[ เ ล่ น ข อ ง เ ตี้ ย ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ เ ล่ น ข อ ง เ ตี้ ย ]  (อ่าน 970664 ครั้ง)

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
สู้ๆนะ

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12




ตอนที่ 33
เซียน






   เตรียมพบกับนายท่านและกล้าหาญถ่ายแบบปกนิตยสาร QGG พร้อมไลฟ์สดถามเรื่องความรักแบบหมดเปลือก!
   วันนี้พบกับนายท่านและกล้าหาญตอนบ่ายสองโมงที่งานดนตรีเปิดหมวก ณ ลานพาร์คเกอร์ สยาม
   เวลา 20.00 น. พบนายท่านและกล้าหาญที่งานเปิดตัวหนังเรื่อง Call me by your soul





   "เหี้ยอะไรเนี่ย" ผมร้องลั่นเมื่อผมเห็นสิ่งที่กำลังปรากฏอยู่ในโลกโซเชียล

   "เซียน ช่วยด้วย กูเพิ่งรู้เมื่อเช้า" ไอ้กล้าใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อแล้ว "กูไม่รู้ว่าแม่นายท่านจะให้กูออกงานแบบนี้"

   "มึง...ทำไม่ได้" ผมอยู่กับมันมาทั้งคืน รู้ดีว่าเพื่อนคนนี้แม่งเข้ากันไม่ได้กับวงการบันเทิงมากมายขนาดไหน แม่นายท่านก็อาจจะรู้ดีด้วย...แต่ไม่รู้ทำไมท่านถึงได้ขยี้ความรู้สึกความเพื่อนผมแบบนี้ "มึงทำไม่ได้หรอก มึงตายแน่ไอ้กล้า"

   "ใช่ กูทำไม่ได้"

   "..."   

   "กูนึกว่าสัมภาษณ์แค่นั้นจะจบ...แต่มันไม่จบ"

   "เอาไงดี" ผมเดินไปเดินมาทั้งๆ ที่ผมอยู่ในชุดนอน ตอนนี้ผมกับไอ้กล้าได้เป็นเจ้าของห้องนายท่านที่บ้านมันทั้งคู่เลยครับ เพราะมันโดนไอ้กล้าไล่ตะเพิด...ไม่ใช่ ผมล้อเล่น มันถูกไอ้กล้าขอนอนคนเดียว มันก็เลยเลือกที่จะเสียสละไปนอนห้องพักแขกแทน แทนที่มันจะมานอนห้องของมันแล้วให้พวกผมไปนอนห้องพักแขก

   มันคงอยากเอาใจแฟนเต็มที่เท่าที่จะเอาใจได้นั่นแหละ...

   "มึงต้องไปไฟต์" ผมสรุปออกมาในที่สุด "เป็นเมียคนอื่นแล้วก็จริงแต่มึงห้ามอ่อนแอ ดึงวิญญาณกล้าหาญบอยที่เป็นหัวโจกเหี้ยอะไรนั่นออกมา"

   "ยังไงวะ"

   "งานแบบนี้...มันบังคับฝืนใจกันไม่ได้เว้ย คนเราไม่ได้โง่ถึงขนาดดูกันไม่ออกว่าใครโดนบังคับไม่โดนบังคับ"

   "จริงของมึง"

   "มึงไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ไปบอกแม่ไอ้นายท่านเลย"

   "ปัญหามีอยู่อย่าง" กล้ามันซุกหน้าลงกับฝ่ามืออย่างคนจนตรอก "กูกำลังซื้อใจแม่นายท่านอยู่ ถ้ากูไม่ยอมทำ กูจะได้ใจเขาได้ยังไง"

   "โอย..." ผมไม่รู้จะช่วยมันยังไง "วันหลังกูขอให้มันคบไอ้ตง...หรือไม่ก็ใครบางคนที่ไม่ใช่นายท่าน ถ้าชีวิตมึงจะยุ่งยากขนาดนี้ล่ะก็นะ"

   "ไม่ได้ว่ะ...ยังไงก็ต้องทำ"

   "มึงไม่คิดว่ามันแปลกๆ บ้างเหรอวะ"

   "คงเป็นระเบียบอะไรสักอย่างของวงการนั่นแหละ กูไม่รู้ห่าอะไรหรอก"

   "..." ผมมองมันอย่างสงสาร

   "นายกองเรียกว่านรกขุมที่สอง เมื่อวานคือนรกขุมที่หนึ่ง"

   "มึงจะทำจริงๆ เหรอวะกล้า" ผมที่รู้จักมันมานานเริ่มถามมันอีกครั้ง "ยิ่งมึงออกสื่อ...ความเป็นส่วนตัวของมึงก็จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ นะ"

   "กูไม่มีความเป็นส่วนตัวตั้งนานแล้ว ตั้งแต่มีคนมาด่ากูฟรีๆ นั่นแหละ"

   "มึงแน่ใจนะว่าแม่นายท่านไม่ได้แกล้งมึง"

   "กูไม่รู้เลยว่ะ"

   "..."

   "เหมือนเขาก็ทำไปในแบบของเขา...เขาบอกว่ากระแสเป็นอะไรที่ต้องเลี้ยงเอาไว้ กูกับนายท่านกำลังเป็นที่พูดถึง พวกแม็กกาซีน พวกสื่อต่างๆ อยากได้ตัวกูสองคนมาก" มันหันมามองหน้าผม "ไม่แน่อาจจะช่วยรณรงค์กระแส LGBT ในไทย...อันนี้แม่พูดนะ แต่กูไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร"

   "แป๊บ" ผมกดกูเกิ้ลแล้วเสิร์ชดู ทันทีที่ผมผลลัพธ์โผล่ขึ้นมา ผมก็ถึงบางอ้อทันทีว่ามันหมายความว่ายังไง "แม่นายท่านคงอยากลบภาพเรื่องที่คนไปด่าว่าไม่ยอมรับพวกรักเพศเดียวกันน่ะ"

   "ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่โดนด่า" กล้าเบิกตาโพลง

   "เมื่อคืนวาน...หลังจากนายท่านตอบคำถาม"

   "เฮ้อ"

   "มันแปลกๆ ที่ต้องมาใช้ลูกชายกับมึงมาเป็นตัวเลี้ยงกระแสเนี่ย โอ้ย ยิ่งคิดกูก็ยิ่งอยากเป็นบ้า มึงพาตัวเองมาอยู่ในเรื่องอะไรแบบนี้วะกล้า...เราสองคนเป็นเด็กเสดสาดกากๆ นอนตีพุงเล่นเกมอยู่หอไม่ดีกว่าเหรอ"

   อีกฝ่ายเงียบแฮะ...นัยน์ตาของมันสั่นระริกซะจนผมรู้สึกว่าผมพลาดที่ไปจี้ใจดำมัน

   "โอเค กูเข้าใจละ ความรักแม่งห้ามกันไม่ได้"

   "..."

   "คนที่มึงรักเสือกเป็นคนสาธารณะ กูกับมึงจะทำอะไรกันได้อีก"

   "กูจะไปต่อรอง" กล้าลุกพรวด เดี๋ยวนี้มันปีกกล้าขาแข็งกับคุณแม่ของนายท่านมาก อาจเป็นเพราะตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในทีมเดียวกัน และก็ต้องช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคตรงนี้ไปให้ได้ "ขอไปทำแค่บางงาน ทำหมดทุกงานกูไม่ไหวจริงๆ กูไม่อยากออกสื่อขนาดนั้น"

   "วันนี้สามงานหรือเปล่า"

   "ห้า"

   "เชี่ย กูเห็นแค่สาม"

   "มีงานที่ต้องถ่ายเก็บไว้ ยังไม่ออกสื่อ"

   "มึงต้องสู้นะ" ผมให้กำลังใจมัน

   "เออ"

   "..."

   "แล้ววันนี้มึงจะทำอะไร"

   "รอทิมโทรมา" ผมบอกมันตรงๆ "กูกับทิมต้องจัดการเรื่องของปาวฟัน ในช่วงเวลาที่มึงกับนายท่านกำลังยุ่งหัวหมุน"

   "..."

   "มึงไปออกงานคนเดียวไหวนะ"

   "กูอยู่กับแฟน" มันตอบ

   "แฟนที่มึงไม่ยอมนอนด้วยเมื่อคืนอ่ะนะ"

   กล้าไม่ตอบ...ผมไม่รู้ว่าตอนนี้มันคิดอะไรในใจบ้าง จึงได้แต่มองมันเดินออกไปจากห้องด้วยความหนักอกหนักใจ

   หลังจากนั้นไม่นานทิมก็โทรมาหาผมพอดี มันนัดแนะบอกสถานที่กับผมอย่างเสร็จสรรพว่ามันจะไปเจอปาวฟันที่ไหน ผมส่งข้อความบอกไอ้กล้าว่าผมมีธุระที่จะไปทำ และผมก็ขอให้มันโชคดีกับงานที่ไม่ควรจะเป็นงานของมันเลย
   









   ร้านที่ทิมนัดผมไว้เป็นร้านกาแฟที่สวยสดงดงาม เหมาะกับการถ่ายรูปและเช็กอินเป็นอย่างมาก ผมคิดว่าคนที่เลือกร้านนี้น่าจะเป็นพราวฝันแน่ๆ ไม่น่าจะใช่ทิม เพราะถึงแม้ว่าทิมจะเป็นคนชอบถ่ายรูปและก็อัพรูปลงไอจี แต่สถานที่แห่งนี้แม่งไม่ใช่สถานที่ที่ตรงกับสไตล์คนอย่างทิมเลยสักนิด

   วันนี้มันมาในชุดน้อยแต่มากที่แท้จริง...แม้ว่าจะเป็นเสื้อยืดกับกางเกงยีนขาดๆ แฟชั่นธรรมดา แต่ผมรู้ว่าราคาของมันคงซื้อรถมอเตอร์ไซค์ได้เกือบสองคัน แล้วถ้ารวมรองเท้าด้วยล่ะก็...ผมคิดว่าน่าจะซื้อได้เกือบสามคัน

   "พี่มองอะไร" ทิมถามเมื่อเราสองคนนั่งอยู่ด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง เพื่อรอให้ปาวฟันมานั่งอยู่อีกฝั่ง แม้ทิมบอกว่ามันคือการนัดเดต แต่จริงๆ แล้วเราทั้งคู่ต้องการที่จะคุยกับผู้หญิงคนนี้ตรงๆ พร้อมกันต่างหาก

   "มองคนที่กูชอบไง" ผมตอบเรียบๆ

   "ถามจริง"

   "กูก็ตอบจริง"

   "..."

   "นี่มึงไม่คิดจะใจอ่อนให้กูสักหน่อยเหรอ"

   "คำพูดของพี่ก็ยังฟังดูบังคับผมเหมือนเดิม"

   "กูไม่ได้...คิดจะบังคับมึงตลอดสักหน่อย" หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้...ผมยังมีแก่ใจที่จะพูดเรื่องนี้ครับ คนอย่างเทพเซียนเอ็กซ์เอ็กซ์นั้นเป็นห่วงเพื่อนมากก็จริง แต่มันก็เป็นห่วงตัวเองด้วย "มึงลองเป็นแฟนกูดูดิ กูจะทำให้มึงเป็นคนที่โชคดีที่สุด"

   "เอ่อ..." สีหน้าของทิมไม่ใช่ปฏิกิริยาที่ผมหวังจะได้เห็น มันดูลังเล งุนงง และก็สับสน

   "มึงไม่ได้ชอบกูเหมือนกันใช่มั้ย" ผมไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าบวกขนาดนี้...นี่ถ้ามันตอบรับว่ามันไม่ได้ชอบผมเหมือนกันจริงๆ ผมไม่แย่เลยเหรอ

   "มาแล้ว" เสียงผู้หญิงทิ้งตัวนั่งลงฝั่งตรงข้ามทำเอาผมกับทิมต้องผละออกจากกัน "นี่ใครน่ะทิม"

   "เทพเซียน...เอ็กซ์เอ็กซ์" ผมตอบคนที่ชอบส่งข้อความมาด่าเพื่อนผม

   "ฝันนึกว่าเราจะมาเจอกันแค่สองคน" ปาวฟันกอดอก

   "เรามีเรื่องจะคุยด้วย" ทิมรวบรวมสติกลับมาคุยกับผู้หญิงได้ดีมาก

   "เรื่อง?"

   "เลิกส่งข้อความไปก่อกวนพี่กล้าซะ"

   ผู้หญิงทำท่าสะอึกนิดหน่อย "ท่านใช้ให้ทิมมาคุยกับเราเหรอ"

   "ไม่ เรามาของเรากันเอง"

   ปาวฟันตวัดสายตามามองผม "พี่คงเป็นเพื่อน...พี่กล้า" เธอดูกระดากปากที่จะเรียกเพื่อนผมว่าพี่

   "ใช่" ผมตอบ

   "..."

   "ทำแบบนั้นมันดูนางร้ายมากๆ เลิกทำซะ"

   มือของปาวฟันที่วางบนโต๊ะสั่นระริก...ผมรู้ครับว่าผู้ชายสองคนอย่างผมกับทิมไม่ควรที่จะมาพูดจาแบบนี้กับเธอเพราะจะทำให้เธอเจ็บปวด แต่ทำยังไงได้...เราทั้งคู่เป็นห่วงเพื่อนเรา และสองคนนั้นก็มีเรื่องให้กังวลมากกว่าเรื่องนี้อยู่แล้ว

   "น้องเป็นคนสวยนะ พี่เห็นครั้งแรกพี่ยังตะลึงเลย" ผมพยายามพูดปลอบเธอในสไตล์ของผม "ไอ้ท่านมันหล่อมากก็จริง แต่คนหล่อแบบนั้นมันมีอยู่ถมไปบนโลกใบนี้...พี่นี่แหละคนนึง"

   ทิมกระทุ้งสีข้างผมเพราะผมเพิ่งทำลายบรรยากาศไป

   "ฝันก็แค่..." ปาวฟันเริ่มพูดไม่ออกบอกไม่ถูก "ไม่รู้สิ ฝันอาจจะรู้สึก...อิจฉา"

   การที่ผู้หญิงคนหนึ่งพูดตรงๆ กับผมแบบนี้แปลว่าเธอกำลังเริ่มเปิดใจให้ผมใช่มั้ย...ทิมพยักเพยิดให้ผมพูดต่อไป
 
   "เล่าให้พี่ฟังได้นะ เรื่องที่ฟัน..." เธอมองหน้าผม "เอ๊ย ฝันเล่าในวันนี้ พี่จะไม่เอาไปเล่าให้ใครฟัง ทิมเองก็เหมือนกัน"

   "พี่กล้าไม่เห็นจะดีตรงไหน" แค่ประโยคแรกที่เธอเริ่มเปิดฉากพูดก็เล่นเอาผมเริ่มมีไฟเกิดขึ้นตรงกลางใจ...โห น้อง นั่นเพื่อนพี่นะครับ "เตี้ยก็เตี้ย หน้าตาก็งั้นๆ ไม่มีอะไรเหมาะสมกับนายท่านเลยสักนิด

   "ท่านมันต้องเหมาะกับคนแบบไหนเหรอ" ทิมเอ่ยบ้างเพราะมีการเมนชั่นถึงชื่อของเพื่อนมัน

   "ก็...คนสวยๆ"

   "ถามจริง...คนหล่อถูกสร้างมาเพื่อคู่กับคนสวยเท่านั้นจริงๆ เหรอ โลกเรามันกว้างกว่านั้นนะเว้ยฟัน เอ๊ย ฝัน" ผมคือตัวทำลายบรรยากาศตัวจริงนี่หว่า

   "ไม่รู้สิ ถ้าท่านชอบคนอื่น ฝันอาจจะรู้สึกดีกว่านี้ก็ได้"

   "พี่จะเล่าให้ฟัง" ผมจัดแขนเสื้อตัวเองเพื่อขยับตัวได้สะดวกมากขึ้น "ไอ้กล้ามันผิดที่เคยเทนายท่าน แต่ใครบ้างที่ไม่เคยทำผิด มันอยู่กับความรู้สึกผิดมาสองปีเต็มๆ ไม่เคยมีวันไหนที่มันไม่เอ่ยหรือไม่คิดถึงเรื่องนายท่านเลย ไม่เลยจริงๆ"

   "แต่ว่า..."

   "ฝันลองคิดดูสิ การที่คนหล่อๆ ที่โคตรเพอร์เฟ็กต์อย่างนายท่านมารักฝังใจกับคนอย่างเพื่อนพี่ แสดงว่าเพื่อนพี่มันต้องมีอะไรดีถูกมั้ย ถึงแม้ว่าลักษณะภายนอกของมันอาจจะไม่ใช่อย่างที่ฝันปลื้มหรือคิดว่ามันเหมาะกับนายท่าน แต่เรื่องใจและความรู้สึก...พี่เชื่อว่ามันพร้อมที่จะทุ่มเทให้นายท่านสุดตัว"

   "ฝันเริ่มรู้สึกแปลกๆ แล้วนะคะที่พี่เทพเซียนอะไรเนี่ยต้องมาพูดแทนพี่กล้าแบบนี้"

   "ถ้าฝันได้ดูข่าวฝันก็น่าจะรู้...สองคนนั้นมันไม่มีเวลามาจัดการเรื่องนี้หรอก"

   "เชื่อเราเถอะนะฝัน" ทิมช่วยพูดอีกแรง "ไอ้ท่านมันไม่เคยโกรธฝันเลย มันก็อาจจะมีเคืองบ้างเรื่องที่ฝันส่งข้อความไปก่อกวนพี่กล้า แต่เชื่อเราเถอะ...มันทำใจโกรธฝันจริงๆ ไม่ได้สักครั้ง"

   น้ำตาของปาวฟันเริ่มรื้นที่ขอบตา...ผมเริ่มหาอะไรมาจับทันทีเพราะผมรับมือกับน้ำตาผู้หญิงไม่ค่อยได้ เข่าของทิมได้รับความซวยไปเต็มๆ แต่โชคดีที่มันไม่ได้สนใจที่จะปัดออก

   "ฝันเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ท่านมันวางใจและสนิทมากที่สุด มันรู้ว่าฝันคิดอะไรกับมันและการที่มันปฏิเสธอาจจะทำให้มิตรภาพของมันกับฝันพังลง...มันรักพี่กล้ามากก็จริง แต่มันก็ให้ความสำคัญกับมิตรภาพที่มันมีต่อฝันเหมือนกัน"

   เอาล่ะ...มันไม่ใช่แค่ผู้หญิงมีน้ำตาปริ่มขอบตาแล้ว...เพราะตอนนี้เธอคนนี้กำลังร้องไห้ออกมาอย่างไม่เกรงใจสายตาของคนอื่นที่มองมาที่เธอเลยแม้แต่นิดเดียว

   ผมบีบเข่าของทิมแน่นขึ้น

   "ฝันมีความสุขมั้ยตอนที่มันอยู่กับฝัน"

   "แน่นอน เรามีความสุขสิ"

   "ท่านมันเป็นเพื่อนที่ดีใช่มั้ย...มันเป็นเพื่อนช็อปปิ้ง เป็นเพื่อนฝันไปที่นั่นที่นี่ได้"

   "ใช่" เสียงของปาวฟันสั่นเครือ "เราเป็นคนมีเพื่อนน้อย ตอนที่เราอยู่กับนายท่าน...เราก็เลยรู้สึกว่าเรามีความสุขจริงๆ"

   "ไม่แปลกหรอกที่ฝันจะชอบมัน...แต่เราอยากให้ฝันลองคิดใหม่ ถ้าฝันก่อกวนพี่กล้าแฟนมันไปเรื่อยๆ บางทีฝันอาจจะเสียเพื่อนอย่างไอ้ท่านไปเลยก็ได้"

   ริมฝีปากของปาวฟันกระตุก...

   "ลองคิดดูดีๆ นะ เรากับนุกเป็นเพื่อนฝันช็อปปิ้งได้ไม่ดีเท่าไอ้ท่านนะ"

   "..."

   "เรากับมันปลอบฝันเวลาที่ฝันมีปัญหากับที่บ้านเหมือนที่ไอ้ท่านทำไม่ได้นะ"

   ผมเหลือบมองไอ้ทิม...สิ่งที่มันพูดล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความจริงใจเต็มเปี่ยม ผมไม่นึกไม่ฝันว่ามันจะมีมุมที่มีเหตุมีผลขนาดนี้ สงสัยการแต่งตัวสตรีตหรือฮิปฮอปไม่ใช่การบ่งบอกนิสัยทุกอย่างจริงๆ

   "แฟนท่านจะยอมหรือไง" ปาวฟันแค่นหัวเราะ "รายนั้นเขาเกลียดเราจะตาย"

   "มันแค่หึงน่ะ" ผมพูด "มันไม่ใช่คนใจร้ายอะไรหรอก เชื่อพี่สิ"

   ปาวฟันไหล่ตก...หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดน้ำตาตัวเองอย่างน่าสงสาร "ไม่คิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะต้องมาร้องไห้ในร้านกาแฟแบบนี้ ทุเรศสิ้นดี"

   ผ้าเช็ดหน้าจากมือไอ้ทิมถูกส่งไปอีกผืน...ผมที่ไม่ได้พกผ้าเช็ดหน้าจึงหยิบกระดาษทิชชูบนโต๊ะส่งไปให้ปาวฟัน เธอส่งเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ จากนั้นเราก็ปล่อยให้เธอร้องไห้ต่อไปเงียบๆ

   "สองคนนี้ก็เป็นแฟนกันเหมือนสองคนนั้นหรือไง" เธอถาม

   "ไม่ใช่" ทิมรีบตอบ

   "ยังไม่ใช่" ผมส่ายหน้าพรืด

   ปาวฟันเลิกคิ้วแล้วมองผมอย่างจับผิด "พี่จีบทิมล่ะสิ"

   "ใช่" ผมตอบทันควัน "มันจีบยากฉิบหาย...ยังไม่ยอมใจอ่อนเลยเนี่ย"

   "เดี๋ยวนะ" ปาวฟันทำหน้าฉุกคิด "เมื่อสองสามวันก่อนมีเพื่อนคนหนึ่งมาบอกว่าทิมคบกับหมอที่เรียนมอเดียวกันนี่"

   เหมือนมีค้อนจากเทพเจ้าธอร์ฟาดลงมากลางกบาลของผม...ผมรีบมองหน้าทิมทันทีเพราะผมอยากรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

   ทิมไม่ได้สบตาผม...มันหยิบกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดื่ม ผมจึงหันไปถามปาวฟันอีกครั้ง

   "เรื่องจริงใช่มั้ย"

   "เอ่อ..." ปาวฟันหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย "ขอตัวไปทำใจก่อนนะคะ"

   เมื่อผู้หญิงเดินจากไป...สายตาของผมจึงตวัดมามองไอ้ทิมอีกรอบ

   "หมายความว่ายังไง"

   "..."

   "มึงคบกับไอ้ไตเติ้ลแล้วเหรอ"

   การพยักหน้าน้อยๆ ของทิมทำเอาโลกทั้งใบของผมพังครืนลงมา...นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมปรารถนาที่จะรับรู้หรือได้ยิน...ทิมกับไอ้หมอไตเติ้ลเนี่ยนะ เรื่องจริงดิ?

   ผมมันไม่ดีตรงไหน...

   ไอ้เหี้ยนั่นมันดีกว่าผมตรงไหน!

   "พี่เซียน"

   เสียงร้องเรียกของทิมไม่ได้ทำให้ผมอยากหันกลับไปแม้แต่นิดเดียว...

   "พี่เซียน เดี๋ยวก่อน!"

   ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่...โง่มากๆ ที่หลงคิดไปเองว่ามีโอกาสจีบทิมติด...แต่แล้วในที่สุด...ทิมมันก็เสร็จคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้าไปจนได้

   แม่งเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้ยังไง...

   ผมทำผิดตรงไหน ผมมันเหี้ยตรงไหน...ทำไมทิมถึงไม่ชอบผม








ทิม






   'วันนี้กล้าอาจจะไม่ค่อยพร้อมกับการให้สัมภาษณ์นะครับ ขอโทษด้วย'

   'น้องท่านคะ ขออีกหนึ่งคำถามค่ะ'   

   'ครับ'

   'การที่น้องกล้าออกงานแบบนี้แปลว่าน้องกล้าเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงภายใต้สังกัดของค่ายเอสเอ็นแล้วใช่มั้ยคะ'

   'ไม่ใช่ครับ!'

   'อ้าว'

   'เราแค่มาตามที่เราถูกรับเชิญมาเท่านั้น นี่ไม่ใช่การจ้างงานอะไร'

   'แล้วถ้ามีการจ้างงานในอนาคตเกิดขึ้นล่ะคะ น้องกล้าจะมีผู้จัดการมั้ยหรือว่าน้องกล้าจะเซ็นสัญญากับค่ายเอสเอ็นไปเลย'

   'กล้าจะไม่มีวันเป็นนักแสดงในสังกัดของแม่ผมครับ ขอโทษด้วย'

   'น้องท่านคะ'

   'ผมไม่ตอบแล้ว!'

   นุกกดปิดไลฟ์สดของช่องข่าวบันเทิงช่องหนึ่งในเฟซบุ๊ก

   "ท่านเดือดสัด กูไม่เคยเห็นมันโกรธขนาดนี้" นุกพูด "พี่กล้าก็น่าสงสาร...ทำหน้าเหมือนโคตรอยากกลับบ้าน"

   "..."

   "เชี่ยทิม"

   "..."

   "ไอ้เหี้ยทิม มึงฟังกูอยู่มั้ยเนี่ย"

   "หา"

   "ท่านมันเดือด เท้าของมึงก็เดือดเนี่ย มึงจะเดินให้พื้นบ้านกูทะลุหรือไง" นุกบ่นออกมาอย่างอดรนทนไม่ไหว "เป็นห่าไรวะ กูเห็นมึงเดินไปเดินมาแบบนี้ตั้งแต่บ่ายแล้วนะ เกิดอะไรขึ้น เรื่องพราวฝันจบไม่ดีหรือไง"

   "ไม่รู้ เขาขอเวลาทำใจ"

   "ก็อาจจะดีก็ได้" นุกจ้องเขม็งมาที่ผม "แสดงว่าไม่ใช่เรื่องของฝันที่มึงเครียด"

   ผมทิ้งตัวลงนั่ง จากนั้นก็ขยับขาไปมาอย่างบ้าคลั่ง "พี่เซียนว่ะ"

   "ทำไม"

   "เขาเพิ่งรู้ว่ากูคบกับพี่ไตเติ้ลแล้ว"

   "เดี๋ยว!" ไอ้นุกร้องเสียงดังลั่น "มึงไปตกลงคบกับพี่หมอคนนั้นตอนไหน!"

   "..."

   "ท่านมันรู้หรือยัง!"   

   "โอย หูกูจะแตก" ผมเอามือปิดหู

   "ทำไมพวกกูไม่รู้เรื่อง!"

   "ถ้ามึงรู้เหตุผลแล้วมึงจะฮา"

   "กูฮาไม่ลงหรอก"

   "พี่มันตื๊อมากเลยเว้ย" ผมเริ่มเล่าให้มันฟัง "เขาขอกูคบเมื่อสองอาทิตย์ก่อนมั้ง เอาแต่ถามกูอยู่นั่นว่าเมื่อไหร่จะให้คำตอบ แล้วพอกูมึนๆ เบลอๆ กูก็เผลอตอบไปว่าอืม...คราวนี้เป็นไง กูเลยซวยยาว"

   "เชี่ยยยยยย" นุกอ้าปากค้าง "แบบนี้ก็มีเหรอ"

   "เออ"

   "แล้วมึงร้อนใจอะไรเนี่ย"

   "ก็...เอ่อ..." ผมบอกมันไม่ค่อยถูก "พี่เซียนรู้แล้วน่ะสิ"

   "พี่เขาเป็นยังไง"

   "เดินออกจากร้านไปเลย...ไม่ยอมพูดอะไรกับกูเลย"

   "เหี้ยเอ๊ย เอามือถือมึงมา" นุกเอื้อมมือมาขอมือถือจากผม

   "มึงจะทำอะไร"

   "โทรหาพี่ไตเติ้ลน่ะสิถามได้"

   "หา"

   "มึงต้องบอกพี่เขาไปตรงๆ ว่ามึงไม่ได้ชอบพี่เขา มึงชอบพี่เทพเซียน"

   "เฮ้ยยยยย"

   "สาด มองจากดาวศุกร์ก็รู้ว่ามึงชอบพี่เขา ถ้ามึงไม่ชอบพี่เขานะ มึงไม่ร้อนใจตลอดทั้งบ่ายหรอก..."

   ผมเอาเท้าเขี่ยพรมบ้านไอ้นุกไปมา "พี่เขา...ขี้บังคับนะ"

   "สัด กูจะบอกอะไรให้" ไอ้นุกดูปวดหัวกับผมมากๆ "มึงชอบไปกระตุ้นต่อมพี่เขาไง อะไรที่พี่เขาไม่ชอบ มึงเสือกทำหมด...พี่เซียนเขาเป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว การที่เห็นมึงทำอะไรที่เขาไม่ชอบ เขาก็ต้องทำในสิ่งที่มึงไม่ชอบเหมือนกัน"

   "ไอ้นุก กูคบกับคนนี้แล้วกูจะไปรอดเหรอวะ"

   "..."

   "นั่นเสือแห่งเศรษฐศาสตร์เลยนะ"

   "มึงใช้สมองคิดไปเพื่ออะไร ในเมื่อใจมึงคิดไปถึงไหนต่อไหนกับพี่เขาแล้วก็ไม่รู้"

   "นุก"

   "มึงชอบพี่เซียน"

   "กู..."

   "มึงชอบพี่เซียน มึงยอมรับกับกูมาตรงๆ"

   "กูไม่..."

   "เฮ้ย! พี่เซียนโทรมา"

   "ไหน!" ผมรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อเห็นว่าหน้าจอโทรศัพท์ผมนั้นยังคงปกติอยู่ ผมก็แทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ของผมใส่หน้าไอ้นุก

   "นี่ไง ชัดขนาดนี้...มึงยังจะหนีหัวใจตัวเองทำไมอีก" นุกส่ายหน้าให้ผมเบาๆ "มึงคบกับพี่ไตเติ้ลนานเท่าไหร่แล้ว"

   "สองวันก่อน" ผมเล่า "กูยุ่งๆ กับเรื่องไอ้ท่านและก็พี่กล้าเพราะกูวางแผนจะมาคุยกับฝันนี่ไง กูก็เลยมึนๆ เบลอๆ บอกตอบตกลงพี่เขาไป"

   "เฮ้อ" นุกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งใส่มือของผมใหม่ "อย่าเอาความรักมาทำเป็นเรื่องเล่นๆ มึงไม่ชอบ มึงไม่โอเค มึงชอบคนอื่น มึงก็ควรจะบอกพี่เขาตรงๆ"

   ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ

   "มึงอาจจะโอเคกับพี่หมอไตเติ้ล แต่ใจมึงไม่ได้บอกแบบนั้นนะ...มึงแคร์พี่เซียนมาก ถึงแม้ว่าพี่เขาจะไม่ตรงกับคนที่มึงชอบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ใจมึงอ่ะไปอยู่กับพี่เขาแล้วมากกว่าครึ่ง"

   "ก็ได้ๆ กูจะโทรไปคุยกับพี่ไตเติ้ลก็ได้"

   "ก็แค่นี้"

   "..."

   "เลือกเอานะว่ามึงทำให้ใครเสียใจแล้วมึงจะไม่เจ็บ พี่หมอไตเติ้ลหรือว่าพี่เซียน"

   ถึงแม้ว่าผมจะมัวแต่ขลุกอยู่กับไอ้นายท่าน แต่มันก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่าไอ้นุกก็เป็นเพื่อนอีกคนที่รู้จักผมมากที่สุดเหมือนกัน ผมพยักหน้าเป็นเชิงตกลงปลงใจว่าจะจัดการโทรไปบอกเลิกพี่หมอไตเติ้ล ซึ่งผมก็ยังงงๆ อยู่เหมือนกันว่าผมคบกับพี่เขาได้ยังไง

   หรือมันไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว...

   แล้วตอนนี้...พี่เซียนจะไปอยู่ไหนแล้วนะ












[ มีต่อนะคะ]




ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12



   ผมกลับมาที่บ้านตัวเอง...จากนั้นก็นั่งนิ่งๆ จมจ่อมกับความคิดของตัวเอง

   แม้ว่าผมจะโทรคุยกับพี่หมอไตเติ้ลไปแล้ว แต่ผมก็ยังไม่มีแก่จิตแก่ใจคิดเรื่องพี่หมอเลยแม้แต่นิดเดียว คิดดูก็แล้วกัน (พี่เขาก็ถามเหตุผลและก็โวยวายนิดหน่อยไปตามประสาแหละครับ...แต่ก็ถือว่าพี่เขาเข้าใจ ผมไม่อยากให้เขามาเสียเวลากับผมมากจนเกินไป แล้วเขาก็รู้ด้วยสิว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากขนาดไหน)

   ผมไม่รู้ตัวเลยว่าผมชอบพี่เซียนตั้งแต่เมื่อไหร่ สิ่งแรกที่ผมจำเกี่ยวกับเขาได้นั่นก็คือเขาด่าผมตอนที่ผมเล่นเกม RoV กับเขาไม่เก่ง จากนั้นพี่เขาก็ค่อยๆ เข้ามาอยู่ใกล้ชิดผม เดี๋ยวก็ด่าผม เดี๋ยวก็บอกว่าชอบผม สลับกันไปอยู่แบบนั้น

   แต่นั่นไม่ใช่นิสัยของพี่เซียนที่ผมไม่ชอบ...ผมเติบโตมาจากครอบครัวที่โคตรจะเป็นอเมริกันสไตล์ ทันทีที่อายุครบสิบแปด พ่อกับแม่ของผมก็ปล่อยให้ผมใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างอิสระ ผมเลือกที่จะไปเรียนมอ S กับนายท่าน เลือกที่จะนั่งเล่นหุ้นอยู่เฉยๆ ในห้องแทนที่จะมาเรียนรู้งานในวงการบันเทิงต่อจากที่บ้าน ไม่เคยมีใครต่อว่าที่ผมเลือกแบบนั้นแม้กระทั่งพ่อแม่หรือบรรดาพี่สาวพี่ชายของผม ไม่เลยจริงๆ

   จนกระทั่งผมได้มาเจอกับพี่เซียน...

   แม้ว่าพี่เขาจะบังคับผมนับครั้งได้ แต่เชื่อเถอะว่านั่นเป็นอะไรที่มากที่สุดในชีวิตของผมแล้ว การถูกบังคับนั้นมันทั้งอึดอัดและก็ถูกตีกรอบ ผมไม่เคยชินกับอะไรแบบนี้อย่างแรง อีกทั้งผมยังต่อต้านการถูกบังคับแบบสุดโต่ง

   ยิ่งผมไม่ชอบ...พี่เซียนก็ยิ่งทำ และนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมจำฝังใจตัวเองว่า...ผมไม่ได้ชอบพี่เซียน ผมไม่ได้ชอบพี่เซียน

   แต่ผมคิดผิด...

   พี่เซียนคือผู้ชายที่หล่อที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จัก...แม้ว่าผมจะรู้จักไอ้ท่านมาทั้งชีวิตก็ตามแต่ผมก็ไม่เคยยอมรับอย่างเต็มปากสักทีว่ามันหล่อ อาจเป็นเพราะผมเคยแก้ผ้าโดดลงสระน้ำที่บ้านมันมาตั้งแต่เด็กๆ ก็ได้ แต่กับพี่เซียน...ผมชอบคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่หล่อคนหนึ่ง ผมสะดุดตาเขาตั้งแต่ที่ผมเจอเขาที่โรงเรียนมัธยมของไอ้ท่านและก็พี่กล้า พี่เขาชอบมองหน้าผม และผมเองก็ชอบลอบมองพี่เขาเหมือนกัน

   เราทั้งคู่รู้จักกันแบบผ่านๆ มาโดยตลอด จนกระทั่งไอ้ท่านและพี่กล้ากลับมาคืนดีกันอีกครั้ง เราจึงได้เจอกันบ่อยขึ้น

   ความประทับใจแรกที่ผมมีต่อพี่เซียนก็คือ...ศูนย์ ถึงแม้ว่าผมจะชอบหน้าพี่เขามากก็เถอะ การที่โดนพี่เขาด่าในเกมรวมไปถึงมาตำหนิเรื่องการเรียกชื่อไอจีของผม ผมโคตรไม่ชอบพี่เขาเลยครับ แต่หลังจากนั้น...ดูเหมือนพี่เซียนจะพยายามประพฤติปฏิบัติกับผมดีขึ้น ถึงแม้ว่าจะขี้บังคับในแบบที่ผมไม่ชอบไปบ้าง แต่นั่นมันก็แค่ส่วนน้อยที่เป็นข้อเสียของพี่เซียน

   ผมคงชอบพี่เขาจริงๆ นั่นแหละ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มานั่งคิดมากว่าพี่เซียนจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนในเวลานี้หรอก

   ตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีหนึ่ง...ไอ้ท่านยังไม่ได้โทรมาหาผมเฉกเช่นทุกวัน (ไอ้นี่แม่งก็บ้า...ชอบโทรมาเพ้อกับผมตอนดึกๆ ประจำ) ฉะนั้นผมจึงว่างและไม่มีอะไรทำ การที่ผมไม่มีอะไรทำมันทำให้ผมฟุ้งซ่าน นึกไปต่างๆ นานาว่าพี่เซียนอาจจะประชดผมด้วยการลากสาวขึ้นห้องไปเป็นคนที่สามสิบเจ็ดแล้วก็ได้

   เพล้ง!

   ผมหัวร้อนจนเผลอปัดแก้วน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะแตก

   "คุณทิม เจ็บตรงไหนมั้ยคะ!"

   "ไม่ครับ ไม่...นี่พี่ยังไม่นอนอีกเหรอครับ"

   "เจ้านายยังไม่นอน พี่นอนไม่ได้หรอกค่ะ"

   "งั้น...ผมไปนอนแล้วก็ได้ครับ"

   ลำบากคนในบ้านไปอีก...ผมเดินคอตกกลับขึ้นไปบนห้องของตัวเอง ตอนนั้นนั่นเองที่โทรศัพท์ของผมสั่น เป็นเบอร์ของพี่เทพเซียนเอ็กซ์เอ็กซ์!

   "ฮัลโหล!"

   [สวัสดีครับ] ไม่ใช่เสียงพี่เซียนแฮะ [เอ่อ...คุณรู้จักกับเจ้าของเบอร์นี้หรือเปล่าครับ พอดีเขากำลังเมาและหมดสติอย่างมาก]

   "หา ที่ไหนครับ!" ผมร้องเสียงดังลั่นทันที

   [บาร์บลาบลาแถวสุขุมวิทครับ]

   "อ๋อ" ผมโล่งใจไปเปลาะหนึ่งที่เป็นร้านที่ผมรู้จักกับเจ้าของร้าน "ผมฝากเขาด้วยนะครับ เดี๋ยวผมรีบไปรับครับ"

   [ครับผม]

   "เอ่อ..." แม้จะเป็นช่วงเวลาเร่งรีบ แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี "ทำไมคุณถึงเลือกที่จะโทรหาผมล่ะครับ"

    [เบอร์ของคุณขึ้นมาเป็นเบอร์แรกของรายการที่โทรออกน่ะครับ]

   โทรมาหาผมแบบที่ตั้งใจโทรไม่ติดเนี่ยนะพี่เซียน...ผมรอสายเขามาทั้งวัน ไม่เห็นจะมีสักสายเลย

   "เดี๋ยวผมรีบไปครับ"

   [ขอบคุณมากครับ]









   บาร์บลาบลา

   ผมรู้สึกเบาใจลงทันทีที่เห็นพี่เทียน ญาติของผมที่บังเอิญเป็นเจ้าของบาร์ที่พี่เซียนไปเมาพอดี

   "รบกวนพี่เลย" ผมยกมือไหว้พี่เทียน

   "โอย เรื่องเล็กน้อย" พี่เทียนตบหลังผม "ใช้ห้องได้ถึงเช้าเลยนะ ไม่มีใครว่า"

   "บ้า"

   เขาหัวเราะกับเสียงร้องของผม จากนั้นก็เดินนำผมไปยังห้องวีไอพีส่วนตัวที่อยู่หลังร้าน ทันทีที่เขาเปิดประตูออก ผมก็ได้พบเห็นร่างพี่เซียนที่หมดสภาพชนิดที่ว่าผักเน่าเปียกๆ ยังดูดีกว่าพี่เขาหลายเท่า

   "ทำเขาอกหักมาใช่มั้ยเรา" พี่เทียนกระซิบ "มีอะไรเรียกเด็กได้นะ มีอยู่สองคนที่จะเฝ้าร้านจนถึงเช้า พี่จะบอกไว้ให้ว่าเราเป็นลูกค้าคนสำคัญ"

   "ขอบคุณครับพี่เทียน"

   ผมเข้าไปในห้อง จากนั้นพี่เทียนก็ปิดประตูตาม...พี่เซียนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง เชื่อมั้ยว่าถ้าเขาเกิดโดนลักพาตัวไปต่างประเทศ เขาก็คงจะรู้ตัวเอาก็ตอนที่เขาอยู่ต่างประเทศเรียบร้อยแล้วนั่นแหละ

   ผมทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ร่างพี่เซียนที่นอนอยู่ พลางคิดโทษตัวเองว่าผมคือสาเหตุที่ทำให้พี่เซียนมีสภาพเป็นแบบนี้

   "ทิม..." พี่เซียนพึมพำเสียงเมาๆ "ไอ้เหี้ยนั่นมันดีกว่าพี่ตรงไหน...บอกพี่มา"

   เฮ้ย ทำไมเวลาเมาแล้วพูดจาไพเราะน่าฟังแบบนี้วะ (แล้วคำว่าเหี้ยล่ะ?)

   จะห่วงก็ห่วง จะขำก็ขำ...ผมตัดสินใจเอาแขนวางลงบนพนักโซฟาแล้วเอามือค้ำขมับเพื่อรอดูว่าพี่เซียนจะเผลอพูดอะไรออกมาอีก นี่ถ้าเขาไม่เมา...ผมคงไม่มีโอกาสได้ฟังพี่เซียนพูดแทนตัวเองได้น่าฟังแบบนี้แน่ๆ

   พี่เซียนก็กวนตีนเหลือเกิน...ไม่รู้ว่าเขารู้หรือเปล่าผมรอฟัง ทำไมพี่เขาถึงไม่ยอมพูดอะไรออกมาอีกก็ไม่รู้

   "ทิม..."

   มาแล้ว...เสียงเรียกผมมาแล้ว

   มือของพี่เซียนเริ่มจัดการปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองจากที่ปลดอยู่แล้วสองเม็ด...เดี๋ยว พี่เขาจะถอดเสื้อผ้าตัวเองทำไมกัน

   เขาเรียกชื่อผมอีกครั้ง จากนั้นก็ปลดกระดุมเสื้อตัวเองจนมันไม่เหลืออะไรให้ปลดอีกแล้ว...มือของเขาเริ่มลากยาวลงไปที่เป้ากางเกงของตัวเอง แล้วเขาก็...

   "เชี่ยยย" ผมหันหน้าหนีทันที...พี่เซียนกำลังเมาแล้วถอดเสื้อผ้าเนี่ยนะ ไอ้การโชว์ซิกซ์แพ็คส์แบบไม่มีสติน่ะ...มันไม่เท่าไหร่หรอก แต่ไอ้การโชว์ไอ้จ้อนเนี่ยสิ...ผมไม่อยากจะเชื่อจริงๆ

   มือของผมเริ่มห้ามมือพี่เซียนแบบไม่ค่อยกล้ามองตรงๆ แต่พี่เซียนแรงเยอะมาก เขาปัดมือผมออกเหมือนมือผมเป็นแมลงวันที่น่ารำคาญ ครางชื่อผมต่อไปแล้วจัดการปลดเปลื้องกางเกงของตัวเองออกราวกับมันเป็นสิ่งที่น่ารำคาญสำหรับเขามาก

   ฉิบหายแล้วไงกู...

   กางเกงยีนของพี่เซียนถูกโยนไปอีกฝั่งหนึ่งของห้อง....ผมไม่รู้ว่าจะมีอะไรบนตัวของพี่เขาถูกถอดออกมาอีกหรือเปล่า เพราะผมไม่กล้ามองเลยสักนิด ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือซิกซ์แพ็คส์แน่นๆ ที่อยู่เหนือเป้ากางเกงที่กำลังจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่

   เขาไม่รู้หรือไงน่ะว่าผมก็เป็นผู้ชาย...คิดว่าผมจะไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่หรือไง...

   พี่เซียนเริ่มดึงมือผม...ให้ผมได้ถูกดึงเข้าไปอยู่ใกล้ๆ เขา มือของผมค้ำไปที่อกของพี่เซียนเพื่อต้องการทรงตัว...รู้สึกใกล้จะบ้าเพราะพี่เซียนถอดทุกอย่างบนร่างกายทิ้งหมดแล้ว...

   เหลือเพียงอันเดอร์แวร์สีขาวตัวเดียวที่โดดเด่นเป็นสง่าอยู่แถวๆ ต้นขาของผม...

   ความแข็งขืนนั่นสัมผัสกับต้นขาของผมจนผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ...ผมพยายามดันร่างตัวเองให้ออกไปจากร่างของพี่เซียนเพราะเราทั้งคู่กำลังอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงอย่างมาก พี่เขาอยาก...ผมเองก็อยาก...แต่มันไม่เหมาะสมที่จะเกิดขึ้นอย่างยิ่ง

   เรายังไม่ได้คุยอะไรกันดีๆ เลย เราจะทำเรื่องแบบนี้กันได้ยังไง

   มือของพี่เซียนเริ่มลากไล้ไปตามแผ่นหลังของผม จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างรั้งท้ายทอยของผมให้เข้าไปจูบที่ริมฝีปากของพี่เขา กลิ่นแอลกอฮอล์เข้มจัดจากตัวของอีกฝ่ายถูกส่งผ่านมาทางลมหายใจและก็ทางลิ้นจนผมรู้สึกเมาตาม

   นี่เขาดื่มไปเป็นสิบลังเลยหรือยังไง...

   "ไอ้...พี่..." ผมพูดไม่จบด้วยซ้ำเพราะพี่เซียนต้องการมาก...มือที่เขาลูบรวมไปถึงลิ้นที่ตวัดเกี่ยวดูดดุนลิ้นของผมนั้นเป็นหลักฐานได้เป็นอย่างดีว่าเขาอยากขนาดไหน

   ผมเองก็เริ่มสติหลุด...ไม่เคยคิดมาก่อนว่าเวลาพี่เซียนเมาเขาขั้นสุดพี่เขาจะกลายเป็นคนหื่นแบบนี้

   "ทิม..." เขาร้องเรียกผมอีกครั้งตอนที่ผมผละออกจากใบหน้าของเขาได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็รั้งท้ายทอยของผมให้เข้าไปจูบกับเขาเอง เพราะผมอ่อนแรงลง...รู้สึกตัวเองเกร็งน้อยลงเมื่อได้ยินเสียงเรียกนั่น

   "เอาจริงเหรอ" ผมถามเมื่อตัวเองมีโอกาสถาม "จะทำกันตรงนี้จริงดิ"

   ไม่มีอะไรที่อำนวยความสะดวกเราได้ทั้งนั้น...โซฟาก็แข็ง ถุงยางก็ไม่มี เจลก็ไม่มี...

   คิดว่าพี่เซียนจะมีสติพอที่จะตอบผมมั้ยครับ...

   คำตอบคือไม่...เขายังคงจัดการกับผมที่อยู่เหนือร่างของเขาต่อไปเหมือนผมเป็นตุ๊กตาที่รูปร่างเท่ากับคน มือของเขาดูจะสนุกกับการแตะไปทั่วทุกส่วนของผมมาก โดยเฉพาะแผ่นหลัง ลากยาวไปจนถึงบริเวณสะโพก...

   เราจูบกันชนิดที่ว่าไม่มีใครยอมผละออกไปก่อน...พี่เขาจุดอารมณ์ของผมติดจนผมไม่สามารถหยุดได้...เขาเปลี่ยนจากการอยู่ใต้ร่างผมมาเป็นอยู่เหนือร่างของผมแทน และนั่นก็ทำให้ผมได้เห็นใบหน้าของเขาเต็มๆ

   เป็นใบหน้าของคนเมาอย่างแท้จริง นัยน์ตาของเขาดูเคลิ้มรวมไปถึงใบหน้ายังมีสีแดงจัดซะจนผมนึกว่าคนคนนี้ไม่ใช่เทพเซียนเอ็กซ์เอ็กซ์ของผม...

   เขาไม่มีสติ

   เขาทำตามสัญชาตญาณธรรมชาติ...แอลกอฮอล์ทำให้เขารู้สึกอยาก และเขาต้องการระบายมันกับใครสักคน ซึ่งผมคือคนที่อยู่ใกล้เขาพอดี

   ความจริงกับความต้องการของผมเริ่มย้อนแย้งสับสน พี่เขาจัดการจุมพิตผมไปทั่วร่างในตอนที่ผมกำลังตระหนักได้ว่าผมอาจจะเป็นแค่เครื่องมือในการสำเร็จความใคร่...เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่คือผม นี่คือคนที่เขาร้องเรียกหา...เขาก็แค่ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ ไม่ได้รอที่จะทำกับคนที่เขาต้องการจริงๆ

   ทำแบบนี้มันดีแล้วจริงๆ เหรอ...

   ผมรู้สึกมึนเมาไปตามสิ่งที่พี่เซียนปรนนิบัติผม เขาเก่งมากราวกับเขารู้ว่าผมสับสนว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้มันดำเนินต่อไปหรือเปล่า เขามอมให้ผมเมากับสิ่งที่เขาทำ...เขาสัมผัสผมด้วยริมฝีปากแผ่วเบาสลับกับร้อนแรง มือของเขาบีบเน้นไปทั่วทุกส่วนของผมเป็นจังหวะจะโคนเดียวกันกับริมฝีปากและลิ้นของเขา ทุกอย่างทำงานผสานกันได้เป็นอย่างดีซะจนผมลุ่มหลงมัวเมา

   ผมห้ามตัวเองไม่ได้ ผมไม่สามารถขยับริมฝีปากหรือเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมาได้ด้วยซ้ำ พี่เซียนทำให้ผมง่วนอยู่กับการผ่อนลมหายใจ...ส่งเสียงครางในลำคอแสดงความพึงพอใจ...และเขายังทำให้ผมรู้สึกดีเป็นบ้าที่ผมได้อยู่ใต้ร่างผู้ชายที่ผมคิดว่าหล่อที่สุดในใจของผม

   กางเกงของผมถูกปลดจากมือของพี่เซียน...ทิมน้อยโผล่ขึ้นมาตั้งตระหง่านทักทายพี่เซียนโดยที่พี่เขารีบจับมันและเกาะกุมมันไว้ในมือ...รูดขึ้นรูดลงช้าๆ ราวกับต้องการทำความคุ้นเคย

   ผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ...ค่อนข้างแน่ใจว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้น...

   ปากของพี่เซียนรับส่วนนั้นของผมเข้าไป...เขาเริ่มจากส่วนปลายก่อน หยอกล้อมันด้วยการใช้ลิ้นเลียแผลบสลับกับจูบสัมผัส...ผมรู้สึกใกล้จะบ้าเมื่อได้เห็นภาพนั้น...มันเป็นภาพที่ผมไม่เคยฝันถึง เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะให้ความรู้สึกดีแบบนี้...เหมือนขึ้นสวรรค์แบบนี้

   แต่...มันมีอะไรบางอย่างที่ขัดกันอยู่

   พี่เซียนยังคงใช้ปากของผมต่อไป ส่วนผมก็พยายามใช้สมองตีกับความต้องการของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง นี่มันไม่ถูกต้อง มันไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง...ถ้าเป็นเด็กในร้านมาอยู่ใกล้ๆ พี่เซียนในตอนนี้ล่ะก็...พี่เขาก็คงจะทำเหมือนอย่างที่ทำกับผมเหมือนกัน

   เขาไม่รู้ว่าเป็นผม...เขาไม่รู้จริงๆ

   "ไอ้เหี้ยเซียน!" พี่กล้าโผล่พรวดเข้ามาในห้อง ทันทีที่ผมรู้ว่ามีบุคคลที่สามโผล่เข้ามา ผมก็รีบเตะปากพี่เซียนให้ล้มหงายลงไปกับพื้น

   ไอ้ท่านมือไวมาก มันปิดตาพี่กล้าเอาไว้ได้ทัน จากนั้นมันก็โยนกางเกงพี่เซียนมาปิดส่วนนั้นของผมเอาไว้พอดี ผมทันได้เห็นว่ามันหลับตาปี๋ระหว่างที่มันทำแบบนั้น

   "เหี้ยเอ๊ย" ท่านร้องดังลั่น

   "มึงเห็นมั้ยเนี่ย" ผมไม่รู้จะรู้สึกอะไรก่อนดี...รู้สึกเศร้าที่พี่เซียนทำอย่างไม่รู้ตัว รู้สึกแย่ที่ถูกขัดจังหวะ หรือรู้สึกอับอายขายขี้หน้าไอ้นายท่านกับพี่กล้าดี

   "กูหลับตาไว้ได้ทันก่อนจะเห็นภาพชัดๆ" ไอ้ท่านยังคงหันหน้าหนีและยังคงไม่ปล่อยมือจากตาพี่กล้า

   "จริงป่ะ"

   "จริงสิวะ"

   "พี่กล้าล่ะ"

   "ไม่รู้...กูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น" พี่กล้าคงไม่เห็นจริงๆ

   ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก จัดการใส่เสื้อผ้าให้ตัวเองจนเรียบร้อย ตัดภาพไปที่พี่เซียน...ตอนนี้สลบเหมือดเพราะบาทาของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

   แม่งเป็นภาพที่อุจาดตาน่าดูเพราะพี่เซียนใส่แต่อันเดอร์แวร์ตัวเดียว...อีกทั้งไม่มีสติเลยสักนิด

   "ห่าเซียนเอ๊ย" พี่กล้าบ่นพร้อมส่ายหน้าเบาๆ ผมปล่อยให้พี่กล้าจัดการดูแลเพื่อนของตัวเอง คงจะเห็นอะไรกันมาเยอะ เพราะพี่กล้าดูไม่เคอะเขินเลย

   "มึงมานี่ดิ๊" ไอ้ท่านกวักนิ้วเรียกผมยิกๆ ให้ออกไปข้างนอก

   ผมถอนหายใจ...วันนี้เป็นวันที่วุ่นวายสำหรับผมมากเลยจริงๆ








   "นี่มันอะไรกัน"

   "..."

   "มึงคบกับพี่เขาแล้วเหรอ ยังไม่คบไม่ใช่เหรอ ทำไมทำอะไรกันแบบนั้นวะ"

   แม่ง ไอ้ท่านเหมือนพ่อกำลังสั่งสอนลูกชายไม่มีผิด...

   "มึงมาได้ยังไง" ผมถามมันแทนที่จะตอบ

   "กล้าโทรถามพี่ตงกับพี่หมูหันน่ะสิว่าพี่เซียนอยู่ไหน เพื่อนๆ เขารู้กันหมดว่าพี่เซียนผิดปกติ โชคดีนะที่พี่ตงกับพี่หมูหันรู้น่ะ" ท่านตวัดสายตามามองผม "มึงอย่าเพิ่งพูดเรื่องอื่น มึงพูดเรื่องตัวเองก่อน"

   "กู...ไม่รู้"

   "..."

   "อารมณ์มันพาไป พี่เซียนทำเพราะเมา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นกู"

   ไอ้ท่านช็อกไปแล้ว "จริงดิ"

   "เออ" เมื่ออารมณ์ในส่วนนั้นของผมมอดดับ ผมก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิด "ตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม พี่เซียนแม่งคงเอาหมด บังเอิญว่าเป็นกูไง...มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น"

   เพื่อนหน้าหล่อของผมที่ยังอยู่ในชุดออกงานพรีเมียร์ของภาพยนตร์เมื่อเย็นวันนี้มองผมอย่างจับผิด

   "ตกลงมึงกับพี่เซียน..."

   "เรื่องมันยาวน่ะท่าน เอาไว้ค่อยเล่า"

   "มึงเล่าสั้นๆ ก็ได้ กูสมองไว"

   ในเมื่อผมกับมันมาเจอกันดึกขนาดนี้ คงไม่มีการโทรคุยกันเกิดขึ้นแล้วสินะ ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้อย่างรัวเร็วภายในเวลาสิบวินาที

   "กูคบกับพี่ไตเติ้ลแบบงงๆ พี่เซียนรู้ตอนที่กูกับเขาไปคุยกับพราวฝัน เขาก็เลยมีสภาพเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้กูโทรไปบอกเลิกพี่ไตเติ้ลด้วย และกูก็ได้คุยกับไอ้นุกด้วยว่ากูรู้สึกยังไงกับพี่เซียน..."

   ไอ้ท่านกระพริบตาปริบๆ

   "นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้"

   "เหี้ย" นายท่านเกาศีรษะ "มึงคบกับพี่ไตเติ้ลด้วย"

   "ช่างเหอะ เรื่องมันเกิดขึ้นแบบงงๆ จริงๆ"

   "..."

   "แต่ที่ไม่งงก็คือ...เทพเซียนเอ็กซ์เอ็กซ์แม่งเมาแล้วเอาไม่เลือกนี่แหละ"

   "มึงใจเย็นๆ ก่อนนะ"

   "ถ้ามึงไม่มาพอดี...กูคงเผลอตัวเผลอใจไปแล้วเพื่อน กูขอบใจมึงนะ"

   "เฮ้ย"

   "กูกลับก่อนล่ะ"

   "เดี๋ยว แล้วพี่เซียนล่ะ"

   "เขาอยู่กับเพื่อนเขานี่"

   "มึงต้องบอกพี่เขานะว่ามึงกับพี่หมออะไรนั่นไม่ได้คบกัน"

   ผมมองไปที่ประตูห้องซึ่งมีพี่เซียนอยู่อย่างหมายมั่น... "กูจะไม่บอก มึงเองก็ไม่ต้องบอกเหมือนกัน"

   "หา"

   "แล้วมึงก็ห้ามบอกพี่เซียนเลยนะว่าพี่เขาทำอะไรกับกูเมื่อตะกี้นี้ ให้แม่งตรัสรู้ด้วยตัวเอง!"








   "เชี่ยกล้า...กูมานอนข้างมึงได้ยังไง"

   "เมื่อคืนมึงจำได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น"

   "ไม่ได้เลย"

   "..."

   "ภาพตัดตั้งแต่สี่ทุ่มมั้ง"

   "เหี้ยเอ๊ย"

   "เกิดอะไรขึ้น"

   "มึงต้องไปง้อไอ้น้องทิมด่วนเลย"

   "กูจะต้องไปง้อมันทำไม"

   "กูพูดไม่ได้"

   "เชอะ"

   "..."

   "กูไม่ง้อหรอก"

   "..."

   "กูจะไปง้อคนที่มีแฟนแล้วทำไม"

   "เฮ้อ เรื่องของมึงก็แล้วกัน"







TBC*




ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
อีกยาวเลยจ้ะคู่นี้

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
แม่จ้าว........... เอาล่ะซิ เทพเซียนจะทำไงงงงงงง  :m22:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3382
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3494
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ตรัสรู้ๆเร็วๆนะเทพเซียน น้องทิมรอใก้ไปง้ออยู่

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ขอไว้อาลัยให้พี่เซียนแปป  งานนี้ท่าจะยาว พี่แกเล่นถาพตัดไปแต่การกระทำยังฝังใจทิมอยู่ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
เซียนจะไปง้อป่าว เด่วทิมกลับไปคบพี่หมออีกรอบหรอก

ออฟไลน์ skysky

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
พี่เซียนนนนน รีบง้อน้องไวๆ ตอนนี้น้องใจอ่อนแล้วนะๆ
รอลุ้นกันต่อไป ขอบคุณนะคะ ^^

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
ชอบคู่นี้~~  “ เชอะ”  เหรอเทพเซียน เดี๋ยวๆๆๆ เดี๋ยวได้รู้กัน ฮาาาา  :katai2-1:

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
 :z3:อ้าววว เซียนไม่เทพละนะ ไม่ง้อทิมก็อดอ่ะ

ออฟไลน์ arjinn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-1
เป็นห่วงกล้าจัง จะไหวเหรอกับอะไรต่ออะไรที่ไม่ชิน
ส่วนเทพเซียน ทำไงล่ะนี่ ทำอะไรไม่รู้ตัวเลย รีบเลยนะ

ออฟไลน์ colorofthewind21

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
จากที่จะต้องเป็นคนที่ถูกง้อกลายเป็นต้องไปง้อเขาซะแล้วเทพเซียนเอ้ยยย

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
งอนกันไปยาว ๆ  ต่างคนต่างงอน ยาววววไป //มองบน

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ ronlbb

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
อ่านและขัดใจเซียนมากกกก
เอาเลย  เอาที่สบายใจเลยยย
 :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เพราะเหล้าเลยแหละ   เซียนเอ๊ย......   :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
ใครก็ได้เวลาเมา ทำให้ทิมยิ่งไม่วางใจ
 :angry2:    แม้ปากจะเรียกแต่ชื่อทิมก็ตามเหอะ
แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจกันซักทีนะ เซียน ทิม   :mew2:
เซียน ทิม :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ท่าน  กล้า :กอด1: :กอด1: :กอด1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เดี๋ยวนะคือเผื่อทิมจะลืมตอนที่พี่เซียนแกรุ่มร่ามแกก็เรียกชื่อทิมนะ นั่นก็เพราะแกหวังให้เป็นทิมไง ถึงแม้มันจะเสี่ยงว่าถ้าเป็นคนอื่นอาจจะซวยก็เถอะ แล้วนี่ยิ่งไม่ยอมบอกกันแบบนี้คงอีกยาวแน่ๆ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
แล้วแต่เลยคะ ใครจะบ้าก่อนกัน

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3437
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ momonuke

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 772
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
นึกว่าจะเข้าใจกันแล้ว ฮือออออ

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ว้ายเทพเซียนค่ะผิดผีแล้วต้องรีบไปขอน้องนะค่ะน้องงอลแล้วววรีบนึกให้ได้นะค่ะว่าทำอะไรลงไป

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
ต้องง้อเว่ยยยอิพี่เซียนนน
รอบนี้คุณพี่ผิดค่ะ!!!!
น้องมันทั้งงอนทั้งโกรธ เผลอๆจะมีน้อยใจด้วยเนี่ย
ไปง้อน้องเดี๋ยวนี้!!

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12




ตอนที่ 34
นายท่าน






   ตกลงเป็นคู่รักโปรโมตค่ายหรือไง ทำไมโผล่ขึ้นมาให้เห็นตลอด
   เอสเอ็นคิดอะไรอยู่ เลิกพยายามเหอะ
   เห็นมั้ยว่ากล้าหาญดันตัวเองเพราะอยากดังจริงๆ
   ยังไงก็ไม่เหมาะกับนายท่านอ่ะ จิ้นไม่ออก ไซส์ต่างกันเกิน...หน้าตาก็ไม่เหมาะกันด้วย
   ทุกวันนี้ยังสงสัยว่ากล้ามีอะไรให้นายท่านต้องหลงอ่ะ





   ผมสงสารแฟนผมมากที่สุดในโลก

   คราวนี้คุณแม่ของผมเดินหมากผิดอย่างเห็นได้ชัด กระแสของผมกับกล้าหาญหลังจากที่ออกสื่อมากขึ้นนั้นเต็มไปด้วยกระแสด้านลบที่ส่วนใหญ่จะโจมตีกล้าไปซะหมด ถึงแม้ว่าคุณแม่ผมจะใช้ผมกับกล้าเป็นตัวเลี้ยงกระแสผมกับกล้า ซึ่งก็เอื้อประโยชน์ต่อค่ายเอสเอ็น...แต่มันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณแม่คิด

   บางทีคราวนี้คุณแม่ผมอาจจะพยายามจนเกินไป

   เป็นความผิดของผมด้วยที่พูดความจริงในการสัมภาษณ์ที่บ้านครั้งนั้น แม้ว่าผมจะช่วยไม่ให้แม่โดนด่าในตอนแรกแต่ผมก็ดันตอบย้อนแย้งสวนทางกับคำตอบแรก...กลายเป็นว่าตอนนี้มีกระแสตีกลับ ด่าทอคุณแม่ผมอย่างมากมายที่ปิดบังความจริงเรื่องลูกชายเป็นเกย์

   อันนั้นเป็นสิ่งที่สังคมมองเข้ามาครับ...มันเป็นคนละอันกับสิ่งที่กล้ากำลังเผชิญอยู่ นั่นก็คือคำด่าทอจากแฟนคลับของผม อดีตแฟนคลับของผม แอนตี้แฟนของผม หรือจะอะไรก็แล้วแต่...กล้าโดนหนักมากขึ้นกว่าเดิม จนผมเริ่มสังเกตได้ว่าแฟนของผมซึมเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด

   ผมไม่คิดว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อคู่ของเราขนาดนี้...ตั้งแต่เรากลับมาจากบ้านของผมได้หนึ่งสัปดาห์ เราก็เริ่มคุยกันน้อยลง เราเดินข้างกัน ไปเรียนด้วยกัน และนอนอยู่ข้างๆ กัน แต่เราก็ปฏิสัมพันธ์กันน้อยลง (แน่นอนว่ารวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย) ผมไม่โทษกล้าที่มันเป็นแบบนั้น...เพราะไม่ว่ามันจะเลี่ยงการโดนด่ามากแค่ไหน แต่ท้ายที่สุดมันก็ต้องเจออยู่ดี

   นักศึกษาในมอนี่แหละครับที่เป็นสาเหตุหลักๆ...ส่วนใหญ่ชอบพูดถึงกล้าในเชิงเสียๆ หายๆ แล้วบังเอิญมันไปได้ยินเข้าพอดี

   มันเป็นผู้ชายแข็งแกร่งคนหนึ่ง...แต่เมื่อโดนบั่นทอนเข้าทุกวันๆ ผมว่ามันก็แย่ลงได้เหมือนกัน ผมยังจำได้ดีตอนที่กล้าสัมภาษณ์ออกสื่อครั้งแรก ใบหน้าของมันซีดขาว ริมฝีปากของมันสั่นระริก...ดูรับไม่ได้อย่างยิ่งที่จะต้องถูกโจมตีด้วยคำพูดและต้องมีไหวพริบในการตอบ...แต่มันก็ไม่ได้มีอยู่แค่นั้นครับ มันยิ่งใหญ่กว่านั้น

   คำพูด สีหน้า แววตา พฤติกรรมที่แสดงออกมาในเวลานั้นๆ คือความรับผิดชอบของตัวเราในเวลาถัดๆ มา มันจะมีหลายกระแสโหนไปโหนมาเพราะการสัมภาษณ์ของเรา

   จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง มโนบ้าง คิดไปเองบ้าง นี่คือเรื่องจริงของคนในวงการบันเทิงจะต้องเจอ   

   ...และกล้าก็ไม่ได้มีความสุขที่จะอยู่ตรงนั้น

   ผมขอบคุณคุณแม่ของผมมากที่ยอมให้กล้าหยุด...เราทั้งคู่ทำงานกันตลอดสองสามวันที่ได้อยู่บ้าน แค่นั้นก็มากเกินพอที่จะอยู่ในสื่อและทำให้เราโดนด่าไปถึงชาติหน้าได้

   ตอนที่ผมและกล้ากลับมาที่มอ...ผมรู้ตัวได้แทบจะในทันทีเสียรอยยิ้มของกล้าไปตั้งแต่ตอนที่ผมพากล้าไปที่บ้านของผมแล้ว

   มันคือขุมนรกอย่างที่นายกองมันว่าจริงๆ นั่นแหละ

   “มึงโอเคมั้ยท่าน” นุกถามผมเมื่อผมโผล่เข้าไปที่คณะในเช้าวันหนึ่ง

   “ไม่เลย”

   “...”

   “กูจะตายแล้ว”

   คอผมตก...พร้อมๆ กับมือของนุกที่เอื้อมมาตบบ่าผม

   “กูสงสารกล้าฉิบหาย...อยากมีสักร้อยมือพันมือไปตบเกรียนคนที่พิมพ์ด่ากล้าในโซเชียล”

   “ให้เวลาพี่กล้าเขาปรับตัวหน่อย” ทิมเอ่ยปลอบผม “เดี๋ยวเขาก็ชิน”

   “ชินกับการโดนคนอื่นด่าเพราะกูน่ะเหรอ...มันดีตรงไหนวะ”

   “มึงก็รู้ว่ามึงอยู่กับอะไรแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร”

   “กูอยากเอามันออกไป”

   “มึงทำอย่างนั้นไม่ได้”

   “แม่งเอ๊ย!” ไอริ ดาวคณะที่เดินผ่านถึงกับสะดุ้งเพราะผมเตะถังขยะหน้าตึก “กล้าไม่ยิ้มเลยตั้งแต่ให้สัมภาษณ์...ไม่ยิ้มให้กูอีกเลย”

   “คุยกับพี่เขาหน่อยดีมั้ย” ทิมชี้แนะ

   “นั่นสิ...เรื่องแบบนี้ต้องคุยกันนะ”

   “กู...” ผมหลับตาลงพร้อมๆ กับทำหน้าหงุดหงิดตัวเอง “กูละอายใจ...กูคือสาเหตุของทุกๆ อย่าง กูก็เลยไม่กล้าสู้หน้าแฟนตัวเอง”

   ทิมกับนุกลอบมองหน้ากันแล้วทอดถอนใจ...ระหว่างนั้นผมก็เกิดความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา

   “อะไรของมึง” ทิมมันรู้ใจผมเสมอ “มึงคิดจะทำอะไร”

   “วันนี้กูโดด” ผมบอกเพื่อน...จากนั้นก็รีบเดินออกมาจากคณะตัวเองอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ผมกำลังจะทำมันอาจจะเป็นอะไรที่เล็กน้อยมาก แต่ผมก็ปรารถนาที่จะทำมัน

   ขอแค่ให้ผมได้เห็นรอยยิ้มของกล้าสักแวบ...ผมขอเพียงเท่านั้นจริงๆ








   คณะเศรษฐศาสตร์

   ผมมาคณะนี้บ่อยเพราะมาส่งกล้าเรียน เมื่อเช้าผมก็เป็นคนมาส่งเหมือนกัน บรรยากาศระหว่างเราก็เป็นไปอย่างที่ผมบรรยาย เราคุยกันน้อยลงมาก...เต็มไปด้วยความเฉยชาที่ผมหวั่นใจ แต่ก็นั่นแหละ ผมไม่อยากขยี้ให้มันแย่ลงไปกว่าเดิม เวลาที่คนเรามีปัญหากับแฟนแต่ยังคิดแก้ปัญหาไม่ได้...มันก็จะเป็นแบบคู่ผมนี่แหละครับ

   เมินเฉย...จืดชืด แต่ก็ยังอยู่เคียงข้างกัน

   ผมมองดูนาฬิกาขณะม้วนกระดาษแข็งที่ผมเพิ่งเขียนอะไรบางอย่างลงไปด้วยปากกาเมจิก อีกไม่กี่นาทีกล้าก็จะเลิกเรียนคาบเช้าแล้ว...ผมเร่งฝีเท้าเพื่อที่จะไปนั่งระเบียงหน้าห้องเรียนของกล้า กางกระดาษแข็งออก หาอะไรให้มันพิงเพื่อที่จะให้คนที่มองเข้ามาอ่านได้ชัดๆ จากนั้นผมก็แค่...นั่งอยู่ข้างๆ มัน

   แม่ง...นี่ผมเสี่ยวแดกมากเลยใช่มั้ย

   รู้ทั้งรู้ว่าจะมีเพื่อนกล้าเดินออกมาเยอะแยะแต่ผมก็ทำ ผมคิดเอาเองว่าพี่ๆ พวกนั้นคงจะเคยชินกับความเว่อร์ของผมเพราะผมก็เคยส่งขนมเวียนไปรอบๆ ห้องเลคเชอร์มาแล้ว

   เพราะงั้นแค่นั่งข้างๆ ป้ายกระดาษแข็งแค่นี้...มันคงไม่แย่มากเท่าไหร่หรอกมั้ง






เซียน






   เวร

   เวรตะไล...บรรลัยเอ๊ยยยยยยยยย!

   ผมมีเรื่องตัวเองให้เครียดไม่พอใช่มั้ย ทำไมสวรรค์ถึงได้กลั่นแกล้ง สาปให้เพื่อนผมอย่างไอ้กล้ามีงานเข้าอย่างใหญ่หลวงแบบนี้

   ตอนนี้ผมกับเพื่อนทุกคนโดยเฉพาะไอ้กล้านั้นกำลังดูบางสิ่งบางอย่างในโซเชียลเกือบทั้งชั่วโมงเรียน ไม่มีใครสนใจการประกาศคะแนนมิดเทอมของอาจารย์ ไม่มีใครมีอารมณ์มาสนใจสิ่งนั้นจริงๆ

   อารมณ์ของไอ้เหี้ยกล้า...ใกล้ถึงจุดที่มันจะระเบิดออกมาเต็มทีแล้ว

   แชร์ภาพเด็ดพี่สาวของกล้าหาญที่กำลังเป็นข่าวกับลูกชายค่ายเอสเอ็น
   นี่เจ้าหญิงคนฮอต พี่สาวของกล้าหาญเอง เชิญชมภาพได้เลยจ้า
   เผยภาพสามสาวคนสวย พี่สาวของกล้าหาญ เด็กหนุ่มที่กำลังเป็นข่าวกับหลัวเด็กแห่งชาติ นายท่าน อรุณกิตตินิวัฒน์
   เหนือกว่าพี่สาวกล้าหาญคือแฟนพี่สาวกล้าหาญจ้า...จัดว่าเด็ดเฟร่อ
   ส่องธุรกิจของบ้านกล้าหาญ แฟนของน้องนายท่าน...นางไม่ได้จนอย่างที่หลายคนคิดนะจ๊ะ

   
   มันไม่ใช่แค่พาดหัวข่าวในเน็ตหรอกครับที่กวนใจพวกเราขณะนี้ แต่มันคือคอมเมนต์จากบรรดาชายฉกรรจ์ชาวไทยทั้งหลายที่เมนต์ถึงพี่สาวไอ้กล้าแบบเสียหายที่สุดเท่าที่คนคนนึงจะพิมพ์คำหยาบโลนในเน็ตได้

   ผมไม่กล้าแม้แต่ที่จะยกตัวอย่างให้คุณคนอ่านฟัง   

   ผมรู้ครับว่าเราไม่สามารถควบคุมคอมเมนต์ในเน็ตได้ โดยเฉพาะพวกหัวเกรียนที่หื่นจัดหรือไม่ก็พวกว่างงานที่เอาแต่ส่องรูปสาวไปวันๆ และพี่สาวของไอ้กล้าทุกคนสวยมาก สวยแบบเข้าประกวดนางงามหรือเป็นดาราได้สบายๆ การที่คนสวยๆ ถูกแชร์รูปไปทั่วแบบนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีเข้ามาดูและก็เมนต์ไปในทิศทางใดก็ได้

   ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นคนธรรมดา...แต่ก็ต้องมาโดนอะไรแบบนี้

   กล้าที่หวงพี่สาวมากได้แต่นั่งกำหมัดโกรธหน้าดำหน้าแดงไปตลอดคาบเรียน ทุกครั้งที่มันเห็นคอมเมนต์หื่นจัดมันก็เกือบจะโยนโทรศัพท์ทิ้งหลายต่อหลายครั้ง มันแม่งโกรธชนิดที่ว่าผมไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้มาก่อน ผมไม่กล้าพูดอะไรกับมันเลยแม้แต่น้อย เพราะรู้ว่าพูดไปมันก็เท่านั้น ปัญหาที่มันกำลังเผชิญอยู่มันเกินกว่าคนอย่างเทพเซียนจะนึกออกว่าควรแก้ปัญหายังไง

   ผมได้แต่อยู่ข้างๆ มัน...คอยมองมันอย่างเป็นห่วง

   หมูหันกับตงเองก็ซึม ทั้งคู่รู้ดีว่าจุดอ่อนของไอ้เหี้ยกล้าคือพี่สาว...และตอนนี้คนข้างนอกก็คงจะรู้เรื่องของครอบครัวไอ้กล้าอย่างหมดไส้หมดพุงแล้วมั้ง

   โซเชียลนี่แม่งน่ากลัวจริงๆ

   ผมเห็นกล้าคุยแชตในไลน์ครอบครัวอย่างกระแทกกระทั้น พี่สาวมันทุกคนกำลังถกเรื่องนี้กับมันอย่างเครียดๆ ผมไม่แน่ใจว่าครอบครัวนี้เขาคุยอะไรกันบ้าง แต่กล้ามันไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย แม้เวลาจะผ่านไปกี่นาทีกี่ชั่วโมงก็ตาม มันมีแต่เครียด ซีเรียส โมโหขั้นที่หนึ่ง และกำลังจะเข้าสู่การโมโหขั้นที่สองนั่นก็คือ...เดินออกจากห้องเรียนแล้วหายไปเลย

   โชคดีที่อาจารย์สอนใกล้จะหมดคาบแล้ว...มันจึงได้นั่งอยู่ต่อ ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรเข้าสมองมันเลยสักนิด

   ตอนที่เพื่อนๆ เริ่มทยอยกันเดินออกไป ไอ้กล้ามันก็โพล่งคำหนึ่งออกมา

   “วันนี้กูจะกลับบ้าน เดี๋ยวเจ้านางกับแฟนจะมารับที่มอ”

   ผมช็อกตาค้าง “พรุ่งนี้มีเรียนนะ”

   “ฝากเช็กชื่อด้วย”

   “เฮ้ย”

   “เจ้าหญิงช็อกมากจนไม่กล้าไปเรียน กูปล่อยไปเฉยๆ ไม่ได้หรอก” กล้าเอานิ้วมือมานวดขมับตัวเอง

   “อย่าลืมบอกนายท่านด้วยนะ” หมูหันค่อยๆ พูด

   กล้าถอนหายใจก่อนจะพยักหน้า “อืม”

   ตอนนี้พวกมันสองคนตึงใส่กันมากจนคนรอบตัวพานอึดอัดกันไปหมด...อย่าว่าแต่พวกมันหันหน้าเข้ากำแพงเพราะจนตรอกเลยครับ ผมกับคนอื่นๆ ก็เช่นกัน...

   เมื่อสองถึงสามชั่วโมงก่อนทุกคนทำได้แค่ลุ้น...ลุ้นให้ไอ้กล้ามันเลิกนอยด์แล้วทำใจกับคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่นที่ไม่รู้จักมันซะ อาจจะใช้เวลาหลายวันหรือหลายเดือนก็แล้วแต่...ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับไอ้กล้าล้วนๆ เพราะสิ่งที่มันเจอมันเป็นสิ่งที่อยู่ติดตัวนายท่านมาตั้งแต่เกิด ไม่สามารถงัดแงะออกไปได้ กล้ามันต้องเป็นคนปรับตัวเข้าหา...นั่นคือหน้าที่ของมัน

   จนกระทั่งตอนนี้...เมื่อข่าวของมันเริ่มส่งผลกระทบถึงครอบครัวอันเป็นที่รักและเป็นที่หวงแหนของไอ้กล้า ผมกับเพื่อนก็ได้แต่มืดแปดด้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหวสำหรับไอ้กล้ามากๆ ซึ่งผมรู้ดี แม้กระทั่งผมยังแซวพี่สาวมันไม่ค่อยได้เลยครับ ประสาอะไรกับคนภายนอกที่คอมเมนต์โคตรหยาบและจาบจ้วง

   ให้ตายสิ...มีวัดไหนน่าไปบ้าง ผมอยากไปสวดมนต์

   เพิ่งสังเกตว่ามีเพื่อนๆ ร่วมชั้นปียืนออกันอยู่หน้าห้อง อมรกับเอ้ส่งสายตาดี๊ด๊ามาทางไอ้กล้าอย่างเปิดเผยรวมถึงใครหลายๆ คนด้วย ผมพอจะเดาได้ว่าอะไรคอยไอ้กล้าอยู่หลังประตู แต่ผมไม่รู้ว่านั่นจะช่วยให้ไอ้กล้ายิ้มออกมั้ย

   งานช้างกำลังเข้ามึงหนักมาก...ไอ้ท่านเอ๋ย

   ผมบอกให้ไอ้กล้าเก็บของแล้วเดินนำมันออกไปข้างนอก ผมฉวยจังหวะที่มันเดินก้มหน้าแล้วผมก็อ้อมมาอยู่ด้านหลังม้น...

   นายท่านนั่งอยู่ข้างนอก...เอามือประสานกันระหว่างเข่า สายตาบ่งบอกถึงอาการง้ออย่างแรงจนผมรู้สึกได้ ข้างๆ ของมันมีกระดาษที่เขียนเป็นลายมือน่าอ่านว่า

   ยิ้มหน่อย : )

   พ่อง...มึงทำเพื่อนร่วมชั้นปีของกูหลายคนหวั่นไหวกันหมดแล้วเนี่ย!

   ผมหันไปมองไอ้กล้า...มันยิ้มครับ ยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยใจแต่ก็ยิ้ม นายท่านดูเข้าอกเข้าใจรอยยิ้มนั้น มันคงไม่ได้หวังอะไรมากตั้งแต่เริ่มวางแผนเซอร์ไพรส์นี่แล้วล่ะมั้ง

   “ไปกินข้าวกัน” กล้าชวนท่านด้วยน้ำเสียงเนือยๆ ไม่สนใจว่าเพื่อนรอบข้างจะแซวแค่ไหน

   “โอเค” นายท่านสบตากับผมและเพื่อนทุกคน มันมองอย่างจ้องเขม็งราวกับมีเซนส์ว่ามีเรื่องแย่เพิ่งเกิดขึ้น

   มึงเดาถูกแล้ว...

   “สองคนนั้นทะเลาะกันเหรอ” อมรเดินเข้ามากระซิบกับผม

   ผมพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตอบ

   “กูจะบ้าตาย” อมรโอดครวญ

   “...”

   “คบกับนายท่านใครว่าจะมีแต่กลีบกุหลาบโปรยไปตามทางวะ”

   “ตามนั้นเลยเพื่อน” ตงถอนหายใจ

   “เราทำอะไรกันได้มั้ย”

   สายตาเราทุกคนมองไปที่สองคนนั้นซึ่งเดินเคียงข้างกันแบบรักษาระยะห่าง  คำพูดของผมเป็นคำตอบของทุกๆ อย่างของคนที่เป็นเพื่อนในเวลานี้...

   “เอาใจช่วยพวกมัน”

   และบางที...ผมก็อยากเอาใจช่วยตัวเองเหมือนกัน

   เพราะผมยังไม่ได้คุยกับทิมเลย ตั้งแต่ที่ผมกลับมาจากกรุงเทพฯ








   ร้านอาหารป้าปอย

   ดูจากทรงแล้ว...ผมคิดว่านายท่านมันคงจะยังไม่เห็นการแชร์รูปพี่สาวและเรื่องราวในครอบครัวของไอ้กล้าแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ของชาวโซเชียล เพราะมันเอาแต่มองหน้ากล้าสลับกับมองผม ทำสีหน้างงว่าทำไมจู่ๆ กล้าถึงได้ดูแย่กว่าเดิมจากที่แย่อยู่ก่อนแล้ว

   ผมกลัวว่ากล้ามันจะระเบิดลงกลางร้านอาหาร...ฉะนั้นจึงได้แต่จ้วงข้าวเข้าปากและกินหมดภายในเวลาสามนาที

   หมูหันกับตงก็เช่นกัน...

   “เป็นอะไร” ผมได้ยินเสียงนายท่านถามแฟน...แม่งหวานมากจนคนที่นั่งห่างๆ อย่างผมยังรู้สึกได้

   ไอ้กล้าทำท่าลังเลว่าจะตอบดีหรือเปล่า ผมกับเพื่อนรู้สึกอึดอัดจึงต้องการหาอะไรทำ เนื่องจากข้าวหมดแล้ว พวกเราจึงตัดสินใจกระดกน้ำเปล่าจนหมดแก้วแทน

   “วันนี้...กูจะกลับบ้าน”

   นายท่านมีสีหน้าประหลาดใจ “ทำไมล่ะ”

   “มึงยังไม่เห็นเหรอ”

   “หืม”

   นายท่านแม่งยังไม่เห็นจริงๆ ด้วย...หน้าฟีดเฟซบุ๊กมันมีเหี้ยอะไรบ้างนะ ผมอยากจะรู้จริงๆ

   ในเมื่อกล้าไม่ยอมเล่า นายท่านจึงได้รีบจัดการเปิดเช็กข่าวทันทีด้วยโทรศัพท์ของมัน ใช้เวลาไม่นานมันก็เข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมกล้าถึงได้ซึมนัก

   “ไปคุยกันหน่อย” นายท่านกระตุกแขนเพื่อนผม จากนั้นก็ลากออกไปนอกร้านโดยที่ไม่สนใจสายตาเด็กเสดสาดในร้านเลยว่าตกตะลึงกันมากแค่ไหน

   “เรื่องของมึงกับน้องทิมนี่ยังไง” จู่ๆ ไอ้ตงก็ถามขึ้นเมื่อสองคนนั้นเดินไปพ้นร้านแล้ว    

   “อะไรยังไง” ผมชักสีหน้าทันที

   “ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหรอวะ”   

   “มันจะมีได้ยังไง”

   “...”

   “ทิมเป็นแฟนกับไอ้หมอไตเติ้ลแล้ว”

   เพื่อนผมมองหน้ากันอย่างตกอกตกใจ เมื่อเห็นว่าผมไม่มีอารมณ์จะเล่าต่อ พวกมันก็เลือกที่จะเงียบๆ กันไปเอง

   “งงเนอะ” ผมไม่รู้ว่าหมูหันแอบกระซิบกับตง “ถ้าทิมคบกับไอ้หมอจริงๆ แล้วไอ้หมอมันจะควงเด็กใหม่เมื่อคืนทำไม”

   “จุ๊ปากไว้...อย่าไปกวนอารมณ์ของมันตอนนี้”

   “...”

   “เราอาจจะไม่รู้ตื้นลึกหนาบางจริงๆ อย่าไปคาดเดาเลย”











นายท่าน


   กล้าเล่าให้ฟังว่ามันจะกลับบ้าน

   พลังโซเชียลกำลังทำร้ายกล้าอย่างหนัก ทำร้ายความเป็นส่วนตัวของกล้า และทำร้ายความเป็นส่วนตัวของครอบครัวกล้า ครอบครัวคนธรรมดาที่ไม่เคยเป็นที่จับตามองบัดนี้กำลังถูกเป็นที่สนใจเพราะทั้งบ้านเป็นคนหน้าตาดีกันทั้งโคตรเหง้า

   ผมใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มตอนที่กล้าบอกว่าพี่เจ้านางจะมารับกลับบ้าน...มันไม่ยอมเอ่ยขอให้ผมอยู่กับมันจนกว่าจะถึงเวลาที่เราแยกกัน สิ่งที่มันแสดงออกมามีเพียงแต่จะไล่ให้ผมไปอยู่ที่ไกลๆ จากมัน...ผมคือต้นเหตุที่ทำให้มันไม่สบายใจ ผมคือต้นเหตุแห่งความทุกข์ที่มันกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้

   มันทำให้ผมรู้สึกได้ว่า...แค่ความรักของผมเพียงอย่างเดียวนั้นไม่อาจทำให้คนอย่างมันมีความสุขได้

   นั่นคือสิ่งที่ผมเสียใจ...ผมเจ็บอยู่ข้างในจนบางครั้งมันก็จวนเจียนที่จะแหวกอกผมออกมาอยู่แล้ว มันเป็นความเจ็บสะสมตั้งแต่กล้าออกสื่อครั้งนั้นลามมาจนถึงตอนนี้...ไม่มีวันไหนที่ผมรู้สึกมีความสุขได้อีกเลย

   ความสุขของหายไปเช่นเดียวกับตอนที่รอยยิ้มของกล้าหายไป...

   ผมขนของลงมาส่งกล้า ยกมือไหว้พี่เจ้านางพร้อมกับส่งรอยยิ้มเศร้าๆ ไปให้ พี่เจ้านางกับแฟนมองหน้าผมแล้วทอดถอนใจ ทั้งคู่ก็โดนจับตามองชีวิตส่วนตัวเหมือนกัน และสาเหตุมันก็มาจากผม...คนที่ประกาศให้โลกใบนี้ได้รู้ว่ากล้าหาญคือแฟนผมนั่นแหละ

   “โทรมาหน่อยนะ” ผมบอกกล้า นัยน์ตาของผมเศร้ามากจนผมเชื่อว่าผมคงรู้ว่าผมรู้สึกยังไง

   “อืม”

   ผมรู้สึกได้ถึงน้ำตาที่พยายามจะออกมาจากตาของผม...ผมพยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวดของผมเอาไว้ มองดูกล้าขึ้นรถไป มองดูกล้าที่ไม่ยอมแม้แต่จะมองหน้าผมก่อนที่เราจะจากกัน

   มันไม่บอกผมด้วยซ้ำว่ามันจะไปกี่วัน...

   มันไม่ยอมมองผม...ไม่ยอมแสดงความรักที่มีต่อผมเลย...

   ความรักที่ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้มันยังมีมากพอที่มันพร้อมจะสู้ไปกับผมอีกหรือเปล่า








   “เซียน”

   [กล้าเหรอ มึงเดินทางกลับบ้านแล้วใช่มั้ย]

   “ฮึก...กู...กู...”

   [เฮ้ย เป็นเหี้ยไร]

   “กู...”

   [มึงเป็นเหี้ยไร]

   “ฮึก...”

   [มึงร้องไห้ทำไม นายท่านอยู่ไหนวะ ทำไมปล่อยให้มึงเป็นแบบนี้!]







TBC*





ตัวละครทุกตัวจงอดทน
อีกหกตอนก็จะผ่านพ้นไปแล้วนะลูกกก
  :katai1:

ออฟไลน์ skysky

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-0
อีก 6 ตอน!!! นานจังเลยค่ะ หน่วงใจ สงสารนายท่านกับกล้าหาญมากกกกก
คำพูดและความคิดของคนที่ไม่รู้จักเราจริงๆ แต่พูดในทางแย่ๆกับเรา มันแย่จริงๆ
นายท่านกับกล้า ทั้งๆที่รักกันมาก แต่ความรู้สึกตอนนี้กลับห่างกัน ฮือออออ

ออฟไลน์ Meen2495

  • is allergic to drama.
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 369
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-4
รับมือ "ดราม่า" ไม่ไหว
ใจบอบบาง ...

งั้นอีก 6 ตอน เจอกันใหม่นะท่าน-กล้านะ นะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด