------------------------------------------------------------------------------------------
นิยายของ Natsukairiเรื่องยาว
หลังสวนดอกท้อ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3098937#msg3098937)
เรื่องสั้น
♥ เลนนี่ กับ หนุ่มอังกฤษบ้านตรงข้าม ♥
(http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=61326.msg3680215#msg3680215)
------------------------------------------------------------------------------------------
สารบัญ
ปฐมบท (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3098937#msg3098937)
ดอกท้อที่๑ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3100202#msg3100202)
ดอกท้อที่๒ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3101450#msg3101450)
ดอกท้อที่๓ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3102286#msg3102286)
ดอกท้อที่๔ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3103453#msg3103453)
ดอกท้อที่๕ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3107880#msg3107880)
ดอกท้อที่๖ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3109168#msg3109168)
ดอกท้อที่๗ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3110223#msg3110223)
ดอกท้อที่๘ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3112444#msg3112444)
ดอกท้อที่๙ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3114762#msg3114762)
ดอกท้อที่๑๐ (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3117875#msg3117875)
ดอกท้อที่๑๐ (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3121241#msg3121241)
ดอกท้อที่๑๑ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3124320#msg3124320)
ดอกท้อที่๑๒ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3128826#msg3128826)
ดอกท้อที่๑๓ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3138506#msg3138506)
ดอกท้อที่๑๔ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3142119#msg3142119)
ดอกท้อที่๑๕ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3145250#msg3145250)
ดอกท้อที่๑๖ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3148816#msg3148816)
ดอกท้อที่๑๗(ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3158558#msg3158558)
ดอกท้อที่๑๗(ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3176476#msg3176476)
ดอกท้อที่๑๘(ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3187957#msg3187957)
ดอกท้อที่๑๘(ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3251208#msg3251208)
ดอกท้อที่๑๙(ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3268730#msg3268730)
ดอกท้อที่๑๙(ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3425030#msg3425030)
บทส่งท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47443.msg3428936#msg3428936)
ตัวละครหลัก
หย่งคัง (จางเฟยหลง)
คุณชายเล็กตระกูลจางผู้อ่อนแอ กลับเติบโตเป็นหนุ่มใหญ่มาด้วยความรัก
และความเอาใจใส่จาก หลี่ซื่อหลาง พี่ชายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องทางสายเลือด
ความรักของครอบครัวที่กลับกลายเป็นความเสน่หาที่ไม่อาจห้ามใจ
เขาสัญญากับตนเองว่าจะไม่เป็นแค่น้องชาย เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง
หย่งคังจะเป็นที่พึ่งพาให้ซื่อหลางไปตลอดชีวิตเอง!
หลี่ซื่อหลาง
ชายขายน้ำเต้าหู้ผู้เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน
เขาได้รับเลี้ยง หย่งคัง เป็นน้องเล็ก รักและดูแลมาตลอดสิบปี
หากวันหนึ่งทุกอยากกลับพังทลาย คนที่รักดั่งแก้วตาดวงใจกลายเป็นคนไกลไม่อาจเอื้อม
สัญญาที่เคยให้ไว้แต่ก่อน บัดนี้ไม่มีความหมาย?
------------------------------------------------------------------------------------------
ปฐมบทหากรู้สึกเจ็บปวด คนเราก็มักจะร้องไห้
นั่นเป็นสัญชาตญาณทั่วไปของมนุษย์
อย่างตอนที่ลืมตาดูโลกเป็นครั้งแรก เหนือสิ่งอื่นใดทารกก็จะแผดเสียงร้องไห้จ้าให้ดังที่สุดเท่าที่จะดังได้ หรือแม้นยามที่ร่างกายเป็นแผล ยามที่จิตใจบอบช้ำ คนเราก็จะหาทางระบายความเจ็บปวดเหล่านั้น อย่างเช่นร้องไห้ออกมา เห็นหรือไม่ว่าร้องไห้น่ะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญมาก
…
แต่คงไม่ใช่สำหรับ จางเฟยหลง
แม้อยู่ในวัยเพียงห้าปีเศษ แต่สามัญสำนึกคิดกลับไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ ที่อยู่ในวัยเดียวกัน
เวลาเจ็บปวด ก็ห้ามร้องไห้
ถึงถูกถีบจนล้ม ตบหน้าหัน แม้เสียงร้องสักแอะยังไม่เล็ดรอดหลุดจากปาก
…เปล่าเลย จางเฟยหลงไม่ได้เข้มแข็งหรือเก่งกาจเกินเด็กมาจากไหนหรอก แต่เด็กชายเรียนรู้อยู่อย่างหนึ่งว่าทุกครั้งที่ ซูเม่ย มารดาที่ให้กำเนิดกำลังด่าทอหรือทุบตีเขา หากร้องไห้ รังแต่จะทำให้เจ็บตัวกว่าเก่า อาจถึงขั้นใช้อุปกรณ์อื่นทำร้ายร่วมด้วย เท่านี้เนื้อตัวของเขาก็แตกเลือดซิบจนไม่หลงเหลือที่ว่างแล้ว
ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุประการใด ย่อมไม่ได้มีเพียงมารดาเท่านั้นที่จงเกลียดจงชังเขา
จางเฟยฉี และจางเฟยเจิน พี่ชายฝาแฝดสายเลือดเดียวกันที่เกิดก่อนเด็กชายเพียงสองปี พวกพี่ๆ มักจะหาโอกาศดีๆ ในการกลั่นแกล้งเขาได้เสมอ ยามที่เขารวบรวมความกล้าโต้ตอบ น่าแปลกใจที่ทุกครั้งจางเฟยหลงจะเป็นฝ่ายผิดและถูกลงโทษ
แม้กระทั่ง เลี่ยงหวง บิดาผู้บังเกิดเกล้ายังเพิกเฉยต่อการกระทำเหล่านั้น เอาหูเอานา เอาตาไปไร่ ราวกับลูกชายคนสุดท้องผู้ไม่ได้ดั่งใจเป็นแค่อากาศธาตุ ไม่สามารถฝากความหวังของตระกูลจางได้
ยิ่งเมื่อตระกูลจางเป็นคู่ค้าขายรายสำคัญของวังหลวง ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษที่ยึดอาชีพการส่งออกผักผลไม้เป็นธุรกิจหลักหล่อเลี้ยงทุกคนในครอบครัว มีไร่ผลผลิตกว้างใหญ่ไพศาลอยู่แถบเขตชายแดน ไกลออกไปหลายพันลี้ เป็นสถานที่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นดินกลิ่นหญ้า แสงแดดและทิวทัศน์ธรรมชาติที่ไม่สามารถหาดูได้จากในเมืองหลวง
แต่นั่นคงไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอันใดกับจางเฟยหลง
เด็กหนุ่มผู้ถูกทอดทิ้งให้อยู่แต่ในเรือนเล็กเก่าๆ โทรมๆ ด้านหลังสวนดอกท้อ เขาไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าเรือนใหญ่ด้วยซ้ำ หากไม่ได้ขอนางซูเม่ยเสียก่อน
แม้ยังเด็ก จางเฟยหลงก็รู้ว่าตนเป็นคนที่ครอบครัวไม่รัก
และเพราะยังเด็ก จึงไม่อาจเข้าใจว่าทำไมถึงได้ไม่มีคนรักเช่นนี้…
-------------------------------------------------------------
“เฟยหลง!”
เสียงฝีเท้าตึงตังดังจากทางเดินจนหยุดลงที่หน้าบานประตูเก่า ผู้มาเยือนยามวิกาลกระแทกประตูเปิดออกอย่างแรงจนบานพับหัก เงาร่างสะโอดสะองสืบเท้าเข้ามาใกล้
เพียะ!
คราวนี้จางเฟยหลงถึงกับตื่นเต็มตัว ร่างเล็กกระเด็นตกจากเตียงด้วยแรงตบฉาดเข้าที่ใบหน้า
“เจ้าเป็นคนเอา
เจ้าสิ่งนี้ ไปไว้บนเตียงข้าใช่มั้ย!”
ยิ่งพูด นางซูเม่ยก็ยิ่งเลือดขึ้นหน้า ไม่รอฟังคำแก้ตัวจากลูกคนเล็ก ลงมือฟาดเอาๆ จนอีกฝ่ายแนบศีรษะลงกับพื้นสกปรกขอร้องไม่ให้ลงมือต่อ แม้จะไม่มีเสียงร้องไห้ แต่ร่างที่สั่นงกๆ แสดงให้เห็นว่ายอมทุกอย่างแล้ว
“ท…ท่านแม่…ลูกทำอะไรผิด…”
“เจ้ากล้าดียังไง! หา!” นางซูเม่ยขยำกลุ่มเส้นผมดำของร่างเล็กที่หมอบลงแทบเท้านาง “เจ้าวางแผนแอบย่องเข้าเรือนใหญ่เพื่อล้างแค้นข้าใช่หรือไม่!”
“…ท่านแม่…ข้าไม่ได้ทำอะไร”
“อย่ามาไขสือ!”
นิ้วเรียวจิกหนังศีรษะอีกฝ่ายจนเลือดซิบ สีหน้าเจ็บปวดของจางเฟยหลงไม่ได้บรรเทาความโกรธแค้นเคืองของนางลงได้
“หลักฐานเห็นอยู่ทนโท่!”
“ข้าไม่ได้ทำอะไรจริงๆ ท่านแม่ โปรดเมตตาลูกด้วย”
“ยังมีหน้ามาขอความเมตตาจากข้าอีก! ไอลูกทรพี!”
ว่าแล้วก็ตบอีกสักฉาด “เจ้าเอาซากกระต่ายบ้านี่ไปไว้ใต้หมอนข้าทำไม!”
เหมือนได้ยินเสียงระเบิดในหัว จางเฟยหลงเงยหน้าขึ้น ปรับสายตาให้ชินกับความมืดเพราะห้องไม่ได้จุดตะเกียง
“ท่านแม่…ท่านหมายความอย่างว่าไร?”
ตุบ
“ผลงานของเจ้าไม่ใช่หรือ! ดูเสียให้เต็มตา!”
มารดาโยนบางอย่างลงตรงหน้าเด็กหนุ่ม เขาเพ่งมองและคลำมันด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ภาวนาไม่ให้เป็นอย่างที่คิด มือไม้ยังคงสั่นระริก หากไม่ฟั่นเฟืองจนเกินไป จางเฟยหลงจำได้ดีว่า เจ้าสิ่งนี้ มันคืออะไร
“…กระต่ายผิงผิงของข้า” …ไม่หายใจแล้ว
“เจ้าเด็กใจอัปลักษณ์! เจ้ากล้ามากที่เอามันมาแกล้งข้า!”
ทั้งฝ่ามือและเท้าระดมโถมใส่คนตัวเล็กที่กอดร่างกระต่ายไร้วิญญาณไว้ในอ้อมอกแน่น แม้ตนจะล้มตึงลงไปกับพื้นให้มารดาทุบตีสมใจ เจ้าตัวก็ยังขดเป็นก้อนกลมไม่ให้สะเทือนถึงสิ่งไร้ชีวิตที่ต้องการจะปกป้อง
เห็นแบบนี้ นางซูเม่ยจึงถือโอกาสระบายอารมณ์ที่สามีไม่ค่อยกลับเรือน บวกกับความเครียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สะสมมาเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อนใส่เด็กหนุ่มตรงหน้าจนสาแก่ใจ
“พอ…พอเถิด ท่านแม่” กระทั่งเลือดไหลออกปาก จางเฟยหลงถึงได้เอ่ยเสียงแผ่ว “ข้า…เจ็บ ได้โปรดพอเถิด”
“เจ้าจะทำแบบนี้อีกหรือไม่!”
ข้าไม่ได้ทำอะไร ผิงผิงของข้า…“ตอบข้ามาสิ!”
“…ไม่ทำ ข้าไม่ทำแล้วท่านแม่ เมตตาลูกด้วย”
“หึ!”
นางซูเม่ยกระแทกฝ่าเท้าอย่างแรงที่กลางลำตัว กระชากหัวเด็กหนุ่มกระแทกกับพื้นครั้งสุดท้ายด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียม
“อย่าให้ข้าโมโหอีกนะ เว้นเสียแต่เจ้าอยากจะมีสภาพเหมือนกับกระต่ายอัปลักษณ์นี่!”
มารดาจากไปไม่แม้จะเหลียวกลับมามอง ลมหายใจของร่างเล็กที่แน่นิ่งกับพื้นช่างอ่อนโรยริน เด็กหนุ่มพยายามกอบโกยอากาศหายใจ
...อากาศที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งจากกระต่ายผิงผิงและตัวเขาเอง-------------------------------------------------------------
บ่ายนี้ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องจางเฟยหลงเลยแม้กระทั่งน้ำเปล่า
สาวใช้ที่ปกติจะนำถาดอาหารมาให้เขาอย่างตรงเวลาทุกสามมื้อ วันนี้กลับหายไป เมื่อไม่ได้กินข้าว ซ้ำร้ายตัวยังร้อนเหมือนไฟเผา รอยแผลจากเหตุการณ์เมื่อคืนอักเสบน่ากลัว เด็กหนุ่มไม่มีแรงจะลุกจากเตียงด้วยซ้ำ ขนาดร่างไร้วิญญาณกระต่ายผิงผิงที่เริ่มส่งกลิ่น เขายังไม่อาจพามันไปฝังไว้หลังสวนดอกท้อได้อย่างที่ใจหวังเลย
ขอโทษนะผิงผิง เรามันใช้ไม่ได้ เป็นเจ้าของที่แย่…จางเฟยหลงได้แต่นอนโทษตัวเอง
เด็กหนุ่มรู้ดีว่าหากไม่ใช่เพราะตนแข็งข้อไม่ยอมยกสัตว์เลี้ยงให้จางเฟยฉีและจางเฟยเจิน พี่ชายฝาแฝดของเขาโยนเล่นต่างลูกบอลดีๆ เมื่อวันก่อนนู่น บางทีชะตากรรมของผิงผิงอาจไม่จบลงแบบนี้ก็ได้
บางที พี่ชายทั้งสองคงไม่เอากระต่ายผิงผิงของเขาไปฆ่า แล้วแอบเอาไปไว้ใต้หมอนของมารดา
บางที มารดาอาจไม่โมโหจนเข้ามาถึงเรือนเล็กที่นางว่าสกปรกนักหนาเพื่อทุบตีเขาอย่างรุนแรง
ถึงอย่างนั้น เด็กหนุ่มก็ไม่สามารถทนเห็นสัตว์เลี้ยงของตนเป็นลูกบอลให้ใครเล่นสนุกอยู่ดี
หรือบางที…ตายอาจจะดีกว่าอยู่อย่างทรมานกันนะ….-------------------------------------------------------------
Talk : สวัสดีค่าาาา สมาชิกใหม่รายงานตัว Natsukairi เองจ้า!
อ่านว่า นัท ซึ ไค ริ นะตัวเอง!
วันนี้ขอมาเปิดเรื่องใหม่แนวจีนโบราณที่เพิ่งแต่งสดๆ ร้อนๆ
แนวดร่ามา ชีวิตแสนรันทด พ่อแม่ไม่ฮัก คนรักยังไม่ปรากฏตัว ฮ่า!
แล้วใครพระเอกนายเอกกันล่ะนี่ เรื่องมันเป็นมายังไง
จะจบสวยไม่สวยอันนี้มารออ่านตอนต่อไปดีกว่าเนอะ
ยังไงก็ฝากเรื่อง หลังสวนดอกท้อ ด้วยนะคะ!