนี้..ขอเวลาทำใจนิดเหอะ....ขณะรอหัวหน้าออนกลับ ลุกไปหยิบนมกล่องในตู้เย็น..
องุ่นเอามาแช่ไว้ให้ กัดมุดกล่องยกซดกันน้ำย่อยกัดกระเพาะไปพรางๆ ก่อน
“ว่าไงไอ้เสือ” หัวหน้าทักกลับ
“พ่อ...เรื่องที่ให้สืบไปถึงไหนแล้ว?.” ไม่เสียเวลาถามเข้าประเด็นเลย
“ได้เรื่องแล้วหวะ....เอกสารพ่อจะส่งให้ทางเมลล์...แกฟังพ่อเล่าไปก่อน...ปาจาเคยเป็นตำรวจสากล
ของอังกฤษ มือดีอันดับต้นๆ เชียวหละ..ก่อนลาออกเดินทางมาอยู่ไทย....แม่ของหนูผาเป็นแฟนของปาจาชื่อละอองดาว...
คบหากันตั้งแต่ปาจาเรียนอยู่ป.ตรีที่เกษตรศาสตร์ พอปาจาไปต่อโทที่อังกฤษละอองดาวท้องแล้วคลอดหนูผา
ในสูติบัตรปาจาคือพ่อของเด็ก...ส่วนละอองดาวหนูผาอายุได้สองขวบก็เสียชีวิตด้วยโรงมะเร็ง....นมอ่อนเป็นคนเลี้ยงดูต่อมา..
ระหว่างนั้นปาจาเรียนด๊อกเตอร์และยังเป็นตำรวจที่อังกฤษอยู่ด้วย...หนูผาคลอดก่อนกำหนดทำให้เป็นโรคภูมิแพ้...
แต่พ่อสงสัยว่าหนูผาไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของปาจา..ผลของกรุ๊ปเลือดมันคนละกรุ๊ปนี่สิ...พ่อของหนูผาอาจไม่ใช่ปาจาก็เป็นได้...
ปาจาเลือดกรุ๊ป O หนูผาเลือดกรุ๊ป AB ละอองดาวเลือดกรุ๊ป A คิดว่ามันต้องมีอะไรปิดบังอยู่แน่...แกต้องสืบเอาเอง
รู้แบบนี้..พ่อเลยให้หน่วยเราล๊อคประวัติของรพินทร์ตัวจริงโดยประสานกับหน่วยเหนือ
เคลียร์ประวัติซะเรียบร้อย คาดว่าไม่เกินพรุ่งนี้ประวัติของรพินทร์จะถูกแก้ไขให้เป็นประวัติของแกแทน...ต้องป้องกัน
การตรวจสอบจากปาจาไว้ก่อน...ต่อให้เค้าไม่ได้สังกัดตำรวจสากลแล้ว ใช่ว่าเส้นสายวงในจะไม่มี...
แกสืบได้อะไรเพิ่มเติมไหม?..” พอรู้แบบนี้พระลักษมณ์ถึงบางอ้อทันที...มิน่าผีดิบน้ำแข็งถึงรับมือตนได้...อย่างนี้นี่เอง
“ช่วงบ่ายผมปะมือกับเค้า..นึกแปลกใจอยู่เลย ทำไมรับมือผมได้..ชักไม่แน่ใจผมใช่คู่มือเค้า
เสียด้วยซ้ำ..ที่แท้แบบนี้นี่เอง” พระลักษมณ์เล่าให้หัวหน้าฟังทันที
“งั้นแกต้องระวังตัวให้มากขึ้น อย่าเผยไต๋ให้โดนจับได้เด็ดขาด..ปานนี้พ่อว่าคงเช็คประวัติ
แกแล้วแน่นอน...ทอมห่าไรแกร่งเกินหญิง...แกต้องรีบสืบคดีปิดสำนวนให้เร็วได้ดีที่สุด..” หัวหน้าสั่ง...
น้ำเสียงเจือความกังวลเล็กน้อย
“ประวัติปาจา...มีตรงไหนบอกได้มั้งว่าเค้าเป็นพวกโฮโมฯ หรือเปล่าพ่อพอรู้ไหม?” พระลักษมณ์ถาม
“ทำไม..แกถึงถามแบบนี้.” หัวหน้าถามกลับ
“ผมเห็นว่าคนร้าย..แม่งตุ๋ยทั้งชายฟาดทั้งหญิง เลยหาข้อมูลประกอบหนะ” ตอบไปตามที่สงสัย
“ในประวัติไม่มีนะ...แต่ข่าวกับนางแบบควงสาวๆมีไม่น้อยตอนอยู่เมืองนอก..เนื้อหอมน่าดู..
แต่ไม่มีข่าวกับผู้ชายนี่หว่า? พ่อว่าแกตัดปาจาในข่ายที่น่าสงสัยออกได้เลย...ที่เหลือคงมีแต่กายันต์กับธรรมตรัยที่เข้าข่าย...
แกพุ่งเป้าไปที่สองคนนี้จะได้จำกัดวงให้แคบลง...ยังไงก็ระวังตัวด้วย..ปาจาไม่โง่แกจะตบตาเค้าได้อีกนานเท่าไหร่...
ทำอะไรอย่ามีพิรุธ..ห้ามประมาทโดยเด็ดขาดเข้าใจไหม?.” หัวหน้ากำชับเสียงห้วน...ครั้งนี้รู้สึกห่วงเจ้าลูกคนเล็กจริงๆ...
ยิ่งได้ข้อมูลล่าสุดยิ่งห่วงเข้าไปใหญ่
“วางใจได้พ่อ..ผมจะระวังตัวให้มากขึ้น...แค่นี้ก่อนนะ...ขอตัวอาบน้ำกะเดินสำรวจนิดหน่อย
ก่อนมื้อเย็น..เผื่อได้ข้อมูลคืบหน้ามาบ้าง” พระลักษมณ์ตัดบทสนทนาทันที...เมื่อดูเวลาร่วมสี่โมงเย็นแล้ว
“อืม..แกไปเถอะ” หัวหน้าทิ้งท้ายก่อนปิดหน้าจอไป
.
.
.
.
รพินทร์ในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตลายทางสีฟ้าอ่อน พับแขนเล็กน้อยกางเกงยีนส์สีซีด...ทรงผมรากไทร
รับกับหน้าหล่อใสกอปรกับรูปร่างสูงโปร่งหน้าอกแบนราบดูดีจนหน้าทึ่ง...เดินทอดน่องเอื่อยๆเพื่อตรงไปยังมุกหน้าบ้าน..
แต่ระหว่างทางผ่านห้องนั่งเล่น ได้ยินเสียงสนทนาถือโอกาสแวะเข้าไปดูสักหน่อย พอพ้นประตูอดแปลกใจไม่ได้
เมื่อเห็นสาวสวย กำลังหัวเราะร่าอยู่กับปาจาและกายันต์ นั่งทานของว่างกันอย่างสบายอารมณ์....กายันต์เห็นรพินทร์
เป็นคนแรกร้องทักขึ้นทันที
“อ้าว!..รพินทร์ทานของว่างด้วยกันสิ..คุณไม่ได้ทานมื้อเที่ยงนี่...แล้วค่อยยังชั่วหรือยัง” พูดจบส่งรอยยิ้ม
จริงใจมาให้ รพินทร์เดินเข้าไปแอบเหลือบมองปาจาที่จ้องมานิดหนึ่ง..ไม่รู้เป็นไงพาลคิดถึงเหตุการณ์ช่วงบ่าย...
ดันหน้าร้อนโดยไม่มีสาเหตุ...ก่อนตอบกายันต์ไปว่า
“รองท้องหน่อยก็ดีขอชานะ...ฉันดีขึ้นมากแล้ว...ไม่ทราบว่าคุณคนสวยคือ....” รพินทร์ละไว้
รอเจ้าภาพแนะนำสาวสวยที่เปล่งออร่าเพียงคนเดียวในขณะนี้
“อ๋อ!..นี่ครูรัสสา..ครูของหนูผานะ...ครูรัสสาครับนี้ทายาทคุ้มดงพญาคุณรพินทร์ครับ” กายันต์เป็นคน
แนะนำเสียเอง...รพินทร์หันไปยิ้มให้ครูรัสสา..ไม่วายติดส่งสายตาวิบวับเมื่อเห็นผู้หญิงสวย..เล่นเอาครูรัสสาหน้าขึ้นสี
ก่อนจะยิ้มตอบรพินทร์อย่างอายๆ
“น้อยหน่อยรพินทร์...ยิ้มหว่านจนครูเขินแล้ว..อะไรเนี่ยะไว้หน้าผมหน่อยสิคร๊าบ...อย่างงี้ยี่ห้อกายันต์
ก็แย่ดิ..ฮ่าๆๆๆๆ” กายันต์แหย่เอาฮา...รพินทร์อดหัวเราะตามไม่ได้ บรรยากาศเป็นกันเองขึ้นมาก...คงเพราะนิสัยติดขี้เล่น
ไม่ถือตัวของกายันต์ทำให้รพินทร์วางตัวง่ายขึ้น ผิดกับเจ้าคุ้มน้ำแข็งหน้านิ่งวางมาดไม่พูดสักคำ...
จากนั้นเป็นการคุยสัมเพเหระทั่วไป...ผูกขาดการสนทนาโดยกายันต์...รพินทร์..และครูรัสสาเสียส่วนใหญ่...
ปาจาทำหน้าที่ผู้ฟังที่ดีมีเสริมบ้างเล็กน้อย...
มื้อเย็นครูรัสสาได้รับเชิญร่วมโต๊ะอาหารด้วย..หากรพินทร์ดูไม่ผิด คงแอบมีใจให้ปาจาเป็นแน่
สังเกตจากสายตาและรอยยิ้มที่ใช้มองปาจาแสดงออกขนาดนั้น ไม่อยากเชื่อผู้หญิงสมัยนี้มีรสนิยมชอบผีดิบปากจัดซะงั้น....
พิลึกกันจริง...หล่อใสอินเทรนอย่างรพินทร์กลับเมินเหะ...ได้แค่คิด...
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
มื้อเย็นเริ่มด้วยบรรยากาศชื่นมื่น....อาจเป็นเพราะมีสาวสวยช่วยเพิ่มบรรยากาศอีกคน...
แต่ที่ดูมึนตึงลงไปคงเป็นสิตา รพินทร์เฝ้าสังเกตอากัปกิริยาแต่ละคนอย่างสนใจ....นึกหมั่นไส้เจ้าคุ้มขี้เก็กอย่างช่วยไม่ได้..
คนอย่างนี้มีดีแค่หน้าตา ทำไมสาวๆถึงหลงไหลนักหวะ...ถึงแม้ผีดิบพอยิ้มจะเปลี่ยนจากซาตานเป็นเทพบุตรก็ตามเหอะ...
เล่นปล่อยฟีโรโมนกลบหนุ่มที่เหลือไม่ได้เกิดกันเลย...
รพินทร์รู้ว่าคงทานผลไม้ต่อ...กะใช้เวลาช่วงนี้สืบข้อมูลในห้องหนังสือดูหน่อยเผื่อมีหลักฐาน
เพิ่มเติมได้บ้าง...ที่สำคัญทุกคนอยู่ที่นี่กันหมดอย่างน้อยทางสะดวกปลอดโปร่ง..คิดได้ดังนั้น เลยเอ่ยขอตัวขึ้นมาทันที
“เออ..ฉันขอตัวไปพักเลยดีกว่า..รู้สึกปวดหัวขึ้นมาตะหงิดๆ..เชิญพวกคุณตามสบายนะค่ะ”
พูดพร้อมกับตั้งท่าลุกออกมาเลย..
“เป็นอะไรมากหรือเปล่ารพินทร์...ไหนค่อยยังชั่วแล้วไง” กายันต์เจ้าเก่า...ลดความห่วง
ลงบ้างก็ได้นะ...
“ช่วงเย็นคิดว่ามันดีขึ้นแล้ว ตอนนี้เริ่มจะปวดขึ้นมาอีก...เอาเป็นว่าฉันขอตัวไปพักเลยแล้วกัน..
ไม่เป็นไรมากหรอกไม่ต้องห่วงคุณยันต์สบายมาก...” รพินทร์บอกให้กายันต์สบายใจ..ก่อนจะลุกออกมาทันที...
พอปลีกตัวออกมาได้ ตรงแน่วไปจัดการล๊อคห้องตัวเองให้เรียบร้อยกันผิดพลาดก่อนจะแว่บแอบเข้า
มาในห้องหนังสือ ซึ่งปาจามักใช้เป็นห้องทำงานส่วนตัวทันที...
ดึงถุงมือเนื้อบางสวมเสร็จ แอบลอบเข้าสำรวจอย่างใจเย็น เจาะจงที่โต๊ะทำงานซึ่งตั้งเด่นกลางห้อง
ตรงมุมเป็นโซฟาไม้สักบุด้วยนวมหลุยส์อย่างคลาสสิคมีทั้งตัวยาวและตัวเดียว...ข้างฝาเป็นชั้นหนังสือจัดเก็บหนังสือมากมาย
แบ่งหมวดหมู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย...
พระลักษมณ์ไม่รอช้า...ตรงดิ่งที่ลิ้นชักโต๊ะทันที..ก่อนจะเปิดออกแต่มันดันล๊อคซะงั้น..ไม่ใช่ปัญหา
สำหรับพระลักษมณ์...ดึงขดลวดสปริงที่พกติดตัวแหย่เข้าไปในรูกุญแจ หมุนไปมาอยู่สักครู่ก็สะเดาะกุญแจเปิดเรียบร้อย...
ค้นดูเอกสารอย่างใจเย็น ก่อนจะพบรูปถ่ายใบหนึ่งสอดอยู่ในหนังสือ หยิบขึ้นมาดู...เป็นรูปถ่ายของปาจา
สมัยยังเรียนป.ตรีกับหญิงสาวสวยถ่ายคู่กัน ในชุดนักศึกษาทั้งสองคน...กอดกันยิ้มอย่างมีความสุขให้กล้อง...ถ้าเดาไม่ผิด
คนในรูปคงเป็นละอองดาวแม่ของหนูผาแน่นอน...สวยมากเลยทีเดียว....เสียดายอายุสั้นไปหน่อย...หากปาจาไม่ใช่พ่อ
ของหนูผา..แล้วใครกันเป็นพ่อของหนูผา..
กำลังจะค้นต่อ หูดันได้ยินเสียงคนเดินมาหัวเราะอย่างมีความสุข...เสียงครูรัสสามากับใคร...
พระลักษมณ์ไม่เสียเวลาคิดนาน...รีบเก็บทุกอย่างเข้าที่ก่อนจะปิดล๊อคลิ้นชักแล้วจัดการโหนตัวขึ้นไปหลบบนคาน
หลังม่านหน้าต่างทันที..อาศัยคานไม้หนานอนราบกำบังตัวไว้อย่างดี...ก่อนประตูห้องจะเปิด...
“แอ๊ดดด!..กริ๊ก!..” ปิดล็อคตามหลัง...คนที่เดินเข้ามาคือปาจากับครูรัสสา....พระลักษมณ์แอบดูอยู่เงียบๆ
“คุณจาค่ะ...สายืมไปอ่านไม่เกินสองวันจะคืนให้นะค่ะ” ครูรัสสาพูดขึ้นมา
“ตามสบายครับ..อ่านจบเมื่อไหร่ค่อยคืนผมทีหลังก็ได้..ผมหยิบให้เลยดีกว่า” พูดจบปาจาเดินไป
ตรงชั้นหนังสือ ก่อนจะหยิบหนังสือปกหนาเล่มหนึ่งเดินกลับมาหาครูรัสสา...ยื่นหนังสือให้ครูรัสสารับไปถือไว้
“ขอบคุณมากค่ะ....”
“เดี๋ยวผมให้ประยงค์ขับรถไปส่ง ทิ้งรถคุณสาไว้ที่นี้แหละ วันนี้ค่ำมากแล้ว ไว้ไงพรุ่งนี้ผมให้ประยงค์
ไปรับค่อยมาเอารถคุณกลับพรุ่งนี้ก็ได้” ปาจาบอกครูรัสสา เวลาคุยกับหญิงนุ่มได้อีก...มิน่าถึงล่อสาวหลง..
“ดีค่ะ..ตามใจคุณจาแล้วกัน” พูดพร้อมกับยิ้มหวานเชิญชวนขนาดนั้น ดูสิผีดิบน้ำแข็งจะละลายไหมหวะ....
สาวอ่อยขนาดนี้...นอกจากมันเป็นโฮโมฯ..พระลักษมณ์ยังสังเกตเหตุการณ์เงียบๆ
“งั้นเราไปกันเลยครับ” พูดจบปาจากำลังจะเดินไปเปิดประตู...แต่
“โอ๊ะ!..” ครูรัสสาอยู่ๆ เซจะล้มขึ้นมาซะงั้น..ปาจารีบเข้าไปประคองทันที
“เป็นอะไรไปครับ” ครูรัสสาซบอยู่ในอ้อมกอดปาจาทั้งตัว ก่อนจะพูดว่า
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ...อยู่ๆก็วูบขึ้นมาเฉยๆ” เธอตอบ พระลักษมณ์กำลังมองอย่างสนใจ...
“ผมว่าคุณไปนอนพักตรงโซฟาก่อนดีกว่า” พูดจบประคองครูรัสสาไปเอนนอนโซฟาตัวยาว...
ท่าทางอ่อนโยนพระเอกได้โล่ห์....จู่ๆ ครูรัสสาดันรวบกอดคอปาจาดึงไว้แน่น หน้าห่างกันไม่ถึงคืบ ในขณะที่พระเอกขืนตัว
จ้องตาเธอนิ่งๆ...
“คุณรู้ใช่ไหมค่ะ...สารู้สึกยังไงกับคุณ” เอาละเหว้ย....เลิฟซีนเกิดขึ้นซะแล้ว..พระลักษมณ์
จ้องดูไม่กระพริบ...ลุ้นอย่างสนุก...ดูสิ...สาวสวยรุกขนาดนี้..เจ้าคุ้มน้ำแข็งจะทำไง...อยากพิสูจน์เหมือนกันตกลงมันโฮโมฯ
หรือเกย์..หรืออะไรกัน..ถ้าชายจริงแมนเต็มร้อยอย่างน้อยก็ต้องหวั่นไหวบ้างแหละหว้า!
“มันไม่เหมาะนะครับ...ปล่อยผมก่อนดีไหม?” อ่าหะ!...เกิดจะสุภาพบุรุษอะไรขึ้นมา ที่กับกูดันจูบ
ไม่ต้องขอซะงั้น...หรือมันเกิดอารมณ์กับผู้ชายจริงๆ..
“ไม่มีอะไรไม่เหมาะหรอกค่ะ..สาชอบคุณ..ชอบมานานแล้วด้วยคุณก็รู้” พูดจบเธอประกบปากจูบทันที...
เอาละเหว้ยเฮ้ย!..งานนี้ผู้หญิงรุกแรงจริงไรจริง...น้าน!...น้ำแข็งละลายจูบตอบแล้วเหว้ย...แถมยังโอบอีกด้วย...
เหอะ..ดูหนังสดแบบไม่ตั้งใจซะงั้น
จูบที่ดูดดื่มเริ่มจะเร่าร้อนขึ้นเลยๆ ฝ่ายหญิงเริ่มหายใจหายคอไม่ทัน ก่อนปาจาจะเป็นฝ่ายถอนปากออก...
ให้ครูรัสสาโกยอากาศบ้าง..หน้าแดงก่ำ..มุมนี้พระลักษมณ์เห็นหน้าปาจาเองก็ก่ำไปด้วยไฟราคะเหมือนกัน..ก่อนปาจาจะก้ม
ประกบปากลงไปบดคลึงปากนุ่มที่บวมเจ่อไปกับจูบอย่างเซ็กซี่สุดๆ
ไฟราคะโหมขึ้นเรื่อยๆ มือของปาจาเริ่มล้วงเข้าไปในเสื้อครูรัสสา..ก่อนจะขยำคลึงอกตูมเรียกเสียง
ครางกระเส่าจากปากคนสวยขึ้นมาทันที
“อ่ะ...อาzzzz.” พระลักษมณ์...จ้องตาไม่กระพริบ...บะระเหิ่มได้อีกคุณครูคนสวย..เสียงครางก็เร้าซะ
อยากร่วมด้วยช่วยแจมจริง...แต่จู่ๆ พระลักษมณ์ต้องอ้าปากค้าง...ช๊อคไปทันที เมื่อได้ยินปาจาครางเสียงทุ้ม
เรียกชื่อคุ้นหูออกมา...
“อืมมมม...รพินทร์...” พระลักษมณ์ตะลึงอึ้งแดกเกือบหล่นจากคาน....ก่อนที่เลิฟซีนข้างล่าง
พลันหยุดลงทันที..เมื่อครูรัสสาผลักปาจาออกอย่างแรง
“พลั๊ก!...หยุด!...ถึงฉันจะชอบคุณมาก..แต่ก็ไม่พร้อมจะเป็นตัวแทนของใครในเวลาแบบนี้...” พูดจบ
เธอกุลีกุจอ..จัดเสื้อให้เข้าที...พร้อมกับลุกเปิดประตูออกไปหน้าบึ้งสุดๆ...ในขณะที่ต้นเหตุนั่งเอนศรีษะหลับตาถอนหายใจ..
ก่อนสบถออกมาอย่างเสียอารมณ์
“บ้าชิบ!...ยัยทอมจอมแสบ” เวร!...เกี่ยวไรกะกูหวะเนี่ยะ....พระลักษมณ์ทั้งอยากขำ...ทั้งโมโห...
ไม่รู้จะเอาอารมณ์ไหนมาเป็นที่ตั้งดี...ไอ้บ้า...????
มาต่อให้แล้วนะค่ะ..ขอให้มีความสุขกับการอ่าน
ฝันดีทุกคนก่อนนอนค่ะ
Luk.
-
ฮะๆๆๆ
ปาจาหลงพระลักษมณ์ในคราบรพินทร์ไปซะแล้ว
@@
-
เจ้าคุ้มจะเปงเกย์ก้องานนี้แหละ
ตกลงหนูผานี่ลูกใคร
แล้วคดีอาไรยังไงเนี่ย ปมเยอะจัง
-
เอาลสิงานนี้
งานเข้าอย่างจังเลยละพระลักษมณ์ :laugh: :laugh:
-
ถึงกับเพ้อเรียกชื่อกันเลยทีเดียว :m20:
-
:laugh: :laugh: :laugh:
:L2: :L2:
-
คนที่มีอาการ "อึ้งแดก" คือครูรัสสากับปาจาใช่มั้ย :laugh:
-
ขนาดเรียกชื่อผิดคน น้ำแข็งปาจาละลายให้พระลักษมณ์แน่แล้ว อิอิอิ
-
ตอนนี้โคตรสนุกเลย ขอบคูณครับ
แต่ผมอยากเห็นฉาก พระลักษมณ์ กระทืบ ปาจา มากๆ อิอิ
-
ติดใจแล้วสิคุณน้ำแข็ง ถึงกับเพ้อไปเลยที่เดียว :o8:
-
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก โฮะๆๆ
ยอดค่ะ รอคอยตอนต่อไป :กอด1:
(แหกขี้ตาเมนท์ @_@)
-
อยากจะร้องดังๆๆๆ
อ๊าย กรี๊ดๆๆๆ หนุกมากค๊า
รอรพินทร์ อย่างเดียวเลยค๊าทีนี่ หุหุ :)
-
ฮ่าๆๆๆ ครูสาไไม่เป็นเลยทีเดียว หุๆๆ
-
เจ้าคุ้มเริ่มหลง พระลักษณ์ ซะแล้ว..... :laugh:
-
5555 อ่านไปขำไป.. สนุกๆรอติดตามต่อไปคร๊าบบบ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดที่1 ป๊ะป๊าพระลักษณ์ฉลาดล้ำ สุดยอดดดดดดดดดดดมากๆ ค่ะ o13 o13 o13
กรี๊ดดดดดดดดดดดที่2 ขนาดนัวเนียกับสาวอื่นยังเผลอเพ้อหารพินทร์อีก เจ้าคุ้มน้ำแข็ง ละลายแน่แล้วงานนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า :laugh: :laugh: :laugh:
-
สงสัยกายันต์อ่ะ
เพราะตานี่ดูน่าไว้ใจ และเป็นมิตรเกินไป
และนิยายแนวนี้ ตัวคนร้ายจริงๆก็มักจะแอ๊บเนียนด้วยสิ :laugh: :laugh:
-
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ ยิ่งอ่านยิ่งสนุก มาต่อไวๆ นะคะ ^ ^
-
คุณตำรวจสากลจะเป็นเกย์ก็คราวนี้ล่ะ ถ้ารู้ว่ารพินทร์สุดที่รักเป็นผู้ชายจะทำยังไงน้อ 5555+
-
อึ้งจริง !!!
-_- > -_o > o_O > OWO>>>>>
นึกว่าจะได้ดูหนังสดซะแล้วอ่ะ
:o8: :o8: :o8: :o8:
แต่ปาจาเนี่ยท่าทางจะหลงพระลักษณ์เข้าเต็มๆๆเปาเลยนะเนี่ย
กำลังจะเมคเลิฟกะอีกคนแต่ครางชื่อของอีกคน
ปล. ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจแทนพระลักษณ์ดีที่ปาจาครางชื่อตัวเองเนี่ย บอกไม่ถูกจริงๆๆ :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ปล 2. พระลักษณ์คงต้องเปลี่ยนอาชีพแล้วล่ะ เปลี่ยนเป็นอาชีพถ้ำมองนะ เกือบจะได้ดูหนังสดสองตอนติดเลย กลายเป็นผู้ชมกิติมศักดิ์ไปเลยอ่ะ :z1: :z1: :z1:
ปล 3. คุณครูเนี่ยจะเเรงไปรึป่าวค่ะ ให้ท่าปาจาเต็มที่เลยอ่ะ หมั่นไส้ๆๆๆๆ ชิๆๆๆ
ปล 4. ปาจาต้องเป๋นของพระลักษณ์เท่านั้น o18 o18 o18 o18
-
หุหุ ปาจาของเรามีใจให้รพินทร์ของเราซะแล้ว ชอบจูบเขาล่ะสิ
-
เอ้าซะงั้นไหงเรียกชื่อรพินทร์อ่ะ
น่าสงสัยๆใครกันที่เป็นพ่อหนูผา
รออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
โอโหย่!...อย่างฮาเลยเหว้ย!...ฮ่าๆๆๆๆๆ
พระเอกน้ำแข็ง ฟอร์มหลุดอย่างแรง...เอิ้กกกก....จ้ดไปคร๊าบบบ..
เอาพระลักษมณ์ถ้ำมองให้หมดแรงแทนเลย...โทษฐานทำให้อดหญิง...ฮ่าๆๆๆๆ
-
อืม ...
คุณปาจา ท่าทางจะอาการหนักนะค่ะ
55555555555555
น้ำเเข็งนี่ละลายเร็วเนอะ
คิคิ
-
:m20:ปาจานายเสร็จแน่งานนี้น้ำแข็งกำลังจะละลายแล้ว วู้วู้ :mc4:
-
เป็นเอามากนะเนี้ยคุณปาจา
-
:laugh: กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มดันนหลุด "รพินทร์" ออกมา
อ๊ะๆๆๆๆ ปาจาเราหลงนายเอกแล้วดิ ชอบอ่ะ
:impress2:
-
ตายแล้วเพิ่งจะจุ๊บไปทีเดียว ถึงขั้นติดใจขนาดเรียกชื่อเลยเหรอ :-[
-
o13 สนุกมาก
-
:m20: งานงอกแล้วพระลักษณ์5555
:กอด1:ขอบคุณและรอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
-
โอ๊ยยยยย อยากอ่านต่อมั๊กมากกกกก วิวว่าปาจาไม่ได้เป็นโฮโมหรอก แต่เพียงเข้าใจว่ารพินทร์เป็นผู้หญิงจริงๆเลยชอบอ่ะ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นหญิงหรือชาย
-
ถ้ารู้ว่าเป็นผู้ชายปาจาจะทำไงเนี่ย
-
:a5:กรี๊ดดดด อออกไป อย่างดัง จนเพื่อนในห้องมอง มันเป็นบ้าอะรัย อิอิ
:laugh: ปาจา เป็นเอามากนะเนี้ย อิอิ
ชอบๆๆๆ ขำขำ มากคร๊
-
:z1: :o8:
-
ปาจา ใช่ย่อย น่ะ
-
เหอๆๆ แจ๋วๆๆ
-
:m20:
สนุกดีครับ
น่าติดตามมากกกก
ตอนนี้ปาจาคงหลงเสน่ห์รพินทร์ซะแล้ว
หลายๆปมที่ปล่อยออกมากญ่าขอเดานะครับ
ปมแรก คิดว่าหนูผาคงเป็นลูกของกายันต์แน่นอน ละอองดาวเคยเป็นแฟนกับปาจา ตรงนี้ต้องมีรักสามเศร้าแน่
ปมสอง ธรรมตรัยชอบกายันต์แน่นอน แต่ที่ปาจาไปหาวันนั้น หวังว่าคงไม่ไปพิจจริ่งกันแน่ๆ
เดาๆได้แค่นี้
อยากให้ปาจารู้ความจริงว่ารพิทร์คือพระลักษณ์จัง ว่าจะทำไงต่อ :laugh:
-
"อึ้งแดก" สมกับชื่อตอนจริงๆๆ
+1 นะคะ
-
ปาจาติดในพระลักษณ์ซะแล้ววว :really2:
-
5555
ปาจาหลงเสน่ห์พระลักษณ์ซะแล้ว
ไม่อยากจะคิดต่อ อิอิ
-
อ่ะอ้าววววว เอาแล้วไง :z1: :z1: :z1:
-
:laugh: พ่อน้ำแข็งละลายซะแล้ว...อร๊ายยยยน...ไงเนี้ย แอบอยากให้รพินทร์ตกลงจากคาน...ตุ๊บ !!! :-[
-
อ้าว นี่คิดถึงเค้าอยู่ตลอดเวลาเลยรึนั่น :m20: :m20:
ถ้ารู้ว่าเป็นผะชายจะเป็นไงน้ออ
-
รู้สึกเพ้อในรสจูบ ฮิฮิ
-
o13 o13 o13
-
:jul3: :jul3: :jul3:
สนุกมากค่ะ :impress2:
-
สงสัยไอ้ที่ 'แข็ง' น่ะ คงจะมีแต่ ... ปาก ... ซะล่ะมั้งท่านเจ้าคุ้ม (http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/01/yoyo-emoticon-2-022.gif)
-
ถึงขั้นเก็บเอาไปเพ้อ :laugh:
แต่ถ้ารู้กันว่าต่างฝ่ายเป็นใครนะ มันแน่ๆ
รอตอนต่อไปนะคะ
-
ได้แค่จูบยังเพ้อขนาดนี้
ถ้าเกิด :oo1: จะเป็นแบบไหนเนี๊ยะ :z1: :z1:
-
คนเขียนอยู่ไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนค่ะ
คิดถึงรพินทร์มากค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :serius2: :serius2: :serius2:
-
ตอนนี้แรกๆ เหมือนจะงง แต่หลังๆ เริ่มเข้าใจแล้ว
-
มนต์มาร
Part 8
ความลับปมใหม่....
.
.
.
.
.
พระลักษมณ์แอบสำรวจปาจาอย่างเงียบๆ..ยอมรับใจเต้นตึกๆตักๆ..ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน...
ถึงจะเคยถูกผู้ชายหม้อมาบ้างไม่น้อย ยิ่งตอนปฏิบัติงานก็เคยเจอ แต่ไม่เคยรู้สึกพิลึกพิลั่นเหมือนที่มาได้ยินปาจาเพ้อระหว่าง
เข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้...หน้านี่ไม่ต้องพูดถึงร้อนจนจะเดือดแล้วเหอะ..ทั้งโมโห..ทั้งโกรธ...ทั้งขำ..ทั้งสงสาร...
สุดท้ายอายโคดๆ...
ยอมรับไอ้น้ำแข็งตัวโตข้างล่าง จัดเป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว รูปหล่อ รวย..
ดีกรีด๊อกเตอร์ ฝีมือดีอีกตะหาก...เพียบพร้อมเพอร์เฟ็กซ์ซะขนาดนั้น...ถ้าไม่รักฝังใจจนยากจะลืม
ก็คงมีอดีตทำให้ไม่ยอมรับใครเข้ามาในชีวิตเสียมากกว่า
ส่วนที่ปั้นจิ้มปลดปล่อยกับสาวๆ สวยๆ เป็นเรื่องปกติของผู้ชาย พระลักษมณ์เองเข้าใจดี
ยิ่งกรณีนี้ด้วยแล้วครูรัสสาใช่เป็นคนขี้เหร่ซะเมื่อไหร่ ออกจะสวยพริ้งซะขนาดนั้น ที่สำคัญเธอรุกนำเป็นใครก็คง
ไม่เก็บไว้ขึ้นหิ้งหรอก...แต่ไหงไปๆ มาๆ มันดันมาลงท้ายอิหรอบนี้ไปได้...
ปาจานั่งพิงโซฟาแหงนหน้าหลับตาอยู่สักครู่ ก่อนจะลุกเดินหายออกประตูไป...พระลักษมณ์
ที่รอโอกาสนี้อยู่แล้ว ค่อยโหนตัวลงจากคานหลังจากแน่ใจว่าฝีเท้าปาจาไกลออกไปพอสมควรแล้ว...
เหลือบดูนาฬิกาตั้งโต๊ะ สามทุ่มกว่าแล้วหรือเนี่ยะ....ค่อยๆลอบออกจากห้องหนังสือ...
ด้านนอกทางเดินยังเปิดไฟไว้อยู่....สี่ทุ่มทุกอย่างจะปิดโดยอัตโนมัติ..บ้านทั้งหลังต้องอาศัยแสงสว่างจากดวงจันทร์
กฏที่นี้ห้ามออกนอกห้องหลังสี่ทุ่ม....ข้อนี้พระลักษมณ์เข้าใจถ่องแท้...เลยรีบตรงดิ่งกลับเข้าห้องทันทีไม่ให้มีพิรุธ....
กลับเข้ามาแล้วพระลักษมณ์ไม่รอช้า เปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำให้สดชื่น ก่อนจะกลับมาใส่ชุดอำพรางตัว
สีดำรัดรูปอีกครั้ง จัดอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ เหมือนคืนที่ออกสำรวจราตรีรอเวลาไม่ถึงสิบนาที นาฬิกาพรายน้ำบนข้อมือ
บอกเวลาสี่ทุ่มครึ่ง วันนี้พระลักษมณ์กะออกเร็วครึ่งชั่วโมง..กำลังจะเปิดประตู หูดันแว่วเสียงคนเดินตรงมาทางห้องตัวเอง
ถ้าไม่ตั้งใจฟังให้ดีแทบจะไม่ได้ยิน...เลยชะงักไว้ก่อน พร้อมกับค่อยๆ ส่องลอดช่องประตูออกไป
กายันต์มาทำอะไร...กำลังลุ้นว่ากายันต์จะเดินมาที่ห้องตนหรือไม่...สุดท้ายกลับเป็นห้องฝั่งตรงข้าม
ตะหากเป้าหมายของกายันต์..ก่อนจะเคาะประตูเบาๆ สองครั้ง
“ก๊อกๆ” รอไม่นานประตูเปิดออกโดยสิตาเจ้าของห้อง..เปิดประตูออกมารับกายันต์ทั้งคู่จ้องกันนิ่งๆ
ไม่พูดจา ท่าทางสิตาไม่ออกอาการแปลกใจที่กายันต์มาเคาะ แถมยังหลบทางให้กายันต์มุดหายเข้าไปก่อนจะปิดประตู
ลงกลอนตามหลัง...พระลักษมณ์สงสัยความสัมพันธ์ประหลาดๆ ของคนในบ้านหลังนี้ชะมัด ทั้งปาจา ธรรมตรัย
กายันต์ และสิตา...ตกลงอะไรมันยังไงกันแน่คนพวกนี้
อยากเคลียร์ให้กระจ่าง ยอมเสียมารยาทสอดลวดเข้าไปทางช่องประตู..พร้อมต่อสัญญาณ
กับโทรศัพท์มือถือ ภาพภายในห้องปรากฎบนจอ กายันต์กับสิตาโลมรันพันตูกันอยู่บนเตียง เกี่ยวกระหวัดจูบกัน
อย่างเร่าร้อน พระลักษมณ์ดูแค่นี้ก็เข้าใจทะลุปรุโปร่ง...แต่ก็ยังมีปมคำถามมากมายในหัว..ถ้าสายตาตนเองดูไม่ผิด
สิตาน่าจะหลงรักปาจาแน่นอน แล้วทำไมถึงมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับกายันต์ หรือทุกอย่างเป็นแค่เซ็กส์เฟรน
หรือบ้านนี้เค้าหาวิธีปลดปล่อยกันเอง...ปาจากับธรรมตรัย กายันต์กับสิตา...น่าจะเป็น
แบบนี้มากกว่า...คิดได้ดังนั้น พระลักษมณ์เก็บอุปกรณ์ยังทันเห็นภาพสุดท้าย...เสื้อผ้าของทั้งสองคนหลุดออกจากร่าง
ทีละชิ้นๆ จนเปลือยเปล่า
ไม่เสียเวลาต่อไป พระลักษมณ์ตรงดิ่งมายังโซนชั้นล่างทันที...การเดินด้วยฝีเท้าย่องเบาแทบไม่ได้ยิน
เสียงของพระลักษมณ์ ฝึกฝนอย่างชำนาญ พอพ้นหัวมุมทางเดิน ต้องรีบหลบเข้ามุมทันที เมื่อเห็นปาจากำลังแทรกหาย
เข้าไปยังห้องธรรมตรัย..
“หึ..คงมาปลดปล่อยอารมณ์ที่ค้างตอนเย็นละมั้ง ดีจริงพี่น้องบ้านนี้ คนน้องฟัดกับหญิง
อยู่ชั้นบน คนพี่ฟัดกับเลขาผู้ชายอยู่ชั้นล่าง...” พระลักษมณ์สบถกับตัวเองคนเดียว...ก่อนจะแอบลอบออกจากตัวบ้านเพื่อ
สำรวจหาดูห้องลับต่างๆ โดยไม่สนใจที่จะตามไปดูพฤติกรรมบ้าเซ็กส์ของพี่น้องดงพญาอีก...
เช้าวันใหม่...พระลักษมณ์ตื่นตามปกติ...วันนี้ไม่สายเพราะไม่มีเรื่องกวนใจทำให้นอนไม่หลับ
เหมือนคืนแรกมารบกวน..พอรู้พฤติกรรมของคนในบ้านแล้วพระลักษมณ์ก็ตัดความรู้สึกต่างๆ ออกได้....เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติ
สำหรับคนที่มีจิตพิศวาสต่อกัน การปลดปล่อยกับคนในดีกว่าปัญหายุ่งยากจากคนนอก...พระลักษมณ์มั่นใจแล้วว่าปาจา
เป็นโฮโมฯ เต็มร้อย....ไม่ต้องไปหาหลักฐานมาพิสูจน์ไรแล้ว....ที่เหลือแค่หาหลักฐานของคนร้ายก็พอ...
อาบน้ำแต่งตัวกลับมาอยู่ในลุคของรพินทร์ สำรวจตรวจดูความเรียบร้อยของตนเองหน้ากระจก
อีกครั้ง...ก่อนจะเดินออกจากห้องตรงไปยังห้องอาหารทันที
วันนี้รพินทร์มาถึงเป็นคนที่สอง ไม่แปลกใจเพราะเพิ่งหกโมงครึ่งเอง...เวลาอาหารเช้าเจ็ดโมงตรง....
แต่คนแรกนั่นสิปาจากำลังนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์หน้านิ่ง....หึ...ตัวเบาทุกคืนเลยเหอะ...
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณจา” รพินทร์ทักตามมารยาท ปาจาเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์จ้องรพินทร์
ก่อนจะยกยิ้มมุมปากทักทายกลับว่า
“อรุณสวัสดิ์ครับ...คุณคงหายแล้วสินะ...หน้าตาดูสดชื่นขึ้นแล้วนี่” รพินทร์ยิ้มปากกว้าง..
ตอบกลับไปว่า
“หายแล้วค่ะ..ฉันมันพวกหนังเหนียว..สวยถึกและบึกบึนจิ๊บๆน่า” พร้อมกับยักคิ้วให้อีกตะหาก...
ปาจาอดยิ้มขำกับท่าทางกร่างของรพินทร์ไม่ได้...ทะเร้นจริงๆ..
“กาแฟไหม?..” ปาจาถาม
“ดีเหมือนกันค่ะ..” รพินทร์ตอบ
“กริ่งๆๆๆๆ!..” ปาจายกกระดิ่งบนโต๊ะขึ้นมาสั่นเรียกคนรับใช้...ไม่นานก็มีหญิงวัยกลางคน
ที่รพินทร์พอคุ้นหน้าอยู่บ้างเดินเข้ามาก่อนปาจาจะเป็นคนสั่งว่า
“ไปชงกาแฟให้คุณรพินทร์หน่อยสิ...อืม..คุณดื่มรสชาติแบบไหนบอกไปด้วยก็ดี”
ปาจาหันมาถามรพินทร์
“กาแฟสอง...น้ำตาลกับคอฟฟี่เมทอย่างละหนึ่ง” รพินทร์ยิ้มสยามให้กับคนรับใช้พร้อมบอกสูตรกาแฟ
ของตนเองไปเสร็จสรรพ..เธอยิ้มรับก่อนจะเดินหายไปชงกาแฟตามคำสั่ง
“เป็นไงบ้างเมื่อคืนหลับสบายกว่าคืนแรกไหม?” ปาจาเปิดบทสนทนาขึ้น พร้อมพับเก็บหนังสือพิมพ์
ไว้บนโต๊ะ
“ดีค่ะ...คุ้นเคยแล้ว ฉันปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ไว” รพินทร์ตอบ
“หึ...ก็ดี...วันนี้หลังอาหารเช้าคุณเข้าไปในไร่กับผมนะ...”
“หืม...ทำไมค่ะ”
“ผมอยากพาคุณไปแนะนำให้คนงานรู้จักอย่างเป็นทางการ”
“มีใครไปด้วยบ้างค่ะ?”
“คุณกับผมสองคน...ผมขับรถจิ๊ปไปเอง”
“แล้วกลับกี่โมง” รพินทร์ยังคงถามให้หายสงสัย
“เย็นเลยทีเดียว มื้อเที่ยงกินในไร่กันคุณสะดวกไหม?..” ปาจามองหน้ารพินทร์รอคำตอบ
ความจริงอยากรู้เหมือนกันว่ารพินทร์ติดดินหรือเปล่า คำว่ากินในไร่ ที่จริงแล้วในไร่มีเพ้นเฮ้าส์สำนักงานอยู่..
สะดวกสบายทุกอย่างไม่ได้ไปกินกลางดินกลางป่า แต่ปาจาไม่อธิบายให้ละเอียด...อยากรู้ว่ารพินทร์ที่เห็นคนนี้
จะเป็นคนแบบไหน
“ไม่มีปัญหา แค่มีให้กินไม่อดก็พอแล้ว..สำหรับฉัน” รพินทร์ตอบยิ้มๆ พลอยทำให้ปาจาอดยิ้ม
ตามไม่ได้...กร่างอึดสมกับเป็นทอมห้าวซะไม่มี...จะว่าไปรพินทร์ก็ไม่ได้บอบบางอ้อนแอ้นไรมาก ออกจะสูงโปร่งสมส่วน...
หน้าตาก็ออกแนวหล่อใส..หน้าอกแบนราบ...แต่งตัวทะมัดทะแมง...ตาโตขนตายาว...ปากบางจมูกโด่งรั้น...เสียงแหบต่ำ...
จะว่าเหมือนผู้ชายก็เหมือนอยู่มาก...แต่ก็ไม่ทั้งหมด..จะว่าผู้หญิงจ๋าก็ไม่เชิง...สรุปทอมหน้าตาหล่อ...หึ..
“ขำอะไรคุณจา..” รพินทร์อดคิ้วขมวดไม่ได้ รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นดื้อๆซะงั้น อยู่ๆ ไอ้เจ้าน้ำแข็ง
ดันยกยิ้มหัวเราะในคอเฉยเลย ถึงจะดูดีมีเสน่ห์ก็ช่างเถอะ แต่ออกจะกวนประสาทเสียมากกว่าในสายตารพินทร์
คงคิดอะไรเกี่ยวกับตนเองแน่ๆ
“ผมไม่ปิดบังแหละ..ถามจริงเถอะรพินทร์..คุณเคยมีแฟนผู้ชายไหม?” รพินทร์งงกับคำถามของปาจา..
แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตนเองอยู่ในลุคไหน ก็พอจะคาดเดาความคิดปาจาออก...ตอบกลับไปทันทีว่า
“ไม่เคย...คุณถามทำไม” รพินทร์ถามกลับหลังตอบคำถามไปแล้ว
“ผมแค่อยากรู้จักคุณมากขึ้น” ปาจายังอมยิ้มกวนๆ
“รู้จักเพื่อ” รพินทร์ไม่ชอบสายตาท่าทางกวนประสาทของปาจาเลยให้ตายพับผ่าสิ...หน้านิ่งกับมาดขี้เก็ก
ก็ดูหมั่นไส้พอแล้ว ยิ่งทำหน้าตาแบบนี้ยิ่งกวนได้ใจโคดๆ
“ทำไม..อยู่บ้านเดียวกันผมถามไม่ได้หรือไง...การได้รู้จักเพิ่มขึ้นมันช่วยให้เราเข้าใจอีกฝ่ายดีขึ้น
ไม่ใช่หรือ..” ปาจาไม่ตอบแต่กลับย้อนรพินทร์ซะงั้น
“ก็ถูกของคุณ” พูดจบต้องหยุดกลางคัน เมื่อคนรับใช้ ยกกาแฟพร้อมชามาเสริฟ หลังจากคนรับใช้
กลับออกไป รพินทร์จิบกาแฟก่อนจะพูดต่ออีกว่า
“ฉันถามคุณบ้างได้ไหม”
“คุณอยากรู้อะไรเกี่ยวกับตัวผม...ลองถามมาดูก่อน ตอบได้ผมยินดี” ปาจาตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
ทั้งสองคนจ้องกันไม่มีใครหลบตาใคร..
“คุณเป็นพวกโฮโมฯ หรือเปล่า” รพินทร์ถามไปตรงๆ แต่ปาจากับขำพรืดขึ้นมาทันที
“หึ..ฮ่าๆๆๆ...โทษทีผมเสียมารยาทไปหน่อย อะไรทำให้คุณคิดว่าผมเป็นแบบนั้น” ไม่ตอบแต่ดัน
ถามรพินทร์กลับเฉยเลย...ไอ้น้ำแข็งนี่มันร้ายใช่เล่น
“เมื่อวานคุณจูบฉัน...แล้วนึกยังไงมาจูบไม่ทราบ” รพินทร์พูดได้หน้าตายมาก แถมยังลอยหน้า
ยักคิ้วใส่อีก...ปาจาเห็นแล้วอดยิ้มกว้างไม่ได้
“ไม่มีอะไร...ผมแค่อยากสั่งสอนนิสัยปากพาจนของคุณแค่นั้น การที่ผมจูบคุณแล้วทำให้คุณเข้าใจ
ว่าผมเป็นโฮโมฯ ฟังดูผมชักงงแหะ คุณเป็นผู้หญิงผมจูบคุณแล้วมันจะเป็นโฮโมฯตรงไหน...หืม..รพินทร์” พูดไม่พูดเปล่า
ดันจ้องหน้ารพินทร์ส่งสายตาวิบวับให้อีก...ร้อยทั้งร้อยไม่ว่าชายหรือหญิงมาเห็นท่าทางกับสายตากรุ่มกริ่มของปาจาเข้า
ไม่หน้าแดงให้มันรู้ไป รพินทร์ก็อยู่ในข่ายนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะมันเกินจะต้านพลังดึงดูดที่เจ้าของส่งให้จริงๆ
ให้ตายห่าเหอะ...มึงจะหล่อสาดไปไหนหวะ..
นึกขึ้นได้...ตนเองอยู่ในลุคทอม ยังไงความเข้าใจของปาจาก็ยังคิดว่าตนเป็นหญิงอยู่วันยังค่ำ
ไม่ได้ตั้งใจยกเอาตัวเองมาเป็นประเด็น ความจริงแค่อยากฟังจากปากปาจาว่าเจ้าตัวเป็นโฮโมฯ หรือไม่ตะหาก
จะให้พูดหรือไงว่าเห็นปาจาหายเข้าไปในห้องธรรมตรัยดึกๆ ดื่นๆ สองคืนติดกัน..แถมยังอยู่ในสภาพไหนอีก...
“พอเหอะ...เลิกจ้องฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้แล้ว...ทำไมต้องย้อนถามฉันด้วย...ความจริงฉันต้องการ
คำตอบแค่ว่าคุณเป็นหรือไม่ก็แค่นั้น...เพราะฉันเองไม่เคยคิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนนึกพิศวาสอยากจูบฉันนิ” รพินทร์คิดผิดถนัด...
ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัวไปใหญ่ นอกจากปาจาจะไม่หยุดใช้สายตาสำรวจตนเองแล้ว ยังมีหน้ากอดอกมือลูบคาง จ้องสำรวจคล้ายกับ
จับตนเองแก้ผ้าซะงั้น คราวนี้หน้าร้อนของจริงเลยวุ้ย!..ปาจาเล่นมองแบบไม่ปิดบัง ไม่สนใจด้วยว่ารพินทร์จะคิดยังไง
แถมซ้ำยังยิ้มพราวอีกตะหาก เมื่อเห็นรพินทร์หน้าแดงแปร๊ด...
“คุณคงไม่รู้ตัวละมั้งรพินทร์ ทำไมผู้ชายเค้าจะไม่สนอย่างน้อยกายันต์มันก็ออกจะเปิดเผยชัดเจน
ถึงคุณจะไม่สวยเซ็กซี่แบบผู้หญิงหลายๆ คน แต่คุณก็ไม่ขี้เหร่ ออกจะท้าทายเสียด้วยซ้ำในความคิดของผู้ชายส่วนใหญ่
ผู้หญิงห้าวๆ แกร่งๆ ถึงจะไม่เนื้อนมไข่ แต่มันก็นะ..มีอะไรให้น่าค้นหาดีออก” พูดแบบที่รพนิทร์ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปาก
คนมาดเข้มชาเย็นอย่างปาจา...ก่อนที่การสนทนาเข้มข้นจะดำเนินการต่อ ก็ต้องเบรคลงทันที เมื่อธรรมตรัยเดินเข้ามา
ตามหลังด้วยสมาชิกคนอื่นๆ ทยอยเข้ามาจนครบองค์ ทำให้ทั้งปาจาและรพินทร์ต้องยุติบทสนทนาที่ออกจะส่วนตัวลง
โดยกระทันหัน
แต่ทั้งหมดก็ไม่รอดพ้นสายตาของ ธรรมตรัย ซึ่งสังเกตุเห็นปาจาหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสผิดปกติ
แถมรพินทร์ยังหน้าแดงก่ำ สองคนนี้คงคุยอะไรกันและคนที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบน่าจะเป็นรพินทร์
ความคิดของธรรมตรัย ก็ไม่ต่างจากกายันต์ และนมอ่อนต่างผิดสังเกตท่าทางของปาจา
ที่กำลังอมยิ้มนัยตาพราวเสน่ห์วิบวับอย่างประหลาด ปกติปาจาจะนิ่ง ไม่เคยเห็นบุคลิกลักษณะแบบนี้มานานแสนนาน
นับร่วมๆ ก็อายุของหนูผาเสียด้วยซ้ำ...แต่นี้เจ้าคุ้มสุดหล่อกลับอารมณ์ดีเช้าวันนี้เป็นพิเศษ ที่สำคัญอยู่กับรพินทร์อีกตะหาก
โดยเฉพาะคนหลังยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ หน้าหล่อใสแดงก่ำไม่รู้ว่าปะทะคารมอะไรกันอยู่....แต่ทุกคนก็ไม่มีใครกล้าถาม...
ต่างเก็บไว้ในใจ...สำหรับสิตา..เธอกับยิ้มระรื่นเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของปาจา..มุมนี้ยิ่งทำให้สิตาใจเต้นระรัวเข้าไปใหญ่
ปาจาหล่อจริงๆ หล่อจนเธอละสายตาจากใบหน้าคมเข้มนั่นไม่ได้เลยนับตั้งแต่เดินเข้าในห้องนี้......................
มาต่อให้เท่านี้ก่อนนะค่ะ.....ช่วงนี้จิตตกมากมาย
มึนตรึ๊บ...คิดไรไม่ออก...พลังใจมันหดหายไงไม่รู้
สัญญาจะไม่หายเงียบไปแน่...ถึงยังไงเรื่องนี้ก็จบแน่นอน
Luk. :เฮ้อ:
-
ู^
^
^
ฉึกๆคนเขียนอย่างดีใจ
จิ้มก่อนแล้วไปอ่าน :impress2:
-
มาเม้นให้กำลังใจคนแต่งที่น่ารัก
สู้ๆจ๊ะ
-
เอาโดนเขาแซวหน่อยแถไม่เป็นเลย
อยากรู้ว่าธรรมตรัยเป็นคนอย่างไง :confuse:
-
ฮ่าๆๆๆ ทเจ้าคุ้มหลงทอมเก๊ซะแล้ว
-
danke schon :impress2:
-
ปาจาหลงเสน่ห์รพินทร์จำแลงมากนะเนี่ย
-
+1 ให้กำลังใจค่ะ
สู้สู้ :oni2:
:L2: :L2:
-
:z3: เอาหัวโขกกำแพงเหอะ 555
บ้านนี้เขาอยู่กันประหลาดดีแท้
ความลับอีกข้อที่บอกมาถึงกับงงเลยทีเดียว o22
รอตอนต่อไปนะคะรู้สึกว่าจะมีอีกหลายเรื่องที่ยังค้างคา :laugh:
-
เป็นห่วงคนเขียนจังแฮะว่าเป็นอะไร
เหนื่อยก็พักบ้างเน้อ
-
เอาเข้าไป สิตากับกายันต์ แต่ปาจานี่สิเข้าไปทำอะไรห้องธรรมตรัย มันดูมีเงื่อนงำอ่ะ มาต่อเร็วๆนะ
-
ปาจา ไม่ใช่โฮโมฯ แล้วเข้าไปทำอะไรในห้องธรรมตรัย ทุกคืน
สิตากับกายันต์ ก็อีก สิตาชอบปาจา ก็ยังไปมีอะไรกับ กายันต์ มันยังไงกันนะ
คุ้มนี้มีแต่ปริศนา.....
-
มันจะเป็นยังไงต่อไปน้อ :z2:
-
ฮึๆๆๆๆ
อ่านแล้วก็งงกับความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละคน
ตกลงปาจามีอะไรกับธรรมตรัยจริงอ่ะ
แล้วกายันกับสิตาอีก
เฮ้อ
เหนื่อยแทนพระลักษณ์จริงๆๆ
-
วุ๊ยยย ตอนนี้อยากเหนอิมเมจของปาจากะพระลักมณ์
คนแต่งอย่าน้อยใจเลยน้าาาาา เราเองก็เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้แบบเต็มๆ
เราชอบเรื่องแบบนี้มากเลย ไอ่ที่ต้องมาคาดเดาว่าอะไรต่อไปจะเป็นยังไง
คุณ Luk เขียนสนุกมาค่ะ จริงๆน้าาาา
-
ต่อปากต่อคำกันเก่งจริงๆ
ตกลงยัยสิตาจะเอาใครน่ะ
หรือกายันต์จะเป็นตัวแทนปาจาแน่เลย
ต้องยุไปปลูกป่าซะให้หมด 555
-
o22
ความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงมากอ่ะ
กายันต์กินกับสิตา แต่สิตารักปาจา
ธรรมตรัยกินกับปาจาจริงหรอ ไม่นะ :serius2:
อยากให้พระลักษณ์โดนปาจากินมากกว่า :laugh:
-
o13 o13 o13 o13
-
เชอะ ยัยสิตา ชอบคุณจายังไงก็ไม่ได้งาบเค้าหรอก
แกกินคนน้องไปแล้ว คนพี่นี่ของฉัน เอ้ยยยย ของพระลักษณ์หรอก :laugh: :laugh: :laugh:
-
สู้สู้งับ คิดไม่ออกกะไม่เป็นไร รอได้งับ
-
ดูท่าพระลักษมณ์จะแพ้คารมคุณปาจานะ 555 พูดอะไรก็เข้าตัวอ่ะ
แต่บ้านไร่มีปมหนักหนาอะไรอยากรู้
สำหรับคุณ Luk ค๊า :L2: Fighting!!!
-
รอจ้ารอ o13
-
มันมีแต่เรื่องในที่ลับๆๆนะครับ
-
มึนงงกับความสัมพันธ์คนในคุ้มนี้อะ :really2: :really2: :really2:
เป็นกำลังใจให้คนเขียน สู้ๆ นะคะ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
-
เพิ่งมาอ่าน :pig4:
สนุกอ่ะ น่าสงสัยว่าตกลงแล้วบ้านนี้มันยังไงกันแน่ :confuse:
-
เ่ออออ คนในบ้านนี้มันโรคจิตกันใช่ป่ะ
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน
สนุกมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
-
คุณ Luk เป็นอะไรเอ่ย? Writer's block หรือว่ามีปัญหาหนักใจอย่างอื่น
นอนซักตื่น อะไร ๆ อาจจะดีขึ้นก็ได้
เป็นกำลังใจให้ครับผม (http://s269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/001/rabbit-emoticon-021.gif)
-
อย่าคิดอะไรมาก เรื่องที่เกิดขึ้นมาปัจจุบันถึงมันจะทุกข์บ้าง แต่มันก็ต้องผ่านไปอยู่ดี พวกเราอย่าไปคิดถึงมันให้มาก
เพราะจะทำให้ใจเราแย่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ถึงแม้ว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรก็ตาม
(มานั่งรอนิยายทุกวันเลยค่ะ เนื้อเรื่องเข้มขึ้นเรื่อยๆตัดใจไม่มาตามไม่ได้เลย สู้ๆค่ะ)
-
กายันต์กับสิตายังไงเนี่ย
หึหึรพินทร์งานเข้าแล้วปาจาเล่นซะหน้าแดงเลย
-
ปมปริศนามีมาให้คนอ่านอยากรู้จนจะบ้าแล้วอ่ะ :z2:
-
มาเป็นกำลังใจให้คนเขียน :กอด1:
พระลักษมณ์เกือบพลาดไปแล้วสิเน้อ เผลอลืมตัวไปได้ o22
พระเอกของเราก็กรุ่มกริ่มมานั่งจีบแต่เช้าเชียว :-[ :-[
-
มีแต่คนน่าสงสัยทั้งนั้นเลย
แต่เอาธรรมตรัยมาเคลียร์ก่อนคนอื่นๆได้ป่าว :o10:
-
มีปนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแล้วสิ
:L2: :L2: :L2:
-
สนุกมากค่ะ o13
-
ชักสับสนอ่ะ...ทำไมกายันต์ถึงบุกห้องสิตากลางดึกอย่างนั้นล่ะทั้งที่สิตาออกจะแสดงชัดเจนว่ารักปาจาแบบโจ่งแจ้ง
ธรรมตรัยอีกคน...รายนี้น่าจะแอบชอบกายันต์ ยังข้องใจความสัมพันธ์กับปาจาอยู่ ไม่อยากปักใจเชื่อว่าปาจาเข้าหาเลขาตัวเองจริง ๆ (ก็ออกจะยืนยันหนักแน่นขนาดนั้นว่าไม่ได้เป็นโฮโม)
-
:serius2:
-
นั่นแน่ปาจายังไงกันยะ
-
คิดถึงพระลักษมณ์~!!!
-
แอบมานั่งรอและเป็นกำลังใจค่ะ เมื่อวานพึ่งจะแวะมาดูเห็นยังไม่มา ก็เลยมารอใหม่ค่ะ
สู้ๆนะคะ
-
:m20: สนุกดีนะตอนนี้ปาจาชวนรพินไปเที่ยว วู้วู้
สู้นะคร๊าบบบบบ คุณ lux
:mc4: :L2:
-
เรื่องนี้สนุกดี ปริศนาลึกลับเยอะ น่าลุ้นมาก ปาจากับพระลักษมณ์ ก็หล่อเก่งทั้งคู่ ชอบๆ o13
แต่ตอนขึ้นเรื่อง แอบจิตตกกับประโยคนี้
บัดนี้..ตกอยู่ภายใต้การปกครองของหนุ่มวัยกลางคนอายุราว 33 ปี...ดีกรีด๊อกเตอร์จากอังกฤษ
สาขาวิทยาศาสตร์การเกษตรและเทคโนโลยี..ทายาทอันดับหนึ่งของคุ้มดงพญา...
o22OMG! ม่ายยยยยยย! นี่ฉานเข้าวัยกลางคนแล้วเร๊ออออออ รับไม่ได้กับตัวเอง :z3:
เอิ่ม...น้องLukจ๋า(เดาว่าคงยังละอ่อน เพราะมองว่าอายุ33 = วัยกลางคน) ใช้คำว่าหนุ่มใหญ่หรือหนุ่มวัยฉกรรจ์ดีมั้ย
หรือจะตัดไปเลยก็ได้ พระเอกซะด้วยนา ต้องเท่ๆเนอะ 555
ให้กำลังน้องLukด้วยนะจ๊ะ ขอให้เรื่องไม่ดีผ่านพ้นไปเร็วๆ มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาจ้า :กอด1:
-
:call:
มาได้แล้วววว
-
เรื่องนี้สนุกจัง น่าติดตาม ติดมาก...ท่าจะเลิกยาก มีปมเยอะ ทำให้อยากรู้ พล็อตเรื่องก็เก๋มาก ละครไทยนางเอกต้องปลอมตัวเป็นชาย แต่เรื่องนี้..อ๊ายย! แค่คิดก็ :-[..ปาจาจะทำยังไง ถ้ารู้ความจริง..
แล้วก็เข้ามาส่งแรงใจให้หนูLukด้วย :กอด1: นิยายหนูคนติดมากมาย ขอให้มีแรงกายแรงใจในเร็ววันจ้ะ :L1:
-
:เฮ้อ: ยัง งง กลับความสัมพันธ์ของคนค้มนี้จริง
รอลุ้นต่อค่ะ :3123:
-
:กอด1: คนเขียน o22 งง...คนบ้านเนี้ยเค้าทำไมพฤติกรรมแปลกๆ ??
-
อืม...ต่อไปข้างหน้า ต่อให้ไม่อยากเป็นเกย์ก็ต้องเป็นแหล่ะ เพราะทอมตรงหน้าอย่าว่าแต่ไม่มีเนื้อนมไข่เลย มันยังมีไส้กรอกชีสแถมอีกด้วยนะ55+
-
ให้กำลังใจคุณลัค เต็มที่นะคะ :L2: :3123: :L1:
-
มนต์มาร
Part 9
เลข 13 เกี่ยวอะไร?.
.
.
.
“ไปไกลไหม?” รพินทร์ถามปาจา หลังทั้งคู่นั่งรถจิ๊ปออกมาได้สักระยะ เสร็จจากทานอาหารเช้า
เก้าโมงตรง ปาจาก็ให้องุ่นมาตามรพินทร์เพื่อพาไปแนะนำให้รู้จักคนงานในไร่ โดยปาจารับหน้าที่สารถีเองเสร็จสรรพ
“ไม่หรอก...วันที่มาขี่ม้าคุณไม่ผ่านแถวนี่หรือไง?” ปาจาบอก
“ถามหน่อยเหอะ...คุณคิดก่อนตั้งคำถามไหมเนี่ยะ?” นอกจากรพินทร์จะไม่ตอบแล้ว
ดันย้อนซะปาจาหน้ายุ่ง
“หึ..สิบขวบผมมีความคิดมากกว่าคุณเสียอีก..ว่าแต่คุณเหอะ..ที่ผมถามทำไมไม่ตอบนึกไงมาย้อนผม”
ปาจาใช้น้ำเสียงคุกคาม ทำให้รพินทร์หงุดหงิดขึ้นมาทันที
“คำถามคุณมันสมควรตอบหรือไง...เห็นอยู่นี่มันทางรถวิ่ง ทำไมฉันต้องขี่ม้าบนทางรถด้วยหละ..
เราขี่เลาะริมห้วยควบขึ้นเนินโน้น...ตลกเจ้าถิ่นซะมากกว่าดันถามมาได้” รพินทร์ส่ายหน้าแบบเอือมระอา ต่อปากต่อคำไม่ลดละ
“รพินทร์...ไม่กวนสักครั้งได้ไหม...” ปาจาเหลืออด เสียงห้วนจ้องรพินทร์ตาเขม็ง...ให้ตายสิยัยทอมบ้านี่
ทำไมชอบยั่วประสาทด้วยนะ
“โอ๊ะโอ!...ฉันกวนที่ไหน...ชี้แจงด้วยเหตุผลตะหาก ไปไม่เป็นแล้วพาลนี่หว่า?” รพินทร์ยักไหล่ยกยิ้ม
ได้กวนสุดๆ ปาจาเหยียบเบรคอย่างแรง
“เอี๊ยดดด!..” ส่งผลให้คนไม่ทันระวังหัวคะมำ ดีที่คาดเบลเลยไม่บาดเจ็บ แต่ก็พารพินทร์หน้าขึ้นสี
ก่อนจะถลนตาใส่ปาจา เหวกลับทันควัน
“เป็นบ้าไร...นึกจะเบรคก็เบรค...ความอดทนต่ำก็ไม่ต้องขับ มาฉันขับเอง” ปาจาอึ้งแดก ไม่คิดว่ารพินทร์
จะหันมาเอาเรื่องห้าวได้อีกยัยตัวแสบ
“คุณรู้เส้นทางหรือไง..ผมหงุดหงิดเพราะปากไม่สร้างสรรค์ของคุณเนี่ยะแหละ...ขืนพร่ำไม่หยุดเจอดีแน่”
คราวนี้ปาจาเสียงห้วนข่มกลับทันที เล่นเอารพินทร์อึ้งไปเหมือนกัน เมื่อเจอแววตาคมดุขึ้นมา...
มีหรือที่รพินทร์จะยอมหงอง่ายๆ ต่อให้เป็นหัวหน้าก็เถอะ หัวแข็งอย่างรพินทร์ใช่จะยอมตราบใดที่คิดว่าตนไม่ผิด
“คุณแหละหุบปาก..ขี้แพ้ชวนตีนี่หว่า..อย่ามาสั่งเหมือนเด็กนะคุณจา...” เอาหละสิ...นอกจากยัยทอมตัวแสบ
ไม่ยอมแล้ว ยังออกลูกนักเลงเข้าใส่อีก..เจ้าคุ้มน้ำแข็งที่เย็นมาตลอดพาลเดือดปุดๆเสียแล้ว ไม่รอช้าปาจาเหนี่ยวคอรพินทร์
เข้ามาปิดปากบดจูบรุนแรงแบบไม่ปราณี
“อุ๊บ!...อืออ” รพินทร์ไม่คิดว่าปาจาจะเล่นซีนจูบ จังหวะไม่ทันระวังส่งผลให้ปากหนาประกบปิดปากบาง
ไม่มีความนุ่มนวลนอกจากเผด็จการบังคับเอาดื้อๆ...รพินทร์กำหมัดแน่นกะชกให้หน้าหงาย แต่ปาจาดันไหวตัวรวบจับข้อมือ
ของรพินทร์ยึดไว้ด้วยกำลังที่เหนือกว่า ปากไม่ยอมถอนจูบตะบี้ตะบันไปตามอารมณ์
สงครามย่อมๆยื้อยุดปล้ำจูบกันในรถ ต่างฝ่ายต่างมีทักษะพอตัว โดยเฉพาะปาจา...รพินทร์คิดไม่ถึง
จะมีฝีมือเหนือกว่าถึงปานนี้ ทั้งพละกำลัง ความเชี่ยวชาญในการรับมือ จอมเผด็จการฝีมือเหนือกว่ารพินทร์จนเห็นได้ชัด
การล๊อคจับของปาจา เล่นเอารพินทร์ซึ่งเสียเปรียบทั้งรูปร่างและสมรภูมิที่คับแคบ ทำให้ไม่สามารถแก้ไข
สถานการณ์หลุดออกมาได้ ก่อนจะถูกล๊อคแขนไว้ทั้งสองข้างด้วยมือใหญ่เพียงมือเดียว ในขณะอีกมือบีบกรามบังคับให้
รพินทร์เปิดปากจนทนความเจ็บไม่ไหวต้องยอมจำนน ในที่สุดลิ้นร้อนก็สามารถฉกเข้าไปกวาดต้อนลิ้นนุ่มของรพินทร์จนได้
เหมือนไฟฟ้าช๊อทวิ่งไปทั่วร่างรพินทร์นิ่งไปชั่วขณะ เมื่อลิ้นของปาจาเกี่ยวกระหวัดในโพรงปากนุ่ม
สัญญาณพลังบางอย่างทำให้สติหยุดการประมวลผลไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ไม่ใช่แค่รพินทร์เท่านั้นที่รู้สึก ปาจาเองไม่แตกต่างกัน..ตัวกระตุกวูบเหมือนมีกระแสพลังวิ่งกระจาย
ไปทั่วร่างพาเอาขนลุกซู่ทันที นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บังคับจูบรพินทร์ครั้งที่สองแล้วด้วยซ้ำ....แม้ครั้งแรกจะรู้สึกแปลกๆ
แต่กลับไม่เหมือนครั้งนี้ สัมผัสที่ได้รับ...นอกจากจะทำให้ชีพจรทุกส่วนของร่างกายขมวดเกลียว ยังรู้สึกถึงกระแสพลังร้อน
ที่พลุ่งพล่านอย่างกับน้ำป่าทะลัก...จนต้องกระชากตัวถอนปากออกทันที....
“ฮา..เฮือก!” ทั้งคู่ต่างโกยอากาศเข้าปอด โดยไม่มีใครพูดอะไร..รพินทร์หน้าแดงก่ำซับสีเลือด
เหมือนจะปริแตก....ปาจาไม่ต่างกันเกิดข้อสงสัยกับความรู้สึกแปลกประหลาดที่ได้รับ...ตัดสินใจหันกลับไปมองทอมหล่อ
ร่างโปร่งข้างๆ
“รพินทร์ ผมไม่ขอโทษหรอกนะ..ขอผมจูบอีกครั้งได้ไหม?” ปาจาพูดเสียงทุ้มขอจูบหน้าตาย
ยังกะเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนขอขนมกินไงงั้น รพินทร์อึ้งแดกงงเข้าไปใหญ่ หน้ายิ่งไม่ต้องพูดถึงร้อนจนแทบระเบิด
อะไรกัน..ถูกผู้ชายจูบถึงสองครั้ง ที่สำคัญความรู้สึกในอกที่ดิ้นพล่านเรียกว่าอะไร...ทำไมถึงรู้สึกอย่างนี้ รพินทร์ไม่ตอบ
ปาจาก็พูดขึ้นอีกว่า
“ได้โปรดรพินทร์ ขอผมจูบอีกที...จากนั้นผมจะมีคำตอบให้ว่าทำไมถึงขอคุณจูบ” รพินทร์สบตา
ปาจานิ่งๆ แววตาจริงจังที่ฝ่ายนั้นจ้องมา รู้ว่าไม่ได้ล้อเล่น..ผีห่าซาตานตนใดดลใจไม่รู้ รพินทร์ดันพยักหน้าเฉยเลย...
ก่อนจะนึกกรนด่าตนเองในใจก็ไม่ทันแล้ว เมื่อปากหนาได้รูปคืบเข้ามาใกล้แล้วประกบจูบอีกครั้ง คราวนี้มาแบบนุ่มนวล....
ในที่สุดปากบางของรพินทร์ก็เผยอยอมให้ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปเกี่ยวต้อนลิ้นนุ่ม
สัมผัสแรกที่ลิ้นของทั้งสองเจอกัน...เหมือนไฟฟ้าช็อทวูบหนึ่ง ก่อนจะรู้สึกตัวเบาหวิว อุ่นวาบไปทั่ว
สรรพางค์กายตั้งแต่เส้นผมยันปลายเท้า ที่สำคัญเหมือนเลือดลมไหล่บ่าทะลักทะลายถ่ายเทไปมาระหว่างทั้งคู่ ยิ่งจูบยิ่งหวาน
ยิ่งโหยหายิ่งต้องการ...มีบางสิ่งบางอย่างรู้สึกได้ว่าไม่ธรรมดาแต่ก็หาคำตอบไม่ได้
ก่อนจะกู่ไม่กลับเลยเถิดไปมากกว่านี้ ปาจาตัดสินใจถอนปากออก ตาคมวาวฉ่ำในขณะที่รพินทร์หน้าสุกปลั่ง..
“ขอบคุณ...ถามอะไรหน่อยได้ไหม..ตอบผมมาตามตรงนะ” ปาจาจ้องหน้ารพินทร์พร้อมพูดขึ้นมา
รพินทร์งงไม่หายจูบเสร็จมีคำถามต่อท้ายอีกงั้น ชักแม่งๆแต่ก็พยักหน้ารับปากไป
“คุณเกิดวันที่ 7 เดือน 7 วันเสาร์ เวลา 7 นาฬิกา ใช่หรือไม่?” รพินทร์เบิกตาโตนึกในใจ
ไมจู่ๆถึงถามเรื่องนี้ แต่ก็คืนสีหน้าอย่างเร็วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าหัวหน้าคงแก้ไขประวัติให้แล้ว ไม่น่ามีปัญหาปาจาคงแค่
ต้องการเช็ค จึงพยักหน้าตอบรับไป....เพราะวันเดือนปีเกิดดังกล่าว เป็นของตนเองอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่รพินทร์ไม่อยากเชื่อ พาลคิดว่าปาจาคงบ้าไปแล้ว เมื่อเจ้าคุ้มน้ำแข็งจอมเผด็จการ ดันพูดขึ้นมาต่อ
“คุณกับผม เราต้องแต่งงานโดยเร็ว” รพินทร์อ้าปากค้าง อึ้งแดกก่อนจะกระท่อนกระแท่นถามอย่างงงๆ
“หา...ว่าไงนะ” ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าฟังไม่ผิด
“ผมบอกว่า คุณต้องแต่งงานกับผม...แต่งแบบสายฟ้าแล็บเพราะงั้น อาทิตย์หน้าเราทั้งคู่แต่งงานกัน”
เมื่อปาจายืนยันหนักแน่นปานนี้ รพินทร์กระพริบตาปริบๆ ก่อนตั้งสติได้ รีบสายหัวพรืดปฏิเสธให้ไว
“เฮ้ย!...บ้าไปแล้วฉันไปตกลงเมื่อไหร่..เพี้ยนไรขึ้นมาจู่ๆ ถึงจะให้แต่งงานกับคุณเนี่ยะ..” ปาจาสบตากับ
รพินทร์ก่อนจะย้ำชัดๆว่า
“ถ้าคุณยืนยันว่าเกิดวันที่ 7 เดือน 7 วันเสาร์ เวลา 7 โมงเช้าแล้วหละก็ คุณต้องแต่งงานกับผม”
รพิททร์ไม่เถียง เรื่องวันเดือนปีเกิดของตนเอง เพราะนั่นคือเรื่องจริง แล้วไงวันเดือนปีเกิดมันเกี่ยวอะไรที่ต้องแต่งงาน
กับปาจาไม่ทราบ เมื่อสงสัยถามไปทันที
“ฟังนะคุณจา ฉันยอมรับเรื่องวันเดือนปีเกิด แต่มันไม่ใช่ประเด็นที่คุณจะเอามาเป็นสาเหตุให้เรา
แต่งงานกัน คุณรู้ประวัติฉันแล้วคิดจะใช้วิธีตื้นๆ มาจับแต่งงานไม่มีทางเสียหรอก ลูกไม้บ้าๆ แบบนี้ฉันไม่หลงกลคุณแน่”
รพินทร์ตอบปฏิเสธยืนยันหนักแน่น แต่งเข้าไปได้ยังไงในเมื่อตนเองเป็นตัวผู้มีดุ้นเหมือนกัน ไอ้คุณปาจา
ท่าจะอาการหนักมากมาย
“ผมไม่ได้ลูกไม้ ผมมีความจำเป็นต้องแต่งกับคุณจริงๆ....ผมเกิดวันที่ 6 เดือน 6 วันศุกร์
เวลา 6 โมงเช้า คุณอาจจะงง แต่วันเดือนปีเกิดของเราทั้งคู่ นำเลขมาบวกกันเป็นคู่จะเท่ากับ 13 ลัคกี้นัมเบอร์
ผมตอง 6 คุณตอง 7 เรื่องนี้มีที่มาที่ไปแล้วผมจะเล่าให้ฟังอย่างละเอียดสัญญาไม่ปิดบัง...” พูดจบ จู่ๆ ท้องฟ้าก็มืดครึ้ม
ขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย แถมลมพายุยังกรรโชกแรงจนฝุ่นตลบ ก่อนที่ฝนจะเทลงมาปานฟ้ารั่ว ทั้งที่ก่อนหน้าไม่มีเค้าเลย
ทำให้ปาจาขมวดคิ้วมุน ก่อนจะสตาร์ทรถออกตัวทันที.......รพินทร์มีคำถามคาใจเต็มหัวไปหมด เลข 13 คืออะไร
เกี่ยวอะไร????.......แต่สถานการณ์ก็ไม่อำนวย เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าอึกทึกครึกโครมจนหูอื้อ สายฝนเทกระหน่ำ
แทบมองไม่เห็นทาง...ทำให้ต้องสนใจข้างหน้าเป็นพิเศษ...แล้วจู่ๆ ถนนที่รถกำลังวิ่งฝ่าสายฝน กลับกลายเป็นป่ารกชัฎ
ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตา...ก่อนที่เครื่องยนต์จะดับลงกระทันหันขึ้นมาดื้อๆ....
ความรู้สึก กลับมาเกือบเต็มร้อยแล้วค่ะ
สามารถต่อนิยายได้ทันที น้องจอมจะมาลงให้วันศุกร์นะคะ
ต้องขอบคุณพระเอกปาจา ที่ทำให้มีกำลังใจกลับมาเขียนได้อีกครั้ง
ขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟนๆ ทุกความห่วงใยทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์
รักทุกคนเช่นกัน โดยเฉพาะพระเอกปาจา...
Luk.
-
รอลุ้นว่ายังไงต่อไป
ขอบคุณน้องลักษณ์นะจ๊ะ
-
เอ้าแล้วมันเกี่ยวไรไมต้องแต่งงานล่ะนี่
-
เง้อ อ พี่ลักเป็นอะไรค่ะ?
------------
แล้วตกลง 13 คือ ??
ยังไงก็ช่าง ต้องแต่ง
555 รอตอนต่อไปน๊าค่ะ
------------
ปลปล.รักคนแต่ง ดูแลตัวเองด้วย จุ๊ฟๆ
-
เหอๆ 13 13 13
:L2: :L2:
-
เอ๋า ค้างมากมาย
รอตอนต่อไป
-
6+7 = 13 ลัคกี้นัมเบอร์
แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการแต่งงานหน่อ :really2:
รอคำตอบ ค่ะ :give2:
-
:serius2: อยากรู้
เลข 13 มันคืออะไรอ่ะ :m28:
รอน่ะ :m13:
:L2: :L2:
-
หลงเข้าป่าหิมพานต์ไปแล้ว....
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง :z3:
-
:impress2:รอคำตอบด้วยคนฮับ
-
เลข 13 เป็นเลขของปีศาจ
เลขที่จะหยุดเลข 13 ได้ คือ เลข 12
จำได้ว่าเคยอ่านจากการ์ตูนเรื่องหนึ่ง
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
-
โอ้ย... :z3:อยากอ่านตอนต่อไป มาต่อเร็วๆนะค่ะ :call:
:pig4:
-
ทิ้งให้อยาก(รู้) แล้วก้จากไปอะ
-
พระเจ้า! แต่งงาน จะไปกันใหญ่แล้ว เพี้ยนมากอ่ะคุณปาจา แต่แอบสงสัยกับเลขที่13นะเนี่ย ทำไม???
-
ชอบเรื่องนี้มากกกกเลยอ่ะคุณลัก o13
ชอบอะไรที่แบบลึกลับๆอยู่แล้วด้วยค่ะ :o8:
มาต่อเร็วๆนะคะ :กอด1:
-
เสียดายเกิดวันที่ 10 เดือน 1
ไม่งั้นจะถวายตัวช่วยคุณปาจาเอง!!!
-
จะแต่งงาน!!!
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
เลขที่13เป็นเลขที่เราชอบด้วย
-
ยังไง ยังล่ะเนี้ยะ เริ่มตื่นเต้นแล้ว.. :serius2:
-
ค้างอย่างแรงงงง
เลข 13 เกี่ยวไรด้วยอ่ะ
แถมไอ้พายุที่กำลังเกิดเนี่ยอีก
แล้วถนนกลายเป็นป่าไปได้ยังไงงงง
:a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22
-
13 lucky number ???
เลขสวยหรือเลขซวยกันแน่เนี่ย???
-
:impress2:เฝ้ารอค่ะ
-
“รพินทร์ ผมไม่ขอโทษหรอกนะ..ขอผมจูบอีกครั้งได้ไหม?” ////////อ่านมาถึงตอนนี้ถึงกับขำก๊ากกกกก ขอกันตรงๆ อย่างนี้เลยเหรอพ่อคู้ณณณณณ จากนั้นก็รวบหัวรวบหางขอแต่งงาน เอากับเขาสิ 555+ :laugh: :laugh: :laugh:
-
เลข 13 เป็นเลขของซาตาน..ใช่ปะ
งานนี้มีติดฝนแล้วความจะแตกไหมเนี่ยนว่าเป็นผู้ชายอะ....อิอิ o18
-
:z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
-
คาใจจจจจจ
ใกล้จะเฉลยแล้วววว
:oni2:
-
อยากรู้รหัสลับเลข 13 จังว่ามันคืออะไรแล้วทำไมต้องแต่งงานกันด้วย
-
อะไร เกิดอะไรขึ้น จูบ ๆ แล้วแต่งเลยหรอ
เห้ย ๆ ปล้ำก่อนดิ อิอิอิ
แล้วไอ้เลข 13 นี่มันยังไง ๆ
อยากรู้แว้ววววว
-
โอ้ ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
:L2: :L2: :L2:
-
ลุ้นๆๆ ค่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น
-
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ หลังจากเพิ่งตาแฉะกับน้องตะเกียง และตามกลิ่นน้องจอมมา
เรื่องนี้กลิ่นความลึกลับฟุ้งกระจายเลยทีเดียว เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ :L2:
-
อยู่ๆ ถนนก็กลายเป็นป่า แล้วรถก็ดับสนิท หลอนชิปหาย
กลัว
ผี
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.ทะเล
-
จะเกี่ยวกับที่ปาจาต้องลงไปหาธรรมตรัยทุกคืนรึเปล่า...ยิ่งเรื่องคดีอีก
มีมาให้ได้งงเรื่อย ๆ แต่ท่าทางต้องรีบสารภาพแล้วมั้ง คืนเข้าหอปาจาจะได้ไม่ตกใจจนโยนเจ้าสาวออกทางหน้าต่าง
-
อุ๊ยยยๆๆ ฟ้าฝนเป็นใจรึเปล่าล่ะเนี้ย :o8: :-[
-
ฝนตกหนัก รถดับ แล้วจะมีกระท่อมให้ไปติดฝนด้วยกันหรือเปล่า อิๆ
-
:-[ ขอจูบอีกทีแล้วจะให้คำตอบ.....อ๊ากกกกชอบจริงไรจริง
:L2:เป็นกำลังให้นักเขียนคนเก่งครับ
-
ตื่นเต้นๆ
-
แล้วเลข 13 มันยังไงละฮะ คุณปาจา :m28:
-
แต่งงานนนนนนนนนนนน
แต่งเลย แต่ถ้าปาจารู้ว่าเป็นผู้ชายล่ะ
อยากให้พระลักษณ์ท้องได้จัง ไหนๆก็แฟนตาซีแล้ว เอาให้สุดๆเลย
-
อยากรู้ค่ะ :z3: ยังไง อะไร แต่งงาน? 13? :z3:
-
อ๊าววววว ลึกลับซับซ้อนกว่าเดิมอีก :serius2:
-
ย้อนไปดูตอนแรก โอ้~เปลี่ยนแล้ว รู้สึกดีมากๆ น้องLuk น่ารักจิงๆ :กอด1:
ตอง6 กับ ตอง7 เลขที่ออกงวดนี้? (ไม่เกี่ยวๆ)
จะเลขอะไร มันก็เป็นพรหมลิขิตที่ทำให้พระเอกนายเอกเราคู่กันแหละ ดีจัง :impress2:
พี่เอง เจออะไรที่เป็นเลข13บ่อยๆ ก็ไม่มีผลอะไรนะ ปกติอ่ะ
แต่แอบอยากรู้ว่าคนอื่นมีใครเจออะไรกะเลขนี้ น่าสนใจเนอะ หลอนดี
-
ชักอยากรู้เหมือนกัน
ว่ามันเกี่ยวอะไรกับตัวเลข
ลุ้นตอนต่อไป อยากรู้ว่าจะตกลงแต่งงานกันป่าว อิอิ
-
พระลักษมณ์..อึน มึน งง :laugh:
13 อะไร ยังไง ทำไม ค้างอะ....อยากรู้้ๆๆๆ :serius2:
-
:angry2:ค้างงงงงงงงงงงงง แล้วเลข 13 เกี่ยวไร ทำไมต้องแต่งงาน :-[ เค้าเกิดวันที่ 4 ใช้ได้ม่ะจ๊ะ...ปาจา
-
มนต์มาร
Part 10
เปิดตำนานมนต์มาร....
.
.
.
“เปรี้ยง!....ครืน!...ครืน!...เปรี้ยง!..” ลมฝนพายุฟ้าร้องฟ้าผ่าช่างน่าสะพรึงกลัวเขย่าขวัญ
ได้บรรยากาศดีแท้ แต่ไม่สามารถสั่นคลอนความรู้สึกของรพินทร์และปาจาเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ทั้งคู่ต่างเงียบอยู่แต่ในรถ
มาได้สักพักใหญ่แล้ว หลังเครื่องยนต์ไม่ยอมทำงาน รถดันมาจอดอยู่ส่วนไหนก็ไม่ทราบ รอบข้างกลายเป็นป่ารกไปซะงั้น
สัญญาณโทรศัพท์มือถือก็ไม่มี...ไร้หนทางติดต่อ..ปาจาอาศัยแบตเตอร์รี่รถยนต์ที่ทำงานได้ปกติ เปิดไฟในรถทำให้ทั้งคู่ไม่ต้อง
ตกอยู่ท่ามกลางความมืดเลยไม่แย่สักเท่าไหร่
รพินทร์ชำเลืองดูสีหน้าของปาจาที่นิ่งสนิท ไม่ได้หวั่นไหวกับบรรยากาศฟ้าพิโรธบ้าคลั่งแม้แต่น้อย
นาฬิกาพรายน้ำบนข้อมือของรพินทร์บอกเวลา 11 โมงเป็นช่วงพระฉันเพลพอดี ไม่อยากเชื่อว่าทั้งตนเองและปาจาออกจาก
เรือนไทย 9 โมง เสียเวลาบ้าบอคอแตกมาติดแหงกอยู่กับสภาพอากาศเลวร้ายนี้ ช่างตลกสิ้นดี ยิ่งพิศวงเข้าไปใหญ่
เวลา 11 โมงเช้า ไหงท้องฟ้าแปรปรวนมืดตึ๊บไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวันมืดยังกะกลางคืน ต่อให้ฝนตกกลางวันอย่างน้อย
ก็พอให้รู้ว่านี่มันเวลากลางวัน ไม่เหมือนกับตอนนี้กลางคืนชัดๆ ถ้าไม่มีแสงไฟในรถแล้วหละก็
คงได้อยู่กันแบบมืดตึดตื้อแน่นอน
“รพินทร์ ถามหน่อยสิ..คุณเป็นทอมตั้งแต่เด็กเลยหรือ?” รพินทร์อึ้งแดกนั่งเงียบนิ่ง บทพ่อจะพูด
ดันถามเรื่องส่วนตัวขึ้นมาดื้อๆ ซะงั้น แล้วต้องตอบว่าไงเล่าเนี่ยะ อยากบอกเหมือนกันเพิ่งเป็นเนี่ยะแหละ ที่ผ่านมา
ก็ผู้ชายฟัดหญิงเหมือนไอ้คุณมึงแหละ..แต่คงได้แค่คิดทำได้ดีที่สุดตอบไปตามน้ำดีกว่า
“อืม...ถามทำไม?” ตอบแล้วขอเหตุผลหน่อยเหอะ
“เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนหรือเปล่า?” เช็ดเข้!...ไอ้เจ้าคุมหน้าเข้มมันเกิดบ้าไรเนี่ยะ เริ่มคำถาม
ล้วงลึกเจาะข่าวเด่นหรือไง นอกจากไม่ตอบที่รพินทร์ถามแล้วดันล้วงตับเข้าให้อีก จะเคยมีได้ไงกันหวะ...อายุ 17 พ่อก็หิ้ว
หญิงแล้วอย่าได้แม้แต่จะคิดเรื่องมีอะไรกับผู้ชาย...
“เดี๋ยวๆคุณจา..คุณเป็นอะไรมากเปล่าเนี่ยะ ทำไมถึงตั้งคำถามเรื่องส่วนตัวกันขนาดนี้ ขอเหตุผลดีดี
สักข้อได้ไหม แล้วฉันจะตัดสินใจว่าควรตอบคำถามคุณหรือเปล่า” ครั้งนี้รพินทร์ไม่อ่อนข้อให้ เรื่องไรจะเป็นฝ่ายให้
คุณชายน้ำแข็งตั้งกระทู้สอบปากคำอยู่ได้ฝ่ายเดียว
“นั่นสินะ...ผมเสียมารยาทจริงๆ เอาเถอะคำถามที่ผมถามไปเมื่อกี้เป็นคำถามสุดท้าย แล้วจะอธิบาย
ให้คุณฟังว่าผมมีเหตุผลอะไรถึงได้ถามเรื่องนี้กับคุณ” ปาจาก็ยังคงเป็นปาจายังไงก็ขอขี่แต้มรพินทร์ พ่อยอดชาย
จอมเผด็จการยืนกรานให้รพินทร์ตอบคำถามก่อนที่ตนเองจะเป็นฝ่ายบอกวัตถุประสงค์การซักฟอกให้ที่หลัง
“อย่าลืมทำตามคำพูดด้วยหละ...ไม่เคย!...ฉันไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน” รพินทร์ตอบเสร็จ
ปาจายกยิ้มมุมปากก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นมา...จนรพินทร์ขนหัวลุก...กับกริยาเปลี่ยนโหมดแบบไม่มีที่มาที่ไปของปาจา
“คุณเชื่อเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำไหม?” แล้วคำถามใหม่ก็ตามมา พาเอารพินทร์อ้าปากค้าง
จ้องกลับปาจาอย่างเอาเรื่อง บ้าไรมาตั้งคำถามไม่จบไม่สิ้น กลายเป็นรพินทร์ต้องเป็นลูกไล่คอยตอบตลอดงั้นหรือ
นี่มันผิดคำพูดที่บอกชัดๆ ว่าคำถามสุดท้ายแล้วจะอธิบายไงเล่า เหมือนปาจาจะเข้าใจสายตาเอาเรื่องของรพินทร์
รีบออกตัวทันที
“อย่าเพิ่งเข้าใจผมผิด เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผมจะบอกคุณต่อไปนี้ต่างหาก ไม่งั้นพูดอะไรไป
หากไม่รู้พื้นฐานความเชื่อของคุณแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์” พอปาจาพูดมาแบบนี้ แม้จะยังไม่เป็นที่พอใจของรพินทร์มากนัก
แต่ก็บรรเทาความหงุดหงิดลงได้เยอะ รพินทร์เลยตอบกลับไปว่า
“ฉันไม่ใช่คนงมงาย แต่ก็ไม่ถึงกลับหลบหลู่ เรื่องเหล่านี้เคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง จะให้เชื่อก็ตอบยาก
จะไม่เชื่อก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าฉันฟังได้ขึ้นอยู่กับความเป็นจริง ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวจะมาบอกให้เชื่อคงตอบลำบาก
เข้าใจที่พูดเนอะ” รพินทร์ตอบอย่างเป็นกลางที่สุด ก็มันเรื่องจริงนี่นา เค้าถูกฝึกทางหลักวิทยาศาสตร์
ด้านเทคโนโลยีทุกแขนง ทุกอย่างอาศัยฝีมือ สติปัญญา บนความจริงเป็นที่ตั้ง ไม่เคยยึดถือเครื่องรางของขลังมาก่อน
แต่ก็ไม่เคยหลบหลู่สิ่งเหล่านี้ อย่างน้อยครอบครัวก็นับถือพุทธ พูดได้เต็มปากว่าศรัทธาหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
แต่ไม่ได้งมงายเรื่องไสยศาสตร์
“เอาหละ งั้นผมให้คุณยกมือประนมแล้วท่องนะโมตามผมสามจบ” พูดจบไม่รอให้รพินทร์ถาม
ปาจายกมือจรบศรีษะก่อนจะลดระดับมาที่หว่างอก สายตาแน่วแน่ดูขลังได้อีก จนรพินทร์จำเป็นต้องทำตาม จากนั่นเสียงสวด
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต ฯ ก็ดังขึ้นพร้อมๆ กันจากปากของหนุ่มใหญ่คมเข้ม และทอมบอยหน้าหล่อ ดังแข่งกับ
สายฝนที่โหมกระหน่ำยังกะเหล็กแหลมที่ต้องการแทงทะลุหลังคารถจิ๊ปก็ไม่ปาน
เมื่อจบบทนะโมฯ แล้ว ปาจาก็ท่องพระคาถาชุมนุมเทวดาโดยรพินทร์นั่งนิ่งๆพนมมืออยู่ข้างๆ
เพราะท่องไม่เป็น ใบหน้าที่นิ่งสนิทนัยตาหลุบหลับขนตาหนาปิดตาคมเข้ม ในขณะที่เสียงทุ้มต่ำมีพลังกังวาลก้องแข่งกับ
สายฝนกระแทกโสตประสาทของรพินทร์เต็มสองหู จนต้องเผลอเกร็งหลังอัตโนมัติ เพราะรู้สึกโดยโดยสัญชาตญาณ
ว่าสิ่งที่ปาจาทำไม่ใช่เรื่องล้อเล่น สีหน้านิ่งสงบของปาจา มิใช่วิสัยของคนอย่างเขาต้องเอามาล้อเล่นแน่นอน...
ปากหนาได้รูปที่รพินทร์รู้ถึงพิษสงดี ว่าพริ้วแค่ไหนยามเจ้าของใช้ประกบจูบ ขมุบขมิบท่องพระคาถา
ออกมาต่อเนื่องไม่ขาดสาย
“สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตูติ ผะริต์วา นะเมตตา
สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิต ตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ สัคเค กาเม จะรูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเนฯ”
เสียงสวดพระคาถาชุมนุมเทวดา ที่เปล่งออกมาจากปากของปาจา กังวานในรถจนรพินทร์ซึ่งนั่งพนมมืออยู่ด้านข้างรู้สึก
ขนลุกเกลียวอย่างไม่ทราบสาเหตุ ปาจาไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น จบจากพระคาถานี้ ก็ต่อด้วยพระคาถา
พุทธคุณร้อยบททันที
“อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทธโธ วิชาจาระนะสัมปันโน สุคคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ฯ”
เสียงสวดทำนองเสนาะที่ต่อเนื่องทุ้มต่ำสลับกันไปมา เกาะกุมจิตใจคนฟังให้รู้สึกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะบรรยาย ในขณะที่
สภาพอากาศโดยรอบ ฝนยังคงโหมกระหน่ำลมยังกรรโชกหวีดหวิวเสียงบาดแก้วหู ปาจาจบพระคาถาบทสุดท้ายด้วย
พระคาถาชินบัญชร ของสมเด็จฯพุฒาจารย์โต พรมรังษี แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม
“ชะยาสะนากะตา พุทธาเชตะวา มะรัง สะวาหะนัง จตุ สัจจา สะพัง ระสังเย ปิวิสุง นะราสะภา ฯ “
ช่างน่าแปลกมหัศจรรย์ยิ่งนักสำหรับรพินทร์ เพราะหลังจากปาจาสวดพระคาถาชินบัญชรจบลง ฝนฟ้าลมพายุบ้าคลั่ง
ก็หยุดตามทันที ความมืดมิดของบรรยากาศโดยรอบยังไม่หายไป กลายเป็นว่าไม่มีฝน ไม่มีฟ้าร้อง ไม่มีลมพายุ
ทุกอย่างสงบลงในที่สุด ท่ามกลางความมืดที่ปกคลุมเหมือนเดิม
ก่อนที่ปาจาจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นยกมือจรดศรีษะ แล้วค่อยลูบหัวลงช้าๆ ซึ่งรพินทร์ก็ทำตาม
โดยไม่ต้องให้บอก ปาจาลองสตาร์ทรถ เครื่องยนต์กลับมาทำงานอีกครั้ง เสียงดังกระหึ่ม
“บรื้น!...บรื้นๆๆๆๆ!.” ปาจาติดเครื่องไว้เฉยๆ ไม่ออกรถทำให้รพินทร์เลิกคิ้วอย่างสงสัย
แม้แสงไฟหน้ารถจะฉายให้เห็นว่าตอนนี้ทั้งคู่อยู่ท่ามกลางป่าไม่ใช่ถนนลูกรังเหมือนตอนที่ขับกันมา อดไม่ได้จึงถามทันที
“รถสตาร์ทติดแล้วนี่ ทำไมคุณไม่ขับพาเราออกจากป่านี่หละ คุณเป็นเจ้าถิ่นขับอีท่าไหน
เข้ามาอยู่กลางป่าได้เนี่ยะ” รพินทร์พูดจบ ปาจาหันมาจ้องตอบนิ่งๆ ก่อนจะพูดขึ้นว่า
ต่อด้านล่าง
-
:duck1: มาคั่นระหว่างตอนให้น๊า
-
- 2 -
“ที่ผมถามคุณค้างไว้ ว่าคุณเชื่อเรื่องไสยศาสตร์มนต์ดำหรือเปล่า นี่คือเหตุผลที่ผมจะบอก
ให้คุณฟัง...ตอนนี้เรายังไปจากที่นี่ไม่ได้ เดี๋ยวผมจะบอกว่าเพราะอะไรฟังผมให้จบก่อน” แล้วปาจาก็เริ่มเล่าให้ฟัง เรื่องที่เล่า
ช่างน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งเหลือเชื่อแทบไม่น่าเชื่อแต่ก็ไม่สามารถโต้แย้งเช่นกัน
“ปู่ของเราเดินทางพร้อมลูกหาบไม่น้อยกว่ายี่สิบคนมาที่นี่ เพื่อค้นหาบ่อพลอยตามลายแทงที่ตกทอด
จากปู่ทวด ซึ่งท่านสำรวจมาตลอดแต่ไม่สำเร็จก่อนจะเสียชีวิตลงด้วยไข้ป่า ย้อนไปเมื่อห้าหกสิบปีที่ผ่านมาคุ้มดงพญา
ยังเป็นป่า หนึ่งในทีมค้นหามีพรานวาโยเป็นคนนำทาง...เป็นจอมขมังเวทย์ทางไสยศาสตร์เป็นคนทำพิธีเปิดป่า โดยปู่เรา
ให้ค่าจ้างแบบเหมาจ่ายทั้งคณะ ตอนนั้นพ่อของผมเพิ่งจะ 7 ขวบ คุณอาไพรภพพ่อของคุณเพิ่งจะ 5 ขวบ ทั้งสองท่าน
ไม่ได้มาด้วย..นอกจากนั้นยังมีพรานธรรมรัตน์ซึ่งเป็นปู่ของธรรมตรัย เป็นเพื่อนสนิทของพรานวาโยและเคารพปู่ของเรามาก.
ซึ่งท่านพอมีวิชาอาคมด้วยเช่นกัน แต่ไม่ได้ขมังเวทย์เหมือนพรานวาโย เรียกได้ว่าระดับอาจารย์กับลูกศิษย์เลยก็ว่าได้
คณะสำรวจเดินทางมาถึงที่นี่ ได้พบบ่อพลอยตามลายแทงบอกทุกอย่างบนเนินเขาท้ายไร่
เมื่อพบสมบัติความโลภก็บังเกิด พรานวาโยกับพวกลูกหาบครึ่งหนึ่งต้องการหุบไว้ซะเอง เลยวางแผนกำจัดปู่ของเรา
อาศัยวิชาไสยดำคุณไสยมนต์มารพวกเดรัจฉานวิชาเล่นงานคุณปู่กับพวกลูกหาบ ลูกหาบล้มตายไม่เหลือ ที่รอดมามีเพียง
คุณปู่กับพรานธรรมรัตน์ ซึ่งอาศัยพุทธคุณของเครื่องรางจากพรานธรรมรัตน์ป้องกันและพาปู่หลบซ้อน แต่ก็ไม่สามารถหนี
ออกจากป่า จนเสบียงหร่อยหรอลงเรื่อยๆ ผ่านไปกว่าสัปดาห์
พรานธรรมรัตน์ไม่มีทางเลือก หากจะพาท่านปู่ออกไปอย่างปลอดภัยก็ต้องฆ่าพรานวาโยให้ได้เสียก่อน
ตำราต้องห้ามของพรานธรรมรัตน์จึงได้ถูกนำมาใช้ มันเป็นเดรัจฉานวิชาเช่นกัน เพียงแต่มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง
สำหรับคนที่มีคาถาไม่แข็งพอ แต่เมื่อไม่มีทางเลือกพรานธรรมรัตน์ก็ตัดสินใจใช้มันจนได้
คาถานี้เรียกว่ามนต์มาร คนใช้คาถาต้องลงทุนเอาตนเองสมสู่กับสัตว์เดรัจฉานโดยใช้คาถาสะกดสัตว์นั้นไว้
แล้วทำการสมสู่ในคืนเดือนดับคือวันที่พระจันทร์มืดสนิท แล้วให้ลงมือสังหารสัตว์ชนิดนั้น พร้อมกับดื่มเลือดของมัน
เป็นการสูบวิญญาณของมันด้วย
ผู้ที่ทำพิธีนี้จะมีพละกำลังเหมือนสัตว์ชนิดนั้น ที่สำคัญจะกระหายการเข่นฆ่าและการสมสู่ยากที่จะ
ควบคุม โดยเฉพาะต้องกลายร่างครึ่งคนครึ่งสัตว์ พรานธรรมรัตน์ทำพิธีสะกดหมีควายตัวหนึ่ง เป็นหมีตัวเมียตัดสินใจสมสู่
กับหมีแล้วจัดการฆ่ามันอย่างเลือดเย็นก่อนจะดื่มเลือดหมีตามในที่สุด
พ้นคืนนั้นมานอกจากพรานธรรมรัตนซึ่งกลายเป็นเดรัจฉาน กลับมีความต้องการสมสู่ต่อเนื่อง
ในช่วง 3 วันแรก คงเพราะตนเองคาถาไม่แข็งพอที่จะความคุมจิตมารในร่าง และคนที่ต้องมารองรับอารมณ์ใช้เป็นที่ระบาย
ของพรานก็คือคุณปู่ของเรา
ปู่ไม่มีทางเลือก ต้องกลายมาเป็นคนปลดปล่อยพลังทางเพศของพรานธรรมรัตน์ติดต่อกัน
ถึงสามวันสามคืนโดยหารู้ไม่ว่า บุคคลที่สมสู่กับพรานธรรมรัตน์ในร่างแปลงแล้วไม่ถูกฆ่า...ต้องกลายเป็นทายาทสืบทอด
มนต์มารโดยไม่รู้ตัว เดรัจฉานครึ่งหมีครึ่งคนไล่ฆ่าพวกลูกหาบและพรานวาโยจนตายหมด พรานธรรมรัตน์พาปู่รอดชีวิต
ออกมาก่อนจะพัฒนาที่นี้กลายเป็นคุ้มดงพญาขึ้นมาในที่สุด
โดยมนต์มารที่ติดตัวทั้งสองท่านไม่สามารถแก้ไขได้ คุณอาไพรภพรู้เรื่องนี้และยอมรับไม่ได้
จึงหนีไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนคุณพ่อของผมท่านไม่สามารถทิ้งคุณปู่ไปได้ต้องยอมอยู่ที่นี่ ใช้วิธีกักขังคุณปู่ก่อนคืน
พระจันทร์ดับ ไว้ที่ห้องลับใต้ดินแทน เพื่อไม่ให้ท่านออกไปทำร้ายใคร
หลังจากพ่อผมแต่งงานกับแม่จนทั้งสองมีผม ซึ่งเกิดในวันที่ 6 เดือน 6 วันศุกร์ เวลา 6 โมงเช้า
เป็นคนที่สามารถล้างมนต์มารท่านปู่ได้ แต่ต้องรอให้เจอคนที่เกิดวันที่ 7 เดือน 7 วันเสาร์ เวลา 7 โมงเช้าแล้วร่วมประเวณี
กันตามพิธีของไสยศาสตร์เสียก่อนถึงจะสามารถล้างอาถรรพ์ของมนต์มารได้
เว้นห่างห้าปีก่อนแม่จะท้องกายันต์ ในคืนพระจันทร์ดับ แม่ผมซึ่งไม่รู้ความลับนี้มาก่อนถูกคุณปู่
ข่มขืนจนตั้งท้องกายันต์ กายันต์คือลูกของคุณปู่ไม่ใช่ลูกพ่อเพียงแต่เราแม่เดียวกัน ความลับของการล้างอาถรรพ์
มนต์มารนั้น มีอีกวิธีคือคนที่ได้สมสู่แล้วรอดชีวิตเพราะเดรัจฉานไม่ฆ่า จะสามารถกลับมาฆ่ามันได้แต่ต้องในขณะที่
กำลังสมสู่กันเท่านั้น
หลังจากคลอดกายันต์แม่ซึ้งไม่เหลือศักดิ์ศรีของตนเองจึงตัดสินใจใช้ตัวเองจัดการกับคุณปู่
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังมีอะไรกัน แม่ฆ่าปู่กับมือก่อนจะฆ่าตัวตายตาม...พ่อเสียใจมากถือว่านี่คือคำสาปที่ตระกูลเรา
ต้องแก้ไขให้ได้ ก่อนจะตรอมใจตายอีกสองปีถัดมา เหลือนมอ่อนเลี้ยงดูพวกเรามาตลอด
เนื่องจากพรานธรรมรัตน์เป็นผู้มีอาคม และเป็นปฐมบทของมนต์มารหัวใจของคุณเค้าคือสิ่งสำคัญ
ที่ใช้ล้างอาถรรพ์ด้วย พอกลับออกมาแล้วท่านก็เก็บตัวฝึกวิชาเพื่อหาวิธีกำจัดจิตมารในร่าง หายไปเกือบยี่สิบกว่าปี...
ท่านจึงปรากฎกายอีกครั้งและแจ้งกับพวกเราว่า วิธีจะแก้คำสาปให้หายขาดคือ ต้องได้น้ำรักของคนที่เกิดวันที่ 7 เดือน 7
วันเสาร์ เวลา 7 โมงเช้า กับคนที่เกิดวันที่ 6 เดือน 6 วันศุกร์ เวลา 6 โมงเช้า ซึ่งเลขแต่ละคนนำมาบวกกันได้เลข 13
เป็นเลขแห่งซาตาน จอมมารที่สามารถล้างอาถรรพ์ของมนต์มารได้เท่านั้น ให้นำมาแช่หัวใจกับต้นแบบสัตว์มารตัวแรก
ผสมกับน้ำให้คนที่มีจิตมารอาบในคืนพระจันทร์ดับถึงจะแก้คำสาปได้
ทีนี้เข้าใจหรือยัง ว่าทำไมผมถึงต้องให้รพินทร์แต่งงาน” เรื่องที่ปาจาเล่าให้ฟังทั้งหมด
เป็นสิ่งที่รพินทร์ไม่อยากจะเชื่อ แต่แววตาของปาจาที่ถ่ายทอดมันไม่เหมือนล้อเล่น ที่สำคัญปาจาไม่จำเป็นต้องกุเรื่องเหล่านี้
ขึ้นมาเพื่อแต่งนิยายปะรำปะราหลอกรพินทร์มันไม่มีความจำเป็น รพินทร์จึงตั้งคำถามทันที
“การตายในรอบหกเดือนที่เกิดขึ้น ฆาตกรเป็นใครคุณจารู้ใช่ไหม เพราะหลังข่มขืนเหยื่อฆาตกร
ฆ่าทิ้งทุกราย ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย คุณบอกได้ไหม?” รพินทร์ยิงเข้าประเด็นทันที ปาจาตอบกลับมาว่า
“เรื่องนี้ผมไม่รู้จริงๆ กายันต์ได้รับการถ่ายทอดมนต์มาร แต่ทุกคืนเดือนดับกายันต์จะถูกขังไว้ใน
ห้องลับใต้ดินภายในคุ้ม ไม่เคยได้ออกมาอาละวาด ดังนั้นไม่ใช่กายันต์แน่นอนผมรับประกัน” ปาจายืนยันหนักแน่น
รพินทร์จึงถามต่อ
“ไม่ใช่กายันต์ แสดงว่ามีตัวอื่นอีกหรือไง”
“ธรรมตรัยเป็นหลานชายของพรานธรรมรัตน์ ที่เข้ามารับใช้ในคุ้มของเรา เป็นพี่เลี้ยงกายันต์และดูแล
เรื่องนี้ให้กายันต์มาโดยตลอด ธรรมตรัยบอกว่าก่อนปู่คือพรานธรรมรัตน์จะทำลายตนเองด้วยการควักหัวใจได้บอกไว้ว่า
พลังมารที่เกิดจากมนต์มารของปู่สังหารพรานวาโยไปนั่น จิตมารของพรานวาโยไม่ได้ดับไปกับสังขาร มันได้ซ้อนตัวอยู่
กับทายาท แต่จิตมารต้องเลี้ยงตัวเองจนถึงอายุ 25 เบญจเพศแล้วถึงจะสำแดงตัวออกมา...ดังนั้นฆาตกรที่ฆ่าคนติดต่อกัน
มานั่น พวกเราเชื่อว่าคือจิตมารตัวที่ว่านี้
จิตมารตัวนี้ไม่ได้เป็นสายเลือดบริสุทธิ์ไม่สามารถถ่ายทอดให้ใครต่อได้อีก รวมทั้งการสืบสันดาน
ทางพันธุ์กรรมก็ไม่สามารถเช่นกัน ต่างกันตรงที่มันมีพลังไสยศาสตร์กล้าแข็ง..เนื่องจากเกิดจากดวงจิตของจอมขมังเวทย์
อย่างพรานวาโย
ซึ่งผมเชื่อว่ามันอยู่แฝงตัวอยู่ในคุ้มดงพญานี่แหละ แต่เราไม่รู้ว่ามันเป็นใคร” ยิ่งปาจาพูด
รพินทร์ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่กับสิ่งที่ได้รับรู้ สรุปกายันต์คือทายาททุกคืนวันพระจันทร์ดับต้องตกอยู่ในสภาพครึ่งคนครึ่งหมี
มนตร์มารของกายันต์เป็นสายเลือดบริสุทธิ์สามารถถ่ายทอดได้ แต่ทายาทต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น ถ้างั้นที่กายันต์นอนกับสิตา
ปาจาจะรู้หรือไม่
“คุณรู้หรือเปล่าเรื่องความสัมพันธ์ของคุณยันต์กับคุณสิตา”
“ผมรู้ทั้งสองมีความสัมพันธ์มานานแล้ว แต่ที่ผมไม่กังวลเพราะสิตาไม่สามารถท้องได้ เธอผ่าตัด
มดลูกทิ้งก่อนมาอยู่ที่คุ้มเสียอีก อีกอย่างสิตาเป็นผู้หญิงต่อให้กายันต์ละเว้นก็ไม่ตกเป็นทายาทของมนต์มาร นอกจากสิตา
จะฆ่ากายันต์ในขณะที่กำลังมีอะไรกัน ซึ่งเธอไม่ได้ทำเพราะเธอไม่รู้เกี่ยวกับความลับนี้” รพินทร์ได้คำตอบ แต่ยังไม่หมด
ข้อสงสัย จึงตั้งคำถามต่อทันที ในเมื่อมีโอกาสให้ปาจาตีแผ่เรื่องราวเหล่านี้แล้ว คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ที่เจ้าคุ้มจะยอม
ง้างปากให้เหมือนตอนนี้
“แล้วคุณกับธรรมตรัยหละ พวกคุณเป็นคู่รักหรือคู่ขา” พอรพินทร์ถามออกมา ปาจาหัวเราะขำ
ก่อนจะเลิกคิ้ว แล้วพูดว่า
“ผมกับธรรมตรัยเราไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้น ในห้องธรรมตรัยคือทางเข้าไปห้องลับที่ใช้กักขังกายันต์
ก่อนคืนพระจันทร์ดับ ธรรมตรัยเค้าชอบกายันต์ แต่ไม่สามารถแสดงความรักกันได้ มันเสี่ยงต่อการที่ธรรมตรัยจะตกเป็น
ทายาทมนต์มารเพราะเค้าเป็นผู้ชาย ผมไม่ใช่เด็กน้อยจะได้ดูความรู้สึกใครไม่ออก” พอฟังแบบนี้รพินทร์หน้าแดงทันที
แสดงว่าปาจาไม่ใช่คนโง่ผู้ชายคนนี้ฉลาดเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด เมื่อถึงขั้นนี้รพินทร์อดไม่ได้ต้องถามให้หมดเปลือกทันที
“เหตุผลที่คุณขอฉันแต่งงาน เพื่อที่จะเอาน้ำรักของเราทั้งคู่ไปผสมกับหัวใจของพรานธรรมรัตน์ที่ธรรมตรัย
เก็บรักษาไว้ เพื่อทำพิธีให้กายันต์อาบล้างอาถรรพ์มารในตัวยังงั้นหรือ”
ต่อด้านล่าง
-
มีต่ออืกเหรอ :z1:
-
- 3 -
“นั่นคือวิธีที่ดีที่สุด แถมหัวใจมารที่ได้น้ำรักของเราหลังผ่านพิธีกรรมตามคำสั่งของปู่ธรรมตรัย
ยังใช้แช่กระสุนเงินทำลายจิตมารที่ออกเข่นฆ่าคนอยู่ตอนนี้ได้อีก” รพินทร์ฟังแล้วถึงกับอึ้งเป็นรอบที่เท่าไหรไม่รู้
อดไม่ได้ถามกลับทันที
“ระเบิดหรือกระสุนปืนปกติฆ่ามันไม่ได้หรือไง”
“นอกจากไม่ระคายผิวมันแล้ว จะทำให้มันฆ่าเราเอาสิไม่ว่า คุณจำเรื่องเมื่อห้าหกสิบปีก่อน
ที่พรานธรรมรัตน์เข่นฆ่าลูกหาบพร้อมพรานวาโยได้ไหม ขนาดพรานวาโยมีวิชาอาคมเก่งกล้าจอมขมังเวทย์แถมมีปืนลงอาคม
ยังทำร้ายพรานธรรมรัตน์ในร่างเดรัจฉานไม่ได้ ทีนี้เข้าใจหรือยัง ผิดพลาดตรงดวงจิตของพรานวาโยก่อนสังขารดับ
ได้สมสู่กับพรานธรรมรัตน์ในร่างมาร แล้วจิตนั้นหลบซ่อนอยู่ในครรภ์คนท้องรอเติบโตอายุเบญจเพศถึงออกมาอาละวาด
ดีหน่อยที่จิตมารไม่ได้เป็นสายเลือดบริสุทธิ์ถึงไม่สามารถถ่ายทอดได้ ไม่เหมือนกายันต์ เพราะฉะนั้นจิตมารถึงลงมือสังหาร
เหยื่อไม่เหลือรอดสักราย...” รพินทร์เริ่มเข้าใจมากขึ้น ก่อนจะถามต่ออีกว่า
“กายันต์ไม่มีทายาทเลยหรือ พวกคุณแน่ใจว่าไม่พลาด” พอรพินทร์พูดจบ ปาจาขมวดคิ้วมุน
ก่อนตัดสินใจพูดขึ้นว่า
“ผมพูดกับคุณทุกเรื่องไม่ปิดบัง เพราะถือว่าเราคือคนในตระกูล และหวังว่าคุณคือคนที่จะช่วยไถ่บาป
ล้างอาถรรพ์ให้กายันต์ ดังนั้นผมไม่คิดจะปิดบังคุณอีก กายันต์มีลูกหนึ่งคนคือหนูผา แต่เพราะเป็นลูกสาวจึงไม่ได้รับ
การสืบทอดมนต์มาร “ พอพูดจบ รพินทร์อึ้งอ้าปากค้างไปอีกครั้งจนได้ กำลังจะขยับปากถาม ปาจาเหมือนรู้ว่ารพินทร์
จะถามอะไรชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“คุณไม่ต้องแปลกใจจันทร์ผาไม่ใช่ลูกผม ที่ผมต้องรับเป็นพ่อนั้น เพราะเราไม่มั่นใจอนาคตจะหาทาง
แก้อาถรรพ์ล้างมนต์มารลงได้ จริงอยู่ละอองดาวคือคนรักคนแรกของผม แต่เธอถูกกายันต์ข่มแหงจนตั้งท้องหนูผา
คลอดหนูผาได้แค่สองขวบเธอก็ตายด้วยโรคมะเร็ง ผมรับเป็นพ่อเพราะไม่อยากให้เด็กมีปัญหา วันหน้าถ้าเค้าเกิดรู้ว่า
กายันต์เป็นอะไร หนูผาจะเจ็บปวดแค่ไหนทีนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม?” รพินทร์พยักหน้า พร้อมกับถามอีกว่า
“เรื่องเหล่านี้นอกจากคุณแล้วมีใครรู้บ้าง”
“นมอ่อน ธรรมตรัย กายันต์ และผมเท่านั้น อ๋อไม่สิรวมคุณเข้าไปด้วยอีกคน เดิมทีผมไม่คิด
จะบอกคุณด้วยซ้ำ จนแน่ใจวันเดือนปีเกิดของคุณ ผมจึงเชื่อว่าโชคชะตาให้เวลาล้างบาปคุ้มดงพญาแล้วคุณถึงได้เกิด
วันเดือนปีนี้” พอปาจาพูดจบ รพินทร์ไม่มีคำโต้แย้งนอกจาก พูดขึ้นว่า
“คุณเกิดตอง 6 ครั้งนั้นพวกผู้ใหญ่รู้หรือยังว่าคุณคือหนึ่งในคนที่ต้องล้างอาถรรพ์”
“ผมเกิดก่อนกำหนดด้วยซ้ำ แม่ผมท้องได้แค่เจ็ดเดือนครึ่งผมก็คลอด ตามวันเวลาที่ว่าเป๊ะ...
ทำไมพวกผู้ใหญ่จะไม่รู้ ไม่งั้นพรานธรรมรัตน์ปู่ของธรรมตรัยจะยอมอัตวิบากกรรมตนเอง เพื่อควักหัวใจให้ธรรมตรัย
เก็บรักษาเพื่อใช้ในการนี้หรือไง แต่ระยะเวลาที่ผ่านมา เราค้นหาคนที่จะมาล้างอาถรรพ์ซึ่งคือคนที่เกิดตองเจ็ดไม่พบ
กระทั่งผมจูบคุณสัมผัสบางอย่างบอกให้รู้ว่าไม่ธรรมดา ผมถึงได้ถามคุณไง” พอปาจาพูดจบรพินทร์ยิ่งไม่มีข้อโต้แย้ง
เพราะตนเองก็รู้เช่นกันว่าจูบกับปาจาเหมือนมีพลังเร้นลับประหลาดๆ จึงพูดตอบไปว่า
“งั้นเหตุการณ์ธรรมชาติที่เกิดกับเรานี้ ก็ไม่ปกติงั้นสิ?”
“ใช่...จิตมารมันรู้แล้วด้วยพลังเวทย์ที่ติดตัวมันมา ว่าเราทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันที่มันไม่เกิดขึ้นก่อนหน้า
เพราะเรือนไทยมนต์มารของกายันต์บังจิตมารไม่ให้มันล่วงรู้ถึงการมีตัวตนของคุณมาก่อน แต่พอเราออกมาด้วยกันมันจึงรู้
และพยามกันไม่ให้เราได้กลับไปทำพิธี” จะว่าเรื่องทั้งหมดที่รพินทร์ได้ยินได้ฟังมาไม่น่าเชื่อ และเป็นไปไม่ได้
แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ได้เช่นกัน คงเหลือคำถามสุดท้ายและถึงเวลาแล้วที่รพินทร์
จำเป็นต้องพูด เพราะขืนปล่อยไปแบบนี้ ก็ใช่จะเกิดผลดีช้าเร็วปาจาต้องรู้อยู่ดีนั่นแหละ เผื่อถ้าเกิดไม่ใช่
ปาจาจะได้ตัดใจเสีย
“ฉันแต่งงานกับคุณไม่ได้หรอก” พอรพินทร์พูดออกมา ปาจาจ้องรพินทร์นิ่ง ในแววตาฉายแวว
ที่ทำให้รพินทร์จิตตกไปเลยเหมือนกัน จนต้องพูดต่อ
“เพราะผมไม่ใช่รพินทร์ตัวจริง ความจริงแล้วผมคือพระลักษมณ์ หน่วยสืบราชการลับพิเศษ
ของกรมxxxx...รพินทร์ญาติสาวของคุณตัวจริงพร้อมกับคุณอาไพรภพไม่มีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว เธอตายไปกว่าสามปีแล้ว
จากอุบัติเหตุรถชน ประวัติที่คุณสืบเป็นประวัติที่หัวหน้าผมเปลี่ยนข้อมูลแก้ไขประวัติของญาติคุณ ดังนั้นคุณจึงไม่ทราบ
ความจริง ที่สำคัญผมเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงหรือทอมอย่างที่พวกคุณเข้าใจ ถึงเวลานี้ผมคงไม่สามารถแต่งงาน
กับคุณได้แน่นอน ที่ผมสารภาพเพราะเห็นแก่ความจริงทั้งหมดที่คุณเล่าให้ฟัง แล้วตอนนี้ทุกเหตุการณ์ผมได้รู้
ความจริงหมดแล้ว ผมกับหน่วยคงต้องดำเนินการเรื่องนี้เสียใหม่ ผมคงต้องไปรายงานตัวกับทางหน่วย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลทั้งหมดที่กรุณาบอกกับผม” พูดจบไม่ทันได้ระวังตัว ปาจาพ่นเสปรย์บางอย่างใส่หน้ารพินทร์ทันที
ก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบลงไม่รู้ตัวอีกเลย................??????
มาต่อให้ยาวสะใจดีไหม ความลับไขกระจ่าง
เหลือให้ติดตามกันต่อไป ใครคือฆาตกร
อุตส่าห์เขียนจนหืดขึ้นคอ ขอเม้นท์กำลังใจให้บ้างดิ
เป็ดไม่กด คะแนนบวกไม่ให้ไม่ว่ากัน แต่เม้นท์บ้างไรบ้างเหอะ
Luk. :กอด1:
-
ตอนนี้ยาวมากๆเลยค่ะสะใจเป็นบ้า555
คลี่คลายปมแล้วแต่ต้องตามต่อไป
:กอด1:
-
ลุ้นมากกกกกกกกกก
สนุกอ่ะ ชอบๆๆ
ปาจารู้ความจริงแล้วจะไงต่อล่ะ
อยากให้พระลักษณ์ท้องได้จัง :impress2:
-
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก....จบตอนนนี้ลุ้นมากกว่าเก่าอีกอ่าครับ
-
ยาวสะใจมากกกกกกกก
พระลักษมณ์สลบไปแล้ว ปาจาจะทำอะไรกับเคะน้อยเรากันล่ะนี่
อยากอ่านต่อออออออ ค้างสุดๆ
รอน้าาาาา บวกเป็ดให้สามเม้นเลยจ้าาา
-
ความลับไขกระจ่าง แต่มันค้างอ่าาาาาาาา
แล้วพระลักษณ์จะเป็นยังไง เหมือนกับว่าทุกอย่างจะพุ่งไปหาพระลักษณ์คนเดียวเลย :z13:
-
ขอบคุณคร้าบที่มาลงให้ แต่ถ้าให้ดีอย่าให้ค้างนานนะครับ เห็นใจคนรอบ้าง
-
เพิ่งเข้ามาอ่านรวดเดียว เป็นเรื่องที่สนุกมาก
เป็นกำลังให้คนเขียนนะครับ
ติดตามผลงานต่อไป o13
-
ไม่ใช่โดนลากเข้าพิธีทั้งอย่างนั้นหรอกนะ...ปาจาน่าจะโกรธที่มาหลอกกันหรือรู้อยู่แล้วกันแน่อันนี้ไม่เดาไม่ถูก
รอตอนหน้านะคะ...อยากอ่านต่อเร็ว ๆ +ให้ก่อน ติดสินบน - -v
-
:a5: :a5: :a5: และแล้วก็กระจ่าง...แต่...ผู้ชาย 2 คนแต่งงานกันก็น่าจะได้นะ ก็จะใช้น้ำรักของทั้ง 2 นี่...หุหุ ยิ่งง่าย :z1: ปาจาทำไรรพินทร์เนี้ย...หรือรีบพาไปประกอบพิธี :oo1:
-
วิธีแก้ เอิ่ม :o8:
ยาวสะใจมาก แต่มันค้างงงง :serius2: อยากอ่านอีกกกก :serius2:
คนเขียนสู้ๆนะคะ รอค่ะ
-
:a5: :a5: :a5: :a5: :a5:
ความลับกระจ่างแล้ว
จะเป็นไงต่อนะ ติดตาม ติดตาม
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดด มาต่อยาวสะใจมากๆ อยากกระโดดกอดคนเขียน :m3: :m3: :m3:
วิธีการแก้คำสาปแบบว่า เหอะ เหอะ :haun4: :haun4: :haun4:
ว่าแต่นายปาจาจะทำไรพระลักษมณ์อะ ค้างงงงงงงงงงงงง มาต่อไวๆ นะคร้าบบบบบบบ จะมารอ 3 เวลาเลย :m9: :m9:
-
ยาวจริงอะไรจริง
ชอบๆๆๆๆๆ
-
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
อย่างแรง :a5: o22
-
ยาวจังเลย สะใจๆๆๆ
แต่!...... เค้าจะเอาอีกกกกก
-
ที่ปาจาฉีดสเปรย์เพราะรู้เรื่องนี้อยู่ก่อนรึเปล่าอ่ะ
-
อย่างอลน๊าค๊า
นิวเม้นทุกครั้งที่อ่านเลยน๊า
เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ
-------------------------
ตื่นเต้นๆ อย่ารู้แล้วสิ ว่าจะเป็นไงต่อ
-------------------------
เพื่นค้นหาบ่อพลอยตามลายแทงที่ตกทอด
หนึ่งในทีมคนหามีพรานวาโยเป็นคนนำทาง
-------------------------
ปลปล.รักคนแต่ง จุ๊ฟ!!
:L2: :L2: :L2: :L2:
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
โอ้ว เรื่องมันซับซ้อนจริงๆ น่าติดตาม แต่ใครเป็นฆาตกรล่ะ แต่ที่แน่ๆ เหมือนปาจาจะรู้รึป่าวว่าพระลักษณ์ปลอมตัวมา
แต่ที่อยากรู้มากกว่า คือ หลังจากพระลักษณ์ตื่นมาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
ปล. อ่านเรื่องนี้แล้วอยากขอบคุณคนเขียนมากๆ นิยายเรื่องนี้สนุกมากๆค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ปปล. บวก 1 ไม่ได้ เลยบวกเป็ดให้แล้วกัน :L2:
-
เอาเป็นว่าปาจาจัดการเผด็ดศึกพระลักตอนนี้เลยแล้วกัน เห่อๆ
รู้สึกหื่นชอบกล :haun4:
-
ยาวสะใจจจจจจจ
แต่ยังคาใจต่อ :ped144:
-
อ้าว ๆค้างเลย เหอะ ๆ
ตายละ เสปรย์ไรง่ะเนี่ย
ปล้ำเรยหรือเปล่า อิอิ
เราสงสัยอีตรงน้ำรักนี่แหละ ถ้ารพินเปงหญิงจาเอาน้ำรักมาจากไหนคะคุณจา
หรือว่าคุณจารู้แต่แรกแล้วว่าไม่ใช่ผู้หญืง
ลุ้น ๆ เรย
-
ยาวสะใจมากเลยตอนนี้
ว่าแต่ปาจาทำอะไรพระลักษณ์เนี๊ยะ :serius2:
-
โอยยยยยยยยยยย ยาวมาก :serius2:
ต้องค่อยๆ นั่งอ่านเพื่อเมมเก็บไว้ให้อ่านรู้เรื่องในตอนต่อๆ ไป
จับใจความได้ตามนี้ ผิดถูกอย่างไรคนเขียนบอกด้วยน้า เง้อออออ
- พรานธรรมรัตน์ใช้วิชามนต์มารเพื่อจะได้ต่อสู้กับพรานวาโยได้ (สมสู่กับสัตว์ (หมีควาย) ในคืนเดือนดับ ฆ่าและดื่มเลือดมัน)
- สัตว์มารจะกระหายการเข่นฆ่าและการสมสู่ (ก็กำเนิดมาจากการกระทำนั้นอะนะ...เวรกรรม -_-" )
- เท่าที่รู้ สัตว์มาร (พรานธรรมรัตน์) ซึ่งเป็นปฐมบทของมนต์มาร สมสู่กับสองคน คือปู่ของปาจาและพรานวาโย ทำให้ทั้งสองกลายเป็นทายาทสืบทอดมนต์มารไปด้วย
- ก่อนที่สัตว์มารจะฆ่าพรานวาโย สัตว์มารได้สมสู่กับพรานวาโย ทำให้พรานวาโยกลายเป็นทายาท ซึ่งแม้ร่างกายจะดับแต่จิตมารของพรานวาโยไม่ดับตามสังขาร กลับไปสิงทารกในครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์รายหนึ่ง (ใครวะเนี่ย) ทำให้เด็กในท้องกลายเป็นทายาทและรอวันโตจนอายุ 25 ปี จึงจะมีพลังมาร ทายาทคนนี้ไม่ใช่สายเลือดบริสุทธิ์ เพราะเกิดจากจิตมารสิง ไม่ได้เป็นเพราะถ่ายทอดทางสายเลือด จึงถ่ายทอดสายเลือดมารไม่ได้ (สรุปถ้ามันจะไปป่ามป๊ามกับใคร ไม่ว่าหญิงหรือชายก็ไม่เป็นไรใช่มั้ย :laugh: )
- กายันต์เป็นทายาทสืบทอดมนต์มารสายเลือดบริสุทธิ์คนเดียว ณ ตอนนี้ ถือเป็นบุคคลอันตรายนะเนี่ย เพราะถ้าไปมีอะไรกับใคร แล้วมีลูกชายขึ้นมา ก็จะสามารถถ่ายทอดความเป็นทายาทมนต์มารได้ (แล้วทำไมกายันต์ดูไม่ระวังตัวเรื่องการคบผู้หญิงหว่า หรือแค่จีบผู้หญิงเล่นๆ ไปงั้น แต่มีอะไรจริงๆ แค่กับสิตาคนเดียว)
- วิธีล้างมนต์มาร คือ นำน้ำรัก (ไม่บอกว่าของหญิงหรือชาย) ที่เกิดจากการร่วมประเวณีกันตามพิธีของไสยศาสตร์ของคนที่เกิดในวันที่ 6 เดือน 6 วันศุกร์ เวลา 6 โมงเช้า กับคนที่เกิดวันที่ 7 เดือน 7 วันเสาร์ เวลา 7 โมงเช้า (ต้อง 6 กับ 7 เท่านั้น พรานธรรมรัตน์บอก จะเป็นเลขอื่นบวกกันเป็น 13 ไม่ได้ อิอิ :laugh: ) มาแช่กับหัวใจของปฐมบทสัตว์มาร แล้วนำน้ำที่แช่ไปผสมน้ำอาบให้กับคนที่มีจิตมารในคืนเดือนดับ (ซึ่งตอนนี้ที่รู้คือกายันต์คนหนึ่งแน่ๆ ล่ะที่ต้องอาบ)
- วิธีฆ่าสัตว์มารหรือคนที่มีจิตมาร ที่อ่านตอนนี้มี 2 วิธี คือ
1. ผู้ที่สมสู่กับสัตว์มารแต่สัตว์มารไม่ฆ่า สามารถฆ่าสัตว์มารได้ แต่ต้องฆ่าในขณะสมสู่ (เพราะฉะนั้นคนที่ฆ่ากายันต์ได้ตอนนี้คือสิตา)
2. ใช้ลูกกระสุนเงินที่ได้จากการแช่ในน้ำที่แช่หัวใจผสมน้ำรักของผู้แก้มนต์ได้ (สูตร 6+7 อิอิ) มายิงสัตว์มาร
- ทายาทของสัตว์มารที่เป็นผู้หญิง จะไม่ได้รับการสืบทอดมนต์มาร เป็นไปได้มั้ยว่าทารกที่จิตมารสิงควรเป็นเพศชายด้วย เพราะถ้าเป็นหญิงอาจไม่มีฤทธิ์เดชของมนต์มาร
- ปาจามีความรู้เรื่องเวทย์มนต์ด้วย ไม่เช่นนั้นคงท่องคาถาต่างๆ แก้ไขปัญหาภายในรถไม่ได้
แฮ่กๆๆๆๆ อ่านแล้วเหนื่อยมากกกกกกกกกกกกค่า ว่าเรื่องวิทยายุทธจากเรื่องตะเกียงพิเศษว่ามากแล้ว มาเจอเรื่องนี้อีก เหงื่อแตกกันเลยทีเดียว
ขอบคุณมากๆ นะค้า :pig4:
-
บอกความจริงไปแล้ว ฟื้นมาอยากรู้จังว่าจะเป็นไงต่อ
-
อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง o8
:L2: :L2:
-
อ๊าสสสสสส
งง อ่ะ
ที่ปาจาเล่ามามันเป็นความจริงทั้งหมดมั๊ยอ่ะ
แล้วทำไมปาจาต้องฉีดสเปรย์ยาสลบใส่พระลักษณ์ด้วยล่ะ
หรือจริงๆๆเเล้วคนที่ถูกมนมารเป็นตัวปาจาเองไม่ใช่กายัน
ไม่เข้าใจเลยอ่ะ
งงงงงงงง
แถลงไขด่วนนนนน
:really2: :really2: :really2: :really2: :really2:
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
-
ยาวมากกก...อ่านกันสะใจ... :m4:
แต่ค้างมากกก...และยิ่งอยากรู้ อยากอ่านหนักกว่าเดิม :serius2:
ลุ้นๆ..ปาจาจะทำไรพระลักษมณ์บ้างหนอ :z1:
-
หรือที่ปาจาเล่าความจริงเพื่อให้พระลักษมณ์เปิดเผยตัว :serius2:
เดาไม่ถูก ไปไม่เป็น มาต่อเถอะค่ะ :z3: ฮือออออ...
ตอนนี้มันยาวก็จริง แต่ใจความสำคัญ เอิ่ม...มันอยู่ที่สเปรย์ เอ้ย!!ไม่ใช่ ที่พระลักษมณ์สลบไปแล้วววว กรี๊ดดดด :z13:
-
ยาวสะใจมากเลย :z2:ขอบคุณมากค่ะ :pig4: :pig4:ลุ้นเรื่องนี้มากๆ รอตอนต่อไปค่ะ
อยากบอกว่ารักคนแต่ง :กอด1:มาต่อให้ทันใจมากค่ะ :L1:
-
โห....ยาวได้ใจมากๆค่ะ แต่ก็แอบค้างอย่างแรง!!!! อ่ะนะ อย่าปล่อยให้คนอ่านผู้น่ารักรอนาน
ใจจะขาดมากๆ ฮิฮิ คาดว่าน่าจะโดนลากไปประกอบพิธีแน่ๆเลย อ่ะนะ ชอบมากๆค่ะเรื่องนี้
แอบกดบวกให้ด้วยเพราะช๊อบชอบ มาต่อเร็วๆนะคะ จะรอผู้เขียนค่ะ
-
:angry2: ปาจาจะทำไรพระลักษ์คร๊าบบบบบบบ :m31:
-
สงสัยต้อง เล่นผีผ้าห่ม แล้วเอาน้ำรักมาทำพิธีถึงจะออกจากป่าได้มั้ง ปาจาเลยฉีดยาสลบใส่เลย
แต่นี่ในรถ ต้องเป็น ผีเบาะ
-
อิอิ แอบมาอ่าน ค้างอย่างแรงอีกคนแล้ว o13
+ไปเลยคร้าบ
-
ยาวได้ใจปมคลี่คลายแล้วงะแต่รพินทร์โดนยาสลบซะงั้นปาจาจะทำไรเนี่ยรออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
แล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะเนี่ยน...ใครกันคือจิตมาร
-
ลึกลับซับซ้อน อยากรู้ว่าจิตมารอีกคนคือใคร
-
ยาวสะใจมากๆๆ
ปาจาจะทำอะไรพระลักษณ์อะ
+1 นะคะ
-
o22 ปาจาต้องรู้แน่เลยว่าพระลักษมณ์ปลอมตัวมาอะ
-
ยาวได้ใจมากคะ เรื่องช่างซับซ้อนรอตอนต่อไปนะ
-
อู้วววว จัดหนักมากมาย ตอนหน้ามาซัก 5 รีพลายเลยก็ได้ค่ะ 55
ไม่เข้าใจว่าปาจาเอาสเปรย์มาฉีดพระลักษมณ์ทำไม หรือว่ารู้อยู่แล้วว่าพระลักษมณ์ไม่ธรรมดา
มนต์มารเป็นตำนานที่ชวนปวดหัวดีแท้ :serius2: ใครกันที่เป็นจิตมาร น่าจะเป็นคนที่คาดไม่ถึงรึเปล่า
เป็นกำลังใจให้ปั่นตอนต่อไปจ้า
-
ยาวสะใจมากก
แต่ค้างค่าาาาาาาาา
:z2:
-
ยิ่งอ่านยิ่งสนุกค่า
ต่างคนก็ต่างได้รู้ความจริงแล้ว แต่ยังต้องรอลุ้นกันต่อว่าใครที่เป็นจิตมาร
-
ตัดฉับ เหมือนตัดลมหายใจ ฮือ ฮือ
มาต่อเร็วนะคะ
-
รู้สึกถึงคลื่นในท้อง โฮกกกกก
อยากกรีดร้องดังๆ ค้างงมากค่า~
สนุกสุดๆๆ มาต่อเร็วๆเน้อ จะขาดใจตายแล้ว
-
อุกรี๊ดดดดดดดดดดด
หรือตอนหน้าจะมีได้เสียๆๆๆ อร๊ายยยยย :-[ :-[ :-[
ตอนเร็วๆนะคะ คุณลักคนสวยยยย :กอด1:
-
โอ้ววว มาทีเดว 3 ตอนเลย ^^
-
หนูLuk..
จง..
อย่า..
หยุด..
ยั้ง..
.
.
มันส์..
จนหยุดดด..ไม่อยู่แย้ววว :m11:
-
ว้าว!! มาต่อแบบจุใจมากมาย :man1:
แต่มันก็ค้างอยู่ดี รอๆตอนต่อไปฮะ :man1:
-
อ่า...สลับซับซ้อนยิ่งนัก ต้องอ่าน 2 รอบถึงจะร้อง อ๋ออออ น่าสนใจมาก ว่าแต่ตอนนี้ ค้างอ่าา รู้ความจริงหมดแล้ว สลบไปแล้ว แล้ว...ไงต่อละนี่ ค้างๆๆๆ :serius2: :z3:
-
บังคับ เข้าพิธีเลยดิ
-
ยิ่งอ่านยิ่งน่าค้นหาอ่ะ สรุปแล้วปาจาจะทำอะไร ทำไมต้องทำให้พระลักษณ์สลบด้วย
ลุ้นมากกกกกก
-
ยาวมากกก เลยค่ะ
แต่ก้ค้างมากเหมือนกัน 55555
-
:z1: ปาจาจะลักหลับพระลักษณ์เหรอจ๊ะ เบาๆหน่อยนะตัวเอง :z1:
-
ในที่สุดพระลักษณ์ก็บอกความจริง
แต่ไหงบอกปุบปับขนาดนั้น ขนาดคนอ่านยังตกใจ
แต่ท่าทางปาจาจะไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่ ตั้งตัวเร็ว แถมฉีดสเปรย์ใส่หน้าพระลักษณ์ซะอีก
รออ่านตอนต่อไป ต่างฝ่ายต่างรู้ความลับกันแล้ว จะเป็นยังไงต่อไป
ตอนนี้บรรยากาศในเรื่องเริ่มเข้ากับชื่อเรื่องแล้ว ลุ้นคร่าาาาาาาาา
-
มนต์มาร..คือแบบนี้นี่เอง..
มันส์มากอ่ะ..แต่ก็ค้างมากเหมือนกัน..อยากรู้ว่าปาจาจะทำอะไร???
-
ลุ้นมากมาย
รอตอนต่อไปค่ะ
-
ลึกลับ ซับซ้อน ซ่อนเงื่อน เคลื่อนจักรวาล มาก ๆ
วิธีจะแก้คำสาปให้หายขาดคือ ต้องได้น้ำรักของคนที่เกิดวันที่ 7 เดือน 7
วันเสาร์ เวลา 7 โมงเช้า กับคนที่เกิดวันที่ 6 เดือน 6 วันศุกร์ เวลา 6 โมงเช้า ซึ่งเลขแต่ละคนนำมาบวกกันได้เลข 13
เป็นเลขแห่งซาตาน จอมมารที่สามารถล้างอาถรรพ์ของมนต์มารได้เท่านั้น
เลขซาตานมันคือ 666 ไม่ใช่หรือฮะคุณลักษ์? เลข 13 มันเป็นเลขอาถรรพณ์หรืออะไรประมาณนั้น
เอ๊ะ! หรือว่าที่จริงแล้ว ปาจา ก็คือ 'จิตมาร' เพราะคุณจาเกิดวันที่ 6 เดือน 6 วันศุกร์ เวลา 6 โมงเช้า (666)
แล้วที่ถูกขังอยู่ในห้องลับใต้ดินก็คือ คุณจา ไม่ใช่คุณยันต์ พอรู้ความจริงว่าพระลักษมณ์เกิดวันที่ 7 เดือน 7
วันเสาร์ เวลา 7 โมงเช้า ก็เลยใช้สเปรย์พริกไทยฉีดใส่หน้าพระลักษมณ์ เพื่อตัดไฟไม่ให้พระลักษมณ์เจอกับคู่ที่แท้จริง
ซึ่งก็คือ คุณยันต์ ไม่ใช่คุณจา :เฮ้อ:
:try2: รู้สึกว่าจะออกทะเลไปไกลแล้วเรา
-
รู้ที่มาที่ไปของเรื่องเล่าๆ แล้ว แต่คุณปาจาจะบังคับน้องพระลักษมณ์แต่งงานไหม เรื่องลับจะไม่ลับซะแล้ว
-
ความจริงของพระลักษณ์ก็ออกมา แล้วปาจาจะจับพระลักษณ์แต่งจิงอ่ะ ?? เรื่องเริ่มสนุกแล้วสิเนี่ย o13 o13 o13
-
หรือ ว่าความจริง แล้ จะเป็น ปาจา ไม่ใช่ กายันต์อะ
โอ้ยยยยย ลุ้นอย่างแรงงงง
-
โห ยาวมากๆ ยาวสมใจเลยค่ะ o3
แต่จบ ค้างนะค่ะ ปาจาทำไรพระลักษ์ค่ะนี้
รอลุ้นค่ะ :impress2:
-
ตอนนี้ยาวสะใจมาก
แต่พออ่านจบตอน ถึงกับปาดเหงื่อ แถมนวดขมับตามเลย :try2:
อ่านแล้วต้องนั่งวิเคราะห์และทำความเข้าใจอย่างหนัก o8
แล้วเหตุการณ์สุดท้ายยิ่งชวนงงเข้าไปอีก
"อ๊าววววววว โดนฉีดสเปรย์ซะงั้น" :a5:
-
โห~มันส์ พะยะค่ะ เปิดตำนานตอนนี้ จินตนาการเจิดจรัสมากน้องLuk o13
:m4:คุณจาเรา เตรียมพร้อมได้อีก 555 น่าสงสัยว่าทำไมไม่พูดกันดีๆต้องสเปรย์ด้วยเรอะ :m21:
ให้เป็ดน้องLuk และคุณเฉาก๊วยที่ช่วยสรุปความจ้า :3123: :3123:
Wins_Sha blanchard sarano123 เราว่าคุณจาเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ไม่น่าโกหกนะ ไม่ใช่นิสัยอ่ะ :m26:
-
ลึกลับ ซับซ้อน มากมาย แต่แบบนี้ดีล่ะ ต่อเนื่องดี เข้าใจง่าย
แต่มันก็น่ากลัวนะเนี่ย วิชามารไรเนี้ย โหด
ค้างตอนจบ เอ๊ะ ปาจาทำอะไรอ่ะ
-
เลขซาตานมันคือ 666 ไม่ใช่หรือฮะคุณลักษ์? เลข 13 มันเป็นเลขอาถรรพณ์หรืออะไรประมาณนั้น
เออเนอะ
666 เลขซาตานค่ะ
ตรงกันข้าม เลข7 ทางตะวันตกเขาถือกันว่าเป็นเลขดีค่ะ (เกี่ยวกับเทวดา7องค์อะไรไม่รู้ ลืมแหล่ว)
แต่ถ้าในแถบๆบ้านเรา เลข7ถือว่าโชคร้ายค่ะ
13 เป็นแค่เลขอาถรรพ์เฉยๆ ซึ่งไม่จำเป็นต้องโชคร้ายเสมอไป บางทีก็ถือว่าเป็นเลขดีได้นะคะ
ต่างพื้นที่ ต่างความเชื่อค่ะ เอาแน่เอานอนไม่ได้ :z3:
-
รู้ที่ไปที่มาแล้ว จุดเริ่มต้นก็คือความโลภของคนเราเองแท้ๆ ติดตามต่อไปจ้า
-
ตอน 10 นี่ยาวสะใจมากเลยค่ะ
แต่ก็แบบตัดจบได้อย่างหงุดหงิดมาก
หงุดหงิดที่ต้องรออ่านต่อว่า ปาจาทำอะไรกะพระลักษณ์อะค่ะ 55555+
หวังว่าปาจาไม่โกหกนะคะ หรือว่าปาจาลักหลับซะเรยย ฮ่าาาา
-
ยาวดีมากๆ ค่ะ แต่จบได้ค้างมากๆที่สุด กำลังสนุกเลย
ยิ่งอ่านยิ่งเพลิน เก่งเรื่องได้เก่งมากๆ เลย o13
-
ตอนนี้ยาวมากค่ะ ทีนี้ก็ไขข้อข้องใจของเลข 6 กับ 7 ได้สักที
เวทย์มนต์ใด ๆ ก็สู้พุทธคุณไม่ได้ บทสวดมนต์หลาย ๆ บทมีคุณในตัวเอง
แล้วสุดท้ายจะเป็นยังไงต่อไป ติดตามค่ะ
-
:a5: อ่านแล้วลุ้นมากอ่ะ
ใครเป็นอะไร ยังไง ยังมีเงื่อนงำอีกเยอะเลยอ่ะ
ตอนแรกเหมือนปาจา จะเป็นคนดี
แต่ดันพ่นยาสลบใส่ซะงั้น :เฮ้อ:
เลยเดาไม่ถูกเลย
รอตอนต่อไปนะคะ :กอด1:
-
โอ้ว ความลับมนต์มารเฉลยแล้ว
-
:o8:มาตามแอบดูว่ามาต่อหรือยัง ฮิฮิ รอพระลักษณ์ :z1:
-
:m4: ยาวถูกใจมากๆเลย ครั้งหน้ามายาวๆอีกน้าา
แต่ว่าจบแบบค้างงงงงงง แต่ตอนนี้มีอะไรเยอะเลยอ่ะ เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆแล้วว
เริ่มเปิดปมแล้วด้วย รอตอนต่อไปค้าบบบบ
เอาดอกไม้มาส่งคุณลักษ์ :3123: :3123: :3123:
-
:z13: :z13: :z13: :z13: :z13: :z13:
-
ยาวสะใจมากกก :m11:
อ่านแล้วแอบมึนเหมือนกันนะเนี่ย o2
ต้องขอบคุณเฉาก๊วยอธิบายเป็นข้อๆซะแจ่มเลย o15
แต่ปาจาจะทำอะไรพระลักษมณ์ล่ะเนี่ยฉีดยาสลบกันเลยทีเดียว :m26:
:110011: รอต่อจ้า :z7:
-
ยาวสะใจ ชอบมาก แต่เอ ปาจาฉีดสเปรย์อะไรหว่า คนที่มีจิตมารจะใช่สิตารึป่าวนะ
-
อ่านแล้วอยากจะกรี๊ดดดด
อารมณ์ไทยมากมากกกก
รอ ๆ ๆ ๆ
o13 o13 o13
-
พี่ราฟหื่นได้ใจมาก ฉากปากดึงถุงเหมือนส่งตัวเจ้าสาวที่ไหนซักที่เลย
-
hewlett
พี่ราฟหื่นได้ใจมาก ฉากปากดึงถุงเหมือนส่งตัวเจ้าสาวที่ไหนซักที่เลย
ขำรีฯบนหวะ เอาไอ้พี่ราฟมาจากไหนกันเนี่ยะ นั่นมันเรื่องใครเป็นเมียมึงฟะ ไม่ใช่นิ
มีฉากใช้ปากดึงถุงยากด้วย เจ๊เกมั่วแล้วเหอะ เอาเรื่องไหนมาปนของเค้าเนี่ยะ
คุณลักษ์มาอ่านเจอได้อึ้งกิมกี๋ กร๊ากกกๆๆๆๆ :jul3: :laugh: :pigha2:
-
มนต์มาร
Part 11
รุกยังยากทำใจ..ไหงเป็นซะงั้น???.
.
.
.
“อึม....อือออ!...” พระลักษมณ์ค่อยลืมตาขึ้น ก่อนจะกระพริบปริบๆ สองสามครั้งปรับโฟกัส
ให้หายมึนเล็กน้อย สัญชาติญาณส่วนตัวทำให้ลองขยับแขนขา แต่มันถูกยึดชำเลืองดูถึงรู้ ตอนนี้แขนขากางอ้าซ่า
ตรึงด้วยเหล็กอยู่กลางเตียงใหญ่
แปลกใจตรงที่ไม่ได้อยู่ในรถจิ๊ป และไม่ได้อยู่กลางป่า แต่ดันอยู่ในห้อง ที่แปลกตาไม่ได้ทำด้วยไม้
เหมือนเรือนไทยที่เคยนอน มันเป็นห้องปูนดิบไม่ทาสีคลาสสิคไปอีกแบบ เครื่องอำนวยความสะดวกครบทั้งตู้เย็น ทีวี
ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้าฝังผนัง แต่ไม่ยักกะมีหน้าต่างมันเป็นห้องทึบ ระบายอากาศทางเพดานด้วยเครื่องดูดอากาศ
เก็บเสียงอย่างดี อาศัยแอร์ตัวใหญ่ภายในห้องไม่รู้สึกร้อนกลับเย็นสบายไม่อึดอัดด้วยเหะ...ออกแบบไม่เลว
ทั้งหมดทั้งมวล ไม่ทำให้พระลักษมณ์รู้สึกดีสักนิด ตรงข้ามคำถามมากมายผุดในหัวต่อเนื่อง
ลำดับเหตุการณ์เร็วจี๋ ปาจาฉีดเสปรย์ทำให้วูบไปดื้อๆ รู้สึกตัวก็โดนตรึงอยู่บนเตียงที่ไหนไม่รู้ ไม่เห็นใครแสดงตัวสักคน
เสื้อผ้ายังสวมชุดเดิม
ก่อนความคิดจะเตลิดไปไกลประตูห้องก็เปิดออก ผู้ที่เดินเข้ามาคือเลขาเย็นชา ถือถาดอาหาร
ควันยังกรุ่นอยู่เลย เหลือบมองพระลักษมณ์นิ่งๆ ไม่เอ่ยปากทักสักคำ เดินเอาถาดมาวางลงตรงหัวเตียง
พระลักษมณ์จำเป็นต้องเปิดบทสนทนาขึ้นก่อน ถือเป็นครั้งแรกในรอบสี่วันที่ย้ายเข้ามาอยู่
ในคุ้มดงพญา ที่พระลักษมณ์เป็นฝ่ายพูดกับธรรมตรัยผู้เย็นชาอย่างเป็นทางการ
“ฉันต้องการคำอธิบาย หวังว่าคุณเลขาคงมีคำตอบให้” สวมบทรพินทร์ ไม่แน่ใจว่าธรรมตรัยรู้เรื่อง
ที่ตนปลอมตัวหรือยัง
“หึ...เป็นตัวตนของคุณเถอะคุณพระลักษมณ์...ไม่ต้องแปลกใจผมรู้เรื่องคุณหมดแล้ว”
ถึงจะอึ้งไปบ้าง แต่ก็ไม่แปลกที่ปาจาจะไว้ใจเลขาผู้กุมความลับมากมายได้รับรู้เรื่องราวของตนเอง
“ตกลง...คุณช่วยอธิบายผมหน่อยทำไมผมถูกมัด...ที่นี่ที่ไหนปล่อยผมได้ไหม?”
ธรรมตรัยเหลือบสายตาดุจเหยี่ยวจ้องหน้าพระลักษมณ์ ก่อนพูดขึ้นว่า
“คุณยังอยู่ในคุ้มดงพญา เราจำเป็นต้องเสียมารยาท เพราะผมไม่แน่ใจว่าจะรับมือคุณได้
ส่วนคุณจะได้รับอิสระภาพหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง” น้ำเสียงเย็นเยือกไม่รู้ร้อนรู้หนาวของธรรมตรัย ทำให้พระลักษมณ์
หงุดหงิดไม่น้อย แต่เพราะได้รับการฝึกมาดีจึงสามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้
“ผมอยากเจอเจ้านายคุณ ขอพบเค้าหน่อยได้ไหม?” เปลี่ยนใจขอคุยกับจอมเผด็จการ
ที่มีอำนาจดีกว่า ยังไงเลขาผีดิบก็คงรับคำสั่งมาอีกทีอำนาจเด็ดขาดก็ต้องเจ้าคุ้มนั่นแหละ
“คุณได้เจอแน่แต่ไม่ใช่เวลานี้ ตอนนี้ผมจะให้คุณทานข้าว และเช็ดตัวเสียก่อน
ถึงเวลาคุณจาจะมาพบคุณเอง” พระลักษมณ์ขมวดคิ้วมุน รู้สึกไม่พอใจในคำตอบที่ได้รับ
“ฟังนะคุณเลขา ผมไม่ใช่นักโทษพวกคุณ จะมากักขังผมแบบนี้ไม่ได้ ที่สำคัญผมไม่ได้ป่วย
ไม่ต้องให้คุณมาดูแลเรื่องทานข้าวเช็ดตัวบ้าบอนั่น ถ้าจะกรุณารบกวนปลดพันธนาการเหล่านี้ออกให้ผมดีกว่า
ผมจัดการตัวเองได้ อ๋อ!...ไม่ต้องกลัวผมจะทำร้ายคุณหรอก ด้วยเกียรติผมสัญญาจะทำตัวดีดี ไม่สร้างภาระยุ่งยาก
ให้คุณเป็นอันขาด” พระลักษมณ์ยังต่อรอง
“เสียใจจริงๆ ผมไม่มีอำนาจตัดสินใจเรื่องที่คุณร้องขอ” เลขาผีดิบยังไม่ทุกข์ไม่ร้อน
ตอบหน้าตายได้อีก
“ฟังนะคุณธรรมตรัย แค่คุณติดต่อเจ้านายแจ้งความต้องการของผมให้เค้าทราบก็พอ ผมรอได้”
พระลักษมณ์บอกอย่างใจเย็น
“เห็นทีคุณคงรอนาน เพราะคุณจาไม่อยู่ในภาวะที่จะรับแจ้งข้อมูลใดๆ ในตอนนี้” ธรรมตรัยยัง
ตอบแบบหน้ามึน แต่น้ำเสียงไม่ได้บ่ายเบี่ยงทำให้พระลักษมณ์อดตั้งคำถามไม่ได้ ไม่รอเสียเวลาถามเลยดีกว่า
“ทำไม คุณจาเค้าไม่อยู่ที่นี่หรือไง?”
“คุณจาอยู่ที่นี่ แต่เพราะพาคุณออกจากเขตมนต์ดำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บตอนนี้พักรักษาตัวอยู่
กว่าจะตื่นคงเป็นพรุ่งนี้” พระลักษมณ์ขมวดคิ้วเข้าไปใหญ่ หลังได้ฟังธรรมตรัยบอกมา
“ขอรายละเอียดหน่อยได้ไหม เกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ผมไม่รู้สึกตัว” ธรรมตรัยเลิกคิ้วขึ้น
ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ริมผนัง จ้องพระลักษมณ์นิ่งๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“หึ!...คุณควรขอบคุณด้วยซ้ำ หากไม่สลบไปก่อนคงได้ฝันร้ายไปตลอดชีวิต ที่คุณจาทำให้คุณหลับ
นับเป็นบุญคุณควรตอบแทน” พระลักษมณ์งงหนักเข้าไปอีกบุญคุณควรตอบแทนเรื่องอะไรกัน ตนไปติดหนี้บุญคุณ
เจ้าคุ้มน้ำแข็งเมื่อไหร่ ที่จับมามัดไว้กับเตียงแบบนี้สมควรขอบคุณแล้วสินะ
กำลังอ้าปากจะถามประตูห้องดันเปิดเสียก่อน บุคคลที่กำลังเป็นหัวข้อสนทนาเดินเข้ามา
ด้วยใบหน้าอิดโรย สวมเสื้อคลุมสีดำทับชุดนอน ยกมือห้ามไม่ให้เลขาเย็นชาพูดไรอีก ก่อนจะเดินมายืน
จ้องพระลักษมณ์นิ่งๆ ใบหน้าคมเข้มดูเนือย ชอบกลแต่แววตาที่มองกับคมวาวได้อีก
“ไหนเมื่อกี้คุณบอกว่าเจ้านายคุณจะไม่ฟื้นจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้ไง” พระลักษมณ์หันไปจ้องธรรมตรัย
ไล่เบี้ยโกหกอย่างเอาเรื่อง
“ไม่ต้องไปว่าธรรมตรัยเค้าหรอก เค้าไม่ได้พูดโกหกยาที่ผมทานเข้าไปกำหนดต้องตื่นพรุ่งนี้
อย่างที่เขาพูดนั่นแหละ แต่ผมต้องการตื่นก่อน ผมเลยตื่นก็แค่นั่น ดูท่าคุณอยากคุยกับผมสินะ” พูดจบเจ้าตัวเดินไปนั่งเก้าอี้
ติดกับธรรมตรัย ทั้งคู่ต่างจ้องพระลักษมณ์นิ่งๆ รอฟังเจ้าตัวจะพูดอะไร
“ผมไม่เข้าใจ ทำไมใช้เสปรย์สลบฉีดใส่ผมแล้วมัดไว้แบบนี้ ขอเหตุผลหน่อย”
พระลักษมณ์ถามทันที ในเมื่อต่างคนต่างเปิดใจคุยกันแล้ว ปาจาน่าจะปล่อยให้ตนกลับไปรายงานที่หน่วยสิ
จะได้หาทางแก้ไข ไม่ใช่จับมามัดไว้กับเตียงแบบนี้
“เหตุผลง่ายๆ คุณต้องช่วยผมล้างอาถรรพ์มนต์มาร ผมจำเป็นต้องใช้เสปรย์กับคุณ
เพราะมันง่ายสำหรับผมที่จะนำตัวคุณกลับมา แน่ใจหรือถ้าผมไม่ทำคุณจะยอมมาโดยดี” พระลักษมณ์จนคำพูด
แน่ละสิเรื่องอะไรจะต้องแต่งงานกับผู้ชาย บอกตรงๆรับไม่ได้ อาการอึ้งเงียบของพระลักษมณ์ทำให้ปาจาพูดต่อ
“ผมเช็คประวัติคุณแล้ว ที่ต้องมัดไว้บอกตามตรงฝีมือระดับคุณในขณะที่สภาพผมไม่พร้อม
คงไม่มีใครรั้งคุณได้แน่ เพราะงั้นจำเป็นต้องทำ” พอปาจาพูดจบ พระลักษมณ์ยกยิ้มมุมปากกวนใส่
สมแล้วที่ปาจาเป็นตำรวจสากล เคลียร์ข้อมูลได้รวดเร็วมาก แต่ก็อดถามไม่ได้
“คุณรู้แล้วผมเป็นผู้ชาย ยังจะรั้งผมทำพิธีล้างอาถรรพ์แก้คำสาปมนต์มารอะไรของคุณนั่น
ผมคงช่วยไม่ได้หรอกคงต้องไปหาผู้หญิงเอาแล้วหละ หรือไม่ก็ผู้ชายที่เค้านิยมตุ๋ยตูด คนที่เกิดวันเดียวเวลาเดียวกับผม
น่าจะมีอยู่มั้ง แล้วไงผมจะลองให้ฝ่ายข้อมูลของหน่วยผมช่วยหาอีกแรง ทางที่ดีคุณปล่อยผมไปดีกว่า
ก่อนเรื่องราวจะลุกลามไปมากกว่านี้” พระลักษมณ์คิดว่าการพูดโน้มน้าวของตนน่าจะได้ผล แต่ผิดคาด
เมื่อปาจาหันไปมองหน้าธรรมตรัยแล้วพยักหน้าเชิงอนุญาตให้ธรรมตรัยเป็นคนอธิบาย แล้วเลขาผีดิบก็พูดขึ้นช้าๆ ว่า
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
“คุณฟังผมให้ดี พวกผมจะไม่ปิดบังคุณอีก อย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้น สิ่งที่คุณจาเล่าให้คุณฟัง
เป็นความจริงทุกอย่างแต่ยังไม่หมด ผมในฐานะทายาทคนสุดท้ายที่สานต่อเรื่องนี้จะให้คุณรู้ส่วนที่เหลือ เมื่อรับรู้แล้ว
คุณไม่มีทางเลือก นอกเสียจากให้ความร่วมมือกับเรา หากยังเห็นแก่ชีวิตบริสุทธิ์ที่อาจล้มตายไม่รู้อีกเท่าไหร่แล้วหละก็
มีทางแก้เพียงวิธีเดียวคือคุณกับคุณจาต้องเข้าหอในคืนพระจันทร์เต็มดวงที่จะถึงนี้” พระลักษมณ์อ้าปากค้าง
จ้องหน้าธรรมตรัยนิ่งๆ กระพริบตาปริบๆ ไม่ใช่ว่าเค้าไม่เคยรู้เรื่องของชายรักชาย ข้อมูลเหล่านี้ย่อมได้รับการถ่ายทอด
เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว สำหรับหน่วยพิเศษที่เข้ารับการฝึกฝน
แต่นั่นมันเชิงทฤษฎี ไม่เคยคิดว่าตนจะต้องฝึกภาคปฏิบัติ ที่สำคัญพระลักษมณ์ฝืนไม่ได้
ต่อให้เคยมีพวกหลงผิดเข้ามาจีบก็เถอะ อย่าได้หวังว่าพระลักษมณ์จะเปลี่ยนรสนิยม พอฟังแบบนี้แล้วขนหัวลุกไปหมด
“เดี๋ยว! นี่พวกคุณไม่เข้าใจหรือไง ผมช่วยเรื่องนี้ไม่ได้ ทำไมยังต้องการให้ผมทำพิธี
บ้าบอคอแตกนั้นอีกเล่า” เสียงตวาดดังลั่นไปทั่งห้อง เพราะเวลานี้พระลักษมณ์ฉุนจนทนไม่ไหวแล้ว
“ไม่ทันแล้วหละคุณพระลักษมณ์ ชั่วโมงนี้ต่อให้ยินยอมหรือไม่คุณไม่มีสิทธิ์เลือก
ก่อนที่จะปฏิเสธหัวชนฝาฟังผมเล่าให้จบก่อนดีกว่าไหม?” ธรรมตรัยลุกขึ้นยืน พร้อมกับเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างเตียง
จ้องหน้าพระลักษมณ์นิ่ง สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง สายตาดุจเหยี่ยวหรี่นิดๆ สบตาพระลักษมณ์ตรงๆ ผมยาวระบ่า
ใบหน้าสวยได้รูปขาวจนซีด แม้จะน่ามองเพียงใด แต่ความคิดพระลักษมณ์ขณะนี้ มันช่างเย็นเยือกไปถึงกระดูก
ในที่สุดธรรมตรัยก็พูดขึ้นว่า
“เลขตอง 6 คือเลขแห่งซาตาน การฝืนให้คนๆ หนึ่งต้องคลอดในช่วงวันเวลานี้ คือการตั้งใจ
เพื่อจะล้างอาถรรพ์มนต์มารที่เกิดจากความผิดพลาดในการใช้วิชาต้องห้ามของปู่ผม คุณจาเล่ายังไม่หมด ความลับที่ผม
จะบอกคุณต่อไปนี้ คือความจริงส่วนที่เหลือ
การเกิดของคุณจา เป็นเจตนาที่ผู้ใหญ่รุ่นก่อนต้องการ ดังนั้นคุณจาจึงคลอดก่อนกำหนด
เพื่อให้ได้เวลาตกฟากตามศาสตร์แก้อาถรรพ์ ทุกคนฝากความหวังไว้กับคุณจา ยอมแลกกับอีกหลายชีวิตในตระกูล
เพราะการถือกำเนิดของคุณจา คืออาถรรพ์ที่ทำให้ญาติพี่น้องทางสายเลือดตกตายตามกัน เหมือนทำสัญญากับ
ซาตานนั่นแหละ ไม่ว่าสาเหตุการตายจะเกิดจากอะไร ล้วนเป็นคำสาปทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้นทายาทของคุ้มดงพญาจึงแทบไม่เหลืออย่างที่คุณเห็น ถ้าไม่นับกายันต์ซึ่งเกิดจาก
มนต์มารและต้องทนทุกข์ทรมานทุกคืนวันพระจันทร์ดับ เราต้องมัดเขาไว้กับโซ่เหล็กในห้องใต้ดิน คุณยันต์ไม่สามารถ
มีทายาทผู้ชายเด็ดขาด เพราะนั่นยิ่งเลวร้ายไม่จบไม่สิ้น
ส่วนคุณจาเกิดมาพร้อมอาถรรพ์ซาตาน จึงไม่แปลกที่จะสมบูรณ์ด้วยรูปลักษณ์ สติปัญญา
ความสามารถ แต่อาถรรพ์ซาตานก็ตามติดเช่นกันจนกว่าจะได้เข้าพิธีล้างอาถรรพ์ที่ว่าเสียก่อน นั่นคือสาเหตุที่คุณจาไม่
สามารถแต่งงานกับใครได้ต่อให้รักมากแค่ไหน ก็ไม่กล้าสร้างครอบครัว
คุณจาแบกภาระต้องล้างอาถรรพ์ให้สำเร็จ เมื่อแก้ได้แล้วทุกคนถึงจะกลับมาใช้ชีวิต
อย่างสามัญชนเสียที ที่สำคัญจิตมารซึ่งออกอาละวาด มันคือตัวอันตรายหากไม่กำจัดให้สิ้นซาก รู้หรือไม่จะมีคน
ล้มตายอีกแค่ไหน
วันเดือนปีเกิดของคุณ เมื่อเข้าคู่กับคุณจาแล้ว จะได้เลข 13 ซึ่งเป็นลัคกี้นัมเบอร์
เลขนำโชคของซาตานเป็นดาวข่มใช้แก้อาถรรพ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ต้องอาศัยผลิตผลแห่งน้ำรักที่พวกคุณเข้าหอในคืน
วันพระจันทร์เต็มดวงที่เราเรียกว่าจันทร์เพ็ญ นำมารดลงหัวใจมารต้นแบบคือหัวใจของปู่ที่ผมเก็บไว้อย่างดี ก่อนเอาไปผสม
น้ำให้กายันต์อาบ พร้อมกับแช่ลูกปืนตะกั่ว ใช้สังหารจิตมารอาถรรพ์นี้จึงจะหมดสิ้นไปซะที
คนที่ล้างอาถรรพ์ท่านปู่เคยบอกไว้ ไม่จำกัดเพศว่าจะเป็นหญิงหรือชาย สังเกตุจาก
เดรัจฉานมนต์มารมันไม่เลือกสมสู่ไม่ว่าจะกับเพศไหน ศพที่ตายทั้งหญิงทั้งชายทุกคนล้วนแต่ถูกกระทำทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น
เรื่องเพศไม่ใช่ข้อจำกัดในการล้างอาถรรพ์
คุณจาต้องอาศัยธรรมมะเป็นตัวขัดเกลาพลังมารที่อาจครอบงำเอาได้มาตั้งแต่เด็ก จนแตกฉาน
พระคาถาพุทธคุณมากมาย แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถล้างอาถรรพ์มนต์มารได้ หากสามารถทำได้พวกเราทำไปนานแล้ว
ที่คุณมีชีวิตรอดมานอนอยู่ที่นี่ นั่นเพราะคุณจาต้องสู้กับจิตมารจนได้รับบาดเจ็บถึงพาคุณรอด
ออกมาจากเหตุการณ์นั่น หากไม่ทำให้คุณสลบไปเสียก่อน ก็คงไม่มีสมาธิต่อสู้กับจิตมาร ยังดีที่จิตมารพลังมันไม่แข็งแกร่ง
เหมือนคืนพระจันทร์ดับ เพราะมันกลายร่างเดรัจฉานไม่ได้ มันอาศัยไสยดำที่มีเข้าสู้หรอก ไม่เช่นนั้นอย่าหวังว่าพวกคุณ
จะรอดมาได้
ตอนนี้จิตมารมันรู้ว่าคุณสองคนเจอกันแล้ว และเป็นตัวอันตรายสำหรับมัน ต่อให้เราปล่อยคุณไป
ชีวิตคุณไม่มีทางเป็นปกติสุขเหมือนเดิม รับรองได้มันตามฆ่าคุณแน่ นอกจากคุ้มดงพญาในเรือนไทยนี้แล้ว ไม่มีที่ไหน
ปลอดภัยสำหรับคุณอีกรู้ไว้ด้วย ที่นี้เข้าใจหรือยังว่าทำไม ผมถึงบอกว่าคุณไม่เหลือทางเลือก” ถือเป็นการพูดเยอะที่สุด
ของธรรมตรัย การเล่าด้วยโทนเสียงเรียบเรื่อย
สลับมองหน้าพระลักษมณ์บ้าง มองเหม่อไร้จุดหมายบ้าง ยากจะคาดเดา แต่ที่แน่ๆ สิ่งหนึ่ง
ที่ทำให้พระลักษมณ์รับรู้คือ ทั้งปาจาและธรรมตรัยแบกรับภาระหนักอึ้งมานานจนทำให้ทั้งคู่ดูเย็นชา การเกิดของปาจา
ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเพราะต้องแลกกับการสูญเสียญาติที่มีไม่เหลือ นี่คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ้าคุ้มดูเย็นชาซะงั้น
“เฮ้อ! ฟังแล้วยังกะผมหลุดเข้ามาสมัยขอมรามัญมนต์ดำไสยศาสตร์ ให้ตายเหอะ
ขอให้ผมฟัดกับคุณจาเนี่ยะนะ ผมไม่เคยเอาผู้ชายมาก่อนฟัดแต่ผู้หญิง ถึงจะพอรู้มาบ้างว่าผู้ชายเค้าเอากันยังไง
แต่น้องชายผมคงไม่แข็งแยงก้นคุณจาไม่ได้หรอกเชื่อเหอะ...ถามจริงผมเหลือเวลาอีกกี่วันก่อนถึงคืนพระจันทร์เต็มดวง?”
พระลักษมณ์บ่นเสียยืดยาว ก่อนจะถามออกไปในเมื่อธรรมตรัยบอกเองว่า การเข้าหอกับปาจาต้องคืนพระจันทร์เต็มดวง
นั่นสิมีเวลาเหลือกี่วันเล่าเนี่ยะ
“คุณเข้าใจผิด ผมต้องแก้ความเข้าใจคุณเสียใหม่ คนที่จะเป็นฝ่ายรุกนะคุณจาไม่ใช่คุณ...
เพราะฉะนั้นคุณตะหากที่ต้องให้คุณจาทำ สบายใจได้ที่นี้ไม่ต้องกลัวว่าน้องชายคุณจะไม่แข็ง ส่วนน้ำรักที่หลั่งในตัวคุณ
รวมกับน้ำคัดหลั่งทางช่องข้างหลังแค่นั้นพอแล้วสำหรับใช้ในพิธีกรรม เพราะคุณทั้งคู่ได้หลอมรวมเป็นหนึ่งแล้วไม่ต้องกังวลไป
นับจากนี้อีกสี่ราตรีตรงคืนจันทร์เพ็ญ ก่อนจะข้ามไปอีกสองอาทิตย์ถึงคืนพระจันทร์ดับ จิตมารจะกลายร่างเดรัจฉาน
ออกอาละวาดอีกครั้ง เราต้องล้างอาถรรพ์ให้กายันต์ก่อน แล้วกำจัดจิตมารทีหลังคุณมีเวลาสี่วัน” ธรรมตรัยพูดหน้านิ่ง
แต่พระลักษมณ์อ้าปากค้าง ตาโตเท่าไข่ห่าน อิตอนแรกยังนึกว่าตนต้องอัดถั่วดำเจ้าคุ้มน้ำแข็งร่างใหญ่แค่คิดก็ไม่สู้แล้ว
สูงใหญ่กล้ามแน่นขนาดนั้น จะกอดจะกดมันจะบลิ้วอารมณ์ได้ที่ไหน แค่คิดก็ขนพองสยองเกล้า แต่สุดท้ายความจริง
ที่เพิ่งทราบหนักกว่าเดิมอีก อุแม่เจ้า! กลายเป็นตนเองตะหากจะโดนตุ๋ย...โอว!..ไม่เด็ดขาดศักดิ์ศรีลูกผู้ชายยี่สิบแปดปี
ต้องโดนย่ำยีในอีกสี่วันข้างหน้า ให้ตายก็ไม่ยอม.....อร๊ากกกกกกก!!!!!.......
มาต่อแล้วนะคะ ตอนหน้าดูพิธีล้างอาถรรพ์
คนอ่านช่วยกดเป็ดให้ทะลุทะลวง จะเขียนให้อิ่มเอม เสียวติ่งให้แซ่บกันไปเลย
ขอดูกำลังใจที่ให้ก่อน เออ...แอบขำอ่ะ มีคนอ่านที่เอาเรื่องพี่ราฟมาเม้นฯเรื่องนี้
ไหงงั้นเล่าเนี่ยะ ขอบคุณสำหรับพี่แก้ว Yayee 2 คุณเฉาก๊วย คุณ ณยฎา
ที่ช่วยแก้เรื่องคำผิด ลักษ์กลับไปแก้ไขให้แล้วนะคะ รบกวนนักอ่านที่รัก
เจอก็เม้นฯ บอกกันได้ค่ะ เพราะเวลาพิมพ์มันแล่นตามจินตนาการ
หลุดประจำ ที่สำคัญคนเขียนไม่จบอักษรฯ เพราะงั้นขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
ฝากขอบคุณพี่ๆ ที่ช่วยเตือนกันอีกครั้ง
Luk. :กอด1:
-
ขำพรลักษณ์อ่ะ คิดได้ไงว่าเป็นฝ่ายไปกดเขา :laugh:
อยากให้ถึงตอนทำพิเร็ว ๆ จัง :o8:
ทั้งบวกทั้งเป็ดเอาไปเลยค่ะ :กอด1:
-
โหยตื่นเต้น จังเลยได้อ่านแ้ล้ว
รอตั้งนาน o13 อ่านแล้วขำตรงพระลักษณ์นี่แระ
คิดได้ไงเนี่ย 55555 :m20:
แล้วสุดท้ายลงเอ่ยยังไงนั้น ต้องรอ 555
:L2: :L2: :L2: :L2:
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :jul3:
-
รามัญ เขียนแบบนี้จ้าาา
ตอนหน้าพระลักษมณ์โดนปาจาจับบูชายัญแล้ว อิอิ
-
น่าสงสารเนอะ
-
countdown นับถอยหลังอีก 4 วัน :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า :pig4:
-
555แอบขำว่าพระลักษณ์คิดว่าตัวเองจะโดนตุ๋ยตูดก็ขนลุกขนพองแล้ว
น้ำรักจากทั้ง2ไปผสมน้ำอาบให้กายันต์ โอ้แม่เจ้า o18
-
รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:
-
น่าสงสาร 55+
-
o22 พระลักษณ์คิดได้ไงเนี้ย ที่จะกดคุณจานะ :m20:
ว่าแต่ตอนหน้าคงได้บริจาคเลือดเยอะแน่ๆ :jul1:
+1 คับผมรอลุ้นตอนต่อไป :ped149:
-
ใกล้จะถึงฉากพระลักษณ์เสียจิ้นแล้ว :impress2:
-
ไม่ได้รุกเขาเสียแล้ว :pigha2:
-
โอ้อ่ะนะ น่าสงสารนายเอกเรามั๊กมากกก อ่ะนะแต่คุณปาจาก็โอเคดีมาก คงจาไม่เป็นไรฮิฮิ :oo1:
-
+ตัวเหลืองๆให้อีก1ตัว :o8:
-
เป็นการล้างอาถรรพ์ที่ลามกที่สุดในจักรวาล
พระลักษมณ์เอ้ยย คิดได้ไงว่าตัวเองจะเป็นคนเปิดซิงบุกถ้ำทองคุณจา
ความจริงทำเอาช็อคไปเลยไหมล่ะ
ยินดี ยินดี อีก 4 วันนายจะได้มีสามีเป็นตัวเป็นตนซะที
-
คิดได้เนอะว่าตัวเองจะตุ๋ยเค้าเนี่ย :m20:
4 วัน พระลักษณ์เข้าคอร์สเจ้าสาวทันมั้ย :impress2:
+1 กับความฮา o13
-
โถๆ นึกว่าจะได้เป็นฝ่ายทำประตู กลับโดนทะลวงประตูซะแทน เอาน่ะๆ เพื่อมวลมนุษย์เลยนา 55555 :laugh:
-
พอถึงตอนทำพิธี จากความหื่น น่าจะกลายเป็นความฮานะเนี่ย
-
ยาที่ทานเข้าไปกำหนดต้องตื่นพรุ่งนี้..
...แล้วคุณจาจะรีบตื่นมาทำไม อีกตั้ง4วันน๊า :m12:
พระลักษณ์ใกล้จะเข้าพิธีล้างอาถรรพ์แล้ว :z1:
-
+เป็ด ให้แล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
มารอลุ้นตอนล้างอาถรรพ์ 555+
-
+ 1 ค่ะ
พระลักษณ์คิดได้ไงว่าจะได้กดปาจา.....
นับถอยหลังอีก 4 วัน เตรียมกระดาษ :oo1: o18
-
5555555555555
ขำอ่ะ
แต่ก็อยากรู้จะล้างมนต์ดำได้ไหม
-
แอร๊ยยยยยยย ข้ามไปวันพระจันทร์เต็มดวงเลยได้ป่ะ
ไม่ได้หื่นนะ แต่รอ :oo1: อยู่!!!
-
+1พร้อมเป็ด
-
อีกสี่วัน
ฮิ๊ววววววววววว
:mc4: :mc4:
-
เหอะๆ พระลักษณ์งานงอกอย่างแรง :laugh:
-
เห็นใจพระลักษณ์อยู่นะ แต่ทำไงได้
คุณจาเป็นฝ่ายรุกน่ะ เหมาะแล้ว :z1:
-
อ่านรวดเดียวจบ ชอบการผูกเรื่องจัง
-
ตอนแรกแอบเครียดนึกว่าจะผิดคาด
แต่ก็ดีที่สุดท้ายปาจาก็ไม่ได้ร้าย o13
แต่สำหรับพระลักษณ์คงเหมือนโดนฟ้าผ่าอ่ะ o22
รอตอนต่อไปนะคะ
ปล.กดเป็ดแล้วนะคะ :กอด1:
-
เอ๋อ จะสงสารพระลักษณ์ หรือ คุณปาจาดี :เฮ้อ:
:L2: :L2:
-
555 พระลักษณ์คิดได้ไงเนี่ย
-
ยิ่งอ่านยิ่งมึน โอ้ย
พระลักษมณ์ฮาอ่ะ จะกดปาจาเนี่ยนะ 555
บวกเป็ดให้สองตัวรวดเล้ยยย มาเร็วๆนะจ๊ะ อิอิ
-
:impress2:รอพิธีล้างอาถรรพ์ค่ะ
-
โอ้ๆๆๆๆๆๆ
ใกล้จะได้เข้าห้องหอแล้วอ่ะ
แบบนี้ปาจาจะทำยังไงต่อล่ะ
เพราะท่าทางยังไงๆๆพระลักษณ์ก็ไม่ยอมแน่ๆๆ
แต่ท่าบังคับเอา
มันก็จะกลายเป็นการไปทำร้ายพระลักษณ์อีก
เฮ้อๆๆๆๆๆ
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
มาจิ้มเป็ด +1 ค่ะ กับ :m20:
โถ ๆ เสียประตูไปแล้ว :-[
-
555 คิดได้ไงอะพระลักษณ์ว่าจะเป็นฝ่ายได้กดคุณปาจา
-
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ตั้งตารออีกสี่วันค่ะ
-
มารอดูเขาล้างอาถรรพ์กันครับ ฮิๆ
-
เอ้ารู้ตัวแล้วไม่ได้ให้มารุกแต่ให้มารับ อีกแค่สี่วันเองจะเป็นไงละเนี่ยรออ่านตอนต่อไปคับ
-
พระลักษมณ์ก็ ยอมๆ ไปเหอะ
ถือว่าช่วยกัน ครั้งเดียวเอง(มั้ง)
อิอิ
-
ต๊ายตายคิดไปได้ไงว่าตัวเองเป็นฝ่ายรุกน่ะ ไม่เจียมบอดี้ซะเลยนายเอกของฉัน o18
-
นายเอกบื้อด้ายอีกเนอะ :seng2ped: :seng2ped:
-
ถ้าข้อกำหนดกลับข้างกัน
กลายเป็นปาจาเป็นคนโดนจิ้ม
คงจะเหวอแล้วก็คงฮาน่าดู :jul3:
-
กร๊ากกกกกกกกกกก พระลักมณ์ เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วลูก
มีเวลาตั้งสี่วันให้ทำใจแน่ะพระลักมณ์ คริๆ
สงสัยปาจาต้องมาทำความคุ้นเคยกะพระลักษณ์บ่อยๆแล้วม้างงงงง
+1 +เป็ด คร๊าบบบบบบบบบบบบบ
-
:laugh:
รอพิธีอย่างใจจดใจจ่อ
-
พระลักษมณ์ มีเวลาเตรียมก้น4วัน!! :oni1:
อยากรู้ความรู้สึกคุณจาอ่ะ เฉยๆ ดีใจ หรือแอบหื่นนนน :fox2:
คุณจา เค้าเชียร์ตัวนะ เอ้อน่ะๆ :ped149:
-
:กอด1:
ยอมๆไปเถอะ
:-[
-
โหยยย
ตื่นเต้นๆๆ
อีก4วันเอง
มีเวลาทำใจน่า
ฮะๆๆ
-
ล้างมนต์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ผมบวกเป็ดให้แล้วนะครับ
คนเขียนอย่าเพิ่งน้อยใจไปเลย
พวกแฟนคลับลับๆ อย่างผมมีเยอะครับ
ไม่ใช่ไม่อยากให้กำลังใจนะครับ แต่ชอบให้ตามโอกาสอันควรมากกว่า
เพราะไม่รู้จะเม้นท์อะไร เห็นคนอื่นเขาเม้นท์ได้ตรงกับใจหมดแล้ว
ก็เลยบวกเป็ดให้แล้วกันนะครับ :L1:
-
พระลักมณ์ จูบกับก็เคยๆเเล้วเดี๋ยวก็เคลิ้มเเล้ว
-
ขออภัยที่โพสต์ผิดที่ค่ะ :call: :call: :call: :call:
ใช้เน็ตที่บ้านมันไม่ค่อยเสถียรเลยเข้าตอบผิดที่
ขอโทษจริงๆค่ะ ไม่ได้ตั้งใจเลย เป็นความสะเพร่าของเราเอง
ต้องขออภัยท่านนักเขียนและผู้อ่านเรื่องนี้ทุกท่านด้วยค่ะ
:call: :call: :call:
-
อ่านแล้วฮาสุดๆอ่า
คุยกันได้ถึงพริกถึงขิงมากกกกกกกก
รออ่านตอนต่อไป ลุ้นๆอีก 4 วัน ที่พระลักษณ์ต้องเสียความบริสุทธิ์ อิอิ
-
อ่อย รอนานแว้วนะ ><
มาเถอะๆๆๆๆ รอๆๆๆๆๆๆ
รอๆๆๆๆ ทุกวันๆๆๆ
-
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากกกก ชอบค่ะ
อ่านแล้วตื่นเต้นดี ><
-
ยอมๆเขาไปเถอน่า....
-
สนุกค่ะ
เพิ่งเข้ามาอ่านเนี่ยแหละ ^^
อ่านไปแล้วก็สงสาร กายันต์
พ่อเทพบุตรอาภัพ แต่ก็จะหายแล้วใช่มั้ย
-
:z1:แหะๆตอนหน้าพระจันทร์เต็มดวง....พระลักษณ์โดนกด :laugh:
-
อยากอ่านพิธีล้างอาถรรพ์เร็วๆจังเลย
+ 1 นะคะ
-
ก๊ากกกกกกกกกกก
พระลักษณ์คิดได้ไงอะ จะไปกดปาจาน่ะ
กรั่กกกกก
อยู่เฉยๆๆ ให้เค้ากดอะดีแล้ว
ฮ๋าาา
-
ไม่รอดแน่ไอ้หนูเอ้ย ยอมแต่โดยดีเถ๊อะ กร๊ากก
-
นี่คิดไปได้ยังไงว่าจะได้รุกคุณจา :m20:
-
จะตั้งตารอเลยอีกสี่วัน :z1:
พระลักษมณ์คิดได้ไงจะไปกดเค้า o17
รอต่อจ้ะ :กอด1:
-
รออย่างใจจดใจจ่อ :haun4:
-
พระลักษมณ์นี่กล้ากดพระเอกเราจริงรึนี่
ขนาดตัวก็ต่างกันแล้วนะ
มีเวลาอีก4วันพระลักษมณ์จะหาทางรอดให้ตัวเองได้มั๊ย
รอลุ้นค่า
กดให้ทั้งบวกและเป็ดเลยค่า
-
ลุ้นตอนล้างอาถรรพ์ล่ะ
มาเร็วๆ นะคะ
-
ขำพระลักษมณ์ :m20:
-
ตอนล้างอาถรรพ์ เหอ เหอ อยากอ่านเร็วๆจัง
-
รอด้วยใจจดจ่อ อยากรู้ว่าพระลักษ์จะเอาตัวรอดยังไง
ก่อนโดนกด ขอให้ได้กดปาจาคืนบ้างก็ดีนะ ฮ่าๆๆๆๆ :jul3:
-
เราไปมุดหัวที่ไหนอยู่ตั้งนานไม่ยอมมาอ่านเรื่องนี้
แต่เรื่องนี้รู้สึกว่าทั้งการจัดเรียงและอะไรหลายๆอย่างดีขึ้นมากกกกก
ถึงจะแปลกๆที่ตอนแรกๆ เรียกพระลักษณ์ที่ปลอมมาเป็นรพินทร์ว่า "เธอ"ก็เถอะ
แต่ว่าเรื่องกำลังสนุก มาต่อด่วนเลยจะรอติดตามต่อไป
-
:z1: :z1: :z1:
ยอมๆไปเหอะ พ้นช่วงเจ็บก็สบาย
-
o13 สุดยอดขอยกนิ้วให้กับเรื่องนี้ สนุกสุดยอดไปเลย
ชอบพระลักษมณ์มากๆเลยอ่ะ ดูกวนๆแต่น่ารักมากๆ
ส่วนคุณปาจา เท่มากๆเลยค๊า เหมาะสมกันจริงๆเลยคู่นี้
แถมเรื่องนี้ยังเป็นแนวแฟนตาซีที่โปรดปรานอีกตั้งหาก >///<
ตอนหน้าจะเข้าหอกันแล้วซินะ (ใช่เปล่า)
:laugh:แอบขำพระลักษมณ์อ่ะ คิดจะกดจาเขาอย่างเดียวเลย
สงสัยลืมมองว่าตัวเองกับจาต่างกันขนาดไหนนน ฮ่าๆ
ตอนแรกแอบเดาเล่นๆว่าผาต้องเป็นลูกของกายันต์ ที่ไหนได้เป็นจริงซะงัน
:-[อยากอ่านตอนทำพิธีจังเลย อยากเห็นตอนพระลักษมณ์เข้าห้องหอ
จะรอติดตามตอนต่อไปจร้า
-
ขำพระลักษณ์อะ คิดได้งัยเนี้ย
-
ด้านสว่าง........สงสารพระลักษณ์อ่ะไมต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
ด้านมืด...........เมื่อไหร่จะถึงคืนวันเพ็ญนะฮุฮุ :z1:
-
อยากอ่านพระลักษณ์แล้วค่ะ คุณลัก
มาต่อเร็วๆน๊าาาาา
-
มาได้แล้วววววววววววววววว
-
:haun4: กร๊ากกกกกก....ตอนนี้ขำพระลักมษณ์อ่ะ คิดได้ไงว่าตัวเองจะเป็นคนกดปาจา.....กรีสสสส...อยากอ่านต่อไปแร้วอ่ะ :z3:
-
มารอแล้วคร๊าฟ ฟฟ เร็วๆน๊า
ที่พักผ่อนย่อนใจคือ...นิยายของพี่ลัก น่ะ :)
-
รอ
-
อยากอ่านต่ออ่ะ
-
บวกแล้วจ้า เป็ดแล้วด้วย
-
คิดถึงพระลักษณ์แล้ว.. มาต่อเร็วๆน๊า
รอ ร่อ ร้อ ร๊อ รอออ...
-
มาแอบอยู่แถวๆหน้าจอ นั่งรอผู้แต่งด้วยว่าจะมาต่อ ฮิฮิ
-
:กอด1:
-
ตอนนี้ยังไม่จบ แต่ยังมึนตื้ออยู่ สัญญา NC มีในตอนแน่นอน
เขียนมาแล้วยังไม่ถูกใจ เลยขอเวลาแก้ไขก่อน
อยากอ่านเร็ว อย่าลืมอ่านเหตุผลคนเขียนท้ายตอนนิยาย
แล้วท่านจะเข้าใจหัวอกข้าพเจ้าในตอนนี้ เครียดๆๆๆๆจังเลย :z3:
ยาวโคดๆ 4 หน้า อ่านให้ตาแฉะกันไปข้าง
มนต์มาร
Part 12
ล้างอาถรรพ์มาร...1.
.
.
.
.
พระลักษมณ์ขอเวลาตั้งสติ หลังรู้ต้องสังเวยเอกราชให้เจ้าคุ้มน้ำแข็ง เชื่อว่าตอนนี้
หน้าคงออกอาการขี้ไม่ออก ทั้งเจ้านายทั้งเลขาเลิกคิ้วจ้องมองไม่วางตา ชักหงุดหงิดแล้วนะเว้ย! อะไรนักหนาหวะ!
“เฮ้ย! จะจ้องกันอีกนานไหม? คุณเลขาขอผมคุยกับคุณจาตามลำพังหน่อยเหอะ” พระลักษมณ์
ใช้น้ำเสียงแกมสั่งมากกว่าขอร้อง บังอาจจับขึงก่อนทำไม มีหน้าวางแผนตุ๋ยหนุ่มหล่อตูดซิงอย่างตนอีก เห่อ..เห่อ..ยากทำใจ
ยอมรับจริงๆ แต่เล็กจนโตผ่านสมรภูมิดุเดือดเลือดพล่านกลับไม่กลัว นึกไม่ออกมีเหตุการณ์ไหนบ้างทำให้พระลักษมณ์
ขนหัวลุกเท่ากับต้องสังเวยตูดแล้วเนี่ยะ อร๊ากกกกก!!!..น่ากลัวยิ่งกว่าโทเมอร์ฮ๊อคถล่มซัดดัมเสียอีก
วิตกกังวลในใจคนเดียวเป็นคุ้งเป็นแคว
“คุณออกไปเถอะ ผมโอเคไม่ต้องห่วง” หึ! ทีพระลักษมณ์บอกไม่ยอมทำตาม ปาจาพูดปุ๊ป
พยักหน้าหันหลังเดินคอตั้งออกไปหน้าตาเฉย ให้มันได้อย่างนี้สิเลขาผีดิบ รอเลื่อนตำแหน่งเป็นนายใหญ่ของคุ้มก่อนเหอะ
พ่อจะเล่นงานให้เข็ดเย็นชาดีนักจะทำให้ร้อนจนเดือดเลยเชียวคอยดูดิ ไอ้หยะ! ตายห่าคิดไปถึงไหนแล้วเห้ย!
กังวลจนหลอนต้องโทษพวกบ้าคอยเป่าหูอยู่นั่นแหละ...อรึ้ยยย! พระลักษมณ์กลอกตาไปมาทำหน้าตาพิกล
จนปาจาเกือบหลุดขำ
“คุณมีอะไรคุยกับผม?” ปาจาเอ่ยปากทันที หลังเลขาหน้านิ่งคล้อยหลังออกไป กลับเป็นพระลักษมณ์
ต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเต็มทน หน้าปาจานิ่งจนเดาความคิดไม่ออก เอาไงเอากันมือพระกาฬของหน่วยพิเศษ
ประสบการณ์มีไม่น้อย ประสบกามก็พอตัวถึงจะผ่านแต่สาวแท้มาตลอดก็เถอะ เห็นทีต้องลองล่อหลอกดูก่อน
พระลักษมณ์คิดในใจก่อนเอ่ยปากตอบกลับไปว่า
“ปล่อยผมได้ไหม อยากให้ช่วยก็ควรให้เกียรติกันหน่อย นี่ไม่ใช่วิธีการที่ดี มันคือการบังคับ
กักขังหน่วงเหนี่ยว กระทำกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดนกี่ข้อหาคุณน่าจะรู้ดีนี่นาด๊อกเตอร์” พระลักษมณ์พร่ำยาว
“หึ...ผมรู้ดีผู้กอง ทีคุณปลอมแปลงเอกสาร ประพฤติมิชอบลักลอบเข้าที่รโหฐาน
ทั้งที่เจ้าของเค้าไม่อนุญาต กระทำการอุกอาจเยี่ยงโจร ผมคือผู้เสียหายย่อมมีอำนาจในอาณาเขตของตน คุณว่าจริงไหม?”
พระลักษมณ์หน้านิ่ว โดนปาจาโต้กลับ แต่ด้วยนิสัยรั้นเป็นทุนจึงไม่ยอมจนแต้ม ตวัดตากลมโตใส่แสดงออกไม่พอใจสุดๆ
ก่อนเถียงคอตั้ง
“ผมใช้อำนาจของรัฐปฏิบัติหน้าที่ตะหาก ไม่ได้ทำเรื่องส่วนตัวสักหน่อย สืบข้อเท็จจริงคดีอุกฉกรรจน์
คืองานของผม ถ้าไม่อยากเป็นผู้ต้องหา ปล่อยผมดีกว่าคุณจา ผมรับปากจะไม่ติดใจเรื่องที่ผ่านมา” ปาจายิ้มเย็น
พระลักษมณ์รู้สึกหนาวเข้ากระดูก ก่อนปาจาออกปากโดยใช้น้ำเสียงแสดงอำนาจตอบมาว่า
“การลักลอบเข้ามาในคุ้มของผมโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อให้เป็นศพก็ไม่มีใครเอาผิดผมได้
กฎง่ายๆแค่นี้คุณน่าจะรู้ดีกว่าใครนะพระลักษมณ์” พระลักษมณ์กัดกรามกรอด นึกชังน้ำหน้าปาจาตะหงิดๆ
แน่สิเคยเป็นตำรวจสากลย่อมรู้ถึงความเสี่ยงโดยไร้ที่ฝังดีอยู่แล้ว ไอ้ที่ยกมาพูดหวังจะให้ออมชอมต่อกันเหอะ
ทำไมถึงดื้อชะมัด ใจนึกว่าแต่เค้าดันลืมนิสัยตัวเองต่างกันตรงไหน เอาหวะเหลือหนทางเดียว เห็นทีต้องรื้อตำรา
นักการทูตขึ้นมาสมานฉันท์ให้เป็นอิสระกับพันธนาการเหล่านี้ก่อนดีที่สุด
“เอาหละผมยอมรับผิดก็ได้ แต่อย่างน้อยคุณควรให้อิสระผมด้วย ต้องการความร่วมมือจากผม
น่าจะเทคแคร์ฉันมิตรมากกว่าข่มขู่ ถ้าหากผมคิดสั้นยอมตายขึ้นมา คุณคงไม่สามารถใช้ประโยชน์จากร่างไร้ชีวิตผม
ได้หรอกจริงไหม คุณกับผมเราต่างรู้ดีว่าอาชีพนี้ถึงเวลาต้องเสียสละเมื่อจำเป็นก็ต้องทำ” พระลักษมณ์พูดจบ ปาจาขยับ
ลุกจากเก้าอี้ ก่อนจะล้วงกุญแจในเสื้อคลุมปลดพันธนาการเท้าทั้งสองข้าง แล้วขยับมาปลดที่ข้อมือให้อีก
พระลักษมณ์ผ่อนคล้ายกล้ามเนื้อขยับแขนขาช้าๆ ก่อนลุกลงจากเตียงยืนบิดซ้ายบิดขวา
และแล้วไม่คาดคิด พระลักษมณ์กลับตวัดเท้าเตะเข้าใส่ปาจาทันที พลังที่เหวี่ยงออกไป
เชื่อว่าคนปกติโดนถึงกับลงไปนอนจูบธรณีลุกไม่ขึ้นเลยเชียวแหละ
“พลั๊ก!! ปึ๊ก!! ป๊าปๆๆ!!!” เสียงรัวลูกเตะต่อเนื่องรวดเร็ว แต่กลับไม่ระคายปาจาแม้แต่น้อย
นอกจากเจ้าตัวสามารถรับลูกเตะพระลักษมณ์โดยเบี่ยงน้ำหนักทิ้งออกได้อย่างสบายแล้ว ยังสวนกลับจนพระลักษมณ์
เป็นฝ่ายถอยอีกตะหาก
การปะทะฝีมือของหนุ่มใหญ่กล้ามเนื้อสมบูรณ์แข็งแรง กับหนุ่มหล่อหน้าใสร่างโปร่ง ต่อเนื่องไม่หยุด
โดยที่ไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำแก่ใคร ดูผิวเผินเหมือนฝีมือคู่คี่สูสีกัน แต่ถ้าสังเกตุให้ดีจะรู้ว่าปาจาเพียงปัดป้องและตอบโต้
ให้พระลักษมณ์ถอยร่นเท่านั้น ไม่ได้รุกจริงจังอย่างที่ควรจะเป็น ต่างกับพระลักษมณ์ซึ่งงัดท่าไม้ตายออกมาใช้จนเหนื่อยแล้ว
ยังไม่สามารถทำร้ายร่างกายปาจาได้สักนิด ขืนยืดเยื้อต่อไปได้หมดแรงก่อนเป็นแน่ ดังนั้นพระลักษมณ์จึงฉากหนีห่างหลายก้าว
พร้อมกับยกมือขึ้นห้ามศึกทันที
“พอหยุดก่อน แฮ่กๆๆ เหนื่อยโคด” ปาจาก็ยอมชงักหยุดให้ไม่ตามเข้าซ้ำ ท่าทางช่างแตกต่างกันสิ้นเชิง
พระลักษมณ์แทบลิ้นห้อย ขณะที่อีกฝ่ายกลับนิ่ง แค่หายใจแรงกว่าเดิมเล็กน้อย นี่มันบ้าชัดๆไม่ยักรู้ปาจา
ฝีมือจะเขี้ยวปานนี้ เป็นความผิดพลาดเหลือแสนซึ่งพระลักษมณ์กรนด่าตัวเองในใจ เนื่องจากประเมินฝีมือคู่ต่อสู้ผิดมหันต์
จะโทษก็ต้องโทษหน่วยข่าวกรองดันไม่มีข้อมูลป้อนมาก่อน ขณะกำลังคิดพลางพักเหนื่อยไปด้วย ปาจาก็พูดขึ้นว่า
“พอเหอะ รั้นไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น นอกจากเพิ่มความยุ่งยากให้ตัวเอง จำไม่ได้หรือไง
ธรรมตรัยเพิ่งบอกไป ต่อให้ผมปล่อยคุณไม่ได้แปลว่าจิตมารจะปล่อยให้คุณรอด มันไม่มีทางยอมให้คุณลอยนวล
คอยเป็นหอกข้างแคร่เด็ดขาด
สมมติคุณรู้ว่ามีระเบิดเวลาอยู่ใกล้ตัว คุณจะหาทางปลดชนวนหรือไม่ เช่นเดียวกับจิตมาร
มันย่อมคิดช่นนี้ ในเมื่อมันรู้ถึงตัวตนของคุณแล้ว มันคงยอมปล่อยคุณหรอกนะ ก่อนหน้าที่มันไม่เข้ามาวุ่นวายกับผม
เพราะต้องการสร้างสถานการณ์ลงมือฆ่าเหยื่อในคุ้มผม ให้ทางการหมายหัวพวกเราแทน นับจากนี้ไปมันคงเปลี่ยนเป้าหมาย
กำจัดคุณไม่ได้คงไม่ยอมเลิกลา” ปาจาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แววตาที่มองสบพระลักษมณ์ไม่ได้แสดงว่าโกหกเลยสักนิด
พระลักษมณ์จำต้องคิดหนักถ้าเป็นอย่างที่บอก นั่นคือชีวิตตนเหมือนเหยียบกรับระเบิด ถ้าจะกู้ก็ต้องเสียประตูหลัง
ให้คนตรงหน้าแทน ตอนนี้ไม่ขอเลือกทางใดทั้งสิ้น ยังพอมีเวลาสี่วัน น่าจะหาทางออกที่ดีกว่านี้ได้ หรือไม่ก็ต้องรอ
จนวินาทีสุดท้ายนั่นแหละ
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
“ถามจริงเถอะ ไอ้พิธีกรรมบ้าบอคอแตกนั่น ทำไมผมต้องโดนเอาด้วย อยากได้น้ำรักของเราทั้งคู่
ต่างคนต่างโตกน้ำแตกก็มาเอาไปไม่ได้หรือไง?” เอาหวะ! มาถึงตอนนี้ไม่จำเป็นต้องหน้าบางกันอีกแล้ว เปิดอกคุยดีที่สุด
“ธรรมตรัยบอกคุณไปแล้ว พิธีกรรมต้องเสพสังวาสคือการร่วมรักเท่านั้น สถานที่ทำพิธีถูกเตรียมไว้
ก่อนผมเกิดด้วยซ้ำ รอแค่คนที่จะร่วมพิธีด้วย บอกคุณตามตรงผมไม่คิดว่าเป็นผู้ชายมาก่อน แต่ช่างเถอะเดิมทีคุณออกตัว
เป็นผู้หญิงอยู่แล้วถึงจะเป็นทอมแต่ก็พอได้ คุณอยู่เฉยๆ ที่เหลือผมจัดการเอง” ปาจาพูดเองเออเองเสร็จสรรพ
พระลักษมณ์อ้าปากค้างตาโต ก่อนจะลิ้นพันกันตะกุกตะกักพูดขึ้นว่า
“เฮ้ย! ดะ..ดะ...เดี๋ยวก่อนไมเหมางี้เล่าฟะ! ผมเป็นฝ่ายโดนนะเว้ย! มันต้องคุ้นเคยกันก่อนดิ
นี่เล่นจะล่อกันอย่างเดียว” ไม่พูดยังดีกว่าเสียอีก คิดได้ตอนนี้คงสายไปแล้ว ปาจาก้าวทีเดียวถึงตัวพระลักษมณ์
ก่อนจะรวบร่างโปร่งเข้าแนบชิด พระลักษมณ์ยังจิตหลุดอยู่ ไม่ทันถามจุดประสงค์ที่ปาจาทำ ใบหน้าหล่อเข้มปานรูปสลัก
ก็ประกบจูบบดปากบางทันที จังหวะพระลักษมณ์กึ่งอ้าปากจะถามอยู่ร่อมร่อกลายเป็นเปิดทางให้ลิ้นชื้นรุกล้ำ
เข้าสู่โพรงปากนุ่มอย่างจาบจ้วง ไม่ทันได้ตั้งตัวมือหนาก็กดท้ายทอยยึดไว้ไม่ให้ขืนหนี ทุกอย่างเกิดขึ้นเสี้ยวนาที
สำนึกได้ว่ากำลังถูกจูบก็ช้าไปแล้ว
ด้วยความช่ำชองของปาจา เล่นเอาพระลักษมณ์มึนไปกับรสจูบอย่างเมาๆงงๆ ประสบกามที่เคยมีนั้น
ช่างเทียบไม่ได้เมื่อเจอจูบดูดวิญญาณเข้าให้ ทั้งเร่าร้อนอ่อนโยนเรียกร้องให้ตอบสนอง จนเผลอดุนลิ้นโต้กลับไม่รู้ตัว
เรียกเสียงครางทุ้มในคอปาจาอย่างพึ่งใจ
“อึมมม!!!” พระลักษมณ์รู้สึกดีซะงั้นหลังเรียกเสียงครางปาจามาได้ เคลิ้มไปกับจูบดูดดื่ม
แม้จะต่างชั้นเชิงกัน สุดท้ายเป็นพระลักษมณ์เข่าอ่อนซะเอง ต้องอาศัยอกแกร่งของปาจาประคองเอาไว้
สัมผัสท่อนเนื้ออุ่นแข็งดันบริเวณหน้าท้อง เรียกสติที่กำลังเตลิดกลับมาทันที
มือสองข้างจับไหล่หนาเปลี่ยนเป็นทุบปึกๆ ส่งสัญญาณหยุดจูบเพชรฆาตของปาจาก่อนจะกู่ไม่กลับ
เมื่อร่างกายของตนก็ไม่รักดีเสือกตั้งสู้เขาอีก คงเพราะร่างสูงใหญ่ตรงหน้าสวมชุดนอนผ้าบางทับด้วยเสื้อคลุม ความโล่งโต่ง
ของเนื้อผ้าทำให้อาวุธร้ายพองตัวเต็มพิกัด ดุนดันแถวหน้าท้องแบนราบของพระลักษมณ์จนรู้สึกได้
ถึงความแกร่งและอุ่นร้อนเจ้าตัวร้ายกาจนั่น
ปาจาค่อยถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ตาคมเข้มดำสนิทเหมือนนิลดังมีมนต์ขลังดึงดูดตากลมโต
ของพระลักษมณ์ให้จมดิ่งอย่างไม่รู้สาเหตุ แววตาคมฉายรูปหน้าของพระลักษมณ์ซึ่งแดงไล่ไปถึงหู ปากบางเจ่อ
ยังกะลูกเชอร์รี่ พระลักษมณ์หน้าร้อนผ่าว เลือดวิ่งขึ้นหน้าทะลุองศาเดือดไปแล้ว
ปาจาจ้องหน้าหล่อใสของพระลักษมณ์อย่างเผลอไผล ตากลมโตที่เบิกกว้างหวานฉ่ำ
ปากเจ่อเพราะรสจูบหวานล้ำที่เพิ่งได้สัมผัส ทำให้หัวใจน้ำแข็งที่ชาเย็นเต้นกระหน่ำเหมือนจะทะลุออกนอกอก
ทั้งคู่ต่างสบตากันนิ่งงั้น โดยไม่มีใครพูดอะไรออกมา กลับเป็นปาจาที่ยอมคล้ายอ้อมกอดปล่อยร่างโปร่งเป็นอิสระ
ก่อนหันหน้าหนีแล้วพูดเสียงทุ้มขึ้นว่า
“อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย สิบนาทีผมจะมาทานข้าวด้วย” ทิ้งท้ายก่อนคนพูด
จะเปิดประตูออกไป ปล่อยพระลักษมณ์ยืนสับสนคนเดียว ถ้อยคำที่ปาจาบอกก้องในหัวไปมา พระลักษมณ์เดินทื่อ
เปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไปด้วยใบหน้าแดงก่ำเหมือนเด็กหัวอ่อนว่าง่ายไปซะงั้น
ปาจากลับเข้ามาอีกครั้งด้วยชุดลำลองสบายๆ กางเกงสามส่วนขาวล้วนกระเป๋าข้าง เสื้อโปโลสีขาว
สกรีนลายอย่างมีสไตล์ มาพร้อมธรรมตรัยซึ่งเข็นรถอาหารตามหลัง ทั้งคู่เข้ามาขณะพระลักษมณ์ยังนั่งขัดสมาธิตาลอย
อยู่บนเตียง อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย สวมกางเกงเลสีน้ำตาลอ่อน เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวบางช่างดูดีมาก
เมื่ออยู่บนร่างโปร่งหน้าหล่อของพระลักษมณ์
ธรรมตรัยเข็นรถอาหารตระเตรียมเสร็จเรียบร้อย ก็กลับออกไปด้วยหน้านิ่งตามนิสัย
แถมปิดประตูให้อีกตะหาก ปาจาเดินมาหยุดหน้าพระลักษมณ์สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง ร่างหนาช่างสูงใหญ่สมส่วน
ใบหน้าคมเข้มได้รูปมีเสน่ห์เหลือร้าย ทั้งคู่มองสบตากันนิ่ง เหตุการณ์จูบมรณะที่เพิ่งผ่านไปก่อนหน้า ทำให้บรรยากาศ
ของทั้งสองดูแปลกไป พระลักษมณ์จากที่เคยต่อปากต่อคำสรรหาคำพูดขบกัดแสบๆคันๆพลันเป็นใบ้ดื้อๆซะงั้น
“ทานข้าวกัน” ปาจาพูดจบ ถือโอกาสคว้าข้อมือพระลักษมณ์ดึงลุกตามไปที่โต๊ะหน้าทีวี
ก่อนจะยกอาหารหลากเมนู ทั้งปลากระพงนึ่งซีอิ้ว ผัดเห็ดลิ้นจื่อ แกงส้มชะอมกุ้ง ไข่เจียวหมูสับ ข้าวสวยร้อนๆ
มาวางตรงหน้าอย่างเอาใจ
พระลักษมณ์ได้แต่มองตามปาจาที่ลงมือเสร็จสรรพ ปิดท้ายรินน้ำใส่แก้วให้อีกตะหาก
แปลกประหลาดพิกลในสายตาพระลักษมณ์ ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าคุ้มหมาดเข้มเก็กเป็นนิสัย ดีแต่ออกคำสั่ง
จะลงมือบริการตนเอง ถึงจะรู้ว่าคนผู้นี้จบด๊อกเตอร์จากอังกฤษ ประสบการณ์ต่างแดนย่อมช่วยเหลือตัวเองเป็นอยู่แล้ว
แต่ไม่คิดว่าจะบริการให้ตนด้วยนะสิ อดไม่ได้พูดแหย่ทันทีหลังรู้สึกผ่อนคลายลงมาก
“ที่ลงทุนทำเนี่ยะ คือโปรโมชั่นก่อนเปิดซิงผมหรือเปล่า?” พูดจบ ปาจาหลุดยิ้มออกมาจนได้
เป็นรอยยิ้มที่พระลักษมณ์ไม่เคยเห็นมาก่อน อบอุ่นสง่างามเหมือนดอกทานตะวันบานรับพระอาทิตย์ยามเที่ยง สว่างจ้า
เปล่งออร่าจนแสบตา สะกดพระลักษมณ์อึ้งค้างไปทันที
“ถ้าคุณชอบ ผมยินดีเพิ่มโปรโมชั่นหลังการขายให้อีกยังได้” พร้อมคำพูดติดขำของปาจา
ทำเอาพระลักษมณ์หน้าแทบระเบิด ทั้งที่ตนเป็นฝ่ายหยอกก่อนกลับเขินซะเองให้ตายเหอะ เพิ่งรู้ว่าอ่อนประสบการณ์
เมื่อเจอปาจานี่แหละ
“เอ่อ ไม่ต้องก็ได้แค่รู้สึกแปลกๆ ไม่นึกว่าอย่างคุณเคยมีแต่คนรองมือรองเท้าจะทำเป็น” แถไปก่อน
ยังไม่กล้าสบตาปาจาตรงๆ จะกล้าได้ไงเมื่อฝ่ายตรงข้ามทั้งยิ้มทั้งส่งสายตาเล่นเอาพระลักษมณ์ใจเต้นกระหน่ำ อยากจะบร้า...
ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้หวะ!
“ลองทานปลากระพงนึ่งซีอิ้วดู นมอ่อนลงครัวทำเองกับมือ รับรองติดใจ” พูดพร้อมกับตัก
เนื้อปลาขาวจั๊วใส่จานข้าวให้อีก พระลักษมณ์ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ นี่เจ้าคุ้มน้ำแข็งมันจีบตนอยู่ใช่ไหม?
ลงทุนทำยังกะพระลักษมณ์เป็นสาวน้อยซะงั้น ซีนที่ใช้อยู่นี่มันจีบหญิงนี่หว่า? เอาให้ตาย..วางตัวไม่ถูกแหละ
เอาหวะตักมาให้ลองหน่อยก็ดีได้ไม่ต้องเสียน้ำใจ คิดแค่นั้นก่อนจะหยิบช้อนตักเนื้อปลาพอดีคำเข้าปาก
เนื้อปลานุ่มหวานไม่คาวเลยสักนิดรสชาติอร่อยสมราคาคุย ทำให้พระลักษมณ์ต้องเลิกคิ้วหันกลับไป
พยักหน้าหงึกๆให้ปาจา ออกอาการเห็นด้วยอร่อยจริง
ปาจากลับมองท่าทางตอบรับของพระลักษมณ์น่ารักซะงั้น หน้าหล่อใสเนียนไม่มีสิวสักเม็ด
แดงเรื่อเพราะเจ้าตัวยังเขินอยู่บ้าง เลือดฝาดขึ้นริ้วส่งให้น่ามองน่าสัมผัสเข้าไปใหญ่ กลืนยังไม่ทันหมดมีหน้า
ยักหน้าทำตาโตมาให้อีก ยังไม่ทันได้พูดตอบไป พระลักษมณ์กลับตักแกงส้มชะอมกุ้งใส่จานข้าวคืนให้ด้วย
“อ๊ะ!...คุณทานด้วยสิ มองผมกินคงอิ่มหรอก ไม่ใช่สาวน้อยนิไม่ต้องเทคแคร์ก็ได้ เรื่องอื่น
ค่อยว่าทีหลังขอเติมพลังงานก่อน” พูดจบเจ้าตัวก็กลับมาดี๊ด๊าหน้าตาเฉย ลงมือตักกับใส่จานโซยข้าวอย่างมีความสุข
บรรยากาศอิลักอิเหรื่อก่อนหน้าจางลงไปทันที กลับเป็นบรรยากาศมื้อกลางวันที่เอร็ดอร่อยแทนซะงั้น
อาหารมื้อนี้สำหรับปาจาถือว่าอร่อยอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ต่อด้านล่าง
-
- 3 -
ตั้งแต่เริ่มต้นมื้อกลางวันนั้น ปาจามาทานข้าวกับพระลักษมณ์ในห้องทุกมื้อ สำหรับอาหารธรรมตรัย
เข็นมาส่งให้ถึงในห้อง ก่อนมาเก็บออกไปทีหลัง ห้องนี้ไม่มีใครย่างกรายเข้ามาเลยนอกจากปาจากับธรรมตรัย
ไม่ต้องถามพระลักษมณ์ก็พอเข้าใจว่าเพราะอะไรคนอื่นถึงไม่เข้ามา นอกจากจะมาทานข้าวเป็นเพื่อนแล้ว
ปาจายังมาคลุกอยู่กับพระลักษมณ์ตลอดทุกวัน ผ่านมาจนถึงคืนที่สี่ ขณะกำลังนั่งดูทีวีเพลินๆ
ปาจาอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ จู่ๆดันพูดขึ้นว่า
“คืนนี้ผมจะนอนที่นี่” พระลักษมณ์อึ้งทันที ก่อนจะหันมาจ้องหน้าปาจา แล้วถามย้ำ
“ว่าไงนะ อีกทีดิ” กลัวหูฝาด ขอชัดๆให้แน่ใจว่าฟังไม่ผิดอีกรอบเถอะ
“ผมบอกคืนนี้จะค้างด้วย คืนพรุ่งนี้เป็นคืนจันทร์เพ็ญ เราต้องเข้าพิธีล้างอาถรรพ์อยากให้คุ้นเคยกันไว้
เหมือนที่คุณเคยพูดไง” พูดได้หน้านิ่งมาก ยังกับการนอนด้วยกันเหมือนกินข้าวซะงั้น
“เดี๋ยวๆ ผมยังไม่พร้อมขอทำใจก่อนได้ไหม?” พระลักษมณ์หน้าตื่น ใช่จะนิ่งดูดายสมองเค้นทางออก
จนมึนตึ๊บยังมองไม่เห็นวิธีแก้ปัญหาเลยสักนิด ห้องนี้เชื่อแน่ว่าไม่ได้อยู่บนดิน ต้องเป็นห้องใต้ดินที่มีทางลับเฉพาะ
ต่อให้หลุดออกประตูไปยังไม่แน่ว่าจะคลำทางออกเจอ ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในคุ้มรู้ว่ามีห้องใต้ดิน ตนยังหาทางลงไม่เจอด้วยซ้ำ
แล้วจะหาทางออกถูกได้ยังไง ที่สำคัญมีกลไกอะไรบ้างก็ไม่รู้
ที่แย่ยิ่งกว่า คงเป็นตัวอันตรายตรงหน้าตะหาก อยู่ด้วยตลอดเหมือนเงาติดกันแล้ว ฝีมือใช่ขี้ๆ
ผ่านง่ายซะที่ไหน
“ผมไม่ได้บอกจะทำอะไรคุณสักหน่อย นอนด้วยเฉยๆ” ปาจายังพูดหน้าตาย กลับเป็นพระลักษมณ์
หน้าร้อนฉ่ากลายเป็นว่าตนคิดเกินเหตุ เอาเถอะจะอายไปใย เพื่อความปลอดภัยของร่างกายล้วงข้อมูลของปาจาบ้างดีกว่า
“คุณจา ถามหน่อยเหอะเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนหรือเปล่า?” คำถามป้อนไปแล้ว โดยคนถาม
ตั้งหน้ารอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“ไม่เคย กำลังจะลองครั้งแรก” ตอบได้หน้านิ่งมาก ปั๊ด! เหนี่ยวซะนี่ พระลักษมณ์ถลึงตาใส่
บ่นอุบอิบคนเดียว
“รู้ป่าว? ไม่ง่ายนะที่ฝ่ายรับเจอครั้งแรกกับคนไม่มีความรู้มาก่อน บาดเจ็บพิการมาคุ้มผมไม่”
อุธรณ์ด้วยท่าทางจริงจังมากมาย แต่ปาจาทนกลั้นขำหน้านิ่ง ตาไหวระริกตลกท่าทางพระลักษมณ์ที่แสดงออกหนักหนา
“ถ้าคุณพิการ ผมรับเลี้ยงตลอดชีวิต โอเคไหม?” พระลักษมณ์ขบปากแน่น นึกโมโหคนบ้าหน้าตาย
จนอยากจะขบหัวแหละ ใครอยากให้รับเลี้ยงเล่าหวะ! คุ้มตายหละที่ต้องเอาชีวิตทั้งชีวิตมาทิ้งเพราะโดนสอยตูดเนี่ยะนะ
“คุณจริงจังหน่อยสิหวะ นั่นมันสวัสดิภาพร่างกายผมเลยนะนั่น คุณจะทำเป็นเล่นไม่ได้ ผมก็รักก็หวง
ของผมเหมือนกัน ทำงี้เอาปืนมายิงกันเลยดีกว่า” ท่าทางกร่างใส่ของพระลักษมณ์ไม่ได้ดูน่ากลัวในสายตาปาจาเลยสักนิด
ตรงข้ามคนมองยิ่งปวดท้องกลั้นขำไปกันใหญ่
สำหรับปาจาถือว่าพระลักษมณ์เป็นคนแรกที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข การกระทำที่แสดงออก
เรียกรอยยิ้มได้ตลอด ถึงบ้างครั้งจะกวนประสาทบ้างแต่ก็ตลกเสียมากกว่า เพิ่งเจอพระลักษมณ์คนแรกนี่แหละ
ที่ทำให้หัวใจตายด้านของตนกระตุกถี่หยิบกลับมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง
“ผมคงไม่เอาปืนมายิงคุณหรอก ในเมื่อผมตั้งใจยิงประตูคุณอยู่แล้ว เอาปืนมาทำไมจริงไหม?”
เป็นครั้งแรกเช่นกัน ที่ปาจาต่อปากต่อคำสองแง่สองง่ามเช่นนี้ และก็ทำให้ต้องหลุดหัวเราะออกมาจนได้ ทั้งที่เก็กหน้าตาย
กลั้นขำมาตั้งนาน ก็หน้าพระลักษมณ์หลังปาจาพูดจบ ตลกจนกลั้นไว้ไม่อยู่ ตากลมโตเบิกกว้างยิ่งกว่าไข่ห่านเสียอีก
แถมทำปากพะงาบๆ เหมือนคนโดนผีหลอกซะงั้น ไม่ใช่พระลักษมณ์ทำไม่ได้นะนั่น
“พรืดดดๆๆ...หึหึหึ!..ทำไมดีใจขนาดนั่นเชียว” ยิ่งเห็นยิ่งนึกสนุก อดไม่ได้ต้องแหย่เข้าไปอีก
ซึ่งไม่ใช่นิสัยปาจาเลยที่จะพูดเล่นแบบนี้ แต่ไม่รู้ทำไมกับพระลักษมณ์แล้วปาจากลับรู้สึกสนุกไม่น้อย
“คุณจา รู้ตัวไหมคุณท่าจะอาการหนัก ถ้ามองหน้าผมตอนนี้แล้วเข้าใจว่าผมดีใจแล้วละก็ ขอแนะนำ
ให้ไปพบจิตแพทย์โดยด่วน ผมว่าพวกคุณจิตคงไม่ปกติ ทั้งเลขาทั้งเจ้านาย มาโซกันชัดๆ ชอบความรุนแรง บ้าอำนาจ
ซาดิสย์ด้วยหรือเปล่ายังไม่รู้ เท่าที่เห็นก็เกินทนแล้วเหอะ” พระลักษมณ์บ่นเป็นชุด ใส่อารมณ์เต็มที่ ปาจาจ้องเพลิน
กับปากบางแดงที่จ้อไปเรื่อย คนตรงหน้าใช่เจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษหรือแทบไม่อยากเชื่อ ถ้าไม่รู้ฝีมือที่ปะทะด้วยแล้วละก็
ปาจานึกว่าคุยอยู่กับเด็กมหาลัย
“เอาเหอะคุณคิดไงก็ช่าง คืนนี้ผมจะค้างที่นี่ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนเรื่องที่ทำให้คุณกังวลไม่ต้องห่วง
ผมศึกษาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทจนแตกฉาน เหลือภาคปฏิบัติอย่างเดียวคงไม่เลวร้ายเกินทนหรอก” ปาจาพูดอมยิ้ม
แต่พระลักษมณ์กับหนาวเยือกทุกรูขุมขน
“คุณก็พูดได้ดิ เป็นฝ่ายทำนี่หว่า? ลองเปลี่ยนกันดูไหมเล่าเอาไหม? คืนนี้ให้ผมล่อคุณก่อน
พรุ่งนี้คุณค่อยล่อผมคืนต้อนเข้าพิธีกรรมตกลงไหม?” พระลักษมณ์ต่อรองทันที ไอเดียนี้เพิ่งผุดขึ้นหมาดๆ
คิดว่ากระแทกซะให้ปาจาหมดแรงเดินก็คงไม่มีปัญญามาทำอะไรตนได้อีก หาทางยืดเวลาให้พ้นคืนจันทร์เพ็ญไปก่อน
อีกเกือบสามอาทิตย์กว่าจะวนมาอีกรอบ ขอเวลาหายใจยาวขึ้นก็ยังดี แต่ฝันนั่นก็สลายเมื่อปาจาตอบกลับมาว่า
“ไม่ต้องหรอก ผมไม่จำเป็นต้องทำอะไรงี่เง่าแบบนั้น ในเมื่อฟ้ากำหนดให้ผมเป็นผัวคุณแล้ว
ย่อมเป็นไปตามนั้น จะฝืนลิขิตฟ้าทำไมกัน” พระลักษมณ์กำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว โมโหจนหน้าเขียว นึกยังไง
บังอาจมาใช้คำว่าผัวหน้าตาย แล้วอ้างฟ้าอ้างชะตาลิขิตบ้าบออีก บัดซบ! จริงๆ ให้ตายเหอะ
“ผมไม่มีวันเป็นเมียคุณ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นไม่ได้แปลว่าผมยินยอม เป็นเพราะคุณบีบผมตะหากให้รู้ไว้ด้วย”
พูดจบพระลักษมณ์กดรีโมทปิดทีวี ขึ้นเตียงหยิบผ้าห่มมาคลุมโปงหันหลังให้ดื้อๆ ซะงั้น
หากพระลักษมณ์สบตาปาจาสักนิด หลังจบประโยคสุดท้ายที่พูดออกไป คงทันได้เห็นแววตาไหววูบ
ที่แสดงออกชัดเจน แต่เมื่อเจ้าตัวหันหลังหนีแบบนั้นจะรับรู้อะไร ตรงข้ามอีกคนที่อึ้งเป็นเป่าสากจิตหลุดไปแล้วมั้ง
ผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบ นานจนพระลักษมณ์ที่คิดมากวุ่นวายในหัวตีกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง
จนผล่อยหลับตอนไหนไม่รู้ กลับสะลืมสะลือครึ่งหลับครึ่งตื่นเมื่อสัมผัสอุ่นให้ซุกซบประหนึ่งเกราะกำบังคอยปกป้อง
ภยันตรายต่างๆ ทำให้คนรั้นหลับลงอย่างอบอุ่นใจ มีหลุดถอนหายใจเหมือนจะตื่นแต่กลับไม่ลืมตา ก่อนจะเบียดตัว
ซุกอกแกร่งผ่อนลมหายใจสม่ำเสมอเข้าสู่ห้วงนิทรารมย์อย่างมีความสุขตลอดคืน
ในขณะที่อีกคนซึ่งคอยประคองกอดกลับลืมตาคมเข้มค้างในความมืด ใจเต้นกระเด็นกระดอนรัวไม่เป็นส่ำ
ที่กล้าเสี่ยงดึงคนหลับเข้ามากอด กะว่าไม่โดนออกหมัดออกเข่าอย่างน้อยก็คงโวยวายลั่นห้อง ถึงได้เตรียมรับมือไว้ดิบดี
ตรงข้ามแค่ครางอืออ่าก่อนจะเบียดเข้าหาอกแกร่งซะเองงั้น ทิ้งท้ายถอนใจยาวเหมือนโล่งสบายหลับสนิทไปเฉยเลย
กว่าจะควบคุมจังหวะเต้นของหัวใจลงได้ล่อไปค่อนคืน หลังสูดดมความหอมผมนุ่มบนหัวทุยที่ติดกลิ่นแชมพู
ซึ่งซุกซบอยู่แนบชิด ปาจาเผลอยิ้มออกมาก่อนจะค่อยๆ ปิดเปลือกตาหลับตามร่างโปร่งไปในที่สุด
เงามืดบนเตียงกว้าง ฉายภาพหนุ่มร่างหนาใหญ่ตระกองกอดหนุ่มร่างโปร่งซุกอกหลับไปด้วยกัน
ภาพนี้ช่างดูอบอุ่นยิ่งนัก หากชะตาฟ้าเบื้องบนกำหนดให้มนุษย์เพศผู้ทั้งสองต้องมาคู่กันแล้ว ถือว่าเป็นคู่ที่ทั้งสามภพ
ต่างอิจฉาไม่น้อย ดูเหมาะสมเสียจนเทวดาปีศาจยังต้องพลอยยินดีให้ด้วยความเต็มใจ
ต่อด้านล่าง
-
- 4 -
ผ่านไปเร็วเหมือนโกหก ในที่สุดก็ถึงเวลาล้างอาถรรพ์เสียแล้ว หลังตื่นมาตอนเช้า
พระลักษมณ์แน่ใจว่าตนนอนร่วมกับใครอีกคน แต่พอลืมตากลับไม่มีเงาคนๆนั้นเลยแม้แต่น้อย
อะไรก็ไม่หงุดหงิดเท่าสี่วันที่ผ่านมา ทุกมื้อต้องเสนอหน้านั่งทานข้าวเป็นเพื่อน หรือไม่ก็อยู่ใกล้ๆ
ไม่อ่านหนังสือก็ดูทีวี พูดคุยด้วยบ้างไม่มากก็น้อย แต่ไหงวันนี้ไม่เห็นหัว อาหารที่ว่าอร่อยนักหนากลับจืดชืด
ไร้รสชาติขึ้นมาทันทีเมื่อต้องทานคนเดียว ข้าวแทบจะไม่พร่องจนธรรมตรัยยังสังเกตุเห็น พระลักษมณ์แทบไม่แตะ
อาหารเลยด้วยซ้ำ แต่ธรรมตรัยก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร
หลังมื้อค่ำไม่เกินชั่วโมงธรรมตรัยกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง พร้อมกับเสื้อคลุมผ้าฝ้ายคล้ายยูกาตะญี่ปุ่น
สีขาวล้วนไม่มีลวดลาย ก่อนเอ่ยปากบอกพระลักษมณ์อาบน้ำชำระร่างกายอีกรอบ แล้วให้สวมเสื้อคลุมเพียงตัวเดียว
กางเกงในยังห้ามใส่อีกตะหาก ให้เวลาสิบนาทีจะมาพาไปห้องทำพิธีกรรม
ใจที่หดหู่ไม่มีชีวิตชีวากลับตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล คงเพราะจะได้ออกจากห้องซึ่งอยู่มาห้าวัน
ไม่เห็นแสงเดือนแสงตะวัน หรือเพราะจะโดนเปิดซิงกันแน่ ในหัวพระลักษมณ์สับสนเกินหาคำตอบให้ตนเอง อาจเพราะรู้
จะได้เจอใครบางคนที่หายหัวไม่เห็นเงามาทั้งวัน เลยตื่นเต้นก็เป็นได้
ใจไม่อยากยอมรับความรู้สึกที่คืบคลานเข้ามาช้าๆ พระลักษมณ์จึงไม่ต้องการค้นหาคำตอบ
แต่กลับทำตามธรรมตรัยบอกทุกอย่าง อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณ ไม่ลืมถ่ายหนักล้างไส้ซะดิบดี แม้ไม่มีประสบการณ์มาก่อน
แต่ทฤษฎีพระลักษมณ์รู้ดีเลยว่า ต้องเตรียมความพร้อมยังไงบ้าง
ที่ทำไปไม่ใช่ต้องการให้เค้าทะลวงตูด หากไม่มีทางเลือกต้องโดนเปิดซิงแล้วละก็
ไม่อยากอายตัวเองเพราะดันขี้แตกระหว่างพิธี คงดูทุเรศสุดๆ จำเป็นจริงๆยอมเสียศักดิ์ศรีไปก็ได้มันกินไม่ได้สักหน่อย
ไม่มีทางเลือกก็ต้องรักษาชีวิตไว้ก่อน แต่ต่อให้เสียเกียรติแต่จะไม่ยอมเสียหน้าให้เขาว่าไอ้ขี้แตกเพราะโดนตุ๋ยตูดเป็นอันขาด
ข่าวนี้แพร่ไปเมื่อไหร่ได้ตายทั้งเป็นเลยทีนี้ สำคัญที่สุดจะไม่ยอมให้ปาจาหัวเราะเยาะใส่เด็ดขาด เรื่องนี้พระลักษมณ์ยอม
ให้เกิดขึ้นไม่ได้ วิธีคิดข้อแก้ต่างให้กับการกระทำของตนเอง อย่างน้อยก็ทำให้สบายใจขึ้นมาก
ธรรมตรัยกลับมาตามเวลาเป๊ะ พระลักษมณ์พร้อมอยู่แล้วในชุดคลุมยูกาตะสีขาวขับผิวสว่างจ้า
ยิ่งขึ้นไปอีก หน้าหล่อใสเหมือนมีออร่ากระจายอยู่รอบกาย ธรรมตรัยตะลึงไปชั่ววูบเมื่อเห็นพระลักษมณ์เข้าทีแรก
ไม่คิดว่าถึงเวลายังกะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ร่วมรับรู้ ถึงเปล่งรัศมีฉายแสงในตัวพระลักษมณ์ตามตำราเขียนไว้
ไม่ผิด รัศมีตอง 7 พลังแห่งองค์นารายณ์ ชื่อพระลักษมณ์มาจากตำนานรามเกียรติ์ ไม่แปลกใจทำไมพระลักษมณ์ถึงถูกส่ง
ให้มาล้างอาถรรพ์มนต์มาร ภัยพิบัติมหันต์เมื่อผนึกมนต์ต้องห้ามถูกนำมาใช้โดยพรานธรรมรัตน์ปู่ทวดของตนในอดีต
เจ้าของหัวใจมารต้นแบบที่ตนได้รักษาไว้อย่างดี
กฎแห่งเทพและกฎแห่งมาร มนต์ตราอาถรรพ์ถึงเวลาชะล้างแล้วสินะ ฟ้าถึงได้ส่งบุคคลตรงหน้า
มาคู่ปาจาในวันนี้ เห็นกับตาต้องยอมรับว่าไม่ผิดตัวแล้วแน่นอนตามตำราบอกทุกอย่าง นรลักษณ์รัศมีเปล่งประกายจ้าขนาดนี้
สัมผัสได้ทั้งตาเนื้อและจิตนิ่ง ธรรมตรัยบอกกับตัวเองในใจ พาลหัวใจพองโตคับอก แม้จะเคยรู้สึกไม่ชอบ
หน้าพระลักษมณ์มาก่อน
ณ วันนี้กลับต้องขอบคุณจากใจจริง พระลักษมณ์คือผู้ที่สามารถล้างอาถรรพ์มนต์มารให้กายันต์
นั่นหมายถึงความรักของตนกับกายันต์ก็สมหวังเหมือนกัน ไม่ต้องกลัวตกเป็นทายาทมนต์มารอีกต่อไป ก่อนพาพระลักษมณ์
ไปยังห้องพิธีกรรม ธรรมตรัยจึงพูดขึ้นว่า
“ในฐานะตัวแทนผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย และวิญญาณมากมายที่ล้มตายจากมนต์อสูรในขุมนรกอเวจี
ผมขอบคุณแทนทุกคนที่คุณเสียสละปลดปล่อยวิญญาณเหล่านั้น กุศลที่คุณทำไปในครั้งนี้ ยิ่งใหญ่กว่าผลบุญใดๆเสียอีก
บารมีทานจะส่งผลให้คุณประสพสิ่งเสมอใจตลอดกาลนาน” ธรรมตรัยพูดจากความรู้สึกแก่นแท้ แววตาเหยี่ยวที่เย็นชา
อ่อนโยนจนน่าทึ่ง ที่สำคัญใบหน้าสวยฉายเสน่ห์จนพระลักษมณ์ตะลึงไปเหมือนกัน ก่อนหลุดปากถามออกไปว่า
“เกี่ยวอะไรกับปลดปล่อยวิญญาณด้วย ผมไม่เข้าใจ”
“คุณคงไม่รู้สินะ ทุกชีวิตที่มารในอดีตและปัจจุบันได้เข่นฆ่าไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้เลย
วิญญาณตกเป็นทาสบริวารเพื่อเสริมพลังให้จิตมารรุ่นต่อไปไม่จบไม่สิ้น จนกว่าจะล้างอาถรรพ์ทำลายมารร้ายให้สิ้นซาก
เมื่อนั้นดวงวิญญาณจึงจะได้รับอิสระสามารถไปผุดไปเกิดเวียนว่ายตามวัฎสงสารต่อไป ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีก”
ธรรมตรัยอธิบายจบ พระลักษมณ์รู้สึกขนลุกวูบโดยไม่ทราบสาเหตุ จากนั้นเลขาเย็นชา
ก็ก้าวนำออกประตูเดินตามทางลาดที่ลดหลั่นระดับเป็นทางยาว วกวนคดเคี้ยวชวนงงดีแท้ พระลักษมณ์อดคิดในใจไม่ได้
ดีที่ไม่ตีหัวปาจาสลบแล้วหนีออกมาเอง ขืนออกมางมโข่งกับเส้นทางแบบนี้ได้หลงทางตายกันไปข้าง
ธรรมรัตน์พาพระลักษมณ์เดินไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามขั้นบันไดซึ่งเดินได้ทีละคน
พระลักษมณ์ทึ่งปนอึ้งกับสถาปัตย์กรรมซุกซ่อนนี้ อยากยกนิ้วโป้งให้กับคนออกแบบชะมัด สามารถซ่อนทางลับภายใต้
เรือนไทยหลังใหญ่โดยที่คนภายนอกไม่รู้เลยว่ามีสิ่งนี้อยู่แม้แต่น้อย
เดินจนหอบ ธรรมตรัยก็พามาหยุดหน้าประตูไม้สักบานใหญ่ ก่อนจะผลักเปิดเข้าไปเงียบๆ
พระลักษมณ์รู้สึกทึ่งมากหากสถานที่นี้คือห้องประกอบพิธีที่ว่าละก็ คงถูกเตรียมไว้ล่วงหน้ามานานแล้วจริงๆ เพราะมันอยู่
สูงสุดของบ้านเลยก็ว่าได้ น่าจะเป็นจั่วหลังคาทรงไทยอันใดอันหนึ่ง ที่น่าแปลกคือหลังคากลับเปิดโล่งมองเห็นพระจันทร์
ลอยเด่นเป็นสง่าอยู่กลางกระหม่อมเลยเชียว แสงนวลตากลมโตเหมือนกับมือจะเอื้อมได้ถึง
ช่างสวยเสียจริง ‘พระจันทร์วันเพ็ญ’
สายตามาสะดุดกลางห้อง ซึ่งมีอ่างจากุซซี่สีขาวฝังอยู่กว้างพอกับสระขนาดย่อมเลยก็ว่าได้
น้ำในอ่างโรยกลีบดอกไม้หลายชนิดส่งกลิ่นหอมประหนึ่งสระอโนดาตในนิทานพื้นบ้านซะงั้น
ห้องนี้ไม่มีไฟฟ้าสักดวงด้วยซ้ำ ใช้เทียนหอมจุดรอบอ่างแทนก็สามารถมองเห็นทุกอย่างชัดเจน
ก่อนจะทันเห็นเจ้าของร่างสูงใหญ่ปานรูปสลักสวมเสื้อคลุมแบบเดียวกับพระลักษมณ์ต่างที่เป็นสีดำสนิทยืนหันหลัง
แหงนมองจันทร์เพ็ญนิ่งๆ ทำไมก่อนหน้าถึงมองไม่เห็น เหมือนเจ้าของร่างยืนอยู่ตรงนี้ตลอดเวลา แต่ตนเชื่อว่า
มองไม่เห็นจริงๆ แปลกดีพิลึก
ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา รอเจ้าภาพคนเดียว ใช้เวลาชั่วอึดใจปาจาค่อยหันหน้ามาช้าๆ
พระลักษมณ์ตะลึงค้างใบหน้าได้รูปหล่ออย่างร้ายกาจ หล่อจนเรียกได้ว่าใจสั่นเลยทีเดียว เหมือนมีพลังดึงดูด
ไม่สามารถละสายตาเบือนหนีได้ เดิมก็ยอมรับว่าปาจาหล่ออยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งสง่างามเกินบรรยาย
ใบหน้าคมเข้มปานรูปสลัก จมูกโด่งเป็นสัน ตาคมวาวที่จ้องตอบพระลักษมณ์นิ่งสงบ ปากหนาสีสด
พระลักษมณ์รู้จักดียิ่งกว่าใคร หน้าอกที่โผล่พ้นคอเสื้อเห็นไรขนขึ้นแพร รูปร่างสูงใหญ่ข่มพระลักษมณ์ให้เหลือตัวกระจ้อยร่อย
ดวงตาคมตรึงพระลักษมณ์จนไม่สามารถเบือนหน้าหลบ ก่อนซาตานรูปงามจะยกมือให้สัญญาณธรรมตรัยออกจากห้อง
อย่างเงียบกริบ แถมปิดประตูล๊อคเรียบร้อย
บัดนี้ในห้องซึ่งมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เหลือเพียงพระลักษมณ์กับปาจาลำพังสองคน ก่อนที่ฝ่ายหลัง
จะก้าวอย่างมั่นคงมาหยุดยืนตรงหน้าพระลักษมณ์ มือหนาคว้าจับมือเรียวของพระลักษมณ์ จูงตรงไปยังอ่างกลางห้อง
โดยยังไม่พูดไม่จา พระลักษมณ์ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เดินตามเค้ามาซะดิบดีไม่มีขัดขืน เหมือนมีพลังบางอย่าง
ผลักดันให้คล้อยตามอย่างง่ายดาย ไม่มีความรู้สึกอยากดิ้นรนขืนมือหนีแม้แต่น้อย ทั้งที่สติรับรู้ครบถ้วนดีทุกอย่าง
แต่ใจกลับนิ่งสงบจนไม่อยากเชื่อ..ถ้าหากนี่คือความเร้นลับแห่งไสยศาสตร์ ถือว่าพระลักษมณ์ได้สัมผัสด้วยตนเองแล้วเช่นกัน
ประสบการณ์สำหรับชายหนุ่มที่เติบโตมากับเทคโนโลยี ถือเป็นครั้งแรกที่ควรค่าแห่งการเรียนรู้และจดจำ โดยที่เจ้าตัว
ไม่รู้เลยว่าต้องใช้หัวใจทั้งดวงพลีให้กับเหตุการณ์นี้อย่างไม่มีวันไถ่ถอนคืนได้อีกแล้ว.....????????????
NC จะมาต่อให้ ถ้าคนอ่านบวกเป็ดให้เรื่องนี้ทะลุเป้าบ้างไรบ้าง
ทำไมคนเขียนถึงร้องขอ อยากบอกว่าเรื่องนี้เขียนยากมากกกกกกก
เป็นอะไรที่สูญเสียพลังสมองยิ่งนัก เขียนได้แต่ละบรรทัดแก้แล้วแก้อีก
เครียดแล้วเครียดอีก :m15: :sad11: ไม่ลื่นไหลอย่างที่ควรจะเป็น ขึ้นอยู่กับคนอ่านแล้วเหอะ
ที่จะเติมพลังชาร์ตแบ็ทให้คนเขียน สารภาพว่าเป็นเรื่องที่ดูดพลังสมองไปเยอะโคด
งั้นคงไม่มากไม่มาย ที่ร้องขอท่านนักอ่านที่น่ารักทั้งหลาย กดเป็ดให้หน่อย ใช่ท่านจะลำบากสักกะหน่อย
แค่คลิ๊กเม้าท์กดให้คนเขียนสิ้นเปลืองพลังงานแค่นิ้วกด ท่านอ่านแป๊ปเดี๋ยวก็ได้รับความสำราญ
แต่ข้าพเจ้าใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะคลอดออกมาได้แต่ละตอน สัญญาว่าข้าพเจ้าคนเขียน จะมาต่อให้อย่างเร็วรี่
งานประจำก็ทำแต่ใจก็คิดถึงพวกท่านเสมอจนกังวลลงตับ กลัวจะรอนานกันเกินไป เพราะมีพวกท่าน
ข้าพเจ้าจึงทั้งเค้นทั้งรีดให้คลอดออกมาจนได้
กราบวิงวอนพวกท่านบ้าง :call: :call: เติมพลังให้ข้าน้อยด้วยประการละฉะนี้แล
Luk. :กอด1:
ปล. ถ้าเป็ดเปลี่ยนเป็นเงินได้ คงลำบากใจพวกท่านที่จะต้องให้
แต่เพราะเป็ดเป็นรางวัลที่ทำให้ข้าพเจ้ามีพาวเวอร์ นั่นหละคือเหตุและผลของมัน
-
o13สมกับที่รอคอยจริงๆค่ะ ได้อ่านจนจุใจเพราะตอนนี้ยาวมาก
รอต่อไปนะคะ :กอด1:
ปล. บวกเป็ดให้แล้วนะคะ
-
ยาวได้ใจ o13 อ่านกันเต็มอิ่ม และบวกเป็ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ให้เรียบร้อย
:pig4:
-
+ เป็ดจัดไปทุกรีเจ้าค่ะ
รู้สึกว่าคุณพี่ว่าที่สามีจะใช้เวลา 4 วันที่อยู่ด้วยกันไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ มั่นใจในตัวเองเหลือเกินนะคะคุณพี่ว่าอย่างไรพระลักษณม์ก็ต้องเสร็จท่านอยู่ดี :laugh:
ถึงคนเขียน ตอนนี้อิชั้นกำลังจิ้นฉากพิธีกรรมตามบทเอี๊ยก้วยเซียวเหล่งนึ่งอยู่นะเจ้าคะ ถ้าหากไม่ตรงกับที่ท่านจะบรรยาย โปรดมาต่อด่วนเจ้าค่ะ ก่อนที่ฉากจิ้นของอิชั้นจะลามไปมากกว่านี้ :laugh:
-
เข้ามาให้กำลังใจค่ะ :L2:
.
.
.
ไม่รู้ว่าการกด+เป็ด กับกด+ 1 ต้องมีข้อบังคับอะไรหรือเปล่าคะ
-
ตื่นเต้นนนนนน
ครั้งหน้าแล้วสินะ :impress2:
-
งืออออออออออ....เค้าก็อยากกดเป็ดให้.....แต่ไม่สามารถ ตอนนี้ขอเป็น :กอด1:ให้ก่อนนะะ
-
รู้สึกตอนนี้บรรยากาศจะอุ่นเป็นพิเศษ
แต่คาดว่าตอนหน้าจากอุ่นๆคงกลายเป็นร้อนเลยล่ะ :oo1:
กดเป็ดเรียบร้อยแล้วนั่งรอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ :z1:
-
มาอ่านตั้งแต่แรก เนื้อเรื่องชวนติดตามมากค่ะ แบบว่าออกแนวระทึกขวัญแล้วก็ฮาตอนนายเอกนี่แหละ
-
รอตอนต่อไปน่ะ
+ เป็ด + 1 ให้ด้วย
:L2: :L2:
-
กรี๊ดๆ ตื่นเต้นๆ +กับเป็ดไปแล้ว ติดสินบนรอตอนต่อไป วิ้วๆๆๆ :haun4:
-
กดเป็ด +1 ขอบคุณค่ะ
-
+1 เป็ด ทุกรี =4 ตัวนี่ใช้ได้ปะคะ งงๆ เรื่องวิธีกด 555+
ตอนนี้ยาวได้ใจแต่ต้องรอลุ้นฉากล้างอาถรรพ์ต่อปายยยยยยยยยยยยยยยย :oo1: :oo1: :oo1:
-
อยากอ่าน NC เร็วจัง :z1:
บวกเป็ดเเล้วนะ :bye2:
-
เป็ดสี่ตัวให้ด้วยความเต็มใจไปเลยค่าาาาาาา
-
สนุกมากค่ะ o13
จะรอต่อไปค่ะ
อย่าเครียดมากนะคะ รักษาสุขภาพด้วย :3123:
-
บวกเป็ดให้แล้วน้า :m1:
เป็นกำลังใจให้จ้า :m4:
สี่ตอนเต็มอิ่มมากๆ :m11:
o14 o15
-
:impress2:ลงอ่างๆ...
:laugh:ไม่ค่อยเตรียมพร้อมพระลักษณ์
+1 +เป็ดให้4ตัวในสี่กระทู้เพิ่มแรงใจให้คนเขียนผู้น่ารัก :L2:
-
ก็นะ ก็น่าจะแต่งยากเอาการอยู่หรอกเรื่องนี้
กดเป็ด ++
-
อ๊ากกกก พระลักษณ์โดนของจริงๆ
เชื่อเหอะว่าไสยศาสตร์มีจริง
รอตอนต่อไปนะคะ
ปล.แอบขำพระลักษณ์อ่ะ ขยันหาข้อต่อรองไม่ให้ตัวเองเสียซิงซะจริงๆ
-
กดไปสี่ตัวก็นับสี่ตัวนะงับ ^-^
-
รอตอนหน้าด้วยคนจร้า
o13 o13 o13
-
อยากอ่าน เอ็นซี เด๋วไปกดเป็นให้
-
สงสารแต่แอบฮาตรงล้างไส้เนี่ยล่ะ
เป็นเรื่องที่ควรทำแต่มันฮาอ่ะ ไม่รู้จะทำไงเลยเรา
กดเป็ดสำหรับความฮาตอนนี้นะคะ
-
รอ nc ค่ะ พระลักษณ์จะเสร็จปาจาแล้ว :laugh:
กดเป็ดให้แล้วน้า
-
:z1: รอตอนต่อไป มาด่วนเลยยยยย
+ เป็ดให้แล้วครับ
-
:bye2:เข้มข้น จริงๆ เลย จุ๊บๆๆๆๆ
-
แต่งได้ สุดยอดมากคร๊ะ เป็นอีกเรื่องที่อ่านมา แล้วรู้สึกว่า คนแต่งเก่งโฮกกกก :กอด1:
-
พระลักษมณ์น่าแกล้งจริงๆ
ตอนนี้ต่างก็ตกหลุมรักกันและกัน
อ่านแล้วเขินแทนพระลักษมณ์
รอ NC ตอนหน้าจ้า
ปล. กดเป็ดเหลืองเบาๆ
-
+เป็ด :L2:
-
กดเป็ด ดด ด
รอตอนต่อไป55
ของเค้าคู่กัน หวังว่าล้างคำสาปไปแล้ว จะมีมีมาม่านะค่ะ
:D
-
อยากบอกว่าชอบเรื่องนี้มากๆ เดี๋ยวนี้หาเรื่องแนวนี้ที่สนุกๆได้ยากเต็มที o13คนเขียนเก่งมากๆค่ะ
-
บวกให้แล้วเน้อ เป็ดอ่ะ :กอด1:
-
:-[ ค้างสนิท
-
ขอบคุณมากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :a2: :pig4:
-
อ๊าก~~อยากอ่านตั้งกะอยู่ รร. แล้ว
แต่มันหมดเวลาซะก่อน -^- มาอ่านแล้ว
จะลงแดง รอ NC 555 รอๆๆๆๆ :)
:L2: :L2: :L2:
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
กดทั้ง +1 และ +เป็ด ให้เป็นกำลังใจเลยค่า
ปาจาอบอุ่นแล้วก็อ่อนโยนมากๆจนนายเอกเราหลงรักแบบไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย
ไม่รู้ว่าเวลาทำพิธีปาจาจะอ่อนโยนแบบนี้มั้ยนะ คงต้องรอตอนต่อไป
-
อัยยะ กรี๊ดดดดดดด
รอๆๆๆ อิอิ
มาไวๆน๊าคร้า
-
สนุกๆๆ ชอบเนื้อหาของเรื่องนี้มาก
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะครับ
รอติดตามครับ
-
หนุกหนานยาวมากมาย
ถึงฉากลุ้นระทึกแว้ว
อิอิอิ บวกเป็ดกับบวกให้แล้วน๊า
-
จริงๆแล้วพระลักษมณ์ไม่ใช่หน่วยพิเศษปลอมตัวมาสืบหาคนร้ายหรอก
แต่ว่าเป็นหน่วยสวาทปลอมตัวมาชิงหัวใจเจ้าของคุ้มต่างหาก :o8:
ที่ลานพิธีมีอ่างกุชชี่ด้วยอ้ะ
หรูเกินไปละ ฮะฮะ
-
อยากบอกคนเขียนมากเลยว่า "ไม่ต้องขอ ก็จะให้" เค้า+1 +เป็ดให้แล้วนะค่ะ
เรื่องนี้เข้าใจเลยว่าเขียนยากมาก ทั้งเรื่องข้อมูลแล้วก็อะไรก็ตาม
จรออ่านนะค่ะ
ไม่ใช่ว่าจะรอ nc รึไร แต่อยากรู้ว่า จะแก้อาถรรพ์จิตมาร แล้วช่วยกายันต์ได้มั้ย
-
กดบวกให้ทุกครั้งครับ!!!! :3123: :3123: :3123:
ในที่สุด ก็ถึงเวลาแล้วสินะ :haun4: :haun4: :haun4:
-
ข้าพน้อยยังให้ +1 มิได้ แต่ได้บวกเป็ดให้ท่านทุกตอน และเป็นกำลังใจให้ท่านเสมอ
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้ สนุกมากๆ จะรอตอนต่อไปขอรับ :กอด1:
-
อิอิ อ่านปั๊บก็ต้องรีบกดให้ปุ๊บอยู่ละคร้าบ o13 ทุกช่วงที่ลงเลยด้วย
-
ถูกใจที่ซู๊ดดดด ยาวมาก ชอบๆๆๆ ครับ
ว่าแต่ถ้าผมจำไม่ผิด กายันต์ มีอะไรกับ สิตา ใช่ป่ะครับ
แล้วถ้าสิตาท้องจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย (หรือผมจำผิดหว่า? 555)
แต่ยังไงก็รอตอนหน้าอยู่นะครับ เป็นกำลังใจให้ :pig4:
-
รออ่าน nc
+ 1 นะคะ
-
ทุ้มบวกให้หมดใจเลย
สนุกจริงๆ อ่านแล้วยิ้มไม่รู้ตัว
น่ารักอ่ะ~
แต่งสนุกมากๆค่ะ เป็นกำลังใจให้
-
พระลักษณ์สมยอมซะงั้น
แต่ผมกด + ไม่เป็นอ่ะ กดตรงไหนเหรอครับ
-
กดเป็ดให้แล้วนะคะ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้
อยากอ่านต่อเร็วๆจัง
ทั้งสองคนนี้เกิดมาเพื่อคู่กันจิง ออร่า เปล่งมากกๆ
-
โอยๆ ลุ้นสุดๆ เรื่องจะเป็นไงต่อไปน้าาา... :-[ แล้วจะลงเอยกันด้วยดีเปล่า หรือว่าจะเกิดเรื่องขึ้นอีก
แต่เหมือนจะเกิดอะไรขึ้นอีกตามมาแน่ๆ สังหรณ์น่ะ ฮิฮิ :impress2: ชอบมากๆค่ะ ยาวได้ใจมากๆเลย
เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งเสมอค่ะ และแอบแวะมาดูวันล่ะหลายครั้งเลย กลัวว่ามาต่อแล้ววิวจะไม่ได้อ่าน
ถึงจะเขียนช้าหน่อยก็รอได้ค่ะ รออยู่ทุกๆวันเลย แหมแต่มาต่อทีหนึงเนี่ยก็ได้ใจวิวไปเต็มๆเลยนะคะ o13
กดหนูเป็ดน้อยให้ผู้แต่งเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะ ฮิฮิ แอบรอNC (ไม่ค่อยจะหื่นเลยนะเราเนี่ย) :laugh:
-
+1 กับเป็ดอีก 4 ตัวค่ะ สำหรับกำลังใจ และเพิ่มพลังในการแต่งนิยายน้า :กอด1:
-
ยาวมากรอคอยต่อไป+ลูกเป็ดคะ
-
แหม พิธีล้างอาถรรพ์นี่ บรรยากาศช่างเป็นใจ ดีจัง ดูแล้ว น้องลักษณ์ จะยอม(เป็น)รับพี่จาอย่างเต็มใจ
-
เอาไปเลยเป็ด1ตัว
-
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ
ชอบมากๆ :กอด1:
-
+1 ให้กำลังใจนะคะ
เปล่งประกายนะคะ เปล่งกระจายนี่ดูแปลกๆ
ชอบเรื่องนี้มากกว่าเรื่องที่ผ่านๆมา
-
ไม่ไหวๆลุ้นจนตังโก่งแล้ว
น่าสงสารคนที่ถูกฆ่าอ่ะวิญญาณ
ไม่ได้ไปเกิดอีกต้องติดอยู่แบบนี้
พระลักษณ์คงไม่รอดแล้วงานนี้
รออ่านตอนต่อไปค้าบ
-
ตอนนี้ยาวมาก ขอจิ้มไปอ่านก่อนละกัน แต่ยังไงพระลักษณ์ก็เสร็จปาจาอยู่ดี :laugh:5555 :-[ :-[
-
พระลักษณม์เอาเปรียบปาจามากเลยนะครับ ได้แต่เพียงฝ่ายเดียว คือ ได้ทั้งตัวและหัวใจของปาจา ยอมๆ ไปเถอะน่า เจ็บนิดเดียว
-
กด+ให้จ้ามาต่อไวๆนะ :n1:
-
มารอๆๆๆๆ
ขอncจัดหนักด้วยนะ
เอร๊ยยยยยยย >.<
-
บวกแล้วค่า รอนะคะ
-
โหยาวได้ใจครับ
แถมเนื้อเรื่องก็ดีด้วย
กดบวกให้แล้วนะครับ
-
อ่านมาจนถึงตอนนี้แล้ว รู้สึกดีมากๆ
น่าติดตามสุดๆ
แล้ภาษาสวย ไม่เยิ้นเย้อ ... ชอบอ่ะ
รอตอนต่อไปนะคะ
-
ต้องรีบกด +เป็ด ด้วยความเร็วแสง ฮ่าๆ สนุกมากๆเลยจร้า
ตอนหน้าแล้วซินะ >.,< ตอนนี้รอคอยและคอยรอ
ในที่สุดปาจา กับ พระลักษมณ์ ก็จะได้เข้าหอ เอ๋ย ทำพิธีกันซะที
จะรอตอนต่อไปจร้า :-[
-
สุดยอด อ่านได้ความสุขมากมาย ขอบคุณกับนิยายคุณภาพ
ขนเป็ดให้เช่นกันคร๊าบบบบ เป็นกำลังใจ
ps. เฮ้ย! ปาจา ยังไงเวลาสอยเบาๆ นะพวก เราหวงพระลักษมณ์หวะ ฮ่าๆๆๆๆ
-
บวกเป็ดให้แล้วจ้า หุหุ หนุ่มหล่อทั้งสอง เฮ้ออออ
-
แค่เข้าห้องหอ พระลักษณ์ก็เคลิ้มแล้วอ่ะ อิอิ
-
อยากอ่าน nc ครับ +1
-
:L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
บวกให้แล้วนะคะ
รอคอยด้วยความหวังคะ อิ อิ อิ
-
เพิ่มเป็ดให้โล้ด นั่งพิมพ์เหงื่อตกเลยสิเนี่ยโอ๋ๆ :man1: พยายามเข็น NC แบบชนิดซับเลือดมาฝากด้วยนะ :z1:
-
+1ให้ค่า ตอนนี้ยาวววววสะใจ ลุ้นตอนหน้าให้ทำพิธีราบรื่นจนจบ(รวมเรื่องนั้นด้วย)
-
และแล้วก็ติดเรื่องนี้ไปตามระเบียบ ไม่ต้องน้อยใจ เดี๋ยวเราส่งเป็ดไปให้1เล้าเลยคุณ Luk
ตอนหน้าแอบดูพระลักษมณ์โดนคุณจาฟัดพุงกะทิ NCที่ขลังที่สุดในสามโลก
ps. แล้วจะเป็น NCที่ยาวที่สุดด้วยรึเปล่าคะ เหอ เหอ
-
รอต่อไปกด + ไม่ได้แย้ว สู้ๆน้า
-
+ ใ้ห้ตามรีเควสค่ะ อิๆ
-
:mc4: มาได้แล้วววววว
ไปเช็คดูล่าสุด +เป็ด96แล้ววววววววววว
-
:z1: :z1: :z1: :z1: :z1:
เอากล้องวงจรปิด ไปแอบไว้สักตัวสิ
-
เพิ่งเข้ามาอ่านน ติดหนึบเลย!
5555555
ลุ้นคะ หวังว่าพิธีกรรมคงลุล่วงไปด้วยดีนะ
รออ่านตอนต่อไปกำลังค้างเลย
+1กับเป็ดให้จ้า จุ๊บบๆ
-
สนุกมากเลย รออ่านอยู่น่ะสู้ๆ ^^
-
เป็นกำลังใจให้ครับ รอบทพิศดารตอนหน้า
-
รู้ไหมครับทำให้คลั่ง
-
จัดให้ไปอีก +1 ค่ะ
กำลังถึงตอนสำคัญทีเดียว :o8:
-
อย่างช้าคนเขียนต้องมาอัพวันจันทร์นะคะ
เพราะเราเช็คปฏิทินแล้ว วันจันทร์นี้ขึ้น 15 ค่ำ ค่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกกก :laugh:
(แต่เร็วกว่านี้ก็ได้น้า เค้าอยากอ่านจะแย่แล้วววว :sad4: )
-
like ๆๆๆๆๆๆๆกดเป็ด 1++++
-
เหอๆๆ ชอบๆๆ
-
ต่อเร็วๆน้อออ
ยอดเป็ดตอนนี้ปาไปร้อยกว่าตัวแล้วนะ อิอิ
ระวังเป็นไข้หวัดนกนะคะ คุณลัก :laugh: :laugh:
-
ก๊าบๆๆๆๆ +1
-
ว้าว เรื่องนี้แหละ ตรงสเปกเลย o13
โดยส่วนตัวชอบแนวลึกลับแบบนี้ปนแฟนตาซีหน่อยๆ ถึงจะแฟนตาซีแบบไทยๆก็ตาม
แล้วก็ชอบการบรรยายแต่ละฉากของคนเขียนมาก ดูมีเหตุมีผลรองรับด้วย ชอบมากๆเลยค่ะ
มาต่อเร็วๆนะ เค้ากดเป็ดให้แบบสุดใจขาดดิ้นเลยทีเดียว ^^ :man1:
-
สนุกมากเลย ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆมีหนังคล้ายๆ(มาก)เรื่องหนึ่งที่พระเองมันแปลงร่างเป็นสัตว์แล้วรอให้หญิงสาวที่เกิดxxxx
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ
อ่านไปขำไป
+1 ขอบคุณค่ะ
-
เข้ามาฤกษ์เขาทำพิธีล้างอาถรรพ์กัน :z2:
-
กดเป็ดให้แล้วจ้ะ
-
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ทำให้ตอนนี้คลอดออกมาได้จนสำเร็จ
ขอบคุณทุกบวก ทุกเป็ดที่ทำให้ข้าพเจ้ามีพลังในการเขียน
และขอขอบคุณปาจา พระเอกในใจของคนเขียนที่เป็นแรงบันดาลใจให้ข้าพเจ้า
สามารถต่อนิยายได้อีก อยากบอกนักอ่านทุกท่านด้วยว่า ไม่ได้มีแต่พวกท่านที่หลงรักปาจา
แต่ข้าพเจ้าก็ลงเข้าสายเลือดไปแล้วเช่นกัน :กอด1:
มนต์มาร
Part 13
ล้างอาถรรพ์มาร...2.
.
.
.
.
หลังจูงพระลักษมณ์มายืนริมอ่าง ปาจาก็หยุดมองพระลักษมณ์นิ่ง ร่างโปร่งสมส่วน
งงตัวเองเหมือนกัน ดันแหงนหน้าจ้องตาสู้ไม่มีหลบ ไม่รู้ทำไมถึงกล้าสู้ตาไม่ถอย เอาดิเพ่งกระแสจิตใส่กันเลย
ให้ชนะกันไปข้างเหอะ
ตากลมใสคล้ายลูกแก้วรัตติกาล ประสานตาคมซึ้งดำสนิทดุจนิลกาฬ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่
จะเคลื่อนศรีษะบังรัศมีจันทร์เพ็ญ ก้มหัวต่ำประกบจูบอ่อนโยนนุ่มนวล พระลักษมณ์พริ้มตารับจูบยินยอมพร้อมใจ
มือแกร่งประคองหน้าใสด้วยสองมือ บังคับองศาให้ร่างโปร่งรับจูบหวานได้ลึกล้ำยิ่งขึ้น
แขนยาวได้ส่วนของพระลักษมณ์เคลื่อนคล้องคอหนาอัตโนมัติ สัมผัสลิ้นชื้นรุกไล่เกี่ยวกระหวัด
หยอกดุนลิ้นนุ่ม จนร่างโปร่งต้องดันลิ้นสู้เพื่อให้มีพื้นที่ของตนเอง การโต้ลิ้นกลับไปนั้น ทำให้จูบท่ามกลางจันทร์กระจ่าง
ซ่านถึงทรวงเข้ากับบรรยากาศได้ดียิ่งนัก
จูบหวานซึ้ง เติมเต็มความรู้สึกหวิวโหวงจนน่าทึ่ง พระลักษมณ์เพิ่งซึมเศร้าทานข้าวไม่ลง
เพียงได้เจอชายคนนี้รับสัมผัสคุ้นเคยกับเติมเต็มหัวใจจนอุ่นอก ไม่อยากยอมรับว่ากำลังรู้สึกผูกพันคนตรงหน้าเข้าแล้ว
แต่ไม่รู้จะหาเหตุผลใดอธิบายความรู้สึกนี้ได้
ปาจาถอนจูบอย่างเสียไม่ได้ ตาคมไม่ละจากปากบาง หน้าพระลักษมณ์แดงก่ำเพราะรสจูบ
ตากลมโตจ้องตอบอย่างอึนๆมึนๆ นิ่งกันไปพักใหญ่ ปาจาจึงพูดขึ้นว่า
“จันทร์เพ็ญใกล้ลอยสูงกลางกระหม่อม ถึงเวลาเราต้องรวมเป็นหนึ่ง คุณพร้อมหรือยัง?”
บรรยากาศโรแมนติคหายวับทันตา เพราะคำถามงี่เง่าที่หลุดปากเจ้าคุ้มรูปหล่อ สติพระลักษมณ์แจ่มชัดทันที
เสียอารมณ์จนนึกโมโห อยากกระโดดกัดคอปาจาให้จมเขี้ยว
ถามมาได้..ไอ้บ้า! ถ้าบอกไม่พร้อมโว้ย! จะยอมปล่อยไปหรือไง จนปานนี้เพิ่งนึกออก
ไม่พร้อมจะล้างไส้รอทำไม น่าโมโหจริงๆ พระลักษมณ์หงุดหงิดประชดกลับทันที
“หึ! ไม่พร้อม ไม่ทำห่าไรทั้งนั้น คุณยอมปล่อยไปหรือเปล่าหละ?” น้ำเสียงกึ่งประชดของพระลักษมณ์
เรียกอารมณ์ขำจากปาจาซะงั้น แต่เจ้าตัวยังคงปั้นหน้านิ่งไม่มีหลุดฟอร์ม เพียงแต่สายตาวิบวับให้รู้กำลังกลั้นขำเต็มกลืน
“ไม่ปล่อย! ปล่อยได้ไงผมรอวันนี้มาทั้งชีวิต รอปลดแอกมาตั้งแต่เกิด กลับกันหากคุณเป็นผม
จะยอมปล่อยผมไปไหม?” ปาจาลองเชิง ไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไงก็ไม่สำคัญ เพียงแต่อยากรู้ความคิดพระลักษมณ์เท่านั้น
“ถ้าเป็นภาระที่ผมต้องแบก เดือดร้อนแค่ผมคนเดียวยอมแบกจนตาย จะไม่บังคับขืนใจใครเด็ดขาด
แต่ถ้าต้องทำเพื่อคนหมู่มาก ยังต้องปลดปล่อยดวงวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานอีก รักษาชีวิตผู้บริสุทธิ์เอาไว้ได้ด้วย
ผมคงทำเหมือนคุณ” พระลักษมณ์พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย อย่างคนเข้าใจเหตุผลปาจาซะงั้น
เรียกรอยยิ้มบาดจิตสว่างจ้าดั่งตะวันยามเที่ยงจากใบหน้าหล่อเข้มอีกครั้ง ครั้งนี้ดวงตาสีนิลสะท้อน
แสงเทียนเป็นประกายวิบวับ ทำเอาพระลักษมณ์ใจเต้นรัวกระหน่ำหน้าร้อนยังกะไฟจะลุก จนต้องรีบเบือนหลบตาทันที
คงเพราะบรรยากาศผ่อนคลายลง พระลักษมณ์ถึงรู้สึกสติแจ่มใสเต็มที่ ไม่เหมือนตอนเข้ามาทีแรก
แม้จะมีสติรับรู้ทุกอย่างแต่อึนๆงงๆ ปาจาเห็นท่าทางเขินอายของร่างโปร่งตรงหน้า แก้มขึ้นสีกลับรู้สึกอุ่นวาบในอกพิลึก
กว่าจะสงบลงได้ใช้เวลาพักใหญ่ แล้วจึงพูดขึ้นว่า
“จากนี้ไม่ว่าคุณเห็นอะไรอย่าวิตก ผมจะเริ่มพิธีแล้ว มาเถอะ” พูดจบ จูงมือพระลักษมณ์
พาก้าวลงอ่างทันที น้ำในอ่างเย็นสบายดอกไม้ส่งกลิ่นฟุ้งกระจายรู้สึกสดชื่นได้อีก ทั้งคู่ลงไปทั้งชุดคลุมระดับน้ำ
สูงเกือบถึงเข่าชายเสื้อคลุมเปียกนิดหน่อย
ปาจาจูงมาหยุดกลางอ่าง พระลักษมณ์ถึงรู้ว่าอ่างใบนี้ มีขนาดไม่เล็กเลย เมื่อปาจากับตน
สามารถยืนด้วยกันยังเหลือที่ว่างอีกเป็นวา ปาจาปล่อยมือพระลักษมณ์พร้อมพูดขึ้นมาว่า
“ช่วยพนมมือด้วยผมจะเริ่มพิธีแล้ว สิ่งที่อาจเห็นเป็นร่างแฝงของเราทั้งสอง ถ้าอยากเห็นชัด
ให้มองเงาในน้ำ ห้ามถามระหว่างผมร่ายคาถาเด็ดขาด เสร็จแล้วถึงคุยกับผมได้” พูดจบปาจาพนมมือทันที
พระลักษมณ์จึงต้องทำตาม สายตาคอยจ้องหน้าคมเข้มไม่กระพริบ ก่อนปากหนาได้รูปจะเริ่มบริกรรมคาถาชุมนุมเทวดา
เสียงทุ้มนุ่มกังวานก้องทั้งห้อง พาให้ขนลุกเกรียวไม่รู้สาเหตุ
“สะรัชชัง สะเสนัง สะพันธุง นะรินทัง ปะริตตานุภาโว สะทา รักขะตูติ ผะริต์วา นะเมตตัง
สะเมตตา ภะทันตา อะวิกขิตตะจิตตา ปะริตตัง ภะณันตุ ฯลฯ????
สัคเค กาเม จะรูเป คิริสิขะระตะเฏ จันตะลิเข วิมาเน ทีเป รัฎเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน
เคหะวัตถุมหิเขตเต ฯลฯ” จบคาถาบาลี กลับสวดบทแปลเป็นภาษาไทยด้วยทำนองเสนาะไพเราะจับใจ บรรยากาศที่สงบเงียบ
เริ่มมีลมพัดโชยมาตลอด จันทร์เพ็ญลอยเด่นเหนือหัวกระจ่างนวลงามตายิ่งนัก
“พอจบสัคเค ธรรมคต ตามบทบาท ทั้งคำอรรถ คำแปล และคาถา
ขออัญเชิญ เทพยาดาเจ้า ท้าวเทวา เชิญเสด็จลงมา จากสรวงสวรรค์ ชั้นวิมานบน
ทั้งสิบหกห้อง ช่องบน และ ชั้นฟ้า ขอเชิญ เสด็จ ลงมา ทุกแห่งหน
เพื่อ มาเป็นมิ่งขวัญ ในงานมงคล ตามยุบล แบบ โบราณ มีนานมา
ทั้งรูปภพ กามภพ จบลำเนา บนยอดเขา ท้องทะเล บนเวหา
ทั้งเกาะแก่ง เกี๋ยน น้อยใหญ่ใต้พระสุธา ในเคหา อารามราช จรดหลวงกระทรวงคลัง
ทั้งพญา วาสุกรี ผู้มีฤทธิ์ ตั้งแต่ทิศ บูรพา มา อีสาน
ตลอดทั้ง พ่อปู่ ฤาษี ผู้มีฌาน จงดลบันดาล มาช่วย ด้วยเถิด หน๋า
ครานั้น เทพยาเจ้า เมื่อได้ยิน เขาอัญเชิญ ที่อยู่ตาม ลำเนา เขาเขิน เนินภูผา
พรางค่อยเสด็จ เหาะลง แล้วตรงมา สู่ยังพื้น พสุธา ปฐพี
แล้วเสด็จ คอยประทับ ค่อยยับยั้ง เสด็จลง ตรงที่นั่ง ประทับที่
เพื่อให้ฤกษ์ ให้ชัย ในพิธี เนื่อง ในงานวันนี้ จะมีการฯ เจริญพระพุทธมนต์”
(หมายเหตุ: พระคาถาชุมนุมเทวดาบทแปลเป็นของแท้ดั้งเดิม คนอ่านสามารถคัดลอก
ไปท่องก่อนนอน จักเกิดพุทธคุณกับตัวเองเอนกอนันต์ จากใจคนเขียน)
คนอ่านหลายคนที่เพิ่งสมัคร ดันกดเป็ดไม่เป็น บ๊ะเจ้า! ช่วยกล้วยทอดไม่สุก..
ท่านทั้งหลายก็แค่ลากเม้าท์ไปกดคลิกที่เป็ดเหลืองก็จบ ไม่เกี่ยวกับคะแนนเลยเหอะ
แล้วอย่าอ่านนิยายจนเบลอ เผลอกดเป็ดดำใส่หัวข้าพเจ้าเข้าให้หละ แช่งแม่งเลย!
ล้อเล่นนะเอ่อ พูดมากหมั่นไส้ไม่กดให้ ก็รออ่านไปนานๆ แล้วกัน หัวมึนตันเป็นเหอะไม่ใช่เทพนิ
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
ปาจาสวดคาถาด้วยเสียงทุ้มไพเราะ กอปรกับมีลมพัดเอื่อยตลอดเวลา พระลักษมณ์รู้สึก
เหมือนตัวพองอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนจะสวดคาถาอีกไม่น้อย ใช้เวลาเกือบร่วมชั่วโมง
ทั้งที่ยืนกลางน้ำกลับไม่รู้สึกหนาวเลย ตัวเบายังกะจะลอยได้ แสงจันทร์สว่างงามที่ส่องลงทั้งคู่
เหมือนสปอตไลท์บนเวทีคอนเสิร์ต ก่อนบรรยากาศโดยรอบจะเริ่มเปลี่ยนแปลงขึ้น
จู่ๆ เกิดกลุ่มควันขาวลอยตลบอบอวลปกคลุมทั่วอ่างจนมองไม่เห็นผิวน้ำ เทียนที่จุดรอบอ่างต่าง
พร้อมใจกันดับเมื่อลมกรรโชกผ่านเพียงวูบ พระลักษมณ์ชำเลืองตามองปาจาอีกครั้ง ถึงกับตาโตตะลึงลานอ้าปากค้างไปทันที
ข้างหลังปาจาเกิดภาพซ้อนเป็นเงาดำสยายปีกกว้างคับห้อง แถมมีเขาบนหัวสองข้างคล้ายปีศาจ
ในหนังที่เคยดูไม่ผิดเพี้ยน จนพระลักษมณ์เผลอกลืนน้ำลายไม่รู้ตัว
นี่คงเป็นร่างแฝงที่ปาจาบอก แล้วตนหละร่างแฝงเป็นอะไร คิดได้ดังนั้นหลุบตามองเงาในน้ำทันที
กลุ่มควันขาวเหมือนรู้ความต้องการของพระลักษมณ์ พากันจางลงเฉพาะบริเวณที่มองเงาสะท้อนในน้ำเท่านั้น
ผิวน้ำบริเวณดังกล่าวไม่มีกลีบดอกไม้บดบังสายตา ต่างพร้อมใจแหวกหลบปานกระจกเงา
พระลักษมณ์ถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเห็นเงาตัวเอง ปรากฎเด่นชัด ไม่คลุมเครือดำมืดเหมือนมองปาจาเลยแม้แต่น้อย
ที่เห็นคือหน้าตนเองในชุดคลุมสีขาว ดันมีแขนงอกเพิ่มมาอีกสี่แขน แถมมีอาวุธพระนารายณ์
ครบมือ ทั้งตรี สังข์ จักร คทา พอก้มมองมือจริงๆก็ไม่เห็นอะไร ที่สำคัญบนศรีษะเกิดรัศมีวงกลมขึ้นหลังหัวอีก
พระลักษมณ์ลองหยิกแขนอย่างแรงเพื่อพิสูจน์ กลับรู้สึกเจ็บแสดงว่าไม่ได้ฝันหรือตาฝาด ลองชำเลืองมองเงาปาจาดูบ้าง
เหมือนทุกสิ่งเป็นใจ ทั้งกลุ่มควันกลีบดอกไม้เปิดทางให้เหมือนเคย เงาในน้ำปรากฎใบหน้าปาจา
เช่นเดียวกัน สวมชุดคลุมสีดำ บนหัวมีเขางอกยาวเฟื้อยคดเคี้ยวอย่างสวยงามทั้งสองข้าง แถมกลางหลังมีปีกขนาดใหญ่
สีดำสนิทคล้ายขนนกสยายกว้างสง่างามยิ่งนัก ไอ้หย๋า! เจอกับตัวจนปัญญาหาคำอธิบาย
เมื่อปาจาเงียบเสียงลงจนสนิท พร้อมกับจ้องตาพระลักษมณ์นิ่งๆ ร่างโปร่งแหงนหน้า
จ้องกลับเช่นกัน ตากลมโตประสานตาคมสีดำ บัดนี้กลับแวววาวประหนึ่งเหมือนมีชีวิตเข้าอย่างจัง
พระลักษมณ์หน้าร้อนผ่าวทันที ปาจาเหมือนจะรู้ว่าพระลักษมณ์กำลังเขินตนอยู่ สังเกตุจากหน้าแดงก่ำลามถึงหู
จึงชวนคุยขึ้นว่า
“ส่วนของคาถาจบลงแล้ว จากนี้เราต้องร่วมรักกันต่อ” ปาจาพูดหน้าอมยิ้ม แถมส่งสายตาวิบวับ
มาให้อีก เล่นเอาพระลักษมณ์แทบอยากดำน้ำในอ่างให้หน้าหายร้อนลงหน่อย เมื่อทำอย่างที่คิดไม่ได้
เลยเฉพูดเปลี่ยนเรื่องไปว่า
“คุณให้เลขเด็ดผมได้หรือเปล่า สามตัวตรงเลยนะ” พระลักษมณ์พูดจบพาเอาความโรแมนติก
กลายเป็นตลกคาเฟ่ทันที เสียดายบรรยากาศแบล็คกราวน์ดีดี มีทั้งควันสีขาวมาจากไหนไม่รู้ แสงจันทร์สว่างนวล
ที่โอบล้อมทั้งคู่ กลับเป็นตลกชวนหัวเราะไปในพริบตา จนปาจาหลุดขำพรืดหมดมู๊ดไปเลย
“ฮ่าๆๆๆ!!..คิดไงถึงขอหวยจากผม?” แม้ขำอยู่ก็อดถามไม่ได้ อยากรู้ความคิดของร่างโปร่ง
ตรงหน้าชะมัด อารมณ์ไหนถึงตั้งคำถามพิฆาตบรรยากาศขึ้นได้
“อ้าว! ผมเห็นเงาคุณคล้ายปีศาจมีทั้งเขาทั้งปีก เก่งกล้าปานนั้นน่าจะให้หวยผมได้สิ?”
พระลักษมณ์ตอบหน้าซื่อตาใส ยิ่งทำให้ปาจาขำไปใหญ่ ก่อนจะตอบกลับมาว่า
“งั้นคุณคงต้องขอตัวเองแล้วแหละ คุณมีสี่กรอาวุธครบมือ แถมรัศมีหลังหัวนั่นอีก เป็นถึงหนึ่งในสาม
เทพยิ่งใหญ่ คงแม่นกว่าผมที่เป็นปีศาจด้วยซ้ำ” พระลักษมณ์หน้ามุ่ยเมื่อโดนย้อน ถ้าขอกับเทพที่ว่าได้คงไม่ลองขอ
จากปาจาหรอก จิ๊! บ้าชะมัด ท่าทางกำลังบ่นทำปากมุบมิบทำให้ปาจาขำซะงั้น
“หึหึหึ! เอาน๊าอยากได้เงินจากหวยผมจัดให้เองก็ได้ แต่ตอนนี้ถึงเวลาสำคัญต้องเริ่มกันแล้ว
เลยเที่ยงคืนไปก็ไม่มีประโยชน์ ที่คุณบอกถูกบังคับฝืนใจ ผมอยาก ‘ขอโทษ’ ถ้าหากมีเวลามากกว่านี้ ผมอาจทำให้คุณ
รู้สึกดีได้โดยไม่ต้องฝืน แต่เพราะเวลามีน้อยไม่อยากให้คืนพระจันทร์ดับที่จะถึง ต้องสังเวยชีวิตบริสุทธิ์อีก
ผมเลยต้องรวบรัดแบบนี้
สำหรับตัวผมสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า ‘ผมไม่ฝืนใจสักนิด’ รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน”
พระลักษมณ์แทบทรุด หลังฟังคำพูดที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากปาจา ดีที่ไม่ปวกเปียกขายหน้าเข้าให้ เจ้าคุ้มน้ำแข็ง
ผีดิบเย็นชา สารพัดที่พระลักษมณ์ตั้งฉายาให้ประจำ
คงต้องคิดใหม่แล้วหละ คนๆนี้บทจะซึ้งใส่ก็เล่นเอาตนแทบละลายได้เหมือนกัน ให้ตายเหอะ
ใครจะคิดถึงคำขอโทษ ที่ไม่นึกว่าจะมีโอกาสได้ยิน ออกจากปากปาจามาได้ ที่สำคัญคำพูดคล้ายคำสารภาพรักกลายๆ
ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งพูดมาตะกี้ เล่นเอาหัวใจพระลักษมณ์พองคับอกได้อีก
เอาหวะ! เมื่อปีศาจรูปหล่อแมนมาซะขนาดนี้ พระเอกอย่างพระลักษมณ์มัวน้อยหน้าอยู่ใย
คิดดังนั้นเลยส่งยิ้มหล่อกระชากใจน้อยครั้งใครจะได้เห็น ปาจาถึงกับตาค้าง ขนาดผิวเข้มยังมองออกว่าหน้าแดงได้
แถมพระลักษมณ์ยังพูดต่ออีกว่า
“เอาเถอะ เมื่อคุณพูดถึงขนาดนี้ ผมจะใจดำเล่นตัวก็ใช่ที่ ไม่ใช่ผู้หญิงด้วยสิ ตามใจคุณ
จะลากผมขึ้นเขาลงห้วยก็สุดแล้วแต่ ขออย่างเดียวเบาๆหน่อย นี่ครั้งแรกของผมนะ รู้จักไว้หน้าผมด้วย
อย่าให้ต้องเดินลำบากเป็นพอ ไม่งั้นต้องอุ้มผมแล้วหละ บอกตามตรงผมไม่กล้าเดินด้วยท่าประหลาด
ตามตูดเลขาคุณกลับห้องเด็ดขาด” และก็เป็นพระลักษมณ์อีกเช่นเคย ที่ทำลายบรรยากาศโรแมนติค
ซึ่งปาจาอุตส่าห์ปูทางซะดิบดี กลายเป็นตลกคาเฟ่ไปอีกรอบตามระเบียบ แม้แต่ปาจายังขำตามจนได้
“ฮ่าๆๆๆๆ...ผมรับปากจะพยายามสุดความสามารถ แต่เชื่อเถอะต่อให้ผมทะนุถนอมคุณแค่ไหน
คุณคงเดินไม่เหมือนปกติหรอก แต่ผมสัญญาจะอุ้มคุณกลับห้องเองคุณยอมเสียสละขนาดนี้ ผมไม่รู้จะขอบคุณยังไงด้วยซ้ำ”
ปาจาพูดด้วยสายตาซาบซึ้ง เล่นเอาพระลักษมณ์อยากดำน้ำซ่อนตัวอีกรอบ
ก่อนบรรยกาศจะกลายเป็นตลกโจ๊กแตกไปกว่านี้ ปาจาไม่ปล่อยให้พระลักษมณ์ได้พร่ำอีก
ตวัดรัดร่างโปร่งเข้าหาตัว พร้อมจับคางมนขึ้นรับจูบท่ามกลางแสงจันทร์นวลสาดส่องมายังทั้งคู่ เมื่อปากหนาสัมผัสปากบาง
รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านไปทั่ว กระตุ้นความรู้สึกทางเพศอย่างไม่ทราบสาเหตุ จากจูบที่อ่อนหวานนุ่มนวล
กลับเร่าร้อนขึ้นตามลำดับ
พระลักษมณ์เองก็ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกตนได้ แขนเรียวยกคล้องคอหนา ก่อนนิ้วสวยจะสอด
เข้าผมดำปานขนนกกาน้ำ คลึงนวดบดจูบเร่าร้อนคืนให้ไม่แพ้กัน
ลิ้นชื้นเกี่ยวกระหวัดไล่ต้อนลิ้นนุ่มของพระลักษมณ์อย่างดูดดื่ม ร่างโปร่งพระลักษมณ์ใช่จะยอม
ดุนลิ้นสู้โต้กลับไม่น้อยหน้า แสงจันทร์อาบร่างสูงใหญ่และร่างโปร่งซึ่งกอดกระหวัดบดจูบอย่างเร่าร้อน เล่นเอาทั้งเทพ
ทั้งปีศาจ แม้แต่มนุษย์ที่มีโอกาสได้มาเห็น คงหน้าร้อนฉ่าใจเต้นตามเป็นแถว
ปาจาถอนจูบซุกไซร้แก้มใสก่อนไล่ไปยังใบหู ดูดเม้มให้อย่างแผ่วเบา ลากลิ้นแยงกระหวัด
จนร่างโปร่งเผลอซู๊ดปากไม่ตั้งใจ
“ซี๊ดดดดๆๆ อ่าzzzz”
เสียงครางทุ้มหวานหูจากลำคอขาวกระตุ้นอารมณ์ปาจาขึ้นอีก มือหนากระตุกปมคลายเสื้อคลุมของพระลักษมณ์ทันที
ก่อนจะถอดจากไหล่เนียนขาว แล้วโยนทิ้งริมอ่างอย่างไม่สนใจ
ต่อด้านล่าง
-
แล้วเราก็ตามมาจิ้ม คุณลักอีกที!!!
งานเยอะ ไม่มีเวลาอ่าน TT นิยายตัวเองก็ยังเขียนไม่ได้เพราะงานล้นมือ TT
โอ๊ยยย อยากอ่าน :sad4: :sad4: :sad4:
:กอด1: กอดคนเขียนสามที
อย่าลืมไปอัพน้องจอมนะ :-[
-
- 3 -
ร่างโปร่งเจิดจ้ากลางแสงจันทร์งดงามปานเทวดาน้อย ไหล่ผึ่งผายสมรูปร่าง หน้าอกนูนกล้ามพองาม
ประดับเม็ดทับทิมสีชมพูสวย กล้ามหน้าท้องไร้ที่ติ ขนรอบสะดือแผ่ขยายเหนือองคชาติ ตั้งเด่นประหนึ่งพระขรรค์ของ
องค์นารายณ์ หัวแดงสวยขนาดกำลังดี ขาแกร่งปกคลุมด้วยขนอ่อนอย่างเป็นระเบียบ หากจับพระลักษมณ์ถ่ายนู๊ดเซ็กซี่
รับรองนิตยสารชื่อดังคงเสนอค่าตัวแข่งกันกระจาย
พระลักษมณ์ก็ไม่ยอมแพ้ มือเรียวกระตุกคล้ายปมเสื้อคลุมปาจาบ้าง ก่อนจะเลียนแบบถอดเสื้อ
จากไหล่กว้างแล้วโยนทิ้งขอบอ่าง รูปร่างสมบูรณ์แบบของชายผิวเข้มตรงหน้า ทำให้พระลักษมณ์ลอบกลืนน้ำลายอย่างอิจฉา
นี่คือแบบอย่างสรีระของชายชาติอาชาไนย ที่พระลักษมณ์อยากมีนักหนา ไม่นับองคาพยัพบนหน้าหล่อร้ายกาจอีกตะหาก
ถ้าปาจาคือปีศาจละก็กล้าพูดได้เต็มปาก ปีศาจตนนี้หล่อลากไส้กันเลยเชียวแหละ
จู่ๆพระลักษมณ์ตาเหลือกขึ้นมาซะงั้น เมื่อสายตาหลุบต่ำเจอกระบองเพชรเข้าให้ ทั้งที่ไล่สายตา
ผ่านกล้ามท้องแกร่งซิคแพ็คสวย กลุมขนสีดำขึ้นตั้งแต่หน้าอกไล่ลงต่ำก่อนขยายกว้างบริเวณ
ฐานกระบองเพชรใหญ่ยักษ์โดยรอบ
นี่ตะหากคือเหตุผลที่ทำให้ลมหายใจพระลักษมณ์สะดุด ทั้งชีวิตไม่เคยกลัวมีด ปืน
ระเบิดเลยด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้พ่อแก้วแม่แก้ว ลูกช้างบนไข่เล้าเป็ดร้อยฟอง ขอของคนอ่านนั่นแหละเชียร์กันดีนัก
หากลูกช้างไม่เดี้ยงก่อนจะกลับมาแก้บนให้ทีหลัง
ปาจาเห็นสีหน้าพระลักษมณ์ซีดจนผิดสังเกตุ จากหน้าแดงระเรื่อด้วยอารมณ์พิศวาสอยู่ดีๆ
กลับซีดเป็นไก่ต้มภายในพริบตา เมื่อจับสายตาตามพระลักษมณ์จึงได้คำตอบอะไรคือสาเหตุ
ทำให้คนตรงหน้าเกิดอาการเช่นนั้น
ปาจาเข้าใจความรู้สึกของพระลักษมณ์ ขนาดผู้หญิงที่เคยผ่านยังร้องกันมาแล้ว พระลักษมณ์
เพิ่งครั้งแรกแถมยังเป็นช่องทางพิเศษอีก ถึงตนจะมั่นใจว่าคงผ่านไปได้ ในเมื่อช่องทางดังกล่าวเปรียบขากรรไกรงู
สามารถขยายได้หากเปิดทางถูกวิธี
แม้ไม่รับประกันความเจ็บ แต่ปาจาก็มั่นใจว่าพระลักษมณ์จะไม่ทรมานนาน อ่านจากอินเตอร์เน็ท
ในช่องทางนั้นมีจุดจีสปอตทำให้เกิดความรู้สึกเสียวซ่าน เมื่อเป็นเช่นนั้นปาจาจะใช้จุดนี้พาพระลักษมณ์ไปถึงฝั่งฝันร่วมกัน
ก่อนอื่นต้องสร้างความมั่นใจให้คนตรงหน้า จึงปลอบไปว่า
“ไม่ต้องกังวลนะ ผมบอกแล้วนี่ ต่อให้ผมมือใหม่หัดขับ รับปากจะไปอย่างนิ่มๆ
ไม่เหยียบคันเร่งจนมิด หรือขับกระตุกให้คุณรู้สึกแย่แน่นอน” คำปลอบโยนที่ออกจากปากปีศาจรูปหล่อตรงหน้า
แทนที่จะสร้างความมั่นใจให้พระลักษมณ์คลายกังวลกับขนาดที่เกินมาตรฐานไกลโข
ตรงข้ามนอกจากจะไม่หายแล้ว ยังนึกโมโหคำพูดติดตลกของปาจาคนหน้าตายขึ้นมาซะงั้น
ดันเปรียบเทียบบ้าๆ บอๆ หน้านิ่งได้อีก สวนกลับทันควัน
“ให้ตายเถอะเริ่มต้นซะดิบดี อุ่นเครื่องจนผมคิดว่าพอได้ ผมเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันไหม?
คุณพูดบ้าไรเนี่ยะ? ผมเป็นคนมีเลือดเนื้อรู้สึกเจ็บเป็น ไม่ใช่รถกระป๋อง หากจะเปรียบเทียบขอที่มันใกล้เคียง
ความจริงหน่อย ขับนิ่มไม่นิ่มรถมันไม่รู้สึกหรอก คนนั่งตะหากพลอยลุ้นไปกับคุณด้วย จะถึงปลายทาง
โดยสวัสดิภาพหรือเปล่า” ปิดท้ายจิปากอย่างไม่พอใจ แต่ปาจากลับยิ้มขำคำพูดพระลักษมณ์ซะงั้น พาลหงุดหงิดตัวเอง
ที่สื่อสารแล้วคนตรงหน้าไม่เข้าใจ คิดเมื่อไหร่กันเปรียบพระลักษมณ์เป็นรถ ให้เป็นคนนั่งข้างตะหากถึงได้พูดแบบนั่น
ว่าจะขับอย่างระมัดระวังไม่ต้องกังวลฝีมือการขับของตน
ถ้าเปรียบเป็นรถหรือจะสน ตีนผีเรียกพ่ออย่างปาจาคงเหยียบจมตีนวิ่งฉิวตั้งแต่ออกตัวสตาร์ทแล้ว
เพื่อไม่ให้คนฟังเข้าใจผิดเลยชิงอธิบายทั้งที่ยังกลั้นขำไม่หาย บรรยากาศโรแมนติควอร์มเครื่องก่อนหน้าหายหมด
กลายเป็นชายหนุ่มสองคนยืนแก้ผ้าท้าแสงจันทร์ อธิบายเรื่องขับรถแทนซะงั้น ให้มันได้งี้สิน่า
“ผมไม่ได้พูดสักคำว่าคุณเป็นรถ ทำไมถึงชอบคิดไปเอง ผมหมายถึงให้ไว้ใจผมตะหาก
ไม่ต้องกลัว” ปาจาพูดจบ พระลักษมณ์หน้าแดงทันที หลงด่าเค้าไปแล้ว ทั้งที่ตนผิด แต่เพราะนิสัยรั้นไม่ยอมง่ายๆ
จึงแย้งกลับจนได้
“สิ่งที่ช่วยให้ผมทรมานน้อยลง มันคือเจลหล่อลื่นเข้าใจไหม? เตรียมมาด้วยหรือเปล่า อย่าบอกว่า
ไม่มีเชียวนะโว้ย! ต่อให้ตายผมไม่ยอมคุณหรอก ขืนให้ทำไม่ตายก็มีค่าเท่ากันแหละหว้า! คุณมันม้าเรียกพี่เหอะ
ไม่รู้เอามาทำไมนักหนา” บ่นเป็นหมีกินผึ้งไปเลย ใครที่คิดว่าพิธีล้างอาถรรพ์จะหวานชื่น หรือไม่ก็เร่าร้อน
ตอนนี้ยังเปลี่ยนใจทัน ดูทั้งคู่ยังไปไม่ถึงไหนกันเลย
“ใครบอกว่าผมไม่เตรียม บอกแล้วนี่ ว่าผมศึกษามาแล้ว เพราะงั้นตัดไปได้เลย แต่ที่ผมเตรียมมา
ไม่ใช่เจล เพราะน้ำในอ่างจะมีสารเคมีปนเปื้อนไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นก็ไม่สามารถล้างอาถรรพ์มนต์มารได้สำเร็จ
ผมจึงเตรียมเจ้านี่มาแทน สามารถใช้แทนกันได้ และไม่ทำให้น้ำในอ่างเสื่อมความขลังไปด้วย”
พูดพร้อมกับก้าวไปหยิบขวดบรรจุน้ำมันสีเหลืองวางริมอ่างมาให้พระลักษมณ์ดู เพื่อยืนยันว่าตน
ได้เตรียมสารล่อลื่นมาแล้วเรียบร้อย พระลักษมณ์จ้องมองพลางคิดว่ามันคืออะไร แต่ก็ไม่รู้จักอยู่ดี อดไม่ได้จึงถามให้แน่ใจ
“มันคือน้ำอะไร แน่ใจว่าใช้แทนกันได้” ถามพร้อมรอคำตอบ
“คุณไม่รู้จริงๆ หรือ เออ! ผมลืมไปไม่ได้ติดฉลากไว้ด้วยสิ ผมเปลี่ยนขวดด้วยแหละ
ขวดเดิมดูแย่เกินไป มันคือ ‘น้ำมันมะกอก’ สามารถใช้แทนเจลหล่อลื่นได้ไม่ทำให้น้ำในอ่างเสื่อมความขลังลงด้วย”
พูดได้หน้าตายเหมือนเดิม หากตลกชื่อดังจ้างปีศาจรูปงามตรงหน้าไปร่วมคณะ พระลักษมณ์คิดว่าคงมีดาวตลกรูปหล่อ
กวนส้นมากๆ ประดับวงการตลกแน่นอน แต่พระลักษมณ์กลับไม่รู้สึกเช่นนั้น เพราะอารมณ์ตอนนี้
อยากถีบปาจาให้จมน้ำตายไปซะเลย
“แม่งเอร้ย! คุณมีปัญญาหาได้น้ำมันมะกอกเนี่ยะนะ ผมอยากเอาหัวโขกอ่าง
ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยจริงๆ นี่มันโคดของโคดเน่าพอกับขวดมันนั่นแหละ ต่อให้อยู่ในแก้วคริสตัลสุดหรู
มันก็ไม่ทำให้น้ำมันมะกอกของคุณกลายเป็นน้ำมันอโรมาเธอรอปี้ไปได้หรอก บรรยากาศก็โอ สถานที่ถึงแปลกไปหน่อย
ไม่ใช่เตียงแต่เป็นในอ่างแทน แถมมีดรายไอซ์ปกคลุมยังกะสวรรค์ ดอกไม้หอมตลบอบอวล
แสงจันทร์นวลบิ้วอารมณ์ได้ไม่ยาก
ทั้งหมดที่พูดมา ผมยอมทำใจพลีร่างถวายคุณอย่างไม่อิดออด เสียอารมณ์หมดจนอยากกัดลิ้นตาย
เพราะไอ้น้ำมันมะกอกคุณนี่แหละ ไม่อยากเชื่อว่าด๊อกเตอร์ปาจา จะเปิดซิงหนุ่มหล่อเลือกได้อย่างผม ด้วยน้ำมันมะกอก”
พระลักษมณ์กำปั้นทุบหน้าผากบ่นเป็นหางว่าว ออกอาการจนปาจาซึ่งพยายามกลั้นขำ หลุดหัวเราะออกมาอีกครั้งจนได้
ก่อนเฉลยให้สบายใจไปว่า
“ฮ่าๆๆๆๆๆ...คุณนี่ตลกชะมัด เวลาแบบนี้ยังทำผมขำแล้วขำอีก เอาหละ! สบายใจได้แล้วผมล้อเล่น
นี่คือน้ำมันจัสมิน (กลิ่นมะลิ) พอใจหรือยังความลื่นไหลของมันพอโดนน้ำดียิ่งกว่าเจลวิทยาศาสตร์เสียอีก ที่สำคัญ
ผมบอกไปแล้วน้ำในอ่างนี้ต้องไม่มีสิ่งอื่นเจือปนนอกจากธรรมชาติ ไม่งั้นจะทำให้ความขลังเสื่อมได้” พอปาจาพูดจบ
พระลักษมณ์นึกอยากขบหัวคนตรงหน้าซะจริง ให้ตายเหอะโกหกหน้าตายเนียนจนเชื่อว่าเป็นน้ำมันมะกอก
ลูกเล่นแพรวพราวเสียจนพระลักษมณ์ต้องยอม
“คุณจาผมถามหน่อยเหอะ ยังมีอารมณ์มาล้อเล่นอีกหรือ รู้ไหมว่าผมเกือบจะจับคุณกดน้ำไปแล้ว”
พูดยังกะสามารถทำได้ แค่น้ำหนักส่วนสูงก็ผิดกันลิบ ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่าจะโดดเขาเอาทำเมียอยู่ร่อมร่อ แต่ปาจาก็ยัง
อารมณ์ดียิ้มมีเสน่ห์ส่งให้ ก่อนตอบว่า
“แล้วได้ผลไหมหละ ทำให้ความกังวลคุณหายไปเลย ผมชอบหน้าตาคุณในตอนนี้มากกว่า
ไม่อยากเห็นซีดเป็นไก่ต้มหรอก ตอนนี้คุณสบายใจแล้วเรามาเริ่มกันเถอะ” เหตุผลลึกๆ เพิ่งถูกเฉลยออกมา
ที่แท้เพราะปาจาอยากให้พระลักษมณ์ไม่อยู่ในโหมดกลัว ไม่งั้นปาจาคงหมดอารมณ์เช่นกัน
ถึงแม้ลึกๆ พระลักษมณ์จะยังระแวงเรื่องขนาดของปาจาอยู่บ้างก็ตาม อย่างน้อยก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้
เมื่อรู้ว่าคนตรงหน้าแคร์ความรู้สึกตนมากแค่ไหน ถึงกับลงทุนทำเรื่องบ้าบอคอแตกยอมโดนด่าเป็นคุ้งเป็นแคว
คงต้องยอมเค้าหละ เอาหวะ! โดนก็โดนลูกผู้ชายโดนแค่นี้จะเท่าไหร่เชียว ขอให้ปาจาอ่อนโยนอย่างที่พูด
ว่าแล้วพระลักษมณ์ก็พริ้มตาหลุบ ผ่อนลมหายใจรับสัมผัสจากร่างใหญ่นำทางเถอะ ในเมื่อจันทร์เพ็ญลอยเด่น
อยู่ตรงกลางกระหม่อม ได้เวลาฤกษ์งามยามดียืดเยื้อต่อไปไม่ได้อีกแล้ว
ต่อด้านล่าง
-
ค้างใจจะขาดแล้วค่า
-
- 4 -
ปาจายกสองมือจับปลายคางพระลักษมณ์เงยรับจูบหวาน เมื่อริมฝีปากทั้งสองประกบกัน
พลังบางอย่างส่งผลให้หัวใจทั้งคู่เต้นรัวกระหน่ำ การเสพสังวาสของเทพและปีศาจคือการก้าวข้ามกฎ แต่ก็มักมีให้เห็น
ในตำนานเรื่องเล่าไม่น้อย นั่นย่อมแสดงว่าสิ่งนี้มิใช่เพิ่งเกิดขึ้น
ในขณะมนุษย์เพศชายสองคน กำลังเป็นตัวแทนของทั้งสามภพ สวรรค์ มนุษย์
และนรกอเวจี เพื่อล้างอาถรรพ์มนต์มารในอดีต ที่คนอวดดีเปิดผนึกใช้มนต์ต้องห้ามสมสู่กับสัตว์เดรัจฉานปลิดชีพดื่มเลือดเพื่อ
ยืมพลังหลอมรวมจิตวิญญาณโดยควบคุมไม่ได้
การก้าวข้ามวิถีทางที่ผิด จึงต้องอาศัยเทพ ปีศาจ และมนุษย์ ซึ่งฟ้าลิขิตให้ถือกำเนิด
เพื่อการนี้ บัดนี้ถึงเวลาแล้วที่ทั้งสามภพจะปิดผนึกมารคืนกลับด้วยการหลอมรวมเป็นหนึ่งแห่งจิตวิญญาณเทพผู้ยิ่งใหญ่
จ้าวแห่งปีศาจในนรกภูมิ และมนุษย์ผู้เสียสละ จะได้เข้าสู่ศาสตร์แห่งไสยขาว ล้างมนต์ไสยดำให้หมดสิ้น
พระลักษมณ์รู้สึกเหมือนมีความต้องการทางเพศจนยากควบคุม เหมือนกินยาปลุกเซ็กส์ก็ไม่ปาน
ขณะที่ปาจาย่ำแย่ไม่ต่างกัน ไม่คิดมาก่อนว่าพลังซ่อนเร้นแห่งมนต์คาถาที่อัญเชิญเทพไทยเทวา ประสาทพรในการล้าง
มนต์อาถรรพ์แห่งมารจะกระตุ้นความรู้สึกเร่าร้อนจนแทบเผาไหม้
แล้วที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนต่อพระลักษมณ์ตนจะควบคุมได้หรือนี่ ขืนเป็นเช่นนี้ต้องเผลอรุนแรง
ต่อร่างโปร่งตรงหน้าเป็นแน่
“เดี๋ยว! ผมควบคุมความต้องการไม่ได้ หยุดเถอะไม่งั้นผมไม่ไหวแล้วนะ อาจทำให้คุณเจ็บเอาได้”
ปาจาพยายามดันไหล่บางให้ออกห่างตน ก่อนจะร้องห้ามด้วยเสียงสั่นพร่า ในขณะที่พระลักษมณ์เนื้อตัวอมชมพูไปหมด
แถมปากเจ่อมันวาวจากรสจูบช่างดูยั่วยวนยิ่งนัก แต่สิ่งที่ทำให้ปาจาเลิกคิดที่จะหยุด เพราะคำพูดของพระลักษมณ์
ที่ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มสั่นพร่าไม่แพ้กัน
“ไม่! ไม่ต้องหยุด ช่างหัวการควบคุมมันเถอะ ขืนหยุดตอนนี้ฆ่ากันดีกว่า เห็นป่าว!
ผมไม่ไหวแล้วเหมือนกัน จะรับจะรุกจัดเต็มเลย” สิ้นเสียงของพระลักษมณ์ ทั้งคู่กระโจนเข้าหากันจนล้มลงในอ่าง
พัวพันรัดก่ายคล้ายมังกรสองตัวกำลังเริงรักในสระอโนดาต แวดล้อมด้วยกลีบดอกไม้นานาพันธุ์
มังกรดำตัวใหญ่กว่าสีตาคล้ายลูกแก้วนิลกาฬ เกล็ดสะท้อนแสงจันทร์แวววาวทรงอำนาจยิ่ง
อุ้งเท้าแดงเล็บแหลมแข็งแกร่ง เขาโง้งงามสง่าปานราชามังกรในมิติมืด กอดรัดม้วนพันมังกรขาวราวไข่มุก
ตากลมโตปานลูกแก้วรัตติกาลแวววาววิบวับ เขากลางหน้าผากเด่นสง่ายังกะม้าเปกาซัส ตัวยาวเกล็ดสีขาวสะท้อนแสงจันทร์
กลายเป็นสีมณีแก้วระยิบระยับ ตัดกับมังกรดำชัดเจนยิ่งนัก
ปาก ลิ้น มือของทั้งคู่ ต่างโลมไล้ลูบขยำอยู่บนร่างกายของกันและกันอย่างเร่าร้อน
พระขรรค์กลางลำตัวของพระลักษมณ์ตั้งสง่าส่วนหัวแดงเรื่อยังกะทับทิมสีสด ในขณะกระบองเพชรของปาจาใหญ่โตแข็งแกร่ง
จนน่าระทึก ส่วนปลายบานใหญ่แดงก่ำชวนให้ตื่นตะลึง
ทั้งสองฝ่ายตะโบมจูบลูบไล้เกี่ยวกระหวัดกอดรัดจนน้ำกระเพื่อมไหวตามแรงพลิกไปมาของทั้งคู่
อารมณ์พิศวาสที่โหมกระพือเข้าครอบงำทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่เหลือความยับยั้งชั่งใจแม้สติยังอยู่ก็ตาม
แต่กลับไม่สามารถทานแรงอารมณ์อำนาจดำกฤษณาที่กระพือโหมเข้าใส่อย่างรวดเร็ว พระลักษมณ์
ครางเสียงทุ้มเรียกร้องให้ปาจาเดินหน้าอย่างเร่งเร้า
“เอาเลยคุณจา ผมไม่ไหวแล้ว” สิ้นเสียงร้องขอ ปาจาพลิกตัวยื่นแขนหยิบขวดน้ำมันกลิ่นมะลิ
เทบนฝ่ามือ ก่อนจะยกร่างพระลักษมณ์ขึ้นให้บั้นท้ายพ้นเหนือนำ ป่ายแปะน้ำมันมะลิหอมจรุงใจลงไปช่องทางปิดสนิท
พร้อมสอดนิ้วแกร่งเข้าไปทันที ทำเอาร่างที่ยืนเข่าตรงหน้าสะดุ้งเฮือก ก่อนกระชากปากหนาเข้าบดจูบอย่างเร่าร้อน
เพื่อลดทานการบีบรัดของตน
ปาจาเข้าใจถึงความรัดแน่นของพระลักษมณ์ดี เมื่อสัมผัสต่อต้านหดแกร่งของกล้ามเนื้อ
จากช่องทางดังกล่าว นอกจากช่วยบดจูบเร่าร้อนลึกล้ำที่ตอบโต้ไปอย่างถึงใจ ปาจายังใช้มือว่างข้างที่เหลือ
กอบกุมพระขรรค์ขาว รูดรั้งให้อย่างชำนาญงานจนเรียกเสียงครางทุ้มในคอพระลักษมณ์อย่างพึงพอใจ
“อ่าๆๆ!!!” สัญญาณมาช่องทางผ่อนคลายลง ส่งผลให้นิ้วแกร่งดันเข้าจนสุดก่อนจะถอยกลับ
ปากที่บดจูบอย่างเร่าร้อน มือกำลังรูดรั้งพระขรรค์อย่างต่อเนื่อง และนิ้วขยับรัวถี่ขยายช่องทางด้านหลัง แทบทำให้
พระลักษมณ์ถึงฝั่งฝันหากไม่สะดุดเมื่อปาจาเพิ่มนิ้วเข้าไปอีก จากหนึ่งเป็นสอง สาม จนวางนิ้วทแยงเข้าออก
คว้านหาจนเจอจุดที่ทำให้พระลักษมณ์ร่างกระตุกหลุดเสียงซี๊ดปากออกมาอย่างทนไม่ไหว
“ซี๊ดดดzzz อ่า!! ตรงนั้น” การบอกใบ้ทำให้ปาจากระหน่ำรัวนิ้วเข้าใส่จนพระลักษมณ์แทบทรุด
เพราะไร้แรงทรงตัว ปาจารู้ถอนมือออกทั้งข้างหน้าข้างหลัง ทำให้สวรรค์ที่เห็นอยู่รำไรของพระลักษมณ์หายวับทันควัน
หน้าหล่อใสพราวหยดน้ำและเหงื่อย้อย เม้มปากเน้นตากลมปรือมองเหมือนตัดพ้อ แต่สุภาพบุรุษอย่างปาจา
ก็ไม่ทำให้พระลักษมณ์เสียอารมณ์นาน
มือหนาจับเอวโปร่งยกเข้าซ้อนหน้าตัก กลายเป็นพระลักษมณ์กำลังนั่งทับหน้าท้องปาจา
ที่ขยับเอนหลังพิงขอบอ่าง ชันเข่าแทรกกลางหว่างขาขาวก่อนพูดขึ้นว่า
“เพื่อให้คุณไม่เจ็บมาก ค่อยๆนำผมเข้าไปในตัวคุณเถอะ มันจะดีกว่าผมทำ” เสียงพูดสั่นพร่า
เพราะสะกดกลั้นอารมณ์อย่างยิ่งยวด แววตาคมเข้มจ้องพระลักษมณ์อ้อนวอน ถึงวินาทีนี้ปาจาก็ยังห่วงใยความรู้สึก
ของพระลักษมณ์ได้อีก ทำให้หัวใจของพระลักษมณ์รัวกระหน่ำ
ก่อนจะค่อยดันตัวขึ้นเอื้อมจับกระบองเพชรของปาจาเป็นครั้งแรก ช่างเต็มไม้เต็มมือและทรงพลัง
ในความรู้สึกพระลักษมณ์ การเต้นของชีพจรในมือแสดงถึงอารมณ์กรุ่นได้ที่ไม่ต่างกันของร่างใหญ่ นี่คงอดทน
ให้ตนมากจริงๆ คิดได้ดังนั้น ตากลมโตก็จ้องลึกเข้าไปในตาคมเข้มของปาจา ก่อนจะตัดสินใจหย่อนบั้นท้ายขาวเนียน
ลงครอบครองกระบองเพชรทันที
“อึย..เจ็บ..เจ็บชะมัด” แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แม้จะกรุยทางไว้ดิบดี แต่ความรู้สึกเหมือนโดนม้าแยกร่าง
คล้ายตกจากที่สูงจนจุกเจ็บ หน้าหล่อใสเหยเก ทำให้ปาจารู้สึกสงสารเห็นใจ กัดกรามอดทนมากที่สุดกับแรงบีบ
รัดรุนแรงแน่นเปรี๊ยะ ก่อนจะเอื้อมมือหนามาคว้าจับพระขรรค์งามตรงหน้าท้อง แล้วรูดรั้งปรนเปรอให้อย่างเต็มใจ
เจ็บมากมาย จุกจนแน่น น้ำตาไหลจากตาสวย ถึงกับแหงนหน้าหลับตาผ่อนลมหายใจ แม้จะรู้สึกดี
ที่คนร่างใหญ่พยายามช่วยปลุกเร้าอารมณ์ให้ผ่อนคลายมากขึ้น แต่ความรู้สึกทรมานที่ได้รับก็ใช่จะลดน้อยลงไปง่ายๆ
การฝึกภาคสนามของหน่วยรบพิเศษ แม้จะบาดเจ็บทรมานไม่น้อย แต่กลับผ่านมันมาได้ด้วยดี
นับประสาอะไรกับกระบองเพชรฆาตแค่อันเดียว
คิดได้ดังนั้น พระลักษมณ์ตัดสินใจกดน้ำหนักดิ่งลงทันที การกระทำครั้งนี้เหนือความคาดหมาย
ของปาจายิ่งนัก ไม่รู้คนหน้าหล่อร่างขาวคิดยังไง ส่วนตัวต้องเผลอซู๊ดปากด้วยความเสียวซ่านถึงกระดูก
เพราะผนังนุ่มครูดตามความยาวแรงบีบรัดแน่นมาก จนเผลอกระดกเอวขึ้นรับอัตโนมัติ
“ชู๊ดดด..ซี๊ดดดดzzz...โอวววว!!..” เสียงครางของปาจา
“โอ๊ะ! อื้อออๆๆ” เสียงครวญของพระลักษมณ์ ก่อนทุกอย่างจะหยุดนิ่งในท่าเติมเต็มแน่นปึ๊ก
ซึ่งสอดประสานจนไม่เหลือช่องว่าง ร่างโปร่งขาวสั่นเป็นเจ้าเข้า ก้มกัดบ่าแกร่งจนจมเขี้ยวเพื่อบรรเทาความเจ็บ
แม้น้ำตาจะไหลอาบแก้ม แม้อารมณ์กำหนัดจะกระตุ้นเร่งเร้าตลอด แต่ร่างกายที่ต้องแบกรับความอลังการ
และเป็นครั้งแรกย่อมทำให้สติที่มีอยู่ครบ รับรู้ถึงความเจ็บปวดได้อย่างไม่ต้องสงสัย กลายเป็นปาจาที่คอยกอดกระชับ
มือลูบไล้หลังไหล่พร้อมกัดกรามขบฟันแน่น เพื่อช่วยผ่อนปรนความเจ็บจากแรงกัดของร่างโปร่งในอ้อมแขน
อย่างน้อยก็รู้ว่าคนข้างบนเจ็บปวดกว่าหลายเท่านัก สัมผัสรู้จากน้ำใสในอ่างที่เจือจาง
ด้วยสีเลือดให้เห็นอย่างบางเบา ใครจะไปคิดว่าคนใจเด็ดจะบ้าดีเดือดกดทับพรวดเดียวจมมิดแบบนี้ ในมุมกลับกัน
ความคิดของพระลักษมณ์ไม่อยากทนทรมานในการขยับกลืนทีละนิด ไหนๆ ต้องทนเจ็บแล้วขอแบบทีเดียวไปเลย
เจ็บจริงไรจริงยากสรรหาคำบรรยาย แต่ก็เริ่มชินและชาเมื่อร่างทั้งคู่จมอยู่ในน้ำ
น้ำเย็นช่วยให้คล้ายเจ็บลงมาก ก่อนร่างโปร่งจะรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิม การบีบรัดก็ผ่อนคลายลงพอสมควร
เมื่อเริ่มรับรู้ถึงท่อนเนื้อที่มีขนาดใหญ่ในพื้นที่ของตน การปรับตัวของร่างกายเริ่มคุ้นเคยในที่สุด พระลักษมณ์จึงพูดขึ้นว่า
“ผะ..ผม...ไม่มีแรงขยับแล้ว คุณดำเนินการต่อที” ปาจาหัวใจพองโต กับน้ำเสียงทุ้มนุ่ม
ที่พูดงุ๊งงิ่งให้ได้ยิน ก่อนจะค่อยๆ ประคองอุ้มร่างโปร่งให้ขยับนั่งอย่างได้องศาถนัด แล้วเคลื่อนมือมายึดจับสะโพกขาวแน่น
ไปด้วยกล้ามเนื้อเต็มมือ จัดการไล้จูบปลุกอารมณ์ให้ร่างโปร่งอีกครั้งอย่างสุดฝีมือ
ตั้งแต่ลำคอขาว ลาดไหล่เนียน ใบหู และปิดท้ายด้วยจูบอ่อนโยนนุ่มนวล ในขณะที่สะโพกแกร่ง
ก็บดเบียดเคลื่อนคลึงให้คุ้นเคย เมื่อช่องด้านหลังเริ่มรับสภาพได้ จังหวะการดึงรั้งสะโพกให้ขยับโดยการกระชากเข้าหาตัว
จากพละกำลังของแขนแกร่งก็เริ่มต้นขึ้น เสียงครางระงมของทั้งคู่ต่างหลุดไล่ตามกัน ความเร่าร้อนแห่งอารมณ์กำหนัด
โหมกระหน่ำปานพายุคลั่ง
ความเจ็บปวดของร่างกายจางหายเปลี่ยนเป็นความเสียวกระสันทุกรูขุมขนเข้ามาแทนที่
พลังของนักเดินทางเพื่อมุ่งสู่แดนฉิมพลีของทั้งสองจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ไม่มีใครต้องร้องร่ำด้วยความเจ็บปวด กลับกลายเป็นเทวดา นางฟ้า แม้แต่ปีศาจ หรือมนุษย์
ที่เผลอเข้ามาได้ยิน ต่างหน้าร้อนแทบไหม้ไปตามๆ กัน เพราะกิจกรรมซ่านเสียวท่ามกลางแสงจันทร์ที่เปล่งประกายเจิดจรัส
ร่วมยินดีกับบทรักล้างอาถรรพ์ในครั้งนี้
“อ๊าาา!! ซี๊ดดดดดzzz โอวววว!! อ่าๆๆ.. อืมมมม!!..” เสียงร้องครางประสานแข่ง
ควบคู่กับแรงอัดกระแทกของร่างหนา ในขณะที่ร่างโปร่งหาได้ยอมแพ้ สวนรับไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
“พั่บๆๆ!!! ปัปปป!!!...อ่าzzz..” เสียงหนั่นเนื้อแน่นกระทบใส่กันใต้น้ำดังสนั่น
จนน้ำกระฉอกล้นขอบอ่าง อารมณ์ที่พือโหมต่างไม่มีใครยั้งไว้ปล่อยตามความรู้สึกล้วนๆ พระขรรค์ขาวยาวตรงเสียดสีกับ
หน้าท้องแกร่งอุดมด้วยซิคแพ็ค เพิ่มความเสียวเข้ากระดูกด้วยไรขนนุ่มบริเวณหน้าท้องแกร่งที่สีครูดพระขรรค์ตลอดเวลา
หนักหนาสาหัสเข้าไปใหญ่เมื่อความเสียวด้านหลังกระพือพัดจนต้องส่งเสียงครางยาวกระตุกเกร็งแหงนหน้าพริ้มตาหลับ
รับแสงจันทร์ทรงกลดที่สว่างจ้าในวินาทีนี้ ส่องกระทบทั้งสองร่างอาบไล้ประกายวิบวับจนเกิดพราวน้ำระยิบสวยดัง
เกล็ดแก้วเจียระไน
น้ำทิพย์ขุ่นขาวพุ่งกระฉูดทะลักล้นออกจากปลายพระขรรค์งาม กระเซ็นลงในน้ำใสเกิด
กลุ่มควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นอีกครั้งอย่างมหัศจรรย์ยิ่ง ในขณะที่ช่องทางตอดรัดรัวกระหน่ำ จนทำให้ร่างหนาข้างใต้
ต้องอัดกระแทกจมมิดต่อเนื่องไม่ยั้ง
“ปัปปปป!!! อ่าๆๆๆ ซี๊ดดดดzzzz..” เสียงครางยาวแหงนหน้ารับแสงจันทร์นวล
กัดกรามกรอดเอ็นคอปูนจนเห็นชัด ปลดปล่อยน้ำอัมฤตเข้าไปในผนังนุ่มมากมายจนล้นลงอ่าง ยิ่งกระตุกเกร็ง
ผนังยิ่งตอดรัดซ่านเสียวถึงขั้วหัวใจ ทำเอาปาจาแทบหมดก๊อก ที่หนักยิ่งกว่าคือร่างโปร่งข้างบนฟุบซบ
ปวกเปียกไร้กระดูกไปแล้ว
ทั้งคู่เสียพลังงานในการเสพสังวาสครั้งนี้มากมาย เหมือนกับการปลดปล่อย
ได้ดูดพลังชีวิตออกไปด้วย แม้จะสุขจนล้นอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน แต่ก็เพลียจนแทบอยากหลับ
ปาจาจะพักหลับตอนนี้ไม่ได้ไม่งั้นได้เปื่อยแน่ ลืมตามองจันทร์เพ็ญ
กระจ่างฟ้าทรงกลดงามจับตา ดังจะยิ้มให้กับเพลงรักลั่นภพ ที่ทั้งสองเพิ่งบรรเลงจบไปหมาดๆ ด้วยซะงั้น
ก่อนจะค่อยยกร่างขาวโปร่งออกจากตัก เพื่อถอดถอนส่วนเชื่อมต่อให้แยกออกจากกัน
พระลักษมณ์สะดุ้งเฮือกหลังส่วนหัวกระบองเพชรฆาตของปาจาหลุดจากร่างไป
รู้สึกตัวทุกอย่าง ทุกการกระทำ แต่ไม่มีเรี่ยวแรง พลังงานเหมือนถูกใช้ไปกับการนี้จนหมด
ยิ่งกว่าฝึกหฤโหดของหน่วยพิเศษอีก ปล่อยให้ปาจาจับพลิกชำระล้างให้อย่างอ่อนโยนด้วยน้ำในอ่างนั่นแหละ
สุดหล่อหน้านิ่งทั้งควักทั้งล้างจนหมดไส้หมดพุง ก่อนจะหันกับมาล้างให้ตนเองบ้าง แล้วค่อยอุ้มพระลักษมณ์
ซึ่งไม่มีแรงแม้แต่จะยืน หยิบเสื้อคลุมมาสวมทับให้ทั้งของตนและของร่างโปร่ง จากนี้ต้องรออีกสามราตรี
น้ำในอ่างถึงจะสามารถใช้ชำระหัวใจมารและล้างอาถรรพ์ให้กายัตน์ได้ ก่อนจะจัดการกระซิบบอกพระลักษมณ์ว่า
“ผมพาคุณกลับนะ” พูดจบก็เบี่ยงตัวให้พระลักษมณ์ขี่หลัง ตอนนี้ปาจาชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้
ตาพระลักษมณ์จะปิดอยู่แล้ว จึงโอนอ่อนว่าง่ายประกบหลังปาจากระเตงกันเดินออกจากห้องไปอย่างเรียบร้อย
คนบนหลังหลับพับไปแล้ว คนแบกกับอมยิ้มอาการแทบหมดแรงกลับกระชุมกระชวย
มีพลังขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ หัวใจสูบฉีดแรงจนรู้สึกได้เลย ไม่รู้เพราะอะไรทำไมถึงได้สุขใจนัก
สุขสมกับบทรักเร่าร้อนครั้งนี้อย่างมากมายเกินบรรยายได้
ร่างโปร่งตัวใช่จะเล็กแต่กลับไม่หนักเลย ปาจาสามารถแบกเดินตามทางลดเลี้ยวเคี้ยวคด
อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย จุดหมายปลายทางคือห้องนอนของตนตะหาก บนเรือนไทยไม่ใช่ห้องใต้ดินที่พระลักษมณ์เคยอยู่
รอเจ้าตัวตื่นคงได้รู้
พระลักษมณ์เป็นคนแรกที่ได้นอนบนเตียงของปาจา ดงพญา เจ้าคุ้มรูปงามที่ครองตน
เป็นโสดมาเนิ่นนาน ทั้งหัวใจและร่างกาย บัดนี้ไม่แน่ว่าจะยังเหมือนเดิมได้หรือเปล่า แค่พฤติกรรมที่พาคนๆ นี้
กลับไปยังเตียงนุ่มในห้องก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งแล้ว.....??????
....(ขอได้รับความขอบคุณจาก Luk ผู้ให้เสียงภาษาไทยทั้งคณะ)
ขอบคุณนักอ่าน นักโพสทุกท่าน ที่ส่งกำลังใจให้ไม่ขาดสาย
หวังว่าตอนนี้ทั้งหมด ซึ่งยาวได้อีก เขียนจนหมดก๊อกแล้ว
คงถูกใจนักอ่านทุกท่านเช่นกัน โปรดร่วมส่งกำลังใจให้ข้าพเจ้าอีกครั้ง
ท่านคือผู้ทำให้ข้าพเจ้าทำงานหนักทางสมอง แต่ข้าพเจ้าก็มีความสุข
เมื่อได้รับกำลังใจที่ท่านทั้งหลายร่วมแสดงออก ให้สามารถจับต้องได้ทางความรู้สึก
รักพวกท่านเช่นกัน
Luk. :กอด1:
ปล. ข้าพเจ้าผู้เขียน ได้เขียนเรื่องแรกจบไปแล้วที่นิยายห้องจบ
เรื่อง ‘เพราะรัก...จึงเปลี่ยนได้’ เป็นนิยายที่หลายท่านที่ไม่เคยอ่าน
ควรไปอ่านเสียเถิด ท่านจะไม่นึกเสียใจแน่นอน ข้าพเจ้ารับประกันด้วย???? อะไรดีหว่า???
พึงรับรู้ไว้ด้วยเถอะว่า นิยายเรื่องที่ว่า ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน ได้ลิขสิทธิ์จากเจ้าของเรื่องเขียนเองด้วยซ้ำ
ด้วยรักและปราถนาดีต่อนักอ่านทุกท่านเช่นกัน จึงแนะนำเรื่องราวดีดี ให้ได้เข้าไปอ่านอย่างไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
-
+1
ให้คนเขียน
แล้วก็บวกเป็ดให้แล้วน่อ
-
รู้สึกดีที่วันนี้นอนดึก... เพราะมาต่อแล้ว... กรี๊ดๆๆๆๆๆ...
ขอบคุณที่มาต่อแบบจัดเต็มนะคะ... กรี๊ดๆ...
กดเป็ดๆๆๆๆๆๆ.... คิคิ...
-
ขอบคุณนะครับที่มาต่อให้ได้อ่านกัน
เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ รอติดตามครับ
-
ผมว่าคำว่า ดรายไอซ์ นี่น่าจะใช้คำว่า กลุ่มควันสีขาว อะไรทำนองนี้แทนน่าจะดีกว่านะ รู้สึกดรายไอซ์มันดูขัดๆ ผมเข้าใจว่าต้องการจะสื่อว่า มีควันสีขาวในลักษณะที่เหมือนควันจากดรายไอซ์ใช่มั้ยครับ
-
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
:o8: ในที่สุดก็ทำพิธีล้างอาถรรพ์สำเร็จแล้ว
:pig4:และรอตอนต่อไปนะคะ
-
กดเป็ดให้แล้วน๊า :z1:
ติดตามอ่านอยู่ตลอดนะคะ ชอบมากๆเลย
ขอโทษมากๆเลยนะคะ ที่ไม่ค่อยได้เม้นต์
ถ้าได้เข้ามาอ่านก็จะเม้นต์ให้จริงๆจังๆอยู่แล้วค่ะ เพราะเราก็เข้าใจคนเขียนนะคะ
ที่อยากให้คนที่อ่าน เม้นต์ตอบบ้างไรบ้าง เพราะเราคนนึงละที่อยากเป็นนักเขียนบ้าง แล้วก็อยากให้มีคนเม้นต์มาเยอะๆ
เพราะเราหายไปช่วงนึง ก็ป่วยนิดหน่อยค่ะ
ถึงจะมีเข้ามาบ้างแต่ก็ไม่ได้อ่านอ่า แบบว่าความรู้สึกคือได้เข้ามานิดนึงก็ยังดี
เหมือนมันขาดไม่ได้
ขอโทษจากใจจริงๆนะคะ คือเราเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งอ่ะ
สัญญาเลยจะเม้นต์คุยแน่ๆถ้าได้เข้ามาอ่าน เราคนนึงละที่จะเป็นกำลังใจให้นะคะ
(ได้ข่าวว่าเราเองที่ต้องการกำลังใจจากคนอื่นนะ//me)
:กอด1:
-
+ เป็ดไป 4 ตัวโลดดดดดดดดดดดดดด ให้สมกับที่อุตส่าห์เขียนมาให้อ่านอย่างจุใจคร้าบบบบบบ ในที่สุดพิธีก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ทีนี้ก็อยากรู้แล้วว่าใครคือเจ้าจิตมาร :-[ :-[ :-[
-
ต้องรีบกด +เป็ด ทั้งที สุดยอดสมกับที่รอคอยจริงๆ :m25:
เลือดแทบหมดตัวกันเลยทีเดียว ช่างเร่าร้อนกันซะนี้กระไร ฮ่าๆ
ปาจาอุ้มพระลักษมณ์ไปที่เตียงตัวเองแบบนี้ แอบคิดอะไรอยู่หรือเปล่าเอย
ภาษาดีสุดๆ o13
-
เลือดจะหมดตัวแล้ววว :m25: :m25:
-
อ่านตอนนี้ จบ เขินหน้าไหม้ ไปเลย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
-
ในที่สุดพระลักษณ์ก็ไม่รอด
ตลกจังกำลังโรแมนติกยังแทรกให้ขำได้อีก
รออ่านตอนต่อไปค้าบบบ
-
มีฮาตลอดๆ ขอบคุณค่ะ
-
อ่านตอนนี้แล้ว ขอให้การล้างอาถรรพ์สำเร็จด้วยดี
-
:-[ ผมอ่านรวดเดียวหมดเลยสนุกมากๆเลยครับ
:pig4:มากๆนะครับที่แต่งนิยายดีๆให้ได้อ่าน :pig4:
-
เหอะๆๆๆ ลุ้นซะเกร็งเลยเรา :haun4: :pighaun: :z1:
-
:m25: :m25: จัดเต็มหรือเปล่าไม่รู้ รู้แต่ว่า :pighaun:เลือดหมดตัว
-
ตอนนี้ยาวได้อีกนะเนีย มาตอนวันไหว้พระจันทร์พอดี 5555 o13 ขอจิ้มไปก่อนละกัน :o8: :กอด1:
-
:m25: +1ให้อีกทีที่มาทีเดียวยาววววววไม่ขาดตอนเลยค่ะ สุดยอด o13
-
เป็นบทอัศจรรย์ที่....เอ่อ........อะไรจะฮาขนาดนั้นกันคะ :serius2:
ก็รู้นะว่าต่างคนต่างก็แมน จะให้มาป่ามป๊ามกันแบบที่บรรยากาศแวดล้อมไปด้วยกลิ่นอายของพิธีกรรมมันก็คงขมึงตึงเครียดเกินไป
ก็เลยพยาย้ามพยายามที่จะลดความเครียดลดความเขินที่เกิดขึ้นกันอะนะ
แต่แบบ....เอ่อ........เห็นใจคนอ่านหน่อยได้มั้ยยยยยค้า :z3:
แบบว่า...กำลังลุ้นๆ ไป กลั้นหายใจไป เหมือนดูละครดรามาเลิฟซีนในทีวีอยู่ดีๆ แล้วก็มีใครไม่รู้มากดรีโมทเปลี่ยนเป็นหน้าเฮียหม่ำหน้าตุ๊กกี้แทนอะคร้าบบบบ
อารมณ์เปลี่ยนไม่ทันกันเลยทีเดียว เหอๆๆๆๆๆๆ :z3:
ขอบคุณคนเขียนมากๆ นะค้า บวกเป็ดทุกรีเป็นกำลังใจค่า :pig4:
-
+ เป็ดให้นะคะ :L2:
ขอคุณมาก :o8:
-
อ่านตอนนี้แล้ว :pighaun:
+1 ให้จ๊ะ แล้วกดเป็ดให้แล้วน่ะ :จุ๊บๆ:
:L2: :L2:
-
ขำพระลักษมณ์อ่ะ จะฮาไปไหน ไม่ได้เข้ากับบรรยากาศเลยเหอะ
แต่พอถึงเวลาจริงๆแล้วก็....ใช่ย่อยนะ ><
จะแก้อาถรรพ์ได้แล้ว
คุณเลขาหน้านิ่งก็จะได้สมหวังซักที
คงไม่มีมารมาผจญนะคะ
-
ให้เป็ด 1 ตัว เอาตัวZZZZ ออกเหอะค๊า....มันเหมือนคนกำลังหลับอ่ะ Zzzz..z. :t3:
-
ยาววววได้ใจจริงอะไรจริง 5555
เป็ดสี่ตัวเป็นของคุณ
-
+1
ให้แล้วนะครับ ยาวมากกกกกกกกกกกก สมกับที่รอคอย
-
ฉิมพลี โลมไล้ น้ำอมฤต ผูกพัน เขียนแบบนี้จ้า
ยาวได้อีก จุใจจริงๆ
-
ยาวมากกกกกกกกกกกกกก ขอบคุณมากๆ ค่ะ 55555
แต่พระลักษณ์ที่ใช้ความฮากลบเกลื่อนความเขินนะ
-
สุดยอดมากๆๆๆ
ยาวได้ใจ
+ 1 นะคะ
-
:m25: :haun4: จัดเต็ม !!!! +เป็ดเพิ่มแล้วคะ รัก :impress2:
-
กด+1 แถมกดเป็ดเบาๆ
ถึงจะบรรยายฉากอัศจรรย์เร่าร้อน
แต่คนอ่านรู้สึกว่ามันโรแมนติกมากเลย
:-[ :-[ :-[
-
:pighaun: :m25: :jul1: หมดทิชชู่ไป2กล่อง เอิ๊กๆ o13
คุณลักษณ์ จัดเต็ม!!! ขอบคุณมากๆค่ะ
-
สุดท้ายก็เข้าหอกันไปแล้ว หึๆๆ :เฮ้อ:
ถึงจะเป็นการเข้าหอแบบฮาๆก็เถอะ
หวังว่าตื่นกันมาคงยังหวานกันต่อไป
-
:pighaun:เออะ เลือดกระจายทั่วเรยยยย
อัยยะ ปาจา ติดใจละสิ อิอิ
-
เต็มอิ่มจุใจสุดๆเลยจ้า :m11:
อ่านๆไปกำลังได้ฟิลฮาแตกซะงั้น(แต่ชอบ :laugh3: )
หวานกันซะ :give2:
เป็นกำลังใจให้นะจ้ะ :กอด1:
ตอนหน้าขอหวานๆรอต่อจ้า o14
-
+1 ให้ไปไม่ชักช้า อึ้งไปกับความยาวของตอนนี้ แต่ที่แอบสงสัย ทำไมต้องรอ3วันกว่าจะเอาน้ำมนต์(สปา) ไปใช้ได้ มันจะไม่??????รึป่าว ยังหวังว่าจบคดีล้างอาถรรพ์แล้ว จะได้อ่านบทเจ้าคุ้มของเราเดินหน้าจีบพระลักษณ์ให้พ่อตาใจอ่อน :mc4:
-
:3123:สมใจที่รอจริงๆครับ :3123:
-
+ 1 :duck1:
-
:m25: หมดตัวค่ะ พิธีสมบูรณ์รอลุ้นอีก3วันเอาน้ำในอ่างไปรดหัวใจมาร
และให้กายันต์อาบ อ๊ากกกกก เป็นน้ำที่....... o18
กด+1และเป็ดให้แล้วค่ะ ^^
-
:haun4: :haun4: :jul1: หมดตัว
-
สมกับการรอคอยยยยยยยย
o13 o13
-
ให้หมดใจเลยคร๊าฟ ฟ กด +ๆ เป็ดๆ ^^
ได้อ่านจุใจเลย ที่จริงอ่านในโทรศัพท์ จเม้นแล้วเชียว
แต่มันดันค้าง -.- ซะนี่ 555
ปลปล.รักคนแต่ง จุ๊ฟๆ :)
-
โรแมนติกมากมาย อ่านแล้วยิ้มตาม
บรรยายบรรยากาศได้สวยงามมากเลยคะ
เต็มอิ่มกันเลย หวังว่าสิ่งที่ทั้งคู่ทำไปจะได้ผล
ช่วยกายันต์ให้ได้นะ
-
:pighaun:
สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดด
ต่อไปรอฉากหวานๆของทั้งคู่และภารกิจพิชิตพ่อตาด้วย อิอิ
-
โอ้!!! :z1: :z1: :z1:
มาต่อแล้ว ดีใจมากๆเลยค่ะ :-[ :o8: :impress2:
กดเป็ดๆแบบถี่ยิบตา :mc4:
สู้สุดใจเลยฮิฮิ สนุกอีกแล้ว จะมานั่งรอตอนต่อไปนะคะ o13 o13 o13
-
โอ๊ะโอ +1 แล้วนะจ๊ะ เล่นซะเลือดหมดตัวเลยงานนี้ ฮุฮุ o13
-
ขออ่านด้วยคน เรื่องนี้สนุกมากๆ
-
+เป็ดสามตัว 555
ตอนนี้ได้ใจเลยคะ เมื่อเช้านั้งอ่านในมือถือเลยไม่ได้เม้นให้
:pighaun: :pighaun:
-
หวังว่าตื่นขึ้นมา
แล้วคงไม่กลายเป็น วันไนท์สแตนด์นะจ๊ะ อิอิ
-
ไม่มีคำบรรยาย สุดยอดดดดดดดดด
-
:m20: :m25:
ทั้งฮา ทั้งหื่น
:pig4:
-
เย้ ในที่สุดการล้างอาถรรพ์ก้อสำเร็จ หุหุ ขำแต่ตอนที่พระลักษณ์หน้าซีดอะดิ อิอิ บวกเป็ดให้แล้วน๊า
-
ฉากอลังการงานสร้างมากมาย :L2:
ขอบคุณคนเขียน :pig4:
-
นอนตายข้างอ่างที่ปาจากับพระลักษณ์อะจึ๊ยๆกันเลยทีเดียว :jul1:
-
เขิน กระบอกเพชรคงโดนรูดซะหนามหลุดร่วงหมดแล้วละมั๊ง
-
ในฐานะที่ผมชื่อเหมือน ??
คุณนักเขียนต้องการคำวิจารณ์ ดุๆ จากผมมั้ยครับ
-
ร้อนแรงๆๆ
ภาษาสวย
รอตอนต่อไปจ้า~!!!
-
ปล. ข้าพเจ้าผู้เขียน ได้เขียนเรื่องแรกจบไปแล้วที่นิยายห้องจบ
เรื่อง ‘เพราะรัก...จึงเปลี่ยนได้’ เป็นนิยายที่หลายท่านที่ไม่เคยอ่าน
ควรไปอ่านเสียเถิด ก่อนที่ท่านจะไม่มีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ แล้วท่านจะนึกเสียใจ
พึงรับรู้ไว้ด้วยเถอะว่า นิยายเรื่องที่ว่า ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน ได้ลิขสิทธิ์จากเจ้าของเรื่องเขียนเองด้วยซ้ำ
ด้วยรักและปราถนาดีต่อนักอ่านทุกท่านเช่นกัน จึงแนะนำเรื่องราวดีดี ให้ได้เข้าไปอ่านอย่างไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง
เจ้าของทู้หรือเจ้าของเรื่อง ได้รับข้อความนี้แล้ว ติดต่อมาด้วยนะ
ได้ข่าวว่าเราเคยคุยกันเรืื่องนี้แล้วนะคะ หรือว่าอย่างไร
หนึ่ง โมฯดุ
-
อ่านะ ฉากที่หลายๆคนรอคอย หุๆ
-
:haun4: กระบองยักษ์หรอ แล้วมันประมาณไหนอะ นึกภาพไม่ออกอะ
-
มันเล่นตลกกันมาค่อนตอนก่อนลงมือฟัดจริง
จริงๆอุ้มกลับไปทั้งอย่างนั้นเลยก็ได้นี่คุณจา ไม่เห็นต้องแบกไปเลย
เหมือนกับว่ามันจะเกิดอะไรซักอย่างที่ไม่ดีตามมา ก็ถ้าล้างอาถรรพ์ได้แล้วเรื่องก็จบน่ะสิ
-
ขอบคุณสำหรับการบรรยายที่สวยงาม เป็นบทรักอีกตอนที่ทั้งขำทั้งหวาน
ขอบคุณนะค่ะ +1 +เป็ดให้เหมือนเิดิมค่าาา
-
บรรยายได้ละเมียดละไม ไม่เหมือนจะเป็นฉากอีโรติก อ่านลื่นไหลมากค่ะ ยิ่งอ่านเรื่องของคุณยิ่งชอบค่ะ
ติดตามอ่านต่อไปค่ะ
-
:m3:หื่นแบบมีศิลป์ :pig4: :pig4:
-
ล้างอาถรรพ์กันดุเดือด
-
+ เป็ดให้เป็นกำลังใจค่า :impress2:
-
+1
ตอนนี่ยาวถึงใจจริงๆๆ
แต่ลุ้นมากมายว่าจะโรแมนติกหรือจะเล่นตลก
โห..แต่ละคนตัวทำลายบรรยากาศหวานๆๆซะงั้นอ่ะ
ลุ้นจริงๆๆว่าจะเริ่มทันเวลารึป่าว
แต่ที่แน่ๆๆๆ
:m25: :m25: :m25: :m25: :m25:
:bye2: :bye2: :bye2:
-
...จบตอนแบบหวานๆ
เอาเป็ดไปเลยจ้า....
-
o13สุดยอดดดดด....สมกับที่หลายๆคนรอคอย
:L2:+1 +เป็ดให้คนเขียนผู้น่ารัก
-
นั่งอ่านเมื่อคืนรวดเดียว
ไม่อยากบอกว่า บรรยากาศให้มาก ฝนตกหนัก มีเสียงกะแสงฟ้าร้องฟ้าแลบเป็นแบล็กกราวด์เบาๆ
เราเปิดไฟโคมไฟบนโต๊ะดวงเดียว เพราะน้องเมทหลับไปแล้ว
มีไฟตก ไฟกระพริบ เป็นพักๆ
อร๊ากกกกกก มันสุดยอดมากกกกกกกก
จัดเป็ดไปเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
-
นั่งอ่านรวดเดียวก่อนไปเรียน
บร้ะ!
-
สุดยอดแห่งการบรรยาย o13
ได้ทั้งอรรถรส และอรรถรัก รวมถึงอรรถขำ ครบจริงไรจริง
กดเป็ดกำลังใจให้เช่นกันคร๊าบบ!! :กอด1:
-
น่ารักมากๆเลย ขอบคุณสำหรับตอนนี้ที่รอคอยน่ะ ^^
-
ขอความร่วมมือในการกดบวกเป็ด :z2:
เนื่องจากนักเขียนเรื่องนี้ได้มีการแบ่งนิยายออกเป็นตอนสั้นๆ ลงรีพลายติดๆกัน ดังนั้นเมื่อแฟนคลับกดบวกเป็ดจึงทำใ้ห้มีรีพลายชื่อซ้ำขึ้นแนะนำเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความสับสนกับนักอ่านที่เข้ามาหน้าแรก อีกทั้งเป็นการดันรีพลายอื่นที่มีคนบวกให้ ตกไปโดยไม่รู้ตัว จึงขอความร่วมมือมายังคนอ่านให้กดเป็ดกันอย่างสร้างสรรค์ โดย. กดเป็ดเฉพาะรีพลายแรกที่มีการลงนิยายในแต่ละครั้ง
ทางเล้าสนับสนุนให้นักอ่านให้กำลังใจกับนักเขียนด้วยวิธีต่าง แต่ขอความกรุณาในบางเรื่องเพื่อความเป็นระเบียบของเล้านะจ๊ะ และหากพบว่ามีเรื่องใดที่มีการกดเป็ดในลักษระนี้แจ้งเข้าได้ค่ะ. ทางโมดุฯจะเข้าไปชี้แจงและขอความร่วมมือต่อไป :pig4:
-
หลายตอนมาก แอบลุ้นในทุกๆตอนที่จบ
จบตอนได้น่า่รักมากเลย :z1: :z1:
-
ชอบช่วงแรกของการบรรยาย แม้จะขัดๆในบางคำ
แต่ก็ทำให้นึกถึงบทอัศจรรย์ตามวรรณคดี
รอพระลักษณ์ตื่นมาแผลงฤทธิ์ให้ปาจาได้มีความสุขต่อคร่าาาา
-
"ชอบค่ะ"
ชอบสำนวนที่คนเขียนใช้มาก เข้าใจจริงๆค่ะว่าคงจะเขียนยากมากๆ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
มานั่งรออ่านต่อด้วยคน...
-
เข้ามารอคอยอย่างติดหน้าจอฮิฮิ
-
ชอบเรื่องแนวนี้ที่สุด แต่งไสดยอดมากคะ +1
-
ยาวสะใจจริงๆ หวังว่าน้ำที่รอเวลา3วันเนี่ยคงไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นนะ
ปล.ให้เป็ดแล้วนะจ๊ะ
-
มาให้เป็ดด้วยคนค่ะ หลังจากหายไปเตรียมมตัวสอบยาวๆ
ได้มาอ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกหลังจากกลับมาเล่นบอร์ดใหม่
-
คนอ่านมาทวงว่าคืนวันนี้จะครบ 3 ราตรีแล้วนา
แต่ถ้าจะไม่ทำพิธีชำระหัวใจมารคืนนี้ก็ไม่เป็นไรจ้า
แต่...ปาจากับพระลักษณม์ต้องทำพิธีล้างอาถรรพ์กันอีกครั้งนะจ๊ะ :z1:
-
เห็นด้วยกับรีบน โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย :laugh:
จะบอกน้องLuk ว่าพี่อ่ะ เปิดอ่านได้ไม่กีประโยคตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วมีธุระต้องทำตลอดสัปดาห์
ใจมันนึกอยากมาอ่านต่อตลอดเลยแหละ วันนี้เพิ่งว่างเปิดคอมรีบอ่านเลยเนี่ย สนุก สุขสมใจนึกบางลำภูมากๆจ้า
ให้เป็ดจ้า :3123: :3123:
-
ร้อนแรงมากค่ะ...อยากเห็นตอนพระลักษณม์ตื่นขึ้นมาอีกครั้งจัง
ปฏิกิริยาของทุกคนในบ้านจะเป็นยังไงน้า~ ถ้ารู้ว่าพระลักษณม์นอนหลับปุ๋ยอยู่ในห้องคุณจาเนี่ย
-
ชอบมากกกกกก...
แบบว่า ได้ทั้งหวาน ทั้งกวน ทั้งฮา
แอบหลงรักพระลักษณ์อ่ะค่ะ อิอิ
อยากรู้ว่าตื่นขึ้นมาแล้วจะเป็นอย่างไงต่อ
สู้ๆนะคะ ^^
-
ร้อนแรงกันจริงๆคู่นี้
หลังพิธีคู่นี้จะหวานกันมั้ยนะหรือจะกลับมากัดกันเหมือนเดิม
แต่อะไรๆก็คงไม่เหมือนเดิมแล้วละ อิอิ
กดเป็ดให้เป็นกำลังใจค่า
-
อยากบอกว่าคนแถวนี้คิดถึง มาต่อเร็วๆนะครับ
-
รอ ร๊อ รอ
มาต่อเร็วๆเน้ออ
คิดถึงพระลักษณ์กับปาจาแล้วคร๊าบบ
-
:L2:
-
มากด +1 แล้วค่ะ :z1: :z1:
สนุกมากค่ะ :-[ :impress2:
-
มานั่งรออยู่ข้างๆหน้าจอนะคะ
-
+1 ให้คุณลักจ้า
สนุกมากมาย ชอบนิยายแนวแปลก ๆ แบบนี้จ้า :laugh: :jul1: :oo1:
รอตอนต่อไปจ้า :call: :call: :call:
-
ตามมาจนทันแล้ว อยากบอกว่าเรื่องนี้สุดยอดของแท้เลย
-
ครบรอบหนึ่งวันที่ยังไม่มา T^T
-
เรื่องนี้สุดยอดดด :jul1:
-
ครบรอบอีกวันละ อิอิ รอปาจาอยู่ครับ
-
อ่านรวดเดียวตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ ขอบอกอย่างเดียวว่า ประทับใจมาก o13
คนแต่งแต่งเรื่องนี้ได้ดีมากๆเลย เดี๋ยวเราจะไปบวกเป็ดให้นะคะ :L2:
แล้วก็พิธีล้างอาถรรพ์ :pighaun: เลือดพุ่งจริงๆ
อยากให้มีแบบนี้บ่อยๆจังเลย :z1:
-
มารออีกวันคร๊าบบบ
-
ไปไหนจ๊ะ คิดถึง รออยู่นะจ๊ะ :sad11:
-
คิดถึงผู้แต่งและนิยายมากๆค่ะ แอบมาแว้บดูที่เวปเป็นประจำ(รู้สึกติดมากกกกก) วันนี้ก็มานั่งคอยค่ะ
รีบๆมานะคะ คิดถึงมากๆค่ะ
-
รออยู่จ้าาาาาา
เป็นกำลังใจให้คนเขียน
-
อ่านแล้วชอบมากเลยเรื่องนี้ ลึกลับดี
รีบมาต่อเร็วๆนะครับ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนครับ
-
o13
o13
มาต่อให้ไว....รออ่านอยู่จ้า
อย่าปล่อยให้ค้าง......นานน้า 555555
:monkeysad: :monkeysad:
-
มา รอ ร๊อ รอ อีกหนึ่งวัน ^^
มาเร็วๆน๊าาา
คิดถึงๆ
-
ครบรอบอีกหนึ่งวัน มารอปาจาครับ
-
อ่านกันก่อน@@@
การทำหนังสือเรื่อง 'เพราะรัก..จึงเปลี่ยนได้' ที่โพสฯ จบไปแล้วของพี่วี
ทางลักษ์และทีมงานได้นำกลับมาเริ่มทำเองแล้ว เพราะฉะนั้นผู้ที่สนใจจองหนังสือ
เคยจองไว้กับทางเล้าฯ และผู้ที่ไม่ทันจอง อยากจะได้หนังสือไว้ด้วย ให้ส่งเมลล์มาลงชื่อได้ที่
luxilove_19690 แอท hotmail ดอท com
หลังจากติดเบนเนอร์แจ้งเปิดโอนเงินเมื่อไหร่ จะแจ้งให้ทราบอีกที คาดว่า ต้นเดือน พฤศจิกายนจะเรียบร้อยทุกอย่าง
พลาดแล้วพลาดเลย เพราะเรื่องนี้ไม่เน้นจำนวนผลิต ทำครั้งเดียว รอบเดียว ไม่มีรีปริ๊น ที่สำคัญไม่ต้อง
PM ถามข้าพเจ้าหลังไมค์แล้วนะคะ เชิญทุกท่านอ่านตรงนี้แล้วรบกวนท่านปฏิบัติตามด้วย
ข้าพเจ้าต้องกราบขอโทษที่ทำให้หลายท่านรอคอยหนังสือนาน แต่ครั้งนี้ไม่ล้มเหลวแน่นอน
หวังว่าการขออภัยมา ณ ที่นี้ จะแทนการขอโทษที่ล่าช้าไปมากมาย
Luk.
มนต์มาร
Part 14
แฟนปีศาจรูปงาม.
.
.
.
.
นาฬิกาบอกเวลาเกือบสิบโมง พระลักษมณ์ยังนอนอุตุจุมปุกอยู่บนเตียงของปาจาไม่รู้เรื่องรู้ราว
เจ้าของห้องล่องหนออกไปตั้งกะเจ็ดโมง ยังมีน้ำใจบอกนมอ่อนทำอาหารพิเศษเตรียมบำรุงหน่วยสืบราชการลับที่เพิ่งเจอ
ของลับไซส์พิเศษจนนอนหมดสภาพไว้ให้อีกตะหาก
ที่พระลักษมณ์หลับเป็นตายก็เพราะว่า ทั้งปาจาและธรรมตรัยไม่ได้บอกความจริงกับ
พระลักษมณ์ทั้งหมด พิธีล้างอาถรรพ์มนต์มารในคืนพระจันทร์เต็มดวงผลลัพธ์ที่ตามมาอีกข้อคือ หลังเสร็จกิจร่างแฝงปีศาจ
จะสดชื่นกระปรี่กระเปร่าเหมือนได้พลังทิพย์บำรุงกาย ตรงข้ามร่างแฝงเทพจะหมดแรงเหมือนโดนสูบพลังมหาศาล
ทั้งนี้เพราะพลังส่วนเทพจะชะล้างจิตมารให้ใสสะอาด จึงทำให้สูญเสียพลังมากกว่าการร่วมรักแบบปกติ
ดังนั้นสภาพของสองคนหลังภารกิจจึงแตกต่างกันสิ้นเชิง ไม่ถึงห้านาทีปาจากระชุ่มกระชวย
แบกพระลักษมณ์เดินกลับห้องโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ในขณะที่อีกคนหลับคาหลังคนแบก เค้าพาไปไหนไม่รู้เรื่อง
กระทั่งสายปานนี้ยังไม่รู้สึกตัวตื่นมาเลย
จนพระอาทิตย์ขึ้นสูงกลางศรีษะแล้วนั่นแหละ แพรขนตายาวถึงเริ่มขยับยุกยิก ก่อนจะค่อย
ปรือตาตื่นอย่างเพลียสุดๆ ใบหน้าซีดเหมือนคนเพิ่งฟื้นไข้ พอจะขยับร่างกายกลับรู้สึกปวดร้าวไปทั่วสรรพางค์
กัดกรามกรอดสบถอยู่คนเดียว
“อูยแม่งเอร้ย! ให้ได้อย่างนี้สิล่อซะปวดไปทั้งตัว เฮ้อ!.” ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะฝืน
ขยับยืดเส้นยืดสาย อาศัยร่างกายที่แข็งแรงเคยผ่านการฝึกหนักมาไม่น้อย ทำให้พระลักษมณ์สามารถลุกขึ้นยืนในที่สุด
แม้จะรู้สึกทรมานบ้างแต่ก็พอทนได้ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
หลังยืดกล้ามเนื้อผ่อนคลายจนเริ่มดีขึ้นมากแล้ว จึงใช้สายตาสำรวจไปทั่วห้อง เพิ่งรู้ว่าไม่ได้อยู่
ในห้องปูนดิบไร้หน้าต่างเหมือนเช่นเคย กลับเป็นห้องนอนกว้างเตียงบาหลีสี่เสามีผ้าระบายสีขาว แถมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง
ยังหรูหราคลาสสิคด้วยสไตล์เครื่องไม้สวยงามจนน่าทึ่ง นี่คือห้องนอนในเรือนไทย แต่ก็ยังไม่ได้คำตอบว่าเป็นห้องใคร
ก่อนจะเหลือบเห็นรูปเจ้าของห้องสวมเครื่องแบบตำรวจสากลดาวบนบ่าระดับพันตำรวจโทตั้งอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง
ยศสูงเสียด้วยสิ
ชัดแจ้งแดงแจ๋ขนาดนี้ ไม่ต้องคิดให้เปลื้องสมองว่าเป็นห้องใคร แต่ที่ยังสงสัยแอบตั้งคำถาม
ทำไมปาจาถึงพามานอนในห้องเจ้าตัว แถมยังไม่มีพันธนาการอีกตะหาก หรือหลังเสร็จภารกิจระดับชาติแล้วยอม
ผ่อนปรนให้ด้วย ความจริงพาไปนอนที่ห้องเดิมก็ได้นี่ เอาเหอะจะห้องไหนไม่สำคัญ รู้แค่ว่าตอนนี้ท้องเริ่มประท้วงแล้ว
มื้อเช้ามื้อเที่ยงรวบยอดเลยดีกว่า
ก้มสำรวจตัวเอง สวมชุดนอนกางเกงผ้าฝ้ายเข้าชุดกับเสื้อแม้จะไซร้ใหญ่อยู่มากแต่ก็ไม่น่าเกลียด
มั่นใจเต็มร้อยว่านี่คือชุดเจ้าของห้องที่เปลี่ยนให้ชัวร์ กะจะเปิดประตูออกไปพลันต้องหยุดเท้าไว้ฉับพลัน เมื่อฉุกคิดขึ้นว่า
ไม่แน่เกิดใครเห็นตนออกจากห้องปาจา แถมสวมชุดนอนเจ้าภาพอีก จะตั้งคำถามและสงสัยกันมากแค่ไหน
เรื่องนี้ปาจากับธรรมตรัยแพร่งพรายใครบ้างยังไม่รู้ เท่าที่ฟังจากปาจา มีแค่ธรรมตรัย กายันต์และ
นมอ่อน สิตากับหนูผาไม่ได้รู้เรื่องนี้รวมทั้งคนใช้ในบ้านและคนอื่นๆ เพราะงั้นไม่ประมาทดีกว่า เจอคนเหล่านี้คงได้ตอบคำถาม
ชวนปวดหัวแน่ๆ เอาเหอะรอเจ้าภาพก่อนค่อยว่ากันทีหลัง
ไม่เสียเวลา ถือโอกาสเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าเช็ดตัวซึ่งพับเรียงกันเป็นตับบนชั้น เดินแอ๊บเนียน
แม้จะไม่คล่องปรื๋อเหมือนเคย เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวรอไปพลางๆ ก่อน
พระลักษมณ์ใช้เวลาอาบน้ำ ชำระร่างกายให้สดชื่นเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะโผล่ออกมาด้วยสภาพ
ผมยังเปียกอยู่เลย นุ่งกางเกงนอนตัวเดียวเปลือยช่วงบนอย่างเซ็กซี่เพราะรอยจูบคิสมาร์คจากบทรัก
อันเร่าร้อนสดๆ ซิงๆเมื่อคืนนี้
พลันต้องหยุดยืนนิ่ง เมื่อสายตาสบเข้ากับเจ้าภาพซึ่งนั่งไขว้ห้างที่เก้าอี้รับรองมุมห้องจ้องอยู่ก่อนแล้ว
แม้ปีศาจรูปงามจะวางหน้านิ่งทำฟอร์มเหมือนเดิม แต่สายตาไม่ได้ชวนหนาวอย่างที่เคยรู้สึก ตรงข้ามระริกไหวพาให้คน
ที่เพิ่งโผล่หัวออกมาหน้าร้อนอย่างไม่มีเหตุผล ต้องทำเป็นชวนคุยแก้อาการที่ว่าก่อนจะไปไม่เป็นเพราะอาการแปลกๆ
ที่เกิดขึ้น
“เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่ขออนุญาตก่อน เกิดผมโป๊ทุเรศลูกตาขึ้นมาโทษกันไม่ได้นะ”
ไม่พูดยังดีกว่า นึกได้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว
“นี่มันห้องผม ต้องขออนุญาตด้วยหรือ ความจริงผมเคาะประตูแล้วคุณคงไม่ได้ยิน ทำไมครับ
โป๊ต่างกับที่คุณเปลือยช่วงบนตอนนี้เท่าไหร่กัน นอกจากจะไม่ทุเรศแล้วน่ามองดีออก” คำตอบของเจ้าภาพรูปหล่อที่สวนมา
พาเอาหน้าที่เริ่มร้อนทะลุองศาเดือดจนหูแดงแก้มแดงเก็บอาการไม่อยู่ไปเสียแล้ว
“อะไรอย่ามาหยอด ไม่เข้ากับบุคลิกคุณซักนิด ที่แน่ๆ ไม่เหมาะใช้กับผมอย่างแรง ผมไม่ใช่สาวๆ
ไม่ชอบให้หยอด ทราบว่าคุ้มดงพญาไม่ได้ขายขนมครกสักหน่อย” พระลักษมณ์โต้กลับน้ำขุ่นๆ นึกคำพูดไม่ออก
ที่ทำไปทั้งหมดแค่หาเกราะกำบังตัว เพราะใจไม่รักดีดันรัวกระหน่ำกลัวคนตรงหน้าจะได้ยิน
นอกจากเจ้าคุ้มรูปงามปีศาจหน้าตายจะไม่สะทกสะท้านแล้ว เจ้าตัวยังลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
ก้าวอย่างมั่นคงเข้ามาจนใกล้ร่างโปร่งที่พยายามไม่สบตาด้วย ถือโอกาสฉวยผ้าเช็ดตัวที่เตรียมจะเช็ดผม ไปโยนใส่ตระกร้า
ในห้องน้ำหน้าตาเฉย พร้อมกับเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบเสื้อยืดกางเกงสามส่วนแบบยางยืดแถมผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวติดมือมาด้วย
ก่อนจะดันหลังพระลักษมณ์ที่มองการกระทำของปาจาอย่างเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างให้นั่งเก้าอี้
เสร็จแล้วเจ้าตัวก็อ้อมไปด้านหลัง ค่อยบรรจงเช็ดผมให้อย่างเบามือ พาเอาพระลักษมณ์ซึ่งปั้นหน้าไม่ถูกเป็นทุนอยู่แล้ว
ยิ่งแดงแปร๊ดเข้าไปใหญ่ ปากเจ้ากรรมกับคำพูดมากมายหายหมด ปล่อยให้ปาจายืนเช็ดผมให้ยังกะหุ่นขี้ผึ้งซะงั้น
ทั้งคนเช็ดและคนยอมให้ทำไม่มีใครพูดสักคำ บรรยากาศเงียบจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง
แม้จะอยู่กันเงียบๆ แต่ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านการเทคแคร์ของปาจาถึงแม้แค่การเช็ดผมก็เถอะ เจ้าคุ้มรูปงามไม่เคยทำ
ให้ใครมาก่อนนอกจากหนูผาลูกสาวตัวน้อยเท่านั้น
และคนที่นั่งเป็นหุ่นให้เช็ดอยู่หละ ตั้งแต่โตเป็นหนุ่มโลดโผนอยู่กับอาชีพเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย
ยังไม่เคยมีใครใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวมาก่อนด้วยซ้ำ คำตอบคงมีในใจของทั้งสองนั่นแหละ อยู่ที่ว่าจะค้นหามันต่อหรือไม่
กระทั่งผมที่หมาดแห้ง ทรงรากไทรทำให้หัวทุยสวยของพระลักษมณ์ขับหน้าใสจนคนมอง
ยากที่จะละสายตาได้ ปาจายื่นเสื้อยืดกับกางเกงให้พระลักษมณ์ พร้อมพูดขึ้นว่า
“เปลี่ยนซะ แล้วไปกินข้าวกับผม” ง่ายๆ สั้นๆ ได้ใจความ แต่ร่างโปร่งยังมีคำถามกลับ
“เลยเที่ยงจวนบ่ายแล้ว อาหารคุ้มดงพญาขึ้นโต๊ะต้องตรงเวลาไม่ใช่?” แม้ท้องคนถามจะหิว
จนกินช้างได้ทั้งตัว ยังอดเหน็บเจ้าคุ้มหน้าคมจนได้
“หึหึ! ไม่ผิดอาหารเที่ยงของคุ้มดงพญาเลยเวลาไปแล้ว ผมชวนคุณทานกับผมไม่ได้บอกให้
ตั้งโต๊ะสักหน่อย ผมให้คนจัดในไร่ไว้แล้ว เดี๋ยวพาไป” พูดจบพยักหน้าให้พระลักษมณ์เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่คนรับสาร
กลับนั่งมึนไม่ขยับ จนต้องสะกิดด้วยคำพูดอีกครั้ง
“หรือไม่ไปดี เรามาทำอย่างอื่นแทนเห็นคุณในชุดนี้ทำให้ผมอยากจะ....” ไม่อยากเชื่อ
เจ้าคุ้มรูปหล่อหน้าตาย กลับส่งสายตาวิบวับยกยิ้มหื่นแทนคำพูดที่ละไว้ พาเอาพระลักษมณ์นึกอยากโดดถีบเข้าให้
หมั่นไส้ท่าทางไม่ชินตาของปาจาจนรู้สึกขัดลูกตาพิลึก
“พอๆ คุณจา เปลี่ยนก็เปลี่ยนขอร้องช่วยหยุดพฤติกรรมที่ผมไม่คุ้นทีเหอะ เห็นแล้วขนลุกพิลึก”
แม้ปากจะพูดแต่หน้ากลับแดงเหมือนเลือดมารวมอยู่จุดเดียว ปาจากลั้นขำท่าทางของพระลักษมณ์ก่อนจะพูดกวนมาอีกว่า
“แค่ขนลุกอย่างเดียว แน่ใจอย่างอื่นไม่ลุกตามด้วย” พระลักษมณ์อ้าปากค้างหน้าเหวอเพราะคำพูด
ที่ไม่คิดว่าปาจาจะกล้าให้หลุดปาก ท่าทางที่แสดงออกทำให้ความพยายามกลั้นขำของเจ้าคุ้มหมดลงในที่สุด
ต้องหลุดหัวเราะจนได้
“หึหึหึ! ไม่ต้องทำหน้าสุขสมขนาดนั้น เห็นแล้วไม่ได้เร้าอารมณ์ให้ผมคึกเลย ตรงข้ามคุณเหมาะไปเล่น
ตลกใบ้มากกว่า ชวนขำได้โดยไม่ต้องพูด ฮ่าๆๆ!!” จบประโยคสุดท้าย ยิ้มกว้างหัวเราะร่าที่เห็นพระลักษมณ์หน้าเขียวหน้าแดง
ตาโตวาวดุเพื่อขู่ปาจาให้หยุด แต่กลับจี้ต่อมขำจนคนมองหัวเราะน้ำตาเล็ด ไม่นึกมาก่อนว่านานแค่ไหนแล้วที่ตน
ได้ปลดปล่อยหัวเราะแบบนี้ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ ร่างโปร่งที่อยู่ตรงหน้าแทบไม่ต้องทำอะไรเลย กลับทำให้ตนทั้งขำทั้งตลก
จนกลั้นไว้ไม่อยู่ถึงกลับหัวเราะน้ำตาเล็ด
“เอร้ย! ถ้าไม่หยุดผมถีบคุณจริงๆ บ้าชะมัด! ประสาทหรือเปล่าเส้นตื้นยังกะคนปัญญาอ่อน”
พระลักษมณ์อดไม่ได้ว้ากใส่ด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่เห็นปีศาจรูปหล่อ หัวเราะขบขันใส่ตน
“คนปัญญาอ่อนเส้นตื้นทุกคนเลยหรือ ทฤษฎีไหนของคุณเพิ่งเคยได้ยิน ออทิสติกบางคนต่อให้
เล่นตลกให้ดู เค้ายังไม่ยอมหัวเราะด้วยซ้ำ ผมว่าคุณเปรียบเทียบไม่ตรงความจริง เสียชื่อหน่วยพิเศษหมด” บทจะวิชาการ
พ่อก็มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย พระลักษมณ์กัดปากแน่นก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมกับเสื้อยืดกางเกงสามส่วนนั่นแหละ
ขืนอยู่ต่อไม่ใครก็ใครคงได้เจ็บตัวกันไปข้าง
ให้ตายไม่อยากเชื่อว่าหลังพิธีล้างอาถรรพ์ มนต์ปีศาจจะเปลี่ยนเจ้าคุ้มน้ำแข็งให้กลายเป็นคน
กวนประสาทได้ขนาดนี้ วาจาที่พ่นจากปากพาเอาพระลักษมณ์ใบ้แดกอีกตะหาก เจ็บใจชะมัดโต้กลับไม่ได้สักแต้ม
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
อาหารเช้ารวบมื้อเที่ยงของพระลักษมณ์ มีคนทานร่วมคือปีศาจรูปงาม ถูกเตรียมไว้ใต้ต้นหูกวาง
ขนาดใหญ่แผ่กิ่งก้านบังแดดจนร่มรื่น ที่น่าทึ่งมีเพียงต้นเดียวขึ้นโดดเดี่ยวอยู่บนเนินเขาซึ่งแวดล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าสุดลูกหูลูกตา
เป็นทุ่งโล่งไว้สำหรับเลี้ยงวัวนม เสริมบรรยากาศด้วยลมโชยต่อเนื่องไม่ขาดสาย เหมือนทุ่งกว้างในหนังคาวบอย
ตอนพระนางแอบพลอดรักกันใต้ต้นไม้เป๊ะ
พระลักษมณ์คิดถึงตรงนี้หูแดงหน้าแดงเถือก ต้องรีบดึงความคิดกลับให้ไวสลัดความคิดเดิมให้หลุด
อาศัยมองเสื่อผืนใหญ่ปูทับด้วยพรมเปอร์เชียหนานุ่มสีน้ำตาลอ่อน มีโต๊ะไม้แบบนั่งพื้นพร้อมเบาะผ้าสีส้มวางตรงข้ามกัน
บนโต๊ะประกอบด้วยอาหารสำหรับสี่ห้าคนทาน
แกงส้มดอกแคกุ้งสด ไข่ยัดไส้ เสือร้องไห้ ผัดเห็ดเข็มทองแครอท ไก่ดำตุ๋นยาจีน
ข้าวสวยร้อนๆ สละลอยแก้ว โกโก้เย็น ฯลฯ
รายการอาหารที่ว่าตกแต่งสวยงามยังกะภัตตาคารชั้นยอด น่ากินจน พระลักษมณ์อดกลืนน้ำลาย
ลงกระเดือกไม่ได้ ปาจาเห็นท่าทางหิวจนออกอาการของพระลักษมณ์จึงพูดขึ้นว่า
“ให้เกียรติทานกลางวันกับผมนะผู้กองหน่วยพิเศษ วิษณุทรงพล” ที่ปาจาพูดมา ถูกต้องทั้งตำแหน่ง
และรหัสส่วนตัวของพระลักษมณ์ วิษณุทรงพล (พระนารายณ์หรือพระวิษณุคือองค์เดียวกันแล้วแต่จะใช้เรียก)
ทำให้พระลักษมณ์เลิกคิ้วมองปาจานิ่งแทนคำถาม แต่ปาจายิ้มอย่างหล่อแสดงความจริงใจ ก่อนจะผายมือเชิญให้ลงนั่ง
เมื่อพระลักษมณ์ยอมนั่งลงเรียบร้อยแล้ว ปาจาก็นั่งตามพร้อมหยิบผ้าเช็ดปากคลี่ส่งให้พระลักษมณ์
ปูรองบนตัก บริการยิ่งกว่าแขกวีไอพี ทำเอาคนถูกบริการปั้นหน้าไม่ถูก ต้องตั้งคำถามหาเรื่องชวนคุยก่อนจะเขินจนลืมหิว
“คุณสืบข้อมูลส่วนตัวผมสินะ ไม่อยากเชื่อว่าข้อมูลลับเฉพาะของผมซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามและไม่มี
บุคคลภายนอกทำสำเร็จมาก่อน จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป” พระลักษมณ์พูดพร้อมกับจ้องปาจานิ่งรอฟังคำตอบ
แต่เจ้าคุ้มรูปงามกลับยิ้มเสน่ห์ส่งมาแทน แถมตอบไม่ตรงคำถามอีก
“คุณอยากรู้อะไร เรามีเวลาคุยกันอีกนาน แต่ตอนนี้ผมหิวแล้วลงมือทานก่อนเถอะ อาหารไม่ร้อน
ไม่อร่อยนะ” พูดจบ บริการตักข้าวสวยร้อนๆ ในโถใส่จานให้ตะหาก พระลักษมณ์เลยต้องลงมือทานไม่ลีลาท่ามากแล้ว
เพราะตนก็หิวเหมือนกัน อาหารมื้อนี้ได้ทั้งบรรยากาศ สถานที่ และรสชาติ ทำให้ทั้งสองคนเจริญอาหารอย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่ถึงสิบนาทีทุกอย่างแทบเกลี้ยง ก่อนจะยกน้ำเปล่าดื่มปิดท้าย แล้วค่อยล้างปากด้วยโกโก้เย็นอีกคนละแก้ว
เมื่ออิ่มท้องเป็นที่เรียบร้อย พระลักษมณ์ทวงสัญญาที่ปาจารับปากไว้ ถามขึ้นทันที
“เอาหละ ผมขอคำตอบก่อนหน้าด้วย เล่ามาทุกเรื่องห้ามปิดบังเด็ดขาด” พระลักษมณ์พูดจบ
ปาจาส่งยิ้มให้อีกพักนี้คนหน้าตายแจกยิ้มพร่ำเพรื่อ ในขณะที่พระลักษมณ์คนเคยยิ้มง่ายครื้นเครงเป็นนิสัย
กลับหน้าแดงแทนหน้าระรื่นอย่างเคย ตาลปัตรกลับกันไปหมด
“อืม..ผมให้สายงานเก่าที่อังกฤษสืบให้ ผมรู้ประวัติคุณตั้งแต่เกิดยันปัจจุบัน พ่อแม่พี่น้องญาติโกโหติกา
รู้หมดแล้ว พอใจในคำตอบหรือยัง?” ปาจาถามพระลักษมณ์กลับ
“ยัง ผมอยากรู้คุณทำเพื่อ ในเมื่อผมทำในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ ถึงเวลาที่ผมตะหากที่ต้องให้คุณ
ร่วมมือจับฆาตกรเพื่อปิดคดีที่ผมสืบ” พระลักษมณ์บอกข้อเรียกร้องแต่กลับได้ฟังสิ่งอื่นแทน
“ผมต้องรู้จักครอบครัวแฟนเอาไว้ ส่วนเรื่องฆาตกรถึงคุณไม่บอกผมก็เตรียมจัดการอยู่แล้ว รอกายันต์ล้าง
อาถรรพ์และผมมีอาวุธทำลายมันเสียก่อนผมจัดการแน่ คุณลืมไปแล้วสิว่ามันฆ่าคนบริสุทธิ์ในคุ้มของผมไปถึงหกคน”
ไอ้ที่พูดมาตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะเนียนแต่พระลักษมณ์ก็ยังไม่เคลียร์ประโยคแรก ครอบครัวของแฟน ตรงนี่แหละที่สะดุดหู
จนอดไม่ได้ย้ำถามอีกครั้ง
“ไอ้เรื่องฆาตกรผมเคลียร์ตามที่บอก แต่ที่คาใจคุณอยากรู้จักครอบครัวแฟนตัวเองนี่สิ เกี่ยวไรกะเรื่อง
ที่เราคุยกัน แฟนคุณมาเกี่ยวไรด้วยผมงง?” ปาจาแทบจะหลุดขำอีกรอบ กับหน้างงจนน่าฟัดของพระลักษมณ์
ที่แสดงออกไม่ปิดบัง
“หึหึ! ผมคงพูดไม่เคลียร์รอบนี้เอาชัดๆ เนอะ ที่ผมแอบสืบประวัติคุณทั้งหมด เพราะผมต้องทำ
และสมควรทำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อต้องไปขอลูกชายเค้ามาเป็นแฟน ไม่รู้ตื้นลึกไรเลยคงโดนปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก
นั้นคือเหตุผลไม่ใช่เรื่องเลวร้ายคุณสบายใจได้เลย” ปาจาพูดหน้าระรื่น แต่คนฟังพอเข้าใจความหมาย
เหมือนคนขี้ไม่ออกไปซะงั้น ก่อนจะเก็กเสียงเข้มใส่เจ้าคุ้มรูปหล่อที่ลันล้าจนน่าถีบกลับไปทันทีว่า
“คุณคิดบ้าไรเนี่ย! ผมไปตกปากรับคำคุณเมื่อไหร่อย่ามั่วนิ่ม ห้ามทำอย่างที่พูดเป็นอันขาด
ไม่งั้นเจอดีแน่” แม้จะขู่แต่ปาจาหากลัวไม่ ยังอมยิ้มพูดต่ออีกว่า
“คุณไม่ได้แค่ตกปากรับคำผมหรอก แต่คุณตกเป็นของผมแล้วตะหาก อีกอย่างที่ไม่ได้บอก
ผมเป็นคนหวงของด้วยสิ นับประสาอะไรกับคุณที่ไม่ใช่สิ่งของแต่เป็นคนรักของผม ทำไมผมจะใช้สิทธิ์อันพึงมี
ไปขอพ่อตาไม่ได้เล่าครับ” ตอนนี้พระลักษมณ์โกรธจริงด้วย จากแค่กรึ่มๆ ถึงกับลุกพรวดยืนค้ำหัวคนพูด
ขบกรามกรอดกำมือแน่น แล้วตวาดลั่นทุ่งใส่หน้าปาจาอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ออกไปทันที
“คุณจา!! อย่ามางี่เง่ามัดมือชกผมนะ ขอเตือนไว้ก่อน คุณจะนึกสนุกอะไรก็ตาม แต่เรื่องนี้
อย่ามาล้อเล่นเป็นอันขาด” ให้ตายสิ! พูดมาได้ไม่ทุกข์ร้อนสักนิด หน้าระรื่นมีความสุขมากมาย แต่พระลักษมณ์ขนหัวลุกเด่
ขืนหัวหน้ารู้ว่าลูกชายมาปฏิบัติงานครั้งนี้ได้ผัวเข้าบ้านเป็นของแถม รับรองได้หัวร้างข้างแตกแน่
ดีไม่ดีหามส่งโรงบาลกันเลยเชียวหละ
“ผมไม่ได้เล่นผมพูดจริงทำจริง เสร็จเรื่องฆาตกรแล้วผมจะไปพบพ่อคุณกราบขอขมาท่าน
เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ท่านรับรู้โดยไม่ปิดบัง ผมตั้งใจไม่ได้พูดเล่น” คราวนี้พระลักษมณ์ไปไม่ถูก เมื่อปาจา
ลุกขึ้นยืนประจันหน้า ร่างสูงใหญ่ข่มจนพระลักษมณ์ที่คิดว่าตนไม่เคยกลัว ยังรู้สึกเกรงท่าทางจริงจังของปาจา
ที่จ้องตานิ่งยืนยันคำพูดหนักแน่น
“คุณทำอย่างนี้เหมือนแบล๊กเมล์ผมชัดๆ คิดจะเอาเรื่องที่ผมช่วยคุณมาเป็นข้ออ้างแล้วละก็
อย่าหวังว่าผมจะยอมเป็นอันขาด คนอย่างผมไม่ชอบวิธีการที่คุณทำสักนิดไม่องอาจเปิดเผย อาศัยความได้เปรียบเข้าว่า
บอกตรงๆ ต่อให้ผมเสียชื่อก็ไม่มีทางก้มหัวให้คุณ” พระลักษมณ์ยืดอกขึ้นพูดกระแทกใส่หน้าปาจาอย่างไม่ยอมแพ้
“ผมไม่เคยคิดจะเบล็คเมล์หรือมัดมือชกคุณแม้แต่น้อย หากคุณไม่ด่วนใจร้อนขึ้นก่อน
ผมกะทำให้ถูกวิธีอยู่แล้ว” ปาจายังใจเย็นพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มนิ่ง ไม่ได้ตอบโต้พระลักษมณ์ด้วยความรุนแรง
เหมือนคนร่างโปร่งทำ ถ้าเป็นคนอื่นสาบานได้ไม่มีทางตะคอกใส่หน้าปาจาแล้วยังยืนอยู่ได้หรอก
เก็บศพส่งตั้งแต่ประโยคแรกที่เริ่มแล้ว
“ฟังผมนะคุณจา สมมติผมมีใจให้คุณจริงผมก็ทำใจรับวิธีการที่คุณทำไม่ได้ มีอย่างทีไหน
ตบหัวแล้วลูบหลัง คุณมีอะไรมายืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น หากผมไม่ได้รู้ความจริงจากปากคุณเสียก่อน
ผมคงเป็นไอ้โง่สักตัวที่โดนคุณปั่นหัวเล่น คนที่จะเป็นแฟนกันอย่างน้อยมันต้องรู้สึกรักกัน ไม่ใช่คิดตื้นๆ แบบคุณ
นี่อะไร คุณเล่นไม่ถามผมสักคำวางแผนเสร็จสรรพ สำคัญตัวคุณเองเหอะรักผมเข้าหรือไง
ถึงกล้าพูดแบบนี้ เคยบอกผมเหรอว่าคุณรักผม นึกเองเอ่อเองไม่เรียกเบล็คเมล์จะให้เรียกว่าอะไร หรือต้องบอกเผด็จการ
ไม่ว่าจะมารูปแบบไหน ขอโทษใช้กับผมไม่ได้ลืมไปได้เลย” พระลักษมณ์ควบคุมอารมณ์ลงมาก ก่อนจะพูดยาวเหยียด
เตือนสติปาจาให้ได้คิด ตรงข้ามเจ้าคุ้มรูปงามกลับยืนสองมือล้วงกระเป๋าฟังซะนิ่ง ไม่โต้แย้งจนพระลักษมณ์พูดจบ
ถึงได้พูดขึ้นบ้าง
“ฟังนะ คุณดูบรรยากาศทานข้าวมื้อนี้เหมือนออกเดทหรือเปล่า นั่นคือความตั้งใจแรกของผม
อย่างพวกเราต้องให้พูดด้วยเหรอว่าผมขอคุณเดท ถ้าคุณต้องการอย่างนั้นผมว่าไม่เข้ากับคุณสักหน่อย ความจริงแล้ว
ผมมีคำพูดที่ดีกว่าการขอเดท กะทานข้าวเสร็จผมถึงจะบอก แต่คุณดันโวยวายขึ้นมาก่อน คุณตะหาก
ที่คิดเองเออเองเสร็จสรรพ ผมไม่ใช่เด็กถึงได้ไม่คิดก่อนทำ เพราะงั้นฟังให้ดีนะพระลักษมณ์” พูดจบปาจาคุกเข่าลง
ทั้งสองข้าง ใช้การยืนเข่าแทนแล้วแหงนหน้าสบตาพระลักษมณ์ สีหน้าท่าทางแววตาที่ถ่ายทอดออกมาพาเอาพระลักษมณ์
รู้ทันทีว่าต่อจากนี้ปาจากำลังตั้งใจจะทำอะไร
ใจเต้นรัวกระหน่ำอย่างกะกองเพล ไม่คิดว่าเข่าทองคำของลูกผู้ชายที่น้อยคนจะยอมคุกลงให้ใคร
ยิ่งปาจาเจ้าคุ้มผู้หยิ่งยโสทรนงยังกะอะไรดี จะยอมคุกเข่าลงตรงหน้าตน ปากกำลังจะเอ่ยห้ามแต่คงไม่ทันซะแล้ว
วาจาที่ไม่คิดว่าสมควรได้ยินเปล่งออกจากปากหนาของคนรูปหล่อหน้าคมเข้มเสียแล้ว
ต่อด้านล่าง
-
- 3 -
“พระลักษมณ์ผมรักคุณ เป็นแฟนผมนะ” พระลักษมณ์อึ้งเหมือนโดนสะกดไปแล้วจริงๆ นี่มากเกินไป
ให้ตายเถอะในหัวตีกันวุ่นไปหมด คนที่คุกเข่าไม่ยอมเสียเวลารอคำตอบ ถือโอกาสล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกล่องไม้
ขนาดเล็กเปิดฝาหยิบเอาแหวนทองคำขาวกลมเกลี้ยง แต่มีลวดลายสลักไว้รอบวงเป็นอักขระขอมโบราณที่ไม่สามารถ
รู้ความหมายออกมา
ก่อนจะฉวยมือซ้ายพระลักษมณ์ซึ่งยืนเป็นหุ่นไปแล้ว จับสวมเข้ากับนิ้วนางอย่างพอเหมาะพอดี
แบบไม่ต้องวัดนิ้วกันเลย พระลักษมณ์จึงหายมึนกะพริบตาก้มมองนิ้วที่สวมแหวนก่อนจะมองหน้าปาจากำลังจะ
อ้าปากปฏิเสธ แต่ปาจาชิงลุกขึ้นสวมกอดแล้วกระซิบใส่หูด้วยเสียงทุ้มนุ่ม
“คุณไม่ต้องปฏิเสธผมหรอกพระลักษมณ์ อย่าเอาทิฐิเป็นที่ตั้ง ผมรู้ว่าหัวใจคุณเป็นของผม
ตั้งแต่ผมจำความได้ปู่ซึ่งเป็นร่างมารบอกผมเสมอก่อนจะตัดสินใจยกแหวนวงนี้ให้ มันอยู่กับผมมายี่สิบห้าปีอักขระขอม
บนตัวแหวนสามารถป้องกันมนต์มืดได้ คุณจะปลอดภัยจากไสยศาสตร์มนต์ดำตราบใดที่สวมแหวนนี้ไว้กับตัว
เพราะงั้นนอกจากเป็นแหวนแทนใจแล้ว ผมห้ามคุณถอดออกเด็ดขาดรับปากผมนะ
คุณเป็นของผมแล้วพระลักษมณ์ เราถูกส่งมาเป็นของกันและกัน ทั้งคุณและผมไม่สามารถ
รักใครได้อีก เชื่อเถอะว่าเมื่อผมได้พบและพูดคุยกับพ่อคุณ ท่านจะไม่ปฏิเสธเรื่องของเรา ดังนั้นเลิกต่อต้านผม
อย่าฝืนใจตัวเอง เพราะมันไม่เกิดผลดีกับเราทั้งคู่” ปาจาพูดในขณะที่ยืนสวมกอดพระลักษมณ์แน่น
ทำให้ร่างโปร่งที่ได้ยินทุกถ้อยคำในโสตประสาท ไม่มีคำพูดต่อต้านแม้แต่แรงขืนกายหนีก็ยังไม่มีเลย
ก่อนปากหนาจะกดจูบลงบนปากบาง อ้อยอิ่งอ่อนโยนเรียกร้องให้พระลักษมณ์เปิดปากให้ลิ้นชื้น
แทรกเข้าไปชิมความหวานในที่สุด พระลักษมณ์ปล่อยให้จูบดูดดื่มวาบหวามชักนำโดยไม่ต่อต้าน พริ้มตาหลับ
ปล่อยสมองขาวโพลนไปตามอารมณ์ ไม่รู้ว่านั่นคือการตอบรับเป็นแฟนโดยไม่รู้ตัว
นั่นสินะ คนเราบางครั้งปากอย่างใจอย่าง ทางที่ดีอย่าคิดเยอะ เรื่องบางอย่างใช้ความรู้สึกก็พอ
มันคือคำตอบในตัวอยู่แล้ว....จูบหวานกลางทุ่งกว้าง ช่างได้บรรยากาศหวามไหวในอารมณ์ยิ่งนัก....?????????????
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ส่งกำลังใจกดเป็ดให้ข้าพเจ้า :pig4:
ขอบคุณปาจา ที่ทำให้ข้าพเจ้ายิ้มไม่หุบจนมาต่อนิยายให้ทุกท่านได้อ่าน
ขอบคุณที่คอยติดตามทวงถามอย่างไม่ห่างหาย
ขอบคุณที่ร่วมกันรีไพฯ และกดคะแนนบวกให้ตลอดมา
หวังว่าพวกท่านจะส่งกำลังใจให้ข้าพเจ้าเช่นนี้ตลอดไป
Luk. :กอด1:
-
แปะก่อนอ่าน^^
จบตอนด้วยอารมณ์นี้สินะ >>>> :-[
บอกแล้วว่าพระลักษมณ์มาจากหน่วยสวาท ><
อ่านตอนนี้แล้วปาจาดูน่า-รักขึ้นตั้งเยอะ
มาดเจ้าคุ้มน้ำแข็งเย็นชาน่ากลัวหายไปเยอะเลย ชอบค่ะ
อ่อนโยนแบบนี้มีแต่กับคนพิเศษล่ะสิ ^^
ลุ้นให้กายันต์หายไวๆ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ :L2:
เห็นคำผิดด้วย ^^ ช่วยแก้นะคะ
-1-
ไซร้พิเศษ >> ไซส์
ปาจากับธรรมตรัยเพ่งพรายใครบ้างยังไม่รู้ >> แพร่งพราย
แม้จะไม่คล่องปรือเหมือนเคย >> คล่องปรื๋อ
เพราะรอยจูบคริสมาร์ก >> คิสมาร์ค
ยิ่งแดงแปร๋ดเข้าไปใหญ่ >> แดงแปร๊ด
แทนคำพูดทีละไว้ >> ที่
พระลักษมณ์อ้าปากค้างหน้าเหว่อ >> หน้าเหวอ
พระลักษมณ์อดไม่ได้ว๊ากใส่ด้วยอารมณ์หงุดหงิด >> ว้าก
-2-
พระนางแอบพรอดรักกันใต้ต้นไม้แป๊ะ >> พลอดรัก
ไข่หยัดไส้ >> ไข่ยัดไส้
คนหน้าตายแจกยิ้มพร่ำเพรือ >> พร่ำเพรื่อ
กับหน้าแดงแทนหน้าระรื่นอย่างเคย >> กลับ
ใส่เจ้าคุ้มรูปหล่อที่ลันล๊า >> ลันล้า
จนหน้าถีบกลับไปทันทีว่า >> น่าถีบ
ทำไมผมจะใช่สิทธิ์อันพึงมี >> ใช้
จากแค่กรึ่มๆ ถึงกลับลุกพรวด >> กับ
คุณทำอย่างนี้เหมือนเบล็คเมล์ผมชัดๆ คิดจะเอาเรื่องที่ผมช่วยคุณมาเป็นข้ออ้างแล้วหละก็ >> แบล๊กเมล์, แล้วละก็ (คำว่าแบล๊ก อ้างจากคำว่าแบล๊กลิสต์น่ะค่ะ
-3-
ระลักษมณ์อึ้งเหมือนโดนสะกดไปแล้วจริงๆ >> พระลักษมณ์
แต่มีลวดลายสลักไว้ลอบวง >> รอบวง
จูบดูดดื่มหวาบหวามชักนำโดยไม่ต่อต้าน >> วาบหวาม
คนเราบ้างครั้งปากอย่างใจอย่าง >> บางครั้ง
-
o13 เค้าเป็นแฟนกันแล้ว ดีจัง เขินแทนพระลักษณ์จัง
ปล.+1และเป็ดให้คุณลักษณ์นะคะ เดี๋ยวจะไปสั่งจองหนังสือทางเมล์
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
เขินนนนนนน >////<
-
ขอกันแล้ว กริ๊ดดดดดดดดดดดด
-
หวานมาก คลายเครียดหลังสอบเสร็จ
มีความสุขจัง
-
ใช้ความรู้สึกก้อพอ...อิอิ
-
:-[
โดนรวบหัวรวบหางเป็นของกันและกันเสียแล้ว พระลักษณ์ อิอิ
:pig4:
-
หวานได้อีก 5555
-
กรี๊ด...ค่า.น่ารักกันจริง :really2:
-
แวะมาช่วยพระลักษณ์เขิลลลล :-[ :-[ :-[
-
:m1: :m3: :m1: :m3: :m1: :m3: :m1: :m3: :m1: :m3: :m1: :m3:
-
มาแบบหวานๆ
อ่านฉากนี้แล้วหน้าบานมาก :impress2: (ยิ้มไม่หุบ) 555
รอตอนต่อไปนะคะ
-
รักกันๆๆๆ :กอด1:
-
โอวววว มาไว จัดไว เลยคุณจา ว๊าวๆๆ :haun4:
-
หวานมากกกกกกกกกกกกกกกก
มดเต็มคุ้มแล้วมั๊งคะนั้น :laugh: :laugh:
-
:-[ จูบหวานกลางทุ่งกว้าง :-[
-
อั้ยย่ะ
>///////////<
-
พระลักษณ์ไปไม่เป็นกันเลยทีเดียว
เอาล่ะสิ ปกติก็เจ้าชู้อยู่แล้ว
เจอไม้นี้ของปาจาเข้า ทำไงกันล่ะ
กรั่กกกก
-
โรแมนติกจริงๆๆๆๆ
-
:m3:กรี๊ดดดดดด....ให้ดังไปทั้งสามโลก
:m1:หวานๆแบบนี้ชอบมากจริงอะไรจริง
:กอด1:กอดคนเขียนด้วยความรักกกกก
-
เขินๆๆๆๆๆๆ
เจ้าคุ้มน้ำแข็งมีมุมหวานๆๆแบบนี้ด้วย
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
-1-
ไซร้->ไซส์ แดงแจ->แดงแจ๋ ผาดโผน->โลดโผน(ดูดีกว่า) เพ่งพราย->แพร่งพราย
-2-
แป๊ะ->เป๊ะ พร่ำเพรือ->พร่ำเพรื่อ หยัด->ยัด เนี่ยะ->เนี่ย
-3-
กระพริบ->กะพริบ บ้างครั้ง->บางครั้ง
-
ว้าว เป็นแฟนกันแล้ว
-
:กอด1:คุคุ หวานได้อีกกกกกก >< กรีดดดด
-
โอ้ หวานรักกลางทุ่ง =///=
-
:pighaun: จ้ำจี้กันด้วยเลยไหมนั่น
-
:o8: :-[ :impress2:
ให้เป็ด 3 ตัวเลย
:L2: :L2:
-
:-[
น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกก
เค้าชอบหวานๆแบบนี้
-
ลงเอยกันแว้ววว นั่นสิซึนไปก็ไม่ได้อะไร
แต่ปาจานี่ก็มั่นมากเลยนะ โฮะๆๆ
บวกเป็ดๆๆ
-
กรี๊ด! หวานจนแผ่นดินสะเทือน ระวังหนอนบุ้งตกมาจากต้นหูกวางนะจ๊ะ :-[
-
ว้ายๆๆๆ เขินอ่ะ :-[
แต่งดีแบบนี้ ต้องบวกให้อีกเป็ด o13
รีบมาอัพต่อเร็วๆนะคะ :L2:
-
:-[
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เรื่องนี้มัน
มัน
มัน
มันสนุกมากเลยค่ะ
:z3:
แบบว่าอ่านแล้วขอซูฮกให้คุณคนเขียนมากๆเลย
มันแบบว่าไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดยังไงดี
ตั้งแต่น้องตะเกียงก็ว่าแฟนตาซีมากแล้วนะ
เรื่องนี้ยิ่งสุดยอดมากขึ้นไม่รู้กี่เท่า
ตัวเราเองก็เคยเขียนฟิคแนวแฟนตาซีเหมือนกัน
เลยพอจะเข้าใจหัวอกของคนแต่ง
ว่ากว่าจะได้สักบรรทัด
สักตอนนี่มันลำบากมากขนาดไหน
ต้องโค้งคำนับให้คุณ Luk สุดหัวจิตหัวใจค่ะ
:pig4:
ชอบมากจริงๆตามอ่านมาทุกเรื่องแล้วก็จะตามต่อไปค่ะ
กด + ให้ค่ะ
o13
ปลล.เพิ่งจะสังเกตุว่าเราตอบกระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ 444 ของเราพอดี เลขดีเลขสวย
-
ว้าว ๆ ๆ ๆ คุณจาน่ารักชะมัด
-
แอ๊!!!!!! อ่านมาถึงตอนนี้ ลืมคุณปาจาตอนแรกๆไปเรยยย
คนอะไร บทจะหวานก็หวานซะมดท่วมต้นหูกวาง
น่ารักอ่ะ
ยอมๆไปเหอะคุณผู้กองลักษณ์ แอร๊ยยยยยย
-
จริงอย่างที่คุณจา ว่ามา อย่าคิดเยอะเลยพระลักษณ์
-
ขอเป็นคนรักกันแล้ว (โดยที่พระลักษณม์ยังคงมึนๆ อึนๆ อยู่ :laugh: )
ปาจาก็อย่ารวบรัดอะไรมากนักเลยนะ ให้เวลาพระลักษณม์บ้าง ใครจะคิดจะฝันว่าต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้ :really2:
-
หลังจากแอบมาเปิดคอมแล้วเจอก็อยากอ่านมากมาย :o12: แต่ท่านแม่เห็นหายหัวไปนานแสนนานจึงต้องรีบไปก่อน
อ่านไม่ทันจะเสร็จก็เลยต้องมาอ่านใหม่จ้า :-[ สนุกมากๆๆๆๆๆๆ มาต่อได้สมรอคอยอีกแล้ว ฮิฮิ :impress2:
เป็นผู้เขียนที่น่าร้ากที่สุด o13อ่ะนะ ปาจาน่ารักมากๆสุภาพบุรุษสุดๆ เห็นแล้วอยากจะละลาย
แทนพระลักษณ์ แต่ถ้าไม่ได้คู่กันแล้วจะเป็นเรื่องเหรอ??? ทำไมล่ะ???
-
ตอนนี้ หวานมากค่ะ เป็นความรักที่ไม่ต้องมีคำอธิบายเลยค่ะ
เพราะเราเกิดมาคู่กัน
-
หวานล่ะ หวานล่ะ หวานล่ะ
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
//อินไปหน่อย = =
-
พระลักษณ์อึ้งรึว่าเคริ้ม ฮ่าๆๆๆ ปาจาน่ารัก :-[
บวกเป็ดขอบคุณคนเขียนค่ะ :pig4:
-
:impress2: :impress2: ฮ๊ายเขาเป็นเเฟนกันเเล้ว
-
น่ารักมากๆๆเลยค่ะ กรี๊ดดด :z1: :z1: :z1:
-
ตอนนี้หวานมากมาย :กอด1:
-
น่ารักมากค่าหวานซ้าาาาาา ร่วมด้วยช่วย+เป็ดค่ะ o13
-
หวานซะ เขินนะเนี่ย :o8: :really2:
:-[ :-[
-
หวานจนมดขึ้นเลยคุณจา
-
ปาจา หวาน......มาก o13
-
เป็นแฟนกันแล้ว
+1 นะคะ
-
เตรียมเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ละ
อย่างไว :mc4:
-
เธอเป็นแฟนฉันแล้ว รู้ตัวบ้างไหม แล้วเมื่อไรหนอฉันจะได้เป็นแฟนของเธอ :impress:
ปาจา o13 สถานที่ผ่าน บรรยากาศผ่าน ขอเป็นแฟนกันแล้ว มีสวมแหวนด้วย :กอด1:
(อันนี้เขาเรียกว่าหมั้นไม่ใช่เหรอ :m3:)
+1 คร้าบ :กอด1: ให้ลักษ์ด้วย :L2: :pig4:
-
ขอยืมชื่อเรื่องนู้นมาใช้กับเรื่องนี้ซักนิด
" เพราะรักจึงเปลี่ยนได้ " จริงๆ o13
เจอหน้าหล่อๆกับคำพูดหวานๆสะกดจิต พระลักษมณ์จึงตกเป็น(แฟน)ของปีศาจหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
-
เขินค่ะ o13
-
ตอนนี้แอบ(?)หวาน :-[ :-[
-
ได้ยินมั้ยหนูลักษณ์
เค้าบอกว่าอย่ามีทิฐิ อิอิอิ
รับรักเฮียแกเถอะนะ สงสารพ่อปีศาจสุดหล่อ
-
วันที่รอคอยก็มาถึง ว่าแต่จะจัดหนักอีกรอบอะป่าวเนี่ย บรรยากาศเป็นใจเหลือเกิน ล่อใต้ต้นไม้เลย
-
:-[ กวิ้วววววว เค้าจีบกันๆๆๆๆ อิอิ
-
เพิ่งมาอ่าน เรื่องนี้สนุกมากเลยค่า
คนแต่งสุดยอดจริงๆ ชาบูๆๆๆๆ
วันนี้สอบสองวิชาแล้วทำไมมานั่งอ่านนิยาย <<< โฮกกกกกกก!!!
ตั้งใจว่าอ่านตอนแรกพอแล้วค่อยมาต่อ
แต่มันไม่ไหว ต้องอ่านจนหมดเพราะ
มันหยุดไม่ได้ T^T ทุกตอนตื่นเต้น น่าติดตาม ว๊ากกกกก
สุดยอดมากค่า~!!! ปาจาและหนูลักน่ารักมาก
ติดตามเรื่องนี้ค่ะ เป็นกำลังใจให้กับคนแต่ง!
-
+1 ให้คุณ LUK จ้า
หวานซ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :impress2: :impress2:
รอต่อไปจ้า :call: :call:
-
โอยยยยยย ใจจะขาดรอนๆ ปาจากับพระลักษณ์เป็นแฟนกันแล้ววววว
ชอบอ่ะ ชอบมาก ชอบจนอยากจะคลั่งแล้วให้ตายสิ ทำไงดี
อยากอ่านต่อจัง
-
หวานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อ่านแล้วน้ำตาลในเลือดพุ่งเลยอ่ะค่ะ
ในที่สุดก็เป็นแฟนกันแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ
-
จริงอย่างว่า การแสดงความรักได้ดีที่สุดคือการสัมผัส
พระลักมณ์ก็เลิกทิฐิเถอะ เพราะบ้างครั้งมันอาจทำให้เจ็บปวดกันทั้งคู่
ว่าแต่ หลังจากนี้จะไปบอกกะคนที่บ้านยังไงเนี่ยยย
+1 +เป็ดแล้วค่าาา
-
:m3:
:กอด1:
-
มีความสุขจังค่ะ หวานกันมากๆเลย +1 ให้แทนคำขอบคุณนะคะ
-
อ่านรวดเดียวจบเลยทีเดียว ^^ สนุกมากๆค่ะ
ว่าแต่คุณพี่ปาจานี่ไม่โกรธน้องตัวเองหรือคะ ที่แอบตีท้ายครัวซะขนาดนี้ รู้สึกเรื่องพี่น้องคู่นี้ไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่เลย
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
-
ปาจาหวานอย่างแร๊งส์.....เขินแทนเลยอ่ะ :-[
-
หวานนนนนนนนนนน :o8: :o8: :o8: :-[ :-[ :-[
-
น่ารักมากมายเลยจร้า ชอบๆ
-
:myeye: :จ้อบจัง1: :myeye: :จ้อบจัง1: :myeye: :จ้อบจัง1:
ปาจาหวานจนพระลักษณ์ อึ่งเลย :m1:
กดเป็ดแล้วทุกตอนค่ะ
-
อ่านแล้วเขินจัง :-[ หวานมากเลยค่ะ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ตะลุยอ่านทันจนได้
เดี๋ยวตามไปบวกเป็ดให้นะคะ^^
-
อ้ายยยยยย หวานซะ อิจฉาาาาาา :-[ :L2:
-
:catrun:
-
อยากอ่านต่อแล้ว
คิดถึงปาจา ~
-
ตอนแรกอ่านนึกว่าจะน่ากลัวนะเนี่ย อ่านไปอ่านมาลุ้นมากกว่ากลัวไปแล้วอ่ะ
สุดท้ายพระลักษณ์ก็เรียนร้อยโรงเรียนปาจาจนได้ :laugh:เราชอบค่า
มานอนรอตอนใหม่ สู้ๆ :bye2:
-
บอกได้คำเดียว "น่ารัก สนุก หวานซะ"
อ่าวหลายคำแล้วนี่หว่า :o8: :o8: :o8:
-
เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งหลงคุณจา..เป็นพระเอกที่ได้ดังใจมาก..
ไปไหนไม่รอดแล้วพระลักษณ์..รับรักคุณจาซะดีๆ
-
หวานซาาาาาาาา อยากอ่านอีกอ่าาาา รอ รอ รอ รอ รอ ~ ~ ~~~~
-
เขิลล... หวานซะ :o8:
-
โอ้คิดถึ้ง คิดถึงปาจาอ่ะ ฮิฮิพ่อรูปหล่อเมื่อไหร่จามาอ่ะค้าาา
-
:mc4: :mc4:
หนุกอ่ะ
ตามๆจ้าาาาา
เป็นกำลังใจให้คนเขียน สู้ๆ
o13 o13
:pig4:
-
น่ารักๆอ่าตอนนี้ มาอ่านเป็นรอบที่สิบ เอิ๊กๆ
คิดถึงแล้ววววววววว
มาเร็วๆน๊า
-
คิดถึง....กายันต์
(ชอบนิสัยคนนี้มากกกกกกก)
-
โอ๊ย น่ารักมากเรยค่ะ หวานสุดๆ ปาจา โรแมนติกจริงๆนะเนี่ยะ
รอตอนต่อไปค่า เป็นกำลังใจให้นะคะ :กอด1: :กอด1:
-
เกิดมาเป็นคู่กันแล้ว ไม่แคล้วกันนะ ยอมๆเค้าไปเถอะพระลักษณ์ อิอิ
-
หลงรักคุณจากับน้องลักษณ์แล้ว :o8:
อยากอ่านตอนต่อไปไวๆจัง o18
-
มาอ่านเรื่องนี้ซะจบเลยคะ จริงๆ
กำลังอ่านน้องตะเกียงอยู่เพิ่งไปได้ไม่กี่ตอน
เห็นเรื่องนี้เลยแวะมาก่อน
เพราะรู้สึกว่า เรื่องนี้เป็นผู้ใหญ่กว่ามากและยัง
สามารถตามต่อได้สะดวก แต่ละตอนก็ค่อนข้างเยอะอยู่
อ่านแล้วเพลินกันไป
ขอบคุณที่คนเขียนใส่ใจภาษาไทย กลับไปแก้ไข
คำที่ผิดให้ถูกเวลาคนที่มาอ่านตามที่หลังอย่างเรา อ่านแล้วสบายใจมากคะ
-
แวะมารออยู่หน้าคอมจ้าาาา
-
แอบแวะมารอจาปา
:z2:
-
จะอ่านๆ จะอ่าน มาต่อเถอะนะ น๊าๆๆ
-
หายต๋อมมมเล๊ยยยย
รอ ร๊อ รอ
-
จาปาหายไปไหนแล้ว ลักพาพระลักษณม์ไปเดทนานแล้วนะ รีบกลับมาทำพิธีทำลายมารไวๆ นะจ๊า :call:
-
แวะมาโผล่ดูว่ามายังอ่ะ ฮิฮิ ว้าา...คิดถึงปาจาจัง
-
มีคนฟ้องว่า เรื่องนี้ ลงกฏไม่ครบข้อ งั้นขออนุญาตล๊อคกระทุ้ไว้ชั่วคราว จนกว่า จะได้รับการติดต่อจาก จขกท. นะคะ
เจ้สอง
-
ช่วยดัน รอน้องจอมกับบิ๊กบอมครับ
กว่าจะหากระทู้เจอ หล่นไปสุดกู่
-
^
^
^
^
^
^
หุหุ..
หล่นไป ไม่กลัวววว..
ยังตามด้ายยยย
ที่กลัวของจริงน่ะ
มันคือ..SOLO.. :sad4:
-
@@@รบกวนอ่านก่อนให้เข้าใจนะคะ
เปิดโอนสำหรับผู้ต้องการเก็บหนังสือเรื่อง "เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้" ไว้เป็นที่ระลึก
ปิดโอนเงินถึง 10 ตุลาคม 2554 งดจองงดโอน
เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
เรื่องราวความมหัศจรรย์ของความรักที่เปลี่ยนแปลงผู้ชายคนหนึ่งไปทั้งชีวิต
เมื่อนักเรียนทุนผู้อยู่ในกรอบตามแบบแผนของเด็กดี
ต้องมาพบเจอกับเด็กช่างกลรูปหล่อหุ่นล้ำแต่ร้ายกาจสุดขั้ว
....ความสัมพันธ์ทางกายโดยไม่เต็มใจกลับกลายเป็นความผูกพันหัวใจของทั้งคู่
ความรัก...เปลี่ยนจอมวายร้ายให้กลายเป็นคุณชายแสนดี
ความรัก...เปลี่ยนผู้ชายธรรมดาให้กลายเป็นสาวสวยสมบูรณ์แบบ
ความรัก...เปลี่ยนคนเดียวดายให้หายขาดเมื่ออีกคนเข้ามาเติมเต็ม
พบกับรูปแบบความรัก....ที่เปลี่ยนทุกสิ่งได้...มากกว่าที่คุณคิด
เนื้อหาสองเล่มขนาด B6 (เท่าหนังสือการ์ตูน)
หนาเล่มละประมาณ 330 หน้า ชุดหนึ่งมีสองเล่ม
ขายเป็นชุดราคา 700 บาท (รวมค่าจัดส่งทางไปรษณีย์แล้ว)
สนใจโอนเงินตามรายละเอียดด้านล่างค่ะ
รายละเอียดการโอนเงิน:
ธนาคาร.........กรุงเทพจำกัด............สาขา สามแยกไฟฉาย...................
เลขที่บัญชี......159-0775-696...............................
บัญชีออมทรัพย์ชื่อบัญชี....นางสาวกฤติชฌานันท์ ก้อนแก้ว (Kritchayanan)........
หลังจากโอนเงินแล้ว ส่งอีเมล์มาที่ luxilove_19690 แอท hotmail ดอท com พร้อมข้อมูลต่อไปนี้:
Subject: แจ้งโอน เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
ชื่อ+นามสกุล : (ส่งแบบลงทะเบียนรบกวนขอชื่อ-นามสกุลเต็มนะคะ)
จำนวนที่สั่ง : (เช่น 1 ชุด, 2 ชุด etc.)
ที่อยู่สำหรับจัดส่ง : ____________________________
วัน/เวลาที่โอน : ______________________
จำนวนเงินที่โอน : (ถ้าเป็นไปได้ขอให้โอนแบบมีจุดทศนิยม จะได้เช็คง่ายค่ะ เช่น 700.10 หรือ 700.20 บาท)
หมายเลขอ้างอิงการโอน: ____________________
**หรือจะสแกน/ถ่ายรูปสลิปแล้วแนบไฟล์มาก็ได้ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
Luk. :กอด1:
มนต์มาร
Part 15
ยิ้มสะกดของจริง
.
.
.
.
.
พระลักษมณ์ยังอึนๆมึนๆ หลังปาจารวบรัดเป็นแฟนเรียบร้อยโรงเรียนปาจาไปแล้ว ก่อนจะพาแฟนซิงๆ
ไปดูงานในไร่พบปะพูดคุยคนงานกว่าสองพันคน การพาพระลักษมณ์ตะลอนดูกิจการของคุ้มดงพญาครั้งนี้ ถือเป็นการ
เทคแคร์ส่วนตัวครั้งแรกสำหรับเจ้าคุ้มรูปหล่อเลยก็ว่าได้
แลดูใส่ใจเป็นพิเศษสำหรับปาจาที่คอยอธิบายกิจการต่างๆ ให้พระลักษมณ์ฟัง จนคนงาน
พลอยแปลกใจไปตามๆกัน ที่เจ้าคุ้มรูปงามซึ่งปกติออกจะวางตัวจนเคยชินกับบุคลิกหน้านิ่งเป็นกิจวัตร ช่างแตกต่าง
วันนี้สิ้นเชิงเพราะเจ้าคุ้มเล่นยิ้มไม่หุบซะงั้น
ความสุขฉายชัดบนใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทำเอาคนงานสาวๆ แทบละลายตามกันเป็นแถว นับเป็นสิ่ง
มหัศจรรย์ในรอบยี่สิบกว่าปีเลยก็ว่าได้ คนงานเก่าแก่ถึงกับอึ้งพากันชำเลืองมองเจ้านายตนเอง พลอยมุ่งความสนใจไปยัง
หนุ่มร่างโปร่งจนคอแทบเคล็ดไปโดยปริยาย
ทั้งคู่ตกเป็นเป้าสายตาและกลายเป็นจุดสนใจบรรดาคนงานทันที ทุกก้าวย่างที่ตีคู่เดินกันอยู่นั้น
ร่างสูงใหญ่ของปาจาทำตัวสบายแถมอารมณ์ดีอีกต่างหาก หนุ่มหล่อหน้าใสก็คอยซักถามข้อสงสัยด้วยเช่นกัน ยิ่งทำให้
บรรยากาศรอบตัวของทั้งสองเปล่งออร่าปล่อยฟีโรโมนจนยากละสายตาจากได้
ดูผิดวิสัยเข้าไปใหญ่เมื่อเจ้าคุ้มรูปงามไม่ออกอาการเบื่อหน่ายเลยซักนิด กลับยินดีตอบคำถาม
ที่ปากได้รูปสีสดของร่างโปร่งเอ่ยถามทุกประโยคอีกต่างหาก สาวน้อยสาวใหญ่อายม้วนกันเป็นแถว ยามที่ทั้งคู่หยุดแวะ
ซักถามเกี่ยวกับงานที่พวกเค้ากำลังลงมือทำกันอยู่
ร้อยวันพันปีเจ้าคุ้มรูปงามต้นเหตุที่ทำให้สาวๆ มากมายถวิลหากระทั่งเก็บเอาไปฝัน ไม่เคยลงมา
ใกล้ชิดกับพวกเธอถึงขนาดนี้ แถมครั้งนี้ได้กำไรเล่นพ่วงหนุ่มหล่อหน้าใส ซึ่งยืนตีคู่หน้าแดงแปร๊ดเพราะแดดกำลังร้อน
มาด้วยอีกต่างหาก ยิ่งเพิ่มดีกรีให้สาวๆเคลิ้มตามกันไปจนหมดแล้ว
หลังพาพระลักษมณ์เดินสำรวจกิจการแวะทักทายคนงานสมควรแก่เวลาแล้ว ปาจาก็ได้ฤกษ์พาแฟน
สดซิงกลับยังเรือนไทย เพราะใกล้เวลามื้อเย็นเต็มแก่แล้วด้วย ทั้งสองกลับมาถึงเวลาอาหารขึ้นโต๊ะพอดีเป๊ะ ต่างปลีกตัว
ไปล้างหน้าล้างมือทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำก่อนตีคู่เดินมายังห้องอาหาร
วันนี้ธรรมตรัยแจ้งล่วงหน้าให้ปาจาทราบก่อนแล้วว่า จะมีแขกพิเศษร่วมโต๊ะด้วย คนแรกคือครูรัสสา
สุดสวยของหนูผา หลังจากวันที่เสียอารมณ์ในห้องสมุดจนต้องผลุนผลันออกไปกระทันหัน เพิ่งมาวันนี้แหละที่พระลักษมณ์
จะได้เจอเธออีก
ส่วนอีกคนสารวัตรคมสัน ไม่รู้ขานี้โผล่มายังไงจนต้องเชิญร่วมโต๊ะตามมารยาทแถมครั้งนี้ฉายเดี่ยว
อีกต่างหาก สมาชิกทุกคนนั่งกันพร้อมหน้า ต่างหันมามองปาจากับพระลักษมณ์ที่กำลังเดินเข้ามายังโต๊ะอาหาร ทุกคน
พร้อมใจส่งยิ้มทักทายไปให้ ยกเว้นครูรัสสากับสิตาหน้าเจื่อนไปแล้วทั้งคู่ ปาจาอาศัยมารยาทเจ้าบ้านทักทาย
สารวัตรคมสันขึ้นมาก่อน
“สวัสดีครับสารวัตร ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้อยู่ต้อนรับ บังเอิญผมติดดูงานในไร่ด้วย” พูดจบ
ไม่รอให้ใครแทรกถามให้เสียเวลา ถือโอกาสแนะนำคนข้างตัวกับชื่อที่ไม่คุ้นหู เรียกคำถามขึ้นบนใบหน้าแต่ละคน
แตกต่างกันไป ยกเว้น กายันต์ ธรรมตรัย และนมอ่อน ยังคงวางหน้าเป็นปกติ หนูผาตัวน้อยตาโตอ้าปากค้าง
เมื่อรับรู้ข่าวใหม่ฮ็อทนิวส์
กายันต์ส่งยิ้มให้พระลักษมณ์แม้จะดูฝืดเฝือนไปบ้าง แถมออกแววผิดหวังนิดๆ แต่ก็ยังโอเคอยู่
ในขณะที่สิตา ครูรัสสา และสารวัตรคมสันต่างแสดงคำถามบนใบหน้าอย่างชัดเจน ปาจาจึงหันมาพยักหน้าให้พระลักษมณ์
แยกย้ายลงนั่งประจำที่ให้เรียบร้อย ก่อนตนจะนั่งประจำตำแหน่งหัวโต๊ะ แล้วเริ่มต้นเล่ารายละเอียดตามสคริปต์ที่เตี๊ยมไว้
ก่อนหน้าแนะนำอย่างเป็นทางการขึ้นอีกครั้งว่า
“ความจริงแล้วรพินทร์กับพระลักษมณ์เค้าเป็นคู่แฝด แต่ทางผมไม่รู้มาก่อน ที่สำคัญรพินทร์
ได้เสียชีวิตไปแล้ว พระลักษมณ์จึงเป็นตัวแทนคุณอาไพรภพมารับสิทธิ์ตามพินัยกรรม ที่เจ้าตัวเค้าไม่ยอมเปิดเผยก่อนหน้านั้น
เพราะต้องการทำความคุ้นเคยให้แน่ใจก่อนมั้งครับ เราต่างไม่เคยเจอหน้ากันเสียด้วย พระลักษมณ์เลยแสดงตัวเป็นรพินทร์
เพื่อความแน่ใจส่วนตัว
แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวไม่มีอะไรต้องกังวล ผมชี้แจงแบบนี้คงไม่มีใครตั้งคำถามอีกนะ ถ้างั้นเชิญ
ทานอาหารกันเลยดีกว่า” พูดจบ เจ้าคุ้มรูปงามก็ส่งสัญญาณให้คนรับใช้บริการตักข้าวเป็นการตัดบทไปในตัว
ทุกคนจำต้องรูดซิปปากโดยปริยาย เป็นอันรู้กันดีไม่ควรขยับปากพูดในเวลาทานนอกจากเคี้ยวอาหารอย่างเดียว
คงต้องรอช่วงผลไม้ปิดท้ายนั่นแหละ ถึงจะสามารถคุยกันได้
ในที่สุดก็ถึงช่วงเวลาที่สารวัตรคมสันรอคอยใจจดใจจ่อ เมื่อคนรับใช้เคลียร์ทุกอย่างออกจากโต๊ะ
วางผลไม้สองจานใหญ่ลงมาแทน สารวัตรไม่ยอมปล่อยเวลาผ่านไปแม้เสี้ยวนาที ความจริงแล้วที่อุตส่าห์มาเป็นการส่วนตัว
ในครั้งนี้ นอกจากสืบเบาะแสเกี่ยวกับคดีแล้ว หนุ่มหล่อหน้าใสเพิ่งเซอร์ไพรส์ข้อมูลใหม่ต่างหากคือคนที่ทำให้ต้อง
วางแผนขอร่วมโต๊ะมื้อค่ำ สารวัตรจึงรีบเอ่ยปากทันที
“คุณพระลักษมณ์ทำผมอึ้งเลย ตอนที่เข้าใจว่าคุณเป็นสาวหล่อผมแอบหลงเสน่ห์ไปแล้ว
พอรู้ว่าแท้จริงแล้วคุณเป็นหนุ่มหล่อต่างหาก ผมถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีนี้ พอจะบอกได้ไหมครับมีคนในดวงใจหรือยัง?”
คำถามที่พาเอาทั้งโต๊ะต่างหยุดการกระทำทุกอย่างลงฉับพลัน พร้อมใจหันมองคนถามแบบไม่ต้องนัดล่วงหน้า
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าสารวัตรหน้าเข้มรูปหล่อจะเปิดประเด็นนี้ขึ้น พระลักษมณ์ถึงกับตาโตชะงักไปแล้ว
ยังไม่ทันอ้าปากตอบ เจ้าคุ้มรูปงามชิงพูดเสียก่อน
“หึหึ! สารวัตรตั้งคำถามเชิงลึกแบบนี้ สนใจอะไรเป็นพิเศษหรือครับ?” หน้าตาซึ่งเปื้อนยิ้ม
กลับมานิ่งขรึมเย็นชาดังเดิม เล่นเอาสารวัตรคมสันต้องเลิกคิ้วนึกแปลกใจไม่น้อย สายตาผู้ชายพอมองออก
ยังกับปาจากำลังหวงพระลักษมณ์เข้าให้ แต่เพื่อพิสูจน์ให้แน่ใจแม้ตนจะสนใจหนุ่มหน้าใสก็เถอะ สารวัตรอดหยอดต่อไม่ได้
“ครับ! ผมสนใจคุณพระลักษมณ์เป็นพิเศษจริงๆ ต้องการทำความรู้จักเป็นการส่วนตัว
ต้องขอโทษคุณพระลักษมณ์ด้วย ผมไม่มีเจตนาเป็นอื่นหากให้โอกาสถือเป็นเรื่องดีสำหรับผมเชียวหละ” สารวัตรพูดจบ
พระลักษมณ์ปั้นหน้าไม่ถูกอยากมุดโต๊ะดำดินหนีชะมัด ไม่อยากเชื่อเลยไปๆมาๆ ทำไมถึงได้เป็นที่ต้องการ
ของเพศเดียวกันซะงั้น ขณะที่ปีศาจรูปงามกำลังจะกลายร่างเป็นลูซิเฟอร์แล้วตอนนี้ พระลักษมณ์เหมือนจะรับรู้รังสีอำมหิต
ที่เริ่มก่อตัวปะทุจากหัวโต๊ะ เกรงจะได้เห็นร่างแฝงมีปีกมีเขางอกขึ้นมาอีกครั้ง จึงรีบชิงตอบกลับไปเสียก่อนว่า
“ให้เป็นเพื่อนยังพอไหวครับสารวัตร แต่ถ้าให้พิจารณาเกินกว่านั้น ต้องขอปฏิเสธและบอกตามตรงว่า
สารวัตรอย่าพยายามเลยครับ ไม่ใช่ผมนึกรังเกียจอะไรหรอก ผมอยากให้สารวัตรมองคนอื่นดีกว่า อย่ามาเสียเวลากับผมเลย”
พระลักษมณ์ปฏิเสธชัดเจน จะว่าไม่ใช่ทางของตนก็พูดได้ไม่เต็มปาก ปัจจุบันเพิ่งกลายเป็นแฟนปีศาจรูปงามไปหมาดๆ
ซึ่งคนที่คิดอยู่ในใจเจ้าตัวกำลังปั้นหน้านิ่งแอบยิ้มอยู่หัวโต๊ะหลังได้ยินคำตอบออกจากปากพระลักษมณ์
“ขอบคุณครับที่รับผมเป็นเพื่อน เอาเป็นว่าที่เหลือขอผมได้แสดงความจริงใจเป็นการพิสูจน์ดีกว่า
เผื่อคุณพระลักษมณ์เปลี่ยนใจ โบราณว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน นับประสาอะไรหัวใจอ่อนๆ จะไม่ไหวตาม
เชียวหรือครับ ฮ่าๆๆๆ!” ประโยคท้ายติดหยอดปนขำ ทำเอาทุกคนต้องอมยิ้มตามคำพูดแกมหยอกของสารวัตร
แม่แต่หนูผาเด็กหญิงตัวน้อยยังอายม้วนเลย
ส่วนพระลักษมณ์ได้แต่อึ้งอ้าปากค้างมองหน้าสารวัตรหน้าเข้มแบบจนปัญญา ยกเว้นเจ้าคุ้มรูปงาม
บัดนี้สวมวิญญาณปีศาจเชิญองค์ลงไปแล้ว นอกจากจะหน้านิ่งแล้วยังปล่อยรังสีกดดันทำให้บรรยากาศผ่อนคลายอึมครึมขึ้น
โดยไม่ต้องเอ่ยปากสักนิด ครูรัสสาซึ่งมองท่าทางปาจาออก เพราะลอบสังเกตอยู่ตลอดเวลา จำต้องแก้ไขสถานการณ์
เปลี่ยนเรื่องคุยขึ้นมาทันที
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
“คุณจาคะ รัสสากำลังต้องการผลไม้สดๆในไร่จัดกระเช้าให้ผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง เนื่องในโอกาส
ครบรอบเซยิด คุณพอจะพารัสสาไปเลือกในสวนบ่ายพรุ่งนี้ได้ไหมคะ?” คำพูดหวานหู ใบหน้าสวยมอบยิ้มสุดสวาทขาดใจ
ส่งให้ปีศาจรูปงาม ทำเอาหนุ่มหล่อทั้งโต๊ะมองตามตาปริบๆ ยกเว้นพระลักษมณ์กลับเป็นฝ่ายหน้านิ่งบ้างแล้วทีนี้
เจ้าตัวแกล้งยกแก้วน้ำขึ้นดื่มแต่หูกระดิกรอฟังคำตอบจากปีศาจรูปงาม ว่าจะตอบยังไง
“ต้องขอโทษด้วยครับรัสสา ถ้าหากคุณต้องการจริงๆ คงต้องรบกวนสิตาพาไปแล้วละครับ
พรุ่งนี้ผมมีงานด่วนสิตารู้รายละเอียดเกี่ยวกับผลไม้ได้ดีกว่าผมอีก รับรองคุณไปกับสิตาไม่ผิดหวังแน่นอน อาจได้ไอเดีย
ในการจัดกระเช้าเสียด้วยซ้ำ ขานี้เค้าคล่องครับ” ปาจาตอบรักษาน้ำใจมาก ครูรัสสาเมื่อเห็นว่าเจ้าคุ้มหนุ่มยืนกราน
พรีเซ้นต์ซะขนาดนี้เลยไม่กล้าเซ้าซี้อีก ได้แต่หันไปหาสิตานางฟ้าหน้าสวยที่นั่งเยื้องกันอยู่ พร้อมกับส่งยิ้มให้
เพื่อขอคำยืนยัน สิตาก็ส่งยิ้มกลับเช่นกันก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยตามสไตล์สวยเย็นของเจ้าตัวขึ้นมาว่า
“สิยินดีอย่างยิ่งค่ะ หากคุณครูต้องการให้ช่วย พรุ่งนี้สิว่างพอดี” ยิ้มหวานไม่แพ้ครูรัสสา
จงใจโปรยเสน่ห์ให้หนุ่มหล่อทั้งโต๊ะได้มองตามกันอีกเป็นระลอก สองสาวไม่มีใครกินกันลงเลย สวยคนละแบบ
มีเสน่ห์คนละอย่าง พระลักษมณ์เองยังพลอยใจเต้นตาม เมื่อเผลอมองรอยยิ้มหวานบาดจิตของสิตาเข้าให้
“รัสสายินดีมากค่ะถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณสิตาละก็ พรุ่งนี้คงต้องให้คุณพาไปเลือกในสวน
แบบสดๆ เลยละ” ครูรัสสาก็ส่งยิ้มเจิดจรัสงามพิลาศไม่แพ้กันเลย ความงามของรอยยิ้มอิสตรีเพศทั้งสองที่แข่งกัน
โปรยมานั้น เล่นเอาบรรยากาศที่อึมครึมก่อนหน้าหวานขึ้นในพริบตา
พระลักษมณ์เหมือนตกอยู่ท่ามกลางบรรยากาศแข่งขันของหญิงงามล่มเมือง จึงตัดสินใจ
กลับไปยังห้องดีกว่าเมื่อเจ้าตัวรู้สึกอยากอาบน้ำชำระร่างกายเต็มแก่ วันนี้เกือบทั้งวันตั้งแต่มื้อเที่ยงสุดโรแมนติก
ปิดท้ายเดินชมกิจการในไร่จนเย็น แม้ร่างกายจะแข็งแรงแค่ไหนก็เพลียเป็นเหมือนกัน เมื่อคืนเพิ่งโดนเปิดซิงไปหมาดๆ
ที่สำคัญเหนียวตัวไม่น้อยแล้วเหอะ จึงตัดสินใจพูดขอตัวขึ้นว่า
“คงไม่เป็นการเสียมารยาทนะครับ ถ้าผมจะขอตัวไปอาบน้ำก่อนกลับจากข้างนอกมา
เหนียวตัวพอดู ถือโอกาสลาสารวัตรกับคุณครูเลยนะครับ” พระลักษมณ์ไม่รอใครเอ่ยปากท้วง ลุกขึ้นยืนส่งยิ้มหล่อ
ปิดท้ายเต็มสตรีม รอยยิ้มของจริงนี่ตะหากหยุดโลกชะงักงัน สยบรอยยิ้มก่อนหน้าของสองหญิงแบบไม่เห็นฝุ่นกันเลย
ไม่ใช่แค่สารวัตรคมสัน กายันต์ ธรรมตรัย เท่านั้นที่ตาค้างวิบวับไปกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ
ของพระลักษมณ์ แม้แต่สิตากับครูรัสสายังหน้าแดงไปแล้ว ทุกคนพากันตลึงเรียกเลือดขึ้นหน้าไปเป็นแถว โดยเฉพาะ
เจ้าคุ้มรูปงามตาค้างอึ้งไปแล้วเมื่อคนส่งยิ้มจงใจหลิ่วตาให้ตนทิ้งท้ายเป็นพิเศษก่อนเดินส่ายอาดๆ ออกไปอย่างสง่าผ่าเผย
ไม่เหลียวหลังดื้อๆ ซะงั้น
เล่นเอาใจของปีศาจรูปงามที่สงบนิ่งไม่อ่อนไหวก่อนหน้าเต้นกระดอนเกือบหลุดออกมานอกอก
ให้ตายเถอะช่างกล้ายั่วนะตัวแสบ ปาจาสบถอยู่ในใจ มีหรี่ตามองตามหลังร่างโปร่งอย่างหมายมาด เผลอยกยิ้มมุมปาก
โดยไม่รู้ตัว
พระลักษมณ์กลับมายังห้องตนเอง อันดับแรกล๊อกประตูลงกลอนเรียบร้อยรีบลากแล๊ปท็อป
ที่แอบซุกใต้เตียงออกมาเปิดเช็คดูทันที ทุกอย่างในห้องอยู่สภาพเดิมไม่มีการรื้อค้นหรือมีอะไรสูญหายเลยสักชิ้น
ถือว่าปาจาเป็นคนหยิ่งทรนงมากทีเดียว
ถึงแม้รู้ความจริงเกี่ยวกับจุดประสงค์ของตนแล้วก็ตาม ยังให้เกียรติไม่ใช้สิทธิ์อันพึงมี
ถือวิสาสะรื้อค้นตรวจเช็คข้าวของส่วนตัวขณะที่กักขังตนไว้ยังห้องใต้ดิน
ก่อนจะตัดสินใจติดต่อหัวหน้า พระลักษมณ์คิดว่าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สบายตัวก่อนดีกว่า
แล้วค่อยออนไลน์ติดต่อหัวหน้าทีหลัง คิดได้ดังนั้นจัดการเปิดตู้หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำอย่างไม่รอช้า
ใช้เวลาในห้องน้ำไม่ถึงยี่สิบนาที ร่างโปร่งหน้าใสสะอาดหมดจดก็นอนเอกเขนกบนเตียง
เปิดคอมฯ ออนไลน์คุยกับหัวหน้าเลย ครั้งนี้ใช้วิธีเปิดเว็บแคมเพื่อสามารถมองเห็นหน้ากันได้แทนการแชท พอหัวหน้า
ออนกลับโชว์หน้าตาสมาร์ทขึ้นมาปุ๊ป ก็ตามด้วยคำถามแรกทันที ซึ่งพระลักษมณ์รู้ว่าต้องโดนถามแน่นอน
“ไอ้ลักษมณ์ แกหายหัวไปไหนมาหืม วันนี้ถ้าแกไม่ติดต่อมาฉันตั้งใจจะส่งคนเข้าไปตรวจค้น
คุ้มดงพญาแล้วเชียว นึกว่าแกโดนจับทรมานรีดเอาความลับเสียอีก” หัวหน้ามาเป็นชุด จนพระลักษมณ์ต้องรีบเบรค
ก่อนจะยาวกว่านี้
“เอาน่าพ่อ ไม่มีอะไรหรอกผมปลอดภัยดี เรื่องมันยาวไว้เล่าคราวหลังละกัน แต่ตอนนี้
ผมมีเบาะแสคืบหน้าถึง 80% แล้ว เหลือแค่รอเวลาอาทิตย์กว่าเท่านั้น คาดว่าจะปิดคดีได้ตัวคนร้ายแน่ ที่ผมติดต่อมา
ก็เพราะกลัวพ่อเป็นห่วง ก่อนหน้าผมยุ่งมากหาโอกาสติดต่อพ่อไม่ได้เลย ตอนนี้พ่อสบายใจได้แล้ว โอเคนะ?”
พระลักษมณ์รวบรัดตัดความ ยังไม่อยากรายงานอะไรไปมาก เพราะตนก็ยังไม่แน่ใจว่าร่างแปลงของจิตมารมีจริงหรือไม่
ยังไงก็ตั้งใจขอดูพิธีกรรมชำระล้างจิตมารของกายันต์และหัวใจมารที่ธรรมตรัยเก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในพิธีนี้อยู่แล้ว
ที่สำคัญอยากเห็นการชุบกระสุนเงินซึ่งสามารถใช้สังหารฆาตกรด้วย คาดว่าปาจาคงไม่มีเหตุผลห้ามไม่ให้ตนเห็น
พิธีกรรมนี้แน่นอน
“โอเค หากแกยืนยันและมั่นใจอย่างนั้น ฉันก็จะไม่ถามมาก แกไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
คราวหลังต้องติดต่อมาด้วย ไม่ใช่หายไปสี่ซ้าห้าวันถึงค่อยโผล่หัว รู้ไว้ว่าฉันเป็นห่วงเข้าใจไหม?” ประโยคสุดท้าย
แม้จะออกคำสั่งเสียงห้วน แต่ก็ทำเอาพระลักษมณ์อดยิ้มกว้างไม่ได้ ในขณะที่อีกคนเก็กหน้าบึ้งทั้งที่พระลักษมณ์
รู้อยู่เต็มอก ว่าพ่อรักและห่วงตนเองมากแค่ไหน
ต่อด้านล่าง
-
- 3 -
“รับทราบครับท่าน กระผมร้อยโทวิษณุทรงพลให้คำมั่นว่าจะติดต่อท่าน
ไม่หายหัวเป็นอันขาดขอรับ” พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจังแถมมียกมือตะเบ๊ะแสดงความเคารพของพระลักษมณ์
พาให้หัวหน้าที่เก็กขรึมกลั้นขำเกือบตายกับความทะเล้นของลูกชายคนเล็ก แต่พระลักษมณ์ยังแอบเห็นมุมปาก
จอมปากแข็งกระตุกจนได้ และนึกรู้ว่าหัวหน้ากำลังกลั้นขำอยู่ ก่อนจะเก็กเสียงห้วนกลับมาว่า
“อืม..อย่าลืมรักษาคำพูดด้วย ฉันไปแล้ว” พูดจบทางโน้นรีบปิดกล้องทันที ก่อนไอ้ลูกชายตัวดี
จะได้เห็นภาพหลุดของหัวหน้าเข้า ซึ่งขณะนี้นั่งหัวเราะน้ำตาเล็ดกับความไม่รู้จักโตของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ทั้งที่ติดอันดับ
หนึ่งในห้ามือพระกาฬของหน่วยพิเศษแท้ๆ แต่นิสัยทะเล้นบวกความสดใสเป็นธรรมชาติของพระลักษมณ์กลับไม่หดหายไป
เหมือนคนอื่น จนกลายเป็นเสน่ห์ของเจ้าตัวที่ใครต่อใครนิยมชมชอบหลงไหลได้ปลื้มกันไม่น้อย
ทำไมหัวหน้าจะไม่รู้ เมื่อไอ้ตัวดียังตีมึนทำไม่รู้ไม่ชี้กับท่าทางต้องการสานสัมพันธ์ของนายทหาร
เหล่านั้น ในฐานะพ่อก็จำต้องแกล้งไม่รู้ไม่เห็นไปด้วย ตราบใดที่ลูกไม่ขอคำปรึกษาหรือเล่าแจ้งแถลงความบอกให้รู้
ตนก็จะเนียนไม่ยุ่งแกล้งไม่รู้แบบนี้ต่อไป
จ้องมองรูปถ่ายบนโต๊ะของภรรยาคนสวยที่ล่วงลับไปกว่ายี่สิบปี พาให้อาวรณ์อยู่ไม่น้อย
แต่ก็อดภูมิใจลึกๆ ภรรยาคงดีใจที่ตนสามารถเป็นทั้งพ่อและแม่ของลูกชายทั้งสองอย่างไม่น้อยหน้าใคร ถึงจะยืดอกไม่เต็มที่
ว่าสมบูรณ์แบบแล้วก็เถอะ แต่อย่างน้อยความมั่นคงของลูกชายคนโตซึ่งบริหารธุรกิจของตระกูลต่อจากปู่จนงอกเงย
รากฐานมั่นคงก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพระรามเก่งแค่ไหน
และไอ้ตัวดีที่เพิ่งหาเรื่องให้นั่งยิ้มไม่หุบก็เจริญรอยตามจนเป็นมือดีติดอันดับของหน่วยฯ
นั่นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าตนเลี้ยงลูกได้ไม่ด้อยกว่าใครจริงๆ
ความสุขที่เหลือในบั้นปลายชีวิต แค่หวังให้ได้เห็นชีวิตครอบครัวของลูกคนเล็กแล้วหละ
พระรามมีความสุขกับชีวิตครอบครัวแถมยังมีหลานแฝดให้ได้ชุ่มชื่นหัวใจถึงสองคน เหลือแต่พระลักษมณ์ที่คนเป็นพ่อ
ยังอดห่วงไม่ได้
คิดเผื่อไว้ว่าจบภารกิจครั้งนี้คงต้องคุยจริงจังเสียที กับความตั้งใจที่จะให้ลูกชายเลิกอาชีพเสี่ยง
แล้วไปดูแลธุรกิจช่วยพระรามแทน เพราะตนก็จะเกษียณราชการปีหน้าแล้ว ไม่อยากทิ้งลูกให้ใช้ชีวิตเสี่ยงอีกต่อไป
ที่สำคัญต้องการเห็นครอบครัวของพระลักษมณ์เต็มแก่แล้ว จะได้นอนตายตาหลับ
หน้าเข้มคมยังหลงเหลือเค้าความหล่อให้เห็น แม้มีร่องรอยชราวัยอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ลดทอน
ความสมาร์ทเลยแม้แต่น้อย กลับส่งผลให้พลตำรวจเอก พระพรหม ดูทรงอำนาจและบารมีในตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่
หรือที่ใครต่อใครต่างเรียกว่าหัวหน้าให้ดูสง่างามยิ่งขึ้นไปอีก ชายสูงวัยใกล้เกษียณปิดเปลือกตาลงปล่อยอารมณ์ให้
ลอยไปตามความคิดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด.....
“ก๊อกๆ ก๊อกๆ!” เสียงเคาะประตูห้องพระลักษมณ์ดังเบาๆ ทำให้คนที่กำลังนอนเล่น
คิดอะไรเพลินๆ ถึงกับนึกแปลกใจไม่น้อย ใครมาเคาะห้องยามวิกาลนาฬิกาพรายน้ำสวมข้อมือบอกเวลาจะห้าทุ่มกว่าแล้วด้วย
ให้แน่ใจร่างโปร่งในชุดนอนผ้าฝ้ายเนื้อบางสบายตัดสินใจลุกจากเตียง ตรงไปยังประตูก่อนจะส่องลูกตาโตผ่านช่องเล็กๆ
มองหาผู้มาเยือนยามวิกาลอย่างระแวดระวัง
สายตาพยายามกวาดมองมุมกว้างแต่ก็หาได้เห็นมนุษย์คนใดแม้แต่น้อย หรือหูจะแว่วไปเอง
กำลังจะหันหลังกลับไปซุกตัวนอนต่อ เสียงเคาะก็ดังขึ้นมาอีกชัดเต็มสองหูเลยในเมื่อพระลักษมณ์ยืนใกล้ประตู
แม้เสียงจะเบาก็เถอะ
“ก๊อกๆ! ก๊อกๆ!” หันกลับไปมองลอดช่องประตูอีกครั้ง ว่างเปล่าไร้วี่แววสิ่งมีชีวิตอยู่ในรัศมี
สายตาอีกตามเคย พระลักษมณ์เริ่มหงุดหงิดแล้ว เลยเสียงห้วนร้องถามออกไปเบาๆ
“ใครเคาะ มีธุระอะไรกับผม” คำถามหายไปในอากาศ เมื่อไม่มีสัญญาณตอบกลับแม้แต่น้อย
ความอดทนของนักล่าสิ้นสุดลงตัดสินใจหันหลังค้นสนับมืออาวุธประจำกายที่แสนถนัดออกจากกระเป๋าเล็กบนหัวเตียง
สวมมือเป็นมั่นเป็นเหมาะ เดินกลับไปยังประตูอีกครั้ง ก่อนจะปลดล๊อคกลอนออกอย่างเงียบกริบแล้วค่อยแง้มประตูเปิดช้าๆ
ทันใดนั้น
เงาดำสูงใหญ่พุ่งเข้าประชิดตัวอย่างรวดเร็ว เกินสายตาจะทันได้วิเคราะห์ดูได้ว่าเป็นใคร
สัญชาติญาณป้องกันตัวพระลักษมณ์ส่งหมัดตรงพร้อมสนับมือเข้าหาเป้าหมายอย่างว่องไวเช่นกัน กลับผิดคาดใหญ่หลวง
นอกจากมันจะไหวหลบได้อย่างเหลือเชื่อแล้ว มันกลับเป็นฝ่ายรวบข้อมือของพระลักษมณ์ก่อนบิดไขว้หลังอย่างแรง
แล้วดันตัวพระลักษมณ์หันกลับเข้าห้องอีกตะหาก โดยที่พระลักษมณ์ซึ่งมั่นใจฝีมือไม่เป็นสองรองใครยังอดทึ่ง
ในความรวดเร็วว่องไวของคู่ต่อสู้ไม่ได้
เนื่องจากถูกจับแขนไขว้หลังไม่สามารถมองเห็นหน้าคู่ต่อสู้ได้เลย พระลักษมณ์เตรียมงัด
ไม้ตายออกมาใช้ กำลังก้มหัวลงตั้งใจเสยกระแทกใส่หน้าคนด้านหลังให้นับดาวมึนไปเลย แต่กลับต้องชะงักไว้ทันที
เมื่อสัมผัสคุ้นเคยแนบข้างหูมาพร้อมเสียงทุ้มที่กระซิบขึ้นว่า
“ชู่วววว!!! ผมเอง”
มาต่อให้แล้วนะคะ ฮ่าๆๆๆโดนจับไปขังไว้ แต่ก็ไม่เหงามีเพื่อนเยอะ
แอบน้อยใจคนอ่านไม่ยอมไปส่งผัดซีอิ้วโอเลี้ยงให้ เฮ้อ! :เฮ้อ:
หากพวกท่านล่งกำลังใจให้ ตอนหน้ากำเดาไหลกันอีกแล้ว
เนื้อหาใกล้จุดไคลแม็กเต็มที่แล้ว รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ช่วงนี้กินเจ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ ข้าพเจ้าฝากไว้เท่านี้แหละ
ขอกำลังใจด้วย ข้าพเจ้ายุ่งทั้งงานราษฎร์งานหลวง
ยังแบ่งเวลามาต่อนิยายให้พวกท่าน เพราะฉะนั้นชาร์ตแบทเติมพลังให้บ้างก็ดี
Luk. :pig4:
ปล.ใครจองหนังสือ เพราะรัก...จึงเปลี่ยนได้ อย่าลืมอัพเดสข่าวด้วยนะคะ
-
เด่วจะเตรียมทิชชู่และเลือดสำรองใว้รอคร้าบบบ
-
:L2: :pig4:
+ :ped144:
-
เตรียมเลือดสำรอง และ ผ้าซับเลือดไว้ล่วงหน้าแระ รอตอนหน้า หึหึ :กอด1:
-
o13ยอดเยี่ยมเลยคร๊าบบบ....สำหรับตอนใหม่
:-[บุกถึงห้องเลยน๊าาาาา..คุณจา
-
พระลักษณ์สเน่ห์แรงมากกกก ทำเอาปาจานะจังงังไปเลย
และแอบบุกถึงห้องอีกต่างหาก ตอนหน้าขอnc หวานๆนะคะ
ปล.+1และเป็ดให้คุณลักษณ์นะคะ
-
:L1: :L1: :L1:
+ :5779:
:L2: :L2:
-
คุณจาบุกมาถึงห้อง เลยเหรอ :z1:
-
+1 :จุ๊บๆ:
-
เอามาฝาก อิอิ แก้กระหายน้ำ o13
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/928/37928/images/Painting/ccenter04_CIMG0468.JPG)
-
รับแซ่บ
เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
o13
รอคอยตอนเรียกเลือด :z1:
-
:z1: พระลักษณ์เสน่ห์เหลือล้น
ตอนหน้า :haun4: ขอแบบร้อนแรงกันไปข้างนึงเลยนะ
มาไวไวไวไวไวนะ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
:mc4:
พระลักษมณ์ของเรามาแล้ว
คิดถึงคนเขียนอยู่ตั้งนาน
ตอนหน้าเราจะได้เสียเลือดกันอีกแล้ว
:z1:
กด + ให้เลยล่วงหน้า
แสดงถึงความหื่น 55555+
:pig4:
-
เป็นไงล่าาา ชะนี
เจอยิ้มเทพบุตรแล้วไปไม่เป็นเลยล่ะสิ :m20:
-
ป้าดดด นึกว่าเจ้ามารร้ายมันบุกมาถึงห้อง
เจอแบบพระลักษณ์ก็หลอนเหมือนกันนะเนี่ย
เปิดประตูไปแล้วไม่เห็นใคร~ o22
-
โปรยเสน่ห์ไปทั้ว อย่างนี้ต้องโดนปาจาทำโทษซะให้เข็ด
-
มานั่งปูผ้ารอซับเลือด เสร็จเจ้าคุ้มแน่ๆหุหุ
พระลักษณ์เรา
-
ปาจาครับ :z6:
ถ้าเคาะประตูกันแล้วเล่นแบบนี้
ทีหลัง บุกเข้ามาเลยเหอะ !!!!!
รอ ร๊อ รอ
-
เพิ่งอ่านถึงพาส 5 เดียวมาต่อ
ขิงก้อรา ข่าก้อแรง
เมื่อถึงวันที่จะร้อนแรง จัดหนักๆเลยป่าว
พระลักษณ์ ปาจา ก้อคู่กันแล้ว
แล้ว
กายันล่ะ มีคุ่อ่ะป่าว
อยากบอกน่ะว่าคุณเลขาอ่ะ
น่ากลัวชอบกล
หรือคุณผู้กอง แต่บทน้อยอ่ะ
-
+ :duck1:
-
กรี๊ดๆๆๆ มาต่อแล้วคิดถึงพอดี
ขอบคุณที่มาต่อจ๊ะตอนหน้ารอ
เลือดกำเดาไหลนะ :haun4:
-
ก็ไปยิ้มยั่วคุณจาเค้าก่อนนี่นา คืนนี้ตัวแสบหมดแรงข้าวต้มแน่
แย่งซีนไปเต็มๆเลยคุณลูกขา รู้สึกว่าหลังทำพิธีฟีโรโมนพลุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิมรึเปล่าจ๊ะ
ตอนคุณจาพาแฟนหมาดๆไปดูกิจการในไร่ เหมือนเปิดตัวนายหญิงแห่งคุ้มดงพญาเลย แอบขำคนขี้เห่อ 55
-
:-[ มาทำไมดึกๆๆ
-
เป็นคุณปาจาใช่ม่ะ เล่นอะไรแบบนี้ ปร้ากลัวแทนคุณน้องพระลักษมณ์เน่
-
เตรียมกระดาษพร้อม เตรียมเลือดสำรอง พร้อม ตอนหน้า หึหึหึหึ :oo1: :-[
-
ปาจาย่องหาพระลักษณ์กลางดึกแบบนี้ มีไรรึป่าวเนี่ย
-
ตัดได้ค้างจริง
-
บุกเข้าห้องเลยหรอเนี่ย พระลักษณ์ยังเจ็บอยู่เลยนะ :oo1:
-
โอ๊ะ โอ.. บุกเข้ามาถึงในห้องเลย
จะเป็นยังไงต่อไปน้าาา :z1:
-
ช่วงนี้กินเจ แต่ถือศีลไม่ได้ เพราะมัวแต่สิงอยู่ในเล้า หื่นแตกตลอด
เดี๋ยวต้องรีบไปสำรองเลือดก่อนด่วน ๆ
อ่อ กำลังใจเอาไปเลยทั้งเป็ดทั้งบวกค่า :กอด1:
-
อุ๊ย เตรียมเลือดสำรองไว้เรียบร้อยแล้วค่า
กด + ให้เป็นกำลังใจ แถมด้วย :กอด1: :กอด1:
-
:sad4: :sad4: :sad4:
-
โอ๊ยมีการย่องเข้าหากันกลางดึกด้วย
หุๆๆๆ เป็นแฟนกันแล้วก็อย่างนี้ล่ะ
-
โอ๋ :กอด1: คุณ lux ตอนโดนขังไปเยี่ยมได้อย่างเดียว
เขาไม่ให้ส่งน้ำส่งอาหารเลย :laugh:
-
ปาจาบุก!!!!!!? :z1: :z1:
แล้วคุณพ่อพรหมคงจะไม่ได้หาคู่ให้น้องลักหรอกนะ?
ติดตามต่อไป~
ปล.ขอบคุณคนแต่งค่ะ สู้ๆ
-
เตรียมปูเสื่อ ตั้งกล้อง กล่องทิชชู พร้อมแล้วกั๊บบบบบบบ :-[
-
ขอบคุณค่ะ :กอด1:
-
+1ให้จ้า
พระลักษณ์ เสน่ห์แรงเกิ๊นนนนนนนนน :-[
เจ้าคุ้มขี้หวงอะ :angry2: :angry2:
:call: :call:
-
แหมทำลับๆล่อ เราก็นึกว่าเป็นปิศาจ
-
+เป็ดให้นะคะ ตอนหน้าเตรียมผ้าเช็ดตัวไว้ซับเลือดเรียบร้อยแล้วค่ะ :laugh: ส่วนตอนนี้เตรียมหาธาตุเหล็กมากินด่วนด่วน
ต้องรีบสร้างเลือดในร่างกายค่ะ เดี๋ยวอ่านตอนหน้าแล้วจะจมกองเลือดตัวเองตายหน้าคอม :jul1:
-
สมกับการรอคอยเจ้าค่าจุใจดีเหลือเกิน
จะรอตอนหน้าอย่างใจจดจ่อพร้อม กล้องวิดิโอ และ ผ้าขนหนูนะคะ :z1:
-
น่ารักอ๊ะ พระลักษณ์ฮามากเรยค่ะ โดยเฉพาะตอนรายงานท่านหัวหน้า เราก็แอบขำนะ
มีแฟนแล้วไม่ยอมอัพเดทข่าวให้ท่านพ่อรู้ เด๋วจะแย่เอานา กรี๊ดๆๆ รอฉากเรียกเลือดค๊า
สู้ๆนะจ๊ะ คนแต่ง เป็นกำลังใจให้ค่า + เป็ด :กอด1: :กอด1:
-
เค้าอยากจองหนังสือเรื่องมนต์มารอ่ะ :oni2:
-
แอบสงสารคนย่องเข้าหาแฟนหมาดๆ
แต่สงสารแฟนหมาดๆเหมือนกัน ยังไม่ทันตั้งตัวก็ได้แฟนพร้อมสรรพ์
แถมยังเป็นรุ่นจัดโปรโมชั่นหนักหน่วง
พักบ้างไรบ้างนะปาจาสงสารแฟนตะเองมั่ง
-
เอิ่ม...ค้างอ่ะ :haun4:
-
กระหน่ำ +1 +เป็ด ให้แล้วนะค่ะ
ดีใจที่เห็นน้องปลดล็อคได้ในเร็ววัน อิอิ
ว่าแต่อิตาสารวัตร ริจะเล่นของสูงรึไงเนี่ย
-
:a5:
ค้างสุดๆๆ แต่ก็รอได้จ๊ะ ดูแลสุขสภาพกันทั่วหน้านะคร๊าบพี่น้อง
-
ค้างกันไปตามระเบียบ
รอตอนหน้าน้า
-
กรี๊ด! มากต่อน้อยอะ แล้วนี่จะหายไปอีกมั๊ยคะเนี่ย ขอบอกว่าค้างงงงงงมากกกกกค่ะ :z3:
-
:-[อร๊ายยยยยยย...คู่นี้มานน่ารักกันเจงๆ :z1:ตอนหน้าเตรียมแค่ทิชชูเหรอคะ หรือผ้าห่มซับเลือดดี งือออออ อยากอ่านแร้ว มาต่อไวๆนะคะ :กอด1: กอดคนเขียน...คิดถึงมากมาย
-
คิดถึงๆ
เดี๋ยวไปบวกเป็ดให้ก่อน^^
-
:กอด1:
-
:L2: :L2: :L2: :L2:
-
ร๊อรอๆๆตอนต่อไป สนุกมากๆๆคร๊ :o8:
-
เสน่ห์แรงอ่ะคุณพระลักษมณ์
นี่ขนาดสารวัตรรู้ว่าเป็นผู้ชายยังไม่คิดจะถอยเท่าไหร่ แล้วถ้ารู้ว่าเป็นตำรวจเหมือนกันล่ะ ><
แต่คุณเจ้าคุ้มน้ำแข็งมาแอบพุ่งเข้าห้อง คนอื่นยามวิกาลได้ยังไงกันเนี่ย
มันละเมิดสิทธิส่วนบุคคลนะเออ
แล้วจะเข้ามาทำอะไร(ถ้าไม่ทำมีโมโห ฮ่าๆ)
-
ปาจาถึงกับบุกห้องพระลักษณ์เลยหรอครับ
แล้วตอนหน้าพระลักษณ์จะเป็นยังไงเนี่ยต้องรับศึกหนักอีกแล้ว ฮ่าๆ
รอตอนต่อไปนะครับ รออย่างใจจดใจจ่อ
-
ผูกเรื่องได้ดีมากเลยคาา
แนวนี้ไม่เคยอ่ามาก่อนเลย
กำลังเซงๆอยู่เลยอยากอ่านนิยาย พล๊อตเรื่องแปลกๆใหม่ๆ
แล้วก็ได้มาเจอเรื่องนี้ ดีใจที่ได้อ่านค่าา ต่อไวๆน่ะค่ะ คริคริ
-
อัยยะพาไปเปิดตัวในไร่กันเลยทีเดียวปาจาแอบมาหาตอนดึกดื่นค่อนคืนเชียวรอฉากเรียกเลือดตอนหน้าครับ
-
ดูแลสุขภาพบ้างนะคะพี่ลักษณ์ แล้วอย่าลืมพี่บอมย์กับน้องจอมนะคะ
-
:z1: ตอนต่อไปได้เลือดซินะ
สงสัยงานนี้ต้องมีการเตรียมเลือดสำรองเอาไว้ซะหน่อย เดี่ยวเลือดไม่พอ >.,<
ฮุฮุฮุ อยากอ่านเร็วๆจังเลย
รอยยิ้มของสาวงามล่มเมือง ไยจะสู้ชายงามล่มโลกได้ ฮ่าๆ
เจอรอยยิ้มของจริงของพระลักษมณ์ ตาค้างกันเลยทีเดียว >-<
สนุกมากๆเลย จะรอติดตามตอนต่อไปขอรับ
-
อิอิ ยิ้มสะกดมาร ทั้งมารหัวใจและจอมมารเจ้าหัวใจ :impress2:
ให้เป็ดนะ :3123:
-
:z1: :z1:
-
พระเอก+นายเอก ความเก่งและความหล่อกินกันไม่ลง สงสารสาวน้อยสาวใหญ่ต้องอกหักกันเป็นแถว
รอลุ้นตอนต่อไปเช่นกัน +1 และ + เป็ด เป็นกำลังใจแทนคำขอบคุณ :pig4:
-
ปาจา เคาะประตูได้น่ากลัว อิอิ
-
+1+เป็ด จัดปายยยยยยยยยยยยยยยย กับความน่ารักของพระลักษมณ์ :z1: :z1: แต่คุณปาจาที่กะไม่ให้ได้แฟนพักเลยใช่ไหมเนี่ย :haun4: :haun4: :haun4:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน แค่บทนำก็น่าสนุกจังเลยค่ะ ขอติดตามด้วยคนค่ะ
-
มาต่อแล้วเย้ๆ!!! ดีใจมากๆเลยค่ะ หายไปนานอยู่คิดถึงค่ะ
-
โห ห ห ห หหหห ห ห!!
ทำไมตัดกันอย่างนี้ล่ะค้ะ???
ค้างคาที่สุด!!! T^T
+1 ")) ขอบคุณค้ะ
รอน่ะค้ะ.......
-
อะๆๆๆ อะร๊าย ยก๊าน น-^-
ค้างทั้งสองเลย ซิกๆ
พระลักษณ์ยิ้มบาดใจทุกคน 555
ตอนหน้า NC NC แม๊นบ่ค่ะ :)
+1 +เป็ด +ใจทั้งใจ จุ๊ฟๆ
:L2: :L2: :L2: :L2:
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
พระลักษมณ์น่ารักอ่ะ ทำเอาปาจา(และทุกคน)เคลิ้มเลยนะเนี่ย
คืนนี้เสร็จแน่ ผลจากการหว่านเสน่ห์ อิอิ
รออ่านต่อนะ :กอด1: :L2:
-
บวกเป็ดให้แล้วนะฮะ
หนีไปกินเจ อิ่มบุญแล้วนี่เอง หายไปนานเลยเที่ยวนี้
-
เข้ามารอ
-
หายไปกินเจนี่เอง
เราก็นึกว่าลืมกันไปแล้ว
-
คุณจา ทำไม ต้องทำลับๆล่อๆ ฮึ ??
-
โหหหหหหหหห
ผมเองเนี่ยใครเหรอค่ะ :m28:
ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกพระลักษมณ์จะได้ไม่ต้องลงไม้ลงมือ
หรือว่าปาจาเป็นพวกชอบออกกำลังก่อนนอนหว่า
o12 o12 o12
แต่ก็ไม่เเน่นี่นะในเมื่อมาหาพระลักษมณ์ซะดึกเชียว
เปลี่ยนจากไปเคาะห้องธรรมตรัยเป็นเคาะห้องพระลักษมณ์ซะแล้ว
:kikkik: :kikkik: :kikkik:
-
สู้สู้คร๊าบบบบบ จะเตรียมเลือดไว้เยอะๆๆจ๊า
:mc4: o13 :L2:
-
คุณจาจะทำอะไรพระลักษณ์น่ะ ! :-[ (จิ้นไปไกลสุดกู่ :m25:)
-
รอ
-
เตรียมเลือดไว้แล้ว
:jul1:
-
รอรอรอรอรอรอ
-
อ่า่นรวดเดียวจบเลยค่ะ :กอด1:+1
ตามอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ ของนักเขียนทุกเรื่อง สนุกทุกเรื่องอะ ! o13
พระลักษมณ์น่ารัก ,ปาจานี่เปลี่ยนไปมากเลยน๊ะ อิอิ
ปาจาดอดมาหาพระลักษมณ์ยามวิกาลมีธุระอะไรหรอ ? :z1:
-
มารอค่ะ :กอด1:
-
ไหนหละ มนต์รักปีศาจรูป
-
มารอนะค่ะ
-
@@@รบกวนอ่านก่อนให้เข้าใจนะคะ
เปิดโอนสำหรับผู้ต้องการเก็บหนังสือเรื่อง "เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้" ไว้เป็นที่ระลึก
ปิดโอนเงินถึง 10 ตุลาคม 2554 งดจองงดโอน
เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
เรื่องราวความมหัศจรรย์ของความรักที่เปลี่ยนแปลงผู้ชายคนหนึ่งไปทั้งชีวิต
เมื่อนักเรียนทุนผู้อยู่ในกรอบตามแบบแผนของเด็กดี
ต้องมาพบเจอกับเด็กช่างกลรูปหล่อหุ่นล้ำแต่ร้ายกาจสุดขั้ว
....ความสัมพันธ์ทางกายโดยไม่เต็มใจกลับกลายเป็นความผูกพันหัวใจของทั้งคู่
ความรัก...เปลี่ยนจอมวายร้ายให้กลายเป็นคุณชายแสนดี
ความรัก...เปลี่ยนผู้ชายธรรมดาให้กลายเป็นสาวสวยสมบูรณ์แบบ
ความรัก...เปลี่ยนคนเดียวดายให้หายขาดเมื่ออีกคนเข้ามาเติมเต็ม
พบกับรูปแบบความรัก....ที่เปลี่ยนทุกสิ่งได้...มากกว่าที่คุณคิด
เนื้อหาสองเล่มขนาด B6 (เท่าหนังสือการ์ตูน)
หนาเล่มละประมาณ 330 หน้า ชุดหนึ่งมีสองเล่ม
ขายเป็นชุดราคา 700 บาท (รวมค่าจัดส่งทางไปรษณีย์แล้ว)
สนใจโอนเงินตามรายละเอียดด้านล่างค่ะ
รายละเอียดการโอนเงิน:
ธนาคาร.........กรุงเทพจำกัด............สาขา สามแยกไฟฉาย...................
เลขที่บัญชี......159-0775-696...............................
บัญชีออมทรัพย์ชื่อบัญชี....นางสาวกฤติชฌานันท์ ก้อนแก้ว (Kritchayanan)........
หลังจากโอนเงินแล้ว ส่งอีเมล์มาที่ luxilove_19690 แอท hotmail ดอท com พร้อมข้อมูลต่อไปนี้:
Subject: แจ้งโอน เพราะรัก....จึงเปลี่ยนได้
ชื่อ+นามสกุล : (ส่งแบบลงทะเบียนรบกวนขอชื่อ-นามสกุลเต็มนะคะ)
จำนวนที่สั่ง : (เช่น 1 ชุด, 2 ชุด etc.)
ที่อยู่สำหรับจัดส่ง : ____________________________
วัน/เวลาที่โอน : ______________________
จำนวนเงินที่โอน : (ถ้าเป็นไปได้ขอให้โอนแบบมีจุดทศนิยม จะได้เช็คง่ายค่ะ เช่น 700.10 หรือ 700.20 บาท)
หมายเลขอ้างอิงการโอน: ____________________
**หรือจะสแกน/ถ่ายรูปสลิปแล้วแนบไฟล์มาก็ได้ค่ะ
ปลล.หนังสือทุกเล่มจะได้รับลายเซ็นต์ของพี่วี พร้อมกับหลวงพี่กลมอบให้ทุกท่านด้วยค่ะ
เพราะหนังสือเสร็จหลวงพี่สึกออกมาแล้ว ฮ่าๆๆๆดีใจมากมาย
ขอบคุณมากค่ะ
Luk. :กอด1:
มนต์มาร
Part 16
มนต์รักปีศาจรูปงาม.
.
.
.
.
“ชู่ววว!! ผมเอง” กลิ่นกายแสนคุ้นเคย น้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างหู ทำให้พระลักษมณ์หยุดความคิด
ที่จะโต้กลับลงทันที ก่อนจะแหวใส่อย่างหงุดหงิด
“คุณจา..เล่นอะไรของคุณ สนุกมากสิท่าหาเรื่องเจ็บตัวเนี่ย?” ปาจาปล่อยแขนพระลักษมณ์ลง
ก่อนจะจับไหล่ร่างโปร่งหมุนให้มาเผชิญหน้ากันตรงๆ พระลักษมณ์นึกอยากเอาสนับมือตะบันหน้าหล่อ
ซึ่งอมยิ้มกลั้นขำให้หน้าแหกซะจริง
“ผมหงุดหงิดรู้ไหม? ยังมีหน้ามายิ้มอีก” ยิ่งพระลักษมณ์หน้าดำหน้าแดงออกอาการโมโห
กลับทำให้ปีศาจรูปงามมีความสุขพิลึกจนเกือบหลุดหัวเราะออกมาเพราะท่าทางไม่สบอารมณ์ของคนตรงหน้า
ก่อนที่คนถูกยั่วโทสะจะระเบิดอารมณ์เข้าใส่ เจ้าคุ้มรูปหล่อก็ชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ผมคิดถึงคุณจนทนไม่ไหว” เสียงทุ้มนุ่มที่ออกจากปากหนาได้รูปของร่างสูงใหญ่
อย่างไม่ปิดบังความรู้สึก ทำเอาไปไม่เป็นเพราะคำพูดตรงๆ กระแทกหัวใจอย่างจัง
จำต้องเบือนสายตาหลบมองไหล่หนาแทนก่อนจะสวนกลับไปว่า
“บ้าว่ะ? อยู่ด้วยกันทั้งวันยังจะพูดแปลกๆอีก แล้วไอ้วิธีเคาะห้องชาวบ้านโดยไม่เปิดเผยตัวนะ
ใครเค้าทำกัน” ประโยคหลังหาเรื่องตำหนิคนไม่รู้จักโตที่ดันเล่นพิเรนท์จนเกือบได้เลือดล้างหัวไปซะแล้ว
“ผมอยากทดสอบปฏิกิริยาป้องกันตัวว่าคุณระวังตัวมากแค่ไหน ผมจะได้สบายใจเวลาที่ไม่ได้อยู่ดูแล
อยากแน่ใจว่าคุณเอาตัวรอดได้อย่างสบาย” แต่คำตอบที่ออกจากปากปีศาจรูปงาม กลับทำให้หน้าหล่อใสของพระลักษมณ์
แดงก่ำขึ้นมาทันที จนต้องหาทางกลบเกลื่อน เพราะเสียงหัวใจกำลังเต้นระบำกระเด็นกระดอนด้วยคำพูดของเจ้าคุ้มนักรัก
ก่อนที่เจ้าตัวจะจับได้ว่าตนเกิดอาการเช่นไร
“แล้วไง ผมระวังตัวดีไหมล่ะ?” คำพูดที่แสดงความมั่นใจเต็มเปี่ยม ทำเอาปาจาอดยิ้มกว้างไม่ได้
ฉวยโอกาสจูงมือพาร่างโปร่งลงนั่งห้อยขาบนเตียงนอน ก่อนจะตามลงมาข้างๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“ก็ใช้ได้ไม่เลว แต่ยังมีช่องโหว่อยู่ ไม่งั้นผมคงประชิดตัวคุณไม่ได้หรอกจริงไหม?” ขึ้นต้นชมซะดิบดี
อิตอนลงท้ายกลับตำหนิซะงั้น พระลักษมณ์ผู้มั่นใจฝีมือตนมาตลอด ถึงกับส่งเสียงจิ๊ปากอย่างไม่เห็นด้วย
แม้จะรู้ว่าคนพูดกล่าวความจริงก็เถอะ ใครจะไปคิดเล่าว่าปีศาจรูปงามจะฝีมีเชี่ยวซะขนาดนั้น
“เหอะ! เพราะผมรู้ว่าเป็นคุณหรอกถึงได้ยั้งมือไว้ทัน ไม่งั้นรับรองได้เลือดโทรมหน้าเป็นแน่”
พระลักษมณ์ยังยืดอกปลายตามองใบหน้าหล่อเข้มของปาจาอย่างท้าทาย เถียงกลับว่าที่ตนพลาดนั้น
เพราะออมมือให้อีกต่างหาก
“หึหึหึ! ผมรู้คุณมีฝีมือ แต่จะยังไงก็ตามต่อให้เป็นผมคุณก็ไม่ควรให้เข้าถึงตัวได้ง่ายๆ เกิดมีอะไร
ไม่ชอบมาพากลขึ้นมาละ ผมอยากให้คุณระวังตัวให้มากกว่านี้ รับปากผมสิ” น้ำเสียงที่พูดจริงจังมาก มาพร้อมสายตาคมเข้ม
ซึ่งจ้องเอาคำตอบ ทำให้รู้สึกอุ่นวาบในอกอย่างไม่ทราบสาเหตุ นึกหงุดหงิดตัวเองชะมัดนับวันดันเกิดความรู้สึก
เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“อึม ผมรับปากเลิกจ้องได้ยัง” พระลักษมณ์จำยอมรับปาก พร้อมหาวิธีแก้เขินกับสายตาของ
ปีศาจรูปงามที่สื่อความรู้สึก จนต้องออกคำสั่งให้หยุดจ้องซะงั้น แต่ช่างไม่รู้เลยมั้ง ยิ่งห้ามก็เท่ากับยอมรับโดยปริยาย
ว่ารู้สึกต่อสายตาคนมองเข้าให้ ปาจาอดยิ้มกว้างไม่ได้ มือไวช้อนคางร่างโปร่งขึ้นรับจูบอย่างไม่ให้ตั้งตัว
“อื้อ...อือ..” ความชำนาญในการจูบของปีศาจรูปหล่อ พาเอาพระลักษมณ์ที่ยกมือยันไหล่หนาออก
ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมือข้างที่เหลือของปาจากุมทับไว้นิ่งๆพร้อมกับลูบหลังมือปลอบเบาๆ เหมือนเป็นการขอร้องไปในตัว
ทำเอาพระลักษมณ์พลอยโอนอ่อนให้ซะงั้น
จูบหวานซึ่งเจ้าคุ้มรูปหล่อรุกล้ำอย่างอ่อนโยน พระลักษมณ์ถึงกับเคลิ้มตามอย่างง่ายดาย
ต้องยอมรับว่าปาจามีศิลปะในการจูบที่พลิ้วไหวดึงดูดเร่งเร้าให้วาบหวามไปกับลีลาพลอยให้ความร่วมมืออย่างไม่รู้ตัว
ลิ้นชื้นคอยต้อนเกี่ยวกระหวัดดุนม้วนลิ้นนุ่มอย่างเป็นธรรมชาติ ปล่อยความรู้สึกตามความต้องการทั้งสิ้นอ่อนโยน
และรุกไล่สลับสับเปลี่ยนคละเคล้าพาให้ลืมหายใจกันไปข้าง
ทั้งคู่แลกจูบอย่างดูดดื่ม ก่อนจะแยกจากกันใช้เวลาไปพอสมควร ร่างโปร่งหน้าแดงก่ำลามไล่
ไปทั่วทั้งหูและลำคอขาว ส่วนเจ้าคุ้มรูปหล่อตาคมฉ่ำหวานเอาแต่จ้องหน้าใสไร้ตำหนิไม่ยอมละสายตาจาก
สายตาที่ใช้มองถ่ายทอดความความรู้สึกออกมาหมดไม่ปิดบังเลยสักนิด ในขณะที่มือหนาคอยเกลี่ยแก้มใสอย่างแผ่วเบา
ตากลมโตของพระลักษมณ์ถูกดึงดูดให้จ้องสบตาคมเข้มจนไม่สามารถเบือนหลบได้
สุดท้ายตัดสินใจรวบรวมสติ ฝืนเบือนหน้าหนีก่อนจะโดนบดจูบซ้ำอีกรอบ พร้อมกับร้องท้วงขึ้นว่า
“พอก่อน คุณกำลังล่อลวงผมอยู่นะเจ้าคุ้ม” แม้จะมีสติแต่กลับหา ข้ออ้างโดยแถโยนความผิด
ให้ปาจาเฉยเลย พลอยนึกกร่นด่าตนเองในใจ ทำไมถึงคิดหาคำพูดที่ดูดีกว่านี้ไม่ได้ขึ้นมาดื้อๆ ซะงั้น
“จริงสิ พูดจริงใช่ไหมที่คิดว่าผมล่อลวงคุณ” แววตาล้อเลียนของปีศาจรูปงามมาพร้อมคำพูดตอกย้ำ
ความซึนของตนอีกรอบ นึกอยากถีบปาจาตกเตียงซะจริง หมั่นไส้ไอ้ท่าทางเหนือกว่าของร่างใหญ่พิลึก
รู้สึกตนแพ้ทางไงไม่รู้
“พอเหอะผมมีสิทธิ์คิดนิ เมื่อก่อนผมเห็นคุณหายเข้าในห้องคุณธรรมตรัยตอนดึกประจำ
กลับออกมางี้เหงื่อท่วมยังกะคนไปทำอะไรกันมา ทีตอนนี้ดันเปลี่ยนมาเคาะห้องผม คงไม่ได้หวังจะใช้โปรโมชั่น
ที่ผมตกปากรับคำเป็นแฟนหรอกนะคุณจา ขอบอกไว้ก่อนผมไม่ใช่ที่ปลดปล่อยของคุณเหอะ” หลุดพูดถึงสิ่ง
ที่คาใจออกไปทันที ทำเอาปาจาคิ้วขมวดก่อนจะยิ้มแฉ่งพร้อมกับหัวเราะหน้าตาเฉย พระลักษมณ์ถึงกับงง
ปรับความคิดตามไม่ทันกับท่าทางไม่มีปี่มีขลุ่ยนี่ซะจริง เกิดเสือกขำบ้าไรขึ้นมาทั้งที่ไม่ใช่เรื่องน่าขำสักหน่อย
“ฮ่าๆๆๆฮา คุณหึงผมเหรอ ที่แท้แอบคิดไม่ซื่อกับผมมาก่อนแล้วสินะ ไม่รู้มาก่อนจริงๆ
ว่าคุณสะกดรอยตามผม” พระลักษมณ์ขมึงตาเขียวปั้ดเข้าใส่ปาจาทันที คิดได้ยังไงถึงตีความไปแบบนั้น
“เฮ้ย! หยุดหัวเราะเลยนะใครคิดแบบนั้นเล่า ผมก็ตามดูพฤติกรรมไม่ชอบมาพากล
ของแต่ละคนนั่นแหละ ไม่ได้นึกพิศวาสไรสักหน่อย แต่ก็เพราะผมตามดูไงถึงได้รู้ว่าคุณกับเลขามีซัมติงกันอยู่
ความจริงคุณเป็นพวกโฮโมฯ ถึงได้ชอบแบบนี้ ที่คิดกับผมคงเพราะรสนิยมส่วนตัวล้วนๆ เห็นทีผมกับคุณ
จะต้องคุยกันอย่างจริงจังแล้วมั้ง ผมว่า....” ก่อนที่ร่างโปร่งจะร่ายยาวไม่หยุด ปาจาใช้นิ้วแตะปิดปากพระลักษมณ์
พร้อมส่ายหน้าให้หยุดพูดเสียก่อน
“ชู่วววว! คุณกำลังคิดไปใหญ่แล้ว หยุดฟังผมอธิบายก่อนได้ไหม ข้อแรกผมกับธรรมตรัย
ไม่ได้เป็นอย่างที่คุณเข้าใจ แต่ก่อนผมอาจเถียงหัวชนฝาถ้าคุณกล่าวหาว่าผมเป็นโฮโมฯ แต่ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้
เพราะผมดันรู้สึกกับผู้ชายจริงๆแล้วด้วยสิ คนนั้นคือคุณไม่ใช่ใครหรอกครับ
ที่เห็นผมเข้าห้องธรรมตรัยยามวิกาล เพราะผมต้องไปทำพิธีสะกดหัวใจมารต้นแบบ มีผมเท่านั้น
ที่สามารถท่องคาถาสะกดมันได้ ยามใดที่หัวใจมารเรืองแสงและมีเลือดซึมออก แสดงว่าจิตมารกำลังร่ายมนต์เรียกเอา
หัวใจมารไปหามัน หากผมไม่รีบสะกดเอาไว้รับรองเรื่องใหญ่แน่
ถ้าหากจิตมารได้กินหัวใจมารเข้าไป คราวนี้แทบไม่มีอาวุธใดปราบมันได้แล้ว นอกจากพลังของมัน
จะแข็งกล้าแล้วยังสามารถคืนร่างได้ตามต้องการอีก โดยไม่ต้องรอคืนพระจันทร์ดับ นี่คือสาเหตุที่ผมต้องไปห้องธรรมตรัย
เพราะห้องนั้นเป็นที่เก็บหัวใจมารต้นแบบซึ่งธรรมตรัยดูแลรักษาเอาไว้ ยังมีประตูลับลงไปยังห้องใต้ดินอีกด้วยนึกดูให้ดีสิว่า
มันเป็นห้องที่อยู่ชั้นล่างประตูห้องใต้ดินจึงอยู่ที่ห้องนั้น เดิมที่เป็นห้องของคุณปู่ผม ก่อนคืนพระจันทร์ดับท่านต้องลงไปยัง
ห้องใต้ดินเพื่อขังตัวเองไม่ให้ออกอาละวาดไง
ประตูลับในห้องนั้นที่ผมพาคุณลงไป ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมผมต้องไปห้องธรรมตรัย อ๋อยังมีอีกเรื่อง
ที่เหงื่อผมออกเยอะเพราะต้องใช้พลังจิตต่อสู้กับจิตมารตะหาก ไม่ได้ทำอย่างที่คุณว่าสักหน่อยเลิกระแวงได้แล้ว
ตั้งแต่เกิดมาผมเพิ่งเคยสัมผัสผู้ชายครั้งแรกคือคุณเท่านั้น พอได้สัมผัสแล้วก็ถอนตัวไม่ขึ้น ไม่สิถอนทั้งตัวทั้งใจเลยตะหาก”
พระลักษมณ์ไปไม่เป็นแล้วทีนี้ เล่นมาทั้งแววตาและคำพูด ไม่เคยคิดมาก่อนบทจะป้อพ่อก็เล่นเอาซะไม่รู้จะโต้กลับ
ยังไงเหมือนกัน
“ทำไมถึงเงียบไปล่ะ จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ” แหนะยังมีหน้ามาถามอีก พระลักษมณ์เหลือบตา
มองปาจาแล้วต้องรีบเบือนหลบให้ไว ไม่ไหวๆ ตาคมเข้มวิบวับวิ้งๆมันยากต้านทานจริงๆ จนต้องบังคับเสียงไม่ให้สั่น
ตอบกลับไปว่า
“หมดธุระแล้ว คุณกลับไปสิผมจะได้พักผ่อน” ยอมเสียมารยาทออกปากไล่ดื้อๆ ซะงั้น
“ไม่ละ คืนนี้ผมจะนอนที่นี่” คราวนี้พระลักษมณ์หันควับมองปาจาหน้าเหวอไปแล้ว
ไม่คิดว่าจะกล้าพูดได้หน้านิ่งยังกับการนอนห้องตนเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาซะงั้น
“เฮ้ย! คุณจะมานอนทำไม ห้องคุณก็มีไม่ไปนอนเล่า” นึกคำพูดได้แค่นั้น ไม่รู้จะหาคำไหน
มาขับไล่ปีศาจหน้าตายที่นั่งปั้นหน้านิ่งจ้องเอาๆอยู่ข้างๆ ให้เข้าใจอะไรง่ายขึ้นบ้าง
“หึ! อยากรู้หรือว่าผมมานอนทำไม งั้นรอแป๊ป” ไม่รอพระลักษมณ์ถาม
ลุกไปตรวจล็อกประตูห้องเสร็จสรรพ ยื่นมือไปปิดไฟดับลงทันที
“พรึ่บ! เฮ้ย! อย่าสิวะไอ้คุณจา” เสียงสุดท้ายของพระลักษมณ์ที่หลุดรอดออกจากปากสวยได้รูป
ก่อนจะกลืนหายไปในคอของอีกคน ที่รวบกอดผลักร่างโปร่งนอนราบไปบนเตียงตามประกบปิดปากช่างเจรจาด้วยจูบเร่าร้อน
เรียกร้องให้คล้อยตามอีกครั้ง
ต่อด้านล่าง
-
รอหื่นค่ะ
-
อ๋ิ ค้าง :a5:
-
- 2 -
พระลักษมณ์พยายามขัดขืนแต่เหมือนปาจาจะรู้ว่าต้องยึดร่างคนข้างใต้ยังไงให้หยุดดิ้น
พร้อมกับบดจูบดูดลิ้นลิ้มรสความหวานอย่างหลงไหล ทำเอาค่อยๆสงบลงช้าๆ เคลิ้มไปกับจูบดูดดื่ม
ที่ปีศาจล่าสวาทปลุกเร้าให้เกิดความรู้สึกร่วมจนได้
ก่อนจะรับรู้ถึงนิ้วแกร่งลูบไล้สะกิดหัวนมให้ลุกตั้งชูชัน ในขณะที่ปากหนาได้รูปก็ทำหน้าที่
ป้อนจูบหวานต่อเนื่อง เล่นเอาร่างโปร่งต้องแอ่นอกหยัดสู้นิ้วโดยไม่รู้ตัว
“อ่า~” เสียงครางแผ่วสร้างความพึงพอใจให้กับปาจาเป็นอย่างมาก ก่อนจะค่อยๆ ดึงรั้งเสื้อนอน
ของพระลักษมณ์ให้หลุดออก ในขณะที่ปากหนาก็ทำหน้าที่ฉกจูบดูดหัวนมแทนนิ้วที่สะกิดอยู่ตอนแรก
เล่นเอาเสียวสะท้านไปทั่วสรรพางค์กาย ถึงกับเผลอขยุ้มศีรษะสวยของปาจาอย่างไม่รู้ตัว
“อือออ~” เสียงที่หลุดครางออกมากับปฏิกิริยาลดการต่อต้านของพระลักษมณ์ทำให้ปาจาได้ใจ
ละเลงลิ้นชื้นกระหวัดกลืนหัวนมสีสดสลับต่อเนื่องซ้ายขวา ในขณะที่มือหนาก็เคลื่อนลงต่ำลูบไล้แผ่วเบา ก่อนจะค่อยสอด
เข้าไปในกางเกงนอนอย่างไม่เร่งร้อน แล้วลูบไล้ยังแก่นกายที่โป่งพองจนคับแน่น ทำเอาพระลักษมณ์ถึงกับสะดุ้งเฮือก
เสียววูบตั้งแต่ท้องน้อยยันปลายเท้า
“ซี๊ดดด~อ่า~” อารมณ์นี้ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ารู้สึกดีมากแค่ไหน ยามเมื่อมือใหญ่รวบจับ
อย่างนุ่มนวลแล้วขยับรูดรั้งช้าๆ สลับวนนิ้วโป้งยังส่วนปลายที่ปริ่มน้ำเพิ่มความรู้สึกให้ร่างข้างใต้ไต่อารมณ์สูงขึ้นเรื่อยๆ
ถึงกับบิดตัวส่ายเอวร่อนเกินควบคุมความต้องการที่ปีศาจรูปงามปรนเปรอให้
สุดท้ายถึงกับเผลอหลุดครางกระเส่าเมื่อสัมผัสถึงความอุ่นชื้นที่ครอบครองยังแก่นกายแกร่ง
จนต้องแขม่วท้องเกร็งกล้ามเป็นลอนสวยยังกะลูกระนาดดูเซ็กซี่ยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนริมฝีปากหนายังคงทำหน้าที่ดูดกลืน
และรูดรั้งแทนมืออย่างต่อเนื่อง
“โอวววว~ซี๊ดดดด~” เสียงครางพร้อมกับเด้งเอวสวนรับจังหวะรูดริมฝีปากสร้างความต้องการให้ปาจา
อยากครอบครองร่างโปร่งไร้ที่ติของพระลักษมณ์จนทนต่อไปไม่ไหว ค่อยปลดพันธนาการออกจากร่างตนไปพร้อมกับ
ทำหน้าที่ปรนเปรอโอษฐ์กามอย่างต่อเนื่อง
พระลักษมณ์พริ้มตารับสัมผัสที่ได้รับอย่างยากปฏิเสธถึงความรู้สึกสุขสมที่ได้รับ แทบไม่ได้รู้ตัวสักนิด
ว่าขณะนี้ร่างตนไร้ซึ่งอาภรณ์ห่อหุ้มกายเปลือยเปล่าล่อนจ้อนขาวโพลนในความมืด ในขณะที่ร่างสูงใหญ่ของปีศาจรูปงาม
ก็ไม่ต่างกัน กล้ามเนื้อสมส่วนของชายชาตรีแข็งแกร่งอุดมด้วยซิกแพ็คสวยยังกะรูปปั้นลูซิเฟอร์ ใบหน้าคมเข้มงามสมชาย
ที่สามารถกระตุกหัวใจใครต่อใครให้หวั่นไหวทุกครั้งยามเผลอมองเข้าให้
และแล้วสัมผัสเย็นลื่นทางช่องประตูหลัง ทำให้พระลักษมณ์ตัวแข็งชะงักไปชั่วขณะก่อนจะหดเกร็ง
เมื่อนิ้วยาวสอดแทรกเข้ามา ถึงกับส่ายหน้าร่อนสะโพกหนี แต่เพราะแรงดูดรูดรั้งจากริมฝีปากด้านหน้าทำเอาอารมณ์เตลิดลิ่ว
เผลอแอ่นสะโพกยัดตามริมฝีปากของปีศาจรูปงาม เปิดโอกาสให้นิ้วแกร่งสอดแทรกเข้าไปจนสุดก่อนหมุนคว้านหาจุดพิเศษ
จนเจอในที่สุดเมื่อร่างโปร่งกระตุกเฮือก หลุดเสียงซี๊ดปากอย่างแรง เป็นสัญญาณให้รู้ว่าตรงนี้คือส่วนไวต่อสัมผัส
ต้องเน้นย้ำทันที
“ซู๊ดดด!!! อื้อออๆๆๆ!!” การส่งนิ้วกดเน้นบริเวณดังกล่าว ทำให้บิดตัวเกลียวด้วยความเสียว
ทั้งข้างหน้าข้างหลัง ในขณะที่ปาจาเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปอีก เมื่อช่องทางผ่อนคลายลื่นไหลสะดวกกว่าเดิม
ดวงตาคมเข้มเหลือบมองหน้าหล่อใสที่พริ้มหลับ เชิดคางสูงอ้าปากหอบกระเส่าตามอารมณ์ แต่ก่อนที่จะเดินทางสู่ฝั่งฝัน
ปาจาผละออกยกขาขาวแข็งแกร่งขึ้นพาดบ่าแล้วโน้มตัวดันสูงไปข้างหน้า ทำให้ก้นขาวกลมลอยเด่นขึ้นล่อตาอย่างชัดเจน
ช่องทางสีพีชกระชับแน่นจนทำให้คนมองใจเต้นรัวกระหน่ำ ก่อนจะจับแก่นกายใหญ่โตสมกับ
รูปร่างเจ้าของจ่อชิดแล้วกดส่วนหัวชำแรกแทรกเข้าไปช้าๆ พระลักษมณ์เผลอจับไหล่หนาบีบอย่างแรงเพราะความเจ็บที่ได้รับ
แต่ก็ยังรู้สึกน้อยกว่าคืนที่ผ่านมา คงเนื่องจากเจลเย็นที่นำร่องและความลื่นไหลไม่ฝืดมากนัก ถึงแม้ความคับแน่น
อุ่นร้อนที่กำลังเบียดแทรกจะทำให้เจ็บจุกอึดอัดไปหมด แต่ก็ให้รู้สึกตื่นเต้นอยากเอาชนะต่อความรู้สึกนี้เช่นกัน
พระลักษมณ์เม้มปากแน่น ก่อนจะหายใจลึกยาวผ่อนการเกร็งของกล้ามเนื้อ กลับต้องสะดุ้งเฮือก
เมื่อปาจาดันพรวดทีเดียวมิดยันโคน
“โอ้ย!..อืมม!!!” แม้จะเจ็บไม่น้อย แต่ความอดทนสูงทำให้ไม่ยอมร้องออกมา
คงมีแต่หางตาที่ชุ่มน้ำแสดงให้เห็นว่าร่างโปร่งทรมานไม่น้อย
ปาจาเห็นความอดทนที่มี และความพยายามในการผ่อนเกร็งร่างกายทำให้รู้สึกสงสารเห็นใจ
แต่ความรู้สึกสุดท้ายทั้งรักและหลงไหลมากมายท่วมท้นจนล้นทะลักแล้ว ตัดสินใจยกขาขาวแข็งแรงของพระลักษมณ์
ลงแนบสะโพกแล้วโน้มศีรษะลงบดจูบเพื่อให้คลายการเม้มริมฝีปาก ก่อนสอดแทรกลิ้นชื้นเข้าไปกวาดต้อน
กระตุ้นความรู้สึกซ่านเสียวขึ้นมาอีกครั้ง
มือใหญ่ยังคงทำหน้าที่รวบจับแก่นกายแกร่งที่พาดหน้าท้องขาวของร่างโปร่งสาวรูด
เดินเครื่องให้อีกครั้ง เรียกความรู้สึกเสียววูบจนต้องเหนี่ยวคอหนาลงมาบดจูบอย่างเร่าร้อน
ร่างงดงามสมชายของทั้งคู่สีผิวตัดกันยังกะภาพเขียนหายาก ผิวสีแทนตัดได้ลงตัวกับผิวขาว
ซึ่งกำลังบดคลึงสะโพกโยกเบียดไปมา ในขณะที่ริมฝีปากนัวจูบอย่างเร่าร้อน ก่อนสะโพกแกร่งของปีศาจรูปงาม
จะยกสูงและอัดกระแทกกลับเข้าไปเน้นๆ หนั่นเนื้อบดกระทบกันสร้างความรู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งตัว
“โอววว...ซี๊ดดดด!!!..” สองเสียงครางประสาน ก่อนจะถอยสะโพกสุดความยาวแล้วอัดกระแทก
กลับเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ระยะห่างการถอยและกดกระแทกเข้าใส่ยังกะลูกสูบเครื่องยนต์ที่ออกตัวก่อนจะรัวเร็วกระชั้นขึ้น
จนร่างข้างใต้ซึ่งรองรับการกระแทกกระทั้นสั่นคลอนไปตามจังหวะปะทะสนั่นหวั่นไหว
“พั่บบๆๆ..ปั๊ปปปปๆๆๆ!!! อ่า~ซี๊ดดดๆๆๆ” ไม่ต้องสนอีกแล้ว เมื่อสัญญาณความพึงพอใจที่เร่งเร้ามา
มีผลกระตุ้นให้ความฮึกเหิมของปีศาจรูปงามเดินเครื่องเต็มลูกสูบ พาเอาทั้งคู่ครางระงมกับความเสียวกระสันที่ได้รับประหนึ่ง
มีประจุไฟฟ้านับแสนนับล้านวิ่งกระจายไปทั่วทั้งร่าง
การเร่งเครื่องกระชันถี่มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่มือหน้าคอยรูดรั้งชักสาวให้ร่างโปร่งไปด้วย ซึ่งตอนนี้
แหงนหน้าเชิดคาง อ้าปากปล่อยเสียงครางกระเส่าอย่างลืมตัวไปแล้ว
“ซี๊ดดดๆๆๆอ่าๆๆๆ..อืมมมๆๆ” และแล้วในที่สุดอกขาวเนียนแกร่งก็ดันสูงกล้ามทองสวยเกร็ง
เป็นลูกระนาดก่อนจะกระตุกพ่นน้ำรักขาวขุ่นส่งแรงถึงปลายคาง พาลเผื่อแผ่เลอะทั่วหน้าท้องปีศาจรูปงามที่แหงนหน้า
กัดกรามแน่นจนเส้นเลือดเอ็นคอปูน เสยส่งแรงกระแทกแก่นกายใหญ่รัวกระหน่ำต่อเนื่อง ก่อนจะรวบบีบสะโพกกลมขาว
ของพระลักษมณ์แน่นกระตุกปล่อยธารร้อนระอุเข้าไปยังผนังนุ่มด้านในที่ตอดรัดถี่ยิบ สัมผัสรู้ถึงชีพจรจากแก่นกาย
กระตุกตึกๆๆๆ ก่อนร่างเกร็งแน่นจะค่อยๆ ผ่อนทรุดโอบร่างโปร่งซึ่งนอนหายใจโยน ไม่ลืมระดมจูบซับตามลำคอขาว
แก้มเนียนใส ขมับชื้นเหงื่ออย่างรักใคร่หลงไหล
กลิ่นเหงื่อกลิ่นกายกลิ่นน้ำรักคาวคลุ้งผสมผสานตลบอบอวลห้อมล้อมทั้งสองคนให้เคลิบเคลิ้ม
ยังกะทั้งคู่หยุดโลกไว้ในวินาที ไม่สนใจสรรพสิ่งรอบข้างนอกจากเสียงกระซิบทุ้มส่งผ่านข้างหูของพระลักษมณ์แว่วหวาน
“ผมรักคุณ ผมรักคุณพระลักษมณ์” ริมฝีปากหนาพรมจูบสลับเสียงกระซิบที่กระแทกหัวใจให้รัว
กระหน่ำรู้สึกพองโตขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนร่างใหญ่แข็งแกร่งจะค่อยถอดถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วรวบอุ้ม
เอาร่างโปร่งของพระลักษมณ์เดินโทงๆ เข้าไปชำระล้างในห้องน้ำทันที เราต่างไม่รู้ว่าบทเพลงพิศวาสอันเร่าร้อน
สิ้นสุดลงแล้วหรือยัง หรืออาจมีต่อในห้องน้ำอีกก็อาจเป็นได้ ตราบใดที่ปีศาจรูปงามสามารถร่ายมนต์สะกดให้
หัวใจของมานูเอลรูปหล่อลุ่มหลงมนต์พิศวาสจนยากไถ่ถอนหัวใจตนได้เช่นกัน....
เช้าลืมตาตื่นในอ้อมกอดของอกหนา รู้สึกอุ่นใจเกินบรรยาย แอบจ้องหน้าหล่อปานรูปสลัก
ของปาจาแล้วให้ร้อนวาบไปหมด เมื่อนึกถึงคืนที่ผ่านมาว่าตนเร่าร้อนไปกับบทรักของปีศาจตนนี้แค่ไหน
ค่อยขยับตัวเตรียมเลื้อยออกมาอย่างเนียนๆ แม้จะรู้สึกขัดยอกบั้นท้ายไม่น้อย แต่ก็ไม่กระไรมากสำหรับมนุษย์
ที่ผ่านการฝึกฝนร่างกายมาอย่างหนัก
“อืม จะไปไหนครับ” คำถามแสนสุภาพของคนที่ตายังพริ้มหลับ แต่สัมผัสรู้ว่าร่างในอ้อมกอด
กำลังขยับออกจากอก
“จะเจ็ดโมงแล้ว ต้องรีบลุกคุณก็เหมือนกัน ไม่รีบแต่งตัวพากันหายหัวไม่ทันอาหารเช้า
คนได้สงสัยทั้งบ้านแน่” พระลักษมณ์บอกกลับไป
“หึ..ใครจะสงสัย ในเมื่อกายันต์ ธรรมตรัย และนมอ่อนเค้ารู้กันแล้วนี่ว่าคุณเป็นของผม” ตายห่า!
ฟังพี่ท่านพูด อยากถีบคนขี้เซาที่เอาแต่พูดไม่ลืมตาให้ตกเตียงชะมัด
“ช่างเหอะ! อย่างน้อยคุณสิตากับหนูผาก็ไม่รู้นิ แค่นี้ผมก็วางหน้าไม่ถูกแล้ว
รักษาหน้าผมหน่อยดิครับด๊อกเตอร์” เป็นครั้งแรกที่พระลักษมณ์เรียกตำแหน่งทางวิชาการของปาจา
“หึหึ! เรียกซะเต็มยศเลยนะคุณ ไม่สิจะให้ครบจริงๆ คุณต้องมีพันตำรวจเอกต่อท้ายให้ผมด้วย
นะครับ ผู้กองพิษณุทรงพล” ปาจาก็เล่นกลับเช่นกัน ไม่ไหวเหลือจะทนกับมาดเล่นหัวของปาจา
ดันร่างหนาออกให้พ้นแล้วเบี่ยงตัวลุกแต่กลับถูกรวบกอดดึงลงไปหอมแก้มอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ฟอดดดด!!” เล่นเอาหน้าเหวอไปทันที
“เฮ้ย! อย่ามาหื่นแต่เช้าขอร้อง เมื่อคืนคุณก็ล่อผมจนขาสั่นแล้วหยุดเลย ปีศาจบ้ากาม”
เปลี่ยนสรรพนามให้เรียบร้อย ปาจาจ้องหน้าแดงก่ำของพระลักษมณ์อย่างนึกรัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ผมกลายเป็นปีศาจบ้ากามเพราะใครยั่วผมหละ” คำพูดที่โยนคำถามกลับแบบไม่ต้องหาคำตอบ
ทำให้พระลักษมณ์เอ๋อแดกไปอีกรอบ เหมือนสมองสั่งการช้าเสียแล้วในการโต้กลับปีศาจรูปงามที่นอนเปลือยท่อนบน
ให้เสียวสันหลังตรงหน้า
“คุณนี่มัน..ชิ..ผมจะอาบน้ำปล่อยได้แล้ว” พอเห็นว่ายั่วพระลักษมณ์หน้าแดงจนหาทางเถียงไม่ออก
รู้สึกพอใจแล้ว ปาจาก็ยอมปล่อยให้ไปอาบน้ำทำธุระส่วนตัวตามความต้องการ ส่วนตนนอนเอาแขนหนุนหัว
มองตามร่างโปร่งผิวขาวที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อสมส่วนอย่างไร้ที่ติจนเพลินตา และต้องยอมรับว่า
พระลักษมณ์เป็นชายคนแรกที่ปลุกความรู้สึกของหัวใจตนซึ่งหลับไหลให้ตื่นขึ้นมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง รอยยิ้มอย่างมีเสน่ห์
จึงผุดขึ้นบนริมฝีปากหนาได้รูปโดยที่อีกคนไม่มีโอกาสได้เห็น หากแม้จะเอะใจหันมามองคงได้ตะลึงกับยิ้มพิฆาต
ปล่อยฟีโรโมนจนอ่อร่ากระจายรอบตัวปีศาจรูปงามที่โชว์แผงอกแกร่งหนั่นแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง
ปานรูปสลักลูซิเฟอร์
จังหวะปาจาเปิดประตูห้องออกมาพร้อมกับร่างโปร่งต่างต้องชะงัก เมื่อเจอสิตา
กำลังเปิดประตูห้องตรงข้ามออกมาเช่นกัน
ใบหน้าสวยเรียบเย็นขมวดคิ้วแปลกใจไม่น้อย ที่เห็นปาจากับพระลักษมณ์
ออกมาพร้อมกันในห้องของหนุ่มหล่อหน้าใส แต่โดยมารยาทสิตาก็ไม่ได้ถามแค่ทักทายปกติ
“สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณจา คุณพระลักษมณ์” ปาจายิ้มให้ ไม่แสดงอาการใดๆ ในขณะที่อีกคน
แทบเก็บอาการไม่อยู่ ต้องเนียนแกล้งทักกลับไปว่า
“คุณสิกำลังจะไปทานมื้อเช้าใช่เปล่าครับ” คำถามของพระลักษมณ์ ทำให้สิตาต้องยิ้มตอบ
พร้อมกับพยักหน้าตอบรับ
“ดีเลยงั้นไปพร้อมกันสิครับ ผมกับคุณจากำลังจะไปพอดี” พระลักษมณ์พูดจบ ปาจาผายมือ
ให้เกียรติสิตาเดินนำในขณะที่ทั้งสองตีคู่ตามหลังร่างสวยเอวบางได้สัดส่วนของสิตา ปาจาหันมาสบตาร่างโปร่ง
แถมอมยิ้มล้อเลียนให้อีก ในขณะที่พระลักษมณ์ถลึงตาใส่ประมาณเกือบไปแล้วไหมละ แต่ปาจาหาได้สน
มียักไหล่แบบไม่แคร์อีกต่างหาก อย่างถีบก้นปาจาให้กระเด็นติดข้างฝาจริงๆ ท่าทางน่าหมั่นไส้ชะมัดให้ตายเหอะ
มื้อเช้าเป็นปกติ สิตาก็ไม่ได้มีคำพูดอะไรเกี่ยวกับที่พบทั้งสองออกจากห้องด้วยกัน
ทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปแบบทุกวัน หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ตนเอง ส่วนพระลักษมณ์
โดนปาจาลากให้มาช่วยงานเอกสารในห้องทำงาน
ปาจาให้ช่วยตรวจเอกสารต่างๆ ซึ่งเป็นธุรกิจของคุ้มดงพญามีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่พระลักษมณ์ก็ทำความเข้าใจไม่ยากและช่วยงานปาจาโดยไม่บ่น ความจริงหน้าที่นี้เป็นของธรรมตรัย วันนี้เป็นวันสำคัญ
ซึ่งธรรมตรัยต้องไปจัดเตรียมพิธีชำระล้างจิตมารให้กายันต์ ดังนั้นทั้งคู่จึงขลุกกันอยู่ในห้องใต้ดิน
พระลักษมณ์เลยต้องอยู่ช่วยงานปาจาแทน
“คืนนี้ผมไปดูพิธีชำระล้างจิตมารให้คุณยันต์ได้หรือไม่” คำถามของพระลักษมณ์
ทำให้ปาจาชะงักมือที่กำลังจรดปากกาไล่เซ็นเอกสาร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาตอบว่า
“ได้สิ คุณไปพร้อมผมแหละ แต่หลังจากนั้นต้องปล่อยให้ธรรมตรัยกับกายันต์
เค้าอยู่ตามลำพังกันสองคน เราดูจนจบพิธีไม่ได้” ปาจาตอบกลับมาพาให้สงสัยเข้าไปใหญ่
“อ้าวทำไมละ? พิธีชุบกระสุนเงินกับหัวใจมารก็ดูไม่ได้เหรอ” อดไม่ได้ต้องถามกลับไปทันที
“นั่นมันเริ่มทำก่อนได้ดูอยู่แล้ว แต่ตอนชำระล้างจิตมารคุณอาจได้เห็นกายันต์คืนร่างกับตา
ปกติจะคืนร่างเฉพาะคืนพระจันทร์ดับ แต่ผมบอกแล้วไง หากนำหัวใจมารต้นแบบแช่ในอ่างพิธีแล้วกายันต์ลงน้ำเมื่อไหร่
เค้าจะคืนร่างมารทันที แต่พอชำระล้างคืนสู่ร่างมนุษย์แล้วเราต้องกลับออกมา ทีเหลือเป็นหน้าที่ของธรรมตรัยที่จะต้อง
ถวายพรหมจรรย์ดึงหัวใจมนุษย์คืนให้กายันต์อย่างถาวร” คำตอบของปาจาทำเอาพระลักษมณ์อึ้งไปเลย
ก่อนจะถามตามที่สงสัย
“อย่าบอกพวกเค้าต้องร่วมรักเหมือนที่เราทำ” คำถามซื่อๆทำให้ปาจาต้องชะงัก
อดยิ้มไม่ได้ เพราะพระลักษมณ์พูดคำว่าเราไม่ขัดเขินสักนิดหรือไม่รู้ตัวละมั้ง
“ใช่ แตกต่างตรงที่ทั้งคู่ไม่มีร่างแฝงเหมือนเรา ธรรมตรัยครองเพศพรหมจรรย์มาเพื่อพิธีนี้โดยเฉพาะ
เค้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวทั้งหญิงทั้งชายมากว่า28 ปี เค้ายอมสละพรหมจรรย์เพื่อรับใช้ตระกูลผมตั้งแต่ต้น หากกายันต์ไม่ได้ร่วมรัก
กับธรรมตรัย พิธีชำระล้างจิตมารดึงหัวใจและวิญญาณความเป็นมนุษย์ก็ไม่สมบูรณ์ วันใดที่จิตมารอีกตัวใช้คาถาสะกด
กายันต์ได้ก็สามารถบังคับไปเป็นบริวารมันได้เช่นกัน เพราะงั้นพวกเค้าจึงต้องอาศัยศีลพรหมจรรย์ของธรรมตรัย
ที่รักษามากว่า 28 ปีเป็นการตัดสายสัมพันธ์มารออกจากร่างและวิญญาณกายันต์ให้สิ้นซาก” คำตอบของปาจา
ทำให้พระลักษมณ์ถึงกับหน้านิ่ว อดตั้งคำถามต่อไม่ได้
“ไม่อยากเชื่อว่ามีคนเสียสละตนเองเพื่อเรื่องนี้ไม่น้อย ผมแอบสงสัยทำไมไม่ใช่พรมจรรย์ผู้หญิง
ใยถึงใช้ของผู้ชายหืม” พระลักษมณ์ถามตามข้อสงสัยไม่จบไม่สิ้น แต่ปาจาก็ไม่นึกรำคาญที่ไขข้อกังขาให้ฟัง
“ไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะผู้หญิงใช้กับพิธีนี้ไม่ได้ เนื่องจากผู้หญิงเป็นพรหมจรรย์ที่มีมลทินทางเลือด
และฤดูขาว ไม่บริสุทธิ์และไม่ขลังเท่ากับศีลพรหมจรรย์ของบุรุษ นอกจากจะถือครองพรหมจรรย์แล้ว ยังต้องรักษาศีลห้า
ให้ครบด้วยตรงนี้แหละคือหัวใจหลักเลยเชียวหละ ผมเองยังทำไม่ได้เต็มร้อยเลยสำหรับศีลห้า” คำตอบของปาจา
ทำให้พระลักษมณ์ถึงกับพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็อดเปรยออกมาอีกจนได้ตามนิสัยช่างคิดของตน
“มิน่าคุณเลขาถึงทำชีวิตไม่มีสีสันปั้นหน้าเย็นชาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง
คุณกายันต์กับคุณนี่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเลยเนอะ” ไปๆมาๆ ลงท้ายแขวะปาจาซะงั้น
“ใครบอกคุณ เสร็จพิธีผมเชื่อว่ากายันต์จะรับผิดชอบธรรมตรัยเหมือนที่ผมรับผิดชอบคุณแน่นอน
เพราะหัวใจมนุษย์ของกายันต์จะไม่สามารถรักใครได้อีกแน่ยามที่ได้เสพสังวาสรับเอาพรหมจรรย์ของธรรมตรัยไปแล้ว
เพราะนั่นคือลิขิตเดียวที่ไม่มีใครหลีกพ้นเหมือนผมที่หลงรักคุณเข้าให้เช่นกัน” แต่สุดท้ายคำพูดที่ตั้งใจหยอดพระลักษมณ์
ก็ทำให้ร่างโปร่งรีบก้มหน้าสนใจเอกสารต่อทันที แบบไม่สามารถหาคำมาโต้แย้งได้อีก แพ้ทั้งคำพูดทั้งสายตาคมเข้ม
ที่ส่งมาให้จนแก้มใสร้อนซะแทบระเบิด ให้ตายไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยจริงๆ สุดท้ายวนเข้าตัวจนได้
“ก๊อกๆ ก๊อกๆ” เสียงเคาะประตู เบรคอาการเขินจนอยากมุดกองเอกสาร
ของพระลักษมณ์ไว้ได้ทัน ทำให้ปาจาต้องเอ่ยอนุญาตให้เข้ามาได้
“เชิญ” และแล้วเป็นร่างของเลขาเย็นชาที่เปิดประตูเข้ามา มีเหลือบมองพระลักษมณ์
และยักหน้าให้เป็นการทักทาย ก่อนจะหันไปหาปาจาแล้วพูดขึ้นว่า
“สิงห์คำหัวหน้าคนงานแจ้งว่า พบศพครูรัสสากับรถยนต์ของเธอเลยทางเข้าคุ้ม
ประมาณกิโลกว่าอยู่ข้างทาง ตอนนี้แจ้งสารวัตรคมสันแล้วครับ” คำรายงานไม่แสดงความตื่นเต้นกับสิ่งที่บอกสักนิด
แต่คนฟังอย่างพระลักษมณ์ถึงกับอึ้งแดกไปแล้ว เป็นไปได้ยังไงครูรัสสาแสนสวยรวยเสน่ห์เห็นกันอยู่หลัดๆ
จะมาตายกระทันซะงั้น ปาจานิ่งไปเป็นครู่ก่อนจะตอบกลับไปว่า
“ไปดูกัน” พูดจบเจ้าคุ้มรูปงามลุกพรวดจากเก้าอี้ ก่อนจะก้าวเดินออกประตู
พระลักษมณ์รีบร้องตามทันที
“ผมไปด้วย” ???????????????
มาต่อให้แล้วนะคะ หวังว่าคงถูกใจทุกท่าน
ขอบคุณกับทุกเป็ดทุกกำลังใจที่กดให้อย่างต่อเนื่อง
เพราะกำลังใจดีเช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงไม่อยากให้พวกท่านรอนาน
ขอให้มีความสุขกับตอนนี้ สัญญากำลังใจมีให้รับรองไม่ทิ้งนานแน่นอน
Luk. :pig4:
-
อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดดดด ลายเซ็นต์ :impress3: ดีใจมากค่ะ
+100000000 ตรง ปล.
+1 :กอด1:คนเขียน เพราะเค้าให้ได้คนละแค่นั้น จริงๆอยากให้มากกว่านี้ค่ะ
-
เหอๆ...เสร็จโรงเรียนปาจาอีก...มีครั้งที่หนึ่งย่อมมีครังที่สองเสมอ....อิอิ :-[ :-[ :-[
-
:กอด1: :L2: :-[หลงปีศาจเข้าแล้วล่ะ คุคุ
-
เริ่มด้วยความหวาน ตามด้วยความเร่าร้อน ตบท้ายด้วยความอิ่มเอม :jul1:
อยากอ่านคู่กายันต์ กับ คุณเลขามั้งจัง
:pig4:
-
รัสสาตายแล้ว!! :laugh:
:เฮ้อ: ตายได้ยังง้ายย
-
เรื่องนี้ต่อให้ลงเร็วขนาดไหนก็ไม่พออ่านอยู่ดี :z3:
เสพติดขั้นรุนแรง (ขนาดพรุ่งนี้มีสอบยังมานั่งกดรีเฟรชรอ)
ว่าแต่ว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้วล่ะสิ !!
เป็นนิยายที่เดาทางยากจริงๆค่ะ
(ถึงได้ติดขนาดดดดดดด)
-
ยิ่งอ่านยิ่งหลงคู่นี้> <
พระลักษมณ์น้อยเสร็จปาจาอีกแว้ววว
รออ่านคู่คุณเลขา
ขอบคุณคุณลักค่ะ ^^
-
เร้าร้อนกันน่าดู อย่างที่ลักพูดนั้นแหละ :-[
สองพี่น้องนี่ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง เป็นกำลังใจให้คนแต่ง~ สู้!
-
+ :5774:
-
หุหุ เจอปีศาจบ้ากามเข้าไป พระลักษณ์เราจะไหวป่าวนี่
ว่าแต่ครูรัสสาโดนตัวอะไรหรือใครทำ้ร้ายนี่
-
หวานซ๊าาาาาาาาาาาาา :laugh: :laugh:
-
กรี๊ดๆๆๆๆ อยากอ่านตอนของธรรมตรัยกับกายันต์แล้วอ่ะ
รัสสาตายได้ไงหว่าอยากรู้จัง
-
ลุ้นๆๆๆ
o13 o13
-
บทอัศจรรย์... สุดยอด!!!!!!! :o8: :o8: :o8:
ว่าแต่ครูตายเพราะอะไร?????
-
พระลักษมณ์ :pighaun: คุณจาถึงกับย่องมาหาเลยเหรอ
-
กะลังสงสัยว่าจิตมารที่เป็นศัตรูนี่จะใช่สิตารึเปล่าน้า :serius2:
-
เริ่มหลงเสน่ห์ปีศาจรูปงามซะแล้วซิ :-[
-
น่ารักมากเลย ปีศาจน้ำตาล
-
แหมๆๆ พ่อจา ติดใจนู๋สายลับ
เราเข้าอย่างจัง ไปไหนไม่รอดหละ
-
คุณจาน่ารักอ่ะ
-
สนุกมากเลยค่า อ่านรวดเดียวเลย +1 นะคะ :o8:
-
อยากจะบอกว่า
เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งติดเจ้าค่า
อ่านเท่าไหร่ก็ไม่พอ(อินี่โลภ)
:laugh:
ตอนนี้เค้าหวานกันจนคนอ่านเลือดพุ่ง
แอบวาดหวังคู่คุณเลขากับกายันต์
เราคงจะได้สำลักความหวานกันอีกเป็นแน่แท้ ฮี่ๆๆๆ
:z1:
แอบคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้นว่าเค้าต้องคู่กัน
อ่านแล้วมีความสุข
กด+แถมเป็ดให้คุณลักกี่ตัวก็ไม่พอ
สู้ๆค่า :กอด1:
-
+1 ให้ความหื่นของปีศาจรูปงาม :haun4:
-
เอาเป็ดไป 2 ตัว สำหรับความร้อนแรง :haun4: :haun4: :haun4:
-
:-[ ปีศาจบ้ากาม
-
:m25: :m25: :m25:
-
:a5:
ผู้กองคมสันอายุเท่าไร
สงสัยในตัวผู้กองอ่ะจะเป้นจิตมาร :serius2:
เดาถูกป่าวหว่า :z2:
-
+1 :กอด1:
ชอบตอนนี้จังเลย :z1: หวานกันซะเลือดพุ่ง!
ธรรมตรัยรักเดียวใจเดียวอะเวอร์จิ้นมาตลอดอายุ 28 ปีเพื่อกายันต์~
-
อ้าวไหงครูรัสสากลายเป็นศพเสียแล้ว
เกิดอะไรขึ้นเนี่ยกำลังอยู่ในช่วงจะได้คืนร่างแล้วเชียว
รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบบบบบบ
-
โดนคาถานะจังงังเข้าไปวันละ 24 ชม. ต่อไปไอ้เสือคงสิ้นลาย :laugh:
การตายของครูรัสสามีเงื่อนงำ ชัวร์ป้าดดดด
-
กอดๆๆๆๆ ฟัด!!ๆๆๆ(อันนี้เริ่มไม่เกี่ยว 555)
อ่านไปยิ้มไป ชอบสุดๆอ่า ><
NC NC โฮก~~มากค๊า
:m25: :z1: :pighaun: :haun4: :jul1:
รอดู NC กายันต์♥ธรรมตรัย
สู้ๆ ฮูเล้ๆ +1 +เป็ด +ใจ จุ๊ฟๆ
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
:L2: :L2: :L2: :L2:
-
เริ่มมีคิวบู๊ละ
-
ผู้หญิงหึงโหด คุณปาจาต้องระวังตัวให้ดีนะ เป็นห่วงคุณพระลักษณ์
-
:jul1: โอ้วว คู่นี้ทั้งหวานทั้งร้อนแรง
รอดูคู่ กายันต์ อิอิ
-
น่ากลัวมาก ๆ เลยอ่า
-
อึ้งไปเลย
นี่เป็นวิธีการตัดชะนีออกจากวงรึป่าว ฮ่าๆ
สงสารคุณครูเหมือนกันนะ แต่ช่างเหอะ
ตื่นเต้นเรื่องธรรมตรัยกับกายันต์จะแย่
พึ่งรู้ว่าคุณเลขา ยังซิงซะขนาดนี้
รอตอนต่อไปนะคะ
-
o22
-
หงัยคุณครูมาตายได้ล่ะเนี่ย :เฮ้อ:
คืนที่ผ่านมาไม่ใช่คืนเดือนมืด จิตมารก็ไม่น่าแปลงร่างแผลงฤทธิ์ฆ่าคนแบบไม่ดูหน้าได้
ซึ่งหากคุณครูตายเพราะจิตมาร จิตมารจะฆ่าคุณครูโดยเจาะจงว่าต้องเป็นคุณครูเท่านั้นเพราะอะไรล่ะ
หรือว่าจิตมารสงสัยว่าคุณครูเป็นคนที่จะมาถอนคำสาป ก็เลยฆ่าชิงตัดหน้า
แต่ก็นะ คุณครูก็อยู่ที่นี่มาตั้งนานแล้ว ทำไมจิตมารเพิ่งจะมาสงสัย
เพราะจิตมารเองก็เพิ่งจะได้รับรู้ว่าผู้แก้คำสาปเพิ่งจะเดินทางมาถึงบริเวณคุ้มนี่นา
เง้อออออ สงสัยกันต่อไปปปปปป
อ่านตอนนี้จบแล้วเห็นใจสิตา จะแห้วทั้งกายันต์และปาจาพร้อมๆ กันทีเดียวซะแล้ว
ถ้าปาจาบอกว่ากายันต์ต้องรับผิดชอบพรหมจรรย์ของธรรมตรัย แล้วที่ผ่านมากับสิตาล่ะ จะไม่รับผิดชอบหรือ? (พระเอกตรูจะไม่น่าปลื้มก็ตรงนี้ล่ะมั้งเนี่ย :z6: )
ตัวเลือกผู้น่าสงสัยว่าเป็นจิตมารตอนนี้มีน้อยเกินไป เพราะถ้าฟันธงว่าเป็นผู้ชาย (จากที่ทายาทมนต์มารต้องเป็นผู้ชาย) ก็มีสารวัตรคนเดียวอะนะ
อืมมม..หรือว่าจิตมารจะเป็นผู้หญิง อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
โอ๊ยย สับสน งั้นรอตัวละครตัวอื่นๆ ของคนเขียนต่อไปดีกว่าค่า คิดว่าต้องมีมาให้คนอ่านปวดหัวอีกแน่นอน :z3:
ขอบคุณคนเขียนมากๆ น้า :pig4:
-
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
ปาจาช่างขยันผลิตน้ำหวานจริงๆๆๆ
จะกลายร่างเป็นผึ่งงานวันไหนเนี่ย
หวานตลอดหยอดพระลักษมณ์ซะอายม้วนเชียว :-[ :-[ :-[ :-[
แล้วครูรัสสาเนี่ยถูกใครฆ่าอ่ะ
คงไม่ใช่จิตมารหรอกนะ
o22 o22 o22 o22
ปล. +1 ไปเลยจร้า
o13 o13 o13
-
โอ้มีการตายเกิดขึ้นอีกแล้ว ทำไงดีเนี่ย...
-
หวานๆ กันแล้วก็ได้เวลาบู๊ต่อแล้วสิ
ช่วย :z6: อีกแรง จะได้จัดการจิตมารซะที
:กอด1: Luk :pig4: Jaaaaaaaaaaa
-
เอ๋ ตอนมันหายไปป่าวอ่ะ
เค้าว่าเค้าอ่านตอนที่ 17 ล่ะนะ
ที่นู๋ผาโดนลักพาตัวอ่ะ
-
โอ้ กำลังค้างเลย
มาต่อเร็วๆนะ
:3123: :3123:
-
ตอน17หายไปไหน :z3: :z3:
-
รอมาอัพตอนใหม่นะคะ
:กอด1:
-
ยังไม่ได้อ่านตอน 17 เลยค่ะ
มาลงใหม่ทีได้โปรด อยากอ่านมาก ๆ เลย
:sad4:
:กอด1: :L2:
-
:jul1: :jul1:
:L2:
:กอด1:
-
สนุกและน่าติดตามมากจริงๆคะ
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยย อยากอ่านคู่ของกายันต์ & ธรรมตรัย จังเลย >,,,<
สู้ๆนะคะลัก ^ ^
-
มารอตอน ๑๗ ที่แทะเล็มแบบ fev แล้วบอร์ดก็ดันมาล่มซะก่อน
:o12:
ปล.ขอตอนสิบเจ็ดพร้อมสิบแปดได้ไหมคะ :monkeysad:
-
มานั่งรอ นอนรอ ยืนรอ
รอ ร๊อ รอ
-
มนต์มาร จะมาลงตอน 17 และ 18 ให้วันจันทร์นะคะ
ส่วนตอนนี้ขออนุญาต ลงรูปหน้าปกนิยายเรื่อง....เพราะรัก...จึงเปลี่ยนได้..ของพี่วีให้ดูแทนก่อนนะคะ
สำหรับคนแจ้งโอนมาแล้ว รบกวนเช็คเมลล์ตอบกลับจากข้าพเจ้าด้วย ว่าได้ยืนยันการรับโอนจาก
ทางข้าพเจ้าแล้วหรือไม่ หากใครยังไม่ได้รับการยืนยัน คือคนที่โอนหลังวันที่ 10 ต้องรอเช็คยอดอีกรอบนะคะ
Luk. :pig4:
ปกหนังสือ
(http://image.free.in.th/z/ix/33_resize.jpg)
ที่คั่นหนังสือ
(http://image.free.in.th/z/ij/pp_resize.jpg)
-
:impress3: รอๆ
แต่พี่ลักซ์ได้เก้บหนังสือไว้ให้ญ่าไหมครับ
ตอบด้วยนะครับ
-
ได้รับ เมล์ ยืนยันการโอนแล้วคร่ะ
-
ได้รับเมลยืนยันแล้ว เข้ามารอตอน 17-18
-
มารอตอนที่ 17-18 ค่ะ
-
รับทราบค่า รอต่อไป :z2:
:pig4:
-
รอๆๆๆ
-
ได้รับแล้วเช่นกันค่ะ
-
ได้รับเมลเรียบร้อยแล้วค่ะ
-
(มาซุ่มรอตอนที่17-18)
:m22: :m7:
รับทราบคะ
-
17 หายยยยย
รอตามวันจันทร์
เรากะลังคิดอยุ่เลยค่ะว่า ถ้าหนุผาไม่ได้โดนลักพาตัวไปคนเดียวล่ะ
แต่มีธรรมตรัยติดไปด้วย
แค่คิด ก็ อร๊ากกกกแล้ว อย่าทำอะไรธรรมตรัยนะคะ
สงสารกายันต์อ่า มะโน ไปเองเสร็จสรรพ (เพ้อออออออออ เจ้อออออออ)
รอวันจันทร์ค่ะ คุณนักเขียน
สู้ๆนคะ
-
รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ
o19
-
เรื่องนี้สนุกมากกกก
ชอบพระเอกกะนายเอกอย่างงี้ :m1:
มารอตอนต่อไปจ้า
:z2: :z2:
-
รอตอนต่อไปพรุ่งนี้ๆ
:-[
-
วันจันทร์ :เฮ้อ:
เมื่อไรจะถึงวันจันทร์
ทำไมมันนานแสนนานละ
เราจะรอนะ
-
ตั้งหน้าตั้งตารอมาก ๆ ๆ
เมื่อไหร่จะมาคะ ลงตอนไหนเนี่ย อยากอ่านมาก ๆ
:call: :กอด1: :L2:
-
@@@ นำรูปปกของหนังสือ ..เพราะรัก...จึงเปลี่ยนได้...มาลงให้ดู
สำหรับคนที่โอนเงินแล้ว ทางทีมงานได้ส่งเมลล์ตอบรับกลับไปหมดแล้วนะคะ
หากใครยังไม่ได้รับเมลล์ตอบรับ รบกวนเมลล์แจ้งกลับมาสอบถามด่วนนะคะ
ที่เหลือรอรับหนังสือต้นเดือนหน้าค่ะ
ปกหนังสือ
(http://image.free.in.th/z/ix/33_resize.jpg)
ที่คั่นหนังสือ
(http://image.free.in.th/z/ij/pp_resize.jpg)
มนต์มาร
Part 17
ตัวประกัน.
.
.
.
.
“ศพเพิ่งเสียชีวิตไม่ถึงสองชั่วโมง” สารวัตรคมสันบอกกับปาจา เมื่อเห็นเจ้าคุ้มรูปงาม
เดินเข้ามาพร้อมพระลักษมณ์และธรรมตรัย
“ขอผมดูหน่อยครับ” ปาจาพูดสั้นๆ ก่อนจะตรงดิ่งไปยังรถฮอนด้าซีวิกสีบรอนซ์เงิน
ที่จอดริมทาง พระลักษมณ์ตามไปติดๆ โดยมีธรรมตรัยเดินหน้านิ่งตามไปด้วย
สารวัตรหน้าเข้มส่งสัญญาณให้นายตำราจสองสามคน หนึ่งในนั้นมีจ่ายอดรวมอยู่ด้วย
กำลังเก็บพิสูจน์หลักฐาน ช่วยอำนวยความสะดวกให้ปาจาพร้อมคณะเข้าดูสภาพศพครูรัสสา ภาพที่เห็นทำเอาหดหู่ไม่น้อย
หน้าสวยไร้สีเลือดดวงตาเบิกโพลง เหมือนก่อนสิ้นใจครูรัสสาเจอเรื่องน่ากลัวเข้าถึงกับซ็อก
สิ่งที่ทำให้ครูคนสวยจบชีวิตลงคือบาดแผลร่องลึกกลางอก เหมือนถูกของแหลมกระชากเนื้อ
บริเวณนั้นอย่างไร้ความปราณี แต่ไม่ใช่รอยมีดแน่นอนเพราะแผลเหวอะหวะน่าเวทนายิ่งนัก คนลงมืออำมหิตโหดเหี้ยม
เหลือเกิน สันนิษฐานจากสภาพศพแล้ววิเคราะห์พฤติกรรมเอาเอง
“ไม่ใช่ฝีมือจิตมารเพราะตาย 9 โมงเช้านี่เอง จิตมารกลายร่างไม่ได้แน่ ที่สำคัญไม่มีร่องรอย
ทารุณทางเพศ” ปาจาเปรยให้พอได้ยินกันสามคน ก่อนจะเดินกลับมายังสารวัตรคมสัน แล้วถามขึ้นว่า
“สารวัตรต้องนำศพไปพิสูจน์หลักฐานสินะ?” สารวัตรคมสันสบตาปาจาก่อนพูดขึ้นว่า
“ใช่ครับ รบกวนแจ้งครอบครัวครูรัสสาให้ผมหน่อยสิครับ ถ้าไม่สะดวกขอเบอร์ติดต่อก็ได้”
ปาจาพยักหน้า ก่อนจะบอกธรรมตรัยซึ่งยืนข้างหลัง ให้ช่วยประสานงาน พร้อมกับให้ปากคำเบื้องต้นไปได้เลย
ธรรมตรัยให้ปากคำว่า ครูรัสสานัดกับสิตาจะไปเลือกผลไม้ในไร่เพื่อจัดกระเช้ามอบให้
ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งช่วงบ่าย ซึ่งสารวัตรคมสันรู้การนัดครั้งนี้เช่นกันเพราะเป็นการพูดคุยในวงสนทนามื้อค่ำที่ผ่านมาเมื่อเย็นวาน
จึงไม่ต้องท้าวความกันมาก แต่ต้องไปนั่งหาสาเหตุว่าทำไมคุณครูถึงมาก่อนเวลา และมาเจอใครถึงได้ถูกฆาตกรรมในเขต
คุ้มดงพญา ซึ่งระยะทางห่างเรือนไทยตั้ง 4 กิโลเมตร ไม่ใช่ใกล้สักนิด
ส่วนพระลักษมณ์ยังก้มๆเงยๆ ตรวจดูในรถอย่างสงสัย ปาจาขมวดคิ้วเมื่อเห็นแฟน
สุดหล่อหน้าใส ทำทีหาหลักฐานเกินตำรวจเสียอีก กลัวผิดสังเกตจนเป็นที่สงสัย จึงรีบมอบหมายงานให้ธรรมตรัย
“ธรรมตรัย คุณอยู่อำนวยความสะดวกให้สารวัตร อย่าลืมแจ้งทางครอบครัวคุณครูด้วย
ส่วนพิธีศพช่วยรับเป็นเจ้าภาพในนามคุ้มดงพญาแล้วแต่เจ้าภาพเค้าสะดวกให้เรากี่คืน” พูดจบเจ้าคุ้มรูปงามไม่รอคำตอบ
สายตาคอยแต่ชำเลืองยังร่างโปร่งที่ยืนเท้าเอว มือลูบคางมนอย่างใช้ความคิด
จำต้องเดินย้อนกลับไปหาเจ้าตัว โดยปล่อยเลขาหน้านิ่งอยู่ประสานงานกับสารวัตรหนุ่มหน้าเข้ม
ลำพังสองคน
“กลับก่อนเถอะพระลักษมณ์” พอไปถึง ปาจาชวนกลับเรือนไทยทันที ร่างโปร่งหันมามอง
ก่อนเดินตามไปขึ้นรถอย่างว่าง่าย
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
นั่งในรถเรียบร้อยกันแล้ว เจ้าคุ้มให้ทองคำไปส่งตนกับพระลักษมณ์ แล้วค่อยย้อนกลับมารับ
ธรรมตรัยเอาทีหลัง สำหรับทองคำพระลักษมณ์คุ้นหน้าดี เพราะเป็นคนไปรับตนจากสนามบินในวันที่ย่างเท้าเหยียบ
คุ้มดงพญาวันแรก ทั้งคู่นั่งเงียบ ต่างคนต่างใช้ความคิด แต่แล้วจู่ๆ ปาจาก็เอ่ยปากเร่งทองคำอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“รีบหน่อย เหยียบมิดเลยทองคำ” สิ้นคำสั่งทองคำใส่ตีนผีเหยียบจมมิดจริงๆ ใช้เวลาไม่ถึง
ห้านาที รถยุโรปราคาแพงก็มาจอดหน้ามุขทางเข้าเรือนไทยเรียบร้อย เจ้าคุ้มหน้าคมไม่รอช้าเปิดประตูจ้ำอ้าวไม่เหลียวหลัง
ทำให้พระลักษมณ์ก้าวตามขาแทบขวิด นึกแปลกใจกับท่าทางร้อนรนของปีศาจรูปงามชะมัด
ปาจาดิ่งมายังห้องธรรมตรัย มือหนาจับลูกบิดก่อนจะเปิดออกง่ายดายเพราะห้องไม่ได้ล็อก
เจ้าคุ้มรูปหล่อพุ่งพรวดเข้าไปข้างในทันที โดยพระลักษมณ์ตามติดสถานการณ์ไม่ทิ้งห่าง ในห้องกายันต์กำลังพยายามงัด
พื้นกระดานอย่างเอาเป็นเอาตายโดยไม่สนใจผู้บุกรุก
“หยุด! แกทำอะไรกายันต์” เสียงทรงอำนาจตะคอกใส่ซะดัง ทำเอาร่างใหญ่ซึ่งกำลังงัดพื้น
หยุดมือทันที ก่อนเงยหน้าขึ้นมองปาจานิ่ง แววตาเลื่อนลอยแปลกๆไม่เหมือนคนปกติ ไม่ทันคาดคิดร่างสูงใหญ่พุ่งเข้า
ชาร์ตปาจาอย่างรวดเร็วพร้อมเสียงคำรามประหลาดพิลึก
“อ๊ากกก!!.” ยังกะคนคลุ้มคลั่งตรงเข้าทำร้ายปีศาจรูปงามทันที ในขณะที่เป้าหมายเบี่ยงตัว
พริ้วหลบอย่างง่ายดาย แถมยกเข่าสวนเข้ากลางลำตัวกายันต์เต็มๆ เสียงดังฟังชัด
“บึ๊ก! โอ๊กกก!” เล่นเอาอีกฝ่ายชะงักกึก แต่ยังไม่สามารถหยุดความบ้าคลั่งลงได้ กายันต์เปลี่ยน
เป้าหมายพุ่งเข้าใส่พระลักษมณ์แทน เจ้าตัวกำลังยืนขวางประตูอยู่
ร่างโปร่งรู้สถานการณ์พร้อมเตรียมรับมืออย่างไม่ประมาท ความรู้สึกบอกว่ากายันต์ควบคุมตนเอง
ไม่ได้ อาจไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ สังเกตจากแววตาวาวโรจน์แข็งกระด้างไร้ชีวิตชีวาเหมือนไม่ใช่กายันต์คนที่เคยรู้จัก
“ระวังตัวด้วย!” ปีศาจรูปงามตะโกนเตือนด้วยความเป็นห่วง พาเอาร่างโปร่งอดยิ้มตอบไม่ได้
ก่อนระดมทั้งหมัดทั้งเท้าเข้าสกัดกายันต์ได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว กายันต์ก็ตอบโต้อย่างคู่คี่สูสี ทักษะการต่อสู้ของกายันต์
ไม่ด้อยเลยสักนิด แต่ก็ยังเทียบชั้นกับพระลักษมณ์ไม่ได้อยู่ดี
ร่างโปร่งลีลาพลิ้วไหวหลบหลีกสวยงาม แถมยังสามารถตอบโต้ต่อกรกับกายันต์ได้อย่างน่าทึ่ง
ปาจาซึ่งคอยระวังหลังให้กลัวพระลักษมณ์จะพลาดรู้สึกโล่งอกทันที จึงรวบรวมสมาธิยกมือขึ้นพนมทำปากขมุบขมิบ
บริกรรมคาถานิ่งๆ ปล่อยพระลักษมณ์รับมือกายันต์เพื่อต้านไว้ก่อน
ชั่วอึดใจปาจาลืมตาพ่นลมใส่กลางฝ่ามือ ก่อนจะพุ่งเข้าประกบด้านหลังของกายันต์แล้วใช้ฝามือ
ฟาดกลางกบาลเสียงดังสนั่นเลยทีเดียว
“ผลั๊ว!” ร่างสูงของกายันต์หยุดนิ่งทันที ก่อนจะเข่าอ่อนทรุดฮวบลงกับพื้นแต่ปาจารวบร่าง
น้องชายไว้ได้ทัน พระลักษมณ์รีบเข้าไปช่วยพยุงอีกแรง ต่างประคองร่างไร้สติของกายันต์วางลงบนเตียงของธรรมตรัย
จากนั้นปาจารีบกลับไปปิดประตูล็อกกลอนเรียบร้อย แล้วจึงกลับมายืนตีคู่พระลักษมณ์ซึ่งยังเอาแต่จ้อง
กายันต์อย่างใช้ความคิด
“เกิดอะไรขึ้น อธิบายให้ฟังหน่อยสิ” คำถามแรก ในการเปิดปากของทั้งสอง
หลังกลับจากดูศพครูรัสสา
“กายันต์ถูกมนต์สะกด มันต้องการให้ทำบางอย่าง” ปาจาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
พระลักษมณ์จึงเงยหน้าขึ้นสบตาปีศาจรูปหล่อ ก่อนถามอีกว่า
“มันต้องการอะไร แล้วทำไมถึงถูกสะกดเอาได้”
“มันต้องการหัวใจมาร ที่มันสามารถสะกดกายันต์ได้คงเพราะจิตมารมีอำนาจเหนือกว่ายังไงล่ะ
แต่มันไม่รู้หรอกว่ากายันต์คือร่างมารเหมือนกัน ตราบใดที่กายันต์อยู่ภายใต้หลังคาคุ้มดงพญาจะไม่มีใครสัมผัสจิตมาร
ในตัวได้เลย เพราะในคุ้มฝังตะกุดสะกดอาถรรพ์มารเอาไว้
คนที่บังคับเจ้ายันต์ด้วยมนต์สะกด คงเป็นคนที่เจ้ายันต์เจอตัวมาแน่ ของที่มันต้องการคือ
หัวใจมารต้นแบบ” ปาจาพูดจบพระลักษมณ์ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะถามต่อ
“อย่าบอกว่ามันต้องการเอาไปกิน” ปาจาไม่ตอบแต่ใช้การพยักหน้ายืนยันแทน
พระลักษมณ์ถึงกับหน้าเสีย
“แล้วคุณแน่ใจได้ยังไง?” ถามย้ำให้มั่นใจ
“ผมสัมผัสได้ ถึงบอกทองคำรีบเหยียบมาให้เร็ว คิดไว้ไม่ผิดโชคดีที่พวกเรามาทัน
ไม่งั้นคงเลวร้ายเกินจะคาดเดา หากมันได้หัวใจมารไปจริงๆ” ปาจาตอบหน้านิ่ง แต่น้ำเสียงจริงจังตามที่พูด
“แล้วนี้..คุณยันต์จะฟื้นเมื่อไหร่?” คนช่างถามยังถามไม่หยุด ปาจาอดยิ้มขำกับอาการ
อยากรู้อยากเห็นของพระลักษมณ์ไม่ได้ ก่อนจะใจเย็นตอบไปว่า
“เดี๋ยวก็ฟื้นแต่คงจำอะไรไม่ได้ อย่าไปเค้นเอาความจริงกับเจ้ายันต์มันเลย เพราะมันจำไม่ได้หรอก
เชื่อผมสิ” พูดยังไม่ทันขาดคำ กายันต์ก็ขยับตัวก่อนลืมตาตื่นเด้งตัวขึ้นนั่งบนเตียงอย่างเร็ว สายตากลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
ถามอย่างสงสัยขึ้นทันทีว่า
“เฮ้ย! พี่จากับพระลักษมณ์มาห้องผมทำไมกัน” เป็นตามที่ปาจาพูดไม่ผิด เจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
ว่าอยู่ที่ไหน
“หืม! มองให้ดีก่อน ฉันเข้ามาห้องแกหรือแกอยู่ห้องใคร” ปาจาพูดนิ่งมาก เจ้าตัวเอะใจรีบมอง
โดยรอบ ก่อนหน้านิ่วแล้วพูดขึ้นว่า
“อ้าว! นี่มันห้องธรรมตรัยนี่หว่า? ผมมาทำไมที่นี่ แล้วพวกพี่มาทำอะไรกัน” ปาจามองสบตา
พระลักษมณ์ยืนยันว่า เห็นไหมเจ้าตัวจำอะไรไม่ได้หรอก แต่พระลักษมณ์ก็อยากพิสูจน์ให้แน่ใจ จึงถามไปว่า
“ก่อนหน้านี้คุณจำได้ไหม คือผมหมายถึงคุณเจอใครครั้งสุดท้ายนะ” กายันต์มองหน้าพระลักษมณ์
เหมือนไม่เข้าใจคำถาม แต่ปากก็ตอบอย่างไม่มีพิรุธว่า
“ก็ธรรมตรัยไง ก่อนเค้าจะรับโทรศัพท์จากสิงห์คำแล้วไปหาพี่ที่ห้องทำงาน ผมรู้สึกง่วงแล้วก็
งีบหลับไปแต่นั่นมันเป็นห้องผมนี่นา ไม่ใช่ห้องนี้สักหน่อย แล้วผมมานอนอยู่นี่ได้ยังไง” หมดคำถาม เป็นอย่างที่ปาจา
พูดไว้ไม่ผิด กายันต์จำอะไรไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะไล่เบี้ยว่าเจอใครอีกนอกจากธรรมตรัย ขานั้นตัดออกจาก
ข่ายผู้ต้องสงสัยได้เลย ภักดีกับตระกูลนี้จนเข้าสายเลือด คงไม่ใช่จิตมารแน่นอนแล้วมันเป็นใครล่ะ?
ถ้าหากกายันต์บอกว่าหลับอยู่ในห้องตน ใครกันที่สามารถเข้าไปสะกดกายันต์ถึงในห้องนอน คนๆนั้น
ต้องเป็นคนในเรือนนี้ และต้องเป็นคนที่กายันต์คุ้นเคยด้วย ไม่งั้นไม่น่าจะเข้านอกออกในได้ ความคิดของพระลักษมณ์
เหมือนจะใจตรงกันกับปาจา ยังไม่ทันได้พูดอะไรอีก นมอ่อนก็มาเคาะประตูเสียงดังราวเกิดเรื่องคอขาดบาดตายซะงั้น
“ก๊อกๆๆๆ!! คุณจา คุณจาเปิดประตูให้นมหน่อย” ไม่ต้องรอให้เรียกรอบสอง ปาจารีบก้าวไปเปิด
ให้ทันที นมอ่อนหน้าซีดเผือดตัวสั่นเทาก่อนจะรีบยื่นกระดาษสีขาวให้ปาจา เจ้าตัวไม่รอช้าคลี่อ่านทันที ก่อนจะกำมือแน่น
จนกระดาษยับย่น พระลักษมณ์เห็นแบบนั้นตรงเข้าไปถามอย่างใคร่รู้
“เกิดอะไรขึ้น?”
“หนูผาค่ะ หนูผาถูกลักพาตัวไปแล้ว” คำตอบจากนมอ่อน ทำให้พระลักษมณ์ยอมเสียมารยาท
ยื่นมือไปดึงกระดาษจากปาจามาอ่านอย่างเร็ว
“จันทร์ผาอยู่ในมือกู ให้เอาหัวใจมารมาแลก โดยให้ไอ้พระลักษมณ์เป็นคนนำมาเพียงลำพัง
ให้มันมาพบกูที่ถ้ำxxx ก่อนเที่ยงคืน ไม่งั้นอีเด็กนี่จะเหลือแต่ซาก” พระลักษมณ์อึ้งทันที ก่อนจะเงยหน้ามองปาจา
ซึ่งตอนนี้ดวงตาวาวโรจน์กัดกรามแน่นไม่ยอมพูดจา กลายเป็นกายันต์รีบฉวยกระดาษจากมือพระลักษมณ์ไปอ่านต่อ
แล้วพูดเสียงสั่นขึ้นว่า
“พี่จา..มันเอาลูกผมไป ผมไม่ยอมเสียหนูผาเด็ดขาดนะพี่ นั่นลูกผมขอร้องล่ะช่วยลูกผมก่อน
ผมต้องไปช่วยลูกให้ได้” กายันต์เสียงสั่นระริก โดยไม่สนใจว่าพระลักษมณ์อยู่ด้วย กว่าจะนึกขึ้นได้หันมองพระลักษมณ์
แล้วหน้าเสียหนักเข้าไปใหญ่ เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าตนได้พลั้งปากพูดอะไรไปบ้าง พระลักษมณ์รีบบอกให้ทุกคนสบายใจ
“เรื่องของหนูผา ผมรู้มาก่อนแล้วว่าเป็นลูกคุณยันต์ ไม่ต้องกังวล ผมสัญญาไม่บอกใครหรอก”
คำตอบของพระลักษมณ์ นอกจากจะสร้างความสงสัยให้ทุกคนแล้วปาจาเองก็อึ้งเช่นกัน เท่าที่จำได้ตนไม่เคยไขความลับ
เรื่องหนูผาด้วยซ้ำ พระลักษมณ์มองออกถึงสายตาตั้งคำถามของเจ้าคุ้มรูปหล่อ จึงชิงพูดขึ้นก่อนว่า
“ข้อมูลนี้ผมทราบจากทางหน่วยฯ” ปาจาจึงพยักหน้ารับรู้ ส่วนกายันต์และนมอ่อนก็เข้าใจ
ความหมายในคำพูดเช่นกัน เจ้าคุ้มรูปหล่อตัดบทขึ้นว่า
“ไม่ต้องวิตกเรายังพอมีเวลา มันนัดเที่ยงคืนแสดงว่าคงยังไม่รู้คืนนี้แกกำลังจะเข้าพิธีชำระล้าง
จิตมาร เรามีเวลาทำพิธีให้เรียบร้อยเสียก่อน หลังจากนั้นพวกเราจะไปช่วยหนูผากัน
เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง แกกับธรรมตรัยจัดการชำระจิตมารตามกำหนดเดิม
หัวใจมารหลังเสร็จพิธีฉันจะให้พระลักษมณ์เป็นคนนำไปอย่างที่มันต้องการ โดยมีพวกเราสะกดรอยตามไปห่างๆ
ตราบใดที่มันยังไม่ได้หัวใจมาร เชื่อเถอะว่าหนูผายังคงปลอดภัยดี” คำพูดของปาจาฟังมีเหตุผล
พระลักษมณ์พยักหน้าเห็นด้วย
ทุกคนสรุปใช้แผนของปาจา หลังจากนี้คงรอธรรมตรัยกลับมา เสียก่อน วันนี้ปาจาสั่งงดจัด
อาหารขึ้นโต๊ะ ทั้งพระลักษมณ์ ปาจา และกายันต์ นมอ่อนรับอาสาไปทำแซนวิชทูน่าพร้อมน้ำส้มคั้นมาให้
เพื่อจะได้ช่วยกันวางแผนอย่างรัดกุม ซึ่งใช้ห้องใต้ดินสำหรับใช้ประกอบพิธีชำระล้างหัวใจมารคืนนี้ และชุบลูกปืนตะกั่ว
ที่สามารถสังหารจิตมารอีกด้วย ที่เหลือคงต้องรอเวลาเท่านั้น....??????
มาลงซ่อมให้แล้วค่ะ ตามอ่านตอน 18 ได้เลยค่ะ ด้านล่าง
รักทุกคนที่ติดตามกันมาตลอด
Luk.
-
มนต์มาร
Part 18
ล้าง..จิตมาร!.
.
.
.
.
“ธรรมตรัย เป็นไงเรียบร้อยดีไหม?” ปาจาถามเลขาเย็นชาทันที ที่เจ้าตัวเดินหน้าไม่มีอาการ
โผล่เข้ามาในห้อง
“เรียบร้อยดีครับ ทางเราเป็นเจ้าภาพงานศพคืนที่สามกับสี่ นอกนั้นญาติเค้าจัดการกันเอง”
ธรรมตรัยตอบ ก่อนจะสบตากายันต์ที่นั่งหน้าเครียดจนสังเกตได้ชัด หากเกี่ยวกับกายันต์แล้ว แววตาของธรรมตรัยจะฉายถึง
ความห่วงใยโดยไม่รู้ตัว จนทำให้ปากหนักซึ่งน้อยครั้งจะยอมพูดยังง้างออกจนได้
“คุณยันต์มีอะไรหนักใจหรือเปล่า?” คำถามที่ถ่ายทอดความห่วงใยอย่างจริงใจ
แม้แต่พระลักษมณ์ยังสัมผัสได้เลย
“ตรัย..หนูผาถูกจับตัวไป” อ่าหะ! กายันต์เรียกเลขาหน้านิ่งด้วยชื่อท้ายสั้นๆ เป็นครั้งแรก
ที่พระลักษมณ์ได้ยินการเรียกของสองคนนี้
“เกิดเรื่องขึ้นได้ยังไง” คราวนี้แววตาโกรธจนเห็นชัด แม้เจ้าตัวจะยังคงหน้านิ่งเย็นเยือกไว้ก็เถอะ
“ไม่รู้..พวกเราคิดว่าฝีมือจิตมาร มันต้องการหัวใจมารไปแลก” กายันต์บอกเสร็จ
ดวงตาธรรมตรัยไหววูบแว่บเดียวก่อนจะกลับมาสงบเยือกเย็นเช่นเคย
“เมื่อไหร่? ที่เราต้องนำหัวใจมารไปให้มัน” เลขาหน้าสวยแสนเย็นชาถาม คุยกันสองคน
กับกายันต์ โดยปาจากับพระลักษมณ์นั่งฟังเงียบๆ
“ก่อนเที่ยงคืนวันนี้” กายันต์ตอบ ดวงตาทอดมองธรรมตรัยแกมขอร้องไปในตัว เพราะหัวใจมาร
คือของสำคัญที่ธรรมตรัยดูแลรักษาอยู่
“อืม!..ยังพอมีเวลา” ธรรมตรัยเปรย ก่อนจะมองปาจาแล้วพูดขึ้นว่า
“คุณจา ผมคงเลื่อนเวลาชำระจิตมารเป็นทุ่มตรง” พูดคล้ายไม่ต้องการความเห็น แต่เจ้าคุ้มรูปหล่อ
ก็ยังถามเหตุผลกลับ
“ไหนคุณบอกผมสามทุ่ม ทำไมถึงเปลี่ยน” เลขาจ้องเจ้านายหน้านิ่ง ก่อนจะตอบกลับมาว่า
“ผมต้องการเวลาเพียงพอที่จะไปช่วยหนูผา” เหตุผลของธรรมตรัยฟังขึ้น
“มีผลกระทบหรือเปล่า” ปาจาเตือน เนื่องจากพิธีกรรมนี้มีความสำคัญต่อธรรมตรัยและกายันต์มาก
ผิดพลาดไม่ได้ด้วยสิ
“ไม่มีผลครับ..ห้าโมงแล้วผมต้องไปเตรียมตัวก่อน หกโมงครึ่งทำพิธีชุบกระสุนเงิน
พบกันที่ห้องพิธีนะครับ” ปาจาพยักหน้า จากนั้นต่างแยกย้ายกันไป ระหว่างทางที่เดินมาด้วยกันนั้น
ปาจารั้งแขนพระลักษมณ์หยุด แล้วพูดขึ้นว่า
“ดูแลตัวเองด้วย ผมจะมารับตอนหกโมง ช่วงนี้ไว้ใจใครไม่ได้สิตาก็หายตัวไปด้วย
คุณต้องระวังให้มาก” คำพูดห่วงใยจากปีศาจรูปงาม ทำให้พระลักษมณ์อดยอมรับไม่ได้ว่ารู้สึกดีพิลึก จึงบอกคนขี้กังวล
ให้เกิดความสบายใจซะหน่อย
“อืม ไม่ต้องห่วงผมดูแลตัวเองได้ เดี๋ยวเจอกันครับ..หึหึ!” พูดจบยิ้มหล่อให้ด้วย
เล่นเอาปีศาจรูปงามอยากดึงร่างโปร่งเข้ามากดจูบจริงๆ แต่ต้องยอมตัดใจทำได้แค่ยิ้มรับอย่างอบอุ่น ก่อนทั้งสองจะแยกย้าย
กลับเข้าห้องใครห้องมัน
บรรยากาศห้องพิธี ดูลึกลับอึมครึมยิ่งกว่าวันทำพิธีล้างอาถรรพ์มนต์มารเสียอีก แม้จะรู้สึกอึดอัด
แต่ก็ไม่อึมครึมเหมือนวันนี้ พระลักษมณ์กับปาจาต่างยืนอยู่ตรงโต๊ะพิธี ซึ่งตั้งฝั่งซ้ายมือใกล้อ่างน้ำกลางห้อง
พระลักษมณ์หน้าซับสีเลือด เหลือบมองอ่างใบคุ้นตาแล้วพานนึกถึงคืนที่ตนกับปาจาร่วมรักกัน
ดันหน้าแดงขึ้นมาซะงั้น เจ้าคุ้มรูปหล่อที่ยืนใกล้กันพอจะคาดเดาออกว่าคนรูปหล่อหน้าใสเขินอะไร อดแซวกลับไม่ได้
“หึหึ..มันคือความทรงจำที่สวยงามสำหรับผม” ไม่พูดก็ไม่มีใครว่า ดันพูดมานี่สิ ทำเอาพระลักษมณ์
อยากล่องหนหายตัวจริงๆ เฉมองบนโต๊ะพิธีแก้เขิน
บนโต๊ะปูผ้าขาวสะอาดตา ตั้งเชิงเทียนปักเทียนไว้สองเล่ม มีกระถางธูปพร้อมมีดอาคมอีกหนึ่งเล่ม
วางบนพาน ข้างกันมีพานวางกล่องใสบรรจุหัวใจมารสีคล้ำอยู่ด้วย บนโต๊ะยังมีกระบวยทำจากกะลามะพร้าวแบบมีด้ามจับ
เหมือนกระบวยตักน้ำดื่มวางคว่ำอยู่บนจานเซรามิกสีขาว และยังมีชามขาวใส่กระสุนเงินอยู่หกนัด ทุกนัดทำจาก
แร่เงินบริสุทธิ์ล้วนๆ นี่คือมัจจุราชที่ใช้สังหารจิตมารสินะ
กายันต์เดินเข้ามาในชุดผ้านุ่งสีดำสนิท ช่วงอกเปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อเนินอกแข็งแกร่ง
ซิกแพ็คหน้าท้องเป็นลอนสวย ไม่ได้ด้อยปีศาจรูปงามสักเท่าไหร่ ในขณะที่ธรรมตรัยอยู่ในชุดคล้ายกันแต่เป็นสีขาว
ช่วงบนเปลือยเหมือนกัน ที่แตกต่างชัดเจนตรงที่เลขาเย็นชากลับมีผิวขาวจัด กล้ามเนื้อพองามบวกใบหน้าสวยเย็นเยือก
ยังกะเจ้าชายน้ำแข็ง ทำให้ธรรมตรัยดูลึกลับน่าค้นหายิ่งนัก
ใคร่ได้เห็นคงอดชื่นชมกับสรีระที่สมบูรณ์สวยงามของทั้งสองไม่ได้ เมื่อมาพร้อมกันหมดแล้ว
ธรรมตรัยนำธูปกำใหญ่ไม่รู้กี่ดอกแต่เยอะมากจุดไฟ โดยไม่ลืมจุดเทียนทั้งสองเล่มอีกด้วย
ปักธูปเสร็จเจ้าตัวก็ยกมือพนม พร้อมกับร่ายคาถาใช้เวลาพอสมควร หัวใจมารในกล่อง
กลับเปล่งแสงขึ้นมา ธรรมตรัยลืมตาถอยออกจากโต๊ะเพื่อให้ปาจาเข้าไปยืนแทนตำแหน่ง
ปีศาจรูปงามยกมือพนมบริกรรมคาถานิ่งๆ
ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่หัวใจมารก็เปล่งแสงสีแดงชาดวูบวาบ คล้ายไฟกระสือไม่มีผิด พระลักษมณ์
จ้องมองพิธีกรรมอย่างทึ่งจัดต่อสิ่งที่ได้เห็น
หลังปาจาบริกรรมคาถาจบ ธรรมตรัยเอื้อมหยิบกระบวยมะพร้าว เดินไปตักน้ำในอ่าง
มาเต็มกระบวย แล้วยืนรออยู่ข้างๆ ปาจา
ปีศาจรูปงามหยิบกล่องบรรจุหัวใจมารซึ่งบัดนี้เรืองแสงสีแดงวูบวาบตลอดเวลา ก่อนจะเปิดฝาออก
แล้วล้วงหยิบหัวใจมารถือไว้ด้วยมือซ้าย ก้อนเนื้อหัวใจสีแดงสดที่ส่องแสงคล้ายกับมีชีวิตบนมือหนา ดึงดูดสายตาพระลักษมณ์
จ้องมองจนไม่กระพริบ จากนั้นเจ้าคุ้มรูปหล่อค่อยหยิบมีดอาคมแล้วพยักหน้าให้ธรรมตรัยที่รอจังหวะราดน้ำในกระบวย
รดไปที่หัวใจมารทันที
“ซ่าาาาๆๆ!”
เสียงเหมือนน้ำเย็นปะทะวัตถุที่มีอุณหภูมิสูง ดังสนั่นพร้อมควันขาวพวยพุ่งขึ้นมา จังหวะนั่น
ปาจากดปลายมีดลงบนก้อนหัวใจในมือเป็นผลให้เลือดสีแดงสดย้อยลงง่ามมือทันที ก่อนที่จะนำไปหยดลงกระสุนเงิน
ทั้งหกนัดในชามอย่างทั่วถึง
เลือดสีแดงสดย้อมกระสุนเงินกลิ่นคาวคลุ้งตลบอบอวล ในขณะที่ควันขาวยังพวยพุ่งปกคลุม
ก้อนเนื้อหัวใจมารอยู่ด้วย ปาจาก้าวไปที่อ่างก่อนจะจุ่มหัวใจทั้งก้อนที่เยิ้มไปด้วยเลือดลงไปในอ่างน้ำทันที เสียงเหมือน
โยนถ่านไฟแดงลงไปในน้ำดังขึ้นอีกครั้ง
“ซ่าาาาาๆๆๆ” พอเงียบลงพร้อมควันขาวจางหายจนหมดแล้ว ปาจาค่อยดึงมือที่ยังกำก้อนเนื้อ
หัวใจมารกลับขึ้นมา บัดนี้แสงวูบวาบ ควันขาว และเลือดที่ไหลออกจากหัวใจมารหายไปหมดแล้ว กลับมาคงสภาพ
เป็นก้อนเนื้อดังเดิม ปาจาส่งคืนให้กับธรรมตรัยนำไปใส่ลงในกล่องเหมือนเดิม
ทุกขั้นตอนไม่มีใครเอ่ยปากพูดกันเลย พระลักษมณ์เองก็ยืนดูเหตุการณ์อย่างเงียบๆ
บรรยายความรู้สึกไม่ถูก ธรรมตรัยนำชามกระสุนเงินพร้อมหัวใจมารในกล่องมาส่งให้ปาจากับมือ ซึ่งเจ้าคุ้มรูปหล่อ
ก็รับมาถือไว้ ก่อนจะนำเก็บเข้าใส่ถุงย่ามห้อยข้างโต๊ะ แล้วนำไปห้อยไว้ตรงลูกบิดประตูทางเข้าเรียบร้อย
ทันใดนั้นพระลักษมณ์เห็นความเปลี่ยนแปลงของน้ำในอ่าง น้ำที่เคยมีความใสปานกระจก
มีกลีบดอกไม้นานาพันธุ์ลอยส่งกลิ่นหอมฟุ้ง บัดนี้กำลังเดือดปุดๆ มีควันพวยพุ่งยังกะองศาในน้ำสูงขึ้นจนทะลุ
จุดเดือดไปแล้วงั้น
ที่มหัศจรรย์เข้าไปใหญ่คือกลีบดอกไม้ต่างพากันจมลงก้นอ่างหมด ก่อนที่น้ำสีใสจะเปลี่ยนเป็น
สีแดงเลือดไปทั้งอ่าง ปาจาหันหน้าไปพยักหน้าให้ธรรมตรัยทันที
ธรรมตรัยก้มลงล้วงใต้โต๊ะทำพิธี ลากของบางอย่างออกมาเสียงดังเหมือนโลหะหนักกระทบกัน
พอพ้นใต้โต๊ะมาเท่านั้น พระลักษมณ์จึงรู้ว่ามันคือโซ่ตรวนเท่ากับแขนเด็กน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 50 โลเป็นอย่างต่ำคำนวณด้วย
สายตาคราวๆ มีกุญแจขนาดใหญ่อีกสองลูก
กายันต์รู้หน้าที่ตรงเข้าไปช่วยธรรมตรัยยกโซ่ตรวนพันรอบข้อเท้าตัวเองทั้งสองข้าง ก่อนจะล็อก
ด้วยกุญแจ จากนั้นค่อยหยิบอีกเส้นมาพันรอบข้อมือ ก่อนยืนแขนให้ธรรมตรัยล็อกกุญแจเช่นกัน
ขณะนี้หนุ่มหล่อร่างกำยำถูกพันธนาการทั้งมือทั้งเท้า ช่องว่างช่วงห่างของโซ่มีไม่ถึงคืบ
พระลักษมณ์มองทุกการกระทำอย่างเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ใจอยากเอ่ยปากถามแทบตาย แต่เมื่อทุกคนต่างสำรวมกิริยา
ตนจึงต้องหุบปากเงียบ อาศัยคาดเดาเอาตามที่เห็นนั่นแหละ
ปาจาเดินมาจับไหล่กายันต์ จ้องสบตาน้องชายนิ่งๆ ก่อนจะบีบให้กำลังใจ
กายันต์มองหน้าพี่ชายนิ่งๆทั้งคู่สื่อสารผ่านสายตาไม่มีใครพูดสักคำ จากนั้นปาจาก็พยักหน้าให้สัญญาณธรรมตรัย
เลขาหน้านิ่งตรงลิ่วเข้าประกบหนุ่มหล่อร่างกำยำทางปีกซ้าย โดยปาจาอยู่ทางปีกขวา แล้วช่วยกันลากร่างกำยำของกายันต์
ลงไปในอ่างที่เดือดปุดๆ เพราะเจ้าตัวไม่สะดวกกับก้าวขาเดินแน่นอน เนื่องจากโซ่ตรวนที่ยึดไว้นั้น
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
พระลักษมณ์ทั้งตื่นเต้นทั้งหวาดเสียว ไม่แน่ใจว่าน้ำในอ่างที่เห็นแดงปานเลือดมีควันกรุ่นเดือดปุดๆ
จะร้อนอย่างที่คิดหรือไม่ แต่คงไม่ร้อนมั้ง เพราะตอนนี้พิสูจน์แล้วว่าทั้งปาจา กายันต์ และธรรมตรัยลงไปยืนในอ่าง
ซึ่งมีน้ำสูงท่วมเข่า ไม่เห็นใครทุรนทุรายคล้ายถูกน้ำร้อนลวกสักหน่อย
พอถึงกลางอ่าง ทั้งคู่ปล่อยกายันต์ยืนอิสระ จากนั้นก็พากันถอยออกมา โดยปาจาถือโอกาสจับมือ
พระลักษมณ์ดึงถอยมายืนห่างเกือบถึงประตูทางเข้า ส่วนธรรมตรัยยังคงคุมเชิงอยู่ใกล้โต๊ะพิธี
ทุกสายตาจับนิ่งที่ร่างกำยำหล่อเหลากลางอ่าง และแล้วพระลักษมณ์ถึงกับปากอ้าตาค้าง
เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับร่างเทพบุตรกายันต์อย่างแทบไม่น่าเชื่อ
สุดหล่อร่างกายกำยำชวนให้อิจฉา บัดนี้เหงื่อกาฬแตกพลั่กๆกายสั่นเทิ้มตาแดงก่ำ ใบหน้าบิดเบี้ยว
ยังกะทรมานสุดๆ ที่ดูเหลือเชื่อที่สุดคือร่างกายซึ่งกำลังขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แถมหน้าตามีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
ขนสีดำสนิททั้งหนาทั้งแข็งแทงทะลุเนื้อออกมาเยอะแยะไปหมด เสียงกระดูกลั่นกร๊อบแกร๊บดังกระทบแก้วหูชวนขนลุกดีพิลึก
“กร๊อบบๆๆ...แกร๊บบบๆๆ”
เจ้าตัวกัดฟันแน่น ก่อนหน้าหล่อจะค่อยเปลี่ยนรูปทรง ปากสวยได้รูปเริ่มยืดยาวแถมมีเขี้ยวแหลมงอก
ตามมาด้วย ใบหน้าดันมีขนขึ้นเต็มไปหมด ดวงตาคมสวยหดเล็กลง หนำซ้ำแดงก่ำปานสีน้ำในอ่างเลยละ
ก่อนเจ้าตัวจะส่งเสียงฮึดฮัดขึ้นจมูก แล้วจู่ๆ ก็ดันคำรามก้อง
“อ๊ากกกซซซซซ!!!!”
พระลักษมณ์ถึงกับสะดุ้ง เพราะเสียงคำรามดุร้ายเอาเรื่องของมนุษย์หมีควายตัวมหึมาตรงหน้า
กายันต์ในร่างหมีควายพยายามจะขยับร่างกายแต่ขยับไม่ได้ คล้ายกับถูกตรึงด้วยพลังไร้ตัวตนบางอย่าง
ทำให้จิตมารในร่างหมีกึ่งคนที่มีขนปกคลุมหนาแน่นหงุดหงิด แถมผ้านุ่งผืนเดียวดันขาดกระจาย
ตั้งแต่ร่างกำยำขยายใหญ่ขึ้น พระลักษมณ์เสียวไส้พิลึกกับท่อนเนื้อยักษ์ที่บ่งบอกถึงเครื่องเพศของบุรุษตรงกลางหว่างขา
ของเดรัจฉานมารตรงหน้าชะมัด
ให้ตายเถอะ มิน่าเหยื่อที่ถูกสังหารทุกศพถึงได้อวัยวะเพศฉีกขาด เหวอะหวะปานนั้น
ลองนึกดูเอาแล้วกันนั่นมันของคนซะทีไหน เจ้าจิตมารที่ออกอาละวาดก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่แหละ
คิดพลางเผลอกลืนน้ำลายดังเอื้อก
ปาจารับรู้ได้ถึงใบหน้าใสกำลังตื่นตะลึงของคนรัก ซึ่งตนจับมือไว้แน่น จนต้องคลายออก
เปลี่ยนมาโอบไหล่แทน เพื่อถ่ายทอดให้คนข้างกายรู้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตนจะปกป้องดูแลร่างโปร่งนี้ด้วยชีวิต
เสียงคำรามอย่างขัดใจที่ไม่สามารถขยับร่างกายของมันได้ ในขณะที่ขอมือปกคลุมไปด้วยขน
ก็ถูกโซ่ตรวนขนาดใหญ่บีบรัดจนบาดผิวแล้ว น่ากลัวคงทรมานมากแน่ๆ นึกแล้วสงสารกายันต์จริงๆ ใครมาเห็นภาพนี้
นอกจากจะหวาดกลัวกับความดุร้ายแล้ว คงอดเวทนาไม่ได้เมื่อคนปกติต้องกลายเป็นเดรัจฉานครึ่งคนครึ่งสัตว์เช่นนี้
ถึงตอนนี้ตนเองพานเข้าใจแล้วว่า ทำไมปาจาถึงพยายามทำทุกวิถีทางที่จะล้างอาถรรพ์อุบาทว์นี้
ให้สิ้นซาก เพราะมันมีแต่สร้างภัยพิบัติมากกว่าจะเกิดประโยชน์กับใครไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ไม่มีเหตุผลใด
ที่จะต้องไม่ทำลายมัน ดูกายันต์สิถ้าไม่กักขังไว้ในคืนวันพระจันทร์ดับ คงอาละวาดทำลายชีวิตบริสุทธิ์ไม่ต่างกับ
จิตมารแน่นอน เท่าที่เห็นเจ้าตัวไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความต้องการของวิญญาณสัตว์ต้องมนต์สาปได้เลย
จิตสำนึกมนุษย์แทบจะไม่หลงเหลือด้วยซ้ำ
ในขณะที่ทุกสายตากำลังจดจ้องยังร่างหมียักษ์ครึ่งมนุษย์ ที่กล้าพูดว่าเป็นครึ่งมนุษย์เพราะ
สรีระส่วนอื่นนอกจากใบหน้าแล้ว ร่างกำยำล่ำสันยังแน่นตรึงด้วยมัดกล้ามแบบมนุษย์ เพียงแต่มีขนปกคลุมช่วงหน้าอก
ลอนกล้ามหน้าท้องแต่ไม่หนามากเท่ามือเท้าและด้านหลัง ส่วนองคชาติของบุรุษเพศที่มีขนาดใหญ่เกินคนปกตินั่นด้วย
ทำให้รู้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างเดรัจฉานกับคนชัดเจน
มาถึงขณะนี้ร่างที่ว่าทรุดฮวบลงในอ่าง จนพระลักษมณ์กระตุกกายตาม พานนึกงงเกิดอะไรขึ้น
กับร่างมารของกายันต์ แต่เพราะมือหนาที่โอบไหล่ไว้กดแรงบีบให้สัญญาณว่าไม่มีอะไร ตนจึงสงบใจลงได้
ใบหน้าขาวจนซีดของเลขาเย็นชา ช่างเยือกเย็นนิ่งได้อีก หากไม่สังเกตแววตาที่ไหวระริก
บ่งบอกให้รู้ว่าหนุ่มหน้าสวย หาได้เลือดเย็นเหมือนท่าทางเสียทีเดียว อาการที่แสดงออกนั้น ทำให้รู้ว่าธรรมตรัยรักและ
ห่วงกายันต์มากมาย หากเกิดอะไรที่ผิดปกติแม้แต่น้อย คิดว่าธรรมตรัยคงเป็นคนแรกที่กระโจนลงไป
ในอ่างน้ำสีเลือดนั้นแน่นอน
ร่างกายันต์ที่ทรุดฮวบคู้เข่าในอ่าง ค่อยๆอ่อนแรงจนไม่สามารถทรงตัวขืนไว้ได้ ปล่อยให้ร่าง
หงายตึงจมลงไปในอ่างโดยไม่มีใครคิดขยับเข้าไปช่วยทั้งสิ้น ต่างยืนมองร่างกำยำปกคลุมด้วยขนรุงรังจมลงไปในอ่าง
จนน้ำสีชาดท่วมมิดตัว ทันใดนั้นปฏิกิริยาของน้ำก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอีกครั้ง
น้ำที่เดือดปุดๆ กลับสงบเรียบนิ่ง ควันที่กรุ่นร้อนกลับพวยพุ่งเป็นไอเย็นขึ้นมาแทน
ดอกไม้นานาชนิดซึ่งต่างจมลงยังก้นอ่าง กลับลอยขึ้นเหนือผิวน้ำอีกครั้ง น้ำสีแดงประดุจเลือดเริ่มคืนสภาพเปลี่ยนเป็น
ใสปานกระจก
ที่สำคัญร่างใต้น้ำของกายันต์เปลี่ยนเป็นผิวมนุษย์สวยงามดังเดิม ก่อนเจ้าตัวจะค่อยๆ
โผล่หัวขึ้นจากใต้น้ำด้วยใบหน้าสดใสหล่อเหลาเหมือนมีออร่ารายล้อมทั้งตัว กายันต์นั่งนิ่งอยู่กลางอ่างปิดบังร่างเปลือยส่วนต่ำ
กว่าเอวซ่อนใต้ผิวน้ำและกลีบดอกไม้ที่พากันส่งกลิ่นหอมจรุงตลบอบอวล กลบกลิ่นคาวและบรรยากาศอึมครึมในห้องให้กลับ
มาสดชื่นขึ้นทันที แม้ไร้แสงจันทร์กระจ่างนวลเหมือนคืนที่พระลักษมณ์และปาจาร่วมพิธีต่อกัน
แต่คืนนี้กลับเป็นจันทร์เสี้ยวที่สวยงามไม่ยิ่งหย่อน คล้ายดังจันทร์เสี้ยวยิ้มรับกับพิธีล้างจิตมาร
ด้วยความสุขใจก็ไม่ปาน ธรรมตรัยหันมองปาจา ปีศาจรูปงามพยักหน้าให้ เลขาหน้าสวยจึงกำลูกกุญแจก้าวลงไป
ในอ่างทันที ปาจาไม่รอช้าคว้าถุงย่ามตรงลูกบิดประตูมาสะพาย ก่อนจะโอบพาร่างโปร่งตาโตฉายแววดีใจจนปิด
ไม่มิดเมื่อเห็นเพื่อนคนแรกแห่งคุ้มดงพญาส่งยิ้มจากกลางอ่างปล่อยฟีโรโมนหล่อกระจายมาให้
พระลักษมณ์เผยรอยยิ้มมหาเสน่ห์ส่งไปให้เช่นกัน ปาจารีบโอบคนรักหันหลังออกประตู
ไปอย่างไว โดยร่างสูงใหญ่ของปีศาจรูปงามมีรอยยิ้มจุดขึ้นมุมปากก่อนปิดประตูห้องพิธีให้เสร็จเรียบร้อย ไม่มีใครรู้ว่าหัวใจ
ของคนเป็นพี่ชาย ผู้แบกภาระหนักอึ้งมาตลอดตั้งแต่จำความได้ ตอนนี้รู้สึกโล่งปลอดโปร่งมากแค่ไหน
เมื่อเห็นพิธีล้างจิตมารผ่านไปด้วยดี ที่เหลือคงเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการตอกตะปูปิดฝาโลงไม่ให้วิญญาณร้าย
กลับเข้ามาสู่ร่างกายันต์ได้อีก
นั่นคือการมอบพรหมจรรย์ศีลบริสุทธิ์ของธรรมตรัย คนที่เสียสละและรักษาศีลอย่างเคร่งครัดเพื่อรอ
คอยเวลานี้มากว่ายี่สิบแปดปี และนับจากนี้เลขาส่วนตัวก็จะเลื่อนฐานะมาเป็นน้องสะใภ้ของคุ้มดงพญาแล้วเช่นกัน
สำหรับตนคงต้องพาร่างโปร่งไปจัดการภาระที่เหลือ นั่นคือช่วยหนูผาและกำจัดจิตมารให้สิ้นซาก
จะไม่รอน้องชายเป็นอันขาด ปล่อยให้กายันต์ได้ใช้เวลาตอกตะปูฝังวิญญาณร้ายให้เต็มที่
หึหึหึ!..นึกแล้วอดสงสารธรรมตรัยขึ้นมานิดๆ ก็นะน้องชายสุดหล่อดันมีอาวุธส่วนตัวไม่ได้ด้อยกว่าตนเลยด้วยซ้ำ...
ตระกูลดงพญาซะอย่าง..เอาติดตัวมากันเยอะ..
มาอัพให้แล้วนะคะ ตามสัญญา
ขอให้มีความสุขกับการตามอ่าน
ตอนหน้า เป็นพิธีถวายพรหมจรรย์ของธรรมตรัยค่ะ
Luk. :pig4:
-
กรี๊ดดดด
มอรอพิธีตอนหน้าค่ะ^^
-
:o8: พอได้อ่าน ก็อยากอ่านต่ออีกเรื่อยๆ กำลังสนุกเลยค่ะ
-
ไม่ edit หัวกระทู้หน่อยเหรอครับ
-
:-[ ชอบเรื่องนี้สุดๆอยากได้เป็นรวมเล่ม
-
แหะๆ...ตอนต่อไปลงวันไหนจ้า ^_^
-
อิอิ อ่านตอนนี้แล้วคิดไปถึงตอนหน้า
อยากอ่านเร็วๆ จังเลย :o8:
ขอบคุณมากนะคะ
เพิ่งเคยอ่านเรื่องแนวนี้ที่สนุกๆแบบนี้เป็นครั้งแรก
สนุกมากอ่ะ แล้วก็มีแต่หนุ่มหล่อๆทั้งนั้น 555+
อ่านแล้วเพลินใจ ยิ้มได้ทั้งวัน
:L2:... :กอด1:...
-
เห้ยๆ ร้ายอ่ะ หึหึๆ ;'))
-
รอพิธีค่า
รอรอ
-
o13
ในที่สุดพิธีล้างจิตมารก็ลุล่วง แต่ตอนหน้านี่น่าลุ้นกว่า :-[
รอติดตามนะคะ +1และเป็ดให้ค่ะ
-
:z1: ตอนหน้ามาไวไวนะครับ
-
พ่อให้มาเยอะจริงหรอค๊าา
:m25: :m25:
-
และแล้วธรรมตรัย ก็ได้สุขสมหวังซักที
-
คุณ luk เขียนบทการล้างอาถรรจิตมารได้สุดยอดมากเลยค่ะ ไปหาข้อมูลมาจากใหนเยอะแยะคะ รึว่าคิดแต่ล่ะฉากเอง สุดยอดมากเลยค่ะ ชอบสุดๆ อ่านแล้วอินมากๆ เห็นเป็นฉากๆเลย ขอคาระวะให้เลยค่ะ ทุ่มกับงานเขียนขนาดนี้ คนอ่านซาบซึ้งมากค่ะ ไม่รู้จะบอกยังไง เพราะคนอ่านได้กำไรเห็นๆ พยายามต่อไปนะคะ จะเป็นกำลังใจให้ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆมีคุณภาพเรื่องนี้นะคะ :pig4:
-
อ๊าย!! กรี๊ดๆๆ
ตอนหน้าๆๆ ตอนหน้าแล้วสิน่ะ >///<
อ่านไปตื่นเต้นไป +1 จ่ะ
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
:L2: :L2: :L2:
-
รอพิธีตอนหน้าครับ :z1: :z1:
-
อ่านแล้วลุ้นตามทุกบรรทัดเลย
รอตอนหน้านะ o13
-
รอตอนต่อไป
^^
-
อิอิ รอตอนหน้าเหมือนทุกๆคน :-[
-
หมียักษ์น่ากลัว~
ธรรมตรัยกำลังจะเสียความบริสุทธิ์ให้กายันต์อ่อ :o8:
รอตอนต่อไปนะคะ :กอด1:
-
เยอะแค่ไหนค่ะปาจา 555
-
พึ่งเข้ามาอ่านจนถึงตอนปัจจุบันแล้ว สนุกอ่า
อยากอ่านตอนต่อไปมากเลย
มาต่อไวๆนะคะ :z1:
-
จะรอตอนหน้าอย่างใจจดจ่อค่ะ!!
-
อ่านแล้วค้างมาก
รีบมาต่อน่ะ :m13:
:L2: :L2:
-
รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อค่ะ
จะรอตอนไปช่วยหนูผาด้วย
เป็นกำลังใจให้ค่า >.< :กอด1: :กอด1:
-
ลุ้นระทึกกับพิธีอาถรรพ์จิตมาร
ต่อไปก็ลุ้นกับการถวายพรมจรรย์กันต่อ
แล้วก็ยังมีเรื่องการบุกไปช่วยหนูผาอีก
ลุ้นกันต่อ อย่าให้มีคนฝ่ายดีเจ็บหรือตายอีกเลย
-
สุดยอดอ่ะ
:o8:
-
โอ้ ไปช่วยหนูผาให้ได้น๊า
-
หึหึ กล้าพูดด ด
"ตระกูลดงพญาซะอย่าง..เอาติดตัวมากันเยอะ.."
-
หวังว่าคงไม่มีอะไรมาทำให้พิธีสะดุดน่ะ :call:
รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ
-
รอตอนหน้าค่ะ
ขอให้ไปช่วยหนูผากลับมาอย่างปลอดภัยน่ะค่ะ
-
:z1: :z1: :z1: :z1:
ตอนหน้าเลือดคงท่วมจอ
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
รอตอนหน้าอย่างใจจดจ่อ :z1:
+1 นะคะ
-
ตอนที่กายันต์กลายร่างจากจิตมารเป็นคนปกติ (แถมหล่อสุด ออร่ามากมาย)
ปาจาต้องมีรีบเอาพระลักษณ์ออกโดยด่วนสินะ ไม่งั้นเดี๋ยวสปาร์ค ท่าจะแย่
อ่านไปจนจบ สรุป อยากอ่านตอนต่อไปอย่างม๊ากกกกกกเลยอ๊ะ
-
พิธีล้างจิตมาร อลังการงานสร้างมาก
ส่วน (เครื่องเพศ) สัตว์มารก็น่ากลัวเกิ๊นนนน คนเขียนบรรยายซะเห็นภาพ ขนาดพระลักษมณ์ยังสยองอะคิดดู :serius2:
จุดประทัดยินดีให้คู่รักคู่ใหม่ กายันต์ธรรมตรัยจะเข้าหอตามพี่ชายและเพื่อนไปติดๆ แล้ว เย้เย้ :mc4:
ขอบคุณคนเขียนมากๆ ค่า ตามติดพิธีถวายพรหมจรรย์ของธรรมตรัยต่อคร้าบบบ :pig4:
-
กรี๊ดอยากอ่านตอนหน้าเร็วๆอ่ะ :z1:
-
รอตอนต่อไปๆๆ
:-[ :-[
-
เล่นออกจากห้องไปกันงี้เราก็ต้องแอบดูอ่ะดิ
ว๊ายๆๆๆๆๆ :z1:
-
ดีใจกับธรรมตรัยจริงๆ อดทนมานาน ได้สมหวังสักที
ปล.ตอนหน้าอยากแอบดูเค้า อะจึกๆกันอะ :-[
-
เชื่อว่าทุกคน want ตอนต่อไป มากๆๆ o18
อ่านแล้ว ขนลุกตามเลยคร๊ o22
-
คนในคุ้มเป็นจิตมารแน่ๆ ใครกัน???? สิตา หนูผา นมอุ่น
แต่ลุ้นกันพิธีของธรรมตรัยกับกายันต์มากกว่า คิคิคิ
-
:pig4: :pig4:
-
จะถึงพิธีของธรรมตรัยกับกายันต์แล้ว
ลุ้นจังเลยค่ะ
ีอีกอย่างอยากรู้ว่าจิตมารเป็นใครซักที???
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
เป็นกำลังใจให้คุณ Luk จ้า (:
+1 ใ้ห้นะคะ
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
รอตอนหน้าครับ เอิ้ก ๆ
-
:impress2:ปูเสื่อรอพิธีสุดท้ายเลย....ว่าจะสู้พิธีของปาจา&พระลักษณ์ได้รึป่าว :impress2:
-
นึกว่าเลือดจะท่วมจอซะแล้ว
-
อ่านแล้ว :-[
-
สนุกมากค่ะ :impress2: :impress2:
-
หวาดเสียว แทน ธรรมตรัย กรีดดดดดด
-
กรี๊ด....รอตอนหน้า o13 :-[
-
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกว่าสิตาน่าสงสัย o8
-
เราจะผิดไหม ถ้าบอกว่ารอตอนหน้าด้วยใจจดจ่อ 555 :haun4: :haun4: :haun4:
-
ตั้งใจรอ่านเต็มที่ :-[ :-[ :-[
หนังสือไม่ต้องอ่าน :a5: :a5: :a5:
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
อ๋า...รอตอนต่อไป -.,-
-
อั๊ยยะ
แบบนี้อีกแล้ว กลัวลงแดงก่อนตอนหน้าจะมา(ไม่ค่อยจะหื่นเลย)
กายันต์ที่รักหลุดพ้นจากความทรมานที่มีมานานเสียที
แอบสงสัยว่าใครกันที่เป็นคนทำและลักพาตัวหนูผาไป
เอาใจช่วยให้ช่วยหนูผากลับมาได้อย่างปลอดภัยนะคะ
มาจุ๊บคนแต่งสักที :จุ๊บๆ:
-
...ขอกรี๊ด แทน ตรัยธรรม ก็แล้วกันนะ
นิ่งได้ใจค่ะ...
-
:z1:พิธีครั้งต่อไป
ตรัยเเย่เเน่ๆ :o8:
-
:z1: ตอนต่อไปเค้าจา อะจึ๊ก อะจึ๊กกานนนนน :jul1:
เรากำลังสงสัยว่าคนร้ายน่าจะเป็นสิตา น่าสงสัยๆ ที่สิตาไม่มีมดลูกอาจจะเป็นเพราะเป็นผู้ชายแล้วแปลงเพศ แล้วก็ตั้งใจเข้ามาอยู่ในคุ้มเพราะคุ้มสงสัยคนร้ายที่เป็นผู้ชายเท่านั้น แถมพอเป็นร่างมารก็มีตรงนั้นเองอยู่แล้ว แหะๆ ทำตัววิเคราะห์แบบนักสืบ
รอตอนต่อไปอย่าใจจดใจจ่อ :impress2:
-
อยากอ่านพิธีให้จบอ่าาา
-
สำเร็จไปแล้ว แก้อาถรรพ์ได้แล้ว เย่ๆๆ :m4:
แต่ไอ้พิธีที่ทุกคนรอนี่มันอะไรน้า เค้าไม่รู้เรื่องเลย ต้องรออ่านด้วยคน :haun4:
-
ตระกูลนี้อาวุธ...หย่ายๆกันทั้งนั้น
-
o13
-
อิจฉาคนสั่งนิยายทันจริงๆ เค้าก็อยากได้อ่าาาาาา แต่ช่วงนี้เค้าถังแตก :sad4:
-
ตอนหน้าพิธีถวายพรหมจรรย์ของธรรมตรัย :o8: :o8: :o8:
-
:กอด1: :L2:
ลุ้นมากขึ้นทุกทีแล้ว อยากรู้ว่าจิตมารสิงร่างใครอยู่
รออ่านต่อจ้า สู้ ๆ นะ :L1:
-
o18รอตอนต่อไปปปปปปปปปปปปปปปป
-
แผนการนี้ต้องเป็น สิตาแน่ๆๆ
รอตอนต่อไปจ้า จะเตรียมเลือดไว้เยอะๆ ฮิฮิ
:z1:
-
หึหึ... พิธีนี้ช่าง.... อ่ะนะ อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ ดีใจที่กายันต์กลับมาเหมือนเดิม
ไม่หล่อแบบปิศาลครึ่งคนครึ่งสัตว์อีกต่อไป คนร้ายคิดว่าน่าจะเป็นสิตานะ ไม่รู้สิ ก็คิดๆไว้อยู่ค่ะ
-
+1 ให้จ้า
อยากดูพิธีที่กายันต์ กับ ธรรมตรัย ล้างจิตมารอะ :m10:
อยากรู้นะ รอ :call:
-
คุณพี่นี่เค้าก็หลงตัวเองเหมือนกันเนอะ
มีพูดเข้าข้างตัวเองด้วย 555
-
ได้เวลา พิมาตมาร แล้ววววววววว
-
แล้วจะอย่างไรต่อไป
-
อยากได้พิธีถวายบัว เอ้ย ไม่ใช่
พิธีถวายพรหมจรรย์ :z3:
:กอด1:
-
ตอกตะปูฝังวิญญาณร้ายให้เต็มที่ ฟังแล้วเสียวแทนตรัยอ่ะ :-[
งานนี้มีตอก :oo1: จมมิดแน่ๆ ตะปู(กายันต์)ใหญ่ซะด้วย คงต้องตอกซ้ำๆ
แน้นๆ เพื่อความมั่นใจ o3
-
แอร๊ยยยยยยยยยย
:o8:
ตอนหน้าคุณเลขาจะเสียสาว(?)แล้ว
อ่านแล้วก็เขิน
ทั้งพี่ทั้งน้องตระกูลนี้
ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยจริงๆ
:oo1:
รออ่านตอนหน้าค่า
:pig4:
-
รอลุ้นจิตมาร คงไม่ใช่แม่สิตาหรอกนะ
ตอนหน้า น้ำในอ่างจะกลายเป็นสีเลือดอีกครั้ง หึหึ
-
กรี๊ดๆๆๆ คู่นี้จะเป็นยังไงหว่า :-[
แต่พี่น้องตระกูลนี้ก็พอๆกันแหละ (มั้ง >.<) :z1:
มาต่อไวๆนะคร๊า รอตอนต่อไปอยู่จ้า :กอด1:
ปล. ดีใจจัง สั่งจองหนังสือทันเนี่ย :call:
-
:o8: รอตอนต่อไป สนุกมากๆเลยขอรับ
ใครกันที่เป็นตัวการของเรื่องทั้งหมด ลุ้นๆ
ปาจา กับ พระลักษมณ์ ก็หวานซิเราอิจฉา ฮ่าๆ
-
จินตนาการบรรเจิดเลิศล้ำ สนุกจริงๆ o17 o17
คุณจากับพระลักษมณ์แอบหวาน น่ารัก :o8:
หวังว่าพิธีกรรมตอนหน้าก็ราบรื่นสำเร็จด้วยดีนะ o15
-
หวังว่าคงสำเร็จด้วยดีนะนี่ o13 o13
-
กล้าพูดนะเนี้ย
"ตระกูลดงพญาซะอย่าง..เอาติดตัวมากันเยอะ.."
แอบสงสารธรรมตรัยนิดๆ แล้วสิ
-
@@@@ แจ้งข่าวด่วน
ขณะนี้ หนังสือเรื่อง ...เพราะรัก...จึงเปลี่ยนได้
มียอดค้างสต๊อกเหลืออยู่ 20 เล่มสุดท้าย
สำหรับคนที่ต้องการ ส่ง PM หรือเมลล์ ไปสอบถามหรือโอนเงินได้เลย
ตามเลขที่บัญชีซึ่งเคยโพสฯ ไว้ในกระทู้ ไม่แน่ใจให้ไปดูที่กระทู้เพราะรัก
หน้าหนึ่งนะคะ จัดทำแค่ครั้งเดียว ไม่พิมพ์เพิ่มหรือรีปริ้นอีกแล้ว
ใครอยากเก็บไว้ โอนด่วนรับหนังสือต้นเดือนพฤศจิกายน
Luk.
ปกหนังสือ
(http://image.free.in.th/z/ix/33_resize.jpg)
ที่คั่นหนังสือ
(http://image.free.in.th/z/ij/pp_resize.jpg)
มนต์มาร
Part 19
ถวายพรหมจรรย์.
.
.
.
.
“แกร๊งๆๆ!!”
เสียงโซ่ตรวนถูกปลดออกทั้งมือเท้า มือขาวเรียวถูกรวบจับกุมไว้ทั้งสองข้าง พอให้รู้ว่า
เจ้าของมือเรียวไม่เคยผ่านงานหนักเลยแม้แต่น้อย ที่สำคัญมือคู่นี้กลับเป็นมือของผู้ชายหน้าสวยแสนเย็นชา
ขณะนี้ใบหน้าเย็นชาแม้จะพยายามซ่อนความรู้สึกไว้มากแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาคม
ที่จ้องอย่างไม่วางตาของร่างสูงใหญ่ล่ำด้วยกล้ามเนื้อสมชายชาตรีของกายันต์เลยแม้แต่น้อย
ธรรมตรัย เริ่มหายใจขัดขึ้นทุกที เมื่อร่างเปลือยเปล่าของกายันต์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
แม้ความสูงของคนตรงหน้าจะสูงกว่าตนไม่มากนัก แต่ร่างล่ำสันแข็งแกร่งก็ข่มจนรู้ว่าด้านพละกำลังแล้ว
ธรรมตรัยเป็นรองอย่างไม่ติดฝุ่น ที่สำคัญอาวุธประจำกายของกายันต์มันช่างผงาดง้ำ อลังการเสียจนทำเอาธรรมตรัย
ที่เตรียมตัวเตรียมใจไว้สำหรับการนี้เริ่มประหวั่นขึ้นมาจนได้สิ
เหมือนกายันต์จะรับรู้ความคิดคนตรงหน้า เพราะมือที่เริ่มสั่นน้อยๆ กับลมหายใจขาดห้วง
ไม่เป็นปกติของเลขาหน้านิ่ง มือหนาจึงเชยคางมนคนหน้าสวยแหงนสบตาเข้มที่หวานหวาม ความต้องการทางเพศ
เริ่มปะทุไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งสูดกลิ่นหอมจรุงใจของดอกพฤกษานานาพันธุ์ในอ่างด้วยแล้ว ยิ่งส่งผลให้ทั้งคู่วาบหวิว
หัวใจเต้นรัวกระหน่ำ อารมณ์กำหนัดเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
ใบหน้าหล่อเหลาอย่างไร้ที่ติก้มลงหาปากบางได้รูปช้าๆ ปล่อยให้หน้าสวยนิ่งที่แดงเรื่อ
ด้วยเลือดฝาด พริ้มตาหลับรอรับสัมผัสจูบหวานจากปากหนาที่ประกบบดคลึงอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน
ธรรมตรัยร้อนรุ่มไปกับจูบอย่างมีชั้นเชิงของกายันต์ ซึ่งส่งสัมผัสปลุกเร้าอารมณ์พิศวาส
ให้คล้อยตามได้อย่างง่ายดาย ในเมื่อต่างฝ่ายต่างรู้แก่ใจว่าพิธีนี้เป็นสิ่งที่ทั้งคู่ต้องร่วมกระทำ แต่กับจูบไม่ประสีประสา
ของธรรมตรัยทำเอากายันต์ผู้เจนจัดอดนึกเอ็นดูเลขาผู้ภักดีคนนี้ไม่ได้ ธรรมตรัยถือครองพรหมจรรย์เพื่อตนมาตลอด
ยี่สิบแปดปีอย่างเคร่งครัดต่อศีล ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหนุ่มใหญ่เลยวัยเบญจเพศมาตั้งหลายปี
กลับเหมือนหนุ่มน้อยไร้เดียงสาต่อเพศรสเสียเหลือเกิน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพราะความรู้สึกสำนึกต่อคุณค่าที่ธรรมตรัยมอบให้ กายันต์จึงไม่บุ่มบ่ามทำตามอำเภอใจ
ทั้งที่ความต้องการของร่างกายเรียกร้องจนปวดตุ้บ แทบระเบิดเสียให้ได้
มือหนาค่อยลูบไล้ยังไหล่เปลือยขาวเรียบลื่นตามร่างกายของเลขาหน้านิ่งพร้อมกับริมฝีปาก
ก็ทำหน้าที่จูบอ้อยอิ่ง ทำเอาร่างสมส่วนด้วยกล้ามเนื้อพองามของธรรมตรัยสั่นระริกกับอารมณ์ที่ได้สัมผัส
กระทั่งหลุดเสียงครางทุ้มเครือแผ่วผ่านลำคออย่างยากที่จะปิดกั้นเอาไว้ได้อีกต่อไป
“อ่าๆๆ”
กายันต์เคลื่อนมือมายังตุ่มไตสีอ่อนทั้งสองข้าง ก่อนจะสะกิดด้วยปลายเล็บเบาๆ
ทำเอาร่างตรงหน้ากระตุกเฮือกครางรับสัมผัสทันที
“อือออออ!!”
ก่อนริมฝีปากจะผละออกแม้แสนเสียดายกับจูบหวานที่ลิ้มชิมอย่างไม่รู้จักอิ่มก็ตาม
เคลื่อนซุกไซร้ยังลำคอขาว ก่อนจะย่อเข่าต่ำเพื่อไล้เรียวลิ้นและริมฝีปากหนาไปตามร่างกายขาวเปลือยตรงหน้า
หยุดแวะดุนลิ้นดูดกลืนเม็ดไตสีอ่อนที่ชวนชิมอย่างหิวกระหาย
“ฮาาาาๆๆ...อือออๆๆ”
ร่างตรงหน้าแอ่นหยัดสูดปาก มือเรียวจิกกำผมหนาของกายันต์อย่างลืมตัว กายันต์ละเลงลิ้น
รัวกระหน่ำสลับดูดฝากรอยสีกุหลาบไว้บนร่างกายและเนินอกขาวตรงหน้า ในขณะมือหนาค่อยกระตุกปมเชือกผ้านุ่ง
ของธรรมตรัยหลุดออกก่อนเหวี่ยงทิ้งบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ
ร่างเปลือยของธรรมตรัยปลุกอารมณ์สวาทของกายันต์ให้ทะลุจุดเดือด จนไม่เหลือความอดทน
ที่จะรอต่อไปได้ ก่อนร่างกายจะกลับเป็นฝ่ายระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ ไปเสียก่อน หากไม่ได้ปลดปล่อยความต้องการที่ควบแน่น
จนยากจะควบคุมอีกต่อไป ขวดน้ำมันสีเหลืองนวลถูกหยิบจากพื้นข้างลูกกุญแจไขโซ่ตรวน ซึ่งเลขาหน้านิ่งคงนำมา
เตรียมไว้ก่อนแล้วเช่นกัน
ฝาขวดถูกเปิดจุกออก พร้อมกับมือหนารองรับน้ำมันเกือบล้นฝ่ามือ ป่ายชะโลมไปยังด้านหลัง
ของร่างขาวเกร็งที่สั่นระริก เกิดจากการถูกปลุกเร้าดูดดุนด้วยลิ้นชื้นและริมฝีปากหนา ซึ่งทำหน้าที่สัมพันธ์กัน
อย่างต่อเนื่องทีเดียว
ก่อนที่ธรรมตรัยจะกระตุกเฮือก กัดริมฝีปากแน่นเมื่อสัมผัสถึงนิ้วแกร่งสอดแทรกบดเบียดรุกล้ำ
เข้าไปในร่างกายตนอย่างช้าๆ แม้จะรู้สึกต่อต้านบีบรัดแต่ก็ไม่มีเสียงร้องอุทธรณ์หลุดมาแม้แต่น้อย ร่างกายและหัวใจ
พร้อมพลีให้กับกายันต์ตั้งแต่รู้ว่าตนต้องรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้แล้ว
กายันต์เองไม่ต้องการให้ความทรมานจากแรงเสียดสอดด้านหลัง ทำให้ธรรมตรัยเกิดความเจ็บปวด
ปากหนาจึงเคลื่อนเข้าครอบครองท่อนเนื้อสีนวลก่อนดูดกลืนให้อย่างชำนาญอย่างไม่นึกรังเกียจ ทำเอามือเรียวจิกทึ้งเส้นผม
อย่างลืมตัว ส่งผลให้ท่อนขายาวแทบหมดแรงยืน อาศัยการโอบกอดจากวงแขนแกร่งของกายันต์พยุงให้ยืนหยัดอยู่ได้
โดยไม่ทรุดฮวบลงไปเสียก่อน
อารมณ์ที่ได้รับการรุกล้ำจากด้านหลังด้วยนิ้วแกร่ง ความซ่านเสียวจากลิ้นชื้นและโพรงปากอุ่น
จากด้านหน้า ทำเอาหนุ่มใหญ่ไร้เดียงสาเกี่ยวกับเพศ ถึงกับสูดปากอย่างหมดความอดกลั้น
“ซี๊ดดดๆๆ!!..โอวววว..อึมมมม”
กายันต์เห็นผลตอบรับการกระทำซึ่งตนปรนเปรอให้ของธรรมตรัย ยิ่งเกิดความลิงโลดเพิ่มจำนวน
นิ้วเข้าไปอีก ก่อนกดย้ำคว้านหาจุดสัมผัสซึ่งไวต่อความรู้สึก จนทำให้ธรรมตรัยสั่นระริกก่อนจะเกร็งหยัดกล้ามท้องเป็นลอน
พองามพวยพุ่งธารบริสุทธิ์ไหลลงคอของกายันต์ทันที
ลูกกระเดือกหนาขยับกลืนสายธารพรหมจรรย์ของธรรมตรัยหมดทุกหยาดหยดไม่มีเหลือ
ก่อนจะรวบดึงเอาร่างสมส่วนให้คลานเข่าลงในอ่าง ถึงเวลาแห่งการตอกตะปูฝั่งเสาเข็มปิดตายวิญญาณเดรัจฉานกันแล้ว
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
เมื่อจัดท่าทางทะมัดทะแมงดีแล้ว ท่อนเนื้อขนาดมหึมาส่วนปลายบานหัวแดงก่ำก็ถูกจับจ่อ
ยังช่องทางปิดสนิท กายันต์ค่อยๆ ถูไถตามร่องหลืบไปมาช้าๆ เพื่อเรียกสัมผัสให้เคยชิน แต่ความเสียวกระสัน
เมื่อเนื้อต่อเนื้อสัมผัสกันก็ทำเอาอดสูดปากระงมไม่ได้เช่นกัน
“อึมมมม...ซู๊ดดดด”
ก่อนจะโน้มศีรษะลงกระซิบยังริมหูขาวบัดนี้แดงก่ำด้วยเลือดสูบฉีดเบาๆ ว่า
“อย่าเกร็งครับ ผมจะพยายามทำให้เบาที่สุด สูดหายใจเข้าลึกๆ “ พูดจบรอจังหวะให้ร่างคลานเข่า
ได้มีจังหวะสูดหายใจ ก่อนจะกดส่วนหัวดันเข้าไปช้าๆ ธรรมตรัยขบปากแน่นจนเลือดซิบ เมื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวด
ปานร่างฉีกออกเป็นส่วน ความเจ็บวิ่งริ้วตั้งแต่ไขสันหลังพุ่งขึ้นหัวก่อนย้อนกลับยังปลายเท้า ทำเอาเข่าที่คลาน
และแขนที่ยันพื้นอยู่หมดแรงทรุดฮวบลงทันที
ยังดีที่แขนแกร่งของกายันต์กอดรั้งเอวไว้ไม่ให้ร่างขาวจมน้ำไป ก่อนตัดสินใจดันพรวดเดียว
อย่างไม่ปราณีมิดโคน ส่งให้ปากบางที่ขบแน่นกรีดเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเกินทน
“โอ้ย! อือออ”
ร่างไร้กระดูกอ่อนปวกเปียกภายใต้อ้อมแขนหนาของกายันต์สั่นเทาน้ำตาไหลเปรอะแก้มใส
ริมฝีปากบางถูกฟันคมกัดเลือดซิบ จนกายันต์ซึ่งหยุดร่างแช่นิ่งเพราะความตึงแน่นที่บีบรัดแทบระเบิด
ต้องแหงนหน้าสูดปากกัดฟันแน่นเช่นกัน
“อ่าาาา...กร๊อดดดๆๆ...ซู๊ดดด...โอวววว..”
ความเสียวกระสันวิ่งลิ่วจนอยากเสยท่อนเนื้อร้อนที่เต้นอยู่ภายในร่างอุ่นให้รับอารมณ์ตนเต็มที่
แต่ด้วยจิตสำนึกที่ยังหลงเหลือจึงทนกัดฟันกรอด ก่อนจะใช้มืออีกข้างจับใบหน้าสวยคลอน้ำตา บิดเอียงขึ้นรับจูบ
ปลุกอารมณ์ให้อีกครั้ง
สัมผัสคาวเลือดที่ได้รับ กระตุ้นสัญชาติญาณอ่อนโยนให้กายันต์ขึ้นมาทันที ก่อนจะล้วงมือลงไปสาวรูด
ท่อนเนื้อนุ่มของธรรมตรัยให้อย่างปราณีตบรรจง ทำเอาร่างกายที่เจ็บปวดปานขาดใจระอุร้อนขึ้นมาอีกครั้ง กายันต์ถือโอกาส
บดคลึงสะโพกด้านหลังเสียดสีผนังนุ่ม เพิ่มความเสียวที่ถูกกระตุ้นทั้งสามทางไต่ระดับอย่างรวดเร็ว
ความลื่นไหลของช่องทางที่เริ่มขยับคล่องเพราะเลือดปริ่มจากรอยฉีกผสมน้ำมันหล่อลื่น ส่งผลให้กายันต์
สามารถสาวดึงท่อนเนื้อออกมา ก่อนจะกระแทกกลับเข้าไปอย่างเป็นจังหวะ สำหรับร่างด้านใต้แล้วเหมือนลำไส้ถูกกระชาก
ให้หลุดตามก่อนจะรู้สึกจุกแน่นเข้ามาแทน แต่ความเสียวสะท้านทรวงก็เพิ่มมากขึ้นตามเมื่อท่อนเนื้อร้อนแท่งใหญ่อัดคับร่าง
เริ่มขยับรัวแรงเร็วขึ้นอีก เสียดสีสัมผัสจุดไวต่อความรู้สึกภายใน เสียงครางพร่าผสมผสานของกายันต์และธรรมตรัย
แข่งกันดังระงม
มาถึงตอนนี้อารมณ์กายันต์หยุดไม่อยู่เสียแล้ว ขยับตั้งเข่าเกร็งหน้าขาแกร่งเสยอัดสะโพกโยกเข้าใส่
บั้นท้ายแน่นตึงจนหนั่นเนื้อกระทบดังสนั่นแข่งเสียงครางระงมไม่แพ้กัน กล้ามท้องลอนสวยเรียงตัวเป็นตับโชว์สเต็ป
ขยับรัวบั้นเอวได้อย่างซ่านสยิว
“ปั๊ปปปปปๆๆๆ...โอวววว..ซี๊ดดดด...อืออออ...อ่าๆๆๆ”
อารมณ์ที่พุ่งลิ่วทำให้ธรรมตรัยผู้อ่อนต่อเกมโลกีย์ กระตุกพ่นธารรักขาวขุ่นออกมาอีกครั้งภายใต้มือหนา
ที่ยังคงกอบกุมสาวรูดให้อย่างต่อเนื่อง ช่องทางด้านหลังบีบรัดแน่นกระตุกตามจังหวะเกร็งตัวพ่นน้ำรักทางด้านหน้า
ส่งผลให้กายันต์วิ่งสู่จุดหมายปลายทางปลดปล่อยธารพิศวาสออกมามากมายจนล้นทะลักไหลย้อยตามง่ามขา
จมหายไปในอ่างน้ำใสด้านล่าง บังเกิดเป็นควันสีแดงพวยพุ่งขึ้นทั่วอ่างอย่างมหัศจรรย์
“ซ่าๆๆๆๆ”
กลุ่มควันตลบอบอวล ส่งผลให้ร่างกายของทั้งคู่ขึ้นริ้วแดงอมชมพูไปทั่ว ท่อนเนื้อที่เพิ่งกระตุกเกร็ง
ของทั้งสองกลับมาผงาดง้ำขึ้นอีกครั้ง แรงอารมณ์แห่งโลกีย์วิ่งลิ่วอย่างไม่รู้สาเหตุ กายันต์จับร่างธรรมตรัยพลิกหันเข้าหาตัว
ก่อนจะรวบกอดแผ่นหลังขาวไว้แน่น แล้วเสยกระแทกกระทั้นแก่นกายแกร่งเข้าใส่อย่างไม่ปราณี
ในขณะที่ธรรมตรัยเลขาผู้แสนเย็นชา ผู้ไร้เดียงสาต่อบทพิศวาสกลับเป็นฝ่ายเร่าร้อนควบขยับสอดรับ
กายันต์อย่างไม่ลดละ แขนทั้งสองข้างโอบรอบคอหนาก่อนก้มหน้าลงประกบจูบริมฝีปากได้รูปของสุดหล่อหน้าคม
ที่ดวงตาปรืออย่างเซ็กซี่ได้อารมณ์ อารมณ์สวาทที่โหมกระหน่ำทิ้งทวนครั้งนี้ เหมือนดังไฟพิศวาสที่เผาผลาญวิญญาณร้าย
ให้โหยหวนครวญคร่ำอย่างทรมาน
ทั้งสองต่างควบขยับโยกไหวสอดประสานอย่างรุนแรง หูอื้อตาลาย ไม่ได้รับรู้ถึงสรรพสิ่งรอบข้าง
แม้แต่น้อย สติสัมปชัญญะทั้งมวลจมดิ่งสู่อำนาจดำฤษณา แรงสอดใส่ปะทะปานอาชาศึกที่พุ่งทะยานไม่บันยะบันยัง
เสียงหนั่นเนื้อกระทบใต้น้ำจนกระฉอกไหวเป็นระลอกคลื่นถาโถมล้นออกขอบอ่าง
“พั่บๆๆๆ..แฉะๆๆๆ..อือออ..โอววว..ซี๊ดดดด..อ่าๆๆๆๆ”
เสียงครางสะท้านเสียวใบหน้างามแหงนสูดปาก มือเรียวขูดรอยเล็บกลางแผ่นหลังของกายันต์
จนเลือดซิบ ในขณะที่กายันต์ส่งแรงขยับโยกทั้งดูดทั้งจูบ กัดเม้มทิ้งรอยจ้ำเป็นด่างดวงทั่วร่างขาว แผ่นอก ลาดไหล่
แทบไม่เหลือที่ว่าง
ณ บัดนี้ กลุ่มควันสีแดงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีขาว แถมรวมตัวเป็นรูปหน้าคน ซึ่งคือวิญญาณ
ผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ภายใต้อำนาจมนต์มาร ได้ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระลอยลิ่วสู่ท้องฟ้าท่ามกลางแสงจันทร์เสี้ยวทีละดวงๆ
ทุกวิญญาณปรากฎใบหน้าพ้นทุกข์ เป็นอิสระกับการปลดปล่อย เมื่อจิตมารแห่งร่างนี้ดับสูญ วิญญาณที่ถูกทำลายแต่ก่อนเก่า
ถ่ายทอดมายังกายันต์ก็ได้รับอิสระแล้วเช่นกัน
ก่อนร่างสมส่วนของธรรมตรัยจะเกร็งหยัดจิกเล็บแน่น แล้วปลดปล่อยธารรักออกมาจนได้
ครั้งนี้มีปริมาณไม่มากนัก คงสืบเนื่องจากเพิ่งปลดปล่อยไปหมาดๆ สองรอบแรก
ตามติดด้วยกายันต์ที่กดปากหนาดูดเม้มต้นคอขาวของธรรมตรัยที่แหงนหน้าแน่น ปล่อยให้ร่างตน
ขับสายธารร้อนระอุอัดพุ่งเข้าไปยังผนังนุ่มด้านในต่อเนื่องไม่ขาดตอน แล้วทั้งสองต่างอ่อนปวกเปียกปานวิ่งมาราธอน
ระยะยาวกันมา ต่างหอบเหนื่อยตัวโยน ก่อนค่อยผ่อนนิ่งสงบช้าๆ ใบหน้าชื้นเหงื่อของธรรมตรัยซุกซบอย่างหมดแรง
บนบ่าหนาของกายันต์ ซึ่งเจ้าตัวมัวแต่ใช้มือแกร่งลูบท้ายทอยให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆ ยกร่างธรรมตรัยขยับ
ถอนท่อนเนื้อใหญ่ที่สอดประสานช้าๆ จนหลุดออกเรียบร้อย ถือโอกาสใช้น้ำในอ่างควักล้างให้ร่างธรรมตรัยซึ่งไม่เหลือ
แรงแม้แต่จะลืมตาแล้วด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พิธีถวายพรหมจรรย์ศีลบริสุทธิ์สำเร็จลงด้วยดี กายันต์เองหมดแรงไม่มีเหลือพอที่จะทำภารกิจใดๆ
อีกแล้วเช่นกัน ก่อนจะค่อยกระเตงลากร่างของธรรมตรัยขึ้นไปนอนแผ่บนพื้น พร้อมกับที่ตนตามรวบเอาร่างขาว
ที่มีแต่รอยจูบทั่วเข้ามาซุกในอ้อมกอด ปิดเปลือกตาตามท่ามกลางจันทร์เสี้ยว
ที่ส่งยิ้มให้ในค่ำคืนแห่งความทรงจำสวยงามอย่างสุขใจ....
มาอัพต่อให้แล้วค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน
Luk. :กอด1:
-
ถวายพรหมจรรย์ :haun4: แค่ชื่อตอนก็ชอบแล้วอะ!
เสียเลือดไปตามๆ กัน :m25:
+1 :กอด1:
-
+ คะแนนที่ ๗๗๗ : D
-
:z1:
แบบนี้เค้าเรียกว่าเชื้อไม่ทิ้งแถวใช่มั้ยกายันต์
พี่น้องแบบว่าไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียวเชียว
:oo1:
ขอบคุณคุณลักค่า
:pig4:
-
กายันต์ พรากไปเเล้ว :haun4:พี่น้องไม่ยอมกันเลยอิอิ
-
น้ำตาแตกจากพี่บอร์ม :m15:
แต่เลือดกำเดาแตกจากกายันต์ :haun4: :haun4: :haun4:
555
-
ถวายกันจนคนอ่านเลือดแทบหมดตัว
ต่างกันที่หลังเสร็จกิจคนน้องหมดแรงข้าวต้มแต่คนพี่นี่เปล่งปลั่งเหมือนโด๊ปยาชูกำลัง :laugh:
-
:haun4: แบบว่า เริ่ดดดดดดด
ร้อนแรงสุดๆ
แต่อย่าสนุกกันเพลินจนลืมไปช่วยหนูผานะ :laugh:
-
:z2:
-
:jul1: :m25: :pighaun: :haun4:
เอาให้ครบทุกตัว ไม่ไหวๆๆ เลือดพุ่งหมดตัว :laugh:
-
:m25: :m25: :m25:
-
เป็นบทที่เรียกเลือดได้ดีจริงๆเลยค่ะ หวังว่าทุกๆอย่างคงจะดีขึ้นเรื่อยๆ ฮิฮิ
-
:jul1:
-
กายัณต์ธรรมตรัย :jul1: :jul1:
-
:m25: :m25: :m25:
:L2: :L2:
-
:-[ :-[ :-[
-
:m25: :m25:
-
:z1:อุ๊ :m10: อ๊ะ :m25:อื้ม :haun4:อู้ว :pighaun:โอ้ว :jul1:
-
:jul1:ร้อนแรงมาก :jul1:
:m25: :m25: :m25:
ขอบคุณค่ะ
-
อะโห้....ลีลาพี่แก...สุดยอด.... o13 o13 o13
-
>////< เลือดอาบเลยทีเดียว
+1 +เป็ด +♥
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
:L2: :L2: :L2: :L2:
-
+1 ให้คุณ Luk
สมการรอคอย55555555555 :haun4:
:call: :call:
-
ไอย๊ะ :::
หมดแรงข้าวต้ม ไข่ลวกสักฟองสองฟองไหมจ๊ะ ?
ฮ่าๆ -v-
-
อ๊ากกกกกกกกก พิธีพราก เอ๊ย ถวายพรหมจรรย์ มันช่าง..ช่าง..ช่างเรียกเลือดดีแท้ :pighaun: :pighaun: :pighaun:
-
โอ้วววว ร้อนแรงสมชื่อตอนจริง ๆ :jul1:
-
อยากอ่านตอนหวานๆของคู่นี้ ><
-
+1 ให้จ้า ในที่สุดกายันต์ก็พ้นคำสาปเสียที ดีใจด้วย แต่ก็สงสารธรรมตรัยหน่อยๆ นะ เจ้ากายันต์ดูไม่ค่อยจะถนอมธรรมตรัยสักเท่าไหร่เลย สู้ปาจาก็ไม่ได้ยังอ่อนโยนกับพระลักษมณ์กว่านี้ตั้งเยอะ
-
o13 กายันต์เป็นอิสระจากมนต์มารแล้ว แถมพิธีล้างอาถรรรพ์ก็ :haun4:
ปล.บวกเป็ดให้นะคะ
-
แค่อ่าน ก็ หมดแรง :m25: :jul1:
-
ถวายพรหมจรรย์ได้งดงามมากค่ะ :jul1:
ปล.ตระกูลนี้ของเค้าดีจริงๆ o13
-
อยากให้คู่นี้รักกันอ่ะ มาลุ้นตอนต่อไปดีกว่าว่าจะช่วยตัวประกันได้ใหม สู้ๆนะคะ
-
อยากหั้ยถึงตอนต่อไปแล้ว ซิ...^^ :impress2:
ครบคู่แล้ว >< :-[
ต่อไป คงหมดเรื่องทุกข์ ใจกันเสียที :z2:
:
ขอหั้ย น้อง ผา ปลอดภัย นะคร๊ :a5:
ขอบคุณสำหรับ นิยาย สนุกๆคร๊ ^^ :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ตระกูลดงพญานี่ "ของ"เค้าดีจริงๆ
-
โลหิตจาง :jul1:
:m25: :haun4:
-
สุดยอด :jul1:
-
:haun4: :haun4: เตรียมเลือดไว้เยอะก็ยังหมด :z1:
-
ต้องขอยืมสำนวนคุณวี จากเรื่อง "เพราะรัก..จึงเปลี่ยนได้"
ผู้ชายตระกูลนี้ "ของเขาดีจริงๆ " :m25:
ทั้งพระลักษณ์ และธรรมตรัย ต้องรับเต็มๆ อ๊ะน๊ะ :z1:
-
:m25: :m25:
-
โอ้วว หวานมากคร๊าาาา :z1:
รอตอนต่อไปน๊าค๊าาาา :กอด1:
-
:a5:
:m25:
:z1:
-
ท่าทางคู่นี้จะใช้พลังงานไปเยอะ จนลุกไปช่วยหนูผาไม่ไหวแล้ว
ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ปาจากับพระลักษณ์เสียแล้ว
-
โอยย
เรียกเลือด :jul1:
-
กายันต์ ธรรมตรัย :pighaun: :haun4: :jul1: :m25:
แอร๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!~ :jul3:
-
:haun4: :haun4:
:pig4: :pig4:
-
:haun4: :pighaun:
+1 นะคะ
-
:m10: :m10: :m10: :m10:
o13 o13
:pig4:
-
ว้าววววว ชอบคู่นี้ๆ
ต่อไปคุณเลขาคงได้หวานแหววมั่งแล้ว 555
-
อ่านแล้วแอบอยากไปซ่อนอยู่ใต้อ่างเสียจิงๆ
ท่าทางจะคุ้มนะ ทั้งคู่พี่ คู่น้อง ฮี่ๆๆๆๆๆ :z1:
-
อ๊าาาาา มาขอแป๊ะไ้ว้ก่อนนะคะคุณลักษ์ >< ชอบนิยายแนวนี้มากเลย แล้วจะตามอ่านค่ะ ^^V
-
ของเค้าดีจริงๆ แอร๊ยยยยยยย เขินนนน
ชอบชื่อของทุกๆตัวละคร แปลกดี
เนื้อเรื่องน่าติดตาม บรรยายได้ดีมากๆ
-
ถวายพรหมจรรย์ เหอๆๆๆๆ ขออีกได้มั้ย :haun4: :haun4: :haun4: :haun4:
-
น้ำตาท่วมกะพี่บอมย์ :sad4: มาต่อเรื่องนี้ อร๊ากกกกกก...ท่วมเหมือนกัน...แต่เป็นเลือดดดดด :jul1:
-
เลือด หมดตัวแล้ว
ไปหาเลือดก่อนนะ :-
-
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
ซึ้ง รักกันได้ซักที ปล่อยให้คุณเลขาช้ำใจตั้งนาน
-
:pighaun: สุดยอด ชอบชื่อตอนสุดๆไปเลย "ถวายพรหมจรรย์"
เลือดแทบหมดตัวกันเลยทีเดียว ฮ่าๆ สนุกมากๆเลย
ขอให้ทั้งสองคู่รักกันตลอดไปน๊า >-< ชอบมากมาย
รอลุ้นต่อไปว่าใครจะเป็นคนร้าย สงสัยต้องไปสวมบทโคนันซะแล้ว ฮุฮุฮุ
-
เหอะๆ แอบคิดว่ารูปร่างก็เมะกันทั้งคู่จะทำกันยังไง :jul3:
อ่านตอนนี้ก็เข้าใจ ว่าของเขาดีจริงๆ อ๊ากกกกก :m25:
ใครคือคนร้าย ก็คงต้องรออ่านกันต่อไป 555+
อาจจะเป็นคนที่เราคาดไม่ถึงก็ได้เนอะ อิอิ
รอลุ้นด้วยคน
:pig4:
-
ใครมีเลือดกรุป O สำรองไม๊เนี่ย ที่เตรียมไว้ไม่พอ โฮกกก :jul1: :jul1:
-
ลืมโพสไป ว่าจะโพสก็ลืมโพสทุกทีครับ ตอนนี้นึกออกแล้ว
อารมณ์ดำฤษณา นะครับ ไม่ใช่ อารมณ์ดำกฤษณา
กฤษณา เป็นชื่อไม้หอมชนิดหนึ่ง
ส่วน อารมณ์ดำฤษณา แปลว่า อารมณ์อยาก ความปรารถนา ความเสน่หา
-
ร้อนแรงซะเลือดหมดตัว
อย่างนี้ไม่ต้องกลัวกายันต์ไม่รับผิดชอบหรอก คงกลัวไม่ได้รับผิดชอบมากกว่า
-
:pighaun: :กอด1: o13
-
ดีนะ้นี่ยยยย ที่ปาจากะพระลักษณ์ไม่รอ
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
ขอบริจาคเลือดเป็นการด่วน
:jul1:
-
อ่านแล้ว เลือดพุ่ง :m25:
ตระกูลนี้จะใหญ่ไปไหน :o8:
-
เอื๊อก ดุเดือดเลือดผล่านมากคู่นี้
ในที่สุดก็ทำพิธีสำเร็จเสียที
สงสารคุณเลขาหน้านิ่ง หมดแรงเลยสิเนี่ยะ
ครั้งแรกก็โดนสองยกติดๆ 55555
รออ่านตอนต่อไปคะ
ฟากนู้นของเจ้าคุ้มจะเป็นยังไงบ้างนี่
787+1 = 788 จ้าา :D
-
ถวายยย...
อา..ดวงวิญญาณคนอ่าน(หื่น)ก็ได้รับการปลดปล่อยเช่นกัน
:m2: :m2: :m2:
แต่ แค่ชั่วคราวนะ
ต้องถวายอีก :m3: :m3:
-
ถวายได้ถึงใจคนอ่านดีจริงๆ :m10: :m10:
-
ว้าวว้าว
-
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
ลุ้นตอนหน้าว่าจะเป็นไงต่ออะ
o13 o13 o13
-
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
ตายจมกองเลือด
-
ตอกตะปูฝังมารร้ายซะเืลือดท่วมเลย :jul1:
-
แบบว่า...เลือดพุ่ง :pighaun:
-
เย่~~!!
เล่นซะเลือดหมดตัวกันไปเลย
:m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25: :m25:
-
สุดยอดพะยะค่ะๆๆๆๆ เลือดหมดตัวจริงๆๆๆ
-
อ๊ายยยยยยยยยยยยย คู่นี้ชอบ เลือดเกือบหมดตัวแหนะ
-
ถ้าธรรมตรัยจะน่ารักขนาดนี้
:-[ :-[ :-[
-
ไม่ว๊าย ไม่ว๊าว เขิลตายหน้าคมเลยค่ะ กายันต์จ๊ารับผิดชอบคุณเลขาด้วยเน่ ไม่แค่ถวายตัวแต่ถวายใจไปหมดด้วยแล้วล่ะ คิคิคิ
-
:m25: :pighaun: :jul1: :haun4: :z1:
ไม่รู้จะพูดอะไรดี o13
-
"ถึงเวลาแห่งการตอกตะปูฝั่งเสาเข็มปิดตายวิญญาณเดรัจฉานกันแล้ว"
:interest: :interest: :interest:
เป็นเวลาที่รอคอยว่างั้น
:m25: :z1: :pighaun: :haun4: :jul1:
-
โอ้ยพิธีกรรมนี้แรงได้ใจจริงๆๆในที่สุดก็หลุดพ้นเสียที
หวังว่าปาจาจะไปช่วยหนูผาได้ทันรออ่านตอนต่อไปค้าบบ
-
มาเกาะหน้าจอดูว่ามีตอนต่อไปรึยังค้าาา
-
รอดแล้วนะ กายันต์ ต่อไปนี้ก็รักธรรมตรัยให้มากๆนะ
สู้ๆนะคะ คุณนักเขียน
-
สำเร็จ ครบถ้วน กระบวนการ
:z1:
-
ครบถ้วน!!!!
-
สุด สุด อ่ะ ได้ใจไปเลย อิอิ^^
-
กรี๊ดดดดด ในที่สุดเลขาคนสวยก็ได้ถวายแล้ว อิอิ :pighaun: :pighaun:
ปล. อ่านเรื่องนี้รู้ึสึกไม่ค่อยได้อ่านโมเม้นของคู่นี้เท่าไหร่เลยค่ะ แบบไม่รู้ว่าจริงๆแล้วกายันต์คิดยังไง เพราะเท่าที่อ่านรู้แค่ธรรมตรัยรักกายันต์ แต่ไม่มีรายละเอียดเท่าไหร่อ่ะค่ะ หวังว่าต่อจากบทนี้จะได้อ่านคู่นี้เพิ่มขึ้นบ้างนะคะ จุ๊บๆๆ :L2: :L2: :L2:
-
:m25: :m25: :m25:
-
:-[
แอบดูเค้าถวายพรหมจรรย์แล้วเราก็แอบเขิน
ปลดปล่อยจิตมารไปแล้ว ต่อไปนี้จะได้รักกันอย่างที่ใจหวังไว้สักที
มานั่งรอลุ้นหนูผาตอนหน้าดีกว่า
(ปล่อยสองคนนั้นเติมพลังก่อน อิอิ)
-
:haun4: :haun4:
ไม่ผิดหวังกับที่รอคอย o13
:กอด1:
-
เข้ามา :z10: อิอิ
-
:haun4: :haun4: :haun4:
-
โอ้วววววว เลือดกะฉูด!!!!!!!!
-
มนต์มาร
Part 20
แลกเปลี่ยนตัวประกัน.
.
.
.
.
เสียงฝีเท้าม้าควบตะบึงท่ามกลางความมืด
ลัดเลาะไปตามแนวป่ามุ่งหน้าสู่สันเขาท้ายไร่ ระยะทางไม่ต่ำกว่าสามสิบกิโลฯ
บนหลังม้าสีน้ำตาลเข้มสองตัว ปีศาจรูปงามแต่งกายทะมัดทะแมง กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวรองเท้าหุ้มส้น
คาดสายหนังตรงเอวเสียบปืนพกลูกโม่ชนิดหกนัด บรรจุกระสุนเงินในรังเพลิงเรียบร้อย
ใบหน้าหล่อปานรูปสลักขรึมนิ่งจนน่าเกรงขาม
หลังม้าอีกตัวตามกันติดๆ ใบหน้าหล่อใสในชุดรัดกุมสีดำเครื่องแต่งกายประจำ
สำหรับภารกิจเสี่ยงตาย ขับใบหน้าใสของพระลักษมณ์หล่อมากกว่าเดิมอีกเท่าตัว พร้อมอาวุธครบมือทั้งมีดพก
ปืนรุ่นจิ๋วซุกซ่อนในรองเท้าขี่ม้า สนับมือในกระเป๋าข้างกางเกงรัดรูป ยังมีปืนสั้นแบบพกพากระสุนเต็มรังเพลิงอีกสิบนัด
เสียบเอวด้านหลัง ไม่นับอุปกรณ์ฉุกเฉินเวชภัณฑ์จำเป็นในกระเป๋าคาดเอวใบย่อมด้วย งานนี้สำหรับมืออาชีพทั้งสอง
ถือว่าเป็นเรื่องคุ้นชิน ความสามารถเฉพาะตัวบวกประสบการณ์ที่เคยมี ความมั่นใจเต็มร้อยเชื่อว่าไม่มีสิ่งใด
จะสร้างความหวาดหวั่นให้ทั้งปาจาและพระลักษมณ์ได้อีกแล้ว
จิตใจที่มุ่งมั่นเพื่อช่วยหนูผากลับมาอย่างปลอดภัย รวมถึงความต้องการปิดคดี
ฆาตกรผิดมนุษย์ของพระลักษมณ์ ต่อให้มีสามเศียรหกกรหาได้สั่นคลอนความตั้งใจของมือดีฉายา ‘วิษณุทรงพล’
เลยแม้แต่น้อย
ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด พระลักษมณ์ปฏิเสธไม่ได้ว่า การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้
รู้สึกอุ่นใจเป็นพิเศษ เมื่อคนร่วมภารกิจด้วยคือปีศาจรูปงาม ผู้มีฝีมือยากเกินคาดเดาคนนี้ต่างหาก ต่อให้บุกป่าหิมพานต์
ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวเสียแล้ว ตราบใดที่คนระวังหลังให้คือหนุ่มหล่อหน้านิ่งนามว่า ‘ปาจา’
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ทั้งสองใช้เวลาร่วมชั่วโมงครึ่งเดินทางถึงตีนเขา ก่อนคนนำทางจะลงจากหลังม้า
ทำให้พระลักษมณ์ต้องเหวี่ยงตัวลงพื้นด้วยท่วงท่างามสง่าเช่นกัน ทุกอิริยาบถที่สายลับหน้าใสแสดงออกมา
เรียกสายตาชื่นชมจากปาจาอย่างไม่ปิดบัง เพราะแฟนหนุ่มรูปหล่อหน้าใสช่างคล่องแคล่วปราดเปรียวเสียจริง
“เรานำม้าไปผูกใต้ต้นไม้นี่แหละ ต่อจากนี้เป็นการเดินเท้าขึ้นไปยังปากถ้ำ
เมื่อเข้าใกล้ปากถ้ำแล้ว ผมจะให้คุณนำสิ่งที่มันต้องการเข้าไปแลกเปลี่ยนเอาตัวหนูผาออกมา
ส่วนผมจะคอยระวังหลังให้ห่างๆ เข้าไปด้วยไม่ได้ ในเมื่อมันยื่นคำขาดให้คุณเป็นคนนำไปเพียงลำพัง
จากนี้ไปขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะพระลักษมณ์ จะทำอะไรคิดถึงความปลอดภัยของตัวเอง
และหนูผาเป็นหลัก รับปากผมได้ไหม?” สายตาคมเข้มเงาวาวท่ามกลางแสงจันทร์เสี้ยว ทำให้หน้าหล่อมีมุมทึบแสง
ดูลึกลับน่าค้นหาจนใจสั่น พระลักษมณ์หน้าร้อนวาบเมื่อเผลอสบตาคมที่ฉายความห่วงใยอย่างไม่ซ่อนเร้น
หากแสงจันทร์เสี้ยวยามค่ำคืนสว่างกว่านี้ ปาจาคงได้เห็นหน้าขึ้นสีของร่างโปร่งตรงหน้าเป็นแน่แท้
“อืม..ผมสัญญาจะนำหนูผากลับมาอย่างปลอดภัย”
ดวงตากลมโตคล้ายดังรัตติกาลที่จ้องสบ แสดงความมุ่งมั่นกระทำตามคำพูด ทำให้ใบหน้าหล่อร้ายกาจ
ของปีศาจเจ้าเสน่ห์เผลอยิ้มละลายออกมาจนได้ ดึงดูดสายตาพระลักษมณ์ที่จ้องตอบตะลึงค้าง เพราะรอยยิ้มกระชากใจ
ของแฟนอย่างเป็นทางการไปชั่วขณะ
อาการที่ร่างโปร่งแสดงออกเพียงพอแล้ว ที่จะเชิญชวนให้หน้าคมเคลื่อนศีรษะเข้าหาช้าๆ
ก่อนริมฝีปากหนาได้รูปจะทาบประกบอย่างอ่อนโยนบนริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบาแล้วค่อยเน้นย้ำ ดุนลิ้นชื้นไล่เลาะ
ยังฟันขาวเรียงตัวสวยเพื่อให้เจ้าของเปิดทางให้อย่างอ้อยอิ่ง จนร่างโปร่งจำต้องพริ้มตาเผยอเปิดปากให้ลิ้นอุ่น
ได้ล่วงล้ำเข้าคว้านจูบเกี่ยวกระหวัดรัดลิ้นนุ่มอย่างหยอกเอิน ถ่ายทอดความรักความหวงแหนให้เจ้าตัวรู้ว่า ‘ผมรักคุณ’
จูบหวานท่ามกลางพนาไพรยามค่ำคืนร้อยรัดหัวใจทั้งสองดวง ให้ผูกพันยากที่จะมีสิ่งใดมาทำลาย
สายสัมพันธ์อันแนบแน่นนี้ได้แล้วแน่นอน
ปาจาค่อยถอนริมฝีปากออกช้าๆ ก่อนใช้สองมือหนาประคองหน้าใสนิ่ง ตาคมจ้องลึกเข้าไปยัง
ตากลมโตที่มองตอบ ความรู้สึกของปีศาจรูปงามในตอนนี้ยากที่จะบรรยาย แม้จะรู้ว่าพระลักษมณ์เป็นชายหนุ่ม
ที่โชกโชนในภารกิจเสี่ยงตาย แต่สำหรับตนแล้ว ภารกิจนี้มันไม่ธรรมดาจึงอดกังวลอยู่ลึกๆไม่ได้
“สัญญา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามถอดแหวนที่ผมให้เด็ดขาด เข้าใจไหม?”
พระลักษมณ์ขมวดคิ้วมุน รู้สึกคืนนี้ปาจาจะมีข้อห้ามเยอะชะมัด แต่เมื่อเห็นสายตาจริงจังฉายชัด
ก็อดใจอ่อนตอบรับไม่ได้
“อืม..สัญญาจะไม่ถอด ตกลงไปจัดการให้เรียบร้อยเถอะ” ปาจาพยักหน้า ก่อนจะเดินนำ
ตามทางชันที่รกร้าง แต่ยังพอหลงเหลือทางเท้าให้ก้าวได้ไม่ลำบากมากเท่าไหร่ พระลักษมณ์เดินตามอาศัยแสงจากไฟฉาย
ที่คนนำหน้าส่องเปิดทางให้ ต่างคนต่างไม่มีใครเอ่ยปากพูดไรกันอีก
สายตาคมปลาบคอยสำรวจตรวจตราตามรายทางไปตลอด ส่วนพระลักษมณ์ก็เก็บรายละเอียด
ไว้เช่นกัน เผื่อฉุกเฉินจะได้รู้ทางหนีทีไล่ ทั้งสองใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมง จึงเดินมาถึงปากถ้ำ ดูนาฬิกาข้อมือ
เหลืออีกยี่สิบนาทีเที่ยงคืน ปาจาหยุดหน้าปากทางเข้าถ้ำ พร้อมกับพยักหน้าให้พระลักษมณ์มองตามสายตาตน
ก่อนพูดขึ้นว่า
“นี่คือถ้ำที่มันใช้นัดหมาย ผมเข้าไปด้วยไม่ได้ คุณรับเอานี่ไป” พูดจบ เจ้าคุ้มรูปหล่อ
ล้วงกล่องใสออกมาจากอกเสื้อแล้วส่งให้พระลักษมณ์ ไม่ต้องเดาเลยเพราะสิ่งที่อยู่ภายในนั้นคือ
หัวใจมารที่จิตมารต้องการแน่นอน
“ผมสัญญา จะพาหนูผากลับมาอย่างปลอดภัย” พระลักษมณ์ยื่นมือไปรับมาถือไว้
แล้วรับปากจะนำหนูผากลับออกมาอย่างปลอดภัย
“ข้อนั้นผมไว้ใจคุณ อย่าลืมเมื่อได้ตัวหนูผาแล้วไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น รีบพาหนูผาออกมา
ให้เร็วที่สุด ที่เหลือไว้เป็นหน้าที่ผมเอง” ปาจาย้ำถึงแผนที่ได้ซักซ้อมก่อนหน้านั้น พระลักษมณ์พยักหน้ารับทราบ
จากนั้นร่างโปร่งสมส่วนก็เดินเข้าไปภายในถ้ำที่มืดมิด อาศัยไฟฉายติดตัวของตนส่องนำทาง โดยเจ้าคุ้มรูปงาม
ยืนอยู่ด้านนอก นั่นเพราะเงื่อนไขของจิตมารห้ามไม่ให้ใครติดตามพระลักษมณ์เข้าไปแลกเปลี่ยนตัวประกัน
ไม่เช่นนั้นมันจะทำร้ายหนูผาทันที
------------------------------------------------------------------------------------------------
น่าแปลกไม่น้อย เดินเข้ามากว่าสิบนาทีระยะทางไม่ใกล้ไม่ไกลบนทางเดินที่ซับซ้อน
เลี้ยวลดคดเคี้ยว กลับไม่มีความอึดอัดของอากาศตามปกติของถ้ำทั่วไปเลยสักนิด ถ้ำนี้มีอากาศถ่ายเทตลอด
แสดงว่าภายในต้องมีทางเข้าของอากาศซึ่งไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา
เดินมาจนถึงทางเลี้ยวด้านขวาเริ่มเห็นแสงไฟจากคบเพลิงวับแวม ถึงจุดหมายแล้วสินะ
พระลักษมณ์โผล่หน้าออกไปเป็นโถงกว้างเลยทีเดียว ที่สำคัญเพดานถ้ำมีปล่องโปร่งขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางยี่สิบนิ้ว
เห็นแสงจันทร์เสี้ยวส่องมาประปราย เสียงลมโกรกที่ไหลผ่านปล่องเพดานนั่นคือที่มาของอากาศนั่นเอง
ต่อด้านล่าง
-
เข้ามาอ่านคะแต่ว่า..." แลกเปลี่ยนตัวประกัน"
หายไปไหนอะ o22 :really2: งง
-
- 2 -
กลางห้องสายตาพระลักษมณ์จับนิ่งยังร่างของเด็กหญิงแสนคุ้นตา คือหนูผาซึ่งนั่งซุกตัวบนตัก
ของสิตาซึ่งโอบกอดเด็กหญิงไว้ปลอบโยนให้คลายจากความหวาดกลัว พระลักษมณ์กวาดสายตาโดยรอบ
ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มห้าวดังขึ้นว่า
“มาแล้วสินะ หึหึ”
สิ้นเสียงพูด ร่างหนุ่มใหญ่ไว้หนวดเครารุงรัง สวมเสื้อม่อฮ่อมกางเกงขาก๊วย
สะพายถุงย่ามรองเท้าแตะสาน เดินออกจากหลังโขดหินที่กลมกลืนไปกับผนังถ้ำ
จึงทำให้พระลักษมณ์ไม่ทันสังเกตแต่แรก
“อึม...กูมาแล้ว ปล่อยตัวประกันได้หรือยัง” พระลักษมณ์ตอบใจเย็น สิตากับหนูผาต่างมอง
พระลักษมณ์อย่างดีใจ โดยเฉพาะเด็กน้อยน้ำตารื้นคลอเบ้า คงหวาดกลัวร้องไห้มากแน่ๆ ดูหน้าไอ้ระยำ
ก็แสนจะโคตรโจรซะขนาดนี้ ไม่ข่มขวัญเด็กหญิงให้ตกใจกลัวก็แปลกล่ะ
“มึงเอาของมาด้วยหรือเปล่า” มันถาม ร่างโปร่งค่อยชูกล่องใสในมือให้มันดู หัวใจมารสีคล้ำทำเอามัน
จ้องตาไม่กระพริบ ก่อนเอ่ยปากมาว่า
“ส่งหัวใจมารให้กู” พระลักษมณ์ยกยิ้มมุมปาก ก่อนตอบกลับไปว่า
“หึ..มึงปล่อยผู้หญิงกับเด็กมาก่อนสิ” มันจ้องพระลักษมณ์ตาวาวโรจน์
“ได้ไม่มีปัญหา สมแล้วที่มึงมีกลิ่นอายแห่งไสยขาว โง่จริงที่จับสัมผัสไม่ได้ตอนมึงอยู่ในเรือนไทย”
มันพูด ก่อนจะเดินเข้าไปยังสิตาและหนูผานั่งอยู่ บริกรรมคาถาเพียงชั่วครู่ ก็พูดขึ้นว่า
“เธอกับเด็กไปได้แล้ว” พูดจบ สิตาค่อยพยุงตัวลุกยืน โดยไม่ลืมดึงหนูผาลุกตามขึ้นด้วย
เด็กน้อยเห็นพระลักษมณ์รีบวิ่งมาหาน้ำตาร่วงพรูอาบแก้มใส สะอื้นไห้โผเข้าหาพระลักษมณ์ละล่ำละลัก
พูดเหมือนลูกนกเสียขวัญ กำลังต้องการการปลอบโยนอย่างมาก พระลักษมณ์จำต้องนั่งยองเข่ากางแขนรวบกอด
หนูน้อยตัวสั่นเทาซบอกแกร่งมือคอยประคองลูบผมนุ่มปลุกปลอบไปพร้อมกัน
“ฮึก...ฮืออออ..อาลักษมณ์ขา..หนูกลัว” พระลักษมณ์สงสารหนูน้อยจับใจลำพังเจ้าตัว
มีภาวะทางร่างกายที่ไม่ค่อยสมบูรณ์เป็นทุนอยู่แล้ว นี่หากตนมาช้ากว่านี้ไม่แน่ว่าเด็กหญิงอาจช็อกได้
“จุ๊ๆๆ คนเก่งของอา หนูไม่เป็นไรแล้วนะคะคนดี อาอยู่ตรงนี่แล้วไม่มีใครทำอะไรหนูได้หรอกค่ะ”
เสียงทุ้มนุ่มหู ที่คอยกระซิบปลอบอย่างอ่อนโยน สะกดให้หนูน้อยที่ขวัญผวารู้สึกปลอดภัยขึ้นทันตา สำหรับหนูผาไม่รู้ทำไม
อ้อมกอดอบอุ่นของพระลักษมณ์ช่างอ่อนโยนปลอดภัยจนหนูน้อยสัมผัสได้ ภายใต้วงแขนนี้ตนจะไม่มีอันตรายใดๆ
แผ้วพานเลยแม้แต่น้อย จึงค่อยผ่อนคลายและสงบลงในที่สุด
“เอาล่ะ ส่งหัวใจมารมาให้กูได้แล้ว อย่ามัวแต่ปลอบเด็ก” พูดจบไอ้หน้าเหี้ยก็ตะคอกเสียงห้วน
ให้ส่งหัวใจมารให้มัน พระลักษมณ์ลองหยั่งเชิงไปว่า
“ถ้ากูไม่ให้มึงละ จะเกิดอะไรขึ้น” คำตอบไม่ทันจาง มันสวนกลับทันควันว่า
“มึงคิดว่าจะรอดเหรอ แน่ใจว่าจะดูแลทั้งผู้หญิงและเด็กได้พร้อมกัน” มันตอบอย่างมั่นใจ
พระลักษมณ์ชั่งน้ำหนักดูแล้วจริงอย่างมันพูด จึงเงียบแทนการยอมรับ
“เธอเป็นคนเอากล่องนั่นมาให้ฉัน” ไอ้หน้าโจร เอ่ยปากสั่งสิตา ซึ่งเธอถึงกับชะงักไปทันที
แต่พระลักษมณ์พยักหน้าให้ สิตาจำใจต้องยื่นมือรับกล่องใส่หัวใจมารถือไปให้ไอ้โจรห้าร้อย จังหวะที่กำลังยื่นกล่อง
ส่งให้มัน ทุกคนอึ้งไปตามกันจู่ๆ หัวใจมารสีคล้ำก็วับแวมเรืองแสงขึ้นมาเหมือนที่เห็นในห้องพิธีซะงั้น
ไอ้โจรมันยื่นมือเพื่อจะรับหัวใจมารจากสิตา แต่แล้วทันใดนั้น...
“เปรี้ยง!”
เสียงปืนดังขึ้นมาหนึ่งนัด มือที่ยื่นไปชะงักค้าง ก่อนมันจะตาเบิกโพลง สิตาเองก็ตกใจใบหน้าสวยซีดเผือด
พระลักษมณ์รีบจับศีรษะหนูผาซบไหล่ตนแน่น เพื่อกันไม่ให้หนูน้อยเห็นภาพน่ากลัวแล้วจดจำติดตา
ไม่ถึงอึดใจ มุมปากไอ้โจรตัวแสบกระตุกยิ้มนิดหนึ่ง ตาดุกร้าวโกรธค้างเติ่งเข่าทรุดล้มตึง
นอนหงายสิ้นใจในที่สุด แม่นเหมือนจับวางฝีมือยิงปืนขั้นเทพ พระลักษมณ์แหงนขึ้นมองยังปล่องกว้าง
ร่างทะมึนทาบแสงจันทร์ที่เห็นเป็นเงายืนตระหง่านเหนือศีรษะคุ้นตายิ่งนัก กำยำสูงใหญ่เป็นใครไปไม่ได้
นั่นคือปีศาจรูปงามผู้ซึ่งใช้กระสุนเงินสังหารจิตมารดับไปเรียบร้อยแล้ว
กระสุนเงินเจาะกลางกระหม่อมหมดโอกาสยื้อชีวิตได้ต่อไป ศพมันนอนตายลืมตาโพลงอยู่ตรงพื้น
เป็นการปิดฉากคดีฆาตกรโหดเสียที สิตายืนนิ่ง ก่อนจะหันหน้าที่มีแต่คราบน้ำตามายังพระลักษมณ์ ใบหน้าสวยเย็น
ดวงตาวาวม่านน้ำตา พระลักษมณ์รู้สึกสงสารเห็นใจเธอยิ่งนัก ที่ต้องมาพบการตายต่อหน้าต่อตา จึงตัดสินใจจูงมือหนูผา
เดินเข้าไปหาทันที พร้อมกับพูดปลอบเธอไปว่า
“ฝันร้ายจบลงแล้วคุณสิตา” คำพูดปลอบของพระลักษมณ์สิ้นเสียงลง ให้รู้สึกเสียวแปลบยังชายโครง
ก่อนจะเซถอยหลังไปสองก้าว ทั้งที่มือขวายังกุมมือหนูผาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ส่งผลให้หนูน้อยเซหลุนๆ ตามติดไปด้วย
เด็กหญิงตกใจร้องไห้โฮ
“ฮือๆๆๆ...อาพระลักษมณ์ อาอย่าเป็นอะไรนะคะ..ช่วยด้วย พ่อขาช่วยคุณอาด้วย...ฮือๆๆๆ
น้าสิตาแทงคุณอาทำไม..ทำร้ายคุณอาทำไม?” หนูน้อยตะโกนเรียกพ่อดังลั่น เสียงเล็กๆ สะท้อนก้องไปทั่วโพรงถ้ำ
ทำเอาเงาทะมึนด้านบนชะงักกึกจ้องมองลงมายังพื้นด้านล่างด้วยความกระวนกระวาย ความสูงขนาดสามสิบเมตร
ไม่สามารถที่ตนจะกระโดดลงไปได้แน่ ในขณะที่มือของสิตา มีมีดพกปลายแหลมอาบเลือดสีแดงสด ทุกอย่างรวดเร็ว
เกินคาดหมาย ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะเป็นแบบนี้ ซ้ำร้ายบัดนี้ ทั้งเงาร่างของสิตาและพระลักษมณ์หายลับไปจากมุม
ที่ตนสามารถมองเห็นได้ ความกว้างของปากโพรงเป็นอุปสรรคเสียแล้ว เมื่อคนด้านล่างอยู่มุมอับแบบนี้
ใจกระวนกระวายร้อนรุ่มอย่างไม่เคยรู้สึกกังวลมาก่อน
“ฝันร้ายยังไม่จบ แกต้องตายตามพี่ชายฉันไปถึงจะถือว่าจบแล้วต่างหาก” เสียงเย็นเยือกจับขั้วหัวใจ
ของสิตา ดวงตาซึ่งเคยหวานซึ้งจนพระลักษมณ์ยังแอบปลื้ม บัดนี้วาวโรจน์แดงก่ำน่ากลัวพิลึก
หัวใจมารในมือเปล่งแสงวูบวาบตลอดเวลา นี่มันเกิดอะไรขึ้น
“หยุดนะ..สิตา คุณคิดจะทำอะไร” เสียงทุ้มเข้ม ตะคอกดังลั่นจากด้านบนทำให้ขาที่กำลังก้าว
เข้าหาพระลักษมณ์และหนูผาชะงัก ก่อนจะหัวเราะลั่นถ้ำเหมือนเย้ยหยันโชคชะตาเสียมากมาย
“ฮะๆๆๆ..ฮ่าๆๆๆๆ...รักมันมากสินะ ถ้าฉันรู้ว่าคุณมีรสนิยมแบบนี้แต่แรก คงไม่ทนเก็บความรู้สึก
ไว้ตั้งสามสี่ปี เอาสิ..ยิ่งรักมันมากฉันจะทำให้มันตายอย่างทรมาน” สิตาพูดออกมานิ่งๆ สายตาคมวาวจ้องจับใบหน้าใส
ของพระลักษมณ์อย่างโกรธแค้น พระลักษมณ์จ้องตอบเธอนิ่ง ในหัวพาลคิดว่าสิตาคงเห็นตนกับปาจาออกมาจากห้องด้วยกัน
ในเช้าวันนั้น และคงรู้ถึงความสัมพันธ์พวกตนแล้วแน่นอน อารมณ์ริษยาเพราะรักของผู้หญิงมันร้ายกาจถึงปานนี้เชียวสินะ
มือซ้ายที่ว่าง พยายามปิดปากแผลถูกแทงไว้นิ่งๆเพื่อห้ามเลือด แม้จะรู้สึกไม่โดนจุดสำคัญ
ด้วยสัญชาติญาณของนักสู้ที่มีติดตัว ทำให้ตนเบี่ยงตัวบิดองศาของปลายมีดที่แทงชายโครงพ้นจุดสำคัญไปอย่างฉิวเฉียด
แต่ปากแผลฉกรรจ์ก็ทำให้เลือดไหลไม่หยุด อย่างน้อยต้องมีเวลาพันผ้าห้ามเลือดเอาไว้ก่อนที่จะไหลจนหมดตัว
คงได้ตายเพราะสาเหตุนี้เสียมากกว่า
ชั่วโมงนี้ไม่เหลือทางเลือกให้ทำตามใจนึก หนูผาเด็กน้อยที่ขวัญเสียร้องไห้
กระชับมือตนไว้แน่นนี่อีก หนำซ้ำแววตาที่ปล่อยรังสีอำมหิตของสิตานั่นด้วย ช่างผิดกันลิบลับกับดวงตาสวยซึ้งเย็นนิ่ง
ของสาวสวยนามว่าสิตาที่ตนคุ้นเคย พระลักษมณ์นึกหาวิธีถ่วงเวลาเอาไว้ สัญชาตญาณทำให้รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าคนนี้
เป็นคนที่ไม่ธรรมดา รังสีอำมหิตใช่จะมีกันง่ายๆ แต่กับเธอคนนี้ตอนนี้มันสัมผัสได้จนน่ากลัว
ปีศาจรูปงามไม่มีเวลาให้ต้องตัดสินใจอีกแล้ว หันหลังสาวเท้าวิ่งลงจากสันเขา
ตรงมายังปากถ้ำอย่างเร็วจี๋ ใจตอนนี้อยากให้ตนสามารถก้าวกระโดดไปโผล่ในถ้ำทันที อยากปกป้องคนรัก
และลูกสาวตัวน้อยเอาไว้ หวังว่าพระลักษมณ์คงยื้อถ่วงเวลาไว้ได้ รอตนก่อนนะ อย่าพึ่งเป็นอะไรไปเด็ดขาด....
ในใจปีศาจรูปงาม รำพันตลอดเวลา...
รอผมนะพระลักษมณ์..รอผมก่อน..??????
มาต่อให้แล้วนะคะ
พรุ่งนี้จะมาลงของน้องจอมต่อให้อีกค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน ขอบคุณทุกเป็ดบวก ทุกเม้นท์ที่มีให้
เพราะกำลังใจจากคนอ่านที่มีตลอดมา คนเขียนจึงต้องมาต่อนิยาย
อย่างต่อเนื่องไม่กล้าทิ้งนาน รักคนอ่านทุกคนเช่นกันค่ะ
Luk. :กอด1:
-
นึกว่าจะดีแล้ว :m31: อะไรของยัยสิตาเนี่้ย!
พระลักษมณ์อย่าเป็นอะไำีรไปน๊า~ :o12:
รอตอนใหม่ค่ะ :กอด1:
-
:serius2:โอยกลายเป็นอย่างนี้ไปได้ เรื่องน้องจอมก็อย่างเศร้า จะไม่มีแรงยกกระสอบทรายแล้วคุณลักษ์ :z3:
-
ค้างมากกกก
พระลักษณ์อย่าเป็นอะไรไปนะ แค่ชะนีเลวๆแทงไม่เจ็บหรอก เนอะ o13
-
:z6:ยัยสิตา เจ๊เเกเลวโฮก
พระลักษณ์สู้ๆ
-
:o12:
-
นังสิตา :angry2:
หล่อนทำงี้กับพระลักษมณ์ได้งายยยย :m31:
รักคนแต่ง :กอด1:
-
อ๊ากกกก ไม่น๊าาา
นังสิตา!!! ตาย ยซ๊าาาา
:fire: :fire: :fire: :fire:
:z6: :z6: :z6: :beat: :beat:
+1 +เป็ด +♥♥♥
-
ต้องบอกว่า
ตูว่าแล้ววว :laugh:
-
มาเร็วๆ นะคะ
-
ว่าแล้วววว สาวๆมักอันตราย o13
-
พระลักษณ์ฉลาดจะตาย ไม่ตายง่ายๆหรอกเนอะ
-
:a1: :a1:คิดแล้วเชียวว่าตัวแม่ต้องเป็นสิตา....แหมแต่จะร้ายสู้พระลักษณ์ได้รึ...อิอิ :a2: :a2:
-
อ้าสสสสสสสสสสสส
สิตาเธอมันนังงูพิษ
ทำร้ายคนทำดีกับเธอได้ลงคอ
ร้ายกาจจริงๆๆๆ
:m31: :m31: :m31:
แล้วทำไมพอสิตาถือกล่องใส่หัวใจมาร
หัวใจถึงได้เรืองแสงได้ล่ะ
ล้างอาถรรพ์ไปแล้วไม่ใช่เหรอ
หรือว่าล้างอาถรรพ์ได้ไม่สำเร็จ
ส่วนปาจา
ไปช่วยพระลักษมณ์กับหนูผาเร็วๆๆนะ
-
นั่น ปะไร นังสิตา ว่าแล้วเชียว
V
V
V
รอน้องลักษ์ มาต่อพรุ่งนี้
-
พระลักษมณ์อย่าเป็นอะไรนะ
-
อ่านตอนนี้แล้วลุ้นจนรู้สึกว่ามันสั้นเลยอ่ะ
พรุ่งนี้ก็คงต้องไปลุ้นน้องจอมต่ออีก
ชีวิตไม่ได้หายใจทั่วท้องเลยอ่ะ 5555+
-
คิดไว้เหมือนกันว่า สิตา ต้องมีอะไรซ่อนเร้นแน่นอน แล้วก็จริงเสียด้วย คุณ Luk ผูกเงื่อนปมได้น่าติดตามมากค่ะ
-
คิดว่าสิตาคือจิตมารตัวจริงอะ..ส่วนพี่ชายน่าจะมีความสัมพันธ์กันแล้วจิตมารไม่ฆ่าเลยมีร่างเป็นปิศาจอะ
o13
-
นึกแล้วว่าสิตาต้องมีอะไรแอบแฝงแน่ๆ แล้วก็จริงซะด้วย
ยังไงก็หวังว่าพระลักษณ์กับหนูผาจะปลอดภัยนะ :z3:
-
พี่ชายเป็นจิตมาร ส่วนสิตาเป็นแค่น้องสาวใช่มั้ย แล้วที่ว่าไม่มีมดลูกเนี่ย จะโกหกหรือเปล่าว้า :m28:
แต่ถึงโกหก ถ้าท้องจริงคนก็ต้องรู้อะเนาะ เง้ออออ หวังว่าจะไม่มีทายาทมารเพิ่มมาอีกน้า :serius2:
ว่าแต่ยัยสิตานี่ทำไมมีฤทธิ์เดชเยอะจัง หรือว่าผู้หญิงจะเป็นจิตมารได้หว่า งงกันต่อไปปปปปปปปปปปปป :m28:
-
:pig4: :pig4:
-
จิ้มก่อนอ่าน :z13: :z13: :z13: :z13:
:pig4:
-
อ้ากกกกกกพระลักษณ์โดนแทงไม่น่ะ
สิตาเป็นน้องสาวของจิตมารหรือนี่
-
:sad4: :sad4:
-
อ๊ากกกกก o22
-
เฮ้อ สิตา เป็นผู้หญิงข้ามเพศ ป่าวเนี้ย ถ้าเป็นก็สืบทอดจิตมารได้ซิ
-
ตื่นเต้นสุด ๆ
-
นึกแล้วว่าสิตานั้นไม่ธรรมดาอาจเป็นจิตมารแฝงอยู่
หรือเธอเป็นผู้หญิงข้ามเพศกัน 555
ปล.บวกเป็ดให้ค่ะ
-
นังสิตา นังงูพิษ
ปาจาต้องช่วยพระลักษณ์ให้ได้น๊า
-
แม่สิตาจ๋า เธอมันนังงูสารพัดพิษ ชั่วร้ายที่สุดดดดดด :angry2:
คุณปาจาสู้ๆไปช่วยให้ทันนะจะ
-
+ 1 ให้คุณลักษ์เจ้า
สิตา เป็นจิตมารเปล่า แปลงเพศเปล่าสิตานะ :fire:
ปาจา รู้ไหมว่าสิตาน่าจะเป็นจิตมาร :serius2:
รอ :call: :call:
-
:L2:
-
แวะมาให้กำลังใจหน่อยคร้าบ อิอิ กะลังมันส์เลย ค้างไปตามๆกันดิเนี่ย
-
อ๊า .... สิตาเธอทำอะไรน่ะ ?
(T^T) ::: ไม่เป็นอะไรนะ พระลักษณ์ สู้ๆ ^^
-
ยัยสิตา อะไรของเธอเนี่ย
-
นึกแล้วเชียวว่าสิตาต้องไม่ดีแน่ๆ เลย
-
นังสิตา แกตาย :z6: :z6: :z6:
พระลักษมณ์ลูกอย่าเป็นอะไรนะ
รอตอนต่อไปนะครับ กำลังลุ้นๆๆ :L2:
-
อ๊ากกกกกกกกกกกก
ตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บังอาจมาแทงพระลักษณ์ของเค้ายัยชะนี !!!!!!!!!!!!!!!!!
-
พูดได้คำเดียวว่า หาาา :a5:
-
อ๊าก พระลักษณ์เราจะเป็นอะไรไหมเนี่ย
โดนสิตาแว้งกัดมาแทงจนได้
-
อ๊ากกกกกกก ยัยสิตาทำพระลักษณ์ได้นะ
ลุ้นมากๆ รอตอนต่อไปนะค่ะ
-
พระลักษณ์ อย่าเปนไรนะ
-
:a5:
ความวัวเพิ่งจะหาย...ความควายก็เข้าแทรก
ยัยสิตาเป็นอะไรของSHEว้า :beat:
พี่ปาจ้าาาาามาช่วยหนูลักษมณ์ด่วนนน นน!!!
-
ว่าแล้วเชียวว่ายัยสิตาต้องมีเอี่ยวด้วย
ปาจาไปช่วยพระลักษณ์เร็วๆน้า :monkeysad:
-
ว่าแล้วว่าต้องเป็นยัยสิตา พวกเงียบๆ นี่แหละน่ากลัว
ลุ้นมากๆ ตอนต่อไปจะเป็นยังไงเนี่ย
-
ก็ว่าแล้ว ทำไมพาตัวหนูผาออกมาง่ายจัง
-
กรี๊ดดดดดดดดดดด สิตาแกมาแทงพระลักษมณ์ของปาจาทามม๊ายยยยยยยยย
:z6:
-
ตกใจเลยที่พระลักษมณ์ถูกแทง
อะไรกันเนี่ย
เจ้าคุ้มมาให้ไวเลยนะ
-
ฮั่ยย่ะ!!!!!!!
นี่ถ้าซื้อหวยสงสัยจะต้องถูกรางวัลบ้าง
:z3:
ไม่มากก็น้อยนะเนี่ย
ว่าแล้วว่ายัยศิตานี่จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับจิตมาร
เพราะดูแบบว่าไม่น่าไว้ใจ
แล้วแถมยังมาแทงพระลักษมณ์อี๊ก!!!!!
ฆ่ามานนนนนนนนนนนนนนนนน
:m31:
ขอบคุณคุณลักค่า
:pig4:
-
เดาเอาไว้ว่าคงเป็นสิตา เหอะๆ
เดาถูกด้วยแหะ o18
พระลักษณ์จะเป็นอะไรมากไหมอ่ะ
ขอบคุณ คุณLuk มากนะคะที่มาต่อให้
:L2:
-
:m16: ว่าแล้วว่าสิตาต้องมีส่วนเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ๆ หึ โมโหจริงๆ
พระลักษมณ์อย่าเป็นอะไรนะ ปาจารีบไปช่วยเร็วๆ นายเอกกำลังจะแย่แล้ว
แต่คิดอีกที ไม่หรอกเพราะนายเอกเราเก่ง ฮ่าๆ สู้ๆพระลักษมณ์อย่ายอมแพ้มันน๊า
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก ชอบมากมายเลย จะรอติดตามตอนต่อไปน๊า
-
อ้ากกกกกกกก พระลักษณ์อย่าเป็นอะไรนะ !! :z3: :a5:
-
นั่นไงยัยสิตามีเอี่ยวจริงๆด้วย :o10:
-
สิตา เธอร้ายมาก!!!
-
แอบค้าง มาต่อไวๆนะค๊าา กำลังลุ้นเลยยย
-
อ๊ายค้างอย่างแรง
ปาจารีบลงมาช่วยเร็วเข้า
-
สิตาไม่ใช่จอมมารใช่มั๊ย
-
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นละเนี่ย สิตา!! ทำอะไรของหล่อนนะ :o211:
-
เจ๋งเป้งง ก็เดาอยู่นะว่า สิตาต้องเกี่ยวกะเรื่องนี้แน่ๆ
แต่ว่า ไปเกี่ยวไรกะไอ่คนตายอ่ะ เป็นพี่ชายน้องสาวกันได้งายยยย
-
:bye2:
-
ว่าแระเชีย - -" ลุ้นระทึก รอตอนต่อไปค่ะ
-
ไม่ง่ายซะแล้วงานนี้
ให้ไวเลยปาจา เดี๋ยวพระลักษมณ์เลือดหมดตัว
-
ยังไงกันล่ะหวา อย่าบอกนะว่าสิตาเป็นจิตมาร
อืมมมมม
รอตอนต่อไป
-
:sad4:
พระลักษมณ์แย่แล้ว ปาจาไปช่วยให้ทันนะ
จะรออ่านต่อไป ลุ้นระทึก
:กอด1: :L2:
-
พี่ชายสิตาเป็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นเหรอ แล้วสิตาละเธอเป็นใคร????
-
อยากบอกว่าตอนแรกที่โพสนิยายเรื่องนี้เห็นชื่อเรื่องไม่อ่านนะคะ เนื่องจากชอบน้องตะเกียงมากแล้วมาโผล่เรื่องนี้ยังแบบว่ามึนๆมันฉีกแนวเกิน เลยเมินไปหลายเดือน แล้วแบบว่ามาเอะใจดู เอคนอ่านมันพรุ่งพรวดเร็วมากเราเลยต้องอ่านพออ่านขอบอกว่าติดงอมแงมมากอะ :mc4:
ต้องขออภัยคุณลักษณ์อย่างแรงที่เมินเรื่องนี้ไปนานนะคะ :call:
แต่ตอนนี้อ่านติดมากอ่านไปเรื่อยๆๆชอบตอนไหนอ่านมันหลายรอบเลย :z1:ให้เป็ดทุกครั้งที่อ่านถ้าไม่ลืมนะคะ และเขียนเมม คุณลักษณ์ ได้ยาวที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาด้วยนะคะเนื่องจากว่าขี้เกียจส่วนใหญ่จะชมตอนนี้เราชอบจิงๆหรือว่าถูกใจแต่อันนี้แบบว่าสุดยอดอะ 555
อย่าถีบเขาเลยเขาขอโทษนะตัวเอง :sad4:
และจะพยายามเขียนเมมให้น้า :L2: :กอด1:
-
น่าสนุกมากๆๆๆ
ติดตามค่ะ
:impress3:
-
ถึงว่า
ทำไมตายง่ายจัง
ยังเหลือสิตานี้เอง
-
พระลักษมณ์อย่าเป็นอะไรไปน๊า~~~!!
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
:z3: :z3: :z3:
ค้างเหลือเกินนนนน :sad4: :sad4:
-
สิตา ต๋า ตา
-
ร้าย จริง ๆ
หักมุมไป หักมุมมา
แต่ชอบ ^_^
-
สิตาไม่ใช่จิตมารแต่เป็นน้องของจิตมารต่างหาก??
หัวใจมารกระพริบแสงเหมือนกำลังบอกอะไรบางอย่าง
แอบคิดว่าปาจาจะใช้พลังโดดลงมาจากความสูงสามสิบเมตรซะอีก 55 :laugh:
รอพระเอกขี่ม้าขาว
-
เรื่องนี้นั่งอ่านกลางคืนแล้วขนลุก :pig4:
-
จิตมารตายง่ายจัง...หรือจะไม่ใช่?
สิตาเป็นน้องสาวของนายหน้าโจร...ปาจามาให้ทันนะ
พระลักษณม์สู้ ๆ ถ่วงเวลาไว้ก่อน
-
ตึ้ง! ต้องรอตอนต่อไปสินะ
กำลังลุ้นเลยอ่า
รอคุณนักเขียนค่ะ
-
พระลักษมณ์สู้ๆน้า :sad4:พาน้องออกมาให้ได้
-
:m31:อะไรกันเนี่ยยยยยยยย :z3:
-
ฉันนั้นรอเธออยู่แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด ฮ่าๆ
ขอบคุณค่ะสนุกมากกก
-
:monkeysad: พระลักษณ์จ๋า อย่าเปงอาไยมากเยยน๊า
รอก่อนน๊า เดะเฮียปาจาไปช่วยยย
อ่า ค้างมั่กๆ รอตอนต่อไปอยู่นะคร๊า :z3: :call:
-
:z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
นัง งูพิษ
-
ลุ้นแบบใจหายใจคว่ำ
รออ่านต่อนะคะ
-
ว่าแล้ว เธอคนนี้ต้องมีอะไร
-
:a5: :a5:
โฮก กำลังค้างเลย
-
พระลักษณ์สุดที่ร้ากจะเป็นไงต่อไปเนี่ยยยย แวะมาดูเผื่อผู้แต่งจะมาต่อ ฮิฮิ
ตามลุ้นสุดตัว...
-
จิ้มๆๆคนแต่ง :z13: :z13:
มานั่งรอลุ้นครับ ว่าพระลักษณ์จะเป็นไงบ้าง
ให้กำลังใจเสมอครับ :L2:
-
ค้างมาก ๆ เมื่อไหร่จะมาต่อคะ
รออยู่นะ :monkeysad:
-
มนต์มาร
Part 21
ปีศาจตัวจริง
.
.
.
.
.
พระลักษมณ์ใช้มือซ้ายกดปากแผลเอาไว้แน่น
ตามง่ามนิ้วแดงฉานไปด้วยเลือดสีสดที่ไหลย้อยไม่หยุด ใบหน้าหล่อใสเริ่มซีดเผือด
เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้า มือขวาพยายามกระชับมือเด็กหญิงตัวน้อยปลุกปลอบไปในตัว
“คุณสิตา ผมไม่รู้คุณโกรธเกลียดอะไรผม เพื่อเห็นแก่มนุษยธรรมและความรู้สึกของหนูผา
ที่กำลังหวาดกลัวขวัญเสียต่อเหตุการณ์ ผมอยากให้คุณสงบสติอารมณ์ แล้วพวกเรากลับออกไปจากที่นี่
เรื่องที่คุณทำร้ายผม เลิกแล้วต่อกันเถอะผมไม่ถือ” พระลักษมณ์คิดตามที่พูด แต่แววตาของสิตาก็ไม่เปลี่ยนแปลง
แถมรังสีอำมหิตยังพุ่งกระจายเกินกว่าสาวสวยปกติจะพึงมี
“ฮ่ะ...ฮ่าๆๆๆ แกแย่งฉันไปทุกอย่าง ยังไม่รู้ตัวอีกว่าทำอะไรให้ฉันเกลียด พี่ชายญาติเพียงคนเดียว
ที่ฉันมี เราพี่น้องต่างปกปิดฐานะกันมาตลอดกลับต้องตายด้วยน้ำมือคนที่ฉันรัก หึหึ..ที่แย่ที่สุดเค้าดันเลือกแก ดีเหมือนกัน
ฉันจะให้แกรู้ความจริงก่อนตาย ตัวตนฉันเป็นใคร จำใส่สมองแกไว้ฉันคือผู้ชายแปลงเพศ..ฮ่าๆๆๆๆ” พระลักษมณ์อึ้งตาค้าง
เมื่อได้ยินคำเฉลยจากปากสิตา
“คุณว่าอะไรนะ?”
ก่อนจะหลุดปากถามย้ำ อย่างตะลึง
“ฉันคือผู้ชายแปลงเพศไอ้โง่ ถ้ารู้คุณจาชอบแบบนี้แต่แรก ฉันคงไม่ต้องไปแปลงเพศ
ให้เสียเวลา ช่างเหอะตอนนี้ฉันควรกำจัดแกที่เป็นเสี้ยนหนามเสียก่อน แล้วค่อยใช้มนต์มารสะกดคุณจามาเป็นของฉัน
ก็ยังไม่สาย ต่อให้เจ้าตัวเก่งกล้ามีอาคมแค่ไหน คงยังไม่รู้มั้งว่าเมื่อใดที่ฉันกินหัวใจมารเข้าไป พลังมารที่เพิ่มขึ้นจะสามารถ
สยบร่างแฝงซาตานของเค้าได้เช่นกัน เมื่อเราสองคนได้ร่วมรักสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว
เค้าจะเป็นทาสรักฉันไปตลอดกาล ความลับนี้มีแต่ฉันกับพี่ชายเท่านั้นที่รู้ ฉะนั้นฉันจะไม่เสียเวลากำจัดแกอีกเป็นอันขาด
แกคือร่างแฝงของนารายณ์ ต้นตอของมารคอหอยตัวขวางฉันดีนัก..ฮ่าๆๆๆๆ” พูดจบ
สิตาแหงนหน้าหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะยกมือข้างที่กำหัวใจมารเปล่งแสงวิบวับเข้าปากฉีกกระชากกลืนกินสดๆ
จนหนูผากรีดร้องด้วยความตกใจ พระลักษมณ์จำต้องจัดการสักอย่าง เพื่อไม่ให้หนูน้อยเห็นภาพน่าสะอิดสะเอียนจนติดตา
เก็บไปฝันร้ายตลอดเวลา ตัดสินใจปล่อยมือหนูน้อยก่อนจะใช้ทักษะที่เชี่ยวชาญบีบท้ายทอยให้เด็กหญิงตัวอ่อนระทวย
สลบไสลลงไปทันที นี่คือหนทางเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์ตรงหน้า และตนก็จะได้ไม่ต้องพะวักพะวนห่วงเด็กหญิงอีกด้วย
จากนั้นค่อยประคองหนูผานอนลงพิงผนังถ้ำอย่างทุลักทุเล แล้วหันมาเปิดกระเป๋าคาดเอว
หยิบผ้าก๊อซสีขาวพร้อมผงยาห้ามเลือดโรยปิดปากแผลแล้วรัดด้วยผ้าพันรอบเอวอย่างรวดเร็ว เร่งทำเวลาในขณะที่ปีศาจสิตา
กำลังขะมักขเม้นกลืนกินหัวใจมารลงกระเพาะ ทุกอย่างเสร็จสิ้นในจังหวะปีศาจสิตาก็สวาปามหัวใจมารไม่เหลือซากเช่นกัน
พระลักษมณ์ยืนประจันหน้าสิตาตรงๆ ซึ่งบัดนี้ดวงตาแดงก่ำไร้สัญญาณคนปกติทั่วไปพึงมี
แถมรังสีอำมหิตกลับคลุ้งกระจาย ริมฝีปากเปรอะไปด้วยเลือดสีสดไหลย้อยชวนสะอิดสะเอียนยิ่งนัก
“ผมถามคุณหน่อย คุณคือจิตมารคืนร่างในวันพระจันทร์ดับสินะ”
“ใช่ ฉันเอง นอกจากฉันยังมีพี่ชายฉันด้วย” สิตาตอบเสียงห้วนดุ
“คุณข่มขืนเหยื่อทุกราย ก่อนฉีกทึ้งแยกร่างพวกเค้า” พระลักษมณ์ถามต่อ
“หึหึหึ! ฉันไม่ได้ทำ ฉันจะใช้อะไรไปข่มขืนพวกมัน พี่ชายฉันต่างหาก ฉันมีหน้าที่ดื่มเลือด
ก่อนแยกร่างพวกมันทิ้งเท่านั้น” นับเป็นข้อมูลใหม่ที่ทำให้พระลักษมณ์อึ้ง
“หมายความว่า คุณกับพี่ชายคุณร่วมมือกันมาตลอด พี่ชายคุณก็เป็นจิตมารด้วย ทำไมทายาท
จิตมารถึงมีสองคน” พระลักษมณ์ถามให้หายสงสัย
“ไม่ผิด ฉันถ่ายทอดให้เอง อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ชั่วโมงแห่งเดรัจฉานคืนร่าง
ฉันไม่สนใจหรอกใครเป็นพี่เป็นน้อง เราต่างร่วมเสพสมกันจนเป็นเช่นนี้ แกได้รู้ตามที่อยากรู้แล้วสินะ ที่ฉันไขข้อสงสัยให้
เพราะแกไม่มีโอกาสกลับออกไปเล่าให้ใครฟังได้แล้วต่างหาก” พูดจบ สิตาทะยานเข้าใส่พระลักษมณ์พร้อมคมมีดวาววับ
การเคลื่อนไหวรวดเร็วเกินคาด ร่างโปร่งอาศัยความคล่องตัวฉากหลบได้อย่างหวุดหวิด ก่อนจะยกขาเตะสวนเข้าใส่
งานนี้ไม่ต้องยั้งเมื่อรู้ว่าสาวสวยตรงหน้า แท้จริงคือผู้ชายแปลงเพศแถมยังมีฝีมือไม่ใช่ชั่ว กะหมายชีวิตตนเองชัดเจนขนาดนี้
พระลักษมณ์จึงต้องสู้สุดฝีมือ
การยกเท้าเตะพลาดเป้าอย่างฉิวเฉียด เมื่อปีศาจสิตารวดเร็วว่องไวจนน่าตกใจ รับมือลำบากในภาวะ
ร่างกายบาดเจ็บและสูญเสียเลือดไปไม่น้อย พระลักษมณ์ล้วงมีดพกออกมาปะทะด้วย ก่อนทั้งคู่จะเข้าห้ำหั่นกันอย่าง
รวดเร็วรุนแรง พละกำลังของพระลักษมณ์เป็นรองอย่างเห็นได้ชัด สังเกตจากแรงปะทะที่ร่างโปร่งกลับต้องเป็นฝ่ายเซหลุนๆ
ไปหลายต่อหลายครั้ง อาศัยสติและความชำนาญทำให้หลบหลีกคมมีดของปีศาจสิตาได้อย่างหวุดหวิดหวาดเสียว
จวนตัวเหลือเกิน
“เก็ง..ชิ้ง!..ฉัวะ!...หวือ!”
การเคลื่อนไหวรับมือกับสิตา ทำให้แผลที่รัดผ้าไว้ของพระลักษมณ์ถึงกับปริแตกอีกรอบ
ผ้าก๊อซสีขาวย้อมเป็นสีแดงขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ร่างโปร่งเหงื่อซึมตามขมับทั่วทั้งแผ่นหลังจนชุ่มโชก
ไปหมด หน้าที่ซีดเผือดยิ่งซีดหนักเข้าไปอีก เมื่อต้องเสียทั้งเลือดทั้งเหงื่อนั่นคือน้ำในร่างกายที่กำลังขับออกต่อเนื่อง
ถึงแม้ขณะนี้ยังกับผ่านมานานมาก แต่ความจริงใช้เวลาไปทั้งสิ้นรวมแล้วยังไม่ถึงสิบนาที ตั้งแต่พูดคุยจนถึงการลงมือ
เข้าห้ำหั่นกัน
ปีศาจสิตา หวังปลิดชีวิตของพระลักษมณ์ในกำมือ แต่พระลักษมณ์แค่ป้องกันเอาตัวรอด
ก็ฝืดฝืนเหลือจะต้านไหวแล้ว ไม่คิดว่าฝีมือของสิตาจะร้ายกาจปานนี้ ไม่เจอกับตัวหรือรู้จักมาก่อน พานจะเข้าใจว่า
สิตาเป็นหน่วยคอมมานโดที่ผ่านการฝึกทักษะการต่อสู้มาอย่างเคี่ยวกรำแน่นอน
พละกำลังของสิตายิ่งสู้ยิ่งเพิ่มมากขึ้น การเบี่ยงหลบหรือการปะทะซึ่งแรกเริ่มพระลักษมณ์แค่
เซหลุนๆ ตอนนี้เริ่มจะกระเด็นไม่เป็นท่าแล้ว สมองอันชาญฉลาดหาทางถ่วงเวลาเอาตัวรอดอย่างว่องไว
สุดท้ายที่ปีศาจกระหายการฆ่าพุ่งเข้ามาจ้วงมีดเข้าใส่ พระลักษมณ์อาศัยแรงส่งของฝั่งตรงข้ามเบี่ยงหลบได้อย่างฉิวเฉียด
แต่ก็ได้รับแรงปะทะโดนไปเต็มๆ จากศอกที่กระทุ้งมาจนตัวกระเด็นล้มกระแทกก้นจ้ำเบ้าห่างไปกว่าสามก้าว ทั้งจุกทั้งเจ็บ
ปวดระบมแผลที่เลือดซึมออกมาไม่หยุด เริ่มจะหน้ามืดวิ้งๆ เข้าให้แล้วตอนนี้ อาศัยร่างกายที่แข็งแกร่งและพลังใจที่เข้มแข็ง
จึงทำให้ยืนหยัดอยู่ได้จนถึงขณะนี้
“พลั่ก! ตุ้บ!..อึก...อุ๊บ!..เชี่ยแม่งจุกชิบ”
พระลักษมณ์สบถ ก่อนจะทำเนียนล้วงปืนพกจากหลังเอวออกมาเล็งปากกระบอก
จ่อยังร่างปีศาจสิตาทันที พร้อมกับขู่กำชับเสียงเข้มไปด้วยว่า
“หยุด! ขืนขยับอีกก้าว ผมยิงคุณทันที”
สิตาชะงักกึก จ้องปืนในมือพระลักษมณ์นิ่ง ก่อนแสยะยิ้มชั่วร้ายไม่เหลือเค้าสาวหน้าสวย
ให้เห็นแม้แต่น้อย
“หึหึหึ...ถ้าคิดว่าไอ้ลูกตะกั่วนั่นหยุดฉันได้แกก็ลองดูสิ...ฮ่าๆๆๆ” เสียงหัวเราะอย่าง
เหนือกว่าของสิตา ทำเอาพระลักษมณ์ลังเลชั่ววูบ จังหวะนั้นสิตาก็พุ่งตัวเข้าหาทันที พระลักษมณ์ไม่รีรอลั่นกระสุน
เข้าใส่เช่นกัน ความเป็นตายตอนนี้ไม่สามารถใจอ่อนได้แล้ว
“ปังๆๆๆๆ”
กระสุนลูกโม่ในรังเพลิงสิบนัด ถูกปล่อยออกไปติดต่อกันทีเดียวห้านัดต่อเนื่อง
หยุดร่างบอบบางสมส่วนได้ทันที สิตาหน้านิ่งยืนอยู่กับที่ไม่ขยับ เขม่าควันกระสุนยังเห็นเป็นเงาลางๆ ตรงบริเวณ
หน้าท้องของสิตา ซึ่งพระลักษมณ์เลือกที่จะยิงไม่หวังปลิดชีวิต เผื่อเกิดผิดพลาดจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง
อย่างน้อยภาพของหญิงสาวยิ้มสวยหน้าเย็นยังอยู่ในมโนสำนึก แม้คนที่พูดถึงบัดนี้ไม่เหลือเค้าโครงเดิมให้เห็นเลยก็ตาม
“หึหึ...แกทำได้แค่นี้แล้วสินะ”
พระลักษมณ์ปากอ้าตาค้าง เมื่อจู่ๆ หัวกระสุนทั้งห้านัด กระดอนหลุดตกลงพื้นทุกนัด
แถมร่างรับกระสุนของสิตากับไม่สะทกสะท้านแสดงความเจ็บปวดให้เห็นอีกต่างหาก นี่มันปีศาจชัดๆ ผิวหนังมนุษย์ที่ไหน
จะไม่ระคายกระสุนระยะเผาขนเช่นนี้กัน ตอนนี้ไม่มีเวลาให้พระลักษมณ์คิดอะไรแล้ว ในขณะในหัวนึกถึงหน้าปีศาจรูปงาม
ขึ้นมาทันที ถ้าปาจาอยู่ตรงนี้คงจะดีไม่น้อย อย่างน้อยปาจามีอาคมแถมรู้เรื่องมนต์ดำพวกนี้ดี ไม่รู้เจ้าคุ้มรูปหล่อ
มัวทำอะไรอยู่ ไม่โผล่หัวมาช่วยสักทีเล่าว่ะ...ตึงมือแล้วนะโว้ย! ร่างโปร่งสบถในใจอย่างเริ่มหงุดหงิด...
ต่อด้านล่าง
-
- 2 -
ขณะที่นึกกร่นด่าสุดหล่ออยู่นั้น
ปีศาจรูปงามก็ร้อนใจวิ่งตะลุยลงเขาแทบจะติดปีก ระยะทางจากยอดถ้ำห้อตะลุยลงมายังปากถ้ำ
อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 15 นาที หนทางไม่ได้ราบเรียบอย่างที่คิด เจ้าคุ้มเองไม่ได้สนใจร่างกายตนสักเท่าไหร่ สับขาก้าววิ่ง
ห้อตะบึ่งยังกับนักวิ่งลมกรด หนามเกี่ยวครูดตามแขนเป็นรอยเลือดซิบ แต่หาได้ทำให้ร่างสูงใหญ่ของปาจาใยดีไม่
บัดนี้ลงมายืนปากถ้ำเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะพุ่งพรวดเข้าสู่ข้างในปานจะเหาะ หัวใจร่ำร้องภาวนาให้คนรักและหนูผาตัวน้อย
อย่าได้เป็นอันตรายใดๆ อยู่ตลอดเวลา
“ฉันให้แกทรมานกับมนต์ดำคงจะดีกว่าที่จะปลิดชีวิตแกในมีดเดียว ตอนนี้ปาจาที่รักของฉัน
กำลังเข้ามาแล้ว สัมผัสพลังแฝงของเค้าช่างรุนแรงยิ่งนัก นี่สิถึงจะเหมาะเป็นคู่ชีวิตของฉัน เพราะฉะนั้นฉันสะกดแกไว้
เป็นตัวประกัน เมื่อเค้ารักแกมากก็ต้องยอมทำตามเงื่อนไขฉันแน่ รอให้ฉันกับเค้าได้เสพสุขกันก่อนเถอะ เมื่อนั้นปาจา
ผู้เย็นชาทรนง ต้องตกเป็นทาสของฉันไปจนตาย..ฮ่าๆๆๆๆ” สิตาพูดมานั่น ชวนให้พระลักษมณ์ขนลุกซู่ ไม่คิดมาก่อน
ว่าเธอจะมีความคิดเช่นนี้ ในขณะที่กำลังนึกหาวิธีอยู่ จะทำอย่างไรให้สภาพตกเป็นรองของตนรอดจากสถานการณ์ตรงหน้า
ปีศาจสิตาก็ยืนบริกรรมคาถาเสียงหึ่มๆ ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ขะเมลา ปะริต์ปูติ พะโนต์นากู เขตูติมายันตระ บลาๆๆ”
เสียงสวดคาถามนต์ดำพาเอาขนพองสยองเกล้า ในที่สุดปีศาจสิตาก็เป่าลมพุ่งเข้าใส่
ร่างของพระลักษมณ์ที่ยังนั่งชันเข่าอ้าขาในมือเล็งปืนป้องกันตัวไว้อย่างเตรียมพร้อม พระลักษมณ์รู้สึกเย็นวูบไปทั่วหน้า
เหมือนมีลมหนาวหอบมาปะทะ ก่อนจะกลับมาเป็นปกติโดยไม่รู้สึกอะไร
“เอ๊ะ! ทำไมคาถาสะกดมารของฉันถึงสะกดแกไม่ได้ ต่อให้เป็นร่างแฝงของนารายณ์
ก็ไม่น่าจะป้องกันได้นี่” สิตาถลึงตาโปนแดง พูดเสียงห้วนอย่างหัวเสีย ทำให้พระลักษมณ์มีโอกาสฉุกคิดขึ้น
ก่อนจะเหลือบตาดูแหวนลงอักขระขอมสวมนิ้วนางข้างซ้าย คงเป็นสิ่งนี้ที่ป้องกันตนเอาไว้จากมนต์ดำของปีศาจสิตาแน่นอน
มิน่าปาจาถึงกำชับไม่ให้ถอดแหวนออกเด็ดขาด รอดตัวไปอย่างหวุดหวิด
“อย่านึกว่าแกจะรอด ต่อให้แกมีของขลังคุ้มกาย นั้นก็ป้องกันแค่มนต์คาถา
แต่สำหรับเลือดเนื้อแกแล้วมันยังไม่เหนียวพอหรอก แบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์ที่ฉันจะเก็บแกไว้อีกต่อไป ตายเสียเถอะ”
พูดจบทะยานเข้าหาพระลักษมณ์พร้อมกับมีดที่เงื้อสูงตั้งท่ากระซวกหัวใจพระลักษมณ์ภายในคมมีดเดียว
“เปรี้ยง!..”
เสียงปืนหยุดโลกนัดนี้ได้ผลยิ่งนัก เพราะ....
“กรี๊ดดดด!!...อร๊ากกกๆๆๆ!..”
ปีศาจสิตามีดหล่นตุ๊บ ร้องโหยหวนเจ็บปวดทรมาน ก่อนจะได้ยินเสียงกระดูกลั่น
เกรียวกราวสะท้อนทุกรูขุมขน
“กร๊อบ..กร๊อบ...แกร่กๆๆ”
และความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่ทำเอาพระลักษมณ์จ้องตาค้าง เมื่อปากเธอเริ่มยืด
แถมเขี้ยวแหลมงอกออกมายาวเฟี้ยว กระดูกขยายโครงร่างบอบบางกลับสูงใหญ่ขนสีน้ำตาลเข้มงอกปกคลุมทั่วร่าง
ตาคมสวยหรี่เล็กลง กระโจนพุ่งไต่ขึ้นไปตามผนังถ้ำ ซึ่งกระสุนของปาจาก็รัวยิงเข้าใส่ติดต่อกัน สะเก็ดไฟแล่บเมื่อกระทบ
แง่งหินตามผนังถ้ำ จนร่างครึ่งปีศาจของสิตามุดหายลับไปยังปากโพรงเหนือศีรษะที่สูงกว่าสามสิบเมตร กลับไม่เป็นปัญหา
สำหรับจิตมารในร่างแปลงที่มีพละกำลังและความคล่องแคล่วรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ
“คุณจา” พระลักษมณ์ครางเสียงแผ่ว ตอนนี้สติของตนเลือนเต็มทน
นั่นเพราะเสียเลือดไปไม่น้อย หน้าที่ซีดเผือดปานกระดาษปากเริ่มเขียวคล้ำแล้วด้วย ปาจารีบเสียบปืนพกเข้าหลังเอว
บัดนี้กระสุนเงินทั้งหกนัดเหลือในรังเพลิงนัดเดียว หลังจากใช้ไปทั้งสิ้นห้านัดปลิดชีวิตพี่ชายสิตา
และทำร้ายจิตมารข้ามเพศบาดเจ็บหลบหนีไปได้
“พระลักษมณ์ เป็นไงบ้าง” ร่างสูงใหญ่คุกเข่าลงข้างคนรัก มือหนาประคองใบหน้า
ที่ซีดเผือดของร่างโปร่งไว้ทั้งสองมือ ก่อนจะประทับริมฝีปากจูบปลอบอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ในอารมณ์นี้หัวใจของ
ปีศาจรูปงามนามปาจา เหมือนยกภูเขาออกจากอก ไม่อยากคิดหากตนเข้ามาช้าเพียงก้าว จังหวะที่สิตาทะยานง้างปลายมีด
แหลมคมพุ่งเข้าใส่ร่างโปร่งที่รอรับทัณฑ์มัจจุราช ตนคงเสียใจไปตลอดชีวิต ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยตนฉุดคนรัก
ออกจากเงื้อมมือมัจจุราชได้ทันท่วงที
“อืม...พะ..ก่อน”
พระลักษมณ์บิดหน้าหนี เจ้าคุ้มบ้านี่เล่นจูบจนหนำใจ เจ้าตัวกำลังจะหายใจไม่ออก
ให้ตายเหอะแม้จะรู้สึกดีอุ่นวาบในอก หลังรู้ว่ากระสุนหยุดนาทีวิกฤตช่วยชีวิตตนไว้นั้นคือคนที่อยู่ในห้วงความคิด
พระลักษมณ์ก็รู้ความรู้สึกของหัวใจตัวเองแล้วด้วย คงไม่มีคำไหนอธิบายความรู้สึกนี้ได้แล้วว่า
วิษณุทรงพลตกหลุมรักปีศาจรูปงามไปแล้วเต็มๆ ในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานหัวใจตนกลับร่ำร้องเรียกหาผู้ชายคนนี้
คนเดียวเท่านั้น
ปาจาชำเลืองมองหนูผาที่หลับตาพริ้มนอนพิงกำแพงถ้ำอย่างสงบ พร้อมขมวดคิ้วตั้งคำถาม
ว่าเกิดอะไรขึ้น พระลักษมณ์เข้าใจแววตานั้น รีบตอบกลับไปว่า
“ผมแค่ทำให้เธอหลับ ไม่อยากให้เห็นภาพน่ากลัวจนขวัญเสีย” ปาจาพยักหน้าเข้าใจ
ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“คุณเลือดออกเยอะมาก รีบไปจากที่นี้กันเถอะ เรื่องอื่นค่อยคุยทีหลัง” พระลักษมณ์
พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดเจ้าคุ้มรูปหล่อ
“พอจะเดินไหวไหม” ปาจาถาม หลังจากพยุงร่างโปร่งลุกขึ้นยืนแล้ว ในขณะพระลักษมณ์
กำลังสอดปืนเข้าหลังเอวเก็บเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
“ผมไหว...คุณอุ้มหนูผาเถอะ ไม่ต้องห่วงผม” พระลักษมณ์ตอบ ปาจาจึงตรงไปช้อนตัวหนูผา
ไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะเดินนำร่างโปร่งพากันออกจากถ้ำไปเงียบๆ งานนี้คงต้องกลับไปรักษาแผลให้พระลักษมณ์ก่อน
พร้อมกับร่วมวางแผนทั้งกายันต์และธรรมตรัย ว่าจะจัดการกับปีศาจสิตาในร่างจิตมารยังไง กระสุนเงินเหลือเพียงนัดเดียว
ไม่สามารถจะทำพิธีชุบกระสุนขึ้นได้แล้วด้วย เพราะหัวใจมารถูกจิตมารสิตากลืนกินไปเสียแล้ว
แต่ยังมีความลับอีกข้อที่จิตมารไม่มีวันรู้ นั่นคือหลังจากคืนร่างเป็นเดรัจฉานเมื่อกินหัวใจมาร
ที่ผ่านพิธีล้างมนต์มารไปแล้ว กลายเป็นไม่ใช่หัวใจมารบริสุทธิ์เหมือนที่มันเข้าใจ จะไม่มีทางคืนกลับร่างมนุษย์ได้อีก
นั่นเป็นผลดีทางฝั่งปาจาเพราะสามารถตามล่าตัวเดรัจฉานครึ่งมนุษย์ได้ไม่ยาก
มันไม่สามารถปะปนแฝงเร้นกับคนปกติได้เหมือนเดิม..
ยังมีคำถามอีกมากมาย ที่เจ้าคุ้มรูปหล่อต้องการให้พระลักษมณ์เล่าให้ฟัง
เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดพระลักษมณ์คนเดียวที่รู้ดีกว่าใคร ส่วนตนก็พร้อมจะไขข้อสงสัยให้พระลักษมณ์เหมือนกันในทุกเรื่อง
ต้องรอให้กลับไปรักษาบาดแผลและร่วมวางแผนกำจัดจิตมารสิตาให้สิ้นซากนั่นแหละ นึกแล้วก็ไม่อยากเชื่อคนใกล้ตัว
จะคือจิตมารเสียเอง แต่ก็ไม่แปลกเพราะในเรือนไทย ไม่มีใครสัมผัสรังสีมารของใครได้ นี่สินะจึงถูกตบตามาโดยตลอด....
ที่ๆปลอดภัยที่สุดคือที่ๆ อันตรายที่สุด สุภาษิตนี้ยังใช้ได้ดีเสมอมา..??
มาต่อให้แล้วนะคะ รออ่านตอนต่อไปราวๆ วันจันทร์เด้อ
อยากขอบคุณทุกรีไพส์ ทุกเม้นท์ และนักอ่านทุกท่านที่ติดตาม
ผลงานของลักษ์ ทุกเรื่องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น จอมใจนักเลง
มนต์มาร และเหยี่ยวหัวใจ ถึงแม้จะไม่ค่อยได้พูดคุยทักทาย
ตอบเม้นท์เป็นการส่วนตัว แต่ขอให้รับรู้ไว้ว่า ลักษ์รู้สึดีใจและขอบคุณจากใจ
อยากบอกว่ารักเม้นท์ที่มีให้อย่างล้นหลาม ตามอ่านตามยิ้ม อย่างมีความสุขทุกครั้ง
เพราะกำลังใจดีดีของนักอ่านที่ให้มาตลอด จึงทำให้ลักษ์มีกำลังใจเขียนงานออกมาต่อเนื่อง
เพื่อมอบให้นักอ่านทุกท่านเช่นกัน สำหรับตอนนี้จะกดบวกให้ทุกรีไพส์แทนการขอบคุณนะคะ
ขอบคุณจากใจ
Luk. :pig4:
ปล. เหยี่ยวหัวใจมาวันเสาร์นะคะ รอพบความรั่วของพี่พรต กับวิธีสะกดเมียรั่วของพี่รันได้เลยค่ะ
-
คุณจาเค้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว
ยังจะมาสูบพลังชีวิตกัอีก
:impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
-
:man1: :man1:
มาช่วยได้ทันพอดีเลย
-
ปีศาจข้ามเพศตนนี้ช่างตลกยิ่งหนัก :m20:
ไม่รู้ทำไมอ่านแล้วขำ
-
มาต่อแล้วค่า จุ๊บๆๆๆ
-
แฟนเลือดจะหมดตัวอยู่แล้ว
ยังไม่รีบพากลับอีกนะคุณจา
:z1:
-
กำลังคิดฮอดอยู่เลย น้องลักษ์
แหมคุณจา กว่าจะออกมาก็วินาทีเฉียดตาย อร๊ายยย อ่าน ไป แล้วยังเขิน ไม่หาย
พระลักษณ์เนี่ย คิดอะไรก็ไม่รู้ บล้าาาาาาาา :-[
ตอนหน้า กายันต์ กับธรรมตรัย จะกลับมาแล้ว คิคิ คู่นี้ เค้าจะหวานชื่นรื่นรมณ์กันขนาดไหน อยากรู้ จริงๆ :กอด1:
-
:laugh: ว่าแล้ววว่าสิตาต้องเป็นผู้หญิงข้ามเพศ ฮุๆๆ
แต่ที่นึกไม่ถึงก็คือพี่ชายฉีจะเป็นจิตรมารด้วย จินตนาการล้ำมากๆค่ะ
ปล.บวกเป็ดให้นะคะ
:กอด1:
-
สิตา น่ากลัวมาก นึกแล้วสยอง
-
อ๊ากกก คนเขียนหลอกล่อได้สุดติ่งจริงๆ
อ่านตอนที่แล้วจบยังคิดอยู่เหมือนกันว่าหรือสิตาจะแปลงเพศมาหว่า เพราะเห็นเกริ่นไว้ตอนที่แล้วว่าไม่นึกว่าปาจาจะชอบแบบนี้ เหอๆๆๆ
แต่ก็ไม่คิดว่าสองพี่น้องจิตมารจะมีอะไรกันนะเนี่ย ลืมไปว่าสัตว์มารมันไม่รู้ผิดชอบชั่วดีนี่นะ
สงสัยอีกเรื่องว่า ทำไมสิตาต้องการหัวใจมารมากมายขนาดนั้น เพราะสิตาเคยสมสู่กับกายันต์ซึ่งเป็นสัตว์มารสายบริสุทธิ์ และสิตาก็เป็นผู้ชาย ฉะนั้นสิตาก็น่าจะได้สืบทอดเป็นทายาทมารต่อจากกายันต์ไปตั้งนานแล้วนี่นา
เอ..หรือว่าสิตาไม่ต้องการแค่นั้น แต่ต้องการหัวใจมารเพื่อเพิ่มพลังให้มากขึ้น เพราะเป็นหัวใจจากสัตว์มารออริจินัลหว่า
สรุปตอนนี้สิตาก็มีพลังมากมายเลยสิ เพราะเป็นจิตมารจากจิตของจอมขมังเวทย์+เคยสมสู่กับทายาทมารสายบริสุทธิ์+กินหัวใจมารต้นแบบ (แม้จะเป็นหัวใจมารที่ผ่านพิธีล้างมนต์มารแล้ว...เพี้ยงๆๆๆ ขอให้แกตายเพราะพิษจากฟอร์มาลีน ชิชิ ยัยสิตา :laugh: )
ก็ยังดีที่ยัยสิตาไม่มีปิก๊าจูแล้ว จะได้ไม่ต้องห่วงว่าเคยไปถ่ายทอดสายเลือดมารให้ใครอีก (ยกเว้นว่าถ่ายทอดทางด้านหลังเหมือนพี่ชายกับกายันต์ อ๊ากกกกก คนเขียนจะซ่อนอะไรอีกมั้ยยยย)
ติดตามตอนต่อไปปปปปปปปปปป
:pig4:
-
:o8:เค้าชอบมาบ่อยๆนะคะพระลักษ์กับปาจา :กอด1:
-
อุ๊ย!! แม่เจ้า!!~~~สิตาเธอเป็นชะนีข้ามเพศ~~~~~~
-
สนุกมากเลยฮะ คุณลักษ์แต่งเก่งทุกเรื่องเลย
อ่านแล้วน่าติดตามตอนต่อไป และต่อไป....
ขอบคุณฮะ
-
หักมุมสุดๆ :pig4:
-
จิตมารแปลงเพศได้ด้วย :a5:
ปล.ดีที่มาช่วยทัน :เฮ้อ:
-
ไอ้จิตมารนี่ตายยากเเท้ๆ
กระสุนก็เหลือนัดเดียว
เอาใจช่วยนะคะ ปาจา
ปล.นักเขียนสู้ๆนะ
-
คนเค้าเจ็บอยู่ถึงจะมาช่วยทันก็อย่าเพิ่งจูบสิเว้ย!!! :z6:
-
ใกล้จบยัง
-
สิตากลายเป็นหมี(ควาย)ตลอดกาล หมดสวยเลย o18
-
นอกจากมีสตรีคร่อมเพศแล้ว ยังมีปีศาจคร่อมเพศด้วย - -
-
เบลอเรยสิ พระลักษณ์ ทำยังไงเนี่ยะ กระสุนเหลือนัดเดียวแล้ว ลุ้นๆๆ
-
:m20: สิตาเป็นชะนีข้ามเพศซะงั้น
-
มาช่วยทันแบบเฉียดฉิวเลยนะคุณปาจา o13
รอเหยี่ยวรั่ววันเสาร์ค่า
-
พระลักษมณ์น่ารักอะ ยอมรับแล้วว่ารักปาจามาก>.<
ส่วนปาจา...เอาไว้พระลักษมณ์หายแลิวค่อยจัดเต็มก็ยังไม่สายเนอะ
-
:เฮ้อ: นึกว่าคุณจามาไม่ทันซะแล้ว
:L2: :L2:
-
เดาไม่ถูกสักอย่าง 55+
-
เฮ้อออออ นอกจากจะตกใจเรื่องยายสิตา ยังมาตกใจต่ออีกว่า เป็นผู้ชายแปลงเพศอีก โอ้ว แม่เจ้า
แต่สะใจดีนะ ที่มันแปลงร่างเป็นคนไม่ไดีอีกแล้ว ถ้ามันรู้จะสะใจแค่ไหนเนี่ย กร๊ากกกกกกกกกกก
จอรอนะค่ะ
+1 +เป็ดให้ค่าาา
-
เฮ้ออออ
ปาจามาทันพอดีเลย
หวุดหวิดจริงๆๆ
ส่วนสิตาคืนร่างเป็นคนไม่ได้แล้วคงแค้นใจน่าดูเลย
ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหนอีก
ปล.หวังว่ามนต์ของสิตาจะใช้กับปาจาไม่ได้ผลนะไม่งั้นแย่แน่ๆๆเลย
-
นึกว่าต้องรอนานซะแล้วได้อ่านสมใจเลย
-
ตามลุ้นกันใจแทบขาด
ดีใจที่พระลักษมณ์ไม่เป็นอะไร
-
ยังดีที่พระลักษณ์ไม่เป็นอะไร
แต่ก็แอบช็อกตอนที่รู้ว่าสิตาแปลงเพศมา :try2:
-
นั้นสิ
ใครจะนึกถึง
เล่นแปลงเพศมาอ่า
:angry2:
-
เรื่องนี้เป็นอะไรที่ผิดคาดหลายอย่าง สรุปคือคนอ่านเดาไม่ถูกนั่นเอง :laugh:
-
555+,มันฮาตรงปีศาจก้อยังเบี่ยงเบนเมื่อเจ้าคุ้มรูปหล่อ
อิอิอิ เรือ่งดุเดือดมาก
-
เล่นเอาเกือบตายเลยนะ
-
:impress2: เย่ทายถูกจริงๆด้วยว่าสิตาคือผู้ชายแปลงเพศมา อิอิ
เรื่องราวสนุกมากเลยคะ ชอบแนวนี้ที่สุดเลย รอคอยตอนต่อไป
-
บรรยายได้สะอิดสะเอียนดีจังสำหรับสิตา....อันนี้ชมนะคะไม่ได้ว่า 5555
ปาจามาทันดีมากกกก อิอิ
+1 ให้จ้าาา
-
:a5:
สิตา = ผู้ชายแปลงเพศ
รอทั้งเรื่องนี้ แล้วก็เหยี่ยวหัวใจด้วยค่ะ :กอด1:
-
o13 o13
:pig4:
-
“เก็ง..ชิ้ง!..ฉัวะ!...หวือ!” ว้าวว เอฟเฟกตระการตามากเลยค่ะคนเขียน อิอิ
-
ห๊าาาาาาาาาาาาา
ช็อคอย่างแรงแม่สาวสวยเป้นน้องเทยแปลงเพศ
พระลักษณ์โชคดีที่มีแหวนของปาจา
นะเนี่ยเลยรอดได้
-
พนะลักษมณ์หายเร็วๆนะ!!
-
ขอบคุณค่ะ :L1: :L1:
-
พระลักษณ์นี่บู๊ยิ่งกว่าพระเอกอีก ตกใจเหมือนกันที่สิตาแปลงเพศ แต่ทำไมปาจาไม่รู้มาก่อน รึว่า สิตาเพิ่งเข้ามาอยู่กับปาจา
-
คุณปาจาเนี้ย พระลักษณ์จะตายอยู่แล้วยังจะจูบไม่ยอมปล่อย รู้ว่าเป็นห่วงอะ
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
อ่านแล้วต้องบอกว่า :a5:
สยอง ที่สิตาโหดเข้าขั้นซะะะะ
อึ้ง she แปลงเพศมาเหรอ อึ๋ยยยยยย
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
นังสิตา นังสตรีข้ามเพศ
แกมันแรงที่สุด คิดจะหลอกซั่มเจ้าคุ้มสุดหล่อ แฮนนซั่มรึ :m16:
ดีที่ปาจามาช่วยพระลักษณ์ทัน
เรื่องร้ายๆผ่านพ้นไป อยากอ่านหวานๆกับ :oo1: แล้วววววววว
-
พระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยไว้ทันแล้ว
เกือบไป
-
รู้ตัวจริงสักที่
คงตามตัวได้ไม่ยากแน่ๆ
-
กระสุนเงินเหลือนัดเดียวเเล้ว ทีนี้ก็ต้องยิงตรงๆไปเลยทีเดียว
รอดไม่รอดเดี๋ยวได้รู้กันเนอะ :3123: ให้คุณลักษ์ด้วยที่มาต่อให้ได้อ่านกันยาวๆ
รอติดตามตอนหน้าเลย เค้าติดทุกเรื่องเลยอ่ะ :-[
-
คุณน้องลักษ์ ตรงเวลาดีจังเลยคะ
อย่างมากกว่าช้าแค่วันเดียว(คนอ่านมาอ่านช้าด้วย)
เวลามีฉากการต่อสู้ทีไร อ่านแล้วพลอยตื่นเต้นไปด้วยทุกที
-
เมนท์ๆเอาไว้ก่อน เดี๋ยวจะเร่งอ่านเน้อ ^^
อ่านตอนแรกๆ ไปแล้ว ชอบมากเลยจร้า
-
:a5:
สิตา (ปีศาจแปลงเพศที่หลงรักปาจา)
-
สิตาแรงส์ 555555555
ขอบคุณคุณพระที่ช่วยเหลือทุกคน
><
-
ปาจามาทันเวลาเป๊ะ o13 o13
คิดไม่ถึงว่าจิตมารจะแปลงเพศมา สุดยอดครับ :laugh:
-
จวนตัวจึงรู้ใจ >< แบบนี้ต้องขอบใจสิตามั้ยเนี่ย ที่อย่างน้อยก็ทำให้พระลักษมณ์รู้ใจตัวเอง
ตอนที่แล้วสงสัยว่าสิตาจะเป็นจิตมารแล้วผู้หญิงจะเป็นได้ยังไง
มากระจ่างเอาก็ตอนนี้เอง แต่คิดไม่ถึงเลยเรื่องแปลงเพศเนี่ย เหนือความคาดหมายมาก :z3:
เธอแน่มากนะสิตา อยู่มาได้ตั้งนานแล้วยังไม่มีใครรู้เนี่ย
แต่กลับร่างเก่าซะแล้ว คราวนี้ล่ะ ปาจาล่าให้ได้นะ
เพื่อความสงบสุขของคุ้ม ><
ตอนนี้แอบหวานปน(พระลักษมณ์)ปวด ปกติเค้าต้องกอดแล้วดูว่าเป็นอะไร
แต่เจ้าคุ้มคนนี้จูบเลย :-[ น่ารักดี
-
ตอนแรกคิดว่าีีสิตามีเอี่ยวเฉยๆ แต่ดันกลายเป็นมารที่แปลงเพศมาซะงั้น :a5:
-
:really2: 555 ทายถูกจริงๆ ด้วย ว่าสิตา คือผู้สาวข้ามเพศ ส่วนพ่อพระเอกเลือดนายเอกจะหมดตัวอยู่แล้วยัีงหื่นอีก ไม่ไหวๆ :-[ :เฮ้อ:
-
กรี๊ดกับความลับของสิตา เธอลงทุนมากนะ เปลี่ยนตัวเองเพื่อปาจา
-
เป็นงงๆแฮะสิตานี่เป็นญาติห่างๆของปาจาใช่มั้ยคะ แล้วทำไมปาจาไม่รุ้เลยว่าญาติตัวเองเป็นผู้ชายมาก่อน
ไม่สืบประวัติอะไรเลยงั้นหรอ ไว้ใจคนง่ายจั๊งงงง
-
อ่านทันแล้ววว :z2: :z2:
เรื่องนี้ก็ยังคงสนุกเหมือนเดิม o13
รออ่านเหยี่ยวหัวใจนะคะ อยากเจอพี่พรตอีก :z2:
-
นังสิตา เอ้ย นายสิตา ร้ายจริงๆ
ต้องกำจัด......
สงสารพรลักษณ์
สู้นะคะคนแต่ง
จะรอ เหยี่ยวรั่วจ้าาา
-
สนุกมากๆ มาต่อเร็วๆ นะคะ
-
คุณจาเกือบไปช่วยไม่ทัน...แล้วแทนที่จะแบ่งกระสุนไว้ให้พระลักษณม์ซักนัดสองนัด เฮ้อ~
-
ลุ้นแทบตาย
เฮ้อออ
ดีที่มาช่วยทัน
-
โฮกกก ลุ้นสุดๆอ่ะ :z3: :z3: :z3:
-
OMG!!! ลุ้นกันมันส์หยด ปานนิยายจีนกำลังภายใน :interest:
พระลักษมณ์ของเราเก่งจริงๆ สู้กับจิตมารได้ตั้งนาน o13
คุณจา..มาถึงก็จูบก่อนเลยนะ อิอิ :m12:
-
:o สิตาทำไมเธอเป็นคนแบบนี้ ... :z3:
ป.ล. แต่พิธี ในคืนเดียวกันนี้ นี่มัน :haun4: :haun4: :haun4:
-
ลึกลับซับซ้อนดีจริงนะคะ อ่านไปลุ้นสุดๆ แอบเหงื่อตกเล็กๆ
-
วู้! อ่านทันซะที อ่านรวดเดียวเลยนะเนี่ย :เฮ้อ:
สนุกมากๆๆๆๆๆๆๆ อ่านไม่หยุด เพราะมันหยุดไม่ได้อ่ะดิ :oo1: :oo1: :oo1:
เป็นอะไรที่สนุกมาก +1 นะค่ะ o13
-
สิตาจริงๆด้วย :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจค่ะ :3123:
-
ว้าวๆๆๆๆ มาแล้ว ดีใจจังเลย :mc4:
-
โอ๊ย ลุ้นมากๆเลย
ดีน่ะที่ปาจามาช่วยทัน
รอตอนต่อไปค่ะ :bye2:
-
o13
-
รสิตา นายเจ๋งมาก
กร๊าก กร๊าก กร๊าก
-
สู้ๆต่อไปนะคร้าบบ...พระลักษณ์ :m4: :m4:
-
รออ่านตอนต่อไป
เรื่องนี้สนุกมากจริงค่า o13 o13 o13
-
ลุ้นระทึกสุด ๆนึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว
-
:z13:
อยากอ่านตอนใหม่แล้ว~
-
แวะมาดูจ้าาาา
-
หายไปเลยนะรีบกลับมาต่อซะที :m5: :m5: :m5: :m5: :m5: :m5: :m5:
-
:call: :call: :call:
-
@@@@ แจ้งให้ทราบ
สำหรับนักอ่านที่สั่งซื้อหนังสือเรื่อง เพราะรัก..จึงเปลี่ยนได้
ทางทีมงานจัดทำขอเลื่อนการส่งหนังสือไปราวกลางเดือนธันวาคมเป็นต้นไป
ติดขัดปัญหาเรื่องน้ำท่วม และไม่สะดวกการจัดส่ง ทั้งยังมีนักอ่านที่สั่งซื้อ
หลายท่านไม่สะดวกให้ส่งอีกเป็นจำนวนไม่น้อย ทางทีมงานจึงลงมติเห็นควร
ส่งพร้อมกันทีเดียวเลย กันหนังสือสูญหาย หวังว่าอดใจรอหน่อยนะคะสำหรับท่าน
ที่ไม่ประสบปัญหาเหมือนคนอื่น ขอบคุณอีกครั้งค่ะ :pig4:
มนต์มาร
Part 22
เทพบุตรสุดหื่น
.
.
.
.
พระลักษมณ์รู้สึกตัวตื่นสะลืมสะลือจากฤทธิ์ยาแก้ปวด
หมอฉีดให้โดยที่ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตนนอนอยู่ที่ไหน
ต้องย้อนไป หลังจากปาจาสามารถช่วยพระลักษมณ์และหนูผาปลอดภัยจากน้ำมือของ
จิตมารสิตาได้สำเร็จ ทั้งหมดก็กระเตงกันออกมาขึ้นหลังม้าที่ผูกเชือกไว้ใต้ต้นไม้ หลังจากขึ้นหลังม้าเยาะย่างได้ไม่เท่าไหร่
พระลักษมณ์ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวถึงกับสลบไปบนหลังม้า เดือดร้อนปาจาต้องจูงเชือกม้าพากลับคุ้มดงพญา
ในขณะที่ต้องคอยระวังหนูผาที่นั่งซ้อนด้านหน้าของตนไปด้วยเช่นกัน
ด้วยความเป็นห่วงคนรัก พอถึงเรือนไทยปาจาโทรตามหมอให้มารักษาพระลักษมณ์ทั้งคืน
โดยให้ทองคำขับรถไปรับ-ส่งหมอกันเลย ที่เหลือก็ปล่อยเป็นหน้าที่หมอซึ่งทำการเย็บแผลจ่ายยาฆ่าเชื้อและยาแก้อักเสบ
พร้อมกับฉีดยาแก้ปวดให้พระลักษมณ์เป็นที่เรียบร้อยกว่าจะเสร็จเกือบค่อนรุ่ง ถึงได้เดินทางกลับ
ส่วนหนูจันทร์ผา นมอ่อนรับหน้าที่ดูแลให้นอนห้องนมหนูน้อยเองก็อ่อนเพลียไม่ต่างกัน
กายันต์และธรรมตรัยยังไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่เมื่อคืน เพิ่งจะได้พูดคุยสอบถามเรื่องราวก็เช้าตรู่นี่เอง ขณะนี้ทั้งสองคน
ขอตัวไปดูหนูผาที่ห้องนมอ่อนแล้ว
กายันต์สั่งคนรับใช้ย้ายสัมภาระของตนไปอยู่ชั้นล่างที่ห้องของธรรมตรัยเป็นที่เรียบร้อย เพราะห้อง
ธรรมตรัยเป็นทางสามารถลงสู่ห้องใต้ดินได้ ครั้นจะให้เลขาหน้านิ่งย้ายขึ้นมานอนกับตนแทนเจ้าตัวก็ยืนกรานเสียงแข็ง
ไม่ยอมย้ายเด็ดขาด เดือดร้อนเทพบุตรสุดหล่อต้องเป็นฝ่ายย้ายลงไปดูแลคนรักเสียเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะกายันต์ออกตัวปกป้องคนรักจนออกนอกหน้า ด้วยรู้อยู่แล้วว่าธรรมตรัยมีความรู้ทางไสยศาสตร์ลึกลับแต่เพียงอย่างเดียว
นอกจากนั้นไม่สามารถป้องกันตนเองได้แน่นอน รายนั้นไม่มีทักษะด้านศิลปะการต่อสู้เอาเสียเลย
ส่วนปาจาเอง ก็ย้ายสัมภาระของพระลักษมณ์มาไว้ในห้องตนเป็นที่เรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
เนื่องจากพระลักษมณ์ยังบาดเจ็บต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญห้องพระลักษมณ์อยู่ตรงข้ามห้องสิตา
ปาจาไม่ไว้ใจแม้จะเป็นเรือนไทยในคุ้มดงพญาเองก็เถอะ เอาเป็นว่าตอนนี้พี่น้องตระกูลดงพญาต่างเห่อคนรักจนออกนอกหน้า
อย่างไม่มีใครน้อยหน้าใครว่างั้น
“อูย...ปวดชะมัดยาด” พระลักษมณ์หน้าเบี้ยว หลังจากลองขยับตัวเช็คสภาพร่างกายตนเองดู
“หืม...ตื่นแล้วหรือครับ ผมสั่งแม่บ้านต้มข้าวต้มหมูร้อนๆ พอลุกไหวไหม? ผมช่วยพยุงไปล้างหน้า
แปรงฟัน ทานข้าวก่อนค่อยกินยาตามที่หมอสั่ง” เจ้าคุ้มรูปหล่อเปิดประตูเข้ามาพอดี จังหวะเห็นคนรักกำลังพยายามลุกนั่ง
รีบกุลีกุจอเข้ามาพยุงคนป่วยโดยไม่รีรอ
“อืม” พระลักษมณ์ครางรับในคอ ก่อนเจ้าคุ้มร่างใหญ่จะพยุงร่างโปร่งของคนรักพาเข้าห้องน้ำ
ไปทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย การดูแลเอาใจใส่ของปาจาพาเอาคนป่วยรู้สึกอบอุ่นหัวใจแปลกๆ ไม่คิดว่าเจ้าคุ้มรูปหล่อ
จะแสดงความห่วงใยตนเองมากมายเช่นนี้
“ขอบคุณมาก ที่ดูแลผม” จนอดพูดขอบคุณจากใจไม่ได้
“คุณไม่จำเป็นต้องขอบคุณผมหรอก ผมเสียอีกต้องขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้คุณได้รับบาดเจ็บ
ที่สำคัญผมทำตามหัวใจตนเองคนรักผมบาดเจ็บขนาดนี้ ต้องดูแลอย่างดีสิจริงไหม?” น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ปาจาพูดมา
พร้อมกับสายตาคมเข้มที่จ้องสบตาพระลักษมณ์ฉายความจริงใจในคำพูด พาเอาหน้าหล่อใสของร่างโปร่ง
ซับสีเลือดแดงเรื่อจนเห็นชัดเจน
“หึหึ...” เสียงหัวเราะในลำคอของปาจา หลังจากเห็นเลือดวิ่งขึ้นหน้าคนรัก
ทำเอาพระลักษมณ์ต้องเฉเบือนหน้าหลบ พร้อมกับหาเรื่องแก้เขินทันที
“คุณออกไปได้แล้ว ผมจะทำธุระส่วนตัว” วิธีหนีเอาตัวร้อนก่อนหน้าจะระเบิดคือขับไล่ปีศาจรูปงาม
ที่จ้องสายตาวิบวับให้ออกจากห้องน้ำไปเสียที ปาจาก็ไม่อยู่แกล้งคนรักให้ได้อายไปมากกว่านี้ ยอมออกไปแต่โดยดี
พร้อมกับปิดประตูให้เสร็จสรรพใบหน้าหล่อเข้มเปื้อนยิ้มจนหุบไม่อยู่ เล่นเอาพระลักษมณ์แอบทำหน้าบู้
ตามหลังร่างใหญ่อย่างขัดใจ....
------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากทานข้าวกินยาตามคำสั่งหมอแล้ว ร่างโปร่งขอเดินสูดอากาศรอบบริเวณเรือนไทย
ปาจาก็ตามใจคนป่วยหัวดื้อรูปหล่อหน้าใส โดยยอมพาออกมาเดินริมสวนใกล้เรือนสูดอากาศบริสุทธิ์อาบแสงแดดยามเช้า
เพียงสองคน ระหว่างเดินกันอยู่นั่น พระลักษมณ์อดตั้งคำถามกับสิ่งที่ยังติดใจสงสัยขึ้นมาว่า
“พวกคุณบอกสิตาเป็นญาติตอนแนะนำให้ผมรู้จักครั้งแรก โดยไม่มีใครรู้มาก่อนหรือไง
ว่าเค้าเป็นผู้หญิงข้ามเพศ?” คำถามของพระลักษมณ์ทำเอาปาจาคิ้วขมวดมุ่นขึ้นมาทันที ก่อนจะตอบคนรักด้วยเสียงนุ่ม
กลับมาว่า
“ถือเป็นความสะเพร่าของผมเอง สามปีก่อนสิตาหิ้วกระเป๋ามาที่คุ้ม พร้อมกับของสำคัญที่ปู่ผม
เคยกำชับไว้ว่าหากใครถือสิ่งนี้มาให้ความช่วยเหลือไว้ทันที เพราะเค้าคือผู้มีพระคุณกับปู่ผม เค้าเคยช่วยชีวิตคุณปู่พร้อมกับ
พรานธรรมรัตน์ปู่ทวดของธรรมตรัย ตอนท่านทั้งสองหลบหนีการตามล่าจากพรานวาโยจิตมารนั่นแหละ ท่านได้พบกับ
ชาวบ้านคนหนึ่งที่แบ่งปันอาหารกับน้ำดื่มให้ระหว่างมาเก็บของป่าขาย แต่เพื่อไม่ให้ชาวบ้านคนนั้นเดือดร้อนปู่จึงไม่ดึงเค้า
เข้ามารับรู้เรื่องราวที่กำลังเผชิญอยู่เพราะคิดว่าถึงยังไง ก็คงไม่สามารถช่วยเหลือพวกท่านได้ จึงมอบแหวนหยกไว้ให้
และบอกเค้าว่าวันข้างหน้าหากเดือดร้อนสิ่งใด สามารถถือแหวนหยกวงนี้มาขอความช่วยเหลือได้ ปู่จะตอบแทนคุณทันที
และแหวนหยกวงนั้น คือตัวเบิกทางให้สิตานำมาแสดงและขออาศัยอยู่ในคุ้มดงพญา
ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธการช่วยเหลือเพราะเธอบอกว่าไร้ญาติขาดมิตร ไม่เหลือใครแล้ว เธอบอกแหวนวงนี้พ่อของเธอมอบให้
เพื่อนำมาแสดงกับปู่ มาถึงตอนนี้ผมเพิ่งคิดได้ว่าจิตมารคงสิงห์ร่างเธอแล้ว ด้วยอำนาจมนต์มารมันย่อมรู้เรื่องคำสัญญา
นี้แน่นอน จึงอาศัยช่องทางนี้เข้ามาแฝงตัวอยู่ในคุ้มดงพญา” คำบอกเล่าของปาจา ทำให้พระลักษมณ์เข้าใจแล้วว่า
ทำไมสิตาถึงได้เข้ามาอยู่ในเรือนไทยได้ อย่างง่ายดาย แต่ยังอดสงสัยต่อการสืบสายเลือดของจิตมารอยู่ดี จึงถามต่อไปว่า
“คุณไม่สัมผัสพลังมารจากสิตาเลยเหรอ ตอนที่เธอเข้ามาอยู่ที่นี่”
“ผมเคยบอกแล้วนี่ว่าภายใต้อาณาเขตของเรือนไทย พลังมารจะไม่แสดงออกเพราะตะกุดที่ปู่จัดการฝัง
อยู่ใต้ถุนเรือนนี้ แม้แต่กายันต์เองพลังมารก็ไม่เผยตัวเช่นกัน ดังนั้นไม่มีใครสามารถรู้หรอก” เจ้าคุ้มรูปหล่อตอบมา
พระลักษมณ์พยักหน้าเข้าใจ ก่อนถามกลับไปว่า
“พี่ชายของสิตาที่คุณยิงเค้าแต่แรก เพราะมั่นใจว่าคือจิตมาร แล้วทำไมคุณถึงไม่สัมผัสพลังมาร
ของสิตาด้วย ผมไม่เข้าใจ” พระลักษมณ์ตั้งคำถามในสิ่งที่ตนสงสัยต่อ
“ผมสัมผัสรังสีมารในถ้ำ แต่จะรู้ได้ไงว่ามีสองคน แต่ที่ผมตกใจยิ่งกว่าคงเรื่องของสิตา
คือผู้หญิงข้ามเพศ เป็นข้อมูลใหม่ที่ผมไม่เคยคิดมาก่อน ยอมรับคิดไม่ถึงจริงๆ” ปาจายอมรับหน้าตาย แต่พระลักษมณ์เอง
ก็เข้าใจเช่นกัน มันยากที่จะคาดเดาจริงๆ ตนยังแอบชื่นชมความงามของสิตาด้วยซ้ำ นี่ถ้าเจ้าตัวไม่เผยธาตุแท้ออกมา
คงตบตากันได้อีกนาน อารมณ์เสียใจที่พี่ชายตายต่อหน้าพร้อมกับระเบิดความหึงหวงนั่นแหละทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
“เออ...ผมรู้ว่าคุณกายันต์มีความสัมพันธ์กับสิตาขั้นลึกซึ้ง ทำไมคุณยันต์ถึงไม่รู้ว่าสิตาเป็นผู้หญิงข้ามเพศ”
พระลักษมณ์สอบถาม นั่นสิระดับกายันต์ก็ไม่น่าจะโง่ กระทั่งมีหนูผาเป็นลูกแล้วจะแยกไม่ออกเชียวหรือในช่วงเวลาขณะนั้น
“ผมสอบถามเจ้ายันต์มันแล้วเมื่อเช้าก่อนคุณจะตื่น มันบอกว่าอารมณ์ตอนนั้นเหมือนจะเบลอ
แทบทุกที จำไม่ได้ว่าความจริงแล้วคืออะไร เชื่อว่ามันคงโดนมนต์สะกดเข้าให้ จำวันที่เรากลับจากไปดูศพครูรัสสาได้หรือไม่
ที่เจ้ายันต์มันโดนมนต์ให้แอบขโมยหัวใจมารต้นแบบ ผมคิดว่าคนที่สะกดกายันต์คงเป็นสิตาเช่นกัน อย่าลืมสิว่า..พรานวาโย
เป็นจอมขมังเวทย์ เพราะงั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะร่ายมนต์สะกด คุณเองที่รอดมาได้คงเพราะแหวนจากนิ้ว
ถึงไม่ถูกมนต์มารสะกดของมัน” เจ้าคุ้มรูปหล่อเฉลยทุกข้อปัญหา ทำให้พระลักษมณ์กระจ่างแจ้งทันที
“แสดงว่าครูรัสสาตายด้วยฝีมือสิตาสินะ เพราะไม่มีใครรู้เวลานัดหมายของสองคนนั้นว่าตกลงกันไว้ยังไง”
พระลักษมณ์วิเคราะห์ถึงสาเหตุการตายของครูรัสสาขึ้นมา ทำให้เจ้าคุ้มต้องหยุดเดินกะทันหัน พร้อมกับจ้องหน้าหล่อใส
ของร่างโปร่งเป็นคำถาม
“ผมพูดไปตามเหตุผล” พระลักษมณ์รีบออกตัวตอบไปทันที
“ทำไมคุณคิดอย่างนั้น ไม่แน่อาจเป็นพี่ชายสิตาที่ดักฆ่าครูก็เป็นได้” ปาจาถามตามที่ตนคิด
“ผมวิเคราะห์จากแผลที่คุณครูเสียชีวิต ฝีมือสิตาแน่นอน อาวุธที่ใช้ก็คงมีดที่กระชวกท้องผม
นั่นแหละ ที่ผมมั่นใจเพราะพิษรักแรงหึงมากกว่าทำให้สิตาฆ่าคุณครู” พระลักษมณ์ตอบ ตนเจอแรงหึงจนเลือดขึ้นหน้า
ของปีศาจสิตามากับตัว แต่ปาจาคงยังไม่เข้าใจ ทั้งที่เป็นสาเหตุหลักกลับทำหน้าฉงนซะงั้น
“หึง..เหรอ” เจ้าคุ้มรูปหล่อย้ำถามออกมา
“คุณแกล้งโง่หรือเปล่าเนี่ย!...สิตาเค้าหึงคุณมาก ที่ผมเกือบตายก็เพราะเค้ารู้ถึงความสัมพันธ์ของเรา
ตั้งแต่วันที่เห็นคุณออกจากห้องผมตอนเช้าวันนั้น แต่เธอเก็บงำความรู้สึกเอาไว้ มาระเบิดเอาตอนจะฆ่าผมให้ตายกับมือ
ในถ้ำผมถึงรู้ ว่าเธอหลงรักคุณมานานแล้ว ตอนนี้เธอต้องการคุณไปเป็นทาสรัก เพราะงั้นหลังจากได้หัวใจมารต้นแบบ
เพิ่มพูนพลังมารจนสำเร็จ เธอคงมุ่งเป้ามาที่คุณแล้วตอนนี้ ตราบใดยังไม่สมหวังในรักเธอไม่ยอมรามือแน่” พระลักษมณ์
จ้องหน้าปาจานิ่ง พร้อมกับบอกเหตุผลซะแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ทำเอาปีศาจรูปงามอมยิ้มอีกแล้ว หมั่นไส้พิลึกถึงขนาดนี้แล้ว
ยังยิ้มได้อีก พักนี้ปาจายิ้มบ่อยเกินไปแล้ว
“หึหึ...คุณหึงผมหรือเปล่า?” คำถามซื่อๆ เล่นเอาพระลักษมณ์หน้าเหวอไปทันที บ้าชะมัด..ถามไรเนี่ย..
ร่างโปร่งจนคำตอบจึงใช้วิธีเดิมเตรียมเดินหนี แต่แขนดันถูกรั้งไว้โดยเจ้าของคำถาม
“เอาละ ไม่ต้องตอบผมก็ได้ ความจริงผมพอรู้คำตอบแล้วละ ถ้างั้นผมจะใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ
สิตาออกมาเอง คุณคิดว่าไง?” ความคิดของปาจาทำเอาพระลักษมณ์ชะงักกึก ก่อนจะแหวออกมาอย่างไม่ทันระวัง
“มันอันตรายมากรู้ไหม สิตาตอนนี้เป็นครึ่งสัตว์ครึ่งคน หากทำร้ายคุณขึ้นมาจะทำยังไง” เผลอหลุด
ความในใจแสดงความเป็นห่วงจนออกนอกหน้า ทำเอาเจ้าคุ้มรูปหล่อฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาทันที
“ขอบคุณครับที่ห่วงผม นึกว่าคุณจะไม่ห่วงซะอีก” อดแหย่คนหน้าใสที่พอรู้ตัวดันหน้าแดงแปร๋ดซะงั้น
ทำเอาพระลักษมณ์นิ่งสนิทไปอีกรอบ
“คุณไม่ต้องกังวลหรอกครับ บอกผมเองไม่ใช่หรือไงว่าสิตาเค้ารักผมมาก เพราะงั้นเค้าคงไม่
ทำร้ายผมหรอก จริงไหม?” คำพูดของปาจามีเหตุผลด้วยสิ แต่ร่างโปร่งก็ยังอดกังวลไม่ได้ เพราะสิตาบอกเองว่า
หากได้ร่วมรักกับปาจาเมื่อใด เจ้าคุ้มรูปหล่อต้องตกเป็นทาสรักของจิตมารตลอดไป
“คุณรู้หรือไม่ว่าหากเผลอร่วมรักกับจิตมาร จะตกเป็นทาสของมันไปตลอด” พระลักษมณ์พูดจบ
ทำเอาปาจาอมยิ้มแก้มตุ่ยเข้าอีกแล้ว เช้านี้รู้สึกไม่ว่าตนจะพูดอะไรกลับทำให้เจ้าคุ้มอารมณ์ดีเป็นพิเศษ โดยที่คนพูด
ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าตนแสดงความรู้สึกส่วนลึกออกมาทุกครั้งทั้งแววตาและคำพูด
“ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมคงไม่มีอารมณ์แบบนั้นกับใครได้หรอก ต่อให้เป็นสาวสวยๆก็เถอะ
นับประสาอะไรกับสิตาในร่างครึ่งสัตว์ครึ่งคน คุณสบายใจได้เพราะตอนนี้หัวใจและร่างกายผม มันรู้สึกกับคุณเพียงคนเดียว”
หมดคำพูด นอกจากหน้าแทบระเบิดแล้ว พระลักษมณ์อยากถีบปีศาจรูปงามตนนี้ซะจริง ขยันทำให้ตนอายได้ตลอดสิน่า
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ชอบนะ เพราะหัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ปาจาหยอดซะงั้น เอาเหอะอย่างน้อยปาจาก็ใช่คนชอบพูดพร่ำเพรื่อ
แสดงว่าที่พูดมาต้องรู้สึกตามนั้นแล้วละ ไม่อยากบอกเลยว่าตอนนี้ นอกจากเขินจนหน้าร้อนฉ่าไปหมดแล้ว
ตนยังแอบดีใจพิลึก...จะบร้าตาย...วิษณุทรงพล แพ้ลูกหยอดของปีศาจตนนี้เข้าให้อย่างจัง.....??????
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
“อะไร? คุณยันต์” ธรรมตรัยหน้านิ่งถามกายันต์ขึ้นมาดื้อๆ จนคนถูกถามทำหน้านิ่วบ้างทันที
ตนรึอุตส่าห์ตอดนิดตอดหน่อยแกล้งเนียนเลื้อยแขนรวบกอดคนหน้าสวย ซึ่งนิ่งได้นิ่งดีเข้ามาในอ้อมกอด
ดันถามมาหน้าเย็นซะงั้น
“ก็กอดแฟนไง ถามแปลกหรือต้องให้แสดงมากกว่านี้ครับ” กายันต์จำต้องตีมึนตอบหน้าตายบ้าง
ได้ผลต่อให้เลขาเย็นชาที่เพิ่งเลื่อนฐานะเป็นสะใภ้รองของดงพญาจะนิ่งแค่ไหน ก็ยังมีเลือดเนื้อปกติไม่งั้นหน้าสวย
จะซับสีเลือดได้หรือ อาการนี้ทำเอากายันต์อดกดจมูกซับความนุ่มและความหอมบนแก้มเนียนไม่ไหว จัดเต็ม
“ฟอด!” ยังไม่หนำใจซุกไซร้ซอกคอขาวต่อทันที ทำเอาร่างสูงของเลขาหน้านิ่งทนเฉยต่อไม่ไหว
ต้องปรามอย่างไว
“เดี๋ยว!...นี่คุณกำลังจาบจ้วงผมอยู่นะคุณยันต์” มือไม้ก็คอยป้องกัน ดีนะที่อยู่ในห้องส่วนตัว
แต่ก็แย่เพราะมันล่อแหลมเกิน
“หืม...ผมทำกับแฟน ผิดด้วยหรือ” กายันต์ยังคงยึดคาแรกเตอร์ตีมึนตอบหน้าตายเหมือนเคย
งานนี้หากจะปราบพยศคนหน้านิ่งแสนชาเย็นก็ต้องใช้ไม้ตายตีมึนแบบนี้แหละ พร้อมกับยังคงซุกไซร้ร่างสูงในอ้อมแขน
ไม่หยุด ทำเอาธรรมตรัยเสียงสั่นต้องยอมอุธรณ์เสียงอ่อนออกมาจนได้
“อือออ...ผมเจ็บอยู่เลย รอหายก่อนได้ไหม?” พอเจ้าตัวพูดมาแบบนี้ กายันต์ก็กายันต์เถอะ
มีหรือจะใจแข็งต่อไปได้อีก น้อยครั้งจะได้ยินน้ำเสียงแกมขอร้องจากคนหน้าสวยแสนชาเย็น นี่ยอมลงทุนเสียงอ่อน
พาเอาใจอ่อนยวบเชียวละ
“หือออ..แต่ผมต้องการคุณนี่...ไม่เชื่อพิสูจน์ดูดิ” ไม่พูดเปล่า เอื้อมจับมือเรียวไปวางแหมะตรงเป้าตุง
ของตนเองเป็นการพิสูจน์เล่นเอาเจ้าของมือหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที
“คุณนี่มัน...ก็ไปจัดการตัวเองในห้องน้ำเอาสิ!” ธรรมตรัยอดโมโหไม่ได้ พอได้เสียกันแล้วรู้สึกกายันต์
จะหื่นใส่ตนซะจริง ไม่นับเมื่อคืนหลังทำพิธีจนหมดแรง พอรู้สึกตัวตื่นใกล้รุ่ง พ่อคนหื่นจัดถือโอกาสจัดให้อีกรอบหน้าตาเฉย
ไม่เกี่ยวกับพิธีกรรมสักนิด ไอ้ตนก็ดันเสือกไม่มีแรงต่อต้านเลยตามเลยตามน้ำไปกับเขาซะงั้น ที่น่าเจ็บใจให้ความร่วมมือเสียอีก
ถึงได้ระบมไม่หายตอนนี้ไง ที่ไม่กล้าไปเดินโทงๆต่อหน้าปาจากับพระลักษมณ์เพราะอายท่าเดินของตัวเองตะหาก
ถึงต้องหลบอยู่ในห้องแม้จะห่วงอาการคนถูกแทงไม่น้อยก็เถอะ
“ไม่เอา...มันไม่ได้รู้สึกดีเหมือนทำกับคุณนี่...เอางี้ผมไม่ทำตรงนั้นก็ได้ แต่คุณใช้ปากช่วยผมนะ
นะ..นะ..ผมสัญญาผมจะทำให้คุณด้วยเหมือนกัน” กายันต์พูดเหมือนขอกินขนม แต่สำหรับคนที่เพิ่งรู้จักการร่วมรักครั้งแรก
อย่างธรรมตรัยผู้ถือเพศพรหมจรรย์มากว่ายี่สิบแปดปี ตอนนี้หน้าจะระเบิดอยู่แล้ว สมองยังไม่ทันได้โต้ตอบก็ต้องพลาดท่า
ให้กับกายันต์เทพบุตรสุดหื่นจนได้ เมื่อปากหนาได้รูปบดจูบดูดกลืนความหวานในโพรงปากนุ่มปลุกอารมณ์ร่างสูงของ
เลขาชาเย็นอย่างไม่ต้องรอเอาคำตอบ...งานนี้หมดทางปฏิเสธ..ให้ตายเถอะ...ไม่คิดมาก่อนกายันต์จะนัวเนียกับตนไม่เลิก....
เฮ้อ!...เลขาหน้านิ่งแสนชาเย็นคงได้หลอมละลายเพราะไฟรักจากกายันต์เทพบุตรสุดร้อนแรงแล้วละคราวนี้.....??????????
มาต่อให้แล้วนะคะ ยอมรับว่าตอนนี้วุ่นวายมากมาย
ขอโทษที่มาต่อช้านะคะ จะพยายามไม่หายนานค่ะ
ขอบคุณทุกรีไพส์ ทุกกำลังใจ ทุกคะแนนบวก
รักคนอ่านทุกท่านเช่นกัน
Luk. :กอด1:
.
-
:z2:
เย้ๆๆ มาคนแรก
ได้ :z13: คุณลักด้วย
ตอนนี้พระลักษมณ์กับคุณเลขาน่ารักเนอะ
อย่างว่าคนอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน
จะดูอิ่มเอิบเป็นพิเศษ
:z1:
ขอบคุณที่ไม่ลืมคนอ่านค่า
:pig4:
-
คิดถึงๆ มาอัพแล้ว~
แค่ชื่อตอนก็ชอบแล้วอ่ะ 55.
ติดใจธรรมตรัยซะแล้วนะกายันต์ :o8:
-
o13 o13 o13
-
โอ๊ะ พี่น้องบ้านนี้ หื่นทั้งคู่เลย :z1: :m25:
-
:m25: :haun4:
สามคำให้สองเทพบุตร >> หื่น ต่อ ไป :laugh: ( นางฟ้าจะแอบดู )
-
หื่น จริงๆ นะคุณ กายันต์
-
เชื้อ "หื่น" ไม่ทิ้งแถว
แต่คนพี่ติดไข้ "หยอด" ไปอีกโรคด้วยแล้ว
เดี๋ยวสุดที่รักก็เป็นความดันทุรังสูงกันพอดี :laugh:
-
ถ้า2คู่จะหวานกันซะขนาดนี้ :-[ :-[ :-[
-
แอร๊ยยยยมาแล้วๆ
-
:pig4: :pig4:
-
ระวังสิตา :z4: :z4:
คู่สะใภ้รองนี้จะหื่นกว่าสะใภ้ใหญ่นะเนี่ย :jul1:
รอจ้า :call:
-
พี่น้องคู่นี้ "หื่น" จริงๆเลย
-
อย่าหวานจนลืมป้องกันตัวล่ะกัน
-
พี่น้องเหมือนกันเด๊ะเลย :เฮ้อ:
:L2: :L2:
-
พี่น้องคู่นี้ เห่อ"แฟน"จริงๆเลยน้า~~~
-
ทั้งคู่เลยยยยยยยยยยยยย o13 :z2:
-
หื่นทั้งพี่ทั้งน้องเลยบ้านนี้ :-[
-
แวะมาเป็นกำลังใจเหมือนเคยคร้าบ มีปัญหาอะไรก็ค่อยๆแก้กันไปเนอะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีละกันครับ o13
-
นั่นไง หลงธรรมตรัยอย่างหนักเลยนะกายันต์
รอว่าสิตาจะมารูปแบบไหน ลุ้นๆ
-
:o8:ว้าว ได้อ่านตอนนี้หละชื่นใจจัง
-
แอบสงสารธรรมตรัย
มีแฟนหื่นแบบนี้ คงได้แต่ทำใจแล้วละค่ะ
ส่วนคู่พี่ อย่าให้น้อยหน้าคู่น้องละ
-
:o8: น่ารักทั้งสองคู่
-
หายไปร่วม 10 กว่าวันได้ :-[ 5555+ เค้ารออ่านอยู่นะ
พระลักษณ์(เขียนถูกไหม๊นั่น) กับ ธรรมตรัย จะน่ารักอะไรอะไรอย่างนี้ ส่วนพี่น้องเจ้าของคุ้ม ก็หื่นกันได้โล่ซะจริง 5555+
-
:z1:
ชอบทั้งสองคู่เลยยยย หวานและหื่น
เหลือก็แต่มานข้ามเพศแบบสิตาเท่านั้น
บวกเป็ดให้ค่ะ
-
กายันต์อ้อนได้น่ารักมาก ธรรมตรัยก็น่ารัก อิอิ
-
มาแล้วๆ
-
หื่นมากคุณยันต์ สงสารธรรมตรัยเสียแล้วสิเนี่ย
-
:sad4: ทำไมมองไม่เหงเลยอะค่ะ
-
เห่อเมียทั้งพี่ทั้งน้อง แถมหื่นเป็นกรรมพันธุ์ด้วย
-
โอ้ว,,,สมกับที่เป็นพี่น้องกันเลย อิอิ
-
พี่น้องบ้านนี้สุดยอดเลย
คนพี่ก็ขยันหยอดจนมดขึ้น
คนน้องก็ขยันหื่นจนเลือดท่วมจอ
:jul1: :jul1: :jul1:
-
:L2: :pig4:
-
ชอบคู่กายันต์จริงๆ 55
-
กายันต์ แกจะหื่นกว่าพี่ชายแล้วนะ ฮ่าๆๆ
ขอบคุณมากๆครับที่มาต่อ :pig4:
-
สมเป็นพี่น้องกันจริงๆ ดีกรีความหื่นไม่มีใครยอมใคร :z1: :z1: :z1:
-
กายันต์ จะหื่นไปไหนค่ะเนี้ย
สงสารคุณเลขาบ้างอะไรบ้างนะค่ะ
-
ชอบกายันต์กับธรรมรัตน์อ่ะ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
คนบ้านนี้
:-[
-
โหตระกูลนี้หื่นทั้งพี่ทั้งน้องเลยเเต่เค้าชอบ :impress2:อ๊ายน่าร๊าก
-
เพิ่งมาตามอ่าน กรี๊ดดดดดด สนุกมาก ชอบๆ
ถ้าเอาวันเกิดพระสักษมณ์ไปแทงหวงก็เฮงเลยนะคะ 777
แต่อิสิตานี่มันแรดปนร่านจริงๆ ยอมเป็นสตรีมีรูแทน อินี่น่ากลัว
เห็นที คนที่ได้กำไรสุด คงไม่พ้น สองพี่น้องดงพญา เปรมแน่นอน
-
ผู้ชายบ้านนี้หื่นกันจริงจริง อิจฉาอะ
-
หื่นได้โล่ห์ทั้งพี่ทั้งน้องเลย o13
-
แหม พากันหวานทั้งคุ่พี่คู่น้องเลยนะ
-
เพิ่งเคยอ่านเรื่องนี้ เนื้อหาน่าสนใจมากค่ะ แถมมีเอ็นซีเรียกเลือดเป็นระยะ :bye2:
-
:-[เจ้าเล่ห์จริงเจ้าคุ้มปาจา ทำพระลักษณ์หลุดคำพูดซะหมด o13
ส่วนกายันต์ก็หื่นจริงอะไรจริงนะ ธรรมตรัยเค้าอินโนเซ้นต์อยู่นะค่อยๆสอนดิ :haun4:
-
:o8: :-[
โอ้ว....ทั้งพี่ทั้งน้องเลย..555
o13
+ เป็ดให้จ้า....
-
:m25: :m25: :m25:
-
หื่นทั้งพี่ทั้งน้อง
-
:z1: บ้านนี้หื่นทั้งพี่ทั้งน้องเลย
-
สงสารคุณเลขามั่งก็ได้นะกายันต์...เจ็ดเต็มกันเลยทีเดียว
-
เจ้าคุ้มนี่ใช้งานพระลักษณ์ได้คุ้มค่ามาก
-
อยู่กับกายันต์ ธรรมตรัยคงเก๊กหน้านิ่งไม่ไหว โดนรุกตลอดๆนิ :laugh:
-
เย้! ในที่สุดก็มาซะที รอเป็นหมาหอบเลยเรา สั้นอะ ขอยาวกว่านี้ตอนหน้านะจ๊ะคนเขียนคนดี :call:
-
หื่นกันทั้งพี่ทั้งน้อง :z1:
-
คุณเลขาน่ารัด เอ้ย น่ารักมาก
แอบสงสารแต่ไม่เห็นใจหรอกนะ ฮ่าๆ
(โบกธงกายันต์อยู่หน้าคุ้ม)
เจ้าคุ้มเดี๋ยวนี้หวานไม่แคร์คนอ่านเลยนะคะ
คยอ่านก็เขินกับพระลักษมณ์เมือนกันเถอะ
-
ในที่สุดก็ได้อ่าน หื่นสมชื่อตอนจริงจริ๊ง ชอบบบบบ
:haun4: :z1:
-
หื่นมาก หื่นทั้งคู่เลย :a5:
-
อร๊าย ย ยย ยย ย!!(?) :-[ :-[
มาเเล้วๆ ๆ ๆๆๆๆ> <"
รอน่ะฮะ
-
หื่นทั้งพี่ทั้งน้องเล้ยยยยยยยยยยยยยยยย
-
หื่นแถมหลงเมียทั้งพี่ทั้งน้องอีก :laugh:
-
ตามอ่านจนทัน อิอิ
รอตอนต่อไปจ้าาาาา :3123:
-
:z1: อิอิ
หวานปนหื่น
-
:o8: เขินแทนธรรมตรัยอะ
เมื่อไรจะเลิกทำหน้านิ่งซะที
-
:m25: :m25: :m25:
-
พี่น้องหื่นพอกันเลย :laugh:
-
:z13:จิ้มๆๆ :z13:
-
ไม่หึงเล๊ย ไม่หึงสักนิดนะ จะบอกให้
ก็แค่หวง และห่วงอ๊ะ
แหมใครจะไม่ละ
คุณรู้หรือไม่ว่าหากเผลอร่วมรักกับจิตมาร จะตกเป็นทาสของมันไปตลอด :oni3:
ต้องกันไว้ ไม่ได้หรอก แค่ครั้งเดียวเกิดติดใจของแปลก
-
ถือซ่ะว่าเป็นการทบทวนบทเรียนละกันนะธรรมตรัย
-
น่ารักไม่ไหวแล้ว ถ้า พระลักษณ์ไม่บาดเจ็บคงไม่รอดปาจาใช่ไหมเนี่ยะ
ขนาดกายันต์ยังหื่นใส่คุณเลขาเลยอ๊ะ วิ้วๆๆๆ
-
หื่นจริงๆเลย :z1:
-
ธรรมตรัยน่ารักอ่ะ
แล้วจะทันเล่ห์เหลี่ยมของอีกฝ่ายไหมเนี้ย
เชี่ยวชาญระดับอาจารย์มหาวิทยาลัยขนาดนั้น
ปล. หนังสือเพราะรัก มาเดือนธันวา ดีมากๆ เลยคะ ช่วงนี้ยุ่งมาก
สถานการณ์นี้ก็ยังไม่น่าวางใจ
-
ชอบคุณน้องจังอ่ะ
คุณเลขา เจอความหื่นเข้าไป
ความนิ่งหายไปหมดแล้ว 5555
-
หื่นกันจีจีเลย :-[
-
เดียวขอทำพิธีแจกโล่ ให้เทพบุตร หื่น
กร๊าก กร๊าก กร๊าก
-
:o8: :o8: หวานแข่งกันเลยสองคู่พี่น้อง
-
:z1: :z1: :pighaun: :pighaun: :m25: :m25:
-
o13 o13
เป็นการอ่านนิยายที่เหนื่อยมากกกก
เหตุเพราะเจอ NC เข้าไปแต่ละตอน
ต้อง :jul1: :jul1: :jul1: ต้องมานั่งซับเลือดที่
เปื้อนไว้ ฮ่า ๆ o18 :laugh: อ่านรวดเดียวเลยทีเดียว
พี่ Lux สู้ ๆ รออ่าน ๆ อัฟเร็ว อัฟ ไวเราขอหั้ยคุนพีสวยวันสวยคืน :call: :call:
-
2 คู่ ชู้ชื่น
ชอบๆ
-
:impress2:เค้าอยากใด้ฉากหวานของพระลักษ์กับปาจารอรอรอออ :กอด1:
-
ซะแว้บแอบดู ผุดๆโผล่ๆ ว่ามายังค้าาา
-
:z2: :z2: :z2:
:m22: มาดู มายัง อิอิ
-
มนต์มาร
Part 23
ร้อน..แรงตอดตลอด!!!.
.
.
.
.
วันนี้พระลักษมณ์ได้รับการตัดไหมออก
แผลแห้งสนิทรู้สึกเสียดบ้างจี๊ดๆ แต่ไม่เจ็บไม่ปวดเท่าไหร่ ยอมรับว่าเจ้าคุ้มรูปหล่อดูแลเอาใจใส่ดีมากๆ
คอยล้างแผล เช็ดตัวให้ช่วงที่แผลห้ามโดนน้ำ รวมถึงดูแลเรื่องอาหารจัดยาให้ทานตามเวลาอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
กอปรกับร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แผลของพระลักษมณ์จึงสมานตัวได้รวดเร็วกว่าคนปกติ
ระหว่างที่พักรักษาตัว บรรยากาศภายในเรือนไทยของคุ้มดงพญา อบอวลไปด้วยความสุขของคู่รัก
ทั้งกายันต์และเลขาเย็นชาหน้านิ่ง ที่บัดนี้ขยันหน้าแดงหูแดงง่ายเหลือเกินยามถูกกายันต์เหย้าแหย่ตอดเล็กตอดน้อย
ธรรมตรัยก็ธรรมตรัยเถอะตายเพราะลูกม่อหน้ามึนของกายันต์เสียสนิทศิษย์โรงเรียนกายันต์ไปเลย
ส่วนปีศาจรูปงามซึ่งมีร่างแฝงของซาตาน ดันสวมวิญญาณเอ็มมานูเอลเทพบุตรรูปหล่อ เอาอกเอาใจ
พระลักษมณ์เสียจนร่างโปร่งไปไม่เป็นเหมือนกัน ยอมรับว่าไม่เคยมีใครดูแลเทคแคร์ให้ขนาดนี้ ซอกหลืบส่วนเร้นลับ
ปาจาไม่ยักรังเกียจกลับทำความสะอาดให้อย่างปราณีตบรรจง เล่นเอาคนหัวดื้อที่ต่อต้านจะทำด้วยตัวเองแต่ดันถูกปฏิเสธ
ได้แต่หลุบตาหลบเม้มปาก หน้าแดงไปตามระเบียบ ดีนะที่ผ่านช่วงวันเวลาเหล่านั้นมาได้อย่างไม่บอบช้ำอะไร
ขืนยังไม่ได้ตัดไหมแถมต้องงดอาบน้ำเหมือนเดิมละก็ พระลักษมณ์คงขายหน้ามากกว่านี้จนไม่เหลืออะไรแล้วมั้ง
นึกโมโหทั้งตัวเองแอบกร่นด่าเจ้าคุ้มรูปหล่อไปพร้อมกัน ทุกครั้งที่เช็ดตัวตนดันเกิดอารมณ์อย่างว่าขึ้นมาเสียนี่
ไอ้น้องชายไม่รักดีเสือกผงกหัวชี้โด่ซะงั้น ยังจำคำพูดของปาจาที่หยอกกลับมาว่า
“หึหึ...แข็ง..แรง...ดีจังเนอะ”
ทำเอาพระลักษมณ์ซึ่งหน้าแดงเป็นทุนอยู่แล้วถึงกับแดงแปร๋ดจนแทบระเบิด อยากกระโดดขบหัวไอ้คน
กวนโมโหที่กำลังเช็ดตัวให้ซะจริง เพราะใครเล่าเว้ย!..เสือกป้วนเปื้อนเช็ดแต่แถวนั้นนั่นแหละ นี่เป็นเพียงเหตุการณ์
เล็กๆ น้อยๆ ของสองคนเค้ากุกกิ๊กกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
“นมกับหนูผา พร้อมแล้วใช่ไหม?”
เจ้าคุ้มถามนมอ่อนระหว่างทานผลไม้ปิดท้ายมื้ออาหารเย็น ส่วนหนูจันทน์ผามองหน้าคุณพ่อสุดหล่อแล้วส่งยิ้ม
ใสซื่อให้แทนการตอบรับ
“เรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้เช้าเดินทางได้เลยค่ะ” นมอ่อนตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ของฝากจากไร่ นมอย่าลืมเอาติดตัวไปฝากท่านด้วยนะครับ” ปาจากำชับ คำพูดของปาจา
ที่โต้ตอบกับนมอ่อน คงมีแต่พระลักษมณ์ที่ขมวดคิ้วมุ่นเพราะไม่เข้าใจว่าคุยเรื่องอะไรกัน แต่ก็ไม่อยากเสียมารยาท
แทรกถาม หากเจ้าของเรื่องไม่ยินดีจะบอก ทั้งที่ในใจหงุดหงิดพิลึกเหมือนตนเป็นส่วนเกินซะงั้น ชำเลืองมองกายันต์
กับธรรมตรัย เล่นหน้าชื่นมื่นมีความสุขไม่สนใจใคร อยู่ในโลกส่วนตัวกันไปแล้ว นึกดูอีกทีเหมือนทั้งคู่รู้มาก่อนว่าที่ปาจา
คุยกับนมอ่อนพูดถึงเรื่องอะไรกัน กลายเป็นว่าตนเอ่อแดกอยู่คนเดียว ความรู้สึกไม่ได้เป็นส่วนร่วมพาเอาพระลักษมณ์
รู้สึกโหวงวูบในอกพิกล...
“นมจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ ให้นมบอกกับท่านว่าอย่างไรไหมค่ะ?” นมอ่อนถามเจ้าคุ้มกลับ
“ผมฝากนมบอกท่านด้วยว่า เสร็จธุระทางนี้เรียบร้อยแล้ว ผมจะไปกราบท่านด้วยตนเอง” ปาจาบอก
ด้วยแววตาจริงจัง จนพระลักษมณ์อยากรู้ตะหงิดๆ ท่านที่ทุกคนกล่าวถึงคือใครกัน ปีศาจรูปงามตนนี้ถึงได้เกรงใจเป็นพิเศษ
แต่คงได้แค่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ เพราะตนไม่กล้าเสียมารยาทแทรกถามด้วยสิ แลดูจะไม่เหมาะ
อย่างที่บอกเมื่อเจ้าภาพไม่ยินยอมให้รู้ก็คงได้แต่เก็บงำความอยากรู้เอาไว้ ว่านมอ่อนจะไปไหน ไปพบใคร? ความสงสัยนั้น
ยังคงค้างคาใจไม่ได้รับความกระจ่าง
หลังจากพระลักษมณ์อาบน้ำเรียบร้อยนอนดูทีวีอยู่บนเตียง ในขณะที่ปาจากำลังอาบต่อจากพระลักษมณ์
พอเสร็จเรียบร้อยเปิดประตูเดินออกมา ร่างสูงใหญ่สวมชุดนอนเสร็จสรรพ ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างตน
จนไหล่เกยกันอย่างเจตนาเห็นๆ
“หึ...ไม่นอนทับผมเลยล่ะ?” พระลักษมณ์พูดแกมประชด นั่นสิตัวก็สูงใหญ่ดันเสือกเบียดจนจะทับตนแล้ว
ที่ก็ออกจะกว้างเตียงก็ไม่ใช่เล็กๆ
“หืม...ได้จริงดิ..งั้นผมไม่เกรงใจนะ” พูดจบร่างสูงใหญ่ถือโอกาสคล่อมทับร่างโปร่งอย่างไม่ให้ตั้งตัวทันที
“เฮ้ย!..อะไรของคุณเนี่ย..จะบ้าหรือไง” พระลักษมณ์โวยวาย เพราะปาจาดันตีมึนไม่เข้าใจ
ว่าตนพูดประชดซะงั้น
“อ้าว! คุณบอกผมเองว่าให้ทับได้ ผมกำลังทับอยู่นี่ไง..ทั้งทับทั้งประกบแนบแน่น
ไม่ให้มีช่องว่างเลยหละ..ดีไหม?”
“ดีกะผีอะไรเล่า..ลุกดิ” ยิ่งปาจาทำไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่แววตากรุ่มกริ่มจนพระลักษมณ์อยากถีบร่างใหญ่
กระเด็นตกเตียงให้เดี้ยงไปเลย ติดตรงที่ตนโดนกักไว้ใต้ร่างหนาทำอย่างที่คิดไม่ได้ ทักษะการเซฟตัวของปาจาไม่ใช่ขี้ๆ
รู้ดีว่าต้องบล็อกส่วนไหนร่างโปร่งหน้าใสที่โดนกดไว้ ถึงไม่สามารถพยศได้ตามต้องการ
“อรึ้ย!...ให้ตายเหอะ อย่าทำตีมึนไม่รู้ว่าผมประชดนะคุณจา..เล่นซะเกยทับผมอยู่ร่อมร่อแล้ว ผมถึงได้พูด
ไปแบบนั้น ใครเค้าหมายความตามที่พูดกันเล่าเว้ย!” พระลักษมณ์สบถเสียงดัง ออกอาการหงุดหงิดแบบไม่ต้องปิดกันเลย
ในขณะที่ต้นเหตุดันกลั้นขำปั้นหน้านิ่งแอบสุขใจที่ได้แกล้งร่างโปร่งให้ดิ้นกระแด่วๆ โดยไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าตวาด
เสียงแข็งเพียงอย่างเดียว พานคิดอีกด้วยว่าหากปิดปากแดงๆ ที่กำลังจ้อให้สิ้นเรื่องไปซะ พระลักษมณ์จะเอาอะไรมาโวยได้อีก
ถึงตรงนี้ปาจาไม่รอให้เสียเวลา ฉวยโอกาสกดปากหนาได้รูปปิดปากสีสดของร่างโปร่งอย่างได้จังหวะพอเหมาะเสียจริง
พร้อมสอดลิ้นเข้าโพรงปากนุ่มอย่างไม่ยากเย็นเนื่องจากเจ้าตัวกำลังอ้าปากตั้งท่าผรุสวาทใส่ตนอีกรอบ
“อุ๊บ...อื้ออออ!!”
ด้วยชั้นเชิงที่เหนือกว่าทั้งรูปร่าง พละกำลังรวมถึงประสบการณ์และลีลา แรงขืนของพระลักษมณ์ค่อยๆ แผ่วลง
จนกลายเป็นอกกระเพื่อมไหวหายใจแทบไม่ทัน เมื่อพบกับบทจูบดูดวิญญาณของปีศาจรูปงามตนนี้
“อ๊า....ฮาาาา!!!”
พระลักษมณ์เพิ่งมีจังหวะโกยอากาศเข้าปอดเมื่อปาจายอมถอนปากออกให้ ร่างข้างใต้หน้าแดงก่ำลามไล้ไปยัง
ใบหูจนถึงลำคอขาว ยิ่งเห็นยิ่งกระตุ้นเลือดลมของเจ้าคุ้มให้ฉีดพล่านทั่วร่าง ยอมรับว่าตนได้อดทนอดกลั้นที่จะไม่กลืนกิน
ร่างโปร่งยากเย็นแค่ไหน ยามที่ต้องดูแลเช็ดตัวให้พระลักษมณ์ ให้ตายเหอะปาจายอมรับกับตัวเองว่ามันช่างเป็นด่านพิสูจน์
กำลังใจที่เยี่ยมยอดยิ่งนัก เมื่อฝ่ามือใหญ่ต้องคอยจับผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดไล่ไปตามร่างเปลือยขาวเนียนแน่นตึงไปด้วย
กล้ามเนื้อสวยงามภายใต้อุ้งมือหนาของตน ยิ่งก้นกลมได้รูปนั่นยิ่งแล้วใหญ่ พาเอาหัวใจของตนเต้นระบำจนแทบทะลุอก
เฉปั้นหน้านิ่งทำเนียนไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่ได้สัมผัส ที่ไหนได้พอพ้นจากนั้นต้องพุ่งเข้าห้องน้ำทำร้ายตัวเองประจำ
ช่างเป็นเรื่องหน้าอายเสียจริงที่คนอย่างเค้าต้องมาทำอะไรแบบนี้
จะโทษก็ต้องโทษพระลักษมณ์นั่นแหละ ดันมีอิทธิพลกับความรู้สึก หัวใจและร่างกายตนจนไม่
เป็นตัวของตัวเองทุกครั้งที่ได้สัมผัส ความรู้สึกนี้ยากจะอธิบายให้ใครเข้าใจได้ หากไม่เจอเข้ากับตัวไม่รู้หรอกว่า
มันทรมานแค่ไหนเมื่อเห็นคนที่รักนอนเปลือยกายอยู่ตรงหน้า แต่ไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากเค้ากำลังเจ็บอยู่
ถึงบอกว่ามันช่างวัดความอดทนและฐานกำลังใจของปาจาเสียยิ่งกว่าที่เคยฝึกมาเสียอีก เพราะฐานนี้ร่างกายคนถูกทดสอบ
ดันทรยศเกือบพลั้งมือจับคนน่าฟัดกดเสียหลายต่อหลายครั้ง พอถึงตอนนี้ใครจะอดใจไหวเมื่อสภาพร่างกายของคนหล่อ
หน้าใสหายดีเกือบเต็มร้อยแล้ว ขอรางวัลแห่งความอดทนของตนคืนหน่อยเถอะ....
“หึ...คุณช่างกระตุ้นอารมณ์ผมจริงๆ รู้ตัวบ้างไหม?” คำพูดตรงๆ ไม่ได้บ่งบอกว่าล้อเลียน
แม้แต่น้อยทั้งน้ำเสียงและแววตา ทำเอาพระลักษมณ์ซึ่งกำลังเรื่อสีแดงไปทั้งหน้าตาหูเหอ ถึงกับอยากจมหายไปในฟูก
ไม่ต้องเจอสายตาคมเข้มวิบวับเปล่งประกายเหมือนกับพูดได้ของปีศาจตนนี่เสียจริง เมื่อทำอะไรไม่ได้ขอเลือกเม้มปาก
หลุบตาหลบดื้อๆ ซะงั้น หารู้ไม่ว่ายิ่งกระทำแบบนี้มันยิ่งล่อแหลมเชิญชวนมากแค่ไหน...
“หึหึ...ขอผมนะ...ไม่ไหวแล้วจริงๆ” พูดจบฉกปากจู่โจมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ พระลักษมณ์เหมือนกับ
ระวังตัวไว้ก่อนแล้ว รีบเบือนหน้าหลบทำให้ปากหนาได้รูปพุ่งผิดเป้าไถลโดนข้างแก้มแทนที่จะเป็นปากนุ่มสีสด
จนแทบกลืนกินนั่น
“อืออออ...เดี๋ยวๆ!...อย่าเพิ่งดิ...คุยกันก่อน” พระลักษมณ์รีบเอ่ยปากต่อรองด่วนจี๋ ขืนชักช้า
ได้เรียบร้อยเค้าแน่ ยอมรับร่างกายของตนก็แสนทรยศเจ้าของ เสือกตอบรับซะออกนอกหน้า....อยากจะบ้าตาย
“หือ...คุยอะไรอีกครับ...เสร็จแล้วค่อยคุยก็ได้” ปาจายังไม่ยอมหยุด ปากก็พร่ำตอบในขณะที่ยัง
คงซุกไซร้กดจมูกฉกริมฝีปากไปทั่วแก้มใส ไล่ละมาถึงซอกคอขาวที่อมชมพูชวนให้ใจซ่านหวิวสุดๆ
“อ๊ะ!..เอร้ยยย!..ถ้าคุณไม่หยุดผมโกรธจริงๆ แล้วนะ..อ่าๆ!”
สติแทบหลุดปลิวในหัวเบลอไปหมด ให้ตายทำไมปาจาถึงได้ร้อนแรงปานนี้ว่ะ..ทุกสัมผัสที่ประทับตรา
ยังกะโดนเหล็กร้อนนาบลงไปตรงพื้นผิวเสียนี่ คำขู่ของพระลักษมณ์เหมือนจะได้ผล แต่ปีศาจรูปงามยังคงวกริมฝีปากหนา
บดจูบดูดความหวานในโพรงปากนุ่มอย่างพอใจก่อนยอมถอนออกให้
“ที่ผมยอมให้ ไม่ได้แปลว่ากลัวคุณโกรธ เมื่อคุณยื่นคำขอว่าให้คุยกันก่อนแสดงว่าหลังจากคุยเสร็จ
ก็ต่อได้..จริงไหม?” นรกแล้วนั่น...ฟังปีศาจพูดเข้าหน้าตายได้อีก แต่ร่างข้างใต้ก็จนปัญญาหาคำมาโต้แย้ง เพราะตนดันพูด
แบบนั้นจริงๆ ใครจะไปทันคิดว่าปีศาจเจ้าเล่ห์จะฉวยโอกาสเอามาเป็นข้ออ้าง
“ปัดโถ่!..คุณนี่มันโคตรเจ้าเล่ห์เลยนะ ผมเพิ่งรู้ไม่งั้นอย่าหวังว่าจะยอมรับแหวนคุณไว้
รับปากเป็นแฟนเลยเหอะ...ให้ตายสิ” เมื่อหาคำโต้แย้งเถียงกลับไม่ได้ เลยว่าแดกแทนซะเลย แต่หาได้สะทกสะท้าน
คนโดนไม่ ยังหน้านิ่งจ้องตาคมวิบวับเข้าใส่ ขยันทำให้ร่างโปร่งหน้าใสใจเต้นจนกระเด็นกระดอน นึกถึงตรงนี้
พระลักษมณ์อดเหน็บอีกไม่ได้
“ถามจริง..คุณเคยรู้สึกอะไรบ้างไหม ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหนทำไมถึงได้หน้านิ่งหน้าทนขนาดนี้
มีหัวใจหรือเปล่าเนี่ย” ปาจาเกือบหลุดขำกร๊าก!..แล้วจริงๆ ทำไมตนจะไม่รู้สึก ทนปั้นหน้ากลั้นขำแทบตาย คนพูดช่างไม่รู้
อะไรเลยยังมีหน้ามาว่าตนอีก ทั้งที่ตัวเองเป็นต้นเหตุขยันทำตัวหน้ารักซะจริง ยิ่งเหวี่ยงยิ่งน่ารักสุดๆ และแล้วปาจาก็หลุดขำ
จนได้ เมื่อพระลักษมณ์ดันถลึงตาแยกเขี้ยวเข้าใส่ขึ้นมาดื้อๆ ซะงั้น
“ฮะ..ฮ่าๆๆๆๆ..ทำไปได้..รู้ตัวไหมนั่น..คุณยิ่งทำยิ่งยั่วผมหละ” โอ้ยอยากจะบ้า!...เอากะเค้าดิ..
ไม่ว่าจะทำอะไรปาจาดันตีความไปแต่เรื่องนี้หมด พระลักษมณ์นึกอยากเอาหัวโขกผนังให้ระเบิดไปเลย ดีกว่ามาทนโดนกด
ไว้ใต้ร่างแถมปีศาจบ้าพลังยังม่อไม่เลิกแบบนี้ ไม่ต่างกับหน้าร้อนแทบระเบิดเลยสักนิด
“ผมถามตอบให้ตรงคำถามสิโว้ย!..แล้วเลิกทับได้หรือยัง อึดอัดนะ” กลับเป็น ‘วิษณุทรงพล’
ต้องมาออกท่าทางง่องแง่งเหมือนเด็กตวาดคนร่างใหญ่อย่างไร้ทางสู้ซะงั้น ขืนคนในหน่วยมาเห็นตนสิ้นท่าแบบนี้
คงได้เอาไปพูดกันสนุกปาก
“ถามว่าไงนะ..ขอทวนคำถามก่อน อ๋อ!..ที่บอกว่าผมมีหัวใจหรือเปล่านะหรือ...ไม่ตอบดีกว่า
คุณลองพิสูจน์ดูเองสิ” พูดจบปาจาไม่รอให้พระลักษมณ์ตั้งตัว รวบกอดพลิกเอาร่างโปร่งข้างใต้ขึ้นมาซ้อนทับอยู่บนตัว
แทนซะงั้น ภาพตอนนี้กลายเป็นร่างสมส่วนของพระลักษมณ์นอนทับไปบนร่างสูงใหญ่ของปาจาในขณะที่อ้อมแขนแกร่ง
ทรงพลังยังคงกอดกระชับรัดคนขี้พยศไว้ไม่ยอมปล่อย
สำหรับพระลักษมณ์ก็ยังดีกว่าที่ต้องโดนกดไว้ใต้ร่าง แต่ที่หนักกว่าคือตอนนี้ใบหน้าใสของตนดันห่าง
จมูกโด่งเป็นสันของปีศาจเอาแต่ใจไม่ถึงคืบ ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง เลยต้องดิ้นขลุกขลักเฉเอาหูแนบบนอกซ้ายของปาจา
แก้เขินจนหน้าแทบไหม้ ในขณะที่อกข้างซ้ายของตนเต้นไม่หยุดตั้งแต่ปาจาหาเรื่องคล่อมทับ อยากรู้เหมือนกันว่าก้อนเนื้อ
ในอกซ้ายของปาจาจะเป็นแบบเดียวกับตนไหม ขอจับอาการปีศาจหน้าตายหน่อยเหอะ...
ต่อด้านล่าง
-
o1 o1 o1 o1 o1 o1 o1 o1 o1 o1
-
- 2 -
ท่าทางแก้เขินโดยทำเป็นเบี่ยงเอาหูแนบกับอกซ้ายของปาจาแทน
ในขณะที่หน้าใสหล่อกระชากใจของพระลักษมณ์แดงก่ำไปหมดทั้งคอทั้งหู ยิ่งแทบทำให้ปีศาจรูปงามอยากฟัด
ร่างกายที่เนียนแน่นกลิ่นหนุ่มชวนมึนของพระลักษมณ์ให้หนำใจเสียจริง ไม่รู้เลยสิว่าตอนนี้ปีศาจตาเดียวของตนมันแข็ง
ชีพจรเต้นตุ๊บๆ ผงกหัวหงึกๆ ภายในชุดนอนจวนจะระเบิดอยู่แล้ว ให้ตายสิ...พระลักษมณ์ช่างมีอิทธิพลกับความรู้สึก
ทางเพศกระตุ้นอารมณ์ตนจนกลายเป็นปีศาจหื่นกามไปแล้ว
“เฮ้ย!..ทำไมผมไม่ได้ยินเสียงหัวใจคุณเต้นเลยเนี่ย!..ประหลาดแล้ว..มิน่าคนอย่างคุณ
มันไร้หัวใจนี่เอง” คำพูดของพระลักษมณ์ มาพร้อมกับอาการตาโตปากแดงเจ่อสีสดกำลังบริภาษปาจาด้วยนั้น
ทำเอาเจ้าคุ้มรูปหล่ออดขำออกมาจนได้ มันช่างเหมือนคนหัวดื้อที่กำลังออกอาการโมโหหงุดหงิดได้น่ารักจริงๆ
“ฮ่าๆๆๆๆ..คิดไปได้ ผมเป็นคนนะ..ไม่มีหัวใจได้ไง..มานี่มะ..ผมจะให้คุณพิสูจน์ใหม่” พูดจบ
ปาจาถือโอกาส ใช้มือหนาเพียงข้างเดียว จับท้ายทอยของพระลักษมณ์อย่างเบามือก่อนจะกดให้แนบลงทางอกขวา
แล้วให้อยู่นิ่งๆสักพัก เล่นเอาพระลักษมณ์หน้าเหวอตาโตเข้าไปใหญ่ รีบดันมือตะเกียกตะกายขึ้นนั่งเหมือนเป็นเรื่อง
มหัศจรรย์พิลึกพิลั่นเข้าให้ ก่อนพูดรัวเร็วกลับมาว่า
“เฮ้ย!..นี่อย่าบอกว่าคุณมีหัวใจอยู่ข้างขวา..ใช่ไหม?..หัวใจคุณอยู่อกขวา” ความตื่นเต้นของพระลักษมณ์
ที่เจ้าตัวแสดงออกมานั่น เรียกรอยยิ้มกลั้นขำของปาจาอย่างนึกเอ็นดู ไม่ว่าพระลักษมณ์จะแสดงท่าทางแบบไหน
เหมือนเด็กซนๆ ที่สอดรู้สอดเห็นเสียจริง
“อืม..” ปาจาพยักหน้าตอบรับเสียงในคอ ปั้นหน้ากลั้นขำอย่างเอาเป็นเอาตายต่อไป
“ว่าแล้วเชียว...คนปกติเค้ามีหัวใจอยู่ด้านซ้าย มิน่า..ปีศาจหน้าตายอย่างคุณถึงมีหัวใจอยู่อกขวา...
เหอะ..ปีศาจชัดๆ” ประโยคทิ้งทวน ดันสรุปเองเบ็ดเสร็จ ปาจาอยากกดจูบปิดปากช่างพูดสีสดนั่นจัง...
“ช่างคิดเนอะ..ถ้าหากผมเป็นปีศาจจริงๆ คุณจะไม่รับเป็นแฟนหรือ...หืม” แต่ปาจาก็เรียกเลือดวิ่งขึ้นหน้า
พระลักษมณ์อีกจนได้ เพียงคำพูดง่ายๆ ไม่ซับซ้อนแต่กินความหมายลึกซึ้ง ถือเป็นการทดสอบจิตใจของพระลักษมณ์
อีกต่างหาก คนฉลาดอย่างพระลักษมณ์มีหรือจะไม่เข้าใจ ลองตอบไปสิว่าไม่รับ...ตนได้กลายเป็นคนมองโลกในแง่ลบ
ใจแคบไปทันที แล้วจะเหลือทางเลือกให้ตอบอีกหรือไงเล่า...กรรม..ไอ้ปีศาจตนนี้มันโคตรฉลาดแกมโกงเลยจริงๆ
ให้ตายเหอะ...??
“อย่ามาขุดหลุมล่อ เพื่อจะให้ผมโง่ตอบอย่างที่คุณหวัง แล้วดูถูกจิตใจรวมทั้งความคิดของผม
ว่าเป็นคนใจแคบตัดสินอย่างไม่เป็นธรรมเสียให้ยาก ผมไม่แคร์หรอกไม่ว่าจะมนุษย์หรือปีศาจ ขนาดคุณเป็นผู้ชาย
แล้วยังมาทำกับผมแบบนี้ ผมยังยอมให้ทั้งที่ไม่เคยนึกพิศวาสผู้ชายมาก่อน ยังไม่เป็นการพิสูจน์อีกหรือไง?”
คำตอบของพระลักษมณ์เรียกรอยยิ้มกว้างจนปากแทบฉีกของปาจา แม้แต่คนมองอย่างพระลักษมณ์เองยังตะลึงตาค้าง
ใจเต้นตึกๆตักๆ เอ่อ..เอากับเค้าดิ ดันปล่อยฟีโรโมนเข้าใส่ตนซะงั้น แค่นี้หัวใจพระลักษมณ์ก็เต้นกระหน่ำยังกะ
ออกกำลังติดต่อกันสิบชั่วโมงไม่ได้พักเลยด้วยซ้ำ จะบ้าตาย...
“รู้หรือเปล่า...คำพูดคุณทำให้ผมมีความสุข” อร๊ากกก!!..อยากทำอะไรกับผมตามสบายเลยคุณจา
เล่นทั้งหยอดทั้งปล่อยฟีโรโมนเข้าใส่แบบนี้ ต้องการอะไรเอาไปเลยครับพี่ ตอนนี้ร่างโปร่งหมดแรงอ่อนปวกเปียกไปแล้ว..
ไอ้บร้า..พระลักษมณ์ก่นด่าปีศาจรูปงามปานลูซิเฟอร์ในใจ โดยหารู้ไม่ว่าตนได้เผลอพูดแสดงความในใจออกไปจนหมดเปลือก
เพราะความอวดเป็นคนฉลาดเหนือกว่านั่นปะไร...แล้วมันจะไม่ทำให้ปาจายิ้มกว้างจนปากจะฉีกได้ยังไง...แถมยังขยันหน้าแดง
หูแดงเถือกนั่นอีก ต่อให้ปาจามีหัวใจเป็นน้ำแข็งขั้วโลก ก็คงหลอมละลายอยู่ดี....???
“หมดคำถามแล้ว ผมทวงสัญญาเลยนะ” พูดไม่ทันจบ คว้าตัวพระลักษมณ์พลิกลงอยู่ใต้ร่างอีกรอบ
ร่างโปร่งเองก็อ่อนเปลี้ยจนหมดแรงต้าน แต่สติยังอยู่ครบ ฝืนฮึดขึ้นมาว่า..ไหนๆ ก็ต้องโดนทะลวงไส้ด้วยปืนใหญ่ของปาจา
อย่างไม่มีทางรอดแล้ว ขอคลายข้อสงสัยในใจอีกสักข้อเถอะ
“เดี๋ยวก่อน...ตอบผมมาก่อนว่าคุณส่งนมอ่อนกับหนูผาไปพบใคร?” คำถามของพระลักษมณ์ทำให้ปาจา
หยุดชะงัก ทั้งที่ห่างไม่กี่เซ็นต์ปากหนาสวยได้รูปก็ประกบปิดปากเจ่อสีสดของตนแล้ว
“หึหึ...ผมตอบได้แค่เพียงว่า อีกสองวันก็ถึงวันพระจันทร์ดับแล้ว..คิดว่าจิตมารสิตาคงอาศัยคืนนั้น
ออกอาละวาดแน่ เพราะงั้นผมจำเป็นต้องส่งนมอ่อนกับหนูผาไปอยู่ในที่ปลอดภัยเสียก่อน จะได้ไม่ต้องกังวล ส่วนเป็นใครนั้น
ผมบอกคุณได้แค่ว่า เป็นผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักท่านหนึ่ง พอใจหรือยัง” อ่า..ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง นั่นสิตนป่วยจนลืมไปเลยว่า
ใกล้ถึงคืนวันพระจันทร์ดับแล้วสินะ ปาจาทำแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะสองคนนั่น ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ จะได้หมดห่วง
กำลังจมอยู่กับความคิดหลังฟังคำตอบของปาจาอยู่ดีดี ก็มีอันต้องหัวเบลอสมองมึน เมื่อร่างสูงใหญ่
ไม่เปิดโอกาสให้คนขี้สงสัยตามสัญชาติญาณของสายลับได้ซักฟอกต่ออีก ถือโอกาสประกบริมฝีปากฉกจูบดูดพันลิ้นนุ่ม
ในโพรงปากหวานของร่างโปร่งอย่างดูดดื่มปลุกเร้า และครั้งนี้พระลักษมณ์เองก็ไม่ขัดขืนปล่อยให้ปีศาจหื่นกามตักตวง
ความหวานกับรสจูบได้ตามความพอใจ
อารมณ์ที่เตลิดลิ่วร้อนระอุของทั้งคู่ พระลักษมณ์รู้ดีว่าสุดท้ายแล้ว ตนต้องถูกปืนใหญ่ของปีศาจรูปงาม
ทะลวงประตูชัยจนได้ แต่ช่างเถอะอนาคตไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ปัจจุบันหากสามารถตอบแทนความรักความจริงใจที่ปาจามีให้
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ใช่เรื่องที่ต้องเอามาคิดให้รกสมอง ในเมื่อลึกๆแล้วพระลักษมณ์ยอมรับว่าตนเองก็พอใจกับการ
ได้หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งกับร่างสูงใหญ่หล่อหลากไส้ที่กำลังซุกไซร้ไปทั่วร่างเปลือยของตนอย่างอ่อนโยน สลับเร่าร้อน
ปลุกเร้าให้ตนจำต้องบิดกายสะท้าน เพราะความเสียวกระสันปานขาดใจ เพียงแต่หวังว่าตนคงไม่ต้องเดินขาถ่างพาอาย
กายันต์และธรรมตรัยในวันรุ่งขึ้นเป็นพอ ด้วยรู้ดีว่า..ปีศาจตนนี้คงไม่ยอมจบแค่รอบเดียวหรอก เห็นความพยายามที่อดทน
ดูแลร่างเปลือยของตนตอนเช็ดตัวก็รู้ ถึงจะทำเป็นนิ่งปั้นหน้าตาย แต่โทษที่เถอะหูสองข้างยังแอบแดงก่ำให้ตนได้เห็นอยู่ดี
นึกแล้วอยากหัวเราะชะมัด ทำเป็นปิดบังไม่แสดงอาการ...แต่อย่าลืมว่าระดับ.’วิษณุทรงพล’ หน่วยสืบราชการลับมือดี
จะพลาดการจับสังเกตก็เสียชื่อที่สร้างมาหมดสิ....ฮ่าๆๆๆกร๊ากกก....อืออ..โอววว!!..ว่าแต่ตอนนี้สมองไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นแล้ว
เพราะปีศาจจอมเชี่ยวกำลังโจมตีจุดยุทธศาสตร์จนต้องเปล่งเสียงร้องผ่อนคลายความเสียวซ่านแทบขาดใจ ไม่ไหวขอพัก
ความคิดไปสู้รบรับศึกปืนใหญ่ทะลวงไส้ต่อก่อน ไม่งั้นได้ขาถ่างเดินเป็ดขายขี้หน้าชัวร์...ก็นะตระกูลดงพญา..
พ่อให้มาเสียขนาดนั้นนิ...น่าอิจฉาชิบ..เอามาซะเยอะโคตร..ลำบากตูดชะมัดยาด...?????
มาต่อฉากหวานๆ ให้ตามความประสงค์แล้วนะคะ
ตอนหน้าจะเป็นฉากหวานของคู่กายันต์กับเลขาเย็นชาบ้าง
ขอบคุณทุกกำลังใจ เนื้อหาของเรื่องนี้ไม่เกินสี่ตอนก็จบแล้วเช่นกัน
ขอบคุณกับทุกเม้นท์ทุกรีไพส์ที่ให้กำลังใจคนเขียนและติดตามผลงาน
มาโดยตลอด ขอให้มีความสุขในการอ่าน รักคนอ่านทุกคนเช่นกัน
Luk. :pig4:
ปล.ฝากเรื่องใหม่ขนาดกลางสิบตอนจบ ‘เทพพิทักษ์ขุน’ อยู่ในอ้อมกอดนักอ่านเหมือนเดิมนะคะ..ใช้คำพูดถูกหรือเปล่าหว่า?? ไม่สั้น ไม่ยาว กำลังพอดี..อืม...แซ่บ!
-
จิ้ม คุณลัก
ขอตัวไปอ่านก่อนนะคะ
อีดิท
ปาจาตอนนี้ดูน่ารักยังไม่รู้ แอบหน้าแดงซะด้วย แต่ความหื่นคงเส้นคงวา
-
อิจฉาหวานจริง ๆ
-
:-[ :-[ :-[
:L2: :L2:
-
:impress3: หวานกันจิ๊งงงง
-
ปาจาน่ารักจังเลยอ่ะ :o8:
ของเค้าดีจริง :haun4:
-
เขินๆๆๆ
:-[ :-[
-
:haun4:ชอบๆหืนใด้ใจจริงๆ :oo1:
-
:-[
พระลักษณ์ก็เสร็จปีศาจรูปงามจนได้ ฮุๆๆ
รอจิตมารโดนสังหาร และรอตอนหน้าคู่กายันต์และเลขาเย็นชา
บวกเป็ดค่ะ
-
จะจบแล้วววว
พระลักษมณ์น่ารักเสมอต้นเสมอปลายเลยจริงๆ :-[
ตอนเช็ดตัวปาจาทนเข้าไปได้ยังไงเนี่ย
รอตอนต่อไปค่ะ^^
อยากอ่านคู่คุณเลขาต่อแล้ว
-
เขิน :o8: :o8:
หวานกันจริงๆ
-
:m25: หวานกันจริงๆเลยคู่นี้ ฮ่าๆ
ปาจานี้ก็ยังรักษาความหื่นได้ดุดดังเกลือรักษาความเค็มเลยจริงๆ
พระลักษมณ์น่ารักมากๆ ช๊อบบบบบบบ >///<
อ่านตอนนี้แล้วมดจะขึ้น หวานสุดๆ
-
:z1: :z1: :z1: :z1:
o13 o13
:pig4:
-
ปาจาน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก :o8:
-
ไปไหนไม่รอดแล้วพระลักษมณ์ ยอมปาจาไปหมดแล้ว :กอด1:
-
:impress2: :impress2: :impress2:
-
ปาจา .... กรี๊ีดดดดดดดดดดด
-
ชื่อตอน..ถ้าเขียนไม่ผิด มันก็ส่อมากอยู่นะเนี่ย อ๊ัยๆๆ (@///@)
พระลักษมณ์ บ่นใหญ่เลยนะ ทั้งอิจฉาทั้งเจ็บก้น คริๆ
ตอนหน้าธรรมตรัยจะบ่นป่าว หุๆ
-
o13 o13 o13 o13
-
ปาจาหื่นนนนนนนนน
-
:m25: เค้าหวานกันจัง แอร๊ยยยยยยยยยย
หนูผากับนมอุ่น ไปอยู่กะพ่อตาเปล่า 555 o18
-
หมั่นไส้ปาจาจริงๆเล้ย
ทำกระลิ้มกระเหลี่ยพระลักษมณ์อยู่นั่นแหละ
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ที่หมั่นไส้ไม่ใช่ไม่ชอบ
แต่แบบว่ากดไลค์เลยอ่า
:-[
พระลักษณ์เวลาเขินน่าร้ากกกกกกกกกกกก
แน่ใจนะว่าโตแล้ว เหมือนหนูน้อยพระลักษมณ์มากกว่า
ตอนหน้ารออ่านคู่โน้นมั่ง ฮิๆๆๆ
:z1:
-
นิสัยพระเอกของคุณLuxทุกเรื่องเหมือนกันเลย
หื่น!!!
555
-
ว้าวๆๆๆ มาต่อแล้ว ชอบจริงๆ แนวนี้
-
:pighaun: :pighaun: :pighaun:
-
เวลาพระลักษณ์เขินดูน่ารักมากเลย :-[
จะรอตอนหน้านะคะ
อยากเห็นธรรมตรัยเขินเหมือนกัน o13 o13
-
o13 o13 o13
:L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
-
ทำไปได้ คุณปาจา น่าอิจฉา พระลักษณ์ ก็นะ
ตระกูลดงพญา แค่ชื่อก็พอจะรู้ล่ะ ว่า ...ระดัพญา ทั้งดง หึหึ
คิดถึง กายันต์ กับธรรมตรัย จังเลย
น้องลักษ์ อย่าลืม จัดคู่น้องแบแซ่บๆมาให้อ่านมั่งนะ
อร๊ากกกก อ่านแล้วเขิน
-
หวานกันจริงๆๆ
อิจฉาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
แค่ชื่อตอนก็ชอบแล้วอ่ะ !
:haun4:
-
:o8: คุ้มค่ากับการรอคอยตล๊อดๆ
-
:haun4: :z1: :z1: :z1:
-
:haun4: :pighaun: มันเกินจะบรรยาย
-
กร๊ากกกก พระลักษมณ์ฮาอ่ะ
ลำบากตูด ฮ่าๆ
ตอนนี้น่ารักจริงๆ
รอตอนต่อไปนะคะ
-
น่ารักกันจังเลย
-
จริงๆชอบชื่อนายเอกของเราม๊ากมากค่ะ วิษณุทรงพล เนี่ย...ฮิฮิ โครตเท่ห์เลยอ่ะ
-
ปาจา...ส่งลูกสาวไปอยู่้กับว่าที่พ่อตาหรือเปล่า :z1:
-
เก็บแรงไว้มั้งก็ได้น๊า 5555 เตรียมรู้จิตมารกันอีกรอบ
-
พระลักษณ์มีแอบฮาอะ ส่วนปาจากะร้อนแรงได้ตลอดจริงจริง อดกลั้นไว้นานอะสิ อิอิ
-
:haun4:.....นับวันพระลักษณ์จะน่ารักขึ้นเรื่อยๆเวลาอยู่ใกล้ๆปาจา :z1:
-
ฮ่าๆๆ
น่ารักทั้งคู่เลยเนอะ
-
:m18: นี่คืออารมณ์ คนได้อ่าน
ไม่ได้ดีใจออกหน้าเลยน่ะที่คนเขียนมาต่อ
ปาจาอดทนซะขนาดนั้น ต้องได้รางวัล :z1:
-
ตอนฉากบู๊ก็เลือดนอง พอเป็นฉากหื่นเลือดก็ยังนอง
(เลือดคนอ่านนะคร๊า !!!!!!!!!!!! :haun4: )
-
สองคนนี้ร้อนแรงตล๊อด :z1:
รอฉากหวานของกายันต์กับธรรมตรัยตอนหน้าจ้า :pig4:
-
หื่น!!!!!!!! :haun4: ถูกใจ ฮ่าๆๆ
-
เนื้อหา สมกับชื่อเรื่อง จริงๆเลย ... ขนาดป่วยนะนั่น o13
-
ถึงจะเจ็บจะอะไร แต่ก็ชอบปืนใหญ่ของพ่อปิศาจอยู่แหละน้าาาาา
-
:กอด1:
-
เอาไม้จิ้มๆไปต่อเรื่องพี่พรต 55
จะจบทั้งสองเรื่องเลย แล้วก็คลอดเรื่องใหม่ด้วย
ยินดีๆ
-
ปาจาก็หื่นตล๊อดตล๊อด :pighaun:
เรื่องนี้จะจบแล้วหรอ จบเร็วจัง ดูสั้นๆนะ
แต่ถึงจบเร็วก็ไม่เป็นไร แต่ต้องมีตอนพิเศษนะ อิอิ :-[
-
บทเลิฟซีนเอาสะฮาเลยนะพระลักษณ์ :laugh:
-
ไปรับพ่อของน้องลักหรือเปล่า หึๆ
-
พอฉากหวานแหว๋ว ทีไร ไม่รู้จะแสดงความเห็นอย่างไร
ทุกที แบบว่าไปไม่เป็นกันทีเดียว แต่แอบชอบ
คู่เล็กมากกว่า ไม่รู้ทำไม เพราะธรรมตรัย เงียบๆ มั้ง
ไม่เป็นพระลักษณ์ ที่ดูไม่โวยวายไม่ยอม
แต่ก็ไม่รอด ฮ่า
-
ปาจาจ๋า จัดหนักๆเลยนะ
-
เขินค่ะจบ
-
น่ารักมากอ่ะลุ้นต่อจ้า
-
ชอบบบบบบบบบบบบบบ :o8:
-
ตามทันแล้ว เย้!!
อ่านแล้วลุ้น หายใจไม่ทั่วท้อง จุกอยู่ตรงคอเพราะความเขิน??
ต้องออกไปเดินรอบบ้านก่อนแล้วมานั่งต่อ(ชักบ้า)
หลงรักเรื่องนี้จริงๆ เพิ่งเคยอ่านแบบ ไสยฯ ครั้งแรก ปลื้มปิติมาก
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
โอยยยยยยยยย หมดแล้วอ่านภายในวันเดียว
แอร๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ฮ่าๆ อ่านไปเขินไป แล้วมานึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้จีบเรา เสียดายจัง
คนแต่งจินตรนาการล้ำเลิศมากเลย
เป็นเรื่องที่ทำให้ลุ้นสุด ตอนที่อ่านตอนแรกแบบมันชายหญิงหรอ ทำไมมีทอม
พอเฉลย แหมๆทำไเอาแก้มปริ ยิ้มจนแก้มจะแตกแล้วอ่าา
-
:m25: :pighaun:
สามคำ>>> ร้อน อ่ะ ตัว :laugh:
-
o13 o13
พระลักษณ์น่ารักตลอดด ๆ
:กอด1: :กอด1: พี่ lux หลายที
-
:m25: :m25:
โอ้ว....น่ารักทุกคู่เลย
:-[
อยากได้ในมุมของตรัยธรรมบ้างค่ะ
:pig4: :pig4:
+1
-
ยังมีฮาตบท้ายอีกนะพระลักษณ์ 55
-
คู่นี้ร้อนแรงตลอด ;)
-
อิอิโดนจัดหนักหลังหายป่วยเลย
โอ้ใกล้ถึงวันจันทร์ดับแล้วเหรอเนี่ย
รออ่านตอนต่อไปค้าบบบบบบบบบบ
-
รออ่าน กายันต์กับเลขา
-
น่ารักทั้งสองคู่เลย ชอบๆ มาต่อเร็วๆนะ :impress2:
-
เพิ่งมาตามอ่าน พระลักษณ์น่ารักมากเลยอ่ะ อิอิ
จันผากับนมอ่อนไปอยุ่กะพ่อของพระลักษณ์รึป่าวน่อออ ^^
-
เห็นแต่ละตอนแล้ว
ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องปีศาจน่ะเนี้ย
:m25: :pighaun: :haun4: :jul1:
-
เอาเป็ดไปเลยค่ะ อร๊ายยยยยย
-
โอ๊ย มดกัดอ่ะ
-
อูยๆๆ หวานซะมะมีอ่ะ :-[
-
หื่นได้ใจจิงๆๆ
-
o13
-
มนต์มาร
Part 24
น้ำแข็งใสราดน้ำแดง
.
.
.
.
.
“คำสอน..วานให้เด็กเอาปุ๋ยล๊อตใหม่ไปลงสวนส้มด้วยนะ แล้วอย่าลืมเช็ครายการสินค้าส่งตลาด
ให้ผมด้วยครับ” ธรรมตรัยผู้ชาเย็น บอกกับหัวหน้าคนงานด้วยน้ำเสียงเรียบรื่น แต่แอบหูแดงจนมองเห็นชัด ก็จะไม่ให้
คนวางหน้านิ่งหูแดงได้ยังไง ในเมื่อเก้าอี้ตัวข้างกันดันมีสายตาคมเข้มวิบวับจ้องไม่วางตากดดันอยู่แบบนี้ ต่อให้เป็น
พระอิฐพระปูนก็มีเขินเหมือนกันแหละ
ทางออกของเลขาผู้เคร่งระเบียบ คือยอมขยับปากสั่งงานซะเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าปกติ
แม้จะรับรู้ถึงสายตานับสิบคู่ของพนักงานออฟฟิศกลางไร่กว้างของคุ้มดงพญาที่อึ้งตามเป็นแถว เพราะวันนี้เลขาคนเย็นชา
ดันพูดยาวกว่าปกติก็เถอะ ก็ยังไม่น่าแปลกเท่ากับเจ้านายคนรองของคุ้ม..จะสร้างความประหลาดใจให้ทุกคนโดยมานั่งดู
การทำงานของพนักงานด้วยตัวเอง ในเมื่อร้อยวันพันปีแทบจะนับครั้งได้ด้วยซ้ำ ที่กายันต์จะโผล่หน้ามาให้พนักงาน
ได้ยลโฉมความหล่อให้กระชุ่มกระชวยหัวใจสาวๆ ในไร่..
หรือว่าจะไม่ใช่มาดูพนักงานทำงานเสียแล้ว เท่าที่จับตามสายตาของกายันต์ เจ้าตัวเอาแต่
สนใจจ้องแต่หน้าสวยเย็นชวนมองของเลขาเจ้าคุ้มเสียมากกว่า ก็เล่นมองไม่ละสายตาแบบนั้น ก่อนปากหนาได้รูปสวย
ไม่ด้อยกว่าเจ้าคุ้มคนพี่ จะเอ่ยน้ำเสียงทุ้มนุ่มมาให้ได้ยินกันทั้งออฟฟิศว่า
“เมื่อไหร่งานตรัยจะเสร็จเล่าครับ?”
คำถามติดอ้อนนิดๆ ทำเอาพนักงานสาวๆ ต่างหน้าแดงอย่างไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร แต่มันอดเขิน
ตามไม่ได้ในเมื่อเจ้านายหล่อหลากไส้เล่นพูดเสียงนุ่มหวานหูออกมาแบบนั้น ใครได้ยินไม่หวิวชวนเขินตามก็ให้มันรู้ไปดิ
“ทำไม คุณยันต์มีอะไรให้ผมรับใช้”
แหม..เลขาเย็นชาเล่นตอบซะเป็นการเป็นงานจนคนถามหน้านิ่วเข้าให้ เหมือนจะไม่ค่อยพอใจ
ในคำตอบสักเท่าไหร่
“เฮ้อ! นี่มันจวนห้าโมงเย็นแล้วน้า ผมหิวแล้ว..กลับไปรอทานข้าวที่คุ้มกันเถอะนะ..ตรัย”
ถอนหายใจซะงั้น แต่ยังไงน้ำเสียงที่พูดตามมาก็ยังนุ่มติดอ้อนเหมือนเดิมอยู่ดี คราวนี้พนักงานที่อุตส่าห์วางท่าสนใจงาน
ของตนในแต่ละโต๊ะอย่างดิบดี ถึงกับแอบอมยิ้มไปกับความน่ารักที่คนตัวโตบึกล้ำอย่างกายันต์ดันพูดอ้อนคุณเลขาขึ้นมาซะนี่
อะไรก็ไม่น่ามองเท่า เมื่อคนโดนอ้อนจากที่วางท่าเก็กหน้าชาเย็น กลับแดงเรื่อขับให้หน้าสวย
ดูมีเสน่ห์น่ามองเข้าไปอีก แม้ปากบางได้รูปจะปิดเรียบสนิทไม่ยอมพูดตอบก็เถอะ แต่ทั้งหัวหูหน้าใสเนียนกิ๊กที่กำลังลามแดง
จนเป็นเป้าสายตาของพนักงานซึ่งต่างพากันชำเลืองมองเป็นระยะ ก็ไม่สามารถปิดบังอาการของคนซึ่งกำลังวางหน้าไม่ถูกอยู่ดี
ให้ตายสิช่างเป็นภาพการสนทนาที่ทำเอาออฟฟิศกลางไร่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายสีชมพูจนพนักงานในห้อง ต้องแอบบิดนิ้ว
ตนเองแทบหัก พากันเขินแทนตามเป็นแถว
“อืม..ก็ไปสิ”
เสียงพูดที่พยายามเก๊กเรียบ แม้จะใช้เวลานานไม่น้อยกว่าจะหลุดออกมาได้ แต่อาการตอบแบบไม่ยอม
สบตาคนฟังนั่นสิ โอยยย..อะไรมันจะน่าดูชมได้ขนาดนี้อีก...
“หึหึ...ไปกันเถอะ ดีใจชะมัดที่ตรัยตามใจผม”
เอาเข้าไป..พนักงานที่ได้ฟังจะเป็นลมกันหมดออฟฟิศแล้ว น้ำตาลในกระแสเลือดพุ่งสูงแม้คำพูด
ในแต่ละประโยคมันไม่ได้มีใจความหวานเลี่ยนอะไรเลยก็เถอะ แต่ใครได้เข้ามาอยู่ในเหตุการณ์หากไม่เผลอบิดเสื้อ
จนแทบขาดให้มันรู้ไปสิ หนุ่มหล่อชวนเก็บเอาไปฝันมายืนพูดเสียงนุ่มเหมือนอ้อนสาวให้ได้ยิน แม้จะกลายเป็น
หนุ่มหน้าสวยต่างหากที่เป็นเป้าหมายของคนพูด ซึ่งใครๆต่างติดภาพบุคลิกหน้านิ่งเย็นชาออกจะหยิ่งเสียด้วยซ้ำ
ลองดูตอนนี้สิ ใบหน้าที่ว่ากำลังเห่อแดงขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ น่ากลัวหากโดนเข็มจิ้มเลือดคงพุ่งหมดตัวแน่
ตาย...ตาย..น่าร๊ากก..อ่ะ!
-------------------------------------------------------------------------
ระหว่างทางขากลับ กายันต์ทำหน้าที่สารถี เพราะคนนั่งคู่กันคือคนที่มีอิทธิพลทำให้
คนขับจำเป็นเต็มใจอย่างยิ่งที่จะตามติดไม่ยอมห่างจนเป็นตังเมอย่างที่เห็น ยิ่งนั่งหน้านิ่งแต่แดงก่ำจนคนมองใจสั่น
อยากจับกดซะให้รู้แล้วรู้รอดไปซะเลย มันช่างเป็นใบหน้าเรียบนิ่งให้ความรู้สึกเหมือนน้ำแข็งใสราดน้ำแดงไม่มีผิด
ความจริงแล้วใช่ว่ากายันต์จะไม่เคยสนใจธรรมตรัยมาก่อน ความลับผู้ล้างอาถรรพ์มนต์มาร
กายันต์ทราบมานานแล้ว แต่ที่ไม่คิดแตะต้องเหย้าแหย่ด้วยนั้น เพราะคนๆนี้หัวใจกายันต์ยกไว้เป็นของสูงต่างหาก
ก็ใครจะอดปลื้มได้เมื่อรู้ว่ามีใครหนึ่งคนยอมรักษาพรหมจรรย์เพื่อตนเอง ถือศีลบริสุทธิ์ปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดครบถ้วน
กระบวนความ เผื่อมอบสิ่งสำคัญที่รักษาไว้นั้นให้ตนเพียงคนเดียว
เพราะฉะนั้น กายันต์จึงใช้วิธีปิดบังความรู้สึกในการแสดงออก ถ้าหากไม่สามารถหาคนที่มี
ร่างแฝงของนารายณ์พบ แล้วตนดันไปสานสัมพันธ์สร้างความรู้สึกกับเลขาหน้าสวยที่ชวนลุ่มหลงเข้าให้ ความเศร้าโศก
ของตำนานรักมารกับมนุษย์คงเกิดขึ้นอีกตำนานเข้าจนได้ เมื่อหัวใจบริสุทธิ์ผ่องแผ่วของธรรมตรัยต้องเจ็บปวดกับอาถรรพ์ร้าย
แห่งมนต์มารในวันข้างหน้า ทำไมตนจะไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากเย็นชาใบนี้ แฝงแววไร้เดียงสาต่อเพศรสมากแค่ไหน
สายตายามเผลอจับจ้องตนนั้นเปิดเผยความรู้สึกมากเพียงใด แล้วอย่างนี้ตนยังจะกล้าเอาหัวใจที่สวยงามของคนๆนี้
มาเสี่ยงทำเล่นๆได้อีกหรือ
ด้วยเหตุผลข้อนี้ต่างหาก ที่ทำให้กายันต์เลือกที่จะทำตัวเป็นคลาสโนวาสร้างสัมพันธ์กับคนอื่นแทน
หากธรรมตรัยเห็นการกระทำของตนแล้วนึกรังเกียจแปรเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้เป็นชิงชังขยะแขยงขึ้นมา กายันต์จะไม่นึกเสียใจ
หรือถือโทษโกรธเลยสักนิด เผื่ออนาคตข้างหน้าหากล้างอาถรรพ์มนต์มารไม่ได้ ก็จะไม่มีทางดึงธรรมตรัยมาตกนรกด้วย
เป็นอันขาด เพราะฉะนั้นที่ผ่านมากายันต์จึงเลือกที่จะใกล้ชิดกับธรรมตรัยไม่ให้เกินงาม แต่ไม่มีวันไหนเลยที่หัวใจของ
กายันต์จะลบความรู้สึกที่ซุกซ่อนภาพของเลขาหน้านิ่งผู้เคร่งครัดวางตนเป็นผู้คงแก่เรียนคนนี้ได้เลยสักเวลา ตอนนี้ถือว่า
เป็นโชคช่วยเมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจทำให้ตนสมหวัง ทั้งสามารถล้างอาถรรพ์มนต์มารสำเร็จแล้วยังได้ครอบครองหัวใจ
พรหมจรรย์ของคนหน้าสวยแสนเย็นชาคนนี้อีก ขืนต้องรอให้คนพูดน้อยมาคอยฉอเลาะออเซาะแล้วละก็
ต่อให้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกไม่แน่ว่าเจ้าตัวจะยอมทำหรือเปล่ายังไม่รู้ด้วยซ้ำ
เพราะงั้นจะแปลกอะไรที่ตนจะเป็นฝ่ายอ้อนให้คนหน้าสวยเก๊กนิ่ง ยอมตามใจแทนดีกว่า
แม้จะดูสลับหน้าที่ก็ตามมองจากรูปร่างส่วนสูงตำแหน่งสามีภรรยาแล้วนั้น ธรรมตรัยต่างหากที่เหมาะจะทำท่าอ้อนตน
แต่เมื่อคนน่าสวยแสนน่ารักคนนี้มอบหัวใจบริสุทธิ์ให้ตนแล้ว จำเป็นด้วยหรือว่าใครควรทำหน้าที่อ้อน เมื่อรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
สุดท้ายสิ่งที่ตนเรียกร้องอ้อนขอเลขาหน้าสวยย่อมได้รับการตอบสนองแน่นอน มีหรือคนสวยจะกล้าปฏิเสธหลงรักตนมานาน
เป็นสิบๆ ปี แต่กายันต์ไม่เคยคิดจะถือเอาความรักของธรรมตรัยมาเป็นไพ่ตาย เพราะแท้จริงแล้วหัวใจของกายันต์ก็รัก
ธรรมตรัยตลอดมาเช่นกัน แล้วใยต้องแคร์ว่าใครควรอ้อนใครจริงไหม
-------------------------------------------------------------------------
“ตรัยว่า...คืนพระจันทร์ดับที่จะถึงนี้ จิตมารจะมาติดกับดักพี่จาตามที่พวกเราวางแผนกันหรือเปล่า?”
เพื่อช่วยลดอาการเขินไม่หายของคนรัก และไม่ให้เกิดความเงียบภายในรถ หนุ่มหล่อจึงหาเรื่องชวนคนรักคุยขึ้นอย่างเนียนๆ
“หืม..ไม่รู้สิ..ตามที่คุณจาบอกจิตมารคือสิตา คาดเดายากเหมือนกันเพราะสิตาไม่ใช่คนโง่
สามารถตบตาพวกเราได้นานกว่าสามปีนอกจากฉลาดแล้วยังมีฝีมือไม่ธรรมดา” ประโยคยาวๆ ที่เลขาน้ำแข็งใสราดน้ำแดง
พูดออกมาด้วยโทนเสียงเรียบนิ่ง ฟังดูมีเหตุผลรองรับไม่น้อย
“คิดว่าพี่จาจะพลาดหรือเปล่า ลงทุนเอาตัวเป็นเป้าล่อแบบนั้น” กายันต์แสดงความรู้สึก
หน่วงใจลึกๆ ให้คนของหัวใจฟังช่วยระบายออกไปได้บ้าง
“นั่นเป็นเรื่องที่ผมตอบไม่ได้ ในเมื่อจิตมารตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก ทั้งพลังมารและคาถาก็ยัง
มีพลังกล้าแข็งขึ้น ผมจนปัญญาวิเคราะห์จริงๆ” ธรรมตรัยบอกตามจริง ระหว่างสองคนนี้ยามอยู่ด้วยกันแล้วหากเป็นเรื่องของ
ความเป็นความตายไม่จำเป็นต้องปิดอะไรกันอีก
“ทำไมพี่จาถึงต้องเอาตัวเข้าล่อด้วยนะ ไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้แล้วหรือ ผมว่ามันน่าจะมีสิว่าไหม?”
กายันต์ยังคงเปรยเชิงปรึกษา
“วิธีนี้ได้ผลที่สุดแล้วล่ะ อย่าลืมว่าหากจิตมารได้ร่วมสังวาสกับคุณจาซึ่งมีร่างแฝงของปีศาจ
นั่นเท่ากับว่ามันสามารถควบคุมร่างกายของตนเองให้เป็นคนหรือปีศาจได้ตามใจนึก แถมพละกำลังและมนต์คาถาทั้งเทพทั้งมาร
ยังต้องขยาด ไม่สามารถมีอาวุธใดทำลายได้แล้ว นอกจากร่างแฝงแห่งนารายณ์จะยอมสังเวยชีวิตเข้าแลก คุณจาคงไม่ยอม
ให้เกิดขึ้นแน่ จึงยอมเอาตัวเข้าเสี่ยงเสียเอง คุณยันต์อย่าลืมสิว่าที่ผ่านมาคุณพระลักษมณ์ยอมเสียสละเพื่อพวกเรามามากแล้ว
แถมยังต้องมาบาดเจ็บอีกต่างหาก” ธรรมตรัยบอกเหตุผลให้กายันต์ฟัง ย้ำถึงทางเลือกที่ปาจาตัดสินใจเอาตัวเองเข้าเสี่ยง
“นั่นสินะ ผมจำสายตาของพี่จาที่มองดูพระลักษมณ์ตอนสลบได้ดี พี่จาไม่เคยแสดงสายตาเจ็บปวด
ปางตายแบบนี้มาก่อน เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นแววตาของพี่เค้า คราวที่ผมขาดสติทำร้ายแม่ของจันทร์ผาโดยไม่ตั้งใจ
พี่จายังไม่แสดงสายตาเจ็บปวดเหมือนจะขาดใจตามอย่างครั้งนี้เลย” กายันต์รำพันออกมา น้ำเสียงที่แสดงบ่งบอกถึง
ความเสียใจต่อการกระทำในอดีตของตนจนคนฟังอดเห็นใจไม่ได้ ธรรมตรัยเลขาผู้วางหน้านิ่งก็เช่นกัน ตัดสินใจเอามือ
ไปบีบหัวไหล่ส่งกำลังใจปลอบคนรักอย่างไม่ต้องใช้คำพูด
กายันต์ไม่ได้เจตนาต่อการกระทำนั้น แต่เพราะยังเยาว์หนำซ้ำตบะในการควบคุมอารมณ์ที่มีต่ออาถรรพ์
ของมนต์มารซึ่งควบคุมจิตต้านไว้ไม่ไหว จึงเผลอทำเรื่องชั่วช้าขึ้นจนเกิดพยานแห่งการกระทำคือหนูผาออกมาตอกย้ำให้
กายันต์ลงโทษตัวเองภายในใจมาโดยตลอด
“เรื่องผ่านมานานแล้ว อย่าไปนึกถึงมันเลย ที่น่าห่วงคือคืนพระจันทร์ดับที่จะมีขึ้นวันมะรืนมากกว่า
ถึงแม้ตอนนี้จิตมารจะไม่สามารถเผยโฉมออกมาได้เพราะไม่สามารถคืนร่างเป็นคน แต่ในคืนวันพระจันทร์ดับเป็นคืนที่พลังมาร
มีอำนาจสูงสุด สิตาสามารถคืนร่างเป็นคนหรือเป็นมารได้ตามใจนึก เพราะข้อจำกัดนี่คุณจาถึงเชื่อว่า สิตาคงไม่ปล่อยโอกาส
ที่จะจัดการรวบหัวรวบห่างคุณจาเป็นแน่ เพราะหากปล่อยโอกาสผ่านไปก็ต้องรอไปอีกสิบห้าวัน สภาพครึ่งคนครึ่งเดรัจฉาน
คงทำให้สิตาทนไม่ได้แน่นอน” ธรรมตรัย ดึงความสนใจของกายันต์กลับมายังปัญหาที่ทั้งคู่คุยค้างไว้แทน เพราะทนเห็น
แววตาอมทุกข์ของคนรักไม่ไหว
“ผมเห็นด้วยที่คุณพูด ถือว่าพวกเราโชคดีมากจริงไหม ที่ใช้หัวใจมารต้นแบบล้างอาถรรพ์มนต์มาร
ได้ก่อน หากสิตาเอาไปกินก่อนกลายเป็นว่าได้พลังมารไปเต็มๆ ไม่ต้องกังวลจะเป็นคนหรือเดรัจฉาน แถมพลังจิตกล้าแข็ง
ขึ้นอีกด้วย ลูกกระสุนเงินก็ไม่อาจทำอันตรายได้ ยังดีที่มันได้พลังไปแค่ครึ่งเดียวไม่เต็มร้อย กระสุนเงินที่เหลือลูกสุดท้าย
จึงเป็นตัวแปรสำคัญในการทำลายจิตมารให้สิ้นซาก หวังว่าที่พี่จาคิดไว้คงไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นนะ ไม่งั้นกลายเป็น
โศกนาฏกรรมแน่ ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลย” กายันต์เผยความในใจออกมา ทั้งคู่จบบทสนทนาทิ้งท้ายไว้แค่นั้น
เพราะบัดนี้รถได้มาจอดยังมุกหน้าเรือนไทยเรียบร้อยแล้ว ไม่ควรนำปัญหาหนักใจพกพาติดไปกับใบหน้า ในระหว่างร่วมโต๊ะ
อาหารเย็นที่อยู่กับพร้อมหน้าเลี้ยงส่งนมอ่อนกับหนูผา พรุ่งนี้เช้ามืดก็จะไม่ได้เจอสองคนนี้แล้ว เพราะปาจาส่งทั้งคู่ไปอยู่
ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งนั่นเอง
ต่อด้านล่าง
-
โอ๊ะ หายไปไหน เอ่ย ตอน ต่อไป
-
- 2 -
จบมื้ออาหารด้วยบรรยากาศชื่นมื่น เมื่อทุกคนต่างยิ้มแย้มหัวเราะร่ากับบทสนทนากันอย่างออกรส
ยิ่งพระลักษมณ์กลับมาหายเป็นปกติด้วยแล้ว แถมได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าคุ้มดีเป็นพิเศษ สังเกตได้จากใบหน้า
เปล่งปลั่งเนียนใสอมชมพูเรื่อจนเปล่งออร่าไปทั่ว ส่วนเจ้าคุ้มเองก็ขยันส่งสายตากรุ่มกริ่มมีความสุขตลอดเวลาผิดกับบุคลิก
ชินตาเป็นหน้ามือหลังมือกันเลยทีเดียว
นั่นยังไม่นับหนูผาซึ่งมื้อนี้เด็กหญิงตัวน้อยมีส่วนร่วมในการพูดคุยมากขึ้น แถมหัวเราะร่าอย่างมี
ความสุขเมื่อได้ฟังเรื่องตลกโปกฮาของกายันต์ที่ขยันนำมาเล่าระหว่างทานผลไม้ เพื่อช่วยให้หนูน้อยอารมณ์ดี และยิ่งไป
กว่านั้น ธรรมตรัยผู้น้อยครั้งจะยอมคุยไร้สาระ มื้อนี้กับช่วยเสริมมุกขำกระทั่งเบรกกายันต์ให้หน้าหงายด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
ได้อย่างหน้าตาย ทำเอาพระลักษมณ์ยังอดขำตามไม่ได้ เมื่อกายันต์หน้ามุ่ยทำตาปะหลับปะเหลือกค้อนธรรมตรัยเข้าให้
ยามถูกเบรก ช่างเข้ากันมากกับใบหน้าหล่อแมนแอนด์แฮนซั่มแต่ดันออกท่าทางแบบนี้
มันชวนให้ถูกถีบตกเก้าอี้ซะมากกว่าต้องเอ็นดูสงสาร
ถือว่าบรรยากาศอาหารมื้อนี้สุขสำราญกันถ้วนหน้า นมอ่อนเองก็โชว์ฝีมือเข้าครัวปรุงอาหารโปรด
ให้ทุกคนทานกันจนพุงกาง แถมสายตาอ่อนโยนที่คอยมองความสุขของเจ้านายที่รักปานลูกทั้งสองคนหยอกคนรักในโต๊ะ
อาหารพอหอมปากหอมคอ สร้างบรรยากาศให้เรือนไทยอบอวลไปด้วยความสุขสดชื่นที่ห่างหายนานหลายสิบปี ถ้าบรรพบุรุษ
ผู้ล่วงลับได้มาเห็นคงนอนตายตาหลับ เพราะวันนี้คนของตระกูลคุ้มดงพญาพ้นคำสาปแห่งมนต์มารกันหมดแล้ว รอเพียงแค่
ปัญหาคาราคาซังสุดท้ายคือสะสางกำจัดจิตมารให้สิ้นซาก คงยิ้มได้เต็มปากหัวเราะได้เต็มเสียงกันเสียที
------------------------------------------------------------------------
“หืม...คืนนี้หยุดบ้างไม่ได้หรือ คุณเล่นทำติดต่อกันไม่พักเลยนะ ตั้งแต่ล้างอาถรรพ์มาเนี่ย”
ธรรมตรัยอุธรณ์เสียงนิ่งเหมือนเคย สายตาที่มองกายันต์วาวสวยไม่มีกระพริบ คนถูกจ้องกับมองตอบด้วยแววตาระยิบระยับ
บ่งบอกอารมณ์ต้องการกระทำเป็นอย่างดี เพราะตอนนี้ร่างใหญ่กำลังคล่อมทับร่างคนตั้งคำถามโดยใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ
เป่าลมหายใจร้อนรดกันอย่างไม่มีทางเหลี่ยง
“คุณก็รู้ดีว่าผมคงอดใจได้อะนะ” แต่ธรรมตรัยกับเจอคำอ้อนที่มาพร้อมสายตาวาบหวามจนคนฟัง
หน้าแดงยอมหลุบตาหลบเสียเอง ให้ตายเถอะธรรมตรัยผู้นิ่งเฉยหน้าเรียบได้ทุกสถานการณ์มาตายเสียทุกครั้งกับการอ้อนของ
หนุ่มหล่อเจ้าของหัวใจตน โทษใครไม่ได้ในเมื่อใจตนยอมอ่อนให้คนๆ นี้อย่างไม่มีเหตุผล ตอบรับหรือปฏิเสธก็ดูลำบากใจ
ทั้งสองทาง ดีที่สุดคือเงียบแทนการวางตัวไม่ให้น่าอายในความคิดของธรรมตรัย
“ขอบคุณครับตรัย” เหมือนหัวใจทั้งสองดวงจะสื่อกันได้ การเงียบของเลขาหน้าสวย เป็นการส่ง
สัญญาณให้กายันต์ปฏิบัติการรุกคืบแบบไม่เข้าข้างตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้วเจ้าตัวรู้ดีว่าคนๆ นี้ไม่มีทางปฏิเสธตนได้
ปากหนาโค้งหยักได้รูปสวย ค่อยบรรจงจูบลงปากนุ่มสีสดอย่างอ่อนโยนไม่ตะกุตะกามจาบจ้วง
ให้ร่างข้างใต้กระอักกระอวน เพราะจูบอย่างเว้าวอนเรียกร้องอ่อนโยนปลุกเร้า จึงทำให้แขนยาวยกขึ้นโอบรอบคอแกร่ง
อย่างเผลอไผล ความอ่อนต่อเกมกามเป็นเหมือนน้ำทิพย์ให้คนเจนจัดอย่างกายันต์หิวโหยไม่รู้จักอิ่ม แล้วจะผิดได้อย่างไร
หากตนแสดงความรักและครอบครองร่างกายคนหน้านิ่ง แต่ไร้เดียงสาในบทรักยามเมื่ออยู่บนเตียง นั่นคือความเย้ายวน
อย่างเป็นธรรมชาติของหนุ่มพรหมจรรย์ที่แสดงออกโดยเจ้าตัวไม่รู้สักนิดว่า มันเป็นเสน่ห์ดึงดูดกระตุ้นอารมณ์เพศให้กายันต์
หลงหัวปักหัวปำจนถอนตัวไม่ขึ้นอย่างไม่รู้จักพอ
บทจูบที่อ่อนโยนนุ่มนวล เริ่มจะเร่าร้อนไปตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นสูง มือหนาลูบไล้บีบขย้ำไปทั่ว
ผิวกายแน่นกล้ามเนื้อพองาม กลิ่นหนุ่มที่ได้รับช่วยให้รู้สึกมึนเมาหลงใหลยามจมูกโด่งซุกไซร้พรมจูบดูดเม้มริมฝีปาก
ไปทั่วผิวตึงเรียบ ในขณะที่คนถูกกระทำจากหน้าที่เคยนิ่งกลับเหยเกพยายามปิดกั้นเสียงครางไม่ให้เล็ดลอดออกมา
แต่ด้วยความไม่เจนสังเวียนทำให้เจ้าตัวหมดความอดทนในที่สุด เผลอหลุดเสียงครางทุ้มให้คนกระทำได้ปรีดาที่บังคับให้
คนกักเก็บอารมณ์ปลดปล่อยมันออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
“อึม..อา...อา..อืมมม”
เสียงครางแผ่วในคอกระตุ้นเลือดลมในกายแกร่งซู่ซ่าขนตั้งชันโดยไม่ต้องอาศัยการสัมผัสช่วยจากร่างข้างใต้
แม้แต่น้อย ให้ตายสิ...นี่แหละคือความแตกต่างของการร่วมรักกับคนรัก ความอิ่มรักอิ่มรสเติมเต็มจนล้นปรี่มันช่างหอมหวน
เย้ายวนแตกต่างกับการเสพกามเพื่อปลดปล่อยหรือสนุกตามประสาอย่างเทียบกันไม่ติดเลยสักนิด
ร่างเปลือยของสองหนุ่ม ที่กำลังก่ายกอดเคล้าคลึงบนเตียงใหญ่ภายใต้แสงสลัวจากโคมหัวเตียง
ยิ่งส่งให้ภาพตรงหน้าซึ่งมีร่างหนาล้ำเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นบวกกับช่วงขายาวได้รูปมัดกล้ามสวยที่ผู้ชายทุกคนคงพากัน
อิจฉา ในขณะที่อีกร่างกลับสมส่วนใบหน้าสวยติดเย็นชาแม้จะดูไม่หนาล้ำเท่ากับคนแรก แต่สีผิวขาวปานหยกหิมะเนื้อดี
มัดกล้ามพองามช่างตัดกันเสียเหลือเกิน กับสีผิวปกติของผู้ชายขาวทั่วไปอย่างกายันต์ ภาพร่างเปลือยของทั้งคู่
เร้าอารมณ์ได้ดียิ่งนัก
ใบหน้าสวยหลับตาพริ้ม ส่งเสียงครางแผ่วทุ้มแสดงอารมณ์ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติไร้การเสแสร้ง
แม้แต่น้อย กระตุ้นให้กายันต์อดใจไม่ไหวถึงกับเลื่อนตัวลงต่ำครอบครองท่อนเนื้อขาวไว้ในโพรงปากอุ่น จนทำให้ร่างสมส่วน
แอ่นหยัดสะโพกเกร็งหน้าท้องแบนราบจนเห็นกล้ามเนื้อพอประมาณ พร้อมกับมือนุ่มไม่หยาบเนื่องจากไม่เคยทำงานหนัก
นอกจากจับปากกา เผลอขยุ้มหนังศีรษะของสุดหล่อร่างใหญ่เข้าโดยไม่เจตนา แถมยังไม่รู้เลยว่าจะรั้งออกหรือกดไว้
ดีกว่ากันเมื่อตัดสินใจไม่ได้ เลยกลายเป็นการขยุ้มเกร็งนิ้วจนข้อโปนปล่อยจังหวะขยับให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายรูดริมฝีปาก
ปรนเปรออย่างไม่รังเกียจแทน
และก่อนที่กายันต์จะยอมปล่อยให้คนรักหน้าสวยไปถึงฝั่งฝัน ในขณะที่อารมณ์ของธรรมตรัย
พุ่งขึ้นสูงจนแตะขอบอยู่ลิบๆ ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วมือยาวชุ่มไปด้วยเจลเย็นดันแทรกเข้าภายในช่องทางสีพีชแบบไม่ทัน
ตั้งตัว เสียงครางอย่างทรมานปนสุขสมจึงหลุดตามพร้อมจังหวะการขยับนิ้วเข้าออก ในขณะที่ปากสวยได้รูปก็ทำหน้าที่
ปรนเปรอด้านหน้าอย่างไม่ตกหล่น
“ซี๊ดดดด...โอวววว”
การถูกเติมเต็มกระตุ้นทั้งหน้าทั้งหลังที่เร่งจังหวะและเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปจนอึดอัดก่อนจะค่อยไหลลื่น
ทำให้ความอดทนของธรรมตรัยสิ้นสุดแหงนศีรษะหลุดครางยาว พร้อมกับสะโพกแอ่นสูงกระตุกร่างเกร็งมือกดท้ายทอยหนา
ของกายันต์นิ่งปลดปล่อยธารรักขุ่นขาวเข้าปากร้อนแบบไม่มีกัก กายันต์รับกลืนทุกหยาดหยดโอสถทิพย์ของคนรักไว้หมด
เพราะธารรักนี้มิใช่หรือที่ปลดปล่อยมารชั่วออกจากจิตวิญญาณและร่างกายตน แล้วทำไมจะกลืนกินไม่ได้ ในเมื่อร่างกายของ
คนตรงหน้าไม่เคยผ่านมือใครมาเลยไม่ว่าจะทั้งหญิงทั้งชาย ความหอมหวานของน้ำรักที่สัมผัสได้ต่างหาก
ทำให้รู้สึกดีเกินบรรยาย
“ขอผมบ้างนะครับ”
เสียงทุ้มหล่อแสนสุภาพที่กระซิบพร่าอยู่ข้างหู ทำให้รู้ว่านาทีต่อไปร่างกายต้องรองรับกับอะไร
แทนนิ้วทั้งสาม จึงพยายามผ่อนลมหายใจปล่อยร่างกายที่เพิ่งผ่านการปลดปล่อยให้ไร้การต่อต้าน ไม่ต้องรอนาน
ความอึดอัดจุกแน่นจนหน้านิ่วก็แทรกผ่านเข้ามา แม้จะทนเจ็บได้มากแล้วก็เถอะเพราะโดนแทบทุกวัน แต่ธรรมตรัยก็ยังอึดอัด
จุกแน่นถึงลิ้นปี่ทุกครั้งเมื่อเจอกับท่อนเนื้อมหึมาทั้งร้อนทั้งแข็งค่อยๆ ดันแทรกเข้าสู่ร่างกายของตนช้าๆ
พยายามผ่อนร่างกายให้มากที่สุด เม้มริมฝีปากแน่นใบหน้าบิดเบี้ยวแต่กับเย้ายวนชวนมอง
ไปอีกแบบ เพราะใบหน้าสวยน้อยครั้งจะแสดงอาการเป็นอื่นนอกจากเรียบนิ่ง นั่นจึงเป็นภาพที่น่ามองและกายันต์จะหวงไว้มอง
เพียงลำพัง สาบานได้ไม่มีใครได้เห็นหน้าตอนนี้ของธรรมตรัยเป็นอันขาด
ในขณะที่กายันต์เองพยายามกัดกรามกรอด เอ็นคอปูนเมื่อต้องใช้ความอดทนกับการเสียวซ่าน
ทุกรูขุมขน ยามดันอาวุธประจำกายที่มีขาดมหึมาสมฉายาจ้าวโลกขยับลึกเข้าไปยังโพรงนุ่มที่โอบกระชับบีบรัดจนต้อง
กัดกรามอย่างที่เห็น
เพื่อปลุกปลอบให้ร่างข้างใต้ผ่อนคลายและพยายามแหวกขาที่ยกพาดบ่าให้กว้างขึ้นไปอีก
มือหนาแข็งแรงจำเป็นต้องช่วยจับขาข้างหนึ่งให้อ้ากว้างในขณะขาข้างที่พาดบ่าแกร่งก็ถูกมือที่เหลือลูบไล้แผ่วพลิ้วปลอบโยน
สร้างความรันจวนไปในตัว มักได้ผลเสมอเพราะจุดอ่อนไหวของธรรมตรัยอยู่ขาพับในโดนส่วนนี้ทีไร ร่างสั่นเทิ้มเผลอหลุด
เสียงครางยาวทุกทีจนลืมความอึดอัดปล่อยร่างกายตอบรับท่อนเนื้อแท่งใหญ่ดันพรวดเข้าไปจนมิดยันโคนในที่สุด
“อ๊า...อึก...ซี๊ดดดด!”
เสียงครางที่สอดประสานระหว่างคนบุกและคนรับ ก่อนออกแรงขยับสะโพกแกร่งที่เสยอัดกระแทกถอน
ดันเข้าจะเพิ่มจังหวะเร็วขึ้นเรื่อยๆ สลับเน้นบดคลึงวนเอวร่อนอย่างเจนสังเวียน ทำเอาธรรมตรัยผู้อ่อนหัดตัวสั่นสะท้านได้แต่
รองรับการบดกระแทกของร่างหนาแต่เพียงอย่างเดียว สิ่งที่ตนทำได้ช่วยคลายความเสียวเข้ากระดูกคือปลดปล่อยเสียงคราง
ขานรับกับเสียงทุ้มในคอของกายันต์ก็เท่านั้น
“อาอาออออ...อืออ..ซู๊ดดด..โอววว...พั่บๆๆๆปัปๆๆ..ตับๆๆๆๆ!!” เสียงจังหวะรัวสะโพกที่กระชัน
ถี่แรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนคนรองรับตัวโยนหัวสั่นหัวคลอนไปกับจังหวะเน้นหนักที่อัดส่งมาแต่ละครั้ง
“ปัปปปปๆๆๆ...โอวว..อาาาา....ซี๊ดดด!!” เสียงครางเสียงซู๊ดปากอย่างเสียวซ่านของทั้งคู่
ที่ประสานกัน ก่อนธรรมตรัยจะเกร็งกระตุกบีบรัดช่องทางข้างหลังอย่างแรงติดต่อกันถี่ยิบ ในขณะที่ท่อนเนื้อด้านหน้าก็ขยายตึง
พ่นกระตุกน้ำขุ่นออกมาเลอะหน้าท้องแบนราบเช่นกัน
การถึงจุดไคลแม็กของธรรมตรัย ส่งผลให้กายันต์ต้องแหงนหน้าซี๊ดปากอย่างแรงก่อนเสยรัว
สะโพกแกร่งติดต่อกันอย่างถี่ยิบ แล้วกดแช่นิ่งแหงนหน้าเชิดจนเอ็นคอปูน กระตุกพ่นน้ำรักมากมายเข้าสู่ช่องโพรงอุ่นร้อน
ที่ตอดกระชับแน่นจนหยาดหยดสุดท้าย ก่อนทิ้งตัวถ่ายน้ำหนักไม่ให้กดทับลงไปบนร่างข้างใต้เต็มตัว ใบหน้าซึมเหงื่อซุกซบ
เข้าลำคอขาวจมูกโด่งสูดลมหายใจหอบ พร้อมจังหวะหัวใจเต้นรัวกระหน่ำแข่งกันทั้งคู่ก่อนจะแผ่วช้าลงจนเข้าสู่ภาวะปกติ
กายันต์ถึงยอมถอนอาวุธประจำกายออกจากร่างธรรมตรัยที่เผลอกระตุกบีบรัดท่อนเนื้ออย่างไม่ตั้งใจ เล่นเอาทั้งคู่ซู๊ดปากด้วย
ความเสียวส่งท้ายกันอีกหน แล้วกายันต์ค่อยแสดงความเป็นสุภาพบุรุษประคองธรรมตรัยคนรักเข้าไปชำระล้างคราบอาย
ของกลิ่นคาวในห้องน้ำให้เนื้อตัวสะอาดสบายเพื่อกลับมานอนหลับเอาแรงกันต่อ....
บทรักเต็มอิ่มทุกค่ำคืนที่ผ่านมา มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่จะผ่อนปรนให้คนหน้าสวยจอมนิ่ง
ได้มากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อยต้องหนึ่งเพื่อสร้างความเคยชินให้กับร่างกายของธรรมตรัย เพราะมันเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า
อาวุธส่วนตัวพี่น้องตระกูลดงพญานั้น..ไม่ธรรมดากันจริงๆ.....?????????????????
มาต่อให้แล้วนะคะ กับบทอัศจรรย์เรียกเลือดของคู่กายันต์กับธรรมตรัย
ขอบคุณทุกกำลังใจที่คอยติดตามกันอยู่เสมอมาโดยตลอด
ขอบคุณจากใจคนเขียนอีกครั้ง
Luk. :pig4:
-
จิ้ม
มารไม่ทันตาย คนอ่านตายทันที อ๊อก!
สองพี่น้องนี่คุ้มค่าจริงๆ
-
ตายสนิท :jul1: :oo1: :m25:
-
:jul1: :jul1:
แต่คู่นี้เค้าน่ารักจริง
-
ถึงกับเลือดท่วมกันเลยทีเดียว :jul1: :jul1:
-
มีกำหนดขั้นต่ำเอาไว้ด้วย เหอๆๆๆ :z1:
-
:-[
-
ตะ...ตะ..ตายละ
คุณเลขาเอาเรี่วแรงมาจากไหนนักหนาคะ ไหนจะทั้งศึกงานและศึกรัก
>////////<
ตกลงแล้วคือ มันต้องให้ชินใช่มั้ย *เขิน*
-
:jul1: :jul1: ขอรับบริจาคเลือดหน่อย
-
:jul1:อ่านตอนนี้แล้วเลือดท่วมจอเลยที่เดียว
-
:jul1: :jul1: :jul1: ไม่ธรรมดาจริง จริง!!! o13 o13
-
:m25: :m25: :m25: :m25: :m25:
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
ให้ 3 คำ "จม กอง เลือด" :jul1: :jul1: :jul1:
-
:pighaun:เลือดพุ่งเกือบหมดตัว ฮ่าๆ หวานกันจริงๆ :o8:
น่ารักทั้งสองคู่เลย ขอให้ผ่านเรื่องของสิตาไปได้ด้วยดี
อย่าให้มีใครเป็นอะไรเลย
-
เลือดท่วม :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
เอิ่มๆๆๆ สมแล้วที่เป็นน้ำแข็งใสราดน้ำแดง 555
-
เลือดพุ่ง :m25: :m25:
-
เลือดสาดจริงงงงๆๆๆๆ :oo1:
เอาอีกๆๆๆๆๆๆ
ชอบคู่นี้ :o8:
-
น้ำแข็งใสราดน้ำแดง ราดนมข้นหวาน(?)ด้วย :haun4:
-
กายันต์นี่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยนะ
กายันต์กับธรรมตรัยเรียกเลือดได้ดีจริงๆ
:m25:
-
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
เลือดท่วม :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
:jul1:
+1และเป็ด
-
แอร๊กกกก...กดเป็ดแล้วจองเลือดกรุ๊ปบีด่วน :pighaun: :jul1: :jul1:
-
(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/2.gif) ไม่ต้องบรรยายอะไรอีกแล้ว
รอลุ้นตอนต่อไปว่าจะปราบจิตมารได้สำเร็จหรือไม่ดีกว่า
-
เฮือก!!! :pighaun: :jul1:
-
โฮกกกเลือดหมดตัวแล้ว :pighaun:
:L2: :L2:
-
รับบริจาคเลือดกรุ๊ปโอด่วน!!!
:jul1: :jul1:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน เป็นครั้งแรกค่ะ
อ่านรวดเดียวจนตามมาทันแล้วว
สนุกมากเลยค่ะ แนวนี้ไม่เคยอ่าน
ตอน...เลือดหมดตัวเลยทีเดียว
เขิล แทนทั้งพระลักษณ์ ทั้งธรรมตรัย
ก็นะทั้งสองพี่น้องคุ้มนี้เค้าไม่ธรรมดา
>///< :pighaun:
-
เรียบร้อย คนอ่าย เลือดหมดตัว :haun4:
-
:jul1:
-
:m25: :m25: :m25:
-
กายันต์กลัวน้อยหน้าคุณจารึไงเนี่ย...น่าอิจฉา เอ๊ย!...สงสารธรรมตัยเนอะ :-[
-
น่ารัก
อ้ายยยยยยย
เขินแทนตรัย
:-[
-
แอ๊กกกก ติดสตันเลยตอนนี้ :pighaun:
-
เลือดพุ่ง :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
เขินอ่ะ อิอิ เลขาน่ารัก
-
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยย
ตรัยน่ารักอ่ะ
:m1:
เวลาที่โดนสามีหยอกเนี่ยน่ารักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไม่ต้องแปลกใจ
ว่าทำไมกายันต์ถึงขยันทำการบ้านขนาดนี้
:jul1:
-
น้ำแข็งใสราดน้ำแดง..เย็นชื่นใจ สีสวยน่ากิน หวานชุ่มฉ่ำ
ตรัยจ๋า.. :o8:
ตอนแรกไม่ค่อยชอบกายันต์ เจ้าชู้ หมาหยอกไก่ เอาไปทั่ว :m29:
ตอนนี้มาแก้ตัว ก็อ่ะ อภัยให้ ต่อไปก็ทำตัวดีๆ ทะนุถนอมตรัยดีๆละกัน
สงสัยจังตรัยชอบกายันต์ตรงไหน ตรัยมาเล่าหน่อยน้าที่รัก :m1:
-
o13
-
:jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
เอิ๊กกกก สลบ :m25:
-
สิตายังหวังจะกลับมาอีกเหรอ อยู่เป็นหมีแปลงเพศก็ดีแล้ว เป็นของแปลกหายาก เผื่อได้เข้าไปอยู่ในบันทึกโลก
-
คู่นี้ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน
-
เลือดสาดดดดค่าพี่น้อง อิอิ เป็นกำลังใจให้คนแต่งค่ะ
-
+1
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆ
:jul1: :o12: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:
-
โฮะโฮะโฮะ สุดจะบรรยาย
รีบมาต่ออีกนะครับ อย่าปล่อยให้รอนานนะครับผม
ออ แล้วก็อย่าลือคู่เหยี่ยวหัวใจนะครับ(คู่นี้ก็น่าลุ้นสุดๆครับ)
-
เลือดหมดตัวแล้ว :jul1:
:pig4: :pig4:
-
:jul1:
-
เรื่องนี้หายไปนาน
แต่กลับมาทีแบบคุ้มค่าจริง
สมกับที่รอคอย
-
ขอเลือดกรุ๊ป y มาส่งหน้าคอมด่วนค่ะ
-
อิจฉาจังวุ้ย อยากมีแบบเน้บ้างงงง ขอบคุณนะคะคุณลักซ์
-
อ่านแล้วหัวใจจะวาย
มัน..จริงๆ ให้ตายเหอะ
คนอ่านนี่ละนะที่จะเลือดนองพื้นขาดใจก่อนธรรมตรัยน่ะ ><
-
เลือดสาดจริงๆ
ตอนแรกนี่นึกว่าต่อสู้กันจริงๆ
แต่กลายเป็นความหื่นของการยันซะนี่ 555
-
คนเขียนทำให้คนอ่านกระอั่กเลือดตาย
:m25: :m25: :m25: :m25:
-
+1 :jul1: :haun4:
-
อย่างน้อยต้องหนึ่งอ่ะ กรี๊ดดดดด!!
ศึกหนักของสะใภ้บ้านนี้
รออ่านตอนต่อไปค่ะ
-
:pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
-
ไม่ธรรมดาจริงๆ นะเนี่ย
คนอ่านก็ซี้ดปากตามเหมือนกันอ๊ะ
โอ๊ย ขอบคุณคร๊าบ คนเขียนใจดีจัดเต็มมาอย่างเคยเลย
เลือดท่วมจอหมดเลย :m10:
-
:m25: :m25: :m25: ก่อนที่สิตาจะตายเค้าว่า เค้าตายก่อนแล้วหละ 55555+
-
คนอ่านตายก่อนนจิตมารเเล้วว :jul1: :jul1:
-
:m25: :m25: :m25:
สนุกมากค่ะ o13
-
ในที่สุดพ่อคนน้องก็บอกความนัย(ที่เก็บไว้ในใจคนเดียว) ซะทีว่ารักอีกฝ่ายมาแต่แรก
ไม่รู้อ่านตกไปไหมว่า เค้าได้บอกรักธรรมตรัยไปบ้างไหมหว่า ตอนนี้ก็มีแต่เรียกเลือดซะด้วยสิ
อ่านนิยายไปเล่นเฟสบุคส์ไป ได้อารมณ์ดีแท้
ส่วนนี้ ของแสดงความคิดเห็นในการเขียนสักกะนิด
สิช่างเป็นภาพการสนทนาที่ทำเอาออฟฟิศกลางไร่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นอายสีชมพูจนพนักงานในห้อง
ในความรู้สึกส่วนตัวคำนี้มันให้ความรู้สึกไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่ ส่วนตัวจริงๆ นะคะ
-
:m25:หมดแรงแทนเลยทีเดียว
-
หลงรักตรัย เกินกว่าจะถอนตัว....
-
เลือดกำเดากระฉูด!!!!!
-
โอ้วซี๊ดด
-
:haun4: หวานกันซะม๋ามีอ่ะ
ตายสนิทเลยจ้า คนแต่งจ๋า :-[
-
สามคำให้ตอนนี้>>> ขอ เลือด หน่อย :jul1:
-
คุณเลขาน่ารักมากกกก :-[
-
เปลี่ยนจากมนต์มารเป็นมนต์รักได้ไหมคะ รู้สึกว่าพักนี้น้ำตาลจะขึ้นหน้าทำให้เลือดซูบแรงขึ้น
ทำให้หน้าจะแตกค่ะ โอ๊ย!!!!!!
-
หวานซ้าาา :o8:
:jul1: :jul1:
-
อ๊อก..............อ่านแล้วจมคากองเลือด
-
เขินแทนคุณตรัย :o8: :-[ :jul1:
มาต่อไว ๆ นะคะ o18
-
เข้ามาช่วยดันตกไปเยอะเลย :เฮ้อ:
-
:sad4: ยังไม่มาต่อเหรอครับ รออออออออออออออ
-
@@@ แจ้งข่าว....ดี!!!!
การจัดรวมเล่มไตรภาคย์งานเขียนเรื่อง ตะเกียงพิเศษ...จอมใจนักเลง...เหยี่ยวหัวใจ เป็นบล๊อคเซ็ทรวมไตรภาคย์
ทั้งหมดสามเรื่อง เปิดจองได้แล้วค่ะ แต่!..ยังไม่เปิดโอน จะเปิดโอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้า
ที่แจ้งให้จองก่อน เพราะท่านที่ลงชื่อจอง 150 คนแรก ตอนเปิดโอนท่านยังยืนยันการโอนสั่งซื้อ
ท่านจะได้รับหนังสือแถมเรื่อง 'เทพพิทักษ์ขุนทัพ' ฟรี!..อีกหนึ่งเรื่อง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับเรื่องนี้
สนใจส่งเมลล์ มาจองได้ที่ luxilove_19690 แอท hotmail ดอท Com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ส่วนท่านที่สนใจเฉพาะเรื่องไม่เอาเป็นไตรภาคย์ ไม่ต้องถามนะคะว่าแยกซื้อได้ไหม ได้อยู่แล้วคะ
ตอนนี้แค่เปิดจอง ให้นักอ่านที่ต้องการเก็บหนังสือไตรภาคย์นี้ไว้ ได้ลงชื่อจองเข้ามา
ปล1.ทุกเรื่องจะมีตอนพิเศษ แถมในเล่มเรื่องละ 2 ตอน ซึ่งไม่โพสฯลงในกระทู้นิยาย
เก็บตังค์หยอดกระปุกได้เลย จะนำรูปเล่มและข้อมูลที่เหลือมาแจ้งให้ทราบเป็นระยะ คอยติดตามด้วยนะคะ
ปล2. สำหรับวันเปิดโอน คนที่ได้สิทธิ์ 1 ใน 150 คน แล้วไม่โอน
จะเลื่อนสิทธิ์นั้นให้กับคนโอนที่ไม่ได้สิทธิ์ไล่ไปตามลำดับจนครบ 150 คนแรก ค่ะ
เพราะฉะนั้นตอนนี้รับจองไปเรื่อยๆ ท่านสามารถส่งเมลล์มาจองได้ตลอดนะคะ
คนเขียนจะตอบเมลล์แจ้งเลขลำดับให้ท่านทราบทุกเมลล์ค่ะ
Luk. :pig4:
มนต์มาร
Part 25
น้ำตาองค์นารายณ์
.
.
.
.
.
“แน่ใจทำตามนี้ ไม่เปลี่ยนใจจริงดิ?”
พระลักษมณ์ย้ำกับปาจาอีกครั้ง หลังจากทั้งคู่อยู่กันตามลำพังในห้อง
“หึหึ..คิดว่าผมเป็นคนใจโลเลหรือเปล่าละ?”
ปาจาไม่ตอบหัวเราะในคอแทน หนำซ้ำถามพระลักษณ์กลับแบบทีเล่นทีจริงซะงั้น เพื่อคลายเครียดลงบ้าง
ปีศาจรูปงามไม่ต้องการให้คนรักหน้าใสต้องเป็นกังวลมากนัก แม้จะรู้ว่าสิ่งที่ตนตัดสินใจเอาตัวเป็นเป้า
ล่อจิตมารให้มุ่งมาหาตนนั่นดูเสี่ยงมากก็เถอะ แต่ปาจาเลือกเป็นคนเสี่ยงเสียเองดีกว่า ถ้าหากคนอื่นต้องพลอยมารับเคราะห์
ด้วยแล้วละก็ ที่สำคัญจิตมารสิตาต้องการตนเพื่อช่วยเพิ่มพลังมารเหตุผลข้อนี้ต่างหากที่ทำให้ปาจาไม่สามารถหาวิธีเหมาะสม
ได้อีกแล้ว
“คุณกำลังล้อเล่นกับมัจจุราชอยู่รู้ตัวไหม ผมปะทะฝีมือกับสิตามาแล้ว ทำไมจะไม่รู้ว่าเธอแข็งแกร่ง
มากแค่ไหน ต่อให้เป็นคุณก็ไม่ใช่คู่มือเธอหรอก ทำไมเราไม่ล่อเธอมาแล้วยิงด้วยกระสุนเงินนัดสุดท้ายเสียให้สิ้นเรื่อง
แค่นี้คุณก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใกล้เธอด้วยซ้ำ” พระลักษมณ์ไม่ได้รู้สึกขันไปกับปาจาที่พยายามทำให้มันตลกเลยสักนิด
ตรงข้ามกับเครียดและจริงจังยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ตอนนี้คิดเพียงอย่างเดียวว่าทำยังไงให้ปาจาเปลี่ยนความตั้งใจ
เพราะเหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงแล้วด้วย ปาจากับตนก็ต้องออกไปเป็นเป้าล่อสิตาถึงกลางทุ่งบริเวณใต้ต้นไม้สถานที่ทั้งคู่
เดทกันครั้งแรกและปาจาขอพระลักษมณ์เป็นแฟนนั่นแหละ ดันใช้สถานที่แห่งความทรงจำเป็นจุดล่อจิตมารออกมาจัดการเสียนี่
พระลักษมณ์ถามถึงเหตุผลเหมือนกันว่าทำไมปาจาถึงเลือกสถานที่ตรงนี้ ปาจากลับตอบว่าเพราะที่นี่
เป็นทุ่งโล่งไม่มีมุมอับ สิตาไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่ระวังว่าปาจามาเพียงลำพังหรือเปล่า เหนือสิ่งอื่นใดคือห่างไกลบ้านคนงาน
จะได้ไม่มีใครเดือดร้อนหากเกิดการผิดพลาดขึ้น อย่างน้อยสิตาไม่สามารถทำร้ายคนอื่นได้
“ฟังผมนะพระลักษมณ์”
ปาจาหันมาจ้องสบตากับพระลักษมณ์นิ่งไม่มีแววตาล้อเล่นแล้ว ในเมื่อรู้ว่าพระลักษมณ์กังวลแค่ไหน
ร่างโปร่งหน้าใสคิ้วขมวดมุ่นจ้องรอฟังปาจาจะพูดอะไร
“ใช่ผมไม่รู้ว่า จิตมารตอนนี้ฝีมือกล้าแข็งเกินที่จะรับมือได้ ผมก็คงลูกไก่ในกำมือเธอ หากต้องการล่อ
เธอออกมาแล้วยิงด้วยกระสุนเพียงนัดเดียว ถ้าเกิดพลาดเหมือนที่ผมยิงมันในถ้ำเสียกระสุนฟรีไปถึงสี่ลูกละ คุณเห็นแล้วนี่
จิตมารว่องไวแค่ไหน เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่พลาดอีก
ที่ผมยอมเสี่ยง อย่าลืมสิว่าผมจะรอดหรืออาจกลายเป็นทาสของมันไปตลอดกาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณ
ต่างหาก ถึงแม้ผมจะเอาตัวเข้าเสี่ยง แต่ต้องอาศัยคุณที่จะจัดการเรื่องนี้ให้มันจบลง ร่างแฝงแห่งองค์นารายณ์หนึ่งในสามเทพ
ที่ยิ่งใหญ่ เทพเจ้าแห่งการทำลายร้างปีศาจสิ่งชั่วร้าย เหมือนฉายาคุณไง ‘วิษณุทรงพล’ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะทำลายมารร้าย
ที่ถูกปลุกจากขุมนรกให้สิ้นซาก ถ้าคุณยังมัวแต่กังวลแบบนี้ ชีวิตผมยิ่งอันตรายมากขึ้น เอาล่ะรับสิ่งนี้ไปครับ” พูดจบปาจา
ล้วงหลังเอวดึงปืนพกประจำตัวที่บรรจุกระสุนเงินในรังเพลิงไว้เรียบร้อยยัดใส่มือพระลักษมณ์โดยไม่รอให้คนรักพูดอะไรอีก
พร้อมส่งสายตายืนยันคำพูดอีกครั้ง
“ผมไม่มั่นใจ ยอมรับว่าตั้งแต่ทำงานมา เสี่ยงตายไม่รู้กี่ครั้ง ผมไม่เคยกังวลเท่าครั้งนี้มาก่อน
บอกตามตรงผมไม่อย่างเสี่ยง ตกลงมันไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วใช่ไหม?” ปาจามองแววตาที่ฉายความกังวลชัดเจนในตากลมโต
ของพระลักษมณ์ โดยเข้าใจถึงสาเหตุที่พระลักษมณ์ขาดความมั่นใจ เพราะตนนั่นเอง นี่สินะเค้าถึงห้ามไม่ให้หน่วยพิเศษ
มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเพื่อนร่วมทีม มันจะกลายเป็นปัญหาขึ้นมาทันที เมื่อต้องทำงานด้วยกัน สำหรับพระลักษมณ์ตอนนี้
แทบไม่ต้องค้นหาคำตอบด้วยซ้ำ หากเปลี่ยนจากปาจาเป็นคนอื่นละก็พระลักษมณ์คงสบายใจที่จะจัดการสิตา
ได้อย่างไม่ต้องมัวพะวงแน่นอน
“ผมรู้ครับผมรู้..เกี่ยวกับสิ่งที่คุณกังวล แต่ขอร้องล่ะ นอกจากคุณแล้วไม่มีใครสามารถรับหน้าที่
สำคัญนี้ได้แล้ว ฟ้าส่งคุณกับผมมาเพื่อจัดการปัญหานี้ตั้งแต่ต้น เราไม่มีทางเลี่ยงครับพระลักษมณ์ เพราะงั้นสิ่งที่คุณควรทำ
คือรวบรวมสติตั้งสมาธิจดจ่อกับภารกิจที่จะต้องจัดการข้างหน้าต่างหาก ผมเชื่อว่าคุณต้องทำได้” ปาจาพูดให้กำลังใจ
พร้อมสร้างความมั่นใจให้คนรักไปด้วย
พระลักษมณ์เอาแต่จ้องหน้าคมเข้มของปีศาจรูปงามไม่กระพริบ ก่อนที่ปาจาจะคาดคิดแขนเรียวแกร่ง
ก็เหนี่ยวคอของตนลงมา พร้อมกับริมฝีปากสีสดตามประกบจูบลงบนปากหนาได้รูปทันที จากนั้นทั้งคู่ต่างตอบสนองกันและกัน
แขนแข็งแรงของปาจารวบกอดร่างพระลักษมณ์เข้ามาจนชิด พร้อมกับมือหนาจับท้ายทอยร่างโปร่งให้แหงนรับจูบดูดดื่ม
อย่างอ่อนโยน เป็นครั้งแรกที่พระลักษมณ์เลือกทำตามความต้องการของหัวใจ ซึ่งตนไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า
ความกังวลทั้งหลายนั่น เกิดขึ้นเพราะตนหลงรักปีศาจตนนี้แล้วเต็มเปา
นี้ต่างหากที่ทำให้ความมั่นใจในการจัดการภารกิจของตนไม่เต็มร้อย ผิดพลาดเพียงนิดเดียวเท่ากับชีวิต
ของปาจาอยู่ในเงื้อมมือมัจจุราชทันที จูบนี้จึงแทนความรู้สึกทั้งหมดที่ต่างฝ่ายต่างถ่ายทอดแทนคำพูด ใช้เวลาเนิ่นนาน
พอสมควรถึงได้ถอนริมฝีปากออก ในขณะที่หน้าผากของทั้งคู่ยังชนกันอยู่ ปล่อยลมหายใจเป่ารดใส่กันอย่างอ้อยอิ่ง
ถึงได้ยอมผละห่างออกช้าๆ
พระลักษมณ์พยายามที่จะคืนแหวนลงอาคมที่ปาจาสวมให้ตนแทนแหวนหมั้น เพื่อสวมลงบนนิ้ว
ของปาจาไว้ป้องกันมนต์สะกดของจิตมารสิตา แต่เจ้าคุ้มรูปหล่อกับห้ามไม่ให้ทำ ให้เหตุผลว่าตนเองต้องไม่มีสิ่งใดคุ้มกาย
จิตมารสิตาถึงจะเข้ามาหา ถ้าหากสวมแหวนเท่ากับปิดกั้นจิตมาร มันอาจโมโหออกอาละวาดเขตบ้านพักคนงานแทน
จะพลอยทำให้คนซึ่งไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนกันไปด้วย
พระลักษมณ์จำนนด้วยเหตุผลไม่สามารถขัดความตั้งใจของปาจา ต้องอาศัยกระสุนเงินเพียงนัดเดียว
เท่านั้น ที่ปาจามอบให้ทำหน้าที่เพชฌฆาตส่งจิตมารกลับสู่นรกภูมิ
ปัญหามันอยู่ตรงต้องยิงในขณะที่จิตมารกำลังสะกดปาจาเพื่อจะร่วมรักหลอมดวงจิตให้เป็น
หนึ่งเดียวกับมัน จิตมารต้องการรับเอาร่างแฝงปีศาจจากปาจาเสริมพลังมารในตัวให้สมบูรณ์ ในช่วงเวลานั้นพระลักษมณ์
ต้องไม่เปิดโอกาสให้จิตมารสมสู่กับปาจาสำเร็จ ขั้นตอนนี้ต่างหากที่เป็นช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ซึ่งพระลักษมณ์
ไม่มั่นใจสักนิดว่าตนจะทำได้ เพราะไม่มีพื้นฐานเรื่องคุณไสยมาก่อน และไม่แน่ใจว่าจะทนเห็นปาจาทำเรื่องอย่างว่ากับคนอื่น
ต่อหน้าต่อตาได้หรือไม่ต่างหาก ถึงจะยังไม่ทันสอดใส่ก็เถอะ
ปาจายืนยันหนักแน่นว่าตนสามารถยิงเจาะกะโหลกจิตมารได้เลย ในภาวะอารมณ์ที่มันกำลังจะ
เข้าด้ายเข้าเข็มย่อมขาดความระวังตัวลงมากทีเดียว
ต่อด้านล่าง
-
:z13:
ก่อนอ่าน
-
:z13: :z13:
-
ว๊าวๆๆๆๆตอนใหม่มาแล้ว (เรามาขั้นเปล่าหว่า)
-
- 2 -
พระลักษมณ์ขอธรรมตรัยกับกายันต์ ช่วยเป็นกองหนุนก็ไม่ได้อีก เพราะปาจาบอกว่าจิตมารจะรู้
ถึงการคงอยู่ของพวกเค้าทันที อาจมุ่งทำร้ายเสียก่อนถึงจะลงมือจัดการกับปาจาเอาทีหลัง ไม่มีประโยชน์ที่จะให้สองคนนี้
อยู่ในบริเวณนั้นด้วย ต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าพลังของจิตมารสิตากล้าแข็งขึ้นมาก ยิ่งมากคนก็ยิ่งเสี่ยงเข้าไปใหญ่ ให้กายันต์คอย
ดูแลธรรมตรัยอยู่เรือนไทยจะดีกว่า อย่าลืมว่าธรรมตรัยไม่รู้จักวิชาต่อสู้ แม้กายันต์เองก็เถอะ ฝีมือยังสู้พระลักษมณ์ไม่ได้
ประสาอะไรจะปะทะจิตมารสิตาได้กันล่ะ หน้าที่ของกายันต์เลยต้องอยู่ดูแลธรรมตรัยในเรือนไทยนี้เท่านั้น เป็นคำสั่งเด็ดขาด
ของปีศาจรูปงามที่ไม่มีใครกล้าขัด
----------------------------------------------
บัดนี้ ห้าทุ่มตรงแล้ว บริเวณโดยรอบทุ่งกว้างมืดสนิท
เนื่องจากเป็นคืนพระจันทร์ดับไม่มีแสงดาวสักดวง ปาจายืนหันหลังเห็นเป็นเงาร่างสูงใหญ่อยู่ใต้ต้นหูกวาง
ที่ขึ้นโดดเดี่ยวแผ่กิ่งก้านบนเนินเด่นกลางทุ่ง
บรรยากาศช่างแตกต่างกับวันที่สองคนมานั่งทานกลางวันซึ่งเป็นเดทแรกของทั้งคู่ ซึ่งในวันนั้น
ปาจายอมคุกเข่าขอพระลักษมณ์เป็นแฟนอย่างเป็นทางการ โดยไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีที่คุกเข่าขอร้อง
พระลักษมณ์ไม่รู้ว่าขณะนี้ปาจากำลังคิดอะไรอยู่ เพราะตนนอนพังพาบอยู่บนคาคบต้นหูกวาง
เพื่อซ่อนตัว อาศัยอำพรางกายด้วยชุดรัดรูปสีดำสำหรับปฏิบัติภารกิจของหน่วยสืบราชการลับช่วยให้คล่องตัวกว่าปกติมาก
แผนคือพระลักษมณ์หลบอยู่บนตนไม้โดยไม่ให้จิตมารรู้เป็นอันขาดว่าตนเร้นกายอยู่บนนี้ ปาจาและ
ธรรมตรัยยืนยันว่าแหวนที่พระลักษมณ์สวมติดนิ้ว จะช่วยป้องกันไม่ให้จิตมารล่วงรู้ถึงการคงอยู่ของพระลักษมณ์ไว้ได้
พระลักษมณ์ต้องเป็นเสือซุ่มรอจังหวะสังหารจิตมารให้จงได้ ซึ่งโอกาสมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ไม่งั้นปาจาและพระลักษมณ์อาจไม่มีทางรอดกลับไปอีก ถ้าหากพลาดแล้วทำให้จิตมารบันดาลโทสะสังหารทั้งคู่ขึ้นมา...
อะไรก็ไม่น่ากลัวเท่า หากจิตมารสะกดปาจาไว้ใต้มนต์มารและหลอมดวงจิตเสพสังวาสดึงเอาพลังแฝง
ของร่างปีศาจในตัวปาจาออกมาสำเร็จ เมื่อนั้นจิตมารจะมีพลังเป็นอมตะ แม้แต่กระสุนเงินก็ไม่สามารถทำอันตรายมันลงได้
ความกดดันในภารกิจที่มีทำให้ฝ่ามือของพระลักษมณ์ชื้นไปด้วยเหงื่อ แม้แต่ขมับก็เช่นกัน กล้ามเนื้อ
ทุกส่วนเขม็งเกร็งไม่ผ่อนคลายเหมือนเช่นเคย คงเพราะพระลักษมณ์รู้ดีว่าจิตมารสิตามีฝีมือและอำมหิตแค่ไหน
จะไม่รู้ได้อย่างไรเมื่อเคยปะทะแบบตัวต่อตัวแทบเอาชีวิตไม่รอด ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่สามารถทำอันตรายมันได้แม้แต่เส้นขน
นี่จึงเป็นสาเหตุให้พระลักษมณ์ไม่สามารถผ่อนคลายเช่นทุกครั้ง
ตรงข้ามกับปาจา ที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงหันหน้ามองไกลยังทุ่งกว้าง ซึ่งพระลักษมณ์ไม่สามารถจับสีหน้า
ของปาจาได้ว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่เพราะความมืด ขณะนี้สายตาพระลักษมณ์เริ่มชินกับความมืดจนมองสิ่งๆ ต่างในระยะ
ใกล้เคียงไม่ลำบากแล้ว แม้จะไม่เห็นรายละเอียดเท่าปกติ แต่ก็พอจำแนกรู้ว่าวัตถุที่เห็นคืออะไร
สำหรับที่พูดว่าไม่สามารถมองเห็นสีหน้าอาการของปาจา คงเพราะเจ้าตัวยืนหันหลังเห็นเพียงไหล่กว้าง
ที่น่าเกรงขามแทนต่างหาก ยอมรับปาจานิ่งได้อย่างเหลือเชื่อ
หากไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ พระลักษมณ์คงรู้สึกดีไม่น้อย ที่กำลังจ้องมองแผ่นหลังของปาจา
เพราะรู้ว่าผู้ชายคนนี้องอาจสง่างามแค่ไหน สามารถเป็นที่พึ่งให้ตนได้อย่างไม่ต้องกังวลเลยว่า จะได้รับอันตรายจากสรรพสิ่ง
ทำร้ายเอาได้ ถ้ายังมีผู้ชายคนนี้คอยอยู่เคียงข้าง
แต่ตอนนี้บทบาทหน้าที่บวกภารกิจอันหนักอึ้ง ทำให้พระลักษมณ์หวิวหัวใจพิกล ยิ่งปาจายืนหันหลังให้
พานรู้สึกใจหาย จึงรวบรวมสมาธิสงบจิตไม่ให้ฟุ้งซ่าน อาศัยการหลับตาปิดผ่อนลมหายใจเข้าออกควบคุม
ความคิดตนเองไว้ให้นิ่ง
“วิ้ววว...กร๊าซซซ!!”
ในขณะที่หลับตาอยู่นั่น ทุกส่วนของร่างกายกลับมาเขม็งเกร็งอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงลมและเสียงร้องกรรโชก
ของสัตว์ใหญ่ที่ดังขึ้น พระลักษมณ์จำเสียงนี้ได้ติดหูจนต้องรีบลืมตาเพ่งมองไปยังปาจาเป็นจุดแรก ค่อยโล่งอกที่ยังเห็นร่าง
สูงใหญ่ยืนนิ่งไม่ไปไหน ตอนนี้พระลักษมณ์ค่อยกวาดสายตาฝ่าความมืดสำรวจไปทั่ว เพื่อจะดูความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
และแล้วต้องตะลึงค้างเมื่อสายตาไปสะดุดเข้ากับร่างหญิงสาวยืนห่างไปไม่เกินสิบก้าว ร่างสมส่วนเอวบางร่างน้อยใบหน้า
ในเงามืดขาวซีดเท่าที่สายตายังพอเพ่งได้ เค้าโครงของความงามแฝงแววเย็นเยือก เธอนุ่งผ้านุ่งแบบสาวชาวบ้านสวมเสื้อ
เข้ารูปสีขาวแขนตุ๊กตา กำลังขยับก้าวตรงมาทางที่ปาจายืนอยู่ ด้วยท่วงท่ามั่นใจไม่พรั่นพรึงเลยสักนิด
ดวงตาสีแดงก่ำเห็นชัดกว่าส่วนอื่นจ้องยังร่างปาจาไม่กระพริบ เห็นแล้วชวนขนลุกได้อีก
ทำเอาพระลักษมณ์ถึงกับผ่อนลมหายใจให้เบาที่สุด รอดูสถานการณ์อย่างจดจ่อ
“ฉันคิดแล้วว่าคุณต้องออกมา”
น้ำเสียงไพเราะคุ้นหูของสิตาเอ่ยพอได้ยิน หลังยืนประจันหน้าปาจาห่างไม่ถึงสามก้าว
“คุณรู้ดีว่าทำไมผมถึงต้องมา”
ปาจาตอบกลับด้วยเสียงทุ้มนิ่งไม่เจือแววหวั่นไหวเลยสักนิด
“วันนั้นคุณใจร้ายกับฉันมาก กะฆ่าให้ตายเลยสินะ”
สิตาต่อว่าปาจาด้วยน้ำเสียตัดพ้อ ทำให้พระลักษมณ์ที่แอบฟังการคุยของทั้งคู่เบาใจลงอย่างไม่มีสาเหตุ
คงเพราะลึกๆรู้ว่าสิตามีใจให้ปาจาเป็นทุน ไม่น่าจะรุนแรงกันหรอก แต่ก็ไว้ใจอะไรไม่ได้ จิตมารมันเจ้าเล่ห์อาจกำลังใช้
มารยาหญิงอยู่ก็ได้ อย่าเพิ่งด่วนสรุปดีกว่า ความคิดของพระลักษมณ์หักล้างกันไปมาอยู่ในหัว
“ผมจำเป็นต้องรักษาชีวิตของพระลักษมณ์ ในสถานการณ์ตอนนั้นคุณคลุ้มคลั่งเกิดที่จะคุยกันรู้เรื่อง”
ปาจายังคงอาศัยการเจรจาเพื่อถ่วงเวลาให้พระลักษมณ์ได้มีโอกาสหาจังหวะที่ดี แต่ตอนนี้ร่างตนยืนบังสิตาอยู่ ทำให้รู้ว่า
โอกาสที่พระลักษมณ์จะส่งลูกกระสุนเพียงนัดเดียวเจาะกลางหน้าผากสิตาเป็นไปได้ยากมากในมุมที่ร่างใหญ่โตของตน
บังร่างบอบบางของสิตาไว้แบบนี้ กำลังคิดจะหลอกล่อสิตาให้เข้าไปใกล้ต้นไม้ที่พระลักษมณ์แอบซุ่มอยู่ให้มากที่สุด
เพื่อกันพลาดแต่ต้องชะงักความคิดลงทันที เมื่อได้ยินสิตาเอ่ยขึ้นมาว่า
“ฉันคงต้องขอบใจคุณด้วยเช่นกัน เพราะการระดมยิงของคุณวันนั้น ทำให้รู้ว่ากระสุนเงินของคุณ
ไม่สามารถทำอันตรายฉันได้เลย ฮ่ะๆๆๆ..โบราณเค้าถึงบอกในความโชคร้ายย่อมค้นพบสิ่งดีเสมอ เหมือนฉันตอนนี้
คุณไม่ต้องทำหน้าแปลกใจหรอก ฟังไม่ผิดหรอกคุณจา กระสุนเงินที่พวกคุณอุตส่าห์ทำพิธีมาจนดิบดี ไม่สามารถ
ทำอันตรายฉันได้อีก นั่นเพราะผิวหนังของฉันที่ได้รับอำนาจจากหัวใจมารต้นแบบช่วยให้มันเป็นอมตะไปแล้ว เสียแต่เพียง
ฉันต้องทุกข์ทรมานอยู่ในร่างของสัตว์มารก็เท่านั้น ยกเว้นคืนพระจันทร์ดับที่สามารถคืนร่างเป็นคนได้ ฟังแล้วตกใจกับข้อมูล
ใหม่ที่เพิ่งรู้ใช่ไหมล่ะ..ฮ่ะๆๆๆๆ” ปาจายอมรับว่าตกใจจริงๆ ไม่เพียงแต่ปาจาเท่านั้นพระลักษมณ์เองก็เกิดอาการเช่นเดียวกัน
ถ้ากระสุนเงินไม่สามารถกำจัดจิตมารได้ งั้นแผนที่วางไว้ก็ไม่มีประโยชน์นะสิ หนำซ้ำปาจาอาจกลาย
เป็นทาสรับใช้ของจิตมารสิตาไปตลอดกาลอีกด้วย ในขณะที่พระลักษมณ์กำลังร้อนรุ่มใจอยู่นั้น ปาจาก็ตะล่อมถามล้วงข้อมูล
จากสิตาเพื่อถ่วงเวลาไปด้วย พร้อมหาจุดอ่อนที่จะสามารถทำร้ายจิตมารได้ โดยเก็บอาการซ่อนไว้ภายตายใบหน้า
คมเข้มอย่างไม่พรั่นพรึง
“ยอมรับว่าผมแปลกใจกับสิ่งที่ได้ยินจริงๆ ตอนนี้คุณคงก้าวเข้าสู่ภาวะอมตะแห่งกายมารเต็มตัวแล้วสิ?”
ปาจารู้ว่าพระลักษมณ์เองกำลังฟังการสนทนาของตนกับสิตาอยู่ จึงต้องล้วงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ออกมาให้ได้มากที่สุด
“หึหึ..ที่ฉันบอกเพราะคิดว่าคุณกล้าออกมารอถึงนี่ คงเตรียมการเพื่อกำจัดฉันสินะ นั่นก็ไม่แปลก
เพราะพวกคุณคิดว่ากระสุนเงินสามารถจัดการฉันได้ ฉันจึงช่วยสงเคราะห์ให้ความกระจ่างเสียแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่เสียเวลา
คิดทำอะไรโง่ๆ ให้เป็นอันตรายต่อตัวเอง
จริงอยู่ฉันไม่ปฏิเสธส่วนตัวแล้วรู้สึกยังไงกับคุณ แต่อย่าลืมว่าครึ่งหนึ่งในร่างฉันมีดวงจิตที่มีอำนาจ
เหนือกว่าควบคุมอยู่ และเค้าก็ไม่มีทางปล่อยให้ใครคิดร้ายกับฉันหรอกจริงไหม? ฉันจึงหวังดีบอกคุณรับรู้เอาไว้ รู้แบบนี้
คงไม่ต้องเสียเวลาเรามาเสนอข้อแลกเปลี่ยนกันเถอะ” สิตาสรุปตัดบทเมื่อเริ่มเห็นเวลาใกล้เที่ยงคืนเข้าไปทุกทีแล้ว
หากเลยเที่ยงคืนไปพลังอำนาจของจิตมารจะอ่อนลง จนทำให้คืนร่างเป็นสัตว์มารไม่สามารถมายืนพูดได้อย่างตอนนี้
จะทำให้เสียความตั้งใจที่ออกมาหาปาจาไปเช่นกัน
“คุณต้องการอะไรลองบอกมาก่อน” ปาจาคงถ่วงเวลาไว้เช่นกัน เพื่อให้สามารถหาทางพา
พระลักษมณ์กลับออกไปได้อย่างปลอดภัยแม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นโอกาสนั้นเลยก็ตามเถอะ
“ฉันต้องการให้คุณจูบกับฉันตอนนี้” สิตาไม่อ้อมค้อมพุ่งเข้าเป้า ปาจาคิดไว้แล้วเช่นกัน
สำหรับเรื่องนี้ แต่ไม่คิดว่าสิตาจะกล้าพูดออกมาตรงๆ ทำให้รู้สึกกระอักกระอวนพิกล
“ถ้าผมปฏิเสธละ คุณจะจัดการยังไง” ปาจาหยั่งเชิงถามกลับไป
“หึหึ..คุณคิดว่ามีทางเลือกงั้นสิ ที่ฉันไม่ใช้มนต์มารบังคับคุณ เพราะจิตมารต้องการให้คุณ
เต็มใจต่างหาก หากคุณยอมจูบฉันในขณะที่เป็นตัวของตัวเอง จิตมารจะสามารถเข้าไปสิงยังร่างคุณได้
บอกอย่างไม่ปิดบังเลยนะ เค้าต้องการร่างกายคุณแทนฉัน เมื่อเค้าเคลื่อนย้ายดวงจิตไปสู่ร่างคุณ
ฉันก็จะเป็นอิสระสามารถปรนนิบัติคุณได้ด้วย พูดง่ายๆ ทำหน้าที่ปรนนิบัติดูแลจิตมารในร่างคุณยังไงล่ะ นั่นคือความต้องการ
ของฉันที่อยากจะอยู่เคียงข้างคุณโดยไม่ถูกปฏิเสธ แต่ถ้าต้องใช้มนต์สะกดแล้วละก็ คุณจะตกเป็นทาสของฉันไปจนตาย
โดยไม่เหลือจิตสำนึกส่วนตัวอีกเลย คุณเลือกเอาเองเถอะ ต้องการมีความทรงจำส่วนตัวเก็บไว้เหมือนอย่างฉัน
หรือจะกลายเป็นคนที่ไร้วิญญาณเหลือแต่ร่างก็ตามใจ” นี่ถือเป็นข้อมูลใหม่ล่าสุดเช่นกัน ที่ปาจาและพระลักษมณ์เพิ่งรับรู้
ไปพร้อมกัน ในหัวของทั้งคู่ต่างใช้ความคิดตีกันให้วุ่นไปหมด ในที่สุดปาจาก็เอ่ยปากขึ้นว่า
“ผมคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ อย่างน้อยเมื่อไม่มีหนทางแล้ว เหลือความทรงจำไว้ก็ยังดีกว่าเป็นผีดิบ
แต่ผมมีคำถามสุดท้าย ทำไมจิตมารจึงต้องการเปลี่ยนมาใช้ร่างกายของผม” นั่นคือความสงสัยใคร่รู้ที่ทั้งปาจาและพระลักษมณ์
ต่างใจตรงกันและรอฟังคำตอบจากปากสิตา
“ไม่เห็นต้องคิดให้ปวดหัว คำตอบมันมีในตัวอยู่แล้ว จิตมารเป็นผู้ชายต้องการแสดงศักยภาพของเพศผู้
ซึ่งฉันไม่มีในส่วนนี้ด้วยสิ อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณคือร่างแฝงของปีศาจ นั่นต่างหากที่จิตมารต้องการร่างกายคุณ
เมื่อรวมดวงจิตเข้ากับอำนาจแฝงที่มีมาแต่กำเนิดไว้ด้วยกันได้ จะทำให้พลังมารสู่จุดสูงสุดสามารถเรียกลมเรียกฝน
คืนร่างเป็นสัตว์มารหรือเป็นคนเวลาไหนย่อมได้ตามใจนึก ไร้ซึ่งอาวุธที่จะระคายผิวไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใดก็ตาม
คงเข้าใจแล้วสินะ ที่ฉันยอมทำตามข้อตกลงของจิตมาร นั่นเพราะฉันจะได้เป็นคนปกติใช้ชีวิตเป็นคนรักของคุณภายใต้
การควบคุมของจิตมาร ย่อมทำให้คุณรู้สึกรักฉันได้ไม่ยาก หากเป็นเช่นปัจจุบันแม้แต่เศษเสี้ยวของหัวใจ ฉันคงไม่มีทาง
ได้จากคุณหรอกจริงไหม? ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าใครคือคนที่คุณมอบใจให้ ดีนะที่มันไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย ไม่งั้นฉันจะกำจัดมัน
ให้หมดเสี้ยนหนามไปซะ แต่เอาเถอะไว้ค่อยตามจัดการมันทีหลังก็ไม่สาย ดูสิมันจะมีปีกหนีเงื้อมมือจิตมารไปไหนได้
ตราบใดที่มันยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ย่อมเป็นหอกข้างแคร่ไม่จบสิ้น” สิตาพร่ำบ่นถึงพระลักษมณ์ยาวเป็นหางว่าว นั่นทำให้รู้ว่า
จิตมารเองอาฆาตพยาบาทพระลักษมณ์มากแค่ไหน หากมันรู้ว่าคนที่กำลังกล่าวถึงซุ่มซ่อนอยู่บนคบไม้เหนือศีรษะละก็
เป็นเรื่องแน่ เพราะงั้นปาจาต้องรีบรวบรัดก่อนพระลักษมณ์จะได้รับอันตราย ที่สำคัญถ้าความรู้สึกของตนไม่พลาด
จุดอ่อนในการกำจัดมารร้ายคงอยู่ช่วงที่มันย้ายดวงจิตมาสู่ร่างตนนั่นแหละ ถือเป็นโอกาสเดียวที่จะทำลายมัน เพียงหวังว่า
พระลักษมณ์จะไม่ทำให้โอกาสที่ตนเสียสละครั้งนี้สูญเปล่า
“เอาเถอะผมรับเงื่อนไขของคุณ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า”
พูดจบปาจาก้าวประชิดสิตา ออกแรงรวบกอดร่างนุ่มนิ่มตรงหน้าที่แลดูเหมือนไร้พิษสงเข้าประกบจูบอย่างไม่ลังเล
ส่วนพระลักษมณ์ที่ซุ่มดูอยู่บนคบไม้ แม้จะเตรียมทำใจกับภาพที่คาดว่าต้องได้เห็น ยังอดรู้สึกแปล๊บ
บริเวณหัวใจไม่ได้ มันช่างเป็นภาพบาดตามากมายเมื่อเห็นปาจายืนบดจูบกับสิตาเช่นนี้ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อตอนที่ตน
แอบบนคานแล้วซุ่มดูปาจาจูบกับครูรัสสา คงเพราะตอนนั้นตนไม่มีใจปฏิพัทธ์ลึกล้ำกับปาจาเหมือนตอนนี้ถึงได้ไม่รู้สึกอะไร
สุดท้ายก็ต้องทำใจอดทนต่อสิ่งที่เห็น เพราะเข้าใจดีว่าปาจาทุ่มเททำลงไปเพราะอะไร หากเกิดจาก
ความต้องการส่วนตัวก็ว่าไปอย่าง
ลีลาจูบดูดดื่มที่ปลุกเร้าอารมณ์ของสิตาให้คล้อยตามและกำลังเตลิดด้วยฝีมืออันเชี่ยวชาญของปาจานั้น
กลับส่งผลให้ปาจาเองเคลิ้มไปกับอำนาจดำกฤษณาที่จิตมารส่งผ่านรสสัมผัสของทั้งคู่จนสติที่มีแน่วแน่เริ่มจะควบคุมไว้ไม่ได้
เช่นกัน เหมือนมึนเมาไปกับรสจูบที่ได้รับการตอบสนองอย่างดีเยี่ยมของสิตา ทั้งคู่จึงแสดงบทรักยืนจูบกันท่ามกลางสายตา
สักขีพยานเพียงหนึ่งเดียวที่เริ่มผิดสังเกตเห็นอาการเคลิ้มไหวไปกับรสจูบของปาจาเช่นกัน ทำให้รู้ว่าคนรักกำลังถูกควบคุม
เข้าให้แล้ว ความรู้สึกปวดหนึบในอกเกิดขึ้นอีกครั้ง และครั้งนี้มาพร้อมกับน้ำตาที่เริ่มเอ่อคลอเบ้าโดยไม่สามารถสะกดกลั้น
เอาไว้ได้แล้ว
พระลักษมณ์ซึ่งนอนพังพาบเป็นแนวราบหลังคบไม้ ในมือข้างขวากำปืนพกที่บรรจุกระสุนเงินไว้แน่น
ค่อยขยับเลื่อนปืนในมือขึ้นมาระดับสายตาช้าๆ โดยเล็งปากกระบอกปืนไปยังร่างในอ้อมกอดของคนรัก ที่บัดนี้กำลังมัวเมาใน
รสจูบอย่างเห็นได้ชัด สังเกตจากเสียงครางทุ้มในคอของปาจาที่ลอดออกมาให้พอได้ยิน ในขณะที่มือขาวนวลของสิตา
ท่ามกลางความมืดกำลังลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังแกร่งของปาจาอย่างได้อารมณ์เช่นกัน โอ้ช่างเป็นภาพที่กดดันต่อความรู้สึก
ของพระลักษมณ์ยิ่งนัก
ใครไม่ได้มาอยู่ในสถานการณ์ตอนนี้ คงไม่เข้าใจหรอกว่า วิษณุทรงพลผู้องอาจเข้มแข็งกำลังหลั่งน้ำตา
อาบแก้มกัดเม้มริมฝีปากเน้น เพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดของหัวใจ น้ำตาที่ไหลเป็นทางหยดลงบนกระบอกปืนทีละหยดๆ
โดยที่พระลักษมณ์ไม่ทันเฉลียวใจสักนิดเพราะเอาแต่จดจ้องกระบอกปืนไปยังภาพตรงหน้าตาไม่กระพริบแถม
หลั่งน้ำตาอย่างเงียบๆ
หากจะแบ่งสมาธิสังเกตสักหน่อย จะเห็นว่าน้ำตาของตนที่หยดลงกระบอกปืนนั่น ส่องประกายวูบไหว
แวววาวเป็นจุดเล็กๆ ทุกครั้งที่หล่นกระทบกระบอกปืนสีดำทะมึน และถ้าพระลักษมณ์มีกระจกส่องดูเงาตัวเองในตอนนี้
จะเห็นภาพพระนารายณ์ซ้อนทับอยู่กับร่างตนกำลังหลั่งน้ำตาออกมาเช่นกัน นี่สินะที่คัมภีร์โบราณกล่าวไว้ว่า
‘น้ำตาองค์นารายณ์’ ยามที่ท่านเศร้าใจต่อบาปของมนุษย์ และน้ำตาอันศักดิ์สิทธิ์นี่เอง ที่ทำลายล้างความชั่วร้าย
ทั้งหลายให้มลายสิ้นไป
ทันใดนั่นจู่ๆ ปาจาก็กระตุกร่างผลักสิตาออกจากอ้อมกอดกระเด็นจนล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
โดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนปาจากลับกุมขมับทุรนทุรายลงไปนอนดิ้นไม่เป็นท่า ทำเอาพระลักษมณ์เบิกตาโตตะลึงต่อเหตุการณ์
ที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน จ้องไปยังร่างปาจาไม่ว่างตาอย่างงงๆ
“อ๊ากกก!!...โอยยย!!”
ท่าทางกุมขมับนอนบิดเป็นเกลียวของปาจาดูทรมานเหลือหลาย ในขณะที่สิตากลับนอนหายใจรวยริน
หมดแรงอยู่ตรงพื้น อะไรกันเกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้ทั้งคู่ยังยืนจูบกันอย่างเมามันอยู่ดีๆ ทำไมชั่วไม่กี่นาทีกลายเป็นแบบนี้ไปได้
พระลักษมณ์สงสัยได้ไม่นานเมื่อ
“ทะ..ท่าน...ทำไมเป็นแบบนี้?”
เสียงพูดกระท่อนกระแท่นของสิตาที่เอ่ยออกมา ไม่รู้ว่าถามใครในเมื่อปาจายังนอนกุมขมับใบหน้าบิดเบี้ยว
ดวงตาเริ่มเบิกโพลงแดงก่ำ ก่อนจะได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากปาจาว่า
“ข้าต้องขออภัยเจ้าด้วย ที่บอกความจริงไม่หมด”
เสียงพูดของปาจา แต่ลักษณะการพูดเปลี่ยนไป ทำให้พระลักษมณ์เริ่มเข้าใจแล้วว่า นั่นไม่ใช่ปาจา
แต่เป็นจิตมารที่อยู่ในร่างปาจาต่างหาก
“มะ..หมาย..หมายความ..ยะ..อย่างไร?”
สิตายังคงพยายามรวบรวมกำลังถามออกไป ทั้งที่สภาพในตอนนี้เหมือนคนกำลังจะขาดใจอยู่รอมร่อ
ซึ่งพระลักษมณ์เองไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไรลงไปโดยพลกาลเพราะยังไม่แน่ใจว่าตนต้องทำยังไงต่างหาก
“หึหึ...หากข้าสละร่างจากเจ้า นั่นแปลว่าเจ้าจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ยังไงล่ะ ที่ข้าไม่ได้บอกเจ้าทั้งหมด
เจ้าน่าจะเข้าใจการย้ายดวงจิตของมนต์มารทำได้ที่ไหนกัน ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าคงทำไปนานแล้ว นอกจากจะต้องอาศัยร่างใหม่
ที่มีพลังปีศาจรองรับแล้ว ยังต้องอาศัยพลังจิตที่กล้าแข็งมากด้วย ซึ่งตอนนี้ข้าได้สองสิ่งนี้มาประจวบกันพอดีจึงสามารถ
เปลี่ยนร่างได้ แต่สำหรับเจ้าที่เคยเป็นร่างเดิมของข้าก็ต้องตายในที่สุด นั่นเพราะตลอดเวลาที่ข้าอาศัยร่างเจ้าในการคงอยู่
เจ้าก็ต้องอาศัยดวงจิตข้าในการรักษาพลังชีวิตเอาไว้ เมื่อไม่มีข้าพลังชีวิตของเจ้าก็ย่อมแตกดับไปเป็นธรรมดา” จิตมารในร่าง
ปาจาเอ่ยปากบอกอย่างไม่ทุกข์ร้อน ในขณะที่ร่างกายยังดิ้นทุรนทุรายมือของปาจายังคงกุมศีรษะใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกเหมือน
กำลังต่อสู้กับตนเองอยู่ช่างเป็นภาพที่ขัดกันมากระหว่างเสียงพูดกับท่าทางของคนพูดที่แสดงออกมา
"ทะ..ทำไม..ถึ..ถึงหลอกฉัน?” คำพูดเฮือกสุดท้ายที่สิตารวบรวมเปล่งออกมา ก่อนปากจะขมุบขมิบ
ตาเบิกโพลง ลมหายใจเริ่มอ่อนลงเรื่อยๆ พระลักษมณ์มองแล้วให้รู้สึกอดสูในใจไม่ได้
“เพราะเป็นความต้องการของเจ้าเองต่างหาก ที่ต้องการให้ข้าสละร่างเจ้ามาอยู่กับไอ้หนุ่มนี่แทน
เพื่อเจ้าจะได้ครองรักกับมัน ข้าทำตามความประสงค์ของเจ้าแล้วไง เพียงแต่ไม่บอกเจ้าว่า เมื่อใดที่ข้าสละร่างจากเจ้า
พลังชีวิตเจ้าจะแตกดับไม่มีลมหายใจอีกต่อไป..หึหึหึ” สิ้นสุดคำพูดของจิตมาร ก็สิ้นสุดลมหายใจของสิตาด้วยเช่นกัน
ใบหน้าชาวซีดไร้สีเลือดดวงตาเบิกโพลงอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ ร่างกายไม่ไหวติงรับรู้ได้ว่าไม่หลงเหลือชีวิตแล้ว
และทันใดนั้นเอง ทำเอาพระลักษมณ์แทบตกจากคบไม้เมื่อปาจาดันตะโกนเสียงก้องออกมาดังลั่นว่า
“พระลักษมณ์ รีบยิงผมเร็ว...อ๊ากซซ!!”
ใช่แล้วเสียงของปาจาเช่นกัน สำนวนการพูดเป็นปาจาแน่นอนพระลักษมณ์ฟังไม่ผิด แต่ทำไมปาจาถึงบอก
ให้ยิงตนเสียเองล่ะ
“อย่าดิ้นรนต่อต้านข้า ไม่งั้นความทรงจำของเจ้าจะไม่เหลือไอ้หนุ่ม” และก็เป็นเสียงของปาจา
ที่เป็นจิตมารพูดขัดขึ้นมา พระลักษมณ์เริ่มเข้าใจแล้วว่า ตอนนี้ปาจากำลังใช้สามัญสำนึกสุดท้ายต่อสู้กับการครอบงำจาก
จิตมารอยู่ และที่ร้องเรียกให้ตนยิงตัวเองนั้น คงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมให้จิตมารใช้ร่างกายของตนเป็นเครื่องมือมันแน่แล้ว
ด้วยความฉลาดและเข้าใจเหตุการณ์ได้รวดเร็ว พระลักษมณ์ตัดสินใจกระโดดลงจากที่ซ่อนลงสู่พื้น
ไม่ห่างจากร่างปาจาที่กำลังดิ้นพราดๆ เหมือนปลาถูกทุบหัวอยู่นั่น เสียงร่างกระทบพื้นดัง ตุ๊บ! ของพระลักษมณ์
เรียกเสียงคำรามปานสัตว์ดุร้ายออกมาจากจิตมารที่อาศัยร่างปาจาทันที
“โฮกกก!...แกไอ้เด็กนรก”
มันส่งแต่เสียงมาขู่ ยังไม่สามารถขยับร่างกายได้ตามใจนึก เพราะยังดิ้นพราดเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนพื้นแทบเท้า
พระลักษมณ์ แสดงว่ามันยังไม่สามารถควบคุมปาจาได้ในตอนนี้ ไม่งั้นคงลุกขึ้นมาจัดการพระลักษมณ์แล้วสิ คงไม่แค่
ส่งเสียงข่มขู่ออกมาหรอก..
ต่อด้านล่าง
-
- 3 -
“ยะ..ยิง..ยิง..ผม..ซะ”
เสียงพูดกระท่อนกระแท่นเหมือนอ่อนแรงเต็มทีของปาจาก็เล็ดลอดออกมาเบาหวิว แทบไม่ได้ยินแล้ว แสดงว่า
ปาจากำลังจะหมดแรง ร่างกายกำลังจะถูกจิตมารควบคุมโดยสมบูรณ์แบบ พระลักษมณ์มองภาพคนรักที่ทุกข์ทรมานตรงหน้า
แล้วอดน้ำตาไหลทะลักออกมาอย่างไม่สามารถสะกดกลั้นไว้ได้อีกต่อไป เจ็บปวดหัวใจยิ่งกว่าที่เห็นภาพปาจาจูบกับ
สิตาเสียอีก ตอนนี้มันเป็นความเจ็บปวดที่เห็นคนรักทรมาน และยังสั่งให้ตนปลิดชีวิตตัวเองอีก นั่นเท่ากับว่าพระลักษมณ์
ต้องสังหารปาจาด้วยน้ำมือตนอย่างไม่มีทางเลือกแล้วหรือนี่
พระลักษมณ์สะอื้นไห้โดยไม่กลั้นเสียงไว้อีกแล้ว พร้อมกับปืนในมือยกขึ้นเล็งไปยังร่างที่นอนบิดส่าย
ไปมาที่เริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
“แก..กล้าฆ่าคนรักหรือไง...ไอ้หนูคิดให้ดีดี..แกฆ่ามันจะไม่มีโอกาสได้เจอมันอีก หากแกหยุดข้าสัญญา
จะไม่ทำร้ายแก และจะให้พวกแกได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม” จิตมารมันเห็นแววตาของพระลักษมณ์ที่ทะลักทะลายไปด้วยน้ำตา
พร้อมกับภาพซ้อนหลังของพระลักษมณ์คือร่างแฝงขององค์นารายณ์ที่ยืนหลั่งน้ำตาด้วยเช่นกัน อะไรก็ไม่สำคัญเท่าน้ำตา
ของพระลักษมษ์กับมีประกายวูบวาบตลอดเวลา สัญชาติญาณของมันนึกรู้แล้วว่าหายนะกำลังมาเยือน จึงพยายาม
หว่านล้อมตะล่อมให้พระลักษมณ์ใจอ่อน
“ยะ..อย่า...ฟัง..มัน”
แทบจะกลายเป็นเสียงกระซิบที่แผ่วออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับร่างที่เริ่มผ่อนการดิ้นรนลงจนเกือบสงบนิ่ง
พระลักษมณ์จ้องหน้าคนรักผ่านม่านน้ำตา ก่อนพูดบอกไปว่า
“คุณจา ผมรักคุณ ผมรักคุณได้ยินใช่ไหม ผมรักคุณจะไม่มีวันรักใครอีก จำคำผมไว้
ผมรักคุณครับ...อึก...ฮืออออ....เปรี้ยง!” สิ้นสุดคำพูดตามด้วยเสียงปืนดังสนั่นกัมปนาทลั่นไปทั่งทุ่งกว้าง
“อร๊ากกกกก....กร๊าซซซซ!!!”
เสียงร้องโหยหวนของจิตมารก่อนร่างของปาจากระตุกวูบ เผยอริมฝีปากยกยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้าย
แล้วแน่นิ่งลงไป
พระลักษมณ์ทิ้งปืนพุ่งเข้ารวบกอดศีรษะของปาจาซุกอก นั่งเหยียดขากับพื้นซบหน้าลงกับหน้าหล่อเข้ม
ของปาจาปล่อยน้ำตาทะลักไหลร้องโหยหวนอย่างไม่อายใคร ตอนนี้เหมือนหัวใจจะแตกสลายดับตามไปกับปาจาแล้วเช่นกัน
“ฮือออออ...คุณจาาา!...คุณจาาา!..ฮือออ!!”
ท่ามกลางความมือมิดบนเนินดินใต้ต้นหูกวาง มีร่างไร้วิญญาณนอนตาเบิกโพลงของหญิงสาวอยู่หนึ่งนาง
พร้อมกับร่างสูงโปร่งที่ก้มหน้าร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดกอดร่างสูงใหญ่ที่นอนเหยียดยาวไม่ไหวติงแนบอก
เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจ
หากใครได้เห็นภาพที่ร้องอย่างเอาเป็นเอาตายของพระลักษมณ์แล้วไม่หลั่งน้ำตาตาม ถือได้ว่าเป็นคนใจ
แข็งยิ่งนัก จะมีใครบ้างไม่เจ็บปวดที่ต้องสังหารคนรักด้วยน้ำมือตน จะมีใครบ้างไม่ใจแตกสลายเมื่อเห็นร่างคนรักนอน
จมกองเลือดอยู่ตรงหน้า ไม่มีอีกแล้วคำพูดหยอกเย้า ไม่มีอีกแล้วสายตากรุ่มกริ่มชอบแกล้งให้ได้เขิน ไม่มีแล้วสินะ
ตาคมเข้มที่จ้องตอบสื่อความหมาย ช่างรู้สึกหนาวจับขั้วหัวใจเมื่อคิดว่าจะไม่มีอ้อมกอดอุ่นให้ซุกซบอีกต่อไป
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ใครบ้างจะไม่ร้องไห้เสียใจ ต่อให้ได้รับการฝึกความแข็งแกร่งทั้งสภาพร่างกาย
และจิตใจมาดีแค่ไหน แต่เมื่อต้องสังหารคนรักด้วยน้ำมือตัวเองไปต่อหน้าต่อตาแล้วละก็ เชื่อเถอะร้อยทั้งร้อย
คนๆนั้นต้องหลั่งน้ำตาเช่นพระลักษมณ์ ยกเว้นเสียแต่ว่า คนๆนั้นไม่มีหัวใจเป็นคน..???
มาลงต่อให้แล้วนะคะ ตอนหน้าเป็นตอนอวสาน :m15:
ของมนต์มารแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด ขอความสุขจงเกิดแก่คนอ่านทุกท่านเช่นกัน
เกิดแก่เจ็บตายเป็นของธรรมดา ไม่มีใครหนีพ้น :o12:
ขึ้นอยู่กับว่าการตายของคนๆ นั้น นำมาซึ่งประโยชน์แก่คนหมู่มาก เช่นทหารหาญที่สละชีพเพื่อชาติ
เราเองก็เช่นกัน ยามมีชีวิตอยู่จงทำประโยชน์แก่สังคมบ้าง อย่าลืมใส่ใจคนที่รักเราก่อนที่เค้าจะไม่อยู่ให้เราดูแล
รักคนอ่านที่รักของฉันทุกคนค่ะ
Luk. :กอด1:
-
:L1: :z13: :z13: :z13:
จิ้มตอนลงจบแล้ว
เศร้าโว้ยยยยยยยยยยยย
TT^TT
-
อ๊าก!! อย่าบอกนะว่ามันจะจบเศร้า ทึ้งหนังหัวตัวเอง :z3:
แล้วเดินออกนอกกระทู้
-
:monkeysad: ปาจาจะตายจริงๆเหรอ
:L2: :L2:
-
ใจเด็ดมากพระลักษมณ์
แต่อ่านแล้วก้เศร้าใจ ตอนหน้า
ขอแบบแฮปปี้ นะคะ
-
ลุ้นอ่ะ อร๊ากกกก..กร๊าซซซซซซซซซ :m31:
-
:m15: :m15: :m15: :m15:
ไม่เอาเศร้านะ
ถ้าเศร้าโกธรจริงๆด้วย
:m15: :m15: :m15: :m15: :sad11: :sad11: :sad11: :sad11:
-
รอพระเอกคนใหม่...โดนถีบ :z6:
-
T^T เศร้าชะมัด
-
:monkeysad:
ปาจาตายจริงๆเหรอ ไม่เอาอ่ะแล้วพระลักษณ์จะอยู่ยังไงกัน
กดบวกกดเป็ด
-
โห...น้ำตามท่วมจออย่างแรง เศร้าจับจิต แต่ยังแอบหวังว่าปาจาจะไม่ตาย
ทำดีแล้วตายยังงี้เศร้าสุด :sad4:
-
พระเอกฉัน!!!!!!..... TT^TT
หวังว่าคุณจาจะไมตายใช่มั๊ยอ่ะ มีให้ลุ้นอีกแล้ว
รออ่านตอนต่อไปค่ะ ลุ้นๆๆๆ :call:
-
ใจหาย ดับเบิ้ล ทั้ง คุณจาโดนยิงแล้วก็จะเจอพระลักษณ์อีกแค่ตอนเดียว :monkeysad: :o12:
-
เศร้าอ่ะ :m15: เศร้ามากๆๆๆ :monkeysad:มาม่ามากไปแล้วอ่ะ :sad11:ปาจาจะตายจริงง่ะ
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
-
จบแบบ happy ไม่ได้หรือคะ????
-
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด
:sad4:
คุณจาม่ายน้า
เราไม่ยอมให้คุณจาตาย
แล้วปล่อยให้พระลักษมณ์เป็นม่ายเด็ดขาด
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
:o12:
-
ม่ายยยยจริงงง
-
:a5:
สามคำให้ปาจา>>>อย่า ตาย นะ :z3:
-
:o12:ไม่ยอมมมมมมม
-
(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/906479168.gif)เกิดแ่ก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา ธรรมชาติ
แต่ตัวเอกของเรื่องตายเนี่ยนะ แล้วอีกคนจะทำอย่างไร
(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/emoticon_013_cactus.gif)คงไม่พลิกล็อคแบบบอมเบย์ใช่ไหม
-
ถ้าตายก็โศกดีนะ...แต่อยากให้แฮปปี้ๆในตอนจบ
-
เดี๋ยวปาจาคงฟื้นมั้ง
ปาจาอย่าตายนะ อย่าทิ้งพระลักษมณ์ไว้คนเดียวสิ
-
โหดร้ายยยยยยยยยยยยยยยย o22
-
:z3:จะจบแล้วเหรอยังไม่อยากให้จบเลยบอกตามตรงตอนแรกที่อ่านเรื่องนี้ไม่เข้าใจแต่ตอนนี้รักเลยชอบมากไม่อยากให้จบชอบพระลักษ์กับปาจามาก :L1:
-
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยย
เศร้าจับจิต :sad4: :sad4: :sad4: :o12: :o12: :o12:
-
อ๊ากกกกกกกกกกไม่นะ ต้องไม่ใช่อย่างงี้ :serius2:
-
:m15: :monkeysad: :sad4: :o12: :sad2: :o7:
-
:o12: ถ้าจะจบแบบนี้
-
จะร้องตามเลย ซึ้งกะฉากบรรยาย
-
ปาจาคงไม่ตายจริงจริงใช่มั้ย
-
จะตายจริงๆเหรอ ทิ้งทายอย่างนี้จะรอดมั้ยเนี่ย TT^TT ร้องไปแระ
:z3: :z3: :z3: :z3: :sad4: :sad4:
-
เห้ยยยยยยยยยย เศร้าใจ
พระลักษณ์ จำต้องยิงจาปา แง๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ดีดดิ้น โหยหวน เศร้าไปแล้ว :m15:
-
หวังว่าคุณจาคงยังไม่ตายน๊าาาาา :monkeysad:
-
:a5:มะ....จริงง...ใช่....ไหม?.... o22
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
เศร้าไว้ก่อน
ปาจาไม่ตายหรอ
เรื่องนี้ทั้งเศร้า ทั้ง :haun4: :jul1:
-
กรี๊ดดดดดดดดดดด ปาจาจะตายจริงๆหรอ แง๊ๆๆๆๆๆๆ :m15:
-
ไม่คิดว่าคุณ จา จะตาย จริงๆ นะ
-
:m15:
-
พระลักษมณ์ใจเด็ดมากๆๆๆๆ
แต่ปาจาคงไม่ตายใช่มั้ย????
อย่าตายเลยน้าา
ไม่งั้นตอนจบคงรันทดกว่านี้อีก เฮ้อๆ :a5:
-
ขอให้มีปาฏิหารย์ U_U
-
ยังไงก็ต้องมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแน่ๆ :onion_asleep:
-
:m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
-
:a5: ไม่จริงงงงงง
อย่าจบแบบเศร้าเลยนะคะ :monkeysad:
-
อะไรเนี่ย :sad5: :sad5: :sad5: :sad5:
ทำไมเป็นแบบนี้ o9 o9 o9 o9
-
ถ้าปาจาตายก็ได้รสชาติดีนะ
55555555
-
ตายดีกว่า :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :o12:
-
แค่นี้ก๊เครียดหลายแล้ว ไม่อยากคิดถึงตอนจบเลย
-
สงสารปาจา กับพระลักษณ์อ่ะ :m15: :monkeysad:
-
:sad4: :sad4:
-
:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4::sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4::sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4::sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4::sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4::sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4::sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
-
กระสุนของนารายณ์ใช้ปราบแต่มารก็พอเหอะ งานนี้คนไม่เกี่ยว ฉะนั้นปาจาอย่าตายน้า :o12:
-
:m15: อ่านตอนนี้แล้วน้ำตาไหลท่วมห้องเลย
ปาจาอย่าตายนะ ถ้าปาจาตายพระลักษมณ์จะอยู่กับใครหล่ะ
ตอนหน้าตอนจบแล้วเหรอ เศร้าสุดๆ
ขออย่าให้ปาจาตายเลย สาธุๆ :m5:
กด+เป็ด กิ๊บก๊าบ
-
ถ้าปาจาตาย ตอนหน้าพระลักษมณ์ต้องตายตามนะคะ สงสาร
ฟื้นเถอะคะมาเถ้ออออออออออออออออออออออ
-
:monkeysad: คุณจาอย่าเปงอารายเยยน๊าาาาา
อ่า ตอนหน้าจบแว้วหรอเนี่ย :o12:
-
:o12:
วิ่งจากไปด้วยความเศร้าใจ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ
คุณจายังไม่ตายใช่มั้ย ไม่ๆๆๆๆ :o12: :o12: :o12:
-
o22 อย่าบอกว่า จบแบบปาจาตาย
:o12: :o12: :o12: :o12: :o12: ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
-
ปาจาอย่าตายนะ
-
ทิ้งท้ายไว้ได้กระแทกใจ เราควรจะทำประโยชน์ให้คนอื่น แม้ตายก็ควรจากไปอย่างมีประโยชน์ที่สุด
-
:a5:
:sad4: ไม่อ๊าววววว...ไม่อยากให้พระลักษณ์เป็นม่ายอ่า
-
ปาจารีบฟื้นน้า :sad4:
อ๊ากกก :m11: กดบวกได้แล้ว(ซะที) ให้น้องลักคนแรกเลยจ้ะ :กอด1:
-
สิต้าร้ายกาจมากก!
เรื่องมันเศร้า คนแต่งจะให้ปาจาตายอย่างนั้นหรอ ?
ไม่นะ ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย (วิบัติเพื่อเสียง) :m15:
-
โอมเพี้ยง ขอให้ปาฏิหาริย์มีจริง ช่วยปาจาด้วยนะคนเขียน :3123:
-
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ปาจา ต้องไม่เป็นไรสิ T^T
น้ำตาพระลักษณ์ชุบชีวิตได้มั้ย :sad4: :sad4: :sad4:
-
:monkeysad: เศร้าอ่ะโน๊ะ เฮ้อ!!แต่จะจบแระ สู้ๆค่ะ
-
ปาจาต้องไม่ตายน่ะ :z3:
นำ้ตานารายณ์ไง ยังไม่ได้บอกเลยว่าทำอะไรได้
-
จะโป้งคุณ Luk จริงๆ นะถ้าปาจาตาย ดูสิน้องพระลักษมณ์ร้องไห้น่าสงสารขนาดไหน ห้ามใจร้ายกับน้องลักษมณ์น่ะ T T
-
สงสารพระลักษมณ์ :m15:
-
เศร้าเลย ปาจาไม่ตายหรอก
พระเอกนะ ต้องรอดๆ
-
ตอนหน้าจบแล้วหรอ T^T
ไม่อยากให้มีใครเป็นอะไรเลย T^T
-
คีย์เวิรด์มันอยู่ที่น้ำตา
ไม่น่าจะตายมั้ง
รอตอนต่อไปดีกว่า อิอิ
-
อืม รู้สึกว่า ส่วนรวมย่อมสำคัญกว่าส่วนตัวนะ
แล้วทั้งคู่ก็เคยรับชาติชาติกันมาก่อน
ดังนั้นประเด็นโศรกเศร้าคร่ำครวญตัดทิ้งได้เลย
ความรักระหว่างกันสำคัญ แต่ความรักต่อประเทศชาติและส่วนรวม
สำคัญที่สุด
ปล. แอบรู้สึกว่า ไม่น่าจะตายอ่ะ
-
สงสารพระลักษมณ์
ต้องเห็นตอนปาจาจูบกับคนอื่นแล้วยังต้องมาเป็นคนยิงอีก :o12:
-
ไม่อาวววววว ไม่ให้ตายยยยย
-
คุณLuk ไม่รวมเล่มเรื่องนี้ด้วยหรือ
เราอยากเก็บไว้เป็นคอลเล็คชั่นอีกเล่มอ่า
คุณจาไม่ตายหรอก ไม่ใช่นิยายเกาหลีซะหน่อย เนอะ
ซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับน้ำตาของพระลักษณ์นะ
-
เซอร์ไพรซ์ เจอมาม่าชามโต
-
ผิดคาดซะงั้นอ่ะ ตกลงพระลักษณ์คงไม่ได้ยิงจุดตายหรอกเนอะ พระเอกต้องไม่ตายสิ นายเอกจะเป็นหม้ายได้ไง ไม่ยอมน๊าาาา
-
:call: :call: :call:
-
:sad11:แงงงงงง.....สงสารพระลักษณ์อ้ะ ปวดใจ ปวดตับ ปวดไต
-
@@@ แจ้งข่าว....ดี!!!!
การจัดรวมเล่มไตรภาคย์งานเขียนเรื่อง ตะเกียงพิเศษ...จอมใจนักเลง...เหยี่ยวหัวใจ เป็นบล๊อคเซ็ทรวมไตรภาคย์
ทั้งหมดสามเรื่อง เปิดจองได้แล้วค่ะ แต่!..ยังไม่เปิดโอน จะเปิดโอน มีเลื่อนเป็นกลางเดือนมกรา ปีหน้า
ที่แจ้งให้จองก่อน เพราะท่านที่ลงชื่อจอง 150 คนแรก ตอนเปิดโอนท่านยังยืนยันการโอนสั่งซื้อ
ท่านจะได้รับหนังสือแถมเรื่อง 'เทพพิทักษ์ขุนทัพ' ฟรี!..อีกหนึ่งเรื่อง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับเรื่องนี้
สนใจส่งเมลล์ มาจองได้ที่ luxilove_19690 แอท hotmail ดอท Com ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ส่วนท่านที่สนใจเฉพาะเรื่องไม่เอาเป็นไตรภาคย์ ไม่ต้องถามนะคะว่าแยกซื้อได้ไหม ได้อยู่แล้วคะ
ตอนนี้แค่เปิดจอง ให้นักอ่านที่ต้องการเก็บหนังสือไตรภาคย์นี้ไว้ ได้ลงชื่อจองเข้ามา
ปล.ทุกเรื่องจะมีตอนพิเศษ แถมในเล่มเรื่องละ 2 ตอน ซึ่งไม่โพสฯลงในกระทู้นิยาย
เก็บตังค์หยอดกระปุกได้เลย จะนำรูปเล่มและข้อมูลที่เหลือมาแจ้งให้ทราบเป็นระยะ คอยติดตามด้วยนะคะ
ปล. 2 สำหรับคนจองแล้วไม่โอน ถือว่าสละสิทธิ์ เราจะเลื่อนสิทธิ์การโอนตามลำดับของคนจอง
หากใครเข้าข่ายอยู่ใน 1 ถึง 150 คนแรก ก็จะได้รับสิทธิ์พิเศษไปแทนนะคะ
ปล3. เปิดรับจองรับโอนไม่จำกัดนะคะ แก้ไขความเข้าใจผิดเสียใหม่
แต่จะได้รับแถมพิเศษเฉพาะคนจองคนโอน 150 คนแรกเท่านั้นค่ะ นอกนั้นไม่ได้ของแถม :z3:
Luk. :pig4:
มนต์มาร
Part 26
หัวใจแห่งชีวิต
.
.
.
.
.
“ใครไปรับพระหรือยัง จวนใกล้เวลาแล้วนะตรัย”
กายันต์เอ่ยถามธรรมตรัย หลังทั้งคู่เหนื่อยกับการเตรียมสถานที่ภายในห้องโถงใหญ่ของเรือนไทย
กันพอสมควร กลายเป็นตนต้องรับภาระเป็นหัวแรงใหญ่กะทันหันโดยไม่ทันตั้งตัวขึ้นมาซะงั้น
“สิงห์คำเอารถไปรับมาแล้ว” ธรรมตรัยบอกหน้านิ่งตามเอกลักษมณ์ของเจ้าตัวเช่นเคย
“นึกถึงเหตุการณ์คืนที่เราไปพบสภาพของพระลักษมณ์ ผมยอมรับว่าเวทนาสุดๆเลยทีเดียว” กายันต์เปรย
มาเบาๆ แววตาบ่งบอกว่ารู้สึกตามที่พูดอย่างไม่ปิดบัง
“เป็นใครก็คงสติหลุด ถ้าต้องลงมือยิงคนรักด้วยน้ำมือตัวเอง” ธรรมตรัยพูดดวงตาแฝงแววสะเทือนอารมณ์
นั่นสิคงไม่มีใครสามารถเก็บอาการเศร้าโศกไว้ได้แน่ เมื่อต้องพบเหตุการณ์เดียวกันกับพระลักษมณ์ที่กอดร่างโชกไปด้วยเลือด
ของปาจาแนบอก แหกปากร้องไห้ลั่นทุ่งแทบไม่เหลือสติทำอะไรแล้ว โชคดีที่ตนกับกายันต์ตามไปเพราะเห็นว่าเลยเที่ยงคืน
มาพอสมควรเกิดนึกเป็นห่วงทั้งคู่ขึ้นมา จึงตัดสินใจฝืนคำสั่งของปาจาพากันเอารถออกตามไปดังกล่าว กระทั่งไปพบกับภาพ
ที่เห็นนั่นแหละ ยอมรับว่าตนกับกายันต์ถึงกับน้ำตาคลอกันเลย มันเป็นภาพสะเทือนใจจริงๆที่ผู้ชายรูปร่างสมส่วนนั่งไม่เหลือ
มาดกอดเอาร่างสูงใหญ่ซุกอกไว้แน่น แถมเอาแต่ร้องไห้ปานจะขาดใจ ข้างๆ กันยังมีร่างไร้วิญญาณของสิตานอนลืมตาโพลง
พร้อมกับพญามัจจุราชสีดำทะมึนตกอยู่ตรงพื้นอย่างไม่ได้รับความสนใจเลย
“ปี๊นๆ!..”
เสียแตรรถดังขึ้นตรงหน้ามุกเรือนไทย แสดงว่าแขกวีไอพีมาถึงแล้วแน่ๆ กายันต์กับธรรมตรัยต่างหันมอง
หน้ากันก่อนจะเดินลิ่วรีบไปต้อนรับทันที
“อายันต์ อาตรัย..สวัสดีค่ะ” จันทน์ผาเด็กหญิงตัวน้อย ที่เพิ่งโผล่ศรีษะลงจากรถมาได้ พอเห็นทั้งคู่
ก็วิ่งเข้าใส่พรางกล่าวสวัสดีไปด้วย ก่อนจะทะยานเข้าสู่อ้อมแขนแกร่งของกายันต์ ซึ่งก้มตัวรวบกอดเอาร่างเล็กไว้แนบอก
พร้อมกับจมูกโด่งแนบแก้มนุ่มสูดกลิ่นหอมของเด็กหญิงอย่างคิดถึง
“ฟอด...ฟอด!..คิดถึงอาไหมครับคนสวย?” ภาพพ่อลูกกอดกันกลมซึ่งกายันต์รู้ถึงสถานะอยู่เต็มอก
ในขณะที่เด็กหญิงแม้จะไม่รู้ว่าคนที่กอดตนอยู่นั้นคือผู้ให้กำเนิดที่แท้จริง แต่ก็หาได้เกิดกำแพงปิดกั้นความรู้สึกอบอุ่นที่ฉายชัด
ออกมากับรอยยิ้มใสซื่อและแววตาไร้เดียงสาจากดวงตากลมโตอย่างมีความสุขยามได้อยู่ในอ้อมกอดของกายันต์
“คิดถึงสิค่ะ หนูผาคิดถึงทุกคนเลยน๊า! คิคิ” เสียงเจื้อยแจ้วเรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากธรรมตรัยที่มอง
เด็กหญิงตัวน้อยด้วยสายตาอ่อนโยน โดยไม่ต้องอาศัยคำพูดแทนการบรรยาย เพราะนิสัยธรรมตรัยน้อยครั้งจะได้เห็น
แววตาแบบนี้มอบให้ใคร
ไม่ต่างกับนมอ่อนหญิงกลางคนอายุร่วมจะห้าสิบปลายๆ กำลังยืนมองภาพประทับใจนี้ด้วยใบหน้า
เปื้อนยิ้ม ใกล้กันนั้นยังมีชายสูงวัยท่าทางภูมิฐานหน้าตาหล่อเหลาแม้จะเลยวัยหนุ่มใหญ่มามากโขแล้วก็ตาม แต่หาได้ลดทอน
ความดูดีลงได้แม้แต่น้อย คงไม่ต้องบอกว่าคนผู้นี้คือใครนอกจากแขกวีไอพีที่ว่าและเป็นผู้ใหญ่ท่านนั้น ซึ่งปาจาฝากนมอ่อน
และหนูผาให้ไปอยู่ในความดูแลชั่วคราวนั่นเอง
หลังจากปล่อยตัวหนูผาลงยืนที่พื้นเรียบร้อยแล้ว กายันต์รีบตรงเข้าไปยกมือไหว้ชายสูงวัยท่านนี้ทันที
โดยมีธรรมตรัยยกมือขึ้นไหว้ตามด้วยเช่นกัน
“สวัสดีครับท่าน/สวัสดีครับ เชิญขึ้นเรือนก่อนครับท่าน” กายันต์จัดแจงทำหน้าที่เจ้าบ้านกล่าวต้อนรับ
พร้อมกับเชิญบุคคลท่านนี้ขึ้นบนเรือนไทยด้วยน้ำเสียงติดเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด
“อืม..ทำตัวตามสบายเถอะ ไม่ต้องพิธีรีตองหรอก” เสียงทุ้มนุ่มอย่างผู้ใหญ่ใจดีเอ่ยบอกมา ช่วยให้กายันต์
รู้สึกผ่อนคลายลงมาก ยิ้มรับคำบอกกล่าวอย่างนอบน้อม ก่อนจะเดินนำทุกคนขึ้นบนเรือนไทยไป
ก้าวพ้นประตูมายังห้องโถงใหญ่ คลาคล่ำไปด้วยคนรับใช้และคนงานกว่าครึ่งร้อยที่ได้รับเชิญให้มาร่วมบุญ
กันครั้งนี้ ต่างหันมองกายันต์ที่เดินนำชายวัยกลางคนเข้ามา เลยพากันสงบเสงี่ยมสำรวมกิริยาอัตโนมัติ ทั้งที่ก่อนหน้ายัง
ส่งเสียงคุยกันจอกแจกจอแจอยู่เลย
“ลูกชายผมเป็นอย่างไรบ้าง?” หลังนั่งลงเก้าอี้ทำจากไม้สักทองแกะสลักลายไทยอย่างประณีตบรรจง
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านก็เอ่ยถามกายันต์ขึ้นมาทันที
“ครับ..ธรรมตรัยบอกคนไปตามให้แล้วครับ” กายันต์ตอบกลับไป ก่อนจะถือโอกาสนั่งคุยเป็นเพื่อนท่าน
ไปพลางๆ รอคนที่ต้องมาต้อนรับแทนตนไปก่อน ไม่ถึงสิบนาที
“หวัดดีครับพ่อ” เสียงทุ้มหล่อเอ่ยพร้อมกับยกมือไหว้ด้วย ในขณะที่ช่วงขายาวเร่งก้าวเข้ามาให้เร็วขึ้น
“เป็นไงไอ้เสือ หึหึ” ท่านเอ่ยทักพร้อมส่งรอยยิ้มอบอุ่นไปให้ ก่อนจะหัวเราะเสียงในคอ
“ขอโทษครับพ่อที่ทำให้เป็นห่วง” พระลักษมณ์ยิ้มรับ พร้อมกับแสดงความสำนึกผิดบอกไป
ไม่ว่าจะนานแค่ไหนผู้ชายตรงหน้าซึ่งได้ชื่อว่าผู้บังคับบัญชาและพ่อบังเกิดเกล้าตนนั้น ยังคงห่วงใยตนอยู่ตลอดมา
“สวัสดีครับท่าน ผมขอโทษด้วยที่ไม่ได้ออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง” เสียงทุ้มนุ่มมาพร้อมกับรอยยิ้มหล่อ
กระชากใจ สองมือยกขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม ดูดีไม่มีขัดเลยสักนิดกับรูปร่างล่ำสันสูงใหญ่ของคนพูด
“หึหึไม่เป็นไรคุณจา ผมเข้าใจคนเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บไม่ต้องลำบากหรอก แล้วนี่ดีขึ้นแล้วหรือ?”
น้ำเสียงแกมเอ็นดูที่ถามกลับไปหลังจากเห็นร่างสูงใหญ่ดูดีทุกองศา เดินตามลูกชายสุดที่รักมาติดๆ จนไม่สังเกตแทบดูไม่รู้ว่า
บุคคลตรงหน้าเพิ่งโดนยิงมายังไม่ถึงหนึ่งอาทิตย์ด้วยซ้ำ
“ดีขึ้นมากแล้วครับ คงเพราะคนยิงไม่เจตนาฆ่าผมมั้งครับ ถึงไม่สาหัสปางตาย” พูดพร้อมส่งสายตา
กรุ่มกริ่มล้อเลียน ทำเอาหน้าพระลักษมณ์หน้าขึ้นสีเรื่ออย่างไม่มีทางเลี่ยง พออาการดีขึ้นก็ล่อพระลักษมณ์
วางหน้าไม่ถูกไปเลย แถมยังกล้าแซวต่อหน้าพ่อของคนโดนอีกต่างหาก
ก่อนที่หนุ่มหล่อหน้าใสจะอายมากไปกว่านี้ ก็มีระฆังช่วยไว้ทันด้วยพระสงฆ์เก้ารูปที่กำลังทยอยเดินเข้ามา
ทุกคนต่างพากันพนมมือไหว้หยุดพูดคุยส่วนตัวไปโดยปริยายกลับสู่บรรยากาศสำรวมกันทันที หัวหน้าคนงานรู้หน้าที่จัดการ
นิมนต์ท่านนั่งลงตรงอาสนะยกพื้นสูง เพื่อทำพิธีเจริญพุทธมนต์ทำบุญเลี้ยงพระครั้งใหญ่ของคุ้มดงพญา
หลังผ่านคืนพระจันทร์ดับ ปาจาฟื้นจากอาการบาดเจ็บที่ถูกยิงบ่ายของวันถัดมา ที่เจ้าคุ้มสุดหล่อรอดมาได้
เพราะกายันต์กับธรรมตรัยตามไปพบตนบาดเจ็บสาหัสหมดสติเพราะทนพิษบาดแผลจากการยิงเจาะเข้าบริเวณอกซ้ายไม่ไหว
ฝีมือคนยิงแม่นยังกะจับวางไม่มีพลาดเป้าตรงจุดหัวใจพอดี
ถูกต้องกระสุนไม่ได้พลาดเป้าแม้แต่เซนเดียว แต่กระสุนเงินที่อาบน้ำตานารายณ์กลับเป็นเพียงกระสุน
มัจจุราชสังหารจิตมารให้วิญญาณร้ายแตกดับไปทันทีเท่านั้น ลำพังกระสุนเงินเพียงอย่างเดียวคงไม่มีอำนาจพอที่จะสังหาร
ดวงจิตของมารร้ายลงได้ แต่เพราะผนวกกับน้ำตานารายณ์ที่ไหลรินจากดวงตากลมโตคู่สวยของพระลักษมณ์หยดลงกระบอก
ปืนหยดแล้วหยดเล่าต่างหาก จึงเกิดพลานุภาพกำจัดมารร้ายให้สิ้นซากลงได้
ส่วนปาจารอดตายได้อย่างไร นั้นไม่ใช่เพราะปาฏิหาริย์ แต่เป็นเพราะหัวใจของปาจาอยู่ด้านขวา
ไม่ได้อยู่อกซ้ายเหมือนคนปกติตั้งแต่แรก ยังกับว่าเบื้องบนจะรู้ล่วงหน้าก่อนด้วยซ้ำ ฉะนั้นวาระที่เกิดขึ้นย่อมมีเหตุมีผลของ
กงกรรมกงเกวียนซึ่งถูกกำหนดมาแล้ว จะดีชั่วเพียงไรสวรรค์ท่านได้ให้เวลาผู้หลงผิดมัวเมาต่อบาป ได้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ
กระทำความดีละเว้นกรรมชั่ว แต่หากยังไม่เลิกก่อบาปอีกวาระสุดท้ายย่อมมาถึงเช่นจิตมาร ต่อให้มีพลังอำนาจมากแค่ไหน
เหนือฟ้าย่อมมีฟ้าเช่นกัน
เพราะจิตมารไม่รู้ว่าร่างกายของปาจามีหัวใจอยู่ด้านซ้าย เมื่อมันย้ายดวงจิตเข้าไป จึงพุ่งดวงจิตไปยัง
อกซ้ายเพื่อหวังเข้าครอบงำจิตใจในทันที พอผิดความคาดหมายจึงเกิดการต่อต้านจากปาจา ซึ่งมีหัวใจอยู่ด้านขวาจิตสำนึก
ที่เหลือจึงเกิดการต่อต้านขึ้น ทำให้เกิดสงครามระหว่างดวงจิตสองดวง ดังที่พระลักษมณ์เห็นการโต้ตอบของคนสองคนใน
ร่างเดียวกันนั่นแหละ แต่ถ้าหากหัวใจของปาจาอยู่ทางอกซ้ายละก็ จิตมารคงเข้าครอบงำสำเร็จทันที ปาจาจะไม่เหลือสำนึก
ต่อต้านมันเป็นอันขาด ต่อให้แม้พระลักษมณ์จะสามารถปลิดวิญญาณมันลงได้ สุดท้ายดวงจิตของปาจาก็ต้องแตกดับ
ไปด้วยเช่นกัน คงไม่มีโอกาสได้มายืนปั้นหน้าหล่ออยู่อย่างนี้อีกต่อไป
ในสภาวะกดดันอยู่นั้น พระลักษมณ์เองไม่ทันฉุกคิดเรื่องตำแหน่งที่ตั้งของหัวใจปาจาด้วยซ้ำ ทั้งที่ก่อน
หน้าตนทราบมาแล้วว่า ปาจามีหัวใจอยู่อกด้านขวา บนความกดดันที่ตนเลือกไม่ยิงแสกหน้าอย่างที่ปาจายิงพี่ชายของสิตา
แต่เลือกที่จะยิงเข้าหัวใจแทน หากต้องลงมือสังหารปาจาด้วยน้ำมือตัวเองแล้ว พระลักษมณ์ไม่อยากให้คนรักได้รับ
ความทรมานก่อนตายแม้แต่น้อย ขอใช้กระสุนเพียงนัดเดียวเจาะหัวใจเลยทีเดียวดีกว่า จึงส่งผลให้ปาจารอดตายมาได้
หวุดหวิด แต่ต้องไม่ลืมขอบคุณกายันต์และธรรมตรัยด้วย ที่ฝ่าฝืนคำสั่งตัดสินใจตามไปช่วยได้ทันเวลา ขืนไปช้ากว่านี้
ไม่แน่ปาจาอาจไปสู่ยมโลกเข้าแล้วจริงๆ เพราะเลือดออกหมดตัวตายเสียก่อน
ส่วนที่ปาจาไปรู้จักคุ้นเคยกับพ่อของพระลักษมณ์ได้อย่างไรนั้น สืบเนื่องมาจากความจริงเกี่ยวกับประวัติ
ของพระลักษมณ์เปิดเผย ปาจาก็อาศัยเส้นสายที่ตนเคยเป็นตำรวจมาก่อน สืบหาข้อมูลความเป็นไปของครอบครัวพระลักษมณ์
ทั้งหมด เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วจึงเริ่มขบวนการแนะนำตัวโดยติดต่อทางอีเมลล์เล่าเรื่องราวความเป็นมาของตนเอง รวมถึงเรื่อง
ระหว่างตนกับพระลักษมณ์ให้กับว่าที่พ่อตาฟังอย่างไม่ปิดบัง
ด้วยนิสัยเปิดเผยจริงใจ กอปรกับความนอบน้อมถ่อมตนของปาจาที่แสดงออกผ่านตัวอักษร
ทำให้พ่อของพระลักษมณ์เปิดโอกาสให้พูดคุยเป็นการส่วนตัวทางอินเตอร์คอมฟอร์เร้น ถือเป็นการพบหน้าครั้งแรกระหว่าง
พ่อตากับลูกเขย โดยเรื่องราวทั้งหมดพระลักษมณ์ไม่รู้มาก่อนเลยแม้แต่น้อย
หากเฉลียวใจสักนิด ก็น่าจะรู้ว่าหลังสุดที่ได้ติดต่อกับนายท่าน ตนเองก็ไม่ได้ออนไลน์พูดคุยกับ
ท่านอีกเลย แถมซ้ำท่านไม่ยักทุกข์ร้อนที่ตนหายหัวไปอีกต่างหาก ผิดกับตอนที่โดนกักขังไว้ในห้องใต้ดินก่อนทำพิธีล้าง
อาถรรพ์มนต์มารลิบลับ ท่านถึงกับจะส่งคนเข้ามาสอดแนมดูด้วยซ้ำ แม้แต่พระลักษมณ์โดนแทงท่านก็ไม่อะไรยังไง
นั่นเป็นเพราะลูกเขยสุดหล่อทำหน้าที่รายงานความเคลื่อนไหวทุกเรื่องโดยไม่ปิดบัง ให้ท่านทราบอยู่ตลอดเวลา
พฤติกรรมที่องอาจเปิดเผยอย่างลูกผู้ชายของปาจา เอาชนะใจของพ่อตาได้ไม่ยาก
เหตุผลสำคัญที่ท่านไม่คัดค้าน เพราะท่านรู้จักนิสัยลูกชายหัวแก้วหัวแหวนดีกว่าใคร ลองพระลักษมณ์
ไม่ได้รักปาจาแล้วละก็ คงไม่มีทางยอมให้ทำอะไรเป็นอันขาด ต่อให้ต้องตายมีหรือวิษณุทรงพลที่ใครต่างรู้ดีว่าเอาเรื่องแค่ไหน
จะยอมเป็นของปาจาในแบบที่เป็นอยู่นี้ได้ นอกจากมีเพียงสาเหตุเดียวลูกชายของท่านเจอคนที่จะมอบชีวิตและหัวใจให้เค้า
ดูแลแล้ว และตัวคุณพ่อเองก็เห็นแล้วว่าไม่มีใครเหมาะสมเช่นกัน ที่สามารถทำให้ท่านปล่อยมือลูกชายคนเล็กไว้ให้ดูแล
นอกจากปาจา เพราะฉะนั้นระหว่างพ่อตากับลูกเคยรูปหล่อดีกรีด๊อกเตอร์ แถมพ่วงฐานะเศรษฐีด้วยอีกต่างหาก
ถึงได้เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
ความกระจ่างของเรื่องราวทั้งหมด ถูกเปิดเผยหลังจากปาจาพักฟื้นได้สามวัน และตัดสินใจเล่า
ความจริงทุกอย่างกับพระลักษมณ์ แม้เจ้าตัวจะออกอาการเคืองอยู่บ้าง แต่ก็ยอมให้อภัยยังดีกว่าเสียปาจาไปอย่างไม่มีวันกลับ
ซึ่งตนต้องนั่งร้องไห้จนสติแตก เสียภาพลักษมณ์ของวิษณุทรงพลให้กายันต์และธรรมตรัยได้เห็นมุมอ่อนแอนั่นแล้วด้วย
เมื่อเรื่องราวทุกอย่างกระจ่าง ทุกคนจึงลงความเห็นจัดงานบุญเลี้ยงพระขึ้นในวันนี้ พร้อมกับเชิญพ่อ
ของพระลักษมณ์ซึ่งตั้งใจมาเยี่ยมว่าที่ลูกเขย พร้อมกับนำตัวนมอ่อนและหนูผามาส่งคืนด้วยเลย หลังรับไปดูแลช่วงที่คุ้ม
ดงพญาอยู่ในภาวะผจญมารขณะนั้น
คดีฆาตกรรมทั้งหมด ปิดฉากลงด้วยการทำสำนวนของพระลักษมณ์รายงานต่อเบื้องบน โยนความผิด
ให้กับพี่ชายของสิตาและสิตา โดยให้เหตุผลว่าสองพี่น้องคือฆาตกรโรคจิต ที่ก่อคดีสะเทือนขวัญเพื่อสนองความต้องการ
เกี่ยวกับตัณหาวิปริต ทุกอย่างมีความเป็นไปได้สมเหตุสมผล เพราะประวัติของสิตาคือผู้หญิงข้ามเพศ และประวัติของพี่ชาย
ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ทิ้งความเป็นปริศนาของมนต์มารอาถรรพ์ให้ปิดผนึกอยู่ในความทรงจำของคนที่รับรู้เพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้น
ยังมีพ่อของพระลักษมณ์รวมอยู่ด้วย เพราะท่านคือผู้อนุมัติลายเซ็นปิดสำนวนคดีตามตำแหน่งผู้บังคับบัญชาสูงสุดเช่นกัน
หลังผ่านพิธีทางศาสนา กระทั้งส่งพระกลับวัดและร่วมรับประทานอาหารกลางวันกันเสร็จ ก็สมควร
แก่เวลาส่งพ่อของพระลักษมณ์ขึ้นรถกลับ ทั้งหมดต่างพากันมายืนส่งท่านตรงหน้ามุก ก่อนไปท่านยังแอบมีทิ้งท้ายกระซิบบอก
ปาจาตามลำพังด้วยว่า เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วอย่าลืมพาลูกชายท่านไปกราบขอขมาให้เป็นเรื่องเป็นราว ท่านจะรอที่กรุงเทพฯ
“คุณแอบคุยอะไรกับพ่อผม” พระลักษมณ์ถามหลังจากรถของของพ่อลับตาไปแล้ว
“อยากรู้หรือครับ?” ปาจาไม่ตอบ กลับทำหน้านิ่งยกคิ้วถามกลับซะงั้น
“ทำไมเป็นความลับหรือไง ผมไม่มีสิทธิ์รู้งั้นดิ” อดไม่ได้กวนกลับไปทันที
“ก็ไม่ใช่ความลับสำคัญหรอก เพียงแต่สถานที่ไม่เหมาะให้พูด” ปาจายังคงเก๊กหน้านิ่งน้ำเสียงจริงจัง
พลอยให้พระลักษมณ์รู้สึกตื่นเต้นตาม คิดว่าไอ้เรื่องที่ไม่ใช่ความลับคงไม่ธรรมดาเสียแล้ว ในเมื่อยืนพูดกันตรงนี้ไม่ได้ ทั้งที่
ไม่เหลือใครอยู่ตรงนี้สักคน นอกจากตนและคนตรงหน้า
“ถ้างั้นต้องไปคุยที่ไหน?” ความอยากรู้ทำให้พระลักษมณ์โพล่งถามไปอย่างรวดเร็ว ออกอาการ
สนใจแบบไม่มีปิดบัง
“งั้นตามผมมา” ไม่พูดเปล่า เจ้าคุ้มรูปหล่อฉวยมือพระลักษมณ์จูงไปยังทิศทางคุ้นเคยทันที
หากมีตาทิพย์จะเห็นว่าบัดนี้ร่างกายสูงใหญ่องอาจของปาจามีร่างแฝงของปีศาจยืนสยายปีกสีดำเต็มแผ่นหลัง ในขณะที่
เจ้าของร่างตัวจริงแอบยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ส่วนคนที่มือโดนจับพาเดินตรงไปยังห้องนอนส่วนตัว กับออกอาการตื่นเต้น
สงสัยฉายชัดในแววตากลมโต ช่างไม่รู้ว่าร่างแฝงแห่งนารายณ์ที่ปรากฎอยู่เหนือร่างตนกำลังส่ายหน้าให้กับความเจ้าเล่ห์
ของปีศาจรูปงามเข้าให้....
เสียงหัวเราะและรอยยิ้มมีความสุข กลับคืนสู่คุ้มดงพญาอีกครั้ง โดยเฉพาะเรือนไทยหลังนี้เต็มไป
ด้วยบรรยากาศคู่รักจนออร่าสีชมพูกระจายไปทั่วทุกซอกทุกมุม กลิ่นอายแห่งอาถรรพ์มนต์ดำและความขมุกขมัวไม่มีให้เห็น
อีกเลย เหลือแต่ความสุขสดชื่นของทุกชีวิต ที่จะสานสัมพันธ์จูงมือกันก้าวไปข้างหน้าโดยจะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์เกิดขึ้น
กับคนของตระกูลดงพญาอีกเป็นอันขาด ทั้งปาจา พระลักษมณ์ กายันต์และธรรมตรัย ทุกคนต่างมีหน้าที่ในการช่วยกัน
ประคับประคองชีวิตรัก ที่ต้องแลกมาด้วยหยดเลือดและรอยน้ำตารวมทั้งซากศพของผู้เคราะห์ร้ายอีกนับไม่ถ้วน ต่างตั้งปณิธาน
กันแน่วแน่ จะไม่ให้สิ่งที่ต้องสูญเสียไปสูญเปล่า และจะทำให้คุ้มดงพญาเป็นคุ้มแห่งความรักไร้พรมแดนตลอดกาลปวสาน....??
จบบริบูรณ์ :bye2: :bye2:
มาต่อตอนอวสาน ให้เรียบร้อยแล้วนะคะ
หวังว่าคงถูกใจนักอ่านได้สุขสดชื่นกันถ้วนหน้า
ขอให้มีความสุขกับคริสมาตส์ สำหรับตอนพิเศษยังไม่รับปาก
ตอนนี้วุ่นวายเรื่องหนังสือ และงานประจำอยู่
ถ้ามีโอกาสก็จะไม่ลืมค่ะ
Luk. :กอด1: :bye2:
ปล. ใครคิดว่าคนเขียนกล้าอ้างเรื่องหัวใจปาจา ให้กลับไปอ่านตอนที่ 23 นะคะ จะรู้ว่าสองคนนี้เค้าเคยคุยกันเรื่อง
หัวใจปาจาอยู่ผิดด้านค๊า :laugh: :laugh: :laugh:
-
:z13:
แฮปปี้แอดดิ้ง(นึกว่าปาจาตายแหงแซะ)
-
น่ารักจังเลย :man1:
-
:pig4:
ในที่สุดก็แฮปปี้เอ็นดิ้งนะคะ
-
จบแฮปปี้สุดๆ เฮ้อ...ลุ้นซะแทบแย่นึกว่าปาจาจะตายเสียแล้ว รอดซะที :bye2: o13 :bye2:
-
จบแล้ว อยากได้ตอนพิเศษจังฮะ :impress2:
-
แฮปปี้ๆๆๆๆๆๆๆ
อยากอ่านตอนพิเศษ
-
เยส!!!!!!
:z2:
เราว่าแล้วว่าคุณจาต้องไม่ตาย
เรื่องอะไรจะปล่อยพระลักษมณ์เป็นม่าย
อุวะฮะฮ่า
:laugh:
จบแบบประทับใจไปอีกเรื่อง
แล้วเรื่องนี้จะรวมเล่มมั้ยคะ?
จะได้หยอดกระปุกเตรียมไว้อีก อิอิ
:pig4:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
o13 o13 o13 o13 o13
-
จบแบบแฮปปี้นึกว่าจะเศร้าซะแล้ว
-
หูย นึกว่าคุณจาจะสาหัสร่อแร่กว่านี้นะเนี่ย
แต่ก็ดีแล้ว แฮปปี้เอ็นดิ้ง แบบนี้ ค่อยสมกับที่ลอยคอรอคอย :m18: :m2:
:pig4: ขอบคุณน้องลักษ์ สำหรับนิยายสนุกๆ สู้ต่อไปไอ้มดแดง (เวรไม่ใช่แระ) :a2: :a9:
-
ในที่สุด ก็จบแฮปปี้
ลุ้นแทบตายเลย คริคริ ไม่ไหวเคลียร์
นึกว่าปาจาจะทิ้งพระลักษณืให้อยู่คนเดียวซะแล้ว เอิ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :o8: :-[
-
ตอบจบสั้นจัง
-
ตอนนี้อ่านแล้วรู้สึกใจหาย
อะร๊ายยยย จบแล้วเรอะ
แต่แฮปปี้เอนดิ้งแบบนี้ชอบค่ะ
คุณพ่อน่ารักมากและปาจาก็เจ้าเล่ห์มากเหมือนกัน
แอบไปทำอะไรอีกคนเขาไม่รู้เลยนะ นายแน่มากปาจา o13
ถึงคุณลักษ์ o9 o9
อยากอ่านตอนพิเศษค่ะ อันนี้หามลืมๆๆๆๆๆๆ
-
ตอนที่แล้วเพิ่งดราม่าไป ตอนนี้มาจบแบบแฮปปี้แล้ว
ดีใจจังที่ปาจาไม่ตาย ไม่งั้นคงมีคนร้องไห้ขี้มูกโป่งแหงมๆ
ปล.รอตอนพิเศษษษษษษษ
-
“ใครไปรับพระหรือยัง จวนใกล้เวลาแล้วนะตรัย”
อ่านประโยคแรกแล้วสะดุ้ง นึกว่าพระลักษมณ์ทำใจไม่ได้ไปบวชพระซะแล้ว :laugh:
แล้วก็คิดไม่ถึงจริงๆเรื่องหัวใจด้านขวาเนี่ย อึ้งไปนิดหน่อย 55
ติดตามเรื่องนี้มาตลอด ในที่สุดก็ปิดฉากแฮปปี้เอนดิ้งซะที สนุกมากๆค่ะ
-
จบแล้วอะ
นึกว่า ปาจาจะไม่รอดซะแล้ว สงสารพระลักษณ์อะ ที่ร้องไห้แทบขาดใจ
-
จบแล้ว
สนุกมากๆเลย ^^
-
:z2:
ดีใจที่ปาจาปลอดภัย พ่อตาก็ยอมรับอีกด้วย
กดบวกกดเป็ด
-
แล้วก็จบ...Happy Happy
ตอนแรกคิดว่าพระเอกจะตายซะแล้ว
ลืมไปว่าไม่ใช่คนธรรมดา
:pig4: สำหรับเรื่องสนุกๆนะคะ
-
ลุ้นมากกก.. นึกว่าคุณจาจะไม่รอดซะแล้ว
แอบเนียนตีซี้พ่อตา เจ๋งมากอ่ะ ฮ่าๆๆ o13
-
แฮปปี้ๆ นกว่าจะนั่งซดมาม่าซะแล้ว
โล่งเลย
-
จบแบบแฮปปี้ น่ารักมาก
-
ลุ้นนึกว่าจะได้กินมาม่าซะแล้ววววว :เฮ้อ:
-
Wow!!!!
Happy Ending
-
แฮปปี้ๆ
(นึกว่าจะโศกซะละ)
-
o13 o13 o13
-
อ้ายย ดีใจจัง Happy ending ค่าา
ขอบคุนสำหรับเรื่องดีๆที่มาแบ่งปันกันค่ะ ^^
-
โอ๊ยลุ้นแทบแย่
คนเรานะเทพตั้งแต่แรกจนจบ
หัวใจไปอยู่ข้างขวาอีก
(ที่สำคัญอยากรู้อ๊ะ พ่อตากระซิบอะไร) :m28:
ขอบคุณคร๊าบบบบ
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
o13 o13 o13 o13 o13
-
ย๊า จบแล้วเรื่องนี้
แล้วปาจา ก็รอดปลอดภัย เฮ้อ โล่งอก
ทีนี้คุณลักษ์ก็เหลือ 2 เรื่องแล้วนิ ฮิฮิ
-
:L2: ในที่สุดก็จบอย่างมีความสุข
เฮ้อออ ลุ้นอยู่ตั้งนานว่าปาจาจะเป็นอะไรหรือเปล่า
โชคดีจริงๆ ที่ปาจาไม่ตาย
เพราะถ้าปาจาตายพระลักษณ์คงทรมานจนปานจะขาดใจแน่ๆเลย
-
(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/010-1.gif) ในที่สุดก็จบลงด้วยดี ไม่ต้องกินมาม่า
ปาจาเจ้าเล่ห์มาก พระลักษณ์ตามไม่ทันอีกตามเคย(http://i273.photobucket.com/albums/jj225/tangtang_jar/mimio205.gif)
-
จบแล้ว...รู้สึกอาลัยน้องลักและคุณจา T T
ขอบคุณคนแต่งที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ มาให้อ่านค่ะ
-
สนุกมากกกกกกก
จบแล้วสินะ รติดตามผลงานอื่นอยู่ค้าบบ
:bye2:
o13
-
จบแล้วววว
ฉลองๆ :mc4: :mc4: :mc4:
-
Hapy Happy มากๆเลยค่ะ
-
:-[ :-[
ขอตอนพิเศษนะคะๆๆๆๆ
-
แอร๊ยยยยย จบแบบแฮปปี้ :กอด1:
ขอบคุณค่ะ :pig4: :pig4:
เรื่องนี้สนุกมาก รอตอนพิเศษนะคะ :L2:
-
นึกว่าจะจบแบบเศร้าๆซะแล้ว
เป็นตอนจบที่แฮปปี้มาก
-
เกือบไปแล้ว นะคะ เนี้ยยยย
-
555ว่าแล้วว่าปาฏิหารมีจริง(มันก็มีตั้งแต่2คนนี้เป็นร่างแฝงแล้ว บื้อจริง) :laugh:
มีความสุขสักกาทีนะคุ้มดงพญา
:3123: :pig4:
-
จบ ได้ น่า รัก ดี นะ ชอบ ชอบ อิ อิ :o8:
ชอบ ร่าง แฝง ของ ทั้ง คู่ ด้วย :-[
ฮ่า ฮ่า แอบ คิด ไป เอง เบา เบา :mc4:
ขอบ คุณ นะ สำ หรับ เรื่อง นี้ :bye2:
รัก คน เขียน สุด สุด เลย นะ อิ อิ
-
บันไซ ไชโย !!!!!!!!! :z2:
ในที่สุดก็จบแบบ HAPPY ดีใจที่สุดค่า
เอาจริงๆนะเราลืมไปเลยเรื่องที่หัวใจคุณจาอยู่ด้านขวาอ่ะ
-
น่ารักมาก อยากจะเก็บไว้เป็นหนังสืออออออออ
-
:กอด1: :กอด1:จบได้ด้วยดี
-
ชอบร่างแปลงทั้งสอง o13
ในที่สุดก็แฮปปี้แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้จัดตอนพิเศษมาก็ดีนะ
-
:L2: HAPPY ENDING :L2:
:mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
ขอบคุณคนเขียนสำหรับเรื่องนี้มากๆ นะคะ :pig4:
-
:pig4: สนุกตั้งแต่ต้นยันจบเลยครับ
แต่อยากได้ตอนพิเศาสักตอนสองตอนจะดีไมน้อยเลยคร๊าบบบ :laugh:
-
:เฮ้อ: ค่อยยังชั่วที่พี่จาไม่ตาย
รอติดตามผลงานชิ้นต่อไปน่ะ
:L2: :L2:
:bye2:
-
o13 o13 o13
-
คิดไว้ลึกๆ ยังไงปาจาก็ต้องไม่ตายแ่น่นอน55.
แฮปปี้ๆ :กอด1:
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1:
แล้วก็จบแบบ แฮปปี้ :laugh:
ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่นำมาแบ่งปันนะคะ
จะรอติดตามผลงานต่อไปค่ะ
:L2: :L2:
บวก1 ค่ะ
-
เย้! แฮปปี้เอนดิ้ง!
เรื่องดีๆจบไปแระ อย่างมีความสุข
:pig4:
-
ในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้ ขอบคุณค่ะ
-
:L1:ในที่สุด Happy Ending!!!!! :L1:
-
ลงเอยด้วยดี...แอบเดาถูกว่าผู้ใหญ่ใจดีคือพ่อของพระลักษณม์
ปาจาอ่ะเจ้าเล่ห์ตลอด :z1:
-
สุดยอด..................มาก
เนื้อเรื่องดี...ต่อเนื่อง...............ภาษาลื่นไหล.............อ่านไม่สดุด
ขอขอบคุณและให้กำลังใจนักเขียนที่เขียนเรื่องราวดีๆ เรื่องเยี่ยมๆ ให้อ่าน
......................ขอบอกคุณ Luk ว่า....ผมอ่านนิยายของคุณ Luk ทุกเรื่อง...ผมไม่เคยผิดหวัง.....................
-
สนุกมากค่ะ จะรออ่านเรื่องต่อไปนะคะ :call: :call: o13 :pig4: :pig4:
-
ว๊าๆๆๆ เสียดายจังจบแล้วอ่ะ
ปล.สั่งซื้อหนังสือไปแล้วนะคะ
-
ขนาดร่างแฝงยังแอบเจ้าเล่ห์ตามเลยเอ๊าะะะะ
-
เเอร๊ยยย
เเฮปปี้เเอนดิ้งง
นึกว่าปาจาจะตายซะเเล้ว
ลิมไปว่าไม่เหมือนคนปกติ
-
o13 o13 o13 o13 o13. ยังเยี่ยมเหมือนเดิม. เทพๆมากๆคร้า. :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณสำหรับผลงานขั้นเทพนะคะ. :mc4:
-
เริ่มตอนจบว่าจัดงานศพ พระลักษณม์สติแตก หลงคิดว่าปาจาตายซะแล้ว พอเฉลยแทบจะกรี๊ดเลย
จบไปอีกแล้วเรื่อง เป็นกำลังใจให้คุณ Luk แต่งนิยายสนุกมาลงอีกนะค่ะ ^^
-
เฮ้อ! โล่งใจนึกว่าปาจาจะตายซะแล้ว :เฮ้อ:
สนุกมากๆเลยจ้ะ o13
:pig4: :pig4: :pig4:
เป็นกำลังใจให้lukสร้างผลงานดีมาให้อ่านอีกนะจ้ะ :กอด1:
ปล.จะติดตามทุกผลงานแน่นอนจ้า :L1:
-
ขอบคุณครับ
-
โหยปาจามีการติดต่อกับพ่อตาลับหลังด้วย
ถือเป็นการฝากเนื้อฝากตัวแต่เนิ่นๆใช่มะ :laugh:
จบไปอีกเรื่องแล้ว
ขอบคุณคุณLukสำหรับนิยายสนุกๆอีกเรื่องนะคะ
จะคอยติดตามผลงานอื่นๆค้า :pig4:
-
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ :L2:
-
อ่านจบแล้ว
-
สนุกมากเลย
เนื้อเรื่องไม่เหมือนใครดี
เราชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลย
-
กรี๊ดดด อยากได้ตอยพิเศษจางเยยอ่า >.< :-[
-
จบแล้ว :mc4:
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ครับ :pig4:
:กอด1
-
ชอบ
-
ขอบคุณเรื่องราวดีๆที่แบ่งปันมาให้พวกเราได้อ่านได้ติดตามนะครับ :sad4:
-
อรั๊ยยยย Happy Ending ชอบมากคร๊าาาา
เฮ้อ ในที่สุดจาปาก็ never die o13
-
เนื้อเรื่องชวนติดตามดีมากเลยครับ ถึงแม้จะยังงงๆ อยู่บ้างก็ตามที แต่ฉากจะหวานก็หวานมากๆ เลยทีเดียว :)
เป็นนิยายที่หักมุมไปมาได้ชวนติดตามมาก ถ้าเป็นไปได้อยากเห็นอิมเมจตัวละครมากเลยครับ >,,<
ขอบคุณที่สร้างสรรค์ผลงานดีๆ แบบนี้ออกมาให้ได้อ่าน :pig4: :pig4: :pig4: :L1: :L1:
-
หลังจากขาดแคลนเน็ตเล่นเพราะน้ำท่วมมานาน
เข้ามาอีกที...อ่า จบแระ
ชอบมากค่ะเรื่องนี้ น่ารักได้ตลอดแม้แต่ฉากบู๊ หุหุ
แถมจบแบบแฮปปี้ด้วย
สุดท้าย...ขอบคุณมากนะคะที่แต่งเรื่องราวดีๆมาแบ่งปัน
-
จบแล้ววว ว
ดีใจที่ตอนจบไม่มาม่า
-
ขอบคุณมากครับ อ่านรวดเดียวจบเรื่องเลย
พล็อทเยี่ยม เนื้อหาดี เขียนได้สวย (คำผิดมากไปนิดและบางสำนวนแหม่งๆ) คอนฟลิกชัดเจน เดินเรื่องไม่น่าเบื่อ
ผสานความเชื่อระหว่างพุทธ(พุทธคุณ) คริสต์(ซาตาน) พราหมณ์-ฮินดู(พระนารายณ์) และ อวิชา(ไสยศาสตร์มนต์ดำ น่าจะทางฝั่งเขมรรึเปล่า)
ชื่นชมตรงการผูกปมเรื่องครับ จินตนาการได้ละเอียดมาก ฉากเรือนไทยอลังการงานสร้างของจริง
แต่ช่วงที่อ่านบทชุมนุมเทวดาแล้วตามต่อด้วยฉากการร่วมรักเลย แหม มันให้ความรู้สึกขัดๆกันนิดนึงกับคนหัวโบราณแบบผม
แถมช่วงหลังยังเอ่อ จิ้มกันบ้อยบ่อย อ่านไปอ่านมา พาลจะของขึ้นเอา :z1: แถมอ่านแล้วจินตนาการได้ว่า ใหญ่จริง อะไรจริง
ยังไงก็ขอบคุณมากครับ สนุกมาก จะติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปนะครับ
-
ขอบคุณค่ะ
-
จบแบบประทับใจไปอีกเรื่อง
-
โหยยยเรึ่องนี้ทำไห้ตื่นเต้นมากมาย
-
>//////< แฮปปี้แอนดิ้ง..ขอบคุณค่า..ที่แต่งต่อจนจบ
-
ขอบคุณครับสำหรับนิยายดีๆ มีความสุขเหลือเกิน ชีวิตนี้มีความสุขมากกับการได้อ่านหนังสือดีๆ ขอบคุณอีกครั้ง :L1: :L1: :L1:
-
ลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ
ตระกูลนี้เขาดีจริงๆ
ทั้งหล่อรวยเลิศเป็น
เพอร์แฟคแมนน่า
อิจฉาพระลักษมณ์
กับธรรมตรัยจัง :กอด1:
-
สนุกมากเลยคับจะติดตามเรื่องต่อไปคับ
-
8-25 กุมภาพันธ์นี่คือเฉพาะวันเปิดจองเฉยๆหรือเปล่าคะ หรือว่าลืมโอนด้วยเลย? (แต่ยังไม่มีรายละเอียดเลยง่า TT)
-
ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ :กอด1:
-
o13 o13 o13
ขอยกนิ้วให้เลยค่ะ
เป็นอีกเรื่องที่สุดยอดมากกกกกก
:L2: ให้คนเขียน ~
-
อ่านตอนจบ ก็ลืมไปเหมือนกันว่า พ่อปีศาจจอมหื่นของเรา
มีหัวใจอยู่ข้างขวา T T และแล้วในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้แอนดิ้ง ^^
สนุกมากเลยค่ะ o13
-
:monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
กรีดร้องอีกครั้งของวัน..............ทำไมฉันพลาดนิยายเรื่องนี้ไปได้ตั้งนาน
ได้มาอ่านก็เมื่อจบไปเสียแล้ว เลยไม่ได้มีโอกาสร่วมลุ้นระทึกไปพร้อมกับเจ้าคุ้มและหน่วยพิเศษเลย
ชอบโครงเรื่อง/เนื้อเรื่องแบบนี้เพราะแปลก แตกต่าง ไม่ซ้ำใคร
ให้อารมณ์ลึกลับ ตื่นเต้น และชวนค้นหา พร้อมกับลุ้นเรื่องรักไปด้วย
-
เรื่องนี้มันลึกลับซับซ้อนมากเลยนะคะเนี่ย
แบบซ้อยปมแล้วปมอีกเนี่ย ตอนปาจาโดนยิงนี้คิดว่าไม่รอดแล้วซะอีกอะ แอบใจหายเย ฮ่าๆ
-
ตามกดบวกให้แล้วค่ะ
สนุกสุดยอดดดด ระทึกขวัญสุดๆ เลย
รักพระลักษมณ์ รักปาจา รักธรรมตรัย รักกายันต์ รักทุกคนเลย
ขอบคุณค่ะ :3123: :3123: :3123:
-
สนุกดีค่ะ มาอ่านรวดเดียวจบ
เอาซะมึนเลย o12
ไม่นึกว่าจะเยอะขนาดนี้
แต่ก้อถูกใจค่า o13
โดยเฉพาะ NC จุใจมากค่ะ หุหุ :haun5:
จารอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ
-
เย่เย่ ในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้เอนด์ดิ้ง
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆครับ :pig4:
[/size]
-
ยะ...อยากไ้ด้ แต่ไม่ทันแล้ว //เศร้า
-
วันนี้ได้รับหนังสือแล้วนะคะ
หนังสือปกสวยงามมากเลย เท่ได้ใจจริงๆ :haun4:
-
จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
นึกว่าพระเอกจะตายซะแล้วลุ้นแทบแย่
:L1:
-
เนื่องเรื่องแปลกแหวกแนว แต่ก็สนุกดีค่ะ ตอนแรกๆสนุกมาก เสียดายเรื่องเดินเร็วไปหน่อย ฮ่าๆ
แต่ก็ดีอย่าง ไม่เดินเรื่องเยิ้นเย้อ
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้ค่ะ
ปล. ฉากอย่างว่าบางตอน ภาษาแอบเถื่อนเกินไปหน่อย เสียงในฉาด เอิ่ม ปรับได้ก็จะดีมาก แต่ด้วยความที่คนอ่านก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนั้น ก็บอกอะไรมากไม่ได้ แฮะๆ
-
o13
ขอยกนิ้วให้เลยคะ อ่านไปอ่านมานึกว่า กำลังอ่าน เพชรพระอุมา ตอน " มนต์มาร" ชะอีก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ที่นำมาแบ่งปันค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:
-
ธรรมตรัยน่ารัก กายันต์ก็เก็บเงียบเลยนะนั่น ปาจาเท่มาก ๆ พระลักษณ์ก็เก่งนะเนี่ย
-
ได้มาอ่านครั้งแรกครับ....สนุกดี
-
ลุ้นมาก และสนุก กับคดีลึกลับที่ต้องส่งสายลับมือดีเข่ามาสืบ
สุดท้ายนอกจากจะคลี่คลายคดีได้แล้ว ยังได้คนที่รักแถมมาด้วย เยี่ยมจริง o13
ขอบคุณคุณคนเขียนสำหรับเรื่องน่าอ่านเรื่องนี้ค่ะ :pig4:
-
เจ้าคุ้ม เรานี่คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีกเนอะ..
สนุกมากครับ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆแบบนี้ o13
-
ย้าก กกกกกกกกกกกก
-
อยกด้หนังสือต่ม่ทันล้ว/ศร้
-
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ
-
อยากจะทึ้งหัวตัวเอง ทำไมเพิ่งจะได้อ่านนนนน :z3:
จะสั่งก็คงไม่ทันแล้ว :sad4:
-
เมื่อไหร่จะมีรีปริ๊น น้า ~~ รออยู่นะค่ะ o13
-
จบแล้วขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ สนุกมาก
แปลกใหม่ หลายแนวมากนักเขียนคนนี้
เนื้อเรื่องหนักน่าดู คนเขียนต้องเครียดมากแน่ๆ
เป็นกำลังใจให้ในเรื่องต่อๆไปนะค่ะ
-
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกค่ะ o13 o13
-
ขอบคุณมากที่สร้างสรรคงานดีๆ. มาให้กันปกติชอบแนวนี้อยู่แล้ว o13 และยังแบบทุกรสด้วยยิงชอบ เนื้อหากับตัวละครไม่กดดันเกิน ก็ชอบอีก เข้าใจที่คนเขียนบอกว่าเครียดเลย ถ้าเขียนแนวนี้อีกติดตามแน่นอน
ป.ล. ยิ่งเเบบตอน. Nc ด้วยนะ ....555 (คนโสดขาสั้นแทน)
เสียดายน่าจะไม่ทันร่วมเล่ม. :กอด1:
:bye2:
-
:sad4: อ๊ะ อ่านเพลินจบซะแล้ว
ไม่อยากให้จบเลย เนื้อเนื่องน่ารักมากกก
นิยายคุณ luxilove หนุกทุกเรื่องเลย
ขอรับประกัน ตามอ่านมาหมดแล้ว o13
-
ตื้บบวกแรงๆ +1 แต่ได้บวกเดียว -____- คุ้มทุกอรรถรสจิงๆ เสียน้ำตาไปหลายแหมะเลยแหะ
แต่ชอบเื่องนี้มากๆๆๆ ขอบคุณค้าบบบ
ขอให้แต่งนิยายดีๆให้สาวกได้เสพต่อไปนะฮับ
ขอบคุณจากใจอีกรอบ :D
-
อ่านจบแล้ว..เรื่องนี้ทำเราเลือดแทบจะหมดตัว :jul1:
-
จบแฮปปี้ งั้นที่พระลักษณ์ร้องไห้ก็ร้องฟรีอะดิ
ป่านนี้คงโดนปาจาจับกินไปอีกกี่รอบแล้วมั้ง 555
-
สนุกมากค่ะ ชอบๆๆๆ แล้วจะติดตามผลงานนะคะ
-
สนุกมาคร๊า
+1 และให้ใจคนอ่านไปเลย o13
หลอนๆปนหื่นได้ครบรสจริงๆ
-
เล่นเอาลุ้นตามจนนั่งไม่ติดเลยแหะ
ปมเยอะมากเรื่องนี้ เดาไม่ถูกกันเลยทีเดียวว่าจะจบแบบไหน
ดีนะที่จบแฮปปี้ ไม่งั้นคนอ่านได้นั่งร้องไห้ตามพระลักษมณ์แน่ :เฮ้อ:
สนุกมากๆค่ะ
จริงไม่ค่อยได้อ่านนิยายแนวนี้สักเท่าไหร่
จนมาเจอคุณ Luk นี่แหละ ตามอ่านทุกเรื่องเลยค่ะ :-[
-
o13
-
อ่านจบแล้วสนุกมากค่ะ o13
-
มาไล่อ่าน ตอนนหลังๆ แบบว่า เศร้าใจน้อยๆ แต่ตอนสุท้ายแบบว่าแฮปปี้เอนดิ้งดี
-
หนุกจัง อ่านสองรอบยังไม่เบื่อ ขอตอนพิเศษงานแต่งงาน กับลูกของพระลักษมณ์หน่อยได้มั้ยหง่าา
จุ๊บๆ
-
อ่านจบแล้วครับอยากจิ้น กายันต์ กับ พระลักษมณ์ จริงๆ ขอบคุณครับ
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
ขอบคุณนะคะ กอดค่ะ กอดๆ :กอด1:
-
สนุกมากกกกก
ดีที่ตอบจบแฮปปี้ ไม่งั้น :hao5: :hao5:
-
ในทีทสุดก็จบแบบแฮบปี้จนได้
ขอบคุณมากที่เขียนนิยายดีๆ มาให้อ่านนะคะ
ขอบคุณค่ะ
-
อ่านรวดเดียวจบ สนุกมากค่าาาาา
-
เหอๆ หัวใจปาจาอยู่ทางขวา ตอนแรกก็ตกใจแทบตาย แหมะ คนเขียนผูกเรื่องได้สุดยอดมาก :hao5:
-
เรื่องนี้สนุกมากๆเลยค่าาาาาาาาา :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: o13 o13 o13
พระลักษณ์กับปาจาโคตรน่ารักอ่ะ อ่านไปเขินไป
นอกจากเขินแล้วยังตื่นเต้นอีกต่างหาก ลึกลับน่าค้นหาจริงๆ คุณลักนี่แต่งนิยายสนุกทุกเรื่องเลยนะคะ o13
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้ให้อ่านนะคะ :mew1: :pig4:
-
+1
เข้ามาอ่านครั้งแรกคาะ อ่านวันเดียวจบ
เป็นเนื้อเรื่องที่สนุกมากเลยค่ะ ต้องอ่านให้จบในวันเดียวเพราะไม่สามารถวางได้เลยค่ะ
:oo1:
เนื้อเรื่องนี่ ทำให้ใจสั่นได้ตลอดเวลาเลยจริงค่ะ
-
:z1:หนุกดี
-
o13 o13 o13 o13 o13 o13
-
เวลาที่คนเขียนใส่ '?' ไว้ตรงท้ายเรื่อง
มันทำให้คนอ่านรู้สึกค้างมากมาย o22
เอาเถอะถือว่าเป็นการทรมาณจิตใจไปอีกแบบ หลังจากจบเนื้อเรื่องแสนโหดร้ายค่ะ ฮ่าๆๆ
-
ชอบเรื่องนี้มากมายยยย อ่านรวดเดียวจบตามผลงานทุกอันเลยชอบๆ :katai2-1:
-
บอกได้สามคำจริงๆ...สนุกมากเลย o13 o13
-
อ่านรวบเดียวจบเลย สนุกมากค่ะ พลอตเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อนสุดๆ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ
+เป็ดไปหลายตัวเลยย ^^ :mew1:
-
:L2:
-
ชอบแนวแฟนตาซีจังค่ะ
-
สนุกมากๆๆๆ ชอบcharacter ชอบทั้งplotเรื่อง ลงตัวไปหมด ตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่องเลย เยี่ยมมากๆค่ะ :L2:
-
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องนึกว่าจะแนวจำเลยรักเลยไม่กล้าอ่าน
กลายเป็นแนวแฟนซีไทยซะได้ ชอบเนื้อเรื่องมากเลยค่ะ
ลุ้นตามสุดๆ ขอบคุณมากค่าสำหรับนิยายดีๆ :L2:
-
สนุกมากเลยค่ะ รอติดตามเรื่องต่อๆไปอยู่นะคะ
รักนะ จุ้บๆ :กอด1:
:pig4:
:z2:
-
จบรอบที่สองแล้ว ชอบนิยายคุณลักทุกเรื่องเลย บางเรื่องอ่านสามสี่รอบเลย ไม่รู้ว่าเม้นต์ไปหรือยัง
แต่ก็ยังยังอยากเม้นต์ขอบคุณอีกครั้งครับ
-
เพิ่งได้มาอ่านสนุกมากเลยอะ ไม่อาจบรรยายได้
มีแนวเรื่แบบนี้อีกไหมอ่ะ :ling1: :ling1: อยากอ่านนนน
-
:กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
เพิ่งตามมาอ่านครับ :m23: เขียนได้แจ่ม ชอบมากกกกก! หลงปาจากับรักพระลักษณ์สุดๆ :m3:
-
ชอบๆๆขอสมัครเป็นFcน่ะค่ะ
-
แฮปปี้เอนดิ้งอีกเรื่อง เรื่องนี้หักมุม ซับซ้อน หลายเงื่อนมาก แฝงความรู้ ความเชื่อทางศาสนา ไสยศาสตร์ เข้าไว้ด้วย ให้อารมณ์ดาร์คๆ แต่อ่อนหวาน ทั้งคู่เอก ปาจาพระลักษณ์ และ คู่รอง กายันต์ธรรมตรัย ชอบทั้งสองคู่เลยจริงๆ เอ็นดูหนูผาอีกคน แม้ไม่ได้ไปเรียน ออกสู่สังคมภายนอกแบบเด็กปกติ มีโรครุมเร้าอีก แต่หนูผากลับยังคงความน่ารัก สดใสไว้ได้
เสียดายจบเร็วอีกแล้ว แหะๆ อยากให้มีต่อยาวๆ ทุกเรื่องของคุณลักซ์นั้นแหละ อ่านเพลินไม่อยากให้จบเลย ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
-
:pig4: :pig4:
-
:hao6: :hao6:
ลงตัวที่สุด
ขอบคุณมากมายคับ
:haun4:
:hao7: :hao7:
-
เห้อออออ เกือบจะมาม่าเเล้วสิ---- :hao7:
-
ชอบเรื่องนี้ครับ อ่านรวดเดียวจบเลย
-
เพิ่งอ่านเรื่องนี้จบชอบมาก แปลกดี แล้วก็สนุกด้วย :pig4:
-
บ๊ะ แนวคู่กลับกับทัดดาวเจ้าฮะ :hao3: :hao3:
-
นี่ไม่ได้อ่านตอนจบก่อนนะกะลุ้นเอาว่าใครคือฆาตกร แต่เราคิดว่าเป็นสิตา60% กายันต์อีก20% อีก20% ขออ่านพินิจพิเคราะห์อีกทีก่อน เพราะเรื่องนี้มันแนวแฟนตาซี ลึกลับ อ่านแล้วให้หวนคิดถึงเรื่องตะเกียงพิเศษว่าที่แท้แล้วคนร้ายคือคนที่ดูอ่อนแอที่สุดช๊ะ o22 o22
-
กายันต์นายต้องรับผิดชอบ หาเลือดกรุ๊ป ab negative ให้เราด่วนเลยนะ อ๊ากก :pighaun: :pighaun: :pighaun: :haun4: :haun4: :m25: :haun4:
-
บ๊ะ ว่าแล้วเชียวเป็นสิตาจริงๆด้วยที่เป็นจิตมาร กรี๊ด ทำไมซื้อหวยไม่ถูกเนี้ย :ling1: :ling1:
-
เรื่องนี้สนุกอ่า ลุ้นตลอด
-
นารายณ์ยังต้องยอมแพ้ให้กับปีศาจตัวนี้เลยนะ
-
o13 o13 o13 สนุกมากเลยนะครับ
-
เรื่องสนุกมาก แถมให้ข้อคิดด้วย o13
-
ชอบพระเอกเรื่องนี้มาก
ไม่ได้อ่านนานกลับมาอ่านแล้วฟินน
-
พึ่งได้มาอ่าน ชอบๆอะ :กอด1:
-
เพิ่งเข้ามาอ่าน นิยายสนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้ได้อ่านนะคะ ^^ :mew1:
-
พอกลางเรื่องก็พอจะเดาเนื่องราวคล่าวๆได้
แต่อ่านไปก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ
-
อ่านมาแล้วรอบหนึ่งค่ะกลับมาอ่านอีกรอบ รอปฏิบัติการร้ายของนายซาตาน :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao7: :hao7: :t3: :hao7:
-
แฟนตาซีแบบไทย ๆ บางตอนก็แอบน่ากลัว
แต่โดยรวมแล้วชอบมากเลยค่า o13 o13
-
:katai2-1: o13 ในที่สุดก็ Happy Ending!!
มีความสุขกันซะทีนะตระกูลดงพญา
เลิฟๆ งานเขียนของน้อง Luk มากเลยค่ะ
ติดตามทุกเรื่องเลย สนุกมากไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย
ขอบใจสำหรับงานเขียนดีๆ ที่มีมาให้อ่านกันนะจ๊ะ :กอด1: :pig4: :mew1:
-
เรื่องสนุกมากจ้ะ ลุ้นตามตลอดทั้งเรื่อง o13
-
โอ๊ยยยย ไม่ไหวแล้วค๊า o13 o13
ถึงจบแฮบปี้ก็เถอะ แต่ฮาตอนจบมากกกกก :ling1: :ling1:
โดยเฉพาะท่านร่างแฝงทั้งสอง ที่ออกอาการต่างกันสุดขั้ว :katai5:
ส่วนพระลักษณ์ ไม่ว่าจะผ่านไปนานขนาดไหนเชื่อเถอะ ว่าไม่มีทางตามความเจ้าเล่ห์ของปาจาทัน :เฮ้อ: :เฮ้อ:
เห้อ ลุ้นสุดๆ กลับไปกลับมาเล่นเอาตะลึงพอตัวเลยเรื่องสิตา o22 o22
ส่วนคู่กายันต์กับธรรมตรัย ไม่คิดเลยว่าจะมีมุ้งมิ้งกันมาตั้งนานแล้ว :o8: :o8:
แต่กายันต์ นายจะหื่นไปไหม สงสารหนูตรัยหน่อย :z6: :z6:
สนุกแทบทุกเรื่องเลยค่ะ เสียดาย สั่งซื่อไม่ทัน :hao5:
ตอนนี้กำลังตามเก็บ ตามอ่านเรื่องอื่นๆอยู่ :katai4:
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ :call: :L2:
-
นิยายของคุณลักษณ์สนุกมากๆจริงๆ เยี่ยม o13
กำลังเก็บทุกเรื่องอยู่ :laugh:
-
อยากได้เรื่องนี้อ่ะค่ะ พอจะมีโอกาสไหม ต้องทำยังไง วานบอกที
:3123:
-
ขอบคุณค่า
-
รอบสามมมม รักคุณLUX ม๊วปปป
-
ขอบคุณมากสำหรับเรื้องราวดีๆนี้นะคะ
อ่านจนจบแล้วรู้สึกพระลักษมณ์พัฒนาแบบถอยหลังลงคลองแปลกๆ :hao7:
จากตอนแรกๆดูเจ้าเล่ห์เจ้าชู้ทันคน
หลังๆใสซื่อถูกเจ้าคุ้มรูปหล่อหลอกเอาๆ :katai3: :katai3: :katai3:
-
:katai4: ตามอ่านทีละเรื่อง สนุกทุกเรื่อง
-
สนุกมากค่ะ
เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่านเรื่องนี้
อ่านไปได้ไม่กี่ตอนก็ติดแล้วค่ะ
ภาษาดีมากๆ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆมาให้อ่านค่ะ^^
-
สนุกมากๆๆๆ
ลุ้น เข้มข้นมาก อ่านไม่เบื่อเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
:3123:
-
ชอบมากกกกกกๆ สนุกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก o13 o13 o13 o13
-
แปะะะะ
-
ตื่นเต้นมากทุกตอนค่ะะะ
ลุ้นน หลังๆบีบหัวใจมากค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ ><
-
เนื้อเรื่องน่าสนใจดีค่ะ มีปมให้ติดตามและตัวละครก็ลึกลับน่าค้นหา
ขอตัวไปอ่านต่อๆๆๆ :katai5:
-
อ่านจบแล้ว สนุกมากๆ วางโครงเรื่องและผูกปมได้ดี
ขอบคุณที่แต่งเรื่องสนุกๆมาให้อ่านนะคะ
ป.ล. มีคำผิดหลายคำนะ โดยเฉพาะ คะ กับ ค่ะ
-
:m11: :m4: :m11: :m4: :m11: :m4:
-
คุณลักจร้า ช่วยสร้างนิยายแบบนี้มาอีกนะ หรือไม่ก็แบบ สิ่งลี้นลับอะไรประมานนี้ ชอบๆๆๆๆ
-
o13 o13 o13
-
จำได้ว่าเคยอ่านเรื่องนี้มานานมากแล้ว :pig4: :pig4: :pig4: :man1: :man1:
-
สนุกมากค่ะ :pig4:
-
:pig4: :pig4:
สนุกทุกเรื่องเลยค่า
ติดตามๆ
:mew1: :mew1: :mew1:
-
หวานน่ารักปลื้มปริ้มมาก
-
ชอบ สนุกมาก อ่านแล้ววางไม่ลงกันเลยทีเดียว
:pig4:
-
o13
-
อ่านแล้วหยุดไม่ได้เลยย สนุกมาก :katai4:
:L2: :pig4: :pig4: :L2:
-
อ่านเรื่องนี้แล้ว ทำเอาคนแก่น้ำหมากกระฉูด :pighaun:
-
สนุกมากกกกกกกกก o13 o13
-
สนุกสุดอะ ลุ้นตามเลยคะ
-
ชอบเรื่องแนวนี้ที่สุด อ่านเพลินมาก ขอบคุณมากนะคะ
-
จบแล้วเย้ๆๆ
สนุกมากๆค่ะ
-
-
:really2: :really2: :really2:
ขำพรลักษณ์อ่ะ คิดได้ไงว่าเป็นฝ่ายไปกดเขา :laugh:
อยากให้ถึงตอนทำพิเร็ว ๆ จัง :o8:
ทั้งบวกทั้งเป็ดเอาไปเลยค่ะ :กอด1:
-
:กอด1:
-
:mew1:นึกว่าจะดราม่า :กอด1: อุส่าห์ขึ้นงานบุญ อ๋อย~ ขอบคุณนะจบแฮปปี้เอนดิ้งมาก ๆ งับนักเขียนที่น่าฮัก :pig4: :mc4:
-
หลงรักคุณปาจา
-
:heaven :heaven :heaven
-
- 2 -
อ่านที่พระเอกกับนายเอกเถียงกันแล้วนึกถึงภาพกระเทยรุ่นป้าแต่งหน้าหนาๆ2คนเถียงกันเลย
-
:pig4:
-
:pig4: :pig4: