-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด กรุณาอ่านทุกคน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วย
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn หรือคบหาพูดคุยกันในเล้า
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
****************************************************************************
Revenge - ทั้งรัก ทั้งแค้น
By...ToNight
InTro (เนื้อเรื่องโดยรวมคับ ^^)
“ก้มลงกราบฉัน แล้วฉันจะบอกให้ลูกชายของฉันช่วยผ่าตัดให้พี่ชายของแก”
"กันต์กวี"ก้มลงกราบแทบเท้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนแย่งพ่อไปจากแม่ของเขาด้วยความกล้ำกลืนฝืนทน เหตุการณ์เลวร้ายลงไปอีกเมื่อผู้ที่เป็นเสมือนครอบครัวเพียงคนเดียวมาจากไป ตั้งแต่นั้นเขาก็ตั้งปณิธานแน่วแน่กับตัวเองว่าจะไม่มีวันให้อภัยทุกคนในตระกูล “เชษฐ์ศิริ” โดยเฉพาะ “กษิดินทร์”
P.S.
รออ่านตอนที่ 1 พรุ่งนี้นะคับ ลองลงเรียกน้ำย่อยดู เผื่อว่าจะมีคนชอบแนวนี้ ^^ ส่วนเรื่องยาวอีกเรื่องหนึ่งรอสักพักก่อนนะคับเดี๋ยจะเอามาลงให้ได้อ่านต่อ แต่วันนี้ต้องขอตัวก่อนเพราะว่าตอนเย็นมีงานบายเนียร์ จัดเลี้ยงส่งเตรียมตัวเรียนจบคับ ฮ่าๆๆ รอติดตามอ่านกันด้วยนะคับ :pig4:
-
แนวไหนคะเนี้ย แม่ผัวตัวร้ายกับลูกชายควายโง่หรือป่าว
หรือจะเป็นแนว ลูกสะใภ้ร้ายลึก แฝงตัวมาแก้แค้น แต่สุดท้ายก็ตกม้าตายเอง
-
ได้กลิ่น ดราม่า+ตบจูบ +1เป็นกำลังใจให้ก่อนล่ะกัน
-
o13นายเอกร้ายเหรอ ชอบๆๆๆๆอย่าดราม่าละกัน
-
:L2: เราพอจะนึกแนวออกนะแต่ไม่แน่ใจว่าใช่อย่างที่คิดไหม
ถ้าตอนจบHappyมาม่าแค่ไหนก็จะอ่าน
-
มาม่า ร้อนๆ จะรออ่านนะจ่ะ o13
-
:beat:จูบ เศร้า เคล้าความแค้น :o12:
-
อ่านแล้วงงดีแท้
รออ่านบทที่ 1 เลยแล้วกัน
o13
-
รออ่านด้วยคนคร๊าบบบบบบบ :กอด1:
-
SO HOT
-
รอด้วยคนจ้า :z2: :z2: :z2:
-
รออ่านค่า :mc4:
-
ชอบแนวนี้จัง อ่านแล้วเซ็ง(ตัวละคร)ดี รอ ร้อ รอ นะครับ
-
รออ่านด้วยคนค่ะ
แต่ไม่เอามาม่าได้มั้ย
-
-1-
ยามบ่ายคล้อย แสงสุดท้ายของวันกำลังจะลาลับขอบฟ้าแต่ชายหนุ่มร่างโปร่งกลับยืนนิ่ง
อยู่ที่ปลายสะพานไม้ที่ทอดยาวยื่นลงไปในทะเล ภายในมือมีห่อผ้าสีขาวที่ภายในบรรจุกระดูกของบุคคลอันเป็นที่รักและดอกไม้หอม มือเรียวเปิดห่อผ้าก่อนจะค่อยๆรวบกำผุยผงแล้วโปรยลงไปในท้องทะเลสีคราม
น้ำตาร่วงหล่นต้องผิวแก้มซึ่งเขาสัญญากับตัวเองว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะแสดงความอ่อนแอออกมา
“ผมจะไม่มีวันให้อภัยคนพวกนั้นที่ทำกับพี่แบบนี้”
พี่ชายของเขาเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เกิด แล้วบังเอิญว่าวันนั้นอาการกำเริบจึงรีบส่งตัวไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยหารู้ไม่ว่าที่นั่นมีฆาตกรในร่างของผู้เป็นหมอซึ่งมีมารดาผู้ให้กำเนิดเป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลัง
เธอคนนั้นจงเกลียดจงชังครอบครัวของเขาซึ่งก็ไม่ต่างจากเขาที่ชิงชังครอบครัวของเธอเช่นกัน ความบาดหมางมันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัยพ่อกับแม่ของเขาเป็นนักศึกษา อิงอรและลัดดาเป็นเพื่อนรัก เพื่อนสนิทกัน แต่แล้ววันหนึ่งก็มีโยธาเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในกลุ่ม
ลัดดาตกหลุมรักโยธาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบโดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มพึงพอใจในตัวของอิงอร ทันทีที่เรียนจบอิงอรก็ตกลงแต่งงานกับโยธาทันที เหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงต่อหน้า ลัดดาได้แต่เก็บความแค้นไว้รอวันสะสาง
เธอทำมันสำเร็จ…ไม่ว่าจะด้วยเล่ห์ กล หรือมารยาก็ตามเพราะไม่ว่ายังไงเธอก็ได้ชายหนุ่มที่ชื่อว่าโยธา ผู้เป็นพ่อของกันต์กวีไปครอบครองในที่สุด อิงอรแม่ของเขาต้องมาตรอมใจตายเพราะชายที่เธอรักปันใจให้หญิงอื่น หลังจากแม่จากไปได้ไม่นานเขาก็ได้รู้ข่าวว่าพ่อป่วยและจากไปในที่สุด
หลังจากสูญเสียเสาหลักของบ้านกันต์กวีก็เหลือเพียงแค่พี่ชายเพียงคนเดียวก่อนสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตจะถูกพรากจากไปจากคนที่ไร้หัวจิตหัวใจอย่างผู้หญิงที่ชื่อลัดดาและกษิดินทร์ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ
ทั้งเขาและลูกชายของบ้านหลังนั้นไม่เคยจะพบหน้าคร่าตากันเลยสักครั้ง แต่เขาก็ไม่ต้องการจะเห็นน้ำหน้าของคนที่ไร้จรรยาบรรณที่เอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาปนกับเรื่องงานจนทำให้ชีวิตที่มีค่าชีวิตหนึ่งต้องจบลง
แต่คงไม่นานหรอก ยังไงซะ…เขาก็จะไปทวงหนี้ชีวิตที่คนๆนั้นติดไว้อย่างแน่นอน
รูปใบหนึ่งถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนที่ดวงตาคู่โศกจะมองพิจารณาและจดจำโครงหน้าจนติดตาจึงขยำจะยับยู่ยี่และฉีกเป็นเศษเล็กเศษน้อยก่อนจะโปรยลงตามเถ้ากระดูกของผู้เป็นพี่ชายไป
“ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต นายทำยังไงไว้กับฉัน ฉันจะเอาคืนร้อยเท่าพันเท่า คอยดู…”
เช้าวันรุ่งขึ้นกันต์กวีขับรถกลับมายังเมืองหลงของประเทศไทยก่อนจะเข้าทำงานตามปกติ แต่เมื่อถึงเวลาพักกลางวันเขาก็รีบออกจากบริษัทและมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลที่ศัตรูคู่แค้นทำงานอยู่
สิ่งที่เขาต้องทำก็มีเพียงแค่ จัดให้ทุกเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้เป็นเหมือนเรื่องบังเอิญและสิ่งที่ต้องระมัดระวังก็มีเพียงแค่เรื่องของผู้หญิงที่ชื่อว่าลัดดา เขาไม่ต้องการให้ใครเข้ามาขัดขวางแผนการเพราะว่าตั้งใจจะมอบเซอร์ไพร์ให้ในสักวันหนึ่งและเมื่อวันนั้นมาถึง…
ผู้หญิงคนนั้นจะต้องอกแตกตายอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งแวะเข้าไปนั่งในคอฟฟี่ชอปก่อนจะมองคนนั้นคนนี้เดินผ่านไปมาก่อนชายในชุดกราวน์สีขาวสะอาดที่มีใบหน้าคุ้นเคยจะเดินผ่านไปต่อหน้า กันต์กวีลุกพรวดขึ้นทันทีและก้าวเท้ายาวๆเพื่อให้แซงคนที่เดินอยู่ก่อนแล้ว
แสงแดดสีทองสว่างจ้าบวกกับอากาศร้อนและความอ่อนเพลียจากการขาดการพักผ่อนทำให้ชายหนุ่มร่างโปร่งรู้สึกหน้ามืดเดินเซไปหาผนังเพื่อจะค้ำตัวไว้แต่แล้วก็มีมือคู่หนึ่งเข้ามาโอบประคองไว้
“หน้าคุณซีดๆ ไปนั่งพักก่อนไม่ดีกว่าเหรอครับ”
น้ำเสียงโทนทุ้มเอ่ยก่อนกันต์กวีจะช้อนตาขึ้นมองสบเข้ากับนัยน์ตาคมแววตาสดใสเป็นประกาย ริมฝีปากหยักบางเจือรอยยิ้มส่งให้อย่างเป็นมิตร
ดูยังไงก็ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนที่ไร้จรรณยาบรรณแพทย์ได้ แต่เขาจะไม่มีวันถูกภาพลักษณ์ภายนอกหลอกลวงเป็นอันขาด คนๆนี้คงไม่ต่างอะไรจากซาตานในคราบเทพบุตร
“ผมไม่รู้นะว่าคุณชอบดื่มอะไร แต่อาการแบบนี้ดื่มอะไรหวานๆจะดีที่สุด”
มือใหญ่วางแก้วน้ำหวานสีสันสดใสลงต่อหน้าก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“ผมนายแพทย์กษิดินทร์ เชษฐ์ศิริ แต่คนที่นี่เขามักจะเรียกผมว่าหมอดิน แล้วคุณล่ะชื่ออะไร แล้วมาทำอะไรที่นี่”
หลังจากฟังประโยคแนะนำตัวที่ยืดยาวกันต์กวีวางแก้วน้ำลงก่อนจะยิ้มให้
“ผมชื่อ…กวี เรียกวีเฉยๆก็ได้ครับ มาที่นี่เพราะ…อยากมาเห็นหน้าคนบางคนที่ทำให้คนสำคัญของผมตาย”
ชายหนุ่มเริ่มต้นประโยคด้วยน้ำเสียงเป็นปกติแต่ลงท้ายประโยคด้วยน้ำเสียงเย็นจนคนฟังจับสัมผัสได้ แววตาก็เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้น
“เอ่อ…”
กษิดินทร์ถึงกับอ้ำอึ้งสานต่อบทสนทนาไม่ถูกแต่อยู่ๆเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมาจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนใบหน้าหมดจดจะแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม
“ผมอำคุณเล่นน่ะ”
“คุณ…เนียนมากจริงๆ หลอกผมเสียสนิทเลย”
กันต์กวีที่บอกชื่ออีกฝ่ายแค่ว่ากวีหัวเราะเบาๆรับคำพูดของอีกคน ในใจก็คิดอยู่เสมอว่าปล่อยให้ทุกอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป เดี๋ยวไก่ตื่นก่อนจะหมดสนุกกันพอดี
“ผมต้องไปเข้าเวรต่อแล้ว มื้อนี้ผมเลี้ยงก็แล้วกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะวี หวังว่าเราคงจะได้พบกันอีก”
เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มพิมพ์ใจให้คนที่กำลังจะเดินจากไปก่อนรอยยิ้มนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นการเหยียดริมฝีปาก มือเรียวหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอีกครั้งก่อนจะวางกระแทกลงบนโต๊ะ
“เราได้เจอกันอีกแน่ กษิดินทร์”
ToBeCon…
(ขออัพแบบสั้นๆก่อนก็แล้วกันนะคับ เมื่อคืนกลับมาดึกไปหน่อย ^^ ตอนต่อๆไปสัญญาว่าจะให้ยาวกว่านี้นะคับ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และการติดตามนะคับ ปล เรื่องนี้อาจจะมาม่าบ้างเพื่อความสะใจของคนเขียน ส่วนเรื่องแอปปี้เอนดิ้งไหม ขออุบไว้ก่อนก็แล้วกันนะคับจะได้ตื่นเต้น ปล ถ้าใครอ่านนิยายที่ไนท์แต่งจะรู้ว่าส่วนใหญ่จบอย่างไรคับ)
:กอด1:
-
อิอิ
มารออ่านตอนต่อไป
-
มาตามอ่านด้วยคนจ๊ะ...
เรื่องคุณหมอเหรอ? รออ่านดีกว่า
-
ส่วนใหญ่ จบยังไง ส่วนใหญ่ซัมว่ายังไม่จบนะคะ 55555555555555 อ่ะ อ่ะ ล้อเล่น อิอิ
แล้วมาต่ออีกนะคะ เรื่องน่าจะเข้าบท แม่ผัวร้ายลูกชายโง่ เนอะ อยากรู้จังว่าอะไรจะเป็นตัวผลิกผันให้วีกลับใจได้ ความรักงั้นหรอ
-
จะตามอ่าน อัพบ่อย ๆ นะ
-
กลัวมาม่าที่สุด
แต่เราก็จะอ่านต่อไป
:m15:
-
รอจ้า
-
โอ้ท่าจะแรงน่าดูครับ
เง้อแค้นกันแบบนี้ไม่ดีเลยอ่ะ
น่าสงสารกวีจัง
-
มาเป็นกำลังใจคะ
-
เอามันให้เจ็บและจำไปจนวันตาย จัดการมันเลย :fire: :fire:
-
-2-
จะเรียกว่ากันต์กวีสะกดรอยตามก็ว่าได้ เขารู้แทบทุกฝีก้าว ทุกการเคลื่อนไหวของกษิดินทร์ เพราะต้องการจะหาจุดบอด หาจุดอ่อนแอของอีกคนซึ่งตอนนี้เขาแทบจะหาไม่เจอเลยด้วยซ้ำ ประวัติขาวสะอาด เป็นลูกกตัญญู หน้าตาและฐานะดีพร้อม
จัดอยู่ในพวกเพอร์เฟคก็ว่าได้
แต่เขานี่แหละจะทำให้คำๆนั้นมันหายไป
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่แต่งกายดูดีเดินถือตะกร้าเลือกซื้อของสดตามที่จดมาในแผ่นกระดาษ ขณะที่เดินมองโน่นมองหน้าอย่างเพลิดเพลินก็ชนปะทะเข้ากับร่างหนึ่งเข้าอย่างจังจนของหล่น
“ขอโทษครับ ผมผิดเองที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ”
กษิดินทร์เอ่ยขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ก่อนจะช่วยอีกคนเก็บของ เมื่อเหลือของชิ้นสุดท้ายมือใหญ่ของชายหนุ่มร่างสูงจะคว้าลงบนมือเรียวเข้าพอดี เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็สบเข้ากับดวงตาคู่โศกที่คุ้นเคยเข้าพอดี
ริมฝีปากหยักบางยกยิ้มให้ทันที
“วี…บังเอิญจังเลยนะ”
กันต์กวีเองก็ส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ก่อนทั้งคู่จะยืนขึ้น
“เจอกันอีกแล้วนะครับ คุณหมอดิน”
“เรียกดินเฉยๆก็ได้ครับ”
“มาซื้อของคนเดียวเหรอครับ”
“ครับ…พอดีแฟนผมไม่ว่างมาด้วย เธอต้องอยู่เวรน่ะ”
ชายหนุ่มร่างโปร่งพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะคลี่ยิ้มเมื่อคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้
“เออ…ถ้าดินไม่รังเกียจผมอยากจะเลี้ยงกาแฟตอบแทนที่ดินเคยช่วยผมไว้น่ะครับ”
“ได้สิครับ”
กษิดินทร์ตอบรับทันทีโดยไม่ต้องคิด มันมีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเขากับผู้ที่บังเอิญได้พบกันอีกครั้งซึ่งไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร เหมือนมีเส้นใยบางๆกำลังถักทอพันผูกให้พวกเขาเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งมองเข้าไปในดวงตาคู่โศกที่เป็นสีนิลลึกล้ำราวกับห้วงมหาสมุทรก็ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกฉุดดึงให้ดำดิ่งลงเข้าไปวังวนที่อาจจะไม่มีวันกลับขึ้นมาพบกับแสงสว่าง
“ดิน…เป็นอะไรหรือเปล่า”
มือใหญ่ชักมือกลับทันทีเมื่ออยู่ๆรู้สึกได้ถึงกระแสไฟอ่อนๆเหมือนไฟฟ้าสถิตที่หลังมือ
“เออ…ขอโทษทีนะ ใจลอยไปหน่อย”
ชายหนุ่มร่างสูงหัวเราะกลบเกลื่อน
“ถ้าติดธุระก็บอกได้นะ จริงๆไม่ต้องมากับวีก็ได้”
กันต์กวีทำหน้าเจื่อนลงจนกษิดินทร์รู้สึกผิดที่เผลอคิดไปถึงไหนต่อไหนจนลืมไปว่ามีใครอีกคนนั่งอยู่ด้วย
“เดี๋ยวพอเรากินกาแฟเสร็จแล้ว ไปเดินเที่ยวกันต่อนะ เป็นการไถ่โทษเรื่องเมื่อกี๊”
หลังจากนั้นชายหนุ่มทั้งคู่ก็เดินดูของตามร้านรวงต่างๆในห้างสรรพสินค้า ชายหนุ่มร่างสูงสังเกตการมองและการหยุดดูสิ่งของอีกคนเผื่อว่าจะล่วงรู้ได้ว่าเพื่อนใหม่ของเขาชื่นชอบและสนใจอะไรบ้าง
กันต์กวีหยุดอยู่หน้าร้านนาฬิกาชื่อดังก่อนจะจ้องมองนาฬิกาข้อมือเรือนสวยที่วางโชว์อยู่ นาฬิกาออโต้เมติกส์ที่ไม่ค่อยมีใครนิยมใช้แต่ด้วยความชอบส่วนตัวทำให้เขาแทบไม่อยากจะละสายตาไปจากมัน
“ดูท่า…วีจะชอบมากเลยนะ”
“ใช่…ชอบมาก ที่บ้านมีหลายเรือน แต่เรือนที่มองอยู่เนี่ยเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ผลิตออกมา”
“แล้วทำไมถึงชอบนาฬิกาออโต้เมติกส์ล่ะ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมเพราะมันมักจะตายอยู่บ่อยๆนี่นา”
“คลาสสิกดีออก ความหมายแฝงก็ลึกซึ้งด้วย”
ยังไม่ทันที่กษิดินทร์จะได้ถามถึงความหมาย เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน
“ดินบอกแล้วไงครับว่าจะออกมาซื้อของ”
เสียงที่แว่วมาให้ได้ยินทำให้กันต์กวีรู้ได้ในทันทีว่าคงจะเป็นคนรักของชายหนุ่มร่างสูงอย่างแน่นอน
แต่อีกไม่นาน…
เธอจะตกไปเป็นของคนอื่น
“ขอโทษทีนะวี”
“ไม่เป็นไร ว่าแต่…ดินจะต้องกลับแล้วเหรอ”
“ยังหรอกครับ เราเดินดูของต่อดีกว่า”
เวลาผ่านไปจนพลบค่ำ กษิดินทร์ได้พบว่าเวลาที่เขาใช้ร่วมกับอีกคนนั้นช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว เหมือนอย่างที่เขาเคยได้ยินว่า “ถ้าเราอยู่กับใครแล้วมีความสุขเวลามักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ”
“ไหนๆก็ได้เวลามื้อเย็นแล้ว เรากินด้วยกันเลยดีไหมวี”
กันต์กวีไม่ปฏิเสธเพราะนี่ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่เขาวางไว้ ที่เหลือก็รอเพียงแค่วันและเวลาเพื่อสะสมให้ความผูกพันมีมากขึ้น เพราะเมื่อยิ่งผูกพัน ยิ่งไว้ใจ ยิ่งรักจะยิ่งเจ็บปวดหลายร้อยเท่าเมื่อรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงว่าเขาบังเอิญเข้ามาในชีวิตของอีกคนเพราะเหตุใด
“ดิน วีขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ”
“สมมุตินะ…ถ้าระหว่างแพทย์กับคนไข้มีความแค้นต่อกัน แพทย์จะรักษาคนไข้ไหม”
กษิดินทร์ทำท่าครุ่นคิดก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ
“แพทย์มีจรรณยาบรรณนะวี ถึงแม้ว่าจะมีความคิด ความรู้สึก มีเลือดเนื้อ มีหัวใจ แต่จะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงานหรอกนะ”
“โกหก”
กันต์กวีเอ่ยเพียงแผ่วเบาให้ตัวเองได้ยิน
“ว่าไงนะวี”
“อ่อ…เปล่าหรอก วีแค่ลองถามน่ะ พอดีเคยดูในหนังมาว่าแพทย์ลงมือฆ่าคนไข้เพียงเพราะเคยมีความบาดหมางต่อกัน”
“นั่นมันในหนังครับ”
…ชีวิตจริงมันก็มีและคนๆนั้นก็คือคนที่นั่งอยู่ต่อหน้านี่ไง…
ในใจกันต์กวีตะโกนก้องอย่างนั้นแต่ก็ทำได้เพียงแค่ระบายยิ้มจางๆบนใบหน้าทั้งๆที่ภายในคิดอยากจะจัดการให้อีกคนเข้าไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มในโรงพยาบาล
แต่…เจ็บภายนอกไม่นานก็หาย เจ็บภายในสิ…ทั้งชาติก็ลืมไม่ลง
“อ่อ…เผื่อไว้ ป่วยไข้เมื่อไหร่โทรหาได้ตลอดนะ”
กษิดินทร์ยื่นนามบัตรให้ก่อนที่มือเรียวจะรับไว้และมองอ่านเพียงคร่าวๆตามมารยาทก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ไว้
“ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลมาตั้งแต่จำความได้”
“ใครบอกล่ะ เมื่อวานซืนไง…วีก็เข้าแล้วนี่”
“วีหมายถึงป่วยแบบล้มหมอนนอนเสื่อ นอนให้น้ำเกลือน่ะ”
“ดีแล้วล่ะ ผมอยากให้วีมาหาแบบปกติ สุขภาพร่างกายแข็งแรงมากกว่า”
“นี่ก็เย็นมากแล้ว ดินไม่ต้องพาแฟนไปกินข้าวเหรอ”
“รายนั้นเธอหากินเองได้ สาวมั่นน่ะ”
“คบกันมานานแล้วเหรอ”
“ก็สัก…2-3 ปีได้แล้วแหละ”
“รักเธอมากไหม”
กันต์กวีเอ่ยถามตรงๆ แต่กลับได้รับคำตอบเป็นความเงียบ แววตาของคนตรงหน้าดูล่อกแล่ก คิ้วเข้มหนาขมวดเข้าหากันราวกับกำลังใช้ความคิด กษิดินทร์เองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ถ้าเป็นคนอื่นถามเขาก็คงตอบได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเขารักเธอ
แต่ต่อหน้าของเพื่อนใหม่เขากลับลังเลที่จะพูดมันออกมา ไม่รู้ว่าเพราะความรู้สึกของเขากำลังมีบางอย่างเข้ามาแทรกแซงหรือเพราะเขากำลังสับสนว่าแท้จริงแล้วเขารักเธอแน่หรือ
เมื่อไม่รู้จะตอบออกมาอย่างไรเขาจึงทำแค่เพียงส่งยิ้มให้ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ผมยังไม่รู้เลยว่าวีทำงานอะไร”
“สถาปนิกน่ะ”
“ผมอยากเรียนนะ แต่ที่บ้านไม่ยอม”
“ที่บ้านของดินเคร่งครัดเรื่องนี้เหรอ”
ชายหนุ่มยักไหล่สบายๆเพราะไม่มีคำตอบให้ อาจจะเพราะเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวในบรรดาพี่สาวอีก 2 คนในตระกูล จึงทำให้ผู้เป็นพ่อที่เป็นถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลอยากที่จะให้มีทายาทสืบทอดต่อ
เมื่อเวลาล่วงเลยจนกระทั่งห้างสรรพสินค้าจะปิดทำการ ทำให้ทั้งคู่ต้องร่ำลากัน
“แล้วเจอกันอีกนะวี มีอะไรโทรมาได้เสมอ”
หลังจากจบบทสนทนากันต์กวีก็มองแผ่นหลังกว้างตั้งตรงจนลับสายตาก่อนจะเดินมายังลานจอดรถเพื่อที่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้าน แต่ก่อนจะขับรถออกไปนั่นมือเรียวก็หยิบซองกระดาษสีน้ำตาลออกมา
ทันทีที่เปิดออกรูปใบหนึ่งก็ร่วงลงมา ชายหนุ่มร่างโปร่งเจือยิ้มบางๆราวกับว่าเรื่องที่กำลังจะทำต่อไปนี้เป็นเรื่องสนุก
รูปภาพหญิงสาวหน้าตาสะสวยซอยผมสั้นดูเปรี้ยวโฉบเฉี่ยว แม้ว่าเธอจะอาชีพในวงการแพทย์เหมือนกันแต่บุคลิกท่าทางรวมถึงหน้าตาเรียกได้ว่าเข้าวงการบันเทิงได้ไม่ยาก
“ฮัลโหล…ได้รูปที่ส่งมาให้แล้วนะ ที่เหลือช่วยจัดการต่อที”
ดูเหมือนเทพแห่งชัยชนะจะอยู่ข้างเขา เพราะอีกไม่นานกษิดินทร์จะได้รับรู้รสชาติของการสูญเสียบ้าง
“เสียเธอไปสักคนชีวิตของนายจะเป็นยังไงบ้างนะ”
เมื่อเอ่ยจบก็ขับรถออกมาด้วยความเร็วสูง ไฟแค้นที่สุมอยู่ในอกทำให้ชายหนุ่มนึกอยากจะทำลายให้อีกคนสูญสิ้นทุกอย่างเสียตั้งแต่ตอนนี้จนลืมนึกถึงเหตุผล แต่กันต์กวีไม่ได้ต้องคำแก้ตัวที่เขาต้องการก็แค่อยากเห็นตระกูลเชษฐ์ศิริลุกเป็นไฟ
“นี่แค่การเริ่มต้น…”
ToBeCon…
(มาอัพต่อแล้วนะคับ :mc4:วันนี้ตื่นมาอัพแต่เช้าเพราะเพิ่งกลับมาจากทำบุญคับ เอาบุญมาฝากกับทุกๆคนนะคับ :call:ปล เรื่องยาวอีกเรื่องไนท์จะรีบอัพให้นะคับ ตอนนี้กำลังปั่นอย่างสุดชีวิต ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ทุกคอมเม้นต์นะคับ :pig4:)
:กอด1:
-
รักในรอยแค้นหรือนี่ แต่ว่าแค้นมากก็น่าจะรักมากได้เหมือนกันนะนี่
-
ดีใจจัง น้องไนท์มีเรื่องใหม่มาให้อ่านอีกแล้ว
จะมาม่า ยำยำ ไวไว ก็อ่านจ้ะ ฝีมืออยู่แล้วน้องเรา
-
รอตอนต่อไปจร้า
-
โอ้ว..จะทำอะไรแฟนสาวน่ะ
แย่งไปเหรอ??? ไม่น้า...สงสาร... (จะโวยวายเพื่อ???)
รออ่านตอนหน้าจ้า...
-
อ่านไปเครียดไป
:เฮ้อ:
สงสารตัวเอง
-
อีตาวีต้องเข้าใจพี่ดินผิดแน่เลย ร้ายนะตาวีน่ะ
คนแต่งสู้ๆเน่อ :z2: :z2:
-
เชียร์น้องวี
-
แก้แค้นเค้าระวังตัวเองจะเจ็บเองนะขอรับ :man1:
-
วีจะให้ใครจัดการแฟนหมอดินอ่ะ
-
-3-
เช้าวันนี้เขาตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเป็นไปตามที่เขาคิด ยังไม่ทันที่จะได้อาบน้ำแต่งตัวเสียงกดกริ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน ร่างโปร่งเดินตรงไปที่ประตูไม้บานใหญ่ของอพาร์ทเม้นต์ เมื่อส่องมองผ่านตาแมวก็เห็นใบหน้าคุ้นเคยของเพื่อนสนิท
“ลมอะไรหอบมาแต่เช้าวะ ไอ้เทพ”
“ลมแห่งความคิดถึงไง”
กันต์กวีทำหน้าแหยก่อนจะเดินยังส่วนที่ทำเป็นห้องครัวและชงกาแฟใส่แก้วเซรามิกให้ผู้มาเยือน
“เป็นไง ได้เรื่องไหม”
“จะไม่ถามสารทุกข์สุกดิบก่อนเลยเหรอ ใจดำชะมัด”
“อย่าโยกโย้น่า รีบๆบอกมา”
“ครับๆท่านชาย…มันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปนะ แต่ดูเหมือนเธอก็พึงพอใจฉันอยู่เหมือนกัน”
ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะยกแก้วขึ้นจิบกาแฟ
“ถ้าเป็นอย่างที่นายพูด ก็รอเพียงแค่เวลาเท่านั้น ทำให้เธอหลงรัก พอเธอรักก็เขี่ยทิ้ง อย่าไปรักเธอตอบเพราะชีวิตนายเป็นของฉัน รู้ไหม”
อดิเทพยิ้มแต่เพียงปาก ใช่…ชีวิตของเขาเป็นของกันต์กวีตั้งแต่วันที่ครอบครัวของชายหนุ่มช่วยเหลือเขาไว้ในวันที่เขาประสบปัญหาชีวิต หลังจากนั้นเมื่อกันต์กวีสูญเสียครอบครัวเขาก็ตั้งใจว่าจะดูแลคนๆนี้ตลอดชีวิต
“เราทำดีขนาดนี้ ไหนล่ะรางวัลของเรา”
“จะเอาอะไรล่ะ เงินเดือนนายก็ตั้งเยอะแยะไปหาซื้อเอาเองสิ”
กันต์กวีบอกก่อนจะเดินไปทำโน่นทำนี่ อดิเทพก็ได้แต่มองตามก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ ใช่…เขามีเงินเดือนเหลือเฟือพอให้ใช้ แต่สิ่งที่เขาอยากได้เงินทองมันหาซื้อมาไม่ได้
“หมอดินเป็นยังไงบ้าง”
“เรียกเพราะไปไหม คนอย่างมันเหรอจะเป็นยังไงฉันก็ไม่ใส่ใจหรอก”
“อย่าไปตกหลุมรักเข้าเชียวนะ”
ชายหนุ่มร่างโปร่งหันขวับกลับมามองทันที
“วันนี้อารมณ์ดี อย่ามาพูดจาให้ระคายหูได้ไหม”
“ขอโทษที”
เขาไม่อยากให้กันต์กวีไปอยู่ใกล้ใครหรือให้ใครมาเข้าใกล้ เพราะเขากลัว…เขาว่าจะสูญเสียอีกคนหนึ่งไป ยิ่งเมื่อความรักชอบเล่นตลกกับคนเรา เขาก็ยิ่งหวั่นว่าสักวันกันต์กวีจะมีแต่คนอื่นอยู่เต็มหัวใจ
“อย่าไปรักเข้านะ เราหวง”
“ว่าไงนะ”
เสียงที่ได้ยินเพียงแผ่วเบาทำให้ชายหนุ่มร่างโปร่งต้องหันกลับไปถาม
“เปล่า…แค่บอกว่าอย่าห่วงเรื่องเธอคนนั้นเลย เราจะจัดการให้เอง”
กันต์กวียิ้มก่อนเดินลงมานั่งข้างๆแล้วลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ
“ดีมาก…พูดจาอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย”
อดิเทพคว้ามือเรียวของอีกคนมากุมไว้ก่อนจะมองเข้าไปในดวงตาคู่โศกอย่างสื่อความหมายแต่กันต์กวีกลับสะบัดมือออกก่อนจะเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่และทอดสายตามองไปอย่างไร้จุดหมาย
“สิ่งที่เทพคิดอยู่มันเป็นไปไม่ได้หรอก”
ประโยคสั้นๆแต่สื่อความหมายลึกซึ้งเสียจนใจบาดลึกในความรู้สึกทำให้อดิเทพล่วงรู้ได้ว่าอีกฝ่ายไม่มีใจให้ซึ่งเขารู้ดีและรู้มาตั้งนานแล้ว แต่ก็หวังว่าคนๆนั้นจะหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างกายเสมอสักครั้ง
“อืม…ฉันรู้”
แต่อยู่ๆกันต์กวีก็หันมายิ้มให้
“แต่ถึงอย่างไรก็ดีใจนะ ที่มีนายอยู่ข้างๆ”
“อ่า…พูดแบบนี้ค่อยมีกำลังใจขึ้นหน่อย”
“ไปทำงานได้แล้วไป ขอบใจที่แวะซื้อของกินมาให้แต่เช้า”
“วันนี้เข้างานสายได้ รีบไปอาบน้ำซะ เดี๋ยวไปส่งที่ทำงาน”
“ไม่ต้องหรอก วันนี้จะขับรถไปเพราะเดี๋ยวมีเรื่องต้องสะสางต่อตอนเย็น”
“เรื่องหมอดินน่ะเหรอ”
“นอกจากเรื่องของคนตระกูลนั้นฉันก็ไม่ได้เรื่องอื่นอีก”
“น่าอิจฉาจัง”
“นายอยากให้ฉันแค้นนายจนไม่เป็นอันทำอะไรเลยเหรอไง”
“เปล่าหรอก”
แต่ถ้าเกลียดแล้วทำให้อีกฝ่ายนึกถึงได้ทุกลมหายใจเข้าอย่างนี้แล้วล่ะก็…เขาก็อยากเป็นคนๆนั้น
“ไปทำงานได้แล้วไป เดี๋ยวฉันจะอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานบ้าง”
“อืม…งั้นไปนะ”
“อือ…ตั้งใจทำงานล่ะ ไว้เจอกัน”
“ครับ ไปล่ะนะ”
อดิเทพเอ่ยลาก่อนที่ร่างโปร่งจะเดินมาส่งที่หน้าประตูแล้วหันหลังกลับมาทำกิจวัตรประจำวันต่อ
เมื่อมาถึงที่ทำงานก็ต้องประหลาดใจเมื่อบนโต๊ะทำงานมีอาหารกล่องรับยามเช้าวางอยู่ จะว่าเป็นอดิเทพก็คงไม่ใช่หรือว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานคนใดคนหนึ่งของเขากัน
“พีท อาหารกล่องบนโต๊ะใครเป็นคนส่งมา”
กันต์กวีเอ่ยถามเลขาฯส่วนตัวที่มาทำงานก่อนหน้าเขา
“ไม่รู้ครับพี่ แต่ลองดูที่ฝากล่องสิครับ อาจจะมีโพสอิทติดไว้”
ชายหนุ่มร่างโปร่งหยิบกล่องข้าวขึ้นมาดูก็เห็นลายมือตัวตวัดแต่เป็นระเบียบเหมือนกับลายมือของ…หมอ
*มื้อเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุด ทานเยอะๆนะครับ จาก ดิน*
เหนือความคาดหมาย กษิดินทร์รู้ได้อย่างไรว่าที่นี่คือที่ทำงานของเขาแถมยังส่งข้าวกล่องมาให้อีก
“นั่นแน่…แฟนส่งข้าวกล่องมาให้ด้วย น่ารักจัง”
“ไม่ใช่แล้ว น้อยๆหน่อย”
“ตอนนี้อาจจะยังไม่ใช่แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ใช่ไหมล่ะครับ พี่วี”
“พอเถอะน่า ไปทำงานต่อไป”
กันต์กวีเอ่ยไล่ก่อนจะหยิบแผ่นกระดาษที่ใครคนนั้นเคยให้ไว้ก่อนจะกดโทรศัพท์ตามเบอร์ที่โชว์อยู่ในนามบัตร
รอสักครู่ก็ได้ยินน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ปลายสาย
-ดินรู้ได้ไงว่าวีทำงานที่นี่-
*ตอนที่เราเดินชนกันที่โรงพยาบาลครั้งแรก วีทำนามบัตรตกไว้น่ะครับ แต่ผมไม่กล้าโทรไปเพราะกลัวหาว่าเสียมารยาท*
-อย่างนี้นี่เอง ว่าแต่ทานข้าวเช้ายังล่ะครับ-
“เรียบร้อยแล้วครับ วีเองก็รีบๆทานนะครับ ว่าแต่…มื้อเย็นมีนัดหรือยังครับ ถ้ายังไม่มีสละเวลาให้หมอคนนี้ได้ไหม”
กันต์กวีกลั้วหัวเราะในลำคอก่อนตบปากรับคำชวน อ้อยเข้าปากช้างทั้งทีจะปฏิเสธได้อย่างไร
ยามเย็นมาถึงชายหนุ่มร่างโปร่งเคลียร์โต๊ะทำงานก่อนจะเดินไปยังลานจอดรถของบริษัทแต่แล้วก็ได้ยินเสียงแตรรถดังขึ้นจึงหันไปมอง กษิดินทร์เปิดกระจกรถก่อนจะกวักมือเรียก ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มให้ก่อนจะเดินเข้าไปหา
“ไปทางเดียวกัน รถคันเดียวก็พอครับ ประหยัดพลังงาน”
“ประหยัดจังนะครับ”
กันต์กวีนั่งที่ข้างคนขับก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัย
“วันนี้คนไข้เยอะหรือเปล่าครับ”
“เยอะเหมือนเดิมทุกวันแหละครับ”
“เหนื่อยแย่เลยนะครับ”
กษิดินทร์ส่งยิ้มกลับมาให้ ดวงตาคู่คมเป็นประกายยามมองใบหน้าหมดจด
“หายเหนื่อยแล้วล่ะครับ”
“วันนี้มาชวนวีไปทานข้าว แฟนดินไม่ว่าเอาเหรอ”
ร่างสูงใหญ่ถอนหายใจยาวก่อนจะมองไปที่พื้นถนนแทน
“ช่วงนี้เราห่างๆกันน่ะครับ ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น”
กันต์กวีแอบเหยียดยิ้มเมื่อเห็นดวงตาคู่นั้นหม่นเศร้าก่อนจะปรับใบหน้าทอดสายตามองอย่างเห็นใจก่อนจะเอื้อมมือไปแตะหลังมือของคนขับรถ
“มีอะไรปรึกษาวีได้นะ”
เมื่อรถจอดสนิทหน้าร้านอาหารมือใหญ่ก็คว้ามือเรียวมากุมไว้เองก่อนจะระบายยิ้มให้
“ขอบคุณนะวี”
เมื่อทานมื้อเย็นเสร็จเป็นที่เรียบร้อย กษิดินทร์ก็อาสาจะไปส่งที่บ้านแต่กันต์กวีไม่อยากให้อีกคนรู้ว่าบ้านอยู่ที่ไหนจึงบอกปัดปฏิเสธไป แต่ร่างสูงอยากรั้งให้อยู่ด้วยนานกว่านี้จึงเอ่ยชักชวน
“ไปดื่มเป็นเพื่อนผมต่อได้ไหม”
“ร้านไหนดีล่ะครับ”
“ถ้าไม่รังเกียจไปอพาร์ทเม้นต์ของผมได้ไหมครับ”
กันต์กวีชั่งใจอยู่เพียงครู่ก่อนจะตอบตกลง ตอนนี้ทั้งคู่กำลังยืนอยู่หน้าประตูไม้บานใหญ่สีขาว เมื่อประตูเปิดออกก็เห็นภายในที่กว้างขวางโอ่อ่าตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น เฟอร์นิเจอร์จัดวางอย่างเป็นระเบียบทำให้เขานึกชมว่าอีกฝ่ายก็รสนิยมดีไม่น้อย
เสียงเปิดกระป๋องเบียร์ดังขึ้นก่อนชายหนุ่มร่างโปร่งจะสะดุ้งน้อยๆเมื่อถูกความเย็นสัมผัสที่ซีกแก้ม
“จะดื่มทั้งที ผมจะพาไปมุมประจำที่ผมชอบนั่ง”
ร่างสูงเดินนำอีกคนมานั่งเก้าอี้ที่ระเบียง ลมเย็นพัดมาเป็นระยะๆทำให้ใจของกันต์กวีรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก แสงไฟระยิบระยับจากพื้นดินดูไปดูมาเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า บรรยากาศที่นานๆครั้งจะได้สัมผัสทำให้ดวงตาคู่โศกมองอย่างเพลิดเพลินจนไม่ทันสังเกตว่าจะมีดวงตาอีกคู่หนึ่งมองมา
“ที่นี่บรรยากาศดีมากเลย”
กันต์กวีบอกก่อนจะหันไปสบตาเข้ากับดวงตาคู่คมพอดี ปลายนิ้วยาวของมือใหญ่ยื่นมาก่อนจะเกลี่ยฟองเบียร์ที่เลอะแนวริมฝีปากบนออกให้ มือเรียวคว้ามือใหญ่ไว้ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าใกล้จนกระทั่งได้สัมผัสเรียวปากอุ่น แม้จะเพียงแผ่วเบาและผิวเผินแต่ก็ทำให้กษิดินทร์ใจเต้นโครมครามได้
“ขอโทษนะ พอแอลกอฮอลล์เข้าปากทีไรเป็นอย่างนี้ทุกที”
ร่างโปร่งทำเป็นขอโทษขอโพยและจะเบี่ยงตัวออกห่างแต่กลายเป็นว่ามือใหญ่โอบรั้งร่างของกันต์กวีไว้และแนบจูบหวานลึกซึ้งก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเร่งเร้าร้อนแรง เมื่อริมฝีปากละออกจากกันร่างโปร่งก็อ่อนลงซบแนบกับแผ่นอกกว้างฟังเสียงหัวใจที่เต้นระรัว
“ดึกแล้ว เดี๋ยวผมไปส่งนะ”
กษิดินทร์เอ่ยบอกขณะที่ลูบเรือนผมเส้นละเอียดเล่นอย่างแผ่วเบา
“เดี๋ยววีกลับแท็กซี่เองดีกว่า ดินดื่มไปเยอะขับรถจะอันตราย”
ก่อนกันต์กวีจะขึ้นแท็กซี่ไปมือใหญ่ยื่นมากุมมือเรียวไว้พร้อมกับยิ้มบางๆ ไม่มีใครเอ่ยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่แต่เมื่อมองเข้าไปในดวงตาคู่คมก็รับรู้ได้ในทันทีว่า…
กษิดินทร์ติดกับที่เขาวางไว้เสียแล้ว
ToBeCon…
(มาอัพแล้วนะคับ :mc4:ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และการติดตามนะคับ ปล อย่าไปอย่าเครียดไปนะคับ 555+ ช่วงแรกๆจะยังไม่ค่อยดราม่าหรอกคับ เพิ่งแค่เริ่มต้น…แต่ไนท์จะพยายามไม่ให้ดราม่ามากนะคับ ถ้าเป็นไปได้ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กันต่อๆไปเรื่อยๆก่อนนะคับ ขอบคุณคับ :pig4:)
:กอด1:
-
แน่ใจว่านะว่าหมอดินตัดกับวีฝ่ายเดียว
แน่ใจนะว่าวีไม่ได้หวั่นไหวไปด้วย
ก็ดูที่ดินทำให้วีดิ อบอุ่นอ่อนหวานปานนั้น
-
สงสัยจะติดกับดักรักกันทั้งคู่แน่ๆ
-
กวีนี่ สุดๆจิงๆ(ออกแนวตัวร้ายในละครไทยเลยอะ แผนเยอะ)
-
อีตาวีทำพี่ดินหลง
ต้องมีเข้าใจผิดแน่ๆ
ถ้าพี่ดินรู้ว่าหลอกเมื่อไหร่ระวังจะเป็นคนที่เสียใจเองนะตาวี :z10: :z10: :z10:
-
:serius2:
อ่านเรื่องนี้แล้วหดหู่ยังไงไม่รู้
เหนื่อยใจมากมายพอรู้ว่ามีมาม่าชามโตเนี่ย
และคนแต่งเนี่ยยังมีการบอกด้วยนะว่านี่แค่เริ่มต้น
:เฮ้อ:
-
เพิ่งได้อ่าน เรื่องแค้นซ่อนรัก อ่านแล้วแอบเจ็บปวดเล็กๆแหะ
-
กรี๊ดด
เค้าจูบกันแน่แล้ว.....เขิน
นี่หรือคือกับดัก รัก ลวง พราง....
รออ่านตอนหน้าจ๊ะ
-
เมื่อถึงวันนั้นคนที่ตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้จะเป็นฝ่ายเสียใจ
ว่าแต่สงสารเทพจัง หาคนดามอกให้เขาหน่อยสิคะ
-
ว. 1 เรียก ว. 2 เหยื่อติดเบ็ดแล้วๆๆๆ
555++ :laugh:
-
อีกคนติดกับดัก อีกคนก้าวพลาดแผนตัวเอง อิอิ
มันจะมามา่ามาตอนเริ่มรักกันนี่แหละ เฮ่ออออออออออออออออออออออออออ สรุปแล้วบางทีไม่แน่เรื่องที่พี่ชายวีเสียนั้นอาจจะเป็นความเข้าใจผิดอะนะ เหมือนโคนันตอนอะไรตอนหนึ่งนี้แหละ
-
แวะเข้ามาเชียร์ด้วยคน
ชอบแนวนี้คอดๆ
-
เดี๋ยวนะ สองคนนี้เป็นพี่น้องกันแต่คนละแม่ใช่หรือเปล่า
ถ้าเป็นแบบนั้นจริง มันคงเจ็บปวดมากตอนที่ความจริงเปิดเผย
แล้วคนที่เจ็บสุด ๆ ก็คงต้องเป็นหมอดินกับกวีนี่แหละ
-
-4-
ทันทีที่กันต์กวีกลับมาถึงที่พัก ชายหนุ่มก็เดินตรงไปยังเค้าท์เตอร์บาร์ก่อนจะหยิบไวน์มารินใส่แก้วทรงสูง มือเรียวออกแรงควงก้านแก้วเบาๆพร้อมกับยกแก้วใสขึ้นจรดริมฝีปากเพื่อลิ้มรสชาติ ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มขึ้นก่อนจะหัวเราะในลำคอราวกับกำลังเยาะเย้ยให้กับการก้าวเข้ามาในหลุมพรางของกษิดินทร์
ช่างน่าสงสารเจ้าแมงเม่าที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะบินเข้ากองไฟ
เสียงข้อความดังขึ้นก่อนมือเรียวจะคว้าโทรสัพท์มาเปิดอ่าน
*ถึงบ้านแล้วหรือยังครับ*
กันต์กวีตัดสินใจโทรกลับไปหา เสียงสัญญาณดังขึ้นเพียงครั้งเดียวปลายสายก็กดรับทันทีราวกับกำลังรอคอย
“ถึงโดยสวัสดิภาพแล้วครับ กำลังจะอาบน้ำนอนแล้ว”
-ถ้างั้น…ฝันดีนะครับ คิดถึงนะ…-
“เหมือนกัน”
หลังจากวางสายไปชายหนุ่มร่างโปร่งก็ครุ่นคิดถึงแผนการที่จะทำต่อไป แน่นอนว่าอดิเทพไม่มีวันทำให้เขาผิดหวังแต่จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กันกว่าจะทำให้อีกคนหลงชนิดหัวปักหัวปำได้ เพียงแค่คิดก็เหนื่อยล้าแต่ดีที่ได้ความโกรธแค้นที่มีอยู่ภายในเป็นแรงผลักดัน
จริงๆคนในตระกูลเชรษฐ์ศิริที่เขาต้องการชำระแค้นก็มีเพียงแค่ลัดดา มารดาผู้ให้กำเนิดของกษิดินทร์กับชายหนุ่มที่เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงเท่านั้น ส่วนที่สาวอีก 2 คนที่ตั้งรกรากอยู่ที่ต่างประเทศเขาก็ไม่คิดจะไปข้องแวะด้วย
เขาจะทำทุกวิถีทางให้ผู้หญิงคนนั้นและกษิดินทร์ไปกราบเคารพศพแม่และพี่ชายให้จงได้
อยู่ๆฝนหลงฤดูก็โปรยปรายลงมา กันต์กวีเดินเข้าไปใกล้บานหน้าต่างสูงจรดเพดานก่อนจะทอดสายตามองออกไปไกล ภาพสายฝนพรำทำให้เขานึกย้อนถึงวันที่พ่อจากบ้านไปเพราะถูกคนของอีกตระกูลซึ่งเป็นหญิงม่ายลูก 3 ล่อล่วงด้วยมนต์ยาเสน่ห์
แค่เพราะความอิจฉาริษยาถึงได้พยายามแย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่อิงอรรักไป แม้กระทั่งตอนที่แม่จากไปแล้ว เธอก็ยังไม่หยุดราวีจนพรากเอาชีวิตของพี่ชายไปจากเขาอีกคน อาจจะเป็นเพราะเขาละม้ายคล้ายแม่ยิ่งดวงตาที่ถอดแบบกันมา เมื่อเธอมองคงคิดว่าอิงอรยังมีชีวิตอยู่
“เตรียมตัวรับผลการกระทำของพวกแกให้ดีเถอะ”
เมื่อเอ่ยจบก็กระดกแก้วลิ้มรสแอลกอฮอลล์เสียจนหมดแก้ว
เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศแจ่มใสต่างจากเมื่อคืนและดูเหมือนวันนี้จะเป็นอีกคนที่พระเจ้าเข้าข้างเขา
-เธอตอบรับแล้วนะ แล้วเธอก็กำลังจะไปบอกเลิกหมอดินเย็นนี้-
กันต์กวีแทบจะกระโดดตัวลอยเมื่อเพื่อนสนิทโทรมาแจ้งความคืบหน้าให้ได้รู้
“งานนี้สนุกแน่”
-ไม่เกินไปหน่อยเหรอวี-
“น้อยไปสิไม่ว่า เจ็บแค่เสี้ยนตำมือเท่านั้นแหละ”
-กลางใจสิไม่ว่า-
“ตำกลางใจน่ะ รออีกนิดเถอะ รับรอง…”
-วี…-
“หยุดเลยนะพวกพ่อพระ ห้ามไปก็เท่านั้น เดินมาเกือบครึ่งทางแล้วจะให้ถอยหลังกลับได้ยังไง”
-งั้น…พอเธอบอกเลิกหมอดิน ฉันก็สลัดเธอให้พ้นตัวได้เลยใช่ไหม-
“ใช่…เพราะนายเป็นของใครไม่ได้เทพ”
-กักขังกันเกินไปหรือเปล่า-
“ถ้าอยากเป็นอิสระนักก็ไปจากฉันสิ”
อดิเทพเงียบก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
-นายก็รู้นี่ว่าเราทำไม่ได้-
“ฉันไม่ได้ผูกแขน, ขาหรือล่ามโซ่นายไว้สักหน่อย”
ใช่…แต่หัวใจของฉันมันผูกอยู่ที่ปลายเท้าของนาย เวลาจะไปไหนต่อไหนถึงต้องติดตามไปด้วยเสมอ
-แค่นี้ล่ะ ดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วฉันจะโทรไปหาใหม่-
“อืม…”
กันต์กวีตอบสั้นๆก่อนจะกดตัดสาย เย็นนี้เขาจะทำตัวเป็นคนเข้ามาปลอบใจกษิดินทร์ได้ถูกที่ถูกเวลา รับรองได้คะแนนความประทับใจเต็มร้อยแน่นอน
เมื่อถึงยามเย็น กันต์กวีก็เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของอีกคน เขาเห็นกษิดินทร์ขับรถออกไปพร้อมทั้งมีหญิงสาวนั่งอยู่เคียงข้าง ก่อนพาหนะราคาหลายล้านจะจอดอยู่ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ชายหนุ่มร่างโปร่งนั่งมองนาฬิกาเลขดิจิตอลอยู่ภายในรถ ไม่นานเหมือนอย่างที่คิด สักพักหญิงสาวก็เดินออกมาจากร้านก่อนจะเดินขึ้นรถคันคุ้นตาไป
...รถคันนั้นเป็นของอดิเทพ ซึ่งหมายความว่า “สำเร็จ” …
อีกพักใหญ่กว่าชายหนุ่มร่างสูงจะเดินออกมาจากร้านอาหารด้วยท่วงท่าที่เพียงที่มองผ่านแวบเดียวก็ได้รู้ทันทีว่าประสบกับชะตากรรมอะไรมา
“เข้มแข็งหน่อยกษิดินทร์ นั่นมันแค่มดกัดคัน ฮ่าๆๆ…”
คนเฝ้าดูอยู่ระเบิดหัวเราะออกมาก่อนจะขับรถตามไป ทีแรกเขานึกว่าอีกคนจะขับรถตรงกลับไปยังอพาร์ทเม้นต์ไม่ก็บ้านใหญ่แต่กลับไปยังผับขึ้นชื่อใจกลางเมืองแทน
ร่างสูงหายเข้าไปภายในร้านได้สักพักก่อนที่เขาจะเดินตามเข้าไป แสงไฟสลัวรำไรทำให้เขามองเห็นแผ่นไหล่กว้างที่ช่วงไหล่ลู่ลงราวกับคนกำลังสิ้นหวัง
“ไม่เอาน่า ชีวิตยังไม่ได้ดราม่าขนาดนั้น”
กันต์กวีเอ่ยฝากไปกับสายลมก่อนจะเดินเข้าไปดีเจหนุ่มหน้าตาดีและยัดแบงค์สีม่วงใส่กระเป๋าเสื้อให้
“ขอเพลงแรงๆมันส์ๆหน่อย”
ทันทีที่เสียงดนตรีดังขึ้น ร่างโปร่งก็ขยับเรือนกายอยู่บนฟลอร์ตามจังหวะท่วงทำนองที่หนักหน่วงเร่งเร้าทำให้ผู้คนเริ่มล้อมวงเข้ามาชมการแสดง เสียงปรบมือและตะโกนเชียร์ดึงดูดให้สายตาของคนที่นั่งอยู่ในมุมมืดหันมามอง
ดวงตาคู่คมมองอย่างตกตะลึง นั่น...กันต์กวี...
แต่แล้วเสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้น ดูเหมือนจะเกิดเรื่องไม่พอใจอะไรกันเข้า ทำให้กษิดินทร์ลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินไปหาร่างโปร่งเพื่อช่วยไกล่เกลี่ย
“เกิดอะไรขึ้นเหรอวี”
“ดิน...ดีจังที่บังเอิญเจอ หมอนั่นมันลวนลาม”
เพียงแค่ได้ยินประโยคนั้นชายหนุ่มก็เงื้อหมัดขึ้นกลางอากาศแต่กันต์กวีกลับกอดแขนรั้งไว้
“อย่ามีเรื่องกันเลยนะ เรากลับกันเถอะดิน วีไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”
ร่างโปร่งขยิบตาให้คนที่มีเรื่องกันอยู่เมื่อครู่อย่างรู้กันก่อนจะเดินเกาะแขนกษิดินทร์เดินออกมาด้านนอก
“ดินมาดื่มคนเดียวเหรอ”
“อืม...ย้อมใจน่ะ วี...วิกกี้บอกเลิกดินแล้ว”
พอเอ่ยจบประโยคกันต์กวีเอื้อมมือไปกุมมือใหญ่ไว้แล้วลูบหลังมือเบาๆราวกับปลอบโยน
“เสียใจด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรหรอก ได้เจอวีก็ดีขึ้นแล้ว ว่าแต่...วีมาคนเดียวเหรอ”
“ก็...วีไม่มีใครนี่นา”
“อย่าลืมสิครับว่ายังมีดินอีกคนหนึ่ง”
ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มหวานให้ก่อนจะค่อยๆคลายมือที่กุมืออีกคนไว้ออกแต่มือใหญ่กลับรวบเข้าไปกุมไว้แทน
“เราไปต่อร้านอื่นกันไหม”
มีหรือที่กันต์กวีจะเอ่ยปฏิเสธ ชายหนุ่มตอบรับก่อนที่จะขึ้นรถของอีกคนไป ระหว่างทางก็พิมพ์ข้อความให้เพื่อนคนสนิทมาเอารถกลับบ้านให้ด้วย
“แอบส่งข้อความหาคนอื่น ตอนอยู่กับผม ใจร้ายจังนะครับ”
“บอกเลขาฯนะครับว่าพรุ่งนี้จะเข้าสายหน่อย”
“แล้วไปครับ...”
ทั้งคู่มาอยู่ที่ผับอีกแห่งหนึ่งไม่ไกลกัน สองร่างนั่งเคียงข้างก่อนจะสั่งเครื่องดื่มรสร้อนแรง ดื่มไปดื่มมากษิดินทร์ก็ชวนอีกคนขึ้นฟลอร์เต้นรำซึ่งกันต์กวีก็วาดลวดลายเต็มที่ เสียงเพลงที่ดังกึกก้องทำให้ทั้งคู่จำต้องแนบชิดกันมากขึ้น
ท่อนแขนแข็งแรงโอบกอดรอบเอวรั้งร่างโปร่งเข้ามาเกือบจะแนบชิดทุกสัดส่วน กันต์กวีรู้สึกเหนือความคาดหมายเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายก็มีลีลาในการเต้นที่ดึงดูดสายตาใครต่อใครไม่น้อย ใครจะไปคิดล่ะว่าหมอหนุ่มที่ดูเรียบร้อยสะอาดสะอ้านจะกลายเป็นหนุ่มเซอร์ร้อนแรงได้ถึงขนาดนี้
สองแขนเรียวคล้องคอหอมหนุ่มก่อนจะโน้มใบหน้าใกล้จนปลายจมูกแตะสัมผัสกัน ดวงตาคู่โศกเป็นประกายหวานฉ่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์ช้อนมองดวงตาคู่คมราวกับจะฉุดดึงให้อีกตกลงสู่ห้วงเสน่หา
“วีทำอย่างนี้ไม่กลัวผมหลงเหรอ”
“ไม่...วีไม่กลัว”
“เคยมีคนบอกไหมว่า...คนอกหักขโมยหัวใจได้ง่าย”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง หัวใจของดิน วีขอนะครับ...”
กันต์กวีเขย่งปลายเท้าเพียงนิดก่อนจะแนบจุมพิตบางเบาแต่ดูยั่วเย้าอยู่ในทีก่อนจะถอยกายห่างออกมาแล้วกวักมือเรียกให้อีกคนเข้าไปหา
“ต้องกลับแล้วล่ะ ดึกมากแล้ว”
กษิดินทร์อยากให้วันหนึ่งมีเพิ่มขึ้นอีกหลายชั่วโมงเผื่อว่าจะได้รั้งคนน่ารักให้อยู่ด้วยกันนานกว่านี้
“ผมชักเริ่มไม่อยากห่างจากวีซะแล้วสิ”
“งั้น...ก็พาวีไปอยู่ด้วยสิครับ”
สิ้นสุดคำเชิญชวนชายหนุ่มร่างสูงก็พาร่างโปร่งมายังอพาร์ทเม้นต์ของตัวเองก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำอาบท่า ระหว่างนั้นกันต์กวีก็เดินสำรวจรอบห้องอีกครั้งก่อนจะเห็นรูปครอบครัวตั้งอยู่
“บอกหน่อยสิคุณหญิงลัดดา ฉันจะจัดการเธอกับคุณหมออย่างไรดีถึงจะสาสมกับสิ่งที่ทำไว้”
เมื่อเอ่ยจบก็กระแทกกรอบรูปวางไว้ที่เดิม
“ฉันจะเอาจริงแล้วนะ”
รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าหมดจด
เห็นที...เขาจะต้องควงกษิดินทร์ไปเปิดตัวให้คุณหญิงลัดดาเห็นเสียหน่อยแล้ว
2BCon...
มาอัพให้แล้วนะคับ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และการติดตามนะคับ เรื่องนี้จะออกแนวเครียดไปบ้างแต่อย่างไรก็ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคับ พอดีช่วงนี้อารมณ์หวานๆฮาๆไม่ค่อยขึ้นเลย ^^ ขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจนะคับ
ตอบเม้นต์- - >
yayee2 – หมอดินน่ะหลงแน่นอนคับ แต่อีกคนไม่แน่ใจว่าจะใจอ่อนลงสักวันไหม 555+ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคับคุณพี่แก้ว
hahn – 555+ อาจจะมีส่วนนะคับ แต่ตอนนี้น้องวีเขามัวแต่คิดเรื่องแก้แค้นอย่างเดียวนี่สิ - - “
ppolnana – อ่านะคับ ไนท์เพิ่งเคยลองแต่งนายเอกร้ายกาจแบบนี้เป็นครั้งแรก ติ-ชมได้เต็มที่คับ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์คับ
noina – รอเฉลยตอนใกล้ๆจบเรื่องนะคับว่าจะออกมาเป็นแบบไหน ^^ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์คับ
padigree – ขออภัยเป็นอย่างสูงนะคับที่ทำให้เครียด พอดีตอนนี้อารมณ์ดราม่ากำลังขึ้นคับ 555+ มันอาจจะหวานๆขมๆ บ้างก็เป็นกำลังใจให้กันก่อนนะคับ
Jesale – อ่านะคับ ออกแนวแค้นๆ เจ็บๆคันๆตามประสาคับ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์คับ
from_mars – กับดัก รัก ลวง พรางคับ 555+ ขอบคุณสำหรับการติดตามคับ
berlyn – เรื่องเทพไม่ต้องห่วงนะคับ ไนท์จะหาคนดามอกให้ แต่ไม่รู้ว่าเทพจะยอมรับหรือเปล่า 555+ ขอบคุณนะคับ
YELLOWSTAR – 555+ ติดกับเรียบร้อยคับ ส่วนเรื่องจะเป็นยังไงต่อนั้นติดตามอ่านตอนต่อไปด้วยนะคับ
samsoon@doll – เรื่องมันซับซ้อนคับคุณซัม 555+ ไนท์ก็ดูโคนันนะคับแต่นึกไม่ออกเหมือนกันว่าตอนไหน แหะๆๆ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์คับ
kimkanyuang – ขอบคุณนะคับ ติดตามอ่านตอนต่อๆไปด้วยนะคับ ไนท์จะแต่งเต็มที่
iforgive – อ่อ...ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดแน่นอนคับ ไนท์อธิบายไว้ในตอนนี้แล้ว ขอบคุณนะคับที่ทวงถามมา รายละเอียดอาจจะตกไปบ้างต้องขออภัยคับ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคับ
-
จิ้ม ฉึก ฉึก
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สนุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
เอาอีก เอาอีก
ปล.เรื่องนี้ncจะแรงขึ้นด้วยมั้ยคะ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
แรงแค้นรุนแรงจัง ดีๆๆๆๆ
-
มันหวานๆขมๆตรงไหนเนี่ย
มันขมปี๋มากๆเลย
:เฮ้อ:
ขมเหมือนกับกินมะระทั้งลูก
-
แรงมากเลยนะตาวี
แต่ก็โอนะเพราะหน่าชอบคนร้ายกาจ :กอด1: :กอด1:
พี่หมอดินสู้ๆ
คนแต่งก็สู้ๆจ้า
-
ไอ้แม่เลี้ยงใจร้าย :z6: :z6:
ความซวยเลยตกมาอยู่กับดินเฉยเลย
เพราะแกคนเดียวอ่ะ :beat: :beat: :beat:
-
กรี๊ดดด น้องวียั่วยวนมากค่ะลูก...
หมอดินคะ หัวใจอกหัก หรือว่าเป็นไปตามที่หัวใจ(ลึกๆ)อยากให้เป็นคะ
รออ่านตอนหน้าจ๊ะ
-
โอ้ว..ดราม่า....
-
จงเสพดราม่ากันเถิด
-
แวะมารอตอนต่อไปจ้า
ป.ล.นางเอกร้ายไม่เป็นไร แต่ขอให้ได้กับพระเอกคนเดียวเน้อ
แบบไม่ค่อยชอบแนวนางเอกไม่จิ้นอ่ะ
-
ดราม่าแน่ๆงานนี้ = =;;
-
ถึงวันนั้นภาวนาให้วีเจ็บน้อยๆก็แล้วกันนะ
แล้วก็ภาวนาว่า อย่าให้หมอดินเจ็บแค้นกลับคืนก็แล้วกัน
ต้องเตรียมชามไว้ใส่มาม่าใประมาณไหนคะน้องไนท์ เล็ก กลาง ใหญ่
-
^
^
จิ้มทุกท่านด้านบนคับ งานนี้ไนท์ขอเรียกว่ามาม่าถ้วยแล้วกันนะคับเพราะมีขนาดมาตรฐานขนาดเดียว ^^
วันนี้ขอยังไม่อัพนะคับ เพราะว่าเดี๋ยวจะต้องรีบนอน พรุ่งนี้เช้าตื่นไปทำวีซ่าอีก - - " ถ้าทางจะเป็นวันที่วุ่นวายสุดๆคับ
ขอบคุณนะคับที่ติดตามอ่าน
-
อ๊ะ อ๊ะ มาม่าถ้วย ขนาดกำลงพอดี คงมีน้ำหูน้ำตาพอประมาณเนอะ
ทำวีซ่า แสดงว่าจะมีการเดินทาง ถ้าใช่ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพล่ะกันจ้ะ
-
สงสัยว่าความตื่นเต้นกำลังจะเริ่มต้นแล้ว สงสัยว่าจะซาดิสต์ขนาดตบจูบไหมนะ 5555
-
-5-
กันต์กวีใช้เวลาดื่มด่ำกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนเพียงครู่ก่อนจะได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก ร่างสูงออกมาในชุดคลุมอาบน้ำพร้อมกับใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับหยดน้ำที่เส้นผม เมื่อเห็นอย่างนั้นร่างโปร่งจึงเดินเข้าไปใกล้ มือเรียวคว้าผ้าผืนเล็กมาไว้ในมือและเช็ดผมให้อีกคนหนึ่งแทน
ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มหวานเมื่อดวงตาคู่คมมองมา กษิดินทร์โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับสูดกลิ่นจางๆจากผิวแก้มอุ่น เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ขัดขืนอะไรก็ยิ่งได้ใจ ท่อนแขนแข็งแรงโอบรั้งร่างโปร่งเข้ามาแนบชิด
แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลิ้มชิมความหวานจากเรียวปากอิ่ม ร่างโปร่งก็เบี่ยงตัวหนีออกจากอ้อมแขน
“วีกลับก่อนดีกว่า”
“ดึกแล้ว ค้างที่นี่เถอะ”
กันต์กวียิ้มก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสูงพร้อมกับจะใช้ปลายนิ้วชี้และกลางแตะริมฝีปากของตัวเองก่อนจะย้ายไปแตะเรียวปากหยักบางของอีกคน
“ไปก่อนนะ”
“ไม่เอา ไม่ให้ไป”
ร่างใหญ่โอบรั้งไว้พร้อมคำพูดเอาแต่ใจตามแบบฉบับลูกคนเล็กในครอบครัว ในเวลาปกติธรรมดากษิดินทร์ดูออกจะสุขุมแต่หากแอลกอฮอลล์เข้าปากแล้วทีไรก็จะเป็นอารมณ์ประมาณที่กำลังเป็นอยู่นี้ทุกครั้งไป
“แล้วจะให้วีนอนที่ไหน”
“นอนที่นี่กับผมไง พรุ่งนี้ผมจะพาวีไปแนะนำให้ที่บ้านรู้จัก”
ร่างโปร่งคลี่ยิ้มเหมือนเจอคำตอบถูกใจ มันคงไม่เร็วเกินไปหรอกที่จะพบกับเธอคนนั้น
“วีจะนอนที่นี่ได้ยังไง เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ก็ไม่มี”
มือใหญ่จูงอีกคนพามายังตู้เก็บของ เมื่อเปิดออกก็พบว่ายังมีของใช้จำเป็นส่วนตัวที่ยังไม่ได้ใช้เก็บอยู่บ้าง
“จะให้นอนที่นี่ให้ได้เลยใช่ไหม”
คนตัวโตพยักหน้าพร้อมยิ้มกว้างเหมือนกับเด็กๆก่อนจะดันตัวร่างโปร่งเข้าห้องน้ำ
กันต์กวียืนมองกระจกเงาอยู่นานก่อนจะตัดสินใจเปลื้องผ้าเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรก ไม่นานนักก็ออกมาพร้อมเสื้อยืดและกางเกงขายาวตัวโคร่ง ไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้คนตัวบางห่อกายเข้าหากันแล้วเดินมายังโซฟาที่อีกร่างหนึ่งทอดตัวนอนอยู่
ดวงตาคู่โศกสะท้อนภาพใบหน้าคมคาย คิ้วหนาเข้ม จมูกโด่งเป็นสันรับกับเรียวปากหยักบางซึ่งไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ดูดีระดับนายแบบแถวหน้าได้ แต่เมื่อรู้สึกตัวว่ามองอีกคนมากเกินไปก็เลื่อนสายตาไปทางอื่น
ร่างโปร่งขยับตัวจะเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่แต่กลับเป็นว่าถูกมือใหญ่รั้งข้อมือไว้เสียก่อน
“ง่วงแล้ว ไปนอนกันเถอะ”
เมื่อมาถึงห้องนอนร่างสูงก็ทิ้งตัวลงบนฟูกนุ่นทันทีโดยไม่ลืมฉุดอีกคนให้ล้มตัวลงนอนตาม กันต์กวีใช้แผ่นอกกว้างหนุนต่างหมอน เสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะราวกับเครื่องดนตรีขับกล่อมชวนให้เคลิบเคลิ้ม ยิ่งมือใหญ่อบอุ่นยกขึ้นลูบสัมผัสแผ่วเบาที่เรือนผมก็ยิ่งทำให้เขาเข้าสู่ห้วงนิทราเร็วขึ้นเท่านั้น
เช้าวันรุ่งขึ้นกันต์กวีรู้สึกตัวตื่นเมื่อแสงรำไรที่ลอดผ่านผ้าม่านแยงตา ร่างโปร่งลุกขึ้นอย่างแผ่วเบาด้วยความเกรงว่าจะรบกวนอีกคนที่ยังหลับใหลอยู่ มือเรียวค่อยๆแง้มผ้าม่านเปิดออกก็พบกับดวงอาทิตย์ของวันใหม่ที่ดูสวยกว่าวันไหนๆ
“ดิน...”
กันต์กวีเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบาก่อนจะเป่าลมใส่ใบหูของอีกคนเบาๆเป็นการเย้าแหย่ อีกคนพลิกตัวหนีแต่สักพักก็ลืมตาตื่นขึ้นทันทีที่เห็นคนคุ้นหน้าก็ส่งยิ้มหวานให้
“อยากตื่นขึ้นมาแล้วเห็นวีทุกเช้าจังเลย”
“ไปพูดกับใครแบบนี้ เขาจะนึกว่าขอแต่งงานเอานะ”
“งั้น...แต่งไหมล่ะ ฮ่าๆๆ...”
กันต์กวีย่นหน้าใส่ก่อนจะฉุดมือใหญ่เพื่อให้อีกคนลุกจากเตียง
“ยังเช้าอยู่เลย วันนี้วันอาทิตย์นะครับ”
“ดูของสวยงามก่อนสิแล้วกลับไปนอนต่อก็ได้”
ร่างโปร่งพาอีกคนเดินไปหลังผ้าม่านก่อนจะค่อยๆรูดม่านออกเผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองหลวงยามเช้า
“ออกไปนั่งรอข้างนอกนะ เดี๋ยวชงกาแฟให้”
กษิดินทร์พยักหน้าก่อนจะเดินออกไปยังส่วนระเบียง สักพักกันต์กวีก็ตามออกไปพร้อมกับมือที่ถือแก้วเซรามิคสองแก้ว
“วีรู้ไงว่าผมชอบรสชาติแบบนี้”
“ดินชอบเหรอ ดีใจจัง วีกะส่วนผสมเอาน่ะ”
“อ่า...รู้สึกดีจัง มีคนน่ารักๆมานั่งกินกาแฟเป็นเพื่อนแต่เช้าแบบนี้”
“อีกเดี๋ยวก็เบื่อ”
“ไม่หรอก...เพราะผมรู้สึกว่าวีคือคนที่ผมรออยู่นานแล้ว”
กันต์กวีหันไปหอมแก้วอีกคนฟอดใหญ่อย่างเอาใจแม้ว่าภายในใจจะไม่ได้รู้สึกไหวเอน
“เดี๋ยวอีกสักพัก เราอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปบ้านใหญ่กัน”
ในใจของร่างโปร่งลิงโลดระคนตื่นเต้น เขาอยากจะเห็นสีหน้าของผู้เป็นแม่ของกษิดินทร์เหลือเกินว่าเมื่อเธอเห็นหน้าเขาแล้วจะเป็นยังไง
เมื่อมาถึงประตูรั้วของบานหลังใหญ่โอ่อ่าเรียวปากอิ่มก็คลี่ยิ้มที่ยากจะเดาความหมายออกมา รถคันหรูเคลื่อนตัวไปจอดยังส่วนตัวบ้านก่อนร่างสูงจะเปิดประตูลงก่อนจะเดินอ้อมมาเปิดให้กันต์กวีบ้าง
สักพักหญิงวัยกลางคนร่างท้วมก็วิ่งออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างอย่างคนดีใจก่อนจับเนื้อจับตัวกษิดินทร์เป็นการใหญ่
“ป้าคิดถึงคุณหนูเหลือเกิน”
“ผมก็คิดถึงป้านิ่มครับ ว่าแต่คุณแม่...”
“คุณนายไม่อยู่หรอกค่ะ ไม่แน่ด้วยว่าวันนี้จะกลับหรือเปล่า ว่าแต่คุณคนนี้...”
กันต์กวียกมือไหว้ผู้อาวุโสกว่าก่อนแนะนำตัว
“ผมชื่อกวี เป็นเพื่อนกับหมอดินน่ะครับ”
ป้านิ่มรับไหว้ก่อนจะยิ้มให้อย่างอบอุ่น ทำให้ร่างโปร่งรู้สึกได้ถึงความเป็นกันเอง
“เดี๋ยวผมขอตัวพาวีเข้าครัวก่อนนะครับ เรายังไม่ได้กินอะไรกันเลย”
“ให้ป้าทำให้ดีกว่าค่ะ คุณทั้งสองไปนั่งพักที่ห้องรับแขกดีกว่า”
“ผมอยากโชว์ฝีมือน่ะครับป้า นานๆทีจะได้ทำ”
“ค่ะ...ตามใจคุณหนูก็แล้วกันค่ะ”
เมื่อเธอเอ่ยตกลงกษิดินทร์ก็คว้ามืออีกคนมากุมไว้แล้วออกเดินไปพร้อมกับโดยไม่สนใจสายตาของคนที่ยืนมองอยู่แต่อย่างใด
เสียงหัวเราะคิกคักดังลอดออกมาจากห้องครัวเมื่อกษิดินทร์ฉีกถุงแป้งมันออกโดยไม่ระวังทำให้ผงสีขาวกระจายเกือบทั่วตัว กันต์กวีใช้แขนเสื้อเช็ดให้ก่อนจะแกล้งอีกคนโดยการเอาแป้งมาแต้มเป็นหนวดเส้นๆเหมือนหนวดแมว
ชายหนุ่มร่างสูงรั้งร่างโปร่งเข้ามาใกล้ก่อนจะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเป็นที่ระทึก
“รีบทำอาหารต่อเถอะ วีหิวแล้ว”
กันต์กวีออดอ้อนเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยตนเองออกจากอ้อมแขน มิหนำซ้ำยังถูกหอมแก้มไปเสียหลายฟอด
ในที่สุดกษิดินทร์ก็ยอมปล่อยให้อีกคนเป็นอาระแต่เพียงไม่นานเท่านั้นก็เดินเข้าไปรวบกอดอีก
ทั้งคู่สนุกสนานกันจนลืมสังเกตว่ามีใครยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องครัว เสียงกระแอมไอดังทำให้ทั้งคู่รีบแยกตัวออกจากกัน กษิดินทร์รีบหันไปมองทันที
“คุณแม่...”
“ไง...พ่อตัวดี วันนี้กลับบ้านได้สักทีนะ แล้วนั่น...ใครกัน”
กันต์กวีค่อยๆกลับหลังหันช้าๆก่อนจะคลี่ยิ้มเย็นให้พร้อมกับยกมือไหว้ตามมารยาท คุณหญิงลัดดาจ้องมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นว่าผู้ที่ยืนอยู่ในบ้านเป็นใคร
ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยอะไรอยู่ๆก็รู้สึกเวียนหัวหน้ามืดจนยืนแทบไม่อยู่
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ คุณแม่...”
ร่างโปร่งรีบเข้าไปประคองแสร้งทำเป็นห่วงเสียเต็มประดาแต่หารู้ไม่ว่าขณะที่กำลังประคองนั้นปลายนิ้วได้จิกลงผิวเนื้อนวลเนียนไปด้วย
“ปล่อยฉันนะ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้”
“แม่ไม่มีสิทธ์มาไล่คนของผมออกจากบ้านนะแม่”
“คนของแก หมายความว่าไงดิน”
“จากนี้ไปวีคือ...คนรัก...ของผม”
ประโยคนั้นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนที่คุณหญิงลัดดาจะไม่รับรู้อะไร ด้วยความช็อคทำให้เป็นลมหมดสติไปซึ่งทำให้กันต์กวีแอบคลี่ยิ้มร้ายด้วยความสะใจ
อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปล่ะคุณหญิงลัดดา ความสนุกกำลังจะเริ่มต้น
ToBeCon...
(มาอัพให้แล้วนะคับ :mc4:มาช้ายังดีกว่าไม่มา 555+ ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และการติดตามนะคับ :pig4:ไนท์กำลังคิดว่าจะให้จบแบบ Happy Ending ดีไหม แต่เดี๋ยวจะรอฟังความเห็นจากทุกคนก่อนคับค่อยว่ากัน :laugh: ดราม่าบ้างก็อย่าได้ถือสาเลยคับ ปล พี่แก้วคับไนท์ไปทำ Visa เพราะเดือนมีนาฯจะไปเรียนระยะสั้นที่ประเทศจีนคับ)
:กอด1:
-
กรี๊ดดดด กวีเธอเจ๋งมากกกก
ชอบที่สุดค่ะ ใครทำอะไรกับเราไว้ต้องเอาคืนเป็นพันเท่า :angry2: :angry2:
-
กำลังมันส์ในอารมณ์เลยทีเดียว
-
ดีค่ะ มันต้องจบ แบบแฮปปี้สิคะ ท่าไม่ป้ก็จบไมไ่ด้นะคะ
หึหึ ไม่เอาเศร้าๆนีาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาพลีสสสสสสสสสสสสส
Happy Ending Happy Ending Happy Ending Happy Ending Happy Ending
-
มาแนวแก้แค้นด้วย
ต้องสนุกแน่ๆ
รออ่านนะค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
:กอด1:
-
มันส์แน่งานนี้
ปลาบปลื้มน้องวีอ่ะ
ชอบนางเอกร้ายๆอย่างนี้
อย่าได้แคร์ค่ะน้องวี
ลุยไปเลย
แม่สามีแบบนี้ต้องกำหราบให้อยู่ค่ะ
เหอๆๆๆ
แก้แค้นให้แม่อิงอร
ปล สงสารอติเทพหว่ะ
ณ จุดๆนี้ น่าสงสารสุดแล้ว
-
มันต้องอ่างนี้สิ :L2:
-
น้องวี
อย่าแรงไปกว่านี้เลยนะ
ขอร้อง
เพราะไม่อยากให้ดินเสียใจ
ปล.ตอนจบมันต้องแฮปปี้สิ
-
วีร้ายว่ะ
เมื่อไรจะใจอ่อนน้อ
-
วีร้าย วีแรง
แต่ระวันพี่ดินเอาคืนนะครับ ถ้าโดนเอาคืนคงจะกระอักพอๆ กัน
เฮ้อ ความแค้นไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นเลยนะ :เฮ้อ: :เฮ้อ:
-
อ่านได้ 2 ตอน
ต้องเครียดแน้เลย
:pig4:
-
พระเจ้าจอร์จ....ดินหลงวีซะแล้ว....จะอะไร ยังไงต่อไปเนี่ย
รออ่านจ้า
-
:z2:ตอนจบขอแบบHappy Ending
เพราะคงต้องกินมาม่าชามใหญ่อยู่แล้ว
เลยขอให้ตอนจบHappyไม่งั้นอ่านต่อไม่ไหวแน่
-
เล่นเปิดตัวแบบนี้เลยเหรอวี
เดี๋ยวคุณแม่ก็ช็อคตายก่อนพอดี
ขอจบแบบHappy Endingด้วยคน
-
รับส่วนบุญค่ะ
ขอบคุณน่ะค่ะ
________
กวี กรี๊ดดดด สะใจนังชะนีแก่นั่นจิงๆ 5555++
ว่าแต่ชะนีน้อยหอยสังข์ก็ใช่ย่อย โดนแบบที่เทพทำบ้างก็ดี สะใจค่ะ o13 o13
-
หลมยังลึกไม่พอ อิอิ สงสัยต้องให้ดินซ่วยฃดแล้วหละจะได้ ลึกๆๆๆๆๆๆๆ
-
:3123:
-
-6-
หลังจากที่คุณหญิงลัดดาเป็นลมล้มพับไปแล้วนั้น ทั้งกษิดินทร์และกันต์กวีก็ช่วยกันประคองพาเธอมานอนพักที่ห้องนอนก่อนป้านิ่มซึ่งเป็นแม่บ้านจะกุลีกุจอไปหายาลมยาดมมาให้
“วี ผมฝากแม่แป๊บหนึ่งนะ ผมจะไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้แม่หน่อย”
ร่างโปร่งพยักหน้าตอบรับ ระหว่างนั้นๆคุณหญิงลัดดาก็ฟื้นคืนสติมา ทันทีที่เห็นกันต์กวีเธอก็แทบจะร้องกรี๊ดออกมา
“แก...ทำอะไรลูกชายของฉัน”
กันต์กวีหัวเราะเสียงใส เรียวปากอิ่มคลี่ยิ้มร้าย
“เปล่าสักหน่อย เขาต่างหากที่ทำตัวเอง”
“แกหลอกลูกชายฉัน”
“ก็บอกความจริงกับเขาไปสิ ดีไม่ดีอาจจะสติแตกไปเลยก็ได้”
“อยากจะแก้แค้นหรืออยากจะทำอะไรก็มาลงที่ฉันนี่ ลูกชายฉันไม่เกี่ยว”
มือเรียวคว้าแขนคุณหญิงลัดดาเต็มแรงก่อนจะจ้องมองอีกคนด้วยแววตาแข็งกร้าว
“ไอ้คนที่มันฟังคำสั่งคนอื่นจนลืมจรรยาบรรณ ทำให้หนึ่งชีวิตต้องตาย ยังกล้าพูดอีกว่าไม่เกี่ยว”
ร่างโปร่งเหวี่ยงเธอล้มลงไปนอนกระแทกกับฟูกก่อนจะลุกขึ้นยืนมองอย่างผู้ที่เหนือกว่า
“ลูกชายฉันไม่รู้เรื่อง”
...เชื่อก็โง่เต็มที...
ไม่นานกษิดินทร์และแม่บ้านก็เดินเข้ามา ชายหนุ่มร่างสูงใช้มือใหญ่จับชีพจรของผู้เป็นแม่เพื่อเช็คอาการ เมื่อเห็นอย่างนั้นกันต์กวีจึงเอ่ยขอตัวกลับบ้าน
“ไว้ผมจะโทรนะวี”
“อืม...จะรอนะ”
ก่อนจากยังไม่วายเอ่ยด้วยเสียงหวาน กับดักหลุมนี้มันยังลึกไม่พอ เขาจึงต้องพยายามมากขึ้นอีกเพื่อให้มันลึกพอจนอีกคนไม่มีวันได้ขึ้นมาเห็นแสงตะวันอีกต่อไป
... ... ...
...
ยามบ่ายคล้อยภายในร้านกาแฟเล็กๆแถบชานเมือง มีหญิงสาวและชายหนุ่มคู่หนึ่งนั่งอยู่ แม้ว่าหญิงสาวต่อหน้าจะรูปร่างหน้าตาสะสวยเพียงใดแต่ดวงตาคู่เรียวคมของร่างสูงใหญ่ก็ยังเมินมองออกไปนอกหน้าต่าง
“เทพคะ”
เสียงอ่อนหวานเรียกก่อนจะวางมือเรียวสวยลงบนหลังมือใหญ่แต่มือคู่นั้นกลับเลื่อนหนี
“วันนี้คุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวออกออกค่าแท็กซี่ให้”
“ทำไมล่ะคะ เดี๋ยวนี้เทพเป็นอะไรถึงได้เย็นชากับวิกกี้”
“ผมเหนื่อย ผมเบื่อ อยากอยู่เงียบๆคนเดียว”
หญิงสาวชักสีหน้าเมื่อได้ยินคำตอบ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยถูกใครพูดอย่างนี้ใส่มาก่อน ด้วยความไม่พอใจทำให้เธอยกแก้วน้ำทรงสูงขึ้นมาก่อนจะสาดของเหลวใส่คนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ทันทีที่กระแทกแก้ววางลงก็ลุกขึ้นยืนทันทีโดยไม่ได้ทันมองซ้ายมองขวาจึงชนเข้ากับบริกรหนุ่มร่างเล็ก
ทำให้แก้วเซรามิคหลายใบตกลงแตกกระจายบนพื้นแล้วที่สำคัญของเหลวที่บรรจุอยู่ในนั้นได้เลอะทั้งตัวเธอ บริกรหนุ่มและอดิเทพ
“กรี๊ด...เสื้อผ้าฉัน รู้ไหมว่านี่คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของปราด้าเชียวนะ ลำพังเงินเดือนพนักงานเสิร์ฟกระจอกๆอย่างแก มีปัญญาชดใช้เหรอไง”
บริกรหนุ่มหน้าซีดก่อนจะก้มหัวขอโทษขอโพยหลายต่อหลายครั้งทั้งๆที่ไม่ใช่ความผิดของตัวเองคนเดียว
“มันน่านักนะ”
เธอเงื้อกระเป๋าหนังสัตว์ยี่ห้อหรูเตรียมฟาดลงเพื่อทำโทษบริกรฐานที่ทำให้ชุดราคาแพงของเธอต้องเปรอะเปื้อน แต่อดิเทพรั้งข้อมือเธอไว้เสียก่อน
“เกินไปหน่อยแล้ววิกกี้”
“ปล่อยฉัน...ฉันจะสั่งสอนมัน”
“หยุดทำตัวงี่เง่าได้แล้ว กลับบ้านไปสงบสติอารมณ์ซะ”
อดิเทพขึ้นเสียง เขาเองก็เริ่มรำคาญเธอเข้าแล้วจริงๆ ยิ่งเมื่อได้เห็นธาตุแท้ยิ่งรู้สึกโล่งใจแทนกษิดินทร์ที่ไม่ได้เอ่ยรั้งเธอไว้
“อยู่จัดการร้านอยู่ไหน”
“ขอร้องล่ะครับ จะให้ผมกราบก็ได้แต่อย่าเรียกผู้จัดการร้านเลยนะครับ”
“ไปเรียกผู้จัดการมาเดี๋ยวนี้”
ยิ่งเธอโวยวาย อดิเทพก็ยิ่งรู้สึกอายแทน มือใหญ่คว้ามือบอบบางก่อนจะดันตัวเธอออกนอกร้าน
“โทรมาบอก ถ้าต้องการเรียกค่าเสียหาย”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หยิบนามบัตรออกมาก่อนจะยัดมันลงในกระเป๋าเสื้อของบริกรหนุ่มคนเมื่อครู่และเดินออกจากร้านไป ทิ้งให้อีกคนต้องก้มหัวยอมรับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป
อดิเทพขับรถออกมาด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองใจ ชายหนุ่มทิ้งหญิงสาวลงข้างทางด้วยความอดทนอดกลั้นไม่ไหว จะหาว่าเขาไม่ใช่สุภาพบุรุษก็ยอมเพราะว่าอีกฝ่ายนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นสุภาพสตรี
เสื้อผ้าที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบของเหลวสีน้ำตาลเข้มทำให้เขาจำต้องขับรถกลับบ้านเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่และยังไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเสียก่อน
“ว่าไงล่ะครับ คุณชาย”
-อยู่ไหน ตอนนี้ฉันยืนอยู่หน้าห้องนายเนี่ย-
“รอก่อนนะ ไม่เกิน 10 นาทีถึง”
น่าแปลก...เพียงแค่ได้รู้ว่ากันต์กวีมาหาเขาหัวใจก็ลิงโลดด้วยความดีใจ
........................................................50%.........................................................
อดิเทพรีบวิ่งขึ้นบันไดด้วยความไม่อยากเสียเวลายืนรอลิฟต์ นานๆทีกันต์กวีจะเป็นฝ่ายมาหา เขาไม่อยากให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์
“ไง...”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หอบแฮ่กก่อนจะเดินเข้าไปหาคนที่นั่งกอดเข่ารออยู่ที่หน้าประตู
“ไปไหนกับใครมา”
“ก็...แค่ไปกินข้าวกับแฟนเก่าของหมอดิน”
“จากนี้ไม่ต้องไปแล้วนะ”
“ทราบแล้วครับ ท่านชาย”
“หิว...”
กันต์กวีเอ่ยก่อนจะยื่นมือไปต่อหน้า อิดเทพส่งยิ้มให้ก่อนจะจับมือเรียวเพื่อฉุดให้อีกคนลุกขึ้นยืน
“งั้นเดี๋ยวทำสปาเก็ตตี้ให้กิน”
เจอลูกอ้อนของคนตัวเล็กกว่าเข้าไปมีหรือที่เขาจะไม่ทำให้
ร่างสูงยืนอยู่หน้าเตา หยิบโน่นจับนี่ด้วยท่าทางคล่องแคล่วทำให้คนนั่งมองอยู่แอบนึกทึ่งอยู่ในใจ
“เดี๋ยวนี้ผู้ชายส่วนใหญ่จะทำอาหารเป็นเหรอ”
“ส่วนใหญ่ที่ว่ารวมหมอดินด้วยหรือเปล่า”
“ฉันถามนาย อย่าพูดถึงคนอื่นได้ไหม”
“นายเปลี่ยนไปนะวี รู้ตัวเองไหม”
กันต์กวีขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ฉันเนี่ยนะเปลี่ยนไป ก็เหมือนเดิมทุกอย่างแหละ”
“ยังอยากแก้แค้นอยู่ไหม”
เจอประโยคนี้เข้าไปร่างโปร่งถึงกับนิ่งอึ้ง เมื่อก่อนเขาตอบได้ทันทีแบบไม่ต้องคิดด้วยซ้ำว่ายังไงก็ต้องแก้แค้นให้ได้แต่นี่เขากำลังคิด กำลังลังเลหรือว่าเขา...เปลี่ยนไปจริงๆ
“หมอดินดีต่อนายไหม”
อดิเทพเอ่ยถามก่อนจะชิมเส้นสปาเก็ตตี้แต่แล้วทั้งร่างก็นิ่งงันเมื่อถูกสวมกอดโดยคนที่เขาหลงรักมานาน
“ไม่มีใครดีกับฉันเท่านายหรอก”
“เลิกเล่นน่าวี”
“กอดนิดกอดหน่อยทำเป็นจริงจังไปได้หรือว่าเดี๋ยวนี้หวงตัว”
“เปล่า...แต่อย่าเล่นแบบนี้เลยเพราะฉันจริงจัง”
เจอประโยคนี้เข้าไปกันต์กวีเลยถอยตัวออกมา ใช่ว่าเขาจะไม่รักอดิเทพแต่รักของเขานั้นมันคนละความหมายกับอีกฝ่ายก็เท่านั้นเอง
เมื่อกันต์กวีอิ่มท้องเป็นที่เรียบร้อยหนังตาก็เริ่มหย่อนจนต้องเอนตัวลงนอนบนโซฟาตัวนุ่ม อิดเทพเดินมาแอบมองคนหลับใหลก่อนจะนั่งพิมพ์งานที่โน้ตบุคไปด้วย เมื่อละสายตาจองจอคอมพิวเตอร์ก็พบเข้ากับเสื้อเชิ้ตที่เลอะคราบสีน้ำตาลของกาแฟ ในใจเลยหวนกระหวัดนึกถึงใครคนหนึ่งเข้า
เขาเซิร์จข้อมูลเพื่อหาเบอร์ของร้านกาแฟ เมื่อได้เบอร์มาก็กดโทรศัพท์ทันที
“ฮัลโหลครับ...ผมอยากคุยกับพนักงานเสิร์ฟที่ตัวเล็กๆผิวขาวๆหน้าตาเหมือนลูกครึ่งหน่อยได้ไหมครับ พอดีเมื่อวันก่อนเกิดเรื่องที่ร้านแต่เขาไม่ยอมโทรมาบอกค่าเสียหายสักที”
-อ่อ...พี่คนที่มากับผู้หญิงแรงๆคนนั้น หลังจากที่พี่พาเธอกลับไปแล้ว เธอก็กลับมาที่ร้านอีกโวยวายเสียงดังเรียกหาผู้จัดการจนเป็นเรื่องใหญ่โต-
“คุณคือ...บริกรคนนั้นเหรอ”
-เปล่าครับ ผมเป็นเพื่อนไอ้เจฟมัน-
“ขอผมพูดกับเขาหน่อยสิ”
-มันเพิ่งถูกผู้จัดการไล่ออกไปเองครับ น่าสงสาร...ชีวิตมันบัดซบสุดๆพี่ พ่อมันเป็นอเมริกันมาเที่ยวมาเจอแม่ไอ้เจฟเข้าไม่รู้ถูกใจกันท่าไหนแต่ที่แน่ๆก่อนไอ้เจฟเกิดมาพ่อมันก็เก็บกระเป๋าบินกลับประเทศไปแล้ว เนี่ยทุกวันนี้มันก็ทำเงินส่งตัวเองเรียน แม่มันก็ป่วยออดๆแอดๆจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ มะ...-
“โอเค...บอกมาว่าบ้านของเด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน”
-ผมไม่รู้จักบ้านมันหรอกพี่-
“มีวิธีไหนจะติดต่อได้ไหม”
-ผมได้ยินมาว่า...มันเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมฯแถวนั้น-
“ขอบคุณมาก แค่นี้แหละ”
อดิเทพเอ่ยก่อนจะกดวางสายไป เขาเข้ากูเกิ้ลเอิร์ธเพื่อขยายดูแผนที่ว่าแถวนั้นมีดรงเรียนมัธยมฯอะไรบ้างและก็มีอยู่เพียงที่เดียวที่ใกล้ที่สุดและเป็นโรงเรียนรัฐบาล
“ทำอะไรน่ะ หน้าตาเคร่งเครียดเชียว”
เสียงงัวเงียเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังทำให้อดิเทพหันไปมอง
“เปล่า...ก็ดูอะไรไปเรื่อย”
“จะกลับไปเรียนมัธยมฯอีกรอบเหรอไง ถึงได้เปิดดูข้อมูลโรงเรียนน่ะ”
“อ่อ...เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”
อดิเทพเอ่ยก่อนจะปิดหน้าจอ ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรเสียงมือถือของกันต์กวีก็ขึ้นเสียก่อน
“ชู่ว์...อย่าเสียงดังเชียวนะ”
ร่างโปร่งเอ่ยบอกก่อนจะกดรับโทรศัพท์
“วีอยู่ที่ห้อง มีอะไรหรือเปล่า”
-มาหาหน่อยได้ไหมที่อพาร์ทเม้นต์ของผม ผมอยากเจอวีน่ะ”
“เดี๋ยววีจะรีบไป”
กันต์กวีเอ่ยกับปลายสายก่อนจะรีบเก็บกระเป๋าเตรียมตัวไป
“ได้ใหม่แล้วลืมเก่าเลยนะ”
“ได้ยินว่าตัวเองก็กำลังจะเจอของใหม่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ เด็กมัธยมฯซะด้วย”
“ก็แค่เด็กคนหนึ่ง ฉันไม่สนใจใครอื่นหรอกนอกจากนาย”
“ฉันไปล่ะ มีภารกิจรอให้พิชิตอยู่”
อดิเทพได้แต่มองอีกคนเดินจากไปโดยไม่อาจเอ่ยห้ามหรือรั้งเอาไว้ได้ เส้นแบ่งที่ถูกขีดไว้เขาอยากจะข้ามไปหลายต่อหลายครั้งแต่สุดท้ายเขาก็ได้แต่ยืนมองกันต์กวีอยู่ในที่ของตัวเอง
“โชคดีนะวี”
นี่...คงเป็นอีกคำที่เขาพูดได้ คำพูดที่แสดงความห่วงใยเท่านั้น
เมื่อรู้สึกว่าชีวิตของตัวเองนับวันจะอับเฉาลงจึงคว้ากุญแจรถเพื่อที่จะไปหาอะไรทำบ้าง อย่างน้อยเขาก็จะต้องควานหาตัวของเด็กหนุ่มคนนั้นให้จงได้
เอาเงินให้สักก้อนถือว่าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์แล้วจากนั้นจะได้ไม่ต้องรู้สึกว่ามีอะไรติดค้างต่อกันอีก
2BeCon…
(มาอัพให้จนครบ 100% แล้วนะคับ :กอด1:พอดีเมื่อวานขี้เกียจเกินไปหน่อย วันนี้ร่างกายกลับมาฟิตเหมือนเดิมแล้วคับ :laugh: ขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจนะคับ
ส่วนใหญ่อยากให้จบแบบ Happy Ending กัน ก็โอเคนะคับ แฮปปี้แน่นอนเดี๋ยวจะไม่มีใครอ่านนิยายของไนท์ต่อ 555+ น้อมรับคำสั่งคับ ขอบคุณทุกๆท่านมากนะคับ :pig4:
ปล สุขสันต์วันแห่งความรักนะคับทุกท่าน ขอให้พบเจอคนดีๆ รักดีๆ คนโสดขอให้ได้แฟน คนมีแฟนขอให้รักกันยั่งยืนนะคับ :L2:)
:กอด1:
-
พี่เองก็ขอจบแบบ Happy Ending เช่นกันนะคะน้องไนท์
ถึงจะมีช่วงมาม่าบ้างก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะว่าเป็นการเพิ่มอรรถรสของเรื่องราวค่ะ
แล้วสำหรับเทพ ขอเป็นน้องเจฟบริกรลูกครึ่งคนนั้น มาช่วยดูแลหัวใจเทพแทนวีแล้วกัน
ป.ล. ขอเป็นกำลังใจเรื่องเรียนของน้องไนท์ที่จะไปในเดือนหน้านี้นะคะ
-
เทพจะได้เจอคนใหม่แล้ววว
วีก็จะได้คู่กับหมอดิน เย้ๆๆๆๆ :z2:
-
สงสารหมอดิน
แวะมาเป็นกำลังใจให้คนแต่ง
ป.ล.เข้ามารอทุกวันจ้า
-
ดีจังที่พี่เทพฃองเราจะได้มีค่กับเค้าบ้าง อิอิว่าแต่วีคะ หัวใจเริ่มสั่นไหวแล้วหละซี่ นี่ฃนาดยังไม่โดนนะเนี้ย อิอิ
-
:impress3:
วีคนดี....ต่อจากนี้ไม่ต้องแก้แค้นแล้วนะจ๊ะ
เค้าสงสารดินสุดหล่อ
ดีใจแทนเทพด้วย ได้เจอเนื้อคู่แล้ว
-
Happy Valentine's Day
กำลังลุ้นกับการแก้แค้น
-
เยี่ยม!!!
เจฟได้อยู่กับเทพก้อดี
เทพเป็นผู้ชายที่ดีอ่ะ
ดีเกินกว่าจะมาอยู่กับวี
ให้วีไปอยู่กับหมอดินอ่ะ
เหมาะสุดแล้ว
-
:L2:Happy Valentine Day เรารู้สึกเหมือนว่า
คู่ของเทพกับเจฟก็จะมาม่าเหมือนกัน
ก็เทพบอกรักวีขนาดนั้น คงต้องใช้เวลาแล้วล่ะ
ปล.ดูเหมือนว่าจะคิดไปเอง(หรือเปล่า)
-
รอด้วยคนค่าาาา มาต่อเร็วๆนะคะ :กอด1:
-
-7-
กันต์กวีรีบออกมาจากบ้านของอดิเทพทันทีที่กษิดินทร์โทรมาหา เมื่อมาถึงก็กดกริ่งเรียก บานประตูเปิดออกทันทีราวกับว่าคนจากอีกฟากของประตูกำลังใจจดใจจ่อรอคอยการมาของเขา
“กำลังคิดถึงอยู่ดี”
“เพิ่งจากกันยังไม่ถึง 3 ชั่วโมง คิดถึงแล้วเหรอ”
“ก็ผมบอกแล้วว่าไม่อยากห่างจากวี”
ร่างโปร่งส่งยิ้มให้ก่อนจะนึกบางเรื่องขึ้นมาได้จึงเอ่ยถาม
“แม่ของดินเป็นยังไงบ้าง”
พอเอ่ยถามถึงอาการป่วยของของผู้เป็นมารดา กษิดินทร์ก็มีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที มือใหญ่จูงมือเรียวพาไปนั่งที่โซฟา
“แม่ผม ท่านมีโรคประจำตัวอยู่แล้วอยู่ๆอาการมันก็กำเริบน่ะครับ”
คนฟังแอบยิ้มด้วยความสะใจที่อีกคนกำลังโดนกรรมตามสนอง
“ท่านจะต้องไม่เป็นไร วีเชื่อ”
แม้ในใจจะแช่งชักหักกระดูกให้อีกคนลาโลกไปในเร็ววันแต่ก็ต้องพูดให้กำลังใจเพื่อให้แผนยังคงดำเนินต่อไป
“วี...ผมมีเรื่องอยากจะบอกวีน่ะ”
ชายหนุ่มร่างสูงทำหน้าตาจริงจังจนกันต์กวีหวั่นใจว่าอีกคนอาจล่วงรู้ความจริงเข้าแล้ว
“ระ...เรื่องอะไรเหรอ”
“ผมจะทำงานต่างจังหวัดสัก 2-3 วัน เลยอยากจะฝากให้วีช่วยแวะเข้าไปเยี่ยมแม่ผมบ้าง”
“แต่แม่ของดินไม่ชอบวีนี่นา”
“ตอนนั้นท่านคงกำลังตกใจน่ะ”
“ถ้าวีรับปากจะไปเยี่ยมท่านบ้าง วีจะได้อะไรตอบแทนเหรอ”
กันต์กวีเอ่ยเสียงออดอ้อนจนกษิดินทร์ต้องดึงตัวเข้ามากอดแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่
“วีอยากได้อะไรล่ะครับ”
“สิ่งนั้นวีกำลังจะได้เร็วๆนี้แล้วล่ะ”
คำพูดแฝงนัยยะแต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มหวานสะกดใจให้คนมองต้องมนต์
“ผมรักวีนะ ต่อจากนี้ไม่วาอะไรจะเกิดขึ้นก็จะรักวีเหมือนเดิม”
“แม้ว่าที่จริงแล้ววีจะไม่ใช่คนดีอย่างที่ดินคิดน่ะเหรอ”
มือใหญ่ลูบเรือนผมเส้นละเอียดอย่างเบามือก่อนจะไล้ปลายนิ้มลงมาเกลี่ยผิวแก้มนุ่ม
“วีดีที่สุดสำหรับผมแล้ว”
น่าแปลกที่เพียงแค่ประโยคสั้นๆนั้นทำให้กันต์กวีเริ่มรู้สึกอยากจะถอนตัวออกจากวังวนนี้ อยากให้ไฟแค้นในใจดับมอดลงเพียงแค่ไม่อยากให้รอยยิ้มหรือแม้กระทั่งแววตาของคนตรงหน้าหม่นหมอง
ร่างโปร่งลุกพรวดขึ้นก่อนจะเดินไปที่กระจกใสสูงจรดเพดาน ทอดสายตามองออกไปยังท้องฟ้าสีคราม
“ทุกอย่างมีสองด้านเสมอนะดิน”
แม้ว่าจะมีด้านดีที่สุดแต่ด้านที่เลวร้ายที่สุดก็มีซุกซ่อนแฝงอยู่ด้วยเสมอ
“ผมยอมมองแค่ด้านเดียว”
กษิดินทร์ลุกเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะท้าวแขนสองข้างลงบนบานกระจกกางกั้นอาณาเขตอีกคนไว้ในอ้อมแขน
“ผมรู้ ผมมั่นใจว่าวีจะไม่มีวันทำให้ผมเสียใจ...ใช่ไหมครับ”
ดวงตาคู่โศกหลบวูบไม่กล้าสบตา
“มองตาผมสิวี”
ราวกับโดนต้อนให้จนมุม กันต์กวีจึงต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อสบตาแล้วตอบรับออกไป กษิดินทร์ยิ้มกว้างเมื่อได้รับคำตอบถูกใจ
“เดี๋ยวผมทำอะไรให้กินนะ”
มือใหญ่จูงมือเรียวพามายังโต๊ะอาหารก่อนจะยืนหันหลังทำอาหาร กันต์กวีได้แต่มองแผ่นหลังกว้างตั้งตรงก่อนเรียวปากจะขยับเป็นคำว่า “ขอโทษ” ขอโทษที่ไม่มีให้แม้กระทั่ง “ความจริง”
เขามาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับไปแล้ว
... ... ...
...
หลังจากที่อดิเทพขับรถออกมาจากบ้านแล้วนั้นก็ไปจอดยานพาหนะอยู่ที่หน้าโรงเรียนมัธยมฯแห่งหนึ่งตามที่ได้ข้อมูลมา เวลาเลิกเรียนเด็กๆวันรุ่นในชุดนักเรียนเดินมานับสิบคนทำให้คนมองจ้องจนตาลาย แต่แล้วก็ใครคนหนึ่งที่สะดุดตา เสี้ยวหน้าสองสัญชาติขนาดนี้ไม่ได้โดดเด่นก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
ไม่รอช้าอดิเทพรีบลงจากรถแล้วเดินไปดักหน้าเด็กหนุ่มคนนั้นทันที
“เจฟใช่ไหม”
เด็กหนุ่มตัวเล็กทำหน้าตาเหรอหราก่อนจะพยักหน้า
“ใช่ครับ คุณ...”
“พี่ชื่อเทพ เคยพาผู้หญิงคนหนึ่งไปกินกาแฟที่ร้าน แล้วก็เกิดเรื่องขึ้น”
“คุณผู้หญิงคนนั้นส่งคุณมาขู่ผมอีกเหรอ”
“เปล่า ไม่ใช่อย่างนั้น”
เด็กหนุ่มไม่ฟังแถมยังทำท่าจะเดินหนีจนอดิเทพต้องเดินไปดักหน้าไว้อีกครั้งก่อนจะยื่นซองสีน้ำตาลให้
“รับไว้สิ”
มือเล็กรับไว้ เมื่อเปิดซองออกดูก็พบปึกธนบัตรจำนวนหนึ่ง เด็กหนุ่มหน้าร้อนผ่าวด้วยความโมโหก่อนจะโยนซองใส่ธนบัตรใส่อีกคนเต็มแรง
“ผมไม่ได้ขายตัวนะ”
เมื่อเอ่ยจบก็เดินหนีแต่มือใหญ่คว้าข้อมือไว้ได้ทัน
“เดี๋ยวก่อน...พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”
“ถึงผมจะจนก็ใช่ว่าจะเอามาผาดหัวได้ง่ายๆนะ”
“ฟังก่อนได้ไหม”
“ผมเสียเวลามากพอแล้ว ยังมีงานต้องทำอีก เชิญคุณกลับไปเถอะ”
“อย่างน้อยก็รับเงินนี่ไว้เถอะ”
“ผมไม่ได้ขายตัวแล้วก็ไม่ใช่ขอทาน เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่จะต้องรับ”
“ทำไมดื้อดึงนักนะ”
เด็กหนุ่มไม่สนใจที่จะฟังอีกต่อไปจึงเดินหนีออกมา เดินไปได้สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามมาด้วย ใบหน้าหมดจดงอง้ำด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
“เลิกเดินตามผมสักทีได้ไหม”
แต่พอหันหน้าไปก็พบเพียงแต่ความว่างเปล่า
“ไปได้ซะก็ดี”
เมื่อถึงเวลางานเด็กหนุ่มตัวเล็กก็ขยันขันแข็งทำงานหนักเกินตัว แม้จะต้องปาดเหงื่อแต่ก็ไม่ได้ย่อท้อแต่อย่างไร คนที่ซุ่มมองอยู่ก็ได้แต่ถอนใจด้วยความเหนื่อยล้าแทน ทำงานหนักซะขนาดนี้ยังตื่นไปเรียนไหว เขาล่ะนับถือจริงๆ
จนเวลาเกือบเที่ยงคืนเมื่อเลิกงานเด็กหนุ่มก็เดินออกมาจากร้านด้วยท่าทีอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด อาการเมื่อยขบทำให้อยากทิ้งตัวลงนอนลงเสียเดี๋ยวนี้
ระหว่างทางเกิดอาการวิงเวียนจนเดินเซแต่แล้วอ้อมแขนกว้างก็เข้าไปรับได้ทันเวลา คนป่วยขืนตัวออกทันทีแต่อดิเทพก็คว้าข้อมือไว้
“ปล่อย...มาจับผมไว้ทำไม”
“ไป...”
“ผมจะกลับบ้าน”
“ได้กลับแน่ แต่บ้านพี่นะ”
เด็กหนุ่มดิ้นสุดแรงแต่ก็ไม่พ้นคนที่แข็งแรงกว่า มือใหญ่ยกตัวอีกคนขึ้นพาดบ่าก่อนจะจับโยนใส่เบาะหลังรถและล็อคไว้เพื่อไม่ให้อีกคนหนีได้
“คุณไม่มีสิทธิ์มาทำแบบนี้กับผมนะ”
“เดี๋ยวก็มีสิทธิ์เองแหละ”
เด็กหนุ่มได้แต่ฮึดฮัดด้วยความไม่พอใจ จะหนี จะลงก็ทำไม่ได้ คอยดูนะ...
เขาก็ทำให้อีกฝ่ายรู้ถึงฤทธิ์เล็กพริกขี้หนู
2BeCon...
[สวัสดีคับ ขอโทษด้วยที่ไนท์มาอัพช้า บังเอิญว่าช่วงนี้งานเข้าคับ พอเสร็จจากเรื่องทำวีซ่าก็ต้องไปซื้อของ ซื้อเสื้อผ้าอีก อาทิตย์หน้าจะสอบแล้วด้วย มีอีก 108 เรื่องจิปาถะต้องทำ :serius2: เอาเป็นว่าจะรีบๆอัพแล้วกันนะคับ ขอขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และการติดตามนะคับ ขอบคุณคับ :pig4:]
:กอด1:
-
สงสาร เจฟ :sad4:
แต่ก็มีลุ้นคู่ เทพ เจฟ ใช่ไหมคะ :-[
-
เล็กๆแซ่บๆ อิอิ ค่น้องเจฟ กับเทพนี้ก็น่ารักดีเนอะ จะมาม่ามั้ยคะสองคนนี้อ่ะ อิอิ
-
:L1:
-
o13ตอนหน้าน้องเจฟจะได้แผลงฤทธิ์ไหมน้อ
-
แวะมาเยี่ยมไนท์ น้องรักนิดนึงคราาาาาาาาบ
สนุกดีนะครบ เรื่องนี้ ฮึ ๆ ๆ (หัวเราะแบบโรคจิตเล็ก ๆ)
-
เล็กพริกขี้หนู...คู่เทพก็ท่าทางระน่ารัก น้องเจฟจะมาปราม(มาร)หรือจ๊ะ คิคิ
รออ่านต่อจ้า....
===
เก็บมาฝากนิดๆ
เด็กหนุ่มไม่ฟังแถมยังทำท่าจะเดินหนีจนอดิเทพต้องเดินไปดุกหน้าไว้อีกครั้งก่อนจะยื่นซองสีน้ำตาลให้
"ดัก" หรือเปล่าจ๊ะ
-
^
^
ขอบคุณนะคับ ไนท์แก้ให้เรียยร้อยแล้วนะคับ 555+ มือมันไปไวกว่าความคิดแหะๆๆ
-
ดีใจกับเทพ มีคู่แล้ว
ว่าแต่วี เจ้าคิดเจ้าแค้นแล้วเราจะป็นสุขจริงๆหรือ
-
สนุกดีค่ะ
เดินเรื่องได้กระชับฉับไวมากกก :laugh:
-
ตอนนี้กันต์กวีคงเริ่มรู้สึกว่า
มีใจให้กับคุณหมอแล้วสิเนี่ย แต่ก็ไม่อยากที่จะยอมรับ ว่าตัวเองน่ะรู้สึกยังไง
ต้องแก้แค้นก่อน ท่องไว้ แก้แค้น^^ อย่าไปหวั่นไหวเด็จขาด
-
-8-
หลังจากที่อดิเทพพาเด็กหนุ่มลูกครึ่งกลับมาถึงยังที่พักแล้วนั้น มือใหญ่ก็รวบกำข้อมือเล็กพาเดินไปตามทางที่ตัวเองกำหนดแม้ว่ามือเล็กจะพยายามแกะมือที่รวบกำอยู่เท่าไหร่ก็ไม่สามารถปลดตัวเองออกจากพันธนาการเหนียวแน่นได้
เมื่อทั้งคู่ยืนอยู่กลางห้องรับแขกร่างสูงใหญ่จึงปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระ
“คุณต้องการอะไรกันแน่ ถึงพาผมมาที่นี่”
“แค่อยากได้คนช่วยงาน”
“แต่ผมมีงานทำอยู่แล้ว”
“งานที่ทำอยู่มันหนักเกินไป เดี๋ยวก็ตื่นไปเรียนไม่ไหวพอดี”
“แล้วงานที่คุณจะให้ผมทำมันสบายกว่าเหรอไง ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าผมไม่มีวันนอนกับใครเพื่อแลกเงิน”
เด็กหนุ่มเอ่ยก่อนจะเชิดหน้าขึ้นจนเห็นสันจมูกโด่งรั้นบ่งบอกถึงนิสัยของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
“คิดอกุศลจริงๆ”
“หรือไม่จริง หน้าตาคุณก็ใช่ว่าจะน่าไว้ใจ”
อดิเทพเกาหัว สงสัยเขาจะต้องไปศัลยกรรมหน้าเสียใหม่แล้วมั้ง
“งานที่จะให้ทำคือช่วยดูแลบ้าน ทำความสะอาด ทำกับข้าว อะไรประมาณนี้ ทำได้ไหม”
เด็กหนุ่มทำท่าครุ่นคิดก่อนจะแย้มยิ้มออกมา
“เงินเดือนเท่าไหร่”
“เห็นแก่เงินจริงๆ ตาเป็นประกายเชียว”
“แน่สิ ชีวิตนี้เงินสำคัญที่สุดนี่นา”
“ครับๆ…จะเรียกเงินเดือนเท่าไหร่ก็ว่ามา”
ทันทีที่เด็กหนุ่มตอบอดิเทพก็เบ้หน้าทันที
“ถ้าใช้เงินมากขนาดนั้น ทำเองดีกว่า”
พอตกลงกันได้เรียบร้อยเด็กหนุ่มก็เอ่ยขอตัว
“นี่มันมืดแล้ว รถก็ไม่มี ค้างที่นี่แหละ อ่อ…อย่าคิดอกุศลไปล่ะ พี่เองก็ไม่อยากโดนข้อหาพรากผู้เยาว์เหมือนกัน”
น่าแปลกที่เด็กหนุ่มรู้สึกวางใจในตัวของคนที่ยืนอยู่ต่อหน้า คนๆนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยแบบที่เขาไม่เคยได้รับจากใครนอกจากผู้เป็นแม่ที่เลี้ยงดูเขามาตลอด
เสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นถูกนำมายื่นให้ เด็กหนุ่มรับมาก่อนจะคลี่เสื้อผ้าดูก็พบว่าเป็นขนาดที่เขาสวมใส่ได้พอดี น่าแปลกที่ผู้ชายคนนี้มีเสื้อผ้าไซต์ที่ตัวเองใส่ไม่ได้อยู่ในบ้าน
“เสื้อผ้าของแฟนคุณเหรอ”
“ไม่ใช่หรอก ของเพื่อนสนิทน่ะ”
มองแววตาคู่นั้นเขาก็รู้แล้วว่าคนที่กำลังพูดถึงอยู่นั้นมีความสำคัญมากแค่ไหน
“ผมไม่รับเสื้อผ้าไว้ดีกว่า ดูท่าจะเป็นของคนที่สำคัญมาก”
“ใส่ไปเถอะ เขาไม่ถือหรอก พี่ก็ไม่ถือ”
“ผมสบายใจที่ได้ใส่เสื้อผ้าของตัวเองมากกว่า”
เขาขอแค่อาบน้ำให้สบายตัวก็เพียงพอแล้ว เสื้อผ้าไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ก็ไม่ต่างกัน เพราะยังไงซะเช้าวันรุ่งขึ้นเขาก็ต้องกลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่อยู่ดี
เมื่ออกมาจากห้องน้ำอดิเทพก็ขอตัวไปอาบน้ำบ้าง เวลาช่วงว่างๆเด็กหนุ่มก็เลยถือโอกาสเดินสำรวจรอบๆบริเวณ ตู้โชว์ขนาดใหญ่มีกรอบรูปมากมายวางเรียงรายซึ่งทุกรูปในกรอบมักจะมีอีกคนหนึ่งที่หน้าตาค่อนไปทางน่ารักอยู่ในนั้นด้วย
…เจ้าของเสื้อผ้า คงจะเป็นคนๆนี้แน่นอน…
หลังจากที่จ้องมองอยู่นานก็ค่อยๆหยิบกรอบรูปเพื่อเอาเข้ามาดูใกล้ๆก่อนจะวางลงที่เดิม เพราะถ้าอีกคนมาเห็นเขาไปแตะต้องของสำคัญ เขาอาจจะอายุสั้นลงก็เป็นได้
เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวนุ่ม ในใจก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอยากจะเป็นที่รัก เป็นคนสำคัญของใครสักคน คนตัวโตที่รับเขามาก็ดูดีไม่น้อยแต่ยังไงก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
…ดูก็รู้ ว่าถ้าเกิดไปตกหลุมรักเข้า เรื่องเศร้าคงได้เกิดขึ้นแน่นอน…
………
…
วันนี้เป็นวันที่กษิดินทร์ต้องออกต่างจังหวัด ชายหนุ่มโอดครวญไม่อยากจะไกลห่างจากกันต์กวี
“ผมไม่อยากไปเลยวี”
“อีกสามวันเราก็เจอกัน ไว้ดินกลับมาวีอะไรจะเซอร์ไพร์”
“จริงนะ”
“อืม…”
“งั้น…ผมไปก่อนนะ”
“โชคดีครับ”
กันต์กวีเอ่ยบอกก่อนจะโบกมือให้ ร่างสูงเดินเข้ามาหาก่อนจะหอมแก้มอีกฝ่ายฟอดใหญ่แล้วถือกระเป๋าเดินทางออกจากห้องไป
ร่างสูงคลี่ยิ้มร้ายก่อนจะเริ่มแผนการที่ตัวเองวางไว้
กันต์กวีขับรถออกมาจากบ้านก่อนจะตรงไปยังบ้านหลังใหญ่โตที่ซึ่งมีศัตรูคู่แค้นอาศัยอยู่ ทันทีที่ร่างโปร่งเหยียบลงบนพื้นหินอ่อนของตัวบ้าน หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดูภูมิฐานก็ลุกพรวดทันที
“สวัสดีครับ…คุณแม่”
น้ำเสียงยั่วเย้าเอ่ยก่อนแสร้งเป็นทำความเคารพตามมารยาท
“แก…ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียก รปภ.”
“ดินฝากให้ผมมาคอยดูแลคุณแม่น่ะครับ”
กันต์กวีเอ่ยก่อนจะเดินเข้าไปใกล้จนเธอต้องเป็นฝ่ายถอยหนีเพราะกลัวดวงตาคู่สวยที่ถอดแบบมาจากเพื่อนสนิทแต่ตอนนี้มันฉายเพียงแค่แววของความอาฆาตแค้น
“คุณแม่ดูเซียวๆไปนะครับ ผมว่าเราน่าจะออกไปหาที่เดินเล่นตากอากาศกันสักหน่อย”
“ฉันไม่ไปไหนกับแกทั้งนั้น”
“ไปเถอะนะครับ”
ร่างโปร่งเอ่ยด้วยเสียงเย็นก่อนจะคว้าหมับที่ท่อนแขน ออกแรงกดน้ำหนักลงจนเธอร้องออกมา
“อ่อนแอแบบนี้ก็หมดสนุกกันพอดี”
“แกจะฆ่าฉันใช่ไหม”
กันต์กวีหัวเราะในลำคอก่อนจะลากตัวเธอขึ้นรถก่อนจะปรับล็อคที่บานประตูให้ไม่สามารถเปิดออกจากด้านในได้
“ฆ่าไปก็ตายเปล่า”
ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะจ้องมองเธอผ่านกระจกมองหลัง
“อ่อ…ไม่ต้องกลัวไปหรอกนะ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ฉันจะทำแบบนี้”
“อย่ายุ่งกับตาดินนะ เขาไม่เกี่ยวข้องด้วย”
“ไม่เกี่ยวเหรอ…เธอสั่งให้เขาไม่ให้ผ่าตัดให้พี่จนพี่ต้องตาย”
“ไม่จริง…ฉันแค่พูดขู่นายไปเท่านั้น ลูกชายฉันมีจรรยาบรรณความเป็นหมอพอ เขาไม่รู้เรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นด้วยซ้ำ”
“ฉันไม่เชื่อ”
“การผ่าตัดมันไม่สำเร็จเพราะคนอื่นเป็นทำหน้าที่แทน วันนั้นลูกชายของฉันไปประจำอยู่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง”
กันต์กวีชักเริ่มสับสันกับสิ่งที่ได้ยิน
“แม่ลูกย่อมปกป้องกัน ดี…เธอก็รับกรรมที่ก่อก่อนเลยก็แล้วกัน”
ทันทีที่พูดจบก็หยุดรถอย่างกะทันหันก่อนจะเปิดประตูและฉุดกระชากคนที่นั่งอยู่เบาะหลังให้เดินตามทางที่นำ
“เดินเร็วๆสิ”
กันต์กวีออกแรงลากเธอผ่านขั้นบันไดนับสิบขั้นก่อนจะขึ้นมาพบกับพื้นที่กว้างที่ปูด้วยหญ้าสีเขียวขจีซึ่งบนพื้นที่มีหลุมศพแบบคริสต์เรียงรายอยู่มากมาย ด้วยความเหนื่อยล้าบวกกับโรคประจำตัวที่เป็นทำให้หญิงวัยกลางคนอ่อนเปรี้ยเพลียแรง หอบเอาอากาศเข้าปอด
ท่าทางที่ดูทรมานทำให้ร่างคลี่ยิ้มออกมาด้วยความสะใจ
“อย่าเพิ่งตายซะก่อนล่ะ เธอต้องทักทายแม่กับพี่ชายของฉันก่อน”
แต่ทันทีที่กันต์กวีลากเธอมายังหลุมศพของผู้เป็นที่รักทั้งสองก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นช่อลิลลี่สีขาวนวลตาวางอยู่ก่อนหน้าที่เขาจะมา
เขามองรอบบริเวณทันทีก็ไม่พบใคร จะว่าเป็นอดิเทพก็คงไม่ใช่เพราะรายนั้นไม่เคยมีที่นี่คนเดียวสักครั้ง
แต่ตอนนี้จะเป็นใครก็ไม่สำคัญแล้ว
“คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้”
“ไม่มีทาง ฉันไม่มีวันคุกเข่าต่อหน้ายัยนั่น”
“คุกเข่าเดี๋ยวนี้”
กันต์กวีกดตัวเธอให้ย่อต่ำลงแต่เมื่อขัดขืนชายหนุ่มจึงเลือกผลักเธอลงไปนอนกองกับพื้น
“แม่ พี่กานต์ ผมทำได้แล้วนะ”
หญิงวัยกลางคนทำท่าจะลุกขึ้นแต่ร่างโปร่งก็นั่งลงก่อนจะกดตัวเธอไว้
“กราบสิ…”
“ไม่มีทาง”
“ฉันบอกให้กราบไง”
กันต์กวีดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธ ยามนี้ก็ไม่มีอะไรมาฉุดรั้งโทสะของเขาได้
เว้นแต่…
“พอได้แล้ว…วี”
เสียงหนึ่งที่ดังขึ้นฉุดให้กันต์กวีออกมาจากภวังค์แห่งความโกรธแค้น
“ลูกแม่…”
หญิงวัยกลางคนเอ่ยเรียก ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาประคองบุพการีไว้ในอ้อมแขน แต่แล้วเธอก็หมดสติไป
“แม่…”
กษิดินทร์เอ่ยเสียงดังก่อนจะรีบกดโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลให้มาทันที ไม่นานเสียงไซเรนก็ดังก้องทั่วบริเวณก่อนร่างของหญิงวัยกลางคนจะถูกพาตัวไป แววตาตัดพ้อมองมาทำให้กันต์กวีได้แต่เม้มริมฝีปากแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่อยู่ๆก็ล้นทะลักเข้ามาในอก
“ผมไม่คิดเลยว่าสิ่งที่แม่พูดจะเป็นความจริง”
“แม่นายแย่งพ่อไปจากเรา นายเองก็ฆ่าพี่ชายฉัน แม่นายกับนายน่าจะตายตามพวกเขาไปด้วยซ้ำถึงจะสาสม”
“เรื่องของพี่ชายวี ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ ผมไม่รู้ว่าวีมีพี่แล้วเสียเขาไป”
“โกหก”
“วันนั้นผมไปประจำที่โรงพยาบาลอื่น แพทย์อีกคนเลยทำหน้าที่แทน แต่พี่ชายของคุณเป็นโรคเรื้อรังจนลามเกือบทั่วทั้งร่างกาย เมื่อรับไม่ไหวจึงเกินการเยียวยา”
กันต์กวีนิ่งเงียบได้แต่มองสบนัยน์ตาที่มองยังไงก็ไม่พบแม้แต่คำโกหกหลอกลวง เขาอ่อนลงจนกลายเป็นรู้สึกเสียใจ
“วี…จำที่ผมเคยบอกวีได้ไหม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมก็จะรักวี ผมยังยืนยันคำเดิม”
“มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกแล้ว นายรู้นี่ว่าฉันเข้ามาในชีวิตนายเพื่ออะไร มันก็แค่ละครฉากหนึ่ง ฉันไม่เคยรักนายแม้แต่น้อยด้วยซ้ำ อีกอย่าง…แฟนเก่านายน่ะ ฉันให้คนรักของฉันไปแย่งเธอมาจากนายเอง”
ร่างโปร่งออกมาทุกสิ่งทุกอย่างเพราะเขาไม่อยากได้ยินว่ายังรักเหมือนหรือให้อภัย เขารับฟังคำเหล่านี้ไม่ได้เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับสิ่งนั้นอีกต่อไปแล้ว
“คนรัก”
“ใช่…ฉันมีคนรักอยู่แล้ว นายมันก็แค่ตัวละครตัวหนึ่งในฉากที่ต้องเข้าแสดงก็เท่านั้น”
ร่างสูงแค่นยิ้มที่ดูเหมือนกำลังรวดร้าว
“ผมหลงคิดมาตลอด ว่าเรารักกัน”
กันต์กวีสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะเชิดหน้าขึ้นก่อนจะยิ้มราวกับตัวเองกำลังกำชัยในสงคราม
“การแสดงของฉัน มันชั้นหนึ่งอยู่แล้ว อ๊ะ…ฉันคงต้องไปแล้ว ป่านนี้คนรักของฉันคงรอฟังผลแล้วล่ะว่าละครเรื่องนี้จบลงยังไง”
ร่างโปร่งเตรียมเดินออกมาจากบริเวณนั้นแต่มือใหญ่ก็คว้าข้อมือรั้งไว้เสียก่อน
“ทำกันถึงขนาดนี้แล้วคิดว่าผมจะปล่อยให้เดินจากไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอ”
“ปล่อยนะ”
กันต์กวีพยายามสะบัดมือออกจากการเกาะกุมแต่มือที่ราวกับคีมเหล็กก็บีบแน่นจนรู้สึกเจ็บ
“ละครมันยังไม่จบวี”
2BCon…
(มาอัพแล้วนะคับ :mc4:ช้าอีกตามเคย :laugh:เพิ่งสอบเสร็จไปหนึ่งวิชาก็แก้เครียดด้วยการเขียนนิยายที่เรียกว่าฉากนี้ออกจะซาดิสต์หน่อยๆ คาดว่าการเขียนต่อจากนี้อาจจะมีเลือดสาดกันได้ ฮ่าๆๆ อ่อ…ไนท์จะพยายามแต่งเอ็นซีนะคับ แต่อาจจะเอามาลงเย็นวันศุกร์หรือถ้าสมองลื่นไหลก็ค่ำๆพรุ่งนี้นะคับ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และทุกๆกำลังใจนะคับ ปล ฉากเอ็นซีต้องแล้วแต่ความเหมาะสมในตอนนะคับ อาจจะคราวหน้าหรือคราวต่อๆไป :pig4:)
:กอด1:
-
หมอดินจะผลิกมาเอาคืน วีไหมหล่ะทีนี้
ติดตามต่อไปค่ะ ^^
คนเขียนสู้ๆ นะคะ
-
:serius2: :serius2: :serius2:หมอดินจะออกแนวกักขังหน่วงเหนี่ยวแบบจำเลยรักมั้ยเนี่ย
-
เอ๊า แก้แค้นกันไปแก้แค้นกันมา แล้วก็จะต้องยิ่งรักกันมาก และต่างก็เจ็บปวดมาก ใช่ไหมคะตอนนี้อ่ะ
ช่วงบีบๆอารมณ์แบบนี้คงไม่เยอะนะคะน้องไนท์ (เพราะน้องบอกไม่มาม่านี่นา)
แล้วก็จะรอฉากสำคัญเหมือนผู้อ่านท่านอื่นๆค่ะ(เอ๊ะ..มีใครรอเหมือนดิฉันบ้างป่ะเนี่ย)
วิธีแก้เครียดของน้องไนท์ สุดยอดค่ะ... "เป็นสิ่งดีสองชั้นพลันปลื้มใจ แห่งผู้ให้และผู้รับสมถวิล"
หายเครียดแล้ว หวังใจให้น้องไนท์สมองปลอดโปร่งแจ่มใส วิชาที่จะสอบต่อไปทุกๆวิชา
ก็ขอให้ทำข้อสอบได้ลื่นไหล คะแนนดีๆเยอะๆทุกวิชานะจ๊ะ
-
nc สำควรมีทุกตอนนะคะ อิอิ
-
จะกลายเป็นจำเลยรักภาค ดิน-วี ไหมนะขอรับ ลุ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :z2:
-
สงสัยไรเตอร์คงเก็บกดมาจากข้อสอบ
ตอนนี้เลยกลายเป็นซาร์ดิสไปซะงั้น :laugh:
ว่าแต่หมอดินจะทำอะไรวี :haun4: :haun4:
-
รอตอนต่อไปครับ
o13
-
^^
-
สงสัยบทต่อไปมีเลือดสาดแน่ๆ
-
ชอบๆๆๆๆๆๆ แก้แค้นกันไปมาไม่จบไม่สิ้น :z1:
-
ชอบเรื่องนี้มากๆๆอ่าครัีบ
และที่สำคัญผมไม่พลาดฉากเด็ด :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:
-
อร๊างงงแอบค้างน่ะนะ
มาต่อเรวๆค้าบบบบบบ
-
แก้กันไปแก้กันมาพอดีจุก
-
nc สำควรมีทุกตอนนะคะ อิอิ
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ 555
-
-9-
หลังจากที่กันต์กวีถูกมือใหญ่จับข้อมือแน่นแล้วฉุดดึงให้เดินตาม มือเรียวก็พยายามจะดึงมือตัวเองออก
“ปล่อย…”
ต่อให้โวยวายหรือทุบตีอีกฝ่ายมากแค่ไหนก็ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย
“จะพาฉันไปไหน”
“เดี๋ยวก็รู้”
อีกฝ่ายตอบเสียงเย็นพร้อมรอยยิ้มที่ยากจะคาดเดาความหมายแต่ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“เทพ…ช่วยด้วย”
ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรต่อกษิดินทร์ก็ดึงโทรศัพท์ก่อนจะกดปิดเครื่องแล้วเก็บไว้กับตัวเอง เมื่อเดินมาถึงรถคันหรูก็เปิดประตูก่อนจะเหวี่ยงคนตัวบางกว่าเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง
เมื่อมาถึงที่คอนโดมือใหญ่ก็ฉุดดึงข้อมือเล็กให้เดินตาม แต่พอดื้อดึงก็ถูกออกแรงกระชาก
“โอ๊ย…เจ็บนะ”
“เจ็บ? มีความรู้สึกกับเขาด้วยเหรอ”
กันต์กวีสะอึกเมื่อถูกตัดพ้อตรงๆ แววตาร้าวรานราวกับจะสื่อความหมายว่าหมดสิ้นแทบทุกอย่าง ถึงแม้ว่าเวลาที่เขากับกษิดินทร์อยู่ด้วยกันจะเป็นแค่เพียงระยะเวลาสั้นๆแต่มันก็เป็นเหมือนช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาก็ว่าได้
“ดิน…คือ…”
ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรออกมาเสียงโทรศัพท์มือถือของกษิดินทร์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะ เมื่อกดรับอยู่ๆชายหนุ่มร่างสูงก็หน้าถอดสี มือไม้สั่นจนโทรศัพท์ตกลงบนพื้นพรมภายในห้องนั่งเล่นที่อพาร์ทเม้นต์
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
กันต์กวีเอ่ยถามด้วยความจริงใจไม่ได้ปั้นแต่งแต่อย่างใด เขารู้สึกเป็นห่วงเมื่อได้เห็นสีหน้าไม่สู้ดีเช่นนั้น มือเรียววางลงบนท่อนแขนแข็งแรงแต่มือใหญ่กลับปัดทิ้งอย่างไม่ใยดี ดวงตาคู่คมมองมาอย่างดุดันแต่นัยน์ตาคู่นั้นกลับวาววับไปด้วยหยาดน้ำตา
“แม่เสียแล้ว”
เหมือนเวลาจะหยุดลงทันทีที่ประโยคนั้นหลุดออกมา ร่างโปร่งน่าจะยิ้มหัวเราะเยาะ น่าจะรู้สึกดีแต่ทำไมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นแม้แต่น้อย
“วี…เสียใจด้วยนะ”
กษิดินทร์สูดหายใจเข้าปอดก่อนจะผลักอีกคนให้นั่งลงบนโซฟา
“ผมไม่โทษหรอกนะว่าเป็นเพราะวี เพราะแม่ผมป่วยมานานแล้ว ไม่เหมือนบางคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้น”
“วี…ขอโทษ”
หลังจากนั้นกันต์กวีก็รู้สึกผิดจนต้องไปช่วยงานศพจนถึงวันเผา แม้ว่าจะเคยเคียดแค้นสักเพียงไหนอย่างน้อยคนที่จากไปก็ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนรักคนสนิทของแม่อิงอรแถมยังมีอาวุโสมากกว่า จริงๆเขาไม่ควรที่จะทำอย่างนั้นลงไปเลย
เพราะความสะใจ…มันนำมาซึ่งความสูญเสีย
ชายหนุ่มย่อตัวนั่งลงจุดธูปเพื่อไหว้อำลาเธอเป็นครั้งสุดท้าย
“อโหสิกรรมให้ด้วยนะครับ คุณลัดดา”
หลังจากเสร็จงานกษิดินทร์ก็มีให้เพียงแต่ความเย็นชาเฉยเมย แม้ปากจะบอกว่าไม่โทษเขาแต่การกระทำก็ไม่ได้ต่างไปจากบทลงโทษเลยแม้แต่น้อย
หากถามว่าตอนนี้เขารู้สึกยังไง คงบอกได้คำเดียวว่า “เจ็บ” ที่หัวใจ
กันต์กวีรู้สึกเหนื่อยอ่อน เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์โทรหาเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่มี อดิเทพรับสายด้วยเสียงใสซึ่งก็ทำให้เขาคลี่ยิ้มได้
“ช่วงนี้เงียบหายไปเลยนะ ผิดปกติ …”
-อ่อ…พอดีงานยุ่งๆน่ะ-
ปลายสายตอบมาก่อนกันต์กวีจะได้ยินเสียงบางอย่างแว่วๆ
“มีคนอื่นอยู่ด้วยเหรอ ฉันหึงนะ”
ร่างโปร่งเย้าแหย่ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงโกรธอีกฝ่าย เพราะเขาเกลียดการถูกแย่งความสำคัญไปมากที่สุด แต่เดี๋ยวนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องเขากลายเป็นคนอารมณ์เย็นขึ้นเยอะ
-ไม่มีใครหรอก พอดีฉันเก็บลูกแมวจากข้างทางมาเลี้ยงน่ะ-
“เห…เลี้ยงแมว”
-อืม…เดี๋ยวต้องวางก่อนนะ พอดีออกมาซื้อนมให้เจ้าแมวจอมซนน่ะ-
“โอเค…ดูแลตัวเองด้วยนะ เป็นห่วง”
เมื่อวางสายเขาก็รู้สึกในอกวูบโหวงแปลกๆ เมื่อก่อนเพื่อนรักของเขาคนนี้ไม่เคยสักครั้งที่จะบอกวางโทรศัพท์ใส่เขา ที่ไม่อยากให้อดิเทพมีใครเพราะอย่างน้อยเขาจะได้มีคนๆนี้เป็นที่ยึดเหนี่ยวยามที่เคว้งคว้างไม่เหลือใครเช่นในเวลานี้
“หัวร่อต่อกระซิกกันเชียวนะ ดูท่าจะรักกันมาก”
ตั้งแต่ผู้เป็นมารดาจากไปกษิดินทร์ก็กลายเป็นอีกคน แข็งกระด้าง ก้าวร้าว อารมณ์ร้อน เขาไม่โทษที่อีกฝ่ายเปลี่ยนไปแต่โทษตัวเองที่เป็นต้นเหตุ
“ใช่…เรารักกันมาก”
มือใหญ่คว้าฉับที่ข้อมือก่อนจะออกแรงบีบแน่น
“รักกันมากนักใช่ไหม จะขอพิสูจน์สักหน่อย”
กษิดินทร์ยิ้มเย็นอย่างยากจะคาดเดาความหมาย มือใหญ่ที่จับยึดไว้แน่นยิ่งพยายามดิ้นหนีก็ยิ่งเจ็บตัวมากขึ้นเท่านั้น เจ็บ…เจ็บไปถึงใจจนอยากจะร้องไห้ออกมา
ทันทีที่มาถึงที่พักร่างสูงก็เหวี่ยงอีกคนไปกระแทกกับพนักอิงโซฟา ยังไม่ทันที่จะหายจุกเงาดำก็พาดบดบังแสงไฟอยู่เหนือร่าง ท่าทีคุกคามและนัยน์ตาวาวเป็นประกายทำให้กันต์กวีถดตัวหนีแต่มือใหญ่ก็ฉุดดึงข้อเท้าไว้ก่อนจะลากให้กลับมานอนอยู่ใต้อาณัติ
“เรายังไม่เลิกกัน ทำหน้าที่สักหน่อยก็ไม่เลว”
สิ้นคำเรียวปากบางก็เน้นจูบไปทั่วใบหน้าและลำคอ กันต์กวีได้แต่ดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการ มือเรียวใช้ฝ่ามือปัดไปโดนแก้มคนด้านบนจนเป็นรอยแผลถลอก กษิดินทร์ซี้ดปากด้วยความเจ็บแสบก่อนจะคลายปมเนคไท สะบัดออกก่อนจะมัดข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยกัน
“อย่านะดิน…”
กษิดินทร์ทำเพียงแค่แค่นยิ้ม
“อยากจะรู้จริงๆว่าระหว่างผมกับหมอนั่น ใครจะถึงใจกว่ากัน”
มือใหญ่ออกแรงกระชากสาบเสื้อจนกระดุมขาดกระเด็นเผยให้เห็นแผ่นอกขาวผ่องจนอดไม่ได้ที่จะโน้มใบหน้าลงฝากร่องรอยสีกุหลาบไว้ ปลายลิ้นสีสดไล้เลียไปตามผิวเนื้อและยอดอก ดูดเม้มพร้อมกับกัดเบาๆจะกันต์กวีต้องร้องคราง
แม้จะพยายามขัดขืนแต่ก็อดที่จะรู้สึกดีตามไปด้วยไม่ได้
เข็มขัดหนังถูกปลดออกตามมาด้วยการปลดตะขอและในที่สุดกางเกงผ้าสแลคก็ถูกปลดจนพ้นตัว ร่างสูงร่นตัวต่ำลงมาปลดพันธะการชิ้นสุดท้ายออก เขาแย้มยิ้มเมื่อเห็นว่าอารมณ์อีกคนก็กู่ไม่กลับแล้วเหมือนกัน
มือใหญ่ที่ลูบไล้เล้าโลมทำให้อีกคนหลับตาเคลิบเคลิ้มก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่ออยู่ๆถูกมือใหญ่จับแยกท่อนขาเรียวก่อนจะยกขึ้นพาดบ่า
“ของเคยๆอยู่แล้วไม่ต้องกลัวหรอกน่า”
สิ้นประโยคกันต์กวีก็ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด ท่อนเนื้อที่แทรกผ่านเข้ามาในตัวปราศจากการหล่อลื่นทำให้อีกคนน้ำตาร่วงพรู รู้สึกเหมือนร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆจนต้องร้องขอให้อีกคนเบาแรง
“ดิน…เบาหน่อย…ขอร้อง”
เหมือนคำร้องขอจะเป็นเพียงแค่ลมปาก ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ กษิดินทร์โถมแรงเข้าใส่ขยับกระชั้นถี่ ทั้งเร็วและแรงจนอีกคนนึกอยากจะกลั้นหายใจตายไปเสียตั้งแต่ตอนนี้
ม่านน้ำตาทำให้กันต์กวีมองสีหน้าของคนด้านบนไม่ออก เขาไม่รู้ว่ากษิดินทร์กำลังคิดอะไรอยู่ในใจ แต่หูก็ได้ยินเสียงทุ้มครางในลำคอด้วยความพึงพอใจ หากทำอย่างนี้แล้วจะเป็นการบรรเทาความเจ็บปวดในใจของอีกคนได้เขาก็ยินยอมน้อมรับแต่โดยดี
เสียงหายใจหอบกระชั้นบ่งบอกว่าผู้กระทำกำลังจะถึงขีดสุดของอารมณ์ ปลายลิ้นไล้เลียยอดอกลิ้นรสช่วงล่างก็ขยับถี่กระชั้นก่อนทุกอย่างจะหยุดนิ่งจนกระทั่งกันต์กวีจะรู้สึกอุ่นวาบที่ช่องทางด้านหลัง
ขณะที่สติกำลังเลือนรางกันต์กวีเห็นแววตาเศร้าแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มบางๆให้ก่อนจะปลายนิ้วแข็งแกร่งเกลี่ยเส้นผมชื้นเหงื่อไปให้พ้นจากดวงหน้า
หลังจากผ่านพายุรุนแรงกันต์กวีก็หมดสติไป
จนเชื่อว่าภาพสุดท้ายที่ได้เห็นนั้น…
เป็นเพียงแค่ภาพของ…ความฝัน
2BCon…
(มาอัพแล้วนะคับ :mc4: แหะๆ…ก็เอ็นซีเล็กๆน้อยๆกันไป ไนท์แต่งไม่ค่อยเก่งคงต้องพัฒนาอีกเยอะน่ะคับ ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยนะคับ :call: เอาเป็นว่าเอ็นซีออกมาซาดิสเพราะไนท์เพิ่งสอบเสร็จเหมือนเดิม เครียดคับเครียด :laugh: เหลือสอบอีกเพียงวันเดียวชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยก็จะจบลงแล้วคับ พบกันตอนหน้านะคับ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และทุกกำลังใจคับ :pig4:)
-
กด+ให้จ้า กับเอ็นซีตอนแรก
หมอดินให้อภัยวีเถอะนะ จะได้มีความสุขทั้งคู่
แหมอยากเห็นแมวของเทพจังจะน่ารักขนาดไหน555
-
มาเยี่ยมเรื่องใหม่ น้องไนท์ลงตั้งหลายตอน เพิ่งสังเกต :z3:
ยังไม่ได้เริ่มอ่านนะจ๊ะ
แอบมากระซิบคิดถึง ทัดกับรัน :laugh:
แล้วก็บวก 1 สำหรับเรื่องนี้เป็นกำลังใจกันก่อนจ้า :3123:
-
รอตอนต่อไปครับ
:L2:
-
NCออกมาซาดิสเพราะไนท์พึ่งสอบเสร็จ ตอนแรกนึกว่าเพราะไนท์ก็ซาดิส อิอิ
-
+1 ให้กับ nc ตอนแรก :mc4:
หมอดินกับวีเปลี่ยนไปเหมือนคนละคนเลย
-
^
^
แอบเข้ามาดันนิดนึงคับ ^^
จะรีบอัพให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะคับ ขอบคุณคับ
-
ฃอNCอีกสักตอนนะคะ อิอิ
-
:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:วีสู้ๆละกันนะ
-
:m25: จะสงสารใครดี เห้อออออ
อดิเทพหลงแมวจอมซนซะแล้ววว รอๆๆๆๆ o13
-
อ้ากกก เลือดพุ่งงงงงงงงง ..^^
-
นายดิน
แรงไปไหม :m31:
-
แล้วแบบนี้มันจะกลับมาคบกันดีๆไหวเหรอ
-
แปะคุณไนท์ค่ะ ไว้จะมาอ่านนะค้าา ขอโทษด้วยค่ะ
เรื่องก่อนเรายังอ่านไม่จบเลย ติดสอบอะค่ะ ช่วงนี้เลยแปะเค้าไปทั่วเลย ><
-
-10-
กันต์กวีลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงไออุ่นของแสงแดดที่กำลังอาบไล้ ทันทีที่ขยับกายก็เจ็บแปลบทั่วร่างจนต้องนิ่วหน้า มือเรียวกำแน่นเมื่อการพลิกตัวกลับมานอนหงายเป็นเรื่องที่ยากเหลือแสน นัยน์ตาคู่โศกเหลือบมองเห็นแผ่นหลังกว้างของคนคุ้นเคย
“กลับไปได้แล้ว”
เสียงทุ้มเอ่ยตัดบัวไม่เหลือใยทำให้อีกคนเคว้งคว้าง กษิดินทร์ทำแบบนี้เขาก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากพวกขายบริการเสียเท่าไหร่
“ดิน แต่ว่า...”
“บอกให้กลับไปไง”
น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยทำให้อีกคนน้ำตารื้น กันต์กวีค่อยๆขยับร่างกายโดยใช้ผ้าคลุมตัว มือเรียวคว้าเอาเสื้อผ้าที่ถูกโยนไปคนละทิศละทางมาถือไว้ไว้ในมือ แต่ยังไม่ทันที่จะเดินไปได้ไกลผ้าที่คลุมร่างอยู่ก็ถูกรั้งไว้โดยคนที่นั่งอยู่บนฟูก
เรียวปากอิ่มยกยิ้มขึ้นรู้สึกดีที่อีกคนรั้งตนไว้แต่แล้วทั้งร่างก็ทรุดลงไปนั่งกองบนพื้นเมื่อถูกมือใหญ่ออกแรงกระชาก
“อย่าอ้อยอิ่งได้ไหม”
เมื่อไม่ทันใจกษิดินทร์จึงคว้าข้อมือลากให้อีกคนเดินตาม ด้วยความเจ็บปวดทำให้ขาเรียวอ่อนเปลี้ย ภายในใจร้าวรานจนต้องกลั่นน้ำตาออกมา
“รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ”
หลังจบประโยคเสียงประตูก็ปิดลงดังโครมใหญ่ มือเรียวท้าวลงที่อ่างล้างหน้าเพื่อพยุงตัว ภาพสะท้อนที่กระจกเงาทำให้มือเรียวต้องไล้ไปตามรอยสีกุหลาบที่ถูกสลักฝังไว้ตั้งแต่ต้นคอจนถึงแผ่นอก บางบริเวณก็เป็นจ้ำสีคล้ำกว่าที่อื่นตามความรุนแรง
กันต์กวีหัวเราะทั้งน้ำตาราวกับกำลังเย้ยหยันตัวเอง เขาเข้ามาหากษิดินทร์ก็เพื่อแก้แค้นแต่ด้วยความดีทำให้หลงรักจนหมดใจ แม้ว่าเขาจะไม่เคยพูด ไม่เคยบอกก็ตาม พอมาในวันนี้เขาแก้แค้นได้สำเร็จแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความว่างเปล่าที่แสนเจ็บปวด
ไม่มีอีกแล้วมือที่คอยตระกองกอดอย่างถนอม ปราศจากแววตาอบอุ่น ไร้ซึ่งถ้อยคำห่วงใย
แต่จะโทษอะไรได้ ในเมื่อทุกอย่างเขาเป็นคนเริ่มเอง
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จร่างโปร่งก็ค่อยๆเดินอออกมาอย่างทุลักทุเล นัยน์ตาคู่โศกมองแผ่นกว้างให้เต็มตาอีกครั้งก่อนจะเปิดประตูห้องเพื่อที่จะก้าวออกไปแต่เขาก็จำเป็นที่จะต้องทิ้งถ้อยคำบางไว้เผื่อว่าจะไม่มีโอกาสได้พูด
“มีคำหนึ่งที่วีอยากจะพูด คำที่ออกมาจากใจจริง...วีรักดินนะ แล้วดินก็เป็นคนแรกของวี”
ทันทีที่เอ่ยจบประโยคก็ปิดประตูลงก่อนจะเดินจากมาทั้งน้ำตา เมื่อไร้ซึ่งหนทางจะเดินต่อ คนเดียวที่เขานึกถึงในตอนนี้ก็คงไม่พ้น...
...อดิเทพ...
ร่างโปร่งนั่งรถแท็กซี่มายังสถานที่คุ้นเคย แต่เมื่อมาถึงหน้าบานประตูเขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของคน 2 คนดังลอดออกมา กันต์กวีกดออดทันทีด้วยความอยากรู้
“วี...”
อดิเทพทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูรับอีกคนเข้ามา ร่างโปร่งไม่ทันได้สังเกตอะไรก็เดินไปทรุดตัวนั่งลงที่โซฟาทันที
“เป็นอะไรหรือเปล่า สีหน้าดูไม่ดีเลย”
ร่างสูงใหญ่รีบเดินเข้ามาถามไถ่อาการ มือใหญ่จับเนื้อจับเนื้อตัวดูก็พบว่าอีกคนตัวรุมๆ
“เจฟ...ขอยาแก้ไข้ แล้วก็น้ำอุ่นๆสักแก้วหน่อยสิ”
เมื่อกันต์กวีได้ยินชื่อของอีกคนที่อยู่ด้วยในห้องจึงหันไปมองก็พบกับเด็กหนุ่มตัวเล็กที่มีเสี้ยวหน้าลูกครึ่งยืนมองอยู่ แต่พอได้รับคำสั่งก็รีบกุลีกุจอทำตาม
“ใคร...”
อดิเทพกระแอมไอเล็กน้อย
“เด็กที่ฉันจ้างมาดูแลอพาร์ทเม้นต์น่ะ”
“แน่ใจเหรอว่าแค่นั้น”
“ไม่เอาน่าวี นายก็รู้นี่...สำหรับฉันแล้วไม่มีใครแทนที่นายได้”
เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะวางมือใหญ่ลงบนเรือนผมเส้นละเอียด แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างหล่นตกแตก
“ขอโทษครับ ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆ เดี๋ยวผมจะไปเอามาให้ใหม่นะครับ”
เด็กหนุ่มรีบเอ่ยขอโทษขอโพย เห็นหน้าตาและท่าทางน่าสงสารใครจะไปโกรธลง
“ชื่ออะไร เป็นใครมาจากไหน”
“ชื่อเจฟ เจฟฟรี่น่ะ พอดีวันนั้นฉันพาแฟนเก่าของหมอดินไปดื่มกาแฟแล้วเธอวีนจนเด็กคนนั้นต้องถูกไล่ออก ฉันเห็นว่าฐานะที่บ้านของเด็กนั่นลำบากบวกกับแม่ป่วยออดๆแอดๆก็เลยอยากช่วย”
“แค่นั้น?”
“ใช่...”
กันต์กวีเหล่ตามองอย่างไม่เชื่อ อดิเทพเลยขยับตัวเข้ามาใกล้ก่อนจะยิ้มหวานให้แต่แล้วท่าทีก็เปลี่ยนไปเมื่อเห็นรอยสีกุหลาบ ไม่ใช่แค่เพียงรอยเดียว แสดงว่า...เกิดเรื่องขึ้นอย่างแน่นอน
“วี...เกิดอะไรขึ้น ฉันเห็นรอย...”
ร่างโปร่งรีบเอามามือตะปบปิดไว้
“ไม่มีอะไรหรอก”
“ฉันไม่ใช่เด็ก 2 ขวบนะ ถึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฝ่ายนั้น...หมอดินใช่ไหม”
กันต์กวีพยักหน้ายอมรับก่อนจะก้มหน้าลง อดคิดเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้ เมื่อเห็นว่าร่างโปร่งกำลังเศร้าอดิเทพจึงดึงตัวอีกคนเข้ามากอดปลอบเป็นจังหวะเดียวกับที่เด็กหนุ่มเดินออกมา ใบหมดจดฉายแววตกใจก่อนจะรีบเดินเอายาแก้ไข้และแก้วน้ำอุ่นมาให้
“ผมจะออกไปซื้อของที่มินิมาร์ทสักครู่ จะฝากซื้ออะไรไหมครับ”
เด็กหนุ่มเอ่ยถามก่อนจะก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองภาพตรงหน้า
“ฉันกับวีไม่เอาอะไรหรอก ว่าแต่นายเถอะ จะออกไปซื้ออะไร”
“ซื้อ...ซื้อบัตรเติมเงินครับ”
“ไม่อนุญาต ยังอยู่ในเวลางาน คิดจะอู้เหรอไง”
เด็กหนุ่มถลึงตาใส่แต่ก็ต้องสงบเสงี่ยมลงเมื่อเห็นกันต์กวีมองมา
“ปล่อยน้องเขาไปเถอะ เราจะได้ทำอะไรกันสะดวกๆไง”
กันต์กวีเอ่ยกระซิบแนบหูอดิเทพก่อนจะคลี่ยิ้มยั่วมาให้เด็กหนุ่ม เจฟฟรี่ก้มหน้าหลบตายิ่งทำให้รู้สึกมากขึ้นไปอีก
“เทพ...กอดฉันหน่อยสิ นะๆ...”
เด็กหนุ่มยิ่งหน้าแดงเถือกเมื่อนึกว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น
“ผมขอตัวนะครับ”
เมื่อเอ่ยจบประโยคก็รีบวิ่งถลันตัวออกไปทันที กันต์กวีหัวเราะลั่นจนท้องแข็ง
“โอ๊ย...ปวดท้อง ได้หัวเราะในรอบหลายปีนะเนี่ย เด็กนี่ซื่อชะมัด”
“ติดนิสัยขี้แกล้งมาจากใครเนี่ย”
“นายล่ะมั้ง ฮ่าๆๆ...”
“น้อยๆหน่อย นั่นไม่ใช่นิสัยของฉันนะ”
อดิเทพเอ่ยปัดให้พ้นตัว
“อ่อ...เห็นบอกว่าเก็บลูกแมวมาเลี้ยง ไหนเหรอ...อยากเห็นจัง”
เจ้าตัวไม่ตอบทำเพียงยิ้มๆ นั่นทำให้กันต์กวีเริ่มระแคะระคายสงสัย
“อย่าบอกนะแมวที่ว่าชื่อเจฟน่ะ”
อดิเทพหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืนมองออกไปนอกหน้าต่างบานกว้าง
“เหมือนไหมล่ะ”
“เด็กนั่นจริงด้วยสินะ ท่าทางจะถูกใจมาก”
“ถูกใจ ไม่ได้หมายความว่าจะเข้ามาอยู่ในใจนะ”
“เทพ...นายเป็นอิสระแล้ว อยากจะรักใครก็รักไปเถอะนะ ไม่ต้องห่วงฉัน”
“วี...ไม่มีใครแทนที่นายได้จริงๆนะ”
“ก็ไม่ต้องให้ใครแทนใครสิ”
“แต่นายพิเศษที่สุดสำหรับฉัน”
“ฉันรู้...ขอบคุณมากนะ นายเองก็พิเศษที่สุดสำหรับฉันเหมือนกัน”
กันต์กวีเอ่ยก่อนจะลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวกลับ อดิเทพออกมายืนส่งที่หน้าห้อง
“เทพ...เจฟน่ะ น่ารักนะ อย่าปล่อยให้หลุดมือไปล่ะ”
ชายหนุ่มร่างโปร่งเอ่ยบอกก่อนจะยิ้มให้พร้อมกับเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อให้สูงจนหอมแก้มร่างสูงงใหญ่ได้
“ไปล่ะ บาย...”
กันต์กวีปิดประตูก่อนเดินมาตามทางเดินที่เริ่มจะสลัวลงเพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว ขณะที่กำลังเดินอยู่นั้นอยู่ๆก็ถูกฉุดกระชากแขนอย่างแรงจนร่างเซไปปะทะกับแผ่นอกกว้าง กลิ่นกายคุ้นเคย ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเป็นกษิดินทร์
“ดูท่าจะหายดีแล้วนี่ ตอนเช้าอยู่กับผม ตอนเย็นอยู่กับผู้ชายอีกคน ไม่รู้จักพอจริงๆ”
ร่างสูงโปร่งโกรธจัดจนหน้าร้อนผ่าว มือเรียวเงื้อขึ้นก่อนจะฟาดลงเต็มซีกแก้มอีกคน
“ดูถูกกันเกินไปแล้วนะดิน”
“สงสัยต้องพิสูจน์หน่อยแล้วว่าดูถูกหรือดูผิดกันแน่”
มือใหญ่ราวกับคีมเหล็กบีบข้อมือเล็กแน่นก่อนจะออกแรงฉุดกระชากให้เดินตาม กันต์กวีได้แต่พยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการ เขาจะยอมตกเบี้ยล่างของคนๆนี้อีกแล้ว จะไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง
แต่เขาลืมไปว่า...
ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอยเดิมเสมอ
2BCon...
(มาอัพแล้วนะคับ เย่ๆๆ ตอนหน้า NC อีกครั้งตามคำขอนะคับ ไนท์แต่งไม่ค่อยเก่งเลยลงทุกตอนไม่ไหว 555+ ก็เขินบ้างอะไรบ้าง ^^ ไนท์มีสอบอีกทีวันพุธช่วงนี้ก็เตรียมอ่านหนังสือกันไป ส่วนวันศุกร์ที่จะถึงนี้ก็จะไปจีนอีก จะพยายามลงให้อ่านโดยเร็วที่สุดนะคับ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และการติตตามนะคับ)
มีถามเสริมคับ ถ้านิยายเรื่องใหม่เป็นพลอทแบบ Incest มันจะผิดศีลธรรมมากไปไหมอ่ะคับ คืออยากถามความคิดเห็นของทุกๆคนก่อนอ่ะคับ จริงๆมันเป็นแค่นิยายก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะโอเคไหม รบกวนช่วยด้วยนะคับ
-
อร๊างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆตอนหน้าncอีกแล้ว อิอิ
ว่าแต่แนวIncest มันก็น่าสนดีนะคะ แต่มันก็มองได้หลายด้านเนอะ ไม่งั้นก็เอาแบบโป๊กแตกตอนท้าย พี่ซายอาจจะไม่ใซ่พี่จริงๆ อะไรประมาณนั้น ก็ได้แต่มันก็จะไปกดดันตรงตัวละครลามไปทึงคนเฃียน อิอิ
ยังไงก็เซียร์ๆจ้า อยากอ่านๆๆๆ
-
จัดมาเลยน้องไนท์ พี่่อ่านได้หมด ทุกแนว
+1 กับฉากอัศจรรย์ของไนท์ คิๆ
+ไม่ได้แหละไนท์ ยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง 555
-
หึๆๆๆๆๆๆๆแม่ลูกร้ายพอกัน
จริงอยู่วีอาจเข้าใจผิด ว่าไอ้ดินเป็นคนทำ แต่เมื่อรู้ความจริงแล้ว ทำไม่ๆปล่อยไปตามกรรมของแต่ละคนละ
แล้วแม่มันร้ายจริงๆหรือเปล่า จากที่อีกคนต้องการแก้แค้น ตอนนี้มากลับกัน
อีกคนนึงจะแก้แค้นกับมาหลงรัก เวร
อีกหลงรักกลับมาแก้แค้น
ทำไปทำมาแก้ผ้าแทนเฉยเลย ดูๆไม่แก้รอบเดียวแหง
อาจจะได้แก้กันหลายรอบงานนี้
ว่าไงน้องวี เต็มใจรึเปล่าอ่ะ
-
รอ NC อย่างตั้งใจ โฮกกกก :-[
-
ทั้งรัก ทั้งแค้นจริงๆ หมอดิน...
รีบมาต่อนะคะ อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อ..NC ตอนหน้าอย่ารุนแรงมากนะ เค้าสงสารนายเอกอ่ะ
:pig4:
-
ออกแนว เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษชั้นใย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองโกรธ ฮ่าๆๆ
-
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อครับ
:z1:
-
อีพี่ดิน :angry2: :angry2: :angry2:มันจะมากไปแล้วนะ
-
ชอบคู่อดิเทพกับเจฟ รอลุ้นคู่นี้อยู่ค่ะ อิอิ
แบบว่าคุณหมอดินเปลี่ยนไปเป็นอีกด้านเลย
เหมือนที่วีเคยบอกว่าคนมีสองด้าน
แบบว่าอีกด้านของหมอดินมาแนวโอ้ น่ากลัว
:serius2:
-
หัดลืมตาดูโลกบ้าง หมอดิน
-
กด+ให้จ้า รออ่านเอ็นซีตอนหน้านะ
หมอดินก็ร้ายนะเนี่ย ใจแข็งซะมัด
เป็นกำลังใจให้ไนท์ด้วยนะ
-
มาอีกทีเ้ค้ามีอะไรกันไแล้ว...แอร้ว...
สงสารแมวน้อย คงทำอะไรไม่ถูก 555
รออ่าน nc น้อยๆ (รึเปล่า) ตอนหน้าจ้า
-
ท่าทางเทพจะต้องเลี้ยงแมวน้อยไปอีกนานแระ แล้วไปแกล้งเจฟแบบนั้น ป่านนี้แอบไปนั่งร้องไห้อยู่ไหนแล้วเนี่ย
ดินกับวีก้อคงต้องปรับความเข้าใจกันอีกหลายรอบ เพราะต่างก้อสร้างแผลในใจกันไว้เยอะ
รออ่านนะ
-
คุณหมอเปลี่ยนไป :z1: จากนี้ไปคงจะเปลี่ยนคนแก้แค้นใหม่
วีก็นะ5555555 ลองใจแมวน้อยของเทพเหรอ สงสารน้องเจฟ ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
สนุกมากค่าาาารออ่านต่อนะค๊าาาา o13
-
จำเลยรักแท้ๆ
-
-11-
หลังจากที่กษิดินทร์ลากพาอีกคนมายังห้องพักแล้วนั้นก็ปล่อยมือของกันต์กวีเป็นอิสระก่อนจะย่างสามขุมเดินเข้าไปหาร่างที่กำลังถอยตัวหนี
“จะหนีไปไหน”
เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนจะคว้าตัวอีกคนไว้ก่อนจะสวมกอดรัดจากทางด้านหลัง เรียวปากไล้ขบเม้มไปตามซอกคอฝังรอยรักไว้แต่กันต์กวีก็ผละตัวออกมา
“ฉันจะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างของนายอีกต่อไปแล้ว”
เมื่อเอ่ยจบประโยคกษิดินทร์ก็เหยียดยิ้ม
“ก็ไม่ได้จะให้เป็นเบี้ยล่างนี่”
สิ้นถ้อยคำมือใหญ่ก็รั้งข้อมือเล็กก่อนจะดึงร่างโปร่งปลิวตามแรงจนเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน ใบหน้าคมเข้มโน้มเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจก่อนที่เรียวปากอุ่นจัดจะแนบลงบนกลีบปากอิ่ม
กันต์กวีขัดขืนไม่ยอมเปิดช่องว่างให้เรียวลิ้นอีกคนได้ลุกล้ำแต่เมื่อถูกมือใหญ่ปัดผ่านยอดอกก็ร้องครางจนกลายเป็นการเปิดช่องทางให้กษิดินทร์กวาดชิมรสหวานจนร่างโปร่งอ่อนระทวยจนยืนทรงตัวแทบไม่อยู่จนต้องซบลงบนแผ่นอกกว้าง
ความอ่อนหวาน อ่อนโยนละมุนละไมต่างจากครั้งแรกล่อลวงให้กันต์กวีติดบ่วงอยู่ในห้วงเสน่หา ดวงตาคู่คมฉายแววอบอุ่นให้ความรู้สึกคุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง ท่อนแขนเรียวยกขึ้นโอบรอบคอไม่อยากให้อีกคนห่างไปไหน
“วีรักดิน มีดินคนเดียว อย่ารุนแรงกับวีเลยนะ”
เจอน้ำเสียงออดอ้อนชายหนุ่มร่างสูงก็แทบใจอ่อนยวบ จริงอยู่คราวที่เขาทำเกินกว่าเหตุแต่ด้วยเพราะอารมณ์หึงหวงทำให้ต้องลงเอยแบบนั้น
อยากจะเริ่มต้นใหม่...โอกาสนั้นยังมีอยู่อีกหรือเปล่า
“เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะดิน”
กันต์กวียอมลดทิฐิเอ่ยบอกออก เขาเพิ่งรู้ว่าศักดิ์ศรีและทิฐิรังแต่จะทำให้ทุกอย่าเลวร้ายลง ลดละทิ้งไปบ้างคงไม่ตาย
กษิดินทร์ไม่ได้ให้คำตอบแต่ท่อนแขนแข็งแรงกลับรั้งเอวบางเข้ามาโอบอุ้มก่อนจะพามายังเตียงนอนที่ตั้งอยู่กลางห้องกว้าง
ทันทีที่แผ่นหลังสัมผัสกับเนื้อผ้าละเอียดบนฟูกนุ่ม แขนเรียวก็โอบรอบคอรั้งใบหน้าคมลงมาเพื่อแนบจูบหวานลึกซึ้งก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน กันต์กวีปลดเสื้อของอีกคนให้พ้นจากตัวก่อนจะโยนไปอย่างไม่ใส่ใจทิศทางซึ่งไม่ต่างจากอีกคนที่ทำเช่นเดียวกัน
เมื่อร่างเปลือยเปล่า แววตาคมที่เต็มไปด้วยความปรารถนามองมาตรงๆอย่างไม่ปิดบังทำให้กันต์กวีหน้าร้อนผ่าว เมื่อหลบสายตาก็ถูกจับใบหน้าให้กลับมาสบตา กษิดินทร์โน้มใบหน้าลงซุกไซ้ซอกคอ กดเม้มฝากรอยสีจางๆก่อนจะไล้เรียวปากแต่งแต้มระบายสีอ่อนไปทั่วแผ่นอกขาว
ปลายลิ้นสีสดไล้เลียเน้นยอดอกเป็นจังหวะเดียวกับที่มือใหญ่เลื่อนต่ำลงสัมผัสส่วนแข็งขืน แผ่นอกบางหยัดขึ้นทันทีที่ความรู้สึกวาบหวามแล่นผ่านไปทั่วร่างกาย สะโพกมนขยับขึ้นลงสอดคล้องกับการชักนำ ดวงตาคู่โศกปรือลงเมื่อความปรารถนาเข้าครอบงำ
มือเรียวจิกกำลงบนผืนผ้าปูจนยับย่นเมื่ออารมณ์ใกล้ถึงขีดสุด ระหว่างที่กำลังล่องลอยจนเกือบจะสุดทางก็มีอันต้องดิ่งวูบลงเมื่อทั้งริมฝีปากและมือใหญ่ละจากไป
“ดะ...ดิน...ได้โปรด”
กษิดินทร์เลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเองก่อนจะมองไปที่อีกคน
“มาสิ...”
ร่างสูงเอ่ยก่อนจะฉุดมืออีกคนให้ลุกขึ้นมานั่งก่อนตัวเองจะเป็นฝ่ายลงไปนอนแทนและไม่ลืมที่จะคว้าร่างโปร่งเข้ามาใกล้ก่อนจะให้กันต์กวีเป็นฝ่ายคร่อมอยู่ด้านบน
“ในเมื่อวีไม่อยากตกเป็นเบี้ยล่าง ก็เชิญตามสบาย”
กันต์กวีหน้าแดงเถือกด้วยความรู้สึกอับอายแต่อารมณ์ที่กำลังจะระเบิดอยู่รอมร่อทำให้ลืมสิ่งเหล่านั้นไปหมดสิ้น มือเรียวชักนำส่วนอ่อนไหวของคนที่นอนอยู่เบื้องล่างให้แข็งขืนก่อนจะหยัดตัวขึ้นและค่อยๆขยับตัวกดน้ำหนักลง
ทันทีที่ถูกสอดใส่เข้ามาคิ้วเรียงตัวสวยก็ขมวดเข้าหากันแน่นก่อนจะพรูลมหายใจยาวเมื่อรับความเป็นตัวตนของอีกคนเข้ามาได้จนหมดสิ้น
กษิดินทร์กัดฟันแน่นเมื่อถูกความคับแคบและอุ่นร้อนโอบล้อมจนความปรารถนาแทบทะลักทลาย ยิ่งเมื่อร่างด้านบนขยับสะโพกขึ้นลงไปมาทำให้มือใหญ่ต้องคว้าเนินเนื้อที่สะโพกมนเพื่อช่วยเร่งจังหวะขยับให้เร่าร้อนรุนแรงยิ่งขึ้น
“อา...วี...ดี...ดี...อือ...”
เสียงทุ้มเอ่ยครางในลำคอด้วยความพึงพอใจ แทบทุกสัดส่วนเครียดขมึงตึงก่อนจะบรรลุความปรารถนาก็คว้าต้นคอของร่างที่ขยับอยู่ด้านบนเข้ามาแนบจุมพิต ช่วงล่างก็ขยับรัวเร็ว เร็วขึ้นจนกระทั่งทุกอย่างจะหยุดนิ่งเมื่อมือใหญ่คว้าร่างโปร่งมากดกอดแน่นพร้อมกันนั้นกันต์กวีก็รู้สึกอุ่นวาบไปทั่วช่องท้อง
ลมหายใจหอบระรัวก่อนสองร่างจะทิ้งตัวลงนอน กันต์กวีใช้แผ่นอกกว้างหนุนนอนฟังเสียงหัวใจเต้นระทึก ปลายนิ้วแข็งแรงเกลี่ยปอยผมสีเข้มให้พ้นดวงหน้าหมดจดก่อนจะแนบจุมพิตลงบนหน้าผากด้วยความรักใคร่
พอกันที...
นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป “ความแค้น” จะยุติลงเสียที
เขาจะไม่ปล่อยให้อะไรก็ตามมาทำลายความสุขของเขาทั้งสองคนอีกแล้ว
หลังจากที่เด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้องของอดิเทพแล้วนั้นก็เดินเตร็ดเตร่ตามทางไปเรื่อยเปื่อย ในใจก็เฝ้าครุ่นคิดไปต่างๆนาๆว่าภายในห้องสี่เหลี่ยมนั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกหดหู่
“เขาจะทำอะไรกันมันก็ไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย”
เสียงใสเอ่ยก่อนจะเดินไปเรื่อยๆ ก่อนจะยกแขนขึ้นมาเพื่อจะดูนาฬิกาแต่ปรากฏว่าท่อนแขนว่างเปล่าเพราะของที่เคยติดตัวตลอดพังเสียหายไปแล้ว
“ผ่านไปหลายชั่วโมง คงเสร็จธุระกันแล้วมั้ง”
เอ่ยบอกกับตัวเองก่อนจะถอนใจ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ภาพคนตัวโตตระกองกอดอีกคนไว้ในอ้อมแขน ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกริษยาอยู่ลึกๆ
อ้อมแขนนั้นแลดูอบอุ่นจนเขาอยากเป็นฝ่ายถูกกอดแต่ก็รู้ว่าคงไม่มีวันนั้น
“จะเศร้าไปทำไมวะไอ้เจฟ นั่นมันความสุขของเจ้านายนะเว้ย”
ทันทีที่เดินมาถึงห้องของอดิเทพเด็กหนุ่มก็เอาหูแนบกับบานประตูเพื่อฟังเสียงแต่ก็ต้องเซถลาไปด้านหน้าเมื่ออยู่ๆคนจากอีกด้านของประตูของเปิดออกมา เมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังเสียการทรงตัวร่างสูงก็ยื่นมือไปรั้งตัวไว้
เด็กหนุ่มรีบผละตัวออกทันทีก่อนจะยืนก้มหน้าซ่อนริ้วสีแดงจากๆบนผิวแก้มบางไว้
“หายไปไหนตั้งนาน พี่กำลังจะออกไปตามหาอยู่เนี่ย”
“ก็บอกแล้วไงครับว่าไปซื้อของ”
“เด็กโง่...ซื้อของอะไรไม่เห็นมีสักถุง”
“ซื้อแล้ว กินหมดแล้ว”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะยกมือใหญ่ขึ้นลูบเรือนผมอ่อนนุ่มสีคาราเมล
“ผมไม่ใช่เด็กนะ”
มือเล็กรั้งมือใหญ่ไว้ อดิเทพหัวเราะในลำคอก่อนจะกอดคอตัวส่วนสูงน้อยและพากันเดินเข้ามาในห้อง
“คนรักคุณไปแล้วเหรอ”
“สนใจจริงนะ”
“ก็เพราะเขาเป็นคนรักของคุณนี่นา เลยอยากรู้”
“เขาไปแล้วล่ะ มีคนมารับน่ะ”
“คนรักของคุณซะเปล่า ทำไมไม่ไปส่งเขาล่ะ ถ้าผมมีแฟนแบบคุณนะรับรองได้เลิกกันแน่”
“จริงเหรอ งั้น...มาลองเป็นแฟนกันไหม”
เด็กหนุ่มหน้าเหวออ้าปากค้าง เจอประโยคเด็ดจังๆเข้าไปทำให้น้ำท่วมปาก พูดไม่ออกบอกไม่ถูก
“แต่คุณวี”
“ฉันกับวีเราเป็นเพื่อนสนิทกัน เรียกพี่น้องเลยก็ว่าได้ ฉันแค่อำนายเล่นไม่คิดว่าจะจริงอะไรขนาดนั้น”
อดิเทพสื่อความหมายถึงเรื่องหลังจากที่เด็กหนุ่มเดินออกไป แต่เจฟฟรี่กลับคิดว่าที่แท้เขาก็แค่โดนเย้าแหย่เล่นเรื่องขอเป็นแฟน
“ใช่ครับ มันก็แค่เรื่องล้อเล่น”
นัยน์ตาสีจางอ่อนแสงลงจนอีกฝ่ายต้องเดินเข้าไปใกล้และช้อนคางให้ใบหน้ามนเงยขึ้น
“เป็นอะไรไปอยู่ๆก็เงียบ ไม่สบายเหรอ”
มือใหญ่วางมือลงบนหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ ร่างกายก็ปกติดีนี่นา
“วันนี้ผมรู้สึกเหนื่อยๆ ขอตัวกลับก่อนะครับ”
เมื่ออีกคนหันหลังเตรียมจะเดินห่างออกไป มือใหญ่รั้งไหล่บอบบางไว้ก่อนจะกอดเด็กหนุ่มจากทางด้านหลัง ริมฝีปากหยักบางแนบกับใบหู
“คืนนี้ อยู่กับพี่เถอะนะ”
2BCon...
(มาอัพแล้วนะคับ ^^ ไม่ว่าจะทำอย่างไร NC ของไนท์ก็ยังไม่พัฒนา เรียกได้ว่าไม่กระดิกเลยมากว่า 555+ :laugh:หากทำให้ทุกท่านหมดอารมณ์ก็ขออภัยนะคับ มือใหม่หัดเขียน NC 555+ ขอขอบพระคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และการติดตามนะคับ วันที่ 4 นี้ไนท์จะไปจีนแล้ว หวังว่าที่นั่นจะเล่นบอร์ดได้ แล้วจะรีบอัพตอนต่อไปนะคับ :pig4:)
-
Ncฃองไนท์พัฒนาแล้วนะคะร้สึกได้ด้วยตัวเองจริงๆค่ะ อิอิ
-
อ๊ายยย เขิลลล
สุดท้ายหมอดินกับวีก็ไม่มีความแค้นอีกต่อไปแล้วว
ต่อไปนี้ก็จะเหลือแค่ความหวานเท่านั้น :-[ :-[
ว่าเจฟเป็นยังไงเนี่ยยย เทพบอกให้อยู่กับเค้าด้วยอ่ะ :z1: :z1:
-
เข้ามาอีกทีเค้ารักกันแล้ววววว กรี๊ดดด
ดีจัง เลิกแก้แค้นสักที รักกันได้เป็นเรื่องดีเนอะ...อิอิ
รออ่านต่อไปจ้า....
-
ตามมาอ่านค่ะ
หมอดินกับวีจะดีกันจริงๆแล้วใช่มั้ยคะ
ดีจังเลย
เทพเริ่มรุกน้องเจฟแล้วสินะคะ^^
-
น้องไนท์จ๊ะ อย่ากังวลไปกับการเขียนบทNCเลยจ้ะ
วันนี้ก็ถือว่าเขียนได้OKแล้วนะ เป็นกำลังใจให้จ้า
เฮ้อ.. โล่งใจกับดินและวี ที่จะเลิกเจ้าคิดเจ้าแค้นกันซะที
คนที่มีแต่ความแค้นในใจ จะเป็นคนที่มีทุกข์ อยากสุขต้องละแค้น
-
เขียนได้ดีแล้วล่ะครับ
ไปจีน อย่าลืมมาอัพนะครับ
:pig4:
-
ค่อยยังชั่วหน่อย นึกว่าจะเป็น NC เลือดสาด เสียน้ำ...ตา ซะแล้ว
รอลุ้นคู่เจฟกับเทพอยู่นะจ๊ะ :pig4:
-
ไฟแค้นเผาไหม้หมดเชื้อ แต่ไฟรักกลับลุกโชนแจ่มชัดในหัวใจ บทอัศจรรย์ เบาๆ นุ่มนวลชวนเคลิบเคลิ้มน่าหลงไหลแบบพอดีและลงตัวแล้วค่ะ (ถ้าอยากเห็นแบบโจ๊งครึ่มคงไปหาดูเองได้ตามจีวี555)
-
^^
-
เขินเทพกับเจฟมากกว่าดินกะวีซะอีก 5555
คืนนี้ อยู่กับพี่นะ อร๊ายยย >.<
-
หมอ อย่าหลอกวีนะ
-
:L1:
-
ในที่สุดวีกับดิน ก้อยอมลดละเลิกทิฐิกันเสียที จะโกรธแค้นกันไปก้อทรมาณตัวเองและคนที่เรารักเปล่าๆ อะไรที่ปล่อยให้ผ่านไปได้ก้อให้มันผ่านไปเถอะค่ะ
ส่วนเจฟ คืนนี้ หุ หุ คืนนี้ จะรอดมั้ย
-
:man1: ญ่ากอดคนเขียน
ชอบอ่ะแนวนี้
นานๆมีที
ชอบแบบดราม่าแก้แค้นแต่ขอนายเอกแรงๆเป็นตัวเดินเรื่อง ชอบจิงๆ
แล้วที่ชอบอีกอย่างคือ เดินเรื่องไวดี สนุก ไม่อืด เพราะแนวนี้ถ้าเดินช้าจะอืดทันที 555
ช๊อบชอบ
หมอดิน-วี จะเป็นไงต่อน๊า
เทพ-เจฟ อิอิ น่ารักก
+1 จร้า
-
โอ๊ยน่ารัก
-
เขินอ่าาาาา :-[ แต่จะหวานได้สักกี่ตอนอ่าาาาาาาาาา :เฮ้อ:
หมดแค้นกัีนก็ดีแล้วเนาะ :กอด1:
-
:-[เริ่มจะมีความสุขกันแล้ว
รอคู่เจฟกับเทพ จะหวานกันมากแค่ไหน
-
เพิ่งมาอ่านคร้าบบบ อยากอ่านต่อมากมาก
วีทำให้ดินเปลี่ยนไป แต่ก็เพราะความแค้นที่มีทำให้วีอยากแก้แค้น
ทำไมดินไม่เข้าใจบ้าง ดินไม่ใช่วีดินไม่รู้หรอกว่าวีเจ็บแค่ไหน
เค้าสำนึกผิดแล้ว ยอมรับว่ารักดินแล้ว จะแก้แค้นกันอีกทำไม
ขอให้ดีกันให้ตลอดนะ ไม่ใช่แก้แค้นกันอีกนะ
**************************************
พี่เทพเริ่มชอบน้องเจฟแล้วสิ คงไม่รู้สิว่าเจฟแอบมองตัวเองนานแล้ว
คริคริ ขอให้สมหวังนะ
-
ดีกันแล้วจริงๆๆใช่ไหม คุ๋วีกะดินอ่ะ
แล้ว......."คืนนี้ค้างกับพี่น่ะ" เอ........ คู่เทพกับเจฟอ่ะ แบบหว่ NC จงมา
555555555+
-
-12-
“คืนนี้ อยู่กับพี่เถอะนะ”
เสียงทุ้มที่กระซิบอยู่ข้างใบหูทำให้เด็กหนุ่มรีบผละตัวออกมาก่อนจะเดินถอยหลังไปชนเข้ากับตู้โชว์ที่มีกรอบรูปวางเรียงรายอยู่ แต่แล้วก็มีกรอบรูปหนึ่งจะหล่นลงมาแต่ดีที่มือเล็กรับไว้ได้ทัน สองคนในรูปคือคนที่เขาคุ้นหน้าเป็นอย่างดี
ภาพร่างสูงใหญ่ยืนเคียงข้างร่างโปร่งแต่กลับไม่ได้มองกล้องเพราะมัวแต่มองคนข้างกาย ดวงตาคู่คมทอดมองสื่อความในใจอย่างไม่ปิดบัง ทำให้คนที่กำลังถือกรอบรูปอยู่ทั้งยอมรับและยอมแพ้ไปในตัว
ยอมรับ...ว่าเขาหลงรักอีกคนจนหมดหัวใจ
ยอมแพ้...ว่าเขาไม่อาจแทนคนๆนั้นได้
“ขอโทษนะครับที่เกือบทำของสำคัญตก ผมกลับก่อนนะ”
เด็กหนุ่มวางกรอบรูปลงตรงที่เดิมก่อนจะเดินผ่านหน้าอีกคนโดยไม่ยอมสบตา มือใหญ่คว้าข้อมือไว้ก่อนจะรั้งให้อีกคนหันกลับมายืนเผชิญหน้า
“เงยหน้ามองพี่”
อดิเทพเอ่ยกึ่งสั่งแต่เด็กหนุ่มไม่ยอมทำตาม
“พี่บอกให้เงยหน้ามองพี่ไง”
เมื่ออีกคนยังดื้อดึง มือใหญ่จึงออกแรงดึงข้อมือเล็กจนร่างของเด็กหนุ่มปลิวเข้ามาปะทะแผ่นอกกว้าง ใบหน้าเสี้ยวสองเชื้อชาติเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่ด้วยความไม่เข้าใจแต่นั่นกลับเป็นโอกาสให้ใบหน้าคมคายโน้มลงมาช่วงชิงสัมผัสจากริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อ
เด็กหนุ่มผละตัวหนีแต่ริมฝีปากบางก็ตามไล่ต้อนให้จนมุม มือเล็กทั้งสองข้างผลักแผ่นอกกว้างให้ห่างออกแต่มือใหญ่กลับตรึงมือทั้งสองข้างไว้กับกำแพง ดวงตาคู่คมจ้องมองเข้าไปในแววตาสีอ่อนเพื่อค้นหาบางอย่างแล้วก็คลี่ยิ้มให้เมื่อได้พบสิ่งที่ต้องการ
อดิเทพปล่อยให้มือเล็กเป็นอิสระ ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยผิวแก้มนุ่มมือก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าใกล้สูดกลิ่นจางๆ แต่อยู่ๆก็สัมผัสได้ถึงหยดน้ำ
“เจฟ...”
เด็กหนุ่มผละตัวหนีไม่ยอมสบตา ร่างเล็กเดินไปที่ประตูก่อนจะเปิดออก
“ผมขอตัวกลับก่อน”
“เดี๋ยว...”
แล้วก็เป็นอีกครั้งที่อดิเทพรั้งอีกคนไว้ แม้ว่าจะยังไม่เข้าเหตุผลที่แท้จริงว่าเพราะอะไรแต่ที่เขามั่นใจคือเขาเองก็พึงพอใจอีกคนอยู่ไม่น้อย
“คุณจะรั้งผมไว้ทำไม”
“อยู่เถอะนะ อย่ากลับเลย”
“เพื่ออะไรล่ะครับ”
“เพื่อพี่ไง ได้ไหม...”
เด็กหนุ่มไม่อยากจะหวั่นไหวไปมากกว่านี้แต่นี่ก็เหมือนโอกาสที่หยิบยื่นมาให้ ถ้าหากปฏิเสธไปก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ปรารถนาจะกลับมาอยู่ใกล้แค่เอื้อมอีกเมื่อไหร่
แต่พอมองไปยังกรอบรูปที่ตั้งเรียงรายอีกครั้ง ในใจก็ค้านว่าให้ถอยออกมา
อดิเทพมองเห็นภาพของตัวและกันต์กวีสะท้อนออกมาจากแววตาสีอ่อนเขาก็พอจะคิดอะไรได้ ใจจริงเขาก็ไม่ได้ลืมกันต์กวีซะทีเดียว เพราะคนๆนั้นเป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างของเขา แต่เมื่อรู้ว่าเอื้อมคว้าไปก็ได้แต่ความว่างเปล่ากลับมา
ก็คงไม่น่าจะผิดอะไรที่เขาจะหันมองคนข้างที่อยู่ข้างกาย คนที่มีตัวตน คนที่พร้อมจะมอบความรักให้
ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปยังชั้นวางกรอบรูปก่อนจะจับมันวางคว่ำหน้าลง เมื่อถึงกรอบสุดท้ายเด็กหนุ่มก็เข้าไปรั้งมือไว้เสียก่อน
“ปล่อยไว้อย่างนั้นเถอะครับ”
“ดูหน้าเจฟเหมือนอยากจะร้องทุกครั้งที่เห็นรูปนี่ พี่ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้นก็เลย...”
“คนเราก็มีอดีตทั้งนั้นอยู่ที่ว่ารับได้มากน้อยแค่ไหน ผมต้องขอโทษนะครับที่ใจแคบเกินไป”
เมื่อเห็นคนตัวเล็กเอาแต่ก้มหน้าก้มตาพร้อมทั้งเอ่ยขอโทษขอโพย มือใหญ่เลยรั้งเอวบางเข้ามากอดหลวมๆพร้อมกับลูบเรือนผมนุ่มมือไปมาอย่างแผ่วเบา
“ใจแคบแบบนี้ พี่ก็เข้าไปอยู่ไม่ได้น่ะสิ ขยายที่ให้หน่อยไม่ได้เหรอ”
อดิเทพเอ่ยเย้าแหย่
“งั้นผมจะขยายให้กว้างๆเลย พอใจไหมล่ะครับ”
“ไม่ๆๆ...ไม่เอาดีกว่า กว้างไปเดี๋ยวมีพื้นที่ให้คนอื่นเข้ามาอยู่ด้วย”
“ตกลงจะเอายังไงครับ กว้างไปก็ไม่ดี แคบไปก็ไม่เอา หัวใจนะครับไม่ใช่ห้องเช่า”
“ก็หัวใจน่ะสิ เพราะฉะนั้น...มีพี่แค่คนเดียวพอนะ”
เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบรับทำให้อีกคนยิ่งกอดร่างเล็กแน่นเข้าไปใหญ่ เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆในลำคออย่างสุขใจ อย่างน้อย...
เขาก็มีคนที่รักเขาอยู่
กันต์กวีค่อยๆปรือตาลืมขึ้นเมื่อได้กลิ่นหอมชวนน้ำลายสอ ร่างโปร่งลุกขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนทำให้ผ้านวมผืนหนาร่นลงไปอยู่ที่ช่วงเอวโชว์แผ่นอกเปลือยที่เต็มไปด้วยรอยรัก แม้ว่าร่างกายจะรู้สึกเมื่อยล้าแต่กลับมีรอยยิ้มระบายอยู่บนใบหน้า
กษิดินทร์คนเดิมกลับมาแล้ว
“ตื่นแล้วเหรอ”
เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนจะเดินถือถาดใส่อาหารเช้าแบบง่ายๆเข้ามาใกล้ก่อนจะนั่งลงบนฟูกข้างๆคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอน ระหว่างที่กันต์กวีกำลังนั่งกินอยู่เงียบๆอยู่ๆมือใหญ่ก็ยกขึ้นลูบเรือนผมนุ่ม
“ผมขอโทษนะ ที่ทำร้ายวี”
ร่างโปร่งวางช้อนส้อมลงก่อนจะหันมาส่งยิ้มบางๆให้ก่อนจะซบลงไหล่กว้าง
“วีต่างหากที่ต้องขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกๆเรื่องที่ทำให้ดินเสียใจ”
“จากนี้ไป เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ”
กษิดินทร์เอ่ยบอกก่อนจะแนบจูบที่ขมับอย่างแผ่วเบา
จากนี้ไป “ความแค้น” จะสิ้นสุดลงแล้วใช่ไหม
จากนี้ไป “ความรัก” จะเริ่มต้นขึ้นใหม่ใช่ไหม
ถ้าใช่...ก็อยากจะขอให้คงอยู่ชั่วนิรันดร์
2BCon...
มาอัพแล้วคับ :mc4:หวังว่าคงไม่ช้าไม่นานเกินไป ประเทศจีนตอนนี้หนาวมากๆๆๆคับ อารมณ์เหมือนอยู่ยุโรปมากว่าเอเชีย 555+ ไนท์ปลื้มมากคับที่บอร์ดเข้าได้ไม่อย่างนั้นคงลงแดงตาย ต้องขอขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และการติดตามนะคับ :pig4:นิยายเรื่องนี้ใกล้จะจบแล้วอีกไม่เกิน 1-2 ตอนนี่แหละคับ
สำหรับพลอทเรื่องใหม่ก็อาจจะเป็นอย่างที่บอก ถ้ายังไงติดตามอ่านกันด้วยนะคับ ชื่อเรื่อง
“Blood Brother” เร็วๆนี้คับ ^^
:กอด1:
-
:กอด1:ให้ความอบอุ่นแก่น้องไนท์ (คงคลายหนาวได้บ้าง)
ฟ้าหลังฝนของวีกับดิน
ใช้ความรักล้างความแค้นออกจากใจให้หมดจด
ให้เหลือแต่ความงดงามของความรัก ที่บานสะพรั่งในใจ เป็นอะไรที่ดีมากๆเนอะน้องไนท์
และอีกคู่....การเริ่มก้าวเดินใหม่ของเทพกับน้องเจฟ ต้องไปได้ด้วยดีแน่ๆจ้า
ดีใจกับทั้งสองคู่เลย
รักกันๆๆๆๆ
-
อยากกรี๊ดดังๆให้กับป๋าเทพ(?)
มีมุมที่น่ารัก น่าปลื้มมากๆเลย
ชอบสุดๆ
-
:man1:
ชอบเรื่องนี้มากเลย
ชอบอ่ะนายเอกแร๊งๆ ดราม่าๆแบบนี้ อิอิ
เริ่มหวานๆกันล่ะ
-
อุ๊ยๆหวานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ว่าแต่ Blood Brother นี่จะออกแนวหวานๆ พี่น้องๆหรือพี่น้องแบบกดดันคะ อยากอ่านเร็วๆจัง
-
:กอด1: :กอด1:
-
^^
-
และแล้วความรักก็ชนะทุกสิ่งอย่าง
จริงๆ
-
รักในรอยแค้น แต่ในที่สุดรักก็ชนะทุกสิ่ง
-
ใกล้จบแล้วอ่ะ
ขอหวานสุดๆๆๆๆตอนจบน่า
น่ารักทั้ง 2 คู่เล๊ย
-
หวานแล้วเว้ย ชอบๆๆ :m3: :m3: :m3: :m3:
-
เขินอายกับคู่แรกมากมายอ่าาาา
ในที่สุดก็ลงเอยทุกคู่ :mc4:
ใกล้จะจบแล้วเหรอ :monkeysad:
-
จุดพุลฉลอง เย้ๆ
หมอดินกับวีจะเลิกแก้แค้นกันแล้วสินะ
เทพกับเจฟ เชียร์อยู่ๆ
-
เย้! เลิกแก้แค้นกันซักที แบบนี้ต้องฉลอง วิ๊ววว
-
ีเพิ่งเข้ามาอ่าน แต่จะจบเสียแล้ว :z3:
แต่ดีใจจังที่ความรักเข้ามาแทนความแค้นหมดแล้ว จากนี้ไปก็รอ NC คู่เทพกะเจฟสิเนอะ :z1:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าา :กอด1:
-
:L2:
รอตอนต่อไปนะครับ
-
-13-
วันนี้อดิเทพพาเด็กหนุ่มออกมานอกบ้านเพื่อเลี้ยงอาหารมื้อกลางวัน ดวงตาสีอ่อนมองอีกคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยความสงสัยที่อยู่ๆมีท่าทีอ้ำๆอึ้งๆดูแปลกตาไปจากทุกครั้งซึ่งโดยปกติชายหนุ่มร่างสูงใหญ่มักจะเก๊กขรึมต่อหน้าคนอื่นเสมอ
“แพ้อาหารเหรอครับ ท่าทางแปลกๆ”
“เปล่า...”
“แล้วมีเรื่องอะไรล่ะครับ ทำหน้าเหมือนคนกำลังรู้สึกพะอืดพะอม”
ร่างสูงใหญ่นั่งนิ่งไปก่อนจะเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง
“อาทิตย์นี้ไปทะเลกันนะ”
เด็กหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งราวกับจะถามว่า “พูดจริงหรือพูดเล่น”
“จริงเหรอ”
“โกหกแล้วได้อะไรล่ะครับ ดูถามเข้าสิ”
“ก็แปลก ที่อยู่ๆที่คุณมาชวนผมไปทะเล”
“บอกให้เรียกพี่ เรียกคุณแล้วดูทั้งแก่ทั้งต่างชนชั้น อ่อ...ส่วนเรื่องไปทะเลน่ะ วีเขาอยากไป”
คนตัวเล็กพยักหน้าด้วยความเข้าใจ คนเห็นแก่ตัว...ห้ามให้เขาไปรักคนอื่น แต่ทีตัวเองพูดถึงอีกคนต่อหน้าเขาได้หน้าตาเฉย
“พี่ก็ไปกับพี่วีสิ เรื่องอะไรจะต้องพาผมไปด้วย ผมไม่อยากไปเป็นก้างหรอกนะ”
มือใหญ่เขกหัวคนตัวเล็กกว่าทำให้ผู้ถูกกระทำโวยวายขึ้นมาทันที
“พี่มาเขกหัวผมทำไมเนี่ย”
“เด็กโง่”
เออ...คำก็โง่ สองคำก็โง่ เขามันไม่ได้ฉลาดนี่
ระหว่างนั่งรถกำลังจะกลับบ้าน อดิเทพเหลือบมองอีกคนที่นั่งเบาะข้างๆ ดูสิ...หน้างอ แก้มป่อง เม้มปากแน่นซะขนาดนี้ ดูออกง่ายชะมัดว่ากำลัง...งอน
“ถ้าไม่พอใจที่วีไปด้วย เราไปกันสองคนก็ได้”
“ฐานะผมจะไม่พอใจใครได้ล่ะครับ เราเป็นอะไรก็รึ ก็ไม่ใช่”
“ประชด ?”
“เปล่าสักหน่อย”
“ปากแข็ง”
เด็กหนุ่มสะบัดหน้าหนีมองออกไปนอกหน้าต่างแทนด้วยความที่ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย
“ดูทำท่าเข้า ไม่น่ารักเลยนะครับ”
เจฟฟรี่หันขวับกลับมามองพร้อมกับนั่งกอดอกแน่น เด็กหนุ่มพรูลมหายใจออกมา
“ผมรู้ว่าผมมันไม่น่ารัก พี่พูดไม่ผิดสักนิด เพราะไม่น่ารักเลยไม่มีใครเขาอยากจะรัก”
“ดูพูดเข้า...ไปกันใหญ่แล้วนะ”
ยังไม่ทันจะพูดกันต่อเสียงโทรศัพท์มือถือของอดิเทพก็ดังขึ้น มือใหญ่หยิบขึ้นมาดู ทันทีที่เห็นรายชื่อที่หน้าจอมือถือก็ระบายรอยยิ้มทันที
“วี โทรมาน่ะ..รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวพี่มา”
เด็กหนุ่มหน้างอง้ำแต่ก็ทำได้เพียงแค่นั่งมองอีกคนผ่านกระจกรถ ชายหนุ่มร่างสูงยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทำให้คนคนที่ได้แต่มองอยู่ฝ่ายเดียวเกิดอาการน้อยเนื้อต่ำใจ แต่เขาจะมีสิทธิ์ไปเรียกร้องอะไรได้ในเมื่อเขาสองคนไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรต่อกัน
แล้วก็รู้อยู่เต็มอกด้วยว่า อย่างไรเสียในใจของอดิเทพก็มีแต่กันต์กวีเท่านั้น คนเดียวที่สำคัญยิ่งกว่าใคร
คนตัวเล็กเปิดประตูลงจากรถแต่ยังไม่ทันจะได้เดินไปไหนไกลก็ถูกมือใหญ่คว้าข้อมือไว้ เจฟฟรี่อ้าปากบอกแต่ไม่มีเสียงเล็ดรอดว่ากลับบ้านเองได้ แต่อดิเทพก็ไม่ยอมทั้งๆที่กำลังพูดคุยกับอีกคนที่อยู่ปลายสาย
“ผมไปนะ”
เด็กหนุ่มยังคงดึงดันจะกลับให้ได้จนแล้วจนรอดอดิเทพต้องยอมปล่อยมือออก เขารีบคุยกับกันต์กวีให้รู้เรื่องก่อนจะรีบเดินตามอีกคนจนทัน
“โกรธพี่เหรอ”
“เปล่าครับ”
“วีแค่โทรมาถามว่าตกลงเราสองคนจะไปด้วยหรือเปล่า แต่ไม่ว่าจะอย่างไรรายนั้นบอกว่ายังไงเจฟก็ต้องไปให้ได้ไม่งั้นเสียใจแย่”
“งั้นผมก็ควรจะไปใช่ไหมครับ”
“ใช่ ไปเถอะนะ คิดซะว่าทำเพื่อวี”
“ผมคิดว่าผมทำเพื่อพี่ทั้งสองคนแหละครับ เพราะถ้าผมไม่ไปพี่วีจะเสียใจและถ้าพี่วีเสียใจ พี่ก็คงไม่ต่างกันหรืออาจจะเสียใจมากกว่าเสียด้วยซ้ำ เห็นคนที่เรารักเศร้ามันเศร้ายิ่งกว่า ผมเข้าใจดี”
“อืม...ใช่”
เด็กหนุ่มนึกอยากจะหายไปจากตรงนี้ หัวใจที่ไม่เคยรักใครมาก่อนพอมาได้เจอกับความรักก็ทุ่มเทให้จนหมด จนลืมไปว่า นั่น...อาจจะกลายเป็นเพียง
...ความว่างเปล่าที่ไร้ค่า...
“งั้นผมจะไป แต่พี่ช่วยไปรับผมที่บ้านด้วยก็แล้วกันนะครับ”
เด็กหนุ่มเอ่ยบอกทั้งที่ก้มหน้า เวลานี้เขารู้สึกอยากจะร้องไห้ อยากให้น้ำตาชะล้างทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งความรู้สึกที่มีให้คนตรงหน้าออกไปให้หมดสิ้น
เขาไม่อยากรู้สึกเจ็บปวด ไม่อยากพยายามกระโดดเอื้อมคว้าสิ่งที่อยู่สูงเกินไป เพราะทั้งท้อทั้งเหนื่อย
ว่ากันว่ารักครั้งแรกมักจะไม่สมหวัง ดูเหมือนมันจะจริงอย่างที่ใครเขาพูดกัน
“เดี๋ยว...ไปกับพี่ก่อนสิ จะรีบไปไหน”
“ผมเหนื่อย อยากพัก อยากกลับบ้านนอน”
“ไม่เอาน่า อย่าทำตัวเป็นเด็กๆสิครับ”
“ก็ผมมันเด็กนี่ ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น ทำนั่นทำนี่ก็คงไม่ถูกใจเหมือนพวกผู้ใหญ่หรือคนรุ่นเดียวกันกับพี่”
“ประชดพี่อีกแล้ว รู้ไหม...ทำอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะครับ”
“ก็บอกไปแล้วไง ไม่น่ารักก็ไม่ต้องรักสิ ผมไม่ได้อ้อนวอนขอร้องพี่นี่”
“โธ่...ก็ทั้งหลงทั้งรักไปแล้วนี่ครับ ให้ทำไงได้”
เด็กหนุ่มหันขวับกลับมาพร้อมน้ำตา แรกๆเขารู้สึกเหมือนหัวใจจะแตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ แต่ประโยคเมื่อครู่เป็นเสมือนกาวชั้นยาเชื่อมรอยแตกร้าวต่างๆจนแนบสนิท รอยยิ้มบางๆระบายบนใบหน้าอ่อนเยาว์
“พี่พูดจริงเหรอ”
มือเล็กหยิกแก้มตัวเองก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ นี่...ไม่ใช่ความฝัน
อดิเทพดึงร่างเล็กเข้ามาสวมกอดก่อนจะแนบริมฝีปากกับใบหู
“จริงแท้แน่นอน”
2BCon...
สวัสดีคับ ไนท์มาอัพอีกตอนให้แล้วนะคับ :mc4:ตอนนี้เนื้อเรื่องหลักก็จบแล้วแต่ที่ขึ้นทูบีคอนไว้ก็เพื่อตอนพิเศษนะคับจะมีฉากที่ทั้ง 4 คนจะไปทะเลกัน ถ้ายังไงก็ติดตามอ่านกันด้วยนะคับ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และการติดตามนะคับ :L2:
ปล...อากาศที่จีนยังคงหนาวคับ ฮีทเตอร์ที่ห้องพักของไนท์ดันมาเสีย หนาวมากคับอยากหาคนมานอนด้วย :laugh: (ล้อเล่นคับ) เจอกันอีกครั้งในตอนพิเศษนะคับ ขอบคุณคับ[/coloor]
:กอด1:
-
ง่ะๆๆๆ ไปทะเล
ไปเสม็ดรึปล่าว?? เส็ดแน่ๆเจฟเอ๋ยย :oo1: :oo1: :z1:
-
ได้ข่าวว่า ถึงไม่ไปสะเม็ดก็เสร็จสมอารมณ์หมายได้ง่าย ๆ นะคะรีบน หุ ๆๆๆ
อีตาเทพ เค้ากะจะเฉลยความใน ให้ลูกแมวดื้อรู้ซะที ที่ทะเลใช่ไหมจะน้องไนท์ของเจ๊ 555
อยากกด+ แต่ อดเถอะไนท์ เพราะมันยังไม่ครบ 24 ชั่วโมง อ่ะ คริ ๆ
-
อร๊างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมพระเอก ชอบกระซิบกันข้างใบหูทุกคนเลยน๊า
-
ทะเล ทะเล๊ ทะเล...จะมีอะไรเกิดขึ้นที่ทะเลน้าาา :z1:
กว่าจะพูดออกมาได้นะพี่เทพ ทำเอาน้องเจฟงอนแล้วงอนอีก :m16:
-
:L1:
-
:z1:ทะเลบรรยากาศเหมาะมาก
รอตอนพิเศษน้องเจฟจะเป็นยังไงต่อหว่า
-
มารอตอนไปทะเลครับ จะหวานจนมดขึ้นหรือเปล่านะ
-
กด+ให้จ้า
รอตอนไปเที่ยวทะเลด้วยคน
-
หึ หึ คุณเทพรู้ว่าน้องเข้าใจผิด แต่ก็ยังไม่เคลียร์กับน้องซะที
อดใจไว้รอไปทะเล ให้น้องได้รู้เองเห็นเอง ใช่ปะคะ
แล้วบรรยากาศแบบนั้น สองคู่ สี่คน คนอ่านคงได้กำไรเพียบใช่ไหมคะน้องไนท์
-
ทะเล ทะเล เสร็จแน่ :z1:
-
^^
-
อ่านแล้วรู้สึกเหมิอนตัวเองเป็นเอามากค่ะ
เดี๋ยวก้อร้องไห้
น้ำตายังไม่ทันแห้งก็อมยิ้ม
เหอๆ
ชอบอ่ะ
ทั้งเทพ เจฟ
แล้วก้อดิน วี
เป็น double date กันเลย
-
รอตอนต่อไปครับ
ทะเล ทะเล๊ ทะเล
:pig4:
-
โอ๊ยยยย น่ารักมากค่ะ
เพิ่งจะเข้ามาอ่านเป็นครั้งแรก
ชอบมากทั้งคู่หลักอย่างคุณหมอกะวี
แล้วก็พี่เทพกะน้องเจฟ
มาต่อเร็วๆนะคะ :monkeysad:
-
-Special Part ทรายกับทะเล-
เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ เจฟฟรี่ตื่นขึ้นมาแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัว จัดเตรียมกระเป๋าและอาหารเช้าแบบง่ายๆเผื่อไว้ให้อีกคนที่กำลังจะมารับในอีกไม่นาน
“ตื่นแต่เช้าเชียวนะลูก”
เด็กหนุ่มหันไปยิ้มให้ก่อนจะก้มหน้าก้มหน้าจัดเสบียงอาหาร
“แม่อยู่ได้นะครับ มีอะไรโทรหาผมได้ทุกเวลา ผมจะรีบกลับมาหาแม่ทันที”
หญิงวัยกลางคนระบายยิ้มบางๆก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวลูกชายเพียงคนเดียวอย่างรักใคร่เอ็นดู
“ไม่ต้องห่วงแม่นะ ไปเที่ยวให้สนุกเถอะจ้ะ”
ทันทีที่เด็กหนุ่มจัดข้าวของเสร็จเรียบร้อยเสียงกดออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น ผู้เป็นแม่อาสาไปเปิดประตูให้ เมื่อบานประตูไม้เปิดออกเธอก็เห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาคมคายยืนอยู่ตรงหน้า มือใหญ่พนมไหว้อย่างนอบน้อม
“เทพสินะจ๊ะ เจฟเล่าเรื่องของเทพให้แม่ฟังหลายเรื่องเลย”
“แม่ครับ”
เสียงใสดังขึ้นทันที เมื่อความลับกำลังจะถูกเปิดเผย
“เจฟเล่าว่ายังไงบ้างครับ คุณแม่”
“ก็...”
“แม่ ถ้าเล่าเจฟงอนจริงด้วย”
เธอหัวเราะเบาๆก่อนจะเอ่ยบทสนทนาต่อ
“ไปกันเถอะจ้ะ เดี๋ยวสายแล้วรถจะเยอะ เทพแม่ฝากเจฟด้วยนะลูก”
“ครับ คุณแม่”
มือเล็กถือตะกร้าใส่ขนมเดินเข้ามายืนข้างๆร่างสูงก่อนที่มือใหญ่จะคว้าไปถือไว้เสียเอง
“แล้วผมจะซื้อของกลับมาฝากนะครับ คุณแม่”
เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะยกมือไหว้ทั้งตะกร้าขนม
“ไปดีมาดีจ้ะ”
ระหว่างการเดินทางเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่เบาะด้านข้างคนขับนั่งสัปหงกหลายต่อหลายครั้งจนคนขับต้องขยับปรับเบาะให้เอนนอนเพื่อที่หัวทุยได้รูปจะไม่โขกเข้ากับกระจก มือใหญ่หรี่แอร์ปรับให้อุณภูมิสูงขึ้นเพื่อกลัวว่าอีกคนจะหนาวเกินไปจนไม่สบาย
เกิดป่วยขึ้นมา เขาคงไม่มีเพื่อนเล่นน้ำทะเล
ทันที่รถเคลื่อนตัวผ่านถนนเส้นที่ตัดเลียบไปกับชายหาด มือใหญ่ออกแรงสะกิดเด็กน้อยขี้เซาให้ตื่นขึ้นมาชมบรรยากาศ เมื่อเจฟฟรี่ตื่นขึ้นมาเห็นทะเลก็ทำท่าทางดีอกดีใจจนคนพามารู้สึกดีตามไปด้วย
“ไม่เคยเห็นทะเลเหรอไงถึงดีใจซะขนาดนั้น”
“เคยครับ แต่มันนานมาแล้ว นานมาก...จมผมเกือบลืมไปหมดแล้ว”
เมื่อเอ่ยจบประโยคดวงตาคู่สวยก็หม่นแสงลงจนอิดเทพอยากจะปลอบใจให้อีกคนกลับมาร่าเริงสดใสอีกครั้ง เขาไม่รู้หรอกว่าอดีตของเด็กหนุ่มข้างๆจะมีอะไรผ่านเข้ามาในชีวิตบ้างแต่อย่างน้อยหลังจากนี้เขาก็อยากจะสร้างความทรงจำที่สวยงามให้ไปตลอดโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
อดิเทพลดกระจกรถลงปล่อยให้สายลมเย็นสบายพัดเข้ามาคลอเคลียเรือนผมสีอ่อนของเด็กหนุ่ม ดวงตาคู่สวยปรือปิดลงซึมซับบรรยากาศก่อนจะยื่นหน้าออกไปโต้ลม
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หัวเราะในลำคอ ท่าทางของเด็กหนุ่มคล้ายกับ “สำลี” สุนัขพันธุ์โกลเด้นท์ รีทีฟเวอร์ที่เขาเคยไปเล่นด้วยบ่อยๆสมัยที่ยังอยู่บ้านของกันต์กวี
“เอาหน้าเข้ามาได้แล้ว อันตราย”
ไม่นานเด็กหนุ่มก็ร่าเริงสดใสตามปกติ เมื่อรถจอดที่รีสอร์ทเจฟฟรี่ก็รีบกระโดดลงแล้วถกขากางเกงวิ่งมุ่งหน้าตรงไปยังชายหาดทันที อดิเทพได้แต่ยืนอ้าปากค้างจะเรียกก็เรียกไม่ทัน
“ไง...มาแล้วเหรอ เจฟล่ะ”
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เอียงศีรษะบอกทิศทางที่เด็กหนุ่มไป กันต์กวียิ้มกว้างก่อนจะรีบวิ่งตามไป ทิ้งให้คนขับรถทั้งสองคนต้องยกของเก็บเข้าห้องพัก เมื่อจัดวางของเรียบร้อยก็รีบเดินตามไปที่ชายหาด
ทั้งกษิดินทร์และอดิเทพมองทั้งสองคนที่กำลังสนุกสนานเพลินเพลินกับการเล่นน้ำทะเลก่อนจะยิ้มออกมาอย่างสุขใจ แต่อยู่ๆกันต์กวีก็ขึ้นจากน้ำเดินเข้ามาควงแขนกษิดินทร์ไว้
“ดิน...เราสองคนไปหามุมเงียบๆนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินกันดีกว่า แถวนี้...ปล่อยให้คู่ข้าวใหม่ปลามันเขาได้อยู่กันตามลำพังเถอะนะ”
กษิดินทร์หันมายักคิ้วให้อดิเทพก่อนจะเดินโอบไหล่กันต์กวีไป แปลก...ที่ในวันนี้เขาไม่รู้สึกเจ็บแปลบเมื่อเห็นภาพนั้น แต่กลับ...ส่งยิ้มให้จากใจและอวยพรให้ความรักทั้งคู่มั่นคงยืนยาว
อดิเทพมองไปยังอีกคนที่ยังคงลอยคออยู่ในน้ำ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่จึงค่อยเดินลงน้ำไปหา
“ไง...เพลินล่ะสิ ลืมช่วยยกของเลยนะ”
“ผมรู้ไงว่าพี่เทพทำได้”
“เรียกว่าอะไรนะ ได้ยินไม่ค่อยถนัดเลย”
คนหน้าขาวทำแก้มพองลมใส่
“แก่แล้วก็แบบนี้แหละ หูตึง”
ว่าแล้วอิดเทพก็เขกหัวคนตัวเล็กกว่าไปอีกที เด็กหนุ่มไม่ยอมให้อีกคนกลั่นแกล้งตัวเองฟรีๆ มือเล็กจึงออกแรงตีกระทบจนน้ำกระเซ็นไปโดนอีกคน
“เล่นแบบนี้เหรอ คิดว่าพี่จะยอมล่ะสิ”
มือใหญ่วักน้ำสาดใส่อีกคนคืนบ้างก่อนจะเข้าประชิดตัวไปรวบมือเล็กทั้งสองข้างไว้เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่มีท่าทียอมแพ้แต่อย่างใด แต่แล้วก็เหมือนโดนมนต์สะกด โลกทั้งใบหยุดหมุนเมื่อได้สบเข้ากับนัยน์ตาสีอ่อน เส้นผมเปียกชื้นล้อมกรอบโครงหน้า ไหนจะเสื้อเชิ้ตตัวบางที่แนบเนื้ออวดเน้นรูปร่างนั่นอีก
ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยเส้นให้พ้นใบหน้าหมดจดก่อนจะเชยคางอีกคนให้เงยขึ้นก่อนจะค่อยๆแนบริมฝีปากลงบนเรียวฝากอวบอิ่มเพียงแผ่วเบาก่อนจะละริมฝีปากออกมา ปรับเปลี่ยนองศาแล้วแนบสัมผัสอุ่นร้อนอีกครั้ง
อ้อมแขนกว้างโอบรัดร่างเล็กไว้แน่นแต่เจฟฟรี่กลับไม่รู้สึกอึดอัดอะไรมิหนำซ้ำยังอยากจะถูกกกกอดอย่างนี้เรื่อยไปเพราะรู้สึกทั้งอบอุ่นและปลอดภัย มือใหญ่จับมือเล็กข้างหนึ่งให้แนบลงบนแผ่นอกด้านซ้าย สัมผัสหัวใจของเขาที่กำลังเต้นรัวเพราะคนตรงหน้า...
เพียงคนเดียว
นับจากวันนี้เป็นต้นไป
“พี่รักเจฟ”
เด็กหนุ่มยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังคำที่ตัวเองรอคอยมานานแสนนาน
“ผมก็รักพี่เทพครับ”
ต่างฝ่ายต่างสารภาพความในใจให้อีกฝ่ายได้รับรู้ อ้อมแขนกว้างโอบล้อมรอบร่างเล็กไว้แล้วแนบริมฝีปากข้างขมับอย่างแผ่วเบา
ทรายกับทะเลที่อยู่เคียงข้างโดยไม่มีพรากจากกัน ก็เหมือนกับ...
เขากับเด็กหนุ่มคนที่อยู่ในอ้อมแขน
.....…………………………-End of Special Part ทรายกับทะเล-……………………………
2BCon…In Special Part – วันนี้ฉันมีเธอ-
มาอัพแล้วนะคับ :mc4:จริงๆตอนแรกกะจะให้จบแค่ตอนพิเศษตอนเดียวแต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วคับ อีกสักตอนสองท่านทุกท่านคงไม่เบื่อกัน หวังว่าทะเลเค็มจะกลายเป็นทะเลหวานเบาๆสำหรับตอนนี้นะคับ ตอนหน้าชื่อเรื่องเรียบๆแต่อาจจะมีฉากวาบหวิวนิดๆหน่อยๆ จริงๆอยากให้น้องเจฟเป็นเด็กใสๆซื่อๆ แต่ดูเหมือนหลายคนจะไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น ฮ่าๆๆๆ รออ่านตอนต่อไปด้วยนะคับ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์และการติดตามคับ
ปล ตอนนี้ประเทศจีนก็ยังคงหนาวเหมือนเคยคับ ปรับตัวไม่ถูกเลย แต่ตอนนี้กำลัง Enjoy ‘s eating & Enjoy’s sleeping มากๆคับ ได้อ้วนก็คราวนี้แน่ ฮ่าๆๆ
-
:L1:
-
พี่เทพแรงนะเนี่ย
แต่อย่างไรก็ตามอย่าหื่นให้มากนัก
-
หวานกันดีจริงๆ น่ารัก เทพเป็นโคแก่ไปซะและ
-
ว๊าน หวาน :o8:
แต่ไปทะเลตอนนี้ระวังสึนามินะ๊จ๊ะ :try2:
+1 ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าา :กอด1:
-
ไม่มีncคู่นี้หรือคะ 555
-
เย้ สุดท้ายเทพก็สารภาพรักกับเจฟแล้วว
อย่าหวานกันเกินไปจนทะเลไม่เค็มน่ะค่ะ :-[ :-[
-
^^
-
หวานได้ใจครับ
-
หวาน หว๊าน อิอิ
รอตอนต่อไป :z1:
-
จบแล้วเหรอครับ น่าเสียด้ายจบเร็วไปหน่อย(อยากอ่านยาว ๆ )
-
หวานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
น้องเจฟสมหวังในรักแล้ว...เย้....
คู่หลักก็ชื่นมื่นกันไป...จะมีตอนพิเศษอีกไหมหนอ???
ขอบคุณนะจ๊ะ
-
ทะเลหวาน พี่เทพทะนุถนอมน้องเจฟหน่อยนะคะ น้องยังเด็กยังไงก้อเอ็นดูน้องให้มากๆน้า
-
กด+ให้จ้า ทะเลหวานแ่น่คราวนี้
สำหรับตอนหน้าน้องเจฟยังเด็กอยู่นะพี่เทพ อย่ารุนแรงหละ
-
น่ารัก :-[ หวานด้วย สมหวังกันไปอีกคู่หนึ่ง รอตอนต่อไปนะคะ o13
-
Special Part 2 – วันนี้ฉันมีเธอ-
ยามเย็นมาถึงเด็กหนุ่มที่เพิ่งขึ้นจากน้ำทะเลก็กลับเข้าห้องมาเพื่ออาบน้ำแต่งตัวใหม่ก่อนไปกินอาหารมื้อค่ำ แต่ทันทีที่เปิดประตูก็ต้องยืนนิ่งไปสักพัก
เตียงเดี่ยวขนาดควีนไซต์…
นั่นก็เท่ากับว่า…จะต้องนอนเบียดคนตัวใหญ่บนเตียงเดียวกัน นึกดูยังไงก็เสียเปรียบกว่าเห็นๆ
“ขอย้ายห้องดีไหมเนี่ย”
เด็กหนุ่มเอ่ยกับตัวเองก่อนจะมองไปทางอื่นแต่สุดท้ายสายตาก็เหลือบกลับมาที่เตียงนอนอีกครั้ง แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แว่บผ่านเข้ามาทำให้ผิวแก้มบางแดงระเรื่อ
เข้าใจนะว่าคนรักกันเมื่ออยู่ด้วยกันก็อยากแสดงความรักให้อีกฝ่ายได้รับรู้
แต่…
เขายังไม่พร้อมเลย บอกตรงๆ
เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ยังไม่ทันเดินออกจากห้องเสียงประตูก็ดังขึ้นเสียก่อน ร่างสูงใหญ่ส่งยิ้มให้ก่อนเดินเข้ามาหา
“ไงครับ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จไวจัง”
“ผมวิ่งผ่านน้ำน่ะ”
“อาบน้ำแน่เหรอ”
อีกคนทำสีหน้าเหมือนสงสัย รู้ทั้งรู้ว่ากำลังถูกแกล้งยั่วเย้าแต่ยังไงเขาก็ต้องตอบคำถามอยู่ดี
“อาบแล้วครับ หอมแล้วด้วย”
“ไหน…ขยับเข้ามาใกล้ๆหน่อยสิ พี่จะได้พิสูจน์”
เจฟฟรี่หันหน้าหนีเมื่อปลายจมูกและริมฝีปากเฉียดผ่านผิวแก้ม เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหนีแต่อ้อมแขนกว้างก็ตามโอบล้อมไว้ได้
“ขอหอมหน่อยสิ”
ทันทีที่จบประโยคริมฝีปากก็แนบลงบนผิวแก้มนุ่มพร้อมกับปลายจมูกสูดกลิ่นเจือแป้งเด็กเข้าเต็มปอด แม้ว่าจะกอดอีกฝ่ายจากทางด้านหลังแต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของอดิเทพเลยแม้แต่น้อย แล้วเขาก็เป็นคนนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ…
…ได้คืบ จะเอาศอก…
มือใหญ่จับไหล่ทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มก่อนจะจับร่างเล็กให้หันมาเผชิญหน้า ไม่รอช้ารีบโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของอีกคนก่อนจะแนบเรียวปากลงเพื่อลิ้มรสสัมผัสหวาน ร่างสูงใหญ่ดันร่างเล็กจนแผ่นหลังชนเข้ากับกำแพง
อดิเทพลากมือใหญ่ผ่านผ้าเนื้อบาง เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกเมื่อฝ่ามืออุ่นสัมผัสเข้ากับยอดอก มือเล็กยกขึ้นมาเพื่อกันไม่ให้สองร่างแนบชิดไปมากกว่าแต่มือใหญ่ก็รวบแล้ววางลงที่หน้าอกด้านซ้ายเพื่อให้อีกคนสัมผัสหัวใจที่กำลังเต้นระรัว อย่างน้อยจะได้รู้ว่าเขาก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน
“พี่ขอกอดได้ไหม”
เด็กหนุ่มหน้าร้อนผ่าวและยิ่งรู้สึกตื่นเต้นปนประหม่ามากขึ้นเป็นอีกเท่าตัวเมื่อปลายนิ้วแกร่งช้อนคางให้เงยหน้าขึ้นเพื่อสบกับดวงตาคู่คมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา
เจฟฟรี่ปรือตาปิดลงยามเมื่อใบหน้าคมเข้มโน้มเข้ามาใกล้จนริมฝีปากสัมผัสกันอีกครั้ง
แต่แล้วทุกอย่างก็สะดุดลงเมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทั้งคู่รีบผละออกจากกันแล้วก็เป็นร่างสูงใหญ่ที่เป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตู อดิเพทกระแอมไอเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อสนิทยืมยิ้มหน้าแป้นอยู่
“ราตรีนี้อีกยาวนาน อย่าเพิ่งรีบสิ”
ชายหนุ่มร่างสูงนึกอยากจะเขกหัวคนพูดสักทีโทษฐานที่พูดมากเกินควร เดี๋ยวไก่ตื่นหมดพอดีกัน
“นี่…ของที่ฝากซื้อได้มาหรือเปล่า”
แม้ว่าอดิเทพจะพยายามกระซิบถามกันต์กวีแต่เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ออกไปไม่ไกลมากก็ได้ยินอยู่ดี ชักเริ่มสงสัยแล้วว่าฝากซื้ออะไรกัน
กันต์กวีรีบยัดของใส่ฝ่ามือใหญ่ก่อนอิดเทพจะรีบเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ
ดูแล้วมันคล้ายกับซองใส่ถุงยางยังไงชอบกล
คิดแล้วก็เครียด ยิ่งเครียดก็ยิ่งระแวง บอกตรงๆอีกครั้งว่า…เขายังไม่พร้อม
พอคุยกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาอาหารค่ำ อดิเทพยืนอยู่ใกล้เด็กหนุ่มไม่ยอมห่างไปไหน เจฟฟรี่ยื่นมือจะตักอาหารแต่ว่ามือใหญ่ก็จะตักเหมือนกันจึงบังเอิญสัมผัสกันเข้า ร่างเล็กรีบปล่อยและเดินห่างออกมาจนเจ้าของร่างสูงมองด้วยความสงสัยว่าทำไมอยู่ๆอีกคนต้องเดินหนีเขาด้วย
จะว่างอนเรื่องที่เขาซุบซิบกับกันต์กวีก็ไม่น่าจะใช่
คนตัวเล็กนั่งก้มหน้าก้มตากินไม่ยอมสบตาด้วยพออดิเทพยื่นมือเข้าไปสัมผัสก็รีบชักมือออก เหมือนจะด้วยความตกใจแต่เขาคิดว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านั้น
“เป็นอะไรไป หืม…”
“เปล่าครับ”
“งอน…”
“พี่เห็นผมเป็นเด็กหรือไง ผมโตแล้วนะ โตพอที่จะไม่งอนโน่นงอนนี่เรื่อยเปื่อย”
“แล้วเป็นอะไรล่ะครับ”
“เปล่า”
“งั้นยิ้มให้พี่หน่อยสิ”
เด็กหนุ่มฉีกยิ้มให้ ดูก็รู้ว่าต้องมีเรื่องอะไรในใจแน่ๆไม่งั้นคงไม่เป็นแบบนี้ เมื่อกินอาหารมื้อค่ำมือใหญ่ก็จูงมือเล็กก่อนจะพาเดินเลียบไปตามชายหาดแต่เมื่อเห็นว่าค่ำมืดและลมแรงจึงเดินกลับห้องพัก
ทันทีที่อิดเทพก็รู้ได้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับคนของเขา
“เพิ่งรู้แฮะว่าที่รีสอร์ทนี้มีรูปปั้นน่ารักๆแบบนี้ประดับห้องด้วย”
ชายหนุ่มเอ่ยแซวเมื่อเห็นอีกคนยืนตัวแข็งอยู่มุมห้อง
“มาหาพี่มา”
อดิเทพกวักมือเรียกก่อนจะอ้าอ้อมแขนรอรับแต่เมื่อร่างเล็กไม่ยอมเดินเข้ามาร่างสูงจึงเดินเข้าไปหาแทน ใบหน้าคมโน้มเข้าไปใกล้แต่อีกคนกลับหลับตาแน่นเหมือนกับกำลังกลัวบางอย่าง แต่เมื่อรู้ว่าเขาไม่ยอมทำอะไรเจฟฟรี่จึงลืมตาขึ้นมามอง
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มให้ก่อนจะหยิบซองจากกระเป๋าเสื้อออกมา
“พี่เทพ ผมยังไม่พร้อม”
อดิเทพเลิ่กคิ้วสูงด้วยความสงสัยก่อนจะถึงบางอ้อ ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนจะรั้งร่างเล็กเข้ามาในอ้อมแขน
“นี่เจฟคิดว่าพี่จะทำอะไรเจฟงั้นเหรอ”
“ก็…ที่พี่ฝากพี่วีซื้อ…เอ่อ…”
“ปิ๊กต้าร์น่ะ”
วาแล้วชายหนุ่มก็เอาออกจากซองมาโชว์ให้ดู
“แล้วพี่จะซื้อปิ๊กกีต้าร์มาทำไม”
“ไปรอที่เตียงป่ะ…”
“ฮะ…พี่อย่าบอกนะว่าพี่มีรสนิยมแบบนี้”
“นายนี่ทำลายบรรยากาศหมด ไปนั่งเฉยๆบนเตียงนะ แล้วก็สงบจิตสงบใจ”
เด็กหนุ่มหน้ามุ่ยก่อนจะทำตาม ร่างเล็กทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงนุ่มไม่นานก็ได้เสียงแว่วของทำนองกีต้าร์
…ก็ไม่รู้ว่าอะไร ทำให้เราได้พบกัน
ทั้งที่มันไม่น่าจะเป็นไปได้
เธอก็มีโลกของเธอ ต่างกับฉันมากมาย
เหมือนไม่มีอะไรเลยที่คล้ายกัน
(แต่) ถามว่าชอบเธอไหม
สบตาแล้วถูกใจไหม
ก็ตอบว่าใช่เป็นอย่างนั้น
จะเป็นลิขิตจากฟ้า หรือว่าปาฏิหาริย์
อะไรยังไงก็คงไม่สำคัญ
เท่ากับวันนี้ฉันมีเธอ
เธอไม่เป็นอย่างที่ฉันคิด
เธอไม่ใช่คนที่ฉันฝัน
แต่เธอเป็นมากกว่านั้น
เธอคือคนที่ฉันรัก…
เมื่อร้องจบท่อนร่างสูงมานั่งลงบนเตียงเคียงข้างเด็กหนุ่ม
“เพลงเพราะไหม พี่ร้องให้เจฟโดยเฉพาะเลยนะ”
“เพราะมากครับ”
“งั้นให้รางวัลนักร้องหน่อยสิ”
ชายหนุ่มเอียงแก้มเข้ามาใกล้เด็กหนุ่มก็ไม่รอช้าหอมไปเสียฟอดใหญ่
“คืนนี้พี่ขอกอดเราได้ไหม”
เด็กหนุ่มหน้าแดงพร้อมทั้งคิดไปไกล เมื่อเห็นว่าอีกคนทำหน้าตาลังเลอดิเทพจึงหัวเราะก่อนจะดันร่างเล็กให้นอนราบลงบนเตียงก่อนจะคร่อมร่างนั้นไว้พร้อมทั้งวางแขนลงทั้งสองด้านเป็นอาณาเขตกักขังไม่ให้อีกคนขยับหนีไปไหนได้
เจฟฟรี่หลับตาแน่น ร่างกายเกร็งด้วยความประหม่าและความกลัวแต่กลับได้รับสัมผัสอ่อนโยนที่หน้าผากก่อนร่างสูงใหญ่จะทิ้งตัวลงนอนข้างๆและรั้งร่างเล็กเข้ามาโอบไว้ในอ้อมแขน มือใหญ่ลูบสัมผัสเรือนผมนุ่มอย่างแผ่วเบาก่อนจะแนบลงบนเส้นผมสีอ่อนอีกครั้ง
“พี่โอเคนะ”
“จริงๆมันก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ อยู่ใกล้เราทีไรรู้สึกเหมือนตบะจะแตกทุกที”
“พี่ลำบากใจหรือเปล่า”
“ไม่หรอกน่า รอเราพร้อมดีกว่า อีกอย่าง…ถ้าว่าที่แม่ยายรู้ว่าพี่พาเรามาทะเลเพื่อจุดประสงค์อย่างนั้นล่ะก็คงไม่ปลื้มแน่”
“พี่เทพน่ารักที่สุด”
เด็กหนุ่มกอดอีกคนแน่นราวกับเป็นตุ๊กตาหมีตัวโปรดก่อนจะหลับไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้อีกคนแอบมองเสี้ยวหน้าที่อาบแสงจันทร์ก่อนใบหน้าคมจะโน้มเข้าไปใกล้จูบแผ่วเบาที่ปลายจมูกอย่างรักใคร่
แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้วสำหรับเขา
เพราะวันนี้เขามีคนที่เขารักและรักเขาอยู่ในอ้อมแขน
………………………..…END…………………………………
มาอัพแล้วนะคับแล้วนี่ก็เป็นตอนสุดท้ายปิดเรื่องนี้คับ ขอขอบคุณสำหรับทุกๆคอมเม้นต์และการติดตามนะคับ เรื่องใหม่กำลังจะปล่อยออกมาเร็วๆนี้ อย่าลืมติดตามอ่านกันนะคับ
ปล ช่วงนี้อากาศที่ประเทศจีนยังคงหนาวเช่นเคย ทางประเทศไทยก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคับ
:กอด1:
-
เทพต้องอดทนนะ
-
กรุงเทพอากาศเย็น (หนาว)มาก ลมแรง และฝนปลอยๆ แต่เช้า
-
+1 จ้า
-
เทพอดทดรอ ในขณะที่เราก็อดทดรอดู NC เหมือนกัน กร๊ากกกก
-
:-[
-
ปิดอย่างหวานรับอากาศหนาวของกรุงเทพวันนี้เลยครับ
-
:-[ :-[น่ารักจัง เทพนี่สุภาพบุรุษโคตร
-
:L1:
-
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆเรื่องใหม่จะมาอีกแล้ว ว่าแต่เรื่องเก่าหละคะ ขอบอกว่าลืมไปเลย 555
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รอเรื่องใหม่ด้วยถ้าอัพเรื่องเก่าด้วยก็จะเริ่ดมาก
+1สำหรับความน่ารักของเจฟฟ์ค่ะ
-
รู้สึกว่าเจฟจะละลายทุกครั้งที่เทพหวานใส่
น่ารักจังเลยยย :-[ :-[ :-[ :-[
-
อ้ายเราก่นึกว่าจะมีฉากเสียเลือดซะแล้ว
จบน่ารักแบบรอกินเด็ก อิอิ
ที่นี้หนาวมากกกก
-
กด+ให้จ้า พี่เทพน่ารักมาก ถ้าเราเป็นเจฟนะยอมตั้งแต่พี่เทพร้องเพลงท่อนแรกจบแล้ว 555 แต่เอาน่าก็เจฟยังเด็กนี่เนอะทนหน่อยละกันพี่เทพ
ปล.ตอนนี้ที่กรุงเทพฯก็หนาวมากจ่ะ
-
happy ending ทั้งสองคู่ ... แต่เหมือนกับว่ายังไม่จบดีนะ ขาดบางตอนอ่ะ o18
น่ารักมากมาย :pig4:
-
คู่นี้น่าร๊ากกกกกกกกก :-[ จบแล้วเหรอ?? จะรออ่านเรื่องต่อไปนะค๊าาา
ทางนี้ฝนก็ตกทั้งวันเหมือนกันค่ะ หนาวสุดๆ รักษาสุขภาพด้วยนะค๊าาา :bye2:
-
ปิดเรื่องอย่างหวานเลยนะคะ
พี่เทพน่ารัก ยอมรอให้น้องเจฟทำใจด้วย
ขอบคุณนะคะ :pig4:ไว้จะตามอ่านเรื่องใหม่นะคะ
-
:o8:อติน่ารักจัง
-
อิจฉามากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
:pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
ด้วยความที่นิสัยส่วนตัวชอบหมอ ฮ่าๆๆๆๆๆ
และดูอีกคู่ดิ อยากได้บ้างงงงงง
ยังไงถ้าใครเจอแล้วรบกวนเก็บใส่กระเป๋าเดินทางมาฝากสักคนนะครับ
:laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
-
:-[ น่ารักจัง น่ารักทุกคนเลย
สนุกมากค่ะ
ขอบคุณนะ
:pig4:
-
ขอบคุณครับ
เฮ้อ! นิยายนะนิยายหวานแหวว พระเอกนายเอกแต่ละคู่ก็ นะ
อยากได้สักคนนนนนน
-
ลุ้นมากว่า ว่าความรักจะเอาชนะความแค้นของวีได้ไหม
แต่ชอบให้คุณหมอโหดใส่วีจัง อ่านแล้วสะใจ หุหุ
หนูเจฟก็น่ารัก ทำพี่เทพหลงหัวปักหัวปำ :laugh:
:L2: ขอบคุณนะคะ ที่เขียนเรื่องน่ารักแบบนี้มาให้อ่านกัน
-
:impress2: อ่านรวดเดียวจบเลย
ลุ้นคู่พี่ดินกะพี่วีมาก ในที่สุดก็แฮปปี้ ส่วนคู่พี่เทพกะเจฟก็น่ารักมากคร่า
ขอบคุณที่เขียนเรื่องสนุกๆมาให้อ่านนะค่ะ o13
-
หนุกมากอ่ะ เราชอบอ่านแนวนี้อ่ะ แบบแก้แค้น แต่...........
ดำเนินเรื่องเรวไปอ่ะป่าว ถ้าแต่งแบบยาวๆนะ ทำหนังซื้อออกมาขายดีแน่ๆ :mc4:
-
กว่าจะอ่านจบ นึกว่าจะมาม่าซะแล้ว เฮ้ออออ ค่อยโล่ง
แต่แอบอยากอ่านตอนหวานๆของวีกับดินมากๆเลยอ่า o13
-
น่ารักดีจริงๆทั้งสองคู่เลย
คู่น้องเจฟ เอิ้กๆๆน่าอิจฉา พี่เทพหวานอ่ะ ชอบๆ
-
หวานมาก อ่านไปก็สงสารทั้งคู่ไป การแก้แค้นไม่ดีเลยเนอะ ขอบคุณมากนะค่ะ สนุกมาก
-
ตอนที่คุณหมอเปลี่ยนโหมดนี่
นึกว่ากำลังอ่านเรื่องจำเลยรัก ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณค่ะ
-
ขอบคุณนะคะ ตอนแรกที่เห็นชื่อเรื่องกลัวดราม่ามากเลย
แต่พออ่านไปก็ชอบมากเลยอะ หมอดินดูอบอุ่นมากๆ
สุดท้ายแล้วการแก้แค้นก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา อันนี้อาจดีตรงที่ได้คนรัก อิอิ ^^
-
อยากได้แบบพี่ดิน/พี่เทพสักคน อิิอิ
-
อ๊า ตอนแรกนึกว่าจะจบแบบเศร้าสร้อยซะแล้้ว การแก้แค้นไม่ได้ให้อะไรดีขึ้นเลยเนอะ อิอิ
แต่ว่า สนุกมากเลยอะค่ะ อิอิ
จะแบบว่า อยกาได้แบบพี่ดิน หรือ พี่เทพ ละเนี่ย งุงิ
-
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ :L2:
-
อ่อยยยย
น้องเจฟน่ารักมากเลยค่ะ
^^
ฮ่าๆๆ ขอโทษที่พูดถึงน้องก่อน
แต่ดีใจที่ดินไม่โกรธมาก (รึปล่าวนะ?)
เหอะๆ ,, ดีใจที่แบบยอมลดทิฐิ
ความรักจะได้ สดใสๆ
-
ว้ายยยยยยยยยยยยย o13 o13ชอบด้วยอีกคนสิฮ้าๆ อ่านแล้วปลื้มสุดๆๆๆเลย วี+ดิน น่ารัก เทพ+เจฟ ก็ :-[ :-[ :-[ :-[ :o8: :o8: :o8:นะ โดยมีฉากก :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:งี้ โฮ :haun4: :haun4: :haun4: ชอบมากๆ(แอบหื่นนิดๆ)อิอิ
มีเรื่องไรก็มาแนะนำด้วยนะพี่ไนท์ o13 :bye2: :bye2: :กอด1: :L1: :pig4: :z13: :z13: :z2: :z2: :z3: :z10:
-
เรื่องนี้น่ารักมากๆ
แอบดราม่าตอนต้นเรื่อง
แต่สุดท้ายก้อรักกัน
-
น่าสนุกจังเลย
เดี๋ยวไปอ่านนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับนิยายสนุกๆ :pig4: :pig4:
-
ขอบคุณมากนะคะ
สำหรับนิยายดีๆๆ ^^
-
เรื่องนี้น่ารักมาก โดยเฉพาะคู่พี่เทพกับเจฟ :o8:
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ ^^
-
เรื่องนี้น่ารักดีนะ ถึงจะมีดราม่านิดๆ
แต่สุดท้ายก็จบอย่างมีความสุข
-
ตอนจบหวานได้อีกนะฮ๊าฟฟฟ อิอิ
หนุกมากมายฮ๊าฟฟฟฟ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟ
-
เครียดมาทั้งเรื่อง
แต่มาฮาเอากับน้องเจฟ 'ผมยังไม่พร้อม'
ป๊าดโธ่ อิแค่ ปิ๊บกีตาร์ ทำซะน้องเจฟหวั่นเลย
-
สนุกดีค่ะ
-
เทพ เจฟ จะน่ารักไปไหน
-
เจฟน่ารักมากเลย :o8:
ขอบคุณค่ะ :กอด1:
-
น่ารักมาก ตอนแรกมาเครียดเลย
มาท้ายๆหวานกันซะ มดขึ้น
น่ารักมากทั้งสองคู่ เจฟน่ารักอ่ะ
-
ตอยแรกก็ดราม่าจนน่ากลัว แต่พอเข้าใจกันแล้วก็หวานจนคนอ่านอิจฉามากมาย ห้า ๆ
แอร้ยยยย ขอบคุณนะคะ
-
น่ารักมากก ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆให้อ่านนะคะ รักคนเขียน :กอด1:
-
เข้าใจเลยว่าทำไมใครๆ ก็อยากได้แบบคุณเทพรึไม่ก็หมอดิน
อร๊ายยยย ผช สองคนนี้ทำใจชั้นหวั่นไหว
-
:hao7:
สุดแค้น แสนรัก
ขอบคุณ นะ คับ
:o8:
-
เรื่องนี้สนุกมากๆอ่ะ
อารมณ์ชิวๆดี
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่แต่ง
มาให้อ่านกันนะครับ
-
น่ารักมากค่ะ จบhappyทั้งสองคู่เลย ^^
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ
-
เลือดสาดเลย อยากอ่านตอนหวานๆ แล้วค่ะ :haun4:
-
ดีใจจังแฮปปี้เอ็นดิ้ง แต่อยากรู้ว่าคุณลัดดาเล่าความจริงให้หมอดินฟังรึเปล่า
555 คิดไปไกล
ชอบพี่เทพกันเจฟมาก น่ารัก
-
กลับมาอ่านอีกรอบ ^^
-
แม้จะตร่ามาในตอนแรก แต่ แต่ก็น่ารักสุดๆในตอนหลัง ๆ
อยากให้ อยากให้มีอีกหลายๆตอนเลยค่ะ
-
ดีนะเนี่ยที่ไม่ดราม่าหนักหน่วงมาก ขอบคุณค่าสำหรับนิยาย
-
ถ้าไม่แก้แค้นทั้งคู่ก็คงไม่ได้เจอกัน
มันคงเป็นพรหมลิขิต
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ
-
ถึงจะจบเร็วไปหน่อย แต่น่ารักดีจ้าาาา :mew1:
-
ฟินคร่าาา
ว่าแต่ขุ่นเทพพรากผู้เยาว์ชิมิเคอะ
-
o13
-
สนุกดีนะแต่สั้นไปหน่อย
o13 o13 o13
-
จบแบบงงๆๆๆ ผูกเรื่องห้วนไปนิด ผ่านมา 5 ปีแร้ว นี่เนอะ ขอบคุณคร๊าบบบบบบ
-
เขัามาอ่านอีกรอบ ขอบคุณค่ะ ^^
-
ชอบเด็กเจฟน่ารัก อิอิ
-
:z13:
-
ม่วนค่าาา :katai2-1:
-
รวบรัดกระชับมากกกกก
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
:pig4:
-
ขอบคุณค่ะ ^^